กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั ิวิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทมี่ ตี อ่ รูปแบบและวธิ กี ำรขอต้ังงบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พ่ือสนบั สนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ สาหรับวิธีการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีของเทศบาล (ทบ.) และองค์การบริหาร ส่วนตาบล (อบต.) แม้บทบัญญัติมาตรา 4 ที่กาหนดให้ อปท. เป็นหน่วยรับงบประมาณ และมาตรา 29 กาหนดให้ อปท. ย่ืนคาขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อเสนอต่อ ผู้อานวยการสานักงบประมาณ แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจาก อปท. ทั้งสองประเภทดังกล่าวมีจานวนมากและ กระจายต้ังอยู่ท่ัวประเทศ โดยมีเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบลท่ัวประเภทรวมกันมีจานวนถึง 7,775 แห่ง ดังน้ัน เพ่ือให้ อปท. ทั้งสองประเภทดังกล่าว สานักงบประมาณ และหน่วยงานทเ่ี กี่ยวข้องได้มีระยะเวลา สาหรับการเตรียมความพร้อมรองรับการปรับเปล่ียนตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว และเพื่อนาแนวทาง ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายเก่ียวกับการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ใน ประเดน็ ทีเ่ ห็นวา่ เป็นช่วงเปลย่ี นผ่านจึงให้ อบจ.เสนอคาขอต้ังงบประมาณผ่านรฐั มนตรีเจ้าสังกดั กอ่ นเสนอมาท่ี สานักงบประมาณ ไปสู่การปฏิบัติ ดังนั้น สานักงบประมาณจึงกาหนดวิธีการจัดทาคาของบประมาณรายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของ อปท. โดยให้การขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีผ่านกรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ยื่นคาขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อต้ังงบประมาณรายจ่ายไว้ที่กรม ส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน กระทรวงมหาดไทย โดยเสนอต้ังงบประมาณผ่านท้องถ่ินจังหวัด (ทจ.) และผู้ว่า ราชการจังหวัด (ผวจ.) ไปก่อน และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และมีเป้าหมายท่ีจะให้ อปท. ทุกประเภท เสนอขอต้ังงบประมาณโดยตรง ทั้งน้ี วิธีการย่ืนคาขอต้ังงบประมาณรายจ่าย ให้ดาเนินการตามคู่มือแนว ทางการจดั ทางบประมาณรายจ่ายประจาปี และใหย้ ื่นคาขอตัง้ งบประมาณรายจ่ายมายงั สานักงบประมาณด้วย วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใดตามท่ีสานักงบประมาณกาหนด รูปแบบและวิธีการขอตั้ง งบประมาณรายจา่ ยประจาปขี อง ทบ. และ อบต. ดังภาพท่ี 4.7 ทม./ทน. ยื่นคาขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อตั้งงบไวท้ กี่ รมส่งเสรมิ การปกครองท้องถน่ิ โดยเสนอ ต้งั งบประมาณผา่ น ทจ.และ ผวจ. เพอื่ ให้ความเหน็ ประกอบการพจิ ารณาของ รมต.มหาดไทย เทศบาลนคร/ กรมฯ สง่ คาของบประมาณรายจา่ ย เทศบาลเมือง ประจาปขี อง อปท. ใหส้ านกั งบประมาณ เทศบาลตาบล/ อาเภอ จังหวดั กรมส่งเสรมิ การระมาณ สานัก องค์การบรหิ าร (ทจ.+ผวจ.) ปกครองท้องถนิ่ งบประมา ส่วนตาบล กรมฯ บนั ทึกคาของบประมาณขอณง อปท. ทต./อบต.ยืน่ คาขอต้ังงบประมาณรายจา่ ยเพอื่ ต้งั งบไวท้ กี่ รมสง่ เสริมการ ปกครองทอ้ งถ่นิ โดยเสนอตัง้ งบประมาณผา่ นอาเภอ ทจ.และ ผวจ. เพอ่ื ให้ ลงในระบบ e-Budgeting ความเห็น ประกอบการพจิ ารณาของ รมต.มหาดไทย ภาพที่ 4.7 รูปแบบและวิธกี ารขอต้งั งบประมาณรายจ่ายประจาปี เพอ่ื สนับสนุนเทศบาลและองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล 88 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั ิวธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ีต่อรปู แบบและวิธีกำรขอตัง้ งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปเี พอ่ื สนับสนุนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ จากการสัมภาษณ์เชิงลกึ ผู้ให้ข้อมลู หลัก ได้แก่ ผูบ้ ริหารและเจ้าหน้าที่ของ อปท. ตลอดจน ผู้ทรงคุณวุฒิ ต่างให้ข้อมูลสอดคล้องตรงกันว่า รปแบบและวิธีการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีโดยตรง ของ อปท. ตามกฎหมายวิธีการงบประมาณใหม่ทาให้ อปท. แบบท่ัวไปเกิดความสะดวกรวดเร็วในการตั้ง งบประมาณรายจา่ ยประจาปเี พ่อื ขอรบั การจดั สรรเงินอุดหนนุ จากรัฐบาล ผู้ให้ข้อมูลหลักเห็นว่าการเตรียมความพร้อมให้แก่ อปท. ตามนัยกฎหมายวิธีการ งบประมาณดังกล่าวว่าแม้สานักงบประมาณจะได้มีการจัดฝึกอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเตรียม ความพร้อม การตั้งงบประมาณโดยตรงให้แก่ อปท. เมื่อวันท่ี 24 กันยายน 2561 เพื่อช้ีแจงทาความเข้าใจวิธีการปฏิบัติ เก่ียวกับการตั้งงบประมาณโดยตรงให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ตามนัยของพระราชบัญญัติวิธีการ งบประมาณ พ.ศ. 2561 ใหแ้ ก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสานักงานคณะกรรมการกระจายอานาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถ่ิน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกหน่วยงาน รวมทั้งได้มีการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพ่ือฝึกใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลคาของบประมาณให้กับเจ้าหน้าที่ งบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด จานวน 76 จังหวัด ในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 12 ตุลาคม 2562 จานวน 2 รนุ่ ๆ ละ 1 วัน ซ่งึ จะต้องดาเนินการจดั ทาคาขอต้ังงบประมาณโดยตรงในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ซึ่งผู้ให้ข้อมูลทุกคนเห็นว่าเป็นกิจกรรมท่ีจาเป็นและมีประโยชน์ต่อการสร้างความพร้อมให้แก่ อปท. เพ่ือรองรับ การดาเนนิ การตามกฎหมายวิธีการงบประมาณใหม่ อยา่ งไรกด็ ี ผู้ใหข้ ้อมลู หลกั เห็นวา่ การดาเนินการต่าง ๆ ดงั กลา่ วของสานักงบประมาณยงั ไม่ พอเพียง เน่ืองจากเป็นกฎหมายใหม่ และที่ผา่ นมา อปท. ไม่ไดด้ าเนินการตามกฎหมายในเร่ืองดังกล่าวมาก่อน ทาให้บุคลากรของ อปท. ไม่มีความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ ดังน้ัน การเข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ จานวน 1 วัน (สาหรบั บุคลากรของ อบจ.) จงึ ไมเ่ พียงพอ สาหรบั เทศบาล และองค์การบรหิ ารส่วนตาบล แม้ยัง ไม่ต้องดาเนินการย่ืนคาขอต้งั งบประมาณโดยตรงในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 แตม่ ีความสนใจ และผใู้ ห้ข้อมูล ในฐานะผู้บริหาร อปท. ตระหนักในความสาคัญของเร่ืองดังกล่าว และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าท่ีที่เกี่ยวข้อง ศึกษาวิธีการของบประมาณตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ตามคู่มือปฏิบัติการจัดทาคา ของบประมาณรายจา่ ยประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ดว้ ยตนเองไปแล้วด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่ อปท. ในการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนัย กฎหมายวิธกี ารงบประมาณใหม่ จึงมีความตอ้ งการใหส้ านักงบประมาณ และกรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถิ่น เพ่ิมเติมหรือขยายการดาเนินกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว โดยเพ่ิมเนื้อหาของหลักสูตรและวิธีการ ฝึกอบรมซึ่งควรมีทั้งการให้ความรู้ความเข้าใจและการฝกึ ปฏิบัตเิ พือ่ ใหเ้ กดิ ทักษะจรงิ รวมท้ังเพมิ่ จานวนวนั และ รุ่นของการฝึกอบรมให้มากข้ึนเพ่ือให้สอดคล้องกับเนื้อหาของหลักสูตรและวิธีการฝึกอบรม ตลอดจนจานวน บุคลากรของ อปท. ซ่ึงสนใจและต้องการเข้ารับการฝึกอบรมเป็นจานวนมาก นอกจากน้ี ควรมีการจัดตั้ง ช่องทางของการให้บริการคาปรึกษาและความช่วยเหลือแก่ อปท. แบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service) โดยมีเจ้าหน้าท่ีที่สามารถใหบ้ ริการคาปรึกษาหารือและความช่วยเหลือท้ังด้านการจัดทางบประมาณ กฎหมายวิธีการงบประมาณ และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดทาคาของบประมาณ หรือเรื่องอื่น ๆ ท่ี เก่ียวข้อง มารวมให้บริการอยู่ในสถานที่เดียวกัน เพ่ือให้คาปรกึ ษา ตอบข้อหารือ ช่วยแก้ไขปัญหาให้แก่ อปท. อย่างรับผิดชอบให้แล้วเสร็จในจุดให้บริการเดียวและสะดวกรวดเร็ว ควรมีการพัฒนานาระบบเทคโนโลยี 89 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่ีมตี ่อรปู แบบและวิธีกำรขอต้งั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ สารสนเทศมาใช้ในการให้บริการเพิ่มมากขึ้น ควรมอบหมายให้มีหน่วยงานหรือบุคคลทาหน้าที่เป็นพ่ีเลี้ยงแก่ อปท. เพื่อให้ดาเนินการให้เปน็ ไปตามกฎหมาย หลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการทสี่ านกั งบประมาณกาหนด 2.2.2.3 รูปแบบและวิธีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีให้แก่องค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถิน่ บทบัญญัติมาตรา 29 ได้กาหนดเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณให้แก่ อปท.เป็นเงิน อุดหนุนสาหรับการดาเนินการโดยทั่วไปของ อปท. โดยกาหนดให้สานักงบประมาณพิจารณาจัดสรร งบประมาณใหส้ อดคลอ้ งกับกฎหมายว่าด้วยการกาหนดแผนและข้ันตอนการกระจายอานาจใหแ้ ก่ อปท. โดยที่พระราชบัญญัติกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับการจัดสรรงบประมาณให้แก่ อปท. ได้แก่ มาตรา 12 (11) ที่ให้คณะกรรมการการกระจายอานาจให้แก่ อปท. มีอานาจและหน้าที่เกี่ยวกับการพิจารณา หลกั เกณฑ์การจัดสรรเงนิ อุดหนุนให้แก่ อปท. ตามความจาเปน็ และ มาตรา 30 (4) กาหนดให้การจัดสรรภาษี และอากร เงินอุดหนุน และรายได้อ่ืนให้แก่ อปท. เพื่อให้สอดคล้องกับการดาเนินการตามอานาจและหน้าท่ี ของ อปท. แตล่ ะประเภทอย่างเหมาะสม โดยตง้ั แต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เปน็ ต้นไป ให้ อปท. มีรายได้คิด เป็นสัดส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 และโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ อปท. มีรายได้ เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 โดยการจัดสรรสัดส่วนท่ีเป็นธรรมแก่ อปท. และคานึงถึงรายได้ของ อปท. ดว้ ยการเพ่ิมสัดสว่ นรายได้ของ อปท. ต่อรายไดส้ ุทธิของรัฐบาลตามวรรค หน่ึงใหเ้ พ่ิมขึ้นตามระยะเวลาท่ีเหมาะสมแก่การพัฒนาให้ อปท.สามารถดาเนินกิจการบริการสาธารณะได้ด้วย ตนเองและให้เป็นไปตามภารกิจที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีถ่ายโอนเพิ่มข้ึนภายหลัง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป แต่ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดเงินอุดหนุนท่ีจัดสรรให้ต้องมีจานวนไม่ นอ้ ยกวา่ เงินอุดหนุนท่ี อปท. ได้รับจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ซ่ึงมีจานวน 126,013 ลา้ นบาท (ณัฏฐร์ วี กรรณุมาตร์, 2559, น.1) และ มาตรา 30 (5) การจัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีในส่วนท่ีเก่ียวกับการ บรกิ ารสาธารณะในเขต อปท. ใหร้ ัฐจัดสรรเงนิ อดุ หนนุ ตามความจาเปน็ และความตอ้ งการของ อปท.นน้ั ปัจจุบัน อปท. ไดร้ ับการจัดสรรงบประมาณเป็นเงนิ อุดหนนุ จากรัฐบาลซ่ึงเม่อื เปรียบเทียบ เงินอุดหนุนต่อรายได้ พบว่ามีสัดส่วนเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเน่ือง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 รัฐบาลจัดสรร รายได้ให้แก่ อปท.ในสัดส่วนร้อยละ 29.5 ของรายได้สุทธิรัฐบาล (ไม่รวมเงินกู้) เป็นจานวน 751,480.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 จานวน 30,658.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.3 โดยจัดสรรเป็นเงิน อุดหนุนให้แก่ อปท. จานวน 276,130.1 ล้านบาท เพ่ิมข้ึนจานวน 12,208.02 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.6 (สานักงบประมาณ, 2561, น. 97) โดยรายละเอยี ดของงบประมาณที่จัดสรรรายได้ให้แก่ อปท. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยเปรยี บเทยี บกบั ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ดังตารางท่ี 4.7 90 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี อ่ รูปแบบและวธิ ีกำรขอตงั้ งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีเพือ่ สนับสนุนองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ตารางท่ี 4.7 การจดั สรรรายไดใ้ ห้แก่องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 – 2562 ลกั ษณะการจัดสรร ปีงบประมาณ + เพิ่ม / - ลด 1. รายรบั ปี 2561 ปี 2562 จานวน รอ้ ยละ 1.1 รายได้ 1.2 เงินกู้ 3,050,000.0 3,000,000.0 -50,000.0 -1.6 2. วงเงนิ งบประมาณรายจ่าย 3. รายได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน 2,499,641.9 2,550,000.0 50,358.1 2.0 จัดเกบ็ เองและรายได้ท่ีรัฐบาลเก็บให้และ แบ่งให้ 550,358.1 450,000.0 -100,358.1 -18.2 4. เงนิ อดุ หนนุ 4.1 องค์การบริหารสว่ นจังหวดั เทศบาล 3,050,000.0 3,000,000.0 -50,000.0 -1.6 และองค์การบริหารสว่ นตาบล 4.2 กรุงเทพมหานคร 456,900.0 475,350.0 18,450.0 4.0 4.3 เมอื งพทั ยา 5. รวมท้งั ส้นิ (3+4) 263,922.0 276,130.1 12,208.02 4.6 6. สดั ส่วนร้อยละของรายได้ที่จดั สรรให้ 241,259.4 252,897.6 11,638.15 4.8 อปท. (5.): รายได้สทุ ธขิ องรฐั บาล (1.1) 7. สัดส่วนรอ้ ยละของรายไดท้ ี่จดั สรรให้ 20,895.1 21,490.7 595.60 2.9 อปท. (5.): วงเงนิ งบประมาณรายจ่าย(2.) 1,767.5 1,741.8 -25.73 -1.5 ทีม่ า: สานกั งบประมาณ, 2561, น.98 720,822.0 751,480.1 30,658.0 4.3 28.8 29.5 - - 23.6 25.0 - - กล่าวโดยสรุป พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ซ่ึงเป็นกฎหมายใหม่และบังคับใช้ ตง้ั แต่วันที่ 12 พฤศจกิ ายน 2561 เป็นต้นไป มีสาระสาคัญท่ีเกี่ยวข้องกับการจดั ทางบประมาณรายจ่ายประจาปี เพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยเพิ่มเติมให้ อปท. เป็นหน่วยรับงบประมาณ ซึ่งขอรับ หรือได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายโดยตรงได้ และกาหนดรูปแบบและวิธีการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อ สนับสนุน อปท. เป็นเงินอุดหนุนทั่วไปสาหรับการดาเนินการโดยท่ัวไปและหรือเป็นเงินอุดหนุนเฉพาะกิจสาหรับ 91 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทีม่ ีต่อรปู แบบและวธิ กี ำรขอตงั้ งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีเพอื่ สนบั สนนุ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น การดาเนินการในเรอื่ งใดเรื่องหนงึ่ เปน็ การเฉพาะ ตลอดจนกาหนดให้ อปท. ย่นื คาขอตง้ั งบประมาณรายจา่ ยต่อ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทยเพ่ือเสนอต่อผอู้ านวยการสานักงบประมาณ 3. ผลกระทบของรูปแบบและวิธีกำรขอรับกำรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพื่อสนับสนุนองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินที่กำหนดตำมนัยพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ต่อหลักกำรกระจำย อำนำจกำรปกครองและลักษณะกำรดำเนินงำนขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดระเบียบการบริหารราชการตาม หลักการกระจายอานาจการปกครอง (decentralization) โดยมุ่งให้ประชาชนในท้องถ่ินได้มีส่วนร่วมในการ ปกครองท้องถิ่นของตนเอง โดยเฉพาะในด้านการจัดทาบริการสาธารณะท้องถิ่น (local public goods) ตามที่กาหนดหรือตามท่ีไดร้ ับการถ่ายโอนให้รับผิดชอบ และมีอิสระในการบริหารจดั การภายใต้การกากับดูแล ของราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยอานาจท่ี อปท. ได้รับจะเป็นท้ังในด้านการเมืองและการบริหาร ซึ่ง รวมถึงด้านการงบประมาณด้วย เพ่ือให้สามารถกาหนดนโยบายท้องถิ่น นานโยบายไปสู่การปฏิบัติ และ ควบคมุ การปฏบิ ัติให้เป็นไปตามนโยบายของตนเองได้อยา่ งมีประสทิ ธิผล การจัดทาบริการสาธารณะท้องถิ่นของ อปท. เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย กฎหมายจัดต้ังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกฎหมายกาหนดแผนและข้ันตอน การกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซ่ึงบัญญัติให้เป็นอานาจหน้าที่ของ อปท. โดยที่การจัดทา บริการสาธารณะท้องถ่ินดังกล่าว ทาให้ อปท. จาเป็นต้องมีการใช้ทรัพยากรทางการเงินสาหรับดาเนินการ จัดทาและนาส่งบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนในท้องถ่ิน อย่างไรก็ดี เนื่องจากพ้ืนที่ส่วนใหญ่ของประเทศมี ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมท่ีแตกต่างกัน โดยพื้นที่ในชนบทจะมีฐานทางเศรษฐกิจท่ีมีขนาด จากัด (restricted economic bases) ส่งผลให้ อปท. ที่ตั้งอยู่ในพื้นท่ีดังกล่าวเกิดข้อจากัดในการจัดเก็บ รายได้ให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายสาหรับการจัดทาบริการสาธารณะท้องถิ่นของตนเอง ด้วยเหตุดังกล่าวจึงมี เหตผุ ลและความจาเป็นท่ีต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินหรือการอุดหนุนทางการเงินจากรัฐบาลสาหรับ เสริมรายได้ของ อปท. เพ่อื ใหส้ ามารถจดั ทาบริการสาธารณะขนั้ พ้นื ฐานตามท่ีกฎหมายกาหนดใหแ้ ก่ประชาชน ในท้องถ่ินได้ตามเป้าหมายและเพื่อลดความเหลื่อมล้าทางการคลังระหว่าง อปท. ท่ีมีฐานทางเศรษฐกิจท่ี แตกตา่ งกันด้วย เงินอุดหนุนจากรัฐบาลเป็นรายได้ท่ีสาคัญของ อปท. ต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบันซ่ึงมีรูปแบบและวิธี จดั สรรเงินอุดหนุนตามทีก่ ฎหมายวิธีการงบประมาณกาหนด ท้ังนี้ ภายหลังจากการประกาศใช้พระราชบญั ญัติ วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ทดแทนพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม ผูว้ ิจยั ได้วเิ คราะหผ์ ลกระทบของรปู แบบและวธิ ีการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีเพอ่ื สนบั สนุน อปท. ตามทส่ี านกั งบประมาณกาหนดข้ึนตามนัยพระราชบัญญตั ิวิธกี ารงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยมีประเด็น การวิเคราะห์ว่ารปู แบบและวธิ ีการดังกล่าวจะมผี ลกระทบตอ่ หลักการกระจายอานาจการปกครองและลกั ษณะ การดาเนนิ งานของ อปท. ซง่ึ มีผลการวเิ คราะหส์ รปุ ได้ ดงั น้ี 3.1 ผลกระทบตอ่ หลักการกระจายอานาจการปกครอง การขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีเพือ่ สนับสนนุ อปท. มีรปู แบบและวิธกี ารทเ่ี ปล่ียนแปลงไป จากเดิมเมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 กล่าวคือ ผลจากกฎหมายวิธีการ งบประมาณฉบับใหม่ดังกล่าวทาให้ อปท. มีฐานะเป็นหน่วยรับงบประมาณซ่ึงทาให้มีสิทธิและหรืออานาจ 92 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรัฐสภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ีต่อรูปแบบและวธิ กี ำรขอตัง้ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พ่อื สนับสนนุ องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ดาเนินการในทางการงบประมาณเป็นของตนเองตามกฎหมาย เช่น การขอต้ังงบประมาณรายจ่ายรายได้ได้ โดยตรง (มาตรา 29 วรรคแรก) การได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาล (มาตรา 29 วรรคสอง) การบริหารงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงาน (มาตรา 33 และ 36) อานาจในการจ่ายเงินหรือก่อ หนี้ผกู พนั (มาตรา 40) เปน็ ต้น และ อปท. จะมีหน้าที่ความรับผดิ ชอบทางการงบประมาณของตนเองควบคู่ไป กับการมีสิทธิด้วย เช่น ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาท่ีผู้อานวยการสานักงบประมาณ กาหนดในการดาเนินการต่างๆ ได้แก่ การขอต้ังงบประมาณรายจ่าย (มาตรา 29 วรรคแรก และ 30) การบริหารงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงาน (มาตรา 33 34 35 และ 36) หน้าที่ควบคุมการใช้งบประมาณ รายจ่ายของหน่วยงานให้เป็นไปตามแผนงานหรือรายการและภายในวงเงินงบประมาณรายจ่ายตามที่กาหนด ไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายหรือตามท่ีมีการโอน หรือได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญัติวิธีการ งบประมาณ พ.ศ. 2561 (มาตรา 39) หน้าท่ีจัดให้มีระบบการติดตามและประเมินผล การดาเนินงานตาม แผนการปฏบิ ัติงานและแผนการใชจ้ ่ายงบประมาณภายในหน่วยรับงบประมาณ (มาตรา 47) หน้าทีร่ ายงานผล การใช้จา่ ยงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานในปีงบประมาณทส่ี ิ้นสุดรวมท้ังผลการปฏิบัติงานให้ผู้อานวยการ สานกั งบประมาณทราบภายใน 45 วันนับแตว่ ันสิน้ ปงี บประมาณ (มาตรา 50) เปน็ ตน้ ทั้งนี้ การมีสิทธิหรือมีความสามารถดาเนินการในด้านการงบประมาณได้ด้วยตนเองของ อปท. ดังกล่าวข้างต้น โดยเฉพาะการขอรับและได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายได้โดยตรง (มาตรา 29 วรรคแรก) แทนการขอรับหรือไดร้ ับจัดสรรงบประมาณผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน กระทรวงมหาดไทยหรือโดย อ้อม ซ่ึงมีความสอดคล้องกับหลักการกระจายอานาจการปกครอง ซึ่งกาหนดให้ อปท. ต้องได้รับการจัดต้ังข้ึน โดยผลแห่งกฎหมายให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีงบประมาณ และทรัพย์สินเป็นของตนเอง ซ่ึงแยกต่างหากและ ไม่ข้ึนตรงต่อหน่วยการปกครองส่วนกลาง และส่วนกลางเพียงแต่ทาหน้าที่กากับดแู ล อปท. ให้ปฏิบัตหิ น้าที่ให้ เป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น และ อปท. มีอานาจอิสระในการบริหารงาน จัดทากิจกรรมและวินิจฉัยสั่งการได้ เองพอสมควรด้วยงบประมาณและเจ้าหน้าที่ของตนเอง (ชวู งศ์ ฉายะบตุ ร, 2539, น. 9-10) อย่างไรก็ดี การมีสิทธิหรือมีความสามารถดาเนินการในด้านการงบประมาณได้ด้วยตนเองของ อปท. บางประการ เช่น การขอรับหรือได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายได้โดยตรงจากรัฐบาลไม่ได้เกิดข้ึนกับ อปท. ท้ังหมดในทันทที ่ีกฎหมายวิธีการงบประมาณฉบับใหม่ประกาศใช้ เน่ืองจากสานกั งบประมาณได้กาหนด หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารย่นื คาของบประมาณรายจา่ ยขององคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ (สานกั งบประมาณ, 2562, ส่ิงที่ส่งมาด้วย 3, น.2) โดยอาศัยอานาจตามมาตรา 29 ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยกาหนดวิธีการและเงื่อนไขการยื่นคาขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ให้ อปท. ดาเนินการ ดงั นี้ 3.1.1 ให้กรุงเทพมหานคร/และเมืองพัทยา ยื่นคาขอต้ังงบประมาณรายจ่ายต่อ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อยืน่ ต่อผอู้ านวยการสานักงบประมาณ 3.1.2 องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ยื่นคาขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยโดยตรงในระบบสารสนเทศเพ่ือการบริหารงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามที่สานักงบประมาณกาหนด โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ินรวบรวมและให้ความเห็นประกอบการ พจิ ารณาของรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย เพ่ือยืน่ คาขอต้ังงบประมาณต่อผูอ้ านวยการสานักงบประมาณ 93 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่มี ีตอ่ รปู แบบและวธิ กี ำรขอตั้งงบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พื่อสนบั สนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 3.1.3 เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบล ย่ืนคาขอต้ังงบประมาณรายจ่ายเพื่อตั้ง งบประมาณไว้ท่ีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน โดยเสนอตั้งงบประมาณผ่านท้องถ่ินจังหวัดและผู้ว่าราชการ จังหวัด จากหลักเกณฑ์และวิธีการของสานักงบประมาณดังกล่าวข้างต้น มีผลให้การย่ืนคาขอต้ัง งบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของ อปท. มีความแตกต่างกัน กล่าวคือ อปท.รูปแบบ พเิ ศษ ไดแ้ ก่ กรงุ เทพมหานครและเมืองพัทยา และ อปท.รูปแบบทว่ั ไป ไดแ้ ก่ องค์การบริหารส่วนจังหวดั หรือ อบจ. จานวน 76 แห่ง สามารถขอรับหรือได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายได้โดยตรงจากรัฐบาล ซึ่งมี รายละเอียดของวิธีการแตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องจาก อบจ. มีจานวนมากและมีที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค จึง กาหนดรูปแบบและวิธีการให้ยื่นคาขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยตรงผ่าน ระบบสารสนเทศเพือ่ การบรหิ ารงบประมาณของ อปท. ตามทสี่ านักงบประมาณกาหนด สาหรับเทศบาล (ทบ.) และองค์การบริหารส่วนตาบล (อบต.) ยังไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ในทันที โดยหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าวกาหนดให้มีรูปแบบและวิธีการให้ยื่นคาขอต้ังงบประมาณรายจ่าย เพื่อต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไว้ท่ีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยกาหนดให้เสนอตั้งงบประมาณผ่านท้องถิ่นจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด ซ่ึงเป็นการยื่นคาขอต้ัง งบประมาณรายจ่ายตามรูปแบบและวิธีการเดิมไปก่อน ท้ังนี้ สานักงบประมาณให้เหตุผลเก่ียวกับประเด็น ความพร้อมในการดาเนินการ เน่ืองจาก ทบ. และ อบต. มจี านวนมาก กล่าวคือ มีจานวนรวมกันทั้งสิ้น 7,775 หน่วยงาน หรือคิดเป็นร้อยละ 90.01 ของท้ังหมด (7,853 แห่ง) และกระจายต้ังอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ท่ัวประเทศ และมีเป้าหมายที่จะให้ อปท. ดาเนินการให้มีรูปแบบและวิธีการเดียวกันทั้งหมด กล่าวคือ ขอรับหรือได้รับ จัดสรรงบประมาณรายจ่ายได้โดยตรง ในปีต่อไป (สานักงบประมาณ, 2562, น. 10) หรือปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นน่ั เอง จากการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ผู้บริหารและเจ้าหน้าท่ีของ อปท. พบว่าใน ปัจจุบันการดาเนินการจัดทางบประมาณของ อปท. โดยใช้รูปแบบและวิธีการขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจาปีโดยตรงกับสานักงบประมาณตามกฎหมายวิธีการงบประมาณใหม่เป็นความต้องการของ อปท. แต่ บุคลากรของ อปท. ในทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหารและเจ้าหน้าท่ีท่ีเก่ียวข้องยังขาดความพร้อมในการดาเนินการ รองรับภายใตร้ ูปแบบและวธิ ีการดงั กลา่ ว เนื่องจากการเตรียมความพร้อมของสานักงบประมาณและหน่วยงาน ที่เก่ยี วข้องในเรอ่ื งดงั กลา่ วยังมีไม่เพียงพอทั้งในเชิงปริมาณ คุณภาพ และเวลา ดังนั้น จงึ ควรมีการดาเนินการ เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มหลักสูตรและจานวนรนุ่ /จานวนวันของการฝกึ อบรมเชิงปฏิบัติการ เพมิ่ เน้ือหาและปรับวิธีการ ฝึกอบรมเพ่ือให้บุคลากรของ อปท. ที่เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้และทักษะในการจัดทาคาของบประมาณ ตามรูปแบบและวิธีการที่กาหนดได้ รวมท้ังเร่ืองอ่ืน ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง รวมท้ังเพ่ิมระยะเวลาของการฝึกอบรมตาม ระดับความรู้และทักษะ เพิ่มจานวนบุคลากรของ อปท. ให้มีโอกาสเข้ารับการเตรียมความพร้อม รวมทั้งความ จาเปน็ ของการนาไปใช้ปฏบิ ตั ิงาน ซึง่ แตล่ ะกล่มุ บุคลากรมีไมเ่ ทา่ เทยี มกันของบุคลากร อปท. ผู้ให้ข้อมูลหลักท่ีเป็นผู้ทรงคุณวุฒิให้ความเห็นเก่ียวกับประเด็นความพร้อมของรัฐในการ ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายวิธีการงบประมาณใหม่หลังท่ีประกาศใช้แล้ว ซ่ึงเป็นประเด็นหน่ึงในการ ตรวจสอบความจาเปน็ ในการออกกฎหมายของสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดงั น้ัน หากผ่านการพิจารณา ของสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ย่อมบ่งชี้ว่าหน่วยงานผู้เสนอกฎหมายได้ยืนยันในความพร้อมของ 94 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรัฐสภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่มตี อ่ รูปแบบและวธิ ีกำรขอตั้งงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีเพอ่ื สนับสนนุ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ตนเองสาหรับการนากฎหมายไปสู่การปฏิบัติหรือการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ดังน้ัน ความไม่พร้อมของหน่วยงานรัฐด้วยการกาหนดวิธีการและเง่ือนไขการย่ืนคาขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด จานวน 76 แห่ง ย่ืนคาขอต้ังงบประมาณ โดยตรง เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา ซึ่งย่ืนขอต้ังงบประมาณโดยตรงมาต้ังแต่แรกจัดต้ังแล้ว ขณะท่ีเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบล ซึ่งมีจานวนมากหรือเป็น อปท. ส่วนใหญ่ต้องย่ืนคาขอตั้ง งบประมาณรูปแบบและวิธีการเดิมไปก่อน (ผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น) ซึ่งไม่เป็นไปตามนัยมาตรา 29 ของกฎหมาย และความไม่พร้อมของรัฐท่ีเกิดข้ึนในลักษณะดังกล่าว บ่งชี้ให้เห็นได้ว่าหน่วยงานของรัฐท่ี รับผิดชอบและเกี่ยวข้องไม่ได้มีเตรียมความพร้อมล่วงหน้าอย่างมีความมุ่งม่ัน มีแผนงาน และมีการดาเนินการ ท่ีดี และผลการเกิดข้ึนจากความไม่พร้อมดังกล่าวทาให้เกิดการชะลอสิทธิด้านการงบประมาณของ อปท. ประเภท ทบ. และ อบต. รวมท้ังทาให้ อปท. ดังกล่าวเสียโอกาสในการเรียนรู้และใช้สิทธิตามนัยกฎหมาย วธิ กี ารงบประมาณใหมเ่ พือ่ เป็นเครอ่ื งมือในการพฒั นาท้องถนิ่ ตามหลักการกระจายอานาจการปกครอง 3.2 ผลกระทบตอ่ ลกั ษณะการดาเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นหน่วยงานของรัฐท่ีมีหลักการพ้ืนฐานและลักษณะ การดาเนินงานของตนเองเป็นการเฉพาะซ่ึงเป็นไปตามเจตนารมณ์และบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กล่าวคือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการปกครองส่วนท้องถิ่นไว้ในหมวด 14 มีจานวน 6 มาตรา คือ มาตรา 249 – 254 โดยมีสาระสาคัญท่ีเก่ียวข้องกับลักษณะการดาเนินงานของ อปท. ดังน้ี มาตรา 249 วรรคแรก บัญญัติหลักการพ้ืนฐานของการปกครองส่วนท้องถ่ินไว้ว่า “ภายใต้บังคับ มาตรา 1 การจัดการปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนใน ท้องถิ่น” ซึ่งการปกครองตนเอง (self-government) หรือการปกครองตนเองของ อปท. (local self- government) เป็นรูปแบบการปกครองประเภทหน่ึงที่รัฐบาลกระจายอานาจในทางการปกครองและการ บริหารของส่วนกลางให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น เพ่ือให้มีความเป็นอิสระในการตัดสินใจ สามารถมีทรัพยส์ ิน มี งบประมาณ มีอานาจหน้าท่ีท่ีชัดเจน รวมทั้งมีบุคลากร ตลอดจนให้ผู้บริหารและสภาของท้องถิ่นที่มาจากการ เลือกตั้งของประชาชนประกอบกันเป็น อปท. เพ่ือทาหน้าที่ให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนในท้องถิ่น ทั้งน้ี การปกครองตนเองดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายสาคัญเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเรียนรู้ที่จะปกครองตนเองในระบอบ ประชาธิปไตย และเพื่อให้เจตนารมณ์ของประชาชนได้รับการตอบสนองโดย อปท. ที่มาจากการเลือกตั้งของ ประชาชน ประกอบกับมาตรา 250 วรรคแรก ได้กาหนดภารกิจหน้าท่ีและอานาจของ อปท.ไว้ว่า “องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินมีหน้าท่ีและอานาจดูแลและจัดทาบรกิ ารสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะเพ่ือประโยชน์ ของประชาชนในท้องถ่ินตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมท้ังส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาให้แก่ ประชาชนในท้องถ่ิน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ” โดยท่ีกฎหมายหลักที่บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ได้แก่ กฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซ่ึงกาหนดภารกิจและอานาจหน้าท่ีขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่ต้องดาเนินการในพ้ืนที่ท้องถ่ิน และกฎหมายกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซ่ึงได้กาหนดภารกิจและอานาจหน้าที่ของ อปท. ไว้ โดยผู้วิจัยได้กล่าวถึงอย่าง ละเอียดไว้แล้วในหัวขอ้ 4.1 95 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทีม่ ีต่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ จากหลักการพื้นฐานของการปกครองส่วนท้องถิ่น และภารกิจหน้าท่ีของ อปท. ดังกล่าวข้างต้น ทาให้มีลักษณะการดาเนินการเป็นการเฉพาะ โดย อปท. จัดระเบียบการบริหารราชการตามหลักกระจาย อานาจที่ผู้บริหารและสภาท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง และให้ความสาคัญกับการมีส่วน รว่ มของประชาชน ทาให้ลกั ษณะของการดาเนนิ งานโดยเฉพาะการจัดทาบรกิ ารสาธารณะท้องถิ่นนอกจากต้อง เป็นไปตามกรอบภารกิจและอานาจหน้าที่ที่กฎหมายกาหนดแลว้ ยังตอ้ งมีความยึดโยงกับประชาชนในท้องถ่ิน โดยตรงผ่านนโยบายหรอื แผนพัฒนาท้องถ่ินที่สอดคล้องตามภูมิสงั คม ปัญหา ความต้องการ เร่อื งที่สนใจ ฯลฯ ของประชาชนในท้องถ่ินซึ่งมีความแตกต่างและหลากหลายตามสภาพพื้นท่ีต่าง ๆ รวมท้ังลักษณะการ ดาเนินงานมีความเฉพาะเจาะจงโดยต้องดาเนินการภายในระดับพื้นที่ (act locally) ทาให้การดาเนินงานของ อปท. มีความแตกต่างไปจากราชการส่วนกลาง ได้แก่ สานักนายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง และกรม ซึ่งเป็นหน่วย การบริหารราชการของรัฐบาลท่ีรวมศูนย์อานาจการบริหารราชการแผ่นดินไว้ที่ส่วนกลาง (centralization) และ ราชการส่วนภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดและอาเภอ ซ่ึงเป็นตัวแทนและได้รับมอบอานาจจากส่วนกลางโดยถูก ส่งออกไปประจาอยู่ในเขตการปกครองในสว่ นภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ โดยท่ีราชการส่วนกลางและภูมภิ าค ดังกล่าวยึดโยงกับรัฐบาลเป็นหลัก และมีลักษณะการดาเนินงานท่ีมุ่งนานโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ (policy implementation) กับพื้นท่ีหรือกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ทั่วประเทศ อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน เดียวกนั และประสทิ ธิผลตามตัวชี้วดั และค่าเป้าหมายที่รฐั บาลกาหนด ดังน้ัน หากการจัดทางบประมาณรายจ่ายของ อปท. ในฐานะหน่วยรับงบประมาณมีรปู แบบและ วิธีการเหมือนกับหน่วยงานของรัฐท้ังท่ีเป็นราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซ่ึงมุ่งเน้นการจัดทาแผน งบประมาณที่แสดงผลผลผลิตและผลลัพธ์ท่ีเช่ือมโยงและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนระดับชาติ และ หรือนโยบายรัฐบาลเป็นสาคัญ ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการดาเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ซึ่ง สอดคล้องกับข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติท่ีว่า “กระบวนการจัดทาคาของบประมาณในปัจจุบันอาจจะ เหมาะสมสาหรับการตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ และแผนระยะยาว – ระยะกลาง เพื่อรักษาผลประโยชน์ แห่งชาติ (national interest) แต่ไม่เหมาะกับการตอบสนองความต้องการแก้ปัญหาของประชาชนในพื้นท่ีต่าง ๆ (local interest) ท่ีมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (สภาปฏิรูปแห่งชาติ, 2558, น.2) และ สอดคล้องกับความเห็นของนายพงษ์ศักด์ิ ย่ิงชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลาและกรรมการการกระจาย อานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซ่ึงมีมุมมองว่า หากเงินอุดหนุนท้องถิ่นต้องยึดโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ และหรือส่วนกลาง “จะทาให้งบประมาณท่ี อปท. ได้รับมีค่อนข้างแข็งตัว ไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ไข ปัญหาในพ้ืนที่ได้” (สานักงานคณะกรรมการกระจายอานาจให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน, 2562, น. 8) ทัง้ น้ี แม้ว่า อปท. จะเป็นหน่วยงานของรัฐแต่มีลักษณะการดาเนินการที่แตกต่างไปจากหน่วยงานของรัฐอ่ืน ๆ ดังน้ัน งบประมาณท่ีจัดสรรในลักษณะเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. จึงควรมีความยืดหยุ่นหรือมีช่องให้สามารถ บริหารจัดการเพื่อขบั เคลอ่ื นการแก้ไขปัญหาและความต้องการของประชาชนซ่ึงมีความแตกต่างหลากหลายใน แตล่ ะพน้ื ท่ีได้ จากการวิเคราะห์หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคาของบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของ อปท. ตามท่ีสานักงบประมาณกาหนด พบว่ามีหลักเกณฑ์บางประการที่ให้ความสาคัญกับความ แตกต่างของ อปท. กับหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ กล่าวคือ “งบประมาณของ อปท. ต้องเป็นแผนงาน/โครงการ ท่ี บรรจุอยู่ในแผนพัฒนาท้องถ่ิน ซ่ึงได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารท้องถิ่น หรือ สภาท้องถ่ินแล้วแต่กรณี และหรือ เป็นภารกิจถ่ายโอนจากส่วนกลางไป องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินตามกฎหมายและข้ันตอนการกระจายอานาจ (เด 96 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่ีมีตอ่ รปู แบบและวิธีกำรขอตัง้ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พอ่ื สนับสนุนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น ชาภิวัฒน์ ณ สงขลา, 2562, น.16 ) ซ่ึงสอดคล้องกับลักษณะการดาเนินงานของ อปท. ท่ีต้องมีความยึดโยงกับ ประชาชนในทอ้ งถน่ิ โดยตรงผา่ นนโยบายหรอื แผนพฒั นาทอ้ งถ่ินและมีกฎหมายกาหนดไว้เปน็ การเฉพาะ อย่างไรก็ดี ในรายละเอียดของวธิ ีปฏิบัตขิ องการจัดทางบประมาณรายจา่ ยประจาปตี ามปรากฏใน แบบฟอร์มคาของบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ท่ีใช้กับ อปท. โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จะใช้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ก่อน ได้แก่ แบบคาขอ/แผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เช่น แบบ สงป. 1002 [ยุทธศาสตร์] (อบจ.) เป็นต้น ที่กาหนดให้ อบจ. จัดทาความเช่ือมโยงของ “ยทุ ธศาสตร์จดั สรร - แผนงาน - เปา้ หมายเชิงยุทธศาสตร์ - เป้าหมายการให้บริการ กระทรวง - เป้าหมายการให้บริการหน่วยงาน - ผลผลติ /โครงการ - กิจกรรม – รายการ” ซ่ึงองค์ประกอบของ แบบฟอร์มคาของบประมาณรายจ่ายในรูปแบบดงั กล่าวเป็นการวางแผนและจดั ทางบประมาณทเ่ี น้นบนลงลา่ ง (top - down approach) ท่ีให้ความสาคัญกับเป้าหมายและยุทธศาสตร์ของส่วนกลางเป็นสาคัญ และมีความ เหมาะสมสาหรับใช้กับหน่วยรับงบประมาณซึ่งเป็นหน่วยราชการส่วนกลางที่มีหลักการบริหารราชการ แบบ รวมศูนย์อานาจ และมุ่งเป้าหมายเพ่ือรักษาผลประโยชน์แห่งชาติแต่ไม่เหมาะกับการตอบสนองความต้องการ แก้ปัญหาของประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ดังข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติดังท่ีกล่าวมา ดังน้ัน แบบฟอร์มการ จัดทาคาของบประมาณดังกล่าวอาจส่งผลให้การจัดทาคาของบประมาณรายจ่ายของ อปท. ตามแบบฟอร์ม ดงั กล่าวไม่สอดคลอ้ งกบั ลักษณะการดาเนินงานของ อปท. ตามหลกั การกระจายอานาจดงั ท่ีกล่าวไปแล้ว นอกจากนี้ การจัดทาคาของบประมาณรายจ่ายตามแบบฟอร์มอ่ืน ๆ เช่น แบบจัดทาแผน การปฏิบัติงาน ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ตามแบบสงป. 1005 (อบจ.) เป็นต้น ซ่ึงแบบฟอรม์ ดังกล่าวมี การกาหนดให้ อบจ. ลงรายละเอียดของคาของบประมาณรายจ่าย โดยจาแนกค่าใช้จ่ายที่ขอตามหมวดเงิน รายจา่ ย (12 หมวด)/งบรายจา่ ย (5 งบ) แม้เป็นคาของบประมาณรายจา่ ยในงบเงนิ อุดหนุนก็ตาม ทั้งน้ี รูปแบบ และวิธีการจัดทาคาของบประมาณรายจ่ายที่ต้องการความละเอียดดังกล่าวมีข้อดี คือ ทาให้ผู้พิจารณาอนุมัติ งบประมาณสามารถตรวจสอบและควบคุมปัจจัยนาเข้า (inputs) ในทุกรายการ (line item) ของผู้ขอ งบประมาณเพ่ือให้เกิดความประหยดั และเป็นมาตรฐานเดียวกนั กบั ผู้ขอรับงบประมาณท่ัวประเทศ แตห่ ากมอง อกี ดา้ นการกาหนดแบบฟอรม์ ในลักษณะดงั กล่าวทาให้เกิดขอ้ จากดั กล่าวคือ เปน็ การวางแผนด้านงบประมาณ แบบแยกส่วน (separated or split) ไมเ่ กิดการบูรณาการแบบองคร์ วม (holistic) เปน็ ข้อจากัดตอ่ การยดึ โยงกับ ประชาชนในท้องถ่ินตามแนวทางการวางแผนจากล่างขึ้นบน (bottom - up approach) ภายใต้แนวคิด ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม (participatory democracy) รวมท้ังเป็นปัจจัยหน่ึงท่ีอาจก่อให้เกิดข้อจากัดใน ขน้ั การอนุมตั ิงบประมาณ การบรหิ ารงบประมาณ และการควบคุมงบประมาณ เชน่ ทาให้ผู้อนุมัตงิ บประมาณไมเ่ ห็น ความเชื่อมโยงระหว่างงบประมาณและผลสัมฤทธิ์ท่ีจะเกิดข้ึนจากงบประมาณ ทาให้ผู้ปฏิบัติงานขาดความยืดหยุ่น และไม่คล่องตัวในการบริหารงบประมาณ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมหรือบริบททางการบริหารงานท่ีมีพลวัตสูง และไม่สนับสนุนให้เกิดการมุ่งเน้นผลสัมฤทธ์ิจากการใช้จ่ายงบประมาณ ตลอดจนทาให้การประเมินผลสัมฤทธ์ิ จากการใช้จา่ ยงบประมาณกระทาได้ยาก นอกจากน้ี เนื่องจากคาของบประมาณตามแบบฟอร์มดงั กล่าวจะเป็น ส่วนหน่ึงของเอกสารประกอบงบประมาณ (budget document) ประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจาปี ซ่ึงมีผลผูกพันให้ อปท. ในฐานะหน่วยรับงบประมาณต้องดาเนินงานและเบิกจ่ายใช้เงินให้ เป็นไปตามรายละเอียดของเอกสารดังกล่าวอย่างเคร่งครัดด้วย ซ่ึงไม่สอดคล้องกับลักษณะการดาเนินงานของ อปท. ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ตลอดจนวิธีการจัดทาคาของบประมาณรายจ่ายของ อปท. ท่ีมีรูปแบบและวิธีการ ส่วนใหญ่เหมือนกบั หน่วยรับงบประมาณที่เป็นราชการส่วนกลางดังกล่าว นอกจากจะไม่สอดคลอ้ งกบั ลักษณะ 97 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั วิ ิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่ีมีต่อรูปแบบและวิธีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพอ่ื สนับสนนุ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น การดาเนินงานของ อปท. ตามหลักการกระจายอานาจการปกครองแล้ว และอาจถูกมองไดว้ ่าเป็นสว่ นหนึ่งของ ความพยายามท่ีจะทาให้ อปท. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐมีหลักการพื้นฐานและลักษณะการดาเนินงานของ ตนเองเปน็ การเฉพาะซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณแ์ ละบทบญั ญัติแห่งกฎหมายท่ีต้องการใหเ้ ป็นองค์กรของท้องถิ่นท่ี ประชาชนมีส่วนร่วมกลายเป็นส่วนหนึ่งของราชการ (bureaucratization) ด้วยการสร้างแบบแผนการปฏิบัติ (pattern) ทเี่ ป็นมาตรฐานเดียวกัน (standardization) กบั ราชการสว่ นกลางและภมู ภิ าค กล่าวโดยสรุป จากการวิเคราะห์ผลกระทบของรูปแบบและวิธีการขอรับการจัดสรรงบประมาณ รายจ่ายประจาปีเพ่ือสนับสนุน อปท. ตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะบทบัญญัติมาตรา 23 ที่กาหนดให้ อปท. สามารถขอรับหรือได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายได้ โดยตรง และหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคาของบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของ อปท. ท่สี านักงบประมาณกาหนดขึ้นตามนัยมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวมีหลาย ๆ ประการที่ไม่สอดคล้อง กั บ การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นตามหลักการกระจายอานาจการปกครองและลักษณะการดาเนินงานของ อปท. ทั้งน้ี ผลกระทบท่ีเกิดข้ึนดังกล่าวทาให้เกิดปัญหาข้อจากัดต่อการดาเนินงานของ อปท. ซึ่งผู้วิจัยจะได้กล่าวถึง อย่างละเอียด ควบคู่กับข้อเสนอทางเลือกของรูปแบบและวิธีการขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีเพ่ือ สนับสนุน อปท. ท่ีมีความสอดคล้องตามนยั พระราชบัญญัตวิ ิธกี ารงบประมาณ พ.ศ. 2561 หลักการกระจายอานาจ การปกครองและลักษณะของการดาเนนิ งานตามภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในบทท่ี 5 ต่อไป 98 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่มี ีตอ่ รูปแบบและวิธกี ำรขอตงั้ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพื่อสนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ บทท่ี 5 สรปุ ผลกำรศกึ ษำและข้อเสนอแนะ การศึกษาผลกระทบของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ท่ีมีต่อรูปแบบและวิธีการขอ ต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีเพ่ือสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน มีสรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ ดงั นี้ 1. สรปุ ผลกำรศึกษำ 1.1 กำรวิเครำะห์ควำมจำเป็นของเงินอุดหนุนต่อกำรดำเนินงำนตำมภำรกิจและอำนำจหน้ำท่ี ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ภารกิจและอานาจหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นปัจจัยท่ีมีความสาคัญต่อ การกาหนดรายจ่ายของ อปท. (expenditure assignment) (ดวงมณี เลาวกุล, 2555, น. 25) ซ่ึงเป็นไปตาม หลักการที่การเงินต้องสอดคล้องกับภารกิจ (finance follows function) และจากการศึกษาพบว่า รัฐธรรมนูญได้วางหลักการพ้ืนฐาน โดยให้ อปท. มีหน้าท่ีและอานาจดูแลและจัดทาบริการสาธารณะและ กิจกรรมสาธารณะเพ่ือประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ท้ังนี้ ตามกฎหมายบัญญัติ ซึ่งได้แก่ (1) กฎหมาย จัดต้ังอปท. จานวน 5 ฉบับ ตามประเภทของ อปท. ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การ บริหารส่วนตาบล กรุงเทพมหานคร และเมืองพทั ยา (2) กฎหมายกาหนดแผนและข้ันตอนการกระจายอานาจ ให้แก่ อปท. ทั้งน้ี ตามกฎหมายทั้ง 2 ประเภทดังกล่าว จาแนกภารกิจและอานาจหน้าท่ี อปท. เป็น 6 ด้าน โดยปรมิ าณของภารกิจมากทีส่ ุดเป็นด้านสง่ เสรมิ คุณภาพชีวติ ปรากฏตามตารางท่ี 5.1 ตารางท่ี 5.1 กล่มุ ภารกจิ และอานาจหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ จาแนกตามกฎหมาย หน่วยนบั : รายการ/เรอ่ื ง ภารกจิ และอานาจหน้าทขี่ อง อปท. กฎหมายจัดตัง้ อปท. กฎหมายกาหนดแผนและ ขั้นตอนการกระจายอานาจ ให้แก่ อปท. ดา้ นส่งเสรมิ คุณภาพชีวิต 45 103 ด้านโครงสร้างพนื้ ฐาน 20 87 ด้านการจัดระเบยี บชุมชน สังคม และการรกั ษา 19 17 ความสงบเรียบร้อย ดา้ นการพัฒนาเศรษฐกจิ และการพาณชิ ย์ 15 19 ด้านการศึกษา ศิลปวฒั นธรรม ศาสนา จารีต 10 2 99 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั วิ ิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี อ่ รูปแบบและวิธีกำรขอต้งั งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปเี พอื่ สนบั สนุนองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ภารกจิ และอานาจหนา้ ที่ของ อปท. กฎหมายจัดต้งั อปท. กฎหมายกาหนดแผนและ ขั้นตอนการกระจายอานาจ ประเพณีและภูมิปัญญาท้องถ่ิน ด้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ใหแ้ ก่ อปท. ดา้ นอืน่ ๆ 5 17 รวม 10 - 124 245 นอกจากนี้ อปท. ยังมีภารกิจที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติมจากรัฐ เน่ืองจากกฎหมายจัดตั้ง อปท. เปิด ช่องให้ อปท. มีหน้าท่ีดาเนินได้ และยังได้กาหนดรูปแบบการดาเนินงานตามภารกิจของ อปท. จาแนกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ (1) ต้องดาเนินการเอง (2) อปท. กับหน่วยงานราชการร่วมกันดาเนินการ และ (3) ภารกิจ ภาครัฐอ่ืนและหรือภารกิจภาครัฐท่ีไม่ได้ถ่ายโอนไปแต่ อปท. สามารถดาเนินการได้ เช่น การจัดการศึกษาสูง กว่าการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน เปน็ ต้น จากภารกิจท่ีต้องรับผิดชอบและรูปแบบการดาเนินการดังกล่าวข้างต้น ทาให้ อปท. มีภาระ การเงนิ ที่เกดิ จากการดาเนินงาน ดังนั้น รัฐธรรมนูญและกฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ งจึงกาหนดแหลง่ รายไดใ้ ห้แก่ อปท. ดงั นี้ 1.1.1 รัฐธรรมนูญ มาตรา 250 วรรคสี่ บัญญัติให้รัฐต้องดาเนินการให้ อปท. มีรายได้ของ ตนเอง โดยจัดระบบภาษีหรือการจัดสรรภาษีที่เหมาะสม รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาการหารายได้ของอปท. ทงั้ น้ี เพ่ือให้ อปท. สามารถดาเนินการได้อยา่ งเพียงพอ ในระหว่างท่ียงั ไม่อาจดาเนนิ การให้อปท. มีรายได้ของ ตนเองได้ จึงใหร้ ัฐจัดสรรงบประมาณเพ่ือสนบั สนุน อปท. ไปพลางกอ่ น 1.1.2 กฎหมายจัดต้ังองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หมวดรายได้ กาหนดให้ อปท. มีรายได้ จากเงินอุดหนุนหรือรายไดอ้ ื่นตามที่รัฐบาลหรือหน่วยงานของรฐั จัดสรรให้ เชน่ พระราชบัญญัติองค์การบรหิ าร ส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 72 บัญญัติว่าทุกปีงบประมาณให้รัฐบาลจัดสรรเงินให้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นเงินอุดหนุน และมาตรา 73 องค์การบริหารส่วนจังหวัดอาจมีรายได้จาก (8) เงินอุดหนุนหรือรายไดต้ ามท่ีรัฐบาลหรือหน่วยงานของรฐั จัดสรรให้ เป็นตน้ 1.1.3 พระราชบัญญตั ิกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แก่ อปท. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเตมิ มาตรา 30 (4)14 กาหนดการจัดสรรภาษแี ละอากร เงินอดุ หนนุ และรายไดอ้ ื่นให้แก่ อปท. เพื่อให้สอดคล้องกับการดาเนินการตามอานาจและหน้าที่ของ อปท. แต่ละประเภทอย่างเหมาะสม โดยตั้งแต่ 14 มาตรา 30 (4) แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจ ให้แกอ่ ปท. (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2549 100 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ีตอ่ รปู แบบและวิธกี ำรขอต้ังงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีเพอื่ สนบั สนนุ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป ให้ อปท. มีรายได้คดิ เป็นสดั ส่วนตอ่ รายได้สุทธขิ องรฐั บาลไมน่ ้อยกว่าร้อย ละ 25 และโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ อปท.มีรายได้เพ่ิมขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลในอัตราไม่ นอ้ ยกว่าร้อยละ 35 โดยการจัดสรรสัดส่วนท่ีเป็นธรรมแก่ อปท. และคานึงถึงรายได้ของ อปท. ทั้งน้ี กฎหมาย ได้กาหนดให้การเพิ่มสัดส่วนรายได้ของ อปท. ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลดังกล่าว โดยให้เพิ่มข้ึนตามระยะเวลาที่ เหมาะสมแก่การพัฒนาให้ อปท. สามารถดาเนนิ กิจการบริการสาธารณะได้ด้วยตนเอง และให้เป็นไปตามภารกิจท่ี ถ่ายโอนใหแ้ ก่ อปท. ที่ถ่ายโอนเพิ่มข้ึนภายหลังปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป แต่ไม่วา่ กรณีใดเงนิ อุดหนุนที่ จัดสรรให้ต้องมีจานวนไม่น้อยกว่าเงินอุดหนุนที่ อปท. ได้รับการจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ซ่ึงมีจานวน 126,013 ล้านบาท จากการศึกษาสัดส่วนรายได้ของ อปท. ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลในระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 – 2562 หรือ 10 ปี พบว่ารายได้ของ อปท. ในรอบ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็นจานวน 337,084.3 ล้าน บาท หรือเพ่ิมข้ึนร้อยละ 81.3 ขณะที่รายได้สุทธิรัฐบาลในรอบเวลาเดียวกันเพ่ิมขึ้นเป็นจานวน 1,077,410.0 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 57.7 ทั้งนี้ การเพ่ิมข้ึนของรายได้ อปท. ท่ีสูงกว่ารายได้สุทธิรัฐบาลดังกล่าว แสดงภาพรวมของการกระจายอานาจดา้ นงบประมาณให้แก่ อปท. ว่ามีความก้าวหนา้ เปน็ ไปตามเป้าหมายของ กฎหมายกระจายอานาจให้แก่ อปท. แตห่ ากพิจารณาสดั ส่วนดังกล่าวเป็นรายปีงบประมาณ ตามภาพที่ 5.1 ภาพท่ี 5.1 สัดสว่ นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตอ่ รายไดส้ ุทธขิ องรัฐบาล ระหวา่ งปงี บประมาณ พ.ศ. 2552 – 2562 จากภาพที่ 5.1 พบว่าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 สัดส่วนรายได้ของ อปท. ต่อรายได้สุทธิของ รัฐบาลมีค่าสูงสุดเท่ากับ 29.5 ขณะที่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 สัดส่วนดังกล่าวมีค่าต่าสุดเท่ากับ 22.4 ซึ่งต่ากว่า เป้าหมายที่กาหนดตามมาตรา 30 (4) ของกฎหมายกระจายอานาจให้แก่ อปท. เนื่องจากปลายปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 มีการปรับปรุงประมาณการรายได้ของปีงบประมาณ 2553 จากเดิม จานวน 1,350,000 ล้านบาท เพิ่ม เป็น 1,522,000 ล้านบาท ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 (สานักงบประมาณ, 2554, น.5) แต่รัฐบาล 101 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั ิวิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ีตอ่ รูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปเี พอื่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ กลับไม่ได้มีการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. เพิ่มข้ึนตามไปด้วยเพื่อรักษาสัดส่วนรายได้ของ อปท. ต่อรายได้ สุทธิของรัฐบาลในปีงบประมาณดังกล่าวให้เป็นไปตามเป้าหมาย ทาให้ไม่สอดคล้องตามมาตรา 30 (4) ดังกล่าว อย่างไรก็ดี เงินอุดหนุนท่ีรัฐบาลจัดสรรให้แก่ อปท. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 มีจานวน 139,895.2 ล้านบาท (สานักงบประมาณ, 2554, น.88) ซ่ึงเป็นจานวนไม่น้อยกว่าเงินอุดหนุนท่ี อปท. ได้รับการจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 (จานวน 126,013 ล้านบาท) 1.1.4 เงินอุดหนุนของรัฐบาลเพ่ือลดภาระทางการเงินจากการดาเนินภารกิจของ อปท. มี ความสาคัญและจากการเปรียบเทียบรายได้ของ อปท. จากแหล่งต่าง ๆ ในระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 – 2560 พบว่ารายได้รวมทั้งสิ้น 3,716,009.10 ล้านบาท จาแนกเป็น (1) รายได้ที่ อปท.จัดเก็บเอง (2) รายได้ท่ี รัฐบาลจัดเก็บให้แก่ อปท. และภาษีที่รัฐบาลแบ่งให้ และ (3) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล โดยสัดส่วนของรายได้ทั้ง 3 แหล่งดังกล่าวเท่ากับ 1 : 5.9 : 4.6 ตามลาดับ ซ่ึงจะเห็นได้ว่ารายได้ประเภทเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเป็น ลาดับรองจากรายได้ที่รัฐบาลจัดเก็บให้แก่ อปท. และภาษีท่ีรัฐบาลแบ่งให้เพียงเล็กน้อย และมีจานวนมากกว่า รายได้ที่ อปท. จดั เก็บเองกวา่ 4 เท่า ซ่ึงบ่งชถ้ี งึ ความสาคญั ของเงินอดุ หนนุ จากรฐั บาล จากการสัมภาษณ์เชิงลึกประเด็นดังกล่าวพบว่าเงินอุดหนุนจากรัฐบาลมีความจาเป็นและ สาคัญต่อการดาเนินภารกิจของ อปท. แม้หลังการตรากฎหมายกระจายอานาจให้แก่ อปท. เป็นต้นมา ท้องถิ่น ได้รับจัดสรรเงินอุดหนุนในสัดส่วนที่เพิ่มมากข้ึนอย่างชัดเจน แต่ก็เป็นไปตามภารกิจและอานาจหน้าท่ีที่เพิ่มขึ้น ตามการถ่ายโอนจากรัฐ ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้ว ปริมาณภารกิจท่ีถ่ายโอนให้ อปท. มีมากกว่ารายได้ซ่ึงรวมถึงเงิน อุดหนุนจากรัฐบาล รวมท้ังยอดเงินอุดหนุนจากรัฐบาลดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นรายการค่าใช้จ่ายตามนโยบายของ รัฐบาล ส่งผลให้การจัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนแก่ อปท. ซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงของรายได้ของ อปท. ยังไม่ เกิดขึ้นอย่างแท้จริงตามเป้าหมาย15 และไม่สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ อปท. มีรายได้เหมาะสมกับ การดาเนินภารกิจและอานาจหนาท่ี 1.1.5 รูปแบบและวิธีการขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีเพื่อสนับสนุนองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นโดยก่อนมีพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 เป็นไปตามพระราชบัญญัติวิธีการ งบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 4 ท่ีไม่ได้กาหนดให้หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วย ระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถ่ินเป็นหน่วยรับงบประมาณ ทาให้ อปท. ไม่สามารถขอต้ังงบประมาณ รายจา่ ยประจาปีเพอ่ื สนบั สนนุ การดาเนนิ งานไดโ้ ดยตรง แต่ต้องขอตงั้ งบประมาณผา่ นส่วนราชการทเ่ี ป็นหนว่ ย รับงบประมาณหรือขอต้ังงบประมาณโดยอ้อม ท้ังน้ี รูปแบบและวิธีการขอตั้งงบประมาณของ อปท. ตาม กฎหมายดงั กลา่ ว สรุปได้เป็น 2 รูปแบบ ดังน้ี 1.1.5.1 กรณีเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินรูปแบบพิเศษและเป็นหน่วยรับงบประมาณ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา โดยท่ีกฎหมายจัดต้ัง อปท. วางหลักและกาหนดระเบียบวธิ ีปฏิบัติใน การดาเนินการบริหารงานคลังและงบประมาณของ อปท. รวมทั้งมีการกาหนดรูปแบบและวิธีการขอและรับ 15 เป้าหมายกาหนดไว้ว่าต้ังแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป อปท. มีรายได้เป็นสัดส่วน ต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 และมีจุดมุ่งหมายให้ อปท. มีรายได้เพ่ิมขึ้นเป็นสัดส่วนต่อ รายได้สุทธขิ องรฐั บาลในอัตราไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 35 102 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั วิ ิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่มีต่อรปู แบบและวิธีกำรขอตัง้ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนับสนุนองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ เงินอุดหนุนจากรัฐบาลของ อปท. กล่าวคือ พรบ.ระเบียบบริหารกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 และท่ีแก้ไข เพิ่มเติม มาตรา 122 ให้การต้ังงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนในกรุงเทพมหานคร ให้รัฐบาลต้ัง ให้ กรุงเทพมหานครโดยตรง ขณะที่ พรบ.ระเบียบบริหารเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 90 ใหร้ ัฐบาลตง้ั งบประมาณเปน็ เงนิ อุดหนุนเมืองพัทยาโดยตรง 1.1.5.2 กรณีเป็น อปท. รูปแบบท่ัวไปและไม่ได้เป็นหน่วยรับงบประมาณ ได้แก่ องค์การ บริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตาบล โดยกฎหมายจัดต้ัง อปท. ดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติ เก่ียวกับรูปแบบและวิธีการขอและรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเหมือนกับ อปท.รูปแบบพิเศษ ดังนั้น จึงไม่ สามารถขอต้ังและรับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเป็นเงินอุดหนุนได้โดยตรง แต่ใช้การขอต้ังงบประมาณ รายจ่ายผ่านส่วนราชการซึ่งมีฐานะเป็นหน่วยรับงบประมาณและมีพันธกิจตามกฎหมายจัดตั้งส่วนราชการ ดังกล่าวให้มีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุน อปท. โดยในปัจจุบัน คือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย 1.2 ผลกระทบของพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ต่อรูปแบบและวิธีกำรขอต้ัง งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ โดยศึกษำเปรยี บเทียบก่อนและหลัง กำรใชบ้ ังคับพระรำชบญั ญตั วิ ิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 256116 ประกาศใช้ทดแทนพระราชบัญญัติวิธีการ งบประมาณ พ.ศ. 2502 และท่ีแก้ไขเพิ่มเตมิ โดยทีก่ ฎหมายดังกลา่ วมผี ลกระทบต่อ อปท. โดยเฉพาะต่อรูปแบบ และวิธกี ารขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปี ซึง่ ศกึ ษาเปรียบเทียบก่อนและหลงั การใช้บงั คบั กฎหมาย ดงั น้ี 1.2.1 การเป็นหน่วยรับงบประมาณของ อปท. ตามมาตรา 4 โดยมกี ารปรับปรุงนิยามของ “หน่วยรับงบประมาณ” ให้หมายถึงหน่วยงานของรัฐท่ีขอรับหรือได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่าย และให้ ครอบคลุมถึง อปท. ทาให้ อปท. เป็นหน่วยงานของรัฐและเป็นหน่วยรับงบประมาณตามกฎหมายดังกล่าว ส่งผลให้มีสิทธิและหรืออานาจด้านการงบประมาณ เช่น การขอตั้งงบประมาณรายจ่ายได้โดยตรง เป็นต้น ควบคู่ไปกับการมีหน้าที่และความรับผิดชอบ เช่น หน่วยงานมีหน้าท่ีต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ ระยะเวลาทผ่ี ูอ้ านวยการสานักงบประมาณกาหนด อาทิ การขอตงั้ งบประมาณรายจ่ายได้โดยตรง เปน็ ต้น 1.2.2 รูปแบบและวิธกี ารขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีของ อปท. ตามมาตรา 29 ให้การ ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อสนับสนุน อปท. เป็นเงินอุดหนุนสาหรับการดาเนินการโดยท่ัวไปหรือสาหรับการ ดาเนินการในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงเป็นการเฉพาะ ให้ อปท. ยื่นคาขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยเพ่ือเสนอต่อผู้อานวยการสานักงบประมาณ ท้ังน้ี ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่ ผู้อานวยการสานักงบประมาณกาหนด รวมทั้งให้การจัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนสาหรับการดาเนินการ โดยทั่วไปของ อปท. ให้สานักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการกาหนด แผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แก่ อปท. โดยที่รูปแบบและวิธีการขอตั้งงบประมาณตามกฎหมายดังกล่าวมี ผลกระทบต่อ อปท. ดังนี้ 16 ลงประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เล่ม 135 ตอนที่ 92 ก วนั ท่ี 11 พฤศจกิ ายน 2561 103 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั วิ ธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่มี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตัง้ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพื่อสนับสนนุ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 1.2.2.1 อปท. สามารถขอต้ังงบประมาณรายจ่ายโดยตรง ทาให้มีผลเป็นการ ปรับเปล่ียนวิธีการขอต้ังงบประมาณรายจ่ายของ อปท. รูปแบบทั่วไป จากเดิมซึ่งขอต้ังผ่านกรมส่งเสริมการ ปกครองท้องถิ่น ทาให้เกิดความสะดวกรวดเรว็ ในการต้งั งบประมาณรายจ่ายประจาปีเพ่ือขอรบั การจัดสรรเงิน อุดหนุนจากรัฐบาล เนื่องจากลดขั้นตอนการดาเนินงานลงจากเดิม สามารถติดต่อกับสานักงบประมาณ เก่ียวกับการงบประมาณได้โดยตรง และไม่ต้องผ่านตัวกลาง ทาให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพ่ิมมาก ขึ้น รวมทัง้ ลดความเสี่ยงทีเ่ กิดจากความผดิ พลาดทเี่ กดิ จากการดาเนินการผ่านคนกลาง 1.2.2.2 อปท. ขอตั้งงบประมาณรายจ่ายโดยตรงในลักษณะเงินอุดหนุนซ่ึงสอดคล้อง ตามหลักการจาแนกประเภทรายจ่ายของสานักงบประมาณ ซึ่งเงินอุดหนุนเป็นประเภทงบรายจ่ายที่เอ้ือให้ การบริหารงบประมาณให้เกิดความคล่องตัวและสนับสนุนตามหลักการกระจายอานาจการปกครอง อย่างไรก็ดี เม่ือสานักงบประมาณจึงกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคาขอตั้งงบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ิน ข้อ 13 (3) เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบล ย่ืนคาขอตั้งคาขอต้ังงบประมาณรายจ่ายเพื่อตั้ง งบประมาณรายจ่ายไว้ท่ีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเสนอต้ังงบประมาณผ่านท้องถ่ินจังหวัด และ ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งน้ี หลกั เกณฑ์และวิธีการดังกล่าวทาให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบลซง่ึ เป็น อปท. ส่วนใหญ่ ไม่สามารถยื่นคาขอต้ังงบประมาณรายจ่ายโดยตรงตามกฎหมายได้ แต่ต้องใช้วิธีการขอตั้ง งบประมาณรูปแบบเดิมไปก่อน ซึ่งสานักงบประมาณให้เหตุผลด้านความพร้อมในการดาเนินการและมีเป้าหมายที่ จะให้ อปท. ดาเนินการให้มีรูปแบบและวิธีการเดียวกันทั้งหมด กล่าวคือ ขอรับหรือได้รับจัดสรรงบประมาณ รายจ่ายได้โดยตรงในปีต่อไป (สานักงบประมาณ, 2562, น. 10) ซึ่งในประเด็นดังกล่าวผู้ให้ข้อมูลหลักจาก อปท. เห็นว่าการเตรียมความพร้อมของสานักงบประมาณให้แก่ อปท. เพื่อรองรับตามกฎหมายยังไม่พอเพียง และ ควรดาเนินการเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ทรงคุณวุฒิให้ความเห็นว่าประเด็นความพร้อมของรัฐในการปฏิบัติตาม กฎหมายไม่ควรเกิดข้ึนเน่ืองจากได้รับการตรวจสอบในขั้นตอนของการบัญญัติกฎหมายและสานักงบประมาณ ยนื ยนั วา่ มีความพรอ้ มในการบงั คับใชก้ ฎหมายดงั กล่าว 1.3 ผลกระทบของรูปแบบและวิธีกำรขอรับกำรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพื่อ สนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กำหนดตำมนัยพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ต่อ หลักกำรกระจำยอำนำจกำรปกครองและลกั ษณะกำรดำเนินงำนขององค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นหน่วยงานของรัฐท่ีจัดระเบียบการบริหารราชการตาม หลักการกระจายอานาจการปกครองและม่งุ ให้ประชาชนในทอ้ งถิ่นได้มสี ่วนรว่ มในการปกครองตนเอง โดยเฉพาะ การจัดทาบริการสาธารณะท้องถ่ินและมีอิสระในการบริหารจัดการภายใต้การกากับดูแลของรัฐซ่ึงเป็นไปตาม บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยเฉพาะมาตรา 4 ทาให้ อปท. มีฐานะเป็นหน่วยรับงบประมาณซึ่งส่งผลให้มีสิทธิและหรืออานาจและมี หน้าท่ีความรับผิดชอบทางการงบประมาณตามกฎหมาย และ มาตรา 29 ปรับเปลยี่ นวธิ ีการขอตั้งงบประมาณ รายจ่ายประจาปีเพ่ือสนับสนุน อปท. จากเดิม เป็นการขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีโดยตรง รวมท้ัง หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคาของบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ซ่ึงออกตามนัยมาตรา 29 ดงั กลา่ วมีผลกระทบต่อ อปท. สรุปได้ ดังนี้ 1.3.1 ผลกระทบต่อหลักการกระจายอานาจการปกครอง เนื่องจากผลตามมาตรา 4 และ 29 ของกฎหมายเป็นการกาหนดให้ อปท. มสี ิทธิหรืออานาจและหน้าท่คี วามรบั ผิดชอบด้านการงบประมาณในฐานะ 104 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่มตี อ่ รปู แบบและวธิ กี ำรขอตั้งงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปเี พ่อื สนบั สนุนองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ หน่วยรับงบประมาณเช่นเดียวกับส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐประเภทอื่น จึงสอดคล้องกับหลักการ กระจายอานาจการปกครองท่ีวางหลักการให้ อปท. มีฐานะเป็นนิตบิ ุคคล มีงบประมาณ และทรพั ย์สนิ เปน็ ของ ตนเอง โดยแยกต่างหากและไม่ข้ึนตรงต่อหน่วยการปกครองส่วนกลาง และส่วนกลางเพียงแต่ทาหน้าที่กากับ ดูแล อปท. ให้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย รวมทั้งให้ อปท. มีอานาจอิสระในการบริหารงาน จัดทา กิจกรรมและวินิจฉัยสั่งการได้เองพอสมควรด้วยงบประมาณและเจ้าหน้าที่ของตนเอง อย่างไรก็ดีการมีสิทธิ หรืออานาจดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับ อปท. ท้ังหมดในการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เน่ืองจากประเด็นเร่ืองของความพร้อมและสานักงบประมาณมีเป้าหมายทจ่ี ะดาเนินการให้เปน็ ไปนัยกฎหมาย กบั อปท. ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 1.3.2 ผลกระทบต่อลักษณะการดาเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน โดยที่ อปท. เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหลักการเป็นการเฉพาะซ่ึงเป็นไปตามเจตนารมณ์และบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กล่าวคือ รัฐธรรมนูญมาตรา 249 วรรคแรก บัญญัติว่าภายใต้บังคับมาตรา 1 การจัดการปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักแห่ง การปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถ่ิน ประกอบกับมาตรา 250 วรรคแรก ได้กาหนด ภารกิจหน้าท่ีและอานาจ อปท. โดยให้มีหน้าที่และอานาจดูแลและจัดทาบริการสาธารณะและกิจกรรม สาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิน่ ตามหลักการพัฒนาอย่างยง่ั ยืน จึงทาให้ อปท. มีลักษณะการ ดาเนินการเป็นการเฉพาะ โดยเฉพาะในการจัดทาบริการสาธารณะท้องถิ่นที่นอกจากต้องเป็นไปตามกรอบ ภารกิจและอานาจหน้าท่ีท่ีกฎหมายกาหนดแล้ว ยังต้องมีความยึดโยงกับประชาชนในท้องถิ่นและดาเนินการใน ระดับพ้ืนท่ีท้องถ่ินนั้น ๆ ผ่านนโยบายหรือแผนพัฒนาท้องถ่ินที่สอดคล้องตามภูมิสังคม ปัญหา ความต้องการและ ประโยชน์ของประชาชนในท้องถ่ินซ่ึงแตกต่างตามสภาพพ้ืนที่ ดังนั้น ลักษณะการดาเนินงานของ อปท. จึง แตกต่างจากราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคซึง่ ยึดโยงกับรัฐบาลเป็นหลักและมุ่งนานโยบายของรัฐบาลไปสู่ การปฏิบัติกับพื้นที่ทั่วประเทศ ดังนั้น หากรูปแบบและวิธีการขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีของ อปท. เหมือนกับราชการส่วนกลางและภูมิภาค ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการดาเนินงานของ อปท. ที่มีหลักการและ ลกั ษณะวธิ กี ารทแ่ี ตกตา่ งกนั ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคาของบประมาณรายจ่าย ประจาปีงบประมาณของ อปท. ตามคู่มือปฏิบัติการจัดทาคาของบประมาณรายจ่ายประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ที่สานักงบประมาณกาหนด พบว่ามีหลกั เกณฑ์บางประการทีใ่ หค้ วามสาคญั กับความแตกต่างของ อปท. กับส่วนราชการและหนว่ ยงานของรัฐอื่น ๆ แตอ่ ย่างไรก็ดีในรายละเอยี ดของวิธีปฏิบตั ิตามปรากฏในแบบฟอร์ม คาของบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่ใช้กับกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์การ บริหารส่วนจังหวัด เช่น การกาหนดให้จัดทาความเชื่อมโยงของ “ยุทธศาสตร์จัดสรร - แผนงาน - เป้าหมาย เชิงยุทธศาสตร์ - เป้าหมายการให้บริการกระทรวง - เป้าหมายการให้บริการหน่วยงาน - ผลผลิต/โครงการ - กิจกรรม – รายการ” เป็นต้น ซึ่งเป็นการวางแผนและจัดทางบประมาณท่ีเน้นบนลงล่าง (top - down approach) ที่ให้ความสาคัญกับเป้าหมายและยุทธศาสตร์ของส่วนกลางเป็นสาคัญ และการจัดทาคาขอ งบประมาณรายจ่ายตามแบบฟอร์มอ่ืน ๆ ที่กาหนดให้ลงรายละเอียดของคาของบประมาณรายจ่าย โดยให้ จาแนกค่าใช้จ่ายตามหมวดเงินรายจ่ายซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกับคาขอของส่วนราชการส่วนกลางและ ภูมิภาค แม้จะเป็นหน่วยรับงบประมาณตามมาตรา 4 ของกฎหมายเช่นเดียวกัน แต่ อปท. มีหลักการบริหาร ราชการและลักษณะการดาเนินงานซึ่งแตกต่างจากส่วนราชการ ดังน้ัน รูปแบบดังกล่าวอาจส่งผลกระทบให้ การจัดทาคาขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของ อปท. ไม่สอดคล้องกับลักษณะการดาเนินงานของ อปท. ตาม 105 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่มีต่อรปู แบบและวธิ ีกำรขอตั้งงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพ่ือสนับสนนุ องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ หลักการกระจายอานาจการปกครอง และการยึดโยงกับประชาชนในท้องถ่ินตามแนวทางการวางแผนจากล่าง ขึ้นบน (bottom - up approach) ภายใต้แนวคดิ ประชาธปิ ไตยแบบมสี ่วนรว่ ม (participatory democracy) 2. ขอ้ เสนอแนะ จากสรุปผลการศึกษาดังกล่าวข้างต้น ผู้ศึกษาได้สังเคราะห์เพ่ือให้ได้ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับข้อ ค้นพบตามสรุปผลการศึกษาสาหรับไปประยุกต์ใช้และข้อเสนอแนะทางเลือกของ รูปแบบและวิธีการขอตั้ง งบประมาณรายจ่ายประจาปีเพ่ือสนับสนุน อปท. ท่ีมีความสอดคล้องตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการ งบประมาณ พ.ศ. 2561 หลักการกระจายอานาจการปกครอง และลักษณะของการดาเนินงานตามภารกิจของ อปท. ดงั นี้ 2.1 ข้อเสนอแนะเกย่ี วกับกำรนำผลกำรศกึ ษำไปประยกุ ต์ใช้ในกำรพฒั นำรูปแบบและวิธกี ำร ขอรับกำรจดั สรรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พื่อสนับสนนุ องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ มดี ังนี้ 2.1.1 สานักงบประมาณและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องควรร่วมกันกาหนดเป้าหมาย แผนการ ดาเนินงาน วิธีการดาเนินงาน ผลสัมฤทธิ์และตัวชี้วัด ผู้รับผิดชอบ ฯลฯ เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมให้แก่ องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน (อปท.) สาหรับการดาเนินการเตรียมความพร้อมให้แก่ อปท. เพ่ือดาเนินงานด้าน การงบประมาณให้สอดคล้องตามนยั ของพระราชบญั ญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 และนาไปแผนดงั กลา่ ว ไปดาเนินการอย่างบูรณาการร่วมกันอย่างจริงจัง เพ่ือให้บรรลุผลเป้าหมายและเกิดผลสัมฤทธิ์ภายใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เพ่ือให้ อปท. ท้ังหมดท่ัวประเทศมีความพร้อมและมีความสามารถในการ ดาเนินงานด้านงบประมาณในฐานะหน่วยรับงบประมาณตามนัยกฎหมายวธิ ีการงบประมาณดังกล่าวได้อย่างมี ประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล โดยเฉพาะในการขอต้ังและรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นเปา้ หมายทสี่ านกั งบประมาณกาหนดไว้ (สานักงบประมาณ, 2562, น. 10) ท้ังน้ี การดาเนินการดังกล่าวข้างต้น ควรตั้งอยู่บนพ้ืนฐานของความเข้าใจในลักษณะทั่วไป ของ อปท. (the nature of organization) ที่เป็นหน่วยงานของรัฐซ่ึงจัดระเบียบการบริหารราชการตาม หลักการกระจายอานาจการปกครองภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายและบริบทท่ีเก่ียวข้อง รวมทั้งมีลักษณะที่ แตกต่างจากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐประเภทอื่น ๆ เช่น ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถ่ิน เป็นนักการเมืองท้องถ่ินท่ีมาจากการเลือกต้ังและมีวาระของการทางานตามท่ีกฎหมายกาหนด รวมท้ังในการ เลอื กตง้ั ท้องถิ่นรอบใหม่ อาจมีการเปล่ียนแปลงผู้บริหารท้องถน่ิ และสมาชิกสภาท้องถิน่ ได้ เปน็ ต้น ดงั นน้ั การ เตรียมความพร้อมให้แก่บุคลากรของ อปท. ประเภทดังกล่าว จึงมีความจาเป็น ควรมีวิธีการที่หลากหลาย ไม่ ควรเป็นการดาเนินการเพียงครั้งเดียวในระยะเปลี่ยนผ่านปัจจุบัน หากแต่ควรมีการดาเนินการอย่างต่อเนื่อง ตามรอบระยะเวลาท่ีเหมาะสมตามลักษณะเฉพาะของ อปท. ดังกล่าว กล่าวคือ มีการเตรียมความพร้อม ดงั กลา่ วเป็นสว่ นหนงึ่ ของหลักสูตรการปฐมนิเทศหรอื หลกั สูตรพัฒนาผูบ้ รหิ ารทอ้ งถนิ่ และสมาชิกสภาท้องถิ่น 2.1.2 สานักงบประมาณและหน่วยงานทเี่ กี่ยวขอ้ งควรกาหนดใหม้ ผี ปู้ ระสานงานหลัก (focal point) ซึ่งอาจเป็นหน่วยงานหรือกลุ่มบุคคล เพ่ือเป็นเจ้าภาพในการดาเนินการเตรียมความพร้อมให้แก่ อปท. และการให้บริการคาปรึกษาและความช่วยเหลือแก่ อปท. หรือเป็นพ่ีเล้ียงแบบให้บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (one-stop service) ทั้งด้านการจัดทางบประมาณ กฎหมายวิธีการงบประมาณ และเทคโนโลยีสารสนเทศ 106 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่ีมีตอ่ รปู แบบและวิธีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พื่อสนับสนุนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ เพื่อการจัดทาคาของบประมาณ หรือเรื่องอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีช่องทางท่ีหลากหลาย เช่น ทางออนไลน์ ทางการใช้สื่อสังคม เป็นต้น เพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมท้ังสามารถรองรับการเข้าใจบริการ ของ อปท. จากทัว่ ประเทศซ่ึงมีจานวน 7,852 แหง่ (กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถน่ิ , 30 เมษายน 2562) 2.1.3 สานักงบประมาณควรมีการพัฒนาระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดทางบประมาณของ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ (ระบบ อปท. : BB LAO) ซง่ึ ใช้ในการจัดทางบประมาณของ อปท. ในปจั จุบัน โดย กรอบแนวคดิ ของการพัฒนาควรต้ังอย่บู นพ้ืนฐานของความเขา้ ใจในลักษณะท่ัวไปของ อปท. ซ่งึ มคี วามเหมือน และความแตกต่างจากส่วนราชการ และควรนาประสบการณ์จากการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปี งบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาควบคู่ไปกับการรับฟังข้อมูลย้อนกลับ (feedback) จากบุคลากรของ อปท. ในฐานะผู้ใช้งานระบบ เช่น ปัญหา ความต้องการ ข้อเสนอแนะ เป็นต้น เพ่ือนามาวิเคราะห์และใช้ประโยชน์ สาหรับการพัฒนาระบบจากมุมมองของผู้ใช้งานระบบและทาให้ระบบงานมีความเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน (user friendly) หรือสามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกเพิ่มข้ึน ทั้งนี้ ระบบสารสนเทศดังกล่าวมีความจาเป็นและ สาคัญอย่างยิ่งเน่ืองจาก อปท. มจี านวนมากและต้ังอยู่กระจายทั่วประเทศ รวมท้ังบุคลากรของ อปท. มีระดับ ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ทางเทคนิคดา้ นการงบประมาณท่ีแตกตา่ งกนั จงึ ทาให้ อปท. มชี อ่ งวา่ ง (gap) กับสานักงบประมาณ ดังนั้น การดาเนินการผ่านระบบสารสนเทศจึงตอบสนองกับข้อจากัดและช่วยลด ระยะห่างหรอื ปดิ ชอ่ งว่างกลา่ วได้ นอกจากน้ี ระบบสารสนเทศดังกล่าวข้างต้น ควรมีการบูรณาการและเชื่อมโยงกับระบบ สารสนเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (e-LAAS)17 ซึ่งอยู่ในความ ดูแลรับผิดชอบของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ระบบบริหารการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMIS Thai)18 ซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกรมบัญชีกลาง ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and Country Reform: eMENSCR) ซ่ึงอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น เพื่อ ลดภาระของ อปท. และสานักงบประมาณ ในลักษณะของการทางานด้านข้อมูลที่ซา้ ซ้อนและสนับสนุนให้เกิด การบรู ณาการเพ่ือใหห้ น่วยงานที่เก่ยี วข้องสามารถเข้าถึงฐานข้อมลู และใชป้ ระโยชน์รว่ มกันได้ 2.1.4 คณะกรรมการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินควรพิจารณาการ กาหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินของปีงบประมาณซ่ึงเป็นอานาจ หน้าที่ตามความในมาตรา 12 (11) และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจาย 17 เปน็ โปรแกรมสาหรับการปฏบิ ตั ิงานด้านการคลงั ของ อปท. และ อปท. ต้องปฏิบัตงิ านการ รับ-จ่าย ท่เี กิดขน้ึ จรงิ ประจาวนั เพื่อแสดงสถานะการเงนิ ท่แี ท้จริงของ อปท. 18 คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเม่ือวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 อนุมัติตามข้อเสนอ กระทรวงการคลังให้การพัฒนาการเช่ือมโยงข้อมูลระบบบริหารการเงินการคลงั ภาครัฐแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ใหม่ (New GFMIS Thai) กบั ระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ (e-LAAS) 107 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทมี่ ตี อ่ รูปแบบและวิธกี ำรขอตง้ั งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีเพ่อื สนบั สนุนองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ อานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. 2542 ให้สอดคล้องกับการจัดทางบประมาณตามปฏิทิน งบประมาณรายจ่ายประจาปี เน่ืองจากการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีเพื่อสนับสนุนองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินรูปแบบทั่วไปได้เปลี่ยนแปลงไปเดิมเป็นการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีโดยตรง ดังน้ัน เพ่ือให้สานักงบประมาณใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวสาหรับพิจารณาคาขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีของ อปท. และจัดสรรงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุนให้สอดคล้องตามเป้าหมายและหลักเกณฑ์อย่างมี ประสิทธิผล 2.2 ข้อเสนอแนะทำงเลือกของรูปแบบและวิธีกำรขอต้ังงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพ่ือ สนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ท่ีสอดคล้องตำมนัยพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 กำรกระจำยอำนำจกำรปกครองและลักษณะของกำรดำเนินงำนตำมภำรกจิ ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ 2.2.1 สานักงบประมาณและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องควรพัฒนารูปแบบและวิธีการขอตั้ง งบประมาณ รายจ่ายประจาปีเพื่อสนับสนุน อปท. ในลักษณ ะของเงินอุดหนุน โดยแนวคิดใน การออกแบบ (design concept) ควรต้ังอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจในลักษณะทั่วไปของ อปท. ซ่ึงเป็น หน่วยงานของรัฐท่ีมีความแตกต่างจากหน่วยงานของรัฐประเภทส่วนราชการ กล่าวคือ มีการจัดระเบียบการ บริหารราชการตามหลักการกระจายอานาจการปกครอง (decentralization) เพ่ือให้เกิดการจัดการปกครอง ตนเอง (self-government) ตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่นภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริบททางภูมิสังคมท่ีมีความแตกต่างหลากหลายตามท้องถิ่นต่าง ๆ ดังนั้น รูปแบบและวิธีการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีเพื่อสนับสนุน อปท. ควรออกแบบเป็นเครื่องมือในการ กาหนดทิศทางการใชท้ รัพยากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ (อปท.) ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าและเกิด ประสิทธิผล ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดการดาเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภายในพื้นท่ี (government integration) เพื่อนาไปสู่การพัฒนาให้เกิดการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (smart operations) กล่าวคือ มี การปฏิบัติงานในลักษณะท่ีเกิดผล มากขึ้น (do more) ดีขึ้น (do better) และมีการใช้งบประมาณและทรัพยากร เทา่ เดมิ (do with the same amount of taxes) สาหรบั การจดั ทาและนาส่งผลสัมฤทธ์ิใหแ้ ก่ประชาชนตามสภาพภูมิ สังคมทีม่ คี วามแตกตา่ งและหลากหลายในแต่ละทอ้ งถิ่น ท้ังนี้ เนื่องจาก อปท. ส่วนใหญ่เป็นเทศบาลตาบลและองค์การบริหารส่วนตาบล19 ซึ่งมี ขนาดเล็กตามพ้ืนที่ท่ีรับผิดชอบ มีผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้งของประชาชนและดารง ตาแหน่งตามวาระที่แน่นอน มีจานวนบุคลากรและรายได้ท่ีจากัด แต่ต้องรับผิดชอบตามภารกิจและอานาจ หนา้ ทต่ี ามกฎหมายทร่ี อบดา้ นฯลฯ ทาให้การสง่ั สมความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์ของบคุ ลากรในเชิงเทคนิค ที่จากัด และขาดความเช่ียวชาญและการส่ังสมองค์ความรู้ที่ต่อเน่ืองเหมือนส่วนราชการท้ังส่วนกลางและ ภูมิภาคซ่ึงบริหารราชการตามหลักการรวมอานาจการปกครอง (centralization) และหลักการแบ่งอานาจการ ปกครอง (deconcentration) ดังนั้น รูปแบบและวิธกี ารขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีเพ่อื สนับสนุน อปท. จงึ ควรมีความแตกต่างจากหน่วยรับงบประมาณที่เป็นส่วนราชการท้ังส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และควรเป็น 19 ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2562 มีจานวนเทศบาลตาบล และองค์การบริหารส่วนตาบลมีจานวน 2,233 และ 5,332 แหง่ ตามลาดับ รวมเปน็ จานวน 7,565 แหง่ หรอื คิดเปน็ ร้อยละ 96.34 ของ อปท. ท้งั หมด (7,852 แหง่ ) 108 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่มตี อ่ รปู แบบและวธิ ีกำรขอต้ังงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปเี พื่อสนบั สนนุ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น รูปแบบและวิธีการที่ง่าย (simplicity) ต่อการใช้งานของบุคลากรท้องถิ่น โดยมีกรอบ หลักเกณฑ์ วิธีการ ข้นั ตอน แบบฟอรม์ ฯลฯ เทา่ ที่จาเป็น ยืดหยุ่น มีน้อยและไม่ซับซอ้ น ทั้งนี้ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเป็นเงินอุดหนุนให้แก่ อปท. สอดคล้องตามหลักการ จาแนกประเภทรายจ่ายของสานักงบประมาณท่ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนการ ดาเนินงานของ อปท. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐแต่ไม่ใช่ส่วนราชการ และมีลักษณะการดาเนินภารกิจและ อานาจหน้าที่ของท้องถ่ินตามกฎหมายกาหนด โดยเฉพาะการจัดทาบริการสาธารณะท้องถ่ินให้แก่ประชาชนที่ หลากหลายด้าน ให้เกิดผลสัมฤทธ์ิอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และประสิทธิผล ควบคู่ไปกับความสามารถ ตอบสนองตามสภาพปัญหาและความต้องการที่แตกต่างและหลากหลายตามภูมิสังคมได้ ภายใต้ความจากัด ของทรัพยากรของท้องถ่ิน ดังนั้น รูปแบบและวิธีการขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีของ อปท. ควรได้รับ การพัฒนาให้เป็นเครื่องมือในการกาหนดทิศทางการใช้ทรัพยากรของ อปท. อย่างมีประสิทธิ คุ้มค่า เกิด ประสิทธิผล และยั่งยืน ได้แก่ การพัฒนาให้เงินอุดหนุนทั่วไปให้เป็นเคร่ืองมือที่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ใน การกระจายความเสมอภาคทางการคลังระหวา่ งท้องถ่ิน การพัฒนาให้มีเงินอดุ หนุนที่ อปท. ร่วมสมทบให้เป็น เครอ่ื งมือที่สามารถบรรลุวัตถปุ ระสงค์ในการจูงใจเพ่อื ให้ อปท. เพมิ่ ปรมิ าณการผลิตบริการสาธารณะท้องถน่ิ ท่ี จาเป็นหรือรักษาระดับคุณภาพของบริการสาธารณะท้องถิ่นให้ได้มาตรฐานขั้นต่าที่กาหนดไว้ การพัฒนาเงิน อดุ หนุนเฉพาะกิจให้เป็นเครื่องมอื ท่ีสามารถบรรลุวัตถปุ ระสงค์ในการแกป้ ัญหาผลล้นออกภายนอก (spillover effects) ของการผลิตบริการสาธารณะท้องถ่ิน เป็นต้น ทั้งนี้ การดาเนินการพัฒนารูปแบบและวิธีการขอตั้ง งบประมาณรายจ่ายประจาปีในลักษณะของเงินอุดหนุนจากรัฐบาลให้แก่ อปท. ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการ ปฏิรูปการคลังและงบประมาณท้องถิ่นที่มีความท้าทาย และหากดาเนินการสาเร็จย่อมจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อ การสร้างความยั่งยืนทางการคลังและงบประมาณท้องถิน่ 2.2.2 สานักงบประมาณ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควร พัฒ นารูปแบบและวิธีการขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปี เพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นท่ี ส่งเสริมให้เกิดการจัดทางบประมาณแบบมีส่วนร่วม (participatory budgeting) ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ กระจายอานาจการปกครองและลักษณะของการดาเนินงานตามภารกิจ อปท. โดยในการจัดเตรียมงบประมาณ ซง่ึ เป็นข้ันตอนแรกของกระบวนการงบประมาณ (budget process) สานักงบประมาณควรเพิ่มเติมข้ันตอนของ ปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจาปี เพื่อเปิดให้ อปท. ซึ่งเป็นหน่วยงบประมาณในมิติพื้นท่ีจัดทาหรือทบทวน แผนพัฒนาท้องถิ่นและคาขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีโดยให้สมัชชาพลเมือง องค์กรชุมชน และภาค ประชาสังคมในพื้นท่ีเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาตัดสินใจเพ่ือตอบสนองปัญหา ความต้องการ และ ประโยชน์ของประชาชนในพื้นท่ี (local interest) ที่มีความแตกต่างและหลากหลายในแต่ละพื้นท่ีได้อย่างมี ประสิทธิผลและย่ังยืน ซึ่งสอดคล้องตามหลักการกระจายอานาจการปกครองและลักษณะของการดาเนินงาน ตามภารกิจของ อปท. 109 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่มี ตี อ่ รูปแบบและวธิ กี ำรขอต้ังงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพ่อื สนับสนนุ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทง้ั นี้ การพัฒนารปู แบบและวิธีการขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีเพ่ือสนับสนุน อปท. ดังกล่าวข้างต้นมีลักษณะของการจัดเตรียมงบประมาณจากล่างขึ้นบน (bottom-up budget preparation) ซึง่ เป็นการวางแผนและจดั ทางบประมาณท่ีเริม่ ตน้ จากระดบั ลา่ งหรอื ประชาชนในพืน้ ทีท่ ้องถน่ิ โดยมีกรอบหรือ แนวทางการดาเนินการท่ียืดหยุ่น และเสนอขึ้นไปเป็นลาดับข้ันตามกระบวนการหรือข้ันตอนของกฎหมาย ข้อดี คือ สามารถตอบสนองปัญหาและความต้องการของประชาชนในพ้ืนท่ีท้องถ่ินได้ดี รวมทั้งสร้างความ ผูกพัน (engagement) และความรู้สึกเป็นเจ้าของ (sense of belongingness) ต่อแผนพัฒ นาและ งบประมาณของท้องถิ่น ซึ่งเป็นปัจจัยท่ีสาคัญต่อการสร้างความย่ังยืนของการพัฒนาท้องถ่ิน อย่างไรก็ดีก็มี ข้อจากัด คือ คาขอต้ังงบประมาณรายจ่ายประจาปีดังกล่าวจะมีความหลากหลายสูงและอาจไม่สอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรฐั บาล หรือเป้าหมายระดับสงู 110 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั ิวธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่ีมตี อ่ รปู แบบและวธิ ีกำรขอต้ังงบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พ่ือสนบั สนนุ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ บรรณำนกุ รม กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2551. (26 พฤศจิกายน 2551). ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม่ ที่ 125, ตอนท่ี 125 ก. 2 - 8. กรมสง่ เสริมการปกครองทอ้ งถนิ่ . สานักบรหิ ารการคลงั ท้องถน่ิ . (ม.ป.ป.). ข้อมูลรายได้ขององค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถิน่ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2560. ม.ป.ท. : ม.ป.พ. กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิ่น. สานักบรหิ ารการคลงั ท้องถิ่น. (9 ธันวาคม 2559). ด่วนมาก ท่ี มท 0808.2/ ว7120. เรือ่ ง หลกั เกณฑก์ ารเบิกจา่ ยเงินค่าจา้ งเหมาบรกิ ารขององคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ . เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม. (2552). การคลังว่าด้วยการจัดสรรและการกระจาย. (พิมพ์คร้ังที่ 9 แก้ไขปรับปรุง). กรงุ เทพฯ: สานกั พิมพ์มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. จรสั สวุ รรณมาลา. (2558). ประชาธิปไตยทางการคลงั ไทย. กรุงเทพฯ: สานกั พิมพแ์ ห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. จรัส สุวรรณมาลา. (2546). ระบบงบประมาณและการจัดการแบบมุ่งผลสาเร็จในภาครัฐ': ความสัมพันธ์ ระหว่างรัฐกับพลเมอื งยคุ ใหม่. กรุงเทพฯ: ธนธัชการพิมพ์. จรัส สุวรรณมาลา และคณะ. (2544). ระบบเงินโอนและเงินอุดหนุนสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน. ในรายงานฉบับสมบูรณ์โครงการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารการเงินการคลังท้องถิ่น สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. กรุงเทพฯ: บริษัทอักษรโสภณ จากัด. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะรัฐศาสตร์. (2557). โครงการศึกษาวิจัยเพ่ือติดตามและประเมินผลการกระจาย อานาจของไทย. รายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์(Final Report) เสนอต่อสานักงานปลัดสานัก นายกรัฐมนตรี (สานักงานคณะกรรมการการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน). วันที่ 8 สิงหาคม 2557. ฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ. (พฤษภาคม – สิงหาคม 2559). การประเมินผลกระทบในการออกกฎหมายกับนโยบายของ รฐั บาล. วารสารกฎหมายสุขภาพและสาธารณสุข. 2(2). 243 – 256. เชาวนะ ไตรมาศ. (2542). บทบาทใหม่ของข้าราชการไทย : ในบรบิ ทของรัฐธรรมนูญปัจจบุ ัน. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั สขุ มุ และบุตร จากดั . ชาย โพธสิ ติ า. (2554). ศาสตรแ์ ละศิลปแ์ ห่งการวิจยั เชงิ คณุ ภาพ. (พิมพค์ ร้ังท่ี 5). กรุงเทพฯ: บริษัท อมรินทร์ พรนิ้ ตง้ิ แอนด์พับลิชชงิ่ จากัด. ดวงมณี เลาวกุล. (2555). การปฏริ ปู การกระจายอานาจการคลงั สทู่ ้องถิ่น. กรงุ เทพฯ: เป็นไท. 111 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทีม่ ตี ่อรปู แบบและวิธกี ำรขอต้ังงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีเพอื่ สนับสนนุ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ดารณุ ี พมุ่ แก้ว . (2559). ความเหล่อื มล้าทางการคลงั และการจดั สรรเงินอุดหนุนให้แก่องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน. วารสารรัฐประศาสนศาสตร์, 14(2). 49-62. ดเิ รก ปัทมสิรวิ ฒั น.์ (บรรณาธกิ าร). (2533). งบประมาณแผ่นดนิ และการวิเคราะหท์ างเศรษฐศาสตร์. กรงุ เทพฯ: สมาคมเศรษฐศาสตร์แหง่ ประเทศไทย. ดิเรก ปัทมสิริวัฒน.์ (2551). การคลงั ทอ้ งถ่นิ : รวมบทความวจิ ัยเพ่อื เพมิ่ พลังให้ทอ้ งถิน่ . กรงุ เทพฯ: พเี อลฟิ วงิ่ . ดุสติ เขมะศักดิช์ ัย.(2558). (2559). การทบทวนและการวางแผนงบประมาณ. เอกสารประกอบคาบรรยาย หลักสูตรนักบรหิ ารการงบประมาณระดบั สงู รนุ่ ท่ี 1 สานักงบประมาณ. 1 – 48. เดชาภวิ ฒั น์ ณ สงขลา. (2559). “การปฏิรปู ระบบงบประมาณ.” [เอกสารอดั สาเนา]. เอกสารประกอบคา บรรยายหลกั สตู รนกั บรหิ ารการงบประมาณระดับสูง รนุ่ ท่ี 2 สานกั งบประมาณ.1 – 34. เดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา. (2562). ประชุมช้ีแจงการจัดทาคาของบประมาณรายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563. เอกสารประกอบประชุมชี้แจงให้แก่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอ่ืน วันท่ี 31 กรกฎาคม 2562 ณ สานกั งบประมาณ. 1 – 23. ไตรรตั น์ โภคพลากรณ์. (2556). การบรหิ ารการคลงั และงบประมาณสาธารณะ : แนวคิดและทฤษฎี. กรงุ เทพฯ: คณะรฐั ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ทิพวรรณ หล่อสุวรรณรัตน์. (มกราคม – มิถุนายน 2556). งบประมาณแบบมีส่วนรว่ ม: บทเรยี นจาก ตา่ งประเทศและความท้าทายสาหรบั ประเทศไทย. วารสารการจดั การภาครฐั และภาคเอกชน, 20(1). 9 – 39. ธวัชชัย กจิ รัตนะกลู . (2558).“การบริหารงบประมาณ.” ในเอกสารประกอบคาบรรยายหลกั สตู รนกั บริหาร การงบประมาณระดับสงู รุ่นที่ 1 สานกั งบประมาณ. 1 – 40. นครนิ ทร์ เมฆไตรรตั น์ และคณะ. (2546) .ทิศทางการปกครองท้องถิ่นไทยและต่างประเทศเปรียบเทยี บ. กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์วญิ ญูชน. นพฤทธ์ิ อนนั อภิบตุ ร. (2544). การวิเคราะห์กระบวนการงบประมาณแผน่ ดินในสภาผู้แทนราษฎรของไทย. (วิทยานิพนธ์ ปรญิ ญามหาบณั ฑติ สาขาวิชาเศรษฐศาสตรก์ ารเมือง). จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย, คณะเศรษฐศาสตร์. นันทวัฒน์ บรมานันท.์ (2552). การปกครองส่วนท้องถิน่ . (พิมพ์ครัง้ ท่ี 5). กรุงเทพฯ: วิญญูชน. นันทวัฒน์ บรมานันท์. (2561). การปกครองท้องถ่ินฝรั่งเศส 2018. กรุงเทพฯ : บริษัท อัมรินทร์ พริ้นต้ิงแอนด์พับ ลชิ ชิง่ จากดั มหาชน. ณัฏฐ์รวี กรรณุมาตร์. (มีนาคม 2559). การกาหนดเป้าหมายสัดส่วนรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินต่อ รายได้สุทธิของรัฐบาล. การคลังปริทัศน์. เอกสารเผยแพร่สานักนโยบายการคลัง สานักงาน เศรษฐกิจการคลัง ฉบบั ที่ 6/2559. 1-3. 112 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั ิวธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่มีต่อรปู แบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พื่อสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ บรรเจิด สงิ คะเนติ และ ดารุณี พุ่มแก้ว. (2560). องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ไทยในมติ ิปญั หาทางการคลงั . วารสารรฐั ประศาสนศาสตร์, 15(2). 3-25. บุญเรือง ศรเี หรญั . (11 กนั ยายน 2562). เทคนิคการเลือกและการกาหนดขนาดกลุ่มตวั อย่าง. สบื คน้ จาก http://rlc.nrct.go.th/ewt_dl.php?nid=1459. 1-91. ปว๋ ย อึ๊งภากรณ.์ (2510). งบประมาณและเจา้ หนา้ ทีง่ บประมาณ. ใน อนุสรณใ์ นงานพระราชทานเพลงิ ศพ นายประสงค์ สุทรวิภาต. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พร์ วมมิตรไทย. 143-154. พรชัย เทพปัญญา . (เดือนมกราคม – เมษายน 2561). การพัฒนารูปแบบการวางแผนและจัดทางบประมาณ ในลักษณะบูรณาการที่รองรับการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาล. วารสารวิชาการ Veridian E- Journal ฉบับภาษาไทย สาขามนษุ ยศาสตร์ สงั คมศาสตร์ และศลิ ปะ, 11 (1). 1-15. พัลลภ ศักดโิ์ สภณกลุ . (2558). กฎหมายและระเบียบทเ่ี ก่ยี วข้อง.ใน เอกสารประกอบคาบรรยายหลักสูตรนกั บรหิ ารการงบประมาณระดับสงู รนุ่ ที่ 1 สานักงบประมาณ. หนา้ 1 – 50. พิชิต รัชตพบิ ลุ ภพ และ ดิเรก ปัทมสิรวิ ฒั น.์ (2557). ความเหลอ่ื มล้าการคลังท้องถิ่น กรณีศกึ ษาองค์การ บริหารส่วนจังหวดั . วารสารสถาบนั พระปกเกล้า, 12(2) , 52-76. พลู ทรัพย์ ปิยะอนนั ต์. (2552). งบประมาณ: หลักคดิ จากประสบการณ์. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั พี.เอ ลีฟวิ่ง จากัด. ภาวิน ศิริประภานุกูล และ ฐิติเทพ สิทธิยศ. (2560). การประเมินความโปร่งใสทางด้านการคลังขององค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินเพ่ือส่งเสริมความยั่งยืนทางการคลังของประเทศไทย. รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการย่อยท่ี 5 ภายใต้โครงการปฏิรูประบบงบประมาณเพื่อเพ่ิมความโปร่งใสให้กับการดาเนิน นโยบายกึง่ การคลงั สนับสนนุ โดยสานักงานกองทนุ สนับสนุนการวิจัย (สกว.). ม.ป.ท.: ม.ป.พ. ภาณุ จันทร์เจียวใช้. (กันยายน 2561). ร่าง พ.ร.บ. วิธีการงบประมาณ พ.ศ. .... กับการปรับเปล่ียนกระบวนการ จัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปี พ.ศ. 2563. การฝึกอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการแนวทางการ ขับเคลื่อนการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปี ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน วันท่ี 24 กันยายน 2561 ณ หอ้ งประชุมช้ัน 3 อาคาร 52 ปีสานกั งบประมาณ สานกั งบประมาณ. รณจักร์ จักรพันธุ์, ม.ร.ว. (กันยายน 2561). เตรียมความพร้อมการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจาปีโดยตรงให้ อปท. การฝึกอบรมสัมมนาเชิงปฏิบตั ิการแนวทางการขับเคล่ือนการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปี ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน วันที่ 24 กันยายน 2561. ณ ห้องประชุมช้ัน 3 อาคาร 52 ปี สานักงบประมาณ สานักงบประมาณ. รสคนธ์ รัตนเสริมพงศ์ และ นราธิป ศรีราม. (2558). วิวัฒนาการการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไทย. ใน หนังสือ 15 ปี กระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินของสานักงานคณะกรรมการ กระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี. กรุงเทพฯ: สานกั พมิ พค์ ณะรฐั มนตรแี ละราชกจิ จานุเบกษา. 113 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่มตี อ่ รปู แบบและวิธกี ำรขอตงั้ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพอื่ สนับสนนุ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ระเบียบว่าด้วยการบรหิ ารงบประมาณ พ.ศ. 2562. (31 กรกฎาคม 2562).1 - 10. รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยพุทธศกั ราช 2540. (11 ตุลาคม 2540). ราชกิจจานุเบกษา. เลม่ ที่ 114, ตอนท่ี 55 ก : 1 – 99. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศกั ราช 2550. (24 สิงหาคม 2550). ราชกิจจานเุ บกษา. เล่มท่ี 124, ตอน ท่ี 47 ก : 1 – 127. รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560. (6 เมษายน 2560). ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ที่ 134, ตอนที่ 40 ก : 1 – 90. วรพทิ ย์ มมี าก. (ม.ป.ป.). ระบบการคลังของการปกครองทอ้ งถ่นิ ไทย. รายงานวจิ ัยโดยทุนอดุ หนนุ ของ สานักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร. กรงุ เทพฯ: สานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร, สานักงาน การพิมพ์. วศิน โกมทุ . (24 มถิ นุ ายน 2562). เงนิ อดุ หนนุ (Intergovernmental Transfers). สืบค้นจาก http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0% B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8 % B8%E0%B8%99_(Intergovernmental_Transfers). วลัยรตั น์ ศรีอรุณ. (มนี าคม 2554). แนวทางการจัดการงบประมาณแบบม่งุ เน้นผลงาน. ในเอกสารประกอบ คาบรรยายหลักสตู รการบริหารงานและงบประมาณ (ระดับผ้บู ริหารระดบั สูงของกองทัพเรือ) ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2554. วันท่ี 4 มีนาคม 2554 ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดมิ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร. วรี ะยุทธ ป้ันน่วม. (2558). การจัดทาและอนุมัติงบประมาณ. เอกสารประกอบคาบรรยายหลักสูตรนักบริหาร การงบประมาณระดับสูง รุ่นท่ี 1 สานักงบประมาณ. ณ ห้องประชุมช้ัน 3 อาคาร 52 ปีสานัก งบประมาณ สานกั งบประมาณ. วรี ศักด์ิ เครอื เทพ (2561). การบริหารงานการคลังภาครฐั บนฐานความยั่งยืน. (พมิ พค์ รั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . วรี ะศกั ดิ์ เครือเทพ. (2548). ความเบอ้ื งตน้ เกี่ยวกบั การบริหารจดั เกบ็ ภาษอี ากรและรายไดข้ องรฐั . กรงุ เทพฯ : จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, คณะรัฐศาสตร์. วีระศักด์ิ เครือเทพ. (2550). ความเส่ียงทางการคลัง ความเสี่ยงของรัฐ : กรอบวิเคราะห์เบื้องต้นพร้อมบท วิเคราะห์ร่างรัฐธรรมนูญหมวดการเงิน การคลังและการงบประมาณ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, คณะรัฐศาสตร์. 114 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทมี่ ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตัง้ งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีเพ่ือสนับสนุนองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ วีรศักด์ิ เครือเทพ และคณะ. (2557). โครงการศึกษาวิจัยเพื่อติดตามและประเมินผลการกระจายอานาจของ ไทย. รายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์ (Final Report) เสนอต่อสานักงานปลัดสานัก นายกรฐั มนตร.ี วันที่ 8 สิงหาคม 2557. วีระศักดิ์ เครือเทพ และ จรัส สุวรรณมาลา (บรรณาธิการ). (2553). การกระจายอานาจกับการปฏริ ูปประเทศไทย เลม่ ท่ี 1 – 4. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , คณะรฐั ศาสตร์. วรี ะศักดิ์ เครอื เทพ. (2554). การวเิ คราะห์ฐานะทางการเงนิ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ . กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกลา้ . วีระศักดิ์ เครือเทพ และคณะ. (2557). การศึกษาโครงการศึกษาวิจัยเพ่ือตดิ ตามและประเมินผลการกระจาย อานาจของไทย. รายงานการศึกษาฉบับสมบูรณ์ (Final Report) เสนอสานักงานปลัดสานัก นายกรัฐมนตรี, สานักงานคณะกรรมการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย, คณะรฐั ศาสตร์. วฒุ สิ าร ตันไชย. (1 พฤษภาคม 2562). การกระจายภารกิจหน้าท่ีไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินยุคใหม่. สบื ค้น จาก http://www.local.moi.go.th/webst/botfam1.htm ศิลักษณ์ ปั้นน่วม. (2561). การศึกษาเรื่องการเตรียมความพร้อมของการดาเนินงานในกระบวนการ งบประมาณรายจา่ ยประจาปีเพื่อรองรับตามร่างพระราชบัญญัติวธิ ีการงบประมาณ พ.ศ. เอกสาร ผลการทางวิชาการเพ่ือประเมินผลบุคคล เล่มท่ี 1 เพื่อเสนอประกอบการพิจารณาประเมินบุคคล เพ่ือแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งท่ีปรึกษาสานักงบประมาณ(นักวิเคราะห์งบประมาณทรงคุณวุฒิ). สานกั งบประมาณ. สกนธ์ วรัญญูวัฒนา. (ม.ป.ป.). การกระจายอานาจการคลังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น: กรณีศึกษาประเทศ ไท ย (Fiscal Decentralization: in Thailand. ใน เอกสารป ระกอบ การบ รรยายคณ ะ เศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร.์ ม.ป.ท.: ม.ป.พ. สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ. (2559). “การปฏิรูประบบงบประมาณและการคลังภาครัฐ.” รายงานของ คณะกรรมาธิการขับเคลือ่ นการปฏิรปู ประเทศด้านการบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ สภาขบั เคลื่อนการ ปฏริ ูปประเทศ. ม.ป.ท.: ม.ป.พ. สภาปฏิรูปแห่งชาติ. คณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง. (2558). วาระปฏิรูปท่ี 3 : การปรับโครงสร้างอานาจส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถ่ิน. กรุงเทพฯ: สานักงาน เลขาธกิ ารสภาผ้แู ทนราษฎร. สภาปฏิรูปแห่งชาติ. คณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง. (2558). วาระปฏิรูปท่ี 4 : การปฏิรูประบบงบประมาณและการคลังท้องถ่ิน : การปฏิรูประบบงบประมาณ. กรุงเทพฯ: สานกั การพมิ พ์ สานักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร. สภาขบั เคล่อื นการปฏิรูปประเทศ. คณะกรรมาธิการขบั เคลือ่ นการปฏริ ปู ประเทศด้านการบรหิ ารราชการ แผน่ ดิน. (2559). รายงานเร่ืองการปฏิรปู ระบบงบประมาณและการคลงั ภาครฐั . ม.ป.ท.: ม.ป.พ. 115 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่ีมตี อ่ รูปแบบและวิธกี ำรขอตงั้ งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีเพอื่ สนับสนุนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น สมคดิ เพชรประเสริฐ. (2548). การมีสว่ นร่วมของประชาชนในกระบวนการวางแผนและจดั ทางบประมาณของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในประเทศไทย. (วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต). จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย, คณะรัฐศาสตร์. สมชาย สมั ฤทธท์ิ รัพย์. (2530). การใช้เงนิ อุดหนนุ เปน็ เครอ่ื งมือในการกาหนดทศิ ทางการใชท้ รพั ยากรของ รัฐบาลท้องถ่นิ ในประเทศไทย. (วทิ ยานิพนธป์ ริญญามหาบัณฑิตสาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์มหาบัณฑติ ) จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, คณะเศรษฐศาสตร์. สาลี่ สุขเกิด. (2560). การจัดทาและการบริหารงบประมาณ. เอกสารประกอบการฝึกอบรมสัมมนาหลักสูตร สง่ เสริมความรู้พืน้ ฐานดา้ นการงบประมาณสาหรับหน่วยงานภายนอก. วันท่ี 19 ธันวาคม 2560. ณ ห้องประชุมช้นั 3 อาคาร 52 ปีสานักงบประมาณ สานกั งบประมาณ. สวิ าพร สุขเอียด. (19 เมษายน 2562). การปกครองส่วนท้องถิน่ . สืบคน้ จาก http://wiki.kpi.ac.th/ index.php?title=การปกครองส่วนทอ้ งถิ่น. สภุ างค์ จนั ทวานิช. (2549). วิธีการวจิ ัยเชิงคณุ ภาพ. (พมิ พค์ รั้งท่ี 14) กรงุ เทพมหานคร : สานักพิมพจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สวุ ัสดี โภชนพ์ ันธ.ุ์ (2543). เทศบาลและผลกระทบต่ออานาจท้องถ่นิ พ.ศ.2476-2500. กรงุ เทพฯ : ฐานขอ้ มูลวิทยานิพนธไ์ ทย. สวุ ทิ ย์ เมษินทรีย์. (2556). โลกเปลย่ี น ไทยปรับ. กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์กรงุ เทพธุรกจิ . สานักงบประมาณ. (18 มกราคม 2553). ท่ี นร 0704/ว 33. เร่ือง การปรบั ปรุงหลักการจาแนกประเภท รายจ่ายตามงบประมาณ. สานักงานคณะกรรมการการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน. (2562). รายงานการประชุม คณะกรรมการการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน คร้ังที่ 1/2562 วันที่ 6 กมุ ภาพนั ธ์ 2562 ณ หอ้ งประชมุ 301 ตกึ บัญชาการ ชั้น 3 ทาเนียบรัฐบาล. สานักงานคณะกรรมการการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน. (2562). ข้อเสนอแนวทางการ พัฒนาการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินของคณะกรรมการการกระจาย อานาจใหแ้ ก่องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น. ม.ป.ท.: ม.ป.พ. สานักงบประมาณ, ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ. (กันยายน 2561). ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดทางบประมาณ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (ระบบ อปท. : BB LAO). การฝึกอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ แนวทางการขับเคล่ือนการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปี ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วันท่ี 24 กันยายน 2561. ณ ห้องประชุมช้ัน 3 อาคาร 52 ปีสานักงบประมาณ สานัก งบประมาณ. สานกั งบประมาณ, กองนโยบายและแผนงบประมาณ. (2561). ปฏทิ ินงบประมาณรายจา่ ยประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563. ม.ป.ท.: 28 พฤษภาคม 2562. 116 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั ิวธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่มี ตี ่อรปู แบบและวธิ ีกำรขอตงั้ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พือ่ สนบั สนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ สานักงบประมาณ, กองนโยบายและแผนงบประมาณ. (2561). คูม่ อื การจัดทาคาของบประมาณรายจ่าย ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563. ม.ป.ท.: มกราคม 2562. สานักงบประมาณ. (2546). บทความพิเศษ. รายงานประจาปีสานักนายกรฐั มนตรี. 71(24 มถิ นุ ายน 2546). ม.ป.ท.: ม. ป.พ. สานกั งบประมาณ. (2555). กฎหมายและระเบยี บเกี่ยวกับการงบประมาณและการคลัง. กรงุ เทพฯ : สานักงบประมาณ. สานักงบประมาณ, สานกั นโยบายและแผนงบประมาณ. (2558). กระบวนการงบประมาณแผน่ ดนิ . ม.ป.ท.: ม.ป.พ. สานกั งบประมาณ. (2559). งบประมาณโดยสงั เขป ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2560. กรงุ เทพฯ : บริษัท ร่งุ ศิลป์การพิมพ์ (1977) จากัด. สานักงบประมาณ. (2559). เอกสารงบประมาณ ฉบับที่ 3 งบประมาณรายจ่าย ฉบับปรับปรุง ตาม พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เลม่ ท่ี 3 กระทรวงเกษตรและ สหกรณ์. กรงุ เทพฯ : บริษัท รุ่งศิลปก์ ารพิมพ์ (1977) จากดั . สานกั งบประมาณ. (2561). เอกสารงบประมาณ ฉบับที่ 3 งบประมาณรายจา่ ยฉบบั ปรับปรงุ ตาม พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี พ.ศ. 2562 เล่มท่ี 2. กรงุ เทพฯ: บรษิ ัทรงุ่ ศิลปก์ าร พิมพ์ (1977) จากัด. สานักงบประมาณ. (2562). งบประมาณโดยสงั เขป ฉบบั ปรบั ปรุงตามพระราชบญั ญัติงบประมาณรายจา่ ย ประจาปี พ.ศ. 2562. กรุงเทพฯ: หจก.อรุณการพิมพ์. สานกั งบประมาณ. (2544). การปฏิรูประบบงบประมาณ . ม.ป.ท.: ม.ป.พ. สานักงบประมาณ. (สิงหาคม 2560). นโยบายการจัดทางบประมาณรายจา่ ยประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 . เอกสารในการประชุมสัมมนามอบนโยบายการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2562. วันท่ี 16 สิงหาคม 2560 ณ ห้องรอยัล จูบิล่ี บอลรูม ช้ัน 1 อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์ แสดงสินคา้ และการประชุมอมิ แพ็ค เมืองทองธานี อาเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบรุ .ี สานักงบประมาณ. (ธันวาคม 2561). นโยบายการจัดทางบประมาณรายจ่ายประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของ นายกรัฐมนตร.ี เอกสารสรปุ สาระสาคัญการประชุมสัมมนาการมอบนโยบายการจัดทางบประมาณรายจ่าย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทน์โอชา). วันที่ 17 ธันวาคม 2561 ณ ศนู ยก์ ารประชมุ อมิ แพ็ค ฟอรม่ั เมืองทองธานี อาเภอปากเกร็ด จงั หวดั นนทบุรี. สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร, สานักวิชาการ. (24 เมษายน 2562). การวเิ คราะหผ์ ลกระทบในการ ออกกฎหมาย (RIA) กับการปฏิรปู กฎหมาย. สบื ค้นจาก http://library2.parliament.go.th/ ejournal/content_af/2559/jul2559-4.pdf. 117 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบญั ญตั วิ ธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ท่มี ีต่อรปู แบบและวธิ ีกำรขอตงั้ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพ่อื สนบั สนนุ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน สานักนายกรัฐมนตรี. สานกั งานเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี. (21 พฤศจกิ ายน 2560).ที่ นร 0503/37748. เรือ่ ง รา่ งพระราชบญั ญัตวิ ิธีการงบประมาณ พ.ศ. .... หลักเกณฑ์วา่ ด้วยการใช้งบประมาณรายจ่าย การโอนเงินจัดสรรหรอื การเปลี่ยนแปลงเงนิ จัดสรร พ.ศ. 2562. (31 กรกฎาคม 2562).1 - 4. อัชกรณ์ วงศ์ปรีดี และ ธัชเฉลิม สทุ ธิพงษ์ประชา. (2558). การกระจายอานาจกับความเหล่ือมล้าของการคลัง ท้องถิ่น : บทวิเคราะห์เงินอุดหนุนทั่วไป กรณีเปรียบเทียบระหว่างประเทศอินโดนีเซียและ ประเทศไทย. วารสารสถาบนั พระปกเกลา้ . 13(2). 89-112. อัญชลี จวงจันทร์.(13 มีนาคม 2562). งบประมาณรายจ่ายของแผน่ ดนิ . สืบคน้ จาก http://wiki.kpi.ac.th /index.php?title=งบประมาณรายจ่ายของแผน่ ดิน. อันวาร์ ชาห์, ชาห์บี อาลี โมฮิบ, ณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล, โรเบิร์ต บูท และ สกนธ์ วรัญญูวัฒนา. (10 เมษายน 2562). การบริหารจัดการการคลังสาธารณะของประเทศไทย. ใน เอกสารและรายงานของ ธนาคารโลก, รายงานศึกษาฉบับที่ 3 ความสัมพันธ์ระหว่างส่วนกลางและท้องถ่ิน. (แปลจาก ต้น ฉบั บ ภ าษ าอั งกฤษ ). สื บ ค้ น จาก http://documents.worldbank.org/curated/en/ 219131468312352683/pdf/674860v20P14640ons0Paper0THAI0Clean.pdf ภาษาต่างประเทศ Bahl, Roy. (1999). Implementation Rules For Fiscal Decentralization. Paper presented at the International Seminar on Land Policy and Economic Development, Land Reform Training Institute, Taiwan. Bernstein, Samuel J. and O’ Hara, Patrick. (1979). Public Administration: Organization: People and Public Policy. New York: Harper&Row. Bucur, Ion. (2008). The State and Market Failures. in Manager Journal (Online). Vol 8, p. 47-52. Carlee, Ron. (2008). Budgeting for Local Governments in the United States: Deciding Who Gets What, How Much, and Who Pays?. in Journal of the Washington Institute of China Studies (Online). 3(3). p. 106- 119. Fubbs, Joan. (1999). The Budget Process and Good Governance. Amsterdam: Rob Stolk bv. Kim, John M., Edited. (2007). From Line-item to Program Budgeting Global Lessons and the Korean Case. Seoul: Korea Institute of Public Finance. Mikesell, John L. (2007). Fiscal Administration in Local Government: An Overview. In Local Budgeting. Public Governance and Accountability Series, Washington, DC.: The World Bank. p.15-52. 118 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี อ่ รปู แบบและวิธีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปเี พือ่ สนบั สนนุ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ OECD. (2002). Regulatory policies in the OECD Countries: From Intervention to Regulatory Governance. Retrieved from https://read.oecd-ilibrary.org/governance/regulatory- policies-in-oecd-countries_9789264177437-en#page1. Robinson, Marc and Last, Duncan. (2009). A Basic Model of Performance-Based Budgeting. In Technical Notes and Manuals. Washington, DC : International Monetary Fund, Fiscal Affairs Department. p.1-12. การสมั ภาษณเ์ ชิงลึก กติ ตพิ งศ์ ธรรมโสภารตั น.์ นายกเทศมนตรเี ทศบาลตาบลบ้านเพชร จังหวดั ชัยภมู ิ. (8 มถิ ุนายน 2562). สัมภาษณ์. คณติ า ราษฎรน์ ยุ้ . ผู้อานวยการกองพัฒนาและสง่ เสรมิ การบรหิ ารงานทอ้ งถน่ิ กรมส่งเสริมการปกครอง ทอ้ งถิน่ . (24 พฤษภาคม 2562). สัมภาษณ.์ เฉลมิ ประสาททอง. ผู้อานวยการสว่ นสง่ เสรมิ การกระจายอานาจและการจัดทางบประมาณเงนิ อุดหนนุ กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่นิ . (24 พฤษภาคม 2562). สัมภาษณ์. ดลพร กระจ่างฉาย. ผอู้ านวยการกองสวสั ดกิ ารสงั คม องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลอ้อมเกร็ด อาเภอเมือง จงั หวดั นนทบรุ .ี (25 พฤษภาคม 2562). สัมภาษณ์. ทวศี กั ด์ิ ชพานนท์. อดตี ทีป่ รึกษาสานักงบประมาณ (นักวเิ คราะห์งบประมาณทรงคณุ วุฒ)ิ สานักงบประมาณ. (5 กรกฎาคม 2562). สมั ภาษณ.์ ธานี ฉตั รนภารตั น.์ นายกเทศมนตรเี ทศบาลตาบลทุง่ คอก จังหวดั สพุ รรณบุร.ี (8 มถิ นุ ายน 2562). สมั ภาษณ์. บารงุ ปิยนามวาณชิ . นายกองค์การบริหารส่วนจงั หวัดพงั งา. (8 มถิ ุนายน 2562). สัมภาษณ.์ พงศกร มงคลหม.ู่ นายกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบลรางจรเข้ อาเภอเสนา จังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา. (17 พฤษภาคม 2562). สัมภาษณ.์ พรชัย เทพปัญญา. ผู้ทรงคุณวุฒดิ า้ นงบประมาณและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร. (22 พฤษภาคม 2562). สมั ภาษณ์. วภิ ารัตน์ ไชยานกุ ิจ. รองปลดั กรุงเทพมหานคร. (27 พฤษภาคม 2562). สัมภาษณ์. วิสุทธิ์ ธรรมเพชร. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง. (8 มิถุนายน 2562). สัมภาษณ.์ อาภา นรนาถตระกูล. รองผอู้ านวยการสานกั งบประมาณกรุงเทพมหานคร. (27 พฤษภาคม 2562). สัมภาษณ์. 119 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรัฐสภำ
กำรศกึ ษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั วิ ิธกี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวิธีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนับสนนุ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ภำคผนวก ภาคผนวก 1 พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ภาคผนวก 2 หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารย่นื คาขอต้ังงบประมาณรายจา่ ยประจาปีงบประมาณพ.ศ. 2563 ภาคผนวก 3 หนงั สือขอความอนเุ คราะหข์ ้อมูล ภาคผนวก 4 รายชื่อหนว่ ยงานและบุคคลผใู้ ห้ข้อมลู ในการสัมภาษณ์เชงิ ลกึ ภาคผนวก 5 ประเดน็ ในการสัมภาษณเ์ ชิงลกึ และขอรบั ทราบขอ้ มูล ภาคผนวก 6 ภาพการสัมภาษณเ์ ชิงลกึ 120 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ ีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่มตี ่อรปู แบบและวธิ กี ำรขอต้งั งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีเพื่อสนบั สนนุ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน ภาคผนวก 1 พระราชบญั ญัติวธิ กี ารงบประมาณ พ.ศ. 2561 121 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 122 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 123 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 124 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 125 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 126 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 127 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 128 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 129 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 130 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 131 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 132 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 133 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 134 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 135 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 136 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
กำรศึกษำผลกระทบของพระรำชบัญญตั ิวธิ กี ำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ทม่ี ตี ่อรูปแบบและวธิ ีกำรขอตง้ั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเพือ่ สนบั สนุนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ 137 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร สำนักงบประมำณของรฐั สภำ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171