Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่ นิติภูมิ

แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่ นิติภูมิ

Published by นิติภูมิ, 2022-08-29 01:43:11

Description: แหล่งท่องเที่ยวในเชียงใหม่ นิติภูมิ

Search

Read the Text Version

1 จัดทำโดย กลุ่มงำนยุทธศำสตรแ์ ละข้อมลู เพอ่ื กำรพฒั นำจังหวดั สำนักงำนจังหวดั เชียงใหม่ ขอ้ มูล ณ เดอื นมกรำคม 2560 ข้อมลู ทวั่ ไปของจงั หวัดเชียงใหม่

2 1. ประวัติเมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่ มีชื่อที่ปรากฏในตานานว่า \"นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่\" เป็นราชธานีของอาณาจักรล้านนาไทยมาตั้งแต่พญามังรายได้ทรงสร้างขึ้น เม่ือ พ.ศ.1839 และ เมืองเชียงใหม่ได้มีวิวัฒนาการสืบเน่ืองกันมาในประวัติศาสตร์ตลอดมา เชียงใหม่มีฐานะเป็น นครหลวงอิสระ ปกครองโดยกษัตริย์ราชวงศ์มังราย ประมาณ 261 ปี (ระหว่าง พ.ศ.1839 - 2100) ในปี พ.ศ. 2101 เชียงใหม่ได้เสียเอกราชให้แก่กษัตริย์พม่าช่ือบุเรงนอง และได้ตกอยู่ ภายใต้การปกครองของพม่านานร่วมสองร้อยปี จนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ได้ทรงชว่ ยเหลอื ล้านนาไทยภายใต้การนาของ พระยากาวิละและพระยาจ่าบ้านในการทาสงครามขับไล่พม่าออกไปจากเชียงใหม่และเมือง เชยี งแสนได้สาเร็จ พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช สถาปนาพระยากาวิละเป็น เจ้าเมืองเชียงใหม่ ในฐานะเมืองประเทศราชของไทย และมเี ชือ้ สายของพระยากาวิละ ซ่ึงเรียกว่า ตระกูลเจ้าเจ็ดตน ปกครองเมืองเชียงใหม่ เมืองลาพูนและเมืองลาปางสืบต่อมาจนกระทั่งใน รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้ปฏิรูปการปกครอง หัวเมือง ประเทศราช ได้ยกเลิกการมีเมืองประเทศราชในภาคเหนือ จัดตั้งการปกครองแบบมณฑล เทศาภิบาล เรียกว่า มณฑลพายัพ และเมื่อปี พ.ศ.2476 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ปรับปรุงการปกครองเป็นแบบจังหวัด เชียงใหม่จึงมีฐานะเป็นจังหวัดจนถึงปัจจุบัน ทง้ั นี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีคร้ังที่ 18/2554 เมื่อวันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2554 คณะรฐั มนตรี ได้มีมตใิ ห้ความเห็นชอบใหจ้ งั หวดั เชยี งใหมเ่ ป็น “นครทีเ่ ป็นทส่ี ดุ แห่งความสง่างาม ทางวัฒนธรรม” (Chiang Mai : The Most Splendid City of Culture) และในปี พ.ศ.2559 จะถอื เป็นปีครบรอบการสถาปนาเมอื งเชยี งใหม่ อายุครบ 720 ปี 2. ขนาดพ้นื ทแี่ ละอาณาเขตการปกครอง 2.1 ขนาดพนื้ ท่ี - จังหวัดเชียงใหม่ต้ังอยู่ทางทิศเหนือของประเทศไทย เส้นรุ้งที่ 16 องศาเหนือ และ เส้นแวงท่ี 99 องศาตะวันออก สูงจากระดับน้าทะเลประมาณ 1,027 ฟุต (310 เมตร) ห่างจากกรุงเทพมหานคร 696 กโิ ลเมตร - จังหวดั เชยี งใหม่มีพน้ื ท่ี 20,107.057 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 12,566,911 ไร่ มีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับที่ 1 ของภาคเหนือ และเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ รองจากจังหวัด นครราชสมี า ลกั ษณะภูมิประเทศโดยทว่ั ไปมีสภาพพน้ื ท่เี ปน็ ภูเขาและป่าไม้ มีท่ีราบอยู่ตอนกลาง ตามสองฟากฝ่ังแม่น้าปิง มีภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยคือ ดอยอินทนนท์ สูงประมาณ 2,565.3355 เมตร อยู่ในเขตอาเภอจอมทอง นอกจากนี้ยังมีดอยอ่ืนท่ีมีความสูงรองลงมาอีก

3 หลายแห่ง เช่น ดอยผ้าห่มปก สูง 2,285 เมตร ดอยหลวงเชียงดาว สูง 2,170 เมตร ดอยสุเทพ สงู 1,601 เมตร สภาพพน้ื ท่ีแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ลักษณะคอื - พื้นที่ภูเขา ส่วนใหญ่อยู่ทางทิศเหนือ และทิศตะวันตกของจังหวัด คิดเป็นพ้ืนท่ี ประมาณรอ้ ยละ 80 ของพน้ื ที่จังหวดั เป็นพน้ื ทปี่ ่าต้นน้าลาธาร ไมเ่ หมาะสมตอ่ การเพาะปลกู - พ้ืนท่ีราบลุ่มและที่ราบเชิงเขา กระจายอยู่ท่ัวไประหว่างหุบเขาทอดตัวในแนว เหนือ-ใต้ ได้แก่ ที่ราบลุ่มน้าปิง ลุ่มน้าฝาง ลุ่มน้าแม่งัด เป็นพ้ืนท่ีท่ีมีความอุดมสมบูรณ์เหมาะสม ต่อการเกษตร 2.2 อาณาเขตตดิ ต่อ ทศิ เหนือ รัฐฉานของสหภาพเมียนมาร์ โดยมีสันปันน้าของดอยคา ดอยปกเกล้า ดอยหลักแต่ง ดอยถ้าป่อง ดอยถ้วย ดอยผาวอก และดอยอ่างขาง อนั เป็นส่วนหนึ่งของทวิ เขาแดนลาว เป็นเส้นกัน้ อาณาเขต ทศิ ใต้ อาเภอสามเงา อาเภอแม่ระมาด และอาเภอท่าสองยาง(จังหวัดตาก) มีร่องน้าแม่ตน่ื และสนั ปันนา้ ดอยเรี่ยม ดอยหลวงเปน็ เสน้ ก้นั อาณาเขต ทิศตะวนั ออก อาเภอแม่ฟ้าหลวง อาเภอเมืองเชียงราย อาเภอแม่สรวย อาเภอ เวียงป่าเป้า (จังหวัดเชียงราย) อาเภอเมืองปาน อาเภอเมืองลาปาง (จงั หวัดลาปาง) อาเภอบ้านธิ อาเภอเมืองลาพูน อาเภอป่าซาง อาเภอ เวียงหนองล่อง อาเภอบ้านโฮ่ง และอาเภอล้ี(จังหวัดลาพูน) ส่วนท่ีติด จังหวัดเชียงรายและลาปาง มีร่องน้าลึกของแม่น้ากก สันปันน้า ดอยซาง ดอยหลุมข้าว ดอยแม่วัวน้อย ดอยวังผา และดอยแม่โตเป็น เส้นก้ันอาณาเขต สว่ นทต่ี ดิ จงั หวดั ลาพูนมดี อยขนุ หว้ ยหละ ดอยช้างสูง และร่องน้าแม่ปงิ เปน็ เสน้ กนั้ อาณาเขต ทศิ ตะวนั ตก อาเภอปาย อาเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อาเภอขุนยวม อาเภอแม่ลาน้อย อาเภอแม่สะเรียง และอาเภอสบเมย (จังหวัดแม่ฮ่องสอน) มีสันปันน้า ดอยกิ่วแดง ดอยแปรเมือง ดอยแม่ยะ ดอยอังเกตุ ดอยแม่สุรินทร์ ดอยขุนยวม ดอยหลวง และร่องแม่ริด แม่ออย และ สันปันน้า ดอยขุนแม่ต่ืนเป็นเส้นก้ันอาณาเขต จังหวัดเชียงใหม่มีชายแดนติดต่อกับประเทศพม่าเพียงประเทศเดียว และมีพื้นที่ติดต่ อ ใน 5 อาเภอ ไดแ้ ก่ 1) อาเภอแม่อาย : 4 ตาบลได้แก่ ตาบลแม่อาย ตาบลมะลิกา ตาบลแม่สาว ตาบล ทา่ ตอน เมอื งท่ตี ิดตอ่ คอื เมืองยอน รัฐฉาน

4 2) อาเภอฝาง : 2 ตาบลได้แก่ ตาบลม่อนป่ิน และตาบลแม่งอน เมืองที่ติดต่อคือ บ้านโป่งป่าแขม เมืองต่วน รฐั ฉาน 3) อาเภอเชียงดาว : 1 ตาบลได้แก่ ตาบลเมืองนา เมืองท่ีติดต่อคือ บ้านน้ายุม เมืองต่วน รัฐตองยี 4) อาเภอเวียงแหง : 3 ตาบลได้แก่ ตาบลเปียงหลวง ตาบลเมืองแหง ตาบลแสนไห เมืองท่ีติดต่อคือ บ้านบางใหม่สูง บ้านปางเสือเฒ่า บ้านกองเฮือบิน เมืองต่วน รัฐตองยี 5) อาเภอไชยปราการ : 1 ตาบลได้แก่ ตาบลหนวงบัว เมืองท่ีติดต่อคือ บา้ นโปง่ ป่าแขม เมอื งต่วน รัฐฉาน รวมระยะทางทั้งสิ้น 227 กิโลเมตร พื้นท่ีเขตแดนส่วนใหญ่เป็นป่าเขา ทาให้ไม่สามารถ ปักหลักเขตแดนได้อยา่ งชัดเจน จึงเกิดปัญหาเสน้ เขตแดนระหว่างประเทศบ่อยคร้งั 3. สภาพภูมปิ ระเทศ และลกั ษะภมู อิ ากาศ ลักษณะภูมิประเทศ พื้นท่ีโดยท่ัวไปของจังหวัดเชียงใหม่มีสภาพพื้นท่ีเป็นภูเขาและป่าละเมาะ มีท่ีราบอยู่ ตอนกลางตามสองฟากฝั่งแม่น้าปิงมภี เู ขาสงู ท่ีสดุ ในประเทศไทย คือ “ดอยอินทนนท์” มีความสูง จากระดับน้าทะเลปานกลางประมาณ ๒,๕๖๕ เมตร นอกจากนี้ยังมีดอยอื่นๆท่ีมีความสูง รองลงมาอีกหลายแห่ง เช่น ดอยผ้าห่มปก (ความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลาง ๒,๒๘๕ เมตร) ดอยหลวงเชียงดาว (ความสูงจากระดับน้าทะเลปานกลาง ๒,๑๗๐ เมตร) ดอยสุเทพ (ความสูง จากระดับนา้ ทะเลปานกลาง ๑,๖๐๑ เมตร) สภาพพ้ืนท่ีแบ่งออกเป็น ๒ ลักษณะ คือ พื้นที่ภูเขา ส่วนใหญ่อยู่ทางทิศเหนือและ ทิศตะวันตะวันตกของจังหวัดคิดเป็นพ้ืนที่ประมาณ ๘๐ % ของพ้ืนที่จังหวัด เป็นพื้นที่ป่าต้นน้า ลาธาร ไม่เหมาะต่อการเพาะปลูก พ้ืนท่ีราบลุ่มน้าและท่ีราบเชิงเขากระจายอยู่ท่ัวไประหว่าง หุบเขาทอดตัวในแนวเหนือ - ใต้ ได้แก่ ท่ีราบลุ่มน้าปิง ลุ่มน้าฝาง และลุ่มน้าแม่งัด เป็นพื้นท่ี ทมี่ ีความอดุ มสมบรู ณเ์ หมาะสมต่อการเกษตร ลกั ษณะภูมิอากาศ เชียงใหม่เป็นจังหวัดท่ีมีสภาพอากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดท้ังปี มีอุณหภูมิเฉล่ียทั้งปี 25.4 องศาเซลเซยี ส โดยมคี ่าอณุ หภมู สิ ูงสุดเฉล่ีย 31.8 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่าสุดเฉลี่ย 20.1 องศาเซลเซยี ส มีปริมาณน้าฝนเฉลย่ี 1,100-1,200 มิลลิเมตร สภาพภูมิอากาศจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ภายใตอ้ ิทธพิ ลมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ ลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื แบง่ ภมู อิ ากาศออกไดเ้ ป็น 3 ฤดู ไดแ้ ก่ - ฤดฝู น เร่ิมต้ังแต่กลางเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคม - ฤดหู นาว เร่ิมตง้ั แตเ่ ดอื นพฤศจิกายนไปจนถึงกลางเดือนกมุ ภาพนั ธ์ - ฤดูร้อน เรม่ิ ต้งั แตเ่ ดือนกมุ ภาพนั ธ์ถึงกลางเดอื นพฤษภาคม

5 4. การปกครอง - จังหวัดเชียงใหม่แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 25 อาเภอ 204 ตาบล และ 2,066 หมบู่ า้ น - มหี นว่ ยงานที่ต้งั อยใู่ นพนื้ ท่ี ดังน้ี 1) หนว่ ยงานบริหารราชการสว่ นกลาง จานวน 166 หน่วยงาน 2) หน่วยงานบรหิ ารราชการส่วนภูมภิ าค จานวน 34 หน่วยงาน 3) หน่วยงานบริหารราชการส่วนท้องถิ่น จานวน 211 แห่ง ประกอบดว้ ย  องค์การบริหารส่วนจังหวัด จานวน 1 แห่ง  เทศบาลนคร จานวน 1 แห่ง  เทศบาลเมือง จานวน 4 แหง่  เทศบาลตาบล จานวน 116 แหง่  องคก์ ารบริหารสว่ นตาบล จานวน 89 แห่ง 5. ประชากร จังหวัดเชยี งใหม่มปี ระชากรรวมทงั้ ส้นิ 1,732,712 คน แยกเป็นชาย 841,916 คน หญิง 890,798 คน (ขอ้ มูล ณ เดือนสงิ หาคม 2559) อาเภอท่ีมีประชากรมากที่สุด ได้แก่ อาเภอเมืองเชียงใหม่ จานวน 235,329 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 13.57 ของประชากรทงั้ หมด รองลงมาได้แก่ อาเภอฝาง จานวน 117,935 คน คิด เปน็ ร้อยละ 6.81 และอาเภอที่มปี ระชากรนอ้ ยที่สุด ได้แก่ อาเภอกัลยาณิวัฒนา จานวน 12,032 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.7 6. สภาพเศรษฐกิจ 1) ประมาณผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจงั หวัด (GPP) ปี 2558 พิจารณาจากผลติ ภัณฑ์ มวลรวมจังหวัด ณ ราคาประจาปีมีมลู คา่ 194,893 ล้านบาท โดยผลิตภณั ฑ์มวล รวมตอ่ หวั (GPP per capita) ในปี 2558 เทา่ กับ 112,874 บาท (ขอ้ มลู ณ สิงหาคม 2559) - ภาคเกษตร (22.14%) - ภาคอุตสาหกรรม (10.12 %) - ภาคบริการ (67.83%) 2) รายไดส้ ่วนใหญ่ แยกตามรายสาขาการผลติ ทีส่ าคญั (ขอ้ มูล ณ เดอื นสงิ หาคม 2559) อนั ดับ 1 สาขาเกษตรกรรม การล่าสัตวแ์ ละการปา่ ไม้ ร้อยละ 22.15 % อนั ดับ 2 สาขาอืน่ ๆ ร้อยละ 18.46 %

6 อันดับ 3 สาขาการขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์จักรยานยนต์ ของใช้ส่วน บคุ คลและของใชใ้ นครัวเรือน รอ้ ยละ 11.88 % อับดบั 4 สาขาอตุ สาหกรรม ร้อยละ 7.76 % อันดบั 5 สาขาการก่อสร้าง รอ้ ยละ 4.96 % อนั ดับ 6 สาขาการศึกษา รอ้ ยละ 6.68 % อันดับ 7 สาขาตัวกลางทางการเงิน ร้อยละ 6.89 % อันดบั 8 สาขาโรงแรมและภัตตาคาร รอ้ ยละ 15.63 % อันดับ 9 สาขาบริหารราชการแผ่นดินและการป้องกันประเทศ รวมท้ังการ ประกันสังคมภาคบังคบั รอ้ ยละ 5.41 % การคา้ ชายแดน จังหวัดเชียงใหม่เป็นหน่ึงในสองจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ ที่มีพื้นท่ี ชายแดนกับประเทศเพอ่ื นบา้ นโดยอกี จงั หวัดคือ จงั หวัดแมฮ่ ่องสอนซง่ึ มีพน้ื ทชี่ ายแดนกับสหภาพ เมยี นมารเ์ ชน่ กนั โดยจังหวัดเชยี งใหมม่ แี นวโน้มทางการวางอุทยานโลจิสติกส์ (Logistics Parks) ให้รองรับการขยายตัวของเมือง ๒ มิติคือ การจัดสร้างสนามบินนานาชาติแห่งใหม่เพ่ือเป็น ศูนย์กลางทางการบิน (Aviation Hub) และการพัฒนายกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าเป็น จุดผ่านแดนถาวร ณ จุดผ่อนปรนก่ิวผาวอก ณ ตาบลเมืองนะ อาเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมียุทธศาสตร์ในการเช่ือมโยงกับภูมิภาคที่สาคัญ ๒ แห่ง คือ อนุภูมิภาคลุ่มน้าโขง (Greater Mekong Subregion: GMS) และกลุม่ ประเทศภายใตก้ รอบความรว่ มมอื อนุภูมภิ าค “ความริเริ่ม แห่งอ่าวเบงกอลสาหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ” (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation:BIMSTEC) ผา่ นทางสหภาพเมยี นมาร์ หน่วย : ลา้ นบาท มลู ค่าการคา้ ชายแดน พ.ศ. ๒๕๕๓ พ.ศ. ๒๕๕๔ พ.ศ. ๒๕๕๕ พ.ศ. ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๗ มูลค่าการสง่ ออก ๑๒๖.๔๒ ๓,๕๗๐.๑๑ ๒,๓๖๐.๕๗ ๒,๔๗๙.๑๑ ๓,๑๒๔.๗๔ มูลคา่ การนาเขา้ ๙,๒๖๘.๓๖ ๒,๓๐๑.๗๙ ๑,๓๓๐.๐๗ ๑,๐๔๓.๒๐ ๑,๐๗๙.๔๓ ทมี่ า: สานกั งานคลังจังหวัดเชยี งใหม่ ณ เดือนตุลาคม ๒๕๕๘ ศักยภาพความพรอ้ มของเชียงใหมใ่ นการเปดิ ดา่ นชายแดน จงั หวดั เชียงใหม่ มีอาณาเขตตดิ ตอ่ กับเมียนมาร์ใน ๕ อาเภอ คือ อาเภอเวียงแหง อาเภอ เชียงดาว อาเภอไชยปราการ อาเภอฝาง และอาเภอแม่อาย รวมระยะทาง ๒๗๗ กิโลเมตร โดย ติดต่อกับรัฐฉานซ่ึงมีเมืองสาคัญ ได้แก่ เมืองตองยี (เมืองเอก) เมืองต่วน เมืองสาด เมืองหาง เมืองยอน จากสภาพภูมิประเทศที่เป็นช่องทางการค้า ทาให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มี ศักยภาพในการส่งเสรมิ การค้าชายแดนกับเมยี นมาร์ ๓ แหง่ คือ ๑) จุดผอ่ นปรนกิว่ ผาวอก บา้ นอรโุ ณทยั ตาบลเมอื งนะ อาเภอเชยี งดาว

7 ๒) จดุ ผ่อนปรนบ้านหลกั แตง่ ตาบลเปยี งหลวง อาเภอเวียงแหง ๓) ช่องทางบา้ นสนั ตน้ ดู่ อาเภอแม่อาย 7. การท่องเท่ยี ว ปี 2556 - จานวนนกั ท่องเทยี่ ว 7,089,792 คน ปี 2557 - คา่ ใชจ้ า่ ย (บาท/คน/วัน) 3,373.74 บาท ปี 2558 - รายได้จากการท่องเทยี่ ว 58,550.50 ล้านบาท - อัตราการเขา้ พกั (รอ้ ยละ) 47.23 - จานวนนกั ท่องเทีย่ ว 8,773,486 คน (เพิม่ ข้ึนจากปี พ.ศ. 2556 จานวน 1,683,694 คน) - คา่ ใชจ้ ่าย (บาท/คน/วัน) 3,469.06 บาท - รายได้จากการทอ่ งเทยี่ ว 74,789.67 ล้านบาท - อตั ราการเข้าพัก (รอ้ ยละ) 62.34 - จานวนนกั ท่องเที่ยว 9,286,307 คน (เพิ่มข้ึนจากปี พ.ศ. 2557 จานวน 512,821 คน) - ค่าใช้จ่าย (บาท/คน/วัน) 3,364.56 บาท - รายได้จากการท่องเทย่ี ว 82,570.24 ลา้ นบาท - อัตราการเขา้ พัก (รอ้ ยละ) 66.34 สถานท่ีท่องเทย่ี ว จังหวัดเชียงใหม่มีสถานท่ีท่องเที่ยว ในรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวท่ีหลากหลาย และแหง่ อานวยความสะดวกทันสมัยสาหรับนักท่องเที่ยว ท้ังที่พัก โรงแรม รีสอร์ทและโฮมสเตย์ ที่มีช่ือเสียงท้ังร้านอาหารจานวนมาก จึงเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศ เชยี งใหมจ่ งึ เป็นเมืองท่องเทีย่ วทีส่ าคญั ประเทศและระดบั โลก ด้านสินค้าบริการ จังหวัดเชียงใหม่มีจุดแข็งด้านสินค้าและบริการหลากหลายรูปแบบ ที่สามารถสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เชิงวัฒนธรรม และรองรับความต้องการของนักท่องเท่ียว อย่างเพียงพอ

8 การท่องเที่ยวของจงั หวดั เชยี งใหม่มหี ลายรปู แบบ เช่น 1) การท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม (Cultural and Traditional Tourism) บนพ้ืนฐาน ทางวฒั นธรรม ประเพณีทเี่ ปน็ เอกลกั ษณ์ และประวตั ิศาสตร์อนั ยาวนาน 2) การท่องเที่ยวแบบพานักระยะยาว (Long Stay) ได้แก่ การท่องเท่ียวโดยมุ่งเน้น การพักผ่อนหย่อนใจ เน่ืองจากเชียงใหม่เป็นสถานที่พักผ่อนที่ครบรูปแบบทั้งธรรมชาติและ ในรูปแบบเมอื ง 3) การท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) ได้แก่ การท่องเที่ยวที่มีวัตถุประสงค์ เพอ่ื เรยี นร้วู ถิ ชี วี ิตและพักผ่อนหย่อนใจ เพ่ือทากิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ หรอื การบาบัดรักษาฟ้ืนฟู สุขภาพ เปน็ ต้น 4) การท่องเที่ยวเชิงการศึกษา (Education Tourism) หมายถึง การท่องเที่ยว เชิงการศึกษา เป็นการท่องเท่ียวที่เน้นให้บริการแก่นักเรียน นักศึกษาชาวต่างชาติที่ต้องเข้ามา ศกึ ษายังสถาบันในจงั หวดั เชียงใหม่ 5) การท่องเท่ียวเพ่ือการประชุมสัมมนา (MICE) โดยจังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพและ ความพร้อมในการเปน็ MICE City ข้อมูลจากสานักงานท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีผลิตภัณฑ์ การท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเท่ียว จานวน 9 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย GOLF / Wedding Honeymoon/Health and Wellness / Ecotourism เ ป็ น เ ส้ น ท า ง แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ /ศาสนา /อาหาร / OTOP /พื้นที่ชุมชนท้องถิ่นที่มีกิจกรรมท่องเที่ยว เชิงวถิ ีชีวิต /กลุ่มสนิ คา้ ทอ่ งเทย่ี ว Theme และกระแส(Trend) จังหวัดเชียงใหม่ ไม่เพียงแต่เป็นสถานท่ีนิยมของชาวไทยเท่าน้ัน แต่ยังมีชื่อเสียง เปน็ ทย่ี อมรับระดับสากล เห็นไดจ้ ากการจัดอนั ดบั เมืองท่องเที่ยวของนิตยสารด้านการท่องเที่ยว สาคัญของโลก กล่าวคอื - ปี พ.ศ. 2553 นิตยสาร Travel & Leisure ประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดให้จังหวัด เชียงใหม่เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับ 2 ของโลก และเป็น 1 ใน 10 สุดยอดเมืองแห่งปี จากการจดั อนั ดับนิตยสาร Lonely Planet - ปี พ.ศ.2554 จังหวดั เชยี งใหม่ได้รับการจัดอันดับจาก Euromonitor International ให้เป็น 1 ใน 100 เมืองท่ีมีนักท่องเท่ียวต่างประเทศมาเยือนจานวนมากที่สุดของโลก (Top 100 Cities Destination) โดยเป็น 1 ใน 4 เมืองของประเทศไทยที่อยู่ในการจัดอันดับ ดังกลา่ วนอกเหนอื จากกรุงเทพฯ พัทยา และภเู กต็

9 - ปี พ.ศ.2556 จังหวดั เชยี งใหม่ได้รับการจัดลาดับจากนิตยสารการท่องเท่ียวที่สาคัญ ได้แก่ นิตยสาร Travel & Leisure จัดอันดับให้เป็น Top Cities ของเอเชียลาดับท่ี 3 รองจาก กรงุ เทพฯ และโตเกยี ว และ Trip advisor จัดอนั ดับให้จังหวดั เชยี งใหม่เปน็ เป้าหมายการเดนิ Top 25 Destinations ของเอเชีย อันดับท่ี 6และเป็น Top 10 Cities ของเอเชียจากนิตยสาร Conde Nest Traveler จากการเก็บข้อมูลการสืบค้นการท่องเท่ียว ของนักท่องเท่ียวชาวจีนของเว็บไซต์ Trip Advisor’s daodao.com ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม 2556 พบว่า จังหวัด เชียงใหมเ่ ปน็ แหล่งทอ่ งเที่ยวตา่ งประเทศทีน่ กั ทอ่ งเที่ยวจีนใหค้ วามนยิ มเปน็ อนั ดบั ท่ี 12 ปี พ.ศ. 2558 จงั หวดั เชียงใหม่ ไดร้ บั รางวัลด้านการท่องเที่ยว ดังน้ี - รางวัล Best Destination เมืองท่องเท่ียวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน THE BEST of THAILAND AWARDS VOTED BY CHINESE TOURISTS - รางวัล Flower of the Year งานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับของจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับคัดเลือกจาก Internationl Garden Tourism Network ของยุโรปให้รางวัล Flower Festival of The year โดยพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นในการประชุมใหญ่ Flower And Garden Conference เม่ือองั คารท่ี 17 มีนาคม 2558 ณ เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ปี พ.ศ. 2559 จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวมากท่ีสุด ในโลก (Worls’s Best Awards) ของนิตยสารทราเวล แอนด์ เลซเซอร์ (สหรฐั อเมรกิ า) มีท้ังหมด 25 อันดับ จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองน่าท่องเท่ียวอันดับท่ี 1 ของเอเชีย และเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ด้วยศักยภาพด้านการท่องเท่ียวท่ีโดเด่นดังกล่าวของจังหวัดชียงใหม่ ภาคการ ท่ อ ง เ ที่ ย ว เ ป็ น ภ า ค เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ส า คั ญ ข อ ง ก า ร พั ฒ น า จั ง ห วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย โ ด ย ร ว ม ในปี พ.ศ. 2558 มีนักท่องเท่ียวเดินทางเข้ามาเชียงใหม่ จานวน 9,286,307 คน โดยแยกเป็นชาวไทย จานวน 6,451,283 คน (69.47%) ชาวต่างประเทศ 2,835,024 คน (30.53%) เพิ่มขึ้นจากปี 2557 จานวน 620,805 คน (7.16%) โดยมีค่าเฉลี่ยการเติบโต ของจานวนนกั ท่องเทยี่ วรวม 5 ปี เทา่ กับร้อยละ 13.72 นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ท่ีเดินทางเข้ามาจังหวัดเชียงใหม่ 5 อันดับแรก ได้แก่ นักท่อง เที่ยว ประเ ทศจีน ญ่ีปุ่น ฝร่ัง เศส ส หรัฐอ เมริกาและ อังกฤ ษ ตา มลาดั บ รายไดจ้ ากนักทอ่ งเทยี่ ว ปี 2558 นกั ทอ่ งเที่ยวสรา้ งรายได้แก่จงั หวัด 82,570.24 ลา้ นบาท สถานทที่ ่องเทย่ี วทางธรรมชาติ ท่สี าคญั เชน่ อุทยานแหง่ ชาติดอยอินทนนท์ อาเภอจอมทอง อุทยานแห่งชาตดิ อยสุเทพ-ปยุ (ชนุ ช่างเคย่ี น) อาเภอเมอื งเชียงใหม่ อนุ ทยานแห่งชาติแมว่ าง (ผาช่อ) อาเภอดอยหล่อ ถ้าเชียงดาว ดอยหลวงเชียงดาว อาเภอเชยี งดาว ดอยอา่ งขาง อาเภอฝาง

10 อทุ ยานแหง่ ชาติดอยผา้ ห่มปก อาเภอฝาง อุทยานแหง่ ชาตหิ ว้ ยนา้ ดงั อาเภอแมแ่ ตง สวนพฤกษศาสตรส์ มเดจ็ พระนางเจา้ สริ ิกิติ์ อาเภอแมร่ ิม ปางช้างแมแ่ ตง อาเภอแมแ่ ตง น้าพรุ อ้ นสันกาแพง อาเภอแมอ่ อน นา้ พุรอ้ นฝาง อาเภอฝาง ดอยมอ่ นจอง อาเภออมกอ๋ ย ดอยมอ่ นแจ่ม อาเภอแมร่ ิม สถานท่ีทอ่ งเทย่ี วท่ัวไป ถนนคนเดินทา่ แพ-ถนนคนเดนิ ววั ลาย อาเภอเมอื งเชยี งใหม่ หมู่บ้านบอ่ สร้าง อาเภอสนั กาแพง หมู่บ้านหัตถกรรมบ้านถวาย อาเภอหางดง ถนนนิมมานเหมนิ ทร์ อาเภอเมอื งเชยี งใหม่ เชียงใหม่ไนทบ์ าซาร์ อาเภอเมอื งเชียงใหม่ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชยี งใหมไ่ นทซ์ าฟารี อาเภอเมอื งเชียงใหม่ เวยี งกมุ กาม อาเภอสารภี พระตาหนักภพู งิ คราชนเิ วศน์ อาเภอเมอื งเชยี งใหม่ สวนสตั ว์เชียงใหม่ /เชียงใหม่ซอู ควาเลียม อาเภอเมอื งเชยี งใหม่ ปฏทิ ินการจดั กจิ กรรมประเพณขี องจงั หวดั เดือน งานประเพณ/ี สถานทีจ่ ัดงาน ตาบล อาเภอ มกราคม 1. ประเพณตี านหลวั หงิ ไฟพระเจา้ /วดั ป่ายางหลวงหรือวดั ปา่ แดด อาเภอแม่แจม่ กุมภาพนั ธ์ - มีนาคม 1. ประเพณปี อยหลวง, ปอยน้อย, /จังหวัดเชียงใหม่ เมษายน 1. ประเพณปี ีใหมเ่ มอื ง /จังหวดั เชียงใหม่ 2. ประเพณสี บื ชะตาบา้ น /จงั หวัดเชียงใหม่ 3. ประเพณปี อยสา่ งลอง /อาเภอเมอื งเชยี งใหม่ 4. งานสืบสานตานานไทลอ้ื /อาเภอดอยสะเกด็ 5. พธิ ีสกั การะกเู่ จ้าหลวงเชียงใหม่ /อาเภอเชยี งใหม่ 6. ประเพณีแหไ่ มค้ ้าโพธ์ิ /อาเภอจอมทอง พฤษภาคม 1. ประเพณเี ดินข้ึนดอยสเุ ทพ /ลานครูบาศรวี ชิ ัย-วัดพระธาตุดอยสุเทพ

11 2. ประเพณสี รงน้ารอยพระพทุ ธบาตร /วดั พระบาทตะเมาะ อาเภอดอยเตา่ มถิ ุนายน 1.ประเพณเี ขา้ อินทขิล /วดั เจดียห์ ลวงวรวหิ าร อาเภอเมอื งเชยี งใหม่ 2.ประเพณสี ืบชะตาเมอื ง /ประตูเมอื ง 5 ประตแู ละ สแ่ี จง่ เวียง อาเภอเมือง สิงหาคม 1. งานวันแม่แหง่ ชาติ /จังหวัดเชียงใหม่ กนั ยายน 1. ประเพณปี ุพพเปตพลี /จังหวัดเชยี งใหม่ ตุลาคม 1. ประเพณตี านกว๋ ยสลาก /จงั หวัดเชียงใหม่ 2. ประเพณีออกพรรษา /จงั หวัดเชียงใหม่ 3.ประเพณใี สบ่ าตรเทโว /จงั หวดั เชยี งใหม่ 4. ประเพณที านผ้ากฐนิ /จังหวดั เชียงใหม่ 5. ประเพณวี นั ออกพรรษา /จังหวัดเชยี งใหม่ 6. ประเพณเี ป็งปดุ๊ (ตักบาตรเทีย่ งคืน) /จังหวดั เชยี งใหม่ พฤศจกิ ายน 1. ประเพณเี ดือนยีเ่ ปง็ /จังหวดั เชียงใหม่ 2. งานแอ่วเฮอื น เยอื นพญา /สานักส่งเสรมิ ศลิ ปวัฒนธรรม มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ธันวาคม 3. งานมหกรรมโคมลอยบา้ นหนองโคง้ และหตั ถกรรมอาเภอสันกาแพง / อาเภอสันกาแพง 1. ประเพณเี ข้าโสสานกรรม /จงั หวัดเชยี งใหม่ 2. งานประเพณขี องดอี าเภอสันทราย /อาเภอสนั ทราย 3. งานยา่ นการคา้ พาณชิ ยบ์ ้านถวาย หมบู่ ้านสร้างสรรค์ /อาเภอหางดง 8. การเกษตร มูลค่าผลิตภัณฑ์ภาคเกษตรของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2554 – 2558 พบว่ามีแนวโน้ม สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปี พ.ศ. 2556 มูลค่าผลิตภัณฑ์ภาคเกษตรมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย และในปี พ.ศ. 2557 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในลักษณะก้าวกระโดด หากแยกเป็นสาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์ และการป่าไม้ กับสาขาการประมงแล้ว พบว่า สาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์ และ การป่าไม้ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับมูลค่าผลิตภัณฑ์ภาคเกษตร แต่ในสาขาการประมงน้ัน มแี นวโนม้ สูงขึ้นทุกปี 1) พืน้ ทกี่ ารเกษตรของจงั หวดั พนื้ ทีจ่ งั หวัดสว่ นใหญ่เป็นพ้นื ที่ปลูก (ขอ้ มูล ณ เดือนมกราคม 2559) • พืน้ ทปี่ ลูกขา้ วนาปี 431,910 ไร่ • พนื้ ที่ปลูกขา้ วนาปรงั 79,830 ไร่ 2) พชื เศรษฐกจิ สาคญั ของจังหวัดเชียงใหม่ ไดแ้ ก่

12 - ขา้ วนาปี พนื้ ที่ปลูก 431,910 ไร่ ผลผลติ เฉลย่ี 624 (กิโลกรมั /ไร)่ - ขา้ วนาปัง พน้ื ทีป่ ลกู 79,830 ไร่ ผลผลติ เฉล่ยี 650 (กิโลกรัม/ไร่) - ลาไย พืน้ ท่ีปลกู 313,391 ไร่ ผลผลติ เฉลย่ี 883 (กโิ ลกรัม/ไร)่ - ลนิ้ จี่ พื้นทปี่ ลูก 58,046 ไร่ ผลผลติ เฉลยี่ 493 (กโิ ลกรมั /ไร)่ - กระเทียม พื้นทป่ี ลกู 27,984 ไร่ ผลผลิตเฉลยี่ 1,207(กิโลกรัม/ไร)่ - หอมแดง พน้ื ทป่ี ลูก 8,450 ไร่ ผลผลิตเฉลย่ี 2,398(กโิ ลกรัม/ไร)่ - หอมหวั ใหญ่ พ้นื ทปี่ ลกู 8,451 ไร่ ผลผลติ เฉลย่ี 4,348 (กิโลกรัม/ไร่) 3) พ้ืนท่ีการเกษตรในเขตชลประทาน จานวน 642,979 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 35 ของพื้นที่การเกษตร และพื้นท่ีเกษตรนอกเขตชลประทาน 1,192,446 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 65 ของพน้ื ทก่ี ารเกษตรทั้งจังหวัด 4) การชลประทาน จังหวัดเชียงใหม่เป็นพ้ืนท่ีตอนบนของประเทศ มีแหล่ง กักเก็บน้า เป็นจานวนมาก สาหรับใช้ในการชลประทาน การเกษตร และการอุปโภคบริโภค เข่ือนเก็บน้า ขนาดใหญใ่ นจังหวดั เชยี งใหม่ สาคัญไดแ้ ก่ 4.1) เขื่อนแม่งดั สมบรู ณ์ชล ต้ังอยู่ท่ีตาบลช่อแล อาเภอแม่แตง มีความจุท่ีระดับเก็บกัก จานวน 265 ล้านลูกบาศก์เมตร (พื้นท่ีชลประทานของอ่างเก็บน้าแม่งัดสมบูรณ์ชล 30,000 ไร่ และพน้ื ทช่ี ลประทานของฝายแมแ่ ฝก 70,000 ไร)่ 4.2) เขอ่ื นแมก่ วงอุดมธารา ตัง้ อยู่ทต่ี าบลลวงเหนือ อาเภอดอยสะเก็ด มีความจุที่ระดับ เก็บกกั จานวน 263 ล้านลกู บาศก์เมตร (พน้ื ทชี่ ลประทาน ประมาณ 175,000 ไร่)มีวัตถุประสงค์ เพ่อื การชลประทาน ปอ้ งกนั อทุ กภัย การประมงการประปา และใช้อปุ โภคบริโภค 4.3) โครงการส่งน้าแม่แตง ตั้งอยู่ตาบลแม่แตง อาเภอแม่แตง มีพื้นที่โครงการ 174,238 ไร่ พ้ืนท่ีชลประทาน 148,102 ไร่ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพื้นที่ฝ่ังขวา ของลาน้าปิง ภายในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีการชลประทานเพียงพอแก่การทานาและปลูกพืช อืน่ ๆในฤดูแล้ง 4.4) ฝายขนาดกลาง จานวน 31 แห่ง อาทิเช่น ฝายดอยอ่างขาง ฝายแม่สาว ฝายเชยี งดาว อา่ งเก็บน้าหว้ ยหยวก ฝายเหมอื งใหม่ อา่ งเก็บนา้ แมต่ ูบ เปน็ ต้น 4.5) โครงการชลประทานขนาดเล็ก มีจานวน 6 แห่ง คือ ระบบส่งน้าฝายแม่สานาเลา ตน้ ผ้ึง แมแ่ ขะ แม่ขอดนอก บ้านสันนกแกว้ ห้วยแมห่ าง 4.6) โครงการชลประทานอันเนื่องมาจากพระราชดาริ จานวน 11 แห่ง อาทิเช่น ศนู ย์ศึกษาและพฒั นาห้วยฮ่องไคร้(ดอยสะเก็ด) ฝายแม่ปาด(แม่แจ่ม) บ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยคา (เวียงแหง) 9. การอตุ สาหกรรม

13 จังหวัดเชียงใหม่มีธุรกิจอุตสาหกรรมแบ่งเป็น 21 ประเภท มีจานวนทั้งส้ิน 1,571 แห่ง โดยมีเงนิ ลงทุนในอตุ สาหกรรมทง้ั หมด 31,413.23 ล้านบาท และจานวนคนงานรวม 40,584 คน ธรุ กิจอตุ สาหกรรมที่มีการลงทุนมากท่ีสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ 314 แห่ง เงินลงทุน 4,877.10 ล้านบาท อันดับสอง ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากพืช 216 แหง่ เงนิ ลงทนุ 3,065.61 ลา้ นบาท คนงาน 6,982 คน อนั ดับสาม อตุ สาหกรรมอาหาร 231 แห่ง เงินลงทนุ 3,056.61 ลา้ นบาท 10. การพาณชิ ยกรรม ภาวะการค้าทั่วไป ของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงขยายตัวดีอย่างต่อเน่ือง การท่องเท่ียว ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สาคัญของจังหวัดเชียงใหม่ โดยธุรกิจโรงแรมในพ้ืนที่ ภาคเหนือตอนบนขยายตัวดีจากอุปสงค์ของนักท่องเท่ียวจีนเป็นสาคัญ อัตราการจองท่ีพัก ล่วงหน้ายังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่สาคัญ ด้านลูกค้าชาวไทยยังขยายตัว จากกลุ่มประชุมสัมมนาและจากนักท่องเท่ียวเพ่ิมขึ้นในช่วงวันหยุดติดต่อกัน รวมทั้งการเปิด เที่ยวบินตรงจากฮอ่ งกงและเพ่ิมเที่ยวบินในประเทศ สาหรับธุรกิจรถเช่าก็ขายตัวดีสอดคล้องกับ ธุรกิจโรงแรมในภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะความต้องการเช่ารถของนักท่องเท่ียวกลุ่มยุโรป ฮ่องกง มาเก๊า จีน ไต้หวัน ขณะที่ธุรกิจโรงแรมในภาคเหนือตอนล่างยังไม่ฟ้ืนตัวเน่ืองจากลูกค้า กลมุ่ ประชุมสมั มนาของหน่วยงานภาครฐั ลดลง การจดทะเบียนนิติบุคคลจังหวัดเชียงใหม่ มีจานวนรวมทั้งสิ้น 16,834 ราย เงินทุนรวมทั้งสิ้น 236,421,874,528 บาท เป็นห้างหุ้นส่วนจากัด 6,377 ราย ห้างหุ้นส่วนสามัญ 50 ราย บริษัทจากัด 10,407 ราย ในส่วนของเดือนพฤศจิกายน 2559 มีจานวน 239 ราย เพิ่มข้ึนจากเดือนตุลาคม 2559 ร้อยละ 13.81 เงินทุนรวม 1,267.18 ล้านบาท ธุรกิจ ท่ีจดทะเบียนมากที่สุด 3 อันดับ 1)ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ (ร้านทอง) 2)ธุรกิจการ ก่อสร้างอาคารท่ีไม่ใช่ที่พักอาศัย 3) ธุรกิจการซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีนิติบุคคล จดทะเบียนใหม่ ทุนจดทะเบียนสูงสุด ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด ธุรกิจผลิต โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ และธุรกจิ การซอ้ื และขายอสงั หาริมทรัพย์ ภาวะสนิ ค้าเกษตรทส่ี าคญั ของจังหวดั เชยี งใหม่ กระเทียม ในปี 2559/60 จังหวัดเชียงใหม่มีแหล่งเพาะปลูกกระเทียมท่ีสาคัญ ได้แก่ อาเภอ เวยี งแหง เชียงดาว ฝาง แม่อาย ไชยปราการ สะเมิง แม่แตง ส่วนอาเภออื่นๆมีการปลูกกระจาย ท่ัวไป ในปีการผลิตที่จะถึงนี้คาดว่าพ้ืนที่ปลูกรวมท้ังหมด 25,047 ไร่ ลดลงจากปีท่ีแล้ว รอ้ ยละ 0.23 ผลผลิตรวม 100,188 ตนั เพม่ิ ขึ้นจากปที ่แี ลว้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 9.12 หอมหัวใหญ่ ในปี 2559/60 คาดการณ์พ้ืนท่ีเพาะปลูกหอมหัวใหญ่ ได้แก่ อาเภอแม่วาง ฝาง สันป่าตอง และกระจายปลูกอาเภอทั่วไป มีจานวน 6,385 ไร่ คาดว่าผลผลิตสดทั้งฤดูกาล จานวน 30,010 ตัน ผลผลิตสดเฉล่ยี 4,700 กโิ ลกรัม/ไร่

14 หอมแดง ในปี 2559/60 คาดการณ์พ้ืนท่ีเพาะปลูกหอมแดง และกระจายปลูกอาเภอท่ัวไป มีจานวน 6,010 ไร่ ลดลงจากปีท่ีแล้วร้อยละ 7.8 คาดว่าผลผลิตสดทั้งฤดูกาล จานวน 18,030 ตนั ลดลงจากปีทีแ่ ลว้ ร้อยละ 7.6 ผลผลติ สดเฉลีย่ 3,000 กโิ ลกรมั /ไร่ ข้าว ในปี 2559/60 ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดแล้วร้อยละ 95 มีพื้นที่เพาะปลูกรวมทั้งหมด 431,910 ไร่ ผลผลิตท้งั ฤดูกาลจานวน 269,312 ตัน ผลผลติ เฉลีย่ 623.53 กโิ ลกรัม/ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สถานการณ์การผลิต ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วประมาณ ร้อยละ 80 ของพื้นที่ ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นผลผลิตของอาเภอแม่แจ่ม คาดว่าประมาณเดือนมกราคม 2560 ผลผลิต จะออกสู่ตลาดหมด มีพื้นที่เพาะปลูกท้ังหมด 179,383 ไร่ ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 1.39 พ้ืนท่ี การเก็บเกี่ยว 179,383 ไร่ ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 1.15 ผลผลิตเฉลี่ย (ความชื้น 14.5%) 667 กิโลกรมั /ไร่ ผลผลติ ท้งั ส้นิ 119,649 ตนั 11. แรงงาน สถานการณด์ า้ นแรงงาน จังหวดั เชียงใหม่ ไตรมาส 1-2 ปี 2559 ประชากรและกาลังแรงงานจังหวัดเชียงใหม่มีผู้อยู่ในกาลังแรงงาน 1,009,152 คน ผ้มู งี านทา 988,249 คน และผ้วู า่ งงาน 11,366 คน - แรงงานต่างด้าว ที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมายและได้รับอนุญาตให้ทางาน ไตรมาส 1-2 ปี 2559 มีจานวน 83,778 คน 12. สภาพทางสงั คม จังหวัดเชยี งใหม่เปน็ นครแห่งวัฒนธรรมท่ีรุ่งเรอื งและมีประวตั ศิ าสตรย์ าวนานกว่า 720 ปี มีศิลปวัฒนธรรม ประเพณที ม่ี ีเอกลกั ษณ์มภี มู ปิ ัญญาท้องถนิ่ ทถ่ี ่ายทอดสงู่ านหัตกรรมท่ีมี คุณคา่ รวมทง้ั มคี วามหลากหลายของชาติพนั ธ์ุชนเผา่ ทมี่ วี ฒั นธรรมโดดเดน่ และหลากหลายถงึ 13 ชนเผ่า เปน็ ชาวเขา 7 เผ่า และเปน็ ชนกลมุ่ น้อย 5 กลุ่ม 12.1 ภาษา ภาษาราชการที่ใช้ในจังหวดั เชียงใหม่ ใช้ภาษาไทยเป็นหลัก และมีภาษาท้องถ่ิน ซ่ึง เรียกว่า “ภาษาคาเมือง” ซึ่งแต่ละท้องถ่ินของภาคเหนือมีลักษณะของภาษาท่ีคล้ายๆกัน จะ แตกต่างกนั เฉพาะสาเนยี งและศัพท์บางคา 12.2 ศาสนา ประชากรจงั หวัดเชยี งใหมม่ ีผนู้ บั ถือ ศาสนาพุทธ จานวน 1,519,879 คน (คดิ เปน็ ร้อยละ 91.80 % ของประชากรจงั หวดั เชียงใหม่) ประชากรจงั หวดั เชยี งใหม่มีผ้นู บั ถือ ศาสนาอสิ ลาม จานวน 19,371 คน (คดิ เป็นร้อยละ 1.17% ของประชากรจงั หวดั เชยี งใหม่)

15 ประชากรจังหวดั เชยี งใหม่มผี นู้ บั ถือ ศาสนาคริสต์ จานวน 92,716 คน (คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.60% ของประชากรจังหวัดเชียงใหม่) ประชากรจงั หวดั เชยี งใหมม่ ีผนู้ บั ถือ ศาสนาพราหมณ์ ฮนิ ดู ซกิ ส์ จานวน 331 คน (คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.02% ของประชากรจงั หวดั เชียงใหม่) ประชากรจังหวดั เชยี งใหมม่ ผี ูน้ ับถือ ศาสนาอนื่ ๆ จานวน 23,345 คน (คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.41% ของประชากรจังหวดั เชียงใหม่) 12.3 การศกึ ษา จังหวัดเชียงใหม่รองรับระบบการศึกษาต้ังแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับอุดมศึกษา มี จานวนสถานศึกษาท้ังส้ิน 1,574 แห่ง ในจานวนน้ีมีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาท้ังภาครัฐ และเอกชนรวม 12 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา สถาบันการพลศึกษาวิทยาลัยเขตเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยพายัพ มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยฟาร์อีส-เทอร์น วิทยาลัย นาฏศิลปะเชียงใหม่ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี มหาวิทยาลัยมหามกุฏราช-วิทยาลัย วิทยาลัยเขตล้านนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ มีสถาบันอาชีวศึกษา ของรัฐ 8 แห่ง และสถาบันอาชีวศึกษาของเอกชน 9 แห่ง โรงเรียนนานาชาติ 7 แหง่ 12.4 บริการสาธารณสุขจังหวดั เชียงใหม่ จงั หวดั เชยี งใหมม่ สี ถานบรกิ ารด้านสาธารณสขุ ประเภทที่มีเตียงรับผู้ป่วยไว้ค้างคืน 48 แห่ง 6,301 เตียง จาแนกเป็นประเภทบริการท่ัวไป 42 แห่งและประเภทบริการเฉพาะโรค จานวน 6 แห่ง ในจานวนน้ีเป็นสถานบริการสาธารณสุขแยกตามสังกัด ได้แก่ สังกัดกระทรวง สาธารณสุข 24 แห่ง นอกสงั กดั สานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ 5 แห่ง สังกัดกระทรวงอ่ืนๆ 5 แห่ง และสังกัดเอกชน 14 แห่ง นอกจากน้ีจังหวัดเชียงใหม่ยังมีสถานการศึกษาระดับ อุดมศึกษาท่ีทาการเปิดสอนด้านการแพทย์หรือพยาบาลที่สาคัญ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยพายัพ และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ยังมีความ พร้อมในด้านธุรกิจบริการสุขภาพ โดยเฉพาะการบริการทางการแพทย์ของรัฐและเอกชนท่ี ทันสมัย บุคลากรแพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆท่ีมีช่ือเสียง มีศักยภาพสามารถรองรับการเข้ามาใช้ บริการท้ังด้านการรักษาโรคเฉพาะทางด้านทันตกรรม การนวดแผนไทยเพ่ือสุขภาพ และการ บริการสปาท่ีมีอัตลักษณ์เฉพาะ มีชื่อเสียงเป็นท่ีนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สาหรบั บุคลากรทางสาธารณสุข จาแนกตามวิชาชีพ (ข้อมูล ปี 2558) ก) แพทย์ 451 คน อตั ราสว่ นแพทย์ : ประชากร เทา่ กบั 1 : 3,865 คน ข) พยาบาล 2,081 คน อัตราสว่ นพยาบาล : ประชากร เทา่ กับ 1 : 838 คน

16 ค) ทันตแพทย์ 133 คน อัตราส่วนทนั ตแพทย์ : ประชากรเทา่ กับ 1 : 13,105 คน ง) เภสชั กร 220 คน อตั ราสว่ นเภสชั กร : ประชากรเทา่ กับ 1 : 6,352 คน 13. การคมนาคม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเมืองหลักของภาคเหนือ เป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ อุตสาหกรรม และการคมนาคม จึงมีเส้นทางคมนาคมหลักท้ังทางรถยนต์ รถไฟ และทางอากาศ มีทางหลวง แผ่นดิน ทางหลวงจังหวัด และเส้นทางมาตรฐานหลายสาย ทาให้การเดินทางติดต่อภายใน จงั หวัด การเดนิ ทางสจู่ งั หวัดใกลเ้ คียงและกรงุ เทพมหานครเปน็ ไปดว้ ยความสะดวก 13.1 ทางรถยนต์ การเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังจังหวัดเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ผ่านจังหวัด พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครสวรรค์ แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดลาปาง แยก ซา้ ย ผ่านจังหวดั ลาพูน จนถงึ จังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางในตวั จงั หวดั การคมนาคมขนส่งทางรถยนต์ของจังหวัดเชียงใหม่ระหว่างชนบท หมู่บ้าน ตาบล อาเภอ และจังหวัดต่าง ๆ มีความสะดวก เพราะมีเส้นทางคมนาคมเชื่อมติดต่อกัน การเดินทาง โดยรถยนต์ระหว่างจังหวัดกับอาเภอ โดยระยะทางจากตัวจังหวัด (อาเภอเมืองเชียงใหม่) ไปยัง อาเภอตา่ งๆของจงั หวดั เชียงใหมเ่ รียงจากใกล้ไปไกล ดังน้ี ไปอาเภอแม่รมิ 8 กโิ ลเมตร /ไปอาเภอสารภี 10 กิโลเมตร ไปอาเภอสนั ทราย 12 กิโลเมตร /ไปอาเภอสันกาแพง 13 กิโลเมตร ไปอาเภอหางดง 15 กโิ ลเมตร /ไปอาเภอดอยสะเก็ด 18 กิโลเมตร ไปอาเภอสนั ป่าตอง 22 กิโลเมตร /ไปอาเภอแม่ออน 29 กิโลเมตร ไปอาเภอดอยหลอ่ 34 กิโลเมตร /ไปอาเภอแม่วาง 35 กโิ ลเมตร ไปอาเภอแม่แตง 40 กิโลเมตร /ไปอาเภอสะเมงิ 54 กิโลเมตร ไปอาเภอจอมทอง 58 กิโลเมตร /ไปอาเภอเชยี งดาว 68 กโิ ลเมตร ไปอาเภอฮอด 88 กิโลเมตร /ไปอาเภอพร้าว 103 กิโลเมตร ไปอาเภอดอยเตา่ 121 กิโลเมตร /ไปอาเภอไชยปราการ 131 กโิ ลเมตร ไปอาเภอเวยี งแหง 150 กิโลเมตร /ไปอาเภอฝาง 154 กิโลเมตร ไปอาเภอแมแ่ จ่ม 156 กิโลเมตร /ไปอาเภอกลั ยาณวิ ฒั นา 157 กโิ ลเมตร ไปอาเภอแมอ่ าย 174 กิโลเมตร /ไปอาเภออมกอ๋ ย 179 กิโลเมตร สาหรับการเดินทางในตัวจังหวัด จะใช้การจราจรโดยรถส่วนบุคคลหรือรถจักรยานยนต์ รวมทั้ง จักรยาน สาหรับระบบขนส่งมวลชนจะมีรถสี่ล้อแดง ตุ๊กตุ๊ก รถเมล์ และแท็กซ่ีมิเตอร์

17 ให้บริการในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถมีสีเหลือง-น้าเงิน เป็นแท็กซ่ีสหกรณ์ ส่วนสีแดง-เหลืองเป็น แท็กซ่ีสว่ นบคุ คล โดยปัจจุบันมีการจดั การเดนิ รถจานวน 5 เสน้ ทาง ไดแ้ ก่ สายที่ 1 หลังมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ –เซ็นทรลั เฟสตวิ ัล สายที่ 2 สวนรกุ ขชาติ-เซน็ ทรลั เฟสตวิ ลั สายท่ี 3 ขนสง่ ชา้ งเผอื ก-นิมมานเหมินทร-์ สนามบิน สายที่ 4 ขนสง่ ชา้ งเผอื ก-เซน็ ทรลั เฟสตวิ ลั สายท่ี 5 ขนส่งชา้ งเผือก-กาดหลวง อัตราค่าโดยสาร 15 บาท ตลอดสาย พระภิกษุ สามเณร นักเรียน นักศึกษา ในเคร่ืองแบบ อตั ราคา่ โดยสาร 10 บาท ตลอดสาย สถานีขนส่งภายในตัวจังหวัด เช่ือมต่ออาเภอต่างๆ คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัด เชยี งใหม่(สถานีขนส่งช้างเผือก) และสถานีขนส่งระหว่างจังหวัดคือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัด เชยี งใหม่ (สถานขี นส่งอาเขต) 13.2 ทางรถไฟ การคมนาคมทางรถไฟ ปัจจุบันมีรถไฟสายกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ โดยผ่านจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ ลาปาง และลาพูน เปิดการเดิน รถไฟทกุ วัน ๆ ซึ่งสถานปี ลายทางภาคเหนอื คือสถานีรถไฟเชียงใหม่ 13.3 ทางอากาศ การคมนาคมทางอากาศ จังหวัดเชยี งใหม่มีท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ทีม่ ีขนาด ใหญเ่ ปน็ อนั ดับต้น รองจากทา่ อากาศยานดอนเมอื งและทา่ อากาศยานสุวรรณภูมิ มีเสน้ ทางบนิ ไป- กลบั วันละหลายเทยี่ วบิน ทง้ั สายการบนิ ภายในประเทศ และสายการบินระหวา่ งประเทศโดย สายการบินระหวา่ งประเทศ มสี ายการบินจากเชียงใหม่ ปัจจบุ ันทา่ อากาศยานเชยี งใหม่มีสายการบนิ ท่ใี หบ้ รกิ ารภายในประเทศจานวน 7 สายการ บิน ไดแ้ ก่ การบินไทย การบนิ กรุงเทพ กานต์นธิ ิ นกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย ไทยสไมล์ ไทยไลออน เมนเทอรี และมสี ายการบินระหวา่ งประเทศให้บริการ 20 สายการบิน 14. การสาธารณูปโภค 14.1 ไฟฟา้ 1. การไฟฟ้าของจังหวัดอยู่ในความรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคเหนือ) รับซ้ือกระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ณ แหล่งผลิตแม่เมาะ จังหวัดลาปาง มีไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ 6 แห่ง คือ การไฟฟ้า

18 ส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่/ภูมิภาคอาเภอฝาง/ภูมิภาคอาเภอสันทราย/ภูมิภาคอาเภอแม่ริม/ ภูมิภาคอาเภอสันป่าตอง/ภูมิภาคอาเภอจอมทอง ซึ่งให้มีพ้ืนท่ีรับผิดชอบสถานีควบคุมการจ่าย ไฟฟา้ อาเภอ จานวนสาขา 25 อาเภอ พ้ืนท่ีให้บริการจานวน 200 ตาบล พื้นที่ให้บริการจานวน 1,851 หมบู่ ้าน และพ้ืนทีใ่ ห้บรกิ ารจานวน 734,716 ครวั เรือน 14.2 ประปา 1. การประปาสว่ นภูมิภาคเขต 9 มสี านักงานประปาสว่ นภมู ภิ าคสาขาในเขตพืน้ ที่ จงั หวดั เชยี งใหม่ จานวน 7 แห่ง ได้แก่ 1) การประปาส่วนภมู ภิ าคสาขาเชียงใหม่ (ชน้ั พเิ ศษ) 2) การประปาสว่ นภมู ิภาค สาขาแมร่ ิม 3) การประปาส่วนภมู ภิ าค สาขาสนั กาแพง 4) การประปาส่วนภมู ิภาค สาขาฮอด 5) การประปาส่วนภูมภิ าค สาขาฝาง 6) การประปาสว่ นภูมภิ าค สาขาแมแ่ ตง 7) การประปาสว่ นภูมภิ าค สาขาจอมทอง 14.3 ไปรษณีย์ มีสานักงานไปรษณีย์ให้บริการภายในจังหวัดเชียงใหม่ รวมจานวน 38 แห่ง แยกเป็นไปรษณีย์ให้บริการภายในเขตอาเภอเมือง จานวน 13 แห่ง และไปรษณีย์ให้บริการ ภายในเขตอาเภอต่างๆ จานวน 25 แหง่ 15. ทรัพยากรปา่ ไม้ ทรัพยากรป่าไม้ เป็นทรัพยากรท่ีมีความเก่ียวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมในด้านอ่ืนๆอย่างเด่นชัด เน่ืองจากการเปลี่ยนแปลงของพ้ืนที่ป่าไม้ จะส่งผลกระทบ ตอ่ ทรพั ยากรอนื่ ในหลายด้านไดแ้ ก่ การเปลี่ยนแปลงพื้นท่ีที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าซ่ึงส่งผลต่อเน่ือง ถึงสถานการณ์ความหลากหลายทางชีวภาพซ่ึงหมายถึง ความหลากหลายของชนิดพันธุ์พืช และ พนั ธส์ุ ัตว์ รวมไปถึงการดดู ซบั นา้ ในพ้นื ทีป่ า่ ตน้ น้า และปญั หาดินถล่ม จังหวัดเชียงใหม่มีป่าไม้หลายประเภทประกอบด้วย ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่า เบญจพรรณ ปา่ เตง็ รงั และป่าเตง็ รังผสมป่าสนเขา และป่าแดง เป็นต้น พ้ืนท่ีป่าไม้ ประกอบด้วย ป่าธรรมชาติ สวนป่า และป่าฟ้ืนฟูตามธรรมชาติ โดยมีพื้นท่ีป่าไม้อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ๑๒,๒๒๒,๒๖๕.๘๗ ไร่ คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๗๒ ของพื้นที่ท้ังจังหวัด โดยแนวโน้มลดลงจากอดีต การลดลงของพ้ืนท่ีป่าเกิดได้จากหลายสาเหตุ ท้ังจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน การตัดไม้เพ่ือการค้า รวมท้ังนโยบายของรัฐท่ีเน้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ได้แก่ การให้สัมปทานการทาไม้ การกอ่ สร้างสาธารณปู โภคพื้นฐานตา่ งๆ และการเกดิ ไฟปา่ ขอ้ มลู พน้ื ท่ีปา่ ไม้ กับการเปล่ียนแปลงในแตล่ ะปี (พ.ศ.๒๕๕๓ - ๒๕๕๗)

19 ปี พ.ศ. พ้ืนที่ (ไร่) % ของพ้ืนท่ีจังหวดั ๒๕๕๓ ๙,๘๖๕,๗๓๗.๕๐ ๗๑.๖๒ ๒๕๕๔ ๘,๗๘๗,๖๕๖.๒๕ ๖๓.๗๙ ๒๕๕๕ - - ๒๕๕๖ ๙,๕๗๓,๓๔๙.๖๖ ๖๙.๔๙ ๒๕๕๗ ๙,๖๖๐,๘๒๘.๕๔ ๗๐.๑๓ 16. การต่างประเทศ 16.1 สถานกงสลุ ต่างประเทศ จังหวดั เชยี งใหม่ เปน็ สถานทต่ี ้งั ของสถานกงสลุ ต่างประเทศ 22 แห่ง โดยมผี ู้ดารงตาแหนง่ แยกเปน็ - กงสลุ ใหญ่ จานวน 5 แห่ง - กงสลุ กิตตมิ ศกั ดิ์ จานวน 17 แห่ง 16.2 ความสมั พนั ธบ์ ้านพ่ีเมืองนอ้ ง จังหวัดเชียงใหม่ได้ลงนามสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องกับนครและ เมืองตา่ ง ๆ ในต่างประเทศ ดังน้ี 1) จังหวัดเชียงใหม่กับ นครเซ่ียงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยลงนาม ความสมั พนั ธ์ เมือ่ วันท่ี 2 เมษายน 2543 (MOU) 2) จังหวัดเชียงใหม่ กับ นครชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยลงนาม ความสมั พนั ธ์ เมื่อวันท่ี 1 เมษายน 2551 (MOU) 3) จังหวัดเชียงใหม่ กับ เขตพิเศษย็อกยากาตาร์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยลง นามความสมั พันธ์ เมอ่ื วันท่ี 4 สิงหาคม 2550 (MOU) 4) จงั หวดั เชียงใหม่ กับ นครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจนี ความสัมพันธ์ เม่อื วันท่ี 18 กุมภาพันธ์ 2551(LOI) โดยลงนามความสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 19 กันยายน เมษายน 2551 (MOU) 5) จังหวัดเชียงใหม่ กับ เมืองฮาร์บ้ิน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยลงนาม ความสัมพันธ์ เมอ่ื วันที่ 29 เมษายน 2551(MOU) 6) จงั หวัดเชียงใหม่ กับ นครคนุ หมงิ สาธารณรฐั ประชาชนจีน โดยลงนาม ความสัมพนั ธ์ เมอื่ วนั ที่ 7 มิถนุ ายน 2552 (MOU) 7) จังหวัดเชียงใหม่ กับ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญ่ีปุ่น โดยลงนามความสัมพันธ์ เมือ่ วนั ท่ี 26 กุมภาพนั ธ์ 2556 (MOU) 8) จงั หวัดเชียงใหม่ กบั เมอื งบรู ์ซา ประเทศตรุ กี โดยลงนามความสัมพนั ธ์ เม่ือวันท่ี 15 มกราคม 2556 (MOU/LOI)

20 หมายเหตุ MOU : Memorandum of Understanding (บันทึกความเขา้ ใจ) LOI : Letter of Intent (หนังสือแสดงเจตจานงจากฝ่ายหน่ึงถึงอีกฝ่ายหนึง่ ) หอการค้าจงั หวดั เชยี งใหม่ ไดล้ งนามสถาปนาความสัมพันธ์กับตา่ งประเทศ ดงั นี้ 1) ลงนามในบันทึกความร่วมมือเป็นหอการค้าคู่มิตรกับหอการค้าสภาอุตสาหกรรม เมอื งจติ ตะกอง ประเทศบังคลาเทศ เมื่อวนั ท่ี 18 กรกฎาคม 2546 2) ลงนามในบันทึกความร่วมมือระหว่างหอการค้าเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส และ หอการคา้ จงั หวัดเชยี งใหม่ ปี 2549 16.3 บริการหนงั สือเดนิ ทาง (Passport) จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดท่ีกรมการกงสุล ได้ตั้งสานักงานหนังสือเดินทาง ชวั่ คราวเชียงใหม่ สถานที่ตง้ั ณ ชั้น 1 อาคารอานวยการกลาง ศาลากลางจังหวดั เชียงใหม่ โดยให้ ประชาชนทว่ั ไปและข้าราชการ ทง้ั จงั หวัดเชยี งใหม่และจังหวัดใกล้เคียง มีการยื่นเรื่องทาเอกสาร หนังสือเดินทางไปต่างประเทศในแต่ละปีจานวนมาก จากสถิติข้อมูลของสานักงานหนังสือ เดินทางช่ัวคราวเชียงใหม่ ตั้งแตป่ ี พ.ศ. 2556 - 2558 พบวา่ ปี 2556 จานวนผู้ย่ืนเร่ืองทาเอกสารหนังสือเดินทาง ณ จังหวัดเชียงใหม่ จานวน ทงั้ ส้นิ 68,701 ราย แยกเปน็ - ขา้ ราชการ จานวน 1,176 ราย / ทูต จานวน 0 ราย - ประชาชนทั่วไป จานวน 67,525 ราย ปี 2557 จานวนผู้ย่ืนเรื่องทาเอกสารหนังสือเดินทาง ณ จังหวัดเชียงใหม่ จานวน ท้งั สน้ิ 75,338 ราย แยกเปน็ - ขา้ ราชการ จานวน 1,088 ราย / ทตู จานวน 2 ราย - ประชาชนทัว่ ไป จานวน 74,248 ราย ปี 2558 จานวนผู้มาย่ืนเรื่องทาเอกสารหนังสือเดินทาง ณ จังหวัดเชียงใหม่ จานวนทั้งส้นิ 77,929 แยกเป็น - ขา้ ราชการ จานวน 824 ราย/ทูต จานวน 6 ราย - ประชาชนท่วั ไป จานวน 77,099 ราย (ข้อมลู จากสานกั งานหนังสือเดนิ ทางช่วั คราวเชียงใหม่ ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2559) ทศิ ทางการพัฒนา (Positioning) ของจังหวัดเชียงใหม่ ซ่ึงมีความสาคัญต่อการ กาหนดตาแหนง่ การพฒั นาของจังหวดั เชียงใหม่ มีดังน้ี 1. เมืองศูนย์กลางการท่องเท่ียวและบริการระดับสากล Tourism Hub/ World’sTourist Destination, MICE City, Wellness City จงั หวัดเชียงใหม่มีศักยภาพโดดเด่น

21 ด้านการท่องเที่ยวและบริการระดับสากล มีทรัพยากรทางกรท่องเท่ียวท่ีหลากหลายทั้งด้าน โบราณสถานศิลปวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ และแหล่งท่องเท่ียวธรรมชาติท่ีสวยงามซึ่งมีความ โดดเด่นด้านการทอ่ งเทีย่ วของจงั หวัดได้รับการยกย่องและมีชอื่ เสียงเป็นทรี่ ้จู กั ในระดับสากล และ จังหวัดเชียงใหม่มีโรงแรมท่ีพัก และศูนย์ประชุมท่ีมีมาตรฐานระดับนานาชาติพร้อมท่ีจะพัฒนา ไปสู่การเป็นศนู ย์กลางการประชุมและจัดนิทรรศการของภูมิภาค 2. เมืองศูนยก์ ลางการคา้ การลงทุนและการคมนาคมขนส่ง Northern Landport จังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพ้ืนฐาน การคมนาคม และโลจิสติกส์ เช่ือมโยงกับ กลุม่ ประเทศอนุภูมภิ าคลุ่มแม่น้าโขง มีสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 6 ล้านคนต่อปี และรองรับการขนส่งสินค้า จานวน 20,000 ต่อปี ส่วนการคมนาคมทางบก มีความพร้อมที่จะเช่ือมต่อการคมนาคมทางบก เส้นทาง R3A กบั สาธารณรัฐประชาชนจนี ซ่ึงจะเป็นการเพิม่ ศกั ยภาพดา้ นการค้าการทอ่ งเที่ยวเป็นอย่างดี 3. เมืองแห่งเกษตรปลอดภัย Northern Food Valley จังหวัดเชียงใหม่กาหนด ตาแหน่งการพัฒนาไปสู่การเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย และเลือกใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ มาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงซึ่งจะทาให้อุตสาหกรรมอาหารของ ภาคเหนือสามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก รวมถึงการสร้างขีดความสามารถการผลิตสินค้า ปลอดภัยและอุตสาหกรรมต่อเน่ืองด้านอาหารของจังหวัดเชียงใหม่สู่การเป็น ครัวโลกได้ อยา่ งยั่งยนื ต่อไป 4. เมืองศูนยก์ ลางการศึกษานานาชาติส่สู ากล Education Hub จังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางการศึกษาของภูมิภาค มีสถาบันการศึกษาจานวนมากต่อการพัฒนาทรัพยากร มนุษย์ท่ีมีคุณภาพให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพ่ือสามารถดารงชีวิตในสังคมอาเซียนได้อย่างมี คุณภาพ 5. เมืองน่าอยู่ Eco-Town Eco-Village จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะเดียวกันเป็นเมืองที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการขยายตัวด้านการท่องเท่ียว การค้าการลงทุน และการย้ายถ่ินฐาน เพ่ือ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างย่ังยืนควบคู่ไปกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ การค้าการลงทุนในระยะยาว จังหวัดเชียงใหม่จึงให้ความสาคัญกับการจัดพ้ืนที่เมืองท่ีเป็นมิตร ตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม **********************


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook