Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สมเด็จย่ากับ การเลี้ยงดูลูก (1)

สมเด็จย่ากับ การเลี้ยงดูลูก (1)

Published by hibari098sa, 2022-06-02 06:56:26

Description: สมเด็จย่ากับ การเลี้ยงดูลูก (1)

Search

Read the Text Version

บันทึกการเลี้ยงดูบุตร ของสมเด็จย่า

คำนำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) นี้ จัดทำขึ้นเพื่อ ประกอบการเรียนการสอนในรายวิชาการเตรียมความพร้อมสู่ ความเป็นแม่มืออาชีพ ผู้จัดทำได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการ เลี้ยงลูกแบบ\"สมเด็จย่า\"ที่ทรงคุณค่าและน่ายึดถือเป็นแบบอย่าง เพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้น นำ เสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ มีภาพประกอบให้นักเรียนได้เห็น ภาพจริงประกอบการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะเป็นประโยชน์แก่นักเรียน และ ผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อย คณะผู้จัดทำ

สารบัญ หน้า 1 ๒ เรื่อง 7 พระราชประวัติ ๙ เคล็ดลับเลี้ยงลูกฉบับ.....สมเด็จย่า ๕ คำสอนของสมเด็จย่า

พระราชประวัติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีพระนามเดิมว่า “สังวาลย์” เสด็จพระราชสมภพที่เมืองนนทบุรี ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๓ ตรงกับวัน อาทิตย์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีชวด ทรงเป็นบุตรคนที่สามในพระ ชนกชื่อ “ชู” และพระชนนีชื่อ “คำ” ทรงมีพระภคินีและพระเชษฐา ร่วมพระอุทรสองคน ซึ่งถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเยาว์วัย และมีพระอนุชา คนเดียว คือคุณถมยา ซึ่งมีอายุน้อยกว่าพระองค์สองปี

พระราชประวัติ การศึกษา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเรียนหนังสือเมื่อเริ่ม แรกกับพระชนนีคำ และต่อมาทรงเข้าเรียนในโรงเรียนสำหรับเด็กหญิงที่ตั้ง ขึ้นที่วัดอนงคารามที่อยู่ใกล้บ้าน และต่อมาได้เสด็จไปเรียนหนังสือที่ โรงเรียนสตรีวิทยาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๕๖ ทรงจบชั้นประถมปีที่ ๓ เมื่อพระ ชนมายุได้ ๑๓ พรรษา และได้ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช ซึ่งเป็นโรงเรียนพยาบาลแห่งเดียวใน ประเทศไทยในขณะนั้น

๙ เคล็ดลับเลี้ยงลูกฉบับ.....สมเด็จย่า “สมเด็จย่า” หรือ “สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” ของปวงชน ชาวไทย เลี้ยงดูพระโอรสธิดาทั้ง 3 พระองค์ ด้วยความปราดเปรื่อง หลักแหลม และมีเป้ าหมายที่ชัดเจนเพื่อประเทศชาติ วิธีเลี้ยงลูกแบบ สมเด็จย่า จึงเป็นวิธีเลี้ยงลูกที่พ่อแม่ทุกคนควรนำมาเป็นแบบอย่างในการ เลี้ยงลูก ซึ่งสามารถดูได้จากพระโอรส และพระธิดาทั้งสามพระองค์ ที่ เติบโตมาเป็นบุคคลทรงคุณภาพที่ทั่วโลกให้การยกย่อง และสามารถ สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เมืองไทยเป็นอย่างมาก

๑. เลี้ยงลูกแบบสมเด็จย่า ต้องเลี้ยงอย่างมีเป้ าหมาย สมเด็จย่าทรงเป็นพระมารดา ที่มีเป้ าหมายในการเลี้ยงลูกที่ชัดเจน คือ ทรงตั้งใจพัฒนาอบรมลูก ๆ ให้ดีในทุกด้าน เพื่อให้เป็นบุคคลที่ทำ ประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ไม่คิดถึงประโยชน์ของพระองค์เอง ๒. สร้างระเบียบวินัยตั้งแต่เล็ก สมเด็จย่าทรงเน้นเรื่องวินัยในการดำเนินชีวิต หรือ “ระเบียบวินัยอย่างมี หลักการ” ซึ่งก็คือ การกำหนดขอบเขตของเวลา ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความสมดุลให้กับชีวิต ทรงวางแผนการดำเนินชีวิตให้กับพระ โอรสและพระธิดา ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เนื่องจาก เด็กที่ยังเล็กนั้น จะ ไม่มีความรู้เรื่องขอบเขตของเวลา คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องจัดสรรเวลา ให้ เพื่อสร้างวินัยให้แก่ลูก

๑๓.ประหยัดอดออมไม่ฟุ่ มเฟือย สมเด็จย่าไม่ทรงโปรดการให้พระธิดา และพระโอรส มีของมากมาย อย่างพร่ำเพรื่อ ทั้งสามพระองค์ จะได้รับของขวัญ ก็ต่อเมื่อถึงโอกาส สำคัญอย่างวันปีใหม่ และวันพระราชสมภพเท่านั้น เมื่อต้องการได้ของ เล่น หรือของใช้ที่ต้องการ จะรับสั่งให้เก็บออมเงินเพื่อซื้อเอาเอง หรือ ทรงได้รับอนุญาตให้หุ้นกันเพื่อซื้อ หรือจะทรงซื้อให้ ก็ต่อเมื่อเป็นของที่ ให้ประโยชน์ เช่น แผ่นเสียง ถ้าเป็นเพลงโปรดของแต่ละพระองค์ จะ ทรงให้เก็บเงินซื้อเอง แต่ถ้าเป็นเพื่อการศึกษา เช่น เพลงคลาสสิก จะ ทรงซื้อให้

๔. เล่นอย่างถูกวิธี เมื่อถึงเวลาเล่น สมเด็จย่าจะปล่อยให้พระโอรสและพระธิดาเล่นอย่าง อิสระ โดยทรงเน้นให้เล่นกับธรรมชาติ และสิ่งที่มีในธรรมชาติ เช่น ดิน ทราย น้ำ มากกว่าของเล่น ทรงอนุญาตให้พระโอรสเล่นจุดไฟ แต่จะ ทรงบอกวิธีในการเล่นที่ถูกต้องด้วย เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย ผลจากการที่ พระโอรส พระธิดา ได้ทรงเล่นคลุกดินคลุกทราย ได้ทำการทดลองกับ ธรรมชาติเช่นนี้ ทำให้ทั้งสามพระองค์ ได้พัฒนาความคิด และความ สามารถโดยไม่รู้ตัว

๕. เน้นการพัฒนา EQ มากกว่า IQ ทรงสอนให้พระโอรสพระธิดารู้จักความรับผิดชอบ เวลาพระโอรสหรือ พระธิดาทำผิด จะทรงเรียกมาอธิบายเหตุผล ให้เข้าใจเสียก่อน ทรงเน้น ในเรื่องการทำตัวเป็นคนดี ซื่อสัตย์ มีระเบียบวินัย และมีร่างกายที่แข็ง แรง ซึ่งต่างเป็นทักษะพื้นฐานในการเผชิญกับโลกเมื่อโตขึ้น ทรงมีหลัก ในการพัฒนาพระโอรสและพระธิดา ให้มีจริยธรรม ซื่อตรง โดยเน้นไป ที่เรื่องการพัฒนาจุดแข็งของตนเอง เคยทรงตรัสไว้ว่า ในโลกนี้ไม่มีใคร ดีได้ 100% ต้องหาจุดอ่อน และจุดแข็งให้เจอ เพื่อให้พัฒนาในได้ตรงจุด

๖. สร้างสุขอนามัยที่ดี สมเด็จย่าทรงเอาใจใส่เรื่องสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง และทรงให้ความสำคัญ กับอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ไม่โปรดให้ทุกพระองค์เสวยขนม และอาหารนอกเวลาที่กำหนด นอกจากนั้น พระองค์ยังมักพาพระโอรส และพระธิดาไปรับอากาศที่ดี ทรงให้เล่นกับธรรมชาติ มีการพบแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างจริงจัง ๗. ทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีของลูก สมเด็จย่าทรงเริ่มจากการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ทรงเป็นต้นแบบใน เรื่องการมีวินัย การรักการค้นคว้า ศึกษาหาความรู้ การประพฤติตัวถูก ต้องตามทำนองคลองธรรม เพราะเด็กเล็ก ๆ จะมีพฤติกรรมเลียบแบบ จากคนใกล้ชิด ดังนั้น ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะต้องการให้ลูกเป็นคนแบบ ไหน ก็ต้องอย่าลืมประพฤติตัวตามนั้น เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกด้วย

๘. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน สมเด็จย่าทรงโปรดให้พระโอรส และพระธิดา รับผิดชอบหน้าที่ทุกอย่าง ด้วยพระองค์เอง ตอนที่ทรงประทับที่สวิตเซอร์แลนด์ พระองค์ทรงเป็น แบบอย่างในการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ใช้รถและรถไฟสาธารณะ และพระ ดำเนินกลับมาที่แฟลต ทรงไปจ่ายตลาดด้วยพระองค์เอง โดยมีพระโอรส ธิดา ช่วยหิ้วของที่ซื้อจากตลาดกลับมา ไม่ทรงพึ่งพาผู้ช่วยมากนัก

๙. ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ สมเด็จย่าสอนพระโอรสและพระธิดาอยู่เสมอว่า ต้องทำงานให้เมืองไทย พระองค์ยังทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี ตั้งแต่เรื่องการช่วยเหลือ และ สนับสนุนคนใกล้ชิดที่เป็นคนดี แต่พบกับความเดือดร้อน ทรงอบรมพระ โอรสธิดาให้รู้จักการให้ โดยทรงตั้งกระป๋ องคนจนขึ้นมา หากพระโอรส และพระธิดาพระองค์ใด ไปทำกิจกรรมที่มีรายได้ มีกำไร จะต้องหยอด ใส่กระปุกนี้ 10% และทุกๆ สิ้นเดือน ก็จะมีการประชุมกันว่า จะนำเงินนี้ ไปทำประโยชน์อะไรต่อไป เช่น บริจาคโรงเรียนสอนคนตาบอด มอบให้ เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน เป็นต้น

๙. ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ สมเด็จย่าสอนพระโอรสและพระธิดาอยู่เสมอว่า ต้องทำงานให้เมืองไทย พระองค์ยังทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี ตั้งแต่เรื่องการช่วยเหลือ และ สนับสนุนคนใกล้ชิดที่เป็นคนดี แต่พบกับความเดือดร้อน ทรงอบรมพระ โอรสธิดาให้รู้จักการให้ โดยทรงตั้งกระป๋ องคนจนขึ้นมา หากพระโอรส และพระธิดาพระองค์ใด ไปทำกิจกรรมที่มีรายได้ มีกำไร จะต้องหยอด ใส่กระปุกนี้ 10% และทุกๆ สิ้นเดือน ก็จะมีการประชุมกันว่า จะนำเงินนี้ ไปทำประโยชน์อะไรต่อไป เช่น บริจาคโรงเรียนสอนคนตาบอด มอบให้ เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน เป็นต้น

๕ คำสอนของสมเด็จย่า บทบาทของ “แม่” ที่ควร ยึดเป็นแบบอย่าง



“ ไม่ต้อง คนนี้เป็นแม่ของเรา เราประคองเอง ” ถ้อยคำที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงตรัสต่อ ทหารรักษาพระองค์ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นพระมหา กษัตริย์ยอดกตัญญู ซึ่งมาจากการเลี้ยงดูของสมเด็จพระศรี นครินทราพระบรมราชชนนีหรือสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย พระองค์ทรงเป็นตัวอย่างของ “แม่” ที่ควรยึดถือเป็นแบบอย่าง

1. พอเพียง “อันที่จริงเธอชื่อภูมิพล ที่แปลว่า กำลังของแผ่นดิน แม่อยากให้เธออยู่ กับดิน” (พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราช ดำรัสถึงคำสอนของสมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนี) 2. คนดี “คนดีของฉันรึ จะต้องเป็นคนที่ไม่พูดปด ไม่สอพลอ ไม่อิจฉาริษยา ไม่ คดโกง และไม่มีความทะเยอทะยานบ้าๆ แต่พยายามทำหน้าที่ของตนให้ดี ในขอบเขตของศีลธรรม” (จากหนังสือ “ดั่งสายธาร ศรีนครินทร์แห่งแผ่น ดิน”)

3. ความถูกต้อง “…การรู้จักแยกแยะความดี ความเลว ความถูกต้องเหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญ มาก การมีชีวิตอยู่ในโลกได้และประสบความสำเร็จนั้น ต้องอยู่ในกรอบของ ความถูกต้องด้วย…” (จากหนังสือ “พระมามลายโศกหล้าเหลือสุข”) 4. สิทธิเสรีภาพ “ทุกคนย่อมมีสิทธิเสรีภาพที่จะกระทำสิ่งใดๆ ก็ได้จริง แต่บางสิ่งบางอย่าง เราอาจจะทำได้เมื่ออยู่ตามลำพัง และบางสิ่งบางอย่างก็กระทำไม่ได้ เพราะจะ ต้องคำนึงถึงและเคารพในสิทธิของผู้อื่นเสมอ” (จากหนังสือ “สมเด็จพระศรี นครินทราบรมราชชนนี สมเด็จย่าของแผ่นดิน”)

5. ความมีระเบียบวินัย “เด็กๆ ต้องฝึกหัดอบรมทั้งกาย ทั้งใจ ให้เข้มเเข็ง เป็นระเบียบและสุจริต เพื่อประโยชน์ของตนในภายหน้า เพราะคนที่ไม่เข้ม แข็ง ไม่สามารถควบคุมกายใจให้อยู่ในระเบียบและความดี ยากนักที่จะประสบ ความสำเร็จและความเจริญอย่างแท้จริงในชีวิต” (จากหนังสือ “สมเด็จพระศรี นครินทราบรมราชชนนี”)

คณะผู้จัดทำ นางสาวชลดา ธิมาชัย รหัสนักศึกษา 61181710210 นางสาวปรีชญาภรณ์ อาริภู รหัสนักศึกษา 61181710211 นางสาวศุภิสรา มงคล รหัสนักศึกษา 61181710215 นางสาวภัทรานันท์ ปิ่ นธุรัตน์ รหัสนักศึกษา 61181710224 นางสาวรัตติกาล พิมพ์ทรัพย์ รหัสนักศึกษา 61181710226


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook