Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Oncena try thissert

Oncena try thissert

Published by koeunni30112546, 2022-01-15 13:10:07

Description: Oncena try thissert

Search

Read the Text Version

6/12 ONCENA TRY THISSERT น.ส.กุลสตรี ชัยภักดี เลขที่35

สารบัญ หน้า Introduce 1 India Korea 2-6 Japan 7-12 13-17 France 18-24 25-26 Switzerland 27-31 Thailand

INTRODUCE นิตยสารฉบับนี้ ผู้จัดทำมีความตั้งใจอยากที่จะ แชร์ของหวานหรือขนมที่ครั้งนึงในชีวิตอยาก จะลองทน จึงเป็นที่มาของชื่อนิตยาสารในครั้ง นี้ ซึ่งคือ once : ครั้งนึง มาเล่นเสียงกับคำว่า wanna : อยาก จึงเอามารวมกัน เป็น onena,try : ลอง this : เหล่านี้ นำมารวมกับ คำว่า dessert : ซึ่งแปลว่าของหวาน รวมกัน เป็น this sert และออกมาความหมายโดยรวม คือ ครั้งนึงอยากที่จะลองขนมหวานเหล่านี้ดู ของหวานที่ว่านั้นจะมีอะไรบ้าง เชิญชมได้ต่อ จากหน้ านี้ 1

India 1. Jalebi เป็นขนมอินเดียดั้งเดิมที่มีรูปร่างเป็นเกลียวทำด้วยแป้ ง ผสมกับแป้ งชิคพี แล้วนำไปทอด เมื่อทอดเสร็จก็นำไปจุ่ม ในน้ำเชื่อม ซึ่งขนมชนิดนี้สามารถกินได้ทั้งแบบร้อน และ แบบแช่เย็น โดยรสชาติของขนมจะหวาน และเหนียว 2

2. Rasmalai เป็ นขนมหวานที่มีลักษณะเป็ นก้อนชีสแช่ในนม ซึ่งตัวน้ำทำมาจากครีมที่ทำจากน้ำตาลขาว และ ลูกกลม ๆ ที่ทำมาจากถั่วลูกไก่หรือชีคพีแช่อยู่ใน ครีม เวลาเสิร์ฟมักจะโรยถั่วพิสตาชิโอ กระวาน หญ้าฝรั่น มาด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ ซึ่งขนมจะหอม ๆ หวาน ๆ ทานง่าย 3

3. Gulab Jamun เป็นขนมที่ทำจากแป้ งผสมนม ปั้นกลม ๆ แล้วนำ ไปทอด และราดด้วยน้ำเชื่อมที่ทำมาจากหญ้าฝรั่น และน้ำกุหลาบ เวลาเสิร์ฟแบบร้อน ๆ หน้ าตาจะ คล้ายกับโดนัท ซึ่งเวลาทานต้องทานคู่กับน้ำชา เพราะขนมชนิดนี้ มีรสชาติค่อนข้างหวาน 4

4. Kaju katli หรือ Kaju barfi เป็นขนมที่ทำจากนม และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผสมกับน้ำตาล ตัดเป็นรูปเหลี่ยมแบบเพชร และ จะมีแผ่นเงินปิดบนหน้ าขนมด้วย รสชาติไม่หวาน มาก มัน ๆ แบบเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ทานกับชา หรือกาแฟ ก็เข้ากันเป็นอย่างดี 5

5. Laddu เป็นขนมที่ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ทำมาจากแป้ งถั่ว ลูกไก่เป็นหลัก และใส่ถั่ว กระวาน หญ้าฝรั่น ลง ไปด้วย แล้วทอดในน้ำมันเนย ใส่น้ำตาลหรือน้ำ เชื่อม ทอดจนสุก เวลาเคี้ยวเข้าไป จะสัมผัสได้ถึง ความหวานของตัวแป้ ง และรสชาติกรุบ ๆ ของถั่ว ทำให้มีรสชาติที่ดีมาก ๆ 5

6. Barfi เป็นขนมหวานสีขาว ที่ทำจากนมผสมกับน้ำตาล เป็นพื้นฐาน จะมีหลายรูปทรง หลายขนาด ส่วน รสชาติจะแตกต่างกันไปตามผลไม้ที่เอามาผสมใน การทำ เช่น อัลมอนด์ มะม่วง ฯลฯ ซึ่งรสชาติจะ ไม่หวานมาก ทานง่าย 6

Korea 송편1. ซงพยอน ( ) ซงพยอน หรือที่หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินกันว่า ซงเพียน เป็นขนมหวานเกาหลี ที่ทำ มาจากแป้งข้าว (หรือ แป้งต๊อก) ถือกำเนิดขึ้นในช่วงโครยอ คนเกาหลีจะรับประทาน กันในช่วงเทศการเก็บเกี่ยวในฤดูใบร่วง และเทศกาลชูซอกซงพยอน ทำมาจากแป้ง ต๊อก สอดไส้ด้วยไส้หวาน เช่น ถั่วเหลือง, เกาลัด, พุทรา, ถั่วแดง, งา, น้ำผึ้ง เป็นต้น ปั้ นเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว และนำไปนึ่งบนกิ่งของต้นสน เพื่อเพิ่มกลิ่นสดชื่น โดยชื่อของซงพยอน มาจากต้นสน (ซง) เมื่อผสมกับพยอนแล้ว จะกลายเป็น เค้ก ต้นสนนั่นเอง ขนมชนิดนี้ เป็นตัวแทนของพระจันทร์ และคำขอ ทำให้ในตอนรับ ประทาน หลายๆ คนมักจะกล่าวคำอธิษฐานสิ่งที่ต้องการ 7

인절미2. อินจอลมี () ถ้าใครเคยทานบิงซูถั่วแดง น่าจะคุ้นๆ ชื่ออิลจอลใช่ไหมล่ะ อิลจอลมีเป็นอีกขนมที่ทำมา จากแป้งต๊อก ชนิดแป้งข้าวเหนียว โดยจะนำไปนึ่งให้สุก และนำมาคลุกกับผงถั่วเหลือง และน้ำตาลทรายป่น อิลจอลมี ที่จริงแล้วมีหลายแบบเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าจะนำแป้งต๊อกที่ 팥인절미 깨인절미นึ่งแล้วไปคลุกกับผงอะไร เช่น ผงถั่วเหลือง (ที่เรามักจะเห็นเป็นปกติ), ถั่วแดงอะซูกิ ( ), หรืองา ( ) ขนมชนิดนี้ถือว่าเป็นขนมที่ดังมากๆ เพราะนอกจากจะ ทานในช่วงปาร์ตี้ เทศกาลต่างๆ แล้ว ยังย่อยได้ง่าย และยังมีคุณค่าทางโภชนาการอีก ด้วย สามารถเอาแช่ตู้เย็นไว้ พอนำมาเวฟก็รสชาติอร่อยเหมือนทำสดเลย 8

화전3. ฮวาจอน ( ) เห็นหน้าตาขนมชนิดนี้แล้ว สวยงามจนไม่กล้าทานเลย ขนมชนิดนี้มีส่วนผสมของแป้ง ข้าวเหนียว น้ำผึ้ง และดอกไม้ที่รับประทานได้ เช่นดอกยี่โถ (Rhododendron mucronulatum) จะทานกันในช่วงเทศกาล Samjinnal และวันประสูตรของ พระพุทธเจ้า โดยดอกไม้บนขนมฮวาจอนนี้ มักจะใช้ดอกไม้ที่รับประทานได้ ในแต่ละฤดู ฤดูใบไม้ผลิ – ดอกยี่โถ, ดอกต้นแพร, ดอกซากุระ ฤดูร้อน – ดอกกุหลาบ ฤดูใบไม้ร่วง – ดอกเบญจมาศ, ดอกหงอนไก่ ฤดูหนาว – ใบจิงจูฉ่าย, ใบผักชีล้อม หรือพุทรา ตัดเป็นรูปกลีบดอกไม้แทน 9

약과4. ยักกวา ( ) เขนมชนิดนี้ ถือเป็นคุกกี้โบราณของเกาหลีเลย เพราะถือกำเนิดในช่วงยุคชิลลา เป็นขนมของคนชนชั้นสูง โดยปัจจุบันมักรับประทานในช่วงเทศกาลชูซอก, พิธี แต่งงาน และงานฉลองอายุ 60 ปี ยักกวา ทำมาจากแป้งสาลี น้ำมันงา น้ำผึ้ง น้ำ ขิง และไวน์ข้าว โดยผสมแป้งสาลีและน้ำมันงาให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอน ผสม น้ำผึ้ง น้ำขิง ไวน์ข้าวให้เข้ากัน นำไปผสมกับส่วนแรก เมื่อแช่เย็นแล้วนำมากดกับ พิมพ์รูปดอกไม้ และทอดในน้ำมัน คลุกด้วยน้ำเชื่อม ก็จะได้เป็นยักกวา 10

다식5. ดาชิก ( ) ขนมชนิดนี้มักจะทำมาจากแป้งจากธัญพืช เช่น ต้นสน เกาลัด ถั่ว เหลือง งาดำ โอมีจา เป็นต้น ผสมกับน้ำผึ้ง โดยแป้งธัญพืชเหล่านี้จะ ให้สีของขนมที่แตกต่างกันไป ทั้งสีเขียว ชมพู ดำ เหลือง และขาว ดาชิกเกิดขึ้นมากว่า 1,600 ปีแล้วจากอินเดียค่ะ โดยพิมพ์ขนมดาชิ กมักจะเป็นชื่อของแต่ละครอบครัว เพื่ออวยพรให้มีอายุยืนยาว และ ยังมีแบบอื่นๆ อีกด้วย 11

엿6. ยอต ( ) เห็นหน้าตาแล้ว ยอตรูปร่างจะคล้ายๆ กับขนมไม้โบราณ หรือตังเม ไม้ที่ไทยมีขายกันนั่นเอง ยอตมีทั้งแบบแท่ง แบบไซรัป และแบบ ลูกอม ทำมาจากข้าว, ข้าวเหนียว, ข้าวฟ่าหวาน, ข้าวโพด, มันหวาน นำมาเคียวจนได้ที่ ปัจจุบันมีการผสมยอต กับถั่วต่างๆ งา เมล็ด ทานตะวัน เกาลัด หรือฟักทองเข้าไปด้วย โดยจะมีชื่อที่ต่างๆกันไป 깨엿 황골엿เช่น แกยอต ( ) ยอตที่คลุกกับงา, ฮวังโกลยอต ( ) ยอตที่ผสมกับข้าวโพด และมอลต์ 12

Japan 煎餅Senbei เซมเบ้ถือเป็นของฝากอันดับต้นๆ ที่ทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาตินิยม ซึ่งเซมเบ้ก็ คือแครกเกอร์ข้าวแบบญี่ปุ่น มีหลายรูปแบบทั้งขนาด, รูปร่าง และรสชาติที่มี เยอะมากทั้งแบบคาวและหวาน ทานคู่กับชาเขียวยามบ่ายเป็นของว่าง โดย รสชาติดั้งเดิมได้แก่ โชยุ, สาหร่าย, งาดำ เป็นต้น และยังมีรสชาติเฉพาะของ แต่ละจังหวัดอีกด้วย เช่น จังหวัดชิบะ ที่มี Nure- Senbei ซึ่งเป็นเซมเบ้แบบ เปียก เพราะนำไปชุบกับโชยุระหว่างการทำ หรือ เซมเบ้แกงกะหรี่ของภูมิภาค ฮอกไกโด 13

花林糖Karinto ขนมกรุบกรอบรสหวาน ภายนอกจะมีลักษณะเกรียมเล็กน้อย เป็นขนมโบราณตั้งแต่ยุคเอโดะ ส่วนผสมในการทำคือ แป้ง,ยีสต์ และน้ำตาลทรายแดง แล้วนำไปทอดจนกรอบ แบบดั้งเดิมจะนำไปเคลือบด้วยน้ำตาลทรายแดงอีกชั้น ปัจจุบันมีรูปแบบต่างๆ ออกมามากมายทั้งใช้น้ำตาลทรายขาว แทน ,ผสมงา, ใส่ถั่วลิสง เป็นต้น 14

Arare あられ ขนมแครกเกอร์กรุบกรอบลูกกลมที่ทำจาก ข้าวเหนียว ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง ต่าง จากเซมเบ้ตรงไซส์ที่มีขนาดเล็กกว่านั่นเอง 15

モナカMonaka โมนากะ ขนมอบที่ประกอบแป้งเวเฟอร์ที่ทำจากโมจิแผ่นบาง เข้าด้วยกันเหมือนแซนวิช สอดไส้ถั่วแดง, ครีมชาเขียว, ครีม เกาลัด เป็นต้น ปัจจุบันมีการประยุกข์ใส่ไอศกรีม เป็นขนม หวานสุดฮิตช่วงหน้าร้อน เพราะรสชาติเย็นๆ และความกรุบ กรอบของแป้งเวเฟอร์แสนอร่อยนั่นเอง นิยมทานกับชาเพื่อ ตัดรสหวานให้พอดีไม่เลี่ยนจนเกินไป 16

羊羹Yokan โยกังแบบดั้งเดิมคือเยลลี่ที่ทำจากถั่วแดงบดเป็น หลัก มักจำหน่ายเป็นแบบบล็อก เวลาทานนำมา สไลด์หั่นเป็นชิ้น สามารถเก็บได้นานโดยไม่ต้อง ใช้ตู้เย็นและ นิยมให้กันเป็นของขวัญอีกด้วย 17

France 1. มิลเฟย (Millefeuille) มิลเฟย เค้กพันชั้นที่เกิดจากการทับซ้อนของแป้งพัฟกรุบ กรอบหอมกรุ่น สลับชั้นกับครีมนุ่มนวลหวานละมุน ท็อปด้วย เบอร์รี่ชนิดต่างๆ อาจจะหารับประทานยากสักหน่อย แต่ใคร ได้ลิ้มลองแล้วเชื่อเถอะว่ามันเป็นรสชาติที่คุณรอคอย 18

2. เคลมบรูเล่ (CrémeBrûlée) ของหวานละม้ายคล้ายพุดดิ้ง ด้านล่างเป็นคัสตาร์ดร สวานิลลา (ส่วนใหญ่) ส่วนด้านบนใช้ความร้อนจากไฟ เบิร์นให้คาราเมลสุกจนมีกลิ่นหอมกรุ่น ชวนให้น่ารับ ประทาน เคลมบรูเล่เป็นขนมหวานจานโปรดของสวี ตเลิฟเวอร์ก็เพราะสัมผัสนุ่มนิ่มและกลิ่นหอมๆ 19

3. มาการอง (Macarons) ขนมหวานยอดฮิตที่ทำเอาสายคาเฟ่ติดอกติดใจกัน อย่างถ้วนหน้า ด้วยสีสันสดใสของขนมปังทรงกลม สอดไส้ครีมหรือแยมรสต่างๆ เนื้อชุ่มเล็กๆ ละลายใน ปาก ปัจจุบันมีรสชาติใหม่ๆ ออกมาให้คุณเลือกลิ้ม ลองมากมาย อาทิ ฟักทอง ชาเขียว เป็นต้น 20

4. มูสช็อกโกแลต (Mousse au chocolat) เมนูนี้น่าจะถูกใจคนรักช็อกโกแลตไม่น้อย ทั้งหอมมัน เข้มข้นแต่ไม่หนักจนเกินไป เต็ม ไปด้วยรสชาติของช็อกโกแลต อร่อยแถม ยังหารับประทานไม่ยาก 21

5. เลมอนทาร์ต (Lemon Tart) ขนมหวานสัญชาติฝรั่งเศสอีกจานที่ 22 โดนใจคนไทย รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ของเลมอนเคิร์ดกินพร้อมกับทาร์ต และเมอแรง สดชื่น ไม่เลี่ยนแต่อย่าง ใด

6. ซูเฟล่ (Soufflé) เค้กอีกชนิดของฝรั่งเศส เนื้อเบาๆ นุ่มฟู น่าลิ้มลอง สามารถเสิร์ฟเป็นอาหารคาว หวาน หรือของว่างก็ ยังได้ เดี๋ยวนี้ซูเฟล่ไม่ได้มีแต่ในโรงแรมหรือร้านอา หารหรูๆ เท่านั้น คาเฟ่บางร้านก็เสิร์ฟเช่นกัน 23

7. มาเดอลีน (Madeleines) มองภายนอกอาจจะคล้ายขนมไข่แต่ไม่ใช่นะ!มา เดอลีนหรือ“เปอติตมาดแลน” เป็นขนมเค้กชิ้น เล็กๆ รูปเปลือกหอยน่ารัก มีต้นกำเนิดมาจาก แคว้นกร็องแต็สต์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นขนม เค้กฟองน้ำนุ่มๆ หอมกรุ่น กินง่าย 24

Switzerland 1. Nusstorte ขนมนี้มักทำโดยคนทำขนมปังในท้องถิ่นอิสระใน Engadine และ เป็นหนึ่งในขนมสวิสที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด และเนื่องจากมีร้านเบเก อรี่มากมายที่ขาย Nusstorte คุณจะพบกับเวอร์ชันต่างๆมากมาย ทั่วภูมิภาค ลูกกวาดบางคนใส่น้ำผึ้งลงไปในไส้ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็ ใช้ครีมหนักแทนนม - ไม่ใช่ความแตกต่างที่รุนแรง 25

2. Birnbrot หากคุณได้ลิ้มลองขนมที่มีผลไม้แห้งคุณจะต้องหลงรักขนม นี้ Birnbrot เป็นเพียงหนึ่งในชื่อของขนมอันโอชะนี้ซึ่งแปล ตรงตัวว่า - ขนมปังลูกแพร์ นั่นเป็นเพราะลูกแพร์แห้งเป็น ส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารจานนี้ แต่บ่อยครั้งก็มี ผลไม้แห้งอื่น ๆ เช่นมะเดื่อหรือแอปเปิ้ ลด้วย วอลนัทและ ลูกเกดมักเป็นส่วนประกอบสำคัญในขนมนี้เช่นกัน 26

Thailand 1. ทองพลุ เป็นขนมที่นิยมใช้ในพิธีมงคลต่าง ๆ โดยคำว่า “ทอง” หมายถึง ของที่มีค่า ส่วนคำว่า “พลุ” หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง โดย ดัดแปลงมาจากขนมเอแคลร์ของฝรั่งเศสที่ใช้วิธีการอบนั่นเอง ลักษณะของทองพลุจะเป็นก้อนกลมคล้ายหยดน้ำ สีเหลืองทอง ด้านในเป็นโพรง และมีผิวเรียบ สามารถใส่ไส้เพิ่มได้ 27

2. สัมปั นนี เป็นขนมมงคลใช้ในพิธีแต่งงาน โดยมีความหมายคือ การ เป็นที่รัก เมื่อรับประทานเข้าไป เนื้อขนมจะละลายในปากมี รสหวานและหอมกลิ่นควันเทียน รูปร่างคล้ายดอกไม้มี สีสันสวยงาม มีทั้งสูตรกรอบและนุ่มให้เลือกรับประทาน และเช่นเดียวกับทองโปร่ง 28

3. ขนมกง บางคนเรียกว่า “ขนมกงเกวียน” เป็นขนมไทยโบราณที่มี ลักษณะเป็นวงกลมและมีเส้นพาดผ่านคล้ายกับล้อของ เกวียน ซึ่งสื่อความหมายถึงการมีความเป็นอยู่อย่าง เป็นสุข เปรียบเสมือนให้คู่บ่าวสาวได้ใช้ชีวิตเคียงข้างกัน ด้วยใจคอที่หนักแน่น มีความรักให้กันตลอดไปเหมือน กงล้อเกวียน และเปรียบได้กับธรรมจักร 29

4. ทองโปร่ง หรือ ขนมหน้านวล เป็นขนมไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณที่ดัดแปลงมาจากขนมโปรตุเกส ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นอีกหนึ่งขนมที่มีความหมายมงคลเช่น กัน ลักษณะของทองโปร่งคือ รูปทรงคล้ายเรือ มีสีเหลืองนวล กรอบนอก และด้านในต้องโปร่งมีฟองอากาศของน้ำตาลสี เหลืองอมส้ม เมื่อรับประทานใหม่ ๆ จะมีน้ำตาลเยิ้มออกมา สำหรับขนมทองโปร่ง หรือขนมหน้านวลนั้นในปัจจุบันก็ยังมีร้าน ขนมไทยชื่อดังอย่าง ขนมไทยเก้าพี่น้อง 30

5. พระพาย เป็นขนมที่ใช้ในพิธีแต่งงาน ใช้แป้งข้าวเหนียวนวดกับนํ้าดอกมะลิ ใส่สีต่าง ๆ เพื่อหุ้มไส้ที่ประกอบด้วยถั่วเขียวเลาะเปลือกที่บด ละเอียด ผสมกับกะทิ และนํ้าตาลปั้ นเป็นก้อนกลม ๆ เมื่อหุ้มเสร็จ แล้วนํามาวางบนใบตองที่ตัดเป็นกลม ๆ เมื่อนึ่งสุกแล้ว พรมด้วย หัวกะทิ เชื่อกันว่าแป้งข้าวเหนียวที่ใช้หุ้มไส้ หมายถึงความเหนียว แน่นมั่นคง และความหวานของไส้คือความรักอันแสนหวาน 31

หากคุณเองก็ยังไม่เคยลองขนมหวานเหล่านี้ นี่อาจ จะเป็นนิตยาสารที่สามารถแนะนำให้คุณได้ หาก ข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook