Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที4การเก็บรวบรวมข้อมูล

หน่วยที4การเก็บรวบรวมข้อมูล

Published by Sang25562512, 2017-11-20 00:34:12

Description: หน่วยที4การเก็บรวบรวมข้อมูล

Search

Read the Text Version

บทท่ี 4การเกบ็ รวบรวมข้อมูล

การเกบ็ รวบรวมข้อมูล• เป็ นขนั้ ตอนหน่ึงท่สี าคญั สาหรับกระบวนการทางานวจิ ยั ซ่งึ จะเลือกใช้เคร่ืองมือใดในการเกบ็ ข้อมูลนัน้ ขนึ้ อยู่กับ เร่ืองท่จี ะทาวจิ ยั และขอบเขตของงานวจิ ัยนัน้ ๆ จะต้องนาข้อมูลมาเป็ นหลักฐานอ้างองิ ในการตรวจสอบ ความเท่ยี งตรงและความเช่ือถือได้ของเคร่ืองมือวดั นัน้ ๆ• ในบางครัง้ การเกบ็ ข้อมูลอาจเกบ็ รวบรวมจากแหล่งทตุ ยิ ภมู กิ ไ็ ด้ เช่น

การเกบ็ รวบรวมข้อมูล• หนังสือท่วั ไป (Books) เช่น ตารา คู่มือการใช้งาน เอกสารประกอบการบรรยาย หนังสือแปล หรือเรียบ เรียง• เอกสารอ้างองิ (Reference) เช่น ส่งิ พมิ พ์ท่เี ป็ น รูปเล่มคล้ายกับหนังสือ ได้แก่ สารานุกรม บรรณานุกรม พจนานุกรม นามานุกรม• รายงานต่าง ๆ (Report) อาจเป็ นรายงานผล การศกึ ษาค้นคว้าในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง เช่น รายงานการ วจิ ัย บทความวจิ ัย

การเกบ็ รวบรวมข้อมูล• วทิ ยานิพนธ์ (Thesis) เป็ นเร่ืองราวความรู้ท่คี ดิ ขนึ้ มา ใหม่ โดยมากมักเป็ นผลงานของนักศกึ ษาระดับปริญญา โทขนึ้ ไป• บทความต่าง ๆ (Article) เป็ นเอกสารท่เี สนอเร่ืองราว ต่าง ๆ อาจเป็ นงานทางวชิ าการ บทวจิ ารณ์ หรือ ข้อเสนอแนะ อาจรวบรวมอย่ใู นรูปวารสาร จุลสาร หรือ หนังสือพมิ พ์• เวบ็ ไซต์ (Website) เป็ นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ท่มี ี หน่วยงานหรือกลุ่มคนท่วั โลกเผยแพร่ข้อมูลอย่ใู น เวบ็ ไซต์ต่าง ๆ

เคร่ืองมอื วจิ ยั• ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลเพ่อื การวจิ ยั กรณีท่ผี ู้วจิ ยั เกบ็ มาจาก แหล่งปฐมภมู ิ ผู้วจิ ยั สามารถเลือกเคร่ืองมือทใี ช้ในการวิจัยได้อย่าง มากมาย เช่น แบบสอบถาม แบบทดสอบ แบบสมั ภาษณ์ แบบ ทดลอง และ แบบสงั เกต ซ่งึ จะเลือกใช้เคร่ืองมือใดนัน้ ขนึ้ อยู่กบั ลักษณะของเร่ืองท่จี ะทาการวจิ ยั เช่น1. แบบทดสอบ (Test) มักอยู่ในรูปแบบของข้อคาถาม ซ่งึ อาจ ให้เขยี นตอบ หรือแสดงพฤตกิ รรม ทาให้สามารถวัดได สังเกต ได้ และนาไปสู่การแปลความหมายได้ เช่น แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน แบบทดสอบวัดความถนัดหรือตวั ปัญญา หรือแบบทดสอบวัดความสัมพนั ธ์ของบุคคลในสงั คม

เครื่องมือวจิ ยั2. แบบสอบถาม (Questionnaire) เป็ นชุด คาถามท่เี ก่ียวข้องกบั เร่ืองใดเร่ืองหน่ึงโดยให้ ผู้ตอบ ตอบคา ถามท่ผี ู้วจิ ยั กาหนดแนวทางไว้ แนวคาถามท่มี ักจะถาม ได้แก่ ข้อมูลเก่ียวกับ ความคดิ เหน็ ความเช่ือ ความรู้สกึ ทศั นคติ ข้อเทจ็ จริง ประโยชน์ของแบบสอบถามนัน้ สร้าง ขนึ้ เพ่อื ใช้รวบรวมข้อมูลจากกลุ่มประชากร จานวนมาก

เครื่องมอื วจิ ยั3. แบบสัมภาษณ์ (Interview Schedule) มา จากการสัมภาษณ์ และแบบสอบถามซ่งึ เป็ น เคร่ืองมือท่ใี ช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลท่มี ีการ สอบถามทางวาจาเป็ นหลัก คือการสนทนาเชิง ถาม-ตอบ มักจะได้ข้อมูลค่อนข้างเร็วและถูกต้อง ความสาเร็จของการได้ข้อมูลท่นี ่าเช่ือถือและ บรรลุตามจุดมุ่งหมายขนึ้ อย่กู ับผู้สัมภาษณ์เป็ น สาคัญ

เครื่องมือวจิ ัย4. แบบทดลอง (Experiment) เป็ นเคร่ืองมือท่ีใช้ ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากการทดลอง ซ่งึ จะต้องมีการสร้างสถานการณ์ขนึ้ มา หรือควบคุม ตัวแปรบางอย่าง แล้วทาการทดลองเพ่อื ศกึ ษา ตัวแปรท่ตี ้องการศกึ ษา

แบบสอบถาม1. ลักษณะของแบบสอบถาม แบบสอบถามโดยท่วั ไปท่นี ิยมใช้มี 2 รูปแบบ คือ1. แบบสอบถามปลายปิ ด (Closed Form) เป็ น แบบสอบถามท่สี อบถามเพ่อื ต้องการคาตอบ เฉพาะเจาะจง โดยมตี วั เลือกให้เลือกตอบ ซ่ึง ผู้วจิ ัยจะต้องคาดเดาคาตอบท่จี ะต้องมีผู้ตอบให้ ครอบคลุม โดยมากมกั จะมตี วั เลือกตอบสุดท้าย ไว้ให้ เช่น อ่ืน ๆ (ระบุ)

แบบสอบถาม• มีตวั เลือก 2 ตัวเลือก เช่น สอบถามเร่ือง เพศ• เพศ ชาย  หญิง• คุณมีความรู้เก่ียวกับคอมพวิ เตอร์หรือไม มี มี  ไม่มี• สถานภาพสมรส  แต่งงาน โสด หม้าย อ่ืนๆ ...

แบบสอบถาม• มีตัวเลือกท่ใี ห้ใส่คาตอบเป็ นลาดบั เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ❖จังหวดั ขอนแก่น จงั หวัดหนองคาย จงั หวัดภเู กต็ จังหวดั ประจวบคีรีขันธ์

แบบสอบถาม• มีตัวเลือกเก่ียวกับการประเมนิ ความมากน้อยหรือ ความถ่เี ช่น คุณมีความรู้เก่ียวกับอนิ เตอร์เน็ตมาก น้อยเพียงใด มากท่สี ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยท่สี ุด• ตอบคาถามสัน้ ๆ เช่น คุณมีความสูงเท่าไร.............เซนตเิ มตร

แบบสอบถาม2. แบบสอบถามปลายเปิ ด (Open Form) เป็ น แบบสอบถามท่ไี ม่กาหนดคาตอบได้ง่าย เฉพาะเจาะจง เป็ นการเปิ ดโอกาสให้ผู้ตอบได้ แสดงความคิดเหน็ อย่างอสิ ระ เช่น• ท่านมีความคิดเหน็ อย่างไรกบั โครงการอยาก เรียนอะไรกไ็ ด้เรียน ............................................................................

โครงสร้างของแบบสอบถามแบบสอบถามโดยส่วนใหญ่จะมีโครงสร้างอยู่ 3 ส่วน ได้แก่➢ ส่วนท่ี 1 คาชีแ้ จง เป็ นการอธบิ ายถงึ วตั ถุประสงค์ของการ เกบ็ รวบรวมข้อมูลการ นาข้อมูลไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์➢ ส่วนท่ี 2 ข้อมูลส่วนตัว เป็ นข้อมูลพนื้ ฐานเก่ียวกับผู้ตอบ แบบสอบถาม เช่น เพศ อายุ ระดบั การศึกษา สถานภาพ ศาสนา เป็ นต้น➢ ส่วนท่ี 3 ข้อมูลในส่วนท่ตี ้องการศกึ ษา อาจเป็ นคาถาม ปลายเปิ ด หรือปลายปิ ดกไ็ ด้ อาจเป็ นการแสดงความ คิดเหน็ ทศั นคติ หรือข้อเทจ็ จริงของแต่ละบุคคล

ข้นั ตอนในการสร้างแบบสอบถามการสร้างแบบสอบถามท่ดี ี ต้องมีการวางแผนในการจัดทา ให้เป็ นตามลาดับขัน้ ตอนดงั นี้1. การพจิ ารณาหวั ข้อของปัญหาท่ตี ้องการศกึ ษาและ วัตถุประสงค์ของการวจิ ยั2. ศกึ ษาค้นคว้าเอกสารต่าง ๆ ท่เี ก่ยี วข้องให้มากท่สี ุด3. ร่างแบบสอบถาม โดยเขียนคาถามต่าง ๆ ให้ สอดคล้องกบั ส่ิงท่ตี ้องการศกึ ษาหาคาตอบและคาด ด้วยว่าคาตอบเหล่านัน้ จะสนองวตั ถุประสงค์ของการ วจิ ยั

ข้นั ตอนในการสร้างแบบสอบถาม4. ตรวจสอบและปรับปรุงร่างแบบสอบถาม เป็ นการหา ข้อบกพร่องของแบบสอบถาม อาจทาได้ 2 วธิ ี คือ➢ การตรวจสอบโดยผู้ศกึ ษาวจิ ยั เองอีกครัง้ เพ่อื พจิ ารณาถงึ ถ้อยคาและประโยคว่าชัดเจนหรือไม่ และดูการจดั เรียงคาถามว่าเหมาะสมหรือยัง➢ การตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ เพ่อื ขอคาแนะนา และคาวจิ ารณ์สาหรับแนวทางในการปรับปรุง แบบสอบถามให้มีความน่าเช่ือถือมากท่สี ุด รวมทงั้ พจิ ารณาเก่ียวกับความเท่ยี งตรง

ข้นั ตอนในการสร้างแบบสอบถาม5. การทดสอบแบบสอบถาม หรือ อาจเรียกว่า Pre-Test เป็ นการนาแบบสอบถามไปสอบถามกับกลุ่มประชากร เพยี งบางส่วน (โดยท่วั ไปประมาณ 20 ชุด) เพ่อื ทาการ พจิ ารณาถงึ อุปสรรคข้อบกพร่อง6. ปรับปรุงแบบสอบถามครัง้ ท่ี 2 โดยพจิ ารณาจากผลลัพธ์ท่ี ได้จากขัน้ ตอนท่ี 57. สร้างแบบสอบถามฉบบั สมบรู ณ์ โดยการจดั วางคาชีแ้ จง เนือ้ หาคาถาม ตรวจสอบคาสะกด วรรคตอนย่อหน้า การ จัดวางให้เหมาะสมกับหน้ากระดาษ ขัน้ สุดท้ายจัดพิมพ์ และทาสาเนาพร้อมกับเกบ็ ข้อมูลจากตัวอย่างจริง

เทคนิคการต้ังคาถาม การตงั้ คาถามและการใช้ถ้อยคาเป็ นเร่ืองสาคัญ จะต้องอาศัยศลิ ปะ และความชานาญ ประกอบด้วย เทคนิคการตัง้ คาถาม โดยท่วั ไป ดงั นี้1. ใช้คาถามท่ชี ัดเจน สัน้ กระชับ เข้าใจง่าย และได้ ใจความ2. ตัง้ คาถามท่จี งู ใจให้ผู้ตอบ3. ไม่ควรใช้คาท่ตี ีความหมายได้แตกต่างกนั ในแต่ละ บุคคล เช่น คาว่า บ่อย ๆ บางครัง้ นาน ๆ ครัง้ ซ่งึ แต่ ละคนจะตคี วามแตกต่างกัน

เทคนิคการต้ังคาถาม4. ไม่ควรใช้ปฏเิ สธซ้อนปฏเิ สธ เช่น ห้ามไม่ให้ เป็ นต้น5. ระวังไม่ให้ตัวเลือกตอบน้อยเกนิ ไป และควรให้มี ตัวเลือกตอบท่คี นส่วนใหญ่น่าจะเลือกตอบอยู่ด้วย6. หลีกเล่ียงคาท่ใี นรูปนามธรรม เน่ืองจากแต่ละบุคคล ตคี วามไม่เหมือนกัน เช่น เลว ดี มาก น้อย สวย รวย จน7. ระมัดระวังในการใช้คาบางคาท่เี กดิ ขนึ้ ตามยุคตาม สมัย หรือตามส่ือต่าง ๆ เช่น ดูด ซวิ ๆ รวมทงั้ ภาษา สแลง

เทคนิคการต้ังคาถาม8. ไม่ควรตงั้ คาถามท่เี อนเอียงไปทางใดทางหน่ึง เช่น การขนึ้ ต้นข้อคาถามในลักษณะท่เี หน็ ด้วย ถกู ต้อง หรือไม่เหน็ ด้วยอย่างชัดเจน และท่ี สาคัญในการตัง้ คาถามใด ๆ ควรตัง้ คาถามท่ี สามารถนาข้อมูลนัน้ ไปวเิ คราะห์ ทางสถติ ไิ ด้ง่าย

การสร้างรหัสสาหรับข้อมูลการกาหนดรหสั ให้กบั ข้อมูลสามารถทาได้จากชนิดของคาถาม คอื1. คาถามปลายปิ ด1) คาถามท่มี ตี ัวเลือก 2 ตัวเลอื ก และให้เลอื กตัวเลือกเดยี วเพศ : 1 หมายถงึ ชาย เพศ : 1 หมายถงึ หญงิ2 หมายถงึ หญงิ 2 หมายถงึ ชายช่ือตวั แปร ความหมาย ค่าท่เี ป็ นไปได้Gender เพศ 1 ชาย หรือ 1 หญงิ 2 หญิง หรือ 2 ชาย

การสร้างรหัสสาหรับข้อมูล2. คาถามท่มี ีคาตอบให้เลือกแต่ให้เลือกตอบตัวเลือก โดยกาหนดค่าท่เี ป็ นไปได้ ตามจานวนตวั เลือกท่ใี ห้ตอบ เช่น 1 หมายถงึ แต่งงานสถานภาพสมรส : 2 หมายถงึ โสด 3 หมายถงึ หม้าย 4 หมายถงึ หย่าร้าง 5 หมายถงึ อ่ืน ๆ ...........ช่ือตัวแปร ความหมาย ค่าท่เี ป็ นไปได้Status สถานภาพสมรส 1 แต่งงาน 2 โสด 3 หม้าย 4 หย่าร้าง 5 อ่ืน ๆ .........

การสร้างรหัสสาหรับข้อมูล3. คาถามท่สี ามารถเลือกคาตอบได้หลายคาตอบ เป็ น คาตอบท่ผี ู้ตอบสามารถเลือกได้หลาย ๆ คาตอบ โดยอีกรูปแบบหน่ึง4. คาถามท่ใี ห้ตอบโดยลาท่ี เป็ นคาถามท่มี ีรายการให้ เลือก โดยผู้ตอบสามารถเปรียบเทยี บรายการท่มี ีให้ โดยใส่หมายเลขลาดับความสาคัญจากมากไปหา น้อย เช่น• กรุณาเรียงลาดับสีท่ที ่านช่ืนชอบ ให้เรียงลาดับ 1 หมายถงึ ชอบ น้อยท่สี ุด สีทอง สีเงนิ สีแดง สีนา้ เงนิ

การสร้างรหัสแมนข้อมูลของตวั แปรในหัวข้อนีส้ ามารถกาหนดได้ 2 ลกั ษณะลักษณะท่ี 1 กาหนดตามลาดบั ท่ี เช่น ลักษณะท่ี 2 กาหนดตามตาแหน่งของตวั แปร เช่นช่ือตัวแปร ความหมาย ค่าท่เี ป็ นไปได้ ช่ือตวั แปร ความหมาย ค่าท่เี ป็ นไปได้R1 ลำดบั ท่ี 1 1 สีทอง C1 สีทอง 1. ลำดบั ที่ 2 2 สีเงนิ 2. ลำดบั ท่ี 2 3. ลำดบั ท่ำ 3 3 สีแดง 4. ลำดบั ที 4 4 สีนำ้ เงนิ C2 สีเงิน 1. ลำดบั ที่ 2 2. ลำดบั ที่ 2R2 ลำดบั ที่ 2 1 สีทอง 3. ลำดบั ทำ่ 3 2 สีเงนิ 4. ลำดบั ที 4 3 สีแดง 4 สีนำ้ เงนิ

การสร้างรหัสแมนข้อมูลของตวั แปรในหัวข้อนีส้ ามารถกาหนดได้ 2 ลกั ษณะลักษณะท่ี 1 กาหนดตามลาดับท่ี เช่น ลักษณะท่ี 2 กาหนดตามตาแหน่งของตวั แปร เช่นR3 ลำดบั ที่ 3 1 สที อง C3 สแี ดง 1. ลำดบั ท่ี 2 2. ลำดบั ที่ 22 สเี งิน 3. ลำดบั ทำ่ 3 4. ลำดบั ที 43 สแี ดง4 สนี ำ้ เงินR4 ลำดบั ที่ 4 1 สที อง C4 สนี ำ้ เงิน 1. ลำดบั ท่ี 22 สเี งิน 2. ลำดบั ที่ 23 สีแดง 3. ลำดบั ทำ่ 34 สีนำ้ เงิน 4. ลำดบั ที 4

การสร้างรหัสสาหรับข้อมูล5. คาถามแสดงระดบั ความมากน้อย มักเป็ นคาถามประเภทความคดิ เหน็ ทศั นคติ ความพงึ พอใจ โดยมากจะแสดงระดบั ความคดิ เหน็ หรือระดบั ความพงึ พอใจอยู่ 5 ระดบั ได้แก่ มากทสี ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อย ท่สี ุด หรือ ไม่เหน็ ด้วยอย่างย่งิ ไม่เหน็ ด้วย เฉย ๆ เหน็ ด้วย เหน็ ด้วย อย่างย่งิ เป็ นต้นช่ือตวั แปร ความหมาย ค่าท่เี ป็ นไปได้Var1 ความพงึ พอใจ 1 น้อยท่สี ุด หรือ -2 น้อยท่สี ุด 2 น้อย -1 น้อย 3 ปานกลาง 0 ปานกลาง 4 มาก 1 มาก 5 มากท่สี ุด 2 มากท่สี ุด

2. คาถามปลายเปิ ด คาถามปลายเปิ ดโดยมากมักเป็ นคาถามท่ผี ู้วจิ ยั จะต้องอ่านและ วเิ คราะห์เอง แต่เพ่อื ให้งานในการวิเคราะห์อาจกาหนดรหัส ให้กบั คาตอบท่คี ล้าย หรือเหมือนกนั อยู่ในกลุ่มเดยี วกนั เช่น ถ้า อ่านแล้วพบว่ามีคาตอบท่มี ีความเหน็ ต่างกัน 10 แบบ อาจ กาหนดรหสั เป็ น 123..10 กไ็ ด้3. คาถามท่ไี ม่ได้รับ คาตอบ ในการวเิ คราะห์ด้วยโปรแกรม SPSS for Windows อาจจะไม่ระบคุ ่าใด ๆ ในคาถาม ท่ผี ู้ตอบไม่ตอบกไ็ ด้ ซ่งึ โปรแกรมจะปรากฏเคร่ืองหมาย จุลภาค(,) เรียกว่า System-missing แต่ส่วนมาก มักจะระบุค่า เน่ืองจากจะได้ทราบเหตผุ ลท่ตี อบคาถามนัน้

โดยมี 3 เหตุผล ได้แก่เหตุผลท่ี 1 คาถามบางคาถามท่ผี ู้ตอบไม่ต้องตอบ เช่น การให้ ข้ามไปทาข้ออ่ืน โดยมากมักกาหนดรหสั เป็ น 0 สาหรับ ตวั แปรในข้อนัน้ ๆเหตุผลท่ี 2 คาถามบางคาถามท่ผี ู้ตอบไม่ทราบคาตอบ เช่น การถามวามรู้บางอย่างท่ผี ู้ตอบทราบหรือการถามเร่ือง รายของบุคคลในบริษัทหรือในครอบครัวท่ผี ู้ตอบไม่ทราบ เป็ นต้น มักกาหนดรหสั ข้อมูลเป็ น 8 หรือ 88เหตุผลท่ี 3 คาถามท่ผี ู้ตอบอาจละเลยไม่ตอบหรือลืมตอบ มัก เป็ นคาถามส่วนตวั ท่ผี ู้ตอบทราบ เช่น คาถามเร่ือง เพศ อายุ อาชีพ เป็ นต้น การกาหนดรหสั ข้อมูลเป็ น 9 หรือ 99 กไ็ ด้

การทาคู่มอื การกาหนดรหัส โดยท่วั ไปการจัดทาคู่มือลงรหสั มีประ.โยชน์เพ่อื การกาหนดตัวแปร เพ่อื ใช้ในการประมวลผลและการตรวจสอบรายละเอยี ดของตวั แปร ประกอบด้วย เลขท่แี บบสอบถาม ช่ือตัวแปร ความหมายของตวั แปร ค่าท่เี ป็ นไปได้และ อาจจะมเี หตุผล ซ่งึ ในโปรแกรม SPSSfor Windows

แบบฝึ กหัด1. การเกบ็ รวบรวมข้อมูลจากแหล่งทุตยิ ภมู ิได้แก่ อะไรบ้างพร้อม อธิบาย2. ให้ยกตวั อย่าง เคร่ืองมือท่ใี ช้ในการวจิ ยั พร้อมอธิบาย3. ลักษณะของแบบสอบถามมีก่ีรูปแบบอะไรบ้างพร้อมอธิบาย4. โครงสร้างของแบบสอบถามมที งั้ หมดก่ีส่วนอะไรบ้างพร้อม อธิบาย5. ให้อธิบายขัน้ ตอนในการสร้างแบบสอบถามมาอย่างละเอียด6. ให้บอกเทคนิคในการตงั้ คาถามมอี ะไรบ้างพร้อมอธิบาย7. ให้ยกตวั อย่างการสร้างรหสั สาหรับข้อมูลมาอย่างน้อย 2 ตวั อย่าง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook