1 Nutrinote
สารบญั 2 Drug and food interaction 4 Effect of drug on food intake 4
categories company Name Caloric distribution (%) Com CHO PRO FAT CHO 11.25 fresenius kabi Fresubin 45 20 35 14 15.68 abbott Ensure 56 15 29 11.7 12.5 abbott Jevity 62.72 16.32 31.68 12.5 13.72 polymeric formula Nestle Boost optimum 46.8 16.8 36 11.25 10.75 Nestle Nutren-fibre 50 16 34 11.25 8.25 Nestle Isocal 50 13 37 11.85 13.14 Thai-otsuka Blendera-MF 54.88 16.28 29.79 15.4 12.43 Nestle Nutren-balance 45 15 40 12.43 13.25 abbott GlucernaSR triple care 43 20 37 15.25 8.75 diabetic abbott GlucernaSR triple care 45 20 35 10.68 abbott Glucerna liquid 33 18 49 12.5 Thai-otsuka ONCE PRO 47.4 19.52 40.05 Thai-otsuka Gen-DM 52.56 16.92 30.51 disease- hepatic Thai-otsuka Aminoleban-oral 61.6 25.6 15.3 specific Thai-otsuka Neo-mune 49.72 24.6 25.65 immuno- Neo-mune 49.72 24.64 25.74 modulatin Thai-otsuka oral-impact 53 22 25 Prosure 61 21 18 g Nestle abbott renal abbott Nepro 35 18 47 semi- Thai-otsuka Pan-Enteral 42.72 12 45.27 elemental Nestle Peptamen 50 16 34
3 mposition (g/100kcal) Electrolyte and Remark micronutrients (mg or O PRO FAT 2kcal fiber drink 5 5 3.89 mEq/100 kcal) fiber and FOS Na K P mixed fiber and FOS 3.75 3.22 30 80 60 synbiotic added 8 4.08 3.52 84.35 156.52 54.78 7 4.2 4 94.56 159.52 60.96 prebiotic 5 4 3.78 37 120.6 47 only for tube feeding | fiber free 5 3.25 4.2 74.40 107.60 49.20 2 4.07 3.31 50 125 50 FOS 5 3.75 4.44 78.35 108.76 55.72 fructose free | high soluble fiber 5 5 4.11 87.00 126.00 68.00 5 5 3.89 93.78 164.44 74.67 oral/ feeding (powder) 5 4.5 5.44 98.21 154.71 61.88 only for oral (liquid in box) 5 4.88 4.45 93.20 156.00 72.00 oral/ feeding (liquid in can) 4 4.23 3.39 97.4 162.5 66.5 whey PRO | omega-3,6,9 4 6.4 1.7 70.11 130.46 50.14 3 6.15 2.85 22.6 77.1 39.9 FOS | plant-based 3 6.16 2.86 78.49 99.32 22.43 BCAA 5 5.5 2.78 78.61 99.46 22.46 5 5.25 2 105.94 132.67 71.29 Vanilla flavor 5 4.5 5.22 119.05 158.73 83.49 melon flavor 8 3 5.03 58.82 58.82 40 100% whey | tropical fruit 5 4 3.78 44 110.46 43 energy dense 67.97 89.45 55.86 for dialysis | high protein | low Na, K, P whey pro 100% | MCT:LCT = 70:30
4 Drug and food interaction Effect of drug on food intake • Nutrition Absorption : ยาบางชนดิ อาจเพมิ่ ลดลง หรือป้องกันการดูดซมึ อาหารในลาไส้ • Nutrition Excretion : ยาสามารถเพม่ิ หรือลดการขบั ปัสสาวะของสารอาหาร ยา amphetamine ซึ่งเป็นยากระตุ้นประสาทส่วนกลางโดยหล่ังสารโดพามีนในสมอง ทาให้รู้สึกกระตือรือร้น ผลข้างเคียง ทาให้เบือ่ อาหาร ยา Carboplatin เป็นยารักษาโรคมะเร็งหลายชนิด ยาจะยับยั้งการสังเคราะห์สารพันธุกรรมของเซลล์มะเร็ง เช่น DNA อาการข้างเคยี ง คลน่ื ไส้ อาเจยี น Drug that may increase apatite • Anticonvulsant : เป็นยารักษาอาการชักต่างๆอาจเกดิ การเสยี สมดลุ ของเกลือแร่ • Antipsychotic : ยารกั ษาโรคจติ , ไบโพลาร์ • Antidepresant : ยารกั ษาอาการซึมเศร้า Drug can decrease nutrition absorption • Laxatives : เป็นยาบรรเทาอาการท้องผกู ทาให้อุจจาระอ่อนตัวลง หรอื กระตนุ้ การบีบตวั ของลาไส้ • Aluminum hydroxide : เป็นยาลดกรดในกระเพาะอาหาร • Statin : เป็นยาลดคลอเลสเตอรอลในเลือด Drug can increase a loss of a nutrition • Diuratics : เป็นยาขบั ปัสสาวะ ใชใ้ นการรักษาความดนั โลหิตสูง • Aspirin : ยาลดการอักเสบ เชน่ ปวดประจาเดือน • Clobazam : ยาลดอาการวติ กกังวล
5 Absorption : การเคล่อื นทข่ี องยาภายในกระแสเลอื ดขน้ึ อยกู่ บั ปจั จยั ต่อไปน้ี • โครงสรา้ งของยาทส่ี ามารถผ่านเยอ่ื บลุ าไส้ • ระยะเวลาทท่ี าใหก้ ระเพาะอาหารว่าง • ช่องทางการใหย้ า • คุณภาพของยา Distribution (การกระจายตวั ของยา) ยาเขา้ ส่กู ระแสเลอื ด กระจา่ ยไปยงั เน้อื เยอ่ื ต่างๆ • จบั กบั Plasma protein ยาไมอ่ อกฤทธิ ์ • Albumin ต่า ทาใหเ้ กดิ Toxic ได้ Metabolism (การเปลย่ี นแปลงของยา) • เป็นกระบวนการทย่ี าถูกเปลย่ี นแปลงทางเคมใี นรา่ งกาย ซ่งึ มผี ลมาจากปฏกิ ริ ยิ าของยาระหว่างยา กบั เอนไซม์ เกดิ ขน้ึ ทต่ี บั Excretion (การขบั ยาออกจากรา่ งกาย) • ยาจะถกู ขบั ออกไดท้ างไต ตบั ปอด • อาจจะขบั ออกทางน้านมและเหงอ่ื ไดใ้ นปรมิ าณเลก็ น้อย • อวยั วะในการขบั ยาออก คอื ไต Benefits of minimizing food drug interactions • ยามปี ระสทิ ธภิ าพในการทางานสงู • ไมเ่ กดิ พษิ จากยา • ช่วยลดคา่ ใชจ้ า่ ย • แกไ้ ขปญั หาภาวะโภชนาการผดิ ปกติ • ผปู้ ว่ ยไดร้ บั การรกั ษาจากยาสงู สุด • การใหบ้ รกิ ารดา้ นการดแู ลสขุ ภาพลดลง • ความรบั ผดิ ชอบทางดา้ นวชิ าชพี น้อยลง
6 Effect of food or drug intake • Drug absorption : อาหารหรอื สารอาหารในกระเพาะและลาไส้อาจทาใหล้ ดการดดู ซมึ ของยา โดย การชะลอการย่อยอาหารหรอื จบั กบั อนุภาคของอาหาร อาหารอาจทาหน้าทเ่ี พมิ่ หรอื ยบั ยงั้ การเผา ผลาญของยาบางชนิดในรา่ งกาย • Drug excretion : ยาจะถกู ขบั ถ่ายออกทางไต • Dietary calcium : สามารถจบั กับยาปฏิชวี นะ “tetracycline” ซ่ึงเป็นยารกั ษาการติดเช้ือ ได้แก่ มาลาเรยี ซฟิ ิลสิ • กรดอะมโิ นในธรรมชาติ สามารถดูดซมึ กบั “levodopa” ซงึ เป็นยารกั ษาโรคพารก์ นิ สนั ซง่ึ จะไปเพม่ิ สารส่อื ประสาทโดพามนิ ในสมอง Absorption Distribution • การรบั ปะทานไฟเบอร์ในปรมิ าณมากจะรบกวนการดูดซึมของ “Digoxin” ซ่ึงเป็นยากลุ่มของ (Cardiac glycoside) ทม่ี ฤี ทธเิ ์พม่ิ การบบี ตวั ของกลา้ มเน้อื หวั ใจ ใชร้ กั ษาหวั ใจวาย หวั ใจหอ้ งบน • Metabolism : อาหารทม่ี กี ารบ่มหรอื หมกั เช่นโยเกริ ต์ โดยจะทาปฏกิ ริ ยิ ากบั ยา “Tyramine” ซง่ึ เป็น การยบั ยงั้ เอนไซม์ monoamine oxidase ใชร้ กั ษารควติ กกงั วล โรคพารก์ นิ สนั • Food hight Vit.K (ผกั ตระกูลกะหล่า) ลดประสทิ ธภิ าพของยา “Anticoagulant” ซ่งึ เป็นยาต้านการ แขง็ ตวั ของเลอื ด • ห้ามรบั ประทาน Grapefruit juice พรอ้ มกบั ยาต่อไปน้ี “Cyclosporin” ซ่งึ เป็นยากดภูมคิ ุม้ กนั ใชก้ บั ผู้ป่วยท่ีมีการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น หัวใจ ไต และตับ “Certain statins” ซ่ึงเป็นกลุ่มยาลดคลอ เลสเตอรอล ความรุนแรงของภาวะน้าตาลต้าในเลอื ดแบ่งไดเ้ ปน็ 3 ระดบั ระดบั 1 (level 1) glucose alert value หมายถงึ ระดับนา้ ตาลในเลือดที่ ≤ 70 มก./ดล.
7 ระดับ 2 (level 2) clinically significant hypoglycemia หมายถงึ ระดับน้าตาลในเลือด ที่ <54 มก./ดล. ระดับ 3 (level 3 ) ภาวะน้าตาลต่าในเลือดระดับรุนแรง หมายถึง การท่ผี ู้ป่วยมอี าการสมองขาด กลูโคสที่รุนแรง (severe cognitive impairment) ซ่งึ ต้องอาศัยผ้อู ืน่ ชว่ ยเหลอื ภาวะนา้ ตาลต้าในเลือดระดบั ไม่รุนแรง ให้กินอาหารทีมีคาร์โบไฮเดรต 15 กรมั • กลโู คสเม็ด 3 เมด็ • น้าส้มค้นั 180 มล. • นา้ อัดลม 180 มล. • น้าผ้ึง 3 ช้อนชา • ขนมปัง 1 แผ่นสไลด์ • นมสด 240 มล. • ไอศกรมี 2 สคูป • ข้าวตม้ หรือ โจก๊ ½ ถว้ ยชาม • กลว้ ย 1 ผล ภาวะนา้ ตาลตา้ ในเลือดระดับปานกลาง ใหก้ นิ อาหารทีมีคารโ์ บไฮเดรต 30 กรมั • ผู้ป่วยเบาหวานท่ีมีสายกระเพาะอาหาร หรือสาย PEG สามารถให้น้าหวาน น้าผลไม้ สารละลาย กลููโคส หรืออาหารเหลวที่มีคารโ์ บไฮเดรต 15-30 กรมั ทางสายกระเพาะอาหาร หรือสาย PEG ได้ • ตดิ ตามระดบั กลโู คสในเลอื ดโดยใชเ้ ครอื่ งตรวจน้าตาลในเลอื ดชนดิ พกพา หรือ point-of-care device (ถ้าสามารถทาได้) ท่ี 15 นาที หลังกินคาร์โบไฮเดรตคร้ังแรก กินอาหารท่ีมีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัมซ้า ถ้าระดับ กลูโคสในเลือดท่ี 15 นาที หลงั กนิ คาร์โบไฮเดรตคร้งั แรกยังคง <70 มก. /ดล. ท่ีมา : แนวทางเวชปฏบิ ตั ิสาหรบั โรคเบาหวาน 2560 Clinical Practice Guideline for Diabetes 2017
8 ข้อควรปฏิบัตเิ พอื ปอ้ งกนั กระดกู หกั เนืองจากกระดูกพรนุ (Fracture liaison service : FLS) ดังนี - ควรรับประทานอาหารท่ีมีแคลเซียมใหเ้ หมาะสม คือ ผูท้ ่มี ีอายุน้อยกวา่ หรือเท่ากับ 50 ปี ควรไดร้ ับแคลเซียม 800 มลิ ลกิ รัมต่อวนั ผ้ทู ่มี ีอายุ 51 ปขี ึน้ ไป ควรไดร้ บั แคลเซยี ม 1000 มิลลกิ รมั ตอ่ วัน - รับแสงแดดอย่างเพียงพอ เพ่อื ให้ผิวหนังสร้างวติ ามนิ ดี จะช่วยใหล้ าไส้ดดู ซมึ แคลเซยี มได้ ตัวอยา่ งอาหารท่ีมแี คลเซยี ม อ้างอิงจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ.บุษบา จินดาวิจักษณ์ ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหิดล เร่อื งแคลเซยี มกับโรคกระดกู พรนุ ตอนท่ี2 ชนิดอาหาร ปริมาณทบี รโิ ภค ปริมาณแคลเซียม (มิลลกิ รัม) นมสดยเู อชที 200 ซซี ี (1กล่อง) 240 นมสดเสรมิ แคลเซียม 200 ซซี ี (1กลอ่ ง) 280 นมถ่ัวเหลือง 250 ซซี ี (1กลอ่ ง) 64 นมเปร้ียว 160 ซซี ี (1ขวด) 160 โยเกริรต์ 150 กรัม (1ถ้วย) 280 กะปิ 136.64 กุ้งแห้งตัวเลก็ 2 ช้อนโตะ๊ 138.30 ปลาสลิด ตม้ 1 ช้อนโต๊ะ 153.42 ปลาฉง้ิ ฉา้ ง ทอด 2 ชอ้ นโตะ๊ 186.75 ไขไ่ ก่ ตม้ 2 ชอ้ นโต๊ะ 205.56 ไขเ่ ป็ด ตม้ 225.76 เต้าหขู้ าว ออ่ น ตม้ 1 ฟอง 243.63 เต้าหขู้ าว แขง็ ตม้ 1 ฟอง 258.75 ผกั คะน้า ผดั 3 ชอ้ นโตะ๊ 319.26 ผกั กาดเขยี ว ตม้ 3 ช้อนโต๊ะ 411.86 ผกั กวางตุง้ ตม้ 5 ชอ้ นโตะ๊ 450.06 ใบยอ ตม้ 5 ช้อนโต๊ะ 198.20 5 ช้อนโต๊ะ ½ ทัพพี
ใบชะพลู 70 กรัม 9 มะเขอื พวง 2 ชอ้ นโตะ๊ อ้างอิงจาก : โปรแกรมINMUCAL-N 390.70 243.62 การคา้ นวณพลังงานจากน้ายาลา้ งไตผา่ นชอ่ งท้อง CAPD ความเข้มขน้ ของนา้ ยาล้างไต Glucose/2 L (g) absorption rate calories/2 L (%w/v) (~60%) (Kcal) 1.5% 30 18 67 2.5% 50 30 110 4.25% 85 51 190 *Kcal คิดจาก Glucose 1 g = 3.7 kcal
10 ธาลสั ซีเมีย (Thalassemia) ธาลัสซีเมีย (Thalassemia) เป็นโรคโลหิตจางที่มีสาเหตุจากความผิดปกตทิ างพนั ธุกรรมระดบั ยนี ทาให้ การสร้างฮีโมโกบิล (Hemoglobin; Hb) ซึ่งเป็นโปรตีนท่ีเป็นส่วนประกอบสาคัญของเม็ดเลือดแดงผิดปกติ ส่งผล ให้เม็ดเลือดแดงมีอายุส้ัน แตกง่าย ถูกทาลายง่าย จัดเป็นโรคโลหิตจางทางพันธุกรรมท่ีพบบ่อยที่สุดในโลก Vichinsky EP. Changing patterns of thalassemia worldwide. Annals of the New York Academy of Sciences. 2005;1054:18-24. อาหารทีเหมาะสมส้าหรับผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย คืออาหารที่มีโปรตีน และกรดโฟลิก (Folic acid) สูง เพื่อช่วยในการสร้างเมด็ เลอื ดแดง ปรมิ าณโฟเลทในอาหาร อาหาร ปรมิ าณโฟเลท (ไมโครกรมั ต่อ 35 กรัม หรอื ½ สว่ น) ตาลึง 42.70 ใบก๋ยุ ช่าย 50.75 ผกั กาดหอม 36.75 ค่ืนช่าย 39.90
11 ดอกกะหลา่ 32.90 มะเขือเทศ 8.61 ถว่ั เขียว 53.55 ถวั่ แดง 49.70 ถั่วเหลอื ง 62.65 อ้างอิงจาก : ผศ.ภญ.ดร.กุลวรา เมฆสวรรค์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั เร่อื ง โภชนาการผู้ป่วยธาลสั ซีเมยี อาหารทคี วรหลกี เลยี งส้าหรับผู้ป่วยโรคธาลัสซเี มีย คอื อาหารท่มี ธี าตเุ หล็กสงู ผลติ ภณั ฑจ์ ากสตั ว์ทมี่ ีปริมาณธาตเุ หลก็ สงู เนอื สตั ว์ ปริมาณธาตุเหลก็ (มิลลกิ รัม สัตวน์ า้ ปรมิ าณธาตเุ หลก็ (มลิ ลกิ รัม ต่อ 40 กรัมหรอื 1 สว่ น) ตอ่ 40 กรมั หรอื 1 สว่ น) ปอดหมู 47.6 กงุ้ ฝอยสด 28.0 เลอื ดหมู 25.9 หอยโขม 25.2 หมูหยอง 17.8 หอยแมลงภู่ 15.6 ตับหมู 10.5 หอยแครง 6.4 น่องไกบ่ ้าน 7.8 ปลาดกุ 8.1 เนอื้ วัวเคม็ ทอด 7.5 ปลาชอ่ น 5.8
12 กบแหง้ 3.8 ปลาตะเพียน 5.6 ผลิตภณั ฑ์จากธัญพชื และเห็ดท่ีมีปริมาณธาตุเหล็กสูง ธัญพืชและ ปรมิ าณธาตเุ หล็ก ผกั และเห็ด ปรมิ าณธาตเุ หลก็ (มลิ ลกิ รมั ต่อ 100 กรัม) ของวา่ ง (มลิ ลิกรมั ต่อ 100 กรัม) ผักกดู ใบแมงลัก 36.3 ดารก์ ชอ็ กโกแลต 17.0 ใบกระเพาแดง 17.2 ยอดมะกอก 15.1 ถั่วดา 16.5 9.9 เตา้ เจ้ียว 15.2 เมล็ดฟักทอง 15.0
13 ถวั่ ลิสง 13.8 ดอกโสน 8.2 งาขาว 13.0 ใบชะพลู 7.6 ถ่วั แดง 10.5 ตน้ หอม 7.3 ลูกเดอื ย 10.0 มะเขือพวง 7.1 งาดา 9.9 เห็ดหูหนู 6.1 จมกู ข้าวสาลี 6.8 ยอดอ่อนขีเ้ หล็ก 5.8 ขา้ วโอ๊ต 6.5 ผกั กระเฉด 5.3 อ้างอิงจาก : ผศ. ดร. ภญ. ปยิ นุช โรจนส์ งา่ ภาควชิ าเภสัชเคมี คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล เรื่อง บทความเผยแพร่ความรู้สปู่ ระชาชน ธาลัสซเี มีย (Thalassemia)...กนิ อย่างไรให้เหมาะสม หมายเหตุ : ควรหลีกเล่ียงการรบั ประทานอาหารร่วมกับอาหารท่ีมีวติ ามินสูง เช่น ส้ม มะเขือเทศ เพราะ วิตามินซีจะช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก และควรรับประทานร่วมกับอาหารท่ีลดการดูดซึกธาตุเหล็ก เช่น ชา และ นมถว่ั เหลอื ง การคา้ นวณพลงั งาน Resting Energy Expenditure (joint FAO/WHO/UNU) อาย(ุ ปี) เพศชาย เพศหญิง 0-3 (60.9xkg)-54 (61.0xkg)-51 3-10 (22.7xkg)+495 (22.5xkg)+499 10-18 (17.5xkg)+651 (12.2xkg)+746
14 18-30 (15.3xkg)+679 (14.7xkg)+496 30-60 (11.6xkg)+879 (8.7xkg)+829 >60 (13.5xkg)+487 (10.5xkg)+596 -World Health organization. Energy and protein requirements. Geneva: World Health organization, 1985. Technical report Series No. 724. BMR คา้ นวณจาก Schofield Equations อายุ (ปี) เพศชาย เพศหญงิ 0-3 0.167W+15.174H-617.6 16.252W+10.232H-413.5 3-10 19.59W+1.303H+414.9 16.969W+1.618H+371.2 10-18 16.25W+1.372H+515.5 8.365W+4.65H+200 W=weight(kg), H=height(cm) -Schofield WN. Predicting basal metabolic rate, new standard and review of previous work. Hum Nutr Clin Nutr 1985; 39 (Suppl 1): 5-41. Classifications of nutritional status Moderate Severe Nutrition 60-75 <50 status ดชั นี Normal Mild Underweight %W/A >90 75-90
15 %W/H >90 80-90 70-80 <70 Wasting %H/A >95 90-95 85-90 <85 Stunting -Gomez F, Galvan RR, Cravioto J, Frenk S. Malnutrition in infancy and childhood, with special reference to kwashiorkor. Adv Prediatr. 1955;7:131-169 -Warelow JC. Classification and definition of protein-calorie malnutrition. Br Med J. 1972;3(5826):566-9. Overweight and obesity วินิจฉยั โดยใช้เกณฑ์อ้างองิ ได้ 2 แบบ 1. ใชก้ ราฟหรอื ตารางค่าอา้ งองิ BMI ตามอายุ และเพศขององค์การอนามยั โลก เนื่องจากขณะนีย้ งั ไม่มเี กณฑ์ อา้ งองิ BMI สาหรบั เดก็ ไทย 2. ใชค้ า่ นา้ หนกั ตามเกณฑส์ ่วนสงู %W/H* >110-120 >120-140 >140-160 >160-200 >200 Nutritional Overweight Mild obesity Moderate Severe Morbid status* นา้ หนกั เกิน อว้ นเลก็ นอ้ ย obesity obesity obesity อ้วนปานกลาง อ้วนมาก อว้ นรนุ แรง เปรยี บเทยี บกับกราฟ** Overweight Obesity Morbid กรมอนามัย พ.ศ. 2542 เริม่ อว้ น โรคอ้วน obesity โรคอ้วนรุนแรง * คา่ %W/H เป็นการประเมินความรนุ แรงของโรคอ้วนในเด็ก ในทางเวชปฏิบตั ิ **จากการเปรียบเทยี บกบั กราฟเกณฑ์อา้ งอิงการเจริญเติบโตของเดก็ ไทย กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ. 2542 พบวา่ เด็กท่ีไดร้ บั การวินจิ ฉยั ว่าเป็น “โรคอ้วน” คือ นา้ หนกั ตามเกณฑส์ ว่ นสูงมากกวา่ ค่ามัธยฐาน +3SD จะมีน้าหนกั คิด เป็น 135-153 % ของค่า ideal weight for height (W/H) และ +2SD จะมนี ้าหนักคิดเป็น 122-135 %W/H ดงั นนั้ ถา้ ใช้ เกณฑ์เดมิ ตามตาราง จะทาใหก้ ารวินจิ ฉัยโรคอ้วนในเด็กไทยมากเกนิ กวา่ ที่ควรจะเป็น อา้ งอิงจากแนวทางการดแู ลรักษาและป้องกนั ภาวะโภชนาการเกนิ ในเดก็ ชมรมโภชนาการเดก็ แห่งประเทศไทย
16 DASH diet DASH Diet (Dietary Approaches to Stop Hypertension Diet) โด ย ชื่ อ DASH Diet ห ม าย ถึ ง แนวทางโภชนาการเพอื่ หยุดความดันโลหติ สูง หลักการ : ลดการบริโภคอาหารท่ีมีเกลือโซเดียม ไขมันอิ่มตัว ไขมันรวมและคอเรสเตอรอลลง และเพิ่ม การรับประทานใยอาหาร โปรตีน แคลเซยี ม แร่ธาตุต่างๆอย่าง โปแตสเซียมและแมกนีเซียม รวมถงึ ปริมาณสารไน เตรทที่มผี ลการศกึ ษาถึงการลดความดนั โลหิตสูงได้ สดั ส่วนการรับประทานอาหารตามหลัก DASH ใน 1 วนั : ชนดิ อาหาร สัดส่วน ธญั พชื ชนดิ ตา่ งๆ โดยเน้นเปน็ ธญั พืชไมข่ ัดสี 7-8 สว่ นบริโภค (หรอื ประมาณ 7-8 ทัพพี) ผกั และผลไม้ อยา่ งละ 4-5 สว่ นบรโิ ภค (หรือประมาณ 4-5 ทัพพี และผลไม้ 3-4 ส่วน) เน้อื สตั ว์ไขมนั ต่าอย่างเนอ้ื ปลา 2-3 ส่วนบรโิ ภค (หรือประมาณ 4-6 ชอ้ นกนิ ข้าว) ลดการรับประทานสัตว์เนอื้ แดง การตดั สว่ นไขมนั หรอื หนังของเน้ือสตั ว์และเลือกรบั ประทานเนื้อสัตวไ์ ขมนั ตา่ น้ามนั หรอื ไขมัน 2-3 ส่วนบรโิ ภค (หรือไม่เกนิ 6 ชอ้ นชา) ถวั่ ชนดิ ต่างๆ เชน่ อลั มอนด์ ถั่วเลนทิล 4-5 สว่ นบริโภค(หรอื ประมาณ 4-5 ฝ่ามอื )ต่อสัปดาห์ ของหวานชนิดตา่ งๆ ไม่เกนิ 5 ส่วนบรโิ ภคต่อสปั ดาห์* แนะนาให้ รบั ประทานนานๆครง้ั แนะนาใหใ้ ช้เครื่องเทศหรือสมุนไพรต่างๆในการเสรมิ รสชาติอาหาร และลดการใชเ้ กลอื หรอื เครื่องปรงุ ทม่ี ี โซเดยี มสูงในการปรุงแต่งอาหาร -Mayo Clinic Staff. DASH diet: Healthy eating to lower your blood pressure [online document]. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/dash-diet/art-20048456. October 3, 2017. -Siervo, M., Lara, J., Chowdhury, S., Ashor, A., Oggioni, C., & Mathers, J. (2015). Effects of the Dietary Approach to Stop Hypertension (DASH) diet on cardiovascular risk factors: A systematic review and meta-analysis. British Journal of Nutrition, 113(1), 1-15. doi:10.1017/S0007114514003341.
17
18 (นพิ าวรรณ, มปป) ที่มา : national cholesterol Education Program Adult Treatment Panel III, 2001 TLC ยอ่ มาจาก Therapeutic Lifestyle Change Diet เปน็ วิธีการดแู ลทางโภชนบาบัดทางการแพทยว์ ิธหี น่งึ ท่มี ี ประสิทธภิ าพในการดูแลผปู้ ว่ ยท่มี ภี าวะไขมนั ในเลือดผิดปกติได้เปน็ อย่างดี
19
20 Screening and assessment tool Screening tool เครอื งมอื อา้ งอิง Malnutrition Screening Tool (MST) Ferguson et al. (1999) Mini Nutritional Assessment Short-Form (MNA-SF) Rubenstein et al. (2001) Nutritional Risk Screening (NRS 2002) Kondrup et al. (2003) Malnutrition Universal Screening Tool (MUST) Stratton et al. (2004) Short Nutritional Assessment Questionnaire (SNAQ) Kruizenga et al. (2005) Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT) Chittawatanarat et al. (2016) MST
21 NRS If the answer is ‘Yes’ to any question, the screening in Table 2 is performed
22 MUST BMI Score >20 0 1 18.5-20 2 <18.5 0 Unplanned weight loss in past 3-6 months 1 <5% 2 2 5-10% >10% If patient is acutely ill and there has been or is likely to be no nutritional intake for >5 days total SNAQ
23 Assessment tool อา้ งองิ เครอื งมอื Detsky et al. (1999) Guigoz et al. (2001) Subjective Global Assessment (SGA) Ottery et al. (2004) Mini Nutritional Assessment (MNA) Komindrg et al. (2005) Patient generated subjective global assessment (PG-SGA) Chittawatanarat et al. (2016) Nutrition Alert Form (NAF) Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT)
24
25
26
27
28
29
30 การแปลผลเครืองมือคัดกรองและประเมินภาวะโภชนาการ Screening Tools คะแนน เกณฑ์ Malnutrition Screening Tool (MST) 0-1 No risk of malnutrition ≥2 Risk of malnutrition Mini Nutritional Assessment Short-Form 12-14 (MNA-SF) 8-11 Normal 0-7 At risk of malnutrition Nutritional Risk Screening (NRS 2002) 0-2 3 Malnourished Malnutrition Universal Screening Tool 0 Normal (MUST) 1 ≥2 Nutritionally at-risk Short Nutritional Assessment Questionnaire 0-1 Low risk (SNAQ) 2 ≥3 Medium risk Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT) 0 High risk Assessment Tools ≥1 Well nourished Subjective Global Assessment (SGA) คะแนน Moderately malnourished A Severely malnourished Mini Nutritional Assessment (MNA) B C Normal Patient generated subjective global Nutritionally at-risk assessment (PG-SGA) 24-30 17-23.5 เกณฑ์ Nutrition Alert Form (NAF) 0-16 Normal Mild-Moderate Malnutrition A Severe Malnutrition B Normal C Risk of malnutrition 0-5 Malnutrition 6-10 Normal Moderate Malnutrition Severe Malnutrition Normal-Mild Malnutrition Moderate Malnutrition
31 ≥11 Severe Malnutrition Normal 0-4 Mild Malnutrition Bhumibol Nutrition Triage (BNT/NT) 5-7 Moderate Malnutrition 8-10 Severe Malnutrition ≥11 ค่าในการวินิจฉยั และเปา้ หมายในการตดิ ตามโรคเบาหวาน ตารางการแปลผลระดบั พลาสมากลโู คสและ A1C เพ่ือการวินจิ ฉัย ปกติ ระดบั นา้ ตาลในเลือดทเี พมิ ความเสียงการ โรคเบาหวาน <100 มก./ดล. เป็นเบาหวาน ≥126 มก./ดล. <140 มก./ดล. ≥200 มก./ดล. impaired fasting impaired glucose - ≥200 มก./ดล. < 5.7 % glucose (IFG) tolerance (IGT) ≥6.5% พลาสมากลูโคสขณะอด 100-125 มก./ดล. - อาหาร (FPG) - 140-199 มก./ดล. พลาสมากลูโคสที่ 2 ชวั่ โมงหลงั ด่มื นา้ ตาล -- กลโู คส 75 กรัม 2 h-PG 5.7-6.4% (OGTT) พลาสมากลูโคสทเี่ วลาใดๆ ในผู้ทีม่ ีอาการชดั เจน ฮีโมโกลบินเอวันซี (A1C) *IFG เป็นภาวะระดับน้าตาลในเลือดขณะอดอาหารผิดปกติ *IGT เปน็ ภาวะระดับน้าตาลในเลอื ดสูงหลังได้รับกลูโคส
32 เป้าหมายในการติดตามโรคเบาหวาน การควบคุม เบาหวาน ควบคุมเข้มงวดมาก เปา้ หมาย ควบคมุ ไมเ่ ข้มงวด ควบคุมเข้มงวด 140-170 มก./ดล ระดับน้าตาลในเลือดขณะอดอาหาร >70-110 มก./ดล. 80-130 มก./ดล - ระดับน้าตาลในเลือดหลงั อาหาร 2 ชั่วโมง <140 มก./ดล - - 7.0-8.0% ระดับนา้ ตาลในเลือดสงู สดุ หลังอาหาร - <180 มก./ดล <7.0% A1C (% of total hemoglobin) <6.5% - เป้าหมายการควบคุมเบาหวานสาหรับผใู้ หญ่ - เปา้ หมายในการควบคมุ ระดบั นา้ ตาลในเลอื ดสาหรบั ผู้ปว่ ยเบาหวานสูงอายุ และผปู้ ่วยระยะสดุ ทา้ ย สภาวะผปู้ ่วยเบาหวานสูงอายุ เป้าหมายระดับ A1C ผมู้ ีสขุ ภาพดี ไม่มโี รครว่ ม <7% ผมู้ ีโรครว่ ม ชว่ ยเหลอื ตวั เองได้ 7.0-7.5% ผู้ปว่ ยทีต่ ้องได้รับการช่วยเหลอื มภี าวะเปราะบาง ไม่เกนิ 8.5% มภี าวะสมองเสื่อม ไม่เกิน 8.5% ผู้ป่วยทคี่ าดวา่ จะมีชีวิตอยู่ได้ไมน่ าน หลีกเล่ียงภาวะน้าตาลในเลือดสงู จนทาให้เกดิ อาการ
33 - เป้าหมายการควบคุมปัจจัยเสยี่ งของภาวะแทรกซ้อนทีห่ ลอดเลอื ด การควบคมุ /การปฏิบตั ิตัว เป้าหมาย ระดับไขมันในเลือด* <100 มก./ดล ระดับไขมันในเลือด ระดบั แอล ดี แอลคเลสเตอรอล* <150 มก./ดล. ระดบั ไตรกลเี ซอไรด์ ≥40 มก./ดล ระดบั เอช ดี แอล คอเลสเตอรอล: ผู้ชาย ≥ 50 มก./ดล ผหู้ ญิง <140 มม.ปรอท <90 มม.ปรอท ความดนั โลหติ ** ความดนั โลหิตซสิ โตลคิ (systolic BP) 18.5-22.9 กก./ม.² หรือใกลเ้ คยี ง ความดนั โลหิตไดแอสโตลคิ (diastolic BP) ไมเ่ กินส่วนสงู หารดว้ ย 2 น้าหนักตวั <90 ซม. ดัชนมี วลกาย <80 ซม. รอบเอวจาเพาะบุคคล (ท้ังสองเพศ)*** ไมส่ ูบบหุ รแี่ ละหลีกเล่ยี งการรับควันบุหรี รอบเอว : ผ้ชู าย ตามคาแนะนาของแพทย์ ผูห้ ญงิ การสูบบุหรี่ การออกกาลงั กาย * ถ้ามีโรคหลอดเลือดหัวใจหรอื มีปจั จัยเสี่ยงของโรคหลอดเลอื ดหวั ใจหลายอย่างร่วมด้วยควรควบคุมให้ LDL-C ต่า กวา่ 70 มก./ดล. ** ผู้ป่วยท่ีมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตซิสโตลิคไม่ควรต่ากว่า 110 มม. ปรอท ผู้ป่วย ที่อายุน้อยกว่า 40 ปีหรือมีภาวะแทรกซ้อนทางไตร่วมด้วยควรควบคุมความดันโลหิตให้น้อยกว่า 130/80 มม.ปรอท ถา้ ไมท่ าใหเ้ กิด ภาวะแทรกซ้อนของการรักษา
34 การตรวจวินิจฉัยโรคและตรวจคัดกรองเบาหวานขณะตังครรภ์ - เกณฑ์ของ Carpenter และ Coustan หญงิ ตั้งครรภ์ดมื่ นา้ ท่ลี ะลายนา้ ตาลกลโู คส 100 กรัม (100 gm OGTT) เวลา ระดบั นา้ ตาลในเลอื ด (มก./ดล.) ก่อนดื่มน้าตาล 100 กรมั 95 หลงั ดื่มน้าตาล 1 ชว่ั โมง 180 หลังดื่มน้าตาล 2 ชั่วโมง 155 หลังดื่มน้าตาล 3 ชั่วโมง 140 *ตั้งแต่ 2 ค่าข้ึนไปจะถือว่าเป็นโรคเบาหวาน ขณะต้งั ครรภ์ - เกณฑ์ของ International Diabetes Federation (IDF) หญิงตง้ั ครรภ์ด่มื น้าทล่ี ะลายนา้ ตาลกลูโคส 75 กรมั (75 gm OGTT) เวลา ระดบั น้าตาลในเลือด (มก./ดล.) กอ่ นด่ืมนา้ ตาล 100 กรัม 92 หลงั ดืม่ น้าตาล 1 ช่ัวโมง 180 หลังดื่มนา้ ตาล 2 ชวั่ โมง 153 *ตง้ั แต่ 1 คา่ ขนึ้ ไปจะถอื ว่าเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เปา้ หมายของระดบั นา้ ตาลในเลือดของผปู้ ่วยเบาหวานขณะตงั ครรภ์ เวลา ระดบั นา้ ตาลในเลือด (มก./ดล.) กอ่ นอาหารเช้าอาหารมื้ออืน่ และก่อนนอน 60-95 หลงั อาหาร 1 ชว่ั โมง <140 หลังอาหาร 2 ชว่ั โมง <120
35 เวลา 02.00 – 04.00 น. >60 ทีม่ า: แนวทางเวชปฏิบัติสาหรบั โรคเบาหวาน 2559 ค่าในการวินิจฉัยความดันโลหิตสงู ตารางการจาแนกโรคความดันโลหิตสูงตามความรุนแรงในผ้ใู หญอ่ าย1ุ 8 ปี ขน้ึ ไป Category SBP DBP (มม.ปรอท) (มม.ปรอท) Optimal < 120 และ < 80 Normal 120-129 และ/หรอื 80/84 High normal 130-139 และ/หรอื 85-89 Grade 1 hypertension (mild) 140-159 และ/หรือ 90-99 Grade 2 hypertension (moderate) 160-179 และ/หรือ 100-109 Grate 3 hypertension (severe) >180 และ/หรือ >110 Isolated systolic hypertension (ISH) >140 และ < 90 หมายเหตุ:SBP = systolic blood pressure; DBP = diastolic blood pressure. เมื่อความรุนแรงของ SBP และ DBP อยู่ต่างระดับกัน ให้ ถือระดับที่รุนแรงกว่าเป็นเกณฑ์ สาหรับ ISH ก็แบ่งระดับ ความรุนแรงเหมือนกัน โดยใชแ้ ต่SBP ท่มี า:แนวทางการรกั ษาโรคความดันโลหติ สูงในเวชปฏบิ ัติท่วั ไป พ.ศ.2558
36 Classification of Blood Cholesterol Levels คา่ ทีใช้ในการติดตาม
37 Source: American Association Of Clinical Endocrinologists Medical Guidelines for Clinical Practice, 2012
38 การแบง่ ระยะของCKD พยากรณโรคไตเรื้อรงั ตามความสัมพนั ธของ GFR และระดบั อลั บมู ินในปสสาวะ ท่ีมา:คาแนะนาสาหรับการดูแลผปู้ ่วยโรคไตเรื้อรงั ก่อนการบาบดั ทดแทนไต พ.ศ.2558
39 การตรวจระดับน้าตาลในเลอื ดด้วยตนเอง ขอ้ บ่งชีการท้า SMBG 1. ผู้ปว่ ยเบาหวานทีม่ ีความจ้าเปน็ ในการทา SMBG 1.1 ผู้ท่ีต้องการคุมเบาหวานอย่างเข้มงวด ได้แก่ ผู้ป่วยเบาหวานท่ีมีครรภ์ (pre-gestational DM) และ ผ้ปู ว่ ยเบาหวานขณะตงั้ ครรภ์ (gestational DM) 1.2 ผปู้ ่วยเบาหวานชนิดท่ี 1 1.3 ผปู้ ่วยเบาหวานท่ีมีภาวะน้าตาลต่าในเลือดบ่อยๆ หรือ รุนแรง หรือมีภาวะนา้ ตาลต่าในเลือด โดยไม่มี อาการเตือน 2. ผปู้ ่วยเบาหวานที่ควรทา้ SMBG 2.1 ผปู้ ว่ ยเบาหวานชนดิ ท่ี 2 ซง่ึ ได้รับการรกั ษาดว้ ยการฉีดอินซูลนิ 3. ผปู้ ่วยเบาหวานที่อาจพจิ ารณาให้ทา SMBG 3.1 ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ซ่ึงไม่ได้ฉีดอินซูลินแต่เบาหวานควบคุมไม่ได้ พิจารณาให้ทา SMBG เมื่อ ผู้ป่วย และ/หรือผูด้ ูแลพร้อมท่ีจะเรียนรู้ ฝึกทักษะ และนาผลจาก SMBG มาใช้ปรับเปลี่ยน พฤติกรรมเพื่อควบคุม ระดับน้าตาลในเลือดให้ได้ตามเป้าหมาย 3.2 ผู้ที่เพ่ิงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน เพ่ือเรียนรู้ในการดูแลตนเองทั้งเรื่องอาหาร การออกกาลัง กาย หรอื ไดย้ าลดระดับน้าตาลในเลอื ดใหเ้ หมาะสมกับกิจวัตรประจาวนั ความถขี องการท้า SMBG ความถีของการทา้ SMBG 1. ผู้ปว่ ยเบาหวานระหว่างการตั้งครรภ์ควรทา SMBG ก่อนอาหารและหลงั อาหาร 1 หรือ 2 ชั่วโมง ทั้ง 3 มื้อ และก่อนนอน (วนั ละ 7 ครัง้ ) อาจลดจานวนครง้ั ลงเมื่อควบคมุ ระดับน้าตาลในเลอื ดไดด้ ี 2. ผปู้ ่วยเบาหวานชนิดท่ี 1 ทไ่ี ด้รบั การรกั ษาด้วย insulin pump ควรทา SMBG วันละ 4-6 ครงั้ 3. ผู้ป่วยเบาหวานท่ีฉีดอินซูลินตั้งแต่ 3 คร้ังข้ึนไป ควรทา SMBG ก่อนอาหาร 3 มื้อทุกวัน ควรทา SMBG ก่อนนอน และหลังอาหาร 2 ชม.เป็นคร้ังคราว หากสงสัยว่ามภี าวะน้าตาลต่าในเลือดกลางดึกหรือมี ความ เสี่ยงท่ีจะเกดิ ควรตรวจระดับนา้ ตาลในเลอื ดช่วงเวลา 02.00-04.00 น.
40 4. ผปู้ ่วยเบาหวานท่ฉี ีดอินซูลนิ วนั ละ 2 คร้งั ควรทา SMBG อย่างน้อยวนั ละ 2 คร้ัง โดยตรวจกอ่ น อาหาร เช้าและเย็น อาจมีการตรวจก่อนอาหารและหลังอาหารมื้ออ่ืนๆ เพื่อดูแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของ ระดับน้าตาล ในเลอื ด และใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการปรับยา 5. ควรทา SMBG เม่ือสงสัยว่ามีภาวะน้าตาลตา่ ในเลือดและหลังจากให้การรักษาจนกว่าระดับน้าตาล ใน เลอื ดจะกลับมาปกติหรอื ใกลเ้ คยี งปกติ 6. ควรทา SMBG ก่อนและหลังการออกกาลังกาย หรือกิจกรรมท่ีมีความเส่ียง เช่น การขับรถ ในผู้ป่วย เบาหวานทไี่ ดร้ ับยาซ่ึงมคี วามเสยี่ งทจ่ี ะเกดิ ภาวะนา้ ตาลตา่ ในเลอื ด 7. ในภาวะเจ็บป่วยควรทา SMBG อย่างน้อยวันละ 4 คร้ัง ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง หรือก่อนมื้ออาหาร เพ่ือ ค้นหาแนวโน้มท่จี ะเกิดภาวะนา้ ตาลต่าในเลือดหรือระดับนา้ ตาลในเลือดสูงเกนิ ควร 8. ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดท่ี 2 ซ่ึงฉีดอินซูลินก่อนนอน ควรทา SMBG ก่อนอาหารเช้าทุกวันหรืออย่าง น้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ในช่วงที่มีการปรับขนาดอินซูลิน อาจมีการทา SMBG ก่อนและหลังอาหารม้ืออ่ืนๆ สลับกัน เพอื่ ดแู นวโนม้ การเปลย่ี นแปลงของระดับนา้ ตาลในเลอื ด ถ้ายังไม่ไดค้ ่า A1C ตามเปา้ หมาย ทีม่ า: แนวทางเวชปฏิบตั สิ าหรบั โรคเบาหวาน 2559
41 กา้ หนดคารบ์ ในแต่ละมอื ส้าหรบั หญงิ ตังครรภ์ (GDM)
42 Nutrient or food type recommendation Meal planning tips Energy Intake should be sufficient to Include 3 small- to moderate promote adequate , but not sized meals and 2-4 snacks. Space excessive , weight gain to support snacks and meals least 2 hours fetal development and to avoid apart. A bedtime snack ( or even ketonuria . Daily minimum of 1700- a snack in the middle of the 1800 kcal is an appropriate starting night) is recommended to goal diminish of hours fasting. Carbohydrate A minimum of 175 g CHO daily , Common carbohydrate guidelines Protein allowing for the approximately 33 : 2 carbohydrate choices (15-30 g) needed for fetal brain development. at breakfast , 3-4 choices (45-60g) Recommendations are based on for lunch and evening meal, 1-2 effect of intake on blood glucose choices (15 to 30 g) for snacks. levels. Intake should be distributed Recommendations should be throughout the day. Frequent modified based on individual feedings, smaller portions, with assessment and blood glucose intake sufficient to avoid ketonuria. self-monitoring test results. Protein foods do not raise post- 1.1 g/kg meal blood glucose levels. Add protein to meals and snacks to help provide enough calories and to satisfy appetite. Fat Limit saturated fat. Fat intake may be increased
43 because of increased protein take; focus on leanerprotein choices. Sodium Not routinely restricted Fiber For relief of constipation , gradually Use whole grains and raw fruits Non-nutritive sweeteners increase intake and increase fluids. and vegetables.Activity and fluids Vitamins and mineral help relieve constipation. Alcohol Use only FDA-approved sweeteners. Saccharin crosses the placenta but has not been shown to be harmful Preconception folate . Assess for Take prenatal vitamin, if it causes specific individual need : nausea,try taking at bedtime. multivitamin throughout pregnancy ,iron at12 weeks, and calcium, especially in the last trimester and while lactating Avoid all alcohol even in cooking BMI ผู้สงู อายุ ภาวะโภชนาการ BMI (kg/m2 ) ผอม 18.5-19.9 ระดบั 1 17.0-18.4 ระดบั 2 16.0-16.9 ระดบั 3 ระดบั 4 <16
44 ปกติ 18.5-24.9 อว้ น 25.0-29.9 ระดับ 1 30.0-39.9 ระดบั 2 ระดบั 3 >40.0 ค้านวณIBWอยา่ งงา่ ย - ชาย: IBW (kg) = สว่ นสูง (cm) –105 - หญิง: IBW(kg) = ส่วนสงู (cm) - 110 น้าหนกั ทลี ดลงโดยไม่ได้ตงั ใจ (%weight loss) ระยะเวลา 1 สปั ดาห์ ลดลง 1-2% 1 เดือน ลดลง 5% 3 เดอื น ลดลง 7.5% 6 เดือน ลดลง 10%
45 ศพั ทท์ างการแพทย์ A Atrial Fibrillation (AF) โรคหวั ใจเตน้ ผิดจังหวะ ไมส่ มา่ เสมอ Asthma โรคหอบหืด Ante natal care (ANC) การดแู ลกอ่ นคลอด(การฝากครรภ)์ Allergy โรคภูมแิ พ้,แพ้ Acute Gastroenteritis (AGE) ลาไส้อักเสบฉับพลัน Acidosis ภาวะเลอื ดเปน็ กรด Acute Renal Failure (ARF) ไตวายฉับพลนั Atherosclerotic heart disease โรค หลอดเลือดแดงหัวใจแขง็ B Burns แผลไหม้ Blunt chest ไดร้ ับการกระแทกที่ หนา้ อก Blood pressure (BP) ความดนั โลหติ Benign Prostatic Hyperplasia (BPH) โรคตอ่ มลูกหมากโต Basal ganglia ปมประสาท ท่มี ีหน้าทเ่ี ก่ยี วข้องกบั การส่งั การการเคล่อื นไหวของร่างกาย การเรียนรู้ การตดั สินใจ และกจิ เก่ยี วกับอารมณ์ความรสู้ ึก C C-Spine injury การบาดเจ็บที่กระดกู ตน้ คอ Crushing การบดทับ
46 Concussion สมองกระทบกระเทอื น Coma ภาวะหมดสติ ไม่รสู้ ึกตัว Complication โรคแทรกซ้อน Cesarian Section (C/S) การผ่าคลอด Chief Complaint (CC)ประวตั สิ าคญั ท่ีมาโรงพยาบาล Computed Tomography (CT) การ ตรวจเอ็กซเ์ รย์คอมพิวเตอร์ Cerebrovascular Accident (CVA) โรคทางหลอดเลอื ดสมอง Constipation ท้องผูก Coronary Care Unit (CCU) หออภบิ าลผูป้ ่วยหนักเฉพาะโรคหวั ใจ Colonic polyp ตง่ิ เนอ้ื ท่ลี าไสใ้ หญ่ Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis (CAPD) การล้างไตทางช่องท้องชนิดต่อเนื่องด้วยตนเอง CTF (Capture the fracture) เปน็ โครงการดูและผู้ป่วยโรคกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนโดยทีมสหวิชาชพี ปจั จุบนั ใช้คาวา่ FLS (Fracture Liaison service) D Dyslipidemia (DLD) โรคไขมนั ในเลือดสูง Diagnosis (Dx) การวินิจฉยั โรค Dyspnea หอบเหน่อื ย Discharge ผู้ปว่ ยออกจาก โรงพยาบาลแล้ว E Emergency room (E.R) ห้องฉกุ เฉนิ F Fracture การแตกหกั ของกระดูก Fracture Femur กระดูกตน้ ขา หัก Follow up (F/U) นดั ตรวจติดตามอาการ Family history (FH) ประวตั ิการเจ็บป่วย ของคนในครอบครวั G General Appearance (GA) ลักษณะภายนอกทว่ั ไป Global aphasia เป็นความผดิ ปกตขิ องภาษาพดู เกิดจากพยาธิสภาพที่สมอง ผ้ปู ว่ ยจะพดู ไมค่ ล่อง ไม่ชดั และมี ปญั หาเรอ่ื งความเขา้ ใจ H Head injury การได้รับบาดเจบ็ ท่ีศรี ษะ Hemodialysis ห้องลา้ งไต HT (Hypertension) ความดันโลหติ สูง I In patient Department (IPD) แผนกรกั ษาผปู้ ว่ ยใน Infection การตดิ เช้อื
47 Intake/Outtake (I/O) ปริมาณนา้ เขา้ ออกในแต่ละวนั Intensive care unit (I.C.U) หออภิบาล ผปู้ ่วยหนกั รวม Ischemic stroke โรคหลอดเลือดสมองตบี หรอื อุดตนั Intracerebal hemorrhage โรคหลอดเลือดสมองแตกจากการฉีกขาดของหลอดเลอื ดในสมอง J Jaundice ดซี า่ น K L Labour room (L.R) ห้องคลอด LN (Lupus Nephritis) โรคไตทเ่ี ป็น ผลกระทบจากโรค SLE M Medication (MED) อายรุ กรรม Morbid obesity ภาวะอว้ นอย่างรุนแรง N Nervous System (N/S) สญั ญาณชีพทางระบบประสาท Not applicable (N/A) ไม่มีข้อมลู Nephrotic syndrome (NS) ไตอักเสบ Nasogastric Tube (NG Tube) การใส่สาย ยางทางจมูกถึงกระเพาะ NASH (Nonalcoholic steatohepatitis) เป็นภาวะท่ีมีไขมันสะสมในตับรวมกบั การอกั เสบ Non-ST Elevated Myocardial Infarction (NSTEMI) ภาวะหัวใจขาดเลอื ดเฉยี บพลัน O Observe สงั เกตอาการ Orthopedic (ORTHO) กระดูกและขอ้ Out Patient Department (OPD) แผนกผู้ป่วยนอก Operating room (O.R) ผา่ ตดั ORIF (Open Reduction Internal Fixation) การผา่ ตัดกระดูกให้เข้าท่ี โดยการตรึงกระดูกทห่ี ักด้วยโลหะซง่ึ จะ ใสอ่ ยูภ่ ายนอกรา่ งกายของผูป้ ่วย P Pulse ชีพจร Pneumothorax ภาวะลมในช่องปอด Pale ซดี Pain ความปวด Pharmacy หอ้ งจ่ายยา Physical therapy แผนกกายภาพบาบดั
48 Physical Examination (PE) การตรวจรา่ งกาย Past History (PH) ประวัติอดตี Present Illness (PI) ประวตั ปิ ัจจุบนั Physical therapy (PT) กายภาพบาบดั Past medical history (PMH) ประวัตอิ ดตี ของการรกั ษา Q R R/O สงสยั วา่ จะเป็น S Swelling อาการบวม Surgical (SUR) ศลั ยกรรม (รกั ษาด้วย การผ่าตดั ) Side effect ผลขา้ งเคียง Sputum เสมหะ Stress เครียด Surgery ศลั ยกรรม Septicemia ตดิ เชอื้ ในกระแสเลอื ด SLE (Systemic lupus erythematosus) โรคแพ้ภูมิตวั เอง Septic shock ภาวะช็อกเหตุพษิ ติดเช้ือ เกิดขึ้นหลังจากการติดเชื้อในกระแสเลือด Surgical Intensive Care Unit (SICU) หออภิบาลผูป้ ว่ ยวกิ ฤตศัลยกรรม ST Elevated Myocardial Infarction (STEMI) ภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน SGOT (Serum Glutamic-Oxaloacetic Transaminase) หรือ AST (Aspartate Transaminase) เป็นเอนไซม์ ที่ใช้ชว่ ยตรวจภาวะโรคตบั SGPT (Serum glutamate pyruvate transaminase) หรอื ALT (Alanine transaminase) เปน็ เอนไซม์ที่ใช้ ช่วยตรวจภาวะโรคตับ T Treatment การรกั ษา Transfer การยา้ ยผ้ปู ่วย Therapy การรกั ษา Traumatic Brain Injury (TBI) การ บาดเจ็บท่ีสมอง Tuberculosis วัณโรค U Unconscious ไมร่ ู้สึกตัว Urine analysis การเกบ็ ปสั สาวะสง่ ตรวจ
49 Urticaria ลมพษิ Underlying disease (U/D) โรค ประจาตัว Upper Respiratory Infection (URI) การตดิ เช้ือทางเดินหายใจส่วนบน Urinary Tract Infection (UTI) การตดิ เช้ือทางเดนิ ปัสสาวะ V Vital sign (V/S) สัญญาณชีพ Vomit อาเจียน Viral myocarditis กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากไวรัส W Wound แผล Weak ออ่ นเพลีย Ward ตกึ ผ้ปู ว่ ย X Y Z
Search