Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการวัดและประเมินผลผล

คู่มือการวัดและประเมินผลผล

Published by Thanarak Kummala, 2023-07-27 05:01:52

Description: คู่มือการวัดและประเมินผลผล

Search

Read the Text Version

คมู่ อื การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ระเบยี บโรงเรยี นสบเมยวทิ ยาคม ว่าด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ พทุ ธศักราช ๒๕๕๗ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ โรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัดแมฮ่ ่องสอน สานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาแมฮ่ ่องสอน

ระเบียบโรงเรียนสบเมยวิทยาคม ว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ พุทธศักราช 2557 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 โรงเรียนสบเมยวทิ ยาคม สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษาแม่ฮ่องสอน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

2 ๑. บทนา  จุดม่งุ หมายของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของผูเ้ รียนต้องอยู่บนหลักการพ้ืนฐานสองประการ คือ เป็นการวดั และประเมินเพื่อพฒั นาผูเ้ รียนและเพื่อตดั สินผลการเรียนรู้ การที่จะบรรลุจุดมุ่งหมายแรกได้ จะตอ้ งมีการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั การเรียนรู้ของผูเ้ รียนในระหวา่ งการเรียนการสอนอยา่ งตอ่ เน่ือง บนั ทึก วิเคราะห์ แปลความหมายขอ้ มูล แลว้ นามาใชใ้ นการส่งเสริมหรือปรบั ปรุงแกไ้ ขการเรียนรู้ของ ผเู้ รียนและการสอนของครู การวดั และประเมินผลกบั การสอนจึงเป็นเรื่องทสี่ ัมพนั ธ์กนั หากขาดส่ิงหน่ึง สิ่งใดการเรียนการสอนก็ขาดประสิทธิภาพ การประเมินระหว่างการเรียนการสอนเพื่อพฒั นาการเรียนรู้ เช่นน้ี เรียกว่า Formative assessment เป็ นการวัดและประเมินผลที่เกิดข้ึนในห้องเรียนทุกวนั เป็ นการ ประเมินเพื่อให้รู้จุดเด่น จุดท่ีตอ้ งปรบั ปรุง จึงเป็นขอ้ มลู เพ่ือใชใ้ นการพฒั นา ซ่ึงในปัจจุบนั งานวิจยั บ่งช้ี ว่าถา้ ใช้การประเมินผลย่อยอยา่ งถูกวิธี การประเมินผลย่อยจะเป็ นเครื่องมือท่ีทรงพลังในการกาหนด เป้าหมาย การเรียนการสอน แต่ท้ังน้ีผูส้ อนต้องมีทักษะในการใช้วิธีการและเครื่องมือการประเมิน ท่ีหลากหลาย เช่น การสังเกต การซักถาม การระดมความคิดเห็นเพื่อให้ไดม้ ติขอ้ สรุปของประเด็น ท่กี าหนด การใช้แฟ้มสะสมงาน การใชภ้ าระงานทเี่ นน้ การปฏิบตั ิ การประเมินความรู้เดิม การให้ผเู้ รียน ประเมินตนเอง การให้เพื่อนประเมินเพ่ือน การใชเ้ กณฑ์การให้คะแนน (Rubrics) และที่สาคญั การให้ ข้อมูลย้อนกลับโดยผูส้ อนต้องสามารถให้คาแนะนาเพื่อเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ทาให้ การเรียนรู้พอกพูน นอกจากน้ียงั ตอ้ งรู้จกั ใช้ผลท่ีไดจ้ ากการประเมินมาวางแผนและทบทวนการสอน ของตนอกี ดว้ ย สาหรับจุดมุ่งหมายที่สองคือ การวดั และประเมินผลเพื่อตัดสินผลการเรียนรู้ เป็ นการ ประเมินสรุปผลการเรียนรู้ เรียกว่า Summative assessment เม่ือเรียนจบหน่วยการเรียน หรือจบรายวิชา เพอื่ ตดั สินให้คะแนนหรือให้ระดบั ผลการเรียน หรือให้การรบั รองความรู้ความสามารถของผเู้ รียนว่าผา่ น รายวิชาหรือไม่ ควรไดร้ ับการเลื่อนช้ันหรือไม่ หรือสามารถจบหลกั สูตรหรือไม่ โดยสถานศึกษามี หน้าท่ีในการอนุมตั ิและรายงานผลการเรียน งานวิจยั เสนอแนะวา่ การประเมินเพื่อตดั สินผลการเรียนท่ีดี ตอ้ งใหโ้ อกาสผเู้ รียนแสดงออกซ่ึงความรู้ ความสามารถ ดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลายและพจิ ารณาตดั สินบน พ้นื ฐานของเกณฑผ์ ลการปฏบิ ตั มิ ากกว่าใชเ้ ปรียบเทียบระหวา่ งนกั เรียน  การกากบั ดูแลคณุ ภาพการศึกษา การจดั การศึกษาในปัจจุบนั นอกจากให้ทว่ั ถึงแลว้ ยงั มุ่งเนน้ คุณภาพดว้ ย ผปู้ กครอง สงั คมและ รฐั ตอ้ งการเห็นหลกั ฐานอนั เป็นผลมาจากการจดั การศกึ ษา นนั่ คอื คณุ ภาพของผเู้ รียนทเี่ ป็นไปตามมาตรฐาน

3 การเรียนรู้ตามที่หลักสูตรกาหนด หน่วยงานท่ีรับผิดชอบนับต้ังแต่สถานศึกษา ต้นสังกัด หน่วยงาน ระดบั ชาติที่ไดร้ ับมอบหมาย จึงมีบทบาทหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพผูเ้ รียนตามความคาดหวงั ของ หลกั สูตร ดงั น้ันหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ จึงกาหนดให้มีการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ใน ๔ ระดับ ได้แก่ ระดับช้ันเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนท่ี การศึกษาและระดบั ชาติ ทุกระดบั มีเจตนารมณ์เช่นเดียวกนั คือ ตรวจสอบความกา้ วหน้าในการเรียนรู้ ของผเู้ รียนเพือ่ นาผลการประเมนิ มาใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการพฒั นาอยา่ งตอ่ เนื่องต่อไป การประเมินระดับช้ันเรียน เป็นการวดั และประเมินผลที่อยูใ่ นกระบวนการจดั การเรียนรู้ ผูส้ อนดาเนินการเป็นปกติและ สม่าเสมอในการจดั การเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินที่หลากหลาย เช่น การซักถาม การสังเกต การตรวจการบา้ น การประเมินโครงงาน การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การใชแ้ บบทดสอบฯลฯ โดยผูส้ อนเป็ นผู้ประเมินเอง หรือเปิ ดโอกาสให้ผูเ้ รียนประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน ผู้ปกครอง ร่วมประเมนิ การประเมินระดบั ช้นั เรียนเป็นการตรวจสอบวา่ ผเู้ รียนมีพฒั นาการความกา้ วหน้าในการเรียนรู้ อนั เป็นผลมาจากการจดั กิจกรรมการเรียนการสอนหรือไมแ่ ละมากนอ้ ยเพียงใด มีส่ิงทจ่ี ะตอ้ งไดร้ ับการพฒั นา ปรับปรุงและส่งเสริมในดา้ นใด นอกจากน้ียงั เป็นขอ้ มูลให้ผสู้ อนใชป้ รับปรุงการเรียนการสอนของตนดว้ ย ท้งั น้ีโดยให้สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั การประเมนิ ระดบั สถานศึกษา เป็นการตรวจสอบผลการเรียนของผูเ้ รียนเป็นรายปี /รายภาค ผลการประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์และกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน และเป็นการประเมินเพ่ือให้ไดข้ อ้ มูล เกี่ยวกบั การจดั การศึกษาของสถานศกึ ษาว่าส่งผลต่อการเรียนรู้ของผูเ้ รียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผูเ้ รียนมี สิ่งทตี่ อ้ งไดร้ บั การพฒั นาในดา้ นใด รวมท้งั สามารถนาผลการเรียนของผเู้ รียนในสถานศึกษาเปรียบเทยี บ กบั เกณฑ์ระดบั ชาติและระดบั เขตพ้ืนที่การศึกษา ผลการประเมินระดบั สถานศึกษาจะเป็ นขอ้ มูลและ สารสนเทศเพ่ือการปรับปรุงนโยบาย หลกั สูตร โครงการ หรือวิธีการจดั การเรียนการสอน ตลอดจนเพ่ือ การจดั ทาแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกนั คุณภาพการศึกษาและการ รายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ผปู้ กครองและชุมชน การประเมินระดับเขตพื้นทกี่ ารศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผูเ้ รียนในระดบั เขตพ้ืนที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เพ่ือใช้เป็ นขอ้ มูลพ้ืนฐานในการพฒั นาคุณภาพการศึกษาของเขตพ้ืนที่ การศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดาเนินการโดยประเมินคุณภาพของผเู้ รียนดว้ ยวิธีการและ

4 เครื่องมือที่เป็ นมาตรฐานท่ีจัดทาและดาเนินการโดยเขตพ้ืนที่การศึกษา หรือด้วยความร่วมมือกับ หน่วยงานตน้ สังกดั และหรือหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งหรือจากการตรวจสอบขอ้ มูลจากการประเมินระดับ สถานศึกษาในเขตพ้นื ท่กี ารศึกษา การประเมนิ ระดบั ชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผูเ้ รียนในระดบั ชาติ ตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน สถานศึกษาตอ้ งจดั ให้ผูเ้ รียนทุกคนที่เรียนในช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ ช้ันประถม ศึกษาปี ท่ี ๖ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ และช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๖ เขา้ รับการประเมนิ ผลจากการประเมินใช้ เป็นขอ้ มูลในการเทียบเคียงคณุ ภาพการศึกษาในระดบั ตา่ งๆ เพื่อนาไปใชใ้ นการวางแผนยกระดบั คุณภาพ การจดั การศกึ ษา ตลอดจนเป็นขอ้ มลู สนบั สนุนการตดั สินใจในระดบั นโยบายของประเทศ ขอ้ มูลการประเมินในระดบั ตา่ งๆ ขา้ งตน้ เป็นประโยชน์ตอ่ สถานศึกษาในการตรวจสอบ ทบทวน พฒั นาคุณภาพผูเ้ รียน ถือเป็ นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาที่จะต้องจดั ระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแกไ้ ข ส่งเสริมสนับสนุน เพ่ือให้ผูเ้ รียนไดพ้ ฒั นาเต็มตามศกั ยภาพบนพ้ืนฐานความแตกต่าง ระหว่างบุคคลที่จาแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ ไดแ้ ก่ กลุ่มผูเ้ รียนทัว่ ไป กลุ่มผูเ้ รียนที่มี ความสามารถพิเศษ กลุ่มผเู้ รียนทีม่ ีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนต่า กล่มุ ผเู้ รียนทม่ี ปี ัญหาดา้ นวนิ ยั และพฤติกรรม กลุ่มผูเ้ รียนท่ีปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผูเ้ รียนท่ีมีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและ สติปัญญา เป็นตน้ ขอ้ มูลจากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดาเนินการช่วยเหลอื ผเู้ รียน ไดท้ นั ทว่ งที เป็นโอกาสใหผ้ เู้ รียนไดร้ บั การพฒั นาและประสบความสาเร็จในการเรียน  การจัดทาระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามหลกั สูตรของสถานศึกษา สถานศึกษาในฐานะผูร้ ับผิดชอบจดั การศึกษา จะตอ้ งจดั ทาระเบียบวา่ ดว้ ยการวดั และประเมินผล การเรียนของสถานศึกษาให้สอดคลอ้ งและเป็นไปตามหลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏิบตั ิที่เป็ นขอ้ กาหนดของ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ เพอ่ื ใหบ้ คุ ลากรท่ีเก่ียวขอ้ งทุกฝ่ายถือปฏบิ ตั ิ ร่วมกนั ระเบียบว่าดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ตามหลกั สูตรของสถานศึกษาเป็นกรอบภาระงาน และแนวปฏิบตั ิดา้ นการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ซ่ึงจะตอ้ งเชื่อมโยงกบั การเรียนรู้เป็นกระบวนการ เดียวกนั สาระของระเบยี บดงั กลา่ วกาหนดบนพ้นื ฐานของนโยบายดา้ นการเรียนการสอนและการวดั และ ประเมินผลการเรียนรู้ตามหลกั สูตรของสถานศึกษา หลกั การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ตามหลกั วิชา หลกั เกณฑ์การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กฎระเบียบที่เก่ียวขอ้ งและแนวปฏิบัติท่ีสถานศึกษากาหนดเพ่ิมเติม อันจะสะทอ้ นมาตรฐานการ ปฏบิ ตั ิงานของสถานศึกษาท่ีสร้างความมน่ั ใจในกระบวนการดาเนินงานและความเช่ือมนั่ แก่สังคม ซ่ึงจะ ส่งผลตอ่ การพฒั นาผเู้ รียนใหม้ คี ุณภาพตามเป้าหมายการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา

5 หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดว่าการวดั และประเมินผล การเรียนรู้เป็ นกระบวนการพัฒนาปรับปรุงการเรียนรู้ของผู้เรียนและตัดสินว่าผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ ทักษะ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ อนั เป็ นผลมาจากการเรียนการสอนบรรลุตามมาตรฐาน การเรียนรู้/ตัวช้ีวัดในระดับใด สามารถที่จะได้รับการเล่ือนช้ันเรียน หรือจบการศึกษาได้หรือไม่ สถานศึกษาในฐานะผูร้ ับผิดชอบจัดการศึกษาจะต้องจัดทาระเบียบว่าด้วยการวดั และประเมินผล การเรียนรู้ตามหลกั สูตรของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็ นไปตามหลกั เกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็ น ขอ้ กาหนดของหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ โดยมีการดาเนินการในเรื่อง ตอ่ ไปน้ี ๑. การตดั สินผลการเรียน กาหนดให้มีการดาเนินงานที่เชื่อมโยงกบั การเรียนการสอนโดยผูส้ อน ตอ้ งเกบ็ ขอ้ มูลของผูเ้ รียนทกุ ดา้ นอยา่ งสม่าเสมอและต่อเนื่องในแต่ละปี /ภาค ตลอดจนใหม้ ีการสอนซ่อมเสริม ผเู้รียนในดา้ นท่ตี อ้ งไดร้ ับการพฒั นาและสนบั สนุนในดา้ นที่เด่น เพ่อื ให้ผเู้รียนไดพ้ ฒั นาเต็มตามศกั ยภาพ การตดั สินผลการเรียนเพ่ือพิจารณาเล่อื นช้นั กาหนดใหร้ ะดบั ประถมศกึ ษาตดั สินผลการเรียน ปลายปี เพือ่ การเล่ือนช้นั เรียน ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เรียนเป็นหน่วยกิต ให้ตัดสินผลการเรียนเป็ นรายภาคเรียน เพื่อนาไปใช้ในการพิจารณาการเลื่อนช้ันเม่ือสิ้นปี การศึกษา นอกจากน้ียงั กาหนดให้มกี ารซ้าช้นั โดยใหค้ านึงถึงวฒุ ิภาวะและความรู้ความสามารถของผเู้ รียนเป็นสาคญั ๒. การใหร้ ะดบั ผลการเรียนในระดบั ประถมศึกษา สามารถใหร้ ะดบั ผลการเรียนไดห้ ลายลกั ษณะ ข้ึนอยู่กบั ดุลยพินิจของสถานศึกษา ระดบั มธั ยมศึกษากาหนดให้ใชต้ วั เลขแสดงระดบั ผลการเรียนเป็ น ๘ ระดบั สาหรบั การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใหร้ ะดบั ผลการประเมินเป็น ดีเย่ยี ม ดี และผ่าน และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ใหร้ ะดบั ผลการประเมนิ เป็นผา่ นและไมผ่ ่าน ๓. การรายงานผลการเรียน กาหนดให้สถานศึกษารายงานผลการเรียนให้ผูเ้ รียน ผูป้ กครอง และผเู้ ก่ียวขอ้ งรบั ทราบความกา้ วหนา้ และผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ๔. เกณฑ์การจบการศึกษา กาหนดคุณสมบัติของผูจ้ บการศึกษาระดบั ประถมศึกษา ระดับ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย และผจู้ บการศึกษาสาหรบั กล่มุ เป้าหมายเฉพาะ ๕. เอกสารหลักฐานการศึกษา กาหนดให้สถานศึกษาตอ้ งจัดทาระเบียนแสดงผลการเรียน ประกาศนียบตั รและแบบรายงานผสู้ าเร็จการศึกษา โดยใชแ้ บบพิมพท์ ่ีกระทรวงศึกษาธิการกาหนดและ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาที่สถานศึกษาจดั ทาข้ึนเพอ่ื บนั ทกึ ผลการประเมนิ และขอ้ มูลต่างๆ เกี่ยวกบั ผเู้ รียน ๖. การเทยี บโอนผลการเรียน สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผเู้ รียนไดใ้ นกรณี ต่าง ๆ ไดแ้ ก่ การยา้ ยสถานศึกษา การศึกษาจากต่างประเทศและขอเขา้ ศึกษาต่อในประเทศ การยา้ ย หลกั สูตร การเปลยี่ นรูปแบบการศกึ ษา การขอกลบั เขา้ ศึกษาต่อของผทู้ ี่ออกกลางคนั ตลอดจนการเทียบโอน ความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์จากแหลง่ การเรียนรู้อืน่ ๆ ๗. การประเมินคุณภาพผเู้ รียน สถานศึกษาตอ้ งจดั ใหผ้ ูเ้ รียนไดเ้ ขา้ รบั การประเมินระดบั เขตพ้ืนท่ี การศึกษา/หน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งและระดบั ชาติด้วย เพ่ือให้ไดข้ อ้ มูลสารสนเทศของผูเ้ รียนนาไปใช้ใน การปรบั ปรุงพฒั นาผเู้ รียนและการวางแผนพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาต่อไป

6 นอกจากน้ี สถานศึกษาอาจเพ่ิมเติมประเด็นอ่นื ๆ ตามความเหมาะสม  การจัดการระบบงานวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ การดาเนินงานวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศึกษา ครอบคลุมงาน ๒ ส่วน ไดแ้ ก่ งานวดั และประเมินผลการเรียนรู้และงานทะเบียน สถานศึกษาโดยทวั่ ไปจะกาหนดผูร้ ับผิดชอบแต่ละงาน อยา่ งไรกต็ ามสถานศึกษาขนาดเลก็ มกั จะรวมงานท้งั สองและมอบหมายผูร้ บั ผิดชอบคนเดียว งานวดั และประเมินผลการเรียนรู้ มหี นา้ ทีร่ ับผดิ ชอบในการจดั การให้ภาระงานวดั และประเมนิ ผล การเรียนรู้ของสถานศึกษาเป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ให้คาปรึกษาเก่ียวกับการวดั และประเมินผล การเรียนรู้กบั ผูส้ อนและผเู้ รียน ตลอดจนดาเนินการเก่ียวกบั การสร้างเสริมความเขม้ แขง็ ในเทคนิควธิ ีการ วดั และประเมินผลการเรียนรู้ให้บุคลากรของสถานศึกษา สาหรับงานทะเบียนรับผิดชอบด้านเอกสาร หลกั ฐานการศกึ ษา เอกสารการประเมนิ ผลต่างๆ เพื่อการบนั ทึกหลกั ฐานการศึกษา การจดั เก็บเอกสาร หลกั ฐานการศกึ ษาอยา่ งเป็นระบบ การออกเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา เป็นตน้ ภาระงานวดั และประเมินผลการเรียนรู้มีความเก่ียวขอ้ งกบั ฝ่ ายต่างๆ ในสถานศึกษานบั ต้งั แต่ ระดับนโยบาย ในการกาหนดนโยบายการวดั ผล การจดั ทาระเบียบว่าด้วยการวดั และประเมินผลการ เรียนรู้ของสถานศกึ ษา เพ่ือให้บุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวขอ้ งถือปฏิบตั ิและยงั เก่ียวขอ้ งกบั ผเู้ รียนทุกคนต้งั แต่ เขา้ เรียนจนจบการศึกษาและออกจากสถานศึกษา จึงจาเป็ นท่ีสถานศึกษาตอ้ งวิเคราะห์ภาระงาน กาหนด กระบวนการทางานและผูร้ บั ผิดชอบแต่ละข้นั ตอนอยา่ งชดั เจนเหมาะสม ดงั ในแผนภาพท่ี ๑.๑ ไดแ้ สดงถึง ระบบ การบริหารการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศึกษาที่กาหนดข้ึน โดยนานโยบายการ จดั การเรียนการสอนและการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ตลอดจนหลกั การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลกั สูตรในระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานมาวเิ คราะหภ์ าระงาน และตารางที่ ๑.๑ แสดงถงึ การมอบหมาย ภารกิจเก่ียวกบั การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ให้แกบ่ ุคลากรฝ่ ายต่างๆ ของสถานศึกษารบั ผดิ ชอบ การดาเนินงานวดั และประเมินผลการเรียนรู้ที่ไม่เป็ นระบบ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมนั่ ในคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา นอกจากน้ี การดาเนินงานวดั และประเมินผลการเรียนรู้ เป็นงานท่ีตอ้ งอยู่บนพ้ืนฐานหลกั วิชาการและหลกั ธรรมาภิบาล สถานศึกษาตอ้ งเปิ ดโอกาสให้ทุกฝ่ าย มีส่วนร่วมในรูปของคณะกรรมการฝ่ายตา่ งๆ อยา่ งกวา้ งขวาง รวมท้งั กาหนดใหค้ ณะกรรมการสถานศกึ ษา ข้นั พ้ืนฐานและคณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและวิชาการของสถานศึกษามีส่วนรับผิดชอบ สาหรับ สถานศกึ ษาขนาดเลก็ คณะกรรมการต่างๆ อาจแต่งต้งั ตามความเหมาะสม คณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและ จดั ทาหลกั สูตรสถานศึกษา ระเบยี บว่า วิชาการของสถานศกึ ษา ดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ของสถานศึกษา

7 คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน อนุมตั หิ ลกั สูตรสถานศกึ ษาและระเบยี บ กากบั ตดิ ตาม สนบั สนุน ว่าดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ให้ขวญั กาลงั ใจ คณะกรรมการ เทยี บโอนผลการเรียน ของสถานศกึ ษา คณะกรรมการ การเทยี บโอน ประกนั คณุ ภาพ - ผสู้ อน ผลการเรียน ของสถานศกึ ษา - ผไู้ ดร้ ับมอบหมาย ดาเนินการวดั และประเมนิ ผลตามระเบยี บ - คณะอนุกรรมการกลมุ่ สาระ ว่าดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรูข้ อง การเรียนรู้และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน - คณะกรรมการพฒั นาและประเมิน สถานศึกษา การอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น - คณะกรรมการพฒั นาและประเมนิ ตดั สินผลการประเมินรายปี /รายภาค คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ร.ร.ขนาดเล็กอาจเป็ นคณะกรรมการ ให้ความเหน็ ชอบ ชุดเดียวกนั ) คณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและ วชิ าการของสถานศกึ ษา ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา - อนุมตั ิผลการประเมนิ รายปี/รายภาค - ตดั สินและอนุมตั ิการเล่ือนช้นั ซ้าช้นั - ครูทปี่ รึกษา การจบการศกึ ษา - ครูแนะแนว - คณะกรรมการทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย รายงานผลตอ่ ผเู้ กี่ยวขอ้ ง - ครูวดั ผล รวบรวมขอ้ มูลจดั ทาเอกสารหลกั ฐาน การศึกษา - นายทะเบยี น แผนภาพที่ ๑.๑ แสดงระบบการบริหารการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน ตารางท่ี ๑.๑พทุ ธแศสักดรงาชกา๒ร๕ม๕อ๑บหมายภารกิจการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ให้บคุ ลากรฝ่ ายต่าง ๆ ของสถานศึกษารบั ผิดชอบ

8 ผ้ปู ฏิบตั ิ บทบาทหน้าทีใ่ นการดาเนินงานการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๑. คณะกรรมการ ๑.๑ อนุมตั แิ ละใหค้ วามเห็นชอบหลกั สูตรสถานศึกษา และระเบยี บ สถานศกึ ษา การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศกึ ษา ข้นั พ้นื ฐาน ๑.๒ อนุมตั ิและใหค้ วามเห็นชอบตอ่ หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั ใิ นการ ๒. คณะกรรมการ วดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้ท้งั ๘ กลุ่ม บริหารหลกั สูตร และวชิ าการของ ๑.๓ อนุมตั ิและใหค้ วามเห็นชอบตอ่ หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏบิ ตั ใิ นการ สถานศึกษา ประเมนิ ความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ๑.๔ อนุมตั แิ ละให้ความเห็นชอบต่อคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ อง สถานศึกษา เกณฑแ์ ละแนวปฏิบตั ิในการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ของสถานศกึ ษา ๑.๕ อนุมตั แิ ละให้ความเห็นชอบกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนของสถานศึกษา เกณฑแ์ ละแนวปฏิบตั ใิ นการประเมนิ ผลกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๑.๖ อนุมตั ิและให้ความเห็นชอบกระบวนการและวิธีการสอนซ่อมเสริม การแกไ้ ขผลการเรียนและอื่นๆ ๑.๗ กากบั ตดิ ตามการดาเนินการจดั การเรียนการสอนตามกลมุ่ สาระ การเรียนรู้ การพฒั นาความสามารถดา้ นการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขียน การพฒั นาคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์และการจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๑.๘ กากบั ติดตาม การวดั และประเมินผล และการตดั สินผลการเรียน ๒.๑ จดั ทาระเบียบวา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ของ สถานศึกษา ๒.๒ จดั ทาแผนการประเมินผลการเรียนรู้ของหลกั สูตรแกนกลางและ สาระเพ่มิ เตมิ ของรายวชิ าตา่ งๆ ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยวิเคราะหจ์ ากมาตรฐานการเรียนรู้ของกล่มุ สาระการเรียนรู้และจดั ทา รายวิชาพร้อมเกณฑก์ ารประเมิน ๒.๓ กาหนดส่ิงทีต่ อ้ งการประเมนิ ในการอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องสถานศึกษา กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ของสถานศกึ ษาพร้อมเกณฑก์ ารประเมนิ และแนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข ผเู้ รียน ๒.๔ กาหนดการตรวจสอบและรายงานสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๒.๕ กาหนดวิธีการเทียบโอนผลการเรียน จานวนรายวชิ า จานวน หน่วยกิต เพ่อื การเทยี บโอนผลการเรียน ผปู้ ฏบิ ตั ิ บทบาทหนา้ ทใ่ี นการดาเนินงานการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ๓. คณะอนุกรรมการ ๓.๑ กาหนดแนวทางการจดั การเรียนรู้ของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ตา่ งๆ กลุม่ สาระการเรียนรู้ การจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนพร้อมแนวทางการวดั และประเมินผล

9 และกิจกรรมพฒั นา ๓.๒ สนบั สนุนการจดั การเรียนรู้ การจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน การวดั ผเู้ รียน และประเมนิ ผลการเรียนรู้และตดั สินผลการเรียนตามแนวทางที่กาหนดไว้ ๓.๓ พิจารณาให้ความเห็นชอบผลการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้รายปี /รายภาคและกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๔. คณะกรรมการพฒั นา ๔.๑ กาหนดแนวทางในการพฒั นาและการประเมินความสามารถ และประเมินการอ่าน การอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียนของผเู้ รียน คิดวิเคราะห์และเขียน ๔.๒ ดาเนินการประเมินความสามารถการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน ๔.๓ ตดั สินผลการพฒั นาความสามารถการอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน ของผเู้ รียนรายปี /รายภาคและการจบการศึกษาแตล่ ะระดบั ๕. คณะกรรมการพฒั นา ๕.๑ กาหนดแนวทางการพฒั นา แนวทางการประเมินเกณฑ์ การประเมิน และประเมิน และแนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ขคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะ ๕.๒ พิจารณาตดั สินผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รายปี / อนั พึงประสงค์ รายภาคและการจบการศึกษาแตล่ ะระดบั ของสถานศึกษา ๕.๓ จดั ระบบการปรบั ปรุงแกไ้ ขคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคด์ ว้ ยวธิ ีการ อนั เหมาะสมและส่งตอ่ ขอ้ มลู เพอ่ื การพฒั นาอยา่ งตอ่ เนื่อง ๖. คณะกรรมการ ๖.๑ จดั ทาสาระ เคร่ืองมือ และวธิ ีการเทียบโอนผลการเรียนของรายวิชา เทียบโอนผลการเรียน และกลมุ่ สาระการเรียนรู้ต่างๆ ๖.๒ ดาเนินการเทียบโอนผลการเรียนให้กบั ผเู้ รียนท่รี ้องขอ ๖.๓ ประมวลผลและตดั สินผลการเทยี บโอน ๖.๔ เสนอผลการเทยี บโอนต่อคณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและวชิ าการ ของสถานศึกษาให้ความเห็นชอบและเสนอผบู้ ริหารสถานศกึ ษาตดั สิน อนุมตั ิการเทยี บโอน ๗. ผูบ้ ริหารสถานศึกษา ๗.๑ เป็นเลขานุการคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน ๗.๒ เป็นประธานคณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและวิชาการของ สถานศึกษา ๗.๓ อนุมตั ผิ ลการประเมินผลการเรียน รายปี /รายภาค และตดั สินอนุมตั ิ การเลอ่ื นช้นั เรียน การซ้าช้นั การจบการศกึ ษา ๗.๔ ให้คาแนะนาขอ้ ปรึกษาหารือเก่ียวกบั การดาเนินงานแกบ่ คุ ลากร ในสถานศกึ ษา ๗.๕ กากบั ตดิ ตามให้การดาเนินงานการวดั และประเมนิ ผลการเรียน บรรลุเป้าหมาย ๗.๖ นาผลการประเมินไปจดั ทารายงานผลการดาเนินงาน กาหนด นโยบายและวางแผนพฒั นาการจดั การศกึ ษา ผปู้ ฏิบตั ิ บทบาทหนา้ ทใ่ี นการดาเนินงานการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ๘. ผสู้ อน ๘.๑ จดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้แผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้ในรายวิชา ท่ีรับผดิ ชอบให้สอดคลอ้ งกบั แนวปฏบิ ตั ิและปฏทิ นิ ปฏบิ ตั งิ าน

10 ๙. ครูวดั ผล ๘.๒ ทาการวดั และประเมินผลระหวา่ งเรียนควบค่กู บั การจดั กิจกรรม ๑๐. นายทะเบียน การเรียนรู้ตามแผนทีก่ าหนดพร้อมกบั ปรบั ปรุงแกไ้ ขผูเ้ รียนทีม่ ีขอ้ บกพร่อง ๘.๓ ประเมนิ ตดั สินผลการเรียนรู้ของผูเ้ รียนในรายวิชาที่สอน หรือกิจกรรม ทรี่ บั ผิดชอบเมื่อสิ้นสุดการเรียนรายปี /รายภาค ส่งหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๘.๔ นาผลการประเมินไปวิเคราะห์เพื่อพฒั นาการจดั การเรียนการสอน ๘.๕ ตรวจสอบสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ๙.๑ ส่งเสริมพฒั นาระบบและเทคนิควิธีการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดา้ นตา่ งๆ แกค่ รูและบคุ ลากรของสถานศึกษา ๙.๒ ใหค้ าปรึกษา ติดตาม กากบั การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของ สถานศึกษาให้เป็นไปตามหลกั วิชาการและแนวทางทส่ี ถานศกึ ษากาหนดไว้ ๙.๓ ตรวจสอบ กลนั่ กรอง ปรับปรุงคณุ ภาพของวธิ ีการ เคร่ืองมือวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศึกษา ๙.๔ ปฏบิ ตั ิงานร่วมกบั นายทะเบียนในการรวบรวม ตรวจสอบและ ประมวลผลการประเมนิ ผลการเรียนรู้ของผเู้ รียนแต่ละคน ๑๐.๑ ปฏบิ ตั ิงานร่วมกบั ครูวดั ผลในการรวบรวม ตรวจสอบและบนั ทกึ ผลการประมวลขอ้ มลู ผลการเรียนของผเู้ รียนแต่ละคน ๑๐.๒ ตรวจสอบและสรุปขอ้ มลู ผลการเรียนของผเู้ รียนรายบุคคล แตล่ ะช้นั ปี และเม่ือจบการศกึ ษา เพ่อื เสนอรายชื่อผมู้ ีคุณสมบตั ิครบถว้ น ให้คณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและวิชาการของสถานศึกษาใหค้ วามเห็นชอบ และเสนอให้ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาตดั สินและอนุมตั ิผลการเลอ่ื นช้นั เรียน และจบการศกึ ษาแตล่ ะระดบั ๑๐.๓ จดั ทาเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา  การขอรับการสนับสนุนด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้จากสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษา หรือหน่วยงานต้นสังกดั

11 สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาหรือหน่วยงานตน้ สังกดั มีบทบาทหนา้ ที่สนับสนุนการดาเนินงาน ของสถานศกึ ษาในดา้ นต่างๆ รวมท้งั การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศึกษา ซ่ึงสถานศึกษา สามารถขอรบั การสนบั สนุนไดด้ งั น้ี  การจดั ทาระเบยี บวา่ ดว้ ยการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ของสถานศกึ ษา  การสร้างความรู้ความเขา้ ใจให้กบั บุคลากรในสถานศึกษาท่ีเกี่ยวกบั การวดั และ ประเมินผล การเรียนรู้ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และการเทียบโอนผลการเรียน  การส่งเสริมและสนับสนุนเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ การประเมินการอ่าน คิด วิเคราะหแ์ ละเขยี น การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน  การส่งเสริมให้ครู บุคลากรในสถานศึกษามีความรู้ความเข้าใจในแนวปฏิบัติการวดั และ ประเมินผล ตลอดจนความเขา้ ใจในเทคนิควิธีการวดั และประเมินผลรูปแบบต่างๆ เช่น การประเมินการ ปฏิบตั ิงาน การประเมนิ สภาพจริงและการประเมนิ ดว้ ยการส่ือสารส่วนบุคคล  การส่งเสริมสนบั สนุนให้สถานศึกษาพฒั นาเคร่ืองมือ บริหารจดั การการวดั และประเมินผล การเรียนรู้และการจดั เกบ็ อยา่ งเป็นระบบ  การให้คาปรึกษา แนะนาเก่ียวกบั การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ การจดั ทาเอกสารหลกั ฐาน การศกึ ษา  การประเมินคุณภาพการศึกษาท่ีดาเนินการโดยเขตพ้ืนท่ีการศึกษาหรือหน่วยงานตน้ สังกดั และระดบั ชาติ อื่นๆ ตามความเหมาะสม

12 ๒. แนวปฏบิ ตั ิการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑  หลักการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช๒๕๕๑ เป็นกระบวนการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ตีความผลการเรียนรู้ และพฒั นาการดา้ นตา่ งๆ ของผูเ้ รียนตาม มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ของหลกั สูตร นาผลไปปรับปรุงพฒั นาการจดั การเรียนรู้และใช้เป็นขอ้ มูล สาหรบั การตดั สินผลการเรียน สถานศึกษาตอ้ งมีกระบวนการจดั การท่ีเป็นระบบ เพ่ือให้การดาเนินการ วดั และประเมินผลการเรียนรู้เป็ นไปอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ ผลการประเมินตรงตาม สภาพความรู้ ความสามารถท่ีแท้จริงของผูเ้ รียน ถูกต้องตามหลักการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ รวมท้งั สามารถรองรับการประเมินภายในและการประเมินภายนอก ตามระบบประกนั คุณภาพการศึกษา ได้ สถานศึกษาจึงควรกาหนดหลกั การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เพื่อเป็ นแนวทางในการตดั สินใจ เก่ียวกบั การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ของสถานศกึ ษา ดงั น้ี ๑. สถานศึกษาเป็ นผูร้ ับผิดชอบการประเมินผลการเรียนรู้ของผูเ้ รียน โดยเปิ ดโอกาสให้ทุกฝ่ าย ที่เก่ียวขอ้ งมีส่วนร่วม ๒. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ตอ้ งสอดคลอ้ งและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีกาหนดในหลกั สูตรและจดั ให้มีการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตลอดจนกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๓. การประเมินผูเ้ รียนพิจารณาจากพฒั นาการของผเู้ รียน ความประพฤติ การสังเกตพฤติกรรม การเรียนรู้ การร่วมกิจกรรมและการทดสอบควบคู่ไปในกระบวนการเรียนการสอน ตามความเหมาะสม ของแต่ละระดบั และรูปแบบการศกึ ษา ๔. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้เป็ นส่วนหน่ึงของกระบวนการจัดการเรียนการสอน ตอ้ งดาเนินการดว้ ยเทคนิควิธีการท่ีหลากหลาย เพ่ือให้สามารถวดั และประเมินผลผูเ้ รียนไดอ้ ยา่ งรอบดา้ น ท้งั ดา้ นความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ เหมาะสมกบั สิ่งท่ีตอ้ งการวดั ธรรมชาติวิชา และระดบั ช้นั ของผูเ้ รียน โดยต้งั อยบู่ นพ้ืนฐานความเที่ยงตรง ยตุ ิธรรม และเช่ือถอื ได้ ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงพฒั นาผเู้ รียน พฒั นาการจดั การเรียนรู้ และตดั สินผลการเรียน

13 ๖. เปิ ดโอกาสให้ผเู้ รียนและผมู้ สี ่วนเกี่ยวขอ้ งตรวจสอบผลการประเมินผลการเรียนรู้ ๗. ให้มกี ารเทยี บโอนผลการเรียนระหวา่ งสถานศึกษาและรูปแบบการศึกษาตา่ งๆ ๘. ให้สถานศึกษาจดั ทาเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา เพ่ือเป็ นหลกั ฐานการประเมินผลการเรียนรู้ รายงานผลการเรียน แสดงวฒุ ิการศึกษาและรับรองผลการเรียนของผเู้ รียน  องค์ประกอบของการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดจุดหมาย สมรรถนะ สาคญั ของผเู้ รียน และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพฒั นาผเู้ รียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตท่ีดีและมีขีดความสามารถในการแข่งขนั ในเวทีระดบั โลก กาหนดให้ผูเ้ รียนได้ เรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ที่กาหนดในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระ มีความสามารถดา้ น การอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น มีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์และเขา้ ร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน และการ วดั และประเมินผลการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบต่างๆ ดงั แผนภาพท่ี ๒.๑ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั การอ่าน การเรียนรู้ คิดวิเคราะห์และเขยี น ใน ๘ กล่มุ สาระ ๘ กล่มุ สาระ คณุ ภาพผ้เู รียน คณุ ลักษณะ กจิ กรรม อันพงึ ประสงค์ พฒั นาผ้เู รียน แผนภาพที่ ๒.๑ แสดงองค์ประกอบการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

14 ๑. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผูส้ อนทาการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ผูเ้ รียนเป็ นรายวิชาตามตัวช้ีวดั ที่กาหนดใน หน่วยการเรียนรู้ด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย ให้ไดผ้ ลการประเมินตามความสามารถที่แท้จริงของผูเ้ รียน โดยทาการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ไปพร้อมกบั การจดั การเรียนการสอน ไดแ้ ก่ การสงั เกตพฒั นาการ และความประพฤตขิ องผเู้ รียน การสังเกตพฤตกิ รรมการเรียน การร่วมกิจกรรมและการทดสอบ ซ่ึงผสู้ อน ตอ้ งนานวตั กรรมการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย เช่น การประเมินสภาพจริง การประเมิน การปฏิบตั ิงาน การประเมินจากโครงงานและการประเมินจากแฟ้มสะสมงาน ไปใช้ในการประเมินผล การเรียนรู้ควบค่ไู ปกบั การใชแ้ บบทดสอบแบบต่างๆ และตอ้ งให้ความสาคญั กบั การประเมินระหวา่ งปี /ภาค มากกว่าการประเมนิ ปลายปี /ภาค ดงั แผนภาพที่ ๒.๒ กล่มุ สาระการ กล่มุ สาระการ เรียนรู้ภาษาไทย เรียนรู้คณิตศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วัดและประเมินการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพฯ ด้วยวธิ ีการทหี่ ลากหลาย วิทยาศาสตร์ บรู ณาการในการเรียนการสอน กล่มุ สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา สังคมศึกษาฯ กล่มุ สาระการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ศิลปะ ภาษาต่างประเทศ แผนภาพท่ี ๒.๒ แสดงองค์ประกอบการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ๒. การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น การประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขยี น เป็นการประเมนิ ศกั ยภาพของผเู้ รียนในการอา่ น การฟัง การดแู ละการรับรู้ จากหนงั สือ เอกสารและส่ือตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง แลว้ นามาคิดวิเคราะห์เน้ือหา สาระทนี่ าไปสู่การแสดงความคดิ เห็น การสงั เคราะห์สร้างสรรคใ์ นเร่ืองตา่ งๆ และถ่ายทอดความคดิ น้ัน ดว้ ยการเขยี นซ่ึงสะทอ้ นถงึ สตปิ ัญญา ความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ แกป้ ัญหาและ สร้างสรรคจ์ ินตนาการอยา่ งเหมาะสมและมีคณุ คา่ แก่ตนเอง สงั คมและประเทศชาติ พร้อมดว้ ยประสบการณ์ และทกั ษะในการเขยี นทม่ี ีสานวนภาษาถูกตอ้ ง มเี หตุผลและลาดบั ข้นั ตอนในการนาเสนอ สามารถสร้าง ความเขา้ ใจแก่ผูอ้ ่านไดอ้ ย่างชัดเจนตามระดบั ความสามารถในแต่ละระดับช้ัน การประเมินการอ่าน

15 คิดวิเคราะห์และเขียน สรุปผลเป็ นรายปี /รายภาค เพ่ือวินิจฉัยและใช้เป็ นขอ้ มูลเพื่อประเมินการเล่ือน ช้นั เรียนและการจบการศึกษาระดบั ตา่ งๆ การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี นเป็นกระบวนการทตี่ อ่ เนื่อง อ่าน หนงั สือ เอกสาร วทิ ยุ โทรทศั น์ สื่อต่าง ๆ ฯลฯ (รับสาร) แลว้ สรุปเป็นความรู้ความเขา้ ใจของตนเอง คดิ วิเคราะห์ วิเคราะห์ สังเคราะห์ หาเหตผุ ล แกป้ ัญหา และสร้างสรรค์ เขียน ถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ส่ือสารให้ผอู้ ื่นเขา้ ใจ (ส่ือสาร) ๓. การประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และตามทสี่ ถานศึกษากาหนดเพมิ่ เติม เป็ นการประเมินรายคณุ ลกั ษณะแลว้ รวบรวม ผลการประเมินจากผูป้ ระเมินทุกฝ่ ายนามาพิจารณาสรุปผลเป็นรายปี /รายภาค เพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มูลประเมิน การเล่อื นช้นั เรียนและการจบการศกึ ษาระดบั ต่างๆ ดงั แผนภาพท่ี ๒.๓ มจี ิตสาธารณะ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักความ ซ่ือสัตย์ เป็ นไทย คุณลักษณะ สุจริต อันพงึ ประสงค์ ม่งุ มนั่ ใน มวี นิ ยั การทางาน เป็ นอยู่ ใฝ่ เรียนรู้ พอเพียง แผนภาพท่ี ๒.๓ แสดงองค์ประกอบการวดั และประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

16 ๔. การประเมินกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน การประเมินกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน เป็นการประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรมตามจุดประสงค์ และเวลาในการเขา้ ร่วมกิจกรรมตามเกณฑ์ท่ีกาหนดไวใ้ นแต่ละกิจกรรมและใชเ้ ป็นขอ้ มูลประเมินการ เลอ่ื น ช้นั เรียนและการจบการศกึ ษาระดบั ตา่ งๆ ดงั แผนภาพท่ี ๒.๔ กจิ กรรมแนะแนว กจิ กรรมนกั เรียน - ลกู เสือ เนตรนารี กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน - ชุมนมุ /ชมรม กิจกรรมเพ่ือสังคมและ สาธารณประโยชน์ แผนภาพท่ี ๒.๔ แสดงการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน  เกณฑ์การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ๒.๑ การตดั สินผลการเรียน การตัดสินผลการเรียนในระดบั มธั ยมศึกษามีการตดั สินในหลายลกั ษณะคือ การ ผ่านรายวชิ ากาหนดเป็นภาคเรียน การเลอื่ นช้นั ปี กาหนดเป็นปี การศกึ ษาและการจบระดบั ช้นั กาหนดเป็ น ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หลกั เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อตัดสินผลการเรียนของผูเ้ รียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มีดงั น้ี ๑) ตดั สินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผูเ้ รียนตอ้ งมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้งั หมดในรายวชิ าน้นั ๆ ๒) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การประเมนิ ทุกตวั ช้ีวดั และผ่านตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากาหนด ๓) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การตดั สินผลการเรียนทกุ รายวิชา ๔) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การประเมนิ และมีผลการประเมนิ ผา่ นตามเกณฑท์ ส่ี ถานศกึ ษา กาหนดในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน การพิจารณาเลื่อนช้ัน ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่ องเพียงบางตัวชี้วัด ซ่ึงสถานศึกษา พิจารณาเห็นว่าสามารถพฒั นาและสอนซ่อมเสริมได้ กใ็ ห้อย่ใู นดุลยพินิจของสถานศึกษาท่จี ะผ่อนผนั ให้ เล่ือนชั้นได้ ๒.๒ การให้ระดบั ผลการเรียน

17 ในการตดั สินเพ่ือให้ระดบั ผลการเรียนรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ให้ใช้ตวั เลข แสดงระดบั ผลการเรียนเป็น ๘ ระดบั รายวิชาท่ีจะนับหน่วยกิตได้จะตอ้ งไดร้ ะดบั ผลการเรียนต้ังแต่ ๑ ข้ึนไป โดยมีแนว การให้ระดบั ผลการเรียนดงั น้ี คะแนนร้อยละ ระดับผลการเรียน ความหมายของผลการประเมิน ๘๐-๑๐๐ ๔ ดีเยยี่ ม ๗๕-๗๙ ๓.๕ ดีมาก ๗๐-๗๔ ๓ ดี ๖๕-๖๙ ๒.๕ คอ่ นขา้ งดี ๖๐-๖๔ ๒ ปานกลาง ๕๕-๕๙ ๑.๕ พอใช้ ๕๐-๕๔ ๑ ๐-๔๙ ๐ ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตา่ ตา่ กวา่ เกณฑ์ การประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี น และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์น้นั ให้ระดบั ผลการประเมนิ เป็นผ่านและไมผ่ ่าน กรณีทผ่ี ่านใหร้ ะดบั ผลการเรียนเป็นดีเย่ยี ม ดีและผา่ น สถานศกึ ษาสามารถกาหนดความหมายของผลการประเมนิ คุณภาพเป็นดีเย่ยี ม ดีและ ผ่าน ซ่ึงสามารถใชด้ งั น้ี ๑) การประเมินอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น ดีเยี่ยม หมายถึง สามารถจับใจความสาคัญได้ครบถ้วน เขยี นวิพากษ์วิจารณ์ เขียนสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นประกอบอย่างมเี หตุผล ได้ถูกต้องและสมบรู ณ์ ใช้ภาษาสุภาพและเรียบเรียง ได้สละสลวย ดี หมายถึง สามารถจับใจความสาคัญได้ เขียนวิพากษ์วิจารณ์ และเขยี นสร้างสรรค์ได้โดยใช้ภาษาสุภาพ ผ่าน หมายถึง สามารถจับใจความสาคญั และเขียนวิพากษ์วิจารณ์ได้บ้าง ๒) การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดีเยย่ี ม หมายถึง ผ้เู รียนมคี ุณลักษณะในการปฏิบตั ิจนเป็นนิสัยและ นาไปใช้ในชีวิตประจาวันเพ่ือประโยชน์สุขของ ตนเองและสังคม ดี หมายถึง ผ้เู รียนมีคุณลกั ษณะในการปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้ เป็ นที่ยอมรั บของสังคม ผ่าน หมายถึง ผ้เู รียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไข ที่สถานศึกษากาหนด

18 การประเมินกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน จะตอ้ งพิจารณาท้ังเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบตั ิ กิจกรรมและผลงานของผูเ้ รียน ตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากาหนดและให้ผลการเขา้ ร่วมกิจกรรมเป็นผ่าน และไม่ผา่ น ๒.๓ เกณฑ์การจบหลกั สูตร ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ๑) ผูเ้ รียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐานและเพ่ิมเติม โดยเป็นรายวิชาพ้ืนฐาน ๖๖ หน่วยกิต และ รายวชิ าเพ่มิ เติมตามท่สี ถานศึกษากาหนด ๒) ผเู้ รียนตอ้ งไดห้ น่วยกิตตลอดหลกั สูตรไมน่ อ้ ยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา พ้นื ฐาน ๖๖ หน่วยกิต และรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ไม่นอ้ ยกว่า ๑๑ หน่วยกิต ๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่านเกณฑ์การ ประเมินตามทีส่ ถานศกึ ษากาหนด ๔) ผูเ้ รียนมีผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ในระดบั ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ตามท่ีสถานศึกษากาหนด ๕) ผเู้ รียนเขา้ ร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนและมีผลการประเมินผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน ตามทส่ี ถานศึกษากาหนด ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ๑) ผูเ้ รียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐานและเพ่ิมเติม โดยเป็นรายวชิ าพ้ืนฐาน ๔๑ หน่วยกิต และ รายวชิ าเพ่ิมเตมิ ตามที่สถานศึกษากาหนด ๒) ผเู้ รียนตอ้ งไดห้ น่วยกิตตลอดหลกั สูตรไมน่ อ้ ยกว่า ๗๗ หน่วยกิต โดยเป็นรายวชิ า พ้ืนฐาน ๔๑ หน่วยกิต และรายวิชาเพิม่ เตมิ ไม่นอ้ ยกว่า ๓๖ หน่วยกิต ๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่านเกณฑ์การ ประเมนิ ตามท่สี ถานศกึ ษากาหนด ๔) ผูเ้ รียนมีผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ในระดบั ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ตามทีส่ ถานศึกษากาหนด ๕) ผเู้ รียนเขา้ ร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนและมีผลการประเมินผา่ นเกณฑ์การประเมิน ตามที่สถานศึกษากาหนด ๒.๔ ผลการเรียนทม่ี ีเง่ือนไข ผลการเรียนที่มีเงื่อนไข ได้แก่ ไม่มีสิทธ์ิเข้ารับการประเมินผลปลายภาคในรายวิชา และรอการตดั สิน ให้ใชต้ วั อกั ษรระบุเงื่อนไขแสดงผลการเรียน ประกอบดว้ ย ๑) ตวั อกั ษรแสดงผลการเรียนแตล่ ะรายวิชาใน ๘ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ “มส” หมายถึง ไม่มสี ิทธิเขา้ รับการประเมินผลปลายภาคเรียน โดยผเู้ รียนทีม่ เี วลาเรียน ไม่ถึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนในแตล่ ะรายวชิ าและไมไ่ ดร้ บั การผ่อนผนั ให้เขา้ รับการวดั ผลปลายภาคเรียน

19 “ร” หมายถงึ รอการตดั สินและยงั ตดั สินไมไ่ ด้ โดยผเู้ รียนไมม่ ีขอ้ มูลผลการเรียน รายวชิ าน้นั ครบถว้ น เช่น ไม่ไดว้ ดั ผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไม่ไดส้ ่งงานท่ีมอบหมายให้ทาซ่ึง งานน้นั เป็นส่วนหน่ึงของการตดั สินผลการเรียน หรือมีเหตุสุดวสิ ยั ทที่ าให้ประเมินผลการเรียนไมไ่ ด้ ๒) ตวั อกั ษรแสดงผลการเขา้ ร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน “ผ” หมายถึง ผา่ นเกณฑท์ ่ีสถานศกึ ษากาหนด “มผ” หมายถึง ไมผ่ า่ นเกณฑท์ ี่สถานศึกษากาหนด ๒.๕ การเปล่ียนผลการเรียน “๐” สถานศึกษาจดั ให้มีการสอนซ่อมเสริมในตวั ช้ีวดั ที่ผูเ้ รียนสอบไม่ผ่านก่อน แลว้ จึง สอบแกต้ วั ให้และให้สอบแกต้ วั ไดไ้ ม่เกิน ๒ คร้ัง ท้งั น้ีตอ้ งดาเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปี การศึกษาน้นั ถา้ ผเู้ รียนไม่ดาเนินการสอบแกต้ วั ตามระยะเวลาทก่ี าหนดไวน้ ้ี ให้อยใู่ นดุลยพินิจของ สถานศกึ ษาที่จะพิจารณาขยายเวลาออกไปอกี ไมเ่ กิน ๑ ภาคเรียน ถ้าสอบแก้ตัว ๒ คร้ังแล้ว ยังได้ระดับผลการเรียน “๐” อีก ให้สถานศึกษาแต่งต้ัง คณะกรรมการดาเนินการเกี่ยวกบั การแกผ้ ลการเรียนของผเู้ รียนโดยปฏบิ ตั ิดงั น้ี ๑) ใหเ้ รียนซ้ารายวิชาถา้ เป็นรายวชิ าพ้ืนฐาน ๒) ให้เรียนซ้าหรือเปล่ียนรายวิชาเรียนใหม่ ถา้ เป็ นรายวิชาเพ่ิมเติม โดยให้อยู่ใน ดุลยพนิ ิจของสถานศึกษา ในกรณีท่ีเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียน แทนรายวิชาใด ๒.๖ การเปล่ียนผลการเรียน “ร” การเปล่ยี นผลการเรียน “ร” มี ๒ กรณี ดงั น้ี ๑. มีเหตสุ ุดวิสยั ทาให้ประเมนิ ผลการเรียนไม่ได้ เช่น เจ็บป่ วย เมือ่ ผเู้ รียนไดเ้ ขา้ สอบ หรือส่งผลงานที่ติดคา้ งอยเู่ สร็จเรียบร้อย หรือแกป้ ัญหาเสร็จสิ้นแลว้ ให้ไดร้ ะดบั ผลการเรียนตามปกติ (ต้งั แต่ ๐ - ๔) ๒. ถา้ สถานศึกษาพิจารณาแลว้ เห็นว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย เมื่อผูเ้ รียนไดเ้ ขา้ สอบ หรือ ส่งผลงานทีต่ ดิ คา้ งอยเู่ สร็จเรียบร้อย หรือแกป้ ัญหาเสร็จสิ้นแลว้ ใหไ้ ดร้ ะดบั ผลการเรียนไม่เกิน “๑” การเปล่ียนผลการเรียน “ร” ให้ดาเนินการแก้ไขตามสาเหตุให้เสร็จสิ้นภายใน ปี การศึกษาน้ัน ถา้ ผูเ้ รียนไม่มาดาเนินการแก้ “ร” ตามระยะเวลาที่กาหนดไวใ้ ห้เรียนซ้ารายวิชา ยกเวน้ มเี หตสุ ุดวิสัย ใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของสถานศึกษาทจี่ ะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอกี ไมเ่ กิน ๑ ภาคเรียน แต่เม่อื พน้ กาหนดน้ีแลว้ ให้ปฏบิ ตั ิดงั น้ี (๑) ให้เรียนซ้ารายวชิ า ถา้ เป็นรายวชิ าพ้ืนฐาน

20 (๒) ให้เรียนซ้าหรือเปล่ียนรายวิชาเรียนใหม่ ถ้าเป็ นรายวิชาเพ่ิมเติม โดยให้อยู่ใน ดลุ ยพินิจของสถานศกึ ษา ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่า เรียน แทนรายวิชาใด ๒.๗ การเปล่ียนผลการเรียน “มส” การเปลี่ยนผลการเรียน “มส” มี ๒ กรณี ดงั น้ี ๑) กรณีผูเ้ รียนไดผ้ ลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ แต่มีเวลา เรียนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาเรียนท้งั หมด ให้สถานศึกษาจดั ให้เรียนเพ่ิมเติมโดยใช้ชั่วโมงสอน ซ่อมเสริม หรือเวลาว่าง หรือวนั หยุด หรือมอบหมายงานให้ทา จนมีเวลาเรียนครบตามท่ีกาหนดไว้ สาหรับรายวชิ าน้นั แลว้ จึงให้สอบเป็นกรณีพิเศษ ผลการสอบแก้ “มส” ให้ไดร้ ะดบั ผลการเรียนไม่เกิน “๑” การแก้ “มส” กรณีน้ีให้กระทาให้เสร็จสิ้นในปี การศึกษาน้ัน ถ้าผูเ้ รียนไม่มาดาเนินการแก้ “มส” ตาม ระยะเวลาท่ีกาหนดไวน้ ้ีให้เรียนซ้า ยกเวน้ มเี หตุสุดวิสัย ให้อยใู่ นดุลยพินิจของสถานศึกษาท่ีจะขยายเวลา การแก้ “มส” ออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรียน แตเ่ มือ่ พน้ กาหนดน้ีแลว้ ให้ปฏิบตั ดิ งั น้ี  ให้เรียนซ้ารายวิชา ถา้ เป็นรายวิชาพ้นื ฐาน  ให้เรียนซ้าหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ถา้ เป็ นรายวิชาเพิ่มเติมโดยให้อยู่ใน ดลุ ยพินิจของสถานศกึ ษา ๒) กรณีผูเ้ รียนได้ผลการเรียน “มส” และมีเวลาเรียนน้อยกว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลา เรียนท้งั หมด ให้สถานศึกษาจัดให้เรียนซ้าในรายวิชาพ้ืนฐานและรายวิชาเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนรายวิชา ใหมไ่ ด้ สาหรบั รายวิชาเพิ่มเติมเท่าน้นั ในกรณีที่เปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรียน แทนรายวชิ าใด ในกรณีภาคเรียนท่ี ๒ หากผู้เรียนยังมีผลการเรียน “0” “ร” “มส” ให้ดาเนินการให้เสร็จสิ้น ก่อนเปิ ดเรียนปี การศึกษาถัดไป สถานศึกษาอาจเปิ ดการเรียนการสอนในภาคฤดรู ้อนเพื่อแก้ไขผลการเรียน ของผู้เรียนได้ ทั้งนี้ โดยสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา/ต้นสังกัดควรเป็ นผู้พิจารณาประสานให้ มีการ ดาเนินการเรียนการสอนในภาคฤดูร้อนเพ่ือแก้ไขผลการเรียนของผ้เู รียน ๒.๘ การเปลี่ยนผลการเรียน “มผ” หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดให้ผเู้ รียนเขา้ ร่วม กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๓ กิจกรรม คือ ๑) กิจกรรมแนะแนว ๒) กิจกรรมนกั เรียน ซ่ึงประกอบดว้ ย กิจกรรม ลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด ผบู้ าเพ็ญประโยชน์ หรือนกั ศกึ ษาวิชาทหาร โดยผเู้ รียนเลือกอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง ๑ กิจกรรมและเลอื กเขา้ ร่วมกิจกรรมชุมนุม หรือชมรมอีก ๑ กิจกรรม ๓) กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์

21 ในกรณีทผี่ เู้ รียนไดผ้ ลการเรียน “มผ” สถานศึกษาตอ้ งจดั ซ่อมเสริมใหผ้ เู้ รียนทากิจกรรม จนครบตามเวลาที่กาหนด หรือปฏิบัติกิจกรรมเพ่ือพฒั นาคุณลักษณะที่ต้องปรับปรุง แกไ้ ข แล้วจึง เปลี่ยนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ท้งั น้ีดาเนินการให้เสร็จสิ้นภายในปี การศึกษาน้ัน ยกเวน้ มีเหตุ สุดวิสัยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของสถานศกึ ษา ๒.๙ การเลือ่ นช้ัน ผเู้รียนจะไดร้ ับการตดั สินผลการเรียนทุกภาคเรียนและไดร้ บั การเล่ือนช้นั เมื่อสิ้นปี การศึกษา โดยมีคุณสมบตั ิตามเกณฑ์ ดงั น้ี ๑) รายวิชาพ้ืนฐาน ไดร้ ับการตดั สินผลการเรียนผ่านทุกรายวชิ า ๒) รายวิชาเพ่ิมเติม ไดร้ บั การตดั สินผลการเรียนผ่านตามเกณฑท์ ่สี ถานศกึ ษากาหนด ๓) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ บั การประเมนิ และมผี ลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากาหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ๔) ระดบั ผลการเรียนเฉล่ยี ในปี การศึกษาน้นั ควรไดไ้ มต่ ่ากว่า ๑.๐๐ ท้งั น้ีรายวิชาใดท่ีไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน สถานศึกษาสามารถซ่อมเสริมผูเ้ รียนให้ ไดร้ ับการแกไ้ ขในภาคเรียนถดั ไป ๒.๑๐ การเรียนซา้ สถานศกึ ษาจะจดั ให้ผูเ้ รียนเรียนซ้าใน ๒ กรณี ดงั น้ี กรณีท่ี ๑ เรียนซ้ารายวิชา หากผูเ้ รียนไดร้ ับการสอนซ่อมเสริมและสอบแกต้ วั ๒ คร้ัง แลว้ ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ให้เรียนซ้ารายวิชาน้ัน ท้งั น้ี ให้อย่ใู นดุลยพินิจของสถานศึกษาในการจดั ให้เรียนซ้าในช่วงใดช่วงหน่ึงท่ีสถานศกึ ษาเห็นวา่ เหมาะสม เช่น พกั กลางวนั วนั หยดุ ชว่ั โมงว่างหลงั เลิกเรียน ภาคฤดรู ้อน เป็นตน้ กรณีท่ี ๒ เรียนซ้าช้นั มี ๒ ลกั ษณะ คอื  ผูเ้ รียนมีระดบั ผลการเรียนเฉลี่ยในปี การศึกษาน้ันต่ากว่า ๑.๐๐ และมีแนวโนม้ ว่าจะ เป็นปัญหาตอ่ การเรียนในระดบั ช้นั ทสี่ ูงข้นึ  ผเู้ รียนมผี ลการเรียน ๐ , ร , มส เกินคร่ึงหน่ึงของรายวิชาทลี่ งทะเบยี นเรียนในปี การศึกษาน้นั ท้ังน้ี หากเกิดลักษณะใดลักษณะหน่ึง หรือท้ัง ๒ ลักษณะ ให้สถานศึกษาแต่งต้ัง คณะกรรมการพิจารณา หากเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ให้ซ้าช้นั โดยยกเลิกผลการเรียนเดิมและ ให้ใช้ผลการเรียนใหม่แทน หากพิจารณาแลว้ ไม่ตอ้ งเรียนซ้าช้ัน ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ในการแกไ้ ขผลการเรียน

22 ๒.๑๑ การสอนซ่อมเสริม การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการจดั การเรียนรู้และเป็นการให้โอกาส แกผ่ เู้ รียนไดม้ ีเวลาเรียนรู้ส่ิงต่างๆ เพมิ่ ข้ึน จนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ที่กาหนดไว้ การสอนซ่อมเสริมเป็ นการสอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนจัดการเรียนรู้ปกติเพื่อ แก้ไขขอ้ บกพร่องที่พบในผูเ้ รียน โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและคานึงถึงความแตกต่าง ระหว่างบคุ คลของผเู้ รียน การสอนซ่อมเสริมสามารถดาเนินการไดใ้ นกรณีดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) ผูเ้ รียนมีความรู้/ทกั ษะพ้ืนฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชาน้ัน ควรจัด การสอนซ่อมเสริม ปรบั ความรู้/ทกั ษะพ้ืนฐาน ๒) การประเมินระหว่างเรียน ผูเ้ รียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทักษะกระบวนการ หรือเจตคติ / คณุ ลกั ษณะทก่ี าหนดไวต้ ามมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ๓) ผลการเรียนไม่ถงึ เกณฑ์ และ/หรือต่ากว่าเกณฑ์การประเมิน โดยผูเ้ รียนไดร้ ะดบั ผลการเรียน “๐” ตอ้ งจดั การสอนซ่อมเสริมกอ่ นจะใหผ้ เู้ รียนสอบแกต้ วั ๔) ผูเ้ รียนมผี ลการเรียนไม่ผ่าน สามารถจดั สอนซ่อมเสริมในภาคฤดูร้อน ท้งั น้ีใหอ้ ยู่ ในดุลยพินิจของสถานศึกษา จากรายละเอียดตา่ ง ๆ ขา้ งตน้ สรุปเป็นแผนภาพที่ ๒.๕ แสดงกระบวนการ ตดั สินและแกไ้ ขผลการเรียนระดบั มธั ยมศึกษาดงั แผนภาพที่ ๒.๕

23 ได้ “๐” ได้ “๑” แก้ “ร” ผา่ น “ร” สุดวสิ ัย ได้ “ร” ได้ ๑ - ๔ แกต้ วั ไดอ้ ีก ๑ คร้งั สอนซ่อมเสริม/สอบแกต้ วั “ร” ไมใ่ ช่สุดวสิ ยั ได้ ๑ ได้ “๐” ได้ “๑” ไม่แก้ ไม่เขา้ วดั ผลปลายภาค “ร” ภายใน ๑ ภาค เรียน ได้ “๐” ได้ “๑” สอนซ่อมเสริม/ จดั สอบให้ สอบแกต้ วั ได้ “๑-๔” เรียนเพิม่ เติม ถา้ จะแก้ “๐” ให้มีเวลาเรียนครบ ยืน่ คารอ้ ง ได้ “๐” ๖๐%<เวลาเรียน<๘๐% เวลาเรียน < ๖๐% ตดั สินผล ได้ “มส” การเรียน แก้ “ร” วดั ผลปลาย อนุญาต ไมอ่ นุญาต เรียบรอ้ ย ภาคเรียน ไม่แก้ ได้ “ร” ดลุ ยพินิจ ไม่แก้ “มส” “ร” มีเวลาเรียน ภายใน ไม่ถึง ๘๐% ภาคเรียน ภายใน ผบู้ ริหารสถานศึกษา มีเวลาเรียน ๘๐% น้นั ภาค เหน็ ชอบ เรียน วดั ผล ระหว่างภาค น้นั ส่งงานไมค่ รบ ไม่เขา้ สอบกลางภาค เรียน เรียนซ้า เรียนซ้า กระบวนการตัดสินและแก้ไขผลการเรียนระดับมัธยมศึกษา

24  การเทยี บโอนผลการเรียน สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของนกั เรียนท่เี รียนรู้จากสถานศกึ ษาไดใ้ นกรณีต่างๆ ไดแ้ ก่ การยา้ ยสถานศึกษา การเปลยี่ นรูปแบบการศึกษา การยา้ ยหลกั สูตร การละทง้ิ การศึกษาและขอกลบั เขา้ รับการศึกษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากน้ียงั สามารถเทียบ โอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรู้อื่นๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบนั ทางศาสนา สถาบนั การฝึกอบรมอาชีพ การศึกษาโดยครอบครัว การเทียบโอนผลการเรียนควรดาเนินการในช่วงก่อนเปิ ดภาคเรียนแรกหรือตน้ ภาคเรียนแรก ท่ีสถานศึกษารับผูข้ อเทียบโอนเป็ นนักเรียน ท้งั น้ีนกั เรียนท่ีไดร้ ับการเทียบโอนผลการเรียนตอ้ งศึกษา ต่อเน่ือง ในสถานศึกษาท่ีรับเทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาท่ีรับการเทียบโอนควร กาหนดรายวชิ า จานวนหน่วยกิตท่ีจะรับเทียบโอนตามความเหมาะสม การพิจารณาการเทียบโอน สามารถดาเนินการไดด้ งั น้ี ๑. พิจารณาจากหลกั ฐานการศึกษา ซ่ึงจะให้ขอ้ มูลที่แสดงความรู้ ความสามารถของนักเรียน ในดา้ นตา่ งๆ ๒. พิจารณาจากความรู้ ประสบการณต์ รงจากการปฏิบตั ิจริง การทดสอบ การสัมภาษณ์ เป็นตน้ ๓. พจิ ารณาจากความสามารถ และการปฏิบตั ิจริง ๔. ในกรณีมีเหตุผลจาเป็ นระหว่างเรียน นกั เรียนสามารถแจง้ ความจานงขอไปศึกษาบางรายวิชา ในสถานศึกษา/สถานประกอบการอื่น แลว้ นามาเทียบโอนได้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ บริหารหลกั สูตรและวิชาการของสถานศึกษา ๕. การเทียบโอนผลการเรียนให้ดาเนินการในรูปของคณะกรรมการการเทียบโอนจานวน ไม่นอ้ ยกว่า ๓ คน แต่ไมค่ วรเกิน ๕ คน ๖. การเทียบโอนใหด้ าเนินการดงั น้ี ๖.๑ กรณีผูข้ อเทยี บโอนมีผลการเรียนมาจากหลกั สูตรอื่น ให้นารายวชิ าหรือหน่วยกิตท่ีมี ตวั ช้ีวดั /มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั /จดุ ประสงค/์ เน้ือหาทส่ี อดคลอ้ งกนั ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ ๖๐ มาเทียบโอนผลการเรียนและพจิ ารณาให้ระดบั ผลการเรียนให้สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรท่ีรบั เทียบโอน ๖.๒ กรณีการเทยี บโอนความรู้ ทกั ษะและประสบการณ์ ใหพ้ ิจารณาจากเอกสารหลกั ฐาน (ถา้ มี) โดยใหม้ กี ารประเมนิ ดว้ ยเคร่ืองมอื ท่หี ลากหลายและใหร้ ะดบั ผลให้สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรท่รี บั เทียบโอน ๖.๓ กรณีการเทียบโอนท่นี ักเรียนเขา้ โครงการแลกเปล่ียนต่างประเทศ ใหด้ าเนินการตาม ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องหลกั การและแนวปฏิบตั ิการเทียบช้ันการศึกษาสาหรับนักเรียนที่เขา้ ร่วมโครงการแลกเปลีย่ น ท้งั น้ี วิธีการเทียบโอนผลการเรียนให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการและ แนวปฏิบตั ทิ ่ีเกี่ยวขอ้ ง

แนวปฏิบตั ิการเทยี บโอนผลการเรียนเข้าสู่กา แนวทาง การเทียบโอน การเทียบโอน การ จากการศกึ ษาในระบบ จากการศกึ ษานอกระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ พิจารณา วิธี ป ฏิ บั ติ ๑. เทียบโอนรายวิชา/สาระ/กิจกรรมท่ีผ่านการ เทียบโอนหมวดวิชา/สาระ/กิจ ในการจดั เขา้ ตัดสินผลการเรียนจากสถานศึกษาเดิมได้ ท่ีผ่านการตดั สินผลการเรียน ช้นั เรียน ท้งั หมดและจดั เขา้ ช้นั เรียนต่อเน่ืองจากทเ่ี รียน สถานศึกษาเดิม อ ยู่เดิ ม เช่ น จบ ป .๑ จัด เข้าเรี ยน ป .๒ ๑. เรียนผา่ นอยา่ งนอ้ ย๓หมว สถานศึกษาอาจประเมินบางรายวิชาท่ีจาเป็ นเพ่ือ จัดให้เรี ยนปี ท่ี ๒ ของระดั การตรวจสอบความรู้พ้ืนฐาน และลงทะเบียนเรียนตอ่ ไปตาม ๒. รายวชิ า/สาระ/กิจกรรมที่ยงั ไมไ่ ดต้ ดั สิน ๒. เรียนผ่านอย่างนอ้ ย๖หมว ผลการเรียนให้ประเมินตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษา จัดให้เรียนปี ที่ ๓ ของระด กาหนดหากไม่ผ่านตามเกณฑ์ให้ลงทะเบียนเรียน และลงทะเบียนเรียนต่อในรา เพ่มิ เติม ทจี่ าเป็น ตอ้ งเรียนเพ่ือให้ครบ เกณฑก์ ารจบระดบั ช้นั ตามหล ของสถานศกึ ษาใหม่ท่ีรบั เขา้ เ

25 ารศึกษาในระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน การเทียบโอนจากการจัดการศกึ ษา บ การเทยี บโอน โดยศนู ย์การเรียนการศกึ ษา การเทียบโอนจากการศึกษา บ จากการจดั การศึกษา ตามหลักสูตรระยะสั้น ตามหลักสูตรต่างประเทศ หลักสูตรเฉพาะประสบการณ์ เข้าสู่การศึกษาในระบบ โดยครอบครัว การทางาน การฝึ กอาชีพ เข้าสู่การศึกษาในระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ จกรรม ๑. ให้นาผลการวัด พิจารณาความรู้ ทักษะ ๑. สาเร็จการศกึ ษาภาคเรียนใด นจาก และประเมินของเขตพ้ืนท่ี ประสบการณ์ที่ขอเทียบโอน ช้นั ปี ใด ให้พิจารณาเทียบโอน การศึกษามาประกอบ ว่าตรงกับรายวิชา/สาระ/ ภาคเรียนต่อภาคเรียน ปี ต่อปี วดวชิ า การพิจารณา กิจกรรมใด จึงทาการประเมิน โดยนาพ้ืนความรู้สามัญเดิม บช้ัน ๒. ให้สถานศึกษา หากปรากฏว่าช่ือไม่ตรงกับที่ มาประกอบการพิจารณาหรือ มปกติ ประเมินความรู้ ทักษะ ปรากฏในโครงสร้างหลักสูตร อ าจป ระ เมิ น เพ่ิ ม เติ ม เพ่ื อ วดวิชา ประสบการณ์เพื่อการจัด ให้กาหนดและบรรจุช่ือน้ัน ตรวจสอบความรู้พ้นื ฐาน ดับช้ัน เขา้ ช้นั เรียน ไวใ้ นหลกั สูตร ๒. รายวิชา/สาระ/กิจกรรม ายวชิ า ที่ยงั ไม่ไดเ้ ทียบโอนเนื่องจาก บตาม ยงั ไม่ตัดสินผลการเรียน ให้ ลกั สูตร ประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา เรียน กาหนด

แนวทาง การเทียบโอน การเทียบโอน การ จากการศกึ ษาในระบบ จากการศึกษานอกระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ เข้าสู่การศึกษาในระบบ พิจารณา จานวน พจิ ารณาแลว้ เห็นว่าเทียบโอน ผลการเรียน พิจารณาแล้วเห็นว่าเทียบ หน่วยกิต/ ได้จานวนหน่วยให้เป็ นไปตามโครงสร้าง ผลการเรียนได้จานวนหน่ว หน่วยการ หลกั สูตรของสถานศกึ ษาเดิม เป็ นไปตามโครงสร้างหลัก เรียน/ ของสถานศึกษาใหม่ หน่วย น้าหนกั ผลการ ยอมรบั ผลการเรียนของสถานศกึ ษาเดิม ไม่ตอ้ งให้ผลการเรียนในรา เรียน/ สาระ/กิจกรรม ท่ไี ดจ้ ากการเทยี บ ผลการ ประเมนิ การบนั ทกึ ๑. ไม่ตอ้ งนารายวิชาและผลการเรียนเดิมกรอก ไม่ตอ้ งนาหมวดวิชาและผลกา ผลการ ในใบแสดงผลการเรียนของสถานศึกษาใหม่ เดิมกรอกในใบแสดงผลการ เรียนใน แต่ให้แนบ ใบแสดงผลการเรียนเดิมไว้กับ ของสถานศึกษาใหม่ แต่ให

26 การเทยี บโอนจากการจัดการศกึ ษา บ การเทียบโอน โดยศูนย์การเรียนการศกึ ษา การเทียบโอนจากการศึกษา บ จากการจดั การศกึ ษา ตามหลักสูตรระยะสั้น ตามหลักสูตรต่างประเทศ หลกั สูตรเฉพาะประสบการณ์ เข้าสู่การศึกษาในระบบ โดยครอบครัว การทางาน การฝึ กอาชีพ เข้าสู่การศึกษาในระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ บโอน จานวนหน่วยให้เป็นไป ให้จานวนหน่วยของรายวิชา/ จานวนหน่วยให้เป็ นไป วยให้ ตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษา สาระตามเกณฑ์ของสถานศึกษา ตามโครงสร้างหลกั สูตรของ กสูตร ใหม่กาหนด ใหม่ สาหรับกิจกรรมไม่ให้ สถานศกึ ษาท่ีรบั เขา้ เรียน จานวนหน่วย ายวิชา/ ยอมรบั ผลการประเมนิ ผลการประเมินความรู้ ทกั ษะ ผลการประเมินเพ่ิมเติมให้ ยบโอน ของเขตพ้นื ท่ี มาเป็น ประสบการณ์ให้เป็นไปตามที่ เป็ นไปตามที่สถานศึกษาที่ ส่วนประกอบใน สถานศกึ ษาใหม่กาหนด รบั เขา้ เรียนกาหนด การพจิ ารณา ารเรียน ไม่ ต้อ งน ารายวิช า นาผลการประเมินความรู้ ๑. ให้กรอกรายช่ือและจานวน รเรียน ผลการเรียน/ผลการวัด ทักษะ ประสบการณ์กรอก หน่วยตามรายวิชาของสถานศึกษา ห้แนบ และประเมิน เดิมขอ ง ในใบแสดงผลการเรียน ท่ีรับเข้าเรียนในใบแสดงผล

แนวทาง การเทียบโอน การเทียบโอน การ จากการศกึ ษาในระบบ จากการศกึ ษานอกระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ พจิ ารณา ใบ ใบแสดงผลการเรียนใหม่และบันทึกจานวน ใบแสดงผลการเรียนเดิมไ แสดงผล หน่วยที่ได้รับการเทียบโอนตามโครงสร้าง แสดงผลการเรียนใหม่และบ การเรียน หลกั สูตรของสถานศึกษาเดิมไวใ้ นช่องหมายเหตุ จานวนหน่วยท่ีได้รับการเทียบ ๒. รายวิชา/สาระ/กิจกรรมท่ียงั ไม่ได้ ตาม โครงสร้างหลักสู ตร ตดั สินผลการเรียนและไดร้ ับการประเมินให้นา สถานศึกษาใหม่ไวใ้ นช่องหม ผลการประเมนิ กรอกในช่องหมายเหตุ

27 การเทยี บโอนจากการจดั การศึกษา บ การเทยี บโอน โดยศนู ย์การเรียนการศกึ ษา การเทียบโอนจากการศกึ ษา บ จากการจัดการศึกษา ตามหลกั สูตรระยะสั้น ตามหลักสูตรต่างประเทศ หลกั สูตรเฉพาะประสบการณ์ เข้าสู่การศึกษาในระบบ โดยครอบครัว การทางาน การฝึ กอาชีพ เข้าสู่การศึกษาในระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ ไว้กับ เขตพ้ืนที่กรอกในใบแสดง ก ารเรี ยน ข อ งส ถ าน ศึ ก ษ า ท่ี บนั ทึก ผลการเรียนของสถานศึกษา รับ เข้าเรี ยนโดยไม่ต้องก รอ ก บโอน ใหม่ แต่ให้แนบเอกสาร ผลการเรียนและแนบใบแสดง รของ เดิมไว้กับใบแสดงผล ผล ก ารเรี ยน จาก สถ า น ศึก ษ า มายเหตุ การเรียนใหม่และบนั ทึก เดิม แล ะส ถ าน ศึกษ าที่ รับ ขอ้ มูลและจานวนหน่วย เขา้ เรียนไวด้ ว้ ยกนั และบนั ทึก ที่ไดร้ ับการเทียบโอนไว้ ผลการเทียบโอนไว้ในช่อง ในช่องหมายเหตุ หมายเหตุ ๒. รายวชิ าทีย่ งั ไม่ไดต้ ดั สิน ผลการเรียนและสถานศึกษา ที่รบั เขา้ เรียนไดป้ ระเมนิ ผล การเรี ยนแล้วให้นาผล การประเมินกรอกไวใ้ นช่อง

แนวทาง การเทยี บโอน การเทยี บโอน การ จากการศกึ ษาในระบบ จากการศึกษานอกระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ พจิ ารณา การคิด การคิดผลการเรียนเฉล่ียให้นา ผลการเรียน การคิดผลการเรียนเฉลี่ยใ ผลการเรียน และจานวนหน่วยจากสถานศึกษาเดิมมาคิด จากรายวิชาท่ีมีจานวนหน่วย เฉล่ีย รวมกับผล การเรียนและจานวนหน่วยท่ีได้ ระดับผลการเรียนท่ีได้เรีย จากการเรียนในสถานศึกษาใหม่และ คิดผล สถานศึกษาใหม่ การเรียนเฉลยี่ รวมตลอดระดบั ช้นั

28 การเทียบโอนจากการจดั การศกึ ษา บ การเทียบโอน โดยศูนย์การเรียนการศึกษา การเทียบโอนจากการศกึ ษา บ จากการจดั การศกึ ษา ตามหลกั สูตรระยะส้ัน ตามหลกั สูตรต่างประเทศ หลกั สูตรเฉพาะประสบการณ์ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ โดยครอบครัว การทางาน การฝึ กอาชีพ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ เข้าสู่การศึกษาในระบบ หมายเหตุ ให้คิด การคิดผลการเรียนเฉลย่ี การคิดผลการเรียนเฉล่ีย ๑. ให้คิดผลการเรียนเฉล่ีย ยและ ใหค้ ดิ จากรายวิชาทไี่ ด้ ให้คิดจากรายวิชาที่ได้จาก จากรายวิชาที่มีจานวนหน่วย ยนใน จากการเรียนในสถานศึกษา การเรียนในสถานศึกษาใหม่ และระดบั ผลการเรียนที่ไดจ้ าก ใหม่ โดยนาผลการประเมนิ โดยไม่ตอ้ งนาผลการประเมิน การเรียนในสถานศึกษาใหม่ ของเขตพ้ืนที่ทมี่ รี ะดบั ความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์ ๒. รายวิชาท่ียงั ไมไ่ ดต้ ดั สิน ผลการเรียนมาคิดรวม มาคดิ รวม ผลการเรี ยน จากหลักสู ตร ต่างประเทศที่สถานศึกษาท่ี รับ เข้าเรี ยน ไ ด้ป ระ เมิน แล้ว และไดร้ ะดับผลการเรียน ให้ นามาคิดผลการเรียนเฉลี่ยรวม กบั ผลการเรียนที่ไดจ้ ากการเรียน

แนวทาง การเทยี บโอน การเทียบโอน การ จากการศกึ ษาในระบบ จากการศึกษานอกระบบ เข้าสู่การศึกษาในระบบ เข้าสู่การศึกษาในระบบ พิจารณา

29 การเทียบโอนจากการจัดการศกึ ษา บ การเทียบโอน โดยศูนย์การเรียนการศกึ ษา การเทยี บโอนจากการศึกษา บ จากการจดั การศึกษา ตามหลกั สูตรระยะสั้น ตามหลักสูตรต่างประเทศ หลักสูตรเฉพาะประสบการณ์ เข้าสู่การศึกษาในระบบ โดยครอบครัว การทางาน การฝึ กอาชีพ เข้าสู่การศึกษาในระบบ เข้าสู่การศกึ ษาในระบบ ในส ถาน ศึกษาท่ีรับเข้าเรี ยน ตลอดระดบั ช้นั

 การรายงานผลการเรียน การรายงานผลการเรียน เป็ นการแจ้งผลการเรียนรู้และพัฒนาการในด้านต่างๆ ซ่ึงเป็ น ความกา้ วหน้าของผูเ้ รียนให้ผูเ้ รียนและผเู้ กี่ยวขอ้ งรับทราบอย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ คร้ัง เพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มูล ในการปรับปรุง แก้ไขและส่งเสริมพัฒนาการเรียนของผู้เรียนให้ประสบความสาเร็จอย่างมี ประสิทธิภาพ รวมท้ังใช้เป็ นข้อมูลสาหรับออกเอกสารหลักฐานการศึกษา การตรวจสอบ ยืนยนั รบั รองผลการเรียนและวุฒิการศกึ ษาของผเู้ รียน ๑. จุดมุ่งหมายการรายงานผลการเรียน ๑.๑ เพื่อแจง้ ให้ผเู้ รียน ผเู้ ก่ียวขอ้ งทราบความกา้ วหนา้ ของผเู้ รียน ๑.๒ เพื่อใหผ้ ูเ้ รียน ผูเ้ ก่ียวขอ้ งใช้เป็นขอ้ มูลในการปรบั ปรุง แกไ้ ข ส่งเสริมและพฒั นา การเรียนของผเู้ รียน ๑.๓ เพื่อให้ผูเ้ รียน ผูเ้ กี่ยวขอ้ งใช้เป็นขอ้ มูลในการวางแผนการเรียน กาหนดแนวทาง การศกึ ษาและการเลอื กอาชีพ ๑.๔ เพ่ือเป็นขอ้ มูลให้ผูท้ ี่มหี น้าเก่ียวขอ้ ง ใชด้ าเนินการออกเอกสารหลกั ฐานการศึกษา ตรวจสอบและรับรองผลการเรียน หรือวฒุ ิทางการศกึ ษาของผเู้ รียน ๑.๕ เพ่ือเป็ นขอ้ มูลสาหรับสถานศึกษา เขตพ้ืนที่การศึกษาและหน่วยงานตน้ สังกัด ใชป้ ระกอบในการกาหนดนโยบาย วางแผนในการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ๒. ข้อมลู ในการรายงานผลการเรียน ๒.๑ ขอ้ มูลระดบั ช้ันเรียน ประกอบดว้ ย ผลการประเมนิ ความรู้ ความสามารถ พฤตกิ รรม การเรียน ความประพฤติและผลงานในการเรียนของผเู้ รียน เป็นขอ้ มูลสาหรบั รายงานให้ผมู้ ีส่วนเก่ียวขอ้ ง ไดแ้ ก่ ผูเ้ รียน ผูส้ อนและผูป้ กครอง ไดร้ ับทราบความกา้ วหนา้ ความสาเร็จในการเรียนของผูเ้ รียนเพ่ือ นาไปใชใ้ นการวางแผนกาหนดเป้าหมายและวิธีการในการพฒั นาผเู้ รียน ๒.๒ ขอ้ มูลระดบั สถานศึกษา ประกอบดว้ ย ผลการประเมินผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระ ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนรายปี /รายภาค ผลการประเมิน ความกา้ วหนา้ ใน การเรียนรู้รายปี /รายภาคโดยรวมของสถานศึกษา เพ่ือใช้เป็นขอ้ มูลและสารสนเทศ ในการพฒั นาการเรียนการสอนและคุณภาพของผูเ้ รียน ให้เป็ นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั การตดั สินการเลือ่ นช้นั และการซ่อมเสริมผเู้ รียนท่ีมีขอ้ บกพร่องใหผ้ ่านระดบั ช้ันและเป็นขอ้ มลู ในการ ออกเอกสารหลกั ฐานการศึกษา

31 ๒.๓ ขอ้ มลู การประเมนิ คุณภาพระดบั เขตพ้นื ที่การศึกษา ไดแ้ ก่ ผลการประเมนิ คุณภาพ ของผูเ้ รียนดว้ ยแบบประเมินท่ีสานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาจดั ทาข้นึ ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สาคญั ใน ระดบั ช้นั ที่นอกเหนือจากการประเมินคุณภาพระดบั ชาติ เป็นขอ้ มูลทผี่ ูเ้ ก่ียวขอ้ งใชว้ างแผนและดาเนินการ พฒั นาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาในเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเพื่อให้เกิดการยกระดบั คุณภาพและ มาตรฐานการศึกษาของผเู้ รียนและสถานศึกษา ๒.๔ ขอ้ มลู ผลการประเมนิ คณุ ภาพระดบั ชาติ ไดแ้ ก่ ผลการประเมนิ คณุ ภาพของผเู้ รียน ดว้ ยแบบประเมินท่ีเป็ นมาตรฐานระดบั ชาติในกลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีสาคญั ในช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ ประถมศึกษาปี ที่ ๖ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ และมธั ยมศึกษาปี ที่ ๖ ซ่ึงดาเนินการโดยหน่วยงานระดบั ชาติ เป็นขอ้ มูลที่ผูเ้ กี่ยวขอ้ งใชว้ างแผนและดาเนินการพฒั นาคุณภาพการศึกษาในส่วนท่ีเกี่ยวขอ้ ง เพื่อให้ เกิดการยกระดบั คุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของผูเ้ รียน สถานศึกษา ทอ้ งถิ่น เขตพ้ืนที่การศกึ ษา และประเทศชาติ รวมท้งั นาไปรายงานในเอกสารหลกั ฐานการศึกษาของผเู้ รียน ๒.๕ ขอ้ มลู พฒั นาการของผเู้ รียนดา้ นอ่ืนๆ ประกอบดว้ ย ขอ้ มูลเก่ียวกบั พฒั นาการทาง ดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและพฤติกรรมต่างๆ เป็ นขอ้ มูลส่วนหน่ึงของการแนะแนวและ จดั ระบบการดูแลช่วยเหลอื เพื่อแจง้ ให้ผูเ้ รียน ผูส้ อน ผปู้ กครองและผูเ้ ก่ียวขอ้ งไดร้ ับทราบขอ้ มูล โดยผู้ มีหน้าที่รับผิดชอบแต่ละฝ่ ายนาไปใช้ปรับปรุงแกไ้ ขและพฒั นาผูเ้ รี ยนให้เกิดพฒั นาการอย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม รวมท้งั นาไปจดั ทาเอกสารหลกั ฐานแสดงพฒั นาการของผเู้ รียน ๓. ลกั ษณะข้อมลู สาหรับการรายงาน การรายงานผลการเรียน สถานศึกษาสามารถเลอื กลกั ษณะขอ้ มูลสาหรบั การรายงานได้ หลายรูปแบบ ให้เหมาะสมกบั วิธีการรายงาน โดยคานึงถึงประสิทธิภาพของการรายงานและการนา ขอ้ มลู ไปใชป้ ระโยชน์ของผรู้ ับรายงานแต่ละฝ่าย ลกั ษณะขอ้ มูลมรี ูปแบบดงั น้ี ๓.๑ รายงานเป็นตวั เลข ตวั อกั ษร คา หรือขอ้ ความที่เป็นตวั แทนระดบั ความรู้ ความสามารถ ของผูเ้ รียนท่เี กิดจากการประมวลผล สรุปตดั สินขอ้ มลู ผลการเรียนรู้ของผเู้ รียน ไดแ้ ก่ ๑) คะแนนที่ไดก้ บั คะแนนเตม็ ๒) คะแนนร้อยละ ๓) ระดบั ผลการเรียน “๐ - ๔” (๘ ระดบั ) หรือตามที่สถานศึกษากาหนดและผลการเรียน ท่มี เี ง่อื นไข “ผ” “มผ” “ร” “มส” ๔) ผลการประเมินคณุ ภาพ “ดีเยีย่ ม” “ดี” “ผ่าน” ๕) ผลการตดั สินผ่านระดบั ช้นั “ผ่าน” “ไม่ผ่าน” ๓.๒ รายงานโดยใชส้ ถิติ เป็นการรายงานจากขอ้ มูลที่เป็นตวั เลข ตวั อกั ษร หรือขอ้ ความ ให้เป็นภาพแผนภูมหิ รือเส้นพฒั นาการ ซ่ึงจะแสดงให้เห็นพฒั นาการความกา้ วหนา้ ของผูเ้ รียนว่าดีข้ึน หรือควรไดร้ ับการพฒั นาอยา่ งไร เม่อื เวลาเปล่ียนแปลงไป

32 ๓.๓ รายงานเป็นขอ้ ความ เป็นการบรรยายพฤตกิ รรมหรือคุณภาพที่ผปู้ ระเมนิ สงั เกตพบ เพ่ือรายงานให้ทราบว่าผูเ้ รียนมีความสามารถ มีพฤติกรรม ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ตามมาตรฐาน การเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั และบุคลิกภาพอยา่ งไร เช่น  ผูเ้ รียนมีความเช่ือมน่ั ในตนเองสูง ชอบแสดงความคดิ เห็นและมเี หตุผล  ผูเ้ รียนสนใจอ่านเรื่องต่างๆ หลากหลายประเภท สามารถสรุปใจความของเร่ือง ไดถ้ ูกตอ้ งสมบรู ณ์  ผเู้ รียนมผี ลการเรียนในกลมุ่ สาระการเรียนรู้เป็นทน่ี ่าพอใจ แต่ควรมีการพฒั นา ดา้ นการเขียน โดยไดร้ ับความร่วมมือจากผปู้ กครองในการฝึกหรือส่งเสริมให้นกั เรียนมที กั ษะในการเขียน สูงข้นึ ๔. เป้าหมายการรายงาน การดาเนินการจดั การศึกษา ประกอบดว้ ยบคุ ลากรหลายฝ่ายมาร่วมมือประสานงานกนั พฒั นาผู้เรียนท้ังทางตรงและทางออ้ ม ให้มีความรู้ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม อนั พึงประสงค์ โดยผมู้ ีส่วนเกี่ยวขอ้ งควรไดร้ ับการรายงานผลการประเมนิ ของผเู้ รียนเพื่อใชเ้ ป็นขอ้ มูล ในการดาเนินงาน ดงั น้ี กล่มุ เป้าหมาย การใช้ข้อมลู ผเู้ รียน - ปรับปรุง แกไ้ ขและพฒั นาการเรียน รวมท้งั พฒั นาร่างกาย อารมณ์ สงั คม และพฤตกิ รรมต่างๆของตน - วางแผนการเรียน การเลอื กแนวทางการศกึ ษา และอาชีพในอนาคต - แสดงผลการเรียน ความรู้ ความสามารถ และวุฒิการศึกษาของตน ผสู้ อน - วางแผนและดาเนินการปรับปรุง แกไ้ ขและพฒั นาผเู้ รียน - ปรบั ปรุง แกไ้ ขและพฒั นาการจดั การเรียนการสอน ครูวดั ผล - ตรวจสอบความถูกตอ้ งในการประเมนิ ผลของผสู้ อน/ผูเ้ รียน - พฒั นาระบบ ระเบยี บและแนวทางการประเมินผลการเรียน นายทะเบียน - จดั ทาเอกสารหลกั ฐานการศึกษา ครูแนะแนว - ใหค้ าแนะนาผเู้ รียนในดา้ นต่างๆ คณะกรรมการบริหาร - พิจารณาให้ความเห็นชอบผลการเรียนของผเู้ รียน หลกั สูตรและวิชาการ - พฒั นาแนวทางการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษา ของสถานศกึ ษาและ คณะกรรมการอนื่ ๆ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา - พจิ ารณาตดั สิน และอนุมตั ผิ ลการเรียนของผเู้ รียน

33 กล่มุ เป้าหมาย การใช้ข้อมลู - พฒั นากระบวนการจดั การเรียนของสถานศึกษา - วางแผนการบริหารจดั การศึกษาดา้ นต่างๆ ผปู้ กครอง - รบั ทราบผลการเรียนและพฒั นาการของผเู้ รียน - ปรับปรุง แกไ้ ขและพฒั นาการเรียนของผูเ้ รียน รวมท้งั การดูแลสุขภาพ อนามยั ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คมและพฤตกิ รรมต่างๆ ของผเู้ รียน - พิจารณาวางแผนและส่งเสริมการเรียน การเลอื กแนวทางการศึกษาและ อาชีพในอนาคตของผเู้ รียน ฝ่าย/หน่วยงานท่ีมหี นา้ ที่ - ตรวจสอบ และรบั รองผลการเรียนและวุฒิการศกึ ษาของผเู้ รียน ตรวจสอบรบั รองความรู้ - เทยี บระดบั /วุฒิการศึกษาของผเู้ รียน และวฒุ ิการศกึ ษา/ - เทยี บโอนผลการเรียน สถานศึกษา สานกั งานเขตพ้ืนที่ - ยกระดบั และพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษาในเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา การศกึ ษา/หน่วยงาน - นิเทศ ติดตาม และใหค้ วามช่วยเหลือการพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของ ตน้ สงั กดั สถานศึกษาท่มี ผี ลการประเมินต่ากวา่ คา่ เฉล่ียของสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ๕. วธิ ีการรายงาน การรายงานผลการเรียนใหผ้ ูเ้ กี่ยวขอ้ งรับทราบ สามารถดาเนินการไดด้ งั น้ี ๕.๑ การรายงานผลการเรียนในเอกสารหลกั ฐานการศึกษา ไดแ้ ก่  ระเบยี นแสดงผลการเรียน (ปพ.๑)  หลกั ฐานแสดงวุฒิการศกึ ษา (ปพ.๒)  แบบรายงานผสู้ าเร็จการศึกษา (ปพ.๓)  แบบรายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียนรายบคุ คล  แบบบนั ทึกผลการเรียนประจารายวชิ า  ระเบียนสะสม  ใบรับรองผลการเรียน ฯลฯ ขอ้ มูลจากแบบรายงาน สามารถใชอ้ า้ งอิง ตรวจสอบและรับรองผลการเรียนของผเู้ รียนได้ ๕.๒ การรายงานคณุ ภาพการศกึ ษาให้ผเู้ ก่ียวขอ้ งทราบ สามารถรายงานไดห้ ลายวธิ ี เช่น  รายงานคณุ ภาพการศกึ ษาประจาปี  วารสาร/จุลสารของสถานศึกษา  จดหมายส่วนตวั

34  การใหค้ าปรึกษาหารือเป็นรายบคุ คล  การใหพ้ บครูทปี่ รึกษาหรือการประชุมเครือข่ายผปู้ กครอง  การใหข้ อ้ มลู ทาง Internet ผ่าน Web site ของสถานศกึ ษา ๖. การกาหนดระยะเวลาในการรายงาน การกาหนดระยะเวลาในการรายงานผลการเรียนแต่ละประเภทท่ีไดม้ ีการดาเนินการใน โอกาสต่างๆ ท้งั การประเมินระดบั ช้นั เรียน การประเมินระดบั สถานศกึ ษา การประเมินระดบั เขตพ้ืนท่ี การศึกษาและการประเมินระดบั ชาติ สถานศึกษาควรกาหนดช่วงเวลาในการรายงานให้สอดคลอ้ งกบั ช่วงระยะเวลาที่ผูเ้ รียนและผูเ้ กี่ยวขอ้ งจะนาขอ้ มูลการรายงานไปใชใ้ นการดาเนินการปรับปรุงแกไ้ ข และส่งเสริมการเรียนของผูเ้ รียนตามบทบาทหน้าท่ีของแต่ละฝ่าย โดยยึดหลกั การรายงานให้เร็วท่ีสุด ภายหลงั การประเมนิ ผลแต่ละคร้งั เพอื่ ให้การรายงานเกิดประโยชน์และมปี ระสิทธิภาพในการนาไปใช้ สูงสุด

35 ๓. ภารกจิ ของสถานศึกษาด้านการวดั และประเมนิ ผลการ เรียนรู้

แผนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศึกษา 36 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนโรงเรียนสบเมย กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน วทิ ยาคม มาตรฐานและตวั ชี้วัด การอ่าน คิดวเิ คราะห์ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘กลุ่มสาระ และเขียน ภารกิจการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้โรงเรียนสบเมยวทิ ยาคม กาหนดวธิ ีการ เครื่องมือ ระยะเวลา และเกณฑ์การประเมิน การประเมนิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ การประเมิน การประเมิน การประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ประเมินผลการเรียนรู้ ผ่าน ประเมิน ไม่ผ่าน ผ่าน ประเมิน ไม่ผ่าน ผ่าน ประเมนิ ไม่ผ่าน ซ่อมเสรมิ ซ่อมเสริม ระห ่วางเ ีรยน- ประเมนิ ระหว่าง ดีเยีย่ ม ดเี ยีย่ ม การจดั การเรียน ดี ดี ควรกาหนด ัสด ่สวนระห ่วางการสอนผ่าน ผ่าน เรียนมากก ่วาปลาย ีป/- ประเมนิ กลาง- ปลายภาคเ ีรยนภาคเรียน ปลายปี /ปลายภาคเรียน ประถมฯ ประเมิน มัธยมฯ - ระดบั - ระดบั ผลการเรียน ผลการเรียน ๘ ระดบั - ระดับ - เงอื่ นไข คณุ ภาพ ผลการเรียน (ส มส) บนั ทกึ ผลการประเมินในเอกสารหลกั ฐานการศึกษาท่ีสถานศึกษากาหนด เลอื่ นช้ัน ผ่าน อนุมัติ ประถมศกึ ษา ไม่ผ่าน มัธยมศึกษา ซ่อมเสริม ซ่อมเสริม ประเมิน แก้ 0, ร, มส, มผ ผ่าน ไม่ผ่าน ผา่ น ไมผ่ า่ น ซ้าช้นั เรยี นซ้ารายวิชา/เรียนซ้าช้นั แผนภาพที่ ๓.๑ แสดงแผนการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศึกษา

37  แผนการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศึกษา เมอื่ สถานศึกษาจดั ทาหลกั สูตรที่สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานและ เหมาะสมกบั สภาพบริบทของตนเองแลว้ ภารกิจต่อไปคือวางแผนการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ให้ สอดคลอ้ งกับหลักสูตร เพ่ือใช้เป็ นแนวทางในการดาเนินการวดั และประเมินผลในระดับช้ันเรียน สาหรับผูส้ อน โดยในการประเมินความรู้ และทักษะต่าง ๆ น้ันควรยึดบูรณาการไปพร้อมๆ กบั การ ประเมินคุณลกั ษณะอืน่ ๆ มรี ายละเอยี ดทส่ี ถานศึกษาตอ้ งประเมนิ ดงั น้ี ๑. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๒. การประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี น ๓. การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๔. การประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน นอกจากน้ี ส่ิงที่สถานศึกษาตอ้ งตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อให้มน่ั ใจวา่ การจดั การเรียนรู้และการ ประเมินผลการเรียนรู้ท่ีครูผูส้ อนดาเนินการน้ัน นาสู่การพัฒนาสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ๕ ดา้ น ไดแ้ ก่ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถใน การคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิตและความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี โดยการประเมินสมรรถนะสาคญั ท้งั ๕ ดา้ นน้นั ควรเป็ นการประเมินในลกั ษณะบูรณาการ ไปพร้อมๆ กบั การประเมนิ คุณลกั ษณะอื่นๆ  การประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามกล่มุ สาระการเรียนรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ท้ัง ๘ กลุ่มสาระ เป็ นการประเมินผลการ เรียนรู้ตามตวั ช้ีวดั ในหลกั สูตร ซ่ึงจะนาไปสู่การสรุปผลการเรียนรู้ของผูเ้ รียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ ต่อไป ภารกิจของสถานศึกษาในการดาเนินการประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ มี รายละเอียดดงั น้ี ๑. กาหนดสัดส่วนคะแนนระหว่างเรียนกบั คะแนนปลายปี /ปลายภาค โดยให้ความสาคญั ของคะแนนระหวา่ งเรียนมากกวา่ คะแนนปลายปี /ปลายภาค เช่น ๖๐:๔๐ , ๗๐:๓๐ , ๘๐:๒๐ เป็นตน้ ๒. กาหนดเกณฑ์การตดั สินผลการเรียน โดยพิจารณาความเหมาะสมตามระดบั ช้ันเรียน สาหรับระดบั มธั ยมศึกษากาหนดเป็นระดบั ผลการเรียน ๘ ระดบั และกาหนดเงื่อนไขตา่ งๆ ของผลการ เรียน เช่น การประเมินท่ี ยงั ไม่สมบูรณ์ (ได้ ร) การไม่มีสิทธิเข้ารับการสอบ (ได้ มส) นอกจากน้ี สถานศกึ ษาอาจกาหนดคุณลกั ษณะของความสาเร็จตามมาตรฐานการศกึ ษาแต่ละช้นั ปี เป็ นระดบั คุณภาพ เพม่ิ อกี ก็ได้

38 ๓. กาหนดแนวปฏิบตั ิในการสอนซ่อมเสริม การสอบแกต้ วั กรณีผูเ้ รียนมีระดบั ผลการเรียน “๐” และแนวดาเนินการกรณีผเู้ รียนมผี ลการเรียนท่ีมเี งอ่ื นไข คอื “ ร ” “ มส.” ๔. กาหนดแนวปฏิบตั ใิ นการอนุมตั ิผลการเรียน ๕. กาหนดแนวทางในการรายงานผลการประเมินต่อผเู้ ก่ียวขอ้ ง เช่น ผปู้ กครอง ๖. กาหนดแนวทาง วิธีการในการกากับ ติดตามการบันทึกผลการประเมินในเอกสาร หลักฐานการศึกษา ท้งั แบบท่ีหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และแบบท่ี สถานศึกษากาหนด  การประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดให้มีการประเมินการ อ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ดงั น้ันสถานศึกษาอ่าน คิดตอ้ งวางแผนการพฒั นาความสามารถ ดา้ นการ อ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ควบคู่ไปกบั การจดั การเรียนรู้ในรายวิชาต่างๆ สถานศึกษาอาจกาหนด ข้นั ตอนดาเนินการ ดงั แผนภาพที่ ๓.๒ ประชุมช้ีแจงแนวการส่งเสริม/พฒั นา กาหนดเกณฑ์ คณะกรรมการพฒั นาและประเมนิ การประเมินและแนวทางการวดั ผลประเมินผล การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน ดาเนินการส่งเสริม/พฒั นา ควบคกู่ บั การจดั กิจกรรม ครูผสู้ อน การเรียนรู้ ๘ กลุม่ สาระ/โครงการ/กิจกรรมส่งเสริม ครูผสู้ อน ครูทป่ี รึกษา/ครูประจาช้นั วดั ผล ประเมนิ ผล บนั ทึกผล (สรุปผล) หรือผทู้ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย ประมวลผล สรุปผล คณะกรรมการพฒั นาและประเมินการ อา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขยี น ไมผ่ า่ น ผ่าน ดเี ยีย่ ม ดี ซ่อมเสริม ผ่าน - ครูประจาช้นั บนั ทกึ ผล - ครูที่ปรึกษา - นายทะเบยี น แผนภาพท่ี ๓.๒ แสดงข้นั ตอนการพฒั นาและประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี นของสถานศึกษา

39 แนวดาเนนิ การพฒั นาและประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน การพฒั นาและประเมินความสามารถการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขยี น สถานศกึ ษาอาจกาหนด แนวดาเนินการ ดงั น้ี ๑. คณะกรรมการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ของสถานศึกษากาหนดผลการ เรียนรู้ หรือความสามารถ การอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น จากกล่มุ สาระการเรียนรู้พร้อมกาหนดเกณฑ์ ตดั สินคุณภาพ (ดีเย่ียม ดีและผ่าน) ให้เหมาะสมกบั ระดบั การศกึ ษา ๒. ผู้สอนแต่ละกลุ่มสาระออกแบบการประเมิน เพ่ือประเมินความสามารถในการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขยี น ใหเ้ หมาะสมกบั ผเู้ รียนแต่ละช้นั ปี และการจดั การเรียนรู้ในแต่ละภาคเรียน รูปแบบและวิธกี ารพัฒนาและประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น คณะกรรมการการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น สามารถดาเนินการไดห้ ลายวิธีดงั น้ี ๑. ประเมนิ จากผลงานและการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๑.๑ กรณีท่ีบุคลากรสอนตามเพียงพอ ใช้วิธีการบูรณาการความสามารถ การอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน เขา้ กบั หน่วยการเรียนรู้ ในรายวิชา ทีม่ ีสัดส่วนเพยี งพอสามารถเป็นตวั แทนได้ เม่ือ นาหน่วยการเรียนรู้ไปจดั กิจกรรมการเรียนรู้ แต่ละรายวิชาแลว้ มีผลการประเมินของผเู้ รียนเป็นผลงาน ในหน่วยการเรียนรู้น้นั ให้นาผลการประเมินน้นั นบั เขา้ เป็นผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนดว้ ย ๑.๒ กรณีที่สถานศกึ ษามีบคุ ลากรเพยี งพอ นอกจากส่งเสริมและพฒั นาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ในกลุ่มสาระท่ีสอนแลว้ ยงั สามารถจดั โครงงาน/กิจกรรมเสริมอีก เช่น โครงการรักการ อ่าน-การเขียน เป็ นต้น การประเมินผลก็ใช้ผลจากการประเมินในกลุ่มสาระและผลจากการเข้าร่วม โครงการและกิจกรรม ๒. ประเมนิ จากแบบทดสอบมาตรฐานประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียน โดยทดสอบ กบั ผูเ้ รียนทุกคน การนาแบบทดสอบมาตรฐานมาใช้ประเมินผลตอ้ งมีความมนั่ ใจในความเท่ียงตรง (Validity) ความยตุ ธิ รรม(Fair) และความเชื่อถือได้ (Reliability) เกณฑ์การตดั สินผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น การวิเคราะห์ขอ้ มูลเพ่ือตดั สินระดบั คุณภาพ ใช้วิธีการที่เหมาะสมกบั ลกั ษณะของขอ้ มูลซ่ึง ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ได้แก่ ฐานนิ ยม (Mode) แล้วตัดสินผลตามเกณฑ์ที่กาหนด ส่งผลให้แก่ คณะกรรมการดาเนินการประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน เพื่อดาเนินการส่งเสริมพฒั นาตอ่ ไป เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ให้กาหนดเป็ นระดบั คุณภาพดีเยี่ยม ดีและผ่าน อย่างไรก็ ตามในกระบวนการพฒั นา สถานศกึ ษาควรกาหนดให้ผสู้ อนไดใ้ ห้ขอ้ มูลยอ้ นกลบั แก่ผเู้ รียนเพื่อการ

40 พฒั นา การอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน ไดบ้ รรลุเป้าหมายของสถานศึกษา การใหข้ อ้ มูลยอ้ นกลบั จะทา ได้ดีหากมีการใช้เกณฑ์การให้คะแนน (Rubrics) เป็ นแนวทางการกาหนดเกณฑ์การให้คะแนน สถานศึกษาสามารถดาเนินการไดด้ งั น้ี ๑. กาหนดระดบั คุณภาพตามท่ีหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานกาหนดไว้ ไดแ้ ก่ ดี เยีย่ ม ดีและผา่ น ๒. กาหนดประเดน็ การประเมนิ ให้สอดคลอ้ งกบั ความสามารถท่ีจะประเมิน เช่น - การนาเสนอเน้ือหา - การใชภ้ าษา ๓. ให้คาอธิบายระดบั คณุ ภาพของประเด็นการประเมนิ ดงั ตวั อยา่ ง ประเดน็ ระดบั คะแนน การประเมนิ ๓ ๒ ๑ การนาเสนอเน้ือหา - เรียงลาดบั เรื่องราวได้ - เรียงลาดบั เรื่องราวได้ - เรียงลาดบั เร่ืองราวได้ เหมาะสม ไม่วกวน เหมาะสม ไมว่ กวน แตม่ กี ารวกวนบา้ ง - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคิดเห็น ประกอบไดอ้ ยา่ งมี ประกอบไดอ้ ยา่ งมี ประกอบ เหตุผลและสร้างสรรค์ เหตุผล - ขอ้ มลู สนบั สนุน หรือ - นาเสนอประเด็นสาคญั - นาเสนอขอ้ มูลชดั เจน ประเด็นยงั ไม่ชดั เจน ที่ทาให้เห็นความชดั เจน แตบ่ างประเด็นไม่ ของเร่ือง ชดั เจน - ประเมนิ สิ่งที่เป็น ประโยชน์ ในการดาเนินชีวติ ได้ ถูกตอ้ ง การใชภ้ าษา - เขยี นสะกดคาถูกตอ้ ง - เขยี นสะกดคาถกู ตอ้ ง - เขยี นสะกดคาถูกตอ้ ง ตามอกั ขรวธิ ี ตามอกั ขรวิธี ตามอกั ขรวิธี - เลอื กใชค้ าตรง - เลือกใชค้ าตรง - เลอื กใชค้ าตรง ความหมาย ความหมาย ความหมาย - ใชภ้ าษาเหมาะสมกบั - ใชภ้ าษาเหมาะสมกบั ระดบั ภาษา ระดบั ภาษา - ใชภ้ าษาส่ือสารตรง จดุ ประสงค์

41 กรณีตวั อย่าง คณุ ครูสวสั ดี สอนวชิ าวทิ ยาศาสตร์ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ โรงเรียนมีนโยบายว่า ครูทุกคนตอ้ ง เป็นครูสอนอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น โดยบูรณาการเขา้ ในกลุ่มสาระ ครูสวสั ดีตระหนกั ดีว่า นอกเหนือ จากความรู้เน้ือหา กระบวนการทางวิทยาศาสตร์แลว้ เธอตอ้ งพฒั นาระบบคิดและความสามารถในการ ส่ือสารให้นกั เรียน เธอพยายามหาคาตอบว่า ๑. นกั เรียนต้องมีผลการปฏิบัติอยา่ งไร จึงแสดงว่านักเรียนของเธออ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนไดแ้ ลว้ ๒. จะใชว้ ิธีการใดในการตรวจสอบ เป็นการตรวจสอบเพ่ือการพฒั นาอยา่ งแทจ้ ริง มใิ ช่เพียง เพอ่ื ใหร้ ะดบั คุณภาพ คุณครูสวสั ดีศกึ ษาเครื่องมือวดั ผลหลายชนิด เธอตอ้ งการประเมินแบบไม่เป็นทางการ ในทีส่ ุด จึงเลือกใชก้ ารเขียนสะทอ้ นแสดงความคิดเห็น เพราะ เป็นรูปแบบหน่ึงของการมอบหมายงานการเขยี น นักเรียนสามารถเขียนไดอ้ ยา่ งอิสระ เพ่ือให้นกั เรียนของเธอเขียนสะทอ้ นในส่ิงท่ีเรียน นอกจากเพื่อ วิเคราะห์ว่านกั เรียนตคี วามในส่ิงทค่ี รูสอนอยา่ งไรแลว้ ยงั เพื่อฝึกกระบวนการคิดและการเขยี นสื่อสาร ของนักเรียนดว้ ย ในการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ครูใชก้ ารเขียนเป็ นท้งั เคร่ืองมือพฒั นาและประเมินการ เรียนรู้ของนักเรียนน้อยมาก ครูสวสั ดีตอ้ งการทดลองและเชื่อมน่ั ว่าวิธีน้ีจะพฒั นาการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนได้ สิ่งท่ีครูสวสั ดีคิดต่อไปคือ ผลการปฏิบัติอย่างไรท่ีแสดงว่านักเรียนอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนไดแ้ ลว้ โดยบูรณาการกบั กลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์ ดงั น้นั ภาระงานที่จะกาหนดจึงควรให้นกั เรียน ไดต้ อบโจทยต์ ามสาระการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ โดยสามารถตีความ ขยายความ จดั ประเภท สรุ ป ใจความสาคญั อา้ งอิงขอ้ มูล เปรียบเทียบ อธิบาย บอกจุดยืนพร้อมเหตุผลสนับสนุน เป็ นตน้ ท้งั น้ีตอ้ ง เขียนจากความเขา้ ใจดว้ ยภาษาของตนเอง ส่ือความไดช้ ดั เจน ใจความสมบูรณ์ สิ่งเหล่าน้ีคือเกณฑท์ ่ีครู สวสั ดีคิดไวใ้ นใจและตอ้ งการนาไปคุยกบั นักเรียนเพื่อสร้างแรงจูงใจ การมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบ ตอ่ การเรียนรู้ของตน ให้นกั เรียนช่วยกนั สร้างเกณฑก์ ารประเมิน (Rubrics) เพอื่ เป็นแนวทางให้นกั เรียน ใชป้ ระเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพ่ือนและครูร่วมประเมิน นอกจากน้ียงั เป็ นแนวทางให้เธอใชส้ ร้าง คาถามที่สูงกวา่ ระดบั ความจา ครูสวสั ดีวางแผนว่าจะให้นกั เรียนเขียนสะทอ้ นผลงานทกุ ๒ สปั ดาห์ เมือ่ จบรายวิชา นกั เรียนจะมชี ิ้นงานเขียนประมาณ ๑๐ ช้ิน ซ่ึงมีปริมาณเพียงพอทเี่ ธอจะประมวลความกา้ วหนา้ ในการ อา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน เพอื่ สรุปผลการประเมินเป็นผา่ น ดี หรือ ดีเยยี่ ม ให้ฝ่ายวดั ผลของโรงเรียน ในการประมวลความกา้ วหนา้ น้ี เธอใชเ้ กณฑท์ ่โี รงเรียนกาหนดเป็นแนวทางในการพจิ ารณาร่วมดว้ ย

42 คุณครูประมวลทาหนา้ ที่วดั ผลของโรงเรียน โรงเรียนกาหนดการตดั สินผลการประเมนิ เป็น ดีเย่ียม ดีและผา่ น ตามหลกั สูตรแกนกลางข้นั พ้ืนฐานการศึกษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ระบไุ ว้ แต่โรงเรียน พิจารณาเห็นว่าในระหว่างกระบวนการพฒั นายอ่ มมีนกั เรียนท่ยี งั ไม่ผา่ นเกณฑ์ โรงเรียนจึงกาหนด เกณฑก์ ารตดั สินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น เพ่อื เป็นแนวทางใหผ้ สู้ อนปรบั ใชใ้ นการพฒั นาการ อ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขยี นในรายวชิ าของตนดงั น้ี ดีเย่ยี ม หมายถงึ สมารถจบั ใจความไดค้ รบถว้ น เขียนวพิ ากษว์ ิจารณ์ เขียนสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นประกอบอยา่ งมีเหตุผลไดถ้ กู ตอ้ งและสมบูรณ์ ใชภ้ าษาสุภาพและเรียบเรียงไดส้ ละสลวย ดี หมายถงึ สามารถจบั ใจความสาคญั ได้ เขยี นวิพากษว์ จิ ารณแ์ ละเขียนสร้างสรรคไ์ ด้ โดยใชภ้ าษาสุภาพ ผ่าน หมายถงึ สามารถจบั ใจความสาคญั และเขียนวพิ ากษว์ ิจารณไ์ ดบ้ า้ ง เมื่อครูประมวลไดร้ ับผลการประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน จากครูสวสั ดีและครูท่ี สอนรายวชิ าอ่นื ๆ แลว้ เขาตอ้ งนาผลแตล่ ะรายวชิ ามาประมวลเป็นผลของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ แลว้ ประมวลสรุปผลทกุ กล่มุ สาระการเรียนรู้ เป็นผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์ของนกั เรียนแต่ละ คน วธิ ีที่ครูประมวลเห็นว่าจะสะดวกต่อการทางานจึงกาหนดให้ทุกวชิ าใชต้ วั เลขแทนดงั น้ี ดีเยี่ยม แทนดว้ ย ๓ ดีแทนดว้ ย ๒ และผา่ นแทนดว้ ย ๑ แลว้ นาผลมาวิเคราะห์โดยใชฐ้ านนิยม (Mode)  การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หมายถึง ลักษณะที่ต้องการให้เกิดข้ึนกับผูเ้ รียนอันเป็ น คุณลกั ษณะที่สังคมตอ้ งการ ในดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม จิตสานึก สามารถอย่รู ่วมกบั ผอู้ ื่นใน สงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ท้งั ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก ตามที่หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐานกาหนดซ่ึง มอี ยู่ ๘ คุณลกั ษณะ ไดแ้ ก่ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมนั่ ในการทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ นอกจากน้ีสถานศึกษาสามารถกาหนดคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคเ์ พิ่มเติมให้สอดคลอ้ งกบั บริบทและจดุ เนน้ ของตนเองได้ การพฒั นาคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของสถานศึกษาจะบรรลุผลได้น้ัน ต้องอาศัยการ บริหารจดั การและการมสี ่วนร่วมจากทุกฝ่ าย ไดแ้ ก่ ผบู้ ริหารสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ครูที่ปรึกษา ครูผสู้ อน ผปู้ กครองและชุมชนท่ีตอ้ งมงุ่ ขดั เกลา บ่มเพาะ ปลูกฝังคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคใ์ ห้เกิดข้นึ แก่ผูเ้ รียน

43 ในการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์สามารถกระทาได้โดยนาพฤติกรรมบ่งช้ีหรื อ พฤติกรรมทแี่ สดงออกของคณุ ลกั ษณะแต่ละดา้ นท่ีวิเคราะห์ไว้ บรู ณาการในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ในกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนและโครงการพิเศษต่างๆ ท่ีสถานศึกษาจดั ทา ข้ึน เช่น โครงการวนั พ่อ วนั แม่แห่งชาติ โครงการลดภาวะโลกร้อน วนั รักษ์ส่ิงแวดล้อม แห่เทียน พรรษา ตามรอยคนดี หรือกิจกรรมท่ีองคก์ รในทอ้ งถิ่นจดั ข้ึน เป็นตน้ สาหรบั การประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคน์ ้นั สถานศกึ ษาควรจดั ให้มีการประเมนิ เป็น ระยะๆ โดยอาจประเมินผลเป็ นรายสัปดาห์ รายเดือน รายภาค รายปี ดว้ ย เพื่อให้มีการส่ังสมและการ พฒั นาอยา่ งต่อเน่ือง โดยเฉพาะการนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั และประเมินผลสรุปเมื่อจบปี สุดทา้ ยของแต่ ละระดบั การศกึ ษา ประชุมช้ีแจงแนวทาง คณะกรรมการพฒั นาและ การประเมนิ การเก็บรวบรวม ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ การรายงานความกา้ วหนา้ การรายงานผล และสรุปผล ประสงค์ ส่งเสริม/ ประเมิน บนั ทกึ วิเคราะห์ แปลผล ครูผูส้ อน พฒั นาผเู้ รียน และรายงานผลการประเมิน ครูท่ปี รึกษา ครูประจาช้นั ตอ่ ผเู้ ก่ียวขอ้ ง หรือผทู้ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย ไม่ผา่ นเกณฑ์ - เกบ็ รวบรวม ทะเบยี น-วดั ผล - ประมวลผล - สรุปผล - บนั ทกึ ขอ้ มูลใน ปพ.1 นาขอ้ มลู ท่ไี ดม้ าวางแผน คณะกรรมการ แผนภาพท่ี ๓.๓ แสดงข้นั ตอนการดาเนินการวดั และประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของสถานศึกษา

44 แนวดาเนนิ การพฒั นาและประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สถานศกึ ษาควรดาเนินการพฒั นาและประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคเ์ ป็นข้นั ตอนทีช่ ดั เจน สามารถตรวจสอบกลบั การดาเนินงานได้ แผนภูมทิ ่ี ๓.๒ แสดงข้นั ตอนการดาเนินการวดั และประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคท์ สี่ ถานศึกษาสามารถนาไปปรับใชต้ ามบริบทของสถานศกึ ษา โดย ๑) แต่งต้งั คณะกรรมการการพฒั นาและประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของสถานศกึ ษา เพอ่ื ๑.๑ กาหนดแนวทางในการพัฒนาและแนวทางการประเมิน เกณฑ์การประเมิน และ แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ขปรบั พฤติกรรม ๑.๒ พิจารณาตดั สินผลการประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคร์ ายปี (ระดบั ประถมศึกษา) รายภาค (ระดบั มธั ยมศกึ ษา) และจบการศึกษาแตล่ ะระดบั ๑.๓ จดั ระบบการปรับปรุงแกไ้ ขปรับพฤติกรรมดว้ ยวิธีการอนั เหมาะสมและส่งต่อขอ้ มูล เพอ่ื การพฒั นาอยา่ งต่อเนื่อง ๒) พิจารณานิยามหรือความหมายของคุณลกั ษณะแต่ละตวั พร้อมท้งั กาหนดตวั ช้ีวดั หรือ พฤติกรรมบ่งช้ีหรือพฤติกรรมท่ีแสดงออกของคุณลักษณะแต่ละตวั และหากสถานศึกษาไดก้ าหนด คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคเ์ พ่ิมเติม สถานศกึ ษาตอ้ งจดั ทานิยาม พร้อมท้งั ตวั ช้ีวดั เพิม่ เติมดว้ ย ๓) กาหนดเกณฑ์และแนวทางการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ให้สอดคล้องกับ บริบทและจุดเนน้ ของสถานศึกษา กาหนดระดบั คุณภาพ หรือเกณฑ์ในการประเมินตามท่ีหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานกาหนดไว้ ๓ ระดับ คือ ดีเยี่ยม ดี และ ผ่าน กาหนดประเด็นการ ประเมินให้สอดคลอ้ งกบั ตวั ช้ีวดั คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๔) เลือกใชว้ ิธีการวเิ คราะห์ขอ้ มูลท่ีไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน ไดแ้ ก่ ค่าฐานนิยม (Mode) แลว้ ตดั สิน ผลตามเกณฑ์ที่กาหนดไว้ นาผลการตัดสินให้คณะกรรมการพฒั นาและประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ พจิ ารณาเพ่อื ดาเนินการส่งเสริม พฒั นาต่อไป ๕) ให้ครูผูส้ อนแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้และผูท้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมายรับผดิ ชอบการพฒั นาและ ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แนวทางการพฒั นาท่ีนาเสนอในแต่ละรูปแบบต่อไปน้ี สถานศึกษาสามารถเลือกนาไปใช้ได้ ตามความเหมาะสม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook