Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อาหารไทย

อาหารไทย

Published by tookta tookta, 2021-02-10 07:14:23

Description: เนื้อหาหลักสูตรอาหารไทย

Search

Read the Text Version

1.แกงบอน แกงบอน อาหารท้องถ่ินพื้นบ้าน ท่ีมีมาแต่โบราณ รสชาติกลมกล่อมหอมอร่อย แกงบอนกับกะทิ หมู ย่าง ปลาย่าง หอมอร่อยเข้ากัน เราจะตัดต้นบอนตรงโคนอ่อนและก้านอ่อน แล้วนามาประกอบอาหาร สว่ นมากจะหารับประทานได้ยาก เพราะจะปลกู ในบางพนื้ ท่ีเท่าน้นั ทางเราได้มีวิธีทาแกงบอน ท่ีไดร้ สชาติกลม กล่อม หอมอร่อยและไม่คันปาก ทางเรามีเคล็ดลับคือ นาบอนมาลอกปอกเปลือกออก ระวังยางโดนมือจะทา ให้คนั ได้ค่ะ แลว้ หน่ั เปน็ ชนิ้ ๆ จากนั้นต้มน้าให้เดือดพลา่ น แล้วจึงนาบอนท่ีหนั่ ชิ้นใสล่ งไปตม้ ต้มจนบอนสุกน่ิม แล้วจึงสะเด็ดน้าออก แล้วใช้มือบีบคั้นน้าออกให้หมด แล้วจากนั้นจึงนาไปแกงได้ นาบอนต้มสุก มาแกงกับ กะทิ ใสห่ มยู ่าง ปลายา่ งลงไป ใส่เครื่องปรุงรสต่างๆ ลงไป ใส่ใบแมงลักลงไป ย่งิ หอมอร่อย สว่ นผสม กรมั บอนตม้ สกุ 200 กรัม หมยู ่าง 100 ตวั ปลายา่ ง 1 ชอ้ นโตะ๊ นา้ ตาลปบ๊ิ 1 มล. กะทิ 700 ช้อนโตะ๊ นา้ ปลา 2 ชอ้ นโต๊ะ พริกแกง 2 ชอ้ นโต๊ะ น้ามะขามเปียก 2 กรัม ใบแมงลกั 10

วิธกี ารและขน้ั ตอนการทา แกงบอน Gaeng Bon 1.เลือกบอนทไี่ ม่แก่เกนิ ไป เลอื กส่วนชว่ งตรงโคนจะออ่ น แล้วจากนั้นนามาลา้ งน้าใหส้ ะอาด 2.จากนนั้ นาบอนมาลอกปอกเปลอื กออก คอ่ ยๆ ลอกออก ขอ้ ควรระวังยางตดิ มือจะคนั 3.เมอื่ ปอกเปลือกบอนออกแล้ว จากนนั้ นามาหน่ั เป็นช้นิ ๆ ขนาด 2 น้วิ เตรยี มไว้

4.จากน้นั ต้มนา้ ให้เดือดพล่าน ใชไ้ ฟแรง แล้วจากน้ันจึงนาบอนหั่นชิ้นไว้ ใสล่ งไปต้ม จากน้ันต้มบอนให้สุกนมิ่ 5.เมอ่ื ตม้ บอนไดส้ กุ นมิ่ ดีแลว้ จากนนั้ ตักสะเด็ดนา้ ออก ใช้มือบบี น้าออกให้หมด 6.จากนนั้ นาปลามายา่ งพอสกุ แล้วแกะเอาแตเ่ น้ือปลา นาก้างออกใหห้ มด เตรียมไว้ จากนน้ั นาหมูมาหมักกับ ซอี ิว้ ขาว หมักพักไวป้ ระมาณ 10 นาที แลว้ จากนน้ั นามายา่ งใหพ้ อสกุ ยา่ งให้ออกสเี หลอื งทั้งสองดา้ น แลว้ จากน้นั นามาห่ันเปน็ ชิ้นๆ ขนาดพอคา เตรียมไว้

7.จากน้ันตั้งหม้อใส่กะทิลงไปนิดหนอ่ ย ใช้ไฟอ่อนๆ จากน้นั ผัดให้กะทิแตกมนั ดแี ลว้ จากนั้นจงึ ใสพ่ ริกแกงลงไป ผดั คนให้พริกแกงมกี ลนิ่ หอมแตกมัน จากนั้นใสห่ มูย่างลงไป ผัดคลกุ เคลา้ เติมกะททิ ่ีเหลือลงไป ต้มจนน้าแกง เดอื ด 8.เมื่อน้าแกงเดือดแล้ว จากน้ันใส่บอนต้มสกุ ลงไป และใสเ่ นอื้ ปลาย่างท่ีแกะไวล้ งไป 9.จากนนั้ ใสเ่ ครือ่ งปรุงรสลงไป ใสน่ า้ ปลา นา้ ตาลปิบ๊ น้ามะขามเปยี กลงไป จากนัน้ คนใหเ้ ข้ากนั รอใหเ้ ดอื ดอีก ครัง้ จากนั้นใส่ใบแมงลักลงไป จากนนั้ ปิดไฟยกลง พร้อมจัดเสิร์ฟ

10.จัดเสริ ์ฟ แกงบอนหอมๆ อาหารไทยทมี่ ีมาแต่โบราณ รสชาตกิ ลมกล่อมหอมอร่อย แกงบอนกบั กะทิ หมู ยา่ ง ปลายา่ ง หอมอรอ่ ยเข้ากัน 11.แกงบอนหอมๆ รสชาตกิ ลมกล่อมหอมอร่อย แกงบอนกับกะทิ หมูยา่ ง ปลายา่ ง หอมอร่อยเข้ากนั

2. แกงข้เี หล็ก แกงขีเ้ หล็ก เป็นการนาใบอ่อน ดอกและยอดของตน้ ขเ้ี หล็ก ซ่ึงเป็นต้นไม้ท่ีขน้ึ ได้ดีในทุกภาคของ ประเทศไทย มาปรงุ เปน็ อาหาร นอกจากจะรับประทานในครัวเรือน ยงั นิยมปรุงเลยี้ งแขกเทศกาลงานตา่ งๆ เช่น งานบวช งานแตง่ งาน งานศพ ด้วยรสชาติของข้ีเหล็กมีรสขม กอ่ นปรุงจึงตอ้ งนามาต้มน้าทง้ิ ก่อน ชว่ ย ลด สารท่ีเป็นพิษ และทาให้มรี สชาตดิ ีขึน้ เม่ือนามาปรงุ เป็นอาหาร คุณค่าทางโภชนาการ แกงข้เี หล็ก ชว่ ยใหถ้ า่ ยงา่ ย สบายทอ้ ง ในยอดอ่อน และใบข้เี หล็ก ประกอบด้วย เบตาคาโรทนี ใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรสั ธาตเุ หลก็ โปรตนี คาร์โบไฮเดรต ในปรมิ าณท่ีสงู กว่าผกั ชนดิ อนื่ ๆ การรบั ประทานแกง ข้เี หล็ก จึงเหมือนกบั รับประทานยา ด้วยเช่นกัน สว่ นผสม ใบขเี้ หล็กท่ตี ้มรินนา้ ท้งิ บีบน้าออกแล้ว 500 กรมั หนงั ววั เผา หรือต้มหัน่ เปน็ เสน้ 100 กรมั น้าคน้ั ใบยา่ นาง 3 ถ้วยตวง ตน้ หอมตดั ท่อนสนั้ ¼ ถว้ ยตวง ใบแมงลัก 4 – 5 ช่อ ตะไคร้ ตดั ท่อนยาว 2 นิ้ว 2 ตน้ น้าปลาร้า 4 ชอ้ นโตะ๊ น้าปลา 2 ชอ้ นโต๊ะ สว่ นผสมนา้ พรกิ แกง พรกิ แหง้ หรือพริกสด 15 เม็ด หอมแดง 10 หวั ตะไครห้ ัน่ ฝอย 7 – 8 ตน้ เกลือ 2 ชอ้ นชา วิธีปรงุ 1. โขลกเครอ่ื งน้าพรกิ แกงข้เี หล็กเข้าดว้ ยกนั ใหล้ ะเอยี ด 2. ใบและดอกขเ้ี หล็กตม้ แลว้ บีบนา้ ใหแ้ หง้ เทนา้ กะทปิ ระมาณ 1/3 ใส่หม้อยกข้ึนต้งั ไฟ ใสน่ า้ พริกแกงลงไปผดั จนได้กล่ินหอม 3. เตมิ นา้ กะทิสว่ นท่เี หลอื ลงมา ตามด้วยนา้ ค้นั ใบยา่ นาง ใบและดอกข้เี หล็ก ต้มต่อจนเดือด 4. ใส่หมูยา่ งลงไป เค่ยี วต่อสักพกั ปรุงรสด้วยนา้ ตาลปี๊บ น้าปลา (หรอื อาจใช้น้าปลารา้ ) คนใหเ้ ขา้ กนั รอเดือด อกี คร้ังปดิ ไฟ เคล็ดลบั นา่ รู้ ก่อนนาใบและดอกขีเ้ หลก็ มาปรงุ อาหาร เพอ่ื ไมใ่ ห้มรี สขมเกนิ ไป ควรต้มใบและดอกของ ข้เี หล็กแลว้ เทน้าท้ิงหลายๆ คร้งั

3. แกงเลียง ส่วนผสมแกงเลียง • บวบ (หนั่ เปน็ ชนิ้ พอคา) 150 กรมั • ฟักทอง (หั่นเปน็ ชน้ิ พอคา) 200 กรมั • ซกู นิ ี (หั่นเป็นช้นิ พอคา) 150 กรมั • ขา้ วโพดอ่อน (หนั่ สไลซ์) 150 กรมั • เหด็ กระดุม 150 กรัม • ใบแมงลกั 80 กรมั • กุ้งสด 200 กรัม • นา้ ซปุ ไก่ 3 ถ้วย • นา้ ปลา (สาหรบั ปรงุ รส) เครอื่ งแกงเลยี ง

ส่วนผสม เครื่องแกงเลียง • กระชาย 1-2 แงง่ • หอมแดง 3-4 หัว • พรกิ ไทยดา 1 1/2 ช้อนชา • ก้งุ แหง้ ป่นละเอียด 1/3 ถ้วย • กะปิ 1 ช้อนชา วิธีทาแกงเลยี ง • ก่อนอ่ืนโขลกเครื่องแกงไว้กอ่ นคะ่ โขลกพริกไทยกบั กระชาย แล้วใส่หอมแดงลงไปโขลกให้ละเอยี ด • ใส่กะปิลงไปโขลกรวมกนั จากน้ันจึงใส่กงุ้ แหง้ ปน่ โขลกรวมกนั อีกครัง้ ใหล้ ะเอยี ดเป็นอนั เรียบรอ้ ย

• ใสน่ า้ ซุปไกล่ งในหม้อ ตม้ ใหเ้ ดอื ด ใส่เครอื่ งแกงลงไป • พอน้าเดือดก็ใส่ผักที่สกุ ยากลงไปกอ่ น

• ต้มพอเดือดอีกครั้งจึงใสผ่ ักท่เี หลืออ่ืน ๆ ลงไป จรงิ ๆ ขึ้นอยกู่ บั การหน่ั ดว้ ยนะคะ อย่างฟกั ทองน่แี ม่ปูหน่ั ช้ินเลก็ กส็ ุกไวค่ะ พอนา้ เดือดป๊บั ก็ใส่ บวบ ฟกั ทองอ่อน ซกู ินี่ และเหด็ ลงไป • พอนา้ แกงเดือดอีกครั้งกใ็ ส่ก้งุ สดลงไป ปรงุ รสด้วยนา้ ปลาตามชอบ กุ้งวา่ ยนา้ หนีหายไปแลว้ ฮ่า ๆ มอง ไมเ่ ห็นเลย • พอส่วนผสมเดอื ดอีกครงั้ กใ็ สเ่ สน่หล์ งไป คือใบแมงลักน่นั เอง • ตกั เสริ ์ฟร้อน ๆ ซดนา้ ให้ชุ่มคอชน่ื ใจ หวัดหาย สบายดี (ก้งุ หายอกี แลว้ แม่ปูตักออกไปหมดแล้วค่ะ เห็น แตอ่ ยใู่ นถว้ ยนะคะ)

4. แกงค่ัวขนุน ส่วนผสม 80 กรมั – หวั หอมแดง 60 กรมั – กระเทียม 9 เมด็ – พรกิ ชีฟ้ า้ แดงแหง้ ¼ ไม้ (แผง) องั ไฟ + ตาละเอยี ด – ปลาสรอ้ ยย่าง 1 กิโลกรัม – ขนนุ ออ่ น 5 – 6 ใบ – ใบมะกรูดซอยละเอียด 8 หวั – หอมแดงซอย 1 ถว้ ย – น้ามนั หมู – น้าปลา วิธีทา นาหอมแดง กระเทยี ม พริกแห้ง คั่วให้หอมและสุก ปอกเปลือกแล้วตาใหล้ ะเอียด ใสป่ ลาสรอ้ ยยา่ งที่โขลก ละเอียด แลว้ ตาให้เข้ากนั นาขนุนไปต้มใหส้ กุ และนิม่ (อยา่ เละ) แลว้ นามาเอาแกนกลางออก หัน่ เป็นช้นิ เล็ก ๆ นาขนุนไปคลุกน้าพริกเผาท่เี ตรยี มไว้ ขยาให้เข้ากนั จนเนื้อพรกิ ซึมเข้าไปกับขนุน ใส่น้าปลา ปรุงรส และใส่ใบ มะกรดู ซอยละเอยี ด คลกุ ให้เขา้ กนั ตั้งกระทะใส่นา้ มันหมู ใสห่ อมแดงซอยและเจยี วให้พอหอม แล้วนาขนนุ ที่คลุกไวแ้ ลว้ ลงไปผดั ใช้ไฟอ่อน(ระวัง ตดิ กระทะ) ค่วั จนแห้ง ชมิ รสแลว้ ปรุงตามชอบ ตกั เสริ ์ฟ

5. แกงสม้ หนอ่ ไมด้ อง ส่วนผสม 1 ตวั ปลาดกุ ห่ันชน้ิ 200 กรัม หน่อไม้ดอง 2 1/2 ถ้วยตวง น้าเปลา่ 2 1/2 ชอ้ นโตะ๊ น้าปลา 6 ชอ้ นโตะ๊ นา้ มะขามเปยี ก 5 ใบ ใบมะกรูดฉีกกา้ นกลางออก สว่ นผสมน้าพรกิ แกงส้ม 7 เม็ด พรกิ ขี้หนูแหง้ 7 เมด็ พริกชฟ้ี า้ แห้งนาเมลด็ ออกแช่น้าใหน้ ่มุ 5 หวั หอมแดง 2 ช้อนชา กะปิ 1 ชอ้ นชา เกลือป่นหยาบ วธิ ปี รุง ขั้นตอนการทาพริกแกงส้ม 1. นาพริกแห้งแกะเมด็ ออกแช่น้าใหน้ ิ่ม นามาโขลกกับเกลือใหล้ ะเอยี ด 2. ใส่หอมแดง กะปิ แล้วโขลกให้เข้ากนั 3. นาเนือ้ ปลาช่อนสว่ นหนึง่ มาตม้ แลว้ ใสล่ งไปโขลกกบั พริกแกง เพื่อใหน้ ้าแกงเข้มข้นข้ึน ข้นั ตอนการทาแกงส้ม 1. นาหน่อไมด้ องมาล้าง และพกั ใหส้ ะเด็ดน้า 2. นาน้าเปล่าใสห่ มอ้ ตง้ั ไฟ ละลายพริกแกงส้มในหม้อ 3. พอนา้ เดือด ใสเ่ นื้อปลาช่อนทห่ี ั่นแล้วลงไป ห้ามคนเด็ดขาดค่ะ 4. พอเนื้อปลาสุก ใสห่ น่อไม้ดอง นา้ ปลา นา้ ตาลปีบ๊ น้ามะขามเปยี ก ชมิ รสตามชอบนะคะ ตม้ ให้เดือดสักครู่ ตักใส่ชามรบั ประทาน

6. แกงหมูเทโพ แกงเทโพใสผ่ กั บุง้ ไทยเเละหมูสามชั้นให้เนื้อสมั ผัสน่มุ ลน้ิ มีความหอมของพริกแกงคว่ั ทใ่ี ชพ้ ริกพิชัย พรกิ ที่ให้สีสวย กลน่ิ หอมเเบบเฉพาะตวั รสเผ็ดไมม่ ากเเละเป็นพรกิ พ้ืนบา้ นประจาถนิ่ โรยใบมะกรูดเเละเพิม่ ความเปรีย้ วจากส้มซ่า เปน็ แกงไทยที่ไดก้ ินเมื่อไหรก่ ไ็ ม่มเี บ่ือ ส่วนผสม 250 กรมั หมูสามช้นั ห่ันช้ิน 100 กรมั ผักบุง้ ไทยหัน่ ชิ้น 1 ลูก ลูกมะกรดู ผา่ ครึง่ ลูกแคะเม็ดออก 3 ชอ้ นโตะ๊ นา้ พรกิ แกงควั่ 1/2 ถ้วยตวง หวั กะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง กะทิเข้มขน้ ปานกลาง 2 ชอ้ นโต๊ะ นา้ มันพืช 2 ชอ้ นโต๊ะ นา้ มะขามเปียก 1 ชอ้ นโต๊ะ น้าตาลปี๊บ 1 ช้อนโตะ๊ นา้ ปลา วิธที า 1.ต้งั กระทะใสน่ ้าพชื พอร้อน ใสน่ ้าพริกแกงคั่วลงผัดพอมีกล่ินหอม เตมิ หวั กะทิ ผัดต่อจนแตกมนั 2.ใสห่ มสู ามช้นั ลงผัดพอเร่ิมสุก ตกั ใส่ลงในหม้อกะทเิ ขม้ ข้นปาน ยกข้นึ ตั้งไฟพอเดือด 3.ปรุงรสดว้ ยนา้ มะขามเปยี ก น้าตาลปบ๊ี นา้ ปลา เค่ยี วพอหมูนุ่ม 4.ใส่ผักบุง้ ลกู มะกรูด เคี่ยวต่อสักครู่ ยกลง ตักใสภ่ าชนะ จัดเสริ ฟ์

7. ห่อหมกปลาช่อน ห่อหมกปลาช่อน อูยแค่ได้ยินช่ือก็น้าลายไหลแล้ว เมนูนี้วิธีฟังชื่อแล้วเพื่อนๆคงคิดว่ามีวิธีการทาท่ี ยุ่งยากหลายขั้นตอนแต่ถ้าจะทานของอร่อยวัตถุดิบแน่นเราต้องลงมือทาเอง ห่อหมกปลานั้นเสือหิวได้ทาน ตั้งแต่เด็กๆ แต่ปัจจุบันนี้ตามท้องตลาดไม่ค่อยนิยมทากันขายกันเท่าไหร่ ด้วยวิธีการทาที่หลายขั้นตอน ห่อ หมกจึงถกู ดัดแปลงมาเรื่อยๆ ให้เหมาะกบั ยุคสมัยในปัจจบุ ัน ตามร้านอาหารส่วนมากจะมีการน้ามะพร้าวอ่อน มาทาห่อหมกเช่น ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน หรือห่อหมกย่างท่ีมีขายตามงาน OTOP วันนี้เสือหิวอยากทา ตามแบบสมัยโบราณท่ีต้องใช้ใบตองในการทากระทง เราต้องเย็บกระทงก่อนเรยี กได้ว่าเป็นงานฝีมือกันเลยจ้ะ ห่อหมกปลาช่อนฟังชื่อก็คงจะรู้แล้วเราใช้ปลาอะไรในการทา แต่ถ้าใครไม่ชอบทานปลาช่อนจะใช้เป็นปลา กะพง เน้ือปลาอินทรีย์ หรือเน้ือปลากรายก็ได้นะจ้ะ หรือจะเป็นห่อหมกหมูก็อร่อยไม่แพ้กัน ห่อหมกน้ันเป็น การนากะททิ ี่คน้ั สดมาผสมกับเครือ่ งแกง ใช้ไมพ้ ายคนเพอื่ ให้เน้ือปลาเข้ากับพริกแกงและกะทิเข้ากันเรยี กได้ว่า คนกันจนปวดแขนไปข้างหนึ่งเลย (เคล็ดลับอยู่ตรงกันคนให้น้ากะทิซึมเข้าท่ีตัวปลา) ให้น้ากะทิเรม่ิ มีความงวด ขึน้ ผักทใี่ สก่ ็จะใชเ้ ป็นใบยอ กะหลา่ ปลี หรอื ผักกาดขาวก็ไดต้ ามทเี่ ราชอบ สว่ นผสมและวตั ถุดิบในการทาห่อหมกปลาช่อน กะทิ 1 กิโลกรัม กะหลา่ ปลี คร่ึงหวั พรกิ ชฟี้ ้าสีแดง 4 เม็ด โหระพา 5 ตน้ ใบมะกรูด 4 ใบ พรกิ แกงเผด็ (สีแดง) 3 ขดี ไข่เปด็ หรือไขไ่ ก่ 2 ฟอง นา้ ตาลทราย 1 ชอ้ นโตะ๊ ผงปรงุ รส 1 ชอ้ นโต๊ะ เกลอื ป่น ครึ่งชอ้ นโต๊ะ แปง้ ข้าวเจา้ 1 ช้อนโต๊ะ ไม้จ้มิ ฟนั 20 อัน ใบตอง 1 พับ ปลาช่อน 1 กโิ ลกรัม

ข้นึ ตอนและวธิ ที าห่อหมกปลาชอ่ น ล้างทาความสะอาดผกั ตา่ งๆ ปลาช่อนให้ทางรา้ นเอากางออกเหลือแต่เน้ือปลา ปลาช่อนเวลาล้างเคล้า เกลอื ปน่ จะช่วยขจัดกลน่ิ คาว และลา้ งดว้ ยน้าส้มสายชู จะช่วยลดกล่นิ และเหมอื กของปลา สว่ นผสมของเราใส่น้าพริกแกงเผ็ดลงไป ทยอยใส่น้ากะทิลงไป แล้วคนให้น้าพริกแกงละลาย ทยอยเติมน้ากะทิ ได้เรื่อยๆ (น้ากะทิแบ่งไว้ทาน้าราดห่อหมกด้วยจ้ะประมาณ 1 ถ้วย) น้าพริกแกงละลายดีแล้ว ใส่เกลือป่น ผง ปรุงรส น้าตาลทรายตัดรสชาติ ชิมรสชาติได้เลยจ้ะก่อนท่ีเราจะใส่ไข่เป็ดและเน้ือปลาลงไป ห่อหมกปลาช่อน รสชาตทิ ีไ่ ด้จะมรี สชาตเิ ข้มขน้ ของกะทิ หอมพริกแกง มคี วามเค็มเล็กน้อย ส่วนผสม หอ่ หมกปลา เนอ้ื ปลาบด (ใช้ได้ทั้งเนื้อปลาอินทรี เนอื้ ปลากราย หรอื เนื้อปลาชอ่ นก็ได้) 500 กรมั เนอื้ ปลาสไลซ์ 200 กรัม น้าพรกิ แกงเผ็ด 100 กรมั ไขไ่ ก่ 1 ฟอง นา้ ตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ น้าปลา 1/4 ถ้วยตวง กะทิ 2 ถว้ ยตวง แป้งขา้ วเจ้า 2 ชอ้ นชา กะหลา่ ปลีซอย หรือผกั กาดขาว ใบโหระพา พริกชีฟ้ า้ ซอย ใบมะกรูดห่นั ฝอย กระทงใบตอง (กระทงใบตองแห้ง หรือถว้ ย) หวั กะทิ (สาหรบั ตกแต่ง) 1/3 ถ้วย วิธที าห่อหมกปลา 1. ตม้ น้าเปลา่ ให้เดอื ด ใส่กะหลา่ ปลีหน่ั ฝอยลงไปใหห้ มดแลว้ รีบตักขน้ึ มาใสน่ ้าเย็นด้วยความเร็ว จากนั้นหยิบกะหล่าปลขี ้ึนมาบีบน้าออก ใส่ลงในภาชนะ เตรียมไว้

2. ใสน่ า้ พรกิ แกงเผด็ ลงไปในอา่ งผสม ใส่ไข่ที่ตีแตกแล้วลงไป ตามดว้ ยนา้ ตาลทราย และน้าปลาคนใหเ้ ข้า กนั จนเป็นเน่อื เดยี ว 3. แบ่งกะทใิ สล่ งไปผสมให้เขา้ กนั 4. ตามดว้ ยเนอ้ื ปลาบด 5. นวดใหเ้ ขา้ กัน (นวดดว้ ยมือ หรือพายก็ได้ แต่ใชม้ ือดีกวา่ จะได้สมั ผัสเน้อื ปลาและพริกแกงได้ดีกว่า) ค่อย ๆ เตมิ กะทิทเี่ หลือลงไปจนหมด นวดจนส่วนผสมเหนียว

6. ใส่กะหล่าปลีลวกลงไปในกระทง 7. ตามดว้ ยใบโหระพา หยอดเน้อื ห่อหมกลงไปประมาณ 1 ชอ้ นโตะ๊ ตามด้วยเนื้อปลาสไลซ์ และหยอด หอ่ หมกทบั ลงไปปิดทา้ ยจนเต็มกระทง 8. นาหอ่ หมกใส่ทนี่ งึ่ เอาไปนึง่ บนน้าเดือดพล่าน ใช้ไฟกลางสูงประมาณ 20 นาที 9. นาหวั กะทิผสมแป้งขา้ วเจา้ คนใหเ้ ข้ากนั หรอื นาเข้าไปในไมโครเวฟประมาณ 40 วินาที แตพ่ อครบ 20 วินาทีให้เอาออกมาคนกอ่ นคร้ังหนึง่ หรอื จะเอาไปนึ่งกไ็ ดค้ ะ่

10. เมอื่ ห่อหมกครบเวลา 20 นาทีแล้ว หยอดหัวกะทลิ งไปบนหน้าหอ่ หมก ตกแต่งดว้ ยพริกชฟี้ ้าแดงซอย และใบมะกรดู หนั่ ฝอย 11. นาหอ่ หมกไปนึ่งต่ออีก 5 นาที ตักออกมาใสภ่ าชนะ .

8. แกงเปอะ เคร่อื งปรงุ 1. พรกิ ชี้ฟ้าสด 10-15 เม็ด 2. ตะไคร้ 2 ตน้ 3. หอมแดง 4 หวั 4. กระเทยี มกบี 5-6 กบี 5. น้าใบยา่ นางประมาน 20 ใบ 6. นา้ ปลารา้ 1/2 ทบั พี (เนน้ ปลาร้ามากหน่อยตามสไตลค์ นอีสาน) 7. กระชายทบุ พอแตก ใสเ่ พ่อื เพม่ิ ความหอม (แล้วแตค่ นชอบค่ะ ไมใ่ ส่ก็ได)้ 8. ฟกั ทอง 200 กรมั 9. ชะอม 1 กา (ประมาณ 1 ขีด) 10. เหด็ ฟาง+ เห็ดหหู นู+เห็ดชเิ มจขิ าว+เห็ดชิเมจดิ า = 300 กรมั Advertisement 11. ใบแมงลกั 12. นา้ ปลา 3 ช้อนโต๊ะ 13. ชูรส 2 ชอ้ นชา 14. ขา้ วเหนยี วแช่แล้วนามาโคลกเพ่ือจะให้น้าแกงเราเหนยี วขน้ ขึ้นคะ 15. บวบหอมประมาน 2 ลูก 16. พรกิ ขหี้ นูสดประมาณ 20 เม็ด (ไม่ต้องโคลกนะคะ พอแกงเดือดจะใส่ตบท้ายแล้วค่อยปดิ ไฟคะ่ ) 17. หนอ่ ไม้สด 1 กิโลกรมั

วธิ ที า 1. นาหน่อไม้สดท่ีเตรยี มไว้มาปลอกเปลือก จากน้นั ก็นามาทุบ (ถ้าหนอ่ เล็กนะคะ แตถ่ า้ เป็นหนอ่ ใหญเ่ รา จะนามาซอยบาง ๆ แตก่ ็ไมใ่ ห้บางจนเกินไปนะคะ จะไม่อร่อยค่ะ) 2. เม่ือทุบหรอื ซอยเสรจ็ แลว้ จากนั้นเรากจ็ ะนามาต้มประมาน 30 นาที เพื่อไมใ่ ห้หน่อไม้ขมค่ะ จากนั้นกย็ กลง มาเทนา้ ที่ต้มทิง้ 3. เทน้าใบยา่ นางลงหมอแลว้ ต้งั ไฟใหร้ ้อน 4. นาพริกแกงที่เตรียมใว้ใส่ลงไปตามดว้ ยหนอ่ ไมท้ ่ีตม้ เตรียมไว้ 5. ใส่นา้ ปลาร้า นา้ ปลา และฟักทองตามลงไป (เพราะฟักทองจะสกุ ยากเราตอ้ งใสต่ ามลงไปเลย) Advertisement 6. นาข้าวเหนียวทเ่ี ราโคลกไวผ้ สมนา้ เปล่านดิ หนอ่ ย (เพ่ือป้องกนั การจบั ตัวเปน็ ก้อนตอนเทลงไปในหมอ้ คะ่ ) 7. ใสบ่ วบหอมลงไป พอบวบสกุ เราก็จะใส่เหด็ ท้ังหมดท่ีเตรียมไว้ ตามด้วยพริกข้ีหนูสด ชะอมและใบแมงลัก แคน่ ้กี ็เป็นอนั เรียบร้อยค่ะ ปิดไฟยกลงไดเ้ ลย เรากจ็ ะไดแ้ กงหนอ่ ไม้ทีอ่ ร่อยและใช้เวลาทาไม่นานทานกนั แล้ว

เมนูต่างๆ ตอนน้เี รากจ็ ะเน้นทาอาหารทม่ี ีส่วนประกอบของผักและสมุนไพรเพื่อสขุ ภาพเปน็ หลัก เพราะเราจะ ไดท้ ั้งอาหารท่ีอร่อยแล้วก็ดีต่อสขุ ภาพด้วยค่ะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook