แผนการสอน/การเรียนรูภาคทฤษฎี 18 ชอื่ วิชา งานเครอ่ื งยนตเล็ก หนวยที่ 2 ช่ือหนว ย หลกั การทํางานของเครื่องยนต สอนสปั ดาหท ่ี 2-3 ชื่อเรื่อง หลักการทํางานของเครื่องยนต คาบรวม 12 จํานวนคาบ 6 หวั ขอเรื่อง ดานความรู 1. หลกั การทํางานเครอื่ งยนตเบนซิน 4 จงั หวะ 2. หลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 จังหวะ แบบล้ินลกู สูบ 3. หลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 จังหวะ แบบใชล ิ้นแผน ดา นทกั ษะ 4. คารบ เู รเตอรแ ละถงั น้ํามนั เบนซนิ ดานคุณธรรม จรยิ ธรรม/บูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 5. ความรับผิดชอบ ความประหยัด ความขยัน ความอดทน 6. ความสนใจใฝร ู ความรู รอบคอบ ระมัดระวัง สาระสาํ คญั 1. หลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 4 จงั หวะ แบง เปน จงั หวะดดู , จงั หวะอดั , จังหวะงาน, จังหวะคาย 2. หลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 จังหวะ แบบลิ้นลกู สูบ ลกู สบู ทาํ หนา ทเี่ ปด -ปดชองไอดี และชอ งไอเสยี ดว ยสว นบนและสว นลา งของลกู สบู 3. หลักการทํางานเครื่องยนตเบนซนิ 2 จังหวะ แบบใชล ้ินแผน แบงเปน แบบแผนธรรมดา (Reed Valve) และ แบบใชเ พาเวอรร ดี วาลว (Power Reed Valve) 4. คารบูเรเตอรและถังน้ํามันเบนซินเปนสวนหนึ่งของระบบซึ่งจะเปนตัวนําไปยังการจุดระเบิดของ เครื่องยนตและทําใหเชื้อเพลิงมีปริมาณที่เหมาะสมตามความตองการของเครื่องยนต
19 สมรรถนะอาชพี ประจาํ หนว ย (ส่งิ ทต่ี องการใหเกิดการประยกุ ตใ ชค วามรู ทักษะ คณุ ธรรม เขา ดวยกัน) กาํ หนดและอธิบายหลักการทํางานของเครื่องยนตเบนซิน 4 จงั หวะและ 2 จงั หวะ ใหส อดคลอ งกับ ความตองการของลูกคาและกลุมเปาหมาย จดุ ประสงคก ารสอน/การเรยี นรู • จุดประสงคท ั่วไป / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. หลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 4 จงั หวะ(ดานความรู) 2. หลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 จังหวะแบบลิ้นลูกสูบ(ดานความรู) 3. หลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 จงั หวะแบบใชลนิ้ แผน (ดานความร)ู 4. คารบ เู รเตอรและถงั นํ้ามนั เบนซนิ (ดา นทกั ษะ) 5. เพ่ือใหม ีเจตคติทด่ี ีตอ การเตรยี มความพรอ มดานการเตรยี ม วัสดุ อปุ กรณ และการปฏิบตั ิงาน อยางถูกตอง สําเรจ็ ภายในเวลาท่กี ําหนด มเี หตแุ ละผลตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและ คุณลกั ษณะ3D (ดา นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม) • จุดประสงคเ ชิงพฤติกรรม / บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. ผูเรยี นสามารถอธิบายหลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 4 จงั หวะไดอยางถูกตอ ง(ดานความรู) 2. ผเู รียนสามารถอธิบายหลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 จงั หวะแบบลนิ้ ลูกสบู ไดอยาง ถูกตอง(ดานความรู) 3. ผเู รียนสามารถอธิบายหลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 จงั หวะแบบใชลิ้นแผนไดอ ยาง ถูกตอ ง(ดานความรู) 4. ผูเรียนสามารถถอดประกอบและอธิบายหลัการทํางานคารบูเรเตอรและถังน้ํามันเบนซินได อยางถูกตอง(ดา นทักษะ, ความรู) 5. ผูเรียนสามารถใชเครือ่ งมือไดอยางถูกตอง(ดา นทกั ษะ) 6. เตรยี มความพรอม ดานวัสดุ อปุ กรณ สอดลองกบั งานไดอยางถูกตอ งและคณุ ลักษณะ3D (ดา น คณุ ธรรม จริยธรรม/บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ลกั ษณะ3D) 7. ปฏิบัตงิ านไดอยางถูกตอ ง และสําเรจ็ ภายในเวลาทีก่ าํ หนดอยางมีเหตผุ ลตามหลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียงและคณุ ลักษณะ3D (ดา นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม/บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง และคุณลักษณะ3D)
20 การบรู ณาการกับปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และคณุ ลกั ษณะ 3D • หลักความพอประมาณ 1. ผเู รยี นจดั สรรเวลาในการฝกปฏิบตั ิตามใบงานไดอยา งเหมาะสม 2. กําหนดเนื้อหาเหมาะสมกับเกณฑการประเมินการใชเครื่องมืออยางถูกตองและเหมาะสมกับงาน 3. ผเู รยี นรจู กั ใชและจัดการวัสดุอุปกรณตา งๆอยางประหยดั และคมุ คา 4. ผูเรียนปฏบิ ัตติ นเปน ผูน าํ และผตู ามทด่ี ี 5. ผูเรียนเปน สมาชกิ ท่ีดีของกลมุ เพื่อนและสงั คม • หลกั ความมีเหตผุ ล 1. เหน็ คุณคาของการใชเคร่อื งมือในการใชงานอยางถูกตองและเหมาะสมกับงานไดอ ยางชดั เจน 2. จดั แสดงเนอ้ื หาของเคร่ืองมอื ไดอยา งถกู ตอ ง มีเหตผุ ล และสามารถนําไปประยกุ ตใ ชในการดาํ เนิน ธุรกจิ และในชีวิตประจําวันได กลา แสดงความคดิ อยา งมีเหตุผล 3. กลา ทกั ทวงในสง่ิ ทไ่ี มถูกตองอยา งถกู กาลเทศะ 4. กลา ยอมรับฟง ความคิดเหน็ ของผูอืน่ 5. ใชวัสดถุ กู ตอ งและเหมาะสมกับงาน 6. ไมม เี ร่ืองทะเลาะววิ าทกับผูอน่ื 7. คิดสง่ิ ใหม ๆ ทีเ่ กดิ ประโยชนตอ ตนเอง และสังคม 8. มีความคิดวิเคราะหในการแกปญหาอยางเปนระบบ • หลักความมภี มู คิ มุ กัน 1. มีทักษะทางหลักความปลอดภัยอีกทั้งสื่อความหมายไดอยางมีประสิทธิภาพ 2. ผูเรยี นไดร บั ความรทู ถี่ กู ตอ ง พรอมทงั้ กาํ หนดเนื้อหาไดครบถวนถกู ตอ งตามหลกั ความปลอดภัยทด่ี ี และมีสาระสาํ คญั ท่สี มบูรณ 3. มีการเตรียมความพรอมในการเรียนและการปฏิบัติงาน 4. กลาซักถามปญหาหรือขอสงสัยตาง ๆ อยางถูกกาลเทศะ 5. แกป ญ หาเฉพาะหนา ไดด ว ยตนเองอยา งเปน เหตเุ ปน ผล 6. ควบคุมอารมณของตนเองได 7. ควบคมุ กริ ิยาอาการในสถานการณตา ง ๆไดเ ปน อยา งดี
21 การตดั สินใจและการดําเนินกจิ กรรมตา งๆใหอยูในระดับพอเพียงหรอื ตามปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งนัน้ ตองอาศัยทงั้ ความรูและคุณธรรมเปน พ้ืนฐาน ดังนี้ • เงอ่ื นไขความรู 1. ผูเรยี นไดใชก ระบวนการคดิ ในการบรกิ ารหลักความปลอดภยั (ความสนใจใฝร ู ความรอบรู รอบคอบ ระมัดระวัง) 2. มีความรู ความเขาใจในการใชเ คร่อื งมอื 3. ใชว ัสดอุ ยา งประหยดั และคุมคา 4. ปฏิบัติงานดวยความละเอียดรอบคอบ 5. มีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง • เงอื่ นไขคณุ ธรรม 1. ปฏิบัติงานที่ไดรับมอบหมายเสร็จตามกําหนด (ความรับผิดชอบ) 2. ใชว ัสดุอปุ กรณอ ยา งคมุ คา ประหยัด (ความประหยัด) 3. มีความเพียรพยายามและกระตือรือรนในการเรียนและการปฏิบัติงาน (ความขยัน ความอดทน) 4. ใหความรวมมือกับการทํากิจกรรมของสวนรวม อาสาชวยเหลืองานครูและผูอื่น (แบงปน) เนือ้ หาสาระการสอน/การเรียนรู
22 • ดานความร(ู ทฤษฎี) 2. หลกั การทํางานเครื่องยนตเบนซนิ 2 และ 4 จงั หวะ สาระสําคัญประจําหนวย เครื่องยนตเ บนซินเลก็ หรอื เรียกวา เคร่อื งยนตเบนซนิ อเนกประสงค เปน เครื่องตนกําลงั ขนาดเลก็ สูบ เดยี วขนดประมาณ 3-10 แรงมา ใชเ ปน เครอื่ งทนุ แรงในการเกษตร งานกอสรา ง เคร่อื งปนไฟ เครอื่ งสูบน้ํา เคร่ืองรถไถนา เครอ่ื งพนยาปราบรตั รพู ืช เครื่องหนิ ขดั พน้ื เครื่องทุบดนิ สรา งถนน เปนตน เครื่องยนตเบนซินเล็ก มหี ลักการและโครงสรา งเชน เดียวกบั เคร่ืองยนตเ บนซินรถจกั รยานยนตห รอื เครอ่ื งยนตรถยนต กาํ ลงั เครอื่ งยนตไ ดจ ากการเผาไหมน้ํามันเบนซนิ คือ เปลยี่ นพลงั งานความรอ นเปน พลังงานกล ใชงานแทนกาํ ลังคนและกําลังสตั วไดอ ยา งตอ เนอ่ื ง ขอ ดีของเคร่อื งยนตเบนซนิ เล็ก - ขนาดกะทดั รดั ดัดแปลงใชเปน เครื่องทุนแรง ไดสารพัดประโยชน - เครือ่ งเดินเงียบและสัน่ สะเทือนนอย - นา้ํ หนักประมาณ 15 -20 กโิ ลกรมั - ประหยดั นาํ้ มนั เบนซนิ - ซอมงาย ชน้ิ สวนนอย ราคาถกู - ตองการการบํารุงรักษานอย - ใชไดทั้งงานที่ตองการความเร็วรอบคงที่ เชน เครือ่ งปนไฟ เครื่องสูบนํ้า และท่ีตอ ง การความเรว็ ไมคงท่ี เชน เคร่อื งยนตเรือ เคร่อื งยนตรถ เปน ตน รูปท่ี 2.1 เครอื่ งยนตเ บนซนิ เลก็
23 2.1 หลักการทาํ งานเครอื่ งยนตเ บนซิน 4 จงั หวะ จงั หวะดดู ไอดี จงั หวะอดั จงั หวะงาน จงั หวะคาย รูปที่ 2.2 การทํางานเครื่องยนต 4 จังหวะซาํ้ ๆ กัน จึงเรยี กวา วัฏจกั รการทํางาน 4 จงั หวะ 2.1.1 จังหวะดดู ( Suction Stroke) ลกู สูบเลื่อนลง ล้ินไอดีเปดลิน้ ไอเสยี เกดิ สญุ ญากาศภายในกระบอกสูบ ดดู ไอดีเขา บรรจุในกระบอก สูบ จนลกู สูบเลื่อนลงถงึ ศนู ยต ายลาง ( Buttom Dead Centre = BDC) 2.1.2 จังหวะอดั (Compression Stroke) เม่ือลกู สูบเลื่อนลงจนสุดจังหวะดดู ลน้ิ ทั้งคูจะปด ลูกสบู เลือ่ นข้ึนอัดไอดใี หม ีปริมาตรลดลงดว ยอตั รา อัดประมาณ 1 : 6 ถึง 1 : 10 ความดันประมาณ 6.0-10.0 กก./ซม.2 2.1.3 จงั หวะงาน (Combustion Stroke หรอื Power Stroke) กอ นลูกสูบถงึ ศูนยตายบนในจังหวะอดั เลก็ นอย ประกายไฟจากหวั เทยี นและจดุ ไอดีใหเผาไหม แกสเผา ไหมร อ นประมาณ 1,600 – 2,200๐ ซ. หรือความดันประมาณ 40-60 กก. / ซม.2 ผลักดนั ลูกสบู ใหหมนุ เพลา ขอ เหว่ยี ง 2.1.4 จังหวะคาย (Exhaust Stroke) ลิน้ ไอเสยี เปด ลูกสบู เล่ือนขน้ึ ขบั ไลไอเสยี ออก จนกระท่งั ลกู สบู ข้นึ เกอื บถึงศนู ยตายบนล้ินไอดี จะเร่ิมเปด เพ่ือเริม่ ตนจงั หวะดูดรอบตอ ไป
24 2.2 หลกั การทาํ งานเคร่ืองยนตเบนซนิ 2 จังหวะ แบบลน้ิ ลูกสบู 2.2.1 ลําดบั การทํางาน ล้ินลูกสบู หมายถงึ ลกู สูบทําหนาทเี่ ปด-ปด ชอ งไอดแี ละชอ งไอเสยี ดว ยสว นบนและสว นลา งของ ลูกสูบ ตําแหนงการบรรจุไอดีและคายไอเสียจึงคงที่ สมรรถนะของเครื่องยนตจะดีเฉพาะที่ความเร็วรอบสูง การทํางานของลูกสูบดูไดตามตารางใตรูป 2.2.2 หนา ท่ีสวนประกอบหลกั สว นประกอบเคร่อื งเบนซิน 2 จังหวะ บางชิ้นสวนทํางานตางกับสวนประกอบเครื่องยนตเบนซิน 4 จงั หวะ ดังน้ี - หอ งเพลาขอเหว่ยี งไมไ ดเปนหองบรรจุนํ้ามันหลอลน่ื แตเปนหอ งบรรจุไอ - กระบอกสูบ มีชองบรรจุ ชอ งไอดี ชอ งไอเสียทะลผุ นงั กระบอกสูบ - หัวลูกสบู เปนสนั นูน เปน สันบังคับทิศทางไหลไอดี ใหข บั ไลไอเสีย - แหวนลกู สบู ไมม แี หวนนาํ้ มนั ปากแหวนเวา ตามเดอื ยสลกั กนั ลกู สบู หมนุ - สลกั ลูกสบู เปน สลักตนั ตรงกลาง ไมใหไอดีไหลผา นสลกั ลกู สูบ - เพลาขอ เหวี่ยงเปนแบบถอดแยกชนิ้ ได เพอ่ื ถอดประกอบตลับลกู ปน กา นสบู 2.2.3 วฏั จกั รของเคร่ืองยนต 2 จงั หวะ วฏั จักรหรอื ทฤษฎีเคร่ืองยนต 2 จังหวะหมายถงึ ลกู สูบข้นึ ลง 2 ครง้ั หรือเคร่อื งยนตหมุนครบ 1 รอบได 1 ครัง้ เรียกวาเครื่องยนต 2 จงั หวะ
25 เปรียบเทียบขอ ดีขอ เสียระหวา งเครอ่ื งยนต 2 จังหวะกบั เครื่องยนต 4 จงั หวะ 2.3 หลกั การทาํ งานเคร่ืองยนตเบนซิน 2 จงั หวะ แบบใชล ้นิ แผน ขอ ดี ขอเสีย 1) โครงสรางงาย ไมม ีระบบลิ้นท่ยี งุ ยาก 1) สิ้นเปลืองนํ้ามนั เบนซินและนํา้ มนั เคร่ือง สลบั ซบั ซอ น มากกวา เครอ่ื งยนต 4 จังหวะ 2) ไดเ ปรียบดา นกาํ ลังตอ นํา้ หนักของเครือ่ งยนต 2) สว นประกอบเครือ่ งยนตรับภาระทางความ คือ นา้ํ หนกั นอ ย รอ นสูง เพราะมกี ารเผาไหมท ุกรอบ 3) มีช้นิ สว นเคลอ่ื นไหวนอ ย จึงประหยัดท้ังคา 3) สวนประกอบเครอื่ งยนตตองรบั ภาระทางกล ซอ ม และคาบํารงุ รกั ษา สงู เพราะเครอ่ื งยนตท าํ งานทุกรอบ 4) เคร่อื งยนตส ง กาํ ลงั ไดเรียบกวา เพราะ 4) เครอ่ื งยนตร ะบายความรอ นออกยากเพราะมี เครอื่ งยนตทาํ งานทกุ รอบทเ่ี พลาขอ เหวีย่ ง เวลาจาํ กดั ทาํ งานทกุ รอบ หนุน 5) ทอรค หรือแรงบิดสูเคร่ืองยนต 4 จังหวะ 5) ออกแบบใหเปน เครอ่ื งยนตอเนกประสงคได ไมไ ด ดี เพราะตดิ ตงั้ ใชง านไดท ัง้ แนวนอนและ 6) ไอเสยี มมี ลพษิ ท้ังแกสพิษและควัน เปน แนวดิ่ง อนั ตรายตอ สง่ิ แวดลอ ม 2.3.1 แบบใชลิ้นแผนธรรมดา (Reed Valve) ลน้ิ แผนหรอื รีดวาลว เปนล้นิ ทใี่ ชใ นระบบสงไอดี ลกั ษณะเปนแผนบาง ๆ ทาํ จากเหล็กสปริงติดต้งั อยูด านบนของหอเพลาขอ เหวย่ี ง ในขณะทล่ี กู สูบ เลอ่ื นข้ึนลงในกระบอกสบู ความดนั ในหอ งเพลา ขอ เหวีย่ ง จะเพิ่มข้ึนและลดลงสลับกับขณะ เดียว กันลนิ้ แผน จะเปด และปดสลับกนั ไปดว ย เวลาการ เปดของล้ินแผน แปรผนั โดยตรงตามความเรว็ รอบ ของเครื่องยนตเรียกอีกอยา งหน่งึ วา ระยะ เวลา ของการดูดไอดีขึน้ อยูก ับสภาวะของเครือ่ งยนต รปู ท่ี 1.9 ภาพตัดแสดงล้นิ แผน ลน แผนทํางานโดยสุญญากาศและความดันใน หองเพลาขอเหวยี่ ง ดังแสดงในตารางตอ ไปนเี้ ปน เหนอื ลูกสูบ เครื่องยนตหมุนซาย ปดชองบรรจุและ จดุ ระเบดิ และดนั เปด ชอ งไอเสยี ลด เปดชองบรรจุไอ เริ่มอัดไอดีใน อดั ไอดี ลูกสูบลง ความดัน ดีขบั ไลไอเสีย หองเผาไหม
26 ใตล ูกสบู ดดู ไอดเี ขา บรรจุ ลน้ิ แผน ปดเร่มิ เพม่ิ ความดนั ไอดี ดนั ไอดเี ขา หอ ง ดดู ไอดเี ขา บรรจุ ไว เกดิ ความดนั ใหส ูงข้ึน เผาไหม ไว หมายเหตุ - ลน้ิ แผนทําหนา ทีค่ วบคุมไอดเี ขาบรรจใุ นเพลาขอ เหวย่ี งใหม ีประสิทธิภาพการบรรจไุ อดสี ูงข้นึ - ลูกสูบทําหนาที่ควบคุมการบรรจุไอดีเขาหองเปาไหมและขับไลไอเสียออกไป 2.2 หลักการทาํ งานเคร่อื งยนตเ บนซนิ 2 จังหวะ แบบลน้ิ ลูกสูบ ลิ้นลกู สูบหมายถงึ ลูกสูบทาํ หนาที่เปด-ปด ชอ งไอดแี ละชอ งไอเสยี ดว ยสว นบนและสว นลา งของ ลูกสูบ ตําแหนงการบรรจุไอดีและคายไอเสียจึงคงที่ สมรรถนะของเครื่องยนตจะดีเฉพาะที่ความเร็วรอบสูง 2.3 หลักการทาํ งานเครื่องยนตเ บนซิน 2 จังหวะ แบบใชล้นิ แผน 2.3.1 แบบใชล น้ิ แผน ธรรมดา (Reed Valve) ล้ินแผน หรือรีดวาลว เปนลิน้ ทใ่ี ชในระบบสงไอดี ลักษณะเปนแผน บาง ๆ ทาํ จากเหลก็ สปริงตดิ ตง้ั อยดู านบนของหอ เพลาขอเหวีย่ ง 2.3.2 แบบใชเ พาเวอรร ดี วาลว (Power Reed Valve) เพราะการบรรจุไอดีในแบบเดมิ ซง่ึ มเี พยี งแบบลิน้ ลูกสูบและแบบลิน้ แผนธรรมดา ยงั มขี อเสยี คอื ท่คี วามเรว็ รอบตํา่ รอบปานกลาง และรอบสงู ไอดีทีเ่ ขากระบอกสบู ในแตละความเรว็ ไมม คี วามแนนอน ไมส ัมพนั ธก บั การทํางานของเครื่องยนต เครื่องยนต จึงมีการพัฒนาระบบการควบคุมไอดีของเครื่องยนต 2 จงั หวะ แบบ เพาเวอรร ดี วาลว ใหไอดีทเ่ี ขาไปในเครอื่ งยนตม คี วามราบเรียบสมา่ํ เสมอ และแนนอนทกุ ๆ ความเรว็ รอบของ เครอ่ื งยนต • ดา นทกั ษะ(ปฏบิ ตั )ิ คารบเู รเตอรแ ละถงั นํา้ มัน หลกั การทาํ งานของคารบเู รเตอรเบอ้ื งตน ( Principle of Operation ) หลักการทํางานเบื้องตนของคารบูเรเตอรเบื้องตน อาศัยหลักการ 3 ประการคือ 1. สุญญากาศ ( Vaccum ) 2. แรงดันบรรยากาศ ( Atmospheric Pressure ) 3. คอคอด ( Venturi Principle ) สญุ ญากาศ ( Vaccum ) สุญญากาศสมบูรณ ( Absolute Vacuum) หมายถงึ บริเวณใด ๆ กต็ าม ทีไ่ มม ีอากาศหรือแนวแรงดนั
27 บรรยากาศปกตเิ ลย ซึ่งสภาพเชนนี้มโี อกาสที่จะเกิดขนึ้ ไดย ากมาก และ ไมเคยเกิดขน้ึ เลยในเครอ่ื งยนตเล็กแกส โซลีน ดังนน้ั ในทางปฏิบตั ิ บรเิ วณ ใด ๆ ก็ตาม ทแี่ รงดนั ตาํ่ กวาแรงดันบรรยากาศปกติ โดยทั่วไปจะเรียกวา “สญุ ญากาศ” วงจรคารบ เู รเตอรต าํ แหนง เดนิ เบา ลน้ิ เรงปดเกอื บสุด น้ํามันเบนซินออกผสมกับอากาศที่นมหนูเดินเบา ปรบั ความเรว็ เดนิ เบาดว ยสกรเู ดนิ เบา หมายเหตุ การปรับความเร็วเดินเบาคือปรับใหสวนผสม ไอดพี อเหมาะกบั เครอ่ื งยนตเ ดนิ เบาเดนิ เบาไดเ รยี บและ เครอื่ งยนตไ มดับเอง ตาํ แหนงเรง ปานกลาง ลนิ้ เรง เปดเลก็ นอย สุญญากาศทีน่ มหนใู หญมากข้นึ จึงดดู นา้ํ มนั เบนซนิ ข้ึนสงู น้ํามันเบนซินออกผสมกับอากาศที่ชองเดินเบาปาน กลาง ตาํ แหนง เรง สดุ ลิ้นเรง เปด สดุ สุญญากาศที่นมหนูใหญมีมาก น้ํามันเบนซินออกผสมทางชองอากาศนมหนูเดินเบา หมายเหตุ คารบูเรเตอรมีหลายกวาวงจรขางบนเพื่อให การทํางานสัมผันกับแรงดึงดูดน้ํามันเบนซินของ สุญญากาศทเ่ี กิดข้นึ ในทอไอดี
28 6.คารบเู รเตอร ( Carburetors ) องคป ระกอบของคารบ ูเรเตอรท่สี ําคัญที่จะทาํ ใหเครื่องยนตท าํ งานไดอ ยางมีประสทิ ธิภาพนัน้ ตอ ง ประกอบดวยองคประกอบทั้ง 3 ประการคือ 1. ระบบน้ํามนั เช้อื เพลงิ ( Fuel System ) 2. ระบบจุดระเบิด ( Inition System ) 3. กําลงั อัด ( Comprestion ) คารบเู รเตอรเปนอปุ กรณห นง่ึ ในระบบน้าํ มันเชอ้ื เพลิง ซึ่งทําหนาทจ่ี า ยสวนผสมระบบนํ้ามนั เชือ้ เพลงิ แกส โซลนี กับอากาศ ( Gasoline and air mixture ) ใหก ับเครื่องยนตใ นอัตราสว นผสมโดยประมาณระหวา ง 9 : 1 ถึง 16 : 1 ( อากาศ : เช้อื เพลิงแกสโซลนี ) โดยนา้ํ หนัก ทงั้ น้ีขนึ้ อยูกบั อุณหภมู เิ ครือ่ งยนต ความเรว็ ภาระ และการออกแบบ ฯลฯ อัตราสวนผสมจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพการทํางานขอนเครื่องยนตดังเชน ขณะสตารทเคร่ืองส วนผสมจะทาํ หนา ท่ีสุด นั้น คอื 8 : 1 ขณะความเรว็ เดินเบาเครอื่ งยนต ( Idle ) สวนผสมจะบางนน้ั คอื 11.5 : 1 ความเร็วปกติ ( Normal Speed ) สว นผสมจะบางทีส่ ุด ประหยดั ท่สี ุด นั้นคือ 15 : 1 ขณะใหกําลงั งานสูงสดุ ( Full Power ) สว นผสมจะหนาขึน้ เม่อื เทยี บกบั ความเร็วปกติ น้ันคอื 12.5 : 1ขณะเรงเครื่องยนต ( Accleleration ) สวนผสมจะหนาข้ึนน้นั คอื 9 : 1 เคร่อื งยนตจะไมเกดิ การเผาไหม ถาน้ํามนั เชอื้ เพลงิ ที่เขาสหู อ งเผาไหมยังเปนฃองเหลวอยูดงั น้นั น้าํ มนั ตอ งมีสภาพเปนไอ ( Vporized ) และสวนผสมในทุกภาพการทํางานจึงเกิดการเผาไหมได สภาพการทํางาน ตา ง ๆ เชน 1. สตารท เครือ่ งยนตขณะเครื่องเยน็ หรือ รอน 2. ความเรว็ เดนิ เบา 3. เปดลิ้นเรงบางสวนหรือความเร็วปานกลาง 4. เรง เครอ่ื งยนต 5. การทํางานที่ความเร็วสูง ทุกสภาพการทํางานดงั กลา วนั้น นาํ้ มันเชือ้ เพลงิ จะตองกลายเปน ไอและผสมกบั อากาศกอ นทจ่ี ะเขา ไปสหู องเผาไหมดังน้ันคารบเู รเตอรจ ึงมีหนาท่หี ลักดังตอ ไปนี้ 1. ผสมอากาศกับน้ํามันเชื้อเพลิงสําหรับสภาพการทํางานตาง ๆ เพื่อควบคุมการเผาไหมและกําลังอัด 2. ควบคมุ อัตราสวนผสมใหถกู ตอ งดว ยการทาํ ใหนา้ํ มนั เชื้อเพลงิ เปนฝอยละอองละเอยี ดแลวผสมกับอากาศ
29 • ดา นคณุ ธรรม/จรยิ ธรรม/จรรยาบรรณ/บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและคณุ ลกั ษณะ 3D (จุดประสงคเชงิ พฤตกิ รรมขอทึ่ 5-6) 1. การเตรยี มความพรอมดานการเตรียม วัสดุ อปุ กรณนกั ศึกษาจะตองกระจายงานไดท ั่วถงึ และ ตรงตามความสามารถของสมาชิกทกุ คน มกี ารจัดเตรียมสถานท่ี สือ่ วสั ดุ อปุ กรณไ วอ ยา ง พรอ มเพรียงและนกั ศึกษาทุกคนจะตองรจู กั ใชและจดั การกบั วสั ดุอปุ กรณเหลาน้ันอยางฉลาด และรอบคอบ สามารถนําวสั ดอุ ปุ กรณใ นทองถิน่ มาประยุกตใชอยางคุมคาและประหยดั งานจะ สําเร็จไดนักศกึ ษาจะตอ งมคี วามขยันอดทน มีความเพียรพยายามและกระตือรือรนในการเรียน และการปฏิบัตงิ าน และรจู ักแบงปน ใหค วามรวมมือกบั การทาํ กจิ กรรมของสวนรวม อาสา ชวยเหลอื งานครูและผอู ่ืน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและหลักคณุ ลกั ษณะ 3D 2. ความมีเหตุมีผลในการปฎิบัติงาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักคุณลักษณะ3D นักศึกษาจะตองมีการใชเทคนคิ ทแี่ ปลกใหม ใชสือ่ และเทคโนโลยี ประกอบการ นาํ เสนอท่ี นาสนใจ ปฏบิ ัติงานดว ยความละเอียดรอบคอบ นกั ศกึ ษาจะมภี มู ิคมุ กนั ในตัวทดี่ ไี ดนักศกึ ษา จะตอ งมีความสนใจใฝรู รอบรู รอบคอบ และระมัดระวัง กิจกรรมการเรียนการสอน
30 กิจกรรมการสอนหรือกจิ กรรมของครู กิจกรรมการเรียนหรอื กิจกรรมของนักเรยี น ขน้ั นาํ ขน้ั นาํ 1. ครใู หผเู รยี นทําแบบทดสอบ 1. นักเรียนทุกคนตั้งใจทําแบบทดสอบ 2.ครูถามผูเรียนถา จะซอ มรถยนตจะตองทาํ ยังไง 2 ผเู รยี นทั้งชั้น แสดงความคดิ เห็นตามหวั ขอ ที่ครู 3.ครูถามผูเรียนเราใชอ ะไรในการซอมรถยนต ซักถาม ขน้ั สอน ขน้ั สอน 1.ครูอธิบายหลักการทํางานของเครื่องยนต 4 จงั หวะ 1.ผเู รียนทงั้ ชน้ั ตงั้ ใจฟงการบรรยาย และจดบนั ทกึ และ 2 จงั หวะ เนอื้ หาจากคาํ บรรยายประกอบชุดแผนใส และผเู รียน 2.ครูใหผ ูเ รียนดูแผนใส แสดงลักษณะหลักการทํางาน มีความพรอมตอบขอซักถามเมื่อครูถาม ของเครื่องยนตพรอ มอธบิ ายหนา ที่ ของช้นิ สว น 2.ผูเ รียนทุกคนทาํ แบบฝก หัดทคี่ รูมอบหมาย 3. ครใู หผเู รียนดแู ผน ใส แสดงลักษณะหลักการทํางาน 3. ผูเรยี นเปล่ยี นกนั ตรวจแบบฝกหดั ของเครื่องยนต 2 จงั หวะพรอมอธิบายหนา ที่ ของ 4. ผูเรยี นออกมาอธบิ ายช่อื ไทย-อังกฤษ และ ชน้ิ สว น วธิ กี ารใชง าน และการเกบ็ รักษาเคร่อื งมอื ตา ง ๆ เปน 4. ครูใหผเู รียนดูแผนใส แสดงลกั ษณะของ รายบุคคล คารบ เู รเตอร และใหดูของจริงประกอบ พรอมอธิบาย หนาที่ และการใชงาน 5. ครใู หผ ูเรยี นดแู ผนใส แสดงลักษณะของของถัง น้ํามัน และใหดขู องจริงประกอบ พรอ มอธบิ ายหนาท่ี และการใชงาน 6. ครถู ามผเู รยี นเก่ียวกับชอ่ื ,หนาที่ และการใชงาน เครื่องมอื ทวั่ ไป 7. ครูใหผ ูเรยี นดูแผน ใส แสดงลกั ษณะของประแจชนดิ ตาง ๆ ที่ใชในงานชางยนต และใหดูของจริงประกอบ พรอมอธิบายชื่อไทย-องั กฤษ วิธีการใชงาน และการ บํารุงรักษา 8. ครูใหผ เู รียนดูแผน ใส แสดงลักษณะของดา มขนั ชนิดตา ง ๆ และใหดขู องจริงประกอบ พรอ มอธิบายช่อื ไทย-อังกฤษ วิธีการใชงาน และการบํารุงรักษา 10.ครเู ปดโอกาสใหผเู รยี นซักถามขอ สงสัย 11. ครูใหผ ูเรียนทุกคนทาํ แบบฝกหัด
31 12. ครเู ฉลยแบบฝก หดั 13. ครูใหผ ูเรียนออกมาอธิบายชอ่ื ไทย-อังกฤษ และวิธ การใชงาน และการเก็บรักษาเครื่องมือตาง ๆ เปน รายบุคคล ข้นั สรปุ ข้ันสรปุ 1.ครูสรปุ เน้อื หาเพมิ่ เตมิ ในสวนท่ีขาดใหครบ 1.ผเู รยี นทงั้ ชั้นชว ยกนั สรุปเนอื้ หา งานทมี่ อบหมายหรือกิจกรรม
32 1. ใหผ เู รียนทาํ แบบทดสอบ 2. ใหน ักศึกษาเตรียมตวั สอบเร่อื งเครอ่ื งมอื ชางยนต 3. ใหน กั ศึกษาไปศึกษาในเรอ่ื งเครอื่ งมอื ชางยนตใ นหวั ขอตอไป ส่ือการเรยี นการสอน 1. ใบความรเู ร่อื งหลักการทํางานของเครื่องยนต 4 จงั หวะ 2 จงั หวะ คารบ เู รเตอรแ ละถงั น้าํ มนั 2. แผน ใสภาพหลักการทํางานของเครื่องยนต 4 จงั หวะ 2 จังหวะ คารบูเรเตอรและถงั น้าํ มนั 3. เครื่องมือชางยนต 4. เคร่ืองยนตเล็กเบนซินของจรงิ การประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมความสนใจใฝร ใู นการเรยี น 2. ความรับผิดชอบตองานที่ไดรับมอบหมาย 3. การใหความรวมมือในการทํากิจกรรมระหวางเรียน 4. ผลคะแนนจากแบบทดสอบ 5. แบบฝก หดั
33 แบบทดสอบ คาํ สง่ั จงตอบคําถามตอไปนี้ใหถกู ตอง 1. ใหอธิบายหลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 4 จงั หวะ ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… 2. อธิบายหลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 จงั หวะ แบบลิ้นลกู สูบ ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….……………… ……………………………………………………………………………………….………………
34 เฉลยแบบทดสอบ 1. ใหอธิบายหลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 4 จงั หวะ ตอบ หลักการทาํ งานเคร่ืองยนตเ บนซิน 4 จงั หวะ มีดงั น้ี 1. จงั หวะดดู ( Suction Stroke) ลูกสบู เลอ่ื นลง ลน้ิ ไอดีเปดลน้ิ ไอเสยี เกิดสุญญากาศภายในกระบอกสบู ดูดไอดีเขา บรรจุในกระบอก สูบ จนลกู สบู เลื่อนลงถึงศนู ยตายลา ง ( Buttom Dead Centre = BDC) 2. จงั หวะอดั (Compression Stroke) เมอ่ื ลูกสูบเล่อื นลงจนสุดจงั หวะดดู ล้นิ ทั้งคจู ะปด ลกู สูบเล่ือนขนึ้ อัดไอดใี หม ีปรมิ าตรลดลงดวยอัตรา อดั ประมาณ 1 : 6 ถึง 1 : 10 ความดันประมาณ 6.0-10.0 กก./ซม.2 3. จงั หวะงาน (Combustion Stroke หรือ Power Stroke) กอนลูกสูบถงึ ศูนยต ายบนในจงั หวะอัดเลก็ นอย ประกายไฟจากหัวเทียนและจุดไอดใี หเผาไหม แกส เผาไหมรอ นประมาณ 1,600 – 2,200๐ ซ. หรือความดันประมาณ 40-60 กก. / ซม.2 ผลักดนั ลูกสูบใหหมุน เพลาขอ เหวย่ี ง 4. จังหวะคาย (Exhaust Stroke) ลิน้ ไอเสยี เปด ลูกสบู เลอ่ื นข้ึนขับไลไ อเสียออก จนกระท่งั ลกู สบู ขน้ึ เกอื บถงึ ศูนยต ายบนลนิ้ ไอดจี ะเร่ิม เปด เพอื่ เรม่ิ ตน จงั หวะดดู รอบตอไป 2. อธิบายหลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 แบบลิน้ ลกู สูบ ตอบ หลักการทํางานเครื่องยนตเบนซิน 2 จังหวะ แบบลิน้ ลูกสูบ ลิ้นลูกสบู หมายถึง ลูกสูบทาํ หนา ท่ีเปด -ปด ชอ งไอดแี ละชอ งไอเสยี ดว ยสว นบนและสว นลา งของ ลูกสูบ ตําแหนงการบรรจุไอดีและคายไอเสียจึงคงที่ สมรรถนะของเครื่องยนตจะดีเฉพาะที่ความเร็วรอบสูง การทาํ งาน จงั หวะที่ 1 จงั หวะที่ 2 ชวงเกยจังหวะที่ 2 ไป 1 เหนือลูกสูบ อดั ไอดี สงกาํ ลัง คายและขับไลไอเสียเปน ชว งบรรจไุ อดี ใตลูกสบู ดูดไอดี เพม่ิ ความดนั ไอดี อดั ไอดีเขาบรรจใุ นกระบอกสบู
35 บันทึกหลงั การสอน ผลการใชแ ผนการสอน .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ผลการเรียนของนกั เรยี น .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ผลการสอนของครู .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: