Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปงาน E-Book 2

สรุปงาน E-Book 2

Published by Mr.Kamon, 2019-09-07 00:41:10

Description: สรุปงาน E-Book 2

Search

Read the Text Version

สรปุ งาน E-BOOK นายกมลชน ศรีวิลัย รหัสนิสิต 61170027 สาขา การบริหารการศึกษา มหาวิทยาลยั พะเยา วิทยาเขตเชียงราย

สรุปผลการเข้าร่วมโครงการอบรม การเขยี นบทความวิชาการและบทความวจิ ยั เพอื่ ตีพมิ พ์ในวารสารระดับชาติและระดับ นานาชาติ สาหรับนิสิตระดับบณั ฑิตศึกษา โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เสมอ ถาน้อย วนั ท่ี 31 สิงหาคม 2562 ณ อาคารเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร มหาวิทยาลยั พะเยา

วิธีการเผยแพรง่ านวิจัย  กอ่ นที่จะเริ่มเขียนบทความ มี 2 สิง่ ทส่ี าคญั ท่คี วรทา คอื การ กาหนดรากฐานสาหรับกระบวนการท้ังหมด ได้แก่  กาหนดสมมติฐานและวตั ถุประสงค์ (สิ่งเหลา่ นี้จะอยใู่ น บทนา)  ทบทวนวรรณกรรมทีเ่ กีย่ วข้องกบั หวั ขอ้ และเลือก เอกสารที่สามารถอ้างถงึ ในบทความ (สิง่ เหลา่ นีจ้ ะถูก ระบไุ ว้ในเอกสารอ้างอิง) (ท่สี าคัญโปรดทราบว่า ผูจ้ ัดพมิ พแ์ ต่ละรายมีแนวทางและการตงั้ ค่า ตามสไตล์ของตัวเอง ดังน้ัน จงึ ควรอ่านคู่มือผ้จู ดั พมิ พ์) มันหมายถึงอะไร?  Introduction (บทนา) : คณุ /คนอืน่ ทาอะไร? ทาไมคุณ ถึงทามนั ?  Methods (วิธีการ) : คณุ ทามนั อยา่ งไร?  Results (ผลลัพธ์) : คณุ พบอะไรอะไร?  Discussion (การอภปิ รายผล) : ทงั้ หมดมันหมายถึง อะไร?

11 ขัน้ ตอนในการจดั ระเบียบต้นฉบับ สามารถทาได้ ดงั นี้  1.เตรียมตัวเลขและตาราง “ตัวเลข 1 ตัว มีค่า 1,000 คา” หมายความว่า การนาเสนอผลลัพธ์ด้วย ภ า พ ป ร ะ ก อ บ ตั ว เ ล ข แ ล ะ ต า ร า ง เ ป็ น วิ ธี ที่ มี ประสิทธิภาพที่สุด เพราะชัดเจนและเข้าใจง่าย แต่ ไม่ควรใส่ตาราง ภาพประกอบ และตัวเลขมาก จนเกินไป  2.เขีย นวิธีก าร ส่วนนี้คือ ตอบค าถามของวิธี การศกึ ษาปญั หา ดังนั้น ควรอธิบายข้อมลู ห็นผลลัพธ์ โดยละเอียดของวิธีการ ใช้การอ้างอิงและวัสดุ ส นั บ ส นุ น เ พ่ื อ ร ะ บุ ข้ั น ต อ น ที่ เ ผ ย แ พ ร่ ก่ อ น ห น้ า นี้ บทสรุปหรือการอ้างอิงท่สี าคญั เพยี งพอ  3.เขียนผลลัพธ์ สว่ นนี้ตอบคาถามว่า “คุณพบอะไร” ดังนั้น ควรนาเสนอผลลัพธ์ที่มีความสาคัญสาหรับ การอภิปราย โดยข้อมูลให้เลือกลาดับตรรกะที่บอก เล่าเรื่องราวทชี่ ัดเจนและทาใหเ้ ข้าใจงา่ ย โดยท่วั ไปจะ อยู่ในลาดับเดียวกับที่แสดงในส่วนวิธีการ อย่ารวม การอ้างอิงในส่วนนี้ เพราะคุณกาลังนาเสนอผลลัพธ์ ของคณุ ดงั น้ัน คณุ ไมส่ ามารถอา้ งอิงถงึ คนอื่นๆ

11 ข้นั ตอนในการจดั ระเบียบต้นฉบับ สามารถทาได้ ดงั นี้  4.เขียนอภิปรายผล ส่วนนี้เป็นส่วนท่ีเขียนง่ายที่สุด และก็เป็นส่วนท่ีเขียนยากท่ีสุด เพราะเป็นส่วนท่ีสาคัญ ท่ีสุดของบทความ ในส่วนนี้จะต้องอภิปรายผลให้ สอดคล้องกับผลลัพธ์ และในส่วนนี้คุณอาจจะต้อง เปรียบเทียบผลลัพธ์ท่ีเผยแพร่โดยผู้อื่นกับของคุณ (ใช้ ข้อมลู อ้างองิ บางส่วนท่ีอย่ใู นบทนา) โดยอย่าละเลยงาน ที่ไม่เห็นด้วยกับคุณ ในทางกลับกันคุณต้องเผชิญหน้า และโนม้ นา้ วผู้อ่านวา่ คณุ ถูกหรือดกี วา่  5.เขียนบทสรุปท่ีชัดเจน ในส่วนนี้ จะแสดงให้เห็นว่า งานก้าวหน้าไปอยา่ งไรจากสภาวะความรู้ในปัจจุบัน ใน วารสารบางเล่มจะแยกส่วนน้ีไว้ต่างหาก วิธีการเขียน คุณควรเขียนให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ท่ีชัดเจน การ เขียนแนะนาการทดลองในอนาคตและชี้ให้เห็นสิ่งที่ กาลังดาเนินการอยู่ การเสนอข้อสรุประดับโลกและ ข้อเสนอเฉพาะท่เี กี่ยวข้องกบั วัตถปุ ระสงค์

11 ข้ันตอนในการจัดระเบียบตน้ ฉบับ สามารถทาได้ ดังนี้  6.เขียนบทนาที่น่าสนใจ ในส่วนน้ีจะเขียนว่างาน ของคุณมีประโยชน์อย่างไร มีแนวทางการ แก้ปัญหาอย่างไร ส่ิงไหนดีท่ีสุด อะไรคือข้อกาหนด หลกั อะไรคอื ความหวงั จากการทางาน เปน็ ต้น  7.เขียนบทคัดย่อ ให้เขียนบทคัดย่อเป็นลาดับ สุดทา้ ย ถ้าบทคัดย่อดี จะส่งผลให้บรรณาธิการหรอื ผู้อ่านอ่านงานของคุณต่อไป ดังน้ัน การเขียนจึง ต้องเขียนให้กระชับที่สุด ไม่สั้นมากหรือยาวมาก จนเกินไป หลีกเล่ียงคาท่ีไม่เป็นทางการ และข้อมูล ต้องถูกต้อง สิ่งสาคัญ คือ ในบทคัดย่อจะไม่มีการ อ้างองิ  8.เขียนชื่อที่กระชับและมีความหมาย ชื่อเร่ืองเป็น ส่ิงที่ผู้อ่านจะสนใจเป็นอันดับแรก และชื่อเร่ืองท่ีมี ความชัดเจนยังสามารถทาให้ผู้อ่านตัดสินใจเลือก อ่านบทความนั้นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเขียนชื่อ เรื่องจึงต้องเขียนให้เฉพาะเจาะจง สะท้อนถึง เนื้อหาได้อย่างเพียงพอ ดังนั้น วิธีการเขียนช่ือเร่อื ง จงึ ตอ้ งกระชบั ชดั เจน ไม่ยาวเกนิ ไป หลกี เลยี่ งศัพท์ ทางเทคนิคหรือไม่เป็นทางการ และตัวย่อต่างๆ ท้งั นี้เพราะต้องดึงดูดผู้อ่านให้มากท่ีสดุ

11 ขัน้ ตอนในการจัดระเบียบต้นฉบบั สามารถทาได้ ดังนี้  9.เลือกคาสาคัญสาหรับการจัดทาดัชนี การกาหนดคา สาคัญควรหลีกเลี่ยงคาท่ีมีความหมายกว้างและคาที่ รวมอยู่ในช่ือเร่ืองแล้ว วารสารบางฉบับต้องการให้คา สาคัญไม่ได้มาจากชื่อวารสาร หลีกเล่ียงส่ิงท่ีไม่ได้ใช้ อย่างกว้างขวาง ไม่เปน็ ทางการ เปน็ ตน้  10.เขียนขอ้ ความตอบรับ คณุ สามารถเขยี นขอบคณุ คน ทม่ี สี ว่ นร่วม เช่น บุคคลทใี่ หค้ วามช่วยเหลือด้านเทคนิค เกี่ยวกับการเขียนและการพิสูจน์อักษร ที่สาคัญท่ีสุดคือ การขอบคณุ หนว่ ยงานที่ระดมทุนของคุณ ในกรณีที่เป็น โครงการในยุโรป อย่าลืมระบุหมายเลขทุนหรือการ อ้างองิ  11.เขียนอ้างอิง ความผิดพลาดในการเขียนอ้างอิงเป็น ปัญหาหน่ึงท่ีน่าราคาญท่ีสุดสาหรับบรรณาธิการ คุณ ต้องอ้างอิงสิ่งพิมพ์ที่อยู่ในงานของคุณ แต่อย่าทาเกิน จริง หลีกเล่ียงการอ้างอิงตนเองมากเกินไป ลดการ สื่อสารส่วนบุคคลรวมถึงส่ิงพิมพ์ที่ยังไม่ได้ผ่านการ ตรวจสอบโดยผอู้ า่ นวรรณกรรมที่เป็นสีเทา

HOW TO SELECT YOUR JOURNAL? เลือกวารสารที่เหมาะกับ งานของคุณ

สรุป ทฤษฎี ความหมาย ขอบเขต แนวคดิ ความสาคญั ทางนวตั กรรม เทคโนโลยี สารสนเทศเพอื่ การศึกษา สรุปความหมายนวัตกรรม  1. เป็นส่ิงใหม่ๆท่ีไม่เคยมมี าก่อน 2. เป็นสง่ิ ทีม่ มี าแล้วแตไ่ มไ่ ดน้ ามาใชป้ ระโยชน์ ต่อมาได้มกี ารนามาใช้ 3. เป็นส่ิงที่มีอยู่แล้วและเคยนามาใชใ้ นช่วงหนง่ึ แต่ ไมไ่ ดร้ บั ความนิยม ตอ่ มานามาใช้ใหม่ภายใต้ สถานการณแ์ ละเง่อื นไขใหม่ท่ีเปลยี่ นแปลง 4. เป็นสิง่ ทม่ี ีอยูแ่ ล้วและใช้ได้ดีในสังคมอน่ื หรอื ประเทศอนื่ แลว้ นามาใชใ้ นสงั คมหนึง่ อีกอีกประเทศ หนึง่ 5. เป็นการพฒั นาปรับปรงุ จากของเดิมที่มีอย่ใู หม้ ี ลกั ษณะตา่ งจากตน้ แบบเพอ่ื ใหเ้ หมาะสมกับการ เปลี่ยนแปลงของสงั คม

 การนาเอาสิ่งใหม่ซ่ึงอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือ การกระทา รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ก็ตามเข้ามาใช้ในระบบ การศึกษา เพ่ือมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ ระบบการจัดการศึกษามี ประสิทธิภาพย่ิงข้ึน ทาให้ ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกิด แรงจูงใจในการเรียน และช่วยให้ประหยัดเวลาในการ เรยี น เชน่ การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การใช้ วีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ(Interactive Video) ส่ือหลายมิติ (Hypermedia) และอนิ เตอร์เนต็ เหลา่ น้ีเปน็ ตน้ “นวตั กรรมทางการศึกษา” (EDUCATIONAL INNOVATION) หมาย ถึง

 การใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการ แก้ปัญหา ผู้ที่นาเอาเทคโนโลยีมาใช้ เรียกว่านัก เทคโนโลยี (Technologist) (boonpan edt01.htm) เทคโนโลยี หมายถึง

เป็ นการขยายแนวคิดเกี่ยวกับโสตทัศนศึกษา ให้ กวา้ งขวางยิง่ ข้ึน ท้งั น้ี เนื่องจากโสตทศั นศึกษาหมายถึง การศึกษาเกี่ยวกับการใช้ตาดูหูฟัง ดังน้ันอุปกรณ์ใน สมยั ก่อนมกั เนน้ การใชป้ ระสาทสัมผสั ดา้ นการฟังและ การดูเป็ นหลกั เทคโนโลยที างการศึกษา

 1. ความแตกต่างระหวา่ งบุคคล (Individual Different) 2. ความพร้อม (Readiness) 3. การใชเ้ วลาเพอ่ื การศึกษา 4.. ประสิทธิภาพในการเรียน แนวคดิ พ้นื ฐานของนวตั กรรม

ความหมาย e-Learning หมายถึง “การ เรียนผา่ นทางส่ือ อิเลคทรอนิกส์ซ่ึงใชก้ าร นาเสนอเน้ือหาทาง คอมพวิ เตอร์ในรูปของส่ือมลั ติมีเดียไดแ้ ก่ ขอ้ ความ อิเลคทรอนิกส์ ภาพน่ิง ภาพกราฟิ ก วดิ ีโอ ภาพเคลื่อนไหว ภาพสามมิติฯลฯ  1) แบบ Real-time ไดแ้ ก่การสนทนาในลกั ษณะของ การพมิ พข์ อ้ ความแลกเปล่ียนข่าวสารกนั หรือ ส่งใน ลกั ษณะของเสียง จากบริการของ Chat room 2) แบบ Non real-time ไดแ้ ก่การส่งขอ้ ความถึงกนั ผา่ น ทางบริการ อิเลคทรอนิคเมลล์ WebBoard News- group เป็นตน้ นวตั กรรมทางการศึกษาที่สาคญั ของไทยในปัจจุบนั (2546)

เทคโนโลยี หมายถึงการใช้เคร่ืองมือให้เหมาะสมกับ สถานการณ์ในการแกป้ ัญหา ผทู้ ่ีนาเอาเทคโนโลยีมาใช้ เรียกว่านักเทคโนโลยี (Technologist) (boonpan edt01.htm) ความหมายของเทคโนโลยี

1. การขยายพสิ ัยของทรัพยากรของการเรียนรู้ 2. การเน้นการเรียนรู้แบบเอกตั บุคคล 3. การใช้วธิ ีวเิ คราะห์ระบบในการศึกษา 4. พฒั นาเคร่ืองมอื -วสั ดุ อุปกรณ์ทางการศึกษา วสั ดุและ เคร่ืองมอื ต่าง ๆ ทใี่ ช้ในการศึกษา หรือการเรียนการสอน ปัจจุบนั จะต้องมกี ารพฒั นา ให้มศี ักยภาพ หรือขดี ความสามารถในการทางานให้สูงยงิ่ ขนึ้ ไปอกี เป้ าหมายของเทคโนโลยกี ารศึกษา

1.หลกั การและทฤษฎที างจิตวทิ ยาการศึกษา 1.1 ทฤษฎกี ารเรียนรู้ 1.2 ทฤษฎคี วามแตกต่างระหว่างบุคคล 1.3 ทฤษฎกี ารพฒั นาการ 2. ทฤษฎกี ารสื่อสาร 3. ทฤษฎรี ะบบ 4. ทฤษฎกี ารเผยแพร่ หลกั การ/ทฤษฎี/วธิ ีการ/ แนวคิดที่เก่ียวขอ้ งกบั นวตั กรรม และเทคโนโลยกี ารศึกษา ประกอบดว้ ย4 ทฤษฎี

1. ทฤษฎีกระบวนการตดั สนิ ใจรบั นวัตกรรม (The Innovation Decision Process Theory) 2. ทฤษฎคี วามเปน็ นวัตกรรมในเอกตั บุคคล (The Individual Innovativeness Theory ) 3. ทฤษฎอี ตั ราการยอมรบั (The Theory of Rate Adoption) 4. ทฤษฎียอมรบั ด้วยคณุ สมบัติ (The Theory of Perceived Attributes) ทฤษฎที ่เี ก่ยี วขอ้ งในการเผยแพรน่ วตั กรรม EVERETT M. ROGERS

1.ขน้ั ของความรู้ (Knowled g) 5. ขน้ั ของการ 2. ขน้ั ของการถกู ยนื ยนั การยอมรบั ชกั นา (Comfirm (Persuasio ation) ) 4. ขน้ั ของการ 3. ขน้ั ของการ นาไปสูก่ ารปฏบิ ตั ิ ตดั สนิ ใจ (Impleme (Decision) ntation) ทฤษฎกี ระบวนการตดั สนิ ใจรบั นวตั กรรม(THE INNOVATION DECISION PROCESS THEORY)

1. กลมุ่ ไวต่อการรบั นวตั กรรม (Innovators) 5. กลมุ่ สุดทา้ ยผูร้ บั 2. กลมุ่ แรกๆทร่ี บั นวตั กรรม (Early นวตั กรรม Adoption) (Laggards) 4. กลมุ่ ใหญ่หลงั ทร่ี บั 3. กลมุ่ ใหญ่แรกทร่ี บั นวตั กรรม (Late นวตั กรรม (Early Majority) Majority) ทฤษฎคี วามเป็ นวตั กรรมในเอกตั บุคคล (THE INDIVIDUAL INNOVATIVENESS THEORY)

5. สอดคลอ้ งกบั การปฏบิ ตั ิ 1. ทดลองใชก้ ่อนการยอมรบั (Compatibility) ( Trail Ability ) 4. ไม่ซบั ซอ้ น 2. สามารถสงั เกตผลทเี่ กดิ ข้นึ (Complexity) ( Observability ) 3. มขี อ้ และประโยชน์ มากกว่า (Relative Adv antage) ทฤษฎยี อมรบั ดว้ ยคณุ สมบตั ิ (THE THEORY OF PERCEIVED ATTRIBUTES)

7. การเผยแพร่ 1. การเผยแพร่รับการ 2. การเผยแพรว่ ธิ กี าร เทคโนโลยรี ูปแบบของ จดั การศึกษาใหม่ เรยี นการสอนแบบ เรียกว่า “การปฏิรูป “ผูเ้ รยี นเป็นสาคญั ” อปุ กรณ์ การศึกษา” 6. การเผยแพร่ 3. การเผยแพร่ เทคโนโลยกี ารเรยี น นวตั กรรม “หอ้ งเรยี น แบบ “อเี ลริ น์ น่ิง” อจั ฉรยิ ะ” 5. การเผยแพร่ “ระบบ 4. การเผยแพร่ ประกนั คุณภาพ” นวตั กรรม “แป้ นพมิ พป์ ตั ติโชต”ิ การเผยแพรแ่ ละการยอมรบั นวตั กรรมและเทคโนโลยี ในประเทศไทย

จบการนาเสนอ



M = mobile /Mooc A = Analytics G = Gamifications I = Internet of things C = cloud for learning S = Social media

mobile /M0oc การเรยี นรูท้ อี่ าศยั อุปกรณ์ทส่ี ามารถพกพาไดเ้ พอื่ คน้ หา ขอ้ มูลทต่ี อ้ งการไดท้ นั ทแี ละตลอดเวลาปฏสิ มั พนั ธก์ บั ผูอ้ น่ื นอกจากเวลาเรยี นและหอ้ งเรยี นและใชเ้ พอื่ การเรยี นรูผ้ า่ นสอ่ื และ Application ตา่ งๆเพอื่ การเรยี นรทู้ ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ

Analytics การนาitมาใชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มูลสารสนเทศตา่ งๆของ ผู้เรียนและเก็ บข้อมูลไปใช้ในการออกแบบการเรียนรู้ท่ี ตอบสนองความแตกตา่ งรายบุคคลของผูเ้ รยี นไดด้ ขี นึ้

Gamifications การนาเนอ้ื หาการเรยี นรูไ้ ปออกแบบในสงิ่ แวดลอ้ มของ เกมมาใชใ้ นการจูงใจทาใหผ้ ูเ้ รยี นสนใจทจี่ ะเรยี นรูผ้ า่ นความ พยายามทจ่ี ะบรรลเุ ป้ าหมายในรปู แบบการจาลองสถานการณ์ ตา่ งๆ

อปุ กรณท์ มี่ กี ารฝงั chip หรอื smart senser ไว้ เพอื่ การ เชอื่ มตอ่ ระหวา่ งกนั ผา่ นเครอื ข่าย internet สง่ ผา้ นขอ้ มูล ตา่ งๆระหวา่ งกนั เพม่ิ ประโยชนข์ องบรกิ าร ใชใ้ นอปุ กรณ์ตา่ งๆ เชน่ ลาโพง ,gps รถยนต์

รปู แบบการใหบ้ รกิ ารแบง่ ปนั ทรพั ยากร Application หรอื ข้อมูลต่างๆถูกเก็ บไว้บนเครอ่ื ง serverให้บรกิ าร กบั ผู้คน จานวนมากได้ โดยเชอ่ื มต่อกบระบบ cloudทางคอมพวิ เตอร์ อปุ กรณ์อเิ ล็กทรอนกิ สเ์ ชอ่ มตอ่ กบั internet เรยี กใชบ้ รกิ าร ผา่ น web brower application ตา่ งๆใชง้ านไดส้ ะดวกจากทกุ สถานที่ เชน่ google for education , google drive

ผูใ้ ชม้ สี ่วนร่วมในการสรา้ งเนอื่ หาดว้ ยขอ้ ความ รูปภาพ เสยี ง clip vdo ทางwebside ,application ในการเขา้ ถงึ แลกเปลยี่ นขอ้ มูล ข่าวสารออนไลทไดห้ ลายทศิ ทางผ่าน internetเป็ นเครอื ขา่ ยสงั คมการเรยี นรู้ เชน่ face book, line, ประยุกตใ์ นการเรยี นการสอน ผูเ้ รยี นและผา้ สอนสามารถ แลกเปลยี่ นเรยี นรไู้ ดส้ ะดวกรวดเร็ว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook