ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูเ้ พิม่ เติม 18. อธบิ ายและคานวณ • ในภาชนะปดิ เม่ือมกี ารเปล่ียนแปลงปรมิ าตรของแกส๊ โดยความดันคงตวั งานท่ีทาโดยแก๊สใน งานทเ่ี กดิ ขน้ึ คานวณได้จากสมการ ภาชนะปดิ โดยความ ดนั คงตัวและอธิบาย • โมเลกลุ ของแกส๊ อุดมคติในภาชนะปดิ จะมีพลงั งานจลน์ โดยพลงั งาน ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง จลนร์ วมของโมเลกลุ เรยี กวา่ พลงั งานภายในของแก๊สหรือพลงั งาน ความร้อนพลังงาน ภายในระบบซงึ่ แปรผันตรงกับจานวนโมเลกลุ และอุณหภูมิสมั บูรณ์ ภายในระบบและงาน ของแกส๊ รวมท้งั คานวณ ปรมิ าณตา่ งๆที่ • พลงั งานภายในระบบมีความสัมพันธก์ บั ความร้อนและงานเชน่ เมอื่ มีการ เก่ียวขอ้ งและนา ถ่ายโอนความร้อนในระบบปิดผลของการถ่ายโอนความรอ้ นนจ้ี ะเทา่ กบั ความร้เู ร่อื งพลงั งาน ผลรวมของพลังงานภายในระบบท่ีเปลยี่ นแปลงกับงาน เป็นไปตาม ภายในระบบไป กฎการอนรุ ักษ์พลงั งานเรยี กกฎขอ้ ท่หี นงึ่ ของอณุ หพลศาสตร์แสดงได้ อธบิ ายหลกั การทา ด้วยสมการ งานของเคร่ืองใชใ้ น ชีวิตประจาวนั • ความร้เู รอื่ งพลังงานภายในระบบสามารถนาไปประยุกตใ์ นดา้ นต่างๆ เช่นการทางานของเคร่อื งยนต์ความร้อนตเู้ ยน็ เคร่ืองปรบั อากาศ
ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรียนรู้เพมิ่ เติม สาระฟสิ กิ ส์ 4. เขา้ ใจสมบัตทิ างกายภาพของสสาร พลงั งานความร้อนทีท่ าให้สสารเปลยี่ นอณุ หภูมิและเปล่ียนสถานะ สภาพยืดหยนุ่ ของวัสดุ ความดันเกจ ความดนั สัมบรู ณ์และความดันบรรยากาศ แรงพยุงจากของไหล ความตงึ ผวิ และแรงหนืดของของเหลว สมบตั ขิ องของไหลอุดมคติ กฎของแก๊สอุดมคติ แบบจาลอง อะตอมของรัทเทอร์ฟอร์ด ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณโ์ ฟโตอเิ ลก็ ทรกิ กัมมนั ตภาพรังสี แรง นิวเคลยี ร์ปฏกิ ริ ยิ านวิ เคลียร์ ฟชิ ชันและฟิวชนั การค้นคว้าวจิ ัยด้านฟิสิกส์อนุภาค รวมท้ังนาความรู้ไป ใช้ประโยชน์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติม 1. อธิบายสมมติฐานของ • พลังค์เสนอสมมตฐิ านเพื่ออธิบายการแผ่รงั สีของวัตถดุ าซงึ่ สรุปไดว้ ่า พลังค์ ทฤษฎอี ะตอม พลงั งานทว่ี ัตถุดาดดู กลนื หรอื แผ่ออกมามคี ่าได้เฉพาะบางค่าเท่านน้ั และ ของโบร์และการเกดิ ค่าน้จี ะเป็นจานวนเท่าของ hf เรยี กว่า ควอนตัมพลงั งานโดยแสง เส้นสเปกตรมั ของ ความถ่ี f จะมีพลังงานตามสมการ E=nhf อะตอมไฮโดรเจน รวมทงั้ คานวณ • ทฤษฎอี ะตอมของไฮโดรเจนที่เสนอโดยโบรอ์ ธบิ ายวา่ อเิ ล็กตรอนจะ ปริมาณตา่ งๆที่ เคลื่อนท่ีรอบนิวเคลียสในวงโคจรบางวงไดโ้ ดยไมแ่ ผ่คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า เกีย่ วข้อง ถา้ อเิ ลก็ ตรอนมีการเปลี่ยนวงโคจรจะมีการรบั หรอื ปล่อยพลังงานใน รูปของคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ ตามสมมตฐิ านของพลงั ค์ซ่งึ สามารถนาไป คานวณรศั มีวงโคจรของอิเลก็ ตรอนและพลังงานอะตอมของไฮโดรเจน ได้ตามสมการ ตามลาดับ • ทฤษฎีอะตอมของโบร์สามารถนาไปคานวณความยาวคลื่นของแสงใน สเปกตรมั เสน้ สวา่ งของอะตอมไฮโดรเจนตามสมการ
ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูเ้ พม่ิ เติม 2. อธบิ ายปรากฏการณ์ • ปรากฏการณ์โฟโตอิเลก็ ทริกเปน็ ปรากฏการณ์ที่อเิ ล็กตรอนหลุดจากผวิ โฟโตอิเล็กทริกและ โลหะเมอ่ื มีแสงท่ีมีความถเ่ี หมาะสมมาตกกระทบโดยจานวนโฟโต้- คานวณพลงั งาน อิเลก็ ตรอนท่ีหลุดจะเพิ่มขน้ึ ตามความเข้มแสงและพลงั งานจลน์สงู สดุ โฟตอนพลังงานจลน์ ของโฟโตอิเลก็ ตรอนจะข้ึนกับความถข่ี องแสงน้ัน โดยพลังงานของแสง ของโฟโต้อิเล็กตรอน หรอื โฟตอนตามสมมติฐานของพลงั ค์ และฟังก์ชันงานของ โลหะ • ไอน์สไตนอ์ าศยั กฎการอนุรักษพ์ ลงั งานและสมมตฐิ านของพลังค์อธิบาย ปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กทริกตามสมการ 3. อธิบายทวิภาวะของ • การทดลองพลังงานจลน์สงู สดุ ของโฟโตอิเล็กตรอนและฟงั ก์ชนั งานของ คล่ืนและอนุภาค โลหะคานวณได้จากสมการ รวมทงั้ อธิบายและ คานวณความยาว ตามลาดับ คลื่นเดอบรอยล์ • การค้นพบการแทรกสอดและการเล้ยี วเบนของอเิ ล็กตรอนสนับสนุน 4. อธบิ าย ความคดิ ของเดอบรอยล์ที่เสนอว่า อนุภาคแสดงสมบัติของคลนื่ ไดโ้ ดย กัมมนั ตภาพรังสี เมอ่ื อนุภาคประพฤตติ ัวเป็นคล่นื จะมคี วามยาวคลืน่ เรยี กวา่ ความยาว และความแตกตา่ ง คลน่ื เดอบรอยล์ ซง่ึ มคี ่าขึ้นกับโมเมนตมั ของอนภุ าค ตามสมการ ของรังสีแอลฟาบตี า และแกมมา • จากความคิดของไอนส์ ไตน์และเดอบรอยล์ทาให้สรปุ ได้วา่ คลืน่ แสดง สมบตั ขิ องอนุภาคได้และอนภุ าคแสดงสมบตั ิของคลืน่ ได้สมบัตดิ ังกล่าว เรียกวา่ ทวิภาวะของคลน่ื และอนุภาค • กัมมนั ตภาพรงั สีเปน็ ปรากฏการณท์ ่ีธาตุกัมมันตรงั สีแผร่ งั สีไดเ้ องอย่าง ตอ่ เน่ืองรังสีทอ่ี อกมามี ๓ ชนิด คอื แอลฟา บตี า และแกมมา • การแผร่ ังสีเกดจากการเปล่ียนแปลงนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสี ซ่งึ เขยี นแทนได้ด้วยสมการ
ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพิม่ เตมิ 5. อธบิ ายและ • ในการสลายของธาตุกัมมันตรังสี อัตราการแผร่ ังสีออกมาในขณะหนึ่ง คานวณกัมมนั ตภาพ เรียกวา่ กัมมันตภาพ ปรมิ าณนบ้ี อกถึงอตั ราการลดลงของจานวน ของนวิ เคลียส นิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสี คานวณไดจ้ ากสมการ กมั มนั ตรังสีรวมท้ัง ทดลองอธบิ าย และ • ชว่ งเวลาที่จานวนนวิ เคลียสลดลงเหลอื ครึ่งหน่ึงของจานวนเริ่มตน้ คานวณจานวน เรียกว่าครึ่งชีวิต โดยจานวนนิวเคลียสกัมมนั ตภาพรังสที ี่เหลอื จากการ นิวเคลียส สลาย และครึ่งชวี ติ คานวณได้จากสมการ กัมมนั ตภาพรงั สีท่ี เหลือจากการสลาย ตามลาดบั และครึง่ ชวี ิต • ภายในนวิ เคลียสมีแรงนวิ เคลียรท์ ่ี ใช้อธบิ ายเสถยี รภาพของนวิ เคลยี ส 6. อธบิ ายแรงนวิ เคลยี ร์ การทาใหน้ วิ คลีออนในนวิ เคลียสแยกออกจากกัน ต้องใช้พลงั งาน เสถยี รภาพของ เท่ากบั พลงั งานยึดเหนย่ี วซงึ่ คานวณไดจ้ ากความสมั พันธ์ระหว่างมวล นิวเคลียสและ และพลงั งานตามสมการ พลงั งานยดึ เหนี่ยว รวมทง้ั คานวณ • นิวเคลียสท่ีมีพลงั งานยึดเหนี่ยวตอ่ นิวคลอี อนสูงจะมเี สถียรภาพดกี วา่ ปรมิ าณตา่ งๆท่ี นิวเคลยี สท่ีมพี ลังงานยึดเหน่ียวตอ่ นิวคลีออนต่า โดยพลงั งานยึด เก่ยี วข้อง เหนี่ยวต่อนิวคลอี อนคานวณไดจ้ ากสมการ 7. อธิบายปฏกิ ิริยา . นิวเคลียรฟ์ ชิ ชัน • ปฏกิ ริ ิยาทท่ี าใหน้ ิวเคลยี สเกิดการเปล่ียนแปลงองค์ประกอบหรอื ระดบั และฟวิ ชนั รวมทั้ง คานวณพลงั งาน พลงั งาน เรียกวา่ ปฏกิ ริ ิยานิวเคลียร์ นวิ เคลียร์ • ฟิชชนั เปน็ ปฏกิ ริ ิยาที่นวิ เคลยี สท่ีมมี วลมากแตกออกเปน็ นิวเคลยี สท่ีมี มวลนอ้ ยกวา่ สว่ นฟวิ ชันเป็นปฏกิ ิรยิ าท่ีนวิ เคลยี สท่ีมมี วลนอ้ ยรวมตวั กนั เกิดเปน็ นิวเคลยี สท่ีมีมวลมากขึน้ พลังงานท่ีปลดปลอ่ ยออกมาจากฟิช ชนั หรือฟวิ ชัน เรียกว่าพลังงานนิวเคลียร์ซ่ึงมคี า่ เป็นไปตาม ความสัมพนั ธร์ ะหว่างมวลกับพลงั งานตามสมการ
ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรเู้ พิ่มเตมิ 8. อธบิ ายประโยชนข์ อง • พลังงานนิวเคลียร์และรงั สจี ากการสลายของธาตุกัมมันตรงั สีสามารถ พลงั งานนวิ เคลยี ร์ นาไปใช้ประโยชน์ในดา้ นต่างๆ ขณะเดียวกนั ต้องมีการป้องกนั อันตราย และรงั สีรวมทงั้ ท่ีอาจเกิดขึน้ ได้ อันตรายและการ ปอ้ งกันรังสีในดา้ น • การศึกษาโปรตอนและนวิ ตรอนในนิวเคลียสด้วยเคร่ืองเร่งอนภุ าค ตา่ งๆ พลังงานสูงพบว่า โปรตอนและนิวตรอนประกอบดว้ ยอนภุ าคอื่นท่ีมี ขนาดเลก็ กว่าเรยี กวา่ ควารก์ ซ่ึงยดึ เหน่ียวกนั ไวด้ ว้ ยแรงเข้ม 9. อธิบายการ คน้ คว้าวจิ ยั ด้าน • นกั ฟสิ กิ ส์ยังได้คน้ พบอนภุ าคที่เปน็ ส่ือของแรงเข้มซ่ึงได้แก่กลอู อน และ ฟสิ ิกสอ์ นภุ าค อนภุ าคท่ีเปน็ ส่ือของแรงอ่อนซง่ึ ได้แก่ W-โบซอน และZ-โบซอน แบบจาลองมาตรฐาน และการใชป้ ระโยชน์ • อนภุ าคท่ีไม่สามารถแยกเป็นองค์ประกอบได้ รวมทงั้ อนภุ าคท่เี ป็น จากการค้นคว้าวจิ ยั ส่ือของแรงจัดเป็นอนุภาคมลู ฐานในแบบจาลองมาตรฐาน ด้านฟสิ ิกส์อนุภาคใน ดา้ นตา่ งๆ • แบบจาลองมาตรฐานเป็นทฤษฎที ่ีใชอ้ ธิบายพฤติกรรมและอันตรกริยา ระหว่างอนุภาคมูลฐาน • การคน้ ควา้ วจิ ยั ด้านฟสิ ิกส์อนุภาคนาไปสู่การพฒั นาเทคโนโลยีที่ นามาใช้ประโยชนใ์ นด้านต่างๆเช่น ด้านการแพทย์ มกี ารใช้เครอื่ งเร่ง อนุภาคในการรักษาโรคมะเร็ง การใช้เครอ่ื งถ่ายภาพรังสีระนาบดว้ ย การปลอ่ ยโพซิตรอนในการวินิจฉัยโรคมะเร็ง ดา้ นการรกั ษาความ ปลอดภัย มีการใช้เคร่ืองเอกซเรย์คอมพวิ เตอร์ในการตรวจวัตถอุ นั ตราย ในสนามบิน
โครงสรา้ งหลักสูตรโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 โครงสร้างหลักสตู รเวลาเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 รหสั วชิ า รายวิชา ภาคเรียนที่ 1 น้าหนกั หน่วยกติ กลุ่มรายวิชาพ้นื ฐาน ท31101 ภาษาไทย 40 1.0 ค31101 คณติ ศาสตร์ 40 1.0 ว31101 วทิ ยาศาสตร์ 40 1.0 ส31101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 40 1.0 ส31102 ประวตั ศิ าสตร์ 20 0.5 พ31101 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 20 0.5 ศ31101 ศิลปะ 20 0.5 ว31103 วทิ ยาการคานวณ 20 0.5 อ31101 ภาษาองั กฤษ 40 1.0 รวมเวลาเรียน (พนื้ ฐาน) 280 7.0 กลุม่ รายวชิ าเพม่ิ เติม (บังคับเลอื ก) จ31201 ทกั ษะภาษาจนี กลาง 1 40 1.0 รายวิชาเพม่ิ เติม 40 1.0 ค31201 คณิตศาสตร์ 1 60 1.5 ว31201 ฟสิ ิกส์ 1 80 2.0 ว31202 เคมี 1 60 1.5 ว31203 ชีววิทยา 1 60 1.5 ว31209 โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 40 1.0 อ31207 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวนั 1 20 0.5 รวมเวลาเรยี น (เพิม่ เติม) 320 8.0 กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น 1. กิจกรรมแนะแนว 20 2. กิจกรรมนกั เรียน - ลูกเสือวสิ ามัญ / นักศกึ ษาวชิ าทหาร 40 - อบรมคณุ ธรรม 20 3. บรู ณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น 40 รวมกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน 120 รวมทั้งหมด 760 16.0
โครงสรา้ งหลกั สูตรโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 โครงสร้างหลักสูตรเวลาเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 รหัสวชิ า รายวชิ า ภาคเรียนท่ี 2 น้าหนัก หนว่ ยกติ กลุม่ รายวชิ าพ้ืนฐาน ท31102 ภาษาไทย 40 1.0 ค31102 คณติ ศาสตร์ 40 1.0 ว31102 วิทยาศาสตร์ 40 1.0 ส31102 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 40 1.0 ส31104 ประวัติศาสตร์ 20 0.5 พ31102 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 20 0.5 ศ31102 ศิลปศึกษา 20 0.5 อ31102 ภาษาองั กฤษ 40 1.0 ว31104 การออกแบบและเทคโนโลยี 20 0.5 รวมเวลาเรียน (พ้นื ฐาน) 280 7.0 กลมุ่ รายวิชาเพม่ิ เตมิ (บงั คบั เลือก) จ31202 ทกั ษะภาษาจนี กลาง 2 40 1.0 รายวิชาเพ่ิมเติม 40 1.0 ค31202 คณติ ศาสตร์ 2 60 1.5 ว31204 ฟิสิกส์ 2 80 2.0 ว31205 เคมี 2 60 1.5 ว31206 ชีววิทยา 2 60 1.5 ว31210 โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 2 40 1.0 อ31208 ภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาวนั 2 20 0.5 รวมเวลาเรียน (เพ่ิมเติม) 320 8.0 กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน 1. กจิ กรรมแนะแนว 20 2. กิจกรรมผ้เู รยี น - อบรมคณุ ธรรม 20 - ลกู เสือวสิ ามัญ / นักศกึ ษาวชิ าทหาร 40 3. บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น 40 รวมกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น 120 รวมทั้งหมด 760 16.0
โครงสรา้ งหลกั สูตรโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 โครงสร้างหลกั สูตรเวลาเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 รหสั วิชา รายวชิ า ภาคเรียนท่ี 1 น้าหนกั หนว่ ยกติ กลุม่ รายวิชาพนื้ ฐาน ท32101 ภาษาไทย 40 1.0 ค32101 คณติ ศาสตร์ 40 1.0 ว32101 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ 20 0.5 ส32101 สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 40 1.0 ส32102 ประวัติศาสตร์ 20 0.5 พ32101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 20 0.5 ศ32101 ศลิ ปศกึ ษา 20 0.5 ง32101 การงานอาชพี (คหกรรม) 20 0.5 อ32101 ภาษาองั กฤษ 40 1.0 ว32103 วทิ ยาการคานวณ 20 0.5 รวมเวลาเรียน (พืน้ ฐาน) 280 7.0 กลมุ่ รายวชิ าเพิม่ เติม (บงั คบั เลือก) จ31203 ทักษะภาษาจีนกลาง 3 40 1.0 รายวชิ าเพิ่มเติม 40 1.0 ค32201 คณติ ศาสตร์ 3 60 1.5 ว32201 ฟิสิกส์ 3 80 2.0 ว32202 เคมี 3 60 1.5 ว32203 ชีววทิ ยา 3 60 1.5 ว32209 โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 3 40 1.0 อ32207 ภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวนั 3 20 0.5 รวมเวลาเรียน (เพมิ่ เติม) 320 8.0 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 1. กจิ กรรมแนะแนว 20 2. กิจกรรมผเู้ รยี น - อบรมคณุ ธรรม 20 - ลกู เสือวิสามญั / นกั ศกึ ษาวชิ าทหาร 40 3. บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน 40 รวมกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น 120 รวมท้ังหมด 760 16.0
โครงสร้างหลกั สูตรโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 โครงสรา้ งหลักสูตรเวลาเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 รหัสวชิ า รายวิชา ภาคเรียนท่ี 2 น้าหนัก หน่วยกติ กลมุ่ รายวชิ าพ้ืนฐาน ท32102 ภาษาไทย 40 1.0 ค32102 คณิตศาสตร์ 40 1.0 ว32102 วิทยาศาสตร์ 40 1.0 ส32102 สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 40 1.0 ส32104 ประวตั ศิ าสตร์ 20 0.5 พ32102 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 20 0.5 ศ32102 ศิลปศึกษา 20 0.5 ว32104 การออกแบบและเทคโนโลยี 20 0.5 อ32102 ภาษาองั กฤษ 40 1.0 รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) 280 7.0 กลุม่ รายวิชาเพม่ิ เติม (บงั คบั เลอื ก) จ32202 ทกั ษะภาษาจีนกลาง 4 40 1.0 รายวิชาเพ่มิ เติม 40 1.0 ค32204 คณติ ศาสตร์ 3 60 1.5 ว32204 ฟิสิกส์ 3 80 2.0 ว32205 เคมี 3 60 1.5 ว32206 ชีววทิ ยา 3 60 1.5 ว32210 โลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 3 40 1.0 อ32201 ภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวัน 3 20 0.5 รวมเวลาเรยี น (เพ่มิ เติม) 320 8.0 กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน 1. กิจกรรมแนะแนว 20 2. กิจกรรมผ้เู รยี น - อบรมคณุ ธรรม 20 - ลกู เสือวสิ ามญั / นกั ศกึ ษาวชิ าทหาร 40 3. บูรณาการสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น 40 รวมกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น 120 รวมท้ังหมด 760 16.0
โครงสรา้ งหลักสตู รโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 โครงสรา้ งหลกั สตู รเวลาเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 รหสั วชิ า รายวชิ า ภาคเรียนท่ี 1 น้าหนกั หนว่ ยกติ กลมุ่ รายวชิ าพืน้ ฐาน ท33101 ภาษาไทย 40 1.0 ค33101 คณติ ศาสตร์ 40 1.0 ว33101 วิทยาศาสตร์ 40 1.0 ส33101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 40 1.0 ส33102 ประวตั ิศาสตร์ 20 0.5 พ33101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 20 0.5 ศ33101 ศิลปะ 20 0.5 ว33103 วทิ ยาการคานวณ 20 0.5 อ33101 ภาษาอังกฤษ 40 1.0 รวมเวลาเรยี น (พื้นฐาน) 280 7.0 กลมุ่ รายวิชาเพ่ิมเติม (บงั คบั เลือก) จ33203 ทกั ษะภาษาจนี กลาง 1 40 1.0 รายวิชาเพมิ่ เติม 40 1.0 ค33201 คณิตศาสตร์ 5 60 1.5 ว33201 ฟสิ ิกส์ 5 80 2.0 ว33202 เคมี 5 60 1.5 ว33203 ชีววิทยา 5 60 1.5 ว33209 โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 5 40 1.0 อ33207 ภาษาองั กฤษในชวี ติ ประจาวัน 5 20 0.5 รวมเวลาเรียน (เพม่ิ เติม) 320 8.0 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 1. กิจกรรมแนะแนว 20 2. กิจกรรมผ้เู รยี น - อบรมคุณธรรม 20 - ลกู เสอื วิสามัญ / นกั ศกึ ษาวชิ าทหาร 40 3. บรู ณาการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น 40 รวมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น 120 รวมทั้งหมด 760 16.0
โครงสรา้ งหลกั สูตรโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 โครงสร้างหลกั สตู รเวลาเรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 รหัสวชิ า รายวิชา ภาคเรียนที่ 2 นา้ หนกั หน่วยกติ กลุ่มรายวชิ าพ้ืนฐาน ท33102 ภาษาไทย 40 1.0 ค33102 คณติ ศาสตร์ 40 1.0 ว33102 วทิ ยาศาสตร์ 40 1.0 ส33101 สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 40 1.0 ส33104 ประวตั ศิ าสตร์ 20 0.5 พ33102 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 20 0.5 ศ33102 ศิลปะ 20 0.5 ว33103 วิทยาการคานวณ 20 0.5 อ33102 ภาษาอังกฤษ 40 1.0 รวมเวลาเรยี น (พื้นฐาน) 280 7.0 กลุ่มรายวชิ าเพมิ่ เตมิ (บังคับเลอื ก) จ33204 ทักษะภาษาจีนกลาง 6 40 1.0 รายวชิ าเพ่ิมเติม 40 1.0 ค33201 คณติ ศาสตร์ 6 60 1.5 ว33204 ฟสิ ิกส์ 6 80 2.0 ว33205 เคมี 6 60 1.5 ว33206 ชีววิทยา 1 60 1.5 ว33210 โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 6 40 1.0 อ33207 ภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวนั 6 20 0.5 รวมเวลาเรียน (เพิม่ เติม) 320 8.0 กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน 1. กิจกรรมแนะแนว 2๐ 2. กจิ กรรมผ้เู รยี น - อบรมคณุ ธรรม 20 - ลูกเสือวสิ ามัญ / นักศกึ ษาวิชาทหาร 40 รวมกจิ กรรมบรู ณาการ 40 รวมทั้งหมด 760 16.0
คาอธิบายรายวิชา รหสั วชิ า ว31201 รายวชิ า ฟสิ ิกส์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา 80 ช่ัวโมง จานวน 2.0 หน่วยกติ ศึกษาการค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมทั้งพัฒนาการของหลักการและแนว คิด ทางฟิสิกส์ท่ีมีผลต่อการแสวงหาความรู้ใหม่และการพัฒนาเทคโนโลยี การวัดและการรายงานผลการวัด ปริมาณทางฟิสิกส์ หลักการของกลศาสตร์ในเรื่องการเคล่ือนที่ของวัตถุในแนวตรง แรง การหาแรงลัพธ์ ของ แรงสองแรงท่ีทามุมต่อกันการเขียนแผนภาพวัตถุอิสระ กฎการเคลื่อนท่ีของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากลแรง เสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หน่ึงๆ ในกรณีที่วัตถุหยุดน่ิงและวัตถุเคล่ือนท่ีโดยใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และ สรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะปฏิบัติ การทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด และการแก้ปัญหา ด้านการ ส่ือสาร สามารถส่อื สารสง่ิ ที่เรยี นรูแ้ ละนา ความรูไ้ ปใช้ในชวี ิตของตนเอง มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. สืบค้น และอธิบายการค้นหาความรู้ทางฟิสิกส์ ประวัติความเป็นมา รวมทั้งพัฒนาการของหลักการ และแนวคดิ ทางฟสิ กิ ส์ทม่ี ีผลต่อการแสวงหาความรใู้ หม่และการพัฒนาเทคโนโลยี 2. วัด และรายงานผลการวดั ปริมาณทางฟิสิกสไ์ ด้ถูกต้องเหมาะสมโดยนาความคลาดเคลือ่ นในการวัดมา พิจารณาในการนาเสนอผลรวมทั้งแสดงผลการทดลองในรูปของกราฟวิเครา ะห์และแปลความหมาย จากกราฟเสน้ ตรง 3. ทดลอง และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตาแหน่ง การกระจัด ความเร็ว และความเร่งของ การ เคล่ือนที่ของวัตถใุ นแนวตรงท่มี ีความเรง่ คงตวั จากกราฟและสมการ รวมทั้งทดลองหาคา่ ความเรง่ โน้ม ถ่วงของโลก และคานวณปรมิ าณตา่ งๆ ทเี่ กย่ี วข้อง 4. อธบิ ายแรง รวมท้ัง ทดลองและอธบิ ายการหาแรงลพั ธข์ องแรงสองแรงทที่ ามมุ ต่อกัน 5. เขยี นแผนภาพวัตถุอิสระ ทดลองและอธิบายกฎการเคลื่อนท่ขี องนิวตันและการใช้กฎการเคลื่อนที่ของ นวิ ตันกับสภาพการเคลื่อนทข่ี องวตั ถรุ วมท้ังคานวณปริมาณตา่ งๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง 6. อธิบายกฎความโน้มถ่วงสากลและผลของสนามโน้มถ่วงที่ทาให้วัตถุมีน้าหนักรวมทั้งคานวณปริมาณ ต่าง ๆ ทเ่ี กีย่ วข้อง 7. วิเคราะห์ อธิบาย และคานวณแรงเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หน่ึงๆ ในกรณีที่วัตถุหยุดนิ่ง และวัตถุเคล่ือนท่ีรวมทั้งทดลองหาสัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหว่างผิวสัมผัสของวัตถุคู่หน่ึงๆ และ นาความรูเ้ รื่องแรงเสยี ดทานไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั รวมทัง้ หมด 7 ผลการเรียนรู้
คาอธิบายรายวชิ า รหัสวชิ า ว31204 รายวชิ า ฟิสิกส์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 80 ช่ัวโมง จานวน 2.0 หน่วยกติ ศึกษาหลักการของกลศาสตร์ในเร่ืองสมดุลกลและเงื่อนไขท่ีทาให้วัตถุหรือระบบอยู่ในสมดุลกล ศูนย์กลางมวลของวัตถุและผลของศูนย์ถ่วงท่ีมีต่อเสถียรภาพของวัตถุ งาน พลังงาน ความสัมพันธ์ระหว่างงาน กับพลังงานจลน์ ความสัมพันธ์ระหวา่ งงานกับพลงั งานศักยโ์ น้มถว่ ง และความสัมพันธร์ ะหว่างขนาด ของแรงที่ ใชด้ งึ สปรงิ กับระยะท่สี ปริงยืดออก แรงอนรุ กั ษ์ กฎการอนรุ กั ษ์พลงั งาน กาลงั เครือ่ งกลอย่างงา่ ย ประสิทธิภาพ และการได้เปรียบเชิงกลของเครื่องกลอย่างง่ายบางชนิด โมเมนตัม การดล แรงดล กฎการ อนุรักษ์โมเมนตัม และ การชนและการดีดตวั แยกจากกันของวัตถุในหนง่ึ มิติ การเคล่ือนที่แบบโพรเจกไทล์ และการเคล่ือนท่ีแบบ วงกลมในระนาบระดบั โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสบื ค้นข้อมลู การสงั เกต วเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ อธิบาย อภปิ ราย และสรปุ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งทักษะแห่งศตวรรษ ท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนา ความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายสมดลุ กลของวตั ถุ โมเมนตแ์ ละผลรวมของโมเมนต์ทม่ี ีตอ่ การหมนุ แรงคคู่ วบและผลของแรงคู่ ควบทมี่ ีต่อสมดลุ ของวัตถุเขยี นแผนภาพวตั ถุอิสระเมื่อวัตถุอยู่ในสมดุลกล และคานวณ ปริมาณต่าง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง รวมท้งั ทดลองและอธิบายสมดลุ ของแรงสามแรง 2. สงั เกตและอธิบายสภาพการเคลื่อนท่ีของวัตถุ เมอื่ แรงที่กระทาต่อวัตถผุ ่านศนู ย์กลางมวลของวตั ถุและ ผลของศูนย์ถ่วงทมี่ ตี ่อเสถียรภาพของวตั ถุ 3. วเิ คราะห์ และคานวณงานของแรงคงตวั จากสมการและพืน้ ทใ่ี ต้กราฟความสัมพันธร์ ะหว่างแรงกบั ตาแหน่งรวมทงั้ อธบิ ายและคานวณกาลงั เฉลีย่ 4. อธิบายและคานวณพลงั งานจลน์ พลังงานศักย์ พลังงานกล ทดลองหาความสมั พนั ธ์ระหว่างงานกับ พลงั งานจลน์ ความสมั พนั ธ์ระหว่างงานกับพลงั งานศักย์โน้มถว่ งความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งขนาดของแรงที่ ใชด้ งึ สปริงกบั ระยะทส่ี ปรงิ ยืดออก และความสัมพนั ธร์ ะหว่างงานกับพลังงานศักย์ ยดื หยุ่น รวมทัง้ อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งงานของแรงลัพธแ์ ละพลงั งานจลน์ และคานวณงานทเ่ี กิดขน้ึ จากแรงลัพธ์ 5. อธบิ ายกฎการอนุรักษ์พลังงานกลรวมท้ังวเิ คราะห์ และคานวณปรมิ าณต่างๆ ท่ีเก่ยี วข้องกับการ เคล่ือนท่ีของวตั ถใุ นสถานการณต์ า่ งๆ โดยใช้กฎการอนรุ ักษ์พลงั งานกล 6. อธบิ ายการทางาน ประสทิ ธภิ าพและการไดเ้ ปรยี บเชงิ กลของเคร่ืองกลอย่างง่ายบางชนิด โดยใชค้ วามรู้ เรื่องงานและสมดลุ กล รวมทง้ั คานวณประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกล 7. อธบิ ายและคานวณโมเมนตัมของวัตถุ และการดลจากสมการและพนื้ ที่ใต้กราฟ ความสัมพันธ์ระหว่าง แรงลพั ธก์ บั เวลา รวมท้ังอธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างแรงดลกบั โมเมนตมั 8. ทดลอง อธบิ ายและคานวณปรมิ าณต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วกบั การชนของวัตถุในหนงึ่ มติ ิทั้งแบบ ยดื หยุ่น ไม่ยืดหย่นุ และการดีดตัวแยกจากกนั ในหน่งึ มติ ิซ่ึงเป็นไปตามกฎการอนรุ ักษ์ โมเมนตมั
9. อธิบาย วิเคราะห์ และคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้องกับการเคล่ือนท่แี บบโพรเจกไทล์ และทดลอง การเคลอ่ื นที่แบบโพรเจกไทล์ 10. ทดลอง และอธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งแรงสศู่ ูนย์กลาง รัศมขี องการเคลอ่ื นทอี่ ัตราเร็วเชิงเส้น อตั ราเรว็ เชิงมุม และมวลของวตั ถใุ นการเคล่ือนที่แบบวงกลมในระนาบระดบั รวมท้ังคานวณปริมาณ ตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วข้อง และประยุกตใ์ ช้ความรู้การเคล่อื นทแ่ี บบวงกลม ในการอธิบายการโคจรของ ดาวเทยี ม รวมทั้งหมด 10 ผลการเรียนรู้
คาอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว32201 รายวิชา ฟสิ ิกส์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 80 ชั่วโมง จานวน 2.0 หน่วยกติ ศึกษาลักษณะการเคล่ือนท่ีแบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย ปริมาณที่เก่ียวข้องกับการเคลื่อนที่แบบ ฮารม์ อนิกอยา่ งง่าย แรงกับการสั่นของมวลติดปลายสริงและลูกตุ้มอย่างง่าย ความถ่ีธรรมชาติและการส่นั พอ้ ง ธรรมชาติของคลน่ื อตั ราเร็วของคลื่น หลักการที่เกยี่ วกับคลน่ื พฤติกรรมของคลื่น แนวคดิ เกย่ี วกบั แสงเชงิ คลื่น การแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่ การเลี้ยวเบนของแสงผ่านสลิตเดี่ยว การเล้ียวเบนของ แสงผ่านเกรตติง การ สะท้อนและการหักเหของแสง การมองเหน็ และการเกิดภาพ ภาพจากเลนส์และ กระจกเงาทรงกลม แสงสีและ การมองเห็นแสงสี ปรากฏการณ์ธรรมชาติและการใช้ประโยชน์เกี่ยวกับแสง โดยใช้กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มลู การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภปิ ราย และ สรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา สามารถ ส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนา ความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ทดลองและอธิบายการเคลื่อนทแ่ี บบฮาร์มอนิกอย่างงา่ ยของวตั ถตุ ิดปลายสริงและลูกตมุ้ อยา่ งง่าย รวมท้งั คานวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี กีย่ วข้อง 2. อธบิ ายความถธ่ี รรมชาติของวัตถแุ ละการเกดิ การสน่ั พ้อง 3. อธบิ ายปรากฏการณ์คลื่น ชนดิ ของคลื่น ส่วนประกอบของคลน่ื การแผ่ของหนา้ คล่นื ดว้ ยหลักการ ของ ฮอยเกนส์ และการรวมกนั ของคล่นื ตามหลักการซ้อนทับ พรอ้ มทงั้ คานวณอัตราเร็ว ความถี่ และ ความยาวคล่ืน 4. สงั เกตและอธิบายการสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการเล้ียวเบนของคลืน่ ผวิ น้า รวมทงั้ คานวณปริมาณต่าง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้อง 5. ทดลอง และอธิบายการแทรกสอดของแสงผ่านสลติ คูแ่ ละเกรตติง การเลี้ยวเบนและการแทรกสอด ของแสงผ่านสลติ เดยี่ ว รวมทั้งคานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ียวข้อง 6. ทดลอง และอธบิ ายการสะท้อนของแสงทผี่ ิววัตถุตามกฎการสะทอ้ น เขยี นรงั สีของแสง และคานวณ ตาแหน่งและขนาดภาพของวตั ถุ เม่ือแสงตกกระทบกระจกเงาราบและกระจกเงาทรงกลม รวมทงั้ อธบิ ายการนาความร้เู รื่องการสะทอ้ นของแสงจากกระจกเงาราบ และกระจกเงาทรงกลม ไปใช้ ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน 7. ทดลอง และอธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่างดรรชนีหักเห มมุ ตกกระทบ และมมุ หักเหรวมท้ังอธิบาย ความสัมพนั ธร์ ะหว่างความลึกจรงิ และความลกึ ปรากฏ มุมวกิ ฤตและการสะทอ้ นกลบั หมดของแสง และคานวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง
8. ทดลอง และเขียนรงั สีของแสงเพือ่ แสดงภาพที่เกิดจากเลนสบ์ าง หาตาแหนง่ ขนาด ชนิดของภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างระยะวัตถุ ระยะภาพและความยาวโฟกสั รวมทัง้ คานวณปริมาณ ต่างๆ ที่เกยี่ วข้อง และอธบิ ายการนาความรู้เร่อื งการหกั เหของแสงผา่ นเลนสบ์ างไปใช้ประโยชน์ใน ชวี ิตประจาวัน 9. อธิบายปรากฏการณธ์ รรมชาติทเี่ กี่ยวกบั แสง เชน่ รุ้ง การทรงกลด มิราจ และการเห็นท้องฟ้า เปน็ สตี า่ ง ๆ ในช่วงเวลาต่างกัน 10. สงั เกต และอธิบายการมองเห็นแสงสี สขี องวัตถุ การผสมสารสี และการผสมแสงสี รวมทั้ง อธิบาย สาเหตขุ องการบอดสี รวมท้งั หมด 10 ผลการเรียนรู้
คาอธิบายรายวิชา รหสั วชิ า ว32204 รายวิชา ฟิสิกส์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา 80 ช่ัวโมง จานวน 2.0 หน่วยกิต ศึกษาการเกิดเสียง การเคลื่อนที่ของเสียง การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด และการ เลี้ยวเบน ของคล่ืนเสียง การได้ยินเสียง ความเข้มเสียง คุณภาพเสียง มลพิษทางเสียง คลื่นน่ิงของเสียง การสั่นพ้อง ของเสียง การเกิดบีต ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ คล่ืนกระแทกของเสียง ธรรมชาติของไฟฟ้า สถติ การเหนี่ยว นา ไฟฟ้าสถติ กฎของคลู อมบ์ สนามไฟฟา้ ศกั ยไ์ ฟฟ้า ความต่างศักย์ ความจุและพลังงาน สะสมในตัวเก็บประจุ การตอ่ ตัวเก็บประจุ กระแสไฟฟา้ ในลวดตัวนา กฎของโอห์ม สภาพต้านทาน การต่อ ตัวตา้ นทาน อีเอ็มเอฟของแหล่งกา เนดิ ไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้า กา ลงั ไฟฟ้า การต่อแบตเตอรี่ การ วิเคราะห์วงจร ไฟฟ้ากระแสตรง การเปล่ียนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า และเทคโนโลยีด้าน พลงั งาน โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสบื คน้ ขอ้ มลู การสังเกต วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มี ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมท้ังทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนา ความรู้ไปใช้ในชีวติ ของตนเอง มีจิตวิทยา ศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายการเกดิ เสยี ง การเคล่อื นทข่ี องเสียง ความสัมพนั ธ์ระหว่างคลื่นการกระจัดของอนุภาคกับคลน่ื ความดนั ความสัมพันธ์ระหวา่ งอตั ราเรว็ ของเสยี งในอากาศท่ขี ึ้นกับอุณหภูมิในหน่วย องศาเซลเซียส การสะท้อน การหักเห การแทรกสอด การเลย้ี วเบน ของคลน่ื เสยี ง รวมทัง้ คานวณ ปรมิ าณต่าง ๆที่ เกี่ยวขอ้ ง 2. อธิบายความเข้มเสียง ระดบั เสียง องค์ประกอบของการได้ยิน คุณภาพเสยี ง และมลพิษทางเสยี ง รวมทัง้ คานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง 3. ทดลอง และอธบิ ายการเกิดการส่ันพอ้ งของอากาศในทอ่ ปลายเปดิ หนง่ึ ดา้ น รวมทงั้ สังเกตและ อธบิ าย การเกิดบตี คลื่นนิง่ ปรากฏการณด์ อปเพลอร์ คลนื่ กระแทกของเสยี ง คานวณปริมาณตา่ งๆทเี่ ก่ยี วข้อง และนาความรเู้ ร่ืองเสียงไปใช้ในชีวิตประจาวนั 4. ทดลอง และอธบิ ายการทาวัตถทุ เ่ี ปน็ กลางทางไฟฟา้ ให้มีประจไุ ฟฟา้ โดยการขัดสีกนั และการเหนีย่ วนา ไฟฟา้ สถิต 5. อธิบายและคานวณแรงไฟฟา้ ตามกฎของคูลอมบ์ 6. อธบิ าย และคานวณสนามไฟฟา้ และแรงไฟฟ้าท่ีกระทากับอนุภาคท่ีมีประจุไฟฟา้ ที่อยใู่ นสนามไฟฟา้ รวมท้งั หาสนามไฟฟา้ ลัพธเ์ นอื่ งจากระบบจุดประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์ 7. อธิบาย และคานวณพลังงานศักย์ไฟฟา้ ศักย์ไฟฟ้า และความตา่ งศักย์ระหว่างสองตาแหนง่ ใด ๆ 8. อธิบายส่วนประกอบของตัวเก็บประจุ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งประจไุ ฟฟา้ ความตา่ งศักย์ และความจุ ของตวั เก็บประจุ และอธบิ ายพลงั งานสะสมในตวั เกบ็ ประจุ และความจุสมมูล รวมท้ังคานวณปรมิ าณ ตา่ งๆ ที่เกี่ยวข้อง 9. นาความรเู้ รื่องไฟฟา้ สถิตไปอธิบายหลกั การทางานของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าบางชนดิ และปรากฏการณ์ ใน ชวี ิตประจาวัน
10. อธบิ ายการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอสิ ระและกระแสไฟฟา้ ในลวดตวั นา ความสมั พันธ์ระหว่าง กระแสไฟฟา้ ในลวดตวั นากับความเรว็ ลอยเลือ่ นของอเิ ลก็ ตรอนอสิ ระ ความหนาแนน่ ของ อเิ ล็กตรอน ในลวดตวั นา และพื้นที่หน้าตัดของลวดตวั นา และคานวณปริมาณตา่ งๆ ที่เกีย่ วข้อง 11. ทดลอง และอธิบายกฎของโอหม์ อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างความต้านทานกบั ความยาว พื้นท่ีหนา้ ตดั และสภาพต้านทานของตวั นา โลหะทอี่ ุณหภูมิคงตวั และคานวณปริมาณต่างๆท่ี เก่ยี วข้องรวมท้ังอธบิ ายและคานวณความตา้ นทานสมมูลเม่ือนา ตัวตา้ นทานมาต่อกันแบบอนุกรมและ แบบขนาน 12. ทดลอง อธบิ าย และคานวณอีเอ็มเอฟของแหลง่ กาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทง้ั อธิบายและ คานวณ พลังงานไฟฟ้า และกาลังไฟฟ้า 13. ทดลอง และคานวณอเี อ็มเอฟสมมลู จากการต่อแบตเตอร่ีแบบอนกุ รมและแบบขนาน รวมทั้งคานวณ ปรมิ าณต่างๆ ทีเ่ ก่ยี วข้องในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงซง่ึ ประกอบด้วยแบตเตอรแ่ี ละตวั ตา้ นทาน 14. อธิบายการเปลี่ยนพลงั งานทดแทนเปน็ พลงั งานไฟฟ้ารวมท้งั สืบค้นและอภิปรายเก่ยี วกบั เทคโนโลยที ี่ นามาแกป้ ัญหาหรอื ตอบสนองความตอ้ งการทางด้านพลงั งาน โดยเน้นดา้ น ประสิทธภิ าพและความ คุม้ คา่ ด้านคา่ ใชจ้ ่าย รวมท้ังหมด 14 ผลการเรียนรู้
คาอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ว33201 รายวชิ า ฟิสกิ ส์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา 80 ช่ัวโมง จานวน 2.0 หน่วยกิต ศึกษาสนามแม่เหล็ก แรงแมเ่ หล็ก โมเมนต์ของแรงคู่ควบกระทา กบั ขดลวดทม่ี ีกระแสไฟฟ้าผ่านเม่ือ อยู่ในสนามแม่เหล็ก กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนาอีเอ็มเอฟเหน่ียวนาไฟฟ้ากระแสสลับ ความร้อน แก๊สอุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส ของแข็ง สภาพยืดหยุ่นของของแข็ง ความตึงผิว ความหนืดของของเหลว ความดันในของ ไหล แรงพยุง ของไหลอุดมคติ สมการความต่อเนื่อง และสมการแบร์นูลี โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต วิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปราย และสรุป เพ่ือให้ เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มีทกั ษะปฏบิ ัตกิ าร ทางวทิ ยาศาสตร์ รวมทัง้ ทกั ษะแห่ง ศตวรรษที่ 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการคิด และการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสารสามารถ ส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ เหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. สงั เกตและอธิบายเสน้ สนามแม่เหลก็ อธบิ ายและคานวณฟลกั ซแ์ ม่เหล็กในบรเิ วณที่กาหนดรวมทงั้ สังเกต และอธิบายสนามแม่เหล็กที่เกดิ จากกระแสไฟฟา้ ในลวดตัวนาเส้นตรงและโซเลนอยด์ 2. อธบิ ายและคานวณแรงแม่เหล็กทกี่ ระทาต่ออนุภาคท่ีมีประจุไฟฟา้ เคล่ือนท่ใี นสนามแม่เหล็กแรง แม่เหล็กที่กระทาตอ่ เสน้ ลวดที่มกี ระแสไฟฟ้าผ่านและวางในสนามแม่เหลก็ รัศมคี วามโค้งของการ เคล่ือนทเี่ มือ่ ประจุ เคลอื่ นที่ตั้งฉากกบั สนามแม่เหลก็ รวมทั้งอธบิ ายแรงระหว่างเสน้ ลวดตวั นา คขู่ นาน ที่มกี ระแสไฟฟ้าผา่ น 3. อธบิ ายหลกั การทางานของแกลแวนอมิเตอร์และมอเตอร์ไฟฟา้ กระแสตรงรวมท้ังคานวณปรมิ าณต่างๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง 4. สังเกตและอธิบายการเกิดอีเอ็มเอฟเหน่ียวนากฎการเหนีย่ วนาของฟาราเดย์ และคานวณปริมาณต่างๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง รวมทงั้ นา ความรเู้ รื่องอีเอม็ เอฟเหนี่ยวนาไปอธบิ ายการทางานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้า 5. อธิบายและคานวณความต่างศกั ย์อารเ์ อ็มเอส และกระแสไฟฟา้ อารเ์ อ็มเอส 6. อธิบายหลักการทางานและประโยชนข์ องเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ ๓ เฟส การแปลงอีเอ็มเอฟ ของหม้อแปลง และคานวณปรมิ าณต่างๆ ทเ่ี กยี่ วข้อง 7. อธิบายและคานวณความร้อนท่ที าใหส้ สารเปลย่ี นอุณหภูมิความรอ้ นทท่ี า ให้สสารเปลยี่ นสถานะ และ ความรอ้ นทเ่ี กิดจากการถา่ ยโอนตามกฎการอนุรักษ์พลงั งาน 8. อธบิ ายกฎของแกส๊ อุดมคตแิ ละคานวณปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง 9. อธบิ ายแบบจาลองของแกส๊ อุดมคติ ทฤษฎจี ลนข์ องแก๊ส และอัตราเรว็ อาร์เอ็มเอสของโมเลกลุ ของแกส๊ รวมท้งั คานวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี ก่ยี วข้อง
10. อธบิ ายและคานวณงานท่ีทาโดยแก๊สในภาชนะปดิ โดยความดันคงตัว และอธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหว่าง ความรอ้ น พลงั งานภายในระบบและงาน รวมทง้ั คานวณปริมาณต่างๆ ท่เี กยี่ วข้องและนา ความรู้เร่ือง พลังงานภายในระบบไปอธิบายหลกั การทางานของเคร่ืองใช้ในชวี ติ ประจาวนั 11. อธิบายสภาพยดื หยุ่นและลักษณะการยืดและหดตัวของวัสดุท่ีเป็นแท่งเมือ่ ถกู กระทาด้วยแรงคา่ ต่าง ๆ รวมท้ังทดลอง อธิบายและคานวณความเคน้ ตามยาวความเครยี ดตามยาว และมอดลุ ัสของยงั และ นาความรู้เรอื่ งสภาพยืดหยนุ่ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 12. อธบิ ายและคานวณความดนั เกจ ความดันสัมบูรณ์ และความดันบรรยากาศ รวมท้ังอธิบายหลกั การ ทางานของแมนอมิเตอร์ บารอมิเตอร์ และเครื่องอัดไฮดรอลิก 13. ทดลอง อธบิ ายและคานวณขนาดแรงพยุงจากของไหล 14. ทดลอง อธิบาย และคานวณความตงึ ผิวของของเหลวรวมทั้งสงั เกตและอธบิ ายแรงหนืดของของเหลว 15. อธิบายสมบัตขิ องของไหลอุดมคติ สมการความต่อเน่อื ง และสมการแบรน์ ูลลี รวมทั้งคานวณปริมาณ ตา่ งๆ ท่ีเก่ียวข้อง และนาความร้เู กย่ี วกบั สมการความต่อเนื่องและสมการแบร์นูลลไี ปอธิบายหลักการ ทางานของอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ รวมทัง้ หมด 15 ผลการเรยี นรู้
คาอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ว33204 รายวิชา ฟิสกิ ส์ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 80 ชั่วโมง จานวน 2.0 หน่วยกิต ศึกษาการเกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า โพลาไรเซชันของคล่ืน แม่เหล็กไฟฟ้า การส่ือสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค เสถียรภาพของนิวเคลียส กัมมันตภาพรังสี ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลียร์และ ฟิสิกส์อนุภาค โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหา ความรู้ การสบื ค้นขอ้ มูล การสังเกต วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ อธิบาย อภปิ ราย และสรปุ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความ เขา้ ใจ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ มที กั ษะปฏิบตั ิการ ทางวิทยาศาสตร์ รวมท้งั ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ใน ดา้ นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ดา้ นการคดิ และการแกป้ ัญหา ด้านการสอ่ื สาร สามารถสือ่ สารสงิ่ ที่เรยี นรู้และ นา ความรูไ้ ปใช้ในชีวติ ของตนเอง มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการเกิดและลักษณะเฉพาะของคลน่ื แม่เหล็กไฟฟ้า แสงไม่โพลาไรส์ แสงโพลาไรสเ์ ชิงเส้น และ แผน่ โพลารอยด์รวมทั้งอธิบายการนาคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าในช่วงความถต่ี ่างๆ ไปประยุกต์ใช้และ หลักการทางานของอุปกรณ์ท่ีเก่ียวข้อง 2. สืบคน้ และอธิบายการสอื่ สารโดยอาศยั คล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟา้ ในการสง่ ผา่ นสารสนเทศ และเปรียบเทียบ การสอ่ื สารดว้ ยสัญญาณแอนะล็อกกบั สญั ญาณดจิ ิทลั 3. อธบิ ายสมมติฐานของพลังค์ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกดิ เสน้ สเปกตรัมของอะตอมไฮโดรเจน รวมท้งั คานวณปรมิ าณต่างๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง 4. อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอเิ ล็กทริกและคานวณพลังงานโฟตอน พลังงานจลน์ของโฟโตอิเลก็ ตรอน และฟังกช์ ันงานของโลหะ 5. อธิบายทวภิ าวะของคลื่นและอนุภาครวมท้งั อธิบายและคานวณความยาวคล่นื เดอบรอยล์ 6. อธิบายกัมมันตภาพรังสแี ละความแตกตา่ งของรงั สีแอลฟา บีตา และแกมมา 7. อธบิ ายและคานวณกัมมันตภาพของนิวเคลียสกัมมันตรงั สี รวมทง้ั ทดลอง อธบิ าย และคานวณจานวน นวิ เคลยี ส กมั มนั ตรงั สีทเี่ หลือจากการสลายและคร่ึงชวี ติ 8. อธิบายแรงนวิ เคลียร์เสถียรภาพของนิวเคลียส และพลังงานยึดเหนีย่ ว รวมท้ังคานวณปริมาณตา่ งๆ ท่ีเกยี่ วข้อง 9. อธบิ ายปฏิกริ ยิ านวิ เคลยี ร์ ฟิชชนั และฟิวชัน รวมทง้ั คานวณพลงั งานนวิ เคลียร์ 10. อธิบายประโยชน์ของพลังงานนวิ เคลียรแ์ ละรังสีรวมทัง้ อันตรายและการป้องกันรังสีในดา้ นต่าง ๆ 11. อธบิ ายการคน้ คว้าวจิ ัยดา้ นฟิสิกสอ์ นภุ าค แบบจาลองมาตรฐาน และการใชป้ ระโยชน์จากการ คน้ คว้าวจิ ัยด้าน ฟสิ กิ ส์อนภุ าคในด้านตา่ งๆ รวมทงั้ หมด 11 ผลการเรียนรู้
เกณฑ์การจบการศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
เกณฑก์ ารจบหลกั สูตรระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1) ผูเ้ รยี นเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐานและเพ่ิมเตมิ ไมน่ ้อยกว่า 81 หน่วยกิต โดยเปน็ รายวชิ าพ้ืนฐาน 41 หน่วยกติ และรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ไม่น้อยกวา่ 40 หน่วยกติ 2) ผู้เรยี นต้องได้หน่วยกิตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกวา่ 77 หน่วยกติ โดยเปน็ รายวิชาพ้นื ฐาน 41 หน่วย กิต และรายวิชาเพม่ิ เติมไมน่ ้อยกว่า 36 หน่วยกิต 3) ผู้เรยี นมผี ลการประเมินการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นในระดบั ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 4) ผูเ้ รียนมีผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคใ์ นระดับผา่ นเกณฑ์การประเมิน 5) ผเู้ รยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินเครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ และการตัดสินผลการเรยี น 1. การประเมนิ ผลสาระการเรียนรู้ ระดบั ผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนน 4 ผลการเรยี นดีเยี่ยม 80 - 100 3.5 ผลการเรียนดมี าก 75 - 79 3 ผลการเรยี นดี 70 - 74 2.5 ผลการเรียนค่อนข้างดี 65 - 69 2 ผลการเรยี นนา่ พอใจ 60 - 64 1.5 ผลการเรียนพอใช้ 55 - 59 1 ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่า 50 - 54 0 ผลการเรยี นต่ากว่าเกณฑ์ 0 – 49 หมายเหตุ ไม่มีสิทธ์เิ ข้ารับการประเมินผลปลายภาคเรียน \" มส \" หมายถึง รอการตดั สนิ หรือยังตัดสนิ ไม่ได้ \" ร \" หมายถงึ ผู้เรยี นมีเวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ปฏิบัติกิจกรรมและมี \" ผ \" หมายถงึ ผลงานตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากาหนด ผเู้ รียนมเี วลาเข้ารว่ มกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและมี \" มผ \" หมายถงึ ผลงานไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑท์ สี่ ถานศกึ ษากาหนด
2. การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตวั ช้ีวดั ท่ี 1 เป็นพลเมืองดีของชาติ ตวั ชีว้ ดั ที่ 2 ธารงไวซ้ ่งึ ความเปน็ ชาติไทย ตวั ขว้ี ดั ที่ 3 ศรัทธา ยดึ มน่ั และปฏิบตั ิตนตามหลกั ของศาสนา ตัวชี้วดั ท่ี 4 เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ 2. ซือ่ สตั ย์สจุ รติ ตวั ชว้ี ัดที่ 1 ประพฤติตรงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ ตัวชี้วดั ที่ 2 ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงตอ่ ผู้อนื่ ท้ังทางกาย วาจา ใจ ตวั ชว้ี ดั ที่ 1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี นและสังคม 3. มีวินยั ตวั ชวี้ ัดที่ 1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั โรงเรยี นและสังคม 4. ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ชว้ี ัดที่ 1 :เขา้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตัวชี้วดั ท่ี 2 แสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรียนรูต้ ่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ด้วยการ เลอื กใช้สอื่ อย่างเหมาะสม บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถ นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง ตัวชว้ี ดั ที่ 1 ดาเนนิ ชีวติ อย่างพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม ตัวช้วี ัดที่ 2 มภี ูมิคมุ้ กนั ในตวั ท่ีดี ปรบั ตัวเพื่ออยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข 6. มุ่งม่ันในการทางาน ตัวชี้วดั ที่ 1 ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ที่การงาน ตวั ชว้ี ดั ที่ 2 ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพอื่ ให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย 7. รกั ความเปน็ ไทย ตัวชวี้ ดั ท่ี 1 ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมคี วามกตัญญู กตเวที ตวั ชี้วดั ที่ 2 เห็นคณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ตวั ชว้ี ัดท่ี 3 อนรุ ักษแ์ ละสบื ทอดภูมิปัญญาไทย 8. มีจติ สาธารณะ ตวั ชวี้ ดั ที่ 1 ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื ด้วยความเตม็ ใจและพึงพอใจ โดยไมห่ วังผลตอบแทน ตัวข้วี ดั ท่ี 2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม
เกณฑ์พิจารณาสรุปผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั เกณฑ์การพจิ ารณา ดเี ย่ียม (3) 1. ไดผ้ ลการประเมินระดับดเี ยี่ยมจานวน 5-8 คณุ ลักษณะ และไมม่ ี คณุ ลักษณะใดได้ ผลการประเมนิ ระดับดี ดี (2) 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดเี ยย่ี มจานวน 1-4 คุณลักษณะ และไมม่ ี คณุ ลักษณะใดได้ ผา่ น (1) ผลการประเมินตา่ กว่าระดับดี หรือ ไม่ผา่ น (0) 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี ทง้ั คณุ ลักษณะ 8 คุณลักษณะ หรอื 3. ไดผ้ ลการประเมินต้งั แตร่ ะดบั ดี ขึ้นไป จานวน 5-7 คุณลักษณะ และมี บางคุณลักษณะได้ผลการประเมนิ ระดับผ่าน 1. ไดผ้ ลการประเมินระดับผ่านท้ัง 8 คุณลักษณะ หรอื 2.ได้ผลการประเมนิ ตงั้ แต่ระดับดขี ึ้นไป จานวน 1-4 คุณลักษณะ และ คณุ ลักษณะทเ่ี หลือได้ผลการประเมนิ ระดบั ผา่ น ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ไมผ่ า่ น ต้ังแต่ 1 คุณลักษณะขนึ้ ไป 3. การประเมินความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี น ตวั ชวี้ ัดความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น 1. สามารถอา่ นเพอ่ื การศึกษาค้นคว้า เพ่ิมพนู ความรู้ ประสบการณ์ และการประยกุ ต์ใชใ้ น ชีวิตประจาวัน 2. สามารถจบั ประเดน็ สาคัญลาดบั เหตกุ ารณจ์ ากการอา่ นสอื่ ท่มี ีความชับซ้อน 3. สามารถวิเคราะห์สิ่งที่ผ้เู ขียนตอ้ งการส่ือสารกับผู้อ่านและสามารถวิพากษ์ ใหข้ ้อสนอแนะใน แง่มมุ ต่าง ๆ 4. สามารถประเมินความน่าเชอื่ ถอื คุณค่า แนวคดิ ท่ีไดจ้ ากสง่ิ ทอ่ี ่านอยา่ งหลากหลาย 5. สามารถเขยี นแสดงความคิดเห็นโต้แยง้ สรุป โดยมีข้อมูลอธบิ ายสนับสนุนอยา่ งเพียงพอและ สมเหตุสมผล
เกณฑ์การประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ระดบั เกณฑก์ ารพจิ ารณา ดเี ย่ยี ม (3) มผี ลงานท่แี สดงถึงความสามารถใน การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนที่มี ภาพ เลิศ อย่เู สมอ ดี (2) มีผลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี นที่มี คุณภาพเป็นทีย่ อมรับ ผา่ น (1) มผี ลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี นที่มี ขอ้ บกพร่องบางประการ ไมผ่ ่าน (0) ไม่มผี ลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน หรือ ถ้ามผี ลงาน ผลงานนัน้ ยังมีขอ้ บกพร่องท่ีต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลาย ประการ 4. การประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 1. ผ้เู รียนต้องเข้ารว่ มกจิ กรรมไมน่ ้อยกวา่ 809 ของเวลาเรียนทัง้ หมด 2. ผ้เู รียนตอ้ งปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ และผ่านเกณฑ์ขั้นต่าตามทก่ี าหนด 3. ผเู้ รยี นจะได้รบั ผลการประเมนิ กจิ กรรม \"ผ\" (ผ่านกิจกรรม) 4. เมื่อไมป่ ฏิบัติตามเกณฑ์ข้อ 1 และ ข้อ 2 จะได้รับผลการประเมนิ กจิ กรรม \"มผ\" (ไม่ผา่ นกจิ กรรม) และไมส่ ามารถจบหลักสูตรในแตล่ ะชว่ งชน้ั จนกวา่ ผเู้ รยี นปรบั ปรุงแก้ไขให้ผ่านเกณฑ์
คณะผู้จดั ทา 1. นางสาวณัฐธนญั า บญุ ถงึ ประธานกรรมการ กรรมการ 2. นายธนพฒั น์ อศิ รางกูร ณ อยธุ ยา กรรมการ กรรมการ 3. นางสาวกานดา วฒุ ิเศลา กรรมการ กรรมการ 4. นางสาวจันจิรา ธนันชัย กรรมการ กรรมการ 5. นางอมลสริ ิ คาฟู กรรมการ กรรมการ 6. นางสาวฐิตารตั น์ คมั ภรี ะ กรรมการ กรรมการ 7. นางสาวปาริชาติ สงิ คาโล กรรมการ กรรมการ 8. นางธญั ญรัตน์ ศิลาคา กรรมการ กรรมการ 9. นายพงศธ์ ร เปงวงศ์ กรรมการและเลขานุการ 10. ว่าทรี่ อ้ ยตรสี มพงษ์ ตระการศภุ กร 11. นายเสรี แซ่จาง 12. นางสาวสุดาภรณ์ สบื บุญเปย่ี ม 13. นางสาวจริ ัชญา ชยั ธรี ธรรม 14. นางสาวศิรวิ รรณ มนุ ิมคา 15. นายเอกราช หมแี ก้ว 16. นางสาวธนั ชนก ชัยบุตร 17. นางกมลชนก เทพบุ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127