Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรต่อเนื่องเชื่อมโมง ม.3

หลักสูตรต่อเนื่องเชื่อมโมง ม.3

Published by a.sri_05, 2023-06-23 11:36:16

Description: คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ

Search

Read the Text Version

หลกั สูตรรายวชิ าเพม่ิ เตมิ คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ Computer and Information for Careers โรงเรยี นบ้านทุง่ คาโตนด สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร ปี การศึกษา ๒๕๖๖

ก คำนำ INTRO DUCTION หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม รายวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ของโรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด อาเภอสวี จังหวัดชุมพร มีจุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ เพื่อให้ ผเู้ รยี นมคี วามเขา้ ใจหลักการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่องานอาชีพ การใช้โปรแกรม สาหรับงาน สานักงาน การใช้อินเทอร์เน็ตและไปรษณีย์อีเล็กทรอนิกส์ การใช้คอมพิวเตอร์และระบบ สารสนเทศเพื่องานอาชีพ ติดตั้งอุปกรณ์รอบข้างและระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ จัดทา เอกสาร ตารางทาการ และนาเสนอผลงาน สืบค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต และปลูกฝังให้มี จรยิ ธรรมและความรับผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอรก์ บั ระบบสารสนเทศ เพ่อื นามาประยุกต์ใช้ใน การศึกษาต่อในระดับทีส่ งู ข้ึนและนาไปปรบั ในชีวิตประจาวัน โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด

สำรบญั Contents หลักสตู รรายวชิ าเพิ่มเตมิ คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนา้ คานา ก วิสยั ทศั น์ ๑ หลักการ ๑ จุดมงุ่ หมาย ๑ ๒ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ๓ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๙ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ๑๓ โครงสรา้ งหลกั สูตร ๑๕ โครงสร้างเวลาเรียนกลุ่มสาระวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๓๕ คาอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เตมิ ๔๔ โครงสรา้ งรายหน่วยการเรียนรู้ ๕๔ การออกแบบกระบวนการจัดการเรยี นรู้ ๕๖ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ๖๐ สื่อและแหล่งเรียนรู้ ภาคผนวก คณะผจู้ ดั ทา

๑ หลักสตู รรายวชิ าเพ่ิมเตมิ คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชพี กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วสิ ัยทศั น์ “สรา้ งพลเมืองดขี องชาติ ฉลาดใช้เทคโนโลยี มีเอกลกั ษณ์ รกั ษ์ความเป็นไทย” หลักการ ๑. พัฒนาความรู้ความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามศักยภาพของผู้เรียน และ สามารถนำไปเปน็ เครือ่ งมือในการเรียนรู้สง่ิ ต่าง ๆ และเป็นพ้ืนฐานสำหรับการศกึ ษาต่อ ๒. จัดกิจกรรมกระบวนการเรียนรู้อย่างหลากหลายต่อเนื่อง ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัด กระบวนการเรียนร้อู ย่างมคี วามสุข ๓. จัดแผนการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียน เพ่ือให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีตามความถนดั และความสนใจ ๔. พัฒนาบุคลากรของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้มีความรู้และทักษะ ตลอดจนนำประสบการณ์มาใช้ในการเรยี นการสอนโดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคญั ๕. มกี ารนิเทศและตดิ ตามอย่างเป็นระบบในดา้ นการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖. จัดการเรียนการสอนโดยการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ในทุกรายวิชาอย่างเป็นรูปธรรม จดั กิจกรรมวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้นักเรียนกล้าแสดงออก และไดป้ ฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ตามความถนดั และความสนใจ ๗. จดั กิจกรรมนำเสนอผลงานนกั เรยี น – ครใู นงานนิทรรศการทางวิชาการภายในโรงเรียน ๘. สนับสนนุ สง่ เสรมิ ใหค้ รูผลติ ส่ือและนวัตกรรมประกอบการเรยี นการสอนตามเน้อื หาการเรยี นรู้ ๙. จัดกิจกรรมส่งเสริม พัฒนาผู้เรียนที่มีความสามารถ และช่วยเหลือผู้เรียนท่ีมีปัญหาด้านการ เรียนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑๐. วดั ผลและประเมินผลตามสภาพจริง ด้วยวิธีการท่ีหลากหลายให้ครอบคลุมทั้งทางด้านความรู้ ทักษะ/กระบวนการ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ จุดมงุ่ หมาย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดีมีปัญญา มีความสุขมี ศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชพี และผ้เู รยี นมีคุณภาพตามเกณฑ์ของคุณภาพผเู้ รยี นกลมุ่ สาระ การเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีเม่ือจบการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ดังน้ี ๑. มคี ุณภาพตามเกณฑข์ องคุณภาพผเู้ รยี นกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๒ ๒. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ มท่ีพงึ ประสงค์ เหน็ คุณค่าของตนเอง มวี ินยั และปฏิบตั ิตนตาม หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทตี่ นนับถือ ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๓. มคี วามรู้ ความสามารถในการสือ่ สาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี และมที กั ษะชวี ิต ๔. มีสุขภาพกายและสุขภาพจติ ทดี่ ี มีสุขนสิ ยั และรกั การออกกำลังกาย ๕. มีความรักชาติ มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถีชีวิต และการ ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข ๖. มีจติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย การอนุรกั ษแ์ ละพัฒนาส่ิงแวดล้อม มจี ิต สาธารณะท่ีมุ่งทำประโยชนแ์ ละสรา้ งสงิ่ ท่ีดีงามในสังคม และอยู่ร่วมกันในสงั คมอย่างมีความสุข สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีมุ่งพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพ้ืนฐานมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานท่ีกำหนด ซ่ึงจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ สำคัญ ๕ ประการ ดังนี้ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมทง้ั การเจรจาต่อรองเพื่อขจดั และ ลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนพัฒนาผ้เู รียนเตม็ ตามศักยภาพและเลอื กใช้วิธีการสอื่ สารทมี่ ปี ระสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่ี มีตอ่ ตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ สารสนเทศเพื่อการตัดสนิ ใจเก่ยี วกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม การจัดกิจกรรม การเรียนการสอน เน้นการพัฒนาทักษะการคิดทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน ท่ีหลากหลาย เช่น การสอน โดยการใช้ปญั หาเป็นฐาน (Problem Based Learning) ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรมู้ าใช้ใน การป้องกันและแกไ้ ขปัญหา และมีการตัดสินใจท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถึงผลกระทบ ท่ีเกิดขนึ้ ต่อตนเอง สงั คมและสิ่งแวดล้อม ดว้ ยการเรียนรู้โดยการปฏิบตั ิจรงิ ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๓ ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกัน ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม และการรู้จกั หลีกเล่ียง พฤติกรรมไม่พึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน ฝึกให้ผู้เรียน เรียนรู้ทักษะชีวิตด้วยการปฏิบัติ จริงในศูนยก์ ารเรียนร้เู ศรษฐกิจพอเพียง ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยี ด้าน ต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การ สื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม โรงเรียนได้จัดให้มี คอมพิวเตอรเ์ พยี งพอกับจำนวนนกั เรยี นและไดฝ้ ึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์อย่างทว่ั ถงึ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทย และพลโลก ตาม หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ดงั นี้ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถงึ คุณลกั ษณะทีแ่ สดงออกถงึ การเปน็ พลเมืองดขี องชาติ ธำรงไว้ ซง่ึ ความเป็นชาตไิ ทย ศรัทธา ยดึ มั่นในศาสนา และเคารพเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษตั ริย์ ผู้ท่ีรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือ ผู้ท่ีมีลักษณะซ่ึงแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความ สามัคคีปรองดอง ภูมิใจ เชิดชูความเป็นชาติไทย ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาท่ีตนนับถือและแสดงความ จงรกั ภักดตี อ่ สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ ตวั ชี้วัด ๑.๑ เป็นพลเมืองดขี องชาติ ๑.๒ ธำรงไวซ้ ่ึงความเปน็ ชาตไิ ทย ๑.๓ ศรทั ธา ยดึ มัน่ และปฏิบตั ติ นตามหลักศาสนา ๑.๔ เคารพเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ๒. ซื่อสัตยส์ ุจริต ซื่อสัตย์สุจริต หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดม่ันในความถูกต้องประพฤติ ตรงตาม ความเป็นจรงิ ต่อตนเองและผอู้ ่ืนทั้งทางกาย วาจา ใจ โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต ๒

๔ ผู้ท่ีมีความซื่อสัตย์สุจริต คือ ผู้ที่ประพฤติตรงตามความเป็นจริงทั้งทางกาย วาจา ใจ และยึด หลักความจริง ความถูกตอ้ งในการดำเนนิ ชีวติ มีความละอายและเกรงกลัวต่อการกระทำผิด ตวั ชว้ี ัด ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงตอ่ ตนเองทั้งกาย วาจา ใจ ๒.๒ ประพฤติตรงตามเปน็ จรงิ ต่อผ้อู น่ื ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ ๓. มวี นิ ัย มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดม่ันในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสงั คม ผู้ที่มีวินัย คือ ผู้ท่ีปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ ของครอบครัว โรงเรียน และสังคมเปน็ ปกติวนิ ัย ไม่ละเมดิ สทิ ธิของผู้อืน่ ตวั ชว้ี ดั ๓.๑ ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบงั คบั ของครอบครวั โรงเรียน และสังคม ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ใฝ่เรียนรู้ หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน แสวงหา ความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ผ้ทู ่ีใฝ่เรียนรู้ คือ ผู้ท่ีมีลกั ษณะซึ่งแสดงออกถงึ ความตั้งใจ เพียรพยายาม ในการเรียนและเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ด้วย การเลือกใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็น องค์ความรู้ แลกเปล่ียนเรียนรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ ตวั ชี้วดั ๔.๑ ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๒ แสวงหาความรูจ้ ากแหล่งเรียนรู้ ตา่ ง ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียนดว้ ยการเลือกใช้ ส่ืออย่างเหมาะสม สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการดำเนินชีวิต อย่างพอประมาณ มี เหตผุ ล รอบคอบ มคี ุณธรรม มภี มู ิคมุ้ กันในตวั ที่ดี และปรับตวั เพือ่ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ผู้ท่ีอยู่อย่างพอเพียง คือ ผู้ท่ีดำเนินชีวิตอย่างประมาณตน มีเหตุผล รอบคอบ ระมัดระวัง อยู่ รว่ มกับผู้อื่นดว้ ยความรับผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เห็นคุณคา่ ของทรัพยากรต่าง ๆ มีการวางแผนป้องกัน ความเสี่ยงและพรอ้ มรับการเปลีย่ นแปลง ตัวช้ีวัด โรงเรยี นบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๕ ๕.๑ ดำเนนิ ชวี ิตอย่างพอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม ๕.๒ มภี ูมิคุ้มกันในตวั ทด่ี ี ปรับตวั เพื่ออยูใ่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ๖. มุ่งมั่นในการทำงาน มุ่งมั่นในการทำงาน หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความต้ังใจและรับผิดชอบในการทำ หน้าที่การงาน ด้วยความเพยี รพยามยาม อดทน เพอ่ื ให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย ผู้ที่มุ่งมั่นในการทำงาน คือ ผู้ท่ีมีลักษณะซ่ึงแสดงออกถึงความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ท่ีได้รับ มอบหมายด้วยความเพียรพยามยาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วง ตามเป้าหมายทก่ี ำหนดดว้ ยความรับผิดชอบ และมคี วามภาคภูมใิ จในผลงาน ตวั ชีว้ ัด ๖.๑ ตั้งใจและรับผิดชอบในหน้าทก่ี ารงาน ๖.๒ ทำงานด้วย ความเพยี รพยายาม และอดทนเพ่ือให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย ๗. รักความเปน็ ไทย รักความเป็นไทย หมายถึง คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่าร่วมอนุรักษ์ สืบทอดภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่าง ถกู ตอ้ งและเหมาะสม ผู้ที่รักความเป็นไทย คือ ผู้ที่มีความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ช่ืนชม มีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์ สืบ ทอด เผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญูกตเวที ใช้ ภาษาไทยในการสอื่ สารอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ตวั ช้ีวัด ๗.๑ ภาคภมู ิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมคี วามกตญั ญูกตเวที ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการส่ือสารไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๗.๓ อนุรกั ษ์ และสืบทอดภมู ิปัญญาไทย ๘. จติ สาธารณะ มจี ิตสาธารณะ หมายถงึ คุณลักษณะท่ีแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือสถานการณ์ท่ี ก่อใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ผอู้ นื่ ชมุ ชน และสงั คม ดว้ ยความเต็มใจ กระตือรอื รน้ โดยไม่หวงั ผลตอบแทน ผู้ท่ีมีจิตสาธารณะ คือ ผู้ท่ีมีลักษณะเป็นผู้ให้และช่วยเหลือผู้อ่ืน แบ่งปันความสุขส่วนตนเพื่อทำ ประโยชน์แก่ส่วนร่วม เข้าใจ เห็นในผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม ด้วย แรงกาย สติปัญญา ลงมือปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสรรค์ สิ่งที่ดีงามให้เกิดในชุมชน โดยไม่หวังส่ิง ตอบแทน โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๖ ตวั ช้ีวัด ๘.๑ ช่วยเหลอื ผู้อ่ืนด้วยความเต็มใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน ๘.๒ เขา้ ร่วมกิจกรรมทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชุมชน และสังคม โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๗ เรียนรอู้ ะไรในวทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีมุ่งหวังให้ผู้เรียนได้เรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ท่ีเน้นการ เชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้ กระบวนการใน การสืบเสาะหาความรู้และแก้ปัญหาท่ีหลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ทุกขั้นตอน มีการทำ กจิ กรรมด้วยการลงมอื ปฏิบัตจิ รงิ อย่างหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชน้ั โดยกำหนดสาระสำคัญ ดังนี้ ✧ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต การ ดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์การดำรงชีวิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และ วิวฒั นาการของสงิ่ มชี ีวิต ✧ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร การ เคลอ่ื นที่ พลงั งาน และคล่นื ✧ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรู้เก่ียวกับ องค์ประกอบของเอกภพ ปฏิสัมพันธ์ ภายใน ระบบสุรยิ ะ เทคโนโลยอี วกาศ ระบบโลก การเปล่ียนแปลงทางธรณวี ทิ ยา กระบวนการ เปลี่ยนแปลงลมฟ้า อากาศ และผลตอ่ สิง่ มีชวี ติ และส่ิงแวดลอ้ ม ✧ เทคโนโลยี ● การออกแบบและเทคโนโลยีเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิต ในสังคมท่ีมีการ เปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อ แก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบ เชิงวิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และสิ่งแวดล้อม ● วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา เป็นข้ันตอน และเป็นระบบ ประยุกต์ใชค้ วามรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร ใน การแกป้ ญั หาที่พบในชีวิตจรงิ ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ✧ วิทยาศาสตรเ์ พิ่มเตมิ ผ้เู รยี นจะไดเ้ รยี นรสู้ าระสำคญั ดังนี้ ● การใช้โปรแกรมนำเสนอ เรยี นรู้เก่ียวกับความหมายของข้อมูล แหล่งข้อมลู ประเภทของขอ้ มูล ประโยชน์ของข้อมูล และรวบรวมข้อมูล ช่ือและหน้าท่ีของอุปกรณ์ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ การใช้ งานคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี การใช้งานโปรแกรม Microsoft PowerPoint ในการนำเสนอ จัดรูปแบบ ภาพน่งิ แทรกตารางและแผนภมู ิในงานนำเสนอ นำเสนองานภาพน่งิ ● การใช้โปรแกรมประมวลผลคำ เรยี นรู้เก่ียวกับการใช้งานโปรแกรม Microsoft Word ขั้นตอน การเข้า – ออกโปรแกรม Microsoft Word และบอกส่วนต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Word การ ทำงานของคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รับข้อมูล อุปกรณ์แสดงผลข้อมูล วิธีดูแลรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยี โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๘ สารสนเทศ การบันทึกข้อมูล การเปิดแฟ้มข้อมูล การคัดลอกข้อมูล การย้ายข้อมูล การวางข้อมูล แก้ไข ข้อมูล การพิมพ์เอกสาร การใช้โปรแกรม Microsoft Word ในการจัดทำเอกสาร สร้างช้ินงาน และ ประยุกต์ใช้โปรแกรมให้สอดคลอ้ งกบั กลมุ่ สาระต่าง ๆ ● การใช้โปรแกรมตารางงาน เรียนรู้เกี่ยวกับความหมาย บทบาทและประโยชน์ของเทคโนโลยี สารสนเทศ ช่ือและหน้าท่ีของอุปกรณ์และองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ความหมาย ประโยชน์และโทษ ของอินเทอร์เน็ตและสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ใช้งานโปรแกรม Microsoft Excel เบื้องต้น จัดรูปแบบ ของขอ้ มลู บนเวริ ์กชีต ใชส้ ูตรและฟังก์ชน่ั ในการคำนวณ ● การใช้โปรแกรมกราฟิก เรียนรู้ความเป็นมาและความหมาย คุณสมบัติ บทบาทและ ความสำคัญของงานกราฟิก การออกแบ การสร้างภาพหรือรูปกราฟิกพื้นฐาน ความแตกต่างของกราฟิก แบบ 2 มติ ิ การใช้เทคนิคตา่ ง ๆ หลกั การ Vector และ Raster สำหรบั การแต่งภาพ และการใช้ซอฟต์แวร์ ในการสร้างงานกราฟิกแบบ Vector และ Raster การสร้างภาพด้วยโปรแกรมกราฟิก ออกแบบ ตกแต่ง ผลงานเพอื่ นำไปใชก้ บั งานนำเสนอ งานออกแบบและเว็บไซต์ และงานดา้ นศลิ ปะอืน่ ๆ ● การตัดต่อวีดีโอ เรียนรู้หลักการ ความหมาย บทบาทและประโยชน์ของการตัดต่อวิดีโอแบบ ต่าง ๆ คุณสมบัติและมาตรฐานของวิดีโอ ไฟล์วิดีโอ ระบบโทรทัศน์ กระบวนการตัดต่อวิดีโอ เลือกใช้ โปรแกรมและคณุ สมบัติของเครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ี่เหมาะสมกบั งานการสรา้ งงานวิดีโอ ศึกษาคำส่งั เครอ่ื งมือ การใช้งานเบ้ืองต้น การจับวิดีโอ การแก้ไขไฟล์วิดีโอ การเพิ่มเทคนิคและสีสันให้กับวิดีโอ การซ้อนวิดีโอ การจัดทำข้อความประกอบในงานตัดต่อวิดีโอ การใส่เสียงประกอบ ตลอดจนการนำไฟล์วดิ ีโอไปใช้งานใน รูปแบบตา่ ง ๆ หลักการทำโครงงานทมี่ กี ารใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ วิธกี ารใช้เทคโนโลยีสารสนเทศนำเสนอ งาน ในรปู แบบท่ีเหมาะสม ● การใช้โปรแกรมสำเร็จผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เรียนรู้ความหมาย และประเภทของส่ือสิ่งพิมพ์ กระบวนการพิมพ์ การออกแบบส่ือส่ิงพิมพ์ การผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ แบบ Desktop Publishing การ จัดรูปแบบ การเลือกใช้ตัวอักษร การเลือกสี ประเภทของภาพและการเลือกภาพประกอบส่ือส่ิงพิมพ์ การ ผลิตและการจัดหน้าสิ่งพิมพ์ การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูป Desktop Publishing ในการสร้างส่ือ สง่ิ พมิ พ์ เพจ ● การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสร้างภาพเคลื่อนไหว เรียนรู้การ์ตูน หลักการวาดภาพการ์ตูนสอง มิติ หลักการทำงานของการ์ตูนแอนิเมช่ัน ข้ันตอนการผลิตการ์ตูนแอนิเมช่ัน และโปรแกรมสำหรับสร้าง การ์ตูนแอนิเมช่ัน ภาพเคลื่อนไหว การสร้างปุ่มเชื่อมโยง การแทรกเสียง การนำเสนองาน การเขียน Action Script การใช้เครื่องมือสำหรับสร้างการ์ตูนแอนิเมชั่น การสร้างวัตถุด้วยเครื่องมือต่าง ๆ การจัดการและการ ตกแต่งวตั ถุ การจัดการเกี่ยวกบั รูปภาพและตวั อักษร การสรา้ งภาพเคลื่อนไหว การจัดการไฟล์มัลตมิ ีเดีย การ ใชค้ ำสง่ั action script พืน้ ฐานและการเชือ่ มโยง การนำเสนอและการเผยแพรผ่ ลงาน ● คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ 1 ศึกษา เรียนรู้ และปฏิบัติเก่ียวกับการใช้ คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชีพ การใช้ระบบปฏิบัติการ (Windows หรือ Mac OS) การ โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๙ ใช้โปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word) หรือใช้โปรแกรมอ่ืน เพื่อจดั ทำเอกสารในงานอาชีพ การใช้ โปรแกรมตารางงาน (Microsoft Excel) หรือใชโ้ ปรแกรมอนื่ เพอื่ การคำนวณในงานอาชีพ ● คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ๒ ศึกษา เรียนรู้ และปฏิบัติเก่ียวกับการใช้ โปรแกรมนำเสนอผลงาน (Microsoft PowerPoint) หรือใช้โปรแกรมอ่ืน ตามลักษณะงานอาชีพ การใช้ อินเทอร์เน็ตเพื่อสืบค้นและสื่อสารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชีพ สร้างเว็บเพจผ่านโปรแกรมสร้างเว็บ (Dreamweaver) หรือใช้โปรแกรมอ่ืน ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จริยธรรมและความ รบั ผิดชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์และสารสนเทศในงานอาชพี สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต กับส่ิงมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอด พลังงาน การเปล่ียนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ ประชากร ปัญหาและ ผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปญั หาสิง่ แวดล้อม รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจาก เซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ ของอวัยวะต่างๆ ของพืชท่ี ทำงานสัมพันธก์ ัน รวมท้งั นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อส่ิงมีชีวิต ความหลากหลาย ทาง ชวี ภาพและวิวฒั นาการของสิง่ มชี ีวติ รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบตั ขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบัตขิ อง สสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการเปล่ียนแปลง สถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิด ปฏกิ ิรยิ าเคมี มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงท่ีกระทำต่อวัตถุ ลักษณะ การ เคล่อื นทแ่ี บบต่าง ๆ ของวตั ถุรวมท้งั นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๑๐ มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของ คล่ืน ปรากฏการณ์ ท่ีเกยี่ วข้องกบั เสียง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้ง นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซีดาว ฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทงั้ ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ท่ีส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการ ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายใน โลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้า อากาศและ ภูมอิ ากาศโลก รวมทั้งผลตอ่ สง่ิ มชี วี ิตและสิ่งแวดล้อม สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปล่ียนแปลง อย่าง รวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และ ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อ แก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต สังคม และ สง่ิ แวดล้อม มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ แก้ปญั หาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ ร้เู ท่าทัน และมจี ริยธรรม คุณภาพผู้เรยี น จบชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ❖ เข้าใจลักษณะและองค์ประกอบท่ีสำคัญของเซลล์ส่ิงมีชีวิต ความสัมพันธ์ของการทำงานของ ระบบตา่ ง ๆ ในร่างกายมนษุ ย์ การดำรงชีวติ ของพืช การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลง ของยีนหรือโครโมโซม และตวั อย่างโรคท่ีเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธกุ รรม ประโยชน์และผลกระทบ ของส่ิงมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ ปฏิสัมพันธ์ขององค์ประกอบของระบบนิเวศ และการถ่ายทอดพลังงานในสิ่งมชี ีวิต ❖ เขา้ ใจองค์ประกอบและสมบัติของธาตุ สารละลาย สารบรสิ ุทธิ์ สารผสม หลกั การแยกสาร การ เปล่ียนแปลงของสารในรูปแบบของการเปลี่ยนสถานะ การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี และ สมบัตทิ างกายภาพ และการใช้ประโยชนข์ องวัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวสั ดุผสม โรงเรยี นบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๑๑ ❖ เข้าใจการเคลื่อนที่ แรงลัพธ์และผลของแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุ โมเมนต์ของแรง แรงที่ปรากฏ ในชวี ิตประจำวัน สนามของแรง ความสัมพนั ธ์ของงาน พลังงานจลน์ พลังงานศักย์โน้มถ่วง กฎการอนุรักษ์ พลังงาน การถ่ายโอนพลังงาน สมดุลความร้อน ความสัมพันธ์ของปริมาณทางไฟฟ้า การต่อวงจรไฟฟ้าใน บ้าน พลังงานไฟฟ้า และหลกั การเบอื้ งต้นของวงจรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ❖ เขา้ ใจสมบัติของคล่ืน และลักษณะของคลื่นแบบตา่ ง ๆ แสง การสะทอ้ น การหักเหของแสง และทัศนปู กรณ์ ❖ เข้าใจการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ การเกิดฤดู การเคลื่อนที่ปรากฏของดวง อาทติ ย์ การเกิดข้างขนึ้ ข้างแรม การข้นึ และตกของดวงจันทร์ การเกิดนำ้ ข้ึนน้ำลง ประโยชน์ของเทคโนโลยี อวกาศ และความกา้ วหน้าของโครงการสำรวจอวกาศ ❖ เข้าใจลักษณะของช้ันบรรยากาศ องค์ประกอบและปัจจัยที่มีผลต่อลมฟ้าอากาศ การเกิดและ ผลกระทบของพายุฟ้าคะนอง พายุหมุนเขตร้อน การพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ การเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศโลก กระบวนการเกิดเช้ือเพลิงซากดึกดำบรรพ์และการใช้ประโยชน์ พลังงานทดแทนและการใช้ ประโยชน์ ลักษณะโครงสร้างภายในโลก กระบวนการเปล่ียนแปลงทางธรณีวิทยาบนผิวโลก ลักษณะช้ัน หน้าตัดดิน กระบวนการเกิดดิน แหล่งน้ำผิวดิน แหล่งน้ำใต้ดิน กระบวนการเกิดและผลกระทบของภัย ธรรมชาติ และธรณีพบิ ัติภัย ❖ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และส่ิงแวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ และทรัพยากรเพื่อออกแบบและสร้างผลงานสำหรับการแก้ปัญ หาใน ชีวิตประจำวันหรือการประกอบอาชีพ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมท้ังเลือกใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเครื่องมอื ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม ปลอดภยั รวมทัง้ คำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา ❖ นำข้อมูลปฐมภูมิเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศได้ ตามวตั ถปุ ระสงค์ ใช้ทักษะการคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทีพ่ บในชวี ิตจริง และเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย เพ่ือช่วยในการแกป้ ัญหา ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารอยา่ งรู้เท่าทนั และรับผิดชอบต่อสงั คม ❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาที่เช่ือมโยงกับพยานหลักฐาน หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มีการ กำหนดและควบคุมตัวแปร คิดคาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สามารถนำไปสู่การสำรวจ ตรวจสอบ ออกแบบและลงมือสำรวจตรวจสอบโดยใชว้ ัสดุและเคร่ืองมือที่เหมาะสม เลือกใช้เครื่องมือและเทคโนโลยี สารสนเทศทเี่ หมาะสมในการเก็บรวบรวมข้อมูล ทง้ั ในเชงิ ปรมิ าณและคุณภาพท่ีไดผ้ ลเท่ยี งตรงและปลอดภัย ❖ วิเคราะห์และประเมินความสอดคล้องของข้อมูลท่ีได้จากการสำรวจตรวจสอบจาก พยานหลักฐาน โดยใช้ความรู้และหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการแปลความหมายและลงข้อสรุปและส่ือสาร โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๑๒ ความคิด ความรู้ จากผลการสำรวจตรวจสอบหลากหลายรูปแบบ หรือใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือให้ผู้อ่ืน เขา้ ใจได้อย่างเหมาะสม ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในสิ่งท่ีจะเรียนรู้ มีความคิด สรา้ งสรรค์เก่ียวกับเรื่องที่จะศึกษาตามความสนใจของตนเอง โดยใช้เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เช่ือถือได้ ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ แสดงความคิดเหน็ ของตนเองรบั ฟังความคิดเห็นผู้อน่ื และ ยอมรับการเปลีย่ นแปลงความรู้ทค่ี น้ พบ เมื่อมีข้อมูลและประจกั ษพ์ ยานใหม่เพิ่มข้ึนหรือโตแ้ ย้งจากเดมิ ❖ ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้และ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพ แสดงความช่ืนชม ยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น เข้าใจผลกระทบท้ังด้านบวกและด้านลบของการพัฒนาทาง วิทยาศาสตร์ต่อสิ่งแวดล้อมและต่อบริบทอื่น ๆ และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำโครงงานหรือสรา้ งชิ้นงาน ตามความสนใจ ❖ แสดงถึงความซาบซ้ึง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพ โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๑๓ โครงสรา้ งหลักสูตรช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรยี นบ้านทุง่ คาโตนด สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ รายวชิ า / กิจกรรม เวลาเรียน / ภาค รายวชิ า / กจิ กรรม เวลาเรียน / ภาค รายวิชาพน้ื ฐาน ๑๑ นก./๔๔๐ชม. รายวชิ าพ้ืนฐาน ๑๑ นก./๔๔๐ ชม. ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๑.๕ นก./๖๐ ชม. ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ ๑.๕ นก./๖๐ ชม. ค๒๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ ๑.๕ นก./๖๐ ชม. ค๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖ ๑.๕ นก./๖๐ ชม. ว๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และ ๑.๕ นก./๖๐ ชม. ว๒๓๑๐๒ วิทยาศาสตร์และ ๑.๕ นก./๖๐ ชม. เทคโนโลยี ๕ เทคโนโลยี ๖ ส๒๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ๑.๕ นก./๖๐ ชม. ส๒๓๑๐๓ สงั คมศึกษา ๑.๕ นก./๖๐ ชม. ศาสนาและวัฒนธรรม ๕ ศาสนาและวฒั นธรรม ๖ ส๒๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๕ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. ส๒๓๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๖ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. พ๒๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษาฯ ๕ ๑.๐ นก./๔๐ ชม. พ๒๓๑๐๒ สุขศกึ ษาฯ ๖ ๑.๐ นก./๔๐ ชม. ศ๒๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ ๑.๐ นก./๔๐ ชม. ศ๒๓๑๐๒ ศิลปะ ๖ ๑.๐ นก./๔๐ ชม. ง๒๓๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ ๑.๐ นก./๔๐ ชม. ง๒๓๑๐๒ การงานอาชีพ ๖ ๑.๐ นก./๔๐ ชม. อ๒๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ ๑.๕ นก./๖๐ ชม. อ๒๓๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๖ ๑.๕ นก./๖๐ ชม. รายวชิ าเพ่ิมเติม ๒.๕นก./ ๑๐๐ชม. รายวิชาเพม่ิ เติม ๒.๕ นก./๑๐๐ชม. ส๒๓๒๓๕ หน้าทพี่ ลเมือง ๕ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. ส๒๓๒๓๖ หน้าทพี่ ลเมือง ๖ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. ว๒๓๒๐๑ โครงงานวิทย์ ๕ ๐.๕ นก./๒๐ ชม ว๒๓๒๐๒ โครงงานวทิ ย์ ๔ ๐.๕ นก./๒๐ ชม ว๒๓๒๐๓ คอมพิวเตอรแ์ ละ ๑.๐ นก./๔๐ ชม. ว๒๓๒๐๔ คอมพิวเตอรแ์ ละ ๑.๐ นก./๔๐ ชม. สารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ๑ สารสนเทศเพื่องานอาชีพ ๒ ศ๒๓๒๐๑ ทัศนศิลป์ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. ศ๒๓๒๐๒ ทัศนศิลป์ ๐.๕ นก./๒๐ ชม. กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ๖๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๖๐ กิจกรรมแนะแนว ๒๐ กิจกรรมแนะแนว ๒๐ กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี ๑๕ - กจิ กรรมลกู เสอื /เนตรนารี ๑๕ กิจกรรมชมุ นมุ ๒๐ - กจิ กรรมชุมนมุ ๒๐ กิจกรรมเพ่ือสงั คมและ ๕ กจิ กรรมเพื่อสังคมและ ๕ สาธารณประโยชน์ สาธารณประโยชน์ โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต ๒

๑๔ รวมเวลาเรยี นท้ังสน้ิ ๖๐๐ รวมเวลาเรียนทั้งส้ิน ๖๐๐ รวมเวลาเรียนท้ังปี ๑,๒๐๐ ช่ัวโมง หมายเหตุ: หลกั สตู รทอ้ งถิ่น:เขตทางทะเลบูรณาการในรายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ หลักสูตรตา้ นทุจรติ :รายวชิ าการปอ้ งกันการทจุ ริตบูรณาการกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๑๕ โครงสรา้ งเวลาเรียนกลุม่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กำหนดกรอบโครงสร้าง เวลาเรียน ดังน้ี กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วชิ าเพ่ิมเติม) ระดับช้ัน ชื่อรายวชิ า เวลา (ชั่วโมง/ป)ี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ว๒๑๒๐๑ ระบบนิเวศป่าชายเลน ๔๐ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ ว๒๑๒๐๒ ระบบนเิ วศป่าชายเลน ๔๐ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ๔๐ ว๒๑๒๐๓ คอมพิวเตอร์ ๑ ๔๐ ว๒๑๒๐๔ คอมพิวเตอร์ ๒ ว๒๒๒๐๑ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๑ ๔๐ ว๒๒๒๐๒ โครงงานวิทยาศาสตร์ ๒ ๔๐ ว๒๒๒๐๓ คอมพวิ เตอร์ ๓ ๔๐ ว๒๒๒๐๔ คอมพิวเตอร์ ๔ ๔๐ ว๒๓๒๐๑ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๓ ว๒๓๒๐๒ โครงงานวิทยาศาสตร์ ๔ ๔๐ ว๒๓๒๐๓ คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ๑ ๔๐ ว๒๓๒๐๔ คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชพี ๒ ๔๐ ๔๐ โรงเรยี นบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๑๖ ความสัมพันธ์ระหว่างตวั ช้วี ดั และสาระการเรยี นรู้ ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปล่ียนแปลงอย่าง รวดเร็ว ใชค้ วามรูแ้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ เพ่ือแก้ปัญหาหรือพฒั นา งานอย่างมคี วามคดิ สร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สงั คม และส่งิ แวดล้อม ชนั้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๑ - - ป.๒ - - ป.๓ - - ป.๔ - - ป.๕ - - ป.๖ - - ม.๑ ๑. อธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยีใน • เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างหรือพัฒนาข้ึน ชวี ติ ประจำวัน และวิเคราะห์สาเหตุหรอื ปจั จัย ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งช้ินงานหรือวิธีการ เพ่ือใช้ ทส่ี ง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี แ ก้ ปั ญ ห าส น อ งค ว าม ต้ อ งก ารห รือ เพิ่ ม ความสามารถในการทำงานของมนุษย์ • ระบบทางเทคโนโลยีเป็นกลุ่มของส่วนต่าง ๆ ต้ังแต่สองส่วนข้ึนไปประกอบเข้าด้วยกันและ ทำงานร่วมกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์โดยใน การทำงานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบ ไปด้วยตัวป้อน(input) กระบวนการ(process) และผลผลิต (output) ที่สัมพันธ์กันนอกจากนี้ ร ะ บ บ ท า ง เท ค โ น โ ล ยี อ า จ มี ข้ อ มู ล ย้ อ น ก ลั บ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรุงการทำงานได้ตาม วัตถุป ระสงค์ซึ่งก ารวิเคราะห์ ระบ บ ท าง เทคโนโลยีช่วยให้เข้าใจองค์ประกอบและการ ทำงานของเทคโนโลยีรวมถึงสามารถ ปรับปรุง ใหเ้ ทคโนโลยีทำงานได้ตามต้องการ • เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตั้งแต่ อดีต จนถึงปัจจุบันซ่ึงมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจาก โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๑๗ ชน้ั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง ห ล า ย ด้ า น เช่ น ปั ญ ห า ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ความก้าวหน้า ของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สงั คม ๒ .ร ะ บุ ปั ญ ห า ห รื อ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ใน • ปัญหาหรือความต้องการในชีวิตประจำวันพบ ชีวิตประจำวัน รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและ ได้จากหลายบรบิทข้ึนกับสถานการณ์ที่ประสบ แนวคิดที่เก่ยี วข้อง กับปัญหา เชน่ การเกษตร การอาหาร • การแก้ปัญหาจำเป็นต้องสืบค้นรวบรวมข้อมูล ความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆท่ีเกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่ การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา ๓. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ • การวิเคราะห์ เปรียบเทียบและตัดสินใจเลือก เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ี ข้อมูล ที่จำเป็น โดยคำนึงถึงเง่ือนไข และ จำเป็น นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ ท รัพ ยากร ที่ มีอยู่ช่วยให้ ได้แน วท างการ ผอู้ ่ืนเข้าใจวางแผนและดำเนินการแก้ปญั หา แกป้ ญั หาทเ่ี หมาะสม • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้ หลากหลายวิธิ เช่น การร่างภาพ การเขียน แผนภาพ การเขยี นผังงาน • การกำหนดข้ันตอนและระยะเวลาในการ ทำงาน ก่อนดำเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้ ท ำงาน ส ำเร็จ ได้ ต าม เป้ าห ม าย แ ล ะ ล ด ข้อผิดพลาดของการทำงานท่อี าจเกดิ ขึน้ ๔. ทดสอบ ประเมินผลและระบขุ ้อบกพร่องที่ • การทดสอบและประเมินผลเปน็ การตรวจสอบ เกิดขน้ึ พร้อมท้ังหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข ชิ้นงานหรือวิธีการว่าสามารถแก้ปัญหาได้ตาม และนำเสนอผลการแก้ปัญหา วัตถุประสงค์ภายใต้กรอบของปัญหาเพ่ือหา ข้อบกพร่องและดำเนินการปรับปรุงโดยอาจ ทดสอบซ้ำเพือ่ ใหส้ ามารถแก้ปญั หาได้ • การนำเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิด เพ่ือให้ผู้อื่นเข้าใจเก่ียวกับกระบวนการทำงาน และชิ้นงานหรือวิธีการที่ได้ซ่ึงสามารถทำได้ ห ล า ย วิ ธี เช่ น ก า ร เขี ย น ร า ย ง า น ก า ร ท ำ แ ผ่ น นำเสนอผลงานการจัดนิทรรศการการนำเสนอ ผา่ นส่ือออนไลน์ โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๑๘ ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๕.ใชค้ วามรแู้ ละทกั ษะเก่ียวกับวสั ดุอปุ กรณ์ • วสั ดแุ ตล่ ะประเภทมีสมบตั ิแตกตา่ งกัน เชน่ ไม้ เครื่องมือ กลไก ไฟฟา้ หรืออเิ ล็ก โลหะ พลาสติก จงึ ต้องมกี ารวิเคราะหส์ มบตั เิ พ่ือ ทรอนกิ สเ์ พอื่ แกป้ ญั หาได้อยา่ งถกู ต้อง เลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน เหมาะสมและปลอดภัย • การสร้างช้ินงานอาจใช้ความรู้เรอ่ื งกลไกไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เชน่ LED บซั เซอร์มอเตอร์ วงจรไฟฟ้า • อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือ พัฒนาวิธกี ารมหี ลายประเภทต้องเลอื กใช้ให้ ถกู ต้องเหมาะสมและปลอดภัย รวมท้งั รู้จกั เกบ็ รกั ษา ม.๒ ๑. คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีท่ีจะเกิดข้ึน • สาเหตุหรือปัจจัยต่าง ๆ เช่นความก้าวหน้า โดยพิจารณาจากสาเหตุหรือปัจจัยท่ีส่งผลต่อ ของ ศาสตร์ต่าง ๆ การเปล่ียนแปลงทางด้าน การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีและวิเคราะห์ เศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรม ทำให้เทคโนโลยีมี เปรียบเทียบตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี โดย การเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อชีวิต สังคม • เทคโนโลยีแต่ละประเภทมีผลกระทบต่อชีวิต และสง่ิ แวดล้อ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน จึงต้อง วิเคราะห์เปรียบเทยี บขอ้ ดีขอ้ เสีย และตัดสินใจ เลอื กใช้ให้เหมาะสม ๒. ระบปุ ัญหาหรอื ความตอ้ งการในชุมชนหรือ • ปัญหาหรือความต้องการในชุมชนหรือท้องถิ่น ท้องถิ่นสรปุกรอบของปั ญ หา รวบรวม มีหลายอย่างข้ึนกับบริบทหรือสถานการณ์ท่ี วิเคราะห์ ข้อมูลและแนวคิดท่ีเกี่ยวข้องกับ ป ระ ส บ เช่ น ด้ าน พ ลั งงาน ส่ิ งแ ว ด ล้ อ ม ปญั หา การเกษตรการอาหาร • การระบุปัญหาจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ สถานการณ์ของปัญหาเพือ่ สรุปกรอบของปัญหา แล้วดำเนินการสืบค้นรวบรวมข้อมลู ความรู้จาก ศาสตร์ต่างๆ ที่เก่ียวข้อง เพ่ือนำไปสู่การ ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา ๓. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยวิเคราะห์ • การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือก เปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น ข้อมู ลที่ จำเป็ น โด ย ค ำนึ งถึ งเง่ือ น ไข แล ะ ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่นำเสนอ ทรัพยากรเช่น งบประมาณ เวลา ข้อมูลและ แนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจวางแผน สารสนเทศ วัสดุ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ ช่วยให้ ขั้นตอนการทำงานและดำเนินการแก้ปัญหา ไดแ้ นวทางการแก้ปญั หาทเ่ี หมาะสม อย่างเปน็ ขัน้ ตอน • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้ โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๑๙ ชนั้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หลากหลายวิธี เช่น การร่างภาพ การเขียน แผนภาพ การเขยี นผังงาน • การกำหนดข้ันตอนระยะเวลาในการทำงาน ก่อนดำเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้การทำงาน สำเร็จได้ตามเป้าหมายและลดข้อผิดพลาดของ การทำงานทอี่ าจเกดิ ขนึ้ ๔.ทดสอบประเมินผลและอธิบายปัญหาหรือ • การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบชิ้นงาน ข้อบกพร่องท่ีเกิดข้ึนภายใต้กรอบเง่ือนไข หรือวิธีการว่าสามารถแก้ปัญหาได้ตามวัตถุประสงค์ พร้อมท้ังหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไขและ ภายใต้กรอบของปัญหาเพ่ือหาข้อบกพร่องและ นำเสนอผลการแกป้ ัญหา ดำเนินการปรบั ปรุงให้สามารถ แก้ไขปัญหาได้ • การนำเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิด เพ่ือให้ผู้อื่นเข้าใจเก่ียวกับกระบวนการทำงาน และช้ินงานหรือวิธีการที่ได้ซึ่งสามารถทำได้ ห ล า ย วิ ธี เช่ น ก า ร เขี ย น ร า ย ง า น ก า ร ท ำ แ ผ่ น นำเสนอผลงานการจดั นิทรรศการ ๕.ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ • วสั ดุแตล่ ะประเภทมีสมบัตแิ ตกตา่ งกนั เช่น ไม้ เคร่อื งมอื กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โลหะ พลาสตกิ จงึ ต้องมีการวิเคราะหส์ มบตั ิเพื่อ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานได้อย่างถูกต้อง เลือกใช้ให้เหมาะสมกบั ลักษณะของงาน เหมาะสมและปลอดภยั • การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้ เร่อื งกลไกไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เช่น LED มอเตอร์ บัซเซอร์ เฟอื ง รอก ลอ้ เพลา • อุปกรณ์และเคร่ืองมือในการสร้างชิ้นงานหรือ พัฒนาวิธีการมีหลายประเภทต้องเลือกใช้ให้ ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัยรวมท้ังรู้จักเก็บ รกั ษา ม.๓ ๑. วิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการ • เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลตลอดเวลาตั้งแต่ เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีและความสัมพันธ์ อดีต จนถึงปัจจุบันซ่ึงมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจาก ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืนโดยเฉพาะ หลายด้าน เช่น ปัญหาหรือความต้องการของ วิทยาศาสตร์ หรือคณิ ตศาสตร์เพื่อเป็น มนุษย์ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ การ แนวทาง การแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน เป ลี่ ย น แ ป ล ง ท างด้ าน เศ รษ ฐ กิ จ สั งค ม วฒั นธรรมสิง่ แวดลอ้ ม • เทคโนโลยีมีความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตร์เป็น โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๒๐ ชนั้ ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง พื้นฐานความรู้ ที่นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี และเทคโนโลยที ี่ ได้สามารถเปน็ เครื่องมอื ท่ีใชใ้ น การศึกษาคน้ ควา้ เพื่อให้ได้มาซึ่งองคค์ วามรใู้ หม่ ๒. ระบุปัญหาหรือความต้องการของชุมชน • ปัญหาหรือความต้องการอาจพบได้ในงาน หรือ ทอ้ งถ่ินเพื่อพัฒนางานอาชีพ สรุปกรอบ อาชีพ ของชุมชนหรือท้องถิ่น ซ่ึงอาจมีหลาย ของ ปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและ ด้าน เช่น ด้านการเกษตร อาหาร พลังงานการ แนวคิดท่ีเก่ียวข้องกับปัญหา โดยคำนึงถึง ขนส่ง ความถกู ตอ้ ง ดา้ นทรพั ย์สนิ ทางปญั ญา • การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาช่วยให้เข้าใจ เงื่อนไขและกรอบของปัญหาได้ชัดเจน จากน้ัน ดำเนินการสืบค้นรวบรวมข้อมูลความรู้จาก ศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพ่ือนำไปสู่การ ออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา ๓. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ • การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือก เปรียบเทียบและตดั สินใจเลือกข้อมูลท่ีจำเป็น ขอ้ มลู ที่จำเป็น โดยคำนึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา ภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่นำเสนอ เง่ือนไขและทรัพยากร เช่น งบประมาณ เวลา แนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจด้วย ข้อมูลและสารสนเทศ วัสดุ เครื่องมือและ เทคนิค หรือวิธีการท่ีหลากหลายวางแผน อุปกรณ์ช่วยให้ได้แนวทางการแก้ปัญหาท่ี ข้ันตอน การทำงานและดำเนินการแก้ปัญหา เหมาะสม อยา่ งเป็น ข้นั ตอน • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทำได้ หลากหลายวิธี เช่นการร่างภาพ การเขียน แผนภาพการเขยี นผงั งาน • เทคนิคหรือวิธีการในการนำเสนอแนวทางการ แก้ปัญหามีหลากหลาย เช่น การใช้แผนภูมิ ตารางภาพเคลอ่ื นไหว • การกำหนดข้ันตอนและระยะเวลาในการ ทำงาน ก่อนดำเนินการแก้ปัญหาจะช่วยให้การ ท ำงาน ส ำเร็จ ได้ ต าม เป้ าห ม าย แ ล ะ ล ด ข้อผดิ พลาดของการทำงานทีอ่ าจเกดิ ขนึ้ ๔.ทดสอบประเมินผลวิเคราะห์และให้เหตุผล • การทดสอบและประเมนิ ผลเปน็ การตรวจสอบ ของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดข้ึนภายใต้ ชิ้นงานหรือวิธีการว่าสามารถแก้ปัญหาได้ตาม กรอบเง่ือนไข พร้อมท้ังหาแนวทางการ วัตถุประสงค์ภายใต้กรอบของปัญหาเพ่ือหา ปรบั ปรุง แกไ้ ขและนำเสนอผลการแก้ปญั หา ข้อบกพร่อง และดำเนินการปรับปรุงโดยอาจ ทดสอบซ้ำเพ่อื ให้สามารถแกไ้ ขปัญหาได้ โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๒๑ ชน้ั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง • การนำเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิด เพ่ือให้ผู้อ่ืนเข้าใจเก่ียวกับกระบวนการทำงาน และช้ินงานหรือวิธีการที่ได้ ซ่ึงสามารถทำได้ ห ล า ย วิ ธี เช่ น ก า ร เขี ย น ร า ย ง า น ก า ร ท ำ แ ผ่ น นำเสนอผลงานการจัดนิทรรศการการนำเสนอ ผา่ นสื่อออนไลน์ ๕. ใช้ความรู้และทักษะเก่ียวกับวัสดุอุปกรณ์ • วัสดุแต่ละประเภทมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น เคร่ืองมอื กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ให้ ไม้ โลหะ พลาสติก เซรามิก จึงต้องมีการ ถูกต้องกับลักษณะของงาน และปลอดภัยเพ่ือ วิเคราะห์ สมบัติเพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับ แก้ปัญหาหรอื พัฒนางาน ลักษณะของ งาน • การสร้างชิ้นงานอาจใช้ความรู้เรื่องกลไกไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เช่น LED LDR มอเตอร์ เฟือง คาน รอก ล้อ เพลา • อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างชิ้นงานหรือ พัฒนาวิธีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ ถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัย รวมทั้งรู้จักเก็บ รกั ษา มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่พี บในชีวติ จริงอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและ เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม ช้ัน ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. แก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้การลองผิดลอง • การแก้ปัญหาให้ประสบความสำเร็จทำได้โดย ถูกการเปรยี บเทียบ ใช้ ข้ันตอนการแกป้ ญั หา • ปัญหาอย่างง่าย เช่น เกมเขาวงกต เกมหาจุด แตกต่างของภาพ การจัดหนังสอื ใสก่ ระเปา๋ ๒.แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการ •การแสดงข้ันตอนการแก้ปัญหา ทำได้โดยการ แก้ปัญหา อย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ เขียน บอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ หรอื ข้อความ • ปญั หาอย่างงา่ ยเช่นเกมเขาวงกต เกมหาจุด แตกตา่ งของภาพ การจดั หนงั สอื ใสก่ ระเปา๋ ๓.เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์ • การเขียนโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับของ หรือสือ่ คำสง่ั ใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงาน • ตวั อยา่ งโปรแกรม เชน่ เขียนโปรแกรมส่ังให้ โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๒๒ ชน้ั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ตัวละครย้ายตำแหน่งย่อขยายขนาดเปล่ียน รปู ร่าง • ซอฟต์แวร์หรือส่ือท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรม เชน่ ใชบ้ ตั รคำสัง่ แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org ๔.ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดเก็บเรียกใช้ • การใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีเบ้ืองต้น เช่นการ ขอ้ มลู ตามวัตถปุ ระสงค์ ใช้ เมาส์ คีย์บอร์ด จอสัมผัส การเปิด-ปิด อุปกรณ์ เทคโนโลยี • การใช้งานซอฟต์แวร์เบื้องต้น เช่น การเข้า และ ออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การ จัดเก็บการเรียกใช้ไฟล์ ทำได้ในโปรแกรม เช่น โปรแกรม ประมวลคำ โปรแกรม กราฟิ ก โปรแกรมนำเสนอ • การสร้างและจัดเก็บไฟล์อย่างเป็นระบบจะทำ ให้ เรียกใช้ คน้ หาข้อมลู ได้ง่ายและรวดเร็ว ๕.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติ ตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ เช่น รู้จักข้อมูลส่วนตัว อันตรายจากการเผยแพร่ รว่ มกนั ดูแล รักษาอุปกรณ์เบ้ืองต้นใช้งาน ขอ้ มลู ส่วนตัว และไมบ่ อกข้อมูลส่วนตัวกับบุคคล อย่างเหมาะสม อ่ืนยกเว้นผู้ปกครองหรือครู แจ้งผู้เกี่ยวข้องเม่ือ ตอ้ งการความช่วยเหลอื เก่ยี วกบั การใช้งาน • ข้อปฏิบัติในการใช้งานและการดูแลรักษา อุปกรณ์เช่น ไม่ขีดเขียนบนอุปกรณ์ ทำความ สะอาดใชอ้ ุปกรณ์อย่างถูกวธิ ี • การใช้งานอย่างเหมาะสม เช่น จัดท่านั่งให้ถูก ต้องการพักสายตาเม่ือใช้อุปกรณ์เป็นเวลานาน ระมัดระวังอบุ ัตเิ หตุจากการใชง้ าน ป.๒ ๑. แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการ • การแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหา ท ำ ไ ด้ โ ด ย แก้ปัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใชภ้ าพสญั ลกั ษณ์ การเขียนบอกเล่า วาดภาพหรอื ใช้สัญลกั ษณ์ หรอื ขอ้ ความ • ปัญหาอยา่ งงา่ ยเช่น เกมตัวต่อ ๖ -๑ ๒ ช้ิน การแต่งตัวมาโรงเรยี น ๒. เขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ • ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น เขียนโปรแกรมสั่งให้ ห รือ ส่ื อ แล ะต รวจ ห าข้อ ผิ ด พ ล าด ข อ ง ตัวละครทำงานตามท่ีต้องการ และตรวจสอบ โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๒๓ ชนั้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง โปรแกรม ข้อผิดพลาด ปรับแก้ไขให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ กำหนด • การตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดทำได้โดยตรวจสอบ คำสั่ง ท่ีแจ้งข้อผิดพลาดหรือหากผลลัพธ์ไม่ เป็นไปตาม ท่ีต้องการให้ตรวจสอบการทำงานที ละคำส่งั • ซอฟต์แวร์หรือสื่อที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่ น ใช้ บั ต ร ค ำ สั่ ง แ ส ด ง ก า ร เ ขี ย น โ ป ร แ ก ร ม ,Code.org ๓. ใช้เทคโนโลยีในการสร้างจัดหมวดหมู่ • การใช้งานซอฟต์แวร์เบ้ืองต้น เช่น การเข้า ค้นหา จดั เก็บเรียกใช้ข้อมูลตามวตั ถปุ ระสงค์ และออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การ จัดเก็บการเรียกใชไ้ ฟล์ การแก้ไขตกแตง่ เอกสาร ทำได้ในโปรแกรม เช่น โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนำเสนอ • การสร้าง คัดลอก ย้าย ลบ เปลี่ยนช่ือ จัด หมวด หมู่ไฟล์ และโฟลเดอร์อย่างเป็นระบบจะ ทำให้ เรยี กใช้คน้ หาข้อมูลไดง้ ่ายและรวดเรว็ ๔.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติ ตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ เช่นรู้จักข้อมูลส่วนตัว อันตรายจากการเผยแพร่ รว่ มกนั ดูแล รักษาอุปกรณ์เบ้ืองต้นใช้งาน ข้อมูลส่วนตัว และไม่บอกข้อมูลส่วนตัวกับ อย่างเหมาะสม บุคคล อื่นยกเว้นผู้ป กครองหรือครู แจ้ง ผู้เกี่ยวข้องเมื่อ ต้องการความช่วยเหลือเก่ียวกับ การใช้งาน • ข้อปฏิบัติในการใช้งานและการดูแลรักษา อุปกรณ์เช่น ไม่ขีดเขียนบนอุปกรณ์ ทำความ สะอาดใช้อุปกรณอ์ ยา่ งถกู วิธี • การใช้งานอย่างเหมาะสม เช่น จัดท่านั่งให้ถูก ต้องการพักสายตาเม่ือใช้อุปกรณ์เป็นเวลานาน ระมดั ระวังอบุ ตั ิเหตุจากการใช้งาน ป.๓ ๑. แสดงอัลกอริทึมในการทำงานหรือการ • อลั กอริทึมเป็นขน้ั ตอนท่ีใช้ในการแก้ปัญหา แก้ปัญหา อย่างงา่ ยโดยใช้ภาพสัญลกั ษณ์หรือ • การแสดงอัลกอริทึม ทำได้โดยการเขียนบอก ขอ้ ความ เลา่ วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๒๔ ช้นั ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง • ตัวอยา่ งปัญหา เช่น เกมเศรษฐี เกมบนั ไดงู เกมTetris เกม OX การเดนิ ไปโรงอาหาร การ ทำความสะอาดหอ้ งเรยี น ๒. เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ • การเขียนโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับของ หรือส่ือ และตรวจห าข้ อผิดพ ลาดของ คำสง่ั ให้คอมพิวเตอร์ทำงาน โปรแกรม • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น เขียนโปรแกรมที่สั่ง ใหต้ วั ละครทำงานซ้ำไมส่ ้นิ สุด • การตรวจหาข้อผดิ พลาดทำได้โดยตรวจสอบ คำส่ัง ที่แจ้งข้อผิดพลาดหรือหากผลลัพธ์ไม่ เป็นไปตาม ท่ีต้องการให้ตรวจสอบการทำงานที ละคำส่ัง • ซอฟต์แวร์หรือส่ือที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่ น ใช้ บั ต ร ค ำ ส่ั ง แ ส ด ง ก า ร เขี ย น โป ร แ ก ร ม , Code.org ๓.ใช้อนิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ • อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ช่วยให้ การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกและรวดเร็วและ เป็นแหล่งข้อมูลความรู้ท่ีช่วยในการเรียนและ การดำเนินชวี ติ •เว็ บ เบ ร า ว์ เซ อ ร์ เป็ น โ ป ร แ ก ร ม ส ำ ห รั บ อ่ า น เอกสาร บนเวบ็ เพจ • การสบื คน้ ข้อมลู บนอินเทอร์เนต็ ทำได้โดยใช้ เว็บไซต์สำหรับสืบค้นและต้องกำหนดคำค้นที่ เหมาะสมจึงจะไดข้ อ้ มูลตามตอ้ งการ • ขอ้ มลู ความรู้ เช่น วธิ ีทำอาหาร วิธีพับกระดาษ เป็นรูปต่าง ๆ ข้อมูลประวัติศาสตร์ชาติไทย (อาจเป็นความรู้ในวิชาอื่น ๆ หรือเร่ืองท่ีเป็น ประเด็นทสี่ นใจในช่วงเวลานัน้ ) • การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยควรอยู่ใน การดูแลของครหู รือผ้ปู กครอง ๔.รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมูล • การรวบรวมข้อมูลทำได้โดยกำหนดหัวข้อท่ี โดยใช้ ซอฟต์แวร์ตามวัตถุประสงค์ ต้องการ เตรยี มอุปกรณ์ในการจดบนั ทึก • การประมวลผลอย่างง่าย เช่น เปรียบเทียบจัด กลมุ่ เรียงลำดบั โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต ๒

๒๕ ช้ัน ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง • การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลักษณะตาม ความเหมาะสม เช่น การบอกเล่า การทำ เอกสาร รายงาน การจัดทำป้ายประกาศ • การใช้ซอฟต์แวร์ทำงานตามวัตถุประสงค์เช่น ใช้ซอฟต์แวร์นำเสนอ หรือซอฟต์แวร์กราฟิก สรา้ งแผนภมู ิรปู ภาพใช้ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ท ำป้ ายป ระกาศห รือเอกสารรายงาน ใช้ ซอฟตแ์ วรต์ ารางทำงานในการประมวลผลข้อมลู ๕.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติ ตามข้อตกลงในการใช้อนิ เทอรเ์ น็ต เช่นปกป้องขอ้ มลู ส่วนตวั • ขอความช่วยเหลือจากครูหรือผู้ปกครองเมื่อ เกิดปัญหาจากการใช้งาน เมื่อพบข้อมูลหรือ บคุ คลที่ทำใหไ้ ม่สบายใจ • การปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ต จะทำให้ไมเ่ กดิ ความเสียหายตอ่ ตนเองและผู้อน่ื เช่น ไม่ใช้คำหยาบ ล้อเลียน ด่าทอ ทำให้ผู้อ่ืน เสียหายหรอื เสยี ใจ • ขอ้ ดีและขอ้ เสยี ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสอ่ื สาร ป.๔ ๑.ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาการ •การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ อธิบาย การทำงานการคาดการณ์ผลลัพธ์จาก หรือ เงื่อนไขท่ีครอบคลุมทุกกรณีมาใช้พิจารณา ปัญหา อยา่ งง่าย ในการ แก้ปัญหา การอธิบายการทำงานหรือ การคาดการณผ์ ลลัพธ์ • สถานะเร่ิมต้นของการทำงานที่แตกต่างกันจะ ให้ ผลลัพธ์ทแ่ี ตกต่างกนั • ตวั อยา่ งปัญหา เช่น เกม OX โปรแกรมที่มี การคำนวณ โปรแกรมท่ีมีตัวละครหลายตัวและ มีการสัง่ งานที่แตกต่างหรือมีการส่ือสาร ระหวา่ ง กันการเดนิ ทางไปโรงเรียนโดยวิธีการ ต่าง ๆ ๒. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย • การออกแบบโปรแกรมอย่างงา่ ย เ ช่ น ก า ร โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรือสื่อและตรวจหา ออกแบบ โดยใช้ storyboardหรือการออกแบบ ข้อผดิ พลาดและแก้ไข อลั กอริทมึ โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๒๖ ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง • การเขียนโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับของ คำสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน เพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ ตามความต้องการห ากมีข้อผิดพ ลาดให้ ตรวจสอบการทำงานทีละคำสั่ง เม่ือพบจุดท่ีทำ ใหผ้ ลลพั ธ์ ไม่ถกู ต้องใหท้ ำการแก้ไขจนกว่าจะได้ ผลลัพธ์ทถ่ี ูกต้อง •ตัวอย่างโปรแกรมท่ีมีเรื่องราว เช่นนิทานท่ีมี การโต้ตอบกับผู้ใช้ การ์ตูนสั้น เล่ากิจวัตร ประจำวันภาพเคลื่อนไหว • การฝึกตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของ ผู้อื่น จะช่วยพัฒนาทักษะการหาสาเหตุของ ปัญหาไดด้ ี ย่งิ ข้ึน • ซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, logo ๓.ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้และประเมิน • การใช้คำค้นท่ีตรงประเด็นกระชับ จะทำให้ ความนา่ เชือ่ ถอื ของข้อมลู ไดผ้ ลลพั ธ์ทรี่ วดเร็วและตรงตามความตอ้ งการ • การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น พิจารณาประเภทของเว็บไซต์ (หน่วยงาน ราชการสำนกั ขา่ วองคก์ ร) ผู้เขียน วันที่เผยแพร่ ขอ้ มูลการอ้างองิ • เม่ือได้ข้อมูลที่ต้องการจากเว็บไซต์ต่างๆ จะต้อง นำเนื้อหามาพิจารณาเปรียบเทียบ แล้ว เลือก ขอ้ มูลท่ีมีความสอดคลอ้ งและสัมพันธก์ ัน • การทำรายงานหรือการนำเสนอข้อมูลจะต้อง นำข้อมูลมาเรียบเรียงสรุปเป็นภาษาของตนเอง ทเ่ี หมาะสมกบั กลุ่มเปา้ หมายและวิธกี ารนำเสนอ (บูรณาการกบั วิชาภาษาไทย) ๔.รวบรวมประเมนินำเสนอข้อมูลและ • การรวบรวมข้อมูล ทำได้โดยกำหนดหัวข้อที่ สารสนเทศโดยใชซ้ อฟตแ์ วรท์ ี่หลากหลายเพื่อ ต้องการ เตรยี มอปุ กรณ์ในการจดบันทึก แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั • การประมวลผลอย่างง่าย เช่น เปรียบเทียบจัด กลมุ่ เรียงลำดบั การหาผลรวม • วิเคราะห์ผลและสร้างทางเลือกท่ีเป็นไปได้ ประเมนิ ทางเลือก(เปรียบเทยี บ ตดั สิน) โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต ๒

๒๗ ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง • การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลักษณะตาม ค ว า ม เห ม า ะ ส ม เช่ น ก า ร บ อ ก เล่ า เอกสารรายงาน โปสเตอรโ์ ปรแกรมนำเสนอ • ก า ร ใช้ ซ อ ฟ ต์ แ ว ร์ เพื่ อ แ ก้ ปั ญ ห า ใ น ชีวิตประจำวันเช่นการสำรวจเมนอู าหารกลางวัน โดยใช้ ซอฟต์แวร์สร้างแบบสอบถามและเก็บ ข้ อ มู ล ใช้ ซ อ ฟ ต์ แ ว ร์ ต าร างท ำง าน เพ่ื อ ประมวลผลข้อมูลรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับคุณค่า ทางโภชนาการและ สร้างรายการอาหารสำหรับ ๕ วัน ใช้ซอฟต์แวร์ นำเสนอผลการสำรวจ รายการอาหารที่เป็นทางเลือกและข้อมูลด้าน โภชนาการ ๕.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจ สิทธิและหน้าท่ีของตนเคารพในสิทธิ เข้าใจ สิทธิและหน้าที่ของตนเคารพในสิทธิของ ของผู้อื่นแจ้งผู้เกี่ยวข้องเม่ือพบข้อมูลหรือ ผู้อ่ืน เช่น ไม่สร้างข้อความเท็จและส่งให้ผู้อื่นไม่ บคุ คลที่ ไมเ่ หมาะสม สร้างความเดือดร้อนต่อผู้อื่นโดยการส่งสแปม ข้อความลูกโซ่ ส่งต่อโพสต์ท่ีมีข้อมูลส่วนตัวของ ผู้อื่นส่งคำเชิญเล่นเกม ไม่เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว หรือการบ้านของบุคคลอ่ืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ไมใ่ ช้ เครอื่ งคอมพิวเตอร/์ ชือ่ บญั ชีของผอู้ ่ืน • การสอ่ื สารอยา่ งมมี ารยาทและรู้กาลเทศะ • การปกป้องข้อมูลส่วนตัว เช่น การออกจาก ระบบ เมื่อเลิกใช้งาน ไม่บอกรหัสผ่านไม่บอก เลข ประจำตวั ประชาชน ป.๕ ๑.ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาการ • การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ อธิบาย การทำงานการคาดการณ์ผลลัพธ์จาก หรือ เง่ือนไขท่ีครอบคลุมทุกกรณีมาใช้พิจารณา ปัญหา อยา่ งง่าย ในการ แกปัญหาการอธิบายการทำงานหรือการ คาดการณ์ผลลัพธ์ • สถานะเร่ิมต้นของการทำงานท่ีแตกต่างกันจะ ให้ ผลลัพธท์ แี่ ตกต่างกนั • ตวั อย่างปญั หา เช่น เกมSudoku โป รแ ก รม ทำนายตัวเลข โปรแกรมสร้างรูปเรขาคณิตตาม คา่ ข้อมลู เข้า การจดั ลำดบั การทำงานบ้านในชว่ ง โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๒๘ ชน้ั ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง วนั หยดุ จัดวางของในครัว ๒.ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมีการใช้ • การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขียน เห ตุ ผ ล เชิ งต รรก ะ อ ย่ างง่าย ต รว จ ห า เป็นข้อความหรอื ผงั งาน ข้อผิดพลาดและแกไ้ ข • การออกแบบและเขยีนโปรแกรมท่ีมีการ ตรวจสอบ เงอ่ื นไขทีค่ รอบคลุมทกุ กรณีเพ่ือให้ได้ ผลลัพธ์ ที่ถกู ต้องตรงตามความตอ้ งการ • หากมีข้อผิดพลาดใหต้ รวจสอบการทำงานทีละ คำส่ังเม่ือพบจุดที่ทำให้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้องให้ทำ การแก้ไขจนกวา่ จะได้ผลลพั ธ์ทถ่ี กู ตอ้ ง • การฝึกตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของ ผู้ อื่ น จ ะ ช่ ว ย พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ก า ร ห า ส า เห ตุ ข อ ง ปัญหาได้ดียิง่ ข้นึ • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมตรวจสอบ เลขคู่ เลขค่ี โปรแกรมรับข้อมูลน้ำหนักหรือ ส่วนสูงแล้วแสดงผลความสมส่วนของร่างกาย โปรแกรม สงั่ ให้ตวั ละครทำตามเงื่อนไขทกี่ ำหนด • ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, logo ๓.ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลติดต่อส่ือสาร • การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและการ และทำงานรว่ มกันประเมนิ ความนา่ เช่อื ถอื พิจารณา ผลการคน้ หา ของข้อมูล • การติดต่อส่ือสารผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น อีเมล บล็อกโปรแกรมสนทนา • การเขียน จดห มาย (บู รณ าก ารกับ วิช า ภาษาไทย) •การใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อส่ือสารและ ทำงาน รว่ มกัน เช่นใช้นัดหมายในการประชุม กลุ่มประชาสัมพันธ์กิจกรรมในห้องเรียน การ แลกเปล่ียน ความรู้ ความคิดเห็นในการเรียน ภายใต้การดแู ล ของครู • การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น เปรียบเทียบความสอดคล้องสมบูรณข์ องขอ้ มลู จากหลายแหลง่ แหล่งต้นตอของข้อมูล ผู้เขียน วนั ทีเ่ ผยแพร่ข้อมลู โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๒๙ ชน้ั ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง • ข้อมูลท่ีดีต้องมีรายละเอียดครบทุกด้าน เช่น ขอ้ ดี และขอ้ เสยี ประโยชน์และโทษ ๔.รวบรวมประเมินนำเสนอข้อมูลและ • การรวบรวมข้อมูลประมวลผลสร้างทางเลือก สารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์ ประเมินผลจะทำให้ได้สารสนเทศเพ่ือใช้ในการ หรือบริการ บนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลายเพ่ือ แกป้ ัญหาหรอื การตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิ แกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวัน ภาพ • การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี หลากหลายในการรวบรวมประมวลผลสร้าง ทางเลือกประเมินผลนำเสนอจะช่วยให้การ แก้ปัญหาทำได้อย่างรวดเร็วถกู ตอ้ งและ แม่นยำ • ตวั อย่างปัญหา เช่นถ่ายภาพ และสำรวจแผน ท่ีในท้องถิ่นเพื่อนำเสนอแนวทางในการจัดการ พ้ืนทีว่ ่างใหเ้ กิดประโยชน์ทำแบบสำรวจความคิด เห็นออนไลนแ์ ละวิเคราะห์ข้อมูล นำเสนอข้อมูล โดยการใช้ blog หรือ webpage ๕.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย • อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทาง มีมารยาทเข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตนเคารพ อนิ เทอรเ์ นต็ ในสิทธิของผู้อ่ืน แจ้งผู้เกี่ยวข้องเม่ือพบข้อมูล • มารยาทในการติดต่อส่ือสารผ่านอินเทอร์เน็ต หรอื บคุ คลท่ไี ม่เหมาะสม (บรู ณาการกบั วชิ าทีเ่ กย่ี วข้อง) ป.๖ ๑.ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและ • การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้ ออกแบบ วธิ ีการแก้ปัญหาที่พบในชีวิต แก้ปญั หา ได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ประจำวัน • การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ หรือ เงื่อนไขท่ีครอบคลุมทุกกรณีมาใช้พิจารณา ในการแกป้ ญั หา • แนวคิดของการทำงานแบบวนซำ้ และเงื่อนไข • การพิจารณากระบวนการทำงานที่มีการ ทำงาน แบบวนซ้ำหรือเงื่อนไขเป็นวิธีการท่ีจะ ช่วย ให้การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาเป็นไป อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ • ตวั อย่างปญั หา เช่น การค้นห าเลขหน้าท่ี ตอ้ งการ ให้เร็วที่สุดการทายเลข ๑ - ๑,๐๐๐,๐๐๐ โดย ตอบให้ถูกภายใน ๒๐ คำถาม การคำนวณ เวลา ในการเดินทาง โดยคำนึงถึงระยะทางเวลา โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๓๐ ช้ัน ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง จดุ หยดุ พกั ๒. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ยเพื่อ • การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขียน แ ก้ ปั ญ ห า ใน ชี วิ ต ป ร ะ จ ำ วั น ต ร ว จ ห า เป็นขอ้ ความหรือผังงาน ข้อผิดพลาด ของโปรแกรมและแกไ้ ข • การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมีการใช้ตัว แปร การวนซ้ำ การตรวจสอบเงอ่ื นไข • หากมขี ้อผิดพลาดใหต้ รวจสอบการทำงานทลี ะ คำสั่งเม่ือพบจุดที่ทำให้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้องให้ทำ การแกไ้ ขจนกวา่ จะได้ผลลพั ธท์ ี่ถกู ต้อง • การฝึกตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของ ผู้ อื่ น จ ะ ช่ ว ย พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ก า ร ห า ส า เห ตุ ข อ ง ปัญหา ได้ดยี ่งิ ขน้ึ • ตัวอย่างโปรแกรม เช่นโปรแกรมเกรม หา ค่าค.ร.น.เกมฝึกพมิ พ์ • ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, logo ๓.ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอย่างมี • การค้นหาอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการค้นหา ประสทิ ธภิ าพ ข้ อ มู ล ที่ ได้ ต ร ง ต า ม ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ใน เว ล า ท่ี รวดเร็วจากแหล่งข้อมูลท่ีน่าเช่ือถือหลายแหล่ง และขอ้ มูลมีความสอดคลอ้ งกัน • การใช้เทคนิคการค้นหาข้ันสูง เช่น การใช้ตัว ดำเนินการการระบุรูปแบบของข้อมูลหรือชนิด ของไฟล์ • การจัดลำดับผลลัพธ์จากการค้นหาของ โปรแกรม ค้นหา • การเรียบเรียงสรุปสาระสำคัญ (บูรณาการกับ วชิ าภาษาไทย) ๔.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกัน • อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทาง อย่าง ปลอดภยั เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของ อินเทอรเ์ น็ตแนวทางในการป้องกนั ตนเคารพ ในสิทธิของผู้อ่ืนแจ้งผู้เกี่ยวข้องเม่ือ • วธิ ีกำหนดรหัสผ่าน พบขอ้ มูล หรือบุคคลที่ไมเ่ หมาะสม • การกำหนดสทิ ธิก์ ารใชง้ าน(สทิ ธ์ใิ นการเขา้ ถึง) • แนวทางการตรวจสอบและป้องกันมลั แวร์ • อนั ตรายจากการตดิ ต้ังซอฟตแ์ วร์ทอ่ี ยบู่ น โรงเรยี นบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๓๑ ชั้น ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง อนิ เทอร์เน็ต ม.๑ ๑. ออกแบบอัลกอริทึมท่ีใช้แนวคิดเชิง • แน วคิ ดเชิงน าม ธรรมเป็ น การป ระเมิ น นามธรรม เพ่ือแก้ปัญหาหรืออธิบายการ ความสำคัญ ของรายละเอียดของปัญ หา ทำงานที่พบในชวี ิตจรงิ แยกแยะส่วนท่ีเป็น สาระสำคัญออกจากส่วนท่ี ไม่ใชส่ าระสำคัญ • ตัวอยา่ งปัญหา เช่นต้องการปูหญ้าในสนาม ตามพื้นที่ท่ีกำหนดโดยหญ้าหน่ึงผืนมีความกว้าง ๕๐ เซนติเมตร ยาว ๕๐ เซนติเมตรจะใช้หญ้า ท้ังหมดกผ่ี นื ๒.ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อ • การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้ตัว แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตรห์ รอื วทิ ยาศาสตร์ แปร เงือ่ นไขวนซ้ำ • การออกแบบอัลกอรทิ มึ เพ่ื อแก้ปั ญ ห าท าง คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์อย่างง่าย อาจใช้ แนวคดิ เชิงนามธรรมในการออกแบบ เพ่ือใหก้ าร แก้ปัญหามีประสิทธภิ าพ • การแก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอนจะช่วยให้ แกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ • ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c • ตัวอยา่ งโปรแกรม เชน่ โปรแกรมสมการการ เคลอื่ นทโี่ ปรแกรมคำนวณหาพ้นื ที่ โ ป ร แ ก ร ม คำนวณดชั นีมวลกาย ๓ .รวบ รวมข้อมูลป ฐมภู มิ ป ระมวลผล • การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ ประเมินผลนำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตาม ประมวลผล สร้างทางเลือกประเมินผลจะทำให้ วตั ถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบรกิ ารบน ได้สารสนเทศเพ่ือใช้ในการแก้ปัญหาหรือการ อนิ เทอรเ์ น็ตท่หี ลากหลาย ตดั สินใจได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ • การประมวลผลเป็นการกระทำกับข้อมูล เพอ่ื ให้ ได้ผลลัพธ์ที่มีความหมายและมีประโยชน์ ตอ่ การนำไปใช้งาน สามารถทำไดห้ ลายวิธี เช่น คำนวณอัตราส่วน คำนวณค่าเฉลี่ย • การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี หลากหลายในการรวบรวมประมวลผลสร้าง โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๓๒ ชัน้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ท างเลือกป ระเมิน ผลน ำเสน อจะช่วยให้ แก้ปญั หาได้อยา่ งรวดเรว็ ถกู ตอ้ ง และแมน่ ยำ • ตัวอย่างปญั หา เน้นการบูรณาการกับวิชาอ่ืน เช่น ต้มไข่ให้ตรงกับพฤติกรรมการบริโภค ค่า ดัชนีมวลกายของคนในท้องถิ่น การสร้างกราฟ ผลการทดลองและวิเคราะห์แนวโน้ม ๔.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยใช้ • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น สื่อ และแหล่งข้อมูลตามข้อกำหนดและ การปกป้องความเปน็ สว่ นตวั และอตั ลักษณ์ ขอ้ ตกลง • การจัดการอัตลกั ษณ์ เช่น การต้ังรหัสผ่านการ ปกป้องขอ้ มูลสว่ นตวั • การพิจารณาความเหมาะสมของเน้ือหา เช่น ละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้อื่น อนาจาร วิจารณ์ ผอู้ น่ื อย่างหยาบคาย • ขอ้ ตกลง ขอ้ กำหนดในการใช้ส่อื หรือแหล่ง ข้อมูล ตา่ ง ๆ เช่น Creative commons ม.๒ ๑.ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิดเชิงคำนวณ • แนวคดิ เชิงคำนวณ ใน การแกป้ ญั หา หรือการทำงานท่ีพบในชีวิต • การแก้ปญั หาโดยใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณ จริง • ตัวอยา่ งปัญหา เช่น การเข้าแถวตามลำดับ ความสูงใหเ้ ร็วท่ีสุดจัดเรยี งเสอ้ื ให้หาได้ง่ายที่สุด ๒.ออกแบบและเขียนโปรแกรมที่ใช้ตรรกะ • ตวั ดำเนนิ การบลู ีน และฟงั กช์ นั ในการแกป้ ญั หา • ฟังกช์ นั • การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมีการใช้ ตรรกะและฟังกช์ ัน • การออกแบบอลั กอริทมึ เพ่ือแก้ปัญหาอาจใช้ แนวคิดเชงิ คำนวณในการออกแบบเพอ่ื ให้ การแก้ปญั หามีประสิทธภิ าพ • การแก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอนจะช่วยให้ แกป้ ญั หา ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ • ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c • ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมตัดเกรดหา คำตอบทงั้ หมดของอสมการหลายตวั แปร โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒

๓๓ ชนั้ ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๓.อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงาน • องค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบ ของ ระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการ คอมพิวเตอร์ ส่ือสารเพ่ือประยุกต์ใช้งานหรือแก้ปัญหา • เทคโนโลยีการส่อื สาร เบ้อื งตน้ • การประยุกตใ์ ช้งานและการแกป้ ญั หาเบื้องตน้ ๔.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย • ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยโดย มีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิในการ เลือก แนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่ เผยแพร่ผลงาน เหมาะสม เช่นแจ้งรายงานผู้เกี่ยวข้องป้องกัน การเข้ามาของ ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ไม่ตอบโต้ ไม่เผยแพร่ • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความ รับผิดชอบ เชน่ ตระหนักถึงผลกระทบในการ เผยแพร่ขอ้ มลู • การสร้างและแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของ ผลงาน • การกำหนดสิทธิการใชข้ ้อมลู ม.๓ ๑.พัฒนาแอปพลิเคชันที่มีการบูรณาการกับ • ข้นั ตอนการพฒั นาแอปพลิเคชัน วชิ าอ่นื อย่างสรา้ งสรรค์ • Internet of Things (IoT) • ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชนั เ ช่ น Scratch, python, java, c, App Inventor • ตวั อยา่ งแอปพลิเคชนั เชน่ โปรแกรมแปลง สกุลเงิน โปรแกรมผันเสียงวรรณยุกต์โปรแกรม จำลองการแบ่งเซลล์ระบบรดน้ำอัตโนมัติ ๒.รวบรวมข้อมูลประมวลผลประเมินผล • การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิ น ำ เส น อ ข้ อ มู ล แ ล ะ ส า ร ส น เท ศ ต า ม และ ทุติยภูมิ ประมวลผลสร้างทางเลือก วตั ถุประสงค์โดยใช้ ซอฟต์แวร์หรือบริการบน ประเมินผลจะทำให้ได้สารสนเทศเพื่อใช้ในการ อนิ เทอร์เน็ตท่หี ลากหลาย แ ก้ ปั ญ ห า ห รื อ ก า ร ตั ด สิ น ใจ ได้ อ ย่ า งมี ประสทิ ธิภาพ • การประมวลผลเป็นการกระทำกับข้อมูล เพอ่ื ให้ได้ ผลลัพธ์ที่มีความหมายและมีประโยชน์ ตอ่ การนำไปใช้งาน • การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ี หลากหลายในการรวบรวมประมวลผลสร้าง โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๓๔ ชน้ั ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ท างเลือกป ระเมิน ผลน ำเสน อจะช่วยให้ แก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ถูกต้อง และแม่นยำ • ตัวอย่างปญั หา เชน่ การเลอื กโปรโมชนั โทร ศัพท์ ให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งาน สินค้า เกษตรท่ีต้องการและสามารถปลูกได้ในสภาพ ดนิ ของทอ้ งถน่ิ ๓ . ป ระเมิ น ความน่ าเชื่อถือของข้ อมู ล • การประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล เช่น วิเคราะห์สื่อ และผลกระทบจากการให้ ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลโดยเทียบเคียงจาก ขา่ วสารที่ผิดเพือ่ การ ใช้งานอยา่ งรูเ้ ท่าทนั ข้อ มู ล ห ล าย แ ห ล่ งแ ย ก แ ยะข้ อ มู ล ที่ เป็ น ขอ้ เท็จจริง และข้อคดิ เหน็ หรือใช้ PROMPT • การสืบคน้ หาแหลง่ ต้นตอของข้อมลู • เหตผุ ลวบิ ตั ิ (logical fallacy) • ผลกระทบจากข่าวสารท่ผี ิดพลาด • การรเู้ ท่าทนั ส่ือ เ ช่ น ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ ถึ ง จุดประสงค์ ของข้อมูลและผู้ให้ข้อมูลตีความ แยกแยะเน้ือหา สาระของส่ือเลือกแนวปฏิบัติได้ อย่างเหมาะสมเมอ่ื พบขอ้ มูลตา่ ง ๆ ๔. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย • การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย และมี ความรับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตาม เช่น การทำธุรกรรมออนไลน์ การซ้ือสินค้าซ้ือ กฎหมาย เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ใช้ลิขสิทธ์ิของ ซอฟตแ์ วร์ ค่าบริการสมาชิก ซ้อื ไอเทม็ ผอู้ น่ื โดยชอบธรรม • การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความ รับผิดชอบ เช่น ไม่สรา้ งข่าวลวง ไม่แชร์ข้อมูล โดยไม่ตรวจสอบ ข้อเทจ็ จรงิ • กฎหมายเก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ • การใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบธรรม (fair use) โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๓๕ คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม รายวชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ ๑ รหสั วชิ า ว๒๓๒๐๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ การใช้ ระบบปฏิบัติการ การใช้โปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word) หรือใช้โปรแกรมอื่น เพ่ือจัดทำเอกสาร ในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมตารางงาน (Microsoft Excel) หรือใช้โปรแกรมอื่น เพื่อการคำนวณในงาน อาชีพ โดยใช้กระบวนการทำงานและการจัดการอย่างเป็นระบบ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการ ออกแบบงาน และการทำงานอย่างเป็นลำดับขั้นตอน รู้จักใช้กระบวนการเทคโนโลยีและเทคโนโลยี สารสนเทศมาใช้ในการแก้ปัญหา ตลอดจนนำเทคโนโลยมี าใช้และประยุกตใ์ ช้ในการทำงาน รวมท้ังการสร้าง พฒั นาผลิตภัณฑ์หรอื วิชาการใหม่ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการสร้างสรรค์ผลงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ เกดิ เจตคติท่ดี ีทำใหส้ ามารถใช้คอมพวิ เตอร์ในทางสร้างสรรค์ได้ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั หลกั การและกระบวนการใชค้ อมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ ๒. ประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอรแ์ ละระบบสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ๓. ใช้ระบบปฏิบัตกิ ารในการจดั สภาพแวดลอ้ มและจัดสรรทรัพยากรตา่ ง ๆ บนเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ และบนโทรศัพท์มือถือ ๔. ใช้โปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft Word) หรอื ใช้โปรแกรมอืน่ เพื่อจดั ทำเอกสารในงาน อาชพี ๕. ใช้โปรแกรมตารางงาน (Microsoft Excel) หรือใช้โปรแกรมอน่ื เพ่ือการคำนวณในงานอาชีพ รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้ โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๓๖ คำอธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เติม รายวชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี ๒ รหสั วิชา ว๒๓๒๐๔ กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลาเรียน 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมนำเสนอผลงาน (Microsoft PowerPoint) หรือใช้ โปรแกรมอ่นื ตามลกั ษณะงานอาชีพ การใช้อินเทอร์เน็ตเพอื่ สืบคน้ และส่ือสารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชีพ สร้างเวบ็ เพจผ่านโปรแกรมสร้างเว็บ (Dreamweaver) หรอื ใช้โปรแกรมอื่น ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ จริยธรรมและความรับผดิ ชอบในการใช้คอมพิวเตอร์และสารสนเทศในงานอาชพี โดยใช้กระบวนการทำงานและการจัดการอย่างเป็นระบบ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการ ออกแบบงาน และการทำงานอย่างเป็นลำดับขั้นตอน รู้จักใช้กระบวนการเทคโนโลยีและเทคโนโลยี สารสนเทศมาใช้ในการแก้ปัญหา ตลอดจนนำเทคโนโลยีมาใช้และประยกุ ต์ใช้ในการทำงาน รวมทั้งการสร้าง พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือวชิ าการใหม่ เพื่ อ ให้ เกิ ด ค ว าม รู้ ค ว าม เข้ าใจ ใน ก า ร ส ร้ างส ร ร ค์ ผ ล งาน ท างด้ าน เท ค โน โล ยี ส าร ส น เท ศ แ ล ะ เกิดเจตคติทีด่ ที ำใหส้ ามารถใชค้ อมพวิ เตอร์ในทางสรา้ งสรรค์ได้ ผลการเรียนรู้ ๑. ใช้โปรแกรมนำเสนอผลงาน (Microsoft PowerPoint) หรือใช้โปรแกรมอ่ืน เพ่ือการนำเสนอ ผลงานในงานอาชีพ ๒. สืบค้นขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชีพโดยใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ๓. สอ่ื สารข้อมลู สารสนเทศโดยใช้อินเทอร์เน็ต ๔. สร้างเว็บเพจผ่านโปรแกรมสร้างเว็บ (Dreamweaver) หรอื ใช้โปรแกรมอ่นื เพ่ือการนำเสนอ ขอ้ มลู ผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต ๕. เขา้ ใจถงึ ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ๖. มจี ริยธรรมและความรับผิดชอบในการใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศในงานอาชีพ รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรียนรู้ โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๓๗ โครงสรา้ งเวลาเรยี นกลุ่มสาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพือ่ งานอาชีพ ๑ รหัสวชิ า ว ๒๓๒๐๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1 หน่วยกติ หนว่ ย ชือ่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนัก ที่ การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 1 การใช้คอมพวิ เตอร์ ๑. มีความรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกับ - ความหมายและความเปน็ มา 3 และระบบสารสนเทศ หลักการและกระบวนการใช้ - ยคุ ของคอมพิวเตอร์ (พ.ศ. คอมพวิ เตอร์และระบบ 2553 − ปัจจบุ ัน) เพือ่ งานอาชีพ สารสนเทศ - ประเภทของคอมพวิ เตอร์ ๒. ประยกุ ต์ใช้คอมพวิ เตอร์และ - องค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์ ระบบสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ - แท็บเล็ต (Tablet 2 การใช้ ๓.ใช้ระบบปฏบิ ตั กิ ารในการจัด - ความรู้เบอ้ื งตน้ เกีย่ วกับ 5 ระบบปฏิบตั กิ าร สภาพแวดลอ้ มและจดั สรร ระบบปฏบิ ัตกิ าร ทรัพยากรตา่ ง ๆ บนเครื่อง - ประเภทของระบบปฏิบัติการ คอมพวิ เตอร์และบน -หน้าท่ีหลักของระบบปฏิบัติการ โทรศัพท์มอื ถือ - ระบบปฏบิ ัติการ Windows - ระบบปฏบิ ัตกิ ารยูนกิ ซ์ (Unix) - ระบบปฏิบตั กิ ารบน โทรศพั ท์มอื ถอื - การติดตง้ั Windows 10 3 การใช้งานโปรแกรม ๔. ใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ - ความเป็นมาของโปรแกรม 8 Microsoft Word (Microsoft Word) หรอื ใช้ Microsoft Word โปรแกรมอนื่ เพือ่ จดั ทำเอกสาร - การเขา้ สู่โปรแกรมและจบ ในงานอาชีพ การทำงาน - แถบเมนแู ละชุดเมนูคำสั่ง (Toolbars and Menu) - การสร้างเอกสารใหม่ (New) - การบนั ทึกเอกสาร (Save) - การปิดเอกสาร (Close) - การเปิดเอกสาร (Open) ๔ การใช้ฟอนตต์ ัวอักษร ๔. ใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ - การสร้างอกั ษรศลิ ป์ (Word ๘ ๒๐ (Microsoft Word) หรอื ใช้ Art) โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๓๘ หน่วย ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา นำ้ หนกั ท่ี การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน ในโปรแกรม โปรแกรมอนื่ เพ่อื จดั ทำเอกสาร - การแทรกรูปภาพ (Picture) Microsoft Word ๘ ๑๕ ในงานอาชีพ - การสร้างกราฟ (Chart) ๕ การใชง้ านโปรแกรม (Microsoft Excel) - การต้ังคา่ หนา้ กระดาษ (Page Setup) - การกำหนดส่วนหัวและท้าย เอกสาร (Header and Footer) - การปรบั รูปแบบตวั อักษร - การจัดการประโยค (Paragraph) - การพมิ พเ์ อกสารออกทาง เคร่อื งพมิ พ์ (Print) - การพิมพ์จดหมายเวียน (Maillings) - การพมิ พซ์ องจดหมาย (Envelopes) - การต้ังกนั้ หน้าก้ันหลงั (Indent) - การคัดลอกรูปแบบต่าง ๆ ด้วย Format Painter - การพมิ พข์ ้อความเปน็ คอลัมน์ (Columns) ๕.ใชโ้ ปรแกรมตารางงาน - Microsoft Excel เบื้องตน้ (Microsoft Excel) หรือใช้ - การสร้างสมุดงานใหม่ (New) โปรแกรมอนื่ เพ่ือการคำนวณใน - การบนั ทกึ สมุดงาน (Save) งานอาชพี - การปดิ สมดุ งาน (Close) - การจดั การสมุดงาน (Work Book) - การเลือกเซลล์ (Cell) - การกรอกข้อมลู (Insert Data) -การแก้ไขข้อมูล (Edit Data) - การเปลี่ยนรูปแบบตวั อักษร โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๓๙ หนว่ ย ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา น้ำหนกั ที่ การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน ๖ การประยุกต์ และขนาดตัวอักษร (Fonts) ใช้งานโปรแกรม ตารางงาน - การทำตัวอกั ษรหนา เอยี ง และ ขดี เส้นใต้ - การจัดข้อมลู ให้อยู่กึง่ กลาง ชิด ซา้ ยหรอื ชิดขวาของคอลมั น์ (Alignment) - การคดั ลอกข้อมลู (Copy) - การตดั ข้อมลู (Cut) ๕.ใชโ้ ปรแกรมตารางงาน - การผสานเซลลแ์ ละจัด ๘ (Microsoft Excel) หรือใช้ ก่งึ กลาง (Merge Cell) โปรแกรมอ่นื เพอื่ การคำนวณใน - การเรียงลำดับข้อมูล (Sort) งานอาชีพ - การวางแนวของข้อความ (Orientation) - การแทรกรูปภาพ (Insert Picture) - การทำพนื้ หลัง (Background) - การป้อนสตู รการคำนวณ (Formula) - การคำนวณด้วยฟงั ก์ชันผลรวม (Sum) - การหาค่ำสูงสดุ (Max) ต่ำสดุ (Min) และค่ำเฉลีย่ (Average) - แผนภูมิ (Chart) - การใส่รปู ภาพในแท่งแผนภมู ิ (Insert Picture) - การพิมพ์รายงาน (Print) รวมจำนวน ๖ หนว่ ย 40 โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๔๐ โครงสร้างเวลาเรยี นกลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี 2 รหสั วชิ า ว ๒๓๒๐๔. กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2566 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1 หน่วยกติ หนว่ ย ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เวลา น้ำหนกั ที่ การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน ๑ งาน presentation กบั Microsoft ๑. ใช้โปรแกรมนำเสนอผลงาน - ความร้เู บ้ืองตน้ เกย่ี วกบั 6 PowerPoint (Microsoft PowerPoint) หรือ โปรแกรม Microsoft ๒ การประยุกต์ ใชโ้ ปรแกรมอ่ืน เพื่อการ PowerPoint ใช้งานโปรแกรม นำเสนอผลงานในงานอาชพี - การเรยี กใชแ้ ละการปดิ โปรแกรม Microsoft PowerPoint - การสร้างงานนำเสนอโดยใช้ ตวั ช่วยสรา้ งเน้อื หาอตั โนมตั ิ (Templates) - การคัดลอกข้อมลู (Copy) - การตัดขอ้ มูล (Cut) - การสร้างเสน้ ขอบตาราง (Border) - การผสานเซลล์และจดั กง่ึ กลาง (Merge Cell) - การแทรกรปู ภาพ (Insert Picture) - การทำพนื้ หลัง (Background) - การสร้างงานนำเสนอโดย ใช้ธีม (Themes) - การเพิ่มสไลด์ใหม่ (New Slide) - การจดั พิมพ์งานนำเสนอ (Print) ๑. ใชโ้ ปรแกรมนำเสนอผลงาน - การเพ่มิ ขอ้ ความในสไลดโ์ ดย ๑2 (Microsoft PowerPoint) หรอื ใชก้ ลอ่ งข้อความ (Text Box) ใชโ้ ปรแกรมอน่ื เพ่ือการ - การกำหนดสีตวั อักษร (Font โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๔๑ หนว่ ย ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา นำ้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ นำเสนอผลงานในงานอาชพี (ช่วั โมง) คะแนน นำเสนอ Color) ๒. สืบค้นข้อมูลสารสนเทศใน - การทำสญั ลกั ษณ์แสดงหวั ข้อ 4 ๓ การสืบค้นข้อมูลบน งานอาชพี โดยใช้อินเทอรเ์ นต็ ยอ่ ย (Bullets) อนิ เทอรเ์ นต็ ๓. สอื่ สารขอ้ มลู สารสนเทศโดย - การแทรกอักษรศิลป์ ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต (WordArt) - การทำพื้นหลังของสไลด์ (Background Styles) - การวาดวตั ถุโดยการใช้ เคร่ืองมือรูปร่างอัตโนมตั ิ (Shapes) - การแทรกรปู ภาพ (Picture) - การแทรกแผนภมู ิ (Chart) - การใส่เอฟเฟ็กตต์ อนเปลีย่ น สไลด์ (Slide Transition) - การทำให้ข้อความและวัตถุ เคลอ่ื นไหว - การกำหนดการเปลี่ยน (Transition) ใหส้ ไลด์ - การกำหนดความเรว็ ใน การฉายแสดงสไลด์ (Duration) - การเพิ่มเสียง เสียงคำบรรยาย และภาพยนตร์ไว้ในสไลด์ (Audio and Video) - ความเปน็ มาของอินเทอร์เน็ต - ความสามารถของ อนิ เทอร์เน็ต - การเข้าเวบ็ ไซต์ - การเช่อื มต่อ Wireless โดย Windows 10 - การเชือ่ มต่อเข้าส่รู ะบบ อินเทอร์เนต็ (WWW) - ทำความรูจ้ ักกบั Mozilla Firefox โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๔๒ หน่วย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั ท่ี การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน - จดหมายอิเล็กทรอนกิ ส์ ๔ การออกแบบหน้าเวบ็ ๔. สรา้ งหน้าเว็บเพจผ่าน (Electronic Mail) 14 - หน้าทีแ่ ละรูปแบบของ เพจกบั โปรแกรม โปรแกรมออกแบบ (Canva) โปรแกรมรับ–ส่งอ-ี เมล - เครอื ข่ายสังคมออนไลน์ Canva หรือใช้ หรือใช้โปรแกรมอืน่ (Social Network) - การใชง้ าน Microsoft โปรแกรมอ่ืน เพอ่ื การ Outlook - การเปิดใช้งานโปรแกรม นำเสนอข้อมูลผา่ น Microsoft Outlook - การสง่ จดหมาย (Send อินเตอร์เน็ต e−Mail) -เรียนรู้โปรแกรม Canva - แนะนำการเข้าใช้งาน เมนู ตา่ งๆ - องคป์ ระกอบของการสร้าง หนา้ เวบ็ ไซต์พน้ื ฐาน - ส่วนประกอบและความสำคัญ ของหน้าเว็บไซต์ - กระบวนการออกแบบและ สรา้ งเว็บไซต์ - กระบวนการพฒั นาและ เผยแพร่เวบ็ ไซต์ - ภาษาและเครื่องมือท่ีใช้ในการ สรา้ งเวบ็ ไซต์ - โปรแกรมทใ่ี ชใ้ นการสรา้ ง เว็บไซต์ - การสร้าง บนั ทึก และเปิดไฟล์ เวบ็ เพจ - การแทรกขอ้ ความและ จดั รปู แบบลงในเวบ็ เพจ - การแทรกภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว ไฟลว์ ดิ โี อ โรงเรียนบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๔๓ หนว่ ย ช่ือหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลา น้ำหนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน - การบันทึกไฟล์และนำไป ประยกุ ตใ์ ช้กับโปรแกรมต่างๆ 5 คุณธรรม จรยิ ธรรม ๕. เข้าใจถงึ ผลกระทบของการ - การละเมิดสิทธใิ นทรัพยส์ ิน ๔ และความรบั ผิดชอบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทางปัญญาท่เี ผยแพร่ทาง ในการใช้คอมพิวเตอร์ ๖. มีจรยิ ธรรมและความ อินเทอรเ์ นต็ รบั ผดิ ชอบในการใช้ - อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศใน - ประเภทของการกระทำ งานอาชีพ ความผิด - กฎหมายปกป้องสทิ ธผิ ลงาน บนอินเทอร์เนต็ - การใช้กฎหมายในเว็บไซต์ - สถานภาพทางกฎหมายของ ลายมอื ชอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ - กฎหมายการธนาคารและการ ชำระเงินอเิ ล็กทรอนิกส์ - พระราชบัญญัตวิ า่ ดว้ ยการ กระทำความผดิ เกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2560 ประเมินผลผู้เรียน รวมจำนวน 5 หน่วย 40 โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต ๒

๔๔ โครงสร้างรายหน่วยการเรยี นรู้ รายวชิ า คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี ๑ รหัสวชิ า ว๒๓๒๐๓ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ ชื่อหน่วย การใช้งานโปรแกรมประมวลผลคำเพอื่ จัดทำเอกสารในงานอาชีพ เวลา ๖ ชวั่ โมง น้ำหนักคะแนน ๑๕ คะแนน ผลการเรียนรู้ เวลาเรยี น/ สาระการเรียนรู้ ชั่วโมง ๔. ใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft - ความเป็นมาของโปรแกรมประมวลผลคำ Word) หรอื ใช้โปรแกรมอ่ืน เพอ่ื จดั ทำเอกสาร ๖ - การเขา้ สู่โปรแกรมและจบการทำงาน ในงานอาชีพ (๑-๕-0) - แถบเมนแู ละชดุ เมนูคำส่งั (Toolbars and Menu) - การสร้างเอกสารใหม่ (New) - การบนั ทึกเอกสาร (Save) - การปดิ เอกสาร (Close) - การเปิดเอกสาร (Open) การวัดผลประเมินผลหน่วยที่ ๓ ก่อนสอบกลางภาค = ๑๒ คะแนน คะแนน สอบกลางภาค =๓ คะแนน คะแนน หลงั สอบกลางภาค = - สอบปลายภาค =- โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต ๒

๔๕ โครงสรา้ งรายหน่วยการเรยี นรู้ รายวชิ า คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ ๑ รหัสวชิ า ว๒๓๒๐๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๔ ช่ือหนว่ ย การประยกุ ต์ ใช้งานโปรแกรมประมวลผลคำ เวลา ๘ ชว่ั โมง น้ำหนักคะแนน ๒๐ คะแนน ผลการเรยี นรู้ เวลาเรยี น/ สาระการเรียนรู้ ช่ัวโมง ๔. ใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ (Microsoft - การพิมพ์สมการทางคณิตศาสตร์ (Equation) Word) หรอื ใชโ้ ปรแกรมอน่ื เพือ่ จัดทำเอกสาร ๘ - การแทรกสัญลักษณ์และตัวอักษรพิเศษ ในงานอาชีพ (๐-๘-0) (Symbol and Special Character) - การกำหนดหวั ข้อย่อย (Bullet) - การสร้างอักษรศิลป์ (Word Art) - การแทรกรปู ภาพ (Picture) - การสร้างกราฟ (Chart) - การตั้งคา่ หนา้ กระดาษ (Page Setup) - การกำหนดสว่ นหวั และท้ายเอกสาร (Header and Footer) - การปรบั รูปแบบตัวอักษร - การจัดการประโยค (Paragraph) - การพิมพ์เอกสารออกทางเครือ่ งพิมพ์ (Print) - การพมิ พ์จดหมายเวียน (Maillings) - การพิมพ์ซองจดหมาย (Envelopes) - การตั้งกน้ั หนา้ กั้นหลัง (Indent) - การคดั ลอกรูปแบบต่าง ๆ ด้วย Format Painter - การพิมพข์ ้อความเป็นคอลมั น์ (Columns) การวัดผลประเมินผลหนว่ ยที่ ๔ ก่อนสอบกลางภาค = ๗ คะแนน คะแนน สอบกลางภาค =๓ คะแนน คะแนน หลงั สอบกลางภาค = ๗ สอบปลายภาค =๓ โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต ๒

๔๖ โครงสรา้ งรายหน่วยการเรยี นรู้ รายวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี ๑ รหัสวิชา ว๒๓๒๐๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ ช่ือหน่วย การใช้งานโปรแกรมตารางทำการเพ่ือการคำนวณในงานอาชพี เวลา ๘ ชวั่ โมง นำ้ หนักคะแนน ๒๐ คะแนน ผลการเรยี นรู้ เวลาเรยี น/ สาระการเรยี นรู้ ชว่ั โมง ๕.ใชโ้ ปรแกรมตารางงาน (Microsoft Excel) - Microsoft Excel เบ้ืองตน้ หรอื ใชโ้ ปรแกรมอื่น เพ่ือการคำนวณในงาน ๘ - การสรา้ งสมดุ งานใหม่ (New) อาชีพ (๑-๗-0) - การบนั ทกึ สมดุ งาน (Save) - การปดิ สมดุ งาน (Close) - การจดั การสมุดงาน (Work Book) - การเลือกเซลล์ (Cell) - การกรอกข้อมูล (Insert Data) -การแกไ้ ขข้อมูล (Edit Data) - การเปลี่ยนรปู แบบตวั อักษร และขนาดตวั อักษร (Fonts) - การทำตวั อกั ษรหนา เอียง และขดี เส้นใต้ - การจดั ข้อมลู ให้อยู่กง่ึ กลาง ชิดซา้ ยหรอื ชดิ ขวาของคอลัมน์ (Alignment) - การคดั ลอกข้อมูล (Copy) - การตดั ขอ้ มลู (Cut) การวดั ผลประเมินผลหน่วยที่ ๕ ก่อนสอบกลางภาค = - คะแนน คะแนน สอบกลางภาค =- คะแนน คะแนน หลงั สอบกลางภาค = ๑๗ สอบปลายภาค =๓ โรงเรยี นบา้ นทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต ๒

๔๗ โครงสร้างรายหน่วยการเรยี นรู้ รายวิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ ๑ รหสั วิชา ว๒๓๒๐๓ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๖ ช่ือหน่วย การประยุกต์ใช้งานโปรแกรมตารางงาน เวลา ๘ ชว่ั โมง นำ้ หนกั คะแนน ๒๐ คะแนน ผลการเรยี นรู้ เวลาเรียน/ สาระการเรียนรู้ ชวั่ โมง ๕.ใช้โปรแกรมตารางงาน (Microsoft Excel) หรือใชโ้ ปรแกรมอนื่ เพื่อการคำนวณในงาน ๘ - การผสานเซลล์และจัดก่ึงกลาง (Merge อาชีพ (๐-๘-0) Cell) - การเรียงลำดบั ข้อมลู (Sort) - การวางแนวของขอ้ ความ (Orientation) - การแทรกรูปภาพ (Insert Picture) - การทำพน้ื หลงั (Background) - การปอ้ นสตู รการคำนวณ (Formula) - การคำนวณดว้ ยฟงั ก์ชันผลรวม (Sum) - การหาคำ่ สูงสดุ (Max) ต่ำสดุ (Min) และค่ำ เฉลี่ย (Average) - แผนภูมิ (Chart) - การใสร่ ูปภาพในแท่งแผนภมู ิ (Insert Picture) - การพิมพร์ ายงาน (Print) การวดั ผลประเมนิ ผลหนว่ ยท่ี ๖ กอ่ นสอบกลางภาค = - คะแนน คะแนน สอบกลางภาค =- คะแนน คะแนน หลงั สอบกลางภาค = ๑๖ สอบปลายภาค =๔ โรงเรียนบ้านทุ่งคาโตนด สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาชุมพร เขต ๒


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook