Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา

รวมกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา

Published by flowerz_uk, 2019-12-23 23:09:17

Description: รวมกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา

Search

Read the Text Version

-๑- ระเบียบรัฐสภา ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ ----------------------- โดยที่เป็นการสมควรกาหนดให้มีเงินค่าตอบแทนพิเศษสาหรับลูกจ้างประจาของส่วนราชการ สังกัดรัฐสภา เพื่อเป็นค่าตอบแทนพิเศษในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา อันเป็นองค์กรที่ใช้อานาจนิติบัญญัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาสามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๕ (๕) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ ฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปน้ี ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า \"ระเบียบรัฐสภาว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจา ของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔\" ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ในระเบียบน้ี “ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา” หมายความว่า ลูกจ้างประจาของสานักงาน เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หรือลูกจ้างประจาของสานักงานเลขาธิการวุฒิสภา ข้อ ๔1 ให้ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาได้ รับเงินค่าตอบแทนพิเศษ เปน็ รายเดอื น ดงั น้ี (๑) ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ซ่ึงปฏิบัติราชการยังไม่ครบ ๑๐ ปี ให้ได้รับ ในอตั ราเดอื นละห้าพนั บาท (๒) ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ซ่ึงปฏิบัติราชการครบ ๑๐ ปี ให้ได้รับในอัตรา เดอื นละหกพันบาท (๓) ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ซึ่งปฏิบัติราชการครบ ๑๕ ปี ให้ได้รับในอัตรา เดือนละเจด็ พันบาท 1 ข้อ ๔ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยระเบียบรัฐสภาว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๕ - 48 -

-๒- (๔) ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ซ่ึงปฏิบัติราชการครบ ๒๐ ปี ให้ได้รับในอัตรา เดือนละแปดพันบาท การเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษ ให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายของสานักงาน เลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร หรอื สานักงานเลขาธิการวุฒิสภา แลว้ แต่กรณี ข้อ ๕ การจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษให้แก่ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา กรณีพ้นจากการเป็นลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ให้จ่ายได้ถึงวันก่อนวันที่มีคาสั่ง ให้ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาผู้นั้นพ้นจากการเป็นลูกจ้าง ในกรณีถึงแก่ความตายให้จ่ายได้ ถึงวันท่ีลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาผู้นั้นถึงแก่ความตาย ข้อ ๖ ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาผู้ใดมีระยะเวลาปฏิบัติหน้าที่ราชการ ไม่ถึงสามในสี่ของจานวนวันทาการในเดือนใด ไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษสาหรับเดือนนั้น2 ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาผู้ใดละท้ิงหน้าท่ีราชการหรือขาดราชการในเดือนใด โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ห้ามมิให้จ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษสาหรับวันที่ละทิ้งหน้าท่ีราชการหรือขาดราชการ ดังกล่าว กรณีมีภารกิจที่จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ราชการเร่งด่วน ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัด รัฐสภาผู้ใดไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ราชการเร่งด่วนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ห้ามมิให้จ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษ สาหรับวันที่ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าท่ีราชการดังกล่าว ข้อ ๗ ลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาผู้ใดถูกสั่งพักราชการ ถูกสั่งให้ออกจาก ราชการไว้ก่อน หรืออยู่ระหว่างการอุทธรณ์คาสั่งลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง ไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทน พิเศษสาหรับระยะเวลาดังกล่าว ข้อ ๘ ให้คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภามีอานาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับ การปฏิบัติตามระเบียบนี้ ข้อ ๙ ให้ประธานรัฐสภารักษาการตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ พลเอก ธีรเดช มเี พียร ประธานวฒุ ิสภาทาหนา้ ท่ปี ระธานรฐั สภา 2 ข้อ ๖ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบรัฐสภาว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๕ - 49 -

-๓- ระเบียบรัฐสภาว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพเิ ศษของลูกจา้ งประจาของส่วนราชการสังกัดรฐั สภา พ.ศ. ๒๕๕๔3 หมายเหตุ : โดยท่ีมาตรา ๑๕ (๕) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ กาหนดให้ ก.ร. มีอานาจกาหนดค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ดังน้ัน เพ่ือกาหนดเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา โดยให้ได้รับเงินค่าตอบแทน พิเศษตามหลักเกณฑ์และเงอ่ื นไขที่ ก.ร. กาหนด จงึ จาเปน็ ตอ้ งออกระเบียบรัฐสภานี้ ระเบียบรัฐสภาว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔4 เพ่ือเป็นการปรับปรุงอัตราเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาให้มีความ เหมาะสมย่ิงข้ึน โดยท่ีมาตรา ๑๕ (๕) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ กาหนดให้ ก.ร. มีอานาจกาหนดค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา และ ก.ร. เหน็ สมควรให้ลูกจา้ งประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาได้รับเงนิ คา่ ตอบแทนพิเศษเพิ่มข้ึนจากอัตราที่ได้รับอยู่ เดมิ จงึ จาเป็นต้องออกระเบียบน้ี ระเบียบรัฐสภาว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๕5 หมายเหตุ : โดยท่ีเห็นสมควรปรับอัตราเงินค่าตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา และหลักเกณฑ์การได้รับเงินค่าตอบแทนดังกล่าว ตามที่กาหนดไว้ในระเบียบรัฐสภาว่าด้วยเงินค่าตอบแทน พิเศษของลูกจ้างประจาของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้เหมาะสมย่ิงขึ้น จึงจาเป็นต้องออก ระเบยี บนี้ 3 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๖๗ ง /๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๔ 4 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๘ ตอนพิเศษ ๑๔๕ ง / ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ 5 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๙ ตอนพิเศษ ๙๘ ง / ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๕ - 50 -

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๒๓ ง หน้า ๙ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ระเบียบรฐั สภา ว่าด้วยพนกั งานราชการรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๐ โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบว่าด้วยพนักงานราชการให้มีความเหมาะสม มีประสิทธิภาพ ประสทิ ธิผล และเปน็ ประโยชนต์ อ่ การปฏบิ ัตริ าชการของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาย่ิงข้ึน อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ (๕) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๔ ก.ร. จึงออกระเบยี บไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรยี กวา่ “ระเบียบรฐั สภาว่าดว้ ยพนกั งานราชการรฐั สภา พ.ศ. ๒๕๖๐” ข้อ ๒ ระเบียบนีใ้ หใ้ ช้บังคบั ตงั้ แต่วนั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ใหย้ กเลิก (๑) ระเบียบคณะกรรมการขา้ ราชการฝ่ายรัฐสภาวา่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๘ (๒) ระเบียบรัฐสภาว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของพนักงานราชการของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๔ ในระเบยี บน้ี “พนักงานราชการรัฐสภา” หมายความว่า บุคคลซ่ึงส่วนราชการสังกัดรัฐสภาจ้างตามสัญญาจ้าง โดยได้รับค่าตอบแทนจากงบประมาณของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา เพื่อเป็นพนักงานราชการของส่วนราชการ สงั กัดรัฐสภาในการปฏบิ ัติงานใหแ้ ก่สว่ นราชการสงั กัดรฐั สภานน้ั “สัญญาจา้ ง” หมายความว่า สัญญาจ้างพนักงานราชการรฐั สภาตามระเบียบน้ี “ค่าจา้ ง” หมายความว่า เงินซ่ึงจ่ายใหแ้ กพ่ นกั งานราชการรัฐสภาในการปฏิบัติงานให้แก่ส่วนราชการ สงั กดั รัฐสภา ตามอัตราทก่ี ําหนดในระเบยี บนี้ ข้อ ๕ บรรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ คําสั่ง หรือมติ ก.ร. ท่ีกําหนดให้ ข้าราชการรัฐสภาหรือลูกจ้างของส่วนราชการสังกัดรัฐสภามีหน้าท่ีต้องปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหรือ เป็นข้อห้ามในเรื่องใด ให้ถือว่าพนักงานราชการรัฐสภามีหน้าที่ต้องปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหรือ ต้องห้ามเช่นเดียวกับข้าราชการรัฐสภาหรือลูกจ้างด้วย ท้ังน้ี เว้นแต่เร่ืองใดมีกําหนดไว้แล้วโดยเฉพาะ ในระเบียบนี้ หรอื ตามเงื่อนไขของสญั ญาจ้าง หรือเป็นกรณีท่ีส่วนราชการสังกัดรัฐสภาประกาศกําหนดให้ พนักงานราชการรัฐสภาประเภทใดหรือตําแหน่งในกลุ่มงานลักษณะใดได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติ เช่นเดียวกับข้าราชการรัฐสภาหรือลูกจ้างในบางเร่ือง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการปฏิบัติงานของ พนกั งานราชการรัฐสภา ในกรณีที่ ก.ร. เห็นสมควรอาจกําหนดแนวทางการดําเนินการตามวรรคหนึ่งเพื่อเป็นมาตรฐาน ทว่ั ไปให้ส่วนราชการสงั กดั รัฐสภาปฏบิ ตั กิ ็ได้ ขอ้ ๖ ให้ ก.ร. มีอาํ นาจตีความ และวนิ จิ ฉยั ปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบตั ติ ามระเบียบนี้ ข้อ ๗ ใหป้ ระธานรฐั สภารักษาการตามระเบียบนี้ - 51 -

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๓ ง หน้า ๑๐ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา หมวด ๑ พนักงานราชการรัฐสภา ขอ้ ๘ พนักงานราชการรัฐสภามีสองประเภท ดังต่อไปนี้ (๑) พนักงานราชการรัฐสภาท่ัวไป ได้แก่ พนักงานราชการรัฐสภาซึ่งปฏิบัติงานในลักษณะ เป็นงานประจําทั่วไปของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาในด้านงานบริการ งานเทคนิค งานบริหารทั่วไป งานวชิ าชีพเฉพาะ และงานเช่ยี วชาญเฉพาะ (๒) พนักงานราชการรัฐสภาพิเศษ ได้แก่ พนักงานราชการรัฐสภาซึ่งปฏิบัติงานในลักษณะ ท่ีต้องใช้ความรู้หรือความเชี่ยวชาญสูงมากเป็นพิเศษเพ่ือปฏิบัติงานในเร่ืองท่ีมีความสําคัญและจําเป็น เฉพาะเร่ืองของส่วนราชการสงั กดั รัฐสภา หรือมีความจาํ เป็นตอ้ งใชบ้ ุคคลในลกั ษณะดงั กล่าว ข้อ ๙ ในการกําหนดตาํ แหน่งของพนักงานราชการรัฐสภาทั่วไปและพนักงานราชการรัฐสภาพิเศษ ให้กาํ หนดโดยจาํ แนกเป็นกลุ่มงานตามลักษณะงานและผลผลิตของงาน ดังตอ่ ไปน้ี ก. พนกั งานราชการรัฐสภาทว่ั ไป ประกอบด้วย (๑) กลมุ่ งานบรกิ าร (๒) กลมุ่ งานเทคนิค (๓) กลมุ่ งานบริหารทว่ั ไป (๔) กลุม่ งานวิชาชพี เฉพาะ (๕) กล่มุ งานเชี่ยวชาญเฉพาะ ข. พนกั งานราชการรัฐสภาพเิ ศษ ได้แก่ กลุ่มงานเช่ยี วชาญพเิ ศษ ในแต่ละกลุ่มงานตามวรรคหนึ่ง ก.ร. อาจกําหนดให้มีกลุ่มงานย่อยเพื่อให้เหมาะสมกับ ลักษณะงานของพนักงานราชการรัฐสภาได้ การกําหนดลักษณะงานและคุณสมบัติเฉพาะของกลมุ่ งาน ให้เป็นไปตามที่ ก.ร. กําหนด ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างพนักงานราชการรัฐสภาอาจกําหนดชื่อตําแหน่ง ในกลุ่มงานตามความเหมาะสมกับหน้าทีก่ ารปฏิบตั ิงานของพนักงานราชการรฐั สภาที่จา้ งได้ ข้อ ๑๐ ผู้ซ่ึงจะได้รับการจ้างเป็นพนักงานราชการรัฐสภา ต้องมีคุณสมบัติท่ัวไปและ ไมม่ ลี ักษณะต้องหา้ ม ดงั ต่อไปน้ี ก. คณุ สมบตั ทิ วั่ ไป (๑) มสี ัญชาตไิ ทย (๒) มีอายุไม่ตํ่ากว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ และมีอายุไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์ เว้นแต่กรณี ตามขอ้ ๑๑ - 52 -

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๓ ง หน้า ๑๑ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ข. ลกั ษณะต้องหา้ ม (๑) เป็นบุคคลล้มละลาย (๒) เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้ ไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือน ไมส่ มประกอบ หรอื เป็นโรคตามท่กี าํ หนดไว้ในกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บข้าราชการรัฐสภา (๓) เป็นผู้ดาํ รงตาํ แหนง่ ทางการเมอื ง กรรมการพรรคการเมอื ง หรือเจ้าหนา้ ที่ในพรรคการเมอื ง (๔) เป็นผู้เคยต้องรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงท่ีสุดให้จําคุกเพราะกระทําความผิด ทางอาญา เวน้ แต่ เปน็ โทษสาํ หรบั ความผิดทไ่ี ด้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (๕) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือ หนว่ ยงานอ่ืนของรัฐ (๖) เป็นข้าราชการ ลูกจ้าง หรือพนักงานเจ้าหน้าท่ีของส่วนราชการ หน่วยงานอ่ืนของรัฐ รฐั วสิ าหกิจ หรอื ราชการส่วนท้องถ่ิน ความใน ก. (๑) ไม่ให้ใช้บังคับแก่พนักงานราชการรัฐสภาชาวต่างประเทศซ่ึงส่วนราชการ สังกดั รัฐสภาจาํ เป็นต้องจ้างตามข้อผูกพนั หรือตามความจําเปน็ ของภารกิจของส่วนราชการสงั กดั รัฐสภา ในกรณีที่เห็นสมควร ก.ร. อาจประกาศกําหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามเพ่ิมข้ึน ยกเว้น คุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม หรือกําหนดแนวทางปฏิบัติของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาในการจ้าง พนักงานราชการรัฐสภาเพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการกําหนดให้มีพนักงานราชการรัฐสภา ตามระเบียบน้ี ขอ้ ๑๑ ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาอาจกําหนดคุณสมบัติเฉพาะเกี่ยวกับอายุข้ันสูงของพนักงาน ราชการรัฐสภา ได้ตามความเหมาะสมของลกั ษณะงาน แต่ตอ้ งไม่เกนิ หกสิบปี ในกรณีท่ีลักษณะงานใดต้องใช้ความรู้ ความเช่ียวชาญ และประสบการณ์ท่ีส่ังสมมาเป็น เวลานาน ซึ่งไม่อาจหาได้โดยทั่วไปหรือมีความขาดแคลนและเป็นที่ต้องการของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา อาจกาํ หนดอายุข้นั สูงเกินกว่าหกสบิ ปกี ็ได้ ข้อ ๑๒ ให้ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาจัดทํากรอบอัตรากําลังพนักงานราชการรัฐสภา เป็นระยะเวลาส่ีปี เสนอ ก.ร. เพื่อพจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบ กรอบอัตรากําลังพนักงานราชการรัฐสภาตามวรรคหนึ่ง ต้องสอดคล้องกับเป้าหมายการปฏิบัติ ราชการของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาและแผนงบประมาณตามยุทธศาสตร์ของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ทง้ั น้ี ตามแนวทางการจัดทาํ กรอบอัตรากําลังพนักงานราชการรัฐสภาท่ี ก.ร. กาํ หนด ขอ้ ๑๓ การสรรหาและการเลือกสรรบุคคลเพ่ือจ้างเป็นพนักงานราชการรัฐสภาให้เป็นไป ตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเง่ือนไขท่ี ก.ร. กาํ หนด - 53 -

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๓ ง หนา้ ๑๒ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๑๔ การจ้างพนักงานราชการรัฐสภาให้กระทําเป็นสัญญาจ้างไม่เกินคราวละส่ีปีหรือ ตามโครงการท่ีมกี ําหนดเวลาเร่ิมต้นและสิ้นสุดไว้ โดยอาจมีการต่อสัญญาจ้างได้ ทั้งน้ี ตามความเหมาะสมและ ความจําเปน็ ของแต่ละสว่ นราชการสังกัดรัฐสภา แบบสัญญาจ้างให้เป็นไปตามท่ี ก.ร. กาํ หนด การทําสัญญาตามวรรคหน่ึง ให้หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาหรือผู้ซ่ึงได้รับมอบหมายจาก หวั หน้าสว่ นราชการสงั กัดรฐั สภาเปน็ ผลู้ งนามในสัญญาจ้าง ข้อ ๑๕ เคร่ืองแบบและการแต่งกายของพนักงานราชการรัฐสภาให้เปน็ ไปตามท่ี ก.ร. กําหนด ขอ้ ๑๖ วันเวลาทํางาน หรือวิธีการทํางานในกรณีที่ไม่ต้องอยู่ปฏิบัติงานประจําส่วนราชการ สังกัดรัฐสภา ให้เป็นไปตามที่ส่วนราชการสังกัดรัฐสภากําหนด ซ่ึงอาจแตกต่างกันได้ตามหน้าท่ีของ พนกั งานราชการรัฐสภาในแตล่ ะตําแหน่ง โดยคํานึงถึงผลสาํ เรจ็ ของงาน หมวด ๒ คา่ จ้าง ค่าตอบแทนพิเศษ คา่ ครองชพี ชวั่ คราว และสทิ ธปิ ระโยชน์ ข้อ ๑๗ การกําหนดอัตราคา่ จา้ งของพนักงานราชการรฐั สภา ให้คาํ นึงถงึ หลักการ ดังต่อไปน้ี (๑) หลักคุณภาพ เพ่ือให้ได้บุคลากรท่ีมีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์เข้ามา ปฏบิ ัติงานภายใตร้ ะบบสัญญาจ้าง (๒) หลกั ความยุติธรรม เพอ่ื ให้เกดิ ความเสมอภาคในโอกาส ไม่เหลือ่ มลํา้ และไมเ่ ลือกปฏบิ ัติ (๓) หลักการจูงใจ การจ่ายค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ให้เพียงพอ โดยคํานึงถึงค่าครองชีพ ทีเ่ ปล่ียนแปลง ค่าตอบแทนในภาคเอกชน อตั ราเงินเดอื นข้าราชการรฐั สภา และฐานะการคลงั ของประเทศ (๔) หลักความสามารถ อัตราค่าจ้างจะจ่ายตามความรู้ความสามารถ ขีดสมรรถนะ และ ผลงานตามการประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน ขอ้ ๑๘ อัตราค่าจ้างของพนักงานราชการรัฐสภาให้เป็นไปตามบัญชีอัตราค่าจ้างพนักงาน ราชการรัฐสภาท้ายระเบยี บนี้ พนักงานราชการรัฐสภาในกลุ่มงานใดซ่ึงมีคุณสมบัติเฉพาะในกรณีใด จะได้รับค่าจ้างจํานวนเท่าใด ให้เป็นไปตามบัญชีกําหนดอัตราค่าจ้างของผู้ได้รับปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ที่ ก.ร. รับรอง คุณวุฒิแลว้ หรอื ผู้มีทักษะประสบการณ์ของพนกั งานราชการรฐั สภาท้ายระเบียบนี้ การกําหนดค่าจ้างของพนักงานราชการรัฐสภากลุ่มงานเช่ียวชาญเฉพาะ ให้ส่วนราชการ สังกัดรัฐสภาพิจารณาจากคุณวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ และผลงาน รวมทั้งสามารถเจรจาต่อรอง การได้รับค่าจ้าง โดยคํานึงถึงงบประมาณของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาตามแผนงาน โครงการ และ สามารถทาํ สัญญาได้คราวละหน่ึงปตี ่อสญั ญาจา้ งไดต้ ามแผนงาน โครงการ - 54 -

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๒๓ ง หนา้ ๑๓ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา การกําหนดค่าจ้างของพนักงานราชการรัฐสภากลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ ให้ส่วนราชการสังกัด รัฐสภาพิจารณาจากคุณวุฒิการศึกษา ประสบการณ์ และผลงานความเชี่ยวชาญพิเศษตามความต้องการ ของแผนงานหรือโครงการ รวมทั้งสามารถเจรจาต่อรองการได้รับค่าจ้าง โดยคํานึงถึงงบประมาณของ ส่วนราชการสงั กัดรฐั สภาตามแผนงาน โครงการด้วย ขอ้ ๑๙ ในกรณีที่ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาต้องการว่าจ้างพนักงานราชการรัฐสภาท่ัวไป ท่ีมีประสบการณ์ตรงตามลักษณะงานในตําแหน่งท่ีว่าจ้าง ให้ผู้ได้รับการว่าจ้างได้รับการปรับอัตราค่าจ้าง เพิ่มขึ้นได้รอ้ ยละหา้ ต่อทกุ ประสบการณ์สองปี แตต่ อ้ งไมเ่ กนิ หา้ ชว่ ง ขอ้ ๒๐ ใหพ้ นักงานราชการรัฐสภาท่ัวไปได้รับการพิจารณาเล่ือนค่าจ้างประจําปีตามผลการประเมิน การปฏิบัติงาน ในวันที่ ๑ ตลุ าคม ของทกุ ปี ตามหลักเกณฑ์ ดงั นี้ (๑) ต้องมีระยะเวลาในการปฏิบัติงานในรอบปีงบประมาณท่ีแล้วมาไม่น้อยกว่าแปดเดือน เพ่อื จงู ใจใหพ้ นักงานราชการรฐั สภาทว่ั ไปท่ีปฏิบัติงานของตนไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพและประสิทธิผลดี (๒) ตอ้ งมผี ลการประเมินการปฏิบตั งิ านไม่ตํา่ กว่าระดบั ดี (๓) การเล่ือนค่าจ้างตอ้ งไมเ่ กนิ อัตรารอ้ ยละหกของฐานคา่ จ้างที่ได้รบั ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาเล่ือนค่าจ้างประจําปีให้พนักงานราชการรัฐสภาทั่วไปในสังกัด ภายในวงเงนิ รอ้ ยละสขี่ องอตั ราค่าจ้างทจ่ี ่ายให้พนกั งานราชการรฐั สภาทั่วไปท่ีมีอยู่ ณ วันท่ี ๑ กนั ยายน ขอ้ ๒๑ ในกรณีที่มกี ารคํานวณเพือ่ ปรับอัตราค่าจ้าง หรือเล่ือนค่าจ้าง หากคํานวณแล้วมีเศษ ไม่ถงึ สิบบาท ให้ปรับเพ่มิ ขึ้นเปน็ สบิ บาท ข้อ ๒๒ พนักงานราชการรฐั สภาทวั่ ไปผู้ใดผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงานเพ่ือต่อสัญญาจ้าง ให้นําผลการประเมินการปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์ในข้อ ๒๐ มาใช้ในการพิจารณาเลื่อนค่าจ้างให้แก่ พนกั งานราชการรฐั สภาท่วั ไปผนู้ ัน้ ข้อ ๒๓ ให้พนักงานราชการรัฐสภาท่ัวไปได้รับค่าตอบแทนพิเศษเป็นรายเดือนจาก เงินงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาเจ้าสังกัด ตามบัญชีค่าตอบแทนพิเศษของ พนกั งานราชการรฐั สภาทว่ั ไปทา้ ยระเบยี บน้ี หลักเกณฑ์และวิธีการได้รับค่าตอบแทนพิเศษ ให้นําหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กําหนดไว้ใน ระเบียบ ก.ร. วา่ ดว้ ยเงนิ ค่าตอบแทนพเิ ศษของขา้ ราชการรฐั สภาสามัญ มาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม ข้อ ๒๔ ให้พนักงานราชการรัฐสภาที่ได้รับการว่าจ้างในตําแหน่งที่กําหนดคุณสมบัติเฉพาะ สําหรับกลุ่มงานซึ่งต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับต่ํากว่าปริญญาตรี ท่ีมีอัตราค่าจ้างไม่ถึงเดือนละหน่ึงหม่ืน สามพันสองร้อยแปดสิบห้าบาท ให้ได้รับค่าครองชีพช่ัวคราวเดือนละสองพันบาท แต่เม่ือรวมกับค่าจ้างแล้ว ตอ้ งไม่เกินเดือนละหนง่ึ หมืน่ สามพันสองร้อยแปดสบิ ห้าบาท ข้อ ๒๕ ในกรณีที่จะให้ได้รับอัตราค่าจ้างแตกต่างไปจากท่ีกําหนดในระเบียบน้ี ให้ส่วนราชการ สังกัดรฐั สภาเสนอ ก.ร. พจิ ารณา - 55 -

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๓ ง หน้า ๑๔ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๒๖ พนักงานราชการรฐั สภาประเภทใดหรือตําแหนง่ ในกลุ่มงานใดอาจได้รับสิทธิประโยชน์ อย่างหนึ่งอยา่ งใด ดงั ตอ่ ไปน้ี ท้งั นี้ ตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการและเงื่อนไขที่ ก.ร. กาํ หนด (๑) สิทธเิ ก่ียวกับการลา (๒) สิทธใิ นการได้รบั ค่าตอบแทนระหวา่ งลา (๓) สิทธิในการไดร้ บั ค่าตอบแทนการปฏบิ ตั ิงานนอกเวลางาน (๔) คา่ ใช้จา่ ยในการเดินทาง (๕) ค่าเบ้ยี ประชุม (๖) สิทธใิ นการขอรบั พระราชทานเครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์ (๗) การไดร้ ับรถประจําตําแหนง่ (๘) สทิ ธอิ ่นื ๆ ที่ ก.ร. กําหนด ข้อ ๒๗ ให้ ก.ร. พิจารณาทบทวนอัตราค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ รัฐสภาตามข้อ ๑๘ และข้อ ๒๖ เพื่อปรับปรุงให้เหมาะสมเป็นธรรมและมีมาตรฐาน โดยคํานึงถึง ค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลง ค่าตอบแทนของภาครัฐและเอกชน อัตราเงินเดือนของข้าราชการรัฐสภาสามัญ และฐานะการคลังของประเทศ ประกอบกบั มติคณะรัฐมนตรี รวมท้ังปัจจัยอื่นท่เี กยี่ วข้อง ข้อ ๒๘ ให้พนักงานราชการรัฐสภาได้รับสิทธิประโยชน์และมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย วา่ ด้วยการประกนั สงั คม ขอ้ ๒๙ พนักงานราชการรัฐสภาอาจได้รับค่าตอบแทนการออกจากงานโดยไม่มีความผิด ตามหลกั เกณฑ์ที่ ก.ร. กําหนด หมวด ๓ การประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน ข้อ ๓๐ ในระหว่างสัญญาจ้าง ให้ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงาน ของพนักงานราชการรัฐสภา ดงั ต่อไปน้ี (๑) การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการรัฐสภาทั่วไป ให้กระทําในกรณี ดงั ต่อไปน้ี (ก) การประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านประจําปี (ข) การประเมินผลการปฏบิ ัตงิ านเพ่ือต่อสัญญาจ้าง (๒) การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการรัฐสภาพิเศษ ให้กระทําในกรณี การประเมินผลสาํ เร็จของงานตามชว่ งเวลาทีก่ ําหนดไวใ้ นสญั ญาจา้ ง การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการรัฐสภาตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธกี ารท่ี ก.ร. กาํ หนด - 56 -

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๒๓ ง หนา้ ๑๕ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๓๑ พนักงานราชการรัฐสภาผู้ใดไม่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงานตามข้อ ๓๐ ให้ถือว่า สัญญาจ้างของพนักงานราชการรัฐสภาผู้นั้นส้ินสุดลง โดยให้ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาแจ้งให้พนักงานราชการ รัฐสภาทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันท่ีทราบผลการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ รัฐสภาผู้นั้น ข้อ ๓๒ ให้ส่วนราชการสังกัดรัฐสภารายงานผลการดําเนินการจ้างพนักงานราชการรัฐสภา รวมทัง้ ปญั หาอุปสรรคหรอื ขอ้ เสนอแนะตอ่ ก.ร. ภายในเดอื นธันวาคมของทุกปี หมวด ๔ วนิ ยั และการรักษาวินัย ขอ้ ๓๓ พนักงานราชการรัฐสภามหี นา้ ทตี่ อ้ งปฏิบัตงิ านตามท่ีกําหนดในระเบียบน้ี ตามท่ีส่วนราชการ สังกัดรัฐสภากําหนด และตามเงื่อนไขที่กําหนดไว้ในสัญญาจ้าง และมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคําส่ังของ ผู้บังคับบญั ชาซง่ึ สัง่ ในหน้าทรี่ าชการโดยชอบดว้ ยกฎหมายและระเบยี บของทางราชการ ขอ้ ๓๔ พนักงานราชการรัฐสภาต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัดตามที่กําหนดไว้เป็นข้อห้ามและ ขอ้ ปฏบิ ตั ิทสี่ ่วนราชการสังกัดรฐั สภากําหนด พนักงานราชการรัฐสภาผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติตามวรรคหน่ึง พนักงาน ราชการรัฐสภาผ้นู ั้นเป็นผกู้ ระทําผิดวนิ ัยจะต้องไดร้ ับโทษทางวินยั ข้อ ๓๕ การกระทาํ ผิดวินยั ในลักษณะดงั ต่อไปน้ี เป็นความผิดวินัยอยา่ งรา้ ยแรง (๑) กระทําความผิดฐานทุจริตตอ่ หน้าทีร่ าชการ (๒) จงใจไม่ปฏิบัตติ ามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือเง่ือนไขท่ีทางราชการกําหนดให้ ปฏบิ ตั จิ นเปน็ เหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายอยา่ งร้ายแรง (๓) ปฏบิ ตั ิหน้าที่โดยประมาทเลนิ เล่อจนเป็นเหตุให้ทางราชการได้รบั ความเสยี หายอยา่ งร้ายแรง (๔) ไม่ปฏิบัติตามเง่ือนไขที่กําหนดในสัญญา หรือขัดคําสั่งหรือหลีกเล่ียงไม่ปฏิบัติตามคําสั่ง ของผูบ้ งั คบั บญั ชาตามข้อ ๓๓ จนเปน็ เหตใุ ห้ทางราชการได้รับความเสยี หายอย่างร้ายแรง (๕) ประมาทเลนิ เลอ่ จนเป็นเหตุใหท้ างราชการได้รบั ความเสยี หายอย่างร้ายแรง (๖) ละท้ิงหรือทอดท้ิงการทํางานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน สําหรับตําแหน่งท่ีส่วนราชการ สงั กดั รฐั สภากาํ หนดวนั เวลาการมาทํางาน (๗) ละทงิ้ หรือทอดทงิ้ การทาํ งานจนทําให้งานไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กําหนดจนเป็นเหตุให้ ทางราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง สําหรับตําแหน่งท่ีส่วนราชการสังกัดรัฐสภากําหนด การทํางานตามเป้าหมาย (๘) ประพฤติชั่วอยา่ งร้ายแรง หรือกระทําความผิดอาญาโดยมีคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกหรือ หนักกวา่ โทษจาํ คุก (๙) ดหู มิ่น เหยยี ดหยาม สมาชกิ รัฐสภาหรอื ประชาชนผมู้ าติดต่อราชการอยา่ งรา้ ยแรง (๑๐) การกระทําอืน่ ใดทสี่ ่วนราชการสังกัดรัฐสภากําหนดวา่ เป็นความผดิ วินัยอย่างร้ายแรง - 57 -

เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๓ ง หนา้ ๑๖ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๓๖ เม่ือมีกรณีที่พนักงานราชการรัฐสภาถูกกล่าวหาว่ากระทําผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาจัดให้มีคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดําเนินการสอบสวนโดยเร็วและ ต้องให้โอกาสพนักงานราชการรัฐสภาท่ีถูกกล่าวหาชี้แจงและแสดงพยานหลักฐานเพ่ือให้เกิดความเป็นธรรม ในกรณีที่ผลการสอบสวนปรากฏว่าพนักงานราชการรัฐสภาผู้น้ันกระทําความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ใหห้ วั หนา้ ส่วนราชการสงั กดั รฐั สภามคี าํ ส่ังไล่ออก แตถ่ ้าไม่มมี ลู กระทาํ ความผิดให้ส่งั ยุตเิ รอ่ื ง หลักเกณฑ์และวิธีการการสอบสวนพนักงานราชการรัฐสภา ให้เป็นไปตามท่ีส่วนราชการ สงั กัดรัฐสภากําหนด ข้อ ๓๗ ในกรณีที่ปรากฏว่าพนักงานราชการรัฐสภากระทําความผิดวินัยไม่ร้ายแรงตามท่ี สว่ นราชการสังกดั รัฐสภากาํ หนด ให้หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาส่ังลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดค่าจ้าง หรือ ลดคา่ จา้ ง ตามควรแกก่ รณี ให้เหมาะสมกบั ความผิด ในการพิจารณาการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง ให้หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาพิจารณา สอบสวนให้ได้ความจริงและยตุ ิธรรมตามวธิ กี ารทเ่ี ห็นสมควร ขอ้ ๓๘ ในกรณีที่ ก.ร. เห็นสมควรอาจกําหนดแนวทางการดําเนินการทางวินัยแก่พนักงาน ราชการรฐั สภา เพอ่ื เป็นมาตรฐานท่วั ไปใหส้ ว่ นราชการสงั กัดรัฐสภาปฏิบัติก็ได้ หมวด ๕ การส้ินสุดสญั ญาจ้าง ข้อ ๓๙ สญั ญาจ้างพนกั งานราชการรัฐสภาสิน้ สดุ เมอื่ (๑) ครบกาํ หนดตามสญั ญาจา้ ง (๒) ตาย (๓) ลาออก (๔) ขาดคุณสมบัตหิ รือมีลักษณะตอ้ งห้ามตามระเบียบนี้ (๕) ครบกําหนดอายุข้ันสูงตามข้อ ๑๐ วรรคหน่ึง ก. (๒) ประกอบกบั ข้อ ๑๑ (๖) ไมผ่ า่ นการประเมินผลการปฏิบตั งิ านตามขอ้ ๓๐ (๗) ถูกไล่ออกเพราะกระทาํ ความผดิ วินัยอยา่ งรา้ ยแรง (๘) เหตุอ่ืนตามที่กําหนดไว้ในระเบียบน้ีหรือตามข้อกําหนดของส่วนราชการสังกัดรัฐสภาหรือ ตามสัญญาจา้ ง ขอ้ ๔๐ ในระหว่างสัญญาจ้าง พนักงานราชการรัฐสภาผู้ใดประสงค์จะลาออกจากการปฏิบัติงาน ใหย้ นื่ หนังสอื ขอลาออกต่อหัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาตามหลักเกณฑท์ ี่ส่วนราชการสังกัดรฐั สภากําหนด ขอ้ ๔๑ ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาอาจบอกเลิกสัญญาจ้างกับพนักงานราชการรัฐสภาผู้ใด ก่อนครบกาํ หนดตามสัญญาจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า และไม่เป็นเหตุที่พนักงานราชการรัฐสภา จะเรียกร้องค่าตอบแทนการเลกิ จ้างได้ เว้นแตท่ ก่ี าํ หนดไว้ในข้อ ๒๙ - 58 -

เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๒๓ ง หน้า ๑๗ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๔๒ เพื่อประโยชน์แห่งทางราชการ ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาอาจส่ังให้พนักงานราชการรัฐสภา ไปปฏิบัติงานนอกเหนือจากเงื่อนไขที่กําหนดไว้ในสัญญาจ้างได้ โดยไม่เป็นเหตุให้พนักงานราชการรัฐสภา อ้างขอเลิกสัญญาจ้างหรือเรียกร้องประโยชน์ตอบแทนใด ๆ ในการน้ี อาจได้รับค่าล่วงเวลาหรือ คา่ ตอบแทนอืน่ จากการสง่ั ใหไ้ ปปฏบิ ัติงานดงั กล่าวตามหลกั เกณฑท์ ่กี ําหนดตามขอ้ ๒๖ ขอ้ ๔๓ ในกรณีที่บุคคลใดพ้นจากการเป็นพนักงานราชการรัฐสภาแล้ว หากในการปฏิบัติงาน ของบุคคลน้ันในระหว่างที่เป็นพนักงานราชการรัฐสภาก่อให้เกิดความเสียหายแก่ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ให้บุคคลดังกล่าวต้องรับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าว เว้นแต่ความเสียหายนั้นเกิดจากเหตุสุดวิสัย ในการน้ี ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาอาจหักค่าจ้างหรือเงินอื่นใดท่ีบุคคลน้ันจะได้รับจากส่วนราชการ สังกัดรัฐสภาไวเ้ พ่ือชําระค่าความเสยี หายดังกล่าวก็ได้ ข้อ ๔๔ ในกรณีท่ี ก.ร. เห็นสมควร อาจกําหนดแนวทางการดําเนินการเก่ยี วกับการเลิกสัญญาจ้าง ตามหมวดนี้ เพ่อื เป็นมาตรฐานท่ัวไปใหส้ ่วนราชการสงั กดั รัฐสภาปฏิบัติก็ได้ บทเฉพาะกาล ข้อ ๔๕ ผู้ใดเป็นพนักงานราชการตามระเบียบคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภาว่าด้วย พนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๘ อยู่ในวันก่อนวันที่ระเบียบน้ีใช้บังคับ ให้ผู้น้ันเป็นพนักงานราชการรัฐสภา ตามระเบยี บน้ีตอ่ ไป บรรดาข้อบังคับ กฎ ระเบียบ ประกาศ มติ ก.ร. หรือคําส่ังใดที่กล่าวถึงพนักงานราชการ ตามระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๘ ให้หมายความถึงพนักงานราชการรัฐสภา ตามระเบยี บน้ี ข้อ ๔๖ ในระหว่างที่ยังมิได้ออกประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไข เพ่ือปฏิบัติการ ตามระเบียบน้ี ให้นําประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ซึ่งใช้อยู่เดิมมาใช้บังคับเท่าท่ีไม่ขัดหรือ แย้งกับระเบียบนี้ ขอ้ ๔๗ ในวาระเร่ิมแรกให้ส่วนราชการสังกัดรัฐสภาจัดให้พนักงานราชการรัฐสภาตามข้อ ๔๕ ทําสัญญาตามหลักเกณฑ์ในระเบียบน้ี โดยให้ได้รับค่าตอบแทนรวมท้ังสิทธิและประโยชน์ต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า ค่าตอบแทน สิทธิและประโยชน์ต่าง ๆ ท่ีผู้น้ันเคยได้รับอยู่เดิม เว้นแต่ระยะเวลาจ้างของสัญญา ให้มรี ะยะเวลาเท่าทเี่ หลืออยู่ของสัญญาจา้ งเดมิ ในกรณีพนักงานราชการรัฐสภาผู้ใดท่ีส่วนราชการสังกัดรัฐสภาเร่ิมจ้างผู้น้ันไม่เกินสามสิบวัน ก่อนวันที่ระเบยี บนี้ใช้บงั คับ ส่วนราชการสังกดั รัฐสภาอาจทําสัญญาโดยใชร้ ะยะเวลาตามระเบียบนกี้ ไ็ ด้ การดาํ เนนิ การตามขอ้ นใี้ ห้กระทําให้แลว้ เสรจ็ ภายในเก้าสิบวนั นับแต่วันทีร่ ะเบียบนี้บงั คับใช้ - 59 -

เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๑๒๓ ง หนา้ ๑๘ ๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ ๔๘ พนักงานราชการรัฐสภาผู้ใดมีกรณีกระทําผิดวินัยหรือกรณีท่ีสมควรให้ออกจากราชการ อยู่ก่อนวันท่ีระเบียบน้ีใช้บังคับ ให้หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภามีอํานาจส่ังลงโทษผู้น้ันหรือส่ังให้ผู้นั้น ออกจากราชการตามระเบียบที่ใช้อยู่ในขณะน้ัน ส่วนการสอบสวน การพิจารณา และการดําเนินการ เพื่อลงโทษหรือให้ออกจากราชการ ให้ดาํ เนินการตามระเบยี บนี้ เวน้ แต่ (๑) กรณีท่ีหัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาได้สั่งให้สอบสวนโดยถูกต้องตามระเบียบท่ีใช้อยู่ใน ขณะน้ันไปแล้วก่อนวันท่ีระเบียบน้ีใช้บังคับและยังสอบสวนไม่เสร็จ ให้สอบสวนตามระเบียบน้ันต่อไป จนกวา่ จะแลว้ เสร็จ (๒) ในกรณีที่ได้มีการสอบสวนหรือพิจารณาโดยถูกต้องตามระเบียบที่ใช้อยู่ในขณะนั้น เสรจ็ ไปแล้วกอ่ นวนั ที่ระเบียบนใี้ ชบ้ ังคบั ให้การสอบสวนหรือพิจารณาแล้วแต่กรณนี ั้นเปน็ อันใช้ได้ (๓) กรณีที่ได้มีการรายงานหรือส่งเรื่องหรือนําสํานวนเสนอให้หัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภา โดยถกู ต้องตามระเบยี บท่ใี ช้อยู่ในขณะน้ันและหัวหน้าส่วนราชการสังกัดรัฐสภาพิจารณาเรื่องน้ันยังไม่เสร็จ ใหห้ วั หนา้ สว่ นราชการสงั กัดรัฐสภาพิจารณาตามระเบียบนน้ั ตอ่ ไปจนกว่าจะแล้วเสรจ็ ประกาศ ณ วนั ที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิตบิ ญั ญัตแิ หง่ ชาติ ทาํ หนา้ ท่ปี ระธานรัฐสภา - 60 -

บญั ชอี ตั ราค่าจา้ งพนักงานราชการรฐั สภาทวั่ ไป กลุม่ งานบริการ อัตรา อัตรา (บาท/เดือน) ข้ันสูง ๒๐,๒๑๐ ขนั้ ต่ํา ๑๐,๔๓๐ กล่มุ งานเทคนคิ อตั รา อัตรา (บาท/เดือน) ขน้ั สูง ๒๔,๙๓๐ ขั้นตาํ่ ๑๑,๒๘๐ กล่มุ งานบริหารท่วั ไป อตั รา อตั รา (บาท/เดอื น) ข้นั สงู ๓๔,๗๐๐ ขนั้ ตาํ่ ๑๐,๐๑๐ กลมุ่ งานวชิ าชีพเฉพาะ อัตรา อตั รา (บาท/เดอื น) ขน้ั สูง ๔๔,๕๕๐ ขน้ั ต่ํา ๑๐,๘๕๐ กล่มุ งานเชีย่ วชาญเฉพาะ อตั รา อัตรา (บาท/เดอื น) ขนั้ สูง ๖๘,๓๕๐ ขนั้ ตาํ่ ๒๕,๕๙๐ - 61 -

-๒- บัญชีอัตราคา่ จา้ งพนกั งานราชการรัฐสภาพเิ ศษ กลุ่มงานเช่ียวชาญพเิ ศษ ประเภททีป่ รกึ ษา อตั รา (บาท/เดอื น) ๑. ระดับสากล ไม่เกิน ๒๑๘,๔๐๐ ๒. ระดับประเทศ ไม่เกนิ ๑๖๓,๘๐๐ ๓. ระดับทว่ั ไป ไม่เกนิ ๑๐๙,๒๐๐ - 62 -

-๓- บญั ชกี าํ หนดอตั ราคา่ จา้ งของผไู้ ด้รับปรญิ ญา ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ที่ ก.ร. รบั รองคณุ วุฒิแลว้ หรอื ผ้มู ีทกั ษะประสบการณข์ องพนกั งานราชการรฐั สภา ลําดบั คุณวุฒิท่ี ก.ร. รบั รองแลว้ อตั ราคา่ จ้างแรกบรรจุ หรือผู้มที ักษะประสบการณ์ กลุ่มงาน บาท ๑ ปริญญาเอก หรอื เทยี บเทา่ วชิ าชีพเฉพาะ ๒๗,๓๐๐ ๒ ปริญญาเอก หรอื เทยี บเทา่ บรหิ ารทั่วไป ๒๕,๒๐๐ ๓ วฒุ ิบตั รแสดงความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชพี วชิ าชีพเฉพาะ ๒๗,๓๐๐ เวชกรรมของแพทยสภา ที่มกี าํ หนดระยะเวลาการศึกษา อบรมไม่นอ้ ยกวา่ ๓ ปี ตอ่ จากวฒุ ิปรญิ ญาแพทยศาสตร บัณฑติ และไดร้ บั ใบประกอบวชิ าชีพเวชกรรมแล้ว หรือ หนงั สืออนุมัตบิ ตั รในสาขาวิชาเดยี วกนั กับวฒุ ิบตั ร ๔ วฒุ บิ ตั รแสดงความรู้ความชํานาญในการประกอบวชิ าชพี วิชาชพี เฉพาะ ๒๗,๓๐๐ ทนั ตกรรมของทันตแพทยสภา ท่มี ีกาํ หนดระยะเวลา การศกึ ษาอบรมไมน่ ้อยกว่า ๓ ปี ต่อจากวุฒปิ ริญญา ทันตแพทยศาสตรบณั ฑิต และได้รับใบประกอบวิชาชพี ทันตกรรมแล้ว หรอื หนงั สืออนมุ ตั ิบัตรในสาขาวิชาเดยี วกัน กับวุฒิบัตร ๕ ปรญิ ญาโททว่ั ไป หรอื เทยี บเทา่ วชิ าชพี เฉพาะ ๒๒,๗๕๐ ๖ ปริญญาโททัว่ ไป หรือเทียบเทา่ บรหิ ารท่วั ไป ๒๑,๐๐๐ ๗ ปรญิ ญาแพทยศาสตรบัณฑิต ปริญญาทันตแพทยศาสตร วิชาชีพเฉพาะ ๒๓,๔๓๐ บณั ฑติ และได้รับใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี หรือปริญญา สัตวแพทยศาสตรบณั ฑิต ๘ ปรญิ ญาตรีทมี่ หี ลักสตู รกําหนดระยะเวลาการศกึ ษาไมน่ ้อยกว่า วิชาชพี เฉพาะ ๒๐,๕๔๐ ๕ ปี ตอ่ จากวุฒปิ ระกาศนียบตั รมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เฉพาะปริญญาท่ี ก.ร. กาํ หนดใหไ้ ดร้ ับคา่ จ้างตามหลักสูตร ๕ ปี ๙ ปรญิ ญาตรีทีม่ หี ลกั สตู รกาํ หนดระยะเวลาการศึกษาไม่น้อยกวา่ วิชาชีพเฉพาะ ๑๙,๕๐๐ ๔ ปี ต่อจากวุฒปิ ระกาศนยี บัตรมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หรือเทียบเทา่ ๑๐ ปริญญาตรที ี่มหี ลกั สตู รกาํ หนดระยะเวลาการศึกษาไมน่ อ้ ย บริหารทัว่ ไป ๑๘,๐๐๐ กวา่ ๔ ปี ตอ่ จากวุฒปิ ระกาศนียบัตรมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หรือเทยี บเทา่ ๑๑ ประกาศนียบตั รวิชาชพี ชนั้ สงู (ปวส.) หรอื อนุปรญิ ญา หรือ บรกิ าร/เทคนิค ๑๓,๘๐๐ ประกาศนยี บัตรของส่วนราชการตา่ ง ๆ ท่ีมีหลักสูตรกาํ หนด ระยะเวลาการศกึ ษาไม่นอ้ ยกว่า ๓ ปีต่อจากวุฒิ ประกาศนียบตั รมัธยมศึกษาตอนปลาย - 63 -

-๔- -๒- ลาํ ดบั คุณวุฒทิ ่ี ก.ร. รับรองแลว้ อตั ราคา่ จ้างแรกบรรจุ หรอื ผู้มีทกั ษะประสบการณ์ กลุ่มงาน บาท ๑๒ ประกาศนียบัตรวิชาชพี เทคนคิ (ปวท.) บริการ/เทคนิค ๑๓,๐๑๐ ประกาศนยี บตั รวิชาการศกึ ษาช้นั สงู (ป.กศ.สูง) และอนปุ รญิ ญา หรือประกาศนยี บัตรของสว่ นราชการ ต่าง ๆ ทมี่ ีหลักสตู รกําหนดระยะเวลาการศึกษาไมน่ ้อยกวา่ ๒ ปตี ่อจากวฒุ ปิ ระกาศนยี บตั รมัธยมศึกษาตอนปลาย หรอื ไมน่ อ้ ยกวา่ ๔ ปี ต่อจากวฒุ ปิ ระกาศนยี บตั ร มัธยมศึกษาตอนตน้ หรือเทียบเทา่ ๑๓ ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.) หรอื ประกาศนยี บัตรที่มี บรกิ าร/เทคนิค ๑๑,๒๘๐ หลกั สูตรกําหนดระยะเวลาการศกึ ษาไมน่ อ้ ยกวา่ ๑ ปี ตอ่ จากวฒุ ิประกาศนียบตั รมธั ยมศกึ ษาตอนปลายหรอื ไม่นอ้ ยกวา่ ๓ ปตี ่อจากวุฒปิ ระกาศนยี บตั รมธั ยมศึกษา ตอนต้น หรือเทยี บเทา่ กรณกี ล่มุ งานเทคนิคท่ีตอ้ งใช้ทกั ษะเฉพาะของบุคคล ซึ่งมิได้ผา่ นการเรยี นการสอนในสถาบันการศกึ ษาใดเป็นการ เฉพาะ จะต้องมีความรู้ ความสามารถ และทกั ษะในงานท่ี จะปฏบิ ตั ิไม่ต่าํ กว่า ๕ ปี ๑๔ ประกาศนยี บตั รมัธยมศกึ ษาตอนต้น และประกาศนียบตั ร บริการ ๑๐,๔๓๐ มธั ยมศึกษาตอนปลาย หรอื เทยี บเท่า - 64 -

-๕- บัญชคี ่าตอบแทนพเิ ศษของพนกั งานราชการรัฐสภาท่ัวไป พนกั งานราชการรัฐสภา อัตรา (บาท/เดอื น) กลมุ่ งานบรกิ าร ๕,๐๐๐ กลุ่มงานเทคนคิ ๖,๐๐๐ กลุ่มงานบริหารทวั่ ไป ๗,๐๐๐ กลมุ่ งานวชิ าชีพเฉพาะและกล่มุ งานเช่ียวชาญเฉพาะ ๘,๐๐๐ - 65 -

- 66 -

- 67 -

- 68 -

- 69 -

- 70 -

- 71 -

- 72 -

- 73 -

- 74 -

- 75 -

- 76 -

- 77 -

- 78 -

- 79 -

- 80 -

- 81 -

- 82 -

- 83 -

- 84 -

- 85 -

- 86 -

- 87 -

- 88 -

- 89 -

- 90 -

- 91 -

- 92 -

- 93 -

- 94 -

- 95 -

- 96 -

- 97 -


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook