รายงานขอ้ เสนอแนะเรื่องการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวัดลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ข่ายพนั ธมติ รในพ้นื ทภ่ี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ท่ี 1.2 ปัญหาการเกษตร พบว่า การเกษตรกรมีพฤติกรรมการเพาะปลูกท่ีเปลี่ยนแปลงมี การใช้เครื่องจักรกล สารเคมี ปยุ๋ เคมี เพ่ิมขึ้น ส่งผลให้มีต้นทุนในการผลิตที่เพ่ิมขึ้น และขาดความรู้การ ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม อีกท้ังการใช้สารเคมี/สารพิษ ในการทา เกษตรทาใหพ้ ้ืนทเี่ กษตรมสี ารปนเปือ้ น 2. ปัญหาหนี้สินภาคการเกษตร เกษตรกรประสบปัญหาหนี้สิน ท้ังในระบบและนอกระบบ เน่ืองจากผลกระทบจากปัญหาด้านการตลาด ซ่ึงเกษตรกรยังขาดการรวมกลุ่มท่ีเข้มแข็ง จึงขาดการ ต่อรองด้านราคาผลผลิตกับพ่อค้า และปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่าและผลผลิตการเกษตรต่อไร่ ลดลง 3. ปัญหาเกี่ยวกับท่ีดิน เกษตรกรในพ้ืนท่ีขาดเอกสารสิทธิ์ที่ดินทากิน และมีการบุกรุกทา การเกษตรในพ้ืนที่ดินของรัฐเป็นที่สาธารณะประโยชน์ ป่าสงวนแห่งชาติ และอุทยานแห่งชาติ 4. การขาดองค์ความรู้ทางด้านการเกษตรและการใช้ประโยชน์ในท่ีดิน ประชาชนส่วนใหญ่ ยงั ขาดความรู้ ความเขา้ ใจในการทาการเกษตรโดยไม่ใชส้ ารเคมีและการใช้ท่ดี ินอย่างมีประสทิ ธิภาพ อีก ท้ังยงั ไมต่ ระหนกั รถู้ ึงผลกระทบด้านสิง่ แวดลอ้ ม จะเหน็ ไดจ้ ากการสรา้ งมลพษิ ทางอากาศ มีการเผาพน้ื ที่ เพอื่ ทาการเกษตร และเผาปา่ เพอ่ื ทาไรโ่ ดยไม่มีการปลูกทดแทน 5. ปญั หาเร่ืองแรงงานทางการเกษตรและเกษตรกรท่ีมีอายุเฉลย่ี ท่ีอยใู่ นวัยผู้สูงอายุ ขาดคน รุ่นใหม่ๆ หรือกาลังแรงงานวัยหนุ่มสาวท่ีจะเข้ามาทางานในภาคการเกษตร ในพื้นท่ีตาบลสันมะเค็ด สว่ นใหญ่จะพบกับเกษตรกรท่ีสงู อายุ ซึ่งยงั ตอ้ งทาการผลิตเพ่ือปลดหน้ที ี่กูย้ ืมมาสง่ บุตรหลานให้ไปเรียน หนงั สอื ในเมือง และหนีท้ ่เี กดิ จากผลติ และการใช้จา่ ยในชีวิตประจาวัน 3.2 แนวทางการแกไ้ ขปญั หาของตาบลสนั มะเคด็ อาเภอพาน จงั หวดั เชียงราย 1. ปญั หาด้านการเกษตร แนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตร เป็นปัญหาของระบบโครงสร้างพ้ืนฐานของระบบ การเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ระบบการผลิต ที่เน้นปริมาณผลผลิตจนไม่คานึงถึงคุณภาพและ ความปลอดภัยสาหรับผู้ผลิตและผู้บริโภค ซึ่งเห็นได้จากการใช้ปุ๋ย สารเคมีในการเกษตร ตลอดจนการ ปลูกพืชเศรษฐกิจเชิงเด่ียว การแก้ปัญหาด้านการเกษตรจะต้องเร่ิมจากการสร้างความเข้าใจ ความ ตระหนักถึงผลเสียและผลกระทบที่อาจจะเกิดข้ึนจากการใช้สารเคมีในการเกษตร และ ควรต้องมีการ ปรับปรุงระบบและกระบวนการการผลิตทางการเกษตรของพ้นื ท่ีตาบลสันมะเค็ด ให้ไปสู่ระบบการผลิต ที่หลากหลายและไม่มีปัญหาทางด้านการตลาดหรือราคาผลผลิตท่ีตกต่า รวมทั้งการนาเทคโนโลยี สมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในด้านการเกษตรซึ่งสอดคล้องกับวิถีการผลิตของเกษตรกรและเป็นมิตรต่อ สงิ่ แวดล้อม รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 3-90
รายงานข้อเสนอแนะเรื่องการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพูน และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือขา่ ยพันธมิตรในพน้ื ทภี่ าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พน้ื ท่ี 2. ปญั หาหนส้ี นิ ภาคการเกษตร หนี้สินของเกษตรกรส่วนใหญ่เกิดจากการลงทุนในการผลิตสูง แต่ได้ผลกาไรจากการผลผลิต น้อยไม่เพียงพอต่อการชาระหน้ีที่นามาใช้ในการผลิต เน่ืองจากไม่สามารถควบคุมหรือต่อรองราคากับ พ่อค้าคนกลางได้ ดังนั้นจึงต้องมีการส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อการสร้างอานาจต่อรองและการ เชือ่ มโยงกบั องค์กรเครือข่ายในส่วนที่เป็นกลางน้า (การแปรรูป) และปลายน้า (การตลาด) ให้มากย่ิงข้ึน แทนการรวมกลุ่มเพื่อการกู้ยืมที่สมาชิกของกลุ่มต้องค้าประกันไขว้กัน แต่ต้องเป็นการรวมกลุ่มเพ่ือ วางแผนในการผลิตแทนทจ่ี ะต่างคนต่างผลิต ตอ้ งรวมกลุ่มเพอ่ื สร้างอานาจต่อรองกับตัวแทนของบริษัท หรือพอ่ ค้าคนกลางท่ีเข้ามาสง่ เสริมใหผ้ ลติ แทนการขาดตดั ราคากัน 3. ปญั หาเกย่ี วกบั ทด่ี นิ แนวทางการดาเนินการเพ่ือแก้ไขปัญหาที่ดินในตาบลสันมะเค็ด ซ่ึงเป็นปัญหาพื้นฐานของ ชมุ ชนที่สัมพันธ์อยู่กับมิติอ่ืนๆ ท้ังภายในและภายนอกชุมชน การแก้ปัญหาจะต้องเริ่มจากการให้ชุมชน ท้องถิ่น และเกษตรกรมีข้อมูลที่เพียงพอ เข้าใจปัญหาท่ีดินในพ้ืนที่ ทั้งน้ี การบริหารท่ีดินของชุมชน จะต้องมีกลไกในการกาหนดแนวทางการดาเนินงานและกลไกที่จะทาให้การบริหารการใช้ประโยชน์ใน ท่ีดินของชุมชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ท้ังน้ี ควรมีการบูรณาการความร่วมมือและการสร้างความ เข้าใจร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ท้องถ่ิน และเกษตรกร ในการร่วมกันหาแนวทางในการบริหาร จดั การที่ดนิ อย่างมีประสิทธภิ าพและยง่ั ยนื 4. การขาดองค์ความรทู้ างด้านการเกษตรและการใชป้ ระโยชนใ์ นทด่ี นิ การขาดองคค์ วามรทู้ างด้านการเกษตรและการใช้ประโยชน์ในท่ีดินนนั้ เกดิ จากการปรับเปลีย่ น ระบบการผลิตท่ีสอดคล้องกับธรรมชาติและสภาพพ้ืนที่มาเปน็ การผลิตท่ีเน้นปริมาณและใช้สารเคมี ปุ๋ย ยาในการผลิต เกษตรกรในพ้นื ที่ตาบลสันมะเค็ดไม่ไดข้ าดองค์ความทางด้านเกษตร เพียงแตไ่ ม่สามารถ ต่อต้านกระแสทุนและการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ ในพ้ืนท่ีสันมะเค็ดมีปราชญ์ชาวบ้าน เกษตรกรท่ี เชี่ยวชาญการผลิตท่ีสอดคล้องกับพื้นที่ เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ดังน้ัน แนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว ต้องถอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรจากปราชญ์ชาวบ้านและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรที่ สอดคล้องกับพื้นที่และทรัพยากรธรรมชาติให้กับเกษตรกรในพ้ืนที่ รวมถึงการสนับสนุนของหน่วยงาน ภาครัฐในด้านการใช้เทคโนโลยีด้านการเกษตรท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการผลิตการเกษตรใน พ้ืนท่ตี าบลสันมะเค็ด 5. ปญั หาเรื่องแรงงานทางการเกษตรและเกษตรกรท่มี ีอายเุ ฉลย่ี ที่อยใู่ นวัยผ้สู งู อายุ สาหรับปญั หาเรอ่ื งการไมม่ ผี ู้ประกอบอาชีพเกษตรกรร่นุ ใหม่ๆ เข้ามาทาการเกษตรกรรมต่อ ซึ่ง เป็นประเด็นปัญหาเช่นเดียวกันกับในหลายๆ พ้ืนที่ แรงงานทางการเกษตรเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ ลูกหลาน เกษตรกรไม่สนใจหรือไม่ต้องการท่จี ะทาอาชีพเกษตรกร เนื่องจากการผลิตทางการเกษตรมีการลงทุนสูง และไม่สามารถควบคุมตลาดได้ ทาให้เกษตรกรต้องมีหน้ีสินจากการทาการเกษตรจานวนมาก ทาให้ ลูกหลานเกษตรกรในพื้นท่ีไม่สนใจเข้ามาทาการเกษตร หากจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะต้องมีการ แก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างการผลิตทางการเกษตรตั้งแต่ ต้นน้า (การผลิต) กลางน้า (การแปรรูป) และ ปลายน้า (การตลาด) โดยส่งเสริมให้มีผู้ประกอบกิจการทางการเกษตรในระดับกลางน้า คือ ในข้ันการ รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 3-91
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวัดลาพูน และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ขา่ ยพนั ธมติ รในพนื้ ท่ีภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้ืนท่ี เพ่มิ มลู ค่าหรือการแปรรปู หรอื กิจกรรมในระดับปลายน้า คอื การตลาดและการบรโิ ภคของผู้บรโิ ภค ท่ีมี ประสิทธิภาพและเอื้อต่อการผลิตการเกษตร เม่ือราคาผลผลิตดี ผู้บริโภคมีความต้องการผลผลิตทาง การเกษตร จะทาให้มีผู้ทสี่ นใจเขา้ มาประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งจะเปน็ ทางออกให้กับการขาดแคลน ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมร่นุ ใหม่ได้ 4. ช่วงระยะเวลาทีค่ วรดาเนินการแก้ไขปญั หาพ้นื ทต่ี าบลสนั มะเคด็ อาเภอพาน จงั หวดั เชยี งราย จากเวทกี ารประชุมอย่างไม่เปน็ ทางการร่วมกับแกนนาชุมชนในระหว่างการเขา้ มาจัดเก็บข้อมูล และในเวทีที่จัดเพื่อคืนข้อมูลและเวทีปรึกษาหารือเพื่อออกแบบระบบการทางานร่วมกันของเครือข่าย พันธมิตรตา่ งๆของพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ด ท่ีประชุมแกนนามีข้อเสนอแนะเก่ียวกับดาเนินการแก้ไขปัญหา พนื้ ท่ีตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยการดาเนินการแก้ไขปัญหาแบง่ เปน็ 2 ระยะ คือ ระยะท่ี 1 เป็นช่วงระยะเวลา 6 เดือนแรก (มกราคม – มิถุนายน 2561) ซึ่งเป็นระยะในการผลักดัน และทาความเข้าใจในระดับจังหวัด/อาเภอ เพ่ือเตรียมความพร้อมในการพัฒนากลไกในระดับตาบลใน ระยะต่อมา ส่วน ระยะที่ 2 เป็นช่วงระยะเวลา 6 เดือนหลัง (กรกฎาคม – ธันวาคม 2561) ซ่ึงเป็น ช่วงของการพัฒนาระบบกลไกการทางานให้บริการในระดับตาบล ในระยะเวลาดังกล่าวจะต้องมีการ พฒั นาความเข้าใจระบบ/กลไกการทางานในระดับตาบลสันมะเค็ด ซ่ึงจะต้องสอดคล้องกับนโยบายแนว ทางการทางานในระดับอาเภอ ดงั ต่อไปนี้ ระยะที่ 1 (มกราคม – มิถนุ ายน 2561) กลไกคณะกรรมการพฒั นาท่ีดินเพ่ือการเกษตรอาเภอ พาน จังหวัดเชียงราย จะเปน็ กลไกที่ประกอบไปด้วยหน่วยงานหลายภาคส่วน ซ่ึงแตล่ ะหน่วยงานจะทา หน้าท่ีหนุนเสริมและร่วมมือกันในการก่อให้เกิดการลดปัญหาการสูญเสียท่ีดินในอาเภอพาน คณะกรรมการดังกล่าวจะเป็นคณะกรรมการในระดับอาเภอที่มีหน้าท่ี ในการกาหนดนโยบายและ แนวทางในการแก้ปัญหาการสูญเสียท่ีดิน ทั้งน้ี กลไกการทางานในระดับอาเภอจะต้องมีกาหนดแนว ทางการป้องกันการสูญเสียท่ีดินในระดับอาเภอ และการผลักดันให้เกิดกลไกในระดับตาบลที่สามารถให้ ท้องถิ่น ชมุ ชนในระดับตาบลสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการให้บริการ และการจัดการระบบฐานข้อมูล ในพนื้ ท่ีได้ ระยะท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2561) สาหรับการป้องกัน/แก้ไขปญั หาการสญู เสียสิทธิใน ทด่ี นิ ทากินของเกษตรกรในพน้ื ท่ี การแก้ไขปญั หาการไร้ท่ีทากิน การบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ใน ทด่ี ินในชมุ ชนร่วมกัน และการติดตามและปรับปรุงฐานข้อมูลท่ีได้มีการจัดเก็บมาแล้วจากพ้ืนท่ี โดยเป็น ช่วงของการผลักดันกลไกในระดบั ตาบล รปู แบบของคณะกรรมการบริหารจัดการและพฒั นาทีด่ นิ เพื่อ การเกษตรตาบลสันมะเค็ด ซึ่งเป็นกลไกคณะทางานที่ทาหน้าท่ีหนุนเสริมและร่วมมือกัน ในการ ก่อให้เกิดการลดปัญหาการสูญเสียท่ีดินในพ้ืนที่ตาบลสันมะเค็ด โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะเป็น คณะกรรมการในระดับตาบลท่ีมีหน้าที่ในการกาหนดแนวทางในการแก้ปัญหาการสูญเสียท่ีดินในระดับ ตาบลที่สอดคล้องกับแนวทางการดาเนินงานและนโยบายของคณะกรรมการพฒั นาที่ดินเพ่ือการเกษตร อาเภอพาน รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 3-92
รายงานขอ้ เสนอแนะเรอ่ื งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือขา่ ยพันธมติ รในพ้ืนท่ีภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้ืนที่ 5. รูปแบบการใหบ้ รกิ ารพน้ื ท่ีตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จงั หวดั เชียงราย สาหรับกระบวนการการดาเนินการในพ้ืนที่ตาบลสันมะเค็ด เน่ืองจากยังไม่มีตัวแทนเจ้าหน้าท่ี บจธ.อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย การดาเนินการจึงเป็นการประสานงานโดยตรงจากสานักงานลงมายัง พ้ืนท่ี ดังน้ัน การสื่อสารที่เก่ียวข้องกับการจะเข้าไปวางระบบ เพื่อจัดเก็บข้อมูลในระดับตาบลจึงขาด ความต่อเน่ืองและความชัดเจน ถึงแม้จะมีการติดต่อประสานงานกันโดยทางการผ่านทางจังหวัดและ อาเภอก็ตาม แต่เน่ืองจากเจ้าหน้าท่ีในระดับอาเภอที่ได้รับทราบข้อมูลจากการเข้าไปช้ีแจงโครงการมี การโยกย้ายตามวาระ และในกรณีผู้รับผิดชอบในระดบั ตาบล (กานัน) เกษียณอายุและ แม้จะอยู่ในช่วง รักษาการเนื่องจากยังไม่มีการเลือกต้ังใหม่ในช่วงรัฐบาล คสช.ดังน้ัน การดาเนินการต่างๆ จึงเป็นการ ประสานงานแบบปรกติท่ัวไป ประกอบกับเม่ือเข้าไปดาเนินกระบวนการพัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูล ในพื้นที่ทาให้เห็นสถานการณ์ความสัมพันธ์ของฝ่ายต่างๆ ภายในตาบลซึ่งเป็นความไม่ลงรอยกันของ กลุ่มต่างๆ ซ่ึงอาจจะส่งผลกระทบต่อการดาเนินโครงการจัดเก็บข้อมูล และด้วยเหตุดังน้ันเพื่อเป็น หลักประกันให้สามารถที่จะการดาเนินโครงการได้อย่างบรรลุผล จึงทาให้การพัฒนาโครงการพัฒนา ระบบการจัดเก็บข้อมูลในพื้นท่ีตาบลสันมะเค็ดต้องดาเนินการผ่านทางระบบราชการ เพ่ือทาให้ กระบวนการมีความเป็นทางการและช่วยลดทอนความขัดแย้งท่ีจะเกิดข้ึน และจากการศึกษาและ วิเคราะห์ในการคัดเลือกองค์กรในชุมชนที่เห็นสมควรและเหมาะสมท่ีจะพัฒนาเป็นพันธมิตรกับ บจธ. ไดอ้ ย่างย่งั ยนื เพื่อให้เกิดระบบการทางานร่วมกับ บจธ. ในดา้ นตา่ งๆ มีขอ้ เสนอดังตอ่ ไปนี้ (1) การพัฒนาเครือข่ายการทางาน การให้บริการในพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวดั เชยี งราย 1. พ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ดประกอบด้วย 19 หมู่บ้าน มีการร่วมตัวเป็นกลุ่มชาวนาที่มีช่ือเสียง ของตาบลในการไปแข่งขันดานา และประสบความสาเร็จในการแข่งขันดานาและไดร้ ับรางวัลมาจานวน หนง่ึ นอกจากนั้น ยงั มเี ครอื ข่ายอสม.ท่ีมคี วามเข้มแข็ง และยังมีการจดั ตงั้ เป็นสภาองคก์ รชุมชนตาบลสัน มะเค็ด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนจังหวัด เชียงราย (ซ่ึงมีการจัดทาฐานข้อมูล เกี่ยวกับที่ดิน ที่พักอาศัยร่วมกันกับสภาองค์กรชุมชนของตาบลอ่ืนๆ โดยมีพื้นท่ีนาร่องในระยะเริ่มแรก 28 ตาบล โดยมีเครือข่ายองค์กรทเี่ ขา้ รว่ มในการจัดทาระบบฐานขอ้ มูลดังกล่าวประกอบด้วย องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น สภาองค์กรชุมชนตาบล โครงการปิดทองหลังพระ กานัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ตัวแทนจากส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้องเข้ามาร่วมดาเนินการ และอาจะถือได้ว่าเป็นจุดแข็งสาหรับการที่ จะพัฒนาระบบฐานข้อมูลเก่ียวกับที่ดินทากินและท่ีพักอาศัยในอนาคตท่ีสามารถจะเอื้อประโยชน์ต่อ ระบบงานของ บจธ.) แต่อย่างไรก็ตาม จากการเข้าไปดาเนินโครงการร่วมกับผู้นาฝ่ายต่างๆในพื้นท่ี ตาบลสันมะเค็ด และภายใต้เงื่อนไขของระยะเวลาของโครงการ และช่วงจังหวะเวลาการประกอบ อาชีพของประชาชน และเกษตรกรในพ้ืนที่ตาบลสันมะเค็ด มีข้อเสนอต่อการพัฒนาพันธมิตรและ เครือข่ายการทางานของพืน้ ท่ตี าบลสันมะเคด็ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1.1 เน่ืองจากกานัน ซ่ึงเป็นผู้นาในพื้นท่ีครบวาระและอยู่ในช่วงระยะเวลารักษาการ ดังนั้นจึงจาเป็นต้องใช้กลไกของฝ่ายปกครองในระดับอาเภอเพ่ือประสานสั่งการให้ฝ่ายต่างๆที่เก่ียวข้อง ให้ความร่วมมือและสนับสนุนในการเข้าไปดาเนินการในการจดั เกบ็ ขอ้ มูล รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 3-93
รายงานขอ้ เสนอแนะเรือ่ งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจังหวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือขา่ ยพนั ธมติ รในพนื้ ท่ีภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พนื้ ท่ี 1.2 และผลจากการประชุมโดยปลัดอาเภอท่ีได้รับมอบหมายจากนายอาเภอ ทาให้ เทศบาลตาบลสันมะเค็ดให้การสนับสนนุ ระบบฐานข้อมูลเกยี่ วกบั ที่ดนิ รายแปลงทีอ่ ยู่ในพื้นทตี่ าบล และ อานวยความสะดวกในการใช้อาคารสถานทใ่ี นการจดั ประชมุ แกนนา 1.3 แต่เน่ืองจากฝ่ายปกครองได้มอบหมายภารกิจให้ฝ่ายท้องท่ีเป็นผู้มีบทบาทหลัก ดงั น้ันจงึ ทาใหผ้ ู้นาท่ีเป็นผู้ใหญ่บา้ นเป็นฝ่ายทีม่ ีบทบาทนามากกว่าสมาชิกสภาเทศบาล ด้วยเหตุเช่นนีจ้ ึง ทาให้ผู้ใหญ่บ้านมีภารกิจเพิ่มเติมขึ้นมาจากกิจกรรมต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายให้ดาเนินการซึ่งในแต่ละ งานมีรายละเอียดและระยะเวลาในการดาเนินงานเพ่ือให้ทันกับระยะเวลาที่กาหนดไว้ จึงทาให้เกิด ข้อเสนอจากผู้นาที่เป็นผู้ใหญ่บ้านในพ้ืนที่จากเวทีการประชุมเพ่ือคืนข้อมูลและออกแบบระบบงานท่ีจะ พฒั นาในระยะตอ่ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่มีลักษณะเปน็ การเฉพาะ ดังเช่น งานการจัดเก็บข้อมูล ที่ควรจะให้ผู้ท่ีสัดทัดในเร่ืองดังกล่าวและมีประสบการณ์มาแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อการดาเนินการ เช่น เจ้าหน้าที่ของเทศบาล อสม. โดยจาเปน็ ที่จะต้องมีงบประมาณสนับสนุน และฝ่ายกานันผู้ใหญ่บา้ นจะ ช่วยในการประสานกบั ชาวบา้ นในหมตู่ า่ งๆ 2. ก่อนที่การเข้าไปดาเนินการในการเก็บข้อมูลจากเกษตรกร มีโครงการสารวจข้อมูลของรัฐ ภายใต้นโยบายในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรหลายๆ โครงการ ผลจากระบบการจัดเก็บ ขอ้ มูลท่ีไม่ประสานกนั ดงั กล่าวของรฐั ทาให้ผู้นาชุมชน ประชาชน เกดิ ความเบือ่ หน่าย และรูส้ ึกว่าการให้ ข้อมูลเป็นภาระเร่ืองเวลา และไม่ได้มีการนาข้อมูลมาก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและพ้ืนท่ี ดังน้ัน จึงเป็นปัญหาเรื่องการใหค้ วามรว่ มมอื และความเทยี่ งของข้อมูลทจ่ี ะใหก้ ับผจู้ ัดเกบ็ 3. ในการดาเนินการของ บจธ.เองนอกจากการพัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลแล้ว บจธ.ยังมี โครงการที่เก่ียวกับการจัดซ้ือที่ดินเพ่ือนาไปจัดสรรให้เป็นเกษตรกรที่ไม่มีท่ีดินทากิน ซ่ึงเป็นการ ดาเนินการท่ีคู่ขนานไปกับโครงการจัดเก็บข้อมูล และเน่ืองจากในการดาเนินการในพ้ืนท่ีนาร่องจังหวัด เชียงรายมีความแตกต่างไปจากพ้ืนท่ีนาร่องจังหวัดลาพูนในลักษณะท่ีในพ้ืนที่นาร่องในจังหวดั เชียงราย ไม่มีการแต่งต้ังเจ้าหน้าท่ีของ บจธ.ให้ทาหน้าที่ในการประสานงานพื้นที่ ดังนั้น ในการสื่อสารในความ ชัดเจนของโครงการต่างๆ เม่ือผู้นาในพ้ืนที่จะต้องนาไปสื่อสารกับประชาชนในพ้ืนท่ีจึงอาจจะมีความ คลาดเคลือ่ น และส่งผลตอ่ ความร่วมมือในการให้ขอ้ มลู จากเกษตรกรในพ้ืนที่ ดังเช่น ในระยะเริ่มต้นของ โครงการการจัดเก็บขอ้ มูล ผู้ใหญบ่ ้านในบางหมู่บ้านเกิดความเขา้ ใจวา่ จะเกบ็ ข้อมูลเฉพาะจากเกษตรกร ท่ไี มม่ ีท่ดี นิ ทากนิ เทา่ นั้น จึงไปประชาสมั พนั ธ์ให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดนิ ทากนิ เท่านนั้ มาใหข้ ้อมูล ดังน้ัน จากประเด็นความคลาดเคลื่อนท่ีเกิดข้ึนในลักษณะของข้อเท็จจริงดังกล่าว ในการ ดาเนินโครงการได้เข้าไปชี้แจงขั้นตอนการทางานต่างๆ ลักษณะของข้อมูลท่ีจะขอความร่วมมือในการ จัดเก็บและประโยชน์ท่ีจะเกิดขึ้นตอ่ ชมุ ชน และมีข้อเสนอแนะจากคณะทางานในการจัดเก็บข้อมูลเพื่อ เป็นการประชาสัมพันธ์ภารกิจของ บจธ.ด้วย บจธ. ควรที่จะมีการจัดทาแผ่นโปสเตอร์ขนาดใหญ่ชี้แจง รายละเอียดต่างๆในการท่ีจะเข้าไปดาเนินการในพื้นที่ โดยปิดประกาศประชาสัมพันธ์กระจายไปยังจุด ตา่ งๆภายในชุมชน รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หนา้ 3-94
รายงานข้อเสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจังหวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือขา่ ยพนั ธมิตรในพน้ื ทภี่ าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พน้ื ท่ี อย่างไรก็ตาม ในกรณีตาบลสันมะเค็ดยังมีข้อเสนอจากแกนนาและผู้นาในชุมชนจากการหารือ วิเคราะหป์ ญั หารว่ มกนั ว่า 1. เห็นด้วยกับทิศทางการแก้ปัญหาที่ บจธ.กาลังดาเนินการ ท่ีต้องการท่ีจะแก้ไขปัญหาแบบ ครบวงจร และโดยเร่ิมต้นที่การจัดทาระบบฐานข้อมูลการถือครองที่ดิน หนี้สิน ระบบการผลิตในระดับ ครัวเรอื น แตก่ ารท่จี ะทาใหเ้ กิดระบบวางแผนการปอ้ งกัน/แก้ไขปญั หาการสูญเสียสทิ ธิในทด่ี ินทากินของ เกษตรกรในพ้ืนท่ี การแก้ไขปัญหาการไร้ที่ทากิน การบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในที่ดินในชุมชน ร่วมกัน และการติดตามและปรับปรุงฐานข้อมูลท่ีได้มีการจัดเก็บมาแล้วในระดับตาบล ลาพังการใช้ กลไกโครงสร้างของฝ่ายปกครองคือคณะกรรมการตาบลท่ีมีกานันและผู้ใหญ่บ้านหรือแม้แต่จะร่วมกับ ทางเทศบาลเพื่อแก้ปัญหาปอ้ งกนั /แกไ้ ขการสูญเสียสทิ ธิในที่ดนิ ทากนิ การแก้ไขปญั หาการไรท้ ่ดี ินทากนิ การจัดการใช้ประโยชน์ท่ีดินในชุมชนร่วมกัน และการปรับปรุงระบบฐานข้อมูลท่ีได้ริเริ่มไว้ โดย ศักยภาพและภารกิจในปัจจุบันของทั้งสองกลไกดังกล่าวยังไม่อาจท่ีจะดาเนินการแก้ไขปัญหาเชิง โครงสร้างดังกล่าวได้ ท้งั นเ้ี น่อื งจากปัญหาเรือ่ งการสญู เสียสทิ ธใิ นท่ีดินกด็ ี การไร้ทดี่ นิ ทากินกด็ ี หลายๆ กรณีเป็นปัญหาทม่ี ีสาเหตมุ าจากภายนอกชมุ ชน อาทิ เช่นปญั หาข้อกฎหมาย ปัญหาเรอื่ งระบบการผลิต ทางการเกษตรท่ีมีการผูกขาดปัจจัยการผลิต เมล็ดพันธ์ุ ปยุ๋ ยาปราบศัตรูพืช ที่อยู่นอกเขตอานาจของ ตาบล แต่กลับส่งผลกระทบต่อเกษตรกรภายในชุมชนอย่างกว้างขวาง ดังน้ัน หากได้รับความร่วมมือ และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภายนอกท่ีมีความรู้ความเข้าใจในปัญหาของเกษตรกรก็จะทาให้เกิด ระบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างจริงจัง สาหรับหน่วยงานเครือข่ายภายนอกที่อาจจะต้องมี การบูรณาการและเข้ามาสนับสนุน ได้แก่ทางอาเภอ และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว ในกรณีของพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ดเองก็มีการจัดต้ังสภาองค์กรชุมชน และใน ระดับจังหวัดกม็ ีการจัดตัง้ สภาองค์กรชมุ ชนขึน้ ในหลายตาบล และที่นา่ สนใจท่ีควรจะชวนเขา้ มารว่ มเปน็ เครือข่ายพันธมิตรเพื่อช่วยเหลือ สนับสนุน การทางานในระดบั ตาบลได้แก่ เครือข่ายสภาองค์กรชุมชน จังหวัดเชียงราย รวมถึงเครือข่ายสภาเกษตรกรที่อยู่ในระดับตาบล อาเภอ และจังหวัด ในฐานะที่เป็น องค์กรผู้แทนของเกษตรกรที่มีความเป็นสถาบันในทางกฎหมายรับรอง ให้เข้าร่วมเป็นเครือข่าย พนั ธมิตรดว้ ย 2. นอกจากเครือข่ายพันธมิตรท่ีจะสนับสนุนในการทางานแล้ว ยังควรที่จะพัฒนาเครือข่ายท่ี หนุนเสริมกระบวนการในการพัฒนาคณะกรรมการและบคุ ลากรท่ีทาหน้าท่ีรับผิดชอบในดา้ นต่างๆด้วย การเชิญเครือข่ายพนั ธมิตร ในทางวิชาการและสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาระบบการจัดการโดยชุมชน การพัฒนาระบบการวางแผน การพัฒนาระบบการนาแผนไปสู่ภาคปฎิบัติ ฯลฯ เป็นต้น ในส่วนนี้ใน พ้นื ที่จังหวดั เชียงรายก็มมี หาวิทยาลัยทีม่ ีศักยภาพหลายมหาวิทยาลัยที่จะเข้ามาสนับสนนุ ทางวชิ าการได้ นอกจากนั้น ควรที่จะใช้ระบบงานวิจัยเชิงปฏิบัติการเข้ามาเสริมและสนับสนุนการทากิจกรรมต่างๆ ภายกล่มุ และชุมชน ซึ่งในพืน้ ท่ีจังหวัดเชยี งราย หรือ พื้นทใี่ นทางภาคเหนือ ก็จะมีศูนย์ประสานงานวิจัย เพือ่ ท้องถ่ินในพื้นที่ กระจายอยู่ในพื้นทีต่ า่ งๆ ทสี่ ามารถเชญิ ชวนใหเ้ ข้ามาพฒั นาและมีส่วนร่วมได้ (2) การพัฒนากลไกการใหบ้ รกิ ารตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย การดาเนินการแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในท่ีดินหรือไร้ท่ีทากิน และการบริหารการใช้ ประโยชน์ในที่ดินของชุมชน ทางทีมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ลงพ้ืนท่ีสารวจและจัดเวทีรับฟังความ รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 3-95
รายงานข้อเสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจังหวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ข่ายพันธมิตรในพน้ื ท่ภี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พื้นที่ คิดเห็นของหลายภาคส่วน เชน่ หนว่ ยงานภาครฐั หนว่ ยงานทอ้ งที่ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ และผนู้ า ชุมชน ซ่ึงได้เสนอแนะแนวทางการแกไ้ ขปญั หาการสูญเสียท่ีดินและไร้ทท่ี ากนิ โดยมีกลไกทีจ่ ะสนับสนุน ให้เกิดการแก้ปัญหาดังกล่าวได้ 2 ระดับ คือ 1) กลไกคณะกรรมการพัฒนาที่ดินเพ่ือการเกษตร อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย และ 2) คณะกรรมการบริหารจัดการและพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตร ตาบลสันมะเค็ด กลไกทั้งสองกลไกดังกล่าวจะช่วยให้ลดปัญหาการสูญเสียที่ดิน และส่งเสริมให้มีการ บรหิ ารการใชป้ ระโยชน์จากท่ดี นิ ของชุมชนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ 1) กลไกคณะกรรมการพัฒนาท่ีดินเพ่ือการเกษตรอาเภอพาน จังหวัดเชียงราย เป็นกลไกท่ี ประกอบไปดว้ ยหน่วยงานหลายภาคสว่ น ซึง่ แตล่ ะหน่วยงานจะทาหนา้ ทีห่ นุนเสรมิ และรว่ มมอื กันในการ ก่อให้เกิดการลดปัญหาการสูญเสียท่ีดินในอาเภอพาน คณะกรรมการดังกล่าวจะเป็นคณะกรรมการใน ระดับอาเภอที่มีหน้าที่ในการกาหนดนโยบายและแนวทางในการแก้ปัญหาการสูญเสียที่ดิน คณะกรรมการจะประกอบด้วยบุคลากรจากหลายหน่วยงาน ซ่ึงเหตุผลท่ีกาหนดให้หน่วยงานดังกล่าว ร่วมกันเปน็ คณะกรรมการ มดี ังนี้ 1. นายอาเภอ เป็นประธานคณะกรรมการฯ เพ่ือให้การทางานของคณะกรรมการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ นายอาเภอในฐานะหัวหน้าส่วนราชการระดับอาเภอจึง ควรเข้ามาเป็นประธานคณะกรรมการ เพื่อสนับสนุนการทางานของคณะกรรมการและเป็นกลไกเชื่อม ระหว่างหนว่ ยงานราชการ หน่วยงานท้องถ่นิ และภาคประชาสังคม อกี ทง้ั หากนายอาเภอเปน็ ประธาน คณะกรรมการที่มีหน้าท่ีในการกาหนดนโยบายและแนวทางการดาเนินงานเพื่อลดปัญหาการสูญเสีย ทด่ี ินและไร้ท่ีดนิ จะทาให้สามารถบรหิ ารการใชป้ ระโยชน์ท่ดี ินในระดับอาเภอได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2. เกษตรอาเภอ เป็นหน่วยงานราชการที่มีหน้าท่ีเก่ียวกับการส่งเสริมการเกษตรและ ช่วยเหลือเกษตรกรในด้านตา่ งๆ เกษตรอาเภอจึงเป็นหน่วยงานทมี่ ีองค์ความรู้ดา้ นการเกษตรและข้อมูล เกี่ยวกับเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างดี ดังน้ัน การท่ีเกษตรอาเภอเป็นคณะกรรมการจะช่วยให้การ แก้ปัญหาสูญเสียท่ีดนิ และการบริหารการใช้ทดี่ นิ อยา่ งมีประสิทธิภาพมากขึน้ 3. นายก อบต. หรือนายกเทศมนตรี เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่ในการ กากับดูแลความเรียบร้อย และบริหารจัดการสาธารณูปโภคขั้นพนื้ ฐานในชุมชน และยังเปน็ หน่วยงานท่ี ใกล้ชิดกับชุมชน ชาวบ้านในชุมชนมากท่ีสุด ทาให้รับรู้ปัญหาและความต้องการของคนในชุมชนมาก ท่ีสุด จึงมีความจาเป็นท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินต้องมีส่วนร่วมในการเป็นคณะกรรมการฯ ซึ่งใน อาเภอพาน มีองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน จานวน 16 แหง่ คือ เทศบาลตาบลเมืองพาน, เทศบาลตาบล สันมะเค็ด, องค์การบริหารส่วนตาบลแม่อ้อ, องค์การบริหารส่วนตาบลธารทอง, องค์การบริหารส่วน ตาบลสันตสิ ขุ , องค์การบริหารส่วนตาบลดอยงาม, องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลหวั ง้ม, องคก์ ารบริหารสว่ น ตาบลเจริญเมือง, องค์การบริหารส่วนตาบลป่าหุ่ง, องค์การบริหารส่วนตาบลม่วงคา, องค์การบริหาร ส่วนตาบลทรายขาว, องค์การบริหารส่วนตาบลสันกลาง, องค์การบริหารส่วนตาบลแม่เย็น, องค์การ บริหารส่วนตาบลเมืองพาน, องค์การบริหารส่วนตาบลทานตะวัน และ องค์การบริหารส่วนตาบล เวยี งห้าว รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หนา้ 3-96
รายงานขอ้ เสนอแนะเรือ่ งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจังหวัดลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือขา่ ยพนั ธมติ รในพื้นที่ภาคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้ืนที่ 4. กานัน/ผู้ใหญ่บ้าน เป็นหน่วยงานท้องท่ีอีกหน่วยงานหน่ึงท่ีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กับคนในชุมชน ในพ้ืนท่ีเช่นเดียวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่ภาระหน้าที่ของกานัน/ผู้ใหญ่บ้าน จะเป็นการดูแลความสงบเรียบร้อยในชุมชน ในพืน้ ท่ีอาเภอลี้ กานัน/ผู้ใหญ่บ้าน มีบทบาทสาคัญในการ ดาเนินกิจกรรมต่างๆ ในพ้ืนที่ เม่ือชาวบ้านหรือเกษตรกรมีปัญหาใดก็ตาม หน่วยงานแรกที่จะไปข อ ความช่วยเหลือก็คือ กานัน/ผู้ใหญ่บ้าน ดังน้ัน การสร้างความไว้วางใจให้กับคนในพื้นที่จะต้องได้รับ ความไวว้ างใจจากหน่วยงานท้องที่ (กานัน/ผูใ้ หญบ่ ้าน) 5. ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นสถาบันทางการเงินท่ี เป็นแหล่งเงินกู้ของเกษตรกรส่วนใหญ่ในพ้ืนที่ หน้ีของเกษตรกรส่วนใหญ่จะกู้ยืมมาจากธ.ก.ส. การ กาหนดให้ ธ.ก.ส. เข้ามาเป็นคณะกรรมการฯ เนื่องจาก ข้อมูลการสูญเสียที่ดนิ การกู้ยืมเงิน ความเสี่ยง ในการสูญเสียท่ีดินของเกษตรกร ธ.ก.ส. มีข้อมูลดังกล่าว และสามารถกาหนดนโยบายในการช่วยเหลือ เกษตรกรได้ ธ.ก.ส.จงึ เป็นส่วนสาคญั อีกประการหนึง่ ท่ีจะชว่ ยลดปญั หาการสญู เสียที่ดินของเกษตรกรได้ 6. สภาเกษตรกร เปน็ หนว่ ยงานท่มี หี น้าท่ีรวบรวม จดั ทาข้อมูลพน้ื ฐานดา้ นการเกษตร ในตาบลและรวบรวม หรือประมวลขอ้ มูล ปญั หา เสนอแนวทางแกไ้ ขปัญหา พฒั นาการเกษตร และการ ปอ้ งกันภัยพบิ ตั ิทางการเกษตรในท้องที่ รวมทัง้ ประมวลข้อมลู สถานการณ์ ปญั หาเรง่ ดว่ นทางการเกษตร ในทอ้ งที่ ให้หน่วยงานท่ีรบั ผิดชอบแก้ไข 7. ผู้แทนสถาบันบริหารจัดการธนาคารท่ีดิน (องค์การมหาชน) เป็นส่วนสาคัญที่จะ สนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรมีที่ทากินและลดการสูญเสียท่ีดินอย่างเป็นระบบ รวมถึงการบริหาร การใช้ประโยชนจ์ ากทด่ี ินอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยนื 8. เจ้าพนักงานท่ีดินอาเภอพาน เป็นหน่วยงานของรัฐท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใชท้ ่ีดิน ของเกษตรกรโดยตรงไมว่ า่ จะเปน็ เร่ืองกรรมสทิ ์ิในที่ดิน การซือ้ ขายที่ดนิ การจานองที่ดนิ การทา นติ ิ กรรมเกี่ยวกับท่ีดินที่มีเอกสารสิทธ์ิทุกประเภทต้องมาดาเนินการท่ีสานักงานที่ดิน อีกทั้งข้อมูลเก่ียวกับ การจานองหรือการสถิตกิ ารสูญเสยี ท่ีดินของเกษตรกรมีในระบบของสานักงานท่ีดิน การกาหนดให้ที่ดนิ อาเภอพานเป็นกรรมการในกลไกคระกรรมการฯ เพ่ือให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง หน่วยงานรัฐและท้องถ่ิน ท้องท่ี ในการชะลอหรือการป้องกันการสูญเสียท่ีดินของเกษตรกรในพ้ืนท่ีใน ระดบั อาเภอและตาบลสนั มะเค็ด 2) คณะกรรมการบริหารจัดการและพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรตาบลสันมะเค็ด เป็นกลไก คณะทางานท่ีทาหน้าที่หนุนเสริมและร่วมมือกัน ในการก่อให้เกิดการลดปัญหาการสูญเสียท่ีดินในพ้ืนที่ ตาบลสันมะเค็ด คณะกรรมการดังกล่าวจะเป็นคณะกรรมการในระดับตาบลที่มีหน้าที่ในการกาหนด แนวทางในการแก้ปัญหาการสูญเสียที่ดินในระดับตาบลที่สอดคล้องกับแนวทางการดาเนินงานและ นโยบายของคณะกรรมการพัฒนาท่ีดินเพื่อการเกษตรอาเภอพาน ซ่ึงคณะกรรมการระดับตาบลจะมี โครงสร้างการทางาน 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายระบบฐานข้อมูลการเกษตรตาบล, ฝ่ายวางแผนและการพัฒนา ท่ีดิน และฝ่ายการให้ความช่วยเหลือและจัดการหน้ีสินเกษตรกร ทั้งน้ีจะมีองค์กรที่เป็นที่ปรึกษา คือ ท่ี ปรกึ ษาทางวิชาการและกฎหมาย ซ่ึงหนา้ ทขี่ องแต่ละฝ่าย มีดังน้ี รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 3-97
รายงานขอ้ เสนอแนะเรื่องการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ขา่ ยพนั ธมิตรในพ้ืนที่ภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้ืนที่ 1. ฝ่ายระบบฐานข้อมูลการเกษตรตาบล เป็นฝ่ายทาหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ ที่เก่ียวกับหนี้สินเกษตรกร ข้อมูลเกษตรกร จานวนเกษตรกร รวมถึงการสูญเสียท่ีดินของเกษตรกร ซ่ึง การทางานของฝ่ายระบบฐานข้อมูลฯ จะเชื่อมโยงความร่วมมือของหน่วยงานหลายๆ ฝ่ายในระดับ อาเภอและระดับชาติ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลที่เก่ียวกับเกษตรกรในพ้ืนท่ีและเพ่ือใช้ระบบฐานข้อมูลในการ ชว่ ยบริหารการใช้ประโยชนใ์ นที่ดินในพน้ื ทต่ี าบลสนั มะเคด็ 2. ฝ่ายวางแผนและการพัฒนาที่ดิน เป็นฝ่ายที่กาหนดนโยบายและวางแผนการ ดาเนินงานของคณะกรรมการฯ ในด้านของการพัฒนาการใช้ประโยชน์ในท่ีดิน การบริหารจัดการที่ดิน ในพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ด และการกาหนดกรอบการดาเนินงานให้สอดคล้องกับคณะกรรมการระดับ อาเภอ รวมถึงการวางแนวทางการลดการสูญเสียที่ดินของเกษตรกรและการชว่ ยเหลือเกษตรกรไร้ที่ดิน ทากินในพน้ื ทตี่ าบลสนั มะเคด็ 3. ฝ่ายการให้ความช่วยเหลือและจัดการหน้ีสินเกษตรกร เป็นฝ่ายท่ีทาหน้าที่ในการ ชว่ ยเหลือสนับสนุนเกษตรกรในการจัดการหนี้สินของเกษตรกร และการสนับสนุนความร่วมมือระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ เกษตรอาเภอ สภาเกษตรกร และหน่วยงานอ่ืนๆ ให้เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรท่ี เดือดร้อนจากการสูญเสียที่ดินและไร้ที่ดินทากิน ตลอดจนหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้เกษตรกรต้อง สญู เสียทด่ี ินทากิน รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หนา้ 3-98
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ขา่ ยพันธมิตรในพน้ื ที่ภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พน้ื ที่ ภาพท่ี 3.1 โครงสร้างคณะกรรมการพฒั นาทด่ี นิ เพอ่ื การเกษตร ในระดบั อาเภอและระดบั ตาบล รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 3-99
รายงานข้อเสนอแนะเร่อื งการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจังหวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ข่ายพันธมิตรในพืน้ ทภ่ี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พนื้ ท่ี (3) การดาเนินการเพ่ือให้เกิดการพัฒนา/การขับเคล่ือนให้พันธมิตรในชุมชนสามารถที่จะทางาน ร่วมกบั บจธ. ได้อย่างราบรน่ื ภายใต้การประเมินและการวิเคราะห์ใน (1) ในความเห็นเพื่อพัฒนาพันธมิตร/เครือข่ายการ ทางานตาบลสันมะเค็ด ทาให้เห็นแนวทางในการพัฒนาเพอ่ื การทางานร่วมกับ บจธ. ได้อย่างราบร่ืนใน ระยะยาว ในสองเป้าหมายหลกั คอื หน่ึง การพัฒนาต่อยอดและใช้ประโยชน์ร่วมกันในข้อมูลที่สารวจและจัดเก็บร่วมกัน และ สอง การมีแผนการดาเนินการเพ่ือแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดิน การแก้ปัญหา การไรท้ ่ดี นิ ทากิน และ การบริหารการใชป้ ระโยชนใ์ นที่ดนิ ของชมุ ชน การท่ีจะพัฒนาระบบภายในชุมชนเพ่ือให้เกิดกลไกและผ้รู ับผิดชอบท่ีเป็นจรงิ ในทางปฏิบัติและ สามารถบรรลุเป้าหมายท้ังสองประการ โดยหากใชบ้ ทเรียนท่ีเกิดจากการดาเนินการในพนื้ ที่นาร่อง ทา ให้มีขอ้ เสนอแนะดังต่อไปนี้ 1. การจะพัฒนาและจัดตั้งกลไกภายในชุมชนเพ่ือให้เกิดการทางานร่วมกัน (และเป็น งานที่ไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมของชาวบ้าน ประกอบกับงานท่ีมีรายละเอียดค่อนข้างมาก) จึงมีความ จาเป็นท่ีจะต้องใช้เวลาในการดาเนินการที่มากกว่านี้ ดังน้ัน การดาเนินการเท่าที่จะดาเนินการได้ใน ระยะเบื้องต้นคือการทาให้เกิดการยอมรับโครงการ ไม่ว่าจะในฐานะส่วนราชการต่างๆ ผู้นา และ ชาวบ้าน 2. สาหรับการพฒั นาต่อยอดและใช้ประโยชน์ร่วมกันในฐานข้อมูล ในส่วนน้ีเพ่ิงจะเริ่ม ส่ือสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจ การเห็นถึงประโยชน์ท่ีชุมชนจะได้รับ และในประการสาคัญการที่จะต่อ ยอดจากระบบท่ี บจธ.กาลังดาเนนิ การอยู่ควรท่ีจะต้องมีการสาธิต การดงึ ข้อมูลมาเป็นตัวอยา่ งเสริมการ วางแผนหรือการวเิ คราะห์ประเด็นตา่ งๆ ท่ีชุมชนต้องการ ซ่ึงในขณะที่ดาเนินโครงการ ระบบฐานข้อมูล ท้ังระบบอยู่ในระหว่างการพัฒนา ดังน้ัน ในส่วนน้ีจึงต้องรอระยะเวลาที่มีการจัดทาข้อมูลเสร็จแล้วเป็น ส่วนใหญ่ รวมถึงความพร้อมของระบบโปรแกรมในการจัดเก็บและประมวลผลของ บจธ.ที่จะเปิดให้ เข้าถึง 3. ในการดาเนินการจัดเก็บข้อมูลได้ออกแบบระบบโดยการนาเอา อสม.ซ่ึงเป็น ตัวแทนของชุมชนที่มีความพร้อมและความคุ้นเคย ในการจัดเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ซึ่งในส่วน ของอสม.สามารถที่จะดาเนินการจัดเก็บข้อมูลได้ภายหลังจากการช่วยกันทาความเข้าใจรายละเอียด ต่างๆของแบบสอบถามและหากต้องการท่ีจะทาให้เกิดระบบการปรับปรุงข้อมูลภายหลังจากนี้ อาจจะ ต้องทาให้ อสม.ทางานร่วมกับ เกษตรตาบลซ่ึงเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความชานาญในงานเอกสาร การใช้ คอมพิวเตอร์ รวมถึงการประสานงานกับสภาองค์กรชุมชนตาบลมะเค็ดให้เข้ามาร่วมดาเนินการ ทั้งนี้ เนื่องจาก บุคลากรจากหน่วยงานทั้งสามหน่วยงานดังกล่าวมีความคุ้นเคยกับการเก็บข้อมูลที่ส่วน ราชการต่างๆขอความร่วมมืออยู่เป็นประจา และบุคลากรของทั้งสามหน่วยงานดังกล่ าวก็มี ความสามารถและชานาญมากกวา่ ฝา่ ยปกครอง รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 3-100
รายงานข้อเสนอแนะเรือ่ งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจังหวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือขา่ ยพนั ธมติ รในพนื้ ท่ภี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พืน้ ท่ี 4. สาหรับในส่วนท่ีเก่ียวกับ การวางแผนการดาเนินการเพ่ือแก้ไขปัญหาการสูญเสีย สทิ ธิในที่ดนิ การแก้ปัญหาการไรท้ ่ดี ินทากิน และ การบริหารการใช้ประโยชน์ในท่ดี ินของชุมชน ซึง่ เปน็ ปัญหาพน้ื ฐานของชมุ ชนท่ีสัมพันธ์อยู่กบั มิติอนื่ ๆ อีกมากมายทั้งภายในและภายนอกชุมชน การจะทาให้ เกิดการจัดทาแผนและการมุ่งม่ันในการแก้ไขปญั หาของชุมชนจาเป็นท่ีจะตอ้ งใช้เวลามากกว่าระยะเวลา ของโครงการ การทาให้ชุมชนเปลี่ยนแปลงโดยเห็นแบบอย่างของพื้นท่ีซ่ึงประสบความสาเร็จในการ แก้ไขปัญหาต่างๆจะประสบความสาเร็จมากกว่าการบรรยาย การสัมมนา โดยอาจจะต้องเสริมด้วย กระบวนการวิจัยชุมชนเพื่อจัดต้ังระบบการทางานให้เหมาะสมได้มากกว่าการต้องทาหน้าที่รับผิดชอบ งานตามตาแหน่งหน้าท่ี รวมถึงอาจจะต้องมีการบูรณาการทาแผนในระดับตาบลสันมะเค็ดของ หน่วยงานอ่ืนๆให้มีประเด็นและเน้ือหาที่สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวทางการแก้ไขที่ดิน ทากินของเกษตรกรด้วย โดยจะต้องมีกระบวนการเสริมความรู้ในทางกฎหมาย ความรู้เก่ียวกับการทา แผน ความรู้เก่ียวกับวิธีการแก้ไขปัญหาปากท้องของเกษตรกร และประเด็นอ่ืนๆ ที่เก่ียวข้องให้กับ คณะทางานทป่ี ฏิบัตงิ านในพ้นื ที่ 6. งบประมาณทใี่ ช้พนื้ ทตี่ าบลสันมะเคด็ อาเภอพาน จงั หวดั เชยี งราย งบประมาณท่ีใช้ในการแก้ไขปัญหาในพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดย ทีมมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ไดม้ ีขอ้ เสนอประมาณการงบประมาณค่าใช้จ่ายในการดาเนินการในการแก้ไข ปญั หาในพื้นทีท่ ้ังสน้ิ จานวน 590,000 บาท โดยเปน็ งบประมาณทีใ่ ชใ้ นการจัดกิจกรรมเพ่ือการพัฒนา และจัดตงั้ กลไกคณะกรรมการในระดับอาเภอและระดับตาบล รวมท้ังการสร้างความเข้าใจ แลกเปล่ียน องค์ความรู้ต่างๆ ภายในชุมชนเพื่อให้เกิดการทางานร่วมกัน และ การพัฒนาต่อยอดและใช้ประโยชน์ ร่วมกันในฐานข้อมูลในระดับตาบล ซ่ึงจะมีการดาเนินการในการทาความเข้าใจสภาพปัญหาและแนว ทางการแก้ไขปัญหาการสูญเสียท่ีดินทากินและปัญหาไร้ที่ทากิน รวมทั้งการพัฒนาเครือข่ายความ ร่วมมอื ในระดับอาเภอ เพ่ือเป็นกลไกในการจัดตง้ั คณะทางานในการแกไ้ ขปญั หาในระดับตาบล ทั้งน้ี การพัฒนากลไกคณะทางานการแก้ไขปัญหาการสูญเสียที่ดนิ ในพ้ืนที่และการแก้ไขปญั หา ไร้ที่ทากินจะต้องมีการประชุมเพื่อจัดต้ังกลไกคณะทางานฯ และการประชุมเพ่ือหาแนวทางการจัดการ ปัญหาที่เกิดข้นึ พรอ้ มทั้งการสรา้ งความเขา้ ใจและพฒั นาแนวทางการแก้ไขปญั หารว่ มกับชมุ ชนในระดับ หมบู่ ้าน ซ่ึงตอ้ งมีการดาเนินกิจกรรมในระดบั หมบู่ า้ น จานวน 19 หมบู่ ้าน การแก้ไขปัญหาในพ้ืนที่ตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวัดเชียงรายให้มีประสิทธภิ าพและทัน ต่อสถานการณ์การเปล่ียนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมจึงต้องมีการจัดสรรงบประมาณใน การพฒั นาองค์ความรู้การบริหารองค์กร โดยการหนุนเสริมความจากหน่วยงานภายนอกด้วย เพอื่ ทาให้ ชุมชนเห็นแบบอยา่ งของพื้นท่ีอ่นื ซ่งึ ประสบความสาเร็จในการแก้ไขปญั หาต่างๆ และนามาปรบั ประยุกต์ ใช้ในการพฒั นาแนวทางการป้องกันการสูญเสียท่ีดนิ และไร้ท่ีดินทากิน ตลอดจนการบริหารจัดการการ ใชป้ ระโยชนท์ ่ีดินอยา่ งย่ังยืน รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 3-101
รายงานข้อเสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจงั หวัดลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือขา่ ยพันธมติ รในพน้ื ท่ภี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พนื้ ที่ ตารางที่ 3.5 งบประมาณที่ใชพ้ นื้ ท่ีตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จงั หวัดเชยี งราย หมายเหตุ ลาดบั รายการ งบประมาณ (บาท) การพฒั นาและจัดตง้ั กลไกภายในชมุ ชนเพอ่ื ใหเ้ กดิ การทางานร่วมกัน 1. การทาความเข้าใจสภาพปัญหาและแนวทางการ 50,000 แก้ไขปัญหาการสูญเสียท่ีดินทากินและปัญหาไร้ท่ี ทากนิ 2. การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในระดับอาเภอ 50,000 เพื่อเป็นกลไกในการจัดต้งั คณะทางานในการแก้ไข ปัญหาในระดับตาบล 3. การพัฒนากลไกคณะทางานการแก้ไขปัญหาการ 100,000 สูญเสียท่ีดนิ ในพนื้ ที่และการแก้ไขปัญหาไร้ท่ีทากิน - การประชมุ เพือ่ จดั ตั้งกลไกคณะทางานฯ - การประชุมเพ่ือหาแนวทางการจัดการ ปญั หาทเ่ี กิดขึ้น 4. การสร้างความเข้าใจและสร้างเครือข่ายร่วมกับ 190,000 ชุมชนในพ้ืนที่ รวมทั้งพัฒนาแนวทางการแก้ไข ปัญหารว่ มกับชมุ ชนในระดับหมบู่ า้ น (19 หมู่บา้ น) 5. การพัฒนาองค์ความรู้การบริหารองค์กร โดยการ 50,000 หนุนเสริมความจากหน่วยงานภายนอก เพ่ือทาให้ ชุมชนเห็นแบบอย่างของพื้นที่อื่นซ่ึงประสบ ความสาเรจ็ ในการแกไ้ ขปญั หาตา่ งๆ การพฒั นาต่อยอดและใชป้ ระโยชนร์ ่วมกันในฐานข้อมลู 1. การพัฒนาบุคลากรและการถ่ายทอดองค์ความรู้ 150,000 ในการปรับปรุงฐานข้อมูลและการบริหารจัดการ ข้อมูล รวมเป็นเงนิ ทั้งส้ิน 590,000 รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หนา้ 3-102
รายงานขอ้ เสนอแนะเร่ืองการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจงั หวัดลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือข่ายพนั ธมิตรในพื้นท่ีภาคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พืน้ ท่ี 7. ผลท่ีคาดว่าจะได้รับหลังจากได้รับบริการจาก บจธ. พ้ืนท่ี ตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จงั หวัดเชยี งราย 1. พื้นท่ีตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวดั เชียงราย มีระบบข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูล ด้านที่ดินเกี่ยวกับเกษตรกรและเกษตรกรไร้ท่ีดินทากินหรือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาท่ีดิน รวมทง้ั การใช้ประโยชนใ์ นท่ีดนิ และการสูญเสียสิทธิในทดี่ ินซงึ่ เป็นระบบฐานข้อมูลทีอ่ ยู่ในชมุ ชน/ท้องถ่ิน โดยเกษตรกรหรือองค์กรเกษตรกรสามารถเข้าไปแก้ไขเพ่ิมเติมข้อมูลเกษตรกรให้ทันสมัยทันต่อ สถานการณ์ได้ 2. มีกลไกในการดาเนินการแก้ไขปัญหาการสูญเสียท่ีดินและไร้ที่ดิน รวมถึงการบริหารจัดการ ใช้ประโยชน์จากท่ดี นิ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ซึ่งมีกลไกการแก้ไขปญั หาท้งั ในระดับอาเภอและระดับตาบล 3. เกษตรกร, เครือข่ายเกษตรกร, องค์กรชุมชน มีการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และ สถาบันบริหารจัดการธนาคารท่ีดนิ (องค์การมหาชน) เพ่ือการ จัดทาข้อมูลในการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพ่ือนาไปสู่การกระตุ้นการใช้ ประโยชนใ์ นทดี่ ินของรฐั และเอกชน 4. มีแผนงานแนวทางการดาเนินงานในด้านการช่วยเหลือเกษตรกร เกษตรกรไร้ที่ทากินให้มี ความม่ันคงด้านที่ดนิ ทากินและท่ีอยู่อาศัย มีรายได้เพียงพอ คุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยผ่านกลไกตา่ งๆ หรือ เครอื ข่ายพนั ธมติ รของ บจธ. ในพืน้ ท่ีตาบลสนั มะเค็ด รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 3-103
รายงานขอ้ เสนอแนะเร่อื งการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจังหวดั ลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ข่ายพนั ธมิตรในพืน้ ทีภ่ าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พืน้ ท่ี สว่ นท่ี 3.2 ปญั หาอปุ สรรคอ่นื ๆ 1. สภาพปัญหาและอุปสรรคในการสารวจข้อมูลเกษตรกร ตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จงั หวดั เชียงราย 1.1 ปัญหาและอุปสรรค ในการลงพืน้ ท่ีตาบลสันมะเคด็ อาเภอพาน จังหวดั เชยี งราย 1) ระยะเวลาในการเร่ิมดาเนนิ การของโครงการฯ 1.1) ภายหลังจากการลงนามในสัญญาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ของพื้นท่ีตาบลสัน มะเค็ด อาเภอพาน จังหวดั เชยี งราย คณะผู้จัดทาโครงการได้เร่ิมดาเนินการโดยการประสานการจะเข้า ไปปฏิบัติการในพ้ืนที่กับทางที่ว่าการอาเภอ และได้ประสานอย่างไม่เป็นทางการกับผู้นาในระดับพ้ืนท่ี คือ กานัน และ นายกองค์การบริหารส่วนตาบลสันมะเค็ด ทั้งน้ีเพ่ือจะได้ไม่เกิดปัญหาอุปสรรคใน ภายหลัง และหากทางอาเภอในฐานะเจ้าของพ้ืนท่ีไม่ทราบเรื่อง หรือ ผู้นาในระดับพนื้ ท่ีไม่ได้แจ้งให้กับ กลไกทางราชการทราบก็อาจจะสร้างปัญหาการดาเนินโครงการได้ รวมตลอดถึงอาจจะกระทบต่อ กิจกรรมของ บจธ. ในอนาคต ดังน้ัน เมอื่ ทางทีมวจิ ยั ได้ประสานงานกบั ทางอาเภอเกย่ี วกบั โครงการของบจธ.ท่จี ะเข้า มาทาการเก็บข้อมูลในพน้ื ท่อี าเภอพาน ซ่ึงทางบจธ.ได้ประสานงานผา่ นมาทางสานักงานจังหวดั เชียงราย แล้ว ปรากฏว่าทางอาเภอยังไม่ทราบในรายละเอียดของโครงการ ทราบแต่เพียงว่า บจธ.จะเข้ามา ดาเนินงานเก่ียวกับท่ีดินทากิน ประกอบกับนายอาเภอท่ีรับผิดชอบเดิมมีการโยกย้ายและมีนายอาเภอ คนใหม่เข้า จึงทาให้ต้องรอนายอาเภอคนใหม่ และเมื่อพบกับนายอาเภอท่านใหม่แล้วนายอาเภอ ต้องการให้ทีมวิจัยมาช้ีแจงรายละเอียดตา่ งๆ กับกานันและผู้ใหญ่บา้ นของพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ดโดยตรง จึงทาให้ต้องรอเวลาวันนัดที่นายอาเภอว่างจากการตรวจพ้ืนที่ ท้ังน้ีเนื่องจากในช่วงเวลาที่เริ่มดาเนิน โครงการอยู่ในช่วงระยะเวลาในการควบคุมการเผาป่า จึงทาให้นายอาเภอต้องออกไปตรวจในพื้นท่ี ตาบลต่างๆ และกว่าจะสามารถนัดประชุมชี้แจงโครงการได้ก็ใช้เวลาเกือบๆ หนึ่งเดือน ท้ังน้ีเนื่องจาก นายอาเภอซ่ึงย้ายมาใหม่จึงต้องออกไปตรวจเยี่ยมพ้ืนท่ีตาบลต่างๆ และมีภารกิจของจังหวัดจึงทาให้ไม่ สามารถท่จี ะนดั วนั เพือ่ ชีแ้ จงโครงการตามทนี่ ายอาเภอตอ้ งการได้ในเวลาอนั รวดเรว็ 1.2) การติดต่อประสานงานกับผู้นาในพื้นที่ตาบลสันมะเค็ด เพื่อวิเคราะห์ว่าทีมวิจัย ควรที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นาคนใดคนหนึ่งเพ่ือให้เป็นหลักในพื้นที่ในการท่ีจะดาเนิน สนบั สนุนการจดั เก็บขอ้ มูล เมื่อเข้าไปประสานงานในพ้ืนทีก่ ับผูน้ ากลมุ่ ตา่ งๆ ทาให้ทราบความสัมพนั ธ์ใน ระหว่างผู้นาและการให้การยอมรับของชาวบ้านกับผู้นา ซ่ึงในกรณีตาบลสันมะเค็ด ปรากฏว่า กานัน ตาบลสันมะเค็ดเกษียณอายุ ดังน้ัน จงึ ทาใหแ้ กนนาทที่ างทีมจะตอ้ งประสานเพอ่ื ทางานด้วยจึงตอ้ งลงไป ประสานกบั ผ้ใู หญบ่ ้านโดยตรง ดังน้ัน จึงทาให้ต้องใช้เวลาไประยะหนึ่งในการสร้างความเข้าใจกับแกนนาเก่ียวกับ กิจกรรมท่ีจะเข้ามาดาเนินการในพื้นท่ีและการเตรียมความพร้อมของชมุ ชน ซ่ึงในพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ด นอกจากจะประสานงานกับผู้นาทั้งในส่วนของกานัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายกเทศบาลแล้วทีมวิจัยยังได้ รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 3-104
รายงานข้อเสนอแนะเร่อื งการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจังหวัดลาพูน และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ข่ายพันธมิตรในพ้นื ทภี่ าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ท่ี ประสานงานกับกลุ่ม อสม. และสภาองค์กรชมุ ชนให้เข้ามาร่วมดาเนินการในการจัดเก็บข้อมูลด้วย และ ดว้ ยเหตเุ ชน่ นั้นกว่าจะประสานงานสร้างความเข้าใจได้ ก็ส่งผลต่อระยะเวลาทาให้การท่ีจะเริ่มตน้ เข้าไป เก็บข้อมูลในแต่ละหมู่บา้ นกต็ ้องขยบั เวลาออกไป 1.3) และเม่ือต้องใช้ระยะเวลาในการประสานกับหน่วยงานที่ดูแลพ้ืนที่และเตรียม ความพร้อมในการเข้าชุมชนต้องขยับออกไปประมาณเดือนครึ่งก็ไปตรงกับช่วงงานประเพณีปี๋ใหม่เมือง ซึ่งจะไม่สามารถดาเนินการหรือริเร่ิมงานใหม่ไดเ้ ลย ซึ่งหมายความว่าจะสามารถเรม่ิ ตน้ เก็บข้อมูลได้ตอ้ ง พ้นเทศกาลปใ๋ี หมเ่ มืองไปแลว้ 2) ปัญหาความล่าช้าที่เกิดจากสถานการณ์เฉพาะหน้าและเง่ือนไขท่ีเป็นจากัดของ ประชาชนในการใหข้ อ้ มูล 2.1) เน่ืองจากในการประชุมเพ่ือช้ีแจงเก่ียวกับรายละเอียดของโครงการต่อกานัน ผู้ใหญบ่ า้ นและผู้ท่เี ก่ียวข้องกบั พื้นท่ี มีการชแี้ จงรายละเอียดของโครงการท้งั หมด โดยบจธ. แต่ดว้ ยเหตุ ท่มี กี ารชแ้ี จงหลายโครงการจึงทาให้เกดิ การส่ือสารทผ่ี ิดพลาดระหว่างผู้นา (ผูใ้ หญ่) กับชาวบา้ น คอื จะ เก็บข้อมูลเฉพาะชาวบ้านที่จะสูญเสียที่ดินทากินเท่านั้นก่อน จึงทาให้มีชาวบ้านไม่กี่คนซึ่งน้อยมากที่มา ให้ขอ้ มูล จนทาใหท้ มี วจิ ัยตอ้ งเรม่ิ ตน้ ประสานงานกบั ผ้ใู หญ่บ้านกันใหมอ่ ีกครัง้ หนึง่ 2.2) เน่ืองจากในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันมีโครงการข้ึนทะเบียนเกษตรกร ซ่ึงมีการเก็บ ข้อมูลท่ีมีเนื้อหาใกล้เคียงกับท่ีบจธ.จัดเก็บ จึงทาให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่ยอมมาให้ข้อมูล เพราะได้ให้ ขอ้ มูลไปแลว้ โดยเข้าใจว่าเปน็ การใหข้ อ้ มูลทเ่ี หมอื นๆกบั ทเี่ คยใหข้ อ้ มูลมาแล้ว จงึ ไม่มาให้ข้อมูล 2.3) ประชาชนเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายต่อระบบการจัดเก็บข้อมูลของหน่วยงาน ท้ังนี้ เนื่องจากก่อนหน้าท่ีโครงการเก็บของมูลของบจธ.จะเข้ามาดาเนินการเก็บข้อมูล ได้มีการจัดเก็บข้อมูล ของหน่วยงานของรัฐเข้ามาดาเนินการเป็นระยะๆ ล่าสุดก่อนที่โครงการของบจธ.จะเข้ามาก็มีโครงการ ขึ้นทะเบยี นเกษตรกร จึงทาให้ชาวบา้ นจานวนหนึ่งที่มีฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างดีไม่ยอมมาให้ข้อมูล เลย เหตุท้ัง 3 ประการดังกล่าว จึงทาให้เกิดความล่าช้าในการจัดเก็บข้อมูลเพ่ือให้เป็นไป ตามจานวนท่ีกาหนดใน TOR จนทีมวิจัยต้องปรับเปลี่ยนแผนในการดาเนินการ โดยเริ่มต้นจากการเข้า ไปสร้างความเข้าใจเก่ียวกับ บจธ. แนวการดาเนินการ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับตามราย หมู่บ้านท่ีประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ โดยทีมวิจัยต้องเข้าไปดาเนินการเพ่ือสร้างความเข้าใจหลายรอบ ในแต่ละพ้ืนที่ดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุที่สาคัญอีกประการหนึ่งของความล่าช้า ท้ังนี้เนื่องจากทีมวิจัยไม่ สามารถทีจ่ ะบังคบั ชาวบ้านให้มาใหข้ ้อมูลได้ รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 3-105
รายงานขอ้ เสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจังหวดั ลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือขา่ ยพนั ธมิตรในพ้นื ท่ภี าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ที่ 3) ลักษณะทางเทคนิคของแบบสอบถามและระบบการป้อนข้อมูลเข้าส่รู ะบบโปรแกรมของ บจธ. ด้วยเหตุท่ีแบบสอบถามมีประเด็นที่จะต้องจัดเก็บเป็นจานวนมาก และเมื่อจัดเก็บมาแล้วต้อง กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบด้วย แต่ด้วยข้อขัดข้องของระบบการกรอกข้อมูลท่ียังไม่สมบูรณ์จึงทาให้การ บันทึกข้อมูลเข้าระบบโปรแกรมเมื่อมีข้อติดขัดจึงต้องประสานงานกับ บจธ. และ บจธ. จะดาเนินการ ประสานกับผ้เู ขียนโปรแกรมให้ปรับแก้จงึ ทาใหก้ ารคียข์ ้อมูลต้องหยดุ เป็นระยะ ด้วยสาเหตุดังกล่าวข้างต้น จึงทาให้การคีย์ข้อมูลเข้าสู่ระบบจึงเกิดความล่าช้าอันเนื่องจาก เหตุสุดวสิ ยั ที่ทมี การเกบ็ ขอ้ มูลไมส่ ามารถทจี่ ะป้องกันหรือหลีกเลย่ี งได้ 4) การดาเนินงานสารวจข้อมูลมีขอ้ จากดั ในด้านระยะเวลาในการลงพน้ื ท่สี ารวจขอ้ มูล ท้ังพ้ืนที่ตาบลสันมะเค็ด ซ่ึงเป็นช่วงเวลาในทานา และการเก็บลาไย ทาให้ในเวลากลางวัน เกษตรกรจะออกไปทานาทาไร่ทาสวนเกือบทั้งหมด ตลอดจนในช่วงเวลาเย็น ก็ไม่สามารถสารวจข้อมูล ได้ เนื่องจากเกษตรกรต้องพักผ่อนเพื่อทางานเช้าในวันรุ่งข้ึน ส่งผลให้การเก็บข้อมูลในพื้นที่ได้ไม่ครบ ตามจานวนท่ีกาหนด ทางทีมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงต้องมีการออกแบบการลงพื้นท่ีเก็บข้อมูล เกษตรกรอกี ครง้ั หนง่ึ จึงทาให้การเก็บข้อมลู และการบันทกึ ข้อมูลในระบบล่าช้ากวา่ ระยะเวลาทก่ี าหนด 5) ปัญหาอุปสรรคอื่นๆ จากการลงพื้นท่ีสารวจข้อมูลเกษตรกร ตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวัดเชยี งราย 1.1) ผู้ใหญ่บ้านไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของโครงการอย่างแท้จริง แม้ว่าทางทีมจะ ช้แี จงและให้เอกสารโครงการ จึงทาให้ไมส่ ามารถประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลและสร้างความเข้าใจทีถ่ ูกต้องกับ ชาวบา้ นได้ 1.2) ชาวบ้านไม่เข้าใจจุดประสงค์ของโครงการจึงทาให้ไม่เข้าร่วมไดอ้ ย่างเต็มที่ จึงทา ให้บางหมู่บ้านมชี าวบ้านจานวนน้อยมากทมี่ าให้ขอ้ มูล 1.3) การลงพื้นที่ไม่สามารถเข้าสารวจในทุกหลังคาเรือนได้ เนื่องจากนักศึกษาไม่ใช่ คนในพ้ืนท่ี รวมทั้งพ้ืนท่ีสารวจข้อมูลในแต่ละครัวเรือนมีพ้ืนที่ห่างไกลกัน ต้องใช้ระยะเวลาในการ เดนิ ทาง จึงออกแบบการสารวจขอความร่วมมือให้เกษตรกรมาให้ข้อมลู ท่ศี าลาประจาหมู่บา้ น หรอื ทวี่ ดั 1.4) แบบสอบถามมีข้อจากัด ทั้งในด้านการระบุจานวนพืชผล ระยะเวลาในการกู้ยืม เป็นต้น ซ่ึงปญั หาข้อเท็จจริงจากชาวบา้ นมีความซับซ้อน จึงทาให้การตอบในแบบสอบถามไม่อาจสื่อถึง ปัญหาของชาวบ้านไดอ้ ย่างแท้จริง รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 3-106
รายงานข้อเสนอแนะเรือ่ งการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจงั หวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ข่ายพันธมติ รในพ้นื ที่ภาคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้ืนท่ี สว่ นท่ี 4 สรปุ ภาพรวม ปญั หา อุปสรรค ข้อเสนอแนะ และ ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจากโครงการสารวจเกษตรกรใน 36 พน้ื ที่ รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 4-1
รายงานข้อเสนอแนะเร่อื งการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือขา่ ยพนั ธมิตรในพืน้ ทภ่ี าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ท่ี 4.1 ปัญหา และอปุ สรรคของโครงการสารวจเกษตรกรใน 36 พนื้ ท่ี 1. สภาพปัญหาและอุปสรรคในการสารวจข้อมูลเกษตรกร และการพัฒนาพันธมิตร ตาบลนาทราย อาเภอล้ี จงั หวดั ลาพูน 1.1) ระยะเวลาในการเริ่มดาเนินการของโครงการฯ 1) ภายหลังจากการลงนามในสัญญาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ คณะผู้จัดทาโครงการ ได้เร่ิมดาเนินการโดยการประสานการจะเข้าไปปฏิบตั ิการในพ้ืนที่กับทางอาเภอล้ี และได้ประสานอย่าง ไม่เป็นทางการกับผู้นาในระดับพ้ืนท่ี คือ กานัน และ นายกองค์การบริหารส่วนตาบลนาทราย ท้ังน้ีเพื่อ จะได้ไมเ่ กิดปญั หาอปุ สรรคในภายหลงั และหากทางอาเภอในฐานะเจ้าของพ้ืนท่ีไม่ทราบเรอื่ ง หรือ ผูน้ า ในระดับพื้นท่ีไม่ได้แจ้งให้กับกลไกทางราชการทราบก็อาจจะสร้างปัญหาการดาเนินโครงการได้ รวม ตลอดถึงอาจจะกระทบตอ่ กจิ กรรมของ บจธ. ในอนาคต ดังน้ัน เม่ือได้รับคาแนะนาจากผู้นาในระดับพื้นที่เพื่อให้นายอาเภอรับทราบ จึงทาให้ ตอ้ งรอวนั นัดประชุมประจาเดือนของอาเภอล้ีซ่ึงจะจัดให้มีขึ้นๆ ในทุกๆ ต้นเดือน ดังน้ันจึงทาให้กว่าจะ เร่ิมดาเนินการได้เพื่อเข้าไปประสานงานติดต่อกับแกนนาของกลุ่มต่างๆในระดับพื้นท่ีและการจะได้รับ ความร่วมมือจึงต้องรอการประชมุ กานันผู้ใหญ่บ้านเพือ่ เข้าไปช้ีแจงรายละเอียดต่างๆ เพอื่ ให้ทางอาเภอ รับทราบและจะได้ดาเนินการแจ้งให้หน่วยงานต่างๆ ในพ้ืนท่ีทราบหรือปฏิบัติต่อไปอย่างไร โดยเฉพาะ ท้องถนิ่ และท้องท่ี ดว้ ยเหตดุ งั กล่าวจึงทาให้ระยะเวลาท่ีจะเรมิ่ โครงการจึงขยบั ออกไปประมาณ 20 วัน และควรกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในระดับพื้นที่ของ อ.ล้ี ที่ทาให้ทีมวจิ ัยจะต้องเดินตามข้ันตอน ที่ทางฝ่ายปกครองแนะนาซึ่งเป็นผลมาจากการเคล่ือนไหวทางการเมืองของผู้นาในพื้นที่ จึงทาให้เป็น พ้นื ที่ถกู จับตามองจากฝา่ ยความม่นั คง ดังนนั้ จึงทาให้ทีมวจิ ัยไม่สามารถข้ามขัน้ ลงไปดาเนินการในระดบั พืน้ ท่ีไดท้ นั ทที่ ่ีเร่ิมโครงการ 2) การตดิ ตอ่ ประสานงานกบั ผูน้ าในพื้นทีต่ าบลนาทราย เพื่อวิเคราะห์วา่ ทีมวิจัยควรท่ี จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นาคนใดเพ่ือให้เป็นหลักในพื้นที่ในการท่ีจะดาเนนิ สนับสนุนการจัดเก็บ ข้อมูล เม่ือเข้าไปประสานงานในพื้นท่ีกับผู้นากลุ่มต่างๆ ทาให้ทราบความสัมพันธ์ในระหว่างผู้นาและ การให้การยอมรับของชาวบ้านกับผู้นา ซ่ึงในกรณีนาทรายผู้นาท่ีทีมประสานงานอย่างใกล้ชดิ คือ กานัน ตาบลนาทราย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องทางานร่วมกับแกนนาท่านอ่ืนๆ ด้วยเพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าได้ อยู่ในขบวนงานนี้ และเป็นที่ยอมรบั ของหนว่ ยงานจากภายนอก ซึ่งทาให้ต้องใชเ้ วลาระยะหน่ึงเพื่อสร้าง ความไว้วางใจ การทาให้ผู้นาให้การยอมรับคณะทางานท่ีจะเข้าไปดาเนินการในพื้นที่ (ซึ่งภายหลังเมื่อ เข้าไปดาเนินการเก็บข้อมูลและไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน อันเน่ืองมาจากเหตุการณ์ท่ีทหาร และปา่ ไม้ได้เข้าไปทวงคืนผืนป่าซ่ึงทาให้ชาวบา้ นถูกยึดที่ดินทากินไป ชาวบ้านที่ไดร้ บั ผลกระทบจงึ ไม่มา ให้ข้อมูลเลย ทางทีมงานได้รับความช่วยเหลือจากแกนนาท่ีประสานสร้างการยอมรับและความไว้วางใจ ดังที่กล่าวมาข้างต้น ชว่ ยสร้างความเข้าใจและสื่อสารกับชาวบา้ นให้เข้าใจบทบาทและเป้าหมายของทีม และของ บจธ. วา่ จะเกิดประโยชนก์ ับชาวบา้ นอย่างไร จนทาใหช้ าวบ้านเขา้ มาใหข้ อ้ มูล) รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 4-2
รายงานข้อเสนอแนะเร่อื งการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจังหวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ข่ายพนั ธมิตรในพ้ืนที่ภาคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พน้ื ที่ กล่าวโดยสรุปก็คือ เมื่อลงนามในสัญญาแล้ว การเริ่มเข้าไปดาเนินการในพื้นท่ี เป้าหมายที่เป็นพื้นท่ีนาร่องของ บจธ. แต่พ้ืนที่ดังกล่าวทีมวิจัยแม้จะเป็นสถาบันการศึกษาที่อยู่ใน ภาคเหนือ แต่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันมาก่อน ดังน้ัน จึงทาให้ต้องใช้เวลาไประยะหน่ึงในการเตรียม ความพรอ้ มของชมุ ชน ซึง่ ส่งผลตอ่ ระยะเวลาทาให้การจะเริ่มต้นในการเก็บขอ้ มูลท่ลี ดลง 3) และเมื่อต้องใช้ระยะเวลาในการประสานกับหน่วยงานท่ีดูแลพน้ื ท่ีและเตรียมความ พร้อมในการเข้าชุมชน ซ่ึงใชเ้ วลาเกือบ 1 เดือน และเมื่อประสานหน่วยงานพร้อมแล้ว แต่ก็ไปตรงกับ ช่วงงานประเพณีปี๋ใหม่เมือง ซึ่งจะไม่สามารถดาเนินการหรือริเริ่มงานใหม่ได้เลย ซึ่งหมายความว่าจะ สามารถเริ่มต้นเก็บข้อมูลได้ต้องพน้ เทศกาลป๋ีใหม่เมอื งไปแล้ว 1.2) ปัญหาความล่าช้าท่ีเกิดจากสถานการณ์เฉพาะหน้าและเงื่อนไขที่เป็นจากัดของ ประชาชนในการใหข้ ้อมลู 1) ในพื้นที่ตาบลนาทราย ประชาชนมีท้ังที่เป็นคนเมือง (คนไทยภาคเหนือ) และ คน ไทยที่เปน็ ชาติพันธ์ุ ปกากะญอ ซึ่งไมส่ ามารถสื่อสารภาษาไทยหรือภาษาล้านนาได้ และเปน็ ประชาชนท่ี มีจานวนมาก ดงั น้ันจึงทาให้การสอบถามตอ้ งทาผ่านล่าม ซ่ึงเปน็ เงื่อนไขและข้อจากัดที่ทีมวจิ ัยไม่ทราบ มาก่อน และไม่สามารถท่ีจะปฏิเสธเง่ือนไขเชน่ นขี้ องพ้นื ที่นาร่องได้ ซ่ึงหากทว่ี จิ ัยทราบข้อจากัดดงั กล่าว ตัง้ แต่กอ่ นจัดทาโครงการย่อมจะต้องต่อรองเรื่องระยะเวลาตง้ั แตเ่ ริ่มตน้ ท่ีจะจดั ทาโครงการใหม้ ากกว่าน้ี จงึ ทาให้การจัดเกบ็ ข้อมลู ล่าชา้ 2) ประชาชนในบางหมู่บ้านไม่ยอมให้ข้อมูล เมื่อเข้าไปดาเนินการจัดเก็บข้อมูลราย หมู่บ้าน โดยการประสานกับกานัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยทีมวิจัยขอให้ผู้ใหญ่บ้านประกาศแจ้งให้ชาวบ้าน ทราบเกี่ยวกับการเข้ามาเก็บข้อมูล แตป่ รากฏว่ามหี มู่บ้านหน่ึงในพน้ื ที่ตาบลชาวบ้านไม่ยอมมาให้ข้อมูล เลย จนตอ้ งประสานกบั ทางกานนั เพ่อื สอบถามสาเหตุ จนทราบว่า ในอดีตที่ผ่าน ชาวบา้ นในหมดู่ ังกลา่ ว เคยให้ข้อมูลกับทางสถาบันการศึกษาที่เข้ามาเก็บข้อมูลทานองเดียวกับท่ี บจธ. ดาเนินการ แต่ปรากฏ ว่าการให้ข้อมูลดังกล่าวถูกนาไปใช้ในการแสดงความยินยอมของชาวบ้านด้วยการลงชื่อในการยอม โยกย้ายออกจากพ้ืนท่ีดินของตนเองเพ่ือให้บริษัทที่ได้รับสัมปทานทาเหมืองลิกไนท์ขุดแร่ได้ จนทาให้ ชาวบ้านตอ้ งยา้ ยออกจากพ้นื ที่ ดังนัน้ เมื่อทีมวิจัยซึ่งมาจากมหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ท่เี คยเขา้ ไปเก็บข้อมูล และ ทาให้เกิดการบิดเบือนการนาข้อมูลไปใช้ที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้านในฐานะผู้นาจึง ไม่ให้ความร่วมมือแต่กลับแจ้งไม่ให้ชาวบา้ นให้ข้อมูล จนทาให้การเก็บข้อมูลต้องล่าช้าออกไปเพราะตอ้ ง มาแก้ปัญหาความไมเ่ ข้าใจดงั กล่าวเสียกอ่ น 3) เนื่องจากในชว่ งเวลาไล่เล่ียกันมโี ครงการขน้ึ ทะเบยี นเกษตรกร ซ่ึงมีการเกบ็ ข้อมลู ท่ี มีเน้ือหาใกล้เคียงกับที่ บจธ. จัดเก็บ จึงทาให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่ยอมมาให้ข้อมูล เพราะได้ให้ข้อมูลไป แล้ว โดยเข้าใจว่าเปน็ การใหข้ ้อมูลที่เหมือนๆกบั ท่เี คยให้ข้อมลู มาแล้ว จงึ ไมม่ าใหข้ ้อมลู 4) ประชาชนเกิดความรู้สึกเบ่ือหน่ายต่อระบบการจัดเก็บข้อมูลของหน่วยงานทั้งนี้ เนอ่ื งจากกอ่ นหน้าที่โครงการเก็บของมลู ของ บจธ. จะเข้ามาดาเนนิ การเก็บข้อมูล ได้มีการจัดเก็บขอ้ มูล ของหน่วยงานของรฐั เข้ามาดาเนินการเปน็ ระยะๆ ล่าสุดกอ่ นท่ีโครงการของ บจธ. จะเข้ามากม็ ีโครงการ ขนึ้ ทะเบยี นเกษตรกร จึงทาใหช้ าวบ้านจานวนหนึ่งท่มี ีฐานะทางเศรษฐกจิ ค่อนข้างดีไม่ยอมมาใหข้ อ้ มูล รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 4-3
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจงั หวัดลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือข่ายพนั ธมิตรในพนื้ ท่ีภาคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พนื้ ท่ี เหตุท้ัง 4 ประการดังกล่าว จึงทาให้เกิดความล่าช้าในการจัดเก็บข้อมูลเพ่ือให้เป็นไป ตามจานวนท่ีกาหนดใน TOR จนทีมวิจัยต้องปรับเปล่ียนแผนในการดาเนินการ โดยเร่ิมต้นจากการเข้า ไปสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ บจธ. แนวการดาเนินการ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับตามราย หมู่บ้านท่ีประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ โดยทีมวิจัยต้องเข้าไปดาเนินการเพ่ือสร้างความเข้าใจหลายรอบ ในแต่ละพ้ืนท่ีดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุท่ีสาคัญอีกประการหน่ึงของความล่าช้า ท้ังนี้เน่ืองจากทีมวิจัยไม่ สามารถทจี่ ะบังคบั ชาวบ้านให้มาให้ขอ้ มูลได้ 1.3) ลักษณะทางเทคนิคของแบบสอบถามและระบบการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบโปรแกรม ของ บจธ. ด้วยเหตุท่ีแบบสอบถามมีประเด็นที่จะต้องจัดเก็บเป็นจานวนมาก และเม่ือจัดเก็บมาแล้ว ต้องกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบด้วย แต่ด้วยข้อขัดข้องของระบบการกรอกข้อมูลท่ียังไม่สมบูรณ์จึงทาให้ การบันทึกข้อมูลเข้าระบบโปรแกรม เม่ือมีข้อติดขัดจึงต้องประสานงานกับ บจธ. และ บจธ. จะ ดาเนนิ การประสานกบั ผ้เู ขียนโปรแกรมให้ปรับแก้จึงทาใหก้ ารคีย์ข้อมูลต้องหยุดเปน็ ระยะ 1.4) ปัญหาและอุปสรรคด้านอื่นๆ ในการลงพื้นที่สารวจข้อมูลเกษตรกรตาบลนาทราย อาเภอลี้ จังหวดั ลาพนู 1.4.1) ดา้ นการเกบ็ แบบสอบถาม 1) ปัญหาดา้ นภาษา เน่ืองจากชาวบ้านในพื้นที่มีภาษาถิ่นเป็นของตัวเอง ทาให้การส่ือสารเป็นไปอย่าง ค่อนข้างลาบาก ต้องอาศัยล่ามอาสา (คนในพื้นท่ีที่สามารถพูดภาษาไทยกลาง หรือภาษาไทยภาคเหนือ ได้) ช่วยในการแปล ซ่ึงการแปลของล่ามอาสานั้นจะเป็นการแปลจากความเข้าใจของผู้แปลเอง ทาให้ อาจมีการส่ือสารที่ผิดพลาด หรือไม่ถูกต้องตรงตามเจตนาท่ีผู้เก็บข้อมูลต้องการ เช่น คาถามที่ว่า ชาวบ้านต้องการพื้นที่ทากินกี่ไร่ ซึ่งจากการสังเกตของผู้เก็บข้อมูล เมื่อถามคาถามนี้แก่ชาวบ้าน ชาวบ้านจะมีอาการเขินอาย และไม่กล้าตอบว่าตนเองต้องการพื้นที่ทากินกี่ไร่ และมักจะให้คาตอบท่ี น้อยไปกวา่ จานวนทแ่ี ท้จริงที่ตนตอ้ งการ เน่ืองจากคิดว่ารฐั บาลมาสอบถามและจะใหพ้ ื้นท่ีแกต่ นจริงๆ 2) ปญั หาด้านความถูกต้องของขอ้ มูล การเกบ็ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ท่ดี ินทากินในพืน้ ทที่ ่ีไมม่ ีโฉนด และมักมกี ารบกุ รกุ ป่าเพ่อื ทาเป็น ที่ดินทากินของตน อีกทั้ง ก่อนที่ผู้เก็บข้อมูลจะเข้าไปเก็บข้อมูลในพื้นท่ี ชาวบ้านได้ถูกรัฐบาลยึดท่ีดิน ทากินในสว่ นท่เี ปน็ พ้ืนที่ป่า หรือที่ดินไม่มีโฉนดไป ทาใหช้ าวบ้านไม่กล้าใหข้ ้อมูลท่ีแทจ้ ริงแก่ผู้เก็บข้อมูล และในส่วนของข้อมูลด้านรายได้ครัวเรือน ชาวบา้ นก็มักไม่ให้ข้อมูลตามความเป็นจริง เนื่องจากกลัวว่า หากใหข้ ้อมลู ว่ามีรายไดเ้ ยอะ จะไม่ได้รับความชว่ ยเหลือจากรฐั ผใู้ ห้ข้อมูลไม่มีเอกสารหรือข้อมูลเก่ยี วกบั ท่ีดนิ เน่ืองจากได้นาไปจานองกับสถาบันทาง การเงินและไม่ได้สาเนาเอกสารเอาไว้ ประกอบกับมีการแจ้งให้ผู้ให้ข้อมูลนามาเพียงทะเบียนเกษตรกร ซ่ึงในบางรายข้อมลู ไม่ได้ปรบั ปรงุ และซ้าซ้อน รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 4-4
รายงานข้อเสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือขา่ ยพนั ธมิตรในพ้ืนที่ภาคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พื้นที่ 3) ปัญหาดา้ นการใหค้ วามร่วมมอื ของชาวบ้าน ในการเก็บแบบสอบถาม ผู้เก็บข้อมูลจะสามารถเก็บข้อมูลได้มากหรือน้อยน้ันข้ึนอยู่ กับการให้ความร่วมมือของ “พ่อหลวง” (กานันหรือผู้ใหญ่บ้าน) เป็นหลัก หากหมู่บ้านใดที่พ่อหลวง หมู่บ้านได้มีการประกาศเสียงตามสายประชาสัมพันธ์ให้ลูกบ้านมาให้ข้อมูล ก็จะสามารถเก็บข้อมูลได้ เป็นจานวนมาก และชาวบ้านมักมีความพร้อมและให้ความร่วมมือในการเก็บข้อมูลเป็นอย่างดี แต่หาก หมู่บา้ นใดที่พอ่ หลวงไม่ให้ความร่วมมือ คือ ไม่มีการประกาศเสียงตามสายให้ ก็จะไม่สามารถเก็บข้อมูล ได้ เนื่องจากไม่มีชาวบ้านเดินทางมาให้ข้อมูลเลย ผู้วิจัยจาเป็นต้องเดินเข้าไปสอบถามตามบ้านแต่ละ หลงั ซงึ่ ชาวบ้านกม็ กั ไม่ใหค้ วามร่วมมอื 4) ปญั หาระยะเวลาในการเก็บข้อมลู เน่ืองจากคาถามท่ีใช้ในการเก็บข้อมูลมีค่อนข้างมาก ทาให้ในการถามคาถามต่อ ชาวบ้าน 1 คน ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน และเมื่อประกอบกับมีอุปสรรคด้านภาษาด้วยแล้ว จึงทาให้ ในการเก็บแบบสอบถาม 1 ชุด อาจต้องใช้เวลามากถึง 15-20 นาที ทาให้ชาวบ้านบางคนรอไม่ไหว และกลับไปก่อน ส่วนบางคนก็ให้ข้อมูลแบบเร็วๆ เพ่ือที่จะได้กลับบ้านเร็วๆ ซึ่งอุปสรรคเหล่าน้ีย่อม ส่งผลต่อความถูกต้องของข้อมูล อกี ท้ังช่วงเวลาในการเก็บข้อมูลตรงกับเวลาทางานของชาวบ้าน ทาให้ ตกหลน่ ในกรเก็บขอ้ มูลเกษตรกร 5) ปัญหาท่ผี เู้ กบ็ แบบสอบถาม เน่ืองจากคาถามที่ใช้ในแบบสอบถามมีจานวนมาก มีข้อมูลและรายละเอียด ค่อนขา้ งมาก ทาใหอ้ าจมกี ารตกหลน่ ของข้อมลู ได้ 2. สภาพปัญหาและอุปสรรคในการสารวจข้อมูลเกษตรกร ตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย 2.1) ระยะเวลาในการเรมิ่ ดาเนินการของโครงการฯ 1) ภายหลังจากการลงนามในสัญญาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ของพื้นที่ตาบลสัน มะเค็ด อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย คณะผู้จัดทาโครงการได้เร่ิมดาเนินการโดยการประสานการจะเข้า ไปปฏิบัติการในพ้ืนที่กับทางท่ีว่าการอาเภอ และได้ประสานอย่างไม่เป็นทางการกับผู้นาในระดับพ้ืนที่ คือ กานัน และ นายกองค์การบริหารส่วนตาบลสันมะเค็ด ทั้งน้ีเพ่ือจะได้ไม่เกิดปัญหาอุปสรรคใน ภายหลัง และหากทางอาเภอในฐานะเจ้าของพื้นท่ีไม่ทราบเร่ือง หรือ ผู้นาในระดับพ้นื ท่ีไม่ได้แจ้งให้กับ กลไกทางราชการทราบก็อาจจะสร้างปัญหาการดาเนินโครงการได้ รวมตลอดถึงอาจจะกระทบต่อ กิจกรรมของ บจธ. ในอนาคต ดังน้ัน เม่อื ทางทีมวิจยั ได้ประสานงานกบั ทางอาเภอเกี่ยวกบั โครงการของบจธ.ท่ีจะเข้า มาทาการเกบ็ ข้อมลู ในพนื้ ท่อี าเภอพาน ซง่ึ ทางบจธ.ไดป้ ระสานงานผ่านมาทางสานกั งานจงั หวดั เชยี งราย แล้ว ปรากฏว่าทางอาเภอยังไม่ทราบในรายละเอียดของโครงการ ทราบแต่เพียงว่า บจธ.จะเข้ามา ดาเนินงานเกี่ยวกับท่ีดินทากิน ประกอบกับนายอาเภอท่ีรับผิดชอบเดิมมีการโยกย้ายและมีนายอาเภอ รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 4-5
รายงานขอ้ เสนอแนะเรือ่ งการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจังหวดั ลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือขา่ ยพนั ธมิตรในพ้นื ที่ภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พื้นท่ี คนใหม่เข้า จึงทาให้ต้องรอนายอาเภอคนใหม่ และเมื่อพบกับนายอาเภอท่านใหม่แล้วนายอาเภอ ตอ้ งการให้ทีมวิจัยมาช้ีแจงรายละเอียดตา่ งๆ กับกานันและผู้ใหญ่บา้ นของพ้ืนที่ตาบลสันมะเค็ดโดยตรง จึงทาให้ต้องรอเวลาวันนัดท่ีนายอาเภอว่างจากการตรวจพื้นที่ ทั้งนี้เน่ืองจากในช่วงเวลาท่ีเร่ิมดาเนิน โครงการอยู่ในช่วงระยะเวลาในการควบคุมการเผาป่า จึงทาให้นายอาเภอต้องออกไปตรวจในพื้นที่ ตาบลต่างๆ และกว่าจะสามารถนัดประชุมช้ีแจงโครงการได้ก็ใช้เวลาเกือบๆ หน่ึงเดือน ทั้งน้ีเน่ืองจาก นายอาเภอซ่ึงย้ายมาใหม่จึงต้องออกไปตรวจเยี่ยมพ้ืนที่ตาบลต่างๆ และมีภารกิจของจังหวัดจึงทาให้ไม่ สามารถทจี่ ะนดั วันเพือ่ ชแ้ี จงโครงการตามทน่ี ายอาเภอตอ้ งการได้ในเวลาอนั รวดเรว็ 2) การติดต่อประสานงานกบั ผู้นาในพืน้ ทีต่ าบลสันมะเคด็ เพ่ือวเิ คราะห์วา่ ทมี วิจัยควร ที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นาคนใดคนหน่ึงเพื่อให้เป็นหลักในพื้นที่ในการที่จะดาเนินสนับสนุน การจัดเก็บข้อมูล เมื่อเข้าไปประสานงานในพ้ืนที่กับผู้นากลุ่มต่างๆ ทาให้ทราบความสัมพนั ธ์ในระหวา่ ง ผู้นาและการให้การยอมรับของชาวบ้านกับผู้นา ซึ่งในกรณีตาบลสันมะเค็ด ปรากฏว่า กานันตาบลสัน มะเค็ดเกษียณอายุ ดังนั้น จึงทาใหแ้ กนนาที่ทางทีมจะต้องประสานเพ่ือทางานด้วยจึงต้องลงไปประสาน กบั ผู้ใหญบ่ ้านโดยตรง ดังน้ัน จึงทาให้ต้องใช้เวลาไประยะหนึ่งในการสร้างความเข้าใจกับแกนนาเกี่ยวกับ กิจกรรมที่จะเข้ามาดาเนินการในพ้ืนที่และการเตรียมความพร้อมของชมุ ชน ซ่ึงในพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ด นอกจากจะประสานงานกับผู้นาทั้งในส่วนของกานัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายกเทศบาลแล้วทีมวิจัยยังได้ ประสานงานกับกลุ่ม อสม. และสภาองค์กรชุมชนให้เข้ามาร่วมดาเนินการในการจัดเก็บข้อมูลด้วย และ ด้วยเหตุเชน่ น้ันกวา่ จะประสานงานสร้างความเข้าใจได้ ก็ส่งผลตอ่ ระยะเวลาทาให้การที่จะเร่ิมตน้ เข้าไป เกบ็ ข้อมลู ในแต่ละหมู่บ้านกต็ ้องขยับเวลาออกไป 3) และเมื่อต้องใชร้ ะยะเวลาในการประสานกับหน่วยงานที่ดูแลพน้ื ที่และเตรียมความ พร้อมในการเข้าชุมชนต้องขยับออกไปประมาณเดือนครึ่งก็ไปตรงกับช่วงงานประเพณีปใ๋ี หม่เมือง ซึ่งจะ ไม่สามารถดาเนินการหรือริเร่ิมงานใหม่ได้เลย ซึ่งหมายความว่าจะสามารถเร่ิมต้นเก็บข้อมูลได้ต้องพ้น เทศกาลปี๋ใหม่เมอื งไปแลว้ 2.2) ปัญหาความล่าช้าท่ีเกิดจากสถานการณ์เฉพาะหน้าและเง่ือนไขท่ีเป็นจากัดของ ประชาชนในการใหข้ ้อมลู 1) เนื่องจากในการประชุมเพ่ือช้ีแจงเก่ียวกับรายละเอียดของโครงการต่อกานัน ผใู้ หญบ่ า้ นและผู้ทีเ่ ก่ียวข้องกับพ้ืนที่ มีการชี้แจงรายละเอียดของโครงการทง้ั หมด โดยบจธ. แต่ดว้ ยเหตุ ทีม่ กี ารชแ้ี จงหลายโครงการจึงทาให้เกดิ การสื่อสารท่ีผิดพลาดระหวา่ งผู้นา (ผใู้ หญ่) กบั ชาวบ้าน คอื จะ เก็บข้อมูลเฉพาะชาวบ้านที่จะสูญเสียท่ีดินทากินเท่านั้นก่อน จึงทาให้มีชาวบ้านไม่กี่คนซึ่งน้อยมากที่มา ให้ขอ้ มลู จนทาให้ทีมวจิ ยั ต้องเริ่มตน้ ประสานงานกับผใู้ หญบ่ ้านกนั ใหมอ่ กี ครัง้ หนึง่ 2) เน่ืองจากในชว่ งเวลาไล่เลีย่ กนั มีโครงการขนึ้ ทะเบยี นเกษตรกร ซ่ึงมกี ารเกบ็ ขอ้ มูลที่ มีเนื้อหาใกล้เคียงกับท่ีบจธ.จัดเก็บ จึงทาให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่ยอมมาให้ข้อมูล เพราะได้ให้ข้อมูลไป แล้ว โดยเขา้ ใจวา่ เป็นการใหข้ ้อมูลท่เี หมอื นๆกับทเี่ คยใหข้ ้อมูลมาแล้ว จึงไมม่ าใหข้ ้อมลู รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 4-6
รายงานข้อเสนอแนะเร่อื งการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจังหวัดลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ขา่ ยพนั ธมิตรในพ้ืนทภ่ี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พนื้ ที่ 3) ประชาชนเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายต่อระบบการจัดเก็บข้อมูลของหน่วยงาน ท้ังนี้ เนื่องจากก่อนหน้าที่โครงการเก็บของมูลของบจธ.จะเข้ามาดาเนินการเก็บข้อมูล ได้มีการจัดเก็บข้อมูล ของหน่วยงานของรัฐเข้ามาดาเนินการเป็นระยะๆ ล่าสุดก่อนที่โครงการของบจธ.จะเข้ามาก็มีโครงการ ข้ึนทะเบียนเกษตรกร จึงทาให้ชาวบ้านจานวนหนึ่งที่มีฐานะทางเศรษฐกิจค่อนข้างดีไม่ยอมมาให้ข้อมูล เลย เหตุทั้ง 3 ประการดังกล่าว จึงทาให้เกิดความล่าช้าในการจัดเก็บข้อมูลเพ่ือให้เป็นไป ตามจานวนที่กาหนดใน TOR จนทีมวิจัยต้องปรับเปลี่ยนแผนในการดาเนินการ โดยเร่ิมต้นจากการเข้า ไปสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ บจธ. แนวการดาเนินการ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับตามราย หมู่บ้านที่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ โดยทีมวิจัยตอ้ งเข้าไปดาเนินการเพื่อสร้างความเข้าใจหลายรอบ ในแต่ละพื้นท่ีดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุท่ีสาคัญอีกประการหน่ึงของความล่าช้า ท้ังน้ีเน่ืองจากทีมวิจัยไม่ สามารถที่จะบงั คับชาวบา้ นให้มาใหข้ อ้ มลู ได้ 2.3) ลักษณะทางเทคนิคของแบบสอบถามและระบบการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบโปรแกรม ของ บจธ. ด้วยเหตุท่ีแบบสอบถามมีประเด็นที่จะต้องจัดเก็บเป็นจานวนมาก และเมื่อจัดเก็บมาแล้วต้อง กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบด้วย แต่ด้วยข้อขัดข้องของระบบการกรอกข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์จึงทาให้การ บันทึกข้อมูลเข้าระบบโปรแกรมเม่ือมีข้อติดขัดจึงต้องประสานงานกับ บจธ. และ บจธ. จะดาเนินการ ประสานกับผู้เขียนโปรแกรมให้ปรับแก้จึงทาให้การคีย์ข้อมูลต้องหยุดเป็นระยะ ด้วยสาเหตุดังกล่าว ข้างต้น จึงทาให้การคีย์ข้อมูลเข้าสูร่ ะบบจึงเกิดความล่าช้าอันเน่ืองจากเหตุสดุ วิสัยท่ีทีมการเก็บข้อมูลไม่ สามารถทีจ่ ะปอ้ งกนั หรอื หลีกเลี่ยงได้ 2.4) การดาเนินงานสารวจขอ้ มูลมขี อ้ จากัดในดา้ นระยะเวลาในการลงพนื้ ทส่ี ารวจข้อมลู ทั้งพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ด ซ่ึงเป็นช่วงเวลาในทานา และการเก็บลาไย ทาให้ในเวลากลางวัน เกษตรกรจะออกไปทานาทาไร่ทาสวนเกือบท้ังหมด ตลอดจนในช่วงเวลาเย็น ก็ไม่สามารถสารวจข้อมูล ได้ เนื่องจากเกษตรกรต้องพักผ่อนเพ่ือทางานเช้าในวันรุ่งข้ึน ส่งผลให้การเก็บข้อมูลในพื้นที่ได้ไม่ครบ ตามจานวนที่กาหนด ทางทีมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงต้องมีการออกแบบการลงพ้ืนท่ีเก็บข้อมูล เกษตรกรอีกคร้งั หน่ึง จึงทาให้การเก็บขอ้ มลู และการบนั ทึกขอ้ มลู ในระบบล่าช้ากว่าระยะเวลาทกี่ าหนด 2.5) ปัญหาอุปสรรคอ่ืนๆ จากการลงพื้นที่สารวจข้อมูลเกษตรกรตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวดั เชียงราย 1) ผู้ใหญ่บ้านไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของโครงการอย่างแท้จริง แม้ว่าทางทีมจะช้ีแจง และให้เอกสารโครงการ จึงทาให้ไม่สามารถประชาสัมพันธ์ข้อมูลและสร้างความเข้าใจท่ีถูกต้องกับ ชาวบา้ นได้ 2) ชาวบ้านไม่เข้าใจจดุ ประสงคข์ องโครงการจึงทาให้ไม่เข้าร่วมได้อย่างเต็มที่ จึงทาให้ บางหมู่บ้านมชี าวบา้ นจานวนน้อยมากท่มี าให้ขอ้ มลู รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 4-7
รายงานข้อเสนอแนะเรือ่ งการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจังหวดั ลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ข่ายพนั ธมิตรในพื้นทีภ่ าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ที่ 3) การลงพ้ืนท่ีไม่สามารถเข้าสารวจในทุกหลังคาเรือนได้ เน่ืองจากนักศึกษาไม่ใช่คน ในพ้ืนท่ี รวมทั้งพื้นที่สารวจข้อมูลในแต่ละครัวเรือนมีพื้นท่ีห่างไกลกัน ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทาง จงึ ออกแบบการสารวจขอความรว่ มมือใหเ้ กษตรกรมาให้ข้อมูลทศ่ี าลาประจาหมบู่ า้ น หรอื ทวี่ ัด 4) แบบสอบถามมีข้อจากัด ทั้งในด้านการระบุจานวนพืชผล ระยะเวลาในการกู้ยืม เป็นต้น ซึ่งปัญหาข้อเท็จจริงจากชาวบา้ นมีความซับซ้อน จึงทาให้การตอบในแบบสอบถามไม่อาจส่ือถึง ปญั หาของชาวบา้ นได้อยา่ งแท้จรงิ 4.2 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะตอ่ บจธ. ในการวางแผนการให้บริการของ บจธ. โดยการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเกย่ี วกบั เกษตรกร ระบบ การใช้ประโยชน์และการจัดการพ้ืนท่ีเกษตรกรรมให้เกิดข้ึนในระดับตาบลและสามาร ถท่ีจะดาเนินการ ต่อโดยชมุ ชนท้องถิ่นไดน้ ั้น มีข้อสงั เกตเพือ่ ประกอบการดาเนนิ การในพื้นท่ีอน่ื ๆ ดังต่อไปน้ี 1) การเข้าไปดาเนินการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ในระดับชุมชน ต้องคานึงถึง 1.1) ความพร้อมของชุมชน ซึ่งในที่นี้หมายความรวมถึงการไม่มีความขัดแย้งกันใน ชุมชนมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งกับหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้เนื่องจากความขัดแย้งกับ หน่วยงานของรัฐจะทาให้เกิดการเหมารวมของประชาชนในพื้นที่ตามผู้นาท่ีจะไม่ให้ความร่วมมือ ดังนั้น ก่อนที่จะเข้าไปดาเนินโครงการจึงมีความจาเปน็ ท่ีจะต้องประเมินความพร้อมของชุมชนวา่ มีความพร้อม และมที ่าทีต่อ บจธ. อย่างไร 1.2) ผลประโยชนเ์ ฉพาะหนา้ ทชี่ ุมชน / หนว่ ยงานจะได้รบั แม้เป้าหมายของโครงการจะนาไปสู่ประโยชน์ท่ีจะเกิดข้ึนกับชุมชนหรือต่อองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน แต่เน่ืองจากการดาเนินโครงการจะต้องใช้ระยะเวลานาน ทาให้ชุมชนหรือองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินไม่เห็นคุณค่าหรือวิธีการใช้ประโยชน์จากข้อมูลท่ีจะได้รับ ในระยะแรกเร่ิมใน การดาเนินโครงการ และย่ิงไม่ได้เปน็ ภารกิจหลักหรือเก่ียวข้องกับการทาหน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ินโดยตรงแล้ว ดังน้ัน โครงการของ บจธ. ท่ีจะเขา้ ไปดาเนนิ การในพนื้ ท่ีควรท่ีจะต้องมีการสาธิตให้ เหน็ การนาข้อมูล การใช้ประโยชน์จากระบบฐานข้อมูลแบบครบวงจร เพื่อให้ชุมชนและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ินสามารถท่ีจะจินตนาการถึงประโยชน์ท่ีจะได้รับเมื่อดาเนินโครงการเสร็จ ซึ่งจะดีกว่าการท่ี ชมุ ชนหรือองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ ทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการไม่มคี วามแนใ่ จวา่ จะเกิดประโยชน์อย่างไร 1.3) การมรี ะบบพเ่ี ลย้ี งและหนว่ ยงานทใ่ี ห้การสนบั สนนุ เพื่อสง่ เสรมิ ชุมชนท้องถ่ิน การเข้าไปดาเนินโครงการต่างๆ ของหน่วยงานของรัฐ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นการเข้า ไปดาเนินการโดยคนนอก การเก็บข้อมูลแม้ชุมชนจะมีส่วนร่วมแต่ก็เป็นเพียงการดาเนินการตามความ ตอ้ งการของหน่วยงานมากกว่าท่ีจะเป็นการเก็บข้อมูลตามความต้องการของชมุ ชนเอง ดังนัน้ เม่ือเข้าไป ดาเนินการของโครงการจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบพี่เล้ียงและมีหน่วยงานที่สนับสนุนและส่งเสริมให้คนใน ชุมชนหรอื ในองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ สามารถที่จะพัฒนาวิธกี ารจดั การขอ้ มูลเพอื่ เชอื่ มตอ่ หรือรบั ชว่ ง ตอ่ จากระบบท่ีโครงการ บจธ. เข้าไปริเร่มิ ไว้ รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 4-8
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจังหวดั ลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ขา่ ยพนั ธมิตรในพ้ืนทภ่ี าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พืน้ ท่ี 2) การพัฒนาเครือข่าย การทางานกับชุมชนท้องถิ่นมีความจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องอาศัยเครือข่ายทั้งท่ีอยู่ภายในชุมชน ท้องถ่ินเอง ไม่ว่าจะเป็นกลไกท่ีเป็นทางการหรือกลไกที่ไม่เป็นทางการภายในชุมชน และเครือข่าย ภายนอกชุมชน ดังน้ัน ความเป็นเครือข่ายตามที่โครงการนี้ต้องการจะให้เกิดข้ึนและจะมาช่วยชุมชน ทอ้ งถิ่นในการพัฒนาระบบฐานข้อมลู แมจ้ ะมีหน่วยงานที่เห็นด้วยแล้วกต็ าม แต่กระบวนการดาเนนิ การ ในรายละเอียดและการพัฒนาวิธีการและข้ันตอนในทางปฎิบัติร่วมกันจริงๆ จึงจะทาให้ความเป็น เครอื ข่ายจงึ จะคอ่ ยๆ พัฒนาข้ึน 3) การปรับปรงุ กฎระเบยี บใหเ้ อือ้ ต่อการดาเนินการและมหี ลักประกนั ความสาเร็จ อปุ สรรคสาคัญที่ทาให้หน่วยงานตา่ งๆ ท่ีอยู่ในพืน้ ที่ท้ังในระดับอาเภอและในระดับตาบลไม่กล้า ท่ีจะให้ความร่วมมือหรือให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ส่วนหน่ึงเป็นเพราะข้อจากัดของกฎระเบียบต่างๆ และแนวปฏิบัติของแต่ละหน่วยงาน จึงทาให้ไม่เกิดการบูรณาการการทางานอย่างแท้จริง ดังนั้น บจธ. ในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการจึงต้องมีข้อเสนอให้มีการแก้ไขปรับปรุงข้อติดขัดในแง่ของ กฎระเบียบและเปลี่ยนแปลงวิธีการวัดผลเสียใหม่โดยเอาผลสาเร็จและผลกระทบทางด้านบวกท่ีจะ เกิดข้ึนเป็นตัวต้ัง แทนการวดั ผลว่าไดจ้ ัดทาโครงการแล้วหรือไม่ 4) ความเป็นเจ้าของในข้อมูล / ระบบการจัดการข้อมูลให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน / สะดวก / ง่ายตอ่ การนาไปใช้ เนื่องจากการดาเนินโครงการเป็นเพยี งขั้นแรกของการพฒั นาระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ต้องทาให้ ชุมชนท้องถิ่นเห็นประโยชน์จากการพัฒนาระบบการจัดเก็บ และในระดับต่อไปก็จะเป็นการบริหาร จัดการข้อมูลสารสนเทศต่างๆ ที่เกิดข้ึนจากการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งก็จะมีประเดน็ ท่ีทาง บจธ. อาจจะต้อง เตรียมการหรือวางแนวทางในอนาคต สาหรบั บุคคลทจี่ ะนาเอาข้อมลู สารสนเทศดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ 4.3 ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั จากโครงการสารวจเกษตรกรใน 36 พน้ื ที่ 1. มีกลไกในการดาเนินการแก้ไขปัญหาการสูญเสียท่ีดินและไร้ท่ีดิน รวมถึงการบริหารจัดการ ใช้ประโยชนจ์ ากทด่ี ินอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ซึ่งมกี ลไกการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับอาเภอและระดบั ตาบล 2. เกษตรกร, เครือข่ายเกษตรกร, องค์กรชุมชน มีการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เพ่ือ การจัดทาข้อมูลในการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะนาไปสู่การกระตุ้นการใช้ประโยชน์ในที่ดินของ รัฐและเอกชน 3. มีแผนงานแนวทางการดาเนินงานในด้านการช่วยเหลือเกษตรกร เกษตรกรไร้ท่ีทากินให้มี ความม่ันคงด้านที่ดินทากินและท่ีอยู่อาศัย มีรายไดเ้ พยี งพอ คุณภาพชีวติ ดีขึ้น โดยผ่านกลไกต่างๆ หรือ เครอื ข่ายพันธมิตรของ บจธ. ในพ้นื ท่ี 4. เกษตรกรในพื้นท่ีเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการที่ดิน เพ่ือให้การใช้ที่ดินและ ทรพั ยากรในพ้นื ทเ่ี กดิ ประโยชนส์ งู สดุ และยง่ั ยืน อีกทัง้ การลดการรุกพื้นท่ีปา่ เพ่ือการทาการเกษตร รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 4-9
รายงานขอ้ เสนอแนะเรอ่ื งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือข่ายพนั ธมติ รในพน้ื ท่ีภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ที่ ภาคผนวก รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 5-1
รายงานข้อเสนอแนะเรื่องการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจังหวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือขา่ ยพันธมติ รในพื้นทภี่ าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พืน้ ท่ี ภาคผนวก ก การพฒั นาเครอื ขา่ ยพนั ธมิตร ตาบลนาทราย อาเภอล้ี จังหวัดลาพนู รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 5-2
รายงานขอ้ เสนอแนะเรือ่ งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจังหวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ข่ายพนั ธมติ รในพน้ื ทีภ่ าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ท่ี 1. การพัฒนาตัวแทนองคก์ รพนั ธมติ รในตาบลนาทราย อาเภอลี้ จังหวดั ลาพูน การพัฒนาพันธมิตร/เครือข่ายการทางานตาบลนาทราย จะเห็นได้ว่าผู้นาและแกนนาชุมชน ท้ังที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการในพ้ืนทไ่ี ม่ไดป้ ฏิเสธที่จะเป็นเครือข่ายรว่ มงานกับ บจธ. หากแต่ ในส่วนท่ีจะกาหนดให้องค์กรเครือข่ายในพ้ืนจะต้องทาหน้าที่เป็นองค์กรทางการเงินเพ่ือทาการบริหาร ทางการเงินของชุมชน หรือ มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของชุมชน ท่ีมีตัวแทนองค์กรชุมชนในรูปของ คณะกรรมการในการบรหิ ารจัดการ และจะต้องพัฒนาระบบการบริหาร มีการจดั ทารายงานทางการเงิน ทาหนา้ ทีใ่ นการชว่ ยเหลอื ประชาชนและชุมชนให้ความเชื่อถือ สาหรับบทบาทและภารกจิ ในส่วนนี้ จาก เวทีการปรึกษาหารือกับกลุ่มต่างๆ ทาให้มีแนวทางสาหรับการพัฒนาตัวแทนองค์กรในชุมชนสาหรับ ตาบลนาทราย อาเภอลี้ จังหวดั ลาพนู ดังตอ่ ไปนี้ 1. ในอดีตท่ีผ่านมามีบทเรียนที่เก่ียวข้องกับการเข้าร่วมโครงการรับซื้อลาไยและมีการ ทุจริตกันจนทาให้ชาวบ้านถูกดาเนินคดีเป็นจานวนมากโดยเฉพาะอย่างย่ิงเกษตรกรในพื้นท่ีจังหวัด ลาพูนเป็นส่วนใหญ่ท่ีถูกดาเนินคดี บทเรียนในคร้ังนั้นทาให้เกิดความกังวลในส่วนท่ีจะต้องเ ข้าไป เกีย่ วข้องกบั เรือ่ งทางการเงนิ 2. ในระดับตาบล ผู้นาได้แสดงความคดิ เห็นว่า มีกลไกภายในตาบลท่ีมีโครงสร้างท่ีทา หน้าท่ีคล้ายๆสถาบนั การเงินอยู่แล้วคอื กองทุนหมู่บ้านซงึ่ กรรมการกองทนุ ทราบข้อมูลเก่ียวกับสมาชิก กองทุนทกุ ๆ คนและสมาชิกส่วนใหญ่คือกลุ่มเป้าหมาย เป็นเกษตรกรที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือเพ่ือ แกไ้ ขปญั หา ดงั นั้น ประเดน็ จึงอยู่ท่วี ่าหาก บจธ. จะตอ้ งจัดต้ังคณะกรรมการทาอย่างไรทจ่ี ะมกี รรมการ ที่มีประสบการณ์ เข้าใจงานในพ้ืนท่ี รู้จักและเป็นที่ไว้วางใจจากชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือบุคคลที่เป็น กรรมการหรือมตี าแหน่งต่างๆ ท่ีอยู่ในชุมชนเปน็ ส่วนใหญ่ ดังนนั้ สาหรับงานในส่วนนี้จึงต้องอาศัยเวลา เพื่อค่อยๆ ค้นหา สร้างความเข้าใจ หนุนเสริมด้วยกลไกจากภาคส่วนอ่ืนๆ เข้ามา เช่น กลไกของสภา องค์กรชุมชนและ พอช. 3. ภายใต้ระยะเวลาในการดาเนินโครงการในพื้นทีไ่ ม่มีความไว้วางใจหน่วยงานของรัฐ และภาควิชาการ (สืบเนื่องจากการดาเนินโครงการเหมืองแร่) และจากนโยบายเกี่ยวกับการทวงคืนผืน ป่า โครงการรับซือ้ ลาไย ทชี่ าวบา้ นในพ้นื ท่ีถูกดาเนินการตามกฎหมาย การทาใหโ้ ครงการของ บจธ. ไม่ ถูกปฏิเสธและมีความร่วมมือในระดับที่ดีมากจากประชาชนในการให้ข้อมูล ดังน้ันการท่ีจะมอบหมาย หรือกาหนดภารกิจที่ค่อนข้างจะอ่อนไหวในสายตาของชาวบ้าน (เพราะจะไปเกี่ยวข้องกับการจัดสรร การคัดเลือก ผู้ที่จะได้ประโยชน์ และเก่ียวข้องกับการเงิน) จึงต้องค่อยๆดาเนินเม่ือแกนนาเกิดความ เข้าใจและมน่ั ใจวา่ เม่ือดาเนินการไปแล้วจะไมป่ ระสบปัญหาตามมาในภายหลัง ดงั เช่นการดาเนินงานใน โครงการอน่ื ๆ 4. การพัฒนาตัวแทนองค์กรในการใหบ้ ริการ ตาบลนาทราย อาเภอล้ี จังหวัดลาพูนใน การจัดเก็บข้อมูลและการพัฒนาระบบในการจัดเก็บข้อมูลภายหลังจากท่ีการจัดเก็บข้อมูลในระยะ เริ่มต้นแล้วเสร็จเพื่อจะเกิดระบบการจัดเก็บข้อมูลภายในตาบลนาทรายเอง ในขั้นตอนของการเข้าไป ดาเนินการในคร้ังแรกๆ ได้ชี้แจงการดาเนินการและเป้าหมายของโครงการให้แก่ นายอาเภอ ผู้นาใน พ้ืนที่อย่างชัดเจนว่าเม่ือเร่ิมมีการจัดทาระบบฐานข้อมูลเกี่ยวกับเกษตรกรในพ้ืนท่ีต้นแบบแล้ว ในระยะ รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หนา้ 5-3
รายงานข้อเสนอแนะเรือ่ งการวางแผนการให้บรกิ ารของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ข่ายพนั ธมิตรในพืน้ ที่ภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ท่ี ต่อไปจะมีการคืนข้อมูลและทางบจธ.จะดาเนินการพัฒนาระบบที่เช่ือมโยงกันระหว่างระบบฐานข้อมูล กลางของบจธ.กับระบบการจัดเก็บของตาบลนาทรายเพื่อที่จะทาการปรับปรุงข้อมูลท่ีเกิดการ เปล่ียนแปลงข้อมูลท่ีมีการจัดเก็บไปให้เป็นปัจจุบัน และในขณะเดียวกัน ผู้นาของตาบลก็สามารถท่ีจะ นาข้อมูลไปใช้ในกจิ การต่างๆ เพอ่ื การวางแผน การพัฒนา และการตัดสนิ ใจในเชงิ นโยบายในระดบั พ้นื ที่ ไดด้ ว้ ย และ ในขณะเดียวกัน เมื่อเข้าไปดาเนินการจัดเก็บข้อมูลในระดับพ้ืนท่ีก็มีการประเมิน ศักยภาพของกลุ่มและการดาเนินการของระบบงานท่ีมีอยู่แล้วภายในชุมชนตาบลนาทราย และมีการ ประชุมปรึกษาหารือกับผู้นาท้ังท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการทาให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มต่างๆ ท่ี จะเอ้ือต่อการพัฒนาเป็นระบบการจัดเก็บข้อมูลภายในชุมชนและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเป็นศูนย์ ขอ้ มลู เก่ียวกบั เกษตรกรต่อไป องค์กรพันธมิตรที่จะเข้ามาเป็นกลไกในการหนุนเสริมและร่วมมือกันในการก่อให้เกิดการลด ปัญหาการสูญเสียท่ีดินในพ้ืนท่ีตาบลนาทราย ได้มีเสนอรูปแบบกลไกและตัวแทนองค์กรพันธมิตรใน ระดับตาบลนาทราย โดยองค์กรพันธมิตรจะมีลักษณะเป็นการบูรณาการทางานร่วมกันของท้องที่และ ท้องถิ่น จะเป็นรูปแบบ “กลไกคณะกรรมการบริหารและพัฒนาท่ีดินเพ่ือการเกษตรตาบลนาทราย” ซึ่งกลไกคณะทางานดังกล่าวจะทาหน้าที่หนุนเสริมและร่วมมือกันในการก่อให้เกิดการลดปัญหาการ สูญเสียที่ดนิ ในพ้นื ที่ตาบลนาทราย ท้ังน้ี คณะกรรมการระดับตาบลจะมโี ครงสรา้ งการทางาน 3 ฝา่ ย คือ ฝ่ายระบบฐานข้อมูลการเกษตรตาบล ฝ่ายวางแผนและการพัฒนาที่ดิน และฝ่ายการให้ความช่วยเหลือ และจัดการหน้ีสินเกษตรกร มีองค์กรภายนอกที่เข้ามาสนับสนุนเป็นที่ปรึกษาอีก 2 องค์กร คือ ผู้แทน สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) และ ท่ีปรึกษาทางวิชาการและกฎหมาย ท้ังนี้ คณะกรรมการระดับตาบลแต่ละฝ่ายจะมาจากตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ ท้องถ่ินและเกษตรกรใน ตาบลนาทราย เพื่อบูรณาการการบริหารและพัฒนาท่ีดินในตาบลนาทรายร่วมกันโดยใช้กลไก คณะกรรมการฯ เป็นเครอ่ื งมือในการแกป้ ัญหาท่ีดนิ ในพ้ืนทีต่ าบลนาทราย ซึ่งหน้าทีข่ องคณะกรรมการฯ แตล่ ะฝ่าย มีดงั น้ี 1. ฝ่ายระบบฐานข้อมูลการเกษตรตาบล ประกอบด้วย เกษตรตาบลนาทราย, ตัวแทนเกษตร ตาบลนาทราย, ตัวแทนองค์กรบริหารส่วนตาบลนาทราย และอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) เป็น ฝ่ายทาหน้าท่ีในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เก่ียวกับหน้ีสินเกษตรกร ข้อมูลเกษตรกร จานวนเกษตรกร รวมถึงการสูญเสียทีด่ ินของเกษตรกร ซงึ่ การทางานของฝา่ ยระบบฐานข้อมูลฯ จะเชื่อมโยงความร่วมมือ ของหนว่ ยงานหลายๆ ฝา่ ยในระดับอาเภอและระดับชาติ เพ่อื เชอื่ มโยงข้อมลู ท่ีเก่ียวกบั เกษตรกรในพน้ื ท่ี และเพอ่ื ใชร้ ะบบฐานขอ้ มูลในการชว่ ยบริหารการใช้ประโยชน์ในท่ีดนิ ในพื้นทีต่ าบลนาทราย 2. ฝ่ายวางแผนและการพัฒนาท่ีดิน ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตาบล, กานัน ผู้ใหญ่บ้าน 23 หมู่บ้าน, เกษตรตาบลนาทราย และตัวแทนกลุ่มเกษตรกรในตาบลนาทราย เป็นฝ่ายที่ กาหนดนโยบายและวางแผนการดาเนนิ งานของคณะกรรมการฯ ในด้านของการพัฒนาการใช้ประโยชน์ ในที่ดิน การบริหารจัดการท่ีดินในพื้นท่ีตาบลนาทราย และการกาหนดกรอบการดาเนินงานให้ สอดคล้องกับคณะกรรมการระดับอาเภอ รวมถึงการวางแนวทางการลดการสูญเสียที่ดินของเกษตรกร และการช่วยเหลอื เกษตรกรไรท้ ดี่ ินทากินในพืน้ ทตี่ าบลนาทราย รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 5-4
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจังหวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือขา่ ยพันธมิตรในพื้นที่ภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พื้นท่ี 3. ฝ่ายการให้ความช่วยเหลือและจัดการหน้ีสินเกษตรกร ประกอบด้วย ประธานกองทุน หมู่บ้าน 23 หมู่บ้าน, นายกองค์การบริหารส่วนตาบล, กานัน ผู้ใหญ่บ้าน 23 หมู่บ้าน, เกษตรตาบล นาทราย เป็นฝ่ายที่ทาหน้าท่ีในการช่วยเหลือสนับสนุนเกษตรกร ในการจัดการหนี้สินของเกษตรกร และการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เกษตรอาเภอ สภาเกษตรกร และหน่วยงาน อ่ืนๆ ให้เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อนจากการสูญเสียที่ดินและไร้ที่ดินทากิน ตลอดจนหน้าท่ีใน การปอ้ งกันไมใ่ ห้เกษตรกรต้องสูญเสยี ท่ีดนิ ทากนิ 2. การประชุมพัฒนาเครือข่ายพันธมิตร และเตรียมความพร้อมการสารวจข้อมูลเกษตรกร ตาบลนาทราย อาเภอลี้ จังหวดั ลาพนู การประชุมพัฒนาเครือข่ายและเตรียมความพร้อมการสารวจข้อมูลเกษตรกรให้กับทีมสารวจ ข้อมูลในระดับพ้ืนที่ และนัดหมายลงพ้ืนท่ีสารวจข้อมูล ตาบลนาทราย อาเภอล้ี จังหวัดลาพูน เมื่อวันท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 – 15.30 น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วน ตาบลนาทราย โดยมีผ้เู ข้ารว่ มประชมุ ดงั น้ี ลาดบั ชือ่ – นามสกลุ ตาแหน่ง 1 นางปิยธดิ า อันทอง นกั วิชาการเกษตรปฏบิ ัติการ 2 นายพันทอง ดอนนาทราย รองประธานสภาอบต. 3 นายสุพจน์ แม่ลานวนา ส.อบต. หม่ทู ี่ 23 4 นายบุญติ ตาสลี ผใู้ หญบ่ ้าน หมู่ที่ 2 5 นายเอกลักษณ์ ป้อมฟัน่ ผู้ใหญบ่ ้าน หมู่ที่ 6 6 นายสุพจน์ เมธลี ้าเลศิ ผใู้ หญบ่ ้าน หมู่ท่ี 11 7 นายศภุ ชยั ธารสุขลลี า ผใู้ หญบ่ ้าน หมู่ที่ 12 8 นายบุญเลิศ จินะวัน ผ้ใู หญ่บา้ น หมู่ที่ 15 9 นายเนตร ตุน่ สงิ ห์คา ผู้ใหญ่บา้ น หมู่ท่ี 17 10 นายปนู พันธ์ ตาดทองผดุ ผาด ผชู้ ่วยผูใ้ หญ่บ้าน หมูท่ ่ี 18 11 นายวาเซ อาคมประคองไพร ผู้ช่วยผใู้ หญบ่ ้าน หมู่ท่ี 22 12 เพ็ญศรี สิงห์ตนั ประธาน อสม. หมทู่ ี่ 4 13 นายคมสันต์ แกว้ สขุ ประธาน อสม. หมู่ท่ี 9 รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 5-5
รายงานขอ้ เสนอแนะเร่อื งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวัดลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ข่ายพันธมติ รในพน้ื ท่ภี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พน้ื ท่ี ลาดับ ช่ือ – นามสกุล ตาแหน่ง 14 นางปิ่นทอง รนิ าทา ประธาน อสม. หมู่ท่ี 15 15 นายตตนิ ชานาญยุวนาถ ประธาน อสม. หม่ทู ่ี 21 16 นางลาพนู อตุ พรหม ประธาน อสม. หมู่ที่ 20 17 นางลาเพย ภาโสม อสม. 18 ดวงลดั ดา แก้ววงศ์ อสม. 19 นางลาเพา เมืองคา อสม. 20 นางปนิ่ ทอง วนิ ายา อสม. 21 นายบญุ ชว่ ง เสาร์เปียง อสม. 22 นายสองเมือง ปวนคามา อสม. 23 นายสุรศกั ด์ิ อนิ ทรา อสม. 24 นายปยิ ะศักดิ์ คาบุญเรือง อสม. 25 นายวันตอน จะเตจ๋ ๊ะ อสม. 26 นางสุดาพร สุขไทย อสม. 27 นางสาวจุมปี บุญเป็ง อสม. 28 นางชานเมือง พรหมศรี อสม. หมู่ท่ี 1 29 นายสวัสดิ์ เตจาโท่น อสม. หม่ทู ่ี 1 30 นางแสงจนั ทร์ หล้ามี อสม. หมู่ท่ี 10 31 นายทองดี แปทู อสม. หมทู่ ่ี 13 32 นางสาวภวณิ ี นาทรายปทุม อสม. หมู่ท่ี 13 33 นางสาวอมรรัตน์ เระเกียว อสม. หมทู่ ่ี 13 34 นางณีรนชุ พธิ าน อสม. หมู่ที่ 13 35 นางฉัตรพร ยอดคีรสี วุ รรณ อสม. หมทู่ ่ี 13 รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 5-6
รายงานขอ้ เสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจังหวดั ลาพูน และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือข่ายพันธมิตรในพน้ื ท่ภี าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พืน้ ท่ี ลาดับ ชอ่ื – นามสกุล ตาแหนง่ 36 นางสาวกรองทอง สงู เมธาธรรม อสม. หม่ทู ี่ 13 37 นายนพกร กลว้ ยไม้กุลสขุ อสม. หมู่ที่ 13 38 นางแสงคา ดอนแกว้ อสม. หมู่ท่ี 17 39 บัวจม สิงหทา อสม. หมทู่ ่ี 2 40 สันติ ใจปนั วงศ์ อสม. หมทู่ ่ี 2 41 นางสาวทพิ วรรณ สมุ ี อสม. หมู่ท่ี 3 42 นางกัลยา ชยั ชาตเิ จริญ อสม. หมทู่ ี่ 3 43 นางบทินา ผดงุ เลิศปัญญา อสม. หมทู่ ี่ 3 44 นางบรัน โปธารนิ อสม. หมู่ที่ 5 45 นายสุพนั ธ์ อนิ ตะ๊ นนท์ อสม. หมู่ที่ 5 46 นายเพชร ไชยปญั ญา อสม. หมู่ที่ 5 47 นางรุง่ ไพลิน สรุ ินทร์วงศ์ อสม. หมทู่ ่ี 7 48 นางสาวอาทิตยา ภูมิวบาดอน อสม. หมู่ที่ 8 49 นายชาญชัย สีขาวผอ่ งนวล อสม. หมทู่ ี่ 18 ในการประชุมพัฒนาเครือขา่ ยและเตรยี มความพรอ้ มการสารวจขอ้ มลู เกษตรกรใหก้ บั ทีมสารวจ ข้อมูลในระดับพ้ืนที่ ทางทีมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้แนะนาโครงการ และเป้าหมายของโครงการ เพื่อ สร้างความเข้าใจและความตระหนักร่วมในปัญหาการสูญเสียที่ดินของเกษตรกร อีกทั้งได้มีประเด็นใน การพูดคุย สารวจสถานการณ์ท่ีดินในพ้ืนที่ตาบลนาทราย อาเภอล้ี และปรึกษาเพื่อรับฟังความคิดเห็น เก่ียวกับแนวทางในการพัฒนาเครือข่ายพันธมิตร ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในด้านข้อมูลและทีม สารวจขอ้ มูลในพ้ืนทเ่ี พอ่ื ลงพ้นื ที่สารวจข้อมลู เกษตรกร ประเด็นที่พัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ ทางทีมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้มีประเด็นในการ พัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ผู้นาชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และอสม. ท่ีเข้าร่วมประชุม โดยประเด็นท่ี ถ่ายทอดองค์ความรู้ มดี งั น้ี รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 5-7
รายงานข้อเสนอแนะเรื่องการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจังหวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ขา่ ยพนั ธมติ รในพ้นื ทีภ่ าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พื้นที่ 1. สภาพปัญหาและสถานการณ์การสูญเสียท่ีดินทากินในพ้ืนที่ตาบลนาทราย อาเภอล้ี จงั หวดั ลาพูน สภาพปญั หาทดี่ นิ และปญั หาเกษตรกรในพื้นท่ี สถานการณ์การสูญเสียท่ดี นิ ในระดบั อาเภอและระดับพืน้ ที่ 2. กฎหมายทเ่ี ก่ียวข้องกับการใช้ทด่ี ินทากนิ ประมวลกฎหมายทดี่ ิน กฎหมายการปฏิรูปที่ดนิ เพ่ือการเกษตร ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ลักษณะ 2 กรรมสิทธิ์ หมวด 1 การไดม้ าซ่ึง กรรมสิทธ์ิ 3. การปอ้ งกันการสูญเสยี ที่ดินจากการขายฝาก ลกั ษณะการขายฝาก การสูญเสยี ที่ดนิ จากการขายฝาก 4. ความรู้เก่ียวกับธนาคารท่ีดิน และช่องทางในการขอรับบริการและการช่วยเหลือจาก สถาบันบรหิ ารจัดการธนาคารทีด่ นิ (องค์การมหาชน) ธนาคารคืออะไร? ความเปน็ มาของธนาคารทีด่ นิ โครงสรา้ งการทางาน หน้าทขี่ องธนาคารทด่ี ิน ชอ่ งทางการขอความช่วยเหลือจากธนาคารท่ีดนิ 5. วธิ กี าร รูปแบบและกระบวนการสารวจข้อมลู เกษตรกรในพ้ืนที่ตาบลสนั มะเค็ด รายละเอียดแบบสารวจขอ้ มูลเกษตรกร ขั้นตอน และรปู แบบการสารวจข้อมลู เกษตรกร ข้อสงั เกตและข้อแนะนาในการสารวจข้อมลู เกษตรกร รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 5-8
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจงั หวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ขา่ ยพนั ธมติ รในพ้นื ทภ่ี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พื้นท่ี ผลลัพธท์ ีไ่ ด้จากการประชุมฯ 1. สภาพปัญหาและสถานการณ์ปัญหาที่ดินท่ีเกิดข้ึนในพื้นท่ี และความต้องการของเกษตรกร ในประเด็นปัญหาเร่ืองท่ีทากิน การสูญเสียท่ีทากิน และเกษตรกรยังต้องการให้มีการเข้ามาช่วยเหลือ เกษตกรในด้านที่ทากิน การป้องกันการสูญเสียท่ีดิน ตลอดจนพ้ืนที่ทากินของเกษตรกรในตาบลนา ทราย มีทั้งท่ีดินที่มีเอกสารสิทธิและท่ีทากินในเขตป่าไม้ อุทยาน ทาให้สภาพปัญหาการสูญเสียที่ดินที่ เกิดข้นึ ในพืน้ ที่เปน็ การสูญเสยี ท่ีดินที่มีเอกสารสิทธิ และถูกเจ้าหน้าท่รี ัฐ เจ้าหน้าท่ีป่าไม้ขอคืนพื้นที่ตาม นโยบายของรฐั บาล 2. ในท่ีประชุมได้แสดงให้เห็นว่า ความไว้เน้ือเช่ือใจของเกษตรกรต่อหน่วยงานหรือ สถาบันการศึกษาที่จะเข้ามาสารวจข้อมูลเกษตรกรในพ้ืนที่เป็นสิ่งที่สาคัญอย่างยงิ่ เน่อื งจากเกษตรกรใน พ้ืนท่ไี ด้เรยี นรู้จากอดตี ทมี่ ีหน่วยงานหรือสถาบันการศึกษาเข้ามาเก็บข้อมลู ในพน้ื ท่ี และนาข้อมูลที่ได้ไป ให้กับทางบริษัทเอกชนที่จะเข้ามาทาสัมปทานเหมืองแร่ในพ้ืนท่ีตาบลนาทราย ส่งผลให้เกษตรกร ผู้นา ชุมชนในพ้ืนที่ไม่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มท่ีในการสารวจข้อมูลเกษตรกรและพัฒนากลไกการทางาน ร่วมกบั ระหว่างพน้ื ทกี่ ับ บจธ. 3. เกษตรกร ผู้นาชุมชน ท้องถ่ิน และอสม. ท่ีเข้าร่วมประชุม มีความเข้าใจการลงพ้ืนท่ีสารวจ ข้อมูลเกษตรกร แต่มีผู้เข้าร่วมประชุมบางส่วนให้ความเห็นว่า การเข้ามาดาเนินโครงการในพ้ืนท่ี เกี่ยวกับการสารวจขอ้ มูลเกษตรกรและการพัฒนาเครอื ขา่ ยพันธมติ รยังไมป่ รากฎผลชดั เจนเป็นรูปธรรม และเกษตรกรจะไดร้ บั ประโยชนอ์ ะไรบ้างจากการดาเนนิ การของ บจธ. 4. แนวทางการสารวจข้อมูลเกษตรในพื้นที่ โดยทีมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทีมสารวจใน ระดับพื้นท่ี อสม. รวมท้ังผู้ใหญ่บ้านกานัน ได้ปรึกษาหารือ และกาหนดแนวทางการลงพ้ืนที่สารวจ วัน เวลา สถานทที่ ่ีจะใหเ้ กษตรกรมาให้ข้อมูล 5. ประเด็นเร่ืององค์กรเครือข่ายท่ีจะเข้ามาทางานร่วมกับบจธ. ในที่ประชุมได้มีความเห็นว่า องค์กรที่เป็นสถาบันการเงินที่มีทุกหมู่บ้านเกษตรกรสามารถเข้าถึงได้ คือ กองทุนหมู่บ้าน และกองทุน สวัสดิการชุมชน ซ่ึงอาจจะเป็นองค์กรท่ีมีลักษณะเป็นสถาบันการเงินท่ีสามารถเข้ามาเป็นองค์กร พนั ธมติ รรว่ มกบั บจธ.ได้ในอนาคต แต่ยงั มีขอ้ จากดั ในเรอื่ งของระเบียบกองทนุ หมบู่ ้านและศักยภาพของ กองทุนหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านมีไม่เท่ากัน ท้ังน้ียังมีข้อจากัดในด้านของความพร้อมของบุคลากร เทคโนโลยี และแนวทางการบริหารจัดการองค์กรได้ ดังนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมจึงเห็นว่า การออกแบบ กลไกท่ีจะเข้าไปเป็นองค์กรเครือข่ายพันธมิตรกับ บจธ. จะต้องเป็นกลไกที่ประกอบไปด้วยหน่วยงาน หลายภาคส่วน เพอ่ื ให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 5-9
รายงานขอ้ เสนอแนะเรอ่ื งการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือข่ายพันธมิตรในพืน้ ทีภ่ าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พน้ื ท่ี ภาพท่ี (1) การประชุมพัฒนาเครือข่ายและเตรียมความพร้อมการสารวจข้อมูลเกษตรกรให้กับทีม สารวจข้อมูลในระดับพ้ืนท่ีฯ วันท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.00 – 15.30 น. ณ ห้องประชุมองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลนาทราย รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หนา้ 5-10
รายงานข้อเสนอแนะเรอ่ื งการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจังหวัดลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ขา่ ยพนั ธมิตรในพื้นทภี่ าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พืน้ ท่ี ภาพท่ี (2) การถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจการใช้แบบสารวจให้แก่อสม. ในพ้ืนที่ตาบลนาทราย วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.30 – 15.30 น. ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วน ตาบลนาทราย รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 5-11
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจังหวดั ลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ข่ายพันธมติ รในพนื้ ทีภ่ าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้ืนท่ี 3. การนาเสนอข้อมูลสารวจเกษตรกร และการพัฒนาองค์กรเครือข่ายพันธมิตร ตาบลนาทราย อาเภอล้ี จงั หวัดลาพูน การประชุมนาเสนอข้อมูลท่ีได้จากการสารวจข้อมูลเกษตรกร และพัฒนาองค์กรเครือข่าย พันธมิตร เมื่อวันท่ี 8 มิถุนายน 2560 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตาบลนาทราย อาเภอลี้ จงั หวดั ลาพูน ผู้เข้าร่วม จานวน 25 คน ประกอบด้วย ปลัดอาวุโสอาเภอลี้, เกษตรอาเภอลี้, ผู้อานวยการ กองส่งเสริมการเกษตรอาเภอล้ี, สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบลนาทราย, กานันตาบลนาทราย และผ้ใู หญบ่ ้าน โดยมีรายชือ่ ผ้เู ขา้ ร่วมประชมุ ดงั นี้ ลาดับ ชือ่ -สกุล ตาแหน่ง เบอร์โทร 1 นายณฐกร ภทั รวนนท์ ปลดั อาวุโส อาเภอลี้ 063-6245919 2 นายนิรุทธ์ ลงั การพ์ นั ธุ์ เกษตรอาเภอลี้ 081-9513195 3 นายสมคดิ บวั ตอง กานันตาบลนาทราย 081-0239025 4 นายสถาพร ดวงตา ผอ.กองสง่ เสรมิ การเกษตร - 5 นางสาวปณสิ รา อุตเรอื น เจ้าหน้าท่ีโครงการ บจธ. 095-6764421 6 นายบุญตนั ตาสสุ ี ผู้ใหญ่บ้าน หมทู่ ี่ 2 089-9542220 7 นายบญุ ช่วย เชยี งแก้ว ผู้ใหญบ่ า้ น หมทู่ ่ี 3 084-9330592 8 นายเอกลักษณ์ ป้อมฝ้ัน ผใู้ หญ่บา้ น หมู่ท่ี 6 089-2630709 9 นายนภดล ศรีวงค์ ผู้ใหญบ่ า้ น หม่ทู ่ี 7 061-2128546 10 นายกริช พงศามงคล ผู้ช่วยผ้ใู หญ่บ้าน หมู่ท่ี 12 064-4980565 11 นายสรศุ กั ด์ิ อินทรา ผ้ชู ว่ ยผู้ใหญบ่ า้ น หมู่ที่ 15 080-1299833 12 นายศุภวชิ ญ์ แสนคามูล สมาชิกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล หม่ทู ี่ 1 063-1145676 13 นายสุพจน์ พรมมลู สมาชิกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล หมูท่ ่ี 2 086-1944425 14 นายวโิ รจน์ ตบ๊ิ อดุ๊ สมาชกิ องค์การบริหารส่วนตาบล หมูท่ ่ี 2 061-2683749 15 นายบุญส่ง เขียวทา สมาชิกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล หม่ทู ี่ 4 080-0736012 16 นายคงกระพนั ธ์ นะอ้าย สมาชิกองคก์ ารบริหารส่วนตาบล หมู่ที่ 5 082-1909204 รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 5-12
รายงานขอ้ เสนอแนะเรอ่ื งการวางแผนการให้บริการของ บจธ. ของจังหวัดลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือข่ายพันธมติ รในพื้นที่ภาคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ที่ ลาดับ ช่ือ-สกุล ตาแหน่ง เบอรโ์ ทร 17 นายวนิ ยั ป๊ดุ ตาษี สมาชิกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล หมูท่ ่ี 5 093-2274272 18 นายสุพจน์ ปอ้ มฝัน้ สมาชิกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล หมทู่ ี่ 6 084-4868571 19 นายรฐั พล รอ่ งอ้อ สมาชกิ องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล หมทู่ ่ี 6 081-0265474 20 นายศักดิ์ชยั ชัยชาติเจรญิ สมาชกิ องคก์ ารบริหารสว่ นตาบล หมูท่ ี่ 9 086-1856239 21 นายภาณุพนั ธ์ สุดถ่นิ ไพร สมาชิกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล หมู่ที่ 14 093-2630399 22 นายทอน จินะวัน สมาชิกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล หม่ทู ี่ 15 085-7209510 23 นายนิรันดร์ ตะ๊ ฝ้ัน สมาชกิ องค์การบริหารส่วนตาบล หมทู่ ่ี 16 097-9595217 24 นายประพันธ์ ปาตนั สมาชกิ องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล หมู่ท่ี 20 093-1574457 25 นายอาคม เผ่าพทิ ักษ์มุนี สมาชิกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบล หมู่ที่ 22 081-2891707 การประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการพัฒนาองค์กรเครือข่ายท่ีจะเข้ามาทางาน ร่วมกับสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ซ่ึงผู้เข้าร่วมประชุมได้เสนอให้มีการใช้ กลไกของกองทุนหมู่บา้ น เนื่องจากกองทุนหม่บู ้านมีทุกหมู่บา้ นและมีเกษตรกรสามารถเข้าถึงไดง้ ่ายกว่า สถาบันการเงินอื่น อีกท้ังผู้เข้าร่วมยังคิดเห็นว่า หาก บจธ. ให้การช่วยเหลือเกษตรกรผ่านกองทุน หมู่บ้าน ความเหลือเหลือต่างๆ จะเข้าถึงเกษตรกรได้โดยตรง แต่ในการให้มีองค์กรในการพิจารณาการ ชว่ ยเหลือหรือให้บรกิ ารต่างๆ อาจจะใช้กลไกความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการ หน่วยงานท้องถิ่น เกษตรอาเภอ และเครือข่ายกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งมีลักษณะรูปแบบเป็นกลไกคณะกรรมการบริหารและ พัฒนาท่ีดินเพื่อการเกษตรระดับตาบล ซ่ึงจะเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนให้การทางานหรือการ ให้บริการของ บจธ. เป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซ่ึงกลไกความร่วมมือดังกล่าว ในรูปแบบของคณะกรรมการฯ จะทาหน้าที่ในการจัดทาระบบฐานข้อมูลการเกษตรตาบล การวางแผน และพัฒนาที่ดนิ รวมถงึ การใหค้ วามช่วยเหลือและจัดการหนีส้ ินเกษตรกร การประชุมยังได้มีการหารือแนวทางการกาหนดเกณฑ์การจัดลาดับความรุนแรงของความ เดือดร้อนของเกษตรกรในพ้ืนที่ตาบลนาทราย โดยจะใช้หลักเกณฑ์ใดมาเป็นเกณฑ์ในการจัดลาดับ ซึ่ง ในท่ีประชุมได้เสนอให้ใช้ประเด็นเรื่องจานวนหนี้สินท่ีเกษตรกรกู้ยืมทั้งในระบบและนอกระบบ ระยะเวลาในการชาระหน้ีจนสิ้นสุดสัญญา และความต้องการของเกษตรกรในการขอรับบริการจาก บจธ. รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 5-13
รายงานขอ้ เสนอแนะเร่อื งการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจังหวดั ลาพูน และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือขา่ ยพันธมติ รในพน้ื ที่ภาคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พื้นท่ี ภาพที่ (3) การประชุมนาเสนอข้อมูลท่ีได้จากการสารวจข้อมูลเกษตรกร และ พัฒนาองค์กร เครือข่ายพันธมิตร เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2560 ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตาบลนาทราย อาเภอล้ี จงั หวัดลาพูน รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 5-14
รายงานขอ้ เสนอแนะเรอ่ื งการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจังหวัดลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือขา่ ยพนั ธมติ รในพื้นทีภ่ าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พน้ื ท่ี ภาพท่ี (4) การลงพ้ืนที่สารวจข้อมูลเกษตรกร ตาบลนาทราย อาเภอลี้ จังหวัดลาพนู รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หนา้ 5-15
รายงานข้อเสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือข่ายพนั ธมติ รในพืน้ ที่ภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ที่ รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 5-16
รายงานข้อเสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือข่ายพนั ธมติ รในพืน้ ที่ภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ที่ รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 5-17
รายงานข้อเสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือข่ายพนั ธมติ รในพืน้ ที่ภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ที่ รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 5-18
รายงานข้อเสนอแนะเรอื่ งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจงั หวัดลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือข่ายพนั ธมติ รในพืน้ ที่ภาคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ที่ รายงานฉบบั สมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 5-19
รายงานขอ้ เสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจงั หวดั ลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ขา่ ยพนั ธมิตรในพืน้ ทภี่ าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พืน้ ท่ี 4. ข้อเสนอแนะการแกไ้ ขปัญหาของตาบลนาทราย อาเภอล้ี จงั หวดั ลาพนู (1) การสูญเสียสิทธิในท่ดี นิ และการไรท้ ่ีทากิน สาหรับการป้องกัน/แก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดินทากินของเกษตรกรในพื้นท่ี การแก้ไข ปัญหาการไร้ที่ทากิน การบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในท่ีดินในชุมชนร่วมกัน และการติดตามและ ปรับปรุงฐานข้อมูลที่ได้มีการจัดเก็บมาแล้วจากพ้ืนท่ี เป็นส่วนท่ีแกนนาและผู้นาในชุมชนมองว่าควรมี ความร่วมมือและได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภายนอกที่ชัดเจน ซ่ึงจะต้องมีการบูรณาการและเข้ามา สนับสนุน ได้แก่ ทางอาเภอ และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และ สานกั งานกองทนุ หมบู่ า้ นและชมุ ชนเมอื งแห่งชาติ การใช้กลไกการทางานในรูปแบบของคณะกรรมการในระดับอาเภอและระดับตาบล กล่าวคือ คณะกรรมการบริหารและพัฒนาท่ีดินเพื่อการเกษตรอาเภอล้ี เป็นกลไกที่ประกอบไปด้วยหน่วยงาน หลายภาคส่วน ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะทาหน้าท่ีหนุนเสริมและร่วมมือกันในการก่อให้เกิดการลดปัญหา การสูญเสยี ทดี่ ินในอาเภอลี้ คณะกรรมการดงั กล่าวจะเป็นคณะกรรมการในระดับอาเภอทมี่ ีหน้าที่ในการ กาหนดนโยบายและแนวทางในการแก้ปัญหาการสูญเสียที่ดิน และคณะกรรมการในระดับตาบลนา ทราย เป็นกลไกคณะทางานท่ีทาหน้าที่หนุนเสริมและร่วมมือกัน ในการก่อให้เกิดการลดปัญหาการ สูญเสียที่ดินในพ้ืนที่ตาบลนาทราย มีหน้าท่ีในการกาหนดแนวทางในการแก้ปัญหาการสูญเสียท่ีดินใน ระดับตาบลที่สอดคล้องกับแนวทางการดาเนินงานและนโยบายของคณะกรรมการบริหารและพัฒนา ท่ีดินเพื่อการเกษตรอาเภอล้ี ซ่ึงคณะกรรมการระดับตาบลจะมีโครงสร้างการทางาน 3 ฝ่าย คือ ฝ่าย ระบบฐานขอ้ มลู การเกษตรตาบล, ฝ่ายวางแผนและการพฒั นาที่ดิน และฝ่ายการให้ความช่วยเหลือและ จัดการหน้ีสินเกษตรกร ทั้งน้ีจะมีองค์กรที่เป็นท่ีปรึกษาอีก 2 องค์กร คือผู้แทนสถาบันบริหารจัดการ ธนาคารท่ีดิน (องคก์ ารมหาชน) และ ทป่ี รกึ ษาทางวชิ าการและกฎหมาย การวางแผนการดาเนินการเพ่ือแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิในที่ดิน การแก้ปัญหาการไร้ที่ดิน ทากนิ ซึง่ เป็นปัญหาพน้ื ฐานของชุมชนที่สมั พันธ์อยกู่ ับมิตอิ ื่นๆ อีกมากมายท้งั ภายในและภายนอกชุมชน การจะทาให้เกิดการจัดทาแผนและการมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาของชุมชนจาเป็นท่ีจะต้องใช้เวลา มากกว่าระยะเวลาของโครงการ การทาให้ชุมชนเปลี่ยนแปลงโดยเห็นแบบอย่างของพ้ืนที่ซึ่งประสบ ความสาเร็จในการแก้ไขปัญหาต่างๆ จะประสบความสาเร็จมากกว่าการบรรยาย การสัมมนา โดย อาจจะต้องเสริมด้วยกระบวนการวิจัยชุมชนเพื่อจัดต้ังระบบการทางานให้เหมาะสมได้มากกว่าการต้อง ทาหนา้ ทร่ี บั ผิดชอบงานตามตาแหน่งหนา้ ที่ (2) การบริหารการใช้ประโยชนใ์ นที่ดนิ ของชุมชน มีกลไกภายในตาบลที่มีโครงสรา้ งทีท่ าหน้าทีค่ ล้ายๆ สถาบันการเงนิ อย่แู ล้วคือ กองทนุ หมูบ่ ้าน ซึ่งกรรมการกองทุนทราบข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกกองทุนทุกๆ คนและสมาชิกส่วนใหญ่คือกลุ่มเป้าหมาย เปน็ เกษตรกรที่ควรจะได้รับความชว่ ยเหลือเพ่ือแก้ไขปัญหา ดังน้ัน ประเด็นจงึ อย่ทู ี่ว่าหาก บจธ. จะต้อง จัดต้ังคณะกรรมการทาอย่างไรที่จะมีกรรมการที่มีประสบการณ์ เข้าใจงานในพ้ืนท่ี รู้จักและเป็นท่ี ไว้วางใจจากชุมชน ซ่ึงส่วนใหญ่ก็คือบุคคลท่ีเป็นกรรมการหรือมีตาแหน่งต่างๆ ท่ีอยู่ในชุมชนเป็นส่วน ใหญ่ ดังน้ัน สาหรับงานในส่วนนี้จึงต้องอาศัยเวลาเพ่ือค่อยๆ ค้นหา สร้างความเข้าใจ หนุนเสริมด้วย กลไกจากภาคส่วนอืน่ ๆ เขา้ มา อาทิ เช่น กลไกของสภาองคก์ รชุมชนและ พอช. เป็นต้น รายงานฉบบั สมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 5-20
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจังหวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครอื ข่ายพนั ธมติ รในพนื้ ทภี่ าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ที่ อย่างไรก็ตาม การบริหารการใช้ประโยชน์ในที่ดินของชุมชนจะต้องมีกลไกในการกาหนดแนว ทางการดาเนินงานและกลไกท่ีจะทาให้การบริหารการใช้ประโยชน์ในท่ีดินของชุมชนเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ ท้ังนี้การท่จี ะพัฒนาระบบภายในชุมชนเพอ่ื ให้เกดิ กลไกและผู้รบั ผดิ ชอบท่เี ปน็ จริง ในทาง ปฏิบัติและสามารถบรรลุเป้าหมายได้ จะต้องพัฒนาและจัดตั้งกลไกภายในชุมชนเพ่ือให้เกิดการทางาน ร่วมกัน (และเป็นงานท่ีไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมของชาวบ้าน ประกอบกับงานที่มีรายละเอียด ค่อนข้างมาก) จึงมีความจาเป็นท่ีจะต้องใช้เวลาในการดาเนินการสาหรับการพัฒนาต่อยอด และใช้ ประโยชน์ร่วมกันในฐานข้อมูล และการวางแผนหรือการวิเคราะห์ประเด็นต่างๆ ในการบริหารการใช้ ประโยชน์ในที่ดินของชุมชน ดังนั้น การบริหารการใช้ประโยชน์ในท่ีดินของชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ น้ันควรต้องมีกลไกทั้งในระดับอาเภอและในระดับตาบล มีโครงสร้างการทางานดังที่กล่าวมาข้างต้น (งานการดาเนนิ การเพอ่ื ให้เกดิ การพฒั นา/การขบั เคลือ่ นใหพ้ นั ธมิตรในชุมชนสามารถทจี่ ะทางานร่วมกับ บจธ. ไดอ้ ยา่ งราบร่ืน) (3) แนวทางการแก้ปัญหาระบบการบริหารจัดการที่ดนิ และการเกษตร ปัญหาของระบบการเกษตรและท่ีดินของพื้นที่ตาบลนาทรายดังที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะสรุป ได้ว่า เป็นปัญหาของระบบโครงสร้างพื้นฐานของระบบการเกษตร โดยเฉพาะอย่างย่ิงในส่วนที่เป็นต้น ทางของระบบการผลิต ซึ่งยังไม่ได้กล่าวถึง ในส่วนท่ีเป็นกลางทางคือการแปรรูป การสร้างมูลค่าเพ่ิม และส่วนปลายทางคอื การตลาดและการบรโิ ภค สาหรับข้อเสนอแนะที่อาจจะเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา สาหรับในกรณีพื้นที่ตาบลนาทราย โดยเทยี บเคียงกบั ระบบการเกษตรในพื้นท่อี ื่นๆ ประกอบดว้ ย 1. การส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อการสร้างอานาจต่อรองและการเช่ือมโยงกับองค์กร เครือข่ายในส่วนที่เป็นกลางน้าและปลายน้าให้มากยิ่งข้ึน แทนการรวมกลุ่มเพ่ือการกู้ยืมที่สมาชิกของ กลุ่มต้องค้าประกันไขว้กัน แต่ต้องเป็นการรวมกลุ่มเพื่อวางแผนในการผลิตแทนท่ีจะต่างคนต่างผลิต ต้องรวมกลุ่มเพื่อสร้างอานาจต่อรองกับตัวแทนของบริษัทท่ีเข้ามาส่งเสริมให้ผลิตแทนการขาดตัดราคา กนั 2. ปัญหาเรื่องการรวมกลุ่มน่าจะเป็นปัญหาท่ีสาคัญที่สุดสาหรับในกรณีพ้ืนท่ีตาบลนาทราย ทง้ั นี้เนื่องจากการรวมกลุ่มเท่าท่ีเป็นอยยู่ ังไม่ได้มีการยกระดับท่ีเป็นการพัฒนาระบบการเกษตรโดยตรง และในการบริหารจัดการกลุ่มก็ยังเป็นการจัดการที่หวังพึ่งพิงหน่วยงานภายนอก อีกท้ังยังเป็นการนา กลุ่มที่ผูกโยงกับความสัมพันธ์เชิงอานาจทางการปกครอง ดังน้ันจึงมีความจาเป็นที่จะต้องพัฒนา ศักยภาพของกลุ่มเกษตรกรด้วยการเพิ่มเติมสมาชิกของกลุ่มเกษตรกรด้วยเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เพิ่มมาก ข้นึ 3. เมื่อทาการพัฒนาการรวมกลุ่มเกษตรกรแล้ว แนวทางการแก้ไขอีกด้านหนึ่งที่จะต้อง ดาเนินการด้วยคือการปรับปรุงระบบและกระบวนการการผลิตทางการเกษตรของพ้ืนท่ีตาบลนาทราย จากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว และการปลูกพืชในลักษณะที่ปลูกตามๆ กันตามความรู้ความสามารถและ ศักยภาพของเกษตรกร ให้ไปสู่ระบบการผลิตท่ีหลากหลายและไม่มีปัญหาทางด้านการตลาดหรือราคา ผลผลิตทตี่ กตา่ รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หน้า 5-21
รายงานขอ้ เสนอแนะเรอ่ื งการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจังหวดั ลาพนู และ เชยี งราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครือขา่ ยพันธมติ รในพื้นทภ่ี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พนื้ ที่ 4. และการท่ีจะทาให้เกิดการปรับเปล่ียนระบบและวิธีการผลิตได้จาเป็นท่ีจะต้องนาแนว ทางการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาระบบการผลิตของเกษตรกรจากระบบเดิมไปสู่ระบบใหม่ดังท่ีโครงการ พัฒนาเกษตรกรของโครงการหลวงดาเนินการมาและประสบความสาเร็จมาใช้เป็นแนวทางเพ่ือปรับ โครงสร้างระบบการผลติ ในพ้ืนที่ตาบลนาทราย 5. สาหรับปัญหาเร่ืองการสูญเสียท่ีดินทากินกับปัญหาเร่ีองที่ดินทากินในเขตป่า ซึ่งเป็นปัญหา เชงิ โครงสร้างทง้ั ในทางกฎหมาย และในทางนโยบาย ดังนั้น หากใช้แนวทางท่ีบจธ.กาลงั ดาเนินการอยู่ก็ จะสามารถที่จะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวไปได้ แตต่ ้องอยู่บนเงื่อนไขที่เกษตรกรจะต้องมีการรวมกลุ่ม และมีการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตเพ่ือไม่ให้ตกอยู่ในภาวะหนี้สินที่เกิดข้ึนจากระบบการผลิ ตและการ ใชช้ ีวิตแบบเดมิ ๆ เสียก่อน 6. สาหรับปัญหาเรื่องการไม่มีผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรุ่นใหม่ๆเข้ามาทาการเกษตรกรรมต่อ ซ่ึงเป็นประเด็นปัญหาเช่นเดียวกันกับในหลายๆ พื้นท่ี และเป็นปัญหาในระดับชาติ หากบจธ.จัดทา โครงการในการจัดสรรที่ดินหรือหากมีการส่งเสริมให้มีผู้ประกอบกิจการทางการเกษตรในระดับกลาง ทางคือในขั้นการเพ่ิมมูลค่าหรือการแปรรูป หรือกิจกรรมในระดับปลายทางหรือการตลาดและการ บริโภคของผู้บริโภค ก็อาจจะทาใหม้ ีผู้ทส่ี นใจเข้ามาประกอบอาชพี เกษตรกรรมซึ่งจะเป็นทางออกให้กับ การขาดแคลนผูป้ ระกอบอาชพี เกษตรกรรมในระยะต้นได้ รายงานฉบับสมบูรณ์ (Completion Report) หนา้ 5-22
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ รกิ ารของ บจธ. ของจังหวดั ลาพนู และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพัฒนาเครอื ขา่ ยพนั ธมิตรในพ้ืนทีภ่ าคเหนือ โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้ืนที่ ภาคผนวก ข การพฒั นาเครอื ข่ายพันธมิตร ตาบลสันมะเค็ด อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หนา้ 5-23
รายงานข้อเสนอแนะเร่ืองการวางแผนการใหบ้ ริการของ บจธ. ของจงั หวัดลาพูน และ เชียงราย การสารวจเกษตรกรและพฒั นาเครือข่ายพันธมิตรในพ้นื ท่ภี าคเหนอื โซน 1 ตามโครงการสารวจเกษตรกรใน ๓๖ พ้นื ท่ี 1. การพัฒนาตวั แทนองคก์ รพันธมติ รในตาบลสนั มะเคด็ อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย การพัฒนาให้องค์กรเครือข่ายในพื้นท่ีตาบลสันมะเค็ดเป็นองค์กรท่ีมีศักยภาพในการทาหน้าท่ี เป็นองค์กรทางการเงินเพื่อทาการบริหารทางการเงินของชุมชน หรือ มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของ ชุมชน ท่ีมีตัวแทนองค์กรชุมชนในรูปของคณะกรรมการในการบริหารจัดการ และจะต้องพัฒนาระบบ การบริหารมีการจัดทารายงานทางการเงินทาหน้าท่ีในการชว่ ยเหลอื ประชาชนและชุมชนใหค้ วามเชอ่ื ถือ จากเวทีการปรึกษาหารือกับกลุ่มต่างๆท้ังจากเวทีที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการและจากเวทีย่อยๆท่ีเกิดข้ึน ในระหว่างการเขา้ ไปจัดเก็บข้อมูลในพ้ืนท่ีหมู่ต่างๆ ทาให้ได้แนวทางสาหรับการพัฒนาตวั แทนองค์กรใน ชมุ ชนสาหรบั ตาบลสนั มะเค็ดตอ่ ไปนี้ 1. ประวัติศาสตร์ของพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องที่ดินทากินในพ้ืนท่ีจะ เป็นประเด็นเรื่องการจะนาเอาพ้ืนที่สาธารณะประโยชน์ในตาบลมาจัดสรรให้เป็นท่ีดินทากินของ ประชาชน ดังน้ัน จึงทาให้ความสนใจของประชาชนในพ้ืนท่ีต่อการดาเนินโครงการของ บจธ.ที่ ดาเนินการเกี่ยวกับเรื่องท่ีดินทากินจึงถูกมองว่าเป็นโอกาสที่จะทาให้เกิดการหยิบเอาปัญหาดังกล่าวมา แก้ไขต่อ ซ่ึงเมื่อได้ชี้แจงให้ทราบขอบเขตการดาเนินงานในระยะเบื้องต้นแล้ว ทาให้ความต่ืนตัวของ ผู้นาที่มีตอ่ โครงการก็ผอ่ นลงเลก็ น้อย 2. ผู้นาในระดับตาบลโดยเฉพาะอย่างย่ิงผู้ใหญ่บ้านจากหลายๆ หมู่บ้านได้แสดงความคิดเห็น วา่ ทางอาเภอได้มกี ารจัดต้ังคณะกรรมการขึน้ มาชุดหน่ึง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการจัดซ้ือที่ดินของ บจธ. ในตาบลสันมะเค็ด ซ่ึงมีตัวแทนจากส่วนราชการในอาเภอ มี ธ.ก.ส. ในฐานะทีเ่ ป็นสถาบันการเงิน ทางการเกษตรและเป็นที่รู้จักและไว้วางใจของเกษตรกร มตี ัวแทนเจ้าพนกั งานท่ีดินอาเภอ และผู้นาใน พื้นท่ีเป็นกรรมการในระดับอาเภออยู่แล้ว ดังน้ัน ควรท่ีจะใช้รูปแบบดังกล่าวเป็นแนวทางในการ ดาเนินการต่อไป ท้ังน้ีเน่ืองจากเป็นกลไกที่ประกอบด้วยหลายภาคส่วนและที่สาคัญคือเป็นแนวทางท่ี เกิดการยอมรับ ท้ังในส่วนของภาครัฐและเป็นความเช่ือมั่นของประชาชนในพื้นที่ แต่อาจจะต้องเสริม ด้วยหน่วยงานท่ีจะมาพัฒนาให้ผู้ที่มีความถนัดในการจัดการข้อมูล และคณะกรรมการในระดับตาบลมี ความรู้ใหม่ๆ ท่ีจาเป็น เช่น ความรู้ในทางกฎหมาย ความรู้เก่ียวกับการทาแผน ความรู้เกี่ยวกับวิธีการ แก้ไขปัญหาปากทอ้ งของเกษตรกร เพ่ือให้สามารถปฏิบตั ิหนา้ ท่ีได้ องค์กรพันธมิตรท่ีจะเข้ามาเป็นกลไกในการหนุนเสริมและร่วมมือกันในการก่อให้เกิดการลด ปัญหาการสูญเสียที่ดินในพ้ืนท่ีตาบลสันมะเค็ด ได้มีเสนอรูปแบบกลไกและตัวแทนองค์กรพันธมิตรใน ระดับตาบลสันมะเค็ด โดยองค์กรพันธมิตรจะมีลักษณะเป็นการบูรณาการทางานร่วมกันของทอ้ งที่และ ทอ้ งถิ่น จะเป็นรูปแบบ “กลไกคณะกรรมการบริหารจัดการและพัฒนาที่ดินเพ่ือการเกษตรตาบลสัน มะเค็ด” ซ่ึงกลไกคณะทางานดังกล่าวจะทาหน้าท่ีหนุนเสริมและร่วมมือกันในการก่อให้เกิดการลด ปัญหาการสูญเสียที่ดินในพื้นท่ีตาบลสันมะเค็ด ทั้งน้ี คณะกรรมการระดับตาบลจะมีโครงสร้างการ ทางาน 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายระบบฐานข้อมูลการเกษตรตาบล ฝ่ายวางแผนและการพัฒนาที่ดนิ และฝา่ ยการ ให้ความช่วยเหลือและจัดการหนี้สินเกษตรกร มีองค์กรภายนอกที่เข้ามาสนับสนุนเป็นท่ีปรึกษาอีก 2 องค์กร คือ ผู้แทนสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) และ ที่ปรกึ ษาทางวิชาการและ กฎหมาย ท้ังน้ีคณะกรรมการระดับตาบลแต่ละฝ่ายจะมาจากตวั แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ท้องถนิ่ และ เกษตรกรในตาบลสันมะเค็ด เพื่อบูรณาการการบริหารและพัฒนาท่ีดินในตาบลสันมะเค็ดร่วมกันโดยใช้ รายงานฉบับสมบรู ณ์ (Completion Report) หน้า 5-24
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267