Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 0019-แบบบันทึกข้อตกลง-PA-ตำแหน่งครูชำนาญการ -ปิยะพงษ์ โพธิสุวรรณ -ทักษะช่วยเหลือฯ

0019-แบบบันทึกข้อตกลง-PA-ตำแหน่งครูชำนาญการ -ปิยะพงษ์ โพธิสุวรรณ -ทักษะช่วยเหลือฯ

Published by พัฒนาวิชาการ, 2021-10-14 02:53:22

Description: 0019-แบบบันทึกข้อตกลง-PA-ตำแหน่งครูชำนาญการ -ปิยะพงษ์ โพธิสุวรรณ -ทักษะช่วยเหลือฯ

Search

Read the Text Version

1

2 คำอธิบายขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน (PA) คำชแ้ี จงการจัดทำข้อตกลงในการพฒั นางาน (PA) ขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน” (Performance Agreement : PA) หมายความวา่ ข้อตกลงท่ขี ้าราชการครู ไดเ้ สนอ ต่อผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา เพือ่ แสดงเจตจำนงว่าภายในรอบการประเมนิ จะพฒั นาผลลัพธ์การเรียนรู้ ของผเู้ รยี น เพ่ือให้ ผเู้ รียนมีความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะประจำวิชา คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะ ทีส่ ำคัญตามหลักสูตร ให้สูงข้ึน โดยสะท้อนใหเ้ ห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของตำแหน่งและวทิ ยฐานะ ที่ดำรงอยู่ และสอดคล้องกับเปา้ หมายและ บริบทสถานศึกษา นโยบายของส่วนราชการและกระทรวงศึกษาธิการ โดยผู้อำนวยการสถานศึกษาได้เห็นชอบให้เป็น ข้อตกลงในการพัฒนางาน ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาท่ีดำรงตำแหนง่ ครทู กุ คน ต้องจัดทำขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน ตามแบบ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด ทุกปีงบประมาณ เสนอตอ่ ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา เพือ่ พจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบ โดยข้อตกลงในการ พฒั นางาน ประกอบดว้ ย 2 สว่ น ดงั ตอ่ ไปน้ี สว่ นท่ี 1 ขอ้ ตกลงในการพฒั นางานตามมาตรฐานตำแหนง่ 1) การปฏบิ ัตงิ านตามมาตรฐานตำแหน่งครู และมีภาระงานตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 2) ผลการปฏิบัตงิ าน ด้านการจัดการเรียนรู้ ด้านการส่งเสรมิ และสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ และด้าน การพฒั นาตนเองและวิชาชีพ ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานทีเ่ สนอเป็นประเดน็ ทา้ ทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผูเ้ รยี น โดย ตอ้ งแสดงใหเ้ ห็นถงึ การปรบั ประยุกต์ การแกป้ ัญหา รเิ ริม่ พัฒนา คดิ ค้น ปรับเปลีย่ น หรือการสรา้ งการเปลีย่ นแปลง ท้ังน้ี ข้อตกลงในการพัฒนางานต้องมีความสอดคล้องกับเป้าหมาย และบริบทสถานศึกษา นโยบายของส่วนราชการและ กระทรวงศึกษาธกิ าร การจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางาน ควรกำหนดการดำเนินการในแต่ละกิจกรรมให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถ ประเมินผลการพฒั นางานตามข้อตกลงไดอ้ ย่างชัดเจนและเป็นธรรม ทั้งน้ี ในระหว่างการดำเนินการตามข้อตกลงในการ พัฒนางาน กรณีที่ข้าราชการครูย้าย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ได้รับมอบหมายให้ทำการสอนต่าง วชิ า/กลุม่ สาระการเรียนรู้ที่ทำขอ้ ตกลงไวเ้ ดมิ ใหด้ ำเนนิ การดงั น้ี 1. กรณีที่ข้าราชการครูย้ายสถานศึกษาระหว่างปีงบประมาณ ให้จัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานกับ ผู้อำนวยการสถานศกึ ษาคนใหม่ในสถานศกึ ษาทย่ี ้ายไปดำรงตำแหน่ง 2. กรณีทขี่ ้าราชการครูไดร้ บั การแตง่ ต้งั ใหร้ ักษาการในตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ใหจ้ ดั ทำข้อตกลงในการ พฒั นางานในตำแหน่งครูกบั ผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา 3. กรณีที่ข้าราชการครูได้รับมอบหมายให้ทำการสอนต่างวิชา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ทำข้อตกลงไว้เดิม ให้ ขา้ ราชการครูจัดทำรายละเอียดขอ้ ตกลงในการพฒั นางานในวิชา/กล่มุ สาระการเรียนรู้ตามทไี่ ดร้ บั มอบหมายใหม่

1 PA1/ส แบบบนั ทกึ ข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement :PA) สำหรับข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู วทิ ยฐานะครชู ำนาญการ โรงเรยี นโสตศึกษาจงั หวัดร้อยเอ็ด สำนกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 ระหวา่ งวันท่ี 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันท่ี 30 เดือน กนั ยายน พ.ศ. 2565 ผจู้ ัดทำขอ้ ตกลง ช่ือ นายปยิ ะพงษ์ โพธิสวุ รรณ ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ สถานศึกษา โรงเรียนโสตศึกษาจงั หวดั รอ้ ยเอด็ สังกัดสำนกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ไดร้ บั เงนิ เดอื นในอันดับ คศ. 2 อัตราเงนิ เดือน 27,490 บาท ประเภทห้องเรยี นที่จดั การเรียนรู้  หอ้ งเรยี นวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน  หอ้ งเรยี นปฐมวัย  หอ้ งเรียนการศกึ ษาพเิ ศษ  หอ้ งเรยี นสายวิชาชีพ  ห้องเรียนการศกึ ษานอกระบบ/ตามอธั ยาศัย ขา้ พเจา้ ขอแสดงเจตจำนงในการจดั ทำขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการ ซงึ่ เปน็ ตำแหน่งทด่ี ำรงอย่ใู นปัจจุบนั กับผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษา ไวด้ ังต่อไปน้ี สว่ นท่ี 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหนง่ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 1. ภาระงาน จะมภี าระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 1.1 ชวั่ โมงการสอน จำนวน 25 ช่ัวโมง/สปั ดาหด์ งั นี้ รายวชิ าพ้ืนฐาน จำนวน 21 ชัว่ โมง กลุ่มทักษะการเคลื่อนไหว จำนวน 5 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ กลมุ่ ทกั ษะการช่วยเหลือตนเองและสุขอนามัย จำนวน 5 ชัว่ โมง/สัปดาห์ กลุ่มทกั ษะภาษาและการส่อื สาร จำนวน 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์ กลมุ่ ทกั ษะสังคมและการดำรงชวี ติ จำนวน 3 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ กลุ่มทักษะวชิ าการ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ กลมุ่ ทักษะอาชพี จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์

2 รายวิชาเพิ่มเตมิ จำนวน 1 ชั่วโมง รายวิชาหนา้ ทพ่ี ลเมอื ง จำนวน 1 ชั่วโมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน จำนวน 3 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ กิจกรรมแนะแนว จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ กจิ กรรมลูกเสือ-ยวุ กาชาด จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ กิจกรรมชุมชุมเพอื่ สขุ ภาพ จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 1.2 งานสง่ เสริมและสนบั สนุนการจัดการเรยี นรู้ จำนวน 8 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - การมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรูท้ าวิชาชีพ จำนวน 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ - การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - การจัดทำแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบุคคล(IEP) จำนวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - การจัดทำส่ือการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.3 งานพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา จำนวน 13 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - หวั หนา้ กลมุ่ ทกั ษะการช่วยเหลอื ตนเองฯ จำนวน 6 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ - งานเวรประจำวันกลางวัน เวรนอกเวลาราชการ จำนวน 5 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ - งานทป่ี รึกษา/งานดูแลนกั เรียน/งานโฮมรูม จำนวน 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจดุ เนน้ จำนวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - กิจกรรมลดเวลาเรยี นเพ่มิ เวลารู้ จำนวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 (คาดการณ์) จำนวน 21 ชว่ั โมง 1. ภาระงาน จะมภี าระงานเป็นไปตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด จำนวน 5 ช่วั โมง/สัปดาห์ จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.1 ชัว่ โมงการสอน จำนวน 25 ชั่วโมง/สัปดาห์ดงั น้ี จำนวน 5 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ รายวชิ าพนื้ ฐาน จำนวน 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์ จำนวน 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ กลมุ่ ทกั ษะการเคลอื่ นไหว จำนวน 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ กลุ่มทกั ษะการชว่ ยเหลือตนเองและสุขอนามยั กลมุ่ ทกั ษะภาษาและการส่ือสาร กลมุ่ ทกั ษะสงั คมและการดำรงชีวิต กลุ่มทกั ษะวิชาการ กลมุ่ ทกั ษะอาชพี

3 รายวิชาเพ่ิมเติม จำนวน 1 ช่ัวโมง รายวชิ าหนา้ ทพี่ ลเมอื ง จำนวน 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน จำนวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ กิจกรรมแนะแนว จำนวน 1 ชัว่ โมง/สัปดาห์ กจิ กรรมลูกเสอื -ยวุ กาชาด จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ กจิ กรรมชมุ ชุมเพือ่ สุขภาพ จำนวน 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ 1.2 งานส่งเสรมิ และสนับสนนุ การจดั การเรียนรู้ จำนวน 8 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ - การมีสว่ นร่วมในชุมชนการเรยี นรู้ทาวิชาชีพ จำนวน 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ - การจดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้ จำนวน 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - การจัดทำแผนการจัดการศกึ ษาเฉพาะบคุ คล (IEP) จำนวน 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ - การจดั ทำสอ่ื การเรยี นรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.3 งานพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา จำนวน 14 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ - หัวหนา้ กลมุ่ ทักษะการชว่ ยเหลือตนเองฯ จำนวน 6 ช่วั โมง/สัปดาห์ - งานเวรประจำวนั กลางวนั เวรนอกเวลาราชการ จำนวน 5 ชวั่ โมง/สัปดาห์ - ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีครแู นะแนว จำนวน 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - งานท่ีปรกึ ษา/งานดูแลนกั เรียน/งานโฮมรมู จำนวน 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเนน้ จำนวน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ - กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ จำนวน 3 ช่ัวโมง/สปั ดาห์

4 2. งานทีจ่ ะปฏบิ ัตติ ามมาตรฐานตำแหน่งครู (ให้ระบรุ ายละเอยี ดของงานทจี่ ะปฏบิ ัตใิ นแตล่ ะด้าน ว่าจะดำเนนิ การ อยา่ งไร โดยอาจระบรุ ะยะเวลาทใี่ ชใ้ นการดำเนนิ การดว้ ยกไ็ ด้ ลกั ษณะงานทีป่ ฏบิ ัติ งาน(Task) ที่จะดำเนินการพฒั นา ผลลพั ธ์(Outcome) ตวั ชวี้ ัด (Indicator)ทจ่ี ะเกิดกับ ตามมาตรฐานตำแหน่ง ตามข้อตกลงใน 1 รอบการประเมนิ ของงานตาม ผเู้ รียนท่ีแสดงใหเ้ ห็นถงึ การ ภาคเรียนท่ี 2/2564 และ1/2565 เปลย่ี นแปลงไปในทางทีด่ ขี ้ึน 1. ดา้ นการจัดการเรยี นรู้ ขอ้ ตกลงทค่ี าดหวงั หรอื มกี ารพฒั นามากขน้ึ หรือมี ลักษณะงานทีเ่ สนอให้ การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ให้เกดิ ขึ้น ผลสัมฤทธท์ิ ่สี งู ขึ้น (โปรดระบุ) ครอบคลุมถึงการสรา้ งและหรือ ทักษะการชว่ ยเหลือตนเองและ (โปรดระบุ) พัฒนาหลกั สูตรการออกแบบ สขุ อนามยั เรอื่ ง ความสามารถในการ 1.ผู้เรียนไม่ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 70 การจดั การเรียนรกู้ ารจดั ช่วยเหลอื ตนเองด้านการแตง่ กาย 1. ผเู้ รยี น ไดเ้ รียนรู้ มีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนสงู ขน้ึ กิจกรรมการเรยี นรู้การสรา้ ง ของนกั เรยี นที่มคี วามบกพร่อง ตามแผน ฯ และมี หรอื เป็นไปตามเปา้ หมายการ และหรือพัฒนาสอ่ื นวัตกรรม ทางดา้ นสตปิ ญั ญา ระดบั ช้ัน ผลสัมฤทธ์ิทางการ พฒั นาผูเ้ รียนตามท่ีเขยี นไวใ้ น เทคโนโลยี และแหล่งเรยี นรู้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1/2 โดยใช้ชุด เรยี น เป็นไปตาม แผนการจัดการเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผลการ กิจกรรมการแต่งกาย เปา้ หมายทกี่ ำหนดไว้ จัดการเรียนรู้การศึกษา 1.1 การสร้างและพัฒนาหลักสตู ร ตามมาตรฐานการ 2.ผ้เู รยี นสามรถชว่ ยเหลือตนเอง วเิ คราะห์ สังเคราะหเ์ พอ่ื - วเิ คราะห์หลกั สตู ร มาตรฐานการ เรียนรู้ ในดา้ นการแต่งกายได้ รอ้ ยละ 70 แก้ปัญหาหรอื พฒั นาการเรียนรู้ เรยี นรู้ และตวั ช้ีวดั ตามหลกั สตู ร การจดั บรรยากาศท่ีสง่ เสรมิ สถานศึกษา (สำหรับนักเรยี นท่มี ี 2.ผเู้ รยี นสามรถ 3.ผู้เรียน ผา่ นการประเมนิ และพัฒนาผูเ้ รียน และการ ความบกพรอ่ งทางสติปญั ญา) และ ชว่ ยเหลือตนเองใน คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงคร์ อ้ ยละ อบรมและพฒั นาคณุ ลักษณะที่ ตัวชี้วัด จัดทำคำอธิบายรายวชิ า ด้านการแต่งกายได้ 70 ดีของผเู้ รียน โครงสรา้ งรายวชิ า และเนือ้ หาวชิ า เร่ือง การแตง่ กาย 3.ผเู้ รียน มี คณุ ลักษณะที่พึง ประสงคต์ ามที่ กำหนดไว้ใน หลักสูตร

5 ลกั ษณะงานทีป่ ฏิบตั ิ งาน(Task) ท่ีจะดำเนนิ การพฒั นา ผลลพั ธ์(Outcome) ตัวชี้วัด (Indicator)ทจ่ี ะเกิดกบั ตามมาตรฐานตำแหนง่ ตามข้อตกลงใน 1 รอบการ ของงานตาม ผเู้ รยี นท่ีแสดงใหเ้ หน็ ถงึ การ ประเมนิ เปล่ียนแปลงไปในทางทด่ี ขี ึ้น ขอ้ ตกลงท่ีคาดหวงั หรอื มกี ารพฒั นามากขึ้นหรือมี ภาคเรียนท่ี 2/2564 และ1/2565 ใหเ้ กดิ ขน้ึ ผลสมั ฤทธ์ทิ ่สี งู ข้ึน (โปรดระบุ) (โปรดระบุ) 1.2 การออกแบบการจดั การเรียนรู้ 4.ผู้เรียนมคี วามพงึ 4.ผเู้ รียนร้อยละ 70 มีความพึง - จดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้ พอใจตอ่ การจัด พอใจต่อการจดั บรรยากาศการ จดั ทำแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะ บรรยากาศการ เรยี นรู้ในระดบั มาก ขน้ึ ไป บุคคล (IEP) และจัดทำแผนการ เรยี นรู้ สอนเฉพาะบุคคล 1.3 การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ - จดั กจิ กรรมการเรยี นตาม แนวทาง active learning อยา่ ง หลากหลาย เนน้ การมสี ว่ นร่วมของ ผู้เรยี น ตามแผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง “เสอ้ื ผา้ และชดุ แต่งกายชดุ นักเรยี น” เร่ือง “ถอดและสวมเสือ้ ผ้า” 1.4 สรา้ งและหรือพัฒนาสือ่ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่ง เรียนรู้ - สร้างส่ือ ชดุ กจิ กรรมการแตง่ กาย - สร้างส่อื การเรียนรู้ และเอกสาร ประกอบการเรยี นรูเ้ ร่ือง “การแต่ง กาย” 1.5 การวัดและประเมนิ ผล - วดั และประเมินผลตามสภาพ จริง จากการมสี ว่ นร่วมในการ เรยี นรู้ - แบบฝึกหัด เรื่องการแตง่ กาย

6 ลกั ษณะงานทีป่ ฏิบตั ิ งาน(Task) ที่จะดำเนนิ การพฒั นา ผลลัพธ์(Outcome) ตวั ช้ีวัด (Indicator)ทจี่ ะเกดิ กับ ตามมาตรฐานตำแหนง่ ตามข้อตกลงใน 1 รอบการ ของงานตาม ผู้เรยี นท่ีแสดงให้เหน็ ถึงการ ประเมนิ เปลี่ยนแปลงไปในทางทดี่ ขี ึ้น ขอ้ ตกลงทีค่ าดหวัง หรอื มกี ารพัฒนามากข้ึนหรือมี ภาคเรยี นท่ี 2/2564 และ1/2565 ให้เกดิ ขน้ึ ผลสมั ฤทธิ์ท่ีสูงขึน้ (โปรดระบุ) (โปรดระบุ) - แบบทดสอบก่อนเรยี น - แบบทดสอบหลงั เรยี น - แบบสังเกต - แบบประเมนิ ทกั ษะการเรยี นรู้ - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.6 การศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพือ่ แก้ปญั หาหรอื พัฒนาการเรียนรู้ - ศกึ ษางานวิจยั ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั การจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การแต่ง กาย นำความรู้ท่ีได้มาวางแผนใน การจัดทำวจิ ยั ในชน้ั เรียน เพอ่ื แก้ปัญหานักเรียนทมี่ ีผลการเรยี นรู้ ไม่ผ่านเกณฑ์ทีก่ ำหน โดยมกี าร บนั ทึกรายละเอียดไวใ้ นหลัง แผนการจดั การเรียนรู้ 1.7 การจดั บรรยากาศที่สง่ เสริม และพัฒนาผูเ้ รียน และการอบรม และพัฒนาคณุ ลกั ษณะที่ดีของ ผูเ้ รยี น - จัดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบมี สว่ นร่วม กิจกรรมกล่มุ ส่งเสรมิ การทำงานร่วมกัน กจิ กรรมเพ่อื น ช่วยเพือ่ น ส่งเสรมิ ความรบั ผดิ ชอบ ในการสง่ ภาระงาน ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน และมคี วามซ่อื สัตย์ ต่อตนเอง

7 ลักษณะงานท่ปี ฏิบัติ งาน(Task) ท่ีจะดำเนินการพัฒนา ผลลัพธ์(Outcome) ตัวชว้ี ัด (Indicator)ท่ีจะเกดิ กับ ตามมาตรฐานตำแหนง่ ตามขอ้ ตกลงใน 1 รอบการ ของงานตาม ผู้เรยี นที่แสดงให้เหน็ ถงึ การ ประเมนิ เปลีย่ นแปลงไปในทางท่ีดีข้ึน 2. ด้านการสง่ เสริมและ ขอ้ ตกลงท่คี าดหวงั หรอื มีการพัฒนามากข้ึนหรอื มี สนับสนุน ภาคเรียนที่ 2/2564 และ1/2565 ให้เกิดขน้ึ ผลสมั ฤทธิ์ที่สูงขึน้ (โปรดระบุ) การจดั การเรียนร้ลู กั ษณะงานท่ี (โปรดระบุ) เสนอใหค้ รอบคลุมถงึ การจดั ทำ 2.1 การจดั ทำข้อมูลสารสนเทศของ 1.ผู้เรยี นรอ้ ยละ 100 ไดร้ บั การดูแล ขอ้ มูลสารสนเทศของผูเ้ รยี นและ ผู้เรียนและรายวิชา 1.ผู้เรยี นได้รับการดแู ล ช่วยเหลือตามขอ้ มูลสารสนเทศทค่ี รู รายวิชา การดำเนินการตาม ชว่ ยเหลือตามขอ้ มูล จดั ทำข้นึ ระบบดแู ลช่วยเหลือผูเ้ รยี น การ - สรปุ คะแนนจากแบบทดสอบหลงั สารสนเทศไดอ้ ย่าง ปฏิบตั งิ านวชิ าการ และงานอน่ื ๆ เรยี น เรอื่ ง การแตง่ กาย นำมาจัดทำ รวดเรว็ 2.ผ้เู รยี นร้อยละ 100 เขา้ ถงึ ข้อมูล ของสถานศกึ ษาและการประสาน ขอ้ มลู เปน็ นักเรียนท่ีผา่ นตามเกณฑ์ สารสนเทศรายวชิ า ความร่วมมือกับผู้ปกครองภาคี และไม่ผา่ นตามเกณฑ์ สรุปเปน็ ตาราง 2.ผู้เรยี นมแี หล่ง เครอื ขา่ ย และหรือสถาน และแผนภมู ิ โดยใช้โปรแกรม Excel สารสนเทศรายวิชา 3.ผเู้ รยี นร้อยละ 100 ไดร้ บั การ ประกอบการ 2.2 การดำเนนิ การตามระบบดูแล จดั การเรียนการสอนแบบเนน้ ช่วยเหลอื ผู้เรยี น 3.ผ้เู รียนไดร้ ับการ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ จัดการเรียนการสอน - วเิ คราะหผ์ เู้ รยี นรายบคุ คลแลว้ แบบเนน้ ผเู้ รียนเป็น 4.ผู้เรยี นร้อยละ 80 สามารถเข้าถงึ นำมาจัดจำแนกนกั เรียนเพ่ือจัดทำ สำคัญ แหล่งเรียนรทู้ ่เี กดิ จากการประสาน แผนแผนการจดั การศึกษาเฉพาะ ความร่วมมอื บคุ คล (IEP) และจัดทำแผนการ 4.ผ้เู รยี นมแี หลง่ การ สอนเฉพาะบุคคล(IIP) และออกแบบ เรยี นร้ทู ่เี กิดจากการ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรูใ้ ห้เหมาะสม ประสานความร่วมมือ กับศกั ยภาพของผู้เรยี น เพม่ิ ข้นึ 2.3 การปฏิบตั งิ านวชิ าการ และงาน อ่ืนๆ ของสถานศึกษา - ปฏิบตั หิ น้าทหี่ ัวหน้ากลุ่มทกั ษะ การช่วยเหลือตนเองและสขุ อนามัย - ครูประจำชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1/2 - ปฏิบัตหิ นา้ ทค่ี รูเวรประจำวัน ครู เวรยามรกั ษาการณ์กลางคืน ครูเรือน นอนพทุ ธรกั ษา อยา่ งตรงเวลาและ ปฏบิ ัติหน้าทอี่ ยา่ งเต็มความสามารถ

8 ลักษณะงานทปี่ ฏิบัติ งาน(Task) ท่ีจะดำเนนิ การพฒั นา ผลลัพธ์(Outcome) ตวั ช้วี ัด (Indicator)ทจ่ี ะเกดิ กับ ตามมาตรฐานตำแหน่ง ตามขอ้ ตกลงใน 1 รอบการ ของงานตาม ผ้เู รยี นที่แสดงให้เหน็ ถงึ การ ประเมนิ เปล่ยี นแปลงไปในทางทดี่ ขี ้ึน 2. ด้านการสง่ เสรมิ และสนับสนุน ขอ้ ตกลงทีค่ าดหวัง หรอื มีการพฒั นามากขน้ึ หรอื มี การจัดการเรยี นร้ลู กั ษณะงานที่ ภาคเรยี นท่ี 2/2564 และ1/2565 ใหเ้ กิดขึน้ ผลสัมฤทธทิ์ ี่สงู ขนึ้ (โปรดระบุ) เสนอใหค้ รอบคลุมถงึ การจดั ทำ (โปรดระบุ) ขอ้ มูลสารสนเทศของผ้เู รียนและ 2.4 การประสานงานความรว่ มมือกับ รายวชิ า การดำเนนิ การตามระบบ ผปู้ กครองภาคเี ครอื ขา่ ย และหรอื ดแู ลชว่ ยเหลือผ้เู รยี น การ สถานประกอบการ ปฏบิ ตั ิงานวิชาการ และงานอนื่ ๆ ของสถานศึกษาและการประสาน - จัดทำแผนการจดั การศึกษา ความร่วมมือกบั ผปู้ กครองภาคี เฉพาะบุคคล (IEP) รว่ มกบั ผู้ปกครอง เครอื ขา่ ย และหรอื สถาน และคณะกรรมการจดั ทำแผนการจัด ประกอบการ การศกึ ษาเฉพาะบุคคล (IEP) - การประสานงานกับผ้ปู กครองใน เรอ่ื งการจดั การเรียนการสอน ON HAND 3. ดา้ นการพัฒนาตนเองและ 3.1 การพฒั นาตนเองอยา่ งเป็นระบบ 1.ผู้เรยี นมคี วามพึง 1. ผ้เู รียนมีความพึงพอใจในการ วชิ าชพี และต่อเนอื่ ง พอใจในการได้รบั การ จดั การเรยี นการสอนของครโู ดยรวม ลักษณะงานที่เสนอให้ครอบคลมุ ถึง - พัฒนาตนเองด้วยวิธีการฝกึ อบรม บริการดา้ นความร้แู ละ ผา่ นกจิ กรรม “การประเมนิ คณุ ภาพ การพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบ และหรอื ศกึ ษาดว้ ยตนเองทง้ั ภายใน ด้านอ่ืนๆในรูปแบบที่ การจัดการเรยี นการสอนของครตู าม และต่อเนื่อง การมีส่วนร่วมในการ และภายนอกสถานศึกษาตามแผนการ ทันสมยั ขน้ึ ความคิดเหน็ ของนกั เรยี น” อยใู่ น แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อ พัฒนาตนเอง ID plan 2.ผ้เู รียนมีความพึง ระดับมาก ขน้ึ ไป พฒั นาการจดั การเรียนรแู้ ละการนำ 3.2 การมสี ว่ นร่วมในการแลกเปล่ยี น พอใจในการไดร้ บั ความรู้วามสามารถทักษะที่ได้จาก เรยี นรู้ทางวิชาชีพเพอ่ื พัฒนาการ ประสบการณ์ใหมๆ่ ที่ 2. ผู้เรยี น รอ้ ยละ 70 มีผลสมั ฤทธิ์ การพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ จัดการเรยี นรู้ เกดิ ข้ึนจากกจิ กรรม สงู ข้นึ มีคณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ ในการพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ การ - เข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรชู้ มุ ชน นิเทศการสอน สงู ขึน้ เป็นไปตามหลักสตู รและ พัฒนาคุณภาพผู้เรียน และการ วิชาชีพแลกเปลย่ี นเรียนรูก้ ารจดั การ 3.ผูเ้ รียนมคี วามพึง มาตรฐานการเรียนรู้ พัฒนานวัตกรรมการจดั การเรียนรู้ เรียนรูก้ ับบคุ ลากรครูภายในและ พอใจในการได้รับการ ภายนอก รวมทั้งเครอื ขา่ ยวชิ าชีพอื่นๆ จัดประสบการณ์การ 3. ผู้เรยี น ร้อยละ 70 ได้รับการ เพือ่ จะไดน้ ำความรูแ้ ละนำ เรียนรใู้ หมๆ่ ด้วย พฒั นาการจดั การเรยี นรู้เสรมิ ทกั ษะ ความสามารถมาใช้ในการพฒั นา นวัตกรรมท่คี รสู ร้าง อาชีพอย่างมีคุณภาพและเหมาะสม กระบวนการจัดการเรยี นรแู้ ละพฒั นา ข้ึน นวัตกรรมเพือ่ การจัดการเรยี นรูแ้ ละ พัฒนาคุณภาพผเู้ รียน

9 ลกั ษณะงานท่ปี ฏิบัติ งาน(Task) ทีจ่ ะดำเนนิ การพฒั นา ผลลัพธ์(Outcome) ตวั ชี้วัด (Indicator)ทจี่ ะเกิดกบั ตามมาตรฐานตำแหนง่ ตามขอ้ ตกลงใน 1 รอบการ ของงานตาม ผูเ้ รยี นท่ีแสดงใหเ้ ห็นถงึ การ ประเมิน เปล่ียนแปลงไปในทางทดี่ ขี ึ้น ขอ้ ตกลงที่คาดหวงั หรอื มกี ารพฒั นามากขนึ้ หรอื มี ภาคเรยี นท่ี 2/2564 และ1/2565 ใหเ้ กดิ ขึ้น ผลสมั ฤทธิ์ทส่ี ูงขึน้ (โปรดระบุ) (โปรดระบุ) 3.3 การนำความรคู้ วามสามารถทกั ษะ ท่ไี ด้จากการพฒั นาตนเองและวิชาชีพ มาใชใ้ นการพฒั นาการจัดการเรยี นรู้ การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน และการ พัฒนานวตั กรรมการจัดการเรยี นรู้ - จดั ทำส่อื ชดุ กจิ กรรมการแตง่ กาย และเผยแพรผ่ ลงานท่ไี ดจ้ ากก การพฒั นาให้ครใู นกลุ่มทกั ษะได้ นำไปเปน็ แนวทาง หมายเหตุ 1. รปู แบบการจดั ทำขอ้ ตกลงในการพัฒนางาน.ตามแบบ.PA.1.ให้เป็นไปตามบริบทและสภาพการจัดการเรียนรู้ ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเหน็ ชอบร่วมกันระหวา่ งผู้อำนวยการสถานศึกษาและขา้ ราชการครผู ้จู ดั ทำข้อตกลง 2. งาน (Tasks) ทีเ่ สนอเปน็ ขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน ต้องเปน็ งานในหน้าท่ีความรบั ผดิ ชอบหลักทสี่ ่งผลโดยตรง ต่อผลลัพธ์การเรียนรูข้ องผ้เู รียน และใหน้ ำเสนอรายวชิ าหลกั ทที่ ำการสอน โดยเสนอในภาพรวมของรายวชิ าหลกั ที่ทำการ สอนทุกระดับชั้น ในกรณีที่สอนหลายรายวิชา สามารถเลือกรายวิชาใดวิชาหนึ่งได้ โดยจะต้องแสดงให้เห็นถึงการ ปฏิบัตงิ านตามมาตรฐานตำแหน่ง และคณะกรรมการประเมนิ ผลการพัฒนางานตามข้อตกลงสามารถประเมินได้ตามแบบ การประเมนิ PA 2 3. การพัฒนางานตามขอ้ ตกลง ตามแบบ PA 1 ใหค้ วามสำคญั กบั ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ของผ้เู รียน (Outcomes)และ ตัวชี้วัด (Indicators) ที่เป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง ให้ คณะกรรมการดำเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริงสภาพการจัดการเรียนรู้ในบริบทของแต่ละ สถานศึกษา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนางานตามข้อตกลงเป็นสำคัญ โดยไม่เน้นการประเมนิ จากเอกสาร

10 ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพฒั นางานท่เี ปน็ ประเด็นทา้ ทาย ในการพฒั นาผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ของผู้เรยี น ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วทิ ยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงใหเ้ ห็นถึงระดับการปฏิบตั ิที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ การแกไ้ ขปัญหา การจัดการเรียนรูแ้ ละการพัฒนาคุณภาพการเรียนรูข้ องผู้เรียน ให้เกิดการเปลีย่ นแปลงไปในทางที่ดีขึน้ หรอื มีการพฒั นา มากขึ้น (ทั้งน้ี ประเด็นทา้ ทายอาจจะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ระดบั การปฏบิ ตั ทิ ่คี าดหวงั ในวทิ ยฐานะท่ีสงู กว่าได้) ประเดน็ ท้าทาย เรื่อง ความสามารถในการชว่ ยเหลอื ตนเองด้านการแต่งกาย ของนักเรยี นท่ีมคี วามบกพร่อง ทางดา้ นสติปัญญา ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1/2 โดยใช้ชุดกิจกรรมการแต่งกาย 1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้ และปญั หาของผู้เรยี น นักเรียนทีม่ ีความบกพร่องทางสติปัญญา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1/2 โรงเรียนโสตศึกษาจงั หวัดร้อยเอ็ด จากการที่ ได้วเิ คราะห์นักเรยี นเปน็ รายบุคคล พบวา่ นกั เรียนยังไม่สามารถชว่ ยเหลือตนเองด้านการแตง่ กายได้ โดยธรรมชาติบุคคล แต่ละบุคคลย่อมมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องชาติกำเนิดของแต่ละคน บุคคล ฐานะความเป็นอยู่ แต่ความแตกต่างท่ี สำคัญที่สุดในการพัฒนาด้านการศึกษาของมนุษย์ คือ เรื่อง ของ สติปัญญา และความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละ บุคคล ความแตกต่างของระดับสติปัญญาในแต่ละบุคคลนี่เองเป็นปัญหาที่ต้องหาทางแก้ไข ทั้งในด้านของวิธีการและ รูปแบบของการจัดการศึกษาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสามารถที่จะพัฒนาทรัพยากรมนษุ ยไ์ ด้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ โดยเฉพาะวยั เดก็ เปน็ ช่วงวยั ท่ีสามารถให้การศึกษาและเกิดการพฒั นาได้มากท่ีสุด บคุ คลทมี่ คี วามบกพร่องทางสติปัญญา เป็นอีกกลุ่มหนึ่งท่ีตอ้ งให้ความสนใจในด้านการวางแผนพัฒนาด้านการศึกษาเพ่ือให้เกิดความถูกต้องเหมาะสม และเกิด สัมฤทธิ์ผลอย่างแท้จริง การช่วยเหลอื เด็กท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญาในทุกๆ ด้านควรกระทำทันทีที่ทราบว่า เด็กมี ความบกพร่องทางสติปัญญา เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการใกล้เคียงกับเด็กปกติมากที่สุด ซึ่งวิธีการนี้เรียกว่า การ สง่ เสริมพฒั นาการระยะแรกเริ่ม (Early Intervention) เปน็ การสง่ เสรมิ ให้เด็กมีพฒั นาการให้ใกล้เคียงกับเด็กปกติมาก ที่สุดและเร็วท่ีสุดตามศักยภาพของเด็กท่ีมอี ยู่ โดยเฉพาะการเรียนรูท้ ี่จะดูแลตนเอง ในเรื่องการทำกิจวัตรประจำวันซ่งึ เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาเพื่อเป็นพื้นฐานในการด ำเนินชีวิตประจำวันและเกิด พฒั นาการในด้านอื่นๆ เน่ืองจากเดก็ ทกุ คนมชี ่วงพัฒนาการชา้ หรอื เร็วต่างกนั ในชว่ งแรกของชวี ิตเป็นเวลาท่ีดที ส่ี ุดในการ เรียนรู้ที่จะดูแลตนเองช่วงเวลานี้เด็กจะต่อสู้ดิ้นรนเพื่ออิสรภาพเด็กต้องการช่วยเหลือตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการ เรยี นรู้ สำหรับเด็กบกพร่องทางสติปัญญานั้นการช่วยเหลือตนเองด้านการแต่งกายเป็นส่ิงจำเป็น เพราะการเรยี นรูจ้ าก ประสบการณ์ในชวี ิตประจำวนั เด็กที่บกพรอ่ งทางสติปัญญาจะต้องเรียนรูแ้ ละจะกระทำดว้ ยตนเองเพือ่ ไม่เป็นภาระของ ผอู้ ืน่ เพราะในชีวติ ประจำวนั มนษุ ยเ์ ราต้องสวมใส่เสอ้ื ผ้าเพ่ือความสภุ าพเรยี บร้อย ดงั นนั้ การที่จะเรยี น รูฝ้ กึ ฝนในด้านการ แต่งกายจึงเปน็ สิ่งจำเป็นอยา่ งย่งิ สำหรับเด็กทมี่ ีความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา

11 ในการสอนทกั ษะการชว่ ยเหลอื ตนเองด้านการแตง่ กายสำหรับเดก็ ทมี่ คี วามบกพร่องทางสตปิ ญั ญาน้นั ครผู ูส้ อนมี ความสนใจทจี่ ะพัฒนาความสามารถการช่วยเหลอื ตนเอง ดา้ นการแต่งกายโดยใช้ชดุ กิจกรรมการสอนการแต่งกาย เพื่อให้ เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา มีความสามารถที่จะช่วยเหลือตนเองในการแต่งกายด้วยตนเอง สามารถดำรง ชวี ิตประจำวนั อยา่ งมคี วามสขุ และมีความพร้อมทจี่ ะพฒั นาตนเองในด้านอื่นๆตามศกั ยภาพของตนเอง 2. วธิ ีการดำเนินการให้บรรลผุ ล จากสภาพปัญหาห้องเรียน ป. 1/2 ที่พบว่าผู้เรียน มีปัญหาทางด้านการช่วยเหลือตนเองด้านการแต่งกาย ครูผู้สอนจงึ ได้สรา้ ง “ชดุ กจิ กรรมการสอนการแต่งกาย” โดยมกี ระบวนการเรยี นรูด้ ังนี้ กระบวนการดำเนินการเรียนรู้ โดยใช้แบบแผนการทดลอง Single Subject Research Design แบบ A-B-A Design ซ่งึ ได้แบง่ ระยะการ ทดลองเป็น 3 ช่วง คอื 1. ชว่ งเส้นฐาน (Basaline หรอื A ตวั แรก) เป็นระยะที่มกี ารบันทึกข้อมลู ทำการสงั เกตพฤติกรรมโดยยงั ไม่มีการ จดั กระทำและมีการประเมินความสามารถด้านการแตง่ กาย โดยใชแ้ บบประเมินความสามารถดา้ นการแตง่ กาย 2. ชว่ งการจดั กระทำ (Treatment หรือ B) เป็นระยะทผ่ี ู้วิจัยไดด้ ำเนินการทดลอง ผ้วู จิ ัย เรม่ิ ทำการสอนโดยการ ใช้ชุดกิจกรรมการแต่งกาย ซึ่งทำให้เราทราบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมเป้าหมาย เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เมื่อเปรียบเทียบ กับช่วงเส้นฐาน จากการใช้ชุดกิจกรรมการแต่งกาย ตามแผนการจัดกิจกรรมและทำการสังเกตพร้อมบันทึกพฤติกรรม เมอื่ นักเรยี นทำพฤติกรรมทงั้ หมดแลว้ จงึ เริม่ ในชว่ งงดการจดั กระทำ 3. ช่วงงดการจัดกระทำ (Evaluation หรือ A ตัวหลัง) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อติดตามผล จากการสอนโดยใช้ชุด กิจกรรมการแตง่ กาย โดยครูหยดุ สอน แตย่ ังบนั ทึกขอ้ มูลเหมอื นกบั ท่อี ยู่ ในระยะเสน้ ฐานแรก (A ตวั แรก) มีการประเมิน ความสามารถด้านการแต่งกายโดยใชแ้ บบประเมิน วธิ ีดำเนนิ การ 1. คดั เลือกกลมุ่ ตวั อย่างโดยใชผ้ ลการประเมนิ ความสามารถในการชว่ ยเหลอื ตนเองในการแตง่ กาย 2. ทำการประเมินความสามารถพื้นฐานก่อนการทดลอง 3. ดำเนนิ การทดลองโดยใช้ชุดกิจกรรมแต่งกายดังน้ี α ข้ันที่ 1 นำเข้าสูบ่ ทเรียน สรา้ งบรรยากาศในการเรยี น α ขั้นท่ี 2 ขั้นสอน ครสู อนขนั้ ตอน ให้นักเรียนดูและปฏิบัตติ ามขั้นตอน α ขั้นที่ 3 นกั เรยี นฝึกปฏิบัติตามแผนฝึกกิจกรรม ซงึ่ มีระยะเวลาในการดำเนินการ ท้ังหมด 6 สัปดาห์ สปั ดาหล์ ะ 5 วนั คือ วันจนั ทร์ - ศุกร์ วนั ละ 1 ชั่วโมง 4. เมื่อดำเนินการครบทง้ั หมดแล้ว นำแบบประเมนิ ความสามารถในการช่วยเหลือตนเองด้านการแต่ง กาย มาประเมินความสามารถในการชว่ ยเหลอื ตนเองดา้ นการแตง่ กายของนกั เรยี น 5. นำข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการประเมินความสามารถในการชว่ ยเหลอื ตนเองดา้ นการแตง่ กาย มาสรุปวเิ คราะห์

12 3. ผลลัพธ์การพฒั นาท่คี าดหวัง 3.1 เชิงปรมิ าณ นกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1/2 สามารถในการชว่ ยเหลือตนเองในการแต่งกายไดร้ ้อยละ 70 3.2 เชิงคุณภาพ นกั เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1/2 มคี วามสามารถท่ีจะช่วยเหลอื ตนเองในการแตง่ กายดว้ ย ตนเอง สามารถดำรงชีวติ ประจำวันอยา่ งมีความสุข และมคี วามพร้อมท่จี ะพฒั นาตนเองในดา้ นอื่นๆ ตามศักยภาพของตนเอง โดยไมเ่ ป็นภาระต่อบคุ คลอน่ื ลงช่อื (นายปยิ ะพงษ์ โพธสิ ุวรรณ) ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ผจู้ ัดทำขอ้ ตกลงในการพฒั นางาน วนั ที่ 1 เดือนตลุ าคม พ.ศ. 2564 ความเหน็ ของผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ( ) เหน็ ชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน ( ) ไม่เหน็ ชอบใหเ้ ป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมีขอ้ เสนอแนะเพ่ือนำไปแกไ้ ขและเสนอ เพือ่ พิจารณาอกี ครง้ั ดังนี้ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ (นายวชั รพล มนตรีภกั ดี) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศกึ ษาจงั หวดั ร้อยเอด็ วนั ท่ี 1 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2564

13