โครงการโรคความดันโลหิตสูง ซูอาดา หวันบวช แก้

1 รายงานการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ชุมชนหมทู่ ี่7บา้ นป่ าแกอ่ อก ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลงุ นางสาวซูอาดา หวนั บวช รหสั ประจาตวั นกั ศึกษา 611250007 รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ าโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูงปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ท่ี 2 รุ่นท่ี 15 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา

2 คำนำ รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ าโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ ของนกั ศึกษา หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง สาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ วิทยาลยั การ สาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา โดยการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพคร้ังน้ี นกั ศึกษาไดฝ้ ึก ประสบการณ์ในพ้นื ที่ ชุมชนหมู่ที่ 7 ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ เป็นการ การศึกษาชุมชนในดา้ นตา่ ง ๆ มีการเก็บรวบรวมขอ้ มูลจากชุมชน โดยการสัมภาษณ์ สังเกต และ จากขอ้ มลู ทุติยภูมิเพื่อใหท้ ราบ และเขา้ ใจถึงวถิ ีของคนในชุมชน และมองเห็นสภาพปัญหาต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนภายในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาดา้ นฉุกเฉินการแพทย์ และนาไปสู่การวางแผนพฒั นา แกไ้ ขปัญหาชุมชนไดอ้ ยา่ งตรงจุด และสอดคลอ้ งกบั วถิ ีชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน อนั นาไปสู่การมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตท่ีดีภายในชุมชน ซ่ึงทาใหเ้ กิดการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื เพ่ือ เตรียมความพร้อมสู่การฝึกประสบการณ์จริง และเป็นบุคลากรทางดา้ นสาธารณสุขตอ่ ไป ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งย่ิงวา่ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ในเลม่ รายงานฉบบั น้ีจะสามารถนาไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ และเป็นแนวทางในการพฒั นา แกป้ ัญหาในดา้ นต่าง ๆ ของชุมชน และเพ่อื เป็นแนวทางในการศึกษาต่อไป ผจู้ ดั ทา นางสาวซูอาดา หวนั บวช 5 เมษายน 2563

3 กติ ตกิ รรมประกำศ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพในคร้ังน้ี นกั ศึกษาหลกั สูตรประกาศนียบตั ร วิชาชีพช้นั สูง ปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 วิทยาลยั การสาธารณสุขสิริธร จงั หวดั ยะลา ไดท้ าการศึกษาในพ้ืนท่ีของตนเอง โดยการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพคร้ังน้ี นกั ศึกษาไดฝ้ ึกประสบการณ์ในพ้ืนที่ ชุมชนหม่ทู ี่ 7 ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุงไดส้ าเร็จลุลว่ งไปดว้ ยดี โดยไดร้ ับความกรุณาจากบคุ คลหลายทา่ น ทางกลุ่มนกั ศึกษารู้สึก ซาบซ้ึงในความกรุณาท่ีมีใหจ้ ึงใคร่ขอขอบพระคุณเป็นอยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสน้ี ขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ภคั ณฐั วรี ขจร ท่ีไดใ้ หค้ าแนะนา ท่ีไดป้ ระสิทธ์ิ ประสาทวชิ า ก่อใหเ้ กิดความรู้ในการฝึกปฏิบตั ิงาน จนสามารถปฏิบตั ิงานไดเ้ ป็นอยา่ งดี ขอขอบพระคุณเจา้ หนา้ ท่ีอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมบู่ า้ นในชุมชนหม่ทู ่ี 7 บา้ นป่ าแก่ออก ท่ีคอยใหค้ วามช่วยเหลือ แนะนา ใหค้ าปรึกษา และใหค้ วามช่วยเหลือ ตลอดการ ฝึกปฏิบตั ิงานในคร้ังน้ี ขอขอบพระคุณชาวบา้ นชุมชน หมู่ที่ 7 ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง ที่ใหข้ อ้ มลู ในการศึกษาคร้ังน้ี และเขา้ มามีส่วนร่วมในการดาเนินโครงการในทกุ กิจกรรม ท่ีนกั ศึกษาจดั ข้ึนและสาเร็จลลุ ่วงไปไดด้ ว้ ยดี สุดทา้ ยน้ี นกั ศึกษาขอขอบพระคุณทกุ ท่านท่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ ง ทาใหก้ ารฝึก โครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพในคร้ังน้ี ประสบความสาเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี

สำรบัญ 4 เร่ือง หนา้ คานา 2 กิตติกรรมประกาศ 3 สารบญั 4-5 บทท่ี 1 บทนา 6-7 1.1ความเป็นมาและความสาคญั ของการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 6 1.2 วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั 7 1.3 กระบวนการเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 7 บทที่ 2 บริบทชุมชน 8-17 2.1 เเผนท่ีเดินดิน 9 2.2 ผงั เครือญาติ 10-12 2.3 โครงสร้างองคก์ รชุมชน 13 2.4 ระบบสุขภาพชุมชน 14 2.5 ปฏิทินชุมชน 15 2.6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชน 16 2.7 ประวตั ิบคุ คลท่ีน่าสนใจ 16-17 บทที่ 3 การวินิจฉยั ชุมชน 18-30 3.1 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู 19-29 3.2 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล 29

5 สารบญั ( ตอ่ ) หนา้ เร่ือง 29 29-30 3.3 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล 30 3.4 การวเิ คราะหส์ าเหตุของปัญหา 31-48 3.5 ปัญหาและการจดั ลาดบั ของปัญหา 31-40 บทท่ี 4 แผนงาน/โครงการ 41-46 4.1 แผนงาน/โครงการ 46-48 4.2 ระดบั ความพงึ พอใจตอ่ โครงการ 47-51 4.3 สรุปผลการดาเนินโครงการ 49 บทท่ี 5 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 50 5.1 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 50-51 5.2 อภิปรายผล 52 5.3 ขอ้ เสนอแนะการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 53-54 ภาคผนวก 55-61 ภาคผนวก ก ภาพทากิจกรรมโครงการ ลดเสี่ยง หลีกเล่ียงความดนั โลหิตสูง 62-63 ภาคผนวก ข แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน 64-65 ภาคผนวก ค แบบทดสอบความรู้เรื่องความดนั โลหิตสูง 66 ภาคผนวก ง แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ ร่วมโครงการ 67 ภาคผนวก จ แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการ บรรณานุกรม

6 บทท่ี 1 ส่ วนนำโครงกำร 1.1ควำมเป็ นมำและควำมสำคญั ของกำรฝึ กโครงกำรพฒั นำทักษะวชิ ำชีพ ปัจจุบนั โรคไม่ติดต่อเป็นปัญหาสาคญั ระดบั โลก ซ่ึงส่งผลคุกคามตอ่ สุขภาพของ ประชาชนและการพฒั นาประเทศจากรายงานองคอ์ นามยั โลกจะมีผเู้ สียชีวิตจากโรคไมต่ ิดต่อ ประมาณ 36 ลา้ นคน (ร้อยละ 63) โดยประมาณร้อยละ 44 เสียชีวิต ก่อนอายุ 70 ปี สาหรับ ประเทศไทยถึงแมจ้ ะมีแผนงานที่ดาเนินการเก่ียวกบั โรคไมต่ ิดต่อท่ีสาคญั คือ โรคเบาหวาน, โรค ความดนั โลหิตสูง, โรคหวั ใจ, โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง แต่การจดั การโรคไมต่ ิดตอ่ ยงั ไมไ่ ดผ้ ลเทา่ ท่ีควรมีแนวโนม้ เพิ่มข้ึนเปรียบเทียบปี พ.ศ.2557– 2561 เทา่ กบั ร้อยละ 22.47, 23.45, 26.71 และ 27.73 ตามลาดบั เพราะเป็นโรคท่ีเก่ียวกบั พฤติกรรมอนามยั ส่วนบุคคลไม่ ถกู ตอ้ งปัญหาความเครียดเช่น ฐานะทางเศรษฐกิจไมด่ ี ทาใหร้ ายรับไมพ่ อกบั รายจ่าย มีปัญหา ครอบครัว ปัญหาส่วนตวั และปัญหาในการทางาน เป็นตน้ ซ่ึงเมื่อป่ วยเป็นโรคน้ีไมส่ ามารถ รักษาใหห้ ายขาดได้ แตส่ ามารถควบคุมและป้องกนั ได้ ถา้ มีการปฏิบตั ิตวั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและยงั เป็นสาเหตุทาใหเ้ กิดความผิดปกติของอวยั วะท่ีสาคญั เช่น หวั ใจ, ไต, ประสาทตา ซ่ึงส่งผลทาให้ เกิดโรคกบั บุคคลในครอบครัว วติ ก กงั วล และรับภาระการดูแลผปู้ ่ วย ผลกระทบต่อชุมชนใน กรณีท่ีมีผปู้ ่ วย พกิ าร ทาใหช้ ุมชนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศดว้ ย จากการปฏิบตั ิงาน ของอาสาสมคั รสาธารณสุข พบวา่ มีกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคเร้ือรังดงั กลา่ ว จานวน112 คน จาก ประชากรในชุมชน จานวน 337 สาเหตเุ กิดจากกรรมพนั ธุ์และพฤติกรรมของประชาชน ประกอบกบั ระบบการป้องกนั ดูแลเชิงรุกของอาสาสมคั รสาธารณสุข ยงั ไมม่ ีประสิทธิภาพ เท่าท่ีควร เนื่องจากเครื่องมือที่ช่วยในการคดั กรองหรือทางานในการควบคุมโรคไม่เพียงพอ ทาง อาสาสมคั รสาธารณสุข หมู่ที่ 7 บา้ นป่ าแก่ออก ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลุง จึงจดั ทา โครงการการป้องกนั ควบคุม รักษาและการเฝ้าระวงั โรคไมต่ ิดตอ่ (ความดนั โลหิตสูง)

7 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงท่ีถูกวธิ ีและ เหมาะสม 1.2.2 เพื่อใหป้ ระชาชนหนั มาสนใจและใหค้ วามสาคญั กบั ปัญหาเรื่องการควบคุมความดนั โลหิต สูง 1.2.3 เพื่อใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการเขา้ ร่วมโครงการ 1.3 กระบวนกำรเตรียมฝึ กโครงกำรพฒั นำทกั ษะวิชำชีพ 1.3.1 กรอบแนวคิดกำรฝึ กโครงกำรพฒั นำทักษะวิชำชีพ การฝึ กโครงการพัฒนาทกั ษะวิชาชีพ อ ปัญหาด้านสขุ ภาพด้านในชุมชนหมทู่ ่ี 7 ต.คลองเฉลมิ อ.กงหรา จ.พทั ลุง ภำพท่ี 1.1 กรอบแนวคดิ กำรเตรียมฝึ กโครงกำรพฒั นำทักษะวชิ ำชีพ

8 บทท่ี 2 บริบทชุมชน เครื่องมือ 7 ชิ้น เครื่องมือ 7 ชิ้น เป็นเครื่องมือที่ใชใ้ นการเขา้ ถึงพ้ืนท่ีของชุมชน และบง่ บอกถึง ความสาคญั ของกลุม่ ผคู้ นวา่ มีความผกู พนั ธุใ์ นวงศส์ กลุ เดียวกนั สามารถช่วยแนะนาปัญหา บางอยา่ งของครอบครัวที่สามารถเกิดข้ึนไดแ้ ละยงั ทาใหร้ ู้จกั กลุม่ งานตา่ งๆในชุมชนเขา้ หา ชุมชนไดง้ ่ายข้ึน ไดเ้ รียนรู้การรักษาตนเองของคนในชุมชน เขา้ ใจวถิ ีชีวิตของคนในชุมชนและท่ี สาคญั เป็นเคร่ืองมือที่ใชเ้ ป็นใบเบิกทางเพอื่ การกลมกลืนเขา้ กบั ชุมชนน้นั

9 1.แผนทเี่ ดนิ ดิน เครื่องมือเป็นในการศึกษาชุมชนดว้ ยวิธีการเดินสารวจดว้ ยตาและมีการจดบนั ทึกส่ิงแวดลอ้ มที่ สงั เกตพบท้งั ในมิติกายภาพ และชีวภาพเพือ่ สร้างภาพใหเ้ กิดความเขา้ ใจตอ่ ความหมายทางสังคม (Social meaning) และหนา้ ท่ีทางสังคมของสถาบนั ต่างๆในชุมชน ประโยชน์ของ “แผนทเ่ี ดินดนิ ” 1) ทาใหเ้ ห็นภาพรวมของชุมชนไดอ้ ยา่ งครบถว้ นที่สุด 2) ไดข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั สภาพความเป็นอยจู่ านวนมากในระยะเวลาที่ส้นั ท่ีสุด 3) ขอ้ มลู มีความน่าเชื่อถือมากท่ีสุด เพราะไดม้ าจากการสงั เกตดว้ ยตวั เอง 4) ท าใหเ้ ห็นกลุ่มเป้าหมายที่จะทางานตอ่ ไดอ้ ยา่ งครอบคลุมทวั่ ถึง 5) ช่วยในการเริ่มตน้ ความสัมพนั ธแ์ ละสร้างความคุน้ เคยกบั สมาชิกในชุมชนไดเ้ ป็นอยา่ งดี

10 2.ผงั เครือญำติ เป็นเครื่องมือหน่ึงในการถอดความสมั พนั ธข์ องระบบเครือญาติในชุมชนที่เกิดข้ึนของ คนในชุมชนท้งั โดยสายเลือดและจากการแต่งงานเพือ่ ใหร้ ู้จกั เครือขา่ ยทางสงั คม (Social Network) การใชผ้ งั เครือญาติจะมีความสาคญั ต่อการทาความเขา้ ใจชุมชนและสังคมเพราะเครือ ญาติเป็นความสมั พนั ธ์ท่ีเป็นพ้ืนฐานของชีวติ และครอบครัวและจะมีความเกี่ยวขอ้ งกนั ไปตลอด ชีวติ และสามารถทาใหผ้ ศู้ ึกษาสร้างความคุน้ เคยกบั คนในชุมชนไดอ้ ยา่ งรวดเร็วโดยการรู้จกั และ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ของระบบเครือญาติในชุมชน เป้ำหมำยสำคญั ของผงั เครือญำติ 1.เขา้ ใจโครงสร้างความสมั พนั ธ์เชิงเครือญาติซ่ึงเป็นรากฐานของครอบครัวและชุมชน 2.รู้จกั ตวั บคุ คลและความสมั พนั ธท์ างสงั คมของเขาไดใ้ นระยะเวลาอนั ส้นั 3.ช่วยสร้างความสัมพนั ธแ์ ละความสนิทคุน้ เคยระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ีกบั ชาวบา้ นไดอ้ ยา่ ง รวดเร็ว 4. ทาใหท้ ราบเก่ียวกบั สุขภาพหรือโรคติดต่อของคนในครอบครัว เพื่อป้องกนั และแกไ้ ข ปัญหาสุขภาพน้นั ๆ สัญลกั ษณ์แทนในผังเครือญำติ สญั ลกั ษณ์แทนบิดามารดาท่ีเสียชีวิตแลว้ สญั ลกั ษณ์แทนผชู้ าย

11 สัญลกั ษณ์แทนผหู้ ญิง สัญลกั ษณ์แทนการแต่งงาน ประโยชน์ของ “ผงั เครือญำติ” 1. ช่วยใหเ้ ขา้ ใจโครงสร้างความสัมพนั ธเ์ ชิงเครือญาติ ที่แมจ้ ะมีความซบั ซอ้ น หลาย ตระกลู หลายรุ่นกย็ งั สามารถสืบสาวเชื่อมโยงกนั เป็นแผนผงั ที่เขา้ ใจงา่ ย 2. ทาใหค้ วามรู้และขอ้ มลู เกี่ยวกบั ความสมั พนั ธ์เครือญาติสามารถถา่ ยทอดและเรียนรู้กนั ไดผ้ า่ นรูปแบบสัญลกั ษณ์ง่ายๆ 3. ใชว้ ิเคราะหค์ วามสัมพนั ธต์ ่างๆ ไม่วา่ จะเก่ียวกบั พฤติกรรมสุขภาพ และโรคทาง พนั ธุกรรมเก่ียวกบั เครือข่ายทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองท้งั ในระดบั ชาติและระดบั ทอ้ งถิ่น 4. ช่วยสร้างความสัมพนั ธอ์ นั ดีและความสนิทสนมคุน้ เคยระหวา่ งเจา้ หนา้ ท่ีกบั ชาวบา้ น ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว

นำยนุห์ หมุนนุ้ย นายสุทศั น์ ขานุรักษ์ นายหมดั หมุนนุย้ นายมา้ ห นางบาส้ีหยะ้ ขานุรักษ์ นางโตน หมนุ นุย้ นางจริย นางอุษา หมนุ นุย้ นางลิ่ม หมนุ นุย้ นางสาว รัตติกาล นางปิ ยวรรณ ขานุรักษ์ นางสิรินทรา ขานุรักษ์ นายวสันต์ ขานุรักษ์ นายอนุรักษ

12 ย/นำงก้อ หมนุ นุ้ย หมูด คงอ่อน นายเบส หมนุ นุย้ นายไสลหมาน หวนั บวช ยา คงออ่ น นางศิลน์ หมุนนุย้ นางวนั ดี หวนั บวช ล คงอ่อน ดช. สุธีร์ คงอ่อน นางสาวซูอาดา หวนั บวช นายกาบีด หวนั บวช ษ์ ขานุรักษ์ นายอดั ดา้ หรี่ ขานุรักษ์

3. โครงสร นายแอร์ สะแหละ ผูแ้ ทน นายฉอ น่มุ อยู่ ชาวบ้าน นายยะหห์ ยา หมนุ นยุ้ ทมี ผ้ชู ว่ ย ผ นายฉอ นมุ่ อยู่ ผู้ใหญ่บ้าน นายกอ่ นายสนิท พลนยุ้ ผู้นา นายดนี สะแหละ

ร้ำงองค์กรชุมชน 13 กองทุน นาย ยะหยา หมนุ นยุ้ นางหนาบ แนะนวน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อเด็ม แนะนวน สนทิ พลนยุ้ าศาสนา นายสทุ ศั น์ ขานรุ กั ษ์ นายนอ้ ย แนะนวน นายไสลหมาน หวนั บวช

14 4.ระบบสุขภำพชุมชน สุขภาพ มีความหมายกวา้ ง เช่ือมโยงกาย ใจ สังคมและส่ิงแวดลอ้ ม จิตวญิ ญาณ สุขภาพเป็นผลกระทบจากสงั คม และ ส่งผลกระทบตอ่ ความอยดู่ ี (well-being) ดว้ ย การศึกษาระบบสุขภาพ สะทอ้ นมิติชุมชนดา้ นอ่ืนๆ ระบบวิธีคิด โลกทศั น์ หรือจกั รวาลวิทยา ของทอ้ งถ่ิน เพราะเม่ือเผชิญวิกฤติดา้ นสุขภาพ มกั ท าใหม้ นุษยต์ อ้ งอาศยั คาอธิบายหรือคาตอบที่ มีรากฐานจากวิธีคิดและโลกทศั น์ในวฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน • เห็น ‘โลกสุขภาพ’ ของชาวบา้ น • เห็นความหลากหลายของวฒั นธรรมสุขภาพที่ดารงอยู่ • เขา้ ใจวฒั นธรรมความเช่ือวิธีปฏิบตั ิและพฤติกรรมที่เก่ียวขอ้ งกบั สุขภาพของทอ้ งถิ่น • เห็นปัญหา ศกั ยภาพ และทนุ ทางสงั คมดา้ นสุขภาพของชุมชน • เป็นเครื่องมือสาคญั ในการทาใหช้ ุมชนเห็นคุณค่าของวฒั นธรรมและภมู ิปัญญาทอ้ งถิ่น ตน 1. สถานพยาบาล ไดแ้ ก่ รพ.กงหรา 2. ยา ไดแ้ ก่ -แผนโบราญ เช่น ยาผบี อก ขมิน้ ชนั หวา่ นเหงือกปลาหมอ -แผนปัจจุบนั เช่น พาราเซตตาม่อน ยาธาตนุ ้าแดง ยาแกป้ วด 3. ความเช่ือ ไดแ้ ก่ - ผี เช่น ผีตายาย ผีเจา้ ท่ี -หมอพ้ืนบา้ น เช่น หมอน้ามนต์ หมดจบั เส้น หมอดู 4. อาหาร ไดแ้ ก่ - ของป่ า เช่น หมอ่ ไม้ ผกั เห็ด ผลไม้ -เกษตรครัวเรือน เช่น -ผกั ผกั บงุ่ ผกั กาด ถว่ั ฝักยาว แตงกวา -ผลไม้ เงาะ ทุเรียน ลองกอง กลว้ ย มงั คุด สม้ โอ -สัตว์ ไก่ ปลา กุง้ ววั

15 5.ปฏทิ นิ ชุมชน คือตารางกิจกรรมที่เกิดข้ึนในชุมชนในแตล่ ะช่วงเวลา ซ่ึงรวบรวมเหตุการณ์และปรากฏการณ์ ในชีวิตประจาวนั ของชุมชนในรอบปี รอบเดือน หรือช่วงระยะเวลาหน่ึง ประโยชน์ • ทาใหเ้ ขา้ ใจแบบแผนกิจกรรม เหตกุ ารณ์ ของชุมชนท่ีเกิดข้ึน และสามารถเขา้ ไปมีส่วน ร่วมอยา่ งเหมาะสม • ทาใหเ้ ห็นถึงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งกิจกรรมหรือเหตุการณ์ต่างๆท่ีเกิดข้ึนในชุมชน • ทาใหส้ ามารถวางแผนการท างานกบั ชุมชนไดด้ ีข้ึน 1. ทุกวนั ศุกร์ มีการละหมาดร่วมกนั ท่ีมสั ยดิ 2. ทุกวนั เสาร์อาทิตย์ (เที่ยง) มีการเรียนการสอนศาสนาใหผ้ ทู้ ี่ความสนใจ โดยผนู้ า ศาสนา 3. ทกุ วนั เสาร์ อาทิตย์ (เยน็ ) มีการร่วมกนั ทาความสะอาดรอบๆมสั ยดิ และหมู่บา้ น 4. วนั ศกุ ร์สุดทา้ ยของเดือน จะมีการประชุมหมู่บา้ น ปรึกษาหารือเกี่ยวกบั ปัญหา ของชุมชน 5. ทกุ ปี จมีกิจกรรมเขา้ สุนตั (เด็กผชู้ ายในหมู่บา้ น) 6. ทกุ ปี จะมีงานมสั ยดิ ประจาหม่บู า้ น 7. 24-26 เมษายน กาหนดการเริ่มถือศีลอด 8. 24-25 พฤษภาคม กาหนดวนั อีดิลฟิ ตรี 9. 26 สิงหาคม วนั อีดิลอตั ฮา

16 6.ประวัตศิ ำสตร์ชุมชน เรื่องราวเกี่ยวกบั เหตุการณ์ที่ผา่ นมาของชุมชนในช่วงเวลาหน่ึง บอกเล่าจากมมุ มองของ ชุมชนเองอาจแตกต่างจากที่รัฐหรือนกั วิชาการเขียนผสมผสานขอ้ เทจ็ จริง จินตนาการ และความ ทรงจาของทอ้ งถิ่น ถูกสืบทอดผา่ นเร่ืองเลา่ ตานาน สถานที่บนั ทึก ขนบแบบแผนการปฏิบตั ิ ต่างๆของชุมชนสาคญั ตอ่ อตั ลกั ษณ์ ความนึกคิด ทศั นะ ทา่ ทีของชุมชน (อาจกล่าวไดว้ า่ ชุมชน เป็นผลผลิตของประวตั ิศาสตร์) ประโยชน์จำกกำรศึกษำประวัติศำสตร์ชุมชน 1.การศึกษาประวตั ิศาสตร์ชุมชนเหมือนกบั การไดเ้ ขา้ ใจคนคนหน่ึงวา่ เขามีความเป็นมาอยา่ งไร 2.ช่วยลดอคติหรือภาพลกั ษณ์แบบเหมารวม เช่นเขา้ ใจสาเหตทุ ่ีชุมชนไม่เขา้ ร่วมกิจกรรม 3.ทาใหเ้ ราสามารถเลือกวิธีการท างานกบั ชุมชนใหส้ อดคลอ้ งกบั ประสบการณ์ ความคาดหวงั และศกั ยภาพของชุมชนไดด้ ีข้ึน หม่บู า้ น บา้ นป่ าแก่ มีคาเล่าลือตอ่ กนั วา่ ในอดีตหม่บู า้ นน้ีเตม็ ไปดว้ ยป่ าไมข้ นาดใหญ่ อายุ หลายปี ส่วนใหญ่จะไมม่ ีบา้ นคน ถา้ จะมีก็นอ้ ยมาก และหมู่บา้ นน้ีเตม็ ไปดว้ ยความน่ากลวั สตั ว์ ป่ า โจร ถา้ ไมจ่ าเป็นจริงๆแลว้ จะไมม่ ีผคู้ นเขา้ มาในหมู่บา้ นน้ีเลย แตใ่ นปัจจุบนั น้ีตน้ ไมอ้ ายหุ ลายๆปี กส็ ูญหานไป เพราะเร่ิมมีบา้ นคนมากข้ึน สตั วป์ ่ ากเ็ ร่ิม สูญพนั ธแ์ ละหายไปในท่ีสุด

17 7.ประวัตศิ ำสตร์บุคคลท่ีน่ำสนใจ เรื่องราวของบุคคลที่ใหร้ ายละเอียดเก่ียวกบั ประสบการณ์ชีวิตท่ีผา่ นมาเป็น เรื่องราว ท่ีมี มากกวา่ ขอ้ มูลหรือขอ้ เท็จจริงเช่นวนั เดือนปี เกิด การศึกษา การทางาน ประโยชน์ของประวตั ชิ ีวติ • ช่วยใหเ้ ราเห็นวา่ ค่านิยมและวฒั นธรรมทอ้ งถิ่นซ่ึงเป็นเร่ืองนามธรรมน้นั มีรูปธรรมการ แสดงออกเป็นอยา่ งไร ค่านิยมหรือวฒั นธรรมเร่ืองใดมีความสาคญั และมผี ลอยา่ งเป็น รูปธรรมตอ่ ชีวิตของผคู้ นอยา่ งไร นำยไสลหมำน หวันบวช • เกิดเม่ือวนั ที่ 25 กนั ยายน พ.ศ.2511 • ปัจจุบนั อายุ 50 ปี • สัญชาติ ไทย • นบั ถือศาสนา อิสลาม • มีพ่ีนอ้ งท้งั หมด 5 คน เป็นคนท่ี3 เดิมอาศยั อยหู่ มบู่ า้ นควนอินโนโม ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พทั ลุง ไดแ้ ต่งงานกบั นางวนั ดี หวนั บวช เมื่อแตง่ งานแลว้ ไดย้ า้ ยมาอยหู่ มู่7 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลุง 1. ประวตั ิการศึกษา ป.1-ป.6 เรียนโรงเรียนวดั ยางทอง (นครศรีธรรมราช) 2. ประวตั ิการศึกษา ม.1-ม.3 โรงเรียนบา้ นควนอินโนโม 3. ประวตั ิการศึกษา ม.4-ม.6 โรงเรียนมุสลิมวิทยา 4. ประวตั ิการศึกษาระดบั ปริญญาตรี มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช ปัจจุบนั เป็นครูสอนศาสนาโรงเรียนธรรมศาสตร์วิทยา(ปอเนาะลาดกวาง) และเป็นครูสอน ศาสนาทกุ ๆวนั เสาร์-อาทิตย์ และตอนกลางคืนจะสอนอลั กรุอานและกีตาบใหก้ บั เด็กหรือผใู้ หญ่ ที่สนใจในเรื่องอิสลาม

18 บทท่ี 3 กำรวนิ ิจฉัยชุมชน การศึกษาชุมชนหมู่ท่ี 7ตาบล คลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง ในคร้ังน้ีเป็นการศึกษา ในรูปแบบ การสารวจ สงั เกต การสัมภาษณ์ ซ่ึงมีข้นั ตอนในการวินิจฉัยชุมชนมี ดงั น้ี 3.1 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3.2 การวิเคราะหข์ อ้ มูล 3.3 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู 3.4 ปัญหา และการจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา 3.5 การวิเคราะห์สาเหตขุ องปัญหา 3.1 กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.1.1 การรวบรวมขอ้ มลู ปฐมภูมิ เป็นการเกบ็ ขอ้ มูลเพิ่มเติมจากแหล่งทุติยภูมิ ซ่ึงขอ้ มลู ดงั กล่าว มีความสาคญั มาก เพราะช่วยใหม้ องเห็นสภาพปัญหาในชุมชนชดั เจนข้ึน และขอ้ มูลท่ีไดเ้ ป็น ขอ้ มูลปัจจุบนั มากท่ีสุด วิธีการเก็บรวมรวบขอ้ มูลปฐมภมู ิประกอบดว้ ย 3.1.1.1 การสังเกต เป็นการสังเกตสภาพทว่ั ไปของชุมชนและพฤติกรรมต่าง ๆ ของประชาชน ในชุมชนโดยท่ีผถู้ กู สงั เกตไม่รู้ตวั เพ่อื นาขอ้ มูลมาสนบั สนุนในการวิเคราะห์ปัญหา 3.1.1.2 การสัมภาษณ์ เป็นการสัมภาษณ์จากแบบสอบถามท่ีเตรียมคาถามต่าง ๆ ไวพ้ ร้อม แลว้ และจดั พมิ พไ์ วเ้ ป็นแบบฟอร์มเดียวกนั สาหรับใชก้ บั ผถู้ ูกสมั ภาษณ์ทุกคน โดยคาถามจะเป็นท้งั คาถามแบบปลายปิ ดและแบบปลายเปิ ด เพอ่ื เปิ ดโอกาสใหผ้ ถู้ กู สมั ภาษณ์แสดงความคิดเห็น 3.1.2 การรวบรวมขอ้ มูลทุติยภูมิ เป็นการรวบรวมขอ้ มูลทตุ ิยภมู ิหรือขอ้ มูลท่ีรวบรวมไวท้ ่ี องคก์ รในหมบู่ า้ น ซ่ึงขอ้ มลู ดงั กลา่ วน้นั ทาให้ทราบวา่ ควรหาขอ้ มลู ดา้ นใดเพิ่มเติม เพอ่ื นามาใช้ ในการสนบั สนุนในกระบวนการวเิ คราะหป์ ัญหา การเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยใชแ้ บบสอบถามแบ่งออกเป็น 5 ตอน ดงั น้ี

19 ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทวั่ ไป ตอนท่ี 2 ขอ้ มูลความรู้เกี่ยวกบั โรคความดนั โลหิตสูง ตอนที่ 3 ขอ้ มูลดา้ นสุขภาพในชุมชน ตอนท่ี 4 ขอ้ มลู ความรู้เกี่ยวกบั โรค ตอนท่ี 5 ขอ้ มลู ความรู้เกี่ยวกบั การดูแลสุขภาพเบ้ืองตน้ 3.2 กำรวิเครำะห์ข้อมูล ขอ้ มูลท่ีไดจ้ าการรวบรวมน้นั จะนามาวเิ คราะห์ตามข้นั ตอนการวิเคราะหข์ อ้ มูล ดงั น้ี 3.2.1 บรรณาธิการขอ้ มลู ดิบเป็นการตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความสมบูรณ์ของขอ้ มูล 3.2.2 การแจกแจงความถ่ี โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปแลว้ นามาวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในรูปแบบร้อยละ และนาเสนอในรูปแบบก่ึงบทความ ก่ึงตารางเพือ่ ความสะดวก การเปรียบเทียบขอ้ มูลสาหรับ ขอ้ มลู เชิง ปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มูลเชิงคุณภาพ นาเสนอในรูปแบบบทความ เพ่ือความเขา้ ใจ 3.3 ผลกำรวิเครำะห์ข้อมูล จากการศึกษาชุมชนหมู่ท่ี 7ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง จานวนครัวเรือน โดยประมาณ 10 หลงั คาเรือน ไดร้ วบรวมขอ้ มูลจากรายงานตา่ ง ๆ จากสานกั งานกระทรวง สาธารณสุข จงั หวดั ยะลาและอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมูบ่ า้ นในชุมชน ซ่ึงจะนาเสนอ ตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มูลทว่ั ไป จากการสารวจแบบสอบถามประชาชนในชุมชนหม่ทู ่ี 7ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ ทาใหท้ ราบถึงบริบทของชุมชน และปัญหาดา้ นสุขภาพ

20 ตำรำงท่ี 1 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถำมในด้ำนเพศ N = 10 เพศ จำนวน ร้อยละ ชำย 1 10 หญิง 9 90 รวม 10 100 พบวา่ เป็นสถานภาพ1 ทว่ั ไปของจากตารางที่ ผตู้ อบแบบสอบถามเพศหญิงร้อยละ 90ผตู้ อบ แบบสอบถามเพศชายร้อยละ 10 สรุปไดว้ า่ คนในชุมชน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ตำรำงท่ี 2 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถำมในด้ำนอำยุ N = 10 อายุ จำนวน ร้อยละ ต่ำกว่ำ 20 ปี 10 100 20 ปี ขนึ้ ไป 10 100 รวม จากตารางท่ี 2 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอายสุ ่วนใหญ่อยใู่ นช่วง20ปี ข้ึนไปร้อยละ 100

21 ตำรำงที่ 3 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพทว่ั ไปของผ้ตู อบแบบสอบถำมในด้ำนสถำนะภำพ N = 10 สถานภาพ จำนวน ร้อยละ โสด 10 100 สมรส หย่ำ หม้ำยเนื่องจำกคู่สมรสเสียชีวิต แยกกนั อยู่ รวม 10 100 จากตารางที่ 3 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามดา้ นสถานภาพโสด ร้อยละ 100 สรุปไดว้ า่ ประชากร ในชุมชนส่วนใหญท่ ี่ทาแบบสอบถามมีสถานโสด ตำรำงท่ี 4 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถำมในด้ำนระดบั กำรศึกษำ สูงสุด N = 10 ระดับกำรศึกษำสูงสุด จำนวน ร้อยละ ไม่ได้เรียนหนังสือ 2 20 ประถมศึกษำ 8 80 มธั ยมศึกษำตอนต้น (ม.1-ม.3) 10 100 มัธยมศึกษำตอนปลำย(ม.4-ม.6) ประกำศนียบัตรวิชำชีพช้ันสูง (ปวส.) หรือ เทียบเท่ำ ปริญญำตรี อื่นๆ รวม จากตารางที่ 4 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นการศึกษาระดบั ปริญญาตรีร้อยละ 80 รองลงมาระดบั การศึกษาศึกษา ร้อยละ 20 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญท่ ่ีทา แบบสอบถามมีระดบั การศึกษาปริญญาตรี

22 ตำรำงที่ 5 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพทว่ั ไปของผ้ตู อบแบบสอบถำมในด้ำนอำชีพหลกั ของ ครอบครัว N = 10 อำชีพหลกั ของครอบครัว จำนวน ร้อยละ รับจ้ำงท่วั ไป 1 10 เกษตรกร 1 10 ประมง ข้ำรำชกำร/ลกู จ้ำงหรือพนกั งำน 1 10 ของรัฐ พนกั งำนรัฐวสิ ำหกจิ ค้ำขำย/ธุรกจิ ส่วนตวั 5 50 ว่ำงงำน/ไม่มงี ำนทำ 1 10 อื่นๆ รวม 10 100 จากตารางท่ี 5 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอาชีพหลกั ของครอบครัวคา้ ขายกรมากท่ีสุด ร้อยละ 50 รองลงมาอาชีพรับจา้ งทวั่ ไป อาชีพเกตรกร อาชีพขา้ ราชการ อาชีพอื่นๆอยา่ งละ ร้อย ละ 10 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ท่ีทาแบบสอบถามอาชีพหลกั ของครอบครัวคือ คา้ ขาย ตำรำงที่ 6 แสดงค่ำร้อยละของสถำนภำพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถำมในด้ำนโรคประจำตวั N = 10 โรคประจำตวั จำนวน ร้อยละ ไม่มโี รคประจำตัว 10 100 มโี รคประจำตวั 10 100 รวม จากตารางที่ 6 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นโรคประจาตวั เป็นผูท้ ี่มีไม่มีโรคประจาตวั ร้อย ละ 100 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญท่ ่ีทาแบบสอบถามไมม่ ีโรคประจาตวั

23 ตำรำงท่ี 7 แบบสอบถำมข้อมูลสภำพปัญหำของประชำชนด้ำนเศรษฐกจิ ปัญหำด้ำนเศรษฐกจิ ระดบั ปัญหา รำยได้จำกกำรประกอบอำชีพ มากท่ีสุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยที่สุด 32 1 หลกั ไม่เพยี งพอ 54 41 0 ไม่มีอำชีพเสริม 05 33 0 ก้เู งนิ จำกหนีร้ ะบบเพม่ิ ขนึ้ 1 3 21 6 ครัวเรือนมีรำยได้ไม่เพยี งพอ 0 1 5 02 ในกำรใช้จ่ำย ผลผลติ ทำงกำรเกษตรตกต่ำ/ 1 2 3 10 ขำดทุน กำรว่ำงงำนของคนในชุมชน 2 4 2 00 เพมิ่ ขนึ้ ขำดที่ดินทำกนิ เป็ นของ 3 5 5 13 ตนเอง 3 22 ภัยแล้งซ้ำซำก 0 1 3 33 กำรเล่นกำรพนนั ในชุมชน 0 3 ขำดควำมรู้เกยี่ วกบั เศรษฐกจิ 0 1 พอเพยี ง จากตารางที่ 7 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพปัญหาของประชาชนดา้ นเศรษฐกิจ สรุป ไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.00 และมีคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน อยทู่ ่ี 0.57

24 ตำรำงท่ี 8 แบบสอบถำมข้อมูลสภำพปัญหำของประชำชนด้ำนสังคม ปัญหำด้ำนสังคม ระดับปัญหำ ยำเสพตดิ ระบำดในชุมชน มากที่สุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยที่สุด 32 1 เพมิ่ ขนึ้ 5 4 31 0 กล่มุ คนในชุมชนขำดควำมเข้ำใจ 4 2 ซ่ึงกนั และกนั ทะเลำะเบำะแว้ง กนั คนในชุมชนขำดจิตสำนกึ ในกำร 1 3 4 20 5 10 พฒั นำตนเอง 1 21 1 20 ควำมเหลื่อมลำ้ ทำงสังคมของคน 0 4 4 20 1 10 รวยและคนจนในชุมชน 4 31 2 21 สุขลกั ษณะเช่น ขยะมูลฝอย/ฝ่ ุน 1 5 ละอองมลพษิ ในชุมชนเพม่ิ ขึน้ สุขภำพของคนในชุมชนมกี ำร 1 6 เจบ็ ป่ วยและเกดิ โรคระบำด ขำดสวสั ดิกำรของหมู่บ้ำน 1 3 ควำมเช่ือและประเพณีของ 3 5 หมู่บ้ำนทำให้ขัดแย้งทำงสังคม 0 2 เยำวชนทะเลำะววิ ำทและไม่ได้ 3 2 เรียนต่อ ขำดคนกลำงในกำรแก้ปัญหำ ควำมขดั แย้งของคนในหมู่บ้ำน จากตารางที่ 8 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพปัญหาของประชาชนดา้ นสงั คม สรุปได้ วา่ ปัญหาปัญหาดา้ นสังคม มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 2.00 และมีคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.47

25 ตำรำงท่ี 9 แบบสอบถำมข้อมูลสภำพปัญหำของประชำชนปัญหำด้ำนกำรจดั กำร ทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละสิ่งแวดล้อมและกำรท่องเท่ียว ปัญหำด้ำนกำรจดั กำร ระดบั ปัญหำ ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม และกำรท่องเที่ยว ระบบสำธำรณปู โภคบริโภคของ มากที่สุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยท่ีสุด ชุมชน เช่นประปำไฟฟ้ำไม่เพยี งพอ 5 4 3 2 1 กำรคมนำคมและสัญจรไม่สะดวก 0 1 5 3 1 ขำดควำมรู้ด้ำนสุขลกั ษณะและมีกำร 0 1 5 3 1 ดูแลควำมสะอำดของหมู่บ้ำน ป่ ำเสื่อมโทรมและมีกำรทำลำย 0 5 3 2 1 ทรัพยำกรของชุมชนเพมิ่ ขนึ้ ทรัพยำกรและส่ิงแวดล้อมไม่เอื้อต่อ 1 3 2 4 0 กำรบริหำรจดั กำรท่องเท่ยี ว มีกำรบุกรุกทีด่ ินสำธำรณะเพม่ิ ขนึ้ 0 5 1 2 2 แหล่งท่องเทย่ี วในชุมชนขำดกำร 1 2 2 3 2 ส่งเสริมสนับสนุนและพฒั นำ ประชำชนในชุมชนขำดควำมรู้ในกำร 2 2 2 3 1 บริหำรจดั กำรทรัพยำกรธรรมชำติ และส่ิงแวดล้อมของชุมชน ขำดกำรมีส่วนร่วมในกำรบริหำร 0 4 3 2 1 จัดกำรทรัพยำกรธรรมชำตขิ องคนใน ชุมชน ประชำชนในชุมชนขำดจติ สำนึกใน 0 3 4 2 1 กำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและ สิ่งแวดล้อมของชุมชน จากตารางที่ 9 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มและการทอ่ งเท่ียว สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ

26 สิ่งแวดลอ้ มและการทอ่ งเที่ยว มีค่าเฉล่ียเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.02 และมีค่าเบีย่ งเบนมาตรฐานอยู่ ท่ี 0.63 ตำรำงท่ี 10 แบบสอบถำมข้อมูลสภำพปัญหำของประชำชนด้ำนสุขภำพ ปัญหำด้ำนสุขภำพ มากที่สุด มาก ระดับปัญหำ นอ้ ยท่ีสุด 4 ปานกลาง นอ้ ย 1 5 3 32 1 สำมำรถติดตำมอ่ำนคำแนะนำที่ 2 3 31 0 เกยี่ วกบั กำรป้องกนั ดูแลสุขภำพท้ัง 2 43 0 ในเอกสำรควำมรู้ หรือข้อควำม 53 ข่ำวสำรผ่ำนออนไลน์ได้ สำมำรถเตือนผู้อื่นทม่ี ีพฤติกรรม 0 เส่ียงต่อสุขภำพ เช่น ไม่ให้สูบบหุ รี่ ในทีส่ ำธำรณะ ให้ใช้ผ้ำปิ ดปำกไอ จำม สำมำรถไปพบแพทย์ หรือบุคลำกร 0 สำธำรณสุข หรือผู้ให้บริกำร สุขภำพได้ทกุ เม่ือ ตำมท่ีต้องกำร มีกำรจัดโครงกำรอบรมด้ำน 0 063 1 0 สุขภำพให้กบั คนในชุมชนอยู่เป็ น 1 ประจำ สำมำรถควบคุมกำกบั สุขภำพ 1 342 ตนเอง เช่น ช่ังน้ำหนกั ตรวจ สุขภำพประจำปี คดิ บวก ลดอำหำร ทท่ี ำลำยสุขภำพ ออกกำลงั กำย เสมอ ในรอบ 1 ปี สมำชิกในครอบครัวมอี ำกำรเจ็บป่ วยด้วยอำกำร/โรค เจบ็ ป่ วยเลก็ น้อย เช่น ไข้หวัด ปวด 0 423 กล้ำมเนื้อ/ปวดท้อง/โรคกระเพำะ

27 โรคตดิ ต่อ เช่น อุจจำระร่วง 0 034 3 ไข้เลือดออก วณั โรค ฯลฯ โรคไม่ติดต่อ เช่น ควำมดนั โลหติ 0 162 1 สูง โรคเบำหวำน โรคหัวใจ ปัญหำสุขภำพจิต เช่น วิตกกงั วล/ 0 253 0 เครียด ติดยำ/สำรเสพตดิ ติดสุรำ เรื้อรัง อ่ืนๆ เช่น โรคเกย่ี วกบั ข้อ และ 0 062 2 กระดกู วิธกี ำรดูแลสุขภำพของสมำชิกในครอบครัว ( สมำชิกในครอบครัวมกี ำรเจ็บป่ วยเลก็ น้อย) ดูแลสุขภำพด้วยตนเอง เช่น ซื้อยำ 0 181 0 กนิ เอง เช็ดตวั ลดไข้ ปรึกษำ/ขอคำแนะนำจำก อสม. 1 071 1 ใช้บริกำรสุขภำพทส่ี ถำนพยำบำล 0 352 0 เช่น รพ.สต./คลนิ กิ /โรงพยำบำล วิธกี ำรดูแลสุขภำพของสมำชิกในครอบครัว (สมำชิกในครอบครัวมีกำรเจ็บป่ วยรุนแรง/หมดสต)ิ ดูแลสุขภำพด้วยตนเอง เช่น ซื้อยำ 0 352 0 กนิ เอง เช็ดตัวลดไข้ มคี วำมรู้พืน้ ฐำนด้ำนกำรแพทย์ 0 531 1 ฉุกเฉิน สำมำรถปฐมพยำบำล เบื้องต้นได้ เช่น กำรช่วยฟื้ นคืนชีพ ข้นั พื้นฐำน(CPR) ใช้บริกำรสุขภำพทสี่ ถำนพยำบำล 0 253 0 เช่น รพ.สต./คลนิ ิก/โรงพยำบำล รีบโทร1669 0 431 3 จากตารางท่ี 10พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพปัญหาดา้ นสุขภาพ สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ น สุขภาพ มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 2.04 และมีคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.53

28 ตำรำงท1่ี 1แสดงค่ำร้อยละของปัญหำด้ำนอ่ืนๆ ระดบั ปัญหา ปัญหาดา้ นอ่ืนๆ มากที่สุด มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยท่ีสุด 5432 1 กำรคมนำคมสัญจรไม่สะดวก 0 1 5 0 4 ขำดแคลนทุนในกำรแปลงสินทรัพย์ 0 3 3 1 3 เป็ นทุน ชุมชนขำดควำมเข้มแข็งในด้ำนกำร 0 2 5 1 2 รวมกลุ่ม มีโรคตดิ ต่อภำยในชุมชน 02215 ประชำชนขดั แย้งแบ่งพรรคแบ่ง 2 1 4 1 2 พวก เยำวชนขำดจติ สำนกึ ในกำรพฒั นำ 1 3 3 2 1 ตนเอง ขำดแคลนแหล่งเงินทุนเพื่อพฒั นำ 1 4 2 2 1 อำชีพ ขำดแหล่งนำ้ เพ่ือกำรเกษตรเพ่ือกำร 0 3 4 2 2 ประกอบอำชีพ กำรประสำนงำนกบั ภำครัฐไม่ 1 3 4 1 1 ต่อเน่ือง ขำดกำรสืบสำนวฒั นธรรมและภูมิ 0 2 5 2 1 ปัญญำท้องถ่ิน จากตารางที่ 11พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มลู สภาพปัญหาดา้ นอื่นๆ สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ น อ่ืนๆ มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 1.88 และมีคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.40

29 ตำรำงที่ 12 แสดงค่ำเฉลย่ี ส่วนเบีย่ งเบนมำตรฐำนของปัญหำในชุมชน ปัญหำ x̄ S.D. ปัญหำด้ำนเศรษฐกจิ 0.57 ปัญหำด้ำนสังคม 2.00 0.47 2.00 0.63 ปัญหำด้ำนกำรจัดกำร 2.02 ทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละ 0.53 สิ่งแวดล้อมและกำรท่องเท่ยี ว 2.04 0.40 ปัญหำด้ำนสุขภำพ 1.88 0.09 ปัญหำด้ำนอ่ืนๆ 2.00 ค่ำเฉลย่ี รวม จากตารางที่ 12 สรุปไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ นสุขภาพ มีคา่ เฉล่ียเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.04และมีคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.53 รองลงมาคือมีดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม และการท่องเท่ียวค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.02และมีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.63 สรุปกำรทำประชำคม ชุมชนหมู่ที่ 7 ตำบล คลองเฉลมิ อำเภอกงหรำ จังหวัดพทั ลุง ผตู้ อบแบบสอบถาม 10 ชุด สรุปปัญหาของชุมชนหมู่ที่7 ตาบล คลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง ไดด้ งั น้ี 1.ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีค่าเฉล่ีย 2.00 มีคา่ ระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 2.ปัญหาดา้ นสงั คม มีคา่ เฉล่ีย 2.00 มีค่าระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 3.ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มและการทอ่ งเท่ียว มีค่าเฉลี่ย 2.02 มี ค่าระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 4.ปัญหาดา้ นสุขภาพ มีคา่ เฉลี่ย 2.04 มคี ่าระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑน์ อ้ ย 5.ปัญหาดา้ นอื่นๆ มีคา่ เฉล่ีย 1.88 มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑล์ ปานกลาง

30 นกั ศึกษาไดเ้ ลง็ เห็นวา่ ปัญหาดา้ นสุขภาพ ที่มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑน์ อ้ ย ท่ีควร ไดร้ ับการแกไ้ ข ทางนกั ศึกษาจึงไดม้ าทาประชาคมในวนั และเวลาดงั กล่าว กำรคิดคะแนนเพ่ือจัดลำดบั ควำมสำคญั ของปัญหำด้ำนสุขภำพ เกณฑก์ ารจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหาของ John J. Hanlon A = ขนาดของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 B = ความรุนแรงของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-20 C = ประสิทธิภาพของการปฏิบตั ิงาน ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 D = ขอ้ จากดั ใหค้ ะแนน 0-1 สูตร Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D/3 คะแนนขององค์ประกอบ คะแนนรวม ปัญหา ขนาดของ ความ ความยากง่าย ความสนใจ วิธีบวก วธิ ีคูณ ปัญหา รุนแรง 1.ควำมดัน 5 12 6 1 25 360 โลหติ สูง 2.เบำหวำน 4 9 5 1 22 180 3.ไข้หวดั ใหญ่ 4 8 4 1 21 128 4.อจุ จำระร่วง 3 7 4 1 18 84 5.อสิ ุกอใิ ส 3 5 5 1 17 75 จากตาราง พบวา่ ปัญหาชุมชนอนั ดบั ที่ 1 คือ ความดนั โลหิตสูง อนั ดบั ท่ี 2 คือ เบาหวาน อนั ดบั ท่ี 3 คือ ไขห้ วดั ใหญ่ อนั ดบั ท่ี 4 อจุ จาระร่วง อนั ดบั ท่ี 5 อิสุกอิใส ตามลาดบั ทมี่ ำ:จำกอ้ำงองิ ทฤษฎีวธิ ีของภำควชิ ำบริหำรสำธำรณสุข คณะสำธำรณสุขศำสตร์ มหำวทิ ยำลยั มหดิ ล จำกวำรสำรพยำบำลกระทรวงสำธำรณสุข

31 บทท่ี4 แผนงำนโครงกำร จากการสารวจชุมชนหมูท่ ่ี 7 ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลงุ ไดล้ ง สารวจพ้นื ท่ีโดยใชแ้ บบสอบถามขอ้ มูลวเิ คราะหเ์ พ่ือจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา เพือ่ หา วธิ ีการแกป้ ัญหาใหก้ บั ชุมชน จากการศึกษาพบวา่ ชุมชนมีปัญหาดา้ นสุขภาพของคนในชุมเป็น อนั ดบั แรก ดงั น้นั จึงนาปัญหาดา้ นสุขภาพ โรคความดนั โลหิตสูง มาจดั โครงการเพื่อใหค้ วามรู้ กบั คนในชุมชนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุม ป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงท่ีถูกวิธี และเหมาะสม 4.1 แผนงำน / โครงกำร จากปัญหาท่ีพบ พบวา่ เป็นปัญหาท่ีทางชุมชนมีความตอ้ งการใหด้ าเนินการจากปัญหา ดงั กลา่ วจึงได้ จดั ทาโครงการเพอ่ื แกป้ ัญหาสุขภาพของชุมชน 1 โครงการ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ชื่อกจิ กรรม/โครงกำร : ลดเสี่ยง หลีกเลี่ยงความดนั โลหิตสูง ช่ือ-สกุล ผ้เู สนอกจิ กรรม/โครงกำร : นางสาวซูอาดา หวนั บวช สังกดั : หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15ช้นั ปี ที่2

32 1. หลกั กำรและเหตผุ ล/ทมี่ ำ/ปัญหำ 1.1 หลกั กำรและเหตผุ ล ปัจจุบนั โรคไมต่ ิดตอ่ เป็นปัญหาสาคญั ระดบั โลก ซ่ึงส่งผลคุกคามตอ่ สุขภาพของประชาชน และ การพฒั นาประเทศ จากรายงานองคอ์ นามยั โลกจะมีผเู้ สียชีวติ จากโรคไม่ติดต่อประมาณ 36 ลา้ น คน (ร้อยละ 63) โดยประมาณร้อยละ 44 เสียชีวิต ก่อนอายุ 70 ปี สาหรับประเทศไทยถึงแมจ้ ะมี แผนงานท่ีดาเนินการเกี่ยวกบั โรคไม่ติดตอ่ ท่ีสาคญั คือ โรคเบาหวาน, โรคความดนั โลหิตสูง, โรคหวั ใจ, โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง แตก่ ารจดั การโรคโรคไมต่ ิดต่อยงั ไม่ไดผ้ ล เทา่ ที่ควร มีแนวโนม้ เพ่ิมข้ึน เปรียบเทียบปี พ.ศ.2557– 2561 เทา่ กบั ร้อยละ 22.47, 23.45, 26.71 และ 27.73 ตามลาดบั เพราะเป็นโรคที่เกี่ยวกบั พฤติกรรม อนามยั ส่วนบคุ คลไมถ่ กู ตอ้ ง ปัญหา ความเครียด เช่น ฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดี ทาใหร้ ายรับไม่พอกบั รายจ่าย มีปัญหาครอบครัว ปัญหาส่วนตวั และปัญหาในการทางาน เป็นตน้ ซ่ึงเมื่อป่ วยเป็นโรคน้ีไมส่ ามารถรักษาให้ หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมและป้องกนั ได้ ถา้ มีการปฏิบตั ิตวั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและยงั เป็น สาเหตุทาใหเ้ กิดความผดิ ปกติของอวยั วะที่สาคญั เช่น หวั ใจ, ไต, ประสาทตา ซ่ึงส่งผลทาใหเ้ กิด โรคกบั บคุ คลในครอบครัว วิตก กงั วล และรับภาระการดูแลผปู้ ่ วย ผลกระทบตอ่ ชุมชนในกรณี ท่ีมีผปู้ ่ วย พกิ าร ทาใหช้ ุมชนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศดว้ ย จากการลงชุมชน พบวา่ มีกลุม่ เส่ียงตอ่ การเกิดโรคเร้ือรังดงั กลา่ ว จานวน 220 คน จากประชากรในชุมชน จานวน 1,273 คิดเป็นร้อยละ 13.00 สาเหตเุ กิดจากกรรมพนั ธุ์และพฤติกรรมของประชาชน เสี่ยงตอ่ การ เกิดโรคไม่ติดตอ่ เร้ือรัง ประกอบกบั ระบบการป้องกนั ดูแลเชิงรุกของอาสาสมคั รสาธารณสุข ยงั ไม่มีประสิทธิภาพเทา่ ที่ควร เนื่องจากเครื่องมือท่ีช่วยในการคดั กรอง หรือ ทางานในการควบคุม โรคไมเ่ พียงพอจากสถานการณ์ ดงั กล่าวนางสาวซูอาดา หวนั บวช หลกั สูตรประกาศนียบตั ร วิชาชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15ช้นั ปี ที่2 จึงจดั ทาโครงการการป้องกนั ควบคุมรักษาและการเฝ้าระวงั โรคไม่ติดต่อ (ความดนั โลหิตสูง)

33 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพอ่ื ใหป้ ระชาชนกล่มุ เสี่ยงและกลุ่มที่เป็นโรคความดนั โลหิตสูงที่เขา้ ร่วมโครงการ มี ความรู้ความเขา้ ใจในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงในระดบั ดี ร้อย 80 หลงั ส้ินสุด โครงการ ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ • ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่เป็นโรคความดนั โลหิตสูงท่ีเขา้ ร่วมโครงการ มีความรู้ ความเขา้ ใจในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงในระดบั ดี ร้อย 80 หลงั ส้ินสุด โครงการ 1.2.2 เพ่ือใหป้ ระชาชนมสี ่วนร่วมในการป้องกนั หลีกเล่ียง เก่ียวกบั โรคความดนั โลหิตสูง ตวั ช้ีวดั ความสาเร็จ • อตั ราความพึงพอใจของประชาชนที่เขา้ รับการอบรม (ร้อยละ 80)พึงพอใจ 1.3 กล่มุ เป้ำหมำย กลมุ่ ประชาชนทว่ั ไปและผทู้ ่ีมีภาวะเส่ียง ในหมู่บา้ นป่ าแก่ออก ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลงุ 1.4 เป้ำหมำย 1.4.1 เป้ำหมำยเชิงคณุ ภำพ • ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงไดใ้ นระดบั ดี 1.4.2 เป้ำหมำยเชิงปริมำณ • ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงเขา้ ร่วม โครงการร้อยละ 80

34 1.5 ระยะเวลำดำเนนิ กำร • ต้งั แต่วนั ท่ี 7เมษายน – 10 เมษายน 2563 1.6 ดัชนีตวั ชี้วัดควำมสำเร็จ 1. ประชาชนกล่มุ เสี่ยงและกล่มุ ท่ีเป็นโรคความดนั โลหิตสูงท่ีเขา้ ร่วมโครงการ มีความรู้ ความเขา้ ใจในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงในระดบั ดี ร้อย 80 หลงั ส้ินสุด โครงการ 2. อตั ราความพึงพอใจของประชาชนท่ีเขา้ รับการอบรม (ร้อยละ 80)พึงพอใจ 1.7 ผู้รับผิดชอบโครงกำร • นางสาวซูอาดา หวนั บวช หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉิน การแพทย์ รุ่นท่ี 15ช้นั ปี ที่2 1.8 สถำนทด่ี ำเนนิ โครงกำร • บา้ นป่ าแก่ออก ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลงุ 1.9 ผลทีค่ ำดว่ำจะได้รับ 1.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและกลุม่ ท่ีเป็นโรคความดนั โลหิตสูงท่ีเขา้ ร่วมโครงการ มีความรู้ความ เขา้ ใจในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงในระดบั ดี 2.ประชาชนใหค้ วามร่วมมือ และพงึ พอใจตอ่ การเขา้ อบรมอยใู่ นระดบั ดี

35 2. แผนกำรดำเนนิ งำน 2.1 วิธีกำรดำเนินงำน กระบวนกำร กจิ กรรม เวลำดำเนินกำร ผู้รับผดิ ชอบ กำรวำงแผน (P) 1.ประชุมวางแผน กาหนด วนั ท่ี7 เมษายน นางสาวซูอาดา กำรปฏิบตั ิ (D) วตั ถุประสงค์ งบประมาณ ดชั นีช้ีวดั 2563 หวนั บวช ความสาเร็จ พฒั นาโครงการฉบบั หลกั สูตร สมบรู ณ์เพ่อื ขออนุมตั ิ วนั ที่8 เมษายน ประกาศนียบตั ร 2. เม่ือโครงการไดร้ ับอนุมตั ิแลว้ จึง 2563 วชิ าชีพช้นั สูงสาขา มอบหมายหนา้ ท่ีรับผิดชอบภายใน ปฏิบตั ิการฉุกเฉิน กลุม่ พร้อมท้งั ประสานผทู้ ี่เก่ียวขอ้ ง การแพทย์ รุ่นที่ 15 ประสานงานชุมชน จดั เตรียมวสั ดุ ช้นั ปี ที่2 อุปกรณ์ท่ีตอ้ งใช้ 1.จดั โครงการตามกาหนดการ นางสาวซูอาดา 1.1 วนั จดั กิจกรรม หวนั บวช หลกั สูตร 1.1.1 ทาแบบทดสอบก่อนให้ ประกาศนียบตั ร ความรู้ วชิ าชีพช้นั สูงสาขา 1.1.2 การบรรยายใหค้ วามรู้เก่ียวกบั ปฏิบตั ิการฉุกเฉิน โรคความดนั โลหิตสูงและวิธีการ การแพทย์ รุ่นที่ 15 ป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง ช้นั ปี ที่2 1.1.3 กิจกรรมตอบคาถามเกี่ยวกบั ความรู้เรื่องความดนั โลหิตสูง 1.1.4 จดั กิจกรรมกลมุ่ ( Focus Group) ระดมสมองภายในกล่มุ 1.1.5 ทาแบบทดสอบหลงั ให้ ความรู้

36 กำรประเมินผล (C) 1.1.6 ทาแบบประเมินความพงึ นางสาวซูอาดา พอใจ หวนั บวช หลกั สูตร 1.1.7 ตรวจคดั กรองผทู้ ี่มีภะวะ ประกาศนียบตั ร เสี่ยง วชิ าชีพช้นั สูงสาขา 1.2 วนั เดินรณรงค์ ปฏิบตั ิการฉุกเฉิน 1.2.1 ใหค้ วามรู้เรื่องความดนั โลหิตสูง การแพทย์ รุ่นที่ 15 1.2.2 แจกแผน่ พบั ช้นั ปี ที่2 ประเมินผลตามวตั ถุประสงคด์ ว้ ย 8เมษายน 2563 นางสาวซูอาดา 1. แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการ หวนั บวช 2. ประเมินความรู้ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ หลกั สูตร 3. สังเกตการมีส่วนร่วมของผเู้ ขา้ ร่วม ประกาศนียบตั ร โครงการ วชิ าชีพช้นั สูงสาขา ปฏิบตั ิการฉุกเฉิน กำรปรับปรุง หรือนำ 1.ประชุมผจู้ ดั ทาโครงการเพื่อสรุปผล 9เมษายน 2563 การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ผลกำรประเมินไปใช้ การดาเนินงานและเสนอแนะแนวทาง ช้นั ปี ท่ี2 ประโยชน์ เพื่อปรับปรุงพฒั นา (A) 2.2 ผลกำรดำเนนิ งำน 2.2.1 การดาเนินงานในข้นั ตอนการวางแผน (P) - ประสำนงำนกบั แกนนำหมู่บ้ำนหมู่ท่ี 7ตำบลคลองเฉลมิ อำเภอกงหรำ จงั หวดั พทั ลุง • นางสาวซูอาดา หวนั บวช หลกั สูตรปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 ประสานงาน กบั แกนนาหมู่บา้ น หมู่ 7 เพื่อจดั การทาประชาคมปัญหาท่ีตอ้ งแกไ้ ขเพือ่ จดั ทาโครงการ

37 -ประชุมวำงแผนกำหนดกำรดำเนนิ งำนและเขียนโครงกำรเพื่อขออนุมัติ • นางสาวซูอาดา หวนั บวช หลกั สูตรปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ จดั ประชุมกนั กบั แกน นาหมู่ท่ี 7 เพ่อื สอบถามปัญหาตา่ งๆท่ีเกิดข้ึนในชุมชน และไดม้ ีการประชุมกนั ภายใน กลมุ่ เพอ่ื วางแผนการดาเนินงาน กาหนดวตั ถุประสงค์ วางแผนการใชง้ บประมาณ หนา้ ที่รับผดิ ชอบ เพื่อให้การดาเนินงานโครงการเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ -ตดิ ต่อประสำนงำน กบั ผ้ทู ่ีเกย่ี วข้องในชุมชน • นางสาวซูอาดา หวนั บวช หลกั สูตรปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ ไดต้ ิดตอ่ จดั การขอ สถานที่ในการทากิจกรรม เพือ่ ใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ - ติดต่อขอใช้สถำนที่ • นางสาวซูอาดา หวนั บวช หลกั สูตรปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ ไดต้ ิดต่อจดั การขอ สถานท่ีในการทากิจกรรม เพอ่ื ใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ 2.2.2. กำรดำเนนิ งำนในข้นั ตอนกำรปฏบิ ัติ (D) - เสนอร่างโครงการ และปรับแกไ้ ข โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคความดนั โลหิตสูง หมทู่ ี่ 7 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลงุ - จดั เตรียมเอกสารในการทาโครงการ - จดั เตรียมสถานท่ีในการจดั ทาโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคความดนั โลหิตสูง หมูท่ ่ี 7 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลุง - ดาเนินงานกิจกรรมโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคความดนั โลหิตสูง หมู่ท่ี7 ต.คลอง เฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลงุ ดว้ ยการบรรยายใหค้ วามรู้เก่ียวกบั โรคความดนั โลหิตสูง นางสาวซูอาดา หวนั บวช หลกั สูตรปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ ไดเ้ ขา้ รับการอบรมใหค้ วามรู้ เกี่ยวกบั การดูแลตวั เองการรักษา อาการ และการป้องกนั เก่ียวกบั โรคความดนั โลหิตสูง - รณรงคใ์ หค้ วามรู้เร่ืองโรคความดนั โลหิตสูง

38 2.3 จำนวนผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร • เจา้ หนา้ ท่ีและกลุม่ ประชาชนทวั่ ไปและผทู้ ่ีมีภาวะเสี่ยง จานวน 60 คน 2.4 สถำนทีด่ ำเนนิ กำร • หอ้ งประชุมประจาหมู่บา้ น หมูท่ ่ี 7ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พทั ลงุ 2.5 งบประมำณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เงินอุดหนุนทวั่ ไป เงินอุดหนุนสาหรับการดาเนินงานตาม โครงการพระราชดาริดา้ นสาธารณสุข(สนบั สนุนจากกองทนุ หม่ทู ี่ 7ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกง หรา จงั หวดั พทั ลงุ ) จานวน 5,000 บาท (หา้ พนั บาทถว้ น) ใชจ้ ่ายดงั น้ี 1.คา่ อาหารวา่ งและเคร่ืองด่ืมรวมเจา้ หนา้ ที่และ ประชาชน จานวน 60 คนๆละ 1 ม้ือๆ ละ 20 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท 2.ค่าอาหารกลางวนั รวมเจา้ หนา้ ท่ีและประชาชน จานวน 60 คนๆละ 1 ม้ือๆ ละ 25 บาท เป็นเงิน 1,500บาท 3.ค่าสมนาคุณวิทยากร จานวน 2 ชว่ั โมงๆละ 150 บาท เป็นเงิน 300 บาท 4.ค่าป้ายไวนิลโครงการ 150 บาท 5.คา่ วสั ดุที่ใชใ้ นโครงการ 100 บาท รวมเป็ นเงนิ 3,200 บำท (สำมพนั สองร้อยบำทถ้วน)

39 3.เคร่ืองมือและวธิ ีกำรในกำรประเมินผล หลงั จากท่ีไดด้ าเนินงานตามแผนของโครงการแลว้ น้นั ซ่ึงในข้นั ตอนสุดทา้ ยจะเป็นกิจกรรม ในการประเมินผลโครงการ หากพจิ ารณาถึงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการวางแผนกบั การ ประเมินผลโครงการพบวา่ กิจกรรมท้งั สองมีความสมั พนั ธท์ ี่ตอ้ งดาเนินการควบคู่กนั โดยการ วางแผนโครงการเป็นกิจกรรมของการกาหนด แนวทางการนาไปปฏิบตั ิเพ่ือการบรรลุ วตั ถุประสงค์ ส่วนการประเมินผลโครงการเป็นกิจกรรมสุดทา้ ยในการพิจารณาผลการ ดาเนินงานเป็ นไปตามแผนท่ีกาหนดหรื อไม่ 3.1 เคร่ืองมือทใ่ี ช้ในกำรเกบ็ ข้อมูล 3.1.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติและพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ เครื่องมือท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพือ่ การประเมินในคร้ังน้ี เป็นแบบสอบถามท่ี ผรู้ ับผิดชอบโครงการไดส้ ร้างข้ึนใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ และตวั ช้ีวดั ของโครงการ ซ่ึงมี รายละเอียดดงั น้ี ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลพ้นื ฐานส่วนบุคคล ไดแ้ ก่ เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ โรคประจาตวั ส่วนท่ี 2 ความรู้เรื่องความดนั โลหิตสูง แบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบเพยี งคาตอบเดียว คือ ถกู หรือ ผดิ จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี ตอบถกู ไดค้ ะแนนเทา่ กบั 1 คะแนน ตอบผิด ไดค้ ะแนนเทา่ กบั 0 คะแนน ส่วนที่ 3 ทศั นคติต่อการป้องกนั และควบคุมโรคความดนั โลหิตสูงแบบสอบถามเป็นแบบเลือก คาตอบเพียงคาตอบเดียว คือ เห็นดว้ ยอยา่ งยิ่ง เห็นดว้ ย ไม่แน่ใจ ไมเ่ ห็นดว้ ย ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ขอ้ คาถามมีท้งั ดา้ นบวกและดา้ นลบจานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี

40 คาถามเชิงบวก คาถามเชิงลบ ได้ 1 คะแนน เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ได้ 5 คะแนน ได้ 2 คะแนน คะแนน ได้ 3 คะแนน เห็นดว้ ย ได้ 4 คะแนน ได้ 4 คะแนน คะแนน ได้ 5 คะแนน ไม่แน่ใจ ได้ 3 คะแนน ไมเ่ ห็นดว้ ย ได้ 2 ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ได้ 1 3.2 วิธีกำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.2.1 วดั ความรู้ของประชาชนที่เขา้ ร่วมโครงการโดยใชแ้ บบทดสอบความรู้ก่อนการเขา้ อบรม 3.2.2 วดั ความรู้ของประชาชนที่เขา้ ร่วมโครงการโดยใชแ้ บบทดสอบความรู้หลงั จากการเขา้ อบรม 3.3 กำรวิเครำะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ขอ้ มลู ดงั รายละเอียดต่อไปน้ี 1. การวิเคราะห์ขอ้ มูลส่วนบคุ คล ใชส้ ถิติการแจกแจงความถี่ ( Frequency ) และร้อยละ ( Percentage ) 2. การประเมินความพงึ พอใจ การประเมินความรู้ ใชส้ ถิติคา่ เฉลี่ย ( Ẋ ) และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ( S.D.) 3.4 เกณฑ์ท่ใี ช้ในกำรวเิ ครำะห์ข้อมูล 3.4.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้

41 3.4.1.1 การแปลผลคะแนน สาหรับเกณฑก์ ารประเมินระดบั ความรู้เก่ียวกบั เร่ืองความดนั โลหิต สูง แบง่ ออกเป็น 3 ระดบั โดยใชว้ ิธีการกาหนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของบลมู Bloom (1964อา้ งถึงใน สมนึก แกว้ วิไล, 2552) ซ่ึงมีระดบั คะแนน ดงั น้ี ระดบั ความรู้ ร้อยละ (ของคะแนนเตม็ ) ระดบั ดี 80.00 ข้ึนไป (8-10ขอ้ ) ระดบั ปานกลาง 50.00 - 79.99 (5-7ขอ้ ) ระดบั ควรปรับปรุง 1.00 - 49.99 (0-5ขอ้ ) 3.4.1.2 แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพงึ พอใจ ดงั น้ี คะแนนเฉล่ียสูงกวา่ 4.50 มีความพงึ พอใจในระดบั มากที่สุด คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 3.50 – 4.49 มีความพงึ พอใจในระดบั มาก คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 2.50 – 3.49 มีความพงึ พอใจในระดบั ปานกลาง คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 1.50 – 2.49 มีความพึงพอใจในระดบั นอ้ ย คะแนนเฉล่ียต่ากวา่ 1.50 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ยที่สุด 4.ผลกำรประเมนิ กำรดำเนนิ โครงกำร 4.1 ข้อมูลทวั่ ไปของผ้ตู อบแบบประเมิน ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมี 50 คน จากจานวนท้งั หมด 70 คน คิดเป็นร้อยละ 71.43ซ่ึงขอ้ มูลทวั่ ไปใน เร่ืองเพศ อายรุ ะดบั การศึกษา อาชีพ สถานภาพ มีขอ้ มลู ดงั ตารางต่อไปน้ี

ตำรำงที่ 4.1.1 เพศของผู้เข้ำร่วมโครงกำร 42 เพศ จานวน ร้อยละ หญงิ 40 80 ชำย 10 20 รวม 50 100 จากตารางแสดงขอ้ มลู เพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ เพศหญิง มีจานวน 40 คน คิดเป็นร้อย ละ80 และเพศชายมีจานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 20 ตำรำงท่ี 4.1.2 อำยขุ องผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร อายุ จำนวน ร้อยละ ตำ่ กว่ำ 20 ปี 2 4 20-30 5 10 31-40 14 28 41-50 9 18 51 ปี ขนึ้ ไป 20 40 รวม 50 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ อายุ 51 ปี ข้ึนไป มีจานวน 20 คน คิด เป็นร้อยละ 40 อายุ 41-50 ปี มีจานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 18 อายุ 31-40 ปี มีจานวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 28 อายุ 20-30 ปี มีจานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 10 และอายตุ ่ากวา่ 20 ปี มี จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4 ตามลาดบั

43 ตำรำงที่ 4.1.3 ระดบั กำรศึกษำสูงสุดของผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร ระดบั กำรศึกษำ จำนวน ร้อยละ ประถมศึกษำ 28 56 มธั ยมศึกษำ 11 22 อนุปริญญำ 7 14 ปริญญำตรี 4 8 อ่ืน ๆ 0 0 รวม 100 จากตารางแสดงขอ้ มลู ระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ ระดบั ประถมศึกษา มี จานวน 28 คน คิดเป็นร้อยละ 56 ระดบั มธั ยมศึกษา มีจานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 22 ระดบั อนุปริญญามีจานวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 14 ระดบั ปริญญาตรี มีจานวน 4คน คิดเป็นร้อยละ 8 และระดบั อ่ืน ๆ มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั ตำรำงท่ี 4.1.4 อำชีพของผ้เู ข้ำร่วมโครงกำร อำชีพ จำนวน ร้อยละ นักเรียน/นกั ศึกษำ 4 8 2 ข้ำรำชกำร 1 20 50 เกษตรกรรม 10 10 10 ค้ำขำย/ธุรกจิ 25 0 รับจ้ำงทวั่ ไป/ลูกจ้ำง 5 100 ไม่ได้ประกอบอำชีพ/ทำงำนบ้ำน 5 อ่ืน ๆ 0 รวม 50 จากตารางแสดงขอ้ มลู อาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ อาชีพนกั เรียน/นกั ศึกษา มีจานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 8 อาชีพขา้ ราชการ มีจานวน 1คน คิดเป็นร้อยละ 2 อาชีพเกษตรกรรม มี

44 จานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 20 อาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจ มีจานวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 50 อาชีพ รับจา้ งทว่ั ไป/ลกู จา้ ง มีจานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 10 ไมไ่ ดป้ ระกอบอาชีพ/ทางานบา้ น มี จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 10 อาชีพอื่น ๆ มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั 4.2 ผลกำรทดสอบควำมรู้จำกกำรเข้ำร่วมโครงกำร ตำรำงท่ี 4.2.1 ผลกำรทดสอบควำมรู้จำกกำรเข้ำร่วมโครงกำร รำยกำร สูงสุด ต่ำสุด เฉลย่ี ผ่ำนเกณฑ์ ไม่ผ่ำนเกณฑ์ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ก่อนเข้ำอบรม 5 2 0.03 ผลกำรทดสอบ -- -- หลงั เข้ำอบรม --- ผลกำรทดสอบ 30 60 20 40 9 6 0.07 -- -- --- 45 90 5 10 จากตารางที่ 4.2.1 พบวา่ การเขา้ ร่วมโครงการมีคะแนนทดสอบความรู้ก่อนเขา้ รับ การบรรยาย เก่ียวกบั โรคความดนั โลหิตสูง ไดค้ ะแนนสูงสุด 5 คะแนน คะแนนต่าสุด 2 คะแนน และมี คะแนนเฉล่ีย 0.03 คะแนน มีจานวนผผู้ า่ นเกณฑจ์ านวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 60 มีจานวนผไู้ ม่ ผา่ นเกณฑจ์ านวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 40 และหลงั จากการเขา้ รับการบรรยายเก่ียวกบั โรค ความดนั โลหิตสูง มีผทู้ ดสอบความรู้ไดค้ ะแนนสูงสุด 9 คะแนน คะแนนต่าสุด 6 คะแนน และมี คะแนนเฉล่ีย 0.07 คะแนน มีจานวนผผู้ า่ นเกณฑจ์ านวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 90 ซ่ึงผา่ นตาม ตวั ช้ีวดั ในหวั ขอ้ จุดประสงคม์ ีผเู้ ขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 80 มีความรู้เกี่ยวกบั การควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงอยใู่ นระดบั ดี

45 ตำรำงที่ 4.2.2 คะแนนกำรทดสอบประเมินควำมรู้ก่อนเข้ำร่วมโครงกำรอย่ำงละเอยี ด คะแนน จำนวน ( คน ) ร้อยละ 2 5 10 3 10 20 4 5 10 5 30 60 รวม 50 100 จากตารางที่ 4.2.2 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้ก่อนเขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนน สูงสุด 5 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 60 และคะแนนต่าสุด 2 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 4 ตำรำงท่ี 4.2.3 คะแนนกำรทดสอบประเมนิ ควำมรู้หลงั เข้ำร่วมโครงกำรอย่ำงละเอยี ด คะแนน จำนวน ( คน ) ร้อยละ 624 736 8 20 40 9 25 50 รวม 50 100 จากตารางท่ี 4 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้หลงั เขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนนสูงสุด 9 คะแนน คิดเป็นร้อยละ50 และคะแนนต่าสุด 6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 4

46 4.3 ผลกำรทำแบบประเมินควำมพงึ พอใจ ตำรำงท่ี 4.3.1 ค่ำเฉลย่ี ของควำมพงึ พอใจต่อโครงกำรภำพรวม ลำดบั ท่ี ประเดน็ ระดับควำมพงึ พอใจ x̄ S.D แปลผล 1. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการ 4.74 0.44 มากที่สุด จดั กิจกรรม 2. ความพึงพอใจดา้ นวทิ ยากร 4.68 0.58 มากท่ีสุด 3. ความพงึ พอใจดา้ นสิ่งอานวยความสะดวก 4.68 0.47 มากท่ีสุด 4. ความพึงพอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม 4.77 0.42 มากที่สุด จากตารางท่ี 4.3.1 คา่ เฉล่ยี ของความพงึ พอใจต่อโครงการภาพรวม พบวา่ มีความพงึ พอใจดา้ น ความพงึ พอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรมมากที่สุด( x̄ = 4.77 ) รองลงมาความพึงพอใจดา้ น กระบวนการข้นั ตอนการจดั กิจกรรม (x̄ = 4.74) และ ความพึงพอใจดา้ นวิทยากร ความพงึ พอใจดา้ นส่ิงอานวยความสะดวกนอ้ ยท่ีสุด( x̄ = 4.68)

47 ตำรำงที่ 4.3.2 ค่ำเฉลยี่ ของผลประเมนิ ควำมพงึ พอใจของผู้เข้ำร่วมโครงกำร รายละเอียด x̄ ระดบั ความพงึ พอใจ S.D แปลผล 1. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม 4.22 1.1. รูปแบบกจิ กรรมกำรจัดกจิ กรรม 2.50 1.45 สูง 1.2 ลำดับข้นั ตอนในกำรจดั กจิ กรรม 4.48 0.57 สูง 1.3 ระยะเวลำทใี่ ช้ในกำรจดั กจิ กรรม 2.33 1.47 สูง 1.4 เอกสำรและสื่อประกอบในกำรจดั กจิ กรรม 4.44 0.36 ต่า 1.5 ควำมเหมำะสมของกำรจัดกจิ กรรม 0.78 สูง 2. ความพงึ พอใจดา้ นวทิ ยากร 4.54 2.1 กำรถ่ำยทอดควำมรู้ของวิทยำกรมคี วำมชัดเจน 4.31 0.44 ต่า 2.2 กำรตอบข้อซักถำมในกำรจดั กจิ กรรม 3. ความพงึ พอใจดา้ นส่ิงอานวยความสะดวก 4.33 0.87 สูง 3.1 สถำนที่จดั กจิ กรรม 2.25 3.2 มกี ำรใช้เทคโนโลยีอย่ำงเหมำะสม 1.61 สูง 4. ความพึงพอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม 4.37 0.29 ต่า 4.1 ท่ำนได้รับประโยชน์จำกกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมอย่ำง คุ้มค่ำ 4.38 1.72 สูง 4.2 ท่ำนสำมำรถนำควำมรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจำวนั 3.63 1.65 สูง ผลรวม 0.57 สูง 4.4 สรุปผลกำรดำเนินงำนโครงกำร โครงการรณรงคป์ ้องกนั และควบคุมโรคความดนั โลหิตสูงหมทู่ ่ี 7 ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง มีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงท่ีถูกวธิ ีและเหมาะสม เพื่อใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั หลีกเลี่ยงจากภาวะความดนั โลหิตสูง เป้าหมายเชิงคุณภาพ คือประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ

48 ในการควบคุมป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูงไดใ้ นระดบั ดี และเป้าหมายเชิงปริมาณคือ อตั รา ความพึงพอใจของประชาชนท่ีขอรับบริการ (ร้อยละ 80)พงึ พอใจ รับผดิ ชอบโครงการ โดย นางสาว ซูอาดา หวนั บวช หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 รุ่นที่ 15 โครงการน้ีไดด้ าเนินโครงการที่หมู่ท่ี 7 ตาบลคลองเฉลิม อาเภอกงหรา จงั หวดั พทั ลุง ต้งั แตว่ นั ที่ 7เมษายน – 10 เมษายน 2563 ข้นั ตอนการดาเนินงานท่ีสาคญั คือ วนั จดั กิจกรรม ให้ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการทาแบบทดสอบก่อนและหลงั ใหค้ วามรู้ มีการบรรยายใหค้ วามรู้เกี่ยวกบั โรค ความดนั โลหิตสูง และวิธีการป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง เพื่อระดมสมองและทาแบบ ประเมินความพงึ พอใจ ส่วนวนั เดินรณรงค์ มีใหค้ วามรู้เร่ืองการป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง พร้อมท้งั แจกแผน่ พบั ซ่ึงมีขอ้ มลู เกี่ยวกบั ความดนั โลหิตสูง 4.5 ประโยชน์จำกกำรทำโครงกำร - ทาใหเ้ กิดการพฒั นาความคิดและไดฝ้ ึกทกั ษะการวางแผนอยา่ งเป็นระบบและการกาหนด รูปแบบต่างๆใหส้ อดคลอ้ งกนั - ทาใหไ้ ดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั การทางาน ประสานงาน และติดต่อกบั หน่วยงานตา่ ง ๆ พร้อมท้งั มี การ วางแผนการทางานอยา่ งมีระบบ - ไดฝ้ ึกทกั ษะการทางานร่วมกบั คนในชุมชน เพือ่ ใชเ้ ป็นแนวทางแก่การทางานในอนาคต - การรู้จกั รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่นรวมไปถึงการประสานงานหรือการติดต่อกบั หน่วยงาน ต่างๆ - ทาใหร้ ู้จกั การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เม่ือเจอเหตกุ ารณ์ท่ีไม่ไดเ้ ป็นไปตามแผนที่กาหนดไว้ 4.6 ปัญหำและอปุ สรรค - การดาเนินโครงการไมเ่ ป็นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด - ผสู้ ูงอายมุ ีเวลาจากดั ทาใหต้ อ้ งเร่งการจดั กิจกรรม - นกั ศึกษาผบู้ รรยายใหค้ วามรู้มีความต่ืนเตน้ พูดเร็ว จึงทาใหผ้ สู้ ูงอายฟุ ังไมท่ นั