Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือนักเรียน64

คู่มือนักเรียน64

Published by Suntareeya Laongpow, 2022-05-22 04:50:35

Description: คู่มือนักเรียนโรงเรียนกบินทร์วิทยา 64

Search

Read the Text Version

101 ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธิการ วา่ ดว้ ย การลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 .............................................................. อาศยั อำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 65 แหง่ พระราชบัญญตั ิ ค้มุ ครองเด็กพ.ศ. 2546 รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธิการ จงึ วางระเบียบว่าดว้ ย การลงโทษนักเรียนและนักศกึ ษาไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ข้อ 1 ระเบยี บนี้เรียกวา่ “ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร วา่ ด้วย การลงโทษนักเรยี นและนกั ศกึ ษา พ.ศ. 2548” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นตน้ ไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียน หรือนกั ศกึ ษาพ.ศ. 2543 ข้อ 4 ในระเบยี บน้ี “ผ้บู รหิ ารโรงเรียนหรือสถานศึกษา” หมายความวา่ ครใู หญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการ อธิการบดี หรือหัวหน้าของโรงเรียนหรือสถานศึกษาหรือตำแหน่ง ทเี่ รียกชื่ออย่างอน่ื ของโรงเรยี นหรอื สถานศกึ ษาน้ัน “กระทำความผิด” หมายความว่า การที่นักเรียนหรือนักศึกษาประพฤติ ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษา หรือของกระทรวงศึกษาธิการ หรือ กฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติของนกั เรยี นและนักศึกษา “การลงโทษ” หมายความว่า การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำ ความผดิ โดยมคี วามม่งุ หมายเพ่ือการอบรมสั่งสอน ขอ้ 5 โทษท่ีจะลงโทษแก่นักเรยี นหรอื นักศึกษาที่กระทำความผดิ มี 4 สถาน (1) ว่ากล่าวตกั เตอื น

102 (2) ทำทณั ฑบ์ น (3) ตดั คะแนนความประพฤติ (4) ทำกจิ กรรมเพ่ือให้ปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรม ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกล่ันแกลง้ หรอื ลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท โดยใหค้ ำนึงถึงอายุนักเรียนหรือ นักศึกษาและความร้ายแรงของพฤติการณป์ ระกอบการลงโทษดว้ ย การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสั ยและ ความประพฤติไมด่ ขี องนกั เรยี นหรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิด และกลบั ประพฤติ ตนในทางทีด่ ตี อ่ ไป ให้ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา หรือผู้ที่ผู้บริหารโรงเรียนหรือ สถานศึกษามอบหมายหรอื เป็นผู้มีอำนาจในการลงโทษนักเรียน นักศึกษา ข้อ 7 การว่ากล่าวตักเตือน ใช้ในกรณีนักเรียนหรือนักศึกษากระทำ ความผดิ ไมร่ า้ ยแรง ข้อ 8 การทำทัณฑ์บนใช้ในกรณีนักเรียนหรือนักศึกษาที่ประพฤติตน ไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียนหรือนักศึกษา ตามกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติ นักเรียนและนักศึกษาหรือกรณีทำเสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ข องสถานศึกษา หรือฝ่าฝืนระเบียบของสถานศึกษา หรือได้รับโทษว่ากล่าวตักเตือนแล้ว แต่ยังไม่ เข็ดหลาบ การทำทัณฑ์บนให้ทำเป็นหนังสือ และเชิญบิดามารดาหรือผู้ปกครองมา บันทึกรบั ทราบความผิดและรบั รองการทำทัณฑ์บนไว้ดว้ ย ข้อ 9 การตัดคะแนนความประพฤติ ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วย การตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนและนักศึกษาของแต่ละสถานศึกษากำหนด และให้ทำบนั ทึกขอ้ มลู ไวเ้ ป็นหลักฐาน

103 ข้อ 10 ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้ในกรณีที่นักเรียนและ นักศึกษากระทำความผิดที่สมควรต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การจัดกิจกรรม ให้เปน็ ไปตามแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ข้อ 11 ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี และให้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปญั หาเก่ยี วกับการปฏบิ ัติตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วนั ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548 อดศิ ัย โพธารามิก รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร

104 ระเบยี บโรงเรยี นกบินทร์วิทยา วา่ ดว้ ยการควบคุมความประพฤตินกั เรียน พ.ศ. 2563 .............................................................. ดว้ ยโรงเรยี นกบนิ ทร์วทิ ยาได้ปรบั ปรุงระเบียบของโรงเรยี น ว่าดว้ ย การควบคุมความประพฤตินักเรียน เพื่อส่งเสริมความมีระเบียบวินัยและพัฒนา คุณธรรม จริยธรรมนักเรียนให้สามารถอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุข โรงเรียน จึงวางระเบยี บวา่ ดว้ ยการควบคุมความประพฤตินักเรียน ดังต่อไปน้ี ข้อท่ี 1 ระเบยี บนเ้ี รยี กว่า ระเบียบโรงเรียนกบินทรว์ ิทยา วา่ ดว้ ย การควบคมุ ความประพฤตนิ ักเรียน พ.ศ. 2563 ข้อที่ 2 ให้ใช้ระเบียบนี้ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 เป็นต้น ไป ให้ยกเลิกคำสั่งระเบียบใช้บังคับของโรงเรียนอื่นที่ขัดแย้งกันและให้ใช้ระเบียบนี้ แทน ข้อท่ี 3 นักเรยี นคนใดฝ่าฝืนระเบยี บ ขอ้ บังคับ หรอื ประพฤติตน ไม่เหมาะสมแกก่ ารเป็นนักเรียนท่ีดจี ะเป็นดว้ ยเจตนาหรือไม่กต็ าม ถอื ว่าเปน็ ผู้มีความคิด จะต้องถูกตัดคะแนนความประพฤติหรือได้รับการลงโทษตามที่กำหนด ไวใ้ นระเบียบนี้ ข้อที่ 4 คะแนนความประพฤติเป็นเครื่องวัดและติดตามพฤติกรรมนักเรียน ไม่เกี่ยวขอ้ งกับการวัดผลการเรียน ข้อที่ 5 นักเรียนแต่ละคนจะมีคะแนนความประพฤติ 100 คะแนน ตลอด 3 ปีการศกึ ษา ข้อท่ี 6 เกณฑก์ ารเพิ่มและตัดคะแนนความประพฤติให้เปน็ ไปตามระเบียบ บนั ทกึ พฤตกิ รรมนักเรียน ข้อที่ 7 ครูผู้ใดพบนักเรียนประพฤติผิด ให้แจ้งรายชื่อที่งานกิจการนักเรียน เพื่อดำเนินการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนไปตามเกณฑ์ โดยใช้บัตรคะแนน

105 ความประพฤตินักเรียน ใหน้ ักเรยี นลงชือ่ รบั ทราบและนำไปให้ผปู้ กครอง ครทู ี่ปรึกษา ลงชอื่ รับทราบตามลำดับและนำสง่ คืนงานกจิ การนกั เรยี น ข้อที่ 8 นักเรียนคนใดถูกตัดคะแนนให้ดำเนินการตามกติกาการปฏิบัติ และ บทลงโทษสำหรับนักเรียนทีถ่ ูกตัดคะแนน ข้อท่ี 9 เมอื่ นักเรียนถูกตัดคะแนน 30 คะแนน ทำทณั ฑบ์ นและให้นักเรียน ทำกิจกรรมพัฒนาตนเองภายในสถานศึกษาตามที่โรงเรียนกำหนด และผู้ปกครอง ต้องมารับทราบ ข้อที่ 10 ถูกตัดคะแนน 60 คะแนน ทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ปกครองตามที่โรงเรียนเห็นสมควร และ ผปู้ กครองตอ้ งมารบั ทราบ ข้อที่ 11 ถูกตัดคะแนน 90 คะแนนขึ้นไป ถือว่านักเรียนคนนั้นมีความ ประพฤติไม่เหมาะสม คณะกรรมการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนอาจขออนุมัติ ผู้อำนวยการโรงเรยี น เพือ่ จดั หาท่ีเรยี นใหม่ ข้อที่ 12 ถูกตัดคะแนน 90 คะแนนขึ้นไป ถือว่านักเรียนคนนั้นมีความ ประพฤติไม่เหมาะสม คณะกรรมการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนหรือผู้อำนวยการ โรงเรียน อาจพจิ ารณาอนมุ ัติเพื่อจดั หาที่เรียนใหม่ และผู้ปกครองตอ้ งมารับทราบ ข้อที่ 13 เรื่องใดที่ไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบข้อบังคับนี้ หรือมีปัญหาใดๆ ขัดแย้งต่อกฎระเบียบข้อบังคับให้คณะกรรมการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน เป็นผู้ วนิ จิ ฉัยโดยความเหน็ ชอบของผู้อำนวยการโรงเรียน ข้อที่ 14 ให้รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการและกิจการนักเรียน รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี ประกาศ ณ วันท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 วา่ ทรี่ ้อยตรี (ธงชยั ก้อนสันทัด) ผู้อำนวยการโรงเรียนกบินทร์วทิ ยา

106 โรงเรยี นกบินทรว์ ิทยา เกณฑ์การเพมิ่ – ตัด คะแนนความประพฤตนิ กั เรยี น การเพิม่ คะแนนความประพฤติให้นกั เรยี น 1. นกั เรียนมผี ลการเรยี นดี 1.1 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1, 2, 3 (ผลการเรยี นรายป)ี 1.1.1 ผลคะแนนเฉลี่ย 3.00 – 3.39 ได้คะแนน 14 คะแนน 1.1.2 ผลคะแนนเฉลยี่ 3.40 – 3.59 ได้คะแนน 16 คะแนน 1.1.3 ผลคะแนนเฉลีย่ 3.60 – 3.79 ได้คะแนน 18 คะแนน 1.1.4 ผลคะแนนเฉลีย่ 3.80 – 4.00 ไดค้ ะแนน 20 คะแนน 1.2 ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4, 5, 6 (ผลการเรยี นรายภาค) 1.1.1 ผลคะแนนเฉล่ยี 3.00 – 3.39 ได้คะแนน 14 คะแนน 1.1.2 ผลคะแนนเฉลีย่ 3.40 – 3.59 ไดค้ ะแนน 16 คะแนน 1.1.3 ผลคะแนนเฉลยี่ 3.60 – 3.79 ไดค้ ะแนน 18 คะแนน 1.1.4 ผลคะแนนเฉลย่ี 3.80 – 4.00 ได้คะแนน 20 คะแนน 2. นกั เรียนทชี่ นะการแข่งขัน 2.1 ชนะรางวัลระดบั ประเทศ รางวัลที่ 1 ได้คะแนน 30 คะแนน รางวัลท่ี 2 ได้คะแนน 28 คะแนน รางวลั ที่ 3 ไดค้ ะแนน 26 คะแนน รางวัลชมเชย ได้คะแนน 24 คะแนน 2.2 ชนะรางวลั ระดับเขต/ภาค รางวลั ท่ี 1 ไดค้ ะแนน 25 คะแนน รางวัลที่ 2 ไดค้ ะแนน 23 คะแนน รางวลั ที่ 3 ได้คะแนน 21 คะแนน

2.3 ชนะรางวลั ระดับจังหวัด 107 รางวัลที่ 1 ได้คะแนน 20 คะแนน รางวัลท่ี 2 ไดค้ ะแนน 17 คะแนน รางวลั ที่ 3 ได้คะแนน 13 คะแนน รางวัลชมเชย ไดค้ ะแนน 9 คะแนน 2.4 ชนะรางวลั ระดบั โรงเรยี น รางวัลท่ี 1 ได้คะแนน 10 คะแนน รางวลั ที่ 2 ไดค้ ะแนน 9 คะแนน รางวลั ท่ี 3 ไดค้ ะแนน 7 คะแนน รางวัลชมเชย ได้คะแนน 5 คะแนน 2.5 เข้ารว่ มแข่งขันในและนอกโรงเรียน ไดค้ ะแนน 5 คะแนน แลว้ ไม่ได้รบั รางวัล 3. การรว่ มกจิ กรรมนอกโรงเรยี น 3.1 สมคั รเขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีโรงเรยี นขอความรว่ มมอื กิจกรรมภาคกลางคนื ไดค้ ะแนน 10 คะแนน กิจกรรมภาคกลางวนั ไดค้ ะแนน 5 คะแนน 4. ความรบั ผดิ ชอบในโรงเรยี น (คะแนนเปน็ รายปี) 4.1 ประธานนกั เรยี น ไดค้ ะแนน 20 คะแนน 4.2 ประธานคณะสี ได้คะแนน 15 คะแนน 4.3 คณะกรรมการนักเรียน ได้คะแนน 10 คะแนน 4.4 คณะกรรมการสี ได้คะแนน 5 คะแนน 4.5 หวั หนา้ หอ้ งเรยี น ได้คะแนน 10 คะแนน 4.6 เจา้ หน้าทอี น่ื ๆ ไดค้ ะแนน 5 คะแนน 5. การทำความดีอืน่ ๆที่ได้รับการยอมรับ เช่น เกบ็ เงนิ ได้ เก็บของได้ ฯลฯ 5.1 ทำความดีในหรอื นอกสถานศึกษา ไดค้ ะแนน 5 – 20 คะแนน

108 รางวัลตอบแทนสำหรบั นกั เรียนทไ่ี ดผ้ ลคะแนน ดี – ดีเด่น นกั เรยี นทุกคนมคี ะแนนเรมิ่ ตน้ 100 คะแนน 1. นกั เรยี นทไ่ี ด้คะแนนรวมเม่ือส้นิ ปีการศึกษา ได้คะแนน 150 – 165 คะแนน ได้รบั เกยี รติบัตร ระดับ เหรยี ญทองแดง 2. นกั เรยี นท่ีไดค้ ะแนนรวมเม่ือสน้ิ ปีการศึกษา ได้คะแนน 166 – 175 คะแนน ไดร้ บั เกียรติบตั ร ระดับ เหรยี ญเงิน 3. นกั เรียนท่ีได้คะแนนรวมเม่อื สิ้นปีการศึกษา ไดค้ ะแนน 176 – 199 คะแนน ได้รบั เกียรติบัตร ระดับ เหรียญทอง 4. นักเรียนทไ่ี ด้คะแนนรวมเมือ่ สิ้นปีการศึกษา ได้คะแนน 200 คะแนนขนึ้ ไป ได้รบั โล่เกยี รตยิ ศ 5. นักเรียนทจ่ี ะไดร้ ับรางวัลในข้อ 1 – 3 5.1 จะต้องไมเ่ คยถกู ตัดคะแนนในฐานความผดิ สถานหนกั 5.2 จะตอ้ งไมท่ ำความผิด ถกู ตัดคะแนนเกนิ กว่า 3 คร้ัง การตัดคะแนนความประพฤตนิ กั เรยี น 1. ความผดิ สถานหนัก (ความผิดทีผ่ ดิ กฎหมาย และทำใหโ้ รเรียนเสยี หายอย่าง ร้ายแรง) 1.1 พกพาอาวธุ หกั คะแนน 30 คะแนน 1.2 ประพฤติตนไมเ่ หมาะสมดา้ นชู้สาว หักคะแนน 30 คะแนน 1.3 ประพฤติตนสรา้ งความเส่อื มเสีย หกั คะแนน 30 คะแนน ชอ่ื เสยี งโรงเรียน 1.4 นำบคุ คลภายนอกโรงเรียน หกั คะแนน 30 คะแนน มาก่อการทะเลาะววิ าทในโรงเรยี น 1.5 กอ่ การววิ าทนอกโรงเรียน / ในโรงเรยี น หกั คะแนน 30 คะแนน 1.6 ลักขโมย หักคะแนน 30 คะแนน 1.7 พกพา/จำหนา่ ยสงิ่ เสพตดิ หกั คะแนน 30 คะแนน

109 1.8 แสดงกิริยาก้าวรา้ วกับครู หกั คะแนน 30 คะแนน 1.9 ครอบครอง/นำเขา้ เครอ่ื งสบู บหุ ร่ีไฟฟ้า หักคะแนน 30 คะแนน เข้ามาในสถานศึกษา/สูบบุหรี่ไฟฟา้ ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา 2. ความผิดปานกลาง (พจิ ารณาจากเจตนาของผู้กระทำผดิ ) 2.1 หนอี อกนอกโรงเรียน หักคะแนน 20 คะแนน 2.2 ทำลายทรัพยส์ ินของผู้อืน่ หรือของโรงเรียน หกั คะแนน 20 คะแนน 2.3 เขา้ ในสถานท่ี ท่ีไมเ่ หมาะสม หกั คะแนน 20 คะแนน แกก่ ารเป็นนกั เรยี น 2.4 กลั่นแกล้ง บงั คบั ขู่เข็ญ ผทู้ ่ีออ่ นแอกวา่ หักคะแนน 20 คะแนน 2.5 นำปะทัด ดอกไม้ไฟมาเลน่ ในโรงเรยี น หักคะแนน 20 คะแนน 2.6 ปลอมรายชอ่ื ครู/ผปู้ กครอง หักคะแนน 20 คะแนน 2.7 เล่นการพนนั ทุกชนิด หกั คะแนน 20 คะแนน 2.8 แสดงกริ ิยาไมเ่ หมาะสมในที่สาธารณะ หกั คะแนน 20 คะแนน 2.9 หนีชวั่ โมงเรียน หักคะแนน 20 คะแนน 2.10 การแต่งกายผิดระเบียบท้งั ใน หักคะแนน 20 คะแนน และนอกสถานศกึ ษา 2.11 ไม่เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีทางโรงเรยี นจดั หกั คะแนน 20 คะแนน 2.12 ขาดเรียนโดยไม่แจง้ เหตุเกนิ 3 วนั หกั คะแนน 20 คะแนน 2.13 ไม่เข้าโฮมรูม ประชุม อบรม หักคะแนน 20 คะแนน 2.14 มาสาย เขา้ เรยี นช้า เข้าประชมุ สาย หกั คะแนน 20 คะแนน 2.15 กระเป๋าผิดระเบยี บ หักคะแนน 20 คะแนน 2.16 ใชโ้ ทรศัพท์นอกเวลาทก่ี ำหนด หกั คะแนน 20 คะแนน 2.17 นกั เรยี นมาสาย หักคะแนน 20 คะแนน 2.18 จำหนา่ ย/ครอบครองบุหร่ี หักคะแนน 20 คะแนน

110 2.19 นำเครือ่ งดื่มท่มี แี อลกอฮอลเ์ ขา้ มาใน หกั คะแนน 20 คะแนน สถานศึกษา/ด่ืมเคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล์ทงั้ ภายในและภายนอกสถานศึกษา 2.20 การถา่ ยคลิป/โพสต์/เผยแพรค่ ลปิ หักคะแนน 20 คะแนน หรอื ข้อความทสี่ รา้ งความเสอื่ มเสียตอ่ โรงเรยี น 2.21 ไม่นำผู้ปกครองมาพบ หกั คะแนน 20 คะแนน เม่อื ได้รับหนังสือแจง้ เชญิ ผู้ปกครอง 2.22 มรี อยสักบนส่วนต่างๆของร่างกาย(นอกรม่ ผ้า) หักคะแนน 20 คะแนน เขียนค้วิ ถาวร เสริมจมูก ทำลกั ยิม้ ระเบิดหู 2.23 นำอาหารและสินคา้ เขา้ มาจำหนา่ ยในสถานศึกษา หกั คะแนน 20 คะแนน 3. ความผิดสถานเบา (พจิ ารณาเจตนาของผู้กระทำผดิ ) 3.1 พูดเท็จและใช้คำไมส่ ุภาพ หกั คะแนน 5 คะแนน 3.2 ทรงผมผดิ ระเบียบทงั้ หญิงและชาย หกั คะแนน 5 คะแนน 3.3 ทำความสกปรกแกอ่ าคาร/หอ้ ง/โต๊ะ หักคะแนน 5 คะแนน 3.4 นำอาหารขน้ึ อาคารเรียนและนำอาหาร หกั คะแนน 5 คะแนน ออกนอกโรงอาหาร 3.5 มาโรงเรยี นสายโดยไม่มเี หตผุ ลอันควร หกั คะแนน 5 คะแนน 3.6 รบกวนบรรยากาศการเรยี นการสอน หักคะแนน 5 คะแนน 3.7 หนีคาบเรียน หกั คะแนน 5 คะแนน 3.8 เล่นฟตุ บอลบนในหอ้ งเรียนและอาคารเรยี น หกั คะแนน 5 คะแนน 3.9 ซอ้ื ของจากรา้ นขา้ งนอกและในโรงเรียน หักคะแนน 5 คะแนน ในเวลาเรียน 3.10 นำเครอ่ื งเล่นท่ีไม่เหมาะสมมาโรงเรยี น หักคะแนน 5 คะแนน 3.11 ใชโ้ ทรศพั ทน์ อกเวลาท่กี ำหนด หักคะแนน 5 คะแนน 3.12 สูบบหุ ร่ี หักคะแนน 5 คะแนน

111 3.13 ไมแ่ ขวนบัตรนกั เรียน หักคะแนน 5 คะแนน 3.14 ไม่นำบัตรนักเรยี นมาแสดงตนในวันสอบ หกั คะแนน 5 คะแนน 3.15 ส่ังซอื้ สนิ คา้ จากบรษิ ัทขนส่งสินค้าทุกประเภทและนัดหมายรบั สนิ ค้าที่โรงเรยี น ในเวลาราชการ หักคะแนน 5 คะแนน

112 ระเบียบโรงเรียนกบินทรว์ ิทยา ว่าดว้ ย การแตง่ กายและเครอื่ งแบบนกั เรยี น พ.ศ. 2563 ........................................................... ดว้ ยโรงเรยี นกบินทร์วิทยาได้ปรบั ปรงุ ระเบยี บของโรงเรียน ว่าดว้ ย การแตง่ กาย และเคร่อื งแบบนกั เรียน เพื่อใหน้ กั เรยี นได้มกี ารแต่งกายและ สวมเครื่องแบบที่เหมาะสม สุภาพเหมาะสมกับสภาพความเป็นนักเรียน โรงเรียนจึง วางระเบยี บวา่ ด้วย การแตง่ กายและเครอ่ื งแบบนกั เรียน ดงั ต่อไปนี้ ระเบยี บนีเ้ รียกวา่ “ระเบียบโรงเรียนกบนิ ทร์วิทยา ว่าด้วยการ แต่งกายและเครื่องแบบนกั เรียน พ.ศ. 2563” ระเบียบนีใ้ ห้ใชบ้ งั คับต้ังแต่ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 เปน็ ตน้ ไป ใหย้ กเลิกคำสง่ั ระเบยี บอื่นท่ีขัดแยง้ กนั และใช้ระเบยี บนีแ้ ทน นกั เรยี นคนใดฝ่าฝนื ระเบียบ ข้อบังคบั ถือวา่ เป็นผ้มู คี วามผดิ จะตอ้ งถกู ตดั คะแนนความประพฤตหิ รอื ได้รบั การลงโทษตามความเหมาะสม การแต่งกายและเครื่องแบบนกั เรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 4.1 นักเรียนชาย ก. ทรงผม นกั เรียนชาย ม.ต้น จะไวท้ รงนักเรยี นหรือรองทรงสูงก็ได้ ในกรณีที่ ไว้ทรงรองทรงสูง ความยาวดา้ นหน้าไมเ่ กนิ 4 เซนติเมตร ด้านบนไม่เกนิ 3 เซนตเิ มตร หา้ มกนั ไรผม ไมใ่ สน่ ้ำมนั เจล ครีม ไมฉ่ ีดพน่ สี หรอื ดัดเปน็ ลอน ห้ามตัดสกนิ เฮด หรอื ทรงผมแฟชั่น ห้ามไวห้ นวดเครา หรอื กระทำอ่ืนใดทไ่ี ม่ เหมาะสมกบั สภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตดั แตง่ ทรงผมเป็นสญั ลักษณ์ หรือลวดลาย

113 ข. เสื้อ เสื้อเชิ้ตคอตั้ง ผ้าขาวเกลี้ยงไม่บางเกินสมควร ตัดตัวตรงไม่ รัดรปู (ไม่มีเกลด็ ดา้ นหลัง) ผ่าอกตลอดและสาบท่อี กตลบออกด้านนอกกว้าง 3 เซนตเิ มตร ใชก้ ระดุมขาวกลมแบน ขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร แขนสั้นเพียงข้อศอก มีกระเป๋าทางอกซ้าย 1 กระเป๋า และมี สาบไหล่ด้วย ไม่มีจีบหรือเกล็ดหลัง ไม่อนุญาตให้ใช้ผ้าดิบหรือผ้าลินิน และ ต้องสวมเสอื้ ทม่ี ีขนาดพอเหมาะกับร่างกายตนเองเท่านน้ั ค. กางเกงสีกากี ขาสั้นเพียงวัดเหนือเข่า หรือจากกลางลูกสะบ้า ขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตร เมื่อยืนตรงจีบข้างละ 2 จีบ ส่วนกลางของ กางเกง ปลายขากางเกงกว้าง 8-12 เซนติเมตร ปลายขาพับชายเข้าในกว้าง 5 เซนติเมตร ห้ามมีประเป๋าด้านหลัง ต้องตัดให้เป้ายาว เพื่อคาดเข็มขัดได้ ตรงเอว หูเข็มขัดไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ไม่ใช้หูเข็มขัดคู่ ไม่อนุญาตให้ใช้ ผ้าเวสปอยท์ ผ้าลายสอง ผ้าเสิร์ท ผ้ายีนส์ และต้องสวมกางเกงที่มีขนาด เหมาะสมโดยไมห่ ลวมหรอื คับเกินไป ง. เข็มขัด หนังสีน้ำตาล(เข็มขัดลูกเสือ)ขนาดกว้างตั้งแต่ 2.5 - 4 เซนติเมตร หัวเข็มขัดสีเงินสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้มีเข็มสำหรับสอดรูเข็มขัดเพียง เข็มเดียว มีปลอกหนงั สีเดียวกับเข็มขัดสำหรับสอดปลายเขม็ ขดั และไม่สลัก ลวดลายใดๆ ทัง้ สิน้ จ. รองเท้า หุ้มส้นสีน้ำตาลชนดิ ผกู ทำดว้ ยผ้าใบและทรี่ ้อยเชือกต้อง ให้เป็นสีน้ำตาล มีรู ร้อยเชือก 4-6 คู่ ห้ามสวมรองเท้ามีลวดลาย หรือหนัง กลับ รองเท้าสีตกมากห้ามใช้และต้องผูกเชือกให้เรียบร้อยตามสากลนิยม และหา้ มเหยยี บส้นรองเท้า

114 ฉ. ถุงเท้า สีน้ำตาลแบบไม่พับขอบ ความยาวต้องเลยจากตาตุ่ม อย่างนอ้ ย 3 น้ิว แต่ไม่เกนิ ครึง่ แข้ง หา้ มใช้ถุงเท้าทีท่ ำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา หรอื ถงุ เทา้ ที่มลี วดลาย ช. การปกั - ปกั ชือ่ -สกลุ หน้าอกด้านซา้ ยเหนอื กระเป๋าเสือ้ นักเรยี น ขน้ึ มา 2 เซนตเิ มตร ตัวอักษรสงู 1 เซนติเมตรด้วยไหมสีน้ำเงิน - เหนือช่ือ-สกลุ ขึน้ ไปปักสัญลักษณข์ องคณะสีดว้ ยด้าย หรอื ไหมตามสขี องคณะสเี ป็นรปู สีเ่ หลี่ยมผืนผ้ากวา้ ง 0.5 เซนตเิ มตร ยาว 2 เซนตเิ มตร - เหนอื สญั ลักษณ์ของคณะสีปกั สญั ลกั ษณแ์ สดงระดับชัน้ เปน็ ดาว 5 แฉก  ดว้ ยดา้ ยหรอื ไหมสีเขยี ว มีเส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง 1 เซนติเมตร ระดับ ม.1 ปัก 1 ดาว ระดบั ม.2 ปกั 2 ดาว ระดับ ม.3 ปกั 3 ดาว - ปกั อกั ษร ก.ว. สงู 1.5 เซนติเมตร หนา้ อกด้านขวาใหต้ รง กบั ชื่อ-สกลุ ด้านซา้ ย เลขประจำตวั นกั เรียนเป็นเลขไทยสูง 1 เซนติเมตรด้วย ไหมสนี ้ำเงนิ ห่างจากอกั ษร ก.ว. ลงมา 0.5 เซนติเมตร 4.2 นกั เรียนหญิง ก. ทรงผม นกั เรียนหญงิ ทต่ี อ้ งการไวผ้ มส้ัน ตัดสน้ั ตรง เสมอกันทั้งดา้ นข้างและ ด้านหลงั ความยาวผมเสมอต่ิงหูหรอื เลยตง่ิ หูลงมาไม่เกิน 3 เซนตเิ มตร ห้าม ใส่เจล น้ำมัน หรือโฟมแต่งผม ห้ามย้อมสีผม ผมไม่ดัดหรือซอยทั้งด้านใน และดา้ นนอก ห้ามกระทำอนื่ ใดท่ีไม่เหมาะสมกบั สภาพการเป็นนกั เรียน เชน่

115 การตดั แตง่ ทรงผมเปน็ สัญลักษณ์หรอื ลวดลาย หากจำเปน็ ตอ้ งใช้ก๊ิบให้ใช้ก๊ิบ สดี ำเทา่ นัน้ หา้ มใชท้ ี่คาดผม นักเรียนหญิงที่ต้องการไว้ผมยาว ต้องรวบผมตึงมัดกึ่งกลางศีรษะ ใช้ยางมัดผมสีดำและผกู โบว์ให้เรียบร้อย ห้ามใชก้ ิ๊บโบว์สำเร็จรูป และที่คาด ผม ความยาวผม เมื่อผูกโบว์แล้วผมยาวไม่เกิน 30 เซนติเมตร วัดจาก กึ่งกลางศรี ษะ โดยผูกโบว์ขนาดกว้าง 1 นิ้ว ตามระดับช้ันดงั นี้ ม.1 สีขาว ม. 2 สีน้ำเงิน และม.3 สีน้ำตาล ห้ามใส่เจล น้ำมัน หรือโฟมแตง่ ผม ห้ามย้อมสี ผม ผมไม่ดัดหรือซอยทั้งด้านในและด้านนอก ห้ามกระทำอื่นใดที่ไม่ เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นสัญลักษณ์ หรอื ลวดลาย หากจำเป็นต้องใชก้ ิ๊บให้ใชก้ บิ๊ สดี ำเท่านั้น ข. เสื้อ ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงไม่บางเกินควร เสื้อแบบคอพับในตัว (คอ ทหารเรือ) ลึกให้พอสวมศีรษะได้สะดวก ตลบเข้าข้างใน มีปกขนาด 10 เซนติเมตร ใช้ผา้ สองช้ินเยบ็ แบบเขา้ ถ้ำ แขนยาวเหนอื ขอ้ ศอกปลายแขนตรง มีจีบ ขอบแขนกว้าง 3 เซนติเมตร ขนาดของเสื้อตั้งแต่ใต้แขนถึงขอบล่างมี ขอบกว้างพอเหมาะมีความกว้างพอเหมาะกับลำตัวไม่รัดเอว ริมขอบล่าง ด้านหน้าข้างขวาติดกระเป๋าทับชายเสื้อกว้างไม่เกิน 2 เซนติเมตร ชายเสื้อ ยาวเพียงข้อมือเมื่อเหยียดตรง ผูกคอด้วยผ้าสีกรมท่าชายสามเหลี่ยมตั้งแต่ 10-15 เซนตเิ มตร ยาวตั้งแต่ 80-100 เซนตเิ มตร เงือ่ นกะลาสี ใหผ้ า้ ที่อยู่คอ ห่างประมาณ 1 ฝ่ามือ และไม่สวมเสื้อไหล่ตก ไม่ใช้ผ้าดิบหรือผ้าลินิน นกั เรียนหญิงตอ้ งสวมเสื้อซบั ในสีขาว ค. กระโปรง ใช้ผ้าสีกรมท่าเนื้อผ้าเรียบ ตัดแบบธรรมดาด้านหน้า และหลังจีบเป็นจีบข้างละ 3 จีบ จีบลึกไม่น้อยกว่า 1 นิ้ว หันจีบออก ด้านนอกเย็บทับบนจีบจากใต้ขอบกระโปรงระหว่าง 6-10 เซนติเมตร เว้นระยะความกว้างตรงกลางพองาม ใหช้ ายกระโปรงคลุมเข่าเลยสะบ้า

116 ลงมาไม่ต่ำกว่า 10 เซนติเมตร ไม่ใช้ผ้าลินิน ผ้าเวสปอยท์ ผ้าลายสอง หรือ ผ้าฝ้าย ง. รองเท้า ใช้รองเท้านักเรียนสีดำหัวมน มีสายรัดรองเท้า ไม่มี ลวดลาย สน้ สูงไม่เกิน 2 เซนติเมตร รองเทา้ พละศกึ ษาใชแ้ บบสขี าวล้วนชนดิ ผกู ไมม่ ีลวดลาย และที่ร้อยเชอื กตอ้ งให้เปน็ สขี าว มรี ูรอ้ ยเชอื ก 4-6 คู่ ฉ. ถุงเท้า ใช้ถุงเท้าสีขาวแบบเรียบ ความยาวต้องเลยจากตาตุ่ม อย่างนอ้ ย 3 นวิ้ แตไ่ ม่เกินคร่งึ แข้ง หา้ มใชถ้ ุงเทา้ ท่ีทำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา หรอื ถุงเทา้ ทมี่ ลี วดลาย ช. การปกั ปักชื่อ–สกุล หนา้ อกดา้ นซา้ ยตรงกบั กระดมุ เมด็ แรก ตัวอักษรสูง 1 เซนติเมตรด้วยไหมสนี ำ้ เงนิ เหนอื ช่อื -สกุลขนึ้ ไปปกั สญั ลกั ษณ์ของคณะสีด้วยดา้ ย หรอื ไหมตามสขี องคณะสีเปน็ รปู สี่เหล่ียมผนื ผา้ กวา้ ง 0.5 เซนตเิ มตร ยาว 2 เซนตเิ มตร เหนอื สญั ลักษณ์ของคณะสีปักสญั ลกั ษณ์แสดงระดับช้ัน เป็นดาว 5 แฉก  ด้วยด้ายหรอื ไหมสีเขยี ว มีเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลาง 1 เซนติเมตร ระดบั ม.1 ปัก 1 ดาว ระดับ ม.2 ปัก 2 ดาว ระดบั ม.3 ปกั 3 ดาว ปกั อกั ษร ก.ว. สูง 1.5 เซนตเิ มตร หน้าอกด้านขวาใหต้ รง กับชื่อ-สกุลด้านซ้าย เลขประจำตัวนักเรียนเป็นเลขไทยสูง 1 เซนติเมตร ดว้ ยไหมสีนำ้ เงินหา่ งจากอกั ษร ก.ว. ลงมา 0.5 เซนติเมตร

117 5. การแต่งกายและเคร่ืองแบบนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย 5.1 นักเรยี นชาย ก. ทรงผม นกั เรียนชาย ม.ปลาย จะไวท้ รงนกั เรียนหรอื รองทรงสูงกไ็ ด้ ในกรณี ท่ไี วท้ รงรองทรงสูง ความยาวดา้ นหนา้ ไมเ่ กิน 5 เซนตเิ มตร ด้านบนไมเ่ กิน 4 เซนติเมตร ห้ามกันไรผม ไม่ใส่น้ำมัน เจล ครีม ไม่ฉีดพ่นสี หรือดัดเป็นลอน หา้ มตดั สกินเฮด หรือทรงผมแฟชัน่ ห้ามไวห้ นวดเครา หรือกระทำอื่นใดท่ีไม่ เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็นสัญลักษณ์ หรอื ลวดลาย ข. เสื้อ เสื้อเชิ้ตคอตั้งผ้าขาวเกลี้ยงไม่บางเกินสมควร ตัดตัวทรง ไม่รัดรูป (ไม่มีเกล็ดด้านหลัง) ผ่าอกตลอด และสาบที่อก ตลบออกด้านนอก กว้าง 3-5 เซนติเมตร แขนสั้นเพียงข้อศอก มีกระเป๋าทางอกซ้าย 1 กระเป๋า และมีสาบไหล่ด้วย ไม่มีจีบหรอื เกล็ดหลัง ไม่อนุญาตให้ใช้ผา้ ดิบหรือผ้าลินนิ การสวมเสื้อ ต้องไม่ดึงชายเสื้อออกนอกจากเอวกางเกงมากจนห้อยปิดทับ มองไมเ่ ห็นเขม็ ขัด ค. กางเกง ผ้าโทเรสีดำ ขาสั้นเพียงเหนือเข่า พ้นกลางลูกสะบ้า ขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตรเมื่อยืนตรง มีจีบข้างหน้าข้างละ 2 จีบ สว่ นกวา้ งของขากางเกง เม่อื ยืนตรงห่างจากขาต้ังแต่ 8 เซนติเมตร ผา่ ตรงหน้าสำหรบั ติดซิปซอ่ นไว้ มกี ระเปา๋ ด้านขา้ งแต่ห้ามมีกระเปา๋ ด้านหลัง ต้องตัดให้เป้ายาวเพอื่ คาดเข็มขัดไดต้ รงเอว หเู ขม็ ขัดกว้าง 1 เซนตเิ มตร ไม่ใชห้ ูเขม็ ขดั คู่ ไม่อนุญาตใหใ้ ชผ้ า้ เวสปอยท์ ผา้ ลายสอง ผา้ เสริ ท์ ผา้ ยนี ส์ ง. เขม็ ขัด หนงั สดี ำขนาดกวา้ งตง้ั แต่ 3.5 – 4 เซนติเมตร หัวเข็มขัด เงนิ รปู สเ่ี หลย่ี มผนื ผ้า ใหม้ ีเข็มสำหรับสอดรเู ข็มขดั เพยี งเขม็ เดียว มปี ลอก

118 หนังสีเดียวกับเข็มขัดสำหรับสอดปลายเข็มขัด และไม่สลักลวดลาย ใด ๆ ทัง้ ท่สี ายเข็มขดั และหวั เขม็ ขัด จ. รองเท้า หุ้มส้นสีดำชนิดผูกทำด้วยผ้าใบขอบดำ และที่ร้อยเชือก ตอ้ งใหเ้ ป็นสดี ำ มรี ูร้อยเชอื ก 4-6 คู่ ห้ามสวมรองเทา้ มลี วดลาย หรอื หนงั กลับ รองเท้าผ้าใบดำที่มีสีตกมากห้ามใช้ และต้องผูกเชือกให้เรียบร้อย ห้ามเหยยี บสน้ รองเท้า ฉ. ถุงเท้า ใช้ถุงเท้าสีขาวแบบเรียบ ความยาวต้องเลยจากตาตุ่ม อยา่ งน้อย 3 นิ้ว แตไ่ มเ่ กินครึ่งแข้ง ห้ามใช้ถงุ เทา้ ท่ที ำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา หรือถงุ เทา้ ท่มี ลี วดลาย ช. การปัก - ปักชื่อ – สกุล หน้าอกด้านซ้ายเหนือกระเป๋าเสื้อนักเรียน ข้ึนมา 2 เซนติเมตร ตัวอกั ษรสงู 1 เซนติเมตรด้วยไหมสีน้ำเงนิ - เหนือชื่อ - สกุลขึ้นไปปักสัญลักษณ์ของคณะสีด้วยด้าย หรือไหมตามสีของคณะสีเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร - เหนือสัญลักษณ์ของคณะสีปักสัญลักษณ์แสดงระดับช้ัน เป็นดาว 5 แฉก  ด้วยด้ายหรือไหมสีน้ำเงิน มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร ระดับ ม.4 ปัก 1 ดาว ระดับม.5 ปัก 2 ดาว ระดับ ม.6 ปัก 3 ดาว - ปกั อกั ษร ก.ว. สูง 1.5 เซนตเิ มตร หน้าอกด้านขวาใหต้ รง กับ ชื่อ-สกุลด้านซ้าย เลขประจำตัวนักเรียนเป็นเลขไทยสูง 1 เซนติเมตร ดว้ ยไหมสีน้ำเงินห่างจากอกั ษร ก.ว. ลงมา 0.5 เซนติเมตร

119 5.2 นักเรียนหญงิ ก. ทรงผม นกั เรยี นหญงิ ทตี่ อ้ งการไว้ผมสั้น ตดั ส้ันตรง เสมอกนั ท้งั ดา้ นขา้ งและ ด้านหลัง ความยาวผมเสมอตงิ่ หูหรือเลยตง่ิ หูลงมาไม่เกิน 5 เซนตเิ มตร ห้าม ใส่เจล น้ำมัน หรือโฟมแต่งผม ห้ามย้อมสีผม ผมไม่ดัดหรือซอยทั้งด้านใน และด้านนอก หา้ มกระทำอ่ืนใดที่ไม่เหมาะสมกบั สภาพการเป็นนกั เรยี น เช่น การตดั แต่งทรงผมเปน็ สญั ลักษณ์หรอื ลวดลาย หากจำเป็นต้องใช้ก๊ิบให้ใช้ก๊ิบ สดี ำเท่านน้ั หา้ มใชท้ ีค่ าดผม นักเรียนหญิงที่ต้องการไว้ผมยาว ต้องรวบผมตึงมัดกลางท้ายทอย ใช้ยางมัดผมสีดำและผูกโบว์ให้เรยี บร้อย ห้ามใชก้ ิ๊บโบว์สำเร็จรูป และที่คาด ผม ความยาวผม เม่ือผูกโบว์แล้วผมยาวไม่เกิน 30 เซนติเมตร (ความยาวไม่ เกินแนวสะบักหลัง) โดยผูกโบว์ขนาดกว้าง 1 นิ้ว ตามระดับชั้นดังนี้ ม.4 สีขาว ม.5 สีน้ำเงิน และม.6 สีน้ำตาล ห้ามใส่เจล น้ำมัน หรือโฟมแต่ง ผม ห้ามย้อมสีผม ผมไม่ดัดหรือซอยทั้งด้านในและด้านนอก ห้ามกระทำอ่ืน ใดที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียน เช่น การตัดแต่งทรงผมเป็น สญั ลกั ษณห์ รือลวดลาย หากจำเปน็ ต้องใช้ก๊ิบใหใ้ ชก้ บ๊ิ สีดำเท่าน้นั ข. เสื้อ แบบเชิ้ตผ้าขาวเกลี้ยง ใช้ผ้าหนาพอที่จะไม่เห็นเสื้อซับใน ที่ปกเสื้อทำเป็นสาบให้ใช้ตลบเข้าข้างในกว้าง 3 เซนติเมตร ปลายแขนเสื้อ ยาวเหนือข้อศอกประมาณ 4 เซนติเมตร ไม่มีสาบด้านหลัง ตัวเสื้อไม่มีเกลด็ ไม่รัดรูป และไม่สวมเสื้อไหล่ตก ไม่ใช้ผ้าดิบหรือลินิน การสวมเสื้อต้องไม่ดงึ ขอบเสื้อออกจากเอวกระโปรงมาจนปิดทับ มองไม่เห็นเข็มขัด ต้องสวมเสื้อ ซับในสขี าว

120 ค. กระโปรง ใช้ผ้าสีดำ ด้านหน้าและหลังจีบเป็นข้างละ 3 จีบ หัน จีบออกดา้ นนอกความลึกของจีบไม่นอ้ ยกวา่ 1 นวิ้ เยบ็ พบั บนจีบจาก ใต้ กระโปรงมาระหว่าง 5-10 เซนติเมตร และชายกระโปรงคลุมเข่าเลยสะบ้า ลงมาไมต่ ำ่ กวา่ 10 เซนตเิ มตร ง. รองเทา้ ใช้รองเท้านักเรยี นสดี ำ แบบหัวมนมสี ายรดั หลังเทา้ ไม่มี ลวดลาย ส้นสูงไมเ่ กิน 2 เซนตเิ มตร รองเท้าพละศึกษาใช้แบบสขี าวลว้ นชนดิ ผูก ไม่มีลวดลาย และท่ีรอ้ ยเชือกต้องให้เป็นสีขาว มีรรู ้อยเชอื ก 5-6 คู่ จ. ถุงเท้า ใช้ถุงเท้าสีขาวแบบเรียบ ความยาวต้องเลยจากตาตุ่ม อย่างน้อย 3 นว้ิ แตไ่ มเ่ กนิ ครง่ึ แขง้ ห้ามใช้ถุงเท้าทีท่ ำด้วยผ้าลูกฟูกชนิดหนา หรือถงุ เท้าทีม่ ีลวดลาย ฉ. การปัก - ปักชื่อ–สกุล หน้าอกด้านซ้ายตรงกับกระดุมเม็ดแรก ตวั อกั ษรสงู 1 เซนติเมตรดว้ ยไหมสนี ำ้ เงิน - เหนือช่อื -สกลุ ขนึ้ ไปปักสญั ลักษณ์ของคณะสีดว้ ยด้ายหรอื ไหมตามสีของคณะสีเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 0.5 เซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร - เหนือสัญลักษณ์ของคณะสีปักสัญลักษณ์แสดงระดับชั้น เป็นดาว 5 แฉก  ด้วยด้ายหรือไหมสีน้ำเงิน มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เซนตเิ มตร ระดับม.4 ปัก 1 ดาว ระดบั ม.5 ปกั 2 ดาว ระดบั ม.6 ปัก 3 ดาว - ปกั อกั ษร ก.ว. สงู 1.5 เซนติเมตร หน้าอกด้านขวาให้ตรง กับ ชื่อ - สกุลด้านซ้าย เลขประจำตัวนักเรียนเป็นเลขไทยสูง 1 เซนติเมตร ดว้ ยไหมสนี ้ำเงินห่างจากอักษร ก.ว. ลงมา 0.5 เซนติเมตร

121 ข้อ 6. เครื่องแบบชุดพละและชุดคณะสี เครื่องแบบชุดพละและชุดคณะสี นักเรียนทุกคนต้องมีชุดพละและชุดคณะสีตามที่โรงเรียนกำหนด และใส่ชุดพละใน วนั ทม่ี คี าบเรียนวิชาพลศึกษาเทา่ นั้น ทั้งเสื้อและกางเกง กางเกงสีกรมท่าแถบฟ้า เสื้อให้ปักชื่อ-สกุลหน้าอก ด้านขวาตรงกบั กระดุมเมด็ ลา่ งสุด ตวั อักษรสูง 1 เซนติเมตร ด้วยดา้ ยหรอื ไหมสีขาว ถุงเทา้ สีน้ำตาลครึ่งแข้ง ไม่มีลวดลาย รองเทา้ ผา้ ใบสนี ำ้ ตาล สำหรับนักเรียน ชาย ม.ตน้ ถุงเท้าสีขาวพื้นขาวพับ 3 ทบสูง 3 เซนติเมตร ไม่มีลวดลาย รองเท้าผ้าใบสี ขาว สำหรับนักเรยี นหญงิ ม.ต้น ถุงเท้าสีขาวครึ่งแข้ง ไม่มีลวดลาย รองเท้าผ้าใบสีดำ สำหรับนักเรียนชาย ม.ปลาย ข้อ 7. เครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด ให้ใช้ตาม พระราชบัญญตั ิลูกเสอื เนตรนารี และยุวกาชาด และแตง่ ตามที่โรงเรยี นกำหนด ข้อ 8. เครื่องแบบธรรมจารี สวมใส่วันอังคารทุกสัปดาห์ เสื้อและกางเกง สีขาวตามโรงเรียนกำหนด ปักชื่อ-สกุลหน้าอกด้านขวาตรงกับกระดุมเม็ดล่างสุด ตัวอักษรสูง 1 เซนตเิ มตรด้วยด้ายหรือไหมสีนำ้ เงิน รองเท้าและถุงเทา้ สวมเหมือนชุด พละและชุดคณะสีท้งั นกั เรยี นชาย หญงิ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ และตอนปลาย ข้อ 9. กระเป๋านักเรียน กระเป๋านักเรียนเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ นักเรียนโดยโรงเรียนกำหนดให้ใช้กระเปา๋ 2 แบบ ได้แก่ 9.1 กระเป๋าเป้สะพาย ต้องมีตราสัญลักษณ์ของโรงเรียน และต้อง เป็นไปตามแบบที่โรงเรียนกำหนด กระเป๋าช่วยต้องใช้แบบมีตราสัญลักษณ์ของ โรงเรียนเทา่ นนั้ (กรณีนกั เรยี นใช้กระเปา๋ ช่วยตอ้ งมีกระเปา๋ เปส้ ะพายเปน็ หลัก) 9.2 ห้ามใช้ตัวหนีบ หนีบกระเป๋าและห้ามติดสติ๊กเกอร์หรือเขียน สีตา่ ง ๆ ลงบนกระเป๋า

122 ขอ้ 10. การใชเ้ ครอื่ งประดับ 10.1 ห้ามสวมแว่นตารูปแบบแปลก ๆ หรือแว่นตาแฟชั่น หรือสี ต่าง ๆ กรอบแวน่ ตาทใี่ ชไ้ ด้ คือ ขอบสดี ำ ขอบสเี ทาแก่ หรอื สนี ้ำตาลไหม้ 10.2 หา้ มใชเ้ ครอื่ งประดบั อาภรณ์ ต่างหแู ฟช่ัน แหวน และกำไล ขอ้ มือทกุ ชนดิ 10.3 ห้ามใช้นาฬิกาข้อมือราคาแพงแบบแฟชั่น หรือนาฬิกาสี ฉดู ฉาด และอนญุ าตใหใ้ ช้นาฬกิ าสายคาดสดี ำ, สนี ้ำตาล, สเี งนิ , สีทอง เทา่ นัน้ 10.4 ในกรณสี วมสรอ้ ยคอตอ้ งมพี ระหรือเคร่ืองหมายทางศาสนา และอนุญาตให้ใชส้ ร้อยเงิน หรอื สแตนเลส เทา่ น้นั ความยาวของสร้อยตอ้ งไม่พ้น คอ เส้ือขึ้นมา และไมห่ อ้ ยออกนอกเส้อื ขอ้ 11 กรณอี ่นื ๆ 11.1 ห้ามนักเรียนสักลายบนส่วนต่างๆ ของร่างกาย (นอกร่มผ้า) เขียนค้วิ ถาวร เสริมจมกู ทำลักย้มิ ระเบิดหู 11.2 นักเรียนจะต้องแขวนบตั รประจำตัวนักเรยี นทกุ คน ข้อ 12. ครูผู้ใดพบเห็นนักเรียนประพฤติผิด ให้พิจารณาลงโทษตาม ความ เหมาะสม เช่น ยึดของสิ่งนั้น ตัดคะแนนความประพฤติ พร้อมนำสิ่งของที่ยึดและใบ ตัดคะแนนความประพฤติส่งกลุ่มงานกจิ การนักเรยี นภายในวนั เดียวกนั ข้อ 13 เรื่องใดที่ไม่ได้ระบุไว้ในระเบียบนี้ หรือมีปัญหาใด ๆ ขัดแย้งต่อ ระเบียบน้ีให้คณะกรรมการกลมุ่ งานกจิ การนกั เรยี นเป็นผ้วู นิ ิจฉัยโดย ความเหน็ ชอบของผอู้ ำนวยการโรงเรียน ข้อ 14. ให้รองผู้อำนวยการโรงเรยี นกลุ่มบริหารวิชาการและกิจการนักเรยี น รกั ษาการให้เป็นไปตามระเบยี บนี้ ประกาศ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2563 วา่ ท่รี ้อยตรี (ธงชยั ก้อนสนั ทัด) ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นกบนิ ทร์วิทยา

123 เครื่องแบบการแต่งกายของนกั เรียน โรงเรียนกบินทรว์ ทิ ยา

124

125

126

127

128

129

130

131

132 ระเบียบโรงเรยี นกบนิ ทร์วิทยา วา่ ด้วย คณะกรรมการเครือขา่ ยผปู้ กครอง พ.ศ. 2563 ……………………………………………………… เพอ่ื ให้การบริหารและการจดั การเก่ยี วกับคณะกรรมการเครอื ข่ายผูป้ กครอง เป็นไปอย่าง สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 โรงเรียน กบนิ ทร์วทิ ยา จงึ วางระเบียบไวด้ งั น้ี ข้อ 1 ขอ้ ระเบียบนเ้ี รยี กวา่ “ระเบียบวา่ ดว้ ยคณะกรรมการเครือข่าย ผ้ปู กครอง พ.ศ. 2563 ข้อ 2 ขอ้ ระเบยี บน้ใี หใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แตว่ ันถดั ไปจากวันประกาศเป็นต้น ข้อ 3 ข้อบรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคำสั่งอื่นในส่วนที่ กำหนดไว้ในระเบยี บน้หี รือซ่ึงขัดแย้งกับระเบยี บน้ี ใหใ้ ช้ระเบยี บ นแี้ ทน ขอ้ 4 ในระเบยี บวาระนี้ คำว่า “เครือข่าย” (Network) หมายความว่า การเข้ามามีบทบาท ในฐานะการสร้างความร่วมมือแนวร่วม และหรือการมีส่วนร่วมโดยเฉพาะอย่างย่ิง ในการพัฒนาการศึกษาของบุคคลองค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น ซึ่งคำว่า “เครือข่าย” ได้ถูกมาใช้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อที่จะให้เกิดกลไกความร่วมมือในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนร่วมกันระหว่าง ผ้ปู กครองกบั สถานศกึ ษา คำว่า “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการเครือข่ายผปู้ กครอง ระดบั สถานศึกษา ข้อ 5 วตั ถุประสงค์ของคณะกรรมการเครือข่ายผปู้ กครอง

133 5.1 เพื่อการดำเนินงานสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบ้านและ สถานศึกษา 5.2 เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมพัฒนา พฤตกิ รรมผู้เรยี น 5.3 ให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์และแนวคิด ระหวา่ งผู้ปกครอง ครู และ นกั เรยี นในสถานศกึ ษา 5.4 เป็นการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นความรู้เป็นประสบการณ์ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณี และละเว้น อบายมุขท้ังปวงดว้ ย กับเพอ่ื สง่ เสริมความสามัคคีชว่ ยเหลือเก้ือกูลซึ่งกันและ กัน 5.5 เพื่อให้มีการติดต่อสื่อสารกับพ่อแม่ ผู้ปกครองอย่างรวดเร็ว และมีประสทิ ธิภาพ ขอ้ 6 ระเบียบและหนา้ ท่ขี องคณะกรรมการเครอื ขา่ ยผปู้ กครอง 6. 1 คณะกรรมการเครอื ข่ายผู้ปกครองประกอบดว้ ย (1) คณะกรรมการระดับห้องเรียนมีจำนวนไม่น้อยกวา่ 5 คน ประกอบดว้ ย ประธาน รองประธาน เลขานกุ าร นายทะเบียนและประชาสมั พันธ์ โดยการคัดเลือกจากผู้ปกครองแตล่ ะหอ้ งเรียน (2) คณะกรรมการระดับชั้นเรียนประกอบด้วย ประธาน รองประธาน เลขานุการ นายทะเบียน และประชาสัมพันธ์ โดยการคัดเลือกจาก คณะกรรมการระดับห้องเรียนของชั้นเรียนนั้นๆ ระดับห้องละ 2 คน ผู้แทนของ ระดบั ช้ันเรียน ประกอบด้วยประธานและเลขานุการของกรรมการระดบั หอ้ งเรียน (3) คณะกรรมการระดับสถานศึกษา ประกอบด้วย คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองท้ังสิ้น (4) การไดม้ าซง่ึ คณะกรรมการระดับสถานศกึ ษา ได้มาโดย การคดั เลือกมาจากประธาน และเลขานุการแต่ละระดบั ชัน้ เรียนทั้งหมด จำนวน 12

134 คน ประกอบด้วย ประธาน รองประธานคนที่ 1 รองประธานคนที่ 2 เลขานุการ ประชาสัมพันธ์ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ นายทะเบียน ปฏิคม และกรรมการที่เหลือ เป็นกรรมการกลาง ประธานเลอื กผู้ปกครองที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิอีก 1 คน เพื่อให้ครบ จำนวน 13 คน ตามข้อ (3) 6.2 คณุ สมบตั ิของกรรมการเครอื ขา่ ยผปู้ กครอง (1) ประกอบอาชีพสจุ ริต มีท่ีอยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งแนน่ อน (2) บรรลนุ ติ ิภาวะ และมีสถานภาพเป็นผู้ปกครองนักเรียน ในปจั จบุ ันในสถานศึกษาโดยชอบธรรมตามกฎหมาย (3) ไม่เปน็ โรคติดต่อรา้ ยแรง หรือโรคทส่ี ังคมรงั เกียจ 6.3 การพน้ จากตำแหน่งของคณะกรรมการเครือข่ายผปู้ กครอง (1) ตาย (2) ลาออก (3) ขาดคุณสมบัตติ ามท่ีได้กำหนดไว้ในข้อ 6.2 6.4 วาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง ทุกระดับมีวาระ 1 ปี นับตั้งแต่วันท่ีไดร้ ับการคดั เลือกสิ้นสดุ ลงในวันที่คณะกรรมการ เครือขา่ ยผูป้ กครองชดุ ใหม่ไดร้ ับการคดั เลือก ข้อ 7 บทบาทและหน้าท่ีของคณะกรรมการเครือขา่ ยผปู้ กครอง 7.1 ร่วมสนบั สนุนกิจกรรมของสถานศกึ ษาโดยผา่ นความเห็นชอบ จากผูบ้ ริหารสถานศึกษา 7.2 ร่วมสรา้ งสายใยเชื่อมสัมพนั ธ์อันดีระหว่างครแู ละผปู้ กครอง 7.3 สนบั สนุนการพัฒนาการเรยี นการสอนของสถานศกึ ษา 7.4 ให้ข้อคิดเห็น และเสนอแนะต่อสถานศึกษา ในเรื่องต่างๆ ที่ จะเป็นประโยชน์แกน่ ักเรยี นและสถานศกึ ษา 7.5 จัดการประชุมกรรมการและผู้ปกครองในห้องเรียนตามความ เหมาะสมอย่างน้อย 1 คร้ัง

135 7.6 จัดทำเนียบนักเรียนและผู้ปกครองโดยละเอียด และส่งมอบ สำเนาให้เลขานุการกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองในระดับชั้นเรียนและระดับ สถานศกึ ษา 7.7 กรรมการเครือข่ายผู้ปกครองในระดับสถานศึกษาจะต้อง รวบรวมข้อมูลและกิจกรรมของแต่ละระดับชั้นนำเสนอสถานศึกษา เพื่อดำเนินการ ต่อไป 7.8 ให้คณะกรรมการเครือขา่ ยผู้ปกครองระดบั สถานศึกษาจัดการ ประชุมใหญ่ คณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองทุกระดับ ตามความเหมาะสมอย่าง น้อย 1 ครัง้ ตอ่ ปี ข้อ 8 ให้มีการแต่งตั้งครูอาจารย์เปน็ ผู้ประสานงานกับคณะกรรมการงาน เครือข่ายผปู้ กครองในทกุ ระดับ ข้อ 9 ให้กลุ่มบริหารกิจการนักเรียนรักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี และเป็นผู้เสนอรายชื่อผู้ปกครองต่อผู้อำนวยการเพื่อลงนามในประกาศแต่งตั้งคระ กรรมการเครือข่ายผปู้ กครองได้ กรณสี น้ิ สุดวาระลง ตามข้อ 6.4 ข้อ 10 คณะกรรมการที่สถานศึกษาจัดตั้งขึ้นมีอยู่ก่อนระเบียบนี้ใช้บังคบั ใหส้ ้ินสภาพ และใหจ้ ัดการใหมต่ ามระเบยี บน้ี ประกาศ ณ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 วา่ ที่ร้อยตรี (ธงชัย ก้อนสนั ทดั ) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นกบินทร์วิทยา

136 ระเบยี บโรงเรยี นกบนิ ทร์วิทยา วา่ ด้วย การนำโทรศัพท์มือถือมาโรงเรยี น พ.ศ. 2563 ……………………………………………………….. ด้วยโรงเรียนกบินทร์วิทยาได้มีระเบียบห้ามนักเรียนทุกคนนำ โทรศัพท์มือถือมาโรงเรียน แต่เนื่องจากมีนักเรียนและผู้ปกครองบางส่วนมีความ จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่อระหว่างนักเรียนกับผู้ปกครอง โรงเรียนจึงได้ กำหนดระเบยี บวา่ ดว้ ยการนำโทรศัพทม์ ือถอื มาโรงเรียนดังนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่าระเบียบโรงเรียนกบินทร์วิทยาว่าด้วยการ นำโทรศัพทม์ อื ถอื มาโรงเรยี น พ.ศ. 2563 ขอ้ 2 ให้ใช้ระเบียบน้ตี ัง้ แตภ่ าคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 เปน็ ต้น ไป ใหย้ กเลกิ คำส่งั ระเบยี บอ่ืนทขี่ ดั แยง้ กันและใชร้ ะเบยี บน้ีแทน ข้อ 3 นักเรียนคนใดฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับ ถือว่าเป็นผู้มคี วามผิด จะตอ้ งถกู ตัดคะแนนความประพฤติ หรอื ไดร้ ับการลงโทษตามความเหมาะสม ข้อ 4 อนุญาตให้นกั เรยี นนำโทรศัพท์มือถอื มาโรงเรียน และอนุญาต ให้ใชใ้ นเวลาที่กำหนดกำหนด เวน้ แตไ่ ด้อนญุ าตจากครูประจำชั้น ข้อ 5 ครูพบนักเรียนประพฤติผิด สามารถยึดโทรศัพท์มือถือ และ ส่งรายชอื่ ท่ีหวั หน้าระดับ เพือ่ ดำเนินการตดั คะแนนความประพฤติ ข้อ 6 เรอื่ งใดท่ีไม่ไดร้ ะบุไว้ในระเบยี บข้อบังคบั น้ี หรอื มีปัญหาใด ๆ ขัดแย้งต่อระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนเป็นผู้วินิจฉัยโดย ความเหน็ ชอบของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ข้อ 7 ให้รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียนรักษาการให้ เปน็ ไปตามระเบยี บน้ี

137 ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ว่าทรี่ อ้ ยตรี (ธงชัย กอ้ นสนั ทัด) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนกบนิ ทร์วิทยา

138 ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง การส่งเดก็ เขา้ เรียนในสถานศกึ ษา พ.ศ. 2546 …………………………………………. อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาภาค บังคับ พ.ศ. 2545 กระทรวงศึกษาธิการจึงออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การส่งเดก็ เข้าเรยี นในสถานศกึ ษาไว้ ดังต่อไปน้ี ข้อ 1 ประกาศน้ี คำวา่ “สถานศึกษา” หมายความวา่ สถานศึกษาทีจ่ ดั การศึกษาภาคบงั คับ “เดก็ ” หมายความว่า เดก็ ซ่งึ มีอายยุ า่ งเข้าปีท่ีเจด็ จนถงึ อายยุ ่างเขา้ ปที ส่ี บิ หก เว้นแต่เด็กทีส่ อบไดช้ ั้นปีที่เกา้ ของการศกึ ษาภาคบงั คับแลว้ “ผปู้ กครอง” หมายความวา่ บิดามารดา หรอื บดิ า หรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถงึ บุคคลท่ีเดก็ อยดู่ ว้ ยเป็นประจำหรอื ทเ่ี ดก็ อยู่รับใช้การงาน “คณะกรรมการเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษา” หมายความวา่ คณะกรรมการ เขตพื้นที่การศึกษาตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการศึกษาแห่งชาติ “องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน” หมายความว่า องค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถ่ินทม่ี ีสถานศึกษาอยใู่ นสังกัด “พนกั งานเจ้าหน้าท่ี” หมายความว่า ผซู้ ึ่งได้รับแต่งตั้งจาก รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง แต่งต้ัง พนักงานเจ้าหนา้ ที่ตามพระราชบัญญัติการศกึ ษาภาคบงั คบั พ.ศ. 2545 ข้อ 2 ให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาที่กำหนดในวันแรกของ การเปิดเรยี นภาคต้น

139 ข้อ 3 ถ้าผู้ปกครองยังไม่ได้ส่งเด็กเข้าเรียนภายในเจ็ดวันนับแต่วันแรกของ การเปิดเรียนภาคต้น ถ้าสถานศึกษายังมิได้รับเด็กเข้าเรียน ให้สถานศึกษาแจ้งเตือน ให้ผู้ปกครองทราบเพื่อนำเด็กมาเข้าเรียน และให้รายงานคณะกรรมการเขตพื้นท่ี การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ เมื่อคณะกรรมการเขตพื้นที่ การศกึ ษาหรือองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ไดร้ บั รายงานจากสถานศกึ ษาตาม วรรค สองแล้ว ให้ทำหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาทันที ถ้าไม่ส่งเด็กเข้าเรียน จะมีความผิดตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษา ภาคบงั คบั พ.ศ. 2545 คือ ตอ้ งระวางโทษปรบั ไม่เกินหน่งึ พนั บาท ข้อ 4 การผ่อนผันเด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศกึ ษา ภาค บังคับ ให้ผู้ปกครองส่งคำร้องต่อสถานศึกษานั้นๆ โดยตรง เพื่อให้สถานศึกษา พิจารณาแต่ต้องเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษา ภาคบังคบั พ.ศ. 2546 ซง่ึ ประกาศ ณ วนั ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ข้อ 5 โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เด็กจะหยุดเรียนเกินกว่าท่ีกำหนดไว้ ดงั ต่อไปนี้ไมไ่ ด้ (1) หยุดเรยี นเกินเจ็ดวันในหนง่ึ เดือน กรณเี ด็กทหี่ ยดุ เรยี นเกนิ เจ็ดวันในหนึง่ เดือน ให้สถานศกึ ษามหี นงั สือแจง้ ใหผ้ ปู้ กครองสง่ เดก็ เข้าเรียนโดยพลัน (2) หยดุ เรียนติดต่อกนั เกนิ ห้าวนั กรณเี ดก็ หยุดเรียนตดิ ต่อกันเกิน หา้ วันให้สถานศกึ ษามีหนังสือแจง้ ให้ผูป้ กครองส่งเดก็ เขา้ เรยี นโดยพลัน กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเด็กเข้าเรียนตามข้อ 5 (1) และ (2) สถานศึกษาต้องรายงานให้ คณะกรรมการเขตพน้ื ท่ีการศึกษา หรือองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ทราบแล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการให้เด็กเข้าเรียนหรือดำเนินการตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติ การศกึ ษาภาคบงั คบั พ.ศ. 2545 ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกนิ หนง่ึ หม่นื บาท ข้อ 6 กรณีย้ายเด็กไปเรียนในสถานศึกษาอีกแห่งหนึ่ง ให้ผู้ปกครองแจ้ง ยา้ ยตอ่ สถานศกึ ษา เพ่ือนำหลกั ฐานการเรยี นไปแสดงต่อสถานศึกษาทรี่ บั ยา้ ยเด็ก

140 และให้สถานศึกษาทีร่ ับย้ายเด็กแจ้งการรบั ยา้ ยเด็กไปใหส้ ถานศึกษาเดิมทราบ พร้อม ทั้งรายงานต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สังกัด และให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งไปยัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตท้องที่ที่ย้าย เดก็ ออกได้ทราบ เพือ่ จำหนา่ ยออกจากทะเบียน ข้อ 7 ให้สถานศึกษารายงานจำนวนเด็กในเกณฑ์บังคับที่มาเข้าเรียนเป็น ประจำทกุ ปใี นวนั ทำการแรกของเดอื นมิถนุ ายน ตอ่ คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ข้อ 8 ให้เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน รักษาการใหเ้ ป็นไป ตามประกาศน้ี ประกาศ ณ วันท่ี 20 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2546 อดิศัย โพธารามกิ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ

141

142


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook