Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ที่ หัวใจชายหนุ่ม

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ หัวใจชายหนุ่ม

Published by nittayah_nid, 2022-03-14 08:13:57

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ที่ หัวใจชายหนุ่ม

Search

Read the Text Version

หวั ใจชายหนมุ่ โดย นางสาวปรวรี ์ จนิ ดาแก้ว ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนวงั วิเศษ อำเภอวงั วิเศษ จังหวดั ตรงั สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษา ตรัง กระบ่ี

แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชา ภาษาไทยพ้นื ฐาน (ท๓๑๑๐๒) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ นางสาวปรวีร์ จนิ ดาแกว้ ครู คศ.๒ โรงเรยี นวงั วเิ ศษ อำเภอวังวเิ ศษ จังหวดั ตรัง สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามธั ยมศกึ ษาตรัง กระบี่

คำอธิบายรายวิชา รหสั วชิ า ท31102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 เวลา 2 ชว่ั โมง /สัปดาห์ จำนวน 2 หนว่ ยกิต ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน อ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะได้ถกู ต้อง เขา้ ใจ ตีความ แปลความ และขยายความเร่ืองท่ีอ่านได้ วิเคราะห์ วิจารณ์เรอ่ื งที่อ่าน แสดงความคดิ เห็นโต้แย้งและเสนอ ความคิดใหม่จากการอา่ นอย่างมีเหตุผล คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บันทกึ ย่อความ และเขยี นรายงานจากสง่ิ ทอี่ ่าน สังเคราะห์ ประเมนิ คา่ และนำความรู้ ความคิดจากการอ่านมาพัฒนาตน พัฒนาการเรียน และพัฒนาความรู้ทางอาชีพ และนำ ความรู้ ความคิดไปประยกุ ต์ใช้แกป้ ัญหาในการดำเนินชีวติ มมี ารยาทและนสิ ยั รกั การอ่าน เขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ โดยใช้ภาษาได้ถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์ ย่อความจากส่ือท่ีมี รูปแบบและเนื้อหาที่หลากหลาย เรียงความแสดงแนวคิดเชิงสร้างสรรค์โดยใช้โวหารต่าง ๆ เขียนบันทึก รายงานการศึกษาค้นคว้าตามหลักการเขียนทางวิชาการ ใช้ข้อมูลสารสนเทศในการอ้างอิง ผลิตผลงานของ ตนเองในรูปแบบต่าง ๆ ทงั้ สารคดีและบันเทงิ คดี รวมท้งั ประเมนิ งานเขยี นของผู้อน่ื และนำมาพัฒนางานเขียน ของตนเอง มีมารยาทและมนี ิสัยรักการเขยี น ตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองที่ฟังและดู มีวิจารณญาณในการเลือกเรื่อง ท่ีฟัง และดู วิเคราะห์วัตถุประสงค์ แนวคิด การใช้ภาษา ความน่าเชื่อถือของเร่ืองที่ฟังและดู ประเมินสิ่งท่ีฟัง และดูแล้วนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต มีทักษะการพูดในโอกาสต่าง ๆ ท้ังที่เป็นทางการและไม่เป็น ทางการ โดยใช้ภาษาท่ีถูกต้อง พูดแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าว และเสนอแนวคิดใหม่อย่างมีเหตุผล รวมทั้งมมี ารยาทในการฟงั ดู และพูด เข้าใจธรรมชาติของภาษา อิทธิพลของภาษา และลักษณะของภาษาไทย ใช้คำและกลุ่มคำสร้าง ประโยคได้ตรงตามวัตถุประสงค์ แตง่ คำประพันธ์ประเภทโคลงส่ีสุภาพ ใช้ภาษาได้เหมาะสมกับกาลเทศะและ ใช้คำราชาศัพท์และคำสุภาพได้อย่างถูกต้อง วิเคราะห์หลักการสร้างคำในภาษาไทย อิทธิพลของภาษาถิ่น และภาษาต่างประเทศในภาษาไทยและเข้าใจภาษาถิ่น วิเคราะห์ และประเมินการใช้ภาษาจากสื่อสิ่งพิมพ์ และส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยานและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความเข้าใจ และสามารถนำไปใช้ อ้างองิ ได้ สารมารถเขยี นเลขไทยไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง และอนรุ กั ษ์ภาษาไทยท้งั ด้านการพูด การอ่าน และการเขียน

มคี วามชื่นชมและรักความเป็นไทย มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ มีความมุ่งม่นั ในการทำงานดว้ ยความซ่อื สตั ย์ สุจริต มีความเปน็ อยู่อย่างพอเพียง มีจิตสาธารณะ มีความรกั หวงแหน และธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รหสั ตวั ช้วี ัด ท 1.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.4/6 ม.4/7, ม.4/8, ม.4/9 ท 2.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.4/6, ม.4/7, ม.4/8 ท 3.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.4/6 ท 4.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.4/6 ม.4/7 ท 5.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3, ม.4/4, ม.4/5, ม.4/6 รวม 36 ตัวชีว้ ดั

โครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรู้ รายวิชาภาษาไทย(พื้นฐาน)๑ รหสั วชิ า ท ๓๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี๑ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง คะแนนเกบ็ ๑๐๐ คะแนน หน่วยที่ ชื่อหนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั เรยี นรู้/ตัวช้วี ดั (ช่วั โมง) คะแนน ๑ นมัสการมาตาปติ คุ ณุ และ ท๑.๑ม.๔-๖/๙ ๑.มารยาทการอา่ น ๒.การประเมนิ คุณคา่ งานเขียน ๙ ๑๕ นมสั การอาจาริยคณุ ท๒.๑ม.๔-๖/๕ ๓.การประเมนิ เร่ืองท่ีฟงั และดู ๔.ธรรมชาติของ ท๓.๑ม.๔-๖/๔ ภาษา พลงั ของภาษาและลักษณะของภาษา ท๔.๑ม.๔-๖/๑,๕ ๕.อทิ ธพิ ลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย ท๕.๑ม.๔-๖/๑,๖ ๖.หลกั การวเิ คราะหแ์ ละวิจารณว์ รรณคดีและ วรรณกรรมเบอื้ งตน้ ๗.ท่องจำบทอาขยาน ๒ อิเหนา ท๑.๑ม.๔-๖/๘ ๑.การสังเคราะหค์ วามรจู้ ากการอา่ นสอ่ื ๙ ๑๕ ตอนศกึ กะหมงั กุหนิง ท๒.๑ม.๔-๖/๖ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ๒.เขยี นรายงานค้นคว้าใชข้ ้อมูลอา้ ง ท๓.๑ม.๔-๖/๑ สารสนเทศอ้างองิ ๓.การพูดแสดงความคิดเหน็ จาก ท๔.๑ม.๔-๖/๖ เรื่องท่ฟี งั และดู ๔.วเิ คราะห์หลักการสรา้ งคำใน ท๕.๑ม.๔-๖/๒ ภาษาไทย ๕.การวิเคราะห์ลกั ษณะเดน่ ของวรรณคดี ๓ นทิ านเวตาลเร่อื งท่ี๑๐ สอบกลางภาคเรียนท่ี ๑ ๒ ๒๐ ท๑.๑ม.๔-๖/๔,๕ ๑.การวเิ คราะหว์ จิ ารณ์แสดงความคิดเห็นหรอื โตแ้ ยง้ ๙ ๑๕ ท๒.๑ม.๔-๖/๑ เกยี่ วกับเร่ืองท่ีอ่าน ๒.การเขยี นสอื่ สารในรูปแบบ ท๓.๑ม.๔-๖/๓ ของจดหมาย ๓.ประเมินเรอ่ื งทฟ่ี ังและดู ๔.วเิ คราะห์ ท๔.๑ม.๔-๖/๗ และประเมนิ การใชภ้ าษาจากสือ่ สงิ่ พิมพ์ ๖.การ ท๕.๑ม.๔-๖/๔ สงั เคราะห์ขอ้ คิดจากวรรณคดเี พ่อื นำไปใช้ ๔ นริ าศนรทิ รค์ ำโคลง ท๑.๑ม.๔-๖/๓ ๑.การวเิ คราะห์วจิ ารณ์เรื่องทีอ่ า่ น ๒.การเขยี นย่อ ๙ ๑๕ ท๒.๑ม.๔-๖/๓,๔,๕ ความ ๓.การเขียนสารคดีและบนั เทงิ คดี ๔.การ ท๔.๑ม.๔-๖/๓ ประเมินงานเขียนของผ้อู ่ืน ๕.ระดบั การใชภ้ าษาและ ท๕.๑ม.๔-๖/๓ คำราชาศพั ท์ ๖.วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คณุ คา่ ดา้ น วรรณศิลป์ของวรรณคดี สอบปลายภาคเรยี นท่ี ๑ ๒ ๒๐ รวมตลอดภาค ๔๐ ๑๐๐

โครงสรา้ งหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวิชาภาษาไทย(พน้ื ฐาน)๒ รหัสวิชา ท ๓๑๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๒ กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๔๐ ช่วั โมง คะแนนเกบ็ ๑๐๐ คะแนน หนว่ ยท่ี ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั เรียนรู้/ตัวชี้วัด (ชว่ั โมง) คะแนน ๑ หัวใจชายหนมุ่ ท๑.๑ม.๔-๖/๔,๖ ๑.การคาดคะเนเหตุการณแ์ ละประเมนิ คา่ จาก ๙ ๑๕ ท๒.๑ม.๔-๖/๒ เรือ่ งที่อา่ น ๒.การตอบคำถามจากการอา่ นงาน ท๓.๑ม.๔-๖/๒ เขยี นประเภทร้อยแกว้ ๓.การเขยี นเรียงความ ท๔.๑ม.๔-๖/๒ ๔.การวิเคราะหแ์ นวคิดการใชภ้ าษาและความ ท๕.๑ม.๔-๖/๔ นา่ เชื่อถือจากเรอื่ งท่ีฟงั และดู ๕.การสรา้ งประโยค โดยใชค้ ำและกลมุ่ คำ ๖.การวิเคราะหว์ รรคดีและ วรรณกรรม ๒ ทกุ ข์ของชาวนาในบทกวี ท๓.๑ม.๔-๖/๕ ๑.การพดู ในโอกาสตา่ งๆ ๒.การแต่งบทร้อยกรอง ๙ ๑๕ ท๔.๑ม.๔-๖/๔ ประเภทกาพย์และฉันท์ ๓.บทอาขยานและบท ท๕.๑ม.๔-๖/๖ รอ้ ยกรองทีม่ ีคุณค่า ๓ มงคลสตู รคำฉันท์ สอบกลางภาคเรียนท่ี ๒ ๒ ๒๐ ท๑.๑ม.๔-๖/๑ ๑.การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองประเภทคำฉนั ท์ ๙ ๑๕ ท๒.๑ม.๔-๖/๗ ๒.การเขยี นบันทึกความรู้ ท๓.๑ม.๔-๖/๓ ๓.การเลือกเรือ่ งท่ีฟงั และดอู ย่างมวี ิจารณญาณ ท๕.๑ม.๔-๖/๓ ๔.การวิเคราะห์และประเมินคณุ คา่ วรรณคดีและ วรรณกรรม ๔ มหาชาติหรอื ท๑.๑ม.๔-๖/๗ ๑.การอ่านเร่ืองต่างๆแลว้ เขยี นผังความคดิ ๙ ๑๕ มหาเวสสนั ดรชาดก ท๒.๑ม.๔-๖/๓ ๒.การเขยี นยอ่ ความจากวรรณคดี ท๓.๑ม.๔-๖/๖ ๓.มารยาทในการฟงั การดู และการพดู ท๔.๑ม.๔-๖/๓ ๔.ระดับของภาษา และคำราชาศพั ท์ ท๕.๑ม.๔-๖/๒ ๕.การวเิ คราะหล์ กั ษณะเดน่ ของวรรณคดแี ละ วรรณกรรมเก่ยี วกับเหตุการณ์ ประวตั ิศาสตร์ และ วิถชี วี ิตของสงั คมในอดีต สอบปลายภาคเรียนที่ ๒ ๒ ๒๐ รวมตลอดภาค ๔๐ ๑๐๐

แผนการจดั การเรียนรู้ (รายวชิ าพ้นื ฐาน) สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรียนท่ี ๑ รหัสวิชา ท ๓๑๑๐๑ รายวิชาภาษาไทย พน้ื ฐาน หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๕ หัวใจชายหนมุ่ จำนวน ๙ ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ วรรณคดีเรอื่ ง หวั ใจชายหนุ่ม เวลา ๕ ช่ัวโมง สอนวนั ที่.................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................. ๑.มาตรฐาน ท ๑.๑ ม.๔-๖/๖ ตอบคำถามจากการอา่ นงานเขยี นประเภทต่างๆ ภายในเวลาที่กำหนด ท ๕.๑ ม.๔-๖/๑ วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณเ์ บ้อื งต้น ม.๔-๖/๒ วิเคราะหล์ ักษณะเดน่ ของวรรณคดเี ชื่อมโยงกบั การเรียนรู้ทางประวัตศิ าสตร์ และวถิ ีชวี ิตของสงั คมในอดีต ม.๔-๖/๓ วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ปข์ องวรรณคดแี ละวรรณกรรมในฐานะท่ี เปน็ มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ ม.๔-๖/๔สงั เคราะหข์ ้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือนำไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ ๒.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อธิบายหลกั การอ่านจับใจความสำคญั (K) ๒. อธิบายหลักการวิเคราะห์วจิ ารณว์ รรณกรรม (K) ๓. อธบิ ายหลกั การสังเคราะหล์ กั ษณะเด่น และข้อคิด (K) ๔. จับใจความนทิ านเวตาล (P) ๖. สังเคราะห์ข้อคดิ จากหัวใจชายหนุ่มเพื่อนำไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจริง (P) ๗. เหน็ ความสำคญั ของการอ่านวรรณคดีไทย (A) ๘. เหน็ คุณคา่ ของวรรณคดีไทย (A) ๑๑. นักเรยี นสามารถทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ ได้ (C) ๓. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การศึกษาเรื่อง หัวใจชายหน่มุ ต้องฝึกวิเคราะหแ์ ละวจิ ารณว์ รรณกรรมตามหลักการวิจารณเ์ บ้อื งตน้ วิเคราะห์ลกั ษณะเด่นของเรอื่ ง เชือ่ มโยงกบั การเรยี นรู้ทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละวถิ ชี วี ิต วเิ คราะหแ์ ละประเมิน

คณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ป์ของวรรณกรรมในฐานะท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ และสังเคราะห์ข้อคิดจาก เร่อื งเพ่ือนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ ๔. สาระการเรียนรู้ ๑. ความรู้ ๑) การอา่ นจบั ใจความจากสื่อตา่ งๆ เช่น นวนยิ าย ๒) หลักการวเิ คราะห์และวจิ ารณ์วรรณกรรมเบือ้ งต้น ๓) การวิเคราะห์ลักษณะเดน่ ของวรรณกรรมเกยี่ วกบั เหตุการณ์ประวัตศิ าสตร์และวถิ ชี ีวติ ของสังคม ในอดตี ๔) การวเิ คราะห์และประเมนิ คุณค่าวรรณกรรม ๕) การสงั เคราะห์วรรณกรรม ๒. ทักษะกระบวนการ ๑. จบั ใจความสำคญั ๒. วเิ คราะห์และประเมินคณุ ค่าของเร่ือง ๓. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการใชท้ ักษะการทำงานร่วมกับผู้อ่ืน ๔. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. มวี นิ ยั ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุง่ มน่ั ในการทำงาน ๔. รักความเปน็ ไทย ๕. หลักฐานการเรยี นรู้ ชน้ิ งาน ภาระงาน ใบงานเร่ืองหวั ใจชายหนุ่ม

๖. การวัดและการประเมินผล ส่งิ ท่ีวัด วธิ ีวัดผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑ์ ด้านความรู้ (K) แบบทดสอบกอ่ น/หลงั รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ทำแบบทดสอบก่อน/หลงั เรยี น เรยี น ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ดา้ นทกั ษะ/กระบวโคนลการ (P) ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) ตรวจใบงานเร่อื งหวั ใจชายหนุ่ม ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) ตรวจบนั ทึกการอ่าน แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ตรวจการนำเสนอผลงาน แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ด้านเจตคต/ิ คุณลักษณะ(A) สงั เกตพฤติกรรมการทำงาน สมรรถนะ(C)การใชท้ ักษะการ กลุ่ม แบบสังเกตคุณลกั ษณะอัน ทำงานกับผู้อ่นื สังเกตคุณลักษณะอันพึง พงึ ประสงค์ ประสงค์ แบบสังเกตสมรรถนะ สังเกตพฤตกิ รรม ๗. กระบวนการการจดั กิจกรรม/รูปแบบการจดั กิจกรรม ๑.วธิ สี อนแบบ ปฏิบัติ (Practice) ๒. วิธีสอนแบบ กระบวนการกล่มุ สัมพนั ธ์ ๓.วิธีสอนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ : เทคนิคการต่อเร่ืองราว (Jigsaw) ๔. วิธีสอนแบบ ศกึ ษาดว้ ยตนเอง ๕.วธิ ีสอนตามรูปแบบ โมเดลซิปปา (CIPPA Model) ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ชั่วโมงท่ี ๑ ความเป็นมาและประวตั ผิ แู้ ต่ง วธิ ีสอนแบบ ปฏิบตั ิ (Practice) ขั้นที่ ๑ เตรยี ม ให้นกั เรยี นทำกิจกรรมบรหิ ารสมองกอ่ นเรยี น (Brain gym)ด้วยท่าช้ีนบั ๑.ครูกำหนดจุดมุ่งหมายของการอา่ นความเป็นมาและประวัติผูแ้ ต่งเรือ่ ง หัวใจชายหนุ่ม คือ อา่ น เพือ่ เขยี น ยอ่ ความจากเรื่องทอ่ี ่าน โดยมขี ั้นตอนการอ่าน คือ อ่านคร่าวๆ ทำความเขา้ ใจเรอื่ งที่อา่ น และ อ่านจบั ใจความสำคัญของเร่ือง

๒. ครูเตรียมสอื่ ท่ใี ชป้ ระกอบการสอน คอื หนงั สือเรียน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ม.๔ ขน้ั ท่ี ๒ ดำเนนิ การ ๑. ครแู บ่งนกั เรียนเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๔ คน คละกนั ตามความสามารถ จากนนั้ ให้นกั เรยี นแตล่ ะคน ในกล่มุ อ่านและทำความเข้าใจตามประเดน็ ท่คี รูกำหนด ๒. นักเรยี นแต่ละคนอ่านตามประเด็นที่ไดร้ ับผิดชอบ โดยอ่านตามขั้นตอนการอา่ นท่ีครูกำหนด ๓. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปใจความสำคัญของเรอ่ื งท่ีอา่ น แลว้ บนั ทึกลงในแบบบันทกึ การ อ่าน เสรจ็ แล้วนำสง่ ครตู รวจ ขนั้ ท่ี ๓ สรุป ๑. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปใจความสำคัญของเร่ืองทอี่ า่ น ๒. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันทำใบงานท่ี ๕.๑เรื่อง ความเป็นมาและประวตั ิผู้แตง่ เร่ือง หัวใจ ชายหนุ่ม ขน้ั ที่ ๔ ประเมินผล ๑. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอคำตอบในใบงานท่ี ๕.๑ หน้าช้นั เรียน แลว้ นำใบงานส่งครตู รวจ ๒. ครูประเมินผลจากการทำใบงานที่ ๕.๑ ของนกั เรียน ช่วั โมงท่ี ๒ สรปุ เนื้อหาและคำศัพท์ วิธีสอนแบบ กระบวนการกล่มุ สัมพันธ์ ข้ันท่ี ๑ นำเขา้ สู่บทเรียน ครสู นทนากบั นกั เรยี นเก่ยี วกบั จดหมาย แลว้ ถามนักเรยี นว่า จดหมายมีความสำคญั และประโยชน์อยา่ งไร ครูใหน้ กั เรยี นยกตัวอยา่ งประกอบ ขัน้ ที่ ๒ จัดการเรียนรู้ ๑. ครูใหน้ ักเรียนกลุม่ เดมิ รว่ มกันศึกษาความรูเ้ ก่ียวกบั เนอ้ื เร่ืองและคำศพั ท์เรอ่ื ง หัวใจชายหนุ่ม จากหนงั สือเรยี น จากนนั้ ให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มรวบรวมคำศัพทจ์ ากเรอ่ื งที่อา่ นลงในแบบบนั ทกึ คำศัพท์ ๒.ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เห็นวา่ เมื่ออ่านเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม จบ แลว้ นกั เรียนมคี วามรู้สกึ อยา่ งไรต่อพฤติกรรมของนักเรยี นนอก และมีความคิดเห็นอย่างไรในการเลอื กค่คู รอง ของนายประพนั ธ์ ๓. ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละคนเลือกจดหมายฉบับทช่ี อบมากท่สี ดุ จากเร่ือง หวั ใจชายหนุม่ แล้วทำความ เข้าใจเนอ้ื หาของจดหมาย พร้อมกับบอกเหตผุ ลประกอบ เพ่อื เตรยี มการนำเสนอ ๔. ครจู ับสลากเลือกนักเรียนออกมานำเสนอเนื้อหาของจดหมายที่เลือก หน้าชั้นเรยี น ครูและนกั เรยี น คนอนื่ ๆ ตรวจสอบและแสดงความคิดเหน็ ข้ันที่ ๓ สรปุ และนำหลักการไปประยกุ ตใ์ ช้ ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ เนอื้ หาและคำศัพทจ์ ากเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม และนำความรูท้ ไ่ี ด้ไปประยุกต์ใช้ ในการศึกษาความรเู้ รื่อง หัวใจชายหนุม่ ในดา้ นตา่ งๆ ต่อไป

ขั้นท่ี ๔ วดั และประเมนิ ผล นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอคำศัพท์และความหมายจากแบบบนั ทกึ คำศัพท์ โดยครู และเพ่ือนกลุ่มอนื่ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องและให้ข้อเสนอแนะ จากนั้นตัวแทนนักเรยี นเก็บรวบรวมสง่ ครู ตรวจ ชัว่ โมงที่ ๓ วเิ คราะห์และวจิ ารณ์ วธิ ีสอนโดยการจัดการเรยี นรูแ้ บบรว่ มมือ : เทคนคิ การต่อเรื่องราว (Jigsaw) ขั้นท่ี ๑ นำเข้าสูบ่ ทเรียน ครแู จกตัวอยา่ งจดหมายถงึ เพื่อน ใหน้ ักเรยี นอา่ น แล้วให้นกั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหล์ ักษณะและรูปแบบ ของการเขียนจดหมายถึงเพ่ือน ข้ันที่ ๒ สอน ๑.ครกู ำหนดหัวข้อใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาเรอ่ื ง หัวใจชายหนุ่ม เกีย่ วกับจุดมงุ่ หมายในการแต่ง รปู แบบของเรื่อง เนื้อหาและกลวธิ ใี นการแต่ง การวิเคราะห์และวจิ ารณ์เรือ่ ง ๒.ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มกำหนดหมายเลขใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกลุ่มเปน็ หมายเลข ๑-๔ เรียกวา่ กลุ่ม บ้าน แล้วให้สมาชิกแตล่ ะคนแยกย้ายไปรวมกบั กลุ่มใหม่ที่มีหมายเลขตรงกนั ซ่งึ เรยี กวา่ กลุ่มผูเ้ ช่ียวชาญ ๓.ครแู จ้งกติกาในการทำงานกลมุ่ ให้กับนักเรยี น ๔.นกั เรียนกลุม่ ผู้เช่ียวชาญร่วมกันศึกษาความรตู้ ามหวั ข้อท่ีกำหนด จากหนังสอื เรยี น และรว่ มกนั อภิปรายจนเกดิ ความเขา้ ใจที่กระจ่างชดั เจนในหวั ข้อที่ไดศ้ ึกษาเปน็ อย่างดี ๕.นกั เรยี นกลุ่มผเู้ ชีย่ วชาญกลับไปกลุ่มเดมิ ท่ีเรียกว่า กลุ่มบ้าน แล้วผลัดกนั อธิบายตามประเดน็ ที่กำหนด เพื่อถ่ายทอดความรู้ที่ไดจ้ ากการศกึ ษามา โดยเรมิ่ จากหมายเลข ๑-๔ ตามลำดบั ๖. นกั เรยี นทกุ คนทำใบงานท่ี ๕.๒ เร่อื ง วเิ คราะห์วิจารณ์เร่อื ง หวั ใจชายหนุ่ม เสร็จแลว้ นำส่งครูตรวจ ขน้ั ที่ ๓ สรุป ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ การวิเคราะห์และวิจารณ์เร่อื ง หัวใจชายหนุ่ม ช่ัวโมงที่ ๔ วิเคราะห์ลักษณะเดน่ วธิ สี อนแบบ ศกึ ษาดว้ ยตนเอง ขนั้ นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น ๑. ครูซักถามนกั เรียนเก่ียวกบั การวเิ คราะหล์ กั ษณะเด่นของเรื่อง หวั ใจชายหนมุ่ ๒. นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายลกั ษณะเด่นของเร่ือง หวั ใจชายหนุ่ม ข้นั สอน ๑.นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาและวเิ คราะห์ลักษณะเด่นของเรื่อง หัวใจชายหนมุ่ ที่เชอ่ื มโยงกบั การ เรยี นรทู้ างประวตั ิศาสตรแ์ ละวถิ ชี วี ิตในอดีต จากหนงั สือเรียน หอ้ งสมุด หรอื แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ ตาม ประเดน็ ท่ีครูกำหนด

๒. นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ วางแผนท่ีจะศกึ ษาค้นควา้ ในเร่ืองท่ีครูกำหนด ๓. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายลักษณะเด่นของเรื่อง หวั ใจชายหนมุ่ โดยเชื่อมโยงกับการเรยี นรทู้ าง ประวตั ิศาสตร์และวิถีชีวิตในอดตี ๔.นกั เรียนแต่ละกลุ่มแสดงความคดิ เห็นและทำใบงานท่ี ๕.๓ เรอื่ ง วิเคราะหล์ ักษณะเด่นเรื่อง หวั ใจชาย หนมุ่ ขัน้ สรปุ ครปู ระเมนิ ผลการทำใบงานท่ี ๕.๓ ของนักเรยี นแต่ละกล่มุ แล้วให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ ชัว่ โมงท่ี ๕ ประเมนิ คณุ ค่าและสงั เคราะหข์ ้อคดิ วิธีสอนตามรูปแบบ โมเดลซปิ ปา (CIPPA Model) ขัน้ ท่ี ๑ ทบทวนความรูเ้ ดิม ครสู นทนาซักถามนกั เรียนเกี่ยวกับลักษณะเดน่ ของเรื่อง หัวใจชายหนุ่ม แลว้ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรุป และแสดงความคดิ เห็น ขนั้ ที่ ๒ แสวงหาความรใู้ หม่ ครใู ห้นกั เรยี นกลุ่มเดิมร่วมกันประเมินคุณค่าและสังเคราะห์ขอ้ คิดเรื่อง หวั ใจชายหนมุ่ จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ หรอื แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ ตามประเดน็ ที่ครกู ำหนด ขัน้ ที่ ๓ ศึกษาทำความเข้าใจขอ้ มูล/ความรูใ้ หม่ และเช่ือมโยงความรู้ใหม่กบั ความรเู้ ดมิ นักเรยี นแต่ละกลมุ่ สรปุ ผลการประเมินคณุ ค่าดา้ นวรรณศิลปแ์ ละสงั เคราะห์ข้อคดิ เรอื่ ง หัวใจชายหน่มุ ในฐานะท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ ขน้ั ท่ี ๔ แลกเปลี่ยนความรู้ความเขา้ ใจกบั กล่มุ นกั เรียนแต่ละกลุ่มอภิปรายผลการประเมินคณุ ค่าด้านวรรณศิลปแ์ ละสงั เคราะห์ข้อคดิ เรื่อง หวั ใจชาย หนุ่ม ในฐานะท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ขัน้ ที่ ๕ สรุปและจดั ระเบียบความรู้ นักเรียนร่วมกนั สรปุ และสร้างองคค์ วามรูค้ วามเข้าใจเก่ยี วกบั การประเมนิ คุณค่าด้านวรรณศิลปแ์ ละการ สังเคราะห์ข้อคิดเรือ่ ง หวั ใจชายหนุ่ม แลว้ เรยี บเรยี งให้ไดส้ าระสำคญั ครบถ้วน ขั้นที่ ๖ ปฏบิ ัตแิ ละ/หรือแสดงผลงาน นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำองคค์ วามรเู้ ก่ียวกับการประเมินคณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ป์และสังเคราะห์ขอ้ คิดเรอื่ ง หวั ใจชายหนุ่ม มาจดั ป้ายนิเทศแสดงผลงาน ขนั้ ที่ ๗ ประยกุ ต์ใช้ความรู้ นักเรยี นแต่ละกลุม่ นำความรจู้ ากการประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์และสงั เคราะห์ขอ้ คิดเรอื่ ง หวั ใจ ชายหนุม่ ไปประเมินคณุ ค่าและสังเคราะหข์ ้อคดิ เรื่องสน้ั ๑ เรอื่ ง เป็นการบา้ น เสรจ็ แลว้ นำส่งครู

๙. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ ๙.๑ สอ่ื การเรยี นรู้ ๑) หนงั สอื เรียน ภาษาไทย : วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.4 ๒) เอกสารประกอบการสอน ๓) แบบบันทึกคำศัพท์ ๔) ใบงานที่ ๕.๑ เร่ือง ความเปน็ มาและประวตั ผิ ้แู ต่งเรื่อง หัวใจชายหนมุ่ ๕) ใบงานที่ ๕.๒ เร่ือง วเิ คราะห์วิจารณเ์ รอ่ื ง หวั ใจชายหน่มุ ๖) ใบงานที่ ๕.๓ เรอ่ื ง วเิ คราะห์ลกั ษณะเด่นเร่อื ง หวั ใจชายหนุ่ม ๙.๒ แหล่งการเรียนรู้ ๑) หอ้ งสมดุ ๒) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.thaigoodview.com/node/131327?page=0%2C6 - http://www.gotoknow.org/blogs/posts/385251 - http://www.learners.in.th/blogs/posts/447848

๑๐. การบูรณาการสูศ่ ตวรรษท่ี ๒๑ ๓R  R๑ Reading การอา่ นออก  R๒ Writing การเขยี นได้  R๓ Rithmethich การคิดเลขเปน็ ๗C สรปุ ผล การใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ท่ี........................... ๑)นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยใู่ นระดับ....................... ๒)นกั เรียนมีทักษะในระดับ.................................... ๓)นักเรยี นมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ในระดบั ..................  C๑ Critical thinking & problem solving (ทักษะด้านการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา)  C๒ Creativity & innovation (ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม)  C๓ Cross-cultural understanding (ทกั ษะด้านความเขา้ ใจต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์)  C๔ Collaboration, teamwork & leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะ ผู้นำ)  C๕ Communications, information & media literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันส่ือ)  C๖ Computing & ICT literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร)  C๗ Career & learning skill (ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นร)ู้ ๑๑.การช่วยเหลือนกั เรยี นระหว่างการจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................... ............... ...................................................................................... ....................................................................................... ๑๒.การเสรมิ แรงนกั เรียนในขณะการจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................. ............ .............................................................................................................................................................................. ๑๓. ความคิดเห็น (ผบู้ ริหาร/หรอื ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมาย) ไดท้ ำการตรวจแผนการจดั การเรยี นของ นางสาวปรวีร์ จนิ ดาแก้ว แล้วมคี วามเห็นดังนี้ ๑๓.๑ เป็นแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่  ดมี าก  ดี  พอใช้  ต้องปรบั ปรุง

๑๓.๒ การจดั กิจกรรมการเรียนรูไ้ ดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้  ท่เี นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคญั ใช้กระบวนการสอนไดเ้ หมาะสม  ทย่ี งั ไมเ่ น้นผู้เรยี นเป็นสำคญั ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๑๓.๓ เปน็ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่  นำไปใช้สอนได้  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ ๑๓.๔ ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ………………………………………………………………………………...………………………………………………………………………… ..…….……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ..................................................... ลงชอ่ื ..................................................... (นายวรากร บัวกง่ิ ) (นายสุบินทร์ สุขศรเี พ็ง) ครูชำนาญการพเิ ศษ หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย วนั ที่................................................. ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวชิ าการ วนั ที่..................................................... ลงชอ่ื …………...........…………………………. (นางสาวอมราพร เชาวนาพันธุ์) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวงั วิเศษ วันท.ี่ .............................................

๑๔. บันทึกผลหลังแผนการจัดการเรียนรู้ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ ดา้ นความรู้ (K) ตารางท่ี ๑ แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น เร่ือง ความเป็นมาและประวัติผ้แู ตง่ ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น ร้อยละ ดมี าก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ด(ี ๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรับปรงุ (๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางที่ ๑ พบว่านักเรียนมผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นร้อยละ.....................อยูใ่ นระดบั ................... และรองลงมาร้อยละ..................อย่ใู นระดบั .................................................................................................... และพบวา่ นักเรยี น........................................................................................................................................... ๑.๒ ดา้ นด้านทักษะ/กระบวนการ (P) ตารางที่ ๒ แสดงค่ารอ้ ยละระดับผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น เรือ่ ง ความเป็นมาและประวตั ผิ แู้ ตง่ ระดับผลสัมฤทธ์ิ จำนวนนกั เรยี น ร้อยละ ดมี าก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ด(ี ๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรับปรงุ (๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางที่ ๑ พบวา่ นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนรอ้ ยละ.....................อยูใ่ นระดบั ................... และรองลงมารอ้ ยละ..................อยู่ในระดบั .................................................................................................... และพบว่านักเรยี น........................................................................................................................................... ๑.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ตารางที่ ๓ แสดงค่ารอ้ ยละคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรือ่ ง ความเปน็ มาและประวตั ิผู้แต่ง ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรียน ร้อยละ ดีมาก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ดี(๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรบั ปรุง(๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางที่ ๑ พบวา่ นักเรยี นมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงคร์ อ้ ยละ.....................อยู่ในระดับ................... และรองลงมาร้อยละ..................อยู่ในระดับ................................................................................ .................... และพบว่านักเรยี น...........................................................................................................................................

๑.๔ ดา้ นสมรรถนะสำคัญผู้เรียน (C) ตารางที่ ๔ แสดงค่ารอ้ ยละสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน เรื่อง ความเป็นมาและประวตั ผิ ู้แต่ง ระดับผลสัมฤทธ์ิ จำนวนนักเรียน รอ้ ยละ ดีมาก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ด(ี ๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรบั ปรุง(๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางท่ี ๑ พบว่านักเรียนมสี มรรถนะสำคัญของผู้เรียนรอ้ ยละ..................อยู่ในระดบั ................... และรองลงมารอ้ ยละ..................อยูใ่ นระดับ.................................................................................................... และพบว่านักเรยี น........................................................................................................................................... สรปุ ผล การใช้แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี........................... ๑)นกั เรียนมผี ลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นอยูใ่ นระดับ....................... ๒)นักเรยี นมีทักษะในระดบั .................................... ๓)นกั เรียนมีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ในระดบั .................. ๒. บรรยากาศการเรียนรู้ …………………………………………………………….................................................................................. …………………... ………………………………………………………………………………………………………...………………………………………………… ………………………………....................................................................................................................................... ๓. การปรบั เปลี่ยนแผนการจดั การเรยี นรู้ (ถ้ามี) …………………………………………………………….................................................................................. …………………... ………………………………………………………………………………………………………...………………………………………………… …………..……………………........................................................................................ ............................................. ๔.ขอ้ คน้ พบด้านพฤติกรรมการจดั การเรียนรู้ ..................................................................................................................................... ......................................... .......................................................................................... .................................................................................... ............................................................................. ............................................................................................... .. ๕.อื่นๆ ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................

๖.ปัญหา/ส่งิ ทพ่ี ัฒนา/แนวทางแกป้ ญั หา/แนวทางการพฒั นา ปญั หา/สิ่งทพ่ี ัฒนา สาเหตุของปัญหา/ แนวทางแก้ไข/ วิธีแก้ไข/พัฒนา ผลการแกไ้ ข/พัฒนา สิง่ ทพี่ ัฒนา พัฒนา รับทราบผลการดำเนินการ ลงชื่อ…………….........……………………… ( นางสาวปรวีร์ จนิ ดาแก้ว ) ลงชื่อ…………...........…………………………. ( นายสบุ ินทร์ สขุ ศรีเพง็ ) ครูชำนาญการพเิ ศษ ปฏิบตั ิหนา้ ที่รองผูอ้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการ ลงชื่อ…………...........…………………………. ( นางสาวอมราพร เชาวนาพนั ธ์ุ ) ผู้อำนวยการโรงเรียนวังวเิ ศษ

การ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินหนังสือค่มู ือการศึกษา เรอ่ื ง หวั ใจชายหนุ่ม รายการประเมิน ดมี าก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การวิเคราะหแ์ ละ วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์เรอ่ื ง วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์เร่อื ง วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์เรอ่ื ง วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์เรอ่ื ง วิจารณ์ หวั ใจชายหนุ่ม ไดถ้ ูกตอ้ ง หวั ใจชายหนุ่ม ไดถ้ ูกตอ้ ง หวั ใจชายหนุ่ม ไดถ้ ูกตอ้ ง หวั ใจชายหนุ่ม ไม่ถูกตอ้ ง ครบถว้ น ตามหลกั การ เป็นสว่ นใหญ่ เป็นบางสว่ น ตามหลกั การวจิ ารณ์ วจิ ารณ์เบอ้ื งตน้ ตามหลกั การวจิ ารณ์ ตามหลกั การวจิ ารณ์ เบอ้ื งตน้ เบอ้ื งตน้ เบอ้ื งตน้ 2. การวิเคราะห์ วเิ คราะหล์ กั ษณะเด่นเร่อื ง วเิ คราะหล์ กั ษณะเดน่ เร่อื ง วเิ คราะหล์ กั ษณะเดน่ เรอ่ื ง วเิ คราะหล์ กั ษณะเด่นเร่อื ง ลกั ษณะเดน่ หวั ใจชายหนุ่ม และ หวั ใจชายหนุ่ม และ หวั ใจชายหนุ่ม และ หวั ใจชายหนุ่ม และ เช่อื มโยงกบั การเรยี นรู้ เช่อื มโยงกบั การเรยี นรู้ เชอ่ื มโยงกบั การเรยี นรู้ เชอ่ื มโยงกบั การเรยี นรู้ ทางประวตั ศิ าสตร์และวถิ ี ทางประวตั ศิ าสตร์และวถิ ี ทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละวถิ ี ทางประวตั ศิ าสตร์และวถิ ี ชวี ติ ไดถ้ ูกตอ้ ง มเี หตผุ ล ชวี ติ ไดถ้ ูกตอ้ ง ชวี ติ ไดถ้ ูกตอ้ ง ชวี ติ ไดถ้ กู ตอ้ งเป็น ประกอบชดั เจน เป็นส่วนใหญ่ มเี หตุผล เป็นบางสว่ น มเี หตุผล บางส่วน ไม่มเี หตุผล ประกอบชดั เจน ประกอบชดั เจน ประกอบ 3. การวิเคราะหแ์ ละ วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ประเมินคณุ ค่า คณุ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ เรอ่ื ง คณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ เร่อื ง คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ เร่อื ง คุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ เรอ่ื ง หวั ใจชายหนุ่ม ในฐานะท่ี หวั ใจชายหนุ่ม ในฐานะท่ี หวั ใจชายหนุ่ม ในฐานะท่ี หวั ใจชายหนุ่ม ในฐานะท่ี เป็นมรดกทางวฒั นธรรม เป็นมรดกทางวฒั นธรรม เป็นมรดกทางวฒั นธรรม เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ของชาตไิ ดถ้ ูกตอ้ ง ของชาตไิ ดถ้ ูกตอ้ ง ของชาตไิ ดถ้ ูกตอ้ ง ของชาตไิ ดถ้ ูกตอ้ งเป็น มตี วั อยา่ งชดั เจน เป็นส่วนใหญ่ มตี วั อย่าง เป็นบางส่วน มตี วั อย่าง บางสว่ น ไม่มตี วั อย่าง ชดั เจน ชดั เจน 4. การสงั เคราะห์ มขี อ้ เสนอแนะในการนา มขี อ้ เสนอแนะในการนา มขี อ้ เสนอแนะในการนา มขี อ้ เสนอแนะในการนา ข้อคิด ขอ้ คดิ จากเร่อื ง หวั ใจ ขอ้ คดิ จากเรอ่ื ง หวั ใจ ขอ้ คดิ จากเร่อื ง หวั ใจ ขอ้ คดิ จากเรอ่ื ง หวั ใจ ชายหนุ่ม ไปประยุกตใ์ ช้ ชายหนุ่ม ไปประยุกตใ์ ช้ ชายหนุ่ม ไปประยุกตใ์ ช้ ชายหนุ่ม ไปประยุกตใ์ ช้ ในชวี ติ จรงิ ไดอ้ ย่างมี ในชวี ติ จรงิ ไดอ้ ยา่ งมี ในชวี ติ จรงิ ไดอ้ ย่างมี ในชวี ติ จรงิ ไดอ้ ย่างเลอ่ื น เหตผุ ล มคี วามเป็นไปได้ เหตุผล มคี วามเป็นไปได้ เหตุผล มคี วามเป็นไปได้ ลอย ไมม่ เี หตุผล เป็นไป เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางส่วน ไมไ่ ด้ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ากวา่ 8 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลง ในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตงั้ ใจ การแก้ไข ที่ ของผ้รู บั การประเมิน รว่ มมือกนั ความ ความ ทางาน ปัญหา/หรือ รวม ทากิจกรรม คิดเหน็ คิดเหน็ ปรบั ปรงุ 20 ผลงานกลุ่ม คะแนน 4321 4321 432 14321 4321 ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลง ในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนักเรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ว่ นรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยู่อยา่ งพอเพียง ตามโอกาส 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและ ชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ นต่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง 3.1 จดั กจิ กรรมใหผ้ เู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ น่ื และไม่ทาใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ น่ื กระทาผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มุง่ มนั ่ ในการ 6.1 เอาใจใส่ต่อการปฏบิ ตั หิ น้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการทางานใหส้ าเรจ็ 6.3 ปรบั ปรงุ และพฒั นาการทางานอยา่ งรอบคอบ 6.4 ทุ่มเท ทางาน อดทน ไมท่ อ้ ตอ่ ปัญหาและอปุ สรรค 6.5 พยายามแกป้ ัญหาและอุปสรรคในการทางานใหส้ าเรจ็ 6.6 ช่นื ชมผลงานความสาเรจ็ ดว้ ยความภาคภูมใิ จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบง่ ปันสง่ิ ของใหผ้ อู้ ่นื 8.3 รจู้ กั การดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 104 - 124 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 183 - 103 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 62 - 82 พอใช้ ต่ากวา่ 62 ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ สมรรถนะผเู้ รียน 5 ด้าน ชอื่ ..............................................................นามสกลุ .....................................................ช้นั ........ เลขท.ี่ .... คำช้แี จง :ให้สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดับคะแนน สมรรถนะท่ีประเมนิ ระดับคะแนน สรุป 3 2 1 0 ผล 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1.1 มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใช้วิธีการสือ่ สารทเ่ี หมาะสม 1.4 วิเคราะห์แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล 1.5 เขียนบันทึกเหตุการณ์ประจำวนั แลว้ เลา่ ให้เพื่อนฟงั ได้ สรุปผลการประเมิน 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ 2.2 มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ 2.3 สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ 2.4 มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งมรี ะบบ 2.5 ตัดสินใจแกป้ ัญหาเก่ยี วกับตนเองได้ สรปุ ผลการประเมนิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3.1 สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ทเ่ี ผชิญได้ 3.2 ใช้เหตผุ ลในการแกป้ ญั หา 3.3 เข้าใจความสมั พันธแ์ ละการเปลีย่ นแปลงในสงั คม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความร้มู าใช้ใน การปอ้ งกันและแก้ไขปัญหา 3.5 สามารถตดั สนิ ใจได้เหมาะสมตามวัย สรุปผลการประเม

สมรรถนะทปี่ ระเมิน ระดับคะแนน สรุป 3 2 1 0 ผล 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 4.1 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวัย 4.2 สามารถทำงานกลุ่มรว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้ 4.3 นำความรทู้ ไี่ ด้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั 4.4 จดั การปัญหาและความขัดแย้งไดเ้ หมาะสม 4.5 หลกี เล่ียงพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบ ต่อตนเอง สรุปผลการประเมนิ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5.1 เลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีไดเ้ หมาะสมตามวัย 5.2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้พฒั นาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 5.5 มคี ุณธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี สรปุ ผลการประเมนิ สรุปผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์รายบุคคล  ดเี ยย่ี ม  ดี  ผา่ น  ไมผ่ า่ น ลงชื่อ ........................................................ ผู้ประเมิน (…………………..................……………) เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คุณภาพ ดีเยย่ี ม - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ดี - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติชดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ผา่ น - พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบางคร้งั ให้ 1 คะแนน ไมผ่ ่าน - ไมเ่ คยปฏบิ ตั พิ ฤตกิ รรม ให้ 0 คะแนน เกณฑ์การสรุปผล ดเี ยย่ี ม - 13-15 คะแนน ดี - 9-12 คะแนน ผ่าน - 1-8 คะแนน ไม่ผ่าน - 0 คะแนน

แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว 1. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงพระ 5. “แน่ทีเดียวฉันไม่ได้ปล่อยให้โอกาสเช่นนัน้ ราชนิพนธ์เร่ือง หวั ใจชายหนุ่ม โดยมพี ระ เปลืองเปล่า และภายในเวลา 2 ชวั ่ โมง ที่ไปดู ประสงค์อย่างไร ก. เพ่อื พระราชทานลงพิมพ์ในวารสาร ไฟนั้น นับว่าฉันกบั แม่อุไรได้รู้จกั กนั ดีเกือบ ข้าราชการ เท่ากบั คนที่ได้คุ้นเคยกันมาแล้วตลอดชีวิต” ข. เพ่อื พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือพมิ พ์ดุสิต สมิต จากพฤติกรรมของ ตวั ละครข้างต้น สอดคล้องกับ ค. เพ่อื พระราชทานลงพมิ พ์ในหนังสือแบบเรียน สานวนสุภาษิตใด ภาษาไทย ก. ชิงสุกก่อนห่าม ง. เพอ่ื พระราชทานลงพมิ พ์ในหนังสือปฐมนิเทศ ข. มือถือสาก ปากถือศีล ของนักศึกษาใหม่ ค. กินบนเรือน ข้บี นหลงั คา ง. ปากปราศรยั น้าใจเชือดคอ 2. เร่อื ง หวั ใจชายหนุ่ม ถ่ายทอดเร่อื งราวเกี่ยวกบั 6. จากสานวนสภุ าษติ “ปลกู เรือนตามใจผอู้ ยู่ ผกู อู่ ส่ิงใด ตามใจผ้นู อน” สอดคลอ้ งกบั เหตุการณ์ใดในเรอ่ื ง ก. ความนึกคิดและสภาพของสงั คมไทย ข. ความรกั ระหว่างชายหนุ่มกบั หญิงสาว หวั ใจชายหนุ่ม ค. เร่อื งราวความผูกพนั ระหว่างเพ่อื น ก. เม่อื ประไพรู้ว่า ประพนั ธ์พ่ชี ายของตนพอใจใน ง. เร่อื งราวชวี ิตของชายหนุ่ม อุไร จึงได้เป็นแม่ส่อื ชกั นาให้ทงั้ คู่ ข. ประพนั ธ์พอใจท่จี ะเลือกคู่รกั ด้วยตนเอง และ 3. ขอ้ ใดกล่าวถงึ เรอ่ื ง หวั ใจชายหนุ่ม ไดถ้ กู ตอ้ ง ก. ตวั ละครเป็นชายหนุ่มนักเรยี นนอกท่ีเพิ่ง ไม่เห็นด้วยกบั การคลุมถุงชน เดินทางกลบั จากฝรงั ่ เศส ค. ประพนั ธ์พยายามเอาใจอุไรทุกอย่าง เพ่อื ให้ ข. อุไรเป็นตัวละครท่ีมคี ุณสมบตั ิเป็นหญิงไทยผู้มี หล่อนรู้สึกพอใจในตัวเขา มารยาทงดงาม รักนวลสงวนตวั ง. เม่อื ประพนั ธ์ทราบเร่ืองการคบหาของอุไรกับ ค. จดหมายทุกฉบบั ในเร่ือง หวั ใจชายหนุ่ม เป็น พระยา ตระเวนนคร จึงขอหย่าเพ่อื ให้อุไรได้ทาตาม จดหมายท่ปี ระพันธ์เขยี นถึงประเสรฐิ ต้องการ ง. ตวั ละครเดินทางกลบั ประเทศไทยโดยทางเรอื 7. สภาพสงั คมในเร่อื ง หวั ใจชายหนุ่ม เป็นอยา่ งไร ขณะเขยี นจดหมายฉบบั แรกเขาอยู่ในเรือ ก. การหย่าร้างเป็นเร่ืองเส่ือมเสียวงศ์ตระกูล โอยามะมะรู ข. ผู้ชายปฏิเสธการคลุมถุงชนได้ หากไม่พอใจ ค. ผู้หญิงสามารถไปไหนมาไหนได้ตามความ 4. การทป่ี ระพนั ธพ์ ยายามมองหาหญงิ สาวในเรอื เพอ่ื จะ สบายใจ ไดส้ มาคมดว้ ย แสดงวา่ ประพนั ธเ์ ป็นคนอยา่ งไร ง. การท่ผี ู้ชายมีภรรยาหลายคนเป็นเร่ืองธรรมดา ก. มีความสามารถในการเต้นรา 8. ขอ้ ใดแสดงว่า พระพนิ ฐิ พฒั นากรและภรรยา เป็นผู้ ข. มีมนุษยสมั พนั ธ์ดีเลิศ “ศิวิไลซ”์ ตามความคดิ ของประพนั ธ์ ค. รกั ความสนุกสนาน ง. เจ้าชู้ ก. ใช้ของท่มี รี าคาแพง ข. ตามทนั ค่านิยมแบบตะวันตก ค. ยอมให้ลูกสาวคุยกับผู้ชายดึกๆ ด่นื ๆ ง. อนุญาตให้ประพนั ธ์และอุไรแต่งงานกนั โดยง่าย

9. ลกั ษณะนิสยั ของอุไรในข้อใด ท่สี งั คมไทยไม่ 10. จากเรอ่ื ง หวั ใจชายหนุ่ม มสี งิ่ ใดทเ่ี กดิ ขน้ึ ในสมยั ยอมรบั มากท่สี ุด รชั กาลท่ี 6 ก. ไม่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ก. นกั เรยี นนอกเรยี กรอ้ งใหผ้ ชู้ ายไทยมภี รรยา ข. มีเพ่ือนผู้ชายมากหน้า หลายคน ค. ไม่รกั นวลสงวนตัว ข. รฐั บาลสง่ เสรมิ ใหค้ นไทยรบั วฒั นธรรมตา่ งชาติ ง. ชอบเท่ยี วกลางคืน เพอ่ื ความทนั สมยั ค. มกี ารแสดงละครพดู ทต่ี วั ละครเป็นชายจรงิ หญงิ แท้ ง. การเดนิ ทางโดยสารดว้ ยรถไฟ เฉลย 1. ข 2. ก 3. ค 4. ง 5. ก 6. ข 7. ง 8. ค 9. ค 10. ค

แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. เร่อื ง หวั ใจชายหนุ่ม ถ่ายทอดเร่ืองราวเกี่ยวกับ 5. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หวั ทรงพระ สง่ิ ใด ราชนิพนธ์เร่ือง หวั ใจชายหนุ่ม โดยมีพระประสงค์ ก. ความรกั ระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาว อย่างไร ข. ความนึกคิดและสภาพของสงั คมไทย ก. เพ่อื พระราชทานลงพมิ พ์ในหนังสือพิมพ์ดุสติ ค. เร่อื งราวความผูกพนั ระหว่างเพ่อื น สมติ ง. เร่อื งราวชวี ติ ของชายหนุ่ม ข. เพ่อื พระราชทานลงพมิ พ์ในวารสารข้าราชการ ค. เพ่อื พระราชทานลงพมิ พ์ในหนังสือแบบเรยี น 2. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ เรอ่ื ง หวั ใจชายหนุ่ม ไดถ้ กู ตอ้ ง ภาษาไทย ก. ตวั ละครเป็นชายหนุ่มนักเรยี นนอกท่ีเพ่งิ ง. เพอ่ื พระราชทานลงพมิ พ์ในหนังสือปฐมนิเทศ เดนิ ทาง กลบั จากฝรงั ่ เศส ของนักศกึ ษาใหม่ ข. อุไรเป็นตวั ละครท่มี คี ุณสมบตั ิเป็นหญิงไทยผู้มี มารยาทงดงาม รักนวลสงวนตัว 6. สภาพสงั คมในเรอ่ื ง หวั ใจชายหนุ่ม เป็นอยา่ งไร ค. ตัวละครเดินทางกลบั ประเทศไทยโดยทางเรือ ก. การหย่าร้างเป็นเร่ืองเส่ือมเสียวงศ์ตระกูล ขณะเขยี นจดหมายฉบบั แรกเขาอยู่ในเรอื ข. ผู้ชายปฏิเสธการคลุมถุงชนได้ หากไม่พอใจ โอยามะมะรู ค. การท่ีผู้ชายมีภรรยาหลายคนเป็นเร่ืองธรรมดา ง. จดหมายทุกฉบบั ในเร่ือง หวั ใจชายหนุ่ม เป็น ง. ผู้หญิงสามารถไปไหนมาไหนได้ตามความ จดหมายท่ปี ระพนั ธ์เขยี นถึงประเสริฐ สบายใจ 3. การทป่ี ระพนั ธพ์ ยายามมองหาหญงิ สาวในเรอื เพอ่ื จะ 7. จากสานวนสภุ าษติ “ปลูกเรอื นตามใจผอู้ ยู่ ผกู อู่ ไดส้ มาคมดว้ ย แสดงว่าประพนั ธเ์ ป็นคนอย่างไร ตามใจผ้นู อน” สอดคลอ้ งกบั เหตุการณ์ใดในเร่อื ง ก. เจ้าชู้ ข. มีมนุษยสมั พนั ธ์ดีเลศิ หวั ใจชายหนุ่ม ค. รกั ความสนุกสนาน ก. ประพนั ธ์พอใจท่จี ะเลือกคู่รกั ด้วยตนเอง และ ง. มคี วามสามารถในการเต้นรา ไม่เห็นด้วยกับการคลุมถุงชน 4. “แน่ทีเดียวฉันไม่ได้ปล่อยให้โอกาสเช่นนัน้ ข. เม่อื ประไพรู้ว่า ประพนั ธ์พ่ชี ายของตนพอใจใน เปลืองเปล่า และภายในเวลา 2 ชวั ่ โมง ท่ีไป อุไร จงึ ได้เป็นแม่ส่อื ชกั นาให้ทงั้ คู่ ค. เม่อื ประพนั ธ์ทราบเร่ืองการคบหาของอุไรกับ ดูไฟนัน้ นับว่าฉันกบั แม่อุไรได้รู้จกั กนั ดีเกือบ พระยา ตระเวนนคร จงึ ขอหย่าเพ่อื ให้อุไรได้ทาตาม เท่ากบั คนที่ได้คุ้นเคยกันมาแล้วตลอดชีวิต” ต้องการ ง. ประพนั ธ์พยายามเอาใจอุไรทุกอย่าง เพ่อื ให้ จากพฤติกรรมของตัวละครขา้ งต้น สอดคล้องกบั หล่อนรู้สึกพอใจในตวั เขา สานวนสุภาษิตใด 8. ลกั ษณะนิสยั ของอุไรในขอ้ ใด ทส่ี งั คมไทยไมย่ อมรบั ก. ปากปราศรยั น้าใจเชือดคอ มากทส่ี ุด ข. กินบนเรือน ข้บี นหลงั คา ก. ไม่อยู่กบั เหย้าเฝ้ากบั เรือน ค. มือถือสาก ปากถือศลี ข. ไม่รกั นวลสงวนตวั ง. ชิงสุกก่อนห่าม ค. มีเพ่อื นผู้ชายมากหน้า ง. ชอบเท่ยี วกลางคืน

9. จากเรอ่ื ง หวั ใจชายหนุ่ม มสี ง่ิ ใดทเ่ี กดิ ขน้ึ ในสมยั 10. ข้อใดแสดงว่า พระพินิฐพฒั นากรและภรรยา เป็ น รชั กาลท่ี 6 ผู้ “ศิวิไลซ์” ตามความคดิ ของประพนั ธ์ ก. มกี ารแสดงละครพดู ทต่ี วั ละครเป็นชายจรงิ หญงิ ก. อนุญาตให้ประพนั ธ์และอุไรแต่งงานกัน แท้ โดยง่าย ข. รฐั บาลสง่ เสรมิ ใหค้ นไทยรบั วฒั นธรรมต่างชาติ ข. ยอมให้ลูกสาวคุยกบั ผู้ชายดึกๆ ด่นื ๆ เพอ่ื ความทนั สมยั ค. ตามทนั ค่านิยมแบบตะวันตก ค. นกั เรยี นนอกเรยี กรอ้ งใหผ้ ชู้ ายไทยมภี รรยา ง. ใช้ของท่มี ีราคาแพง หลายคน ง. การเดนิ ทางโดยสารดว้ ยรถไฟ

แผนการจัดการเรยี นรู้ (รายวชิ าพื้นฐาน) สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ รหัสวชิ า ท ๓๑๑๐๒ รายวิชาภาษาไทย พ้ืนฐาน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ หัวใจชายหนุ่ม จำนวน ๙ ชั่วโมง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ การเขยี นเรียงความและการเขยี นจดหมาย เวลา ๒ ชั่วโมง สอนวันท่ี.................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................................... ๑. มาตรฐาน ท ๒.๑ ม.๔-๖/๑ เขยี นสือ่ สารในรูปแบบต่างๆ ไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้ภาษาเรยี บเรียงถกู ต้องมี ขอ้ มูลและสาระสำคัญชดั เจน ม.๔-๖/๒ การเขียนเรียงความ ม.๔-๖/๘ มมี ารยาทในการเขียน ๒.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อธิบายหลักการเขียนเขียนเรียงความ (K) ๒. อธบิ ายหลกั การเขียนจดหมายกิจธุระ(K) ๓. เขียนเรยี งความได้ (P) ๔. เขียนจดหมายกจิ ธุระได้(P) ๓. มีมารยาทในการเขียน (A) ๔. นกั เรยี นมีความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต (C) ๓. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การเขยี นสือ่ สารในรูปแบบจดหมายกจิ ธรุ ะ จะตอ้ งเขียนใหต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใช้ภาษาเรียบเรียง ถกู ต้อง มีข้อมูลและสาระชัดเจน และมมี ารยาทในการเขยี น การเขยี นเรียงความต้องรูห้ ลกั การเขยี น และต้อง มมี ารยาทในการเขยี น ๔. สาระการเรียนรู้ ๑. ความรู้ ๑. หลักการการเขยี นเรียงความ ๒. หลักการเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ

๒. ทักษะกระบวนการ ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๑. เขียนเรียงความโลกสว่ นตัว ๔. รักความเปน็ ไทย ๒. เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ ๓. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการใช้ทักษะการสือ่ สาร ๔. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. มวี นิ ัย ๓. มุ่งมน่ั ในการทำงาน ๕. หลกั ฐานการเรียนรู้ ช้ินงาน ภาระงาน เขียนเรียงความ และเขียนจดหมายกจิ ธุระ ๖. การวดั และการประเมินผล ส่งิ ท่ีวดั วธิ วี ดั ผล เครือ่ งมือวัดผล เกณฑ์ แบบทดสอบกอ่ นเรียน รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) ตรวจเรียงความ ตรวจจดหมายกจิ ธรุ ะ ดา้ นเจตคต/ิ คุณลกั ษณะ(A) สังเกตพฤติกรรมการทำงาน แบบสงั เกตคุณลกั ษณะอนั ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ รว่ มกนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สมรรถนะ(C)การใชท้ ักษะการ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตสมรรถนะ สือ่ สาร ๗. กระบวนการการจดั กจิ กรรม/รปู แบบการจดั กจิ กรรม ๑. วธิ สี อนแบบ สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ๒. วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนคิ การเรียนรว่ มกนั

๘. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ ๑ การเขียนเรยี งความ วธิ สี อนแบบ สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ข้นั ท่ี ๑ กระตุ้นความสนใจ (Engage) นักเรยี นทำกิจกรรมบริหารสมอง (Brain Gym เบรนยมิ ) ทา่ แตะหู ๑. ครูนำตวั อย่างการเขียนเรยี งความวนั พ่อที่ได้รับรางวัลมาใหน้ ักเรยี นดู แล้วถามนักเรียนวา่ นกั เรยี นคนใดเคยประกวดแข่งขันเขียนเรียงความ ๒. ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสนทนา และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การเตรียมตวั เขียนเรยี งความเขา้ ประกวด และลักษณะของเรยี งความที่ได้รบั รางวัล ขั้นท่ี ๒ สำรวจคน้ หา(Explore) ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ ๔ คน คละกนั ตามความสามารถ จากนนั้ ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่ม รว่ มกันศกึ ษาความรู้เรื่อง การเขยี นเรยี งความ จากหนังสอื เรียน ข้นั ที่ ๓ อธบิ ายความรู้ (Explain) ๑. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันอภปิ รายสรุปองค์ความรเู้ กี่ยวกับการเขยี นเรยี งความ ๒. ครใู หน้ กั เรยี นเปรียบเทียบตวั อย่างการเขยี นเรยี งความกบั องคป์ ระกอบของเรยี งความ จากหนงั สือ เรยี น ว่ามีองคป์ ระกอบ การวางโครงเรือ่ ง และวธิ ีการเขยี นเรียงความเป็นอย่างไร ข้นั ที่ ๔ ขยายความเข้าใจ (Expand) นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั ทำใบงานที่ ๖.๑ เรอ่ื ง การเขียนเรียงความ โดยให้แตล่ ะกลุ่มเลือกเขียน เร่ือง ทกี่ ลุ่มสนใจ แล้วเขียนลงในใบงานท่ี ๖.๑ ข้นั ท่ี ๕ ตรวจสอบผล (Evaluate) นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลงานการเขียนเรยี งความในใบงานที๖่ .๑ หนา้ ชัน้ เรยี น ครูและนกั เรียนรว่ มกันประเมิน และแสดงความคดิ เหน็

ช่วั โมงที่ ๒ การเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ วิธสี อนโดยการจัดการเรยี นร้แู บบรว่ มมือ : เทคนิคการเรียนรว่ มกนั นกั เรียนทำกิจกรรมบรหิ ารสมอง (Brain Gym เบรนยิม) ท่าแตะหู ขั้น นำเข้าสูบ่ ทเรียน ครูถามนักเรยี นว่า จดหมายมกี ่ีประเภท และจดหมายมีประโยชน์อยา่ งไร จากนัน้ ครูสนทนากับนักเรยี น เกย่ี วกับจดหมาย แลว้ ให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับการส่ือสารโดยใช้จดหมาย ขน้ั สอน ๑. นกั เรยี นกลุม่ เดมิ ร่วมกันศึกษาความรเู้ รื่อง การเขียนจดหมายกจิ ธรุ ะ จากหนังสอื เรียน และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ ๒. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายสรปุ หลกั การเขยี นจดหมายกจิ ธุระ พร้อมกบั เปดิ โอกาสให้นักเรียน ซักถามข้อสงสัย จนเกิดความเข้าใจ ๓. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันทำใบงาน เร่ือง หลกั การเขียนจดหมายกจิ ธุระ โดยให้สมาชกิ แต่ละคน หมนุ เวียนเปล่ียนหน้าทก่ี ันในการหาคำตอบในใบงาน จนครบทุกข้อ แล้วนำส่งครูตรวจ ๔. นักเรยี นแตล่ ะคนทำใบงาน เร่ือง การเขยี นจดหมายกิจธรุ ะ เสร็จแล้วนำส่งครูตรวจ ๕. ครูคดั เลอื กใบงานทเี่ ขยี นจดหมายได้ดี ๓ ใบงาน ติดบนป้ายนิเทศหนา้ ช้ันเรยี น ข้ัน สรปุ นกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ รอ่ื ง หลกั การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครู สรุปเสรมิ ๙. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ ๙.๑ สอื่ การเรียนรู้ ๑)หนงั สือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.๔ ๒)บทความทางวชิ าการ ๓) ตวั อยา่ งการเขียนเรียงความ วันพอ่ ๔)บทกวนี พิ นธ์ ช้อนกุ้ง ๕) ใบงาน เรื่อง การเขยี นเรยี งความ ๙)ใบงาน เรื่อง หลกั การเขยี นจดหมายกิจธุระ ๑๐) ใบงาน เรอื่ ง การเขียนจดหมายกิจธุระ ๙.๒ แหลง่ การเรียนรู้ -

๑๐. การบรู ณาการสู่ศตวรรษท่ี ๒๑ ๓R  R๑ Reading การอา่ นออก  R๒ Writing การเขียนได้  R๓ Rithmethich การคิดเลขเป็น ๗C สรุปผล การใชแ้ ผนการจัดการเรียนร้ทู .ี่ .......................... ๑)นักเรียนมผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนอยูใ่ นระดบั ....................... ๒)นกั เรยี นมที ักษะในระดบั .................................... ๓)นักเรียนมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ในระดับ..................  C๑ Critical thinking & problem solving (ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา)  C๒ Creativity & innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม)  C๓ Cross-cultural understanding (ทักษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น)์  C๔ Collaboration, teamwork & leadership (ทักษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทมี และภาวะ ผู้นำ)  C๕ Communications, information & media literacy (ทักษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันส่ือ)  C๖ Computing & ICT literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร)  C๗ Career & learning skill (ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนร)ู้ ๑๑.การชว่ ยเหลือนักเรยี นระหว่างการจดั การเรยี นรู้ ........................................................................................................................................................................ ...... ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................... ......................................................... ๑๒.การเสรมิ แรงนักเรยี นในขณะการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๑๓. ความคดิ เห็น (ผูบ้ ริหาร/หรือผ้ทู ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย) ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนของ นางสาวปรวรี ์ จนิ ดาแกว้ แล้วมคี วามเห็นดงั น้ี ๑๓.๑ เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่  ดมี าก  ดี

 พอใช้  ตอ้ งปรบั ปรงุ ๑๓.๒ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้  ที่เน้นผ้เู รียนเป็นสำคัญ ใชก้ ระบวนการสอนได้เหมาะสม  ท่ียงั ไม่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๑๓.๓ เป็นแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี  นำไปใช้สอนได้  ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๑๓.๔ ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ………………………………………………………………………………...………………………………………………………………………… ..…….……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ..................................................... ลงชอ่ื ..................................................... (นายวรากร บัวกง่ิ ) (นายสุบนิ ทร์ สุขศรีเพ็ง) ครูชำนาญการพิเศษ หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย วันที.่ ................................................ ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวชิ าการ วันท่.ี .................................................... ลงช่อื …………...........…………………………. (นางสาวอมราพร เชาวนาพันธุ์) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนวังวิเศษ วนั ท.ี่ .............................................

๑๔. บันทึกผลหลังแผนการจดั การเรยี นรู้ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ ดา้ นความรู้ (K) ตารางท่ี ๑ แสดงคา่ ร้อยละระดบั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน เรื่อง ความเปน็ มาและประวัติผูแ้ ตง่ ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรียน รอ้ ยละ ดมี าก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ด(ี ๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรบั ปรุง(๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางที่ ๑ พบว่านกั เรียนมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนร้อยละ.....................อยู่ในระดบั ................... และรองลงมาร้อยละ..................อย่ใู นระดบั .................................................................................................... และพบวา่ นักเรยี น........................................................................................................................................... ๑.๒ ดา้ นดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) ตารางท่ี ๒ แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น เรอื่ ง ความเป็นมาและประวัตผิ ูแ้ ต่ง ระดับผลสัมฤทธ์ิ จำนวนนกั เรยี น รอ้ ยละ ดีมาก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ดี(๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรบั ปรุง(๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางท่ี ๑ พบว่านกั เรียนมีผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนร้อยละ.....................อยูใ่ นระดับ................... และรองลงมาร้อยละ..................อยใู่ นระดบั .................................................................................................... และพบวา่ นักเรียน........................................................................................................................................... ๑.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ตารางท่ี ๓ แสดงคา่ ร้อยละคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เรือ่ ง ความเป็นมาและประวตั ผิ ้แู ตง่ ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนกั เรียน ร้อยละ ดีมาก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ด(ี ๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรบั ปรงุ (๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางที่ ๑ พบว่านักเรียนมคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงคร์ ้อยละ.....................อยู่ในระดับ................... และรองลงมารอ้ ยละ..................อยใู่ นระดับ.................................................................................................... และพบว่านักเรียน...........................................................................................................................................

๑.๔ ด้านสมรรถนะสำคัญผูเ้ รียน (C) ตารางท่ี ๔ แสดงค่าร้อยละสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน เร่ือง ความเป็นมาและประวตั ผิ แู้ ตง่ ระดบั ผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรียน รอ้ ยละ ดมี าก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ดี(๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรบั ปรงุ (๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางที่ ๑ พบว่านกั เรยี นมีสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นรอ้ ยละ..................อยู่ในระดบั ................... และรองลงมารอ้ ยละ..................อยใู่ นระดบั .................................................................................................... และพบว่านักเรียน............................................................................................................. .............................. สรปุ ผล การใช้แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่........................... ๑)นักเรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นอยู่ในระดับ....................... ๒)นักเรียนมที ักษะในระดับ.................................... ๓)นกั เรียนมคี ุณลักษณะอนั พึงประสงค์ในระดับ.................. ๒. บรรยากาศการเรียนรู้ …………………………………………………………….................................................................................. …………………... ………………………………………………………………………………………………………...………………………………………………… ………………………………....................................................................................................................................... ๓. การปรบั เปลย่ี นแผนการจัดการเรียนรู้ (ถา้ ม)ี ……………………………………………………………..................................................................................…………………... ………………………………………………………………………………………………………...………………………………………………… …………..……………………........................................................................................ ............................................. ๔.ข้อค้นพบดา้ นพฤติกรรมการจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๕.อ่นื ๆ ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................

๖.ปัญหา/ส่งิ ทพ่ี ัฒนา/แนวทางแกป้ ญั หา/แนวทางการพฒั นา ปญั หา/สิ่งทพ่ี ัฒนา สาเหตุของปัญหา/ แนวทางแก้ไข/ วิธีแก้ไข/พัฒนา ผลการแกไ้ ข/พัฒนา สิง่ ทพี่ ัฒนา พัฒนา รับทราบผลการดำเนินการ ลงชื่อ…………….........……………………… ( นางสาวปรวีร์ จนิ ดาแก้ว ) ลงชื่อ…………...........…………………………. ( นายสบุ ินทร์ สขุ ศรีเพง็ ) ครูชำนาญการพเิ ศษ ปฏิบตั ิหนา้ ที่รองผูอ้ ำนวยการฝ่ายบรหิ ารงานวิชาการ ลงชื่อ…………...........…………………………. ( นางสาวอมราพร เชาวนาพนั ธ์ุ ) ผู้อำนวยการโรงเรียนวังวเิ ศษ

แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลมุ่ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลง ในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตงั้ ใจ การแก้ไข ที่ ของผ้รู บั การประเมิน รว่ มมือกนั ความ ความ ทางาน ปัญหา/หรือ รวม ทากิจกรรม คิดเหน็ คิดเหน็ ปรบั ปรงุ 20 ผลงานกลุ่ม คะแนน 4321 4321 432 14321 4321 ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลง ในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหน้าทข่ี องนกั เรยี น 2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ในการทางานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น 3. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี นและชุมชน 4. ใฝ่ เรียนรู้ 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา 5. อยู่อยา่ งพอเพียง ตามโอกาส 1.6 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นและ ชุมชนจดั ขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั เพอ่ื น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ติ นต่อผอู้ น่ื ดว้ ยความซ่อื ตรง ไมห่ าประโยชนใ์ นทางทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง 3.1 จดั กจิ กรรมใหผ้ เู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี น ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรไู้ ดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดแู ลอยา่ งดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ าใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื กระทาผดิ พลาด

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐานของ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และ ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6. มงุ่ มนั ่ ในการ 6.1 เอาใจใส่ตอ่ การปฏบิ ตั หิ น้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ทางาน 6.2 ตงั้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการทางานใหส้ าเรจ็ 6.3 ปรบั ปรุงและพฒั นาการทางานอยา่ งรอบคอบ 6.4 ทุม่ เท ทางาน อดทน ไมท่ อ้ ตอ่ ปัญหาและอปุ สรรค 6.5 พยายามแกป้ ัญหาและอุปสรรคในการทางานใหส้ าเรจ็ 6.6 ชน่ื ชมผลงานความสาเรจ็ ดว้ ยความภาคภมู ใิ จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ชว่ ยทา และแบง่ ปันสง่ิ ของใหผ้ อู้ ่นื 8.3 รจู้ กั การดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน 104 - 124 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 183 - 103 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 62 - 82 พอใช้ ต่ากว่า 62 ปรบั ปรุง แบบประเมินสมรรถนะผ้เู รียน 5 ดา้ น ช่ือ..............................................................นามสกลุ .....................................................ชั้น ........ เลขที.่ ....

คำชแี้ จง :ใหส้ ังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดับคะแนน สมรรถนะท่ีประเมิน ระดบั คะแนน สรปุ 3 2 1 0 ผล 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 มีความสามารถในการรับ – ส่งสาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใชว้ ิธีการสอ่ื สารท่เี หมาะสม 1.4 วิเคราะห์แสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตุผล 1.5 เขียนบนั ทกึ เหตุการณ์ประจำวันแลว้ เลา่ ใหเ้ พ่ือนฟงั ได้ สรปุ ผลการประเมิน 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ 2.2 มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์ 2.3 สามารถคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ 2.4 มีความสามารถในการคิดอยา่ งมรี ะบบ 2.5 ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาเก่ยี วกับตนเองได้ สรุปผลการประเมนิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3.1 สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทเี่ ผชิญได้ 3.2 ใชเ้ หตผุ ลในการแก้ปัญหา 3.3 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์และการเปลยี่ นแปลงในสังคม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรูม้ าใชใ้ น การปอ้ งกันและแก้ไขปัญหา 3.5 สามารถตัดสนิ ใจได้เหมาะสมตามวยั สรปุ ผลการประเม สมรรถนะท่ปี ระเมนิ ระดบั คะแนน สรุป

3 2 1 0 ผล 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 4.1 เรยี นรดู้ ้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย 4.2 สามารถทำงานกลมุ่ รว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้ 4.3 นำความรู้ทไี่ ด้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั 4.4 จัดการปญั หาและความขัดแย้งได้เหมาะสม 4.5 หลีกเลีย่ งพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบ ต่อตนเอง สรุปผลการประเมิน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลือกและใชเ้ ทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตามวยั 5.2 มที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยไี ปใช้พัฒนาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 5.5 มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี สรปุ ผลการประเมิน สรปุ ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์รายบุคคล  ดีเยย่ี ม  ดี  ผา่ น  ไม่ผ่าน ลงช่อื ........................................................ ผู้ประเมิน (…………………..................……………) เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คณุ ภาพ ดีเยีย่ ม - พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ดี - พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ผ่าน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน ไม่ผ่าน - ไมเ่ คยปฏิบัติพฤติกรรม ให้ 0 คะแนน เกณฑ์การสรปุ ผล ดเี ยยี่ ม - 13-15 คะแนน ดี - 9-12 คะแนน ผา่ น - 1-8 คะแนน ไมผ่ า่ น - 0 คะแนน การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินแฟ้มสะสมผลงานการเขียนเรยี งความ และการเขียนจดหมาย กิจธรุ ะ รายการประเมิน ดมี าก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การเขียน เขยี นเรยี งความได้ เขยี นเรยี งความได้ เขยี นเรยี งความได้ เขยี นเรยี งความไม่ เรียงความ ถูกตอ้ งตามหลกั การ ถูกตอ้ งตามหลกั การ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ เขยี น มอี งคป์ ระกอบ เขยี น มอี งคป์ ระกอบ เขยี น มอี งคป์ ระกอบ เขยี น และไม่ครบตาม ครบถว้ น ใชภ้ าษาใน ครบถว้ น ใชภ้ าษาใน ครบถว้ น ใชภ้ าษาใน องคป์ ระกอบ ใชภ้ าษา การเขยี นไดถ้ กู ตอ้ ง การเขยี นไดถ้ ูกตอ้ ง การเขยี นไดถ้ กู ตอ้ ง ในการเขยี นไดถ้ ูกตอ้ ง และเหมาะสม และเหมาะสมเป็น และเหมาะสมเป็น และเหมาะสมเป็น ส่วนใหญ่ บางสว่ น บางสว่ น 2. การเขียนจดหมาย เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ เขยี นจดหมายกจิ ธุระ กิจธรุ ะ ไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั ไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การเขยี น รปู แบบ การเขยี น รปู แบบ การเขยี น รปู แบบ การเขยี น รปู แบบ ถูกตอ้ ง ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง ไม่ถูกตอ้ ง ใชภ้ าษา ตามระดบั และมี ตามระดบั และมี ตามระดบั และมี ไม่ถกู ตอ้ งตามระดบั มารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขยี น และไมม่ มี ารยาทใน เป็นสว่ นใหญ่ เป็นบางส่วน การเขยี น เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ากว่า 6 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

จดั การเรยี นรู้ (รายวชิ าพ้นื ฐาน) สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ รหสั วิชา ท ๓๑๑๐๒ รายวิชาภาษาไทย พื้นฐาน หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ หวั ใจชายหนุ่ม จำนวน ๙ ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓ การสรุปความจากการฟงั การดู เวลา ๒ ช่ัวโมง สอนวันท.่ี ................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ............... ๑. มาตรฐาน ท ๓.๑ ม.๔-๖/๑ สรปุ แนวคิดและแสดงความคดิ เหน็ จากเรื่องท่ีฟังและดู ม.๔-๖/๓ ประเมนิ เรื่องที่ฟงั และดู แล้วกำหนดแนวทางนำไปประยุกต์ใชใ้ นการดำเนินชีวิต ม.๔-๖/๔ มวี ิจารณญาณในการเลือกเร่อื งทฟ่ี งั และดมู ีมารยาทในการเขยี น ม.๔-๖/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๒.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธบิ ายหลักการพูดสรุปแนวคดิ และการแสดงความคดิ เหน็ จากเร่ืองท่ีฟังและดู (K) ๒. พูดสรุปแนวคิดและแสดงความคิดเห็นจากเรอ่ื งท่ฟี ัง และดไู ด้(P) ๓. การเลอื กเรื่องที่ฟงั และดูอย่างมวี จิ ารณญาณ (A) ๔. นกั เรียนมีความสามารถในการใช้ทกั ษะการสอื่ สาร (C) ๓. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การฟังและการดทู ด่ี ี ผู้ฟงั จะตอ้ งมีวิจารณญาณในการเลือกเรื่องท่ีฟงั และดู สรุปแนวคดิ และแสดงความ คดิ เหน็ แล้วสามารถประเมินเรื่องที่ฟงั และดู เพื่อกำหนดแนวทางนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน และมี มารยาทในการฟังและการดู แ ๔. สาระการเรียนรู้ ๑. ความรู้ ๑. หลกั การพดู แสดงความคดิ เหน็ ๒. หลกั การเลือกเร่อื งที่ฟังและดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ ๒. ทักษะกระบวนการ ๑. พูดสรุปแนวคิด การพดู แสดงความคดิ เห็นจากเร่ืองท่ีฟงั และดู

๓. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๔. รักความเป็นไทย ความสามารถในการใชท้ กั ษะการสือ่ สาร ๔. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. มวี ินยั ๓. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ๕. หลักฐานการเรยี นรู้ ช้ินงาน - ภาระงาน การพูดสรปุ ความจากการฟังและดรู ายการโทรทศั น์ท่ีสนใจ ๖. การวัดและการประเมนิ ผล สิ่งท่ีวัด วธิ ีวดั ผล เคร่อื งมือวัดผล เกณฑ์ ดา้ นความรู้ (K) ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงาน ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ดา้ นเจตคติ/คุณลกั ษณะ(A) สังเกตพฤตกิ รรมการทำงาน แบบสังเกตคุณลกั ษณะอนั ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ รว่ มกนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สมรรถนะ(C)การใชท้ กั ษะการ สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตสมรรถนะ สื่อสาร ๗. กระบวนการการจดั กิจกรรม/รูปแบบการจดั กิจกรรม วธิ ีสอนแบบ กระบวนการกลุม่ สัมพันธ์ ๘. กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ สี อนแบบ กระบวนการกลมุ่ สัมพนั ธ์ ใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรมบรหิ ารสมองก่อนการเรยี นรดู้ ว้ ยทา่ แตะหูสลับกนั ขั้นที่ ๑ นำเข้าสู่บทเรยี น ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับรายการโทรทัศน์ทนี่ ักเรียนสนใจ แล้วให้นักเรยี นท่สี นใจรายการ เดียวกัน รว่ มกนั แสดงความคิดเห็นและบอกเหตผุ ลประกอบว่า ชอบรายการนเ้ี พราะเหตุใด ขั้นท่ี ๒ จดั การเรยี นรู้

๑. ครแู บง่ นกั เรียนเป็นกล่มุ กลุ่มละ ๔ คน คละกนั ตามความสามารถ จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่ม ร่วมกนั ศึกษาความรเู้ รื่อง หลักการฟงั และการดเู พอ่ื สรปุ ความ แนวทางการสรุปความจากการฟงั การดู และ มารยาทในการฟังและการดู จากหนังสอื เรียน ๒. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกันอภิปรายและสรุปความรู้จากเรื่องที่ศึกษา จนสมาชิกกล่มุ ทุกคนเกิด ความเข้าใจตรงกนั จากนน้ั บันทกึ ความรลู้ งในสมุดของแต่ละคน ๓. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันทำใบงาน เรอื่ ง หลักการฟังและดูเพื่อสรุปความ โดยให้นักเรยี น แตล่ ะคนคิดหาคำตอบดว้ ยตนเองจนครบทุกข้อ จากนั้นผลัดกันตรวจสอบความถกู ต้องกับสมาชกิ ในกลมุ่ ๔. ตัวแทนนกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอคำตอบในใบงาน หน้าชนั้ เรยี น โดยให้แตล่ ะกล่มุ ผลดั กนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ขน้ั ที่ ๓ สรปุ และนำหลักการไปประยุกตใ์ ช้ ๑. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสรปุ ความรเู้ รือ่ ง หลกั การฟังและการดูเพ่ือสรปุ ความ แนวทางการสรุป ความ จากการฟัง การดู และมารยาทในการฟังและการดู อกี ครั้ง ๒. ครใู ห้นักเรียนฟงั และดคู ลิปวิดโี อรายการ The Idol คนบันดาลใจ ตอน สัมภาษณ์นักเขียน น้วิ กลม ๓. นกั เรยี นแตล่ ะคนสรปุ ความจากรายการท่ีฟังและดู โดยเขยี นบนั ทึกลงในสมดุ พรอ้ มกับบอกแนวทาง ในการนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั ข้ันท่ี ๔ วัดและประเมินผล ๑. ครูสมุ่ เลขท่นี ักเรียน ๒-๓ คน ออกมานำเสนอการสรปุ ความจากการฟัง การดู ที่ไดจ้ ากคลิปวิดีโอ รายการ The Idol คนบนั ดาลใจ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและอธบิ ายเพิม่ เตมิ ในสว่ นท่ีไมถ่ ูกตอ้ งหรอื ไม่ สมบูรณ์ จากนัน้ ให้นักเรียนทุกคนนำสมดุ ส่งครตู รวจ

๙. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ ๙.๑ สื่อการเรยี นรู้ ๑) หนังสือเรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใช้ภาษา ม.๔ ๒) คลปิ วิดโี อรายการ The Idol คนบนั ดาลใจ ๓) ใบงาน เรือ่ ง หลกั การฟงั และดเู พอ่ื สรปุ ความ ๙.๒ แหลง่ การเรียนรู้ -

๑๐. การบูรณาการสู่ศตวรรษท่ี ๒๑ ๓R  R๑ Reading การอ่านออก  R๒ Writing การเขยี นได้  R๓ Rithmethich การคิดเลขเปน็ ๗C สรปุ ผล การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี........................... ๑)นกั เรยี นมีผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นอยใู่ นระดบั ....................... ๒)นกั เรียนมที ักษะในระดบั .................................... ๓)นกั เรยี นมีคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคใ์ นระดับ..................  C๑ Critical thinking & problem solving (ทักษะด้านการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และทกั ษะในการแก้ปญั หา)  C๒ Creativity & innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม)  C๓ Cross-cultural understanding (ทกั ษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน)์  C๔ Collaboration, teamwork & leadership (ทกั ษะดา้ นความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทีมและภาวะ ผ้นู ำ)  C๕ Communications, information & media literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันส่ือ)  C๖ Computing & ICT literacy (ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร)  C๗ Career & learning skill (ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้) ๑๑.การช่วยเหลือนักเรียนระหวา่ งการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................ ....................... ๑๒.การเสริมแรงนกั เรียนในขณะการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................. ....................................................................... .......... ๑๓. ความคิดเห็น (ผู้บริหาร/หรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย) ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนของ นางสาวปรวีร์ จนิ ดาแกว้ แล้วมีความเห็นดงั น้ี ๑๓.๑ เป็นแผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี  ดีมาก  ดี

 พอใช้  ตอ้ งปรบั ปรงุ ๑๓.๒ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้  ที่เนน้ ผ้เู รียนเป็นสำคัญ ใชก้ ระบวนการสอนได้เหมาะสม  ท่ียงั ไม่เน้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๑๓.๓ เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี  นำไปใช้สอนได้  ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ๑๓.๔ ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ ………………………………………………………………………………...………………………………………………………………………… ..…….……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ..................................................... ลงชอ่ื ..................................................... (นายวรากร บัวก่งิ ) (นายสุบนิ ทร์ สุขศรีเพ็ง) ครูชำนาญการพเิ ศษ หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย วันที.่ ................................................ ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวชิ าการ วันท่.ี .................................................... ลงช่อื …………...........…………………………. (นางสาวอมราพร เชาวนาพันธ)์ุ ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นวังวิเศษ วนั ท.ี่ .............................................

๑๔. บันทึกผลหลังแผนการจัดการเรยี นรู้ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ ดา้ นความรู้ (K) ตารางที่ ๑ แสดงค่ารอ้ ยละระดับผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน เร่ือง ความเป็นมาและประวัตผิ ู้แตง่ ระดับผลสัมฤทธ์ิ จำนวนนกั เรียน ร้อยละ ดมี าก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ด(ี ๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรับปรงุ (๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางท่ี ๑ พบว่านกั เรยี นมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ.....................อยใู่ นระดับ................... และรองลงมาร้อยละ..................อยูใ่ นระดับ.................................................................................................... และพบวา่ นักเรยี น........................................................................................................................................... ๑.๒ ดา้ นดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) ตารางที่ ๒ แสดงคา่ รอ้ ยละระดบั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น เรื่อง ความเป็นมาและประวตั ผิ ู้แต่ง ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น รอ้ ยละ ดมี าก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ด(ี ๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรับปรงุ (๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางที่ ๑ พบวา่ นกั เรียนมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นร้อยละ.....................อยใู่ นระดับ................... และรองลงมารอ้ ยละ..................อยูใ่ นระดบั .................................................................................................... และพบว่านักเรยี น........................................................................................................................................... ๑.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ตารางท่ี ๓ แสดงคา่ ร้อยละคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เรอ่ื ง ความเป็นมาและประวตั ผิ แู้ ต่ง ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนกั เรียน รอ้ ยละ ดีมาก (๘๐-๑๐๐คะแนน) ดี(๗๐-๗๙คะแนน) พอใช้(๖๐-๖๙คะแนน) ปรบั ปรุง(๕๐-๕๙คะแนน) จากตารางที่ ๑ พบว่านกั เรยี นมคี ุณลักษณะอันพึงประสงคร์ ้อยละ.....................อยู่ในระดับ................... และรองลงมาร้อยละ..................อย่ใู นระดับ.................................................................................................... และพบว่านักเรยี น...........................................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook