101 ประมาณ 4 เซนตเิ มตร ไมม่ สี าบด้านหลัง ตัวเสือ้ ไม่มเี กลด็ ไมร่ ัดรูป และไม่สวมเสื้อ ไหลต่ ก ไม่ใช้ผ้าดิบหรือลินนิ การสวมเสอื้ ต้องไม่ดึงขอบเส้ือออกจากเอวกระโปรงมา จนปดิ ทับ มองไม่เหน็ เข็มขัด ต้องสวมเสอื้ ซบั ในสขี าว ค. กระโปรง ใชผ้ ้าสีดำ� ด้านหน้าและหลงั จีบเปน็ ข้างละ 3 จบี หันจีบออก ด้านนอกความลึกของจบี ไม่นอ้ ยกว่า 1 นิว้ เย็บพับบนจีบจากใต้กระโปรงมาระหว่าง 5-10 เซนติเมตร และชายกระโปรงคลุมเขา่ เลยสะบ้าลงมาไมต่ �ำ ก่ ว่า 10 เซนตเิ มตร ง. รองเทา้ ใช้รองเทา้ นักเรยี นสีด�ำ แบบหวั มนมีสายรดั หลังเท้า ไม่มลี วดลาย ส้นสงู ไมเ่ กนิ 2 เซนตเิ มตร รองเท้าพละศกึ ษาใช้แบบสีขาวลว้ นชนิดผกู ไมม่ ลี วดลาย และทรี่ อ้ ยเชอื กต้องใหเ้ ปน็ สขี าว มีรรู ้อยเชอื ก 5-6 คู่ จ. ถุงเท้า ใชถ้ งุ เท้าสน้ั สีขาวแบบเรียบ ไม่มีลวดลาย จะพับหรือไมพ่ ับก็ได้ แต่ จะยาววดั จากตาตมุ่ จะตอ้ งไม่เกนิ และไมน่ ้อยกวา่ 3 นว้ิ หา้ มใช้ถุงเทา้ ทำ�ดว้ ยผ้าลกู ฟกู ชนิดหนาและให้พับถุงเท้าลงเหนือขอ้ เทา้ ฉ. การปกั - ปกั ชอ่ื –สกุล หน้าอกด้านซา้ ยตรงกับกระดุมเมด็ แรก ตวั อกั ษรสูง 1 เซนตเิ มตรดว้ ยไหมสี น�ำ เ้ งนิ - เหนอื ชื่อ-สกุลขนึ้ ไปปกั สัญลักษณ์ของคณะสดี ้วยด้ายหรือไหมตามสีของ คณะสเี ป็นรูปสเ่ี หลี่ยมผนื ผ้ากว้าง 0.5 เซนตเิ มตร ยาว 2 เซนติเมตร - เหนอื สัญลักษณข์ องคณะสีปักสญั ลักษณ์แสดงระดับช้นั เป็นดาว 5 แฉก ★ ด้วยดา้ ยหรอื ไหมสีนำ้�เงิน มเี สน้ ผา่ ศนู ย์กลาง 1 เซนตเิ มตร ระดบั ม.4 ปกั 1 ดาว ระดบั ม.5 ปกั 2 ดาว ระดบั ม.6 ปกั 3 ดาว - ปักอักษร ก.ว. สงู 1.5 เซนตเิ มตร หนา้ อกด้านขวาให้ตรงกับ ชอ่ื - สกุล ดา้ นซา้ ย เลขประจ�ำ ตวั นกั เรยี นเปน็ เลขไทยสูง 1 เซนติเมตรดว้ ยไหมสนี �้ำ เงนิ หา่ งจาก อกั ษร ก.ว. ลงมา 0.5 เซนตเิ มตร ขอ้ 6. เครอ่ื งแบบชุดพละ เคร่อื งแบบชุดพละ นกั เรยี นทุกคนต้องมีชุดพละตามทโี่ รงเรียนกำ�หนด โดย ใสใ่ นวันที่มีคาบคณะสีและวนั ที่มีคาบเรียนวิชาพลศึกษาเทา่ น้นั - ปกั ชอื่ -สกุลหน้าอกดา้ นขวาตรงกบั กระดมุ เมด็ ล่างสุด ตวั อกั ษรสูง
102 1 เซนตเิ มตร ดว้ ยดา้ ยหรือไหมสีขาว - ปักแถบสรี ูปสเ่ี หล่ยี มผนื ผ้า ด้วยดา้ ยหรือไหมตามคณะสี เหนอื ชื่อ – สกุล ขนาดสงู 0.5 เซนติเมตร ยาว 2.5 เซนติเมตร - นกั เรยี นชายมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ถุงเทา้ สนี ้�ำ ตาลแบบไมพ่ บั ขอบ รองเท้า ผา้ ใบสีน�้ำ ตาล - นกั เรียนชายมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ถุงเท้าสีขาวแบบเรียบ รองเท้าผา้ ใบ สดี ำ� - นกั เรยี นหญงิ มัธยมศกึ ษาตอนตน้ และตอนปลาย ถงุ เทา้ สขี าวแบบเรยี บ รองเทา้ ผ้าใบสีขาว ข้อ 7. เครอื่ งแบบลูกเสอื เนตรนารี และยุวกาชาด ให้ใช้ตามพระราช บัญญตั ิลูกเสือเนตรนารี และยวุ กาชาด และแต่งตามท่ีโรงเรยี นก�ำ หนด ข้อ 8. เครือ่ งแบบธรรมจารี สวมใส่วันอังคารทกุ สัปดาห์ เส้อื และกางเกงสีขาวตามโรงเรียนก�ำ หนด ปักช่อื -สกุลหนา้ อกด้านขวาตรงกับกระดมุ เมด็ ลา่ งสุด ตวั อักษรสงู 1 เซนติเมตร ดว้ ย ดา้ ยหรอื ไหมสีน้�ำ เงิน รองเท้าและถุงเทา้ สวมเหมือนเครอื่ งแบบชดุ พละ ขอ้ 9. กระเปา๋ นกั เรียน กระเปา๋ นักเรียนเปน็ สว่ นหนึ่งของเคร่ืองแบบนักเรยี นโดยโรงเรียนก�ำ หนดให้ ใช้กระเป๋า 2 แบบ ได้แก่ 9.1 กระเปา๋ เป้สะพาย ต้องมตี ราสัญลักษณข์ องโรงเรยี น และตอ้ งเป็นไปตาม แบบทโี่ รงเรียนกำ�หนด กระเป๋าเสริมตอ้ งใช้แบบมตี ราสัญลกั ษณ์ของโรงเรยี นเทา่ นัน้ (กรณีนกั เรียนใชก้ ระเป๋าเสริมต้องมีกระเป๋าเปส้ ะพายเปน็ หลัก) 9.2 ห้ามใช้ตัวหนีบ หนีบกระเปา๋ และหา้ มตดิ สต๊ิกเกอร์หรือเขียนสตี า่ ง ๆ ลง บนกระเปา๋ ขอ้ 10. การใชเ้ คร่อื งประดับ 10.1 ห้ามสวมแว่นตารปู แบบแปลก ๆ หรือแวน่ ตาแฟช่นั หรือสตี า่ ง ๆ กรอบแว่นตาทีใ่ ชไ้ ด้ คือ ขอบสีด�ำ ขอบสเี ทาแก่ หรือสีนำ้�ตาลไหม้ 10.2 หา้ มใชเ้ ครื่องประดับ อาภรณ์ ตา่ งหูแฟช่นั แหวน สร้อยคอ และก�ำ ไล
103 ขอ้ มอื ทุกชนดิ 10.3 ห้ามใช้นาฬกิ าข้อมอื ราคาแพงแบบแฟชัน่ หรอื นาฬกิ าสฉี ดู ฉาด และ อนุญาตให้ใช้นาฬกิ าสายคาดสีดำ�, สนี ้ำ�ตาล, สีเงนิ , สที อง เท่าน้นั ขอ้ 11 กรณีอนื่ ๆ 11.1 ห้ามนกั เรียนสักลายบนส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย (นอกรม่ ผ้า) เขียนคิ้ว ถาวร เสรมิ จมกู ทำ�ลกั ยมิ้ ระเบดิ หู 11.2 นกั เรยี นจะต้องแขวนบัตรประจำ�ตัวนกั เรียนทุกคน ข้อ 12. ครูผู้ใดพบเหน็ นักเรียนประพฤตผิ ิด ใหพ้ ิจารณาลงโทษตาม ความเหมาะสม เช่น ยึดของสง่ิ น้ัน ตัดคะแนนความประพฤติ พรอ้ มน�ำ สง่ิ ของทยี่ ดึ และใบตดั คะแนนความประพฤติสง่ กลุ่มงานกจิ การนกั เรยี นภายในวนั เดยี วกัน ข้อ 13 เรอื่ งใดท่ไี มไ่ ด้ระบุไว้ในระเบยี บนี้ หรือมปี ญั หาใด ๆ ขัดแยง้ ต่อ ระเบียบน้ใี หค้ ณะกรรมการกลมุ่ บรหิ ารงานกจิ การนักเรียนเปน็ ผวู้ นิ จิ ฉยั โดยความ เห็นชอบของผ้อู ำ�นวยการโรงเรียน ข้อ 14. ให้รองผอู้ ำ�นวยการโรงเรียนกลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการและงาน กจิ การนักเรยี นรักษาการให้เปน็ ไปตามระเบียบน้ี ประกาศ ณ วนั ที่ 31 มนี าคม พ.ศ.2566 (อภเิ ชษฐ์ ชมภู) ผอู้ ำ�นวยการโรงเรยี นกบินทร์วทิ ยา
104 เคร่อื งแบบการแต่งกายของนกั เรียน โรงเรยี นกบินทรว์ ทิ ยา
105 105
106 106
107 107
108 108
109 109
110 110
111 111
112 ระเบยี บโรงเรยี นกบินทรว์ ทิ ยา วา่ ด้วย คณะกรรมการเครอื ข่ายผู้ปกครอง พ.ศ. 2565 ……………………………………………………… เพื่อให้การบริหารและการจดั การเกี่ยวกบั คณะกรรมการเครอื ขา่ ยผปู้ กครอง เป็นไปอย่าง สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 โรงเรียน กบนิ ทร์วทิ ยา จงึ วางระเบยี บไว้ดังนี้ ขอ้ 1 ข้อระเบยี บนี้เรยี กวา่ “ระเบยี บวา่ ดว้ ยคณะกรรมการเครอื ข่าย ผปู้ กครอง พ.ศ. 2565 ข้อ 2 ข้อระเบียบนี้ให้ใชบ้ งั คบั ต้งั แต่วันถดั ไปจากวนั ประกาศเปน็ ต้น ขอ้ 3 ข้อบรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคำสั่งอื่นในส่วนที่ กำหนดไว้ในระเบยี บนหี้ รือซงึ่ ขดั แย้งกับระเบียบน้ี ใหใ้ ช้ระเบียบ นีแ้ ทน ขอ้ 4 ในระเบยี บวาระนี้ คำว่า “เครือข่าย” (Network) หมายความว่า การเข้ามามีบทบาท ในฐานะการสร้างความร่วมมือแนวร่วม และหรือการมีส่วนร่วมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการพัฒนาการศึกษาของบุคคลองค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น ซึ่งคำว่า “เครือข่าย” ได้ถูกมาใช้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อที่จะให้เกิดกลไกความร่วมมือในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนร่วมกันระหว่าง ผู้ปกครองกบั สถานศึกษา คำว่า “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการเครอื ข่ายผปู้ กครอง ระดบั สถานศึกษา ข้อ 5 วัตถปุ ระสงค์ของคณะกรรมการเครอื ขา่ ยผู้ปกครอง
113 5.1 เพื่อการดำเนินงานสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบ้านและ สถานศึกษา 5.2 เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมพัฒนา พฤตกิ รรมผู้เรยี น 5.3 ให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์และแนวคิด ระหวา่ งผู้ปกครอง ครู และ นกั เรยี นในสถานศกึ ษา 5.4 เป็นการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นความรู้เป็นประสบการณ์ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณี และละเว้น อบายมุขท้ังปวงดว้ ย กับเพอ่ื สง่ เสริมความสามัคคีชว่ ยเหลือเก้ือกูลซึ่งกันและ กัน 5.5 เพื่อให้มีการติดต่อสื่อสารกับพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่างรวดเร็ว และมีประสทิ ธิภาพ ขอ้ 6 ระเบียบและหนา้ ท่ขี องคณะกรรมการเครอื ขา่ ยผปู้ กครอง 6. 1 คณะกรรมการเครอื ข่ายผู้ปกครองประกอบดว้ ย (1) คณะกรรมการระดับห้องเรียนมีจำนวนไม่น้อยกวา่ 5 คน ประกอบดว้ ย ประธาน รองประธาน เลขานกุ าร นายทะเบียนและประชาสมั พันธ์ โดยการคัดเลือกจากผู้ปกครองแตล่ ะหอ้ งเรียน (2) คณะกรรมการระดับชั้นเรียนประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เลขานุการ นายทะเบียน และประชาสัมพันธ์ โดยการคัดเลือกจาก คณะกรรมการระดับห้องเรียนของชั้นเรียนนั้นๆ ระดับห้องละ 2 คน ผู้แทนของ ระดบั ช้ันเรียน ประกอบด้วยประธานและเลขานุการของกรรมการระดบั หอ้ งเรียน (3) คณะกรรมการระดับสถานศึกษา ประกอบด้วย คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองท้ังสิ้น (4) การไดม้ าซง่ึ คณะกรรมการระดับสถานศกึ ษา ได้มาโดย การคดั เลือกมาจากประธาน และเลขานุการแต่ละระดบั ชัน้ เรียนทั้งหมด จำนวน 12
114 คน ประกอบด้วย ประธาน รองประธานคนที่ 1 รองประธานคนที่ 2 เลขานุการ ประชาสัมพันธ์ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ นายทะเบียน ปฏิคม และกรรมการที่เหลือ เป็นกรรมการกลาง ประธานเลอื กผู้ปกครองที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิอีก 1 คน เพื่อให้ครบ จำนวน 13 คน ตามข้อ (3) 6.2 คณุ สมบตั ิของกรรมการเครอื ขา่ ยผปู้ กครอง (1) ประกอบอาชีพสจุ ริต มีท่ีอยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งแนน่ อน (2) บรรลนุ ติ ิภาวะ และมีสถานภาพเป็นผู้ปกครองนักเรียน ในปจั จบุ ันในสถานศึกษาโดยชอบธรรมตามกฎหมาย (3) ไม่เปน็ โรคติดต่อรา้ ยแรง หรือโรคทส่ี ังคมรงั เกียจ 6.3 การพน้ จากตำแหน่งของคณะกรรมการเครือข่ายผปู้ กครอง (1) ตาย (2) ลาออก (3) ขาดคุณสมบัตติ ามท่ีได้กำหนดไว้ในข้อ 6.2 6.4 วาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ทุกระดับมีวาระ 1 ปี นับตั้งแต่วันท่ีไดร้ ับการคดั เลือกสิ้นสดุ ลงในวันที่คณะกรรมการ เครือขา่ ยผูป้ กครองชดุ ใหม่ไดร้ ับการคดั เลือก ข้อ 7 บทบาทและหน้าท่ีของคณะกรรมการเครือขา่ ยผปู้ กครอง 7.1 ร่วมสนบั สนุนกิจกรรมของสถานศกึ ษาโดยผา่ นความเห็นชอบ จากผูบ้ ริหารสถานศึกษา 7.2 ร่วมสรา้ งสายใยเชื่อมสัมพนั ธ์อันดีระหว่างครแู ละผปู้ กครอง 7.3 สนบั สนุนการพัฒนาการเรยี นการสอนของสถานศกึ ษา 7.4 ให้ข้อคิดเห็น และเสนอแนะต่อสถานศึกษา ในเรื่องต่างๆ ที่ จะเป็นประโยชน์แกน่ ักเรยี นและสถานศกึ ษา 7.5 จัดการประชุมกรรมการและผู้ปกครองในห้องเรียนตามความ เหมาะสมอย่างน้อย 1 คร้ัง
115 ความประพฤตนิ ักเรียน ใหน้ กั เรยี นลงช่ือรบั ทราบและนำไปให้ผู้ปกครอง ครทู ป่ี รึกษา ลงช่อื รับทราบตามลำดับและนำส่งคืนงานกจิ การนักเรยี น ข้อที่ 8 นักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนให้ดำเนินการตามกติกาการปฏิบัติ และ บทลงโทษสำหรบั นกั เรยี นทถ่ี กู ตัดคะแนน ขอ้ ท่ี 9 เมือ่ นักเรยี นถกู ตดั คะแนน 30 คะแนน ทำทณั ฑ์บนและให้นักเรียน ทำกิจกรรมพัฒนาตนเองภายในสถานศึกษาตามที่โรงเรียนกำหนด และผู้ปกครอง ตอ้ งมารบั ทราบ ข้อที่ 10 ถูกตัดคะแนน 60 คะแนน ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ปกครองตามที่โรงเรียนเห็นสมควร และ ผปู้ กครองต้องมารบั ทราบ ข้อที่ 11 ถูกตัดคะแนน 90 คะแนนขึ้นไป ถือว่านักเรียนคนนั้นมีความ ประพฤติไม่เหมาะสม คณะกรรมการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนอาจขออนุมัติ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น เพือ่ จัดหาที่เรียนใหม่ ข้อที่ 12 ถูกตัดคะแนน 90 คะแนนขึ้นไป ถือว่านักเรียนคนนั้นมีความ ประพฤติไม่เหมาะสม คณะกรรมการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนหรือผู้อำนวยการ โรงเรียน อาจพจิ ารณาอนุมัติเพอ่ื จดั หาท่เี รียนใหม่ และผปู้ กครองต้องมารับทราบ ข้อที่ 13 เรื่องใดที่ไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบข้อบังคับนี้ หรือมีปัญหาใดๆ ขัดแย้งต่อกฎระเบียบข้อบังคับให้คณะกรรมการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน เป็นผู้ วินิจฉยั โดยความเห็นชอบของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ข้อที่ 14 ให้รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการและกิจการนักเรียน รกั ษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วนั ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 (อภิเชษฐ์ ชมภ)ู ผอู้ ำนวยการโรงเรียนกบินทร์วิทยา
116 ระเบยี บโรงเรียนกบินทรว์ ทิ ยา วา่ ดว้ ย การนำ�โทรศพั ทม์ อื ถือมาโรงเรยี น พ.ศ. 2565 ด้วยโรงเรยี นกบินทร์วทิ ยาได้มรี ะเบียบห้ามนกั เรยี นทกุ คนน�ำ โทรศัพทม์ ือถอื มาโรงเรยี น แตเ่ นอื่ งจากมนี กั เรียนและผปู้ กครองบางสว่ นมีความจ�ำ เปน็ ต้องใชโ้ ทรศัพท์มือถือเพอื่ ตดิ ต่อระหว่างนักเรียนกบั ผปู้ กครอง โรงเรียนจงึ ได้กำ�หนดระเบียบวา่ ดว้ ยการน�ำ โทรศัพทม์ ือถือมา โรงเรียนดงั นี้ ขอ้ 1 ระเบียบน้ีเรียกว่าระเบยี บโรงเรยี นกบนิ ทร์วิทยาว่าด้วยการนำ�โทรศัพท์ มอื ถอื มาโรงเรยี น พ.ศ. 2565 ข้อ 2 ใหใ้ ชร้ ะเบียบนี้ตั้งแตภ่ าคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 เปน็ ตน้ ไป ให้ ยกเลิกค�ำ สงั่ ระเบยี บอ่นื ท่ขี ัดแย้งกนั และใชร้ ะเบยี บนี้แทน ขอ้ 3 นักเรียนคนใดไม่ปฏบิ ัตติ ามระเบียบข้อบังคับ จะต้องถูกพิจารณาตดั คะแนนความประพฤติหรอื ไดร้ ับการลงโทษตามความเหมาะสม ขอ้ 4 อนญุ าตให้นกั เรียนนำ�โทรศพั ท์มอื ถือมาโรงเรียน และอนุญาตให้ใชใ้ น เวลาทกี่ �ำ หนดเว้นแต่ได้รบั อนุญาตจากครปู ระจำ�ชน้ั /ครปู ระจำ�วชิ า ขอ้ 5 ครพู บนกั เรยี นประพฤติผิด สามารถยดึ โทรศพั ท์มอื ถอื และส่งรายชอ่ื ท่ี หัวหน้าระดบั เพื่อดำ�เนนิ การตดั คะแนนความประพฤติ ขอ้ 6 เรือ่ งใดทีไ่ มไ่ ด้ระบไุ วใ้ นระเบยี บขอ้ บังคับนี้ หรือมปี ญั หาใด ๆขดั แยง้ ตอ่ ระเบียบน้ี ให้คณะกรรมการกล่มุ บรหิ ารกจิ การนักเรยี นเป็นผวู้ ินจิ ฉัยโดยความเหน็ ชอบของผู้ อำ�นวยการโรงเรียน ข้อ 7 ใหร้ องผอู้ ำ�นวยการกลุ่มบรหิ ารกิจการนกั เรยี นรักษาการให้เปน็ ไปตาม ระเบียบน้ี ประกาศ ณ วนั ท่ี 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 (นายอภิเชษฐ์ ชมภู) ผู้อำ�นวยการโรงเรียนกบนิ ทร์วทิ ยา
117 ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง การส่งเดก็ เขา้ เรยี นในสถานศกึ ษา พ.ศ. 2546 …………………………………………. อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาภาค บังคับ พ.ศ. 2545 กระทรวงศึกษาธิการจึงออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การสง่ เดก็ เขา้ เรียนในสถานศกึ ษาไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ขอ้ 1 ประกาศนี้ คำว่า “สถานศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาทีจ่ ัดการศึกษาภาคบงั คับ “เด็ก” หมายความวา่ เด็กซึง่ มีอายยุ า่ งเขา้ ปที เี่ จด็ จนถงึ อายุย่างเขา้ ปที ีส่ บิ หก เวน้ แตเ่ ด็กที่สอบได้ชนั้ ปที เี่ ก้าของการศึกษาภาคบังคับแลว้ “ผู้ปกครอง” หมายความวา่ บดิ ามารดา หรือบดิ า หรอื มารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถึงบุคคลท่ีเด็กอย่ดู ้วยเปน็ ประจำหรือท่ีเดก็ อย่รู ับใช้การงาน “คณะกรรมการเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา” หมายความวา่ คณะกรรมการ เขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาตามกฎหมายว่าดว้ ยการศึกษาแหง่ ชาติ “องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ” หมายความวา่ องคก์ รปกครอง สว่ นท้องถิน่ ท่ีมีสถานศกึ ษาอยใู่ นสังกดั “พนักงานเจ้าหนา้ ท่ี” หมายความวา่ ผซู้ ึ่งไดร้ ับแตง่ ตง้ั จาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง แต่งตั้ง พนกั งานเจ้าหน้าทีต่ ามพระราชบญั ญัติการศึกษาภาคบงั คบั พ.ศ. 2545 ข้อ 2 ให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาที่กำหนดในวันแรกของ การเปิดเรียนภาคต้น
118 ข้อ 3 ถ้าผู้ปกครองยังไม่ได้ส่งเด็กเข้าเรียนภายในเจ็ดวันนับแต่วันแรกของ การเปิดเรียนภาคต้น ถ้าสถานศึกษายังมิได้รับเด็กเข้าเรียน ให้สถานศึกษาแจ้งเตือน ให้ผู้ปกครองทราบเพื่อนำเด็กมาเข้าเรียน และให้รายงานคณะกรรมการเขตพื้นท่ี การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ เมื่อคณะกรรมการเขตพื้นที่ การศกึ ษาหรือองคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ ได้รบั รายงานจากสถานศกึ ษาตาม วรรค สองแล้ว ให้ทำหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาทันที ถ้าไม่ส่งเด็กเข้าเรียน จะมีความผิดตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษา ภาคบังคับ พ.ศ. 2545 คอื ตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กินหน่ึงพันบาท ข้อ 4 การผ่อนผนั เดก็ เขา้ เรียนกอ่ นหรอื หลงั อายุตามเกณฑ์การศึกษา ภาค บังคับ ให้ผู้ปกครองส่งคำร้องต่อสถานศึกษานั้นๆ โดยตรง เพื่อให้สถานศึกษา พิจารณาแต่ต้องเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษา ภาคบงั คับ พ.ศ. 2546 ซึง่ ประกาศ ณ วนั ที่ 13 มถิ ุนายน พ.ศ. 2546 ข้อ 5 โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เด็กจะหยุดเรียนเกินกว่าที่กำหนดไว้ ดงั ตอ่ ไปนไี้ มไ่ ด้ (1) หยดุ เรียนเกินเจ็ดวันในหนึง่ เดือน กรณีเด็กทห่ี ยดุ เรียนเกิน เจ็ดวนั ในหนึ่งเดือน ใหส้ ถานศกึ ษามหี นังสือแจง้ ให้ผปู้ กครองสง่ เดก็ เข้าเรียนโดยพลนั (2) หยุดเรยี นติดตอ่ กนั เกินห้าวนั กรณีเด็กหยุดเรียนติดต่อกันเกนิ ห้าวนั ใหส้ ถานศึกษามหี นังสือแจง้ ใหผ้ ู้ปกครองสง่ เด็กเข้าเรียนโดยพลัน กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเด็กเข้าเรียนตามข้อ 5 (1) และ (2) สถานศึกษาต้องรายงานให้ คณะกรรมการเขตพน้ื ที่การศึกษา หรือองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ ทราบแล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการให้เด็กเข้าเรียนหรือดำเนินการตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติ การศึกษาภาคบังคบั พ.ศ. 2545 ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กินหนึง่ หมน่ื บาท ข้อ 6 กรณีย้ายเด็กไปเรียนในสถานศึกษาอีกแห่งหนึ่ง ให้ผู้ปกครองแจ้ง ยา้ ยตอ่ สถานศึกษา เพื่อนำหลกั ฐานการเรยี นไปแสดงตอ่ สถานศกึ ษาทรี่ ับยา้ ยเด็ก
119 และใหส้ ถานศึกษาท่รี ับย้ายเด็กแจ้งการรับยา้ ยเด็กไปให้สถานศึกษาเดิมทราบ พร้อม ทั้งรายงานต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัด และให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งไปยัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตท้องที่ที่ย้าย เด็กออกได้ทราบ เพ่อื จำหนา่ ยออกจากทะเบยี น ข้อ 7 ให้สถานศึกษารายงานจำนวนเด็กในเกณฑ์บังคับที่มาเข้าเรียนเป็น ประจำทุกปีในวนั ทำการแรกของเดอื นมิถุนายน ตอ่ คณะกรรมการเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ข้อ 8 ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน รักษาการใหเ้ ป็นไป ตามประกาศน้ี ประกาศ ณ วันท่ี 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 อดิศัย โพธารามกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร
120
121
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121