พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) 49
เครอ่ ื งถ้วย และเครอ่ ื งโต๊ะวดั สุทศั น์
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี เครอ่ ื งถ้วยและเครอ่ ื งโต๊ะวดั สุทศั น์ โดย พระมหาสุชาติ สุชาตเมธี เครื่องถวย อันเปนมรดกตกทอดทาง วัฒนธรรมมีมาแตจีน ไทยเราเรียกเครื่องถวยน้ัน หมายถึงเคร่ืองปนดินเผาเคลือบผิวเกล้ียงเกลา เงางามจําพวกกระเบ้ืองเคลือบน่ันเอง ท่ีท่ัวไป ฝรั่งเขาเรียกเซรามิก หรือพอรซเลน (ceramic – Porcelain) เครื่องถวยนั้นมีการเขียนลายสีตาง ๆ ที่เรียกวาลายคราม ลายสีอ่ืน ๆ ลายเบญจรงค ตลอดถึงเคร่ืองสังคโลก (วิธีทําเคร่ืองถวยใหมี รอยรานอยางสังคโลกน้ีฝรั่งเขาเรียกลายเซลาดอล ไทยทับศัพทเอาวา ศิลาดล) หรือใครจะเรียกวา เครื่องกังไส หรือฝรั่งกังไสก็เปนพวกเดียวกัน นับลงในเครื่องถวย ท้ังหมดเหลาน้ีก็มีมูลมาจาก จีนทําข้ึนกอนทั้งนั้น ท่ีจีนทําด้ังเดิมนั้นมักเขียน เปนลายจําพวกมงคลและวรรณกรรมของเขา เชนรูปเซียน รูปบุคคล ทิวทัศน สัตว ดอกไม ผลไม อักษร หรืออาวุธวิเศษอะไรตาง ๆ ลวนแต เปนลายท่ีแทนความมงคล เดิมทีเคร่ืองถวย ลวนเปนของแพรหลายในฐานะของใชและ เคร่ืองเรือน คําท่ีเรียกวาเครื่องถวยนี้ก็มาแต ถวยชาม หรือ ถวยโถโอชาม เรียกสั้น ๆ วา เคร่ืองถวย สมเด็จกรมพระยาดํารงราชานุภาพ เห็นจะทรงเปนตนบัญญัติคํานี้ เพราะมีปรากฏ อยูในพระนิพนธเร่ืองเคร่ืองโตะของพระองควา “ไทยเรายังไมมีคําเรียกเครื่องถวยวาอะไร เรียก ตามส่ิงของวา ถวยบาง กระเบ้ืองบาง จนทุกวันนี้ แตจีนเขาเรียกวา “ชื่อข่ี” บาง “ทาวข่ี” บาง 52
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) ขาพเจาไมมีคําอื่นจะเรียก จึงเรียกวาเครื่องถวย หรือท่ีพื้นขาวแลวเขียนลายดวยสีเดียว สองสี ในหนังสือน้ี…” เถาซฺฉือ ในภาษาจีนกลาง ไปถึงหาสี หรือกวาน้ัน ก็เรียกวาเคร่ืองถวยลาย ก็คือ เครื่องเซรามิก หรือที่เราเรียกเคร่ืองถวยน้ี เขียนสี บรรดาเคร่ืองถวยเหลาน้ีถาพิจารณาดู น่ันเอง ขอเลยไปคําวาถวยสักหนอย คําวาถวยน้ี กระบวนการทํามีลายวิธี แตหลัก ๆ เชน ปน เปนคําเกาแกตั้งแตจีนยุคกลางพวกบรรพบุรุษที่ เน้ือดินสีขาว (บางทีก็ดินดําแตเผาแลวทํา ใชตระกูลภาษาไท-กะไดโบราณก็ลวนมีคําวาถวย ปฏิกิริยาสุกแลวเปนสีขาวก็มี) เขียนลายกอน ใชมาแตเดิม คนไทยชะรอยจะใหความสําคัญ จึงเผา แลวก็เคลือบทับลายเขียนน้ันอีก เรียก ถ ว ย ก ว า ส่ิ ง อ่ื น ใ น ข อ ง ใ ช พ ว ก นั้ น จึ ง พู ด เ รี ย ง กันวาเขียนในเคลือบ หรือเขาเคลือบนํ้าเคลือบเผา เอาถวยไวหนาโถโอชามเสมอ คําวาถวยจะ แลวเอามาเขียนสีขางนอก เรียกกันวาเขียน ไมวินิจฉัยยืดยาวเพราะไมเขาเรื่องในที่นี้ สรุปวา บนเคลือบหรือวาเขียนนอกเคลือบก็ได อยางอื่น เ ค ร่ื อ ง เ ค ลื อ บ อ ย า ง ก ร ะ เ บื้ อ ง ห รื อ เ ซ ร า มิ ก ยังมีอีก เชนสังคโลก หรือลายเบญจรงคเปนตน โดยปริยายท้ัง ถวย โถ โอ ชาม ขวด แจกัน มีกระบวนการซับซอนกวาสองอยางแรก กระบอก กระถาง ฯลฯ ลวนหมายถึงเคร่ืองถวย ทั้งน้ัน บรรดาเคร่ืองถวยเหลาน้ีแรกเริ่มเดิมที ผลิตในจีน ท่ีมีมาแตเมืองฝรั่งก็มีบาง เม่ือเขามา เมื่อวากันโดยนิยมนักเลงของเกาหรือ ในไทยก็เปนของควรซื้อหาใชเปนเครื่องใชจริง พวกเลนเครื่องถวยก็หมายถึงเครื่องถวยกระเบื้อง เปนหลักเพราะเห็นของคงทนกวาเครื่องปนดินเผา ลายคราม ลายเขียนสี ลายเบญจรงค หรือ ตั้งแตสมัยอยุธยามาแลวก็มีการสั่งจีนใหเขียน เคร่ืองสังคโลกเปนหลัก ลวนแตตองเปนของเกา ลายอยางไทยทําเขามาเปนอยางออเดอร พวกน้ี ทั้ ง น้ั น จึ ง ถื อ ว า เ ป น ข อ ง มี ค า ม า ก เ พ ร า ะ อ า ยุ เปนลายไทยลายรามเกียรติ์หรือลายอื่นก็มีบาง อยางที่เราเอาคํามาเปรียบกับคนในเชิงวามี ตาดูก็รูทันทีเพราะเราคุนเคยลายอยางไทยชางจีน คุณคาประสบการณวา คนรุนลายคราม หรือ ไมคุนเขียนลายไมสูชางไทยจึงมองงาย เกาลายครามไมใชเกากะลา สวนของใหมที่ทํา อยางงาม ๆ สมัยน้ีก็มีคาในฐานะของแพงเทานั้น 53 ทั้งยังหาและสั่งทําไดตลอด แตของเกาแมไมงาม ก็ยังแพงไดเพราะอายุและจะหาทําอยางน้ัน ไมไดอีก ถาทําไดก็เปนแตทําเทียม บรรดา เครื่องถวยนี้ ท่ีเปนลายครามมีมากกวาอะไรอ่ืน ท่ีวาลายครามนั้นหมายถึงมีพื้นขาวแลวเขียนภาพ อะไรตาง ๆ ดวยสีครามท่ีโบราณวาสีเขียวคราม ตาคนสมัยนี้มองหนักไปทางน้ําเงิน สวนเครื่องสี ก็หมายถึงเคลือบท้ังภาชนะน้ันดวยสี จะเคลือบ เขียว เคลือบแดง เคลือบขาบ ฯลฯ มีแตสีเดียว
ทรี่ ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี มาเมื่อตนกรุงรัตนโกสินทรนี้ไทยเราได เหมือนกันแตไมไดใชจัดตั้งข้ึนบนโตะก็ไมเรียกวา คิ ด จั ด แ จ ง วิ ธี ก า ร ใ ช เ ค ร่ื อ ง ถ ว ย ขึ้ น ม า ไ ด อี ก เคร่ืองโตะ คือไมไดทําหนาท่ีบนโตะบูชา เราก็ อยางหนึ่งนอกจากใชใสของกินของใชและเปน เรียกแตเพียงวาเคร่ืองถวยเครื่องลายคราม เครื่องเรือน คือไดคิดเอามาตั้งเปนเคร่ืองบูชา อะไรไปเทาน้ัน การหาเครื่องโตะมีลายอยาง บนโตะสําหรับบูชาในทางเปนของมงคลอยางหนึ่ง ตาง ๆ มาจัดนั้นก็เรียกวาการ “คุมโตะ” เกิดมี จึงเกิดมีคําวา “เคร่ืองตั้ง” หรือ “เคร่ืองโตะ” คําบัญญัติขึ้นจากเรื่องการประกวดเครื่องโตะ ข้ึนมาอีกคําหน่ึง โตะบูชาอยางน้ีก็ไดอยางจีน เปนหลายคํา ชิ้นโตะนั้นมักนิยมเลี่ยมทองเหลือง เขามาเหมือนกัน ท่ีไหวพระ ไหวเจา ไหวอะไร ท่ีขอบปากช้ินในท่ีท่ีจะเล่ียมไดทุกชิ้น หาก ตาง ๆ เขาก็ใชโตะตัวหน่ึงต้ังเคร่ืองไหวข้ึนอยาง ไมเล่ียมก็ตองเปนช้ินที่ทาขอบทองมาแตแหลง สามัญ มีกระถางธูป เชิงเทียน ขวดปกดอกไม ผลิต เห็นเครื่องถวยท่ีเล่ียมนี้ที่ไหนก็สันนิษฐาน เปนหลัก นั่นเปนอยางจีน หากเราเขาไปใน ไดวาเปนช้ินเคร่ืองโตะไวกอนไมมีผิด ชาติอ่ืน วัดจีน หรือวัดญวน ก็จะเห็นโตะเชนวานี้เขาตั้ง ไมมีใครนิยมเลี่ยมขอบอยางเรานี้ กระบวนหรือ เครื่องไหวน้ันไว เปนของสามัญ แตพูดถึงของ วิธีการจัดโตะน้ันก็มีข้ันตอนและตําราไมไดสักแต ไทยนั้นไดเอาโตะเครื่องต้ังอยางน้ันมาประดิษฐ ตั้งไปสง ๆ ลวนตองมีหลักในการบูชาข้ึนกอนคือ จัดวางเครื่องต้ังมากชิ้นวาปกติซ่ึงเคร่ืองตั้งเหลาน้ี ช้ินโตะน้ันตองเปนของสําหรับมงคลและสะอาด ลวนแตเปนเคร่ืองถวยกระเบ้ืองท้ังน้ัน นอกนี้ ควรสําหรับบูชาตามนิยม ถาต้ังโตะอยางธรรมดา ก็มีผาหนาโตะลายเขากันกับลายของเคร่ืองถวย ที่สุด (เขาเรียกกันวาโตะโขก) ช้ินหลักตองมี ผูกที่หนาโตะประกอบกันอีกชั้นหน่ึง ของบูชา ๘ ส่ิง ๙ ช้ิน เรียกตามวิธีจัดโตะ คือ ๑. ลับแล นอกจากมีดอกไมธูปเทียน ผลไม แลวไดคิด ๒. ขวดใหญปกดอกไมใน ๓. กระถางธูปใน จัดหาของควรบูชาและควรอวดอยางอื่นมา ๔ . ก ร ะ บ อ ก ป ก ธู ป ๕ . ก ร ะ ถ า ง ธู ป ห น า ประกอบหลายอยางเชน ลับแล กระถางปลูกวาน ๖. ขวดเล็กปกดอกไมหนา ๗. ชามใสลูกไมหนา เคร่ืองอาวุธวิเศษของเซียน ฯลฯ บรรดามีที่ และ ๘. เชิงเทียน ๑ คูรวมกันได ๙ ชิ้นพอดี คิดวางามวาดี ปนหนวย ถวยชา นาิกา ก็วางได ลวดลายของชิ้นโตะก็ตองสอดคลอง เร่ือง โตะเหลานี้ไวสําหรับบูชาเปนหลัก เปนท่ีนิยมกัน ลวดลายนี้มีหลาก ๆ กันไป สุดแตความสามารถ แพรหลายในหมูเจานายขุนนางตลอดไปถึง ของเจาของโตะจะขวนขวยหามาอวดกันไดซึ่ง คหบดีท้ังหลาย บรรดาเคร่ืองถวยที่ตั้งน้ันซ่ึง จําเปนตองใหวิเศษกวาของผูอื่น จะยกตัวอยาง ตองลวนเปนของงาม ๆ มีราคา เชน ลายฮกลกซ่ิว ลายเซียน ลายมังกร ลาย สิงโต (บางวารูปสนัขจีน) ลายกอบัว ลายอักษร ค ร้ั น มี ค ว า ม นิ ย ม ตั้ ง โ ต ะ ม า ก ขึ้ น แ ล ว ลายเขาไม ลายนกไม ลายหงส ลายเร่ือง ชั้นตอมาจึงไดเกิดการประกวดจัดโตะกันข้ึน วรรณกรรม ลายฮอ ลายส่ีแซ ฯลฯ จําแนกตาม เคร่ืองถวยที่ต้ังบนโตะที่ประกวดนี้ก็เรียกวา ลายไปรอยแปดพันเกา จะกลาวไวในนี้ไมหมด “ชิ้นเครื่องโตะ” เราจะเรียกวาเครื่องโตะก็ได เปนอันเขาใจ ของอยางอื่นเปนเคร่ืองถวยลาย 54
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) การประกวดเครื่องโตะน้ันมีมากเปน จึงเปนเหตุใหมีการเท่ียวหาสั่งทําเคร่ืองถวย อยางเอกในสมัยรัชกาลท่ี ๕ เปนพระราชนิยม เขามามากในรัชกาลที่ ๕ และไดเรียวลงไป อยางหนึ่งตลอดรัชกาล คือนิยมใน ๒ ทาง ในรัชกาลที่ ๖–๗ จากนั้นก็หมดความนิยมลง ทางแรกคือทางบุญ เมื่อมีพระราชพิธีสําคัญ เหลือแตเพียงในหมูนักเลนหาสะสม และ งานบุญงานออกเมรุเจานายและขุนนาง ก็จะ นักเก็งกําไรซื้อหาเก็บไวเทานั้น ผูสนใจในทางนี้ เ ก ณ ฑ บ ร ร ด า ผู มี เ ค ร่ื อ ง โ ต ะ นํา ไ ป จั ด ต้ั ง แ ต ง ประสงคจะทราบละเอียดก็ขอใหขวนขวาย สถานที่นัยวาเปนบรรณาการบุญในงานน้ัน ๆ ดูในทางตําราเร่ืองเคร่ืองโตะ โดยมีเปนพระนิพนธ แลวเลยไดอวดสายตาไดดวยก็ทํานองประกวด ของ สมเด็จฯ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ทางสายตา อีกทางหนึ่งเปนทางสนุกคือการ ตําราของทานอื่นก็พอมีบางแตนอย ในท่ีนี้จะ จั ด ป ร ะ ก ว ด ใ น ว า ร ะ ดั ง ก ล า ว ข า ง ต น ห รื อ ใ น ไมอธิบายไปยืดเยื้อถึงตํารา เพียงใหทราบวา วาระพิเศษนอกนี้ท้ังงานหลวงและงานราษฎร เ ค รื่ อ ง ถ ว ย น้ั น เ ป น ข อ ง มี ค า เ ป น ม ร ด ก ท า ง การประกวดนั้นถือเปนล่ําเปนสัน จนถึงมี วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง เ ร า โ ด ย เ ฉ พ า ะ ก า ร ป ร ะ ก ว ด พระราชบัญญัติกําหนดหลักการและหลักเกณฑ เ ค ร่ื อ ง โ ต ะ นั้ น เ ป น ข อ ง ไ ท ย เ ร า คิ ด ข้ึ น ไ ด แ ต ประกวดเคร่ืองโตะข้ึนในสมัยรัชกาลท่ี ๕ ช า ติ เ ดี ย ว แ ม แ ต จี น ก็ ห า ไ ด คิ ด เ ล น ป ร ะ ก ว ด อยางเราไม เครื่องโตะมีตั้งแตของพระเจาแผนดินซึ่ง เรียกวาโตะของหลวง ตลอดไปถึงเจานายขุนนาง เ ค รื่ อ ง ถ ว ย บ ร ร ด า ที่ ห า ม า ตั้ ง เ ป น และราษฎร การนิยมต้ังและประกวดเครื่องโตะ เคร่ืองโตะนั้น เดี๋ยวน้ีนอกจากของหลวงใน พระบรมมหาราชวัง วังเกาเจานาย มรดกของ ทานผูมีบรรดาศักด์ิและคหบดีแลว จะพบเห็น ไดตามพระอารามหลวงท่ัวไปแทบทุกวัดใน กรุงเทพฯและหัวเมืองใหญในอดีต เพราะเทาที่ ทราบมานั้น พระสงฆก็นิยมคุมเครื่องโตะ ไดเห็น บัญชีตั้งเครื่องโตะงานตาง ๆ ในสมัยโบราณน้ัน ปรากฏมีพระราชาคณะและพระสมณศักดิ์ได รวมต้ังเครื่องโตะดวยเกือบทุกคราว น้ีอยางหน่ึง การบูชาและของบูชาไมใครหางจากเรื่องวัดวา อาราม จึงเปนที่นิยมของวัดไดจัดหามาตั้งแตง สําหรับประจําพระอาราม โดยเฉพาะการตั้งโตะ รับเสด็จฯ ในงานหลวงเชนงานกฐินหลวงเปนตน เปนธรรมเนียมมาตั้งแตรัชกาลที่ ๕ หรือกอนน้ัน น้ีอยางหน่ึง อีกอยางหน่ึงทานวาบรรดาผูเปน เจาของโตะถวายไวแกวัดเอาบุญ หรือลวงลับไป 55
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี ลูกหลานเอาไปถวายวัดเสียก็มี แตเห็นวา ทรงบําเพ็ญพระราชกุศลถวายผาพระกฐินน้ัน สวนนอย เอาเปนวาในพระอารามตาง ๆ รวมกัน ต้ังโตะไวท่ีหนาเจดียเสมาตรงขามบันไดมุขลดซ่ึง แลวก็มากกวาใครที่จะมีได เปนทางเสด็จฯ ออก ๑ โตะ สําหรับต้ังชุด เครื่องตุกตา ฮก ลก ซิ่ว ทองเหลือง เรียกวา วัดสุทัศนเทพวราราม ก็เปนหนึ่งในบรรดา โตะสงเสด็จฯ กลับ รวมท่ีต้ังทั้งหมด ๒ แหง พระอารามหลวงสําคัญที่มีธรรมเนียมจัดต้ัง เปนจํานวน ๑๐ โตะพอดี เม่ือถึงวันเสด็จฯ เคร่ืองโตะเชนวาน้ีเหมือนกัน คือในเวลามีการ ใ น ช ว ง ส า ย ก็ ต อ ง เ ก ณ ฑ เ อ า แ ร ง ง า น ศิ ษ ย ย ก เสด็จพระราชดําเนินไปทรงบําเพ็ญพระราชกุศล เ ค ร่ื อ ง ถ า ย ชิ้ น โ ต ะ แ ล ะ กี๋ ไ ม สํา ห รั บ ร อ ง ช้ิ น ถวายผาพระกฐินประจําป วัดก็ต้ังโตะเปนการ เคร่ืองโตะตามท่ีไดตระเตรียมไวกอนนี้ไปต้ังไว รับเสด็จฯ และสงเสด็จฯ จะบรรยายใหฟงแต ตามโตะท่ีวามานั้น ตามตํารานิยม การวางน้ัน พอสมควรสําหรับวัดสุทัศนดังนี้ ช้ันเดิมในเวลา ใหวางบนกี๋ลดหล่ันกันใหมองเห็นของทุกชิ้น ใกลวันเสด็จพระราชดําเนินน้ัน พระสงฆใน ไดถนัด แตเชิงเทียนและลับแลนั้นไมตอง อารามท่ีรักษาเคร่ืองโตะไว ก็จะตองตระเตรียม วางบนกี๋ เสร็จแลวใสเครื่องบูชาใหพรอมทุกโตะ เครื่องโตะ คือ โตะโขก ผาหนาโตะ บรรดา บนโตะน้ันกําหนดต้ังเคร่ืองเปนแนวหนากระดาน ช้ินเครื่องถวยท่ีจะตั้งบนโตะ และของควรบูชา ไวหลัง กลางและหนาเปนสามแถว แถวหลัง คือ ดอกไม ธูปเทียน ผลไม ตนวาน เปนตน ตรงกลางตั้งลับแลใหสูงเดนเปนหลักกอน ใหปก กะเกณฑไวใหพรอม กอนเสด็จฯหน่ึงวันก็เกณฑ ดอกไมใสขวดปกขางลับแล ดอกไมนิยมดอก แรงงานศิษยเอาโตะโขกไปตั้งไวประจําที่ คือ เบญจมาศและดอกซอนกลิ่นเปนหลัก กระบอก ต้ังโตะสําหรับชุดเครื่องเครื่องตุกตาโปยเซียน เครื่องเซียนก็ใสเครื่องเซียนบรรดาของวิเศษ ทองเหลือง ๑ โตะ ตั้งไวหนาเกงจีนทางขึ้น จํา ล อ ง คื อ จํา พ ว ก ด า บ ไ ม ไ ม เ ท า ข ลุ ย พระวิหารตรงหนาประตูที่เสด็จฯเขามา น้ีเรียกวา พัดใบกลวย ก่ิงไผ เปนตน และปกหางไกฟา ต้ังรับเสด็จฯ ถัดน้ันไปก็ขึ้นไปที่มุขโถงพระวิหาร ไวคูหนึ่งขนาดยาวสักหนอย ใครเคยชมงิ้วก็จะ หลวงทิศเหนือซึ่งเปนทางเสด็จข้ึนพระวิหารหลวง เห็นที่หมวกงิ้วนักรบนั้นติดหางไกฟายาว ๆ ไว เพื่อทรงนมัสการพระพุทธศรีศากยมุนีพระปฏิมา เขาเรียกวา หลิงจ่ือ ก็คือหางไกฟาอยางเดียวกัน ประธาน ที่มุขโถงนั้นตั้งโตะสําหรับเครื่อง นี้เอามาปกไวในกระบอกน้ัน ถัดลงมาหวางกลาง ลายคราม ลายมังกร ลายสิงโต ลายฮกลกซิ่ว โตะปกธูปจีนดอกโตยาวสักสองคืบกําลังงาม และลายเขาไม ที่เสาหวางทางเสด็จฯ ๔ โตะ ๓ ดอก ไมมีก็ใชธูปหอมไทยหัวโตก็ได ขาง ถัดนั้นไปที่มุขโถงฝงทิศใตซึ่งเปนทางเสด็จฯ ลง กระถางธูปเปนกระบอกใหปกธูปคือเอาธูปที่ จากพระวิหาร ที่เสาทั้ง ๔ เสาน้ันตั้งโตะสําหรับ ยังไมไดจุดใสลงไวใหเอาหางธูปข้ึนทํานองวา เครื่องลายครามคือลายกอบัว ลายดอกพุดตาน ใสไวสําหรับหยิบไปจุด ท่ีเปนขวดใหปกบรรดา เครื่องเขียนสีลายหองสิน ลายเซียน อยางละโตะ เหรียญท่ีระลึกเหรียญรางวัลเคร่ืองโตะที่ไดรับมา รวมโตะรับเสด็จฯ ที่พระวิหารหลวงนี้มี ๙ โตะ ประจําเครื่องโตะนั้น ถาไมมีก็ปกดอกไมแต สวนท่ีพระอุโบสถซึ่งเปนสถานท่ีประกอบพิธี 56
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) ใหยอม ๆ ขวดหรือกระบอกใบหนึ่งปกไมขนไกไว ดานหลังเล็กนอยถือเทียนชนวนไวระดับอก ถาเปนขวดทรงน้ําเตาก็ปกดามแผนโลหะรูป เมื่อจวนจะเสด็จฯ เขาประตูวัด ฟงจาก เปลวเพลิง ถัดออกมาขางหนานิยมต้ังชาม เสียงบรรเลงดุริยางคเปนสัญญาณ ก็จุดธูปเทียน ใบเข่ืองและใบยอมไวก่ีใบก็ไดแต ๓–๔ ใบ ท้ังหมด โตะไหนท่ีมีกระทงดอกไมธูปเทียนแพ ก็พองาม ในชามใหใสผลไมบรรดาท่ีมงคล หรือ ต้ังไวก็เปดกรวยกระทง แลวถอยมายืน ณ ท่ีเกา ใสขนมไหวแหง ๆ เชนพวกขาวพองถั่วตัด วางเทียนชนวนไวท่ีหลังโตะ เม่ือเสด็จผานก็ เคร่ืองจันอับ ผลไมอยางหน่ึงตอชามใบหน่ึง โคงคํานับถวายความเคารพ การที่ศิษยประจํา จะงามดี เชน สมโอ สม แกวมังกร ท่ีขอบขาง โตะอยางนี้มีขอดีคือ ทั้งกอนและหลังเสด็จฯ ของโตะท้ัง ๒ ขางวางกระถางวาน สําหรับ จ ะ ไ ด เ ฝ า ร ะ วั ง ล ม พั ด เ ค ร่ื อ ง โ ต ะ ห ล น ห รื อ มี ไวปลูกตนวาน วานท่ีมีหัว ใบเรียวเล็กขนาด ผูหยิบฉวยเอาช้ินไปเพราะงานอยางนี้กอนและ ยอม ๆ จะงามดี ไมมีจะปลูกไมอะไรอ่ืนก็เลือก หลังเสด็จฯ ผูคนจอแจ แตเดี๋ยวนี้ศิษยไม ที่เปนมงคลนามขนาดอยางบอนไซก็ได ท่ีสุดแลว เพียงพอ ก็ใชเพียง ๒–๓ คน กะเวลาใหพอดี แถวหนาน้ันท่ีมุมทั้ง ๒ เชิงเทียนปกเทียนข้ีผ้ึง ชวยกันจุดเครื่องโตะไลเรียงไปใหเสร็จครบ ขนาดยาวพอดีไมสั้นเกินไปไมยาวเกินไปให ทุกโตะกอนเสด็จฯ เขาประตูพระวิหารเพียง พอเหมาะกับเชิงเทียน ตรงกลางตั้งกระถาง เล็กนอย เสร็จแลวไมตองเฝาอยูประจําที่โตะ เผาเครื่องหอมไวก็สําหรับเผาเคร่ืองหอม ท่ีต้ัง หลีกออกไปพักในที่ไมไกลนักรอเสด็จ ฯ กลับ กระถางธูปแทน ก็ปกธูปหางธรรมดา กระถางน้ี ก็จึงคอยเขาไปเก็บเครื่องโตะ ท่ีตองจุดธูปเทียน ตองไมใหญกวากระถางธูปหลัง นอกน้ีก็มีตลับ น้ีเปนธรรมเนียมบูชาอยางเต็มไมใชต้ังธูปเทียน สําหรับใสเนื้อไมคือกํายานท่ีจะเผาในกระถาง ไวเฉย ๆ เทียบเอาพระเจาแผนดินเปนสมมติเทพ และมีขวดเล็ก ๆ ช้ินหน่ึงใสอุปกรณสําหรับ แลว ก็คือจุดธูปเทียนบูชาเทวดาน่ันเอง บรรยาย เผาเครื่องหอมคือตะเกียบทองเหลืองคู ๑ และ ไวแตพอประมาณเทานี้กอน รูปพล่ัวทองเหลืองสําหรับเข่ียเถาเครื่องหอม อีกช้ินหนึ่งสุดทายคือขวดหนาปกดอกไมขนาด บ ร ร ด า เ ค รื่ อ ง ถ ว ย ท่ั ว ไ ป แ ล ะ ที่ เ ป น ยอมหรือเล็กใหพอเหมาะอยาใหใหญจนดอกไม เคร่ืองโตะของวัดสุทัศนเทพวรารามนี้มีเปน ไปบังเครื่องถวยขางหลัง ที่เหลือนอกน้ีเปนของ จํานวนมาก เก็บรักษาไวท่ีตําหนักสมเด็จ อวดเชนตุกตารูปสัตว นาิกา ตลับหรือ พระสังฆราช (แพ) คณะ ๖ เคร่ืองถวยเหลานี้ กลองลายครามรูปแปลก ๆ ก็ตั้งตามพอใจที่จะ เปนของสมเด็จพระวันรัต (แดง) และสมเด็จ เห็นวาดีงาม ถาเปนชุดท่ีชาซึ่งมีปนมีถ้ําและ พระสังฆราช (แพ) ยังปะปนกันอยู แตดวยบัดนี้ ถวยชาก็ใหมีใบชาและรินนํ้าชาไวดวย เปนอัน เปนเวลาท่ีกรมศิลปากรไดเร่ิมงานชวยเหลือวัด เสร็จ เมื่อถึงเวลาเสด็จฯ ก็ใหจุดธูปเทียน ในการจัดพิพิธภัณฑที่ตําหนักน้ัน บรรดา บนโตะทุกโตะ วิธีจุดธูปเทียนนี้ ในชั้นเดิม เคร่ืองถวยก็เปนของชิ้นหนึ่งท่ีจะสมควรจัดแสดง มีศิษยเพียงพอก็ใหยืนประจําขางโตะเย้ืองมา ไวเปนเคร่ืองเชิดชูวัฒนธรรมอันประณีตดีงาม 57
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี ของผูคนในกาลกอนอันเปนมรดกตกทอดมาสู ยุคปจจุบัน 58 พระเดชพระคุณ พระพรหมวชิรมุนี (จติ ตฺ คตุ ตฺ มหาเถร) เจา อาวาสวดั สทุ ศั นเทพวราราม ไ ด ม อ บ ห ม า ย ก ร ม ศิ ล ป า ก ร ช ว ย ทํา ท ะ เ บี ย น เคร่ืองถวยและมหัคฆภัณฑโบราณวัตถุอยางอื่น ๆ ที่ตําหนักนั้นไวและทําคลังรักษาไว โดยทานได วิริยอุตสาหะใหทําการบูรณปฏิสังขรณตัวตําหนัก ท่ีชํารุดทรุดโทรมใหมั่นคงแข็งแรงใชเวลาหลายป โดยมุงหวังวาจะไดจัดทําใหเปนพิพิธภัณฑเก็บ และจัดแสดงศิลปโบราณวัตถุทางพระศาสนา และทางวัฒนธรรมของชาติ ทานไดปรารภวา ในการทําบุญอายุวัฒนมงคลครบ ๘๑ ป ใน พ.ศ. ๒๕๖๕ น้ี จะใหพิมพหนังสืออันเปน ประโยชนสักเลมหน่ึง ทานจึงไดพิจารณา เห็นสมควรวาใหถายภาพเคร่ืองถวยลงในหนังสือ ท่ีระลึกเลมน้ีเพ่ือถวายพระสงฆสามเณรและ แจกจายศิษยหาที่มารวมงาน แตเพราะบรรดา เครื่องถวยท้ังหมดน้ันไมสามารถจะนําออกมา จากคลังไดในคราวน้ีเพราะอยูในขั้นตอนการ เตรียมพ้ืนท่ีจัดทําพิพิธภัณฑและเงื่อนไขเวลา ที่จะจัดทําหนังสือนี้ใหทันนั้นมีไมมาก จึงไดแต นําภาพเครื่องช้ินโตะที่ใชรับเสด็จฯ ซ่ึงอยู นอกคลังมาลงไวแตเพียง ๒ โตะ เทาน้ัน คือ โตะลายสิงโต และโตะลายบุคคล และยังมี ช้ินอ่ืนท่ีเตรียมไวสํารองโตะอีกเล็กนอยเอามา ประกอบกันเพราะเห็นวางามใชไดไมอยางเอก ก็อยางโท และการบรรยายชิ้นตาง ๆ นั้นก็พอดี ไดทําในเวลาจวนเจียนเสียแลวไมมีเวลาพอ ที่จะคนควาเรียบเรียงใหพิสดารมากนัก จึงได มอบหมายใหผูเช่ียวชาญของสํานักพิพิธภัณฑ กรมศิลปากรบรรยายไวแตเพียงสังเขปเทานั้น
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แ ต ก็ พ อ เ ป น เ ค รื่ อ ง เ จ ริ ญ ต า เ จ ริ ญ ใ จ สํา ห รั บ นับถือยําเกรงไปโดยปริยายเพราะเปนผูทรง ผูรักเคร่ืองถวยและเครื่องโตะทํานองวาชิมลาง คุณคาในตัวเอง เปนบุคคลสําคัญท้ังของ ไปกอน ภายหลังหากไดจัดทําพิพิธภัณฑที่ วงศตระกูลลูกหลาน ขององคกร ของสังคม ตํา ห นั ก ส ม เ ด็ จ พ ร ะ สั ง ฆ ร า ช วั ด สุ ทั ศ น เ ส ร็ จ ของประเทศชาติ เพราะไดเปนผูส่ังสมความรู ส ม บู ร ณ แ ล ว ค ง จ ะ ไ ด เ รี ย บ เ รี ย ง ทํา ข้ึ น เ ป น ประสบการณท้ังปวงไวไดมากมายกวาผูอ่ืน หนังสือไดเลมใหญรวบรวมเคร่ืองถวยไวให ซ่ึงสิ่งเหลาน้ีหาจากไหนไมไดนอกจากคนท่ี บริบูรณยิ่งข้ึนไป ผานกาลเวลามาแลวเทานั้นเปนส่ิงท่ีประเมินคา ไมได ผูมีอายุมากเปนผูวางรากฐานมากอน เ ค ร่ื อ ง ถ ว ย แ ล ะ เ ค ร่ื อ ง โ ต ะ นี้ ถึ ง เ ป น และสงตอความรูวัฒนธรรมความดีงามทั้งปวง ของเกาบอบบางหลุดมือก็แตกหักงาย แตคุณคา สูคนรุนหลัง เปนผูที่ควรแกการบํารุงรักษา และมูลคาสูงยิ่ง ย่ิงเกายิ่งมี คามาก ควรแก เชิดชูช่ืนชมไวดุจนักอนุรักษและภัณฑารักษ คนเห็นคาจะเก็บรักษาไวดีย่ิงฉันใด คนเราก็ เฝาทะนุถนอมบํารุงรักษาและหวงแหนโบราณ เหมือนกันเมื่อมีอายุมากข้ึนเจริญวัยเปนปูยา วัตถุอันมีคาไวฉะนั้น ตายายแลว ก็ยอมไดรับความเคารพยกยอง 59
ทรี่ ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี จาน ทะเบียน สท.1449/2556.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน สมัยสาธารณรัฐ (ปลายพุทธศตวรรษที่ 25) จานพิมพลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) ดานในเปนรูปสุนัขจีน (สิงโต) เลน ลูกบอลถัก ฉากหลังเปนเมฆรายลอมลูกไฟ ดานหลังพิมพลายตนไผ ขอบปาก เล่ียมทองเหลือง 60
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) กระถาง ทะเบียน สท.1162/2556 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) กระถางธูปเขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลน ลูกบอลถัก ฉากหลังเปนเมฆรายลอมลูกไฟ ขอบปากเลี่ยมทองเหลือง ขอบกระถาง สลักอักษรภาษาไทย “พระเทพโมี” (สมณศักดิ์สมเด็จพระสังฆราช) และเลข “๑๑๘” สันนิษฐานวาเปนรัตนโกสินทรศก ตรงกับปพุทธศักราช 2442 61
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี เชิงเทียน (1 คู่) ทะเบียน สท.1258/2556.1 และ สท.1285/2556.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) เชิงเทียนทรงสี่เหล่ียมเขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ฉากหลังเปนเมฆรายลอมลูกไฟ เชิงเขียนลายคางคาวและลาย ประแจจีน ขอบปากเลี่ยมทองเหลือง 62
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แจกัน ทะเบียน สท.1477/2557 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) แจกันปากผาย คอสูง ลําตัวคอนขางตรง เขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ฉากหลังเปนเมฆรายลอมลูกไฟ ขอบปาก เล่ียมทองเหลือง กนแจกันมีตราอักษรจีนสีน้ําเงิน 4 ตัว เปนตราหางอานวา “ซุนหลี คุนจี้” สันนิษฐานวาผลิตจากเตาหลวง (จ่ิงเตอเจิ้น) มณฑลเจียงซี 63
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี แจกัน ทะเบียน สท.487/2556 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) แจกันทรงกระบอก เขียนลายสีนํ้าเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ขอบปากเลี่ยมทองเหลือง กนแจกันมีตราอักษรจีนสีน้ําเงิน 4 ตัว ช่ือหางซุนล่ีคุนจี้ 64
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แจกัน ทะเบียน สท.1348/2556 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) แจกันทรงกระบอกเจาะชองโปรงโดยรอบ เขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ฉากหลังเปนเมฆรายลอมลูกไฟ ขอบปาก เล่ียมทองเหลือง กนแจกันมีตราอักษรจีนสีนํ้าเงิน 4 ตัว ช่ือหางซุนลี่คุนจ้ี 65
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี ภาชนะเผาเครอ่ ื งหอม ทะเบียน สท.821/2556.1 และ สท.821/2557.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) กระถางพรอมฝาเขียนลายสีนํ้าเงินใตเคลือบ (ลายคราม) ดานในเปนรูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก มี 3 ขา ทํารูปหนาสิงห คอเขียนลายประแจจีน ถัดลงมา เขียนลายหรูหยูอี้ มีหู 2 หูปนติดเปนลายรูปสัตว ฝาเขียนลายเดียวกับกระถาง เจาะชองโปรงลายเหรียญกษาปณจีน (อีแปะ) ที่จับทําเปนรูปสุนัข 66
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) เชิงเทียน (1 คู่) ทะเบียน สท.1330/2556.1 สท.1330/2556.2 และ สท.1330/2556.3 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) เชิงเทียนเขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) ดานในเปนรูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ใตจานรองเขียนลายคางคาว สัญลักษณมงคลหมายถึงขอใหมีอายุยืน สวนขอบปาก จานรอง และเชิงเล่ียมทองเหลือง 67
ทรี่ ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี ชาม ทะเบียน สท.1390/2556 สท.1334/2556.1 และ สท.1148/2556.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) ชาม ๓ ใบเขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ฉากหลังเปนเมฆรายลอมลูกไฟ ขอบปากหยักคลายกลีบดอกไม เนื้อบาง ขอบปาก เล่ียมทองเหลือง กนชามใหญมีตราอักษรจีนสีนํ้าเงิน 4 ตัว อานวา “เปาจูลี่จี้” กนชามกลางมีตราอักษรจีนสีนํ้าเงิน 4 ตัว อานวา “ถงหยูหยังเฮา” กนชามเล็ก มีตราอักษรจีนสีน้ําเงิน 4 ตัว เปนตราหางอานวา “หยงเมาเยวี๋ยนจ้ี” สันนิษฐานวา ผลิตจากเตาหลวง (จิ่งเตอเจ้ิน) มณฑลเจียงซี 68
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แจกัน ทะเบียน สท.824/2556.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) แจกันปากผาย คอคอดสูง ลําตัวกลม เชิงเต้ีย เขียนลายสีนํ้าเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ขอบปากเลี่ยมทองเหลือง กนแจกัน มีตราอักษรจีนสีนํ้าเงิน 4 ตัว อานวา “เถาหยูเจินจั้ง” 69
ทรี่ ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี ตลับ ทะเบียน สท.1338/2556.1 และ สท.1338/2556.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) ตลับเขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก บนฝามีหูจับทําเปนรูปสุนัขจีน ขอบปาก ขอบฝา และขอบเชิงเลี่ยมทองเหลือง 70
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แจกัน ทะเบียน สท.1332/2556.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) แจกันปากผาย คอสูง ลําตัวคอนขาง ตรง เขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลน ลูกบอลถัก ขอบปากเลี่ยมทองเหลือง กนแจกันมีตราอักษรจีนสีน้ําเงิน 4 ตัว เปนตราหางอานวา “หมั่นถังฝูจี้” สั น นิ ษ ฐ า น ว า ผ ลิ ต จ า ก เ ต า ห ล ว ง (จ่ิงเตอเจ้ิน) มณฑลเจียงซี 71
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี แจกัน ทะเบียน สท.1395/2556 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) แจกันทรงกูปากผาย คอสูง สวนกลางแจกันปองออก เขียนลายสีนํ้าเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ขอบปากเล่ียมทองเหลือง 72
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) ชุดท่ีชาพรอ้ มกา ทะเบียน สท.1359/2556.4 สท.1359/2556.5 สท.1359/2556.6 สท.1359/2556.7 สท.1359/2556.1 สท.1359/2556.2 และ สท.1359/2556.3 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) ถวยปากผายเนื้อบาง เขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ขอบปากเลี่ยมทองเหลือง จานรองทรงสี่เหลี่ยมผืนผาเขียนลายเดียว กับถวย ขอบจานรองเลี่ยมทองเหลือง กาทรงกลม เขียนลายสีนํ้าเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ฝากาเขียนลายคางคาว สัญลักษณ มงคลหมายถึงขอใหมีอายุยืน หูจับทองเหลือง ขอบฝาและปลายพวยกาเล่ียม ทองเหลือง จานรองเขียนลายรูปบุคคลชาวตะวันตก ของเชิงหนา กนจานรองมีตรา อักษรจีนสีนํ้าเงิน 4 ตัว อานวา “ลั่วเซินเจินจั้ง” 73
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี โถ ทะเบียน สท.1337/2556.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) โถพรอมฝาเขียนลายสีนํ้าเงินใตเคลือบ (ลายคราม) ดานในเปนรูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ฉากหลังเปนเมฆรายลอมลูกไฟ ขอบฝาเล่ียมทองเหลือง 74
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แจกัน ทะเบียน สท.1353/2556 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) แจกันปากผาย คอสูง ลําตัวคอนขางตรง เขียนลายสีน้ําเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ขอบปากเล่ียมทองเหลือง กนแจกันมีตราอักษรจีน สีนํ้าเงิน 4 ตัว ชื่อหางซุนล่ีคุนจี้ มีอักษรภาษาไทย “พระเทพโมี” (สมณศักด์ิ สมเด็จพระสังฆราช) และเลข “๑๑๘” สันนิษฐานวาเปนรัตนโกสินทรศก ตรงกับ ปพุทธศักราช 2442 75
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี กระถาง ทะเบียน สท.830/2556.1 และ สท.830/2556.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) กระถางวานทรงสี่เหลี่ยมมุมตัด มี 4 ขา เขียนลายสีนํ้าเงินใตเคลือบ (ลายคราม) ดานในเปนรูปสุนัขจีน (สิงโต) เลนลูกบอลถัก ฉากหลังเปนเมฆรายลอมลูกไฟ ขอบฝาเล่ียมทองเหลือง 76
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) กระถาง ทะเบียน สท.1414/2556 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) กระถางเขียนลายสีนํ้าเงินใตเคลือบลายมังกรด้ันเมฆและลายเปลวไฟ ขอบปาก และสวนขาเขียนลายประแจจีน กนเขียนตัวอักษรจีน 4 ตัว อานวา เปาจูล่ีจี้ (โปจูล่ีกี่) 77
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี แจกัน ทะเบียน สท.1442/2556 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) แจกันปากผาย คอสูง ตัวเขียนลายสีนํ้าเงินใตเคลือบ (ลายคราม) รูปกิเลน ฉากหลัง เปนเมฆรายลอมลูกไฟ ขอบปากเล่ียมทองเหลือง กนแจกันมีตราอักษรจีนสีนํ้าเงิน 4 ตัว อานวา ตาหมิงเหนียนจื่อ แตผลิตในสมัยชิง คร่ึงแรกพุทธศตวรรษท่ี 25 78
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) ลับแล ทะเบียน สท.398/2557 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) ลับแลเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพสตรีประกอบลายใบกลวย เขามอ ฉากหลัง เขียนเปนลายมงคล มีภาพตนสน อยูในกรอบไมฉลุลาย 79
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี กระถางธูป ทะเบียน สท.275/2557.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) กระถางธูปทรงกลม 3 ขา เขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเรื่องในวรรณกรรมจีน (ลายกตัญู) อยูในกรอบสี่เหล่ียม และลายดอกไมกานขดสีชมพู เหลือง น้ําเงิน บนพื้นสีเขียว ขอบปากเล่ียมทองเหลือง 80
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) เชิงเทียน (1 คู่) ทะเบียน สท.223/2557.1 และ สท.223/2557.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) เชิงเทียนเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเร่ืองในวรรณกรรมจีน มีรูปบุคคลคลาย เทพเจา ดอกไม และลายของมงคล 81
ทรี่ ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี แจกัน ทะเบียน สท.202/2557 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) แจกันปากผายทรงกระบอกสูง เขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเรื่องในวรรณกรรม จีน และของมงคล ผลทับทิม เครื่องตั้ง ขุนนางจีน ขอบปากเล่ียมทองเหลือง ใชสําหรับจัดเคร่ืองโตะ เรียกกันวา “แจกันทรงกู” 82
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แจกัน ทะเบียน สท.201/2557 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) แจกันเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเรื่องรูปบุคคลในวรรณกรรมจีน ขอบปาก เลี่ยมทองเหลือง กนมีตราอักษรจีนสีแดงในกรอบส่ีเหลี่ยม 4 ตัว อานวา เฉียนหลง เหนียนจ้ือ 83
ทรี่ ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี แจกันทรงหกเหลี่ยม ทะเบียน สท.285/2557.1 และ สท.285/2557.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) แจกันทรงหกเหล่ียม แตละดานเจาะชอง ฉลุโปรง เขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพ เลาเรื่องในวรรณกรรมจีน (ลายกตัญู) ขอบปากทาสีทอง กนมีตราอักษรจีน ในกรอบสี่เหลี่ยมสีแดง 6 ตัว อานวา “ตาชิงเสียนฝงเหนียนจ้ือ” แปลวา ผลิตใน รัชศกเสียนฝง (Xianfeng) ตรงกับชวงรัชกาลท่ี 4 แหงกรุงรัตนโกสินทร 84
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แจกัน ทะเบียน สท.259/2557 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) แจกันทรงกระบอกเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเร่ืองในวรรณกรรมจีน ขอบปากทาสีทอง กนมีตราอักษรจีนสีแดงในกรอบสี่เหลี่ยม 4 ตัว 85
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี แจกัน ทะเบียน สท.283/2557 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 24–25) แจกันทรงกระบอก เขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเร่ืองในวรรณกรรมจีน (ลายกตัญู) สวนลางเขียนลายกลีบบัว 86
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) ภาชนะเผาเครอ่ ื งหอมพรอ้ มก๋ี ทะเบียน สท.92/2557.1 สท.92/2557.2 และ สท.92/2557.3 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) กระถางเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเหอเหอเอเอเซียน หรือฮัวฮะ มี 2 หูปน ติดเปนรูปสัตว สวนคอกระถางเขียนลายเมฆและลายคางคาว มี 3 ขา ทําเปนหนา รูปสัตว ฝาทําดวยไมฉลุโปรงเปนรูปเหรียญกษาปณจีน (อีแปะ) จุกฝาปนติดรูป สุนัขจีนเลนลูกบอล กี๋ 4 ขา เขียนลายเมฆและลายกานขด ขอบเขียนสีทอง 87
ทรี่ ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี ภาชนะเผาเครอ่ ื งหอม ทะเบียน สท.261/2556.1 และ สท.261/2557.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) กระถางเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเร่ืองในวรรณกรรมจีน มี 2 หูปนติดลาย คลายเกลียวเชือก มี 3 ขา ฝาทําดวยไมฉลุโปรงรูปทรงคลายควัน จุกฝาทําคลายรูป พระภิกษุจีนนั่ง 88
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แจกัน ทะเบียน สท.93/2557.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) แจกันปากผาย คอคอดคอนขางสูง ลําตัวตรงเปนทรงกระบอก มีเชิงเต้ีย เขียนลายสี บนเคลือบเปนภาพสตรีประกอบลายใบกลวย และตัวอักษรจีน สันนิษฐานวาเปน โคลงกลอนบทกวี ใชประกอบเครื่องโตะเปนขวดหนาปกตะเกียบและพล่ัว กนมี ตราอักษรจีนสีแดง 4 ตัว อานวา “กวนเหยาปงเจา” 89
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี ตลับ ทะเบียน สท.215/2557.1 และ สท.215/2557.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) ตลับทรงกลมแปนเขียนลายสีบนเคลือบ ฝาตลับเปนภาพเลาเรื่องในวรรณกรรมจีน ตัวตลับเขียนลายดอกไม 90
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) ตลับพรอ้ มจานรอง ทะเบียน สท.291/2557.1 สท.291/2557.2 และ สท.291/2557.3 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน สมัยสาธารณรัฐ (ปลายพุทธศตวรรษท่ี 25) ตลับพรอมจานรองเขียนลายสีบนเคลือบ ฝาตลับเขียนเปนบุคคลในวรรณกรรมจีน ตัวตลับเขียนสีลายดอกไม ขอบตลับเล่ียมทองเหลือง จานรองเขียนลายมังกร ด้ันเมฆ ขอบสีทอง กนจานรองมีตราอักษรจีนสีแดง 4 ตัว อานวา “กงซีเนยเจา” สันนิษฐานวาผลิตจากแหลงเตาในมณฑลกวางตง 91
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี ชามฝาพรอ้ มจานรอง (ก้ายหว่าน) ทะเบียน สท.242/2557.1 สท.242/2557.2 และ สท.242/2557.3 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) ชามกายหวานสําหรับชงชาพรอมฝาและจานรองเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพ เลาเรื่องในวรรณกรรมจีน (ลายกตัญู) มีรูปบุคคลสลับตัวอักษรจีน สันนิษฐานวา เปนโคลงกลอนบทกวี จานรองเจาะชองกลมสําหรับสวมกนถวย สวนฝากับกนมี ตราอักษรจีนสีแดงในกรอบสี่เหลี่ยม 6 ตัว เปนตรารัชศกตาชิงถงจ้ือเหนียนเจา (Tongzhi) 92
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) ถ้วย (ท่ีชาพรอ้ มถาด) ทะเบียน สท.250/2557.2 และ สท.216/2557.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) ถวยเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเรื่องในวรรณกรรมจีน มีภาพบุคคล ดานหลัง เขียนลายภูมิทัศน ขอบปากเลี่ยมทองเหลือง ถาดทรงรีพรอมฝาเขียนลายสี บนเคลือบ บนฝาเจาะชองโปรงรูปเหรียญกษาปณจีน (อีแปะ) เขียนภาพดอกไม สวนตัวถาดเขียนภาพเลาเร่ืองในวรรณกรรมจีน มีภาพบุคคล ดานหลังเขียนลาย ภูมิทัศน 93
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี ตลับ ทะเบียน สท.218/2557.1 และ สท.218/2557.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) ตลับทรงกลมสูงเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเร่ืองในวรรณกรรมจีน 94
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) แจกัน ทะเบียน สท.226/2557 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) แจกันทรงนํ้าเตาเขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเร่ืองในวรรณกรรมจีน คลายเทพเจาจีน 9 องค 95
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี แจกัน ทะเบียน สท.224/2557.1–.2 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษท่ี 25) แจกันปากผาย คอสูง เขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเร่ืองในวรรณกรรมจีน หองสิน กนมีตราอักษรจีนสีแดงในกรอบสี่เหล่ียม 6 ตัว เปนตรารัชศกตาชิงถงจ้ือ เหนียนเจา (Tongzhi) ใบหน่ึง อีกใบหนึ่งเขียนรูปบุคคลคลายขุนนาง ฉากหลัง เปนภาพทิวทัศน กนมีตราอักษรจีนสีแดงในกรอบสี่เหล่ียม 4 ตัว 96
พระพรหมวชิรมุนี (เชิด จติ ฺตคุตฺตมหาเถร) ชาม ทะเบียน สท.212/2557.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 25) ชามใสลูกไม เขียนลายสีบนเคลือบเปนภาพเลาเร่ืองในวรรณกรรมจีน เปนรูปบุคคล คลายเทพเจาจีน ขอบปากเลี่ยมทองเหลือง สวนกนมีตราอักษรจีนสีแดงในกรอบ สี่เหล่ียม 6 ตัว เปนตรารัชศกตาชิงถงจ้ือเหนียนเจา (Tongzhi) สันนิษฐานวา ผลิตจากเตาหลวง (จ่ิงเตอเจ้ิน) มณฑลเจียงซี 97
ทร่ี ฦกอายุวฒั นมงคล ๘๑ ปี แจกัน ทะเบียน สท.278/2557.1 ศิลปะ/อายุ/สมัย ศิลปะจีน ราชวงศชิง (ราวพุทธศตวรรษที่ 24–25) แจกันปากผาย คอคอด ลําตัวชวงบนผายออกแลวสอบลง เขียนลายสีบนเคลือบ เปนภาพเลาเรื่องในวรรณกรรมจีน ลายทิวทัศน และอาคารในวัฒนธรรมจีน 98
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120