อย่างเหมาะสม มุ่งไปท่ีประเด็นสำคญั ในการทำธุรกิจ และเตรียมความพร้อมสำหรับการรบั มอื กับปัญหาและ ตอบรับโอกาสทอ่ี าจเกิดข้นึ ในอนาคต พรทิพย์ บุญทรง (2556) ให้ความหมายของแผนธรุ กิจ หมายถงึ คมู่ ือในการดำเนินธุรกิจโดยนำเสนอ การวิเคราะหร์ ายละเอียดธุรกิจในตวั แปรท่ีสำคญั ๆ คือ สินค้าหรือบรกิ ารท่ีขาย กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จุดอ่อน จดุ แข็ง โอกาสและอุปสรรคตา่ ง ๆ ของธุรกิจเพอื่ ใชใ้ นการตรวจสอบและวางแผนธุรกจิ กลั ยารตั น์ ธีระธนชัยกลุ (2563, หนา้ 225) กลา่ ววา่ แผนธรุ กจิ เป็นเอกสารทจี่ ัดทำขึ้นเป็นลายลักษณ์ อักษร เพื่อใช้อธิบายตัวแบบพื้นฐานทางธุรกิจของผู้ประกบการที่กำหนดขึ้น (Basic Business Model) เพ่ือ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ความคิดเชงิ ธุรกจิ ท่ีคน้ คิดข้นึ มาสามารถเปล่ยี นทำใหเ้ กิดผลกำไรไดอ้ ยา่ งไร และบรษิ ทั มวี ิธีการ อย่างไรเพ่ือให้เกิดผลตามที่มงุ่ หวังนั้น ดังนัน้ กล่าวได้ว่าความหมายของ แผนธรุ กจิ (Business Plan) หมายถงึ เอกสารท่ีใชส้ ำหรับเป็นคู่มือ ในการดำเนินธุรกิจ ที่มีการวิเคราะห์รายละเอียดภาพรวมของธุรกิจ คือ สินค้าหรือบริการที่ขาย กลุ่มลูกค้า เป้าหมาย จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และอุปสรรคต่าง ๆ ของธุรกิจ เพื่อใช้ในการกำหนดทิศทาง ขั้นตอนการ ดำเนินธุรกิจ อย่างมีแบบแผนและมีประสิทธภิ าพ สามารถบรรลุจุดหมายที่ตั้งไว้ ตลอดจนสามารถนำมาเปน็ ขอ้ มูลเสนอแก่หุ้นสว่ นหรอื สถาบนั การเงินตา่ ง ๆ เพ่อื ประโยชน์ในการพิจารณาร่วมทนุ หรอื การพจิ ารณาเงนิ กู้ ความสำคัญ และประโยชน์ของแผนธรุ กจิ ความสำคัญของแผนธุรกิจ สามารถสรุปไดด้ ังน้ี 1. เพื่อเตรียมความพร้อมในการเริ่มต้นธุรกิจ การเขียนแผนธุรกิจทำให้ผู้ประกอบการได้พิจารณา รายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุน ประมาณการายได้จากการทำธุรกิจ การคาดการณ์ต้นทุนและค่าใช้จ่ายของ ธรุ กจิ การวิเคราะห์ รวมทั้งการคาดการณ์อยา่ งถกู ตอ้ งและแมน่ ยำ การทบทวนเพือ่ ดวู ่าธุรกิจมผี ลกำไรจากการ ดำเนินงานหรือไม่ 2. เพือ่ การบรหิ ารจัดการ/ใช้เป็นแผนท่ี เปน็ การจัดวางระบบหรอื วางโครงสรา้ งในการดำเนนงิ าน แผน ท่วี างไว้อย่างถูกต้อง ละเอียด รดั กุม และแมน่ ยำ จะเปน็ เสมอื นแผนที่ให้ทกุ คนในองค์การทำงานร่วมกันอย่าง มเี ปา้ หมาย และมที ิศทางในการทำงาน 3. เพื่อระดมทนุ /ขอ้ ตกลง การจัดทำแผนการตลาดทำให้ผู้ประกอบการเขา้ ถงึ การขอสนิ เชอ่ื ได้ง่าย ซ่ึง แผนธุรกิจสามารถใช้เป็นข้อตกลงระหว่างคู่สัญญาหรอื ผูท้ ี่เกีย่ วข้องทั้งภายในและภายนอกองค์การ แสดงถึง ประสทิ ธภิ าพในการบรหิ ารจัดการขององคก์ าร เนือ่ งจากผู้ให้ทุน/ผูถ้ ือหนุ้ หรอื ผู้ที่เกีย่ วข้องสามารถคาดการณ์ ผลลพั ธท์ ีจ่ ะเกดิ ในอนาคตได้ 4. เพื่อการแข่งขัน การเขียนแผนการตลาดต้องมีการวิเคราะห์ SWOT ผู้ประกอบการสามารถนำ ข้อมลู ท่ีได้มาพฒั นาปรบั ปรงุ ธรุ กิจเพือ่ การแข่งขันได้ 5. เพื่อใช้เป็นเครื่องมือ แผนธุรกิจช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถคิดวางแผน ตรวจสอบ และศึกษา รายละเอียดผา่ นหัวข้อต่าง ๆ ในการเขยี นแผน โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในด้านความเส่ียง ซึ่งมาจากสภาพแวดล้อม ทางการแขง่ ขนั ที่สงู ขน้ึ จากสภาพแวดล้อมภายนอกท่ีมกี ารเปลยี่ นแปลง การคาดการผลกระทบตา่ ง ๆ จะช่วย ให้ธรุ กจิ สามารถดำเนนิ การผา่ นพน้ ปัญหา และประสบความสำเรจ็ 88
สำหรับประโยชน์ในการจัดทำแผนธรุ กจิ น้ัน มีนกั วชิ าการทไ่ี ดก้ ลา่ วถงึ ยกตวั อย่างเชน่ กอสวาม,ิ ไคเซอร์ (Goswami, Kishor, 2017) กลา่ ววา่ แผนธุรกิจมปี ระโยชน์ต่อผู้ประกอบการหลาย ประการ ดงั นี้ 1) แผนธุรกิจเปน็ การเขยี นสิง่ ท่ีอยใู่ นสมอง (ความคิด) แสดงออกมาเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร ชว่ ยให้ ผู้ประกอบการสามารถติดตาม ตรวจสอบ และควบคุมการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้เกิด ผลลัพธ์ตามเป้าหมาย 2) แผนธุรกิจเป็นบันทึกของธุรกิจ (Business Diary) ที่จะใช้เป็นเครื่องช่วยจำให้กับ ผู้ประกอบการในการดำเนินงานแต่ละขั้นตอน ทำให้มองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง การเติบโต ปัญหาอุปสรรค ต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน รวมถึงแนวทางพัฒนาต่อไปในอนาคต 3) แผนธุรกิจเป็นเครื่องมือที่ ผู้ประกอบการสามารถเสนอให้ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบ ปรับปรุง และเสนอความคิดเห็น เพื่อลดปัญหาและ อุปสรรคตา่ ง ๆ ทีอ่ าจเกดิ ข้นึ ในการปฏิบตั ิจรงิ 4) แผนธุรกิจเปน็ เครอ่ื งมือที่ผู้ประกอบการนำเสนอ เพ่ือขอรับ การสนับสนุนทางการเงนิ จากธนาคารหรือสถาบนั การเงนิ เพื่อขอกูเ้ งินมาลงทนุ ในธรุ กิจ และ 5) กระบวนการ วางแผนธุรกิจทุกขั้นตอนจะเป็นตัวบีบบังคับ ให้ผู้ประกอบการจำเป็นตอ้ งวิเคราะห์ลกั ษณะต่าง ๆ ของธุรกิจ ทั้งหมด และวางแผนกลยทุ ธ์อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ เพือ่ เผชิญกับส่งิ ท่ีไม่แนน่ อนทจ่ี ะเกิดขนึ้ สำหรับ วีรวธุ มาฆะศิรานนท์ (2555, หนา้ 17-19) กลา่ ววา่ ประโยชน์ของแผนธรุ กิจมีอยู่หลากหลาย ประการ คือ 1) รายละเอยี ดและขั้นตอนตา่ ง ๆ ขงการทำแผนธรุ กิจ สามารถช่วยในการตดั สินใจให้กบั ผู้บริหาร เน่ืองจากแผนธรุ กจิ ถอื เปน็ แนวทาง และกลยทุ ธ์ในการดำเนนิ ธุรกิจ ตลอดจนมวี ธิ กี ารในการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง 2) แผนธุรกิจช่วยให้องค์การสามารถพัฒนาไปข้างหน้าในการเผชิญกับการแข่งขันและความเปลี่ยนแปลงใน ดา้ นตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล 3) การจัดทำแผนธรุ กิจเป็นการทบทวนและประมาณการ ทางการเงินทั้งด้านรายรับและรายจ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนเงินทุน รวมถึงสภาพคล่งทาง การเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่เหมาะสม เป็นภาพสะท้อนไปสู่ความจำเป็นในการหาแหล่งเงิน หรือการ พัฒนาเครื่องมือทางการเงินประเภทต่าง ๆ 4) เป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกในองค์การได้มีส่วนร่วมในการ วิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ รวมถึงร่วมกันรับผิดชอบต่อความเจริญก้าวหน้าขององค์การอันเปน็ ที่มาของความเชื่อมั่นต่อสถาบันการเงินและผู้ร่วมทุนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และ 5) เป็นการพัฒนาศักยภาพ ของ “ผ้นู ำ” องค์การทุกระดับในการคดิ ไปข้างหนา้ (Forward Thinking) ทจี่ ะนำไปสูเ่ ปา้ หมาย กัลยารัตน์ ธีระธนชัยกุล (2563, หน้า 242) กล่าวว่าแผนธุรกิจมีประโยชน์หลายประการ ดังน้ี 1) ลดความเสี่ยงในธรุ กิจ เนอื่ งจากในการจดั ทำแผนธรุ กิจ ผู้ประกอบการต้องวเิ คราะห์ธรุ กิจของตนเอง ทั้งจุด แข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค ทำให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นข้อบกพร่องในธุรกิจของตนเองเพื่อ หาทางแก้ไข ป้องกันปัญหาหรือข้อบกพร่องทอ่ี าจเกดิ ข้นึ ได้ 2) เพมิ่ โอกาสความสำเร็จ การวิเคราะห์ภาพรวม ของกิจการ แนวโน้มของตลาด ถือว่าเป็นการชี้เป้าหมายให้ผู้ประกอบการเห็นว่าธุรกิจตนเองมีข้อได้เปรียบ ตรงไหน จึงสามารถกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ของธุรกิจเพือ่ ช่วงชิงโอกาสคว้าความสำเร็จได้อย่างทันท่วงที 3) เป็นแนวทางปฏิบตั ิ ในแผนธรุ กจิ จะประกอบไปด้วยแนวทางปฏิบัตงิ านทุกข้ันตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่การ เร่ิมลงทนุ และการดำเนนิ งานตลอดจนแผนขยายกิจการ ลำดบั ในการลงมอื ปฏบิ ัติว่าเรอื่ งใดต้องทำก่อนทำหลัง เรยี กว่าเปน็ คู่มอื หรือแผนท่ีในการทำงาน 4) ใชค้ วบคมุ และประเมินผล แผนการทำงานที่ดีจะต้องมีการวัดผล งาน ดังนั้นนอกจากการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน ผู้ประกอบการจะต้องกำหนดวิธีการควบคุมและ การประเมินผลงาน เพื่อใช้วัดประสิทธิภาพการดำเนินงาน และ 5) ช่วยระดมทุน เนื่องจากปัญหาของ 89
ผู้ประกอบการอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ดังนั้นการเตรียมตัวและเตรียมเอกสารให้พร้อม ก่อนเข้าไปขอสินเชื่อจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องมีความเข้าใจ ซึ่งแผนธรุ กจิ เป็นเอกสารทีช่ ่วยเพ่ิมความ น่าเช่ือถือให้ธรุ กจิ ได้ ดงั นนั้ ประโยชน์ในการจัดทำแผนธรุ กิจจะเกดิ ขึน้ กับกลุ่มผู้ที่นำไปใช้หลกั ๆ 3 กลมุ่ คอื กลุ่มท่ี 1 ผนู้ ำ และผู้บริหารในองค์การ เนอ่ื งจากกลมุ่ คนเหลา่ น้ีถือเปน็ “แม่ทพั ” ท่ีนำแผนธุรกิจไป ปฏิบัติจริงและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจ ใช้การคาดการณ์ล่วงหน้าหรือการเตรียมรับมือ ล่วงหน้า สามารถแก้ปัญหา หาทางป้องกันปัญหาได้ทันเวลา และสามารถเปลี่ยนสภาพแวดล้อมภายใน องค์การเพื่อการแขง่ ขันได้ทนั ท่วงที ตลอดจนเป็นเครือ่ งมือในการเพิม่ ทนุ หรือระดมทนุ หากตอ้ งการลงทุนเพ่ิม หรือต้องการพัฒนาธรุ กิจ กลุ่มที่ 2 ผู้ถือหุ้น บุคคลกลุ่มนี้จะต้องการข้อมูลในการตัดสินใจร่วมกันดำเนินธุรกิจ ว่าต้องทำเงิน ลงทุนของเขาไปทำอะไร และได้ประโยชน์อยา่ งไร ซงึ่ ประเด็นทีบ่ ุคคลกลุม่ นี้สนใจคือข้อมูลของการคืนทุนและ ผลกำไร หรอื เรื่องของจดุ คมุ้ ทนุ กลุ่มท่ี 3 ธนาคารหรือสถาบนั การเงิน เน่อื งจากการจัดทำแผนธุรกจิ มเี ป้าหมายสำคัญคือการเพ่ิมทุน ใหก้ บั ธรุ กจิ ซงึ่ ชอ่ งทางในการเพ่มิ ทุนแมจ้ ะมีหลายช่องทางแต่ทีน่ ยิ มคือการขยน่ื กู้เงนิ จากธนาคารหรือสถาบัน การเงนิ ดังนน้ั บคุ คลกลุ่มน้จี ำเป็นที่จะต้องมีขอ้ มูลเพ่ือใช้ในการพิจารณาปล่อยสนิ เชื่อให้แก่ผูป้ ระกอบการ ซ่ึง จะเนน้ ไปที่ประเด็นทางด้านการเงนิ เป็นหลกั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ข้อมูลเกย่ี วกับ “กระแสเงนิ สด” ว่าธรุ กจิ จะมี ลกั ษณะของแผนธรุ กจิ ทีด่ ี แนวทางการเขียนแผนธุรกิจท่ีเหมาะสม ผู้ริเริ่มกิจการหรือผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องพิจารณาว่า ธุรกิจทีค่ ิดจะทำมีความเปน็ ไปได้มากน้อยเพียงใด และถ้ามีโอกาสในการทำธุรกิจจะมีแผนงานอย่างไร ดังน้ัน ก่อนจะเรม่ิ ตน้ เขียนแผนธรุ กจิ ผู้ประกอบการควรลองตั้งคำถามง่าย ๆ 5W2H คือ 1. What: สิ่งที่เราจะทำคืออะไร เป้าหมายการดำเนินธุรกิจ คืออะไร เรามีความถนัดอะไร เราอยู่ในธุรกิจอะไร และเราจะขายสินคา้ หรอื ให้บริการอะไร 2. Why: ทำไมเราจึงทำสงิ่ นั้น 3. Where: สถานที่ ทเี่ ราจะทำ 4. When: ระยะเวลาท่ีเราจะทำ แล้วเราจะทำเม่ือไร 5. Who: ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบหรอื ใครเกี่ยวข้อง ใครเป็นผู้ซื้อหรือเป็นลูกค้าของเรา และ ใครเป็นคู่แข่งของเรา 6.How: เราจะทำใหบ้ รรลุผลไดอ้ ยา่ งไร หรอื ทำอยา่ งไรให้สินค้าของเราจำหนา่ ยไดต้ ามเปา้ 7. How much งบประมาณ คา่ ใช้จา่ ยเมือ่ เราจะทำ เราต้องการเงินลงทนุ จำนวนเท่าไหร่ ดังนน้ั อาจกล่าวไดว้ า่ ลกั ษณะของแผนธรุ กิจทีด่ ีดีควรมีลักษณะดงั ต่อไปน้ี 1. ขอ้ มูลครบถ้วน/เปน็ จรงิ /ปจั จุบนั ครอบคลุมเนื้อหาท่ีสำคญั 2. กระชบั อ่านงา่ ยต่อการเขา้ ใจง่าย กับทุกคนในองค์การ 3. มีการวางแผนกลยทุ ธ์ในทกุ ระดบั ชั้น 4. ปฏิบตั ิตามไดจ้ ริง แผนงานแต่ละด้านสอดประสานงานและทำได้ 90
องคป์ ระกอบของแผนธรุ กจิ ในการจัดทำแผนธุรกิจควรมีองค์ประกอบของแผนธุรกิจ (Elements of a Business Plan) ที่เป็น แบบมาตรฐานทัว่ ไป ประกอบดว้ ย 10 องค์ประกอบ ดงั น้ี (สุธี พนาวร และนุกลู เรืองอทุ ยั , 2550, หนา้ 146- 205; กัลยารตั น์ ธีระธนชยั กุล, 2563, หนา้ 231-239) 1. บทสรุปสำหรับผ้บู ริหาร (Executive Summary) บทสรุปผ้บู ริหารเป็นสว่ นหนง่ึ ท่ีสรปุ ภาพรวมของแผนธุรกิจเน้นหนักเรื่องลักษณะและแนวคิดของ ธุรกิจ อาทิ โอกาสและกลยุทธ์หลักที่นำมาใช้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ความได้เปรียบในการแข่งขนั ความคุ้มค่า เชิงเศรษฐกิจหรือการทำกำไร และทีมผู้บริการ การเสนอผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุน ท้ังนี้ เนื้อหาในบทสรุป ผบู้ ริหารควรประกอบดว้ ย ลกั ษณะธุรกจิ แนวคดิ สินคา้ และบรกิ าร ขนาดของตลาด แนวโน้มและโอกาสทาง ธรุ กจิ เปา้ หมายกลยุทธ์ ผลตอบแทนและความเสี่ยง เป็นตน้ 2. ขอ้ มูลเก่ียวกบั ธุรกิจ หรือประวตั ิย่อของกิจการ ให้ขอ้ มลู เก่ียวกับธุรกิจหรือประวัติของกิจการ เช่น ภาพรวมของกจิ การ ภมู ิหลังของอุตสาหกรรม สถานที่ดำเนินกิจการ วิสัยทัศน์ พันธกิจ/เป้าหมาย ศักยภาพของธุรกิจ ความเป็นเอกลักษณ์ของสินค้า (ผลติ ภณั ฑ์) หรอื บริการ และจุดเด่นของกจิ การ 3. การวิเคราะห์สถานการณ์ เนื้อหาในส่วนนี้จะเป็นข้อมูลท่ีจำเป็นในการกำหนดทิศทาง กลยุทธ์ และแผนการดำเนินงานของ กิจการ ซึ่งอาจจะประกอบไปด้วย การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก และความเปลี่ยนแปลง การวิเคราะห์สภาพ การแข่งขัน การวิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม การวิเคราะหธ์ ุรกิจ การวเิ คราะหจ์ ดุ แขง็ จดุ อ่อน โอกาส และภัย คกุ คาม (SWOT Analysis) เปน็ ตน้ 4. วัตถุประสงคแ์ ละเปา้ หมายทางธรุ กิจ ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่กิจการต้องได้รับในช่วงระยะเวลาของแผน การวางแผน เป้าหมายทางธุรกิจท่ี น่าเชอ่ื ถอื เป็นไปได้ที่สามารถวัดผลไดอ้ ย่างเปน็ รูปธรรม และเป็นไปในทิศทางเดียวกนั ซ่ึงเน้ือหาในส่วนน้ีอาจ ประกอบไปด้วย โอกาสทางธรุ กิจ ปจั จัยสู่ความสำเร็จ วัตถุประสงค์และเปา้ หมายทางธุรกจิ กลยุทธห์ ลัก หรือ กลยุทธร์ ะดับธรุ กจิ เปน็ ต้น 5. แผนการตลาด อาศัยการวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจ ได้แก่ ยอดขาย ปริมาณขาย ส่วนแบ่งตลาด การเจริญเติบโตของตลาด ฐานลูกค้า ระดับความพึงพอใจของลูกค้า อัตราการ กลับมาซ้อื ซำ้ ซง่ึ เน้อื หาในส่วนน้ีอาจประกอบไปด้วย เปา้ หมายทางการตลาด การแบง่ กลุ่มลูกค้าและกำหนด ลูกค้าเป้าหมาย การวางตำแหน่งสินค้า กลยุทธ์สินค้า กลยุทธ์ราคา กลยุทธ์การจัดจำหน่าย และกลยุทธ์การ สง่ เสริมการขาย เป็นต้น 6. แผนการผลิตหรือแผนการปฏิบัติการ การเขยี นแผนการผลิตทดี่ ีควรแสดงถึงความสามารถในการจัดการกระบวนการผลติ และการปฏิบัติ ที่มปี ระสิทธภิ าพ เนน้ การใช้ทรพั ยากรท่มี ีอย่างคมุ้ คา่ และเกิดประโยชน์สงู สุด นอกจากนีแ้ ผนการผลิตยังแสดง ให้เห็นถึงการวางแผนกำลังคน ต้นทุนค่าจ้างแรงงาน ซึ่งเนือ้ หาในส่วนนี้อาจจำแนกไดต้ ามลักษณะของธุรกิจ ยกตวั อยา่ งเช่น • ธรุ กิจซื้อมาขายไป ควรมีขอ้ มูลในแผนธุรกิจ ไดแ้ ก่ การหาแหลง่ สินค้า การวางระบบการ ขนสง่ การวางระบบการจัดซ้อื การวางระบบสินค้าคงคลงั 91
• ธรุ กิจบริการ ควรมขี อ้ มลู ในแผนธรุ กิจ ไดแ้ ก่ สถานทแี่ ละทำเลท่ีตั้ง กระบวนการให้บรกิ าร พนกั งานผู้ใหบ้ รกิ าร ความสามารถสูงสดุ ทใี่ หบ้ ริการได้ คุณภาพงานบรกิ าร • ธุรกิจการผลิต ควรมีข้อมูลในแผนธุรกิจ ได้แก่ การจัดซื้อและระบบสินค้าคงคลัง ทำเล ทต่ี ้ังและการวางผังโรงงาน กระบวนการผลิต เทคโนโลยีท่ใี ช้ การวางแผนการผลติ ระบบ การควบคุมคุณภาพ การบำรงุ รักษาระบบการผลิต การเพ่มิ ประสิทธภิ าพการผลิต 7. แผนการจดั การคน เป็นการเขียนผงั โครงสร้างองคก์ าร ซง่ึ ตอ้ งระบตุ ำแหน่งหน้าทข่ี องการทำงานให้ชดั เจน เพราะมีผล ต่อการกำหนดค่าจา้ งแรงงาน ซึ่งเน้ือหาในส่วนน้ีอาจประกอบไปด้วย โครงสร้างองคก์ าร ทีมงานบริหาร แผน กำลงั คน และระบบบรหิ าร เป็นตน้ 8. แผนการเงนิ ซงึ่ เนื้อหาในส่วนน้ีอาจประกอบด้วย ตน้ ทุนโครงการ แหลง่ เงนิ ทุน ประมาณการจุดคมุ้ ทนุ งบกำไร ขาดทนุ งบดุล งบกระแสเงนิ สด การจ่ายคนื เงินกแู้ ละผลตอบแทนให้แกผ่ ู้ลงทุน รวมถึงการวเิ คราะห์อตั ราส่วน ทางการเงนิ ซึ่งแผนการเงินมสี ่วนในการหาแหล่งทนุ เพม่ิ 9. แผนการดำเนินงาน แสดงถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในแต่ละด้านของการประกอบธุรกิจ ควรแสดงให้เห็นเป้าหมาย กลยุทธ์ วิธีการ งบประมาณ และระยะเวลาที่ชัดเจน เช่น การระบุกิจกรรมต่าง ๆ การประเมินผลกิจกรรม ผู้รับผดิ ชอบกจิ กรรมต่าง ๆ ซง่ึ ควรแสดงให้เห็นอยา่ งชัดเจน 10. ความเสย่ี งและแผนฉกุ เฉิน เพ่อื เอาไว้รบั มือกบั สถานการณ์ทีไ่ มไ่ ด้คดิ ไว้ลว่ งหนา้ หรอื เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เป็นการเตรียมความ พร้อมและแสดงให้ผู้ลงทุนเห็นความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลง ซ่ึง เนอ้ื หาในสว่ นนอี้ าจประกอบไปดว้ ย ความเลี่ยง การกระจายความเสีย่ ง และแผนฉกุ เฉนิ เป็นตน้ ทั้งนี้การจัดทำแผนธุรกิจอาจมีเนื้อหาเพิม่ เติมนอกเหนือจาก 10 องค์ประกอบ คือ ข้อเสนอและ และภาคผนวก เพอ่ื ให้แผนธรุ กิจมีความสมบรู ณม์ ากยิ่งขึ้น 92
สรปุ แผนธุรกิจถือเป็นเครื่องมือในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้สนใจจะประกอบธุรกิจหรือต้องการ ทบทวนการดำเนินธุรกจิ ของตนเองท่ีผ่านมาวา่ ควรมีข้อปรับปรุงอย่างไร การเขียนแผนธุรกจิ ที่ดตี ้องสามารถ เพิ่มมูลค่า และดึงดูดแหล่งเงินทุนให้กับธุรกิจได้ เนื่องจากแผนธุรกิจถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของ กิจการ และเปรยี บเหมอื นอาวุธลับท่ีให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดไดใ้ นทุก ๆ สถานการณ์ แผนธุรกิจมีเน้ือหาที่เต็ม ไปด้วยข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ จึงจำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันระหว่างบุคลากร ภายในองค์การเปน็ สำคญั เน่ืองจากเป็นกลุ่มบุคคลทม่ี คี วามเข้าใจการดำเนนิ ธรุ กิจมากทีส่ ดุ 93
เอกสารอ้างองิ กลั ยารตั น์ ธีระธนชัยกลุ . (2563). การเปน็ ผปู้ ระกอบการและการสรา้ งธรุ กิจ. กรงุ เทพฯ : ซเี อด็ ยเู คชน่ั . กรมพัฒนาธรุ กิจการคา้ . (2553). คู่มอื เร่ิมตน้ ธรุ กจิ อย่างมีทิศทาง. นนทบุรี : กรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ ชยั เสฏฐ์ พรหมศร.ี (2553). วิธีเขยี นแผนธรุ กิจ. กรงุ เทพฯ : เอก็ ซเปอรเ์ น็ท จำกัด. พรทิพย์ บุญทรง (2556). การเป็นผปู้ ระกอบการเพ่ือสรา้ งธรุ กจิ ใหม่. กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าช มงคลรตั นโกสนิ ทร์. รัชกฤช คลอ่ งพยาบาล. (2553). คมู่ ือการเขียนแผนธรุ กิจ - ธรุ กจิ บริการ. กรุงเทพฯ : บรษิ ทั เวอร์โก อารต์ กลิ ด์ จำกดั วภิ าวรรณ กลนิ่ หอม. (2551). สู่ความสำเรจ็ ในการเขียนแผนธุรกิจ SMEs. กรงุ เทพฯ : กรมพัฒนาธรุ กิจการคา้ . [ออนไลน]์ จาก http://www.sofinfinity.net/business.asp วรี วุธ มาฆะศริ านนท.์ (2555). วิธจี ัดทำแผนธุรกิจ Business Plan. กรงุ เทพฯ : แอคทฟี พรนิ ท์. สุธี พนาวร และนกุ ลู เรอื งอุทัย. (2550). Business Plan for Beginners แผนธรุ กิจสำหรับมอื ใหม่หดั เขยี น. กรุงเทพฯ : พี ซี พรน้ิ ทเ์ ทค. Schwetje, G. and Vaseghi, S. (2007). The Business Plan. [ออนไลน์] จาก http://www.untag- smd.ac.id/files/Perpustakaan_Digital_1/BUSINESS%20PLAN%20The%20Business%20P lan.pdf คำถามทบทวน 1. แผนธุรกจิ (Business Plan) คอื อะไร จงอธิบาย 2. การเขียนแผนธรุ กิจมีความสำคญั อย่างไร จงอธบิ าย พรอ้ มยกตัวอย่าง 3. จงอธบิ ายส่วนประกอบต่าง ๆ ในการเขียนแผนธุรกจิ 4. เมอื่ ธรุ กจิ ต้องการจดั ทำแผนธุรกิจ ธรุ กจิ ควรมกี ารนำเสนอแผนธุรกิจอย่างไรให้นา่ สนใจ จงอธิบาย และยกตัวอยา่ ง 94
แผนการสอนประจำบทที่ 7 หัวขอ้ เนอ้ื หาประจำบท 1. ความหมายของโมเดลธรุ กิจ และผืนผ้าใบโมเดลธรุ กิจ Business Model Canvas 2. ความสำคัญ และประโยชนข์ องผืนผา้ ใบโมเดลธรุ กจิ Business Model Canvas 3. องค์ประกอบของผนื ผ้าใบโมเดลธุรกจิ Business Model Canvas วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม เม่อื เรียนจบบทนี้ นกั ศึกษาสามารถทำส่ิงต่อไปน้ี 1. สามารถอธบิ ายความหมายของโมเดลธรุ กจิ และผนื ผ้าใบโมเดลธรุ กจิ Business Model Canvas 2. สามารถอธบิ ายความสำคญั และประโยชน์ของผืนผา้ ใบโมเดลธรุ กจิ Business Model Canvas 3. สามารถอธบิ ายองคป์ ระกอบของผนื ผ้าใบโมเดลธรุ กิจ Business Model Canvas วิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนประจำบท 1. ฟังการบรรยาย สรุปสาระสำคัญโดยอาจารย์ผู้สอน 2. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ตามเนอ้ื หา กรณีศึกษา 3. ศึกษาค้นคว้าขอ้ มลู เพิ่มเตมิ จากตำรา วารสาร หนังสือพิมพ์ และ Internet เปน็ ต้น 4. อภปิ รายงานกลุ่ม และนำเสนอรายงานหน้าช้ัน สอื่ การเรียนการสอน 1. เอกสารการสอนวิชาธรุ กิจเพอื่ สังคม บทความ หนงั สือท่ีเกย่ี วขอ้ ง 2. Power point (ทง้ั ภาพน่ิง และ Animation) 3. ใบงาน กรณีศึกษา การวัดผลและการประเมนิ ผล 1. สังเกตความสนใจของนกั ศกึ ษา และการมีส่วนร่วมในกิจกรรม 2. การประเมนิ จากการท่ีนักศกึ ษาแสดงความคดิ เหน็ 3. การประเมนิ จากการตอบคำถามทบทวน 4. การประเมนิ จากผลงานของนักศึกษา 95
96
บทที่ 7 การประยกุ ตใ์ ชผ้ ืนผ้าใบโมเดลธรุ กิจ Business Model Canvas ในการประกอบการธุรกิจปัจจุบันผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายที่นำมาเป็น ข้อมูลเพื่อสร้างความได้เปรียบใหก้ บั ธุรกิจของตน ซึ่งเครื่องมอื หนึ่งท่ีใช้ในการประกอบธุรกิจคอื การมรี ูปแบบ การสรา้ งรายได้ของธุรกจิ เพ่อื ตอบคำถาม 2 ขอ้ คอื “เราหารายได้อย่างไร” และผู้ซ้อื เขา “ได้อะไรไปจากเรา” แผนธุรกิจ (Business Plan) ที่เป็นเอกสารที่ใช้สำหรับเป็นคู่มือในการดำเนินธุรกิจ ที่มีการวิเคราะห์ รายละเอียดภาพรวมของธุรกิจ ซึ่งในการจะหาข้อมูลเพื่อทำออกมาเป็นแผนธุรกิจต้องใช้เวลาเป็นเดือนหรือ มากกว่า อย่างไรก็ตามก่อนทีผ่ ู้ประกอบการจะเขยี นแผนธุรกิจออกมาได้นัน้ สิ่งแรกที่ควรต้องทำความเข้าใจ คือ ความเข้าใจเกี่ยวกบั แบบจำลองทางธรุ กิจ (Business Model) เสยี ก่อน ความหมายของโมเดลธรุ กจิ และผนื ผ้าใบโมเดลธุรกจิ Business Model Canvas แบบจำลองทางธุรกิจ (Business Model) หรืออาจเรียกทับศัพท์ว่า “โมเดลธุรกิจ” คือ การระบุ โครงสร้างแผนงานว่าจะทำอย่างไรธุรกจิ จึงจะมียอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น และสิ่งที่ทำให้โมเดลทางธุรกิจเปน็ รูปธรรมขน้ึ มาได้ เกดิ มาจากคำถามเหล่านี้ ดังน้ี (1) ทำเพือ่ ใคร ? (ใครคือลูกค้า ?) (2) ส่งมอบอะไร ? (คุณค่าที่ ลูกค้าจะได้รับคืออะไร ?) (3) จะจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างไร เช่น บุคลากร วัสดุ อุปกรณ์ ค่าใช้จ่าย ช่องทางจำหน่าย และความรู้ต่าง ๆ เป็นต้น (4) จะทำอย่างไรใหเ้ กิดความแตกต่าง ? และ (5) จะสร้างรายได้ อย่างไร ? (ฮริ าโนะ อะทสชึ ิ คารล์ , 2560, หนา้ 6) นอกจากนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (2562) ได้อธิบายความหมายของ โมเดลธุรกิจ (Business Model) คอื แบบจำลองธุรกิจวา่ ธุรกจิ จะให้บริการหรือขายอะไร ขายใหใ้ คร ขายอย่างไร ขายทีไ่ หน ผลิตด้วย อะไร ใครมาชว่ ยผลิต และมีรายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ ่ายอยา่ งไร รวมถงึ มีกำไรจากการให้บรกิ ารและสนิ ค้าตวั ไหนบ้าง ดังนั้นอาจสรุปได้ว่า แบบจำลองธุรกิจ (Business Model) คือ การออกแบบรูปแบบการทำงานของ ธุรกิจ ว่าเราจะดำเนินงานกิจการของเราอย่างไร ให้ผลิตสินค้า หรือบริการลกู คา้ /กลุ่มเป้าหมายเราได้ พร้อม กับสรา้ งรายได/้ กำไร อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการต้องนำเสนอแบบจำลองธุรกิจหรือแผนธุรกิจแก่ผู้ถือหุ้น หรือผู้ท่ี เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจให้เกิดความเข้าใจนั้นอาจทำได้ยากลำบาก เรื่องจากแบบจำลองธุรกิจหรือแผน ธุรกิจมีรายละเอียดเป็นจำนวนมาก และยังต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการพอสมควร จึงมีนักวิชาการท่ี คดิ คน้ โดยการนำเอาแบบจำลองธรุ กจิ ไปใส่ไวใ้ นแผ่นเดยี วหรอื จะเปน็ กระดาษเปน็ ผา้ ใบหรือแผน่ โปสเตอร์ เพ่ือ ง่ายต่อการทำความเข้าใจธุรกิจที่เรียกกว่า Business Model Canvas ถูกคิดค้นขึ้นโดย ดร.อเล็กซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์ Alex Osterwalder มหาวิทยาลัยโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้เขียนหนังสือช่ือ Business Model Generation ไดร้ บั การแปลเป็นภาษาไทยโดยสำนกั พิมพ์ วเี ลิรน์ ในปี ค.ศ. 2014 โดยใช้ชื่อ ภาษาไทยว่า “คู่มือสร้างโมเดลธุรกิจ” Business Model Canvas เป็นเครื่องมือใหม่สำหรับผู้ประกอบการท่ี กำลังคิดเรมิ่ ต้น ธรุ กิจ หรือปรบั ปรงุ ธรุ กิจเดิมให้เติบโตมากย่ิงขึ้น ทำใหน้ ักธุรกจิ ทงั้ ท่ีทำกิจการมานานและเพ่ิง 97
เริ่มต้นได้เข้าใจภาพรวมของธุรกิจด้วยกระดาษเพียงแผ่นเดียว และนำภาพที่เข้าใจไปใช้ในการปรับกลยุทธ์ องค์กรให้เตบิ โตก้าวกระโดดและทำกำไรได้เพ่ิมข้นึ Business Model Canvas คอื การอธิบายองคป์ ระกอบของธรุ กิจซึ่งมี 9 ส่วน ในแบบท่ีเรียบง่ายบน หน้ากระดาษเพยี งแผน่ เดยี ว เพ่อื ใหท้ กุ คนในหน่วยทงั้ ภายในและภายนอกองคก์ ร สามารถส่อื สารถึงสง่ิ เดียวกัน ได้อย่างตรงประเด็น เข้าใจง่าย และนำไปใช้งานได้ทนั ที นอกจากจะทำใหก้ ารสื่อสารชัดเจนแล้ว จุดเด่นของ Business Model Canvas คือ ทำให้เจ้าของกิจการและผู้บริหารสามารถเห็นภาพรวมของบรษิ ัทเพือ่ จะปรับ จุดอ่อนหรือเสริมจุดแข็งรวมไปถึงการปรับกลยุทธ์ของบริษัทได้ง่ายและรวดเร็ว (ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม ภาคที่ 7, 2561). ความสำคญั และประโยชนข์ องผนื ผา้ ใบโมเดลธุรกิจ Business Model Canvas ความสำคญั ชองผืนผา้ ใบโมเดลธุรกิจมคี วามสำคัญตอ่ การประกอบธรุ กจิ เปน็ อยา่ งมาก ซงึ่ สามารถสรุป ได้ดงั นี้ 1. แบบจำลองธรุ กิจ Business Model Canvas ชว่ ยให้คณุ มองธุรกิจไดอ้ ย่างรอบดา้ น ช่วยวิเคราะห์ ปัจจยั ตา่ ง ๆ ท่มี คี วามสำคัญ และสง่ ผลตอ่ ธุรกิจของคุณ 2. การทำแบบจำลองธรุ กจิ Business Model Canvas ช่วยใหร้ ู้จุดเด่นและจุดดอ้ ยของธุรกิจ 3. การทำแบบจำลองธุรกิจ Business Model Canvas ช่วยสรา้ งความรับรู้ และความเข้าใจในธุรกิจ ใหก้ บั บคุ ลากรภายในองค์กรให้เป็นไปในทศิ ทางเดยี วกนั 4. แบบจำลองธุรกิจ Business Model Canvas ช่วยให้องค์กรรับรู้ปัญหา และแก้ไขปัญหาได้อย่าง รวดเรว็ 5. แบบจำลองธรุ กจิ Business Model Canvas ช่วยใหเ้ กิดการแลกเปลย่ี น แสดงความคดิ เหน็ และมี สว่ นรว่ มกบั บุคลากรภายในองคก์ ร ทำให้การแกป้ ญั หาเปน็ ไปไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพมากข้ึน องคป์ ระกอบของผนื ผา้ ใบโมเดลธุรกจิ Business Model Canvas อย่างทีท่ ราบกนั ดวี ่า แบบจำลองธรุ กิจ Business Model Canvas เปน็ เครือ่ งมอื ในการทำธุรกิจที่จะ ทำใหมองธุรกิจของตนเองได้อย่างทะลุปรโุ ปรง่ และทำใหบคุ ลากรในองคกรได้รับรูรปู แบบและปญหาของธุรกิจ ไปในทศิ ทางเดียวกนั ซึง่ แบบจำลองธุรกิจ Business Model Canvas จะเป็นเทมเพลตสี่เหล่ียมพื้นผาแบงหัว ข้อหลกั ออกเป็น 9 ชอง/หัวขอ้ คอื 1. Value Proposition (คณุ ค่าที่นำเสนอ) 2. Customer Segment (กลุ่มลูกค้า) 3. Channel (ชอ่ งทางเขา้ ถึง) 4. Customer relationships (สายสมั พนั ธล์ กู คา้ ) 5. Key Resource (ทรพั ยากรที่ม)ี 6. Key Activities (งานหลักท่ที ำ) 98
7. Key Partners (หุ้นสว่ นหลกั หรือภาคเี ครอื ขา่ ย) 8. Cost Structure (ตน้ ทุน) 9. Revenue Streams (รปู แบบรายได้) ภาพท่ี 24 ผืนผ้าใบโมเดลธรุ กิจ Business Model Canvas ท่มี า : อเลก็ ซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์ และ อีฟ พินเญอร์ (2557) ทั้งนี้ ผู้เขียนขออธิบายรูปแบบการเขียนแบบจำลองธุรกจิ Business Model Canvas ที่จําแนกตาม คำถาม 4 ข้อ ดังนี้ ส่วนที่หนึ่ง คือ WHAT ประกอบด้วย Value Propositions ส่วนที่สอง คือ HOW ประกอบด้วย Key Partner, Key Activity, Key Resource ส่วนที่สาม คือ WHO ประกอบด้วย Customer Segments, Customer Relationship, Channels สวนที่ส่ี คือ MONEY ประกอบด้วย Cost Structure, Revenue Structure ภาพที่ 25 Business Model Canvas ทจ่ี ำแนกตามกรอบการดำเนนิ ธรุ กิจ ที่มา : ณภัค ภคั คโิ รจน์ (2563, หน้า 4) 99
สว่ นทหี่ น่ึงกับคำถามแรกคือ ทำอะไร ? 1. Value Proposition (คุณคา่ ท่ีนำเสนอ) สนิ คา้ ของเราอาจเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการก็ได้ และอาจ ไม่ใช่ส่งิ ใหม่แต่ได้เพ่ิมไอเดียจนไม่ใช่สิ่งเดิม ๆ อีกต่อไป ในการเขียนอธิบายช่องนี้อาจเป็นการใส่คุณสมบัติท่ีพิเศษ หรือเป็นจุดแข็งลงไป เช่น คุณค่าด้านความใหม่สด ความมีประสิทธิภาพสูง การลดราคา การลดความเสี่ยง การ ออกแบบที่แตกต่าง ความสะดวกสบายในการใช้งานหรือความสามารถในการปรับแต่งสำหรับลูกค้าแต่ละคนที่มี ความตอ้ งการแตกต่างกนั ส่วนท่สี องกบั คำถามท่สี องคือ ทำให้ใคร ? 2. Customer Segment (กลุ่มลูกคา้ ) เราตอ้ งระบกุ ลุ่มเป้าหมายของลูกค้าเรา มลี กู คา้ แค่กลมุ่ เดียว หรอื มีความหลากหลายในดา้ นของเพศ อายุ การเรียน การทำงาน ท่อี ยอู่ าศัย ลักษณะการใช้ชีวิต 3. Channel (ช่องทางเข้าถึง) ในการนำส่งสินค้าจริง ๆ หมายรวมถึงทั้งการขายหน้าร้าน และการ ประชาสมั พันธข์ ่าวสารหรืออ่ืน ๆ มีส่วนในการส่งมอบคุณคา่ หรือการรบั รใู้ หก้ ับลกู คา้ กล่มุ เปา้ หมายดว้ ยช่องทางท่ี แตกต่างกนั ได้ ชอ่ งทางทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพจะกระจายคณุ คา่ ของธุรกิจไปยังลกู ค้าได้อยา่ งรวดเรว็ และใชต้ น้ ทนุ อย่าง มีประสิทธิภาพด้วย ส่วนธุรกิจออฟไลน์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ 2 ช่องทางหลัก คือ ของตัวเอง (หน้าร้าน), ช่อง พันธมติ ร (ผูจ้ ัดจำหน่ายรายใหญ่) ซึ่งควรคำนึงถงึ ศกั ยภาพความสามารถติดตอ่ สื่อสารกบั ลกู ค้าได้ในทุกระยะของ การขายสินคา้ ซง่ึ มีอยู่ 5 ระยะ • Awareness การสร้างความรับรู้ ใหล้ กู คา้ ได้ตระหนกั ถึงสนิ ค้าและบริการของเรา • Evaluation ลูกค้าประเมินค่าหรอื ประเมินผลสนิ ค้าและบริการของเราอย่างไร • Purchase ลูกค้าสามารถซอื้ สินคา้ และบริการไดจ้ ากทางใดบา้ ง เรารองรบั การซื้อแบบใด • Delivery เม่ือลูกค้าซื้อแล้ว เราสง่ สนิ คา้ และบรกิ ารของเราไปช่องทางไหน มีกแ่ี บบ • After-sales หลักจากการขายแลว้ เรามีการดูแลลกู คา้ อย่างไร คอยช่วยเหลอื ลูกคา้ หรอื ไม่ 4. Customer relationships (สายสัมพนั ธ์ลูกคา้ ) ควรระบุประเภทของความสัมพันธ์ทีต่ ้องการสรา้ งกบั กลุ่มลูกคา้ ให้ชัดเจนลงไปว่าเน้นหนักในเร่ือง ใดบ้าง ตัวอย่างของสายสมั พันธ์ลูกคา้ ที่มีต่าง ๆ กันในหลายธุรกิจ เช่น การให้ความช่วยเหลือส่วนบุคคลการ บริการตนเอง บริการอัตโนมัติ สร้างชุมชน (Community) เช่น Fanpage เพ่ือเป็นช่องทางในการสื่อสาร ข้อมลู และแก้ไขปัญหา คำตชิ มของลูกค้าไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว สว่ นท่สี ามกบั คำถามท่สี ามคือ ทำอยา่ งไร ? 5. Key Resource (ทรัพยากรที่มี) หมายถึง สิ่งที่เรามี (โดยปกติแล้วก็เป็นสิ่งของอุปกรณ์หรือ เคร่อื งมือและเงินทุนทม่ี ีอยู่ในมอื ) และส่งิ ท่ีเราเป็น (ทีมงานและแรงงานของเขา รวมถงึ ช่วั โมงทำงาน) ในการ เขียนอธิบายช่องน้ีสามารถใสอ่ ุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นรปู ธรรมตั้งแต่เคร่ืองจักรไปจนถึงนามธรรมอย่างหน่วยงาน หรือแผนที่มีอยู่ในบริษัทหรือธุรกิจด้วยก็ได้ โดยมีหลักการคือ มีอะไรบ้างที่จำเป็นต้องมีในการผลิตบางส่ิง บางอย่างที่สำคัญสำหรับธรุ กิจของเรา หลักจากเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพยากรที่มีลงไปในชอ่ งแลว้ ควร มองยอ้ นไปยงั คณุ คา่ ทน่ี ำเสนอ (VP) เพอ่ื ดูว่า (1) ทรพั ยากรทมี่ ีอย่นู น้ั สรา้ งคุณคา่ ทีน่ ำเสนอไดส้ มบรู ณแ์ บบแล้ว หรือไม่? (2) สาเหตขุ องความไม่สมบรู ณ์เป็นเพราะขาดทรพั ยากรทจี่ ำเป็นหรอื ขาดความสามารถในการพฒั นา? 100
6. Key Activities (งานหลักที่ทำ) โดยหลักๆ อาจแบ่งออกได้เป็น 3 กจิ กรรมตอ่ ไปนี้ 6.1 การผลิต เป็นโมเดลธุรกิจหลักของธรุ กิจการผลิต จะเกี่ยวเน่อื งกับการออกแบบ การผลติ และ การส่งมอบชนิ้ สนิ ค้า 6.2 การแก้ปัญหา เกี่ยวข้องกับการหาแนวทางหรือทางออกใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือเพื่อหา วิธีการจดั การงานตา่ ง ๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณท์ ี่แตกต่างกนั ไปของลกู ค้าแต่ละราย กิจกรรมที่ควรมอี ยู่ อยา่ งสม่ำเสมอคอื การจัดการองค์ความร้แู ละการฝกึ อบรมของพนกั งานในองค์กรอย่างต่อเนอื่ ง 6.3 Online Community Platform (แพลทฟอร์มเครือข่าย) หมายถึง ธุรกิจที่ผู้ให้บริการสร้าง แพลทฟอร์มทีเ่ ปน็ ตัวกลางขึ้นมาและให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบปะกันโดยผ่านตัวกลางน้ี โดยผู้ให้บริการจะคอย เป็นคนดูแลความเรียบร้อยของระบบให้ใช้งานง่ายและช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น หรือสำหรับธุรกิจ ออฟไลน์เช่น ตลาดนดั 7. Key Partners (หุ้นส่วนหลักหรือภาคีเครือข่าย) สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนนิ งาน เสริมในส่วนที่เราไม่สามารถทำเองได้ หรือลดความเสี่ยงของธุรกิจ ซึ่งสามารถแบ่งหุ้นสว่ นออกได้เปน็ 4 กลุ่ม โดยอาจพจิ ารณาว่าขณะน้มี หี ้นุ ส่วนประเภทใดบ้างอย่รู ่วมกับเราแลว้ และมีประเภทอื่น ๆ ทีเ่ ราควรออกไปทำ ความรจู้ กั เพ่มิ หรอื ไม่ • หนุ้ สว่ นทไ่ี มใ่ ชค่ แู่ ขง่ แตม่ ีวธิ ีคิดหรอื ขายสินค้าคลา้ ยๆ กบั เรา • หุ้นสว่ นทเ่ี ป็นคู่แข่ง แต่ต้องใช้กลยทุ ธ์รว่ มกันบ่อย ๆ • หนุ้ ส่วนทร่ี วมกนั แล้วเกิดเป็นธรุ กจิ ใหม่ • หุ้นส่วนแบบตอ้ งพ่งึ พากันจงึ จะอยรู่ อด สว่ นที่ส่ีกับคำถามทีส่ ่ีคอื คมุ้ หรอื ไม่ ? 8. Cost Structure (ต้นทุน) เป็นบทสรุปของค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจแบ่ง ออกเป็น 2 สาเหตคุ อื ทนุ เพอ่ื ขบั เคลอ่ื นธรุ กจิ หมายถึงต้นทนุ เพอ่ื ขับเคลื่อนใหว้ งจรธุรกิจยงั เดินต่อไปได้ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำมันเดินทาง ค่าคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงาน ทุนเพื่อเพิ่มคุณค่าธุรกิจ มุ่งสร้าง คุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการของตนเองเพ่มิ ขนึ้ เชน่ งบโฆษณา งบประชาสัมพันธ์ ในการเขียนอธบิ ายควร แบ่งโครงสร้างของต้นทุนออกเป็น 4 รปู แบบดังนี้ 1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) กลุ่มที่ต้องจ่ายเป็นประจำและค่อนข้างคงที่ในแต่ละเดือน เช่น เงนิ เดือนพนกั งาน คา่ เชา่ ออฟฟิศ 2. ต้นทนุ ผนั แปร (Variable Cost) กลุ่มทจ่ี า่ ยหรอื ข้นึ อยู่กบั ใชม้ ากหรือนอ้ ยในแต่ละเดือน เชน่ ค่า ไฟฟา้ ค่าสง่ เอกสาร 3. ต้นทุนผลิตมากแล้วถูกลง (Economy of Scale) กลุ่มที่ควรสั่งทำไว้จำนวนมากเพ่ือประโยชน์ ในการลดตน้ ทุน เชน่ แผ่นพบั หรือแฟ้มของธรุ กิจทีต่ ้องใช้บ่อยๆ 4. ต้นทุนซื้อรวมกันแล้วถูกลง (Economy of Scope) กลุ่มที่ควรสั่งจากผู้ผลิตรายเดียวกันเพื่อ ประโยชน์ในการลดต้นทุนของผผู้ ลติ ซ่งึ จะสง่ ผลให้ได้สนิ คา้ ในราคาท่ีถกู ลงไปด้วย 9. Revenue Streams (รูปแบบรายได้) การเข้ามาของรายได้มีหลายวิธี เช่น ขายสินค้า การขาย สิทธิการเป็นเจ้าของสินค้าชิ้นนั้น เช่น ห้างโลตัส amazon.com ค่าบริการ เป็นเงินท่ีได้จากการเข้าใช้บริการ รายครั้งหรือตามแต่ตกลง เชน่ บรษิ ทั DHL ค่าสมาชกิ เช่น True Vision ค่ายมื หรือค่าเช่า เชน่ การเชา่ รถ ค่า 101
อนุญาตให้ใช้สิทธิ์ รายได้ที่เกิดจากการเรียกเก็บเงินสำหรับการใช้งานของทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับการ คมุ้ ครอง คา่ ธรรมเนียมการเปน็ นายหนา้ ซ้ือขาย และค่าโฆษณา ภาพท่ี 26 องคป์ ระกอบ 9 ช่อง ของผนื ผ้าใบโมเดลธรุ กิจ Business Model Canvas ทีม่ า : อเล็กซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์ และ อฟี พนิ เญอร์ (2557, หนา้ 16) สำหรับการเขียนผืนผ้าใบโมเดลธุรกิจเพื่อวิสาหกิจเพื่อสงั คม อเล็กซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์ และ อีฟ พินเญอร์ (2557, หนา้ 264-2565) ไดเ้ สนอโมเดลธุรกิจท่ีไม่แสวงหากำไร มีประเดน็ ที่ควรพจิ ารณาเพมิ่ เติม คือ ต้นทุนและประโยชน์ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม กล่าวคือนอกจากบริษัทต่าง ๆ ที่สามารถเขียนผืนผ้าใบ โมเดลธุรกิจแล้ว องค์การไม่แสวงหากำไร มูลนิธิ หน่วยงานภาครัฐ และวิสาหกิจเพื่อสังคมก็สามารถนำผืน ผ้าใบโมเดลธุรกิจไปประยุกต์ได้อย่างง่าย โดย อเล็กซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์ และ อีฟ พินเญอร์ ได้แบ่ง โมเดลธรุ กจิ ขององค์การท่ไี ม่มุ่งหวังผลกำไรออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ โมเดลองคก์ ารท่ไี ด้รับการอุปถัมภ์จาก บุคคลที่สาม และโมเดลธุรกิจแบบสามขา ซึ่งมีภารกิจเกี่ยวข้องกับสังคมและสิ่งแวดล้อม (คำว่า “สามขา” หมายถงึ การคำนึงถึงตน้ ทนุ ด้านส่ิงแวดล้อมและสังคม ไม่ใชแ่ คต่ ้นทนุ ด้านการเงินเพียงอย่างเดียว) แต่หนึ่งใน ในความเสี่ยงที่อาจตามมา คือ การสร้างคุณค่าไม่ถูกกลุ่มเป้าหมายจนบุคคลที่สามกลายเป็น “ลูกค้า” หลัก ในขณะที่ผู้ใช้สินค้าหรือบริการจริง ๆ เป็นเพียงผู้รับเท่านั้น เนื่องจากความอยู่รอดขององค์การข้ึนอยูก่ ับเงิน สนบั สนุน องค์การจงึ อาจมแี รงจูงในให้สร้างคณุ ค่าสำหรับบคุ คลที่สามมากกวา่ จะสรา้ งคุณคา่ แกผ่ ู้ใช้ 102
สรุป การจัดทำ Business Model Canvas อย่างเป็นระบบ (Systematic Business) เท่ากับเราสร้าง โอกาสเอง ไมต่ ้องรอโชคชว่ ยหรือถกู หวย การสรา้ งระบบ หรอื การทำธุรกิจทเ่ี ปน็ ระบบ จะชว่ ยสร้างโอกาสทำ กำไรได้ในระยะยาวแบบยั่งยืน ผิดกับการทำธุรกิจแบบท่ีไม่เป็นระบบหรือไม่สร้างเลย อาจจะดังบางช่วงเปน็ ระยะส้ัน แลว้ จะไม่มอี ะไรเป็นตัวการนั ตีในระยะยาว ซ่งึ Business Model Canvas (BMC) แบบจำลองธุรกิจ เป็นเครื่องมือทีช่วยในการวางแผนธุรกิจซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพ (Visualizing) ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งช่วยในการ ประเมินความสำเร็จของแผนงาน และเลือกรูปแบบ (Business Model) ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับ ธรุ กจิ 103
เอกสารอา้ งอิง กรมสง่ เสรมิ อุตสาหกรรม. (2562). โมเดลทางธุรกจิ . [ออนไลน์] จาก https://bsc.dip.go.th/th/category/business-plan/business-model-content ณภคั ภัคคโิ รจน์. (2563). ค่มู ือสรา้ งโมเดลธรุ กจิ สำหรบั เจา้ ของกิจการ. [ออนไลน์]. จาก www. Bmcthailand.com ศูนยส์ ง่ เสริมอตุ สาหกรรมภาคท่ี 7. (2561). Business Model Canvas คอื อะไร ต่างจาก Business Plan อย่างไร? [ออนไลน]์ จาก https://ipc7.dip.go.th/th/category/2561-m10-m-idea/business- model-canvas อเล็กซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์ และ อฟี พนิ เญอร.์ (2557). ค่มู ือสร้างโมเดลธรุ กิจ (ฉบับปรบั ปรุง). (วญิ ญู กิง่ หิรัญวฒั นา, ผแู้ ปล) กรงุ เพทฯ: วีเลิรน์ . (Business Model Generation published in English, 2010 ) ฮิราโนะ อะทสึชิ คาร์ล. (2560). Business Model Strategy สรา้ งเงินล้านเมือ่ อ่านขาดธรุ กิจ. (ชฏารัตน์ ลอยสูง และวีรวรรณ ธรรมานุสาร, ผู้แปล). นนทบรุ ี: บริษทั ไอดซี ี พรเี มียร์ จำกัด. (ตน้ ฉบับภาษาญ่ปี นุ่ พิมพ์ ค.ศ. 2012) คำถามทบทวน 1. จงอธบิ ายความหมายของโมเดลธรุ กิจ 2. โมเดลธุรกจิ และผืนผา้ ใบโมเดลธรุ กิจ มีความสำคญั ต่อการดำเนินธุรกจิ อย่างไร จงอธบิ าย และ ยกตัวอย่าง 3. จงอธบิ ายองค์ประกอบของผนื ผ้าใบโมเดลธรุ กจิ พร้อมยกตัวอยา่ ง 4. จงเขยี นผืนผา้ ใบโมเดลธุรกิจให้กบั การดำเนนิ การวิสาหกิจเพอื่ สังคม 104
แผนการสอนประจำบทที่ 8 หัวขอ้ เนือ้ หาประจำบท 1. Social Enterprise ในตา่ งประเทศ 2. Social Enterprise ในประเทศไทย 3. ปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อความสำเร็จของวสิ าหกิจเพ่อื สังคม วัตถุประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เมื่อเรียนจบบทน้ี นักศกึ ษาสามารถทำสิ่งตอ่ ไปน้ี 1. สามารถอธิบาย Social Enterprise ในตา่ งประเทศ 2. สามารถอธิบาย Social Enterprise ในประเทศไทย 3. สามารถอธบิ ายปจั จัยทส่ี ง่ ผลตอ่ ความสำเร็จของวสิ าหกิจเพื่อสงั คม วิธีการสอนและกิจกรรมการเรยี นการสอนประจำบท 1. ฟงั การบรรยาย สรุปสาระสำคญั โดยอาจารย์ผู้สอน 2. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ตามเนอ้ื หา กรณีศกึ ษา 3. ศกึ ษาคน้ ควา้ ข้อมูลเพ่ิมเตมิ จากตำรา วารสาร หนงั สือพิมพ์ และ Internet เป็นต้น 4. อภปิ รายงานกลุ่ม และนำเสนอรายงานหน้าชัน้ สื่อการเรยี นการสอน 1. เอกสารการสอนวชิ าธรุ กจิ เพ่อื สงั คม บทความ หนังสอื ที่เกีย่ วขอ้ ง 2. Power point (ทงั้ ภาพน่งิ และ Animation) 3. ใบงาน กรณศี ึกษา การวดั ผลและการประเมนิ ผล 1. สงั เกตความสนใจของนักศึกษา และการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม 2. การประเมินจากการทน่ี ักศึกษาแสดงความคดิ เห็น 3. การประเมนิ จากการตอบคำถามทบทวน 4. การประเมินจากผลงานของนักศกึ ษา 105
106
บทที่ 8 การสรา้ งแรงบนั ดาลใจสู่ Social Enterprise ในปจั จุบันประเทศต่าง ๆ ทวั่ โลกลว้ นใหค้ วามสำคญั และมีการดำเนินวสิ าหกจิ เพือ่ สงั คมอย่เู ปน็ จำนวน มาก เพราะสามารถเปลี่ยนวิธีคิดแบบเดิม มุมมอง คุณค่า และการปฏิบัตเิ ป็นการประกอบการธุรกิจลักษณะ แบ่งปันร่วมกันในสังคม การมองปัญหาสังคมเป็นโอกาสแล้วค้นหาวิธีการใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ หรือการ บริหารจัดการแบบใหม่ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน เนื้อหาในบทนี้ผู้เขียนขอนำเสนอกรณีศึกษาการ ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมบางแห่งที่มีความโดดเด่น เพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวทางการส่งเสริมและการ กำกบั ดแู ลวสิ าหกิจเพือ่ สังคม เช่น ประเทศท่ีมพี ัฒนาดา้ นวิสาหกิจเพอื่ สงั คมเติบโตอยา่ งเต็มท่ี (Mature) ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจกั ร ประเทศแคนดา ประเทศออสเตรเลยี และสาธารณรัฐเกาหลี รายละเอยี ดดงั น้ี Social Enterprise ในตา่ งประเทศ 1. วสิ าหกิจเพ่ือสงั คมในสหราชอาณาจกั ร วิสาหกิจเพื่อสังคมในสหราชอาณาจักรได้รับการส่งเสริมเป็นอย่างมากจากการสนับสนุนของ ภาครัฐ ซง่ึ นาย Tony Blair อดตี นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ท่ีผลกั ดนั แนวคิดวิสาหกิจเพอื่ สงั คมในสหราชอาณาจักร ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาการถกู กดี กันทางสังคมของกลุ่มคนด้อยโอกาสในสังคม ผ่านการ ทำงานแบบหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรในภาคท่ี สาม ตลอดจนการเน้นย้ำความสำคัญของบทบาทขององค์กรในภาคส่วนอาสาสมัครและชุมชนเพื่อร่วมปฏริ ูปการ ให้บริการสาธารณะและการยกระดับวิถีชีวิตของประชาชน ดำเนินกิจการอยู่ในหลากหลายภาคส่วนของ เศรษฐกิจ ได้แก่ การค้าปลีก (Retail) การปรึกษาธุรกิจ (Business Consultancy) การศึกษา (Education) เป็นตน้ รัฐบาลของสหราชอาณาจักร มีการจัดทำแผนยทุ ธศาสตร์ มีการดำเนินนโยบาย และมาตรการหลาย อย่างเกี่ยวกบั การส่งเสรมิ วิสาหกิจเพ่ือสังคม อาทิ การช่วยเหลือด้านการเงิน โดยภาครัฐได้จัดทำแผนประกนั ทางการเงินของวิสาหกิจ หรือ The Enterprise Finance Guarantee (EFG) ท่ีดำเนินการโดย British Business Bank (BKK) จดั ต้งั ขึน้ ในปคี .ศ. 2009 ไดป้ ล่อยสนิ เช่อื ให้กับธรุ กิจไปแลว้ มากกว่า 30,000 แห่งเป็น จำนวนประมาณ 3.2 ล้าน ๆ ปอนด์ (British Business Bank, 2019) นอกจากนี้ การช่วยเหลือทางการเงิน โดย Charity ซึ่งเป็นสถาบนั การเงินทใ่ี ห้การสนบั สนุนองคก์ รการกุศล และวิสาหกิจเพ่อื สงั คมโดยเฉพาะก็เป็น อีกช่องทางหนึ่งจากการศึกษาพบว่า นับตั้งแต่ธนาคารเปิดทำการในปี ค.ศ. 2002 มีการจัดสรรเงินกู้ไปแล้ว มากถึง 268 ล้านปอนด์ด้วยกัน และจากข้อมูลการกู้เงินในปีค.ศ. 2018 พบว่า มีการกู้ยืมประมาณ 48 ล้าน ปอนด์ โดยสดั สว่ นการกยู้ มื 1 ใน 3 มวี ัตถุประสงคใ์ นการซ้ือและ/หรอื สรา้ งสง่ิ ปลูกสรา้ ง อนง่ึ มขี อ้ สงั เกตว่าใน ระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมานั้น สหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษ ประสบปัญหาสิ่งปลูก สร้างไม่เพียงพอต่อความต้องการ และปัญหาค่าเช่าที่พักอาศัยแพง จนทำให้คนหนุ่มสาว และผู้สูงวัยจำนวน หน่งึ ประสบปัญหาด้านการหาทพี่ กั อาศัย 107
1.1 ตวั อย่างวิสาหกจิ เพอ่ื สังคมในสหราชอาณาจักร 1.1.1 Hackney Community Transport (HCT) เปน็ วิสาหกิจเพ่อื สังคมประเภทบริษทั จำกดั เริม่ ประกอบการเมอื่ ปี ค.ศ. 1982 ในเขต Hackney กรุงลอนดอน มีวัตถุประสงค์ในการให้บริการขนส่งภายในชุมชนด้วยราคาย่อมเยา ต่อมาวิสาหกิจ เพอื่ สังคม HCT ขยายตวั ออกไปในภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของประเทศองั กฤษ เชน่ ยอรค์ เชยี ร์ (Yorkshire) ดาร์บี้เชียร์ (Derbyshire) จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2008 จึงได้มีการจัดตั้งเป็น HCT Group ขึ้นโดยในช่วงเริ่มแรก HCT ให้บริการรถเช่าเท่านั้น ภายหลังได้เพิ่มบริการในลักษณะที่เรียกว่า dial-a-ride หรือโทรเรียกบริการด้วย (Bennett, 1992) อย่างไรก็ดีในปัจจุบันบรกิ ารของ HCT Group มีการให้บริการเพิ่มเติมในเรื่องบริการ รถเมล์แดง (Red Bus) และปัจจุบัน HCT Group ให้บริการกับประชาชนไม่ต่ำกว่า 36 ล้านคนต่อปี และ มี จำนวนผู้ดอ้ ยโอกาสมากถงึ 346,597 คน ทไี่ ดใ้ ช้บรกิ ารของ HCT Group (Social Enterprise UK, 2019) 1.1.2 The Big Issue Foundation เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมในรูปแบบบริษัทจำกัด The Big Issue Foundation ประกอบการด้านสอื่ ส่งิ พิมพ์ ดว้ ยการออกนติ ยสารชือ่ ว่า Big Issue โดยเปน็ นิตยสารประเภทที่เรียกวา่ Street Papers หรือ นิตยสารหรือสิ่งพิมพ์ที่ขายริมทาง The Big Issue Foundation จัดตั้งโดย Gordon Roddick ในปี ค.ศ. 1991 โดยในขณะนั้น Roddick เป็นผู้บริหารของบริษัทผลิตภัณฑเ์ ครื่องสำอาง The Body Shop ซึ่ง Gordon ได้รับแรงบันดาลใจในการประกอบการเช่นนี้ ภายหลังจากที่เขาพบเห็นการขายนิตยสารรมิ ทาง ในช่วงที่มีโอกาสไปเยือนนครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1990 Big Issue ขายฉบับปฐมฤกษ์ในกรุง ลอนดอนในเดอื นกนั ยายน ค.ศ. 1991 และนับเป็นนิตยสารที่ขายริมนติ ยสารแรกในสหราชอาณาจกั รช่วงแรก ของการจัดพิมพ์เป็นแบบหลายเดือน ต่อมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 เป็นต้นมา มีการจัดพิมพ์แบบหลายสัปดาห์ (Hanks & Swithinbank, 1997) The Big Issue Foundation กำหนดวัตถุประสงค์ในการประกอบการไว้ชัดเจน นั้น คือ เพื่อช่วยเหลือ “คนไร้บ้าน” (homeless people) โดยทาง the Big Issue Foundation เปิดรับผู้ขาย นิตยสารและกำหนดว่า ผู้ที่สนใจสามารถมาสมัครได้โดยจะต้องแสดงหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใดให้เห็นว่า ตนเองเป็นคนไร้บ้านและจะต้องเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการขายนิตยสารประมาณหนึ่งเดือน (Hanks & Swithinbank, 1997) จากนั้นพวกเขาต้องซื้อนิตยสารในราคาฉบับละ 1.25 ปอนด์ และขายในราคา 2.50 ปอนด์ โดยผขู้ ายจะไดส้ ว่ นแบ่งร้อยละ 50 ของนติ ยสาร 1.1.3 Energise Barnsley เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2015 โดยจดทะเบียนในรูปแบบของ Community Benefit Society (CBS) เป็นประเภทหนึ่งภายใต้กฎหมายสหกรณ์ของสหราชอาณาจักร Energise Barnsley มีวัตถุประสงค์ในการประกอบการแผงโซล่าเซลล์ (Solar Panel) การดำเนินการของ Energise Barnsley ช่วยสร้างคุณูปการในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม จากข้อมูลในปีค.ศ. 2018 Energise Barnsley ได้ติดต้ังแผงโซล่าเซลลไ์ ปแลว้ มากถึง 5,627 แผงด้วยกัน และชว่ ยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกไปได้ ถึง 1,959 ตัน นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าไฟฟ้าให้กับคนในชุมชนไปแล้วประมาณ 115,000 ปอนด์ ถึงแม้ 108
Energise Barnsley จะเพิ่งจัดตั้งได้ไม่นานมาก แต่ก็สามารถสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อม การประหยัด คา่ ใชจ้ า่ ยในครวั เรือนของคนในชุมชน และยังสง่ เสริมแนวทางการพัฒนาอยา่ งย่ังยนื 2. วิสาหกจิ เพื่อสังคมในสหรัฐอเมรกิ า ในสหรัฐอเมริกาแนวคิดวิสาหกิจเพื่อสงั คมมีประวัติศาสตรม์ ายาวนานผ่านวิวฒั นาการขององค์กร สาธารณกุศล (Philanthropic Organizations) Kim Alter อธิบายว่า วิสาหกิจเพื่อสังคมเริ่มต้นใน สหรัฐอเมริกาคร้งั แรกประมาณช่วงปี ค.ศ. 1960 โดยเริ่มจากการที่องค์กรไมแ่ สวงหากำไรทดลองประกอบการ และมีการจ้างงานผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งช่วยเหลือกลุ่มผู้เปราะบาง เช่น ผู้ป่วยทางจิต (Mentally Retarded People) ผู้ป่วยพษิ สุราเรอื้ รัง (Alcoholics) ตอ่ มาในช่วงตง้ั แตป่ ี ค.ศ. 1990 เปน็ ต้นมา แนวคิดการพาณิชย์ใน เชิงสาธารณกุศล (The Philanthropic Model of Commerce) ช่วยให้การประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคม เติบโตขึ้นอย่างเด่นชัดในสหรัฐอเมริกา (Alter, 2007) วิสาหกิจเพื่อสังคมในสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย รูปแบบและสถานภาพทางกฎหมายทีม่ ีความหลากหลาย รูปแบบขององคก์ รตาม มาตรา 501 (c) (3)ของU.S. Internal Revenue Code มากที่สุด โดยองค์กรตาม มาตรา 501 (c) (3) จะได้รับยกเว้นภาษี องค์กรเหลา่ นี้ ประกอบดว้ ย องค์กรสาธารณกศุ ล มูลนิธขิ องเอกชน องคก์ รเอกชนในลกั ษณะมูลนธิ ิ ท้ังน้ี วิสาหกิจเพ่ือสงั คมในสหรฐั อเมรกิ าจำตอ้ งพงึ่ พาการสนบั สนนุ ในทางการเงนิ จากภาคเอกชน และ ภาคประชาสังคมเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากวิสาหกิจเพื่อสังคมในยุโรปที่รัฐบาลมักจะมีแผนช่วยเหลือทางการ เงนิ รองรับ (Akbulaev et al., 2019) 2.1 กรณีศึกษาวิสาหกิจเพอ่ื สังคมในสหรัฐอเมริกา 2.1.1 Ashoka William Bill Drayton ก่อตงั้ Ashoka ขนึ้ ในมลรัฐเวอร์จเิ นีย (Virginia) สหรัฐอเมริกา เม่อื ปี ค.ศ. 1980 ด้วยทุนต้งั ต้นจำนวน 50,000 เหรยี ญดอลลา่ ร์ วิสาหกจิ เพื่อสังคม Ashoka นน้ั เปน็ องค์กรที่ อยู่ในรูปแบบของทางกฎหมายตามมาตรา 501 (c)(3) ของ the U.S. Internal Revenue Code โดยมี วัตถุประสงค์ในการบ่มเพาะผู้ประกอบการเพื่อสังคมและส่งเสริมให้พวกเขาเหล่านั้นเป็นผู้นำ และผู้ทำการ เปลย่ี นแปลง (Changemaker) เพื่อสร้างผลกระทบทางสังคม เป็นท่นี า่ สังเกตว่าชื่อของวิสาหกจิ แหง่ น้ี ต้ังตาม พระนามของพระเจ้าอโศกมหาราช (Ashoka the Great) สาเหตุเพราะ Bill Drayton มองว่า พระเจ้าอโศก นอกจากจะเปน็ ผูม้ ีวสิ ยั ทศั น์กวา้ งไกลแลว้ ยงั ทรงเป็นนวตั กร และนกั ประกอบการอกี ด้วย (Sen, 2007) บทบาทของ Ashoka ในการสง่ เสริมผูป้ ระกอบการเพ่อื สังคมมีหลักหลายดา้ น ไม่ว่าจะ เป็นการส่งเสริมด้านเงินสนับสนุน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ การฝึกอบรม เป็นต้น Ashoka ให้ ความสำคัญกับคุณสมบัติของผู้ประกอบการเพื่อสังคมเป็นอย่างยิ่งและมองว่า ผู้ประกอบการเพื่อสังคม ต้อง เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์และกล้านำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่มีลักษณะถอนรากถอนโคน (Radical) ในขณะท่ี ผปู้ ระกอบการเพ่ือสงั คมก็จำต้องเป็นนักปฏิบัติทม่ี ีความม่งุ มน่ั ในการสร้างสรรคน์ วตั กรรมด้วย และจากข้อมูล ในปี ค.ศ. 2018 มีผู้สมัครเข้าร่วมฝึกเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคม (Fellows) ท้ังสิ้น 4,500 คน และได้รับ คัดเลือกเพียง 108 คนเท่านั้น (Ashoka, 2018) อนึ่ง ขั้นตอนในการคัดเลือกของ Ashoka มีความเข้มข้นเลย ทีเดียวโดยผู้สมคั รต้องผ่านขน้ั ตอนต่าง ๆ วสิ าหกจิ เพือ่ สงั คม Ashoka มีเครือขา่ ยครอบคลุมถึง 6 ทวีปท่ัวโลก ในประเทศไทยเองก็มีสำนักงานของ Ashoka และดำเนินเจอกันใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน เครือข่ายของ Ashoka ทมี่ ีอยูห่ ลายประเทศทั่วโลกนั้น ชว่ ยเกอ้ื หนุนใหว้ สิ าหกจิ เพอื่ สงั คมนส้ี ามารถสร้างผลกระทบสงู (High 109
Impact) ในเชิงของการพัฒนาได้อย่างแท้จริง เช่น Ashoka ทำความร่วมมือกับ Deutsche Bank ในการ ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อสังคมสุภาพสตรีในทวีปเอเชีย ภายใต้การสนับสนนุ ทางการเงิน ของ Deutsche Bank (Female social entrepreneurs in Asia, 2020) 2.1.2 Goodwill Industries ในปคี .ศ. 1902 Reverend Edgar Halms ได้กอ่ ต้งั Goodwill Industries ข้ึนในเมือง บอสตัน (Boston) ในช่วงเริ่มแรกการดำเนินการของ Goodwill อาศัยการรวมตัวกันของชุมชนในท้องถ่ิน เท่านั้น ปัจจุบัน Goodwill อยู่ในรูปแบบองค์กรตาม มาตรา 501 (c)(3) ของ the U.S. Internal Revenue Code และประกอบการในลักษณะวิสาหกิจเพื่อสังคมซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการรับบริจาคสินค้ามือสอง โดยเฉพาะ เส้อื ผา้ รองเท้า เป็นต้น และนำสินค้าเหล่านม้ี าขายในตลาดอีกครั้ง อาจกลา่ วได้ว่า Goodwill เป็น วิสาหกิจเพือ่ สังคมระดบั โลก เนื่องจาก มีเครือข่ายร้านค้าอยูใ่ นสหรัฐอเมรกิ าประเทศแคนนาดาและประเทศ อื่น ๆ อกี ถึง 12 ประเทศทั่วโลก รวมทงั้ ประเทศไทย (Gibbons & Hazy, 2017) ลักษณะเด่นของการประกอบการของ Goodwill คือ การเป็นเครือข่ายการ ประกอบการวิสาหกิจเพ่อื สงั คม (Distributed Social Enterprises : DSEs) กล่าวอกี นัยหนง่ึ คอื ดำเนนิ การใน ลักษณะระบบนิเวศทางธุรกิจ(Business Ecosystem) อย่างไรก็ดีรูปแบบการประกอบการของ Goodwill แบบ DSEs นี้มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกับรูปแบบของธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise) กล่าวคือ วสิ าหกิจเพอ่ื สงั คม Goodwill ในชมุ ชนทอ้ งถิ่น จะตอ้ งจ่ายคา่ ธรรมเนยี ม (Dues) ใหก้ ับ Goodwill ส่วนกลาง เป็นการตอบแทนการเป็นองค์กรกลางในการขับเคลื่อนการประกอบการ และเป็นการตอบแทนการใช้ตรา สัญลักษณ์ทางการค้า (Brand) กล่าวคือ ประการแรก การกำกับดูแล (governance) ศูนย์ Goodwill ใน ชุมชนท้องถ่ิน มิได้ขึ้นอยู่กับ Goodwill ส่วนกลางแบบเบ็ดเสร็จในลักษณะเดียวกับธุรกิจแฟรนไชส์ กล่าวคือ Goodwill แต่ละศนู ย์ จัดการจดั ตงั้ คณะกรรมการบรหิ ารของศนู ยเ์ อง สมาชิกของคณะกรรมการมาจากคนใน ชุมชนผู้ที่อาสาเข้ามาช่วยงานอนึ่ง ความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหารศูนย์คือ การร่วมทำงานกับ คณะกรรมการบริหารส่วนกลางในการคดั สรรประธานกรรมการบรหิ าร(Chief Executive Officer :CEO) และ ร่วมกันกำหนดพันธกิจและทิศทางของเสียกรรมทาง ธุรกิจของ Goodwill ข้อแตกต่างประการที่สองคือ ค่าธรรมเนียมที่ศูนย์ Goodwill ในชุมชนท้องถิ่นจ่ายแก่ Goodwill ส่วนกลางนั้น มีได้กำหนดโดยคณะ กรรมการบริหารสว่ นกลางแต่เป็นบทบาทของสมาชิกท่จี ะร่วมกนั กำหนด (Gibbons & Hazy, 2017) เนื่องจาก Goodwill ส่งเสริมบทบาทของบุคลากรในชุมชนในการมีส่วนร่วมบริการ จัดการศูนย์ในท้องถิ่น จึงได้ให้ความสำคัญกับการสร้างศักยภาพ การเป็นผู้นำ (leadership capabilities) และได้นำทฤษฎีความเป็นผ้นู ำแบบสลับซบั ซ้อน (Complexity Leadership Theory : CLT) มาประยกุ ต์ใชใ้ น การสร้างศักยภาพของผู้นำภายใน Goodwill เอง เพราะ Goodwill มีการบริหารจัดการในลักษณะระบบ นิเวศทางธุรกิจจากการศึกษาของ Hazy และ Uhl-Bien (2015) ศักยภาพความเป็นผ้นู ำ ประกอบด้วย 5 ด้าน คือ 1) ด้านบทบาทในการประสานความร่วมมือเพื่อการสร้างชุมชน 2) ด้านกำหนดและวางแผนเกี่ยวกับ กิจกรรม ทรัพยากร และบุคลากรเพือ่ การตดั สินใจและลงมือปฏิบัติ 3) ด้านบริหารจดั การแผน และโครงการ ตา่ งๆ เพ่ือให้ไดม้ า และรักษาไว้ซง่ึ ทรัพยากรตา่ ง ๆ 4) ด้านรวบรวมและสังเคราะหข์ ้อมูลเพ่ือการการตระหนัก รู้ทั้งระบบนิเวศธุรกิจ และ 5) ด้านสร้างทางเลือกใหม่ ๆ สำหรับอนาคตดว้ ยการทดลอง และรับความเสี่ยงใน เชิงการประกอบการ 110
คุณค่าทางสังคมประการหนึง่ ที่ Goodwill ได้สร้างขึ้นคือ Work Integration Social Enterprise (WISE) อาจจะแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า กิจการเพื่อสังคมทีเ่ น้นการบรู ณะการด้านอาชพี คือ การ จ้างงานกลุ่มคนผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งกลุ่มคนที่ไมไ่ ดร้ ับการว่าจ้างเป็นระยะเวลานาน กลุ่มคนที่กล่าวมานี้ จะ ได้รับการว่าจ้างให้ผลิตสินค้า และให้บริการ ข้อมูลในปีค.ศ. 2017 พบว่า Goodwill ว่าจ้างแรงงานทั้งสิ้น 128,000 คนโดยจำนวนมากเป็นการจ้างตามหลัก WISE ที่กล่าวข้างต้น เมื่อได้รับการว่าจ้างแล้ว พนักงาน เหล่านจี้ ะได้รบั การฝึกอบรม ณ ศูนย์ชมุ ชนทอ้ งถิ่น ก่อนทจ่ี ะปฏิบตั ิงานจริง (Hazy and Uhl-Bien,2015) 3. วิสาหกจิ เพอ่ื สังคมในประเทศแคนนาดา มูลนิธิ Thomson Reuters ได้ทำการสำรวจ “ประเทศที่ดีที่สุดในการเป็นผู้ประกอบการเพ่ือ สังคม” (The Best Countries to be a Social Entrepreneur) มาต่อเนื่องหลายปีโดยในปี ค.ศ. 2017 ประเทศที่ได้รับการลงความเห็นว่าเป็นประเทศที่ดีที่สุดอันดับแรก คือ ประเทศแคนนาดา (ติญทรรศน์ ประทีปพรณรงค์, 2563, หน้า 86) โดยในรายละเอียดปลีกย่อยนัน้ พบว่า ประเทศแคนนาดา มสี ภาพแวดล้อม โดยรวมสำหรับการประกอบการของวิสาหกิจเพื่อสังคมดีมาก (Thomson Reuters Foundation, 2019) ซึ่ง ประเทศแคนนาดาตงั้ อยใู่ นทวีปอเมรกิ าเหนือ โดยมีพรมแดนตดิ กบั สหรัฐอเมริกา แต่ยงั เปน็ ประเทศสมาชิกใน เครือจักรภพ ดังนั้น ประเทศแคนนาดาจึงได้รับอิทธิพลบางประการจากทางสหรัฐอเมริกา และสหราช อาณาจักร อย่างไรก็ตาม วิสาหกิจเพื่อสังคมในประเทศแคนนาดาจะมุ่งเน้นไปในเชิงภารกิจการสร้าง ผลกระทบทางสังคมในลักษณะเดียวกับวิสาหกิจเพื่อสงั คมในสหราชอาณาจักร ซึ่งวิสาหกิจเพื่อสังคมในประเทศ แคนนาดาส่วนใหญ่จะประกอบการอยู่ในระดับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเขตชุมชนท้องถน่ิ และชมุ ชนในเขตเมือง ซึ่ง วสิ าหกิจเพื่อสังคมจำนวนหนง่ึ ดำเนินกิจการในระดบั นานาชาติ ตวั อย่างวสิ าหกิจเพ่ือสงั คมในระดับนานาชาติ เชน่ Goodwill Industries ซ่งึ ดำเนินการอยู่ทง้ั ในสหรฐั อเมรกิ าและประเทศแคนนาดา 3.1 ตวั อยา่ งวิสาหกจิ เพือ่ สังคมในประเทศแคนนาดา 3.1.1 Street Haven at the Crossroads เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมประเภทองค์กรการกุศลจดทะเบียน ก่อตั้งโดย Peggy Ann Walpole ในเมืองโตรอนโต้ ในปี ค.ศ. 1965 เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงข้างถนน (Street Women) หรือผู้หญิงไร้ บ้าน รวมถึงผู้หญิงที่เป็นผู้กระทำความผิดมาก่อนด้วย (Ross, 1997) Street Haven จัดหา Emergency Shelter ให้กับผู้หญิงไร้บ้าน โดยใช้ที่ทำการของตนเองรับผู้หญิงไร้บ้านเข้ามาพักอาศัยเป็นชั่วคราว รวมทั้ง ให้บริการอาหาร เสอื้ ผ้า และยารกั ษาโรคขนั้ พื้นฐาน แม้สถานท่ีพักชวั่ คราวจะมีขนาดพ้ืนท่ีเพยี ง 50 เตยี งนอน เท่านั้น แต่ก็เปิดให้การช่วยเหลือและใช้งานเต็มทุกคืน ในทุกปีที่ผ่านมานอกจากการจัดหาที่พักชั่วคราว วสิ าหกิจเพ่ือสังคมแห่งน้ี ยงั รณรงคเ์ รื่องการหาท่ีพักถาวรใหก้ บั ผู้หญงิ ไร้บ้าน และจัดอบรมต่าง ๆ เช่น การใช้ คอมพวิ เตอรเ์ พอื่ ส่งเสริมให้ผู้หญิงได้พฒั นาทกั ษะ และสามารถประกอบอาชีพไดใ้ นอนาคตอีกด้วย การดำเนิน กิจการต่าง ๆ ของ Street Haven นั้นอาศัยการสนับสนุนทางการเงินจาก รัฐบาลแห่งรัฐ การรับบริจาคและ การระดมทุนจากภาคประชาชน เป็นต้น โดยในปี ค.ศ. 2018 มีรายรับ 3,676,873 เหรียญดอลล่าร์ในการ ดำเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ 4. วสิ าหกิจเพ่ือสงั คมในประเทศออสเตรเลยี ในปีค.ศ. 2017 ประเทศออสเตรเลียได้รับการจัดอันดับให้เป็น “ประเทศที่ดีที่สุดในการเป็น ผู้ประกอบการเพื่อสังคม” (The Best Countries to be a Social Entrepreneur) ในลำดับที่ 2 ถัดจาก 111
ประเทศแคนนาดา ซงึ่ จดุ เด่นของประเทศออสเตรเลีย คอื การใชช้ ีวติ และการประกอบการผปู้ ระกอบการ และ การเขา้ ถึงการลงทุนต่าง ๆ (Thomson Reuters Foundation, 2019) การประกอบการเพือ่ สงั คมในประเทศ ออสเตรเลียนั้น ได้รับอิทธิพลมาจากการขยายตัวของภาคที่สาม ซึ่งมีประวัติศาสตร์มายาวนาน (O’Neill & McGuire, 1999) นอกจากน้ี ในฐานะสมาชกิ แห่งเครือจกั รภพประเทศออสเตรเลยี ไดร้ ับอิทธพิ ลในเชงิ นโยบาย เรื่องบทบาทของภาครฐั กบั การสง่ เสรมิ ภาคที่สาม โดยเฉพาะวิสาหกิจเพ่ือสงั คมจากรัฐบาลสหราชอาณาจักร ในสมยั นายกรฐั มนตรี Tony Blair อกี ด้วย (Butcher, 2015) การสนับสนนุ วสิ าหกิจเพอ่ื สังคมสงั คมในด้านการเงนิ ในประเทศออสเตรเลีย ประกอบด้วย การให้ เงินอุดหนุน (Grants) และการให้เงินกู้ยืม (loans) ในด้านเงินอุดหนุนนั้น ซึ่งตัวอย่างของแหล่งเงินอุดหนุน ได้แก่ Philanthropy Australia ซง่ึ เปน็ องค์กรการกศุ ลจดทะเบียน ท่มี ฐี านขอ้ มูลองคก์ รประเภทเดียวกันมาก ที่สุด และให้การสนับสนนุ ดา้ นการเงินแกอ่ งคก์ รสาธารณะกศุ ลอื่น ๆ ในขณะเดยี วกันดว้ ย โดยในปี ค.ศ. 2018 Philanthropy Australia มอบเงินอุดหนุนใหอ้ งคก์ รสาธารณะกศุ ลอ่ืน ๆ เปน็ จำนวนท้งั สิ้น 352,50 0 เหรียญ ดอลล่าร์ (Philanthropy Australia, 2018) การสนับสนุนวสิ าหกิจเพอ่ื สงั คมในด้านการเงนิ ในสว่ นถดั มา คอื แหล่งเงินกู้ ในประเด็นนีอ้ าจกล่าว ได้ว่า Social Enterprise Development and Investment Funds (SEDIF) หรือ”กองทุนการลงทุนและ การพัฒนาวสิ าหกิจเพื่อสังคม” เป็นแหล่งเงินกู้หลักของวิสาหกิจเพ่ือสังคมในประเทศออสเตรเลียเลยก็ว่าได้ กองทุนนี้จัดตั้งโดยรัฐบาลออสเตรเลียผ่าน กรมการจัดหางาน (Department of Employment) ในปี ค.ศ. 2011 Chrit Mason และ Michael Moran อธิบายวา่ นโยบายสง่ เสริมวิสาหกจิ เพื่อสังคมใหน้ ้ำหนกั สว่ นใหญ่ ไปท่กี ารสร้างการเข้าถึงแหล่งเงนิ ทุนกูย้ ืม ด้วยเหตุน้ีเองประเทศออสเตรเลีย จึงได้รบั การจัดอันดับสูงเกี่ยวกับ การเข้าถึงการลงทุนของวิสาหกิจเพื่อสังคม (Mason & Moran, 2018) กองนี้มีผู้บริหารกองทุน (Fund Managers) ค ื อ Foresters Community Finance (Foresters),Social Enterprise Finance Australia (SEFA) และ Social Ventures Australia (SVA) โดยในแต่ละปี ผู้บริหารกองทุนแต่ละรายจะได้รับเงิน สนับสนุนประมาณ 8,000,000 เหรียญดอลล่าร์ เพื่อนำไปบริหารจัดการภายใน (Barraket & Muir, 2016) Foresters ก่อตั้งในปีค.ศ. 1855 และมีประวัติศาสตร์การช่วยเหลือชุมชนในด้านการเงินมายาวนาน โดยใน ระหว่างปีค.ศ. 2011 - 2016 Foresters ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมขึ้นประกอบด้วย Social Enterprise Finance Fund (SEFF) และ Community Finance Fund Social Enterprise (CFF-SE) เพ่อื ชว่ ยสง่ เสริมการประกอบการของวสิ าหกจิ เพ่ือสงั คมท่มี เี ป้าหมายช่วยแก้ไขปญั หาและชว่ ยพฒั นาชุมชน SEFA ซึ่งจัดตั้งในปี ค.ศ. 2012 เป็นหน่วยงานผู้บริหารกองทุนอันดับ 2 ในการจัดสรรเงินทุน แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมโดยจะจัดสรรเงินทุนสนับสนุนระหว่าง 500,000 ถึง 2,000,000 เหรียญดอลล่าร์ แก่หน่วยงานที่ทำคำขอ โดยวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ขอเงินทุนจะต้องมีวัตถุประสงค์ชัดเจนในด้านการพัฒนา ชุมชน และการช่วยเหลอื ชนพ้ืนเมือง SVA เปน็ ผ้บู รหิ ารกองทุนรายสำคญั อีกราย SVA เป็นองค์กรไม่แสวงหา กำไร ซึ่งรวมกันจัดตั้งโดย the Benevolent Society, the Smith Family, Work Ventures and AMP Foundation SVA จัดสรรหาสนับสนุนให้แก่องค์กรไม่แสวงหากำไร วิสาหกิจเพื่อสังคม และองค์กรลักษณะ ธรุ กิจเพ่อื สงั คม โดยใหก้ ารสนบั สนุนเงินจำนวนระหว่าง 150,000 ถงึ 1,000,000 เหรยี ญดอลล่าร์ 112
4.1 ตัวอย่างวิสาหกจิ เพ่อื สงั คมในประเทศออสเตรเลยี 4.1.1 Soft Landing Mattress Recycling (Soft Landing) เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมในรูปของ not-for-profit อันมีวัตถุประสงค์ในการแปรสภาพฟุก เหลือใช้ (Recycle) เพื่อมิให้กลายขยะที่รอการกำจัดเท่านั้น Soft Landing ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ. 2009 ในเมือง วูลองกอง (Wollongong) โดยปัจจุบันมีสำนกั งานอยู่ในหลายเมืองท่ัวประเทศออสเตรเลีย (Ramirez, 2019) Soft Landing มองเหน็ โอกาสทางธรุ กจิ จากการทปี่ ระชาชนนำฟุกท่ไี ม่ใช้แล้วมาทิ้งกองไว้ จึงไดเ้ ร่มิ เกบ็ ฟูกขยะ เหล่านี้ไปแยกส่วนแปรสภาพโดยเฉพาะไม้รองฟูก (timber) และสปริงเหล็ก (Steel Springs) ซึ่งเป็นวัสดุที่ สามารถนำมาแปรสภาพได้ภายหลังก่อตั้งเพียงหนึ่งปี Soft Landing ก็ได้ตั้งโรงงานแปรสภาพขยะข้ึน (Recycling Plant) ซึ่งในปัจจุบัน Soft Landing ว่าจ้างพนักงานเต็มเวลาจำนวนถึง 300 คนด้วยกัน (Douglas, 2016) Soft Landing สรุปคุณูปการด้านสิ่งแวดล้อม เพราะการประกอบการของวิสาหกิจเพื่อ สังคมนี้ ช่วยลดปรมิ าณขยะและลดพื้นทฝี่ งั่ กลบขยะ (Landfill) ไดอ้ ย่างมาก จากขอ้ มูลปัจจบุ ัน Soft Landing แปรสภาพฟกู ไปท้งั สิ้น 1,168,350 หลัง แปลสภาพสปริงเหลก็ ไปถงึ 17,637 ตัน และแปรสภาพไม้รองฟูกไป 8,127 ตนั ดว้ ยกนั ด้วยสาเหตนุ ี้ Soft Landing จึงได้รับรางวลั ชนะเลิศ Social Enterprise Award 2016 ของ ประเทศ และในปี ค.ศ. 2017 ไดร้ บั เงนิ อุดหนุนจาก Westpac Foundation 5. วสิ าหกจิ เพอื่ สงั คมในสาธารณะรฐั เกาหลี แนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคมนั้น ได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากประเทศในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออก สาธารณรัฐเกาหลี (ประเทศเกาหลีใต้) นบั เปน็ ประเทศท่ีมคี วามชัดเจนในเรอื่ งการส่งเสริมวิสาหกิจ เพื่อสังคมอย่างมากประเทศหนึ่งในภูมิภาคนี้ และยังเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่มี การตรากฎหมาย ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมขึ้นเป็นการเฉพาะ ในปี ค.ศ. 2006 ซึ่งกฎหมายที่ว่ามานี้ คือ Social Enterprise Promotion Act (SEPA) (Bidet, et al., 2019) กฎหมายฉบับนี้วางกรอบการส่งเสริม และการกำกับดูแล วิสาหกจิ เพอ่ื สงั คมในประเทศเกาหลีใตไ้ ว้อย่างชัดเจน วิสาหกิจเพือ่ สังคมในประเทศเกาหลใี ต้ มคี วามแตกต่าง จากประเทศตะวันตก เพราะในกลุ่มประเทศตะวันตกวิสาหกิจเพื่อสังคมมักจะพัฒนามาจากองค์กรสาธารณ กุศล จุดเริ่มตน้ ของการพัฒนาแนวคิดวิสาหกิจเพอ่ื สงั คมในประเทศเกาหลใี ต้ เพราะเป็นการสรา้ งความร่วมมือ ระหว่างรัฐบาลและภาคประชาชนสังคม อันนำมาสู่การขับเคลื่อนเครือข่ายความคุ้มครองทางสังคม (Social Safety Net) การให้บริการทางสงั คม (Social Service) และแนวคดิ การพักดันการประกอบการท่ีสร้างรายได้ และทำประโยชนใ์ หส้ ังคม และเมื่อนาย Roh Moo-Hyun เข้าดำรงตำแหนง่ ประธานาธิบดี (ค.ศ. 2003-2008) แนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคมก็ได้รับการส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรม การส่งเสริมของรัฐบาล Roh Moo-Hyun ทส่ี ำคัญประการหนง่ึ คือ การตรากฎหมายนั้นเอง โดย SEPA มผี ลบงั คับใชต้ ัง้ แต่วันท่ี 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 เป็นต้นมา (Hwang, et al., 2016) SEPA เป็นกฎหมายที่กำหนดกรอบการบรหิ ารจัดการ และการกำกบั ดแู ล วสิ าหกิจเพือ่ สังคมแบบรวมศนู ย์ ซ่งึ แตกตา่ งจากบริบทของประเทศตะวนั ตกหลายประเทศท่ีมักจะมีกฎหมาย หลายฉบบั เขา้ มาเก่ียวขอ้ งตามข้อบัญญัติของ SEPA องค์กรท่จี ะใชค้ ำวา่ วิสาหกิจเพ่ือสังคม ไดน้ ั้น จะต้องผ่าน การรบั รอง (Certified) จากรัฐมนตรกี ารจัดหางานและแรงงาน (SEPA, art. 2) ขอ้ บญั ญัตนิ ้ี ทำใหว้ สิ าหกจิ เพื่อ สังคมในประเทศเกาหลีใต้มสี ถานภาพที่ชัดเจน แตกต่างกับวิสาหกจิ เพื่อสงั คมในประเทศตะวนั ตกบางส่วนที่ อาจมีลักษณะเป็นองค์กรผสมผสาน (Hybrid Organization) เช่นเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มีสถานภาพความ เป็นสาธารณกุศล (Charitable Status) 113
ในปีค.ศ. 2019 พบว่า มีวิสาหกิจเพื่อสังคมผา่ นการรับรองทั้งสิน้ 2,372 แห่ง ส่วนมากตั้งอยู่ใน กรุงโซล และจังหวัดคย็องกี (Gyeonggi) โดยวิสาหกิจเพื่อสังคมเหล่านี้ มีการจ้างแรงงานทั้งสิ้น 46,665 คน และในจำนวนนี้ 28,263 คน มีภูมิหลังเป็นผู้ด้อยโอกาส (disadvantaged background) ซึ่งหากนับรวม องค์กรเพื่อสังคมอืน่ ด้วยประเทศเกาหลีใต้ยังมีกลุ่มสหกรณ์ กลุ่มบริษัทหมู่บ้าน (Village Companies) และ กลุ่มวิสาหกิจพ่งึ พาตนเอง (Self-Sufficiency Enterprises) อน่ึง กลุม่ สหกรณ์นบั ว่ามจี ำนวนมากทสี่ ุดในระบบ เศรษฐกิจเพื่อสังคมของประเทศเกาหลีใต้ตามมาด้วยวิสาหกิจเพื่อสังคมบริษัทหมู่บ้าน และวิสาหกิจพึ่งพา ตนเอง SEPA ยังกำหนดให้มกี ารจัดทำแผนสง่ เสริมวิสาหกิจเพ่อื สังคมระดบั ชาตทิ ุก ๆ 5 ปี และใหแ้ ต่ละจังหวัด จัดทำแผนส่งเสริมของจงั หวัดด้วยเชน่ กัน นับตั้งแต่ SEPA มีผลบังคับใช้ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศแผนการ ส่งเสริมวสิ าหกิจเพ่ือสงั คมไปแลว้ ทง้ั ส้นิ 3 แผนด้วยกนั ปจั จบุ ันการดำเนินการสง่ เสรมิ วสิ าหกิจเพื่อสังคมอยู่ในระยะเวลาของแผนท่ี 3 ซึ่งประกาศใช้เมื่อ ปี ค.ศ. 2018 ที่ผ่านมา แผนการส่งเสริมนั้นมสี าระสำคัญหลักในการสร้างความยั่งยืนให้แก่การประกอบการ วิสาหกิจเพือ่ สังคม สร้างความยดึ โยงระหว่างวสิ าหกิจเพื่อสังคมกับชุมชน และเน้นความพยายามในการสรา้ ง ผลกระทบเชิงบวกจากการประกอบการเพื่อสังคม (SEPA, art. 5, 5-2) กฎหมายฉบับนี้ยังได้กำหนดการ สนับสนุนด้านการเงินแก่วิสาหกิจเพื่อสังคมไม่ว่าจะเป็นการลดหย่อย และ/หรือการยกเว้นภาษีเงินได้ การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ เช่น Korea Inclusive Finance Agency (KINFA) การให้สินเชื่อค้ำประกัน (Credit Guarantee) เช่น Korea Credit Guarantee Fund (KODIT) ที่ให้สินเชื่อแก่วิสาหกิจเพ่ือสังคมสูงถึง 300 ล้านวอน (KRW) (ประมาณ 7-8,000,000 บาท) ยาวนานถึง 5 ปี นอกจากนี้ SEPA ยังกำหนดให้กระทรวง จัดหางานและแรงงาน ส่งเสริมการอบรม และการฝึกฝนใหแ้ กผ่ ู้สนใจประกอบการวสิ าหกจิ เพื่อสังคมอีกด้วย (SEPA, art. 10-2) SEPA ยังบัญญัติให้มีการจัดตั้งหนว่ ยงานกำกับดูแลวิสาหกิจเพือ่ สังคมหน่วยงานดังกล่าว คือ Korea Social Enterprise Promotion Agency (KoSEA) ซึ่งเริ่มทำหน้าที่ในปี ค.ศ. 2010 เป็นต้นมา เป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อกระทรวงจัดหางานและแรงงาน อนึ่ง การกำกับดูแลองค์กรรูปแบบอื่นในระบบ เศรษฐกจิ เพ่ือสงั คมของประเทศเกาหลีใต้ จะขึน้ อย่กู ับกระทรวง และหน่วยงานกำกับดูแลทต่ี ั้งข้นึ เฉพาะ ตาม ข้อบญั ญัตขิ อง SEPA น้ัน KoSEA มีบทบาทหนา้ ท่ีหลกั (SEPA, art. 20) ดังนี้ 1) ให้การสนับสนุนด้านการฝกึ อบรมและการพาณชิ ย์แกผ่ ้ปู ระกอบการวสิ าหกิจเพอื่ สังคม 2) กำกบั ดูแลและประเมินผลการประกอบการวิสาหกจิ เพื่อสังคม 3) สร้างเครือข่ายเพ่ือการพัฒนาวิสาหกิจเพ่อื สังคม 4) สร้างชอ่ งทางการส่อื สารผา่ นเว็บไซต์และดำเนนิ การจดั ทำระบบฐานขอ้ มลู 5) ให้คำปรกึ ษาแก่วิสาหกิจเพ่ือสังคมในดา้ นการบรหิ ารงานเทคโนโลยี ภาษอี ากร แรงงาน และ การทำบญั ชี 6) ประสานความรว่ มมอื และการแลกเปลีย่ นดา้ นวสิ าหกิจเพื่อสงั คมกับตา่ งประเทศ 5.1 ตวั อยา่ งวิสาหกจิ เพ่ือสงั คมในประเทศเกาหลีใต้ 5.1.1 Beautiful Store วิสาหกิจเพ่อื สังคม Beautiful Store เริม่ ประกอบการในปี ค.ศ. 2002 โดยจัดต้ังใน รูปแบบขององคก์ รไม่แสวงหากำไร ภายหลังจากการประกาศใช้ SEPA วิสาหกิจเพื่อสังคมแห่งนี้จึงได้รบั การ รองรับเปน็ วิสาหกจิ เพือ่ สงั คม ในปี ค.ศ. 2007 Beautiful Store มเี ปา้ หมายการประกอบการที่สำคัญคอื การ 114
สร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านกระบวนการนำวัสดุเหลือใช้มาแปลสภาพ (Recycling) รวมทั้งการนำผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนที่ใช้แล้วมาซ่อมแซม จากนั้นจึงนำไปจำหน่ายอีกครั้งเป็นสินค้ามือสอง (Second-Hand Household Goods) ซึ่งในแต่ละปีมจี ำนวนวสั ดุที่บรจิ าคให้กับ Beautiful Store มากถึง 21 ล้านรายการเลยทีเดียว ในปัจจุบัน Beautiful Store จ้างแรงงานเต็มเวลาทั้งสิ้น 443 คน และได้รับการ ชว่ ยเหลอื จากอาสาสมัครอกี กวา่ 17,532 คน ในการดำเนินการร้านสาขาซง่ึ มจี ำนวนทั้งสิน้ 113 แหง่ และศนู ย์ ซ่อมอีก 28 แห่งทั่วประเทศ โดยในปี ค.ศ. 2018 Beautiful Store มีผลประกอบการ 31.8 ล้านวอน (KRW) หรือประมาณ 8.4 ล้านวอน (Oh, 2019) การได้รับการรับรองเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมตาม SEPA น้ัน หมายความว่า ผลกำไร 2 ใน 3 ส่วนที่หามาได้จะต้องนำมาใช้เพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ในการ ประกอบการของวิสาหกิจน้นั ๆ (SEPA, art. 8(1)7) นอกจากจะตอ้ งปฏบิ ัติตามข้อบัญญัติทก่ี ลา่ วมาแล้ว ในปี ค.ศ. 2018 Beautiful Store ยังได้ใชเ้ งินจำนวน 4,300,000 ล้านวอน ในการจัดกิจกรรมการแบ่งปัน ไม่ว่าจะ เปน็ กจิ กรรม Beautiful Forest Project ซ่งึ เปน็ โครงการปลูกตน้ ไม้รมิ ถนนเพ่ือชว่ ยลดปัญหาการกระจายของ ฝ่นุ ละอองขนาดเล็กในเวลาท่รี ถยนตส์ ัญจรไปมา นอกจากนี้ ยงั มีการดำเนนิ การให้ร้านสาขาแต่ละแหง่ สามารถ เสนอกิจกรรมที่ตนอยากทำเพื่อช่วยเหลือคนในชุมชน ภายใต้ชื่อโครงการ Hope Sharing Project (Oh, 2019) การดำเนินการของวิสาหกจิ เพื่อสังคมแห่งนี้ สอดคล้องกับคำขวัญที่กำหนดขึ้นคือการแปรสภาพและ การแบ่งปัน (Recycling and Sharing) 5.1.2 TestWorks ก่อตงั้ ขนึ้ เม่ือปีค.ศ. 2015 และได้รบั การรบั รองเปน็ วสิ าหกิจเพ่อื สังคมตาม SEPA ใน ปีค.ศ. 2017 วิสาหกิจเพื่อสงั คมแหง่ น้ีประกอบการมาเพียงไม่กีป่ ี แต่นับเป็นวิสาหกจิ แนวนวัตกรรมทีม่ ีความ โดดเด่น และสร้างคุณูปการให้แก่สังคมไม่น้อยเลยทีเดียว ปัจจุบัน ธุรกิจหลักของ TestWorks นั่นคือ การ สรา้ งชดุ ขอ้ มูล (Data Set) และประมวลผลข้อมูลเหล่านั้น เพ่ือใหเ้ คร่ืองมือ หรือชุดอปุ กรณ์ท่ีมีความสามารถ ขายปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : Al) เรยี นรู้ข้อมลู และนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นทางธุรกิจ ลกู คา้ กลุ่ม หลักของ Test Works ประกอบด้วย บริษัทต่าง ๆ เช่น Samsung , Microsoft, Motorola (Shin, 2019) ระยะแรกของการกอ่ ตั้งน้นั วิสาหกจิ เพอื่ สังคม TestWorks ใหค้ วามสำคัญกับประเดน็ การจ้างงานผูด้ อ้ ยโอกาส โดยเฉพาะสภุ าพสตรี เริม่ แรก TestWorks ฝึกอบรมผเู้ ขา้ รว่ มใหล้ องทดสอบซอฟต์แวร์ และชว่ ยสนับสนุนการ หางานให้แกส่ ุภาพสตรที ม่ี าเข้าร่วมฝกึ อบรม ต่อมาวิสาหกิจเพ่ือสังคมแหง่ นี้ไดใ้ ห้ความสนใจจ้างงานผู้ท่ีมีความ บกพร่องในด้านพัฒนา (Developmental Disabilities) โดยผู้บริหาร TestWorks ศึกษาและเรียนรู้ว่าการ ทดสอบซอฟตแ์ วรแ์ ละการประมวลผลข้อมูล เปน็ หนา้ ท่ี ๆ ตอ้ งทำซ้ำ ๆ ดงั นัน้ คนปกติมักจะเบื่องานประเภท นี้ จึงได้ว่าจ้างผู้ที่มีความบกพร่องในด้านพัฒนาการที่ยังสามารถทำงานได้มาทำหน้าที่ และปรากฏว่าบุคคล เหล่านี้มคี วามอดทนตอ่ งานประเภทนี้มากกว่าบคุ คลธรรมดา (Shin, 2019) จะเหน็ ไดว้ า่ TestWorks ใหโ้ อกาสผไู้ ด้โอกาสหลายกลุ่ม ไม่วา่ จะเป็นสภุ าพสตรีที่ไม่ มีอาชีพ ผู้ที่มีความบกพร่องในด้านพัฒนาการ ผู้พิการสูญเสียการได้ยิน คนหนุ่มสาวที่ยังไม่มีงานทำ และ รวมถงึ ผู้ทแ่ี มง่ ไมไ่ ดร้ ับการจ้างงานเปน็ เวลานาน ซ่ึงการจ้างงานกล่มุ คนต่าง ๆ เหลา่ นี้รวมกนั มีสดั ส่วนถึง 2 ใน 3 ของวิสาหกจิ เพ่ือสังคมแห่ง 115
Social Enterprise ในประเทศไทย วิสาหกิจเพื่อสังคมในประเทศไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมตาม พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมวิสาหกิจเพ่ือสงั คม พ.ศ. 2562 มีกระจายครอบคลุมทกุ ภมู ิภาค จำนวน 145 วิสาหกิจ เพื่อสังคม ส่วนใหญ่มีสถานที่ตั้งอยูใ่ นพื้นท่ีกรุงเทพมหานครมากที่สุด ร้อยละ 26.20 รองลงมาคือ ภาคกลาง ร้อยละ 19.31, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 16.55, ภาคเหนือ ร้อยละ 13.79, ภาคใต้ ร้อยละ 11.73, ภาคตะวันออก ร้อยละ 8.28 และภาคตะวันตก รอ้ ยละ 4.14 ติญทรรศน์ ประทปี พรณรงค์ (2563, หนา้ 138) ได้กล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานของวสิ าหกิจเพื่อสังคมในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยมีเป้าหมายการ ดำเนนิ การทีค่ อ่ นขา้ งจะสอดคลอ้ งกบั วถิ ชี ีวติ ของผู้คนในแตล่ ะพน้ื ที่ ซงึ่ ผู้เขยี นขอยกตัวอย่างวสิ าหกจิ เพ่ือสังคม ได้แก่ 1) มลู นิธิแม่ฟ้าหลวงใน พระบรมราชูปถัมภ์-โครงการพฒั นาดอยตุง ในปีพ.ศ. 2515 มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์หรือเดิม “ มูลนิธิส่งเสริมผลผลิตชาวเขา ไทยในพระบรมราชูปถัมภ์” ได้รับการก่อตั้งขึ้น ตามพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) เพื่อช่วยเหลือและยกระดับการดำเนินชีวิตของชาวเขาทั้งในด้านการส่งเสริมการสร้างอาชีพและ รายได้รวมทั้งการสง่ เสริม การอนุรักษศ์ ลิ ปวัฒนธรรม (มลู นิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถมั ภ์ ม.ป.ป) นับแต่ มลู นธิ ิแม่ฟ้าหลวงก่อตั้งข้ึนผืนป่าทเี่ คยเสือ่ มโทรมพ้ืนท่ีทีเ่ คยเปน็ ไร่เลอ่ื ยลอย และแหล่งปลูกพชื เสพตดิ เช่นฟิน ก็กลับกลายเป็นแผ่นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยการดำเนินโครงการสำคัญสำคัญที่สร้างผลกระทบสูงและ การเปลีย่ นแปลงใหก้ ับชมุ ชนและสงั คมหลายโครงการหนึ่งในโครงการท่ีเปน็ ท่ีทราบของประชาชนจำนวนมาก คอื โครงการพฒั นาดอยตุงจงั หวัดเชียงรายซง่ึ ริเรม่ิ ดำเนนิ โครงการมาต้ังแต่ปีพ.ศ. 2531 (มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงใน พระบรมราชูปถัมภ์, ม.ป.ป.) โครงการพัฒนาดอยตุงให้ความสำคัญกับการพัฒนาในสามด้านคือด้านสุขภาพ ด้านการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และด้านการศึกษาโดยในด้านการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่นั้นโครงการฯ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการประกอบการด้านอาหาร หัตกรรม การเกษตร รวมทั้งการท่องเที่ยว ซึ่งใน ปัจจุบันการจัดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกับการประกอบการขา้ งต้นไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ เครื่อง นุ่งห่ม อาหาร เช่น กาแฟ ถั่วแมคคาเดเมีย ล้วนดำเนินการภายใต้ยี่ห้อ (Brand) ดอยตุง “Doitung” หรือ “ดอยตุงแบรนด์” มลู นธิ แิ ม่ฟ้าหลวงได้รับการข้นึ ทะเบียนเป็นวิสาหกิจเพ่ือสงั คมประเภทไม่ประสงค์จะแบ่งปันกำไร ให้แก่ผู้ถือหุ้นตาม พรบ. ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 อันที่จริงแล้วต้อง กล่าวว่าการดำเนินการของโครงการโดยตรงทีผ่ ่านมานั้นไม่เพยี งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างย่ังยืน แต่ยังสอดคล้องกับแนวคิดและแนวทางวสิ าหกิจเพื่อสังคมอีกด้วยโครงการโดยตรงน้ันมีการจ้างงานพนกั งาน รายวนั ซง่ึ เป็นคนในพนื้ ท่ีมากถึง 1200 คน และแมจ้ ะเปน็ พนกั งานรายวันกต็ ามพนักงานจำนวนมากทำงานกับ โครงการฯ มาอย่างต่อเนอ่ื งเป็นระยะเวลาเกอื บ 20 ปี 2) มูลนธิ ิโรงพยาบาลเจา้ พระยาอภัยภเู บศร มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภูเบศร ได้รับการขึ้นทะเบยี นเปน็ วิสาหกิจเพ่ือสังคมประเภทไม่ ประสงค์จะแบ่งปันกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้นตาม พรบ. ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ประวตั ิความเป็นมาของโรงพยาบาลแห่งนีน้ ้นั เริ่มกอ่ ตั้งในปีพ.ศ. 2484 ไทยชอ่ื วา่ โรงพยาบาลปราจีนบุรี 116
โดยในระยะเริ่มแรกเป็นเพียงโรงพยาบาลขนาด 50 เตียงตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรีต่อมามีมติ คณะรัฐมนตรีเมือ่ วันที่ 18 มกราคมพ.ศ. 2509 ให้เปลยี่ นชื่อโรงพยาบาลแหง่ นเี้ ปน็ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัย ภูเบศร เนื่องด้วยหอผู้ป่วยหลังแรกกล่าวคือตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สร้างโดยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ใน ปจั จบุ ันตกึ หลงั นี้ใช้เปน็ ทจี่ ดั แสดงพิพิธภณั ฑ์ การแพทย์แผนไทยใหป้ ระชาชนเข้าเย่ียมชมสว่ นของการจัดแสดง ตำรายาโบราณ พิพธิ ภัณฑย์ าหอม รา้ นยาไทยโพธ์เิ งินกิจกรรมนทิ รรศการศนู ยก์ ารเรียนรูก้ ารดแู ลสุขภาพและ เป็นที่ ฟังการบรรยายศึกษาดูงานด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรอภัยภูเบศร (โรงพยาบาลเจ้าพระยา อภัยภูเบศร, 2561) ความเปน็ วสิ าหกจิ เพ่อื สังคมของมลู นธิ ิ คือ การสง่ เสรมิ ใหช้ ุมชนกลบั มาใช้สมุนไพรท้องถ่ิน และส่งเสริมเกษตรกรให้ปลูกพืชสมุนไพรโดยมีงบประมาณในการสนับสนุนเกษตรกรปีละประมาณ 15 ล้าน บาท และมูลนิธิได้มีการประกอบการผลิต จำหน่ายสินค้าสมุนไพร โดยเมื่อได้ผลประกอบการจะนำผล ประกอบการทใ่ี ดร้อยละ 70 มอบใหก้ บั โรงพยาบาลและรอ้ ยละ 30 นำกลับมาเปน็ ทนุ หมุนเวียนของมูลนธิ เิ อง โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เริ่มนำความรู้ด้านสมุนไพรไทยเข้ามาใช้ในการให้บริการทาง การแพทย์เม่อื ประมาณปีพ.ศ. 2529 เมื่อเภสชั กรหญิงสภุ าพร ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยา อภัยภูเบศร ซึ่ง ณ ขณะนั้นปฎิบัติหน้าที่เภสัชกรของโรงพยาบาล ได้รับการร้องขอจาก กุมารแพทย์ของ โรงพยาบาล ให้ช่วยพฒั นายาจากสมนุ ไพรเพื่อรักษาเริม่ ในปากเด็ก จงึ ได้พัฒนายาสมนุ ไพรซึง่ มีส่วนผสมของพญา ยอ ชื่อทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการรักษาโรคดังกล่าว จากนั้นเป็นต้นมาโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้ ความสำคญั เก่ียวกบั การนำสมนุ ไพรไทยมาพฒั นาเป็นตำรับยา รกั ษาโรคหลากหลายรายการ เช่นยาแก้ไอผสม มะขามป้อม ยาแคปซูลขมิ้นชัน และยังผลิต เวชสำอางจากสมุนไพรอีกหลายรายการเช่น กันโดยเฉพาะครมี สมุนไพรตา่ ง ๆ โดยมีการจดั จำหน่ายท้งั ในร้านขายยาและห้างสรรพสินค้าทัว่ ไป หลังจากใช้ความรู้แพทย์แผน ไทยมาหลาย 10 ปใี นปพี .ศ. 2559 โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภูเบศร ไดเ้ ปดิ ดำเนินการโรงพยาบาลการแพทย์ แผนไทยและแพทย์ทางเลือกอภัยภเู บศร เพ่ือบรู ณาการแพทย์แผนไทยเข้าสูร่ ะบบบรกิ ารสาธารณสขุ อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ โรงพยาบาลพระเจ้าอภัยภูเบศร ดำเนินการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนใกล้เคียงรู้จัก สมนุ ไพรและสง่ เสริมการใช้สมนุ ไพรในการรกั ษาโรคจากนน้ั ได้ทำวิจัยเพ่ือพัฒนาการผลิตสมุนไพรให้อยู่ในรูป ของยาแผนปัจจุบัน และได้รับการตอบรับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2540 เป็นต้นมา เพราะเป็นช่วงที่ตลาดโลกให้ความ สนใจผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและในปีพ.ศ. 2545 โรงพยาบาลได้จัดตั้งมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพ่ือเปน็ นิตบิ ุคคลทำหน้าท่ี ขอรบั การข้ึนทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 3) บรษิ ัท กาแฟอาขา่ อา่ มา จำกดั บริษทั กาแฟอาขา่ อา่ มา จำกดั ก่อตั้ง ขน้ึ เม่อื ปีพ.ศ. 2553 โดย คุณอายุ จือปา หรือ ลี ชายหนุ่ม ชาวอาข่า อำเภอแม่สรวย จงั หวดั เชียงราย และไดร้ บั การข้ึนทะเบียนเปน็ วิสาหกิจเพ่อื สังคมประเภทประสงค์ จะแบ่งปันผลกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้นตาม พรบ ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 คำว่า “อาข่า” นน้ั มคี วามหมายถึง ชนเผ่าอาข่า ส่วนคำว่า “อ่ามา” งั้นแปลวา่ แม่ในภาษาอาข่าสาเหตุที่ตั้งช่ือเช่นน้ี เพอื่ ใหเ้ ป็นท่ีละลกึ ถงึ ภูมหิ ลังของตนเองว่าเกดิ มาในชนเผ่าอาข่าเติบโตและคุ้นชินมากับการปลูกกาแฟของคุณ แม่และคนในชนเผ่าอาข่านั่นเองแม้ว่าคุณลีจะคุ้นชินกับการประกอบอาชีพของคนในครอบค รัวและ คน ใน ชมุ ชนแต่ในชว่ งเร่มิ ตน้ คุณลีมีความรู้หรอื ความเช่ยี วชาญเกีย่ วกับเม็ดกาแฟและการควั่ กาแฟ แต่เนอ่ื งจากคุณลี มองเห็นปัญหาว่าชาวบ้านชนเผ่าอาข่าซ่งึ ปลูกกาแฟหาเลี้ยงชีพนน้ั ขาดความรู้ความเขา้ ใจในการทำการค้าขาย 117
เมลด็ กาแฟจึง มักถกู พอ่ ค้าคนกลางเอาเปรียบและต้องการพิสูจน์ว่าเมล็ดกาแฟท่ีปลกู ในประเทศมีคุณภาพจึง ได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกบั กาแฟและตดั สินใจเปิดร้านกาแฟเลก็ ๆ ตั้งอยู่ซอยหสั ดีเสวี 3 อำเภอเมือง จังหวัด เชียงใหม่ ในระยะเร่ิมต้นธุรกจิ รา้ นกาแฟประสบปัญหาต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะปญั หาการขาดเงินทุนไม่มี สถาบันการเงินใดใหส้ นิ เชอื่ คุณลีไ่ ดร้ ับโอกาสเมื่อมผี ชู้ ักนำใหร้ จู้ กั กับ SEC ทำให้เขาได้รับเงินสนบั สนนุ บางส่วน เพือ่ มาทำธรุ กจิ กาแฟอาขา่ อา่ มา กย็ งั ไม่ไดร้ บั การสนใจ จนกระทงั่ คณุ ลไี ด้ลองสง่ เมล็ดกาแฟเข้าประกวดกับ SCA และได้รบั คัดเลือกให้เปน็ หนงึ่ ใน 21 ย่ีห้อกาแฟจากท่วั โลกเพ่ือใช้ในเวทีการชมิ กาแฟนานาชาติ หลังจาก นั้นเริ่มมีผู้ให้ความสนใจดื่มกาแฟอาข่า อ่ามา มากขึ้น โดยในช่วงแรกยี่ห้อกาแฟอาข่า อ่ามา เป็นที่รู้จักของ ลูกค้าซึง่ นกั ท่องเทีย่ วชาวต่างชาติ และต่อมาภายหลงั จึงมลี กู คา้ ชาวไทยเพมิ่ มากข้ึน หลงั จากกาแฟอาข่า อ่ามา เรมิ่ เปน็ ท่รี ู้จกั มากขึ้นคณุ ลีไดจ้ ัดกิจกรรมอนั มีสว่ นสำคัญให้ผู้คนได้รู้จัก และเข้าใจการเพาะปลูกกาแฟมากขึ้นชื่อว่า “ โครงการตามรอยเส้นทางกาแฟ” หรือ “ The Coffee Journey” โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ผู้คนที่สนใจได้รับรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตและวิถีชีวิตของ ชาวบา้ น ทำให้ผ้คู นท่ีมาเย่ยี มชมได้เห็นถึงการใหโ้ อกาสกับชาวบา้ น นอกจากนค้ี ุณลยี ังได้ใหค้ วามรู้กับชาวบ้าน ในการพฒั นาการปลูกกาแฟโดยกระบวนการส่งเสรมิ ความรู้นั้นคุณลี่ สอดแทรกการสรา้ งจิตสำนึกในการรักษา ส่งิ แวดลอ้ มไปดว้ ย ปัจจยั ที่ส่งผลต่อความสำเรจ็ ของวิสาหกจิ เพ่ือสังคม สถาบันธุรกิจเพื่อสังคม (สถาบันธุรกิจเพื่อสังคม, 2555) ได้นำเสนอปัจจัยสำคัญ 7 ประการที่มีผลต่อ ความสำเรจ็ ของวสิ าหกจิ เพื่อสังคม ดังนี้ 1. เป้าหมายทางสังคม คือ ภารกิจของวสิ าหกิจเพอ่ื สงั คมท่ีจดั ตง้ั เพ่อื ตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหาทาง สังคม เศรษฐกจิ และส่งิ แวดล้อม 2. ประสิทธิภาพเชิงธุรกิจ คือ ตัวชี้วัด และการประเมินผลการดำเนินงานขององค์กรในเชิงธุรกิจ ความสามารถในการแข่งขัน การเข้าถึงตลาด ประสทิ ธภิ าพในการบริหารและการดำเนินงาน 3. ภาคีเครอื ขา่ ยและการเช่ือมโยงกับธุรกิจกระแสหลกั เนื่องจากวสิ าหกิจเพอ่ื สงั คมเริ่มตน้ ด้วยกิจการท่ี มีขนาดเลก็ จงึ เป็นเรอ่ื งจำเป็นอย่างยงิ่ ในการบริหารความเส่ยี ง สร้างความเข้มแข็ง และการต่อยอด เพอ่ื สรา้ งตำแหน่งทางธุรกิจใหอ้ งคก์ รสามารถขับเคลื่อนอยู่ในกลไกตลาด 4. นวัตกรรมทางสังคม ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบวิสาหกิจเพื่อสังคม และการมีส่วนร่วมของ สังคมจะเปน็ กลไกสำคญั ทคี่ ิดนวัตกรรมทางสงั คมเพื่อสร้างการเปลยี่ นแปลงให้เกดิ ขึ้นอย่างแทจ้ รงิ 5. ทุนทางสังคมของกิจการ เนื่องจากผู้ประกอบวิสาหกิจเพื่อสังคมจะต้องรูว้ ่ากิจกรรมของตนมีความ เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้องใด และควรสร้างความสัมพันธ์กับแต่ละส่วนให้ เหมาะสม เพื่อสร้างทุนทางสังคมในการวางรากฐานความเขม้ แข็งธุรกจิ บนชุมชน และสังคมให้เปน็ แรงขับเคลื่อนไปได้ตอ่ ไป 6. ความโปร่งใส เป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจ ยิ่งเมื่อวิสาหกิจเพื่อสังคมมาอยู่ร่วมกับสังคม ดงั นั้น ความโปร่งใสของวิสาหกิจเพอื่ สงั คมจำเป็นต้องดำเนินหลกั ธรรมาภิบาล ตลอดจนมีการช้ีแจง 118
รายงานรูปแบบ ผลการดำเนนิ งานอย่างสม่ำเสมอ เพอื่ สร้างความมน่ั ใจให้แก่ผ้มู สี ว่ นได้ส่วนเสีย และ กลายเป็นความน่าเชื่อถือและการยอมรบั ในสังคม 7. การขยายและเติบโตของกิจการ วิสาหกิจเพื่อสังคมนอกจากจะดำเนินกิจการทั้งในด้านฐานลูกค้า สินค้า และบริการ พื้นที่ตลาด เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์การ (Economic Value Creation) แต่ต้องเปน็ การขยายการเตบิ โตของกจิ การของผลกระทบทางสงั คม (Social Value Creation) นอกจากน้ี สมเกียรติ สกุลสรุเอกพงศ์ (2559, หน้า 153-156) เสนอปัจจัยที่มอี ิทธพิ ลต่อประสิทธิภาพ ของวิสาหกจิ เพ่ือสงั คมในประเทศไทย ดังน้ี 1. คุณลักษณะของผู้นำ ซึ่งมีอิทธิพลทางเดียวกับ (ทางบวก) มากที่สุดต่อประสิทธิภาพหรือผลการ ดำเนินงานสำหรับวิสาหกิจเพื่อสงั คม กลา่ วคือ ส่ิงทผ่ี นู้ ำประพฤติ ปฏิบัติ ดำเนินการบริหารจัดการ จะมีผลต่อประสิทธิภาพหรือผลการดำเนินงานอยา่ งสูง ซึ่งผู้นำควรมีคุณธรรม รู้จักการบริหารดว้ ย ความรับผิดชอบขององค์การอย่างบูรณาการ ด้วยความมุ่งมั่น มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง กำหนดการวดั การดำเนนิ งานดว้ ยตวั ชว้ี ัดท่เี หมาะสมเปน็ ธรรม 2. โครงสร้างองค์การ มอี ิทธทิ างตรงกบั ขา้ ม (ทางลบ) ต่อประสทิ ธภิ าพของวิสาหกิจเพือ่ สังคม กล่าวคือ ยิ่งองค์การท่ีมีโครงสร้างองค์การซับซ้อน มีความเป็นทางการสูง หรือมีการรวมศูนย์อำนาจมาก เกนิ ไป จะทำใหป้ ระสิทธภิ าพของการดำเนินงานวสิ าหกิจเพอ่ื สงั คมลดลง ดังนี้ สิง่ หน่งึ ทว่ี ิสาหกิจเพือ่ สังคมจำเป็นต้องมีการออกแบบโครงสร้างองค์การในลักษณะไม่ซับซ้อน และไม่เป็นทางการ มีการ กระจายอำนาจ และใช้นวตั กรรมตา่ ง ๆ ในการนำเสนอสินคา้ และบริการ 3. มูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ มีอิทธิพลทางเดียวกับ (ทางบวก) ต่อประสิทธิภาพของวิสาหกิจเพ่ือสงั คม กล่าวคือ ผลิตภัณฑ์เป็นสื่อกลางสำคัญในการส่งมอบ สร้างการรับรู้ ความตระหนักถึงองค์การสู่ ผู้บริโภค และยังรวมถึงความสามารถขององค์การในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค หรอื ผรู้ ับบรกิ าร ในสว่ นของ วธู โรจนวงศ์ และอรพรรณ คงมาลัย (2561, หน้า 1) กลา่ ววา่ กิจกรรมที่มีความสำคัญและส่งผล ต่อการดำเนินกิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย มีทั้งหมด 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ 1) กิจกรรมหลักภายในองค์กร (Core Activity) ท่เี ก่ียวขอ้ งกับการสร้างมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์โดยตรง ตง้ั แตก่ ระบวนการจัดหาวัตถุดิบจนสิ้นสุดที่การส่ง มอบผลิตภัณฑ์สู่ลกู ค้า 2) กจิ กรรมสนบั สนุนภายในองคก์ ร (Supporting Activity) ทีม่ าสนับสนนุ ให้ทรัพยากรและ ศักยภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกิจกรรมหลักมีคุณภาพดีขึ้น และ 3) กิจกรรมสนับสนุนภายนอกองค์กร (Externality) ที่มาช่วยให้การบริหารจัดการกระบวนการดำเนินงานต่าง ๆ สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมภายนอก และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ ไดม้ ากที่สดุ 119
สรุป ในการพัฒนาประเทศให้เกิดความย่งั ยืนของแต่ละประเทศมีวธิ ีการที่แตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกัน กับการสรา้ งความเข้มแข็งให้กับกิจการ/วสิ าหกิจเพอ่ื สังคม (Social Enterprise หรอื SE) เป็นโจทยส์ ำคัญที่ใน แต่ละประเทศมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้กิจการ/วิสาหกิจเพื่อสังคมในประเทศเหล่านั้นประสบ ความสำเร็จ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนนาดา ออสเตรเลีย สาธารณรัฐเกาหลี รวมถึงประเทศ ไทย เนื่องจากทุกประเทศมองเห็นความเป็นไปได้ว่าประโยชน์ในการดำเนินกิจการ/วิสาหกิจเพื่อสังคมนั้น มี ซึ่งกล่าวไดว้ า่ กจิ การ/วสิ าหกจิ เพ่อื สังคมเปน็ อกี ทางเลอื กหนง่ึ สำหรบั ผ้ทู ่ีตอ้ งการทำ ธุรกจิ โดยไมเ่ พยี งมุ่งหวัง แค่ผลกำ ไร แตย่ งั ตอ้ งการพฒั นาสังคมควบคู่กันไปดว้ ย กิจการ/วิสาหกิจเพอื่ สงั คมจงึ มีความสำคัญอย่างยิ่งใน การพัฒนาสังคม และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจัยแห่งความสำเร็จในการดำเนินกิจการ/ วสิ าหกิจเพื่อสงั คมมีหลากหลายปัจจยั ท่จี ะมาช่วยเก้ือหนุน 120
เอกสารอา้ งองิ ตญิ ทรรศน์ ประทีปพรณรงค.์ (2563). การพัฒนาอย่างยั่งยืนกบั วสิ าหกจิ เพื่อสงั คม. นนทบุรี: รตั นไตร. วธู โรจนวงศ์ และอรพรรณ คงมาลยั (2561). การพัฒนาแนวทางสนบั สนนุ การดำเนนิ กจิ การเพอ่ื สังคมใน ประเทศไทย Supporting Methods for Social Enterprise in Thailand. บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั สวนดุสติ , 14(1), 1-17 สมเกียรติ สกุลสุรเอกพงศ.์ (2559) ปัจจัยที่มอี ทิ ธิพลตอ่ ประสิทธภิ าพกจิ การเพอ่ื สังคมในประเทศไทย. วารสาร การเมอื ง การบริหาร และกฎหมาย, 8(1), 139-161. สถาบนั ธรุ กจิ เพือ่ สังคม. (2555) Social Enterprise. [ออนไลน์] จาก http;//www.csri.or.th/knowledge/social-enterprise Alter, K. (2007). Social Enterprise Typology. [Online]. https://www.globalcube.net/clients/ philippson/content/medias/download/SE_typology.pdf Akbulaev N. Aliyev, Y., & Ahmadov, T. (2019). Research model for financing social business: theory and practice. Heliyon, 5(5), 1-7. Ashoka. (2018). Social Enterprise Typology. Virtue Ventures LLc. British Business Bank. (2019). Annual report and account 2019. Sheffield : British Business Bank Bennett, C. S. (1992). The design and Development of an information technology Application for Community Transport : A Case Study Approach. Unpublished M. Phill. Thesis, Loughborough University of Technology Butcher, J. (2015). The third sector and government in Australia: Not-for-profit reform under Labor, 2007-2013. Australia Journal of Political Science, 50(1), 148-163. Barraket J. & Muir, K. (2016). Social Enterprise Development and investment funds (SEDIF): Evaluation Report. Department of Employment, Australian Government. Bidet, E. Eum, H., & Ryu, J. (2019). Models of Social Enterprise in South Korea. In E. Bidet, & J. Defourny (Eds.), Social Enterprise in Asia: Theory, models and practice. London : Routledge Douglas, I. (2016). The circular economy. Human Ecology Journal, 27, 40 - 46. Gibbons, J & Hazy, K.J. (2017). Leading a large-scale distributed social enterprise: How the leadership culture at Goodwill Industries creates and distributes value in communities. Nonprofit Management & Leadership, 27(3), 299 - 316. Hanks, S & Swithinbank, T. (1997). The Big Issue and other street papers: a response to homelessness. Environment and Urbanization, 9(1) 149 - 158. Hazy, K. J, & Uhl-Bien, M. (2015). Towards operationalizing complexity leadership: How generative, administrative and community-building leadership practices enact organizational outcomes, Leadership, 11(1), 79 - 104. Hwang, S. D., Jang W., Park, J., & Kim, S. (2016). Social Enterprise in South Korea. ICSEM Working Papers, 35, 1 - 20. 121
Oh, C. (2019). Beautiful Store: Creating a Beautiful world of sharing and recycling where everyone participates. In J. Jang. Analyzing the success factors of best practices in the Korean social economy (pp. 85-103). KoSEA Philanthropy Australia. (2018). Annual Report 2018. Blackburn Victoria. Ramirez, M. (2019). Sustainable product service systems : Cases from Oceania. Paper present at the 3rd LeNS World Distributed Conference Ross, L. B. (1997). Distaining the (tattooed) delinquent body: The practices of moral regulation at Toronto’s Street Haven, 1965-1969. Journal of the History of Sexuality, 7(4), 561-595 Social Enterprise UK. (2019). Capitalism in crisis: State of social enterprise survey 2019. London Sen, P. (2007). Ashoka’s big idea: Transforming the world through social entrepreneurship. Futures, 39, 534 – 553. Shin, S. H. (2019). TestWork: Testing new possibilities in the employment of socially vulnerable groups, In J. Jang. Analyzing the success factor of best practices in the Korean social economy (pp. 145-158). KoSEA Thomson Reuters Foundation. (2019). The best countries to be a social entrepreneur. [Online] from http: poll 2019. Trust .org/ คำถามทบทวน 1. นักศึกษาคดิ ว่ากิจการ/วสิ าหกิจเพ่ือสงั คมในแต่ละประเทศแตกต่างกนั อย่างไร พรอ้ มยกตัวอย่าง 2. จงยกตวั อยา่ งกจิ การ/วสิ าหกจิ เพ่ือสงั คมในประเทศไทยทมี่ รี ูปแบบการดำเนินธุรกิจมา 1 ธุรกจิ พรอ้ มอธบิ ายวา่ สงิ่ ทธ่ี ุรกิจนั้นดำเนนิ การมีเปา้ หมายกับการพัฒนาใหเ้ กิดความย่ังยนื ได้อย่างไร 3. จงยกตวั อย่างปัจจัยท่ีทำใหก้ ิจการ/วิสาหกจิ เพ่ือสงั คมประสบความสำเร็จ 122
123
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136