สาขาวชิ า : การบัญชี ใบทดสอบ หนา้ ท่ี แผ่นท่ี 2/2 31 ช่ือวชิ า : การบัญชตี น้ ทนุ 1 รหสั วชิ า 3201-2003 งาน : ระบบบญั ชีต้นทนุ
สาขาวิชา : การบัญชี ใบเฉลยใบทดสอบ หนา้ ท่ี แผน่ ท่ี 1/1 32 ชอื่ วิชา : การบญั ชีตน้ ทนุ 1 รหสั วิชา 3201-2003 งาน : ระบบบัญชตี ้นทุน
สาขาวิชา : การบญั ชี ใบมอบหมายงาน หน้าที่ แผน่ ท่ี 1/1 33 ชื่อวชิ า : การบญั ชีตน้ ทุน 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : ระบบบญั ชตี ้นทุน จุดประสงค์การมอบงาน 1. เพ่ือให้ผู้เรยี นรู้จกั ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ 2. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนได้คน้ ควา้ หาความรู้เพิ่มเติม 3. เพอื่ ให้ผู้เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง แนวทางการปฏิบัตงิ าน ครูมอบหมายงาน นักเรยี นค้นควา้ นกั เรียนนาเสนอ นกั เรยี นสง่ ผลงาน เปน็ การบา้ น งานตนเอง ครใู หค้ ะแนน แหล่งค้นคว้า หนังสือเรยี น ตาราเรยี น คาถาม/ปญั หา 1. ในการค้นควา้ งานนกั เรยี นพบปัญหาอะไรบ้าง 2. นักเรียนแก้ปญั หาอยา่ งไร 3. นกั เรียนไดอ้ ะไรจากการไปค้นคว้างาน กาหนดเวลาสง่ งาน กอ่ นครูสอนคาบตอ่ ไป
แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 2 รวม 12 ชว่ั โมง ชอื่ หนว่ ย ระบบบญั ชตี ้นทุน สอนครั้งที่ 4-6 เรือ่ ง ระบบบัญชตี ้นทนุ จานวน 12 ชวั่ โมง 1. สาระสาคญั การสะสมต้นทุนและการจาแนกขอ้ มลู เก่ยี วกับตน้ ทุนการผลิตสินค้า นบั เป็นงานทม่ี คี วามสาคัญและ ต้องใชเ้ วลาอย่างมาก โดยท่ัวไปการสะสมขอ้ มลู ต้นทุนจะถกู เก็บรวบรวมตามขัน้ ตอนหรือวธิ กี ารที่กาหนด ไว้ ข้อมลู เกย่ี วกบั การสะสมตน้ ทุนหรอื การคิดตน้ ทุนของผลติ ภณั ฑ์นบั วา่ เป็นข้อมูลพนื้ ฐานที่ฝ่ายบริหาร จาเป็นตอ้ งทาความเขา้ ใจและคานวณหาต้นทนุ ของผลติ ภณั ฑ์ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย บอกความหมายของระบบบญั ชตี น้ ทุนได้ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (มาตรฐานการเรยี นรู้) 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 อธิบายความหมายของระบบบญั ชตี ้นทนุ ประเภทตา่ งๆ ได้ 3.1.2 อธิบายความหมายของวงจรต้นทุนการผลิตได้ 3.1.3 บนั ทกึ บญั ชตี ามวงจรต้นทุนได้ 3.1.4 อธิบายความหมายและความสมั พนั ธ์ระหว่างบญั ชีแยกประเภททว่ั ไปและบัญชี แยกประเภทโรงงานได้ 3.1.5 บันทกึ บัญชีเก่ียวกบั การผลติ ในกรณีทโ่ี รงงานและสานักงานแยกจากกนั ได้ 3.1.6 อธิบายความหมายและความสมั พนั ธ์ระหว่างบญั ชีแยกประเภททั่วไปและบญั ชี แยกประเภทโรงงานได้ 3.1.7 บันทกึ บัญชเี กยี่ วกับการผลิตในกรณีทีโ่ รงงานและสานกั งานแยกจากกนั ได้ 3.2 ดา้ นทักษะ 3.2.1 บอกวิธีการบนั ทึกบญั ชตี ามวงจรต้นทุนได้ 3.3 คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ 3.3.1 นกั ศกึ ษาเห็นความสาคัญและเข้าใจถงึ เหตผุ ลของการทาบญั ชี 3.3.2 นกั ศกึ ษามีความรบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ 3.4 การประยุกต์ 3D และนอ้ มนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 3.4.1 ผ้เู รยี นมีการทาเป็นขน้ั ตอน การทาตามลาดับข้นั 3.4.2 ผเู้ รยี นมีวนิ ัย มีความประหยัด 3.4.3 ผู้สอนสอดแทรกปรัชญาเกี่ยวกับความประหยดั อดออม
แผนการจดั การเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 2 รวม 12 ช่วั โมง ช่ือหน่วย ระบบบญั ชีตน้ ทุน สอนครงั้ ที่ 4-6 เรอ่ื ง ระบบบัญชีตน้ ทุน จานวน 12 ชวั่ โมง 4. เน้อื หาสาระการเรียนรู้ 4.1 ความหมายของระบบบญั ชีตน้ ทนุ 4.2 ประเภทของระบบบญั ชีตน้ ทนุ 4.3 วงจรต้นทุน 4.4 ระบบการสะสมตน้ ทนุ 4.5 การบนั ทกึ บญั ชตี ามวงจรตน้ ทนุ 4.6 บญั ชแี ยกประเภทโรงงาน 5 กิจกรรมการเรียนการสอน 5.1 ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น(M) นาเข้าสู่บทเรยี นโดยกลา่ วถึงระบบบัญชตี ้นทุน 5.2 ขั้นการจัดเรียนร้(ู I) 5.2.1 ทาแบบประเมินผลก่อนการเรียน 5.2.2 ผู้สอนและผ้เู รยี นรว่ มกันอภิปรายเร่อื งเกยี่ วกับระบบบญั ชตี ้นทนุ 5.2.3 ผูเ้ รยี นศึกษาใบความรู้ 5.3 ข้ันสรุป(A) 5.3.1 แบง่ กลุ่มผูเ้ รียนมารายงานหนา้ ชน้ั เรยี น 5.4 การวัดผลและประเมนิ ผล(P) 5.4.1 การสังเกต ความต้งั ใจและสนใจของผเู้ รียน ความรว่ มมอื ในการอภปิ ราย การแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตผุ ล 5.4.2 การตรวจผลงานภาคปฏิบัติ กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ แบบทดสอบเพอื่ ประเมินผลหลงั การเรยี นรู้ 5.4.3 การทดสอบด้วยวาจาและข้อเขียน ตรวจแบบทดสอบ ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 ต้งั คาถามให้ตอบและอธิบาย ไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80
แผนการจัดการเรยี นรูม้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 2 รวม 12 ช่วั โมง ช่ือหนว่ ย ระบบบญั ชีตน้ ทุน สอนครั้งที่ 4-6 เร่ือง ระบบบัญชีต้นทุน จานวน 12 ช่วั โมง 6. สอ่ื การการเรยี นรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 ส่ือสิ่งพมิ พ์ หนังสือเรียนวิชาการบัญชีตน้ ทุน 1 : ของสานกั พิมพ์เอมพนั ธ์ เอกสารประกอบการสอนการบัญชีต้นทุน 1 : ของรชต สายสวสั ดิ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ อุดรธานี 7. เอกสารประกอบการจัดการเรียนรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 7.1 ใบความรู้ 7.2 ใบทดสอบ 7.3 ใบสงั่ งาน 8. การบรู ณาการ/ความสมั พันธ์กบั วชิ าอืน่ 8.1 วชิ าภาษาไทย เก่ยี วกับการใชภ้ าษาด้านการพูด การอา่ น และการเขียน 8.2 วิชาคณิตศาสตร์ เก่ยี วกบั การคานวณ 8.3 วิชาภาษาองั กฤษ ดา้ นคาศพั ท์ทางบัญชี 9. การวดั ผลและประเมนิ ผล 9.1 วิธกี าร ดาเนินการวัดผลในช่วงเวลา (1) ก่อนเรยี น โดยใชแ้ บบทดสอบกอ่ นเรยี น (2) ระหวา่ งเรยี น โดยการถามตอบและการสังเกตการณป์ ฏิบัติงาน (3) หลงั เสรจ็ สน้ิ การเรียน โดยทาแบบทดสอบ 9.2 เกณฑก์ ารประเมนิ (1) ผเู้ รยี นมีเวลาเรยี นไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 (2) ผ้เู รยี นมีคะแนนจากแบบทดสอบหลังเรยี นรอ้ ยละ 80 (3) ผู้เรียนบันทึกบญั ชีการซือ้ ขายสนิ คา้ สมบูรณ์และถูกต้องทกุ คร้งั
แผนการจัดการเรยี นรูม้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 2 รวม 12 ชว่ั โมง ชื่อหน่วย ระบบบัญชตี ้นทุน สอนคร้ังที่ 4-6 เร่ือง ระบบบญั ชีตน้ ทนุ จานวน 12 ช่ัวโมง 10. บนั ทกึ หลังการเรยี นรู้ 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ 1. เนื้อหาสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 2. สามารถนาไปใช้ปฏิบตั กิ ารสอนได้ครบตามกระบวนการเรยี นการสอน 3. สอ่ื การสอนเหมาะสมดี 10.2 ผลการเรียนรขู้ องผเู้ รียน 1. นักศกึ ษาสว่ นใหญม่ คี วามสนใจใฝ่รู้ เข้าใจในบทเรียนร่วมกัน อภิปราย ตอบคาถาม ในกลุม่ และร่วมกันแสดงความคิดเห็น 2. นักศึกษากระตือรอื ร้นและรบั ผิดชอบในการทางานกลุ่มเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จทันเวลา ทกี่ าหนด 10.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นรู้ 1. สอนเนื้อหาได้ครบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวิธีการสอนครอบคลุมเนื้อหาการสอนทาใหผ้ ้สู อนสอนไดอ้ ยา่ งมนั่ ใจ 3. สอนไดท้ นั ตามเวลาทก่ี าหนด ……………………………………………… ผูบ้ ันทึกการสอน
สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู้ หน้าที่ แผน่ ท่ี 1/9 21 ชอ่ื วิชา : การบญั ชตี น้ ทุน 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : ระบบบญั ชตี น้ ทนุ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายความหมายของระบบบญั ชตี น้ ทุนประเภทต่างๆ ได้ 2. อธิบายความหมายของวงจรตน้ ทนุ การผลิตได้ 3. บนั ทกึ บัญชีตามวงจรตน้ ทุนได้ 4. อธบิ ายความหมายและความสมั พันธ์ระหว่างบญั ชแี ยกประเภทท่วั ไปและบัญชแี ยกประเภทโรงงานได้ 5. บนั ทึกบัญชเี กีย่ วกับการผลิตในกรณที โ่ี รงงานและสานักงานแยกจากกันได้ 6. อธิบายความหมายและความสัมพันธ์ระหว่างบญั ชีแยกประเภททวั่ ไปและบญั ชีแยกประเภทโรงงานได้ 7. บนั ทึกบัญชเี กีย่ วกบั การผลติ ในกรณที โี่ รงงานและสานกั งานแยกจากกนั ได้ เน้ือหาสาระ 1. ความหมายของระบบบัญชีต้นทนุ ระบบบัญชี หมายถงึ ระบบการจดั เกบ็ ข้อมูลทางการเงินอันประกอบด้วยแบบฟอรม์ หรอื เอกสารตา่ ง ๆ บันทกึ ทางการบัญชี รายงาน ตลอดจนวธิ กี ารและอุปกรณ์ตา่ งๆ ท่ีนามาใชใ้ นการรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกับการดาเนินงานและ การเงนิ ให้แก่ฝา่ ยจดั การ เพอ่ื ช่วยให้ฝ่ายจัดการสามารถปฏิบตั ิหน้าทีอ่ ันอยใู่ นความรบั ผิดชอบของตนให้ลุล่วงไปด้วยดี และเพื่อเสนอข้อมูลแกบ่ คุ คลภายนอก ผ้มู ีสว่ นเกย่ี วขอ้ งในกิจการ เชน่ ผ้ถู ือหุ้น เจ้าหน้ี ระบบบัญชีตน้ ทนุ (Cost System) หมายถงึ ระบบการจดั เกบ็ ข้อมลู ทางดา้ นตน้ ทุนโดยอาศัยแบบฟอร์มหรอื เอกสารต่าง ๆ บันทึกทางด้านต้นทุน รายงาน เพือ่ เสนอต่อผ้บู ริหารเป็นขอ้ มลู ในการบรหิ ารภายใน เช่น เพื่อควบคุม ต้นทุน วางแผนและตัดสินใจทางด้านการตลาดในกจิ การขนาดใหญ่ 2. ประเภทของระบบบัญชตี ้นทนุ ระบบตน้ ทนุ งานส่ังทา ระบบนเ้ี หมาะทีจ่ ะใชใ้ นกรณที ่ผี ลติ ภัณฑ์มีความหลากหลายและมลี ักษณะแตกต่างกนั ตามความต้องการของลูกคา้ ลักษณะการผลิตแบบนี้ จะสามารถแยกต้นทุนวัตถุดบิ ทางตรง คา่ แรงงานทางตรงและ คา่ ใชจ้ า่ ยการผลิตของผลติ ภณั ฑแ์ ต่ละชนดิ ได้ เมือ่ งานชน้ิ ใดผลิตเสรจ็ กส็ ามารถทราบตน้ ทุนของงานช้นิ นน้ั ได้ทนั ที การ รวบรวมต้นทนุ สาหรบั งานส่งั ทาน้ีจะใช้ระบบต้นทนุ ปกติ นัน่ คือ จะบนั ทกึ ต้นทุนวัตถุดบิ ทางตรง และค่าแรงงานทางตรง แตค่ ่าใชจ้ า่ ยการผลติ จะคานวณตามอตั ราทก่ี าหนดขึ้นล่วงหน้า ตวั อย่างของธรุ กจิ ทใ่ี ชร้ ะบบน้ี ไดแ้ ก่ กจิ การรับเหมา ก่อสร้าง กิจการผลิตเฟอรน์ เิ จอร์ โรงพิมพ์ รวมท้งั กจิ การใหบ้ ริการ เช่น สานักงานตรวจสอบบญั ชี สานักงานทนายความ อูซ่ อ่ มรถ เป็นต้น ระบบต้นทุนชว่ งการผลิต เป็นระบบที่ใช้ในกรณีท่ีกระบวนการผลติ เปน็ การผลิต ผลิตภณั ฑ์ท่มี ลี กั ษณะเหมือน ๆ กัน ผลติ คร้ังละมาก ๆ เพือ่ ไวจ้ าหน่าย การผลิตจะดาเนินไปอย่างสมา่ เสมอต่อเน่ือง การรวบรวมตน้ ทุนก็จะกระทา ระหวา่ งท่ีการผลติ ดาเนนิ อยู่ ถ้าการผลิตตอ้ งผา่ นหลายแผนกการรวบรวมตน้ ทุนกจ็ ะรวบรวมไว้สาหรบั แต่ละแผนก และ โอนตอ่ ไปยังแผนกถัดไปเรอื่ ย ๆ จนถงึ แผนกสุดทา้ ย ต้นทนุ รวมในแผนกสดุ ท้ายก็จะเป็นท่ีรวมตน้ ทนุ ของทกุ ๆ แผนกไว้ ดว้ ยกนั ตวั อยา่ ง ของผลิตภัณฑท์ ใ่ี ชร้ ะบบนี้ ไดแ้ ก่ ปนู ซีเมนต์ น้ามัน น้าตาล กระดาษ นา้ อัดลม เปน็ ต้น
สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู้ หนา้ ที่ แผ่นท่ี 2/9 22 ชื่อวิชา : การบญั ชีตน้ ทนุ 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : ระบบบญั ชีตน้ ทนุ ระบบต้นทนุ ทง้ั สองมีข้อแตกต่างโดยสรุปดังน้คี ือ รายการ ระบบต้นทุนงานส่ังทา ระบบต้นทนุ ชว่ งการผลติ 1. ลักษณะสินคา้ มคี วามหลากหลายแตกต่างกัน มลี ักษณะเหมอื น ๆ กัน 2. กระบวนการผลิต 3. การสะสมข้อมลู ต้นทุน ผลิตตามคาสั่งแตล่ ะครงั้ ไปตาม ผลิตต่อเนือ่ งกันไป คราวละเป็น 4. ต้นทุนต่อหนว่ ย จานวนทล่ี กู คา้ ต้องการ จานวนมากเพือ่ จาหน่ายทั่วไป 5. การรายงานตน้ ทุน แยกแต่ละงานสาหรบั จานวนท่ี แยกแต่ละแผนกผลิตแลว้ นาทุก กาหนดไว้ แผนกมารวมกัน ต้นทนุ รวมแตล่ ะงานหารดว้ ย ต้นทุนของแต่ละแผนก หารด้วย จานวนหน่วยของงานนนั้ หน่วยเทยี บสาเร็จรูปในแผนก คานวณเม่อื งานเสร็จ นน้ั คานวณตอนส้นิ งวด แยกตามงานแตล่ ะช้นิ แยกตามแผนกผลิต รูปภาพที่ 1 ระบบบัญชตี ้นทนุ งานสงั่ ทา
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู้ หน้าท่ี แผน่ ที่ 3/9 23 ช่ือวชิ า : การบญั ชีต้นทุน 1 รหสั วชิ า 3201-2003 งาน : ระบบบัญชีต้นทุน รูปภาพท่ี 2 ระบบบญั ชีตน้ ชว่ งการผลติ
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู้ หนา้ ที่ แผน่ ที่ 4/9 24 ชือ่ วิชา : การบญั ชตี น้ ทนุ 1 รหสั วิชา 3201-2003 งาน : ระบบบญั ชีตน้ ทุน 3. วงจรต้นทุน(Cost Flows)
สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู้ หนา้ ท่ี แผน่ ที่ 5/9 25 ชอื่ วิชา : การบัญชีตน้ ทนุ 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : ระบบบัญชตี น้ ทุน
สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู้ หนา้ ท่ี แผน่ ที่ 6/9 26 ชอื่ วิชา : การบัญชีตน้ ทนุ 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : ระบบบัญชตี น้ ทุน
สาขาวิชา : การบญั ชี ใบความรู้ หน้าที่ แผ่นที่ 7/9 27 ชอ่ื วิชา : การบัญชีตน้ ทุน 1 รหสั วิชา 3201-2003 งาน : ระบบบัญชีตน้ ทนุ 4. ระบบการสะสมตน้ ทนุ (Cost accumulation systems) ในกจิ การทีท่ าการผลิตสินค้าไมว่ า่ จะเป็นกิจการขนาดเลก็ หรอื ขนาดกลางกต็ าม เรามักจะพบวา่ เอกสาร ประกอบการลงบญั ชแี ละรายการคา้ ต่าง ๆ จะมจี านวนมากนับเป็นพัน ๆ รายการในแต่ละเดอื นไม่วา่ จะเป็นเอกสารที่ เกีย่ วกบั ใบสัง่ ซอื้ ใบกากับสินคา้ เชค็ ใบสาคัญจ่าย ใบเสร็จรบั เงิน เป็นต้น แต่ถา้ เปน็ กิจการที่ผลติ ขนาดใหญ่ จานวน เอกสารประกอบการลงบญั ชแี ละรายการค้าตา่ ง ๆ มกั จะมีจานวนมากถงึ หนึ่งหมื่นรายการในแต่ละเดอื น ดงั น้ันระบบการ สะสมตน้ ทุนจะมีความยุ่งยากมากนอ้ ยเพียงใด กจ็ ะขึ้นอยู่กับจานวนของเอกสารและรายการคา้ น่ันเอง อกี ปัจจยั หนึง่ ท่จี ะ ส่งผลกระทบตอ่ การเลือกใชร้ ะบบการสะสมตน้ ทุนก็คือ ความพรอ้ มและความมีประสทิ ธิภาพของพนักงานบญั ชีท่ีจะ ปฏิบัติงานตามระบบบญั ชที วี่ างไว้ดมี ากน้อยเพียงไร การสะสมและการจาแนกข้อมูลเกี่ยวกบั ต้นทนุ การผลติ สิตค้า นบั เป็นงานท่ีมคี วามสาคญั และตอ้ งใช้เวลาอยา่ ง มาก โดยทัว่ ไปในทุก ๆ กจิ การการสะสมขอ้ มลู ของต้นทุนจะถกู เกบ็ รวบรวมตามขน้ั ตอนหรอื วิธกี ารที่กาหนดไว้ ต้นทุนที่ เกย่ี วกับการผลติ สินค้าทง้ั หมด กจ็ ะถกู จาแนกออกเป็นหมวดหมตู่ า่ ง ๆ ตามท่ฝี า่ ยบริหารต้องการ ขอ้ มลู ทางดา้ นตน้ ทุนทแ่ี สดงในลกั ษณะของ “ตน้ ทนุ รวม” (Total cost) จะมคี วามสาคัญนอ้ ยมากต่อการใช้ เปน็ ข้อมลู เพื่อการบรหิ าร จงึ มกั จะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับตน้ ทุนรวมเหล่านน้ั ใหม้ ีความชัดเจนย่ิงขนึ้ เช่น เป็นต้นทุนท่ี ประกอบด้วยต้นทุนอะไรบ้าง ณ ระดบั กิจกรรมใด เปน็ ต้น ด้วยเหตนุ ้ีการแสดงต้นทุนจงึ แสดงเปน็ ต้นทุนตอ่ หน่วย (Unit cost) ต้นทนุ ต่อครง้ั (Cost per time) ตน้ ทุนต่อชัว่ โมง (Cost per hour) ต้นทุนตอ่ ตัน (Cost per ton) เป็นต้น ซงึ่ ขอ้ มลู ทางด้านต้นทุนจะถกู นามาคานวณหาต้นทุนของสินคา้ หรอื ผลติ ภัณฑใ์ ด ๆ ใน 2 ระบบ คอื ระบบการสะสมตน้ ทุน แบบสิ้นงวด (Periodic cost accumulation system) หรือระบบการสะสมแบบต่อเน่อื ง (Perpetual cost accumulation system) 4.1 ระบบการสะสมต้นทุนแบบสิ้นงวด (Periodic cost accumulation system) เป็นระบบการคดิ ตน้ ทุน โดยจะทราบต้นทุนของสนิ ค้าคงเหลอื ได้ กต็ อ่ เมอ่ื มกี ารตรวจนบั และคานวณตน้ ทุนของวัตถุดิบทางตรงท่เี หลือ และทใ่ี ช้ใน การผลิต ตน้ ทนุ ของงานระหวา่ งผลิต และต้นทุนของสนิ ค้าสาเร็จรูป ซง่ึ เปน็ วธิ กี ารที่จะใชเ้ มือ่ ต้องการทราบขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตน้ ทนุ การผลิตสินคา้ ประกอบด้วยวตั ถุดบิ ทางตรง คา่ แรงงานทางตรง ค่าใช้จ่ายการผลิต ในวันสิน้ งวด 4.2 ระบบการสะสมตน้ ทุนแบบต่อเนื่อง (Perpetual cost accumulation system) เปน็ ระบบการคดิ ต้นทุน ทจ่ี ะแสดงตน้ ทุนของวตั ถุดิบทางตรงคงเหลือ งานระหวา่ งผลติ สินค้าสาเรจ็ รูปคงเหลือ ตน้ ทุนทผ่ี ลติ สนิ คา้ ระหว่างงวด ตลอดจนตน้ ทุนขาย ได้ตลอดเวลาที่ตอ้ งการโดยใช้วิธกี ารทางบัญชี ในการแสดงข้อมลู เกยี่ วกบั ต้นทนุ เหลา่ นี้ มกั ใชใ้ น กจิ การขนาดลางจนถึงกิจการขนาดใหญ่
สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู้ หน้าที่ แผน่ ที่ 8/9 28 ช่ือวิชา : การบญั ชตี ้นทนุ 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : ระบบบัญชีต้นทุน 5. การบันทกึ บัญชีตามวงจรต้นทุน การบนั ทึกบญั ชีต้นทุนการผลติ ของผลิตภัณฑ์จะแยกบญั ชีออกตามลักษณะของตน้ ทุน คอื วตั ถุดิบทางตรง แรงงาน ทางตรง และคา่ ใชจ้ า่ ยการผลิต หากในการผลิตนัน้ จาเป็นจะตอ้ งใช้วัตถดุ บิ หลายชนิดจะแยกบญั ชวี ัตถดุ บิ ออกตามชนดิ หรือแรงงานทางตรงหากมกี ารผลติ ในหลายแผนกหลาย หน่วยงานจะบนั ทึกแรงงานทางตรงของแต่ละหนว่ ยออกจากกนั เช่นเดยี วกับค่าใช้จ่ายการผลิต เช่น แรงงานทางออ้ ม ค่าเช่า คา่ ประกันภัย ค่าบารงุ รักษา ค่าเสอื่ มราคา คา่ ภาษที รัพยส์ นิ เปน็ ตน้ เพราะฉะนั้นการบันทึกบญั ชจี าเปน็ ตอ้ งใช้บญั ชีคมุ ยอดสาหรับรายการที่เกิดข้นึ บญั ชคี ุมยอดทใี่ ช่อยู่เป็นประจา สาหรับบนั ทกึ ตน้ ทุน คือ 5.1 บัญชวี ัตถดุ ิบ ใช้บนั ทึกรับเขา้ และเบกิ วตั ถุดิบทางตรงไปใชโ้ ดยมบี ญั ชีแยกประเภทย่อยหรือบัตรวัตถุดิบสาหรับ วัตถุดิบแต่ละชนดิ 5.2 บัญชีคา่ แรง ใชบ้ นั ทกึ คา่ แรงท่คี นงานแต่ละคนทางานให้กับกิจการ โดยคานวณคา่ แรงจากบตั รลงเวลาหรอื สมุด บันทึกการทางาน และจะเครดติ ออกเม่อื โอนต้นทนุ คา่ แรงเขา้ บัญชีงานระหว่างทา 5.3 บญั ชีค่าใช้จา่ ยการผลติ สาหรบั บนั ทึกคา่ ทใี่ ชจ้ า่ ยในการผลิต ปกติเมื่อเกิดรายจ่ายขน้ึ จะบันทกึ ไวใ้ นบัญชี คา่ ใช้จา่ ยประเภทนั้นแล้วโอนมาเข้าบัญชีคา่ ใช้จ่ายการผลิตภายหลัง 5.4 บญั ชคี ่าใชจ้ ่ายการผลิตคดิ เขา้ งาน สาหรบั บนั ทึกการโอนคา่ ใช้จ่ายการผลติ เข้าการผลิต โดยปกติมักมกี าร กาหนดเกณฑ์หรอื อัตราในการโอนไว้ลว่ งหน้า ซ่งึ อาจมียอดไมเ่ ทา่ กับบญั ชคี ่าใช้จ่ายการผลิตที่เกิดขึ้นจริงจนกว่าจะมีการ โอนปิดบญั ชี 5.5 บญั ชงี านระหวา่ งทา ใชเ้ ปน็ ท่รี วมตน้ ทุนของผลิตภณั ฑ์ทีก่ าลงั ดาเนินการผลิต บญั ชนี ีจ้ ึงรบั โอนต้นทนุ มาจาก บัญชวี ัตถุดบิ บญั ชคี ่าแรงและบัญชคี ่าใชจ้ ่ายการผลติ คดิ เขา้ งาน 5.6 บัญชสี ินค้าสาเรจ็ รูป เปน็ บัญชีท่ีรวบรวมต้นทุนของสนิ คา้ ทผี่ ลติ สาเรจ็ และยังไมไ่ ดจ้ าหนา่ ย โดยรับโอนตน้ ทนุ มาจากบัญชงี านระหว่างทา และจะเครดิตออกเมื่อได้จา่ ยหรอื ขายสินค้าออกไป
สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความรู้ หน้าที่ แผน่ ที่ 9/9 29 ชอื่ วชิ า : การบญั ชีต้นทุน 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : ระบบบัญชีตน้ ทนุ 6. บญั ชแี ยกประเภทโรงงาน การบนั ทกึ บัญชีเกีย่ วกับกจิ การการผลติ และการดาเนินงานทว่ั ไปรวมอยใู่ นสมดุ บญั ชีชุดเดียวกบั อาจจะไม่สะดวก อีก ทั้งยังคานวณตน้ ทนุ สนิ ค้าทีผ่ ลติ ได้ลา่ ชา้ ซึ่งจะสง่ สง่ กระทบต่อการควบคมุ และตดิ ตามผลการดาเนินการของโรงงาน ตลอดจนการใช้ขอ้ มูลเพือ่ การตดั สินใจในปญั หาตา่ งๆ เก่ียวกับการผลิตเพื่อขจัดปัญหาดงั กล่าวจงึ มกี ารแยกการบนั ทึก บัญชีออกเป็นสองชุดคอื สมดุ แยกประเภททั่วไป ไวท้ ส่ี านกั งานเพ่ือบันทึกรายการเกีย่ วกับการดาเนินงานทวั่ ไป และ สมุด แยกประเภทโรงงาน ไว้ทแ่ี ผนบัญชตี น้ ทุนของโรงงาน เพื่อบันทึกรายงานเกย่ี วกับการผลติ 6.1 ข้อดีของการแยกบนั ทึกรายการเกย่ี วกับการผลติ ไวท้ โ่ี รงงาน 6.1.1 การบนั ทกึ บัญชกี ารผลติ และคานวณต้นทนุ สนิ คา้ ที่ผลติ ไปดว้ ยความสะดวกและรวดเรว็ 6.1.2 การแบ่งงานบญั ชรี ะหวา่ งสานักงานและโรงงานทาให้มีการตรวจสอบการบันทึกบญั ชีระหว่างกัน 6.1.3 ฝ่ายบริหารสามารถนาข้อมลู บญั ชี และรายงานผลการปฏิบัตงิ านทแ่ี ผนกบนั ชตี ้นทุน จดั ทาข้ึนไป วางแผน ควบคมุ และตัดสินใจปญั หาทง้ั ทีเ่ กิดเปน็ ปกติประจาวัน และ ปญั หาพิเศษทีต่ ้องตดั สนิ ใจได้อยา่ งรวดเรว็ 6.2 การบันทกึ บญั ชกี รณีทใ่ี ช้สมดุ แยกประเภทโรงงาน การบนั ทกึ บัญชแี ยกออกเปน็ 2 ชดุ นนั้ มไิ ดห้ มายความวา่ การการบนั ทึกรายงานตา่ งๆ ของสานักงานและ โรงงานจะแยกกันโดยเด็ดขาด เพราะระหว่างสานกั งานและโรงงานยงั ต้องมรี ายการที่มีความสมั พันธ์กนั เช่น สานักงาน โอนสินทรัพย์ใหโ้ รงงาน สานกั งานจา่ ยคา่ แรงงานให้คนงานในโรงงาน หรือจ่ายค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ใหส้ านกั งาน จะต้งั พัก รายงานท่ีต้องบนั ทกึ ในสมุดบญั ชขี องโรงงาน หรอื รายงานท่ีมีความสมั พนั ธ์กับโรงงาน ไว้ในบญั ชที ่ีมีชือ่ วา่ “ บัญชแี ยก ประเภทโรงงาน” โรงงาน จะตง้ั พกั รายการที่ตอ้ งบันทกึ ในสมุดบญั ชขี องสานกั งาน หรอื รายการทม่ี คี วามสัมพนั ธ์กับ สานักงานไวใ้ นบัญชที ่มี ชี ือ่ ว่า “ บัญชีแยกประเภทท่ัวไป” หรอื แยกประเภทสานักงานบญั ชที ง้ั สองเป็นบญั ชรี ะหวา่ งกนั คิดเปน็ บัญชีทีเ่ กดิ ขึ้นจากเหตุการณ์ทางบญั ชเี ดียวกนั แต่บันทกึ ดา้ นตรงกนั ข้าม กล่าวคือ หากสานกั งานบันทกึ รายการ เครดิตบัญชีแยกประเภทโรงงาน จากรายการเดยี วกันน้ที างด้านโรงงานกจ็ ะบนั ทึกเดบติ บัญชแี ยกประเภททั่วไป ดังน้นั ยอดคงเหลือของสองบญั ชีน้ีจะเท่ากัน แตจ่ ะอยู่ด้านตรงกนั ขา้ มกัน และเมอ่ื ใดท่กี จิ การปดิ งาน และในสมดุ แยกประเภท โรงงานทโี่ รงงานมาจัดทางบทดลองรวมโดยตดั บญั ชีกนั ออกไป
สาขาวิชา : การบัญชี ใบทดสอบ หนา้ ที่ แผ่นที่ 1/2 30 ชือ่ วิชา : การบญั ชีต้นทุน 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : ระบบบัญชตี ้นทุน คาชแ้ี จง จงเลอื กคาตอบทถี่ กู ต้องทส่ี ุดเพยี งคาตอบเดยี ว แลว้ ทาเครอ่ื งหมาย ลงในกระดาษคาตอบ
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบทดสอบ หนา้ ท่ี แผ่นท่ี 2/2 31 ช่ือวชิ า : การบัญชตี น้ ทนุ 1 รหสั วชิ า 3201-2003 งาน : ระบบบญั ชีต้นทนุ
สาขาวิชา : การบัญชี ใบเฉลยใบทดสอบ หนา้ ท่ี แผน่ ท่ี 1/1 32 ชอื่ วิชา : การบญั ชีตน้ ทนุ 1 รหสั วิชา 3201-2003 งาน : ระบบบัญชตี ้นทุน
สาขาวิชา : การบญั ชี ใบมอบหมายงาน หน้าที่ แผน่ ท่ี 1/1 33 ชื่อวิชา : การบญั ชีตน้ ทุน 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : ระบบบญั ชตี ้นทุน จุดประสงค์การมอบงาน 1. เพ่อื ให้ผู้เรยี นรู้จกั ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ 2. เพ่อื ให้ผเู้ รียนได้คน้ ควา้ หาความรู้เพิ่มเติม 3. เพือ่ ให้ผู้เรยี นมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง แนวทางการปฏิบัตงิ าน ครูมอบหมายงาน นักเรยี นค้นควา้ นกั เรียนนาเสนอ นกั เรยี นสง่ ผลงาน เปน็ การบ้าน งานตนเอง ครใู หค้ ะแนน แหล่งค้นควา้ หนังสอื เรยี น ตาราเรยี น คาถาม/ปญั หา 1. ในการค้นควา้ งานนกั เรยี นพบปัญหาอะไรบ้าง 2. นักเรียนแก้ปญั หาอยา่ งไร 3. นกั เรียนไดอ้ ะไรจากการไปค้นคว้างาน กาหนดเวลาสง่ งาน กอ่ นครูสอนคาบตอ่ ไป
แผนการจัดการเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 รวม 12 ชวั่ โมง ช่ือหนว่ ย การบัญชเี กย่ี วกบั วัตถุดิบ สอนครงั้ ท่ี 7-9 เรอื่ ง การบัญชเี กย่ี วกับวัตถุดบิ จานวน 12 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ วตั ถุดิบ เป็นส่วนประกอบสาคญั ในกระบวนการผลิตทถ่ี กู แปรสภาพใหเ้ ปน็ สนิ ค้าสาเร็จรปู วัตถุดิบที่ ใชใ้ นการผลติ มเี ป็นจานวนมากมายหลายชนดิ วตั ถุดิบบางชนิดใชใ้ นการผลิตสนิ ค้าหลายอยา่ ง บางชนดิ ใช้ ผลติ สนิ คา้ ใดสินค้าหน่งึ โดยเฉพาะ นอกจากนยี้ ังมวี ัตถดุ ิบบางชนดิ ทน่ี าไปใชท้ ้ังในการผลิตโดยตรงและ นาไปใช้ซอ่ มแซมเคร่ืองจกั รและโรงงาน เมอ่ื กจิ การซื้อวัตถดุ ิบมาจะบนั ทึกไวใ้ นบัญชคี มุ ยอดวัตถดุ ิบถือเป็นบัญชปี ระเภทสินทรพั ย์ ถา้ มี คา่ ขนสง่ เขา้ ส่งคืนวตั ถดุ ิบให้ผู้ขาย หรือไดร้ บั ส่วนลดจากการชาระหนจ้ี ะถอื เป็นต้นทนุ ของวัตถุดบิ ซ่งึ การบันทึกบัญชเี กีย่ วกับวตั ถดุ ิบมวี ธิ ีการบนั ทึก 2 วธิ ี คอื วธิ ีบันทึกวตั ถุดบิ คงเหลอื เมือ่ สน้ิ งวดและการ บนั ทึกบัญชวี ัตถุดบิ คงเหลือแบบตอ่ เนอื่ ง 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย บอกความหมายและวัตถุดบิ ในการผลติ ได้ 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (มาตรฐานการเรียนรู้) 3.1 ด้านความรู้ 3.1.1 อธิบายความหมายของวัตถดุ ิบได้ 3.1.2 คานวณตน้ ทุนในการจดั หาวตั ถดุ ิบได้ 3.1.3 อธบิ ายวิธคี วบคุมวัตถุดิบ โดยใชแ้ บบฟอรม์ ต่างๆ ได้ 3.1.4 คานวณตน้ ทนุ วัตถุดิบเบิกใช้และวัตถุดบิ คงเหลือปลายงวดโดยวิธีตา่ งๆ ได้ 3.1.5 ตีราคาวัตถุดิบคงเหลือวธิ ีราคาทุนหรือมูลค่าสุทธิ ท่ีจะได้รับที่ตา่ กวา่ ได้ 3.1.6 บันทกึ รายการเกยี่ วกับวัตถุดบิ ในสมดุ รายวนั ท่ัวไปได้ 3.2 ด้านทกั ษะ 3.2.1 บอกความหมายและวัตถุดบิ ในการผลติ ได้ 3.2.2 บอกวธิ ีคานวณต้นทนุ ในการจัดหาวัตถุดบิ 3.3 คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 3.3.1 นักศึกษาเหน็ ความสาคญั และเข้าใจถึงเหตุผลของการทาบัญชี 3.3.2 นักศึกษามีความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี
แผนการจดั การเรยี นร้มู ุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยที่ 3 รวม 12 ชั่วโมง ชือ่ หนว่ ย การบญั ชเี กีย่ วกบั วัตถุดิบ สอนคร้ังท่ี 7-9 เรอื่ ง การบญั ชเี กยี่ วกับวตั ถุดิบ จานวน 12 ชวั่ โมง 3.4 การประยกุ ต์ 3D และน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3.4.1 ผเู้ รียนมกี ารทาเป็นข้ันตอน การทาตามลาดับข้นั 3.4.2 ผูเ้ รยี นมวี นิ ยั มคี วามประหยัด 3.4.3 ผ้สู อนสอดแทรกปรชั ญาเกย่ี วกบั ความประหยดั อดออม 4. เนอ้ื หาสาระการเรยี นรู้ 4.1 ความหมายของวตั ถดุ บิ 4.2 ตน้ ทนุ ในการจัดหาวตั ถดุ ิบ 4.3 การควบคมุ วัตถดุ บิ 4.4 การคานวณต้นทนุ วตั ถุดิบเบิกใช้และต้นทนุ วัตถุดิบคงเหลือ 4.5 การตีราคาวัตถดุ ิบคงเหลือวิธรี าคาทุนหรอื มูลค่าสุทธิที่จะไดร้ ับท่ีต่ากวา่ 4.6 วิธีการบันทกึ บัญชีเกยี่ วกับวตั ถุดบิ 4.7 การบนั ทกึ บัญชีกรณี วตั ถดุ ิบคงเหลือทีต่ รวจนับไดไ้ ม่ตรงกบั ยอดตามบัญชี 5 กิจกรรมการเรียนการสอน 5.1 ข้นั นาเข้าสู่บทเรยี น(M) นาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยกลา่ วถงึ การบัญชเี กย่ี วกับวัตถดุ ิบ 5.2 ขัน้ การจัดเรียนร(ู้ I) 5.2.1 ทาแบบประเมนิ ผลก่อนการเรียน 5.2.2 ผู้สอนและผูเ้ รียนร่วมกนั อภปิ รายเรอ่ื งเก่ียวกับการบัญชเี กี่ยวกบั วตั ถุดบิ 5.2.3 ผู้เรยี นศกึ ษาใบความรู้ 5.3 ขั้นสรุป(A) 5.3.1 แบง่ กลมุ่ ผเู้ รียนมารายงานหนา้ ชน้ั เรียน 5.4 การวัดผลและประเมินผล(P) 5.4.1 การสงั เกต ความต้ังใจและสนใจของผเู้ รยี น ความรว่ มมอื ในการอภปิ ราย การแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมเี หตุผล
แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 3 รวม 12 ชั่วโมง ช่อื หนว่ ย การบัญชเี ก่ยี วกับวตั ถุดิบ สอนคร้ังที่ 7-9 เรอื่ ง การบัญชเี กี่ยวกบั วตั ถุดิบ จานวน 12 ช่วั โมง 5.4.2 การตรวจผลงานภาคปฏบิ ัติ กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ แบบทดสอบเพอื่ ประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ 5.4.3 การทดสอบดว้ ยวาจาและข้อเขยี น ตรวจแบบทดสอบ ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 ตั้งคาถามใหต้ อบและอธบิ าย ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 5.4 การวดั ผลและประเมินผล(P) 5.4.1 การสงั เกต ความต้ังใจและสนใจของผ้เู รยี น ความร่วมมือในการอภิปราย การแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ล 5.4.2 การตรวจผลงานภาคปฏิบัติ กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ แบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ผลหลังการเรยี นรู้ 5.4.3 การทดสอบด้วยวาจาและขอ้ เขียน ตรวจแบบทดสอบ ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 ตัง้ คาถามให้ตอบและอธบิ าย ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 6. สื่อการการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สอื่ ส่ิงพิมพ์ หนงั สอื เรียนวชิ าการบญั ชีต้นทนุ 1 : ของสานักพิมพ์เอมพนั ธ์ เอกสารประกอบการสอนการบัญชีต้นทุน 1 : ของรชต สายสวสั ด์ิ มหาวิทยาลัยราชภฏั อุดรธานี 7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 7.1 ใบความรู้ 7.2 ใบทดสอบ 7.3 ใบสง่ั งาน
แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 3 รวม 12 ช่ัวโมง ชือ่ หนว่ ย การบัญชเี ก่ยี วกบั วัตถดุ ิบ สอนครั้งที่ 7-9 เรอ่ื ง การบัญชเี กี่ยวกบั วตั ถุดบิ จานวน 12 ช่วั โมง 8. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธ์กับวชิ าอ่ืน 8.1 วชิ าภาษาไทย เกี่ยวกับการใชภ้ าษาด้านการพดู การอา่ น และการเขยี น 8.2 วชิ าคณิตศาสตร์ เก่ียวกับการคานวณ 8.3 วิชาภาษาองั กฤษ ดา้ นคาศัพท์ทางบัญชี 9. การวัดผลและประเมินผล 9.1 วธิ กี าร ดาเนินการวัดผลในชว่ งเวลา (1) ก่อนเรยี น โดยใชแ้ บบทดสอบกอ่ นเรยี น (2) ระหว่างเรียน โดยการถามตอบและการสังเกตการณ์ปฏิบัติงาน (3) หลงั เสร็จสิน้ การเรียน โดยทาแบบทดสอบ 9.2 เกณฑ์การประเมิน (1) ผู้เรียนมีเวลาเรยี นไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 (2) ผูเ้ รียนมีคะแนนจากแบบทดสอบหลังเรยี นรอ้ ยละ 80 (3) ผเู้ รยี นบันทึกบญั ชีการซ้ือขายสินคา้ สมบูรณแ์ ละถูกต้องทุกคร้งั
แผนการจัดการเรยี นร้มู ุง่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 3 รวม 12 ชวั่ โมง ช่ือหน่วย การบญั ชเี กีย่ วกับวัตถุดบิ สอนครั้งที่ 7-9 เรอ่ื ง การบญั ชเี กีย่ วกบั วัตถดุ ิบ จานวน 12 ชั่วโมง 10. บันทกึ หลังการเรียนรู้ 10.1 ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ 1. เน้อื หาสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 2. สามารถนาไปใชป้ ฏบิ ตั กิ ารสอนได้ครบตามกระบวนการเรยี นการสอน 3. สอื่ การสอนเหมาะสมดี 10.2 ผลการเรียนรขู้ องผู้เรยี น 1. นักศึกษาส่วนใหญ่มีความสนใจใฝร่ ู้ เข้าใจในบทเรยี นรว่ มกนั อภิปราย ตอบคาถาม ในกล่มุ และรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น 2. นักศกึ ษากระตือรือรน้ และรับผิดชอบในการทางานกลมุ่ เพอ่ื ให้งานสาเร็จทันเวลา ทกี่ าหนด 10.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรยี นรู้ 1. สอนเน้อื หาได้ครบตามหลกั สูตร 2. แผนการสอนและวิธกี ารสอนครอบคลมุ เน้อื หาการสอนทาใหผ้ ู้สอนสอนไดอ้ ย่างม่ันใจ 3. สอนได้ทนั ตามเวลาที่กาหนด ……………………………………………… ผ้บู ันทึกการสอน
สาขาวิชา : การบญั ชี ใบความรู้ หน้าท่ี แผน่ ท่ี 1/6 39 ชอื่ วิชา : การบญั ชีต้นทนุ 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : การบัญชเี กยี่ วกับวตั ถดุ ิบ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. อธบิ ายความหมายของวัตถดุ ิบได้ 2. คานวณตน้ ทุนในการจดั หาวัตถุดบิ ได้ 3. อธบิ ายวิธคี วบคุมวัตถุดิบ โดยใชแ้ บบฟอรม์ ตา่ งๆ ได้ 4. คานวณต้นทุนวัตถุดิบเบกิ ใช้และวตั ถุดิบคงเหลอื ปลายงวดโดยวิธีต่างๆ ได้ 5. ตรี าคาวัตถดุ บิ คงเหลือวิธรี าคาทุนหรอื มลู ค่าสทุ ธิ ท่จี ะได้รับทต่ี า่ กว่าได้ 6. บนั ทกึ รายการเก่ยี วกบั วัตถุดบิ ในสมุดรายวันทั่วไปได้ เนอื้ หาสาระ 1 ความหมายของวตั ถุดบิ วตั ถุดิบ มคี วามหมายตามศัพท์บญั ชี ซึง่ บัญญัติโดยสมาคมนักบัญชีรบั ใบอนุญาตแห่งประเทศไทยวา่ หมายถึง ของท่ี ซื้อมาเพอ่ื ใชเ้ ปน็ สว่ นผสมหรือส่วนประกอบอันสาคัญในการผลิตสินคา้ สาเรจ็ รูป แบง่ ออกเป็น วัตถดุ บิ ทางตรง (Direct Materials) หมายถึง มูลคา่ ของวัตถุดบิ ทใี่ ช้ในการผลติ สนิ ค้าโดยตรง และเป็นส่วน สาคญั ที่คดิ เปน็ ต้นทุนของหน่วยท่ผี ลติ เช่นเมด็ พลาสตกิ เปน็ วตั ถดุ ิบทางตรงทใี่ ช้ในการผลิตถุงพลาสตกิ วตั ถดุ บิ ทางอ้อม (Indirect Materials) หมายถงึ วตั ถุดบิ ท่นี ามาใชใ้ นการผลติ สินคา้ มจี านวนนอ้ ยถือเป็น คา่ ใชจ้ า่ ยในการผลติ ซง่ึ เปน็ ค่าใชจ้ ่ายโรงงาน ทเี่ รียกว่า วัสดโุ รงงาน 2 ต้นทนุ ในการจัดหาวตั ถดุ บิ สาหรบั ค่าใช้จา่ ยอ่นื ๆ ทเ่ี ก่ยี วกบั การจัดหาวัตถุดบิ (Material Handling Charges or Acquisition Costs) เปน็ ค่าใช้จ่ายท่ีเกดิ ขน้ึ ในแผนกตา่ งๆ ท่ีต้องมกี ารจัดหาวัตถดุ ิบ เช่นแผนกจัดซ้อื แผนกตรวจรับของ แผนกคลังสินค้า และ แผนกบญั ชี เปน็ ต้น ซง่ึ แผนกดังกลา่ วถอื วา่ เป็นแผนกบริการ ต้นทนุ หรอื คา่ ใชจ้ า่ ยท่ีเกิดขึน้ ในแผนกเหล่านี้ ถือว่าเป็น คา่ ใช้จา่ ยที่เกดิ ขน้ึ ในแผนกบรกิ าร จาเป็นต้องมีการจดั สรรหรอื ปันส่วนคา่ ใชจ้ า่ ยเหล่านใี้ หก้ ับแผนกผลิตทม่ี ีการใช้ ค่าใชจ้ า่ ยในการจดั หาวัตถดุ ิบ โดยใชเ้ กณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งการบันทึกบญั ชีจะรวมไวบ้ ัญชเี ดยี วกัน คือ บัญชคี ่าใช้จา่ ยใน การจัดหาวัตถดุ บิ ซ่ึงจะเปน็ ส่วนหน่งึ ของบัญชีคุมยอด ค่าใชจ้ ่ายการผลติ หรอื โอนเขา้ บัญชคี ุมยอดค่าใช้จ่ายการผลติ ซึ่ง จะเป็นต้นทุนการผลติ ของแผนกผลติ ใดนน้ั ขึ้นอยู่กบั ว่าจะปนั ส่วนใหก้ ับแผนกผลติ นั้นจานวนเท่าใด ใหพ้ ิจารณาจาก เกณฑ์ทใี่ ชใ้ นการปันสว่ นค่าใชจ้ ่ายการผลติ ของบรษิ ทั น้ัน 3. การควบคมุ วัตถดุ ิบ ต้นทุนวัตถดุ บิ เป็นสว่ นประกอบหน่ึงของต้นทนุ ขน้ั ต้น ซ่ึงเป็นสว่ นหนึ่งของต้นทุนของการผลิตของกจิ การอุตสาหกรรม ดังน้ัน การบญั ชที ่เี หมาะสม สาหรบั การควบคุมจึงต้องครอบคลุมท้งั ในเรือ่ งของการจัดซ้ือ การเบกิ ใช้ และสนิ คา้ คงเหลือ ซงึ่ ถือเป็นสิ่งสาคัญในการบริหารจัดการวัตถดุ บิ ให้เปน็ ไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธผิ ลตามตอ้ งการ หลกั การ พื้นฐานของการควบคมุ วตั ถุดิบมีวตั ถปุ ระสงคร์ วมถึงการจดั ซอื้ วัตถุดบิ การเก็บรักษาวตั ถดุ ิบ การใชแ้ ละการเบกิ ใชใ้ ห้ เปน็ ไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพ
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู้ หนา้ ท่ี แผ่นท่ี 2/6 40 ชอ่ื วิชา : การบัญชีต้นทุน 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : การบญั ชเี กีย่ วกบั วัตถุดบิ การควบคุมวตั ถุดิบประกอบด้วยการควบคุมการทางานในส่วนท่ีเกยี่ วข้องกบั วัตถดุ บิ 2 สว่ นคือ ประการแรก เป็นการ ควบคุมปริมาณ และประการที่สองเป็นการควบคมุ ตน้ ทนุ เปน็ ตน้ วา่ ผูจ้ ัดการฝา่ ยงานผลติ ในกิจการอุตสาหกรรมมี เปา้ หมายทจ่ี ะต้องทาการควบคมุ ในเรื่องของปรมิ าณวตั ถุดบิ ให้มีการเบิกใชใ้ นจานวนทีน่ ้อยกวา่ และใชใ้ นปรมิ าณที่นอ้ ย กวา่ ควรจะตอ้ งใชจ้ รงิ ต่อหนงึ่ หนว่ ยการผลติ สินค้าสาเรจ็ รปู ในการควบคมุ ต้นทุนวตั ถุดิบให้เปน็ ไปอยา่ งสมดลุ น้นั มีองค์ประกอบสาคญั ที่ตอ้ งให้ความสนใจอยู่ 2 ประการ ประการแรกคอื การรักษาระดับเงินลงทนุ ในวตั ถุดิบ เพอ่ื ใหไ้ ด้วตั ถดุ บิ ท่เี พยี งพอตอ่ ความต้องการท่จี ะนามาใชเ้ พือ่ การผลิต ประการท่ีสองการรกั ษาระดบั เงนิ ลงทนุ ทีต่ อ้ งใชเ้ พ่อื การสารองวัตถดุ บิ คงเหลอื ให้อยใู่ นระดับท่ตี า่ ที่สุด 4. การคานวณต้นทนุ วตั ถดุ ิบเบกิ ใชแ้ ละต้นทุนวัตถดุ บิ คงเหลอื การคานวณหาวัตถุดิบท่ีใช้ไปในการผลิต สาหรับระบบบญั ชแี บบสนิ้ งวดยอดวัตถุดิบท่ใี ช้ไปในการผลิตคานวณไดจ้ าก สูตร วตั ถุดบิ ใชไ้ ปในการผลติ = วัตถุดิบต้นงวด+ซ้อื วัตถุดิบสุทธิ-วัตถดุ ิบปลายงวด ซ้ือวตั ถุดิบสุทธิ = ซื้อวตั ถุดบิ + ค่าขนส่งเข้า-สง่ คนื วตั ถุดบิ -สว่ นลดรบั การคานวณต้นทุนผลิตและต้นทุนขายของธุรกจิ อุตสาหกรรม มสี ูตรดังน้ี ต้นทุนการผลิต = วตั ถดุ บิ ทางตรง + คา่ แรงทางตรง + ค่าใชจ้ า่ ยในการผลติ ตน้ ทุนสนิ ค้าที่ผลิต = ต้นทนุ การผลติ + งานระหว่างทาต้นงวด – งานระหว่างทาปลายงวด ตน้ ทุนขาย = ต้นทนุ สนิ ค้าสาเร็จรปู + สนิ คา้ สาเร็จรูปต้นงวด – สินคา้ สาเร็จรปู ปลายงวด ซอ้ื = ซอ้ื วตั ถุดิบ + คา่ ขนส่งเข้า – สง่ คืน – สว่ นลดรับ วตั ถุดบิ ใชไ้ ป = วตั ถุดิบต้นงวด+ ซอ้ื วตั ถุดิบสุทธิ – วตั ถุดิบปลายงวด วัตถุดบิ ทางตรงใชไ้ ป = วัตถดุ ิบต้นงวด+ ซอื้ วตั ถุดิบสทุ ธิ – วตั ถดุ ิบปลายงวด – วัตถดุ บิ ทางออ้ มใช้ไป กาไรจากการดาเนนิ งาน = ขาย – ตน้ ทนุ ขาย – คา่ ใชจ้ า่ ยขายและบรกิ าร
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู้ หน้าที่ แผน่ ที่ 3/6 41 ชอื่ วิชา : การบญั ชตี ้นทนุ 1 รหสั วิชา 3201-2003 งาน : การบัญชเี กีย่ วกับวัตถุดบิ 5. การตรี าคาวัตถุดิบคงเหลอื วธิ รี าคาทุนหรอื มูลคา่ สุทธิท่จี ะไดร้ ับท่ตี า่ กว่า ในทางทฤษฎีราคาทนุ ของวตั ถุดบิ ที่นามาใชต้ ีมลู คา่ ของวัตถุดบิ คงเหลอื มีดังนี้คอื ราคาทุน (Cost Method) ราคาทนุ หรือราคาตลาดแล้วแตร่ าคาใดจะต่ากวา่ (Lower of Cost or Market Method : LCM) และราคามาตรฐาน (Standard Cost Method) 5.1 วิธีราคาทนุ ราคาทุน (Cost) หมายถึง ราคาท่ีซือ้ วตั ถดุ ิบมาใชใ้ นการผลิตรวมถงึ ค่าใชจ้ า่ ยต่างๆ ทีจ่ ่ายไปเพื่อใหว้ ัตถุดิบนั้นอยู่ ในสภาพพร้อมทีจ่ ะผลิตได้ เช่นกจิ การตอ้ งจา่ ยค่าใชจ้ า่ ยในการจัดซ้อื ค่าขนสง่ ในการซ้ือวตั ถุดบิ ค่าขนของขน้ึ ลง คา่ ประกนั ภยั สินค้า คา่ ใชจ้ ่ายในการตรวจรับของ และค่าใชจ้ ่ายในการเก็บรกั ษาวตั ถดุ บิ ใหอ้ ยู่ในสภาพดพี ร้อมท่ีจะนาไปผลิต ได้ ในกรณีท่กี ิจการได้รับส่วนลดจากผูข้ าย หรอื ทเี่ รยี กวา่ สว่ นลดรับ กต็ อ้ งนามาพิจารณาหักออกจากต้นทุนวัตถุดิบที่ซ้อื ออกไปดว้ ย เพราะทาใหต้ ้นทุนวัตถุดิบลดลง ซ่งึ วธิ ีการคานวณต้นทุนวัตถุดิบด้วยราคาทนุ สามารถแบ่งได้เป็น 6 วิธี ดังนี้ 5.1.1 วธิ รี าคาท่แี ท้จรงิ (Specific Identification Method) 5.1.2 วิธถี ัวเฉล่ียอย่างงา่ ย (Simple Average Method) 5.1.3 วิธถี ัวเฉล่ียถว่ งนา้ หนัก (Weighted Average Method) 5.1.4 วิธถี ัวเฉลย่ี แบบเคลือ่ นที่ (Moving Average Method) 5.1.5 วิธีซื้อก่อน – ใช้กอ่ น (First – In, First – Out Method) 5.1.6 วิธซี ื้อหลงั – ใช้กอ่ น (Last – In, First – Out Method) 6. วธิ ีการบนั ทกึ บญั ชีเกยี่ วกับวตั ถดุ ิบ วัตถุดิบเปน็ สนิ ค้าคงเหลือรายการหนง่ึ ในกิจการอุตสาหกรรม ดังนน้ั วิธกี ารบนั ทกึ บญั ชวี ัตถุดบิ จงึ ทาได้ 2 วธิ ใี น ลักษณะเดียวกนั กบั ทางเลือกของการบนั ทึกบญั ชสี นิ คา้ คงเหลอื กลา่ วคือ 6.1 วิธบี ันทกึ บญั ชแี บบตรวจนบั วัตถดุ ิบคงเหลือเม่อื วันส้ินงวด (Periodical Inventory Method) จะตอ้ งตรวจนบั และตรี าคาวตั ถดุ ิบคงเหลือ ณ วันสน้ิ งวดบญั ชี เพ่ือใหท้ ราบจานวนของวัตถุดบิ คงเหลอื เพ่อื เปรยี บเทียบจานวนวัตถดุ ิบที่ ตรวจนับได้ กับใบทะเบียน เพื่อป้องกันการทจุ ริต 6.2 วธิ ีบันทกึ บัญชีแบบตอ่ เนอื่ ง(Perpetual Inventory Method) วิธีนีเ้ ปน็ ระบบที่บันทึกการเปล่ยี นแปลงความ เคลือ่ นไหวข้นึ ลงของวตั ถดุ ิบคงเหลอื ตลอดเวลา กจิ การจะบนั ทึกการรับ-จา่ ยวตั ถดุ บิ
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู้ หนา้ ท่ี แผน่ ท่ี 4/6 42 ชอ่ื วิชา : การบญั ชตี ้นทนุ 1 รหสั วชิ า 3201-2003 งาน : การบญั ชเี กี่ยวกบั วัตถดุ บิ เปรยี บเทยี บหลักการบันทกึ บัญชสี นิ ค้าคงเหลอื แบบส้นิ งวด 7. การบันทึกบัญชกี รณีวตั ถุดิบคงเหลือทตี่ รวจนบั ไดไ้ มต่ รงกบั ยอดตามบัญชี 7.1 สินคา้ คงเหลือในบัญชีมีมากกว่าขอ้ เท็จจรงิ (สินค้าขาดจากรายงาน) 1) ไม่รับร้รู ายไดต้ ามขอ้ เท็จจริง และ/หรือ 2) บันทกึ รายได้แต่มไิ ดบ้ ันทกึ ต้นทุนขายทนั ที (กรณวี ธิ ีบันทกึ บัญชีแบบต่อเนือ่ ง - Perpetual Inventory Method) หรอื 3) การบนั ทกึ สนิ คา้ คงเหลือปลายงวดตามวิธีบนั ทึกบญั ชแี บบสนิ้ งวด - Periodic Inventory Method มิได้ เปน็ ไปตามข้อเท็จจริง 4) สินค้าสญู หาย 7.1.1 การแก้ไข ให้ปรบั ปรงุ ตามสินค้าคงเหลือทม่ี ีอยู่จริงตามที่ตรวจนบั ได้ หรือตามระบบสนิ คา้ คงเหลือของ แผนกคลงั สินคา้ และกิจการต้องตรวจสอบวา่ มีเอกสารการขายทีไ่ มไ่ ดล้ งบัญชใี นอดตี หรือไม่ การปรบั ปรงุ ยอ้ นหลังในงบการเงินสาหรับรายการ ณ วนั ตน้ งวด (กรณีสามารถสบื ทราบได้ว่าผลต่างในปัจจบุ ัน เกิดขึ้นจากรายการในอดตี ) 1) บนั ทกึ รายการรายได้ใหค้ รบถว้ น โดยปรบั ปรุงเขา้ กาไรสะสม เดบิต เงินสด/ธนาคาร/ลูกหน้กี ารค้า/ลูกหนี้เงนิ ยมื กรรมการ เครดติ กาไรสะสม 2) บันทึกตดั รายการสนิ คา้ คงเหลือให้ถูกต้องตามขอ้ เท็จจรงิ วธิ บี ันทกึ บัญชีแบบตอ่ เนื่อง (Perpetual Inventory Method) เดบิต กาไรสะสม เครดิต สินค้าคงเหลอื
สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู้ หน้าท่ี แผ่นท่ี 5/6 43 ชื่อวิชา : การบัญชตี ้นทนุ 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : การบญั ชเี กยี่ วกบั วตั ถุดิบ วิธีบันทกึ บญั ชแี บบส้ินงวด (Periodic Inventory Method) เดบติ กาไรสะสม เครดิต สินคา้ คงเหลือ (ตน้ งวด) และปรับปรงุ รายการเก่ียวเนือ่ งในปีปัจจุบนั ดงั นี้ เดบติ สินคา้ คงเหลอื (ตน้ งวด) เครดติ ตน้ ทุนขาย/กาไรขาดทุน (ตามช่อื บญั ชขี องแตล่ ะกจิ การ) และปรับปรงุ มูลค่าสินคา้ คงเหลือปลายงวดใหมอ่ ีกครงั้ ด้วยยอดที่ถูกต้องจากการตรวจนับ 7.1.2 การปรับปรุงสาหรบั ปปี ัจจุบนั (กรณสี ามารถสืบทราบไดว้ ่าผลต่างของสินค้า ณ ปลายงวดปจั จุบัน เกิดข้ึนจากรายการในปปี จั จุบนั หรอื ไม่สามารถสบื ทราบวา่ เป็นผลตา่ งที่เกดิ ขึ้นตั้งแต่ปใี ด) 1) บนั ทกึ รายการรายได้ให้ครบถว้ น เดบิต เงินสด/ธนาคาร/ลกู หน้ีการคา้ /ลูกหนีเ้ งนิ ยมื กรรมการ (แล้วแตก่ รณี) เครดิต รายได้จากการขาย 2) บนั ทกึ ตัดรายการสินคา้ คงเหลอื ให้ถูกต้องตามขอ้ เท็จจริง วธิ ีบันทึกบัญชีแบบต่อเน่ือง (Perpetual Inventory Method) เดบิต ต้นทุนขาย/ขาดทุนจากสินค้าสญู หาย เครดิต สนิ คา้ คงเหลอื วิธีบันทกึ บัญชแี บบสนิ้ งวด (Periodic Inventory Method) ปรับปรงุ มลู ค่าสนิ ค้าคงเหลอื ปลาย งวดใหม่อีกคร้งั ดว้ ยยอดที่ถกู ต้องจากการตรวจนับ 7.2 สนิ คา้ คงเหลือในบญั ชมี ีนอ้ ยกว่าข้อเทจ็ จรงิ (สินคา้ เกนิ จากรายงาน) 1. ไม่บนั ทึกรายการซอื้ สินคา้ ตามข้อเท็จจรงิ 2. สินคา้ เกินเนื่องจากการนบั สตอ๊ คสนิ คา้ 7.2.1 การแกไ้ ข ปรบั ปรุงตามสินคา้ คงเหลอื ทีม่ ีอยจู่ ริงตามที่ตรวจนบั ได้ หรือตามระบบสินค้าคงเหลอื ของ แผนกคลังสนิ ค้า และกิจการตอ้ งตรวจสอบวา่ มีเอกสารการซอ้ื ท่ีไม่ได้ลงบญั ชีหรือไม่ การปรับปรุงย้อนหลงั ในงบการเงินสาหรับรายการ ณ วนั ต้นงวด (กรณีสามารถสบื ทราบไดว้ า่ ผลต่างใน ปจั จุบันเกิดข้นึ จากรายการในอดีต) โดยต้องปรับปรุงเข้ารายการกาไรสะสม และปรบั มลู คา่ สินคา้ คงเหลอื ปลายงวด ดงั นี้ วธิ ีบนั ทึกบญั ชีแบบตอ่ เนือ่ ง (Perpetual Inventory Method) เดบิต สนิ คา้ คงเหลือ ภาษซี อ้ื ตอ้ งห้าม เครดิต เจา้ หน้กี ารคา้ (กรณยี ังไม่บันทกึ ซอื้ แตย่ ังมีภาระท่ตี อ้ งจ่ายชาระเจ้าหน้ีคา่ สินคา้ ) หรอื กาไรสะสม (กรณนี ับสต๊อคสินคา้ แลว้ พบสนิ คา้ เกินในปีกอ่ นแตม่ ไิ ด้ปรบั ปรุง)
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู้ หน้าท่ี แผน่ ท่ี 6/6 44 ชื่อวิชา : การบญั ชีต้นทุน 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : การบัญชเี กี่ยวกับวตั ถดุ บิ วิธบี ันทึกบญั ชีแบบส้นิ งวด (Periodic Inventory Method) เดบิต กาไรสะสม ภาษซี ้อื ตอ้ งหา้ ม เครดติ เจ้าหน้ีการค้า (กรณที ่ยี ังไม่บนั ทึกซ้ือแต่ท่ียงั มภี าระตอ้ งจ่ายชาระเจ้าหนค้ี า่ สนิ คา้ ) เดบิต สินคา้ คงเหลือ (ต้นงวด) เครดติ กาไรสะสม และปรับปรงุ รายการเกี่ยวเนือ่ งในปปี ัจจบุ นั ดังน้ี เดบติ กาไรขาดทุน/ต้นทนุ ขาย (ตามวิธีการลงบญั ชขี องแตล่ ะกจิ การ) เครดติ สนิ ค้าคงเหลอื (ต้นงวด) และปรับปรุงมลู ค่าสนิ คา้ คงเหลือปลายงวดใหม่อกี ครงั้ ดว้ ยยอดที่ถูกตอ้ งจากการตรวจนบั 7.2.2 การปรับปรุงสาหรับปีปจั จุบนั (กรณสี ามารถสบื ทราบไดว้ า่ ผลต่างของสนิ คา้ ณ ปลายงวดปจั จบุ นั เกดิ ขนึ้ จากรายการในปปี จั จุบนั หรอื ไมส่ ามารถสืบทราบวา่ เป็นผลต่างที่เกิดขนึ้ ตั้งแต่ปใี ด) ใหบ้ นั ทกึ รายการใหถ้ ูกตอ้ งและ ปรับมลู ค่าสนิ คา้ คงเหลอื ปลายงวดตามข้อเท็จจริง วิธบี ันทึกบัญชแี บบต่อเนือ่ ง (Perpetual Inventory Method) เดบิต สินค้าคงเหลือ ภาษซี ือ้ (ต้องห้าม) เครดิต เจ้าหนก้ี ารค้า (กรณีทีย่ ังไมบ่ นั ทกึ ซื้อแตย่ งั มีภาระทตี่ อ้ งจา่ ยชาระค่าสนิ ค้า) ตน้ ทุนขาย (กรณีนับสต๊อคสนิ คา้ แลว้ พบสนิ ค้าเกนิ ) วิธบี ันทกึ บัญชแี บบส้ินงวด (Periodic Inventory Method) เดบติ ซือ้ สินค้า ภาษซี อื้ (ต้องห้าม) เครดติ เจา้ หนกี้ ารคา้ (กรณีทยี่ ังไม่ไดบ้ ันทกึ ซือ้ แตย่ ังมีภาระท่ีต้องจ่ายชาระค่าสินค้า) และปรับปรุงมูลค่าสินค้าคงเหลอื ปลายงวดใหม่อกี ครั้งดว้ ยยอดที่ถกู ตอ้ งจากการตรวจนบั
สาขาวิชา : การบัญชี ใบทดสอบ หน้าที่ แผน่ ท่ี 1/2 45 ชื่อวชิ า : การบญั ชีตน้ ทนุ 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : การบัญชเี ก่ยี วกับวตั ถุดิบ คาชี้แจง จงเลือกคาตอบทถ่ี กู ต้องท่สี ุดเพียงคาตอบเดียว แล้วทาเครอื่ งหมาย ลงใน กระ
สาขาวิชา : การบัญชี ใบทดสอบ หนา้ ที่ แผน่ ที่ 2/2 46 ชอ่ื วชิ า : การบญั ชตี ้นทนุ 1 รหสั วชิ า 3201-2003 งาน : การบัญชเี กีย่ วกบั วัตถดุ ิบ
สาขาวิชา : การบญั ชี ใบเฉลยใบทดสอบ หนา้ ที่ แผน่ ท่ี 1/1 47 ช่ือวิชา : การบัญชีต้นทนุ 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : การบญั ชเี กย่ี วกับวัตถุดบิ
สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบมอบหมายงาน หนา้ ที่ แผ่นท่ี 1/1 48 ช่ือวชิ า : การบัญชีตน้ ทุน 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : การบัญชเี ก่ียวกับวตั ถุดบิ จดุ ประสงค์การมอบงาน 1. เพอื่ ให้ผู้เรยี นรูจ้ กั ใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ 2. เพอ่ื ให้ผู้เรียนได้คน้ คว้าหาความร้เู พิ่มเติม 3. เพ่ือให้ผ้เู รยี นมีความรับผิดชอบต่อตนเอง แนวทางการปฏบิ ตั ิงาน ครมู อบหมายงาน นกั เรียนคน้ คว้า นกั เรยี นนาเสนอ นักเรียนสง่ ผลงาน เป็นการบา้ น งานตนเอง ครูใหค้ ะแนน แหลง่ ค้นคว้า หนังสอื เรียน ตาราเรยี น คาถาม/ปัญหา 1. ในการคน้ ควา้ งานนักเรียนพบปัญหาอะไรบ้าง 2. นกั เรยี นแกป้ ญั หาอย่างไร 3. นกั เรยี นไดอ้ ะไรจากการไปค้นคว้างาน กาหนดเวลาส่งงาน กอ่ นครูสอนคาบตอ่ ไป
แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 4 รวม 12 ชว่ั โมง ชอื่ หน่วย การบญั ชเี กีย่ วกบั ค่าแรง สอนครง้ั ที่ 10-12 เรอ่ื ง การบัญชีเกยี่ วกับคา่ แรง จานวน 12 ช่ัวโมง 1. สาระสาคัญ ในการผลิตสนิ ค้านน้ั จะเปน็ การแปรสภาพวัตถดุ บิ ให้เปน็ สนิ คา้ สาเรจ็ รปู ซึ่งปจั จยั ในการแปรสภาพ วัตถุดบิ อยา่ งหน่ึงกค็ อื คา่ แรงงาน อันเปน็ ส่วนประกอบท่ีสาคัญหน่งึ ในกระบวนการผลิต โดยทว่ั ไป กิจการอุตสาหกรรมมีการแบ่งค่าแรงงานเปน็ คา่ แรงงานท่ีใชใ้ นการผลติ สินค้าโดยตรง และค่าแรงงานที่ ไมไ่ ดใ้ ช้ในการผลติ สินค้าโดยตรง ซ่งึ กจิ การจะแบง่ แยกคา่ แรงงานเปน็ แผนกต่าง ๆ ตามหนา้ ท่ีและความ ชานาญงาน โดยใช้พนกั งานทางานในแผนกตา่ ง ๆ ทีม่ เี ป็นจานวนมากจึงต้องมกี ารบรหิ ารงานและ ควบคมุ แรงงานใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสูงสดุ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย บอกความหมายและจาแนกค่าแรงเพื่อทาบัญชีได้ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (มาตรฐานการเรยี นรู้) 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 อธบิ ายความหมายของค่าแรงและการควบคุมเกี่ยวกบั คา่ แรงได้ 3.1.2 คานวณตน้ ทุนค่าแรงได้ 3.1.3 วิเคราะหแ์ ละจาแนกประเภทของค่าแรงได้ 3.1.4 บันทึกบัญชเี กีย่ วกบั คา่ แรงได้ 3.1.5 อธิบายเงนิ พิเศษตา่ งๆ และ สวสั ดิการ และบันทึกบญั ชีได้ 3.2 ดา้ นทกั ษะ 3.2.1 อธิบายความหมายและการแบง่ ประเภทค่าแรงงานได้ 3.2.2 คานวณจาแนกประเภทและการจา่ ยคา่ แรงงานได้ 3.3 คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ 3.3.1 นกั ศกึ ษาเหน็ ความสาคญั และเข้าใจถึงเหตผุ ลของการทาบญั ชี 3.3.2 นกั ศึกษามีความรบั ผิดชอบต่อหน้าที่ 3.4 การประยกุ ต์ 3D และนอ้ มนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3.4.1 ผู้เรยี นมีการทาเป็นขั้นตอน การทาตามลาดบั ขน้ั 3.4.2 ผ้เู รียนมีวินยั มีความประหยัด 3.4.3 ผสู้ อนสอดแทรกปรัชญาเกีย่ วกับความประหยัดอดออม
แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนว่ ยที่ 4 รวม 12 ช่วั โมง ช่อื หน่วย การบญั ชีเก่ียวกับค่าแรง สอนคร้ังที่ 1-3 เร่อื ง การบัญชีเก่ียวกบั คา่ แรง จานวน 12 ช่วั โมง 4. เนอ้ื หาสาระการเรยี นรู้ 4.1 ความหมายของค่าแรง 4.2 การควบคุมเก่ยี วกับคา่ แรง 4.3 การคานวณต้นทุนคา่ แรง 4.4 การวเิ คราะห์และจาแนกประเภทของค่าแรง 4.5 การบนั ทึกบญั ชีเกีย่ วกับค่าแรง 4.6 เงินพเิ ศษตา่ งๆ และ สวัสดิการ 5 กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน(M) นาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยกลา่ วถึงการบญั ชเี กย่ี วกบั คา่ แรง 5.2 ขน้ั การจัดเรียนรู้(I) 5.2.1 ทาแบบประเมนิ ผลก่อนการเรียน 5.2.2 ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกนั อภิปรายเรอื่ งเกี่ยวกบั การบญั ชีเกีย่ วกบั ค่าแรง 5.2.3 ผเู้ รียนศกึ ษาใบความรู้ 5.3 ขัน้ สรปุ (A) 5.3.1 แบ่งกลุ่มผเู้ รยี นมารายงานหนา้ ช้ันเรยี น 5.4 การวดั ผลและประเมินผล(P) 5.4.1 การสงั เกต ความต้งั ใจและสนใจของผู้เรยี น ความรว่ มมอื ในการอภิปราย การแสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตุผล 5.4.2 การตรวจผลงานภาคปฏบิ ัติ กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ แบบทดสอบเพอื่ ประเมินผลหลงั การเรียนรู้ 5.4.3 การทดสอบดว้ ยวาจาและขอ้ เขยี น ตรวจแบบทดสอบ ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 ตัง้ คาถามใหต้ อบและอธิบาย ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80
แผนการจดั การเรยี นรูม้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยที่ 4 รวม 12 ช่ัวโมง ชอ่ื หน่วย การบญั ชีเก่ียวกบั ค่าแรง สอนครง้ั ที่ 1-3 เรอื่ ง การบัญชีเก่ยี วกับค่าแรง จานวน 12 ชั่วโมง 6. สอ่ื การการเรยี นร/ู้ แหล่งการเรียนรู้ 6.1 ส่อื สิ่งพิมพ์ หนังสือเรียนวิชาการบัญชตี น้ ทนุ 1 : ของสานักพิมพ์เอมพันธ์ เอกสารประกอบการสอนการบญั ชีต้นทนุ 1 : ของรชต สายสวสั ดิ์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุดรธานี 7. เอกสารประกอบการจัดการเรยี นรู้ (ใบความรู้ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 7.1 ใบความรู้ 7.2 ใบทดสอบ 7.3 ใบส่งั งาน 8. การบูรณาการ/ความสัมพันธก์ ับวชิ าอ่ืน 8.1 วชิ าภาษาไทย เก่ยี วกบั การใช้ภาษาด้านการพดู การอ่าน และการเขียน 8.2 วชิ าคณิตศาสตร์ เกยี่ วกับการคานวณ 8.3 วชิ าภาษาอังกฤษ ด้านคาศพั ท์ทางบัญชี 9. การวัดผลและประเมินผล 9.1 วิธีการ ดาเนนิ การวัดผลในช่วงเวลา (1) ก่อนเรียน โดยใช้แบบทดสอบกอ่ นเรียน (2) ระหวา่ งเรยี น โดยการถามตอบและการสงั เกตการณ์ปฏิบัตงิ าน (3) หลังเสรจ็ ส้นิ การเรยี น โดยทาแบบทดสอบ 9.2 เกณฑก์ ารประเมิน (1) ผู้เรยี นมเี วลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 (2) ผู้เรียนมีคะแนนจากแบบทดสอบหลงั เรียนรอ้ ยละ 80 (3) ผเู้ รยี นบันทกึ บัญชีการซือ้ ขายสนิ ค้าสมบรู ณ์และถูกตอ้ งทุกคร้งั
แผนการจดั การเรยี นร้มู ่งุ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 4 รวม 12 ช่วั โมง ชอ่ื หน่วย การบัญชีเก่ียวกบั คา่ แรง สอนคร้ังที่ 1-3 เรื่อง การบญั ชเี กย่ี วกับค่าแรง จานวน 12 ชัว่ โมง 10. บันทึกหลังการเรียนรู้ 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ 1. เนื้อหาสอดคล้องกบั จุดประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 2. สามารถนาไปใชป้ ฏบิ ตั กิ ารสอนได้ครบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. สือ่ การสอนเหมาะสมดี 10.2 ผลการเรยี นรู้ของผ้เู รยี น 1. นักศกึ ษาส่วนใหญ่มคี วามสนใจใฝร่ ู้ เข้าใจในบทเรยี นร่วมกัน อภิปราย ตอบคาถาม ในกลุ่ม และร่วมกนั แสดงความคิดเห็น 2. นกั ศกึ ษากระตอื รือร้นและรบั ผิดชอบในการทางานกลมุ่ เพ่ือใหง้ านสาเร็จทนั เวลา ท่ีกาหนด 10.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนรู้ 1. สอนเน้อื หาได้ครบตามหลกั สูตร 2. แผนการสอนและวธิ ีการสอนครอบคลุมเนื้อหาการสอนทาใหผ้ สู้ อนสอนได้อยา่ งม่นั ใจ 3. สอนไดท้ ันตามเวลาท่ีกาหนด ……………………………………………… ผูบ้ นั ทึกการสอน
สาขาวิชา : การบญั ชี ใบความรู้ หน้าท่ี แผ่นท่ี 1/5 53 ชือ่ วิชา : การบัญชตี ้นทุน 1 รหสั วชิ า 3201-2003 งาน : การบญั ชเี กย่ี วกับคา่ แรง จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายความหมายของค่าแรงและการควบคมุ เกี่ยวกับคา่ แรงได้ 2. คานวณต้นทุนคา่ แรงได้ 3. วเิ คราะหแ์ ละจาแนกประเภทของค่าแรงได้ 4. บันทึกบญั ชเี กี่ยวกบั ค่าแรงได้ 5. อธิบายเงินพิเศษต่างๆ และ สวัสดกิ าร และบันทึกบัญชีได้ เน้อื หาสาระ 1. ความหมายของค่าแรง คา่ แรงงาน หมายถึง คา่ จ้าง (Wages) และเงนิ เดือน (Salaries) ที่กจิ การจา่ ยให้แกล่ กู จา้ ง ในการจา่ ยคา่ จา้ งอาจจา่ ย เป็นรายชวั่ โมง (Hourly) รายวัน (Daily) หรือตามหนว่ ยทผ่ี ลิตได้ (Piecework) สว่ นเงนิ เดือนมักจะจา่ ยเดอื นละครง้ั ลกั ษณะของคา่ แรงงาน แบง่ ออกเปน็ 2 ลกั ษณะ คอื คา่ แรงงานทางตรงและคา่ แรงงานทางอ้อม 1.1 คา่ แรงงานทางตรง (Direct labor) หมายถึง คา่ แรงงานตา่ ง ๆ ท่จี ่ายใหแ้ ก่คนงานหรือลกู จา้ งทีท่ าหน้าทเ่ี กย่ี วกับ การผลติ สนิ ค้าสาเรจ็ รปู โดยตรง รวมทั้งเปน็ ค่าแรงงานทม่ี ีจานวนมากเม่อื เทยี บกบั คา่ แรงงานทางอ้อมในการผลิตสินค้า หนว่ ยหนง่ึ ๆ และจดั เป็นค่าแรงงานส่วนสาคญั ในการแปรรูปวัตถดุ ิบให้เปน็ สินคา้ สาเรจ็ รปู เชน่ คนงานท่ที างานเกยี่ วกับ การควบคมุ เคร่อื งจักรท่ใี ชใ้ นการผลติ กค็ วรถอื เปน็ แรงงานทางตรง พนกั งานในสายการประกอบ เปน็ ต้น 1.2 คา่ แรงงานทางออ้ ม (Indirect labor) หมายถงึ คา่ แรงงานทไ่ี มเ่ กี่ยวขอ้ งกบั ค่าแรงงานทางตรงท่ใี ชใ้ นการผลิต สนิ คา้ เชน่ เงนิ เดอื นผคู้ วบคุมโรงงาน เงินเดอื นพนักงานทาความสะอาดเครื่องจักร และโรงงาน พนกั งานตรวจสอบ คณุ ภาพ ช่างซ่อมบารงุ ตลอดจนตน้ ทนุ ที่เกย่ี วขอ้ งกับคนงาน เช่น ค่าภาษที อ่ี อกใหล้ ูกจา้ ง สวัสดกิ ารตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ ซึ่ง คา่ แรงงานทางออ้ มเหลา่ น้ีจะถือเปน็ ส่วนหนึง่ ของคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต ในการพจิ ารณาค่าแรงงานวา่ เปน็ คา่ แรงงานทางตรงหรือคา่ แรงงานทางอ้อม อกี ประเดน็ หน่งึ ก็คอื คา่ แรงงานทางตรง จะมลี ักษณะสาคัญ คือ เป็นต้นทนุ ท่ีเปน็ ส่วนประกอบสาคญั ของกระบวนการการผลติ สินค้าโดยตรง และ สามารถระบไุ ด้ อยา่ งชัดเจนว่าเปน็ ของสนิ คา้ ชนดิ ใด มจี านวนชัว่ โมงในการผลิตกี่ชั่วโมงและสามารถคานวณคา่ แรงงานใหก้ บั พนักงานได้ ชัดเจน สามารถระบุได้ว่าเปน็ ต้นทุนของสนิ ค้าชนิดใดชนิดหนึ่งจานวนเทา่ ใด 2. การควบคมุ เก่ียวกับค่าแรง การควบคุมคา่ แรง สาหรบั ข้นั ตอนเก่ียวกับคา่ แรงงานนนั้ จะมีหน่วยงานภายในทเี่ กย่ี วขอ้ งดังน้ี 1. แผนกบุคคล (Personal Department) มีหน้าทตี่ ดั หาแรงงาน การเก็บเวลาการทางาน กาหนดอตั รา ค่าจ้างของพนักงาน นอกจากน้ีแผนกบุคคลยังมีหน้าทีใ่ นการควบคมุ การทางานของพนกั งาน รวบรวมเวลาทางานของ พนกั งานในแตล่ ะวนั
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู้ หน้าที่ แผ่นท่ี 2/5 54 ชอื่ วชิ า : การบญั ชตี ้นทุน 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : การบญั ชเี กีย่ วกับค่าแรง 2. แผนกบญั ชี (Accounting Department) มีหน้าทีใ่ นการคานวณ จาแนก และบันทึกบัญชีคา่ แรงงาน โดยนาข้อมูลจากแผนกบุคคลมาบนั ทกึ รายการบัญชี และจดั ทารายละเอยี ดทเี่ กีย่ วขอ้ ง แบ่งหน้าที่ออกเป็น 3 ฝา่ ย ดังนี้ ฝ่ายบัญชเี งินเดอื นและค่าแรง เมอื่ ไดร้ ับรายงานการปฏิบัติงานจากแผนกบุคคลแล้วจะคานวณคา่ จ้าง ภาษีเงนิ ไดห้ ัก ณ ที่จ่าย เงินประกันสงั คม รายการอน่ื ๆ รวมท้งั บนั ทึกรายการและจานวนเงนิ ต่างๆ ลงในสมดุ เงนิ เดือนและคา่ แรงแล้วผ่าน รายการจากสมดุ เงินเดือนและคา่ แรงไปยังบญั ชีเงนิ ได้ของพนกั งานแต่ละคน นอกจากน้ยี ังสง่ สมุดเงนิ เดือนและคา่ แรง ใหแ้ ก่ฝา่ ยบัญชเี จา้ หนี้ด้วย ฝา่ ยบญั ชเี จา้ หนี้ เม่ือไดร้ ับสมุดเงนิ เดือนและค่าแรงจากฝ่ายบัญชีเงินเดอื นและคา่ แรงแลว้ จะทาใบสาคัญจ่ายข้ึน 2 ฉบับ คือ ใบที่ 1 นาส่งให้ฝ่ายการเงนิ พร้อมสมดุ เงนิ เดอื นและค่าแรงเพ่ือรอจา่ ยเงนิ และใบที่ 2 สาหรับเกบ็ เขา้ แฟ้ม ไวท้ ่ีแผนกของตน ฝา่ ยบัญชตี น้ ทนุ เม่อื ได้รบั รายงานจากแผนกบคุ คลก็จะทาการแยกค่าแรงแตล่ ะประเภทของกระบวนการผลิตเพื่อ คานวณตน้ ทุนการผลิต แนวทางการลดต้นทนุ คา่ แรงงาน เพ่ือให้การบริหารตน้ ทุนค่าแรงงานมปี ระสทิ ธิภาพสงู สุด กิจการตอ้ งดาเนนิ มาตรการหลายดา้ นพร้อมๆกัน ตอ่ ไปนี้เปน็ แนวทางท่อี าจนามาใช้เพือ่ ลดตน้ ทุนคา่ แรงงานในกรณีที่ยงั สงู กว่าเกณฑเ์ ฉล่ยี - การควบคุมอตั ราการเพิม่ เงินเดือนอย่างเหมาะสม - เพิม่ ประสิทธิภาพการผลิตของพนกั งาน - ควบคมุ การเพมิ่ จานวนพนักงาน - การฝึกอบรมและพฒั นาบคุ ลากรใหม้ ีความรคู้ วามสามารถเพม่ิ ขน้ึ - การจา้ งแรงงานชว่ั คราวในชว่ งความต้องการผลผลิตสงู - การให้พนกั งานรายวันพักงานในชว่ งผลผลิตต่า - การปรับปรุงกระบวนการการผลิตเพื่อลดตน้ ทุนคา่ แรงงาน - การยา้ ยฐานการผลิตไปยังประเทศทมี่ คี า่ แรงตา่ - การลดขนาดองค์กรให้เหมาะสมกับสภาวะการแขง่ ขนั ทางธุรกจิ
สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความรู้ หนา้ ที่ แผ่นที่ 3/5 55 ชอื่ วชิ า : การบัญชีตน้ ทุน 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : การบญั ชีเกยี่ วกับคา่ แรง 3. การคานวณต้นทุนค่าแรง การคานวณค่าแรง จะแยกการคานวณเปน็ 2 ขั้นตอน คอื 3.1 คา่ แรงงานข้นั ตน้ (Gross payrolls) เมือ่ พนักงานบญั ชีรวบรวมคา่ แรงงานของพนักงานจากบัตรลงเวลาทางานก็จะทาการคานวณค่าแรงงานต่างๆ ซง่ึ พิจารณาจากชั่วโมงการทางาน หรือตามชิ้นงาน การคานวณคา่ แรงงานดังกล่าวจะประกอบดว้ ยค่าแรงงานปกติ และ คา่ แรงงานล่วงเวลา คา่ แรงงานปกติ มสี ตู รในการคานวณ ดังนี้ - คานวณค่าแรงตามชวั่ โมงการทางาน คา่ แรงงานปกติ = จานวนชว่ั โมงการทางาน X อตั ราค่าแรงงานรายชัว่ โมง - คานวณคา่ แรงตามชน้ิ งาน ค่าแรงงานปกติ = จานวนชน้ิ งานทผี่ ลิตได้ X อัตราคา่ แรงงานตามช้นิ งาน ค่าแรงงานลว่ งเวลา คา่ แรงงานล่วงเวลาเกิดจากการท่พี นกั งานทางานเกนิ ชว่ั โมงทางานปกติซ่ึงตามพระราชบัญญตั คิ ุ้มครอง แรงงาน พ.ศ. 2541 ไดบ้ ัญญตั เิ ก่ียวกบั ชวั่ โมงทางานปกติของกิจการอุตสาหกรรมวา่ นายจา้ งจะตอ้ งกาหนดช่วั โมงการ ทางานปกตไิ ว้เท่าใดกไ็ ด้แต่ต้องไมเ่ กนิ สัปดาห์ละ 48 ชัว่ โมง ดงั นัน้ ค่าแรงงานขั้นต้น = ค่าแรงงานปกติ + ค่าแรงงานลว่ งเวลา 3.2 ค่าแรงงานสุทธิ (Net Payrolls) การคานวณค่าแรงงานของพนกั งาน ไมว่ ่าจะจ่ายตามชัว่ โมงการทางาน รายชิ้นงานท่ผี ลิต หรอื เงินเดอื น นายจา้ งจาเปน็ ตอ้ งหักภาษี ณ ท่จี ่าย จากค่าจา้ งท่ีจ่ายให้แกพ่ นักงานเพอื่ นาสง่ กรมสรรพากร ซง่ึ ภาษหี ัก ณ ทีจ่ ่ายของลกู จา้ งแต่ละคนจะมจี านวนที่แตกต่างกันไปตามจานวนรายได้ สถานภาพ และกิจกรรมต่างๆทจ่ี ะได้รับสิทธิ เช่น คู่สมรส บุตร บุพการี ประกันชีวติ กองทุนสารอง เลี้ยงชีพ ประกนั สังคม เงินบรจิ าค เป็นต้น ดงั นั้นคา่ แรงงานสุทธิ คือ ค่าแรงงานขน้ั ตน้ หกั ภาษีหัก ณ ที่ จา่ ย, เงนิ ประกนั สงั คม ฯลฯ คา่ แรงงานสทุ ธิ = คา่ แรงงานขน้ั ตน้ – (ภาษเี งนิ ไดห้ กั ณ ทจ่ี า่ ย + เงนิ ประกนั สังคม + เงนิ กองทนุ สารอง เลย้ี งชพี + รายการหักอน่ื ๆ)
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู้ หน้าที่ แผ่นที่ 4/5 56 ชือ่ วชิ า : การบญั ชตี น้ ทุน 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : การบญั ชเี กย่ี วกบั ค่าแรง 4. การวเิ คราะห์และจาแนกประเภทของค่าแรง เม่ือพนักงานแผนกเงินเดอื นและคา่ แรงงานทาการคานวณเงินเดอื นและคา่ แรงงานของพนกั งานเรียบร้อยแล้ว จะส่ง ทะเบียนเงนิ เดือนและคา่ แรงงานใหก้ ับพนกั งานแผนกบญั ชี เพื่อทาการจาแนกประเภทของคา่ แรงงานว่าเป็นคา่ แรงงานใน ลักษณะใด เปน็ คา่ แรงงานทางตรงหรือค่าแรงงานทางอ้อม เพอ่ื ใหพ้ นกั งานแผนกบญั ชีได้ทาการบันทึกบญั ชีเก่ียวกับ คา่ แรงงานไดถ้ ูกต้องตามหลักการบญั ชี และนาไปคานวณหาตน้ ทนุ การผลิตอย่างถูกต้อง หรอื ให้มีความใกล้เคยี งกบั ความเปน็ จรงิ มากท่สี ดุ การจาแนกประเภทคา่ แรงงาน สามารถพจิ ารณาจากบตั รบนั ทกึ เวลาทางานของพนกั งานแตล่ ะคน โดยการวเิ คราะห์ วา่ พนักงานทางานในลักษณะใด แผนกใด เช่น - ทางานในแผนกผลติ หรอื แผนกบริการ คา่ แรงงานท่ีจา่ ยให้ถอื วา่ เปน็ ค่าแรงงานทางตรง - ทางานในแผนกบรกิ ารหรอื ถ้าเปน็ เงนิ เดอื นของหวั หนา้ งานในโรงงาน ถือวา่ เป็นค่าแรงงานทางอ้อม 5. การบันทึกบัญชีเก่ียวกับค่าแรง การบันทึกบญั ชเี กี่ยวกบั ค่าแรงงาน จะแบง่ ไปตามขั้นตอนที่เกี่ยวขอ้ ง กบั ค่าแรงงาน เริ่มตง้ั แต่การคานวณ คา่ แรงงานขน้ั ต้น คานวณรายการหกั ต่างๆ เพอื่ หาว่าเงนิ ได้สุทธเิ ทา่ กับเท่าใด และจาแนกประเภทคา่ แรงงานเพื่อหาวา่ เป็นค่าแรงงานทางตรง หรือค่าแรงงานทางออ้ ม และทาการจ่ายคา่ แรงงาน และนาขอ้ มูลตา่ งๆ เหล่าน้ไี ปทาการบันทึก บญั ชี โดยแตล่ ะขั้นตอนมรี ายละเอียด ดงั น้ี 1. บนั ทกึ คา่ แรงงานข้ันต้น รายการหกั ต่างๆ และค่าแรงหรือเงินไดส้ ุทธิ การบนั ทกึ บญั ชีค่าแรงงาน สามารถบนั ทึกบัญชไี ด้ดังนี้ เดบิต ค่าแรงงาน xxx เครดิต เงนิ สด หรือ คา่ แรงงานค้างจา่ ย xxx ภาษเี งนิ ไดห้ ัก ณ ทจ่ี ่าย xxx เงนิ กองทุนประกนั สังคม xxx (รายการหักอ่ืนๆ ถา้ มี) xxx 2. บนั ทึกการจาแนกประเภทค่าแรงงาน เดบิต งานระหวา่ งทา xxx ค่าใช้จา่ ยการผลิต xxx เครดติ ค่าแรงงาน xxx
สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู้ หน้าท่ี แผ่นที่ 5/5 57 ชอ่ื วชิ า : การบญั ชตี น้ ทนุ 1 รหสั วชิ า 3201-2003 งาน : การบญั ชเี กี่ยวกบั ค่าแรง 3. บนั ทกึ การจา่ ยค่าแรงงานให้กับพนักงาน เดบติ คา่ แรงงานคา้ งจา่ ย xxx เครดิต เงินสด หรอื เงินฝากธนาคาร xxx ในกรณที ีก่ จิ การมกี ารใช้ระบบใบสาคญั จ่ายกบั คา่ ใช้จ่ายต่างๆ ทเ่ี กิดขึน้ บนั ทึกบัญชีได้ดงั น้ี เดบิต ค่าแรงงาน xxx เครดิต คา่ แรงงานค้างจ่าย xxx ภาษีเงนิ ได้หกั ณ ที่จา่ ย xxx เงินกองทนุ ประกันสังคม xxx เงินสารองเลย้ี งชีพ xxx 6. เงนิ พิเศษต่างๆ และสวัสดกิ าร 6.1 ค่าแรงงานล่วงเวลา (Overtime) 6.1.1 เปน็ ไปตามแผนงานท่กี าหนดไวล้ ว่ งหนา้ จดั เป็น “งานระหว่างผลติ ” 6.1.2 ไมเ่ ปน็ ไปตามแผนท่ีไดก้ าหนดขึ้นล่วงหนา้ จัดเป็น “คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ ” 6.2 เงินโบนสั ให้แกพ่ นกั งาน(Bonus) จัดเป็น “คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ” 6.3 วันหยดุ พกั ผอ่ นประจาปี(Vacation Pay) จดั เปน็ “ค่าใชจ้ ่ายการผลติ ” 6.4 สวัสดกิ ารต่างๆ (Welfare) เชน่ ค่าอาหารกลางวนั , คา่ รกั ษาพยาบาล จัดเป็น“คา่ ใชจ้ ่ายการผลติ ” 6.5 เงนิ ชดเชยเม่อื ออกจากงาน(Severance Pay) จดั เป็น “ค่าใชจ้ า่ ยการผลติ ”
สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบทดสอบ หนา้ ที่ แผน่ ท่ี 1/2 58 ชือ่ วชิ า : การบัญชตี น้ ทนุ 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : การบญั ชเี กี่ยวกับคา่ แรง คาช้แี จง จงเลอื กคาตอบท่ถี กู ตอ้ งท่สี ุดเพียงคาตอบเดยี ว แล้วทาเครอ่ื งหมาย ลงในกระดาษคาตอบ
สาขาวิชา : การบญั ชี ใบทดสอบ หนา้ ที่ แผน่ ที่ 2/2 59 ชอ่ื วชิ า : การบัญชตี ้นทุน 1 รหสั วิชา 3201-2003 งาน : การบัญชเี ก่ยี วกับค่าแรง
สาขาวิชา : การบญั ชี ใบเฉลยใบทดสอบ หนา้ ท่ี แผน่ ท่ี 1/1 60 ชื่อวิชา : การบญั ชีต้นทุน 1 รหัสวิชา 3201-2003 งาน : การบัญชเี ก่ียวกบั คา่ แรง
สาขาวิชา : การบญั ชี ใบมอบหมายงาน หนา้ ท่ี แผ่นที่ 1/1 61 ชื่อวิชา : การบญั ชีตน้ ทุน 1 รหัสวชิ า 3201-2003 งาน : การบัญชเี กย่ี วกับค่าแรง จุดประสงค์การมอบงาน 1. เพือ่ ให้ผ้เู รียนรจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ 2. เพือ่ ให้ผู้เรยี นไดค้ ้นคว้าหาความรเู้ พม่ิ เติม 3. เพื่อให้ผ้เู รยี นมคี วามรบั ผิดชอบต่อตนเอง แนวทางการปฏิบตั ิงาน ครูมอบหมายงาน นกั เรยี นค้นควา้ นกั เรยี นนาเสนอ นกั เรียนสง่ ผลงาน เปน็ การบา้ น งานตนเอง ครใู หค้ ะแนน แหล่งคน้ ควา้ หนังสือเรียน ตาราเรยี น คาถาม/ปญั หา 1. ในการคน้ คว้างานนกั เรยี นพบปัญหาอะไรบ้าง 2. นกั เรยี นแกป้ ญั หาอยา่ งไร 3. นักเรยี นไดอ้ ะไรจากการไปคน้ คว้างาน กาหนดเวลาส่งงาน ก่อนครูสอนคาบต่อไป
แผนการจัดการเรยี นรู้ม่งุ เน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 5 รวม 12 ช่วั โมง ช่ือหนว่ ย การบัญชีเก่ียวกบั ค่าใช้จา่ ยในการผลติ สอนครัง้ ที่ 13-15 เรือ่ ง การบญั ชีเก่ียวกับค่าใช้จ่ายในการผลิต จานวน 12 ช่ัวโมง 1. สาระสาคญั ค่าใช้จา่ ยในการผลติ เปน็ สว่ นประกอบที่สาคัญอกี อยา่ งหนงึ่ ของต้นทนุ ในการผลติ สนิ คา้ ตน้ ทนุ ท่ีคดิ เขา้ เปน็ ค่าใช้จ่ายในการผลติ มหี ลายประเภท เชน่ วัตถดุ บิ ทางออ้ ม ค่าแรงงานทางออ้ ม และคา่ ใชจ้ ่ายใน การผลิตอนื่ ๆ อีก ได้แก่ ค่าสาธารณปู โภค คา่ ซอ่ มแซมบารุงรักษา คา่ เบ้ียประกนั คา่ เสื่อมราคาของ สนิ ทรัพยใ์ นโรงงาน เปน็ ต้น การคานวณคา่ ใช้จา่ ยในการผลติ เขา้ เปน็ ต้นทุนการผลติ โดยใช้ระบบตน้ ทุนจริงเป็นการคานวณ ค่าใช้จา่ ยในการผลติ ทเ่ี กิดขนึ้ จรงิ ในงวดน้นั ๆ ซงึ่ ตอ้ งรอจนสนิ้ ปจี ึงทาให้เกิดการคานวณตน้ ทนุ ลา่ ล้า ดังนน้ั เพอื่ ให้ทราบต้นทุนการผลติ สินค้าได้ทันตามความต้องการ กิจการโดยทวั่ ไปจึงนยิ มกาหนดเป็นอตั รา คา่ ใช้จา่ ยในการผลิตคิดเข้างานขน้ึ ล่วงหนา้ เพอ่ื ชว่ ยแกป้ ัญหาในการคานวณต้นทุนล่าชา้ 2. สมรรถนะประจาหน่วย บอกความหมายของค่าใช้จ่ายในการผลิตได้ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (มาตรฐานการเรียนรู้) 3.1 ด้านความรู้ 3.1.1 อธบิ ายความหมายและลักษณะของคา่ ใช้จา่ ยในการผลิตได้ 3.1.2 อธิบายลกั ษณะการเกิดค่าใชจ้ ่ายในการผลติ จรงิ ได้ 3.1.3 บันทึกบัญชีคา่ ใช้จา่ ยในการผลิตที่เกดิ ข้ึนจรงิ ได้ 3.1.4 คานวณอัตราค่าใชจ้ ่ายในการผลิตคิดเข้างานได้ 3.1.5 คานวณและบนั ทกึ บัญชี เกย่ี วกบั คา่ ใช้จ่ายในการผลิตคดิ เขา้ งานได้ 3.1.6 ปนั สว่ นค่าใชจ้ ่ายของแผนกบรกิ ารใหแ้ ผนกผลติ ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ 3.2.1 บอกความหมายและการแบ่งแยกประเภทคา่ ใชจ้ า่ ยในการผลิตได้ 3.2.2 บนั ทกึ บัญชีค่าใช้จ่ายในการผลิตได้ 3.2.3 บอกคา่ ใชจ้ า่ ยในการผลิตท่เี กิดขึ้นจริงและคา่ ใช้จา่ ยในการผลติ จัดสรรได้ 3.3 คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ 3.3.1 นกั ศึกษาเหน็ ความสาคญั และเข้าใจถึงเหตุผลของการทาบัญชี 3.3.2 นกั ศกึ ษามีความรบั ผิดชอบต่อหน้าที่
แผนการจดั การเรยี นรมู้ งุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 5 รวม 12 ชั่วโมง ชือ่ หน่วย การบัญชเี กีย่ วกับค่าใช้จา่ ยในการผลิต สอนคร้ังท่ี 13-15 เรื่อง การบัญชเี กย่ี วกบั ค่าใช้จ่ายในการผลิต จานวน 12 ชว่ั โมง 3.4 การประยุกต์ 3D และนอ้ มนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 3.4.1 ผู้เรยี นมกี ารทาเป็นขน้ั ตอน การทาตามลาดับข้นั 3.4.2 ผเู้ รียนมวี นิ ยั มคี วามประหยัด 3.4.3 ผสู้ อนสอดแทรกปรัชญาเก่ียวกับความประหยัดอดออม 4. เนือ้ หาสาระการเรียนรู้ 4.1 ความหมายของค่าใช้จา่ ยในการผลติ 4.2 คา่ ใชจ้ ่ายในการผลิตของแผนกผลิต 4.3 คา่ ใช้จ่ายในการผลิตของแผนกบริการ 4.4 ลกั ษณะการเกิดค่าใช้จา่ ยในการผลติ จริงและวธิ กี ารบันทึกบัญชี 4.5 ค่าใชจ้ ่ายในการผลติ คิดเข้างาน 4.6 การคานวณและการบนั ทึกบัญชีเกยี่ วกับค่าใชจ้ ่ายในการผลติ คิดเขา้ งาน 4.7 การปนั สว่ นค่าใชจ้ ่ายทเ่ี กดิ ขึน้ จรงิ จากแผนกบรกิ ารเขา้ สูแ่ ผนกผลิต 5 กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 ข้ันนาเขา้ สู่บทเรียน(M) นาเขา้ สู่บทเรียนโดยกล่าวถึงการบัญชเี ก่ียวกบั คา่ ใช้จ่ายในการผลิต 5.2 ขน้ั การจดั เรียนร(ู้ I) 5.2.1 ทาแบบประเมนิ ผลกอ่ นการเรียน 5.2.2 ผู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเรอ่ื งเกีย่ วกับการบัญชีเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการผลิต 5.2.3 ผเู้ รยี นศกึ ษาใบความรู้ 5.3 ข้ันสรุป(A) 5.3.1 แบง่ กลุ่มผูเ้ รียนมารายงานหนา้ ชัน้ เรียน 5.4 การวัดผลและประเมนิ ผล(P) 5.4.1 การสงั เกต ความตง้ั ใจและสนใจของผเู้ รยี น ความร่วมมอื ในการอภปิ ราย การแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ล
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131