คำสรรพนำม โรงเรียนปทุมานกุ ลู วิชาภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
คำสรรพนำม โรงเรยี นปทุมานกุ ลู คำสรรพนำม หมำยถึง คำทใ่ี ช้แทนคำนำม คือ ใชแ้ ทนช่อื คน สัตว์ สิง่ ของ และปรำกฎกำรณต์ ่ำง ๆ
ชนดิ ของคำสรรพนำม โรงเรียนปทุมานกุ ลู บุรุษสรรพนำม ปฤจฉำสรรพนำม นิยมสรรพนำม วภิ ำคสรรพนำม อนิยมสรรพนำม ประพนั ธสรรพนำม
๑.บรุ ษุ สรรพนำม โรงเรียนปทุมานกุ ลู หมำยถงึ คำสรรพนำมทีใ่ ช้แทนผู้พูด ผ้ฟู ัง และผู้ทีถ่ กู กล่ำวถึง แบง่ ได้ ๓ บุรษุ ดงั นี้
สรรพนำมบรุ ุษที่ ๑ โรงเรยี นปทุมานกุ ลู ใช้แทนผูพ้ ูด เช่น ผม ฉัน กระผม ดฉิ ัน หนู ขำ้ พเจำ้ เปน็ ต้น สรรพนำมบรุ ุษที่ ๒ ใช้แทนผฟู้ งั เช่น คณุ เธอ ท่ำน เป็นตน้ สรรพนำมบรุ ุษท่ี ๓ ใช้แทนผ้ทู กี่ ลำ่ วถึง เชน่ เขำ มัน หล่อน ท่ำน เป็นต้น
ตัวอยำ่ งประโยค โรงเรยี นปทุมานกุ ลู คำสรรพนำมบรุ ษุ ท่ี ๑ ตัวอย่ำง ฉันตืน่ แต่เชำ้ เพอ่ื ไปใส่บำตร “ฉนั ” เปน็ คำสรรพนำมบรุ ุษที่ ๑ ซึง่ แสดงให้เห็นวำ่ กำลังเป็นผพู้ ูด ตัวอยำ่ ง หนูจะช่วยคณุ แมถ่ บู ้ำนค่ะ “หนู” เปน็ คำสรรพนำมบุรษุ ที่ ๑ ซึง่ แสดงใหเ้ หน็ วำ่ กำลงั เปน็ ผู้พดู
ตัวอย่ำงประโยค โรงเรยี นปทุมานกุ ลู คำสรรพนำมบรุ ุษท่ี ๒ ตวั อยำ่ ง คณุ ทำงำนนี้มำกีปีแล้ว “คุณ” เป็นคำสรรพนำมบรุ ุษท่ี ๒ ซึง่ แสดงให้เห็นวำ่ กำลังเปน็ ผ้ฟู งั ตวั อย่ำง เธอมำถงึ ตง้ั แตก่ โ่ี มง “เธอ” เป็นคำสรรพนำมบุรุษที่ ๒ ซึ่งแสดงให้เหน็ ว่ำกำลังเปน็ ผู้ฟงั
ตัวอยำ่ งประโยค โรงเรียนปทุมานกุ ลู คำสรรพนำมบรุ ุษท่ี ๓ ตวั อยำ่ ง คุณดสู ิเขำมำทำงำนสำยทกุ วนั “เขำ” เปน็ คำสรรพนำมบุรุษท่ี ๓ ซ่ึงแสดงให้เห็นว่ำกำลงั เปน็ ผถู้ กู กลำ่ วถึง ตวั อยำ่ ง สุนัขตวั นนั้ มนั น่ำสงสำรมำก “มัน” เป็นคำสรรพนำมบุรุษที่ ๓ ซง่ึ แสดงให้เห็นวำ่ กำลังเป็นผถู้ กู กล่ำวถึง
ข้อสังเกต โรงเรยี นปทุมานกุ ลู คำว่ำ “ทำ่ น หล่อน เธอ” สำมำรถเปน็ ได้ท้งั สรรพนำมบุรษุ ท่ี ๒ และ ๓ โดยกำรทจ่ี ะระบุได้วำ่ เปน็ สรรพนำมบรุ ุษที่ ๒ หรอื ๓ นน้ั จะต้องพิจำรณำจำกเนอื้ ควำมในประโยค
๒. นิยมสรรพนำม โรงเรยี นปทุมานกุ ลู หมำยถงึ คำสรรพนำมท่ใี ชแ้ ทนคำนำม เพอื่ บอกระยะ ใหช้ ัดเจนวำ่ อยใู่ กลห้ รือไกล เช่น น่ี นั้น โนน่ น้ี เป็นต้น
ตัวอย่ำงประโยค โรงเรยี นปทุมานกุ ลู นยิ มสรรพนำม ตัวอยำ่ ง นคี่ อื สถำนตี ำรวจ “น่ี” เปน็ นยิ มสรรพนำมบอกระยะว่ำอย่ใู กล้ ตวั อย่ำง โน้นเปน็ วัดประจำหมบู่ ำ้ น “โน้น” เปน็ นิยมสรรพนำมบอกระยะวำ่ อยไู่ กล
ข้อสังเกต โรงเรยี นปทุมานกุ ลู คำท่เี ป็นนยิ มสรรพนำม จะทำทที่ ำหน้ำที่เป็นประธำนของประโยคหรอื เขยี นหลงั คำกริยำ แต่ถ้ำเขยี นไว้หลังคำนำมหรอื คำสรรพนำม จะไม่ใช่ นยิ มสรรพนำมแตจ่ ะเปน็ นยิ มวิเศษณ์ เช่น คนน้ีตอ้ งกำรควำมช่วยเหลือ (นี้ เขยี นอยู่หลังคำนำมคำว่ำ “คน” จะทำหนำ้ ทเี่ ป็นคำขยำย ไม่ใช่ประธำน ของประโยค จึงเปน็ นยิ มวิเศษณ์)
๓. อนิยมสรรพนำม โรงเรยี นปทุมานกุ ลู หมำยถงึ คำสรรพนำมที่ใชแ้ ทนคำนำม เพอื่ บอกควำม ไม่แน่นอน ไมช่ ้เี ฉพำะเจำะจง เชน่ ใคร อะไร ท่ไี หน เปน็ ต้น
ตัวอย่ำงประโยค โรงเรยี นปทุมานกุ ลู อนยิ มสรรพนำม ตวั อย่ำง ฉนั ทำอะไรก็ไม่ถูกใจเธอ “อะไร” เป็นอนยิ มสรรพนำมบอกควำมไมเ่ ฉพำะเจำจงว่ำคอื อะไร ตัวอยำ่ ง ใคร ๆ ก็ชอบคนซ่ือสัตย์ “ใคร ๆ ” เปน็ อนิยมสรรพนำมบอกควำมไมเ่ ฉพำะเจำจงว่ำใคร
๔. ปฤจฉำสรรพนำม โรงเรยี นปทุมานกุ ลู หมำยถงึ คำสรรพนำมทใ่ี ชแ้ ทนคำนำม เพ่อื ใชเ้ ปน็ คำถำมเชน่ ใคร อะไร ที่ไหน อยำ่ งไร เป็นต้น
ตัวอย่ำงประโยค โรงเรยี นปทุมานกุ ลู ปฤจฉำสรรพนำม ตวั อยำ่ ง คุณพอ่ ทำอะไรอยคู่ ะ “อะไร” เป็นปฤจฉำสรรพนำมแสดงคำถำม ตวั อย่ำง ใครหยิบกระเป๋ำของฉนั ไป “ใคร” เป็นปฤจฉำสรรพนำมแสดงคำถำม
โรงเรยี นปทุมานกุ ลู วิภำคสรรพนำม หมำยถงึ คำสรรพนำมทีใ่ ช้แทนคำนำม เพอื่ คำนำมน้นั ออกเป็นสว่ น หรือเปน็ ฝำ่ ย ได้แก่คำวำ่ บ้ำง ต่ำง กนั เป็นต้น
ตัวอยำ่ งประโยค โรงเรยี นปทุมานกุ ลู วิภำคสรรพนำม ตวั อยำ่ ง นกั เรียนบ้ำงกก็ วำดพืน้ บ้ำงก็จัดโต๊ะ “บำ้ ง” แทนนกั เรียนซงึ่ มหี ลำยคน ซ่งึ นักเรียนแตล่ ะคนทำหน้ำที่ของตนเอง ตวั อย่ำง ฉนั กับเพ่ือน ๆ เดินไปโรงเรยี นด้วยกนั “กนั ” แสดงใหเ้ หน็ ถงึ คนหลำยคนร่วมกนั กระทำอยำ่ งใดอยำ่ งหนึ่ง
โรงเรยี นปทุมานกุ ลู ประพันธสรรพนำม หมำยถึง คำสรรพนำมท่ใี ชแ้ ทนคำนำมที่อยู่ขำ้ งหน้ำทำ หน้ำที่เช่อื มประโยคให้เปน็ ประโยคเดยี วกนั ไดแ้ ก่ ผู้ ท่ีซ่งึ อัน ผู้ เป็นต้น
ตัวอยำ่ งประโยค โรงเรียนปทุมานกุ ลู ประพนั ธสรรพนำม ตัวอยำ่ ง ผลงำนนี้เปน็ ผลงำนอันเกิดจำกควำมตั้งใจ “อนั ”เป็นคำสรรพนำมท่แี ทนคำนำมคำว่ำ “ผลงำน” ตัวอยำ่ ง ลูก ๆ เป็นท่ีรกั ของพ่อแม่ “ท”่ี เปน็ คำสรรพนำมท่ีแทนคำนำมคำว่ำ “ลกู ๆ”
โรงเรยี นปทุมานกุ ลู สอ่ื กำรเรียนรู้เพิ่มเตมิ https://www.youtube.com/watch?v=HhWVl2RPUdg
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: