Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่1

หน่วยที่1

Published by Sang25562512, 2017-11-08 00:57:16

Description: หน่วยที่1

Search

Read the Text Version

ความรเู้ บ้ืองตน้ เก่ียวกบั การวิจยัการวิจยั (Research) -การวิจยั เป็ นการคน้ ควา้ เพื่อหาขอ้ มลู อยา่ งถี่ถว้ นตามหลกั วิชาการ

ความรเู้ บ้ืองตน้ เกย่ี วกบั การวิจยัการวิจยั (Research) -การวิจยั เป็ นการคน้ ควา้ เพ่ือหาขอ้ เท็จจรงิ หรอื ปรากฏการณต์ ามธรรมชาติยา่ งมีระบบระเบียบและจดุ มงุ่ หมายท่ีแน่นอน

ความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกบั การวิจยัการวิจยั (Research) -การวิจยั คือการแสดงความรใู้ นเรอื่ งใดเรอื่ งหน่ึง ดว้ ยวิธีการเชิงวิทยาศาสตร์ หรอื วิธีการอยา่ งมีระบบเพื่อคน้ หาสาเหตแุ ละศึกษาแนวทางที่แกไ้ ขปัญหา

การทาวิจยั หรอื ผลงานท่ีเป็ นการวิจยัประกอบดว้ ยลกั ษณะสาคญั 3 ประการ คือ1. เป็ นการศึกษาคน้ ควา้ หาขอ้ เท็จจรงิ2. เป็ นกระบวนการหรอื การกระทาที่มีระบบ ระเบียบ3. เป็ นการกระตนุ้ ท่ีมีจดุ มงุ่ หมายท่ีแนน่ อน

งานวิจยั ทวั่ ไปมีขนั้ ตอนในการทาวิจยั 3ขน้ั ตอนหลกั คือ การวางแผน (Planning)ดาเนินงาน (Execution)และการรายงาน (Reporting)

ประเภทของงานวิจยัการแบ่งประเภทของงานวิจยั 3 ประเภท คือ1. แบ่งตามสาขาวิชาหรือเน้ือหาวิชาท่ีใชศ้ ึกษา➢ วิจยั ทางวิทยาศาสตร์ (Science Research)➢ วิจยั ทางสงั คมศาสตร์ (Social Science Research)

วิจยั ทางวิทยาศาสตร์ (Science Research) ซ่ึงครอบคลมุ ทง้ั งานวิจยั ดา้ นวิทยาศาสตรช์ ีวภาพ วิทยาศาสตรก์ ายภาพเคมี เกษตรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์อตุ สาหกรรมวิจยั และ คณิตศาสตร์

วิจยั ทางสงั คมศาสตร์ (Social Science Research) หรอื บางครง้ั เรยี กว่า การวิจยั ทางสงั คมเป็ นการวิจยั เกยี่ วกบั สภาพแวดลอ้ ม สงั คมวฒั นธรรม และพฤติกรรมมนษุ ย์ ซึ่งครอบคลมุ งานดา้ นปรชั ญา นิติศาสตร์รฐั ศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และสงั คมวิทยาศาสตร์

ความแตกต่างระหว่างการวิจยั ทางวิทยาศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ การวิจยั ทางวิทยาศาสตรเ์ ป็ นการวิจยั ที่อาศยั การทดลองเป็ นหลกั และผลออกมาค่อนขา้ งตายตวั การวิจยั ทางสงั คมศาสตร์ มกั ไม่ใช่การทดลอง แต่จะใชก้ ารสงั เกตพฤติกรรมเป็ นหลกัและผลลพั ธท์ ี่ออกมาอาจเปลยี่ นแปลงไปตามสภาพแวดลอ้ มของการทาวิจยั ในแต่ละครงั้

ตวั อยา่ งการวิจยั ทางวิทยาศาสตร์ การศึกษาชีววิทยาและนิเวศวิทยาของนกเงือกในอทุ ยานแห่งชาติเขาใหญ่ การวิจยั ไมด้ อกเมืองหนาว งานวิจยั สมนุ ไพรและภมู ิปัญญา การศึกษาทางจลุ อินทรยี ์เป็ นตน้

ตวั อยา่ งการวิจยั ทางสงั คมศาสตร์ ประชาชนสามจงั หวดั ชายแดนภาคใต้คิดอยา่ งไรต่อปัญาหาความไม่สงบในพ้ืนที่ , การสารวจผลกระทบของปัญหาผู้ติดเช้ือไขห้ วดั นกในประเทศไทย ,ผลกระทบของส่ือโทรทศั นต์ ่อเยาวชนไทย

ประเภทของงานวิจยัการแบ่งประเภทของงานวิจยั 3 ประเภท คือ2. แบ่งตามลกั ษณะของขอ้ มลู วิจยั เชิงประมาณ วิจยั เชิงคณุ ภาพ

วิจยั เชิงปรมิ าณ การวิจยั เชิงปรมิ าณ จะเนน้ ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ที่เป็ นตวั เลขเพ่ือสนบั สนนุ ขอ้ คน้ พบสมมติฐานหรอืขอ้ สรปุ ต่าง ๆ โดยอาศยั ตวั อยา่ งจานวนมากและใชว้ ิธีการทางสถิติในการวิเคราะหข์ อ้ มลู และสรปุ ผล ซ่ึงเป็ นการศึกษาในวงกวา้ ง โดยเลอื กเฉพาะกลม่ ุ ตวั อยา่ งที่สม่ ุ มา

วิจยั เชิงคณุ ภาพ การวิจยั เชิงคณุ ภาพ เป็ นการแสวงหาความรโู้ ดยใหค้ วามสนใจกบั ขอ้ มลู ดา้ นความรสู้ กึ นึกคิด คา่ นิยม อดุ มการณ์ และวิเคราะหข์ อ้ มลู จากการวิพากวิจารณ์ แสดงความคิดเห็น แลว้ สรปุ อธิบายหรอื บรรยายอาจใช้ สถิติขน้ั ตน้ เช่น ค่าเฉล่ีย รอ้ ยละ

ตวั อยา่ งงานวิจยั เชิงคณุ ภาพ พฤติกรรมท่ีเบี่ยงเบนของนกั ศึกษาวิทยาลยั เทคนิคน้าพอง , การประเมินผลความสารวจของโครงการ OTOP ,ปัจจยั ท่ีมีอิทธิพลต่อคณุ ภาพการศึกษา เป็ นตน้

ตวั อยา่ งงานวิจยั เชิงปรมิ าณ การติดตามกระบวนการมีงานทาของบณั ฑิตท่ีสาเรจ็ การศึกษาในวิทยาลยั เทคนิคน้าพอง การวิจยั ผลการเรียนของนกั เรยี นนกั ศึกษา วิทยาลยั เทคนิคน้าพอง เป็ นตน้

ประเภทของงานวิจยัการแบ่งประเภทของงานวิจยั 3 ประเภท คือ3. แบ่งตามลกั ษณะการศึกษา วิจยั เชิงสารวจ วิจยั เหตกุ ารณท์ ่ีเกิดข้ึนแลว้ หรอื ศึกษา ยอ้ นหลงั วิจยั เชิงทดลอง

วิจยั เชิงสารวจ เป็ นการมงุ่ เนน้ สารวจขอ้ เท็จจรงิ ต่าง ๆของคนเรา ตวั อยา่ งเชน่ สารวจความคิดเห็นของนกั ศึกษา การสารวจความคิดเห็นต่อการเลือกตงั้ ประธานวฒุ ิสภาเป็ นตน้

การวิจยั เหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ข้ึนแลว้ หรอื ศึกษายอ้ นหลงั เป็ นการศึกษาหาความสมั พนั ธข์ องตวั แปรผนั และตวั แปรตามจากเหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ข้ึนอยู่กอ่ นแลว้ ตวั อยา่ ง การศึกษาระดบั EQ ของแต่ละบคุ คลท่ีแตกต่างกนั เกดิ จากสาเหตใุ ด การวิจยั การพฒั นาการของยคุ คอมพิวเตอร์การศึกษาสาเหตกุ ารจมของเรอื ไททานิค

การวิจยั เชิงทดลอง เป็ นการศึกษาหาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตวัแปรตน้ และตวั แปรตาม ในลกั ษณะท่ีผวู้ ิจยัควบคมุ ตวั แปรตน้ เพ่ือท่ีจะดผู ลที่เกิดข้ึนจากตวัแปรตาม ตวั อยา่ ง การทดสอบประสิทธิภาพของCPU 2 รน่ ุ โดยควบคมุ ปัจจยั ที่มากระทบกบั ผลที่เกดิ ข้ึน เชน่ อณุ หภมู ิ

สว่ นประกอบของการวิจยั การวิจยั เป็ นวิธีการหนึ่งที่ใชใ้ นการแสวงหาคาตอบของปัญหา เหตกุ ารณ์ หรอืปรากฏการณต์ ่าง ๆ ที่เกดิ ข้ึน โดยอาศยักระบวนการในการทาวิจยั ซึ่งโดยสว่ นใหญ่มีสว่ นประกอบดงั น้ี

สว่ นประกอบของการวิจยั 1. กาหนดปัญหาหรอื เรอ่ื งที่ตอ้ งการศึกษา -แหลง่ ที่มาของปัญหา -การตง้ั ช่ืองานวิจยั -ขอ้ ควรระวงั ในการกาหนดปัญหา

สว่ นประกอบของการวิจยั 2. กาหนดวตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั -วตั ถปุ ระสงคต์ อ้ งสอดคลอ้ งกบั เรอื่ งที่ตอ้ งการวิจยั -สามารถหาคาตอบได้ -วตั ถปุ ระสงคจ์ ะเขียนเป็ นประโยคบอกเลา่

สว่ นประกอบของการวิจยั 3. ขอบเขตที่ตอ้ งการศึกษา -ขอบเขตทางดา้ น บคุ คล สถานท่ี เวลา หรอืขอ้ มลู ขา่ วสาร เช่น ประชากรท่ีเก่ยี วขอ้ ง ลกั ษณะและขนาดของตวั อยา่ ง ชนิดของเครอ่ื งมือวดั(แบบสอบถาม แบบสมั ภาษณ)์ รวมทงั้ ตวั แปรต่าง ๆ ท่ีตอ้ งศึกษา

สว่ นประกอบของการวิจยั 4. ประโยชนข์ องการวิจยั -ประโยชนท์ ่ีผวู้ ิจยั คาดหวงั เชน่กอ่ ใหเ้ กดิ ความรใู้ หม่ เกิดเทคโนโลยใี หมใ่ ช้ในการแกป้ ัญหา ใชใ้ นการกาหนดนโยบายใหม่ แนะนาแนวทางในการปฏบิ ตั ิ

สว่ นประกอบของการวิจยั 5. เอกสารหรอื ผลงานวิจยั ที่เกี่ยวขอ้ ง -เอกสาร หรอื ผลงานวิจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบังานวิจยั ไดจ้ าก หนงั สอื วารสาร จลุ สารปรญิ ญานิพนธ์ เอกสารอา้ งอิง สารานกุ รมรายงานการวิจยั รายงานการศึกษาหนงั สือพิมพ์ นิตยสาร หรอื บทความต่าง ๆนอกจากน้ีในสื่ออินเตอรเ์ น็ตกม็ ีขอ้ มลู ท่ีเก่ียวขอ้ ง

สว่ นประกอบของการวิจยั 6. กระบวนการในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู -การสม่ ุ ตวั อยา่ ง เป็ นขนั้ ตอนหนึ่งของการเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยตวั อยา่ งที่จะให้ผลการวิจยั มีความถกู ตอ้ ง ตวั อยา่ งที่ส่มุ มาไดจ้ ะช่วยแทนประชากร ช่วยใหป้ ระหยดั เวลาและเงินทนุ

สว่ นประกอบของการวิจยั 6. กระบวนการในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู -การสรา้ งเครอื่ งมือเพ่ือเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เครอื่ งมือที่เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จะตอ้ งเหมาะสมกบั ลกั ษณะขอบเขตและวตั ถปุ ระสงคข์ องการวิจยั

สว่ นประกอบของการวิจยั 6. กระบวนการในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู -การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู เป็ นกระบวนการในการแสวงหาขอ้ มลู เพ่ือนามาใชใ้ นการวิเคราะหข์ อ้ มลู ที่เกบ็ รวบรวมมา

สว่ นประกอบของการวิจยั 7. การวิเคราะหข์ อ้ มลู แบ่งเป็ น 2ลกั ษณะ -การวิเคราะหข์ อ้ มลู เพื่อหาคา่ สถิติเบ้ืองตน้ -การวิเคราะหข์ อ้ มลู เชิงอนมุ าน

สว่ นประกอบของการวิจยั 8. สรปุ ผลการวิจยั เป็ นการหาคาตอบของปัญหาหรอื เรอ่ื งท่ีตอ้ งการศึกษา โดยสรปุ ผลท่ีไดจ้ ากการวิเคราะหข์ อ้ มลู และตอบวตั ถปุ ระสงคข์ องงานวิจยั ในภาพรวม

สว่ นประกอบของการวิจยั 9. ขอ้ เสนอแนะ โดยสว่ นใหญ่จะเป็ นสง่ิ ที่ผวู้ ิจยั มีแนวคิดวา่ควรจะวิจยั ต่อไป หรอื อาจเกิดจากการท่ีผวู้ ิจยั ได้พบขณะที่ทาการวิจยั หรอื เกบ็ รวบรวมขอ้ มลูหรอื อาจเกดิ จากการคน้ พบใหม่ ซึ่งการเสนอแนะที่ดีควรมีหลกั ฐานอา้ งอิงหรอื มีเหตผุ ลรองรบั

ส่วนประกอบของการวิจยัInput Process Outputปัญหา กระบวนการในทางสถิตใิ น สรุป การจดั การข้อมูลวตั ถุประสงค์ เกบ็ รวบรวม ข้อเสนอแนะขอบเขต จัดเรียงประโยชน์ วเิ คราะห์เอกสารอ้างองิ ตีความ

การเขียนรายงานการวจิ ยั มกั จะมี 5 บท• บทท่ี 1 บทนา• บทท่ี 2 เอกสารหรือผลงานวจิ ัยท่เี ก่ียวข้อง• บทท่ี 3 กระบวนการในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล• บทท่ี 4 การวเิ คราะห์ข้อมูล• บทท่ี 5 สรุปผลการวจิ ัยและข้อเสนอแนะ• ภาคผนวก

ข้อผดิ พลาดทคี่ วรระวงั ในการทาวจิ ัย1. การสรุปผลท่มี ีความแตกต่างจากทฤษฏหี รือ สมมตฐิ าน2. หลักฐานประกอบท่สี นับสนุนและยืนยนั ผลสรุปไม่ เพียงพอ3. ผลการวจิ ยั ไม่มีความตรงเน่ืองจากเคร่ืองมือวิจยั ไม่ดี4. ตัวอย่างท่สี ุ่มมาไม่เป็ นตวั แทนของประชากร5. เหตผุ ลท่ใี ช้ผิดไปจากความเป็ นจริง6. ตัวเลข ข้อความ หรือสูตร คัดลอกมาผดิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook