Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาSAR65_รปค31

รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาSAR65_รปค31

Published by Tanapat Issarangkul Na Ayutthaya, 2022-07-11 01:27:40

Description: รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาSAR65_รปค31

Search

Read the Text Version

39 และพระมหากษัตริย์ และเข้าร่วมอนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ร่วมกับทางอำเภอแม่แจ่มอยู่อย่าง ตอ่ เนื่อง ยกตวั อยา่ งเชน่ ประเพณีผ้าซิ่นตนี จก ประเพณีลอยกระทง เป็นต้น ตัวช้วี ดั ท่ี 4 การยอมรับท่ีจะอย่รู ว่ มกนั บนความแตกต่างและหลากหลาย การพัฒนาการยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย อยใู่ นระดับ “ยอดเยี่ยม” คิดเป็นร้อยละ 95.00 สูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด คือ ระดับ “ดีเลิศ” ผู้เรียนร้อยละ 80.00 – 89.99 มีการยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย โดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนประเภทอยู่ประจำ สำหรับผู้เรียนด้อยโอกาสทางการศกึ ษา และผู้เรียนร้อยละ 90 เปน็ กล่มุ ชนชาตพิ ันธ์ ประกอบไปด้วย ชนเผา่ ปากะญอ(กระเหรย่ี ง) ชนเผา่ ลวั ะ ชนเผ่ามง้ และพื้นเมอื ง ทำ ใหม้ คี วามหลากหลายทางด้านภาษา ศาสนา ความเชอื่ และวัฒนธรรม โรงเรยี นจึงจำเปน็ ต้องมีการส่งเสริมให้ ผู้เรียนยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างที่หลากหลาย โดยอาศัยอยู่ในโรงเรียนประจำอย่างไม่สร้าง ปัญหา ไม่ทะเลาะวิวาทจนเกิดความขดั แยง้ เข้ารว่ มกิจกรรมประเพณี และวฒั นธรรมทางชาติพันธุ์ รวมถึงการ ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมตามจารีตประเพณีที่ดีงาม เน้นการพัฒนาด้านคุณธรรมจริยธรรมที่เหมาะสมกับวยั ของผ้เู รยี น ตวั ชวี้ ดั ท่ี 5 สขุ ภาวะทางร่างกายและจิตสงั คม การพัฒนาสุขภาวะทางร่างกายและจิตสังคม อยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม” คิดเป็นร้อยละ 96.08 สูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด คือ ระดับ “ดีเลิศ” ผู้เรียนร้อยละ 80.00 – 89.99 มีสุขภาวะทาง รา่ งกายและจติ สงั คม โดยโรงเรยี นไดจ้ ัดกิจกรรมการพฒั นาสุขภาวะทกุ ด้านให้กับผเู้ รียนทกุ ระดับชั้น ส่งเสริม การออกกำลังกายทุกเช้าและเย็น จัดกิจกรรมการพัฒนาให้เหมาะสมกับวัย กิจกรรมพัฒนาด้านสุขภาพโดย เนน้ วา่ คุณภาพผเู้ รยี นตอ้ งดีข้นึ ทกุ ปี มีการจดั กิจกรรมจิตอาสาทำความดีด้วยหวั ใจ และพฒั นาคุณธรรมผู้เรียน ตามหลกั สตู ร ใหผ้ ้เู รียนมวี นิ ยั ซือ่ สตั ยร์ ับผดิ ชอบและมีจิตสาธารณะ สถานศกึ ษาจดั กิจกรรมสถานศึกษา “กาด นดั เด็กดอย” เป็นการฝกึ ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้เรอ่ื งการประกอบอาชีพดว้ ยตนเอง โดยนำอาหาร เครือ่ งดื่ม สินค้า ต่าง ๆ มาวางขายทุกตอนเที่ยงวันเสาร์และวันอาทิตย์ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนบริหารจัดการดว้ ยตนเองเปน็ ทั้งผู้ทำ ผู้ซื้อ และผู้ขาย มีการส่งเสริมการออกกำลังกายตามระบบโรงเรียนประจำ มีระบบการแนะแนวและการดูแล สขุ ภาวะจิต นำภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ มารว่ มกันวางแผนการจัดการเรียนการสอนและมีการเรียนรู้ในโลกกว้างการ เข้าไปศกึ ษากบั ภูมิปญั ญาในชมุ ชนใกล้เคยี ง 3. ผลการดำเนนิ งาน จากการประเมนิ คณุ ภาพภายในของคณะกรรมการประเมนิ คุณภาพการศึกษาโรงเรยี นราชประชา นุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ได้วิเคราะห์แผนพัฒนาการศึกษา แผนปฏิบัติงานประจำปี รายงานการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา รายงานการดำเนินงาน/โครงการ/กิจกรรมตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีการศึกษา 2564 รายงานผลการปฏิบัติงาน รายงานการประเมินตนเองของครูทุกคน และจากการ ตรวจสอบตรวจเอกสาร รางวัล และเกียรติบัตรที่ได้รับทั้งของสถานศึกษา ครู และผู้เรียน สรุปผลการ ดำเนนิ งานตามตารางท่ี 2.1 ดังนี้

40 ตารางท่ี 2.1 ผลการประเมินมาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผเู้ รยี น มาตรฐาน/ประเด็นพิจารณา ผลท่ีได้ คา่ เป้าหมาย ผลการประเมนิ ปีการศึกษา 2564 ทต่ี ั้งไว้ สูงกว่าเปา้ หมาย มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรยี น ดีเลิศ สงู กวา่ เป้าหมาย (82.00) 1.1 ผลสัมฤทธ์ทิ างวิชาการของผูเ้ รียน ดเี ลศิ สูงกวา่ เปา้ หมาย (82.00) สูงกว่าเป้าหมาย 1) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน ยอดเยี่ยม ต่ำกว่าเปา้ หมาย ดเี ลิศ สงู กวา่ เป้าหมาย การสือ่ สารและการคิดคำนวณ (97.84) (82.00) สงู กว่าเปา้ หมาย ดเี ลิศ 2) มีความสามารถในการวิเคราะห์และคดิ ยอดเยยี่ ม (82.00) สูงกว่าเปา้ หมาย ดีเลิศ บรรลุเป้าหมาย อย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยน (97.53) (80.00) สูงกว่าเปา้ หมาย ดเี ลิศ สงู กว่าเป้าหมาย ความคดิ เหน็ และแกป้ ญั หา (82.00) สงู กว่าเปา้ หมาย ดเี ลศิ สูงกวา่ เป้าหมาย 3) มีความสามารในการสร้างนวตั กรรม ยอดเยย่ี ม (82.00) สูงกวา่ เปา้ หมาย (96.30) ดีเลศิ (82.00) 4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ยอดเย่ียม ดเี ลศิ (82.00) สารสนเทศ และการส่ือสาร (95.00) ดเี ลิศ (82.00) 5) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตร ดี ดีเลศิ (82.00) สถานศึกษา (76.42) ดเี ลิศ (82.00) 6) มีความรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดี ยอดเยย่ี ม ดีเลิศ (82.00) ต่องานอาชีพ (95.00) ดเี ลศิ (82.00) คา่ เฉลยี่ รวม 1.1 ยอดเย่ียม (93.02) 1.2 คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงคข์ องผู้เรียน 1) การมีคุณลกั ษณะ คา่ นยิ ม และ ยอดเยี่ยม อตั ลักษณข์ องนกั เรยี นทีด่ ี (96.11) 2) การมที กั ษะดำรงชีวิตในโรงเรยี นประจำ ดีเลศิ (81.32) 3) ความภมู ิใจในท้องถน่ิ และความเป็นไทย ยอดเยีย่ ม (96.09) 4) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความ ยอดเยย่ี ม แตกต่างและหลากหลาย (95.00) 5) สุขภาวะทางรา่ งกายและจิตสังคม ยอดเย่ยี ม (96.08) ค่าเฉลยี่ รวม 1.2 ยอดเยี่ยม (92.92) ค่าเฉลี่ยรวม มาตรฐานท่ี 1 ยอดเยี่ยม (92.97)

41 จากตารางที่ 2.1 ผลการดำเนินงาน พบว่า มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียน มีผลการประเมนิ อย่ใู น ระดับ “ยอดเยยี่ ม” คิดเป็นร้อยละ 92.97 เม่อื แปลผลการพจิ ารณาแตล่ ะตวั ชวี้ ัด ปรากฏวา่ 1.1 ผลสมั ฤทธิท์ างวชิ าการของผ้เู รยี น ผลสัมฤทธท์ิ างวิชาการของผู้เรียนโดยภาพรวม พบวา่ ผู้เรยี นรอ้ ยละ 93.02 มีผลสัมฤทธิ์ทาง วิชาการตามท่ีสถานศกึ ษากำหนด สง่ ผลใหก้ ารประเมินอยู่ในระดบั “ยอดเย่ียม” ซึ่งต่ำกวา่ คา่ เปา้ หมายที่ตั้งไว้ และไดผ้ ลตามประเด็นพจิ ารณา ดงั น้ี 1) ผูเ้ รียนรอ้ ยละ 97.84 มคี วามสามารถในการอ่าน การเขียน การสอื่ สารและการคิดคำนวณ สง่ ผลให้การประเมินอยใู่ นระดบั “ยอดเยย่ี ม” ซง่ึ ต่ำกว่าคา่ เป้าหมายทต่ี ง้ั ไว้ 2) ผู้เรียนร้อยละ 97.53 มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิดอย่างมีวิจารณญาณ อภปิ ราย แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ และแก้ปัญหา สง่ ผลใหก้ ารประเมนิ อยใู่ นระดบั “ยอดเยี่ยม” ซง่ึ ตำ่ กว่าค่า เปา้ หมายทตี่ งั้ ไว้ 3) ผู้เรียนร้อยละ 96.30 มีความสามารในการสร้างนวัตกรรม ส่งผลให้การประเมินอยู่ใน ระดับ “ยอดเยย่ี ม” ซง่ึ สูงกว่าคา่ เปา้ หมายทตี่ งั้ ไว้ 4) ผู้เรียนร้อยละ 95.00 มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร สง่ ผลให้การประเมินอยู่ในระดบั “ยอดเยย่ี ม” ซง่ึ สงู กว่าคา่ เปา้ หมายที่ต้งั ไว้ 5) ผเู้ รยี นร้อยละ 76.42 มีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนตามหลกั สูตรสถานศกึ ษากำหนด ส่งผลให้ การประเมินอยใู่ นระดบั “ด”ี ซ่ึงต่ำกวา่ คา่ เปา้ หมายทต่ี ้ังไว้ 6) ผู้เรียนร้อยละ 95.00 มีความรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ ส่งผลให้การ ประเมินอยใู่ นระดบั “ยอดเยีย่ ม” ซงึ่ สูงกว่าคา่ เปา้ หมายทีต่ งั้ ไว้ 1.2 คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงคข์ องผู้เรียน คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงคข์ องผู้เรยี นโดยภาพรวม พบว่า ผ้เู รียนรอ้ ยละ 92.92 มีคุณลักษณะ ทพี่ ึงประสงค์ของผเู้ รียนตามท่ีสถานศกึ ษากำหนด ส่งผลใหก้ ารประเมนิ อยู่ในระดับ “ยอดเย่ียม” ซง่ึ สูงกว่าค่า เปา้ หมายทีต่ ้ังไว้ และไดผ้ ลตามประเด็นพิจารณา ดังน้ี 1) ผู้เรียนร้อยละ 96.11 มีคุณลักษณะ ค่านิยม และอัตลักษณข์ องนักเรยี นที่ดี ส่งผลให้การ ประเมินอยูใ่ นระดับ “ยอดเยีย่ ม” ซงึ่ สูงกว่าค่าเปา้ หมายทีต่ ัง้ ไว้ 2) ผู้เรียนร้อยละ 81.32 มีทักษะดำรงชีวิตในโรงเรียนประจำ ส่งผลให้การประเมินอยู่ใน ระดับ “ดเี ลิศ” ซงึ่ สงู กวา่ ค่าเป้าหมายทตี่ ้งั ไว้ 3) ผู้เรียนร้อยละ 96.09 มีความภูมิใจในท้องถ่ินและความเป็นไทย ส่งผลให้การประเมินอยู่ ในระดบั “ยอดเย่ียม” ซึง่ สูงกว่าค่าเปา้ หมายท่ีตัง้ ไว้ 4) ผู้เรยี นร้อยละ 95.00 ข้นึ ไปมกี ารยอมรับทจี่ ะอยรู่ ่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย ส่งผลให้การประเมนิ อยู่ในระดับ “ยอดเย่ยี ม” ซง่ึ สงู กวา่ ค่าเป้าหมายท่ีตงั้ ไว้ 5) ผเู้ รยี นร้อยละ 96.08 มสี ุขภาวะทางรา่ งกายและจติ สังคม สง่ ผลใหก้ ารประเมนิ อยใู่ นระดับ “ยอดเยี่ยม” ซง่ึ สูงกว่าคา่ เป้าหมายท่ีตงั้ ไว้

42 4. การนำผลการดำเนินงานไปใช้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ โดยงานประกันคุณภาพสถานศึกษาได้มีการ ชี้แจงในการประชุมการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ช่วงปิดภาคเรียนที่ 2 ของทุกปีการศึกษา เพื่อ นำเสนอผลการประเมินต่อผู้บริหาร คณะครู และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวขอ้ ง และสามารถนำผลการประเมนิ คุณภาพ ผู้เรียนในรูปแบบตัวเลข ค่าร้อยละ ตาราง กราฟ แผนภูมิ เพื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานว่ามีพฒั นาการ สูงขึ้นในรอบ 3 ปี ไปใช้ปรับปรุงพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้สูงขึ้น โดยได้กำหนดวิธีการพัฒนา โครงการ/ กิจกรรมต่าง ๆ ในการพัฒนาด้านผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน และด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของ ผ้เู รียน 5. การเผยแพร่ผลการดำเนินงาน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเผยแพร่ผลการดำเนินงานเป็นประจำ ทุกปีการศึกษา โดยดำเนินการนำเสนอผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียนต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ปกครอง ชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด โดยมีการจัดส่ง SAR ให้หน่วยงานต้นสังกัดทุกปี การศึกษา ทั้งในรูปแบบออนไลน์และเอกสาร และการชี้แจงในการประชุมต่าง ๆ รวมทั้งมีช่องทางให้ผู้อ่าน หรือผทู้ ่ีสนใจสามารถเข้าถึงขอ้ มูลรายงานการประเมนิ ตนเอง และหลักฐานอืน่ ๆ ท้งั หมดผ่านทางเว็บไซน์เก็บ เอกสารของโรงเรียน http://www.checkin.rpk31school.ac.th/ebook/?p=BookCase&BookCID=586 สามารถเชือ่ มโยงกับฐานขอ้ มลู ของการสรุปการปฏิบัติงานแตล่ ะโครงการที่นำมาอ้างองิ ในแตล่ ะมาตรฐานได้ 6. จุดเดน่ 6.1 ดา้ นผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของผเู้ รียน 1. นักเรียนเรียนรู้แบบร่วมมือกันภายในโรงเรียน มีกิจกรรมการเรียนรู้วิธีการที่หลากหลาย ยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของกนั และกนั 2. นักเรียนได้รับการฝึกให้อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขเป็น เน้นให้นักเรียนทุกคนได้คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง การแสดงความคดิ เห็น และใหน้ กั เรียนเรยี นมกี ารกล้าแสดงออก ไดถ้ าม ได้ตอบ มกี ารเสรมิ แรง โดยดงึ ศักยภาพของนกั เรียนแตล่ ะคนออกมา 3. นักเรียนได้รับพัฒนาตามความสามารถเฉพาะด้าน ในการฝึกปฏิบัติเพื่อนำไปประกอบ อาชพี ทหี่ ลากหลาย เนน้ ฝกึ กระบวนการคดิ อย่างสร้างสรรค์และการตัดสนิ ใจอยา่ งมเี หตุผล มีการใชเ้ ทคโนโลยี ชว่ ยในการจัดการเรียนรู้ 4. นักเรียนสามารถเติบโตเปน็ บุคคลทม่ี ีคุณภาพ โต้ตอบคำถามในสอ่ื การเรยี นทสี่ อนได้ดีและ เข้าในเน้อื หา การลงมอื ปฏิบตั ิจริงทำใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดความสนใจ จติ สาธารณะ และมีความมงุ่ มั่นตง้ั ใจ 5. นักเรียนมีความกล้าคิด กล้าแสดงออก และการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้ และพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เนื่อง

43 6. นกั เรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นตามหลักสตู รสถานศึกษาและมีการพฒั นาอยา่ งต่อเน่อื ง 7. นักเรียนมีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้น เพ่อื เปน็ แนวทางในการประกอบอาชพี ในอนาคตได้ 6.2 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องผเู้ รียน 1. นักเรยี นมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ค่านิยม และอตั ลกั ษณ์ของนักเรียนทีด่ ี 2. นักเรียนมีการยอมรบั ที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกตา่ งและหลากหลาย รุ่นพี่ปฏิบตั ิตนให้ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักเรียนรุ่นน้อง อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข บนพื้นฐานวัฒนธรรมชนชาติพันธุ์ที่ หลากหลาย 3. นกั เรยี นมีความภูมิใจในทอ้ งถ่นิ และชนเผ่าของตนเอง เหน็ คณุ คา่ ของความเปน็ ไทย มีส่วน รว่ มในการอนุรักษ์วฒั นธรรม ประเพณี และภูมิปญั ญาไทย 4. นกั เรียนไดร้ บั การฝึกทกั ษะดำรงชวี ิตในโรงเรียนประจำ เป็นวฒั นธรรมของโรงเรียนประจำ ได้แก่กิจกรรมส่งเสริมสุขนิสัย กิจกรรมส่งเสริมสมรรถภาพทางกาย กิจกรรมหลักโภชนาการ กิจกรรมหลัก ไตรรงค์ กจิ กรรมสร้างเสรมิ ภาวะผนู้ ำ กจิ กรรมอนรุ กั ษพ์ ลังงานและสง่ิ แวดล้อม กิจกรรมส่งเสริมอาชีพท้องถ่ิน และกจิ กรรมพัฒนาสุนทรยี ภาพ 5. นกั เรียนมีสขุ ภาวะทางรา่ งกายและจติ สังคมท่ดี ี 7. จุดทคี่ วรพัฒนา 7.1 ดา้ นผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนของผเู้ รียน 1. ควรมีการพัฒนาพื้นฐานทางดา้ นภาษาการสือ่ สารของนักเรียน เนื่องจากผู้เรียนเป็นกลุม่ ชนชาติพันธุ์ ทำให้ติดปัญหาเรื่องการสื่อสารไม่ชัดเจน และชอบเขียนตามคำพูดของตนเอง จึงทำให้ผิดหลัก ของภาษา 2. ควรมีการพัฒนาพื้นฐานการคิดคำนวณของผู้เรียน มีการปรับพื้นฐานของนักเรียนก่อน วเิ คราะหน์ กั เรียน แยกกลมุ่ เกง่ ปานกลาง อ่อน เพอ่ื พัฒนานกั เรยี นไดต้ รงตามจุด 3. ควรมีการกระตุ้นให้นักเรียนชอบการเรียนรู้ในชั้นเรียน เพิ่มกลยุทธ์ เทคนิค วิธีการท่ี หลากหลายการควบคมุ ช้ันเรียน 4. ควรฝึกกระบวนการคิดขั้นสูง คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอย่างสร้างสรรค์ให้นักเรียน สามารถนำไปสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในรายวิชาเรยี น 5. ควรเสรมิ สร้างความกล้าแสดงออก สรา้ งสถานการณก์ ารเรียนรู้ใหก้ ับนักเรียนได้เรียนรู้ได้ ด้วยตนเอง 6. ควรเนน้ การค้นพบความถนดั และความสามารถของตนเอง ทกั ษะและกระบวนการ 7. ควรมีการใช้จิตวิทยาในการสอนใหก้ มากว่านี้เพื่อให้เกดิ ความสนุกสนานในช้นั เรียน 8. ควรเสริมสร้างประสบการณ์นอกห้องเรียน เสริมสร้างทักษะการดำรงชีวิตของนักเรียน ประจำ เสริมสร้างทักษะอาชพี ต่าง ๆ ใหแ้ ก่ผเู้ รยี น

44 7.2 ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้เรยี น 1. ควรมกี ารเสริมสร้างใหน้ ักเรียนตระหนักถงึ ความสำคัญของการศกึ ษา การน้อมนำแนวทาง พระราชดำริ ศาสตร์ของพระราชามาปรับใชใ้ นชีวติ ประจำวนั 2. ควรเสรมิ สรา้ งทักษะการใชช้ ีวติ ทางสังคม บนความแตกต่างและความหลากหลายทางชาติ พนั ธุ์ 8. ขอ้ เสนอแนะ โรงเรยี นควรพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียนใหส้ อดคลอ้ งกับวสิ ยั ทศั น์ พันธกจิ เป้าหมายที่มุ่งพฒั นาคุณภาพ ของผเู้ รยี นเป็นสำคญั ท่ีเปน็ ปัจจบุ นั มีโครงการหรือกิจกรรมใหม่ ๆ ตามจดุ เน้นของสถานศกึ ษา และเกบ็ ข้อมูล สรุปการมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย ๓ ปี การพัฒนาแบบอย่างท่ีดี (Best Practice) หรือ นวัตกรรม (Innovation) ในทุกมาตรฐาน ควรมีการแยกประเมินตนเองในแต่ละช่วงชั้น เช่น ระดับพื้นฐานอาจจะแยก ประเมนิ เปน็ ช่วงช้นั ท่ี 1 (ป.1 - ป.3) ชว่ งช้ันที่ 2 (ป.4 - ป.6) ซึ่งจะทำให้มกี ารสรุปข้อมูลในเชิงลึกของแต่ละ ช่วงชน้ั ได้ชดั เจนยง่ิ ข้ึน 9. แหลง่ ขอ้ มลู หลักฐานอ้างอิง 9.1 แบบประเมนิ คณุ ภาพผเู้ รียนด้านผลสมั ฤทธ์ิทางวชิ าการ 9.2 แบบประเมนิ คุณภาพผู้เรียนดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 9.3 แบบประเมนิ ทกั ษะดำรงชวี ิต 9.4 แบบรายงานสรุปผลสมั ฤทธ์ิของผู้เรียน 9.5 แบบรายงานสรุปผลการทดสอบ RT NT และ O-net 9.6. โครงการ/กจิ กรรมยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 9.7 โครงงานคุณธรรมทุกระดับชั้น โครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โครงงานบรหิ ารจัดการขยะภายในโรงเรยี น และโครงงานผลติ ภณั ฑต์ า่ ง ๆ ของผ้เู รยี น 9.8 แบบรายงานการจัดสอบวดั ผลแบบออนไลน์ 9.9 แบบรายงานการใช้ E-Market ของนักกเรียนที่นำไปบริหารจัดการอาชีพระหว่างเรียนของ ตนเอง สอร. 9.10 แบบรายงานการเลือกรายวชิ าเพ่มิ เตมิ 9.11 แบบรายงานจำนวนผู้เรียนศกึ ษาต่อหลักสูตรทวศิ กึ ษา 4 สาชาวิชา ไดแ้ ก่ สาขาคอมพิวเตอร์ ธุรกิจ สาขาการโรงแรม สาขาการบัญชี และสาขาอุตสาหกรรมช่างเชื่อม 9.12 แบบรายงานผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน 9.13 แบบรายงานการประพฤติของนักเรียน 9.14 แบบบันทกึ การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรมตา่ ง ๆ 9.15 แบบรายงานสขุ ภาวะทางร่างกายและจติ สงั คม

45 10. แบบอยา่ งท่ดี ี (Best Practice) หรือ นวตั กรรม (Innovation) 10.1 นวัตกรรมโรงเรียนเล็กในโรงเรียนใหญ่ มีการจัดการเรียนการสอนเน้นให้ผู้เรียนชั้น ประถมศึกษา ได้เรียนปนเล่นเพิ่มพูนทักษะการอ่าน การเขียน สื่อสาร คิดคำนวณด้วยกิจกรรมพัฒนาการ เรยี นรอู้ าทเิ ชน่ ภาษาไทยวันละคำ อาขยานพาเพลิน เรื่องเลา่ เชา้ น้ี มมุ กล้องเล่าเร่อื ง 10.2 ศูนย์บริหารจัดการขยะแบบครบวงจร” จนได้รับรางวัลนวัตกรรมการจัดการขยะมูลฝอย ชมุ ชน จากกรมสง่ เสรมิ คุณภาพส่ิงแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม 10.3 การฝึกทักษะอาชีพให้ผู้เรียน โดยมีการจัดวิชาเลือกเสรีในระดับชั้น ม.ต้น และการจัดการ เรยี นการสอนทวศิ กึ ษาในระดบั ชัน้ ม.ปลาย เน้นฝึกใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้และทกั ษะในงานอาชีพ 10.4 โครงการส่งเสริมอาชพี ระหวา่ งเรียน (สอร.) เน้นให้ผเู้ รียนสรา้ งอาชีพภายในโรงเรยี น 10.5 การฝกึ ทกั ษะดำรงชีวิตในโรงเรียนประจำ จำนวน 8 ทกั ษะ 10.6 เป็นผ้นู ำดา้ นการจดั กิจกรรมจติ อาสาของอำเภอแม่แจม่ จงั หวดั เชียงใหม่ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ระดับคณุ ภาพ ยอดเย่ยี ม 1. แผนการดำเนนิ การและการตั้งเป้าหมาย ผบู้ ริหาร และคณะครูโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ ได้รว่ มกันประชุมวาง แผนการดำเนินการและการตั้งเปา้ หมายมาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ไวท้ ่ีระดบั ดีเลิศ รายละเอียดดงั นี้ 1. มีเป้าหมาย วสิ ัยทัศน์ พันธกิจทีส่ ถานศกึ ษากำหนดชดั เจน สอดคลอ้ งกับบริบทของสถานศกึ ษา ความต้องการของชุมชน นโยบาลของรฐั บาลแผนการศึกษาแหง่ ชาติ เป็นไปได้ในการปฏบิ ัติ 2. มรี ะบบบริหารจดั การคุณภาพของสถานศกึ ษาที่ชัดเจน ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐาน การศกึ ษาของสถานศึกษา โดยความรว่ มมือของผทู้ มี่ สี ่วนเก่ียวขอ้ งทุกฝ่าย และผู้ทีม่ ีสว่ นเก่ียวข้องร้อยละ 80 ขน้ึ ไป มีความพงึ พอใจในการบรหิ ารและการจัดการ 3. ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เนน้ คณุ ภาพผ้เู รียนรอบดา้ นตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา และทกุ กลุ่มเป้าหมาย เช่อื มโยงกบั ชวี ิตจริง 4. พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเช่ียวชาญทางวชิ าชีพ ตรงตามความตอ้ งการของครู และ สถานศกึ ษา 5. จัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสงั คมที่เออื้ ต่อการจัดการเรียนรอู้ ยา่ งมีคณุ ภาพ และมีความ ปลอดภยั 6. จัดระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื สนบั สนุนการบรหิ ารจัดการและการจัดการเรียนรูท้ ี่ เหมาะสมกบั สภาพของสถานศึกษา 7. มกี ารส่งเสริมสนบั สนุนใหห้ นว่ ยงาน องคก์ ร ชุมชนภายนอกเข้านอกมามสี ว่ นรว่ มในการพฒั นา คณุ ภาพการจัดการศกึ ษา

46 2. กระบวนการดำเนนิ งาน โรงเรียนได้มกี ระบวนการดำเนินงานเร่ิมตัง้ แต่การจดั ประชุมเชิงปฏบิ ัตกิ ารทำแผนพัฒนาคุณภาพ การศึกษา โดยผู้มีสว่ นเกี่ยวข้องไดร้ ่วมกนั กำหนดวสิ ยั ทัศน์ พนั ธกจิ ให้สอดคลอ้ งกับผลการวิเคราะห์สถานภาพ ของโรงเรียน ข้อกฎหมายตามระเบียบราชการ ขนบธรรมเนียมประเพณี การวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูล สารสนเทศตามนโยบายของรัฐ จุดเน้นของต้นสังกัด การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม เศรษฐกิจการเมือง ระดับ นานาชาติ ระดบั ภูมิภาคอาเซียน ระดบั ประเทศ และระดับท้องถิ่น รวมถงึ แผนพฒั นาการจดั การศึกษาสำหรับ เด็กดอ้ ยโอกาส และแผนพฒั นาคณุ ภาพชีวิตเด็กดอ้ ยโอกาส และคู่มือการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา เป็นกรอบทิศทางการพัฒนาหรือปรับปรุงคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน นำเสนอคณะกรรมการสถานศึกษา เพอื่ ใช้เปน็ แนวทางการพฒั นาคุณภาพการศึกษา มรี ายละเอียดดังนี้ ตัวชี้วดั ที่ 1 มีเปา้ หมายวิสัยทศั น์และพนั ธกจิ ที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน การพัฒนาสถานศึกษาได้กำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับ บริบทของสถานศกึ ษา ความต้องการของชมุ ชน ท้องถนิ่ วตั ถปุ ระสงค์ของแผนการศึกษาแหง่ ชาติ นโยบายของ รฐั บาลและของตน้ สงั กัด รวมท้งั ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสงั คม ดังน้ี วิสัยทัศน์ (ปีการศกึ ษา 2560-2564) ภายในปี พ.ศ.2564 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ มีระบบการจัด การศึกษาที่มีคุณภาพ มีครูมืออาชีพ ผู้เรียนมีคุณลักษณะตามหลักสูตร และเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง พันธกิจ (ปกี ารศึกษา 2560-2564) 1. พัฒนาระบบการจัดการศกึ ษาให้มีประสทิ ธภิ าพ 2. พัฒนาและสง่ เสรมิ ให้ครเู ปน็ ครูมอื อาชีพ 3. พัฒนาและส่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นมีคุณลักษณะตามหลักสูตร 4. พัฒนาสถานศกึ ษาใหเ้ ปน็ ศูนยก์ ารเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยโรงเรียนไดด้ ำเนินการพัฒนางานตามกรอบแนวทางของวิสัยทัศน์ (ปกี ารศึกษา 2560-2564) จนสามารถมีระบบเทคโนโลยีมาช่วยในการบรหิ ารงานในโรงเรยี นเป็นของตนเอง มีกิจกรรมการกำกบั นิเทศ ติดตาม การจัดการเรียนการสอนและการจัดเก็บเอกสารของครูตาม ว.23 และชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาให้ครูเป็นครูมืออาชีพ จัดกิจกรรมและโครงการที่พัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน โรงเรียนประจำ และพัฒนาตามอตั ลักษณ์ของผู้เรยี น คือ สืบสานพระราชปณธิ าน สร้างคนดสี ู่สังคม พร้องทั้ง โรงเรียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 ตามเอกลักษณ์ของสถานศกึ ษา คือ จงรักภักดี มีคุณธรรม น้อมนำ แนวทางพระราชดำริ แล้วยังพัฒนา งานอย่างตอ่ เนอ่ื งทุกปี ตัวชี้วัดท่ี 2 มรี ะบบบรหิ ารจัดการคณุ ภาพของสถานศกึ ษา โรงเรียนกำหนดการดำเนินงานตามพันธกิจโดยจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี ที่สอดคล้องกับ แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการจัดการศึกษา โดยสร้างความเข้าใจกับทุกกลุ่มงาน ในการนำพันธกิจสูก่ ารปฏิบตั ิในรูปของโครงการและกิจกรรมท่ีสนองมาตรฐานการศึกษา โดยนำวงจรคุณภาพ PDCA , หลักการบริหารจัดการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (School Based Management : SBM ) และได้คิด นวตั กรรมการบริหารงานภายในโรงเรยี นเพ่อื ใหก้ ารบริหารงานประสบความสำเรจ็ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ โดยผู้ท่ี เกี่ยวข้องวางแผนร่วมกันอย่างเป็นระบบ ทั้งการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา การนำแผนไป ปฏบิ ัตเิ พือ่ พัฒนาคณุ ภาพการศึกษา มกี ารตดิ ตาม ตรวจสอบ ประเมนิ ผลและปรบั ปรุงพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง

47 มีการบริหารอัตรากำลัง ทรัพยากรทางการศึกษาและระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีระบบการนิเทศ ภายใน การนำข้อมูลมาใช้ในการพัฒนาบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างมีส่วนร่วม ในการวางแผน ปรับปรุง พัฒนาและร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา จากการบริหารอย่างเป็นระบบส่งผลให้โรงเรียน ไดร้ ับการยอมรับจากหน่วยต่าง ๆ ไดแ้ ก่ ตารางท่ี 2.2 รางวลั /ผลงานดีเดน่ ในรอบปกี ารศกึ ษา 2564 ท่ี รางวลั ทไ่ี ด้รบั วันที่ได้รับ หน่วยงานที่มอบให้ 1. ผ่านการประเมนิ ภายนอกจากสำนกั งานรับรอง 22 ก.ค. 2564 กระทรวงศึกษาธิการ มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การ มหาชน) ในการลงพนื้ ทตี่ รวจเยย่ี มสถานศึกษา (ออนไลน์) ภายใตส้ ถานการณ์ covid-19 2. ผา่ นการประเมินคดั เลือกนกั เรยี นและสถานศกึ ษา เพอ่ื 8 ม.ี ค. 2565 กระทรวงศกึ ษาธิการ รบั รางวัลพระราชทาน ระดับกลุ่มจังหวัด ตัวชีว้ ัดท่ี 3 ดำเนินงานพฒั นาวิชาการท่เี น้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสตู รสถานศกึ ษา และทุกกลุ่มเปา้ หมาย โรงเรียนได้จัดทำและพัฒนาหลักสูตรที่เน้นคุณภาพนักเรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษา เชือ่ มโยงวิถีชีวติ จรงิ และครอบคลมุ ทุกกล่มุ เป้าหมายของนกั เรยี นด้อยโอกาสทางการศึกษา ประกอบดว้ ย 1. หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ฉบับปรบั ปรงุ 2560 2. หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชยี งใหม่ 2.1 หลักสตู ร ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษา 2.2 หลกั สูตร ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น 2.3 หลกั สูตร ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย แบ่งแผนการเรยี นเป็นดงั นี้ 2.3.1 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ 2.3.2 แผนการเรียนภาษาองั กฤษ-จนี 2.3.3 แผนการเรียนเกษตรกรรม 2.3.4 แผนการเรยี นศิลปศกึ ษา (ดนตรี-นาฏศิลป)์ 2.3.5 แผนการเรียนศลิ ปศึกษา (ศิลปะ) 2.3.6 แผนการเรยี นพลศึกษา (กฬี า-กรีฑา) 2.3.7 แผนการเรยี นคหกรรม 2.4 หลักสูตรทวิศกึ ษา จำนวน 4 หลกั สูตร ไดแ้ ก่ 2.3.8 แผนการเรียนอุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ยี ว สาขาการโรงแรมและท่องเที่ยว 2.3.9 แผนการเรียนคอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ 2.3.10 แผนการเรยี นอตุ สาหกรรม สาขาชา่ งเชื่อมโลหะ 2.3.11 แผนการเรยี นพาณิชยกรรม สาขาการบญั ชี

48 2.5 หลักสตู รรายวชิ าเพิ่มเตมิ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นในรปู แบบ Shopping list จำนวน 45 รายวิชา ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลายในรปู แบบ Block Course จำนวน 7 รายวชิ า ตัวชี้วัดท่ี 4 พฒั นาครูและบุคลกรใหม้ ีความเชย่ี วชาญทางวชิ าชพี โรงเรียนส่งเสริม สนับสนุน ให้ครูมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประเมินตนเอง ทางด้านสมรรถนะหลักและสมรรถนะสายงานของครูทง้ั 11 ประเด็น เพอ่ื คน้ หาจุดเดน่ และจดุ ควรพัฒนาของ ตนเอง นำมาจัดทำแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID PLAN) ในชว่ งก่อนปดิ ภาคเรยี นทางโรงเรยี นไดจ้ ดั อบรมให้ ความรู้ดา้ นวชิ าการและวิชาชีพตามโครงการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรยี น นอกจากน้ีคณะ ครมู กี ารพัฒนาตามจดุ ออ่ นของตนเองด้วยวธิ ีการทีห่ ลากหลาย เชน่ การศกึ ษาผา่ นสื่อออนไลน์ แหลง่ เรียนรูอ้ นื่ ๆ หรือจากผู้รู้ ผเู้ ชี่ยวชาญ เป็นต้น เพ่อื ใหค้ รูมคี วามเชี่ยวชาญทางวิชาชพี โรงเรยี นจึงได้กำหนดเป็นนโยบายจัด ให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดยใช้กระบวนชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC : Professional Learning Community) ในช่วงส้ินปกี ารศกึ ษาคณะครูมีการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานของตนเองให้สอดคลอ้ งกับ แผนพัฒนาตนเองรายบคุ คล (ID PLAN) ทไี่ ด้จดั ทำไว้ ประกอบการประเมินสมรรถนะครูท่สี อดคล้องกับเกณฑ์ การประเมนิ วิทยฐานะ ปกี ารศกึ ษาละ 2 ครงั้ ตัวชี้วัดที่ 5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมี คณุ ภาพ โรงเรยี นได้จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพท้ังภายในและภายนอกห้องเรียน และสภาพแวดล้อม ทางสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ มีความปลอดภัยตามบริบทของโรงเรียนประจำอย่างมีความสุข โดยมี กระบวนการบริหารงานอาคารสถานท่ี ดังนี้ 1) กำหนดแนวทาง วางแผนการบริหารจัดการห้องเรียนและอาคาร สถานที่ต่างๆ ภายใน โรงเรยี น 2) ดูแลและพัฒนาอาคารอาคารประกอบของโรงเรียนให้อยู่ในสภาพที่มั่นคง ปลอดภัย เหมาะสมพร้อมที่จะใช้ประโยชน์ 3) ติดตามและตรวจสอบการใช้อาคารเรียนอาคารประกอบของสถานศึกษาเพื่อให้เกิดความ คุ้มคา่ และเออ้ื ประโยชน์ตอ่ การเรยี นรู้ของนักเรียน 4) ปรบั ปรงุ หอ้ งเรยี นและอาคาร สถานท่ตี า่ งๆ ทชี่ ำรุดและเปน็ อนั ตรายตอ่ นักเรยี น ตัวชี้วัดที่ 6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการ เรียนรู้ โรงเรยี นไดส้ นบั สนนุ และให้ความสำคัญในเรื่องการเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การบริหารจัดการ เอกสารสารและข้อมลู สนเทศ โดยคณะครแู ละบคุ ลากรของโรงเรียนได้รับการอบรมการเร่อื งจัดทำ E-Book ใน รปู แบบออนไลน์ เพื่อนำเอกสารจดั เก็บไว้บนชน้ั หนงั สือของตนเองทไี่ ด้กำหนดไว้ใน Website ของโรงเรียนซ่ึง มีจำนวน 10 ชั้น ตามโครงสร้างการบรหิ ารงานของโรงเรียน ส่งผลให้ผู้บริหารสามารถการตรวจสอบเอกสาร ประกอบการพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ผ่านชั้นหนังสือของครูผู้สอนในรูปแบบออนไลน์ได้ การปรับปรุงระบบ สารสนเทศโรงเรียนให้ครอบคลุมทุกฝ่ายเปน็ ปัจจุบันและง่ายต่อการเข้าถงึ และนำไปใช้ในการบริหารและจัด การศกึ ษา นอกจากน้ยี ังไดน้ ำเทคโนโลยีมาบริหารจัดการด้านพฤติกรรมของนักเรยี น เพื่อช่วยการบริหารงาน ของกลุ่มงานกิจการนักเรียน ด้วยระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนประจำ คือ แอพพลิเคชั่นที่ใช้ สำหรับโรงเรยี นประจำ “checkin.rpk31” เป็นนวัตกรรมใหม่ท่ีทางโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัด เชียงใหม่ได้พัฒนาขึ้นมาเอง ได้รับการยอมรับและเป็นต้นแบบให้โรงเรียนในเครือข่ายเดียวกันทั่วประเทศ (http://checkin.rpk31school.ac.th/) เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

49 ประกอบด้วย การตดิ ตงั้ สมาร์ททวี สี ำหรบั การเรียนการสอนทกุ ห้องเรียน การสอบกลางภาคและปลายภาคด้วย ระบบออนไลน์ จัดทำ QR Code : Quick Response ข้อมูลในฐานการเรียนรู้ของศูนย์การเรียนต่าง ๆ ใน โรงเรยี น เชน่ การบริหารจดั การขยะแบบครบวงจร กจิ กรรมการฝึกทักษะอาชพี กจิ กรรมสวนพฤกษศาสตร์ อันเน่ืองมาจากพระราชดำรฯิ ฐานการเรยี นรู้ในโรงเรียน เป็นต้น จากการดำเนินส่งผลให้โรงเรียนเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยได้รับเชิญเป็นวิทยากร เพอ่ื ถา่ ยทอดความรู้เรื่องระบบการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการบรหิ ารจดั การของโรงเรียน ตัวชี้วัดที่ 7 หน่วยงาน องค์กร ชุมชนให้การสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ด้วยรูปแบบและวธิ ีการที่หลากหลาย โรงเรียนได้มีการส่งเสริมสนับสนุนให้หนว่ ยงาน องค์กร ชุมชนภายนอกเข้านอกมามสี ่วนร่วมใน การพัฒนาคุณภาพการจดั การศกึ ษาดว้ ยรปู แบบและวิธกี ารท่ีหลากหลาย เร่ิมตน้ ต้ังแต่การจัดประชมุ หารือการ ดำเนินงานในแต่ละปกี ารศกึ ษา โดยมีคณะกรรมการสถานศกึ ษา ตวั แทนครู ผู้ปกครอง นักเรยี น ชุมชน รวมถึง หน่วยงานต่าง ๆ ที่ใหก้ ารสนบั สนุนด้านการจัดการศึกษา พร้อมทั้งไดร้ ับการรว่ มมอื ในการพัฒนาคุณภาพการ จัดการศึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาดังกล่าว โรงเรียนได้ยึดแนวคิดว่า เป็นการจัดการศึกษาเพือ่ คุณภาพของผูเ้ รียน ที่ยึดผู้เรียนเป็นตัวตั้งหรือผู้เรียนเป็นสำคัญ ด้วยการมีส่วนร่วม และบูรณาการทรัพยากรในท้องถิ่นร่วมกันบนพื้นฐานของการกระจายอำนาจโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ให้เกิด ความเข้มแข็งจากฐานราก ด้วยความร่วมมือขององค์กรในชุมชน ทั้งการร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมตัดสินใจ รว่ มดำเนนิ การ ร่วมรับผดิ ชอบ ร่วมตดิ ตามประเมินผล รว่ มแกป้ ญั หา และร่วมช่นื ชม ที่ใหอ้ ิสระความยืดหยุ่น และความคลอ่ งตวั กบั สถานศึกษา บนความหลากหลายและสอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของท้องถิน่ 3. ผลการดำเนนิ งาน ผลการประเมินของคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายใน และวิธีการตรวจสอบร่องรอย หลักฐานการปฏิบัติงาน การสอบถามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวมีความพึงพอใจในการบริหารและการจัดการของ สถานศึกษา สรปุ ผลการดำเนินงานตามตารางท่ี 2.3 ดงั น้ี ตารางท่ี 2.3 ผลการประเมินมาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ มาตรฐาน/ประเดน็ พิจารณา ผลทไ่ี ด้ คา่ เปา้ หมาย ผลการประเมิน ปกี ารศกึ ษา 2564 ท่ีตงั้ ไว้ สูงกวา่ เป้าหมาย สงู กวา่ เปา้ หมาย มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ดีเลศิ สงู กวา่ เปา้ หมาย (82.00) 2.1 การมเี ปา้ หมาย วิสยั ทัศน์ และพันธกิจ ยอดเย่ยี ม ดีเลิศ สงู กว่าเปา้ หมาย (82.00) ทส่ี ถานศึกษากำหนดชัดเจน (95.06) ดีเลศิ (82.00) 2.2 มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของ ยอดเย่ียม ดีเลิศ สถานศกึ ษา (96.30) (82.00) 2.3 ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้น ยอดเยย่ี ม คุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลัก สูตร (97.53) สถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย 2.4 พัฒนาครูและบุคลกรให้มีความ ยอดเยยี่ ม เชี่ยวชาญทางวชิ าชีพ (97.53)

50 ตารางที่ 2.3 ผลการประเมนิ มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ (ตอ่ ) มาตรฐาน/ประเดน็ พิจารณา ผลท่ไี ด้ คา่ เปา้ หมาย ผลการประเมิน ปีการศกึ ษา 2564 ท่ตี ้งั ไว้ สูงกว่าเป้าหมาย สงู กวา่ เป้าหมาย มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ดีเลิศ บรรลุเป้าหมาย (82.00) 2.5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและ ยอดเย่ยี ม สูงกว่าเป้าหมาย ดีเลิศ สังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมี (97.53) (82.00) คณุ ภาพ ดีเลศิ (82.00) 2.6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือ ยอดเยีย่ ม ดีเลิศ สนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการ (97.53) (82.00) เรียนรู้ 2.7 หน่วยงาน องค์กร ชุมชนให้การ ดีเลศิ สนับสนุนการพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษา (87.65) ดว้ ยรปู แบบและวิธีการท่ีหลากหลาย ค่าเฉลี่ยรวม มาตรฐานท่ี 2 ยอดเย่ียม (95.59) จากตารางท่ี 2.3 ผลการดำเนินงาน พบวา่ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ มี ผลการประเมินอยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม” คิดเป็นร้อยละ 95.59 เมื่อแปลผลการพิจารณาแต่ละประเด็น พิจารณา ปรากฏว่า 2.1 การมีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน มีผลการประเมินอยู่ใน ระดบั “ยอดเยีย่ ม” คดิ เป็นร้อยละ 95.06 ซ่ึงสงู กวา่ ค่าเปา้ หมายทต่ี งั้ ไว้ 2.2 มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา มีผลการประเมินอยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม” คิดเปน็ รอ้ ยละ 96.30 ซึ่งสงู กว่าค่าเปา้ หมายทต่ี งั้ ไว้ 2.3 ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุก กลุ่มเป้าหมาย มีผลการประเมินอยู่ในระดบั “ยอดเยีย่ ม” คิดเปน็ ร้อยละ 97.53 ซึง่ สงู กว่าคา่ เป้าหมายที่ต้ังไว้ 2.4 พัฒนาครูและบุคลกรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ มีผลการประเมินอยู่ในระดับ “ยอดเยย่ี ม” คดิ เป็นร้อยละ 97.53 ซึ่งสงู กวา่ คา่ เป้าหมายทีต่ ้งั ไว้ 2.5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอือ้ ต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคณุ ภาพ มีผลการ ประเมินอยูใ่ นระดบั “ยอดเย่ียม” คดิ เปน็ ร้อยละ 97.53 ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายที่ตง้ั ไว้ 2.6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื สนบั สนนุ การบรหิ ารจัดการและการจัดการเรยี นรู้ มผี ลการ ประเมินอยใู่ นระดับ “ยอดเยย่ี ม” คิดเป็นรอ้ ยละ 97.53 ซึ่งสงู กว่าคา่ เป้าหมายที่ตง้ั ไว้ 2.7 หน่วยงาน องค์กร ชุมชนใหก้ ารสนบั สนุนการพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษาด้วยรูปแบบและ วิธีการที่หลากหลาย มีผลการประเมินอยใู่ นระดับ “ดเี ลศิ ” คิดเปน็ รอ้ ยละ 87.65 ซ่ึงบรรลุคา่ เปา้ หมายทตี่ ้ังไว้

51 4. การนำผลการดำเนนิ งานไปใช้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ โดยงานประกันคุณภาพสถานศึกษาได้มีการ ชี้แจงในการประชุมการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ช่วงปิดภาคเรียนที่ 2 ของทุกปีการศึกษา เพ่ือ นำเสนอผลการประเมนิ และนำผลการประเมนิ ไปใชป้ รับปรุงการบรหิ ารในปกี ารศกึ ษาถัดไป มกี ารจัดทำแนว ทางการพฒั นาคุณภาพสถานศกึ ษาในอนาคต มีการนำผลจากการประเมนิ หรือผลจากขอ้ เสนอแนะจากบุคคล ท่มี ีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ครู บคุ ลากร ผูป้ กครอง ชมุ ชน เปน็ ตน้ โดยการสอบถามความพงึ พอใจในการบริหารงาน ทุกปกี ารศกึ ษา และโรงเรยี นได้ดำเนินการวเิ คราะหส์ ภาพปญั หา ผลการจดั การศกึ ษาในปีท่ีผ่านมา จึงได้นำผล มาใชก้ ำหนดเป้าหมายใหม่ ปรับวสิ ัยทศั น์ พันธกิจ กลยทุ ธใ์ หส้ อดคลอ้ งกับบริบท โดยปรบั ปรงุ แผนปฏิบัติการ ประจำปี ทุกปีการศึกษา 5. การเผยแพรผ่ ลการดำเนนิ งาน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเผยแพร่ผลการดำเนินงานเป็นประจำ ทุกปีการศึกษา โดยดำเนินการนำเสนอผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียนต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ปกครอง ชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด โดยมีการจัดส่ง SAR ให้หน่วยงานต้นสังกัดทุกปี การศึกษา ทั้งในรูปแบบออนไลน์และเอกสาร และการชี้แจงในการประชุมต่าง ๆ รวมทั้งมีช่องทางให้ผู้อ่าน หรอื ผู้ทสี่ นใจสามารถเข้าถงึ ข้อมูลรายงานการประเมนิ ตนเอง และหลกั ฐานอนื่ ๆ ทงั้ หมดผ่านทางเว็บไซน์เก็บ เอกสารของโรงเรียน http://www.checkin.rpk31school.ac.th/ebook/?p=BookCase&BookCID=586 สามารถเชอ่ื มโยงกับฐานขอ้ มูลของการสรุปการปฏบิ ัติงานแตล่ ะโครงการท่ีนำมาอา้ งองิ ในแตล่ ะมาตรฐานได้ 6. จดุ เด่น 1. สนับสนนุ ให้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาชว่ ยในการบรหิ ารงานในกลุ่มงานต่าง ๆ 2. มกี ารบรหิ ารสถานศกึ ษาในรปู แบบการทำงานเปน็ ทมี มวี ัฒนธรรมองคก์ รท่ีเขม้ แข็ง โดยยึด หลักผู้เรยี นเป็นสำคัญ 3. สถานศึกษามีความพร้อมดา้ นสถานที่ การจัดสภาพแวดล้อมได้ที่เอื้อมอำนวยต่อการเรยี นร้เู ป็น อย่างดี มีวัสดุอปุ กรณ์ เครื่องมอื ในการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา 4. มกี ารสง่ เสริม สนบั สนุนครใู นด้านการจัดการศึกษาให้มคี วามเปน็ มาตรฐาน ให้ความสำคญั ใน เรือ่ งของการจัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ 5. มโี ครงสรา้ งการบรหิ ารงานและการจดั การที่ชัดเจนเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคนิคการประชมุ ที่ หลากหลายวิธี เพอ่ื รว่ มระดมความคิดในการจดั ทำแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา ตลอดจนแผนปฏิบตั ิการ ประจำปี และนำผลจากการปฏิบัติงานมาพฒั นาสถานศกึ ษาอยา่ งต่อเน่อื งเป็นประจำทุกปี 6. มีวฒั นธรรมองค์กรท่เี ขม้ แข็ง เปน็ สถานศกึ ษทีม่ ีคุณภาพ 7. มกี ารกระจายอำนาจ ใหค้ รูผู้มีความเชีย่ วชาญและประสบการณใ์ นการบริหารงาน ขนึ้ มามี ส่วนรวมในการพัฒนาสถานศึกษา 8. มกี ารกำหนดวิสยั ทศั น์ พันธกิจ เป้าหมายท่ีชดั เจน มีการบริหารงานตามโครงสรา้ ง

52 9. ผู้บริหารสถานศึกษามภี าวะความเป็นผนู้ ำ มีความสามารถในการบริหารจัดการสถานศกึ ษา สง่ เสรมิ ความเสมอภาค ความสมั พันธ์ ความรว่ มมอื กบั หนว่ ยงาน องค์กร และชุมชนในการพัฒนาคณุ ภาพ การศึกษา 10. มีการแกไ้ ขปญั หาจำเปน็ เร่งดว่ นของสถานศึกษา เช่น การแกไ้ ขปัญหาเร่อื งน้ำ การสร้างทาง ถนนในโรงเรียน เป็นตน้ 11. ผู้บริหารมีการเอาใจใส่ครแู ละนกั เรียนในทกุ ด้าน เลือกวางบคุ ลากรที่ถกู กบั งาน โดยรับฟัง ความคิดเหน็ ของครแู ละและนักเรยี น 7. จุดท่ีควรพฒั นา 1. ควรมจี ดั ระบบและการวางแผนการทำงานทชี่ ัดเจนในแต่ละปกี ารศึกษา งานทุกอยา่ งใน โรงเรยี นควรเปน็ ระบบระเบียบมากขึน้ และนำผลการปฏิบตั ิมาปรับปรงุ แกไ้ ขในคร้งั ต่อไป 2. ควรมกี ารทำงานเป็นทีม สรา้ งทมี งานในการพัฒนาสถานศึกษา และความชัดเจนในการพัฒนา องคก์ ร ยดึ ตัวผเู้ รยี นเป็นสำคัญ 3. ควรมกี ารรับฟังความคิดเห็นในภาพรวม และเข้าถึงปญั หาทกุ เรอ่ื งภายในสถานศึกษา สนับสนุนใหแ้ สดงความคดิ เห็นบนพื้นฐานของความถูกตอ้ งเหมาะสม 4. ควรมีการส่งเสริมพัฒนาครูและบุคลากรใหม้ คี วามเชย่ี วชาญทางวชิ าชพี ให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะตาม มาตรฐานตำแหน่ง จดั อบรมเกี่ยวกบั สอ่ื เทคโนโลยีในการจัดการศึกษา 5. สร้างเจตคติที่ดีตอ่ วิชาชีพและแนวปฏบิ ตั ทิ ่ีชดั เจนใหบ้ ุคลากร เพอื่ การปฏบิ ัตใิ นแนวทาง เดียวกันและลดความเหลอื่ มลำ้ ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ สง่ ผลดีต่อการพัฒนางานวชิ าการและพัฒนาผูเ้ รยี นอยา่ ง เตม็ ศักยภาพ 6. ควรมกี ารสนบั สนนุ เทคโนโลยีที่ใช้ในการจดั การศึกษาอยา่ งท่ัวถึง เตรยี มรบั มอื กบั สถานการณ์ โรคระบาดในปัจจุบนั 7. ควรลดภาระของครู ลดเอกสารทีไ่ มจ่ ำเปน็ เพ่ือมีเวลาจัดการเรียนการสอนอย่างมี ประสิทธภิ าพ 8. ขอ้ เสนอแนะ โรงเรียนควรมีเพิ่มเติมในด้านการบรหิ ารทีเ่ ป็นระบบมากยิ่งขึน้ โดยเน้นในเรื่องการมสี ่วนร่วมใน การบริหาร มีการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาระยะสั้น ระยะยาว และแผนปฏิบัติการประจำปีอย่าง เหมาะสม และสอดคล้องกบั จุดเน้นเฉพาะของสถานศึกษา มีการดำเนินการตามโครงการ เช่น โครงการสร้าง ความสัมพันธ์กบั ชมุ ชน หรือกิจกรรมการเข้าไปร่วมในชุมชน โดยระบุถึงวิธีการดำเนินงาน วิธีการประเมินผล และผลการดำเนินงานไว้ชัดเจน และมีการรายงานผลตามแผนการดำเนินงาน เช่น สรุปการประชุมร่วมกับ ชมุ ชน การเขา้ ไปร่วมกิจกรรมในชุมชน การรับการบริจาคหรือการสนบั สนนุ จากชุมชน หรอื องค์กรหน่วยงาน อื่นๆ แล้วนำเสนอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบ พร้อมทั้งมีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเป็นระยะ ๆ อย่าง ต่อเน่ือง ท้ังการแจง้ ในท่ีประชมุ การลงในเว็ปไซตท์ มี่ สี ร้างคอลัมภ์หรอื หัวขอ้ ข้ึนมาโดยเฉพาะ เป็นต้น

53 9. แหล่งขอ้ มูลหลักฐานอา้ งอิง 9.1 แบบประเมนิ ความพึงพอใจกระบวนการบรหิ ารและการจดั การ 9.2 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาระยะ 5 ปี (พ.ศ.2560 - 2564) 9.3 แผนปฏบิ ตั กิ ารประจำปกี ารศึกษา 2563 9.4 หลักสตู รสถานศึกษา 9.5 ขอ้ มลู คณะศกึ ษาดงู านในโรงเรียน 9.6 โล่และเกียรตบิ ตั รรางวัลทีไ่ ดร้ บั 9.7 นวัตกรรม Checkin.rpk31 10. แบบอยา่ งที่ดี (Best Practice) หรือ นวตั กรรม (Innovation) 10.1 นวัตกรรม การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานกิจการนักเรียน Checkin.RPK31 และเป็นแบบอย่างที่ดี (Best Practice) ได้รับการรับยอม และการเข้ามาศึกษาดูงานจาก โรงเรียนตา่ ง ๆ อย่างมากมาย 10.2 นวตั กรรม การใชร้ ะบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การบริหารงานวิชาการ 10.3 นวัตกรรม การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานแผนงานและงบประมาณ (RPK 31 ERP) 10.4 นวัตกรรม การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดเก็บเอกสารของสถานศึกษา (E- Book Library) 10.5 นวตั กรรม การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือจดั เกบ็ ข้อมูลการใช้จ่ายค่าอาหารนักเรียน (E-Market) 10.6 นวตั กรรม การใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ บริหารงานธนาคารขยะ 10.7 นวตั กรรม การใช้ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื บริหารงานบริการภายในโรงเรียน เชน่ การ จองรถโรงเรยี น การจองหอ้ งประชุม เป็นตน้ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ ระดับคุณภาพ ยอดเย่ียม 1. แผนการดำเนนิ การและการต้ังเป้าหมาย ผู้บริหาร และคณะครูโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันประชุมวาง แผนการดำเนินการและการตั้งเป้าหมายมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคญั ปกี ารศกึ ษา 2564 ไวท้ ี่ระดบั “ดีเลิศ” รายละเอยี ดดงั น้ี ครูรอ้ ยละ 80 – 80.99 มีประเด็นพิจารณา ดังนี้ 1. มีการวิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัด ผลการเรียนรู้เพื่อนำไปจัดทำหน่วยการ เรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดและหรือผลการเรียนรู้ปรับประยุกต์หลักสูตรรายวิชา และ

54 หน่วยการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน เรื่องท้องถิ่น และ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง มีการประเมินผลการใช้หลักสูตรอย่างเป็นระบบและนำผลการประเมินการใช้ หลกั สตู รมาปรับปรงุ พัฒนาใหม้ ีคุณภาพสงู ขน้ึ 2. มีการออกแบบหน่วยการเรียนรู้โดยการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกบั บริบท ของสถานศึกษา ท้องถนิ่ และเหมาะสมกับผู้เรยี น มีกจิ กรรมการเรียนรดู้ ว้ ยวธิ ีการปฏิบัติท่ีสอดคลอ้ งกับธรรมชาติของสาระการ เรยี นรูอ้ ย่างหลากหลายและสามารถนำไปปฏิบัตไิ ด้จรงิ มีการประเมินผลการใช้หน่วยการเรียนรู้ รวมถึงการนำ ผลการประเมินมาปรับปรงุ พฒั นาใหม้ คี ุณภาพสงู ข้ึน 3. มีการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู/้ แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล/แผนการสอนรายบุคคล/ แผนการจัดประสบการณ์ 4. มกี ารจัดการเรยี นรู้โดยใชร้ ูปแบบ เทคนิค และวิธีการท่ีเนน้ วธิ ีการปฏบิ ัติ มคี วามหลากหลาย ใช้ สื่อนวัตกรรมเทคโนโลยเี พื่อสนับสนนุ การจัดการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผลตามแผนการจัดการจัดการ เรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้จุดประสงค์การเรียนรู้และสอดคล้องกับ ธรรมชาติของผเู้ รยี นและสาระการเรยี นรู้ ประเมนิ ผลการใชก้ ลยุทธใ์ นการจดั การเรียนรู้ และนำผลการประเมิน มาปรับปรุงพฒั นาใหม้ ีคณุ ภาพสูงขึ้น 5. มีผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ตามค่าเป้าหมายที่สถานศึกษา กำหนด 6. มีการสร้างและพัฒนาสือ่ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษา และแหล่งเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ใน การจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน สอดคล้องกับเนื้อหาสาระมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดหรือผลการ เรียนรแู้ ละจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ประเมินผลการใช้สอื่ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศกึ ษา แหลง่ เรียนรู้และนำ ผลการประเมนิ ไปปรับปรุง พัฒนาให้มคี ณุ ภาพสงู ขึน้ สามารถนำส่อื นวัตกรรม เทคโนโลยที างการศกึ ษา แหล่ง เรียนรู้ 7. มีการสร้างและพัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินผลที่หลากหลาย เหมาะสมและสอดคล้องกับ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และผลการเรียนรู้ มีการกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้มีการประเมินตามสภาพ จริงมีการประเมินตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และนำผลการประเมิน คณุ ภาพของเครอื่ งมอื วัดและประเมินผลการเรยี นรูไ้ ปปรบั ปรงุ พัฒนาให้มคี ณุ ภาพสูงขน้ึ 8. มีการใช้กระบวนการวิจัยหรือดำเนินการวิจัยในการสร้างองค์ความรู้ใหม่เพื่อแก้ปัญหาหรือ พฒั นาการเรียนรู้ของผ้เู รยี น โดยใช้วิธกี ารท่ถี ูกต้องและเหมาะสมกับสภาพปญั หาและความต้องการจำเป็น นำ ผลการแก้ปญั หาหรอื การพัฒนาการเรียนรขู้ องผ้เู รียนหรือผลการวจิ ยั ไปใช้ 9. มกี ารให้ผู้เรยี นและผู้ทเ่ี ก่ยี วข้องมสี ว่ นร่วมอย่างสร้างสรรค์ในการจดั สภาพแวดลอ้ มบรรยากาศท่ี เอือ้ ตอ่ การเรียนรู้ มีความความปลอดภยั และมคี วามสุข สง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนเกดิ กระบวนการคิด มีทักษะชวี ิตและ ทักษะการทำงานอบรมบ่มนิสัยให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค่านิยมที่ดีงาม ปลูกฝังความเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เสริมแรงให้ผู้เรียนมีความมั่นใจในการ พฒั นาตนเองเต็มตามศกั ยภาพเกิดแรงบนั ดาลใจ เป็นแบบอยา่ งท่ีดดี ้านการบริหารจัดการชัน้ เรยี น

55 10. มีการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ จัดทำและใช้สารสนเทศของผู้เรียนในระบบดูแล ช่วยผู้เรียนมีโครงการและจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ด้วยวิธีการที่หลากหลายในการดูแลช่วยเหลือผู้เรียน ส่งเสรมิ ป้องกัน และแกป้ ัญหาผู้เรยี นอย่างเปน็ ระบบ 11. มีการจัดทำข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจำชั้นเรียนหรือประจำวิชา อย่างเป็นระบบ ถูกตอ้ งและเปน็ ปจั จบุ ัน ใชส้ ารสนเทศในการเสริมสร้างและพฒั นาผูเ้ รยี น 12. มีจัดทำแผนพัฒนาตนเองที่สอดคล้องกับสภาพการปฏิบัติงานความต้องการจำเป็นหรือตาม แผนกลยุทธ์ของหน่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการต้นสังกัด มีการพัฒนาตนเองตามแผน นำความรู้ ความสามารถทกั ษะท่ไี ดจ้ ากการพฒั นาตนเองมาพัฒนานวตั กรรมการจดั การเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน สรา้ งองค์ความรู้ใหมท่ ่ีไดจ้ ากการพฒั นาตนเอง 13. มกี ารเขา้ รว่ มชุมชนการเรียนรูท้ างวิชาชีพ นำองค์ความรู้ทไี่ ด้จากการเข้าร่วมชมุ ชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน และสร้างนวัตกรรมที่ได้จากการเข้าร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทาง วิชาชพี สรา้ งเครือขา่ ยชุมชนการเรยี นรูท้ างวิชาชีพ สรา้ งวฒั นธรรมทางการเรยี นรู้ในสถานศกึ ษา 2. กระบวนการดำเนนิ งาน ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ได้พัฒนากระบวนการ จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยการขับเคลื่อนผ่านกระบวนพัฒนาครูและบุคลากรทางการ ศึกษา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ (ว9/2564) และต้องได้รับการประเมินผลการ ปฏิบัติงานจากคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งจากโรงเรียนทุกภาคเรียน เพื่อนำผลการประเมินไปวางแผน พฒั นาตนเองตอ่ ไป โดยมีวธิ กี ารดงั ตอ่ ไปนี้ ด้านการจัดการเรียนการสอน ได้มีการส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยการดำเนินงานโครงการ/กิจกรรมอย่างหลากหลาย ได้แก่ การประชุมปฏิบัติการ ปรับปรงุ หลกั สูตรสถานศกึ ษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัดฯ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ส่งเสริมให้ครู จัดการเรยี นการสอนเนน้ การปฏิบัติ (Active learning) ให้ผู้เรยี นผ่านกระบวนการคดิ ปฏบิ ัตจิ รงิ เพ่ือนำไปสู่ การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและคงทน ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา ให้นักเรียนมีส่วนร่วม ครูมี แผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใชจ้ ัดกิจกรรมได้จริง ครูใช้สื่อ และแหล่งเรียนรู้ มีการบริหารจัดการชน้ั เรยี นเชงิ บวก เพือ่ ใหเ้ ด็กรกั การเรยี นรู้และเรียนรู้ร่วมกนั อย่างมีความสุข ครรู ว่ มแลกเปลยี่ นเรยี นรู้และนำข้อมูล มาร่วมพฒั นาปรับปรงุ การจดั การเรยี นรู้และสอนตามแผน ครูผลติ นวัตกรรม แผนการจัดการเรยี นรู้ อีกทัง้ ปรับ โครงสร้างรายวชิ า หน่วยการเรียนรู้ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ สัดส่วนคะแนนแตล่ ะหน่วย กำหนดคุณลักษณะ อันพึงประสงคท์ ี่สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้ สนับสนุนให้ครูจัดการเรยี นการสอนที่สร้างโอกาสให้นักเรยี น ทุกคนมีส่วนร่วม ไดล้ งมอื ปฏิบัติจรงิ จนสรปุ ความรู้ได้ด้วยตนเอง จัดการเรียนการสอนท่ีเนน้ ทักษะการคิดผ่าน รูปแบบการเรียนการสอนแบบโครงงาน มีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในรูปแบบของการจัดทำโครงงาน คุณธรรม ครูใช้สื่อการเรียนการสอน นวัตกรรมและเทคโนโลยี ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการประเมินคุณภาพและ ประสิทธิภาพของจัดการเรียนการสอนภาคเรียนละ 1 ครั้ง รวมถึงการกระตุ้นให้ครูนำกระบวนการวิจัยมาใช้ใน การแกไ้ ขปัญหาช้ันเรยี น ปีการศกึ ษาละ 1 เรอ่ื ง

56 ดา้ นการบรหิ ารจดั การชั้นเรียน ได้มกี ารสง่ เสรมิ สนบั สนุนใหค้ รไู ดร้ ู้จกั นกั เรียนเป็นรายบุคคลโดยมี การจัดกจิ กรรม/โครงการเย่ียมบ้านนกั เรยี นทกุ ปีการศกึ ษา มีการจัดทำรายงานสรุปการเยี่ยมบา้ นนักเรยี นเพื่อ เป็นสารสนเทศสำหรบั ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ จัดกิจกรรม Home room เพ่ือ สร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างครูที่ปรึกษาและนักเรียนประจำชั้น มีการจัดเก็บข้อมูลนกั เรยี นอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทุกด้าน (การเรียน สุขภาพ เศรษฐกิจ ครอบครัวและสังคม) มงุ่ เน้นสร้างคณุ ภาพการเรียน คุณภาพ ชีวติ ท่ดี ใี หแ้ กผ่ เู้ รยี น มกี ารมอบหมายหน้าที่ใหน้ ักเรียนประจำชน้ั ในเรอ่ื งการดูแลปอ้ งกันตนเองให้ห่างไกลจากสาร เสพติด สร้างภาวะผนู้ ำในชน้ั เรยี น เปดิ โอกาสในนักเรยี นได้มสี ว่ นร่วมในการบริหารจดั การชั้นเรยี นอยา่ งเป็นระบบ ผ่านกระบวนการห้องเรียนสีขาว การจัดป้ายนิเทศในห้องเรียนเพื่อสร้างความรู้ต่าง ๆ ที่จำเป็น รวมถึงการจัด บรรยากาศการเรยี นรตู้ ามสถานทีต่ า่ ง ๆ ทงั้ ภายในห้องเรยี นและนอกห้องเรยี น ด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ ครูมีกระบวนการพัฒนาสมรรถนะตนเองโดยจัดทำ แผนการพฒั นาตนเอง (ID-Plan) และดำเนนิ การพัฒนาตนเองตามแผนอยา่ งเปน็ ระบบสอดคล้องกบั สภาพการ ปฏบิ ัติงานความตอ้ งการของสถานศกึ ษา มีการดำเนนิ งานตามนโยบายแผนกลยทุ ธข์ องหนว่ ยงานการศึกษาต้น สังกัด มีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ร่วมกันในระดับสถานศึกษา ระดับเครือข่าย และระดับชาติ และแสดง บทบาทในชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ดว้ ยความสัมพนั ธ์ แบบกลั ยาณมิตร ซงึ่ ส่งผลตอ่ การนำไปพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน ต่อไป 3. ผลการดำเนนิ งาน จากการนิเทศการสอนและการประเมินผลการปฏิบัติงานตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพครู ผลการ ประเมินตนเอง และตรวจสอบร่องรอยหลักฐานประกอบการปฏิบัติงานของครูผู้สอนรายบุคคล สรุปผลการ ดำเนินงานตามตารางท่ี 2.4 ดงั น้ี ตารางที่ 2.4 ผลการประเมินมาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคญั มาตรฐาน/ประเดน็ พจิ ารณา ผลท่ีได้ คา่ เปา้ หมาย ผลการประเมิน ปกี ารศกึ ษา 2564 ทีต่ ้ังไว้ สงู กวา่ เป้าหมาย มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ สูงกว่าเป้าหมาย สงู กว่าเปา้ หมาย 3.1 ด้านการจดั การเรยี นการสอน สงู กวา่ เปา้ หมาย บรรลุเปา้ หมาย 1) การสร้างและหรือพัฒนาหลกั สูตร ยอดเยี่ยม ดีเลิศ (96.30) (82.00) 2) การจดั การเรียนรู้ 2.1) การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ยอดเยย่ี ม ดเี ลิศ (98.77) (82.00) 2.2) การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้/ ยอดเยย่ี ม ดเี ลศิ แผนการจัด การศึกษาเฉพาะบุคคล/แผนการ (98.77) (82.00) สอนรายบคุ คล/แผนการจดั ประสบการณ์ 2.3) กลยุทธใ์ นการจัดการเรยี นรู้ ยอดเยยี่ ม ดีเลศิ (97.53) (82.00) 2.4) คณุ ภาพผเู้ รียน ดีเลศิ ดีเลิศ (80.25) (82.00)

57 ตารางท่ี 2.4 ผลการประเมนิ มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั (ต่อ) มาตรฐาน/ประเด็นพิจารณา ผลท่ไี ด้ คา่ เปา้ หมาย ผลการประเมนิ ปกี ารศกึ ษา 2564 ท่ีต้งั ไว้ สูงกว่าเปา้ หมาย มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนทีเ่ น้นผ้เู รยี นเปน็ สำคัญ สูงกว่าเปา้ หมาย สงู กว่าเป้าหมาย 3.1 ดา้ นการจดั การเรียนการสอน สูงกวา่ เปา้ หมาย 3) การสร้างและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม ยอดเยีย่ ม ดีเลิศ สูงกว่าเป้าหมาย สงู กวา่ เป้าหมาย เทคโนโลยที าง การศึกษาและแหล่งเรยี นรู้ (97.53) (82.00) สงู กว่าเปา้ หมาย สูงกวา่ เป้าหมาย 4) การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ยอดเย่ียม ดเี ลิศ สงู กว่าเป้าหมาย (97.53) (82.00) สูงกวา่ เป้าหมาย สูงกว่าเปา้ หมาย 5) การวจิ ยั เพอ่ื พฒั นาการเรยี นรู้ ยอดเยี่ยม ดีเลศิ สงู กวา่ เป้าหมาย (93.83) (82.00) ค่าเฉลีย่ รวม 3.1 ยอดเย่ียม ดีเลิศ (95.06) (82.00) 3.2 ด้านการบริหารจดั การชน้ั เรียน 1) การบริหารจดั การชั้นเรยี น ยอดเยย่ี ม ดีเลิศ (95.00) (82.00) 2) การจัดระบบดูแลช่วยเหลอื ผ้เู รียน ยอดเยย่ี ม ดีเลศิ (95.00) (82.00) 3) การจดั ทำขอ้ มลู สารสนเทศ และเอกสาร ยอดเยย่ี ม ดเี ลศิ ประจำช้นั เรียนหรอื ประจำวิชา (95.00) (82.00) ค่าเฉล่ยี รวม 3.2 ยอดเยี่ยม ดีเลิศ (95.00) (82.00) 3.3 ดา้ นการพัฒนาตนเองและพฒั นาวิชาชพี 1) การพฒั นาตนเอง ยอดเยย่ี ม ดีเลศิ (95.00) (82.00) 2) การพฒั นาวิชาชพี ยอดเย่ียม ดีเลิศ (96.30) (82.00) ค่าเฉล่ยี รวม 3.3 ยอดเยีย่ ม ดีเลศิ (95.65) (82.00) ค่าเฉลีย่ รวม มาตรฐานท่ี 3 ยอดเยยี่ ม ดีเลิศ (95.24) (82.00) จากตารางที่ 2.4 ผลการดำเนินงาน พบวา่ มาตรฐานท่ี 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้น ผเู้ รียนเป็นสำคัญ มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดับ “ยอดเยย่ี ม” คดิ เปน็ ร้อยละ 95.24 เม่อื แปลผลการพิจารณา แต่ละประเดน็ พจิ ารณา ปรากฏว่า

58 3.1 ดา้ นการจัดการเรียนการสอน 1) ครูผู้สอนร้อยละ 96.30 มีการสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร ส่งผลให้การประเมินอยู่ใน ระดบั “ยอดเยี่ยม” ซง่ึ สูงกว่าค่าเป้าหมายทตี่ ง้ั ไว้ 2) ครผู ู้สอนรอ้ ยละ 98.77 มีการออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ ส่งผลใหก้ ารประเมินอยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม” ซึง่ สงู กวา่ ค่าเป้าหมายทีต่ ้ังไว้ 3) ครูผู้สอนร้อยละ 98.77 มีการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้/แผนการจัดการศึกษาเฉพาะ บุคคล/แผนการสอนรายบคุ คล/แผนการจัดประสบการณ์ ส่งผลให้การประเมนิ อย่ใู นระดบั “ยอดเยี่ยม” ซึ่งสูง กว่าค่าเปา้ หมายที่ตัง้ ไว้ 4) ครูผู้สอนร้อยละ 97.53 มีกลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ ส่งผลให้การประเมินอยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม” ซึง่ สงู กว่าคา่ เป้าหมายท่ตี ัง้ ไว้ 5) ครูผู้สอนร้อยละ 80.25 มีการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด สง่ ผลใหก้ ารประเมินอยู่ในระดับ “ดเี ลิศ” ซ่งึ บรรลุค่าเปา้ หมายทต่ี งั้ ไว้ 6) ครูผู้สอนร้อยละ 97.53 มีการสร้างและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทาง การศกึ ษาและแหล่งเรียนรู้ สง่ ผลใหก้ ารประเมินอยใู่ นระดบั “ยอดเย่ยี ม” ซ่งึ สงู กว่าคา่ เป้าหมายทีต่ ง้ั ไว้ 7) ครูผู้สอนร้อยละ 97.53 มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ส่งผลให้การประเมินอยู่ใน ระดับ “ยอดเย่ียม” ซึ่งสูงกวา่ คา่ เป้าหมายท่ีตงั้ ไว้ 8) ครูผูส้ อนร้อยละ 93.83 มีการวิจัยเพือ่ พฒั นาการเรียนรู้ สง่ ผลให้การประเมินอยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม” ซึ่งสูงกวา่ คา่ เป้าหมายทต่ี ัง้ ไว้ 3.2 ด้านการบรหิ ารจัดการชน้ั เรียน 1) ครผู ูส้ อนร้อยละ 95.00 มีการบรหิ ารจัดการชั้นเรียนท่ีดี ส่งผลใหก้ ารประเมินอยู่ในระดับ “ยอดเยี่ยม” ซึง่ สูงกว่าคา่ เป้าหมายที่ตง้ั ไว้ 2) ครูผสู้ อนรอ้ ยละ 95.00 มกี ารจัดระบบดแู ลช่วยเหลอื ผ้เู รียนทด่ี ี ส่งผลให้การประเมนิ อยูใ่ น ระดบั “ยอดเยีย่ ม” ซง่ึ สงู กว่าค่าเปา้ หมายทต่ี ัง้ ไว้ 3) ครูผู้สอนร้อยละ 95.00 มีการจัดทำข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจำชั้นเรียนหรือ ประจำวชิ า สง่ ผลใหก้ ารประเมินอยู่ในระดับ “ยอดเย่ยี ม” ซึ่งสงู กว่าคา่ เปา้ หมายทีต่ ั้งไว้ 3.3 ด้านการจดั การเรียนการสอน 1) ครูผสู้ อนรอ้ ยละ 95.00 มีการพัฒนาตนเอง สง่ ผลให้การประเมินอย่ใู นระดับ “ยอดเย่ียม” ซ่ึงสงู กว่าคา่ เปา้ หมายที่ตงั้ ไว้ 2) ครูผู้สอนร้อยละ 96.30 มีการพัฒนาวิชาชีพ ส่งผลให้การประเมินอยู่ในระดับ “ยอดเยีย่ ม” ซ่ึงสงู กวา่ ค่าเป้าหมายท่ีตัง้ ไว้

59 4. การนำผลการดำเนินงานไปใช้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ โดยงานประกันคุณภาพสถานศึกษาได้มีการ ชี้แจงในการประชุมการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ช่วงปิดภาคเรียนที่ 2 ของทุกปีการศึกษา เพื่อ นำเสนอผลการประเมนิ ต่อผู้บรหิ าร คณะครู และผูท้ ม่ี ีส่วนเก่ียวข้อง และสามารถนำนำผลประเมนิ ไปใช้พัฒนา กระบวนการจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษาถัดไป โดยการนำผลประเมินที่ได้ไปวิเคราะห์ถึงสาเหตุและ ปัญหาที่เกิดขึ้น นำผลประเมินมาวางแผนการจัดการเรียนรู้ และดำเนินการตามแผน เช่น ครูได้ดำเนินการ วเิ คราะห์สภาพปญั หา ผลการจัดการเรยี นการสอนในปีทผ่ี ่านมา แลว้ นำผลมาใช้ปรับแผนการจัดการเรยี นรู้ ให้ สอดคล้องกับสภาพปญั หาและความตอ้ งการจำเปน็ รายบคุ คล 5. การเผยแพรผ่ ลการดำเนนิ งาน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และให้ข้อมูล ป้อนกลับเพื่อพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน ควรมีชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพระหว่างครูและ ผู้เกยี่ วข้อง เชน่ ภายในกลมุ่ สาระรายวชิ า และภายในกล่มุ โรงเรยี น รวมทงั้ มกี ารนิเทศการจดั การเรยี นการสอน จากผูบ้ ริหาร ศกึ ษานเิ ทศก์ และครูอย่างต่อเนือ่ ง พร้อมท้ังมกี ารจดั เก็บเอกสารการประเมนิ ในรูปแบบออนไลน์ และเอกสาร รวมทั้งมีช่องทางให้ผู้อ่านหรือผู้ประเมินสามารถเข้าถึงข้อมูลรายงานการประเมินตนเอง และ หลกั ฐานอื่น ๆ ท้ังหมดผา่ นทางเวบ็ ไซนเ์ กบ็ เอกสารของโรงเรียน http://www.checkin.rpk31school.ac.th/ ebook/?p=BookCase&BookCID=586 6. จุดเด่น 1. ครูมีการใช้วิจัยในชั้นเรียนช่วยในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน เน้นพัฒนาผู้เรียนที่ สอดคล้องกับพฤติกรรมการเรยี นรู้ 2. ครูมีการจัดการเรยี นรูท้ เ่ี นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ เขา้ ใจ เขา้ ถงึ ผเู้ รยี น โดยจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคทหี่ ลากหลาย ฝกึ เน้นกระบวนกานคดิ วิเคราะห์ ลงมอื ปฏิบัตจิ ริง ฝึกใหผ้ ู้เรยี นกล้าแสดงออก เสรมิ สร้าง ทกั ษะอาชีพให้แก่ผ้เู รยี น 3. ครูมีการจัดการเรียนรู้ตามมาตรฐานตัวชี้วัดตามหลักสูตรแกนกลาง บูรณาการสอนเน้น ประสบการณ์จริงจากการดำเนินชวี ติ ประจำใหม้ ากทสี่ ุด สอนสิ่งทอ่ี ยู่ใกลต้ วั มากทสี่ ุด 4. ครูมีกลยุทธ์การสอน การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ และจัดทำแผนการเรียนรู้ นำสื่อและ เทคโนโลยมี าใช้ในการจดั การเรยี นการสอน 5. ครูเอาใจใสใ่ นการจดั การเรียนการสอนเพือ่ ให้เกดิ ประโยชน์สงู สุดแกน่ ักเรียน 6. ครูสามารถจดั การเรียนรไู้ ดต้ รงตามระดบั ความสามารถของนักเรยี น 7. ครูมีความตั้งใจและมุ่งมั่นพัฒนาผู้เรียนอย่างเต็มความสามารถ มีการวางแผนการทำงาน และ เตรยี มตัวก่อนเข้าสอน และนำผลมาพฒั นาการสอนต่อไป 8. ครูมีการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล แยกเป็นกลุ่มเก่ง กลุ่มปานกลาง และกลุ่มอ่อน แล้ว พฒั นาการส่งเสริมความรู้ ทักษะกระบวนการ และเจตคตทิ ด่ี ี

60 9. ครูมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม และปฏิบตั ติ นตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ครูมีความมุง่ มั่นและอุทิศตน ในการสอนและพฒั นาผู้เรยี น เข้าสอนตรงเวลา 10. ครูมีการบรหิ ารจดั การชัน้ เรียนไดด้ ี การสรา้ งขอ้ ตกลงก่อนทำการจดั การเรียนรู้ เนน้ การจัดการ ในช้ันเรยี นการมีสว่ นร่วมในการเรยี น 11. ครูมีการจัดเนื้อหาสาระและจัดกจิ กรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ฝึกทกั ษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณแ์ ละการ ประยกุ ตค์ วามรมู้ าใชเ้ พอ่ื ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา ในเรือ่ งการตัดสนิ ใจ ในการเลือกศกึ ษาตอ่ ในระดับท่ีสูงข้ึน 7. จดุ ทค่ี วรพฒั นา 1. การจัดการเรยี นการสอนควรใชค้ ำทเี่ ข้าใจง่ายขน้ึ ปรับการเรียนเปลย่ี นการสอน ส่อื การเรียนการ สอนควรมกี ารพฒั นาอยูเ่ สมอ และให้ความสนใจกบั ผู้เรยี นมากกว่านี้ 2. ให้ความสำคัญในการทำวิจัยในชน้ั เรียน หาความรเู้ พิ่มเติมในดา้ นการจดั การเรยี นการสอน เพ่ือ เพิ่มเทคนิคการสอนที่หลากหลาย เน้นให้ผู้เรียนมีความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิด แก้ปัญหา คดิ สร้างสรรค์ 3. ควรส่งเสริมกระบวนการคิด ในรูปแบบของค่ายวิทยาศาสตร์ สะเต็มศึกษา เน้นการใช้สื่อ และ เทคโนโลยี ในการเรยี นการสอน 4. ควรมีการพัฒนาวิชาชีพในการจัดชุนชนทางวิชาชีพครู (PLC) อย่างจริงจัง เพื่อนำผลมาใช้ ประโยชน์ได้จรงิ ให้เกิดประสทิ ธิผล 5. ควรสง่ เสริมให้ผู้เรยี นหาประสบการณน์ อกหอ้ งเรยี นเพ่อื ฝึกทักษะทางสงั คม ทักษะอาชีพ ทักษะ ทางภาษาในชีวติ จรงิ 8. ขอ้ เสนอแนะ โรงเรียนควรสง่ เสรมิ ให้ครมู ีความเชยี่ วชาญในการนำสอื่ เทคโนโลยีมาใชใ้ นการจัดการเรียนรู้อย่าง เป็นระบบ โดยเริ่มตั้งแต่การวางแผนนำสื่อเทคโนโลยีทีท่ ันสมัยมาใช้ให้เหมาะสมกับการจัดทำแผนการเรียน การในแต่ละชั้นเรียน เช่น การกำหนดให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลและทำรายงานโดยการกำหนดให้ไปค้นคว้าจาก ระบบออนไลน์ หรือการนำเสนองานของนักเรียนด้วยการใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ตา่ ง ๆ เปน็ ต้น ทัง้ นี้จะต้อง ให้เหมาะสมกบั ผู้เรยี นในแต่ละชน้ั เรียน มีการประเมนิ การใช้แผนการเรียนรู้ สรปุ ผลการดำเนนิ งาน หาปัญหา และอปุ สรรค และมกี ารแลกเปล่ียนเรยี นรู้ร่วมกนั ของครู แลว้ นำมาใชเ้ ปน็ แนวทางในการพัฒนาและปรับปรุง แผนการจดั การเรยี นร้ใู นคร้ังต่อไป ทั้งนีจ้ ะต้องเผยแพรผ่ ลการดำเนนิ งานเพ่อื ใหผ้ ้เู ก่ียวข้องไดร้ บั ทราบด้วยการ ประชมุ ครู ผปู้ กครอง หรือการเผยแพร่ทางระบบออนไลนห์ รือเอกสารตอ่ ไป 9. แหลง่ ขอ้ มลู หลักฐานอ้างองิ 9.1 แบบรายงานการนเิ ทศครผู ้สู อน 9.2 แบบประเมนิ ตนเองของครูผู้สอน (SAR) 9.3 แฟ้มสะสมผลงานออนไลน์ของครูผู้สอน 9.4 แผนการจดั การเรียนรขู้ องครูผู้สอน 9.5 แบบบนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ของครผู ูส้ อน

61 9.6 การออกแบบหลกั สูตรและโครงสร้างรายวิชา 9.7 แบบรายงานผลสมั ฤทธ์ิของผเู้ รียน 9.8 แบบสำรวจการสร้างและพฒั นาส่อื นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาของครูผสู้ อน 9.9 แบบเกบ็ ขอ้ มลู การจัดระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน 9.10 เอกสารประกอบการจัดการเรียนในชัน้ เรยี น 9.11 แบบรายงานวจิ ัยในช้นั เรียนของครผู สู้ อน 9.12 แบบรายงานการพฒั นาตนเอง (ID – Plan) 9.13 แบบรายงานการปฏิบตั งิ านของครผู ู้สอน 9.14 แบบรายงานสรปุ การอบรมของครูผู้สอน 9.15 แบบบนั ทกึ ชุมชนแห่งการเรยี นรูท้ างวิชาชีพ 10. แบบอย่างท่ดี ี (Best Practice) หรอื นวตั กรรม (Innovation) 10.1 นวตั กรรม การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น ภายในโรงเรียน 10.2 นวัตกรรม แฟ้มจัดเกบ็ เอกสารในรูปแบบออนไลน์ ผู้ที่สนใจหรือผู้ประเมินสามารถเปิดอ่าน ไดท้ กุ สถานที่ ทกุ เวลา มคี วามสะดวกและรวดเรว็ ครรู ้อยละ 100 สามารถทำไดท้ กุ คน 10.3 แบบอย่างท่ีดี (Best Practice) ครรู อ้ ยละ 100 สามารถจัดทำแผนการจัดการเรียนรไู้ ด้ และ สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง 10.4 แบบอย่างที่ดี (Best Practice) ครูร้อยละ 100 สามารถจัดทำวิจัยในชั้นเรียน และสามารถ นำไปพัฒนาการสอนของตนเองไดจ้ รงิ

62 สรุปผลการประเมินภาพรวมของสถานศกึ ษา การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศกึ ษา ประจำปีการศึกษา 2564 มาตรฐาน/ประเด็นพิจารณา ผลท่ีได้ ค่าเปา้ หมาย ผลการประเมนิ ปีการศึกษา ทต่ี ง้ั ไว้ 2564 มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผูเ้ รยี น 1.1 ผลสัมฤทธทิ์ างวิชาการของผ้เู รยี น 1) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน ยอดเยย่ี ม ดีเลศิ สงู กวา่ เป้าหมาย การสอื่ สารและการคดิ คำนวณ (97.84) (82.00) 2) มีความสามารถในการวิเคราะห์และคิด ยอดเยย่ี ม ดีเลิศ สูงกว่าเปา้ หมาย อย่างมีวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยน (97.53) (82.00) ความคดิ เหน็ และแกป้ ัญหา 3) มคี วามสามารในการสร้างนวตั กรรม ยอดเยย่ี ม ดีเลิศ สูงกวา่ เป้าหมาย (96.30) (82.00) 4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ยอดเยี่ยม ดีเลิศ สงู กวา่ เปา้ หมาย สารสนเทศ และการสอื่ สาร (95.00) (82.00) 5) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตร ดี ดีเลศิ ตำ่ กว่าเป้าหมาย สถานศกึ ษา (76.42) (80.00) 6) มีความรู้ ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดี ยอดเยี่ยม ดีเลศิ สงู กว่าเปา้ หมาย ต่องานอาชพี (95.00) (82.00) คา่ เฉลยี่ รวม 1.1 ยอดเยีย่ ม ดีเลิศ สูงกว่าเป้าหมาย (93.02) (82.00) 1.2 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ของผู้เรียน 1) การมคี ุณลกั ษณะ ค่านยิ ม และ ยอดเย่ียม ดีเลิศ สงู กว่าเป้าหมาย อัตลกั ษณ์ของนกั เรียนทีด่ ี (96.11) (82.00) 2) การมที ักษะดำรงชวี ิตในโรงเรียนประจำ ดเี ลศิ ดีเลิศ บรรลุเป้าหมาย (81.32) (82.00) 3) ความภูมใิ จในท้องถนิ่ และความเป็นไทย ยอดเยย่ี ม ดีเลศิ สงู กว่าเป้าหมาย (96.09) (82.00) 4) การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความ ยอดเยี่ยม ดีเลศิ สูงกว่าเป้าหมาย แตกต่างและหลากหลาย (95.00) (82.00) 5) สขุ ภาวะทางร่างกายและจิตสงั คม ยอดเยี่ยม ดีเลศิ สงู กว่าเป้าหมาย (96.08) (82.00) คา่ เฉลย่ี รวม 1.2 ยอดเยี่ยม ดีเลศิ สูงกวา่ เป้าหมาย (92.92) (82.00) คา่ เฉล่ียรวม มาตรฐานท่ี 1 ยอดเย่ยี ม ดีเลศิ สงู กวา่ เปา้ หมาย (92.97) (82.00)

63 มาตรฐาน/ประเด็นพจิ ารณา ผลท่ไี ด้ ค่าเป้าหมาย ผลการประเมิน ปีการศกึ ษา ท่ีต้งั ไว้ สงู กวา่ เปา้ หมาย 2564 สงู กว่าเป้าหมาย สงู กว่าเปา้ หมาย มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ สงู กว่าเป้าหมาย สงู กวา่ เป้าหมาย 2.1 การมเี ป้าหมาย วิสยั ทัศน์ และพนั ธกิจ ยอดเยี่ยม ดีเลิศ สูงกว่าเปา้ หมาย บรรลุเปา้ หมาย ท่ีสถานศึกษากำหนดชัดเจน (95.06) (82.00) สูงกว่าเปา้ หมาย 2.2 มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของ ยอดเยี่ยม ดเี ลิศ สงู กวา่ เป้าหมาย สถานศึกษา (96.30) (82.00) สูงกว่าเป้าหมาย สูงกวา่ เปา้ หมาย 2.3 ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้น ยอดเยย่ี ม ดีเลิศ สงู กวา่ เป้าหมาย คุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลัก สูตร (97.53) (82.00) สถานศึกษาและทุกกล่มุ เปา้ หมาย 2.4 พัฒนาครูและบุคลกรให้มีความ ยอดเยี่ยม ดีเลิศ เชย่ี วชาญทางวิชาชพี (97.53) (82.00) 2.5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและ ยอดเยี่ยม ดีเลศิ สังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมี (97.53) (82.00) คณุ ภาพ 2.6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ ยอดเยย่ี ม ดเี ลศิ สนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการ (97.53) (82.00) เรียนรู้ 2.7 หนว่ ยงาน องค์กร ชมุ ชนใหก้ าร ดเี ลศิ ดีเลศิ สนับสนนุ การพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา (87.65) (82.00) ดว้ ยรปู แบบและวิธกี ารทีห่ ลากหลาย ค่าเฉลยี่ รวม มาตรฐานท่ี 2 ยอดเยี่ยม ดเี ลิศ (95.59) (82.00) มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทีเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สำคัญ 3.1 ดา้ นการจัดการเรยี นการสอน 1) การสร้างและหรอื พฒั นาหลักสตู ร ยอดเยยี่ ม ดีเลิศ (96.30) (82.00) 2) การจดั การเรยี นรู้ 2.1) การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ยอดเยี่ยม ดีเลศิ (98.77) (82.00) 2.2) การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้/ ยอดเย่ียม ดีเลิศ แผนการจัด การศึกษาเฉพาะบุคคล/แผนการ (98.77) (82.00) สอนรายบุคคล/แผนการจดั ประสบการณ์ 2.3) กลยทุ ธ์ในการจดั การเรยี นรู้ ยอดเยี่ยม ดีเลศิ (97.53) (82.00)

64 มาตรฐาน/ประเดน็ พจิ ารณา ผลท่ไี ด้ ค่าเปา้ หมาย ผลการประเมนิ ปีการศึกษา ทต่ี ั้งไว้ 2.4) คุณภาพผู้เรียน 2564 ดีเลิศ บรรลุเปา้ หมาย 3) การสร้างและการพัฒนา สื่อ นวัตกรรม (82.00) สูงกว่าเป้าหมาย เทคโนโลยีทาง การศกึ ษาและแหลง่ เรยี นรู้ ดีเลศิ ดีเลิศ สูงกวา่ เปา้ หมาย (80.25) (82.00) สูงกวา่ เปา้ หมาย 4) การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ยอดเยย่ี ม ดีเลศิ สูงกว่าเปา้ หมาย (97.53) (82.00) 5) การวจิ ัยเพ่อื พฒั นาการเรียนรู้ ยอดเยย่ี ม (97.53) ดีเลศิ ค่าเฉลีย่ รวม 3.1 ยอดเยี่ยม (82.00) (93.83) 3.2 ดา้ นการบริหารจดั การชน้ั เรียน ยอดเย่ียม ดีเลศิ 1) การบริหารจัดการชนั้ เรยี น (95.06) (82.00) 2) การจัดระบบดูแลชว่ ยเหลอื ผู้เรียน ยอดเยี่ยม ดีเลศิ สงู กวา่ เป้าหมาย (95.00) (82.00) สูงกวา่ เป้าหมาย 3) การจดั ทำขอ้ มลู สารสนเทศ และเอกสาร ยอดเย่ยี ม ดีเลิศ สูงกว่าเป้าหมาย ประจำชั้นเรียนหรอื ประจำวิชา (95.00) (82.00) สงู กวา่ เป้าหมาย ยอดเยย่ี ม ดีเลิศ ค่าเฉลี่ยรวม 3.2 (95.00) (82.00) ยอดเยย่ี ม ดีเลิศ 3.3 ด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (95.00) (82.00) 1) การพัฒนาตนเอง ยอดเยย่ี ม ดีเลิศ สงู กวา่ เปา้ หมาย 2) การพฒั นาวิชาชพี (95.00) (82.00) สูงกว่าเปา้ หมาย ยอดเยี่ยม ดีเลศิ สงู กว่าเป้าหมาย คา่ เฉลี่ยรวม 3.3 (96.30) (82.00) ยอดเยย่ี ม ดีเลศิ สงู กว่าเปา้ หมาย ค่าเฉลย่ี รวม มาตรฐานที่ 3 (95.65) (82.00) สูงกว่าเปา้ หมาย สรปุ ผลการประเมนิ ภาพรวม ยอดเย่ยี ม ดีเลิศ (95.24) (82.00) คณุ ภาพของสถานศกึ ษา ยอดเย่ยี ม ดเี ลศิ (94.60) (82.00)

65 การกำหนดค่าเป้าหมาย และการกำหนดเกณฑ์การประเมนิ ภายในสถานศึกษา 1. ศึกษาจากเอกสาร หลักฐาน และผลการประเมินการปฏบิ ัติงานและผลการประเมินตนเองของครู และบคุ ลากรทางการศึกษาที่ผ่านมา เพ่อื เปน็ ขอ้ มูลพืน้ ฐานฐานในการกำหนดคา่ เป้าหมาย และการแปลผล 2. การกำหนดค่าเปา้ หมาย ในแต่ละประเดน็ พจิ ารณาจะกำหนดเป็น ระดับคุณภาพ หรือเปน็ รอ้ ยละ ตามความเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา 3. การกำหนดค่าเป้าหมายแต่ละมาตรฐาน กำหนดเป็นระดับคุณภาพ 5 ระดับ เพื่อให้เกิดความ สอดคล้องกับคู่มือการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ โดยไดก้ ำหนดเกณฑก์ ารแปลผลระดบั คณุ ภาพของสถานศกึ ษา ดงั นี้ ยอดเย่ียม หมายถึง ร้อยละ 90 ข้ึนไป ดีเลศิ หมายถึง ร้อยละ 80 - 89 ดี หมายถึง ร้อยละ 70 - 79 ปานกลาง หมายถงึ รอ้ ยละ 60 - 69 กำลังพัฒนา หมายถงึ ตำ่ กว่าร้อยละ 60

66 ส่วนที่ 3 สรปุ ผล แนวทางการพัฒนา และความต้องการช่วยเหลอื ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาถือเป็นข้อมูลสารสนเทศสำคัญที่สถานศึกษาจะต้องนำไป วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อสรุปนำไปสู่การเชื่อมโยงหรือสะท้อนภาพความสำเร็จกับแผนพัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษาของสถานศึกษาตลอดระยะเวลา 3 – 5 ปี และนำไปใช้ในการวางแผนพฒั นาคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษา ดังนั้น ผลการดำเนินงานของสถานศึกษา สามารถสรุปผลการประเมินในภาพรวมของจุดเด่น จดุ ควรพฒั นา และแนวทางการพัฒนาในอนาคต และความตอ้ งการชว่ ยเหลอื ดังน้ี สรุปผล ผลการประเมินภาพรวมของสถานศึกษาการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ประจำปี การศึกษา 2564 มรี ายละเอียดดงั นี้ มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผูเ้ รยี น อยใู่ นระดับคุณภาพ “ยอดเย่ียม” คิดเป็นร้อยละ 92.97 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน พบว่า นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัด เชียงใหม่ มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณสูงกว่าค่าเป้าหมายท่ี สถานศึกษากำหนด คดิ เป็นรอ้ ยละ 97.84 มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ คดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ อภปิ ราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และแก้ปัญหาได้ คิดเป็นร้อยละ 97.53 มี ความสามารถในการสร้างนวัตกรรม คิดเป็นรอ้ ยละ 96.30 มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่อื สารเพือ่ พฒั นาตนเองและสงั คมในดา้ นการเรียนรู้ การส่ือสาร การทำงาน อยา่ งมีจรยิ ธรรม คิดเป็นร้อย ละ 95.00 ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับดีขึ้นไป (เกรด 3 ขึ้นไป) คิดเป็นร้อยละ 76.42 ในปี การศึกษา 2562 – 2564 พบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการทางการเรียนที่สูงขึ้นทุกปี และผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ พื้นฐาน และเจตคติที่ดีพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพใน อนาคตได้ คิดเป็นร้อยละ 95.00 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน พบว่า นักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัด เชียงใหม่ มีคุณลักษณะ ค่านยิ ม และอตั ลักษณข์ องนักเรยี นท่ีดี คดิ เป็นร้อยละ 96.11 มที ักษะการดำรงชีวิตใน โรงเรียนประจำ คิดเป็นร้อยละ 81.32 มีความภูมิใจในท้องถิ่น เห็นคุณค่าของความเป็นไทย มีส่วนร่วมในการ อนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาไทย คิดเป็นร้อยละ 96.09 สามารถอยู่ร่วมกันบนความแตกต่าง และหลากหลาย คิดเปน็ ร้อยละ 95.00 มสี ขุ ภาวะทางรา่ งกายและจติ สงั คมตามเป้าหมายท่สี ถานศึกษากำหนด คิดเปน็ รอ้ ยละ 96.08 มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ อยู่ในระดับคุณภาพ “ยอดเยี่ยม” คิดเป็นร้อย ละ 95.59 พบว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ และผู้ที่มี ส่วนเก่ยี วขอ้ ง มีความพงึ พอใจในการบรหิ ารและการจดั การในภาพรวมคดิ เป็นร้อยละ 95.06 โดยท่สี ถานศกึ ษา

67 มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ พันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ความต้องการ ของชุมชน นโยบาลของรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาติ เป็นไปได้ในการปฏิบัติ คิดเป็นร้อยละ 95.06 มีระบบ บริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ชัดเจน คิดเป็นร้อยละ 96.30 ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษา โดยความร่วมมือของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร้อยละ 90 ขึ้นไป มีความพึงพอใจในการบริหารและการจัดการ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมายเชื่อมโยงกับชีวิตจริง คิดเป็นร้อยละ 97.53 พัฒนาครูและ บุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ตรงตามความต้องการของครู และสถานศึกษา คิดเป็นร้อยละ 97.53 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และมีความปลอดภัยคิด เป็นร้อยละ 97.53 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ท่ี เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา คิดเป็นร้อยละ 97.53 และมีการส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงาน องค์กร ชุมชนภายนอกเข้านอกมามีส่วนร่วมในการพฒั นาคุณภาพการจัดการศกึ ษา คดิ เป็นร้อยละ 87.65 มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อยู่ในระดับคุณภาพ “ยอดเยี่ยม” คิดเป็นร้อยละ 95.24 พบว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ร้อยละ 95.24 มีความสามารถด้านการจัดการเรียนการสอน โดยมีการวิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรยี นรู้ตัวชีว้ ัด ผลการเรยี นรู้เพื่อนำไปจัดทำหน่วยการเรียนรู้ที่สอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและหรือผลการเรียนรู้ ปรับประยุกต์หลักสูตรรายวิชา และหน่วยการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน เรื่องท้องถ่ิน และสามารถนำไปปฏิบัติได้จรงิ มีการประเมินผล การใช้หลกั สูตรอยา่ งเป็นระบบและนำผลการประเมนิ การใช้หลักสูตรมาปรับปรุงพัฒนาให้มคี ุณภาพสูงขึ้น การ ออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้รายวิชาเพม่ิ เตมิ โดยการปรับประยุกต์ใหส้ อดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาท้องถ่ิน และเหมาะสมกับผู้เรียน มีกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติที่สอดคล้องกับธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่หลากหลาย ตรงตามความถนัดและความสนใจของผู้เรียนอย่างทั่วถึง ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย จำนวนทั้งสิ้น 44 หลักสูตร และมีการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะอาชีพโดยมีการ จัดทำหลักสูตรทวิศึกษาและบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับวิทยาลัยการอาชีพจอมทอง ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ได้แก่สาขาการบัญชี สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สาขาการท่องเที่ยว และสาขา ช่างเชื่อมโลหะ จำนวนทั้งสิ้น 4 สาขา แผนการเรียนสำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่หลากหลาย ตรงตาม ความถนดั และความสนใจของผู้เรียนอย่างทวั่ ถึงครอบคลุมทุกกลุม่ เป้าหมาย จำนวนท้ังสนิ้ 6 กลุ่มวิชา พร้อม ท้งั ครูได้มีการจัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ โดยใช้กลยทุ ธ์ รูปแบบ เทคนิคและวิธกี ารที่เน้นวิธีการปฏบิ ตั มิ ีความ หลากหลาย มีการพัฒนาและใช้ส่ือนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ครูนำเทคโนโลยีท่ี ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน เช่น การใช้ Zoom , Google Form , Google sheet , Line , Facebook การวัดผลและประเมินผลที่หลากหลายตามบริบทของรายวิชา และนำผลการ ประเมินมาศึกษาร่วมกับกระบวนการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อปรับปรุงพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณภาพสูงขึ้น ครูและ บุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ร้อยละ 96.32 มีความสามารถดา้ น การบริหารจัดการชั้นเรียน โดยมีการจัดสภาพแวดล้อมบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีความความปลอดภัย

68 และมีความสุข ส่งเสรมิ ให้ผ้เู รียนเกดิ กระบวนการคิด มที กั ษะชวี ิตและทกั ษะการทำงานอบรมบม่ นิสัยให้ผู้เรียน มีคุณธรรมจริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค่านิยมที่ดีงาม ปลูกฝังความเป็นประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เสริมแรงใหผ้ ู้เรียนมีความมั่นใจในการพัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพเกิดแรง บันดาลใจ เป็นแบบอย่างที่ดี มีการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ จัดทำและใช้สารสนเทศของผู้เรียนใน ระบบดูแลช่วยผู้เรียนมีโครงการและจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ด้วยวิธีการที่หลากหลายในการดูแลช่วยเหลือ ผู้เรียน ส่งเสริม ป้องกัน และแก้ปัญหาผู้เรียนอย่างเป็นระบบ เป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นผู้นำได้ มีการจัดทำ ข้อมูลสารสนเทศ และเอกสารประจำชั้นเรียนหรือประจำวิชาอย่างเป็นระบบ ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน พร้อม ทั้งครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ ร้อยละ 94.74 มี ความสามารถด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ ยังรับโอกาสในการพัฒนาตนเองด้านวิชาชีพอย่าง ต่อเนื่อง ผ่านการจัดทำแผนการพฒั นาตนเอง มีการพัฒนาตนเองตามแผน นำความรู้ความสามารถทักษะท่ไี ด้ จากการพัฒนาตนเองมาพัฒนานวตั กรรมการจดั การเรยี นรทู้ ี่ส่งผลต่อคุณภาพผเู้ รียน สร้างองค์ความรู้ใหม่ท่ีได้ จากการพัฒนาตนเอง และการเข้าร่วมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) นำองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้า ร่วมชุมชนการเรียนรูทางวิชาชีพไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน และสร้างนวัตกรรมที่ได้จากการเข้าร่วมใน ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สร้างเครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สร้างวัฒนธรรมทางการเรียนรู้ใน สถานศกึ ษาใหม้ ปี ระสิทธิภาพยิ่งขึ้น จุดเด่น จดุ ควรพฒั นา มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพผูเ้ รยี น มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพผเู้ รียน 1.1 ดา้ นผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของผู้เรียน 1.1 ดา้ นผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของผ้เู รยี น 1. นักเรียนเรียนรู้แบบเรียนมือกันภายในโรงเรียน มี 1. ควรมีการพัฒนาพื้นฐานทางด้านภาษาการสื่อสารของ กิจกรรมการเรียนรู้วิธีการที่หลากหลาย ยอมรับฟัง นกั เรยี น เนอ่ื งจากผเู้ รียนเปน็ กลุ่มชนชาติพนั ธุ์ ทำให้ติด ความคิดเหน็ ของกันและกนั ปัญหาเรื่องการสื่อสารไม่ชัดเจน และชอบเขียนตาม 2. นักเรียนได้รับการฝึกให้อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลข คำพูดของตนเอง จงึ ทำใหผ้ ิดหลักของภาษา เป็น เน้นให้นักเรียนทุกคนได้คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ 2. ควรมกี ารพัฒนาพ้ืนฐานการคิดคำนวณของผเู้ รียน มีการ ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง การแสดงความคิดเห็น และให้ ปรับพื้นฐานของนักเรียนก่อนวิเคราะห์นักเรียน แยก นักเรยี นเรียนมีการกล้าแสดงออก ได้ถาม ได้ตอบ มีการ กลุ่มเก่ง ปานกลาง ออ่ น เพื่อพัฒนานักเรยี นได้ตรงตาม เสรมิ แรง โดยดงึ ศักยภาพของนักเรยี นแต่ละคนออกมา จุด 3. นักเรียนได้รับพัฒนาตามความสามารถเฉพาะด้าน ใน 3. ควรมีการกระตุ้นให้นักเรียนชอบการเรียนรู้ในชั้นเรียน การฝึกปฏิบัติเพื่อนำไปประกอบอาชีพที่หลากหลาย เพม่ิ กลยทุ ธ์ เทคนิค วธิ ีการทห่ี ลากหลายการควบคมุ ชนั้ เน้นฝึกกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์และการ เรยี น ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล มีการใช้เทคโนโลยีช่วยในการ 4. ควรฝึกกระบวนการคดิ ข้นั สงู คดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ จัดการเรยี นรู้ คิดอย่างสร้างสรรค์ให้นักเรียน สามารถนำไปสร้าง 4. นักเรียนสามารถเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ โต้ตอบ นวัตกรรมใหม่ ๆ ในรายวิชาเรียน คำถามในสื่อการเรียนที่สอนได้ดีและเข้าในเนื้อหา การ 5. ควรเสรมิ สรา้ งความกล้าแสดงออก สร้างสถานการณก์ าร ลงมือปฏิบัติจริงทำให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ จิต เรียนรู้ให้กับนกั เรยี นไดเ้ รียนรูไ้ ดด้ ้วยตนเอง สาธารณะ และมคี วามมงุ่ มั่นตั้งใจ 6. ควรเน้นการค้นพบความถนัดและความสามารถของ ตนเอง ทักษะและกระบวนการ

69 จดุ เดน่ จดุ ควรพฒั นา 5. นักเรียนมีความกล้าคดิ กล้าแสดงออก และการแสวงหา 7. ควรมีการใช้จิตวิทยาในการสอนให้กมากว่านี้เพื่อให้เกิด ความสนกุ สนานในชั้นเรยี น ความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่าง 8. ควรเสริมสร้างประสบการณ์นอกห้องเรียน เสริมสร้าง ตอ่ เนือ่ ง ทักษะการดำรงชีวิตของนักเรียนประจำ เสริมสร้าง ทักษะอาชพี ตา่ ง ๆ ใหแ้ กผ่ เู้ รียน 6. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตร 1.2 ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผู้เรียน สถานศกึ ษาและมกี ารพฒั นาอย่างตอ่ เนื่อง 1. ควรมีการเสริมสร้างให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญ 7. นักเรียนมีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีพร้อมท่ี ของการศกึ ษา การนอ้ มนำแนวทางพระราชดำริมาปรับ ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั จะศึกษาตอ่ ในระดบั ช้นั ที่สูงขนึ้ เพ่ือเป็นแนวทางในการ 2. ควรเสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิตทางสังคม บนความ แตกต่างและความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ประกอบอาชีพในอนาคตได้ มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ 1.2 ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผเู้ รยี น 1. ควรมจี ัดระบบและการวางแผนการทำงานท่ีชดั เจนใน 1. นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค่านิยม และอัต แตล่ ะปีการศกึ ษา งานทุกอย่างในโรงเรียนควรเปน็ ระบบระเบียบมากขึน้ และนำผลการปฏบิ ตั ิมาปรบั ปรงุ ลกั ษณข์ องนักเรยี นทด่ี ี แกไ้ ขในคร้ังตอ่ ไป 2. ควรมกี ารทำงานเป็นทมี สร้างทมี งานในการพฒั นา 2. นักเรียนมีการยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่าง สถานศึกษา และความชัดเจนในการพฒั นาองค์กร ยดึ ตวั ผู้เรยี นเป็นสำคญั และหลากหลาย รุน่ พปี่ ฏิบัติตนใหเ้ ปน็ ตวั อยา่ งท่ีดีให้กับ 3. ควรมีการรบั ฟงั ความคิดเห็นในภาพรวม และเขา้ ถงึ ปญั หาทกุ เร่ืองภายในสถานศกึ ษา สนับสนนุ ให้แสดง นักเรียนรุ่นน้อง อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข บนพื้นฐาน ความคิดเห็นบนพนื้ ฐานของความถูกต้องเหมาะสม วัฒนธรรมชนชาติพนั ธท์ุ ีห่ ลากหลาย 3. นักเรียนมีความภูมิใจในท้องถิ่นและชนเผ่าของตนเอง เห็นคุณค่าของความเป็นไทย มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณี และภูมปิ ัญญาไทย 4. นักเรียนได้รับการฝึกทักษะดำรงชีวิตในโรงเรียนประจำ เป็นวัฒนธรรมของโรงเรียนประจำ ได้แก่กิจกรรม ส่งเสริมสุขนิสัย กิจกรรมส่งเสริมสมรรถภาพทางกาย กิจกรรมหลักโภชนาการ กิจกรรมหลักไตรรงค์ กิจกรรม สร้างเสริมภาวะผู้นำ กิจกรรมอนุรักษ์พลังงานและ สิ่งแวดล้อม กิจกรรมส่งเสริมอาชีพท้องถิ่น และ กจิ กรรมพัฒนาสนุ ทรียภาพ 5. นักเรียนมสี ขุ ภาวะทางรา่ งกายและจติ สงั คมที่ดี มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบรหิ ารและการจดั การ 1. สนบั สนุนใหม้ ีการนำเทคโนโลยสี ารสนเทศมาช่วยใน การบรหิ ารงานในกลุ่มงานต่าง ๆ 2. มกี ารบริหารสถานศึกษาในรูปแบบการทำงานเปน็ ทีม มวี ฒั นธรรมองค์กรทเ่ี ขม้ แขง็ โดยยดึ หลกั ผู้เรยี นเปน็ สำคญั 3. สถานศึกษามคี วามพร้อมดา้ นสถานที่ การจดั สภาพแวดลอ้ มได้ทเ่ี ออ้ื มอำนวยต่อการเรียนรู้เปน็ อยา่ ง ดี มีวสั ดุอปุ กรณ์ เครือ่ งมอื ในการพฒั นาคุณภาพ การศึกษา

70 จุดเด่น จุดควรพัฒนา 4. มีการส่งเสรมิ สนับสนุนครูในดา้ นการจดั การศึกษาให้มี 4. ควรมกี ารสง่ เสริมพัฒนาครูและบุคลากรใหม้ คี วาม ความเปน็ มาตรฐาน ให้ความสำคัญในเรือ่ งของการ เชี่ยวชาญทางวชิ าชีพ ให้มคี วามรู้ ความสามารถ ทักษะ จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ตาม มาตรฐานตำแหน่ง จดั อบรมเกี่ยวกับส่ือ เทคโนโลยใี นการจัดการศึกษา 5. มโี ครงสร้างการบริหารงานและการจดั การท่ีชดั เจนเปน็ ระบบ ใช้เทคนิคการประชุมท่ีหลากหลายวิธี เพ่อื รว่ ม 5. สร้างเจตคติทด่ี ตี ่อวชิ าชีพและแนวปฏบิ ตั ทิ ี่ชัดเจนให้ ระดมความคดิ ในการจดั ทำแผนพฒั นาคุณภาพ บุคลากร เพ่ือการปฏิบตั ิในแนวทางเดยี วกันและลด การศึกษา ตลอดจนแผนปฏิบัติการประจำปี และนำผล ความเหลอื่ มล้ำในการปฏิบตั ิหน้าท่ี สง่ ผลดตี อ่ การ จากการปฏบิ ตั ิงานมาพฒั นาสถานศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง พฒั นางานวชิ าการและพัฒนาผ้เู รียนอย่างเต็มศักยภาพ เป็นประจำทกุ ปี 6. ควรมีการสนับสนนุ เทคโนโลยีที่ใช้ในการจดั การศึกษา 6. มวี ฒั นธรรมองคก์ รทีเ่ ข้มแข็ง เปน็ สถานศกึ ษทีม่ ี อยา่ งทว่ั ถึง เตรียมรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดใน คุณภาพ ปจั จุบนั 7. มกี ารกระจายอำนาจ ให้ครูผมู้ ีความเชย่ี วชาญและ 7. ควรลดภาระของครู ลดเอกสารที่ไม่จำเป็น เพอ่ื มีเวลา ประสบการณ์ในการบริหารงาน ขน้ึ มามสี ว่ นรวมในการ จัดการเรียนการสอนอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ พัฒนาสถานศกึ ษา 8. มกี ารกำหนดวิสัยทัศน์ พนั ธกิจ เปา้ หมายท่ชี ัดเจน มี การบริหารงานตามโครงสร้าง 9. ผู้บริหารสถานศึกษามีภาวะความเปน็ ผู้นำ มี ความสามารถในการบริหารจดั การสถานศึกษา ส่งเสรมิ ความเสมอภาค ความสัมพันธ์ ความรว่ มมอื กับ หน่วยงาน องค์กร และชุมชนในการพฒั นาคุณภาพ การศกึ ษา 10. มีการแก้ไขปญั หาจำเปน็ เร่งด่วนของสถานศึกษา เชน่ การแก้ไขปัญหาเร่ืองนำ้ การสร้างทางถนนในโรงเรียน เปน็ ตน้ 11. ผู้บริหารมีการเอาใจใส่ครูและนกั เรียนในทุกดา้ น เลอื ก วางบคุ ลากรท่ีถกู กับงาน โดยรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของครู และและนักเรียน มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรยี นการสอนทเี่ นน้ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนท่เี น้น ผู้เรยี นเป็นสำคญั ผู้เรียนเป็นสำคญั 1. ครูมีการใช้วิจัยในชั้นเรยี นชว่ ยในการพัฒนาการจดั การ 1. การจดั การเรียนการสอนควรใช้คำทีเ่ ขา้ ใจงา่ ยขน้ึ ปรับ เรยี นการสอน เน้นพฒั นาผู้เรยี นท่สี อดคล้องกับ การเรยี นเปลี่ยนการสอน สื่อการเรียนการสอนควรมี พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ การพัฒนาอยู่เสมอ และใหค้ วามสนใจกับผู้เรยี น มากกว่าน้ี 2. ครูมีการจัดการเรียนรูท้ ่เี น้นผเู้ รียนเป็นสำคัญ เขา้ ใจ เข้าถงึ ผู้เรียน โดยจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมือ เทคนิคท่ี 2. ให้ความสำคัญในการทำวิจัยในชน้ั เรียน หาความรู้ หลากหลาย ฝึกเนน้ กระบวนกานคดิ วเิ คราะห์ ลงมอื เพ่มิ เติมในดา้ นการจดั การเรียนการสอน เพอื่ เพิ่ม ปฏบิ ตั ิจริง ฝึกใหผ้ ู้เรยี นกลา้ แสดงออก เสรมิ สร้างทกั ษะ เทคนคิ การสอนทหี่ ลากหลาย เน้นให้ผเู้ รียนมี อาชพี ให้แก่ผ้เู รียน ความสามารถด้านการคดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิด แก้ปัญหา คดิ สรา้ งสรรค์ 3. ครูมกี ารจัดการเรยี นรูต้ ามมาตรฐานตัวชวี้ ัดตาม หลกั สตู รแกนกลาง บูรณาการสอนเน้นประสบการณ์ 3. ควรสง่ เสริมกระบวนการคิด ในรปู แบบของคา่ ย จริงจากการดำเนนิ ชวี ิตประจำใหม้ ากท่สี ุด สอนสง่ิ ท่อี ยู่ วทิ ยาศาสตร์ สะเต็มศกึ ษา เน้นการใช้ส่ือ และ ใกลต้ ัวมากทสี่ ดุ เทคโนโลยี ในการเรียนการสอน

71 จดุ เดน่ จุดควรพฒั นา 4. ครูมีกลยุทธก์ ารสอน การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ 4. ควรมกี ารพัฒนาวชิ าชพี ในการจดั ชนุ ชนทางวชิ าชีพครู และจดั ทำแผนการเรียนรู้ นำสอื่ และเทคโนโลยีมาใช้ใน (PLC) อย่างจรงิ จัง เพือ่ นำผลมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้จริง ให้ การจดั การเรียนการสอน เกิดประสิทธผิ ล 5. ครูเอาใจใสใ่ นการจดั การเรียนการสอนเพือ่ ใหเ้ กดิ 5. ควรสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียนหาประสบการณ์นอกหอ้ งเรยี น ประโยชน์สูงสดุ แก่นกั เรยี น เพ่อื ฝกึ ทกั ษะทางสงั คม ทักษะอาชพี ทกั ษะทางภาษา ในชวี ติ จรงิ 6. ครูสามารถจัดการเรยี นรู้ได้ตรงตามระดบั ความสามารถ ของนกั เรยี น 7. ครูมคี วามตัง้ ใจและมุง่ มน่ั พัฒนาผเู้ รียนอยา่ งเต็ม ความสามารถ มีการวางแผนการทำงาน และเตรยี มตวั กอ่ นเข้าสอน และนำผลมาพัฒนาการสอนตอ่ ไป 8. ครมู กี ารวิเคราะห์ผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล แยกเปน็ กลุ่ม เก่ง กลมุ่ ปานกลาง และกล่มุ ออ่ น แลว้ พัฒนาการ ส่งเสรมิ ความรู้ ทักษะกระบวนการ และเจตคตทิ ่ดี ี 9. ครมู คี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม และปฏบิ ตั ิตนตามจรรยาบรรณ ของวิชาชพี ครูมีความมุง่ มั่นและอทุ ิศตนในการสอน และพัฒนาผเู้ รยี น เขา้ สอนตรงเวลา 10. ครูมกี ารบรหิ ารจัดการชั้นเรียนไดด้ ี การสร้างขอ้ ตกลง กอ่ นทำการจดั การเรียนรู้ เน้นการจดั การในชัน้ เรียน การมสี ่วนร่วมในการเรยี น 11. ครูมีการจัดเนอ้ื หาสาระและจดั กจิ กรรมใหส้ อดคล้องกบั ความสนใจและความถนดั ของผเู้ รยี น โดยคำนงึ ถงึ ความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล ฝกึ ทักษะ กระบวนการคิด การ จัดการ การเผชิญสถานการณแ์ ละการประยกุ ต์ความรู้ มาใช้เพือ่ ป้องกันและแก้ไขปญั หา ในเรอื่ งการตัดสินใจ ในการเลอื กศึกษาตอ่ ในระดบั ที่สูงขนึ้ แนวทางการพฒั นา เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการบริหารจัดการของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัด เชียงใหม่ให้ดียิ่งขึ้น ในปีการศึกษา 2565 โรงเรียนมีความจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนโครงการและกิจกรรม ท่ี นำไปสู่เป้าหมายตามวิสยั ทศั น์ พันธกิจ กลยทุ ธ์ และตัวชวี้ ดั ความสำเร็จของสถานศึกษา ซึ่งมีรายละเอยี ดดังน้ี 1. คณุ ภาพผูเ้ รียน 1. พัฒนาพื้นฐานทางด้านภาษาการสื่อสารของนักเรียน เนื่องจากผู้เรียนเป็นกลุ่มชนชาติพันธุ์ ทำ ให้ตดิ ปญั หาเรือ่ งการส่ือสารไมช่ ัดเจน และชอบเขียนตามคำพดู ของตนเอง จงึ ทำให้ผดิ หลักของภาษา 2. พัฒนาพื้นฐานการคิดคำนวณของผู้เรียน มีการปรับพื้นฐานของนักเรียนก่อนวิเคราะห์นักเรียน แยกกลุ่มเก่ง ปานกลาง ออ่ น เพื่อพัฒนานกั เรยี นไดต้ รงตามจดุ 3. พัฒนากลยุทธ์การสอนเพื่อการกระตุ้นให้นักเรียนชอบการเรียนรู้ในชั้นเรียน โดยการเพิ่ม กลยุทธ์ เทคนคิ วธิ กี ารทห่ี ลากหลายการควบคมุ ชน้ั เรียน 4. พัฒนาและส่งเสริมกระบวนการคิดขั้นสูง คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอย่างสร้างสรรค์ให้ นักเรยี น สามารถนำไปสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในรายวิชาเรียน 5. พัฒนาและส่งเสริมความกล้าแสดงออก สร้างสถานการณ์การเรียนรู้ให้กับนักเรียนได้เรียนรู้ได้

72 ด้วยตนเอง 6. พัฒนาและส่งเสรมิ การค้นพบความถนัดและความสามารถของตนเอง ทักษะและกระบวนการ 7. พฒั นาการใชจ้ ิตวิทยาในการสอนใหก้ มากว่านีเ้ พื่อให้เกดิ ความสนุกสนานในชนั้ เรียน 8. พัฒนาและเสริมสร้างประสบการณ์นอกห้องเรียน เสริมสร้างทักษะการดำรงชีวิตของนักเรียน ประจำ เสรมิ สรา้ งทักษะอาชพี ตา่ ง ๆ ให้แกผ่ ู้เรียน 9. พัฒนาและเสริมสร้างให้นักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา การน้อมนำแนวทาง พระราชดำรมิ าปรับใชใ้ นชีวติ ประจำวนั 10. พัฒนาและเสริมสร้างทักษะการใช้ชีวิตทางสังคม บนความแตกต่างและความหลากหลายทาง ชาติพนั ธุ์ 2. กระบวนการบรหิ ารและการจัดการ 1. พัฒนาการจัดระบบและการวางแผนการทำงานที่ชัดเจนในแต่ละปีการศึกษา งานทุกอย่างใน โรงเรยี นควรเปน็ ระบบระเบียบมากขนึ้ และนำผลการปฏบิ ตั ิมาปรับปรงุ แกไ้ ขในครัง้ ต่อไป 2. พัฒนาการทำงานเป็นทีม สรา้ งทีมงานในการพฒั นาสถานศกึ ษา และความชัดเจนในการพัฒนา องคก์ ร ยึดตัวผู้เรียนเปน็ สำคัญ 3. พัฒนาการเข้าถึงปัญหาทุกเรื่องภายในสถานศึกษา สนับสนุนให้แสดงความคิดเห็นบนพื้นฐาน ของความถกู ตอ้ งเหมาะสม 4. พัฒนาและส่งเสริมพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ให้มีความรู้ ความสามารถ ทกั ษะตาม มาตรฐานตำแหน่ง จัดอบรมเก่ยี วกบั ส่ือเทคโนโลยีในการจัดการศึกษา 5. สร้างเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนให้บุคลากร เพื่อการปฏิบัติในแนวทาง เดียวกันและลดความเหลื่อมล้ำในการปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลดีต่อการพัฒนางานวิชาการและพัฒนาผู้เรียนอย่าง เตม็ ศักยภาพ 6. พัฒนาการสนับสนุนเทคโนโลยีท่ีใช้ในการจดั การศกึ ษาอยา่ งทว่ั ถึง เตรียมรบั มือกับสถานการณ์ โรคระบาดในปัจจุบัน 7. พัฒนาระบบเทคโนโลยี เพื่อลดภาระของครู ลดเอกสารที่ไมจ่ ำเป็น เพื่อมเี วลาจัดการเรียนการ สอนอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 3. กระบวนการจดั การเรียนการสอนทเ่ี น้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญ 1. การจัดการเรียนการสอนควรใช้คำที่เข้าใจง่ายขึ้น ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน สื่อการเรียน การสอนควรมกี ารพฒั นาอยู่เสมอ และให้ความสนใจกับผเู้ รียนมากกว่าน้ี 2. ใหค้ วามสำคญั ในการทำวจิ ยั ในชน้ั เรียน หาความรเู้ พ่ิมเติมในด้านการจดั การเรยี นการสอน เพื่อ เพิ่มเทคนิคการสอนท่ีหลากหลาย เน้นให้ผู้เรียนมีความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิด แก้ปญั หา คดิ สรา้ งสรรค์ 3. ควรส่งเสรมิ กระบวนการคิด ในรูปแบบของคา่ ยวิทยาศาสตร์ สะเต็มศกึ ษา เน้นการใชส้ อื่ และ เทคโนโลยี ในการเรยี นการสอน 4. ควรมีการพัฒนาวิชาชีพในการจัดชุนชนทางวิชาชีพครู (PLC) อย่างจริงจัง เพื่อนำผลมาใช้ ประโยชนไ์ ดจ้ ริง ให้เกดิ ประสทิ ธผิ ล 5. ควรส่งเสริมให้ผู้เรียนหาประสบการณ์นอกห้องเรียนเพื่อฝึกทักษะทางสังคม ทักษะอาชีพ ทักษะทางภาษาในชวี ติ จรงิ

73 ความตอ้ งการช่วยเหลือ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการบริหารจัดการของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัด เชยี งใหมใ่ ห้ดียิง่ ขนึ้ ในปีการศึกษา 2565 โรงเรียนมีความจำเป็นต้องการความชว่ ยเหลือ ซ่ึงมรี ายละเอยี ดดังนี้ 1. การช่วยเหลื่อเรื่องไฟฟ้า เนื่องจากเมื่อมีการเกิดพายุฝนตก ในช่วงฤดูฝน ทำให้ไฟฟ้าดับบ่อยคร้ัง ทำให้การเป็นอยู่ของนักเรียนและครูมีปัญหา เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนตลอด 24 ชั่วโมง และทำให้ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ คอมพวิ เตอร์สำนักงาน เกิดความเสยี หาย 2. การช่วยเหล่อื เรอื่ งน้ำประปา เน่ืองจากสภาพทีต่ ง้ั ของโรงเรยี นอยู่บนภเู ขา ระบบขนส่งนำ้ ใช้มาจาก น้ำตกหรือต้นน้ำภูเขา โรงเรียนใช้การต่อท่อประปาด้วยตนเองจากต้นน้ำมายังโรงเรียนเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร มกั ประสบปญั หาเรื่องนำ้ ไมพ่ อใช้ จากเหตทุ อ่ ประปาเสียหายจากการเผาปา่ และชว่ งฤดูร้อนต้นน้ำมี น้ำน้อย ทำใหม้ นี ำ้ ไม่พอใช้ 3. การสนับสนุนงบประมาณทางดา้ นอุปกรณ์การเรียนการสอนท่ีทันสมัย ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้มีความพรอ้ มในการเรยี นร้ขู องผู้เรียน 4. การลดภาระการจัดทำเอกสารด้านอื่น ๆ ของครู เพื่อให้ครูมีเวลาเตรียมการเรียนการสอน และ เวลาในการพัฒนาผู้เรยี นไดม้ ากยง่ิ ข้นึ 5. การจัดอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาเรื่องการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ การพัฒนาตนเองของครู

74 สว่ นที่ 4 การรับรองผลการประเมินคณุ ภาพภายในตามมาตรฐานของสถานศกึ ษา 1. การรบั รองผลการประเมนิ คณุ ภาพภายในโดยผอู้ ำนวยการสถานศึกษา  รับรอง  ไมร่ ับรอง ลงชือ่ …………………………………………. ( นายอดิศร แดงเรือน ) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่ วันท่ี 6 เดือน มถิ นุ ายน พ.ศ. 2565 2. การรับรองผลการประเมนิ คณุ ภาพภายในโดยผทู้ รงคุณวฒุ ิ  รบั รอง  ไมร่ ับรอง ลงชื่อ……………………………………….. ( นางยพุ นิ คำปัน) ผ้ทู รงคุณวฒุ ิ วนั ท่ี 6 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2565 3. การรับรองผลการประเมินคุณภาพภายในโดยประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษา  รับรอง  ไมร่ บั รอง ลงชอื่ ………………………………………… ( นายทอม ศรที พิ ย์ศักดิ์ ) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จังหวัดเชียงใหม่ วันท่ี 6 เดือน มถิ ุนายน พ.ศ. 2565

75 ภาคผนวก ภาคผนวก ก ด้านคณุ ภาพผเู้ รียน ภาคผนวก ข ด้านกระบวนการบรหิ ารและการจดั การ ภาคผนวก ค ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ภาคผนวก ง ประกาศแตง่ ต้งั คณะกรรมการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา ภาคผนวก ฉ ประกาศมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา ภาคผนวก ช คำส่งั แตง่ ตัง้ คณะทำงาน

76 ภาคผนวก ก ดา้ นคุณภาพผเู้ รยี น

77 1. ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นของผู้เรียน ปีการศกึ ษา 2564 ตารางการเปรยี บเทียบผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 - ระดับชนั้ มัธยมศึกษา ปที ่ี 6 ระหวา่ งปีการศกึ ษา 2563 และปีการศกึ ษา 2564 รายวิชา ค่าเฉลยี่ รอ้ ยละของปีการศึกษา ผลต่างของค่าเฉล่ียรอ้ ยละ 2563 2564 ระหวา่ งปีการศึกษา ภาษาไทย 62.31 63.61 +1.30 คณิตศาสตร์ 46.03 55.27 +9.24 วิทยาศาสตร์ 61.04 67.39 +6.35 สังคมศึกษาฯ 71.80 74.77 +2.97 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 88.25 85.21 -3.04 77.12 84.90 +7.78 ศิลปะ 61.44 65.58 +4.14 การงานอาชพี ฯ 67.44 81.22 +13.78 ภาษาตา่ งประเทศ 66.93 72.24 +5.32 เฉลีย่ กราฟการเปรียบเทยี บผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นของนักเรียนระหว่าง ปีการศกึ ษา 2563 และปีการศึกษา 2564 90.00 80.00 70.00 60.00 50.00 40.00 30.00 20.00 10.00 0.00 คา่ เฉลย่ี ร้อยละของปกี ารศึกษา2563 ค่าเฉล่ียรอ้ ยละของปกี ารศกึ ษา2564

78 1.1 ระดับประถมศึกษา ตารางการเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 6 ระหวา่ ง ปีการศกึ ษา 2563 และปกี ารศึกษา 2564 รายวชิ า ค่าเฉลย่ี ร้อยละของปกี ารศกึ ษา ผลตา่ งของค่าเฉลี่ยร้อยละ 2563 2564 ระหว่างปีการศกึ ษา ภาษาไทย 62.34 87.23 +24.89 คณิตศาสตร์ 67.53 77.66 +10.13 วทิ ยาศาสตร์ 87.01 87.23 +0.22 สังคมศึกษาฯ 87.01 92.55 +5.54 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 94.81 95.74 +0.93 97.4 97.87 +0.47 ศลิ ปะ 81.82 94.68 +12.86 การงานอาชพี ฯ 85.71 60.64 -25.07 ภาษาตา่ งประเทศ กราฟการเปรียบเทียบผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นของนกั เรยี น ระดับช้นั ประถมศกึ ษา ระหวา่ ง ปีการศึกษา 2563 และปีการศึกษา 2564 100 80 60 40 คา่ เฉลีย่ รอ้ ยละของปีการศึกษา2563 20 คา่ เฉล่ยี รอ้ ยละของปกี ารศึกษา2564 0

79 ตารางแสดงผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 6 ปกี ารศกึ ษา 2564 ท่ี รายวชิ า จำนวนนกั เรียนท่ไี ดร้ บั ผลการเรียน 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 ร 1 ภาษาไทย 0.00 0.00 6.38 0.00 6.38 13.83 22.34 51.06 0.00 2 คณติ ศาสตร์ 0.00 0.00 4.26 4.26 13.83 23.40 22.34 31.91 0.00 3 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 0.00 0.00 0.00 0.00 12.77 35.11 23.40 28.72 0.00 4 สงั คมฯ 0.00 0.00 0.00 0.00 7.45 29.79 24.47 38.30 0.00 5 สุขศึกษาฯ 0.00 0.00 0.00 2.13 2.13 18.09 25.53 52.13 0.00 6 การงานอาชีพ 0.00 0.00 0.00 0.00 2.13 8.51 26.60 62.77 0.00 7 ภาษาอังกฤษ 0.00 0.00 0.00 1.06 4.26 19.15 23.40 52.13 0.00 8 ศิลปศึกษา 0.00 1.06 3.19 18.09 17.02 19.15 11.70 29.79 0.00 รวม 0.00 1.06 13.83 25.53 65.96 167.02 179.79 346.81 0.00 รวมร้อยละ 0.00 0.13 1.73 3.19 8.24 20.88 22.47 43.35 0.00 ร้อยละของผเู้ รียนทีม่ ีผลการเรยี น 2.00 ข้ึนไป 98.14 รอ้ ยละของผเู้ รยี นทมี่ ผี ลการเรียน 2.50 ข้ึนไป 94.95 รอ้ ยละของผเู้ รยี นทม่ี ผี ลการเรยี น 3.00 ข้นึ ไป 86.70 จากตาราง พบว่า ผู้เรียนมีผลการเรียน 2.00 ขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 98.14 ผู้เรียนที่มีผลการเรียน 2.50 ขน้ึ ไปอยทู่ ร่ี ้อยละ 94.95 และผู้เรียนทม่ี ผี ลการเรียน 3.00 ขน้ึ ไปอย่ทู ่ีร้อยละ 86.70

80 1.2 ระดบั มธั ยมศึกษา ตารางการเปรียบเทยี บผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 - 6 ระหวา่ ง ปีการศกึ ษา 2563 และปกี ารศกึ ษา 2564 รายวชิ า ค่าเฉลีย่ ร้อยละของปกี ารศกึ ษา ผลต่างของคา่ เฉล่ียรอ้ ยละ 2563 2564 ระหว่างปีการศึกษา ภาษาไทย 70.79 64.90 -5.89 คณิตศาสตร์ 63.14 64.51 +1.37 วิทยาศาสตร์ 70.02 73.74 +3.72 สังคมศึกษาฯ 77.32 77.73 +0.41 สุขศึกษาและพลศึกษา 87.54 82.18 -5.37 81.39 81.01 -0.38 ศิลปะ 74.83 77.56 +2.73 การงานอาชพี ฯ 71.30 71.51 +0.20 ภาษาตา่ งประเทศ กราฟการเปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนระดับชัน้ มธั ยศึกษา ระหวา่ งปีการศกึ ษา 2563 และปีการศึกษา 2564 90.00 80.00 70.00 60.00 50.00 40.00 30.00 คา่ เฉลย่ี ร้อยละของปกี ารศกึ ษา2563 20.00 คา่ เฉล่ยี ร้อยละของปกี ารศึกษา2564 10.00 0.00

81 ตารางแสดงผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 - 6 ปกี ารศึกษา 2564 ท่ี รายวชิ า จำนวนนกั เรียนท่ีไดร้ ับผลการเรียน 0 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 ร 3.23 1 ภาษาไทย 0.18 13.60 9.09 12.62 10.91 14.57 14.09 21.71 4.27 2.78 2 คณิตศาสตร์ 0.18 10.37 7.07 14.76 15.18 15.43 15.30 17.44 1.67 7.40 3 วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 0.61 5.05 5.12 7.40 11.69 21.88 18.60 26.87 1.40 3.05 4 สงั คมฯ 0.00 5.64 3.67 8.75 9.76 14.65 19.00 36.86 0.61 24.41 5 สุขศกึ ษาฯ 0.77 1.98 1.38 3.88 4.49 7.89 13.67 58.54 3.05 6 การงานอาชีพ 0.93 1.96 3.11 8.52 9.02 20.98 30.46 23.62 7 ภาษาองั กฤษ 0.00 8.90 6.28 10.79 12.32 11.95 14.63 32.07 8 ศลิ ปศกึ ษา 0.97 6.34 2.25 3.05 7.07 16.76 22.97 39.97 รวม 3.65 53.83 37.97 69.78 80.45 124.11 148.73 257.09 รวมรอ้ ยละ 0.46 6.73 4.75 8.72 10.06 15.51 18.59 32.14 ร้อยละของผเู้ รียนท่มี ผี ลการเรียน 2.00 ขน้ึ ไป 85.02 ร้อยละของผ้เู รยี นทีม่ ีผลการเรยี น 2.50 ขึ้นไป 76.30 ร้อยละของผเู้ รียนทม่ี ีผลการเรียน 3.00 ขน้ึ ไป 66.24 จากตาราง พบว่า ผู้เรียนมีผลการเรียน 2.00 ขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 85.02 ผู้เรียนที่มีผลการเรียน 2.50 ขน้ึ ไปอย่ทู ี่ร้อยละ 76.30 และผเู้ รียนทมี่ ีผลการเรยี น 3.00 ขึน้ ไปอยทู่ ่ีรอ้ ยละ 66.24

82 2. การเปรยี บเทียบผลการประเมินความสามารถดา้ นการอ่านของผเู้ รยี น(Reading Test : RT) 2.1 ตารางและกราฟการผลการประเมินความสามารถดา้ นการอา่ นของผเู้ รยี น (Reading Test : RT) ปีการศกึ ษา 2564 รวม 2 สมรรถนะ ประเทศ จงั หวดั เขตพ้นื ท่ี โรงเรยี น 71.38 62.34 59.98 87.60 กราฟเปรียบเทียบคะแนน RT รวม2 สมรรถนะ ปกี ารศกึ ษา 2564 ้รอยละ 100 90 80 ประเทศ จงั หวดั เขตพืน้ ท่ี โรงเรียน 70 71.38 62.34 59.98 87.6 60 50 40 30 20 10 0 ชดุ ขอ้ มลู 1 จากตารางและกราฟ พบว่า ผลการทดสอบสมรรถนะรวมของโรงเรียน สงู กวา่ ระดบั เขตพืน้ ที่ คดิ เป็น 27.62 สูงกวา่ ระดบั จงั หวดั คดิ เป็น 25.25 สูงกวา่ ระดบั ประเทศ คิดเป็น 16.22

83 2.2 ตารางและกราฟการเปรยี บเทียบผลการประเมนิ ความสามารถดา้ นการอ่านของผูเ้ รียน (Reading Test : RT) ระหวา่ งปีการศึกษา 2563 และปีการศึกษา 2564 ปกี ารศกึ ษา อา่ นออกเสยี ง อ่านร้เู ร่ือง รวม 2 ดา้ น 2563 69.71 70.85 70.28 2564 87.20 88.00 87.60 ประเทศ 69.95 72.79 71.38 กราฟเปรยี บเทียบคะแนน RT ปีการศกึ ษา2563-2564 กับคะแนนระดบั ประเทศ ร้อยละ 90 80 70 1 2 3 60 69.71 70.85 70.28 50 87.20 88.00 87.60 40 30 69.95 72.79 71.38 20 10 0 2563 2564 ประเทศ จากตารางและกราฟ พบวา่ ผลการทดสอบปีการศึกษา 2564 สูงกว่าระดบั ประเทศทัง้ 2 ด้าน

84 2.3 ตารางและกราฟการเปรยี บเทยี บผลการประเมินความสามารถดา้ นการอ่านของผู้เรยี น (Reading Test : RT) ระหวา่ งปกี ารศกึ ษา 2562 - ปีการศกึ ษา 2564 ความสามารถดา้ น 2562 2563 2564 ระดับประเทศ อา่ นออกเสียง 75.78 69.71 87.20 69.95 อา่ นรู้เรือ่ ง 67.62 70.85 88.00 72.79 รวม 2 ดา้ น 71.7 70.25 87.6 71.38 กราฟเปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผ้เู รียน(RT) ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ปีการศกึ ษา 2562-2564 กบั ระดบั ประเทศ 90 2562 2563 2564 ระดบั ประเทศ 80 75.78 69.71 87.20 69.95 70 67.62 70.85 88.00 72.79 60 71.70 70.25 87.60 71.38 50 40 30 20 10 0 อา่ นออกเสยี ง อา่ นรูเ้ รอ่ื ง รวม2 ดา้ น จากตารางและกราฟ พบวา่ ผลการทดสอบปกี ารศึกษา 2562 ค่าเฉลี่ยรวม 2 ดา้ น สูงกวา่ ระดับประเทศ 0.32 และ ปกี ารศกึ ษา 2564 คา่ เฉลี่ยรวม 2 ด้าน สูงกวา่ ระดบั ประเทศ 16.22

85 3. ข้อมูลผลการทดสอบความสามารถพ้นื ฐานผเู้ รียนระดับชาติ (National Test : NT) ตารางแสดงผลการประเมินการทดสอบความสามารถพน้ื ฐานผู้เรียนระดบั ชาติ (National Test : NT) เปรียบเทียบระหวา่ งปีการศึกษา 2563 – 2564 ความสามารถ 2563 2564 ด้านภาษา 46.85 85.35 ดา้ นคำนวณ 38.57 82.00 รวม 42.71 83.67 แ ผ น ภู มิ เ ป รี ย บ เ ที ย บ ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น ก า ร ท ด ส อ บ ค ว า ม ส า ม า ร ถ พ้ื น ฐ า น ผู้ เ รี ย น ระดับชาติ (NATIONAL TEST : NT) เปรียบเทียบระหว่างปีการศึกษา 2563 - 2564 2563 2564 46.85 85.35 38.57 82.00 42.71 83.67 จากตดา้ราานงแภลาะษการาฟ พบว่า ปีการศึกษา 25ด6้า4นมคพี าฒั นนวาณการดีขึ้นกวา่ ปกี ารศึกษา 2563รวคดิมเป็นร้อยละ 40.96

86 ตารางสรปุ ผลการประเมนิ การทดสอบความสามารถพนื้ ฐานผู้เรียนระดบั ชาติ (National Test : NT) เปรียบเทียบระหวา่ งปกี ารศกึ ษา 2562 – 2564 ความสารมารถด้าน 2562 2563 2564 ด้านภาษา 47.16 46.85 85.35 ดา้ นคำนวณ 53.66 38.57 82.00 รวม 50.41 42.71 83.67 กราฟเปรียบเทยี บผลการทดสอบความสามารถพน้ื ฐานผเู้ รียนระดับชาติ (National Test : NT) ประจาปีการศกึ ษา 2562-2564 90 80 70 60 50 40 30 20 10 0 ดา้ นภาษา ดา้ นคานวณ รวม 47.16 53.66 50.41 2562 46.85 38.57 42.71 2563 85.35 82.00 83.67 2564 จากตารางและกราฟ พบวา่ ผลการทดสอบดา้ นคณิตศาสตรแ์ ละดา้ นภาษาไทยระดบั โรงเรียนปกี ารศกึ ษา 2564 สูงกว่าปีการศกึ ษา 2562 และ 2563

87 ตารางเปรียบเทียบผลการทดสอบความสามารถพน้ื ฐานผเู้ รียนระดบั ชาติ (National Test : NT) ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 ประจำปีการศึกษา 2564 คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ ดา้ นภาษา ด้านคำนวณ เฉลยี่ ท้ัง 2ด้าน ระดบั โรงเรียน 85.35 82.00 83.67 ระดับจงั หวดั 51.65 44.24 48.01 ระดบั สังกัด 55.48 48.73 52.11 ระดบั ประเทศ 56.14 49.44 52.8 แผนภูมผิ ลการทดสอบความสามารถพืน้ ฐานผ้เู รียนระดับชาติ (National Test : NT) ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 ประจาปกี ารศึกษา 2564 90 85.35 82.00 83.67 51.65 44.24 48.01 55.48 48.73 52.11 56.14 49.44 52.8 80 70 ระดบั จังหวดั ระดบั สังกัด ระดับประเทศ 60 50 40 30 20 10 0 ระดบั โรงเรียน ดา้ นภาษา ดา้ นคานวณ เฉล่ียทง้ั 2ด้าน จากตารางและกราฟ พบว่า ผลการทดสอบด้านคณิตศาสตร์และด้านภาษาไทยระดับโรงเรียน ปีการศึกษา2564 สูงกว่าระดับระดับเขตพื้นที่ สูงกว่าระดับจังหวัด สูงกว่าระดับศึกษาธิการภาค สูงกว่าระดบั สังกดั และสงู กว่าระดบั ประเทศ

88 4. ข้อมลู ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ (O-NET) ระดับช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 4.1 ตารางและกราฟการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติ (O-NET) ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6 ประจำปีการศกึ ษา 2564 รายวชิ า สงั กดั โรงเรียน ผลต่าง ภาษาไทย คณิตศาสตร์ 40.68 43.38 +2.70 วทิ ยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ 31.69 34.46 +2.77 30.06 31.88 +1.82 29.11 26.76 -2.35 การฟเปรียบเทียบผลการทดสอบo-net กบั ตน้ ตน้ สงั กัด ปีการศึกษา 2563-2564 2.7 2.77 3 1.82 2 1 0 คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ ภาษาไทย -1 -2 -2.35 -3 จากตารางและกราฟ พบว่า ผลการเปรียบเทียบคะแนน o-net ระดับโรงเรียนกับต้นสังกัด ปรากฏว่า มี 3 กลุ่มสาระที่สูงกว่าระดับสังกัดคือ คณิตศาสตร์ คิดเป็นร้อยละ 2.77 กลุ่มสาระภาษาไทย คิดเป็นรอ้ ยละ 2.7 และวิทยาศาสตร์ คิดเป็นร้อยละ 1.82 ตามลำดบั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook