• เป็ นแหล่งผลติ พลงั งานของเซลล์ • พบมากในเซลล์ทม่ี กี จิ กรรมสูง เช่น เซลล์ไต เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์อสุจิ •มเี ย่ือหุ้มสองช้ัน (Double unit membrane) เยอื่ หุม้ ช้นั ในจะยนื่ พบั เขา้ ไป เรียกวา่ คริสตี (Cristae)ช่องวา่ งภายในไมโทคอนเดรีย มีของเหลว เรียกวา่ แมทริกซ์ (Matrix)
โครงสร้าง เป็ นก้อนขนาดเลก็ ประมาณ 100-300 ◦A ไม่มีเยื่อหุ้ม ประกอบดว้ ย 2 subunit คือ หน่วยใหญ่ (Large subunit) หน่วยยอ่ ย (Small subunit)
มีขนาดแตกต่างกนั เรียกชื่อตามความเร็วของการ ตกตะกอนเมื่อใช้เครื่องป่ันเหวยี่ ง (Centrifuge) • Procaryote : Ribosome ขนาด 50s 30s รวมกนั ได้ Ribosome ขนาด 70 S • Eucaryote : Ribosome ขนาด 60s 40s รวมกนั ได้ Ribosome ขนาด 80 S S ; svedberg unit of sedimentation coefficient) เป็ นหนว่ ยของความเร็วในการตกตะกอน
ตำแหน่งท่ีพบ Ribosome : 1. ไรโบโซมทอ่ี ยู่ในไซโทพลาสซึม 2. ไรโบโซมที่ตดิ อยู่บน RER จะสร้างโปรตีนหรือเอนไซม์ ส่งออกไปใช้นอกเซลล์ เช่นเซลล์ตบั อ่อน 3. ไรโบโซมที่ตดิ อยู่เยื่อหุ้มนิวเคลยี สช้ันนอกสร้างโปรตีนไว้ใช้ใน นิวเคลยี ส ส่งไปใช้นอกเซลล์ 4. ไรโบโซมท่ีอยู่ในไมโทคอนเดรีย แเละคลอโรพลาสต์ ทาหน้าท่ี สร้างโปรตีนไว้ใช้ในโครงสร้างน้ันๆโดยตรง หน้าที่ของไรโบโซม เป็ นแหล่งทที่ าการสร้าง (สังเคราะห์) โปรตนี
เซนทริโอล (Centriole) ⚫ โครงสร้าง มีลกั ษณะคล้ายท่อ ทรงกระบอก 2 อนั วางตวั ต้งั ฉาก กนั อยู่ใกล้กบั นิวเคลยี ส ⚫ ประกอบด้วยกลุ่มของไมโครทวิ บูล 9 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ไม่มหี น่วยย่อยที่ อยู่ตรงกลาง เรียกว่า จดั เรียงแบบ 9+0=27
หน้าที่ 1. ควบคุมการสร้างและการทางานของ ไมโครทิวบูล เสน้ ใยสปิ นเดิล (Spindle fiber) เซนทริโอลจะจาลองตวั เองเพื่อให้ เซลลใ์ หม่ไดร้ ับเซนทริโอลดว้ ย ในเซลลพ์ ืช จะมีโพลาร์แคป (Polar cap) ทาหนา้ ที่คลา้ ย เซนทริโอล 2. ทาหนา้ ท่ีเป็นฐาน (basal body) เพอ่ื ให้ กาเนิดแก่ซีเลียควบคุมการเคลื่อนไหวของซิ เลียและแฟลเจลลมั
โครงร่างของเซลล์ (Cytoskeleton) ⚫ ไมโครทวิ บูล (Microtubule) ⚫ ไมโครฟิ ลาเมนต์ (Microfilament) ⚫ อนิ เทอร์มเิ ดยี ฟิ ลาเมนต์ (Intermediate filament)
1. Microtubule ประกอบดว้ ยโปรตีนชนิดกลม ( globular protein ) ช่ือ ทิวบูลิน (Tubulin) จานวน 13 หน่วยยอ่ ย ไมโครทิวบูล เหล่าน้ีจะอดั รวมเป็น กลุ่ม ๆ (Bundle) มีการจดั เรียงตวั เป็นโครงสร้างสาคญั ท่ีเป็นองคป์ ระกอบของ เซนทริโอล (Centriole) เบซอลบอดี (Basal body) ไมโทติก สปิ นเดิล (mitotic spindle) ซิเลีย (Cilia) และแฟลกเจลลา (Flagella)
หน้าที่ของไมโครทวิ บูล 1. เป็น (Cytoskeleton) โครงร่างใหเ้ ซลลค์ งรูป 2. การลาเลียงสารของเซลล์ 3. mitotic spindle การเคลื่อนท่ีของโครโมโซม เม่ือมีการ แบ่งเซลล์ 4. เป็นซิเลีย แฟลกเจลลา การเคลื่อนท่ีของ แบคทีเรียและ โพรโตซวั 5. การเคลื่อนที่ของออร์แกเนล และอินคลูชน่ั ภายในเซลล์
ไมโครทวิ บูล (Microtubule) มกี ารจดั เรียงตวั เป็ นโครงสร้างต่างๆดงั นี้ 1. Basal body 2. Cilia, Flagellum 3. Mitotic spindle หรือ Spindle fiber 4. Centriole
Basal body ⚫ เป็นฐานของซิเลียและแฟลกเจลลา ⚫ ประกอบดว้ ยกลุ่มของไมโครทิวบูล 9 กลุ่ม กลุ่มละ 3 หน่วยยอ่ ยและไม่มีหน่วยยอ่ ยที่อยตู่ รงกลาง จดั เรียงแบบ 9+0=27
Cilia, Flagellum ⚫ ประกอบด้วยกลุ่มของ ไมโครทวิ บูล 9 กล่มุ กลุ่มละ 2 มหี น่วยย่อยทอ่ี ยู่ตรงกลาง 1 กลุ่ม เรียกว่า จดั เรียงแบบ 9+2=20
Mitotic spindle หรือ Spindle fiber • ประกอบดว้ ยกลุ่มของไมโครทิวบูล 9 กลุ่ม กลุ่มละ 1 ไม่มีหน่วยยอ่ ยที่อยตู่ รงกลาง เรียกวา่ จดั เรียงแบบ 9+0
2. Actin filament / Microfilament เป็ นเส้นใยโปรตนี ทีม่ ลี กั ษณะ บาง ๆ ยาวๆ เกดิ จากโปรตนี แอกติน (actin) ซ่ึงมรี ูปร่างกลม ต่อกนั เป็ นสาย 2 สายพนั บดิ กนั เป็ นเกลยี ว
หน้าท่ี 1. การหดตวั ของเซลล์ ไดแ้ ก่ Actin และ Myosin ใน กลา้ มเน้ือ 2. การยดื หดของไซโตพลาสซึม การเคลื่อนไหวของเซลล์ การ เกิดเทา้ เทียมของอะมีบา 3. การไหลเวยี นของไซโทพลาสซึม (cyclosis) 4. ค้าจุนและใหค้ วามแขง็ แรงแก่เซลล์
3. Intermediate filament ประกอบด้วยเส้นใยโปรตนี เป็ นหน่วยย่อย ซึ่งเรียงตัวเป็ น สายยาว 4 สาย 8 ชุดพนั บดิ กนั เป็ นเกลยี ว
หน้าที่ 1. พยุง ให้เซลล์คงรูปร่างและโครงสร้างของเซลล์ 2. ทเ่ี นื้อเยื่อบุผวิ บางชนิดจะมีฟิ ลาเมนท์ชนดิ นีอ้ ยู่ ช่วยทาให้เซลล์แขง็ แรง ทนต่อแรงเสียดทาน อาจเรียกว่า Tonofilament 3. บริเวณท่เี ซลล์ยดึ ตดิ กนั ทเ่ี รียกว่า Desmosome จะมีฟิ ลาเมนท์ชนิดนี้ ประสานกนั เป็ นแถวหนา
พบได้ในสิ่งมีชีวติ อะไรบ้าง? มคี วามเหมือน ความแตกต่างกนั อย่างไร?
Prokaryotic cell แบคทเี รีย สาหร่ายสีเขยี วแกมนา้ เงิน
Protista เช่นโปรโตซัว Fungi เห็ด รา Plantae พืชต่างๆ Animalia สัตว์ต่างๆ
ตารางเปรียบเทยี บเซลล์ โปรคาริโอตและยูคาริโอต ลกั ษณะ โปรคาริโอต ยูคาริโอต ขนาด 1-10 µm 10-100 µm กล่มุ ส่ิงมีชีวติ แบคทีเรีย, สาหร่ายสีเขียว สาหร่าย, เห็ด, รา, แกมนา้ เงิน โปรโตซัว, พืช, สัตว์ เยื่อหุ้มนิวเคลยี ส ไม่มี มี DNA circular linear โครโมโซม DNA ไม่รวมกบั โปรตนี DNA รวมกบั โปรตีน ออแกเนลล์ มี Ribosome (70S) เท่าน้ัน มี Ribosome (80S) และอ่ืนๆ
เปรียบเทยี บความแตกต่างระหว่างเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ ส่ วนประกอบ เซลล์พืช เซลล์สัตว์ รูปร่าง คอ่ นขา้ งเหลี่ยม ผนงั เซลล์ คอ่ นขา้ งกลม มี คลอโรพลาสต์ ไม่มี แตม่ ีสารเคลือบเซลล์ แวคิวโอล มี อยดู่ า้ นนอก ขนาดใหญ่ มองเห็นได้ เซนทริโอล ไม่มี ไลโซโซม ชดั เจน ไม่มี ขนาดเลก็ มองเห็นไม่ ไม่มี ชดั เจน มี ใชใ้ นการแบ่งเซลล์ มี
สิ่งมีชีวติ เซลล์เดยี ว ส่ิงมีชีวติ ทุกชนิดมีเซลลเ์ ป็นหน่วยพ้ืนฐาน สิ่งมีชีวิตเซลลเ์ ดียวจะ ดาเนินกิจกรรมท้งั หมดในการดารงชีวติ เช่น กินอาหาร ยอ่ ยอาหาร เคล่ือนที่ สืบพนั ธุ์ ไดภ้ ายในเซลลเ์ พยี ง 1 เซลล์
ส่ิงมชี ีวติ หลายเซลล์ มีการเรียงตวั ของเซลลท์ ่ีมี รูปร่างเหมือนกนั และทาหนา้ ท่ีอยา่ ง เดียวกนั มาอยรู่ วมกนั เป็นเนื้อเยื่อ เน้ือเยอ่ื หลายๆ ชนิด ที่อยรู่ วมกนั ทา หนา้ ที่อยา่ งเดียวกนั เรียกวา่ อวยั วะ อวยั วะหลายๆ อวยั วะที่ทางานร่วมกนั ในการทาหนา้ ท่ีอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง เรียกวา่ ระบบอวยั วะ
Search