Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore American Association of Physics Teacher

American Association of Physics Teacher

Published by Sofwan Arma, 2023-06-19 01:42:07

Description: ข้อสอบสำหรับการคัดเลือกรอบแรกโครงการฟิสิกส์โอลิมปิกประเทศสหรัฐอเมริกำ

Search

Read the Text Version

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers ข้อสอบ F = ma สำหรบั กำรคดั เลือกรอบแรกโครงกำรฟสิ ิกสโ์ อลมิ ปิกประเทศสหรฐั อเมริกำ และเป็นลขิ สิทธิ์ของสมำพนั ธ์ครู ฟสิ กิ สแ์ หง่ สหรัฐอเมริกำ สมำคมฟสิ ิกสไ์ ทยได้รบั อนุญำตให้แปลและเผยแกบ่ คุ คลทวั่ ไปไดโ้ ดยไม่มคี ำ่ ใช้จ่ำย ห้ามนาสว่ นหน่งึ ส่วนใดในข้อสอบหรือเฉลย ไมว่ า่ หน้าใดหน้าหน่งึ หรือท้ังหมด ไปทาซ้าหรือดัดแปลง เพือ่ ประโยชน์ในเชงิ พาณชิ ย์ใดๆ โดยไมไ่ ด้รบั อนญุ าตเป็นลายลักษณอ์ กั ษรจากเจ้าของลิขสทิ ธ์ิ 1. ถ้ำกอ้ นดนิ ขนำดใหญ่หล่นออกจำกกำแพงลงส่พู ้นื ดนิ แลว้ กรำฟข้อใด แสดงควำมเรง่ ทจี่ ดุ ศนู ย์กลำงมวลของก้อนดิน กบั เวลำ ไดด้ ีท่ีสดุ (A) (B) (C) (D) (E) 1

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 2. บลอ็ กสมำ่ เสมอมวล 10 kg เดิมอยู่นิ่งถกู ปล่อยลงมำจำกพื้นเอยี งที่มคี วำมยำว 10 m เอียง 30◦ และเคลื่อนที่ลงมำ จนถงึ ด้ำนล่ำง ถำ้ สัมประสทิ ธ์ิแรงเสยี ดทำนสถิตและแรงเสียดทำนจลน์เทำ่ กับ μs = μk = 0.1 พลงั งำนทส่ี ญู เสยี ไปกับ แรงเสยี ดทำนเทำ่ กบั ข้อใด (A) 0 J (B) 22 J (C) 43 J (D) 87 J (E) 164 J 2

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 3. มวล 3.0 kg เคล่ือนที่ 40 m/s ไปทำงขวำเกิดกำรพุ่งชนแลว้ ตดิ ไปกบั มวล 2.0 kg ที่กำลังเคลือ่ นท่ีไปทำงขวำ 20 m/s หลังเกดิ กำรชน พลังงำนจลน์ของระบบเทำ่ กบั ข้อใด หลงั กำรชน (A) 600 J (B) 1200 J (C) 2600 J (D) 2800 J (E) 3400 J 3

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 4. ให้ลกู บำสทเ่ี ดมิ อยูน่ ่ิงถูกปล่อยลงมำกระแทกพน้ื ถ้ำพจิ ำรณำเฉพำะลูกบำสในช่วงกอ่ นและหลังกระแทกพื้น แลว้ ข้อควำมใดต่อไปนีเ้ ป็นจริง (A) โมเมนตัม และพลังงำนสุทธขิ องลูกบำสจะถูกอนรุ ักษ์ไว้ (B) โมเมนตมั ของลูกบำสจะถูกอนุรักษ์ไว้ แตพ่ ลงั งำนจลนไ์ ม่ถูกอนุรักษ์ไว้ (C) พลงั งำนสทุ ธิของลูกบำสจะถกู อนรุ ักษ์ไว้ แต่โมเมนตัมไมถ่ ูกอนุรักษ์ไว้ (D) พลงั งำนจลนข์ องลูกบำสจะถูกอนุรกั ษไ์ ว้ แต่โมเมนตัมไม่ถูกอนุรักษ์ไว้ (E) พลังงำนจลน์ และโมเมนตมั ของลกู บำสไมไ่ ด้ถกู อนรุ ักษไ์ ว้ 4

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 5. ฮำรด์ ดสิ กใ์ นคอมพวิ เตอร์จะหมุนถงึ อตั รำเร็วที่ต้องกำรภำยใน 10 รอบ แต่เมื่อปดิ เครื่องมันจะหมนุ ได้ถงึ 50 รอบ ก่อนหยุดลง สมมุติวำ่ ฮำร์ดดิสก์มคี วำมเรง่ เชิงมุม α1 ในชว่ งแรก และช่วงกำรชะลอมีควำมเร่งเชิงมมุ α2 แลว้ อัตรำสว่ น α1 / α2 เท่ำกับข้อใด (A) 1/5 (B) 1/√5 (C) √5 (D) 5 (E) 25 5

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 6. คำนเบำยำว L ถูกตรงึ ด้ำนหนงึ่ ไว้ และมีแรงกด F กระทำทป่ี ลำยคำนดำ้ นท่ีไมถ่ ูกตรงึ จนคำนยบุ ลงไปเป็นระยะ x โดยท่ีระยะที่ยุบลงไปเป็น x นีแ้ ปรผนั ตรงกบั ขนำดของ F และเปน็ สัดส่วนผกผนั กับโมเมนตดั ขวำง I ซึ่งมีหน่วย m4 กำรยุบน้ยี งั ขึน้ อยกู่ บั มอดุลสั ของยัง E ซ่ึงมหี นว่ ย N / m2 แลว้ x จะแปรผนั ตรงกับ L อยำ่ งไร (A) x ∝ √L (B) x ∝ L (C) x ∝ L2 (D) x ∝ L3 (E) x ∝ L4 6

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 7. ใหล้ กู ต้มุ ยำว L แกว่งอยู่ภำยในกล่องใบหนึ่ง หำกมคี นยกกล่องขนึ้ มำแลว้ ค่อยๆ เขย่ำในแนวตั้งด้วยควำมถ่ี ω และ ให้แอมพลจิ ดู คงที่ตำมช่วงเวลำหนง่ึ ท่ีกำหนด แลว้ แอมพลิจดู สุดทำ้ ยของลกู ตุ้มจะมีค่ำมำกท่สี ดุ เม่อื ω เท่ำกบั ข้อใด (A) ω = √4g/L (B) ω = √2g/L (C) ω = √g/L (D) ω = √g/4L (E) ω ไมม่ ผี ลตอ่ แอมพลจิ ดู ของลกู ตุ้มอยำ่ งมีนัยสำคญั 7

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 8. ให้สมั ประสทิ ธ์แิ รงเสียดทำนสถติ และแรงเสียดทำนจลน์ระหวำ่ งลูกบอลและพื้นเทำ่ กับ μs = μk = μ ถ้ำตอนเริ่มต้น บอลไดร้ บั อัตรำเรว็ ในแนวนอน โดยไม่มีควำมเร็วเชิงมุมรอบจดุ ศนู ย์กลำงมวล แลว้ กรำฟในขอ้ ใด แสดงควำมเรว็ เชิงมุม ของลูกบอลรอบจุดศูนย์กลำงมวลเทยี บกับเวลำ ไดด้ ีทส่ี ุด (A) (B) (C) (D) (E) 8

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 9. บอลมวล 3.0 kg เคล่อื นที่ไปทำงทิศตะวนั ออก 10 m/s แล้วชนแบบยดื หยนุ่ กับบอลมวล 2.0 kg ท่ีกำลงั เคล่ือนท่ี ไปทำงทิศตะวนั ตก 15 m/s แลว้ ขอ้ ควำมใดตอ่ ไปน้ีถูกตอ้ ง หลังเกดิ กำรชน (A) บอลทงั้ สองจะพงุ่ ไปทำงทิศตะวันออก (B) บอลมวล 3.0 kg เคลอ่ื นที่ไปทำงทศิ ตะวันตก 15 m/s (C) บอลมวล 2.0 kg เคล่ือนทไี่ ปทำงทิศเหนือ 10 m/s (D) บอลมวล 3.0 kg หยดุ นง่ิ (E) บอลมวล 2.0 kg เคลอ่ื นที่ไปทำงทศิ ใต้ 15 m/s 9

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 10. ให้ลูกโป่งทมี่ ีอำกำศบรรจุไว้จมลงในนำ้ ที่ควำมลกึ h และมแี รงลอยตวั B0 เมอื่ ลูกโปง่ จมลงท่คี วำมลึก 2h จะมี แรงลอยตวั B สมมตุ วิ ำ่ นำ้ ไม่สำมำรถบบี อัดได้ แตล่ ูกโป่งและอำกำศสำมำรถบบี อดั ได้ แลว้ แรงลอยตัว B จะเปน็ ไป ตำมข้อใด (A) B ≥ 2B0 (B) B0 < B < 2B0 (C) B = B0 (D) B < B0 (E) คำตอบขึ้นกับแรงบีบอดั ของลูกโป่งและอำกำศ 10

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 11. วงเชอื กถกู หมนุ ดว้ ยควำมเรว็ เชิงมุม ω0 ในอวกำศคล่นื ตำมขวำงในเส้นเชือกมีอัตรำเรว็ เชิงมมุ v0 เมื่อวัดในกรอบ อ้ำงองิ ที่หมุนไปพร้อมกับเชือก (เห็นเชอื กอยู่นิง่ ในกรอบอ้ำงองิ น้ี) ถ้ำเพิ่มควำมเรว็ เชงิ มุมของเชือกเป็นสองเทำ่ แลว้ อตั รำเร็วใหมข่ องคลน่ื ตำมขวำงทวี่ ดั ในกรอบอ้ำงอิงที่หมนุ ไปพรอ้ มกบั เชอื ก (เห็นเชอื กอยู่น่ิงในกรอบอำ้ งองิ นี้) จะเทำ่ กบั ข้อใด (A) v0 (B) √2v0 (C) 2v0 (D) 4v0 (E) 8v0 11

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 12. ให้เดก็ คนหนึ่งยนื อยู่ในสถำนอี วกำศวงกลมท่กี ำลังหมุนอยู่ ถำ้ เขำโยนลูกบอลไปในทิศทำงหน่ึงขณะสถำนีอวกำศ กำลงั หมุน แล้วลกู บอลย้อนกลบั มำหำเขำหลงั สถำนีอวกำรหมนุ ไปได้คร่ึงรอบ แล้ววถิ ีของลูกบอลจำกจุดทีเ่ ด็กคนน้ัน เหน็ จะเป็นไปตำมข้อใด ให้เด็กยนื อยู่ที่ดำ้ นลำ่ งของสถำนีอวกำศ แต่รปู จะแสดงเฉพำะตำแหนง่ เริ่มต้นของลูกบอล เท่ำนัน้ (A) (B) (C) (D) (E) 12

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 13. ให้กล่องสองอัน มมี วล m1 = 2.0 และ m2 = 1.0 วำงซ้อนกันบนโตะ๊ ล่ืน ดังรูป ถ้ำสัมประสทิ ธิแ์ รงเสยี ดทำนสถติ ระหวำ่ งกล่องทง้ั สองเท่ำกับ μs = 0.20 แล้วแรงในแนวนอนนอ้ ยสดุ ที่กระทำกบั กล่องดำ้ นบน เพอ่ื ให้กลอ่ งดำ้ นบนไถล ไปบนกล่องล่ำงเท่ำกับข้อใด (A) 4.0 N (B) 6.0 N (C) 8.0 N (D) 12.0 N (E) กล่องบนจะไม่มีทำงไถลไปบนกล่องลำ่ ง 13

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 14. หลอดดำ้ ยทำจำกทรงกระบอกและมแี ผน่ วงกลมบำงๆ ตดิ หวั ท้ำยกระบอก ดังรูป ใหท้ รงกระบอกมรี ศั มี r = 0.75 cm แผน่ วงกลมแตล่ ะวงมรี ัศมี R = 1.00 cm และมีเชือกพันรอบแกนหลอดด้ำยสองสำมรอบ แลว้ ขนำดของ θ ท่ีดึง เชอื กแลว้ หลอดดำ้ ยจะเคลื่อนทโ่ี ดยไม่หมนุ เท่ำกับขอ้ ใด (A) 31.2° (B) 41.4° (C) 54.0° (D) 60.8° (E) 81.5° 14

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 15. ถ้ำคุณยนื ถอื หนงั สือฟิสิกส์เลม่ ใหญอ่ ยบู่ นเครอื่ งชัง่ แล้วอำ่ นน้ำหนักได้ 700 นิวตัน ขณะยนื น่ิงอยู่ และทีเ่ วลำ t = 1 s คณุ เร่ิมยกหนังสือข้นึ จน t = 2 s หนังสอื อยูส่ ูงขนึ้ ไปคร่ึงเมตรแล้วหยดุ น่งิ อีกคร้งั แล้วกรำฟในข้อใด แสดงนำ้ หนักท่ี อ่ำนได้เทียบกับเวลำไดด้ ที ี่สดุ (A) (B) (C) (D) (E) 15

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 16. เครื่องบนิ จะบนิ โดยใช้กำรเอียงบรเิ วณขอบส่วนปลำยปีกของเครื่องลงดว้ ยมุมเล็ก ๆ θ เรียกวำ่ มมุ ทีส่ ร้ำงแรงยกตัว ขณะออกบนิ ถ้ำเครื่องบนิ มีอัตรำเรว็ บนพ้นื ดนิ v แล้วแรงยกตวั จะแปรผนั ตำม v2θ และแรงฉุดเพ่ือเอำชนะแรงต้ำน อำกำศจะแปรผนั ตำม v2 พิจำรณำเครือ่ งบนิ ทีอ่ ย่บู นระดับควำมสงู หน่งึ และมีอตั รำเรว็ คงท่ีตอนอยู่บนพนื้ ดิน v ถ้ำมลี มพดั จำกหำงไปยงั หวั เคร่อื งบนิ ดว้ ยควำมเรว็ w < v (ขนำดของ w วดั เทียบกบั พ้นื ดิน) ( อำกำศจะช่วยดันเครอื่ งบนิ ให้บินไปยงั ทิศทเี่ รำ ตอ้ งกำร ) แล้วกำลังของเคร่ืองยนต์ และมุมท่ีสรำ้ งแรงยกตัวจะเปล่ียนไปอย่ำงไร เพอื่ ให้ควำมเรว็ ของเครอ่ื งบนิ ยงั คงบิน ในแนวระดับดว้ ยอัตรำเร็วเทำ่ เดมิ (A) กำลังของเคร่ืองยนต์จะลดลง และมมุ ที่สร้ำงแรงยกตัวจะลดลง (B) กำลงั ของเครอื่ งยนต์จะลดลง และมุมท่สี ร้ำงแรงยกตวั จะเท่ำเดิม (C) กำลังของเครื่องยนตจ์ ะลดลง และมมุ ท่สี ร้ำงแรงยกตัวจะเพ่ิมขึน้ (D) กำลังของเคร่ืองยนตจ์ ะเพิ่มข้ึน และมมุ ทสี่ ร้ำงแรงยกตัวจะลดลง (E) กำลงั ของเคร่ืองยนต์จะเพิ่มขนึ้ และมุมที่สร้ำงแรงยกตัวจะเพิม่ ขึน้ 16

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 17. ไม้กระโดดจำลองประกอบดว้ ยสปริงเบำมคี ำ่ นิจสปริง k ตดิ ที่ดำ้ นล่ำงของบล็อกมวล m ใหไ้ มก้ ระโดดถูกปล่อยลง โดยสปริงจะกระแทกพ้ืนด้วยอัตรำเรว็ v หลังจำกกำรกระแทกแลว้ ส่วนปลำยด้ำนล่ำงของสปริงจะถกู ยดึ ติดกบั พนื้ หลงั กำรกระแทกอตั รำเรว็ สูงสุดของบล็อกจะเทำ่ กบั ข้อใด (A) v (B) v + 2mg2/kv (C) v + mg2/kv (D) √v2+2mg2/k (E) √v2+mg2/k 17

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 18. ใหส้ ปริงท่ีมคี วำมยำวตำมปกติ l1 มีค่ำนจิ สปริง k1 วำงขนำนกบั สปรงิ ท่ีมีควำมยำวตำมปกติ l2 และมคี ่ำนิจสปรงิ k2 และมีแรง F กระทำในแต่ละด้ำน ถ้ำเรำรวมสปริงทั้งสองใหเ้ สมือนเปน็ หนึง่ สปริง และมีค่ำนิจสปริง k มีควำมยำวตำมปกติ l แลว้ ข้อควำมใดต่อไปนีเ้ ป็น จรงิ (A) k = k1 + k2 และ l = l1l2/(l1+l2) (B) k = k1 + k2 และ l = ( l1 k1 + l2 k2 )/( k1 + k2 ) (C) k = k1 + k2 และ l = ( l1 k2 + l2 k1 )/( k1 + k2 ) (D) k = ( l1 k1 + l2 k2 )/ (l1+l2) และ l = ( l1 k1 + l2 k2 )/( k1 + k2 ) (E) k = ( l2 k1 + l1 k2 )/ (l1+l2) และ l = ( l1 k2 + l2 k1 )/( k1 + k2 ) 18

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 19. (เกนิ หลักสูตรสอบเขำ้ สอวน.) ในกำรทดสอบอตั รำเรว็ เสยี ง นกั เรยี นคนหน่งึ วัดระยะทำงทคี่ ลื่นเสยี งเดนิ ทำงไปได้ 75.0 ± 2.0 cm และใชเ้ วลำในกำรเดนิ ทำง 2.15 ± 0.10 ms สมมตุ ิวำ่ ควำมคลำดเคลือ่ นมกี ำรกระจำยตัวแบบ Gaussian (มีกำรแจกแจงแบบปกต)ิ แลว้ อตั รำเรว็ ทีค่ ำนวณได้ควรเท่ำกบั ขอ้ ใด (A) 348.8 ± 0.5 m/s (B) 348.8 ± 0.8 m/s (C) 349 ± 8 m/s (D) 349 ± 15 m/s (E) 349 ± 19 m/s 19

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 20. ใหเ้ ชือกที่แขง็ แรงและสม่ำเสมอยำว L วำงรำบบนโตะ๊ ทม่ี คี วำมยำว L/3 และมีสัมประสทิ ธแิ์ รงเสียดทำน μs = 1/7 โดยทง้ั สองดำ้ นของโต๊ะจะมีเชือกยำว L/3 เลยออกมำจำกโตะ๊ เท่ำกนั ให้เชือกพำดผำ่ นขอบโตะ๊ ท่โี ค้งและมคี วำมลน่ื และไร้แรงเสยี ดทำน สมมตุ ิวำ่ เรำดึงปลำยเชือกดำ้ นหน่งึ ที่หอ้ ยอยูเ่ ปน็ ระยะ x แล้วปล่อยไว้นิ่งๆ โดยปลำยเชอื กทงั้ สองดำ้ นยงั ไมแ่ ตะพ้นื แล้วค่ำ x มำกสุดทีเ่ ชือกจะไม่หล่นลงมำเท่ำกับข้อใด (A) L/42 (B) L/21 (C) L/14 (D) 2L/21 (E) 3L/14 20

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 21. คำนสม่ำเสมอยำว L มวล M มีจดุ หมุนอยู่ทร่ี ะยะ x หำ่ งจำกศูนย์กลำงคำน ถ้ำคำนทีเ่ ดมิ อยนู่ ิ่งถูกปล่อยลงมำจำก ตำแหน่งในแนวนอน แลว้ คำบของกำรแกวง่ จะน้อยสุดเม่ือ x เทำ่ กับข้อใด (A) x =L/2 (B) x =L/2√3 (C) x =L/4 (D) x =L/4√3 (E) x =L/12 21

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 22. ใหม้ วล m สองอนั เชอ่ื มตดิ กันบนรอก ดังรปู ถ้ำมวลด้ำนซำ้ ยไดร้ ับควำมเร็วเล็กนอ้ ยจนเกดิ กำรส่ันไปดำ้ นหน้ำดำ้ นหลงั แลว้ มวลดำ้ นขวำจะเปน็ ไปตำมข้อใด (A) ยังคงอยู่น่งิ (B) จะสน่ั ในแนวตั้ง และมกี ำรเคล่อื นทีส่ ทุ ธใิ นทศิ ข้นึ (C) จะสั่นในแนวตัง้ และมกี ำรเคลือ่ นท่สี ุทธใิ นทศิ ลง (D) จะสนั่ ในแนวตัง้ โดยไมม่ ีกำรเคลือ่ นที่สทุ ธิ (E) จะสั่นในแนวนอน โดยไม่มีกำรเคล่ือนท่ีสุทธิ 22

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 23. ใหม้ วล m1 และ m2 เชอื่ มกันด้วยคำนแขง็ เบำยำว L วำงรำบบนโตะ๊ ลนื่ ท่เี วลำ t = 0 มวลก้อนแรกไดร้ บั แรงดลใน ทิศต้งั ฉำกกับคำน จนมีอตั รำเรว็ v ในขณะนนั้ มวลก้อนที่สองยงั คงอยนู่ ิ่ง แลว้ มวลก้อนที่สองจะหยุดน่ิงอีกครง้ั ตอน t เทำ่ กบั ข้อใด (A) t = 2πL / v (B) t = π ( m1 + m2 )L / m2v (C) t = 2πm2L / ( m1 + m2 )v (D) t = 2πm1m2L / ( m1 + m2 )2v (E) t = 2πm1L / ( m1 + m2 )v 23

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 24. มวล m ถกู วำงทีจ่ ดุ ศูนย์กลำงของครึ่งทรงกลมบำงที่มีรศั มี R และมีมวลหนำแนน่ σ โดย σ มหี นว่ ย kg/m2 แล้วแรงโน้มถว่ งจำกครึ่งทรงกลมบำงที่กระทำกบั มวล m เท่ำกับข้อใด (A) (1/3) (πGmσ) (B) (2/3) (πGmσ) (C) (1/√2) (πGmσ) (D) (3/4) (πGmσ) (E) πGmσ 24

2018 F = ma Contest (B) ©2010 American Association of Physics Teachers 25. (เกนิ หลกั สตู รสอบเข้ำ สอวน. คำ่ ย 1)นกั เรียนพยำมวดั พนื้ ผวิ ของทอ่ ทรงกระบอกท่ีทำจำกลวด ถำ้ นกั เรียนวดั รศั มี ของท่อได้ 1.0 ± 0.1 cm โดยใช้ ไมบ้ รรทดั และวัดควำมยำวท่อได้ 1.00 ± 0.01 m โดยใช้ไม้เมตร หำกต้องกำรใหผ้ ลลพั ธแ์ ม่นยำข้นึ เรำสำมำรถทำได้ หลำยวิธี ดงั น้ี วิธที ี่ 1 : เปลยี่ นจำกไมบ้ รรทัด เปน็ คำลิปเปอร์ ที่มีควำมคลำดเคลอ่ื น 0.01 cm วิธีที่ 2 : เปลีย่ นจำกไม้เมตร เปน็ ตลับเมตร ที่มคี วำมคลำดเคลือ่ น 0.001 m วิธีท่ี 3 : วดั ใหม่ โดยแยกเป็นสิบครงั้ แลว้ หำค่ำเฉลี่ยของผลลพั ธ์ ขอ้ ใดเปรยี บเทียบควำมคลำดเคลอ่ื นของแตล่ ะวธิ ไี ดถ้ ูกต้องทีส่ ุด (A) วิธีที่ 3 มีควำมคลำดเคลื่อนต่ำที่สุด ในขณะท่ีวธิ ที ี่ 1 และ 2 มีควำมคลำดเคล่ือนเทำ่ กนั (B) วธิ ที ี่ 3 มีควำมคลำดเคลือ่ นสูงทส่ี ุด ในขณะทวี่ ธิ ีที่ 1 และ 2 มคี วำมคลำดเคล่ือนเท่ำกนั (C) วธิ ที ่ี 1 มีควำมคลำดเคล่ือนสูงทส่ี ดุ และวิธที ี่ 2 มีควำมคลำดเคลื่อนตำ่ ที่สุด (D) วิธีที่ 2 มีควำมคลำดเคลื่อนสูงท่ีสุด และวิธที ่ี 1 มีควำมคลำดเคล่ือนต่ำทส่ี ุด (E) วิธีท่ี 2 มคี วำมคลำดเคล่ือนสงู ท่ีสดุ และวิธที ่ี 3 มีควำมคลำดเคล่ือนตำ่ ทีส่ ุด 25


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook