Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ต้นไม้ประจำจังหวัด-เฟรมเบส

ต้นไม้ประจำจังหวัด-เฟรมเบส

Published by natnichasavangsri2547, 2021-02-22 04:31:32

Description: ต้นไม้ประจำจังหวัด-เฟรมเบส

Search

Read the Text Version

ตน้ ไมป้ ระจำจงั หวดั จดั ทำโดย 1.นำยทตั พงษ์ แสงครฑุ ธ์ เลขท่ี20 2.นำยจริ ภทั ร ขุนณรงค์ เลขที่5 ชน้ั ประกำศนยี บตั รวิชำชพี ปี ท่ี2/1 เสนอ อำจำรยข์ วญฤทยั สนิ สอน โรงเรยี นบ่อกรวุ ิทยำ

คำนำ รายงานเลม่ น้ีจดั ทาข้ึนเพื่อเป็นสว่ นหนึ่งของรายวชิ า คอมพิวเตอร์ มลั ตมิ ีเดยี เพื่อใหไ้ ดศ้ ึกษาหาความรูเ้ รอื่ งตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั และไดศ้ ึกษา อยา่ งเขา้ ใจเพ่ือเป็นประโยชนก์ บั การเรยี น ผูจ้ ดั ทาหวงั เป้ นอยา่ งยิง่ วา่ รายงานเลม่ น้ีจะเป็นประโยชนืกบั ผูอ้ า่ น หรอื นกั เรยี นทก่ี าลงั ศึกษาหาขอ้ มูลเรอื่ งน้ีอยูห่ ากมีขอ้ แนะนาหรือ ขอ้ ผิดพลาดประการใดผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรบั ไวแ้ ละขออภยั มา ณ ทน่ี ้ีดว้ ย นายทตั พงษ์ แสงครุฑธ์ เลขท2่ี 0 นายจริ ภทั ร ขุนณรงค์ เลขท5่ี

สำรบญั 4 5 ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั สุพรรรบุรี “ตน้ มะเกลือ” 6 ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั กาแพงเพชร “ตน้ สเี สยี ดแกน่ ” 7 ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั เชยี งราย “ตน้ กะซะลองคา” 8 ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั เชยี งใหม่ “ตน้ ทองกวาว” 9 ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั ตาก “ตน้ แดง” 10 ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั นครสวรรค์ “ตน้ อนิ ทราชติ ” 11 ตน้ ไมป้ ระจาจงั หวดั นา่ น “ตน้ เล้ยี วดอกขาว” อา้ งองิ

ตน้ ไมป้ ระจำจงั หวดั สพุ รรรบรุ ี “ตน้ มะเกลอื ” มะเกลอื (Ebony tree) เป็นจดั เป็นไมป้ ่ ายนื ตน้ ทใ่ี นอดตี นิยมนาผลมาคน้ั นา้ ดม่ื เพื่อใช้ เป็นยาถา่ ยพยาธิ และนาผลสุก รวมถึง เปลอื กมาใชย้ อ้ มผา้ ซงึ่ ใหส้ ดี า นอกจากนนั้ เน้ือไมท้ ม่ี สี าดา ยงั นิยมนามาแปรรูปเป็น เครอื่ งเรอื นไดอ้ กี ดว้ ย

ตน้ ไมป้ ระจำจงั หวดั กำแพงเพชร “ตน้ สเี สยี ดแก่น” ตน้ สเี สยี ดแก่น จดั เป็นไมย้ ืนตน้ ผลดั ใบ มคี วามสูงประมาณ 10-15 เมตร กิ่งกา้ นมหี นามเล็ก ๆ เป็นคขู่ ้ึนอยู่ ทว่ั ไป เป็นพรรณไมก้ ลางแจง้ ทที่ น ตอ่ แสงแดดและความแหง้ แลง้ ไดด้ ี สามารถเจรญิ เตบิ โตไดใ้ นดนิ ทกุ สภาพ ข้ึนไดด้ ใี นทแ่ี หง้ แลง้ และภูเขา หนิ แตต่ อ้ งการนา้ และความช้นื ใน ระดบั ปานกลาง

ตน้ ไมป้ ระจำจงั หวดั เชยี งรำย “ตน้ กะซะลองคำ” กำสะลองคำ เป็นไมย้ นื ตน้ เรยี กอกี ชอื่ หน่ึงวา่ ปีบทอง ใบเป็นประกอบแบบขนนกสองชน้ั ออกตรงขา้ มกนั ใบ ยอ่ ย 2–5 คู่ แผน่ ใบรูปรแี กมรูปใบหอก ปลายแหลม เป็นตง่ิ โคนสอบแหลม ขอบใบเรยี บ ดอกสเี หลืองอม สม้ ออกเป็นกระจกุ ตามกิ่งและลาตน้ กระจกุ ละ 5 - 10 ดอก ทะยอยบาน กลบี ดอกเชอ่ื มตดิ กนั เป็นหลอด ปลายเป็นแฉกสนั้ ๆ 5 แฉก ผลเป็นฝักยาวเมือ่ แก่จะ แตกเป็น 2 ซกี ชอบ ข้ึนตามธรรมชาตบิ นเทอื กเขาหนิ ปูนทค่ี อ่ นขา้ งช้นื ทาง ภาคเหนือ ออกดอก มกราคม - เมษายน ผลดั ใบกอ่ น ออกดอก ขยายพนั ธุโ์ ดยเมล็ด ตอนก่ิง ปักชาก่ิง นิยม ปลกู เป็นไมป้ ระดบั

ตน้ ไมป้ ระจำจงั หวดั เชยี งใหม่ “ตน้ ทองกวำว” ตน้ ทองกวำว มถี ่ินกาเนิดในแถบเอเชยี ใต้ จาก ประเทศไทย ลาว กมั พชู า เวยี ดนาม มาเลเซยี ศรลี งั กา เนปาล บงั กลาเทศ ปากีสถาน อนิ เดยี และในแถบทางภาคตะวนั ตกของอนิ โดนีเซยี โดย จดั เป็นไมย้ นื ตน้ ขนาดกลาง มคี วามสงู ประมาณ 12-18 เมตร กิ่งออ่ นมขี นละเอยี ดสนี า้ ตาลหนา ลกั ษณะของการแตกกิ่งกา้ นจะเป็นไปในทศิ ทางที่ ไมเ่ ป็นระเบียบ สว่ นเปลอื กตน้ จะเป็นป่ ุมปม ขยายพนั ธุด์ ว้ ยการเพาะเมล็ดหรอื การใชก้ ่ิงปักชา

ตน้ ไมป้ ระจำจงั หวดั ตำก “ตน้ แดง” แดง เป็นไมท้ ชี่ อบข้ึนในป่ าเต็งรงั , ป่ าเบญจพรรณ และป่ าสกั กระจาย พนั ธุใ์ นเอเชยี ใตแ้ ละเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ในประเทศไทยข้ึนไดท้ วั่ ทุกภาค ลาตน้ คอ่ นขา้ งเปลา่ ตรง หรอื เป็นป่ ุมปม เรอื นยอดรูปทรง กลม หรอื เกง้ กา้ ง ไมค่ อ่ ยแน่นอน สเี ขียวอมแดง เปลอื กเรียบสเี ทาอม แดง ตกสะเก็ดออกเป็นแผน่ กลมบาง ๆ รอบลาตน้ เม่ือสบั เปลือกท้งิ ไวจ้ ะไดช้ นั สแี ดง ยอดออ่ นมีขนสีเหลืองปกคลุม ใบเป็นชอ่ แบบขนนก สองชนั้ กา้ นใบยาว 2–7 เซนติเมตร ชอ่ ใบยาว 10–22 เซนติเมตร แตล่ ะชอ่ มีใบยอ่ ย 4–5 คู่ ใบยอ่ ยรูปไขห่ รอื รูปไขแ่ กมรูปขอบขนาน แผน่ ใบมกั จะเบ้ียว มขี นาดไมเ่ ทา่ กนั กวา้ ง 3–7 เซนตเิ มตร ยาว 7– 20 เซนตเิ มตร ปลายใบแหลมมน ฐานใบมกั จะเบ้ียว ใบแกไ่ มม่ ีขนปก คลุม หรืออาจจะมีขนประปรายดา้ นทอ้ งใบเล็กนอ้ ย กา้ นใบยอ่ ยยาว 2–4 มลิ ลิเมตร ดอกสเี หลอื ง ขนาดเล็ก ข้นึ อดั กนั แน่นบนชอ่ กลม เดย่ี ว ๆ หรอื แตกกิ่งกา้ น หรอื ข้ึนเป็นกลุม่ ๆ ขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง แตล่ ะชอ่ ประมาณ 1.4 เซนติเมตร กา้ นชอ่ ดอกยาว 2–5 เซนติเมตร มีขนปกคลุมประปราย

ตน้ ไมป้ ระจำจงั หวดั นครสวรรค์ “ตน้ อนิ ทรำชติ ” อนิ ทรชติ (ตะแบก) คนไทยโบราณเชอ่ื วา่ บา้ นใดปลูกตน้ นะแบกไวป้ ระจาบา้ นจะ ทาใหม้ ฐี านะสงู ข้ึน และมีความมน่ั คง แข็งแรง เพราะ แบกคอื การแบกไวไ้ มใ่ หต้ กสามารถยกข้ึนไวใ้ หส้ งู ไมใ่ หต้ กตา่ ดงั นน้ั จงึ มแี รงมากบางคนก็เรยี กตอ้ งตะแบกวา่ เสลาหมายถึงความ แข็งแรงแข็งแกรง่ เหมอื นกบั หนิ นอกจากน้ียงั มคี นโบราณ เรยี กตน้ ตะแบกวา่ อนิ ทนิลซงึ่ มคี วามหมายวา่ พระอนิ ทรผ์ เู้ ป็น ใหญใ่ นสวรรคซ์ ง่ึ มีอทิ ธฤิ ทธิ์มากซงึ่ ชว่ ยคมุ้ ครองปวงชนทงั้ โลก ดงั นนั้ ตน้ ตะแบกจงึ เป็นไมม้ งคลนาม

ตน้ ไมป้ ระจำจงั หวดั น่ำน “ตน้ เล้ยี วดอกขำว” เส้ยี วดอกขำว ชอ่ื วิทยำศำสตร์ Bauhinia variegata L. (ชอื่ พอ้ ง วทิ ยาศาสตร์ Phanera variegata (L.) Benth.) จดั อยใู่ นวงศถ์ วั่ (FABACEAE หรอื LEGUMINOSAE) และอยใู่ นวงศย์ อ่ ยราช พฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรอื CAESALPINIACEAE) สมุนไพรเส้ยี วดอกขำว มีชอ่ื ทอ้ งถิ่นอนื่ ๆ วา่ เส้ยี วป่ าดองขาว เปียงพะโก, โพะเพ่[, เส้ยี ว(คนเมือง), ลาปาน(ลวั้ ะ) ลกั ษณะของเส้ยี วดอกขำว •ตน้ เส้ยี วดอกขำว จดั เป็นไมย้ นื ตน้ ผลดั ใบ มคี วามสูงของตน้ ได้ ถึง 15 เมตร ขยายพนั ธุด์ ว้ ยวธิ กี ารเพาะเมล็ด เจรญิ เติบโตไดด้ ใี น ดนิ ทรี่ ะบายนา้ ดี มีความช้นื สงู และมแี สงแดดจดั มีถ่ินกาเนิดใน ประเทศอนิ เดยี และมาเลเซยี มกั ข้ึนตามป่ าเบญจพรรณทาง ภาคเหนือและทางภาคตะวนั ออกเฉยี งใต้

อำ้ งองิ http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=7 05938

ขอจบกำรนำเสนอเพยี งท่ำน้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook