Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศาสตร์พื้นบ้านสู่นวัตกรรมสุขภาพ

ศาสตร์พื้นบ้านสู่นวัตกรรมสุขภาพ

Published by Nuttaboot, 2021-05-06 08:28:46

Description: ศาสตร์พื้นบ้านสู่นวัตกรรมสุขภาพ

Search

Read the Text Version

วนั พยาบาล สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย สาขาภาคตะวนั ออก วันพยาบาลสากล ศาสตร์พืน้ บา้ นส่นู วัตกรรมการสง่ เสริมสขุ ภาพ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบรุ ี ปีงบประมาณ 2564

สมาคมพยาบาลแหง่ ประเทศไทย สาขาภาคตะวนั ออก คำนำ จากคาขวัญวนั พยาบาลสากลปีงบประมาณ 2564 ที่กล่าวว่า พยาบาล: เสียงแห่งพลงั นา วิสัยทศั น์สู่การดแู ลสขุ ภาพในอนาคต (Nurses: A voice to Lead A Vision for Future Healthcare) ซ่งึ เปน็ คา ขวญั ทีก่ ระตุ้นให้พยาบาลทกุ คนมีความตระหนักในการปรับแนวคดิ ให้มีความสรา้ งสรรคใ์ นการดแู ลสุขภาพ ประชาชนให้ทนั กับยคุ และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซ่งึ ในขณะนี้ประเทศไทยและท่ัวโลกกาลงั เผชิญกับ สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของไวรสั โคโรนา 2019 พยาบาลทุกคนต้องมีความมุ่งมั่นในการสรา้ งความเข้มแข็ง ให้เกดิ ขนึ้ กับประชาชนทกุ คน ในดา้ นความรคู้ วามเขา้ ใจในการดูแลตนเอง ให้สามารถดาเนินชีวติ ต่อไปได้ อย่างเหมาะสมพอเพียง และจากยทุ ธศาสตรส์ าคัญตามแผนพัฒนาสขุ ภาพแห่งชาติของประเทศไทยตั้งแต่ฉบับ ที่ 11 จนถงึ ฉบบั ปจั จบุ ัน ที่ใหค้ วามสาคญั ในการดูแลสขุ ภาพของตนเอง สามารถเลือกใช้ภูมิปญั ญาไทย รวมทั้งทรพั ยากรที่มีอยู่ในท้องถ่นิ มาใช้ให้เกดิ ประโยชน์ในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ ซ่งึ ถอื ไดว้ ่าเป็นการ เสรมิ สรา้ งความเข้มแขง็ ให้กับประชาชนให้เกดิ การพ่งึ พาตนเองด้านสุขภาพบนพื้นฐานภูมปิ ญั ญาไทย วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี โดยความรว่ มมอื ของคณาจารย์ทุกสาขาวิชา มีความมุ่งมน่ั ใน การสรา้ งกาลงั คนดา้ นการพยาบาลให้เปน็ ผู้นาด้านความคดิ สรา้ งสรรค์เพื่อสุขภาพชมุ ชน รวมทั้งมกี าร พฒั นาความเข้มแข็งให้กบั ชุมชน การสรา้ งองคค์ วามรใู้ ห้กับประชาชนโดยอาศยั การมสี ่วนรว่ มของชุมชน เพ่อื ให้เกดิ การดแู ลสุขภาพของตนเองได้อยา่ งยัง่ ยืน จงึ ถอื วา่ เป็นวิธีการที่สาคญั ในการสรา้ งความตระหนัก ให้กบั บคุ คลในการป้องกันก่อนเกิดโรค และชะลอการเกดิ โรคแทรกซ้อนไม่ให้เกดิ ขนึ้ เร็วนักในบุคคลทีเ่ กดิ โรคแล้ว การใชศ้ าสตรพ์ ืน้ บ้านที่มีอยู่มาใช้ในการดูแลสขุ ภาพ โดยเฉพาะสมุนไพรไทยทีเ่ ราใช้เป็นอาหารอยู่แล้ว และทรพั ยากรที่มีอยู่ในท้องถน่ิ มาปรับใช้ในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ จึงเปน็ วิธีการสรา้ งความรทู้ ีล่ งทุนน้อย ถา้ ประชาชนถอื ปฏิบตั ิ กจ็ ะเกดิ ผลดีตอ่ สุขภาพของตนเอง สาระของบทความในเล่มนถี้ ูกรวบรวมมาจากหลาย แหล่งความรู้ มุ่งหมายให้เกดิ ประโยชน์แกผ่ ู้อ่าน โดยจดั ทาให้อยู่ในเล่มอิเลกโทรนิก เพอื่ ให้ง่ายตอ่ การเข้าถงึ ในช่วงเวลาที่เราต้องห่างกัน เนือ่ งจากการระบาดของไวรสั รา้ ย วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบรุ ี ขอขอบคุณสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย สาขาภาคตะวันออก ที่สนบั สนนุ งบประมาณให้มีกจิ กรรมทีแ่ สดงถึงการมสี ่วนรว่ มของพยาบาล บคุ ลากรกรสาธารณสุขตา่ ง ๆ ใน การสรา้ งสขุ ภาพให้กับประชาชนมาโดยตลอด ตลอดจนทุกแหล่งความรู้ทนี่ ามารวบรวมไว้ วิทยาลยั ฯ หวงั เปน็ อย่างยงิ่ ว่าสาระความรทู้ รี่ วบรวมอยู่ในเล่มอิเลกโทรนกิ นี้จะมีประโยชน์แก่ผอู้ ่านทกุ ทา่ น งานบรกิ ารวชิ าการ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี พฤษภาคม 2564

สาระในเลม่ ลาดบั เรื่อง ผูเ้ รียบเรยี ง สมุนไพรกับการดแู ลสขุ ภาพ อ.ดร.ลัดดา 1 สมุนไพรกบั เทคโนโลยสี นู่ วัตกรรมสมุนไพรบรรเทาอาการปวดหลัง อ. ณัฏฐพัชร์ 2 น้ามันมะพร้าวกับประโยชนด์ ้านสขุ ภาพ อ.เอกพจน์ 3 หอมแดงแกห้ วดั อ.จุฑามาศ 4 สมุนไพรทางเลอื กกับการดแู ลดวงตาวัยเกษยี ณ อ.ดร.สมพร 5 มะกรดู บรรเทาอาการปลายมือปลายชา อ.ลกั ษณา 6 เตยหอมสมุนไพรลดความดนั โลหติ อ.มนัสวี 7 กล่ินบ้าบดั ความเครยี ด อ. อนิสา 8 ดูแลสุขภาพดว้ ยสีสนั จากธรรมชาติ อ. อนิสา 9 สารอาหาร ศาสตร์พนื บ้านกับการดแู ลตนเองเพ่ือป้องกนั โรคโคโรนาไวรัส 2019 อ. ขวัญตา 10 เมนอู าหารไทยเสรมิ ภมู ิคุม้ กนั ป้องกนั โควิด -19 อ. วิปรชั ญา 11 ลดความอว้ นและไขมันในเลือดด้วยผกั พนื บา้ น อ. สิริวรรณ 12 มหศั จรรย์ขมินชนั ไทย อ. ศภุ รา 13 สมุนไพรลดความเสยี่ งเบาหวาน อ.ดร.สุนิภา 14 ว่านหางจระเข้กับการรักษาโรคเบาหวาน อ.วนี ะ 15 4 สมุนไพรป้องกันสมองเสอ่ื ม อ.นวพร 16 ฟา้ ทะลายโจรกบั ไข้ อ. คณุ สั ปกรณ์ 17 มังคุด กบั ประโยชน์ยาทางสมุนไพร อ.จฑุ ามาศ 18 มงั คุดไทย กบั การสรา้ งภูมิคุ้มกันรา่ งกาย อ.กฤษณา 19 หญา้ ดอกขาวชว่ ยเลกิ บุหร่ี อ.กิตติพร 20 กลิ่นบ้าบดั กบั การบรรเทาปวดในระยะคลอด อ.ฐิตารยี ์ 21 สมุนไพรต้องหา้ มสา้ หรบั หญงิ ตังครรภ์ อ.ดร.ธญั ญมล 22 สมนุ ไพรใกล้ตวั กับการตงั ครรภ์ อ. กสุ มุ ล 23 ทับหม้อเกลือดว้ ยสมุนไพรในระยะหลงั คลอด อ. พิชชาภรณ์ 24 ลดเทา้ บวมหลงั คลอดดว้ ยตะไคร้ อ.นิศารตั น์ 25 สมนุ ไพรไทย ตา้ นภยั ไข้เลอื ดออก อ.วรพนติ 26 ตะไคร้หอม ป้องกนั ยุงกดั อ.ทตุ ิยรัตน์ 27 นา้ มนั หอมระเหยกบั การบรรเทาอาการซมึ เศร้า อ.วัลล์พร 28 หมอนสมนุ ไพร อ.พทั ธ์ธรี า 29 การลา้ งพลงั ลบด้วยเกลือ

ลาดบั เรือ่ ง ผเู้ รยี บเรยี ง 30 การทา้ สูตรอาหารโบราณกบั สมนุ ไพรไทยมะรุม อ. มนทรา 31 3 สมนุ ไพรไทยแก้ไอ ขับเสมหะ อ. ดร. เพ็ญพรรณ 32 สมนุ ไพรเพิ่มน้านม อ. สจั จพร 33 อาหารตา้ นอารมณ์เศร้า อ. มนสั วี การสง่ เสรมิ สขุ ภาพแบบอ่นื ๆ อ.เอกพจน์ อ.พชั ราภา 34 รอกไมไ้ ผ่ออกกา้ ลังกายคลายเครียด อ.พทั ธ์ธรี า 35 เมตตาตนเองสชู่ วี ิตทม่ี ีความสุข อ.สรุ ยิ า 36 กา้ ไลหรรษาพิชิตข้อเขา่ เสื่อม อ.สุวรรณา 37 การดแู ลสขุ ภาพหนา้ ร้อน อ.จิราภรณ์ 38 การปอ้ งกันและชะลอความเสื่อมของไต อ. เสาวลกั ษณ์ 39 ปนู แดงฆ่ายุง

สมนุ ไพรไทยกบั การใชเ้ ทคโนโลยี....สู่นวตั กรรมสมุนไพรคลายอาการปวดหลงั อ.ดร.ลดั ดา เหลอื งรตั นมาศ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชลบรุ ี อาการปวดเป็นปัญหาทส่ี าํ คญั ทางด้านสขุ ภาพของคนไทยเพราะเป็นสง่ิ ท่กี อ่ ให้เกดิ ความทกุ ขท์ รมานและบ่ันทอนคุณภาพชีวิตของบุคคล อาการปวดหลังสว่ นหลังส่วนล่างพบได้ บ่อยในช่วงอายุ 25-50 ซ่งึ มีสาเหตุจากอริ ิยาบถทผ่ี ดิ ท่าจนเกดิ แรงกดทก่ี ล้ามเน้อื หลัง ทาํ ให้ มอี าการเกรง็ ตัวของกล้ามเน้อื อาการปวดกล้ามเน้อื โดยท่วั ไปไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่เป็น ปัญหาในการดาํ เนินชวี ิตประจาํ วัน เป็นข้อจาํ กัดในการทาํ งาน รวมถงึ รบกวนการพกั ผอ่ น บางคนท่ที นต่อ การเจบ็ ปวดไม่ได้จงึ ต้องหันไปพ่งึ ยา เช่น ยาแก้ปวด ยาสเตยี รอยด์ ยาชุด ซ่งึ กอ็ าจจะมผี ลแทรกซ้อนจากการใช้ยา มีการนาํ สมุนไพรมาใช้รกั ษาโรค เน่อื งจากการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาตใิ นการดูแลสขุ ภาพมคี วามเสี่ยงต่อการ เกดิ ภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า ราคาประหยดั และสามารถทาํ ได้เอง สมุนไพรท่ถี กู นาํ มาใช้ในการบรรเทาอาการปวด ได้แก่ เถาเอ็นอ่อน ไพล โคคลาน ดีปลี หญา้ หนวดแมว ทองพนั ช่งั กวาวเครอื แดง เถาเม่อื ย เสม็ดแดง ในบรรดาสมุนไพรทง้ั หลาย เถาเอ็นออ่ น เป็นสมุนไพรท่นี ยิ มนาํ มาใช้แก้ปวดเม่อื ย กล้ามเน้อื อันดับต้นๆ โดยนาํ ไปต้มกิน ปัจจุบนั ได้นาํ ไปทาํ เป็นยาสมุนไพรเถาวลั ยเ์ ปรยี ง ชนดิ แคปซูล ใช้รกั ษาอาการปวดหลัง นอกจากน้ีมีการนาํ สมุนไพรไปทาํ ลกู ประคบซ่ึงทม่ี ีหลากหลาย รูปแบบ เช่น ลกู ประคบสมุนไพรสด ลูกประคบสมนุ ไพรแห้ง ซ่งึ มขี ้อจาํ กัดในการใช้งานเน่ืองจากลูก ประคบสมุนไพรสด ต้องเกบ็ ในอุณหภมู ทิ ่เี ยน็ เพ่ือป้ องกนั การเน่าบูด ต้องใช้วันต่อวนั สว่ นลูก ประคบสมนุ ไพรแห้ง ต้องผ่านการตากแดดหรืออบทอ่ี ณุ หภมู ิ 50-70 องศาเซลเซยี ส เป็นระยะเวลา 4-8 ช่วั โมง ปัจจัยมีการพัฒนาการใช้สมุนไพรโดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาร่วมทาํ ให้สะดวกต่อการนาํ ไปใช้งาน และเพ่ิม ประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดได้ ซ่ึงจะเหน็ ได้จากการผลิตวัตกรรมสมุนไพร เช่น การพัฒนาลูกประคบ แบบเดิมเป็น ลูกประคบสมุนไพรหินสปา1 ท่เี ป็นรูปแบบถุงใส่สมุนไพรจะมีด้านล่างเป็นฐานคล้ายถ้วย มีลักษณะ ขรุขระเป็นตุ่มนูน 9 ตุ่ม เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการกดนวด นอกจากน้ียังมีนวัตกรรมสมุนไพรเพ่ือนาํ ไปใช้บรรเทา อาการปวดกล้ามเน้ือในรูปแบบต่างๆ เช่น ชาชงสมุนไพรห่างไรป้ วด โดยรวมสมุนไพรเช่น เถาวัลย์เปรียงไพล เพชรสังฆาต ทม่ี ีสรรพคณุ ลดอาการปวดเม่อื ยกล้ามเน้อื มาผ่านกระบวนการบดเป็นชาชง การทาํ รปู แบบสเปรยส์ มุนไพร โดยมีการนําสมุนไพร เช่น หญ้าดอกขาว ไพล กระชาย มาทาํ เป็นผลิตภัณฑ์สเปรย์ นวตั กรรมเจลหญา้ เอ็นยืด ซ่ึง ศูนย์นวัตกรรมสมนุ ไพรครบวงจร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้ าหลวง ได้คิดค้นนวัตกรรมน้ีข้ึน2 และนวตั กรรมอุปกรณแ์ ผน่ ประคบรอ้ นสมนุ ไพร ซ่งึ เป็นผลงานวจิ ยั ของอาจารยใ์ นสาขาวทิ ยาศาสตร์ชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่3 จะเหน็ ได้ว่าการใช้นวตั กรรมสมุนไพรแก้ปวดหลงั เป็นทางเลือกสาํ หรับผ้ทู ม่ี อี าการปวดหลงั นอกจากการ การออกกาํ ลังกายและการนวด อีกท้งั ยังมใี ห้เลือกหลายรูปแบบ อ้างอิง 1. สจุ ิตรา บญุ มาก, ปพชิ ญา ศรีแก้ว, ศิริลักษณ์ แซ่ง้อ, อาํ พล บุญพยี ร, วรินทร เชดิ ชูธีรกลุ . การพัฒนาลูกประคบ สมุนไพรหินสปา ส าหรบั ให้บรกิ ารงานการแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลหลวงพ่อเป่ิน จังหวัดนครปฐม. วารสารศิลปการจดั การ, 2563 ปีท่ี 4 ฉบับท่ี 3 2. ศนู ย์นวัตกรรมครบวงจร มหาวทิ ยาลัยแม่ฟ้ าหลวง สบื ค้นจาก https://mpic.mfu.ac.th/mpic-news/mpic- detail0/detail /News/5693.html 3. ดวงดี ดิษฐสงวน. การออกแบบ การผลิตและการประเมินนวตั กรรมแผ่นประคบร้อนสมุนไพรพยุงหลังท่สี ามารถใช้ ร่วมกับการออกกาํ ลังกายสาํ หรบั บาํ บดั รักษาอาการปวดหลังเร้อื รงั . สืบค้นจาก http://www.ams.cmu.ac.th/grad/web/ new5.html

นำ้ มนั ท่ไี ด้จากการสกดั แยกน้ำมันจากเนอ้ื ผล นำ้ มันมะพรา้ ว ของต้นมะพร้าวไมผ่ า่ นกระบวนการความร้อน สงู และกระบวนการแปรรูปทางเคมี กบั ประโยชนด์ ้านสุขภาพ องค์ประกอบหลัก เปน็ กรดไขมนั อ่มิ ตวั ส่วนใหญ่มากกวา่ 90 % เปน็ กรดไขมนั ขนาด โมเลกุลปานกลาง เช่น กรดลอรกิ เม่อื รบั ประทานและถกู ดดู ซึมเข้าสรู่ า่ งกายแลว้ จะถูกเผา ผลาญได้ดี จึงถูกสะสมในเนอ้ื เยือ่ ไขมนั ได้นอ้ ยกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตวั ในน้ำมันถั่วเหลือง ประโยชน์ทางด้านสุขภาพ เร่งการเผาผลาญ ชว่ ยปอ้ งกันการสะสมของไขมัน เหมาะกับผ้ทู อี่ ยู่ในชว่ งลดนำ้ หนัก ลดนำ้ หนัก ช่วยในการลดนำ้ หนัก บำรุงรา่ งกาย ลดอาการอ่อนเพลยี ช่วยเพ่ิมกำลัง สำหรบั นักกฬี าไดเ้ ปน็ อยา่ งดี แหล่งไขมนั ดี ไมแ่ ปรรปู เป็นไขมันทรานส์ เมอ่ื สมั ผัสความรอ้ น รับประทาน ไมก่ ่อให้เกิดสารก่อมะเรง็ ประกอบอาหารได้ปลอดภัย ประมาณวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ยอ่ ยง่าย เหมาะสำหรับผมู้ ีปญั หาเกย่ี วกบั ระบบยอ่ ยอาหารและระบบขับถา่ ย สามารถดดู ซมึ เขา้ สู่รา่ งกายได้รวดเร็ว ลดคอเลสเตอรอล ชว่ ยลดระดับคอเลสเตอรอล บำรงุ หัวใจใหแ้ ข็งแรง แหล่งวติ ามนิ ชว่ ยต่อต้านอนมุ ลู อิสระ บำรุงผิวพรรณและเสน้ ผมให้เงางามสขุ ภาพดี และช่วยดูดซมึ วติ ามนิ มีเกลือแรแ่ ละกรดอะมิโนทีจ่ ำเปน็ ตอ่ ความตอ้ งการของร่างกาย มสี ารโมโนลอรนี ชว่ ยสรา้ งภมู คิ มุ้ กัน สามารถทำลายเชื้อแบคทเี รยี ไวรสั รา เปน็ ตน้ ท่มี า ฉัตรชัย สงั ขผ์ ดุ . (2558) การเพ่ิมคุณสมบตั กิ ารตา้ นอนุมลู อสิ ระและ เชื้อจุลินทรยี ข์ องน้ำมนั มะพร้าวสกดั เย็นโดยการดดั แปลงโครงสร้าง ทางเคมีด้วยการประยกุ ตใ์ ชเ้ อนไซมไ์ ลเปส. มหาวิทยาลยั ราชภฎั นครศรีธรรมราช:นครศรธี รรมราช. จดั ทำโดย อาจารยณ์ ฏั ฐพัชร์ การัณยศิลป์ สาขาวชิ าการพยาบาลมารดาทารกและการผดุงครรภ์

หอมแดงแกห้ วัด เอกพจน์ สืบญาติ หอมแดงเป็นพืชขนาดเลก็ ทีป่ ลกู ไว้เพ่ือบริโภคส่วนของหัว เน่ืองจากส่วนหัวมีสีแดงจงึ เรียกวา่ หอมชนิด นี้ว่า หอมแดง ในประเทศไทยนิยมนาหอมแดงมาใช้ในการประกอบอาหาร ท้ังการนาหัวสดมาใส่ในอาหาร บริโภคโดยตรง หรือนามาใช้เป็นส่วนประกอบของเคร่ืองแกงต่างๆ หอมแดงนอกจะใช้สาหรับเพ่ิมรสชาติ อาหารแลว้ ยงั มีสรรพคุณทางยา จากการศกึ ษาพบวา่ สารเควอซทิ ิน(Quercetin) ซง่ึ มมี ากในหอมแดงสามารถ ชว่ ยขยายหลอดลม และต้านไวรัสไขห้ วัดใหญไ่ ด้ คณุ ค่าทางโภชนาการของหอมแดงดิบ - ให้พลงั งาน (72 กิโลแคลอร่ี/ 100 กรมั ) - มโี ปรตีน - มวี ติ ามนิ ไดแ้ ก่ วติ ามินซี วติ ามนิ บี 1, 2, 3, 5, 6, 9 - มีแรธ่ าตุ ไดแ้ ก่ แคลเซยี ม ธาตเุ หลก็ แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรสั โพแทสเซียม สงั กะสี สรรพคุณหอมแดง - แก้หวัดคัดจมูก ขบั เสมหะ - ขบั ลมในลาไส้ - แก้ปวดท้อง ขบั ประจาเดือน - ทาให้ความดันโลหิตตา่ ลดไขมนั ในเลอื ด - แก้อาการอักเสบตา่ งๆ วธิ กี ารใชห้ อมแดงสาหรบั แกห้ วัดคดั จมกู รูปจาก https://www.thaihealth.or.th/ 1. การกินสด ๆ ชว่ งท่เี ปน็ หวดั โดยเอาหอมแดงมาซอยเป็นแวน่ บางๆ รบั ประทานพร้อมกับข้าวและ อาหาร 2. การสดู ดม โดยนาหอมแดงมาทบุ พอแหลกแล้วนามาสูดดม หรอื หอ่ ผ้าวางบนหวั นอน ตอนกลางคืน วธิ นี ต้ี ้องระวังไอของหัวหอมแดงท่อี าจทาใหแ้ สบตา 3. การรมไอน้า โดยตม้ น้าให้เดือด แลว้ นาหอมแดง 1 กามือมาโขลกพอแหลกใสล่ งไป ปิดฝาต้มต่อ 3-5 นาที จากน้ันยกลงและเอาผา้ คลุมศีรษะกับหม้อไว้ แลว้ คอ่ ยๆ เปดิ ฝาหม้อ เพอื่ สดู ดมไอน้าจากหอมแดง เข้าไป วธิ นี ต้ี อ้ งระวังการเปิดฝาหมอ้ ไม่เปดิ ฝาหม้อกวา้ งจนเกินไป หรอื ไม่ให้หน้าอยู่ใกล้หมอเกนิ ไปเพราะอาจ เปน็ อนั ตรายจากไอ้น้ารอ้ นได้ ทม่ี า : https://www.disthai.com/16941469/หอมแดง หอมแดง ประโยชน์ดๆี สรรพคณุ เดน่ ๆ และขอ้ มลู งานวจิ ัย https://www.thaihealth.or.th/sook/info-body-detail.php?id=118 3 วธิ เี ด็ดแกห้ วัดนา้ มกู ไหลด้วยหอมแดง

สมุนไพรทางเลอื ก ดแู ลดวงตาวัยเกษียณ ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ...การดูแล ป้องกันและบารุงสุขภาพของดวงตาของผู้สูงอายุจาก สารพดั โรคทถ่ี ามหาเม่อื อายมุ ากขึน้ มีอยู่หลายวธิ ี หนง่ึ ในนนั้ คอื “การบรโิ ภคอาหารกลมุ่ ของวติ ามินแรธ่ าตุ” ทช่ี ่วยป้องกันโรคตา รวมไปถึงการรับประทาน “สมุนไพรไทย”ท่ีมีสรรพคุณดูแลสายตา ดังน้ันเราจะไปทา ความรจู้ ักกบั สมุนไพรท่ีชว่ ยบารุงสายตากนั เลย 1. ดอกดาวเรือง เ ป็ น ทั้ ง พื ช ป ร ะ ดั บ แ ล ะ ส มุ น ไ พ ร ดู แ ล สุ ข ภ า พ จ ะ อุ ด ม ไ ป ด้ ว ย “สารลูทีน”ท่ีช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ ช่วยดูดซับแสงสีน้าเงินซ่ึงเป็น สาเหตุของโรคจอประสาทตาเส่ือมในผู้สูงวัยและคนทั่วไป อีกท้ังยังช่วย ปญั หาสายตาเสียในกล่มุ ของผูส้ งู อายุที่ป่วยโรคเบาหวาน อันเน่อื งมาจาก เบาหวานขึน้ ตา ทส่ี ามารถบริโภคเป็นชาดอกดาวเรอื ง 2. ขมนิ้ ชนั ทีม่ ีสรรพคณุ ต้านอนุมูลอิสระเชน่ กนั และมี “สารลทู นี ” ท่ชี ่วยชะลอโรคทางสขุ ภาพตา และบารุงสุขภาพดวงตาให้กับคนสงู วยั 3. ดอกอัญชัน มี “สารแอนโทไซยานิน” ซ่ึงอยู่ในกลุ่มของสารต้าน อนุมูลอิสระ ทที่ ั้งมีสรรพคุณช่วยเพ่ิมการไหลเวียนโลหิต บารุงโลหิต ท่ี สาคัญยังช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ป้องกันโรคต้อหิน อีกทั้ง ลดอาการตาแฉะ ตาฟาง รวมถึงแก้ตาอักเสบ 4. ใบบวั บก ถือเปน็ สมุนไพรทีม่ ี “วติ ามินเอ” สงู ซ่ึงเปน็ วติ ามิน ที่มีประโยชน์กับสายตา ในแง่ของการช่วยเรื่องการมองเห็นท่ีดี ขึ้น ท่ีสาคัญยังช่วยป้องกันผู้สูงอายุเกิดภาวะสายตาฝ้าฟางจาก อายุทเี่ พิม่ มากขึ้นได้เช่นเดยี วกนั ค่ะ ดงั นนั้ สมนุ ไพรถอื เปน็ ตัวชว่ ยที่ดีในการปอ้ งกนั โรคที่อาจเกดิ ขึ้นกับดวงตาเมื่ออายุมากขึน้ ได้ ท่ีมา :สมนุ ไพรฤทธ์ิต้านอนมุ ลู อสิ ระ ทางเลอื กดแู ลดวงตาวยั เกษียณ จาก https://www.thaipost.net/main/detail/13068 อ.จฑุ ามาศ วงจนั ทร์ สาขาการพยาบาลผ้ใู หญ่และผ้สู งู อายุ

ปลายมือปลายเทา้ ชา บรรเทาได้ดว้ ยสิง่ น้ี อาการชาตามปลายมอื ปลายของผู้ปว่ ยเบาหวานเกดิ ข้นึ ได้บ่อย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ เปน็ เบาหวานมานาน ร่วมกบั การทีไ่ ม่สามารถควบคุมระดบั น้าตาลในเลอื ดใหใ้ กล้เคียง ปกติได้ ระดับน้าตาลในเลือดทีส่ งู จะทา้ ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงทางทางเคมีในเลอื ดท้าให้ เส้นประสาทนา้ ไฟฟ้าไมด่ ี การเป็นโรคเบาหวาน จะทา้ ใหเ้ กดิ การท้าลายหลอดเลอื ดทไี่ ป เลี้ยงเสน้ ประสาทส่วนปลาย และทา้ ใหเ้ กดิ อาการชาทีป่ ลายมอื ปลายเท้า ไม่รู้สึกถงึ ความ ร้อนความเย็นที่มากระทบ ซึ่งอาจท้าให้เกดิ แผลทีเ่ ท้า และลุกลามไปจนเกิดการสญู เสีย อวยั วะได้ ดังนั้นการควบคุมน้าตาลในเลือดไดด้ ี กจ็ ะสามารถลดอาการชาตามปลาย มือปลายเท้าได้ และควรงดละเลิกการดืม่ สรุ า และการสบู บุหรดี่ ้วย นอกจากน้ียังมวี ิธีที่ จะชว่ ยบรรเทาอาการชาทีป่ ลายมือปลายเท้าได้บ้างคอื การกระตุ้นให้มีเลือดไปเลยี้ งที่ ส่วนปลายมือปลายเท้า ขอน้าเสนอวิธีการใช้วัสดใุ กล้ตวั มาใช้ในการบริหารมอื เท้า ซึ่ง จะสามารถชว่ ยกระตนุ้ ใหม้ ีการไหลเวียนของเลือดที่ปลายมือและเท้าได้ดีข้นึ ลดอาการ ชาทีป่ ลายมอื และเท้าได้ - เหยียบมะกรดู ในแผงไข่ - นวดเทา้ ในถาดมะกรดู นอกจากลูกมะกรูดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดแล้ว จะช่วยบา้ รุงผิวที่ฝ่าเท้าฝ่ามือได้ด้วย ได้ด้วย นอกจากนี้ เรายงั สามารถใช้เมลด็ มะขาม ลูกแกว้ ลูกบอลเลก็ ๆ มาใช้แทนมะกรดู ในการเหยียบนวด เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดที่ส่วนปลายเท้าได้ด้วย แต่ต้องตรวจสอบดูก่อนด้วยว่าวสั ดทุ ี่มี ใช้แทนน้ันต้องไม่แหลม ไม่คม เพราะอาจจะทา้ ให้เกดิ แผลได้ในขณะที่ใช้งาน ส่วนทีฝ่ ่ามืออาจ น้าลูกมะกรดู ลูกบอลมาบีบ การบีบและคลายก็จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดทีฝ่ ่ามอื ลด อาการชาของปลายมอื ได้ด้วย ท้ากันบ่อยๆนะคะ อาการชากจ็ ะดีข้ึนค่ะ ที่มา: ทีม่ ีการทดลองใชใ้ นกลุ่มผปู้ ่วยเบาหวาน รพ.สต.หนองตะเคียนบอน อ.วัฒนานคร จ. สระแก้ว, รพ.สต.บางคูวดั อ.เมอื ง จ.ปทุมธานี อ. ดร. สมพร รกั ความสุข สาขาวิชาการพยาบาลสขุ ภาพชมุ ชน

ความดันโลหิตสูง คือ สภาวะผิดปกติท่ีบุคคลมีระดับ ความดันโลหิตสูงข้ึนกว่าระดับปกติของคนส่วน ใหญ่ และถือว่าเป็นสภาวะท่ีต้องควบคุม เน่ืองจากความดันโลหิตสูงทาให้เกิดความเสียหาย และการ เสื่อมสภาพของหลอดเลือดแดง นาไปสู่สภาวะการแข็งตัวของหลอดเลือด การอุดตันของหลอดเลือด หรือ หลอดเลือดแตกได้ นอกจากนี้ความดันโลหิตสูงยงั เป็นปัจจัยเสีย่ งทาให้เกิดโรคแทรกซ้อนอ่ืนๆ ตามมาได้เช่น โรคหัวใจวาย โรคอัมพาต โรคสมองเสอื่ มหรือโรคไตวายเรื้อรัง สมนุ ไพรใช้รักษาโรคความดันโลหิตสงู สาหรบั \"เตยหอม\" ช่ือวิทยาศาสตร์: Pandanus amaryllifolius come เป็นไมย้ นื ตน้ พุ่มเลก็ ข้นึ เปน็ กอ ลาตน้ อยู่ใตด้ นิ ใบเปน็ ใบเดีย่ ว เรยี งสลบั เวียนเป็นเกลยี วข้นึ ไปจนถงึ ยอด ใบเป็นทางยาว สเี ขม้ ค่อนขา้ ง แขง็ เปน็ มนั เผือก ขอบใบเรียบ ในใบมีกล่นิ หอมจากน้ามนั หอมระเหย Fragrant Screw Pine สีเขียวจากใบ เปน็ สีของคลอโรฟลิ ล์ ใชแ้ ต่งสีขนมได้ การศกึ ษาฤทธ์ทิ างเภสชั วทิ ยาพบวา่ เตยหอมมีฤทธ์ิลดนา้ ตาลในเลอื ด ลดความดันโลหติ ลดอตั ราการเตน้ ของหวั ใจ ขบั ปสั สาวะ ซง่ึ ฤทธิท์ าง เภสชั วิทยาที่กลา่ วไปทัง้ หมดนน้ั ซ่ึงมา จากการทดลองในห้องทดลอง นอกจากนไ้ี ด้มีการทาศึกษาวิจยั โดย นานา้ ตม้ รากเตยหอมไปทดลองใน สตั ว์ทดลองเพ่ือดูฤทธลิ์ ดน้าตาลในเลอื ด ปรากววา่ สามารถลดน้าตาลใน เลอื ดของสตั วท์ ดลองได้ จึงนบั ไดว้ ่า สมุนไพรเตยหอมเปน็ สมนุ ไพรทม่ี ีคุณคา่ อีกชนิดหนง่ึ สามารถนา มาทาเปน็ เคร่ืองด่ืมรับประทานเองได้ รกั ษา โรคเบาหวาน ลดน้าตาลในเลอื ด วิธีการ น้ารากเตยหอมประมาณ 1 ขีด สับเป็นท่อนเล็กๆ ต้มกับน้า 1 ลิตร จนเดือด จากนันเคี่ยวตอ่ ประมาณ 15-20 นาที น้ายาท่ีได้ด่ืมครังละคร่ึงแก้ววันละ 3 ครัง หรือใช้ใบเตยร่วมกับสมุนไพรตัวอื่น โดยน้า ใบเตยหอม 32 ใบ ใบสกั 9 ใบ นา้ มาหน่ั ตากแดด แลว้ ชงดม่ื แบบชา หรือใส่หม้อดนิ ต้ม กนิ เป็นยาต่างน้าทุกวัน ท่ีมา : วารสารมหาวิทยาลัยนราธวิ าสราชนครนิ ทร์ ปที ่ี 9 ฉบับท่ี 2 พ.ค. – ส.ค. 2560 อ.ลกั ษณา พงษ์ภุมมา ภาควิชาสขุ ภาพจิตและการพยาบาลจติ เวช

กลนิ บ่ำบัดอำกำรทำงใจและควำมเครียด กำรด่ำเนินชีวิตชว่ งสถำนกำรณ์โควดิ -19 ส่งผลให้หลำยคนเกดิ ภำวะเครยี ด จติ ใจวิตกกงั วลด้วยเรอื งต่ำงๆ อย่ำงหลีกเลียงไมไ่ ด้ กล่ินหอม จงึ เป็นทำงเลอื ก ทีประหยดั และปลอดภยั ชว่ ยบ่ำบัดคลำยควำมตงึ เครียดภำยในใจ และใช้กลินสร้ำง บรรยำกำศผอ่ นคลำยภำยในบ้ำนไดเ้ ป็นอยำ่ งดี ควำมเครยี ด เปน็ สภำวะทำง อำรมณ์ทีเกดิ จำกกำรทคี นเรำตอ้ งเผชญิ กับปัญหำตำ่ งๆ หรอื กำรเปลยี นแปลงที ส่งผลใหร้ สู้ ึกกดดัน วิตกกงั วล กระทังสภำวะจติ ใจทเี ปลยี นไปในดำ้ นลบ เมอื สมองรับรูไ้ ด้วำ่ เกดิ สภำวะทสี ง่ ผลกระทบตอ่ จิตใจ ควำมเครียดน้นั สำมำรถแบง่ ออกเปน็ 4 ระดบั ไดแ้ ก่ 1) ระดบั ต่ำ (Mild Stress) สามารถเกดิ ข้นึ ไดใ้ นชีวติ ประจาวนั ไมส่ ง่ ผลรนุ แรงตอ่ การดาเนินชวี ิต เพยี งแคร่ ู้สกึ เบอ่ื หนา่ ย ขาดแรงกระตนุ้ รวมถงึ ส่งผลต่อพฤติกรรมทาใหเ้ ชือ่ งช้าลง 2) ระดบั ปำนกลำง (Moderate Stress) เกดิ จากเหตุการณท์ ผี่ ดิ ปกติจากชีวติ ประจาวัน ไม่กอ่ อนั ตราย และไมแ่ สดงออกถงึ ความเครยี ดทช่ี ัดเจน ส่วนใหญจ่ ะสามารถปรบั ตัวกลบั สภู่ าวะปกตไิ ด้ คลายเครยี ดได้ เองจากการไดท้ ากจิ กรรมทช่ี ื่นชอบ 3) ระดบั สูง (High Stress) เกดิ จากเหตกุ ารณร์ นุ แรง หากปรบั ตวั ไม่ได้ จะทาใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลง ทางรา่ งกาย อารมณ์ ความคดิ รวมถงึ พฤตกิ รรม เช่น ปวดศรี ษะ ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน หงดุ หงิดงา่ ย พฤตกิ รรมเก่ียวกบั การนอนและการรับประทานอาหารเปลยี่ นไปจนมผี ลต่อการดาเนนิ ชวี ติ 4) ระดบั รนุ แรงและเรอ้ื รงั (Severe Stress) ทาใหม้ คี วามล้มเหลวในการปรบั ตวั กอ่ ใหเ้ กดิ ความ ผิดปกตแิ ละโรคตา่ งๆ ทร่ี นุ แรง รวมถึงอาการทางจิต ส่งผลกระทบตอ่ การดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั ดงั นัน้ ควรเขา้ รบั การปรึกษาจากจิตแพทย์ จากสถานการณท์ เี่ กดิ ข้ึนในปจั จุบนั นนั้ สามารถสง่ ผลใหเ้ ราเกิด ความเครยี ดในระดับปานกลาง-สงู ได้ ขนึ้ อย่กู บั สภาพจติ ใจของแต่ละคน กลินหอมบ่ำบัด (Aromatherapy) มำช่วยในกำรสรำ้ งบรรยำกำศควำมผอ่ นคลำยภำยในบ้ำนนับเป็นอีกหนงึ วธิ ที ี สำมำรถบรรเทำควำมเครียดไดเ้ ร็วทีสดุ กลนิ หอมจำกนำ้่ มันหอมระเหยธรรมชำตจิ ะเปน็ ตัวชว่ ยหนงึ ทีทำ่ ให้เรำรูส้ ึกผ่อนคลำย อย่ำงเหน็ ไดช้ ดั เมอื จมกู ได้รับกลนิ มำเพียงไม่กีวินำที กลินจะถูกส่งผำ่ นประสำทรบั กลิน (Olfactory Nerves) ซึงอย่เู หนอื โพรง จมูกไปยงั กระเปำะรับกลิน (Olfactory Bulbs) และสง่ ตอ่ ไปยังสมองส่วนควบคุมอำรมณ์และควำมรู้สึก (Limbic System) อณขู อง น่ำ้ มันหอมระเหยจะกระจำยไปตำมประสำทรับกลนิ เขำ้ สสู่ มองสว่ นทีควบคุมอำรมณ์ และควำมรู้สึก (Emotion Center หรือ Limbic System) ชว่ ยท่ำให้สงบ เยอื กเย็น และผ่อนคลำยจำกสภำวะเครยี ดได”้ มนัสวี จาปาเทศ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี

ดูแลสุขภาพดว้ ยสสี ันจากธรรมชาติ สีสนั ของธรรมชาติไม่เพียงเปน็ สิ่งทีส่ รา้ งความสวยงามใหก้ ับโลก แตย่ งั เปน็ ประโยชน์ตอ่ สขุ ภาพด้วย สีสนั จากธรรมชาติหาได้จากของที่รบั ประทานได้และไม่ได้ ลองมาดกู นั นะคะว่ามีอะไรบ้าง จากพืชผกั พืชผกั สีเหลือง สีส้ม : ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และปกป้องเซลล์จากการถกู ทาลายจากแสงแดด และสารเคมี ทั้งยังช่วยชะลอความแก่ และบารุงสายตาได้อกี ด้วย หาได้จาก ฟักทอง พริกเหลือง แครอท มะละกอ สับปะรด ส้ม ลูกพลบั มะม่วงสกุ แคนตาลปู เสาวรส โทงเทงฝรั่ง ขา้ วโพด เป็นต้น พืชผกั สีม่วง : ช่วยล้างพิษ ต้านมะเรง็ ลดความเสี่ยงของโรคหวั ใจ บารุงสมองป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และทางเดินปสั สาวะ ช่วยลดน้าหนกั รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ท้ังยงั ชะลอความแก่ได้เชน่ กัน พืชผักสีมว่ ง ได้แก่ กะหล่าปลีสีม่วง มะเขอื ม่วง กะหลา่ ดอกม่วง แครอทสีมว่ ง บูลเบอร์รี่ องนุ่ ม่วง มะเดื่อฝรั่ง แบล็คเบอร์รี่ เป็นต้น พืชผักสีแดง : ต้านอนุมลู อิสระ ป้องกันการทาลายเนื้อเยือ่ และการเกิดมะเรง็ ช่วยบารงุ ปอด บารงุ ระบบเลือด และบารุงผวิ พรรณ เช่น มะเขือเทศ พริกหวานแดง บีทรทู พรกิ แดง สตรอว์เบอร์รี ราสเบอร์ รี่ ทับทิม เชอรร์ ี่ แตงโม แอปเปิ้ลแดง เป็นต้น พืชผกั สีเขียว : ชว่ ยในการเผาผลาญโปรตนี แปง้ และไขมนั แก้ท้องผกู แก้ปัสสาวะข่นุ ชว่ ยรักษา สมดลุ ของเกลือแร่ในร่างกาย ชว่ ยควบคมุ สมดลุ ของระดบั แคลเซียม บารงุ กระดูกและ ฟนั ชว่ ยชะลอความ เส่ือมของเซลล์ตา่ งๆ บารุงประสาท และกาจดั ร้วิ รอยเหี่ยวย่น เม่ือหายใจหรือกินเอาสารพิษเข้าไป คลอโรฟิลล์ก็ จะชว่ ยขบั สารพิษตา่ งๆ ออกจากร่างกาย ชว่ ยทาความสะอาดเซลล์ตา่ งๆ ทาความสะอาดกระเพาะอาหาร ลาไส้ และตบั ชว่ ยให้กล้ามเนือ้ ตา่ งๆ ทางานอยา่ งมีประสิทธิภาพ ชว่ ยให้แผลหายเร็วขนึ ้ ชว่ ยบาบดั อาการผมร่วง อาการนอนหลบั ยาก และปวดหวั ปอ้ งกนั โรคหอบหือ และเส้นเลือดขอด ผกั สีเขียวนีไ้ ด้แก่ ผักเคล ผักโขม ผกั คะน้า ผกั บุ้ง กะหล่าปลี หนอ่ ไม้ฝรั่ง มะเขือ และอื่น ๆ พืชผกั สีขาว : ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือด โดยเฉพาะไขมนั เลว ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน ลดความดันโลหิต และโรคหัวใจ แลว้ ยงั มีสารฟลาโวนอยด์มีฤทธิต์ ้านการอกั เสบ ช่วยลดการแบ่งตวั ของ เซลล์มะเร็ง ช่วยป้องกันเนื้องอก เพิม่ ภมู ิต้านทานแก่ร่างกาย ช่วยรักษาความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง ช่วยการ ทางานของระบบหมุนเวียน ตา่ งๆ ในร่างกาย พืชผกั ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ดอกกะหล่า กระเทียม ขงิ หอมหวั ใหญ่ ผกั กาดขาว หวั ไชเท้า หัวปลี ถั่วงอก ดอกแค ไหลบัว เปน็ ต้น เราสามารถดแู ลตนเองโดยใช้แหล่งอาหารธรรมชาติเพื่อการป้องกันการเกิดโรคได้ด้วยกนั ทุกคน มา ดูแลสุขภาพด้วยกนั นะคะ ผู้สบื ค้น อนิสา อรญั คีรี สาขาวชิ าการพยาบาลสุขภาพชมุ ชน อา้ งองิ จาก https://www.thaihealth.or.th/data/ecatalog/328/pdf/328.pdf

ศาสตรพ์ ืน้ บ้านกบั การดแู ลตนเองเพ่อื ปอ้ งกันโคโรนาไวรสั 2019 โคโรนาไวรสั 2019 หรอื โควิด-19 เป็นโรคระบาดที่เป็นปญั หาของทุกประเทศท่ัวโลกและกาลงั ทวีความรนุ แรงอย่าง มากในขณะนี้ การดแู ลตนเองป้องกนั การการแพร่ระบาดของโรคตามมาตรการทางการแพทย์ได้ให้ไว้เปน็ สิ่งจาเป็น ในตอนนี้ ซึง่ ประกอบด้วย รักษาระยะหา่ งที่ปลอดภัยจากผทู้ ี่ไอหรอื จาม สวมหน้ากากอนามยั ล้างมอื บ่อยๆ โดยใช้สบู่ และน้า หรอื เจลล้างมอื ทีม่ ีส่วนผสมหลักเปน็ แอลกอฮอล์ ตรวจวัดอณุ หภูมิของร่างกาย ไม่สัมผัสตา จมูก หรือปาก เก็บ ตวั อยู่บ้านเมื่อรู้สกึ ไม่สบาย หากมีไข้ ไอ และหายใจลาบากโปรดไปพบแพทย์ ก็จะสามารถป้องกนั การแพร่ระบาดได้ นอกจากนยี้ งั ควรมีแอปพิเคชน่ั “ไทยชนะ” ซึ่งเป็นแอปพิเคชนั่ ทีใ่ ช้ตดิ ตามผู้การเดินทางไปในจดุ ทีอ่ าจมีความเสี่ยง และ “หมอชนะ” จะใชเ้ กบ็ ข้อมลู การเดินทางของประชาชน เพื่อประเมนิ ความเสีย่ งได้ว่า ในบริเวณน้ันมีผปู้ ่วย COVID-19 หรอื ไม่ ทีจ่ ะสามารถควบคุมการเกิดโรคได้ระดบั หน่ึง สาหรับการดแู ลตนเองให้แขง็ แรงดว้ ยอาหาร สร้าง ภูมิคุ้มกันไม่ให้เกิดโรคก็เป็นเร่อื งจาเปน็ ซึง่ คณะ แพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลยั มหิดลไดเ้ ผยความรู้เรอ่ื งอาหารเสริมภูมิคุ้มกนั ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไว้ ดงั น้ี 1. วติ ามินซี ซึ่งมีอยู่ในผลไม้หลายชนดิ เรียงลาดบั มากไปนอ้ ย ไดแ้ ก่ ฝรงั่ มะขามปอ้ ม มะขามเทศ เงาะ ลกู พลับ สตอรว์เบอรี่ มะละกอ สม้ โอ ทุเรียน สม้ กลว้ ยหอม มะมว่ งสุก มะยงชิด ตามลาดบั 2. วติ ามินเอ มีอยใู่ น เครอ่ื งในสัตว์ ไขแ่ ดง นม ผัก ใบเขยี ว ผลไม้สีเหลอื งและสม้ 3. สังกะสี มีอยู่ใน เน้ือสตั ว์และเครอ่ื งใน หอย นางรม สตั ว์ปีและปลา รวมทงั้ ไข่ นม 4. โปรตีน มีทั้งในสัตว์และพชื ไดแ้ ก่ เน้อื สตั ว์ ไข่ นม เตา้ หู้ ถัว่ เหลอื ง ถ่ัวตา่ ง ๆ ถง่ั เมลด็ แห้ง เปน็ ตน้ จะเห็นไดว้ ่าแหลง่ อาหารทส่ี ามารถช่วย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แกเ่ รา ไม่ใช่อาหารทม่ี ีราคา อนิสา อรญั คีรี สาขาวิชาการพยาบาลสขุ ภาพชมุ ชน แพงและหายากเลย เรามาช่วยกันดูแลสุขภาพ อา้ งอิง https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/ ตนเองเพือ่ ให้พวกเราปลอดจากโรคระบาดร้ายแรง issue037/healthy-eating น้ีด้วยกนั นะคะ https://morarharn.com/high-vitamin/

เมนูอาหารไทยเสริมภมู คิ ุ้มกนั : ป้ องกนั ภัยโรคโควิด-19 ปัจจุบันสถานการณ์โรคติดต่อร้ายแรงและอันตรายถึงชีวิต มีการกล่าวขวัญถึงความ รุนแรงของโรคน้ีอย่างท่วั ถึงในทุกชุมชน คือ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา หรือโรคโควิด-19 ซ่ึง เกิดจากเช้ือไวรัสท่ที าลายภมู ิคุ้มกันของผู้ป่ วยลดลง ส่งผลให้เกิดโรคปอดอักเสบติดเช้ือและ รุนแรงเป็นอย่างมาก การเสริมสร้างภมู ิคุ้มกันของร่างกายให้แขง็ แรง สามารถต่อส้กู ับเช้ือโรค ได้ดีย่ิงข้ึนจึงมีความสาคัญ วิธีการหน่ึง คือ การรับประทานอาหารท่มี ีประโยชน์และมีคุณค่า ในการเสริมภมู ิคุ้มกนั ให้ร่างกาย อาหารไทย มีจุดเด่นเร่ืองรสชาติท่ผี สมผสานท้ังเปร้ียว หวาน มัน เคม็ เผด็ และยังมีสมุนไพรเคร่ืองเทศต่างๆเป็ นส่วนประกอบหลัก จึงทาให้ได้รับการ ยอมรับว่ามีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย แถมยังมีรสชาติท่อี ร่อยถูกปากคนท่วั ไปอกี ด้วย ตวั อย่างเมนูอาหารไทยคาว และหวานทาจากผกั และสมุนไพรช่วยเสริมภมู ิคุ้มกนั ให้ร่างกาย ผดั กะเพรา เมีย่ งคา ใบกะเพรามีสารโอเรียนทิน (orientin) เม่ียงคา ประกอบ ด้วยสมุนไพรมากมาย ท้ัง ช่ ว ย ลด โ อ ก า ส ก า ร ติด เ ช้ื อ ขอ ง เ ซ ลล์ ใบชะพลู ขิง พริก มะพร้าว ถ่ัวลิสงกุ้งแห้ง และ ช่วยป้ องกันไม่ให้ เจ็บป่ วยจากเช้ือไวรัส ยังมสี มุนไพรต้านไวรัสอย่างหอมแดง และมะนาว แถมยังมีสารสาคัญท่ีมีศักยภาพในการ ห่ันท้งั เปลือก ท้งั สองอย่างน้มี ีสารเฮสเพอริดนิ ป้ องกนั ไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ด้วย สารรูติน และวิตามินซีช่วยป้ องกนั ไม่ให้ไวรัสเข้าสู่ เซลล์ของร่างกายลดโอกาสการติดเช้ือในอวัยวะ ต่างๆของร่างกาย ท่มี า : “ 9 เมนูอาหารไทยเสรมิ ภมู คิ ุ้มกนั ”. [ ออนไลน์ ]. เข้าถงึ ได้จาก : https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/tips- for-you/thai-food.html (วนั ท่คี ้นข้อมลู : 4 พฤษภาคม 2564). อ.ขวัญตา เพชรมณโี ชติ สาขาวิชาการพยาบาลสขุ ภาพชุมชน วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี

ลดความอ้วนและไขมันในเลอื ดสงู ด้วยผกั พืน้ บ้านไทย ภาวะไขมันในเลอื ดสงู ในคนไทยมีแนวโนม้ เพิ่มขนึ้ ส่งผลให้เกดิ โรคอ้วน ไขมนั ในเลือดสงู ค่าปกติของระดับไขมนั ซึ่งพฒั นาเปน็ โรคหวั ใจและหลอดเลือด โคเลสเตอรอล < 200 มก./ดล. เบาหวาน ความดนั โลหติ สูง มะเรง็ ใน ไตรกลเี ซอไรด์ < 170 มก./ดล. ทางเดินอาหาร และเสยี ชีวติ ได้ในทีส่ ดุ ไขมนั ชนดิ ดี > 60 มก./ดล. ไขมนั ชนดิ เลว < 130 มก./ดล. พืชผกั และเคร่ืองเทศมสี าร Phytochemical ทมี่ ีบทบาทสาคญั ในการ ตา้ นอนุมลู อสิ ระ เป็นยาท่ีชว่ ยปรับสมดุล ปอ้ งกันและรักษาโรคไดด้ ี ซึ่งการวจิ ัยพชื ผักทส่ี ามารถลดไขมันในเลอื ดได้ มดี งั นี้ พรกิ ไทยดา >> สามารถลดการซมึ ผา่ นของโคเลสเตอรอลจากลาไสเ้ ล็กเขา้ สกู่ ระแสเลือด * ข่า >> ช่วยต้านกระบวนการย่อยสลายไขมันในลาไส้ของเอนไซม์ไลเปสจากตับอ่อน ทาให้ไขมัน ไม่สามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ และถูกขับออกมากับกากอาหารอ่ืน สามารถลดระดับ โคเลสเตอรอล ไตรกลเี ซอไรด์ ฟอสโฟไลปดิ และเพ่ิมระดับไขมนั ชนิดดี (HDL) * กลีบเลีย้ งกระเจี๊ยบแดง ใบมะรมุ ผลมะระขี้นก >> ยับยั้งการทางานของเอนไซม์ HMG-CoA reductase เช่นเดียวกบั ยาลดไขมันกล่มุ สเตตนิ ทาให้สงั เคราะหโ์ คเลสเตอรอลได้ลดลง เหง้าขิง >> ลดโคเลสเตอรอลได้ แต่ไม่มีผลลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ส่วนการวิจัยในกระต่าย ทดลองท่กี นิ ขงิ สกดั ตรวจพบปรมิ าณไขมนั ถกู ขบั ออกมาในอุจจาระเพม่ิ ข้ึน * พรกิ ชฟี้ า้ >> เป็นสารสีแดงกลมุ่ แคโรทนี อยด์ทีท่ าใหร้ ะดับไขมันชนิดดีในสัตวท์ ดลองสูงข้ึน * ใบผักบุ้ง >> ชว่ ยลดระดับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ไดท้ ้ังในเลอื ด ตบั ไต และหวั ใจ ใบตะไคร้ >> ช่วยใหร้ ะดบั โคเลสเตอรอลในเลอื ดและไขมนั ชนิดไมด่ ลี ดลงตามขนาดทก่ี ิน * ผลมะขามป้อม >> ต้านอนมุ ูลอสิ ระสงู ลดโคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ เพิม่ การขบั ถ่าย * กระเทียมสด >> ยบั ยง้ั การสร้างโคเลสเตอรอล และต้านการก่อไขมันอุดตนั ในหลอดเลอื ดได้ มะเขอื เทศ >> ตา้ นอนมุ ลู อิสระและลดระดับไขมันชนิดเลว (LDL) ไดด้ ี การศึกษาพบว่า ผหู้ ญงิ ที่ รบั ประทานมะเขือเทศสปั ดาห์ละ 7-10 มื้อ จะลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดดว้ ย * “ดงั นั้นการรบั ประทานอาหารทกุ ม้อื ควรมีผกั ครงึ่ หนึ่ง อาหารอน่ื ครงึ่ หนึง่ เพือ่ สขุ ภาพที่ดีหา่ งไกลโรคภัยต่างๆ” ท่มี า: สานักงานขอ้ มลู สมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล ผู้จดั ทา: อ.วปิ รัชญา เทศทอง สาขาวชิ าการพยาบาลผูใ้ หญแ่ ละผู้สงู อายุ

“สมานแผลจากธรรมชาติท่ีน่าท่ึง” ขม้ินชัน (T สมุนไพรภูมิปัญญาชาวบ้านของเราอย่างขมิ้น ที่มี สรรพคุณล้นเหลือในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆ เช่นเดียวกับการสมานแผลที่คุณสามารถใช้ขมิ้นมา เป็นตวั ช่วยได้ โดยวธิ ีในการใชข้ ม้ินรักษาแผลกค็ ือ นำเอาผงขมิ้นมาทาบริเวณแผลบนร่างกาย ทิ้งไว้สัก พัก แผลจะค่อยๆ เริ่มสมานตัว ซึ่งการใช้ขมิ้นรักษา แผลนั้น จะช่วยทำให้แผลไม่เกิดอาการติดเชื้อ อีกทั้ง ยังสมานตัวกันได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ขมิ้นยังช่วย สร้างเซลล์ผิวใหม่บริเวณบาดแผล จึงไม่ทิ้งรอย แผลเป็นใดๆ เอาไว้หลงั รักษาอกี ด้วย ฤทธ์ิต้านการอักเสบ กลไกต้านการเกาะกล่มุ ของเกล็ดเลือด ผ่านกลไกการ ยบั ย้ัง platelet-activating factor, arachidonic acid และยับยั้งการสรา้ ง thromboxane “นวัตกรรมเร่ืองก๊อซขม้ินรักษาแผล” การศึกษาผลของวาสลีนก๊อซขมิ้นชันรักษาบาดแผล ถลอกในเขตอำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอศรีมหาโพธิ พบว่า แผลของผู้ที่ใช้วาสลีนก๊อซขมิ้นชันจะหายเร็ว กว่ากลุ่มที่ไม่ใช้วาสลีนก๊อซขมิ้นชัน โดยที่ค่าเฉล่ีย ระยะเวลาในการหายของแผลในผู้ที่ใช้วาสลีนก๊อซ ขมิ้นชันคือ 4 วัน ในขณะที่การไม่ใช้วาสลีนก๊อซ ขม้ินชันจะใชเ้ วลาเฉล่ีย 8 วนั ในการทำให้แผลหาย

Turmeric) ทม่ี า: ธนวัฒน์ งามศรี.(2562). การศกึ ษาผลของวาสลนี ก๊อซขมนิ้ ชนั รกั ษาบาดแผลถลอกในเขตอำเภอกบนิ ทร์บรุ ี และอำเภอศรีมหาโพธิ. วารสารสหวชิ าการเพื่อสุขภาพ. 1(1). 84-93. โดย อาจารย์สริ ิวรรณ นิรมาล และอ.วลั ยพ์ ร วรพรพงษ์ สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่และผ้สู งู อายุ

สมนุ ไพรลดความเส่ียงเบาหวาน เรียบเรยี งโดยอาจารย์ ศุภรา หิมานนั โต สาขาการพยาบาลสุขภาพชมุ ชน วพบ.ชลบุรี การดูแลตัวเองของผ้ปู ่วยเบาหวาน คอื ตอ้ งควบคมุ อาหารพวกแปง้ และของหวานอย่างเครง่ ครดั - สมุนไพรบางชนิด อาจสง่ ผลข้างเคียงต่อสขุ ภาพ หากรบั ประทานควบคู่กับยาควรปรึกษาแพทยผ์ ู้ดูแลเพ่ือให้ รบั ประทานในปริมาณทเี่ หมาะสม และปลอดภัย - พืชสมนุ ไพรหลายชนิด มคี ุณสมบัตชิ ว่ ยลดระดบั น้าตาลในเลอื ดได้ ยกตวั อย่างเชน่ 1. มะระข้นี ก : มรี สขม แต่ก็มสี รรพคุณ กระตนุ้ การหลัง่ อินซูลนิ ชว่ ยลดน้าตาลในเลอื ด ยับยังการสังเคราะห์กลโู คส เพ่มิ การใชก้ ลโู คสในตับ คนั น้ามะระใช้ 8-10 ผล ผา่ เอาเมด็ ออก หนั่ เปน็ ชินเลก็ ๆ ป่นั กบั นา้ ประมาณ100มล.ด่มื วนั ละ3เวลาหรอื เอาผลมาตากแห้งบดเป็นผงชงทานนา้ ชาได้ 2. เถาตาลงึ : รับประทานเถาแกๆ่ 1กา้ มอื ต้มกบั นา้ หรอื คนั น้าจากผลตา้ ลงึ ดิบ ดื่มวนั ละ 2 ครงั เช้า-เย็น ช่วยลดนา้ ตาลในเลอื ดได้ ทานตดิ ตอ่ กนั เป็นเวลา 3 เดือน กเ็ ร่มิ เหน็ ผล 3. กระเทียม : มีสาร ชว่ ยลดไขมนั และ คอเลสเตอรอล ลดความดนั โลหิต ชว่ ยกระตนุ้ การหลง่ั อินซลู ิน ทา้ ใหน้ า้ ตาลในเลือดลดลง ควรรับประทานแบบสดจะไดค้ ุณประโยชน์มากกวา่ 4. ขิง : มรี สชาติเผ็ดรอ้ น กระตุ้นการหลง่ั อนิ ซลู นิ ลดคอเลสเตอรอลในเลอื ด นา้ มา ท้าไดท้ งั อาหารคาว หวาน เคร่ืองดืม่ 5. หญ้าหวาน : ใบเขยี วที่มรี สชาตหิ วานตามธรรมชาติ ทีใ่ ห้ความหวานมากกว่า นา้ ตาล 100-300 เทา่ แต่ไม่เปน็ โทษต่อรางกาย และยงั ชว่ ยลดระดับน้าตาลในเลือด บ้ารงุ ตบั อ่อน ใชแ้ ทน น้าตาลในอาหารหรือเครื่องดื่ม 6. กระเพรา: ช่วยลดน้าตาลและ คอเลสเตอรอลในเลือด ใหน้ ้าใบกระเพรา 2-5 กรมั ไปตากแห้ง ละลายนา้ และดมื่ 7. ว่นุ ว่านหางจระเข้ : มสี ารท่ี มีฤทธิก์ ระตุ้นการหลง่ั อินซูลนิ ชว่ ยลดน้าตาลในเลือด รบั ประทานเนือวุ้น ว่านหางจระเข้หรือจะเอาไปป่ันเป็นนา้ ว่านหางจระเข้กท็ านงา่ ยขึน รบั ประทาน15กรมั ตอ่ วันติดต่อกัน4สัปดาห์ สงิ่ ที่ควรปฏิบัติอยา่ งสม้า่ เสมอ คือ ควรตรวจระดบั น้าตาลตนเองอยู่เสมอ ออกก้าลงั กาย ทานยาตาม ค้าแนะน้าของหมอ ควบคุมอาหาร และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และปรมิ าณท่ีเหมาะสม ขอบคณุ เวป็ ไซด์ สาระสขุ ภาพ สสส. เกยี่ วกับการดแู ลตนเองของผ้ปู ว่ ยเบาหวานและบทความทางการศึกษาเกยี่ วกบั สมนุ ไพร

วา่ นหางจระเข้กับการรักษาโรคเบาหวาน เมอ่ื กล่าวถึงสมุนไพรวา่ นหางจระเข้ เรามกั จะนึกถึงสรรพคุณในการรักษาแผลไฟไหม้ น้าร้อนลวก แผลสด ช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดรอ้ น ใชท้ าเพื่อป้องรอยแผลเป็นมาตงั แต่เด็ก ๆ ซึง่ สารทส่ี ามารถใช้รกั ษาแผลได้ เปน็ สารไกโคโปรตนี ที่พบได้ในทุก ๆ สว่ นของวา่ นหางจระเข้ ซึง่ นอกจากสรรพคุณดังกล่าวแลว้ ยงั มีประโยชนข์ อง วา่ นหางจระเข้อนื่ ที่หลายคนยังไมท่ ราบคือการรักษาโรคเบาหวาน การลดระดับนา้ ตาลในเลือด ว่านหางจระเขเ้ ป็นสมนุ ไพรท่ีเหมาะจะใชก้ บั ผ้ปู ว่ ยโรคเบาหวานอกี ด้วย เพราะมกี ารศกึ ษาจากมหาวทิ ยาลัยมหดิ ล พบวา่ นา้ ของวา่ นหางจระเข้สามารถชว่ ยลดระดบั น้าตาลในเลือดได้ โดย ช่วยลดการดูดซึมนา้ ตาลลงในทางเดินอาหาร กระต้นุ การสลายนา้ ตาลและป้องกันการผลติ น้าตาลอกี ด้วย น่คี ือส่ิง ท่ีวา่ นหางจระเข้นนั มปี ฏกิ ิริยาการสรา้ งนา้ ตาลในเลือด ทงั นกี ย็ ังชว่ ยลดระดบั ไขมนั ในเลือดอีกดว้ ย จากรายงานการศึกษาการใชส้ มนุ ไพรรักษาโรคเบาหวานของไทย พบว่า การใชส้ มุนไพรไทยที่หาได้งา่ ย เชน่ ว่านหางจระเข้ ตา้ ลึง แมงลัก หญ้าหนวดแมว มาทดลองใชก้ บั หนหู รือกับผูป้ ว่ ยเบาหวานแลว้ จะท้าให้น้าตาล ในเลือดลดลง แตบ่ างชนดิ ออกฤทธิ์ไม่สมา่้ เสมอ อาจเปน็ เพราะปรมิ าณน้อยเกนิ ไปหรือออกฤทธ์ิอยู่ไมน่ านท้าให้ ผลการรกั ษาไมม่ ีประสิทธิภาพ ดังนนั การใช้สมุนไพรเปน็ ตัวชว่ ยในการรกั ษาโรคเบาหวานเปน็ เรอื่ งทีส่ ามารถท้าได้ แตต่ อ้ งใชใ้ นปริมาณทเี่ หมาะสม และใช้ระยะเวลาในการใชน้ านพอทจ่ี ะทา้ ใหส้ ารที่ออกฤทธ์มิ กี ารสะสมจนถงึ ระดบั ทสี่ ามารถออกฤทธ์ิต่อกลไกการรักษา การใช้ว่านหางจระเข้ในปริมาณท่ไี มเ่ หมาะสมกเ็ กิดอาการขา้ งเคียงได้ เชน่ นา้ ตาลในเลือดต่า้ เหน่อื ยล้า ส่นั หวั ใจเต้นผิดปกติ สับสน ชัก หรอื ถึงขันหมดสติ เปน็ ต้น การใช้ว่านหางจระเข้ ปรมิ าณเหมาะสมสา้ หรับผู้ป่วยโรคเบาหวานกค็ ือ 300 มลิ ลิกรมั ซ่งึ รปู แบบของ ผลติ ภณั ฑ์วา่ นหางจระเข้ท่ีเป็นแคปซลู ซง่ึ งา่ ยตอ่ การรับประทาน และตอ้ งทานทุก ๆ 12 ชวั่ โมงเป็นเวลาสองเดอื น จึงจะเห็นผลในการปรับนา้ ตาลในเลือดให้สมดุล หรือจะรับประทานสดต้องลา้ งเนือวุน้ ว่านหางจระเข้ให้สะอาด กอ่ น เนื่องจากเมอื กยางจากใบมีสาร Anthraquinone ทอ่ี าจก่อใหเ้ กิดอาการแพ้ได้ และมกี ล่ินอาจจะเหม็นเขียว สว่ นท่ีเปน็ วนุ้ สามารถน้าไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง สรรพคณุ วา่ นหางจระเขจ้ ะออกฤทธิ์เย็น จงึ ทา้ ใหร้ สู้ กึ สดชื่น สรุป การควบคมุ นา้ ตาลในเลือดของผปู้ ่วยโรคเบาหวานเป็นสงิ่ สา้ คัญอย่างมาก การปรบั เปลี่ยนวถิ ีการ รบั ประทาน หมน่ั ออกก้าลังกาย สิง่ เหล่านเี ป็นเร่อื งที่ดีสา้ หรับผทู้ ี่เริม่ เปน็ ในระยะเรมิ่ ต้น วา่ นหางจระเขก้ ็เป็นอีก ทางเลอื กหนงึ่ ทจี่ ะชว่ ยคุมระดับน้าตาลในเลอื ดได้ แตต่ ้องใช้ในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสม และควรปรกึ ษา แพทย์ผ้เู ช่ียวชาญเฉพาะโรค เอกสารอ้างอิง มทั นา เครอ่ื งเงิน และ แดนชัย เคร่ืองเงิน.(ม.ป.ป.) การใช้สมนุ ไพรรักษาโรคเบาหวาน. สา้ นักงานโครงการอนุรักษ์พนั ธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจากพระราชด้าริ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราช กุมารี, ส้านกั งานข้อมลู สมุนไพร มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล, www.health.howstuffworks.com เรยี บเรียงโดย สนุ ภิ า ชินวุฒิ

4 สมุนไพรปอ้ งกันสมองเสอ่ื ม อ.วนี ะ อนุตรกลุ วพบ.ชลบรุ ี ความเส่อื ม เปน็ สิ่งทเ่ี กิดข้นึ ได้ในทกุ อวัยวะของรา่ งกาย และมกั จะแปรผันตรงกับอายุทีเ่ พม่ิ มากข้นึ นั่นก็คือ ในผู้สูงอายุเราจึงมกั พบว่ามีการทางานของอวัยวะต่าง ๆ ท่ีไม่เหมอื นกับคนในวยั หนุ่มสาวอกี ต่อไป “สมอง” ก็เปน็ อีกหนึ่งอวัยวะที่มีความเสอื่ มถอยไปตามกาลเวลาเช่นเดียวกับอวัยวะอ่ืน ๆ แต่สมองคืออวัยวะสาคัญในการส่งั การ การทางานของอวัยวะและระบบตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ดังน้ัน การเส่ือมถอยของสมองจึงไม่ใช่เรอ่ื งเล่น ๆ เพราะอาจนามาสู่ภาวะสมองเสื่อม และสรา้ งความ ลาบากให้แก่ผูป้ ว่ ยไมน่ ้อย การป้องกันและบารงุ สมองจงึ เป็นสิ่งทีส่ มควรทาเสยี แต่เนิ่น ๆ เพอ่ื ชะลอความเสอ่ื มของ สมองให้มคี วามสุขในชีวิตบัน้ ปลายได้อย่างยืนยาว ในประเทศไทยมีสมุนไพรหลายหลายชนิดท่ีช่วยป้องกนั การเกดิ สมองเสอ่ื ม ดงั เชน่ สมนุ ไพร 4 ชนิดนี้ ได้แก่ 1. ขมน้ิ ชัน เป็นสมุนไพรที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เนื่องจากสรรพคุณที่ หลากหลายและช่วยรักษาและบรรเทาอาการต่าง ๆ ของร่างกายได้หลาย ระบบ สาหรับในสมองนั้นขม้ินชันจะช่วยป้องกันการเกาะกลุ่มของโปรตีน เบตาอะไมลอย ซึ่งสารตัวน้ีจะไปออกฤทธิ์มีผลทาให้เซลล์สมองทางานได้น้อยลง เม่ือสารตัวนี้ไม่เกาะกลุ่มกันไป ขดั ขวางการทางานของเซลล์สมอง ก็จะทาใหเ้ ซลลส์ มองสามารถทางานได้อยา่ งเป็นปกติ 2. กลีบบวั แดง ใครจะคดิ ว่ากลีบของดอกบัวแดง ดอกไม้ท่เี รานยิ มนามาบูชา พระก็มีสรรพคุณโดดเด่นในเรื่องของการบารุงสมองเช่นกัน โดย สรรพคุณของกลบี บัวแดงนั้นจะเหมือนกบั ของขม้นิ ชัน คอื ชว่ ยปอ้ งกัน การเกาะกลมุ่ ของโปรตนี เบตาอะไมลอย ทีจ่ ะไปขดั ขวางการทางานของ เซลลส์ มองทาให้เซลล์สมองทางานไดอ้ ย่างเปน็ ปกติ 3. ใบบัวบก ในใบบัวบกเองก็มีสรรพคุณที่ออกฤทธ์ิต่อระบบต่าง ๆ ของ รา่ งกายหลายระบบ นอกจากนีย้ งั เปน็ พืชสมุนไพรท่หี างา่ ยและนิยมนามา บริโภคในหลายรูปแบบ ซ่ึงสรรพคุณที่โดดเด่นต่อการบารุงสมองของใบ บัวบกจะอยู่ท่ีการมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงและช่วยเพ่ิมการไหลเวียน ของเลือดทไี่ ปเลยี้ งสมอง ไม่ให้สมองอยใู่ นภาวะของการขาดเลือด 4. ดอกอัญชนั ดอกอญั ชนั ท่ีเรานิยมนามาค้นั นา้ เพ่ือเป็นสีผสมอาหาร หรอื นิยม นาไปด่มื เป็นเครอ่ื งดืม่ ดับกระหายกม็ ีสรรพคุณที่ดีในการบารงุ สมอง เช่นกนั โดยสรรพคณุ ทโ่ี ดดเด่นของดอกอัญชนั คือ การเพม่ิ การไหลเวยี น ของเลอื ดและช่วยขยายหลอดเลอื ดขนาดเลก็ ใหท้ างานไดอ้ ยา่ งเตม็ ทจ่ี งึ ชว่ ยเพมิ่ ปรมิ าณของเลือดท่ีไปเล้ียงสมอง ท่ีมา : https://www.thaipost.net/main/detail/20465

ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย “ฟา้ ทะลายโจร” จดั เป็น สมุนไพรทสี่ ขม อยใู่ นกล่มุ ยาเยน็ มีสรรพคุณทางการแพทย์แผนไทย ใชบ้ รรเทาอาการไขห้ วัด แกไ้ อและเจบ็ คอ เปน็ สมุนไพรทีไ่ ดถ้ ูก บรรจุอยู่ในบญั ชียาหลกั แห่งชาติ พ.ศ. 2542 (บญั ชียาจากสมุนไพร) กระทรวงสาธารณสุข ในรูปแบบยาเดี่ยว มีข้อมลู สนบั สนุนจาก งานวิจัยทางคลินกิ พบว่า สมุนไพรฟ้าทะลายโจรมีสว่ นชว่ ยรกั ษาอาการของโรคติดเชือ้ เฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการไอ อาการเจ็บคอได้ดี ในปี พ.ศ.2555 ได้มีข้อมูลงานวิจัย จากผู้ป่วยจำนวน 807 คน พบว่าผลิตภัณฑ์สารสกัดจากฟ้าทะลายโจรร่วมกับ สมนุ ไพรอ่ืนๆ ขนาดรบั ประทาน 31.5-200 มิลลกิ รมั /วัน รับประทานเปน็ เวลา 3-10 วนั มผี ลชว่ ยลดความถีแ่ ละความรุนแรงของอาการไอ เน่อื งจากไข้หวัด และอาการอกั เสบของระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้ ในมุมมองการเกิดโรคหรืออาการตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยนั้น อาการไข้ ไอ เจ็บคอ เป็นอิทธิพลของธาตุไฟที่เพิ่มปริมาณ สูงขึ้น ทำให้เกิดอาการดังกล่าว เราจึงสามารถใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็น (สมุนไพรฟ้าทะลายโจร) เพื่อใช้ในการรักษาอาการที่ส่งผลมาจาก อิทธิพลของไฟที่เพิ่มขึ้นได้ พูดง่ายๆคือ ใช้ความเย็น ปรับหรือลดปริมาณความร้อนในร่างกายให้สมดุลนั่นเอง แต่หากใช้ในปริมาณเกิน ความจำเป็นก็อาจส่งผลทำให้ ร่างกายมีปริมาณความเย็นเกินไป ส่งผลทำให้เกิดอาการไม่พงึ ประสงค์ตามมาได้ เช่น อาการชาต่างร่างกาย แขน-ขาอ่อนแรง ท้องอืดท้องเฟ้อ ท้องเสยี หรือผ่ืนแพ้ตามรา่ งกาย เป็นตน้ ฟา้ ทะลายโจรมีประโยชน์ในการนำมาใช้กับผู้ปว่ ยโควิดทีม่ ีอาการน้อยและไม่มอี าการ พบว่าผูท้ ี่มอี าการน้อยหลังจากได้รับยาฟ้า ทะลายโจรมีอาการดีขึ้นทุกราย โดยไม่มีผลขา้ งเคยี งแต่อย่างใด ส่วนในรายที่ไม่มีอาการ ก็ไม่พบวา่ มีอาการภายหลัง และปลอดภัยดี และ ผลการศึกษาพบว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจร และสารแอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร มีความสามารถในการยับยั้ง กระบวนการติดเชื้อไวรัสของเซลล์ปอด โดยผ่านกลไกที่สำคัญ คือ การยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสโควิดในทุกระยะ จึงมีโอกาสที่จะ พัฒนาการใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเดี่ยว หรือใช้ควบคู่กับสูตรยามาตรฐานในการรักษาผู้ที่ติดเชื้อโควิด ซึ่งผลงานวิจัยดังกล่าวได้รับการ ตีพิมพ์ในวารสาร “Natural Products” ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ชัดเจนสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้ แต่มีการศึกษาพบว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำ ๆ (แอนโดรกราโฟไลด์ 11.2 มิลลิกรัม/วัน) กิน 5 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน ช่วย ป้องกันหวัดได้ ซึ่งนักวิจัยได้กล่าวถึงผลในการป้องกันหวัดว่า น่าจะเกิดจากฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีงานวิจัยที่สนับสนุนอยู่มากที่ว่าฟ้า ทะลายโจรมีฤทธ์ิกระตุ้นภูมิคุ้มกัน สำหรับผูป้ ระสงค์จะใชฤ้ ทธิ์เสริมภูมคิ ุ้มกัน ต้องกินฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำ ๆ และต้องไม่ตั้งครรภ์ ให้นม บตุ ร ตับและไตตอ้ งดี และไม่ไดก้ นิ ยาละลายลิม่ เลอื ดทช่ี ่อื วารฟ์ าริน (สุภาภรณ์ ปติ พิ ร, 2564) ขนาดและวิธใี ช้: รับประทานครง้ั ละ 500 มลิ ลกิ รัม – 2 กรมั วนั ละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน ขอ้ ห้ามใช้ - หา้ มใช้ ในผทู้ ี่มีอาการแพ้ ฟ้าทะลายโจร - หา้ มใช้ ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบตุ ร เนือ่ งจากยาอาจมผี ลตอ่ ทารก คำเตือน - หากใช้ตดิ ต่อกนั เป็นเวลานาน อาจทำใหแ้ ขนขามอี าการชาหรือออ่ นแรง - หากใชฟ้ า้ ทะลายโจรตดิ ต่อกนั 3 วัน แล้วไมห่ าย หรือ มีอาการรุนแรงขนึ้ ระหว่างใช้ ยา ควรหยุดใช้ และพบแพทย์ - ควรระวงั การใชร้ ่วมกับสารกนั เลอื ดเป็นล่มิ และยาตา้ นการจบั ตัวของเกล็ดเลือด - ควรระวงั การใช้ร่วมกบั ยาลดความดันเลอื ดเพราะอาจเสรมิ ฤทธ์ิกันได้ แหล่งทีม่ า คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธิบดี มหาวทิ ยาลยั มหิดล หน่วยแพทยท์ างเลอื ก. (2564). สรรพคุณฟา้ ทะลายโจร สบื ค้นจาก https://med.mahidol.ac.th/altern_med/th/k m/19jun2020-1729 สบื ค้นเม่อื 28 เม.ย.64. สภุ าภรณ์ ปติ ิพร. (2564). ขอ้ เท็จจริงฟา้ ทะลายโจร. สืบค้นจาก https://www.hfocus.org/content/2021/04/21423 สืบค้นเม่อื 28 เม.ย. 64. จดั ทำโดย อ.นวพร มำมำก และ อ.ณฏั ฐพชั ร์ กำรณั ยศิลป์ สำขำวชิ ำกำรพยำบำลมำรดำทำรกและกำรผดงุ ครรภ์

มังคุด กบั ประโยชนยาทางสมนุ ไพร อ.คุณัสปกรณ มัคคัปผลานนท มังคุด เปนผลไมท่ีรูจักกันมาชานาน จะออกผลในฤดูรอน นิยมปลูกมากในแถบภาคภาคใต และตะวันออกของไทย เปนผลไมมีที่ตอระบบเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่ง มีรสหวานอมเปรี้ยว รสชาติ อรอย รับประทานแลวสดชื่นถือไดวามีประโยชนมากมาย จึงไดรับฉายาวาเปน “ราชินีแหงผลไม” นอกจากประโยชนท่กี ลา วมาแลว มังคดุ ยงั มสี รรพคณุ ทางยาเปน สมุนไพรอีกดว ย ประโยชนท างยา เนื้อผล ชวยเสริมสรางภูมิตานทานใหกับรางกาย มีสวนชวยในการชะลอ วัยและการเกิดริ้วรอย ชวยบำรุงผิวพรรณใหเปลงปลั่งสดใสอีกดว ย นอกจากนี้ ยังชวยปองกันอาการ ไข (ไขระดับต่ำ) ชวยเสริมสรางกระดูกและฟนใหแข็งแรง ชวยเพิ่มพลังงานแกรางกาย เพิ่มความ กระปรี้กระเปรา ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำใหเกิดสิว ออกฤทธิ์ตานสิวอักเสบไดดี และมีสวนชว ยปองกันการเกิดโรคซึมเศรา ลดความเครียด ชวยเรื่องการขับถายและมีวิตามินเกลือแร สงู มาก เชน กรดอินทรยี  นำ้ ตาล แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก นำ้ มงั คดุ ชว ยปรบั ระดับภูมิคุมกัน ใหส มดุล ดว ยการหลั่งสาร Interleukin Iและ Tumor Necrosis Factor ชว ยยบั ย้ังการหลั่งสารฮีสตา มีน ลดอาการแพภูมิตนเอง (ในโรค SLE) และลดการอักเสบ ในผูปวยเบาหวาน ตับเสื่อม ไตวาย ขอ เขาเสื่อม ความดันโลหิตสูง โรคพารกินสัน ไทรอยดเปนพิษ ความผิดปกของสมองอันเนื่องจากการ อักเสบ ประโยชนย าทางสมนุ ไพร สวนท่ีใช : เปลอื กผลแหง สรรพคุณ : 1) รกั ษาโรคทอ งเสียเร้ือรัง และโรคลำไส 2) ยาแกท องรวง ทองเดนิ 3) ยาแก บิด (ปวดเบงและมมี ูก และอาจมเี ลอื ดดวย) เปน ยาคมุ ธาตุ 4) เปน ยารกั ษาน้ำกดั เทา รักษาบาดแผล 5) รสฝาด สมานแผล ใชช ะลางบาดแผล แกแผลเปอย แผลเปนหนอง ทาแผลพุพอง วธิ ีและปรมิ าณท่ใี ช 1. รกั ษาโรคทอ งเสียเรื้อรัง และโรคลำไสใชเปลือกมังคุดครึ่งผล (ประมาณ 4-5 กรัม) ตมกับ น้ำ ความแรง 1 ใน 10 รับประทานครั้งละ 1 ถวยแกว ถาเปนยาดองเหลา ความแรง 1 ใน 10 รบั ประทานครงั้ ละ 1 ชอ นชา 2. ยาแกอาการทองเดิน ทองรวง ใชเปลือกผลมังคุดตากแหงตมกับน้ำปูนใส หรือฝนกับน้ำ รบั ประทาน ใชเ ปลอื กตม นำ้ ใหเ ด็กรบั ประทานครง้ั ละ 1-2 ชอนชา ทุก 4 ชัว่ โมง ผใู หญค รง้ั ละ 1 ชอน โตะ ทกุ 4 ชว่ั โมง 3. ยาแกบิด (ปวดเบงและมีมูกและอาจมีเลือดดวย) ใชเปลือกผลแหงประมาณ ½ ผล (4 กรัม) ยางไฟใหเกรียม ฝนกับน้ำปูนใสประมาณครึ่งแกว หรือบดเปนผง ละลายน้ำสุก รับประทานทกุ 2 ชว่ั โมง 4. เปนยารักษาแผลน้ำกัดเทา และแผลพุพอง แผลเนาเปอย เปลือกผลสด หรือแหง ฝนกับ น้ำปูนใสใหข น ๆ พอควร ทาแผลน้ำกดั เทา วันละ 2-3 ครั้ง จนกวาจะหาย ทาแผลพุพอง แผลเปอย เนา ขอควรระวงั กอ นทจ่ี ะใชยาทาท่ีบรเิ วณน้ำกดั เทา ควรที่จะ 1) ลา งเทา ฟอกสบใู หสะอาด 2) เช็ดใหแ หง 3) ถา มีแอลกอฮอลเช็ดแผล ควรเชด็ กอ นจึงทายา ที่มา : สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด. กรงุ เทพฯ: โครงการอนรุ กั ษพันธกุ รรมพืชอนั เน่อื งมาจากพระราชดำริ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ าร;ี [เขาถงึ เมอ่ื 5 พ.ค. 2564] เขาถงึ ไดจ าก: http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_07_12.htm

มงั คุดไทย กับการสรา้ งภมู ิคุ้มกันรา่ งกาย ปัจจุบนั จะพบว่า การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีต่าง ๆ มีการพฒั นาท่ีก้าวไกล โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้าน การแพทย์ ท่ีสามารถรักษาผปู้ ว่ ยดว้ ยโรคต่าง ๆ และดารงไว้ซ่ึงการดารงชีพท่ียาวนานขึ้นของผู้สูงอายุ ซึ่งการ รกั ษาทเี่ รม่ิ เหน็ ไดช้ ัดคือการนาเอาสมุนไพรไทยมาผลิตเปน็ ยารักษาโรค หรือการนาผลไม้ไทยมาผลิตในรูปแบบ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพ่ือสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ผลไม้ไทยมีมากมายหลายชนิด แต่มีผลไม้ชนิดหนึ่งที่ นา่ สนใจคอื มงั คุด ราชนิ ีแห่งผลไม้ไทย มังคุดเป็นผลไม้ที่อยู่คู่คนไทยมานานแต่จะมีสักก่ีคนท่ีรู้จักมังคุดได้เป็นอย่างดี มังคุดเป็นไม้ยืนต้น สูง 10-12 เมตร ทุกส่วนมียางสีเหลือง ใบเด่ียวเน้ือใบหนา และค่อนข้างเหนียวคล้ายหนัง ซ่งึ ประโยชน์ของมงั คดุ มีดังน้ี 1. เนือ้ มังคุด - ช่วยตอ่ ต้านอนุมูลอสิ ระชว่ ยเสริมสร้างภมู ติ ้านทานใหก้ ับรา่ งกาย - ช่วยชะลอวัยและการเกิดร้ิวรอยช่วยบารุงผิวพรรณให้เปล่งปล่ังสดใส - ช่วยป้องกนั อาการไข้ (ไข้ระดบั ตา่ ) - ชว่ ยเสริมสร้างกระดูกและฟนั ให้แขง็ แรง - ชว่ ยเพ่มิ พลงั งานแกร่ ่างกายยับยั้งการเจริญเติบโตของเช้อื แบคทีเรียท่ีทาให้ เกิดสวิ ออกฤทธ์ติ ้านสิวอักเสบไดด้ ี และมสี ่วนช่วยป้องกนั การเกดิ โรคซึมเศรา้ ลดความเครยี ด 2. เปลอื กมังคดุ - มีสารแทนนิน แซนโทน และแมงโกสติน ซึ่งทาให้แผลหายเร็วแมงโกสตนิ ช่วยลดอาการอักเสบและมี ฤทธต์ิ า้ นเชอื้ แบคทเี รียที่ทาให้เกดิ หนองไดด้ ี ในทางยาสมนุ ไพร 3. น้ามงั คดุ - ช่วยปรับระดับภมู ิคุม้ กนั ให้สมดุล - ชว่ ยยับยง้ั การหลั่งสารฮีสตามนี ลดอาการแพ้ภูมิตนเอง (ในโรค SLE) - ลดการอักเสบ ในผู้ป่วยเบาหวานตับเส่ือม ไตวาย ข้อเข่าเส่ือม ความดันโลหิตสูง โรคพาร์กินสัน ไทรอยด์เปน็ พิษ ความผดิ ปกติของสมองอนั เนอื่ งจากการอกั เสบ จากการศึกษายังพบว่า มีงานวิจัยที่ได้นามังคุดมาสกัดเอาสาระสาคัญท่ีกล่าวข้างต้น มาช่วยกระตุ้น สร้างเม็ดเลือดขาวที่มีฤทธ์ิช่วยกาจัดและป้องกันการก่อเกิดเซลล์มะเร็งเกือบทุกชนิดได้ และน้ามังคุดยังสร้าง เม็ดเลือดขาวที่ช่วยจัดระเบียบให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสมดุลขณะท่ีผลทดลองกับผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย พบว่าผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังพบว่าหากนาเปลือกมังคุดด้านในของมังคุดมาผ่าน กรรมวิธีพิเศษทางเคมีจะสามารถสกัดได้สารแซนโทน (Xanthones) ในปริมาณสูงซ่ึงสารดังกล่าวมีสรรพคุณ ทางการแพทย์ท่ีสาคัญ คือ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ สมานแผล รักษาเซลล์มะเร็งฆ่าเชื้อก่อโรค ทางเดินระบบหายใจร้ายแรงได้ และมคี ุณสมบัติในการยับยงั้ เชอื้ ไวรัส HIV บางตวั ***อยา่ งไรก็ตามการรับประทานผลไมท้ ม่ี ีรสหวานมากเกนิ ไป อาจสง่ ผลให้มีระดับน้าตาลในเลอื ดเพ่ิมสูงขึ้นได้*** อ้างอิง: ศูนยว์ ิจยั และพฒั นามังคุดไทย บริษทั เอเชยี น ไฟยโ์ ตซูติคอลส์ จากัด (มหาชน) และ ม.เชยี งใหม่ นติ ยสารหมอชาวบ้าน เลม่ ท่ี 323 เขียนโดย ภกญ.ดร.สภุ าภรณ์ ปติ พิ ร

หญ้าดอกขาว....ช่วยเลกิ บหุ ร่ี พฤติกรรมการสูบบุหร่ีส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สูบ และคนใกล้ชิด และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายแรงและการ เสยี ชีวิตของประชากรทั่วโลก 6 ล้านคนต่อปี จาแนกเป็นผู้สูบกว่า 5 ล้านคน และผู้เสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง 6 แสนคน ใน ประเทศไทย จานวนผู้เสยี ชวี ติ จากโรคท่ีเกิดจากการสูบบหุ ร่ี เฉล่ีย วนั ละ 142 คน หรือช่ัวโมงละ 6 คน การสูบบุหร่ีเป็นสาเหตขุ องโรคกลุ่ม NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับนิสัยหรือ พฤติกรรมการดาเนินชีวิตท่ีเราสร้างขึ้นมาเอง โรคกลุ่มน้ีจะค่อย ๆ สะสมอาการ ค่อยเกิด ค่อยทวีความรนุ แรง และเม่ือมีอาการของโรคแล้วอาการเร้ือรังของโรคจะเกิดตามมา จึงส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดาเนินชีวิต ของผปู้ ว่ ยและคนรอบขา้ ง ปัจจุบันแนวทางการเลิกบุหรี่มีหลายวิธีท้ังการให้คาปรึกษาเพ่ือเปล่ียนแปลงพฤติกรรม การบาบัด ทางจิต การใช้ Nicotine ทดแทนและการใช้ยาทางจิตเวช ซึ่งการใช้สมุนไพรเพื่อเลิกบุหรี่เป็นทางเลิกอย่าง หนึ่งสาหรับผู้ท่ีต้องการจะเลิกบุหร่ี เนื่องจากสมุนไพรมีสรรพคุณมากมาย มีความปลอดภัยสูงจึงได้มีการวิจัย และพัฒนายาจากสมุนไพรจากความรู้พื้นบ้าน ซ่ึงสมุนไพรท่ีสามารถช่วยได้อีกชนิดหน่ึง คือ หญ้าดอกขาว มีสรรพคุณทางการแพทย์แผนไทย : แก้บิด แก้หวัด แก้ไข้ แก้อักเสบ ขับปัสสาวะ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดความดันโลหติ รกั ษาหอบหดื รกั ษาตับอักเสบ รกั ษาน่วิ และมีสรรพคุณในการช่วยเลกิ บุหรี่ : ชาลิ้นหรือลิ้น ฝาด ไม่รับรู้รสชาติ ทาให้ไมร่ ูส้ กึ อยากสูบบหุ รี่ รสู้ กึ เหม็นกล่นิ บุหร่ี เมอ่ื สบู บหุ รี่แลว้ รูส้ ึกอยากอาเจียน การศึกษาดา้ นความปลอดภยั ของผ้ทู ี่รับประทานหญ้าดอกขาวในรปู แบบยาลดความอยากบุหรี่ พบว่า สมุนไพรชนิดนีม้ คี วามปลอดภัยสูง แต่ควรอา่ นฉลากและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนาจากแพทย์อยา่ งเครง่ ครัด โดยยา ชนิดนี้อาจส่งผลข้างเคียงทาให้ปากแห้งและคอแห้งได้ นอกจากน้ัน สมุนไพรชนิดน้ียังมีโพแทสเซียมเป็น ส่วนประกอบในปรมิ าณสงู ผู้ปว่ ยโรคหวั ใจหรอื ไตวายควรปรึกษาแพทยก์ อ่ นตัดสนิ ใจรับประทานเสมอ วิธีการใช้ท่ีแนะนา การนาหญ้าดอกขาวแห้ง 20 กรัม ผสมกับน้า 3 แก้ว ต้มเคี่ยวจนเหลือเพียง 1 แก้ว นามาอมไวใ้ นปากประมาณ 1 - 2 นาที แลว้ กลืนหรอื เคีย้ วหรอื อม ก้าน ใบ ขณะที่มีอาการอยากบหุ ร่ี ขอ้ ควรระวัง : ควรระวงั การใช้ในผปู้ ว่ ยโรคหัวใจ โรคไต และหญิงต้ังครรภ์ เนอื่ งจากยาหญา้ ดอกขาว มีโพแทสเซียมสูง จะมีผลทาให้เกลือแร่ ใน ร่างกายผิดปกติ หญิงมีครรภ์ที่ใช้จะทาให้ แท้งหรือคลอดบุตรก่อนกาหนดได้ และไม่ ควรนาต้นสดมารับประทานเพราะจะมีรส เฝ่ือนมาก ควรนามาตากแดดให้แห้ง เช่น ทา เป็นชาชงน้าด่ืมเพราะการตากแห้งจะทาให้ ห ญ้ า ด อ ก ข า ว มี ก ลิ่ น ห อ ม ร ส ช า ติ น่ า รบั ประทานและไม่เฝื่อนมากเกนิ ไป ดังน้ันหญ้าดอกขาวจึงเป็นตัวเลือกท่ีดีที่จะช่วยให้สามารถเลิกบุหร่ีได้ เน่ืองจากมีประสิทธิภาพในการ เลกิ บหุ ร่ี ผลขา้ งเคียงน้อย และยงั สามารถหาซือ้ ไดง้ ่ายในราคาถูกอีกด้วย ท่ีมา : ศรนิ ทิพย์ หม่ืนแสน. (2560). สมนุ ไพรหญ้าดอกขาว...ทางเลอื กสาหรับลดความอยากบหุ รี่. วารสารเพอ่ื การวจิ ยั และพฒั นา องคก์ ารเภสัชกรรม, 20(4), 16-20. อ.กฤษณา อไุ รศรีพงศ์ สาขาวชิ าการพยาบาลผ้ใู หญ่และผ้สู งู อายุ

บทความบริการวิชาการ: กล่ินบาบดั กบั การบรรเทาปวดระยะคลอด นางกิตติพร ประชาศรัยสรเดช, วพบ.ชลบุรี การเจ็บครรภคลอดถือวาเปนความเจ็บปวดท่ีรุนแรง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งเกิดไดจากหลายสาเหตุ ไดแก มดลูกหดรัดตัว สงผลใหเลือดไปเล้ียงมดลูกนอยลง มีการค่ังของของเสีย รวมกับมีการดึงร้ังของ เอ็นตาง ๆ ในอุงเชิงกราน ทั้งนี้ ความเจ็บปวดจะแตกตางกันไปขึ้นอยูกับการรับรู ประสบการณ ของผูคลอดแตละคน ดังน้ันจึงตองมีการบรรเทา ความปวด เพื่อชวยใหผูคลอดรูสึกสุขสบายข้ึน ไมทุกขทรมานจากการเจ็บปวด ซึ่งการบรรเทาความปวดมีทั้งการใชยาและ ไมใชยา การบรรเทาปวดท่ีไดรับการนิยมอีกวิธีหน่ึง ไดแก Aromatherapy (กล่ินบําบัด) สวนใหญ มักนําสมุนไพรหรอื พืช มาสกัดทําเปนนํ้ามันหอมระเหย (Essential Oil) โดยการใชน้ํามันท่ีมีกลิ่นหอม ไดแก กล่ิน Lavender และ กล่ินRose ในกลุมผูคลอดครรภแรกท่ีเขาสูระยะคลอด ปากมดลูกเปด 4 เซนติเมตรขึ้นไป และไมมีภาวะแทรกซอนในระยะคลอด รวมทั้งไมใชยาเรงคลอด พบวา กลิ่นระเหยท้ัง 2 กลิ่น สามารถชวยลดความปวดในระยะคลอด ทําใหผูคลอดผอนคลาย รู สึกสดชื่น ทั้งนี้ การใชกลิ่นบําบัดท้ัง 2 กลิ่น สงผลตอระดับความปวดไมแตกตางกัน ระยะเวลาการคลอดใกลเคียงกัน แต จากการสอบถามความพึงพอใจของผูคลอดตอการใชกล่ินบําบัด พบวา ผูคลอดกลุมที่ใชกลิ่นLavender จะมีความพึง พอใจตอกลน่ิ มากกวากลมุ ทใี่ ชกลิ่น Rose เนือ่ งจากสดชนื่ และผอนคลายสวนกลน่ิ Rose บางคนบอกวา เหม็น โดยทั่วไป การบาํ บดั ด้วยกลิ่นหอมน้ัน มกั จะประกอบรวมกบั การนวด โดยการนวดนัน้ จะช่วยเพ่ิมประสทิ ธิภาพใน การบาํ บดั เน่อื งจากจะทาํ ใหก้ ล้ามเนอ้ื ได้ผ่อนคลาย ทําใหร้ ูส้ ึกมชี ีวติ ชีวา กระตนุ้ การไหลเวยี นของเลอื ดและระบบนํา้ เหลือง รวมถึงผ่อนคลายอาการเจ็บปวดอีกด้วย น้ํามันหอมระเหยประกอบดวยสารท่ีสามารถซึมผานผิวหนังเขาไปทําปฏิกิริยา โดยตรงกับสารเคมีในรางกาย ทําใหมีผลตอระบบตาง ๆ ของรางกาย นอกจากน้ียังสงผลตอดานจิตใจเม่ือผูคลอดสูดดม กลิ่นหอมเขาไป จะมีปฏิกิริยาตอกล่ินน้ันแลวแสดงออกมาในรูปของอารมณ และความรูสึกพึงพอใจหรอื ไมพึงพอใจ ดังนั้น เมื่อผูคลอดเกดิ ความพึงพอใจจะคลายความวิตกกังวล ทําใหการรับรูตอความปวดลดลง ขอ้ ควรระวงั ในการใช้ Aromatherapy น้ํามันหอมระเหยท่ีใช้ใน Aromatherapy นั้น สามารถใช้สูดดมหรือนวดตามร่างกายได้อย่างปลอดภัย แต่ เนื่องจากเป็นนํ้ามันสกัดท่ีมีความเข้มข้นสูง ผลิตภัณฑ์บางชนิดจึงอาจจําเป็นต้องเจือจางก่อนนําไปใช้ เพราะหากทาลงบน ผิวหนงั โดยตรงก็อาจทาํ ใหเ้ กิดการระคายเคืองและทําให้ผิวไวต่อแดดได้ หรือหากสูดดมจากบรรจุภัณฑ์ก็อาจมีกลน่ิ ฉนุ แสบ จมูกและทําให้เกดิ อาการแพอ้ ย่างรุนแรงสาํ หรับผู้ทีไ่ วต่อกล่ินด้วย ดังนัน้ จึงมขี ้อควรระวังเพมิ่ เติมในการเลอื กใช้น้ํามันหอม ระเหย ดังนี้

1.ไมค่ วรชิม ด่ืม หรือรับประทานนํ้ามันหอมระเหย เพราะผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจมีพิษและทาํ ให้เกิดความเสียหาย ต่อทางเดนิ อาหาร ตบั และไตได้ 2.ไมค่ วรใชน้ ํา้ มนั หอมระเหยกบั เด็ก และผู้ท่อี ยู่ในช่วงใหน้ มบุตร เพราะอาจไมป่ ลอดภยั และทาํ ให้เกิดอาการไม่พงึ ประสงค์ได้ 3.ควรเลอื กผลิตภัณฑ์ท่สี กดั จากธรรมชาติ 100 เปอรเ์ ซ็นต์ ซง่ึ ไม่มสี ว่ นผสมของสารเคมีหรอื สารสังเคราะห์ใด ๆ 4.ควรทดสอบอาการแพท้ ี่ผิวหนงั กอ่ นใช้ทุกคร้ัง โดยทานาํ้ มันหอมระเหยทีท่ ้องแขนแลว้ ปดิ ไว้เปน็ เวลา 24 ชัว่ โมง หากมอี าการบวม แสบ หรอื แดง หา้ มใชน้ ้าํ มนั หอมระเหยชนิดน้นั อกี เอกสารอา้ งองิ การบรรเทาความเจบ็ ปวดระหวา่ งการเจบ็ ครรภ์และการคลอด. [ออนไลน์]. ไดจ้ าก https://www.huggies.co.th/th-th/birth/pain-relief/ สืบคน้ เมือ่ 5 พฤษภาคม 2564]. การเตรยี มตัวเพ่ือการคลอด (Childbirth Preparation) [ออนไลน์]. ไดจ้ าก https://ns.mahidol.ac.th/english/th/departments/OGN/km_Childbirth.html สืบคน้ เมือ่ 5 พฤษภาคม 2564]. ผ่อนคลาย ลดอาการเครยี ด ด้วยกล่ินหอมจากธรรมชาติ [ออนไลน์]. ได้ จาก.https://lifecenterthailand.wordpress.com/สบื ค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2564]. Aromatherapy ศาสตรแ์ หง่ การบาบดั ดว้ ยกลิน่ หอม[ออนไลน์]. ได้จาก https://www.pobpad.com/ สืบค้นเม่ือ 5 พฤษภาคม 2564].

สมุนไพรต้องหา้ มสาหรับคณุ แม่ต้งั ครรภ์ ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่โด่งดังเรื่องสมุนไพร และมีการนามาใช้ในการรักษาโรค หรือบรรเทา อาการเจ็บป่วยต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยิ่งเป็นสารสกัดท่ีมาจากธรรมชาติแล้ว จึงพาให้คิดว่าน่าจะ ปลอดภยั ไมเ่ ป็นอันตรายตอ่ รา่ งกาย แต่ไม่เสมอไปสาหรับหญงิ ต้ังครรภ์ เพราะสมุนไพรบางชนิดไม่ได้ปลอดภัย กับหญิงตั้งครรภ์ 1. คาโมมายล์ (CHAMOMILE) 6. ไพล (ZINGIBER CASSUMUNAR) สรรพคุณช่วยให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และ สรรพคุณช่วยแก้อาการบวม ฟกช้า ปรับ หลบั สบาย ลดการอักเสบและระคายเคือง ลดการปวด การไหลเวียนของเลือด ช่วยขับลม ขับระดูหรือ ท้องเกร็ง ปวดประจาเดือน แต่การทานคาโมมายล์ ประจาเดือน และมีฤทธ์ิบีบมดลูก อีกท้ังยังช่วย ในช่วงตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อระบบภายในและอาจทา กระตุ้นการทางานของลาไส้และระบบย่อยอาหาร ใหห้ ญิงตง้ั ครรภเ์ กดิ การแทง้ บตุ รได้ ทาให้หญงิ ตงั้ ครรภ์อาจปวดทอ้ งหรอื ท้องเสียได้ 2. ดอกคาฝอย (SAFFLOWER) 7. ตงั กยุ (DONG QUAI) นิยมนามาทาเป็นเครื่องด่ืม มีสรรพคุณช่วย ตังกุยหรือโสม มีสรรพคุณเป็นยามีฤทธ์ิ ลดไขมันและป้องกันการอุดของไขมันในเส้นเลือด ร้อน ออกฤทธ์ิต่อตับ ม้าม หัวใจ นิยมใช้เป็นยา บารุงและระงับประสาท ช่วยบารุงโลหิต และฟอก บารุงเลือด ฟอกเลือด ใช้รักษาภาวะโลหิตจาง โลหิตเป็นพิษ แต่ในทางกลับกันมีฤทธ์ิเป็นยาทาให้ สามารถทานได้ภายหลังคลอดบุตร จะช่วยให้ มดลูกบีบตัวและหดตัว บารุงเลือดและช่วยขับ ประจาเดือนมาเป็นปกติ แต่หากทามาทานในช่วง ประจาเดือน ซ่ึงเปน็ อันตรายตอ่ ทารกในครรภ์ ตั้งครรภ์ อาจทาใหเ้ กดิ ภาวะแทง้ บุตรได้ 3. โกลเด้นซีล (GOLDENSEAL) 8. ฟ้ า ท ะ ล า ย โ จ ร ( ANDROGRAPHIS สรรพคุณช่วยบรรเทาอาการหวัด กระตุ้น PANICULATA) ระบบภูมิต้านทาน ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ซงึ่ สว่ นใหญ่ สรรพคุณเปน็ ยาช่วยลดไข้ บรรเทาอาการ จะพบในผลิตภัณฑ์บารุงสุขภาพ ซ่ึงหากคุณแม่ เจ็บคอ รักษาอาการท้องเสียแบบไม่ติดเช้ือ แต่ถือ ตั้งครรภ์ทานจะส่งผลต่อการพัฒนาสมองของทารกใน เป็นสมุนไพรต้องห้ามใช้ในหญิงต้ังครรภ์และหญิง ครรภไ์ ด้ ต้ังครรภ์ให้นมบุตร เพราะสามารถทาให้ทารก 4. เปปเปอร์มน้ิ ท์ (PEPPERMINT) พกิ ารหรอื เกดิ การแทง้ ได้ สรรพคุณเป็นยาขับลม แก้อาการจุกเสียด ช่วยใน 9. ว่านชักมดลกู (CURCUMA COMOSA) ระบบย่อยอาหาร ทาให้ขับถ่ายดีขึ้น แต่คุณแม่ควร สรรพคุณช่วยในการรักษาความผิดปกติ หลีกเล่ียงสารสกัดในอาหารหรือน้ามันหอมระเหยจาก ของฮอร์โมนเพศหญิง เพราะมีสารที่ออกฤทธิ์ เปปเปอร์มิ้นท์ เนอื่ งจากทาให้มดลูกมกี ารบีบรัดตัว คลา้ ยฮอร์โมนเพศหญิง เปน็ ยาบารุงเลอื ดหรอื ชว่ ย 5. โรสแมรี่ (ROSEMARY) ขับประจาเดือน สาหรับผู้ท่ีมีประจาเดือนมาไม่ สรรพคุณช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียน ปกติ ขับน้าคาวปลา รักษาอาการตกขาว แต่ไม่ โลหิตในร่างกาย ช่วยบารุงสมอง บารุงความจาได้ดี ควรหาซื้อมาทานเองอย่างยิ่งในหญิงต้ังครรภ์ น้ามันของดอกโรสแมรี่ช่วยบรรเทาอาการหวัด เพราะทาให้มดลูกบีบรัดและหดตัว ทาให้ร่างกาย คัดจมูก แต่เน่ืองจากมีฤทธิ์ในการช่วยกระตุ้นการ ขับเลือดออกมา ย่ิงแม่ท้องไตรมาสแรกอาจส่งผล ไหลเวียนของเลือด เพ่ือความปลอดภัยจึงไม่ควรใช้ ถึงขนั้ แทง้ ลูกได้ ในชว่ งตง้ั ครรภ์ระยะ 3 เดอื นแรก ฐติ ารีย์ ดิษาภริ มย์ (ผูเ้ รียบเรยี ง)

บทความบรกิ ารวชิ าการ: สมุนไพรใกลต้ วั กับการต้งั ครรภ์ นางสาวธัญญมล สุรยิ านมิ ติ รสุข, วพบ.ชลบรุ ี การต้ังครรภ์เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติถือว่าเป็นความมหศั จรรย์ในก่อการกาเนิดชวี ติ ของมนุษย์ ระหว่างการ ต้ังครรภ์จะมีการเปล่ียนแปลงท่ีน่าสนใจเกิดข้ึนในร่างกายหลายอย่าง ร่างกายจะมีความต้องการอาหารประเภทโปรตีนสูง เพ่ือใช้ในการพัฒนาเด็ก รก และตัวมดลูกรวมทั้งจานวนโลหิตที่เพ่ิมข้ึน ในระหว่างการตั้งครรภ์ ความวิตกกังวลและความ ตึงเครียดอาจเกดิ ขึน้ ได้กบั หญงิ มีครรภ์ ดงั นั้นในระยะน้หี ญงิ มคี รรภ์จงึ มักตอ้ งการกาลังใจอยา่ งมากโดยเฉพาะจากสามี ปัจจุบันสมุนไพรกาลังได้รับความนิยม ว่าเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพให้กับหญิงต้ังครรภ์ นอกเหนือไปจากยาแผนปัจจุบันท่ีคุณหมอจะให้มาบารุง หญิงต้งั ครรภ์ มอื ใหม่ยงั เสาะแสวงหาสมนุ ไพรมาบารุงตัวเองไมใ่ ห้ ขาด ปัจจุบันสมุนไพรเหล่านั้นหายาก และต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการปรุงยาจึงไม่เป็นท่ีนิยมเท่าท่ีควร แต่ก็มีสมุนไพร บางอย่าง ทชี่ ่วยบารุงครรภ์หาได้ง่ายและปลอดภัย ทงั้ กับแม่และลูกในท้อง ดังต่อไปน้ี 1.มะพร้าว ตง้ั แต่สมยั โบราณ เช่ือว่าการรับประทานน้ามะพร้าวจะทาให้ทารกในครรภ์สมบูรณ์ แข็งแรง คลอดง่าย ผิวดี และ ไม่มีเมือกติดตัวเม่ือคลอดออกมา โดยให้แม่กินได้เมื่ออายุครรภ์ครบ 5 เดือนจะช่วยกระตุ้นให้เด็กดิ้น น้ามะพร้าวควร ผา่ นความรอ้ นมากอ่ น เช่น ต้ม เผา เพื่อความรอ้ นจะได้ทาลายสารพษิ บางอย่างทอ่ี ยู่ในมะพรา้ ว 2.เมด็ บัว รากบัว ยังไม่เด่นชัด แต่ช่วยในเชิงของครรภ์รักษา เป็นยาบารุงครรภ์ได้ดี ไม่มีโทษอันตราย จัดเป็นธัญพืชชนิดหนึ่งท่ีให้ คุณค่าทางอาหารสูงไม่แพ้ธัญพืชตระกูลถั่ว มีสารอาหารประเภทกรดไขมันดีอย่าง กรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณ สงู นอกจากนใ้ี นเมด็ บัวยังอัดแน่นไปดว้ ยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์อีกหลายชนิด เช่น วติ ามินบี วิตามินเอ วิตามินอี ไฟเบอร์ แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี มีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบได้อย่างดีอีกด้วย นาราก และเม็ดบัวมาต้มกินน้า ผู้ท่ีมีอาการแพ้ธัญพืช หรือแพ้เม็ดบัว ท่ีถึงแม้จะพบได้น้อย แต่ก็ควรท่ีจะหลีกเลี่ยงเพ่ือป้องกัน ไมใ่ ห้อาการแพ้กาเรบิ 3.น้าออ้ ย ควรเปน็ น้าออ้ ยท่มี าจากอ้อยดาอ้อยแดง ปัจจบุ ันนา้ ออ้ ยที่กินคือน้าอ้อยเกษตรใช้แทนกันไดบ้ า้ ง ป้องกนั ไม่ให้แม่ เป็นไข้ ลดอาการไขต้ ่า ๆ ซึ่งคุณแม่จะเปน็ บ่อยชว่ งตงั้ ครรภ์

4.มะขาม มีรสเปรย้ี ว ดังน้ันจะชว่ ยบรรเทาอาการแพท้ ้องเป็นอย่างดี โดยใช้เนอ้ื มะขามป้ันขนาดนิ้วหัวแม่มอื ละลายนา้ อนุ่ และจิบ หรือจะใช้มะขามเปยี กจิม้ กบั เกลือ ข้อควรระวงั ไม่ควรรบั ประทานเยอะเพราะอาจทาให้ท้องเสียได้ 5.เกสรดอกบัว นยิ มใชเ้ กสรของดอกบวั ขาว หรือบัวหลวง ดอกบวั ถือเปน็ ยาบารงุ ครรภ์อย่างดี เช่อื วา่ ช่วยบารุงครรภ์ ทาให้รก เกาะติดดี ปอ้ งกนั การแท้ง ไม่คลอดก่อนกาหนด จะใชส้ ดหรอื แหง้ ก็ได้ วิธใี ช้ คือ นาเกสรดอกบัวจะแห้งหรือสดก็ได้หยบิ มอื หนึง่ ชงกับน้าร้อนเดือด ๆ ตง้ั ใหอ้ ุ่น รบั ประทานวันละแกว้ เอกสารอา้ งองิ การตง้ั ครรภ.์ [ออนไลน์]. ได้จาก https://healthserv.net/218 สืบคน้ เมอ่ื 5 พฤษภาคม 2564]. \"เม็ดบัว\" กบั 6 ประโยชน์ต่อสุขภาพ และข้อควรระวัง.https://www.sanook.com/health/24949/สบื ค้น เมือ่ 5 พฤษภาคม 2564]. รู้กอ่ นใชส้ มนุ ไพรสาหรับแม่ทอ้ ง[ออนไลน์]. ได้จาก.https://th.theasianparent.com/สบื คน้ เมอ่ื 5 พฤษภาคม 2564].

ทับหม้อเกลอื ด้วยสมุนไพรในระยะหลังคลอด กุสมุ ล แสนบญุ มา (สาขาการพยาบาลมารดาทารกและการผดุงครรภ)์ ในระยะหลังคลอดร่างกายของคุณแม่จะยงั ไม่เข้าท่ีเน่ืองจากมีการเพิ่มข้ึนของน้าหนักในระยะต้ังครรภ์ ค่อนข้างมาก การที่ร่างกายจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติของมารดาแต่ละคนใช้เวลา และวิธีการท่ีแตกต่างกัน เช่น การอยู่ไฟ การสมุนไพร การทับหม้อเกลือ การอยู่กะโจม เป็นต้น ในบทความน้ีจะขอน้าเสนอเก่ียวกับทับหม้อ เกลือด้วยสมุนไพรในระยะหลงั คลอดซึ่งเป็นวิธีการหน่งึ ของการดูแลสุขภาพในมารดาหลงั คลอดท่ีมีมาอย่างชา้ นาน ซึ่งจะช่วยขับน้าคาวปลาให้ไหลสะดวก ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น โดยความร้อนจะช่วยเผาผลาญไขมัน ที่หน้าท้อง ช่วยให้หน้าท้องยุบ แก้อาการปวดเม่ือยตามร่างกาย ท้ังยังช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิ ต (กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๕๒) ในการทับหม้อเกลือ รายที่คลอดปกติสามารถท้าการทับหม้อเกลือได้ภายหลังคลอดแล้ว 7 วัน หรือจะให้ปลอดภัยท่ีสุดควรท้า หลังจากคลอดแล้ว 10-12 วัน กรณีท่ีท้าการทับหม้อเกลือหลังคลอด 7 วัน (วันท่ี 1-6) มารดาอาจมีภาวะ อ่อนเพลีย และเปน็ อันตรายมโี อกาสเสยี่ งที่จะท้าใหต้ กเลือดได้ ในรายท่ผี า่ คลอดสามารถท้าไดห้ ลังคลอดแล้ว 30-45 วนั (ละมลุ จนิ สีดา, 2563) อุปกรณ์ ๑) ผ้าขาวสี่เหลี่ยม ๑ ผืน ๒) หม้อดินเผา ๓) เตาถ่าน ๔) เกลือเม็ด และ ๕) สมุนไพร ประกอบด้วย ไพลสด ๑ ส่วน, ว่านนางค้า ๑/๒ ส่วน, ว่านชักมดลูก ๑/๒ ส่วน, การบูรพอประมาณ, ใบ พลบั พลึง วธิ ีเตรียมยา (กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ , ๒๕๕๒) ๑. น้าสมุนไพรทั้งหมดไปล้างท้าความสะอาด ไม่ต้องปอกเปลือกห่ันต้าหยาบๆผสมกับการบูร แล้ว นา้ ไปวางบนผ้าสีขาวทใ่ี ชห้ อ่ หมอ้ เกลือ ๒. นา้ ใบพลับพลงึ วางลงลักษณะซ้อนทับรูปกากบาทวางทับสมุนไพรทเี่ ตรียมไว้ นา้ หม้อเกลอื ทร่ี ้อนได้ ทวี่ างบนใบพลบั พลงึ ห่อมัดให้แนน่ พรอ้ มนา้ ไปทบั หม้อเกลอื (ทุกคร้ังท่ีเปล่ยี นหม้อกค็ วรมกี ารเพ่มิ ยาเข้าด้วย) ขั้นตอนการทับหมอ้ เกลือ (คณะแพทยแ์ ผนไทย มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์, ๒๕๕๖) ๑. จัดท่ามารดาหลังคลอดให้นอนคว่้า และท้าการทับหม้อเกลือบริเวณสะโพก ก้น ขา บั้นเอว และ หลังตาล้าดบั ๒. จากน้ันเปลี่ยนท่ามารดาหลังคลอดให้อยู่ในท่านอนหงาย แล้วทับหม้อเกลือบริเวณต้นขาด้านหน้า และด้านขา้ งซงึ่ เป็นแนวเดยี วกบั ตะเขบ็ กางเกง ๓. เมื่อความร้อนจากหม้อเกลือคลายตัวลง จึงน้ามานาบที่บริเวณท้อง (โดยต้องท้าการนวดท้องเพ่ือ เป็นการกระตุ้นอวัยวะในช่องท้องให้พร้อมส้าหรับรับน้าหนักและความร้อนจากหม้อเกลือเสียก่อน) หลังจาก นนั้ ให้กดแช่ไวน้ ่งิ ๆ ท่ตี า้ แหน่งของมดลูกนาน 30 วนิ าที แลว้ คลายออกเปน็ ระยะๆ รายการอา้ งองิ กรมพัฒนาการแพทยแผนไทยและการแพทยทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ . (๒๕๕๒). องคความรูการแพทย แผนไทยสําหรบั ประชาชน. โรงพิมพองคการสงเคราะหทหารผานศึก ในพระบรมราชูปถมั ภ: กรุงเทพมหานคร. ละมลุ จินสดี า. (๒563). คลินกิ การแพทยแ์ ผนไทยประยุกต์ : การทบั หมอ้ เกลือ สบื คน้ จาก https://somdej.or.th/index.php/14-sample-data-articles/389-2557-08-19. คณะแพทยแ์ ผนไทย มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร.์ (๒๕๕๖). การทบั หมอ้ เกลือ. สืบคน้ จาก http://www.ttmed.psu.ac.th/blog.php?p=15

ลดเทา บวมหลงั คลอดดวยตะไคร เรียบเรยี งโดย อาจารยพิชชาภรณ สาตะรักษ สาขาวิชาการพยาบาลมารดาทารก และการผดุงครรภ อาการเทาบวมหลังคลอด อาการมือ เทา ขาบวม มักจะเกิดในไตรมาสท่ี 3 ของการ ตั้งครรภ โดยปกติเมื่อคลอดบุตรแลวอาการบวมก็จะหายไป แตในบางครั้งอาการบวมก็ไมได หายไปทันทีหลังคลอด ซ่ึงอาการบวมน้ีเกิดจากของเหลวท่ีกอตัวข้ึนอยางผิดปกติในขอเทา เทา และขา อยา งไรก็ตามก็ถอื วา เปน อาการปกติทีม่ ีวธิ แี กไ ขดวยภมู ปิ ญ ญาไทยดวยการใชต ะไคร ตะไคร มีสรรพคุณทางยาคือ ไวรับประทานแกทองอืด ทองเฟอ เปนยาขับลม และยัง สามารถนาํ ตะไครไ ปตม เพอ่ื นํามาแชเ ทาลดอาการเทา บวมได ขั้นตอนมดี ังน้ี 1.นําตะไครหั่นเปนชนิ้ ๆ แลวนาํ มาทุบใหแ ตกเพ่ือใหนา้ํ มนั ตะไครอ อกมา 2.ตม นํา้ ในปรมิ าณใหพอสําหรับแชเทา จนเดือด แลว นําตะไครท ีเ่ ตรยี มไวล งไปตมไวสักพัก 3.ท้ิงไวใหน้ําอุน แตยังคงความรอนไวเล็กนอย แลวนําเทาลงไปแชน้ําตะไครที่ตมไว ประมาณ 15-30 นาที อาการเทาบวมจะคอยๆ ดขี ึ้น และสามารถแชไ ดบอยตามตองการ 4.ตะไครนอกจากบรรเทาอาการบวมแลว กลิ่นของตะไครยังทําใหมารดาหลังคลอดรูสึก ผอ นคลาย ชวยลดความตึงเครยี ดลงได

สมนุ ไพรไทย ตา้ นภยั ไขเ้ ลือดออก เมอ่ื เขา้ ฤดูฝนการระบาดของโรคไขเ้ลอื ดออกกเ็ ร่ิมข้นึ ซง่ึ สาเหตุการระบาดของไขเ้ลอื ดออกนนั้ คือ ยุงลาย ซง่ึ เป็นพาหะนาโรคตวั สาคญั ปจั จุบนั มยี ากนั ยงุ ทเ่ี ป็นรูปแบบของโลชนั่ หรือสเปรย์ ซง่ึ ในกลมุ่ คนทผ่ี วิ แพง้ า่ ย เช่น เดก็ เลก็ หรอื ผูส้ ูงอายุ มกั ไมเ่ หมาะกบั การใชผ้ ลติ ภณั ฑด์ งั กลา่ ว อกี ทง้ั การจดุ ยากนั กนั ยงุ หรือการฉีดยาฆ่ายงุ ก็สง่ กลน่ิ ท่ไี ม่พงึ ประสงค์ จงึ ขอเสนอสมนุ ไพรพ้นื บา้ นทห่ี างา่ ย และไลย่ งุ ได้ สามารถป้องกนั โรคไขเ้ลอื ดออกไดโ้ ดยไม่ทา ใหผ้ วิ หนะวเกิดความระคายเคอื ง ดงั น้ี ตะไครห้ อม เป็นสมนุ ไพรทน่ี ิยมนามาสกดั นา้ มนั หอมระเหยมากกว่าตะไครบ้ า้ น มกี ลน่ิ หอมตรงระหวา่ งใบกบั กาบ สามารถใชเ้ ป็นยาทาไลย่ ุง ไล่แมลง และยงั ไมเ่ ป็นพษิ ต่อคน อกี ดว้ ย โดยทบุ ตะไครห้ อมพอหยาบๆ 4-5 ตน้ แลว้ นาไปวางตามมมุ อบั กลน่ิ นา้ มนั ท่ี ระเหยออกของตะไครห้ อมจะช่วยไลย่ ุง ผิวมะกรูด ขย้ใี หห้ อมแลว้ นาไปวางบริเวณทอ่ี บั เช่น ตเู้ส้อื ผา้ หอ้ งนา้ จะช่วยไลย่ ุง ได้ อกี ทงั้ นา้ มนั หอมระเหยกลน่ิ มะกรูดกลายเป็นกลน่ิ ยอดนยิ มในสปา เพราะ สามารถช่วยผอ่ นคลายความตงึ เครียด คลายความกงั วล อกี ทง้ั ยงั ช่วยสรา้ ง บรรยากาศใหผ้ ่อนคลาย สบายสดช่นื สมองปลอดโปร่ง โหระพา มกี ลน่ิ หอมฉุนจงึ ช่วยไลย่ ุงไดง้ า่ ยๆ เพยี งนาใบโหระพามาขย้ๆี แลว้ นาใส่ใน ภาชนะไปวางตามมมุ อบั จดุ ต่างๆ อกี ทงั้ ใบโหระพาสดมนี า้ มนั หอมระเหย มกี ลน่ิ หอม ช่วยผ่อนคลายความเครียด ลดการหดเกร็งของกลา้ มเน้อื ลดอาการซมึ เศรา้ ไดอ้ กี ดว้ ย สะระแหน่ เป็นสมนุ ไพรใกลต้ วั ทม่ี กี ลน่ิ หอมฉุนแรง จงึ สามารถนามาไลย่ ุงไดแ้ บบ เหน็ ผล เพยี งแค่นาใบสะระแหน่มาบดขย้จี นมกี ลน่ิ ฉุน จากนนั้ นาไปใส่ภาชนะแลว้ ไป วางตามมมุ อบั ของบา้ น หรอื นามาทาบรเิ วณผวิ หนงั เพ่อื ไลย่ งุ อา้ งองิ http://healthydee.moph.go.th/view_article.php?id=766 จัดทำโดย อ.นศิ ารัตน์ ยวุ พัฒนวงศ์ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี

ตะไคร้หอม : ป้องกันยงุ กัด อ.วรพนิต ศุกระแพทย์ อ.วีนะ อนุตรกูล วพบ.ชลบุรี ยงุ เป็นพาหะของการเกิดโรคทีส่ าคัญ ได้แก่ ยงุ ลายเปน็ พาหะนาโรค ไขเ้ ลอื ดออก ยุงก้นปลอ่ งเปน็ พาหะนาไข้มาลาเรยี ยุงราคาญนาโรคไข้สมอง อกั เสบ ยงุ ลายเสอื และยุงอกี หลายชนดิ เปน็ พาหะโรคเท้าชา้ ง ยงุ เปน็ ปัญหา ของประเทศไทยท่ีมีสภาพอากาศเหมาะแกก่ ารแพร่กระจายพนั ธ์ุ จงึ ต้องมีการ ควบคมุ ท้งั แหล่งกาเนดิ ทาลายยงุ และการป้องกนั ไม่ให้ยุงกัด ปัจจบุ นั มกี ารศึกษาและใชส้ ารสกดั จากสมนุ ไพรท่ีมกี ลนิ่ จากนา้ มันหอมระเหย (essential หรอื volatile oils) ในการปอ้ งกนั ยุงกัด ทน่ี ยิ มใช้ ไดแ้ ก่ ตะไคร้หอม (Cymbopogon nardus (L.) Rendle) ซง่ึ มฤี ทธิป์ อ้ งกันยุงได้หลายชนิด เช่น ยงุ ก้นปลอ่ ง ยงุ ลาย และยุงราคาญ มีการศกึ ษาฤทธิ์ไลย่ งุ ของนา้ มนั ตะไคร้หอม (citronella oil) พบว่า ตารับท่ีมีน้ามันตะไคร้หอม 17% ป้องกันยุงลายได้นานประมาณ 3 ชั่วโมง นอกจากน้ี สารสกัดเอทานอลของตะไคร้หอมผสมกับนา้ มันมะกอกสามารถไล่ยุงลายและยุงราคาญได้นาน 2 ช่ัวโมง ครีมที่มี นา้ มนั หอมระเหยจากใบตะไครห้ อมท่ีความเขม้ ข้น 1.25, 2.5 และ 5.0% ป้องกนั ยุงก้นปล่องได้ประมาณ 2 ชวั่ โมง ขณะที่ความเข้มข้น 10% ให้ผลได้นานกว่า 4 ชวั่ โมง นอกจากนี้แลว้ ยงั มสี มนุ ไพรอนื่ ๆ ทมี่ กี ารศกึ ษาฤทธิ์ในการป้องกันยุง ไดแ้ ก่ น้ามันหอมระเหยจากมะกรูด ข่า ไพล เป็นต้น จะเห็นว่าสมุนไพรท่ีมีศักยภาพในการไล่ยุงเป็นพืชท่ีพบและปลูกได้ทั่วไป สามารถเตรียมไว้ใชเ้ อง ในครัวเรือนหรือผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงในรูปแบบต่างๆ เช่น น้ามันหอมระเหย ครีม โลช่ัน สเปรย์ไล่ยุง หรือยาจุดกันยุงจากผงสมุนไพร ดังตัวอย่าง ชมรมการแพทย์ไทยและการแพทย์พื้นบ้าน จ.เชียงใหม่ ได้แนะนา “ยากนั ยงุ ฉบับพื้นบา้ น” เพ่อื ไว้ใชเ้ อง เช่น การทา “ธูปตะไครห้ อม” และ “สเปรย์ตะไครห้ อม” “ธปู ตะไคร้หอม” โดยการนา ตะไคร้หอม มาหัน่ ซอยให้ละเอยี ด จากนน้ั นาไปอบให้แห้ง หรอื ตากแดด ให้แห้ง (แต่กลน่ิ จะหอมน้อยลง) เมื่อได้ตะไคร้หอมอบแหง้ แลว้ ใหน้ ามาบดให้เป็นผงละเอียด แล้วนา กา้ นธูปเรจ็ รปู มาทาแป้งเปยี กหรอื กาว แลว้ กล้ิงวนไปมาบนผงตะไครห้ อมท่ีอบแหง้ และบดทงิ้ ไว้ ตามด้วยการผึง่ ใหธ้ ปู ตะไคร้หอม แหง้ หมาดๆ จากนนั้ ก็นาไปชุบผงตะไคร้บดอีกรอบ และผึ่งไว้ให้แหง้ สนิท ก่อนนามาจุดไลย่ ุงโดยปกั ลงบนภาชนะ ทีม่ ที ราย และนาไปวางในไว้ในจุดท่ีมียงุ ชุกชมุ “สเปรยต์ ะไครห้ อม” โดยการนา ตะไครห้ อมสาเร็จรปู ประมาณ 100 ซีซี กบั นามันแกว้ สาเรจ็ รูป (น้ามันท่ีสกัดจากต้นแก้ว มีจาหน่ายตามร้านเวชสาอาง) ในอัตราส่วน 1 ปอนด์ หรือครึ่งลิตร (500 ซีซี) จากนั้น นามาเขยา่ ผสมกัน และนาไปใส่ขวดแกว้ ที่มหี ัวฉีดแบบสเปรย์ สาหรบั พน่ ลงบนเสือ้ ผ้า เพราะการทานา้ มันสเปร์ย ตะไคร้หอมโดยตรงท่ีผิว จะทาใหเ้ กิดอาการแสบร้อนได้ จงึ ควรใช้แบบฉดี พ่นจะช่วยไลย่ งุ ได้ดมี ากกวา่ ท่มี า : บทความเผยแพร่ความรู้สูป่ ระชาชน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล https://pharmacy.mahidol.ac.th/en/knowledge/article/299 : ชมรมการแพทยไ์ ทยและการแพทย์พนื้ บา้ น จ.เชยี งใหม่ https://www.thaipost.net/main/detail/38392

บทความบริการวชิ าการ: นา้ มันหอมระเหยกบั การบรรเทาอาการซึมเศรา้ นางเพญ็ พรรณ ขจรศิลป์, วพบ.ชลบุรี นางสาวทตุ ยิ รตั น์ ร่นื เริง, วพบ.ชลบรุ ี ในสังคมปัจจุบัน เราหลายคนต่างก็ต้องเผชิญกับปัญหามากมายหลายอย่าง ท่ีรวมตัวกันก่อให้เกิดอาการ เครียด และหลายคนก็ไม่อยากบอกเล่าปัญหาให้ใครฟัง หรอื ก็ไม่สามารถหาทางออก ทาให้เกิดอาการของโรคซึมศร้า ได้ ซึ่งภาวะซมึ เศร้า (Depression) หรือที่รู้จักกันวา่ โรคซึมเศร้า เปน็ ภาวะความผิดปกติทางอารมณ์ท่ีผู้ปว่ ยอาจรู้สึก เศร้า สิ้นหวัง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือรู้สึกว่าตนดอ้ ยค่า แม้ความรู้สึกและอารมณ์เหล่าน้ีจะเกิดข้ึนได้กับทุกคนเป็น ครั้งคราว แต่อาการของภาวะซึมเศร้านั้นมีความรุนแรงและยาวนานกว่ามากจนถึงขั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตใน ดา้ นตา่ ง ๆ ของผู้ปว่ ย สารเคมีท่มี ีอยู่ในน้ามันหอมระเหยจะทาปฏิกิริยากับรา่ งกาย เม่ือมีการสูดดมแลว้ ไปกระตุน้ สมอง หรือการดูด ซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด เม่ือเซลล์เฉพาะทางในส่วนบนของจมูก ตรวจพบกลิ่น เซลล์เหล่านั้นจะทาหน้าที่ใน การสง่ แรงกระตุ้นไปยงั สมองตามเส้นประสาทรับกล่นิ ก็จะเกิดการประมวลผล เกิดแรงกระตุ้นและส่งข้อมูลกลิน่ ไปยัง สว่ นตา่ ง ๆ ของสมอง ซงึ่ ระบบนจี้ ะมีหนา้ ทใี่ นการควบคุม ดแู ลอารมณแ์ ละพฤตกิ รรม กล่ินเป็นหน่ึงในสัมผัสทั้ง 5 ที่มนุษย์ส่วนใหญ่สามารถรับรู้ได้ กลิ่นสามารถช่วยให้มนุษย์เช่ือมโยงกล่ินต่าง ๆ กบั ความทรงจาของตัวเองได้ ซ่ึงน้ามันหอมระเหย เป็นน้ามันท่ีสามารถสกัดได้จากธรรมชาติและมีกลิ่นที่หอมเฉาะตัว แตกต่างกันออกไปข้ึน อยู่กับวัตถุดิบท่ีนามาสกัด ซ่ึงกล่ินจากน้ามันหอมระเหยมีส่วนช่วยกระตุ้นอารมณ์ และมีส่วน ช่วยบรรเทาความผิดปกติทางอารมณ์ได้ เช่น ภาวะซึมเศร้า จากการศึกษาในปี ค.ศ. 2008 ท่ีได้ทาการศึกษาผู้ป่วย มะเร็งระยะสุดท้าย ท่ีได้รับการนวดมือด้วยน้ามันหอมระเหยเป็นเวลานานติดต่อกัน 7 วันพบว่าผู้เข้าร่วมการทดลอง ร้สู กึ เจบ็ ปวดและมอี าการซมึ เศรา้ นอ้ ยลงอย่างเหน็ ได้ชัด วธิ ใี นการใชน้ า้ มนั หอมระเหยน้นั มมี ากมาย เช่น 1.ลาเวนเดอร์ กล่นิ จากดอกลาเวนเดอร์ เป็นกล่นิ ท่ไี ด้รับการยกย่องว่ามีฤทธ์ิช่วยใหร้ ู้สึกสงบ ผ่อนคลาย นอกจากน้ยี ังมี งานวิจัยช้ใี ห้เหน็ ว่าน้ามนั หอมระเหยจากดอกลาเวนเดอร์มีส่วนช่วยคลายความกังวล ลดความเครียดช่วยให้อารมณด์ ี ขน้ึ ได้ 2.กะทือ จากการศึกษาในปี ค.ศ. 2014 พบว่ากะทือมีคุณสมบัติในการต้านภาวะซึมเศร้า จากการศึกษา นักวิจัยได้ให้ หนูทดลองดมน้ามันหอมระเหยจากกะทือ แล้วพบว่าหนูเหล่าน้ันมีความเครียดน้อยลง นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรม ซึมเศร้าน้อยลง จากการวิจัย นักวิจัยคิดว่าน้ามันกะทือจะไปกระตุ้นสมองท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้า ซึ่งจะไป ชว่ ยชะลอการหลัง่ ฮอรโ์ มนแหง่ ความเครยี ด หรือคอรต์ ซิ อล (Cortisol) ได้

3.มะกรดู กลิ่นจากพชื ตระกลู ส้ม อยา่ งมะกรดู นน้ั มีส่วนชว่ ยใหร้ สู้ ึกผอ่ นคลาย จากการศึกษาในปี ค.ศ. 2013 พบว่า น้ามันหอมระเหยจากมะกรูดมสี ่วนช่วยลดความวติ กกังวลในผู้ปว่ ยที่กาลังรอการผ่าตดั อย่างมีนัยสาคญั มะกรูดอาจ ชว่ ยลดการหล่งั ฮอรโ์ มนแห่งความเครียดเม่ือตกอยูใ่ นชว่ งสถานการณ์ท่มี ีความเครยี ด 4.มะลิ หานา้ มนั หอมระเหยกลนิ่ ดอกมะลิ โดยกลนิ่ หอมสดชนื่ ของดอกมะลเิ น่ยี จะชว่ ยให้จิตใจท่ีหวนั่ ไหว มีความ ม่นั คงขน้ึ ลดความกระวนกระวาย ผอ่ นคลายความเครียด และยังช่วยลดอาการซึมเศร้า ข้อควรระวงั ในการใช้ นา้ มนั หอมระเหย บรรเทาอาการซึมเศร้า นา้ มันหอมระเหยน้ันอาจทาให้เกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นก่อนท่ีจะใชน้ ้ามันหอมระเหยชนิดใด ควรมีการเจือจาง ก่อน เพื่อลดความเข้มข้นลง ก่อนที่จะใช้น้ามันหอมระเหยกับผิวควรเติมน้ามันให้เป็นตัวพา จานวนเลก็ น้อยประมาณ 20-30 ซีซี ลงในน้ามันหอมระเหยทุก ๆ 3 ถึง 6 หยด น้ามันตัวพาทั่วไป ได้แก่ น้ามันอัลมอนด์ น้ามันมะกอก น้ามัน มะพร้าว และน้ามันโจโจบา นอกจากนี้ควรทดสอบโดยการแปะแผ่นทดสอบบริเวณผิวอย่างน้อย 24 ชั่วโมงเพ่ือดูว่า ผิวหนังมีปฏิกริ ิยากบั นา้ มนั หอมระเหยอย่างไร หากมีอาการแพค้ วรหลีกเล่ียงการใชน้ ้ามันหอมระเหยชนิดน้ัน ท่ีสาคัญ ยังตอ้ งมกี ารวิจัยเพ่ิมเตมิ ว่านา้ มนั หอมระเหยนน้ั มปี ฏกิ ริ ิยากับการรักษาและยาอนื่ ๆ อย่างไรหรอื ไม่ เอกสารอ้างองิ ความหมาย โรคซมึ เศรา้ .[ออนไลน์]. ไดจ้ าก https://www.pobpad.com/ [สบื ค้นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2564]. น้ามนั หอมระเหย บรรเทาอาการซึมเศรา้ ได้จริงหรือไม่.[ออนไลน์]. ได้จาก https://hellokhunmor.com [สืบคน้ เมือ่ 5 พฤษภาคม 2564]. 5 น้ามนั หอมระเหย ช่วยลดอาการซึมเศรา้ !.[ออนไลน์]. ได้จาก https://www.ladyissue.com/53080 [สืบคน้ เม่ือ 5 พฤษภาคม 2564]. The Effectiveness of Aromatherapy for Depressive Symptoms: A Systematic Review https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5241490/

ผู้สูงอายุส่วนใหญม่ โี รคประจำตวั ไดแ้ ก่ โรคเบาหวาน การจดั ทำนวตั กรรม และโรคความดันโลหิตสูง และยงั พบวา่ ผู้สงู อายุมักมีอาการปวด หมอนสมนุ ไพรเพอ่ื ..สขุ ภาพ เมอ่ื ย บริเวณบ่า หวั ไหล่ และต้นคอ ส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการ ดำเนินชีวิตในแตล่ ะวัน จากปัญหาดงั กล่าว ทำให้ผูศ้ ึกษา คิดคน้ วสั ดอุ ปุ กรณ์ นวัตกรรมเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดเมอื่ ย บริเวณบ่า หัวไหล่ และ 1) วสั ดุ : ไพล, ขมิน้ ชัน. การบูร, ผิวมะกรดู , ตน้ คอ โดยการทำหมอนสมุนไพรเพื่อ สุขภาพ ซ่ึงมีสว่ นผสมของ หลอดกาแฟ, ปลอกหมอนสำเร็จรูป 2) อปุ กรณ์: มีด, เขยี ง, กรรไกร, กระจาด, “มะกรดู ขมิน้ ไพล การบรู ” ครกและสาก, เขม็ และดา้ ยเยบ็ ผา้ ขัน้ ตอนการทำ ประโยชน์ 1) เตรียมตดั เยบ็ ผ้าหอ่ ไสห้ มอน และ 1. เพ่อื ใชก้ ลิ่นจากสมนุ ไพรในการบำบัด ปลอกหมอนให้เรยี บรอ้ ยตามขนาดทท่ี ่าน อาการปวดเม่อื ย ตอ้ งการ 2. เพ่อื ลดการภมู ิแพจ้ ากไรฝนุ่ 3. เพอ่ื ช่วยใหร้ สู้ ึกผ่อนคลาย คลายความเครยี ด 2) กรอกหลอดพลาสติกท่ตี ัดเตรยี มไว้ใสล่ ง การใชป้ ระโยชน์ ในผา้ หอ่ ไส้หมอนจนเตม็ และรูดซิปปิดไว้ให้ เรียบรอ้ ย หมอนสมุนไพรเพ่ือสขุ ภาพสามารถนำไปใช้งานใน ชวี ติ ประจำวันไดจ้ ริง ซึง่ หมอนยงั ช่วยลดอาการปวดบริเวณตน้ คอได้ 2) นำสมนุ ไพรทุกอย่างท่ีเตรียมไวไ้ ปตาก เนอื่ งจากการนำหลอดกาแฟมาทำเป็นไส้ของหมอน เพราะหลอด แห้ง และนำมาบดใหล้ ะเอยี ด เพม่ิ ความ กาแฟเมอ่ื นำมารวมกันจะทำให้เกดิ ชอ่ งอากาศ เมื่อหนุนหมอนจะ หอมดว้ ยการบรู กรอกใสถ่ ุงผา้ เย็บปิดให้ ทำให้หมอนยบุ ตัวตามสรีระของศรี ษะและคอของเรา แต่จะไม่คืนตัว เรียบรอ้ ย ในทันที และยังช่วยในลดอาการภมู แิ พ้ เพราะไมม่ ีไรฝุ่น 4) นำไส้หมอนทเ่ี ตรียมไว้ทง้ั สองอย่างมาหุ้ม นวตั กรรมทางสุขภาพ (Innovation for Health ) ด้วยปลอกหมอนอีกชนั้ เพ่ือความสวยงาม และพร้อมใช้งาน สรปุ ผลการศกึ ษาของนวตั กรรม “หมอนสมนุ ไพรเพื่อ..สขุ ภาพ” 1. นำ้ มันหอมระเหยจากมะกรดู มีสรรพคณุ ช่วยทำใหส้ ดชื่น ผ่อนคลาย บรรเทา อาการปวดเมอ่ื ย หมอนท่ีทำจากหลอดกย็ ังสามารถชว่ ยลดแรงกดทบั บริเวณต้นคอ 2. ไส้หมอนทำจากหลอดจงึ เหมาะสำหรบั คนท่มี ปี ญั หาภูมิแพ้จากไรฝนุ่ ได้ 3. น้ำมนั หอมระเหยจากมะกรูดมสี รรพคณุ ช่วยผอ่ นคลายความเครยี ด คลายความ กังวล น้ำมนั ระเหย จากขม้ินมีสรรพคณุ แก้อาการวงิ เวียน แกห้ วดั น้ำมนั ระเหย จากไพล ชว่ ยใหท้ างเดนิ หายใจโลง่ ทำให้รู้สึกผอ่ น คลายและแกอ้ าการภูมแิ พไ้ ด้ ทีม่ า: คณะสาธารณสขุ ศาสตร์ สาขาสาธารณสขุ ชมุ ชน มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อบุ ลราชธานี ผจู้ ัดทำแผน่ ความร:ู้ อ.วลั ยพ์ ร วรพรพงษ์ และอ.สริ วิ รรณ นริ มาล (สาขาการพยาบาลผใู้ หญแ่ ละผสู้ งู อาย)ุ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบรุ ี

การลา้ งพลงั ลบด้วยเกลือ พทั ธ์ธีรา วฒุ ิพงษ์พัทธ์ วพบ.ชลบุรี เวลาท่เี รารู้สึกเหนอื่ ย มีเร่ืองราวมากมายเข้ามาในชีวติ ทาให้เรารูส้ ึกว่าหมดพลังท้ังรา่ งกายและจิตใจ สว่ นหน่งึ เช่อื ว่า ร่างกายไดม้ ีการสะสมพลังลบไว้ในร่างกาย ฉะนนั้ เราสามารถสลายพลงั ลบทีอ่ ยรู่ อบๆตวั ได้ ดว้ ยการแช่เท้าดว้ ยเกลือ ซ่ึงเกลอื จะช่วยดงึ พลังงานลบ พลังงานไม่ดีออกจากรา่ งกายผา่ นทางฝา่ เท้า เพราะฝา่ เทา้ เป็นจดุ เชือ่ มต่ออวยั วะภายในร่างกายจานวนนับไม่ถ้วน ประโยชน์ของการล้างพลังลบออกจากรา่ งกาย 1) ดงึ โรคภยั ทเ่ี จบ็ ป่วยดว้ ยพลงั งานลบออกจากร่างกาย เมื่อประจลุ บ พลงั งานลบออกจากร่างกาย แลว้ เรากใ็ ชว้ ธิ กี ารรกั ษาแบบเกา่ หรือแผนใหม่รักษา การรักษาจงึ ไดผ้ ล แต่หากไม่ดงึ พลังงานลบที่มีอยเู่ ปน็ จานวนมากออกมา การรักษาก็ทาได้ยาก 2) ดงึ พลังงานลบทเ่ี กิดจากคุณไสย มนต์ดา ออกจากรา่ งกาย 3) ดึงสิง่ ที่ตกคา้ งในร่างกายออก ทาใหโ้ รคทเ่ี ป็นอยูห่ าย 4) ดึงพลงั งานลบทเ่ี กิดจากอารมณอ์ อกโดยละเอียด ทุกซอกทกุ มมุ ของรา่ งกาย วธิ ีการลา้ งพลังงานลบดว้ ยเกลือ 1. หากะละมงั ทสี่ ามารถวางเท้าได้ ใสน่ ้าลงไปให้ท่วมตาต่มุ 2. ใสเ่ กลอื ทะเล (เกลือเม็ด) ลงไป 1 กามือ 3. เอาเท้าเหยียบไวท้ ่ีเกลือ 4. หากมเี พลงบรรเลง เพลงสาหรับทาสมาธิ ให้เปดิ เพลงไปดว้ ย 5. แบมอื หงายมือข้ึน วางท่ีหวั เข่า เอาความร้สู ึกไว้ท่ีกลางกระหม่อม 6. น่ังเช่นนี้ 15-20 นาที 7. เมอ่ื ครบเวลาแล้ว เอาน้าเปลา่ ลา้ งเทา้ ทัง้ สองขา้ ง ระวังอยา่ ใหน้ ้ากระเด็ดออกจากกะละมงั จากนน้ั เอาน้าแช่เทา้ ไปทิ้งในโถสว้ ม ห้ามท้งิ ท่ีอนื่ เพราะพลังงานลบจะไปตดิ คนอ่ืน 8. คนปกติ ทาอาทติ ยล์ ะครง้ั คนปว่ ย ทาทกุ วนั ก่อนนอน 9. คนทีธ่ าตุไมส่ มดุล มีอาการหนาว สน่ั ใหใ้ ช้น้าอุน่ คนที่ร้อน ให้ใชน้ า้ เยน็ เมื่อแช่เท้าด้วยเกลือบ่อย ๆ ร่างกายจะไม่มีพลงั งานลบทกี่ ่อโรคหลงเหลอื อยู่ ทาให้สุขภาพดีข้ึน ควรแก่ การงาน และการดารงชวี ิตที่มีความสุขได้ในทุกๆวัน ทมี่ า : ลา้ งพลงั งานลบดว้ ยเกลือ สบื คน้ จาก https://www.facebook.com/2113259452241127/posts/2313477595552644/ https://www.gsuccessstory.com/พลงั งาน/ล้างพลังลบดว้ ยเกลือ/ วนั ทสี่ บื ค้น 5 พฤษภาคม 2564

การทาสตู รอาหารโบราณกบั สมนุ ไพรมะรุม รวบรวมโดย มนทรา ตง้ั จริ วัฒนา ในยุคปจั จบุ นั นี้คนเรามักจะหันมาดสู ขุ ภาพตัวเองมากข้ึน รวมไปถึงหากเมื่อเจ็บป่วยกจ็ ะหันมาให้ สมุนไพรทางธรรมชาตริ ักษากันมากขึน้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงถ้าสามารถนามาเปน็ อาหารได้ เพราะส่ิงแรกที่ มนษุ ยใ์ ห้ความสาคญั คงหนไี ม่พ้นเรือ่ ง อาหารการกนิ พชื ผักถกู ใช้ปรุงเปน็ อาหารหรือกินสดๆ เม่อื กินเข้าไปใน ร่างกายกจ็ ะเกิดประโยชน์ทางโภชนาการเป็นยาสมนุ ไพร และใหใ้ ยอาหาร เป็นต้น จึงขอหยิบยกสูตรอาหาร โบราณจากสมนุ ไพรใกลต้ วั คอื มะรมุ ได้แก่ สูตร “น้าต้มเมลด็ มะรมุ ” และ “แกงส้มมะรุม” ทม่ี สี รรพคณุ แก้ ปวดเม่อื ยร่างกาย ปวดหลัง ปวดเอว กระดูกทับเส้น และมะรุมยงั เป็นยาวิเศษรักษาได้สารพดั โรคอีกด้วย สูตรน้าต้มเมลด็ มะรมุ 1. นาเมลด็ มะรุมตากแห้ง 1 กามือ 2. ตม้ ในนา้ เดือด 1 ลติ ร ประมาณ 5 นาที รบั ประทาน ครั้งละ 1 แกว้ หลังอาหาร เชา้ -กอ่ นนอน ในการรบั ประทานแบบต้ม ผูป้ ่วยดว้ ยโรคมะเรง็ ท่ีได้รบั การรกั ษาดว้ ยรงั สี ด่ืมน้ามะรุมจะชว่ ยเพ่มิ ภูมิ ต้านทานให้รา่ งกาย นอกจากนนี้ า้ เมล็ดมะรุมยังมีสรรพคุณแก้ปวดเม่ือย แกป้ วดหลังไดด้ ี และยังเพ่ิมคณุ คา่ ความหอมไดด้ ้วยดว้ ยใบเตย ได้เชน่ กัน สูตรแกงสม้ มะรุม มะรุมเป็นพชื ผกั สมุนไพรใกล้บา้ นและมีประโยชนต์ ่อสขุ ภาพ สามารถนามาปรงุ เป็นอาหารได้ทั้งใบ และผล เช่น ใบนามาลวกกินกบั นา้ พริก หรอื นง่ึ ใส่ปลากไ็ ด้ ส่วนผลนามาทาเปน็ แกงสม้ มะรุม ท่ีคนไทยรูจ้ กั กัน มาชา้ นาน หรือเรียกว่าสูตรโบราณ ร่วมกับปลาที่หาไดต้ ามคลองบึงใกลบ้ ้าน เชน่ ปลานิล มกี ารนาไปทอดให้ สุกกอ่ น ส่วนตัวปลาแกะเอาแต่เนื้อไว้ตาเป็นน้าพริกแกง ส่วนหัวปลาใสใ่ นน้าแกง ตม้ นา้ ในหมอ้ ด้วยไฟแรงจน เดือด ใสน่ า้ พริกแกงสม้ ที่ตาละเอยี ดแล้วคนใหท้ ว่ั จากนัน้ ใสม่ ะรมุ พอเน้ือมะรุมสกุ นุ่ม ปรงุ รสดว้ ยน้า มะขามเปียก นา้ ปลา พอเดือดอีกครงั้ ใสป่ ลานิล หา้ มคนจนกวา่ ปลาจะสกุ คอยตักฟองอากาศทผี่ ุดขนึ้ ออกให้ หมด พอปลาสุก คนเบา ๆ ให้ทัว่ ชมิ รส ปิดไฟ ตักใสถ่ ้วยพร้อมเสิร์ฟ คณุ ค่าด้านสุขภาพ เม่อื เรากินแกงส้มมะรมุ แลว้ ไม่ใช่แค่เพียงความอร่อยเท่าน้นั มะรมุ ยังมีสรรพคุณ ทางสมุนไพรทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ สุขภาพ เชน่ เมื่อนามาปรงุ เปน็ อาหาร จะไดร้ บั สารอาหาร อยา่ งวติ ามินเอ วติ ามนิ ซี แคลเซียม และใยอาหาร อีกด้วย นอกจากนั้นมะรุมยังเปน็ ยาวิเศษรักษาไดส้ ารพัดโรค เช่น ความดัน โลหติ สูง เบาหวาน โรคตา โรคลาไส้อักเสบ ช่วยปอดใหแ้ ข็งแรง เชอ่ื มต่อกระดกู ที่หกั ได้ผลรวดเร็ว และช่วย ป้องกนั ไมใ่ ห้เปน็ โรคมะเร็งอีกด้วย ส่วนเครอ่ื งแกง ยังเปน็ สมนุ ไพรอยคู่ ู่ครัวของทกุ คน อย่ามองขา้ มตน้ มะรุม หลงั บ้าน ให้นามาจดั เปน็ เมนูอาหารแสนอร่อย นา้ ต้มเมล็ดมะรุม และแกงสม้ มะรมุ สมนุ ไพรใกล้บา้ น นะคะ และถา้ จะให้ไดผ้ ลดีทา่ นต้องงดอาหารหมักดอง เครอื่ งในสัตว์ และเครือ่ งดมื่ ท่ีมแี อลกอฮอล์ ดว้ ยเช่นกัน มิ เช่นนั้นแลว้ จะเหน็ ผลน้อย ขอบคุณข้อมูลจาก : สดุ ยอดสมุนไพรและตารับยาไทย เครือขา่ ยนายหลินจือ , siamherbs.blogspot https://www.tnews.co.th, https://www.springnews.co.th

3 สมุนไพรไทยแก้ไอ ขบั เสมหะ ดร. เพญ็ พรรณ พทิ กั ษส์ งคราม สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี 1.มะแว้งตน้ /มะแว้งเครือ มะแวง้ ต้นหรือมะแวง้ เครือ เป็นสมนุ ไพรท่มี วี ติ ามนิ เอ วติ ามนิ บี วติ ามินซี และมีสารสาคัญคือ อัลคาลอยด์ ชนิดโซลาโซดีน (Solasodine) และโซลานนี (Solanine) ซึ่งเปน็ สารท่อี อกฤทธิต์ อ่ ระบบประสาทและระบบการหายใจ จงึ ช่วยบรรเทาอาการไอได้ นอกจากนใ้ี นผลมะแวง้ ตน้ และมะแว้งเครือยัง มีสารลิกนิน (Lignin) และซาโปนิน (Saponin) ซ่งึ ทาหน้าท่ีเหมือนยาปฏิชวี นะชว่ ยระงับการอักเสบและ ละลายเสมหะได้ดี โดยการใช้มะแวง้ แกไ้ อตามตารับยาแผนโบราณจะใชผ้ ลมะแวง้ สด 5-6 ผล ล้างให้สะอาด นามาเค้ยี วอมไว้ กลืนเฉพาะน้าจนหมดรสขมแล้วคายกากทิ้ง หรือจะกลนื ทั้งนา้ และเน้อื ก็ได้ หรือจะใช้ผลแก่ สด 5-10 ผล นามาโขลกพอแหลก คัน้ เอาแตน่ ้า เติมเกลือเลก็ น้อย ใชจ้ ิบบอ่ ย ๆ เวลาไอ สาหรบั เด็กจะใช้นา้ ที่ คั้นจากผลมะแวง้ เปน็ นา้ กระสายยา กวาดคอแก้ไอและขับเสมหะ 2. มะขามป้อม มะขามป้อมอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารกลุ่มแทนนนิ แถมรสเปร้ยี วของมะขามปอ้ มยังช่วยละลายเสมหะและ บารงุ เสียงไดด้ ี โดยหากต้องการใชม้ ะขามปอ้ มแก้ไอก็ทาได้ ง่าย ๆ ดว้ ยการนามะขามป้อมไปคนั้ หรือตม้ แลว้ นามาด่มื หรือจะนามะขามป้อมไปอมกับเกลอื เฉย ๆ ก็ได้ ซึ่งการอม มะขามปอ้ มนอกจากจะชว่ ยแก้ไอและละลายเสมหะแลว้ ยังทาใหช้ ุ่มคอ และช่วยบารงุ เสยี งใหใ้ ส 3. มะนาว มะนาวมีฤทธิ์เป็นกรดอินทรีย์ มีรสเปรี้ยว ช่วยบรรเทาอาการอักเสบในลาคอได้ โดยในตารบั ยาไทย นยิ มใช้ทัง้ นา้ คนั้ จากผลสด ผสมเกลอื เล็กนอ้ ย เติม น้าอ่นุ อีกสกั หน่อย แลว้ จิบแก้ไอ นอกจากนยี้ งั มีการ ใช้ผลมะนาวแหง้ นาไปดอง แล้วจบิ นา้ มะนาวดอง เป็นยาขบั เสมหะแก้ไอ แกโ้ รคเลือดออกตามไรฟนั ขอบคณุ ท่ีมาของขอ้ มูล https://health.kapook.com/view104144.html

ÊÁعä¾Ãà¾èÔÁ¹Òíé ¹Á นางสาวสัจจพร ศรบี ตุ ร อาจารยป ระจําสาขาวิชาการพยาบาลมารดา ทารกและการผดุงครรภ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบรุ ี “นา้ํ นมแม” อาหารที่สําคญั ท่ีสุดของทารกแรกเกดิ เพราะอุดมไปดวยสารอาหารท่ีมปี ระโยชนม ากมาย ถือ เปนภูมิคมุ กันใหล ูกรกั เปน อยา งดี จากประสบการณของดิฉันพบวามารดาหลงั คลอดจาํ นวนมากที่มกั ประสบปญ หา ในการเรม่ิ ใหนมแม “นาํ้ นมไมพอ...” “น้ํานมไมไหล...” “นาํ้ นมไหลนอ ย...” เปนคําพูดตดิ หูท่ีไดย ินบอ ยคร้งั ปญ หา หรอื ความเชือ่ เหลานส้ี งผลใหม ารดาหลายคนลมเลกิ ความตัง้ ใจทจ่ี ะเล้ียงลูกดวยนมแมเพียงอยา งเดยี ว แตอ ีกหลาย คนก็พยายามแกไ ขปญ หาดว ยการใชส มุนไพรกระตุนการไหลของน้าํ นม ซ่งึ ในหลายๆครอบครวั ทมี่ ญี าตผิ ใู หญบ อกตอ สบื ทอดกนั มาและเช่ือวา สมนุ ไพรมคี วามปลอดภยั ไมม ีความเสย่ี งตอ สุขภาพของมารดาและทารกแรกเกิด ในปจจุบันมีการนําสมุนไพรมาใชเ พิ่มมากข้ึนอยางแพรหลาย สะดวกตอการหาซอ้ื ราคาไมแ พง ดงั น้นั มารดาหลงั คลอดควรมีการศกึ ษาสมุนไพรทกี่ ระตนุ การสรางน้ํานมใหค รอบคลมุ ทัง้ สรรพคณุ ปริมาณท่คี วรใช วิธี การรบั ประทานอยางละเอยี ดเพอื่ ปองกันการเกิดผลขางเคียงท่ีอาจเกดิ ข้ึนได ดฉิ ันขอยกตวั อยา งสมนุ ไพรทเี่ ปน ที่ นยิ มและรบั ประทานงา ย สามารถเลือกรับประทานไดห ลายรปู แบบ “ปลกี ลว ย (banana flower)” เปน สวนดอกของกลวย ซึ่งนยิ มนํามาใชป ระกอบเปน อาหารญาติผูใ หญบ อกตอ ๆกนั มาถึงสรรพคุณของปลกี ลว ยชวยบํารงุ นา้ํ นมของมารดา หลังคลอดได อยางไรกต็ ามการวจิ ยั เก่ียวกับผลของปลกี ลวยตอการสรา งและการหลั่งของ น้าํ นมยังมีคอนขา งนอยและไมมรี ายละเอียดเพียงพอ องคประกอบท่ีสาํ คญั ในปลีกลว ย ไดแ ก alkaloids, saponins, glycosides, tannins, flavonoids, และ steroids (Mahmood, Omar, & Ngah, 2010) ซงึ่ สวนประกอบของ saponins และ tannins ในปลกี ลว ยท่สี กัดในนํ้าอาจจะมีผลตอ การเพิม่ ระดับฮอรโ มนโปรแลคตนิ ในเลอื ดจึงสง ผลใหมีการเพิ่มนํ้านม นอกจาก นม้ี ีผูศกึ ษาเกย่ี วกับประสทิ ธผิ ลของเครอ่ื งดื่มชาปลีกลวยตอการผลติ นํ้านมในมารดาหลังคลอดปกติพบวา ในวนั ท่ี 2 และวนั ท่ี 3 แรกหลังคลอด มารดาในกลุมที่ไดรับเครอ่ื งดืม่ สมนุ ไพรชาปลกี ลว ยมีปรมิ าณนํ้านมแมม ากกวามารดา กลุมท่ีไดร ับนาํ้ เปลา (สุสัณหา ยมิ้ แยม , สุจติ รา เทยี นสวสั ด์,ิ ศิรพิ ร ศรสี วัสด,์ิ พกิ ลุ ทรพั ยพ ันแสน, และทองเหรียญ มลู ชพี , 2559) ดังนั้นปลกี ลวยจงึ เปนอีกทางเลือกหน่ึงแกม ารดาหลงั คลอดทต่ี อ งการเพมิ่ นา้ํ นม เอกสารอา งองิ : สุสณั หา ยิ้มแยม, สุจติ รา เทียนสวัสด์,ิ ศริ ิพร ศรสี วสั ด,ิ์ พกิ ลุ ทรัพยพ ันแสน, และทองเหรียญ มูลชพี . (2559). ผลของเคร่อื งดื่ม. สมนุ ไพรกระตุน นาํ้ นมตอ การผลติ น้ํานมในมารดาหลังคลอด. เชยี งใหม: คณะพยาบาลศาสตร มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม. Mahmood, A., Omar, M.N., & Ngah, N. (2010). Phytochemical screening and galactagogue of banana flower (Musa x paradisiaca ABBB) extract on lactating rats. Unpublished document. The 3rd International Conference for Young Chemists, 23-25 June 2010, Copthorne Orchid Hotel Penang.

อาหารต้านอารมณ์เศร้า โรครา้ ยทีเ่ คยเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับตน้ ๆ คงหนีไม่พ้นโรคหวั ใจและหลอดเลอื ด ตีบตัน แต่ยุคน้ีอาจจะไม่ใช่อย่างน้ันอีกต่อไป เม่ือ WHO พยากรณ์ไว้ว่าในราว ปี 2030 “โรคซึมเศร้า” จะขึ้นมาเป็นโรคที่เป็นภาระด้านสาธารณสุขให้กับทุก ประเทศท่ัวโลก และอาจส่งผลให้เป็นสาเหตุการเสียชีวิต (ฆ่าตัวตาย) พุ่งสูงเป็น อนั ดับ 2 ในกล่มุ คนอายุ 15-29 ปี สาเหตุ ปัจจุบันแนวคิดเก่ียวกับสาเหตุของโรคซึมเศร้านั้น เชื่อกันว่าสัมพันธ์กับหลายๆ ปัจจัย ทั้งจากด้านกรรมพันธ์ุ การพลัดพรากจากพ่อแม่ในวัยเด็ก พัฒนาการของจิตใจ รวมถึงปจั จยั ทางชวี ภาพ เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดบั สารเคมีในสมองบางตัวเป็นต้น อาการ อ่อนไหว เศร้าใจ หดหู่ มองรอบตัวเป็นเป็นความทุกข์ สมาธิความจาแย่ลง อ่อนเพลยี ไมร่ ่าเรงิ แจม่ ใสไม่สนใจดูแลตนเอง มีความผิดพลาดในการทางานและเรียน นายแพทยด์ รูว์ แรมซีย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์คลินกิ จิตเวชศาสตรท์ ่ีวทิ ยาลยั แพทย์ มหาวทิ ยาลยั โคลมั เบยี ไดศ้ กึ ษาวจิ ยั เรื่อง Eat To Beat Depression จนพบวา่ อาหารทค่ี นเรากินน้ัน ส่งผลตอ่ อารมณ์และสามารถชว่ ยตอ่ ส้กู บั ภาวะซึมเศรา้ และโภชนาการทีเ่ หมาะสมสามารถปรับปรงุ สขุ ภาพสมองและสขุ ภาพจิตได้ โดยมีงานวจิ ัยและการทดลองทางคลินิกโดยใชอ้ าหารเพือ่ รกั ษาภาวะซมึ เศร้า และผลการทดลองกพ็ บวา่ การ รบั ประทานอาหารสไตลเ์ มดเิ ตอรเ์ รเนียนช่วยพัฒนาการรกั ษาอาการซึมเศร้าในระดับปานกลางถงึ รุนแรงให้ดขี ้นึ ได้ อาหารต้านอารมณ์เศร้า 1. กรดไขมันดีหรือ โอเมกา 3 มีส่วนช่วยลดอาการซึมเศร้า ซ่ึงมีอยู่ในเนื้อสัตว์จาพวกปลา ได้แก่ เน้ือปลาต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดนี ทูน่า ปลาช่อน ปลาดุก ปลาสวาย เนอื้ ขาว เปน็ ต้น 2. ไข่ไก่มีกรดอะมิโนที่สาคัญโดยเฉพาะทริปโตเฟนและไทโรซีน เปน็ สารต้านอนมุ ลู อิสระ จะชว่ ยสรา้ งสารซีโรโทนินทาให้อารมณ์ ดี และยังเปล่ียนให้เปน็ เมลาโทนนิ ช่วยใหน้ อนหลบั ดีขึน้ 3. กล้วยทุกชนิด มีแร่ธาตุโพแทสเซียมและมีสารทริปโตเฟน ช่วยบรรเทาให้ความดันโลหิตกลับสู่ภาวะสงบ ลดการเกิดภาวะ เครยี ดและวิตกกงั วล 4. คาร์โบไฮเดรตข้าวกล้อง ลูกเดือย ข้าวโพด ถั่วเมล็ดแห้ง เปน็ ต้น จะชว่ ยสร้างสารซีโรโทนินในสมอง ช่วยใหผ้ อ่ นคลาย 5. เห็ดทุกชนิด เห็ดชนิดต่างๆ จะมีธาตุเซเลเนียมสูง ช่วย กระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุขลดอารมณ์ข่นุ มัวได้ อาจารย์มนสั วี จาปาเทศ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบรุ ี

1 นวตั กรรมรอกไม้ไผอ่ อกกำลงั กำยคลำยเครยี ด ผ้จู ดั ทำ เอกพจน์ สบื ญาติ พชั ราภา กาญจนอดุ ม หลักกำรและเหตุผล จากการศึกษาประชากรผู้สูงอายุประเทศไทยปี พ.ศ. 2562 ผู้สูงอายุมีจานวน 11.1 ล้านคน คิดเป็น 16.73 % (กรมกิจการผู้สูงอายุ, 2562 ) และสานักงานสถิติแห่งชาติ คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคม ผ้สู ูงอายอุ ย่างเต็มตวั ในปี พ.ศ.2565 และในปี พ.ศ. 2573 จะมีสัดส่วนประชากรสูงวยั เพม่ิ ข้ึนอยู่ทรี่ ้อยละ 26.9 ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ร่างกายจะมีความเส่ือมถอย มีการสูญเสียมวลกล้ามเน้ือ และความแข็งแรงของกล้ามเน้ือ ส่งผลให้สมรรถภาพทางกายลดลงและจะกระทบต่อการใช้ชีวิตประจาวันในที่สุด การส่งเสริมการออกกาลัง กายสาหรบั ผูส้ ูงอายุจงึ เป็นส่ิงทส่ี าคัญ การออกกาลังกายสาหรับผู้สูงอายุ นอกจากจะช่วยเพิ่มมวล และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแล้ว ยัง เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ช่วยลดความเครียดได้ การส่งเสริมการออกกาลังกายสาหรับผู้สูงอายุ นอกจากการคานึงถึงประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพกายแล้ว ความสนุกเพลิดเพลิน ความสะดวกปลอดภัย ก็เป็นสง่ิ ทต่ี ้องใหค้ วามสาคญั เช่นกัน จากการวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุ “นวัตกรรมรอกไม้ไผ่ออกกาลังกายคลายเครียด” เป็น นวัตกรรม ท่ีมีความเหมาะสาหรับผู้สูงอายุใช้ออกกาลังกาย สามารถใช้ออกกาลังกายเพ่ือเพ่ิมความแข็งแรง ของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอก หลัง แขน หัวใจ และปอด วัสดุที่ใช้ทานวัตกรรมเป็นวัสดุท่ีสามารถหาได้ใน ทอ้ งถนิ่ มวี ิธกี ารทาทไ่ี มย่ งุ่ ยากซบั ซ้อน มคี วามสะดวกและปลอดภยั ในการใช้งาน วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ สง่ เสริมให้ผู้สูงอายไุ ด้ออกกาลังกาย 2. เพือ่ ส่งเสริมการนาวสั ดุในท้องถน่ิ ใหม้ าใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1. กระบอกไมไ้ ผ่เสน้ ผ่านศนู ยก์ ลาง 5-8 ซ.ม. 1 กระบอก 2. เชือกไนล่อน ยาว 3 เมตร หรอื ตามต้องการ 2 เส้น 3. ไม้ไผเ่ สน้ ผ่านศูนย์กลาง 2-3 ซ.ม. ยาว 15 ซ.ม. 4 อนั (ใช้ท่อ PVC แทนได้)

2 วิธกี ำรทำ 1. ใช้สว่างหัวใหญ่เจาะรูแต่ละด้านของกระบอก ไม้ไผ่ ด้านละ 2 รู แต่ละด้านรทู เี่ จาะห่างกัน 2-3 ซ.ม. 2. นาเชือกไนลอนแต่ละเส้นร้อยจากปลาย กระบอกไมไ้ ผด่ า้ นหนง่ึ ไปอกี ดา้ นหนึ่ง 3. นาปลายเชอื กแต่ละเส้นรอ้ ยผา่ นทอ่ PVC แลว้ มัดกบั ตวั เชือกอีกดา้ นเพื่อทาท่จี บั วธิ ใี ช้ กำรเล่นแบบ 1 คน 1. ใช้มือจับเชือกส่วนปลายบริเวณท่ีมือจับทั้ง 2 อัน ของปลายเชือกด้านใดด้านหน่ึง รวบ ปลายเชือกรวมกัน นาไปแขวนแลว้ มัดไวก้ บั ทยี่ ึดท่ีอยู่สูง ความสงู ใหส้ งู ตามความเหมาะสมของผู้เล่น 2. ใช้มือแต่ละข้างจับท่ีจับของเชือกด้านท่ีไม่ได้มัดเชือก ดึงเชือกให้เชือกไม่ตึงหรือหย่อน จนเกนิ ไปแล้วเหว่ียงแขนกางออก รอกจะวิง่ ขนึ้ ขา้ งบนเมื่อรอกว่งิ ถึงปมทม่ี ดั ดา้ นบนแล้วใหห้ ุบแขน เข้ารอกจะตกลงมา ทาซ้าไปเร่ือยๆ ตามความต้องการ การกางแขนออกสามารถกางได้ท้ังใน แนวขนานและแนวตงั้ กับพนื้ ดิน กำรเลน่ แบบ 2 คน 1. ผู้เล่นแต่ละคนจับท่ีจับคนละด้านให้มืออยู่ระดับเอว แต่ละคนยืนให้มีระยะห่าง เหมาะสม เชือกไม่ตึงหรอื หยอ่ นจนเกนิ ไป 2. ผู้เล่นคนที่ 1 กางแขนออกรอกจะว่ิงไปหาผู้เล่นคนท่ี 2 ให้ผู้เล่นคนท่ี 2 หุบแขนเข้า เม่ือรอกวิ่งมาถึงปมเชือกบริเวณท่ีจับ ผู้เล่นคนท่ี 2 กางแขนออกรอกจะว่ิงไปหาผู้เล่นคนที่ 1 ทาซ้า ไปเรอ่ื ยๆ ตามความต้องการ การกางแขนออกสามารถกางได้ท้งั ในแนวขนานและแนวตงั้ กบั พน้ื ดนิ

การเมตตาตนเอง......สู่ชีวิต......ที่มีความสุข พทั ธธ์ ีรา วฒุ พิ งษ์พทั ธ์ วพบ.ชลบุรี การมีเป้าหมายในชีวิตเร่ืองที่ดี แต่ปัจจุบันเราอยู่ในโลกยุคท่ีมีการแข่งขันสูง การก้าวผิดพลาดอาจ นาไปสู่ความรู้สึกล้มเหลวได้ง่าย และอาจส่งผลร้ายต่อสุขภาพจิตของตัวคุณเองได้ การเมตตาตนเอง จึงเป็น หลักการสาคัญประการหนึง่ ท่จี ะทาใหเ้ รามีชีวิตท่ีมคี วามสุขได้ องค์ประกอบหลกั ของการเมตตาตอ่ ตนเอง  ใจดตี อ่ ตนเอง หมายถงึ การไมก่ ดดันตัวเอง และเอาแต่วิพากษ์วิจารณ์ตนเองมากจนเกินไป  ยอมรับในความผดิ พลาด ทาความเขา้ ใจว่าการทาความผดิ พลาดนั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใคร ในโลกนี้สมบรู ณ์แบบ  มสี ติ เผชญิ หนา้ กับสถานการณโ์ ดยไมม่ ีความคิด เอนเอียงไปทางใดทางหน่ึง แมว้ า่ สงิ่ ทีเ่ จอ อาจจะเป็นเร่ืองที่เจ็บปวด ไม่เพิกเฉยหรือตคี วามสถานการณท์ ี่เจอแบบเกินจริง เทคนิคการฝึกการมีเมตตาตอ่ ตนเอง  ยอมรับวา่ ตัวเองไม่สมบรู ณ์แบบ สิ่งท่ีสาคัญที่สุดของการฝึกให้มีเมตตาต่อตนเอง คือ การยอมรับให้ได้ก่อนว่า ตัวเราเองน้ันไม่สมบูรณ์ แบบ มนษุ ย์เราทุกคนล้วนแล้วแต่ก็มขี ้อเสียของตวั เอง ไมว่ ่าจะเปน็ ความขี้เกียจ ความไม่ขยนั ก็สามารถมกี นั ได้ ทั้งน้ัน เราไม่จาเป็นต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่คิดว่าดีกว่ายิ่งโดยเฉพาะกับคนที่เราเห็นผ่านโลก ออนไลน์ เพราะคนอื่นต่างก็พยายามแสดงออกมาให้เห็นแต่ด้านดีท้ังส้ิน แต่เบื้องหลังเขาก็อาจจะมีข้อเสีย บางอย่างที่คุณไม่รู้ ดังนั้น คุณจึงไม่จาเป็นต้องกดดันและพยายามทาตัวให้สมบูรณ์แบบ แค่ยอมรับในสิ่งท่ีเรา เป็นก็พอ  ฝึกการมีสติ การมีสติจะช่วยให้คุณสามารถมองสถานการณ์เบ้ืองหน้าท่ีกาลังเผชิญได้อย่างรอบคอบ ใจเย็น และมี เหตุมีผลมากข้ึน สามารถมองข้ามความรู้สึกด้านลบ หันมามองถึงสาเหตุของปัญหา และหาแนวทางแก้ไข ปัญหาได้ดีขึ้น ไม่ต้องจมปลักอยู่กับความรู้สึกโทษตัวเอง จะส่งผลให้เราสามารถยอมรับตัวเอง และใจดีกับ ตัวเองได้งา่ ยข้นึ  ปฏิบัตกิ ับตวั เอง เหมือนกบั ท่ีปฏบิ ัติกับคนทคี่ ณุ รัก ลองนึกภาพดวู ่า หากคนท่ีเรารักทาเร่ืองทีผ่ ิดพลาด เราจะโทษเขา วพิ ากษ์วจิ ารณ์เขา โดยไมใ่ ห้เขาได้ มีโอกาสแก้ไขในสิ่งที่ทาผิดหรือ หากเราสามารถยอมรับในข้อผิดพลาดของคนอ่ืนได้ แล้วเพราะอะไรเราไม่ ยอมรับในข้อผิดพลาดของตัวเอง การปฏิบัติกับตัวเองเหมือนกับท่ีปฏิบัติกับคนที่เรารัก จะทาให้เราสามารถ ยอมรบั ในความไมส่ มบรู ณ์แบบของตัวเองได้ และรูส้ กึ เห็นหกเห็นใจในตวั เองมากขึ้น การฝึกเมตตาตนเอง จะทาให้เราใจดีกับตนเอง ยอมรับตนเอง และมีสติ ในดารงชีวิตได้อย่างปกติสุข ไดม้ ากข้นึ ในสังคมท่มี ีการเปลย่ี นแปลงและแขง่ ขันกนั ตลอดเวลา ทม่ี า: https://hellokhunmor.com/สขุ ภาพจิต/การเมตตาตนเอง-สขุ ภาพจิต-ความสุข/

นวตั กรรม “กาไลหรรษา” หลักการและเหตผุ ล โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นโรคข้อทีเ่ กดิ จากการเสือ่ มของกระดูกอ่อนข้อต่อ การเปล่ยี นแปลงเกดิ จากกระบวนการเส่อื มทไ่ี ม่ สามารถกลับสู่สภาพเดมิ และอาจทวีความรุนแรงขน้ึ ตามลาดบั เป็นต้นเหตใุ หเ้ กดิ ภาวะทพุ พลภาพโดยพบได้ประมาณร้อย ละ 10 ของประชากร ท่ีมีอายเุ กนิ 55 ปขี น้ึ ไป ซง่ึ ปจั จัยเสย่ี ง ไดแ้ ก่ อายุทมี่ ากขึ้นจะทาใหเ้ ป็นโรคข้อเขา่ เส่ือมเพมิ่ ข้ึนใน ปัจจุบัน และมผี ู้สูงอายทุ ม่ี ปี ัญหาขอ้ เขา่ เสอื่ มเพม่ิ ข้ึน เพ่อื เป็นการปอ้ งกนั อาการขอ้ เขา่ เสื่อมจึงจาตอ้ งควบคุมนา้ หนัก การใชข้ อ้ เขา่ ที่ถูกตอ้ งเหมาะสม และทส่ี าคญั พบวา่ การออกกาลังกายบริหารกล้ามเนือ้ รอบข้ออย่างสม่าเสมอ เพ่อื ให้กลา้ มเนอ้ื รอบขอ้ แข็งแรง จงึ เป็นวิธีหนึง่ ท่จี ะสามารถลดภาวะโรคขอ้ เขา่ เสอ่ื ม ตลอดจนการป้องกนั และรกั ษาโรคขอ้ เขา่ เสือ่ มไดเ้ ปน็ อย่างดี จงึ ได้ คดิ คน้ และจัดทานวัตกรรม “กาไลหรรษา” ข้นึ เพื่อส่งเสรมิ ใหผ้ สู้ ูงอายใุ ช้ในการบริหารขอ้ เขา่ รวมถงึ ข้อตอ่ ต่างๆของ ร่างกาย อันจะนามาซึ่งสุขภาวะขอ้ เขา่ ทดี่ ีของผู้สงู อายตุ ่อไป วตั ถุประสงค์ 2.ตัดผ้าคอตตอน จานวน 2 ช้ิน และ ใยโพลีเอ 1.เพื่อสรา้ งเสริมสุขภาวะข้อเขา่ ท่ดี ีของผู้สูงอายุ สเตอร์ จานวน 1 ชน้ิ (ขนาดตามความตอ้ งการ) 2.เพ่ือฟน้ื ฟสู ภาพผู้ท่มี ปี ญั หาขอ้ เขา่ และ ปัญหาการ 3.นาผ้าคอตตอน และ ใยโพลีเอสเตอร์ วางประกบ เคลอ่ื นไหวกล้ามเนอ้ื กัน โดยให้ใยโพลี อยู่ชั้นกลาง เพ่ือเพ่ิมความน่ิมของผ้าไม่ เกดิ การเจบ็ เวลาใช้ วธิ ีการดาเนนิ การ คดั กรองผสู้ งู อายกุ ล่มุ ที่มปี ัญหาขอ้ เข่าเสอ่ื ม จดั ทา 4.เย็บตีนตุ๊กแกติดกับผ้าท่ีจะประกบกัน 3 ช้ันด้วย จั กร เ ย็ บ ผ้ า (ห รื อเ ย็ บ มื อ) แ ล ะ ใ ช้ ผ้ า ยื ด ข นา ด นวตั กรรม“กาไลหรรษา” และทดลองใช้ และประเมนิ ความ 2.5 น้ิวเย็บต่อกับตีนตุ๊กแกด้านปลาย เพ่ือเพ่ิมความ พงึ พอใจในการใชน้ วตั กรรม ยืดหยุน่ ของการรัด วสั ดอุ ปุ กรณ์ 5.เย็บผ้าใหด้ ้านข้างติดกัน (กลับเอาดา้ นที่เย็บไวด้ ้าน ผ้าคอตตอน ผ้ายืด ขนาด 2.5 นิ้ว ใยโพลีเอ ในเพอื่ ความสวยงาม) สเตอร์ 80 กรัม เข็ม/ด้าย/กรรไกร ตีนตุ๊กแก ขนาด 2 นิ้ว 6.เย็บผ้าเป็นปล้องๆ จานวน 6 ช่องเพื่อให้สามารถ ทรายละเอียด พมิ เสน และ การบูร ม้วนงอไดด้ ี และมคี วามสวยงาม ข้ันตอนการทา 7.กรอกทรายละเอียดใส่ในผ้าท่ีเย็บไว้แต่ละช่องให้ 1.เตรียมทรายละเอยี ดชงั่ ใสถ่ ุงตามขนาด และน้าหนัก แ น่ น เ พิ่ ม ก ล่ิ น ห อ ม ด้ ว ย ก า ร บู ร แ ล ะ พิ ม เ ส น ดา้ นบนทกุ ช่อง ทต่ี ้องการ ( 0.5 , 1 , 1.5 กโิ ลกรมั ) 8.เย็บปิดช่องด้วยผ้าคอตตอนให้แน่นหนา เรียบร้อย และสวยงาม นายสรุ ิยา ฟองเกดิ สาขาวิชาการพยาบาลสขุ ภาพชมุ ชน อา้ งอิง: โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตาบลบา้ นทา่ กลอย 27/3 หมู่ 4 ตาบลท่าตะเกียบ อาเภอท่าตะเกยี บ จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา 24160 Email : [email protected] โทรศพั ท์ 0817511171 Powered by government.icti.co.th

การดแู ลสุขภาพหน้าร้อน อาจารย์สวุ รรณา วฒุ ริ ณฤทธิ์ วิทยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี สภาพแวดล้อมมีผลต่อสุขภาพ ดังนั้นร่างกายต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม หากปรับตัวได้ทันการ เปล่ียนแปลง ร่างกายก็จะอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นอย่างมีความสุข หากปรับตัวไม่สาเร็จ จะเกิดปัญหาทางสุขภาพ ตามมา โดยเฉพาะการปรับตัวในช่วงเวลารวดเร็ว หากร่างกายไม่สามารถปรับตัวตามการเปล่ียนแปลงที่รวดเร็วได้ จะ เกิดผลกระทบตามมา ดังนั้นเพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อร่างกายในการปรับตัว จึงขอแนะนาการดูแลสุขภาพในช่วง หนา้ ร้อนน้ี เพ่ือเปน็ การลดผลกระทบตอ่ สขุ ภาพจากปัญหาการปรับตวั ของ รา่ งกาย จึงขอแนะนาการดแู ลสขุ ภาพในชว่ งหนา้ ร้อน ดงั น้ี 1. ไม่ควรกนิ นา้ แขง็ หรือดืม่ น้าเย็นจัด จะมีผลกระทบต่อระบบการ ย่อยอาหาร โดยลดการไหลเวียนเลือดไปเล้ียงกระเพาะอาหาร และเจือจาง นา้ ยอ่ ย ทาให้สมรรถภาพการยอ่ ยอาหารลดลง สว่ นคนทีเ่ ปน็ โรคเกย่ี วกับ หลอดลม ทาใหม้ ีอาการไอและหอบมากขนึ้ 2. เครอ่ื งดื่มทเ่ี หมาะสมในหนา้ ร้อน ฤดูร้อนเราจะมีการสญู เสีย น้าทางเหงอ่ื มาก การทดแทนน้าในรา่ งกายที่เสียไปท่ีดี คือ การด่มื น้าเปล่า (ที่สกุ แล้ว) หรืออาจผสมน้าตาล เกลือ หรือ สมุนไพรอ่ืนๆ ก็สามารถเลือกได้ตามความชอบและความเหมาะสม จะช่วยเสริมพลังและป้องกันการสูญเสียเกลือ โซเดยี มของร่างกายได้ โดยเฉพาะคนทที่ างานกลางแจง้ หรือใช้แรงงานมาก 3. ไม่ควรนอนให้ลมหรอื ความเย็นโกรก ความร้อนจากลมแดดทาให้เสียเหงอ่ื เสยี พลัง เมื่อนอนหลับ ตากลม ในขณะเหงอ่ื ออก จะทาใหอ้ ุณหภูมผิ วิ ของร่างกายลดต่าลง ถา้ อุณหภูมิภายนอกยังสงู อยู่ ความรอ้ นสะสมอยู่ในรา่ งกาย ทาให้เวียนหัว หนักหัว ไม่สดช่ืน หรือเป็นหวัดได้ การใช้พัดลม หรือเครื่องปรับอากาศไม่ควรให้กระทบโดยตรงกับ ร่างกายนานๆ โดยเฉพาะที่บริเวณท้อง จะทาให้ท้องอืด ปวดท้อง ท้องเสียได้ หรือใบหน้า ทาให้การไหลเวียนเลือด น้อยลง 4. การนอน การพักผ่อนโดยธรรมชาติของฤดูร้อน กลางวันจะยาว กลางคืนจะสั้น เราจะนอนได้นอ้ ยกว่าปกติ ขณะเดียวกันอุณหภูมิในตอนกลางวันจะทาให้เสียเหงื่อ เสียพลัง เหน่ือยง่าย ทาให้ไม่ค่อยสดชื่น สมองไม่ปลอดโปร่ง รสู้ ึกง่วงตลอด เพราะมีเลือดไหลเวียนมาที่ผิวกายมากกว่าปกติ แต่ไปเล้ียงสมองและระบบการย่อยอาหารนอ้ ยกว่าปกติ จึงควรงีบในช่วงกลางวัน สาหรับผู้ที่สถานทีอานวยท่าท่ีนอนควรเป็นท่านอนราบหรือนอนตะแคง ห้ามนอนคว่า หรือ นอนฟุบบนโตะ๊ ทางาน เพราะกล้ามเนอ้ื ไมค่ ลายตวั จึงผอ่ นคลายไม่เต็มท่ี 5. อาหาร ในหนา้ ร้อนระบบการย่อยอาหารจะทางานน้อยลง ทาให้ไม่ค่อยรู้สึกหิว อาหารท่ีเหมาะสมควรเป็น อาหารอ่อนๆ อุ่นๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารจาพวกทอดๆ มันๆ เช่น ถ่ัวทอด กล้วยแขก, ปาท่องโก๋, ไก่ทอด ฯลฯ หรือ อาหารทม่ี ีคุณสมบัตริ ้อน เช่น นอ้ ยหนา่ , ทเุ รยี น, ล้ินจี่, ลาไย, ขนุน เป็นต้น โดยเฉพาะในขณะทม่ี ีอาการคอแห้ง, คนั คอ , เจ็บคอ หรือเปน็ ไขต้ วั รอ้ น ขอให้ทกุ คนผา่ นหน้าร้อนนอี้ ยา่ งมีความสขุ และดารง ความแข็งแรงของสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดไปนะคะ

การป้องกนั และชะลอความเสอื่ มของไต การป้องกันโรคไตไม่ใหเ้ กิดขนึ้ เป็นแนวทางการดแู ลโรคไตท่มี ีประโยชน์ ซ่งึ เปน็ การ ดูแลตนเองทีไ่ มม่ ีความลา่ บาก สามารถกระท่าด้วยตวั เอง ท่าไดอ้ ย่างสม่าเสมอ เป็นการป้องกัน โรคไตในกรณที ี่ยังไม่มโี รคไต และการชะลอความเสอื่ มของไตเป็นการดูแลตนเองไมใ่ ห้การ ท่างานของไตทรุดลงอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่ไตเรือ้ รังระยะสุดท้ายหรือระยะที่ต้องได้รบั การรกั ษาด้วยการบ่าบัดทดแทนทางไต การปอ้ งกนั โรคไต  การเลือกรบั ประทานอาหารท่ีครบ 5 หมูใ่ นสัดส่วนท่ีเหมาะสม โดยเลือกรับประทานผักหรอื ผลไมใ้ ห้มากขึ้น โดยเฉพาะพืชตระกลู ถ่ัวหรือผัก เตา้ หู้ เป็นต้น อาหารกลมุ่ น้ีจะเปน็ แหล่งโปรตีนทดแทนโปรตีนจากเนอื้ สตั วไ์ ดด้ ี  รบั ประทานพืชจา่ พวกแปง้ และขา้ วให้มากกว่าการรับประทานเนื้อสตั ว์ และหากเลือกรับประทานโปรตีนจากเน้ือสัตวใ์ ห้ เลือกเป็นปลา เป็ด ไก่ กุ้ง และไขข่ าว มากกวา่ จา่ พวกเน้ือแดง เชน่ หมู วัว ทง้ั นี้เนอ่ื งจากไตมหี นา้ ทีใ่ นการกา่ จัดของเสีย ซึ่งได้มาจากการเผาผลาญจากโปรตีนจากเนอ้ื สัตว์ หากรบั ประทานอาหารกลมุ่ นมี้ ากไตก็จะรับภาระท่างานมากขึน้  จา่ กดั การรบั ประทานเกลือหรืออาหารทีม่ ีรสเค็ม เนื่องจากไตต้องรบั ภาระขับเกลือส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเกลอื ยงั มผี ลต่อความดันโลหติ ท่าใหเ้ กิดความดันโลหติ สูง ทา่ ให้ควบคมุ ยากขึ้น  จา่ กัดอาหารมันโดยเฉพาะไขมันจากสตั ว์ ไข่แดง กะทิ และนา้่ มันพืชทม่ี ีกรดไขมันอ่มิ ตัวสูง เช่น นา่้ มันปาลม์ น้า่ มัน บวั เนย มาการนี หันไปใช้กรดไขมันไม่อ่ิมตัวสูงแทน เชน่ น่้ามนั ถัว่ เหลอื ง นา้่ มนั ดอกค่าฝอย และน่า้ มันมะกอก เป็นต้น  ดื่มนา้่ วันละ 6-8 แก้ว หรอื 2 ลติ รต่อวัน  ควบคุมน่้าหนักให้ไดม้ าตรฐาน หรือไม่ให้เกิดภาวะอ้วน  ออกก่าลงั กายอย่างน้อยวันละ 30 นาที อย่างน้อย 5 วนั ต่อสปั ดาห์ เช่น เดินเร็ว ปัน่ จักรยาน วา่ ยน้า่ เป็นตน้  หยดุ สูบบุหร่ี ลดหรือหยุดดม่ื แอลกอฮอล์  ตรวจวดั ความดนั อย่างสม่าเสมอ และตรวจสุขภาพเป็นประจา่ ทกุ ปี  พยายามหลีกเล่ียงความเครียดและผ่อนคลายอารมณ์ การชะลอความเสือ่ มของไต  ควบคมุ ความดันโลหิตให้อย่ทู ี่ 130/80 มิลลเิ มตรปรอท  ถา้ เปน็ เบาหวาน คุมระดับน่า้ ตาลในเลือดตา่ กวา่ 120 มก.เดซิลติ รหรือน่้าตาลเฉลยี่ สะสม (HBA1c) น้อยกวา่ 7.0  ถา้ เป็นโรคเกา๊ ท์ พยายามอย่าให้โรคกา่ เรบิ รักษาระดบั กรดยูริกในเลอื ดให้ปกติ  คมุ ระดับไขมนั ในเลือด ระดบั แอลดีแอลให้นอ้ ยกวา่ 100 มก.เดซิลติ ร  หลีกเล่ียงการใช้ยาแกป้ วดกระดูก ยาลูกกลอน และยาสมุนไพรที่ไมไ่ ด้การรับรอง ควรมาพบแพทย์เม่ือปว่ ย  งดสบู บหุ รี่และลดการดม่ื สุรา ควบคมุ น่า้ หนกั ตัวและออกก่าลงั กายสม่าเสมอ ค่าดชั นีมวลกาย(BMI)ใหน้ ้อยกวา่ 25  รับประทานโปรตนี หรอื เนอ้ื สตั วใ์ นสัดส่วนท่ีพอเหมาะ ตามระยะของโรคทแี่ พทย์หรอื นักโภชนบ่าบดั แนะน่า  หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม และอาหารไขมันที่มีกรดไขมันอม่ิ ตัวสูง เช่น ไขมันจากสตั ว์ ไขมันจากกะทิ เนย นา้่ มนั มะพร้าว ผลติ ภณั ฑ์นมเนยมาการีน และไขแ่ ดง เปน็ ต้น  น้่าดื่มประเมินตามสภาวะนา่้ ในรา่ งกาย เชน่ ถ้าบวมหรือมีน่้าท่วมปอด แนะนา่ ใหจ้ ่ากัดน้า่ ดื่ม เป็นต้น โดย อ.จิราภรณ์ เพียรประสิทธิ์ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี

ปนู แดงฆา่ ยุง อ.เสาวลักษณ์ เสียงนนั วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี ชลบุรี ยุงลายท่ีเป็นต้นเหตุไข้เลือดออกร้อยละ 95 เป็นยุงท่ีอยู่ในบ้านเรือน อีกร้อยละ 5 อยู่ตาม บรเิ วณสวน โดยยุงตัวเมียมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 45 วนั หลังผสมพันธุแ์ คค่ รั้งเดียว สามารถวางไข่ตัวละ 3-4 คร้ัง ครั้งละ 1,000-2,000 ฟอง ก่อนที่จะเข้า สู่ ฤ ดู ฝ น ซึ่ ง เป็ น ฤ ดู ก า ล ที่ มี ก า ร ร ะ บ า ด ข อ ง โ ร ค ไข้เลือดออกสูงท่ีสุดในการกาจัดยุงลาย ต้อง ช่วยกันดูแล ปิดฝาโอ่งน้ากินน้าใช้ เพ่ือป้องกัน ไม่ให้ยุงลายเข้าไปวางไข่ ส่วนในภาชนะเล็กๆ ในบ้านเรือน เช่น แจกัน ไม้ประดับ น้าท่ีอยู่ในจาน รองกระถางต้นไม้ น้าในเล้าไก่เล้ียงตามบ้าน ให้เปลี่ยนน้า เททิ้งทุก 7 วัน โดยเฉพาะจุดเส่ียงที่สุด คือในห้องน้า โดยท่ัวไปจะมีสภาพชื้น เย็น และมีมุมอับมืด จะเป็นที่ซ่อนตัวของยุงลายได้ จึงต้อง หม่ันดูว่ามีลูกน้ายุงลายหรือไม่ หากพบว่ามีแม้แค่ตัวเดียว ก็ให้ตักท้ิงไป หรือใช้น้าให้หมดไป และ ถ่ายน้าท้ิง ปูนแดง ท่ีเอาไว้ใช้กินหมาก หาซื้อได้ง่ายตาม ทอ้ งตลาด ใหน้ าปูนแดงมาผสมกบั น้าเปล่าสัดส่วน คือ ปูนแดง 40 กรัม ต่อน้าประมาณ 200 ลิตร นามาป้ัน เป็นก้อนกลมๆ เท่าลูกมะนาว แล้วนาไปใส่ในน้า อุปโภคได้เลย ยกตัวอย่าง น้า 1 โอ่งมังกรขนาดเล็กก็ ใส่ปูนแดง 2 ก้อน สาเหตุท่ีปูนแดงสามารถฆ่าลูกน้า ยุงลายได้ เพราะว่า ปูนแดงมีฤทธิ์เป็นด่าง เมื่อนาไป ใส่ในน้าแล้วจะทาให้ไข่ยุงลายฝ่อ และฆ่าลูกนา้ ยุงลาย ให้ตายได้ หลักการทางานจะคล้ายกับทรายอะเบท แต่ปูนแดงไม่ใช่สารเคมี และมีฤทธ์ิอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน ไม่ทาให้น้าเน่าเสียแต่อย่างใด แม้จะเผลอ นามาด่ืมก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะก็จะคล้ายกับน้าด่าง แต่ควรนามาใช้กับน้าอุปโภค มากกวา่ บรโิ ภค ทม่ี า: รัชนีกร คชั มา, จงรกั ประทมุ ทอง และยุทธพงษ์ ภกั ม.ี (2563). ผลของการใชป้ นู แดงในการควบคมุ กาจัดลูกน้ายุงลาย: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเปน็ ระบบ. วารสารวิชาการ สคร, 26(1), 5-13.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook