Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การอ่าน

หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การอ่าน

Published by nongbewww, 2022-01-13 09:09:15

Description: หน่วยการเรียนรู้เรื่อง การอ่าน

Search

Read the Text Version

กลอนสภุ าพ (กลอน ๘) ใชจ้ งั หวะการอ่าน ๓/๒/๓ หรอื ๓/๓/๓ ขึ้นอยกู่ บั จานวนคาในแตล่ ะวรรค // // // //

ตวั อย่าง จะพูดจา/ปราศรัย/กบั ใครนน้ั // อยา่ ตะคน้ั /ตะคอก/ให้เคืองห/ู / ไมค่ วรพูด/อ้อื อึง/ข้นึ มึงก/ู / คนจะหลู่/ลว่ งลาม/ไม่ขามใจ// แม้จะเรียน/วิชา/ทางค้าขาย// อย่าปากร้าย/พูดจา/อัชฌาสยั // จงึ ซ้ืองา่ ย/ขายดี/มีกาไร// ดว้ ยเขาไม่/เคืองจติ /ระอิดระอา// สภุ าษติ สอนหญิง ของสุนทรภู่

กลอนเสภา กลอนเสภา คอื กลอนทน่ี ยิ มแตง่ เล่าเรือ่ งค่อนขา้ งยาว ใช้ขบั เช่น เสภาขุนชา้ งขุนแผน เวลาขบั มกี รับเปน็ เคร่อื งประกอบจังหวะ ตอ่ มาใช้ ปี่พาทย์รับ การอา่ นกลอนเสภามลี ักษณะเช่นเดียวกับกลอนสุภาพ คือใช้ จังหวะการอ่าน ๓/๒/๓ หรือ ๓/๓/๓ ขนึ้ อย่กู ับจานวนคาในแต่ละวรรค

ตวั อยา่ ง แมร่ ักลูก/ลกู ก็ร/ู้ อย่วู ่ารัก// คนอื่นสกั /หมน่ื แสน/ไม่แม้นเหมือน// จะกินนอน/วอนวา่ /เมตตาเตอื น// จะจากเรือน/รา้ งแม่/ไปแต่ตัว// แม่วันทอง/ของลกู /จงกลับบา้ น// เขาจะพาล/ว้าว่นุ /แมท่ ูนหัว// จะกม้ หน้า/ลาไป/มไิ ด้กลวั // แม้อยา่ มวั /หมองนกั /จงหกั ใจ เสภาเรือ่ ง ขุนชา้ ง-ขนุ แผน ตอน กาเนิดพลายงาม ของสุนทรภู่

กลอนบทละคร กลอนบทละครแต่ละวรรคจะมีจานวนคา ๖-๙ คา มีจังหวะการอา่ น คอื / /ถ้าคาในวรรคมี ๖ คา ควรใชจ้ งั หวะการอ่าน ๒/๒/๒ ตามผงั ดังน้ี / / / /ถ้าคาในวรรคมี ๗ คา ควรใชจ้ ังหวะการอา่ น ๒/๒/๓ หรอื ๓/๒/๒ ตามผงั ดงั นี้ / /ถา้ คาในวรรคมี ๘ คา ควรใช้จงั หวะการอ่าน ๓/๒/๓ ตามผงั ดงั น้ี / /ถ้าคาในวรรคมี ๙ คา ควรใชจ้ ังหวะการอ่าน ๓/๓/๓ ตามผงั ดังนี้

ตัวอย่าง บัดนนั้ // มัจฉานุ/ผูม้ /ี อัชฌาสยั // ได้ฟงั /อัดอน้ั /ตนั ใจ// บงั คมไหว้/แลว้ ตอบ/วาที// ข้อน้ี/ขัดสน/เปน็ พ้นคดิ // พระบดิ า/จงโปรด/เกศ/ี / ดว้ ยพญา/ไมยราพ/อสรุ ี// ไดเ้ ลย้ี ง/ลูกนี้/จนใหญม่ า// พระคณุ /ดงั่ คณุ /บติ เุ รศ// ซงึ่ บัง/เกิดเกศ/เกศา// อนั ซงึ่ /จะบอก/มรคา// ดงั่ ขา้ /ไมม่ ี/กตัญญู// บดิ า/ลงมา/ทางไหน// ทางน้ัน/จะไป/ยังมอี ย/ู่ / จงเรง่ /พนิ ิจ/พศิ ดู// กจ็ ะ/รดู้ ้วย/ปรีชาชาญ บทละครเรื่อง รามเกยี รติ์ ตอน ศกึ ไมรยาราพ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช

โครงส่สี ุภาพ / / /( )วรรหนา้ ใช้จังหวะการอ่าน ๒/๓ หรือ ๓/๒ วรรคหลังใชจ้ งั หวะการอ่าน ๒/๒ // //( )

ตวั อยา่ ง ความรู้/ดยู ง่ิ ล้า// สนิ ทรพั ย์// คิดค่า/ควรเมืองนบั // ย่ิงไซร้// เพราะเหตุ/จักอยูก่ บั // กายอาต/มานา// โจรจกั เบียน/บ่ได้// เรง่ รู้/เรยี นเอา โคลงโลกนติ ิ พระนพิ นธใ์ นสมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเดชาดศิ ร

การอ่านออกเสยี ง บทร้อยกรอง เป็นทานองเสนาะ การออกเสียงบทร้อยกรองเปน็ ทานองเสนาะให้ถกู ตอ้ ง ฟงั ไพเราะ มีหลักการ ดงั นี้

๑.ร้ลู กั ษณะบงั คับของบทรอ้ ยกรอง เช่น จานวนคา สมั ผัส เสียงวรรณยกุ ต์ เสยี งหนักเบา การแบง่ จังหวะ แล้วอา่ นตามทว่ งทานองใหไ้ พเราะชดั เจน เนน้ อารมณต์ ามเน้อื ความของบทร้อยกรอง ๒. อา่ นเน้นคาในตาแหน่งสมั ผัสนอก เชน่ เรามาผเู้ ดยี วก็เหน็ อยู่ เมอื่ ตราชยู นต์ของยักษี ครา่ คร่ามานานกวา่ แสนปี ไม่ดหี ักเองจะโทษใคร บทละครเรอ่ื ง รามเกียรต์ิ ตอน ศกึ ไมยราพ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช

๓. อา่ นเอื้อสมั ผสั ในเพอ่ื เพิม่ ความไพเราะ เชน่ - ขา้ ขอเคารพอภิวนั ท์ อา่ นวา่ อบ-พ-ิ วนั (ปกติอา่ นว่า อะ-พ-ิ วัน) - จงึ ดารัสอธิษฐานสมานจิต อ่านวา่ อดั -ทิด-ถาน (ปกติอา่ นวา่ อะ-ทิด-ถาน) - ขอ้ น้ขี ัดสนเปน็ พ้นคิด พระบดิ าจึงโปรดเกศี อา่ นวา่ บิด-ดา (ปกตอิ ่านว่า บิ-ดา) ๔. ฝึกอา่ นบ่อย ๆ เออื้ นเสียงใหไ้ พเราะ โดยฟงั จากแถบบันทกึ เสียงหรอื ฝกึ ฝนจากผ้เู ชี่ยวชาญ

ตัวอย่าง บทร้อยกรองทเี่ ปน็ บรรยายโวหาร เจ้าพลายน้อย/สร้อยเศรา้ /แลว้ เลา่ ว่า หมอ่ มพ่อพา/เวยี นวง/ให้หลงใหล// แลว้ ทบุ ถีบ/บบี จมกู /ของลกู ไว/้ / เอาขอนไม/้ ทับคอ/แทบมรณา// พอพวกพอ้ ง/ของขนุ แผน/แลน่ มาช่วย// จึงไมม้ ้วย/แมค่ ุณ/บุญหนกั หนา// ยงั ชา้ ชอก/ยอกเหนบ็ /เจ็บกายา// พดู น้าตา/ผ็อยผอ็ ย/ด้วยน้อยใจ เสภาเรื่อง ขนุ ชา้ ง-ขุนแผน ตอน กาเนดิ พลายงาม ของสนุ ทรภู่

ตวั อย่าง บทร้อยกรองท่ีเปน็ พรรณนาโวหาร พอฟา้ คลา้ /ค่าพลบ/เสยี งกบเขยี ด// ร้องกรดี เกรียด/เกรียวแซ/่ ดงั แตรสงั ข/์ / เหมือนเสียงฆ้อง/กลองโหม/ประโคมวงั // ไม่เห็นฝง่ั /ฟั่นเฟอื น/ดว้ ยเดือนแรม// ลาพรู าย/ชายตล่ิง/ล้วนห่ิงห้อย// สว่างพรอย/แพรง่ พราย/ขน้ึ ปลายแขม// อร่ามเรอื ง/เหลอื งงาม/วามวามแวม// กระจ่างแจม่ /จับนา้ /เห็นลาเรอื นิราศวดั เจ้าฟ้า ของสุนทรภู่

ตัวอย่าง บทรอ้ ยกรองท่ีเป็นอุปมาโวหาร ดูผวิ /สนิ วล/ละอองออ่ น// มะลิซ้อน/ดดู า/ไปหมดสน้ิ // สองเนตร/งามกว่า/มฤคิน// นางนี้/เปน็ ปนิ่ /โลกา// งามโอษฐ/์ ดังใบ/ไมอ้ อ่ น// งามกร//ดงั ลาย/เลขา// งามรปู /เลอสรร/ขวญั ฟา้ // งามยงิ่ /บปุ ผา/เบง่ บาน บทละครเรอื่ ง ศกุนตลา พระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว

ตวั อย่าง บทรอ้ ยกรองทเี่ ปน็ สาธกโวหาร เป็นมนษุ ย/์ สดุ ดี/ทท่ี าชอบ// จงประกอบ/กรรมดไี ว/้ ไม่สูญหาย// มเี รื่องจะ/ทาดี/ไดม้ ากมาย// วรี ชน/ของไทย/ใจกล้าหาญ// อย่าเหน่อื ยหน่าย/ท้อใจ/ใฝ่ทาด/ี / แม่ยา่ โม/ท้าวสรุ /นารี// ได้ตอ่ สู้/ศตั รูพาล/สมศักดศ์ิ ร/ี / ยอดสตรี/นามระบือ/ลอื ทั่วไทย สจุ รติ เพียรชอบ

ตวั อยา่ ง บทรอ้ ยกรองทเ่ี ปน็ สาธกโวหาร หน่ึงนักปราชญ์/ราชคร/ู ซงึ่ รหู้ ลัก// อยา่ ถอื ศักด/์ิ สนทนา/อชั ฌาสยั // อุตส่าหถ์ าม/ตามประสงค/์ จานงใน// จงึ จกั ได/้ รู้รอบ/ประกอบการ// หนึ่งบรรดา/ข้าไท/ทใ่ี จซื่อ// จงนบั ถือ/ถ่อมศกั ด/์ิ สมัครสมาน// หน่ึงคน/มนต์ขลงั /ชา่ งชานาญ// แมพ้ บพาน/ผกู ไว/้ เปน็ ไมตรี เพลงยาวถวายโอวาท ของสุนทรภู่

สรปุ ความรู้ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ งตาม ลักษณะคาประพนั ธแ์ ละอักขรวิธี รจู้ ักเอ้อื นเสยี ง แสดงอารมณต์ ามเนอ้ื ความ จะทาให้บทร้อยกรองน้ัน เกิดความไพเราะน่าฟังยง่ิ ขึ้น

ฝกึ อา่ นหนงั สอื สม่าเสมอนะคะนักเรยี น

แบบฝึกหดั

ใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วตอ่ ไปนี้ โดยใชเ้ ครอ่ื งหมาย / แบง่ วรรคตอน ให้ถูกตอ้ ง อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ ประเสรฐิ สุดซอ่ นใสเ่ สียในฝกั สงวนคมสมนึกใครฮกึ ฮัก จงึ คอ่ ยชักเชอื ดฟันใหบ้ รรลัย จับให้มนั่ คน้ั หมายใหว้ ายวอด ช่วยให้รอดรักให้ชดิ พสิ มัย ตัดใหข้ าดปรารถนาหาสงิ่ ใด เพียรจงได้ดงั ประสงคท์ ตี่ รงดี เพลงยาวถวายโอวาท ของ สนุ ทรภู่ คาประพนั ธป์ ระเภท.................................... ใชจ้ งั หวะการอ่าน....................................

ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วตอ่ ไปน้ี โดยใชเ้ คร่อื งหมาย / แบ่งวรรคตอน ใหถ้ ูกต้อง อนั ความคดิ /วทิ ยา/เหมือนอาวุธ ประเสรฐิ สุด/ซ่อนใส/่ เสยี ในฝกั สงวนคม/สมนกึ /ใครฮกึ ฮัก จึงค่อยชัก/เชือดฟัน/ใหบ้ รรลัย จบั ให้มั่น/คัน้ หมาย/ให้วายวอด ชว่ ยให้รอด/รกั ให้ชดิ /พิสมัย ตดั ให้ขาด/ปรารถนา/หาส่งิ ใด เพยี รจงได/้ ดังประสงค/์ ทต่ี รงดี เพลงยาวถวายโอวาท ของ สุนทรภู่ ใคชา้จปังรหะวพะันกธา์ปรรอะา่ เนภ.ท.๓...../...๒.ก...../.ล..๓..อ......น..ห...ส.ร....ภุ.ือ.....า...๓.พ..../....๓....../....๓.......



วชิ าภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔ สอนโดย นางสาวพรรณทริ าภรณ์ อนิ ทรพ์ รหม (ครบู วิ )



กิ จกรรมวันน้ี ช่วงน้ีช้ีแนน ทาความเขา้ ใจเน้ือหาเรื่อง การอา่ นจับใจความ ทบทวน อ่านออกเสียงรอ้ ยแก้ว ก า ร บ้ า น

การอ่านจบั ใจความ เปน็ การอา่ นเพื่อหาส่วนสาคัญของเรือ่ ง ซงึ่ เรยี กวา่ ใจความ หรอื ใจความสาคญั ตรงกนั ข้ามกบั พลความ (อ่านว่า พน-ละ-ความ) ซึง่ หมายถงึ สว่ นท่ีไม่สาคญั ใจความ จะปรากฏอยู่ตามยอ่ หน้าต่าง ๆ ของเรือ่ งท่อี า่ น อาจอยู่ส่วนต้น สว่ นกลาง หรอื สว่ นทา้ ยของย่อหนา้ กไ็ ด้

ความหมาย ใจความสาคัญ หมายถึง ใจความที่สาคัญ และเด่นท่ีสุดใน ย่อหน้า เป็นแก่นของย่อหน้า ที่ สามารถครอบคลุมเนื้อความใน ประโยคอ่ืน ๆ ในย่อหน้าน้ันหรือประโยคท่ีสามารถเป็นหัวเรื่อง ของ ย่อหน้านั้นได้ถ้าตัดเน้ือความของประโยคอนื่ ออกหมด หรือ สามารถเป็นใจความหรือประโยคเดี่ยว ๆ ได้ โดยไม่ต้องมี ประโยคอ่ืนประกอบ ซ่ึงในแต่ละย่อหน้าจะมีประโยคใน ความสาคญั เพียงประโยคเดียว หรือ อย่างมากไมเ่ กิน ๒ ประโยค

ใจความรอง หรือพลความ (พน-ละ-ความ) หมายถึง ใจความ หรือประโยคท่ีขยายความ ประโยค ใจความสาคัญ เป็นใจความ สนับสนุนใจความสาคัญให้ชัดเจนขึ้น อาจเป็นการอธิบายให้ รายละเอียด ให้ คาจากัดความ ยกตัวอย่าง เปรียบเทียบ หรือแสดง เหตุผลอยา่ งถี่ถ้วน เพ่ือสนับสนุนความคิด ส่วนท่ีมิใช่ ใจความสาคัญ และมิใชใ่ จความรอง แต่ชว่ ยขยายความใหม้ ากข้ึน คือ รายละเอียด

ลักษณะของใจความ ๑. ใจความสาคัญเปน็ ขอ้ ความทท่ี าหน้าทคี่ ลุมใจความของขอ้ ความอืน่ ๆ ในตอนนั้นๆ ได้หมด ขอ้ ความนอกนั้นเปน็ เพียงรายละเอียดหรือสว่ นขยายใจความสาคญั เทา่ นน้ั ๒. ใจความสาคญั ของขอ้ ความหนง่ึ ๆ หรอื ยอ่ หนา้ หนง่ึ ๆ สว่ นมากจะมีเพียงประการเดียว ๓. ใจความสาคญั สว่ นมากมลี กั ษณะเป็นประโยค อาจจะเป็นประโยคเดียวหรอื ประโยคซอ้ น กไ็ ด้ แต่ ในบางกรณีใจความส คญั ไมป่ รากฏเป็นประโยค เป็นเพียงใจความท่ีแฝงอยใู่ นขอ้ ความตอนนนั้ ๆ

ลกั ษณะของใจความ ๔. ใจความสาคญั ท่ีมีลกั ษณะเป็นประโยคส่วนมากจะปรากฏอย่ตู น้ ข้อความใน การอ่านใดๆ ก็ตาม จุดม่งุ หมาย เพ่ือจบั ใจความสาคญั ของขอ้ ความท่ีไดอ้ ่าน ดงั นนั้ ถา้ รูจ้ กั สงั เกตประโยคท่ีเป็นใจความสาคญั ของขอ้ ความแต่ละขอ้ ความ และรูจ้ กั แยกใจความหลกั ออก จากใจความรองไดก้ ็จะทาใหเ้ ราเขา้ ใจ ในสิ่ง ท่ี อา่ นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและรวดเรว็

ความสาคัญ การอ่านเป็นทักษะท่ีจาเป็นอยา่ งย่ิงต่อการศึกษาหาความรู้ และพัฒนา ชีวิต ซ่ึงนอกจากจะทาให้เกิด ความรู้แล้วยังก่อให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน และส่งเสรมิ ให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้แนวคิดใน การดาเนิน ชีวิต การอ่านที่ดีมีประสิทธิภาพ จะต้องอ่านแล้วจับใจความได้ สรุป สาระสาคัญของเร่ืองท่ีอ่านได้ สรุปประเด็นได้ แยกความรู้ ข้อเท็จจริง ขอ้ คิดเหน็ สามารถแยกใจความสาคญั กบั ใจความรองได้

การอา่ นจบั ใจความ ควรปฏิบัติ ดงั น้ี

อา่ นในใจทกุ ย่อหน้า อย่างละเอยี ด

ศกึ ษาความหมายของคา กลุ่มคา สานวนทไ่ี ม่เขา้ ใจ

ต้งั คาถามวา่ ใคร ทาอะไร ที่ ไหน อยา่ งไร ทาไม ฯลฯ

สงั เกตประโยคทแ่ี สดงใหเ้ หน็ วา่ เป็นใจความ สงั เกสตาปคญั ระซโง่ึ ยมกัคมทปี แี่ระสโยดคงอใ่นื หๆเ้ หอธน็ บิ วาย่าขเยปา็นยคใวจามความ สาคญั ซหร่ึงอื มใหกั ร้ มายีปละรเะอยีโยด คอ่ืน ๆ อธบิ ายขยายความหรือให้รายละเอียด





ตวั อย่าง ขอ้ ความทมี่ คี วามสาคญั อยสู่ ่วนตน้ นา้ มีประโยชน์ตอ่ ชวี ติ มนษุ ย์ มนุษยใ์ ชน้ า้ ในการอปุ โภค บรโิ ภค ใชใ้ นการเกษตร เป็นแหล่งอาหารของสัตว์นา้ และพชื น้า ใชเ้ พาะเลีย้ งปลา ปู กุง้ หอย การอตุ สาหกรรม การคมนาคม ขนส่ง การผลิตกระแสไฟฟ้า ฯลฯ

ตวั อย่าง ขอ้ ความที่มคี วามสาคัญอยู่สว่ นกลาง การใชน้ ้าแล้วระบายนา้ ท้งิ จากชุมชน จากโรงงาน อุตสาหกรรม หรอื จากการเกษตรซึง่ ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง โดย ปราศจากการขจดั สารพิษออกก่อน การระบายน้าทิง้ เหล่านใ้ี ห้ไหล ลงสแู่ หลง่ นา้ เปน็ สาเหตุที่ทาให้น้าเนา่ เสีย เกิดการสญู ทาง เศรษฐกิจ อันตรายตอ่ สขุ ภาพ อนามัย ทัง้ ตอ่ ชีวติ คน สตั ว์ และพชื

ตัวอย่าง ข้อความที่มีความสาคญั อย่สู ่วนท้าย น้าท่ีมีกล่นิ และสีเปลี่ยนไปเป็นบ่อเกิดของเชอ้ื โรค ถ้าไหลแพร่กระจายลงสแู่ มน่ ้าจะทาใหป้ รมิ าณของออกซเิ จนในนา้ ลดลง มผี ลตอ่ พืชและสัตว์นา้ เพราะไมม่ อี อกซเิ จนในการหายใจ พืชและสัตวน์ ้ากจ็ ะตาย เปน็ การทาลายความสวยงามของแหลง่ นา้ น่นั คอื เกิดมลภาวะเปน็ พษิ หรอื มลพษิ ของน้าทม่ี ีตอ่ สงิ่ แวดล้อม

ตวั อย่าง การจบั ใจความสาคัญจากข้อความ แล้วทาแผนภาพความคดิ ข้อความข้างต้นอาจจับใจความสาคัญ โดยทาแผนภาพความคิดได้ ดงั นี้ การระบายนา้ ท้งิ โดย มปี ระโยชน์ตอ่ มนษุ ย์ ไมข่ จัดสารพาจะทาให้ นา้ เน่าเสยี เกิดมลพิษ มลพษิ ของน้า น้า มผี ลกระทบ ต่อสิ่งแวดลอ้ ม

เรยี บเรียงเป็นใจความสาคัญไดว้ า่ น้ามปี ระโยชนต์ อ่ มนุษย์ การระบายนา้ ท้ิงโดยไมข่ จดั สารพษิ จะทาให้น้าเนา่ เสยี เกดิ มลพษิ อันจะมผี ลกระทบตอ่ สงิ่ แวดล้อม

ค้างคาวเป็นสตั ว์ทีอ่ อกหากนิ ในเวลากลางคนื ตัวอย่าง มนั สามารถบินผาดโผนฉวดั เฉวยี นไปมาได้โดยไม่ตอ้ งพึ่ง การอา่ น สายตา มนั อาศัยเสียงสะท้อนกลับของตัวมันเอง โดยค้างคาว จะส่งสัญญาณพิเศษ ซึ่งสนั้ และรวดเร็ว เม่อื สัญญาณไป จับ กระทบส่ิงกดี ขวางด้านกจ็ ะสะทอ้ นกลบั เข้ามา ทาใหร้ วู้ า่ มี ใจความ อะไรอยูด่ ้านหน้า มนั กจ็ ะบนิ หลบเลีย่ งได้ แมแ้ ตส่ ายโทรศัพท์ สาคญั ที่ระโยงรยางค์เปน็ เสน้ เลก็ ๆ คลนื่ เสียงกจ็ ะไปกระทบแลว้ เรอื่ ง สะท้อนกลับเขา้ หขู องมันได้ ไมไ่ ดม้ ีสัตวช์ นดิ ไหนท่ีจะสามารถ คา้ งคาว รบั คล่ืนสะท้อนกลบั ไดใ้ นระยะใกล้ แตค่ า้ งคาวทาไดแ้ ละ บินวนกลบั ได้ทนั ทว่ งที

วิธกี ารสรุปความ ใคร ค้างคาว ทาอะไร เมื่อไร ออกหากนิ อย่างไร ตอนกลางคนื โดยไม่ใช้สายตา แตอ่ าศัยเสียง ผลเป็นอย่างไร สะทอ้ นกลบั ของตัวมนั เอง สามารถหลบหลกี ส่งิ กีดขวางได้ คา้ งคาวจะออกหากนิ ในเวลากลางคนื โดยไม่ตอ้ งอาศยั สายตา แต่จะอาศัยเสยี งสะทอ้ นกลบั ของตัวมนั เอง ทาให้หลบหลีกสง่ิ กดี ขวางได้

แบบฝกึ หดั คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นอา่ นบทความต่อไปนแ้ี ลว้ สรุป ประเด็นสาคัญของบทความ สาหรบั เห็ดทก่ี นิ ไดท้ ว่ั ไปนน้ั จะเปน็ อาหารทม่ี ีไขมันตา่ และไมม่ คี อเลสเตอรอล มีเกลอื โซเดียมน้อยแตม่ แี ร่ธาตสุ ูง เช่น โปแทสเซียม ซง่ึ ช่วยลดความดันโลหติ และซลี เี นียม ซึง่ เป็นตัว สารตา้ นมะเรง็ รวมท้งั ยงั มีวติ ามนิ ต่าง ๆ โดยเฉพาะวติ ามนิ บี ในเห็ดยังมกี ดอะมโิ นตา่ ง ๆ ที่ ร่างกายต้องการในปรมิ าณพอสมควร และมกี รดอะมิโนกลูตามิกทีช่ ว่ ยให้เจรญิ อาหารอย่ดู ้วย จึงทาให้ประสาทรบั รรู้ สอาหารทางานไดด้ ี นอกจากนน้ั ยงั ถือวา่ เหน็ เป็นอาหารพ้ืนบ้านที่มี สรรพคุณเปน็ ยาสมนุ ไพรทีม่ รี สหวาน ซง่ึ จะช่วยทาให้ช่มุ ชนื่ บารงุ กาลัง แกอ้ ่อนเพลยั ได้อกี ด้วย

สรุปการอา่ นจับใจความ สรุปการอ่านจับใจความสาคัญ หมายถึง การอ่านที่ต้อง การ แยกแยะเร่ืองท่ีอา่ น ให้ได้ว่า ส่วนใดเป็นใจความหรือข้อความท่ีสาคัญท่ีสุด และส่วนใด เป็นข้อความ ประกอบ การจับใจความจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจว่าผู้เขียนต้องการสื่ออะไรอย่าง ถูกต้อง โดยผู้อ่านต้องใช้ความสามารถทางภาษา ประสบการณ์หรือภูมิหลังใน ด้านการแปล ความหมายของคา ข้อความ เพอื่ จับใจความไดร้ วดเรว็ ขึน้

อา่ นหนังสอื เยอะ ๆ นะคะนกั เรียน หมน่ั พยายามฝึกฝนอยู่เป็นประจา

กิ จกรรมถัดไป ช่วงน้ีช้ีแนน ทาความเขา้ ใจเนือ้ หาเรือ่ งขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็น ทบทวน ขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ ก า ร บ้ า น อ่านจับใจความจากเรือ่ งทก่ี าหนดให้

วชิ าภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔ สอนโดย นางสาวพรรณทริ าภรณ์ อนิ ทรพ์ รหม (ครูบวิ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook