Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book6206810027

E-book6206810027

Published by Bumchonticha23, 2021-09-02 10:00:02

Description: E-book6206810027

Search

Read the Text Version

วิชาภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ที่๕ เรื่อง…ชนดิ ของคาในภาษาไทย๗ชนดิ เสนอ จดั ทาโดย อาจารยป์ ิ ยวรรณ ขอจิตตเ์ มตต์ นางสาวปนดั ดา รอดศรี

คานา หนงั สือเรียนรายวิชา ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปี ที่๕ จัดทาข้ ึนตามตัวช้ ีวดั และ วตั ถุประสงคใ์ ชใ้ นการประกอบการเรียนการสอนใหค้ วามรูค้ วามเขา้ ใจสามารถนาความรูท้ ี่ ไดไ้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนน์ าไปสู่ทกั ษะหลายๆดา้ น ในบทเรียนเล่มน้ ีก็จะเป็ นเน้ ือหาสาระ เกี่ยวกบั ชนิดของคาไทย๗ชนิดที่มีเน้ ือหาของบทเรียนและบททดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนที่จะเป็ นเครื่องมือในการพฒั นาต่อยอดความรูใ้ หม้ ีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ สูงสุดในการใชง้ านต่อไป ผูจ้ ดั ทาโดยนางสาวปนดั ดา รอดศรี หวงั เป็ นอย่างยิง่ ว่าหนงั สือเล่มน้ ีจะเป็ นประโยชน์ ต่อการจดั การเรียนรูเ้ พอื่ ประยกุ ตใ์ ชพ้ ฒั นาการเรียนรูข้ องผูเ้ รียนไดอ้ ย่างดี

สารบญั เรือ่ ง หนา้ แบบฝึ กหดั ก่อนเรียน ๑ คานาม ๔ คาสรรพนาม ๑o คาอุทาน ๑๔ คาวิเศษณ์ ๑๖ คาบุพบท ๒๓

สารบญั เรื่อง หนา้ คาสนั ธาน ๒๗ คากิริยา ๓o แบบฝึ กหดั หลงั เรียน ๓๓ คาคม ๓๘ เฉลย ๓๘ อา้ งอิง ๓๙

ชนิดของคาในภาษาไทย๗ชนิดมี อะไรบา้ งไปเรียนรูพ้ รอ้ มๆกนั เลย แต่ก่อนที่จะไปเรียนเรามาทา แบบทดสอบกนั ก่อนเลย

๑ แบบฝึ กหดั ก่อนเรียน คาช้ ีแจง:ใหน้ กั เรียนทาเครือ่ งหมายกากบาท(x)ทบั ตวั อกั ษร ก ข ค ง หนา้ คาตอบที่ถูกตอ้ งที่สุดเพยี งคาตอบเดียวลงในกระดาษคาตอบ (๗ คะแนน) ๑. ขอ้ ใดเป็ นความหมายของคานาม ข. เป็ นคาที่ใชแ้ สดงความรูส้ ึกของคน สตั ว์ ก. เป็ นคาที่ทาหนา้ ที่ขยายคาต่างๆ ง. เป็ นคาที่ใชเ้ รียกชื่อคน สตั ว์ สิง่ ของ สถานที่ ค. เป็ นคาทีใ่ ชแ้ ทนชือ่ คน สตั ว์ สิง่ ของ ๒.ขอ้ ใดคือความหมายของคาวิเศษณ์ ข. คาที่ใชเ้ ชื่อมคาอื่น ก. คาทีใ่ ชข้ ยายคาอื่น ง. คาทีแ่ สดงขนาดของสิง่ ของ ค. คาทีใ่ ชแ้ สดงความรูส้ ึก

๒ ๓. ขอ้ ใดเป็ นคากริยาทุกคา ข. เขา้ สาย ก. บิน กดั ง. เตะ โอย๊ ค. กิน คุณ ข. เขาลูกน้ ีมนั สูงมาก ๔. “เขา” ขอ้ ใดเป็ นคาสรรพนาม ง. เขาป่ วยเป็ นไขห้ วดั ใหญ่ ก. ลุงแดงทานาที่หลงั เขา ค. อาแกว้ ชอบกฬี าปี นเขา ข. เป็ นคาทีใ่ ชแ้ สดงความรูส้ ึกของคน สตั ว์ ง. เป็ นคาทีใ่ ชเ้ รียกชือ่ คน สตั ว์ สิง่ ของ ๕.ขอ้ ใดเป็ นความหมายของคาสนั ธาน ก. เป็ นคาที่ทาหนา้ ที่ขยายคาต่างๆ ค. เป็ นคาที่ใชเ้ ชือ่ มประโยค

๓ ๖.ขอ้ ใด เป็ นคาอทุ านบอกอาการดีใจ ข. อนิจจา ! พุทโธ่ ! โถ! ก. ไชโย! เฮ้ ! ง. โอโ้ ฮ ! โอ ! แหม ! ค. ช่วยดว้ ย! วา้ ย ! ฮา้ ๗.ขอ้ ใดมคี าบุพบท ข.ใครกาลงั วิง่ เล่นที่สนาม ก.พแี่ ละนอ้ งกาลงั วิง่ เล่น ง.ทาไมเธอตอ้ งขยนั ค.เธอขยนั เพราะกลวั สอบตก ต้งั ใจทาขอ้ สอบนะเด็กๆ สูๆ้

เขา้ สู่บทเรียนเรื่องชนดิ ของคา ในภาษาไทย๗ชนิดกนั เลย

๔ คานาม ๑.คานาม คือ คาที่ใชเ้ รียกชื่อคน สตั ว์ สิ่งของ สถานที่ รวมท้งั สิ่งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิตท้งั ที่เป็ นรูปธรรมและนามธรรม เช่น เด็ก พ่อ แม่ บา้ น โรงเรียน ความดี ความรกั คานามแบง่ เป็ น๕ชนิด

๕ คานาม ๑.สามมานยนาม คือ คานามทีใ่ ชเ้ รียกชือ่ ทวั่ ไปไม่ช้ ีเฉพาะเจาะจง เช่น พ่อ แม่ นก รถ ขนม ตวั อย่าง -นกั เรียนอ่านหนงั สือ -แม่ซ้ ือผลไมใ้ นตลาด

๖ คานาม ๒.วิสามานยนาม คือ นามทีเ่ ป็ นชือ่ เฉพาะของคน สตั ว์ สิง่ ของ สถานที่ เช่น ครูสมศรี ประเทศไทย จังหวดั ปัตตานี โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล ตวั อย่าง - โรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูลต้งั อยู่ในจังหวดั ปัตตานี - เด็กชายวุฒิชยั ไดร้ บั รางวลั เรียนดีเยยี่ ม

๗ คานาม ๓.ลกั ษณะนาม คือ คานามทีใ่ ชบ้ อกลกั ษณะของนามหรือกริยา เพอื่ บอก ขนาด รูปร่างสณั ฐาน ปริมาณ เช่น ตวั ดา้ ม เม็ด หลงั ตวั อย่าง - บา้ นหลงั น้ ีทาสีสวยมาก - ฟันน้านมนอ้ งหกั ๒ ซี่

๘ คานาม ๔.สมุหนาม คือ คานามที่บอกหมวดหมู่ของนามทวั่ ไปและนามเฉพาะ เพอื่ บอกถงึ ลกั ษณะที่รวมกนั เป็ นหมู่ เป็ นพวก เช่น ฝูง โขลง กอง กลุ่ม คณะ ตวั อย่าง - กองทหารรกั ษาการณอ์ ยู่ตลอดเวลา - ฝูงนกบนิ ออกหาอาหารในเวลาเชา้ ตรู่

๙ คานาม ๕. อาการนาม คือ คานามที่บอกกิริยาอาการหรือความปรากฏเป็ นต่าง ซึ่งมคี า \"การ\" \"ความ\"นาหนา้ ตวั อย่าง - การเดินทางในคร้งั น้ ีปลอดภยั เป็ นอย่างยงิ่ - ความรกั ทาใหค้ นตาบอด

คาสรรพนาม ๑o ๒.คาสรรพนาม คือ คาที่ใชแ้ ทนคานามทีผ่ ูพ้ ูดหรือผูเ้ ขียนไดก้ ล่าวแลว้ หรือเป็ นที่เขา้ ใจกนั ระหว่างผูฟ้ ังและผูพ้ ูด เพอื่ ไม่ตอ้ งกล่าวคานามซ้า ๒.ประพนั ธสรรพนาม คือ คาสรรพนามทีใ่ ชแ้ ทนคานามหรือคาสรรพนามที่อยู่ ขา้ งหนา้ และประโยค ทาหนา้ ที่เชือ่ มประโยค ๒ ประโยคใหม้ ีความสมั พนั ธก์ นั ตวั อย่าง - ฉนั ชอบคนทีม่ ีมารยาทดี

๑๑ คาสรรพนาม ๓.วิภาคสรรพนาม คือ คาสรรพนามทีใ่ ชแ้ ทนคานามเพอื่ แบง่ พวก หรือรวมพวก ไดแ้ ก่ คา บา้ ง ต่าง กนั ตวั อย่าง - นกั เรียนบา้ งก็เล่นบา้ งก็คุยในช้นั เรียน - ชาวบา้ นต่างช่วยกนั เกบ็ ขยะในบริเวณวดั

๑๒ คาสรรพนาม ๔.นิยมสรรพนาม คือ คาสรรพนามที่ใชแ้ ทนคานามที่แสดงความช้ ีเฉพาะเจาะจง ตวั อย่าง -นคี่ ือโรงเรียนของฉนั ๕.อนิยมสรรพนามคือคาสรรพนามที่ใชแ้ ทนคานามที่บอก ความไม่เจาะจง ไดแ้ ก่ คา ใคร อะไร ไหน อย่างไร ตวั อย่าง - เขาชอบพูดโกหกจนไม่มีใครเชือ่ เขาอีกแลว้

๑๓ คาสรรพนาม ๖.ปฤจฉาสรรพนาม คือ คาสรรพนามที่ใชแ้ ทนคานามที่มคี วามหมาย เป็ นคาถาม ไดแ้ ก่ คา อะไร ใคร อย่างไร ทาไม ผูใ้ ด ตวั อย่าง - เธอชอบเรียนอะไรมากที่สุด - ใครนงั่ อยู่ในหอ้ งเรียนตอนพกั กลางวนั

๑๔ คาอทุ าน ๓.คาอุทานคือคาที่เปล่งออกมาเพื่อแสดงอารมณค์ วามรูส้ ึกของผูพ้ ูดซึ่งอาจเปล่งออกมาใน ขณะที่ตกใจ ดีใจ เสียใจ ประหลาดใจ คาอุทานส่วนมากไม่มีความหมายตรงตามถอ้ ยคา แต่จะมี ความหมายเนน้ ความรูส้ ึก และอารมณข์ องผูพ้ ูดเป็ นสาคญั

๑๕ คาอุทาน ๑.อุทานบอกอาการ เช่น โอย๊ อา้ ว วา๊ ย โอย โอย๊ ตายจริง คุณพระช่วย โอโ้ ฮ ตวั อย่าง - โอย๊ ! เจ็บเหลือเกิน ๒.อุทานเสริมบท เช่น อาบน้า อาบท่า, ไปวดั ไปวา, ผา้ ผ่อน, เส้ ือแสง ตวั อย่าง - เด็กๆสกปรกมอมแมมรีบไปอาบน้าอาบท่าใหเ้ รียบรอ้ ย

๑๖ คาวิเศษณ์ ๔.คาวิเศษณ์ คือ คาที่ใชข้ ยายคานาม คาสรรพนาม คากริยา และคาวิเศษณ์ เพื่อใหไ้ ดค้ วาม ชดั เจนยงิ่ ข้ ึน ๑.ลกั ษณวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณบ์ อกลกั ษณะ ชนิด สี ขนาด สณั ฐาน รส กลิน่ เสียง ความรูส้ ึก ไดแ้ ก่ คา ใหญ่ เล็ก เร็ว ชา้ ตวั อย่าง - บา้ นเล็กในป่ าใหญ่

๑๗ คาวิเศษณ์ ๒.กาลวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีบ่ อกเวลาในอดีต ปัจจุบนั อนาคต เชา้ สาย บ่าย เย็น ตวั อย่าง - เขาไปทางานเชา้ ๓.สถานวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ี่บอกสถานที่ ระยะทาง ไดแ้ ก่ คา ใกล้ ไกล บน ตวั อย่าง - พเี่ ดินหนา้ นอ้ งเดินหลงั

คาวิเศษณ์ ๑๘ ๔.ประมาณวิเศษณค์ ือ คาวิเศษณท์ ี่บอกจานวนหรือปริมาณ ไดแ้ ก่ คา มาก นอ้ ย หนงึ่ สอง หลาย ท้งั หมด ตวั อย่าง - เขาไปเที่ยวหลายวนั ๕.นิยมวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ี่บอกความช้ ีเฉพาะ ชอก กาหนดแน่นอน ไดแ้ ก่ คา นี่ นนั่ โน่น น้นั โนน้ เหล่าน้ ี เฉพาะ แน่นอน จริง

คาวิเศษณ์ ๑๙ ๖.อนิยมสรรพนาม คือ คาวิเศษณท์ ี่แสดงความไม่ช้ ีเฉพาะไมแ่ นน่ อน ไดแ้ ก่ คา อะไร ทาไม อย่างไร ไย เช่นไร ฉนั ใด กี่ ตวั อย่าง - เขาจะไปไหนก็ช่างเขาเถอะ ๗.ปฤจฉาวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีบ่ อกเน้ อื ความเป็ นคาถามหรือความสงสยั ไดแ้ ก่ คา อะไร ไหน ทาไม อย่างไร ตวั อย่าง - นอ้ งทาอะไร

๒o คาวิเศษณ์ ๘.ประติชญาวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีใ่ ชใ้ นการเรียกขานและโตต้ อบ กนั ไดแ้ ก่ คา คะ ขา ครบั ขอรบั จ๋า จ๊ะ พระพุทธเจา้ ขา้ ตวั อย่าง - หนูจ๋ามาหาครูหน่อยซิจ๊ะ - คุณพ่อครบั ผมขออนุญาตไปดูหนงั นะครบั

๒๑ คาวิเศษณ์ ๙.ประติเษธวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีบ่ อกความปฏิเสธ ไดแ้ ก่ คา ไม่ ไม่ใช่ ไมไ่ ด้ หามไิ ด้ ตวั อย่าง - เขาไม่ทาการบา้ นส่งครู

๒๒ คาวิเศษณ์ ๑๐.ประพนั ธวิเศษณ์ คือ คาวิเศษณท์ ีป่ ระกอบคากริยาหรือคาวิเศษณ์ เพอื่ ทาหนา้ ที่ เชือ่ มประโยค ใหม้ ีความเกีย่ วขอ้ งกนั ไดแ้ ก่ คาที่ ซึ่ง อนั อย่างที่ ชนิดที่ ทีว่ ่า ว่า ตวั อย่าง - เขาฉลาดอย่างทีไ่ ม่เคยเห็นมาก่อน

๒๓ คาบุพบท ๕.คาบุพบท คือ คาที่ทาหนา้ ที่เชื่อมโยงคาหนึง่ หรือกลุ่มคาหนึง่ ใหส้ มั พนั ธก์ บั คาอื่น หรือกล่มุ คาอื่น เพอื่ แสดงความหมายต่างๆ ๑. คาบุพบททีเ่ ชื่อมโยงกบั บทอื่น ๑.๑ บุพบทนาหนา้ กรรม ไดแ้ ก่ คา แก่ ซึ่ง ตวั อย่าง -อย่าเห็นแก่ตวั

๒๔ คาบุพบท ๑.๒บุพบทนาหนา้ คาทีเ่ ป็ นเจา้ ของ ไดแ้ ก่ คา แห่ง ของ ตวั อย่าง - สถานวี ิทยกุ ระจายเสียงแห่งประเทศไทย - หนงั สือของนกั เรียน ๑.๓บุพบทนาหนา้ คาบอกลกั ษณะ ไดแ้ ก่ คา ดว้ ย กบั แก่ ต่อ ตวั อย่าง - ยายกินขา้ วดว้ ยมอื - ครูใหร้ างวลั แก่นกั เรียนเรียนดี

๒๕ คาบุพบท ๑.๔บุพบทนาหนา้ คาบอกเวลา ไดแ้ ก่ คา เมอื่ ต้งั แต่ กระทงั่ จน ตวั อย่าง - เขามาถงึ บา้ นเมอื่ เชา้ น้ ี ๑.๕บุพบทนาหนา้ คาบอกสถานที่ ไดแ้ ก่ คา ที่ ใน เหนือ ใกล้ จาก แต่ ตวั อย่าง - เขามาแต่บา้ น

๒๖ คาบุพบท ๑.๖บุพบทนาหนา้ คาบอกประมาณ ไดแ้ ก่ คา ตลอด เกือบ ท้งั ราว ตวั อย่าง - ฝนตกหนกั ตลอดปี ๒.คาบุพบททีไ่ ม่เชือ่ มโยงกบั บทอื่น ส่วนมากจะอยู่ตน้ ประโยค ใชเ้ ป็ น การทกั ทาย มกั ใชใ้ นคาประพนั ธ์ ตวั อย่าง - ดูกร ภิกษุท้งั หลาย การปฏิบตั ิธรรมเป็ นหลกั สาคญั ทางศาสนา

๒๗ คาสนั ธาน ๖.คาสนั ธาน คือ คาที่ทาหนา้ ทีเ่ ชื่อมคากบั คา ประโยคกบั ประโยคขอ้ ความกบั ขอ้ ความ หรือ ความใหส้ ละสลวย ไดแ้ ก่ คา และ หรือ แต่ เพราะ ๑.คาสนั ธานเชือ่ มใจความที่คลอ้ ยตามกนั ไดแ้ ก่ คา กบั , และ, ท้งั ...และ, ท้งั ...ก็, คร้นั ...ก็, คร้นั ...จึง, พอ...ก็ ตวั อย่าง - พอ่ และแม่รกั ฉนั มาก

๒๘ คาสนั ธาน ๒.คาสนั ธานเชื่อมใจความที่ขดั แยง้ กนั ไดแ้ ก่ คา แต่, แต่ทว่า, ถงึ ...ก็, กว่า...ก็ ตวั อย่าง -นอ้ งอ่านหนงั สือแต่พฟี่ ังเพลง -ถงึ เขาจะปากรา้ ยแต่เขากใ็ จดี ๓.คาสนั ธานเชื่อมใจความที่ใหเ้ ลอื กเอาอย่างใดอย่างหนงึ่ ไดแ้ ก่ คา หรือ, หรือไม่ก็, มฉิ ะน้นั , ไม่เช่นน้นั , ไม่...ก็ ตวั อย่าง - เธอจะอ่านหนงั สือหรือฟังเพลง

๒๙ คาสนั ธาน ๔.คาสนั ธานเชื่อมใจความที่เป็ นเหตุเป็ นผลกนั ไดแ้ ก่ จึง, เพราะ, เพราะว่า , เพราะ.....จึง, ฉะน้นั ...จึง ตวั อย่าง - นกั เรียนไม่ต้งั ใจเรียนจึงสอบไม่ผ่าน

๓o คากริ ิยา ๗.คากริยา คือ คาที่แสดงอาการ สภาพ หรือการกระทาของคานาม และคาสรรพนามในประโยค คากริยาบางคาอาจมีความหมายสมบูรณใ์ นตวั เอง ๑.สกรรมกริยา คือคากริยาที่ตอ้ งมีกรรมมารองรบั จึงจะได้ ใจความสมบูรณ์ ตวั อย่าง - แม่คา้ ขายผลไม้

๓๑ คากิริยา ๒.อกรรมกริยา คือคากริยาที่ไม่ตอ้ งมีกรรมมารบั ก็ไดค้ วามหมายสมบูรณ์ ชดั เจนในตวั เอง ตวั อย่าง -ครูยนื -นอ้ งนงั่ บนเกา้ อ้ ี

๓๒ คากิริยา ๔.กริยาอนุเคราะห์ หรือ กริยาช่วย เป็ นคาที่เติมหนา้ คากริยาหลกั ใน ประโยคเพอื่ ช่วยขยายความหมายของคากริยาสาคญั เป็ นกริยาที่ไม่มี ความหมายในตวั เอง ทาหนา้ ที่ช่วยคากริยาใหม้ ีความหมายชดั เจนข้ ึน ตวั อย่าง -นายแดง จะไป โรงเรียน

๓๓ แบบฝึ กหดั หลงั เรียน คาช้ ีแจง:ใหน้ กั เรียนทาเครื่องหมายกากบาท(x)ทบั ตวั อกั ษร ก ข ค ง หนา้ คาตอบ ทีถ่ ูกตอ้ งที่สุดเพียงคาตอบเดียวลงในกระดาษคาตอบ (๗คะแนน) ๑.ขอ้ ใดใชล้ กั ษณะนามผิด ข.ศาลเจา้ 2 หลงั ก. เลือ่ ย 2 ป้ ื น ง.หนงั สือ 2 เล่ม ค.พระภิกษุ 2 องค์ ๒.คากริยามีกีช่ นิด ข.3 ชนิด ก.2 ชนดิ ง.5 ชนดิ ค.4 ชนดิ

๓๔ ๓. ขอ้ ใดมคี าบุพบททีแ่ สดงความสมั พนั ธบ์ อกเวลา ก.เวลาในขวดแกว้ ข. วนั ที่ตามปฏิทินคืออะไร ค. วนั น้นั เต็มไปดว้ ยความวุ่นวาย ง. เขากลบั มาถงึ เมืองไทยเมอื่ เชา้ น้ ี ๔. “เขา” ขอ้ ใดเป็ นคาสรรพนาม ข. เขาลูกน้ ีมนั สูงมาก ก. ลุงแดงทานาทีห่ ลงั เขา ง. เขาป่ วยเป็ นไขห้ วดั ใหญ่ ค. อาแกว้ ชอบกฬี าปี นเขา

๓๕ ๕.ขอ้ ใดเป็ นความหมายของคาสนั ธาน ก. เป็ นคาที่ทาหนา้ ที่ขยายคาต่างๆ ข. เป็ นคาทีใ่ ชแ้ สดงความรูส้ ึกของคน สตั ว์ ค. เป็ นคาที่ใชเ้ ชือ่ มประโยค ง. เป็ นคาทีใ่ ชเ้ รียกชือ่ คน สตั ว์ สิง่ ของ ๖.ขอ้ ใดมีคาวิเศษณบ์ อกอาการ ข.ขล่ยุ เลาน้ ีเป่ าเพราะมาก ก.มดี เล่มน้ หี กั แลว้ ง.หมากทะลายน้ ีมีผลดก ค.นกั กีฬาคนน้ วี ิ่งเหยาะๆ

๓๖ ๗.ขอ้ ใด เป็ นคาอุทานบอกอาการดีใจ ข. อนิจจา ! พุทโธ่ ! โถ! ก. ไชโย! เฮ้ ! ง. โอโ้ ฮ ! โอ ! แหม ! ค. ช่วยดว้ ย! วา้ ย ! ฮา้ ต้งั ใจทาขอ้ สอบนะเด็กๆ สูๆ้

๓๗ ชยั ชนะ มไี วใ้ หค้ นที่ต้งั ใจ เรียนรูแ้ ละพฒั นาตวั เอง

๓๘ เฉลยแบบฝึ กหดั แบบฝึ กหดั ก่อนเรียน แบบฝึ กหดั หลงั เรียน ข้อ เฉลย ข้อ เฉลย ๑ก ๑ค ๒ง ๒ค ๓ก ๓ง ๔ง ๔ง ๕ค ๕ค ๖ก ๖ค ๗ค ๗ก

๓๙ อา้ งอิง ฝ่ ายวิชาการ. แบบฝึ กหลกั ภาษาไทย ป.๖ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : โฟกสั , ๙๖ หนา้ . วิลาวลั ย์ วิษณุเวคิน. คู่มือวิชาภาษาไทย ป.๖ ช่วงช้นั ที่ ๒. กรุงเทพฯ : เดอะบุคส,์ ๒๕๕๓. โสภน ปิ่ นทอง. คู่มอื ช่วยสอนภาษาไทยประถมปลาย เตรียมสอบ ป.๖ เขา้ ม.๑. กรุงเทพฯ : SCIENCE CENTER, ๒๔๒ หนา้ .

หมากรุกจะเดินยงั ตอ้ งคิด หมากชีวิตจะเดินโดยไม่คิดไดอ้ ย่างไร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook