ส�ำนักส่งเสริมการเรียนรู้และบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 1 หมู่ 20 ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทมุ ธานี 13180 โทรศัพท์ : 02-9093026
ทรัพยากรสวนพริกไทย สู่เกษตรที่ยั่งยืน
ทรัพยากรสวนพริกไทย สู่เกษตรที่ยั่งยืน ปรียาภา เมอื งนก ส�ำนักส่งเสริมการเรียนรู้และบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
ทรัพยากรสวนพรกิ ไทยส่เู กษตรทยี่ งั่ ยืน ขอ้ มูลทางบรรณานุกรมของหอสมุดแห่งชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data ปรียาภา เมอื งนก. ทรพั ยากรสวนพริกไทยสเู่ กษตรทีย่ ัง่ ยนื . --ปทมุ ธานี : สำ�นักส่งเสริมการเรยี นรแู้ ละ บรกิ ารวิชาการ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์, 2563. 59 หน้า 1. การพฒั นาชุมชน. 2.ชมุ ชน--ไทย—ปทุมธาน.ี 3.ชุมชนสวนพรกิ ไทย (ปทุมธาน)ี . II. ช่อื เรอื่ ง. 307.1 ISBN 978-974-337-255-1 สงวนลิขสทิ ธ์ิตามพระราชบญั ญตั ิ ห้ามทำ� การลอกเลียนแบบไมว่ า่ สว่ นใดส่วนหนงึ่ ของหนงั สอื เล่มนี้ นอกจากจะไดร้ ับอนุญาต พมิ พ์คร้งั ท่ี 1 กุมภาพันธ์ 2563 บรรณาธิการอำ� นวยการ ผศ.ดร.สุพจน์ ทรายแกว้ รศ.ดร.นฤมล ธนานันต์ ผศ.เศกพร ตันศรีประภาศริ ิ คณะผจู้ ัดทำ� ปรยี าภา เมอื งนก รวิธร ฐานสั สกลุ วษิ ชญะ ศลิ าน้อย วณิ ากร ที่รกั ภทั รเวช ธาราเวชรกั ษ ์ ศิลปกรรม ปรยี าภา เมืองนก ออกแบบปก ปรียาภา เมอื งนก พิสูจน์อักษร ดร.วรรี ตั น์ สมั พัทธ์พงศ ์ เมธี ถกู แบบ ประสานงานผลิต ปรยี าภา เมอื งนก จดั พมิ พ์โดย ส�ำนักส่งเสริมการเรียนรู้และบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 1 หมูท่ ี่ 20 ถนนพหลโยธิน ตำ� บลคลองหน่งึ อำ� เภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธานี 13180 โทรศพั ท์ : 02-909-3026 Email : [email protected] ด�ำเนินการผลิตโดย บริษัท ซิต้ีพร้ินท์ จ�ำกัด เลขท่ี 1/50 หมู่ที่ 20 ถนนพหลโยธิน ต�ำบลคลองหนึ่ง อ�ำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 13180 โทรศัพท์ 081-839-2719
จากใจผู้เขียน ผู้เขียนเป็นอาจารย์นักพัฒนา ในการพัฒนาชุมชนพอสมควร แต่ ท้องถ่ินจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ ด้วยความเมตตาของท่าน วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ อธิการบดี (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ มีงานท่ีรับผิดชอบหลักนอกเหนือจาก ดร.สพุ จน์ ทรายแก้ว) ทีเ่ ข้าใจถึง งานสอน คอื งานพัฒนาชุมชนทอ้ งถ่นิ ความกังวลน้ี ท่านจึงมอบโอกาส บริเวณรอบมหาวิทยาลัยฯ เพอื่ พฒั นา ให้ ผู้เขียนได้ในการศึกษาเรียนรู้ ใ ห ้ ชุ ม ช น มี คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต ที่ ดี แ ก ้ ไ ข จากชุมชนต้นแบบท่ีประสบความ ปัญหาและให้การสนับสนุนตามความ ส�ำเร็จแล้วเพ่ือเป็นตัวอย่างและ ต้องการของชุมชนในจังหวัดปทุมธานี แนวทางในการทำ� งาน ท้งั นี้ผ้เู ขียน ท้ังน้ีผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ในการ จึงเริ่มต้นศึกษาชุมชนบ้านคลอง พัฒนาชุมชนมากอ่ น จากการทำ� งาน บางสงิ ห์ หมทู่ ี่ 8 ต�ำบลสวนพริก ท่ี ส ถ า บั น พั ฒ น า อ ง ค ์ ก ร ชุ ม ช น ไทย อำ� เภอเมือง จังหวดั ปทมุ ธานี (องค์การมหาชน) ซ่ึงเป็นหน่วยงาน โดยได้ด�ำเนินการศึกษาเรียนรู้ ภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนา และถอดบทเรียนออกมาในรูป สงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ แต่ แบบหนังสือ และรูปแบบ วิดีทศั น์ งานเดิมนั้นเป็นงานพัฒนาชุมชนใน ซ่ึงเป็นที่มาของการเกิดหนังสือ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ท่ีมีบริบท “ทรัพยากรสวนพริกไทยสู่เกษตร ความเป็นชุมชนเมืองสูง ซึ่งต่างกับ ที่ยั่งยืน” เล่มนี้ ทั้งนี้ผู้เขียนหวัง ปัจจุบันท่ีต้องพัฒนาชุมชนในจังหวัด เป็นอย่างย่ิงว่าหนังสือเล่มนี้จะ ปทุมธานีท่ีมีบริบทความเป็นชุมชน สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ด้าน ก่ึงเมืองกึ่งชนบท ท�ำให้ผู้เขียน การพัฒนาชุมชนที่ย่ังยืนให้กับ มี ความกังวลถึงแนวทางและวิธีการ ผู้อ่านทุกท่านได้สัมผัสเฉกเช่นที่ ผู้เขียนได้สัมผสั X ปรียาภา เมืองนก (พล้ิว)
CONTENT บทน�ำ 1 Chapter Two x Chapter Three x Chapter Four x Chapter Five x INDEX
CONTENT บทน�ำ 1 รู้จักกับสวนพริกไทย 4 10 สถานที่ส�ำคัญในสวนพริกไทย 22 ทุนของสวนพริกไทย 40 ราชภัฏกับสวนพริกไทย 50 บทส่งท้าย ทรัพยากรสวนพริกไทย สเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยืน
1 บทน�ำ “ถนิ่ บวั หลวง เมอื งรวงขา้ ว เชอื้ ชาวมอญ นครธรรมะ พระตำ� หนักรวมใจ สดใสเจา้ พระยา ก้าวหนา้ อตุ สาหกรรม” นี่คอื ค�ำขวัญประจ�ำจงั หวัดปทุมธานี จงั หวัด 1 ใน 5 พน้ื ท่ีปริมณฑล ของกรงุ เทพมหานคร จังหวดั ทมี่ ีความหลากหลายด้านวัฒนธรรม และมี ความผสมผสานกนั ระหวา่ งความเป็นเมือง และความเป็นชนบท เรียกได้ ว่า มีท้ังพ้ืนท่ีอุตสาหกรรม และพื้นท่ีเกษตรกรรมหลอมรวมกันอยู่ใน จังหวัดนี้ โดยเม่ือครั้งในอดีตสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว มีพระราชด�ำรัสโปรดให้พัฒนาพ้ืนที่ทุ่งรังสิตเป็นแหล่งผลิต ข้าวเพอ่ื การสง่ ออกของไทย ใหร้ องรบั กบั สนธสิ ัญญาเบาว์ริงที่ทำ� ไว้ร่วม กับประเทศองั กฤษ ตอ่ มาหลงั การประกาศเลกิ ทาส ประชาชนจึงไดเ้ ข้า มาอาศัยอยู่ในพ้ืนที่และจับจองที่ดินเพื่อท�ำนาปลูกข้าวกันจ�ำนวนมาก แต่ในปัจจุบันการพัฒนาประเทศท่ีเปล่ียนไป ท�ำให้พ้ืนท่ีเกษตรกรรม บางส่วนของจังหวัดได้ถูกปรับเปล่ียนไปเป็นพ้ืนท่ีอุตสาหกรรม เนื่อง ด้วยท�ำเลท่ีตั้งของจังหวัดอยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร จึงสามารถขนส่ง สินค้าได้ท้ังทางบกและทางน้�ำเข้าสู่ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ ได้ในเวลาไม่นาน ดังน้ันภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดปทุมธานีจึงเติบโต อย่างรวดเรว็ 1
การเติบโตทางอุตสาหกรรมในจังหวัดปทุมธานี ท�ำให้วิถีชีวิต ส่วนใหญ่ของประชาชนในจังหวัดเปล่ียนแปลงจากเป็นแรงงานใน ภาคเกษตรเปลย่ี นเปน็ แรงงานในภาคอุตสาหกรรม แตท่ ง้ั น้ีผเู้ ขียน ได้มีโอกาสอ่านบทความทางวิชาการฉบับหน่ึงที่น�ำเสนอเร่ืองราว ของชุมชนหน่ึงในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ที่มีการผสมผสานกัน ระหว่างความเป็นชุมชนเมืองกับความเป็นชุมชนชนบทได้อย่าง ลงตัว คือเป็นชุมชนที่มีพ้นื ท่ีอตุ สาหกรรมล้อมรอบชมุ ชน แต่ยงั คง ความเปน็ พื้นที่ภาคเกษตรได้อยู่ และยังสามารถพัฒนาตนเองจน เกิดเป็นชุมชนเกษตรกรรมที่ย่ังยืนได้อีกด้วย โดยชุมชนแห่งน้ีชื่อ ชุมชนบ้านคลองบางสิงห์ หมูท่ ี่ 8 ต�ำบลสวนพรกิ ไทย อำ� เภอเมือง จงั หวัดปทุมธานี ด้วยเหตุน้ีผู้เขียนจึงสนใจที่จะลงพ้ืนที่ศึกษาและส�ำรวจบริบท ของชุมชนนีเ้ พ่มิ เตมิ ถงึ ความเข้มแข็งในการรกั ษาและพัฒนาพืน้ ที่ เกษตรกรรมของชมุ ชนไดอ้ ยา่ งมัน่ คงและยงั่ ยนื ดังน้นั ผเู้ ขยี นจึงได้ หาทางติดต่อชมุ ชนเพอ่ื ขออนญุ าตเข้าพน้ื ที่ และทำ� ใหผ้ เู้ ขยี นไดร้ จู้ กั กบั นายนพพร โพชนป์ ระดษิ ฐ์ หรอื “ผใู้ หญเ่ อ”๋ ผูใ้ หญบ่ า้ นหมู่ท่ี 8 ต�ำบลสวนพรกิ ไทย ซงึ่ ผู้ใหญ่เอไ๋ ดใ้ หก้ ารตอ้ นรับผู้เขียนเป็นอย่างดี โดยไดแ้ นะนำ� เสน้ ทางการเดนิ ทางไปชมุ ชนนนั้ ทำ� ใหผ้ เู้ ขยี นแปลกใจ 2
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ มากทช่ี ุมชนตงั้ อยใู่ กลเ้ มืองมาก โดยอยหู่ ่างจากศนู ย์การค้าฟวิ เจอร์ พาร์ครังสิตแคเ่ พยี ง 9 กิโลเมตร ท้งั น้ีผู้ใหญ่เอ๋แนะนำ� ใหผ้ ู้เขียนใช้ เส้นทางถนนรังสิต-ปทุมธานี โดยใ้ห้เล้ียวเข้าซอยเลียบคลอง เปรมประชา ซึ่งท่ีต้ังของชุมชนจะอยู่ด้านซ้ายมือในซอยสันติภาพ หา่ งจากปากซอยประมาณ 3 กิโลเมตร เมอื่ ผ้ใู หญ่เอ๋ได้บอกเส้นทางกับผู้เขียนโดยละเอยี ดแล้ว ผู้ใหญ่เอ๋ ได้ก�ำหนดวันนัดหมายท่ีทางชุมชนสะดวกมากับผู้เขียน ซึ่งตรงกับ เดอื นเมษายนพอดี โดยผูเ้ ขยี นรีบตอบตกลงทันทแี ละบันทึกวนั นดั หมายลงสมุดบันทึกส่วนตัว และนับวันรอให้ถึงเดือนเมษายนโดย เร็วเพ่ือจะได้ท�ำความรู้จักกับชุมชนบ้านคลองบางสิงห์ หมู่ที่ 8 ต�ำบลสวนพริกไทยแห่งน้ีเสยี ที ในบทอ่ืนๆ หลงั จากน้ผี เู้ ขยี นจะพาผอู้ ่านทกุ ท่านไปท�ำความร้จู ัก กบั ประวตั คิ วามเปน็ มาของชมุ ชน และสถานทสี่ ำ� คญั ตา่ งๆ ในชมุ ชน รวมถงึ จดุ เดน่ ตา่ งๆ ทท่ี ำ� ใหช้ ุมชนบา้ นคลองบางสงิ ห์ หมทู่ ่ี 8 ต�ำบล สวนพรกิ ไทย แหง่ นเี้ ปน็ ชมุ ชนทคี่ งความเปน็ ชมุ ชนภาคเกษตรกรรม ท่ีอยู่ท่ามกลางความเจริญทางด้านอุตสาหกรรมในพ้ืนท่ีจังหวัด ปทุมธานนี ้ีไดอ้ ยา่ งไร 3ทรัพยากรสวนพรกิ ไทยส่เู กษตรทยี่ ัง่ ยืน
4
2 รู้จักกับสวนพริกไทย เม่ือถงึ เดือนเมษายน ตรงตามวนั ท่นี ัดหมายกับทางผใู้ หญเ่ อ๋ไว้น้นั ผู้เขียนรีบออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อไปให้ถึงทันนัดหมายกับผู้ใหญ่เอ๋ในเวลา 10.00 น. โดยในการเดนิ ทางคร้งั นี้ มีผู้ร่วมเดนิ ทางไปกบั ผู้เขียนดว้ ย อีก 4 คน คอื อาจารย์นักพฒั นาทอ้ งถ่ินของมหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แก่ อาจารย์รวิธร ฐานัสสกุล (อ.ปิงปอง) อาจารย์วิษชญะ ศิลานอ้ ย (อ.เพยี ว) อาจารย์วิณากร ที่รกั (อ.เหวด) และ อาจารย์ภัทรเวช ธาราเวชรักษ์ (อ.โต้ง) ซึ่งเหตุผลท่ีทางผู้เขียนได้พา อาจารย์นักพัฒนาท้องถ่ินของมหาวิทยาลัยอีก 4 ท่าน ร่วมเดินทางไป ครั้งนดี้ ว้ ยนน้ั เพอื่ ใหอ้ าจารยท์ ้งั 4 ทา่ น ไดร้ ว่ มกนั ศกึ ษาจุดเด่น ความ เข้มแข็ง และความส�ำเร็จของชุมชนแห่งนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง และเป็น ต้นแบบในการน�ำองค์ความรู้ท่ีได้เรียนรู้ไปพัฒนาชุมชนอื่นในพื้นที่ จังหวัดปทุมธานีต่อไป ตามบทบาทหน้าที่หลักของอาจารย์นักพัฒนา ท้องถ่ินของมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 5
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้เขียนและคณะได้เดินทาง ชุมชน ผ้ทู อ่ี ยู่รอต้อนรับผเู้ ขยี น มาถึงชุมชนบ้านคลองบางสิงห์ จะเปน็ ใครไมไ่ ดน้ อกจากผใู้ หญเ่ อ๋ หมู่ที่ 8 ต�ำบลสวนพริกไทย ซึ่งนับเป็นคร้ังแรกท่ีผู้เขียนได้ ก่อนเวลานัดหมายประมาณ พบกับผู้ใหญ่เอ๋ ผู้เขียนได้ 10 นาที โดยสถานที่ที่ผู้ใหญ่เอ๋ แนะนำ� ตวั เองและคณะใหผ้ ใู้ หญเ่ อ๋ ได้นัดหมายให้ผู้เขียนและคณะ ได้ท�ำความรู้จัก และผู้ใหญ่ ไว้คือ ศูนย์เรียนรู้การเกษตร ก็ ไ ด ้ แ น ะ น� ำ ป ้ า ส ม คิ ด ผู ้ เ ป ็ น พอเพยี งของชมุ ชน ซ่งึ ตั้งอยู่ใน เจ้าของบ้านให้ผู้เขียนและคณะ บา้ นของ “ป้าสมคิด” ปราชญ์ รู้จักเช่นกัน หลังจากนั้นปา้ ชุมชนประจ�ำหมู่บ้าน (โดยผู้ สมคิดก็ได้เชิญผู้เขียนและคณะ เขียนจะเล่ารายละเอียดของ เข้าบ้านและหาน้�ำหาท่ามา บคุ คลทา่ นน้ีในบทต่อไป) เมื่อ รับรอง และเพือ่ ไม่ใหเ้ ป็นการ เดินทางมาถึงศูนย์เรียนรู้ของ เสียเวลาผู้เขียนจึงได้เร่ิมต้น อ.ปงิ ปอง อ.พลิ้ว ผ้ใู หญ่เอ๋ อ.เหวด อ.เพยี ว อ.โตง้ 6 ทรัพยากรสวนพริกไทยสู่เกษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ยิงค�ำถามแรกกับผู้ใหญ่เอ๋ทันที สยาม จากประวัติศาสตร์ ห ลั ง จ า ก อ ด ก ลั้ น ม า น า น ไ ว ้ บันทึกไว้ว่า เม่ืออาณาจักร หลายเดือน โดยค�ำถามแรกผู้ ปาตานีแพ้สงครามราว พ.ศ. เ ขี ย น ไ ด ้ ส อ บ ถ า ม ถึ ง ป ร ะ วั ติ 2328-2429 (ค.ศ. 1785-1786) ความเป็นมาของชุมชนบ้าน ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จ คลองบางสิงหแ์ ห่งน้ี โดยผูใ้ หญ่ พ ร ะ พุ ท ธ ย อ ด ฟ ้ า จุ ฬ า โ ล ก เอ๋เล่าย้อนความไปต้ังแต่ช่ือ มหาราช (รัชกาลที่ 1) ได้ส่ง ที่มาของค�ำว่าส ว น พ ริ ก ไ ท ย ก อ ง ทั พ ไ ป ตี เ มื อ ง ป า ต า นี ไดค้ วามว่า ในอดตี มชี าวมสุ ลิม หลังจากชนะสงครามแล้วจึงได้ จ� ำ น ว น ห น่ึ ง อ พ ย พ เข ้ า ม า กวาดต้อนผู้คนมายังบางกอก ตั้งถิ่นฐานบริเวณหมู่ที่ 7 และจงั หวัดใกลเ้ คียง เช่น แถวสี่ บ้านส ว น พ ริ ก ไ ท ย ใ น ปัจจุบัน แยกบ้านแขก ถนนตก คลอง ซงึ่ เปน็ ชมุ ชนมสุ ลมิ ทส่ี บื เชอื้ สาย แสนแสบ ปากลัด เพชรบุรี มาจากชาวปาตานี ได้เข้ามา ปทุมธานี นนทบุรี เป็นต้น ตั้งถิ่นฐาน หลังถูกต้อนมาจาก การตง้ั ถน่ิ ฐานในเขตปทมุ ธานนี น้ั อาณาจักรปาตานี โดยกองทพั ชาวมุสลิมได้ประกอบอาชีพ 7ทรัพยากรสวนพรกิ ไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ ปลูกพริกไทย เพื่อส่งผลผลิต ประชาชนในหมทู่ ่ี 8 สว่ นใหญ่ ให้แก่ส่วนกลาง (หลวง) ซึ่งมี นบั ถอื ศาสนาพุทธ เป็นหม่บู า้ น สวนพรกิ ไทยจำ� นวนมาก จงึ เป็น ที่มวี ิถชี วี ิตอยู่ในวินยั กรอบศลี ท่ีมาของช่ือหมูบ่ า้ นและต�ำบล ธรรม และจริยธรรมอันดีงาม เมอื งทางราชการไดม้ กี ารแบง่ เขต บำ� รงุ รกั ษาศลิ ปะ จารตี ประเพณี จัดต้ังช่ือหมู่บ า้ น จึงไดช้ ่ือวา่ ภมู ปิ ญั ญา และวฒั นธรรมทดี่ งี าม บา้ นสวนพริกไทย และต�ำบล ของท้องถน่ิ มีการท�ำกิจกรรม สวนพรกิ ไทย ร่วมกนั เชน่ ประเพณีสงกรานต์ ตกั บาตรพระรอ้ ย เขา้ วดั ฟงั ธรรม สว่ นชมุ ชนบา้ นคลองบางสงิ ห์ การละเล่นพื้นเมือง ประเพณี หมทู่ ่ี 8 เดมิ เปน็ ชมุ ชนเลก็ ๆ มี และวัฒนธรรมตามเทศกาลงาน บา้ นเรอื นอาศยั อยนู่ อ้ ยอยู่ในเขต ส�ำคัญทางศาสนา และราชพิธี ของหมทู่ ี่ 4 ตำ� บลสวนพรกิ ไทย ตา่ งๆ โดยประชาชนในชุมชนประกอบ อาชพี ทำ� นาทำ� สวนอาศัยน�้ำจาก นอกจากน้ีผู้ใหญ่เอ๋ยังเล่าให้ ล�ำราง เพ่ือท�ำการเพาะปลูก ฟังเพ่มิ เตมิ วา่ ชุมชนบ้านคลอง ขา้ วและปลูกผกั มนี ำ้� ข้ึนน�ำ้ ลง บางสิงห์ มีจุดเด่นในด้าน ตามเวลา ต่อมาจึงมีการขุด การเกษตร โดยเฉพาะการผลิต คลองเพอื่ ขยายลำ� รางใหก้ วา้ งขนึ้ ข้าวกล้อง จนถึงข้ันมีการรวม เพื่อเช่ือมต่อระหว่างคลองเชียง กลุ่มเป็นกลุ่มเกษตรกรท�ำนา รากและคลองเปรมประชา เม่ือ สวนพรกิ ไทย และกลุม่ วิสาหกจิ ประมาณ 40 ปีที่ผ่านมา และ ชุมชนข้าวกล้องสวนพริกไทย เมื่อมีประชากรมากข้ึนจึงได้ ท่ีสามารถผลิตข้าวกล้องและ แยกออกมาจัดต้ังเป็นหมู่บ้าน สร้างรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่ม ใ ห ม ่ โ ด ย ต้ั ง ชื่ อ ชุ ม ช น ว ่ า เป็นกอบเป็นก�ำจนสามารถ “คลองบางสงิ ห์” เลี้ยงส่งลูกให้จบปริญญาตรี 8 ทรัพยากรสวนพริกไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ นายนพพร โพชน์ประดิษฐ์ (ผใู้ หญเ่ อ)๋ ได้หลายคน อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพการผลิตที่ขึ้น ช่ือว่าเป็นข้าวปลอดสารเรียกได้ว่าประสบความส�ำเร็จถึงขนาดจัดต้ัง เป็นศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง (ศูนย์เครือข่าย) เพื่อให้บุคคล ภายนอกไดเ้ ขา้ มาศกึ ษาเรยี นรคู้ วามสำ� เรจ็ ของชมุ ชนบา้ นคลองบางสงิ ห์ เ พ่ื อ ป รั บ ป ร ะ ยุ ก ต ์ ใ ช ้ แ ล ะ พั ฒ น า กั บ ชุ ม ช น ข อ ง ต น เ อ ง ต ่ อ ไ ป นอกจากน้ียังมีองค์ความรู้การเกษตรด้านอ่ืนท่ีชุมชนคลองบางสิงห์ ไดด้ ำ� เนนิ การเพอื่ พฒั นาชมุ ชนควบคกู่ นั ไป ไดแ้ ก่ การปลกู ผกั ปลอดสาร ผักไฮโดรโปนิกส์ การเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน และงานหัตถกรรม จักสานตะกร้า เปน็ ตน้ 9ทรัพยากรสวนพริกไทยสู่เกษตรทยี่ งั่ ยนื
3 สถานที่ส�ำคัญในสวนพริกไทย หลังจากท่ีผู้ใหญ่เอ๋ได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาและจุดเด่น ของชุมชนแล้ว ผ้เู ขยี นย่ิงสนใจอยากทำ� ความรู้จกั ชุมชน แห่งน้ีใหม้ ากกว่านี้ จึงได้ขออนุญาตให้ผู้ใหญ่เอ๋พาผู้เขียนและคณะ เดินส�ำรวจพ้ืนท่ีและบริบทชุมชน เพื่อศึกษาและท�ำความรู้จักกับ ชุมชนบา้ นคลองบางสิงหใ์ หม้ ากกวา่ นี้ โดยผู้ใหญเ่ อไ๋ ดแ้ นะน�ำสถาน ทสี่ ำ� คญั ของชมุ ชนใหผ้ เู้ ขียนและคณะไดร้ ู้จกั ได้แก่ วัดบุญบางสงิ ห์ โบสถ์คริสตจักรแบ๊บติสต์พระคุณสวนพริกไทย โรงเรียนหอวัง ปทุมธานี ศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง (ศูนย์เครือข่าย) และ ร้านคา้ ชมุ ชน (ตลาดนดั ชมุ ชน) 10
11
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สถานทีแ่ รกที่ผใู้ หญเ่ อพ๋ าไปทำ� ความร้จู ักคือ วดั บุญบางสงิ ห์ อย่าง ที่ผู้ใหญ่เอ๋ได้เล่าให้ฟังไปแล้วว่า ชุมชนบ้านคลองบางสิงห์ หมู่ท่ี 8 แห่งนี้ ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งสถานที่ยึดเหน่ียว จิตใจของคนในชมุ ชน สถานท่ปี ระกอบพธิ ีทางศาสนา และกิจกรรม ทางศาสนาต่างๆ ของชมุ ชน คอื วดั บุญบางสงิ ห์ ซ่ึงวดั บญุ บางสงิ หม์ ี ประวัติพอสงั เขป ดงั นี้ วดั แห่งนีไ้ ดเ้ ร่ิมสร้างเปน็ สำ� นกั สงฆ์สวนพรกิ ไทยเมอ่ื พ.ศ. 2528 โดยมี นายสงวน และนางสมบญุ นลิ การ บรจิ าค ทีด่ ินสร้างวดั จำ� นวน 20 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวา และเม่อื วนั ท่ี 20 พฤศจกิ ายน พ.ศ 2533 ได้รับอนุญาตตัง้ วดั ชอ่ื วา่ วัดบุญบางสิงห์ โดย วัดน้ีได้ด�ำเนินการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดไป แล้วคือวิหาร 1 หลัง ศาลาการเปรียญ 1 หลัง กุฏิสงฆ์ 7 หลัง ฌาปนสถาน 1 หลัง และหอระฆงั 1 หลงั นอกจากนี้ผู้ใหญ่ยงั เลา่ ให้ ฟังอีกว่า ทุกๆ เย็น เวลาประมาณ 5 โมงเย็น สมาชิกในชุมชนจะ นัดหมายรวมตัวกนั เพอ่ื สวดมนต์เปน็ ประจำ� 12 ทรพั ยากรสวนพรกิ ไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ 13ทรพั ยากรสวนพรกิ ไทยสูเ่ กษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ จากทผี่ ใู้ หญเ่ อเ๋ ลา่ ใหฟ้ งั ถงึ ประวตั คิ วามเปน็ มาของตำ� บลสวนพรกิ ไทย ว่ามีชาวมุสลิมซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเข้ามาอยู่อาศัยในพ้ืนท่ีบริเวณนี้ตั้งแต่ แรกเริม่ ดังน้ัน พื้นทตี่ �ำบลสวนพรกิ ไทยน้จี ึงมคี วามหลากหลายทาง ด้านวฒั นธรรมอยูพ่ อสมควร จะเหน็ ไดจ้ ากสถานท่ีสำ� คญั ทางศาสนา ที่มีทั้งวัด มัสยิด และโบสถ์ ซึ่งตรงกับสถานท่ีที่ 2 ท่ีผู้ใหญ่เอ๋ได้ แนะน�ำให้ผู้เขียนและคณะได้รู้จัก คือ โบสถ์คริสตจักรแบ๊บติสต์ พระคุณสวนพริกไทย โบสถ์แห่งน้ีอยู่ภายใต้สังกัดการดูแลของ สหกิจคริสเตียนแห่งระเทศไทย ซ่ึงเป็นองค์การทางศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ในประเทศไทย และเป็นองค์การทางศาสนา คริสต์ที่ใหญเ่ ปน็ อันดับที่ 3 ในประเทศไทย 14 ทรพั ยากรสวนพรกิ ไทยสู่เกษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สถานท่ีต่อไป คือ โรงเรียนหอวัง ปทุมธานี โรงเรียนแห่งน้ีเป็น โรงเรียนทลี่ ูกหลานของคนในต�ำบลสวนพริกไทย เข้าศกึ ษามากเป็น อบั ดบั ต้นๆ โดยโรงเรยี นแห่งนีก้ ็เปน็ อกี หนึง่ พ้ืนทีท่ ไี่ ดร้ ับการบรจิ าค ทีด่ ินจากคนในตระกูลนลิ การ ผเู้ ปน็ คนทอ้ งถน่ิ เดมิ ในตำ� บลสวนพรกิ ไทย ซ่ึงมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการส่งเสริมให้ลูกหลานที่อยู่อาศัยในบริเวณ พื้นท่ีแห่งน้ีได้มีสถานศึกษาในระดับมัธยมศึกษาท่ีจะเป็นแหล่ง ประสาทวิชา เพ่ือให้เยาวชนสามารถต่อยอดการศึกษาเล่าเรียนใน ระดับสูงต่อไป นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนและแรงผลักดันจาก พระครูปลัดสมศกั ดิ์ มังคโล เจา้ อาวาสวดั บญุ บางสงิ ห์ ทชี่ ่วยเหลอื ใน ทุกๆ ด้าน และสง่ ผลใหโ้ รงเรียนแหง่ นไี้ ดถ้ อื ก�ำเนดิ ข้ึนมาเป็นสถาน ศึกษา ทั้งน้ีชื่อแรกเริ่มของโรงเรียน ตามประกาศของกระทรวง ศึกษาธิการ ใช้ช่ือว่า โรงเรียนสิงห์ปทุมราษฎร์วิทยา จนต่อมาในปี พ.ศ. 2546 จึงได้เปล่ียนช่ือมาเป็นโรงเรียนหอวังปทุมธานี อย่างที่ใช้ ในปัจจุบัน ขอบคุณรปู ภาพจาก : เว็บไซต์ อบต.สวนพริกไทย 15ทรัพยากรสวนพริกไทยสูเ่ กษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ ศู น ย ์ เรี ย น รู ้ ก า ร เ ก ษ ต ร ระบาด ทำ� ใหร้ าคาขายไมค่ ุ้มทนุ พอเพยี ง (ศนู ย์เครือข่าย) เปน็ แม้แต่ปัญหาการขาดแคลนน้�ำ ส ถ า น ที่ แ ห ่ ง ค ว า ม ภ า ค ภู มิ ใ จ ส�ำหรับบริโภคแม้ที่ต้ังของชุมชน ของชุมชน เน่อื งดว้ ยเป็นแหลง่ อยูใ่ กล้เมอื งหลวงก็ตาม จนน�ำ เผยแพร่องค์ความรู้ของชุมชน ไปสู่แนวทางการรวมตัวกันเพ่ือ ที่สามารถเล่าเรื่องราวประวัติ แกไ้ ขปญั หาของชุมชน โดยได้รบั ความเป็นมาของการต่อสู้กับ การส่งเสริมและสนับสนุนจาก ปัญหาการปล่ียนแปลงในอดีต หลายหน่วยงานด ้ ว ย กั น โ ด ย ของชมุ ชน เช่น ปัญหาการขาด เร่ิ ม ต ้ น จ า ก ส�ำนักงานเกษตร ที่ ดิ น ท� ำ กิ น ต ้ อ ง เช ่ า ท่ี ดิ น เ พ่ื อ อ� ำ เ ภ อ เ มื อ ง ป ทุ ม ธ า นี ทำ� นา ทำ� สวน ปัญหาน�้ำเน่าเสยี ส� ำ นั ก ง า น เ ก ษ ต ร จังหวัด จ า ก เ มื อ ง แ ล ะ อุ ต ส า ห ก ร ร ม ปทมุ ธานี ทเี่ ขา้ มาพัฒนาตอ่ ยอด ปัญหาน�้ำหลาก น�้ำท่วมขัง ทุนศักยภาพที่เป็นจุดแข็งของ ป ั ญ ห า ก า ร ป ลู ก พื ช เชิงเด่ียวที่ ชมุ ชน เชน่ ภูมิปัญญาเร่ืองสูตร ท�ำให้ผลผลิตตกต่�ำและเกิดโรค อาหารต่างๆ น�ำไปสู่การสรา้ ง 16 ทรพั ยากรสวนพรกิ ไทยสูเ่ กษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ อาชีพสร้างรายได้ให้กับสมาชิก การเกษตร และเพิ่มรายได้ใหก้ บั ในชุมชน อกี ทั้งการตอ่ ยอดเรอ่ื ง ชุมชน ท้ังนี้ผู้เขียนจะกล่าวราย การทำ� นา ซงึ่ อาชีพหลักทชี่ ุมชน ละเอียดเพ่ิมเติมในบทต่อไป ส่วนใหญ่ประกอบอาชพี กไ็ ดร้ บั แรงส่งเสริมและสนับสนุน เช่น ดังนั้นศูนย์เรียนรู้การเกษตร โรงสีชุมชน การแปรรูปข้าว พอเพียง (ศูนย์เครือขา่ ย) แห่งน้ี การปลูกพันธ์ข้าวกล้อง เป็นต้น จึ ง เ ป รี ย บ เ ส มื อ น ส ถ า น ท่ี ท่ี ท้ังนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลย ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทาง อลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ การแก้ไขปัญหา แนวทางท่ที �ำให้ ก็เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่เข้ามา ชุมชนประสบความส�ำเร็จเป็น ช ่ ว ย ส ่ ง เ ส ริ ม ชุ ม ช น ใ น ด ้ า น ชมุ ชนบา้ นคลองบางสงิ ห์ หมทู่ ่ี 8 ต�ำบลสวนพรกิ ไทย จนถงึ ทกุ วนั นี้ 17ทรพั ยากรสวนพรกิ ไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ รา้ นคา้ ชมุ ชน 18 ทรพั ยากรสวนพรกิ ไทยสู่เกษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ เม่ือเวลาผ่านไปประมาณถึงเทย่ี งวนั หลังจากสำ� รวจบรบิ ทชุมชน และสถานท่สี ำ� คัญตา่ งๆ ในชมุ ชนแล้ว ทัง้ ผเู้ ขียนและคณะต่างรูส้ ึกหวิ กนั เตม็ ที ผใู้ หญ่เอจ๋ งึ พาเราไปกนิ ข้าวเทย่ี งที่ร้านคา้ ชมุ ชน โดยผู้ใหญ่ เอ๋ไดน้ �ำเสนอกบั ผเู้ ขียนและคณะวา่ ทีร่ ้านคา้ ชมุ ชนนี้มอี าหารหลาก หลายทส่ี มาชกิ ในชมุ ชนเป็นผขู้ าย ทั้งอาหารตามสัง่ ผัดไทย หอยทอด ก๋วยเต๋ยี วเรอื หอ่ หมก ขนมไทยต่างๆ ผักและผลไมส้ ดๆ แมก้ ระทัง่ กล้วยทอด เผือกทอด มันทอดก็มีเช่นกัน เมื่อผู้เขียนและคณะได้ยิน ดังน้ัน จึงรีบคะยน้ั คะยอใหผ้ ใู้ หญเ่ อร๋ บี พาไปท่รี ้านค้าชุมชนอย่างเรว็ ที่สุด และเมื่อไปถึงตรงบรเิ วณรา้ นค้าชุมชนก็พบวา่ ทีร่ ้านค้าชมุ ชนมี ลูกค้ามาซื้อของและกินข้าวเที่ยงกันเยอะพอสมควร ซ่ึงส่วนใหญ่จะ เป็นลูกคา้ ทท่ี �ำงานอย่บู ริษทั เอกชนทอี่ ย่บู ริเวณใกลเ้ คยี งชมุ ชน ถือว่า พื้นท่ีต้ังของชุมชนมีท�ำเลท่ีดีมาก เหมาะแก่การค้าขาย ซึ่งเป็น การช่วยเสรมิ ให้ชุมชนสรา้ งรายได้เพิ่มใหก้ ับตนเองอีกดว้ ย 19ทรพั ยากรสวนพรกิ ไทยสู่เกษตรทยี่ งั่ ยืน
แผนทเี่ ดินดนิ ชมุ ชน 20
บ้านคลองบางสงิ ห์ 21
4 ทุนของสวนพริกไทย ในบทนี้ผู้เขียนจะพาทุกท่านไปพบกับทุนศักยภาพของชุมชน บ้านคลองบางสงิ ห์ หม่ทู ่ี 8 ต�ำบลสวนพริกไทย ทเ่ี ป็นจดุ แขง็ ที่ ท�ำให้ชุมชนแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ในปี พ.ศ. 2559 ทไ่ี ด้รบั การแตง่ ตั้งข้ึนโดยกรมพัฒนาชมุ ชน โดยผูเ้ ขียนจะน�ำเสนอ ในหัวข้อดงั นี้ ปราชญ์ชุมชน (ป้าสมคิด) กลมุ่ วิสาหกิจชมุ ชนขา้ วกลอ้ ง ปลอดภัย กลุ่มผปู้ ลูกผักปลอดสารพิษ กลุ่มวสิ าหกจิ เหด็ นางฟา้ ภูฐาน และกลมุ่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บา้ นบางสงิ ห์พัฒนา (สานตะกรา้ ) 22
23
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ปราชญช์ มุ ชน นางสมคิด รงุ่ แจม่ 24 ทรัพยากรสวนพริกไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ “ป้าสมคิด” หรือนางสมคิด รุ่งแจ่ม เปน็ บคุ คลสำ� คัญของชุมชน เนอื่ งจากคุณประโยชนต์ ่างๆ ที่ปา้ สมคิดไดท้ ำ� ไวเ้ พ่ือชมุ ชนนน้ั มมี ากมาย โดยผเู้ ขยี นจะคอ่ ยๆ เรมิ่ เลา่ เรือ่ งจากประวตั สิ ่วนตวั ของปา้ สมคดิ จนนำ� ไปส่แู นวคดิ คุณประโยชนแ์ ละความส�ำเร็จทเ่ี ป็นรปู ธรรมของปา้ สมคิด ซง่ึ มีรายละเอยี ดดังนี้ “ป้าสมคดิ ” หรือนางสมคดิ รงุ่ แจม่ แต่งงานกับ นายสมนกึ รุ่งแจม่ มี บุตรและบตุ รีรว่ มกัน 3 คน ได้แก่ นายสมบัติ รุ่งแจม่ นายสมยศ รงุ่ แจ่ม และนางสาวฐิติมา รุ่งแจม่ ป้าสมคดิ มีอาชีพหลักท่หี าเลี้ยงครอบครวั คอื เป็นเกษตรกรท�ำนา ข้าวท่ีป้าสมคิดปลูกมีท้ังข้าวหอมและข้าวกล้อง จนสามารถเล้ียงดคู รอบครวั และสง่ ลกู เรียนจนจบปริญญาตรไี ด้ 2 คน ซง่ึ เปน็ สิ่งที่ป้าสมคิดภมู ิใจมาก ส่วนคณุ ประโยชนท์ ่ีป้าสมคิดท�ำให้ชมุ ชน ไดแ้ ก่ ใหส้ ถานทีบ่ า้ นของ ตนเองเป็นท่ีตั้งศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีประจ�ำต�ำบลสวน พรกิ ไทย ใหเ้ ปน็ ทีต่ ้งั ศนู ยเ์ รยี นรกู้ ารเกษตรพอเพียง (ศนู ย์เครอื ข่าย) ให้ เป็นที่ต้ังโรงสีข้าวชมุ ชนตำ� บลสวนพริกไทย ใหเ้ ปน็ สถานทฝ่ี กึ อบรมของ กล่มุ แมบ่ ้านเกษตรกร ให้เปน็ สถานที่ถ่ายทอดความรู้ของเกษตรกรและ ประชาชนทว่ั ไป ให้เป็นสถานทศี่ ึกษาดงู านของเยาวชนและประชาชน ท่ัวไปรวมถึงชาวต่างชาติ ให้เป็นสถานที่นัดหมายของเกษตรกร ประชาชนท่ัวไป และหน่วยงานของรัฐและเอกชน นอกจากนี้ป้าสมคิด ยงั เป็นผนู้ ำ� ในกลมุ่ ต่างๆ ด้วย เชน่ ประธานศูนยส์ ่งเสริมและผลติ พันธ์ุ พืชชุมชน (ข้าว) ตำ� บลสวนพรกิ ไทย ประธานวสิ าหกิจชุมชนข้าวกล้อง อินทรีย์ต�ำบลสวนพริกไทย และกรรมการศูนย์บริการและถ่ายทอด เทคโนโลยกี ารเกษตรประจ�ำตำ� บลสวนพริกไทย 25ทรพั ยากรสวนพริกไทยสเู่ กษตรทยี่ งั่ ยืน
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ นอกจากน้ีป้าสมคดิ ยังได้รบั รางวัลต่างๆ จากหนว่ ยงาน ดงั น้ี 1. ไดร้ ับวุฒบิ ัตรผา่ นการฝกึ อบรมหลักสตู รการจดั ทำ� บัญชีฟาร์มและ ได้รบั คดั เลอื กใหเ้ ป็นครูบัญชเี กษตรอาสาในปี พ.ศ. 2545 2. ไดร้ ับเกียรตยิ ศ เป็นผู้หญิงเกง่ สาขาเกษตรกร ประจ�ำปี พ.ศ. 2545 ในงานวันสตรีสากลจังหวดั ปทุมธานี 3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การคดั เลอื กเกษตรกรดีเด่นสาขา อาชพี ท�ำนาประจำ� ปี พ.ศ. 2550 4. รางวลั ชนะเลศิ การคัดเลอื กเกษตรกรดเี ด่นสาขาอาชีพทำ� นา ระดับจังหวดั ปี พ.ศ. 2552 5. รางวลั ชนะเลศิ เกษตรกรดเี ดน่ สาขาทำ� นา ระดบั เขต ปี พ.ศ. 2553 6. ไดร้ บั โล่ประกาศเกียรติคุณ โครงการยกย่องคนดี ชมุ ชนดี สังคมดี (บวั งามปทุมธาน)ี ในปี พ.ศ. 2554 7. ประกาศเกยี รตคิ ุณเกษตรดเี ดน่ สาขาอาชีพท�ำนาชนะเลศิ ท่ี 1 เขต ประจ�ำปี พ.ศ. 2554 ท้ังน้ี นีเ่ ปน็ เพยี งรางวลั สว่ นหนงึ่ เท่านั้นทป่ี ้าสมคิดไดร้ ับจากหน่วยงาน ภาครฐั และล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2562 ท่ีผ่านมา ปา้ สมคิดยงั ได้รับปริญญาวิทยาศาสตร์บันฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิทยาศาสตร์ ส่ิงแวดล้อม คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยหู่ วั เป็นผ้พู ระราชทานปรญิ ญาบัตร ถือเป็นเกยี รตอิ ันสงู สดุ ของ ป้าสมคิด ผหู้ ญงิ ตัวเล็กๆ คนหนง่ึ ท่ีเป็นเพียงเกษตรกรทำ� นา ปลูกขา้ ว ขายเพ่ือหาเล้ียงครอบครัวและส่งลูกหลานให้เรียนจบสูงๆ แต่มีโอกาส ได้เรียนรู้และลองปฏิบัติจริงจนประสบความส�ำเร็จเป็นตัวอย่างที่ดีของ คนรุ่นหลังอย่างทกุ วนั น้ี 26 ทรัพยากรสวนพริกไทยส่เู กษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ วนั รบั ปริญญา ป้าสมคิดถา่ ยรูปคกู่ บั รศ.ดร.นฤมล ธนานันต์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ นางสมคิด รงุ่ แจ่ม (ป้าสมคิด) และ นายสมนึก ร่งุ แจ่ม (สามีของปา้ สมคดิ ) 27ทรัพยากรสวนพริกไทยสู่เกษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ กลมุ่ วิสาหกิจชมุ ชนข้าวกลอ้ งสวนพรกิ ไทย 28 ทรพั ยากรสวนพริกไทยสู่เกษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ กลุ่มวิสาหกจิ ชมุ ชนข้าวกลอ้ งสวนพรกิ ไทยแห่งน้ี มีผูด้ แู ลกลมุ่ คอื ปา้ สมคิด รุ่งแจม่ ของพวกเราน้นั เอง ป้าสมคดิ ไดเ้ ล่าประวตั ิความเปน็ มาของกลุม่ ขา้ วกลอ้ งนใี้ หผ้ ูเ้ ขยี นฟังวา่ “ย้อนกลับไปเม่ือปี พ.ศ. 2538 มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ นำ� โดยอาจารยส์ ุนทรี จีนธรรม ไดล้ งพืน้ ที่เพ่ือ จัดเวทีประชาคมร่วมกับชุมชนบ้านคลองบางสิงห์ หมู่ท่ี 8 ต�ำบล สวนพรกิ ไทย โดยอาจารย์ได้ถามพวกป้าว่า ในชุมชนแห่งนี้ทำ� อาชพี อะไรกนั เป็นสว่ นใหญ่ ปา้ กไ็ ด้ค�ำตอบวา่ ท�ำนาเป็นส่วนมาก โดยเราจะ ปลูกข้าวแข็งกัน เช่น ข้าวกข35 (รังสิต 80) และข้าวสุพรรณบุรี 1 อาจารย์ได้ถามป้าวา่ ท�ำไมไม่แปรรปู ข้าวเป็นขา้ วกลอ้ ง ปา้ จงึ คดิ ขนึ้ มา ได้วา่ เราก็ซ้อื ข้าวกินทง้ั ๆทเ่ี ราทำ� นาเอง ท�ำไมเราไม่แปรรปู ขา้ วและ จะได้เป็นการลดรายจ่ายให้กับครอบครัวและเป็นช่องทาง การจ�ำหนา่ ยเพือ่ หารายไดเ้ พมิ่ ให้กับครอบครวั ด้วย แต่ตอนน้นั ป้ายัง ไม่มีขา้ วทีจ่ ะทำ� เปน็ ขา้ วกล้องเลย พออาจารยส์ นุ ทรพี ดู อย่างนั้นป้าก็ กลับมาวางแผนว่าจะหาข้าวท่ไี หน ถา้ เปน็ ขา้ วทเ่ี ราทำ� นนั้ มนั จะแขง็ มาก พอดีมีสมาชิกในชมุ ชนคนหน่ึงแกทำ� ข้าวกลอ้ งหอมคลองหลวง 1 อยู่ แกเลยบอกว่าลองน�ำมาสีดูวา่ มันจะแขง็ หรอื เปล่า ปา้ จึงลองเอามาสีดู ปรากฏว่าเป็นขา้ วนมิ่ อย่างท่ีปา้ ต้องการ ตอนแรกๆ ปา้ ก็ลองกินขา้ ว กล้องแต่ก็กินไม่เป็น จะขายก็ขายไมไ่ ด้ ผา่ นไปไม่ทันไรอาจารย์สุนทรี กใ็ หเ้ ครือ่ งสีขา้ วมือมาเคร่อื งนึง โดยจะใสข่ า้ วเปลอื กไดป้ ระมาณ 1 ถัง หรอื ประมาณ 10 กิโลกรมั โดยต้องใช้มือโยกชว่ ยเหมือนเป็นการออก กำ� ลังกายไปในตัว พอสมี าคร้งั แรกก็ตอ้ งน�ำออกมา “ฝัด” ขา้ วแล้วนำ� ไปสีใหม่ท�ำอยา่ งนจ้ี นกวา่ จะเหลือข้าวเปลอื กน้อยทีส่ ุด ดำ� เนินการท�ำ อย่างนีม้ าประมาณ 1 ปี 29ทรัพยากรสวนพริกไทยสเู่ กษตรทยี่ งั่ ยืน
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ต่อมาเม่ือโครงการโรงสีข้าวขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี มาสนับสนุนเป็นเคร่ืองใช้ไฟฟ้า ชุมชนจึงขอเป็นเครื่องจักรสีข้าว ป้าสมคิดจงึ นำ� มาดดั แปลงมาเป็นสขี า้ วกลอ้ ง พอสีเสร็จก็ตอ้ งจ้างคนใน พ้ืนที่มากระทายข้าว เพอ่ื จะเปน็ การแยกตน้ ขา้ วและปลายขา้ วออกจากกนั ซง่ึ ปา้ กท็ ำ� อย่รู ะยะหน่ึง ตอ่ มามเี จา้ หนา้ ทเี่ กษตรมาชว่ ยซอ้ื ขา้ วกลอ้ งของปา้ และอาจารย์สุนทรีก็น�ำข้าวกล้องของป้าไปออกงานที่เมืองทองธานี งานท่ีฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และงานที่ครุสภาในกรุงเทพฯ อีกทัง้ ยังมี การน�ำไปเปิดตลาดที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี งานธงฟ้า และ งานสาธารณสขุ ในกรุงเทพฯ จึงท�ำให้มคี นรู้จักขา้ วกล้องของป้ามากข้นึ ตอนน้ันป้าจึงออกขายเองบา้ งทงี่ านวดั ศาลเจา้ วนั น้ันมีคนสนใจซ้อื ขา้ ว กลอ้ งของป้าจ�ำนวนมาก อกี ท้งั อาจารยส์ ุนทรียังไมท่ ิ้งป้าท่านถามถงึ เสมอบางครั้งก็มาเย่ียมกลุ่มของป้าเสมอ ตัวป้าเองไม่เคยลืมบุญคุณ ของอาจารย์เลย ที่ให้ความรู้กับป้าอันสูงสุด ตอนน้ีลูกค้าป้ารู้จักป้า 30 ทรพั ยากรสวนพริกไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวิทยาลยั ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ มากขึ้นจนไม่ต้องออกไปขายข้างนอกบ้านแล้วขายอยู่กับบ้านบางคร้ัง เจา้ หนา้ ท่กี ใ็ หไ้ ปขายข้างนอกบ้างเป็นบางคราว ต่อมาปี พ.ศ 2545 ป้าได้ไปประชุมท่ีโรงแรมแอมบาสเดอร์ที่พัทยา ในโครงการศนู ย์ข้าวชุมชน ปา้ ไปเจอโรงสขี า้ วขาวทเี่ ขานำ� มาแสดงในวนั นน้ั ป้าจึงได้ไปคุยกับเจ้าของโรงสีข้าวว่าถ้าให้ท�ำเครื่องจักรสีข้าวกล้องจะ ท�ำได้ไหม เจา้ ของโรงสีข้าวบอกว่าจะลองท�ำดู ซึ่งโรงสีข้าวนอ้ี ยู่พนัสนคิ ม จังหวดั ชลบุรี ปา้ กท็ �ำการติดตอ่ กับโรงสีมาตลอดจนท�ำใหป้ ้าตกลงส่งั ซ้อื เองในราคาเครื่องละ 40,000 บาท เครอื่ งสขี า้ วนจ้ี ะสขี า้ วไดป้ ระมาณวนั ละ 100 กโิ ลกรัม โดยจะสีวนั ละ 30 ถังหรือประมาณ 300 กโิ ลกรมั เวลาที่ ใช้ในการสีแต่ละครัง้ ประมาณ 5 ชวั่ โมง ต้องเวยี นขึ้น 6 คร้งั จนกว่าขา้ ว เปลอื กจะเหลือนอ้ ยท่ีสดุ พอสีเสร็จเรยี บรอ้ ยแลว้ ก็ตอ้ งนำ� มาเก็บกากที่ เป็นข้าวเปลือกและเศษผงออกให้หมดจนเหลือแต่ข้าวกล้องอย่างเดียว จึงนำ� มาบรรจุเข้าถุงได”้ 31ทรพั ยากรสวนพริกไทยส่เู กษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อฟังจบ ผูเ้ ขียนกร็ สู้ ึกได้ว่า ป้าสมคิดทุ่มเทพลังกายและพลังใจให้ กบั การผลติ ขา้ วกลอ้ งเป็นอยา่ งมาก อกี ทงั้ ข้าวกล้องของป้าสมคิดยัง เป็นข้าวกล้องปลอดภัยที่ได้รับการรับรองมาตราฐาน GMP (GMP คือ มาตรฐานการผลติ ผลติ ภัณฑ์ เปน็ เกณฑค์ วบคุมการผลิต (Good Manufacturing Practice) ตลอดจนกระบวนการควบคุมให้ปฏบิ ตั ิ ตามของกองบริหารคุณภาพผลิตภัณฑ์แห่งรัฐหรือชุมชนน้ันๆ เพ่ือการวจิ ัย การผลิต การบริโภค และการประกอบการค้าทดี่ ีข้นึ ) จากศนู ยว์ จิ ยั ขา้ วปทุมธานอี กี ด้วย นอกจากนีผ้ ้เู ขยี นยงั ไดย้ ินผ้ใู หญ่เอ๋ เลา่ ใหฟ้ งั เพ่ิมเติมว่า ขา้ วกลอ้ งของป้าสมคิดขายดมี าก จนสามารถสง่ ลูกๆ เรียนจบปริญญาตรีถึง 2 คนด้วยกนั จะเหน็ ได้ว่า ความทมุ่ เท และความพยายามในการพฒั นาตนเองของปา้ สมคดิ และสมาชกิ กลมุ่ นนั้ ท�ำให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวกล้องสวนพริกไทยแห่งน้ี เป็นต้นแบบ ของกลุ่มที่ประสบความส�ำเร็จ จนสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ของการคัดเลือกศูนย์ส่งเสริมและพันธุ์ข้าวชุมชนดีเด่น 32 ทรพั ยากรสวนพรกิ ไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ระดับจังหวดั เมือ่ ปี พ.ศ. 2550 ทผี่ ่านมาดว้ ย นอกจากน้ีผู้เขียนได้ให้ป้าสมคิดช่วยเล่าข้ันตอนและวิธีการผลิต ข้าวกลอ้ งปลอดภยั ต้ังแตต่ น้ จนบรรจุถงุ ได้ความดังนี้ 1. นำ� ข้าวเปลือกทีเ่ ก็บเกี่ยวแล้วมาตากแดดไว้ประมาณ 1-2 วนั 2. น�ำเข้าเปลอื กท่ีตากแดดแลว้ มาพักไว้ในยุ้งขา้ วประมาณ 1 อาทติ ยเ์ พอื่ ไมใ่ หข้ ้าวหักเปน็ ปลายมาก 3. นำ� เขา้ เปลอื กทพี่ ักไวใ้ นยงุ้ มาสเี ปน็ ข้าวกล้องตามจำ� นวนทีเ่ รา ต้องการแต่จะต้องเวยี นสีข้าวขน้ึ 5 รอบเพื่อใหข้ า้ วเปลือก เหลือน้อย ที่สุด 4. เกบ็ กากขา้ วเพอื่ นำ� ขา้ วเปลอื กทปี่ นอยกู่ บั ขา้ วกลอ้ งออกมาใหห้ มด 5. น�ำไปฝดั ข้าวเพ่อื ให้ละอองทต่ี ิดอยกู่ บั เมลด็ ขา้ วกล้องออก 6. น�ำบรรจถุ ุงและตดิ สติก๊ เกอรพ์ ร้อมจำ� หนา่ ย 33ทรพั ยากรสวนพริกไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ กลุ่มผู้ปลูกผักปลอดสารพิษ 34 ทรัพยากรสวนพรกิ ไทยสู่เกษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ นางอุดมรตั น์ ชมพอู อ่ น (ปา้ เลก็ ) อีกกลุ่มหนึ่งของชุมชนบ้านคลองบางสิงห์ที่ประสบความส�ำเร็จ คอื กลุ่มผู้ปลูกผักปลอดสารพิษ โดยผู้เขียนได้รู้จักกับ “ป้าเล็ก” หรอื นางอุดมรตั น์ ชมพอู ่อน หน่งึ ในผ้ปู ลกู ผักปลอดสารพิษ และเป็นเจา้ ของ แปลงผกั ปลอดสารพษิ ท่ีให้ทางผเู้ ขียนและคณะไดส้ ำ� รวจกนั ในวนั นี้ เมื่อ ผเู้ ขยี นแนะน�ำตวั กับทางป้าเลก็ แลว้ ได้เรม่ิ ต้นสอบถามถึงรายละเอยี ด ของกลุ่มผูป้ ลกู ผักปลอดสารพษิ โดยป้าเล็กเลา่ ใหฟ้ ังวา่ “ป้าได้เริ่มต้นปลูกผักปลอดสารพิษมาได้แล้ว 20 ปี โดยได้รับ การสนับสนุนจากส�ำนักงานเกษตรจังหวัดปทุมธานี และท�ำเร่ือยมา จนถงึ ทุกวันน้ี โดยผกั ทีป่ า้ ปลูกส่วนใหญจ่ ะเป็นผักบ้งุ พนั ธุศ์ รแดง มะระ และกระเจย๊ี บเขียว โดยวธิ กี ารปลกู ผกั ปลอดสาร จะเริ่มจากการไถดิน และตากแดดไว้ 2-3 วันให้ดินแห้ง จากนั้นจึงใส่ปุ๋ยคอก พวกขี้วัวหรือ ขี้เป็ด แล้วไถดินกลบ จากนั้นค่อยหว่านเมล็ดผักเพ่ือปลูกต่อไป ส่วนขั้นตอนในการผลติ ถา้ เป็นผักบุ้งเม่อื หวา่ นเสรจ็ ได้ 20 วัน ก็จะตดั ขายส่งลูกค้า โดยจะริบใบที่รุงรังทิ้ง เพ่ือความสวยงาม แล้วจึงท�ำ ความสะอาดล้างน�้ำให้สะอาด แล้วก็แพ็คใส่ถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม ลูกค้าท่มี ารบั คือ บรษิ ัทที่อยแู่ ถวชุมชนและวางขายทร่ี ้านค้าในชมุ ชน” 35ทรัพยากรสวนพริกไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ กลุ่มวิสาหกิจเห็ดนางฟา้ ภูฐาน 36 ทรพั ยากรสวนพริกไทยสู่เกษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถัมภ์ นายสมหมาย นาคโต (พห่ี มาย) กลุ่มวิสาหกิจเห็ดนางฟา้ ภฐู าน เป็นกลุ่มทีเ่ กิดข้ึนมาจากงบประมาณ จากกองทุนหมู่บ้านประชารัฐ เม่ือปี พ.ศ. 2559 โดยกลุ่มนี้ได้รับ งบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐและงบประมาณของส่วนตัว และได้ดำ� เนนิ การต่อเนอื่ งมาจนถงึ ปัจจุบนั ซงึ่ กลุ่มนี้สามารถผสมกอ้ น เชื้อเห็ดขาย และเพาะเหด็ ขายดว้ ย โดยแกนนำ� กล่มุ คอื นายสมหมาย นาคโต หรือพ่หี มาย ท้งั นต้ี อนท่ผี เู้ ขยี นไปถึงกลมุ่ พหี่ มายกำ� ลังผสมเชอื้ เห็ดและอัดใส่ถุงอยู่ ผู้เขียนจึงรบกวนให้พ่ีหมายแนะน�ำข้ันตอน การเพาะเชื้อเห็ดให้ฟัง โดยพี่หมายได้เล่าต้ังแต่ส่วนผสมที่ใช้ และ ขน้ั ตอนในการเพาะเหด็ มีดังนี้ ส่วนผสมจะใช้ ข้เี ลื่อย ยางพารา ร�ำ ปนู ผสมให้เข้ากัน จากนั้นจะกรอกใส่ถุง ขนาดถุงละ 1 กิโลกรัม จะใส่คอขวด และปิดฝาขวดเพ่ือรอเข้าตู้นึ่งในอุณหภูมิ 100 องศา จ�ำนวน 6 ช่ัวโมง โดยตู้นึ่งของกลุ่มสามารถบรรจุถุงเชื้อได้ถึงจ�ำนวน 1,600 ถุง และเมือ่ นึง่ ถงุ เพาะเช้ือเสรจ็ จะวางพักให้เยน็ วนั รุง่ ขนึ้ จงึ จะ หยอดเช้ือ โดยต้องหยอดเช้ือไม่ควรเกิน 7 วัน ไม่เช่นน้ันเช้ือราจะลง จากน้ันจึงน�ำเข้าโรงเรือน โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะ ออกดอก ซงึ่ พหี่ มายจะสง่ ขายทต่ี ลาด หมบู่ า้ นไวทเ์ ฮา้ สแ์ ละทรี่ า้ นคา้ ชมุ ชน 37ทรัพยากรสวนพริกไทยสเู่ กษตรทยี่ ัง่ ยนื
มหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้านบางสิงห์พัฒนา (สานตะกร้า) 38 ทรัพยากรสวนพรกิ ไทยสู่เกษตรทยี่ ัง่ ยืน
มหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ เรวดี นาคโต (พน่ี อ้ ย) กลุ่มสานตะกร้าเป็นกลุ่มย่อยท่ีแตกออกมาจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่ม แมบ่ า้ นบางสิงห์พฒั นา โดยกลุม่ สานตะกร้านม้ี ีสมาชกิ ในกลมุ่ ประมาณ 20 คน ซ่ึงสว่ นใหญอ่ ายุเฉลยี่ ที่ประมาณ 50 ปี ซง่ึ กเ็ กือบๆ เป็นผู้สงู อายุ โดยผู้เขียนไดม้ ีโอกาสสมั ภาษณ์พน่ี ้อย (เรวดี นาคโต) ผเู้ ปน็ หนง่ึ ในสมาชกิ โดยพน่ี ้อยเลา่ ให้ฟงั ว่า จุดเร่ิมต้นของกลุม่ สานตะกร้าเกดิ ขนึ้ เมื่อปี พ.ศ. 2558 ทางกศน.ตำ� บลสวนพริกไทย ไดเ้ ขา้ มาสนบั สนุนและหาวทิ ยากรเข้า มาสอนการสานตะกรา้ เม่ือสมาชิกกลมุ่ ไดเ้ รียนรูจ้ งึ มีความตอ้ งการทีจ่ ะทำ� อีกทง้ั มีใจรักที่จะทำ� ด้วย จึงตอ่ ยอดพฒั นาตนเองขนึ้ เรื่อยๆ โดยกลมุ่ นไี้ ด้ รบั งบประมาณสนบั สนนุ มาจากกองทนุ หมบู่ า้ นและทางอบต.สวนพรกิ ไทยดว้ ย ท้งั นี้ผเู้ ขยี นได้น่งั ดสู มาชกิ ของกล่มุ สานตะกร้าท�ำให้รู้เลยว่าการท�ำยากมาก โดยเฉพาะการขนึ้ ลายใหส้ วยทำ� ยาก ถอื ว่าเป็นงานฝีมอื ที่ตอ้ งใชร้ ะยะเวลา ในการท�ำและความใส่ใจเพื่อให้ได้ผลงานท่ีสวย โดยพ่ีน้อยบอกว่าต้อง ท�ำให้สวยท่ีสุดละเอียดท่ีสุด เมื่อขายให้ไปลูกค้าจะต้องไม่เสียใจและ เสยี ดายเงนิ โดยทางกลมุ่ ไดต้ งั้ ราคาตะกรา้ ทเ่ี ปน็ ลายมาตรฐานอยทู่ ่ี 500 บาท ซึ่งผู้เขียนคิดว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับงานละเอียดและความใส่ใจที่ สมาชกิ มีใหก้ บั ตะกร้าแต่ละใบ 39ทรพั ยากรสวนพรกิ ไทยสูเ่ กษตรทยี่ งั่ ยืน
5 ราชภัฏกับสวนพริกไทย ม หาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี ได้น้อมน�ำพระบรมราโชบายของพระบาท สมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวท่ีพระราชทานแก่อธิการบดีมหาวิทยาลัย ราชภัฏท่ัวประเทศว่า ขอให้มหาวิทยาลัยราชภัฏได้ท�ำหน้าที่พัฒนา ยกระดับคุณภาพการศึกษาและพัฒนาท้องถิ่นท่ีเป็นท่ีตั้งของตนเอง ดังน้ันมหาวิทยาลัยจึงได้ลงพื้นที่ที่ชุมชนบ้านคลองบางสิงห์ หมู่ที่ 8 ต�ำบลสวนพริกไทย เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ดีขึ้น และให้ ประชาชนมีความสขุ มากขึ้น โดยได้เริม่ ลงพน้ื ท่ีตัง้ แตป่ ีพ.ศ. 2538 จนถงึ ปัจจุบัน ท้ังนี้ผู้เขียนได้เล่ารายละเอียดการท�ำงานท่ีผ่านมาของ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์กับชุมชน แห่งนี้ไว้ในหน้าต่อไป 40
Search