เมื่อมีลูกสาววัยรุ่น

เมอ่ื มี วัยรุน่ ว่นุ นกั ลกู สาว วยั รนุ่

วัยรนุ่ (อายุ 13-21 ป)ี เปน็ ชว่ งวัยทค่ี าบเกี่ยวรอยต่อระหวา่ งความเปน็ เด็กและผใู้ หญ่ มีความเปลีย่ นแปลงเกิดขนึ้ อย่างมาก ทง้ั ด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สติปญั ญา ความคิดอ่าน และมีการเปล่ียนแปลงทางเพศอยา่ งเห็นได้ชดั แตก่ ารเปล่ียนแปลงตา่ งๆ เหล่านี้ยงั พัฒนาไม่ถึงขดี สุด วยั ร่นุ จึงยงั ไมม่ ีวฒุ ภิ าวะเพยี งพอ พ่อแมห่ รอื ผ้ดู ูแลตอ้ งรูว้ ิธีการพดู คุยหรอื แนะนำ� อย่างถกู ทาง โดยให้เขารูส้ ึกอบอนุ่ และพรอ้ มทจ่ี ะพูดคุยได้ทุกเรือ่ ง กจ็ ะชว่ ยลดโอกาสเกดิ ปญั หาวยั รุน่ ตา่ งๆ ได้

เมือ่ ลูกสาว โตข้นึ ด้านรา่ งกาย รา่ งกายของวัยร่นุ เพศหญิงจะเหน็ พัฒนาการชดั เจนเมอื่ ถึงวัย 12-13 ปี ซ่งึ จะเร็วกวา่ เดก็ ผชู้ ายเลก็ นอ้ ย ชว่ งนเ้ี ดก็ ผหู้ ญงิ จงึ ชอบเฝา้ มองกระจก ดรู ปู รา่ งหนา้ ตาของตนเองมากกวา่ ปกติ หน้าอก ขนาดหนา้ อกเพมิ่ ขน้ึ ชว่ งเรม่ิ เปน็ สาว เดก็ จะเรม่ิ สนใจรปู รา่ งตนเองและอาจเปรยี บเทยี บ หนา้ อกตัวเองกับเพอื่ น จึงควรบอกกลา่ วให้เดก็ เข้าใจวา่ การมีหน้าอกเล็กหรอื ใหญเ่ ป็น เรือ่ งปกติทง้ั สน้ิ เมือ่ มีลูกก็สามารถผลิตนำ�้ นมใหล้ ูกดื่มได้เพยี งพอเหมอื นกนั อวัยวะเพศ มขี นขึ้นและแคมของอวัยวะเพศจะใหญ่ขึ้น เปลี่ยนรูปรา่ งเลก็ น้อย ภายในของแคมและ ชอ่ งคลอดจะเปียกชืน้ ข้นึ กว่าตอนเป็นเดก็ เพราะมนี ำ�้ หล่อลืน่ มากขน้ึ จะเริม่ สงั เกตเหน็ มี ตกขาวออกจากชอ่ งคลอด ควรแนะนำ� เรอ่ื งการทำ� ความสะอาดทถ่ี กู วธิ ใี หก้ บั ลกู และรจู้ กั สงั เกตสขุ ภาพของอวัยวะเพศ เชน่ ตกขาวจะมสี ขี าวขนุ่ หรือเหลอื งอ่อน แตถ่ ้าเกิดสเี ขียว เหลอื งเขม้ หรอื มกี ลนิ่ และรสู้ กึ คนั บรเิ วณนน้ั หรอื มอี าการอนื่ รว่ มดว้ ย เชน่ ปสั สาวะแสบขดั ปวดทอ้ งน้อย แสดงวา่ ไม่ปกตติ อ้ งรบี บอกกล่าวและไปพบแพทย์ ประจ�ำเดอื น ควรอธบิ ายใหล้ กู เขา้ ใจเกยี่ วกบั การเกดิ ประจำ� เดอื นวา่ เขาเขา้ สวู่ ยั สาวแลว้ ตอ้ งระมดั ระวงั ตนเองเรอื่ งเพศตรงขา้ ม และการดแู ลจดุ ซอ่ นเรน้ ระหวา่ งมปี ระจำ� เดอื นทตี่ อ้ งรกั ษาความ สะอาดมากกว่าปกติ ซับให้แห้งและหมั่นเปล่ียนผ้าอนามัยบ่อยๆ วันละ 3-4 ครั้งเพ่ือ ความสะอาด

TIP หากลูกมีค�ำถามเก่ียวกับ เรื่องประจ�ำเดือน ไม่ควรตอบว่า เป็นเลือดเสียหรือสกปรก เพราะ จะท�ำให้ลูกไม่มั่นใจ รังเกียจ อวยั วะเพศและเลอื ดประจำ� เดอื น ของตัวเอง และไม่กล้าซ้ือ หรือพกผ้าอนามัย ควรตอบไป ตามข้อเท็จจริงว่า ประจ�ำเดือน ไม่ใช่เลือดเสีย แต่เป็นกลไกตาม ธรรมชาติของผู้หญิง อารมณ์ มคี วามละเอียดออ่ นต่อชีวติ ใชส้ ญั ชาตญาณในการตดั สินใจ อยู่ในโลกความคดิ ฝัน ภูมใิ จในสิง่ ที่ตนเป็น มคี วามเปลย่ี นแปลงทางอารมณ์ ในระหวา่ งมีประจ�ำเดือน นสิ ยั ชอบซบุ ซบิ นนิ ทา ชอบคยุ เรอื่ งบคุ คลและเรอ่ื งสว่ นตวั ชอบวางตนสนทิ สนมกบั ผอู้ นื่ ผกู มิตรกับผอู้ ่นื เรือ่ งความรู้สกึ ความรกั ผหู้ ญิง ไมไ่ ดบ้ อกตรงๆ กบั บคุ คลนัน้ แต่ จะบอกเลา่ ให้ผู้อ่นื ฟงั ชอบเปรยี บเทียบกบั เพื่อนๆ วยั ร่นุ ด้วยกัน

จบั เขา่ คยุ กบั ลกู สาว เป็นการป้องกันปัญหาวัยรุ่นท่ีอาจเกิดขึ้นได้ เพราะลูกเร่ิมมีความคิดเป็นของตัวเอง มี กลมุ่ เพือ่ น มสี งั คมทพ่ี อ่ แมไ่ ม่อาจรู้ทุกแง่มุมของลูกไดห้ มด หนทางท่ดี ที ี่สดุ คือ การอบรม ส่ังสอนต้ังแต่ช่วงแรกท่ีลูกมีพัฒนาการสู่วัยรุ่น ให้เขาได้ซึมซับและมีมุมมองทัศนคติต่อ การเลอื กทางเดนิ ชวี ติ ในแงม่ มุ ตา่ งๆ ดว้ ยตวั เขาเอง โดยพอ่ แมท่ ำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ ผใู้ หค้ ำ� แนะนำ� และคอยดแู ลอยู่ข้างหลงั คยุ กบั ลูกเรือ่ งเพศ วยั รนุ่ ผหู้ ญงิ จะเรมิ่ มกี ารเปลยี่ นแปลงทางดา้ นรา่ งกายและแสดงพฤตกิ รรมเพอ่ื ดงึ ดดู ความ สนใจจากเพศตรงขา้ ม เชน่ แตง่ กายรดั รปู แตง่ หนา้ แสดงกริ ยิ าใหโ้ ดดเดน่ และเรม่ิ รจู้ กั ความรกั มจี นิ ตนาการและความเพอ้ ฝนั ซงึ่ เสยี่ งตอ่ การมเี พศสมั พนั ธโ์ ดยไมพ่ รอ้ ม สิง่ ท่พี ่อแม่ควรแนะนำ� ลกู พ่อแม่ควรชวนคุยเรื่องการมีประจ�ำเดือนว่าไม่ใช่เร่ืองน่าอาย และบอกถึงผลของ การมีประจ�ำเดือนดว้ ยว่า ถา้ มีเพศสมั พนั ธ์โดยไม่ปอ้ งกนั จะมีโอกาสตง้ั ท้องได้ พ่อแม่ควรแนะน�ำการมีความรักในวัยเรียนให้กับลูกสาว อธิบายให้ลูกแยกแยะได้ ระหว่างการมีความรักกับการมีเพศสัมพันธ์ เพราะการแสดงออกของผู้ชายบางคร้ังอาจ เกดิ จากแรงกระตนุ้ ทางเพศ ไมไ่ ดห้ มายถงึ ความรักเสมอไป

ยกตัวอย่างเช่น พดู บอกวา่ “เขาชอบเรา” ริมฝีปากและลิ้น, ต้นคอ, สอนลกู วา่ “เพอ่ื นตา่ ง แลว้ พดู บอ่ ยๆ กบั จบั เนอ้ื ต้นแขน, หน้าอก, แขน, ต้องตัวเรา อาจแปลว่า ฝา่ มอื , หนา้ ทอ้ ง, อวยั วะ เพศที่คบกันใช่ว่าต้องมี “เขารักเราแล้ว” แต่ส่ิง สบื พนั ธ์ุ และตน้ ขา ความรักแบบหนุ่มสาว ท่นี ่ากลัวคือ ผหู้ ญิงไมค่ ิด พ่อแม่ควรคอยเตือน เสมอไป เปน็ เพอื่ นทค่ี อย เรอื่ งการมเี พศสมั พนั ธ์ แต่ ลกู สาววา่ หากมเี พศสมั พนั ธ์ ช่วยเหลือกันก็ได้ โดยมี ผชู้ ายคดิ (นคี่ อื อนั ตรายที่ ต้องปอ้ งกนั โดยใหผ้ ชู้ าย ลำ� ดบั พฒั นาความสมั พนั ธ์ ผหู้ ญงิ ไมร่ )ู้ สวมถงุ ยางอนามยั ผหู้ ญงิ เป็นขั้นเป็นตอนคือ ขั้น ทานยาคมุ กำ� เนดิ มติ รภาพ, ขน้ั ความรกั , ขน้ั สอนลูกสาวให้ระวัง พอ่ แมค่ วรแนะนำ� ใหล้ กู ความสมั พนั ธท์ างเพศ ซง่ึ จุ ด อั น ต ร า ย ห ญิ ง ช า ย รู้จักการกินยาคุมฉุกเฉิน ควรเปน็ ขนั้ สดุ ทา้ ยสำ� หรบั หากโดนสัมผัสเล้าโลม ใ น ก ร ณี ที่ พ ล า ด พ ลั้ ง มี การตกลงใช้ชีวิตด้วยกัน จะท�ำให้มีปฏิกิริยาของ เพศสมั พนั ธโ์ ดยไมป่ ้องกัน เมอ่ื ถงึ วยั อนั สมควร ร่างกายตอบสนองการ การที่ผู้ชายมาใกล้ชิด มเี พศสมั พนั ธ์ ไดแ้ ก่ แกม้ , การกินยาคมุ ฉกุ เฉนิ สามารถกิน 2 เม็ดพร้อมกนั หลังมีเพศสัมพันธ์ ไมเ่ กนิ 5 วนั แตย่ ิ่งกนิ ไดเ้ รว็ ประสทิ ธภิ าพจะดีกว่า สอนวิธีปฏเิ สธ สอนใหล้ กู สาวรจู้ กั หลกั การปฏเิ สธในสถานการณส์ มุ่ เสยี่ ง ซงึ่ หลกั การปฏเิ สธทสี่ ำ� คญั และ เหมาะสมคอื การปฏเิ สธด้วยน้ำ� เสียงท่ีหนักแนน่ นุ่มนวล และจรงิ จงั “ด้วยเหตุผลทม่ี า จากความรสู้ กึ และความต้องการของตวั เอง” ไม่อ้างเหตุผลที่เป็นเรือ่ งอ่ืน เช่น ผ้หู ญิงบอก ผู้หญิงบอก “กลัวทอ้ ง” “เดยี๋ วพ่อแม่รูจ้ ะถูกลงโทษ” ผู้ชายบอก ผชู้ ายอ้าง “ไม่ท้องหรอก เดยี๋ วใสถ่ ุงยาง” “จะไมบ่ อกใคร”

หากถูกเซ้าซี้ต่อควรยืนยันการปฏิเสธและ แนะนำ� ใหล้ ูกหาทางออก ดงั น้ี ทางออกที่ 1 ปฏิเสธซ�้ำแบบไม่มีข้ออ้าง บอกลาแลว้ เดินจากไป ทางออกที่ 2 ต่อรอง ชวนไปท�ำกิจกรรม อย่างอืน่ แทน ทางออกที่ 3 ผัดผ่อน ยืดเวลาออกไปให้ ผ้ชู ายเปลีย่ นความตง้ั ใจ สอนการคบเพอื่ น เพื่อนถือว่าเป็นบุคคลท่ีมีอิทธิพลมากที่สุดในช่วงวัยรุ่น ท้ังความคิด ความเช่ือ และ พฤติกรรมต่างๆ เป็นเร่ืองท่ีเปราะบางท่ีพ่อแม่ต้องให้ความส�ำคัญ เพราะค�ำว่าหัวเลี้ยว หวั ตอ่ ของวยั รนุ่ ขน้ึ อยกู่ บั เพอื่ นเปน็ สำ� คญั โดยพฤตกิ รรมของลกู ทอ่ี าจพบเจอคอื เรม่ิ กลบั บา้ นไมเ่ ปน็ เวลาหรอื ไปไหนไมบ่ อกกลา่ ว ฉะนน้ั หากพอ่ แมไ่ ดร้ จู้ กั กบั เพอ่ื นๆ ของลกู จงึ เปน็ ข้อดี ท�ำให้เขา้ ใจวา่ ลกู กำ� ลังท�ำอะไร สนใจอะไร และจะตามหาตวั ได้ท่ีไหน การแนะน�ำลกู ให้คบเพื่อน 3. ชว่ ยกนั หาทางปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หา 1. คุยกบั ลกู ว่าเพอ่ื นคนน้ีเปน็ คนอยา่ งไร เทา่ กบั ชว่ ยฝกึ ใหล้ กู เรยี นรแู้ ละรจู้ กั คนเพม่ิ ขนึ้ มีข้อดีข้อเสียตรงไหน เพ่ือฝึกให้ลูกหัด 4. เปน็ ทปี่ รกึ ษา เพราะเวลาทล่ี กู คบเพอื่ น แยกแยะ และชกั จงู ใหล้ กู รจู้ กั พจิ ารณาเหน็ อาจเกิดปัญหาขึ้นเป็นระยะ ต้องมีเวลา ถงึ ขอ้ เสยี ของพฤตกิ รรมของเพอ่ื นวา่ ถา้ คบ รับฟังความรู้สึกและความคิดเห็นของลูก ต่อควรระวังตัวอยา่ งไร และใหล้ กู ไดเ้ สนอทางแกป้ ญั หาดว้ ยตนเอง 2. อยา่ ด่วนแจกแจงความไม่ดขี องเพ่อื น กอ่ นการคดิ แทนลกู ลูกก่อน เพราะจะท�ำให้ลูกรู้สึกว่าคุณ 5. วางขอบเขตในการคบเพอื่ นใหล้ กู เชน่ ไม่ชอบเพื่อนเขา ยกเว้นว่าคุณให้เวลากับ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่รบกวนการเรียน ซ่ึงเป็น เพอ่ื นลูกมากพอ และลูกคุณก็เห็นปญั หาที่ หน้าที่หลัก ไม่เป็นอันตรายต่อตนเองและ เพ่อื นจะท�ำใหเ้ ขาเสยี หายเหมอื นกนั ผอู้ นื่ เปน็ ตน้ และถา้ เกนิ เลยจำ� เปน็ ตอ้ งพดู คยุ และรกั ษาขอบเขตใหช้ ัดเจนเสมอ

สนับสนุนความรักเปดิ เผย การท่ีลูกสาวเอ่ยปากเล่าเรื่องเพื่อนหรือคนพิเศษ ถือเป็นโอกาสทองที่จะได้พูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ ระหวา่ งหญงิ ชาย ซงึ่ พอ่ แมค่ วรทำ� ดงั น้ี ถา้ ไมอ่ ยากให้ ลกู ปดิ บงั เรอื่ งการคบแฟน 1. อย่าแสดงออกว่าไม่สนับสนุนให้ลูกมีแฟน เดด็ ขาด เพราะเมอ่ื ไรทเี่ ขามแี ฟน เขาจะไมบ่ อกและ แอบคบกันจนความสัมพันธ์อาจเกินเลย โดยที่เรา ไม่มีโอกาสให้ค�ำแนะน�ำท้ังเรื่องความสัมพันธ์และ การปอ้ งกนั ตัวเอง 2. อยา่ หา้ มลกู มแี ฟน ดว้ ยเหตผุ ลทวี่ า่ มแี ฟนแลว้ จะ เสยี การเรยี น เพราะเด็กจะรสู้ กึ ต่อต้านทันที 3. อยา่ จบั ผดิ หากสงสยั วา่ ลกู มแี ฟน ควรถามตรงๆ ด้วยค�ำถามทีเล่นทีจริง เช่น หนูดูสดใสเป็นพิเศษ ก�ำลังมีความรักอยู่หรือเปล่า เล่าให้พ่อแม่ฟังได้นะ หล่อเทา่ พ่อหรือเปลา่ แมข่ อดูรปู หน่อย เป็นต้น 4. ไม่ควรกีดกันการคบเพื่อนต่างเพศ แต่ควร ก�ำหนดขอบเขตให้เหมาะสม เชน่ ต้องพามาใหร้ ูจ้ กั ถ้าจะไปเที่ยวกับแฟนต้องกลับไม่เกินกี่โมง และให้ รบั โทรศพั ทห์ รอื โทรกลับถ้าพ่อแมโ่ ทรไป เป็นต้น 5. ให้ความไว้ใจ ควรมีความมั่นใจว่าลูกสามารถ ดแู ลตวั เองได้ โดยมเี ราคอยเปน็ หเู ปน็ ตาและแนะนำ� ใหอ้ ิสระลูกไดเ้ รยี นในส่งิ ที่รัก พ่อแม่อาจมีความคาดหวังให้ลูกเรียนในคณะหรือมหาวิทยาลัยท่ีพ่อแม่ต้องการ โดยไม่ สนใจความถนัดของลูกหรือบังคับให้ลูกเรียนด้านที่ลูกไม่เห็นด้วย สิ่งเหล่าน้ีอาจส่งผล เสียท�ำให้ลูกเกลียดการเรียนหรือไม่ก็คร�่ำเคร่งเรียนจนไม่มีสังคม ทางที่ดีลูกในวัยรุ่นที่ กำ� ลงั เตบิ โตเปน็ ผใู้ หญค่ วรไดร้ บั การพฒั นาและตง้ั เปา้ หมายชวี ติ ตามศกั ยภาพทเี่ ขามี โดย พ่อแมเ่ ปน็ เพียงผู้สนับสนุนและชีแ้ นะ

เทคนิคคยุ กับลูกวยั รนุ่ การสื่อสารท่ีดีคือกุญแจส�ำคัญท่ีช่วยให้พ่อแมเ่ ปิดประตูใจเข้าไปใกล้ชิดลูกวัยรุ่นได้มาก ขึ้น ท้ังยังช่วยสานสัมพันธ์ในครอบครัวให้แนบแน่น แต่วัยรุ่นโดยเฉพาะเพศหญิงมักจะ ชอบการชน่ื ชมมากกวา่ การตำ� หนิ พ่อแม่จงึ ต้องทำ� ความเขา้ ใจและใช้หัวใจในการพดู คุย กับลูกสาววัยรุน่ มากยิง่ ข้ึน สงิ่ ท่ลี กู ตอ้ งการ 5. คยุ กนั ในบรรยากาศดๆี สบายๆ ไมก่ ดดนั 1. การยอมรับความคิดเห็นถึงแม้ว่าจะ 6. คุยกันได้หลายๆ เร่ืองอย่างสนุกสนาน แตกต่างจากผู้ใหญ่ และยอมรบั ในความแตกต่าง 2. ให้โอกาสแสดงความเป็นตัวของตัวเอง 7. เปน็ ทป่ี รกึ ษาได้ในยามที่ตอ้ งการ โดยไมด่ ว่ นตัดสนิ วา่ ผิดหรือถกู 8. ใกลช้ ดิ แตไ่ มว่ นุ่ วาย ไมเ่ จา้ กเ้ี จา้ การ หรอื 3. ใหเ้ กยี รตใิ นการคยุ เสมอื นว่าเป็นผู้ใหญ่ บีบบังคับ คนหนึง่ 4. ถา้ จะดหุ รอื วา่ กลา่ วตกั เตอื นใหพ้ ดู ตรงๆ เฉพาะเร่อื งน้นั อย่างตรงประเด็น และอยา่ เอาความผดิ เกา่ ๆ มาพูดซำ�้

เรมิ่ ตน้ จากความเขา้ ใจ “พอจะบอกแมไ่ ดไ้ หมวา่ ลกู คดิ อยา่ งไรกอ่ น พ่อแม่ต้องท�ำความเข้าใจในอันดับแรกว่า ที่จะท�ำอย่างนนั้ ” เปน็ ต้น เมื่อลูกเร่ิมโตเข้าสู่วัยรุ่นจะมีอารมณ์ที่ แปรปรวน คอ่ นขา้ งรนุ แรง ยากทจ่ี ะควบคมุ ใชน้ �้ำเสยี งนา่ ฟัง อารมณไ์ ด้ จงึ มกี ารถกเถยี งเกดิ ขน้ึ บอ่ ยครง้ั อย่าด่วนต�ำหนิ ว่ากล่าว ลงโทษก่อนที่ลูก หากการสนทนาไมเ่ ป็นด่งั ใจ จะพูดจบ พยายามสงบใจ ท�ำความเข้าใจ ให้โอกาส อย่าพูดขดั และสรปุ ประเด็นให้ เราคือเพ่อื นสนิท ตรงกัน โดยใชน้ ำ้� เสยี งทีน่ า่ ฟงั เพราะวยั รนุ่ วัยรุ่นเป็นวัยท่ีติดเพ่ือน หากมีปัญหามัก ยงั ตอ้ งการคำ� พดู ทอี่ อ่ นโยนในการตกั เตอื น จะพูดคยุ กับเพอื่ นกอ่ นพอ่ แม่ ให้ลองใช้วิธี หรือชี้แนะในการปรบั ตัว สมมติว่าเราคือเพ่ือนสนิท เปล่ียนความ ห่วงใยมาเป็นนงั่ คยุ กันเลน่ ๆ ลูกก็จะคอ่ ยๆ บรรยากาศคือผชู้ ่วย กล้าน�ำทกุ เรื่องมาคยุ มากขึ้น หากมเี รอ่ื งสำ� คญั ทจ่ี ะพดู คยุ กบั ลกู ไมจ่ ำ� เปน็ ต้องจริงจัง เพราะอาจจะท�ำให้ลูกไม่ไว้ใจ เปลย่ี นจากผู้พดู เปน็ ผ้ฟู ัง ควรพดู คยุ ในทา่ ทสี บายๆ โดยใชบ้ รรยากาศ ลองสลับจากพูดก่อนมาเป็นฟังก่อนอย่าง ดๆี ชว่ ยใหอ้ ารมณ์ของทุกคนผอ่ นคลาย ตั้งใจ เปิดหูรับฟังความรู้สึกและความคิด เหน็ ของลกู เพราะเมอื่ พอ่ แมเ่ ขา้ ใจลกู จรงิ ๆ หดั ชน่ื ชมใหช้ ืน่ ใจ ก็จะเป็นการปูทางสู่การแก้ปัญหาต่อไปได้ วั ย รุ ่ น ต ้ อ ง ก า ร ก า ร ช่ื น ช ม ใ น สิ่ ง ที่ เ ข า อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รับผิดชอบได้หรือท�ำได้ ต้องการให้ปลอบ ใจและให้ก�ำลังใจเมื่อท�ำสิ่งผิดพลาดหรือ หลกี เลย่ี งการถามข้ึนตน้ ว่า “ท�ำไม” เกดิ ความทอ้ แท้ ตอ้ งการความรกั ทใี่ หอ้ สิ ระ เพราะวัยรุ่นจะพยายามหาเหตุผลเข้าข้าง และให้โอกาสเป็นส่วนตัว และยังต้องการ ตนเองมากข้ึนเพ่ือพยายามยืนยันว่าความ ความสะดวกในกจิ วตั รประจำ� วนั ทเี่ กยี่ วกบั คดิ และการกระทำ� ของเขาถกู ตอ้ ง เปน็ การ การกินอยู่และคา่ ใช้จา่ ยสว่ นตัว สอนใหเ้ ดก็ เถยี งแบบทางออ้ ม แลว้ พอ่ แมก่ ็ จะโมโหเสยี เอง ควรถามดังนี้

ข้อควรระวงั เทคนิคเหล่านี้จะใช้ไม่ได้ผล หากพ่อแม่ยังใช้อารมณ์และใช้ความคิดของตัวเอง ตดั สนิ รวมไปถึงการแสดงอ�ำนาจจนเคยชนิ เชน่ ขม่ ขู่ ตำ� หนิ ใช้เสยี งดงั เป็นต้น ดังน้ันพ่อแม่จึงต้องมีสติส�ำหรับการจัดการความรู้สึกตัวเองให้นิ่งและเป็นกลาง กอ่ นพดู คุยกับลูกในทกุ ๆ คร้ังเสมอ พออ่ยแาเรมกาค่ใหตือ้เอ้ ตขงา้นเโปแต็นบมบแาบแทบบด่ี บนีทไั้นส่ี หดุ น

จัดพมิ พแ์ ละเผยแพร่โดย SOOK PUBLISHING เรยี บเรยี งขอ้ มูลบางส่วนจาก • คู่มือการสอนการสร้างเสริมสุขภาพในหลักสูตรพยาบาล ศาสตรบณั ฑติ ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากแผนงานพฒั นาเครอื ขา่ ย พยาบาลศาสตร์ เพ่ือการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ ระยะท่ี 2 และ สำ� นักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) • คู่มือการเรียนการสอนเร่ืองเพศศึกษาและทักษะชีวิตใน นกั เรยี นแบบบรู ณาการ โดยสำ� นกั งานกองทุนสนบั สนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และส�ำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย • คมู่ อื โอกาสทองคยุ กบั ลกู ‘เรอื่ งเพศ’ โดยคลนิ กิ วยั รนุ่ คณะ แพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี • หนังสือคุยเร่ืองเพศไม่ยากอย่างที่คิด โดยแผนงานสร้าง เสริมสุขภาวะทางเพศ สำ� นกั งานกองทุนสนบั สนนุ การสรา้ ง เสรมิ สุขภาพ (สสส.) • บทความจากเว็บไซต์ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่ง ประเทศไทย https://www.rcpsycht.org • บทความเรื่อง “คุยกับลูกวัยรุ่นอย่างไร...ให้เข้าไปถึงใจ” โดยมลู นธิ ศิ นู ยพ์ ทิ กั ษส์ ทิ ธเิ ดก็ http://www.thaichildrights. org/article/57849 สามารถสบื คน้ ข้อมลู และหนังสอื เพ่มิ เติมได้ที่ห้องสร้างปญั ญา ศูนยเ์ รียนรูส้ ขุ ภาวะ สำ� นักงานกองทุนสนับสนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ (สสส.) หรอื ดาวนโ์ หลดไดท้ แี่ อปพลเิ คชนั SOOK Library และ resource.thaihealth.or.th โทร. 02-343-1500 กด 3