Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ

การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ

Published by flowerz_uk, 2020-01-23 01:05:00

Description: การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ

Search

Read the Text Version

การเพม่ิ ประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ตารางที่ 6 งบประมาณรายจ่ายลงทนุ จาแนกตามกระทรวง/หนว่ ยงาน สูงสุด 5 อันดับแรก ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557 - 2561 หนว่ ย: ล้ำนบำท กระทรวง/หนว่ ยงาน งบประมาณ รอ้ ยละ ปีงบประมาณ 2561 ปีงบประมาณ 2560 ปีงบประมาณ 2559 ปีงบประมาณ 2558 ปีงบประมาณ 2557กระทรวงมหาดไทย 180,777.7176 37.17 กระทรวงคมนาคม 91,609.9218 18.83 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 37,200.1186 7.65 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 28,946.6718 5.95 กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตฯิ 13,486.2391 2.77 กระทรวง/หน่วยงาน งบประมาณ รอ้ ยละ กระทรวงคมนาคม 102,286.3071 23.02 กระทรวงมหาดไทย 83,293.7091 18.74 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 41,266.9660 9.29 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 39,941.8506 8.99 รฐั วสิ าหกจิ 14,717.2953 3.31 กระทรวง/หนว่ ยงาน งบประมาณ รอ้ ยละ กระทรวงคมนาคม 124,814.4420 23.20 กระทรวงมหาดไทย 67,183.6832 12.49 กระทรวงกลาโหม 47,198.3055 8.77 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 46,659.5981 8.67 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 45,388.8151 8.44 กระทรวง/หนว่ ยงาน งบประมาณ ร้อยละ กระทรวงคมนาคม 145,181.3304 22.95 จงั หวดั และกลมุ่ จงั หวดั 68,339.0988 10.80 กระทรวงมหาดไทย 52,951.4409 8.37 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 52,719.2434 8.33 กระทรวงกลาโหม 50,443.4165 7.97 กระทรวง/หน่วยงาน งบประมาณ รอ้ ยละ กระทรวงคมนาคม 156,516.6477 23.14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 71,879.7560 10.63 กระทรวงมหาดไทย 61,068.4606 9.03 กระทรวงกลาโหม 57,559.9946 8.51 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 49,359.3255 7.30 ทม่ี า: ข้อมลู จำกระบบกำรบริหำรกำรเงินกำรคลังภำครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) กรมบัญชกี ลำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ เม่ือพจิ ำรณำกำรจดั อันดับงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนจำแนกตำมกระทรวง/หน่วยงำน สูงสุด 5 อันดับแรก ในช่วงปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 พบว่ำ กระทรวงคมนำคมได้รับจัดสรรงบประมำณ รำยจ่ำยลงทุนสูงสุด รองลงมำ คือ กระทรวงมหำดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษำธกิ ำร กระทรวงกลำโหม และกระทรวง/หนว่ ยงำนอนื่ ๆ ตำมลำดับ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 39 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ตารางท่ี 7 งบประมาณรายจ่ายลงทุนจาแนกตามส่วนราชการ (ระดบั กรม) สงู สดุ 5 อันดบั แรก ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557 – 2561 หนว่ ย: ลำ้ นบำท ปีงบประมาณ 2561 ปีงบประมาณ 2560 ปีงบประมาณ 2559 ปีงบประมาณ 2558 ปีงบประมาณ 2557 หนว่ ยงาน งบประมาณ ร้อยละ กรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถน่ิ 156,425.5363 32.16 กรมทางหลวง 48,681.3615 10.01 กรมทางหลวงชนบท 37,932.0423 7.80 กรมชลประทาน 32,368.0544 6.65 สนง.คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน 17,234.1081 3.54 หนว่ ยงาน งบประมาณ รอ้ ยละ กรมทางหลวง 56,164.5927 12.64 กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถน่ิ 52,793.3118 11.88 กรมทางหลวงชนบท 40,058.9909 9.01 กรมชลประทาน 35,529.4536 8.00 กรมโยธาธกิ ารและผงั เมือง 20,755.6611 4.67 หนว่ ยงาน งบประมาณ รอ้ ยละ กรมทางหลวง 71,973.4115 13.38 กรมทางหลวงชนบท 44,615.5410 8.29 กรมชลประทาน 38,581.6265 7.17 กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถนิ่ 33,835.0990 6.29 กรมโยธาธกิ ารและผงั เมือง 23,569.5410 4.38 หน่วยงาน งบประมาณ ร้อยละ กรมทางหลวง 89,241.5601 14.11 กรมทางหลวงชนบท 47,213.4230 7.46 กรมชลประทาน 45,078.3197 7.13 กรมโยธาธกิ ารและผงั เมือง 24,077.1029 3.81 กองทพั บก 21,642.3558 3.42 หนว่ ยงาน งบประมาณ ร้อยละ กรมทางหลวง 99,984.6573 14.78 กรมชลประทาน 61,268.1801 9.06 กรมทางหลวงชนบท 44,777.9659 6.62 กรมโยธาธกิ ารและผงั เมือง 25,199.2112 3.73 กองทพั บก 24,709.7658 3.65 ท่มี า: ข้อมลู จำกระบบกำรบริหำรกำรเงนิ กำรคลงั ภำครัฐแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ (GFMIS) กรมบัญชีกลำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ประมวลผลโดย: สำนักงบประมำณของรฐั สภำ เมื่อพิจำรณำกำรจัดอันดับงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนจำแนกตำมส่วนรำชกำร (ระดับกรม) สูงสดุ 5 อนั ดบั แรก ในชว่ งปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 พบว่ำ กรมทำงหลวง ได้รบั จดั สรรงบประมำณ รำยจ่ำยลงทุนสูงสดุ รองลงมำ คือ กรมทำงหลวงชนบท กรมชลประทำน กรมสง่ เสรมิ กำรปกครองท้องถ่ิน กรมโยธำธิกำรและผังเมือง กองทัพบก และสำนกั งำนกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน ตำมลำดับ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หน้ำ 40 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2) สัดส่วนงบประมาณรายจา่ ยงบกลาง ตารางท่ี 8 สดั สว่ นงบประมาณรายจา่ ยงบกลาง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 - 2561 หนว่ ย: ลำ้ นบำท รายการ ปี 2557 ปี 2558 ปงี บประมาณ ปี 2560 ปี 2561 2,525,000.0000 2,575,000.0000 ปี 2559 2,923,000.0000 3,050,000.0000 งบประมาณรายจา่ ยประจาปี ภาพรวมรายจา่ ยงบกลาง 343,131.0000 383,625.1741 2,776,000.0000 503,611.5164 434,783.2486 - พรบ.งบประมาณ 343,131.0000 375,708.0964 509,929.0751 448,880.4964 420,183.2486 - พรบ.งบประมาณเพม่ิ เตมิ 455,382.4901 - พรบ.โอนงบประมาณ - - 42,864.5100 4,600.0000 สดั สว่ น งบกลาง : งปม.รายจา่ ย 32,661.0300 - 7,917.0777 11,866.5100 10,000.0000 21,885.5550 13.59 14.90 17.23 14.26 18.37 1.งบกลางเกยี่ วกบั บคุ ลากร 266,431.0000 272,584.4159 304,776.0000 301,630.1207 317,759.7231 - พรบ.งบประมาณ 266,431.0000 272,584.4159 304,776.0000 301,630.12 317,759.7231 - พรบ.งบประมาณเพมิ่ เตมิ - - พรบ.โอนงบประมาณ - - - - - สดั สว่ น งบกลาง : งปม.รายจา่ ย - - - 10.32 - 10.55 10.59 10.98 10.42 2. เงินสารองจา่ ยเพอ่ื กรณฉี ุกเฉินหรอื จาเปน็ 72,500.0000 96,740.7582 125,431.0178 148,695.7958 101,423.5255 - พรบ.งบประมาณ 72,500.0000 88,823.6805 103,545.4628 113,907.58 91,423.5255 - พรบ.งบประมาณเพมิ่ เตมิ 22,921.7000 - พรบ.โอนงบประมาณ - - - 11,866.5123 - สดั สว่ น งบกลาง : งปม.รายจา่ ย - 7,917.0777 21,885.5550 5.09 10,000.0000 2.87 3.76 4.52 3.33 3. รายการงบกลางอนื่ ๆ 4,200.0000 14,300.0000 79,722.0573 53,285.6022 15,600.0000 - พรบ.งบประมาณ 4,200.0000 14,300.0000 47,061.0273 33,342.79 11,000.0000 - พรบ.งบประมาณเพม่ิ เตมิ 32,661.0300 4,600.0000 - พรบ.โอนงบประมาณ - - 19,942.8100 สดั สว่ น งบกลาง : งปม.รายจา่ ย - - - - - 0.17 0.56 2.87 0.51 1.82 ทมี่ า: 1) พระรำชบญั ญัติงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 2) พระรำชบัญญัตงิ บประมำณรำยจำ่ ยเพม่ิ เตมิ ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2559-2561 3) พระรำชบัญญัติโอนงบประมำณรำยจำ่ ย ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2558-2561 4) ขอ้ มูลจำกระบบกำรบรหิ ำรกำรเงนิ กำรคลังภำครฐั แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบัญชกี ลำง ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ประมวลผลโดย: สำนักงบประมำณของรฐั สภำ สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 41 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ แผนภาพท่ี 2 งบประมาณ (ล้านบาท) 18.37 17.23 ร้อยละ (%) 14.26 3,500,000 20 18 3,000,000 13.59 14.90 16 2,500,000 14 12 2,000,000 2,109,369 2,094,634 2,140,640 2,270,693 2,513,793 10 1,500,000 8 6 1,000,000 2.87 3.76 4.52 5.09 3.33 4 500,000 2 343,131 383,625 509,929 503,612 434,783 0 - 72,500 96,741 125,431 148,696 101,424 ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 เงนิ สารองจ่ายเพอื่ ฉุกเฉนิ หรอื จาเปน็ งบกลาง งบประมาณรายจา่ ยประจาปี สัดสว่ น งบกลาง/งบประมาณ ( ) สัดสว่ น เงนิ สารองจ่ายเพ่ือฉกุ เฉนิ /งบประมาณ ( ) ประมวลผลโดย: สำนักงบประมำณของรัฐสภำ เม่ือพิจำรณำถึงสดั สว่ นรำยจำ่ ยงบกลำงต่องบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีซง่ึ รวมพระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยเพิ่มเติมและพระรำชบัญญัติโอนงบประมำณรำยจ่ำยแล้วในช่วง 5 ปีที่ผ่ำนมำ (พ.ศ. 2557-2561) พบว่ำ รำยจ่ำยงบกลำงมีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 15.67 ของงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี โดยมีสัดส่วนมากท่ีสุดในปีงบประมำณ พ.ศ. 2559 คิดเป็นร้อยละ 18.37 รองลงมา คือ ปีงบประมำณ พ.ศ. 2560 , 2558, 2561 และ 2557 คดิ เปน็ ร้อยละ 17.23, 14.90, 14.26 และ 13.59 ตำมลำดับ นอกจำกน้ี หำกพิจำรณำถึงสัดส่วนกำรตั้งวงเงินงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น จะเห็นได้ว่ำส่วนใหญ่มีกำรต้ังวงเงินงบประมำณรำยกำรดังกล่ำวเพ่ิมขึ้นทุกปี (รำยละเอียดตำม ตำรำงท่ี 9 และแผนภำพที่ 2) สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 42 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพิม่ ประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ แผนภาพที่ 3 / นอกจำกนี้ หำกพิจำรณำสัดส่วน เงนิ สารองจ่ายเพื่อกรณี รายการงบกลางอืน่ ๆ รำยจ่ำยงบกลำงต่องบประมำณรำยจ่ำย งบกลำงท้ังหมดตั้งแต่ปีงบประมำณ ฉกุ เฉินหรอื จาเปน็ 7.68 พ.ศ. 2557-2561 จะเห็นว่ำส่วนใหญ่ 25.05 จะตั้งงบกลำงสำหรับรองรบั เป็นค่ำใชจ้ ่ำย งบกลางเกีย่ วกับบคุ ลากรภาครัฐ ของบุคลำกรภำครัฐ เฉลี่ยร้อยละ 67.27 67.27 รองลงมำ คอื เงินสำรองจำ่ ยเพื่อกรณฉี กุ เฉิน หรือจำเป็น เฉลี่ยร้อยละ 25.05 และ รำยกำรงบกลำงอ่ืนๆ เฉลี่ยร้อยละ 7.68 (รำยละเอยี ดตำมแผนภำพที่ 3) ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ 3.2.2 สรุปผลการเบกิ จา่ ยงบประมาณรายจ่าย และการกนั เงินไว้เบิกเหลือ่ มปี 1) การเบกิ จ่ายงบประมาณรายจา่ ยภาพรวม ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557-2561 ตารางที่ 9 เปรียบเทียบผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวมกับเป้าหมาย ตามมาตรการเพ่มิ ประสิทธภิ าพ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2561 หนว่ ย: ล้ำนบำท ปงี บประมาณ งบประมาณตาม ผลการเบกิ จา่ ย เปา้ หมาย สงู /(ตา่ ) กว่า พ.ร.บ. รัฐบาล เปา้ หมาย (%) ปี 2557 จานวนเงิน (%) (%) ปี 2558 2,525,000.0000 ปี 2559 2,575,000.0000 2,246,255.0423 88.96 95 (6.04) ปี 2560 2,776,000.0000 ปี 2561 2,923,000.0000 2,378,260.0288 92.36 96 (3.64) 3,050,000.0000 2,578,913.1822 92.90 96 (3.10) 2,686,591.7833 91.91 96 (4.09) 2,792,105.4083 91.54 96 (4.46) ทม่ี า: 1. ขอ้ มลู จำกระบบกำรบริหำรกำรเงินกำรคลังภำครัฐแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ (GFMIS) กรมบัญชีกลำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 2. มำตรกำรเพิ่มประสิทธภิ ำพกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หน้ำ 43 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ แผนภาพที่ 4 95 96 96 96 96 จำกแผนภำพท่ี 4 จะเห็นวำ่ 92.36 92.90 91.91 91.54 ผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย ร้อยละ ภำพรวมตั้งแตป่ งี บประมำณ 100 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 พ.ศ. 2557-2561 ตำ่ กว่ำเปำ้ หมำย 92.36 92.90 91.91 91.54 ตำมมำตรกำรฯ ทกุ ปี โดย 80 88.96 96 96 96 96 ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557 ตำ่ กว่ำ 60 เป้ำหมำยมำกทส่ี ุด ร้อยละ 6.04 รองลงมำ คือ ปี 2561, ปี 2560, 40 ปี 2558 และปี 2559 คิดเป็น ร้อยละ 4.46, 4.09, 3.64 และ 3.10 20 ตำมลำดับ 0 ปี 2557 ผลการเบิกจ่าย 88.96 เปา้ หมายรฐั บาล ( ) 95 ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ ตารางที่ 10 เปรียบเทียบผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวมกับเป้าหมาย ตามมาตรการเพ่ิมประสิทธิภาพ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 - 2561 (จาแนกตามประเภทรายจ่าย เปน็ รายไตรมาส) หน่วย: ร้อยละ ปงี บประมาณ รายการ ไตรมาสท่ี 1 ไตรมาสท่ี 2 ไตรมาสท่ี 3 ไตรมาสท่ี 4 ภาพรวม ประจา ลงทนุ ประจา ลงทนุ ประจา ลงทนุ ประจา ลงทนุ ปี 2558 เปา้ หมายรัฐบาล 96 ปี 2559 ผลเบกิ จา่ ยจริง 33 29 55 55 76 74 98 87 92.36 ปี 2560 ผลตา่ ง 34.10 9.29 56.19 27.81 76.94 46.50 95.22 73.92 (3.64) ปี 2561 1.10 (19.71) 1.19 (27.19) 0.94 (27.50) (2.78) (13.08) 96 เปา้ หมายรฐั บาล 92.90 ผลเบกิ จา่ ยจรงิ 33 19 55 40 76 61 98 87 (3.10) ผลตา่ ง 33.05 12.80 55.13 31.99 78.34 53.39 96.56 75.55 96 0.05 (6.20) 0.13 (8.01) 2.34 (7.61) (1.44) (11.45) 91.91 เปา้ หมายรฐั บาล (4.09) ผลเบกิ จา่ ยจริง 33 19 55 41 76 63 98 87 96 ผลตา่ ง 35.85 16.91 54.46 31.51 77.84 45.25 96.84 70.26 91.54 2.85 (2.09) (0.54) (9.49) 1.84 (17.75) (1.16) (16.74) (4.46) เปา้ หมายรัฐบาล ผลเบกิ จา่ ยจริง 33 21.11 55 43.11 77 65.11 98.36 88 ผลตา่ ง 35.58 14.03 53.44 28.41 78.40 42.97 96.08 70.47 2.58 (7.08) (1.56) (14.70) 1.40 (22.14) (2.28) (17.53) ท่ีมา: 1. ขอ้ มลู จำกระบบกำรบรหิ ำรกำรเงินกำรคลังภำครฐั แบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบัญชกี ลำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2558-2561 2. มำตรกำรเพมิ่ ประสิทธิภำพกำรใช้จำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ย ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 44 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2) การเบิกจ่ายงบประมาณรายจา่ ยประจา ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557-2561 ตารางที่ 11 เปรยี บเทียบผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจากับเป้าหมายตามมาตรการ เพมิ่ ประสทิ ธิภาพ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557-2561 หน่วย: ล้ำนบำท ปงี บประมาณ งบประมาณตาม งบประมาณหลงั โอน ผลการเบกิ จา่ ย เปา้ หมาย สงู /(ตา่ ) กวา่ พ.ร.บ. เปลยี่ นแปลงฯ จานวนเงิน (%) รัฐบาล (%) เปา้ หมาย (%) ปี 2557* 2,038,590.2231 2,093,459.4791 1,962,208.6643 93.73 N/A N/A ปี 2558 2,130,624.0744 2,207,679.0364 2,102,191.2259 95.22 98 (2.78) ปี 2559 2,237,991.7782 2,292,103.2733 2,213,324.7018 96.56 98 (1.44) ปี 2560 2,290,439.6642 2,381,073.2084 2,305,811.6029 96.84 98 (1.16) ปี 2561 2,373,530.4165 2,510,296.0795 2,411,775.2300 96.08 98.36 (2.28) หมายเหตุ * ปีงบประมำณ 2557 เป็นชว่ งรอยตอ่ กำรปรบั เปลยี่ นจำกมำตรกำรเรง่ รดั ตดิ ตำมกำรใช้จ่ำยงบประมำณเปน็ มำตรกำรเพม่ิ ประสทิ ธิภำพ กำรใช้จำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปี จงึ ทำให้ไม่มกี ำรกำหนดเป้ำหมำยรำยจำ่ ยประจำ ทมี่ า: 1. ขอ้ มลู จำกระบบกำรบริหำรกำรเงินกำรคลงั ภำครัฐแบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบญั ชีกลำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 2. มำตรกำรเพม่ิ ประสิทธิภำพกำรใช้จำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ย ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 ประมวลผลโดย: สำนักงบประมำณของรัฐสภำ แผนภาพที่ 5 ร้อยละ 98 98 98 98.36 100 96.84 95.22 96.56 96.08 80 ปี 2560 ปี 2558 ปี 2559 96.84 ปี 2561 60 93.73 95.22 96.56 98 96.08 40 98 98 98.36 20 N/A 0 ปี 2557 93.73 ผลการเบิกจ่าย N0/A เป้าหมายรัฐบาล ( ) ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ จำกแผนภำพท่ี 5 จะเหน็ วำ่ ผลกำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำยประจำตง้ั แต่ปงี บประมำณ พ.ศ. 2558-2561 ต่ำกว่ำเปำ้ หมำยตำมมำตรกำรฯ ทุกปี โดยปีงบประมำณ พ.ศ. 2558 ตำ่ กว่ำเปำ้ หมำย มำกที่สุด ร้อยละ 2.78 รองลงมำ คือ ปี 2561 , ปี 2559, และ ปี 2560 คิดเปน็ รอ้ ยละ 2.28, 1.44 และ 1.16 ตำมลำดับ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หน้ำ 45 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 3) การเบิกจ่ายงบประมาณรายจา่ ยลงทนุ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557 – 2561 ตารางที่ 12 เปรียบเทียบผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนกับเป้าหมายตามมาตรการ เพิม่ ประสทิ ธิภาพ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557 - 2561 หนว่ ย: ลำ้ นบำท ปงี บประมาณ งบประมาณตาม งบประมาณหลังโอน ผลการเบกิ จา่ ย เปา้ หมาย สงู /(ตา่ ) กว่า พ.ร.บ. เปล่ียนแปลงฯ จานวนเงิน (%) รฐั บาล (%) เปา้ หมาย (%) ปี 2557 486,409.7769 431,545.8573 284,046.3605 65.82 82 (16.18) ปี 2558 444,375.9256 367,254.7890 271,488.0839 73.92 87 (13.08) ปี 2559 538,008.2218 483,887.1322 365,588.4804 75.55 87 (11.45) ปี 2560 632,560.3358 541,926.7428 380,780.1804 70.26 87 (16.74) ปี 2561 676,469.5835 539,703.8556 380,330.1783 70.47 88 (17.53) ท่มี า: 1. ข้อมลู จำกระบบกำรบรหิ ำรกำรเงินกำรคลังภำครฐั แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบัญชกี ลำง ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 2. มำตรกำรเพิ่มประสิทธภิ ำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจำ่ ย ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 ประมวลผลโดย: สำนักงบประมำณของรฐั สภำ แผนภาพที่ 6 ร้อยละ 87 87 87 88 82 75.55 70.26 70.47 80 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 60 73.92 75.55 70.26 70.47 87 87 88 65.82 40 20 0 ปี 2557 ปี 2558 65.82 73.92 ผลการเบกิ จ่าย 82 87 เปา้ หมายรัฐบาล ( ) ประมวลผลโดย: สำนักงบประมำณของรฐั สภำ จำกแผนภำพที่ 6 จะเห็นว่ำผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนต้ังแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ต่ำกว่ำเป้ำหมำยตำมมำตรกำรฯ ทุกปี โดยปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 ต่ำกว่ำเป้ำหมำย มำกที่สุด ร้อยละ 17.53 รองลงมำ คือ ปี 2560 , ปี 2557, ปี 2558 และ ปี 2559 คิดเป็นร้อยละ 16.74, 16.18, 13.08 และ 11.45 ตำมลำดับ สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 46 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 4) การจัดอันดับกระทรวง/หน่วยงานที่มีผลการเบิกจ่ายงบประมาณสูงสุด/ต่าสุด 5 อันดบั แรก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 - 2561 4.1) กระทรวง/หน่วยงานท่ีมีผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวมสูงสุด/ ตา่ สดุ 5 อนั ดับแรก ตารางที่ 13 กระทรวง/หน่วยงานทม่ี ผี ลการเบิกจา่ ยงบประมาณรายจา่ ยภาพรวมสูงสดุ / ต่าสุด 5 อนั ดบั แรก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 – 2561 หนว่ ย: รอ้ ยละ งบประมาณรายจา่ ยภาพรวมเบกิ จา่ ยสงู สดุ 5 อนั ดบั แรก งบประมาณรายจา่ ยภาพรวมเบกิ จา่ ยตา่ สดุ 5 อนั ดบั แรก ปีงบประมาณ 2557 กระทรวง/หนว่ ยงาน รอ้ ยละ กระทรวง/หนว่ ยงาน ร้อยละ หน่วยงานของศาล 100.00 กระทรวงการท่องเทย่ี วและกฬี า 42.88 กองทุนและเงนิ ทนุ หมนุ เวียน 100.00 หน่วยงานของรัฐสภา 44.91 กระทรวงแรงงาน 97.45 กระทรวงดจิ ิทัลเพอื่ ฯ 52.05 กระทรวงการคลงั 96.95 กระทรวงพาณชิ ย์ 68.11 หน่วยงานอสิ ระของรัฐ 95.64 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตฯิ 68.35 ปีงบประมาณ 2558 กระทรวง/หน่วยงาน ร้อยละ กระทรวง/หน่วยงาน ร้อยละ หน่วยงานของศาล 100.00 หน่วยงานของรัฐสภา 49.54 กองทนุ และเงนิ ทุนหมนุ เวียน 100.00 กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า 72.71 กระทรวงแรงงาน 99.26 กระทรวงดจิ ิทัลเพอื่ ฯ 85.73 กระทรวงการคลัง 98.91 จังหวดั 86.12 กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ฯ 97.36 กระทรวงกลาโหม 86.63 ปีงบประมาณ 2559 กระทรวง/หน่วยงาน ร้อยละ กระทรวง/หน่วยงาน รอ้ ยละ กองทนุ และเงนิ ทนุ หมนุ เวยี น 100.00 กระทรวงดจิ ิทลั เพอ่ื ฯ 22.59 หน่วยงานของศาล 99.99 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตฯิ 79.35 กระทรวงแรงงาน 99.49 กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า 81.49 กระทรวงการคลงั 99.11 จังหวดั 82.45 หน่วยงานอสิ ระของรัฐ 98.47 หน่วยงานของรัฐสภา 87.85 ปีงบประมาณ 2560 กระทรวง/หนว่ ยงาน รอ้ ยละ กระทรวง/หน่วยงาน ร้อยละ หน่วยงานของศาล 100.00 จังหวัด 42.67 กระทรวง/งท.หมนุ เวยี น 100.00 กระทรวงดจิ ิทัลเพอื่ ฯ 67.12 กระทรวงแรงงาน 99.67 กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกฬี า 76.11 กระทรวงการคลงั 99.28 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตฯิ 80.94 หน่วยงานอสิ ระของรัฐ 98.08 กระทรวงพาณชิ ย์ 84.05 ปีงบประมาณ 2561 กระทรวง/หน่วยงาน รอ้ ยละ กระทรวง/หน่วยงาน รอ้ ยละ หน่วยงานของศาล 100.00 หน่วยงานของรัฐสภา 59.68 กองทนุ และเงนิ ทนุ หมนุ เวยี น 100.00 จังหวดั 66.80 หน่วยงานอสิ ระของรัฐ 99.93 กระทรวงการท่องเทย่ี วและกฬี า 74.82 กระทรวงการคลัง 99.30 กระทรวงคมนาคม 78.96 กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ 98.56 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตฯิ 79.93 ท่มี า: ขอ้ มลู จำกระบบกำรบริหำรกำรเงนิ กำรคลังภำครฐั แบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบญั ชีกลำง ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ประมวลผลโดย: สำนักงบประมำณของรฐั สภำ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 47 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพิ่มประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 4.2) กระทรวง/หนว่ ยงานที่มีผลการเบกิ จา่ ยงบประมาณรายจา่ ยลงทนุ เกนิ 1 000 ล้านบาท สงู สดุ /ต่าสุด 5 อันดบั แรก ตารางท่ี 14 กระทรวง/หน่วยงานทมี่ ผี ลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจา่ ยลงทนุ เกิน 1,000 ลา้ นบาท สูงสุด/ตา่ สุด 5 อนั ดับแรก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 – 2561 หนว่ ย: ร้อยละ รายจา่ ยลงทนุ เกนิ 1,000 ลบ. เบกิ จา่ ยสงู สดุ 5 อนั ดบั แรก รายจา่ ยลงทนุ เกนิ 1,000 ลบ. เบกิ จา่ ยตา่ สดุ 5 อนั ดบั แรก ปีงบประมาณ 2557 กระทรวง/หนว่ ยงาน รอ้ ยละ กระทรวง/หนว่ ยงาน ร้อยละ กระทรวงกลาโหม 94.45 หน่วยงานของรัฐสภา 2.26 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 78.35 กระทรวงการตา่ งประเทศ 6.80 กระทรวงมหาดไทย 78.17 กระทรวงดจิ ิทลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คม 8.46 กระทรวงคมนาคม 69.96 กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า 14.79 จังหวัด 57.33 กระทรวงการคลงั 17.60 ปีงบประมาณ 2558 กระทรวง/หนว่ ยงาน รอ้ ยละ กระทรวง/หนว่ ยงาน รอ้ ยละ กระทรวงกลาโหม 94.45 หน่วยงานของรัฐสภา 2.26 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 78.35 กระทรวงการตา่ งประเทศ 6.80 กระทรวงคมนาคม 69.96 กระทรวงดจิ ิทัลเพอื่ เศรษฐกจิ และสังคม 8.46 จังหวัดและกล่มุ จังหวดั 57.33 กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า 14.79 สานักนายกรัฐมนตรี 55.04 กระทรวงการคลัง 17.60 ปีงบประมาณ 2559 กระทรวง/หนว่ ยงาน ร้อยละ กระทรวง/หนว่ ยงาน ร้อยละ 56.98 หน่วยงานของศาล 99.91 สว่ นราชการไมส่ งั กดั ฯ 57.22 57.84 กระทรวงคมนาคม 93.13 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 66.20 70.00 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 89.10 กระทรวงยุตธิ รรม กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษย์ 87.90 รัฐวิสาหกจิ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ 83.88 กระทรวงสาธารณสขุ ปีงบประมาณ 2560 กระทรวง/หน่วยงาน ร้อยละ กระทรวง/หนว่ ยงาน ร้อยละ หน่วยงานของศาล 100.00 กระทรวงดจิ ิทัลเพอื่ เศรษฐกจิ และสงั คม 27.23 กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 93.86 จังหวัดและกล่มุ จังหวัด 39.05 กระทรวงคมนาคม 88.71 กระทรวงยุตธิ รรม 55.04 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร 86.35 ส่วนราชการไมส่ งั กดั ฯ 59.38 กระทรวงการคลงั 79.58 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 59.44 ปีงบประมาณ 2561 กระทรวง/หนว่ ยงาน ร้อยละ กระทรวง/หน่วยงาน ร้อยละ 4.57 หน่วยงานของศาล 100.00 หน่วยงานของรัฐสภา 49.37 53.07 หน่วยงานอสิ ระของรัฐ 100.00 กระทรวงยุตธิ รรม 57.09 57.34 กระทรวงวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 96.59 กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า กระทรวงศกึ ษาธิการ 84.29 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์ 80.35 กระทรวงมหาดไทย ทม่ี า: ข้อมูลจำกระบบกำรบรหิ ำรกำรเงินกำรคลงั ภำครฐั แบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบญั ชีกลำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ประมวลผลโดย: สำนักงบประมำณของรฐั สภำ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 48 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 5) สรุปสถานะงบประมาณทก่ี นั ไว้เบกิ เหล่ือมปี (ไมร่ วมงบกลาง) ตารางที่ 15 สรุปสถานะงบประมาณท่ีกันไวเ้ บกิ เหล่ือมปี ต้งั แต่ปงี บประมาณ พ.ศ. 2554 – 2561 หน่วย: ล้ำนบำท ปงี บประมาณ เงินกนั ไวเ้ บกิ ไมอ่ นมุ ตั ิ เงนิ กนั หลัง เบกิ จา่ ย ณ คงเหลือ เหล่ือมปี (พบั คืนคลัง) ไม่อนมุ ัติ 15 มี.ค. 62 ปี 2554 10.6956 - 10.6956 6.0546 4.6410 ปี 2555 418.0538 10.6779 407.3758 176.8991 230.4767 ปี 2556 1,307.6218 48.3219 1,259.2999 210.2582 1,049.0417 ปี 2557 4,996.2980 120.8758 4,875.4222 2,434.1185 2,441.3037 ปี 2558 4,044.4221 834.9190 3,209.5031 601.2273 2,608.2758 ปี 2559 11,094.6207 1,330.5392 9,764.0814 2,151.3717 7,612.7098 ปี 2560 64,747.9790 10,035.5781 54,712.4008 22,018.0442 32,694.3567 ปี 2561 284,792.0210 20,716.3415 264,075.6795 93,228.8713 170,846.8083 รวมทงั้ สิ้น 371,411.7119 33,097.2535 338,314.4584 120,826.8448 217,487.6137 ท่ีมา: ข้อมลู กำรบรหิ ำรกำรเงนิ กำรคลงั ภำครัฐแบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (GFMIS) จำกเว็บไซต์ของกรมบัญชกี ลำง สถำนะ ณ วนั ที่ 15 มนี ำคม 2562 ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ จำกข้อมูลข้ำงต้นพบว่ำ ภำยหลังจำกพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ประกำศใช้บังคับตำมท่ีกระทรวงกำรคลังได้แจ้งให้ทรำบตำมหนังสือกระทรวงกำรคลัง ด่วนท่ีสุด ที่ กค 0402.5/ว 124 ลงวนั ท่ี 15 พฤศจิกำยน 2561 มีผลทำให้งบประมำณที่ไดร้ ับอนุมัติให้กนั ไว้เบิกเหลือ่ มปี/ กันขยำยโดยยังไม่ได้ก่อหน้ีผูกพัน ตั้งแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554-2561 ไม่ได้รับอนุมัติ (พับคืนคลัง) จำนวนทั้งสิ้น 33,097.2535 ล้ำนบำท จำกเงินกันไว้เบิกเหล่ือมปีท้ังหมด 371,411.7119 ล้ำนบำท และ มีกำรเบิกจ่ำยแลว้ ณ วันที่ 15 มนี ำคม 2562 จำนวนเงิน 120,826.8448 ล้ำนบำท คดิ เป็นรอ้ ยละ 35.71 และคงเหลอื เงินกนั ไวเ้ บกิ เหล่อื มปที ง้ั สิน้ 217,487.6137 ลำ้ นบำท คดิ เป็นรอ้ ยละ 64.29 6) สรุปผลการเบกิ จา่ ยรายจ่ายงบกลาง และการกนั เงินไวเ้ บิกเหลือ่ มปี 6.1) ผลการเบิกจา่ ยรายจา่ ยงบกลาง ตารางท่ี 16 เปรียบเทียบผลการเบกิ จ่ายงบประมาณรายจา่ ยงบกลาง ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557 - 2561 หน่วย: ล้ำนบำท ปงี บประมาณ งบประมาณตาม ผลการเบกิ จา่ ยงบประมาณรายจา่ ยงบกลาง งบประมาณ พ.ร.บ. (%) รายจา่ ยลงทนุ (%) รวมเบกิ จา่ ยจรงิ (%) คงเหลอื รายจา่ ยประจา ปี 2557 343,131.0000 287,702.5579 86.57 1,161.7785 27.85 288,864.3363 85.84 47,638.4113 ปี 2558 383,625.1741 287,950.1995 84.65 4,317.3485 14.33 292,267.5480 78.93 78,007.7917 ปี 2559 509,929.0751 395,775.4550 94.10 10,643.1436 23.25 406,418.5986 87.15 59,937.9027 ปี 2560 503,611.5164 405,046.7342 94.66 6,119.6497 23.53 411,166.3839 90.58 42,748.5211 ปี 2561 434,783.2486 380,862.9658 91.39 738.0740 18.75 381,601.0398 90.71 39,072.0251 ทม่ี า: ขอ้ มูลจำกระบบกำรบริหำรกำรเงินกำรคลงั ภำครัฐแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบญั ชีกลำง ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 49 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ แผนภาพที่ 7 85.84 78.93 87.15 90.58 90.71 ร้อยละ 100 งบประมาณ ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 90 47,638 78,008 59,938 42,749 39,072 80 500000 288,864 292,268 406,419 411,166 381,601 70 450000 85.84 78.93 87.15 90.58 90.71 60 400000 50 350000 40 300000 30 250000 20 200000 10 150000 0 100000 50000 0 งบประมาณคงเหลอื เบิกจา่ ยจริง สัดส่วนเบิกจา่ ยงบกลาง/ งบประมาณ ( ) แผนภาพท่ี 8 รอ้ ยละ 70 งบประมาณ 60.49 60 140,000 50 120,000 ปี 2559 45.31 40 100,000 37.47 46,080 30 80,000 70,540 ปี 2560 20 60,000 ปี 2557 13.99 60.49 68,792 10 40,000 45,338 56,982 7.22 0 20,000 27,162 ปี 2558 45.31 ปี 2561 0 37.47 73,233 11,908 94,101 งบประมาณคงเหลอื 13.99 ผลการเบิกจ่ายจรงิ 7,322 สดั ส่วนเบิกจ่าย/งบประมาณ 7.22 จำกแผนภำพที่ 8 จะเห็นว่ำสัดส่วนกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำร เงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณฉี ุกเฉนิ หรือจำเป็น ตงั้ แต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 ส่วนใหญม่ ีกำรเบิกจ่ำย ค่อนข้ำงน้อย โดยเฉพำะปีงบประมำณ 2561 มีกำรเบิกจ่ำยงบประมำณเพียง 7,322.3058 ล้ำนบำท คิดเป็นร้อยละ 7.22 ของงบประมำณเงินสำรองจ่ำยเพ่ือกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นทั้งหมด และคงเหลือ งบประมำณทั้งส้ิน 94,101.2197 ล้ำนบำท คิดเป็นร้อยละ 92.78 รองลงมำ คือ ปีงบประมำณ 2558, ปี 2557,ปี 2560 และปี 2559 คิดเปน็ ร้อยละ 13.99, 37.47, 45.31 และ 60.49 ตำมลำดบั สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 50 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพิ่มประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 6.2) สรปุ สถานะงบประมาณรายจ่ายงบกลางที่กนั ไว้เบิกเหลื่อมปี ตารางท่ี 17 สรุปสถานะงบประมาณรายจ่ายงบกลางที่กันไว้เบิกเหล่ือมปี ตั้งแต่ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2555 – 2561 เงินกนั ไว้เบกิ เบกิ จา่ ย ณ หนว่ ย: ลำ้ นบำท เหลอ่ื มปี 28 ก.พ. 62 ปงี บประมาณ คงเหลอื จำกข้อมูลกำรเบิกจ่ำยเงินกัน 42.5724 - จานวนเงิน รอ้ ยละ ไวเ้ บิกเหล่ือมปีรำยกำรรำยจ่ำยงบกลำง ปี 2555 ต้ังแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2555-2561 ปี 2556 181.8996 0.0111 42.5724 100.00 พบว่ำ มีกำรกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี 181.8885 99.99 ปี 2557 242.0640 83.6557 158.4083 65.44 ในภำพรวม จำนวนทง้ั สิ้น 133,538.3957 761.1469 97.3005 663.8463 87.22 ล้ำนบำท เบิกจ่ำยแล้ว 14,869.8790 ปี 2558 ล้ำนบำท คิดเป็นร้อยละ 11.14 และ ปี 2559 2,934.9637 568.3242 2,366.6395 80.64 คงเหลือเงินกันฯ ท่ียังไม่ได้เบิกจ่ำย ปี 2560 28,305.8821 10,582.6308 17,723.2513 62.61 ท้ังสิ้น 118,668.5167 ล้ำนบำท คิดเป็น ปี 2561 101,069.8669 3,537.9566 97,531.9103 96.50 รอ้ ยละ 88.86 รวมทง้ั สน้ิ 133,538.3957 14,869.8790 118,668.5167 88.86 ทีม่ า: ระบบกำรบรหิ ำรกำรเงนิ กำรคลงั ภำครฐั แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ (GFMIS) กรมบญั ชีกลำง ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 28 กุมภำพันธ์ 2562 ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ 6.3) สรุปสถานะเงนิ กนั ไวเ้ บิกเหลอื่ มปีรายการเงนิ สารองจ่ายเพ่ือกรณีฉุกเฉินหรอื จาเป็น ตารางที่ 18 สรุปสถำนะเงินกันไว้เบิกเหล่อื มปรี ำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตั้งแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2555 - 2561 หน่วย: ล้ำนบำท คงเหลอื ปงี บประมาณ เงินกนั ไว้เบกิ เหลอื่ มปี เบกิ จา่ ย ณ จำกข้อมูลกำรเบิกจ่ำยเงินกันไว้ 28 ก.พ. 62 จานวนเงิน ร้อยละ เบิกเหลื่อมปีรำยกำรเงินสำรองจ่ำย ปี 2555 42.5724 42.5724 100.00 เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ต้ังแต่ ปี 2556 141.2786 - 141.2675 99.99 ปีงบประมำณ พ.ศ. 2555-2561 ปี 2557 239.4286 155.7729 65.06 พบว่ำมีกำรกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปี 0.0111 ในภำพรวม จำนวนท้ังส้นิ 118,229.3854 83.6557 ปี 2558 747.2199 85.4908 661.7291 88.56 ล้ำนบำท เบิกจ่ำยแล้ว 11,939.5339 ปี 2559 404.8639 214.2972 190.5667 47.07 ล้ำนบำท คิดเป็นร้อยละ 10.10 และ 22,631.4243 9,326.9123 13,304.5120 58.79 คงเหลือเงินกันฯ ท่ียังไม่ได้เบิกจ่ำย ปี 2560 ทัง้ สิ้น 106,289.8516 ล้ำนบำท คิดเป็น ปี 2561 94,022.5977 2,229.1668 91,793.4309 97.63 ร้อยละ 89.90 รวมทง้ั สนิ้ 118,229.3854 11,939.5339 106,289.8516 89.90 ทีม่ า: ระบบกำรบริหำรกำรเงินกำรคลงั ภำครฐั แบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบญั ชกี ลำง ขอ้ มูล ณ วันท่ี 28 กุมภำพนั ธ์ 2562 ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 51 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 3.3 ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยภาครัฐท่ีผ่านมา จำกกำรศึกษำข้อมูลภำพรวมผลกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับ งบประมำณในช่วงระยะเวลำท่ีผ่ำนมำต้ังแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ผู้ศึกษำได้ค้นพบประเด็น ปญั หำอปุ สรรคสำคญั ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อประสทิ ธภิ ำพกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครฐั สรปุ ไดด้ ังน้ี ตารางที่ 19 ปัญหำและอุปสรรคท่ีเกิดข้ึนจำกบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ ตั้งแต่ ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ปญั หาทเ่ี กิดขน้ึ ปกติ ปญั หาที่เกิดจากปัจจัยภายนอก  ประเด็นดา้ นการจดั ซ้ือจดั จา้ ง 1) โครงกำรที่เป็นนโยบำยสำคญั และโครงกำร 1) มกี ำรแกไ้ ขคณุ ลกั ษณะ แบบแปลน ปรบั แบบ ขนำดใหญ่ จะตอ้ งเสนอคณะรฐั มนตรีเพอ่ื รูปรำยกำร เปลย่ี นแปลงรำยกำร เปลย่ี นแปลง พิจำรณำกอ่ นดำเนินกำร สถำนทกี่ ่อสรำ้ ง ปรับแก้ไขรำยละเอยี ดในข้อกำหนด 2) ได้รับมอบหมำยนโยบำยและภำรกจิ พเิ ศษ และขอบเขตงำน TOR และรำคำกลำงใหม่ รวมท้ัง เร่งด่วนจำกรฐั บำลทำให้ไม่สำมำรถปรับแผนกำร มกี ำรแกไ้ ขสญั ญำ ปฏบิ ัติงำนและแผนกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณให้ 2) ไม่ไดเ้ ตรยี มควำมพร้อมเก่ียวกบั สถำนท่ี สอดคล้องกับนโยบำยรัฐบำลและสถำนกำรณ์ รำคำกลำง ทำให้เม่ือได้รบั จัดสรรเงนิ งบประมำณ ในปจั จบุ ันได้ ต้องใชร้ ะยะเวลำเวลำในกำรดำเนนิ งำนในเรื่อง 3) กำรส่งมอบพืน้ ทด่ี ำเนินกำรล่ำช้ำ ดังกลำ่ ว ประชำชนคดั คำ้ นกำรเข้ำดำเนนิ กำรในพนื้ ท่ี 3) กำรจัดซื้อจดั จ้ำงในบำงรำยกำรยังมีควำม ประชำชนไมย่ ินยอมรบั คำ่ ชดเชยทด่ี นิ และปัญหำ ล่ำช้ำเนื่องจำกมีควำมซับซอ้ นเชงิ เทคนิคซึ่งต้อง กรรมสิทธิ์ท่ดี นิ บรู ณำกำรกบั หลำยหน่วยงำนทำให้มีควำมลำ่ ชำ้ 4) ไม่ไดร้ บั อนญุ ำตใหด้ ำเนินกำรในพืน้ ทีป่ ่ำไม้ ในกำรจัดจ้ำงหรือก่อหนผี้ กู พัน พื้นท่ีอุทยำนแห่งชำติ รวมทั้งติดปัญหำกรรมสิทธ์ิ 4) มีกำรประกวดรำคำหลำยครงั้ /ไมม่ ีผู้ยื่น ในที่ดนิ ของชำวบ้ำนที่ไม่ยนิ ยอมใหเ้ ขำ้ ไป เสนอรำคำ ดำเนินกำร และพนื้ ทโ่ี ครงกำรไปซำ้ ซ้อนกับ 5) ผ้รู บั จ้ำงเสนอรำคำสงู กวำ่ รำคำกลำง และ หนว่ ยงำนอนื่ ทไ่ี ดร้ ับกำรจัดสรรงบประมำณและ งบประมำณท่ีไดร้ บั ต้องขอทำควำมตกลงกบั สำนกั ดำเนนิ กำรไปก่อนแล้ว งบประมำณ เพ่ือขอเพมิ่ วงเงินงบประมำณ หรอื 5) ปญั หำกำรเขำ้ พ้นื ที่ทีต่ ้องไดร้ บั อนญุ ำตจำก ปรบั ลดเน้อื งำนลง หนว่ ยงำนท่ีเกย่ี วข้อง 6) มกี ำรลงนำมในสญั ญำงบลงทุนล่ำช้ำกว่ำ 6) ปญั หำกำรร้ือย้ำยระบบสำธำรณปู โภค แผนทีก่ ำหนดไว้ 7) ปญั หำเร่อื งกำรขนย้ำยมูลดนิ ทข่ี ดุ เจำะจำก 7) ผรู้ บั จ้ำงรับงำนแล้ว แตเ่ ขำ้ ดำเนนิ กำร ชนั้ ใต้ดนิ มีควำมลำ่ ช้ำ กอ่ สร้ำงล่ำชำ้ ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตำมแผนกำรเบิก 8) ครุภณั ฑ์ทีม่ ีคุณลกั ษณะพเิ ศษต้องรอกำร จำ่ ยเงินตำมงวดงำน รบั งำนไวห้ ลำยแห่ง นำเขำ้ จำกต่ำงประเทศซ่ึงตอ้ งใชร้ ะยะเวลำในกำร เคร่อื งจักรและคนงำนมีจำนวนน้อย ดำเนินงำนนำนทำให้ก่อหนี้ผกู พนั ล่ำช้ำ 8) ผู้รบั เหมำไม่ส่งมอบงำน หรือสง่ มอบงำนลำ่ ชำ้ 9) กำรก่อสร้ำงท่ีมีระยะเวลำดำเนินงำนไมเ่ กนิ 1 ปี ผ้รู บั จำ้ งส่วนใหญจ่ ะเบกิ เงนิ คำ่ งำนงวดเดียว เม่ืองำนแลว้ เสร็จ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 52 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพิม่ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ปัญหาที่เกิดข้นึ ปกติ ปญั หาที่เกดิ จากปจั จัยภายนอก 9) กำรตรวจรบั งำนจ้ำงเหมำบำงรำยกำร 10) กำรจัดจ้ำงท่ปี รกึ ษำเพอื่ ดำเนนิ โครงกำร เสร็จไมต่ รงเวลำ มแี ก้ไขรำยละเอยี ดของสญั ญำ ศกึ ษำท่ใี ช้ในกำรวำงแผนพัฒนำประเทศพบปัญหำ สง่ ผลใหไ้ มส่ ำมำรถเบิกจำ่ ยงบประมำณได้ตำม ท่ีไม่มผี ูเ้ สนองำนหรือมีจำนวนนอ้ ยรำยทำให้ แผนฯ ท่ีกำหนด กระบวนกำรจัดจ้ำงทป่ี รึกษำใช้ระยะเวลำนำน  ประเด็นด้านกฎหมาย ระเบียบ และ หรอื ไม่อำจจัดจ้ำงได้ หลกั เกณฑ์ 11) มกี ำรทักทว้ งจำกสำนักงำนกำรตรวจเงนิ 1) มีกำรปรบั เปล่ยี นหลักเกณฑ์ ระบบ แผน่ ดนิ เพรำะมปี ระชำชนร้องเรียน กำรจัดซอ้ื จัดจ้ำงภำครัฐ และมีกำรปรบั เปลยี่ น กฎระเบยี บ/กฎเกณฑ์ทำงด้ำนกฎหมำยตำมมติ คณะรัฐมนตรีซึ่งจะตอ้ งมีกำรสรำ้ งควำมเขำ้ ใจ ในขั้นตอนกำรดำเนินงำนทั้งระบบ รวมทัง้ มีข้อ กฎหมำย ระเบียบที่เก่ยี วข้องจำนวนมำก 2) รำยกำรสงิ่ ก่อสรำ้ ง กำรสง่ มอบ และกำร เบกิ จ่ำยส่วนใหญ่จะเป็นไปตำมงวดงำน แต่ไม่เป็น ไปตำมแผน เน่ืองจำกมรี ะเบยี บในกำรดำเนนิ งำน หลำยข้นั ตอน  ประเดน็ ดา้ นงบประมาณ 1) ดำเนินโครงกำรทใ่ี ช้เงินงบประมำณทีก่ นั เงนิ ไว้เบิกเหลื่อมปี และขยำยเวลำเบกิ จ่ำยเงนิ กอ่ นทำให้กำรเบกิ จำ่ ยเงินงบประมำณปีปจั จบุ นั ล่ำชำ้ 2) งบเงินอุดหนนุ ท้องถน่ิ ทต่ี ้งั ไว้ที่สว่ นรำชกำร นัน้ ไม่สำมำรถควบคุมกระบวนกำรบริหำร งบประมำณได้  ประเดน็ ด้านบุคลากร - เจำ้ หนำ้ ทีใ่ นสว่ นภูมภิ ำคมจี ำนวนนอ้ ย และ ขำดควำมชำนำญในกำรจดั ซื้อจัดจ้ำง  ประเดน็ อ่นื ๆ 1) มกี ำรปรับแผนกำรดำเนนิ งำนใหส้ อดคล้อง กบั นโยบำยและสถำนกำรณ์ปัจจุบัน 2) กำรกำหนดแผนปฏิบตั งิ ำน และแผนกำร ใชจ้ ำ่ ยเงินงบประมำณ ไม่ได้กำหนดตำมควำม เป็นจริง ทำใหต้ อ้ งมีกำรปรับแผนระหวำ่ งปี 3) มีควำมล่ำช้ำในข้ันตอนของงำนออกแบบ ก่อสร้ำง เน่ืองจำกต้องขอควำมอนุเครำะห์จำกกรม โยธำธิกำรและผังเมืองในกำรออกแบบงำนก่อสรำ้ ง ซ่งึ กรมโยธำธิกำรมีงำนออกแบบเป็นจำนวนมำก สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 53 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพิม่ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ บทที่ 4 ผลการศกึ ษา จำกกำรศกึ ษำแนวคดิ ทฤษฎีทำงวิชำกำร กฎหมำย ระเบียบ ประกำศ มตคิ ณะรฐั มนตรีและ ผลงำนวิจัยท่ีเกีย่ วขอ้ งกับกำรบริหำรงบประมำณในบทท่ี 2 และจำกผลกำรศึกษำในบทที่ 3 ผู้ศึกษำจะนำ ข้อมูลจำกท้ังสองส่วนดังกล่ำวมำทำกำรวิเครำะห์เพื่อค้นหำข้อเท็จจริงว่ำมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพ กำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณของรัฐบำลท่ีผ่ำนมำ สำมำรถเพ่ิมประสิทธิภำพ กำรดำเนินงำนและกำรเบิกจ่ำยงบประมำณของภำครัฐให้สูงขึ้นได้อย่ำงมีนัยสำคัญหรือไม่ ประกำรใด ประกอบกับมีกฎหมำย ระเบียบ มำตรกำร หลักเกณฑ์และวิธีกำรต่ำงๆ เกี่ยวข้องกับกำรบริหำร งบประมำณรำยจ่ำยประกำศใช้บังคับใหม่หลำยฉบับ สำมำรถช่วยเพิ่มประสิทธิภำพกำรบริหำร งบประมำณรำยจำ่ ยของภำครัฐอยำ่ งไรบ้ำง โดยในบทนี้ผศู้ ึกษำได้กำหนดประเด็นกำรศึกษำและวิเครำะห์ ตำมวัตถุประสงคข์ องกำรศกึ ษำออกเปน็ 3 ประเดน็ ดงั น้ี 4.1 รูปแบบ และแนวทางการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของภาครฐั การบริหารงบประมาณ (Budget Execution) ถือเป็นข้ันตอนหน่ึงของกระบวนกำร งบประมำณหรือเรียกอีกอย่ำงหน่ึงว่ำวงจรงบประมำณ (Budget Cycle) เป็นกิจกรรมท่ีสำคัญที่ต้อง ดำเนินกำรต่อเนื่องจำกข้ันตอนกำรจัดทำงบประมำณ และกำรอนุมัติงบประมำณ โดยกำรบริหำรจัดกำร งบประมำณของประเทศไทยในปัจจุบันใช้กำรบริหำรงบประมำณในรูปแบบของระบบงบประมำณแบบ มุ่งเน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ (Strategic Performance Based Budgeting : SPBB) ซึ่งเป็นระบบ งบประมำณท่ีให้ควำมสำคัญกับกำรกำหนดพันธกิจ จุดมุ่งหมำย วัตถุประสงค์ กลยุทธ์ แผนงำน งำน/ โครงกำรอย่ำงมีระบบ มีกำรติดตำมและประเมินผลสม่ำเสมอ เพ่ือวัดผลสำเร็จของงำนตำมเป้ำหมำย เชิงยุทธศำสตร์ระดับชำติ มีกำรกระจำยอำนำจและควำมรับผิดชอบของฝ่ำยต่ำง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดบั ชำติ ระดบั กระทรวง และระดับกรมหรอื ระดบั หน่วยงำน โดยกำรบรหิ ำรงบประมำณ ในลกั ษณะเชน่ นี้จะเป็นกำรกระจำยอำนำจกำรบริหำรงบประมำณใหก้ ับส่วนรำชกำรและหนว่ ยงำนของรัฐ แต่อยู่บนหลักกำรพ้ืนฐำนควำมรับผิดชอบที่ส่วนรำชกำรจะต้องดำเนินงำนให้เป็นไปตำมเป้ำหมำย ทก่ี ำหนด และมคี วำมเป็นอิสระในกำรบริหำรงบประมำณด้วยตนเองเพ่ือให้มีควำมคล่องตัวในกำรบริหำร งบประมำณซึ่งสอดคล้องกับแนวทำงปฏิบัติท่ีดีของประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกำ เกำหลีใต้ และญี่ปุ่นท่ีประสบควำมสำเร็จในกำรบริหำรงบประมำณตำมระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้น ผลงำน ตำมยทุ ธศำสตร์ (สถำบันวจิ ัยสังคม จฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลัย, 2553, หนำ้ 78) จำกกำรศึกษำพบว่ำ เม่ือพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีมีผลบังคับใช้ ตำมกฎหมำยแล้ว หน่วยรับงบประมำณจะต้องมีกำรเตรียมควำมพร้อมในกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำย งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีให้เป็นไปตำมแผนฯ และเป้ำหมำยที่กำหนด โดยจะต้องดำเนินกำรบริหำร งบประมำณให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรบริหำรงบประมำณท่ีใช้อยู่ในปัจจุบัน ซ่ึงได้ใช้ระเบียบว่ำ ด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ซึ่งบังคับใช้ทดแทนระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม โดยได้กำหนดแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยไว้ 2 ลักษณะ ดว้ ยกัน ประกอบด้วย สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หน้ำ 54 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 4.1.1 การบริหารงบประมาณรายจ่ายสาหรับหน่วยรับงบประมาณ มีข้ันตอนกำรบริหำร งบประมำณรำยจ่ำยกำหนดให้ดำเนนิ กำรตำมลำดบั ดังนี้ 1) การจดั ทาแผนการปฏบิ ตั งิ านและแผนการใชจ้ ่ายงบประมาณ จำกกำรศึกษำพบว่ำ ภำยหลังจำกพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมำยแล้ว หน่วยรับงบประมำณจะต้องดำเนินกำรตำมระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำร งบประมำณ พ.ศ. 2562 รวมทั้งระเบียบอื่นๆ และหลักเกณฑ์ท่ีเกี่ยวข้องกับกำรบริหำรงบประมำณ รำยจ่ำยตำมท่ีผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณกำหนด โดยให้หน่วยรับงบประมำณทุกหน่วยงำนจะต้อง จัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณให้สอดคล้องและเช่ือมโยงกับเป้ำหมำย กำรปฏบิ ัติรำชกำรของหน่วยรับงบประมำณภำยใต้ยุทธศำสตร์ชำติ แผนแม่บท แผนปฏิรูปประเทศ โดยมี เป้ำหมำย ตัวชี้วัด รำยกำร และวงเงินงบประมำณตำมท่ีได้รับควำมเห็นชอบจำกรัฐสภำ ส่งให้สำนัก งบประมำณพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบไม่น้อยกว่ำสิบห้ำวันก่อนวันเร่ิมปีงบประมำณ เพื่อเป็นกรอบ แนวทำงในกำรใช้จ่ำยหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมำณรำยจ่ำยท่ีได้รับตำมกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณ รำยจ่ำย และหำกในระหว่ำงปงี บประมำณมีแผนงำน ผลผลิต หรือโครงกำรข้ึนใหม่ หน่วยรับงบประมำณ จะต้องจัดทำแผนฯ ส่งให้สำนักงบประมำณในระยะเวลำที่สำนักงบประมำณกำหนด และเม่ือสำนัก งบประมำณให้ควำมเห็นชอบแผนฯ ดังกล่ำวแล้ว ให้หน่วยรับงบประมำณแจ้งให้รัฐมนตรีเจ้ำสังกัดหรือ รัฐมนตรีที่กำกับดูแลหรือควบคุมกิจกำรของหน่วยรับงบประมำณ หรือรัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมกฎหมำย แล้วแต่กรณีทรำบ เพ่ือใช้ในกำรกำกับดูแล และติดตำมประเมินกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยหรือก่อหนี้ ผกู พนั งบประมำณให้เป็นไปอยำ่ งมีประสิทธิภำพ สำหรับในกรณีการจัดทาแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของ งบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ให้หน่วยรับงบประมำณท่ีมีงบประมำณรำยจ่ำยบูรณำกำร จัดทำแผนฯ โดยจำแนกตำมแผนงำนบูรณำกำร ผลผลิต โครงกำรท่ีได้รับงบประมำณโดยแผนดังกล่ำวจะต้องแสดงถึง วัตถุประสงค์ ควำมเช่ือมโยงเป้ำหมำยกำรปฏิบัติรำชกำรของหน่วยรับงบประมำณกับเป้ำหมำยร่วม ภำยใต้ยุทธศำสตร์ชำติ แผนแม่บท แผนปฏิรูปประเทศ โดยมีเป้ำหมำย ตัวช้ีวัด รำยกำรและวงเงิน งบประมำณตำมที่ได้รับควำมเห็นชอบจำกรัฐสภำ ส่งให้หน่วยรับงบประมำณที่เป็นเจ้ำภำพหลักของ แผนงำนบูรณำกำรรวบรวมและพิจำรณำภำพรวมควำมสอดคล้องของแผนฯ เสนอผู้มีอำนำจกำกับ แผนงำนบูรณำกำรพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบแผนดังกล่ำว แล้วจึงส่งให้สำนักงบประมำณไม่น้อยกว่ำ สิบหำ้ วนั กอ่ นวนั เริม่ ปีงบประมำณ และเมอ่ื สำนกั งบประมำณเหน็ ชอบแผนฯ แลว้ ให้หน่วยรับงบประมำณ ท่ีเป็นเจ้ำภำพหลักส่งแผนฯ ให้ผู้มีอำนำจกำกับแผนงำนบูรณำกำร เพ่ือใช้กำกับดูแลและติดตำม กำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมำณตำมแผนงำนบูรณำกำรและรำยงำนรัฐมนตรี เจ้ำสังกดั ทรำบ 2) การปรับปรุงแผนการปฏบิ ตั ิงานและแผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณ จำกกำรศึกษำพบว่ำ หำกหน่วยรับงบประมำณต้องกำรขอปรับแผนฯ ซึ่งนอกเหนือไปจำกท่ีได้รับควำมเห็นชอบจำกสำนักงบประมำณแล้ว ให้กระทำได้ในกรณี (1) มีควำม จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเป้ำหมำยหรือตัวชี้วัดของแผนงำน ผลผลิตหรือโครงกำร (2) มีกำรโอนงบประมำณ รำยจ่ำยไปให้หน่วยรับงบประมำณอ่ืน และ (3) เมื่อคณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเจ้ำสังกัดหรือรัฐมนตรี ท่ีกำกบั ดแู ลหรอื ควบคมุ กจิ กำรของหน่วยรบั งบประมำณมีนโยบำยใหม่/ควำมจำเปน็ เรง่ ดว่ น สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 55 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ และตำมระเบียบนี้ยังได้มีกำรกำหนดแนวทำงกำรดำเนินกำรปรับแผนฯ ของ หน่วยรับงบประมำณ โดยให้เสนอขอปรับแผนฯ ต่อรัฐมนตรีเจ้ำสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหรือ ควบคุมกิจกำรของหน่วยรับงบประมำณ หรือรัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมกฎหมำยให้ควำมเห็นชอบในหลักกำร และส่งแผนฯ ให้สำนักงบประมำณพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ ส่วนในกรณีกำรปรับแผนฯ บูรณำกำร ให้หน่วย รับงบประมำณเสนอขอปรับแผนฯ ต่อผู้มีอำนำจกำกับแผนงำนบูรณำกำรโดยเสนอผ่ำนหน่วยรับ งบประมำณท่ีเป็นเจ้ำภำพหลักให้ควำมเห็นชอบในหลักกำร และส่งแผนฯ ให้สำนักงบประมำณพิจำรณำ ให้ควำมเหน็ ชอบ 3) การอนุมตั เิ งินจัดสรร จำกกำรศึกษำพบว่ำ เม่ือสำนักงบประมำณพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบแผนกำร ปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณแล้ว จะแจ้งให้หน่วยรับงบประมำณทรำบ พร้อมกับอนุมัติเงิน จัดสรรในวงเงินที่กำหนดไว้ในพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำ ปีให้สอดคล้องกับแผนกำร ปฏิบัติงำนและแผนกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณ หรือตำมท่ีสำนกั งบประมำณกำหนด โดยหนว่ ยรับงบประมำณ ไม่ต้องยื่นคำขออนุมัติเงินจัดสรร ยกเว้นรำยกำรผูกพันข้ำมปีงบประมำณในกรณีท่ีเป็นรำยกำรครุภัณฑ์ ที่ดิน หรือส่ิงก่อสร้ำง ให้เสนอผลกำรจัดซื้อจัดจ้ำงที่ได้ดำ เนินกำรแล้วต่อสำนักงบประมำณ เพื่อพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบควำมเหมำะสมของรำคำก่อนทำสัญญำก่อหน้ีผูกพัน และเมื่อได้รับ ควำมเห็นชอบเก่ียวกับควำมเหมำะสมของรำคำจำกสำนักงบประมำณแล้วให้หน่วยรับงบประมำณ ดำเนินกำรทำสัญญำก่อหนี้ผูกพันตำมวงเงินและรำยละเอียดท่ีสำนักงบประมำณกำหนด ตำมนัยของ ระเบียบวำ่ ด้วยกำรก่อหนี้ผกู พันข้ำมปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 ขอ้ 4 (1) และข้อ 6 กำหนดไว้ หลงั จำกนั้น ให้หน่วยรับงบประมำณขอเบิกจ่ำยเงินผ่ำนระบบกำรบริหำรกำรเงินกำรคลังภำครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) จำกกรมบัญชีกลำง ตำมวงเงินที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรรจำกงบประมำณรำยจ่ำยท่ีกำหนดไว้ ในแต่ละรำยกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำยจำกสำนักงบประมำณตำมแผนดังกล่ำว ซึ่งเงิน จัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยจะมีผลนับต้ังแต่วันท่ีพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีประกำศ บังคับใช้แล้ว และให้หน่วยรับงบประมำณใช้จ่ำยหรือก่อหน้ีผูกพันได้ภำยหลังจำกวันประกำศใช้ พระรำชบัญญัติดังกล่ำว ซ่ึงสอดคล้องกับมำตรำ 140 แห่งรัฐธรรมนญู แห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่ระบุไว้ว่ำกำรจ่ำยเงินแผ่นดินจะกระทำได้เฉพำะที่ได้อนุญำตไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำย กฎหมำยว่ำด้วยวิธีกำรงบประมำณ หรือกฎหมำยเก่ียวด้วยกำรโอนงบประมำณ กฎหมำยว่ำด้วย เงินคงคลงั หรอื กฎหมำยว่ำด้วยวนิ ัยกำรเงินกำรคลงั ของรัฐ 4) การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย การโอนงบประมาณรายจ่าย การโอนเงิน จัดสรรหรือการเปลี่ยนแปลงเงนิ จดั สรร 4.1) การใชง้ บประมาณรายจ่าย จำกกำรศึกษำพบว่ำ กำรใช้งบประมำณรำยจ่ำยเป็นกำรใช้จ่ ำยจำก งบประมำณรำยจ่ำยท่ีกำหนดไว้ในแต่ละรำยกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำยให้ใช้จ่ำย ตำมแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณที่สอดคล้องกับยุทธศำสตร์ชำติ ดังนี้ 1) งบประมำณรำยจ่ำยแผนงำนยุทธศำสตร์ 2) งบประมำณรำยจ่ำยแผนงำนบูรณำกำร 3) งบประมำณ รำยจ่ำยแผนงำนพื้นฐำน 4) งบประมำณรำยจ่ำยแผนงำนบุคลำกรภำครัฐ 5) งบประมำณรำยจ่ำยสำหรับ ทุนหมุนเวียน 6) งบประมำณรำยจ่ำยแผนงำนบริหำรจัดกำรหน้ีภำครัฐ และ 7) งบประมำณรำยจ่ำย เพอื่ ชดใช้เงนิ คงคลัง และงบประมำณรำยจำ่ ยเพอ่ื ชดใช้เงนิ ทนุ สำรองจำ่ ย สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หน้ำ 56 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพิ่มประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 4.2) การโอนงบประมาณรายจา่ ย การโอนเงินจัดสรรหรือการเปล่ยี นแปลงเงนิ จัดสรร จำกกำรศึกษำพบว่ำ กำรจัดทำงบประมำณรำยจ่ำยเป็นกำรคำดกำรณ์โดย จัดทำงบประมำณไว้ล่วงหน้ำ เมื่อถึงเวลำที่นำไปใช้จ่ำยจริง สถำนกำรณ์ต่ำงๆ อำจเปล่ียนแปลงไป ทำให้ต้องมกี ำรเปลยี่ นแปลงรำยกำรงบประมำณรำยจ่ำยทไี่ ด้เคยกำหนดไวใ้ นงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปี เพ่ือควำมยืดหยุ่น และควำมคล่องตัวในกำรดำเนินงำนให้สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ปัจจุบันท่ีเกิดขึ้น ซง่ึ ตำมระเบยี บวำ่ ด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ได้กำหนดกำรโอนงบประมำณรำยจำ่ ย กำรโอน เงินจัดสรรหรือกำรเปลยี่ นแปลงเงินจัดสรรไว้ 3 ลกั ษณะ ประกอบดว้ ย 4.2.1) กำรโอนงบประมำณรำยจ่ำย หมำยถึง กำรโอนจำนวนเงินงบประมำณ รำยจ่ำยที่กำหนดไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำยจำกแผนงำน หรือผลผลิต หรือโครงกำร หรือ รำยกำรใดๆ ไปตั้งเปน็ งบประมำณรำยจ่ำยของแผนงำน หรือผลผลติ หรือโครงกำร หรือรำยกำรอน่ื 4.2.2) กำรโอนเงินจดั สรร หมำยถึง กำรโอนจำนวนเงินงบประมำณรำยจ่ำย ท่ีสำนักงบประมำณอนุมัติเงินจัดสรรจำกแผนงำน หรือผลผลิต หรือโครงกำร หรือรำยกำรใดๆ ไปต้ังเป็น เงนิ จดั สรรของแผนงำนหรือผลผลิต หรือโครงกำร หรือรำยกำรอ่ืน 4.2.3) กำรเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร หมำยถึง กำรเปลี่ยนแปลงรำยกำรและ หรือจำนวนเงินจดั สรรทีไ่ ด้รับอนุมัตจิ ัดสรรจำกสำนักงบประมำณ สำหรับในกรณีที่หน่วยรับงบประมำณมีควำมจำเป็นต้องโอนงบประมำณ รำยจ่ำย โอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร จะต้องดำเนินกำรเพื่อแก้ไขปัญหำกำรปฏิบัติงำน เพิ่มประสิทธิภำพกำรให้บริกำร เพม่ิ คุณภำพกำรให้บริกำร พัฒนำบุคลำกร พัฒนำเทคโนโลยี และจะต้อง แสดงเหตุผลควำมจำเป็นหรือควำมเหมำะสม รวมท้ังต้องสอดคล้องกับยุทธศำสตร์ชำติ แผนแม่บท แผนปฏิรปู ประเทศ และเปำ้ หมำยกำรใหบ้ ริกำรกระทรวง แต่หำกมีกำรโอนงบประมำณรำยจ่ำย หรือกำรโอนเงินจัดสรรจำกแผนงำน หนึ่งไปตั้งจ่ำยในแผนงำนอื่นให้กระทำได้เฉพำะกำรโอนระหว่ำงแผนงำนพื้นฐำน หรือระหว่ำงแผนงำน ยุทธศำสตร์ หรือระหว่ำงแผนงำนพื้นฐำนและแผนงำนยุทธศำสตร์ ภำยในหน่วยรับงบประมำณเดียวกัน โดยใหข้ อทาความตกลงกบั สานักงบประมาณ เวน้ แตจ่ ะมกี ฎหมำยบัญญัติไวเ้ ป็นอย่ำงอื่น สำหรับในสว่ น ของกำรโอนเงินจัดสรร และหรือกำรเปล่ียนแปลงเงินจัดสรรที่ได้รับอนุมัติให้ขยำยเวลำเบิกจ่ำยเงิน จำกคลงั ให้ขอทาความตกลงกับสานกั งบประมาณก่อน นอกจำกกรณีที่กำหนดไว้ตำมระเบียบนี้แล้ว กำรใช้งบประมำณรำยจ่ำย กำรโอนเงินจัดสรรจำกผลผลิตหรือโครงกำรใดๆ ไปตั้งจ่ำยในผลผลิตหรือโครงกำรอื่นๆ ภำยในแผนงำน เดียวกัน กำรเปล่ียนแปลงเงินจัดสรร รวมถึงกำรเปล่ียนแปลงรำยละเอียดของเงินจัดสรร สำหรับ งบประมำณรำยจำ่ ยของหน่วยรับงบประมำณ และงบประมำณรำยจำ่ ยบูรณำกำรใหห้ น่วยรับงบประมำณ ถือปฏิบัติตำมหลักเกณฑ์ว่ำด้วยกำรใช้งบประมำณรำยจ่ำย กำรโอนเงินจัดสรรหรือกำรเปลี่ยนแปลง เงินจัดสรร พ.ศ. 2562 ท่ีผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณประกำศใช้บังคับเม่ือวันท่ี 31 กรกฎำคม 2562 โดยหลักเกณฑ์ดังกล่ำวได้กำหนดกำรโอนเงินจัดสรรหรือกำรเปลีย่ นแปลงเงนิ จดั สรรไว้ในข้อ 8 ว่ำในกรณี มีควำมจำเป็นเพ่ือจัดทำผลผลิตหรือโครงกำรให้บรรลุเป้ำหมำยตำมแผนกำรปฏิบัติและแผนกำรใช้จ่ ำย งบประมำณ หัวหนา้ หนว่ ยรบั งบประมาณอำจโอนเงินจัดสรรหรอื เปล่ียนแปลงเงินจัดสรร ภำยใต้แผนงำน ผลผลิต หรือโครงกำรเดียวกันได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องขออนุมัติจำกสำนักงบประมำณ ภำยใต้เง่ือนไข ดังน้ี สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 57 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพิ่มประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ (1) ต้องมิใช่กำรโอนเงินจัดสรร หรือเปล่ียนแปลงเงินจัดสรรจำกรำยจ่ำย ในงบบุคลำกรรำยกำรค่ำครุภัณฑ์ท่ีมีวงเงินต่อหน่วยต้ังแต่หนึ่งล้ำนบำทข้ึนไป รำยกำรค่ำที่ดิน รำยกำร สงิ่ กอ่ สร้ำงท่มี วี งเงนิ ตอ่ หน่วยตั้งแต่สบิ ลำ้ นบำทข้นึ ไป หรอื รำยกำรก่อหนีผ้ ูกพนั ขำ้ มปีงบประมำณ (2) ต้องไม่นำไปกำหนดเป็นอัตรำบุคลำกรตั้งใหม่ รำยกำรค่ำจัดหำครุภัณฑ์ ยำนพำหนะ รำยกำรค่ำครุภัณฑ์ท่ีมีวงเงินต่อหน่วยตั้งแต่หน่ึงล้ำนบำทข้ึนไป รำยกำรค่ำท่ีดิน รำยกำร ค่ำสิ่งก่อสร้ำงท่ีมีวงเงินต่อหน่วยต้ังแต่สิบล้ำนบำทข้ึนไป หรือเป็นค่ำใช้จ่ำยในกำรเดินทำงไปรำชกำร ตำ่ งประเทศชัว่ ครำวท่ไี มไ่ ด้กำหนดไวใ้ นแผนฯ และต้องไม่เปน็ กำรกอ่ หนี้ผูกพันข้ำมปงี บประมำณ สำหรับกรณีมีเงินจัดสรรเหลือจ่ำยจำกกำรดำเนินงำนบรรลุวัตถุประสงค์ หรือจำกกำรจดั ซอื้ จัดจ้ำงแล้วหัวหน้ำหน่วยรับงบประมำณอำจโอนเงินจัดสรรหรือเปลยี่ นแปลงเงินจัดสรร ดังกล่ำว ไปใช้จ่ำยเป็นรำยจ่ำยใดๆ ภำยใต้แผนงำนผลผลิตหรือโครงกำรเดียวกัน และภำยใต้เงื่อนไข ตำมขอ้ 2) ได้ โดยไม่ต้องขออนุมตั ิจำกสำนกั งบประมำณ 5) การประเมนิ ผลและการรายงาน จำกกำรศึกษำพบว่ำ กำรบริหำรงบประมำณกเ็ พื่อตอ้ งกำรให้กำรใช้จ่ำยงบประมำณ เป็นไปตำมเป้ำหมำย หรือเพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ในเร่ืองต่ำงๆ ที่กำหนดไว้ และเมื่อมีกำรใช้จ่ำย งบประมำณแล้วจำเป็นต้องมีกำรติดตำม ตรวจสอบ และประเมินผลว่ำใช้จ่ำยงบประมำณเป็นไปตำม แผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ รวมท้ังปฏิบัติตำมขั้นตอนของระเบียบว่ำด้วยกำร บริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 รวมทั้งระเบียบ และหลักเกณฑ์อื่นๆ ท่ีเกี่ยวข้อง กับกำรบริหำร งบประมำณรำยจ่ำยหรือไม่ สำหรับกำรรำยงำนผลถือเป็นวิธีกำร/ขั้นตอนในกำรตรวจสอบให้มีกำร รำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณในช่วงที่ผ่ำนมำเพ่ือทบทวนผลกำรปฏิบัติงำน ตำมแผนฯ ท่ีกำหนดไว้ว่ำเป็นอย่ำงไร รวมทั้งมีปัญหำ อุปสรรค และแนวทำงแก้ไขตำมหลักเกณฑ์และ วธิ ีกำรที่สำนกั งบประมำณกำหนดหรอื ไม่ ซึ่งตำมระเบียบฉบับน้ีในข้อ 34 ไดก้ ำหนดให้หน่วยรับงบประมำณจดั ทำรำยงำนผล กำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณเมื่อส้ินระยะเวลำในแต่ละไตรมำสภำยในสิบห้ำวันนับแต่วัน สน้ิ ไตรมำส และจัดทำรำยงำนประจำปีภำยในสสี่ ิบห้ำวนั นับแต่วันสิ้นปีงบประมำณ รวมท้ังจัดทำรำยงำน กำรปรับแผนฯ ส่งให้สำนักงบประมำณ สำหรับระเบียบข้อ 35 กำหนดให้หน่วยรับงบประมำณ ที่เป็นเจ้ำภำพหลักจัดทำรำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณของแผนงำนบูรณำกำร ส่งให้สำนักงบประมำณภำยในสิบห้ำวันนับแต่วันสิ้นไตรมำส ทั้งน้ี เพื่อให้สำนักงบประมำณ นำผล กำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยไปประกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณรำยจ่ำย ในปงี บประมำณถดั ไปตำมท่ีกำหนดไวใ้ นระเบียบฯ ข้อ 36 4.1.2 การบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยงบกลาง จำกกำรศึกษำพบว่ำ รำยจ่ำยงบกลำงเป็นรำยจ่ำยที่ต้ังไว้เพ่ือจัดสรรให้หน่วยรับ งบประมำณใช้จ่ำยนอกเหนือจำกงบประมำณท่ีได้รับจัดสรรปกติ รวมทั้งเป็นค่ำใช้จ่ำยเฉพำะเรื่องโดยจะ กำหนดไว้เพ่ือใช้จ่ำยในหลำยกรณี ประกอบด้วย รำยจ่ำยตำมสิทธิหรือข้อกำหนดตำมกฎหมำยท่ี ทุกหน่วยงำนใช้จ่ำยในรำยกำรเดียวกันร่วมกัน ค่ำใช้จ่ำยตำมนโยบำยและโครงกำรพิเศษของรัฐบำล ค่ำใช้จ่ำยที่ยังไม่สำมำรถกำหนดเป้ำหมำยหรือวงเงินค่ำใช้จ่ำยไว้ล่วงหน้ำได้ เช่น เงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็น ค่ำใช้จ่ำยตำมโครงกำรพระรำชดำริ เป็นต้น และค่ำใช้จ่ำยในกำรปรับปรุงยุทธศำสตร์ และนโยบำยเพอ่ื ตอบสนองให้ทันกับสถำนกำรณ์ท่เี ปลีย่ นแปลง สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 58 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพ่มิ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ สำหรับกำรจัดสรรงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำงรำยกำรดังกล่ำว ตำมพระรำชบัญญัติ วิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 มำตรำ 36 วรรคสอง บญั ญัติไว้วำ่ “รำยจ่ำยรำยกำรต่ำงๆ ท่ีกำหนดไว้ใน งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงให้ผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณมีอำนำจจัดสรรให้หน่วยรับงบประมำณ เบิกจ่ำยโดยตรงหรือเบิกจ่ำยในรำยกำรต่ำงๆ ของหน่วยรับงบประมำณน้ันๆ ได้ตำมควำมจำเป็น” และ มำตรำ 36 วรรคสำม บัญญัติไว้ว่ำ “ในกรณีท่ีมีควำมจำเป็นผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณโดยอนุมัติ นำยกรัฐมนตรีจะโอนงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงรำยกำรใดรำยกำรหน่ึงไปเพิ่มรำยกำรอื่นๆ ในงบกลำง ด้วยก็ได้” เนื่องจำกโดยปกติงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงมิได้กำหนดไว้สำหรับหน่วยรับงบประมำณใด โดยเฉพำะ ดงั น้นั เม่ือหน่วยรับงบประมำณใดมคี วำมจำเป็นต้องขอรับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรใดๆ ใหข้ อทำควำมตกลงกับสำนกั งบประมำณเปน็ กรณีไป จำกบทบัญญัติของกฎหมำยนี้ ซ่ึงให้อำนำจผู้อานวยการสานักงบประมาณจัดสรร งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงให้หน่วยรับงบประมำณเบิกจ่ำยโดยตรงหรือเบิกจ่ำยในรำยกำรต่ำงๆ ของ หน่วยรับงบประมำณน้ันๆ ได้ตำมควำมจำเป็นดังท่ีกล่ำวไว้ข้ำงต้น โดยกำหนดกำรบริหำรงบประมำณ รำยจ่ำยงบกลำงไวใ้ นระเบยี บว่ำดว้ ยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ดังนี้ ข้อ 30 สำนักงบประมำณจะอนุมัติเงินจัดสรรงบกลำงให้กรมบัญชีกลำง ตำมวงเงิน ท่ีระบุในกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำย เพื่อหน่วยรับงบประมำณขอเบิกจ่ำยกับกรมบัญชีกลำง ไดต้ ำมจำนวนที่ตอ้ งจำ่ ยจริง สำหรบั งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรต่ำงๆ ดังต่อไปนี้ (1) เงนิ เบ้ียหวัด บำเหน็จ บำนำญ (2) เงนิ ชว่ ยเหลอื ข้ำรำชกำร ลูกจ้ำงและพนกั งำนของรฐั (3) เงินเลือ่ นเงินเดอื นและเงินปรับวฒุ ิขำ้ รำชกำร (4) เงินสำรอง เงินสมทบ และเงินชดเชยของขำ้ รำชกำร (5) เงินสมทบของลูกจ้ำงประจำ (6) ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรรักษำพยำบำลของข้ำรำชกำร ลกู จำ้ งและพนกั งำนของรฐั (7) คำ่ ใช้จำ่ ยในกำรปรบั เงินคำ่ ตอบแทนบคุ ลำกรภำครฐั (8) ค่ำใชจ้ ่ำยชดใชเ้ งินทดรองรำชกำรเพื่อชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พิบตั ิกรณฉี ุกเฉนิ รำยกำรตำม (1) (2) (4) (5) (6) (7) และ (8) ให้เบิกจ่ำยโดยตรง ส่วนรำยกำรตำม (3) ให้โอนไปตัง้ จำ่ ยในงบประมำณรำยจ่ำยงบบุคลำกรของหนว่ ยรับงบประมำณ ข้อ 31 หน่วยรับงบประมำณใดมีควำมจำเป็นต้องขอรับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำย งบกลำงรำยกำรใด นอกจำกรำยกำรตำมข้อ 30 ให้ขอทำควำมตกลงกับสำนักงบประมำณ โดยให้แสดง เหตุผลควำมจำเป็นท่ีจะต้องใช้จ่ำย รำยละเอียดและจำนวนงบประมำณที่จะขอใช้ และยื่นคำขออนุมัติ งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงพร้อมกับแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณเป็นรำยเดือน พร้อมทงั้ ระบุสำนกั เบิกทีจ่ ะเบิกจำ่ ยด้วย ท้ังน้ี เม่ือสำนักงบประมำณได้ให้ควำมตกลงในกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย งบกลำงรำยกำรใดแล้ว จะจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงรำยกำรนั้นให้หน่วยรับงบประมำณที่สำนัก เบิกท่ีขอรับกำรจัดสรรงบประมำณ โดยให้หัวหน้าหน่วยรับงบประมาณที่ได้รับอนุมัติให้ใช้งบประมำณ รำยจ่ำยงบกลำงใดแล้วตอ้ งรับผิดชอบในกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงรำยกำรนั้นใหเ้ ป็นไปด้วย ควำมเรียบร้อยอย่ำงมีประสิทธิภำพ โปร่งใส คุ้มค่ำ เป็นประโยชน์อย่ำงแท้จริงต่อกำรบริหำรรำชกำ ร แผ่นดิน และจะต้องเป็นกำรรักษำวินัยทำงกำรเงินกำรคลังของรัฐเช่นเดียวกับกำรบริหำรงบประมำณ รำยจ่ำยสำหรับหน่วยรับงบประมำณนัน้ ๆ ดว้ ย สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หน้ำ 59 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพิ่มประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ สำหรับกรณีของงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสารองจ่ายเพื่อกรณี ฉกุ เฉินหรือจาเป็น ถือเป็นเคร่อื งมือในกำรบริหำรจัดกำรของรัฐบำลให้สำมำรถใช้จ่ำยงบประมำณในกำร ดำเนินนโยบำยได้อย่ำงรวดเร็ว คล่องตัว และสำมำรถบริหำรจัดกำรในกำรแก้ไขปัญหำตำมสถำนกำรณ์ ท่อี ำจเกิดขึ้นได้ทันต่อสถำนกำรณ์ ดังนนั้ รำยจ่ำยงบกลำงดงั กล่ำวจึงไมม่ ีกำรกำหนดรำยละเอียดผลผลิต/ โครงกำร/กิจกรรม ตัวชี้วัด และแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณอย่ำงชัดเจน ทำให้ กำรติดตำมตรวจสอบผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนและกำรใช้จำ่ ยงบประมำณทำไดค้ ่อนขำ้ งยำก ดังนั้น เม่ือผู้ศึกษำได้ทำกำรศึกษำรูปแบบและแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณ รำยจ่ำยภำครัฐดงั กล่ำวข้ำงต้นแล้ว ทำให้ทรำบว่ำกำรบริหำรงบประมำณถือเป็นข้ันตอนท่ีสำคัญเพ่ือเป็นกำร นำเงินงบประมำณที่ได้รับอนุมัติจำกรฐั สภำไปใช้จ่ำยในกำรขบั เคลื่อนและพฒั นำประเทศให้เกิดประโยชน์ สูงสุด แต่หำกมีกำรบริหำรงบประมำณท่ีไม่เป็นไปตำมกฎ กติกำ ไม่มีหลักเกณฑ์ เง่ือนไข และข้ันตอน ที่เหมำะสมแล้ว ก็อำจทำให้กำรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกำรพัฒนำ ประเทศ ประกอบกับในปัจจุบันบริบททำงเศรษฐกิจ สังคม และกำรเมืองของไทยมีกำรเปลี่ยนแปลง อยำ่ งต่อเนื่อง รวมท้ังปัญหำของหน่วยงำนของรัฐท่ีขอรับหรอื ได้รบั จดั สรรงบประมำณรำยจ่ำยในเร่ืองของ กำรบริหำรงบประมำณก็มีควำมหลำกหลำยและซับซ้อนมำกขึ้น จำกกรณีดังกล่ำวจะเห็นได้ว่ำในช่วง ที่ผ่ำนมำหน่วยงำนกลำงท่ีเกี่ยวข้องได้มีควำมตระหนักและเตรียมกำรรองรับกำรเปลี่ยนแปลงจำกบริบท ท่ีเกิดขึ้น โดยมีกำรออกมำตรกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีตั้งแต่ ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 จนถึงปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 เพ่ือเป็นเคร่ืองมือในกำรควบคุมกำรใช้จ่ำย งบประมำณแผ่นดินอย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยมีกำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณภำครัฐ ในภำพรวมเป็นรำยไตรมำส และสิ้นปีงบประมำณ รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์แนวทำงกำรดำเนินกำร เก่ียวกับกำรบ ริหำรงบประมำณให้ทุกส่วนร ำชกำรถือปฏิ บัติเพื่ อเร่งรัด กำรเบิ กจ่ำยงบประมำณของ ส่วนรำชกำรต่ำงๆ ให้เป็นไปตำมเป้ำหมำย โดยวัตถุประสงค์ของกำรกำหนดมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพ กำรใชจ้ ่ำยงบประมำณของรฐั บำลก็เพื่อ 1) ให้กำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครัฐเป็นปัจจัยสนับสนุนกำรขยำยตัวทำงเศรษฐกิจ ของประเทศ 2) เรง่ รัดกำรใชจ้ ่ำยให้เป็นไปตำมแผนกำรปฏบิ ตั ิงำนและแผนกำรใช้จำ่ ยงบประมำณ 3) นำไปใช้ในกำรวำงแผนเร่งรัดเตรียมควำมพร้อม จัดลำดับควำมสำคัญของรำยกำร/ โครงกำร 4) ติดตำมและรำยงำนผลให้รัฐบำลใช้ประกอบกำรตัดสินใจปรับปรุงหรือเปล่ียนแปลง รำยกำรใหเ้ หมำะสมตำมสถำนกำรณ์ 5) ใชเ้ ปน็ ข้อมลู ประกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณรำยจ่ำยในปีงบประมำณต่อไป อย่ำงไรก็ตำม แม้ว่ำรัฐบำล หน่วยงำนกลำงท่ีเกี่ยวข้อง และหน่วยรับงบประมำณ ได้มีกำรเตรียมควำมพร้อมในกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีให้เป็นไปตำม แผนฯ และเป้ำหมำยที่กำหนดแล้วก็ตำม แต่ก็ยังพบประเด็นปัญหำอุปสรรคบำงประกำรที่อำจส่งผล กระทบตอ่ กำรบริหำรงบประมำณรำยจำ่ ยของประเทศ ผศู้ กึ ษำจึงไดส้ รปุ ประเด็นข้อคน้ พบจำกกำรศึกษำ ดังนี้ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 60 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพ่มิ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ขอ้ คน้ พบจาการศกึ ษา 1. การเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลแผน/ผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ ระบบ BB EvMIS ของสานกั งบประมาณ กบั ระบบ GFMIS ของกรมบญั ชกี ลาง จำกกำรศึกษำข้อมูลและกำรสัมภำษณ์หน่วยงำนกลำงท่ีเก่ียวข้องพบว่ำ ภำยหลังจำกที่ พระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีประกำศใช้บังคับ หน่วยรับงบประมำณต้องปรับและ/หรือ แก้ไขวงเงินงบประมำณตำมแผนฯ ให้สอดคล้องกับวงเงินงบประมำณท่ีได้รับจัดสรรตำมพระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ในระบบ BB EvMIS ส่งให้สำนักงบประมำณพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ ไม่น้อยกว่ำสิบห้ำวันก่อนวันเริ่มต้นปีงบประมำณ และเม่ือได้รับอนุมัติเงินจัดสรรจำกสำนักงบประมำณ ให้ไปตำมแผนฯ แล้ว กรมบัญชีกลำงจะต้องติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณของทุกห น่วยรับ งบประมำณให้เป็นไปตำมแผนฯ ที่ได้ตกลงกับสำนักงบประมำณ แต่จำกกำรสัมภำษณ์กลับพบว่ำ ในช่วง ท่ีผ่ำนมำภำยหลังจำกที่สำนักงบประมำณอนุมัติเงินจัดสรรให้หน่วยรับงบประมำณตำมแผนฯ แล้ว สำนักงบประมำณจะทำกำร Mapping แผนดังกล่ำว เข้ำสู่ระบบกำรบริหำรกำรเงินกำรคลังภำครัฐ แบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) ของกรมบัญชีกลำง แต่หำกในระหว่ำงปีงบประมำณหน่วยรับงบประมำณ มีกำรปรับปรุงแผนฯ สำนักงบประมำณจะจัดส่งเพียงสำเนำเอกสำรกำรปรับปรุงแผนฯ ให้กับ กรมบัญชีกลำงเท่ำนั้น จึงทำให้ในระบบ GFMIS ไม่ปรำกฏข้อมูลกำรปรับปรุงแผนดังกล่ำว เพื่อใช้ในกำร ติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยของหนว่ ยรับงบประมำณให้เป็นไปตำมแผนฯ และเป้ำหมำย ท่ีกำหนดได้ เนื่องจำกระบบ BB EvMIS เป็นระบบฐำนข้อมูลกำรรำยงำนฯ ของสำนักงบประมำณ ซ่ึงยัง ไม่สำมำรถเชื่อมโยงกับระบบรำยงำนของหนว่ ยงำนกลำงอื่นๆ ท่ีมกี ำรรำยงำนผลในมิติดำ้ นกำรปฏิบัติงำน และกำรใช้จ่ำยงบประมำณ อำทิ ระบบกำรบริหำรกำรเงินกำรคลังภำครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) โดยกรมบัญชีกลำง ระบบติดตำมและประเมินผลแห่งชำติ (eMENSCR) โดยสำนักงำนสภำพัฒนำ กำรเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชำติ เปน็ ต้น นอกจำกนี้ จำกกำรสัมภำษณ์กรมบัญชกี ลำงพบวำ่ จำกประเดน็ ขอ้ ค้นพบดังกล่ำวข้ำงต้น ทำให้ในปัจจุบันกรมบัญชีกลำงได้มีกำรพัฒนำระบบในกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย ของหนว่ ยรับงบประมำณที่ได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินที่สูงและมีผลกำรเบิกจ่ำย งบประมำณต่ำกว่ำเป้ำหมำยที่กำหนด รวมทั้งได้มีกำรจัดตั้งคณะทำงำนเฉพำะกิจขึ้นมำท้ังในส่วนกลำง และส่วนภูมิภำค โดยส่วนกลำงมีจำนวน 64 ทีม ซ่ึงตั้งจำกข้ำรำชกำรระดับชำนำญกำรพิเศษ และ ส่วนภูมิภำคมีสำนักงำนคลังเขต จำนวน 9 เขต และสำนักงำนคลังจังหวัด จำนวน 76 จังหวัด โดย ทำหน้ำท่ีในกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยในภำพรวมและรำยจ่ำยลงทุน ตลอดจน ประสำนงำนโดยตรงกับหน่วยรับงบประมำณดังกล่ำว เพื่อให้กำรเบิกจ่ำยงบประมำณเป็นไปตำมแผนฯ และเปำ้ หมำยท่ีรฐั บำลกำหนด ขอ้ คิดเหน็ ของสานกั งบประมาณของรฐั สภา จำกกำรศึกษำข้อมลู และกำรสมั ภำษณ์หน่วยงำนกลำงทเี่ กี่ยวขอ้ ง ผ้ศู ึกษำเห็นว่ำถึงแม้ว่ำ สำนักงบประมำณและกรมบัญชีกลำงจะมีวัตถุประสงค์ของกำรติดตำมประเมินผลและเร่งรัดกำรใช้จ่ำย งบประมำณท่ีแตกต่ำงกันไปตำมภำรกิจของหน่วยงำนก็ตำม แต่ทั้งสองหน่วยงำนดังกล่ำวก็มีบทบำทและ หน้ำทหี่ ลกั ในกำรบริหำรงบประมำณรำยจำ่ ยในภำพรวมของท้ังประเทศในฐำนะทีเ่ ป็นหนว่ ยงำนกลำงของ รัฐบำล ดังนั้น หำกระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศยังขำดควำมเป็นเอกภำพ ต่ำงคนต่ำงทำและไม่สำมำรถ เช่ือมโยงกันได้ ก็จะทำให้กำรติดตำมประเมินผลและกำรรำยงำนผลควำมสำเร็จของกำรดำเนินงำนจำก สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หน้ำ 61 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ กำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณเป็นไปได้ยำกและข้อมูลอำจมีควำมคำดเคลื่อนหรื อ ไม่เป็นปัจจุบัน ถึงแม้ว่ำสำนักงบประมำณจะได้มีกำรนำเคร่ืองมือต่ำงๆ มำใช้ในกำรติดตำมประเมินผล กำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณเพ่ือกำรวัดผลสัมฤทธ์ิหรือประโยชน์ ท่ีได้รับจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณ (ก่อน/ระหว่ำง/หลัง) อำทิ เครื่องมือวิเครำะห์ระดับควำมสำเร็จของ กำรดำเนินงำนของกำรใช้จ่ำยงบประมำณ PART ระบบ BB EvMIS และกำรรำยงำนผลตำมมำตรกำร เพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณ เป็นต้น มำใช้ในกำรติดตำมและประเมินผลกำรดำเนินงำนและ กำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณอย่ำงต่อเนื่องแล้วก็ตำม แต่ก็ยังไม่ประสบควำมสำเร็จ เทำ่ ทีค่ วร จำกประเด็นข้อคน้ พบทก่ี ลำ่ วขำ้ งตน้ ผู้ศกึ ษำจึงมีข้อคิดเห็นวำ่ 1) ควรมีกำรเช่ือมโยงระบบต่ำงๆ ภำยในสำนักงบประมำณให้เป็นฐำนข้อมูลเดียวกัน ทง้ั ในสว่ นของระบบ e-Budgeting ระบบ BB EvMIS และระบบอ่ืนๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกับงบประมำณ 2) ในอนำคตควรมีกำรบูรณำกำรระบบฐำนข้อมูลของหน่วยงำนกลำงอื่นๆ ท่ีมีกำร รำยงำนผลในมิติด้ำนผลกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณ อำทิ ระบบ e-Budgeting ระบบ BB EvMIS โดยสำนักงบประมำณ ระบบ GFMIS โดยกรมบญั ชกี ลำง และระบบ eMENSCR โดยสำนกั งำน สภำพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ให้เป็นฐำนข้อมูลเดียวกัน เพ่ือให้ข้อมูลมีควำมเป็นเอกภำพ และสำมำรถรองรบั กำรใชป้ ระโยชนข์ องทุกภำคสว่ นภำยใตม้ ำตรฐำนเดยี วกนั ได้อยำ่ งสมบูรณ์ย่งิ ขึ้น 3) ควรมีกำรสำรวจหรือรับฟังควำมคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ใช้ระบบต่ำงๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับงบประมำณเพ่ือนำมำปรับปรุงระบบต่ำงๆ ให้มีประสิทธิภำพยิ่งขึ้น ซ่ึงจะนำไปสู่กำรบริหำร งบประมำณรำยจำ่ ยที่มปี ระสทิ ธภิ ำพอย่ำงแทจ้ รงิ ต่อไป 2. การกาหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณตามมาตรการเพ่ิมประสิทธิภาพ การใช้จา่ ยงบประมาณรายจา่ ยประจาปี จำกกำรศึกษำข้อมูลและกำรสัมภำษณ์หน่วยงำนกลำงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหน่วยรับ งบประมำณที่ได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินที่สูง พบว่ำ กำรกำหนดเป้ำหมำย กำรเบิกจ่ำยงบประมำณตำมมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ในช่วง ก่อนงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี พ.ศ. 2557 มีกำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณ โดยคณะกรรมกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครัฐ และมีองค์ประกอบของคณะกรรมกำรฯ ซ่ึงมำจำกหน่วยงำนที่ได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินท่ีสูง อำทิ กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ กระทรวงคมนำคม กระทรวงมหำดไทย กระทรวงสำธำรณสุข กระทรวงศึกษำธิกำร กระทรวงกลำโหม เป็นต้น และหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องเข้ำมำมีสว่ นร่วมในกำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบกิ จ่ำย งบประมำณเพื่อให้เกิดกำรผลักดันในเชิงปฏิบัติงำนได้อย่ำงแท้จริง เน่ืองจำกเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยตรงจำกกำรปฏิบัติงำน แต่ภำยหลังจำกท่ีคณะรักษำควำมสงบแห่งชำติ (คสช.) เขำ้ มำบริหำรประเทศ ในช่วงปลำยปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 หน่วยงำนกลำงท่ีเกี่ยวข้องก็ได้เสนอมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพ กำรใช้จ่ำยงบประมำณเพ่ือเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณต่อคณะรัฐมนตรี โดยเป็นกำรพิจำรณำทบทวน จำกเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยและผลกำรเบิกจ่ำยในช่วงปีที่ผ่ำนมำ รวมถึงได้พิจำรณำศักยภ ำพและ ควำมพร้อมในกำรดำเนินงำนของหน่วยงำน แต่ไม่มีผู้แทนหน่วยงำนดังกล่ำวมำเข้ำร่วมกำหนดเป้ำหมำย กำรเบิกจ่ำยงบประมำณในแต่ละไตรมำสฯ โดยมีเพียงได้ดำเนินกำรจัดประชุมซักซ้อมควำมเข้ำใจ ตำมมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีโดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทุน ให้แก่ หนว่ ยรบั งบประมำณเท่ำน้นั ซึ่งจำกกำรสัมภำษณ์ผู้บรหิ ำรและเจ้ำหนำ้ ที่ผู้ปฏบิ ัติของหนว่ ยรบั งบประมำณ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 62 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพิม่ ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ พบว่ำ งบประมำณท่ีหน่วยรับงบประมำณไดร้ ับจัดสรรส่วนใหญ่เป็นงบประมำณในลักษณะรำยจำ่ ยลงทุน ถึงร้อยละ 80 – 90 ของงบประมำณทั้งหมด และกำรเบิกจ่ำยงบประมำณจะเป็นไปตำมงวดงำน งวดเงิน และเง่ือนไขกำรจ่ำยเงินตำมสัญญำ จึงทำให้กำรกำหนดแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำย งบประมำณตำมมำตรกำรฯ ดังกล่ำว ไมไ่ ด้กำหนดใหส้ อดคล้องกบั ควำมเปน็ จริง ทั้งนี้ อำจมีสำเหตุมำจำก กำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณตำมมำตรกำรฯ ดังกล่ำวในช่วงท่ีผ่ำนมำยังขำดกำรมี ส่วนร่วมของหน่วยงำนท่ีได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินที่สูง และหน่วยงำน ท่ีเกี่ยวข้องเข้ำมำมีส่วนร่วมในกำรกำหนดเป้ำหมำยฯ จึงทำให้ต้องมีกำรปรับปรุงแผนฯ ในระหว่ำง ปงี บประมำณในช่วงระยะเวลำท่ผี ำ่ นมำคอ่ นขำ้ งมำก ขอ้ คดิ เหน็ ของสานักงบประมาณของรฐั สภา 1) กำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณในแต่ละไตรมำส โดยเฉพำะเป้ำหมำย รำยจ่ำยลงทุน ควรเป็นกำรกำหนดร่วมกันระหว่ำงหน่วยงำนกลำงที่เกี่ยวข้องกับผู้แทนจำกหน่วยงำน ที่ได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินท่ีสูง เพ่ือให้กำรจัดทำแผนปฏิบัติงำนและแผนกำร ใช้จ่ำยงบประมำณตำมมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณ ใกล้เคียงกับกำรปฏิบัติงำนจริง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้จำกกำรสัมภำษณ์กรมบัญชีกลำง พบว่ำในช่วง ก่อนปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 กำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณของทุกปีจะกำหนดโดย คณะกรรมกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครัฐ ซ่ึงจะมีกำรหำรือร่วมกันของคณะกรรมกำรฯ ทั้งประธำนกรรมกำรที่กำกับดูแลกระทรวงกำรคลัง (ด้ำนเศรษฐกิจ) และกรรมกำรที่มำจำกหน่วยงำน ท่ีได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินท่ีสูง รวมทั้งสำนักงบประมำณกับกรมบัญชีกลำง ในฐำนะหน่วยงำนกลำงของรัฐบำล ทำหน้ำท่ีเป็นกรรมกำรและเลขำนุกำรร่วม โดยได้เข้ำมำมีบทบำท ร่วมกันในกำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณดังกล่ำว แต่ในปัจจุบันกำรกำหนดเป้ำหมำย กำรเบกิ จ่ำยงบประมำณจะเป็นกำรกำหนดโดยหนว่ ยงำนกลำงเพียงฝ่ำยเดียว จึงอำจทำให้กำรจัดทำแผน ตำมมำตรกำรฯ ดังกล่ำวไม่สอดคล้องกับกำรปฏิบัติงำนจริงของหน่วยงำน ดังน้ัน หำกสถำนกำรณ์ ทำงกำรเมืองเข้ำสู่ระบบปกติแล้ว ควรมีกำรนำจุดอ่อนจุดแข็ง และปัญหำอุปสรรคที่เกิดขึ้นในช่วง ระยะเวลำท่ีผ่ำนมำ มำพิจำรณำทบทวนและวิเครำะห์เพ่ือหำแนวทำงกำรเร่งรัดติดตำมกำรใช้จ่ำย งบประมำณภำครัฐให้มีประสิทธิภำพมำกยิง่ ขึ้นตอ่ ไป 2) รัฐบำลมีหน้ำท่ีในกำรเสนองบประมำณรำยจ่ำยประจำปีต่อรัฐสภำเพ่ือพิจำรณำอนุมัติ และเมื่อได้รับอนุมัติและตรำออกมำเป็นพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพ่ือใช้บังคับแล้ว ซึ่งถือเป็นกฎหมำยหรือข้อผูกพันท่ีรัฐบำลจะต้องปฏิบัติตำมท่ีได้แถลงนโยบำยต่อรัฐสภำไว้ แต่ในช่วง ที่ผ่ำนมำจะเห็นได้ว่ำภำยหลังจำกท่ีพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีประกำศใช้บังคับแล้ว กลับพบว่ำ ในระหว่ำงปีงบประมำณหน่วยรับงบประมำณส่วนใหญ่มีกำรปรับปรุงแผนกำรปฏิบัติงำนและ แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณให้สอดคล้องกับนโยบำยสำคัญของรัฐบำลและสถำนกำรณ์ท่ีเปลี่ยนแปลงไป คอ่ นข้ำงมำก ประกอบกับกำรเบิกจ่ำยงบประมำณในภำพรวมโดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทุนไม่เป็นไปตำมแผนฯ และเป้ำหมำยที่รัฐบำลกำหนด จนนำไปสู่กำรขอกันเงินงบประมำณไว้เบิกเหลื่อมปี และขอขยำย ระยะเวลำกำรเบิกจำ่ ยเงนิ งบประมำณ จำกกรณีดงั กลำ่ วผศู้ ึกษำเห็นวำ่ ภำยหลังจำกท่ีพระรำชบัญญัตงิ บประมำณรำยจ่ำยประจำปี ประกำศใชบ้ งั คบั หำกหนว่ ยรบั งบประมำณมีควำมจำเปน็ ตอ้ งโอนงบประมำณรำยจำ่ ย โอนเงนิ จัดสรรหรือ เปล่ียนแปลงเงินจัดสรรในระหว่ำงปีงบประมำณ รัฐบำลควรมีกำรรำยงำนผลกำรใช้งบประมำณแผ่นดิน สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 63 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ในกรณีที่มีกำรโอนหรือนำรำยจ่ำยตำมงบประมำณท่ีกำหนดไว้ในรำยกำรใดตำมกฎหมำยว่ำด้วย งบประมำณรำยจ่ำยภำยใต้แผนฯ ไปใช้ในรำยกำรอ่ืนของหน่วยรับงบประมำณให้รัฐสภำทรำบเป็นรำยไตรมำส และสรุปเป็นรำยงำนประจำปีหลังสิ้นปีงบประมำณ เพื่อให้ฝ่ำยนิติบัญญัติได้รับทรำบกำรใช้งบประมำณ รำยจ่ำยและกำรโอนงบประมำณรำยจ่ำยในแต่ละปีงบประมำณ นอกจำกน้ี ควรมีกำรนำผลกำรใช้จ่ำย ในปีงบประมำณท่ีผ่ำนมำ ใช้เป็นข้อมูลประกอบกำรพิจำรณำอนุมัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ในปถี ดั ไปดว้ ย 3. การบริหารงบประมาณรายจ่ายภายใต้มาตรการต่างๆ ของรัฐบาล จำกกำรศึกษำข้อมลู และกำรสัมภำษณ์หนว่ ยรบั งบประมำณพบว่ำ ในช่วงระยะเวลำท่ีผ่ำนมำ ตั้งแต่ปลำยปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 จนถึงปีปัจจุบัน รัฐบำลได้พยำยำมเพิ่มประสิทธิภำพกำรเบิกจ่ำย งบประมำณโดยออกมำตรกำรเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณโดยเฉพำะกำรเร่งรัดรำยจ่ำยลงทุนที่มี แนวทำงชัดเจน และเข้มงวดมำกข้ึนอย่ำงต่อเน่ือง รวมทั้งมีกำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยทั้งใน ภำพรวมและเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยรำยจ่ำยลงทุนให้สูงขึ้นทุกปี เพ่ือเป็นกำรกระตุ้นให้มีเม็ดเงินไหลเข้ำสู่ ระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มำกยิ่งข้ึน แต่จำกกำรสัมภำษณ์ผู้บริหำรและเจ้ำหน้ำที่ผู้ปฏิบัติของ หน่วยรับงบประมำณท่ีได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินท่ีสูงพบว่ำ จำกมำตรกำร เพิ่มประสิทธิภำพท่ีรัฐบำลประกำศใช้ดังกล่ำว ส่วนใหญ่สำมำรถช่วยเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณ ของหน่วยงำนท่ีได้รับงบประมำณในลักษณะรำยจ่ำยประจำ และหน่วยงำนที่ได้รับงบประมำณรำยจ่ำย ลงทุนประเภทดำเนินกำรปีเดียว รวมทั้งหน่วยงำนท่ีได้รับงบประมำณไปบริหำรจัดกำรเองทั้งจำนวน แตย่ ังไม่สำมำรถช่วยเรง่ รัดกำรก่อหนี้ผกู พัน และกำรเบกิ จ่ำยงบประมำณของหนว่ ยรบั งบประมำณท่ีไดร้ ับ จัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินที่สูงโดยเฉพำะรำยกำรผูกพันข้ำมปีงบประมำณให้เป็นไป ตำมเป้ำหมำยท่ีกำหนดไว้ในมำตรกำรฯ ได้ เนื่องจำกกำรดำเนินงำนของหน่วยงำนส่วนใหญ่จะเป็น โครงกำรก่อสร้ำงขนำดใหญ่ ซ่ึงคำดว่ำจะสำมำรถก่อหนี้ผูกพันได้ภำยหลังไตรมำสท่ี 2 จำกกรณีดังกล่ำว อำจส่งผลกระทบต่อกระบวนกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงท่ีอำจต้องขยำยระยะเวลำออกไป และยังอำจส่งผลทำให้ กำรเบิกจำ่ ยงบประมำณมคี วำมลำ่ ชำ้ มำกย่งิ ขึ้นอีกดว้ ย 4. การนาผลรายงานการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณจากระบบ BB EvMIS มาเป็นข้อมูลประกอบการพจิ ารณาจดั ทางบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณถดั ไป จำกกำรศึกษำข้อมูลและกำรสัมภำษณ์หน่วยงำนกลำงที่เกี่ยวข้องพบว่ำ ในช่วงที่ผ่ำนมำ สำนักงบประมำณได้มีกำรติดตำมและประเมินผลควำมก้ำวหน้ำในกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำย งบประมำณท่ีครอบคลุมในระดับผลผลิต/โครงกำร กิจกรรมและรำยกำรท่ีได้รับจัดสรรงบประมำณ รำยจ่ำยประจำปีทั้งก่อนกำรจัดสรรงบประมำณ ระหว่ำงกำรใช้จ่ำยงบประมำณ และภำยหลังกำรใช้จ่ำย งบประมำณ โดยใหท้ ุกหน่วยรับงบประมำณรำยงำนผลกำรปฏิบัตงิ ำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปีงบประมำณตำมเป้ำหมำยหรือตัวช้ีวัดท่ีกำหนดไว้ พร้อมทั้งระบุปัญหำ อุปสรรค และแนวทำง แก้ไขในระบบฐำนขอ้ มลู แผน/ผลกำรปฏบิ ตั งิ ำนและกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณ (BB EvMIS) เมอื่ สิ้นระยะเวลำ ในแตล่ ะไตรมำส ภำยในสิบหำ้ วนั นับแตว่ นั สิ้นไตรมำส และจัดทำรำยงำนประจำปีภำยในสส่ี ิบหำ้ วันนบั แต่ วันสิ้นปีงบประมำณ ส่งให้สำนักงบประมำณ สำหรับกำรรำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำย งบประมำณของแผนงำนบูรณำกำร กำหนดให้หน่วยรับงบประมำณท่ีเป็นเจ้ำภำพหลักจัดทำรำยงำนฯ ส่งให้สำนักงบประมำณภำยในสบิ หำ้ วนั นับแตว่ นั สิน้ ไตรมำส สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หน้ำ 64 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพ่ิมประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ แต่จำกกำรศึกษำข้อมูลผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณย้อนหลัง 5 ปีงบประมำณ (พ.ศ. 2557-2561) จำกระบบ GFMIS กลับพบว่ำ ผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณในภำพรวม และรำยจ่ำย ลงทุนส่วนใหญ่ตำ่ กวำ่ เปำ้ หมำยท่ีกำหนด นอกจำกนี้ยังพบอีกวำ่ มีกำรตรำพระรำชบัญญัติโอนงบประมำณ รำยจ่ำวยมำอย่ำงต่อเนื่องต้ังแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2558-2561 จำกกรณีดังกล่ำวย่อมสะท้อนให้เห็นว่ำ ถึงแม้สำนักงบประมำณจะได้มีกำรนำเคร่ืองมือต่ำงๆ อำทิ ระบบฐำนข้อมูลแผน/ผลกำรปฏิบัติงำนและกำร ใช้จำ่ ยงบประมำณ (BB EvMIS) มำใช้ในกำรติดตำมประเมนิ ผลกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ของหน่วยรับงบประมำณ รวมท้ังติดตำมปัญหำอุปสรรคของหน่วยรับงบประมำณต่ำงๆ อย่ำงต่อเน่ือง ประกอบกับไดม้ ีกำรรบั ฟังควำมคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วกต็ ำม แตจ่ ำกกำรศึกษำข้อมูลที่ผ่ำนมำพบว่ำ สำนักงบประมำณมีกำรนำผลกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณจำกระบบ BB EvMIS มำใช้เป็น ข้อมูลประกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีในปีถัดไปค่อนข้ำงน้อย ทำให้หน่วยรับ งบประมำณที่ยังไม่มีควำมพร้อมในกำรดำเนินงำนโดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทุน ได้รับจัดสรรงบประมำณ เช่นเดิม และปัญหำที่ตำมมำทำให้ไม่สำมำรถก่อหน้ีผูกพันได้ทันภำยในปีงบประมำณ รวมท้ังไม่สำมำรถ เบิกจ่ำยงบประมำณได้ตำมแผนฯ และเปำ้ หมำยท่ีรัฐบำลกำหนด ต่อมำภำยหลังจำกพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ประกำศใช้บังคับ เมื่อวันท่ี 12 พฤศจิกำยน 2561 สำนักงบประมำณจึงมีหนังสือสำนักงบประมำณ ด่วนท่ีสุด ท่ี นร 0729.1/ว 51 ลงวันท่ี 12 กุมภำพันธ์ 2562 แจ้งหลักเกณฑ์วิธีกำรติดตำมและประเมินผลตำมแผนกำรปฏิบัติงำนและ แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหนว่ ยรับงบประมำณ เพื่อให้หน่วยรับงบประมำณมีระบบกำรติดตำมและ ประเมินผลเป็นไปตำมบทบัญญัติแห่งพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 โดยกำหนดให้ หน่วยรบั งบประมำณดำเนนิ กำร ดงั น้ี 1) ทบทวนและปรับปรุงเป้ำหมำย ผลผลิต/โครงกำร กิจกรรม ตัวช้ีวัดผลสำเร็จ ผลสัมฤทธิ์ และประโยชน์ที่ได้รับจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณในปีท่ีขอต้ังงบประมำณให้มีควำมสอดคล้อง เชื่อมโยงกับยุทธศำสตร์ชำติ (พ.ศ. 2561-2580) แผนแม่บทภำยใต้ยุทธศำสตร์ชำติ แผนกำรปฏิรูป ประเทศ แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชำติ และแผนแม่บทอน่ื ๆ 2) ศึกษำวิเครำะห์ควำมเสี่ยงตำมหลักธรรมำภิบำล แผนงำน/โครงกำรที่สำคัญตำม นโยบำยของรัฐบำลเพ่ือวิเครำะห์ควำมคุ้มค่ำของโครงกำรให้มีควำมครอบคลุมในทุกมิติและต้องมีกำร วิเครำะห์ระดับควำมสำเร็จในกำรดำเนินงำนจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณ PART ตำมระบบงบประมำณ แบบมุ่งเน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ ตลอดจนวิเครำะห์ควำมเหมำะสมของโครงกำรก่อนกำรขอรับจัดสรร งบประมำณ และจัดส่งผลกำรวิเครำะห์ดังกล่ำวมำพร้อมคำขอต้ังบประมำณรำยจ่ำยประจำปี เพ่ือสำนัก งบประมำณนำไปประกอบกำรพิจำรณำจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี 3) รำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ ตำมเป้ำหมำยหรอื ตวั ชี้วดั ทีก่ ำหนดไว้ หรือตำมท่ีได้ตกลงกับสำนกั งบประมำณภำยใต้แผนฯ พร้อมท้ังระบุ ปัญหำ อุปสรรค แนวทำงแก้ไข และจัดส่งในระบบ BB EvMIS เมื่อส้ินระยะเวลำในแต่ละไตรมำสภำยใน สิบห้ำวันนับแต่วันสิ้นไตรมำส และรำยงำนผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยในปีงบประมำณที่สิ้นสุด รวมทง้ั ผลกำรปฏิบตั งิ ำนต่อสำนกั งบประมำณภำยในส่ีสบิ ห้ำวนั นบั แต่วันสน้ิ ปงี บประมำณ 4) รำยงำนผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ท่ีได้รับจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณ และจัดส่ง ในระบบ BB EvMIS เมื่อสน้ิ ระยะเวลำในแต่ละไตรมำสภำยในสำมสบิ วันนับแต่วันส้ินไตรมำส และรำยงำน ผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ท่ีได้รับจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณประจำปีภำยในส่ีสิบห้ำวันนับแต่วันสิ้น ปีงบประมำณ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 65 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ทั้งน้ี หำกกำรประเมินผลสัมฤทธิ์ของกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับ งบประมำณใดไม่ได้ตำมเป้ำหมำยหรือตัวช้ีวัดที่กำหนด ผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณจะจัดทำ ข้อเสนอแนะกำรปรบั ปรุงแก้ไขเพื่อให้หน่วยรับงบประมำณปรับปรุงแกไ้ ขภำยในระยะเวลำทกี่ ำหนด และ รำยงำนรัฐมนตรีเจ้ำสังกัดหรือรัฐมนตรีซ่ึงกฎหมำยกำหนดให้มีหน้ำ ท่ีกำกับหรือควบคุมกิจกำรของ หน่วยรับงบประมำณ หรือรัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมกฎหมำยทรำบ และในกรณีท่ีหน่วยรับงบประมำณ ไม่สำมำรถปรับปรุงแก้ไขภำยในระยะเวลำท่ีกำหนดผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณจะรำยงำนต่อ คณะรัฐมนตรีเพ่ือส่ังกำร นอกจำกนี้ ตำมหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่ำวยังกำหนดให้สำนักงบประมำณจัดทำ รำยงำนสรุปผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี และผลสัมฤทธ์ิหรือ ประโยชน์ท่ีได้รับจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณเสนอตอ่ คณะรัฐมนตรีภำยในเก้ำสิบวัน นับแต่วันส้ินปีงบประมำณ ประกอบกับจัดทำรำยงำนสรุปกำรโอนเปล่ียนแปลงงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปี กำรโอนงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงระหว่ำงรำยกำร กำรโอนงบประมำณแผนงำนบูรณำกำร และกำรโอนงบประมำณงบบุคลำกรระหว่ำงหน่วยรับงบประมำณเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อรำยงำนต่อ รัฐสภำภำยในสำมสบิ วันนบั แต่วนั สิ้นปงี บประมำณ และจำกกรณที ่สี ำนกั งบประมำณได้กำหนดหลักเกณฑ์ ให้หน่วยรับงบประมำณถือปฏิบัติดังกล่ำวมคี วำมสอดคล้องกับกำรติดตำมและประเมินผลกำรดำเนินงำน และกำรใช้จ่ำยงบประมำณของประเทศสหรัฐอเมริกำ เกำหลีใต้ และญ่ีปุ่น ซึ่งได้ให้หน่วยงำนดำเนินกำร ประเมนิ ผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณด้วยตนเอง (Self Assessment) เพ่ือใหห้ นว่ ยงำนแสดงควำมรบั ผิดชอบ ในผลกำรดำเนินงำนของตนเอง อีกท้ังยังเป็นกำรช่วยผลักดันให้หน่วยงำนปรับปรุงและพัฒนำแผนงำน ของตนใหม้ ปี ระสทิ ธภิ ำพอยเู่ สมอ และตอ่ มำเมื่อวันที่ 31 กรกฎำคม 2562 ผอู้ ำนวยกำรสำนกั งบประมำณ ได้ประกำศใช้บงั คับ ระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ซึ่งบังคับใช้ทดแทนระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำร งบประมำณ พ.ศ. 2548 และท่แี กไ้ ขเพ่มิ เตมิ โดยตำมระเบียบฉบับนใี้ นข้อ 36 ได้กำหนดไว้อยำ่ งชัดเจนว่ำ “สำนักงบประมำณจะใช้ผลกำรปฏิบตั งิ ำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยมำประกอบกำรพจิ ำรณำ จัดทำงบประมำณรำยจ่ำยในปีงบประมำณต่อไปด้วย” จำกกรณีดังกล่ำวย่อมแสดงให้เห็นว่ำภำครัฐ ได้ตระหนักและเห็นถึงประโยชน์ในกำรติดตำมและประเมินผลกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ของหนว่ ยรบั งบประมำณเพ่ือนำมำใชป้ ระกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปมี ำกยง่ิ ข้ึน ขอ้ คดิ เหน็ ของสานักงบประมาณของรฐั สภา จำกผลกำรศึกษำข้ำงต้น ผู้ศึกษำเห็นว่ำหน่วยงำนกลำงที่เก่ียวข้อง และหัวหน้ำหน่วยรับ งบประมำณควรมีกำรพิจำรณำวิเครำะห์ข้อมูลเชิงลึกของแต่ละหน่วยงำนประกอบด้วย ตั้งแต่ข้ันตอน กำรทบทวนกำรวำงแผน กำรจัดทำคำของบประมำณท่ีมีควำมเหมำะสมสอดคล้องกับงบประมำณท่ีได้รับ รว มท้ังคว ร น ำผ ล สั มฤทธ์ิ ห รื อป ร ะโ ย ช น์ ที่จ ะได้ รั บของงำน ท่ีเ กิด ข้ึน จ ริ ง จ ำกกำร ใช้ จ่ ำย งบ ป ร ะมำณ ตลอดจนควรนำผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับงบประมำณ มำประกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีอย่ำงจริงจังมำกข้ึน เพ่ือให้เกิดประสิทธิภำพ และควำมคุ้มค่ำในกำรใช้จ่ำยงบประมำณย่ิงขึ้น ซึ่งมีควำมสอดคล้องกับข้อสังเกตของคณะกรรมำธิกำร วิสำมญั ฯ ปีงบประมำณ พ.ศ. 2559 ท่กี ำหนดให้กำรตดิ ตำมเร่งรัดกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณของส่วนรำชกำร ต่ำงๆ ควรมุ่งเน้นกำรประเมินผลในเชิงผลสัมฤทธ์ิของงำน/โครงกำรควบคู่กันไปเพื่อติดตำมควำมคุ้มค่ำ ในกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ลดควำมซ้ำซ้อน และสำมำรถนำผลกำรประเมินมำใช้เป็นข้อมูลสำหรับพิจำรณำ จดั ทำงบประมำณรำยจ่ำยในปีต่อไป และสอดคล้องกับข้อสังเกตฯ ของปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่กล่ำว ไว้ว่ำควรพจิ ำรณำควำมพร้อมแบบรูปรำยกำรในประเด็นต่ำงๆ และควรพจิ ำรณำควำมเหมำะสมอน่ื ๆ เช่น ผลกำรเบกิ จ่ำยงบประมำณ วงเงินผูกพันงบประมำณขำ้ มปี ควรสอดคล้องกบั ควำมสำมำรถในกำรเบิกจ่ำย ของแต่ละปี และควำมสำมำรถของหนว่ ยงำนในกำรนำเงนิ นอกงบประมำณมำสมทบด้วย สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หน้ำ 66 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 4.2 ผลการดาเนินงานและการใชจ้ ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปีที่ผ่านมา 4.2.1 ผลการดาเนนิ งานและการใชจ้ า่ ยงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ ข้อคน้ พบจากการศกึ ษา 1) จำกกำรศึกษำพบว่ำ เมื่อพิจำรณำโครงสร้ำงวงเงินงบประมำณรำยจ่ำยจะเห็นว่ำ รำยจ่ำยประจำซึ่งเป็นรำยกำรงบประมำณเพ่ือใช้ในกำรบริหำรงำนประจำ อำทิ เงินเดือน ค่ำจ้ำง ค่ำใช้จำ่ ยเพ่ือกำรจดั ซ้อื กำรบริกำร เป็นตน้ มีสัดส่วนมำกท่ีสุดในแตล่ ะปีงบประมำณ ทั้งนี้ สดั ส่วนรำยจ่ำย ประจำยอ้ นหลัง 5 ปงี บประมำณ (พ.ศ. 2557-2561) เฉล่ียคดิ เปน็ ร้อยละ 80.06 ซงึ่ มีอตั รำส่วนประมำณ 3 ใน 4 ของวงเงินงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี โดยเป็นไปตำมมำตรำ 20 (2) แห่งพระรำชบัญญัติวินัย กำรเงินกำรคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ซึ่งระบุให้งบประมำณรำยจ่ำยเกี่ยวกับบุคลำกรของรัฐและสวัสดิกำร ของบุคลำกรของรัฐต้องตั้งไว้อย่ำงเพียงพอ ในทำงกลับกันกำรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนภำครัฐ เพื่อสร้ำงควำมเติบโตทำงเศรษฐกิจและเพ่ือลงทุนในประโยชน์ระยะยำวด้ำนต่ำงๆ ของประเทศซึ่งเป็น สนิ ทรพั ย์ในลักษณะสะสมทุนของรัฐบำล มีสัดส่วนรำยจ่ำยลงทุนย้อนหลงั 5 ปีงบประมำณ (พ.ศ. 2557-2561) เฉล่ียคิดเป็นร้อยละ 19.94 โดยมีอัตรำส่วนประมำณ 1 ใน 5 ของวงเงินงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ซึ่งสอดรับกับมำตรำ 20 (1) แห่งพระรำชบัญญัติวินัยกำรเงินกำรคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่ระบุไว้ว่ำ งบประมำณรำยจ่ำยลงทุน ต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่ำร้อยละยี่สิบของงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี (รำยละเอียดตำมตำรำงที่ 5 และแผนภำพท่ี 1) ทง้ั นี้ จำกสัดส่วนรำยจ่ำยลงทุนท่ีภำครัฐจดั สรรใหใ้ นแต่ละ ปีน้ันหำกรัฐบำลสำมำรถดำเนินกำรเบิกจ่ำยได้อย่ำงเต็มประสิทธิภำพแล้ว ก็อำจสำมำรถช่วยกระตุ้น ให้มีเม็ดเงินไหลเข้ำสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศในภำพรวมได้เพียงระดับหนึ่งเท่ำนั้น ซ่ึงสอดคล้องกับ โสรัส สุขถำวร (2558) ที่กล่ำวไว้ว่ำ งบรำยจ่ำยลงทุนมีสัดส่วนประมำณร้อยละ 20 ของงบประมำณ รำยจ่ำยประจำปี หรือประมำณร้อยละ 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในขณะท่ีงบรำยจ่ำย ประจำซึ่งมีสัดส่วนประมำณร้อยละ 80 ของงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ดังนั้น กำรเร่งรัดกำรเบิกจ่ำย โดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทนุ ของสว่ นรำชกำรที่มีสัดส่วนประมำณร้อยละ 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หำกสำมำรถดำเนินกำรเบิกจ่ำยได้อย่ำงเต็มประสิทธิภำพ ก็อำจเป็นกำลังในกำรขับเคล่ือน เศรษฐกิจของประเทศได้ในระดับหนึ่งแม้อำจมิได้มีผลอย่ำงยิ่งยวด หรือมีนัยสำคัญต่อกำรขับเคลื่อน เศรษฐกิจของประเทศในภำพรวมก็ตำม 2) จำกกำรศึกษำข้อมูลรำยจ่ำยลงทุนจำกระบบ GFMIS ที่กรมบัญชีกลำงรำยงำน ย้อนหลัง 5 ปีงบประมำณ (พ.ศ. 2557-2561) พบว่ำ อัตรำกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนของ ปงี บประมำณ พ.ศ. 2561 อยู่ที่อัตรำร้อยละ 70.47 ใกลเ้ คียงกับปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2560 ที่มีอตั รำ ร้อยละ 65.82 73.92 75.55 และ 70.26 ตำมลำดับ (รำยละเอียดตำมตำรำงท่ี 12 และแผนภำพที่ 6) ถึงแม้ว่ำในช่วงที่ผำ่ นมำรัฐบำลจะออกมำตรกำรเร่งรดั กำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยงบลงทุนที่เข้มงวด โดยเฉพำะมำตรกำรเร่งรดั กอ่ หน้ีผูกพันซึ่งกำหนดระยะเวลำชดั เจนและมีกำรติดตำมอย่ำงต่อเน่อื ง รวมท้ัง ในปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 รัฐบำลยังคงพยำยำมเพ่ิมประสิทธิภำพกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปี โดยออกมำตรกำรด้ำนกำรงบประมำณเพื่อกำรขับเคล่ือนยุทธศำสตร์ชำติและแผนแม่บทท่ีมี แนวทำงชัดเจนและเป็นรูปธรรมมำกย่ิงขึ้น ประกอบกับรัฐบำลได้มอบหมำยให้สำนักงบประมำณ และ กรมบัญชีกลำงร่วมกันเร่งรัดติดตำมกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีโดยเฉพำะงบประมำณ รำยจ่ำยลงทุนแล้วก็ตำม ซึ่งสอดคล้องกับข้อสังเกตของคณะกรรมำธิกำรวิสำมัญฯ ปีงปบระมำณ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 67 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพิ่มประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ พ.ศ. 2560 ท่ีกำหนดให้หน่วยงำนต่ำงๆ ต้องเร่งรัดกำรดำเนินงำนและเบิกจ่ำยงบประมำณให้เป็นไปตำม เป้ำหมำยที่รัฐบำลกำหนดโดยเฉพำะจะต้องเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนให้เสร็จส้ิน โดยเร็ว แต่จำกข้อเท็จจริงกลับพบว่ำ ผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยในภำพรวม และรำยจ่ำยลงทุน ยังมีควำมล่ำช้ำกว่ำแผนฯ และไม่เป็นไปตำมเป้ำหมำยที่รัฐบำลกำหนดทุกไตรมำสอย่ำงต่อเน่ือง (รำยละเอยี ดตำมตำรำงท่ี 10) ซ่ึงจำกกรณีดังกล่ำวข้ำงต้น อำจมีสำเหตุมำจำกในช่วงท่ีผ่ำนมำรัฐบำลได้ออก มำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณท่ีได้มีกำรติดตำมเร่งรัดอย่ำงเข้มงวดมำอย่ำงต่อเน่ือง ทกุ ปี จึงทำให้หน่วยงำนเร่งทำสัญญำกำรจัดซื้อจัดจำ้ งให้แล้วเสร็จตำมระยะเวลำท่ีกำหนดไว้ก่อน แตด่ ้วย กำรเบิกจ่ำยเงนิ งบประมำณจะเป็นไปตำมงวดงำน งวดเงิน และเงื่อนไขกำรจำ่ ยเงนิ ตำมสัญญำ นอกจำกนี้ อำจเกิดจำกกรณีท่ีหน่วยงำนได้ใช้เงินงบประมำณที่กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี และขยำยเวลำเบิกจ่ำยเงิน ก่อนใช้เงินงบประมำณของปีปัจจุบัน จึงอำจทำให้ผลกำรเบิกจ่ำยเงินงบประมำณในช่วงปีที่ผ่ำนมำและปี ปัจจุบันล่ำช้ำ หรือมีอัตรำส่วนกำรเบิกจ่ำยงบประมำณท่ีใกล้เคียงกัน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลท่ีได้จำกกำร สัมภำษณ์หน่วยรับงบประมำณ พบว่ำมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณที่รัฐบำล ประกำศใช้ดังกล่ำว ส่วนใหญส่ ำมำรถชว่ ยเร่งรัดกำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณของหนว่ ยงำนท่ีได้รับงบประมำณ ในลักษณะรำยจ่ำยประจำ และหน่วยงำนที่ได้รับงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนประเภทดำเนินกำรปีเดียว รวมท้ังหน่วยงำนท่ีไดร้ ับงบประมำณไปบริหำรจัดกำรเองทั้งจำนวน แต่ยังไม่สำมำรถช่วยเร่งรัดกำรก่อหนี้ ผูกพัน และกำรเบิกจ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณท่ีได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุน ในจำนวนเงินที่สูงให้เป็นไปตำมเป้ำหมำยที่กำหนดไว้ในมำตรกำรฯ ได้ แม้ว่ำรัฐบำลจะพยำยำม ออกมำตรกำรเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนท่ีมีควำมเข้มงวดอย่ำงต่อเนื่องทุกปีแล้วก็ตำม จนเป็นเหตุทำให้รัฐบำลต้องจัดทำพระรำชบัญญัติโอนงบประมำณท่ีมีวงเงินค่อนข้ำงสูงมำอย่ำงต่อเนื่อง ตลอด 4 ปีที่ผ่ำนมำ (พ.ศ. 2558-2561) ท้ังนี้ อำจเกิดจำกปัญหำของหน่วยงำนที่ดำเนินกำรในข้ันตอน กำรจัดตั้งงบประมำณประจำปี โดยอำจจะไม่ได้ศึกษำควำมเป็นไปได้ว่ำงบประมำณที่ขอต้ังไปน้ัน จะสำมำรถนำมำใช้จ่ำยได้ทันภำยในปีงบประมำณหรือไม่ โดยส่วนใหญ่โครงกำร/รำยกำรท่ีขอตั้ง งบประมำณยงั ไม่มคี วำมพร้อมที่จะดำเนนิ กำรต้ังแต่ต้นปงี บประมำณ ซ่ึงสำเหตุเกิดจำกกระบวนกำรจดั ซ้ือ จัดจ้ำงมีควำมยุ่งยำกซับซ้อนทำให้งำนเกิดควำมล่ำช้ำและต้องขยำยระยะเวลำในกำรดำเนินงำนออกไป ทำให้ไม่สำมำรถก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภำยในไตรมำสท่ี 1 หรือไตรมำสท่ี 2 ได้ จึงทำให้กำรใช้จ่ำย งบประมำณของภำครฐั ในแตล่ ะปีไมส่ ำมำรถเปน็ ไปตำมแผนฯ และเป้ำหมำยท่ีรัฐบำลกำหนดไวไ้ ด้ 3) เม่ือพิจำรณำข้อมูลในกำรจัดเรียงลำดับกระทรวง/หน่วยงำนที่ได้รับจัดสรรงบ ประมำณรำยจ่ำยลงทุนเกิน 1,000 ล้ำนบำท และมีผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณสูงสุดและต่ำสุด 5 อันดับแรก จำกรำยงำนสรุปผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณย้อนหลัง 5 ปีงบประมำณ (พ.ศ. 2557-2561) ของระบบ GFMIS (รำยละเอียดตำมตำรำงท่ี 14) พบว่ำ กระทรวง/หน่วยงำนท่ีมีผลกำรเบิกจ่ำย งบประมำณรำยจ่ำยลงทุนสูงสุด ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยงำนท่ีมีกฎหมำยเฉพำะสำมำรถเบิกจ่ำย งบประมำณได้ทั้งจำนวนหรือร้อยละ 100 ไปบริหำรจัดกำรได้เองก็คือ หน่วยงำนของศำล รองลงมำคือ กระทรวงกลำโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงคมนำคม ซึ่งจำกกำรสัมภำษณ์ผู้บริหำร และเจ้ำหน้ำท่ีผู้ปฏิบัติของกรมชลประทำน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมทำงหลวง กระทรวง คมนำคม พบว่ำ หน่วยงำนดังกล่ำวมีกำรเตรียมควำมพร้อมในกำรดำเนินงำนทั้งในเร่ืองของกำรวำงแผน กำรปฏิบัติงำน แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ และแผนกำรจัดซื้อจัดจ้ำงท่ีดี ส่วนกระทรวง/หน่วยงำนอ่ืนๆ ท่ีถูก จดั ลำดับไว้ใน 5 อับดบั แรกของแต่ละปีงบประมำณท่ีมีผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนสูงสุดด้วยน้ัน อำจสืบเนื่องจำกเป็นหน่วยงำนท่ีมีกำรเบิกจ่ำยงบประมำณในรำยกำรท่ีจำเป็นต้องเบิกจ่ำยตำมพันธกิจของ สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 68 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ หน่วยงำนอยแู่ ล้วจึงทำใหม้ ีผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณถกู จดั อยู่ในอันดับที่สูง สำหรับกระทรวง/หน่วยงำน ท่ีมีผลกำรเบกิ จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนตำ่ สุด คอื หน่วยงำนของรฐั สภำ อย่ำงไรก็ดี จำกกำรศึกษำข้อมูลผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนของหน่วยงำน ดังกล่ำว ยกเว้นหน่วยงำนท่ีได้รับงบประมำณไปทั้งจำนวน ก็ยังคงมีผลกำรเบิกจ่ำยต่ำกว่ำเป้ำหมำย ที่รัฐบำลกำหนดไว้เกือบทุกปี ซึ่งอำจจะเป็นไปได้ว่ำเงินงบประมำณท่ีจัดสรรให้กับหน่วยงำนบำงแห่ง มีจำนวนมำกเกินศักยภำพที่หน่วยงำนจะบริหำรงบประมำณได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ จึงทำให้ไม่สำมำรถ ใช้จ่ำยเงินได้หมดภำยในปีงบประมำณ นอกจำกน้ีอำจเกิดจำกปัญหำอุปสรรคของหน่วยงำนเอง รวมทั้ง หน่วยงำนอำจมีกำรพิจำรณำทบทวนแล้วเห็นว่ำไม่มีควำมจำเป็นต้องดำเนินกำรจึงยกเลิกโครงกำร/ รำยกำร จำกกรณีดังกล่ำวย่อมสะท้อนให้เห็นถึงศักยภำพและควำมไม่พร้อมในกำรดำเนินงำนของ หน่วยงำน และผลกระทบท่ีตำมมำก็คือทำให้ต้องเสียโอกำสท่ีจะนำเงินไปใช้ในกำรพัฒนำประเทศในด้ำน อื่นๆ ท่ีมีควำมจำเป็นและเร่งด่วน โดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทุนซ่ึงเป็นกลไกสำคัญในกำรอัดฉีดเม็ดเงินเข้ำสู่ ระบบเศรษฐกิจและเพิ่มกำรจ้ำงงำน รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้ ประชำชนเสยี โอกำสท่ีจะได้รับประโยชน์จำกกำรยกเลิกโครงกำร/รำยกำรตำ่ งๆ ของภำครัฐ 4.2.2 ผลการดาเนนิ งานและการใช้จ่ายงบประมาณรายจา่ ยงบกลาง จำกกำรศึกษำพบว่ำ เม่ือพิจำรณำถึงสัดส่วนงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงต่อ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีย้อนหลัง 5 ปีงบประมำณ (พ.ศ. 2557-2561) ซ่ึงรวมพระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยเพ่ิมเติมและพระรำชบัญญัติโอนงบประมำณรำยจ่ำยแล้ว จะเห็นได้ว่ำงบประมำณ รำยจ่ำยงบกลำงต่องบประมำณรำยจ่ำยประจำปีมีสัดส่วนค่อนข้ำงสูง เฉล่ียร้อยละ 15.67 โดยส่วนใหญ่ เป็นค่ำใช้จ่ำยท่ีเก่ียวข้องกับบุคลำกรภำครัฐ รองลงมำคือ รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพ่ือกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็น และรำยกำรงบกลำงอ่ืนๆ (รำยละเอียดตำมตำรำงท่ี 8 และแผนภำพท่ี 3) สำหรับสัดส่วน งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงรำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่ องบประมำณรำยจ่ำย ประจำปี พบว่ำมีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 3.91 (รำยละเอียดตำมตำรำงท่ี 8 และแผนภำพท่ี 2) ซึ่งถือว่ำ สงู กวำ่ สัดสว่ นทค่ี ณะกรรมกำรนโยบำยกำรเงนิ กำรคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 กำหนด ตำมนัยพระรำชบัญญัติ วินัยกำรเงินกำรคลังภำครัฐ พ.ศ. 2561 ประกำศคณะกรรมกำรนโยบำยกำรเงินกำรคลังภำครัฐ เร่ือง กำหนดสัดส่วนต่ำงๆ เพ่ือเป็นกรอบวินัยกำรเงินกำรคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ในข้อ (1) โดยกำหนด สัดส่วนงบกลำงรำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นไว้ ร้อยละ 2.0 - 3.5 ของงบประมำณ รำยจ่ำยประจำปี ดังนั้น กำรต้ังงบประมำณในรำยจ่ำยงบกลำง รัฐบำลควรพิจำรณำกำหนดสัดส่วน ให้มีควำมเหมำะสมและสอดคลอ้ งกับกรอบวินยั กำรเงนิ กำรคลงั ของรัฐ พ.ศ. 2561 กำหนดดว้ ย นอกจำกนี้ จำกกำรศึกษำข้อมูลรำยงำนผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง ย้อนหลัง 5 ปีงบประมำณ (พ.ศ. 2557-2561) จำกระบบ GFMIS พบว่ำ รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพ่ือกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็นมีกำรเบิกจำ่ ยงบประมำณคอ่ นข้ำงต่ำ (รำยละเอยี ดตำมภำพที่ 8) ซึง่ เม่ือพิจำรณำกำรตั้ง งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีจะเหน็ วำ่ มกี ำรสำรองงบประมำณไว้จำนวนมำก ประกอบกบั ในชว่ งท่ีผำ่ นมำ รัฐบำลได้มีกำรจัดสรรงบประมำณตำมพระรำชบัญญัติโอนงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2558-2561 และพระรำชบัญญตั ิงบประมำณรำยจำ่ ยเพิ่มเติมประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2559-2561 ไปต้ังจ่ำยเป็นงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นอย่ำงต่อเน่ือง ซ่ึงเม่ือรวม งบประมำณท่ีได้รับจัดสรรทั้งหมดในรำยกำรดังกล่ำวถือว่ำเป็นจำนวนเงินค่อนข้ำงสูง แต่ในทำงกลับกัน พบว่ำในแต่ละปีมีกำรใช้จ่ำยงบประมำณค่อนข้ำงน้อยและนำไปสู่กำรขอกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปี และ ขอขยำยระยะเวลำกำรเบิกจ่ำยเงินงบประมำณ ดังน้ัน อำจทำให้เกิดต้นทุนค่ำเสียโอกำสของงบประมำณ รำยจ่ำย หำกนำไปจดั สรรใหก้ ับโครงกำรอ่นื ๆ ทีม่ คี วำมคุม้ ค่ำทำงเศรษฐกจิ และสงั คมมำกกว่ำ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 69 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 4.3 ปญั หาอปุ สรรคท่ีเกิดขึ้นจากการบริหารงบประมาณรายจา่ ยภาครฐั ทผี่ ่านมา 4.3.1 ผลจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติวิธกี ารงบประมาณ พ.ศ. 2561 ผู้ศึกษำได้ดำเนินกำรเปรียบเทียบกระบวนกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยระหว่ำง พระรำชบญั ญัติวธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2502 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม กับพระรำชบัญญัติวิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 เพื่อสรุปสำระสำคัญของกำรปรับปรุงกระบวนกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยตำม พระรำชบัญญัติฉบับใหม่ว่ำสำมำรถช่วยเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณของภำครัฐอย่ำงไรบ้ำง สรุปได้ดังนี้ ตารางท่ี 20 การเปรียบเทียบกระบวนการบริหารงบประมาณรายจ่าย ระหว่าง พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และท่ีแก้ไขเพิม่ เติมกับพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 พระราชบญั ญัติวิธีการงบประมาณ พระราชบัญญัตวิ ิธกี ารงบประมาณ ขอ้ สังเกต / ข้อแตกต่าง / ขอ้ ดี พ.ศ. 2502 แก้ไขเพมิ่ เติมจนถงึ พ.ศ. 2561 1) ช่วยทำให้เกดิ ควำมยืดหยุ่นในกำร บริหำรงบประมำณระหว่ำงหนว่ ยงำนท่อี ยู่ (ฉบับท่ี 6) พ.ศ. 2557 มาตรา 35 งบประมำณรำยจำ่ ยของหน่วย ภำยในแผนงบประมำณบรู ณำกำรเดียวกัน มาตรา 18 รำยจำ่ ยทกี่ ำหนดไวส้ ำหรบั รับงบประมำณท่กี ำหนดไวต้ ำมกฎหมำยวำ่ ทงั้ ยงั ชว่ ยสง่ เสริมโอกำสในกำรดำเนนิ งำน ส่วนรำชกำรหรอื รฐั วสิ ำหกจิ ใด ตำม ด้วยงบประมำณรำยจำ่ ย จะโอนหรือ ใหม้ ปี ระสิทธภิ ำพและสำมำรถบรรล/ุ พระรำชบญั ญัติงบประมำณรำยจำ่ ย นำไปใชส้ ำหรบั หนว่ ยรบั งบประมำณอน่ื มิได้ ผลสัมฤทธ์ิ/เปำ้ หมำยของแผนบรู ณำกำร ประจำปีกด็ ี พระรำชบัญญตั ิงบประมำณ เว้นแต่ ทอ่ี ำจมีกำรปรบั เปลย่ี นให้เขำ้ กับ รำยจำ่ ยเพิ่มเติมกด็ ี จะโอนหรอื นำไปใช้ สภำวกำรณ์ในขณะนั้นได้ดยี ิง่ ขึน้ โดยกำร สำหรับสว่ นรำชกำรหรอื รฐั วสิ ำหกจิ อน่ื (1) มพี ระรำชบัญญตั ใิ ห้โอนหรอื ร่วมมอื กันระหวำ่ งหนว่ ยงำน โดยยึดถอื / มไิ ด้ เว้นแต่ นำไปใช้ได้ มองประโยชนส์ ว่ นร่วมมำกกว่ำประโยชน์ ของหน่วยงำนตนเองเทำ่ น้นั 1) มีพระรำชบัญญตั ใิ ห้โอนหรือ (2) ในกรณที มี่ พี ระรำชกฤษฎกี ำ 2) ชว่ ยทำให้เกดิ ควำมยืดหยนุ่ ในกำร นำไปใช้ได้ รวมหรอื โอนส่วนรำชกำรเข้ำด้วยกันไมว่ ่ำ บริหำรงบประมำณด้ำนบุคลำกรมำกขึ้น จะมีผลเป็นกำรจัดตง้ั สว่ นรำชกำรขนึ้ ใหม่ แต่ทั้งน้ีตอ้ งอยู่ภำยใต้แผนงำนบุคลำกร 2) ในกรณีท่มี พี ระรำชกฤษฎีกำรวม หรือไม่กต็ ำม ให้โอนงบประมำณรำยจ่ำย ภำครฐั หรือโอนสว่ นรำชกำรเขำ้ ด้วยกันไมว่ ่ำ ของส่วนรำชกำรท่ีถูกโอนหรือรวมเข้ำ มำตรำ 35 (3) และ (4) มิไดส้ ำมำรถ จะมีผลเปน็ กำรจดั ตง้ั ส่วนรำชกำรขนึ้ ใหม่ ดว้ ยกนั น้นั ไปเป็นของสว่ นรำชกำรที่รบั โอน ดำเนนิ กำรไดโ้ ดยไรข้ อบเขตจำกัด แตจ่ ะ หรือไม่กต็ ำม ให้โอนงบประมำณรำยจำ่ ย หรือทรี่ วมเขำ้ ดว้ ยกัน หรือส่วนรำชกำร ถูกควบคมุ /จำกดั โดยระเบียบของผอู้ ำนวย ของส่วนรำชกำรท่ีถกู โอนหรือรวมเข้ำ ทจ่ี ัดตงั้ ข้ึนใหม่แลว้ แตก่ รณี ทัง้ นี้ ตำมท่ี กำรสำนกั งบประมำณที่จะออกมำรองรบั ด้วยกนั นัน้ ไปเป็นของส่วนรำชกำรหรือ กำหนดในพระรำชกฤษฎีกำดังกลำ่ ว แต่ดกี วำ่ บทบญั ญตั ิในพระรำชบญั ญตั ิ หน่วยงำนท่รี ับโอนหรือที่รวมเขำ้ ดว้ ยกัน วิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2502 หรือส่วนรำชกำรทจี่ ดั ตั้งข้ึนใหม่แลว้ แต่ (3) กำรโอนงบประมำณรำยจำ่ ย ท่งี บประมำณทั้ง 2 สว่ นน้จี ะไมส่ ำมำรถ กรณี ทั้งนี้ ตำมท่กี ำหนดในพระรำช บูรณำกำรภำยใต้แผนงำน โอนระหวำ่ งหน่วยงำนไดเ้ ลย กฤษฎกี ำดงั กลำ่ ว บรู ณำกำรเดยี วกนั (4) กำรโอนงบประมำณรำยจำ่ ย บคุ ลำกรภำยใต้แผนงำน บคุ ลำกรภำครฐั กำรโอนงบประมำณรำยจำ่ ยตำม (3) และ (4) ใหก้ ระทำไดเ้ ท่ำที่จำเปน็ และไม่ เกดิ ผลเสยี หำยต่อกำรดำเนินกำรตำม แผนงำนบรู ณำกำรและแผนงำนบคุ ลกร ภำครัฐ ท้งั นี้ ตำมระเบยี บที่ผอู้ ำนวยกำร กำหนดโดยควำมเหน็ ชอบของคณะรัฐมนตรี สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 70 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ พระราชบญั ญตั ิวธิ กี ารงบประมาณ พระราชบญั ญตั วิ ธิ กี ารงบประมาณ ข้อสงั เกต / ข้อแตกตา่ ง / ขอ้ ดี พ.ศ. 2502 แก้ไขเพม่ิ เติมจนถึง พ.ศ. 2561 (ฉบับท่ี 6) พ.ศ. 2557 มาตรา 27 กำรขอเบิกเงินจำกคลงั ตำม มาตรา 43 กำรขอเบกิ เงินจำกคลงั ตำม สำมำรถชว่ ยกระตนุ้ ให้หน่วยงำนต่ำง ๆ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปงี บประมำณ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปงี บประมำณใด ต้องเรง่ รัดกำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณให้ ใด ใหก้ ระทำได้แต่เฉพำะภำยใน ใหก้ ระทำไดแ้ ตเ่ ฉพำะภำยในปีงบประมำณนั้น เป็นไปตำมทไี่ ดร้ บั จดั สรรงบประมำณ ปงี บประมำณนนั้ เว้นแต่ ในกรณีทไี่ มส่ ำมำรถเบิกเงนิ จำกคลังได้ ตำมพระรำชบัญญัตงิ บประมำณประจำปี (1) เปน็ งบประมำณรำยจำ่ ยข้ำมปี หรือ ภำยในปงี บประมำณ ให้ขยำยเวลำขอเบกิ โดยหำกหนว่ ยงำนใดไมส่ ำมำรถกอ่ หน้ี (2) เปน็ งบประมำณรำยจ่ำยท่ไี ดก้ อ่ เงินจำกคลังไดเ้ ฉพำะทีก่ ่อหนผี้ ูกพันไว้ก่อน ผูกพนั ไว้ก่อนสนิ้ ปีงบประมำณ และได้มกี ำร หนผ้ี ูกพันไวก้ ่อนสิ้นปีงบประมำณ หรอื ท่ี สน้ิ ปงี บประมำณและไดม้ ีกำรกันเงนิ ไวแ้ ล้ว กันเงินไว้แลว้ งบประมำณในส่วนนจ้ี ะตอ้ ง ได้รบั อนมุ ตั ิจำกรฐั มนตรีให้เบกิ เหลอ่ื มปี กำรขยำยเวลำขอเบิกเงินจำกคลังตำม ถกู พบั และสง่ คืนสำนักงบประมำณ และไดม้ ีกำรกนั เงินไวต้ ำมระเบียบหรือ วรรคสอง ให้ขยำยไดอ้ ีกไมเ่ กนิ 6 เดอื นของ จำกเดิมที่ยงั เปดิ ช่องใหเ้ ปน็ อำนำจดุลพนิ จิ ข้อบงั คบั เกย่ี วกบั กำรเบกิ จ่ำยเงินจำกคลัง ปีงบประมำณถดั ไป เวน้ แต่มคี วำมจำเป็น ของรฐั มนตรี (ว่ำกำรกระทรวงกำรคลัง) ในกรณี (2) ให้ขยำยเวลำขอเบกิ เงนิ ต้องขอเบิกเงินจำกคลังภำยหลงั เวลำ ทส่ี ำมำรถอนมุ ตั ิให้หน่วยงำนตำ่ ง ๆ ท่ยี ัง จำกคลังตอ่ ไปไดอ้ กี ไม่เกิน 6 เดอื นปฏิทิน ดังกลำ่ ว ใหข้ อขยำยเวลำออกไปไดอ้ กี ไมเ่ กนิ มไิ ด้กอ่ หนผ้ี ูกพนั ไว้ก่อนสนิ้ ปงี บประมำณ ของปงี บประมำณถดั ไป เวน้ แตม่ คี วำม 6 เดือน สำมำรถขออนุมตั ิเบกิ เงินเหลื่อมปไี ด้ จำเป็นตอ้ งขอเบิกเงินจำกคลงั ภำยหลัง จึงเป็นชอ่ งทำงทหี่ น่วยงำนต่ำงๆ ทยี่ งั มไิ ด้ เวลำดังกลำ่ ว ก็ใหข้ อทำควำมตกลงกบั ก่อหน้ีผูกพันไวก้ ่อนสน้ิ ปงี บประมำณ กระทรวงกำรคลังเป็นกรณีๆ ไป ไดข้ ออนมุ ตั เิ บกิ เงินเหลอื่ มปตี ่อรัฐมนตรี (วำ่ กำรกระทรวงกำรคลัง) เปน็ จำนวนมำก สง่ ผลใหก้ ำรใช้จ่ำยงบประมำณแผน่ ดิน ไมเ่ ปน็ ไปตำมแผนและไมบ่ รรลุวตั ถุประสงค์ - มาตรา 46 ใหผ้ ู้อำนวยกำรสำนกั เปน็ กำรออกแบบให้มรี ะบบกำร งบประมำณจดั วำงระบบกำรตดิ ตำมและ ตดิ ตำมและประเมนิ ผลในขั้นตอนต่ำงๆ ประเมินผลกำรดำนินงำนตำมแผนกำร ทง้ั กอ่ นจัดสรรงบประมำณ ระหวำ่ งกำรใช้ ปฏบิ ตั งิ ำนและแผนกำรใชจ้ ำ่ ยงบประมำณ งบประมำณ และภำยหลังกำรใช้จำ่ ย ของหนว่ ยรบั งบประมำณท่ีไดร้ บั กำรจดั สรร งบประมำณ โดยสำนักงบประมำณ งบประมำณ เพ่อื กำรวัดผลสมั ฤทธ์ิหรอื (มำตรำ 47) และโดยหน่วยรบั งบประมำณเอง ประโยชนท์ ีจ่ ะไดร้ บั จำกำรใชจ้ ำ่ ย (มำตรำ 48) ซ่งึ น่ำจะชว่ ยให้กำรใชจ้ ำ่ ย งบประมำณ โดยในระบบกำรตดิ ตำมและ งบประมำณเป็นไปอย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ ประเมนิ ผลกำรดำเนินงำนใหป้ ระกอบด้วย และสำมำรถบรรลผุ ลสมั ฤทธไ์ิ ดด้ ียง่ิ ขึน้ กำรติดตำมและประเมนิ ผลกอ่ นกำรจดั สรร ตลอดจนสำมำรถนำผลกำรประเมนิ งบประมำณ ระหวำ่ งกำรใชง้ บประมำณ ทไ่ี ดร้ บั ไปใช้ในกำรวิเครำะหป์ ัญหำ และภำยหลังกำรใช้จ่ำยงบประมำณ อปุ สรรคและแนวทำงในกำรวเิ ครำะห์ มาตรา 47 ให้หน่วยรบั งบประมำณจดั ใหม้ ี ในกำรพจิ ำรณำจดั สรรงบประมำณของ ระบบตดิ ตำมและประเมนิ ผลกำรดำนนิ งำน สำนักงบประมำณให้แก่หนว่ ยงำนต่ำง ๆ ตำมแผนกำรปฏบิ ตั ิงำนและแผนกำรใชจ้ ำ่ ย และหน่วยงำนตำ่ ง ๆ กส็ ำมำรถนำผล งบประมำณภำยในหน่วยรบั งบประมำณตำม กำรประเมนิ ไปใชเ้ ปน็ ข้อมูลในกำรบริหำร หลักเกณฑแ์ ละวิธีกำรทผ่ี ้อู ำนวยกำรสำนัก งบประมำณในปีตอ่ ๆ ไปใหม้ ี งบประมำณกำหนด และใหถ้ ือวำ่ กำร ประสทิ ธภิ ำพย่งิ ขึ้นได้ ประเมินผลเปน็ สว่ นหนึง่ ของกระบวนกำร บริหำรงบประมำณทต่ี ้องดำเนนิ กำรอย่ำง ต่อเนอ่ื งและเปดิ เผยตอ่ สำธำรณชนดว้ ย สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 71 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ พระราชบญั ญัติวิธกี ารงบประมาณ พระราชบัญญตั ิวธิ กี ารงบประมาณ ข้อสังเกต / ข้อแตกตา่ ง / ข้อดี พ.ศ. 2502 แกไ้ ขเพิ่มเติมจนถึง พ.ศ. 2561 (ฉบบั ท่ี 6) พ.ศ. 2557 มาตรา 48 ในกรณที ก่ี ำรประเมนิ ผลสัมฤทธ์ิ เปน็ มำตรกำรทีจ่ ะช่วยควบคุม/กำกบั ของกำรใช้จำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ยของ ให้หน่วยงำนตำ่ ง ๆ โดยเฉพำะผบู้ ริหำร หน่วยรับงบประมำณใดไมไ่ ดต้ ำมเป้ำหมำย ของหน่วยงำน ตอ้ งให้ควำมสำคญั ในกำร หรอื ตวั ชีว้ ดั ที่กำหนด ให้ผูอ้ ำนวยกำรสำนกั บรหิ ำรกำรใช้จ่ำยงบประมำณทไ่ี ดร้ ับ งบประมำณจัดทำขอ้ เสนอแนะกำรปรับปรุง จดั สรรใหเ้ ปน็ ไปอย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพและ แก้ไขเพ่อื ใหห้ น่วยรับงบประมำณปรบั ปรุง บรรลผุ ลสัมฤทธ์ิตำมเปำ้ หมำยหรอื ตัวช้วี ดั แก้ไขภำยในระยะเวลำท่กี ำหนด และ ทก่ี ำหนดไว้ โดยหำกปลอ่ ยปละละเลย รำยงำนใหร้ ฐั มนตรเี จ้ำสังกดั หรือรฐั มนตรี หรือบริหำรงบประมำณโดยไมม่ ี ที่กฎหมำยกำหนดให้มีหนำ้ ทก่ี ำกบั หรือ ประสิทธภิ ำพ อำจถูกมำตรกำร sanction ควบคมุ กิจกำรของหน่วยรบั งบประมำณ ต่ำง ๆ ในอนำคตได้ หรือรัฐมนตรผี ู้รักษำกำรตำมกฎหมำย เพื่อทรำบ ในกรณีทหี่ นว่ ยรับงบประมำณไมส่ ำมำรถ ปรับปรุงแก้ไขภำยในระยะเวลำทก่ี ำหนด ตำมวรรคหนง่ึ ใหผ้ อู้ ำนวยกำรรำยงำนต่อ คณะรัฐมนตรีเพื่อสงั่ กำรตำมที่เหน็ สมควร ข้อค้นพบจากการศึกษา 1) จำกกำรศึกษำพบว่ำ พระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ประกำศใช้บังคับ โดยมีเจตนำรมณ์เพ่ือต้องกำรปรับปรุงหลักเกณฑ์เก่ียวกับกำรจัดทำงบประมำณ กำรบริหำรงบประมำณ รำยจ่ำย กำรควบคุมงบประมำณ รวมถึงกำรประเมินผลและกำรรำยงำนกำรใช้จ่ำยงบประมำณที่มีกำร ใช้บังคับมำเป็นเวลำนำนแล้ว เพ่ือใหก้ ระบวนกำรจัดสรรงบประมำณของประเทศมีลักษณะท่ีมุง่ เป้ำหมำย และผลสัมฤทธิ์ของงบประมำณเป็นสำคัญ และเพื่อให้เกิดประสิทธิภำพและควำมคุ้มค่ำในกำรใช้จ่ำย งบประมำณย่งิ ขน้ึ ซึง่ เจตนำรมณ์ของพระรำชบญั ญตั ิฉบบั นีส้ อดสอดคล้องกบั มำตรำ 258 แห่งรฐั ธรรมนูญ แห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่กำหนดให้มีกำรปฏิรูปประเทศในด้ำนเศรษฐกิจโดยปรับปรุงระบบ กำรจัดทำและกำรใช้จ่ำยงบประมำณให้มีประสิทธิภำพและสัมฤทธิผล ดังน้ัน สำนักงบประมำณ และ กรมบัญชีกลำง ในฐำนะหน่วยงำนกลำงของรัฐบำลซง่ึ มีหน้ำท่ีหลักในกำรจัดทำงบประมำณ บริหำรจดั กำร งบประมำณ ติดตำมประเมินผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณ และควบคุมดูแลกำรใช้จ่ำยเงินแผ่นดนิ ต้องเตรียม ควำมพร้อมในกำรปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนกำรจัดสรรงบประมำณให้มี ประสิทธิภำพมำกยิ่งขึ้น ส่วนหน่วยรับงบประมำณในฐำนะเป็นหน่วยงำนปฏิบัติก็ต้องมีกำรเตรียม ควำมพร้อมเพ่ือเร่งรัดกำรดำเนินงำนให้ทุกรำยกำรท่ีได้รับจัดสรรงบประมำณตำมพระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีจำกรัฐสภำ ต้องสำมำรถก่อหน้ีผูกพันและเบิกจ่ำยให้แล้วเสร็จภำยใน ปีงบประมำณทีก่ ำหนด แต่ภำยหลังจำกพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ประกำศใช้บังคับตำมที่ กระทรวงกำรคลังได้แจ้งให้ทรำบตำมหนังสือกระทรวงกำรคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0402.5/ว 124 ลงวันท่ี 15 พฤศจิกำยน 2561 มีผลทำให้งบประมำณที่ได้รับอนุมัติให้กันไว้เบิกเหลื่อมปี/กันขยำยโดยยังไม่ได้ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 72 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ก่อหนผี้ กู พนั ต้งั แต่ปงี บประมำณ 2554-2561 ไมไ่ ด้รับอนุมัติ (พบั คนื คลงั ) จำนวนทงั้ สนิ้ 33,097.2535 ลำ้ นบำท (รำยละเอียดตำมตำรำงท่ี 16) ซึ่งเป็นผลมำจำกมำตรำ 43 แห่งพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่ีกำหนดให้ขยำยเวลำขอเบิกเงนิ จำกคลังไดเ้ ฉพำะกรณที ่ีหนว่ ยรับงบประมำณได้ก่อหนี้ผูกพัน ไว้กอ่ นสน้ิ งบประมำณและไดม้ ีกำรกันเงินไว้ตำมระเบียบกระทรวงกำรคลังแลว้ ทำใหห้ น่วยรับงบประมำณ ตำ่ งๆ ไดร้ ับผลกระทบอยำ่ งมำกจำกกำรประกำศใชบ้ งั คับพระรำชบญั ญัติฉบบั นี้ ท้ังน้ี จำกกำรสัมภำษณ์ผู้บริหำรและเจ้ำหน้ำที่ผู้ปฏิบัติของหน่วยรับงบประมำณ พบว่ำ แผนงำน/โครงกำรท่ีขอกันเงินฯ และถูกพับรำยกำรไปส่วนใหญ่เป็นงำนดำเนินกำรเองในส่วนของค่ำแรง และค่ำวัสดุ / ค่ำควบคุมงำนก่อสร้ำง / ค่ำชดเชยจัดกรรมสิทธ์ิท่ีดนิ / ค่ำใชจ้ ่ำยตำมมำตรกำรสิ่งแวดล้อม ซ่ึงเป็นรำยกำรที่มีกำรเบิกจ่ำยในลักษณะรำยจ่ำยประจำ และบำงรำยกำรไม่ต้องมีกำรบันทึกใบส่ังซื้อ (PO) ในระบบ GFMIS ทำให้เม่ือส้ินปีงบประมำณมีเงินคงเหลือแต่หน่วยงำนยังมีควำมจำเป็นท่ีต้องใช้ งบประมำณอย่ำงต่อเน่ืองจงึ จำเป็นตอ้ งขอกันเงินฯ แต่ผลของกฎหมำยทำให้รำยกำรดังกล่ำวตอ้ งถกู พับไป ซึ่งส่งผลกระทบเป็นอย่ำงมำกกับกำรดำเนินงำนในปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 เน่ืองจำกต้องยกเลิกงำน บำงรำยกำรท่ีมีควำมจำเป็นน้อยกว่ำในปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 และมำขอต้ังในปีงบประมำณ พ.ศ. 2563 แทน อีกทั้งยังต้องนำงบประมำณที่เหลือจ่ำยในปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 จำกงำนที่ ดำเนินกำรบรรลุวัตถุประสงค์มำบริหำรใช้ในกำรปรับแผนฯ แต่ปัญหำท่ีพบคือในช่วงต้นปีงบประมำณ บำงรำยกำรตำมพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี พ.ศ. 2562 ยังอยู่ระหว่ำงกำรจัดซื้อจัดจ้ำง ทำให้ยังไม่มีเงินเหลือจ่ำยเพียงพอที่จะนำมำปรับแผนฯ เพื่อแก้ไขและบรรเทำปัญหำได้ มีผลทำให้ หน่วยงำนเกิดปัญหำหยุดชะงักในกำรทำงำน ขำดกำรดำเนินงำนอย่ำงต่อเน่ือง และมีผลทำให้งำน เกิดควำมลำ่ ชำ้ และตอ้ งขยำยระยะเวลำในกำรดำเนินงำนออกไป ดังนั้น เพ่ือเป็นกำรช่วยบรรเทำปัญหำของหน่วยงำนท่ีถูกพับรำยกำรเงินกันไว้เบิกเหล่ือมปี/ กนั ขยำยต้ังแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554-2561 สำนักงบประมำณจึงได้กำหนดมำตรกำรด้ำนกำรงบประมำณ เพ่ือกำรขับเคล่ือนยุทธศำสตร์ชำติและแผนเม่บท ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 โดยให้หน่วยงำนของ รัฐพิจำรณำทบทวนรำยกำรงบประมำณที่ถูกพับไปแต่ยังมีควำมจำเป็นต้องดำเนินกำรต่อไปและมีควำม พร้อมทจ่ี ะใช้จำ่ ยหรือก่อหน้ไี ด้ทนั ภำยในไตรมำสที่ 2 ของปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 ก็ให้โอนเปลี่ยนแปลง รำยกำรที่มีลำดับควำมสำคัญน้อยกว่ำและไม่อยู่ในแผนแม่บทภำยในแผนงำนเดียวกันไปดำเนินกำรได้ ซึ่งทำให้หน่วยงำนของรัฐสำมำรถแก้ไขปัญหำได้ในระดับหนึ่งและจำกกรณีดังกล่ำวกรมบัญชีกลำงก็ ได้มี กำรอนุมัติงบประมำณที่ถูกพับไปด้วยผลของกฎหมำยฉบับนี้ให้กับหน่วยรับงบประมำณที่ขออุทธรณ์ไป แล้วบำงส่วน สำหรบั ในปัจจบุ ันกระทรวงกำรคลังได้มีหนงั สือกระทรวงกำรคลัง ด่วนท่ีสุด ท่ี กค 0402.5/ว 93 ลงวนั ท่ี 29 สิงหำคม 2562 แจ้งหลักเกณฑ์และวิธปี ฏิบตั ิในกำรขอกนั เงินไว้เบิกเหลือ่ มปแี ละกำรขอขยำย เวลำเบิกจ่ำยงบประมำณ เพ่ือให้หน่วยงำนของรัฐสำมำรถใช้จ่ำยงบประมำณได้อย่ำงต่อเน่ืองบรรลุ วัตถุประสงค์ได้ถึงวันทำกำรสุดท้ำยของเดือนมีนำคม 2563 และดำเนินกำรกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและ/ หรือกำรขยำยเวลำเบิกจ่ำยงบประมำณได้อย่ำงถูกต้อง ครบถ้วน และสอดคล้องตำมแนวทำงท่ี พระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 มำตรำ 43 กำหนด รวมทั้งเพ่ือให้หน่วยงำนของรัฐถือ ปฏิบตั ิใหเ้ ป็นไปในแนวทำงเดียวกัน 2) จำกกำรศึกษำพบว่ำ พระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ได้บัญญัติขึ้นมำ รองรบั กำรจัดทำและบริหำรงบประมำณในลกั ษณะกำรบรู ณำกำร ซ่งึ แสดงให้เห็นข้อดีได้ ดังนี้ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 73 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2.1) ช่วยลดควำมซ้ำซ้อนในกำรจัดสรรงบประมำณ และส่งเสริมให้เกิดควำมยืดหยุ่น ในกำรบริหำรงบประมำณทั้งในส่วนของแผนบูรณำกำรและแผนบุคลำกรภำครัฐ โดยเฉพำะในส่วนของ แผนบูรณำกำรนั้น จะใหค้ ำนึงถึงผลสัมฤทธต์ิ ำมแผนเปน็ เป้ำหมำยหลกั 2.2) สำมำรถช่วยกระตุ้นให้หน่วยงำนต่ำง ๆ ต้องเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณ ให้เป็นไปตำมท่ีได้รับจัดสรรงบประมำณตำมพระรำชบัญญัติงบประมำณประจำปี โดยหน่วยงำนต่ำงๆ จะต้องเร่งรัดดำเนินกำรก่อหนี้ผูกพันไว้ก่อนส้ินปีงบประมำณเท่ำน้ัน หำกไม่สำมำรถดำเนินกำรได้ งบประมำณในสว่ นนจ้ี ะตอ้ งถูกพบั และส่งคืนสำนักงบประมำณ 2.3) มีกำรออกแบบให้มีระบบกำรติดตำมและประเมินผลในข้ันตอนต่ำงๆ ทั้งก่อน จัดสรรงบประมำณ ระหว่ำงกำรใช้งบประมำณ และภำยหลังกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ท้ังโดยสำนัก งบประมำณ และหน่วยท่ีได้รับงบประมำณ ซึ่งน่ำจะช่วยให้กำรใช้จ่ำยงบประมำณเป็นไปอย่ำงมี ประสิทธิภำพและสำมำรถบรรลุผลสัมฤทธ์ิได้ดีย่ิงขึ้น ตลอดจนสำมำรถนำผลกำรประเมินท่ีได้รับไปใช้ ในกำรวิเครำะห์ปัญหำอุปสรรคและแนวทำงกำรวิเครำะห์ในกำรพิจำรณำจัดสรรงบประมำณของ สำนักงบประมำณให้แก่หน่วยงำนต่ำง ๆ และหน่วยงำนต่ำง ๆ สำมำรถนำผลกำรประเมินไปใช้เป็นข้อมูล ในกำรบริหำรงบประมำณในปีต่อๆ ไปให้มีประสิทธิภำพย่ิงขึ้นได้ รวมท้ังมีมำตรกำรที่จะช่วยควบคุม/ กำกับให้หน่วยงำนต่ำงๆ โดยเฉพำะผู้บริหำรต้องให้ควำมสำคัญในกำรบริหำรกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ที่ได้รับจัดสรรให้เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพและบรรลุผลสัมฤทธ์ิตำมเป้ำหมำยหรือตัวชี้วัดท่ีกำหนดไว้ โดยหำกปล่อยปละละเลยหรือบริหำรงบประมำณโดยไม่มีประสิทธิภำพ อำจถูกมำตรกำร sanction ต่ำง ๆ ในอนำคตได้ 4.3.2 การเตรียมความพร้อมในกระบวนการจดั ซ้อื จัดจ้าง จำกกำรศึกษำพบว่ำ ก่อนท่ีพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีจะมีผล บังคับใช้คณะกรรมกำรวินิจฉัยปัญหำกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงและบริหำรพัสดุภำครัฐ กรมบัญชีกลำง ได้มีกำร กำหนดแนวทำงกำรจัดซื้อจัดจ้ำงเพ่ือเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย โดยให้ทุกหน่วยรับ งบประมำณที่มีโครงกำรลงทุนเตรียมควำมพร้อมเกี่ยวกับกำรสำรวจ กำรออกแบบ กำรประมำณรำคำ และกำรส่งมอบสถำนท่ีก่อนกำรขอตั้งงบประมำณ โดยจะต้องเตรียมกำรจัดซื้อจัดจ้ำงในข้ันตอนท่ีเป็น เร่ืองภำยในของหน่วยงำนให้พร้อมเสียก่อน เช่น กำรกำหนดรำยละเอียดหรือคุณลักษณะเฉพำะ คุณสมบัติผู้เสนอรำคำ เงื่อนไขในกำรจัดซื้อจัดจ้ำง รูปแบบและเนื้อหำของสัญญำที่จะลงนำม เป็นต้น โดยเฉพำะกำรใช้พื้นที่ที่จะต้องขออนุญำตจำกหน่วยงำนอื่นจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตำมกฎหมำย และ ระเบียบท่ีเกี่ยวข้องก่อนกำรขอรับจัดสรรงบประมำณซึ่งหน่วยงำนสำมำรถเตรียมกำรวำงแผนกำรจัดซ้ือ จัดจ้ำงดังกล่ำวข้ำงต้นได้ต้ังแต่ร่ำงพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีผ่ ำนกำรพิจำรณำของ คณะกรรมำธกิ ำรวิสำมัญพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญตั ิงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีวำระที่ 2 แต่จะลงนำม ในสัญญำไม่ได้จนกว่ำสำนักงบประมำณจะอนุมัติเงินจัดสรรให้ภำยหลังจำกที่พระรำชบัญญัติงบประมำณ รำยจ่ำยประจำปีประกำศใช้แล้ว ซึ่งกำรกำหนดแนวทำงและมำตรกำรดังกล่ำวให้หน่วยรับงบประมำณ ได้มีกำรเตรียมควำมพร้อมในกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงก่อนกำรขอต้ังงบประมำณนี้ขึ้นมำ สำมำรถช่วยทำให้ หน่วยงำนที่มีโครงกำรลงทุนและไดร้ ับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนจำนวนมำกมีควำมคลอ่ งตวั ในกำร บริหำรงบประมำณและสำมำรถก่อหนี้ผกู พันได้รวดเร็วมำกข้นึ สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 74 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพ่ิมประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ท้ังน้ี จำกกำรสัมภำษณ์ผู้บริหำรและเจ้ำหน้ำที่ผู้ปฏิบัติของหน่วยรับงบประมำณ พบว่ำ ถึงแม้ว่ำหน่วยงำนจะมีกำรดำเนินกำรเตรียมกำรตำมแนวทำงกำรจัดซื้อจัดจ้ำงเพ่ือเร่งรัด กำรเบิกจ่ำย งบประมำณรำยจ่ำยของคณะกรรมกำรวินิจฉัยปัญหำกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงและบริหำรพัสดุภำครัฐก่อนที่ พระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีจะมีผลบังคับใช้แล้วก็ตำม แต่เนื่องจำกในปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 เป็นปีแรกท่ีกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงต้องดำเนินกำรตำมพระรำชบัญญัติจัดซ้ือจัดจ้ำง พ.ศ. 2560 (มีผลบังคับใช้ 23 สิงหำคม 2560) ซ่ึงเป็นระเบียบใหม่ท่ีผู้ปฏิบัติงำนด้ำนพัสดุของหน่วยงำนต้องใช้ ระยะเวลำศึกษำและทำควำมเขำ้ ใจรำยละเอียดของกฎหมำยฉบับใหม่ ประกอบกบั กำรดำเนินงำนก่อสร้ำง บำงโครงกำรของหน่วยงำนยังพบปัญหำที่เกิดจำกปัจจัยที่เก่ียวข้องกับหน่วยงำนภำยนอกและไม่สำมำรถ ควบคุมได้ เช่น กำรคดั ค้ำน/กำรร้องเรยี นของประชำชน สภำพคล่องของผู้รบั จ้ำง กำรส่งมอบพ้ืนที่ในกำร ดำเนินงำนล่ำช้ำ กำรรื้อย้ำยสำธำรณูปโภค ติดปัญหำต้นไม้เขตอุทยำน สภำพดินฟ้ำอำกำศ เป็นต้น นอกจำกนี้จำกกำรศึกษำผลกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณของปีงบประมำณ พ.ศ. 2560 จำกเอกสำรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี พ.ศ. 2562 ของสำนักงบประมำณ ยังพบอีกว่ำบำงหน่วยงำน มีกำรปรับเปล่ียนตำแหน่งเจ้ำหน้ำท่ีผู้ปฏิบัติงำนด้ำนพัสดุบ่อยคร้ังจึงอำจทำให้ขำดควำมต่อเน่ืองในกำร ปฏิบัติงำน จำกกรณีดังกล่ำวส่งผลให้ตอ้ งเพิ่มขั้นตอนและระยะเวลำในกำรดำเนินงำนมำกขึ้น จึงเป็นเหตุ ให้ไม่สำมำรถเบิกจ่ำยงบประมำณได้ทันภำยในปีงบประมำณ รวมทั้งไม่สำมำรถดำเนินกำรเร่งรัดกำรใช้ จ่ำยงบประมำณให้เป็นไปตำมเป้ำหมำยของรัฐบำลได้ ซ่ึงมีควำมสอดคล้องกับข้อสังเกตของ คณะกรรมำธิกำรวิสำมัญฯ ปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่กล่ำวไว้ว่ำกำรเบิกจ่ำยงบประมำณที่ล่ำช้ำหรือ ที่เหลือจ่ำยของหน่วยงำนที่อำจจะมีสำเหตุจำกกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงหรือระเบียบของกรมบัญชีกลำง ดังน้ัน จึงควรให้หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง ได้แก่ กระทรวงกำรคลัง ดำเนินกำรแก้ไขระเบียบ กฎ ข้อบังคับต่ำงๆ ที่ช่วยเอื้ออำนวยให้ส่วนรำชกำรได้เบิกจ่ำยหรือส่งคืนเงินได้อย่ำงรวดเร็วด้วย เพื่อให้กำรดำเนินงำนและ กำรใช้จ่ำยงบประมำณมปี ระสิทธภิ ำพมำกยิง่ ขึน้ 4.3.3 ระบบการรายงานผลการเบกิ จา่ ยงบประมาณในลกั ษณะเงนิ อุดหนุน จำกกำรสัมภำษณ์กรมบัญชีกลำงพบว่ำ กำรจัดสรรงบประมำณในลักษณะ เงินอุดหนุน เช่น กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน หน่วยงำนอิสระของรัฐ องค์กำรมหำชน มหำวิทยำลัย ในกำกับ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ในระบบ GFMIS จะแสดงยอดกำรตัดรำยกำรทั้งจำนวน หรือเบิกจ่ำยเป็นร้อยละ 100 เพื่อให้มีควำมคล่องตัวในกำรใช้จ่ำยตำมกฎหมำยกำรจัดต้ังหน่วยงำน และ หำกงบประมำณที่ได้รับจัดสรรใช้จ่ำยคงเหลือสำมำรถเก็บสะสมไว้ใช้บริหำรจัดกำรภำยในหน่วยงำน ได้โดยไม่ต้องนำส่งคืนคลัง สำหรับกำรติดตำมผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยงำนดังกล่ำว กรมบัญชีกลำงได้มีกำรติดตำมผ่ำนระบบ GFMIS โดยจะบันทึกรำยกำรในงบทดลองประจำเดือนของ หน่วยงำน และรำยงำนงบกำรเงินท่ีหน่วยงำนจัดส่งให้ แต่ยังไม่มีกำรเผยแพร่หรือรำยงำนผลกำรใช้จ่ำย งบประมำณของหน่วยงำนดังกล่ำว เช่นเดียวกับกำรรำยงำนของหน่วยรับงบประมำณอ่ืนๆ ในระบบ GFMIS เพ่ือให้ทุกภำคส่วนทั้งภำครัฐ ภำคเอกชน และภำคประชำชนสำมำรถติดตำมผลกำรเบิกจ่ำย งบประมำณและผลกำรดำเนินงำนไดอ้ ยำ่ งต่อเนอื่ งและเปน็ ปจั จบุ นั สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 75 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร

การเพิม่ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ นอกจำกนี้ในชว่ งที่ผ่ำนมำอำจมีบำงหน่วยงำนทีม่ ีสถำนะกำรเงินและ/หรือมีเงนิ สะสม คงเหลือไว้เป็นจำนวนมำกมำขอรับกำรสนบั สนุนงบประมำณเพิ่มข้ึนจำกภำครัฐอย่ำงตอ่ เน่ือง แตภ่ ำยหลัง จำกพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 มำตรำ 25 วรรคสอง กล่ำวไว้ว่ำ “กำรยื่นคำขอตั้ง งบประมำณตำมวรรคหนึ่ง อย่ำงน้อยต้องแสดงวัตถุประสงค์ แผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำย งบประมำณ และให้จัดส่งรำยงำนเกี่ยวกับเงินนอกงบประมำณตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรท่ีผู้อำนวยกำร กำหนดด้วย” มีผลใช้บังคับแล้วทำให้หน่วยงำนในลักษณะดังกล่ำวต้องจัดส่งรำยงำนเก่ียวกับเงินนอก งบประมำณประกอบกำรย่ืนคำขอตั้งงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีต่อผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณ จงึ อำจทำให้หนว่ ยงำนดังกล่ำวขอรับกำรสนับสนนุ งบประมำณจำกภำครัฐในสดั ส่วนท่ีลดลงจำกปที ผี่ ำ่ นมำ ซงึ่ จะเป็นกำรช่วยประหยัดงบประมำณแผน่ ดนิ เพอ่ื นำไปใช้ประโยชน์ในกำรบรหิ ำรประเทศตอ่ ไป 4.3.4 การติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสารองจ่าย เพ่อื กรณฉี กุ เฉินหรอื จาเปน็ จำกกำรศึกษำพบว่ำ เม่ือพิจำรณำถึงกำรจัดทำงบกลำงตำมมำตรำ 10 แห่ง พระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2502 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติมน้ัน ได้กำหนดไว้ว่ำกำรจัดทำ งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงของส่วนรำชกำรและรัฐวิสำหกิจ อำจจะมีรำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณี ฉกุ เฉนิ หรอื จำเป็นหรือไม่กไ็ ด้ แต่พระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 มำตรำ 15 ได้กำหนดให้มี งบกลำงเสมอในกำรจัดทำงบประมำณรำยจ่ำย และในงบกลำงจะต้องมีรำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็นด้วย อีกท้ังงบกลำงน้ีไม่ได้กำหนดไว้อย่ำงชัดเจนว่ำจะนำไปใช้กับเร่ืองใดเรื่องหนึ่ง เปน็ กำรเฉพำะตำมที่กำหนดไว้ในหลกั กำรของกำรจดั ทำงบประมำณแต่อยำ่ งใด นอกจำกนี้ กำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพ่ือกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่เสนอในร่ำงพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี โดยส่วนใหญ่รัฐบำลจะใช้ ดำเนินกำรในเรื่องท่ีสำคัญและเร่งด่วนในกำรแก้ไขปัญหำตำมสถำนกำรณ์ท่ีอำจเกิดข้ึน แต่จะไม่มีกำร แสดงรำยละเอยี ดตัวชี้วัดของผลผลิต/โครงกำร – กิจกรรม – รำยกำร แผนกำรปฏิบตั ิงำนและแผนกำรใช้ จ่ำยงบประมำณอย่ำงชัดเจน ซ่ึงแตกต่ำงจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณต่ำงๆ ท่ีมี กำรกำหนดรำยละเอียดดังกล่ำวไวอ้ ย่ำงชดั เจนตำมหลักกำรจัดทำงบประมำณท่ีสำนักงบประมำณกำหนด จึงอำจทำให้กำรติดตำม ตรวจสอบผลกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณทำได้ค่อนข้ำงยำก เน่ืองจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพ่ือกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ไมต่ ้องผ่ำนกำรพิจำรณำจำกฝ่ำยนิติบัญญัติ ดังน้นั จึงควรมกี ลไกในกำรกำกับดูแล และติดตำมตรวจสอบ ให้กำรใช้จำ่ ยงบประมำณดังกล่ำวเกดิ ควำมค้มุ คำ่ ควำมประหยัด และควำมโปร่งใส รวมทัง้ กำรรักษำวินัย กำรเงินกำรคลังอย่ำงเคร่งคัดเพื่อให้ฐำนะทำงกำรเงินกำรคลังของประเทศมีเสถียรภำพ ม่ันคง และ ประชำชนได้รบั ประโยชนส์ ูงสดุ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 76 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ บทท่ี 5 บทสรปุ และข้อเสนอแนะ กำรศึกษำเร่ือง “การเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ” เป็นกำรศึกษำเชิงคุณภำพ (Qualitative research) ซึ่งผู้ศึกษำใช้วิธีกำรเก็บรวบรวมข้อมูล โดยศึกษำ คน้ คว้ำและรวบรวมข้อมลู ในระดับปฐมภูมิ โดยใช้วิธกี ำรสมั ภำษณ์กลุ่มย่อยหรือกำรสนทนำกลุม่ (Group Interviews) จำกตัวแทนผู้บริหำรและเจ้ำหน้ำที่ท่ีเก่ียวข้องด้ำนงบประมำณ รวมทั้งศึกษำค้นคว้ำและ รวบรวมข้อมูลในระดบั ทุติยภูมิที่มีกำรเรียบเรียงไว้แล้วจำกเอกสำรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี เอกสำร วชิ ำกำร รำยงำนประจำปี รำยงำนผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณ รำยงำนกำรกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและเงิน กันขยำย บทควำม งำนวิจัยท่ีเกี่ยวข้องด้ำนงบประมำณ กฎหมำย ระเบียบ คำสั่ง มติคณะรัฐมนตรี นโยบำยของรัฐบำล และข้อมูลจำกอินเตอร์เน็ตระหว่ำงปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 มำเป็นกรอบ แนวคิดในกำรศึกษำและวิเครำะห์เพ่ือจัดทำรำยงำนฯ ดังกล่ำว ให้มีควำมครบถ้วนสมบูรณ์และเกิด ประโยชนต์ ่อฝ่ำยนิติบัญญตั ิและบุคคลที่สนใจโดยทั่วไป โดยรำยงำนฉบับน้ีผศู้ ึกษำได้กำหนดวัตถุประสงค์ ของกำรศกึ ษำ ประกอบด้วย 1. เพื่อศึกษำรูปแบบ และแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ รวมท้ังผลกำร ดำเนินงำน และปัญหำอุปสรรคท่เี กิดขึ้นจำกกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจำ่ ยภำครฐั ทผ่ี ่ำนมำ 2. เพ่ือจัดทำข้อเสนอแนะแนวทำงกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำย ภำครัฐ ให้แก่ สมำชิกรัฐสภำ คณะกรรมำธิกำรวิสำมัญพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปี และคณะอนุกรรมำธิกำรชุดต่ำงๆ ใช้ประกอบกำรพิจำรณำอนุมัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี งบประมำณให้กบั หนว่ ยรับงบประมำณได้อย่ำงเหมำะสม เปน็ ธรรม และเกดิ ประสิทธิภำพสูงสุด 5.1 สรปุ ผลการศกึ ษา จำกกำรศึกษำรูปแบบ และแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ รวมท้ัง ผลกำรดำเนินงำน และปัญหำอุปสรรคท่ีเกิดขึ้นจำกกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ ระหว่ำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 ซ่ึงสำมำรถสรุปผลกำรศกึ ษำได้ ดังนี้ 5.1.1 รูปแบบ และแนวทางการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของภาครฐั กำ ร บ ริ ห ำร จั ด ก ำ ร งบ ป ร ะ มำ ณข อง ป ร ะ เ ท ศไ ทย ใ น ปั จ จุ บั น ใ ช้ ก ำร บ ริ ห ำ ร งบ ป ร ะม ำ ณ ในรูปแบบของระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ (Strategic Performance Based Budgeting : SPBB) ซ่ึงเป็นระบบงบประมำณที่ให้ควำมสำคัญกับกำรกำหนดพันธกิจ จุดมุ่งหมำย วัตถุประสงค์ กลยุทธ์ แผนงำน งำน/โครงกำรอย่ำงมีระบบ มีกำรติดตำมและประเมนิ ผลสม่ำเสมอ มีกำร กระจำยอำนำจและควำมรับผิดชอบของฝ่ำยต่ำงๆ ที่เกี่ยวข้องเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับชำติ ระดับ กระทรวง และระดับกรมหรอื ระดับหน่วยงำน ดังนนั้ เมอื่ กำรจดั ทำงบประมำณและกำรอนุมตั ิงบประมำณ เสร็จสิ้นลงแล้ว กระบวนกำรงบประมำณข้ันต่อไป คือ กำรบริหำรงบประมำณ ซ่ึงหน่วยรับงบประมำณ จะต้องดำเนินกำรบริหำรงบประมำณภำยใต้วงเงินงบประมำณที่ได้รับจัดสรรตำมพระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปี และต้องถือปฏิบัติภำยใต้กฎหมำย ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีกำร รวมท้ัง สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 77 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ มำตรกำรที่เก่ียวข้องอย่ำงเคร่งครัด โดยหลักเกณฑ์และวิธีกำรบริหำรงบประมำณท่ีใช้อยู่ในปัจจุบันได้ใช้ ระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ซึ่งบังคับใช้ทดแทนระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำร งบประมำณ พ.ศ. 2548 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม ได้กำหนดแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยไว้ 2 ลักษณะด้วยกัน ประกอบด้วย 1) การบริหารงบประมาณรายจ่ายสาหรับหน่วยรับงบประมาณ เป็นกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยท่ีเกี่ยวข้องกับข้ันตอนกำรดำเนินกำรตั้งแต่กำรจัดทำแผน กำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ กำรปรับปรุงแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำย งบประมำณ กำรอนุมัติเงินจัดสรร กำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย กำรโอนงบประมำณรำยจ่ำย กำรโอน เงินจัดสรรหรือกำรเปล่ียนแปลงเงินจัดสรร รวมท้ังกำรประเมินผลและกำรรำยงำน และ 2) การบริหาร งบประมาณรายจ่ายงบกลาง เป็นกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยกำรต่ำงๆ ท่ีกำหนดไว้ในงบประมำณ รำยจ่ำยงบกลำง โดยให้ผู้อำนวยกำรสำนักงบงประมำณมีอำนำจจัดสรรให้หน่วยรับงบประมำณเบิกจ่ำย โดยตรงหรือเบกิ จ่ำยในรำยกำรต่ำงๆ ของหนว่ ยรบั งบประมำณนัน้ ๆ ไดต้ ำมควำมจำเป็น จำกกำรศกึ ษำรปู แบบและแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครฐั ผู้ศกึ ษาไดค้ ้นพบ ประเดน็ ปัญหาอุปสรรคบางประการทีอ่ าจส่งผลกระทบตอ่ การบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ดงั น้ี 1) การเช่ือมโยงระบบฐานข้อมูลแผน/ผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ ระบบ BB EvMIS ของสานักงบประมาณ กับระบบ GFMIS ของกรมบัญชีกลาง ซ่ึงหำกหน่วยรับ งบประมำณมีกำรขอปรับปรุงแผนฯ ในระหวำ่ งปีงบประมำณฯ ซึ่งนอกเหนอื ไปจำกท่ีได้รับควำมเห็นชอบ จำกสำนักงบประมำณแลว้ ในระบบ BB EvMIS สำนักงบประมำณจะจัดสง่ เพียงสำเนำเอกสำรกำรปรับปรุง แผนฯ ให้กับกรมบัญชีกลำงเท่ำน้ันโดยไม่ได้ส่งข้อมูลเข้ำระบบ GFMIS ดังน้ัน หำกระบบฐำนข้อมูลของ ท้ังสองหน่วยงำนยังไม่สำมำรถเช่ือมโยงหรือบูรณำกำรข้อมูลกันได้ ก็จะทำให้กำรติดตำมประเมินผลและ กำรรำยงำนผลควำมสำเร็จของกำรดำเนินงำนจำกกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณเปน็ ไป ไดย้ ำกและขอ้ มลู อำจมีควำมคลำดเคล่ือนหรอื ไม่เป็นปจั จุบัน 2) การกาหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปี ในช่วงท่ีผ่ำนมำยังขำดกำรมีส่วนร่วมของหน่วยงำนที่ได้รับ จัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินที่สูง และหน่วยงำนที่เก่ียวข้องเข้ำมำกำหนดเป้ำหมำย กำรเบิกจ่ำยงบประมำณโดยเฉพำะเป้ำหมำยรำยจ่ำยลงทุน จึงทำให้กำรจัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและ แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณตำมมำตรกำรฯ ดังกล่ำวไม่ได้กำหนดให้สอดคล้องกับกำรปฏิบัติงำนจริง ของหน่วยงำน จนนำไปสู่กำรขอปรับปรุงแผนฯ ในระหว่ำงปีงบประมำณในช่วงระยะเวลำที่ผ่ำนมำ คอ่ นขำ้ งมำก 3) การบริหารงบประมาณรายจ่ายภายใต้มาตรการต่างๆ ของรัฐบาล มำตรกำร เพิ่มประสิทธิภำพที่รัฐบำลประกำศใช้ในช่วงที่ผ่ำนมำจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่สำมำรถช่วยเร่งรัด กำรเบิกจ่ำยงบประมำณของหน่วยงำนที่ได้รับงบประมำณในลักษณะรำยจ่ำยประจำ และหน่วยงำนท่ี ได้รับงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนประเภทดำเนินกำรปีเดียว รวมทั้งหน่วยงำนท่ไี ด้รบั งบประมำณไปบริหำร จัดกำรเองทั้งจำนวน แต่ยังไม่สำมำรถช่วยเร่งรัดกำรก่อหนี้ผูกพัน และกำรเบิกจ่ำยงบประมำณของ หน่วยรับงบประมำณที่ได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินที่สูงโดยเฉพำะรำยกำรผูกพัน ข้ำมปงี บประมำณใหเ้ ป็นไปตำมเป้ำหมำยท่ีกำหนดไว้ในมำตรกำรฯ ได้ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 78 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 4) การนาผลรายงานการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณจากระบบ BB EvMIS มาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดทางบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณถัดไป ในช่วงท่ีผ่ำนมำ สำนักงบประมำณได้นำผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนและกำรใช้จำ่ ยงบประมำณจำกระบบ BB EvMIS มำใช้เป็นขอ้ มูล ประกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณรำยจ่ำยในปีงบประมำณถัดไปค่อนข้ำงน้อย ทำให้หน่วยรับ งบประมำณที่ยังไม่มีควำมพร้อมในกำรดำเนินงำนโดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทุนได้รับจัดสรรงบประมำณ เช่นเดิม และปัญหำท่ีตำมมำทำให้ไม่สำมำรถก่อหน้ีผูกพันได้ทันภำยในปีงบประมำณ รวมท้ังไม่สำมำรถ เบกิ จ่ำยงบประมำณไดต้ ำมแผนฯ และเปำ้ หมำยที่รัฐบำลกำหนด 5.1.2 ผลการดาเนนิ งานและการใช้จา่ ยงบประมาณรายจ่ายประจาปีทผี่ า่ นมา 1) ผลการดาเนินงานและการใช้จา่ ยงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ 1.1) รัฐบำลได้ออกมำตรกำรเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนที่เข้มงวด โดยเฉพำะมำตรกำรเร่งรัดก่อหน้ีผูกพันซึ่งกำหนดระยะเวลำชัดเจนและมีกำรติดตำมอย่ำงต่อเนื่อง แต่ผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในช่วงที่ผ่ำนมำมีควำมล่ำช้ำ หรือมีอัตรำส่วนกำรเบิกจ่ำย งบประมำณท่ีใกล้เคียงกันทุกปีโดยปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 อยู่ที่อัตรำร้อยละ 65.82 73.92 75.55 70.26 และ 70.47 ตำมลำดับ 1.2) จำกกำรจัดเรียงลำดับกระทรวง/หน่วยงำนที่มีผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย ลงทุนสูงสุดและต่ำสุดย้อนหลัง 5 ปีงบประมำณ (พ.ศ. 2557-2561) พบว่ำ หน่วยงำนที่มีผลกำรเบิกจ่ำย งบประมำณรำยจำ่ ยลงทนุ สงู สุด คือ หนว่ ยงำนของศำล และต่ำสุด คือ หนว่ ยงำนของรัฐสภำ 2) ผลการดาเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง เม่ือพิจำรณำสัดส่วน งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงต่องบประมำณรำยจ่ำยประจำปีพบว่ำมีสัดส่วนค่อนข้ำงสูงเฉล่ียร้อยละ 15.67 โดยส่วนใหญ่เป็นค่ำใช้จ่ำยท่ีเกี่ยวข้องกับบุคลำกรภำครัฐ รองลงมำคือ รำยกำรเงินสำรองจ่ำยฯ แต่เม่ือ เปรียบเทียบสัดส่วนงบประมำณรำยกำรเงินสำรองจ่ำยฯ ต่องบประมำณรำยจ่ำยประจำปี พบว่ำมีสัดส่วน เฉลี่ยร้อยละ 3.91 ซ่ึงสูงกว่ำสัดส่วนตำมประกำศคณะกรรมกำรนโยบำยกำรเงินกำรคลังภำครัฐท่ีกำหนด ไวร้ ้อยละ 2.0 - 3.5 และในแตล่ ะปงี บประมำณมกี ำรเบิกจำ่ ยงบประมำณในรำยกำรดังกล่ำวค่อนข้ำงน้อย ซ่งึ ทำใหต้ ้องขอกันเงนิ ไว้เบิกเหล่อื มปี และขอขยำยระยะเวลำกำรเบกิ จำ่ ยเงินงบประมำณ 5.1.3 ปัญหาอุปสรรคทีเ่ กิดขึ้นจากการบริหารงบประมาณรายจา่ ยภาครฐั ที่ผ่านมา 1) ผลจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ภำยหลังจำก พระรำชบญั ญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ประกำศใชบ้ ังคับมีผลทำให้งบประมำณที่ไดร้ บั อนมุ ตั ิให้กัน ไว้เบิกเหลื่อมปี/กันขยำยโดยยังไม่ได้ก่อหน้ีผูกพัน ต้ังแต่ปีงบประมำณ 2554-2561 ไม่ได้รับอนุมัติ (พับคืนคลัง) จำนวนทั้งสิ้น 33,097.2535 ล้ำนบำท ซ่ึงเป็นผลมำจำกมำตรำ 43 ตำมพระรำชบัญญัติวิธีกำร งบประมำณ พ.ศ. 2561 ทำให้หน่วยรับงบประมำณเกิดปัญหำหยุดชะงักในกำรทำงำน ขำดกำรดำเนินงำน อย่ำงต่อเน่ือง และมผี ลทำให้งำนเกิดควำมล่ำชำ้ และต้องขยำยระยะเวลำในกำรดำเนนิ งำนออกไป สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 79 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 2) การเตรยี มความพรอ้ มในกระบวนการจัดซอื้ จดั จา้ งเพ่ือเร่งรดั การเบิกจา่ ยงบประมาณ รายจ่าย กำรกำหนดให้หน่วยรับงบประมำณเตรียมกำรวำงแผนกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงได้ต้ังแต่ ร่ำงพระรำชบัญญตั ิฯ ผำ่ นกำรพิจำรณำของคณะกรรมำธิกำรวสิ ำมัญพิจำรณำร่ำงพระรำชบญั ญัติฯ วำระที่ 2 ทำให้หน่วยรับงบประมำณท่ีมีโครงกำรลงทุนและได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนจำนวนมำก มีควำมคล่องตัวในกำรบริหำรงบประมำณและสำมำรถก่อหนี้ผูกพันได้เร็วย่ิงข้ึน แต่ยังไม่สำมำรถเร่งรัด กำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณใหเ้ ป็นไปตำมแผนฯ และเป้ำหมำยของรฐั บำลได้ 3) ระบบการรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุน กำรจัดสรร งบประมำณในลักษณะเงินอุดหนุน เช่น กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน หน่วยงำนอิสระของรัฐ องค์กำร มหำชน มหำวิทยำลัยในกำกับ รวมท้ังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน้ัน ในระบบ GFMIS จะแสดงยอด กำรตัดรำยกำรทั้งจำนวนหรือเบิกจ่ำยเป็นร้อยละ 100 โดยกรมบัญชีกลำงจะติดตำมตรวจสอบ ผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณผ่ำนระบบ GFMIS จำกกำรบันทึกรำยกำรในงบทดลองประจำเดือนของ หน่วยงำน และรำยงำนงบกำรเงินที่หน่วยงำนจัดส่งให้ แต่ไม่มีกำรเผยแพร่หรือรำยงำนผลกำรเบิกจ่ำย งบประมำณของหนว่ ยงำนดังกลำ่ วในระบบ GFMIS เชน่ เดยี วกับของหนว่ ยรบั งบประมำณอ่ืนๆ 4) การตดิ ตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงนิ สารองจ่าย เพ่ือกรณีฉุกเฉินหรือจาเป็น กำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็นที่เสนอในร่ำงพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ส่วนใหญ่รัฐบำลจะใช้ ดำเนินกำรในเร่ืองท่ีสำคัญและเร่งด่วนในกำรแก้ไขปัญหำตำมสถำนกำรณ์ท่ีอำจเกิดข้ึน แต่จะไม่มีกำร แสดงรำยละเอียดตัวช้ีวัดของผลผลิต/โครงกำร – กิจกรรม – รำยกำร แผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้ จ่ำยงบประมำณอยำ่ งชดั เจน ซ่ึงแตกต่ำงจำกกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณอนื่ ๆ ท่มี ีกำร กำหนดรำยละเอียดดังกล่ำวไว้อย่ำงชัดเจนตำมหลักกำรจัดทำงบประมำณที่สำนักงบประมำณกำหนด จึงอำจทำให้กำรติดตำม ตรวจสอบผลกำรปฏิบัตงิ ำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณทำได้ค่อนข้ำงยำก ดังน้ัน จึงควรมีกลไกในกำรกำกับดูแล และติดตำมตรวจสอบให้กำรใช้จ่ำยงบประมำณเกิดควำมคุ้มค่ำ ควำมประหยัด และควำมโปร่งใส รวมทั้งกำรรักษำวินัยกำรเงินกำรคลังอย่ำงเคร่งคัดเพื่อให้ฐำนะ ทำงกำรเงินกำรคลงั ของประเทศมเี สถียรภำพ ม่ันคง และประชำชนได้รับประโยชน์สงู สุด 5.2 ข้อเสนอแนะ 5.2.1 ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย 1) รฐั บำลควรมีกำรรำยงำนผลกำรใชง้ บประมำณแผ่นดินในกรณที ี่มกี ำรโอนหรือนำรำยจ่ำย ตำมงบประมำณท่ีกำหนดไว้ในรำยกำรใดตำมกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำยภำยใต้แผนฯ ไปใช้ใน รำยกำรอื่นของหน่วยรับงบประมำณให้รัฐสภำทรำบเป็นรำยไตรมำสและสรุปเป็นรำยงำนประจำปีหลังส้ิน ปีงบประมำณ เพ่ือให้ฝ่ำยนิติบัญญัติได้รับทรำบกำรใช้งบประมำณรำยจ่ำยและกำรโอนงบประมำณ รำยจ่ำยในแต่ละปีงบประมำณ นอกจำกน้ี ควรนำผลกำรใช้จ่ำยในปีงบประมำณท่ีผ่ำนมำ ใช้เป็นข้อมูล ประกอบกำรพจิ ำรณำอนมุ ัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปถี ัดไปดว้ ย สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 80 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพ่ิมประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 2) กำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณในแต่ละไตรมำส โดยเฉพำะเป้ำหมำย รำยจ่ำยลงทุน ควรเป็นกำรกำหนดร่วมกันระหว่ำงหน่วยงำนกลำงที่เกี่ยวข้องกับผู้แทนจำกหน่วยงำนที่ ได้รับจดั สรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินท่ีสูง เพ่ือให้กำรจัดทำแผนปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้ จำ่ ยงบประมำณตำมมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณใกล้เคียง กับกำรปฏิบตั งิ ำนจริง 3) ในกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ควรดำเนินกำรโดยใช้กลไกของคณะกรรมกำร ติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครัฐในกำรส่ั งกำรหน่วยรับงบประมำณเพื่อให้กำรบริหำรงำน มีเอกภำพและสำมำรถส่ังกำรแก้ไขปัญหำอุปสรรคท่ีเกิดข้ึนให้บรรลุผลสำเร็จตำมแผนฯ และเป้ำหมำย ทีก่ ำหนดไว้ 4) ควรมีกำรพัฒนำระบบฐำนข้อมูลด้ำนงบประมำณให้มีประสิทธิภำพและเกิดกำร บูรณำกำรขอ้ มลู รว่ มกันอยำ่ งแทจ้ รงิ โดยดำเนินกำร ดังนี้ 4.1) ควรมีกำรเชื่อมโยงระบบต่ำงๆ ภำยในสำนักงบประมำณให้เป็นฐำนข้อมูล เดยี วกันทั้งในส่วนของระบบ e-Budgeting ระบบ BB EvMIS และระบบอน่ื ๆ ท่เี กยี่ วข้องกบั งบประมำณ 4.2) ในอนำคตควรมีกำรบูรณำกำรระบบฐำนข้อมูลของหน่วยงำนกลำงอ่ืนๆ ที่มี กำรรำยงำนผลในมิติด้ำนผลกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณ อำทิ ระบบ e-Budgeting ระบบ BB EvMIS โดยสำนักงบประมำณ ระบบ GFMIS โดยกรมบญั ชกี ลำง และระบบ eMENSCR โดยสำนักงำน สภำพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ให้เป็นฐำนข้อมูลเดียวกัน เพื่อให้ข้อมูลมีควำมเป็นเอกภำพ และสำมำรถรองรับกำรใช้ประโยชน์ของทุกภำคสว่ นภำยใต้มำตรฐำนเดียวกันไดอ้ ย่ำงสมบรู ณ์ย่งิ ขนึ้ 4.3) ควรมีกำรสำรวจหรือรับฟงั ควำมคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของผู้ใช้ระบบตำ่ งๆ ที่เก่ียวข้องกับงบประมำณเพ่ือนำมำปรับปรุงระบบตำ่ งๆ ให้มีประสิทธิภำพยง่ิ ขึ้น ซ่งึ จะนำไปสูก่ ำรบริหำร งบประมำณรำยจำ่ ยทม่ี ปี ระสิทธภิ ำพอย่ำงแทจ้ รงิ ต่อไป 5.2.2 ขอ้ เสนอแนะเชิงปฏิบัติ 1) หน่วยงำนกลำงท่ีเก่ียวข้อง และหัวหน้ำหน่วยรับงบประมำณควรมกี ำรพิจำรณำวิเครำะห์ ข้อมูลเชิงลึกของแต่ละหน่วยงำนประกอบด้วย ต้ังแต่ข้ันตอนกำรทบทวนกำรวำงแผน กำรจัดทำคำขอ งบประมำณที่มีควำมเหมำะสมสอดคล้องกับงบประมำณที่ได้รับ รวมท้ังควรนำผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ ที่จะได้รับของงำนที่เกิดขึ้นจริงจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ตลอดจนควรนำผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำร ใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับงบประมำณมำประกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปอี ย่ำงจรงิ จงั มำกขึน้ 2) กำรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยให้แก่หน่วยรับงบประมำณ ควรต้องคำนึงถึงควำมจำเป็น และภำรกิจ ฐำนะเงินนอกงบประมำณ ควำมสำมำรถในกำรใช้จ่ำยและก่อหน้ีผูกพัน กำรปฏิบัติหน้ำที่ โดยอิสระ ตลอดจนต้องคำนึงถึงควำมสำมำรถในกำรหำรำยได้ รวมทั้งควำมเหมำะสมและควำมแตกต่ำง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละรูปแบบตำมที่บัญญัติไว้ในมำตรำ 17 แห่งพระรำชบัญญัติวินัย กำรเงินกำรคลังภำครัฐ พ.ศ. 2561 ก่อนที่จะพิจำรณำอนุมัติคำขอต้ังงบประมำณให้กับหน่วยรับ งบประมำณ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 81 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพ่มิ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 3) หน่วยงำนกลำงในฐำนะเป็นผู้รับนโยบำยจำกรัฐบำลมำปฏิบัติเพื่อให้งำนด้ำนกำรจัดกำร งบประมำณของประเทศมีประสิทธิภำพและประสิทธิผลยงิ่ ข้ึน ควรนำจุดอ่อนจุดแข็ง และปัญหำอุปสรรค ทเ่ี กิดขึ้นจำกกำรดำเนินงำน รวมทั้งนำแนวทำงกำรปฏิบัติงำนของคณะกรรมกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำย งบประมำณภำครัฐในช่วงท่ีผ่ำนมำมำประกอบกำรพิจำรณำทบทวนและวิเครำะห์เพื่อหำแนวทำงในกำร บรหิ ำรและเร่งรดั ติดตำมกำรใช้จำ่ ยงบประมำณให้มปี ระสิทธภิ ำพมำกยงิ่ ข้นึ 4) หน่วยงำนกลำงที่กำหนดนโยบำย ออกกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือหลักเกณฑ์ทเี่ ก่ียวข้อง กับกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำย และหน่วยงำนส่วนกลำงของแต่ละหน่วยรับงบประมำณ รวมทั้ง หน่วยงำนส่วนภูมิภำค จะต้องให้ควำมสำคัญกับกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจกับกฎหมำยท่ีประกำศใช้ บังคับใหม่ อำทิ พระรำชบัญญัติกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ.2560 พระรำชบัญญัติ วินัยกำรเงินกำรคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 และระเบียบ ว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 รวมท้ังควรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในข้ันตอนกำรดำเนินงำน ตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร และแนวทำงกำรปฏิบัติตำมมำตรกำรเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณท่ีรัฐบำล ประกำศใช้ รวมทง้ั ประสำนติดตำมใหม้ ีกำรปฏบิ ตั ใิ นเร่อื งดังกลำ่ วให้เป็นระบบและต่อเนื่อง 5) หน่วยรับงบประมำณ ควรมีกำรเตรียมควำมพร้อมของข้อมูลและเอกสำรที่เก่ียวข้อง ในขั้นตอนกำรดำเนินกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงในโครงกำรลงทุนที่จะได้รับกำรจัดสรรงบประมำณไว้ล่วงหน้ำ เพ่ือให้สำมำรถดำเนินกำรได้ทันทีท่ีพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีมีผลบังคับใช้ ตำมกฎหมำย ซ่ึงจะทำให้หน่วยรับงบประมำณสำมำรถก่อหน้ีผูกพันรวมถึงเบิกจ่ำยงบประมำณได้ตำมแผนฯ และเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด 6) กรมบัญชีกลำง ควรมีกำรเผยแพร่หรือรำยงำนผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยงำน ท่ีได้รับกำรจัดสรรงบประมำณในลักษณะเงินอุดหนุนเพ่ิมเติม เพื่อให้ภำครัฐ ภำคเอกชน และภำค ประชำชน สำมำรถติดตำมผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณและผลกำรดำเนนิ งำนของหน่วยงำนดังกลำ่ วได้อย่ำง ต่อเนือ่ งและเปน็ ปจั จบุ นั มำกย่ิงขน้ึ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 82 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพิม่ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ บรรณานุกรม กรมบัญชีกลำง. (2557-2562). รายงานสรุปรายการเบกิ จ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2557-2562 จากระบบ GFMIS. (เอกสำรอดั สำเนำ). “ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรฐั เรื่อง กาหนดสดั สว่ นตา่ งๆ เพื่อเปน็ กรอบวนิ ัย การเงนิ การคลังของรัฐ พ.ศ. 2561” (21 มิถุนำยน 2561). รำชกจิ จำนเุ บกษำ, เล่ม 135 ตอน 144 ง, น. 9. “พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพมิ่ เติมประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559” (15 มนี ำคม 2559). รำชกจิ จำนเุ บกษำ, เลม่ 133 ตอนที่ 23 ก, น. 1. “พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิม่ เติมประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2560” (24 กุมภำพนั ธ์ 2560). รำชกจิ จำนเุ บกษำ, เลม่ 134 ตอนท่ี 24 ก, น. 1. “พระราชบัญญัติงบประมาณรายจา่ ยเพ่มิ เติมประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2561” (13 พฤษภำคม 2561). รำชกจิ จำนเุ บกษำ, เลม่ 135 ตอนที่ 33 ก, น. 19. “พระราชบญั ญตั ิวธิ กี ารงบประมาณ พ.ศ. 2561” (11 พฤศจิกำยน 2561). รำชกจิ จำนุเบกษำ, เล่ม 135 ตอนที่ 92 ก, น. 1. “พระราชบญั ญัติวนิ ยั การเงินการคลงั ภาครัฐ พ.ศ. 2561” (19 เมษำยน 2561). รำชกจิ จำนุเบกษำ, เลม่ 135 ตอนท่ี 27 ก, น. 1. “พระราชบญั ญตั ิโอนงบประมาณรายจา่ ย พ.ศ. 2558” (25 กนั ยำยน 2558). รำชกิจจำนุเบกษำ, เล่ม 132 ตอนที่ 91 ก, น. 1. “พระราชบัญญตั โิ อนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2559” (27 มถิ ุนำยน 2559). รำชกจิ จำนุเบกษำ, เล่ม 133 ตอนที่ 55 ก, น. 1. “พระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจา่ ย พ.ศ. 2560” (17 พฤษภำคม 2560). รำชกิจจำนุเบกษำ, เลม่ 134 ตอนที่ 53 ก, น. 1. “พระราชบญั ญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2561” (5 สงิ หำคม 2561). รำชกจิ จำนุเบกษำ, เลม่ 135 ตอนท่ี 56 ก, น. 1. ภำมิรักษณ์ ชมแสง. (2554). รายงานการวจิ ยั เรื่อง “แนวทางการพฒั นาและเพ่ิมประสิทธิภาพ การบริหารจดั การงบประมาณรายจา่ ยภาครฐั . ม.ป.ท.: ม.ป.พ. “รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560” (6 เมษำยน 2560). รำชกจิ จำนุเบกษำ, เลม่ 134 ตอน 40 ก, น. 1. “ระเบยี บวา่ ด้วยการก่อหน้ีผูกพนั ข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2562” (31 กรกฎำคม 2562). รำชกิจจำนุเบกษำ, เลม่ 136 ตอนพิเศษ 191 ง, น. 5. “ระเบียบว่าด้วยการโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการและงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหวา่ งหน่วยรับ งบประมาณ พ.ศ. 2562” (31 กรกฎำคม 2562). รำชกิจจำนเุ บกษำ, เลม่ 136 ตอนพเิ ศษ 191 ง, น. 1. สถำบนั วจิ ัยสงั คม จฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลยั . (2553). รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report) การเพิ่มประสทิ ธิภาพการนาระบบงบประมาณแบบมุ่งเนน้ ผลงานตามยุทธศาสตร์ไปปฏบิ ัติ. กรงุ เทพฯ: จฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลยั . สำนักงำนเลขำธกิ ำรวฒุ ิสภำ. (2559). รายงานของคณะกรรมาธกิ ารเศรษฐกิจ การเงินและการคลงั สภานติ ิบัญญตั ิ แหง่ ชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เรอื่ ง การเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายงบประมาณรายจา่ ย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เมอ่ื สิน้ สดุ ไตรมาสท่สี ี่ของหนว่ ยงานของรัฐ รัฐวิสาหกจิ รวมทง้ั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ . (เอกสำรอดั สำเนำ). สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 83 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพ่มิ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ บรรณานกุ รม (ตอ่ ) สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ. (2562). ร่างพระราชบญั ญัตงิ บประมาณรายจา่ ยประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร. สำนักงบประมำณของรัฐสภำ. (2561). วิเคราะหป์ ระเดน็ ข้อสงั เกตของคณะกรรมาธกิ ารวิสามญั พจิ ารณา รา่ งพระราชบญั ญัตงิ บประมาณรายจา่ ยประจาปีของสภานติ ิบญั ญตั แิ ห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 - พ.ศ. 2561. กรุงเทพฯ: สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร. สำนักงบประมำณของรฐั สภำ. (2562). วิเคราะห์ประเด็นข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพจิ ารณา รา่ งพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปีของสภานิติบัญญตั ิแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 - พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร. สำนักงบประมำณ. (2562). เอกสารงบประมาณ ฉบับที่ 6 งบประมาณรายจ่าย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: สำนกั งบประมำณ. โสรสั สขุ ถำวร. (2558). รายงานการศึกษาส่วนบคุ คล เรอ่ื ง มาตรการเพม่ิ ประสิทธิภาพการใช้จ่าย งบประมาณ: กรณศี ึกษาการบริหารงบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ (ปี พ.ศ. 2556-2558). ม.ป.ท.: ม.ป.พ. ข้อมูลจากส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กรมบญั ชีกลำง. (2557-2561). มาตรการเพิ่มประสิทธภิ าพการใช้จา่ ยงบประมาณรายจ่ายประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2557-พ.ศ. 2561. สืบคน้ เมื่อวนั ท่ี 20 ธนั วำคม 2561, จำก https://www.cgd.go.th/cs/internet/internet/กลมุ่ ขอ้ มูลข่ำวสำร. html?page=1&perpage=500&page_locale=th_TH&news_type=NewsOrganize_P&ne ws_type_id=1428491617988&p=1428496521642&pid=1428491643401&sidebar=tr ue&keyword=&adv_search=&date_start=&date_end= สำนกั งบประมำณ. (2562). มาตรการด้านการงบประมาณเพื่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บท. สบื ค้นเมอื่ วันที่ 5 มกรำคม 2562, จำก http://www.dnp.go.th/info_office/5.มำตรด้ำน กำรงบประมำณ%20มติ%20ครม.%2013%20ธ.ค.%202561.pdf สำนักงบประมำณ. (2561). ระเบยี บวา่ ด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงนิ สารอง จา่ ยเพือ่ กรณฉี ุกเฉนิ หรือจาเป็น (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2561. สบื ค้นเมอ่ื วนั ท่ี 20 มถิ นุ ำยน 2561, จำก http://www.bb.go.th/topic-detail.php?id=10258&mid=267&catID=0 สำนกั งบประมำณ. (2562). ระเบยี บวา่ ดว้ ยการบรหิ ารงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2562. สืบค้นเม่ือวันท่ี 5 สงิ หำคม 2562, จำก http://www.finance.rmuti.ac.th/budget%20law/ระเบียบบริหำร งบประมำณ2562.pdf สำนักงบประมำณ. (2562). หลักเกณฑ์และวิธีการติดตามและประเมินผลตามแผนการปฏิบตั งิ านและ แผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณของหนว่ ยรับงบประมาณ (2562). สบื ค้นเม่ือวันท่ี 20 กุมภำพันธ์ 2562, จำก http://www.bb.go.th/topic-detail.php?id=8675&mid=200&catID=0 สำนักงบประมำณ. (2562). หลักเกณฑว์ า่ ด้วยการใชง้ บประมาณรายจ่าย การโอนเงินจดั สรรหรอื การเปลี่ยนแปลงเงนิ จัดสรร พ.ศ. 2562. สืบคน้ เม่อื วันที่ 5 สงิ หำคม 2562, จำก http://bbstore.bb.go.th/cms/1566976931_1329.pdf สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 84 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร

การเพิม่ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ภาคผนวก สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หน้ำ 85 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ภาคผนวก ก ขอ้ มลู ทไี่ ด้รบั จากการสัมภาษณ์ ผ้บู รหิ ารและเจา้ หน้าทท่ี เี่ กย่ี วขอ้ งดา้ นงบประมาณ ในกำรศึกษำครั้งนี้ ผู้ศึกษำได้ใช้วิธีกำรสัมภำษณ์กลุ่มย่อยหรือกำรสนทนำกลุ่ม (Group Interviews) จำกตัวแทนผู้บริหำรและเจ้ำหน้ำที่ท่ีเกี่ยวข้องด้ำนงบประมำณโดยกำรเลือกกลุ่มตัวอย่ำง แบบจำเพำะเจำะจง จำนวน 4 หน่วยงำน ประกอบดว้ ย 1. สำนักงบประมำณ ในฐำนะหน่วยงำนกลำงท่ีมีอำนำจหน้ำท่ีในกำรจัดทำงบประมำณ บริหำรจดั กำรงบประมำณ ควบคุมงบประมำณ และติดตำมประเมนิ ผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณ 2. กรมบัญชกี ลำง ในฐำนะเป็นหน่วยงำนท่ีมีอำนำจหน้ำท่ีในกำรควบคุมดูแลกำรใช้จ่ำยเงิน แผน่ ดนิ และรวบรวมผลกำรเบิกจำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำยในภำพรวมของทง้ั ประเทศ 3. กรมชลประทำน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมทำงหลวง กระทรวงคมนำคม ในฐำนะเป็นหน่วยรับงบประมำณทไ่ี ดร้ บั กำรจดั สรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทนุ เปน็ จำนวนเงินทีส่ งู สรุปประเดน็ ขอ้ คน้ พบจากการสมั ภาษณ์หนว่ ยงานกลางทีเ่ กยี่ วข้อง 1. สานักงบประมาณ สานกั นายกรัฐมนตรี เมื่อวันท่ี 26 กมุ ภาพนั ธ์ 2562 จำกกำรสัมภำษณ์พบวำ่ ในปงี บประมำณ พ.ศ. 2562 รัฐบำลไม่ไดก้ ำหนดมำตรกำรเพ่ิม ประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเหมือนเช่นทุกปีท่ีผ่ำนมำ เน่ืองจำกในช่วง ปีงบประมำณ พ.ศ. 2560-2562 มีกฎหมำยที่เกี่ยวข้องกับงบประมำณออกมำหลำยฉบับโดยเฉพำะ พระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณพ.ศ. 2561 ดังน้ัน กำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยทั้งรำยจ่ำย ภำพรวม รำยจ่ำยประจำ และรำยจ่ำยลงทุนในแต่ละไตรมำส จะพิจำรณำจำก 1) แผนยุทธศำสตร์ชำติ ระยะ 20 ปี 2) แผนแม่บทภำยใต้ยุทธศำสตร์ชำติ 3) กำรขยำยตัวทำงเศรษฐกิจของประเทศ 4) แผนปฏิบตั ริ ำชกำรกระทรวง 5) ผลกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณในปีงบประมำณท่ีผ่ำนมำ และ 6) เปำ้ หมำย กำรเบกิ จำ่ ยตำมแผนกำรปฏิบัตงิ ำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณทไ่ี ด้รบั ควำม เห็นชอบจำกสำนักงบประมำณแล้ว เป็นต้น และสำนักงบประมำณจะนำข้อมูลดังกล่ำวมำประมวลผล และกำหนดเป็นเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณเป็นรำยไตรมำสและมำตรกำรด้ำนกำรงบประมำณ เพื่อกำรขับเคล่ือนยุทธศำสตร์ชำติและแผนแม่บทเสนอคณะรัฐมนตรีให้ควำมเห็นชอบและประกำศใช้ มำตรกำรฯ ดงั กล่ำว และให้ทุกหนว่ ยรบั งบประมำณนำไปใชใ้ นกำรจัดทำแผนฯ ตอ่ ไป สำหรับกำรจัดสรรงบประมำณในปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 สำนักงบประมำณได้จัดสรร งบประมำณงวดแรกให้หน่วยรับงบประมำณไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินงบประมำณปี 2562 โดยแผนงำน/ โครงกำรที่จะดำเนินกำรในไตรมำสแรกสำนักงบประมำณจะจัดสรรงบประมำณให้ไปทงั้ จำนวนเพอ่ื ใช้จำ่ ย และกอ่ หนี้ผูกพันตำมแผนกำรปฏิบตั ิงำนและแผนกำรใช้จำ่ ยงบประมำณ สำหรับงบประมำณรำยจำ่ ยส่วนท่ี เหลือจะจัดสรรให้เมื่อหน่วยรับงบประมำณตรวจสอบและทบทวนควำมสอดคล้องกับยุทธศำสตร์ชำติ ระยะ 20 ปี และแผนแม่บทภำยใต้ยทุ ธศำสตร์ชำติแล้ว นอกจำกน้ี หำกหนว่ ยงำนใดไม่สำมำรถเบิกจ่ำยหรือก่อหน้ี ผูกพันได้ตำมเป้ำหมำยและหรือแผนฯ ท่ีกำหนดไว้ สำนักงบประมำณจะนำมำเป็นข้อมูลประกอบกำร พจิ ำรณำจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 ดว้ ย สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 86 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร

การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ดังน้ัน เพื่อเป็นกำรช่วยบรรเทำปัญหำของหน่วยงำนที่ถูกพับรำยกำรเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี/ กันขยำยตั้งแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 -2561 สำนักงบประมำณจึงได้กำหนดมำตรกำร ด้ำนกำรงบประมำณเพื่อกำรขับเคล่ือนยุทธศำสตร์ชำติและแผนเม่บท ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 โดยให้สว่ นรำชกำร รัฐวสิ ำหกจิ และหน่วยงำนอน่ื พิจำรณำทบทวนรำยกำรงบประมำณทถ่ี กู พบั ไปแตย่ งั มี ควำมจำเป็นต้องดำเนินกำรต่อไปและมีควำมพร้อมที่จะใช้จ่ำยหรือก่อหนี้ได้ทันภำยในไตรมำสท่ี 2 ของปีงบประมำณ 2562 ก็ให้โอนเปล่ียนแปลงรำยกำรท่ีมีลำดับควำมสำคัญน้อยกว่ำและไม่อยู่ในแผน แม่บทภำยในแผนงำนเดียวกันไปดำเนินกำรได้ ซึ่งทำให้ส่วนรำชกำรสำมำรถแก้ไขปัญหำได้ในระดับหน่ึง จำกกรณีดังกล่ำวสำนักงบประมำณก็ได้มีกำรหำรือร่วมกับกรมบัญชีกลำงเพื่อหำแนวทำงช่วยบรรเทำ ปญั หำของหน่วยงำนท่ีถูกพับรำยกำร จนกระทั่งในปัจจุบนั กรมบัญชีกลำงได้มีกำรอนุมัติงบประมำณที่ถูก พับไปด้วยผลของกฎหมำยฉบับนี้ให้กับหน่วยรับงบประมำณที่ขออุทธรณ์ไปแล้วบำงส่วน สำหรับ ส่วนท่ีเหลืออยู่ระหว่ำงดำเนินกำรพจิ ำรณำทบทวนขอ้ มลู กำรขออุทธรณจ์ ำกส่วนรำชกำรตำ่ งๆ นอกจำกนี้ ในกรณีท่ีหน่วยรับงบประมำณมีควำมจำเป็นต้องกำรเปลี่ยนแปลงแผน กำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณระหว่ำงปีนอกเหนือไปจำกที่ได้รับควำมเห็นชอบจำก สำนักงบประมำณแล้ว หน่วยรับงบประมำณจะต้องขอทำควำมตกลงกับสำนักงบประมำณก่อน และทำง สำนักงบประมำณจะจัดส่งสำเนำเอกสำรกำรเปลย่ี นแปลงแผนฯ ดังกลำ่ วไปใหก้ ับสำนักงำนตรวจเงนิ แผนดิน และกรมบัญชีกลำง แต่ไม่ได้จัดส่งผ่ำนทำงระบบ GFMIS สำหรับในกรณีของกำรจัดสรรงบประมำณให้กับ หน่วยงำนภำครัฐท่ีได้รับกำรจัดสรรงบประมำณในลักษณะเงินอุดหนุน เช่น กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน หน่วยงำนอิสระของรัฐ องค์กำรมหำชน มหำวิทยำลัยในกำกับ รวมท้ังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นน้ัน ในระบบ GFMIS จะแสดงยอดเงินกำรตัดรำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณทั้งจำนวนหรือร้อยละ 100 เพื่อให้ หน่วยงำนดังกล่ำวมีควำมคล่องตัวในกำรใช้จ่ำยงบประมำณตำมกฎหมำยกำรจัดตั้งหน่วยงำน นอกจำกน้ี หำกงบประมำณท่ีได้รับจัดสรรใช้จ่ำยคงเหลือสำมำรถเก็บสะสมไว้ใช้บริหำรจัดกำรในหน่วยงำนได้โดย ไม่ต้องนำส่งคืนคลัง สำหรับกำรติดตำมผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณ กรมบัญชีกลำงจะติดตำมผ่ำนระบบ GFMIS โดยบันทึกรำยกำรในงบทดลองประจำเดือนของหน่วยงำนและรำยงำนงบกำรเงินที่หน่วยงำน จัดส่งให้ ส่วนสำนักงบประมำณได้มีกำรติดตำมประเมินผลของหน่วยงำนดังกล่ำวแยกต่ำงหำกจำก หน่วยรับงบประมำณอื่นๆ โดยกำหนดให้รำยงำนผลกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณ พร้อมท้ัง ปัญหำอุปสรรคมำให้สำนักงบประมำณเป็นรำยเดือนเพื่อใช้ประกอบกำรพิจำรณำจัดสรรงบประมำณ รำยจำ่ ยประจำปี และขณะนี้สำนกั งบประมำณก็ได้มกี ำรเตรียมควำมพรอ้ มในกำรรองรับพระรำชบัญญัตวิ ิธีกำร งบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่ประกำศใช้บังคับเม่ือวันที่ 12 พฤศจิกำยน 2561 ซ่ึงพระรำชบัญญัติฉบับน้ี ได้กำหนดให้สำนักงบประมำณต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์และระบบกำรรำยงำนต่ำงๆ ที่เก่ียวข้องกับ กำรจัดทำงบประมำณ กำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำย กำรควบคุมงบประมำณ รวมถึงกำรประเมินผล และกำรรำยงำนกำรใช้จ่ำยงบประมำณท่ีมีกำรใช้บังคับมำเป็นเวลำนำนแล้ว เพ่ือให้กระบวนกำรจัดสรร งบประมำณของประเทศมีลกั ษณะท่ีมุง่ เป้ำหมำยและผลสัมฤทธิข์ องงบประมำณเป็นสำคัญ และเพ่ือให้เกิด ประสทิ ธภิ ำพและควำมคมุ้ คำ่ ในกำรใชจ้ ำ่ ยงบประมำณยิ่งข้ึน สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 87 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร

การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2. กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เม่ือวนั ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 กรมบัญชีกลำง มีพันธกิจสำคัญในกำรบริหำรเงินสดภำครัฐ และบริหำรกำรรับ-จ่ำยเงิน แผ่นดินให้เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพ โดยมีกลุ่มบริหำรเงินคงคลัง ดูแลในเรื่องของกำรคำดกำรณ์เงินสด รับ-เงินสดจ่ำย กับกำรบริหำรเงินสดระหว่ำงปี และกระบวนกำรบริหำรเงินคงคลัง จะมีคณะทำงำนและ คณะบริหำรเงินคงคลัง ซึ่งมำจำกหน่วยงำนท่ีพิจำรณำงบประมำณในภำพรวมของประเทศ รวมท้ังในเรื่อง ของนโยบำยต่ำงๆ ที่เก่ียวข้อง และมำตรกำรเร่งรัดกำรใช้จำ่ ยงบประมำณของภำครฐั ท่ีเกดิ ข้ึนในระหวำ่ งปี ประกอบด้วย สำนักงำนเศรษฐกิจกำรคลัง สำนักบริหำรหนี้สำรธำรณ และกรมบัญชีกลำง โดยเร่ิมต้น กระบวนกำรบริหำรเงินคงคลังจะเป็นกำรเก็บขอ้ มลู ย้อนหลังประมำณ 2-3 ปี จำกผลกำรดำเนินงำนท่ีผ่ำนมำ ผลกำรใช้จำ่ ยงบประมำณของส่วนรำชกำร รัฐวิสำหกจิ และหนว่ ยงำนของรัฐอื่นทเ่ี บิกจำ่ ยงบประมำณจำก ระบบ GFMIS รวมทั้งเงินนอกงบประมำณ เพ่ือหำค่ำสถิติที่ผ่ำนมำ และเม่ือร่ำงพระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีผ่ำนวำระ 1 แล้ว คณะทำงำนดังกล่ำวจะมำทำกำรคำดกำรณ์เพ่ือวำงแผน บริหำรเงินสด และบริหำรกำรรับ-จ่ำยเงินของส่วนรำชกำร และในช่วงของกำรบริหำรระหว่ำงปีจะมีกำร คำดกำรณเ์ ป็นรำยปี รำยเดือน รำยไตรมำส และมีกำรตดิ ตำมเป็นรำยวันโดยใชข้ ้อมูลผลกำรเบิกจ่ำยและ กำรนำส่งรำยได้ในแต่ละวันจำกธนำคำรแห่งประเทศไทย มำใช้ในกำรปรับแผนที่กรมบัญชีกลำงจัดทำไว้ นอกจำกน้ียังมีกำรบริหำรเงินกู้ร่วมกับสำนักงำนบริหำรหน้ีสำธำรณะและหำกมีควำมคำดเคลื่อนไปจำก แผนที่กำหนด กรมบัญชีกลำงก็จะทำกำรปรับแผนทุกเดือน เพ่ือให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์กำรบริหำร เงนิ คงคลงั และนโยบำยของรฐั บำล สำหรับกระบวนกำรบริหำรงบประมำณ กรมบัญชีกลำง จะมีหน้ำที่หลักในกำรติดตำม เร่งรัดกำรใช้จ่ำยเงินงบประมำณแผ่นดิน แต่เมื่อย้อนกลับไปในช่วงก่อนปีงบประมำณ 2557 กรมบัญชีกลำงจะมีกำรกำหนดมำตรกำรและเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณโดยผ่ำนกลไกของ คณะกรรมกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครัฐ โดยมีรองนำยกรัฐมนตรีด้ำนเศรษฐกิจ เป็นประธำนกรรมกำร มีกรรมกำรที่มำจำกหน่วยงำนผู้แทนหน่วยงำนที่ได้รับงบประมำณรำยจ่ำยลงทุน จำนวนมำกๆ รวมท้ังมีอธิบดีกรมบัญชีกลำง เป็นกรรมกำรและเลขำนุกำร ซ่ึงมีอำนำจหน้ำที่สำคัญในกำร ติดตำมและเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครัฐให้สำมำรถเบิกจ่ำยสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่ำงมี ประสิทธิภำพ แต่ต่อมำภำยหลังจำกท่ีเกิดเหตุกำรณ์ควำมไม่สงบทำงกำรเมืองในช่วงปีงบประมำณ พ.ศ. 2555-2557 อย่ำงต่อเน่ือง สำนักงบประมำณก็ได้เสนอมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำย งบประมำณเพ่ือเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณต่อคณะรัฐมนตรี จึงทำให้คณะกรรมกำรฯ ดังกล่ำว ต้องหยุดกำรปฏิบัติงำนตั้งแต่บัดน้ันเป็นต้นมำ และมีเพียงกำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยในแต่ละ ไตรมำสตำมมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี และกำรรำยงำนผล กำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณต่อคณะรฐั มนตรที ่ีสำนักงบประมำณและกรมบัญชีกลำงไดด้ ำเนนิ กำรรว่ มกันเท่ำน้นั ดังนั้น ภำยหลังจำกที่พระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีประกำศใช้บังคับ หน่วยรับงบประมำณจะต้องจัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณในระบบฐำนข้อมูล แผน/ผลกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณ (BB EvMIS) หลังจำกน้ันสำนักงบประมำณจะทำกำร Mapping แผนดังกล่ำว เข้ำสู่ระบบ GFMIS เพื่อให้กรมบัญชีกลำงติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ของทุกหน่วยรับงบประมำณให้เป็นไปตำมแผนฯ แต่หำกในระหว่ำงปีงบประมำณหน่วยรับงบประมำณ มีกำรปรับปรุงแผนฯ สำนักงบประมำณจะจัดส่งเพียงสำเนำเอกสำรกำรปรับปรุงแผนฯ ให้กับกรมบัญชี กำรเทำ่ นนั้ จึงทำให้ในระบบ GFMIS ไม่ปรำกฏข้อมลู กำรปรับปรุงแผนฯ ดงั กลำ่ ว สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 88 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร