Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการเลี้ยงแพะ (โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย พื้นที่ตำบลส้าน)

คู่มือการเลี้ยงแพะ (โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย พื้นที่ตำบลส้าน)

Published by เนติพงษ์ ต่างใจ, 2021-09-03 14:54:15

Description: คู่มือการเลี้ยงแพะ (โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย พื้นที่ตำบลส้าน)

Keywords: การเลี้ยงแพะ

Search

Read the Text Version

โ ค ร ง ก า ร 1 ตํา บ ล 1 ม ห า ว ท ย า ลั ย คู่มือการ เลียงแพะ เพือวิสาหกิจชุมชนส่งเสรมิ การเลียงแพะตําบลส้าน



คมู่ อื การเลยี งแพะ

แพะ GOAT \"แพะ\" เปนสตั วเ์ ลียงลูกด้วยนมเคียวเอืองชนิด Capra hircus ในวงศ์ Bovidae เปนสัตวก์ บี คูข่ นาดกลาง มคี วามอดทนแขง็ แรงและทนทานตอ่ โรคได้ดี กวา่ สตั วก์ บี คู่ชนดิ อืน ๆ สามารถปนปายทีสูงโดยเฉพาะโขดหนิ หรอภูเขาไดด้ ี ขน หยาบสดี าํ ขาว หรอนาํ ตาล มีเขา 1 คู่ ตัวผู้มเี ครา หางสัน วตั ถุประสงค์ในการเลยี งแพะ เพ่ือเป็นการสง เสรมิ การสรางอาชพี และสรางรายไดใหกับเกษตรกร เลีย้ งไวเ พ่ือจําหนายหรอื บรโิ ภค ประโยชนข์ องการเลยี งแพะ เลีย้ งแพะใชระยะเวลาสนั้ กวาเลีย้ งวัว แพะหากนิ เกง และกินใบไมไดห ลายชนิด แพะทนทานตอ ทกุ สภาพอากาศ แพะมขี นาดตวั เล็ก ใชพ้ืนท่ีน อย จัดการงาย แพะใหผ ลผลติ ไดท ัง้ เน้ือ นม หนังและขน สายพันธ์ุของแพะ สามารถแบง่ ตามสายพนั ธแุ์ พะทนี ิยมเลยี งในประเทศไทย เปน 2 ประเภทคอื พนั ธแุ์ พะทนี ําเขา้ มาจากตา่ งประเทศ และพนั ธแุ์ พะพนื เมอื ง(กรมปศสุ ตั ว,์ 2549) โดยแพะทนี ิยมเลยี งในประเทศไทยมดี งั นี พนั ธ์บุ อร์ (Boer) ปจจุบันประเทศไทยนิยมเลยี งแพะพันธน์ุ ีเปนจํานวนมากทีสดุ เพราะเปนแพะเนือทีมีขนาดรูปรา่ งใหญ่ ลาสนั มีลาํ ตัวใหญ่ยาวและ กว้าง มีกลา้ มเนือมากและมีลกั ษณะของกระดูกโครงรา่ งใหญ่แข็งแรง ลกั ษณะสลี าํ ตัวเปนสขี าวมีสนี าตาล - แดงทีหัวและคอโหนกนนู ดังจมูก โด่งและงุ้มลง เขาเอนไปด้านหลงั และงอโค้งลง ใบหูยาวและห้อยลง มีเคราแต่มีติง (Wattle) ทีใต้คอ

พนั ธ์ุแบล็คเบงกอล (Black Bengal) สว่ นมากลาํ ตัวมีสดี ําสนิทตลอดซึงพบเปนสว่ นมากในแพะพันธนุ์ ีแต่ อาจจะพบสอี นื ได้บ้างคือ สขี าวสนี าตาล สขี าวปนดําหรอื สนี าตาลปนดํา ลกั ษณะขนสนั เปนมันเงา ดังจมูกลาดตรง หน้าเลก็ สนั มีเขาและมีเคราทังตัว ผู้และตัวเมีย ใบหูมีขนาดเลก็ สนั แพะพันธนุ์ ีมีการให้ลกู แฝดสองสงู มากบาง ครงั อาจได้ลกู แฝดถึงสตี ัว พันธซ์ุ าเนน (Sanen) แพะพันธท์ุ ีให้ปรมิ าณนานมสงู มากจนได้รบั ฉายาว่าเปนราชินีแห่ง แพะนม มีถินกําเนิดอยูในประเทศสวิสเซอรแ์ ลนด์ มีสขี าวแต่บางตัวอาจจะเปน สคี รมี หรอื สเี ทามีติงใต้คอ 2 ติง หรอื อาจจะไม่มีติง แต่การมีติงถือเปนลกั ษณะดี ทีพึงประสงค์ ใบหูสนั ตังตรงชีไปข้างหน้า หัวมีลกั ษณะแบน ดังจมูกลาดตรง เรยี วยาว แนวสนั หลงั ตรงขนานไปกับพืน แม่แพะพันธซ์ุ าเนนนีมีอตั ราของการ คลอดลกู แฝดทีค่อนข้างสงู พันธุ์แองโกลนเู บียน (AngloNubian) ลาํ ตัวมีสหี ลายสตี ังแต่สดี ํานาตาลเทาและสขี าว ลกั ษณะทัวไป เปนแพะขนาดใหญ่ลาํ ตัวยาวและกว้างเมือโตเต็ม ลกั ษณะหัวโหนกนนู ใบหู ใหญ่ยาวและห้อยตกลง ดังจมูกโด่งและสนั จมูกโค้งงุ้ม ไม่มีติง (Wattle) ใต้ คอ ตัวผู้มักมีเคราแต่ตัวเมียไม่มี เขาจะมีลกั ษณะสนั เอนแนบติดกบหลงั หัว แพะพันธน์ุ ีให้นานมเฉลยี ประมาณวันละ 1 กิโลกรมั แม่แพะมีอตั ราของการ คลอดลกู แฝดสงู ข้อดีของแพะพันธน์ุ ีคือมีขนทีสนั และน่มุ ละเอยี ดเปนมันจึง สามารถทนทานและสามารถปรบั ตัวในสภาพอากาศรอ้ นได้ดี พนั ธุ์ทอกเก็นเบริ ์น (Toggenberg) แพะนมพันธท์ุ ีมีรูปรา่ งขนาดกลาง มีความสงู ทีวดั จากหัวไหล6่ 0-75 เซนติเมตร เพศผู้มีน้าหนัก ประมาณ 60กิโลกรมั และเพศเมียหนักประมาณ 45 กิโลกรมั หัวมีลกั ษณะแบน ดังจมูกลาดตรง ไม่มีเครา ไม่มีเขาทังตัวผู้และตวั เมีย มีติงใต้คอ่ ขนสนั มีสไี ด้หลากหลายสตี ังแต่น้าตาล น้าตาลแก่เทา แกมเหลอื ง มีสี ขาวแซมทีดังจมูกขอบใบหูปลายขาทัง 4 ขา้ ง และหาง ใบหูมีลกั ษณะทีสนั แต่ตงั ชันและชีไปข้างหน้า แพะพนื เมอื ง (Native goats) แพะพันธพุ์ ืนเมืองเปนแพะทีมีขนาดเลก็ มีการเลยี งและขยายพนั ธก์ุ ัน อย่างแพรห่ ลายในแถบชนบทในเขตภาคใต้ของประเทศไทย ลกั ษณะสขี องลาํ ตวั แพะ มีหลากหลายตังแต่สเี หลอื ง แดง นาตาลแดงนาตาลเข้ม ดํา หรอื อาจมี ลกั ษณะแบบสผี สม เช่น ขาวนาตาล ขาวดํา นาตาลดํา อาจพบลาํ ตัวแพะมีลายจุด ลสย เปนวง เปนแต้ม หรอื มีลายกระด่างกระดํา

การประมาณอายแุ พะ การประมาณอายุของแพะสามารถดไู ดจ ากฟั นของแพะ แพะมีฟั นลา ง 8 ซ่ี ฟั นแทของแพะจะงอก ขนึ้ มาแทนฟั นนํ้านมเป็ นคู ตัง้ แตอายุ 1 ปี ถึง 4 ปี และหลังจากแพะอายไุ ด 4 ปี แลว ฟั นแทจะ คอยๆหลุดไปซ่งึ จะเขาใจมากขึน้ เม่ือดูจากฟั นของแพะ อายุประมาณ 13-15 เดอื น ฟันแทซ ี่กลาง 2 ซ่ี งอกข้ึนมาแทนฟั นน้ํ านม อายุประมาณ 18 - 21 เดือน ฟันแทอีก 2 ซ่ี งอกเพม่ิ ข้ึนมาแทนฟันน้ํานม รวมเป็นฟันแท 4 ซี่ อายปุ ระมาณ 22 - 26 เดือน ฟันแทอีก 2 ซ่ี งอกเพิม่ ข้ึนมาแทนฟันน้ํานม รวมเป็นฟันแท 6 ซ่ี จึงเหลอื ฟันน้ํานม 2 ซีอ่ ยูด า นขา ง ขา งละ 1 ซ่ี อายปุ ระมาณ 27 - 32 เดือน แพะจะมีฟันแททัง้ 8 ซ่ี แพะโตเตม็ วัย แพะรุน แพะหน ุม แพะแรกเกิด

ลกั ษณะและวธกี ารเลยี ง การเลียงแบบผูกล่าม การเลียงแบบนีใชเ้ ชือกผูกล่ามทีคอ แพะแลว้ นาํ ไปผกู ใหแ้ พะหาหญ้ากนิ รอบบรเวณทีผูก โดยปกติ เชือกทีใช้ผูกลา่ มแพะมกั มีความยาวประมาณ 5-10 เมตร การ เลียงแบบนีผู้เลยี งจะต้องมีนาํ และอาหารแร่ธาตุไวใ้ ห้แพะกินเปน ประจาํ ด้วย ในเวลากลางคนื กต็ อ้ งนําแพะกลบั ไปเลยี งไวใ้ นคอก หรอเพิงทมี ที ีหลบฝน การผูกลา่ มแพะควรเลือกพนื ทีทมี รี ่มเงาที แพะสามารถหลบแดดหรอฝนไวบ้ ้าง หากจะให้ดีเมอื ฝนตกควร ไดน้ าํ แพะกลบั เขา้ เลยี งในคอก การเลยี งแบบปลอ่ ย การเลียงแบบปล่อยนมี กั จะปลอ่ ยแพะ ใหอ้ อกหากินอาหารเองในเวลากลางวนั โดยปกตมิ ักปล่อยแพะ หากินอาหาร ตอนสายแลว้ ไล่ต้อนกลับเขา้ คอกตอนเทยี ง หรอ ปลอ่ ยแพะออกหากินอาหารกนิ ตอนบา่ ยแลว้ ไลต่ อ้ นกลับเข้าคอก ตอนเย็น หากพนื ทีมีหญ้าอดุ มสมบูรณ์แพะจะกนิ อาหารเพียง 1-2 ชวั โมงกเ็ พียงพอแล้ว การเลียงแบบขังคอก การเลียงแบบนีจะต้องมกี ารสร้างโรงเรอนเพือขัง แพะไวใ้ นคอก แพะไมส่ ามารถออกจากพืนทีเพอื หา อาหารกินเองได้ ซงึ จะมีปลกู หญ้าสําหรับแพะหรอ ตัดหญา้ ให้แพะกินบ้าง ในคอกควรมีนําและอาหาร ข้น ซงึ การเลยี งแบบนจี ะใชเ้ งินลงทุนสงู การเลยี งแบบผสมผสานกบั การปลูกพชื การเลยี งแบบนี ทําการเลยี งได้ 3 ลกั ษณะ ทกี ล่าว ข้างตน้ แต่การเลียงลักษณะนี จะเลยี งแพะปะปนไป กับการปลกู พชื เช่น ปลูกยางพารา ปลกู ปาลม์ นํามนั และปลกุ มะพร้าว ในภาคใต้ โดยให้แพะหากินหญา้ ใต้ ยางทมี ีขนาดโตพอสมควร การเลียงแบบนีทําให้เราไม่ ตอ้ งออกแรงการเพาะปลกู เพียงอย่างเดยี ว

อาหารเลียงแพะ 1.อาหารหยาบ จาํ พวกหญาหรือพชื ผัก หญา เนเปี ยร พืชตระกูลหญา้ เปนพวกทีมีลําต้นและใบออ่ นนมิ ตน้ ไม่โตนักเช่น หญา้ ขน เนเปยร์ รูซี แพงโกลา เฮมิลฯลฯ พืชตระกลู ถัว ทังถวั กอตังและถวั ตน้ เลอื ยและไม้ยนื ต้นกระกูลถวั เชน่ ถัวลาย ถัวฮามาต้า กระถินและแคไทย ไมพ้ มุ่ และไมอ้ ืน ๆ เชน่ มนั สําปะหลงั กล้วย ต้นหม่อนไทย พทุ ธรักษา ชบา พ่รู ะหง และผักตา่ ง ๆ นอกจากนีแพะยงั ชอบกนิ ใบทองหลาง มะขามเทศ โสน และเถามันเทศ ฯลฯ พชื แหง้ หรอพชื หมัก โดยปกติแล้วไม่นยิ มใหแ้ พะกินอาหารพืชหมกั เนอื งจากมนี าํ ปน อย่มู ากถงึ 65-70% ถ้าให้แพะกนิ พชื หมัก 1.25-1.5 กโิ ลกรัมเท่ากบั กนิ หญ้าแหง้ 0.5 กิโลกรัม จงึ จะแทนกนั ไดแ้ พะทโี ตเตม็ ทีจะกินพชื หมักไดม้ ากทีสดุ วนั ละ 0.75-1 กโิ ลกรัม ข้อควรระวงั อยา่ ใหอ้ าหารพืชหมักเลยี งลูกแพะ เพราะจะทาํ ใหแ้ พะ ทอ้ งเสีย รอจนกระทงั อวยั วะระบบยอ่ ยอาหารสามารถทาํ งานได้เต็มทแี ล้วจึงจะกนิ ได้

2.อาหารขน้ อาหารข้นใช้สําหรบั เลียงแพะเพือแก้ปญหาการขาดแคลนสารอาหารทีไดร้ บั ไมพ่ อ เนืองจากการกินอาหารหยาบ โดยเฉพาะในฤดูแล้งทีหญ้าไม่พอกินและเสรมิ สําหรบั แพะนมที ต้องการสารอาหารจํานวนมาก ในระยะให้นมการให้อาหารข้นเลียงแพะจึงให้แต่เฉพาะทีจําเปน ตามความต้องการเท่านันจะไม่ให้จนแพะอว้ น เพราะแพะอว้ นง่ายและแพะอว้ นจะผสมติดยาก อาหารข้นสําหรบั แพะนมควรมีสัดส่วนโปรตีน 18-21% วัตถุดิบอาหาร ได้แก่ พวกเมล็ดธญั พืช เช่น กากถัวเหลือง กากถัวลิสงเมล็ดถัวเขยี ว มันเส้น ใบกระถินปนข้าวโพด ปลายขา้ ว ราํ ละเอยี ด

3.นํา แพะปรโิ ภคนาในปรมิ าณทมี าก ตลอดทงั วนั สาํ หรบั การเตรยี ม นาเนืองจากแพะเปนสตั วท์ มี ี อปุ นิสยั บรโิ ภคเพยี งแตน่ า สะอาดเทา่ นัน ผเู้ ลยี งจงึ ตอ้ ง หมนั ทาํ ความสะอาดดแู ล ภาชนะบรรจนุ าอยเู่ สมอ ไมใ่ หม้ ี ตะกอน ฝนุ เศษหญา้ หรอื ตะไครน้ าอยใู่ นภาชนะ 4.แร่ธาตุ หลกั การใหแ้ รธ่ าตสุ าํ หรบั แพะมี หลกั ในการใหเ้ หมอื นกบั การใหใ้ น สตั วจ์ าํ พวกววั คอื เพมื เสรมิ สรา้ ง แรธ่ าตใุ หก้ บั สตั วแ์ ละเพมิ เตมิ ใน สว่ นทขี าด รบั มาไมเ่ พยี งพอ จาก การบรโิ ภคอาหารเพอื ใหแ้ พะแขง็ แรงรวมทงั มสี ขุ ภาพทดี ไี มข่ าดสาร อาหาร

บรรณานุกรม 1. กองแผนงานกรมปศุสัตว.์ (2559). คู่มือการเลียงสตั วแ์ ละการดแู ลสขุ ภาพสัตว,์ สืบค้น เมอื 1 สิงหาคม 2564 จาก. http://planning.dld.go.th/th/index.php/th/zoning-menu/207-2016- 08-08-06-29-57 2. สภาเกษตรกรแห่งชาต.ิ (2561). การเลยี งแพะ, สืบค้นเมือ 1 สิงหาคม 2564. จาก. https://www.nfc.or.th/content/6877 3. วกิพเี ดีย สารานุกรมเสร. (2564). แพะ, สืบค้นเมอื 1 สิงหาคม 2564 จาก. https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%B0 4. บลอ็ คPrapathsara chamchuen. (2558). พืชอาหารสตั วใ์ นประเทศไทย, สืบคน้ เมือ 2 สิงหาคม 2564. จาก. http://prapathsaraoannroy.blogspot.com/2014/02/blog-post_4.html 5.อีสานร้อยแปด. (2561). การเลยี งแพะ ใชพ้ นื ทนี อ้ ย ขายไดท้ กุ สว่ น, สืบคน้ เมือ 2 สิงหาคม 2564. จาก. https://esan108.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80 %E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9 %81%E0%B8%9E%E0%B8%B0.html

จั ด ทาํ โ ด ย ทีมงาน U2T สา้ น นางธนันธรณ์ วฒุ ิญาณ ทปี รกึ ษาโครงการ 1 ตาํ บล 1 มหาวทิ ยาลยั พนื ทตี าํ บลสา้ น นางแอน สสี วรรค์ นางสาวกมลนิตย์ บุรนิ รมั ย์ นางสาวอภิสรา สคุ ํา นาย เนติพงศ์ ต่างใจ นางสาวสาวสภุ าลกั ษณ์ เตชา นางสาวสตุ าภัทร วงค์กองแก้ว นางสาวขวัญฤทัย กันใจ นายเสกสทิ ธิ แก้วใส นางสาวกัญญารตั น์ ปองตัน นางเพียรจิต ทานะ ว่าทีรอ้ ยตรหี ญิงปรางทิพย์ นรนิ ทรส์ กุล นายกษิดิศ กองตา นพคุณ นายรชั พล ดอนจันทร์ นายปรมินทร์ วงศ์กองแก้ว ทมี ทปี รกษาโครงการจากมหาวทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลมิ พระเกียรติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ตะวัน ฉัตรสงู เนิน .ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรศิลป มาลยั ทอง อาจารย์ ดร.เกษราพร ทิราวงศ์ อาจารย์ ดร.อาํ นวยพร ใหญ่ยิง นายสทิ ิไวกูล ทิราวงศ์ นายกิติพงษ์ วฒุ ิญาณ องค์การบรหารสว่ นตําบลส้าน นายด่านชัย ด่านทนะทรพั ย์ นายชิน พัฒนา นางสาวบุศราภรณ์ สมบัติปน นางสาววัชรี วรรณภพ นายสมชาย สทิ ธกิ า ขอขอบคณุ วิสาหกิจชุมชนสง่ เสรมิ การเลยี งแพะตําบลสา้ น Smart Tamboon San และผู้มีสว่ นเกียวข้องทุกท่าน