ความร้ทู วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 39 5) ผปู้ ระกอบการนําของเขา้ และยน่ื ใบขนสนิ คา้ ตามปกติ แต่ก่อนการชาํ ระภาษี มลู คา่ เพม่ิ ตอ้ งนําใบขนสนิ คา้ ขาเขา้ ไปย่นื ใหห้ น่วยคนื อากร โดยวธิ วี างประกนั ลอยเพ่อื บนั ทกึ วงเงนิ ประกนั ก่อนและลดวงเงนิ ประกนั ตามจาํ นวนของคา่ ภาษอี ากรวตั ถุดบิ ทน่ี ําเขา้ 6) ผปู้ ระกอบการทาํ การผลติ ผสม ประกอบ หรอื บรรจสุ นิ คา้ 7) ยน่ื สตู รการผลติ และรหสั สนิ คา้ ต่อหน่วยคนื อากรโดยวธิ วี างประกนั ลอยภายใน เวลาอนั สมควรก่อนการยน่ื ใบขนสนิ คา้ ขาออก 8) ส่งออกสนิ คา้ โดยยน่ื ใบขนสนิ คา้ ขาออกตามพธิ กี ารปกติ 9) ขอคนื อากรโดยสามารถขอคนื ไดท้ นั ทหี ลงั วนั เรอื ออก และขอคนื ไดท้ ุกครงั้ ทม่ี ี การสง่ ออกไมต่ อ้ งรอใหส้ ง่ ออกครบทงั้ จาํ นวนทน่ี ําเขา้ 10) หน่วยคนื อากรโดยวธิ วี างประกนั ลอย จะพจิ ารณาคนื อากรใหไ้ ดภ้ ายในเวลา ไมเ่ กนิ 15 นาทนี บั แต่การรบั คาํ รอ้ งขอของผขู้ อคนื อากร 11) ผปู้ ระกอบการจดั ทาํ บญั ชวี ตั ถุดบิ ทน่ี ําเขา้ เพ่อื ขอคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ แสดงการนําเข้า การส่งออก ยอดคงเหลอื ของวตั ถุแยกตามใบขนสคิ ้าแต่ละฉบบั ให้กรม ศุลกากรทราบเป็นรายเดอื น จากท่กี ล่าวมาขา้ งต้นสรปุ เป็นตารางการเปรยี บเทยี บการคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ ทงั้ สองวธิ ไี ดด้ งั น้ี ตารางท่ี 1.3 เปรยี บเทยี บการคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ ดว้ ยวธิ รี ะบบบญั ชแี ละวธิ วี างประกนั ลอย วธิ รี ะบบบญั ชี วธิ วี างประกนั ลอย 1. ตอ้ งใชห้ นงั สอื คา้ํ ประกนั ของธนาคารมาวาง 1. ธนาคารค้าํ ประกนั คา่ ภาษอี ากรยอดรวมครงั้ ประกนั ค่าภาษอี ากรทุกครงั้ ทน่ี ําวตั ถุดบิ เขา้ เดยี วแลว้ สามารถนําของเขา้ ไดห้ ลายครงั้ 2. ขอคนื อากรเมอ่ื ไดส้ ง่ ออกหมดทงั้ จาํ นวนท่ี 2. สามารถคนื อากรไดท้ นั ที ทกุ ครงั้ ทไ่ี ดส้ ง่ นําเขา้ แลว้ สนิ คา้ ออกไมต่ อ้ งรอใหส้ ่งออกหมดจาํ นวน 3. การคนื อากรมคี วามยงุ่ ยาก เน่อื งจากตอ้ ง 3. ขอคนื อากรไมย่ งุ่ ยาก เพราะขอคนื ในแต่ละ รวบรวมหลกั ฐานการสง่ ออกทุกครงั้ ทส่ี ง่ ออก ครงั้ ทส่ี ่งออก มายน่ื ประกอบการขอคนื อากร 4. มคี วามล่าชา้ ในการพจิ ารณาคนื อากรของ 4. คนื อากรรวดเรว็ ภายใน 5 นาทนี บั แต่ได้ กรมศุลกากร เน่อื งจากตอ้ งตรวจสอบเอกสาร รบั คาํ รอ้ งขอ มากและเอกสารบางรายการสญู หายหรอื ลา่ ชา้ 5. ผปู้ ระกอบการไดร้ บั เงนิ อากรหรอื หนงั สอื 5. คนื โดยการเพม่ิ ยอดวงเงนิ ค้าํ ประกนั ไมไ่ ดค้ นื คา้ํ ประกนั ของธนาคารคนื เงนิ อากรหรอื หนงั สอื ค้าํ ประกนั ของธนาคาร
40 ความร้ทู วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 3. หลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไข หลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขสาํ หรบั การคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ แหง่ พระราชบญั ญตั ิ ศุลกากร (ฉบบั ท่ี 9) พ.ศ. 2482 ทผ่ี ปู้ ระกอบการสามารถขอคนื ไดต้ อ้ งปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 3.1 ของทน่ี ําเขา้ มาตอ้ งนํามาผลติ หรอื ผสม หรอื ประกอบ หรอื บรรจุดาํ เนนิ การแลว้ ส่งออกไปต่างประเทศ หรอื ส่งไปเป็นของใชส้ น้ิ เปลอื งในเรอื เดนิ ทางไปต่างประเทศ 3.2 ของทน่ี ําเขา้ มาตอ้ งมใิ ช่ของทก่ี ฎกระทรวงระบหุ า้ มคนื เงนิ อากร 3.3 ปรมิ าณของทน่ี ําเขา้ ซง่ึ ใชใ้ นการผลติ หรอื ผสม หรอื ประกอบ หรอื บรรจุ เป็นของทส่ี ่งออก ใหถ้ อื ตามหลกั เกณฑท์ อ่ี ธบิ ดกี รมศุลกากรเหน็ ชอบหรอื ประกาศกําหนดไว้ 3.4 ของนนั้ ตอ้ งส่งออกไปทางทา่ หรอื ทส่ี าํ หรบั การสง่ ออกซง่ึ ของทข่ี อคนื อากร ขาเขา้ 3.5 ของนนั้ ไดส้ ง่ ออกไปภายใน 1 ปีนบั แต่วนั ทน่ี ําของซง่ึ ใชใ้ นการผลติ ผสมหรอื ประกอบเป็นของทส่ี ง่ ออก หรอื ใชบ้ รรจุ ของทส่ี ่งออกเขา้ มาในราชอาณาจกั ร เวน้ แต่ในกรณี มเี หตุสดุ วสิ ยั ทาํ ใหไ้ ม่อาจส่งออกภายในกําหนดเวลาดง้ กล่าวได้ อธบิ ดกี รมศุลกากรอาจขยาย เวลาออกไปไดอ้ กี ไมเ่ กนิ 6 เดอื น 3.6 ผูน้ ําของเขา้ ต้องขอคนื อากรภายใน 6 เดอื นนับแต่วนั ทส่ี ่งของนนั้ ออกไปแต่ อธบิ ดกี รมศุลกากรจะขยายเวลาออกไปตามทเ่ี หน็ สมควรได้ 3.7 ผนู้ ําเขา้ จะตอ้ งยน่ื สตู รการผลติ ต่อกรมศุลกากรก่อนการสง่ ออก 3.8 ผนู้ ําเขา้ จะตอ้ งชาํ ระอากรขาเขา้ และภาษมี ลู ค่าเพม่ิ ก่อน 4. ของท่ีได้รบั คืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ ผู้ประกอบการธุรกิจนําเข้าจะได้รบั เงินค่าอากรคนื ตามมาตรา 19 ทวิจากกรม ศุลกากรกต็ ่อเมอ่ื ของนนั้ มลี กั ษณะปรากฎหรอื ทาํ การพสิ จู น์ไดด้ งั น้ี 4.1 วตั ถุดบิ ทเ่ี หน็ ไดช้ ดั วา่ มอี ยใู่ นของทผ่ี ลติ เพอ่ื ส่งออก เช่น ผา้ กระดมุ ซปิ ด้ายท่ใี ช้ในการผลติ เส้อื ผ้าสําเรจ็ รูป เมด็ พลาสติก แผ่นพลาสติกในการผลติ สนิ ค้าทําด้วย พลาสตกิ เป็นตน้ 4.2 วตั ถุดบิ ทใ่ี ชใ้ นการผลติ โดยตรงทม่ี อี ยใู่ นของทผ่ี ลติ ส่งออกแต่ไมป่ รากฏให้ เหน็ อย่างชดั เจน เช่น เคมภี ณั ฑท์ ใ่ี ชร้ กั ษาสภาพอาหารในผลติ ภณั ฑป์ ระเภทอาหารกระป๋ อง เคมภี ณั ฑช์ นิดสเปรท์ ฉ่ี ดี คอเสอ้ื ใหแ้ ขง็ ในผลติ ภณั ฑเ์ สอ้ื ผา้ สําเรจ็ รปู ตวั ทาํ ลายทใ่ี ชผ้ สมกาวใน ผลติ ภณั ฑเ์ ซลโลเฟน น้ํายากนั สนิมในผลติ ภณั ฑป์ ระเภทวงจรไฟฟ้า เป็นตน้ 4.3 วตั ถุดบิ จาํ เป็นทใ่ี ชใ้ นการผลติ เชน่ กระดาษคารบ์ อน กระดาษทราย ผลขดั น้ํายาขดั เงา เคมภี ณั ฑ์ท่ใี ช้ในการซกั ฟอกในผลิตภณั ฑ์ประเภทสง่ิ ทอ เคมภี ณั ฑ์ท่ที ําให้ เสน้ ดา้ ยเหนียว เป็นตน้
ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 41 สว่ นของทไ่ี มไ่ ดร้ บั คนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ ไดแ้ ก่ เครอ่ื งจกั ร เครอ่ื งมอื แมพ่ มิ พ์ (Mould) เคร่อื งใชใ้ นการผลติ ชนิดต่างๆ และเชอ้ื เพลงิ ทใ่ี ชใ้ นการผลติ เช่น น้ํามนั ไม้ ฟืน ถ่านหนิ เป็นตน้ 5. ขนั้ ตอนคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ ในการขอคนื อากรวตั ถุดบิ ทน่ี ําเขา้ มาผลติ เพอ่ื การส่งออกตามมาตรา 19 ทวิ แหง่ พ.ร.บ. ศุลกากร ผปู้ ระกอบการตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนต่างๆ ทก่ี รมศุลกากรกาํ หนดไวม้ ดี งั น้ี 5.1 การขออนุมตั หิ ลกั การ ผนู้ ําเขา้ ตอ้ งยน่ื หนงั สอื แสดงความจาํ นงขอคนื อากร ตามมาตรา 19 ทวิ (แบบ กศก. 29) ต่อส่วนคนื และชดเชยอากรสํานักสทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษี โดยแจง้ ความจาํ นงดงั น้ี 5.1.1 ผนู้ ําของเขา้ ตอ้ งแจง้ ความจาํ นงว่าจะนําเขา้ วตั ถุดบิ ชนิดใดเพ่อื ผลติ เป็นสนิ คา้ ชนิดใด 5.1.2 ผนู้ ําเขา้ ตอ้ งแจง้ ความจาํ นงว่าจะชาํ ระอากรเงนิ สดหรอื ใช้หนงั สอื ธนาคารค้าํ ประกนั ดงั น้ี 5.1.2.1 ชาํ ระอากรเป็นเงนิ สดเตม็ จาํ นวน หรอื 5.1.2.2 ใชห้ นงั สอื ธนาคารคา้ํ ประกนั ได้ โดยวางประกนั ใหค้ ุม้ ค่า ภาษอี ากร หรอื 5.1.2.3 ใชธ้ นาคารค้าํ ประกนั โดยใชว้ ธิ วี างประกนั ลอย 5.1.2.4 ผนู้ ําของเขา้ ทป่ี ระสงคจ์ ะขอลดอตั ราอากรเหลอื กง่ึ หน่งึ ของ อตั ราอากรทเ่ี รยี กเกบ็ เป็นการทวั่ ไป ตอ้ งเป็นนิตบิ ุคคลไมม่ หี น้สี นิ คา้ งชาํ ระต่อกรมศุลกากร และไมม่ ปี ระวตั ทิ ก่ี รมศุลกากรวา่ เคยทจุ รติ ในการขอคนื ตามมาตรา 19 ทวแิ หง่ พระราชบญั ญตั ิ ศุลกากร (ฉบบั ท่ี 9) พ.ศ. 2482 และตอ้ งมคี ณุ สมบตั อิ ยา่ งใดอยา่ งหน่งึ ดงั ต่อไปน้ี 1) เป็นบรษิ ทั ท่มี หี ลกั ทรพั ยจ์ ดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรพั ย์ แหง่ ประเทศไทย 2) เป็นบรษิ ทั จาํ กดั (มหาชน) 3) เป็นสมาชกิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และไดร้ บั การรบั รองจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ว่ามฐี านะการเงนิ มนั่ คงเป็นทน่ี ่าเช่อื ถอื ได้ ต า ม ห ล ัก เ ก ณ ฑ์ ท่ีส ภ า อุ ต ส า ห ก ร ร ม แ ห่ ง ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย กํ า ห น ด โ ด ย ค ว า ม เ ห็ น ช อ บ ข อ ง รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการคลงั 4) เป็นสมาชกิ ของสภาหอการคา้ แห่งประเทศไทยและไดร้ บั การรบั รองจากสภาหอการคา้ แห่งประเทศไทย ว่ามฐี านะการเงนิ มนั่ คงเป็นทน่ี ่าเช่อื ถอื ไดต้ าม หลกั เกณฑ์ท่สี ภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกําหนดโดยความเหน็ ชอบของรฐั มนตรวี ่าการ กระทรวงการคลงั
42 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 5) ได้นําส่งงบการเงนิ ต่อกระทรวงพาณิชย์ตามข้อกําหนด ของกระทรวงพาณิชย์ ซง่ึ ผตู้ รวจสอบบญั ชไี ดร้ บั รองว่าเป็นกจิ การทม่ี กี ําไรยอ้ นหลงั ไม่ต่ํากว่า 2 ปีบญั ชตี ดิ ต่อกนั และไมเ่ คยไดร้ บั การปฏเิ สธการรบั รองฐานะการเงนิ จากสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทยหรอื สภาหอการคา้ แห่งประเทศไทย 5.1.2.5 ผนู้ ําของเขา้ ทป่ี ระสงคจ์ ะขอลดอตั ราอากรลดลงโดยใหเ้ หลอื รอ้ ยละ 5 ของอตั ราอากรทเ่ี รยี กเกบ็ เป็นการทวั่ ไป ตอ้ งเป็นนิตบิ ุคคล ไม่มหี น้ีสนิ คา้ งชาํ ระต่อ กรมศุลกากรและไม่มปี ระวตั ทิ ่กี รมศุลกากรว่าเคยทุจรติ ในการขอคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบญั ญตั ศิ ุลกากร (ฉบบั ท่ี 9) พุทธศกั ราช 2482 และเป็นผไู้ ดร้ บั การคดั เลอื กให้เป็น ผนู้ ําของเขา้ ระดบั บตั รทองของกรมศุลกากร 5.2 การนําเขา้ วตั ถุดบิ ผปู้ ระกอบการจะมกี ารตดิ ต่อพธิ กี ารดา้ นเอกสารแจง้ ความ ประสงคน์ ําเขา้ วตั ถุดบิ ผา่ นขนั้ ตอนในการตรวจสอบจากกรมศุลกากรมอี ยู่ 2 วธิ คี อื 5.2.1 การผ่านพธิ กี ารศุลกากรระบบแลกเปลย่ี นขอ้ มลู (EDI) ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 5.2.1.1 ผนู้ ําของเขา้ จะตอ้ งยน่ื ชุดใบขนสนิ คา้ ขาเขา้ และแนบใบขน สนิ คา้ ขาเขา้ โดยสําแดงขอ้ ความ “ขอคนื อากรตามมาตรา 19 ทว”ิ (กรณชี ําระอากรเป็นเงนิ สด) แต่หากเป็นกรณีใช้หนังสอื ธนาคารค้ําประกนั ให้สําแดงขอ้ ความว่า “ขอคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ โดยค้ําประกนั (หรอื วธิ วี างประกนั ลอย)” ท่มี ุมขวาด้านบนของใบขนสนิ คา้ ขาเขา้ และ แนบใบขนสนิ คา้ ขาเขา้ พรอ้ มเอกสารอ่นื ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งต่อฝ่ายการนําเขา้ สํานักงานศุลกากร/ ดา่ นศุลกากรทน่ี ําเขา้ 5.2.1.2 ผนู้ ําของเขา้ สามารถขอรบั ใบแนบใบขนสนิ คา้ ขาเขา้ ไดจ้ าก หน่วยตรวจปล่อยสินค้าทันที หลังจากตรวจปล่อยเสร็จส้ิน/หรือขอรับจากห น่วยงานท่ี ตรวจสอบตวั อยา่ งทนั ทเี พ่อื นําไปใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการขอคนื อากรต่อไป 5.2.2 การผ่านพธิ กี ารศุลกากรทางอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ์ บบไรเ้ อกสาร (Paperless) ใหผ้ ู้นําของเขา้ ทใ่ี ชส้ ทิ ธขิ ์ อคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ จดั ทาํ ขอ้ มูลใบขนสนิ ค้า ขาเข้าตามมาตรฐานท่ีกรมศุลกากรกําหนดแล้วส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ระบบ คอมพวิ เตอรข์ องศุลกากร ซง่ึ วธิ นี ้ีผนู้ ําของเขา้ ทผ่ี ่านพธิ กี ารศุลกากรทางอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบไร้ เอกสารไมต่ อ้ งจดั ทาํ ใบแนบใบขนสนิ คา้ ขาเขา้ ในการขอคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ 5.3 การยน่ื สตู รการผลติ ในระบบอเิ ลค็ ทรอนิคส์ (e-Formula) ผนู้ ําของเขา้ จะต้อง ยน่ื สตู รการผลติ ภายในระยะเวลาอนั สมควรก่อนการส่งของออกเพ่อื ขออนุมตั กิ รณใี ดกรณีหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี 5.3.1 ยน่ื สตู รการผลติ (รวมสตู รการผลติ ทใ่ี ชว้ ตั ถุดบิ 1 หน่วยต่อผลติ ภณั ฑ์ 1 หน่วยหรอื นบั ชน้ิ ได)้ 5.3.2 ขอใชส้ ตู รการผลติ รว่ มกบั สตู รการผลติ ของผอู้ ่นื โดยจะตอ้ งไดร้ บั ความ ยนิ ยอมเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรจากผเู้ ป็นเจา้ ของสตู รการผลติ นนั้
ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 43 5.3.3 ขอแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ วตั ถุดบิ เขา้ ในสตู รการผลติ ทก่ี รมศุลกากรไดอ้ นุมตั ิ แลว้ 5.3.4 ขอแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั ช่อื ผลติ ภณั ฑใ์ นสูตรการผลติ ทก่ี รมศุลกากร ไดอ้ นุมตั แิ ลว้ สําหรบั สูตรการผลติ ท่ยี ่นื ใหม่จะมอี ายุการใช้งาน 30 วนั ทําการนับตงั้ แต่วนั ท่ไี ด้รบั เอกสารครบถว้ น และสตู รการผลติ ทไ่ี ดร้ บั อนุมตั แิ ลว้ ในแต่ละคราวจะมอี ายกุ ารใชง้ าน 5 ปีนับ แต่วนั ทก่ี ําหนดให้ใช้ตดั บญั ชวี ตั ถุดบิ (ไม่รวมสูตรมาตรฐาน) และขอต่ออายุสูตรการผลติ ได้ คราวละ 5 ปีตามประกาศของกรมศุลกากร 5.4 การยน่ื ตารางโอนสทิ ธิ ์ ก่อนสง่ ขอ้ มลู ใบขนสนิ คา้ ขาออกผสู้ ่งออกทผ่ี า่ นพธิ ี การศุลกากรทางอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบไรเ้ อกสารและมกี ารโอนสทิ ธใิ ์ ชข้ อ้ มลู การส่งออกสาํ หรบั ตดั บญั ชวี ตั ถุดบิ ทน่ี ําเขา้ เพ่อื ขอคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ ตอ้ งจดั ทําตารางโอนสทิ ธโิ ์ ดยสาํ แดง ขอ้ มลู ในแบบแสดงรายการโอนสทิ ธแิ ์ ละบนั ทกึ ลงส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เช่น แผ่น Diskette หรอื แผน่ CD ROM เป็นตน้ ยน่ื ต่อหน่วยงานพจิ ารณาคนื อากรส่วนคนื และชดเชยอากรเพ่อื นําเขา้ ส่รู ะบบคอมพวิ เตอรข์ องศุลกากร หากผสู้ ง่ ออกพบว่ามคี วามคลาดเคล่อื นของขอ้ มลู ตารางโอน สิทธิท์ ่ีได้บันทึกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากรแล้วจะไม่สามารถกระทําแก้ไข เปลย่ี นแปลงไดแ้ ต่อยา่ งใด ผสู้ ง่ ออกจะตอ้ งดาํ เนนิ การจดั ทาํ ตารางโอนสทิ ธใิ ์ หมเ่ ท่านนั้ 5.5 การสง่ ออกผลติ ภณั ฑ์ ผสู้ ่งออกจะมพี ธิ กี ารปฏบิ ตั ติ ่อศุลกากร 2 วธิ คี อื 5.5.1 การผา่ นพธิ กี ารศุลกากรระบบแลกเปลย่ี นขอ้ มลู (EDI) ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 5.5.1.1 ผสู้ ง่ ของออกจะตอ้ งส่งออกผลติ ภณั ฑท์ ผ่ี ลติ ไดภ้ ายใน 1 ปี นบั แต่วนั นําวตั ถุดบิ เขา้ 5.5.1.2 ผสู้ ง่ ของออกจะตอ้ งยน่ื ชดุ ใบขนสนิ คา้ ขาออกและใบแนบใบ ขนสนิ คา้ ขาออกเพ่อื ขอคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ และเอกสารอ่นื ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งต่อสาํ นกั งาน ศุลกากรหรอื ดา่ นศุลกากรทส่ี ่งของออก 5.5.1.3 ผสู้ ่งออกสามารถรบั ใบแนบใบขนสนิ คา้ เขาออกจากหน่วย ตรวจปล่อยสนิ ค้าทนั ที หลงั จากตรวจปล่อยเสร็จส้นิ หรอื ขอรบั จากหน่วยงานท่ตี รวจสอบ ตวั อยา่ งไดท้ นั ทหี ลงั การตรวจสอบเสรจ็ สน้ิ เพอ่ื นําไปใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการคนื อากรต่อไป 5.5.1.4 ในใบขนสนิ คา้ ขาออกและใบแนบใบขนสนิ คา้ ขาออกจะตอ้ ง สาํ แดงการขอคนื อากรหรอื โอนสทิ ธกิ ารคนื อากรไวด้ ว้ ย 5.5.1.5 กรณสี ่งตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑข์ ณะสง่ ออก กรมศุลกากรจะตอ้ ง ดําเนินการตรวจสอบตัวอย่างให้แล้วเสรจ็ ภายใน 7 วนั ซ่ึงผู้ส่งของออกจะขอรบั ตัวอย่าง ผลติ ภณั ฑค์ นื ภายใน 15 วนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ บั การแจง้ จากกรมศุลกากร
44 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 5.5.2 การผ่านพธิ กี ารศุลกากรอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบไรเ้ อกสาร (Paperless) การผ่านพิธีการใบขนสินค้าขาออกท่ีมีการใช้สิทธิขอคืนอากรตามมาตรา 19 ทวิ ทาง อเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบไรเ้ อกสารใหด้ าํ เนินการเพมิ่ ดงั น้ี 5.5.2.1 ใหผ้ สู้ ่งของออกทใ่ี ชส้ ทิ ธขิ ์ อคนื อากรตามมาตรา19 ทวิ จดั ทํา ขอ้ มลู ใบขนสนิ คา้ ขาขออกตามมาตรฐานทศ่ี ุลกากรกาํ หนดแลว้ ส่งขอ้ มลู ทางอเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ขา้ สู่ ระบบคอมพวิ เตอรข์ องศุลกากร 5.5.2.2 ผสู้ ่งของออกทผ่ี ่านพธิ กี ารทางอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบไรเ้ อกสาร ไม่ต้องจดั ทําใบแนบใบขนสนิ ค้าขาออกขอคนื อากรตามมาตรา 19 ทวอิ ีกเน่ืองจากได้รบั การ ผ่อนผนั แลว้ 5.6 การขอชาํ ระอากร กรณที ใ่ี ชห้ นังสอื ธนาคารค้าํ ประกนั หรอื วธิ วี างประกนั ลอย แทนการชําระอากรดว้ ยเงนิ สด หากวตั ถุดบิ ไมไ่ ดใ้ ชผ้ ลติ หรอื ผสม หรอื ประกอบ หรอื บรรจุ ภายใน 1 ปี ผู้นําของเข้าจะต้องย่นื ใบสรุปยอดเงนิ ภาษีอากรขาเขา้ เพ่อื ชําระค่าภาษีอากร พรอ้ มทงั้ เงนิ เพม่ิ รอ้ ยละ 1 ต่อเดอื นภายในเดอื นท่ี 13 นบั แต่วนั นําเขา้ หนังสือคา้ ประกนั ท…่ี ………………… ( ) ธนาคาร ( ) สถาบนั การเงนิ วนั ท่ี …… เดอื น ………..……. พ.ศ. .…………. ตามท…่ี …………….(ชอ่ื ประกอบการ)………………………………... สาํ นกั งานตงั้ อยู่ เลขท่ี…………….……หมู่ท่ี…………..ตรอก / ซอย…………………ถนน……..………….. ตําบล / แขวง………..……….อําเภอ / เขต …..………………..จังหวัด…….………..…… ได้รบั อนุมตั ิจากสํานักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพให้เป็นผู้ประกอบการส่งของออ ก เรง่ ดว่ นนนั้ ( ) ธนาคาร ( ) สถาบนั การเงนิ ……………………………………………...ขอเขา้ ค้าํ ประกนั ………………………..(ช่อื ผปู้ ระกอบการ)………………………โดยใหส้ ญั ญาว่า 1. ในกรณที พ่ี นกั งานเจา้ หน้าทต่ี รวจพบว่าผปู้ ระกอบการดงั กล่าว หรอื บรษิ ทั , หา้ ง, รา้ น ทใ่ี ชบ้ รกิ ารดา้ นพธิ กี ารของผปู้ ระกอบการดงั กล่าว ชําระภาษอี ากรไว้ไม่ครบถ้วน หรอื กระทําความผดิ ซง่ึ ต้องชําระภาษีอากรเพม่ิ หรอื เงนิ เพม่ิ ตามกฎหมาย ต้องชําระค่าปรบั หรอื ชดใช้ค่าสนิ ไหมทดแทนและค่าเสยี หายให้แก่กรมศุลกากร หากกรมศุลกากรได้แจ้ง ผู้ประกอบการดงั กล่าวหรอื บรษิ ัท, ห้าง, ร้าน ท่ใี ช้บรกิ ารด้านพิธกี ารของผู้ประกอบการ
ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 45 ดังกล่าวทราบแล้วแต่มไิ ด้มาดําเนินการชําระให้ครบถ้วนไม่ว่ากรณีใดๆ ผู้ประกอบการ ดงั กล่าวจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบแทน โดย ( ) ธนาคาร ( ) สถาบนั การเงนิ ยนิ ยอมชําระเงนิ ดงั กลา่ วใหแ้ ก่กรมศุลกากรภายใน 15 วนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดร้ บั แจง้ 2. สญั ญาน้ีเป็นการค้าํ ประกนั ใบขนสนิ คา้ ทุกฉบบั ของ……(ช่อื ผปู้ ระกอบการ)……… ทย่ี ่นื ต่อสํานักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ และใหม้ ผี ลบงั คบั ใชต้ ลอดเวลาไปจนกว่า ( ) ธนาคาร ( ) สถาบนั การเงนิ จะบอกเลกิ สญั ญาค้าํ ประกนั 3. การบอกเลกิ สญั ญาคา้ํ ประกนั ( ) ธนาคาร ( ) สถาบนั การเงนิ จะตอ้ งแจง้ ให้ สํานักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรงุ เทพทราบล่วงหน้าไมน่ ้อยกว่า 30 วนั และให้ถอื ว่าการ บอกเลกิ สญั ญาคา้ํ ประกนั ไมว่ ่ากรณีใดมไิ ดท้ าํ ให้ ( ) ธนาคาร ( ) สถาบนั การเงนิ พน้ จาก ความรับผิดในใบขนสินค้าท่ี……………….……(ผู้ประกอบการ)……………….…..ย่ืนต่อ สาํ นกั งานศุลกากรท่าอากาศยานกรงุ เทพไวก้ ่อนสญั ญาค้าํ ประกนั สน้ิ สดุ ลง 4. จํานวนเงนิ ท่ี ( ) ธนาคาร ( ) สถาบนั การเงนิ เขา้ ผูกพนั ตามสญั ญาค้ํา ประกนั น้ีใหห้ มายความรวมถงึ ชดใชค้ ่าสนิ ไหมทดแทน และค่าเสยี หายทเ่ี ก่ยี วเน่ืองกบั การไม่ ปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บขอ้ บงั คบั ของกรมศุลกากร หรอื กระทาํ การอ่นื ใดทเ่ี ป็นความผดิ ต่อกฎหมาย ศุลกากรของบริษัท, ห้าง, ร้าน ท่ีใช้บริการด้านพิธีการของผู้ประกอบการดังกล่าวซ่ึง ผปู้ ระกอบการดงั กล่าวตอ้ งรบั ผดิ ชอบแทนรวมทงั้ การกระทาํ ใดๆ ทผ่ี ปู้ ระกอบการดงั กล่าวเป็น ผกู้ ระทาํ เองดว้ ย 5. จาํ นวนเงนิ ทงั้ สน้ิ ( ) ธนาคาร ( ) สถาบนั การเงนิ จะตอ้ งรบั ผดิ ชอบตาม สญั ญาน้เี ป็นเงนิ ……………………….บาท (..……………………………………………….) สญั ญาประกนั ฉบบั น้ีใช้บงั คบั ตงั้ แต่วนั ท่ี……..เดอื น………..พ.ศ.……..และตลอดไป จนกว่ากรมศุลกากรจะได้รบั ชําระหน้ีถูกต้องครบถ้วนแล้ว ทงั้ น้ีโดยไม่คํานึงว่า สํานักงาน ศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพจะสงั่ เพกิ ถอนหรอื สงั่ ระงบั การเป็นผูป้ ระกอบการส่งของออก เรง่ ด่วนเป็นการชวั่ คราวหรอื ไมก่ ต็ าม เพ่อื เป็นหลกั ประกนั แห่งหน้ีสญั ญาน้ี ( ) ธนาคาร ( ) สถาบนั การเงนิ โดยผู้มี อาํ นาจกระทาํ การแทนไดล้ งลายมอื ชอ่ื และประทบั ตราไวเ้ ป็นสาํ คญั ต่อหน้าพยาน ลงชอ่ื ……………….……….ผคู้ ้าํ ประกนั ลงช่อื ……………………….ผคู้ า้ํ ประกนั (…………….……….…) (…………….…………) ลงชอ่ื …………………………พยาน ลงช่อื …………………………พยาน (…………………………) (...………………………) ทม่ี า : (สมเดช โรจน์ครุ เี สถยี รและคณะ, 2556 หน้า 31)
46 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก การชดเชยภาษีอากรการส่งออก สุเมษ เลศิ จรยิ พร (2557 : 192) กล่าวถงึ การชดเชยค่าภาษอี ากรถอื ว่าเป็นมาตรการ อย่างหน่ึงของรฐั บาลท่จี ะช่วยลดต้นทุนใหแ้ ก่ผผู้ ลติ สนิ คา้ ส่งออก เพ่อื ใหส้ ามารถแขง่ ขนั ราคา ในตลาดต่างประเทศไดโ้ ดยการจา่ ยเงนิ ชดเชยคา่ ภาษอี ากรทแ่ี ฝงอย่ใู นต้นทุนสนิ คา้ ทส่ี ่งออกใน รปู ของบตั รภาษี ทงั้ น้ี การจา่ ยเงนิ ดงั กลา่ วตอ้ งเป็นไปตามหลกั เกณฑ์และเง่อื นไขทบ่ี ญั ญตั ไิ ว้ ในพระราชบญั ญตั ชิ ดเชยคา่ ภาษอี ากรสนิ คา้ สง่ ออกทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั ร พ.ศ.2524 ซง่ึ คณะ กรรมการพจิ ารณาชดเชยค่าภาษอี ากรสนิ คา้ ส่งออกทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั รประกอบดว้ ย ปลดั กระทรวงการคลงั ทาํ หน้าทเ่ี ป็นประธาน อธบิ ดกี รมศุลกากร ผอู้ ํานวยการสํานกั งานเศรษฐกจิ การคลงั ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวง อุตสาหกรรม และผทู้ รงคุณวฒุ อิ กี ไมเ่ กนิ หา้ คน โดยคณะกรรมการทไ่ี ดร้ บั การแต่งตงั้ เขา้ มาจะ ช่วยกนั พจิ ารณาในเร่อื งต่างๆ เช่น กําหนดอตั ราเงนิ ชดเชยแก่ชนิดและ/หรอื สนิ คา้ ทจ่ี ะไดร้ บั เงนิ ชดเชย ประเภทสนิ คา้ ทไ่ี ม่ไดร้ บั ชดเชย หลกั เกณฑ์ วธิ กี ารเง่อื นไขและกําหนดเวลาการ จา่ ยเงนิ ชดเชย เป็นตน้ ดงั นนั้ จงึ สรปุ ไดว้ ่า การชดเชยค่าภาษอี ากร หมายถงึ การทร่ี ฐั จ่ายเงนิ ใหแ้ ก่ผสู้ ่งออก ในรูปของ “บตั รภาษี” สําหรบั สนิ ค้าท่ผี ลติ ในราชอาณาจกั ร ซง่ึ ครอบคลุมถึงการขายสนิ ค้า ภายในประเทศให้แก่ส่วนราชการหรอื รฐั วสิ าหกิจตามโครงการเงนิ กู้หรอื เงนิ ช่วยเหลอื จาก ต่างประเทศ และครอบคลมุ ถงึ การขายสนิ คา้ ใหแ้ ก่องคก์ ารระหวา่ งประเทศ หรอื หน่วยงานทม่ี ี สทิ ธนิ ําสนิ ค้าเขา้ มา โดยไดร้ บั ยกเว้นอากรตามกฎหมายว่าดว้ ยพกิ ดั อตั ราศุลกากรเป็นการ ทดแทนคา่ ภาษอี ากรทผ่ี ผู้ ลติ ไดเ้ สยี ไปในทุกขนั้ ตอนของการผลติ อนั ไดแ้ ก่ บรรดาภาษอี ากรท่ี มอี ย่ใู นมูลค่าของวตั ถุดบิ อุปกรณ์ อะไหล่ เคร่อื งจกั ร เชอ้ื เพลงิ พลงั งานอยา่ งอ่นื ทใ่ี ชใ้ น การผลติ สนิ ค้า แต่ไม่รวมถึงภาษีเงนิ ได้ ค่าภาคหลวง ภาษีอากรท่ขี อคืนตามกฎหมายอ่นื แลว้ ภาษอี ากรส่วนทอ้ งถนิ่ และภาษอี ากรตามทค่ี ณะกรรมการพจิ ารณาชดเชยค่าภาษอี ากร สนิ คา้ สง่ ออกทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั รกําหนด สาํ หรบั ขอ้ มลู ต่างๆ ในการขอชดเชยภาษอี ากร สง่ ออกทผ่ี ปู้ ระกอบการควรทราบมดี งั น้ี 1. คณุ สมบตั ิและเง่ือนไขของผมู้ ีสิทธิในการขอรบั เงินชดเชยค่าภาษีอากร คณุ สมบตั แิ ละเงอ่ื นไขสาํ หรบั ผทู้ ม่ี สี ทิ ธใิ นการขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรตามท่ี คณะกรรมการพจิ ารณาชดเชยค่าภาษีอากรสนิ คา้ ส่งออกทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั ร พ.ศ. 2524 กําหนดไวไ้ ดแ้ ก่ 1.1 เป็นผสู้ ่งออกสนิ คา้ ไมว่ ่าจะเป็นผผู้ ลติ เองหรอื ไมก่ ต็ ามโดยมเี งอ่ื นไขดงั น้ี 1.1.1 จะตอ้ งไมใ่ ชส้ ทิ ธคิ นื อากร หรอื ยกเวน้ อากร หรอื ลดหยอ่ นอากรขาเขา้ สาํ หรบั วตั ถุดบิ ทน่ี ํามาผลติ เป็นสนิ คา้ สง่ ออกตามกฎหมายหน่งึ กฎหมายใด
ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 47 1.1.2 ผสู้ ง่ ออกไดป้ ฏบิ ตั คิ รบถว้ นตามมาตรา 45 และมาตรา 48 แห่งพระราช บญั ญตั ศิ ุลกากร พ.ศ. 2469 และกฎหมายอ่นื ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 1.2 เป็นผขู้ ายสนิ คา้ ใหแ้ ก่ส่วนราชการหรอื รฐั วสิ าหกจิ ตามโครงการเงนิ กหู้ รอื เงนิ ช่วยเหลอื จากต่างประเทศ ทงั้ น้ีค่าของสนิ ค้าดงั กล่าวหรอื ทงั้ หมดหรอื บางส่วนจะต้องชําระ จากเงนิ กหู้ รอื เงนิ ชว่ ยเหลอื จากต่างประเทศ 1.3 เป็นผขู้ ายสนิ คา้ ทจ่ี าํ แนกประเภทไวใ้ นภาคทว่ี ่าดว้ ยของทไ่ี ดร้ บั ยกเวน้ อากร ตามกฎหมายว่าด้วยพกิ ดั อตั ราศุลกากรให้แก่องค์การระหว่างประเทศหรอื หน่วยงานใดท่มี ี สทิ ธนิ ําสนิ คา้ นนั้ เขา้ มาในราชอาณาจกั รได้ 1.4 สนิ คา้ ทส่ี ่งออกจะตอ้ งเป็นสนิ คา้ ทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั ร โดยจะตอ้ งมคี าํ ว่า “ผลติ ” หมายถงึ การประกอบ แปรรูป แปรสภาพ หรอื ทาํ การอย่างใดอย่างหน่ึงใหม้ ขี น้ึ ซง่ึ สิน ค้ า ไ ม่ ว่ า ด้ ว ย วิธี ใ ด แ ล ะ ไ ม่ เ ป็ น สิน ค้า ต้ อ ง ห้ า ม มิใ ห้ไ ด้ร ับ เ ง ิน ช ด เ ช ย ต า ม ป ร ะ ก า ศ ข อ ง คณะกรรมการพจิ ารณาชดเชยค่าภาษีอากรสนิ ค้าส่งออกทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั ร ทงั้ น้ีการ ส่งออกไปจาํ หน่ายยงั ต่างประเทศต้องปฏบิ ตั ใิ หถ้ ูกตอ้ งครบถว้ นตามกฎหมายว่าดว้ ยศุลกากร และไดร้ บั เงนิ ค่าราคาสนิ คา้ เขา้ มาในประเทศดว้ ย ถา้ เป็นการสง่ ออกเพอ่ื วตั ถุประสงคอ์ ่นื เช่น เพอ่ื เป็นตวั อยา่ ง เพ่อื วเิ คราะห์ ทไ่ี มใ่ ชเ่ พ่อื การคา้ ยอ่ มไมอ่ าจขอชดเชยคา่ ภาษอี ากรได้ 1.5 ตอ้ งยน่ื ชดเชยค่าอากรภายใน 1 ปีนบั แต่วนั สง่ สนิ คา้ ออก 1.6 กรณมี กี ารส่งสนิ คา้ คนื และตอ้ งคนื เงนิ ค่าสนิ คา้ ใหแ้ ก่ผซู้ อ้ื จะตอ้ งคนื เงนิ ชดเชย เป็นจํานวนตามส่วนสนิ ค้าทร่ี บั คนื ให้แก่กรมศุลกากรภายใน 60 วนั นับแต่วนั ท่นี ําสนิ ค้าเขา้ หรอื นับแต่วนั ได้รบั สนิ ค้าคนื สําหรบั กรณีท่ขี ายสนิ ค้าภายในประเทศมฉิ ะนัน้ ต้องชําระเงนิ เพม่ิ อกี รอ้ ยละ 2 ต่อเดอื นหรอื เศษของเดอื นของเงนิ ชดเชยทต่ี ้องชําระคนื จนกว่าจะชําระคนื เงนิ ชดเชยครบถว้ น 2. ชนิดสินค้าส่งออกที่ไม่มสี ิทธิได้รบั เงินชดเชยค่าภาษีอากร ชนิดสนิ คา้ สง่ ออกดงั ต่อไปน้หี า้ มมใิ หม้ สี ทิ ธไิ ดร้ บั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากร ไดแ้ ก่ 2.1 สนิ คา้ ทส่ี ง่ ออกเพ่อื วตั ถุประสงคเ์ ป็นตวั อยา่ ง หรอื เพอ่ื การวเิ คราะห์ 2.2 สนิ คา้ ทไ่ี มไ่ ดผ้ ลติ ในราชอาณาจกั ร 2.3 แร่ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยแร่ 2.4 สนิ คา้ ทต่ี อ้ งเสยี ภาษอี ากรหรอื คา่ ธรรมเนียมเมอ่ื ส่งออกอยา่ งใดอย่างหน่ึงหรอื ทงั้ สองอยา่ ง 2.5 สนิ คา้ ตามประกาศคณะกรรมการพจิ ารณาชดเชยค่าภาษอี ากร สนิ คา้ ส่งออก ทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั รกําหนดใหไ้ มไ่ ดร้ บั เงนิ ชดเชยมดี งั น้ี
48 ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 2.5.1 ตามประกาศของคณะกรรมการพจิ ารณาชดเชยคา่ ภาษอี ากรสนิ คา้ ส่ง ออกท่ี 3/2527 เรอ่ื ง กําหนดชนดิ สนิ คา้ ทไ่ี มไ่ ดร้ บั เงนิ ชดเชยมผี ลบงั คบั ใชต้ งั้ แต่วนั ท่ี 7 พฤศจิกายน 2527 เป็นต้นไป ได้แก่ ผลิตภณั ฑ์ท่ที ําด้วยไม้สัก พยุง ชิงชนั ประดู่ มะค่าโมง ขะเจา๊ ะ(สาธร) มะเกลอื ซง่ึ ไมเ่ หมาะทจ่ี ะนําไปแปรรปู เป็นอยา่ งอ่นื 2.5.2 ตามประกาศของคณะกรรมการพจิ ารณาชดเชยคา่ ภาษอี ากรสนิ คา้ สง่ ออกทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั รท่ี 1/2535 ไดแ้ ก่ 2.5.2.1 ขา้ วเจา้ ขา้ วเหนียวไมว่ ่าจะเป็นขา้ วเปลอื ก ขา้ วขาว ขา้ ว กลอ้ ง ขา้ วน่งึ ขา้ วอบแหง้ ปลายขา้ ว หรอื ราํ 2.5.2.2 ขา้ งฟา่ ง ขา้ วสาลี 2.5.2.3 ขา้ วโพด ไมว่ า่ เป็นฝกั หรอื เมลด็ อบ บด ทาํ ใหเ้ ป็นซกี หรอื ช้นิ แต่ไม่รวมถงึ แป้งขา้ วโพด หรอื ขา้ วโพดทผ่ี ่านกรรมวธิ เี พ่อื ทําเป็นอาหารนอกจาก อาหารสตั ว์ (ไมร่ วมฝกั ขา้ วโพดอ่อนทเ่ี ป็นฝกั ) 2.5.2.4 หนงั สตั วท์ ย่ี งั ไมฟ่ อก รวมทงั้ เศษตดั 2.5.2.5 ยางของตน้ ยางตระกลู ฮเี วยี ไมว่ ่าจะเป็นยาง แผ่นยางแท่ง เศษยาง ยางก้อน น้ํายาง หรอื ขย้ี างจากต้นยาง ยางปนดนิ หรอื ปนเปลอื กต้นยาง รวมทงั้ ยางในลกั ษณะอ่นื ซง่ึ ยงั อยใู่ นสภาพวตั ถุดบิ 2.5.2.6 รงั ไหม เสน้ ไหมดบิ ทย่ี งั มไิ ดต้ เี กลยี วและเสน้ ดา้ ยทท่ี าํ ดว้ ย ไหม ขไ้ี หม หรอื เศษไหม 2.5.2.7 ถวั่ ทุกชนิด ไมว่ า่ กะเทาะเปลอื ก หรอื ทงั้ เปลอื ก บด ทาํ ใหเ้ ป็นซกี หรอื ชน้ิ รวมทงั้ กากถวั่ แต่ไม่รวมถงึ แป้งถวั่ หรอื ถวั่ ทผ่ี ่านกรรมวธิ เี พ่อื ทําเป็นอาหาร นอกจากอาหาสตั ว์ (ไมร่ วมถงึ ถวั่ ฝกั ยาวทเ่ี ป็นฝกั ) 2.5.2.8 เมลด็ ละหุ่ง 2.5.2.9 ปอทุกชนิดและเศษปอ ไมว่ า่ ดบิ หรอื ผ่านกรรมวธิ ใี ดๆ รวม ทงั้ ปอทเ่ี ป็นเสน้ ใย แต่ไมร่ วมถงึ ปอทป่ี นั่ เป็นเสน้ หรอื วตั ถุประดษิ ฐอ์ ่นื จากปอ 2.5.2.10 ครงั่ ดบิ ครงั่ เมด็ 2.5.2.11 มนั สาํ ปะหลงั ไมว่ ่าเป็นหวั หรอื จดั ทาํ เป็นผง แหง้ เสน้ กอ้ น แทง่ ฝอย ชน้ิ เมด็ หรอื จดั ทาํ ในลกั ษณะอ่นื รวมทงั้ กากมนั สาํ ปะหลงั 2.5.2.12 น้ําตาลทราย หรอื น้ําตาลดบิ 2.5.2.13 กากน้ําตาล กากมะพรา้ ว 2.5.2.14 ฝ้าย นุ่น งว้ิ งา้ ว ไมว่ า่ ทงั้ ลกู กะเทาะเปลอื กหรอื แยก สว่ นแลว้ รวมทงั้ เมลด็ แต่ไมร่ วมถงึ ปยุ ฝ้ายทแ่ี ยกเมลด็ ออกแลว้ 2.5.2.15 สตั วท์ กุ ชนิดทไ่ี มใ่ ช่สตั วน์ ้ําและสตั วป์ ีกรวมทงั้ วตั ถุพลอย ไดจ้ ากสตั ว์
ความร้ทู วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 49 2.5.2.16 สตั วน์ ้ําทม่ี ชี วี ติ 2.5.2.17 ทองคาํ แพลทนิ มั ทองขาว เงนิ นาค โลหะเจอื วตั ถุ ดงั กลา่ วรวมถงึ วตั ถุทท่ี าํ เทยี มแต่ไมร่ วมถงึ สนิ คา้ ทใ่ี ชป้ ระดบั กายหรอื เครอ่ื งแต่งกาย สําหรบั ชนิดสนิ คา้ ท่มี สี ทิ ธไิ ด้รบั เงนิ ชดเชยค่าภาษีอากรตามประกาศคณะกรรมการ พิจารณาชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกท่ีผลิตในราชอาณาจักร พ.ศ. 2524 ทัง้ น้ี ผปู้ ระกอบการนําเขา้ และส่งออกหรอื ผูท้ ม่ี คี วามสนใจสามารถดูรายละเอยี ดไดต้ ามประกาศใน เวบ็ ไซต์ http://www.fpo.go.th 3. ขนั้ ตอนการขอชดเชยค่าภาษีอากร ขนั้ ตอนการขอเงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรในส่วนของผูป้ ระกอบการท่มี สี ทิ ธไิ ดร้ บั เงนิ ชดเชยค่าภาษีอากรตามทค่ี ณะกรรมการพจิ ารณาชดเชยค่าภาษีอากรสนิ ค้าส่งออกทผ่ี ลติ ใน ราชอาณาจกั ร พ.ศ. 2524 ไดป้ ระกาศไวใ้ นราชกจิ จานุเบกษา ใหด้ าํ เนนิ การปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 3.1 ก่อนการสง่ ออก ผปู้ ระกอบการทม่ี คี วามประสงคจ์ ะใชส้ ทิ ธขิ อรบั เงนิ ชดเชย ค่าภาษอี ากรใหท้ ําการลงทะเบยี นเป็นผผู้ ่านพธิ กี ารศุลกากรทางอเิ ลก็ ทรอนิกสแ์ บบไรเ้ อกสาร (Paperless) โดยใชแ้ บบคาํ ขอลงทะเบยี นแนบทา้ ยหมายเลข 1-1 ของประกาศกรมศุลกากรท่ี 20/2550 หลงั จากนนั้ ใหล้ งทะเบยี นเป็นผปู้ ระสงคย์ ่นื คาํ ขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรตามแบบ คํารอ้ งมอบอํานาจกระทําการแทนในการขอรบั เงนิ ชดเยค่าภาษอี ากรสําหรบั สนิ คา้ ส่งออก ณ ฝา่ ยทะเบยี นและสทิ ธพิ เิ ศษ กลมุ่ งานมาตรฐานพธิ กี ารและราคาศุลกากรหรอื ฝ่ายบรหิ ารทวั่ ไป สาํ นกั /สาํ นกั งานศุลกากรหรอื ด่านศุลกากร 3.2 ผ่านพธิ กี ารสง่ ออกสนิ คา้ ดว้ ยระบบ E–Export เมอ่ื ผสู้ ง่ ออกจดั ทาํ ขอ้ มลู ใบ ขนสนิ คา้ ขาออกตามมาตรฐานทศ่ี ุลกากรกําหนดไวเ้ ป็นทเ่ี รยี บรอ้ ยแล้ว ผสู้ ่งออกจะต้องส่ง ขอ้ มลู ทางอเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ขา้ ส่รู ะบบคอมพวิ เตอรข์ องศุลกากร 3.3 การยน่ื เอกสารขอรบั เงนิ ชดเชยคา่ ภาษอี ากร ผสู้ ่งออกสามารถยน่ื ขอรบั เงนิ ชดเชยคา่ ภาษอี ากรสนิ คา้ สง่ ออกทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั รภายในระยะเวลา 1 ปีนบั ตงั้ แต่วนั ท่ี รบั บรรทุกส่งสนิ ค้าออกนอกราชอาณาจกั รเป็นท่เี รยี บร้อยแล้ว ซ่งึ เอกสารประกอบการท่ี ประกอบใชย้ น่ื ขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรประกอบดว้ ย 3.3.1 คาํ ขอรบั เงนิ ชดเชยคา่ ภาษอี ากรสาํ หรบั สนิ คา้ สง่ ออกทผ่ี ลติ ในราชอา ณาจกั รตามแบบ กศก.20/1 ก 3.3.2 กรณที ม่ี กี ารโอนสทิ ธติ ามบตั รภาษจี ะตอ้ งแสดงความประสงคใ์ นแบบ กศก.20/1 และมหี นังสอื ขอรบั โอนสทิ ธติ ามบตั รภาษแี บบ กศก.22/1 โดยลงนามผโู้ อนซ่งึ เป็น ผมู้ สี ทิ ธไิ ์ ดร้ บั เงนิ ชดเชยอากรและช่อื ผรู้ บั โอนทร่ี บั รองถูกตอ้ งโดยผูม้ อี ํานาจพรอ้ มประทบั ตรา บรษิ ทั , หา้ ง, รา้ น (ถา้ ม)ี กาํ กบั ไวด้ ว้ ย
50 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 3.3.3 หลกั ฐานแสดงการรบั เงนิ คา่ ขายสนิ คา้ สง่ ออก (Credit Note /Credit Advice) หรอื หลกั ฐานการโอนเงนิ อ่นื ๆ ทอ่ี อกโดยธนาคารพาณิชยห์ รอื สถาบนั การเงนิ ทไ่ี ดร้ บั รองจากธนาคารแหง่ ประเทศไทย 3.3.4 กรณกี ารขอชดเชยค่าภาษอี ากรสาํ หรบั สนิ คา้ ทส่ี ่งออกทางอากาศยาน ใหผ้ สู้ ง่ ออกแนบสําเนาใบตราส่งสนิ คา้ ทางอากาศยาน (Air Way Bill) โดยผสู้ ่งของออกและตวั แทนบรษิ ทั สายการบนิ ลงลายมอื ชอ่ื และประทบั ตรารบั รอง 3.3.5 เอกสารหลกั ฐานอ่นื ๆ เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาตามความจาํ เป็น 4. การขอรบั เงินชดเชยค่าภาษีอากร สําหรบั ผู้ผลติ สนิ คา้ ส่งออกท่ไี ด้รบั อนุมตั จิ ากอธบิ ดกี รมศุลกากรหรอื ผูท้ ่มี อี ํานาจ อนุมตั แิ ล้วจะต้องดําเนินการย่นื ขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษีอากรตามหลกั เกณฑแ์ ละเง่อื นไขท่ี บญั ญตั ไิ วใ้ นพระราชบญั ญตั ิ พ.ศ. 2524 ใหด้ าํ เนินการปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 4.1 ผสู้ ง่ ออกหรอื ผทู้ ต่ี อ้ งการจะยน่ื ขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากร จะตอ้ งกรอก ขอ้ มูลในแบบคําขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษีอากรสําหรบั สนิ ค้าส่งออกท่ผี ลิตในราชอาณาจกั ร โดยช่อื ผู้ย่นื คําขอต้องตรงกบั ช่อื ผู้ส่งออกเพ่อื ขออนุมตั ิในหลกั การต่อกรมศุลกากรก่อนการ สง่ ออก 4.2 เมอ่ื ไดร้ บั แจง้ ผลการอนุมตั ใิ นหลกั การแลว้ จงึ จะส่งออกสนิ คา้ ได้ โดยยน่ื ใบ ขนสนิ คา้ ขาออกพรอ้ มดว้ ยใบขนสนิ คา้ ขาออกฉบบั มุมสนี ้ําเงนิ และสําเนาใบขนสนิ ค้าขาออก ฉบบั มมุ สนี ้ําเงนิ เพม่ิ อกี 1 ฉบบั เพ่อื ผา่ นพธิ กี ารส่งออกตามปกติ 4.3 เมอ่ื เจา้ หน้าทศ่ี ุลกากรไดร้ บั รองการตรวจปล่อยและรบั บรรทุกสนิ คา้ ไปพรอ้ ม กบั ยานพาหนะท่เี ดนิ ทางออกไปนอกราชอาณาจกั ร ใหผ้ สู้ ่งของออกขอรบั สําเนาใบขนสนิ ค้า ขาออกฉบบั สนี ้ําเงนิ จากหน่วยงานทร่ี บั รองการบรรทกุ เมอ่ื ไดร้ บั รองการบรรทกุ เสรจ็ สน้ิ แลว้ 4.4 ยน่ื แบบคาํ ขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากร (แบบ กศก.123) พรอ้ มเอกสาร อ่นื ๆ เชน่ ใบขนสนิ คา้ ขาออกฉบบั มมุ สนี ้ําเงนิ หลกั ฐานการรบั เงนิ ค่าขายสนิ คา้ (Credit Note หรอื Credit Advice) ใบทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ (ภ.พ.20) เป็นตน้ 4.5 ขอรบั บตั รภาษเี มอ่ื ไดร้ บั การพจิ ารณาอนุมตั เิ ป็นทเ่ี รยี บรอ้ ยแลว้ 5. การจ่ายเงินชดเชยค่าภาษีอากร กรมศุลกากรจะออกบตั รภาษใี หแ้ ก่ผมู้ สี ทิ ธไิ ดร้ บั เงนิ ชดเชยโดยพจิ ารณาอตั ราเงนิ ชดเชยทก่ี ําหนดตามประกาศของคณะกรรมการพจิ ารณาชดเชยค่าภาษีอากรสนิ คา้ ส่งออกท่ี ผลติ ในราชอาณาจกั ร อาจกําหนดเป็นอตั ราตามสภาพหรอื ตามราคากไ็ ด้ ซง่ึ บตั รภาษีทก่ี รม ศุลกากรไดอ้ อกใหแ้ ก่ผปู้ ระกอบการน้ีสามารถนําไปใชจ้ า่ ยชาํ ระค่าภาษอี ากรแทนเงนิ สดไดท้ งั้ 3 หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งไดแ้ ก่ กรมศุลกากร กรมสรรพากร และกรมสรรพสามติ นอกจากน้ี
ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 51 หากผูม้ สี ทิ ธไิ ดร้ บั บตั รภาษีแต่ไม่ประสงค์จะใชเ้ องยงั สามารถโอนสทิ ธใิ นการใช้บตั รภาษไี ป ให้แก่บุคคลอ่นื ได้ตามระเบยี บท่กี รมศุลกากรกําหนด ทงั้ น้ี เพ่อื อํานวยความสะดวกให้แก่ ผปู้ ระกอบการทจ่ี ะนําไปใช้จา่ ยชาํ ระภาษกี รมศุลกากรจงึ แบง่ บตั รภาษอี อกไดเ้ ป็น 2 ชนิดดงั น้ี 5.1 ชนิดบอกราคา ไดแ้ ก่ ราคา 100,000 บาท (บตั รสฟี ้า) ราคา 10,000 บาท (บตั รสมี ว่ ง) ราคา 1,000 บาท (บตั รสสี ม้ ) 5.2 ชนดิ ไมก่ าํ หนดราคาซง่ึ ระบุจาํ นวนเงนิ ทต่ี ่าํ กว่า 1,000 บาท (บตั รสชี มพ)ู 6. การรบั บตั รภาษี เมอ่ื ผสู้ ง่ ออกทม่ี สี ทิ ธไิ ดร้ บั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรมาตดิ ต่อขอรบั บตั รภาษที ไ่ี ดร้ บั การอนุมตั เิ ป็นทเ่ี รยี บรอ้ ยแลว้ จะตอ้ งแสดงหลกั ฐานต่างๆ ดงั น้ี 6.1 ยน่ื ใบรบั คําขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากร (กศก.123) ต่อเจา้ หน้าทท่ี ่จี ่ายบตั ร ภาษี 6.2 แสดงบตั รประจาํ ตวั ประชาชนหรอื หนงั สอื เดนิ ทางของผรู้ บั บตั รภาษี 6.3 เจา้ หน้าทผ่ี จู้ า่ ยบตั รภาษี จะตรวจสอบว่าบคุ คลผขู้ อรบั บตั รภาษนี นั้ เป็นผรู้ บั มอบอํานาจกระทําการแทนในการขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษีอากรสําหรบั สนิ ค้าส่งออกจากผู้ ประสงคย์ น่ื คาํ ขอรบั เงนิ ชดเชยคา่ ภาษอี ากรสําหรบสนิ คา้ ส่งออกจากผปู้ ระสงคย์ น่ื คาํ ขอรบั เงนิ ชดเชยคา่ ภาษตี ามรายช่อื ในทะเบยี น เป็นผกู้ ระทาํ ตดิ ต่อราชการกบั กรมศุลกากรตามทร่ี ะบุไว้ ในฐานขอ้ มลู ระบบทะเบยี นของกรมศุลกากรและบตั รประจาํ ตวั ประชาชนหรอื หนังสอื เดนิ ทาง เป็นของผมู้ ารบั บตั รภาษจี รงิ 6.4 ใหผ้ รู้ บั บตั รภาษี ลงนามรบั บตั รภาษใี นแบบรายงานการจา่ ยบตั รภาษีและใบ รบั คาํ ขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากร กศก. 123 ดงั นนั้ บตั รภาษจี ะมอี ายกุ ารใชง้ าน 3 ปีนับแต่วนั ทอ่ี อกบตั รและสามารถต่ออายุบตั ร ภาษไี ดอ้ กี ไมเ่ กนิ 1 คราวๆ ละ 3 ปี ซง่ึ ผสู้ ่งออกจะตอ้ งนําบตั รภาษที จ่ี ะหมดอายุภายใน 7 วนั ยน่ื คาํ รอ้ งขอต่ออายบุ ตั รภาษตี ามแบบ กศก. 24 ทฝ่ี า่ ยชดเชยอากร ส่วนคนื และชดเชยอากร สาํ นกั สทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษอี ากรเพ่อื ใหด้ าํ เนนิ การอนุมตั ติ ่อไป 7. การโอนบตั รภาษี ผู้ มีสิท ธิไ ด้ รับ เ งิน ช ด เ ช ย ค่ า ภ า ษี อ า ก ร จ า ก ก า ร ส่ ง สิน ค้ า อ อ ก ไ ป ข า ย น อ ก ราชอาณาจกั ร สามารถขออนุมตั จิ ากอธบิ ดเี พ่อื โอนสทิ ธใิ นบตั รภาษใี หแ้ ก่บุคคลอ่นื ไดโ้ ดยย่นื คาํ ขอตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารทค่ี ณะกรรมการกําหนดแต่ในการโอนสทิ ธจิ ะต้องกระทําก่อน การส่งออกบตั รภาษดี งั น้ี 7.1 กรณโี อนบตั รภาษกี ่อนพมิ พบ์ ตั รภาษี ใหผ้ ูท้ ม่ี สี ทิ ธไิ ดร้ บั เงนิ ชดเชยค่าภาษี อากรซ่งึ ประสงคจ์ ะโอนสทิ ธติ ามบตั รภาษไี ปใหแ้ ก่บุคคลอ่นื แสดงความจาํ นงในแบบคําขอรบั
52 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก เงนิ ชดเชยคา่ ภาษอี ากร โดยระบชุ อ่ื ผรู้ บั โอนลงในช่องว่างของบรรทดั ทม่ี ขี อ้ ความ “ประสงคจ์ ะ โอนบตั รภาษีให้...................” หากไม่ประสงคจ์ ะโอนก็ให้ระบุขอ้ ความว่า “ไม่โอน” ย่นื ต่อ ฝา่ ยชดเชยอากร ส่วนคนื และชดเชยอากร สาํ นักสทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษอี ากรหรอื ย่นื คาํ รอ้ ง เปล่ยี นแปลงการโอนสทิ ธติ ามบตั รภาษีภายใน 15 วนั นับแต่วนั ย่นื ชุดคําขอรบั เงนิ ชดเชยค่า ภาษีอากร โดยผู้มสี ทิ ธไิ ด้รบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรท่ปี ระสงค์จะโอนสทิ ธดิ งั กล่าวต้องย่นื หนังสอื แสดงความจํานงขอรบั โอนบตั รภาษีของผู้รบั โอนตามแบบ กศก.22/1 และต้องมี หนังสอื แสดงความจาํ นงขอรบั โอนสทิ ธติ ามบตั รภาษีใหย้ น่ื มาพรอ้ มกบั ชุดคําขอรบั เงนิ ชดเชย ค่าภาษอี ากรแต่ละชุดใหร้ ะบจุ าํ นวนเงนิ ตรงกบั ยอดรวมเงนิ ชดเชยทข่ี อมาในชุดนนั้ ๆ พรอ้ มลง นามและประทบั ตราบรษิ ทั , รา้ น (ถา้ ม)ี ของผรู้ บั โอนและผโู้ อนรว่ มกนั 7.2 กรณีโอนบตั รภาษหี ลงั พมิ พบ์ ตั รภาษี ผมู้ สี ทิ ธไิ ดร้ บั เงนิ ชดเชยค่าภาษีอากร จะสามารถโอนใหก้ บั บคุ คลอ่นื ไดก้ ต็ ่อเมอ่ื ไดร้ บั อนุมตั จิ ากอธบิ ดใี นกรณดี งั ต่อไปน้ี 7.2.1 การโอนใหแ้ ก่ทายาทผรู้ บั โอนกจิ การของผู้ทม่ี ชี ่อื ในบตั รภาษซี ง่ึ ถงึ แก่ ความตาย 7.2.2 การโอนให้แก่ผู้ซ่งึ รบั โอนกจิ การของผู้ตนทม่ี ชี ่อื ในบตั รภาษีซง่ึ จะมา ดาํ เนนิ การต่อไป 7.2.3 การโอนใหแ้ ก่บรษิ ทั หรอื หา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ ุคคลใหม่ทเ่ี กดิ จากการควบ เขา้ กนั ระหวา่ งนิตบิ คุ คลผมู้ ชี อ่ื ในบตั รภาษแี ละนิตบิ ุคคลอ่นื 7.2.4 การโอนใหแ้ ก่บุคคลอ่นื ทม่ี สี ่วนเกย่ี วขอ้ งกบั กจิ การของผู้ทม่ี ชี ่อื ในบตั ร ภาษี การโอนในกรณีน้ีอธิบดีจะอนุมตั ิได้จะต้องได้รบั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการ พจิ ารณาชดเชยคา่ ภาษอี ากรสนิ คา้ ส่งออกทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั รก่อน แต่หากมกี ารโอนสทิ ธิ ในบตั ร ผขู้ อรบั โอนสทิ ธใิ นบตั รภาษคี รงั้ แรกจะตอ้ งย่นื เอกสารต่างๆ ซง่ึ รบั รองถูกตอ้ งจาํ นวน 2 ชุดทฝ่ี ่ายชดเชยอากรส่วนคนื และชดเชยอากร สํานักสทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษอี ากร ได้แก่ ภาพถ่ายบตั รประจําตวั ผู้เสยี ภาษีอากรของผู้รบั โอนสทิ ธิตามบตั รภาษี ภาพถ่ายทะเบยี น ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ (ถา้ ม)ี แผนท่เี ส้นทางทจ่ี ะไปบรษิ ทั หรอื หน่วยงาน ภาพถ่ายบตั รตวั อย่าง ลายมอื ชอ่ื เจา้ ของหรอื ผจู้ ดั การ ภาพถ่าย Work Permit / Passport ถา้ ผจู้ ดั การเป็นชาว ต่างประเทศ และภาพถ่ายใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือใบอนุญาตให้ประกอบ อุตสาหกรรม หากผปู้ ระกอบการใดมคี วามสนใจเกย่ี วกบั รายละเอยี ดขอ้ มลู การชดเชยภาษอี ากรการ ส่งออกเพม่ิ เพม่ิ ติดต่อสอบถามไดท้ ่กี รมศุลกากรหรอื ดาวน์โหลดข่าวสารการเผยแพร่ข้อมูล ทางเวบ็ ไซตไ์ ดท้ ่ี http://www.customs.go.th>InternetTh)
ความร้ทู วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 53 ทะเบยี นรบั เลขท.่ี ....................... อากร สถานทร่ี บั ................................. แสตมป์ วนั เดอื นปีทร่ี บั ........................... 1 บาท เจา้ หน้าทผ่ี รู้ บั ............................ คาร้องขอรบั เงินชดเชยค่าภาษีอากรสาหรบั สินค้าส่งออก (1) ขา้ พเจา้ (ชอ่ื ผปู้ ระกอบการภาษาไทย...........................................................................) (ช่อื ผปู้ ระกอบการภาษาองั กฤษ.......................................................................) เลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากร สาขา ตงั้ อยเู่ ลขท.่ี .........................อาคาร....................................ตรอก/ซอย................................. หมทู่ .่ี ............ถนน ......................แขวง/ตําบล........................... เขต/อําเภอ......................... จงั หวดั ............................... รหสั ไปรษณยี .์ ............................โทรศพั ท.์ .............................. โทรสาร ................................ e-mail ………………….………............................................. (2) ขา้ พเจา้ ประกอบกจิ การเป็นผผู้ ลติ สนิ คา้ ทข่ี อรบั ชดเชยค่าภาษอี ากรใบอนุญาตประกอบ กจิ การโรงงานเลขท.่ี ..................................................... ลงวนั ท.่ี ......................................... ใบอนุญาตประกอบกจิ การโรงงานใหใ้ ชไ้ ดถ้ งึ วนั ท่ี ..................................................... (ถา้ ม)ี (3) โดยมี ชอ่ื .................................................. สกุล........................................................ บตั รประจาํ ตวั ประชาชนเลขท่ี เป็นผทู้ ํา การแทน (4) โดยมอบหมายให้ ชอ่ื ............................... สกุล ......................................................... บตั รประจาํ ตวั ประชาชนเลขท่ี เป็นผมู้ า ตดิ ต่อแทน และเมอ่ื ไดร้ บั การแจง้ ใหช้ แ้ี จงเพม่ิ เตมิ จะมาตดิ ต่อภายใน 15 วนั ทาํ การนบั ตงั้ แต่ วนั รบั ชดุ คาํ ขอ หากไมม่ าดาํ เนนิ การขา้ พเจา้ ยนิ ยอมใหย้ กเลกิ ชดุ คาํ ขอชดเชยทย่ี ่นื ไว้น้ี (5) สถานทต่ี ดิ ต่อสาํ หรบั การขอคาํ ชแ้ี จงและเอกสาร เลขท.่ี ............อาคาร............................ ตรอก/ซอย......................... หมทู่ .่ี ........ถนน....................แขวง/ตาํ บล.................................. เขต/อําเภอ.......................... จงั หวดั ................................ รหสั ไปรษณยี ์ ............................. โทรศพั ท.์ ......................โทรสาร ............................. e-mail ……..……..………….............. (6) ยน่ื ของรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรสาํ หรบั สนิ ค้า.............................................................. ราคา F.O.B. ..................................................บาท เป็นเงนิ ชดเชย...............................บาท (7) ประสงคจ์ ะโอนบตั รภาษใี ห้ .......................................................................................... เลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากร สาขา
54 ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก (8) โดยขอเป็นบตั รภาษตี ามชนิดและจาํ นวนดงั ต่อไปน้ี ชนิดราคา............................................ จาํ นวน ...............................................ฉบบั ชนิดราคา............................................ จาํ นวน ................................................ฉบบั ชนิดราคา............................................ จาํ นวน ................................................ฉบบั ชนดิ ไมจ่ าํ กดั ราคา............................... จาํ นวน ................................................ฉบบั (9) ในกรณที ม่ี กี ารส่งคนื สนิ คา้ ทส่ี ่งออกไปขายนอกราชอาณาจกั ร ซง่ึ ตอ้ งจา่ ยเงนิ ค่าสนิ คา้ คนื ใหแ้ ก่ผซู้ อ้ื นอกราชอาณาจกั ร และผสู้ ่งสนิ คา้ จะตอ้ งจา่ ยเงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรคนื ใหแ้ ก่ทาง ราชการ ขา้ พเจา้ ยนิ ยอมคนื ให้ตามระเบยี บว่าด้วยการปฏบิ ตั ิเก่ียวกับเงนิ ชดเชยค่าภาษี อากรสาํ หรบั สนิ คา้ สง่ ออก ขา้ พเจา้ ขอรบั รองว่าขอ้ ความในเอกสารท่ยี ่นื ทงั้ หมดถูกต้องตามความเป็นจรงิ ทุก ประการ และไมข่ อเปลย่ี นอตั ราและบตั รภาษที แ่ี สดงความจาํ นงยน่ื ขอไวข้ า้ งต้นน้ี ลงชอ่ื ...................................................................... (........................................................ป.ร.ะ.ท.บั..ต.ร.า.......) ยน่ื วนั ท.่ี ................................................น..ิต.ิบ.คุ.ค.ล........ สาํ หรบั เจา้ หน้าท่ี คาสงั ่ ความเหน็ เจ้าหน้าท่ี อนุมตั ติ งั้ แต่ ...................... เป็นตน้ ไป คนื ชุดคาํ ขอเน่อื งจากเอกสารไมผ่ ่าน ไมอ่ นุมตั ิ รบั ชุดคาํ ขอชดเชยอากร ลงชอ่ื ......................................... เจา้ หน้าท่ี ลงช่อื .............................................. ผอู้ นุมตั ิ (..........................................) (...........................................) วนั ท.่ี ...................................................... วนั ท.่ี ..................................................
ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 55 ทะเบยี นรบั เลขท.่ี ................... สถานทร่ี บั .............................. วนั เดอื นปีทร่ี บั ....................... เจา้ หน้าทผ่ี รู้ บั ........................ คารอ้ งขอรบั โอนสิทธิตามบตั รภาษี (1) ขา้ พเจา้ (ชอ่ื ผปู้ ระกอบการภาษาไทย...........................................................................) (ชอ่ื ผปู้ ระกอบการภาษาองั กฤษ......................................................................) เลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากร สาขา ตงั้ อยเู่ ลขท.่ี ...........อาคาร........................ตรอก/ซอย............................... หมทู่ .่ี ................. ถนน ..........................แขวง/ตาํ บล........................... เขต/อําเภอ......................................... จงั หวดั .................................. รหสั ไปรษณยี .์ .....................โทรศพั ท.์ .................................. โทรสาร ................................. e-mail ……………..…………………………....................... มคี วามประสงคจ์ ะรบั โอนบตั รภาษจี าก................................................................................ (2) (ช่อื ผยู้ น่ื คาํ รอ้ งขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรสาํ หรบั สนิ คา้ ส่งออก..................................) เลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากร สาขา ซง่ึ ไดย้ น่ื ของรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรสําหรบั สนิ คา้ .......................................................... ประกาศอตั ราเงนิ ชดเชยท.่ี ...............................ประเภทพกิ ดั อตั ราศุลกากรท.่ี ...................... รอ้ ยละ/หน่วยละ .................................... ราคา F.O.B. ................................................บาท ปรมิ าณ .............................. เป็นเงนิ ชดเชย.....................................บาท และประสงคจ์ ะ โอนบตั รภาษใี หแ้ ก่ขา้ พเจา้ ฯ (3) ในกรณที ม่ี กี ารสง่ คนื สนิ คา้ ทส่ี ง่ ออกไปขายนอกราชอาณาจกั ร ซง่ึ ตอ้ งจา่ ยเงนิ ค่าสนิ คา้ คนื ใหแ้ ก่ผซู้ อ้ื นอกราชอาณาจกั รและผสู้ ่งสนิ คา้ จะตอ้ งจา่ ยเงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรคนื ใหแ้ ก่ ทางราชการ ขา้ พเจา้ ยนิ ยอมรบั ผดิ ชอบต่อกรมศุลกากรทุกประการและคนื บตั รภาษโี ดยไม่ ขอโตแ้ ยง้ ใดๆ ทงั้ สน้ิ ตามนยั มาตรา 29 แห่งพระราชบญั ญตั ชิ ดเชยคา่ ภาษอี ากรสนิ คา้ สง่ ออกทผ่ี ลติ ในราชอาณาจกั รพ.ศ. 2524 ลงช่อื ........................................ผรู้ บั โอนสทิ ธติ ามบตั รภาษี (.....................................) ยน่ื วนั ท.่ี ...................................... กศก. 123
56 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก ใบรบั คาขอชดเชยค่าภาษีอากร สว่ นราชการ………………..………………………………………........................................... เลขทค่ี าํ ขอรบั เงนิ ชดเชย……………………….………..ลงวนั ท…่ี …………………………….. ช่อื ผยู้ น่ื คาํ ขอชดเชย………………………………………………….…………………….…….. ประสงคจ์ ะโอนบตั รภาษใี ห้……..…………………………………….………………….………. ใหน้ ําใบคาํ ขอฯ น้มี าแสดงเพอ่ื บตั รภาษไี ดต้ งั้ แต่…………………………………….เป็นตน้ ไป (ลงชอ่ื )…………………………….. เจา้ หน้าทผ่ี รู้ บั คาํ ขอ
ความร้ทู วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 57 รายละเอียดของสินค้าที่ได้ส่งออกและขอรบั เงินชดเชยค่าภาษีอากร (1) ขา้ พเจา้ (ช่อื ผปู้ ระกอบการภาษาไทย................................. ❶..................................) เลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากร ❷ สาขา ยน่ื ขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากรสําหรบั สนิ คา้ เลขทช่ี ุดคาํ ขอท.่ี ..............❸........................ (2) โดยมรี ายการของสนิ คา้ ดงั น้ี ปรมิ าณ ประกาศ จาํ นวน วนั ท่ี สนิ คา้ ท่ี อตั ราเงนิ ชดเชย เงนิ ท่ี รบั เงนิ เลขท่ี รายการ มลู ค่า ใบขน ทใ่ี น F.O.B. ส่งออก ประเภท รอ้ ยละ/ ขอ ➀ สนิ คา้ ใบขน ทส่ี ง่ พกิ ดั หน่วยละ ขาออก สนิ คา้ ออกจรงิ จรงิ ❽❾ ชดเชย ❹ ❺❻ ❼ ❿ ขา้ พเจา้ ขอรบั รองว่าขอ้ ความในเอกสารทย่ี ่นื ทงั้ หมดถูกตอ้ งตามความเป็นจรงิ ทุกประการ ลงช่อื ....................➁......................... (.................................................) หมายเหตุ :- 1. ใหแ้ สดงรายละเอยี ดรายการสนิ คา้ ไมเ่ กนิ ได้ 10 รายการต่อชุดคาํ ขอชดเชยอากร (ยกเวน้ กรณใี บขนสนิ คา้ 1 ฉบบั มรี ายการมากกว่า 10 รายการ) 2. สาํ เนาเอกสารประกอบอ่นื ๆ ตามความจาํ เป็นพรอ้ มรบั รองสาํ เนาถูกตอ้ ง (ถา้ ม)ี
58 ความร้ทู วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก จากแบบแสดงรายละเอยี ดของสนิ คา้ ทไ่ี ดส้ ่งออกและขอรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษี สาํ หรบั รายการ ในแต่ละช่องนํามาอธบิ ายรายการทต่ี อ้ งสาํ แดงในคํารอ้ งไดด้ งั น้ี 1. ขา้ พเจา้ ใหส้ าํ แดงช่อื ผสู้ ่งของออกเป็นช่อื ภาษาไทย 2. เลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากร ใหส้ าํ แดงเลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากรทก่ี รม สรรพากรออกใหต้ ามบตั รประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากรของกรมสรรพากร พรอ้ มสาขา 3. ใหส้ าํ แดงเลขทช่ี ุดคาํ ของทม่ี คี วามประสงคข์ องรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากร 4. ใหส้ าํ แดงเลขทใ่ี บขนสนิ คา้ ขาออกทม่ี คี วามประสงค์ขอรบั เงนิ ชดเชยคา่ ภาษอี ากร 5. ใหส้ าํ แดงรายการทใ่ี นใบขนสนิ คา้ ทส่ี ง่ ออก 6. ใหส้ าํ แดงมลู ค่า F.O.B ทส่ี ง่ ออกจรงิ 7. ใหส้ าํ แดงปรมิ าณทส่ี ง่ ออกจรงิ 8. ช่องประกาศอตั ราเงนิ ชดเชย ใหส้ าํ แดงประเภทพกิ ดั ของสนิ คา้ ทไ่ี ดส้ ่งออก 9. ช่องประกาศอตั ราเงนิ ชดเชย ใหส้ าํ แดงรอ้ ยละ/หน่วยละของสนิ คา้ ทส่ี ง่ ออก 10. ใหส้ าํ แดงจาํ นวนเงนิ ทข่ี อชดเชยค่าภาษอี ากร 11. ใหส้ าํ แดงวนั ทร่ี บั เงนิ ชดเชยคา่ ภาษอี ากร 12. ใหส้ าํ แดงลายมอื ช่อื ของผขู้ อรบั เงนิ ชดเชยค่าภาษอี ากร
ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 59 แบบแสดงขอตรวจรบั สินค้ากลบั คืน/ยกเลิกการส่งออก แผ่นท.่ี ....❶..... ขา้ พเจา้ ....................❷........................เลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากร...........❸.......... ทอ่ี ย.ู่ ...........................❹............................................................................................. ขอรบั รองวา่ สนิ คา้ ตามใบขนสนิ คา้ ขาออกเลขท.่ี ..................❺............................................. บญั ชรี าคาสนิ คา้ เลขท.่ี .....................❻...........................ลงวนั ท.่ี ............❼................... ซง่ึ ไดร้ บั การบรรจเุ ขา้ ❽ คอนเทนเนอร์ ชนิด...................................หมายเลข...................................... ตามใบกํากบั การขนยา้ ยสนิ คา้ เลขท.่ี ...........................❾.................................... รถยนต์ ประเภท....................เลขทะเบยี น...................... จงั หวดั .......................... เพ่อื ส่งออกทางทา่ .........❿.......โดยยานพาหนะ.......➀........เทย่ี วเรอื /บนิ .......... ➁........ กลบั คนื จาํ นวนหบี หอ่ .........➂.........รวมเป็นมลู ค่าทข่ี อรบั กลบั คนื ราคา F.O.B......➃........ บาท โดยมรี ายการดงั ต่อไปน้ี ลาํ ดบั พกิ ดั อตั รา เครอ่ื งหมาย ชนดิ น้ําหนกั ปรมิ าณ จาํ นวน ราคา ของ ⓳ ⓴ หบี หอ่ F.O.B. ท่ี ศุลกากร และ ⓯ ⓰ หมายเลข ⓲ 21 เงนิ บาท หบี หอ่ ⓱ 22 รวม /ยกไป 23 (ลายมอื ชอ่ื ผสู้ ่งของออก / ตวั แทนออกของ)................... 24................... วนั ทย่ี น่ื ................ 25….......................
60 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก จากแบบแสดงขอตรวจรบั สนิ คา้ กลบั คนื /ยกเลกิ การส่งออก สาํ หรบั รายการในแต่ละช่องนํามา อธบิ ายรายการทต่ี อ้ งสาํ แดงในคาํ รอ้ งไดด้ งั น้ี 1. แผ่นท่ี ใหส้ าํ แดงจาํ นวนของคาํ รอ้ งขอตรวจรบั สนิ คา้ กลบั คนื /ยกเลกิ การสง่ ออก เช่น มี 1 แผ่นใหส้ าํ แดง 1/1 หากมี 2 แผ่นใหส้ าํ แดง 1/2 ในแผ่นท่ี 1 และ 2/2 ในแผ่นท่ี 2 2. ขา้ พเจา้ ใหส้ าํ แดงช่อื ผสู้ ่งของออกเป็นช่อื ภาษาไทย 3. เลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากร ใหส้ าํ แดงเลขประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากรทก่ี รม สรรพากรออกใหต้ ามบตั รประจาํ ตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากรของกรมสรรพากร 4. ทอ่ี ยู่ ใหส้ าํ แดงสถานทต่ี งั้ ของผสู้ ง่ ของออกโดยครบถว้ น รวมทงั้ รหสั ไปรษณยี ์ และหมายเลขโทรศพั ทข์ องผสู้ ่งของออก 5. ใบขนสนิ คา้ ขาออกเลขท่ี ใหส้ าํ แดงเลขทใ่ี บขนสนิ คา้ ขาออกทม่ี คี วามประสงค์ ขอรบั สนิ คา้ กลบั คนื /ยกเลกิ การสง่ ออก 6. บญั ชรี าคาสนิ คา้ เลขท่ี ใหส้ าํ แดงเลขทบ่ี ญั ชรี าคาสนิ คา้ ทม่ี คี วามประสงคข์ อรบั สนิ คา้ กลบั คนื /ยกเลกิ การสง่ ออก 7. ลงวนั ท่ี ใหส้ าํ แดงวนั ทข่ี องบญั ชรี าคาสนิ คา้ ทม่ี คี วามประสงคข์ อรบั สนิ คา้ กลบั คนื / ยกเลกิ การสง่ ออก 8. บรรจเุ ขา้ ใหท้ าํ เครอ่ื งหมายเลอื กการบรรจหุ ากเลอื กการบรรจเุ ขา้ คอนเทนเนอร์ ใหส้ ําแดงชนิดของคอนเทนเนอรแ์ ละหมายเลขคอนเทนเนอร์ หากเลอื กบรรจุเขา้ รถยนต์ให้ สาํ แดงประเภทของรถยนต์ เชน่ รถบรรทกุ สบิ ลอ้ รถบรรทกุ สบิ ลอ้ มดั ลวด รถบรรทุก ตูท้ บึ รถแวน รถปิคอพั เป็นตน้ พรอ้ มทงั้ สาํ แดงเลขทะเบยี นรถและชอ่ื จงั หวดั 9. ตามใบกํากบั การขนยา้ ยสนิ คา้ เลขท่ี ใหส้ าํ แดงทใ่ี บกํากบั การขนยา้ ยสนิ คา้ ทใ่ี ช้ ควบคมุ การขนยา้ ยสนิ คา้ ทม่ี คี วามประสงคข์ อรบั สนิ คา้ กลบั คนื /ยกเลกิ การสง่ ออก 10. สง่ ออกทางท่า ใหส้ าํ แดงทา่ หรอื ทท่ี ร่ี บั บรรทกุ พรอ้ มรหสั สถานทใ่ี หช้ ดั เจน 11. โดยยานพาหนะ ใหส้ าํ แดงยานพาหนะทบ่ี รรทกุ สนิ คา้ สง่ ออกถา้ ส่งออกทางเรอื ใหส้ าํ แดงชอ่ื เรอื ถา้ ส่งออกทางอากาศยานใหส้ าํ แดงคาํ วา่ “เครอ่ื งบนิ ” ถา้ สง่ ออกทางรถไฟให้ สาํ แดงคาํ วา่ “รถไฟ” ถา้ ส่งออกทางรถยนตใ์ หส้ าํ แดงคําวา่ “รถยนต์ ถา้ สง่ ออกทางไปรษณยี ์ ใหส้ าํ แดงคาํ วา่ “ไปรษณยี ”์ 12. เทย่ี วเรอื /บนิ ถา้ ส่งออกทางเรอื ใหส้ าํ แดงเทย่ี วเรอื ถา้ สง่ ออกทางอากาศยาน ใหส้ าํ แดงเทย่ี วบนิ 13. กลบั คนื จาํ นวนหบี หอ่ ใหส้ าํ แดงจาํ นวนหบี หอ่ ทงั้ หมดทข่ี อรบั สนิ คา้ กลบั คนื / ยกเลกิ การสง่ ออกพรอ้ มหน่วยของหบี หอ่ ใหค้ รบถว้ น 14. รวมเป็นมลู ค่าทข่ี อรบั สนิ คา้ กลบั คนื ราคา F.O.B. ใหส้ าํ แดงมลู ค่าของสนิ คา้ ท่ขี อ รบั สนิ คา้ กลบั คนื /ยกเลกิ การสง่ ออกทงั้ หมดราคา F.O.B. เป็นเงนิ บาท
ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 61 15. ลาํ ดบั ท่ี ใหส้ าํ แดงลาํ ดบั ทข่ี องรายการในใบขนสนิ คา้ ทม่ี คี วามประสงคข์ อรบั สนิ คา้ กลบั คนื /ยกเลกิ การส่งออก หากมลี ําดบั สําแดงมากกว่าหน่ึงหน้าใหส้ ําแดงในคํารอ้ งขอตรวจ รบั สนิ คา้ รบั กลบั คนื /ยกเลกิ การสง่ ออกแผ่นต่อไป 16. พกิ ดั ศุลกากร ใหส้ าํ แดงรหสั พกิ ดั ศุลกากรพรอ้ มรหสั สถติ สิ นิ คา้ 17. เครอ่ื งหมายและเลขหมายหบี ห่อ ใหส้ าํ แดงเครอ่ื งหมายและเลขหมายหบี หอ่ 18. ชนิดของ ใหส้ าํ แดงรายละเอยี ดของชนิดของใหค้ รบถว้ น 19. น้ําหนกั ใหส้ าํ แดงน้ําหนกั พรอ้ มหน่วยของนําหนกั ใหค้ รบถว้ น 20. ปรมิ าณ ใหส้ าํ แดงปรมิ าณพรอ้ มหน่วยของปรมิ าณใหค้ รบถว้ น 21. จาํ นวนหบี ห่อ ใหส้ าํ แดงจาํ นวนหบี หอ่ พรอ้ มหน่วยของหบี ห่อใหค้ รบถว้ น 22. ราคา F.O.B. เงนิ บาท ใหส้ าํ แดงราคา F.O.B. เป็นเงนิ บาท 23. รวม/ยกไป ใหส้ าํ แดงยอดรวมของจาํ นวนหบี หอ่ ในขอ้ (21) และยอดรวมราคา F.O.B. เงนิ บาทในขอ้ (22) ทกุ รายการหากมเี กนิ กว่าหน่งึ หน้าใหส้ าํ แดงยอดรวมไวใ้ นแผน่ ท่ี 1 แลว้ ยกไปสาํ แดงไวใ้ นแผ่นถดั ไป ใหก้ ระทาํ เชน่ น้ไี ปตลอดจนถงึ รายการสุดทา้ ยจงึ ใหส้ าํ แดง ยอดรวมทงั้ หมดไวใ้ นแผ่นสุดทา้ ย 24. (ลายมอื ช่อื ผปู้ ระกอบการทําเนียบท่าเรอื ) ใหผ้ ปู้ ระกอบการทําเนียบท่าเรอื ผู้ประกอบการสถานท่ี หรอื ผูป้ ระกอบการคลงั สนิ คา้ ณ สนามบนิ ทไ่ี ด้รบั ของท่จี ะส่งออกไว้ แลว้ เป็นผลู้ งลายมอื ช่อื ในคาํ รอ้ งขอเปลย่ี นเขตท่าทจ่ี ะขนถ่ายสนิ คา้ พร้อมประทบั ตรานิตบิ ุคคล (ถา้ ม)ี ลายมอื ชอ่ื ผสู้ ง่ ของออก/ตวั แทนออกของ ใหผ้ จู้ ดั การหรอื ผรู้ บั มอบทม่ี อี าํ นาจลงลายมอื ชอ่ื เป็นผลู้ งลาบมอื ช่อื รบั รองในคาํ รอ้ งขอเปลย่ี นเขตท่าทจ่ี ะขนถ่ายสนิ คา้ พรอ้ มประทบั ตรานิติ บุคคล (ถา้ ม)ี 25. วนั ทย่ี น่ื ใหส้ าํ แดงวนั เดอื น ปี ทย่ี น่ื คาํ รอ้ งขอตรวจรบั สนิ คา้ กลบั คนื /ยกเลกิ การส่งออก ผปู้ ระกอบการส่งออกท่ีดีและผสู้ ่งออกขึน้ ทะเบยี น นอกจากผู้ประกอบการจะผลติ สนิ ค้านําออกมาขายภายในประเทศแล้วยงั ต้องมกี าร ขยายตลาดสนิ ค้าส่งออกไปขายยงั ต่างประเทศดว้ ย โดยมีวตั ถุประสงค์ของการทําธุรกจิ คอื เพิ่มปรมิ าณการขายให้ได้ในจํานวนท่มี ากข้นึ จากเดมิ และสนิ ค้าท่สี ่งออกไปขายต้องมกี าร พฒั นาใหไ้ ดม้ าตรฐานเป็นทย่ี อมรบั ของนานาประเทศ ซง่ึ รฐั บาลแต่ละยคุ แต่ละสมยั มุง่ ส่งเสรมิ ให้ภาคอุตสาหกรรม หรอื บรกิ ารไดม้ กี ารส่งสนิ คา้ ออกนอกราชอาณาจกั รให้ไดม้ ากทงั้ น้ีเพ่อื เป็นการนําเงนิ ตราต่างประเทศเขา้ มาใชแ้ ละเป็นประโยชน์ในการเพม่ิ พูนทางเศรษฐกจิ ใหเ้ กดิ
62 ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก ความมงั่ คงั่ ภายในประเทศ นอกจากน้กี ารส่งสนิ คา้ ไปขายยงั ต่างประเทศทําใหก้ จิ การไดร้ บั สทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษที ร่ี ฐั บาลส่งเสรมิ ภาคอุตสาหกรรมส่งออกดว้ ย ดงั นัน้ ในการส่งออกสนิ ค้าไปยงั ต่างประเทศกจิ การจะไดร้ บั สทิ ธเิ สยี ภาษีมลู ค่าเพม่ิ ดว้ ยอตั รารอ้ ยละ 0 เสมอื นวา่ ภาษขี ายไมม่ หี รอื เสยี ภาษจี าํ นวนเงนิ 0 บาท ส่วนภาษซี อ้ื ทเ่ี กดิ จากการประกอบกจิ การท่ไี ด้จ่ายไปจรงิ มสี ทิ ธขิ อคนื ได้หรอื ไม่นัน้ กรมสรรพากรได้กําหนด หลกั เกณฑ์และเง่อื นไขในการจดั ระดบั ผู้ประกอบการส่งออกเพ่อื ให้มกี ารพิจารณาคืนเงนิ ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ เป็นไปดว้ ยความสุจรติ สะดวก และรวดเรว็ อนั จะเป็นประโยชน์แก่การส่งออก ของประเทศดงั น้ี (กรมสรรพากร. คน้ จาก, http://www.rd.go.th/publish/10608.0.html) 1. ผปู้ ระกอบการส่งออกที่ดี (สด.1) ผปู้ ระกอบการส่งออกทย่ี น่ื คําขอใหจ้ ดั ระดบั เป็นผปู้ ระกอบการส่งออกทด่ี นี นั้ ต้องมี คุณสมบตั ดิ งั น้ี 1.1 เป็นบรษิ ทั จาํ กดั หรอื บรษิ ทั มหาชนจาํ กดั ทเ่ี ป็นผปู้ ระกอบการเขา้ ส่รู ะบบการ จดทะเบยี นภาษมี ลู ค่าเพมิ่ 1.2 มที ุนจดทะเบยี นทช่ี าํ ระแลว้ ตงั้ แต่ 10 ลา้ นบาทขน้ึ ไปยกเวน้ ผปู้ ระกอบการท่ี เป็นผสู้ ่งของออกระดบั บตั รทองของกรมศุลกากร 1.3 มกี ารสง่ สนิ คา้ ไปขายยงั ต่างประเทศในอตั ราส่วนต่อยอดขายรวมสําหรบั ระยะ เวลา 12 เดอื นก่อนย่นื คาํ ขอตงั้ แต่รอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไปหรอื รอ้ ยละ 50 ขน้ึ ไป กรณีเป็นผู้ส่งของ ออกระดบั บตั รทองของกรมศุลกากร การส่งสนิ คา้ ไปขายยงั ต่างประเทศตามวรรคหน่งึ ใหร้ วมถงึ การขายสนิ คา้ ระหวา่ ง ผู้ประกอบการท่ีประกอบกิจการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ในเขต อุตสาหกรรมส่งออกเดยี วกนั หรอื ไมก่ ต็ าม 3.4 มคี วามมนั่ คงต่อเน่ืองและน่าเช่อื ถอื ในการประกอบการและมกี รรมสทิ ธใิ ์ น อสงั หารมิ ทรพั ย์ เชน่ ทด่ี นิ อาคาร โรงงาน เป็นตน้ 3.5 มที รพั ยส์ นิ สุทธมิ ากกว่าหน้สี นิ สุทธิ สาํ หรบั รอบระยะเวลาบญั ชปี ีสดุ ทา้ ย ก่อนยน่ื คาํ ขอ 3.6 มปี ระวตั กิ ารเสยี ภาษที ดี ี มกี ารเสยี ภาษสี อดคลอ้ งกบั สภาพเป็นจรงิ ของ กจิ การไมม่ พี ฤตกิ ารณ์หลกี เลย่ี งภาษี 3.7 เป็นสมาชกิ ของสมาคมหรอื องคก์ รเอกชน (ในทางการคา้ ) เช่น สภาหอการ คา้ แหง่ ประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแหง่ ประเทศไทย เป็นต้น หรอื เป็นผปู้ ระกอบการทอ่ี ยู่ ในนิคมอุตสาหกรรมและสมาคม หรอื องค์กรภาคเอกชน หรอื การนิคมอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศไทยแลว้ แต่กรณีรบั รองว่ามกี ารประกอบกจิ การอย่เู ป็นปกติ ไม่มขี ่าวสารท่แี สดงถงึ การขาดความน่าเช่อื ถอื ทางการเงนิ และมหี น้สี นิ ลน้ พน้ ตวั แต่อยา่ งใด
ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 63 2. ผสู้ ่งออกขึ้นทะเบยี น (สท.1) ผู้ประกอบการส่งออกท่ยี ่นื คําขอให้จดั ระดบั เป็นผู้ส่งออกข้นึ ทะเบียนนัน้ ต้องมี คุณสมบตั ดิ งั น้ี 2.1 เป็นบรษิ ทั จาํ กดั หรอื หา้ งหนุ้ ส่วนหรอื บคุ คลธรรมดาทจ่ี ดทะเบยี นภาษมี ลู ค่า เพมิ่ 2.2 มกี ารส่งสนิ คา้ ไปขายยงั ต่างประเทศในอตั ราส่วนต่อยอดขายรวมสาํ หรบั ระยะเวลา 12 เดอื นก่อนยน่ื คาํ ขอตงั้ แต่รอ้ ยละ 50 ขน้ึ ไป การสง่ สนิ คา้ ไปขายยงั ต่างประเทศตามวรรคหน่งึ ใหร้ วมถงึ การขายสนิ คา้ ระหวา่ ง ผู้ประกอบการท่ีประกอบกิจการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกด้วยกัน ไม่ว่าจะอยู่ในเขต อุตสาหกรรมส่งออกเดยี วกนั หรอื ไมก่ ต็ าม 2.3 มคี วามมนั่ คงต่อเน่อื งและน่าเช่อื ถอื ในการประกอบการและมกี รรมสทิ ธใิ ์ น อสงั หารมิ ทรพั ย์ เช่น ทด่ี นิ อาคาร โรงงาน เป็นตน้ 2.4 มที รพั ยส์ นิ สทุ ธมิ ากกว่าหน้สี นิ สทุ ธิ สาํ หรบั รอบระยะเวลาบญั ชปี ีสุดทา้ ย ก่อนยน่ื คาํ ขอ 2.5 มปี ระวตั กิ ารเสยี ภาษที ดี ี มกี ารเสยี ภาษสี อดคลอ้ งกบั สภาพเป็นจรงิ ของ กจิ การไมม่ พี ฤตกิ ารณ์หลกี เลย่ี งภาษี 2.6 เป็นสมาชกิ ของสมาคมหรอื องคก์ รเอกชน(ในทางการคา้ ) เชน่ สภาหอการคา้ แห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรอื เป็นผู้ประกอบการท่อี ยู่ในนิคม อุตสาหกรรมและสมาคม หรอื องคก์ รภาคเอกชน หรอื การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แลว้ แต่กรณีรบั รองว่ามกี ารประกอบกจิ การอย่เู ป็นปกติ ไม่มขี ่าวสารทแ่ี สดงถงึ การขาดความ น่าเชอ่ื ถอื ทางการเงนิ และมหี น้สี นิ ลน้ พน้ ตวั แต่อยา่ งใด 3. การยกเว้นคณุ สมบตั ิ กรณีท่ีคุณสมบัติของผู้ประกอบการส่งออกท่ีดีหรือผู้ส่งออกข้ึนทะเบียนไม่ ครบถว้ น และเหน็ ว่ามเี หตุผลอนั สมควรใหบ้ ุคคลดงั ต่อไปน้มี อี าํ นาจยกเวน้ คณุ สมบตั ไิ ด้ 3.1 อธบิ ดกี รมสรรพากร กรณยี น่ื คาํ ขอใหจ้ ดั ระดบั เป็นผปู้ ระกอบการส่งออกทด่ี ี 3.2 สรรพากรพน้ื ท่ี กรณยี น่ื คาํ ขอใหจ้ ดั ระดบั เป็นผสู้ ง่ ออกขน้ึ ทะเบยี น 4. เงื่อนไขที่ต้องปฏิบตั ิ ผูป้ ระกอบการส่งออกท่จี ะได้รบั การจดั ระดบั เป็นผู้ประกอบการส่งออกท่ดี หี รอื ผู้ สง่ ออกขน้ึ ทะเบยี นจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามเงอ่ื นไขดงั ต่อไปน้ี 4.1 ขอคนื ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ โดยการนําเขา้ บญั ชเี งนิ ฝากธนาคาร ตามวธิ ปี ฏบิ ตั ใิ น การขอใหน้ ําเงนิ ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ เขา้ บญั ชเี งนิ ฝากธนาคาร
64 ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 4.2 กรณมี สี ถานประกอบการหลายแห่งตอ้ งไดร้ บั อนุมตั ใิ หย้ น่ื แบบแสดงรายการ และชาํ ระภาษมี ลู ค่าเพม่ิ รวมกนั 4.3 ผสู้ อบบญั ชรี บั อนุญาตหรอื ผสู้ อบบญั ชภี าษอี ากรทร่ี บั รองงบการเงนิ สาํ หรบั รอบระยะเวลาบญั ชที ย่ี น่ื คาํ ขอตอ้ งไดร้ บั การแต่งตงั้ จากมตทิ ป่ี ระชุมผถู้ อื หุน้ และต้องเป็นตาม หลกั เกณฑเ์ งอ่ื นไขตามมาตรา 3 สตั ต แห่งประมวลรษั ฎากร โดยใหแ้ จง้ ช่อื เลขทะเบยี นของ ผสู้ อบบญั ชรี บั อนุญาตหรอื ผสู้ อบบญั ชภี าษอี ากรพรอ้ มทงั้ ช่อื สํานักงานผสู้ อบบญั ชแี ละใหแ้ จง้ ชอ่ื ผทู้ าํ บญั ชพี รอ้ มทงั้ สาํ นกั งานบญั ชดี ว้ ย 5. สิทธิประโยชน์ สทิ ธิประโยชน์ท่ผี ู้ประกอบการส่งออกท่ดี หี รอื ผู้ส่งออกข้นึ ทะเบยี นจะได้รบั จาก กรมสรรพากรมดี งั น้ี 5.1 ผปู้ ระกอบการส่งออกทด่ี หี รอื ผสู้ ่งออกขน้ึ ทะเบยี นจะไดร้ บั คนื ภาษีมลู ค่าเพม่ิ โดยเรว็ จากการยน่ื แบบแสดงรายการภาษมี ลู ค่าเพมิ่ (ภ.พ.30) ดงั น้ี 5.1.1 ยน่ื แบบ ภ.พ.30 ผ่านเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตกรณผี ปู้ ระกอบการสง่ ออก ทด่ี จี ะไดร้ บั คนื เงนิ ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ ภายใน 15 วนั นบั แต่วนั ท่ยี ่นื แบบ ภ.พ.30 กรณีผสู้ ่งออกขน้ึ ทะเบยี นจะไดร้ บั คนื เงนิ ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ภายใน 30 วนั นบั แต่วนั ทย่ี น่ื แบบ ภ.พ.30 5.1.2 ยน่ื แบบ ภ.พ.30 ณ สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขากรณผี ปู้ ระกอบการ ส่งออกท่ดี จี ะได้รบั คืนเงนิ ภาษีมูลค่าเพ่ิมภายใน 45 วนั นับแต่วนั ท่ยี ่นื แบบ ภ.พ.30 กรณีผู้ ส่งออกขน้ึ ทะเบยี นจะไดร้ บั คนื เงนิ ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ภายใน 60 วนั นบั แต่วนั ทย่ี น่ื แบบ ภ.พ.30 สิทธิดังกล่าวมกี ําหนดระยะเวลา 2 ปีนับแต่เดือนภาษีท่ีได้รบั อนุมัติให้เป็นผู้ ประกอบการส่งออกทด่ี หี รอื ผสู้ ่งออกขน้ึ ทะเบยี นโดยตอ้ งยน่ื แบบ ภ.พ.30 ของเดอื นภาษที ไ่ี ด้ รบั สทิ ธปิ ระโยชน์และย่นื แบบ ภ.พ.30 ภายในกําหนดเวลา และกรณีท่มี หี ลกั ฐานหรอื ขอ้ มูล ชัด แ จ้ ง ว่ า ผู้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร ส่ ง อ อ ก ท่ี ดี ห รือ ผู้ ส่ ง อ อ ก ข้ึน ท ะ เ บี ย น ย่ืน แ บ บ แ ส ด ง ร า ย ก า ร ภาษีมูลค่าเพ่ิมไว้ไม่ถูกต้องและเห็นสมควรตรวจก่อนคืน กรมสรรพากรจะแจ้งเหตุท่ไี ม่ สามารถคนื ภาษีภายในเวลาท่กี ําหนดให้ผู้ประกอบการส่งออกท่ดี หี รอื ผู้ส่งออกขน้ึ ทะเบยี น ทราบ 5.2 ไดร้ บั บรกิ ารทด่ี แี ละอํานวยความสะดวกในการตดิ ต่อราชการรวมทงั้ ไดร้ บั ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ และภาษอี ่นื จากกรมสรรพากร 6. การยื่นคาขอ การย่นื คําขอให้จดั ระดบั เป็นผู้ประกอบการส่งออกท่ดี หี รอื ผู้ส่งออกขน้ึ ทะเบยี น ดาํ เนนิ การดงั น้ี 6.1 ยน่ื คาํ ขอใหจ้ ดั ระดบั เป็นผปู้ ระกอบการส่งออกทด่ี หี รอื ผสู้ ่งออกขน้ึ ทะเบยี น
ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 65 ใหย้ น่ื คาํ ขอพรอ้ มเอกสารหลกั ฐานต่อหน่วยงาน ดงั น้ี 6.1.1 ฝ่ายบรหิ ารงานทวั่ ไปของสาํ นักบรหิ ารภาษธี ุรกจิ ขนาดใหญ่กรณผี ูส้ ่ง ออกอยภู่ ายใตค้ วามรบั ผดิ ชอบของสาํ นกั บรหิ ารภาษธี ุรกจิ ขนาดใหญ่ 6.1.2 ฝา่ ยบรหิ ารงานทวั่ ไปของสาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ทซ่ี ง่ึ เป็นทต่ี งั้ ของ สถานประกอบการทม่ี หี น้าทย่ี น่ื แบบแสดงรายการภาษมี ลู ค่าเพมิ่ 6.2 ก่อนระยะเวลา 4 เดอื นทส่ี ทิ ธปิ ระโยชน์จะสน้ิ สุดลง ถ้าผปู้ ระกอบการส่งออก ท่ดี หี รอื ผู้ส่งออกขน้ึ ทะเบยี นย่นื คําขอเป็นผู้ประกอบการส่งออกทด่ี หี รอื ผู้ส่งออกขน้ึ ทะเบยี น ใหส้ ามารถดาํ เนินการไดโ้ ดยมติ อ้ งแนบเอกสารใดๆ หากเกนิ ระยะเวลาดงั กล่าวตอ้ งดาํ เนินการ เช่นเดยี วกบั ผยู้ น่ื คาํ ขอรายใหม่ การย่นื คําขอขา้ งต้นให้ดําเนินการไดเ้ พยี งคราวเดยี ว ทงั้ น้ีจะไดร้ บั ยกเวน้ คุณสมบตั ิ เป็นสมาชกิ ของสมาคม หรอื องคก์ รภาคเอกชน (ในทางการคา้ ) เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นต้น หรอื เป็นผูป้ ระกอบการท่อี ย่ใู นนิคม อุตสาหกรรมและสมาคม หรอื องคก์ รภาคเอกชน หรอื การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานดงั กล่าวรบั รองว่ามกี ารประกอบกจิ การอย่เู ป็นปกติไม่มขี ่าวสารทแ่ี สดงถงึ การ ขาดความน่าเช่อื ถอื ทางการเงนิ และมหี น้ีสนิ ล้นพน้ ตวั แต่อยา่ งใด และเงอ่ื นไขผสู้ อบบญั ชรี บั อนุญาตหรอื ผู้สอบบญั ชภี าษอี ากรท่รี บั รองงบการเงนิ สําหรบั ระยะเวลาบญั ชที ่ยี ่นื คําขอต้อง ไดร้ บั การแต่งตงั้ จากมตทิ ป่ี ระชุมผถู้ อื หุ้น และต้องเป็นไปตามหลกั เกณฑเ์ ง่อื นไขตามมาตรา 3 สตั ต แห่งประมวลรษั ฎากร โดยให้แจง้ ช่อื เลขทะเบยี นของผู้สอบบญั ชรี บั อนุญาตหรอื ผสู้ อบบญั ชภี าษอี ากรพรอ้ มทงั้ ช่อื สาํ นกั งานผสู้ อบบญั ชแี ละใหแ้ จง้ ช่อื ผทู้ าํ บญั ชสี าํ นักงานบญั ชี ดว้ ยและไดร้ บั สทิ ธปิ ระโยชน์เป็นระยะเวลา 2 ปี เม่อื สน้ิ สุดระยะเวลาทไ่ี ดส้ ทิ ธปิ ระโยชน์แลว้ หากประสงคจ์ ะไดร้ บั การจดั ระดบั เป็นผูป้ ระกอบการส่งออกท่ดี หี รอื ผู้ส่งออกขน้ึ ทะเบยี นต้อง ยน่ื คาํ ขอเช่นเดยี วกบั ผยู้ น่ื คาํ ขอรายใหม่ 7. ขนั้ ตอนการพิจารณาอนุมตั ิ เมอ่ื กรมสรรพากรได้รบั เอกสารการขอย่นื จากผูป้ ระกอบการธุรกจิ ใหจ้ ดั ระดบั เป็น ผู้ประการส่งออกท่ดี หี รอื ผู้ส่งออกข้นึ ทะเบยี น จะต้องดําเนินการตามขนั้ ตอนการพจิ ารณา อนุมตั ดิ งั น้ี 7.1 สํานักบรหิ ารภาษธี ุรกจิ ขนาดใหญ่หรอื สํานักงานสรรพากรพน้ื ท่ี ตรวจความ น่าเชอ่ื ถอื ของผปู้ ระกอบการแลว้ เสนอความเหน็ ไปยงั กรมสรรพากร 7.2 กรมสรรพากร โดยคณะกรรมการพจิ ารณาจดั ระดบั ผปู้ ระกอบการส่งออกทด่ี ี สรปุ ความเหน็ เสนออธบิ ดกี รมสรรพากรอนุมตั ิ 7.3 สาํ นักบรหิ ารภาษธี ุรกจิ ขนาดใหญ่หรอื สาํ นกั งานสรรพากรพน้ื ท่ี แจง้ ผลการ พจิ ารณาใหผ้ ปู้ ระกอบการสง่ ออกทราบ
66 ความร้ทู วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก
ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 67
68 ความร้ทู วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก
ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 69
70 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก สรปุ ภาคธุรกจิ การสง่ ออกของไทยทผ่ี ่านมามอี ตั ราการขยายตวั ทส่ี งู ซง่ึ เป็นแรงผลกั ดนั ให้ เศรษฐกจิ ของประเทศมอี ตั ราการขยายตวั อยใู่ นระดบั สูงขน้ึ ตามกนั ไปดว้ ย ดงั นนั้ เพ่อื ใหธ้ ุรกจิ การส่งสนิ คา้ ออกของไทยประสบความสําเรจ็ ลุล่วงตามเป้าหมายและมมี ูลค่าการส่งออกเพมิ่ มากขน้ึ ผูป้ ระกอบการจะต้องเรยี นรแู้ ละศกึ ษาเก่ยี วกบั ขนั้ ตอนและกระบวนการปฏบิ ตั ติ ่างๆ ในการนําเข้าและส่งออกสินค้าให้ดีเสียก่อน ในการประกอบธุรกิจนําเข้าและส่งออก ผปู้ ระกอบการต้องเตรยี มความพรอ้ มหลายประการไดแ้ ก่ จดทะเบยี นนิตบิ ุคคล จดทะเบยี น ภาษมี ลู ค่าเพมิ่ ทําบตั รประจําตวั ผู้นําเขา้ และส่งอออก ลงทะเบยี นเป็นผผู้ ่านพธิ กี ารศุลกากร ทางอเิ ลก็ ทรอนิกสร์ วมทงั้ ศกึ ษาเกย่ี วกบั ประเภทของสนิ คา้ ทม่ี รี ะเบยี บในการนําเขา้ และส่งออก วธิ ดี ําเนินการส่งออกไว้ด้วย สาํ หรบั เขตพ้นื ท่กี ารนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะแบ่ง ออกเป็น 2 เขต ได้แก่ เขตอุตสาหกรรมทัว่ ไปและเขตอุตสาหกรรมประกอบการเสรี (อุตสาหกรรมส่งออกเดมิ ) ซ่งึ แต่ละเขตจะไดร้ บั สทิ ธปิ ระโยชน์ดา้ นการส่งเสรมิ การลงทุนหรอื ไดร้ บั การยกเวน้ เกย่ี วกบั ภาษอี ากรทแ่ี ตกต่างกนั ไปตามพน้ื ทด่ี นิ ท่นี ิคมอุตสาหกรรมจดั สรรไว้ เช่น การยกเว้นอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพ่ิม และภาษีสรรพสามิต สําหรบั เคร่อื งจกั ร อุปกรณ์ เคร่อื งมอื เคร่อื งใช้ ของท่นี ําเขา้ มาเพ่อื ใชใ้ นการผลติ สินคา้ ยกเว้นอากรขาออก เกย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑ์ สงิ่ พลอยได้ และสงิ่ อ่นื ทไ่ี ดจ้ ากการผลติ เป็นตน้ สําหรบั การคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบญั ญตั ศิ ุลกากรนัน้ เป็นการให้ สทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษแี ก่ผู้ประกอบธุรกจิ โดยจะเป็นการคนื ค่าภาระภาษอี ากรของวตั ถุดบิ ท่ี นําเขา้ โดยมเี งอ่ื นไขว่าของนนั้ จะตอ้ งผลติ แลว้ ส่งออกภายในระยะเวลา 1 ปี ซง่ึ กําหนดการขอ คนื ผู้ประกอบธุรกิจต้องดําเนินการภายในระยะเวลา 6 เดอื นนับแต่วนั ท่สี ่งของนัน้ ออกไป นอกจากน้กี รมสรรพากรยงั ไดก้ าํ หนดหลกั เกณฑแ์ ละเง่อื นไขในการจดั ระดบั ของผปู้ ระกอบการ ส่งออกโดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มไดแ้ ก่ 1) ผปู้ ระกอบการส่งออกทด่ี ี (สด.1) และ 2) ผสู้ ่งออก ขน้ึ ทะเบยี น (สท.1) ในการจดั ระดบั น้กี รมสรรพากรมวี ตั ถุประสงคเ์ พ่อื ใหม้ กี ารพจิ ารณาคนื เงนิ ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ เป็นไปดว้ ยความสุจรติ สะดวก และรวดเรว็ อนั จะเป็นประโยชน์แก่การส่งออก ของประเทศ
ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 71 แบบฝึ กหดั ท้ายบท ตอนที่ 1 คาถามอตั นัย : ถาม – ตอบจากทฤษฎใี นเน้อื หาเพอ่ื ทดสอบความเขา้ ใจของ ผเู้ รยี น ขอ้ 1. ใหบ้ อกถงึ ขนั้ ตอนในการนําเขา้ สนิ คา้ ผปู้ ระกอบการควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร ขอ้ 2. เมอ่ื ผซู้ อ้ื และผขู้ ายตกลงสงั่ ซอ้ื สนิ คา้ กนั เป็นทเ่ี รยี บรอ้ ยแลว้ ผขู้ ายจะดําเนินการสง่ สนิ คา้ มาใหต้ ามวธิ กี ารส่งมอบตามท่าหรอื ทท่ี ไ่ี ดต้ กลงกนั ไวต้ ามสญั ญาซอ้ื ขายระหวา่ งประเทศ ผซู้ อ้ื จะตอ้ งดาํ เนนิ การตดิ ต่อขอรบั สนิ คา้ อย่างไร ขอ้ 3. บทบาททส่ี าํ คญั ของการสง่ ออกมผี ลกระทบต่อเศรษฐกจิ ภายในประเทศอยา่ งไรบา้ ง ขอ้ 4. ในการประกอบธุรกจิ สง่ ออก ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งเตรยี มความพรอ้ มในดา้ นใดบา้ ง พรอ้ มอธบิ ายมาพอสงั เขป ขอ้ 5. ประเภทของสนิ คา้ ทม่ี รี ะเบยี บในการนําเขา้ และส่งออกตามกฎหมายของกรมศุลกากร กําหนดไวจ้ าํ แนกออกไดเ้ ป็นกก่ี ลุ่ม พรอ้ มอธบิ ายลกั ษณะสนิ คา้ แต่ละกลุ่มประกอบดว้ ย ขอ้ 6. ใหอ้ ธบิ ายถงึ วธิ ดี าํ เนินการส่งออกสนิ คา้ ไปขายทต่ี ่างประเทศตามวธิ ที างตรงและวธิ กี าร ทางออ้ ม ขอ้ 7. ใหบ้ อกถงึ จดุ แห่งความรบั ผดิ ชอบในการเสยี ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ ของผนู้ ําเขา้ และผสู้ ง่ ออก ขอ้ 8. ปจั จบุ นั ตามพระราชบญั ญตั กิ ารนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยไดจ้ าํ แนกเขตพน้ื ท่ี เพอ่ื การประกอบกจิ การในนิคมอุตสาหกรรมแบง่ เป็นกล่ี กั ษณะ และแต่ละลกั ษณะเป็นอยา่ งไร ขอ้ 9. สาํ นกั บรหิ ารการคา้ ต่างประเทศ กรมการคา้ ต่างประเทศ ไดจ้ ดั ทาํ หนงั สอื รบั รอง แหลง่ กาํ เนิดสนิ คา้ (Certificate of Origins) จาํ แนกออกไดเ้ ป็นกป่ี ระเภท แต่ละประเภทเป็น อยา่ งไร ขอ้ 10. ใหก้ ล่าวถงึ อากรตามมาตรา 19 ทวิ แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากรเป็นอยา่ งไร
72 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก ตอนท่ี 2 แบบฝึ กหดั ปรนัย : คําสงั่ ใหเ้ ขยี นเคร่อื งหมายวงกลม ลอ้ มรอบตวั อกั ษรท่ี ถกู ตอ้ งทส่ี ุดเพยี งตวั เลอื กเดยี วสาํ หรบั คาํ ถามแต่ละขอ้ ขอ้ 1. ขนั้ ตอนแรก ทผ่ี สู้ ่งออกควรศกึ ษาในการเตรยี มความพรอ้ มในการประกอบธุรกจิ คอื สงิ่ ใด ก. ศกึ ษาตลาดส่งออกในสนิ คา้ นนั้ ๆ ข. กําหนดตลาดเป้าหมาย ค. หากล่มุ ผนู้ ําเขา้ ผซู้ อ้ื ผจู้ าํ หน่ายสนิ คา้ ง. จดั หาสนิ คา้ ทม่ี คี วามสามารถจดั หามาไดห้ รอื ผลติ ได้ จ. ศกึ ษาสถติ สิ ่งออกของไทย ขอ้ 2. ขอ้ ใด มใิ ช่ วตั ถุประสงคข์ องการจดั ตงั้ นคิ มอุตสาหกรรม ก. เพ่อื ก่อใหเ้ กดิ ความเจรญิ ทางเศรษฐกจิ ข. เพอ่ื กระจายความเจรญิ สภู่ ูมภิ าค ค. เพอ่ื รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม ง. เพอ่ื คดั กลุม่ ผปู้ ระกอบการส่งออกทด่ี ี จ. เพ่อื การจงู ใจใหก้ บั นกั ลงทุน ขอ้ 3. ความสาํ คญั ของภาคการสง่ ออกมหี ลายประการ ยกเวน้ รายการใดทไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ ง ก. ก่อใหเ้ กดิ การใชท้ รพั ยากรอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ข. ชว่ ยในการนําเขา้ เงนิ ตราต่างประเทศ ค. ชว่ ยสรา้ งความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี ง. ชว่ ยใหเ้ พม่ิ สมาชกิ กลุ่มคา้ ขายระหวา่ งประเทศมากขน้ึ จ. ชว่ ยลดการพง่ึ พงิ สนิ คา้ จากต่างประเทศ ขอ้ 4. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ พน้ื ทเ่ี ขตประกอบการคา้ เสรี (เขตนิคมอุตสาหกรรมส่งออก) ไดถ้ ูกตอ้ ง ทส่ี ดุ ก. เป็นพน้ื ทส่ี าํ หรบั อุตสาหกรรมทผ่ี ลติ เพอ่ื สง่ ออกไปจาํ หน่ายยงั ต่างประเทศเป็นหลกั ข. เป็นพน้ื ทส่ี าํ หรบั อุตสาหกรรมทผ่ี ลติ สนิ คา้ เพอ่ื จาํ หน่ายภายในประเทศเป็นหลกั ค. เป็นพน้ื ทส่ี าํ หรบั จดั แสดงสนิ คา้ จากโรงงานอุตสาหกรรมเพอ่ื ทาํ การส่งออกเป็น หลกั ง. เป็นเขตพน้ื ทท่ี อ่ี ยใู่ นการควบคมุ ของนิคมอุตสาหกรรมโดยไดร้ บั สทิ ธยิ กเวน้ ภาษี ขายจากการสง่ ออก
ความรทู้ วั่ ไปเกี่ยวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก 73 จ. เป็นเขตพน้ื ทป่ี ลอดอากรซง่ึ กําหนดไวส้ าํ หรบั การประกอบอุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรมทเ่ี ป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ ของประเทศ ขอ้ 5. “ขา้ ว ผลติ ภณั ฑม์ นั สาํ ปะหลงั ถวั่ ” จดั เป็นประเภทของสนิ คา้ ทม่ี รี ะเบยี บในการนํา เชา้ และสง่ ออกกลุ่มใด ก. สนิ คา้ มาตรฐาน ข. สนิ คา้ ควบคุม ค. สนิ คา้ เสรี ง. สนิ คา้ อ่นื ๆ จ. สนิ คา้ อุตสาหกรรม ขอ้ 6. ขอ้ ใดเป็นบทบาทของนคิ มอุตสาหกรรม ก. เป็นกลไกของรฐั ในการลดปรมิ าณอุตสาหกรรมใหม้ จี าํ นวนโรงงานน้อยลง ข. เป็นกลไกในการทาํ ลายคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มอนั เกดิ จากอุตสาหกรรม ค. เป็นกลไกในการจดั ระเบยี บการใชท้ ด่ี นิ ในพน้ื ทเ่ี ฉพาะ ง. เป็นกลไกในการยกเวน้ การสนบั สนุนส่งเสรมิ อุตสาหกรรมทวั่ ไป จ. เป็นกลไกในการเพมิ่ อุบตั ภิ ยั อนั เกดิ จากอุตสาหกรรม ขอ้ 7. ถา้ ตอ้ งการคน้ หาขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ในการตดิ ต่อพธิ กี ารนําสนิ คา้ เขา้ มาหรอื สง่ ออกสนิ คา้ ไปต่างประเทศตอ้ งศกึ ษาจากหน่วยงานใดเป็นหลกั ก. www. exim. go.th ข. www. customs. go. th ค. www. dbd. go. th ง. www. rd. go. th จ. www. excise. go. th ขอ้ 8. ขอ้ ใด มใิ ช่ หน้าทข่ี องผปู้ ระกอบการทเ่ี ป็นผนู้ ําเขา้ และส่งออกตอ้ งปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั ภาษมี ลู ค่าเพมิ่ ก. การจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ข. จดั ทําใบกาํ กบั ภาษี ค. ตดิ ต่อกล่มุ ลกู คา้ ต่างประเทศ ง. การจดั ทํารายงานต่าง ๆ จ. การย่นื แบบแสดงรายการและชาํ ระภาษี
74 ความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การประกอบธรุ กิจนาเข้าและส่งออก ขอ้ 9. การขอคนื อากรตามมาตรา 19 ทวิ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ใด ก. ขอคนื อากรภายใน 6 เดอื นนบั แต่วนั ทส่ี ง่ ออก ข. ขอคนื อากรภายใน 9 เดอื นนบั แต่วนั ทส่ี ่งออก ค. ขอคนื อากรภายใน 12 เดอื นนบั แต่วนั ทส่ี ่งออก ง. ขอคนื อากรภายใน 3 ปีนบั แต่วนั ทส่ี ง่ ออก จ. ขอคนื อากรภายใน 5 ปีนบั แต่วนั ทส่ี ง่ ออก ขอ้ 10. ขอ้ ใด มใิ ช่ คุณสมบตั ขิ องผสู้ ่งออกทวั่ ไป(สด.1) ก. เป็นผปู้ ระกอบการบคุ คลธรรมดา แต่จดทะเบยี นเขา้ สรู่ ะบบภาษมี ลู ค่าเพมิ่ ข. มที นุ จดทะเบยี นทช่ี าํ ระแลว้ ตงั้ แต่ 10 ลา้ นบาทขน้ึ ไป ค. มกี ารสง่ สนิ คา้ ไปขายยงั ต่างประเทศในอตั ราสว่ นรอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไปของยอดขาย รวมสาํ หรบั ระยะเวลา 12 เดอื น ง. มที รพั ยส์ นิ สุทธมิ ากกวา่ หน้ีสนิ สุทธิ จ. มปี ระวตั กิ ารเสยี ภาษที ด่ี สี อดคลอ้ งกบั สภาพเป็นจรงิ ของกจิ การ
เขตปลอดอากร 75 บทที่ 2 เขตปลอดอากร การคา้ ขายระหวา่ งประเทศทุกวนั น้เี กดิ การแขง่ ขนั กนั อยา่ งคกึ คกั มากขน้ึ เร่อื ยๆ ส่งผล ให้ผปู้ ระกอบการภาคอุตสาหกรรมของแต่ละประเทศเกดิ การต่นื ตวั ท่จี ะสรรหาสนิ คา้ ทม่ี คี วาม แปลกใหม่นามาวางขายหรอื ส่งออกไปยงั กลุ่มลกู คา้ ทต่ี ่างประเทศเพ่อื เพมิ่ ปรมิ าณยอดขายให้ มากข้นึ จากการทาธุรกิจ อีกทงั้ ผู้ประกอบการยงั มคี วามต้องการให้หน่วยงานภาครฐั ออก นโยบายใหม่ๆ โดยเฉพาะสิทธปิ ระโยชน์ยกเว้นด้านภาษีอากรประเภทต่างๆ รวมถึงสทิ ธิ พเิ ศษเกย่ี วกบั มาตรการใชพ้ น้ื ทด่ี นิ ในการจดั ตงั้ โรงงานอุตสาหกรรมใหไ้ ดร้ บั สทิ ธยิ กเวน้ ในการ ลดหย่อนภาษีอากรเพ่อื เป็นการบรรเทาหรอื แบ่งเบาภาระค่าภาษีอากรท่เี กิดขน้ึ ซ่งึ จะมสี ่วน ช่วยลดต้นทุนการผลติ สนิ คา้ ได้ดว้ ย ทงั้ น้ีรฐั บาลต้องมอบหมายให้หน่วยงานท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั มาตรการส่งเสรมิ การลงทุนมุ่งเน้นในการให้สทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษีอากรแก่ผู้ประกอบการ พรอ้ มทงั้ สนบั สนุนส่งเสรมิ การส่งออกอยา่ งจรงิ จงั เน่ืองจากถอื ว่ามคี วามสาคญั อยา่ งยงิ่ เพราะ เป็นการบ่งบอกถงึ เสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ ของประเทศและแสดงถงึ ความเป็นอย่ขู องคนใน ประเทศมีความเป็นอยู่ท่ีดี ด้วยเหตุน้ีกรมศุลกากรจงึ เป็นอีกหน่วยงานหน่ึงท่ีได้รบั มอบ ภาระหน้าท่จี ากรฐั บาลให้ทาหน้าท่คี วบคุมดูแลบรเิ วณพ้นื ท่ดี นิ ท่ผี ู้ประกอบการขอใชส้ ทิ ธใิ น การจดั ตงั้ โรงงานอุตสาหกรรมร่วมกบั การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยกาหนด เกย่ี วกบั คุณสมบตั ขิ องผปู้ ระกอบการ เงอ่ื นไขในการจดั ตงั้ และอ่นื ๆ ของการจดั ตงั้ เขตปลอด อากรขน้ึ ในประเทศไทยโดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ผลติ ผสม ประกอบ บรรจุ หรอื ดาเนินการอ่นื ใดกับสินค้านัน้ ๆ ท่ีเป็นการช่วยเพ่ิมขดี ความสามารถในการแข่งขนั กบั ประเทศต่างๆ ซ่ึง รายละเอยี ดของเขตปลอดอากรแต่ละประเดน็ มดี งั น้ี (กรมศุลกากร : เขตปลอดอากร. คน้ จาก, http://www.internet1.customs.go.th/ext/TaxPrivilege/TaxPrivilege9/TaxPrivilege9.jsp) ความร้ทู วั่ ไปเกี่ยวกบั เขตปลอดอากร การเลอื กสทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษใี หก้ บั ธุรกจิ เป็นสงิ่ จาเป็นทผ่ี ปู้ ระกอบการจะต้องศกึ ษา ค้นหาสิทธปิ ระโยชน์ทางภาษีอากร เช่น การนาธุรกิจขอรบั การส่งเสรมิ การลงทุน (BOI) เพ่อื ให้ธุรกจิ ไดร้ บั ยกเว้นภาษีเงนิ ได้นิติบุคคลหรอื การนาสถานประกอบการไปตงั้ อยู่ในเขต ปลอดอากร (Tax Free Zone) เพอ่ื ใหไ้ ดร้ บั สทิ ธยิ กเวน้ ภาษอี ากรหากกจิ การเป็นประเภทธุรกจิ อุตสาหกรรมผลติ สนิ คา้ ถ้านาโรงงานไปตงั้ อย่ใู นบรเิ วณในเขตปลอดอากรกจ็ ะทาใหไ้ ด้รบั สทิ ธิ ยกเว้นภาษีอากรหลายประเภทด้วยกนั สง่ิ แรกผู้ประกอบการควรศกึ ษาเก่ยี วกบั เขตปลอด
76 เขตปลอดอากร อากรตามกฎหมายกรมศุลกากรและการนคิ มอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยซง่ึ ไดใ้ หค้ วามหมาย และขอ้ ยกเวน้ ภาษไี วด้ งั น้ี 1. ความหมายของเขตปลอดอากร ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง เ ข ต ป ล อ ด อ า ก ร ต า ม ท่ีอ ธิบ ดีก ร ม ศุ ล ก า ก ร เ ป็ น ผู้มีอ า น า จ ต า ม กฎหมายทจ่ี ะอนุมตั ใิ หจ้ ดั ตงั้ เขตพน้ื ทข่ี น้ึ ตามมาตรา 97 ตรี แห่งพระราชบญั ญตั ศิ ุลกากร พ.ศ. 2469 ซ่งึ แก้ไขเพม่ิ เติมตามมาตรา 8 แห่งพระราชบญั ญัตศิ ุลกากร (ฉบบั ท่ี 18) พ.ศ. 2543 บญั ญตั วิ ่า เขตปลอดอากร (Free Zone) หมายถงึ เขตพน้ื ทก่ี าหนดไวใ้ ชส้ าหรบั การประกอบ อุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรม หรอื กจิ การอ่นื ทเ่ี ป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ ของประเทศ โดย ของทน่ี าเขา้ ไปในเขตดงั กลา่ วจะไดร้ บั สทิ ธปิ ระโยชน์ทางอากรตามทก่ี ฎหมายบญั ญตั ิ 2. หน้าที่ของผปู้ ระกอบการในเขตปลอดอากร ผปู้ ระกอบการทอ่ี ยใู่ นพน้ื ทเ่ี ขตปลอดอากรนอกจากจะต้องปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บต่างๆ ตามทอ่ี ธบิ ดไี ดก้ าหนดมาตราต่างๆ ในหมวดว่าด้วยเขตปลอดอากรแล้ว ตามมาตรา 97 ทศ แหง่ พระราชบญั ญตั ศิ ุลกากร พ.ศ. 2469 ซง่ึ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ตามมาตรา 8 แหง่ พระราชบญั ญตั ิ ศุลกากร (ฉบบั ท่ี 18) พ.ศ. 2543 ยงั บญั ญตั ใิ หน้ าบทบญั ญตั ใิ นหมวด 10 ว่าดว้ ยการเกบ็ ของ ในคลงั สนิ ค้าและบทลงโทษท่เี ก่ยี วขอ้ งมาใช้บงั คบั ในการนาของเขา้ การเกบ็ รกั ษา การส่ง ของออก การควบคุม การขนย้ายของในเขตปลอดอากรมาใชบ้ งั คบั ในเขตปลอดอากรดว้ ย กล่าวคอื ผปู้ ระกอบการในเขตปลอดอากรหรอื ผู้ประกอบการในเขตพ้นื ทด่ี งั กล่าวซง่ึ โดยสรุป แลว้ มหี น้าทด่ี งั น้ี 2.1 ยน่ื ใบขนสนิ คา้ ขาเขา้ เพอ่ื นาของเขา้ เกบ็ ในเขตปลอดอากรตามระเบยี บท่ี อธบิ ดกี รมศุลกากรกาหนด 2.2 เกบ็ ของใหถ้ กู ตอ้ งตามใบขนสนิ คา้ โดยไมซ่ ่อนเรน้ หรอื ยา้ ยของทเ่ี กบ็ ในเขต ปลอดอากรโดยมชิ อบ 2.3 ตอ้ งเกบ็ ของใหม้ ที างเขา้ ถงึ ทุกหบี หอ่ และตอ้ งแสดงของทเ่ี กบ็ ไวใ้ นเขตปลอด อากรไดเ้ มอ่ื เจา้ หน้าทศ่ี ุลกากรรอ้ งขอ 2.4 การสง่ ของออกนอกราชอาณาจกั ร ตอ้ งยน่ื ใบขนสนิ คา้ ขาออกและต้องปฏบิ ตั ิ ตามระเบยี บทอ่ี ธบิ ดกี รมศุลกากรกาหนด
เขตปลอดอากร 77 3. อานาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตปลอดอากร เขตพ้นื ท่ปี ลอดอากรจะอยู่ภายใต้การควบคุมกากับดูแลของเจ้าหน้าท่ศี ุลกากร ทานองเดยี วกนั คลงั สนิ ค้าทณั ฑบ์ นเจ้าหน้าท่ศี ุลกากรมอี านาจเขา้ ไปในเขตปลอดอากรเพ่อื สอบถามข้อเทจ็ จรงิ หรอื ตรวจสอบเอกสาร หรอื ของใดๆ รวมทงั้ ตรวจค้นโรงงาน อาคาร ยานพาหนะ และบุคคลซ่งึ อยู่ในคลงั สนิ ค้าทณั ฑ์บนนัน้ ได้โดยไม่ต้องมหี มายค้น โดยตาม มาตรา 97 ทศ ทก่ี ล่าวแลว้ ในบทบญั ญตั ใิ นหมวด 10 เก็บของในคลงั สนิ คา้ ในเร่อื งอานาจของ พนักงานเจา้ หน้าท่มี าใช้บงั คบั กบั เขตปลอดอากรด้วย จงึ นาความตามมาตรา 97 ทวิ แห่ง พระราชบญั ญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมตามมาตรา 8 แห่งพระราชบญั ญัติ ศุลกากร (ฉบบั ท่ี 18) พ.ศ. 2543 มาใชบ้ งั คบั กบั เขตปลอดอากรดว้ ย นอกจากน้ีกรณีของทไ่ี ด้ยน่ื ใบขนสนิ คา้ และนาเขา้ เกบ็ ไวใ้ นเขตปลอดอากรเกดิ สูญ หายหรอื ถูกทาลายโดยอุบตั เิ หตุอนั มอิ าจหลกี เลย่ี งได้ อธบิ ดกี รมศุลกากรอาจยกเวน้ ใหไ้ ดแ้ ม้ ไมม่ กี ารส่งออกหรอื โอนไปยงั ผไู้ ดร้ บั สทิ ธปิ ระโยชน์อ่นื ๆ สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรที่ได้รบั การยกเว้น สาหรบั ผปู้ ระกอบการอุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรม หรอื กจิ การอ่นื ทไ่ี ดน้ าของเขา้ มาใน ราชอาณาจกั รเพ่อื นาเขา้ ไปในเขตปลอดอากรจะได้รบั สทิ ธปิ ระโยชน์ยกเวน้ ภาษีอากรในกรณี ต่างๆ ไดแ้ ก่ 1. ยกเวน้ อากรขาเขา้ สาหรบั ของทไ่ี ดน้ าเขา้ มาในราชอาณาจกั รเพอ่ื นาเขา้ ในเขต ปลอดอากรในกรณดี งั ต่อไปน้ี 1.1 ของทเ่ี ป็นเคร่อื งจกั ร อุปกรณ์ เคร่อื งมอื และเครอ่ื งใชร้ วมทงั้ ส่วนประกอบสง่ิ ของดงั กล่าวท่จี าเป็นต้องใชใ้ นการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรอื กจิ การอ่นื ใดท่ี เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ ของประเทศตามทอ่ี ธบิ ดอี นุมตั ิ 1.2 ของทน่ี าเขา้ มาในราชอาณาจกั รและนาเขา้ ไปในเขตปลอดอากร สาหรบั ใชใ้ น การประกอบอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม หรอื กจิ การอ่นื ใดท่เี ป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ ของประเทศ 1.3 ของทป่ี ล่อยแก่การเศรษฐกจิ ของประเทศ 2. ยกเวน้ อากรขาออก สาหรบั ของทป่ี ลอ่ ยไปจากเขตปลอดอากรเพ่อื ส่งออกนอก ราชอาณาจกั ร 3. ยกเวน้ ภาษมี ลู คา่ เพมิ่ สาหรบั การนาสนิ คา้ จากต่างประเทศเขา้ ไปในเขตปลอด อากร
78 เขตปลอดอากร 4. ใชอ้ ตั ราภาษรี อ้ ยละ 0 ในการคานวณภาษมี ลู ค่าเพมิ่ สาหรบั การนาสนิ คา้ ใน ราชอาณาจกั รเข้าไปในเขตปลอดอากรเฉาะสนิ ค้าท่ตี ้องเสยี อากรขาออกหรอื ท่ไี ด้รบั ยกเว้น อากรขาออกตามกฎหมายวา่ ดว้ ยศุลกากร 5. ยกเวน้ ภาษสี รรพสามติ สาหรบั การนาเขา้ และการผลติ ของทก่ี ระทาในเขตปลอด อากร 6. ยกเวน้ ภาษสี ุรา การปิดแสตมป์และคา่ ธรรมเนียมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสรุ า กฎหมายยาสูบและกฎหมายว่าด้วยไพ่ สาหรบั การนาเขา้ และการผลติ ท่กี ระทาในเขตปลอด อากร 7. การนาของเขา้ มาในราชอาณาจกั รหรอื การนาวตั ถุดบิ ภายในราชอาณาจกั รเขา้ ไป ในเขตปลอดอากร เพ่อื ผลติ ผสม ประกอบ บรรจุ หรอื ดาเนินการอ่นื ใดกบั ของนัน้ โดยมี วตั ถุประสงค์เพ่อื ส่งออกไปนอกราชอาณาจกั ร ให้ของนัน้ ได้รบั ยกเว้นไม่อยู่ภายใต้บงั คบั กฎหมายในส่วนทเ่ี กย่ี วกบั การควบคุมมาตรฐานหรอื คุณภาพการประทบั ตราหรอื เคร่อื งหมาย ใดๆ แก่ของนนั้ 8. ของใดทม่ี กี ฎหมายบญั ญตั ใิ หไ้ ดร้ บั ยกเวน้ หรอื คนื เงนิ อากรเมอ่ื ส่งออกไปนอก ราชอาณาจกั ร หากนาของนนั้ เขา้ ไปในเขตปลอดอากรใหไ้ ดร้ บั ยกเวน้ หรอื คนื เงนิ อากรโดยให้ ถือว่าของนัน้ ได้ส่งออกไปนอกราชอาณาจกั รในเวลาท่นี าของเช่นว่านัน้ เขา้ ไปในเขตปลอด อากร 9. การนาของออกจากเขตปลอดอากร เพ่อื ใชห้ รอื จาหน่ายภายในราชอาณาจกั รหรอื เพ่อื โอนเขา้ ไปในคลงั สนิ คา้ ทณั ฑบ์ น หรอื จาหน่ายใหแ้ ก่ผูน้ าของเขา้ ตามมาตรา 19 ทวิ แห่ง พระราชบญั ญตั ศิ ุลกากร (ฉบบั ท่ี 9) พ.ศ.2482 หรอื ผมู้ สี ทิ ธไิ ดร้ บั ยกเวน้ อากรตามกฎหมายว่า ดว้ ยพกิ ดั อตั ราศุลกากรหรอื กฎหมายอ่นื ใหถ้ อื ว่าเป็นการนาเขา้ มาในราชอาณาจกั รหรอื นาเขา้ สาเรจ็ ในเวลาทน่ี าของเชน่ วา่ นนั้ ออกจากเขตปลอดอากร 10. การนาของในเขตปลอดอากรไปใชเ้ พ่อื การบรโิ ภคหรอื เพ่อื ประโยชน์อยา่ งอ่นื นอก เหนือจากวตั ถุประสงคใ์ นการจดั ตงั้ เขตปลอดอากร ใหถ้ อื ว่าเป็นการนาของออกจากเขตปลอด อากรเพ่อื ใช้หรอื จาหน่ายภายในราชอาณาจกั รดงั กล่าวในขอ้ 9. เวน้ แต่จะเป็นการกาจดั หรอื ทาลายเศษวสั ดุ ของท่เี สยี หาย ของท่ใี ช้ไม่ได้หรอื ของท่ไี ม่ได้ใช้ ซ่งึ อยู่ภายในเขตปลอด อากรโดยไดร้ บั อนุญาตจากอธบิ ดี 11. ของทป่ี ล่อยจากเขตปลอดอากร เพ่อื นาเขา้ มาในราชอาณาจกั รใหค้ านวณค่าภาษี ตามสภาพของราคาของและพกิ ดั อตั ราศุลกากรท่เี ป็นอยู่ในเวลาซ่งึ ได้ปล่อยของเช่นว่านัน้ ออกไปจากเขตปลอดอากร แต่ในกรณีทไ่ี ดน้ าของทม่ี อี ยใู่ นราชอาณาจกั รเขา้ ไปในเขตปลอด อากรโดยของทน่ี าเขา้ ไปนนั้ ไมม่ สี ทิ ธไิ ดร้ บั คนื หรอื ยกเวน้ อากรไมต่ อ้ งนาราคาของดงั กล่าวมา คานวณค่าภาษี
เขตปลอดอากร 79 หลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขการจดั ตงั้ เขตปลอดอากร การท่ีผู้ประกอบการจะขออนุญาตใช้สิทธิเ์ ขตพ้ืนท่ีท่ีกาหนดไว้ใช้ในการประกอบ อุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรม หรอื กจิ การอ่นื ทเ่ี ป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ ของประเทศนัน้ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและกรมศุลกากรได้มีข้อตกลงร่วมกนั โดยกาหนด หลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขการจดั ตงั้ เขตปลอดอากรทผ่ี ปู้ ระกอบการตอ้ งทาความเขา้ ใจและปฏบิ ตั ิ ไวด้ งั น้ี 1. สถานทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ เขตปลอดอากร ตอ้ งอยใู่ นบรเิ วณทอ่ี ธบิ ดกี รมศุลกากรเหน็ ว่า เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ มีพ้ืน ท่ีต่ อ เ น่ื อ ง กัน แ ล ะ เ ป็ น พ้ืน ท่ีก ร ม ศุ ล ก า ก ร ส า ม า ร ถ ค ว บ คุ ม ก า ร ใ ช้สิท ธิ ประโยชน์ทางภาษอี ากรได้ โดยมขี นาดและสถานทเ่ี หมาะสมกบั ประเภทกจิ การ 1.1 กรณสี ถานทจ่ี ดั ตงั้ เขตปลอดอากรเฉพาะเพ่อื ประกอบการอุตสาหกรรมต้อง เป็น 1.1.1 ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนุมตั จิ ากรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงอุตสาหกรรมใหเ้ ป็นผู้ ประกอบการเขตประกอบการอุตสาหกรรม หรอื 1.1.2 ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนุมตั จิ ากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ใหเ้ ป็นเขตชมุ ชนอุตสาหกรรมประเภทอาคารโรงงานเอกเทศ หรอื 1.1.3 ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนุญาตจากการนิคมอุตสาหกรรมแหง่ ประเทศไทย ใหใ้ ช้ พน้ื ทใ่ี นเขตอุตสาหกรรมทวั่ ไป หรอื 1.1.4 ผทู้ ไ่ี ดร้ บั การสง่ เสรมิ การลงทนุ จากสาหนกั งานคณะกรรมการส่งเสรมิ การลงทุนสาหรบั กจิ การเขตอุตสาหกรรมหรอื กจิ การเขตอุตสาหกรรมซอฟตแ์ วรห์ รอื กจิ การเขต อุตสาหกรรมอญั มณแี ละเครอ่ื งประดบั หรอื 1.1.5 ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนุญาตใหป้ ระกอบอุตสาหกรรมอ่นื ใดทเ่ี ป็นประโยชน์แก่ การเศรษฐกจิ ของประเทศตามกฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 1.2 กรณกี ารจดั ตงั้ เขตปลอดอากรเพ่อื การพณชิ ยกรรม ตอ้ งเป็นกจิ การทเ่ี กย่ี ว ขอ้ งกบั การนาเขา้ และส่งออกไดแ้ ก่ 1.2.1 การคา้ หรอื การบรกิ ารหรอื การขนสง่ ระหว่างประเทศ 1.2.2 การกระจายสนิ คา้ คลงั สนิ คา้ การซอ้ื มาและขายไป หรอื ศูนย์ กระจายสนิ คา้ ระหว่างประเทศ 1.2.3 การแสดงสนิ คา้ หรอื นิทรรศการ การประชมุ ระหว่างประเทศ 1.2.4 การซ่อมหรอื งานดา้ นวศิ วกรรม การตรวจสอบ วเิ คราะห์ และ รบั รองคุณภาพของผลติ ภณั ฑอ์ ุตสาหกรรมหรอื ผลผลติ ทางเกษตรกรรม 1.2.5 กจิ การอ่นื ทอ่ี ธบิ ดเี หน็ ว่าเป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ
80 เขตปลอดอากร ทงั้ น้เี ขตปลอดอากรหน่งึ อาจเป็นเขตปลอดอากรเพอ่ื การประกอบอุตสาหกรรมหรอื เพ่อื การพาณชิ ยกรรมหรอื เพอ่ื กจิ การอ่นื ทเ่ี ป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ ของประเทศอยา่ งใดอย่าง หน่งึ หรอื หลายอยา่ งในเขตเดยี วกนั กไ็ ด้ 2. การจดั ตงั้ เขตปลอดอากร จะตอ้ งไมเ่ ป็นการจดั ตงั้ เพ่อื ประโยชน์ของผปู้ ระกอบ กจิ การในเขตปลอดอากรเพยี งรายเดยี วหรอื รายใดรายหน่ึงโดยเฉพาะ กล่าวคอื จะตอ้ งนาผล ประโยชน์ส่วนท่คี งเหลอื (กาไรสุทธ)ิ ทไ่ี ด้จากการประกอบธุรกจิ นาส่งภาษีให้กรมสรรพากร ถูกตอ้ งสอดคลอ้ งกบั ความเป็นจรงิ และตรงตามเวลาทก่ี าหนดไว้ 3. เขตปลอดอากรตอ้ งมปี ระตูเขา้ –ออกและรวั้ ทม่ี นั่ คงแขง็ แรง เวน้ แต่โดยสภาพของ กจิ การไมจ่ าเป็นตอ้ งมรี วั้ หรอื โดยสภาพแวดลอ้ มสามารถใชส้ งิ่ อ่นื ทดแทนรวั้ ได้ 4. ผขู้ อจดั ตงั้ เขตปลอดอากรตอ้ งจดั ใหม้ สี าธารณูปโภค ระบบควบคุมกาจดั มลพษิ และรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม สง่ิ อานวยความสะดวกและบรกิ ารทจ่ี าเป็นและหา้ มมิใหจ้ ดั ตงั้ ทอ่ี ย่อู าศยั ในเขตปลอดอากร 5. ผขู้ อจดั ตงั้ เขตปลอดอากรตอ้ งจดั ใหม้ สี ถานทอ่ี าคาร สง่ิ ก่อสรา้ ง เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ อุปกรณ์สานกั งาน ดงั น้ี 5.1 สถานทอ่ี นั ควรสาหรบั เป็นทท่ี าการของสานักงานศุลกากรซง่ึ ตงั้ อย่ใู นบรเิ วณ ทเ่ี หมาะสมโดยมอี ุปกรณ์สานักงานและเคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื เช่อื มโยงกบั ระบบคอมพวิ เตอร์ สาหรบั การบรหิ ารสทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษอี ากรและระบบแลกเปลย่ี นขอ้ มูลทางอเิ ลค็ ทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI) และการจดั วางระบบสายสญั ญาณส่อื สารท่ดี แี ละมี ประสทิ ธภิ าพเพ่อื ใช้ในการควบคุมการรบั มอบ–ส่งมอบ การขนย้าย การเก็บรกั ษา การ ควบคุมและตรวจปล่อยสนิ คา้ ดว้ ยระบบแถบเสน้ (Bar Code System) หรอื ระบบควบคุมทท่ี นั สมยั อย่างอ่นื ตามท่กี รมศุลกากรกาหนดและเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ท่ีมรี ะบบควบคุมสนิ ค้าของ ผู้ประกอบกจิ การภายในเขตปลอดอากร ตามมาตรฐานท่กี รมศุลกากรกาหนดและอุปกรณ์ เครอ่ื งใชใ้ นสานกั งานเทา่ ทจ่ี าเป็น 5.2 สถานทต่ี รวจของเขา้ –ออกอยใู่ นบรเิ วณเดยี วกนั หรอื อย่บู รเิ วณใกลเ้ คยี งกบั สานกั งานศุลกากรทม่ี พี น้ื ทก่ี วา้ งขวางเพยี งพอกบั การปฏบิ ตั งิ านพรอ้ มทงั้ ตอ้ งจดั ใหม้ เี คร่อื งมอื เครอ่ื งใชส้ าหรบั การตรวจสนิ คา้ ของเจา้ หน้าทต่ี ามทก่ี รมศุลกากรกาหนด 5.3 สถานตี รวจสอบ (Checking Post) ตงั้ อยใู่ นบรเิ วณทเ่ี หมาะสมแยกช่องทาง เขา้ และออกซง่ึ แต่ละชอ่ งทางเขา้ –ออกความกวา้ งไมน่ ้อยกวา่ ชอ่ งทางละ 3 เมตรและมเี คร่อื งชงั่ น้าหนกั อเิ ลคโทรนคิ สป์ ระจาบรเิ วณชอ่ งทางเขา้ –ออกทเ่ี ช่อื มโยงกบั ระบบคอมพวิ เตอรไ์ ด้ และ มบี รเิ วณสถานทจ่ี อดรถยนตเ์ พ่อื ตรวจยานพาหนะและสนิ คา้ ชวั่ คราว และเคร่อื งอานวยความ สะดวกเคร่อื งมอื เคร่อื งใช้ท่ที นั สมยั และจาเป็นเพ่อื ใช้ในการปฏบิ ตั งิ านและการควบคุม เช่น โทรทศั น์วงจรปิด (CCTV) ทม่ี คี วามสามารถในการบนั ทกึ ภาพเหตุการณ์ บุคคล หมายเลข ทะเบยี นยานพาหนะ หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ และ/หรอื ส่ิงของท่ผี ่านเข้า–ออกและเปิด
เขตปลอดอากร 81 ตรวจสอบข้อมูลภาพยอ้ นหลงั ได้ไม่น้อยกว่า 60 วนั และเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ท่เี ช่อื มโยงกบั ระบบแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ทางอเิ ลค็ ทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI) ของศุลกากร เป็นตน้ ทงั้ น้ตี ามความจาเป็นตามทก่ี รมศุลกากรกาหนด 5.4 สถานทอ่ี นั ควรสาหรบั ใชเ้ ป็นทพ่ี กั อาศยั ของเจา้ หน้าทศ่ี ุลกากรซง่ึ อย่นู อกเขต ปลอดอากร โดยอาจอยใู่ นบรเิ วณหรอื ใกลเ้ คยี งกบั สานกั งานศุลกากรตามความเหมาะสม 6. ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนุมตั จิ ดั ตงั้ เขตปลอดอากร จะตอ้ งดแู ลรกั ษาสถานท่รี ะบบโปรแกรมและ อุปกรณ์ต่างๆ ทไ่ี ด้จดั ให้มไี ว้ใช้ดงั กล่าวข้างต้น และจะต้องดูแลขอ้ มูลคอมพวิ เตอรใ์ หอ้ ย่ใู น สภาพเรยี บร้อยพร้อมท่ีจะให้เจ้าหน้าท่ศี ุลกากรตรวจสอบได้ตลอดเวลารวมถึงการแก้ไข ปรบั ปรงุ การพฒั นาระบบและจดั หาเพม่ิ เตมิ ตามทก่ี รมศุลกากรกาหนด 7. ผไู้ ดร้ บั อนุมตั จิ ดั ตงั้ เขตปลอดอากรตอ้ งไม่นาทด่ี นิ อสงั หารมิ ทรพั ย์ ส่วนควบและ อุปกรณ์ ซ่งึ ใช้เป็นระบบสาธารณูปโภคหรือท่ดี ินท่ใี ช้เพ่ือบรกิ ารสาธารณะและเคร่อื งมอื เคร่อื งใช้ อุปกรณ์สานักงานและสงิ่ อานวยความสะดวกต่างๆ ไปใชเ้ ป็นหลกั ประกนั หน้ีหรอื ก่อใหเ้ กดิ ภาระผกู พนั ไมว่ ่าโดยทางตรงหรอื โดยทางออ้ ม 8. ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนุมตั จิ ดั ตงั้ เขตปลอดอากร ตอ้ งดาเนนิ การจดั ทาสญั ญาประกนั และทณั ฑ์ บนภายใน 15 วนั นับแต่วนั ทอ่ี นุมตั เิ พ่อื ประกนั ความเสยี หายทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ แก่กรมศุลกากรและ เพ่อื ผูกพนั ให้ปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บขอ้ บงั คบั ทก่ี รมศุลกากรกาหนดและต้องชาระค่าธรรมเนียม สาหรบั เขตปลอดอากรตามทร่ี ฐั มนตรกี าหนดในกฎกระทรวงโดยค่าธรรมเนียมประจาปีจะส้นิ สุดในวนั ท่ี 31 ธนั วาคมของทุกๆ ปี และจะต้องชาระค่าธรรมเนียมประจาปีของปีถดั ไปก่อน วนั ท่ี 31 ธนั วาคมของปีปจั จบุ นั 9. ผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนุมตั จิ ดั ตงั้ เขตปลอดอากรตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกฎหมาย ระเบยี บ คาสงั่ และ ประกาศกรมศุลกากร ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย ระเบยี บ คาสงั่ และประกาศกรมศุลกากรท่ใี ช้ บงั คบั อยแู่ ลว้ หรอื ทจ่ี ะออกใชบ้ งั คบั ต่อไปในภายหน้า คณุ สมบตั ิของผขู้ อจดั ตงั้ เขตปลอดอากร ผปู้ ระสงคข์ อจดั ตงั้ เขตปลอดอากรจะต้องปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑแ์ ละเง่อื นไขการจดั ตงั้ เขตปลอดอากรทก่ี าหนดไวใ้ นประกาศกรมศุลกากรท่ี 87/2546 ลงวนั ท่ี 25 ธนั วาคม 2546 ซง่ึ กาหนดเกย่ี วกบั คณุ สมบตั ขิ องผขู้ อจดั ตงั้ เขตปลอดอากรไวด้ งั น้ี 1. เป็นรฐั วสิ าหกจิ หรอื บรษิ ทั มหาชนจากดั ซง่ึ จดั ตงั้ ขน้ึ ตามพระราชบญั ญตั บิ รษิ ทั มหาชนจากดั พ.ศ. 2535 หรอื บรษิ ทั จากดั ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เฉพาะ กรณีทเ่ี ป็นบรษิ ทั จากดั ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และประสงคท์ จ่ี ะขอจดั ตงั้ เขต ปลอดอากรในเขตพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ
82 เขตปลอดอากร สมทุ รสาครและฉะเชงิ เทรา จะต้องมที ุนจดทะเบยี นทช่ี าระแลว้ ไม่ต่ากว่า 20 ล้านบาท ในเขต พน้ื ทอ่ี ่นื จะตอ้ งมที ุนจดทะเบยี นทช่ี าระแลว้ ไมต่ ่ากว่า 10 ลา้ นบาท หรอื มที ุนจดทะเบยี นทช่ี าระ แลว้ ในจานวนทอ่ี ธบิ ดเี หน็ ควรว่าเหมาะสมกบั ประเภทของกจิ การ กรณีทไ่ี มเ่ ป็นนิตบิ ุคคลตาม กฎหมายให้ย่นื คาร้องขอผ่อนผันพร้อมคาร้องขอประกอบกิจการซ่ึงอธิบดีหรือผู้ท่ีอธิบดี มอบหมายจะพจิ ารณาอนุมตั ผิ ่อนผนั ใหต้ ามความจาเป็นและเหมาะสม 2. เป็นกจิ การทม่ี ฐี านะทางการเงนิ มนั่ คง คอื มสี นิ ทรพั ยส์ ทุ ธมิ ากกวา่ หน้สี นิ สทุ ธิ เน่อื งจากเป็นการแสดงถงึ การใชท้ รพั ยากรในองคก์ รไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธผิ ลและก่อใหเ้ กดิ ความมี ประสทิ ธภิ าพตามมาซง่ึ เป็นไปตามนโยบายของผปู้ ระกอบการกาหนดไว้ 3. เป็นผมู้ กี รรมสทิ ธหิ ์ รอื สทิ ธคิ รอบครอง หรอื เป็นผมู้ สี ทิ ธบิ รหิ ารจดั การในทด่ี นิ หรอื พน้ื ทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ 4. ตอ้ งไมเ่ คยมปี ระวตั กิ ารกระทาความผดิ อย่างรา้ ยแรงตามกฎหมายวา่ ดว้ ยศุลกากร และกฎหมายอ่นื ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การศุลกากรยอ้ นหลงั 3 ปีนบั แต่วนั ยน่ื คาขอ สว่ นเอกสารทใ่ี ชป้ ระกอบการยน่ื คาขอจดั ตงั้ เขตปลอดอากร ผขู้ อจดั ตงั้ เขตปลอดอากร จะต้องย่นื แบบคาขอจดั ตงั้ เขตปลอดอากรท่ฝี ่ายจดั ตงั้ เขตปลอดอากร ส่วนหลกั เกณฑแ์ ละ ทะเบยี นสทิ ธปิ ระโยชน์ สานกั สทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษอี ากรพรอ้ มเอกสารประกอบดงั น้ี 1) คาขอจดั ตงั้ เขตปลอดอากร 2) สาเนาใบสาคญั แสดงการจดทะเบยี นนิตบิ คุ คล 3) สาเนาหนงั สอื รบั รองการจดทะเบยี น และบญั ชรี ายชอ่ื ผถู้ อื หนุ้ ทอ่ี อกใหไ้ ม่ เกนิ 6 เดอื นก่อนวนั ยน่ื คาขอ 4) สาเนาใบทะเบยี นภาษมี ลู ค่าเพม่ิ (ภ.พ.20) 5) งบการเงนิ ทไ่ี ดร้ บั การรบั รองจากผตู้ รวจสอบบญั ชรี บั อนุญาตยอ้ นหลงั 3 ปี 6) สาเนาโฉนดทด่ี นิ หรอื สาเนาหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ หรอื หนงั สอื อนุญาต ใหม้ สี ทิ ธใิ นการบรหิ ารจดั การในทด่ี นิ หรอื พน้ื ทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ 7) แผนทโ่ี ดยสงั เขป แบบแปลนแผนผงั ของสถานทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ และสงิ่ ปลกู สรา้ ง ขนาดไมต่ ่ากว่า 40 X 60 ซ.ม. 8) หนงั สอื รบั รองการก่อสรา้ ง และการจดั หาเครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ อุปกรณ์ สานักงานสงิ่ อานวยความสะดวกและสาธารณูปโภคท่จี าเป็น เพ่อื ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑ์ และเงอ่ื นไขรวมทงั้ กาหนดขนั้ ตอนและระยะเวลาในการดาเนินโครงการตงั้ แต่เรม่ิ ตน้ จนพรอ้ มท่ี จะเปิดดาเนินการ 9) กรณที ผ่ี ขู้ อจดั ตงั้ เขตปลอดอากรเพ่อื ประกอบการอุตสาหกรรมใหย้ ่นื 9.1) สาเนาหนงั สอื อนุญาตใหเ้ ป็นเขตประกอบอุตสาหกรรมหรอื ใหเ้ ป็นเขต อุตสาหกรรมประเภทอาคารโรงงานเอกเทศจากกระทรวงอุตสาหกรรม หรอื
เขตปลอดอากร 83 9.2) สาเนาหนงั สอื ส่งเสรมิ การลงทนุ จากคณะกรรมการส่งเสรมิ การลงทุนใหไ้ ว้ สาหรบั กิจการเขตอุตสาหกรรม หรอื กิจการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ หรอื กิจการเขต อุตสาหกรรมอญั มณแี ละเครอ่ื งประดบั หรอื 9.3) สาเนาหนงั สอื อนุญาต หรอื หนงั สอื รบั รองสาหรบั อุตสาหกรรมอ่นื ใดๆ ท่ี เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ ของหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 9.4) ในกรณที พ่ี น้ื ทข่ี อจดั ตงั้ มผี ปู้ ระกอบการอุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรม หรอื กจิ การอ่นื ใดทเ่ี ป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ ของประเทศอย่กู ่อนแลว้ ใหแ้ สดงหนังสอื อนุญาต หรอื หนงั สอื รบั รองใหป้ ระกอบการตามทไ่ี ดร้ บั อนุญาตจากหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 10) รายละเอยี ดโครงการจดั ตงั้ เขตปลอดอากรอยา่ งละ 2 ชุด 10.1) โครงการดาเนินงาน การกาหนดตงั้ วตั ถุประสงค์ ประเภทของกจิ การ หรอื ประเภทอุตสาหกรรมทจ่ี ะเขา้ มาดาเนินการในเขตปลอดอากร 10.2) แผนงาน แผนการบรหิ ารจดั การ ระยะเวลาทใ่ี ชด้ าเนินการจดั สรา้ งสงิ่ ปลูกสรา้ งสาธารณูปโภคและส่ิงอานวยความสะดวกอ่ืนๆ และกาหนดระยะเวลาการพฒั นา โครงการตงั้ แต่เรมิ่ ตน้ จนแลว้ เสรจ็ 10.3) แผนการเงนิ แหล่งเงนิ ทุน และขนาดของการลงทุน 10.4) แผนการขาย แผนการใหเ้ ชา่ แผนการใหเ้ ช่าซอ้ื หรอื การใชส้ ทิ ธคิ รอบ ครองอสงั หารมิ ทรพั ย์ หรอื สงั หารมิ ทรพั ยเ์ พอ่ื ใชส้ ทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษอี ากร 10.5) แผนการดแู ลรกั ษาสาธารณูปโภคและบรกิ ารสาธารณะหรอื ขอ้ เสนอ เก่ยี วกบั การจดั ตงั้ กองทุนเพ่อื บารุงรกั ษา ซ่อมแซม และเสรมิ สรา้ งระบบสาธารณูปโภคและ สง่ิ อานวยความสะดวก 10.6) โครงการทจ่ี ะขยายไดใ้ นอนาคต (ถา้ ม)ี 10.7) เอกสารอ่นื ๆ เชน่ ผลทจ่ี ะเกดิ จากการดาเนนิ การทเ่ี ป็นประโยชน์แก่การ เศรษฐกจิ ของประเทศ มาตรการป้องกนั ความปลอดภยั ในชวี ติ ทรพั ยส์ นิ สง่ิ แวดลอ้ ม และ มาตรการกาจดั มลภาวะและรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ ม เป็นตน้ สาหรบั เอกสารทใ่ี ชป้ ระกอบการย่นื คาขอจดั ตงั้ เขตปลอดอากรตามขอ้ 1)–-ขอ้ 10) ให้ จดั ทาสาเนา 1 ชดุ ยกเวน้ เอกสารตามขอ้ 7) ใหจ้ ดั ทาสาเนา 2 ชดุ เอกสารตน้ ฉบบั และสาเนา ทกุ แผ่นใหผ้ มู้ อี านาจลงนามและประทบั ตราบรษิ ทั ดงั นนั้ จงึ นาตวั อยา่ งแบบพมิ พข์ องเอกสาร ต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ผปู้ ระกอบการในเขตปลอดอากรมาใหศ้ กึ ษารายละเอยี ดดงั น้ี
84 เขตปลอดอากร แบบแนบทา้ ยประมวลฯ ขอ้ 5 03 01 03 คาขอจดั ตงั้ เขตปลอดอากร เขยี นท.่ี .......................... วนั ท.่ี ........เดอื น................พ.ศ............... เรอ่ื ง ขอจดั ตงั้ เขตปลอดอากร เรยี น ผอ.สว่ นหลกั เกณฑส์ ทิ ธปิ ระโยชน์ ดว้ ยขา้ พเจา้ (ช่อื นติ บิ คุ คล) ...................................................................................... โดย...........................................................ตาแหน่ง...............................................สานกั งาน ตงั้ อยเู่ ลขท.่ี .............ถนน.............................ตาบล/แขวง.....................อาเภอ/เขต.................. จงั หวดั ........................โทรศพั ท.์ .............................มคี วามประสงคจ์ ะขอตงั้ เขตปลอดอากรช่อื ....................................................เพอ่ื ประกอบกจิ การ........................................................... สถานทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ อยเู่ ลขท.่ี ............ถนน...........ตาบล/แขวง......................อาเภอ/เขต.............. จงั หวดั ......................ขอแจง้ รายละเอยี ดเพ่อื ประกอบการพจิ ารณาจดั ตงั้ เป็นเขตปลอดอากร ดงั น้ี 1. (ช่อื นติ บิ ุคคล)..................................................................................ก่อตงั้ เมอ่ื วนั ท.่ี ..........เดอื น.....................พ.ศ. .................... ประกอบกจิ การ....................................... ตามหลกั ฐานการจดทะเบยี น.................................................................................................. 2. ปจั จบุ นั (ชอ่ื นิตบิ คุ คล) ........................................................................................ มเี งนิ ทุนจดทะเบยี น...........................................ล้านบาท ได้ชาระมูลค่าหุ้นแล้วจานวน ...............................ลา้ นบาท 3. สถานทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ เขตปลอดอากรมเี น้อื ท.่ี ..........ไร.่ ........งาน............ตารางวา ปจั จบุ นั มสี ง่ิ ปลกู สรา้ งบนทด่ี นิ ดงั น้ี..................................................................................... 4. สทิ ธใิ นสถานทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ □ เป็นผถู้ อื กรรมสทิ ธใิ ์ นทด่ี นิ โฉนดเลขท.่ี .......................................................... □ เป็นผมู้ สี ทิ ธคิ รอบครองตามสญั ญาเชา่ เลขท.่ี .............ลงวนั ท.่ี ......................... □ เป็นผมู้ สี ทิ ธบิ รหิ ารจดั การในทด่ี นิ หรอื พน้ื ทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ ตามหนงั สอื เลขท.่ี .......... ลงวนั ท.่ี .................................... □ อ่นื ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................
เขตปลอดอากร 85 5. กรณขี อจดั ตงั้ เขตปลอดอากรเพอ่ื การประกอบอุตสาหกรรม □ ไดร้ บั อนุมตั ใิ หเ้ ป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมหรอื ใหเ้ ป็นเขตชมุ ชน อุตสาหกรรมประเภทอาคารโรงงานเอกเทศเลขท.่ี ........................................ ลงวนั ท.่ี ................................................................................................ □ ไดร้ บั อนุญาตใหใ้ ชพ้ น้ื ทใ่ี นเขตอุตสาหกรรมทวั่ ไปของการนิคมอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทยเลขท.่ี .......................ลงวนั ท.่ี ............................................... □ ไดร้ บั การสง่ เสรมิ การลงทนุ ตามบตั รเลขท.่ี .................หมดอายวุ นั ท.่ี ............... □ อ่นื ๆ (ระบ)ุ ................................................................................................. 6. เมอ่ื ไดร้ บั อนุมตั จิ ดั ตงั้ เขตปลอดอากรแลว้ ขา้ พเจา้ จะดาเนินการจดั ตงั้ เขตปลอด อากรตามแบบแปลนแผนผงั ทก่ี รมศุลกากรไดร้ บั รองแลว้ ทงั้ น้ี จะสามารถเปิดดาเนินการได้ ภายใน................วนั นับแต่วนั ทไ่ี ดร้ บั อนุมตั ิ และจะปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายว่าดว้ ยศุลกากรและ กฎหมายอ่นื ท่เี ก่ยี วขอ้ ง ระเบยี บ คาสงั่ และประกาศกรมศุลกากรทงั้ ท่ใี ช้บงั คบั อย่หู รอื ทจ่ี ะ ออกใชต้ ่อไปภายหน้า ทงั้ น้ี ขา้ พเจา้ ยนิ ยอมใหก้ รมศุลกากรยกเลกิ คาขอจดั ตงั้ เขตปลอดอากร หรอื พจิ ารณาดาเนินการอ่นื ใดตามทเ่ี หน็ สมควรและยนิ ยอมสละสทิ ธใิ นการเรยี กรอ้ งค่าสนิ ไหม ทดแทนตามสญั ญาและละเมดิ พรอ้ มน้ีไดจ้ ดั ส่งรายละเอยี ดโครงการและเอกสารประกอบการ พจิ ารณาลงลายมอื ช่อื ผมู้ อี านาจกระทาการแทนนติ บิ คุ คลพรอ้ มประทบั ตราสาคญั ของนิตบิ คุ คล จานวนอยา่ งละ 2 ชดุ ยกเวน้ ขอ้ (6.2.6) จานวน 3 ชุด มาเพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาดว้ ยแลว้ ดงั น้ี 6.1 รายละเอยี ดโครงการจดั ตงั้ เขตปลอดอากร 6.1.1 โครงการดาเนินงาน วตั ถุประสงค์ ประเภทของกจิ การหรอื ประเภท อุตสาหกรรมทจ่ี ะเขา้ มาดาเนินการในเขตปลอดอากร 6.1.2 แผนงาน แผนการบรหิ ารจดั การ ระยะเวลาทใ่ี ชด้ าเนินการจดั สรา้ ง สงิ่ ปลูกสรา้ งสาธารณูปโภค และสงิ่ อานวยความสะดวกอ่นื ๆ และกาหนดระยะเวลาพฒั นา โครงการตงั้ แต่เรมิ่ ตน้ จนแลว้ เสรจ็ 6.1.3 แผนการเงนิ แหล่งเงนิ ทุน และขนาดของการลงทุน 6.1.4 แผนการขาย ใหเ้ ช่า ใหเ้ ชา่ ซอ้ื หรอื การใชส้ ทิ ธคิ รอบครอง อสงั หารมิ ทรพั ย์ หรอื สงั หารมิ ทรพั ย์ เพอ่ื ใชส้ ทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษอี ากร 6.1.5 แผนการดแู ลรกั ษาสาธารณูปโภคและบรกิ ารสาธารณะหรอื ขอ้ เสนอ เก่ยี วกบั การจดั ตงั้ กองทุนเพ่อื บารุงรกั ษา ซ่อมแซม และเสรมิ สรา้ งระบบสาธารณูปโภคและ สงิ่ อานวยความสะดวก 6.1.6 โครงการทจ่ี ะขยายไดใ้ นอนาคต (ถา้ ม)ี
86 เขตปลอดอากร 6.1.7 อ่นื ๆ เช่น ผลทเ่ี กดิ จากการดาเนนิ การทเ่ี ป็นประโยชน์แก่การ เศรษฐกจิ ของประเทศมาตรการป้องกนั ความปลอดภยั ในชวี ติ ทรพั ยส์ นิ สงิ่ แวดลอ้ ม และ มาตรการกาจดั มลภาวะและรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม เป็นตน้ 6.2 เอกสารประกอบการพจิ ารณา 6.2.1 สาเนาใบสาคญั แสดงการจดทะเบยี นนิตบิ คุ คล 6.2.2 สาเนาหนงั สอื รบั รองการจดทะเบยี น และบญั ชรี ายช่อื ผถู้ อื หนุ้ ทอ่ี อก ใหไ้ มเ่ กนิ 6 เดอื นก่อนวนั ยน่ื คาขอ 6.2.3 สาเนาใบทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ (ภพ.20) 6.2.4 งบการเงนิ ทไ่ี ดร้ บั การรบั รองจากผตู้ รวจสอบบญั ชรี บั อนุญาต ยอ้ น หลงั 3 ปี 6.2.5 สาเนาโฉนดทด่ี นิ หรอื สาเนาหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ หรอื หนงั สอื อนุญาตใหม้ สี ทิ ธใิ นการบรหิ ารจดั การในทด่ี นิ หรอื พน้ื ทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ 6.2.6 แผนทโ่ี ดยสงั เขป แบบแปลนแผนผงั ของสถานทท่ี ข่ี อจดั ตงั้ และสง่ิ ปลกู สรา้ งขนาดไมต่ ่ากวา่ 40 X 60 ซม. 6.2.7 หนงั สอื รบั รองการก่อสรา้ งและการจดั หาเครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ อุปกรณ์ สานกั งาน สง่ิ อานวยความสะดวก และสาธารณูปโภคทจ่ี าเป็นเพอ่ื ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ และเงอ่ื นไข รวมทงั้ กาหนดขนั้ ตอนและระยะเวลาในการดาเนินโครงการตงั้ แต่เรม่ิ ตน้ จนพรอ้ ม ทจ่ี ะเปิดดาเนินการ 6.2.8 กรณที ผ่ี ขู้ อจดั ตงั้ เขตปลอดอากรเพอ่ื ประกอบการอุตสาหกรรมใหย้ น่ื □ สาเนาหนงั สอื อนุญาตใหเ้ ป็นเขตประกอบอุตสาหกรรมหรอื ใหเ้ ป็น เขตอุตสาหกรรมประเภทอาคารโรงงานเอกเทศจากกระทรวงอุตสาหกรรม □ สาเนาหนงั สอื อนุญาตจากการนคิ มอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ใหใ้ ชพ้ น้ื ทใ่ี นเขตอุตสาหกรรมทวั่ ไป □ สาเนาหนงั สอื สง่ เสรมิ การลงทุนจากคณะกรรมการสง่ เสรมิ การ ลงทนุ สาหรบั กจิ การเขตอุตสาหกรรม หรอื กจิ การเขตอุตสาหกรรมซอฟตแ์ วร์ หรอื กจิ การเขต อุตสาหกรรมอญั มณแี ละเครอ่ื งประดบั □ สาเนาหนงั สอื อนุญาตหรอื หนงั สอื รบั รองสาหรบั อุตสาหกรรมอ่นื ใดทเ่ี ป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกจิ ของหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง □ อ่นื ๆ ......................................................................................... .............................................................................................................................................
เขตปลอดอากร 87 ขา้ พเจา้ ขอรบั รองว่า ขอ้ ความในคาขอจดั ตงั้ รายละเอยี ดโครงการ และเอกสาร ประกอบการพจิ ารณาดงั กลา่ วเป็นความจรงิ ทกุ ประการ ขอแสดงความนับถอื ลงชอ่ื ................................. (................................) ประทบั ตรานติ บิ คุ คล
88 เขตปลอดอากร แบบแนบทา้ ยประมวลฯ ขอ้ 5 03 01 03 กศก. 184 ใบอนุญาตเป็นผจู้ ดั ตงั้ เขตปลอดอากร ตามพระราชบญั ญตั ิศลุ กากร (ฉบบั ท่ี 18) พ.ศ. 2543 ท.่ี ............................. ใบอนุญาตฉบบั น้ใี หไ้ วเ้ พอ่ื แสดงวา่ ................................................................ เลขประจาตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากรเลขท.่ี .......................................................................... เป็นผไู้ ดร้ บั อนุมตั ใิ หจ้ ดั ตงั้ เขตปลอดอากรชอ่ื ........................................................................... สถานทต่ี งั้ .....................................หมทู่ .่ี ..................ถนน.......................ตาบล....................... อาเภอ................................จงั หวดั ........................................รหสั ไปรษณยี .์ ........................... โทรศพั ท.์ ....................................................... โทรสาร......................................................... ใหไ้ ว้ ณ วนั ท.่ี .........เดอื น......................พ.ศ. ............... (..................................) อธบิ ดกี รมศุลกากร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 561
Pages: