๑๓ แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย (ภาษาพาที) ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง ปฏบิ ตั กิ ารสายลบั จวิ๋ เวลา ๙ ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง การสร้างประสบการณ์ทางเนื้อหา เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้ใช้แผน นางสาวณัฐชานนั ท์ นิษฐ์ธีรวัต สอนวนั ที่ ๑ มิถนุ ายน ๒๕๖๔ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหา ในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรู้สึกในโอกาสตา่ งๆอยา่ งมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชีว้ ดั ท ๑.๑ ป.๓/๑ อา่ นออกเสียงคาขอ้ ความ เรื่องส้นั ๆ และบทรอ้ ยกรองงา่ ยไดถ้ กู ตอ้ ง คล่องแคลว่ ท ๑.๑ ป.๓/๒ อธิบายความหมายของคาและขอ้ ความทีอ่ า่ น ท ๑.๑ ป.๓/๓ ต้งั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ลเกี่ยวกบั เรื่องท่อี ่าน ท ๑.๑ ป.๓/๔ ลาดบั เหตกุ ารณ์และคาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องท่ีอา่ นโดยระบเุ หตผุ ลประกอบ ท ๑.๑ ป.๓/๕ สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากเรื่องที่อา่ นเพ่ือนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ท ๑.๑ ป.๓/๖ อ่านหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอ และนาเสนอเร่ืองที่อา่ น ท ๑.๑ ป.๓/๗ อา่ นขอ้ เขยี นเชิงอธิบายและปฏิบตั ิตามคาส่ังหรือขอ้ แนะนา ท ๑.๑ ป.๓/๘ อธิบายความหมายของขอ้ มลู จากแผนภาพ แผนที่และแผนภมู ิ ท ๑.๑ ป.๓/๙ มีมารยาทในการอ่าน ท ๓.๑ ป.๓/๑ เลา่ รายละเอยี ดเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังและดู ท้งั ท่ีเป็นความรู้ และความบนั เทิง ท ๓.๑ ป.๓/๒ บอกสาระสาคญั จากการฟัง และการดู ท ๓.๑ ป.๓/๓ ต้งั คาถามและตอบคาถามเก่ียวกบั เร่ืองท่ฟี ังและดู ท ๓.๑ ป.๓/๔ พดู แสดงความคดิ เห็นและความรู้สึกจากเรื่องที่ฟังและดู ท ๓.๑ ป.๓/๕ พูดส่ือสารไดช้ ดั เจนตรงตามวตั ถุประสงค์ ท ๓.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู สาระสาคัญ ทกั ษะการฟังเป็นการสร้างประสบการณ์อยา่ งหน่ึง ท่ีทาใหม้ ีความรู้จากส่ิงท่ีฟัง สามารถเลา่ เร่ืองและ ตอบคาถามจากเรื่องไดถ้ กู ตอ้ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. สามารถอ่านเน้ือเร่ืองไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ๒. สามารถอา่ นคายากในบทเรียนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ๓. นกั เรียนสามารถบอกแนวคดิ ของบทเรียนไดถ้ กู ตอ้ ง
๑๔ สาระการเรียนรู้ ความรู้ การสร้างประสบการณ์ทางเน้ือหา - การตอบคาถามจากเร่ือง “ปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋ว” - การเล่าเรื่อง “ปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋ว” - การฟังเรื่อง “ปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิว” ทกั ษะ/กระบวนการ กระบวนการทางาน กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการนาเสนอผลงาน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. มีความซ่ือสัตยส์ ุจริต ๓. มีวนิ ยั ในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. ม่งุ มนั่ ในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสู่กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ (ภาคผนวก) ๒. ครูและนกั เรียนทบทวนหลกั การปฏิบตั ิในการฟัง จาก ใบความรู้ (ภาคผนวก) กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนและครูร่วมกนั สนทนาชื่อเรื่อง “ปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิว” โดยใชค้ าถาม ๑.๑ ใครเคยดูหนงั เก่ียวกบั สายลบั หรือนกั สืบบา้ ง ๑.๒ ผลของการปฏิบตั ิการสายลบั เป็นอยา่ งไรบา้ ง ๒. นกั เรียนและครูร่วมกนั สนทนาเกีย่ วกบั ภาพในบทเรียน ดงั น้ี ๒.๑ นกั เรียนดูภาพตวั ละครในเรื่อง และภาพเหตกุ ารณต์ อนใดตอนหน่ึง ๒.๒ นกั เรียนสนทนาเกย่ี วกบั ภาพโดยตอบคาถามวา่ ใครทาอะไร ที่ไหน อยา่ งไร เหตกุ ารณต์ อนน้ีเป็นอยา่ งไร เพราะเหตใุ ด ๒.๓ นกั เรียนฝึกเล่าหรือทานายเร่ืองจากภาพวา่ น่าจะมีเหตกุ ารณ์อยา่ งไร
๑๕ ๓. นกั เรียนฟังครูอา่ นเรื่องหรือเลา่ เร่ือง “ปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิว” จากบทเรียนโดยเนน้ มารยาทใน การฟัง โดยนกั เรียนตอบคาถามปากเปลา่ ดงั น้ี ๓.๑) เร่ืองปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิว มีตวั ละครกต่ี วั ๓.๒) อะไรเป็นตน้ เหตขุ องเรื่องน้ี ๓.๓) ก่อนปฏิบตั ิงานของนกั ปฏิบตั กิ ารสายลบั จ๋ิว ทาอยา่ งไร ๓.๔) ผลของการปฏิบตั งิ านของสายลบั จ๋ิวเป็นอยา่ งไร ๓.๕) เร่ืองน้ีใหข้ อ้ คดิ อยา่ งไร ๔. นกั เรียนช่วยกนั เลา่ เร่ืองที่ฟัง ถา้ เลา่ ไมไ่ ดค้ รูถามนาใหน้ กั เรียนตอบ ๕. ครูเขียนขอ้ ความหรือประโยคหรือเร่ืองที่นกั เรียนเล่าลงในแผนภูมิ ๖. นกั เรียนฝึกอ่านขอ้ ความในแผนภูมิจนคลอ่ ง ๗. นกั เรียนคดั ขอ้ ความในแผนภมู ิลงในสมดุ เพอ่ื ฝึกอ่าน ส่งครูตรวจ สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนทบทวนบทเรียนโดยอ่านประโยคขอ้ ความ แลว้ คดั ลงสมุด ๒. นกั เรียนทาใบงาน (ภาคผนวก) ๓. นกั เรียนเลน่ เกมสืบสวน(ภาคผนวก) ๔. มอบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา หน่วยท่ี ๑ (การบา้ น) ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ ๒. บตั รคาใหม่, คายาก ๓. รูปภาพ ๔. กระเป๋ าผนงั ๕. พจนานุกรม ๖. หนงั สือเรียนภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ เลม่ ๑ ชุด ภาษาพาที ๗. แบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ ๘. ใบงาน ๙. เกมสืบสวน
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๑๖ เป้าหมาย หลกั ฐาน วธิ ีวดั เครื่องมือวดั สาระสาคัญ -แบบสังเกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ ทกั ษะการฟังเป็นการสร้าง ผลงาน/ชิ้นงาน/ใบงาน สังเกต ทดสอบ -แบบประเมิน ประสบการณ์อยา่ งหน่ึงที่ทาใหม้ ี ความรู้จากส่ิงท่ีฟัง สามารถเลา่ เรื่องและตอบคาถามจากเรื่องได้ ถูกตอ้ ง ตวั ชี้วัด ผลงาน/ชิ้นงาน/ใบงาน สังเกต ทดสอบ -แบบสังเกตพฤติกรรม ท ๑.๑ ป.๓ /๑-๙ -แบบทดสอบ ท ๓.๑ ป.๓ /๑-๖ -แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลงาน/ชิ้นงาน/ใบงาน สังเกต ทดสอบ -แบบสังเกตพฤติกรรม ขอ้ ๑ – ๘ -แบบทดสอบ -แบบประเมิน
๑๗ บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๒. ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๓. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ......................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ลงช่ือ ..................................................................... ( นางสาวณฐั ชานนั ท์ นิษฐธ์ ีรวตั ) ครูผสู้ อน หมายเหตุ ๑) ในการบนั ทึกผลการสอนควรระบรุ ้อยละของนกั เรียนท่ีผา่ นและไม่ผา่ นในแต่ละจุดประสงคท์ ่ีได้ ระบไุ วใ้ นส่วนหนา้ ของแผนการจดั การเรียนรู้ และหากการบนั ทึกสมบรู ณ์ในทุกส่วนสามารถใช้เป็นวิจยั ในช้นั เรียนได้ ๒) ควรมีเครื่องมือการวดั และเกณฑก์ ารประเมินตามท่ีระบุในขอ้ ๕ แนบทา้ ยแผน
๑๘ แบบทดสอบก่อนการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ปฏิบตั ิการสายลบั จิว๋ โรงเรียนเทศบาลแสนสุข ภาคเรียนท่ี ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๔ ช่ือ.......................................................................................................ช้ัน.......................เลขท่ี................... คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมาย X ทบั ตวั อกั ษร ก, ข, ค, ง ที่ถกู ท่ีสุดเพียงขอ้ เดยี ว ๑. กลุม่ ปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋ว มีสมาชิกประมาณก่ีคน ก. ๑๐ คน ข. ๑๑ คน ค. ๑๒ คน ง. ๑๓ คน ๒. กลมุ่ ปฏิบตั ิการสายลบั จ๋วิ มีสมาชิกก่ีกลุ่ม ก. ๑ กล่มุ ข. ๒ กลุม่ ค. ๓ กลุ่ม ง. ๔ กลุม่ ๓. อะไรเป็นตน้ เหตขุ องเร่ืองน้ี ก. สุนขั ข. สุนขั จุดผกู โบสีแดง ค. สุนขั จุดผกู โบสีชมพู ง. สุนขั จุดผกู โบสีดา ๔. จากขอ้ ๓ ใครเป็นเจา้ ของสุนขั ดงั กลา่ ว ก. หนุ่ย ข. นา้ หวาน ค. ลงุ ใหญ่ ง. หนูติ๊ดต่ี ๕. บา้ นของติ๊ดต่ี อยทู่ ไ่ี หน ก. ปากซอย ข. ทา้ ยซอย ค. กลางซอย ง. หลงั ซอย ๖. นกั เรียนคิดวา่ กลุ่มปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิว กล่มุ ใดปฏิบตั ิการโดยใชว้ ิถีประชาธิปไตย ก. กลุ่มมดดา ข. กลุ่มมดแดง ค. กลุ่มมดยกั ษ์ ง. กล่มุ มดตะนอย ๗. ก่อนการปฏิบตั ิการของกลุ่มปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิว นกั เรียนคิดวา่ พวกเขาทาอยา่ งไรก่อน ก. วางแผน ข. ประชุม ค. ขอฟังความคิดเห็นจากสมาชิก ง. ถกู ทุกขอ้ ๘. นา้ หวานทางานอะไร ข. พนกั งานตอ้ นรับ ก. นกั ร้อง ง. แมค่ รัว ค. หางเคร่ือง
๑๙ ๙. ลงุ ใหญ่ทางานอะไร ก. นกั ร้อง ข. นกั มายากล พอ่ ครัว ค. พอ่ คา้ ง. กลุ่มมดแดง ๑๐. นกั เรียนคิดวา่ กลมุ่ ปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิว กลุ่มใดปฏิบตั ิงานไดส้ าเร็จ กล่มุ มดตะนอย ก. กลุ่มมดดา ข. ค. กลุม่ มดยกั ษ์ ง. ******************************
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ๒๐ ๑.ค ๒.ข ๓.ค ๔.ง ๕.ข ๖.ข ๗.ง ๘.ก ๙.ข ๑๐.ข
๒๑ ภาคผนวก เกม “สืบสวน” อุปกรณ์การเล่น มีดงั น้ี บตั รคา “ท่ีไหน” “ใคร” “ทาอะไร” “ทาไม” “เม่ือไร” “กบั ใคร” สลาก วิธีดาเนนิ การเล่นเกม ๑. ใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเป็นสองกลุ่ม กล่มุ ละเทา่ กนั ๒. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาจบั สลากวา่ กลมุ่ ใดจะไดเ้ ริ่มเลน่ ก่อน ๓. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ นง่ั รวมกนั เป็นแถวหนา้ กระดานซอ้ นกนั ๒ แถว ๔. เร่ิมเลน่ โดยครูชูบตั รคาที่เป็นคาถามข้นึ ทีละใบ แลว้ ใหผ้ เู้ ล่นท้งั สองฝ่ ายผลดั กนั โตต้ อบใหต้ รง คาถามทใ่ี หด้ ู ๕. การโตต้ อบการบตั รคาถามน้ีนกั เรียนตอ้ งทาอยา่ งรวดเร็ว โดยครูจะใหเ้ วลาประมาณ ๒๐ - ๓๐ นาที ถา้ ครูเอาบตั รลงเมื่อไรกห็ มดสิทธ์ิตอบ ๖. การตดั สินจะดูวา่ ฝ่ายใดตอบชา้ ตอ้ งออกจากการแขง่ ขนั มาช่วยครูเป็นกรรมการการแขง่ ขนั ดาเนินไปเร่ือย ๆ ฝ่ ายใดเหลือจานวนคนมากท่ีสุดกเ็ ป็นฝ่ายชนะ ตัวอย่าง ๑) ใคร ทาอะไร ที่ไหน เม่ือไร ฝ่ าย ก ฝ่ าย ข ฝ่ าย ค ฝ่ าย ง ลิง กินกลว้ ย บนตน้ ไม้ กลางวนั หรือไก่ กินขา้ ว ลานบา้ น ตอนเชา้ ๒) อะไร ของใคร เป็นอะไร เพราะอะไร ฝ่ าย ก ฝ่ าย ข ฝ่ าย ค ฝ่ าย ง ปากกา สมพร หกั โตะ๊ ลม้ ทบั หรือ กางเกง วชิ าญ ขาด เก่ียวตะปู ข้อเสนอแนะ ๑. ก่อนที่จะเลน่ ครูควรสาธิตและซกั ซอ้ มความเขา้ ใจกบั นกั เรียนใหด้ ีก่อนและบางคร้ัง ถึงแมค้ าท่ีโตต้ อบจะเป็นเร่ืองสมมุติข้นึ กย็ อมรับเพอื่ ความสนุกสนาน และการโตต้ อบใหต้ รงคาถามกเ็ พยี งพอ แลว้ ๒. ถา้ ครูไมไ่ ดเ้ ตรียมบตั รคาไว้ ครูอาจทาหนา้ ท่ีเป็นคนกลางคอยต้งั คาถามใหต้ รงจุดโดย ครูดูจากลกั ษณะคาตอบของผเู้ ล่นแลว้ พยายามต้งั คาถามใหต้ อ่ เน่ืองกนั เพอื่ ช่วยใหน้ กั เรียนสามารถคดิ ไดต้ อ่ เน่ือง ดว้ ย กจ็ ะทาใหบ้ รรยากาศสนุกสนานยง่ิ ข้ึน เมื่อเสร็จกิจกรรมนาเขา้ สู่บทเรียนครูกพ็ ดู โยงเขา้ สู่บทเรียนต่อไป
๒๒ ใบความรู้ เรื่อง ข้อปฏิบัติในการฟังและการพดู การฟัง เป็นการไดย้ นิ เร่ืองราวใหเ้ กิดความเขา้ ใจในเรื่องทไี่ ดย้ ิน และ นามาพิจารณาวา่ เร่ืองราวน้นั ๆ ควรเช่ือไดห้ รือไม่ นาไปใชป้ ระโยชนไ์ ดเ้ พยี งใด ข้อควรปฏบิ ัติในการฟัง ๑. ต้งั ใจฟัง ไมพ่ ดู หรือสนทนากนั ขณะฟังผอู้ ่ืนพูด ๒. คดิ ติดตามเรื่องฟังวา่ เร่ืองที่ฟังเกี่ยวกบั อะไร มีความถกู ตอ้ งเช่ือถอื ไดห้ รือไม่ ๓. การฟังคาบรรยายควรจดขอ้ ความสาคญั ท่ีไดจ้ ากการฟังไว้ มารยาทในการฟัง ๑. ต้งั ใจฟัง มองผพู้ ดู ๒. ไมค่ ยุ หรือเลน่ ขณะฟังผอู้ ่ืนพดู ๓. ไมส่ ่งเสียงดงั หรือทาความราคาญใหผ้ อู้ ่ืน ๔. ถา้ จะถามควรขออนุญาตก่อนหรือใหผ้ พู้ ูดหยดุ พดู ก่อนไมค่ วรถามขณะผพู้ ดู ยงั พดู ไมจ่ บ การพูด เป็นการแสดงความคดิ เห็นหรือบอกเล่าเร่ืองราว โดยการพูดใหผ้ อู้ ่ืนฟัง ผพู้ ูด ตอ้ งมีความคิด มีเรื่องราวท่ีจะพดู และตอ้ งจดั ลาดบั ความคิดหรือเร่ืองราวท่ี จะพดู ไมใ่ หส้ บั สน เพื่อผฟู้ ังจะไดเ้ กิดความเขา้ ใจชดั เจน ผพู้ ูดตอ้ งพูดใหช้ ดั เจน ใชภ้ าษาทถ่ี กู ตอ้ ง ข้อปฏบิ ัติในการพดู ๑. จะพูดเร่ืองอะไร ตอ้ งมีความรู้ในเร่ืองน้นั โดยการอา่ น การซกั ถามผอู้ น่ื ใหเ้ ขา้ ใจก่อน ๒. ใชภ้ าษาพูดท่ีถกู ตอ้ ง สุภาพ ๓. พูดใหเ้ สียงดงั ฟังชดั แตไ่ ม่ใชต่ ะโกน ๔. พดู ใหช้ ดั เจน ใชค้ าแทนช่ือใหถ้ กู ตอ้ ง ๕. มองผพู้ ดู ๖. ขณะพดู ตอ้ งนง่ั หรือยนื ตวั ตรงในท่าสบาย ๗. ไม่เอามอื ลว้ ง ควกั แกะ เกา ขณะพูดหรือยนื เอามอื ไขวห้ ลงั
๒๓ มารยาทในการพดู ๑. ใชน้ ้าเสียงนุ่มนวล ไมพ่ ดู กระโชกโฮกฮาก ๒. ใชถ้ อ้ ยคาสุภาพ ๓. พูดดว้ ยใจจริงและยกยอ่ งผฟู้ ัง ๔. ไมน่ ินทาผอู้ ื่นหรือพดู วา่ ร้ายผอู้ ื่น ๕. ไม่แสดงความโกรธเคอื งผฟู้ ัง ๖. รอจงั หวะในการพดู ซกั ถาม ไมพ่ ูดสอดขณะผอู้ ื่นกาลงั พูด
๒๔ ใบงาน เรื่อง การสร้างประสบการณ์ทางเนือ้ หา โรงเรียน.........................................................................ภาคเรียนท่ี .. .. ปี การศึกษา ……........ ชื่อ………………………………….เลขท่ี…………….ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท…่ี ……………… วนั ท่ี ……….. เดือน ………………………………พ.ศ. …………………… คาชีแ้ จง นกั เรียนฟังครูเลา่ เรื่องและดูภาพประกอบ แลว้ ตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง ๑. เร่ืองน้ีตวั ละครมีใครบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………… ๒. เหตกุ ารณใ์ นเร่ืองเกิดข้นึ ที่ไหน ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………… ๓. อะไรเป็นสาเหตขุ องเรื่อง ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………… ๔. ผลการปฏิบตั ิงานของกลมุ่ ปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋วเป็นอยา่ งไร ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………… ๕. นกั เรียนไดข้ อ้ คิดอะไรบา้ ง ๕.๑)………………………………………………………………………………… ๕.๒)………………………………………………………………………………… ๕.๓)…………………………………………………………………………………
๒๕ แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย (ภาษาพาที) ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เร่ือง ปฏบิ ัตกิ ารสายลบั จวิ๋ เวลา ๙ ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้ที่ ๒ เร่ือง การอ่านในใจบทเรียน เวลา ๑ ชั่วโมง ผ้ใู ช้แผน นางสาวณัฐชานนั ท์ นิษฐ์ธีรวตั สอนวนั ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๔ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๑ อา่ นออกเสียงคาขอ้ ความ เรื่องส้นั ๆ และบทร้อยกรองงา่ ยไดถ้ ูกตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว ท ๑.๑ ป.๓/๒อธิบายความหมายของคาและขอ้ ความท่อี า่ น ท ๑.๑ ป.๓/๓ ต้งั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลเกี่ยวกบั เร่ืองที่อา่ น ท ๑.๑ ป.๓/๔ ลาดบั เหตกุ ารณ์และคาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเร่ืองท่อี า่ นโดยระบุเหตุผลประกอบ ท ๑.๑ ป.๓/๕ สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากเร่ืองท่ีอา่ นเพือ่ นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ท ๑.๑ ป.๓/๖ อ่านหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอ และนาเสนอเรื่องทอี่ า่ น ท ๑.๑ ป.๓/๗ อ่านขอ้ เขยี นเชิงอธิบายและปฏิบตั ติ ามคาสั่งหรือขอ้ แนะนา ท ๑.๑ ป.๓/๘ อธิบายความหมายของขอ้ มูลจากแผนภาพ แผนที่และแผนภูมิ ท ๑.๑ ป.๓/๙ มีมารยาทในการอา่ น สาระสาคญั การอา่ นในใจเป็นทกั ษะการอ่านอยา่ งหน่ึง ที่ทาใหส้ ามารถอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ไดอ้ ย่างรวดเร็ว และจบั ใจความสาคญั ต่าง ๆ จากเรื่องท่ีอา่ นดว้ ย จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นในใจบทเรียนตามหลกั การอ่านในใจท่ีดีไดถ้ ูกตอ้ ง ๒. ต้งั คาถาม ตอบคาถาม อภิปรายและสรุปขอ้ คดิ จากเรื่องท่ีอา่ นได้ สาระการเรียนรู้ ความรู้ การอ่านในใจ เรื่อง “ปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋ว” - การจบั ใจความสาคญั - การตอบคาถามจากเรื่องที่อา่ น
๒๖ ทักษะ/กระบวนการ กระบวนการทางาน กระบวนการกลมุ่ และกระบวนการนาเสนอผลงาน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. มีความซื่อสัตยส์ ุจริต ๓. มีวินยั ในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. มุ่งมน่ั ในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสู่กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนเลน่ “เกมกระซิบปริศนา” (ภาคผนวก) ๒. สนทนากบั นกั เรียนจากเหตกุ ารณ์จากภาพในบทเรียน เพ่อื ทบทวนบทเรียน โดยครู ต้งั คาถามนาใหน้ กั เรียนตอบเพ่อื สรุปใจความสาคญั จากบทเรียน กระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนฝึกอา่ นออกเสียงคาและกล่มุ คาใตภ้ าพในบทเรียน ๒. นกั เรียนและครูสนทนาเกีย่ วกบั บทเรียน โดยใหน้ กั เรียนอ่านแผนภูมิท่ีครูและ นกั เรียนช่วยกนั เขียนสรุปในชว่ั โมงท่ีแลว้ และฝึกสะกดคาคาใหม่ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ (บทท่ี ๑ ) ๓. ครูเขียนคาถามบนกระดานดาหรือติดแผนภมู ิคาถามบนกระดานดา ดงั น้ี ๓.๑) เรื่องปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิว มีตวั ละครกี่ตวั ๓.๒) อะไรเป็นตน้ เหตขุ องเร่ืองน้ี ๓.๓) สายลบั จิ๋ววางแผนกนั ตามหาสิ่งใด ๓.๔) สายลบั มดแดงสืบจากใครเป็นอนั ดบั แรก ๓.๕) สายลบั มดดาสืบจากใครเป็นอนั ดบั แรก ๓.๖).ผลการปฏิบตั งิ านของกลุ่มปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิวเป็นอยา่ งไร ๓.๗) เรื่องน้ีใหข้ อ้ คิดอยา่ งไร ๔. นกั เรียนฝึกอา่ นคาถามบนกระดานดาเพ่อื เตรียมตอบคาถามจากการอ่านในใจ ๕. นกั เรียนอ่านในใจ เร่ือง “ปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋ว” แลว้ ตอบคาถามปากเปล่า ๖. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปใจความสาคญั ของเร่ือง โดยวาดภาพตอนใดตอน หน่ึง แลว้ เขียนบรรยายส้ัน ๆ ประมาณ ๒ – ๓ บรรทดั ๗. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มออกมาอา่ นผลงานของตนใหเ้ พื่อนฟัง ๘. เกบ็ รวบรวมผลงานทาเป็นหนงั สืออ่านประกอบภาพไวใ้ นช้นั เรียน
๒๗ สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปเน้ือหาจากบทเรียน ๒. มอบหมายใหท้ าแบบฝึกหดั เป็นการบา้ น ๓. นกั เรียนทาใบงาน (ภาคผนวก) ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนงั สือเรียนภาษาไทย ป.๓ เล่ม ๑ ชุดภาษาพาที ๒. แบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา ป.๓ ๓. บตั รคา ๔. ใบงาน ๕. เกมกระซิบปริศนา ๖. กระเป๋ าผนงั การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป้าหมาย หลกั ฐาน วธิ วี ัด เคร่ืองมือวดั สาระสาคัญ -แบบสงั เกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ การอา่ นในใจเป็นทกั ษะ ผลงาน/ชิ้นงาน/ใบงาน สงั เกต ทดสอบ -แบบประเมนิ การอ่านอยา่ งหน่ึง ที่ทาให้ -แบบสังเกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ สามารถอา่ นเรื่องราวตา่ ง ๆ ได้ -แบบประเมิน -แบบสังเกตพฤติกรรม อยา่ งรวดเร็ว และจบั ใจความ -แบบทดสอบ -แบบประเมนิ สาคญั ต่าง ๆ จากเร่ืองทอ่ี ่านดว้ ย ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๓ /๑-๙ ผลงาน/ชิ้นงาน/ใบงาน สงั เกต ทดสอบ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลงาน/ชิน้ งาน/ใบงาน สงั เกต ทดสอบ ขอ้ ๑ – ๘
๒๘ บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๒. ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๓. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ......................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ลงช่ือ ..................................................................... ( นางสาวณฐั ชานนั ท์ นิษฐธ์ ีรวตั ) ครูผสู้ อน หมายเหตุ ๑) ในการบนั ทึกผลการสอนควรระบรุ ้อยละของนกั เรียนท่ีผา่ นและไม่ผา่ นในแต่ละจุดประสงคท์ ่ีได้ ระบไุ วใ้ นส่วนหนา้ ของแผนการจดั การเรียนรู้ และหากการบนั ทึกสมบรู ณ์ในทุกส่วนสามารถใช้เป็นวิจยั ในช้นั เรียนได้ ๒) ควรมีเครื่องมือการวดั และเกณฑก์ ารประเมินตามท่ีระบุในขอ้ ๕ แนบทา้ ยแผน
๒๙ เกมกระซิบปริศนา จดุ ประสงค์ ๑. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถจบั ใจความจากประโยคหรือขอ้ ความส้ัน ๆ ได้ ๒. เพื่อใหน้ กั เรียนสามารถอ่านและแยกคาควบกล้า ร ล และ ว ได้ ๓. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนมีสมาธิในการฟัง อปุ กรณ์ แถบประโยคปริศนา ดาวเดือนเคล่ือนคล้อย หมาน้อยหายไปอย่างไร วิธเี ล่น ๑ . แบ่งนกั เรียนออกเป็น ๕ กลุ่ม แลว้ ใหน้ กั เรียนต้งั ช้ือกลมุ่ ของตนเอง ๒. ใหแ้ ต่ละกล่มุ เขา้ แถวและเลอื กตวั แทนกลุ่ม ๓. ตวั แทนกลมุ่ อา่ นขอ้ ความและกลบั ไปกระซิบบอกขอ้ ความแก่คนต่อไป กระซิบตอ่ ไป เร่ือย ๆ จนถึงคนสุดทา้ ย ๔. คนสุดทา้ ยเขยี นขอ้ ทต่ี นไดย้ นิ บนกระดาน กลมุ่ ใดมีขอ้ ความตรงกบั ขอ้ ความในแถบ ประโยคจะเป็นฝ่ ายชนะ
๓๐ ใบความรู้ เรื่อง การอ่านในใจบทเรียน การอ่านเพ่ือจบั ใจความ คือการอ่านเพื่อทาความเขา้ ใจกบั เน้ือเรื่องของเร่ืองท่ีอ่าน โดยมีจุดประสงคเ์ พื่อใหเ้ กิด ความรู้ความเขา้ ใจและเพอื่ ต้งั คาถามและตอบคาถามจากเน้ือเรื่องที่อ่านได้ หลกั การอา่ นในใจ ๑. กาหนดจานวนหน้าของหนังสือท่ีจะอ่านไวใ้ นใจ แลว้ จบั เวลาว่าใช้เวลาในการอ่าน นานเท่าใด และพยายามปรับปรุงการอา่ นใหเ้ ร็วข้ึนเร่ือย ๆ ๒. ฝึกการอา่ นโดยอา่ นเป็นกลมุ่ คา วลี ไม่อา่ นเป็นคา ๆ เพราะทาใหอ้ ่านชา้ ๓. ฝึกจบั สายตาที่ตวั อกั ษรเป็นช่วง ๆ ไมจ่ บั สายตาอยทู่ ี่ตวั อกั ษรทีละคา ๔. อยา่ กงั วลกบั เรื่องคาศพั ท์ ศพั ทค์ าใดไม่เขา้ ใจความหมายจงอา่ นผา่ นไปเพราะเรื่องราว ในเน้ือหาท่ีมีอยจู่ ะช่วยใหเ้ ราเขา้ ใจคาศพั ทน์ ้นั ได้ ตอ่ เม่ือมีเวลาวา่ งจึงค่อยคน้ หาคาศพั ทแ์ ละบนั ทึก ความหมายของคาศพั ทไ์ วเ้ พอ่ื เป็นแนวทางสาหรับอ่านคร้ังต่อๆ ไป ๕. ไมอ่ ่านออกเสียงหรือขยบั ปาก และไม่ส่ายหนา้ ตามตวั หนงั สือ อยา่ งไรก็ตาม ในการอ่านในใจน้นั ไมว่ า่ จะอา่ นไดร้ วดเร็วเพียงใดก็ตาม สิ่งสาคญั จะตอ้ ง อา่ น แลว้ เขา้ ใจเน้ือเรื่อง สามารถต้งั คาถามตอบคาถามเน้ือเร่ืองได้
๓๑ เรื่อง คาใหม่ในบทเรียน กตกิ า กระจ้อยร่อย กระตือรือร้น กรู นักมายากล จ้อกแจ้ก ฉันเพล มารยาท วนิ ัย ปฏบิ ัตกิ าร ปฏเิ สธ สามัคคี ล้มคะมา วธิ ีการ สมาชิก สรุป สายลบั สาเร็จ สู้ยบิ ตา
๓๒ คาชี้แจง ใบความรู้ เร่ือง คาและกลุ่มคา ให้นกั เรียนฝึ กอ่านคาและกล่มุ คา สกปรก นกยกั ษ์ ชกั ลาก นาคปรก หกลม้ ตม้ เคม็ เขม้ แขง็ แข่งขนั วนั เกิด เพลิดเพลิน เดินเล่น เขน็ รถ หมดกนั ฟันสวย อวยพร จรจดั
๓๓ ใบงาน โรงเรียนเทศบาลแสนสุข ภาคเรียนท่ี ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๔ ช่ือ.............................……………………………................ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓/........ เลขที่ .....…… คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี ใหถ้ กู ตอ้ ง ๑. เหตใุ ดหนูต๊ิดต่ีจึงรอ้ งให้ …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ๒. กลุม่ ปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋ว มีสมาชิกประมาณกี่คน …………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….. ๓. กลมุ่ ปฏิบตั ิการสายลบั จ๋ิว มีสมาชิกกี่กลุม่ อะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ๓. ถา้ หากกลมุ่ ปฏิบตั กิ ารสายลบั จิ๋ว ไมช่ ่วยเหลือ “หนูติด๊ ตี่” จะเป็นอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………… ๔. หมาของหนูต๊ิดต่ีมลี กั ษณะอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………..…… ๕. วธิ ีการปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋ว กลมุ่ ใดน่าเอาเป็นเยย่ี งอยา่ ง …………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………..… ๖. หมาของหนูต๊ิดตี่ ไปหลงอยบู่ า้ นใคร …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………..…………………
๓๔ ๗. ลุงใหญม่ ีอาชีพอะไร …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ๘. นา้ หวานมีอาชีพอะไร …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ๙. ป้าแจ่ม มีอาชีพอะไร …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ๑๐. เรื่องน้ีใหข้ อ้ คิดอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………
๓๕ แผนการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย (ภาษาพาที) ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง ปฏิบัติการสายลบั จว๋ิ เวลา ๙ ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้ที่ ๓ เร่ือง การอ่านสะกดคาและแจกลูก เวลา ๑ ช่ัวโมง ผ้ใู ช้แผน นางสาวณฐั ชานนั ท์ นิษฐ์ธีรวตั สอนวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพือ่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาใน การดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น สาระท่ี ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความและเขยี นเรื่องราว ใน รูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๑ อา่ นออกเสียงคาขอ้ ความ เรื่องส้นั ๆ และบทรอ้ ยกรองงา่ ยไดถ้ ูกตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ ท ๑.๑ ป.๓/๒อธิบายความหมายของคาและขอ้ ความที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๓/๓ ต้งั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ลเก่ียวกบั เร่ืองที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๓/๔ ลาดบั เหตกุ ารณ์และคาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องทีอ่ ่านโดยระบุเหตผุ ลประกอบ ท ๑.๑ ป.๓/๕ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากเรื่องท่ีอา่ นเพือ่ นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ท ๑.๑ ป.๓/๖ อา่ นหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสมา่ เสมอ และนาเสนอเรื่องทีอ่ ่าน ท ๑.๑ ป.๓/๗ อา่ นขอ้ เขยี นเชิงอธิบายและปฏิบตั ิตามคาสั่งหรือขอ้ แนะนา ท ๑.๑ ป.๓/๘ อธิบายความหมายของขอ้ มลู จากแผนภาพ แผนที่และแผนภมู ิ ท ๑.๑ ป.๓/๙ มีมารยาทในการอา่ น ท ๒.๑ ป.๓/๑ คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ท ๒.๑ ป.๓/๒ เขียนบรรยายเกี่ยวกบั สิ่งใดสิ่งหน่ึงไดอ้ ยา่ งชดั เจน ท ๒.๑ ป.๓/๓ เขยี นบนั ทกึ ประจาวนั ท ๒.๑ ป.๓/๔ เขยี นจดหมายลาครู ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขยี นเรื่องตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขยี น สาระสาคญั การฝึกอ่านคาตา่ งๆ ในภาษาไทยจะช่วยใหม้ ีทกั ษะพ้ืนฐานดา้ นการสะกดคา เหลา่ น้นั ไดถ้ กู ตอ้ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคายากไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน ๒. อา่ นประโยคในบทเรียนไดถ้ ูกตอ้ ง ๓. เขียนตามคาบอกไดถ้ ูกตอ้ ง
๓๖ สาระการเรียนรู้ ความรู้ - การอา่ นคายากและสะกดคายากในบทเรียน - การอ่านคาและกล่มุ คาประเภทต่าง ๆ ทกั ษะ/กระบวนการ กระบวนการทางาน กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการนาเสนอผลงาน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. มีความซื่อสัตยส์ ุจริต ๓. มีวนิ ยั ในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. มุ่งมน่ั ในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณ กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสู่กระบวนการเรียนรู้ นกั เรียนเล่นเกม “ยมิ้ รับดอกไม”้ (ภาคผนวก) กระบวนการเรียนรู้ ๑. ทบทวนคาต่าง ๆ จากบทเรียน โดยใหน้ กั เรียนอา่ นแผนภมู ิที่ครูและนกั เรียนช่วยกนั เขยี น สรุปไวแ้ ลว้ โดยอ่านคาทีเ่ รายงั ไมไ่ ดเ้ รียนวา่ มีอะไรบา้ ง ๒. แบง่ นกั เรียนออกเป็น ๓ กลุ่ม แลว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ ศึกษาใบความรู้ เร่ือง การอ่านคาท่ีมีอกั ษรกลางเป็นพยญั ชนะตน้ การอา่ นคาท่ีมอี กั ษรสูงเป็นพยญั ชนะตน้ การอา่ นคาที่มี อกั ษรตา่ เป็นพยญั ชนะตน้ ๓. ส่งตวั แทนกลุ่มออกมารายงานหนา้ ช้นั เรียน ๔. นกั เรียนร่วมกนั สรุปหลกั เกณฑก์ ารอา่ นคาที่มีอกั ษรกลางเป็นพยญั ชนะตน้ การอา่ นคาที่มีอกั ษรสูงเป็นพยญั ชนะตน้ การอา่ นคาท่ีมีอกั ษรตา่ เป็นพยญั ชนะตน้ ๕. นกั เรียนคดั คาที่มีอกั ษรกลาง อกั ษรสูง และอกั ษรตา่ ท่ีเป็นพยญั ชนะตน้ ลงในสมุดของแตล่ ะกล่มุ เพอื่ ฝึกอา่ น (ถา้ นกั เรียนทาไม่เสร็จกใ็ หท้ าเป็นการบา้ น) ๖. นกั เรียนรวบรวมคาท่ีมอี กั ษรกลาง อกั ษรสูง และอกั ษรต่า ท่ีเป็นพยญั ชนะตน้ จากหนงั สือเรียนเพอ่ื ฝึกอ่าน สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนช่วยกนั นาคาที่มีอกั ษรกลาง อกั ษรสูงและอกั ษรต่า ท่ีเป็นพยญั ชนะตน้ ในบทเรียนมาแตง่ ประโยคปากเปลา่ ๒. นกั เรียนทาใบงาน (ภาคผนวก)
๓๗ ๓. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ (เป็นการบา้ น) ๔. นกั เรียนและครูช่วยกนั สรุปบทเรียน ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ ๑. บตั รคา ๒. ใบความรู้ ๓. ใบงาน ๔. หนงั สือเรียนภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่ม ๑ ๕. แบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ ๖. เกม “ยม้ิ รับดอกไม”้ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ เป้าหมาย หลกั ฐาน วธิ ีวัด เครื่องมือวดั สาระสาคัญ -แบบสังเกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ การฝึกอา่ นคาตา่ งๆ ใน ผลงาน/ชิน้ งาน/ใบงาน สงั เกต ทดสอบ -แบบประเมิน ภาษาไทยจะช่วยใหม้ ีทกั ษะ -แบบสงั เกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ พ้ืนฐานดา้ นการสะกดคา -แบบประเมนิ -แบบสังเกตพฤติกรรม เหลา่ น้นั ไดถ้ ูกตอ้ ง -แบบทดสอบ -แบบประเมิน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓ /๑-๙ ผลงาน/ชิน้ งาน/ใบงาน สงั เกต ทดสอบ ท ๒.๑ ป.๓ /๑-๖ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ขอ้ ๑ – ๘ ผลงาน/ชิ้นงาน/ใบงาน สังเกต ทดสอบ
๓๘ บันทึกผลการจดั การเรียนรู้ ๑. ผลการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๒. ปัญหา/อปุ สรรค ............................................................................................................................. ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๓. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ......................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ลงช่ือ ..................................................................... ( นางสาวณฐั ชานนั ท์ นิษฐ์ธีรวตั ) ครูผสู้ อน หมายเหตุ ๑) ในการบนั ทึกผลการสอนควรระบุร้อยละของนกั เรียนท่ีผา่ นและไม่ผา่ นในแต่ละจุดประสงคท์ ่ีได้ ระบไุ วใ้ นส่วนหนา้ ของแผนการจดั การเรียนรู้ และหากการบนั ทึกสมบรู ณ์ในทุกส่วนสามารถใช้เป็นวิจยั ในช้นั เรียนได้ ๒) ควรมีเคร่ืองมอื การวดั และเกณฑก์ ารประเมนิ ตามที่ระบใุ นขอ้ ๕ แนบทา้ ยแผน
๓๙ ภาคผนวก เกม “ยิม้ รับดอกไม้” จุดประสงค์ ๑. เพื่อฝึกการอา่ น ๒. เพอื่ ความสนุกกบั บทเรียน อุปกรณ์และวธิ ที า ๑. กระดาษแขง็ ใชท้ าบตั รคา คาใหม่ ตดั เป็นรูปดอกไม้ จานวนก่ีบตั รกไ็ ด้ แลว้ แตเ่ วลา ท่ีกาหนดใหน้ กั เรียนเล่น ๒. จานวนผเู้ ล่น ไม่จากดั จานวน ๓. แผนภมู ิเพลง “ยมิ้ รับดอกไม”้ โดยใหน้ กั เรียนอา่ นและร้องใหไ้ ดก้ ่อนเลน่ เกม เพลง “ยมิ้ รับดอกไม้” ส่งดอกไมแ้ ลว้ กส็ ่งยมิ้ เธอจงยม้ิ แลว้ รับดอกไม้ โปรดถนอมอยา่ ใหร้ ่วงหล่น เราทกุ คนรักษาใหไ้ ด้ ยมิ้ ยมิ้ ยมิ้ แลว้ ส่งดอกไม้ ไดด้ อกไมแ้ ลว้ ก็จงยม้ิ หลนั่ ลนั ลา ลนั ลา ลนั ลา หลนั่ ลนั ลา ลนั ลา ลนั ลา กจิ กรรม ๑. ใหน้ กั เรียนยนื เป็นวงกลม ร้องเพลง “ยม้ิ รับดอกไม”้ ๒. ครูส่งบตั รคาใหท้ ีละบตั ร ขณะที่ครูและนกั เรียนร้องเพลง บตั รคาท่ีครูส่งใหจ้ ะตอ้ ง อ่านแลว้ ส่งตอ่ ไปเรื่อย ๆ ๓. ครูใหส้ ัญญาณหยดุ ร้องเพลง บตั รคาอยใู่ นมือใคร ผนู้ ้นั จะตอ้ งอ่านบตั รคาใหม่ (อาจสะกดดว้ ยก็ได้ ใครอ่านไดถ้ ูกตอ้ ง เพอื่ น ๆ จะปรบมือให้ หมุนเวยี นไปเช่นน้ีจนครบทุกคน)
๔๐ ใบความรู้ การอ่านคาและกล่มุ คาทม่ี อี กั ษรกลาง เป็ นพยญั ชนะต้น กติกา เจบ็ ปวด ฏีกา ปฏิบตั ิ ดาแดง ตกใจ บ้านป้า ป้องกนั อาการ อ้าปาก อกั ษรกลางมี ๙ ตวั ได้แก่ ก จ ฏ ฎ ด ต บ ป อ การอ่านคากล่มุ คาทม่ี อี กั ษรสูง เป็ นพยัญชนะต้น แข็งขัน ฉุกเฉิน ถิ่นฐาน ผดิ ถูก ฝึ กฝน ศึกษา สอดไส้ หาข่าว อกั ษรสูงมี ๑๑ ตวั ได้แก่ ขฃฉฐถผฝศษสห การอ่านคากล่มุ คาทมี่ อี กั ษรต่า เป็ นพยัญชนะต้น คะมา เครือญาติ ชมพู เซ็งแซ่ เฒ่าชรา ทบทวน ท้ายซอย ธงชาติ นักร้อง นง่ั ฌาน เณรน้อย พูดคยุ ฟุ้งเฟ้อ ภาคภูมิ มณฑา มดงาน มอมแมม เมื่อวานเยาะเย้ย ระฆงั เร่งรีบ เรียบร้อย ลานวดั วิฬาร์ ฮวบฮาบ อกั ษรตา่ มี ๒๔ ตวั ได้แก่ ค ฅฆ ง ช ฃ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธน พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬฮ
๔๑ ใบงาน (งานกลุ่ม) โรงเรียนเทศบาลแสนสุข ภาคเรียนท่ี ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๔ ช่ือกลมุ่ ........................................................................................………ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี ๓ /.................. วนั ที่…… เดือน ……………………………… พ.ศ……………… คาชี้แจง แบ่งนกั เรียนออกเป็น ๖ กลมุ่ (ตามความเหมาะสม) แลว้ ใหน้ กั เรียนหาคาตามหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ีใหไ้ ดม้ าก ท่ีสุด กลมุ่ ละ ๑ หวั ขอ้ แลว้ ส่งตวั แทนออกมารายงานหนา้ ช้นั เรียน ๑. คาท่ีมีพยญั ชนะตน้ เป็นอกั ษรกลาง ๒. คาท่ีมีพยญั ชนะตน้ เป็นอกั ษรสูง ๓. คาที่มีพยญั ชนะตน้ เป็นอกั ษรต่า ๔. คาท่ีมีสระเปลยี่ นรูปเมือ่ มตี วั สะกด ๕. คาท่ีไม่มีรูปสระปรากฏ ๖. คาที่มีรูปวรรณยกุ ตแ์ ละคาทไ่ี ม่มีรูปวรรณยกุ ต์ …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………….………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………….………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………….………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………….………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………….…… สมาชิกกลุม่ ………………………………………….…….. …………………………………………….… ………………………………………….…….. ……………………………………….………
๔๒ ใบงานที่ ๑ โรงเรียนเทศบาลแสนสุข ภาคเรียนที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๔ ช่ือ....................................................................................ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓ /..............เลขท่ี.............. คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนคาและกลมุ่ คาท่ีมอี กั ษรกลางเป็นพยญั ชนะตน้ ในช่องวา่ งที่กาหนดให้ กลอง ก อกั ษรกลาง เดก็ จิก ด จ เดก็ โอง่ ต อ
๔๓ ใบงานท่ี ๒ โรงเรียนเทศบาลแสนสุข ภาคเรียนท่ี ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๔ ช่ือ....................................................................................ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี ๓ /..............เลขท่ี.............. คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขยี นคาและกลุ่มคาท่ีมอี กั ษรสูงเป็นพยญั ชนะตน้ ในช่องวา่ งท่ีกาหนดให้ ไข่ อกั ษรสูง อกั ษรสูง อกั ษรสูง
๔๔ ใบงานที่ ๓ โรงเรียนเทศบาลแสนสุข ภาคเรียนท่ี ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๔ ชื่อ....................................................................................ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี ๓ /..............เลขท่ี.............. คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขยี นคาและกลุ่มคาท่ีมอี กั ษรต่าเป็นพยญั ชนะตน้ ในช่องวา่ งที่กาหนดให้ ไข่ อกั ษรตา่ อกั ษรตา่ อกั ษรต่า
๔๕ ใบงาน (งานกล่มุ ) โรงเรียนเทศบาลแสนสุข ภาคเรียนที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๔ ชื่อกลมุ่ ...................................................................................................………ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓/............... คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนนาคาท่ีมีพยญั ชนะตน้ เป็นอกั ษรกลาง อกั ษรสูง และอกั ษรตา่ ไปแต่งประโยคให้ ถูกตอ้ ง สมบรู ณ์ ตัวอย่าง ครู = ฉนั รักคณุ ครูมาก ๑. …………….. = ................................................................................................ ๒. …………….. = ................................................................................................ ๓. …………….. = ................................................................................................ ๔. …………….. = ................................................................................................ ๕. …………….. = ................................................................................................ ๖. …………….. = ................................................................................................ ๗. …………….. = ................................................................................................ ๘. …………….. = ................................................................................................ ๙. …………….. = ................................................................................................ ๑๐…………….. = ................................................................................................
๔๖ แผนการจัดการเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย (ภาษาพาที) ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่ือง ปฏิบัตกิ ารสายลบั จว๋ิ เวลา ๙ ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ท่ี ๔ เร่ือง การอ่านออกเสียงบทเรียน เวลา ๑ ชั่วโมง ผ้ใู ช้แผน นางสาวณฐั ชานนั ท์ นิษฐ์ธีรวตั สอนวันท่ี ๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิด เพือ่ นาไปใชต้ ดั สินใจแกป้ ัญหา ใน การดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน สาระท่ี ๒ การอ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่ืองราวใน รูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๓/๑ อ่านออกเสียงคาขอ้ ความ เร่ืองส้นั ๆ และบทร้อยกรองง่ายไดถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ ท ๑.๑ ป.๓/๒อธิบายความหมายของคาและขอ้ ความที่อา่ น ท ๑.๑ ป.๓/๓ ต้งั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลเก่ียวกบั เร่ืองที่อา่ น ท ๑.๑ ป.๓/๔ ลาดบั เหตกุ ารณ์และคาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเร่ืองที่อ่านโดยระบุเหตุผลประกอบ ท ๑.๑ ป.๓/๕ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากเรื่องที่อา่ นเพื่อนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ท ๑.๑ ป.๓/๖ อ่านหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอ และนาเสนอเรื่องที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๓/๗ อา่ นขอ้ เขยี นเชิงอธิบายและปฏิบตั ิตามคาสง่ั หรือขอ้ แนะนา ท ๑.๑ ป.๓/๘ อธิบายความหมายของขอ้ มลู จากแผนภาพ แผนที่และแผนภูมิ ท ๑.๑ ป.๓/๙ มีมารยาทในการอา่ น ท ๒.๑ ป.๓/๑ คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ท ๒.๑ ป.๓/๒ เขียนบรรยายเกี่ยวกบั สิ่งใดส่ิงหน่ึงไดอ้ ยา่ งชดั เจน ท ๒.๑ ป.๓/๓ เขยี นบนั ทึกประจาวนั ท ๒.๑ ป.๓/๔ เขยี นจดหมายลาครู ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขียนเรื่องตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขยี น สาระสาคัญ การอา่ นออกเสียงบทเรียน จะตอ้ งฝึกทกั ษะการอา่ นคาเป็นคายาก โดยตอ้ งอ่านได้ ถูกตอ้ งตาม หลกั เกณฑก์ ารอา่ น ฝึกอา่ นคา ประโยค และเน้ือเรื่องในบทเรียน โดยการแบง่ วรรคตอนการอา่ นใหถ้ กู ตอ้ ง
๔๗ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑.อา่ นออกเสียงคายากไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน ๒.อ่านประโยคในบทเรียนไดถ้ ูกตอ้ ง ๓.เขียนตามคาบอกไดถ้ ูกตอ้ ง สาระการเรียนรู้ ความรู้ ๑. บทเรียนหน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๑ เร่ือง ปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋ว ๒. การอ่านออกเสียงเน้ือเร่ืองในบทเรียน ทกั ษะ/กระบวนการ กระบวนการทางาน กระบวนการกลมุ่ และกระบวนการนาเสนอผลงาน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. มีความซื่อสัตยส์ ุจริต ๓. มีวินยั ในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง ๖. มงุ่ มน่ั ในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ กระบวนจดั การการเรียนรู้ นาสู่กระบวนการเรียนรู้ นกั เรียนฝึกอ่านคายากในบทเรียนจากบตั รคาและแบบฝึกอ่านทา้ ยบทเรียน เช่น กติกา กระจอ้ ยร่อย กระตือรือร้น กรู จอ้ กแจก้ ฉนั เพล นกั มายากล ปฏิบตั ิการ ปฏิเสธ มารยาท ลม้ คะมา วิธีการ วินยั สมาชิก สรุป สามคั คี สายลบั สาเร็จ สู้ยบิ ตา กระบวนการเรียนรู้ ๑. สนทนาถึงหลกั ในการอา่ นออกเสียงทถ่ี ูกตอ้ ง แลว้ ใหน้ กั เรียนศึกษาใบความรู้ ๒. ครูอ่านใหน้ กั เรียนฟังเป็นตวั อยา่ งแลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นตาม ๓. ครูใหน้ กั เรียนฝึกอา่ นคนละ ๑ ยอ่ หนา้ แลว้ สงั เกตพฤตกิ รรมการอา่ นออกเสียง จากบทเรียนวา่ อา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน ตามอกั ขรวธิ ี เวน้ วรรคตอนไดถ้ กู ตอ้ งหรือไม่ และครูควรฝึกใหเ้ ดก็ แกไ้ ขทนั ที ๔. นกั เรียนฝึกอา่ นออกเสียงจากแถบประโยค หรือแผนภมู ิประโยคที่ครูเขยี นบนกระดาน ดา โดยใหน้ กั เรียนสังเกตคาที่ขีดเสน้ ใต้ เช่น
๔๘ ๔.๑ เด็กๆท้งั ชายและหญิงประมาณสิบกวา่ คน ๔.๒ เดก็ ๆ พดู คยุ กนั เสียงดงั จ้อกแจ้ก ๔.๓ สวสั ดีสมาชิกสายลบั จิ๋วทกุ คน ๔.๔ ทกุ คนทาความเคารพหวั หนา้ หนุ่ย ๔.๕ เดก็ ๆ แยกยา้ ยกนั ปฏบิ ตั ิงาน ๔.๖ กลมุ่ มดแดงทางานสาเร็จ ฯลฯ ๕. ครูและนกั เรียนสนทนาความหมายของคาทขี่ ีดเสน้ ใต้ พร้อมกบั คดั ลงในสมุด ๖. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสม ประมาณ ๓ กลุ่ม แลว้ ตกลงเรียน รู้ร่วมกนั โดยแบง่ เน้ือหาออกเป็น ๓ ตอน เพ่ือใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ไดฝ้ ึกอา่ นแลว้ ส่งตวั แทนออกมารายงาน สรุปใจความสาคญั จากเร่ืองท่ีอา่ น ๗. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ คน้ หาความหมายและคาใหม่จากพจนานุกรมแลว้ ทาลง ในใบงาน งานกลุ่ม (ภาคผนวก) ที่ครูแจกให้ สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนฝึกอา่ นในกลุ่มของตนเองจนคลอ่ งและให้นกั เรียนทีอ่ า่ นบกพร่อง ใหม้ าฝึกอ่าน กบั ครูเป็นรายบุคคล (สอนซ่อมเสริม) ๒. นกั เรียนทาใบงาน (ภาคผนวก) ๓. มอบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา ชุด ภาษาเพอ่ื ชีวติ เป็นการบา้ น สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. บตั รคายาก ๒. แถบประโยค ๓. กระเป๋ าผนงั ๔. พจนานุกรม ๕. ใบงาน ๖. หนงั สือเรียนภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ ๓ เลม่ ๑ ภาษาพาที ๗. ใบความรู้ ๘. แบบฝึกทกั ษะภาษา ชุดภาษาเพือ่ ชีวติ ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๓
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ๔๙ เป้าหมาย หลกั ฐาน วธิ ีวดั เคร่ืองมือวัด สาระสาคัญ ผลงาน/ชิน้ งาน/ใบงาน สงั เกต ทดสอบ -แบบสงั เกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ การอ่านออกเสียง -แบบประเมิน บทเรียน จะตอ้ งฝึกทกั ษะการ -แบบสงั เกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ อ่านคาเป็นคายาก โดยตอ้ งอา่ น -แบบประเมิน -แบบสงั เกตพฤติกรรม ได้ ถูกตอ้ งตามหลกั เกณฑก์ าร -แบบทดสอบ -แบบประเมนิ อา่ น ฝึกอา่ นคา ประโยค และ เน้ือเรื่องในบทเรียน โดยการ แบง่ วรรคตอนการอา่ นให้ ถกู ตอ้ ง ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๓ /๑-๙ ผลงาน/ชิน้ งาน/ใบงาน สังเกต ทดสอบ ท ๒.๑ ป.๓ /๑-๖ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ขอ้ ๑ – ๘ ผลงาน/ชิน้ งาน/ใบงาน สังเกต ทดสอบ
๕๐ บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๒. ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๓. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ......................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ลงช่ือ ..................................................................... ( นางสาวณฐั ชานนั ท์ นิษฐธ์ ีรวตั ) ครูผสู้ อน หมายเหตุ ๑) ในการบนั ทึกผลการสอนควรระบรุ ้อยละของนกั เรียนท่ีผา่ นและไม่ผา่ นในแต่ละจุดประสงคท์ ่ีได้ ระบุไวใ้ นส่วนหนา้ ของแผนการจดั การเรียนรู้ และหากการบนั ทึกสมบรู ณ์ในทุกส่วนสามารถใช้เป็นวิจยั ในช้นั เรียนได้ ๒) ควรมีเครื่องมือการวดั และเกณฑก์ ารประเมินตามท่ีระบุในขอ้ ๕ แนบทา้ ยแผน
๕๑ ใบความรู้ เรื่อง การอ่านออกเสียง การอ่านออกเสียง คอื การอ่านท่ีผอู้ ่ืนสามารถไดย้ นิ เสียงอา่ นได้ การอา่ นออกเสียงนอกจากเป็นการ ส่ือสารอยา่ งหน่ึงแลว้ ผฟู้ ังยงั ไดร้ ับประโยชนค์ อื เกิดความเพลิดเพลนิ ในน้าเสียงและจงั หวะใน การอา่ น หลกั การอ่านออกเสียงทีด่ ี ๑. อา่ นออกเสียงไดช้ ดั เจน และตรงตามอกั ขระวิธี เช่น อา่ นคาควบกล้า ๒. อ่านถูกจงั หวะวรรคตอน และอา่ นเคร่ืองหมายวรรคตอนไดถ้ กู ตอ้ ง ๓. ระดบั เสียงเหมาะสมกบั ขอ้ ความหรือเน้ือเร่ือง ๔. ไมอ่ า่ นตูต่ วั เติมคา หรืออา่ นตะกุกตะกกั ๕. นงั่ หรือยนื อา่ นตามสบาย ไม่เกร็งตวั หรือยดื ตวั เตม็ ที่ กม้ หนา้ หรือโคง้ ตวั เลก็ นอ้ ย ๖. จบั หนงั สือเอยี งเขา้ หาตวั เลก็ นอ้ ย (ทามมุ ๔๕ องศา) ระยะห่างจากตวั ประมาณ ๑๒ นิ้ว ๗. จบั หนงั สือใหถ้ กู ตอ้ งขณะอา่ น (ถา้ ไม่วางหนงั สือบนโตะ๊ ใชม้ ือซา้ ยประคองหนงั สือที่ดา้ นบนหนงั สือ มือขาวจบั มมุ บนโดยใชน้ ิ้วช้ีเตรียมพลิกหนา้ ตอ่ ไป) ๘. ใชส้ ายตาจบั จอ้ งท่ีคา กวาดสายตาจากซา้ ยไปขวา อ่านไปขา้ งหนา้ ไม่อา่ นยอ้ นหลงั ๙. ขณะอา่ นไม่เอียงคอ ไมส่ ่ายหนา้ ตามบรรทดั อ่าน ไม่ช้ีตามอกั ษร ไม่เอามือ เทา้ คางไม่พบั มุมหนงั สือ ไม่คว่าหนงั สือ ไม่เอาสิ่งหน่ึงส่ิงใดสอดไวใ้ นหนงั สือ ไมข่ ีดเขยี นหรือทาเครื่องหมายลง ในหนงั สือ ไม่ฉีกหนงั สือ ๑๐. ขณะอา่ นทาจิตใจใหจ้ ดจ่ออยกู่ บั สิ่งท่ีอา่ น (มีสมาธิ)
๕๒ ใบงาน ๑ โรงเรียนเทศบาลแสนสุข ภาคเรียนที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๔ ชื่อ....................................................................................ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๓ /..............เลขท่ี.............. คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนคาอ่านจากคาท่กี าหนดใหอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ตวั อย่าง สาราญ อา่ นวา่ สา – ราน ๑. กตกิ า อ่านวา่ ………………………………….. ๒.กระจอ้ ยรอ่ ย อ่านวา่ ………………………………….. ๓. กระตือรอื รน้ อ่านวา่ ………………………………….. ๔. ฉนั เพล อ่านวา่ ………………………………….. ๕. นกั มายากล อา่ นวา่ ………………………………….. ๖. ปฏบิ ตั ิการ อ่านวา่ ………………………………….. ๗. ปฏเิ สธ อา่ นวา่ ………………………………….. ๘. วิธกี าร อ่านวา่ ………………………………….. ๙. สมาชิก อา่ นวา่ ………………………………….. ๑๐.สรุป อ่านวา่ …………………………………..
๕๓ ใบงาน ๒ งานกลุ่ม ช่ือกลมุ่ ………………………………………………………….……..ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๓/…….. วนั ที่…………..เดือน…………………….พ.ศ……… คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนใหน้ กั เรียนหาความหมายของคายากจากพจนานุกรมใหถ้ กู ตอ้ ง ลาน หมายถึง………………………………………………………………………….. ลบั ตา หมายถึง………………………………………………………………………….. ประมาณ หมายถึง………………………………………………………………………..... พ้ืนหญา้ หมายถึง………………………………………………..………………………... จอ้ กแจก้ หมายถึง………………………………………………………………………….. สมาชิก หมายถึง…………………………………………………………………............ หวั หนา้ หมายถึง………………………………………………………………………..... เคารพ หมายถึง ……………………………………………………………………….... สายลบั หมายถึง ………………………………………………………………………... จิ๋ว หมายถึง ………………………………………………………………………… เพล หมายถึง …………………………………………………………………………. สมาชิก หมายถึง ………………………………………………………………………... ปฏิบตั ิ หมายถึง ………………………………………………………………………… แสดง หมายถึง …………………………………………………………………………. ความคิดเหน็ หมายถงึ …………………………………………………………………...... บนั ทึก หมายถึง ………………………………………………………………………… ขอ้ ความ หมายถึง ……………………………………………………………………........ สรุป หมายถึง …………………………………………………………………………. ขอ้ ตกลง หมายถึง ………………………………………………………………………… ทบทวน หมายถึง …………………………………………………………………………. กระฉบั กระเฉง หมายถึง ………………………………………………………………….. กระตอื รือร้น หมายถึง ……………………………………………………………………. กติกา หมายถึง …………………………………………………………………………. วางแผน หมายถึง …………………………………………………………………..........
๕๔ ใบงาน งานกล่มุ ชื่อกลมุ่ ………………………………………………………….……..ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๓/…….. วนั ที่…………..เดือน…………………….พ.ศ……… คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนใหน้ กั เรียนหาความหมายของคายากจากพจนานุกรมใหถ้ ูกตอ้ ง กลบ หมายถึง …………………………………………………………………………………….. พยกั หนา้ หมายถึง …………………………………………………………………………………….. ส่ายหนา้ หมายถึง …………………………………………………………………………………….. ปฏิเสธ หมายถึง …………………………………………………………………………………….. นกั ร้อง หมายถึง …………………………………………………………………………………….. ร้านอาหาร หมายถึง …………………………………………………………………………………….. สามี หมายถึง …………………………………………………………………………………….. รบกวน หมายถึง …………………………………………………………………………………….. เขยา่ หมายถึง …………………………………………………………………………………….. ขยะ หมายถึง …………………………………………………………………………………….. นกั มายากล หมายถึง …………………………………………………………………………………….. ซอ้ ม หมายถึง ……………………………………………………………………………………..
๕๕ โขยกเขยก หมายถึง …………………………………………………………………………………….. ประตู หมายถึง …………………………………………………………………………………….. มารยาท หมายถึง …………………………………………………………………………………….. คะมา หมายถึง …………………………………………………………………………………….. กระจาย หมายถึง …………………………………………………………………………………….. เกลื่อนกลาด หมายถึง …………………………………………………………………………………….. สาเร็จ หมายถึง …………………………………………………………………………………….. อิจฉา หมายถึง …………………………………………………………………………………….. วิธีการ หมายถึง ……………………………………………………………………………………..
๕๖ แผนการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย (ภาษาพาที) ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ปฏบิ ตั ิการสายลบั จวิ๋ เวลา ๙ ช่ัวโมง แผนการเรียนรู้ที่ ๕ เร่ือง การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง เวลา ๑ ชั่วโมง ผู้ใช้แผน นางสาวณฐั ชานนั ท์ นิษฐ์ธีรวัต สอนวันที่ ๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๔ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิด เพ่อื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหา ใน การดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่ือสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความและเขียนเร่ืองราวใน รูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรูส้ ึกใน โอกาสตา่ งๆอยา่ งมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๑ อ่านออกเสียงคาขอ้ ความ เรื่องส้นั ๆ และบทร้อยกรองง่ายไดถ้ กู ตอ้ ง คล่องแคลว่ ท ๑.๑ ป.๓/๒อธิบายความหมายของคาและขอ้ ความทีอ่ า่ น ท ๑.๑ ป.๓/๓ ต้งั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ลเกี่ยวกบั เรื่องท่ีอา่ น ท ๑.๑ ป.๓/๔ ลาดบั เหตกุ ารณ์และคาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเร่ืองท่ีอ่านโดยระบเุ หตุผลประกอบ ท ๑.๑ ป.๓/๕ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากเร่ืองท่ีอา่ นเพ่อื นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ท ๑.๑ ป.๓/๖ อา่ นหนงั สือตามความสนใจอยา่ งสมา่ เสมอ และนาเสนอเร่ืองทอ่ี า่ น ท ๑.๑ ป.๓/๗ อ่านขอ้ เขียนเชิงอธิบายและปฏิบตั ิตามคาส่ังหรือขอ้ แนะนา ท ๑.๑ ป.๓/๘ อธิบายความหมายของขอ้ มลู จากแผนภาพ แผนท่ีและแผนภมู ิ ท ๑.๑ ป.๓/๙ มีมารยาทในการอ่าน ท ๒.๑ ป.๓/๑ คดั ลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ท ๒.๑ ป.๓/๒ เขยี นบรรยายเก่ียวกบั สิ่งใดส่ิงหน่ึงไดอ้ ยา่ งชดั เจน ท ๒.๑ ป.๓/๓ เขียนบนั ทึกประจาวนั ท ๒.๑ ป.๓/๔ เขียนจดหมายลาครู ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขียนเร่ืองตามจินตนาการ ท ๒.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขยี น ท ๓.๑ ป.๓/๑ เล่ารายละเอียดเกี่ยวกบั เรื่องท่ีฟังและดู ท้งั ท่ีเป็นความรู้ และความบนั เทิง ท ๓.๑ ป.๓/๒ บอกสาระสาคญั จากการฟัง และการดู ท ๓.๑ ป.๓/๓ ต้งั คาถามและตอบคาถามเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟังและดู ท ๓.๑ ป.๓/๔ พูดแสดงความคิดเห็นและความรูส้ ึกจากเร่ืองท่ีฟังและดู
๕๗ ท ๓.๑ ป.๓/๕ พดู สื่อสารไดช้ ดั เจนตรงตามวตั ถุประสงค์ ท ๓.๑ ป.๓/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด สาระสาคัญ ๑. การอ่านในใจเพ่อื ใหส้ ามารถจบั ใจความสาคญั ของเร่ืองได้ สามารถตอบคาถามจากเรื่อง บอกและ เรียงลาดบั เหตุการณ์ท่ีสาคญั ในเรื่อง แลว้ สามารถเขยี นแผนภาพโครงเรื่อง เพอื่ สรุปเร่ืองหรือเล่าเรื่องโดยใช้ คาพดู ของตนเองตามแผนภาพโครงเรื่องได้ ๒. แผนภาพโครงเรื่อง เป็นแผนภาพที่ประกอบดว้ ยส่วนของคาถามเกีย่ วกบั เร่ือง ดงั น้ี ใคร ทาอะไร ที่ไหน อยา่ งไร เพราะเหตใุ ด และขอ้ คดิ จากเรื่อง ๓. แผนภาพโครงเรื่อง จะชว่ ยใหส้ ามารถบอกเหตกุ ารณข์ องเร่ืองเป็นตอน ๆ โดยอาศยั การคิดคาตอบ จากคาถามในแผนภาพ และช่วยลาดบั เร่ืองไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง ทาใหส้ ามารถสรุปเรื่องท้งั หมดได้ จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถเขยี นแผนภาพโครงเรื่องได้ ๒. นกั เรียนสามารถเขยี นเร่ืองแผนภาพโครงเรื่องได้ ๓. นกั เรียนสามารถเลา่ เร่ืองจากแผนภาพโครงเร่ืองได้ สาระการเรียนรู้ ความรู้ ๑. บทเรียนหน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง ปฏิบตั กิ ารสายลบั จ๋ิว ๒. การเขยี นเร่ืองตามแผนภาพโครงเรื่อง ๓. การเลา่ เร่ืองตามแผนภาพโครงเรื่อง ทกั ษะ/กระบวนการ กระบวนการทางาน กระบวนการกลมุ่ และกระบวนการนาเสนอผลงาน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. มีความซื่อสตั ยส์ ุจริต ๓. มีวนิ ยั ในตนเอง ๔. มีความสนใจใฝ่เรียนรู้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๖. มุ่งมนั่ ในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ กระบวนการจดั การเรียนรู้ นาสู่กระบวนการเรียนรู้ นกั เรียนเลน่ เกมกระซิบปริศนา (ภาคผนวก)
๕๘ กระบวนการเรียนรู้ ๑. ครูสนทนาบทเรียนโดยใหน้ กั เรียนตอบคาถามเก่ียวกบั เน้ือเร่ือง ดงั น้ี ๑.๑) เร่ืองปฏิบตั กิ ารสายลบั จ๋ิว มีตวั ละครก่ตี วั ๑.๒) อะไรเป็นตน้ เหตขุ องเร่ืองน้ี ๑.๓) ก่อนปฏิบตั ิงานของนกั ปฏิบตั ิการสายลบั จิ๋ว ทาอยา่ งไร ๑.๔) ผลของการปฏิบตั ิการสายลบั เป็นอยา่ งไร ๑.๕) เร่ืองน้ีใหข้ อ้ คดิ อยา่ งไร ๒. ครูนาเสนอแผนภมู ิแผนภาพโครงเร่ืองบนกระดานดา ดงั น้ี ใคร : ตวั ละคร ทีไ่ หน : สถานที่ เม่ือไร : เวลาท่ีเกิดเหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ : เหตุการณ์ท่ี ๑ เหตุการณ์ท่ี ๒ เหตุการณ์ท่ี ๓ เหตกุ ารณ์ที่ ๔ เหตุการณ์ท่ี ๕ บทสรุป : ผลของเหตุการณ์ ข้อคิด : สรุปขอ้ คิด ๓. นกั เรียนอ่านบทเรียนในใจ อีกคร้ังเพื่อจบั ใจความสาคญั ของเร่ือง ๔. นกั เรียนและครูช่วยกนั อภิปรายและเติมขอ้ ความของคาถามในแผนภาพโครงเรื่อง ไดด้ งั น้ี ใคร : ……………………………………………….. ทาอะไร : ………………………………………….…… ทีไ่ หน : ……………………………………………….. เม่ือไร : ………………………………………………..
๕๙ เหตุการณ์ : ……………………………………………….. …………………………………..................... ……………………………………………….. ……………………………………………….. ……………………………………………….. บทสรุป : ……………………………………………….. ……………………………………………….. ……………………………………………….. ข้อคิด : ……………………………………………….. ……………………………………………….. ๕. นกั เรียนอาสาสมคั รออกมาเล่าเร่ืองตามแผนภาพโครงเรื่องบนกระดานดาใหเ้ พ่อื นๆ ฟัง ส่วนนกั เรียนคนอน่ื ๆ และครูคอยแกไ้ ข ปรับปรุง เพ่ิมเติม ถา้ ผเู้ ล่าเลา่ เร่ืองผิด สรุปกระบวนการเรียนรู้ ๑. นกั เรียนและครูช่วยกนั สรุปบทเรียนอีกคร้ังหน่ึง ๒. ใหน้ กั เรียนแต่ละคนเขยี นเรื่องตามแผนภาพโครงเรื่องดว้ ยคาพดู ของนกั เรียน เองลงในใบงาน (ภาคผนวก) ๓. มอบหมายใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ (การบา้ น) สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนงั สือเรียนภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปี ท่ี ๓ เล่ม ๑ ภาษาพาที ๒. แบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา ช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ ๓ ชุภาษาเพอื่ ชีวติ ๓. แผนภมู ิแผนภาพโครงเรื่อง ๔. ใบงาน
๖๐ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ เป้าหมาย หลกั ฐาน วธิ ีวดั เคร่ืองมือวัด สาระสาคญั -แบบสงั เกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ แผนภาพโครงเร่ือง จะชว่ ยให้ ผลงาน/ชิน้ งาน/ใบงาน สังเกต ทดสอบ -แบบประเมิน สามารถบอกเหตุการณ์ของเรื่อง -แบบสังเกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ เป็นตอน ๆ โดยอาศยั การคิด -แบบประเมนิ คาตอบจากคาถามในแผนภาพ -แบบสงั เกตพฤติกรรม -แบบทดสอบ และช่วยลาดบั เรื่องไดอ้ ยา่ ง -แบบประเมิน ต่อเน่ือง ทาใหส้ ามารถสรุปเรื่อง ท้งั หมดได้ ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๓ /๑-๙ ผลงาน/ชิ้นงาน/ใบงาน สงั เกต ทดสอบ ท ๒.๑ ป.๓ /๑-๖ ท ๓.๑ ป.๓ /๑-๖ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ขอ้ ๑ – ๘ ผลงาน/ชิน้ งาน/ใบงาน สังเกต ทดสอบ
๖๑ บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๒. ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ๓. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ......................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ลงช่ือ ..................................................................... ( นางสาวณฐั ชานนั ท์ นิษฐธ์ ีรวตั ) ครูผสู้ อน หมายเหตุ ๑) ในการบนั ทึกผลการสอนควรระบรุ ้อยละของนกั เรียนท่ีผา่ นและไม่ผา่ นในแต่ละจุดประสงคท์ ่ีได้ ระบไุ วใ้ นส่วนหนา้ ของแผนการจดั การเรียนรู้ และหากการบนั ทึกสมบรู ณ์ในทุกส่วนสามารถใช้เป็นวิจยั ในช้นั เรียนได้ ๒) ควรมีเครื่องมือการวดั และเกณฑก์ ารประเมินตามท่ีระบุในขอ้ ๕ แนบทา้ ยแผน
๖๒ ภาคผนวก เกมกระซิบปริศนา จุดประสงค์ ๑. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนสามารถจบั ใจความจากประโยคหรือขอ้ ความส้นั ๆ ได้ ๒ . เพอื่ ใหน้ กั เรียนสามารถอ่านและแยกสระเสียงส้นั ได้ ๓ . เพ่ือใหน้ กั เรียนมีสมาธิในการฟัง อปุ กรณ์ แถบประโยคปริศนา ทกุ คนไปกนั เถอะนะ ทะเลาะตบเตะกนั มนั พลิ กึ วธิ ีเล่น ๑ . แบ่งนกั เรียนออกเป็น ๕ กลมุ่ แลว้ ใหน้ กั เรียนต้งั ช้ือกลมุ่ ของตนเอง ๒ . ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เขา้ แถบและเลอื กตวั แทนกลมุ่ ๓. ตวั แทนกลุ่มอา่ นขอ้ ความและกลบั ไปกระซิบบอกขอ้ ความแก่คนตอ่ ไป กระซิบตอ่ ไปเร่ือย ๆ จนถึงคนสุดทา้ ย ๔. คนสุดทา้ ยเขยี นขอ้ ทต่ี นไดย้ นิ บนกระดาน กลุ่มใดมีขอ้ ความตรงกบั ขอ้ ความในแถบประโยคจะ เป็นฝ่ ายชนะ
Search