Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 7 day

7 day

Published by akekung9, 2022-06-13 11:22:39

Description: 7 day

Search

Read the Text Version

7 days o n t h e w a y … We learn เหลา่ หอยทาก จดั ทาโดย : ยุวทตู ทศภาคี โรงเรยี นมัธยมวดั สทุ ธาราม สานักงานเขตคลองสาน กรงุ เทพมหานคร

สารบัญ At first sight หนา้ บัตรผา่ นทาง 2 หอยทากกบั ฝน 3 ส้นั ๆ ยาว ๆ 6 คุกกับโรงเรยี น 14 Amazing 23 เมฆฝนในใจ 29 Like or Right 36 Postscript 41 46

“ทุกโอกาส คอื การทเ่ี ราได้เปิดตวั เองสู่ “At first sight” การเรยี นรู้ใหม่ ไม่ว่าจะประสบความสาเร็จหรือ พลาด อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ ซ่ึงมันจะ “ในบางครั้งโอกาสก็มาหาเราในยามท่ีเราไม่ได้คาดคดิ ” สะสมเพม่ิ ขนึ้ เรื่อย ๆ จนวันหนง่ึ มนั กลาย ผ ม เ ป็ น ห น่ึ ง ใน ตั ว แ ท น นั ก เ รี ย น จ า ก โ ค ร ง ก า ร เครือข่ายความร่วมมือ ทศภาคี “ศูนย์ข่าวนักเรียนกรุงเทพมหานคร - อาเซียน” จากโรงเรียนมัธยม เปน็ ต้นทนุ ของชีวิตท่มี ีคณุ คา่ ” วัดสุทธาราม ที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะเดินทางไปศึกษาดูงานยัง (วิสูตร แสงอรุณเลิศ) ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว 3 ประเทศในกลุ่มอาเซียน ประเทศท่ีเป็นเพื่อนบ้าน 1 : 7 days on the way… We learn ของเรา ประเทศทีม่ ปี ระวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างช้านาน... ผมไม่เคยคิดและคาดหวังว่าจะได้เดินทางไปต่างประเทศ เพราะผมและ เพ่ือน ๆ อยู่ในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะร่ารวยการได้เดินทางไปต่างประเทศเลย เป็นเรื่องที่อยู่ได้เพียงแค่ในความฝัน แต่แล้วความฝันก็เป็นความจริงในที่สุด เมื่อทางสานักการศึกษากรุงเทพมหานครได้ให้โอกาสให้พวกเราท้ัง 6 คน ไดไ้ ปศึกษาดงู านในคร้งั นี.้ .. ผมและเพ่ือน ๆ ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่ได้สร้างสรรค์ และ เห็นความสาคัญของโครงการนี้ ขอขอบพระคุณท่านผู้อานวยการสถานศึกษา โรงเรียนมัธยมวัดสุธารามนางสาวปานสริ ิ เสาวดี และท่านรองผู้อานวยการทงั้ 2 ท่านที่ได้ให้โอกาส และสนับสนุนให้พวกผมได้ไปศึกษาดูงาน ขอขอบพระคุณ คุ ณ ค รู ท่ี ป รึ ก ษ า โ ค ร ง ก า ร แ ล ะ คุ ณ ค รู ทุ ก ท่ า น ที่ ใ ห้ ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลือ อีกทั้งให้คาแนะนาดี ๆ อีกมากมาย ขอขอบพระคุณพ่อแม่ผู้ปกครองที่ให้การ สนับสนุนในทุกเรื่อง สุดท้ายนี้ขอขอบใจเพื่อน ๆ ในโครงการที่อยู่เป็นเพ่ือนกัน และไม่ทิง้ กันเสมอ... “เหลา่ หอยทาก” 9 กันยายน 2561 2 : 7 days on the way… We learn

“บัตรผา่ นทาง” ผมก็เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อรับเอกสาร ตรงนั้นเขาให้ผมยืนบัตรประชาชน ของผม พร้อมกับของพ่อและแม่ เขาย้าว่าพ่อแม่จริง ๆ นะ ไม่ใช่พ่อเล้ียงแม่เลี้ยง “พรุ่งนี้เราจะไปทาพาสปอร์ตกัน” คาพูดที่ลอยผ่านหูผมมันเป็นเรื่องที่ ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไรผ่านข้ันตอนน้มี าได้อย่างสบาย ๆ ผมรับเอกสารมากรอก ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดข้ึนจริง... ผมต้องขอให้ครูพูดซ้าอีกครั้งว่าเราจะไปทา โดยในเอกสารจะถามเร่ืองท่ัวไป เช่น ช่ือนามสกุลท้ังไทย และอังกฤษ ที่อยู่ ไอสิ่งที่เรียกว่า “พาสปอร์ต” กันจริง ๆ ใช่ไหม ซ่ึงคุณครูยังคงยืนยันคาเดิม... เบอร์โทร ที่สาคัญที่สุด คือ จะมารับตัวพาสปอร์ตเองหรือจะให้เขาจัดส่ง คาถามมากมายวงิ่ วนุ่ อยูใ่ นหวั ของผม มันทายังไง? เตรียมอะไรไปบา้ ง? ทาที่ไหน? ทางไปรษณยี ์ ซ่ึงพวกผมตกลงกันว่าจะมารับกนั เอง โดยครูจะเป็นคนมารับให้... ทานานไหม? จะไปยังไง? ผมท้ังสงสัยและสับสน ทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ไวเกินกว่าท่ีผมจะตั้งตัวทัน... ไม่ทันท่ีผมจะตั้งสติได้คุณครูก็ชิงตัดความสงสัย เมื่อผ่านขั้นตอนน้ีก็จะเข้าสู่ข้ันตอนถัดไปน่ันคือ ชั่งน้าหนัก วัดส่วนสูง ของผมเสียกอ่ น... เม่ือเสร็จแล้วเขาก็ให้พวกผมแยกออกไปตามโต๊ะท่ีก้ันเป็นคอก ๆ เหมือนกับฉาก ที่ทางานในละครหลังข่าว เข้าไปถึงพ่ีเจ้าหน้าท่ีจะให้พวกเราน่ังแล้วของเอกสาร “พรุ่งนี้เราจะไปทาพาสปอร์ตกันท่ีสายใต้ใหม่ปิ่นเกล้าเราเจอกันที่นี่ ของเรา และพ่อแม่ พ่ีเจ้าหน้าที่สอบถามประวัติเล็กน้อย จากน้ันเขาจะขอสแกน ตอน 9 โมงเช้า ให้พ่อแม่มาด้วยนะทุกคน แล้วอย่าลืมเอาบัตรประชาชนของเรา ลายนิ้วมือท้ัง 2 ข้าง เม่ือทาเสร็จก็จะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายน่ัน คือ การจ่ายค่า กับของพ่อแม่มาด้วยนะ” สิ้นเสียงครูคาถามใหม่ก็เกิดขึ้นทันที แค่นี้หรอ? ทาพาสปอร์ต พวกเราจ่ายกันไปในราคา 1,000 บาทไทย เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ เทา่ นี้จรงิ ๆ ใชไ่ หม?... น้อยกวา่ ทค่ี ดิ ไว้อีกนะเนยี ... โลง่ ไปท.ี ... ในวันนี.้ .. อีก 3 วนั เราจะได้พบหนา้ กันพาสปอรต์ เล่มแรกของผม ผมรีบโทรไปบอกแม่เหมือนกับเพื่อนคนอ่ืน ๆ เพราะ ถ้าไม่บอกกลัวแม่ ถ้าหากใครต้องการได้พาสปอร์ตไวกว่า 3 วัน จะต้องเสียเงินเพ่ิม ไม่ว่าง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ด้วยดี เย็นวันน้ันผมรีบกลับบ้านเพ่ือไปเตรียม ตามราคาดังน้ี ทาเช้าได้เย็นจ่าย 3,000 บาทไทย ทาวันน้ีได้พรุ่งน้ี 2,000 บัตรประชาชนท้ังของผม ของพ่อและของแม่ แล้วรีบกาชับพ่อว่าอย่าสายนะ บาทไทยครับ เดี๋ยวรอนาน แต.่ ..วันนส้ี าหรบั บางคนยังไม่จบ เน่อื งจากมีเพื่อนรว่ มทางของผม 2 คน เช้าวันนั้นผมถึงโรงเรียนเร็วกว่าปกติ เพ่ือมารอครูและเพ่ือน ๆ มีปัญหาในการทาพาสปอร์ต คนแรกบัตรประชาชนของคุณแม่หมดอายุ แต่ก็ไม่เจอใครดูเหมือนว่าผมคงต่ืนเต้นอยู่คนเดียว ผมยังคงนั่งรออยู่ตรงนั้น พ่ีเจ้าหน้าที่เลยบอกให้ไปทาบัตรใหม่ แล้วค่อยมาทาพาสปอร์ตครับ โดยลืมคิดไปว่าครูเขานัด 9 โมง หลังเข้าแถว แถมต้องรอพ่อกับแม่อีก ดังนั้นเวลาทาพาสปอร์ตจึงต้องดูเอกสารให้เป็นปัจจุบันด้วยครับ ส่วนอีกคนคุณ จะรีบมาทาไม... ไม่นานเพื่อน ๆ ก็ทยอยกันมาพร้องกับผู้ปกครอง เมื่อถึงเวลา พ่อที่มาด้วยเป็นพ่อเลี้ยง พ่ีเจ้าหน้าท่ีก็ให้กลับไปยังเขตบ้านเกิด เพ่ือให้ไป ทุกคนพร้อม แต่ผมกลับไม่พร้อมเพราะพ่อผมยังไม่มา... ขนาดกาชับว่าอย่าสาย นาใบรับรองบุตรมายนื ยัน กว่าจะจบสน้ิ ภารกิจเล่นเอาเกือบหมดเวลาทาการเลย แลว้ นะ... สดุ ทา้ ยแม่ผมบอกพ่อผมว่าไปเจอกนั ท่ีสายใต้เลย... เป็นอนั จบปัญหา ทีเดียว ดังน้ันก่อนท่ีเราจะไปติดต่อทาหนังสือสาคัญอะไรควรจะต้องศึกษา หาความรู้ และปฏิบัติตามท่ีเจ้าหน้าที่บอกอย่างเคร่งครัด เพ่ือความสะดวกและ พวกเรานั่งรกแท็กซี่มุ่งตรงสู่สายใต้ใหม่ ถนนบรมราชชนนี รวดเรว็ ในการทางานครบั ใช้เวลาไม่นานอย่างที่คิดประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว เม่ือไปถึงพวกผมยังไม่รู้ว่า เขารับทาพาสปอร์ตกันที่ชั้นไหน แม่ของผมเลยจะเดินไปถามพ่ี รปภ. 4 : 7 days on the way… We learn แต่ยังไม่ทันได้ถามครูก็โทรมาบอกว่าข้ึนมาช้ัน 3 เลยทุกคนรออยู่ เมื่อไปถึงแล้ว 3 : 7 days on the way… We learn

เวลาผ่านไป 3 วันครูก็ขอบัตรประชาชนตัวจริงของพวกเรา ใบเสร็จค่า “หอยทากกับฝน” พาสปอร์ต พร้อมทั้งเอกสารรับพาสปอร์ตท่ีเราลงชื่อ มอบสิทธ์ิในการรับ พาสปอร์ตให้คุณครู เพื่อไปรับพาสปอร์ตท่ีสายใต้ใหม่ ซึ่งในข้ันตอนน้ีก็ผ่านไปได้ ว่ากันว่าหอยทากเป็นสัตว์ที่เคล่ือนไหวได้ช้ามาก มันขยับตัวของมันไป ด้วยดีไม่มีปัญหาใด ๆ ครับ ต้องขอขอบคุณคุณครูด้วยครับ.... เท่านี้เราก็ได้ ตามทางเดินได้เพียง 48 เมตรต่อ 1 ช่ัวโมง ทุก ๆ ครั้งท่ีมันขยับตัวจะมีเมือก พาสปอร์ตเรียบร้อย เหนียว ๆ เป็นร่องรอยช้ีทางบอกวา่ มันไปยงั แห่งหนใดเสมอ ๆ หอยทากเป็นสตั ว์ ท่ีชอบความชื้น ดังนั้น มันจึงชอบ “ฝน” เป็นพิเศษเวลาเดินทาง ต่างจากมนุษย์ 5 : 7 days on the way… We learn ที่หากฝนตกแล้วการเดินทางคงเป็นอันต้องจบส้ิน เพราะ ท้ังเฉอะแฉะ เปียกปอน อีกท้ังการเดินทางยังยากลาบากอีกด้วย... ซ่ึงผมก็ภาวนาในใจว่า ขออย่าไดเ้ จอฝนในการเดินทางครง้ั นเ้ี ลย... ผมลืมตาตื่นด้วยความตกใจ เพราะเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ พอต้ังสติได้ก็รีบจัดการตัวเองเพ่ือจะได้ออกไปยังจุดนัดหมายสานักการศึกษา กรงุ เทพมหานครให้ทันเวลา กระเป๋าทไ่ี ด้รับมาใบคอ่ นขา้ งใหญ่ ทาใหก้ ารเดินทาง ลาบากเล็กนอ้ ย แตก่ ็ไม่ได้สรา้ งปญั หามากนัก... เช้านี้จึงราบรน่ื ไม่มีปญั หาใด ๆ เมื่อถึงท่ีหมายหลายโรงเรียนมาพร้อมกันแล้ว ต่างกับโรงเรียนของผม ท่ียงั มาไมถ่ งึ กัน อาจจะเพราะอยูใ่ กลส้ านักครกู ับเพื่อน ๆ เลยยงั มาไมถ่ ึง เมอ่ื ใกล้ เวลานัดหมายตี 5 คร่ึง ทุกคนก็มาพร้อมกันเรียบร้อย ซ่ึงโรงเรียนมัธยม วดั สุทธารามเปน็ โรงเรียนสดุ ทา้ ยทคี่ รบ... แตเ่ ราก็ไม่ได้มาสายนะครบั พวกเรานับจานวนคนเช็คความเรียบร้อย แล้วเราก็ขึ้นประจาที่บนรถ พวกผมได้น่ังเบาะหลังสุดกัน 6 คน ส่วนครูนั่งด้านหน้า พวกผมได้นั่งกับเพื่อน ๆ จากโรงเรียนวิชูทิศ พวกเราพูดคุยทาความรู้จักกัน พร้อมฟังคาแนะนาจากพ่ีวี ซึ่งย้าให้พวกเราฟังเสมอว่า “ท้ัง 3 ประเทศน้ันเขารู้จักและเข้าใจภาษาของเรา แต่เราไม่เข้าใจภาษาของเขา เวลาพูดอะไรให้ระวังเสมอ” เม่ือฟังคาแนะนาจาก พวี่ ีจบพวกเราก็... ตา่ งคนต่างนอนครบั เพราะงว่ งเหลอื เกนิ รถจอดแว ะป๊ัมน้ามัน 2 ครั้งก่อนที่พว กเราจะถึงยังที่ห ม า ย “ด่านอรัญประเทศ” ก่อนลงจากรถพี่วีให้ พวกเราเตรียมตวั เก็บของ และเตรียม พาสปอร์ตสาหรับให้เจ้าหน้าที่ตรวจ... ผมต่ืนเต้นมากเพราะนี้เป็นคร้ังแรกที่ผม ได้มาต่างประเทศ ในความคิดของผมมันต้องซับซ้อนยุ่งยากเหมือนในหนังแน่ ๆ 6 : 7 days on the way… We learn

ต้องย่ืนเอกสาร โดนซักประวัติเดินเข้าจุดน้ันจุดน้ีค้นหาส่ิงผิดกฎหมาย บนโต๊ะอาหารมีจานกับข้าวว่าเรียงไว้เรียบร้อยแล้ว กับข้าวส่วนใหญ่ และอีกมากมาย แค่นึกถึง ก็ทาเอาขาอ่อนแล้วครับ... แต่ในระหว่างที่ผมคิดไป มีสีเขียว เพราะส่วนประกอบหลักคือ “ผัก” ที่ผมไม่รู้ว่า มีผักอะไรบ้าง เร่ือยเปื่อยตัวผมก็มาหยุดอยู่หน้าจุดตรวจเอกสารเรียบร้อยแล้ว... ลุงเจ้าหน้าที่ แต่ที่สะดุดตาผมที่สุดก็คงเป็นอาหารท่ีเป็นแผ่นเหมือนกระดาษถูกตัดแต่งเป็น ข อ ดู พ า ส ป อ ร์ ต ผ ม ใ ห้ ผ ม ยื น ที่ จุ ด ที่ ก า ห น ด ม อ ง ก ล้ อ ง ด้ า น ข้ า ง วงกลมสวยงามมีสีเหลือง และเขียวของผักแซมกันอย่างลงตัว หน้าตาของมัน พร้อมกับประทับตราลงในพาสปร์อต แล้วก็ถามคาถามผมนิดหน่อยว่าไปกัมพชู า ช่างดูคุ้นเคย อาหารจานน้ีมีนามว่า... “ไข่เจียว” เมื่อทุกคนน่ังลงครบพร้อมหน้า ทาไม จากน้ันก็ส่งพาสปอร์ตคืนให้แล้วก็เชิญคนต่อไปเข้ามา ผมเดินผ่านประตู กันแล้วไม่มีใครรอใคร สงครามช้อนส้อมจึงเกิดข้ึน ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เข้ามาด้วยความสับสนงงงวย มารู้ตัวอีกทีตัวผมก็เข้ามายังเขตประเทศกัมพูชา และจบลงอยา่ งรวดเรว็ ไขเ่ จียวทมี่ ันเคยอยู่ในจานอย่างสวยงามหายไปในพริบตา เรยี บร้อยแล้ว... ราวกับมันไม่เคยอยู่ในจานมาก่อน ต่างกับกับข้าวอย่างอ่ืน ที่ยังนอนนิ่งในจาน เชิญชวนให้พวกเราพามันเข้าปาก แต่กลับไม่มีใครสนใจแม้แต่น้อย เน่ืองจากกิน พอพวกเราท้ังหมดผ่านด่าน ไม่เป็นครับ สุดท้ายครูก็ได้บังคับให้พวกเราลองกินทุกอย่าง อย่างละ 1 คา อรัญประเทศ มาสู่จังหวัดปอยเปต เม่อื กนิ ถงึ ได้ร้วู ่ามันไมแ่ ย่อย่างท่ีคดิ บางอยา่ งอร่อยดว้ ยซา้ ไป เชน่ ยาทีม่ ีปลาแห้ง ข อ ง กั ม พู ช า เ รี ย บ ร้ อ ย ทุ ก ค น แ ล้ ว ผสมอยู่ อรอ่ ยนะแต่เคี้ยวนานทีเดียวกวา่ จะหมด เรื่องนี้จึงสอนให้รูว้ ่า “อย่างเพ่ิง พวกเราก็ได้ข้ึนรถคันใหม่ (ท่ีไม่ใหม่) ประเมินคา่ หากยงั ไมไ่ ดล้ อง” ถ้าลองแลว้ อาจจะติดใจกไ็ ด้ ใครจะรู้... เ ป็ น ร ถ ย่ี ห้ อ ฮุ น ไ ด ห น้ า ต า เ ห มื อ น รถปอ.บ้านเราไม่มีผิด ไม่นานรถก็ หลังจากที่ท้องอิ่มแล้วเราก็มุ่งหน้าต่อไปยังจุดหมายเราอยู่บนรถอีก ออกจากด่าน เพ่ือมุ่งตรงไปยั ง ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงยังจุดขายต๋ัวเข้าชมปราสาทนครวัด ซ่ึงต๋ัวเข้าชมน้ันเป็น จุดหมายของเรานั่น คือ ปราสาทนครวัด จังหวัดเสียมเรียบ ซึ่งพ่ีไกด์ได้เล่าว่า ต๋ัวที่มีใบเดียวในโลก เพราะมีหน้าเราติดอยู่ด้วยครับ ราคาต๋ัวหากคิดเป็น คนไทยเรียกช่ือจังหวัดนี้ว่า “เสียมราฐ” แต่คนท้ังโลกรู้จักจังหวัดนี้ในนามว่า ไทยบาทก็อยู่ที่ราว ๆ 1,200 บาท เราได้รับคากาชับจากพี่ไกด์ว่า ห้ามทาต๋ัวหาย “เสียมเรียบ” เนื่องจากคนไทยพยายามจะแสดงให้เห็นว่าจังหวัดนี้เคยเป็น และใหเ้ ก็บไว้ในที่ ๆ มองเหน็ ง่าย ทุกคนจงึ นาไปใส่ไวใ้ นป้ายชอ่ื เมื่อรบั ตว๋ั แล้วเรา ส่วนหน่ึงของประเทศไทยมากอ่ น จงึ เรียกชอื่ จงั หวัดว่า “เสียมราฐ”(รฐั ของสยาม) กม็ งุ่ หน้าส่จู ุดหมายปลายทางของเราทันที แต่คนกัมพูชาไม่คิดเช่นนั้น จึงเรียกจังหวัดนี้ว่า “เสียมเรียบ” (ชนะสยามอย่าง ราบเรียบ) เพ่ือแสดงว่าได้ชนะไทยแล้วอย่าชัดเจน ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเรื่องราวใน 15 นาทีผ่านไป เราท้ังหมดก็ ประวตั ิศาสตร์ทบี่ นั ทึกเอาไว้ เพื่อใหค้ นรนุ่ หลงั ได้ร้แู ละจดจา... ก้าวเท้าเข้าสู่ปราสาทนครวัด ทันใดนั้น ความโกลาหลก็เกิดข้ึน เพราะทุกคนต่างมุ่ง รถแล่นไปอย่างชา้ ๆ เพราะกฎหมายของกมั พชู าบงั คับว่าหา้ มขับเร็วเกิน ท่ีจะร่วมกลุ่มเพื่อทาข่าวกันอย่างจริงจัง 60 กม.ต่อชั่วโมง... คนั รถจึงไมต่ ่างอะไรจากหอยทากตวั โตที่ค่อย ๆ เคล่ือนตัวไป ตามหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมายมา ไม่มีใคร บนถนน... สองข้างทางมีทุ่งนาและบ้านเรือนท่ียกพ้ืนสูงให้เห็นเป็นระยะ ๆ ส น ใ จ เ ดิ น ต า ม รั บ ค ว า ม รู้ จ า ก พี่ ไ ก ด์ เ ล ย ไม่นานรถก็จอดยงั รา้ นอาหาร...มือ้ แรกในต่างแดนของพวกเราจงึ เรมิ่ ขนึ้ แถมยังไม่มีใครศึกษามาก่อนว่าที่ปราสาทนครวัด เขาอนุญาตให้ถ่ายทาข่าว 7 : 7 days on the way… We learn 8 : 7 days on the way… We learn

หรือไม่ ทุกคนต่างสาละวนกับการเตรียม ในอดีต... เราเดินชมความงดงามโดยรอบอย่างเช่ืองช้าจนรอบข้างพวกเรา บ ท เ ต รี ย ม ก ล้ อ ง เ ต รี ย ม อุ ป ก ร ณ์ ไม่เหลือใครที่เรารู้จัก ซึ่งกว่าเราจะถึงจุดท่ีเขานัดหมายก็เป็นกลุ่มสุดท้ายอีกตาม แต่สุดท้ายก็ต้องขนกลับครับ เพราะไม่ได้ เคย... จนถูกทุกคนแซวว่า “ช้าตลอดเหมือนหอยทาก” แต่พวกเราทั้ง 7 คน รับอนุญาตให้ถ่ายทาได้ ซึ่งกว่าจะรู้ตัว ก็ไม่ได้ใส่ใจกับคาแซวนี้เท่าไหร่ก็มาสถานที่สวย ๆ ท้ังทีก็ต้องเดินดูให้คุ้มสิครับ ก็เสียเวลาไปมากแล้ว เน่ืองจากเรามาถึง จริงไหม ตัวปราสาทกันสายกว่าเวลาที่กาหนดเดิม คือ บ่าย 3 โมง และปราสาทจะปิดตอน พวกเราขนึ้ รถต่อไปยังปราสาทที่ 2 นน่ั คือปราสาทบายน ในระหวา่ งทาง 5 โมงครง่ึ กวา่ พวกเราจะต้ังตวั ได้ เวลาเดนิ ไปถงึ 4 โมงเยน็ แล้ว จึงทาไดเ้ พียงแค่ พ่ีไกด์ก็แนะนาถึงความเป็นมาของปราสาทบายนว่า สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมัน ทาใจครับ พวกเราแยกย้ายกันเดินเพื่อเก็บภาพ และความรู้เท่าที่ได้ และ ที่ 7 ท่ีทรงได้รับชัยชนะจากพวกจามปามา ว่ากันว่าเป็นปราสาทสุดท้ายท่ีถูก เก็บข้อสงสัยที่พบไว้เพ่ือถามพ่ีไกด์ เพราะพ่ีไกด์เดินนาเราไปไกลมากแล้ว สรา้ งขึ้น ตวั ปราสาทมีท้งั หมด 54 ยอด ตามจานวนหัวเมืองในขณะน้ัน โดยแตล่ ะ เร่ืองน้ีสอนให้รู้ว่า “ไปเท่ียวไหนเดินตามไกด์ดีท่ีสุด” ไม่รู้อะไรจะได้ถามได้ครับ ยอดจะถูกแกะสลักเป็นใบหน้า 4 ใบหน้า เพ่ือสอดส่องดูแลประชาชนอย่าง “ไปไหนควรหาอ่านเร่ืองที่นั่นก่อนจะได้ไม่เสียเวลา” เพราะถ้าเรารู้ก่อนว่าไม่ ทว่ั ถงึ บางก็ว่าเป็นใบหน้าของพระโพธสิ ัตว์อวโลกิเตศวร บางก็วา่ เปน็ ใบหน้าของ สามารถถ่ายทาข่าวได้ เราจะได้รับความรู้จากการมาที่แห่งนี้มากกว่าน้ีครับ และ พระเจ้าชัยวรมนั ที่ 7 กษตั ริยผ์ สู้ รา้ งตวั ปราสาทน้ี... สุดท้าย “ความรู้ และเวลาไม่เคยรอใคร” ถ้าพ่ีไกด์ไปแล้ว เวลาก็ไปด้วยครับ ไมไ่ ด้รับความรู้ กเ็ ทา่ กบั ว่าเรามาที่แหง่ นี้อย่างสูญเปลา่ ... ข ณ ะ ที่ ผ ม พ ว ก ฟั ง เ ร่ื อ ง รา ว อ ย่าง พวกผมท้ัง 6 คน รวมครูด้วยเป็น เพลิดเพลินอยู่น้ัน รถก็พาพวกเรามาถึงยังที่หมาย 7 คน เราเดินไปด้วยกันอย่างช้า ๆ เพื่อชม ปราสาทบายน ภาพเบื้องหน้า น่าตื่นตาตื่นใจเป็น ทัศนียภาพ และความสวยงามของปราสาท อย่างมาก... ปราสาทท่ีเก่าแก่ดูมีมนต์ขลัง นครวัดท่ีเห็นตรงหน้า ครูของผมเล่าว่า กับท้องฟ้าท่ีดามืดด้วยเมฆฝน... เห็นทีคงไม่รอดได้ ปราสาทนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสูรยวรมัน เปียกแน่ ๆ แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะหยุดพวกผมทั้ง ท่ี 2 เป็นความเช่ือในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู 7 คนให้ลงไปเดินชมได้ ยอดปราสาทแต่ละยอดมี นิกายไวษณพที่นับถือพระนารายณ์เป็นใหญ่ จึงสามารถเห็นรูปพญานาค และ ใบหน้าท่ีไม่เหมือนกัน บางหน้าก็ยิ้ม บางหน้าก็บ้ึง พญาครุฑตามที่ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ตัวปราสาทเองสร้างเลียนแบบ ตึง พี่ไกด์บอกว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าในสมัยนัน้ เขาพระสุเมรุท่ีเป็นท่ีตั้งของสวรรค์ สระน้าแทนมหานทีสีทันดร โดยน้าในบ่อมี มีทงั้ สุขและทุกข์ปนกันไป ไมไ่ ด้มแี ต่ความสุขเพียงอย่างเดียว พวกผมเดินชมภาพ หน้าที่ค้าจุนปราสาทให้ต้ังอยู่ได้ ตัวปราสาทเองมีท้ังหมด 5 ยอด ซึ่งหากมอง โดยรอบ ด้วยความตื่นตาต่ืนใจ ไม่ต้องบอกว่าเดินอย่างไร พวกเรานิยม “ช้า” ในแนวตรงจะเห็นเพยี ง 3 ยอดเทา่ น้นั ด้านในเปน็ เทวสถานทใี่ ชป้ ระกอบพธิ ีกรรม เป็นหลัก แตย่ ังไมท่ ันไดว้ นรอบปราสาท หยดนา้ จากทอ้ งฟา้ กร็ ่วงหลน่ ลงมาอย่าง ไม่ทันได้ต้ังตัว ผมมองไปรอบ ๆ เพื่อนโรงเรียนอ่ืนส่วนใหญ่อยู่บนรถแล้ว 9 : 7 days on the way… We learn คงเหลือแต่พวกผมกับพ่ีไกด์ที่มองตากันไปมาว่า จะเอาไงดีเปียกแน่ ๆ เลย... 10 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

สุดท้ายพวกผมก็ว่ิงฝ่าฝนมาถึงรถจนได้ ถึงจะช้าเหมือนหอยทากแต่ก็ไม่ได้ชอบ ท่ีแต่งกายสวยงามท่าราแปลกตาอีกด้วย พี่วีสอนเสมอว่า “ห้ามนาวัฒนธรรมเรา เปียกฝนนะครับ... เรื่องน้ีจึงสอนให้รู้ว่า “พกเส้ือกันฝนไว้ในกระเป๋าบ้างก็ไม่ มาเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมของเพ่ือนบ้านโดยเด็ดขาด เพราะเป็นเร่ืองที่ เสียหายอะไร” ถ้ามีเส้ือกันฝนถึงวิ่งฝ่าฝนก็ไม่เปียก และ “สิ่งที่เราไม่สามารถ เปราะบางมาก” พวกผมจึงดูด้วยความสงบและชื่นชม พร้อมกับทานอาหาร คาดการณ์ได้คือ สภาพอากาศ” กลางวันอาจจะแดดแรง แต่ตกเย็นฝนอาจจะ ตรงหน้าไปเร่ือย ๆ ตามจังหวะของพวกผม... ตกหนกั เหมอื นเชน่ วันนีก้ เ็ ปน็ ได้... ออกจากร้านอาหารเราก็มุ่งตรงสู่โรงแรมที่พัก ฝนยังคงตกพรา ๆ พวกเราออกจากตัวปราสาทเปลี่ยนรถ และมุ่งหน้าต่อไปยังร้านอาหาร ไม่หยุดตกเสียที พ่ีวีบอกกาหนดการของวันพรุ่งน้ีพร้อมกาชับว่า “ให้ระวังตัว เย็น ระหว่างทางพ่ีไกด์เล่าถึงตัวปราสาทอีกหลายหลังท่ีเราไม่ได้ไปเยี่ยมชม เพราะที่น่ีไม่ใช้บ้านเรา ไม่ควรไปไหนมาไหนคนเดียว และหากจะไปไหนให้ เนื่องจากเวลาและสายฝนไม่เป็นใจ ทั้งปราสาทตาพรหมท่ีเป็นสถานท่ีถ่ายทา ขออนุญาตครูที่ปรึกษาก่อนเสมอ” พวกผมจึงหันไปมองหน้าครู พร้อมส่งสายตา ภาพยนตร์ช่ือดังเรื่อง “ทูมไรเดอร์” พี่ไกด์ยังบอกอีกว่า เป็นปราสาทที่ฝรั่งเศส ว่า คืนน้ีพาออกไปเท่ียวหน่อยนะครับ แต่ดูเหมือนว่าสัญญาณตอบกลับ หลงเหลือเอาไว้ เพ่ือแสดงให้เห็นถึงความกลมกลืนระหว่างสิ่งก่อสร้าง จะเป็นคาว่า “ไม่” เพราะฝนตกไม่หยุด เหล่าหอยทากอย่างพวกผม จึงต้องอยู่ ของมนุษย์กับธรรมชาติ อีกปราสาทคือ ปราสาทตาทิพย์ที่ตัวปราสาทยังสร้าง โรงแรมตามระเบียบ ไม่ได้ออกไปเล่นน้าฝนนะครับ... แตค่ ณุ ครกู ็ใจดีกลัวพวกผม ไม่เสร็จ เพราะมีความเชื่อว่าไม่เป็นที่ต้องการของเทพจึงเกิดฟ้าผ่าใส่ จะหิวเลยพาพวกผมไปร้านสะดวกซ้ือใกล้ ๆ โรงแรม พวกเราเดินวนไปมา เลยไม่สร้างต่อ เราผ่านสะพานท่ีราวสะพานทาเป็นภาพเหตุการณ์ชักนาคดึกดา หลายรอบ สุดท้ายก็ได้มาม่าไทยและโค้กคนละกระป๋อง ปัญหาคือตอนจ่ายเงิน บรรพ์ หรือการกวนเกษียรสมุทรตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู น่ีล่ะครับ เราไม่ได้แลกเงินเรียลของกัมพูชามาเลย จะจ่ายยังไงล่ะงานน้ี พ่ีไกด์ยังคงเล่าเรี่องราวอีกมากมาย ทั้งเรื่องอาหารของคนกัมพูชาท่ีชอบ คุณครูเลยถามพี่พนักงานว่ารับเงินไทยไหมครับ พวกพ่ี ๆ เขาดูงง ๆ นิดหน่อย รสหวานนา ไม่นิยมใช้น้าปลา เลยไม่มีน้าปลาพริก ทั้งเรื่องบ้านที่ยกพื้นสูง แล้วก็กดเครื่องคิดเลขพร้อมยื่นให้คุณครู เราก็หยิบเงินไทยส่งให้คุณครูตามที่ เพราะว่าน้าท่วมบ่อย ๆ ยังไม่ทันหมดสนุก เราก็มาถึงร้านอาหารเย็นในวันนี้ ครูบอก สรุปคือ “รา้ นค้าในกัมพูชารับเงินไทย แตไ่ มท่ อนเงินไทย” ดงั น้นั เราควร “โตนเลจตรุ มุข” ที่มีชื่อเหมือนสถานท่ีสาคญั ที่แม่นา้ สี่สายมาบรรจบกัน ในใจผม พกแบงค์ 20 บาทไปพอสมควรเลยล่ะครับ หลังจากท่ีได้ของพวกเราก็ต่างแยก เร่ิมหวาดหวันว่าอาหารครัง้ นค้ี งไม่ใช่ผักนะ... แตพ่ อกา้ วเทา้ เขา้ ไปในรา้ น ก็พบว่า ย้ายกลบั หอ้ งนอนครับ เป็นร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์... สบายเลย วันนี้เป็นวันที่เหนื่อย แต่กลับสนุกอย่างไม่น่าเช่ือ และทาให้ผมรู้ว่า งานนี้รอดไป ระหว่างท่ีทานอาหารอย่าง พวกผมทาอะไรเชื่องช้ากว่าคนอ่ืนไปจริง ๆ พรุ่งนี้คงต้องติดสปีดข้ึนมาอีกหน่อย เพลิดเพลินด้วยจังหวะที่เชื่องช้าตามแบบ แล้ว... และหวังว่าพรงุ่ นฝ้ี นคงไมต่ กนะ... ของพวกผม บนเวทีก็มีการแสดงของ กัมพูชา ท้ังหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา หอยทากมึนงง... ทั้งหนังใหญ่เร่ือง พระรามตามกวาง 7 สิงหาคม 2561 ท้ังระบาที่คล้าย ๆ กับการทานา และท่ีน่าตื่นตาที่สุดคือ ระบานางอัปสรา 12 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n 11 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

“ส้ัน ๆ ยาว ๆ” ระหว่างทางพ่ีไกด์ยังคงเล่าเร่ืองราวต่าง ๆ มากมาย ซ่ึงพวกผมก็ฟังบ้าง หลับบ้าง แต่พอจะจับความได้ว่า ประเทศกัมพูชามีแหล่งน้าหลักท่ีเรียกว่า บางคร้ังมนุษย์เราก็ชอบอะไรส้ัน ๆ เช่น คบกันระยะเวลาส้ัน ๆ พูดจา “โตนเลสาบ” ที่กว้างถึง 54 กิโลเมตร และยาวถึง 150 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น กนั ด้วยคาสัน้ ๆ หรือคิดอะไรแบบสั้น ๆ แตบ่ างครั้งมนษุ ย์ก็ชอบอะไรยาว ๆ เชน่ 2 ส่วน คือ “โตนเลเล็ก” กับ “โตนเลใหญ่” คนกัมพูชาบางส่วนประกอบอาชีพ พดู ต่อกนั ยาว ๆ จดจาเรอื่ งราวไป ยาว ๆ หรอื ไม่เขา้ ใจกนั ไปยาว ๆ ซ่งึ บางคร้ังก็ เป็นชาวประมง โดยรัฐบาลจะเปิดสัมปทานให้ชาวบ้าน 5 จังหวัดที่ใกล้กับ เป็นสง่ิ ดี บางคร้ังก็...ไมใ่ ห้ตอ้ งบอกนะครับว่ามนั ก่อใหเ้ กิดสง่ิ ใดตามมาบา้ ง.... โตนเลเล็กเข้าจับปลาได้ในฤดูน้าแบบปีเว้นปี ปลาท่ีจับได้ในตอนน้ันมีปริมาณท่ี มากถึงตารางเมตรละ 1 ตัน ซึ่งปลาส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าส่งออกไปยังประเทศ วันนี้เป็นวันท่ีท้ังสั้นท้ังยาวสาหรับผมเลย ไทย และเวียดนาม น้าในโตนเลสาบมาจากแม่น้าโขง และภูเขาต่าง ๆ ซ่ึงเมื่อถึง ตั้งแต่ลืมตาตื่นข้ึนมาก็มีเร่ืองให้คิดกันยาว ๆ ฤดูน้าหลาก น้าก็จะท่วมทุกปี ประชาชนจึงต้องสร้างบ้านยกพ้ืนสูงผมมองไป ต้ังแต่เช้า มีหน่ึงในเพื่อน ๆ โรงเรียนอื่นของเราทา รอบ ๆ ก็เปน็ จริงอยา่ งทพี่ ่ีไกด์วา่ บา้ นเร่อื นตามทางที่ผา่ นมาสรา้ งยกพ้ืนสูงทั้งนัน้ ข้าวของในโรงแรมหายครับ... ผมน่ังคิดทบทวนว่า จะทาหายได้ยังไง เพราะแต่ละห้องก็มีของ ผมหลับ ๆ ต่ืน ๆ อยู่อย่าง เหมือน ๆ กัน คิดวนไปวนมา สุดท้ายเขาก็หาไม่ นั้นจนเที่ยงวัน รถก็จอดให้พวกเรา เ จ อ แ ล ะ ต้ อ ง เ สี ย ค่ า ป รั บ ใ ห้ กั บ ท า ง โ ร ง แ ร ม ทานอาหารกลางวัน เปน็ รา้ นอาหาร ตามระเบียบ เร่ืองนี้จึงสอนให้รู้ว่า “ของในห้อง ทตี่ ง้ั อย่บู นสาขาหน่ึงของโตนเลสาบ ของโรงแรม ไม่ควรเอาไปใช้ห้องอ่ืน หายมาต้องรับผิดชอบเอง” จากน้ันเรื่อง บ ร ร ย า ก า ศ ดี ม า ก สิ่ ง ส า คั ญ คื อ ยาว ๆ อีกเร่ืองที่ตามมาคือ การนั่งรถในระยะทางท่ียาวนานมากกกก... อ า ห า ร ไ ม่ ไ ด้ มี แ ต่ ผั ก ค รั้ ง น้ี เราเดินทางจากจงั หวัดเสยี มเรียบ เพ่ือไปยังเมืองหลวงพนมเปญ พ่ีไกด์บอกว่าจะ รอดตายไป พวกเรากิน อย่ าง ใช้เวลาประมาณ 5 – 6 ชัว่ โมงโดยประมาณ.... แคค่ ดิ ก็ร้สู กึ ปวดกน้ ยงั ไงก็ไมร่ ้.ู .. เช่ืองช้าเช่นเคย กว่าจะกินเสร็จ พวกเราออกเดินทางไปยังสะพานที่มีชื่อว่า เพ่ือน ๆ โรงเรียนอ่ืนก็ไปถ่ายรูปเล่นกันเรียบร้อยแล้ว... ไม่รอกันม้ังเลย “บันเตียกะได” เป็นสะพานเก่าแก่อายุกว่าพันปี พวกผมเดินถ่ายรูปเล่น และชมบรรยากาศโดยรอบอยู่สักพักก่อนท่ีจะขึ้นรถเพ่ือ ท่ีหัวสะพานเป็นรูปสลักของ พญาอนันตนาคราชท่ี ออกเดินทางต่อ...ระยะทางยังคงอีกยาวไกล ต่างกับสติท่ีสั้นลง เพราะหนังท้องท่ี ประทับของพระนารายณ์ สร้างมาจากหินศิลาแลง ตงึ เตม็ ที่ พวกผมหลบั แทบจะทันทเี มื่อข้นึ รถเลยก็วา่ ได.้ .. ตัวสะพานแข็งแรงทนทานมากถึงจะผ่านเวลามานาน ไม่รู้ว่าผมหลับไปยาวนานแค่ไหน เพราะพอลืมตาต่ืนข้ึนมารถก็จอดให้ มากแล้ว ตอนน้ียังคงเปิดใหผ้ ู้คนได้ใช้สญั จร ไปมาได้ พวกเราเข้าห้องน้า ทีแรกผมว่าจะไม่ลงไปเข้า เพราะยังไม่ปวดเท่าไหร่ อยู่ แต่หา้ มรถยนต์ผา่ นพวกเราเดินชมสะพาน ถ่ายรูป แต่ทนคาเซ้าซ่ีของเพื่อนผมไม่ไหว เลยลงไปเป็นเพ่ือนกัน พวกเราลงมาจากรถ และถ่ายทาขา่ วเขา้ ห้องน้าแลว้ กเ็ ตรียมตวั นงั่ รถต่อกันยาว ๆ ต่อไป เป็นกลุ่มสุดท้ายอีกตามเคย พอลงมาถึงก็เจอกับคุณครู และได้รู้ว่าเขาจะจอดทีน่ ี่ 13 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n 14 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

ทีเ่ ดยี วแลว้ ยงิ ยาวอกี ประมาณ 3 ชัว่ โมงเขา้ พนมเปญเลย... ดนี ะที่ตัดสินใจลงมา แต่งงานจะแบ่งออกเป็น 2 พิธี นั่นคือ พิธีเวียนเทียน และพิธีผูกข้อมือ เรื่องน้ีสอนให้รู้ว่า “ทุกที่มีห้องน้า แต่รถไม่ได้จอดให้เราเข้าห้องน้าได้ทุกท่ี ก่อนที่จะเข้าพิธีเวียนเทียน จะต้องไหว้พระอาทิตย์ และพระจันทร์เสียก่อน ควรเข้าหอ้ งนา้ หากมีโอกาส” พวกผมม่งุ ตรงไปเข้าห้องน้า แลว้ ออกมาเดินเล่นใน จากนั้นไหว้พ่อแม่ของท้ัง 2 ฝ่าย แล้วจึงค่อยเข้าพิธีเวียนเทียน แต่ถ้าหาก ตลาด จดุ ทรี่ ถจอดเป็นจดุ ขายของฝากในจังหวัดสกล ที่มสี นิ ค้าส่งออกท่ีโด่งดังคือ ฝ่ายหญิงตั้งท้องก่อนแต่งงาน ต้องข้ามพิธีน้ีไป เพราะเช่ือว่าหากต้ังครรภ์แล้วทา “ตัวบ้ึง” ในตอนแรกผมเข้าใจว่าตัวบึ้งนี่น่าจะเป็นสัตว์ท่ีหน้าตาคล้าย ๆ พิธีนจ้ี ะไมด่ ีตอ่ เด็กในทอ้ ง ต่อจากนน้ั จะเข้าสู่พิธีผูกข้อมือ และเขา้ สูพ่ ธิ ีสุดท้ายคือ กับกบมั้ง บึ้ง อึ่ง คงประมาณประมาณกัน... แต่กลับไม่ใช่ บ้ึงกลับเป็นแมงมุมตัว การตัดผม ซ่ึงเป็นการบ่งบอกว่าได้ตัดขาดออกจากครอบครัวเดิมเรียบร้อยแล้ว ใหญ่สีดาน่ากลัว ที่ผมรู้เพราะมีเด็กน้อยกัมพูชาเอามันมาแหย่สาว ๆ หอยทาก ให้เทวดาชว่ ยอวยพรใหค้ รอบครวั มสี ุข นอกจากนพี้ ี่ไกด์ยงั บอก อกี วา่ เจ้าสาวนิยม เพื่อนของผม นอกจากบึ้งแล้วที่น่ี ยังมีแมลงอีกหลายอย่าง เพราะแมลงเป็น เปล่ยี นชุดในงานแตง่ หลาย ๆ ชุด เพือ่ แสดงถงึ ฐานะ ในงานแตง่ จะมเี พื่อนเจ้าบ่าว สนิ ค้าส่งออกของจังหวัดน้ี อกี อยา่ งที่ทาใหจ้ าท่นี ่ีได้ไมล่ ืม คือ เดก็ ๆ ทเ่ี ข้ามาขาย และเพ่ือนเจ้าสาวอย่างละ 3 คน แต่งตัวเหมือนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างกันท่ี ผลไม้ พวกเขาจะเดินตามเราไปทุกท่ี... พร้อมพูดอะไรก็ไม่รู้ไม่หยุด... ทางที่ดีคือ เจา้ สาวสวมมงกฎุ เจ้าบา่ วมีดอกไมต้ ิดเสอ้ื ... อยา่ ไปสบตาและตอบโตก้ บั พวกเขาหากเราไม่อยากเสียเงนิ ... ระยะทางสนั้ ลงทกุ ทีพอ ๆ กับความอดทนต่อความเม่ือยของผม แต่เพยี ง พวกเรายังคงเดินทางบนเส้นทางที่ยาวไกลต่อไประหว่างทางพี่ไกด์ยังคง ชั่วอึดใจ เสียงของพ่ีไกด์ก็ดังข้ึน แล้วบอกให้พวกเราเตรียมตัวลงไปยังจุดหมาย เล่าเร่ืองราวต่าง ๆ เป็นระยะ สลับกับที่ผมหลับไปเป็นระยะเหมือนกัน... เรอ่ื งทีจ่ าได้คอื เร่ืองตานานของกรุงพนมเปญ ท่ีเลา่ วา่ ..... ข อ ง เ ร า พ ร ะ บ ร ม ม ห า ร า ช วั ง กรุงพนมเปญ พี่วีกาชับพวกเรา กาลครั้งหน่ึงมียายที่เป็นเศรษฐีคนหน่ึง พบต้นตะเคียนข้ึนอยู่ริมท่าน้า ให้รักษามารยาท เพราะสถานที่ ยายกลัวว่าต้นตะเคียนจะทาท่าน้าพัง จึงจ้างคนมาขุด ปรากฏว่าคนงานที่มาขุด แ ห่ ง นี้ เ ป็ น ที่ ป ร ะ ทั บ ข อ ง พบพระพุทธรูปสัมฤทธ์ิเข้า ยายจึงจ้างคนในระแวกใกล้เคียงด้วยเงินท้ังหมดที่มี พระบาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ ก่อภูเขาขึ้น แล้วนาพระพุทธรูปท่ีพบไปประดิษฐานบนภูเขาลูกนั้น ภูเขาน้ันจึงมี พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา ช่ือว่า “พนมเปญ” ปัจจุบันพระพุทธรูปสัมฤทธ์ิอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ภายในมีสถานที่สาคัญ เช่น สว่ นเขาทถ่ี กู ก่อขึ้นเรยี กว่า “เขายายเปญ” ปราสาทเทวาวินิฉัยท่ีมีพระราช บัลลังค์อยู่ และยังมีวัดพระแก้วที่พ้ืนประดับด้วยแผ่นเงินจานวนถึง 5,272 แผ่น นอกจากนี้ยังมีความเช่ือวา่ ชาวกัมพูชาย้ายเมอื งหลวง มาจากเมืองอดุ ม ด้านในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปทองคาประดับเพชรปางศรีอริย มาเปน็ เมืองพนมเปญปจั จุบนั เมตไตรย โดยเพชรจะถูกฝังไว้ท่ีสะดือ ดวงตาทั้ง 2 ข้าง และหน้าผากของ พระพทุ ธรูป เป็นตน้ นอกจากนิทานแล้วพี่ไกด์ยังเล่าถงึ เรื่องวิถชี ีวติ ต่าง ๆ ของชนชาวกัมพูชา ก่อนทีพ่ วกเรา จะเข้าไปยงั พระบรมมหาราชวัง พวกเราทุกคนตอ้ งรอรับบัตร เช่น การแต่งงานผู้ชายก่อนแต่งงานต้องเข้าไปอยู่ ในบ้านของฝ่ายหญิงก่อน เขา้ ชมเสียก่อน แลว้ เหตกุ ารณส์ ั้น ๆ แตน่ ่าตกใจก็เกิดข้ึน ระหว่างท่ผี มเดินเข้าไป ไปเป็นคนรับใช้ ตามระยะเวลาที่กาหนด หากฝ่ายหญิงถูกใจก็เป็นอันเข้าพิธีได้ แต่หากไม่ถูกใจสินสอดทั้งหมดต้องตกเป็นของฝ่ายหญิง... น่ากลัวจริง ๆ โดยพิธี 16 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n 15 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

ยังจุดตรวจบัตร เจ้าหน้าท่ีให้ผมออกมาเพราะกางเกงสั้นเกินไป พ่ีไกด์พยายาม พ ว ก ผ ม เ ดิ น ว น อ ยู่ ใ น บ ริ เ ว ณ เข้าไปพูดขอร้อง แต่ก็ไม่สาเร็จ สุดท้ายพี่วี และครูก็ต้องพาผมไปซ้ือกางเกง รอบ ๆ วัดจนฝนเร่ิมซาลง เราจึงเดิน ขายาวสนี า้ ตาลเหมือนจีวรพระใหผ้ มใส่ ในราคา 100 บาทไทย เร่ืองนส้ี อนใหร้ ู้ว่า ออกไป เพื่อไปยังจุดนัดหมาย คือ “อะไรที่สั้น ๆ ถ้าเราใส่เล่น ๆ ไม่ผิด แต่ถ้าเข้าที่จริงจังมันจะผิดทันที” คร้ังหน้า ด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง จุดท่ีเป็น คงต้องเตรยี มกางเกงท่ขี ายาวกวา่ นม้ี าใหม่ไมง่ ัน้ ได้เสยี เงินอกี แน่ ๆ .... ลานมองออกไปเป็น โตนเลจตุรมุข จดุ ตดั ของแมน่ า้ สายสาคญั ท้ัง 4 สายของ เมื่อเข้ามาได้แล้ว ผมกับ กัมพูชา เมื่อไปถึงมีหลายกลุ่มรออยู่ก่อน เพื่อน ๆ ก็เดินชมสถานท่ีกันอย่าง หน้านี้แล้ว ฝนเร่ิมซาเม็ดจนเกือบหยุด... ครูวุธิก็บอกให้พวกเราเร่ิมทาข่าว ช้า ๆ ตามแบบฉบับของหอยทาก ในช่วงเปิด โดยพี่วีเป็นผู้แนะนา... ไม่นานฝนก็ตกลงมาอีก แต่กลับไม่มีใคร พวกเราได้ความรู้มากมายจากที่แห่งน้ี หลบฝนเลย เพราะกลัวว่างานจะไม่เสร็จ “ฝนไม่เคยทาให้ใครตายครับ แต่หาก เช่น การแต่งกายตามสีประจาวัน เราเปน็ หวดั อาจทาให้ตายได้” งานยังคงดาเนนิ ต่อไปกลมุ่ ของผมมีการโตเ้ ถียงกัน วั น จั น ท ร์ ใ ส่ สี ส้ ม อั ง ค า ร สี ม่ ว ง ไม่จบไม่ส้ิน เพราะหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะถ่ายตรงไหน กว่าจะตกลงกันได้เปียกกัน พุธเขียวอ่อน พฤหัสบดีเขียวแก่ ไปตามระเบียบ เร่ืองนี้จึงสอนให้รู้ว่า “ระหว่างท่ีตกลงกัน ไปหลบฝนก่อนก็ได้ ศุกร์สีน้าเงิน เสาร์สีเปลือกมังคุด และวันอาทิตย์สีแดง นอกจากน้ีเรายังได้รู้จัก และส่ิงที่สาคัญมาก ๆ เลยคือ เส้ือกันฝน” พวกผมถ่ายทาตอนเปิดกันเสร็จส้ิน ประเพณีจมแบน ที่ชาวกัมพูชาจะทาในช่วงหลังเข้าพรรษา เป็นการทาบุญ ทา่ มกลางสายฝน กอ่ นท่ีจะรบี ขึ้นรถ ไปยงั ร้านอาหารเยน็ และเข้าทพี่ ักตามลาดับ ต่อเนื่อง 15 วัน และจะจัดงานบุญใหญ่ในวันที่ 10 และวันท่ี 15 ผู้คนจะนา ในคืนน้ีก่อนที่เราจะแยกย้าย ครูวุธิเรียก ก้อนข้าวป้ันใส่ถาดไปวางไว้รอบ ๆ กาแพงวัด เพ่ืออุทิศให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเรามารวมเพื่อชี้แจงส่ิงที่ควรทา นิยมทาเช่นน้ี 5 – 7 วัดใน 15 วัน เหตุที่ต้องนาถาดข้าวปั้นไปวางไว้รอบกาแพง ซึ่งเสร็จสิ้นในเวลาเกือบ ๆ 5 ทุ่ม วัด เพราะเช่ือว่าเปรตหรือ ส่ิงชว่ั ร้ายไมส่ ามารถเข้ามาบรเิ วณวัดได้ ญาติของผู้มา พวกเราถึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน ทาบญุ จะสามารถเขา้ มารับส่วนบุญ และให้พรไดอ้ ย่างเตม็ ท่ี เปน็ ต้น คื น นี้ ผ ม ข อ ร้ อ ง ใ ห้ คุ ณ ค รู พ า อ อ ก ไ ป ร้านสะดวกซ้ืออีกตามเคย ซึ่งก็ได้ไป ในระหว่างทเ่ี ราเดินชมบรรยากาศโดยรอบอยู่นั้น ท้องฟา้ ก็ค่อย ๆ มืดลง ต า ม ค า ด พ ว ก เ ร า ซ้ื อ ข อ ง เ ส ร็ จ และแล้วเม็ดฝนก็โปรยลงมาอย่างหนัก ดูท่าแล้วฝนคงตกยาวอีกแน่ ๆ เตรยี มถามว่ารบั เงนิ ไทยไหม ปรากฏว่าเขาไม่รบั ทาไงละ่ ทีน้.ี .. แตแ่ ลว้ กม็ นี างฟ้า ในระหว่างท่ีฝนตก พวกเราก็เดินดูภาพวาดฝาพนังรอบ ๆ วัด พ่ีไกด์แนะนาว่า มาโปรดครับ คุณครูหญิงจากโรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์มีเงินดอลลาร์สหรัฐที่ เป็นเร่อื งรามเกียตริ์ และมหาเวสสันดรชาดก แต่บางส่วนก็เสียหายไปแลว้ เพราะ เขารับจ่ายแทนเงินเรียลของกัมพูชา ให้พวกเราได้แลก ต้องขอขอบคุณคุณครู ในสมัยเขมรแดงเข้ายึดครอง พวกกลุ่มเขมรแดงนาเอากระสอบเกลือมาต้ังใน หญิงจริง ๆ ครับ เร่ืองนี้สอนให้รู้ว่า “เงินไทยใช้ไม่ได้ทุกท่ีของกัมพูชา บริเวณนี้ ทาให้ภาพวาดเสียหายไป เรื่องน้ีสอนให้รู้ว่า “ของบางอย่างไม่ได้มีค่า สาหรับเรา แตอ่ าจเปน็ ของมีคา่ ของใครหลาย ๆ คนกไ็ ด้”... 18 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n 17 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

แต่เงินดอลลาร์สิแน่นอน” เม่ือซ้ือของเสร็จเรารีบกลับเข้าที่พักแล้วเข้านอน คุกกบั โรงเรยี น อย่างรวดเร็วเพราะเหน่ือยเหลือเกิน... หวังว่าราตรีน้ีจะทาให้ พวกเรานอนหลับ ได้อย่างเต็มอิ่มยาวววววววนานนนนนะครบั เด็กไทยหลายคนชอบบอกว่า โรงเรียนเหมือนกับคุกขังพวกเราไว้ ต้ังแต่เช้าจนถึงเย็น แถมมีเจ้าหน้าท่ีเรือนจาหน้ายักษ์วางกฎระเบียบสารพัด หอยทากแวน่ ที่เรียกว่า “ครู” อีกต่างหาก แต่จริง ๆ แล้วมันใช่หรอคะ... ถ้าหากไม่มีคุก 8 สงิ หาคม 2561 อย่างโรงเรียน เราจะไปหาความรู้ทางด้านวิชาการ ความรู้ในด้านจริยธรรม ความรู้ในด้านทกั ษะชวี ิต และความรใู้ นการเขา้ สังคมจากทไ่ี หนกัน.... 19 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n วันนี้ในตอนเช้ายังคงมีเรื่องเช่นเดียวกับเช้าเม่ือวานของยังคงหายอยู่ พีว่ ยี งั คงย้าเตอื นพวกเราวา่ “อยา่ !!!!!! นาของในห้องของโรงแรมออกนอกห้องโดย เด็ดขาด” ดีที่คร้ังนี้หาเจอไม่ง้ันคงได้เสียเงินกันอีก เราเร่ิมออกเดินทางแต่เช้า เพราะวนั นีเ้ ราต้องไปยังสถานที่สาคญั หน่งึ ที่ก่อนท่ีนั่นคือ คกุ ตวลสแลง พีไ่ กด์เล่า ให้พวกเราฟังว่า คุกน้ีเป็นคุกของกลุ่มเขมรแดงท่ีจับกุ่มผู้คนกัมพูชาเพื่อทรมาน เดมิ เปน็ โรงเรยี นตวลสแลง โดยมีผู้เสียชีวติ ทีค่ กุ แหง่ นถ้ี งึ 15,000 คนเลยทีเดยี ว... แค่ได้ยินอย่างนั้นหนูก็ขนลุกซู่ไปท้ังตัวแล้ว คงน่ากลัวแน่ ๆ ภาพในจินตนาการ ลอ่ งลอยไปไกลเลยทเี ดยี ว ต้องมีกาแพงสูง ลวดหนามพนั รอบ ๆ มีลูกกรงเหลก็ ... ดูน่ากลัว แต่ในความเป็นจริง.... คุกตวลสแลงไม่ต่างจากอาคารสานักงานท่ัว ๆ ไป เป็นอาคาร 2 ช้ัน กั้นเป็นห้อง ๆ ด้านในห้องถูกแบ่งเป็นช่อง ๆ ไว้กักขัง ทรมานผู้คน พวกเราเดินลึกเข้าไปก็เห็นภาพกองกระดูกคนจานวนมาก ภาพของ ผู้เสียชีวิต และภาพการ์ตูนจาลองการฆ่าและทรมานผู้คน ทุกอย่างดูหดหู่และดา มืดมาก ไม่น่าเช่ือว่าคนเราจะทากับคนได้ถึงขนาดน้ี “โลกไม่ได้สวยงามเสมอไป และอดีตท่ีโหดร้ายไม่ใช่สิ่งท่ียึดเหนี่ยวเราให้อยู่ในความสิ้นหวัง แต่เป็นสิ่งที่สอน เราให้ก้าวไปข้างหน้ามากกว่า” พ่ีไกด์บอกว่าคนส่วนใหญ่ท่ีถูกขังและฆ่าที่นี่ จะเป็นปัญญาชน เป็นคนมีความรู้ ไม่ว่าจะเป็นหมอ ครู ศิลปิน นายช่าง ที่รอด มาได้เพราะทางานถกู ใจหวั หน้ากลมุ่ เขมรแดงนน่ั คือ นายพลพรพต ซึ่งตอนน้ีพวก ท่านยังดาเนินชีวิตอยู่และยังเป็นเจ้าหนา้ ท่ีแนะนาสถานท่ีแห่งนี้มีด้วยกัน 2 ท่าน คือ คณุ ตาจุมมยั ผู้เป็นศิลปนิ วาดรูปไดส้ วยมาก คณุ ตาสญู เสยี ภรรยาตอ่ หนา้ ต่อ ตาคุณตา เน่ืองจากกลุ่มเขมรแดงเช่ือว่าภรรยาคุณตาเป็นกบฏ และคุณตายังมี 20 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

ปัญหาในการได้ยินอีกด้วย ส่วนท่านท่ี 2 คือ คุณตาวันนาคผู้เป็นนายช่างซ้อม ไปบ้าง บางคนใช้คาพูดและนาเสียงไม่ดีกับเพ่ือน ๆ จึงอาจก่อให้เกิดปัญหา เคร่ืองใช้ต่าง ๆ คุณตาจุมมัยเล่าว่าที่แห่งนี้น่ากลัวและโหดร้ายมาก แต่ทุกอย่าง ตามมาได้ ซ่ึงหนูก็อยากจะบอกว่า “การทางานร่วมกันควรระวังที่สุด คือ กเ็ ป็นเพียงอดีตใหไ้ ดจ้ ดจา เราแกไ้ ขไม่ได้ แต่เราสรา้ งอนาคตใหม่ได้... คาพูดหากพูดไม่ดี ใช้น้าเสียงไม่ดี งานอาจพังได้เสมอ” และ “คาพูดก่อนจะหลดุ ออกจากปากเรา เราเป็นนายของมนั แต่หากหลุดออกจากปากเราแลว้ มนั คือนาย พวกเราออกจากคุกตวลสแลงดว้ ยความหดหู่ แตไ่ ม่ทนั ได้ตั้งตวั เราก็ถึงท่ี ของเรา” ข้อหลังน้ีครูหนูสอนมาค่ะ ครูย้าว่าเร่ืองนี้ใช้ได้ตลอดชีวิตไม่ว่าเด็ก หมายต่อไปนน่ั คือ โรงเรยี นคู่มหามติ ร โรงเรียนมัธยมสมเดจ็ เจา้ ศรสี วัสดิ์ พวกเรา หรือผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะ “คาพูดจะทาร้าย รว่ มตัวกนั ทห่ี อ้ งประชุมรอคอยดว้ ยความตื่นเต้น เพ่อื น ๆ นกั เรียนกมั พชู าคอ่ ย ๆ คนอื่น และทาร้ายตัวเราเองอีกด้วย” คาพูดนี่น่ากลัวจริง ๆ น่ากลัวกว่า คกุ ตวลสแลงเมือ่ เช้าเสียอีกค่ะ... ท ย อ ย กั น เ ข้ า ม า ไ ม่ ข า ด ส าย พ่ีวีแนะนาพวกเราว่า “ก่อนที่เรา การที่พวกหนูได้มายังโรงเรียนมัธยมสมเด็จเจ้าศรีสวัสดิ์ทาให้เห็นได้ว่า จ ะ สั ม ภ า ษ ณ์ ใ ห้ เ ร า พู ด คุ ย ท า ทุกประเทศให้ความสาคัญกับเด็ก ๆ จริง ๆ โรงเรียนน้ีไม่น่าอึดอัด พ่ี ๆ เพ่ือน ๆ ความรู้จัก ทาให้ คนท่ีเราจะ น้อง ๆ ดูมีความสุขดี เป็นการยืนยันได้อยา่ งชดั เจนวา่ โรงเรียนไม่ใช่คุกสักหนอ่ ย สั ม ภ า ษ ณ์ รู้ สึ ก ผ่ อ น ค ล า ย ก่ อ น ถ้าเปน็ คุกจริง ๆ เขาจะมคี วามสุขกันหรอ คิดดู ๆ .... แล้วค่อยสัมภาษณ์” พวกเราก็ ช่ ว ย กั น คิ ด ว่ า จ ะ คุ ย ยั ง ไ ง พวกเราออกจากโรงเรยี นมธั ยมสมเดจ็ เจา้ ศรีสวสั ด์ิ มงุ่ หนา้ ไปรา้ นอาหาร นอกจากน้ี พ่ีวียังบอกอีกว่า “ใครท่ีเป็นตากล้องฝ่ายที่จะถ่ายทาในตอนที่เพ่ือน โตนเลป่าสัก พี่ไกด์ของว่าข้อสังเกตคือ ถ้าร้านไหนมีคาว่า โตนเล ร้านน้ันมี เตรียมสัมภาษณ์ ให้ไปดูสถานท่ีจัดเตรียมอุปกรณ์ได้แลยจะได้ไม่เสียเวลา” หุ้นส่วนเป็นคนไทย ครั้งน้ีก็เป็นบุฟเฟ่ต์อีกแล้ว แต่มีเวลาทานแค่นิดเดียวเอง พอพ่ีวีแนะนาพวกเราเสร็จ พิธีตอนรับก็เร่ิมข้ึน จากนั้นพวกเราก็แยกออกเป็น เสียดายจัง หนูเลยใช้แรงฮึดท่ีมีทั้งหมดในการขยับตัวให้เร็วข้ึน ตัก ๆ ๆ ๆ กลุ่ม ๆ และแล้วปัญหาก็เกิดขึ้น.... เพื่อน ๆ กัมพูชาไม่ยอมพูดภาษาอังกฤษกับ แลว้ กก็ ิน ๆ ๆ ๆ อย่างมีความสุขค่ะ... เราเลยค่ะ ทายังไงล่ะทีนี้... เมื่อคิดได้ดังนั้น เราก็ได้แต่ย้ิมให้กันไป ย้ิมให้กันมา ส่งภาษาใบ้กันไปส่งภาษาใบ้กันมา จนพี่วีเข้ามาช่วยเราจึงเป็นอันจบส้ินพิธี... หลังการอ่ิมเต็มท่ี เราก็ขึ้นรถมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติกรุงพนมเปญ การสัมภาษณ์ถึงเป็นไปได้อย่างเรียบร้อย เร่ืองน้ีสอนให้รู้ว่า “คนกัมพูชาไม่ค่อย หนูแอบต่ืนเต้นมาก ๆ แต่ทาหน้านิ่งไว้เด๋ียวเสียฟอร์ม ครั้งน้ีเป็นคร้ังแรกที่หนูได้ พูดภาษาอังกฤษ วิธีการแก้ไขปัญหาคือปรกึ ษาพ่ีไกด์ หรือใครที่เข้าใจ แล้วให้เขา ขึ้นเครื่องบิน... พวกหนูเดินเอากระเป๋าไปเช็คอิน จากน้ันก็รีบเอาพาสปอร์ต ตอบเป็นภาษาเขา เสร็จแล้วค่อยทาซับไตเต้ิลเอาทีหลัง” แบบนี้ใช้ได้กับทุกชาติ ไปตรวจ เราตอ้ งผ่านดา่ นต่าง ๆ ถอดเข็มขัดถอดรองเท้า เสยี เวลามากเลยทีเดียว เลยนะคะจะบอกให้.... ข้อแนะนาค่ะ “ถ้าไม่อยากเสียเวลาตอนตรวจอาวุธ ถอดเข็มขัดใส่กระเป๋าไว้เลย การทางานแข่งกับเวลาเป็นอะไรที่ยากลาบากจริง ๆ เรามีเวลาใน คะ่ ” พวกหนูทาอะไรช้าอยแู่ ล้วสดุ ท้ายไดว้ ง่ิ ไปทเ่ี กรด แตก่ ท็ ันนะคะ... การถ่ายทาทุกอย่างให้เสร็จภายใน 1 ช่ัวโมง เพราะหากช้ากว่านี้ เราจะกินข้าว และขึ้นเคร่ืองบินไม่ทัน... การทางานในเวลาที่จากัดก็ทาให้พวกเรารู้สึกเครียด ตอนเครอ่ื งข้นึ หนูแอบกลัว เพราะ มันขึน้ แรงมากเลย แตพ่ อเคร่ืองข้ึนถึง ระดบั ก็สบาย ๆ ค่ะ ไมน่ านหนูก็หลับเพราะวิง่ เหน่ือยไปหน่อย... 21 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n 22 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

พว กเราถึงยังสนาม บิ น บ้าง” เราเดินทางมาถึงจังหวัดเว้ประมาณ 2 ทุ่ม พวกหนูหมดแรงมากค่ะ นานาชาติประเทศเวียดนามเวลา ยอมรับเลย แต่ยังต้องน่ังรถต่อไปอีกกว่าจะได้กินข้าวเย็น (ตอนดึก) ม้ือนี้ ประมาณบ่าย 3 โมง เราต้องรอต่อ เป็นอาหารทะเล พวกหนูขี้เกียจแกะ อีกอย่างยังอิ่มไก่ทอดอยู่ เลยยกกับข้าวให้ เคร่ืองบินเวลาประมาณ 6 โมงเย็น หนมุ่ ๆ จากโรงเรียนวิชูทศิ ไปคะ่ ... ไมถ่ ึง 10 นาทีหมดไมเ่ หลือ... สนามบินทีนี่เดินไกลมาก และปัญหา ก็ เ กิ ด ขึ้ น เ ห ล่ า ห อ ย ท า ก ส า ว เราเดินทางผ่านอุโมงค์ท่ีพ่ีไกด์ชาวเวียดนามแนะนาว่า ท่ีเวียดนามเจาะ โดนรองเท้ากัดค่ะ สุดท้ายท่านรองฯ ภูเขาทาอุโมงค์เนื่องจากเป็นการลดเวลาการเดินทาง ประเทศที่มาช่วยเจาะ เกรียงไกร ให้พวกเราเปลี่ยนรองเท้าได้ เป็นอันรอดพ้นชะตากรรม เรื่องน้ีสอน อโุ มงค์ คอื ญป่ี นุ่ ค่ะ อโุ มงคท์ เี่ วียดนามยาวกวา่ ของบ้านเราเยอะค่ะบอกเลย... ให้รู้ว่า “ก่อนจะใส่รองเท้าควร ทดลองใส่เดินก่อน หากมันกัดจะได้แก้ไขได้” เราผ่านขั้นตอนการรับกระเป๋า เช็คอินที่สนามบินนี้อย่างง่ายดาย แล้วเราก็ รถค่อย ๆ แล่นอย่างช้า ๆ เพราะเขาจากัดความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตร เดินเล่นรออยู่ในสนามบินจนถึงเวลา แต่ดันหิวก่อนน่ีสิ สุดท้ายก็ต้อง ต่อชั่วโมง เราเลยถึงโรงแรมตอนดึก พอถึงแล้วทุกคนต่างไม่พูดกัน แยกย้ายกัน ขอความช่วยเหลือจากคุณครู เขา้ นอน.... เปน็ อันจบสิน้ วันทย่ี าวนานไปอกี หน่ึงวนั ค่ะ ใ ห้ ช่ ว ย ซื้ อ ไ ก่ ท อ ด ใ ห้ ห น่ อ ย ส่ังอยู่นานพนักงานก็สับสน หอยทากตัวกลม คุ ณ ค รู ก็ ง ง ว่ า เ ร า จ ะ เ อ า 9 สิงหาคม 2561 อะไรบ้าง กว่าจะได้ของมาครบ ตามจานว นเล่ นเ อ า (ค รู ) 24 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n เหนื่อยเลยทีเดียว ลืมบอกไป “เวียนนามรับแต่เงินดองกับ ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นควรแลกเงินดองไปนะ” พวกเรากินไก่เสร็จก็ถึงเวลาขึ้น เครื่องมุ่งหน้าไปยังเมืองเว้ และไปตอ่ รถเพื่อไปเมืองดานงั ต่อไป บนเครื่องบินหนูก็จะนอน แต่เพ่ือน ๆ หอยทากนี่สิ ไม่ยอมนอนเล่น ตลอดเลย สุดท้ายครูดุค่ะ “บนเครื่องบินเป็นท่ีสาธารณะ ควรรักษามารยาท ด้วย” ก่อนจะหลับก็มีเร่ืองเกิดข้ึน เก้าอี้ด้านหน้าของเพื่อนหอยทากหนู เป็นคู่ชายหญิงท่ีเขาเป็นแฟนกัน เขาน่ังพลอดรักกันใหญ่เลย ซ่ึงมันก็ไม่ค่อย จะดีนัก เรื่องน้ีสอนให้รู้ว่า “เครื่องบินนะไม่ใช่โรงแรม ทาอะไรหัดเกรงใจคนอ่ืน 23 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

Amazing เม่ือกิจกรรมในห้องประชุม เสร็จสิ้นลง การทาข่าวก็เริ่มขึ้น เร่ืองอัศจรรย์ใจเกิดข้ึนกับเราได้ทุกเม่ือ บางคร้ังเราเดินอยู่บนถนน พวกเราทาตามท่พี ี่วีแนะนาครัง้ ท่แี ล้ว เรื่องอศั จรรยอ์ าจจะวง่ิ ชนเรากไ็ ด้ใครจะรู.้ .. ดงั เช่นวันน้ี พูดคุยทาความรู้จักกับคุณครู และ เพ่ือน ๆ ชาวเวียดนามก่อน กลุ่มที่ วันนี้เราตื่นสายกว่าปกตินิดหน่อยค่ะ เพราะเม่ือวานนอนดึก เ ป็ น ฝ่ า ย ถ่ า ย ท า อ อ ก ดู ส ถ า น ท่ี เชา้ น้กี ็ยังคงมีเรื่องน่าอัศจรรย์ใจอยา่ งของหายอีกตามเคยค่ะ ไม่รูท้ าอะไรกันหาย ทุกอย่างดาเนินไปตามร ะบบ ท่ี ได้ทุกวนั สนิ ะ... แต่วนั นย้ี งั ไม่เปน็ ไรยงั มเี วลาหาอกี คนื คะ่ วางเอาไว้ เพอื่ น ๆ ชาวเวยี ดนามพยายามพดู คุยกับพวกเรา เราก็พยายามส่ือสาร กับเขา การทางานเลยเป็นไปได้อย่างราบรืน่ สนกุ สนาน แต่แล้ว... ปญั หาก็เกิดขึ้น พวกเราออกเดินทางมุ่งตรงไปยังโรงเรียนคู่มหามิตรของประเทศ มีเพ่ือนบางคนยังคงใช้คาพูด และน้าเสียงค่อนข้างรุนแรง การทางานจึงหยุดลง เวียดนาม คือ โรงเรียน Pham Ngoc Thach High School ระหว่างทางรถ คร้ังน้ีพวกเราตัดสินใจพูดคุยกัน ถึงเรื่องท่ีเราชอบไม่ชอบในการทางาน “หากมี ของพวกเราผ่านสถานที่หลายแห่ง แต่ที่สะดุดตาพวกเรามากท่ีสุดก็คือ ปัญหาเกิดขึ้น ควรพูดกันตามตรงด้วยสติค่อย ๆ พูด เพราะเราไม่ชอบอะไร สะพานมังกร พี่ไกด์บอกว่าสะพานนี้ในตอนกลางคืนจะเปิดไฟ ยิ่งในวันเสาร์จะมี คนอื่นก็ไม่ชอบอย่างท่ีเราไม่ชอบน่ันล่ะ” จบการพูดคุยในเวลาอันส้ันงานก็ การแสดงพ้นน้า และไฟอีกด้วย แต่น่าเสียดาย พวกเราจะออกจากเวียดนาม เดินหนา้ ตอ่ ไปได้ด้วยดี แต่ใชว่ ่าปญั หาจะจบสิน้ พธิ กี รของเราไม่สามารถจาบทได้ พรุ่งน้ี... ไม่นานนักพวกเราก็ถึงโรงเรียน ฟ้าค่อนข้างคร้ึมฝน แต่ฝนไม่ตก อากาศ ค่ะ ทายังไงก็พูดไม่ได้เสียที พ่ีวีจึงแนะนาว่า “ให้เขียนบทลงบนกระดานแล้ว อบอ้าวมาก ยิ่งใส่สูทมาอีกร้อนคูณสิบเลยค่ะ ขอเสนอเลยค่ะ ขอเสนอจริง ๆ ยืนหลังกล้องให้เพื่อนได้อ่าน หรือให้บอกเพ่ือนว่าซ้อม แต่ถ่ายทาจริง ๆ เพ่ือลด “สูทใส่แล้วร้อนมาก แถมไม่คล่องตัวอีกด้วย ไม่เหมาะกับการทางานเลยสักนิด” ความตื่นเต้น” ซึ่งท้ัง 2 วิธีก็ได้ผลจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณพี่วีจริง ๆ ไม่ง้ันงานไม่เสร็จ อีกอย่างรองเท้าก็ยังคงกัดเท้าเป็นระยะอีกด้วยค่ะขอบ่นนิดนะคะ... คุณครูของ แน่ ๆ เรามีเวลาในการถ่ายทาประมาณ 1 ชั่วโมงคร่งึ ซ่ึงเราก็ถ่ายทากันจนวนิ าที ทางโรงเรียน Pham Ngoc Thach High School พาพวกเราไปรวมกันท่ี สดุ ทา้ ย ถงึ จะเหน่ือยแต่ก็สคู้ ะ่ ... ห้องประชุม โรงเรียนของเขามีแค่ 2 ชั้นเอง บรรยากาศดูสงบ ร่มรื่น ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม อากาศเลยร้อนนิดหน่อย คุณครูท่ีน่ีพูดภาษาอังกฤษเก่งมากค่ะ พวกเราออกจากโรงเรียนมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารในตัวเมืองดานัง พวกเราน่ังชมพิธีเปิด การแสดง และมีการแนะนาตัวกันเล็กน้อย ซึ่งตอนนี้ก็เกิด ครั้งน้ีคุณครูมาน่ังกินกับเราด้วย เลยโดนบังคับกินผักค่ะ สยองขวัญมากเลย เรื่องอัศจรรย์ข้ึนค่ะ คือ ไม่มีชื่อโรงเรียนพวกเรา... และช่ือคุณครูของพวกเรา... แต่พวกเราก็แอบเนียน ๆ กินบ้างเข่ียออกบ้าง คุณครูก็ได้แต่มองแล้วถอนหายใจ ครูวธุ คิ ะลืมพวกเราแล้วหรอน้อยใจนะเนีย “เราไม่ควรจะลมื ส่งิ ทีเ่ ปน็ รายละเอียด “เลือกกินแบบนี้จะลาบากนะ ถ้าไม่มีอย่างอื่นให้กินจะทายังไง” คุณครูบ่น เล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะ หากลืมอาจจะเกิดปัญหาที่ใหญ่มากตามมา ยิ่งเป็นงาน พวกเรา ก็รนู้ ะคะว่าไมด่ ี แตม่ ันไม่ชอบจริง ๆ นีค่ ะ... หลังจากออกจากรา้ นอาหาร พธิ ีการย่งิ สาคัญใหญ่” พวกเราคิดอยา่ งั้นจริง ๆ .... พวกเราขอให้คุณครูพาข้ามฝ่ังไปดูร้านเค้กไต้หวันที่พี่ไกด์แนะนา... แต่ไปถึงร้าน 25 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n 26 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

เราไม่ไดส้ นใจเคก้ เลยค่ะ เราสนใจชานมไข่มกุ มากกว่า สดุ ทา้ ยไดก้ นั มาคนละแก้ว ที่สุดของที่นี่ เจ้าของบ้านเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนได้เข้าชม ด้านในเป็นบ้านชั้น ตามระเบียบ...อร่อยค่ะประทับใจมาก เดียว มีสวนอยู่กลางบ้าน บ้านแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนท่ี 1 ไว้รับแขก มีโต๊ะเก้าอี้ มีศาลเจ้า ส่วนท่ี 2 เป็นสวน และส่วนสุดท้ายจะเป็นตัวบ้านดูร่มรื่น จากน้ันพวกเราก็มุ่งหน้าเดินทางไปยังเมืองฮอยอัน ระหว่างทางพี่ไกด์ นา่ อยมู่ ากค่ะ... เล่าให้เราฟังถึงเร่ืองเหตุผลท่ีชาวเวียดนามชอบกินผัก เนื่องจากต้องดูแลสุขภาพ หลังจากที่โดนฝนเหลือง เมื่อคร้ังทาสงครามกับสหรัฐอเมริกา ฝนเหลือง พวกเราแยกจากพี่ไกด์ตรงจุดนี้ เป็นสารเคมีที่เมื่อเข้าสู่ธรรมชาติจะทาให้ต้นไม้ตาย และจะดูดซึมอยู่ในดินเป็น และเร่ิมทาข่าวกันในทันที แต่แล้วปัญหา เวลานาน ผล ของฝนเหลืองหากถูกร่างกายจะเจ็บปวดทรมานมาก น่าอัศจรรย์ใจก็เกิดขึ้นค่ะ เมื่อเพื่อนท่ีดูแล หากไม่เสียชีวิตก็อาจพิการได้ ผลทางอ้อมนั้นส่งผลให้ร่างกายแคระแกร็น เ ค รื่ อ ง เ สี ย ง ไ ม่ ไ ด้ น า ไ ม โ ค ร โ ฟ น ล ง ม า แล้วจะทายังไงล่ะทีนี้... สุดท้ายเรายืน ไปอีกหลายช่ัวอายุคนเลยทีเดียว.... เถียงกันไปมาอยู่นาน บรรยากาศเริ่ม น่ากลัวมาก ๆ ค่ะบอกเลย ไม่นาน ร้อนข้ึน ๆ แต่ปัญหากลับไม่ได้ถูกแก้ไข... สุดท้ายคุณครูเข้ามาช่วยแนะนาให้ เกินรอรถก็จอดยังท่ีหมายของเราเมือง เราจึงตกลงกนั ใหม่วา่ ระหวา่ งนใ้ี หใ้ ช้ไมโครโฟนของโทรศัพท์มอื ถือกอ่ น แล้วค่อย ฮอยอัน เมืองนี้เป็นเมืองประวัติศาสตร์ ไปยืมเอาไมโครโฟนจากกลุ่มท่ีเขาถา่ ยทาเสร็จแล้วมาใช้... เป็นอันเสร็จสิน้ ปัญหา ของเวียดนาม อาคารบ้านเรือนเป็น เร่อื งน้สี อนให้ร้วู ่า “การมวั แต่เถียงกัน วา่ กัน ดว้ ยอารมณ์ไม่ได้ชว่ ยอะไรให้ดีข้ึน” รูปทรงแบบจีน และญ่ีปุ่น พี่ไก ด์ “เราควรรับผิดชอบต่อหน้าท่ีที่เราได้รับมอบหมายมาอย่างดีที่สุด” “ไม่ควรฝาก นัดหมายพวกเราว่าให้เวลา 2 ช่ัวโมงใน ของท่ีจาเป็นกับใคร เพราะเขาอาจจะไมร่ บั ผดิ ชอบแทนเรา” และ “การแก้ปัญหา การถ่ายทาข่าว และซื้อข้าวของ นัดหมายกันจุดที่เราลงรถมา ทุกคนเข้าใจเป็น เฉพาะหน้าเป็นส่ิงที่จาเป็นในการทางาน” สุดท้าย “การยืมของใครถ้าจาเป็นก็ อยา่ งดี จากน้ันเรากเ็ ดินตามพี่ไกด์ข้ามสะพานเก่าเข้าไป พ่ีไกด์บอกว่าสะพานเก่า ควรจะทา และรับผิดชอบของท่ียืมมาให้ดีท่ีสุด” ถึงแม้ว่าการถ่ายทาของกลุ่มเรา น้ีเป็นสะพานของญ่ีปุ่น ตรงกลางสะพานมีศาลเจ้าอยู่ ที่น่ีมีคนเดินขวักไขว่ จะทุลักทเุ ลไปบา้ ง แต่ก็สาเร็จเสร็จส้ินไปไดด้ ้วยด.ี .. มากมาย พวกเราจงึ ไมส่ ามารถเดนิ ชา้ ๆ อยา่ งที่เคยไดเ้ ลยค่ะ...เสยี ใจจริง ๆ หลังจากที่เราทางานเสร็จ ก็ถึงเวลาที่เรารอคอย... เดินซื้อของค่ะ... เดินเข้ามาได้ไม่นานเราก็พบกับ โดยคุณครูเป็นหัวหน้านาทีมไป มองไปมองมาอยากได้ทุกอย่างเลยค่ะ สุดท้าย ศาลเจ้าข้างในดูมีมนต์ขลัง มองข้ึน แวะเกือบทุกร้าน จนเจอกระเป๋าที่ถูกใจท่ีสุด เหมาะกับการเป็นของฝากมาก ๆ ข้างบนพวกเราเห็นเหมือนกับยากันยุง พวกเราหอยทากสาวก็หยิบเงินพร้อมจ่ายเลยค่ะ แต่ครูห้ามไว้ก่อน... ครูต่อราคา หมุนไปมาอยู่ ครูบอกว่าไม่ใช่ยากันยุง แบบโหดร้ายมากเลยค่ะ บอกมา 2 แสนดอง ครูต่อเหลือ 1 แสน แม่ค้าไม่ยอม นั้นธูป... อศั จรรยใ์ จจรงิ ๆ ค่ะ ต่อจากนั้น ครูเลยเอา 1 แสน 1 หม่ืนดอง แม่ค้าจะไม่ยอมแต่สุดท้ายก็ยอมขายในท่ีสุด เราเดินตามพ่ีไกด์ไปยังบ้านเก่าหลังหน่ึง น่าอัศจรรย์ใจจริง ๆ ค่ะบอกเลย หลังจากน้ันพวกเราก็เดินซื้อของได้อีก พ่ีไกด์เล่าว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านท่ีเก่าแก่ 28 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n 27 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

หลายอย่าง โดยคุณครูของพวกเราเป็นคนต่อราคาให้ ได้ของมาเต็มไม้เต็มมือ งั้นคงต้องกลับไปโรงแรม อาจจะเจอพ่ีไกด์แล้วแลกเงินได้ ครูถามพี่เจ้าของร้าน ทกุ คน เหตกุ ารณ์น้สี อนวา่ “ของท่เี วยี ดนามตอ่ ราคาไดเ้ กอื บครึง่ จรงิ ๆ ซ้ือของให้ รองเท้าว่าเขาปิดร้านกี่โมง พวกเขาบอกว่า 4 ทุ่ม ซ่ึงตอนนั้นเวลา 3 ทุ่ม 45 ตอ่ ดว้ ย” พวกเราเดินซื้อของจนเงนิ หมดเป็นที่เรยี บร้อย พวกเรากม็ าร่วมตัวกันท่ี แล้วค่ะ เหลืออีก 15 นาที พวกเรารีบวิ่งสุดขาเลยค่ะ แต่พอถึงโรงแรม จุดนัดพบ ไม่ต้องให้บอกนะคะว่ามาถึงเป็นคนสุดท้ายไหม เพราะเป็นเรื่อง พ่ีไกด์กลับไปแล้ว คุณครูเลยไปถามพี่พนักงานที่เคาน์เตอร์โรงแรมว่ารับแลกเงิน แนน่ อนอยู่แล้วคะ่ ... ไหม ปรากฏว่ารับแลก... แต่อัตราแลกเปลี่ยนแพงมาก ๆ ค่ะ สุดท้ายหอยทาก ผู้น่าสงสารเลยไม่ได้รองเท้าคู่น้ัน... เรื่องน้ีสอนให้รู้ว่า “แลกเงินเราควรแลก รถบัสขับออกไปมุ่งตรงไปยังร้านอาหารเย็น สายฝนค่อย ๆ เทลงมา ทป่ี ระเทศของเรา อัตรามนั จะถูกกวา่ ” และ “ควรแลกมาใหพ้ อใช้ อยา่ คดิ มาแลก จนพ้ืนเปียกไปแฉะ เราถึงร้านอาหารเวลาประมาณ 6 โมงเยน็ มือ้ นี้อาหารไม่ค่อย ต่างประเทศ หรือถ้าไม่เช่นน้ันให้ติดเงินสกุลกลางอย่างดอลลาร์สหรัฐไว้ด้วย” แปลกตาเท่าไหร่ มีผัดผัก ปลาทอด กินได้ค่ะ... สบาย ๆ ทุกอย่างดูปกติราบรื่น เรอ่ื งน่าอัศจรรย์ใจกจ็ บลงเพียงเทา่ น้ี คืนนหี้ ลับฝันดรี าตรีสวสั ด์คิ ่ะ... ไม่มีอะไรให้น่าอัศจรรย์ใจ แต่แล้วเมื่อเรากินอาหารเสร็จ ข้ึนรถแล้วรถออกมา มุ่งตรงไปยังโรงแรมท่พี ักของพวกเรา หนูเพิ่งนกึ ไดว้ า่ ลมื นาฬิกาไวท้ ่ีร้านอาหารค่ะ หอยทากย้ิมร่า ทาไงดีล่ะทีนี้ หนูรีบเดินไปบอกคุณครูทันที คุณครูบอกกับพี่ไกด์ ให้ช่วยตามหา 10 สิงหาคม 2561 ให้ พี่ไกด์ก็ช่วยเต็มที่ แตส่ ุดทา้ ยกห็ าไม่เจอ เรอ่ื งนี้จงึ สอนให้รูว้ ่า “ของสาคัญควร ดูแลให้ดี ๆ อย่าวางเอาไว้ เพราะอาจหายได้”... เสียใจและเสียดายค่ะ แต่กลัว 30 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n โดนแม่ว่ามากกวา่ .... พอเราถึงโรงแรมครูวุธิเรียกรวมและอบรมพวกเราถึงเร่อื งการใกล้ชิดกนั ของผู้หญิงกับผู้ชาย “หญิงชายอย่าใกล้ชิดกันมากเพราะมันดูไม่ดี ไม่เหมาะสม” ซึ่งเป็นข้อควรระวัง “ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นเพื่อนกัน เขาจะมองแต่ว่ามันไม่ดี” ครูวุธิคุยกับพวกเราอยู่ประมาณคร่ึงช่ัวโมงจึงปล่อยให้พวกเราแยกย้ายกับเข้า นอน แต่พวกเราก็ไม่ได้เข้านอนหรอกค่ะ เพราะคืนนี้คุณครูจะพาเราออกไปเดิน เล่นชมเมืองดานังกนั คะ่ ... พวกเราออกจากโรงแรมเวลาประมาณ 3 ทุ่ม เดินไปตามถนนจนพบกับ ตลาด และที่น่าอัศจรรย์ใจ คือ ร้านรองเท้าค่ะ พวกเราทั้งหมดเข้าไปในร้านหยบิ ดูรองเทา้ คานวณราคาปรากฏว่าถกู แสนถกู เลยคะ่ ราคาคิดเปน็ เงินไทยประมาณ 200 – 300 บาทเองค่ะ แต่ประเดน็ สาคัญมันไม่ได้อยู่ที่ราคาหรอกค่ะ แต่มันอยู่ท่ี เงินดองที่แลกมาต่างหาก... พวกเราใช้เงินดองท่ีแลกมาหมดต้ังแต่ท่ีฮอยอันแล้ว ค่ะ... แต่หนึ่งในหอยทากเพื่อนของเราอยากได้รองเท้าคู่หน่ึงมาก ๆ ครูจึงบอกวา่ 29 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

เมฆฝนในใจ เขาจะอนุญาตให้เป็นกรณีพิเศษ” พวกเรามาถึงทันเวลา แต่มีบางคนยังไม่ถึง ทางสายการบินจงึ ดีเลย์เท่ียวบนิ ให้ ซ่งึ ถอื วา่ พวกเราโชคดมี ากเลยค่ะ... หากพูดถึงเมฆฝน เราคงนึกถึงความมืดหม่น ไม่สดใส ความน่าอึดอัด อึมครึม เมฆฝนในโลกแห่งความจริง... ไม่ได้เป็นส่ิงท่ีสวยงาม ไม่ต่างจากจิตใจ ในระหว่างที่รอเคร่ืองบินอยู่น้ัน ก็มีเร่ืองเกิดข้ึนค่ะ 1 ในหอยทากสาว ของคนบางคนท่ีมืดบอด เต็มไปด้วยอคติ และความโกรธ จิตใจเหล่านั้นก็เหมือน ถูกผู้ใหญ่ใจร้ายคนหนึ่งเข็นรถเข็นกระเป๋ามาชนเข้าค่ะ ทีแรกพวกฉันคิดว่าเขา มีเมฆฝนอยู่ภายใน มืดดา หม่นหมอง และสุดท้ายพวกเขาเหล่าน้ันก็จะต้องทน ไม่ต้ังใจ แต่ทีที่ 2 ก็ตามมาติด ๆ ค่ะ จงใจแล้วค่ะ พวกเรามองไปยังเขาด้วย ทกุ ขใ์ จจมน้าฝนในจติ ใจของตนเองในท่สี ดุ .... ความสงสัย แต่กลับไม่ได้รับคาตอบอะไร จนเราต้องพูดกันเองว่าสงสัยเราคง ไปขวางทางเขามั้งเขาเลยชนเอา... เร่ืองน้ีสอนให้รู้ว่า “คาขอโทษเป็นมารยาท วนั นพี้ วกเราต่ืนแตเ่ ชา้ ไมใ่ ช่เช้าสิ ตืน่ แต่ดกึ เลยดีกว่าคะ่ พวกเราตืน่ เวลา ทางสังคมท่ีพ่ึงกระทาค่ะ” ฉันได้แต่คิดว่าผู้ใหญ่คนนั้นคงไม่ได้ถูกสอนมาให้รู้จัก ตี 3 เพื่อให้ทันเวลานัดหมายตอนตี 4 คร้ังนี้พวกเราไม่ได้ช้าที่สุด แต่มีคนช้าท่ีสุด ขอโทษมงั้ คะ พวกเราเลยใหอ้ ภัยเขาไป.... แทนพวกเราค่ะ... เม่ือถึงเวลาเรียกรวม เร่ืองเดิม ๆ ก็ย้อนกลับเข้ามาเร่ือง ของหายค่ะ ครั้งนี้เป็น คีย์การ์ด กับแก้วน้าค่ะ คนที่ทาหายก็เป็นกลุ่มคนเดิม ๆ พวกเราขึ้นเครื่องบินด้วยความอ่อนเพลีย และหลับทันทีท่ีได้นั่งค่ะ... ทาให้ฉันรูส้ ึกวา่ คนพวกนี้ทาไมไมร่ จู้ ักปรบั ตัวเสียเลย ทาไมเราไมม่ อี ะไรจดั การกับ ฉันลืมตาต่ืนเพราะแรงกระแทกจากเคร่ืองท่ีแลนด์ดิ้งค่ะ... พวกเราต่อแถวลง คนท่ีพฤติกรรมแบบน้ีเลยหรอ ไม่เห็นเขาจะถูกดุสักทีน่าแปลกจริง ๆ ค่ะ เร่ืองนี้ เครื่องเดินลงมาเหยียบย่างเข้าสู่ดินแดนของประเทศลาว ซึ่งเวลาก็ล่วงเลยมาถึง จึงบอกให้ฉันรู้ว่า “คนทาผิดท่ีไม่ได้ถูกดุ หรือเตือน อาจจะทาผิดซ้า ๆ ซาก ๆ ได้ 11 โมงแล้วค่ะ กว่าพวกเราจะได้รับกระเป๋าและออกจากสนามบินพร้อมขึ้นรถ แต่ให้ระลึกไว้ว่าจะไม่ได้รับการยอมรับจากใคร” เม่ือจัดการปัญหาซ้า ๆ ซาก ๆ เวลาก็เข้าไปเที่ยงวันพอดี ที่นี่เองท่านผู้อานวยการสานักการศึกษารอพบกับ เสร็จส้ินเรยี บร้อย พวกเราก็ออกเดนิ ทางกันตามกาหนดเดิม พวกเราอยู่ ขอขอบพระคุณในความกรุณาในคร้ังนี้ด้วยค่ะ รถพาเรามุ่งหน้าสู่ ร้านอาหาร... อาหารมื้อนี้ส่วนใหญ่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีค่ะ ทั้งลาบปลา คุณครูของเรานดั หมายพวกเราวา่ ครัง้ นีห้ ้ามช้าโดยเด็ดขาด เพราะไม่งั้น ท้ังส้มตา ถูกปากกันเลยทีเดียว พวกเรากินหมดไม่มีเหลือค่ะ... ต่อจากนั้นเราก็ เราตกเคร่ืองแน่ ๆ พวกเรารับปากว่าจะไม่ช้า... เมื่อถึงสนามบินทุกคนต่างรอรับ มุ่งหน้าไปสู่ประตูชัย แต่...ฝนดันเทลงมานี่สิคะ เลยต้องเปลี่ยนแผนการไปยัง กระเป๋าของตัวเอง จัดการตัวเองได้เป็นอย่างดี คร้ังแรกพวกเราผ่านไปได้ ตลาดเช้าเสยี ก่อน... อยา่ งสบาย ๆ แต่พอถึงจุดต่อเคร่อื งน่ีสคิ ่ะ... เพือ่ นของเรา 2 คนหากระเปา๋ ไม่เจอ เพราะ ป้ายช่ือหลุดค่ะ ท่านศุภรเลยแนะนาพวกเราว่า “เวลาหากระเป๋าไม่เจอ อย่าสงสัยนะคะว่าตลาดเช้า ทาไมไปเท่ียวตอนบ่าย ตลาดนช้ี ือ่ ตลาดเช้า ให้ดูท่ีตั๋วเคร่ืองบินจะมีเลขรหัสท่ีตรงกับแถบท่ีติดกระเป๋าอยู่” พวกเราก็รีบ คะ่ ไม่ได้เปดิ แค่ตอนเชา้ แตเ่ ปิดทงั้ วนั เปน็ ตลาดท่ีมสี นิ ค้ามากมาย เป็นศูนย์กลาง ทาตามในทันที ซึ่งก็เป็นจริงตามที่ท่านแนะนาค่ะ ขอขอบพระคุณท่าน แหล่งท่องเท่ียวของเวียงจันทน์เลยก็ว่าได้ พวกเราเดินลงมาดูข้าวของพร้อม เป็นอย่างสูง พวกเรารีบว่ิงไปต่อยังจุดเช็คอิน ซ่ึงคนค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะจุด ความกังวลว่าไม่ได้แลกเงินลาวมาจะซ้ือของได้ไหม... แต่ความกังวลนั้นก็หมดไป ตรวจคน คนจะเยอะเป็นพิเศษ จุดนี้พ่ีไกด์ค่อยช่วยเหลือพวกเราอย่างเต็มท่ี เพราะพี่ไกด์บอกว่า “เงินไทยใช้ท่ีลาวได้ แต่อาจจะซื้อของได้แพงกว่าเงินลาว พ่ีไกด์เดินไปบอกพ่ีเจ้าหน้าที่ว่าพวกเราจะไปไม่ทัน พวกพ่ีเจ้าหน้าที่เลยยอมเปิด นิดหน่อย” พวกเราจึงสนุกสนานกับการซื้อข้าวของ เราเดินเพลิดเพลินไปท่ัว แถวใหม่ให้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “หากเราจะไม่ทันบอร์ดด้ิงพาส ให้แจ้งเจ้าหน้าท่ี จนไดไ้ ปเจอกับกลุ่มผา้ ทอมือ ซ่ึงเป็นเปา้ หมายในการสัมภาษณ์การทาข่าวในวันน้ี 31 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n 32 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

แต่... เราไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย สุดท้ายการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็เกิดข้ึน หลังจากทานเสร็จพวกเราก็เดินให้ พวกเราใช้โทรศัพท์ 2 เคร่ือง เคร่ืองแรกไว้ถ่ายทา เครื่องที่ 2 ไว้อัดเสียง ผู้ ใ ห ญ่ ทุ ก ท่ า น ผู ก ข้ อ ไ ม้ ข้ อ มื อ ถึงภาพจะออกมาไม่สวยนัก แต่ก็ดีกว่าออกไปตามเพ่ือนให้เสียเวลา เร่ืองน้ีสอน ผู้ใหญ่ทุกท่านใจดีมากค่ะ เป็นกันเอง ให้รู้ว่า “ข่าวอาจมีให้สัมภาษณ์ได้ทุกที่ ถึงแม้เราไม่มีอุปกรณ์ท่ีดี แต่เราก็ต้อง แ ล ะ ใ ห้ พ ร พ ว ก เ ร า ด้ ว ย ค ว า ม รั ก ประยกุ ต์ใช้เพอ่ื ใหไ้ ด้งาน” ความเมตตา พวกเรารู้สึกประทับใจ มากเลยค่ะ.... เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่าง เมื่อถึงเวลานัดหมายพวกเราก็ไป เรากม็ ุ่งหนา้ กลบั สู่โรงแรมทีพ่ ัก รวมตัวกันท่ีจุดนัดหมาย ข้ึนรถไปต่อยัง ประตูชัย เมื่อถึงประตูชัยเราได้ถ่ายภาพ คืนน้ันครูวุธินัดหมายพวกเราว่า พรุ่งนี้พวกเราได้โอกาสให้สามารถ ร่วมกัน แล้วเริ่มจะทาข่าว แต่ว่าที่ประตูชัย เข้าร่วมกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ ห้ามใช้กล้องถ่ายทาคลิปจึงเป็นอันต้องเก็บ ครูวธุ แิ นะนาหลายส่ิงหลายอยา่ ง “ใหร้ ะวังเรอ่ื งคาพูด พดู จาให้สุภาพ มารยาทใน อุปกรณ.์ .. ในระหว่างทเี่ ดนิ เล่นเพลนิ ๆ อย่นู ั้น การทักทายต้องมี สารวมทุกครั้งเวลาเดิน และน่ัง เพราะสถานท่ีนี้เป็นสถานท่ี หนึ่งในหอยทากหนุ่มก็เดินมาบอกคุณครูและ สาคัญระดับประเทศ” พวกเราตื่นเต้น และแอบกดดันกับคาแนะนาของครูวุธิ พวกเราว่า เงินของเขาหายไป พวกเราจึง กอ่ นที่เราจะแยกยา้ ยไปนอน... ช่วยกันตามหา แต่ก็ไม่เจอ สุดท้ายพวกเราก็ นั่งลงทบทวนเร่ืองราว จนเจอว่าเขาลืมรับเงิน หอยทากเสยี งใส คืนมาจากร้านค้า เร่ืองนี้สอนให้รู้ว่า “เงินทุกครั้งท่ีหยิบออกมาจากกระเป๋า 11 สงิ หาคม 2561 ตอ้ งตรวจเชค็ ใหด้ ีเสมอ” เป็นอันเสียเงินไปฟรี ๆ เลยค่ะ 34 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n ต่ อ จ า ก ป ร ะ ตู ชั ย พ ว ก เ ร า ก็ มุ่ ง ห น้ า สู่ โ ร ง แ ร ม ท่ี พั ก พวกเราได้พักผ่อนนิดหน่อยเอาของ เก็บเข้าท่ี แล้วจึงลงมาหน้าโรงแรม ขึ้นรถ เพื่อมุ่งหน้าสู่ร้านอาหาร ในเย็นวันน้ี... เม่ือถึงร้านอาหารมี กิ จ ก ร ร ม ร อ เ ร า อ ยู่ เ ป็ น ป ร ะ เ พ ณี บายศรีสู่ขวัญ ซึ่งคุณลุงที่เป็นหมอขวัญเก่งมากเลยค่ะ จบจากพิธีบายศรี พวกเราก็ทานอาหาร มื้อนี้มีส้มตา ลาบ เหมือนเดิมค่ะถูกปากถูกใจที่สุด... 33 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

Like or Right... กรุงเวียงจันทน์ ท่านเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ ท่านออกมาตอนรับพวกเรา และพูดคุยกับพวกเราอย่างเป็นกันเอง หนูจึงรู้สึกโล่งอกขึ้นมานิดหน่อยค่ะ บางครงั้ คนเรากส็ ับสนระหวา่ งสิง่ ทชี่ อบกับส่งิ ที่ใชอ่ ยู่เสมอ บางทเี ราชอบ พวกเราเข้าร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ส่ิงน้ันส่ิงนี้ แต่กลับทามันไม่ได้เพราะมันไม่ใช่ในเวลาน้ี หรือส่ิงท่ีมันใช่ในเวลานี้ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และร่วมลงนามถวายพระพร ซึ่งหนูรู้สึกดีใจ เหลือเกิน แต่เรากลับไม่ชอบมันเป็นท่ีสุด... จะมีกี่คนกันท่ีได้ส่ิงท่ีชอบ และใช้ และเปน็ เกียรติมากที่ไดเ้ ปน็ สว่ นหนึ่งในพิธกี รรมครง้ั นี้... ในเวลาเดียวกนั ... เขาคนนน้ั คงเปน็ คนที่โชคดมี ากจรงิ ๆ ..... พวกเราได้รับเกียรติให้ วันน้ีหนูตื่นขึ้นมาด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว เพราะทุกปีในวันน้ีหนูจะได้อยู่ เข้าร่วมทานอาหารกลางวันใน กับคุณแม่เสมอ แต่ปีนี้มันไม่ใช่อย่างน้ัน หนูต้องมาเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ... สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เราเลยไม่ได้อยู่ด้วยกัน... แต่หนูก็จะสู้ต่อไปค่ะ เพราะวันน้ีมีภารกิจสาคัญรอให้ ก รุ ง เ วี ย ง จั น ท น์ อี ก ด้ ว ย ค่ ะ หนูทาอยู่... เมื่อเราทุกคนพร้อมกันแล้วก็เหมือนกับทุกเช้า ท่ีจะต้องเช็ค บ อ ก เ ล ย ว่ า อ า ห า ร อ ร่ อ ย ม า ก ความพร้อมก่อนข้ึนรถ ก่อนที่เราจะออกเดินทางไปยังท่ีหมายของเราน่ันก็คือ ย่ิงทานยิ่งชอบค่ะ คิดถึงบ้านขึ้นมา วัดพระธาตุหลวงเวียงจนั ทนค์ ่ะ เลยทีเดียว... หลังจากทานขา้ วแล้ว ท่านเอกอัครราชทูตไทยประจา เม่ือไปถึงยังท่ีหมายพวกเรา กรุงเวียงจันทน์ ยังให้ความกรุณาพวกเราตัวแทนนักเรียนคนที่ชอบและที่ใช่ ก็ร่วมกันถ่ายภาพก่อนท่ีจะเร่ิมลงมือ เข้าสัมภาษณ์ท่านอีกด้วยค่ะ... “บางคร้ังคนท่ีใช่ อาจจะไม่ใช่คนที่ชอบ ทาข่าว ทุกคนทาตามหน้าที่ของตนเอง แตค่ นทชี่ อบอาจจะไม่ใชค่ นทีใ่ ช่” หลายคน ๆ บอกหนมู าอย่างนั้นคะ่ อย่างต้ังใจ แต่กลุ่มหนูก็พบปัญหาเข้า เราออกจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ เวลาประมาณ จนได้ พิธีกรของหนูจาบทไม่ได้ค่ะ บ่ายโมงตรง เพื่อมุ่งหน้าไปสู่โรงเรียนคู่มหามิตรของเรา โรงเรียนพรสวรรค์และ แถมบทที่นัดหมายกันมานนั้ ต้องเปล่ียน ชนเผ่ามหาวิทยาลยั แหง่ ชาติลาว ระหว่างทางพไี่ กด์คนสวยของเราเล่าเร่ืองต่าง ๆ กระทันหัน ทาให้ไม่มีเวลาซ้อมด้วย เป็นระยะ ๆ ทั้งเร่ืองระเบิดในประเทศลาวที่มีมากมาย บางลูกยังไม่ถูกค้นพบ สุดท้ายก็ได้คาแนะนาจากคุณครูว่า “เวลาเปิดอาจยกบทกลอน หรือคาคมมาใช่ ท้ังเร่ืองของปลาร้า ท่ีลาวนั้นเรียกว่าปลาแดก ทั้งคาภาษาลาวบางคาท่ีคนไทยใช้ ประกอบ เพื่อโยงเข้าสู่เร่ืองท่ีเราจะพูดได้” เป็นอันรอดพ้นเรื่องบทไปได้ เช่น ซื้อของเป็นคาไม่สุภาพ ในภาษาลาว เขาใช้คาว่าซื้อเคร่ือง เป็นต้น ส่ ว น เ ร่ื อ ง พิ ธี ก ร ก็ มี ก า ร ก ร ะ ท บ ก ร ะ ท่ั ง กั น ด้ ว ย ค า พู ด อ ยู่ พ อ ป ร ะ ม า ณ หนูฟังพีไ่ กดเ์ พลินมากจนหลบั ไปเลยคะ่ พอตื่นอีกทกี ถ็ งึ ทหี่ มายเรียบร้อยแลว้ ... แต่ก็จบลงได้ด้วยดีค่ะ พวกเราถ่ายทาเสร็จเรียบร้อย พร้อมข้ึนรถเพ่ือไปยัง ท่ีหมายตอ่ ไปคือ สถานเอกอัครราชทตู ไทย ณ กรุงเวียงจันทน.์ ... 36 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n หนูรู้สึกเกร็งมาก ซึ่งเพื่อน ๆ หอยทากคนอ่ืน ๆ ก็เกร็งเหมือนกัน กลัวไปหลุดทาขายหน้าที่นั้นจังเลยค่ะ... เม่ือถึงสถานเอกอัครราชทูต พวกเราได้รับการตอนรับเป็นอย่างดี ท่านเอกอัครราชทูตไทยประจา 35 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

พวกหนูลงจากรถไปรวมตัว และ “ความอดทนของคนเรามีขีดจากัด เช่นเดียวกับการให้อภยั เราจึงควรระวงั กันที่ห้องประชุม เพ่ือร่วมพิธีเปิด ให้มาก” ท่ีสาคัญท่ีสุดเลยค่ะ “ควรขอโทษให้เป็น” หลังจากน้ันเหตุการณ์ และแนะนาตัวกัน เมื่อเสร็จสิ้น ก็กลับมาสงบอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกท่ีพวกเราถ่ายทาเสร็จก่อนเวลา กิจกรรมในห้องประชุม พวกหนูก็ จึงได้นั่งคุยกับเพ่ือนชาวลาว และได้มองกลุ่มอน่ื ทางาน จนพบวา่ เพื่อน ๆ บางคน แยกย้ายกันไปตามกลุ่ม เพื่อทาข่าว ไม่ฟังคาแนะนาของทั้งพ่วี ี และคุณครปู ระจากลมุ่ เลยสง่ ผลใหง้ านลา่ ช้า ไม่ ประเทศลาวเป็นประเทศที่หนูคิดว่า เปน็ ระบบ สดุ ท้ายพอทาไม่เสรจ็ ก็ต้องอาศัยคาแนะนา และความชว่ ยเหลือ จาก ใ ช่ แ ล ะ ช อ บ ส า ห รั บ ห นู เ ล ย ค่ ะ พ่ีวี และคุณครูอยู่ดี ทาให้หนูรู้สึกว่า หนูโชคดีที่ได้เพ่ือน ๆ ในกลุ่มที่ต้ังใจทางาน ผู้คนน่ารัก พดู จากันรู้เรื่อง หนคู ยุ กับ รับฟังความคิดเห็นของกันและกัน ฟังคาแนะนาจากพี่วี และคุณครู งานจึง เพอื่ น ๆ ชาวลาวกันอย่างสนกุ สนาน หนูแอบถามว่าท่ลี าวเรยี นหนักไหม เพ่ือน ๆ ออกมาราบร่ืนไม่มีปัญหา ถึงแม้จะกระทบกระท่ังกันบ้าง แต่ก็สามารถ คุยกัน บอกว่าหนัก แต่เขาก็สู้เพราะ “ต้องขยันเพื่อให้คุ้มกับท่ีได้เงินมาเรียนฟรี” ได้ค่ะ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัดจริง ๆ นะ” และ ฟังคาน้ีแล้วหนูอ้ึงไปเลยค่ะ เราก็เรียนฟรีเหมือนกันนะเน่ีย แต่ไม่ค่อยจะขยัน “ศูนย์กลางของสุริยะจักรวาลไม่ใช่เรา แต่เป็นดวงอาทิตย์ค่ะ เพราะอย่างน้ัน เท่าไหร่เลย... อย่าเอาตัวเองเป็นท่ีตั้งของทุกส่ิงหัดฟังคนอื่นบ้างค่ะ” ที่สาคัญที่สุด “มารยาท งานขา่ วของเราคืบหน้า และสัมมาคาระเป็นสมบัติของผู้ดีค่ะ ต้องมีประจากายและใจ” ระหว่างท่ี ไปตามที่วางแผนเอาไว้... แต่ก็มี สอดส่องดูกลุ่มอ่ืน และคุยกับเพ่ือนอย่างสนุกสนานอยู่นั้น ผู้ใหญ่ใจดี เร่ืองเกิดข้ึนจนได้ เนื่องจาก ก็ซ้ือน้าชานมไข่มุขมาแจก ขอขอบพระคุณครูวุธิกับชานมไข่มุกแสนอร่อย เพื่อนท่ีเป็นหัวหน้ากลุ่มของหนู ในครั้งนี้ค่ะ... เมื่อถึงเวลากลับหนูต้องอาลาเพื่อน ๆ ชาวลาว แต่ยังไม่อยาก ต้องการให้งานออกมาดี และ กลับเลยค่ะ เพ่ือน ๆ คุยสนุกมาก... หวังว่าพวกเราคงได้พบกันอีกนะคะเพื่อน ๆ เสร็จเรียบร้อย เขาเลยพูดกับ ชาวลาวทน่ี า่ รัก เพื่อน ๆ ด้วยน้าเสียงท่ีค่อนข้าง ดั ง แ ล ะ แ ข็ ง ไ ป นิ ด ห น่ อ ย หลังจากที่พวกเราอาลาเพ่ือน ๆ เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ข้ึนรถ บวกกับเป็นคนพูดตรงด้วย ทาให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซ่ึงเพื่อน ๆ ในกลุ่มหนู เพ่อื มงุ่ หน้าไปยงั รา้ นอาหารเย็นในวนั น้.ี .. อาหารเยน็ วนั นีเ้ ป็นอาหารเวียดนามค่ะ ก็พยายามเข้าใจเขา และปรับกันมาจนถึงวันนี้ แต่แล้วความอดทนของพวกหนูก็ มีผักเต็มเลย วันน้ีเราได้กินแหนมเนืองด้วยนะคะ พวกหนูกินผักไม่ค่อยเป็นเลย หมดลง เมื่อเขาพูดด้วยน้าเสียงและข้อความแบบเดิมใส่เพ่ือน เพื่อน ๆ จึงใช้ กินแต่หมูแหนม สุดท้ายเหลือผักเต็มโต๊ะ... คุณครูก็สงสารกลัวหอยทากอย่าง คาพูด และน้าเสียงแบบเดียวกันใส่เขาบ้าง พวกเราก็เลยทะเลาะกันนิดหน่อยคะ่ พวกเราจะอดอยากเพราะกินผักไม่เป็น เลยนาไก่ย่างมาแบ่งให้ เลยรอดตายกัน สุดท้ายคุณครูก็มาประสานรอยร้าวให้ เป็นอันจบกันไป เรื่องน้ีสอนใหรู้ว่า ทง้ั กล่มุ คะ่ ... “การพูดกันเป็นส่ิงท่ีดี แต่การพูดกันด้วยคาไม่ดี ก็ก่อผลที่ไม่ดีตามมาเช่นกัน” จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้าสู่โรงแรมท่ีพัก แต่ก่อนจะแยกย้ายกันไป 37 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n ครูวุธิก็เรียกรวมพวกเรา เพ่ือทากิจกรรมวันแม่ โดยท่านผู้อานวยการ 38 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

สานักการศึกษากรุงเทพมหานคร ท่านฐานิตา แพร่วานิชย์ เป็นตัวแทนแม่ Postscript ของพวกเราทุกคนท่านได้ให้โอวาทและคาแนะนาต่าง ๆ มากมาย ด้วยความรัก และความเป็นกันเอง ขอขอบพระคุณทา่ นอย่างสดุ ซ้งึ คะ่ ... คนเรามักจาเรอ่ื งราวทตี่ นต้องการจะเลา่ ได้ไม่หมด หลายครั้งหลายคราว ท่ีเราเล่าเรอ่ื งราวโดยหลงลืมอะไรบางอย่างไป บางอย่างท่ีสาคัญ แตเ่ รากับละเลย หลังจากน้ันอะไรที่ใช่และชอบก็มาถึง น่ันคือการนอนค่ะ จบแล้ว หากแต่ในการเขียนเรายังพอแก้ไขมันได้ เพียงเราเติม ปล. แล้วเขียนเพิ่มเข้าไป ภาระกิจการทาขา่ ว พร่งุ นจี้ ะได้กลบั บา้ นสักที คดิ ถึงแมจ่ ัง ก็ส้ินเรื่องส้ินราว แต่ในชีวิตจริงล่ะ เราสามารถเติมปล. แล้วแก้ไขเพ่ิมเติมมันได้ หรือไม่.... แล้วหากแก้ไขไปส่ิงต่าง ๆ จะเปล่ียนไปตามที่เราคาดหวังเอาไว้ หอยทากแสนสวย หรอื เปลา่ ... อนั นีค้ งไมม่ ีใครตอบได้ แม้กระทง้ั ตวั ผ้สู ร้างเร่อื งราวเองก็ตาม.... 12 สิงหาคม 2561 วันนเ้ี ป็นวนั สุดท้ายในโครงการศึกษาดูงานยงั ตา่ งประเทศ ทกุ อยา่ งยังคง 39 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n เปน็ เชน่ 6 วันที่ผา่ นมา พวกเราตนื่ มาทานอาหารเช้าพูดคุยกนั แตว่ นั น้พี ิเศษกว่า ทุกวัน เพราะเป็นวันที่เราได้พูดคุยทบทวนถึงเรื่องที่เราได้ทาไปเม่ือ 6 วัน ที่ผ่านมา หอยทากบางคนบอกว่าเสียดายที่ไม่ได้แลกเงินมาเยอะ ๆ หอยทาก บางคนบอกว่ารู้อย่างนี้หนูขอ face book ของเพ่ือนต่างชาติไว้บ้างดีกว่า บางคนก็บอกว่าทาไมเราไม่ลองกินพวกผักเลยนะ หลายส่ิงหลายอย่าง ท่ีพวกเรานึกเสียดาย แต่แก้ไขอะไรไม่ได้ ผมจึงบอกพวกเขาว่า “หากมีโอกาส ให้รีบคว้าเอาไว้ เพราะยอ้ นกลบั ไปทาใหมไ่ มไ่ ด้แลว้ ” จากน้ันเราก็รบี ลงไปจดั การ เร่ืองหอ้ งพักและกระเป๋า พรอ้ มข้ึนรถเพอื่ อกเดนิ ทางต่อ สถานที่แรก และสถานที่สุดท้าย ในการศึกษาดูงานในครั้งน้ีคือ วัดสีสะเกด และวัดพระแก้ว ทั้ง 2 แห่ง เรามีเวลา เย่ียมชมเพียงแค่ 30 นาที เลยเดินช้า ๆ สบายอารมรณ์อย่างท่ีเคยไม่ได้ พวกเรารีบ เข้าไปไหว้พระ แล้วออกมาถ่ายรูปเล่นกัน เมื่อถึงเวลา เราก็รีบข้ึนรถ บนรถมีขนมปังจากผู้ใหญ่ใจดีรอพวกเราอยู่ เป็นขนมปังจากท่านผู้อานวยการสานักการศึกษา ท่ีท่านซื้อให้เราทานกันหิว กอ่ นถงึ มอ้ื กลางวัน ต้องขอขอบพระคณุ ท่านในความเมตตาครง้ั นี้ครับ 40 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

พวกเราเดินทางต่อจากวัดสีสะเกด และวัดพระแก้วสู่ด่านมิตรภาพ วดั สทุ ธารามรสู้ ึกดีใจ มากกวา่ ทพ่ี วกเขาเหล่านั้นเก่งจนมองไม่เหน็ ใครเป็นไหน ๆ ลาวไทย แต่ก่อนที่จะกลับพวกเรายังแวะซื้อของที่จุดการค้าปลอดภาษี ตรงน้ีมีสินค้าให้ซ้ือหามากมาย เช่น กระเป๋า รองเท้า ขนม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่บางครั้งผมก็อยากจะกลับไปแก้ไขในส่ิงท่ีพวกเขาทาพลาดไปบ้าง ซึ่งมันคง และบุหรี่ แต่ละร้านราคาไม่ต่างกันมากนัก ส่ิงที่คว รจาเอาไว้ คือ “ราคาของสินค้าท่ีจุดการค้าปลอดภาษีนี้ตั้งไว้ค่อนข้างสูง ให้ต่อลงครึ่งหนึ่ง และ เป็นไปไม่ได้... ปลอ่ ยให้เขาได้พบเจอและเรียนรู้ คงเป็นคาปลอบใจผมได้ดที ่ีสุดใน ใช้เงินไทยบาทในการซ้ือได้” พวกเรามีเวลาเดินซื้อของประมาณ 30 นาที ก่อนทจ่ี ะข้ึนรถเพอ่ื ม่งุ หนา้ กลบั สูป่ ระเทศไทย... ยามน้ี พวกเราใช้เวลาไม่นานกับการตรวจ โครงการน้ีเป็นโครงการท่ีดี เป็นโครงการท่ีมุ่งพัฒนาศักยภาพของเดก็ ๆ เอกสารท้ังคณะการเดินทาง ไม่นานเราก็ขึ้น รถไปยังจุดเปลี่ยนรถ เพ่ือมุ่งหน้าเข้า ให้ก้าวไกล แต่บางคร้ังเราอาจหลงลืมอะไรไปบางอย่าง ซ่ึงเป็นสิ่งที่สาคัญท่ีสุด กรุงเทพมหานคร... ผมหลับ ๆ ต่ืน ๆ เพราะ ความเหน่ือยล้าจากการนั่งรถ ไม่นานนัก ของอาชพี ทเี่ ราดารงอย่ทู ุกวันนี้ บางอย่างท่ีเราพยายามใส่แกมบงั คับใหเ้ ด็ก ๆ ได้ เราก็ถึงจุดพักรถ และร้านอาหารกลางวัน ซ่ึงเป็นอาหารอีสาน ส้มตา ไก่ย่าง ลาบหมู เด็ก ๆ เป็น จนลืมไปว่า เขาคือ “เด็ก” คนหน่ึงท่ียังไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ หากเด็ก ถูกวางเรียงรายบนโต๊ะ ท่ีพิเศษที่สุดของ ร้านนี้คือ ทางร้านไม่ใช้แก้วน้า แต่ใช้ขัน ทาเป็นทกุ อย่างเช่นเดียวกับผใู้ หญแ่ ล้ว จะมคี รู มโี รงเรียน มีโครงการตา่ ง ๆ เช่นน้ี สแตนเลสใส่น้าให้ลูกค้าด่ืมแทน พวกเราใช้ เวลาทานไม่นานนัก เพราะท่านรองฯ เกรียงไกร บอกว่าถ้าไม่รีบอาจจะถึง ไปเพ่ืออะไรกัน... ผมชอบคาพูดที่พ่ีวีชอบพูดบ่อย ๆ ว่า “ทางานด้วยหัวใจยิ้ม” กรงุ เทพฯ ดกึ มาก พวกเราจงึ รบี ขึน้ รถ เพราะกลวั ว่าจะถงึ บา้ นดกึ ... ในระหว่างทางกลับผมได้น่ังคิดทบทวนถึงเรื่องราวการมาเข้าร่วม เพราะหากหัวใจย้ิมแลว้ นั้น แสดงว่าเราทางานอยา่ งมีความสุข เมื่อ โครงการในครั้งนี้... ในตอนแรกผมคิดว่ากลุ่มหอยทากของผมจะทาตามเพื่อน ได้ไหม จะตามเขาทันหรือเปล่า จะมีปัญหาอะไรไหม แต่พอเอาเข้าจริง ๆ มีความสขุ งานกจ็ ะออกมาดที งั้ ผู้ทา และดที ั้งผ้ทู ีร่ บั งานไป...จรงิ ไหมละ่ ครบั โปรด หอยทากน้อยของผมกลับทาให้ผมต่ืนตกใจได้ในหลาย ๆ คร้ัง บางคร้ังพวกเขา สามารถเป็นผู้นาได้ บางครั้งพวกเขาสามารถพูด และเขียนบทได้เป็นอย่างดี อย่างมองว่าเด็กคือผู้ใหญ่ตัวเล็ก ให้มองเขาว่าเป็นเด็กที่กาลังจะเติบโตเป็น แต่ที่ดีท่ีสุดคือ พวกเขาเป็นเด็กที่น่ารักในสายตาใครหลาย ๆ คน ถึงแม้จะ ไม่โดดเด่นในสายตาใคร ส่ิงนี้เป็นส่ิงท่ีผม และทุกคนในโรงเรียนมัธยม ผู้ใหญ่ มองงานของเขาในมุมมองงานของเดก็ ท่ีอาจมีข้อผิดพลาดไดบ้ ้าง และ 41 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n พร้อมให้คาแนะนาแก้ไข ไม่ใช่คาต่อว่าด่าทอ โปรดอย่าทาให้เขาเห็นโลกใน มุมสีดาอันแสนโหดร้าย เพราะโลกมีหลายสีแล้วแต่คนจะมอง อย่าใช้อคติ ส่วนตัวในการทาร้ายเขาท้ังร่างกาย วาจา และจิตใจ เพราะนั่นคือการทาลาย อนาคตของใครคนหนึ่งโดยที่คุณไม่รู้ตัว... เพราะหากคุณลงมือทา คุณจะไม่ สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว... สิ่งเหล่าน้ีคือคาพูดจากใจถึงใครบางคน ท่ีผม อยา่ งจะบอกเขาตอ่ หน้าแตค่ งยากที่จะรบั ฟงั ... ในระหว่างที่คิดอยู่เร่ือยเป่ือยรถก็จอดให้เราได้ทานข้าวเย็น รสชาติ อาหารค่อนข้างคุ้นเคย ใกล้กรุงเทพมหานครเข้าไปทุกที เหล่าหอยทากดูสดใส สงสัยคงดีใจที่จะได้กลับบ้าน... การเดินทางของเรายังคงอีกยาวนาน เพราะวันน้ี รถค่อนข้างติด บนถนนเห็นเพียงไฟสีแดงจากท้ายรถท่ีเรียงต่อกันยาวเหยียดสุด ลกู หลู ูกตา... ผมน่ังมองอยเู่ ชน่ นน้ั จนเผลอหลบั ไป... 42 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n

รถของเราจอดแวะให้เข้าห้องน้าที่ปั๊มน้ามัน 2 คร้ัง จากนั้นก็มุ่งตรงสู่ 7 days on the way… We learn กรุงเทพมหานคร ไปยังสานักการศึกษา... พวกเราถึงสานักการศึกษาเวลา ประมาณตี 3 คร่ึง ผมส่งเหล่าหอยทากข้ึนรถกลับบ้านทีละคน ๆ จนเหลือ เหล่าหอยทาก หอยทากคนสุดท้ายท่ีบ้านอยู่ซอยเดียวกันกับผม เราจึงกลับด้วยกัน ระหว่างทาง ผมถามหอยทากของผมเป็นระยะว่าถึงบ้านแล้วหรือยัง ซ่ึงคนสุดท้ายที่ถึงบ้านก็ บรรณาธกิ าร : นางพชิ ุตา เพช็ รชู คือ ผมเอง เวลาเกือบจะตี 5 ใกล้เวลาทางานแล้ว.... 6 วัน ผ่านมาเหมือน เป็นเพียงความฝัน แต่กลับได้รับรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมวดั สุทธาราม ต้องขอขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านท่ีทาให้เกิดโครงการนี้ขึ้น ขอขอบคุณ ครูวุธิท่ีต่อสู้ยืนหยัดเพื่อโครงการนี้ ขอขอบคุณพ่ีวีที่คอยแนะนาเด็ก ๆ ทั้งในเร่ือง รองบรรณาธกิ าร : นางสาวนัฎยา บนั ดาลสนิ ของการทางาน และการดาเนินชีวิตในต่างแดน ขอขอบคุณพี่ไกด์ทุกท่าน ท่ีให้ความรู้ และคาแนะนา อีกท้ังความช่วยเหลือในทุกเรื่อง ขอขอบคุณคุณครู นางสาวกัญญาภทั ร วงศพ์ นู สขุ ทีป่ รกึ ษาทกุ ท่านผู้สละแรงกาย แรงใจ และเวลาในการดูแลเด็ก ๆ ทกุ คนในคร้ังนี้ สุดท้ายนี้ขอขอบใจเด็ก ๆ นักเรียนจากโครงการเครือข่ายความร่วมมือทศภาคี นายชยั วัฒน์ สมี าวงษ์ “ศูนย์ข่าวนักเรียนกรุงเทพมหานคร - อาเซียน” ทุกคนที่ต้ังใจทาให้โครงการนี้ สาเร็จ.... ขอบใจเหล่าหอยทากน้อยท่ีน่ารักของครู... ที่พวกเธอเป็นเด็กดีน่ารัก... รองผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม ขอบใจจริง ๆ .... กองบรรณาธกิ าร : นายสญั ญา อาภาสโชคทวี หัวหน้าแกง๊ หอยทาก 13 สิงหาคม 2561 นายเสกสรร แสนสุทธ์ิ นายสรพศ ยะอัมพนั ธ์ นางสาวอาทิตยา วาทิตตาคม นางสาวเจนจิรา จันทร์ศร นางสาวสโรชา แหวววงศ์ นางสาวสุธิมนต์ เจรญิ โนนสูง 43 : 7 d a y s o n t h e w a y … W e l e a r n


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook