Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ อุปสงค์ อุปทาน

ใบความรู้ อุปสงค์ อุปทาน

Published by aj.kritsana.21, 2018-03-21 02:19:24

Description: ใบความรู้ อุปสงค์ อุปทาน

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ อุปสงค์ อุปทานประเภทของอปุ สงค์เราสามารถแบ่งอปุ สงคอ์ อกเป็น 3 ชนิด ตามปัจจยั ทก่ี าหนดอุปสงค์ ซ่ึงได้แก่1. อปุ สงคต์ ่อราคา (Price Demand) หมายถึง ปริมาณการซื้อท่ีเปลี่ยนแปลงไปตามราคาของสนิ ค้าชนดิน้ัน (โดยทป่ี ัจจยั อ่ืนๆ คงที่) ซ่ึงจะมีความสมั พันธ์ในทศิ ทางตรงข้าม คือกฎว่าดว้ ยอุปสงค์ (Law of Demand) จะอธิบายว่า เมื่อราคาสนิ คา้ ชนดิ หนึง่ สูงขน้ึ ปรมิ าณซอ้ื ของสินค้าชนิดน้นั จะลดลง แต่ถ้าราคาลดลง ปริมารซอ้ื จะเพมิ่ ขน้ึเส้นอปุ สงค์ จะมลี ักษณะทอดลงจากซา้ ยไปขวา และมคี ่าความชัน (Slope) เปน็ ลบ ดังรปู ต่อไปน้ี2. อุปสงค์ตอ่ รายได้ (Income Demand) หมายถงึ ปริมาณซอื้ ทเ่ี ปลี่ยนแปลงไปตามรายไดข้ องผูบ้ ริโภค(โดยใหป้ ัจจัยอื่นๆคงท)่ี ซ่ึงการพจิ ารณาความสพั มันธ์ดังกลา่ ว แยกพจิ ารณาไดเ้ ปน็ 2 กรณี คือ

2.1 สนิ คา้ ปกติ (Normal Goods) ความสัพมันธ์ระหว่างปริมาณซื้อกับรายไดจ้ ะเป้นไปในทิศทางเดียวกนักล่าวคือ ถา้ ผู้บริโภคมีรายไดส้ ูงขน้ึ ปริมาณซ้อื กจ็ ะมากข้ึน แต่ถา้ รายไดล้ ดลง ปรมิ าณซ้ือกจ็ ะมนี อ้ ยลงด้วย เสน้ อุปสงคใ์ นกรณีน้จี ะมลี ักษระทอดขน้ึ จากซา้ ยไปขวา และมีคา่ ความชันเป็นบวก ดังรปู ต่อไปน้ีจากรปู จะเหน็ ว่า เม่ือรายได้สูงขน้ึ จาก 200 บาท เป็น 400 บาท ปริมาณซื้อจะเพ่ิมข้ึนจาก 2 หน่วย เป็น8 หน่วย2.2 สินคา้ ด้อยคุณภาพ (Inferior Goods) ความสัมพัน์ระหวา่ งปรมิ าณซ้ือกับรายได้ จะเปน้ ไปในทิศทางตรงขา้ ม กลา่ วคือ ถา้ ผบู้ รโิ ภคมรี ายไดส้ ูงขึ้น ปริมาณซ้ือสินคา้ ประเภทนี้จะลดลง เสน้ อุปสงคใ์ นกรณีน้ีจะมีลกั ษระทอดลงจากซ้ายไปขวา และมคี ่าความชันเปน็ ลบ ดังรูปต่อไปน้ี

จากรปู จะเห็นวา่ เมื่อรายไดส้ งู ข้ึนจาก 200 บาท เปน็ 600 บาท ปริมาณซ้อื จะลดลงจาก 12 หน่วย เปน็4 หน่วย3. อุปสงค์ตอ่ ราคาสนิ คา้ อืน่ (Cross Demand) หรือ \"อุปสงค์ไขว้\" หมายถงึ ปริมาณซ้ือทเี่ ปลี่ยนแปลงไปตามราคาสนิ ค้าชนดิ อ่ืนทีเ่ ก่ียวข้อง ฏฌเยให้ปจั จัยอ่ืนๆคงที่) สินค้าอื่นทีเ่ ก่ียวขอ้ งนั้น สามารถแยกพจิ ารณาไดเ้ ปน็ 2 กรณี คอื3.1 สินคา้ ที่ใชป้ ระกอบกัน (Complementary Goods) เชน่ ไมก้ อล์ฟหบั ลูกกอล์ฟ, กลอ้ งถ่ายรปู กับฟิลม์ , รถยนต์กับนา้ มัน เป็นต้น ซ่งึ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งราคาสินคา้ ชนดิ หนึ่งกับปรมิ าณซอ้ื สนิ ค้าอีกชนดิหน่งึ ทตี่ ้องใชป้ ระกอบกนั จะเปน๊ ไปในทศิ ทางตรงกนั ข้าม กล่าวคอื ถา้ ราคาของสินค้าชนิดหนง่ึ สูงขึ้นหรือลดลง จะมผี ลทาใหป้ ริมาณซอื้ สนิ ค้าอกี ชนิดหนงึ่ ลดลงหรอื เพิ่มขน้ึ ตามลาดบั เราสามารถแสดงความสมั พนั ธ์ระหว่างราคารถยนต์กับปริมาณซ้ือน้ามนั ได้ดงั นี้เสน้ อปุ สงคใ์ นกรรณีนี้ จะมลี ักษณะทอดลงจากซ้ายไปขวา และมคี า่ ความชนั เปน็ ลบ ดังรปู ตอ่ ไปนี้

3.2 สินค้าท่ีใช้ทดแทนกัน (Sustitution Goods) เชน่ ชากับกาแฟ, โค๊กกับเป็ปซ่ี, น่ามันหมกู ับน้ามะนพชื เป็นตน้ ซงึ่ ความสัมพนั ธ์ระหว่างราคาสนิ ค้าชนิดหนึง่ กะบปริมาณซือ้ สินค้าอีกชนดิ หนึง่ ที่ใช้ทดแทนกันจะเป็นไปในทศิ ทางเดย่ี วกัน กล่าวคือ ถ้าราคาสินคา้ ชนิดหน่ึงสงู ขนึ้ หรือลดลง จะมผี ลทาใหป้ ริมาณซื้อสนิ คา้ อกี ชนดิ หนึ่งมากขน้ึ หรือลดลงตามลาดบั เราสามารถแสดงความสัมพันธร์ ะหว่างราคานา้ มนั หมูกบัปรมิ าณซื้อนา้ มนั พชื ไดด้ ังนี้เสน้ อปุ สงคใ์ นกรณีน้ีจะมีลกั ษณะทอดข้ึนจากซา้ ยไปขวา และมีคา่ ความชนั เป็ นบวก ดงั รูปต่อไปน้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook