ข้อคิดรอบตัว www.kalyanamitra.org
รางวัลพูลิตเฃอร์ อีแร้งและเด็กน้อยซาวซูดวน cSe 0 31i ร ๘) 1 างวัลพูลิตเซอร์ ถือว่าเป็นรางวัลที่มีเกียรติยศสูงสุดสำหรับ ® ^ d ส์อมวลซนในสหรัฐอเมริกา ทุก ๆ ปีจะมีการพิจารณามอบรางวัล A _^ พูลิตเซอร์นื้[ห้กับสื่อมวลขนยอดเยี่ยมในสาขาต่าง ๆ รวม 11 รางวัล ในทุทธศักราช2536ที่ผ่านมา ผู้!ด้รับรางวัลพูลิตเซอร์ภาพถ่าย ยอดเยี่ยมคือ นายเคบิน คาริตาร์ ซาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาใต่' ฃ่างภาพหนังสือพิมพ์นิวยอริกไทมีภาพถ่ายท!ด้รับรางวัลถ่ายที่ประเทศ ซูดานในทวีปแอฟริกา เป็นภาพเด็กน้อยพงโร แขนขาลีบเหลือแต่หนัง หมกระดูก หมอบฟบอยู่ที่พื้นดินอันแห้งแสัง เยื้องหุ่างไปด้านหลัง ประมาณ 2-3 เมตร มีอแร้งตัวหนึ่งยืนเกาะนิ่งอยู่ที่พื้น รอว่าเมื่อไร เด็กเลียซีวิตจะได้เข้าไปจิกกีน เมื่อภาพถ่ายนี้!ด้รับรางวัลพูลิตเซอริ หนังสือพิมพ์ต่าง ๆ จึงนำ ภาพไปตีพิมพ์เผยแพร่ต่อ เนิ่องจากเป็นภาพที่สะเทือนใจอย่างยิ่งตังที่ มีผู้!ต่ถามเข้ามาทั้งทางจดหมายและโทรศัพท์เป็นหมื่น ๆ รายว่า หลัง ตอนทwี่w8wรา.งkวa่ลlพyูaลิnตaเฃmอร่itแrลaะอ.oแรr้gงกับเดกน้อยซาวฃูดาน
จากนั้นเด็กเป็นอย่างไร ? คำ ตอบของนายคาร์ตาร์คือ เมื่อเขาถ่ายภาพ เสร็จ ก็ได้ไล่อีแร้งไป แล้วตัวเองก็จากไปเซ่นกัน คำ ตอบเซ่นนี้ท็าไหเกิด กระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก บ้างก็ว่าเห็นเหตุการณ์อย่างนี๋ไม่ควร จะมามัวถ่ายภาพแล้ว ควรจะรีบซ่วยเด็กก่อน บ้างก็ว่าจะถ่ายภาพก็ ถ่ายไป แต่เสร็จแล้วควรจะซ่วยเด็กด้วย อย่างน้อยก็ช่วยพาไปส่งที่ สถานสงเคราะห์ของสหประซาขาติ ซี่งอยู่ไม่ไกลจากที่นั่นมากนัก ถูก วิจารณ์หนัก ๆ เข้า นายคาร์ตาร์ก็ด้องชี้แจงกับผู้อ่านว่า เขาช่วยไม่ไหว เพราะมีเด็กที่ตกอยู่ในสภาพนี้เด็มไปหมด แคในระหว่างทางที่เดินไป สถานสงเคราะห์สหประซาชาติ ก็มีให้เห็นอีกนับสิบ ๆ คน และสถาน ๑ tr E สงเคราะห์เองก็ไม่สามารถรับไว้ได้หมด cs (อ 3ริ= ในเรื่องนี้ ศาสตราจารย์ทางด้านสื่อมวลซนท่านหนี้งของ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้ออกมาให้ความเห็นว่า การกระทำของบาย คาร์ตาร์นั้นถูกต้องแล้ว เพราะเขาไมใช่อาสาสมัครบรรเทาทุกข์แต่เป็น สื่อมวลซน ซึ่งมีหน้าที่สื่อความจริงให้สาธารณซนทราบ นักขาวไม่ควร ยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเหตุการณ์ต่าง ๆ เพราะจะทำให้สภาพเหตุการณ์ ผิดไปจากที่เป็นจริง ศาสตราจารย์ท่านนี้ยังบอกอีกว่า ที่จริงนายคาร์ตารี ควรจะอยู่รอจนเด็กตาย เมื่ออีแร้งเข้าที้งกินแล้ว จึงค่อยถ่ายภาพชีวิต จริงนั้นออกมาเผยแพร่จึงจะถือว่าได้ทำหน้าที่สื่อมวลซนที่คื เรื่องนี๋ได้น่าไปส่การวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งก็มี ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เรื่องราวต่าง ๆ ในโลกนี้ การที่จะตัดสินกันว่า อะไรถูกอะไร ผิดแบบร้อยเปอรีเฃ็นต์เป็นเรื่องค่อนข้างยาก อยู่ที่มุมมองของแต่ละ คน แต่สิ่งสำคัญที่ทุกคนจะต้องระลึกไว้อยู่เสมอก็คือ แม้ว่าคนเราจะ มีหน้าที่การงานแตกต่างกันไป เซ่น เป็นนักซ่าว เป็นทหาร เป็นแพทย์ เป็นทนายความ หรีออื่นใดก็ตาม แต่หน้าที่หนึ่งที่ทุกคนต้องมีเหมือน พระมหาสมขาย ราwนวwฑฺwโฒ.kMa.lDy.a, nPha.mD.itra.org
• oTJ.; - กันหมดคือ หน้าที่ของความเป็นมนุษย์ สิงต่าง ๆ ที่เราได้กระทำไป I นั้น ตัวเราเองย่อมจะรู้ดี ว่าเรามีเจตนาเช่นไร มีมนุษยธรรมหรือไม่ 3» ขอให้เราตอบตนเองได้โดยไม่ละอายใจภายหลัง 3 ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน จะถูกหรือผิด อยู่ที่ว่าขณะที่นายคาร์ 0 ตาร์ประสบเหตุการณ์นั้น เขามีความรู้สึกอย่างไร ตื่นเต้นยินดี ว่าเจอ เหตุการณ์ที่สามารถข็อกผู้พบเห็น แลัวนึกผินถึงถ้วยรางวัลเกียรติยศ หรือว่าเกิดความสังเวชสลดใจ อยากจะถ่ายทอดภาพนี้ออกไปให้ สาธารณซนได้รับทราบ จะได้มาช่วยกันสงเคราะห์ผู้อดอยากหิวโหย เหล่านี้ ซึ่งผู้ที่รู้ดีที่สุดคือ ตัวนายคาร์ตาร์ เอง หมายเหตุ : 53 q าไ- ข่าวล่าสุดแจ้งว่า นายเคบิน คาร์ตาร์ ช่างภาพรางวัลพูสิตเฃอร์ ได้ฆ่าตัวตายในรถยนต์เสียแล้ว เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2537 ที่ผ่านมา \"ถ้าตบมีจิตไม่ตั้งมน ถึงขนเหล่าอื่นจะสรรเสริญ ขนเหล่าอื่นกีสรรเสริญเปล่า เพราะตนมีจิตไม่ตั้งมน ถาตนมีจิตตั้งมั่นดีแล้ว ถึงชนเหล่าอื่นจะติเดียน ซนเหล่าอื่นก็ติเตียนเปล่า เพราะตนมีจิตตั้งมั่นดีแล้ว\" ข. เถร. มก. 51/89/277 ตอนทwี่w8wรา.kงวaัลlyพูaลิnตaเซmอร์itแrลaะอ.ีoแรr้gงกับเด็กน้อยขาวซูดาน
ข้อคิดรอนตัว www.kalyanamitra.org
การพัฒนาประเทศ ของญี่ปุน (1) CS 31) 3 •J) G) I ณปi่นdได้รับการยกย่องว่า มีความสามารถในการพัฒนาประเทศให้ ' เจริญก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว เป็นชาติในเอเชียเพียงชาติเดียว ที่ส%ทรถนำพาประเทศชาติ สู่ความเป็นมหาอำนาจเคียงปาเคียงไหล่ ^ กับมหาอำนาจตะวันตกในยุคล่าอาณานิคม ประเด็นที่มักมีผู้หยิบยกขึ้นมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกันอยู่ เสมอโดยเฉพาะในหมู่คนไทยก็คีอ ประเทศไทยและประเทศญี่ป่นเริ่ม เปีดประเทศเพื่อพัฒนาด้านต่าง ๆมาพร้อม ๆ กันคือในสมัยรัชกาล ที่ 5 ของไทยซี่งตรงกับรัชสมัยจักรพรรดิเมจิของญี่ป่น แต่เหตุใดญี่ป่น จิงแชงหน้าไทยไปไกลมาก จริงอยู่ที่วิธีการพัฒนาชองญี่ป่นมีจุดเด่นหลายประการที่ควร คืกษาเป็นแบบอย่าง แด่สิ่งที่คนทั่วไปมักมองข้ามคีอ เมื่อเริ่มพัฒนา ประเทศนั้น ณี่ป่นและไทยมีพื้นฐานที่แตกด่างกัน โดยญี่ป่นมีความ พร้อมกว่าไทยอย่างน้อย 4 ประการ ดังนี้ www.kalตyอนaทีn่a9mกาitรrพaั.ฒoนาrgประเทศของญี่ปุน (1)
1. ความเป็นเอกภาพของคนในชาติ ญี่ป่นมีภูมิประเทศ เป็นเกาะ จึงทำให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางเชื้อชาติสูง และ โซกุนในสมัย เอโดะ ก็สามารถแผ่อำนาจการปกครองครอบคลุมทั่วทั้ง ประเทศไวได้อย่างมั่นคงต่อเนื่องกันยาวนานถีง 200 กว่าปี ทำ ให้คน โดยทั่วไปมีจึตสำนึกร่วมกันว่า ตนคือซนชาติญี่ปุน มีสำ นึกซองความเป็น ชาติสูง ดังนั้นในการเปีดประเทศเพื่อจะพัฒนาด้านต่าง ๆ จึงสามารถ ดำ เนินไปได้เต็มที่โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ส่วนประเทศไทยของเรานั้นมีตินแดนติดต่อกับประเทศเพื่อน บ้านรอบทิศ มีการผสมผสานทางเชื้อชาติมาก และดินแดนไนส่วน ต่าง ๆ ของไทยก็มีอิสระไนการปกครองตนเอง บางแห่งมีประ'วัติศาสตร์ การเป็นประเทศเอกราชมายาวนาน เซ่น ดินแดนแถบล้านนา กลุ่มชน ที่คิดว่าตนเป็นขาวไทยแท้นั้น มีอยู่บริเวณภาคกลางรายรอบ พระนครเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พระราชภารกิจสำคัญยิ่งที่พระบาทสมเด็จ 56 พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกระทำก่อนคือ การสร้างเอกภาพ ของคนในชาติ สร้างจิตสำนึกร่วมของความเป็นไทย เพราะถ้ามี ^ พ^' ทั่'' ทำ ไห้คนไทยต้องรบกันเองเมื่อไร พวกล่าอาณานิคมย่อมฉวยโอกาสเข้ายึดครอง และนั่นหมายถึงการ สูญเสียเอกราช ต้องตกเป็นอาณานิคมของประเทศมหาอำนาจตะวัน ตกไนขณะนั้นอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าเป็นเซ่นนั้นแล้ว การพัฒนาประเทศ คงไม่มีความหมายอะไร การสร้างเอกภาพของขนไนชาติ เป็นงานไหญ่ที่ต้องไข้ เวลา และความละเอียดอ่อนโดยเฉพาะไนภาวะที่มีมหาอำนาจนักล่า อาณานิคมคอยจ้องอยู่รอบทิศ ถือเป็นภารกิจที่ยากยิ่ง แต่ก็สำเร็จลง ได้ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประเทศไทยชองเราจึงไข้ทรัพยากร ไข้กำลังความคิดสติปิญญาและ ไข้เวลาไปกับเรื่องนี้อย่างมาก พระมหาสมชาย รานwวุwทฺwโฒ.kMa.Dly.,aPnha.mD.itra.org
2.ความหนาแม่นชองประชากร ในช่วงปีพทธศักราช 2410 ประเทศไทยมีพื้นที่มากกว่าประเทศญี่ป่นประมาณ 1 เท่าครี่ง แต่มี ประขากรอยู่เพียง 7-8 สัานคนในขณะที่ญี่ป่นมีประซากรกว่า 30ล้าน คน ชี่งมากกว่าไทยถีง 4 เท่า และล้าเทียบเป็นอัตราความหนาแน่น ของประชากรต่อพื้นที่แล้ว จะสูงกว่าไทยถึง 6 เท่าทีเดียว ซึ่งจำนวน ประซากรนี้มีผลอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งในด้านเป็นกำลัง งานในการผลิต การขนส่ง และเป็นตลาดรองรับสินค้า 3.เครือข่ายการตลาด และวิญญาณของความเป็นนักการค้า ประเทศไทยในยุคนั้นมีความหนาแน่นของประซากรน้อย แต่มี £ร« 0 ทรัพยากร ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ จีงมีระบบเศรษฐกิจแบบผลิต ร .J3 เพื่อยังชีพ ขุมขนต่าง ๆ กระจายกันอยู่ห่าง ๆ ทำ ให้การผลิตพืซ G) ผลต่าง ๆ เป็นไปเพื่อการบริโภคแลกเปลี่ยนกันในขุมซนเป็นหลัก 1 แม้แต่ข้าวซึ่งถือเป็นสินค้าหลักของประเทศ หากจะมีการส่งออกไป ขายยังต่างประเทศบ้างก็ต้องเป็นข้าวที่มาจากที่ราบลุ่มภาคกลาง 57 บริเวณใกล้กับแม่นํ้าเท่านั้น เพราะสามารถขนส่งทางนํ้าไต้สะดวก r. ขณะที่การคมนาคมทางบกยังไม่สะดวกนัก และมีค่าใช้จ่ายสูง จึงไม่ เหมาะที่จะขนส่งสินค้าที่มีนํ้าหนักมาก เช่น พีขผลการเกษตรส่งไปขาย ไกล ๆ สินค้าที่พอจะส่งไปขายต่างเมืองหรือต่างประเทศได้ ต้องเป็น สินค้าที่มืราคาสูงเมื่อเทียบกับนํ้าหนัก จึงจะคุ้มค่ากับการขนส่ง ซึ่งได้แก่ สินค้าจำพวกของป่า เช่น นํ้าผึ้ง ครั่ง หนังสัตว์ ไม้แก่นจันทร์ เป็นต้น เมื่อการค้าขายมีอยูไนวงจำกัด ระบบเครือข่ายการตลาดจึง ไม่เกิดการพัฒนา ผู้คนไม่คุ้นเคยกับการค้าขาย นักลงทุนนักธุรกิจจึงมี อยู่น้อย ส่วนใหญ่เป็นขาวจึนโพ้นทะเลที่มาเป็นนายอากรบ่อนเบี้ยต่าง ๆ สังคมไทยในยุคนั้น จึงมีค่านิยมในศักดินาเป็นกระแสหลักของสังคม ดังภาษิตที่ว่า \"สิบพ่อค้าไม่เท่าหนึ่งพระยาเลี้ยง\" www.kaตlอyนaทn9aกmารitฟr้a:ฒ.นoาrปgระเทศของญี่ป่น (1)
ส่วนประเทศญี่ป่นมีประซากรอยู่กันหนาแน่น ทั้งยังมีกัย ธรรมชาติรุนแรง บางภูมิภาคก็แห้งแล้งหนาวจัด ปลูกข้าวไม่ได้ผล ต้องผลิตสินค้าอย่างอื่นเพื่อไปซื้อขายแลกเปลี่ยนให้ได้ข้าวมา เล้นทาง สัญจรต่าง ๆ จังไต้รับการพัฒนา มีการค้าขายกันอยู่โดยทั่วไปในสมัยนั้น เมืองเอใดะ (มหานครโตเกียวในปึจจุบัน)เพียงเมืองเดียวก็มีประซากร อาศัยอยู่มากกว่าหนึ่งล้านคน จัดเป็นมหานครใหญ่แห่งหนึ่งของโลก การค้าขายเป็นไปอย่างคึกคัก มีระบบธนาคารซึ่งมืสาขาทั่วประเทศให้ บริการรับฝากกู้ยืมเงิน และบริการตั๋วแลกเงินเพื่อความปลอดภัยเวลา เตินทาง นักลงทุนนักธุรกิจได้รับการบ่มเพาะให้เติบโตขึ้น เกิดกลุ่มทุน i ขนาดใหญ่ที่มืธุรกิจครอบคลุมทั่วประเทศ กระบวนการสะสมทุนได้ I ดำ เนินไปอย่างต่อเนึ่องภายใต้ภาวะความมั่นคงทางการเมืองที่ยาวนาน ร? กว่า 200 ปี ประกอบภับการที่กู้คนค้นเคยภับการค้าขาย มืวิญญาณ 58 ของนักการค้าอยู่แล้วจังส่งผลให้เครือข่ายการตลาดได้กระจายตัวเข้าถึง ดิบแดนทุกส่วนของประเทศ การเปีดประเทศซองญี่ป่น จังหมายถึงการเปีดรับเอาเทคโนโลยี ต่าง ๆ เข้ามาใช้ในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออก ขยายขอบเขตการค้าไปยัง ต่างประเทศในขณะที่ทรัพยากรบุคคลคึอ บรรดาพ่อค้านักลงทุน และ เครือข่ายการตลาดนั้นญี่ป่นมือยู่พร้อมแล้ว เพราะฉะนั้นกระบวนการ ต่าง ๆ จังสามารถพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลเพียงอำนวยความ สะดวกให้ เหสำนักธุรกิจเอกซนก็พร้อมเดินไปข้างหน้า นึ่คึอความ แตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับประเทศไทย 4.ความเ^มแข็งของกลไกลการปกครอง ในยุคสมัยรัซกาล ที่ 5การปกครองของไทยยังไม่ค่อยเป็นปีกแผ่น แต่ละเมืองมืเจ้ากู้ครอง เมืองดูแลรับผิดขอบกิจการในบ้านเมืองของตน มีเพียงหัวเมืองชั้นใน เท่านั้นที่อยูในความดูแลของส่วนกลางอย่างใกล้ชิด ส่วนหัวเมืองชั้นนอก พระมหาสมชาย ธาwนwๅฑwฺโ.ฒkaMl.yDa.,nPahm.Di.tra.org
จะมีความเป็นอิสระมากกว่า ยิ่ง'ซนบทที่อยู่ห่างไกลออกไปด้วยแสัวยิ่ง มีอิสระมาก บางแห่งอำนาจรัฐบาลกลางเข้าไปไม่ถีงก็มี ส่วนกรณีของญี่ป่บอำนาจรัฐสามารถเข้าถึงแทบทุกจุดของ eS, ประเทศ ระบบการจัดเก็บภา'รเป็นไปอย่างเข้มงวด นโยบายและ คำ สั่งจากรัฐบาลกลางถูกถ่ายทอดไปยังทุกชุมขน และได้รับการปฏิ'นต ตามอย่างเคร่งครัด ผู้ฝ่าป็นจะถูกลงโท'ษอย่างรุนแรง เมื่อกลไกของรัฐมี บทบาทซี้นำสังคมได้อย่างทรงประสิทธิภาพ จีงมีผลอย่างมากต่อการ 'พัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ที่เ'ท็นได้ข้ดคือ ด้านการศึกษา ประเทศไทยเริ่มมีการพัฒนา รู ด้านการศึกษา'นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2410 พระบาทสมเด็จ i พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่'สัวรัขกาลที่5 ทรงก่อตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวง โรงเรียนข้าราซการพลเรือน จาก'นั้นได้มีการสร้างโรงเรียนต่าง ๆ ขยาย ออกไปเรื่อย ๆ จนกระ'สั่งปีพุทธศักราช 2464 ถึงได้เริ่มประกาศใช้ พระราขบัญญ้ติประถมศึกษาแห่งชาติกำหนดใ'ห้เด็กไทยทุกคบต้อง / เรียนจบการศึกษาภาคบังคับถึงขั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จนกระสั่ง \\ ' ปีพุทธศักราช 2504จีงได้ขยายการศึกษาภาคบังคับถึงขั้นประถมศึกษา ปีที่ 7 รวมระยะเวลายาวนานเกือบ 100 ปี ส่วนการพัฒนาด้านการศึกษาชองญี่'ป่นนั้นได้เริ่มด้นในรัชสมัย จักรพรรติเมจ๊โนปีพุทธศักราช 2410 เ'ซ่นก้น เวลาผ่านไปเ'พียง 5ปี ญี่'ป่น ก็เริ่มประกาศใช้ระบบโรงเรียนมาตรฐานเดียวก้นสั่วประเทศ จากนั้'นก็ มีการพัฒนาไปตามลำดับ และสามารถขยายการศึกษาภาคบังดับถึงขั้น ประถมศึกษาตอนปลายในปีพุทธคักราซ 2450 รวมใช้เวลาเ'พียง 40 ปี นี่คือตัวอย่างหนึ่งที่ชี๋ใใง้เห็นถึงความแตกต่างก้นของความเข้ม แข็งทางกลไกของรัฐและ'สั่นฐานต่าง ๆ ระหว่างไทยและญี่'ป่น www.kaตอlนyทaี่n9aกmารiพtrัaฒน.oาปrรgะเทศของญื่ป่น(1)
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์เปรียบเทียบในสิ่งเหล่านึ้น]ได้มี จุดประสงค์เพื่อหาข้ออ้างให้กับตนเองว่า \"ที่เขาได้ดีกว่าเรา เพราะเขา ได้เปรียบเรา\" เพราะความคิดเข่นบั้นคงไม่ก่อให้เกิดประโยซน!ด ๆ แต่วัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์นี้ ก็เพื่อต้องการให้พวกเรามองสิ่ง ต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ไม่มองอย่างมีอคติคิดเข้าข้างตนเอง หรือ มองอย่างดูถุกตนเอง แต่ต้องแกมองด้วยใจเป็นกลาง มีวิสัยทัศน์ที่ กระจ่างข้ด พิจารณาสิ่งต่าง ๆ ไปตามความเป็นจริง เข้าใจเหตุและ c ผล เงื่อนไขปีจจัยของเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไต้อย่างลูกต้อง 's cs (r สำ หรับตอนต่อไป เราจะวิเคราะห์ว่า นอกจากปิจจัยพื้นฐานที่ (E cs เอื้อต่อการพัฒนาประเทศด้งกล่าวแล้ว คนญี่ป่นมีคุณสมบต ดีและเด่น อย่างไร จึงทำให้พัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วเข่นนี้ 60 \"ผู้ใดไม่หวั่นไหวเพราะมานะ 3 อย่าง ที่ถือว่าตัวเรา เป็นผู้ประเสริฐกว่าเขา 1 เสมอเขา 1 เลวกว่าเขา 1 นักปราชญ์ย่อมสรรเลริญ ผู้บั้นแหละว่า เป็นผู้มีปิญญา มีวาจาจริง ตั้งมนดีแล้ว ในคิลทั้งหลาย และว่าประกอบด้วยความสงบใจ\" ข. เถร. มก. 53/337/398 พระมหาสมขาย ฮาwนวwุฑwฺโ.kฌaMl.yDa.,nPahm.Di.tra.org
ข้อคิดรอบตัว 0 'C www.kalyanamitra.org
\"giiiiiiiSSiiiii!!! iiiiiiiiiiiii iiiiiliilll Q cr ร «<£ G> »«p 62 พระมหาสมชาย ราwนวwุฑwฺโ.ฒkaM.lyD.a,nPah.mD.itra.org
การพัฒนา ประเทศของญี่ป่น (2) CO 3» อกจากญี่ป่นจะมีปิจจัยพื้นฐานที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาประเทศ 63 นแล'ว สาเหตุที่ทำให้ญี่ป่นพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วยังมีอีก หลายประการ ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างที่สำคัญ 5 ประการ คือ 1.3ความเ^อมั่นและปีอดมการถ!ที่มั๋นคงซัดเจน เมื่อ ประมาณ 200 ปีที่แล้ว เป็นยุคที่ซนผิวขาวออกล่าอาณานิคมยึด ดินแดนส่วนต่าง ๆ ของโลกเป็นเมืองขึ้น ด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่พันสมัย เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าอย่างเทียบกันไม่ได้โลกเกือนทงโลกจึงตกอยู่ ในอุ้งมือของซนผิวขาว ในยุคนั้นซนฃาติต่าง ๆ ในเอเชียและแอฟริกา ส่วนใหญ่มืความรู้สึกในใจลึก ๆ ว่า ตนสู้ซนผิวขาวไม่ได้ มืความยำเกรง ซนผิวขาว คิดว่าตนนั้นตํ่าด้อุยกว่า... ในขณะที่ซาวญี่ป่นไม่ได้คิดอย่าง นั้นเลย เขามืความภูมิใจในเขึ้อซาดิของตนและมั่นใจว่าซาติของตนต้อง เป็นหนึ่งในโลกได้ ญี่ป่นจึงไม่เคยท้อถอยไม่เคยคิดยอมแพ้มาตั้งแต่ต้น เมื่อรู้ตัวว่าขณะนั้นยังมีความสามารถน้อยกว่า มีความพร้อมน้อยกว่าก็ ทุ่มเททำงานหนักขึ้น ตอนท 10 การพัฒนาประเทศของญี่ป่น(2) www.kalyanamitra.org
\"โอยสิคิ โอยโคะเฃะ\" คือวลีปลุกใจซึ่งแปลว่า \"ไล่ ให้ทัน(ฝรั่ง) และแซงให้ได้\" ยังฝืงเณุ่นอยู่ในใจของซาวญี่ป่น ทุกคน ถือเป็นอุดมการณ์ร่วมกันของคนทั้งชาติ 2.สนใจแก่นมากกว่าเปลือก คนส่วนใหญ่ชอบเรียนลัด ติด ที่เปลือกมากกว่าแก่น แต่คนญี่ป่นมักจะสนใจที่แก่นมากกว่าเปลือก เซ่นเมื่อเห็นฝรั่งมีรถยนต์ขับ คนญี่ป่นก็คิดว่า ทำอย่างไรตนจึงจะผลิต รถได้อย่างฝรั่ง เพราะเขาคิดว่าความเจริญกัาวหน้าไม่ได้อยู่ที่ความ ^ สามารถในการซื้อรถสวย ๆ มาใช้ แต่อยู่ที่ความสามารถในการผลิต P รถออกมาสู่ตลาดได้ในเรื่องอื่น ๆ คนญี่ป่นก็มีริธีคิดในทำนองเดียวกัน I นี้ ต่างจากประเทศไทยซึ่งมีรายได้ประขาซาติตํ่ากว่าญี่ปุนเกือบสิบ IG> เท่า แต่ประเทศไทยของเรากลับมียอดนำเช้ารถยนต์ราคาแพงจาก ต่างประเทศติดอันดับด้น ๆ ของโลก คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วสูงกว่า 64 ญี่ป่นหลายสิบเท่า...ถ้าเราได้หันมาพิจารณาเรื่องเปลือกกับแก่นกันให้ มากกว่านี้บางทีประเทศไทยชองเราอาจจะมีสภาพเศรษฐกิจดีซื้นกว่า ที่เป็นอยู่ 3.ปีชั้นตอนการทำงานที่ดี จุดเด่นประการหนึ่งของคน ญี่ป่นคือ สามารถมองออกอย่างชัดเจนว่า งานแต่ละงานควรมีลำดับ ขั้นตอนในการทำงานอย่างไรจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ครั้งหนึ่ง ได้คุยกับคนญี่ป่นที่เคยมาเที่ยวเมืองไทย เขาบอกว่า \"กรุงเทพฯ รถตดจังเลยนะ ทาไมไม่สร้างรถไฟขนส่งมวลซนล่ะ\"ได้ตอบไปว่า เรา กำลังเตรียมการที่จะสร้างอยู่ คิดกันมานานเกือบยี่สิบปีแล้ว ตอนนี้กำลัง ถกกันอยู่ว่าจะสร้างแบบลอยฟ้าดีหรีอขุดลงใด้ดินดี เขาพิงแล้วก็หัวเราะ เพราะญีป่นสร้างรถไฟใต้ดินสายแรก คือ สายกินซ่า เมื่อเกือบร้อยปี มาแล้ว ขั้นตอนการทำงานของเขาก็คือ ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปคิกษาดูว่า มหานครใหญ่ ๆ ชองโลกที่มีรถไฟฟ้าขนส่งมวลซน เขาใช้ระบบรถไฟฟ้า แบบไหน เพราะเหตุใดจึงเลือกใช้ระบบนั้น แต่ละแห่งมีสภาพภูมิประเทศ พระมหาลมขาย รานๅฑฺโฒ M.D., Ph.D. www.kalyanamitra.org
และเงื่อนไขอื่น ๆ ต่างกันอย่างไร จากนั้นจึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมด (๕t ffi มาพิจารณาตัดสินใจว่าประเทศญี่ป่นควรใข้ระบบรถไฟฟ้าแบบใด sn เมื่อได้ข้อสรุปที่แน่ขัดแล้ว จึงเปีดประมูลเพื่อว่าจ้างบริษัทที่สามารถ ^ร ดำ เนินการกอสร้างได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ งานก็ลุล่วงไปได้ด้วย 66 ดี ตรงกันข้ามกับการทำงานแบบลัดขั้นตอนไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อน ย่อม ไม่สามารถตัดสินใจในเรื่องของระบบรถ เส้นทางการเดินรถ หรือ เทคนิคต่าง ๆ ได้อย่างขัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นหากเปีดประมูลสัมปทาน ไปก่อน แล้วค่อยดิดแก้ป้ญหาที่ตามมาภายหลัง ด้วยเหตุที่มีเรื่อง ผลประโยชน์ต่าง ๆ มาเกี่ยวข้อง ก็ย่อมทำให้การตัดสินใจยิ่งยากขึ้นไป อีก ต้องสูญเสียเวลาและทรัพยากรต่าง ๆ ไปโดยใช่เหตุ 4.ปีกๆรวางแผนระยะยาว คนญี่ป่นจะตัดสินใจเรื่อง ต่าง ๆโดยใช้กระบวนการกลุ่ม ทำ ร่วมกันเป็นทีม มีการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ปิญหา กำ หนดแนวทางการพัฒนาอย่างขัดเจน จึงสามารถ วางแผนระยะยาวได้เนื่องจากมีฐานข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน นำ ไปสู่ ขั้นตอนการปฏิบัติอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง แม้จะมีการเปลี่ยนแปลง ผู้บริหาร ระบบงานก็ยังดำเนินต่อไปได้ ส่วนของไทยเราการตัดสิน ใจมักจะมาจากผู้มีอำนาจ จึงสามารถสั่งงานได้รวดเร็วแต่แผนงาน ก็ถูกเปลี่ยนแปลงได้ง่ายเข่นกัน เมื่อมีการเปลี่ยนผู้บริหาร เปลี่ยน คณะรัฐบาล แผนงานก็ถูกรื้อแก้!ปเรื่อย ๆ ตามความคิดและความ ต้องการของผู้มีอำนาจ ผู้รับนโยบายมาปฏิบัติจึงถนัดทำงานเฉพาะ หน้ากันเป็นส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้คิดมองอะไรไกล ๆ เพราะเห็นแล้วว่า คิดไปก็เปล่าประโยฃน์ เพียงไม่นานก็ต้องเปลี่ยนอีก แผนระยะยาวจึง ไม่ค่อยมี ทิศทางการพัฒนาจึงไม่ขัดเจน ต่างคนต่างคิดต่างคนต่างทำ ไปในทิศทางที่ตนคิดว่าถูกต้อง ซึ่งบางครั้งก็ขัดแย้งกันเองไม่รวมพลัง เป็นหนึ่ง หลายสิ่งหลายอย่างจึงขาดความยั่งยืน เหมีอนต้นไม้ล้มลุก... wwwต.อkนทaํly1a0nกaารmพัiฒtrนaา'.ปoรrะgเทศของญ่ปุน (2)
5.ให้ความสำคัญกับการรกษา เมื่อเริ่มพัฒนาประเทศ สิ่งที่ คนญี่ป่นให้ความสำคัญอย่างยิ่งก็คือ การศึกษา และไซ้เวลาเพียง 5 ปี ก็สามารถประกาศไซ้พระราขบัญญัติประถมศึกษาแห่งซาติ มีคำ ขวัญ ว่า \"โยมี คะฃิ โซโรบัง\" แปลว่า \"อ่านออก เขียนได้ คำ นวณเป็น\" คือความรู้พื้นฐานฃฺนตํ่าที่สุดที่คนญี่ป่นต้องมี ส่วนการพัฒนาด้านการ ศึกษาขั้นสูงขึ้นไปนั้น ญี่ป่นได้ใซ้วธีการคล้ายคลึงกับไทยคือ ส่งคนไป ศึกษาต่อยังต่างประเทศเพื่อสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ แต่ ^ ก่อนจะส่งไปนั้นญี่ป่นได้ศึกษาเป็นอย่างดีแล้วว่า วิชาการแต่ละสาขา P มีกี่แขนง ควรจะส่งคนไปศึกษากี่คนจึงจะสามารถนำความรู้มาไซ้งาน I ได้จริง จากนั้นก็หาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมส่งไปเรียนยังประเทศที่มี 'I ความเชี่ยวชาญที่สุดไนแต่ละสาขาวิชา เซ่น การแพทย์และทหารบกต้อง เยอรมัน กฎหมายต้องฝรั่งเศส ทหารเรือต้องอังกฤษ การค้าต้องอเมริกา 66 เป็นต้น เรียกว่าไปเรียนแบบเป็นทีม ทุกคนรู้หบ้าที่ฃองตนเองชัดเจน ทุ่มเทเรียนอย่างจริงจัง ระหว่างเรียนก็มีการปรืกษาหารือ ติดตามความ fร^\\ s คื'บหน้า ถ้ามีเรื่องไดที่มีแนวโน้มจะเป็นป้ญหาอุปสรรคต่อการทำงานไน V อนาคต ก็หาทางแก้ไขแต่เนิ่น ๆ เรียกว่า พอเรียนจบกลับมาก็ทำงานได้ ทันที และยังสามารถถ่ายทอดความรู้ไห้กับผู้อื่นต่อไปได้อีกด้วย การสร้างคนโดยมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างดีเข่นนี้ทำให้ ญี่ป่นสามารถพัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็ว จากเติมที่เป็นประเทศ ด้อยพัฒนาล้าหลังอย่างยิ่ง ขนาดที่ว่าเมื่อเปีดประเทศใหม่ ๆ เจ้าของ โรงงานทอผ้าที่ขึ้อเครื่องทอผ้าจากต่างประเทศ ไม่สามารถหาคนมา ทำ งานได้ เพราะมีข่าวลือว่า เครื่องจักรทอผ้ากินคนได้ ทำ ไห้ไม่มีคน กล้ามาทำงานด้วย แต่ภายไนเวลา 30 ปี ญี่ป่นมีโรงงานอุตสาหกรรม เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด มีโรงงานถลุงเหล็ก มีโรงต่อเรือรบที่มีเทคโนโลยี ก้าวหน้าสามารถสร้างกองเรือรบที่ทรงอานุภาพ จนรบชนะรัสเซียชี่ง เป็นมหาอำนาจตะวันตกชาติหนึ่งไนยุคนั้นได้ ทำ ไห้เลกต้องตะลึงไน พระมหาลมซายwธwานwๅฑ.kฺโaฒlyMa.Dn.a,mPhi.tDra. .org
ความเป็นชาติเอเชียเพียงชาติเดียว ทื่สามารถก้าวขึ้นมายนเคียงบ่าเคียง ชิ ไหล่กับมหาอำนาจตะวันตกได้อย่างเต็มภาคภูมิ S5 กาลเวลาหมนเวียนผ่านไป ประวัติศาสตร์ยังคงคลี่เปีดหน้า ร J> ใหม่อยู่เสมอ ลี่งที่เราทำในวันนี้ ก็จะเป็นประวัติศาสตร์ในวันต่อ G) ไป เราควรศึกษาบทเรียนจากประวัติศาสตร์ แล้วตั้งใจปรับปรุงการ I ทำ งานของตนเอง ของหมู่คณะ และประเทศชาติให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อประวัติศาสตร์ที่เราร่วมกันสร้างในวันนี้จะได้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ อนซนรุ่นหลัง ให้พวกเขาได้รำลึกถึงด้วยความชื่นซมและภาคภูมิใจต่อ ไป 67 www.ตkอบaทีly่ a1n0aกาmรพitฒrนaา.ปoระrgเทศของญี่ปุน(2)
รร m m ra tr (E <ร CO รรว 68 - พระมหาสมขาย wธาwนวwุฑ.ฺkโฒalMy.aD.n,aPmh.iDt.ra.org
หยุดคิด.. ก่อนปีใหม่จะมาเยือน ๗« รื่องนี้เกิดขึ้นในหน่วยงานหลายแห่ง... ร <J> เ CD \"คุณสนเทศหาเวลาอ่านหน่'งสีอบ้างสิครับ\" i \"หัวหน้าครับ งานยุ่งมาก ยุ่งมากจริง ๆ 69 ไม่ปีเวลาเลยครับ\" ว่าแล้ว คุณสนเทศก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป อีกเรื่องเกิดขึ้นในปาแห่งหนึ่ง... คุณสนเทศกำลังเลื่อยไม้อยู่อย่างขะมักเขม้นเป็นเวลานานแล้ว แต่ยังไม่ขาดลักที เพื่อนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เลยบอกว่า \"คุณสนเทศ หาเวลาลับใบเลื่อยบ้างสิครับ\" \"ไม่ได้ครับ ผมไม่มีเวลาลับใบเลื่อยหรอกครับ ตอนนี้ยุ่งมาก ต้องเลื่อยไม้ ไม่มีเวลาเลยจริง ๆ\" ว่าแล้วคุณสนเทศก็ก้มหน้าก้มตาเลื่อยไม้ต่อไป www.ตkอaนทlีy่a1n1aหmยุดiคtิrดa....oก่rอgนปีใหม่จะมาเยือน
ส่วนเรื่องนี้เกิดฃี้นในใ]าอีกแห่งหนี่ง... คุณสนธยา'นั่งลับใบเลื่อยอยู่นานสองนาน แต่ก็ยังไม่มทห่าวา จะเริ่มลงมือเลื่อยไม้เสียที เ'ผื่อนที่เลื่อยไม้อยู่ก็อดถามขึ้นไม่ได้ว่า ว่าแล้วคุณสนธยาก็ลับใบเลื่อยต่อไป จนพระอาทิตย์ตกดิน P I ปลายปีแล้วทุกคนคงกำลังยุ่งอยู่กับภารกิจการงาน ทั้งงาน 'I ส่วนตัวและงานส่วนรวม ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะประดังเจ้ามา ในเวลาเดียวกัน 70 แต่อย่าลมว่า ใช่เพียงวันนี้ที่งานยุ่ง วันหน้างานก็น่าจะยุ่ง /^ เหมือนกันตังนั้นจงขอใ'ด้พวกเราทุกคนได้หยุดคิด...ก่อนที่ปีใหม่จะ s มาเยือน ลองพิจารณาการทำงานของเราในรอบปีที่ผ่านมาว่าเป็น อย่างไร ? เราเป็นอย่างคุณสนเทศน้างไหม หรือมืใครน้างที่เป็นอย่าง คุณสนธยา คนหนี่งทั้งที่ขยันทำงาน ตั้งใจเลื่อยไม้แต่ใจ้เวลานานเห่าไร งานก็ยังไม่สำเร็จ เพราะใบเลื่อยไร้ความคม อีกคนหนี้งก็เผ่าแต่ลับ ใบเลื่อยใ'ทุ้คม โดยไม่มืทีห่าว่าจะได้ลงมือทำงานเสียที แต่ทั้งสองก็มอง ว่าตนเองนั้น \"งานยุ่ง\" จนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น ในการทำงาน ขออย่าให้เราเป็นอย่างสองกรณีนี้อย่าเป็นอย่าง คุณสนเทศ ที่ทำ แต่งานจนละเลยการพัฒนาตนเอง และอย่าเป็นอย่าง คุณสนธยา ที่ไม่ยอมลงมือทำงาน เพราะคิดว่าตนเองยังไม่พร้อม เรา ต้องหาจุดแห่งความพอดีให้กับชีวิตและการงาน ให้ความสำคัณทั้ง การเรียนรู้ และการน่ามาปฏิบัติ อีกทั้งต้องรู้จักร้บฟ้งความคิดเห็น พระมหาสมชาย ฮwาบwรwุท.โkฒaMly.Da.n,aPmh.Dit.ra.org
ของผู้อื่นด้วย เพราะเราอาจมองตัวเองไม่ออก หรือมองไม่เห็นปัญหา © และทสำคัญที่สุดอย่าลมพักใจด้วยการทำสมาธิทุกวัน แล้วเราก็จะ 35 ร สามารถนำความรู้และประสนการฟ้ต่วง ๆ มาใช้ในการพัฒนาตนเอง J) © และพัฒนาชีวิตการงานของเราได้อย่างสมตุล I ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการ^กม่นตนเอง คนพน 71 ความพอดืในการดำเนินชีวิต และขอให้เข้าถึงธรรมของพระสัมนว สัมพุทธเจ้า โดยเร็วพล้นทุกท่าน...เทอญ หมายเหตุ : ตัวอย่างเรื่องคุณสนเทค และคุณสนธยาเกนความจากหนังสือ \"อุตสาหกรรมสนเทศ\"โดย ดร- สุพจน์ เธียรวฒิ และคณะ ตอนที่ 11 หยุดคิด... ก่อนtlใหม่จะมาเยือน www.kalyanamitra.org
ประว้ติผู้เขียน ฉายา ฉาบวุฑฺโฒ ภิกขุ หรือ พระมหาสมชุาย ฉาบวุฑฺโฒ นามเดิน บายแพทย์สมซาย วัซรศรีโรจน์ แพทยศาสตรบัณทิต ร่บที่ 35 ซองจุฬาลงกรณ์มหาวทยาลัย ประว้ด เกิดวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504 จ.นราธิวาส พ.ศ. 2514 ครอบครัวย้ายไปอยู่ จ.สกลนคร พ.ศ.2520 เข้ามาสืกษาต่อในกรุงเทพมหานคร การสืกษา ป. 1 - ป.4 ที่โรงเรียบบางนราจิทยา จ.นราธิวาส โะเ UP ป.5 - ป.7โรงเรียบเซิงขุมราษฎร์บุกล จ.สกลนคร us ม.ค. 1 - ม.ศ. 3โรงเรียนสกลราซจิทยาบุกูล จ.สกลนคร โ? (r ม.ศ.4 - ม.ศ.5โรงเรียนเตรียมอุดมภิกษา กรุงเทพมหานคร ■p แพทยศาสตรบัณทิต จุฬาลงกรณ์มหาจิทยาลัย ปริญญาโท และปริญญาเอกทางด้านพุทธศาสตร์ภิกษา (Buddhist Studies)มหาจิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุน กิจกรรม - เป็นประธานนักเรียน โรงเรียนสกลราชจิทยาบุกูล - เป็นหัวหน้าชัน ม.ศ. 4,ม.ศ.5 โรงเรียบเตรียมอุดมภิกษา - พ.ศ. 2524 ประธานฝ่ายจิซาการ ขมรมพุทธศาสตร์และประเพณี จุฬาลงกรณ์มหาจิทยาลัย - พ.ศ. 2525 - 2527 ประธานซมรมพุทธศาสตร์และประเพณี จุฬาลงกรณ์มหาจิทยาลัย www.kalyanamitra.org
ข้ อคิดรอ'บตัว % www.kalyanamitra.org
รางวัลพิเศษ -ท.ศ.2522ฃนะเลศการสอบแข่งขันหางพิสิกส์และคณิตศาสตร์ ระหว่าง นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ จำ นวน 3,600 คน จัดสอบ โดยคณะวิศวกรรมคาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -ห.ศ.2522ชนะเลิศการแข่งขันทางvlสิกส์ ซึ่งจัดโดยสถาบันพิลิกส์เฃ็นเตอร์ -พ.ศ.2523 ชนะเลิศการลอบแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจัดโดยคณะ วิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเปีนตัวแทบชองคณะ ฐ แพทยศาสตร์เข้าร่วมแข่งขัน -พ.ศ.2526 ได้รับการคัดเลือกเป็นนิสิตผู้มีความประพฤติดี ของพุทธ X สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราซปลัมภ์เนื่องใบวันวิสาขบูชา ^ 26 พฤษภาคม 2526 -พ.ศ.2553 ได้รับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณ เป็นพระเถระผู้มีพุทธ คุณูปการต่อพระพุทธศาสนา ระดับกาญจนเกียรติคุณ โดยคณะ กรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แหนราษฎร อุปสมบท 2 มิถุนายน 2528(วันวิสาฃบูชา)ณ อุโบสถ วัดพระธรรมกาย พระอุปีชฌาย์ คอ พระธรรมปิญญาบดี (ช่วง วรใJณฺโญ) วัดปากนัาภาษีเจริญ (ป้จจุบันเป็นที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์) พระกรรมวาจาจารย์ คือ พระอธิการไชยบูลย์ ธมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย (ปัจจุบันเป็นที่ พระราชภาวนาวิสุทธ) พระอนุสาวนาจารย์ คือ พระเผด็จ ทตุตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย (ปัจจุบันเป็นที่ พระภาวนาวิริยคุณ) www.kalyanamitra.org
หน้าที่ - พู้ซ่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ^๘. ดูแลงานด้านการศึกษาและการเผยแผ่ธรรมะ is -อธการบดมหาวิทยาลัยธรรมกายแคลิฟอรเนย Ss -ประธานสงฆ์ วัดพระธรรมกาย ประเทศญี่ปุน C2 การทำงาบ-ประธานคณะทำงานฝ่ายไทย ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยปีกกิ่ง ๘ ประเทศจีน ในโครงการแปลพระไตรปิฎกบาลีเป็นภาษาจีน 75 \"ประธานคณะกรรมการโครงการพระไตรปิฎกคอมพวเตอร์ ฉบับสมาคมบาลีปกรณ์(PaU Text Society)ประเทศอังกฤษ -ประธานคณะทำงานโครงการอุปสมบทหมู่ 100,000 รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย - ประธานคพะทำงานโครงการบวซอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 500,000 คน - ประธานอำนวยการสร้างวัดไทยในโตเกียว โอซาท้า นางาโน่ โทซิหงิ คานากาว่า อิบาราฃิ ไซตามะ และยามานาฃิ ประเทศญี่บัน \"ประธานอำนวยการสร้างศูนย์การศึกษาเขาแท้วเสด็จ จังหวัดปราจีนบุรี - มืผลงานหนังลีอธรรมะ แถบบันทึกเลียง และ VCD รวมกว่า 200 รายการ รวมยอดการเผยแพร่กว่า 3,000,000 เล่ม/ชิ้น www.kalyanamitra.org
ผลงานหนังสิอและสิอธรรมะอันทรงคุณค่า โดย พระมหาสมชาย ธานวุฑฺโฒ M.D.,Ph.D. มังกรสอนใจ เป็นหนังสิอข้อคดในการดำเบน?วต เพราะ เรื่องราวในหนังสิอ ใม่เพียงแดให้ข้อยูลควานรู้นก่เรา เท่านั้น แด่เป็นตัวอย่างให้เราได้เห็น แนวทางในการ พิจารณาสิ่งต่าง ๆ โดยใข้ปีญญา เพื่อให้เราดำเนินชีวิต อย่างรคุณค่า สามารถทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับตนเอง และผัอื่นได้อย่างไม่ร้จบ ข้อคิดรอบตว รวบรวมเรื่องราวรอบตัวมาเป็นข้อคิดเพื่อนา ปรับไข้ในชีวิตประจำวันลำหรับประกอบกิจการงานให้ ประสบความลำเร็จ พร้อมทั้งยังเปีดโลกทัคน์ให้กับเราได้ อย่างกวัางขวาง เพื่อที่จะพาชีวิตให้ก้าวไปในยุคแห่งโลก ไร้พรหมแดนอย่างมิความสุขโดยมีรรรมะขององค์พระ สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเครื่องคุมครอง ทันโลกทนธรรม เล่ม 1,2 และ 3 จากรายการทับโลกทันธรรม รวบรวมเรื่องราวความ เปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกความก้าวลํ้าทาง เทคโบโลย พร้อมทั้งแบะนำหลักธรรมคำสอนมาปรับไข้ ในสถานการณ์ด่าง ๆ เพื่อให้ดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง ทั้งทางโลกและทางธรรม www.kalyanamitra.org
รายการ ท นำ เสบอเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงของสถานการถnลกคใามก้าวล็'IVเางเทคโนโลยี พร้อมทัง แนะนำหลักธรรมคำสอนมาปรับใช้ในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้คำเนินช้วิตได้อย่างมั่นคง ทั้งทาง โลกและทางธรรม รายการ เรื่องราวรอบตัว หลากหลายแง่คิดมุมมอง ไขข้อข้องใจลี่งพื่ผู้ซมอยากรู้และสงสัยสอดแทรก ธรรมะที่จะซึมขาบผ่านไจผู้ขมพร้อมนำมาปรับไข้ไนซีวิดประอํววันไห้ประสบควานคำเร็ฟ้บช้วิค โดยมีธรรมะของพระลันมาลัมพุทธเจ้าเนินเครื่องคุ้มครอง รายการ นาบาสาระ นานาความรู้ จากพระอาจารย์หลายท่านผู้ทรงภูมิรู้ภูมีธรรมจากทุกภูมีภาคทั่ว ประเทศไทย ได้ถูกรวบรวม และถ่ายทอดอย่างบ่าสนใจ ในมุมมองที่ทันสมัย ท่าให้เข้าไจง่าย พร้อมนำไปสู่การปฎินํต ส่งผลให้เกิดการท่าความดี เพื่อพื่นฟพระพุทธศาลนาลืบไป www.kalyanamitra.org
รวมถึงผลงานการผลิตส์อธรรมะ ในรูปแบบ DVD ,VCD,MP3 รวมกว่า 200 รายการ รวมยอดการเผยแผ่ กว่า 3,000,000 เล่ม/แผ่น และในปี พ.ศ. 2554 และจัดทำส์อธรรมะในรูปแบบ DVD, MP3 อืกกว่า 100 รายการ www.kalyanamitra.org
DMe THE ONLY ONE ลนใจจัดพิมพ์เผยแพร่เป็นธรรมทานเนื่องในวาระโอกาสต่าง ๆ ติดต่อสอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ ขมรมแทงดลอดในธรรม โทร 089-672-0039. 088-072-7273,088-072-7374 www.kalyanamitra.org
บันทึก www.kalyanamitra.org
ทุกวันเวลาที่ฝาฆไป มี เรี่องราวมากมายเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แม้เรื่องราวส่วนใหญ่จะเลือนหายไปกับกๆลเๆลๆ แต่กิมีไม'น้อยที่ยังคงอยู่และแฝงข้อกิดไๆให้กับผู้คน \"ข้อคิดจากรอบตัว\" อันทรงคุณค่านี้ ไม่เพียงเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต สำ หรับประกอบกิจการงานให้ประสบคาามสํๆเร์จเห่ๆนั้น แต่ยังช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กับเราได้อย่ๆงกวัๆงฃาๆง ijjh เพื่อที่จะนำพาชีวิตให้ก้าวไปในยุคแห่งโลกไร้พรนแดน ได้อย่างเป็นสุข โดยมีธรรมะของพระสัมมาส้มพุทธเจ้า เป็นเครื่องคุ้มครอง www.kalyanamitra.org
Search