78 ใบงาน ที่ 1. จากการสอบถามอายขุ องนกั เรียนกลุ่มหน่ึงเป็นดงั น้ี 14,16,/20,25,30 จงหาค่าเฉล่ียเลขคณิตของขอ้ มูลชุดน้ี 2. จากขอ้ มูล 4,8,4,5,8,5,6,8 จงหาคา่ เฉล่ียเลขคณิตของขอ้ มลู ชุดน้ี 3. จงหามธั ยฐานจากขอ้ มูลต่อไปน้ี 3,10,4,15,1,24,28,8,30,40,23 จงเรียงขอ้ มลู จากนอ้ ยไปหามากหรือจากมากไปหานอ้ ย 4. จงหามธั ยฐานจากขอ้ มลู ต่อไปน้ี 25,3,2,10,14,6,19,22,30,8,45,36,50,17 4.1 จงเรียงขอ้ มลู จากนอ้ ยไปหามากหรือจากมากไปหานอ้ ย 4.1 จงหาตาํ แหน่งของขอ้ มลู จาก n +1 จะได้ 14 +1 = 7.5 22 5. จากขอ้ มลู 2,3,4,3,4,5,6,8,6,4,6,7 จงหาฐานนิยม
79 ใบงานท.่ี .. 1. จากขอ้ มลู 2,6,1,5,13,6,16 จงหาคา่ เฉล่ียเลขคณิต ฐานนิยม และมธั ยฐาน ค่าเฉล่ียเลขคณิต = มธั ยฐาน = ฐานนิยม = เรียงขอ้ มูลจากมากไปหานอ้ ยหรือจากนอ้ ยไปหามาก คา่ เฉลี่ยเลขคณิต = มธั ยฐาน = ฐานนิยม = 1. จากขอ้ มลู 24,16,18,36,7,28,6,36,12 จงหาคา่ เฉลี่ยเลขคณิต ฐานนิยม และมธั ยฐาน ค่าเฉลี่ยเลขคณิต = มธั ยฐาน = ฐานนิยม = เรียงขอ้ มูลจากมากไปหานอ้ ยหรือจากนอ้ ยไปหามาก คา่ เฉลี่ยเลขคณิต = มธั ยฐาน = ฐานนิยม =
80 บันทกึ ผลหลงั การเรียนรู้ ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รียน ดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรม ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ดา้ นการใชแ้ ผนการพบกลุ่ม ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ดา้ นส่ือการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ...............................................ครูกศน./ผสู้ อน (.........................................) ตาํ แหน่ง.......................................................... ความคิดเห็นของผบู้ ริหาร ................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................ ลงช่ือ................................................. (................................................) ผอู้ าํ นวยการ กศน.อาํ เภอ.....................................................
81 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ จาํ นวน 4 หน่วยกติ แบบเรียนรู้ด้วยตนเอง จาํ นวน 18 ช่ัวโมง เรื่อง จาํ นวนและการดาํ เนินการและเศษส่วนและทศนิยม ตวั ชี้วดั 1. เปรียบเทียบจาํ นวนเตม็ 1. ลบ คูณ หาร จาํ นวนเตม็ และอธิบายผลท่ีเกิดข้ึน 2. บอกสมบตั ิของจาํ นวนเตม็ และนาํ ความรู้เก่ียวกบั สมบตั ิของจาํ นวนเตม็ ไปใช้ 3. นาํ ความรู้เกี่ยวกบั เศษส่วนและทศนิยมไปใชแ้ กโ้ จทยป์ ัญหา รวมท้งั สถานการณ์ เก่ียวกบั ความน่าจะเป็น เนือ้ หา 1. การเปรียบเทียบจาํ นวนเตม็ 2. การบวก ลบ คูณ และหารจาํ นวนเตม็ 3. สมบตั ิของจาํ นวนเตม็ และการนาํ ไปใช้ 4. โจทยป์ ัญหาหรือสถานการณ์เก่ียวกบั การบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนและทศนิยม ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 การกาํ หนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ 1. ใหผ้ เู้ รียนสาํ รวจขอ้ มลู เก่ียวกบั น้าํ หนกั และส่วนสูงของสมาชิกในหอ้ ง จาํ นวน 15 คน 2. ผเู้ รียนนาํ ขอ้ มลู ใชเ้ ปรียบเทียบการบวก ลบ คูณ และหารจาํ นวนเตม็ 3. ครูและผเู้ รียนวางแผนการการเรียนรู้ และทาํ สัญญาการเรียนรู้ ข้ันท่ี 2 การแสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ 1. ผเู้ รียนสาํ รวจขอ้ มูลน้าํ หนกั และส่วนสูง ของสมาชิกในหอ้ งเรียน จาํ นวน 15 คน (แบบฟอร์มท่ี 1) 2. ผเู้ รียนนาํ ขอ้ มูลน้าํ หนกั เรียงจากนอ้ ยไปมาก 3. ผเู้ รียนนาํ ขอ้ มลู ส่วนสูงเรียงจากมากไปหานอ้ ย
82 4. ผเู้ รียนนาํ ขอ้ มลู น้าํ หนกั และส่วนสูงของสมาชิกท่ีสาํ รวจแลว้ หาคา่ ดชั นีมวลกาย (BMI) ตามสูตรคาํ นวณดงั น้ี ค่าดชั นีมวลกาย (BMI) = น้าํ หนกั ตวั ส่วนสูง X ส่วนสูง 5. ผเู้ รียนนาํ ผลการคาํ นวณคา่ ดชั นีมวลกาย (BMI) ของแตล่ ะคนเปรียบเทียบเพ่ือแปลผล การแปลค่าของดชั นีมวลกาย (BMI) มากกวา่ 40 อว้ นมาก ระหวา่ ง 35.0 – 39.9 อว้ นระดบั 2 ระหวา่ ง 28.5 – 34.9 อว้ นระดบั 1 ระหวา่ ง 23.5 – 28.4 ทว้ ม ระหวา่ ง 18.5-23.4 ปกติ ต่าํ กวา่ 18.5 ผอม 6. ผเู้ รียนนาํ ผลการแปลผลเขียนลงใน (แบบฟอร์มที่ 2) 7. ผเู้ รียนสรุปการสาํ รวจ 8. ผเู้ รียนเสนอแนะจากผลการสํารวจขอ้ มูลดชั นีมวลกาย ของสมาชิก 15 คน ท่าน ควรจดั กิจกรรมอะไรใหก้ บั สมาชิก พร้อมอธิบายเหตุผล ข้นั ท่ี 3 การปฏิบตั ิและนําไปประยุกต์ใช้ ปฏิบตั ิตามแผนและสญั ญาการเรียนรู้ ข้นั ที่ 4 การประเมนิ ผล 1. ประเมินแผนการเรียนรู้ 2. ตรวจสอบความถูกตอ้ งของชิ้นงาน 3. บนั ทึกการเรียน 4. ร่องรอยหลกั ฐานการเรียนรู้
83 สื่อ 1. แบบแผนการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 2. แบบสญั ญาการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 3. แบบสาํ รวจขอ้ มลู น้าํ หนกั และส่วนของสมาชิกในหอ้ ง 4. แบบบนั ทึกคา่ ดชั นีมวลกายของสมาชิก 5. แบบเรียนวชิ าคณิตศาสตร์ 6. การสืบคน้ ขอ้ มูลจากอินเตอร์เน็ต การวดั ผลประเมินผล 1. ประเมินแผนการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 2. ประเมินสญั ญาการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 3. แบบบนั ทึกการเรียนรู้ 4. ประเมินตามสญั ญาการเรียนรู้ของผเู้ รียน
84 แผนการเรียนรู้ด้วยตนเอง รายวชิ าคณติ ศาสตร์ เรื่องจํานวนและการดําเนินการ ของ…………………………………………………………………………… ศูนย์การเรียน................................................................. ท่ี รายการเรียนรู้ ระยะเวลา สถานท/่ี แหล่งเรียนรู้ 1 สาํ รวจขอ้ มูลสมาชิกในหอ้ งเรียน (ตวั อยา่ ง) ว/ด/ป ศรช. ……………….. 26 พ.ย. 55 ลงชื่อ……………………………………………….ผเู้ รียน (................................................) ผเู้ สนอแผน
85 สัญญาการเรียนรู้ด้วยตนเอง รายวชิ าคณติ ศาสตร์ เรื่องจํานวนและการดาํ เนินการ ของ…………………………………………………………………………… ศูนย์การเรียน................................................................. ท่ี กิจกรรมเน้ือหาการเรียนรู้ อา้ งอิงแหล่งเรียนรู้หลกั ฐาน การประเมินผล 1 การสาํ รวจขอ้ มูล (ตวั อยา่ ง) เพอ่ื นสมาชิกในหอ้ ง 15 คน รายงานน้าํ หนกั /ส่วนสูงของ สมาชิก 15 คน ลงช่ือ............................................ ลงช่ือ........................................... (.........................................) (...........................................) ครูผสู้ อน ผเู้ รียน
86 แบบสํารวจข้อมูลนํา้ หนักและส่วนของสมาชิกในห้อง (แบบฟอร์มที่ 1) ของ…………………………………………………………………………… ศูนย์การเรียน................................................................. ที่ ช่ือ -นามสกลุ นํา้ หนัก(กโิ ลกรัม) ส่วนสูง (เมตร) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15
87 1. ผู้เรียนเรียงลาํ ดับนํา้ หนักจากมากไปน้อย ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2. ผู้เรียนเรียงลาํ ดบั ส่วนสูงจากน้อยไปมาก ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 3. สรุปผล 50 กโิ ลกรัมกค่ี น ............................ 3.1 มีผ้เู รียนนํา้ หนัก 1.5 เมตร กค่ี น........................................ 3.2 มีผู้เรียนส่วนสูง
88 บันทกึ ค่าดัชนีมวลกายของสมาชิก (แบบฟอร์มท่ี 2) ศูนย์การเรียนชุมชน ......................................................... ที่ ชื่อ-นามสกุล นํา้ หนัก ส่ วนสู ง ค่าดชั นี แปลค่า (กโิ ลกรัม) (เมตร) มวลกาย 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15
89 1. จากข้อมูลข้างต้นสรุปได้ดังนี้ (แบบฟอร์มที 2 ) กี่คน ................................... กี่คน ................................... คา่ ดชั นีมวลกาย 40 กี่คน ................................... ก่ีคน ................................... ระหวา่ ง 35.0 – 39.9 ก่ีคน ................................... ก่ีคน ................................... ระหวา่ ง 28.5 – 34.9 ระหวา่ ง 23.5 – 28.4 ระหวา่ ง 18.5-23.4 18.5 2. จากข้อมูลข้างต้นพบว่า 2.1 มีผทู้ ่ีมีค่า BMI เกณฑม์ าตรฐาน ก่ีคน ...................................................... 2.2 มีผทู้ ี่มีค่า BMI = เกณฑม์ าตรฐาน ก่ีคน ...................................................... 2.3 มีผทู้ ี่มีคา่ BMI เกณฑม์ าตรฐาน กี่คน ......................................................
90 เมื่อผเู้ รียนประมวลขอ้ มูลท้งั หมด พบวา่ สมาชิก 15 คน มีผลของค่า BMI อยใู่ นระดบั ใดมาก ท่ีสุด …………………….. ดงั น้นั จึงเห็นควรจดั กิจกรรมอะไร พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ กจิ กรรม .................................................................................................................................................. อธบิ ายเหตุผล .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ...........................................................................................................................................
91 บันทกึ ผลหลงั การเรียนรู้ ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รียน ดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นการใชแ้ ผนการพบกลุ่ม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นสื่อการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................ครูกศน./ผสู้ อน (.........................................) ตาํ แหน่ง.......................................................... ความคิดเห็นของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ลงช่ือ................................................. (................................................) ผอู้ าํ นวยการ กศน.อาํ เภอ.....................................................
92 แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า พค 21001 คณติ ศาสตร์ จํานวน 4 หน่วยกติ (จํานวน 160 ช่ัวโมง ) คร้ังที่ จํานวน 7 ชั่วโมง แบบ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง เรื่อง อตั ราส่วนและร้อยละ ตัวชี้วดั แกโ้ จทยป์ ัญหาในสถานการณ์ต่างๆ เกี่ยวกบั อตั ราส่วน สัดส่วน และร้อยละ เนือ้ หา แกโ้ จทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั อตั ราส่วน สัดส่วน และร้อยละ ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 การกาํ หนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ ครูต้งั คาํ ถามเรื่องอตั ราส่วน สัดส่วน และร้อยละ ใหผ้ เู้ รียนตอบคาํ ถาม จากน้นั ครูและ ผเู้ รียนร่วมกนั สรุปประเดน็ สาํ คญั ตา่ งๆ ข้นั ท่ี 2 การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ ครูมอบหมายใบงานใหผ้ เู้ รียนศึกษา คน้ ควา้ เก่ียวกบั การแกโ้ จทยป์ ัญหาเรื่องอตั ราส่วน สัดส่วน และร้อยละ แลว้ นาํ มาส่งครูในสปั ดาห์ต่อไป ข้นั ที่ 3 การปฏบิ ัติและนําไปประยุกต์ใช้ ครูใหผ้ เู้ รียนนาํ ผลการศึกษาคน้ ควา้ ท่ีไดม้ าแลกเปลี่ยนร่วมกนั ข้นั ที่ 4 การประเมินผล ใบงาน สื่อ 1. หนงั สือแบบเรียน วชิ าคณิตศาสตร์ เร่ืองอตั ราส่วน สดั ส่วน และร้อยละ 2. อินเตอร์เน็ต
93 ใบงาน คร้ังท่ี ใหผ้ เู้ รียนศึกษา คน้ ควา้ เกี่ยวกบั การแกโ้ จทยป์ ัญหาเรื่องอตั ราส่วน สัดส่วน และร้อยละ นาํ มาส่งครู ในสปั ดาห์ต่อไป 1. โรงเรียนแห่งหน่ึงมีนกั เรียนนงั่ รถยนตส์ ่วนตวั มาโรงเรียน 24 ของนกั เรียนท้งั หมด นงั่ 25 รถยนตโ์ ดยสารประจาํ ทางมาโรงเรียน 11 ของนกั เรียนท้งั หมด ปรากฏวา่ นกั เรียนท้งั สอง 25 กลุ่มน้ีมีจาํ นวนมากกวา่ กนั อยู่ 258 คน ดงั น้นั นกั เรียนโรงเรียนน้ีมีท้งั หมดก่ีคน 2. สวนผลไมแ้ ห่งหน่ึงปลูกมะมว่ ง 2 ของตน้ ไมท้ ้งั หมด ปลุกขนุน 3 ของตน้ ไมท้ ี่เหลือ และ 7 10 ปลูกชมพู่ 8 ของตน้ ขนุน ท่ีเหลือปลูกฝรั่งจาํ นวน 65 ตน้ สวนผลไมแ้ ห่งน้ีจะมีตน้ ไม้ 9 ท้งั หมดก่ีตน้ 3. รูปสี่เหล่ียมคางหมรู ูปหน่ึงมีดา้ นคู่ขนานยาว 3 1 เซนติเมตร และ 4 1 เซนติเมตร ส่วนสูง 2 1 24 8 เซนติเมตร พ้ืนท่ีของรูปส่ีเหล่ียมคางหมูรูปน้ีเป็นเท่าไร 4. สุดภาหนกั เป็ น4 1 เท่าของฉตั ร ฉตั รหนกั เป็ น 1 1 เท่าของมานะ ถา้ ฉตั รหนกั 60 กิโลกรัม 43 สภากบั มานะหนกั รวมกนั ก่ีกิโลกรัม 5. ระยะทางจากรุงเทพฯ ถึงหินกอง 90 3 ถา้ เวลาที่ใชใ้ นการเดินทางโดยรถยนตท์ ้งั หมด 1 ชวั่ โมง 4 30 นาที จงหาอตั ราเร็วโดยเฉล่ียของรถยนตก์ ี่กิโลเมตรต่อชวั่ โมง 6. ปราณีนําเงินไปฝากธนาคาร 1,750,000 บาท ธนาคารให้ดอกเบยี ้ ร้อยละ 2.5 ตอ่ ปี หกั ภาษี ดอกเบยี ้ ร้อยละ 15 เมื่อฝากครบ 2 ปี จะได้ดอกเบีย้ เทา่ ไร 7. เสกฝากเงินไว้กบั ธนาคารแห่งหนง่ึ 842,000 บาท อตั ราดอกเบยี ้ ร้อยละ 1.50 ตอ่ ปี และต้อง เสียภาษีดอกเบีย้ ร้อยละ 15 เมื่อฝากครบ 6 ปี เสกจะได้รับดอกเบีย้ ก่ีบาท 8. ฝ้ ายฝากเงินไว้กบั ธนาคารแหง่ หนงึ่ 4,700,000 บาท อตั ราดอกเบีย้ ร้อยละ 2 ตอ่ ปี เมื่อ ฝากครบ 1 ปี อตั ราดอกเบีย้ ลดลงเหลือร้อยละ 1 ตอ่ ปี ถกู หกั ภาษีดอกเบยี ้ ร้อยละ 15 เม่ือ ฝากครบ 4 ปี ฝ้ ายจะมีเงินในบญั ชีกี่บาท
94 9. บริษัทแหง่ หนงึ่ คาํ นวณรายได้สทุ ธิประจําปี พบวา่ มีรายได้สทุ ธิเพม่ิ ขนึ ้ จากปี ท่ีแล้ว 5% ถ้าปี ท่ี แล้วมีรายได้ 25, 480 บาท ปี นีม้ ีรายได้สทุ ธิเทา่ ไร 10. ปิดราคาสินค้าไว้สงู กวา่ ทนุ 30% แตล่ ดให้ผ้ซู ือ้ 10% จะได้กําไรร้อยละเทา่ ไร 11. พดั ลมตวั หนง่ึ ปิดราคาขายไว้ 550 บาท ทางห้างลดให้ 50 บาท จงหาวา่ ลดราคาร้อยละเทา่ ไร 12. บริษัทแหง่ หนง่ึ มีพนกั งานทงั้ หมด 1,500 คน เป็ นชาย 60% บริษทั จําเป็นต้องคดั เลือก พนกั งานชายออก 20% และคดั เลือกพนกั งานหญิงออก 30% บริษทั ยงั เหลือพนกั งานทงั้ หมด เทา่ ไร 13. ขายโทรทศั น์เครื่องหนงึ่ ราคา 12,750 บาท ขาดทนุ 15% จะต้องขายโทรทศั น์ราคาเทา่ ไรจงึ จะ ได้กําไร 8%
95 บันทกึ ผลหลงั การเรียนรู้ ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รียน ดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นการใชแ้ ผนการพบกลุ่ม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นสื่อการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................ครูกศน./ผสู้ อน (.........................................) ตาํ แหน่ง.......................................................... ความคิดเห็นของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ลงช่ือ................................................. (................................................) ผอู้ าํ นวยการ กศน.อาํ เภอ.....................................................
96 แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า พค21001 คณติ ศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น จาํ นวน 4 หน่วยกติ คร้ังท่ี สัปดาห์ที่ จํานวน 6 ช่ัวโมง การเรียนรู้แบบตนเอง เร่ือง การวดั ตวั ชี้วดั 1. เปรียบเทียบหน่วยความยาวพ้ืนที่ในระบบเดียวกนั และต่างระบบ 2. เลือกใชห้ น่วยการวดั เกี่ยวกบั ความยาวและพ้ืนที่ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. หาพ้ืนที่ของรูปเรขาคณิต 4. แกโ้ จทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั พ้นื ท่ีสถานการณ์ต่างๆ ในชีวติ ประจาํ วนั 5. อธิบายวธิ ีการคาดคะเนและนาํ วธิ ีการไปใชใ้ นการคาดคะเนเวลา ระยะทาง ขนาด น้าํ หนกั เนือ้ หา 1. เปรียบเทียบหน่วยความยาวพ้ืนที่ในระบบเดียวกนั และต่างระบบ 2. เลือกใชห้ น่วยการวดั เก่ียวกบั ความยาวและพ้ืนที่ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. หาพ้ืนท่ีของรูปเรขาคณิต ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ข้ันที่ 1 กาํ หนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O: Orientation) เป็ นการเรียนรู้จากสภาพ ปัญหา หรือความตอ้ งการของผเู้ รียน และชุมชน สังคม โดยใหเ้ ชื่อมโยงกบั ประสบการณ์เดิม และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ของหลกั สูตร ข้นั ตอนการเรียนรู้ 1. ครูและผูเ้ รียนร่วมกันกาํ หนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ ซ่ึง อาจจะไดม้ าจากสถานการณ์ในขณะน้นั หรือเป็นเร่ืองที่เกิดข้ึนในชีวติ จริง เช่น การเดินทางจากที่พกั ถึงท่ีเรียน 2. ทาํ ความเขา้ ใจกบั สภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในสิ่งที่ตอ้ งการเรียนรู้ โดยดึง ความรู้และประสบการณ์เดิมของผเู้ รียน เนน้ การมีส่วนร่วม มีการแลกเปล่ียนเรียนรู้สะทอ้ นความคิด และอภิปรายโดยใหเ้ ชื่อมโยงกบั ความรู้ใหม่
97 3. วางแผนการเรียนรู้ที่เหมาะสม โดยกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีกาํ หนดสามารถ มองเห็นแนวทางในการคน้ พบความรู้หรือคาํ ตอบไดด้ ว้ ยตนเอง ข้ันท2่ี ข้นั แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning) การแสวงหาขอ้ มูล และจดั การเรียนรู้ โดยศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ และรวบรวม ข้อมูลของตนเอง ข้อมูลของชุมชน สังคม และข้อมูลทางวิชาการ จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ท่ี หลากหลายมี การระดมความคิดเห็น วเิ คราะห์ สังเคราะห์ขอ้ มลู และสรุปเป็นความรู้ ข้ันตอนการเรียนรู้ 1. ครูให้ผเู้ รียนแสวงหาความรู้ตามแผนการเรียนรู้ที่กาํ หนดไว้ โดยเนน้ การเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ กระบวนการกลุ่ม เช่น การทาํ รายงานการเปรียบเทียบ หน่วยความยาวและพ้ืนที่ 2. ครูให้ผูเ้ รียนร่วมกนั แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสรุปความรู้เบ้ืองตน้ โดยใช้คาํ ถาม ปลายเปิ ดในการชวนคิด ชวนคุย เป็ นเคร่ืองมือ ดว้ ยกระบวนการการระดมสมอง สะทอ้ นความคิด และอภิปราย จากการทาํ รายงาน ข้ันท่ี 3 การปฏบิ ัติแลละนําไปประยกุ ต์ใช้ ( I: Implementation) นาํ ความรู้ท่ีไดไ้ ปปฏิบตั ิ และประยุกตใ์ ชใ้ ห้สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ เหมาะสม กบั วฒั นธรรมและสังคม ข้ันตอนการเรียนรู้ ผูเ้ รียนปฏิบตั ิตามข้นั ตอน โดยสังเกตปรากฏการณ์ จดบนั ทึก และสรุปผล เก็บ รวบรวมไวใ้ นแฟ้ มสะสมงาน ระหวา่ งดาํ เนินการตอ้ งมีการตรวจสอบหาขอ้ บกพร่อง และรวบรวม ไวใ้ นแฟ้ มสะสมงาน ข้ันท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E:Evaluation) ประเมิน ทบทวน แกไ้ ขขอ้ บกพร่อง ผลจากการนาํ ความรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้แลว้ สรุป เป็นความรู้ใหม่ พร้อมกบั เผยแพร่ผลงาน ข้นั ตอนการเรียนรู้ 1. ครู และผูเ้ รียนนาํ แฟ้ มสะสมงาน และผลงานท่ีได้จากกการปฏิบตั ิมาใช้เป็ น สารสนเทศในการประเมินคุณภาพการเรียนรู้ 2. ครู และผเู้ รียนร่วมกนั สร้างเกณฑก์ ารประเมินคุณภาพการเรียนรู้
98 3. ครู ผเู้ รียนและผเู้ กี่ยวขอ้ งร่วมกนั ประเมิน พฒั นาการเรียนรู้ใหเ้ ป็ นไปตามเกณฑ์ คุณภาพการเรียนรู้ สื่อการเรียนการสอน 1. หนงั สือแบบเรียน 2. อินเตอร์เน็ต การเประเมินและวดั ผล 1. ใบงาน 2. แบบฝึกหดั
99 ใบงานท่ี การวดั ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าจัดทาํ รายงานดังต่อไปนี้ 1. ใหผ้ เู้ รียนศึกษาคน้ ควา้ จดั ทาํ รายงานเกี่ยวกบั การวดั และการเปรียบเทียบหน่วยวดั ความ ยาวและพ้ืนที่ ในชีวติ ประจาํ วนั 2. ใหผ้ เู้ รียนสาํ รวจและคาดคะเนระยะทางการเดินทางมาเรียนรู้โดยจดั ทาํ แผนท่ีพร้อมบอ ระยะทางจากการคาดคะเน 3. ใหผ้ เู้ รียนศึกษาคน้ ควา้ จดั ทาํ รายงานการหาพ้ืนท่ีของรูปทรงเราคณิต
100 แบบฝึ กหัด การวดั จงเตมิ คําลงในช่องว่างทกี่ าํ หนดได้ถูกต้อง 1. หอ้ งเรียนมีพ้ืนท่ีประมาณ 80 .......................................................... 2. การวดั ความยาวของที่ดินในประเทศไทยนิยมใชห้ น่วยเป็น.................หรือ............................. และอาจบอกจาํ นวนพ้ืนท่ีของที่ดินตามมาตราไทยเป็น........................หรืออาจบอกโดย ใชม้ าตราเมตริกเป็น..................................ก็ได้ 3. แมน่ ้าํ โขงช่วงจงั หวดั มุกดาหารมีความกวา้ งประมาณ 200 .............................. 4. สมุดปกออ่ นมีความกวา้ ง 16.5 ...........................ยาว 24 ..............หนา 4 ................................. 5. พ้ืนที่ 1 ไร่ เทา่ กบั .................................ตารางเมตร 6. พ้ืนท่ี 2 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นพ้ืนท่ี.................................ตารางเซนติเมตร 7. สวนสาธารณะแห่งหน่ึงมีพ้ืนท่ี 5 ไร่ 2 งาน 22 ตารางวา แลว้ สวนสาธารณะแห่งน้ีจะมีพ้นื ที่ ...............................ตารางวา 8. โลหะแผน่ หน่ึงมีพ้ืนที่ 3 ตารางฟุต โลหะแผน่ น้ีจะมีพ้ืนที่......................................ตารางนิ้ว 9. พ้ืนที่ 9.5 ตารางวา เทา่ กบั ................................ตารางเมตร 10. ลุงสอนมีที่ดินอยู่ 2 งาน 68 ตารางวา คิดเป็นพ้ืนท่ี.......................ตารางเมตร แลว้ ถา้ ลุงสอน ขายที่ดินไปตารางเมตรละ 875 บาท ลุงสอนจะไดร้ ับเงิน................................บาท แสดงวา่ ท่ีดิน ของลุงสอน ราคาไร่ละ..............................บาท
101 เฉลย 1. ตารางเมตร 2. 2.1)วา, เมตร 2.2) ตารางวา 2.3) ตารางเมตร 3. เมตร 4. เซนติเมตร, 5. 800 ตารางเมตร 6. 200,000 ตารางเซนติเมตร 7. 2222 ตารางวา 8. 36 ตารางนิ้ว 9. 20 ตารางเมตร 10. 10.1) 536 ตารางเมตร, 10.2) 469,000 บาท, 10.3)448,000 บาท
102 บนั ทกึ ผลหลงั การเรียนรู้ ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รียน ดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นการใชแ้ ผนการพบกลุ่ม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นสื่อการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................ครูกศน./ผสู้ อน (.........................................) ตาํ แหน่ง.......................................................... ความคิดเห็นของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ลงช่ือ................................................. (................................................) ผอู้ าํ นวยการ กศน.อาํ เภอ.....................................................
103 แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า พค21001 คณติ ศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น จาํ นวน 4 หน่วยกติ คร้ังท่ี สัปดาห์ที่ จํานวน 8 ชั่วโมง การเรียนรู้แบบตนเอง เร่ือง คู่อนั ดับและกราฟ ตัวชี้วดั 1. อ่านและอธิบายความหมายคูอ่ นั ดบั 2. อ่านและแปลความหมายกราฟบนระนาบพกิ ดั ฉากท่ีกาํ หนดให้ 3. เขียนกราฟแสดงความเกี่ยวขอ้ งของปริมาตรสองชุดที่กาํ หนดให้ เนือ้ หา 1. คูอ่ นั ดบั 2. กราฟ 3. การนาํ คู่อนั ดบั และกราฟไปใช้ ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ข้ันที่ 1 กาํ หนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O: Orientation) เป็ นการเรียนรู้จากสภาพ ปัญหา หรือความตอ้ งการของผูเ้ รียน และชุมชน สังคม โดยใหเ้ ช่ือมโยงกบั ประสบการณ์เดิม และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ของหลกั สูตร ข้นั ตอนการเรียนรู้ 1. ครูและผูเ้ รียนร่วมกนั กาํ หนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ ซ่ึง อาจจะไดม้ าจากสถานการณ์ในขณะน้นั หรือเป็ นเรื่องท่ีเกิดข้ึนในชีวิตจริง เช่น ใหผ้ เู้ รียนจบั คู่ หรือ จบั กลุ่มโดยไมร่ ะบุจาํ นวน 2. ครูใหผ้ เู้ รียนทาํ ความเขา้ ใจกบั สภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในสิ่งท่ีตอ้ งการเรียนรู้ โดยดึงความรู้และประสบการณ์เดิมของผเู้ รียน เนน้ การมีส่วนร่วม มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สะทอ้ น ความคิดและอภิปรายโดยใหเ้ ชื่อมโยงกบั ความรู้ใหม่
104 ข้ันท2่ี ข้นั แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning) การแสวงหาขอ้ มูล และจดั การเรียนรู้ โดยศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ และรวบรวม ข้อมูลของตนเอง ข้อมูลของชุมชน สังคม และข้อมูลทางวิชาการ จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ที่ หลากหลายมี การระดมความคิดเห็น วเิ คราะห์ สังเคราะห์ขอ้ มูล และสรุปเป็นความรู้ ข้ันตอนการเรียนรู้ 1. ครูให้ผเู้ รียนแสวงหาความรู้ตามแผนการเรียนรู้ท่ีกาํ หนดไว้ โดยเนน้ การเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้ผา่ นประสบการณ์ กระบวนการกลุ่ม โดยใหผ้ เู้ รียนอธิบายลกั ษณะของเพ่ือนท่ี จบั คูห่ รือกลุ่ม ดว้ ยเกมส์จบั คู่ 2. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั แลกเปล่ียนเรียนรู้ และสรุปความรู้เบ้ืองตน้ โดยใชค้ าํ ถาม ปลายเปิ ดในการชวนคิด ชวนคุย ในการเขา้ ร่วมกิจกรรมดงั กล่าวขา้ งตน้ 3. ผเู้ รียนนาํ ความรู้ที่ไดไ้ ปตรวจสอบความถูกตอ้ ง เพ่ือประเมินความเป็ นไปไดโ้ ดย วธิ ีตา่ ง ๆ เช่น การทดลอง การทดสอบ ข้ันท่ี 3 การปฏิบตั ิแลละนําไปประยุกต์ใช้ ( I: Implementation) นาํ ความรู้ที่ไดไ้ ปปฏิบตั ิ และประยุกต์ใชใ้ ห้สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ เหมาะสม กบั วฒั นธรรมและสังคม ข้นั ตอนการเรียนรู้ ผูเ้ รียนปฏิบตั ิตามข้นั ตอน โดยสังเกตปรากฏการณ์ จดบนั ทึก และสรุปผล เก็บ รวบรวมไวใ้ นแฟ้ มสะสมงาน ระหวา่ งดาํ เนินการตอ้ งมีการตรวจสอบหาขอ้ บกพร่อง และรวบรวม ไวใ้ นแฟ้ มสะสมงาน ข้ันที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (E:Evaluation) ประเมิน ทบทวน แกไ้ ขขอ้ บกพร่อง ผลจากการนาํ ความรู้ไปประยุกตใ์ ช้แลว้ สรุป เป็นความรู้ใหม่ พร้อมกบั เผยแพร่ผลงาน ข้นั ตอนการเรียนรู้ 1. ครู และผูเ้ รียนนาํ แฟ้ มสะสมงาน และผลงานที่ได้จากกการปฏิบตั ิมาใช้เป็ น สารสนเทศในการประเมินคุณภาพการเรียนรู้ 2. ครู และผเู้ รียนร่วมกนั สร้างเกณฑก์ ารประเมินคุณภาพการเรียนรู้
105 3. ครู ผเู้ รียนและผเู้ กี่ยวขอ้ งร่วมกนั ประเมิน พฒั นาการเรียนรู้ให้เป็ นไปตามเกณฑ์ คุณภาพการเรียนรู้ สือการเรียนการสอน 1. ใบความรู้ 2. แบบฝึกหดั การประเมินผลและวดั ผล 1. การสังเกต, การสัมภาษณ์ 2. แบบฝึ กหัด
106 ใบความรู้ คู่อนั ดบั และกราฟ คู่อนั ดับ คูอ่ นั ดบั เป็นการจบั คูร่ ะหวา่ งสมาชิกสองตวั จากกลุ่ม 2 กลุ่มท่ีมีความสมั พนั ธ์ภายใต้ เง่ือนไขท่ีกาํ หนด เขียนแทนดว้ ยสญั ลกั ษณ์(a, b) อ่านวา่ คูอ่ นั ดบั เอบี เรียก a วา่ สมาชิกตวั หนา้ หรือสมาชิกตวั ที่หน่ึง และ เรียก b วา่ สมาชิกตวั หลงั หรือสมาชิก ตวั ที่สอง ดงั แผนภาพ 1 12 2 24 3 36 4 48 เขียนเป็นคู่อนั ดบั ไดด้ งั น้ี (1,12) (2,24) (3,36) (4,48) กราฟของคู่อนั ดบั กราฟของคู่อนั ดบั เป็นแผนภาพที่แสดงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสมาชิกของกลุ่มหน่ึงกลบั สมาชิกของอีกหลุ่มหน่ึงโดยใชเ้ ส้นจาํ นวนในแนวนอนหรือแนวต้งั ให้ตดั กนั เป็นมุมฉาก ที่ตาํ แหน่ง ของจุดท่ีแทนศนู ย(์ 0) ซ่ึงเรียกวา่ จุดกาํ เนิด ดงั ภาพ y จุตภาคท่ี 2 4 จุตภาคท่ี 1 5 x -5 -4 -3 -2 3 1 234 2 จุตภาคที่ 3 จุตภาคท่ี 4 1 -1 0 -1 -2 -3 -4
107 เส้นจาํ นวนในแนวนอน หรือแกน x และเส้นจาํ นวนในแนวต้งั หรือแกน y อยบู่ นระนาบ เดียวกนั และแบง่ ระนาบออกเป็น 4 ส่วนเรียกวา่ จตุภาค การอ่านและแปลความหมายกราฟบนระนาบพกิ ดั ฉากทกี่ าํ หนด y B 4 จุตภาคที่ 2 3 A จุตภาคที่ 1 2 1 x -5 -4 -3 -2 -1 1 234 5 -1 C จุตภาคท่ี 4 -2 จุตภาคที่ 3 -3 -4 D ตาํ แหน่งของจุด A คือ 1,2 ตาํ แหน่งของจุด B คือ -2,3 ตาํ แหน่งของจุด C คือ -3,-2 ตาํ แหน่งของจุด D คือ 2,-4 เรียกจุดที่แทนตาํ แหน่งคู่อนั ดบั วา่ กราฟของคู่อนั ดบั และเรียกตาํ แหน่งของคู่อนั ดบั วา่ พกิ ดั การนําคู่อนั ดบั และกราฟไปใช้ เราสามารถนาํ คู่อนั ดบั และกราฟไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได้ จะกล่าวไดจ้ ากตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง กราฟท่ีแสดงปริมาณน้าํ มนั (ลิตร) และราคาน้าํ มนั เบนซิน(บาท) ของวนั ท่ี 23 สิงหาคม 2555 ซ่ึงมีราคาลิตรละ 42 บาท วธิ ีทาํ 252 210 168 126 84 42 1 234 56
108 แบบฝึ กหัด คู่อนั ดับและกราฟ 1. ใหน้ กั ศึกษาจดั ทาํ กราฟแสดงความสัมพนั ธ์ของเวลาและปริมาณน้าํ ในถงั จากขอ้ มูลที่กาํ หนดให้ พร้อมท้งั ตอบคาํ ถามโดยพจิ ารณาจากกราฟ ถงั น้าํ ใบหน่ึงมีความจุ 300 ลิตร เม่ือเปิ ดน้าํ เขา้ ถงั จดบนั ทึกขอ้ มูลเกี่ยวกบั ปริมาณน้าํ ในถงั ณ เวลา ตา่ งๆ ไดด้ งั น้ี เวลา(นาที) 0123456 ปริมาณน้าํ (ลิตร) 50 75 100 125 150 175 200 1.1 ก่อนเปิ ดน้าํ เขา้ ถึง ในถงั มีน้าํ อยแู่ ลว้ เท่าใด 1.2 น้าํ ไหลเขา้ ถงั ดว้ ยอตั ราเร็วคงที่หรือไม่ น้าํ ไหลเขา้ ปริมาณกี่ลิตรต่อนาที 1.3 เม่ือเวลาผา่ นไป 10 นาที จะมีน้าํ ในถงั เท่าใด 1.4 ตอ้ งเปิ ดน้าํ ข้งั นานเท่าใด น้าํ จึงจะเตม็ ถงั 2. จงตอบคาํ ถามในแต่ละขอ้ จากกราฟแสดงการเดินทาของรถยนต์ บขส. และรถยนตร์ ับจา้ ง บน เส้นทาง เดียวกนั กิโลเมตร 200 160 120 รถยนต์ บขส. 80 รถยนต์ รับจา้ ง 8.00 9.00 10.00 11.00 12.00 นาฬิกา
109 1. รถยนต์ บขส. ออกเดินทางเวลาใด ใชอ้ ตั ราเร็วเท่าได้ 2. รถยนต์ รับจา้ ง ออกเดินทางเวลาใด ใชอ้ ตั ราเร็วเท่าได้ 3. รถยนตร์ ับจา้ ง จะแล่นไปทนั รถยนต์ บขส. หลงั จากออกเดินทางไปไดก้ ่ีชวั่ โมง 4. รถยนตท์ ้งั สองคนั จะอยหู่ ่างกนั เป็นระยะทาง 20 กิโลเมตรเมื่อเวาใด 5. ถา้ จุดหมายปลายทางอยหู่ ่างจากจุดเริ่มตน้ 200 กิโลเมตร รถยนตร์ ับจา้ งถึงจุดหมายปลายทางเวลา ใด เฉยลแบบฝึ กหดั คู่อนั ดบั และกราฟ 1. ใหน้ กั ศึกษาจดั ทาํ กราฟแสดงความสัมพนั ธ์ของเวลาและปริมาณน้าํ ในถงั จากขอ้ มลู ที่กาํ หนดให้ พร้อมท้งั ตอบคาํ ถามโดยพจิ ารณาจากกราฟ ถงั น้าํ ใบหน่ึงมีความจุ 300 ลิตร เมื่อเปิ ดน้าํ เขา้ ถงั จดบนั ทึกขอ้ มลู เก่ียวกบั ปริมาณน้าํ ในถงั ณ เวลา ตา่ งๆ ไดด้ งั น้ี เวลา(นาที) 0123456 ปริมาณน้าํ (ลิตร) 50 75 100 125 150 175 200 1.1 ก่อนเปิ ดน้าํ เขา้ ถึง ในถงั มีน้าํ อยแู่ ลว้ เท่าใด เฉลย 50 ลิตร 1.2 น้าํ ไหลเขา้ ถงั ดว้ ยอตั ราเร็วคงที่หรือไม่ น้าํ ไหลเขา้ ปริมาณก่ีลิตรต่อนาที เฉลย 25 ลิตร/นาที 1.3 เม่ือเวลาผา่ นไป 10 นาที จะมีน้าํ ในถงั เท่าใด เฉลย 300 ลิตร 1.4 ตอ้ งเปิ ดน้าํ ข้งั นานเท่าใด น้าํ จึงจะเตม็ ถงั เฉยล 10 นาที
110 2. จงตอบคาํ ถามในแตล่ ะขอ้ จากกราฟแสดงการเดินทาของรถยนต์ บขส. และรถยนตร์ ับจา้ ง บน เส้นทาง เดียวกนั กิโลเมตร 200 160 120 รถยนต์ บขส. 80 รถยนต์ รับจา้ ง 40 8.00 9.00 10.00 11.00 12.00 นาฬิกา 1. รถยนต์ บขส. ออกเดินทางเวลา 8.00 น. ใชอ้ ตั ราเร็ว 40 กิโลเมตร/ชวั่ โมง 2. รถยนต์ รับจา้ ง ออกเดินทางเวลา 9.00 น. ใชอ้ ตั ราเร็ว 60 กิโลเมตร/ชวั่ โมง 3. รถยนตร์ ับจา้ ง จะแล่นไปทนั รถยนต์ บขส. หลงั จากออกเดินทางไปได้ 2 ชว่ั โมง 4. รถยนตท์ ้งั สองคนั จะอยหู่ ่างกนั เป็นระยะทาง 20 กิโลเมตรเมื่อเวลา 11.00 น. 5. ถา้ จุดหมายปลายทางอยหู่ ่างจากจุดเริ่มตน้ 200 กิโลเมตร รถยนตร์ ับจา้ งถึงจุดหมายปลายทางเวลา 12.20 น.
111 บนั ทกึ ผลหลงั การเรียนรู้ ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รียน ดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นการใชแ้ ผนการพบกลุ่ม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นสื่อการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................ครูกศน./ผสู้ อน (.........................................) ตาํ แหน่ง.......................................................... ความคิดเห็นของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ลงช่ือ................................................. (................................................) ผอู้ าํ นวยการ กศน.อาํ เภอ.....................................................
112 แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า พค21001 คณติ ศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น จาํ นวน 4 หน่วยกติ คร้ังท่ี สัปดาห์ที่ จํานวน 13 ชั่วโมง การเรียนรู้แบบตนเอง เร่ือง ความน่าจะเป็ น ตวั ชี้วดั 1. หาความน่าจะป็นของเหตุการณ์จากการทดลองสุ่มท่ีผลแตล่ ะตวั มีโอกาสที่จะเกิดข้ึน เท่าๆกนั 2. ใชค้ วามรู้เก่ียวกบั ความน่าจะเป็นในการคาดการณ์ไดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล 3. ใชค้ วมรู้เก่ียวกบั ความน่าจะเป็นประกอบการตดั สินใจ เนือ้ หา 1. การทดลองสุ่ม และเหตุการณ์ 2. การหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ 3. การนาํ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ต่างๆไปใช้ ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ข้ันที่ 1 กาํ หนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O: Orientation) เป็ นการเรียนรู้จากสภาพ ปัญหา หรือความตอ้ งการของผูเ้ รียน และชุมชน สังคม โดยใหเ้ ช่ือมโยงกบั ประสบการณ์เดิม และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ของหลกั สูตร ข้ันตอนการเรียนรู้ 1. ครูผูส้ อนและผเู้ รียนร่วมกนั กาํ หนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ ซ่ึงอาจจะไดม้ าจากสถานการณ์ในขณะน้นั หรือเป็ นเร่ืองที่เกิดข้ึนในชีวิตจริง หรือเป็ นประเด็นที่ กาํ ลงั ขดั แยง้ และกาํ ลงั อยใู่ นความสนใจของชุมชน ซ่ึงจะช่วยกระตุน้ ใหผ้ เู้ รียนกระตือรือร้นท่ีคิดจะ หาทางออกของปัญหา โดยการพูดคุยยกตวั อยา่ งสมมุติเก่ียวกบั การทดลองสุ่มและความน่าจะเป็ น เช่น การสอบแขง่ ขนั ศึกษาต่อ 2. ครูผูส้ อนให้ผเู้ รียนศึกษาทาํ ความเขา้ ใจกบั สภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในส่ิงท่ี ตอ้ งการเรียนรู้ ในเน่ือเรื่องการทดลองสุ่มเหตุการณ์ ความน่าจะเป็ น และการใชค้ วามรู้เกี่ยวกบั ความ น่าจะเป็นประกอบการตดั สินใจการดาํ เนินชีวติ ประจาํ วนั
113 3. วางแผนการเรียนรู้ที่เหมาะสม โดยกิจกรรมการเรียนรู้ที่กําหนดสามารถ มองเห็นแนวทางในการคน้ พบความรู้หรือคาํ ตอบไดด้ ว้ ยตนเอง เช่น ความน่าการจะเป็ นในการ กาํ หนดวนั ส่งรายงาน ข้นั ท2่ี ข้นั แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N: New ways of learning) การแสวงหาขอ้ มูล และจดั การเรียนรู้ โดยศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ และรวบรวม ข้อมูลของตนเอง ข้อมูลของชุมชน สังคม และข้อมูลทางวิชาการ จากส่ือและแหล่งเรียนรู้ที่ หลากหลายมี การระดมความคิดเห็น วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ขอ้ มลู และสรุปเป็นความรู้ ข้นั ตอนการเรียนรู้ 1. ครูผสู้ อนให้ผูเ้ รียนแสวงหาความรู้ตามแผนการเรียนรู้ที่กาํ หนดไว้ โดยเนน้ การ เรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้ผา่ นประสบการณ์ กระบวนการกลุ่ม ศึกษาจากผรู้ ู้ / ภูมิปัญญา และวิธี อ่ืน ๆ ท่ีเหมาะสม 2. ผูเ้ รียนนาํ ความรู้ที่ได้ไปศึกษานาํ เสนอ เพื่อให้ครูผูส้ อนประเมินผลงานท่ีได้ ศึกษาคน้ ควา้ ข้ันท่ี 3 การปฏิบัตแิ ลละนําไปประยุกต์ใช้ ( I: Implementation) นาํ ความรู้ท่ีไดไ้ ปปฏิบตั ิ และประยุกต์ใชใ้ ห้สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ เหมาะสม กบั วฒั นธรรมและสงั คม ข้ันตอนการเรียนรู้ ผเู้ รียนปฏิบตั ิตามข้นั ตอน จากการจดบนั ทึก และสรุปผล เก็บรวบรวมไวใ้ นแฟ้ ม สะสมงาน นาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั เช่น การซ้ือสลากกินแบ่งรัฐบาล ข้นั ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้ (E:Evaluation) ประเมิน ทบทวน แกไ้ ขขอ้ บกพร่อง ผลจากการนาํ ความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชแ้ ลว้ สรุป เป็นความรู้ใหม่ พร้อมกบั เผยแพร่ผลงาน ข้นั ตอนการเรียนรู้ 1. ครูผสู้ อนและผเู้ รียนนาํ แฟ้ มสะสมงาน และผลงานที่ไดจ้ ากกการปฏิบตั ิมาใชเ้ ป็ น สารสนเทศและอธิบายสรุปการศึกษาคน้ ควา้ ประกอบการประเมินคุณภาพการเรียนรู้ 2. ครูผูส้ อนและผูเ้ รียนร่วมกนั ประเมิน พฒั นาการเรียนรู้ให้เป็ นไปตามเกณฑ์ คุณภาพการเรียนรู้ สือการเรียนการสอน
114 1. ใบงาน 2. แบบฝึกหดั การประเมินผลและวดั ผล 1. การสังเกต, การสัมภาษณ์ 2. แบบฝึกหดั
115 ใบงาน ความน่าจะเป็ น 1. .ใหผ้ เู้ รียนศึกษาคน้ ควา้ ความหมายการทดลองสุ่มและเหตุการณ์พร้อมยกตวั อยา่ ง 2. .ใหผ้ เู้ รียนศึกษาคน้ ควา้ ความหมายของความน่าจะเป็นของเหตุการณ์จากการยกตวั อยา่ งการ ทดลองสุ่ม
116 แบบฝึ กหัด ความน่าจะเป็ น 1. จงเขียนผลท้งั หมดที่อาจจะเกิดข้ึนไดจ้ ากการหยบิ สลาก 2 ใบ เป็น เลขค่ีท้งั 2 ใบ จากสลากท่ีเขียน หมายเลข ต้งั แต่ 10 ถึง 20 ไว้ 2. จากการสอบถามถึงปกรายงานที่ผเู้ รียนชอบ 2 สี ในจาํ นวน 5 สี คือ สีขาว สีฟ้ า สีชมพู สีเขียว และ สีเหลือง จงเขียน 2.1 จงเขียนผลท้งั หมดท่ีอาจเกิดข้ึนมีจาํ นวนเท่าใด อะไรบา้ ง 2.2. เหตุการณ์ท่ีวริ ิยากรจะชอบสีฟ้ า หรือชมพู 3. มีสลาก 10 ใบ เขียนเลข 1-10 แลว้ มว้ นใส่กล่อง ความน่าจะเป็นที่จะหยบิ ไดส้ ลากท่ีเป็นเลขค่ีคิด เป็ นก่ี เปอร์เซนต์ 4. ถุงใบหน่ึงมีลูกปิ งปองสีแดง 5 ลูก สีเหลือง 2 ลูก หนูหยบิ ข้ึนมา 1 ลูก โดยไม่ไดด้ ูจงหาความ น่าจะเป็ นท่ี หนูจะหยบิ ไดส้ ีเหลือง
117 เฉลยแบบฝึ กหัด ความน่าจะเป็ น 1. จงเขียนผลท้งั หมดที่อาจจะเกิดข้ึนไดจ้ ากการหยบิ สลาก 2 ใบ เป็น เลขคี่ท้งั 2 ใบ จากสลากที่เขียน หมายเลข ต้งั แต่ 10 ถึง 20 ไว้ เฉลย (11,13), (11,15), (11,17), (11,19) , (13,11) , (13,15) , (13,17) , (13,19) , (15,11) , (15,13) , (15,17) , (15,19) , (17,11) , (17,13), (17,15) , (17,19) , (19,11) , (19,13) , (19,15) , (19,17) 2. จากการสอบถามถึงปกรายงานท่ีผเู้ รียนชอบ 2 สี ในจาํ นวน 5 สี คือ สีขาว สีฟ้ า สีชมพู สีเขียว และ สีเหลือง จงเขียน 2.1 จงเขียนผลท้งั หมดท่ีอาจเกิดข้ึนมีจาํ นวนเทา่ ใด อะไรบา้ ง เฉลย 20 (สีขาว,สีฟ้ า), (สีขาว,สีชมพ)ู , (สีขาว,สีเขียว), (สีขาว,สีเหลือง), (สีฟ้ า,สีชมพ)ู , (สีฟ้ า,สีเขียว), (สีฟ้ า,สีเหลือง), (สีชมพ,ู สีเขียว), (สีชมพ,ู สีเหลือง), (สีเขียว,สีเหลือง) 2.2. เหตุการณ์ที่วิริยากรจะชอบสีฟ้ า หรือชมพู เฉลย (สีขาว,สีฟ้ า), (สีขาว,สีชมพ)ู , (สีฟ้ า,สีชมพ)ู , (สีฟ้ า,สีเขียว), (สีฟ้ า,สีเหลือง), (สีชมพ,ู สีเขียว), (สีชมพ,ู สีเหลือง), 3. มีสลาก 10 ใบ เขียนเลข 1-10 แลว้ มว้ นใส่กล่อง ความน่าจะเป็นที่จะหยบิ ไดส้ ลากที่เป็นเลขค่ีคิด เป็ นก่ี เปอร์เซนต์ เฉลย 50% 4. ถุงใบหน่ึงมีลูกปิ งปองสีแดง 5 ลูก สีเหลือง 2 ลูก หนูหยบิ ข้ึนมา 1 ลูก โดยไมไ่ ดด้ ูจงหาความ น่าจะเป็ นที่ หนูจะหยบิ ไดส้ ีเหลือง เฉลย 2/7
118 บนั ทกึ ผลหลงั การเรียนรู้ ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รียน ดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นการใชแ้ ผนการพบกลุ่ม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นสื่อการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................ครูกศน./ผสู้ อน (.........................................) ตาํ แหน่ง.......................................................... ความคิดเห็นของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ลงช่ือ................................................. (................................................) ผอู้ าํ นวยการ กศน.อาํ เภอ.....................................................
119 แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า พค 21001 คณติ ศาสตร์ จาํ นวน 4 หน่วยกติ คร้ังท.ี่ ..... สัปดาห์ท.ี่ ......................................... จํานวน 10 ชั่วโมง แบบเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ความสมั พนั ธร์ ะหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ตวั ชี้วดั 1. อธิบายลกั ษณะของรูปเรขาคณิตสามมิติจากภาพสองมิติที่กาํ หนดให้ 2. ระบุภาพสองมิติท่ีไดจ้ ากการมองดา้ นหนา้ ดา้ นขา้ ง ดา้ นบนของรูปเรขาคณิตสามมิติที่ กาํ หนดให้ 3. วาดหรือประดิษฐร์ ูปเรขาคณิตที่ประกอบข้นึ จากลกู บาศกเ์ ม่ือกาํ หนดภาพสองมิติท่ีไดจ้ าก การมองทางดา้ นหนา้ ดา้ นขา้ ง หรือดา้ นบน เนือ้ หา 1. ภาพของรูปเรขาคณิตสองมิติที่เกิดจากการคล่ีรูปเรขาคณิตสามมิติ 2. ภาพของมิติท่ีไดจ้ ากการมองดา้ นหนา้ ดา้ นขา้ งหรือดา้ นบนของรูปเรขาคณิตสามมิติ 3. การวาดหรือประดิษฐร์ ูปเรขาคณิตที่ประกอบข้ึนจากลูกบาศก์ ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 การกาํ หนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ 1. ครูใหใ้ บงานพร้อมอธิบายเป็นแนวทาง ข้นั ท่ี 2 การแสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ 1. ใหผ้ เู้ รียนสืบคน้ ขอ้ มลู เพ่อื หาคาํ ตอบเก่ียวกบั โจทยป์ ัญหาน้นั เช่น ถามผรู้ ู้ สืบคน้ จากส่ือ อื่นๆ ตามอธั ยาศยั 2. ใหผ้ เู้ รียนส่งแบบฝึกหดั ท่ีครูมอบหมายให้ 3. ครูอธิบายเพิม่ เติมเพื่อใหผ้ เู้ รียนเกิดความเขา้ ใจมากข้ึน ข้นั ท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละนําไปประยกุ ต์ใช้ 1. ใหผ้ เู้ รียนฝึก มองภาพและวาดรูป 2 มิติ และ3 มิติจากสื่อตา่ งๆตามอธั ยาศยั
120 ข้นั ที่ 4 การประเมนิ ผล 1. ครูและผ้เู รียนตกลงเกณฑ์การประเมนิ ร่วมกนั 2. ความถูกตอ้ งของผลงาน สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนสาระความรู้พ้นื ฐานรายวชิ าคณิตศาสตร์ พค21001 ระดบั ม.ตน้ 2. ใบความรู้ 3. แหล่งเรียนรู้ในทอ้ งถิ่น 4. หอ้ งสมุด 5. คอมพิวเตอร์ (โปรแกรมออกแบบหรืออ่ืนท่ีสามารถสร้างรูปสามมิติได้ เช่น google sketchup, autocad เป็นตนั ) การวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินจากความถกู ต้องของผลงาน
121 ใบงานท…ี่ ความสัมพนั ธ์ระหว่างรูปเรขาคณติ สองมติ แิ ละสามมติ ิ 1. จงโยงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาพตอ่ ไปน้ี โดยมองจากดา้ นขา้ งของวตั ถุ A1 B2 C3 D4
122 2. จงโยงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งภาพตอ่ ไปน้ี โดยมองจากดา้ นบนของวตั ถุ A1 B2 C3 D4
123 ใบงานท…่ี 1. จงวาดภาพ 3 มติ ิ จากภาพ2 มติ ิทกี่ าํ หนดให้ต่อไปนี้ ตัวอย่าง ด้านหน้า ด้านบน ด้านข้าง 44 11 22 2 2 11 11 11 ตอบ
124 1.1 ด้านหน้า ด้านบน ด้านข้าง 33 2112 12 ตอบ 1 2 11
125 1.2 ด้านหน้า ด้านบน ด้านข้าง 11 2112 32 ตอบ 1 2 11
126 2. จงวาดภาพ 2 มติ ิ จากภาพ3 มติ ทิ ก่ี าํ หนดให้ต่อไปนี้ ด้านหน้า ด้านบน ด้านข้าง
127 บนั ทกึ ผลหลงั การเรียนรู้ ผลท่ีเกิดกบั ผเู้ รียน ดา้ นกระบวนการจดั กิจกรรม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นการใชแ้ ผนการพบกลุ่ม ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ดา้ นสื่อการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ...............................................ครูกศน./ผสู้ อน (.........................................) ตาํ แหน่ง.......................................................... ความคิดเห็นของผบู้ ริหาร ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................................... ลงช่ือ................................................. (................................................) ผอู้ าํ นวยการ กศน.อาํ เภอ.....................................................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182