Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานโครงการ-การจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็น - อ.ชาตรี

รายงานโครงการ-การจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็น - อ.ชาตรี

Published by E-books, 2021-03-01 07:31:08

Description: รายงานโครงการ-การจัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็น-ชาตรี

Search

Read the Text Version

การจดั ทาประชาพจิ ารณ์เพอื่ รับฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน สาหรับโครงการยดื อายลุ าไยส่งออก เพอื่ แก้ไขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายงานสรุป โดยคณะนติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ และ สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งประเทศไทย

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณเ์ พื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยสง่ ออกเพ่อื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สารบัญ บทที่ ๑ ความเป็นมาของโครงการและการศกึ ษาขอ้ มูลทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั พ้ืนท่ี.......................................................๓ ๑.๑ ความเปน็ มาโครงการ.....................................................................................................................................๓ ๑.๑.๑ วัตถปุ ระสงค์ ..............................................................................................................................................๓ ๑.๑.๒ คุณสมบัติของผู้ดาํ เนินการจดั ทําประชาพจิ ารณ์ .........................................................................................๓ ๑.๑.๓ ขอบเขตการดําเนินงาน..............................................................................................................................๔ ๑.๑.๔ ระยะเวลาการดําเนนิ งาน...........................................................................................................................๕ ๑.๑.๕ ขน้ั ตอนการดาํ เนนิ การ...............................................................................................................................๕ ๑.๑.๖ การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการประชาพิจารณ์....................................................................................................๗ ๑.๒ ข้อมูลพ้ืนฐานของผซู้ ่งึ อย่ใู นพ้นื ที่ท่ีไดร้ บั ผลกระทบ ........................................................................................๗ ๑.๒.๑ ข้อมลู พืน้ ฐานลักษณะพน้ื ท.ี่ ........................................................................................................................๗ ๑.๒.๒ ผ้ปู ระกอบการคา้ ลําไย ใน เขตอาํ เภอเวียงหนองล่องครอบคลมุ ตาํ บลวงั ผาง..........................................๑๖ ๑.๒.๓ ขอ้ มูลผลกระทบโครงการดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสงั คม ..............................................................๑๖ บทท่ี ๒การเตรยี มการสาหรับจดั ทาการประชาพิจารณ์ ...................................................................................๓๓ ๒.๑ การจัดประชุมออกแบบการประชาพิจารณ์ร่วมกับเจ้าหน้าท่ีเทศบาล ตัวแทนจังหวัด ผู้นําชุมชน และ วว. วนั ท่ี ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ ..................................................................................................................................๓๓ ๒.๒ การจดั ประชุมสรุปรปู แบบประชาพิจารณ์รว่ มกับเจ้าหนา้ ทเ่ี ทศบาล ตัวแทนจงั หวัด ผนู้ าํ ชมุ ชน และ วว. วันที่ ๘พฤษภาคม ๒๕๕๗...........................................................................................................................................๓๙ ๒.๓ การจัดเย่ียมชมโรงงานตัวอย่างให้แก่ตัวแทนชุมชนอย่างน้อย ๒๐ คน ซ่ึงประกอบด้วย ผู้นําชุมชน และ ประชาชนผไู้ ดร้ บั ผลกระทบ................................................................................................................................๔๖ บทท่ี ๓ การประชาสมั พันธแ์ ละใหข้ ้อมูลโครงการตอ่ ประชาชน ......................................................................๔๙ ๓.๑ การประชมุ ปฐมนเิ ทศชแ้ี จงโครงการให้แกผ่ ้ทู เี่ กีย่ วขอ้ งอยา่ งนอ้ ย๒๐๐ คน .................................................๔๙ ๓.๑.๑ วัตถุประสงคก์ ารประชมุ ..........................................................................................................................๔๙ ๓.๑.๒ ผ้เู ข้ารว่ มประชุม......................................................................................................................................๔๙ ๓.๑.๓ สรปุ ผลการประชุม ..................................................................................................................................๕๐ ๓.๑.๔ ภาพประกอบการประชุม ........................................................................................................................๕๒ ๓.๒ ประชาสมั พันธ์โดยแผน่ พบั อย่างนอ้ ย ๒,๕๐๐ แผน่ ให้แก่ประชาชนในชุมชน ..............................................๕๗ ๓.๓ ติดตั้งปูายประกาศอย่างนอ้ ย ๓ แหง่ ในพืน้ ที่ .............................................................................................๕๘ ๑

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณ์เพื่อรบั ฟงั ความคิดเห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายลุ าไยสง่ ออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓.๔ ประกาศในเวบ็ ไซต์สาํ นกั นายกรัฐมนตรแี ละเวบ็ ไซตอ์ นื่ ๆ ที่กําหนด ............................................................๖๑ ๓.๕ จัดตง้ั ต้ังศนู ย์รบั ฟงั ข้อมลู และความเหน็ จากคนในชมุ ชน..............................................................................๖๕ ๓.๖ ประชาสมั พนั ธ์ผา่ นส่อื ท้องถน่ิ (เช่น วทิ ยุชมุ ชนเสียงตามสาย หรืออนื่ ๆ) .....................................................๖๗ บทที่ ๔ การประชมุ กลุ่มย่อยเพ่ือชแ้ี จงโครงการและผลการศกึ ษา...................................................................๖๙ ๔.๑ จัดประชุมรว่ มกบั ผู้นาํ ชุมชน และตวั แทนหนว่ ยงานราชการอย่างน้อย ๒๐ คน...........................................๖๙ ๔.๒ จดั ประชมุ รว่ มกบั ผปู้ ระกอบการโรงอบลาํ ไยและพอ่ ค้าคนกลางผรู้ บั ซอื้ ลาํ ไยอย่างน้อย ๒๐ คน..................๗๗ ๔.๓ จัดประชุมร่วมกบั เกษตรกรผปู้ ลกู ลาํ ไยอย่างน้อย ๓๐ คน...........................................................................๗๙ ๔.๔ จดั ประชมุ รว่ มกบั ประชาชนทัว่ ไปท่ีอยใู่ นพนื้ ท่ีซงึ่ อาจไดร้ บั ผลกระทบอย่างน้อย ๓๐ คน ............................๘๔ บทท่ี ๕ จดั ทาประชาพิจารณจ์ ากผ้ทู ่ีเกีย่ วข้องอยา่ งน้อย ๓๐๐ คน ................................................................๘๗ ๕.๑ วตั ถุประสงค์การประชมุ .............................................................................................................................๘๗ ๕.๒ ผเู้ ขา้ รว่ มประชุม .........................................................................................................................................๘๗ ๕.๓ สรปุ ผลการประชมุ ......................................................................................................................................๘๗ ๕.๔ ภาพการประชุมประชาพจิ ารณ์ ...................................................................................................................๙๐ บทท่ี ๖ การประกาศผลการจัดทาประชาพิจารณ์ ณ สถานที่ที่กาหนด ภายใน ๑๕ วันหลังการจัดทาประชา พิจารณ์..............................................................................................................................................................๙๓ บทที่ ๗ สรุปผลการดาเนนิ การและจดั ทารายงาน............................................................................................๙๘ ๒

โครงการจัดทาประชาพิจารณ์เพ่อื รับฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี บทท่ี ๑ ความเป็นมาของโครงการและการศกึ ษาขอ้ มลู ที่เกย่ี วขอ้ งกับพ้ืนที่ ๑.๑ ความเป็นมาโครงการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้รับงบประมาณประจําปี ๒๕๕๗ ให้ ดําเนนิ งานโครงการยดื อายุลําไยส่งออกเพ่ือแกไ้ ขลาํ ไยล้นตลาดดว้ ยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เพ่ือเพิ่มศักยภาพ ความสามารถของเกษตรกรใหร้ ู้จกั ใช้เทคโนโลยที ่ีเหมาะสมและมปี ระสทิ ธภิ าพ สําหรบั แกไ้ ขปัญหาการเน่าเสยี ของ ลําไยจากสภาวะลาํ ไยลน้ ตลาด รวมท้ังเพอ่ื ใหเ้ กิดการวิจัย และสรา้ งสรรคง์ านนวัตกรรมรว่ มกนั ระหว่างภาครัฐและ เกษตรกร โดยกจิ กรรมหนง่ึ ของการดําเนินงานโครงการ คือ การก่อสร้างศูนย์ถา่ ยทอดเทคโนโลยียืดอายุลําไยเพ่ือ การส่งออก ในพ้ืนท่ีตําบลวังผาง อําเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลําพูน โดยนําเทคโนโลยีการรมลําไยด้วยก๊าซ ซลั เฟอร์ไดออกไซดท์ ี่ไดม้ าตรฐานและปลอดภยั มาใช้ยืดอายุการเก็บของลาํ ไย สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแหง่ ประเทศไทย (วว.) ไดใ้ ห้ความสาํ คัญตอ่ การมีส่วนรว่ มของชุมชน ทอ้ งถน่ิ ในการดาํ เนนิ งานโครงการ รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความ คิดเห็นของประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งกําหนดให้การดําเนินโครงการของหน่วยงานของรัฐ ที่เป็นการพัฒนา เศรษฐกิจหรือสังคม ไมว่ า่ จะเปน็ การดาํ เนนิ การโดยหนว่ ยงานของรฐั หรือโดยวิธีการให้สัมปทาน หรืออนุญาตให้ บุคคลอ่ืนทํา หากโครงการดังกล่าวมีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อคุณภาพส่ิงแวดล้อม สุขภาพอนามัย วิถีชีวิต หรือสว่ นไดเ้ สยี เกีย่ วกบั ชุมชนทอ้ งถน่ิ น้ัน ระเบียบฯได้กําหนดให้ต้องจัดทําการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ดว้ ยวิธใี ดวธิ ีท่ีกาํ หนดไว้ในระเบียบฯ ดังน้ัน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จึงมีความประสงค์ที่จะจัดทําประชา พจิ ารณ์เพอ่ื รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนในพ้ืนท่ีตําบลวังผาง อําเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลําพูน เก่ียวกับ การกอ่ สรา้ งศูนยถ์ ่ายทอดเทคโนโลยยี ดื อายลุ าํ ไยเพ่อื การสง่ ออก ซ่ึงใช้เทคโนโลยีการรมลําไยด้วยก๊าซซัลเฟอร์ได ออกไซด์ท่ีได้มาตรฐานและปลอดภัย ทั้งนี้ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จะ มอบหมายให้หน่วยงานท่ีสาม (Third Party) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นผู้รับผิดชอบการจัดทําประชาพิจารณ์ เพื่อให้เกิดความเป็นกลาง เช่ือถือได้ และ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ไม่ สามารถเข้าแทรกแซงเพื่อช้ีนําผลการจัดทาํ ประชาพจิ ารณ์ ๑.๑.๑ วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพอื่ ให้ข้อมูลการดาํ เนนิ งานโครงการท่ถี กู ต้องและเพียงพอแกช่ ุมชนทอ้ งถิ่น ๒. เพื่อเปน็ ช่องทางในการมีส่วนรวมของชมุ ชนท้องถ่ินตอ่ การดาํ เนินงานโครงการ ๓. เพ่อื ให้การดาํ เนนิ งานโครงการสอดคลอ้ งกบั ประโยชนข์ องชมุ ชนท้องถน่ิ ๔.เพอ่ื ใหก้ ารดาํ เนินงานโครงการเปน็ ไปตามระเบยี บสํานกั นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความ คิดเหน็ ของประชาชน พ.ศ.๒๕๔๘ ๑.๑.๒ คุณสมบตั ิของผดู้ าเนินการจัดทาประชาพจิ ารณ์ เป็นหน่วยงานราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าดว้ ยระเบียบบรหิ ารราชการส่วนทอ้ งถิ่น หรือหนว่ ยงานอนื่ ซงึ่ กฎหมายบัญญตั ิให้มฐี านะเปน็ ราชการบรหิ ารสว่ นทอ้ งถน่ิ รฐั วสิ าหกจิ ซึ่งมีประสบการณ์หรือเคยมีส่วนร่วมใน ๓

โครงการจัดทาประชาพิจารณเ์ พื่อรบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพื่อแกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี การจัดทาํ การรบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชน ตามระเบียบสํานักนายกรฐั มนตรวี า่ ด้วยการรับฟงั ความคิดเหน็ ของ ประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๘ ๑.๑.๓ ขอบเขตการดาเนนิ งาน ขอบเขตการดําเนินงานสําหรับการการจัดทําประชาพิจารณ์เพ่ือรับฟังความคิดเห็นของประชาชนใน โครงการยืดอายุลําไยส่งออกเพื่อแก้ไขลาํ ไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มีรายละเอยี ดดงั นี้ ศึกษาข้อมูลที่เกย่ี วขอ้ งกับ - ขอ้ มูลพ้นื ที่ ซึ่งประกอบดว้ ยข้อมลู พื้นฐานของผู้ซง่ึ อยใู่ นพื้นท่ที ี่ได้รับผลกระทบ และความเห็น เบ้ืองตน้ ของคนในพนื้ ท่ี - ข้อมลู ผลกระทบโครงการดา้ นสิ่งแวดล้อม เศรษฐกจิ และสงั คม เตรียมการสาหรับจดั ทาการประชาพจิ ารณ์ โดยดาเนนิ การดงั น้ี - สรุปเน้ือหาและรายละเอียดโครงการ เพ่ือเป็นข้อมูลสําหรับจัดทําส่ือประชาสัมพันธ์ให้กับ ประชาชน - จดั ประชุมออกแบบการประชาพิจารณ์ร่วมกับเจ้าหน้าท่ีเทศบาล ตัวแทนจังหวัด ผู้นําชุมชน และสถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) - จัดประชุมสรุปรูปแบบการรับฟังความคิดเห็นประชาชนร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาล ตัวแทน จงั หวัด ผนู้ าํ ชมุ ชน และสถาบันวิจยั วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.) - จัดเยย่ี มชมโรงงานตัวอยา่ ง ให้แก่ตวั แทนชมุ ชนอยา่ งน้อย ๒๐ คน ซึ่งประกอบด้วย ผู้นําชุมชน และประชาชนผไู้ ดร้ ับผลกระทบ ประชาสมั พันธแ์ ละให้ขอ้ มูลโครงการต่อประชาชน โดยดาเนินการดงั นี้ - ประกาศเผยแพร่ขอ้ มูลโครงการใหป้ ระชาชนท่วั ไป ณ สถานทท่ี ่กี ําหนด - ประชุมปฐมนิเทศช้แี จงโครงการใหแ้ ก่ผูท้ ีเ่ กย่ี วข้องอยา่ งน้อย ๒๐๐ คน - แจกแผน่ พบั อย่างน้อย ๒,๕๐๐แผ่นใหแ้ ก่ประชาชนในชมุ ชน - ตดิ ต้ังปูายประกาศอย่างน้อย ๓ แห่ง ในพ้นื ที่ - ประกาศในเวบ็ ไซต์สาํ นกั นายกรฐั มนตรแี ละเว็บไซตอ์ น่ื ๆ ท่กี ําหนด - จดั ตง้ั ตั้งศูนยร์ ับฟงั ข้อมลู และความเห็นจากคนในชมุ ชน - ประชาสมั พนั ธ์ผา่ นส่อื ท้องถ่ิน (เชน่ วิทยุชมุ ชน เสยี งตามสาย หรอื อ่นื ๆ) ประชุมกลมุ่ ย่อยเพอ่ื ชี้แจงโครงการและผลการศึกษา โดยดาเนนิ การดงั นี้ - จดั ประชมุ ร่วมกบั ผูน้ ําชุมชน และตวั แทนหน่วยงานราชการอย่างนอ้ ย ๒๐ คน - จัดประชุมร่วมกับผปู้ ระกอบการโรงรมลาํ ไยและพ่อคา้ คนกลางผู้รับซือ้ ลาํ ไยอย่างน้อย ๒๐ คน - จดั ประชุมรว่ มกับเกษตรกรผปู้ ลูกลําไยอย่างน้อย ๓๐ คน ๔

โครงการจัดทาประชาพิจารณ์เพ่อื รบั ฟงั ความคิดเห็นของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายลุ าไยสง่ ออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี - จดั ประชุมรว่ มกบั ประชาชนทั่วไปท่อี ย่ใู นพน้ื ทีซ่ ง่ึ อาจไดร้ ับผลกระทบอย่างนอ้ ย ๓๐ คน จดั ทาประชาพิจารณ์ จากผทู้ เี่ กยี่ วขอ้ งอย่างน้อย๓๐๐ คน ประกาศผลการจัดทาประชาพิจารณ์ ณ สถานที่ท่ีกาหนด ภายใน ๑๕ วนั หลงั การจัดทาประชาพิจารณ์ สรุปผลการดาเนินการและจดั ทารายงาน ๑.๑.๔ ระยะเวลาการดาเนนิ งาน จาํ นวน ๑๒๐ วนั นบั จากวันลงนามในสัญญา ๑.๑.๕ ข้ันตอนการดาเนินการ ขน้ั ตอนการดาเนินงานจะเปน็ ไปตาม แผนภาพด้านลา่ ง ๕

โครงการจดั ทาประชาพิจารณเ์ พื่อรับฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายลุ าไยสง่ ออกเพือ่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน แตง่ ต้งั คณะกรรมการประชาพจิ ารณ์ ศกึ ษาของพ้นื ที่และความเห็นประชาชนในพ้นื ทท่ี ่อี าจไดร้ ับผลกระทบ  ผลที่ไดจ้ ากการดาเนินโครงการ ดา้ นส่ิงแวดลอ้ มดา้ นเศรษฐกิจและ สังคม กาหนดรูปแบบและประเดน็ การทาประชาพิจารณ์อยา่ งมีส่วนร่วมจากผนู้ าชมุ ชน ชุมชน และขา้ ราชการที่เกย่ี วขอ้ ง การรวบรวมขอ้ มลู คดั เลอื กบคุ คลทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ผมู้ สี ิทธิแสดงความคดิ เห็น คดั เลือกบคุ คลผูช้ ้แี จง กาหนดหลกั เกณฑ์ วธิ ีการทาประชาพิจารณ์ การประชาสัมพนั ธ์ การรับฟังความเหน็ การแลกเปล่ยี นเรียนรู้ ประชาสัมพนั ธข์ อ้ มูลโครงการ ประชุมกลุ่มยอ่ ยใหข้ อ้ มูลโครงการท้งั หมด และ ผลการศึกษา ประชมุ ประชาพจิ ารณ์ สรุปผลการทาประชาพิจารณ์ ประกาศผลการทาประชาพจิ ารณ์ (ภายใน ๑๕ วนั หลงั การประชุมประชาพิจารณ์) สรุปผลการดาเนินการและจดั ทารูปเลม่ ๖

โครงการจดั ทาประชาพิจารณเ์ พอ่ื รับฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายลุ าไยส่งออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑.๑.๖ การแต่งต้งั คณะกรรมการประชาพจิ ารณ์ ๑. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ชาตรี เรอื งเดชณรงค์ ประธานคณะกรรมการ ๒. นายฤาชัย กนั ทาคง กรรมการ ๓. นางทวีวรรณ ชํานาญอาสา กรรมการ ๔. นายสมชาย สรุ ิโยดร กรรมการ ๕. นายเอกอมั พร อปุ ละกุล กรรมการ ๖. นายชานนท์ อินทนนท์ กรรมการ ๗. นางเกศริน เมฆขลา กรรมการ ๘. นายมนู นอ้ ยมณวี รรณ์ กรรมการ ๙. ส.อ.สุพจน์ คุณาวงค์ กรรมการ ๑๐.นายสเุ ทพ จันดง กรรมการ ๑๑.นายพรชยั วิสทุ ธศิ กั ดิ์ กรรมการ ๑๒.นางสาวพทุ ธวรรณขนั ตน้ ธง กรรมการและเลขานุการ ๑.๒ ข้อมลู พ้นื ฐานของผู้ซึง่ อยใู่ นพื้นทีท่ ่ไี ดร้ ับผลกระทบ ๑.๒.๑ ขอ้ มูลพน้ื ฐานลกั ษณะพื้นที่๑ ลักษณะทตี่ ั้ง /อาณาเขต เทศบาลตาํ บลวงั ผาง ต้ังอยใู่ นเขต อําเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลําพูน อยู่ห่างจากท่ีว่าการอําเภอเวียง หนองลอ่ งประมาณ ๗ กิโลเมตร โดยอยู่ห่างจากอําเภอเมืองจังหวัดลําพูนประมาณ ๓๕ กิโลเมตร และห่างจาก อําเภอเมอื งจังหวดั เชยี งใหม่ประมาณ ๖๐ กิโลเมตร มีพ้ืนท่ีครอบคลมุ ท้ังตําบลวงั ผางจํานวน ๑๐ หมู่บ้าน มีพ้ืนท่ี ประมาณ ๒๒.๒๐ ตารางกิโลเมตร สํานกั งานเทศบาลตําบลวงั ผาง ตัง้ อยเู่ ลขที่ ๙๙ หม่ทู ี่ ๙ บ้านกลางทุง่ ตาํ บลวงั ผาง อาํ เภอเวียงหนองล่อง จงั หวดั ลาํ พูน โดยมอี าณาเขตติดต่อ ดงั น้ี -ทศิ เหนือ ตดิ ต่อกับ ตาํ บลขว่ งเปา อาํ เภอจอมทอง จงั หวดั เชียงใหม่ -ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กับ ตําบลศรีเตย้ี อาํ เภอบ้านโฮ่ง จงั หวดั ลําพนู -ทิศตะวันออก ตดิ ตอ่ กบั ตําบลนาํ้ ดบิ อําเภอปาุ ซาง จงั หวดั ลําพูน -ทิศตะวนั ตก ติดตอ่ กับ ตาํ บลหนองล่องอําเภอเวียงหนองล่อง จงั หวัดลําพนู ๑ข้อมลู เก่ยี วกับพ้ืนท่ี ทางคณะผู้ทําประชาพิจารณ์ จะอ้างอิงจากข้อมูลท่ีได้รับมา จากเทศบาลวังผาง ซึ่งเป็นข้อมูลจากแผนพัฒนาสามปี ๒๕๕๖ – ๒๕๕๘ เทศบาลตาํ บลวังผาง กองวชิ าการและแผนงาน Division Of Planning ๗

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณเ์ พื่อรบั ฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยสง่ ออกเพ่ือแกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ลักษณะภูมิประเทศและลกั ษณะภูมิอากาศ สภาพภมู ปิ ระเทศ สภาพพ้ืนท่ขี องเทศบาลตําบลวงั ผางเป็นทีร่ าบลมุ่ สภาพดินโดยทัว่ ไปเปน็ ดนิ เหนยี วปนทราย สภาพภมู ิอากาศ สภาพภูมิอากาศของตําบลวังผางมอี ณุ หภูมิเฉลย่ี ประมาณ ๒๕ – ๓๕ องศาเซลเซยี ส มี ๓ ฤดู คือ - ฤดูรอ้ น เริ่มประมาณต้ังแต่เดอื น กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม - ฤดูฝน เรม่ิ ประมาณตั้งแตเ่ ดอื น มิถนุ ายน - กันยายน - ฤดูหนาว เร่ิมประมาณตงั้ แต่เดอื น ตุลาคม - มกราคม เศรษฐกิจและสังคมในเทศบาลตาบลวงั ผางโดยรวม ประชากรในเขตเทศบาลตาํ บลวังผาง มีศลิ ปวฒั นธรรมและประเพณีเป็นของตนเอง ประชากรส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ผลผลติ ทางการเกษตรที่ทํารายไดใ้ หแ้ ก่เกษตรกรสว่ นใหญ่ ได้แก่ ลําไย ข้าว ข้าวโพด เลีย้ งสัตว์ และพืชผกั ต่าง ๆ เชน่ ผักกวางตุ้ง ผกั บ้งุ ผักชี ต้นหอม ฯลฯ และมีประชากรบางส่วนมีรายได้จากอาชีพ เสริมและจากภูมิปัญญาท้องถ่ิน เช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การรวมกลุ่มผลิตปลาส้ม และงาน หัตถกรรม โดยประชากรส่วนใหญ่ไม่นิยมไปทํางานนอกบ้านหลังฤดูเก็บเกี่ยว เนื่องจากมีงานทําในชุมชน ทําให้ ชมุ ชนมคี วามเข้มแขง็ ๘

โครงการจัดทาประชาพิจารณเ์ พอื่ รบั ฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพ่อื แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ประชากร ตารางแสดงจานวนประชากรในเขตตาบลวงั ผาง หมู่ที่ ชอ่ื หมู่บ้าน จานวนประชากร (คน) จานวนครวั เรอื น ชอื่ ผ้นู า ชาย หญิง รวม ๑. เหลา่ แมว ๕๒๓ ๖๑๓ ๑,๑๖๕ ๔๔๒ นายปรชี า แดงซอน ๒. เหล่าปงเสือ ๔๑๑ ๔๓๐ ๘๔๑ ๓๐๑ นายถนอม จาชัย ๓. ร้องธาร- ท่าล่ี ๑๒๔ ๑๔๓ ๒๖๗ ๑๓๒ นายถนอม ไชยเดช ๔. วงั ผาง ๓๓๓ ๓๙๗ ๗๓๐ ๒๘๕ นายสิงห์ทอง ตะ๊ วนั ๕. ดงหลวง ๗๖๐ ๗๘๒ ๑,๕๔๒ ๕๒๓ นายฤาชยั กนั ทาดง ๖. เวียงหนองลอ่ ง ๘๓๐ ๘๘๒ ๑,๗๑๒ ๗๑๖ นายศรวี รรณ พรมคาํ ตัน ๗. วังหมุ้น ๑๕๔ ๑๔๓ ๒๙๗ ๑๐๒ นายบญุ สง่ คาํ แปง ๘. ดงเหนือ ๒๒๐ ๒๑๗ ๔๓๗ ๑๕๗ นายณฐั พล ตาจมุ ปา ๙. กลางทงุ่ ๑๖๙ ๑๘๓ ๓๕๒ ๑๓๖ นายสรุ ยิ นต์ คําหล่อ ๑๐. ดงเจริญ ๓๒๘ ๓๑๕ ๖๔๓ ๒๐๑ นายสุเทพ จนั ทร์ดง รวม ๓,๘๔๙ ๔,๑๓๗ ๗,๙๘๖ ๓,๐๐๓ ทม่ี า*ข้อมูลเดือน เมษายน ๒๕๕๕ แผนพัฒนาสามปี ๒๕๕๖ – ๒๕๕๘ เทศบาลตาํ บลวังผาง กองวชิ าการ และแผนงาน Division Of Planning ตาราง ปริ ามิดประชากร(การคาดการณ์ในอนาคต) ปิ รามิดประชากร ก ุ่ลมอา ุย 75-79 60-64 45-49 % ชาย % หญิง 30-34 15-19 00-04 64202468 ร้ อยละ ทีม่ า: งานแผนและงบประมาณ กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลตาํ บลวงั ผาง ๙

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณ์เพอ่ื รับฟงั ความคดิ เห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายลุ าไยสง่ ออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ขอ้ มูลการประกอบอาชพี และขอ้ มลู ธุรกิจในเขตตาบลวงั ผาง อาชพี สว่ นใหญป่ ระชาชนประกอบอาชพี เก่ียวกบั การเกษตรเช่นทาํ นา ทําสวนลาํ ไย ปลกู พืชหมนุ เวียน และการ แปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รายไดจ้ ะแปรผันตามราคาสนิ คา้ การเกษตรในแต่ละฤดกู าล หนว่ ยธรุ กจิ ในเขตเทศบาลตาบลวังผาง ในเขตเทศบาลตําบลวังผางมีโทรคมนาคมและมีโทรศัพท์สาธารณะ จํานวน ๘แห่ง และทาง องคก์ ารโทรศพั ทไ์ ดม้ าดาํ เนินการตดิ ตง้ั ตโู้ ทรศัพทส์ าธารณะเพิ่ม สว่ นโทรศัพท์ส่วนบุคคลเดินสายครบทุกหมู่บ้าน และมีท่ีทําการไปรษณีย์ขนาดเล็ก จาํ นวน ๑แหง่ ตง้ั อยทู่ ี่ บ้านเวยี งหนองล่อง หมู่ที่ ๖และสามารถรับฟังข่าวสาร จากส่อื ต่างๆ ไดอ้ ยา่ งสะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะเปน็ วิทยุ โทรทศั น์ แล หนงั สอื พิมพ์ การศึกษา ในชมุ ชนเทศบาลตําบลวงั ผางมสี ถาบันการศึกษา ท้ังหมด ๕ แหง่ เปดิ สอนต้ังแต่ประถมศกึ ษามี ๕ แห่งและ มธั ยมศึกษา ๑ แหง่ (ขยายโอกาสทางการศึกษา) คอื โรงเรยี นวดั บา้ นดงสถานบันการศกึ ษาเหลา่ น้กี ระจายอยู่ท่ัวไป ในเขตเทศบาลตาํ บลวังผางการใหบ้ รกิ ารศกึ ษาในชุมชนเปน็ การใหบ้ รกิ ารของภาครฐั เป็นสว่ นใหญ่ จํานวนนักเรยี น มีท้ังสิ้น ๘๔๑ คน ส่วนใหญ่กําลังศึกษาระดับประถมศึกษาและนักเรียนในระดับมัธยมศึกษารายช่ือสถานศึกษา ภายในเขตเทศบาลตาํ บลวังผาง ๑. โรงเรยี นวดั บา้ นดง(ประถมศกึ ษา/ขยายโอกาส) ๒. โรงเรยี นบ้านเหล่าปงเสือ(ประถมศกึ ษา) ๓. โรงเรยี นบา้ นวังผาง(ประถมศึกษา) ๔. โรงเรยี นวัดบา้ นเวยี ง (ประถมศึกษา) ๕. โรงเรยี นบา้ นร้องธาร- ท่าล่(ี ประถมศกึ ษา) ๖. ศูนยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ เทศบาลตําบลวงั ผาง วดั และองคก์ รทางศาสนา ในเขตวางผังเมอื งประชาชนส่วนใหญน่ ับถอื ศาสนาพุทธ ฉะนั้นงานพิธีกรรมทางศาสนาในแต่ละครั้ง จะมี ประชาชนเข้าร่วมเป็นจํานวนมาก และมีการจัดงานประเพณีขึ้นเป็นประจําทุก ๆ ปี เพื่อเป็นการอนุรักษ์ ขนบธรรมเนียมประเพณดี ้งั เดมิ ใหส้ บื ตอ่ ไป มี ศาสนสถาน ๖ แหง่ ไดแ้ ก่ ๑. วดั บา้ นดง ๒. วัดเหลา่ ปงเสือ ๓. วดั บา้ นเวยี ง ๔. วดั รอ้ งธาร- ทา่ ลี่ ๕. วดั วงั ผาง ๖. สํานกั สงฆ์ดงเหนอื ประชาชนส่วนใหญน่ บั ถอื ศาสนาพทุ ธ ฉะนัน้ งานพิธีกรรมทางศาสนาในแต่ละครั้งจะมีประชาชนเข้าร่วม เป็นจาํ นวนมาก มีการจัดงานประเพณขี ้ึนเปน็ ประจําทุกๆปี เพอ่ื เปน็ การอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม ประเพณีดั่งเดิมให้ สืบตอ่ ไป เขตเทศบาลมีสถานประกอบทางศาสนาดงั น้ี คอื วัด ๕แหง่ สํานกั สงฆ์ ๑ แห่ง ๑๐

โครงการจัดทาประชาพิจารณ์เพือ่ รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายลุ าไยสง่ ออกเพื่อแกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การสาธารณสขุ ในเขตวางผังเมืองมีสถานบริการสาธารณสุข ๒ แห่ง คือสถานีอนามัยบ้านดงหลวง หมู่ที่ ๕ และ สถานีอนามัยบ้านกลางทุ่ง หมู่ ๙ ตาํ บลวังผาง ซึ่งบริการด้านสาธารณสุขมูลฐานและสุขอนามัยเบื้องต้นและมี สถานบริการทางการแพทย์ท่ีอยู่ใกล้เคียงคือ โรงพยาบาลจอมทอง ห่างจากสํานักงานเทศบาลประมาณ ๑๐ กิโลเมตร และโรงพยาบาลปุาซาง อําเภอปุาซาง ห่างจากเทศบาลประมาณ ๒๐ กิโลเมตร ความปลอดภัยในชวี ิตและทรพั ย์สนิ สถานีตาํ รวจภูธร ๑ แห่ง การคมนาคม สําหรบั การคมนาคมในเขตเทศบาลของชมุ ชนในแต่ละหมู่บา้ นเปน็ ถนนคสม. และคสล.เชื่อมตดิ ตอ่ กนั โดย ตลอดสภาพถนน ในเขตเทศบาลส่วนใหญ่มสี ภาพ ใช้งานได้มสี ัญญาณไฟจราจรในบริเวณจุดที่มีประชาชนสญั จรไป มาอยู่เปน็ ประจาํ และทส่ี าํ คญั เป็นย่านจุดชุมชนเปน็ แหล่งตลาดการซอื้ ขายสนิ ค้า การโทรคมนาคม ในเขตเทศบาลตาํ บลวังผางมีโทรคมนาคมและมีโทรศพั ทส์ าธารณะ ขององค์การโทรศพั ทไ์ ด้มาดําเนินการ ติดตั้งตโู้ ทรศัพทส์ าธารณะเพิ่ม ส่วนโทรศพั ท์สว่ นบุคคลเดนิ สายครบทุกหมู่บ้าน และมที ท่ี ําการไปรษณีย์ขนาดเล็ก จํานวน ๑แหง่ ตัง้ อยทู่ ี่ บ้านเวยี งหนองลอ่ ง หมู่ที่ ๖และสามารถรบั ฟงั ขา่ วสารจากสื่อต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไมว่ า่ จะเป็น วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสอื พิมพ์ การไฟฟา้ ทุกหมูบ่ ้านในเขตเทศบาลตําบลวังผางมีกระแสไฟฟูาใช้ทุกครัวเรือนขาดเพียง ส่วนท่ีมีการใช้ไฟฟูาเพ่ือ การเกษตร อาทิ ในสวน ทุ่งนาและไฟฟาู สาธารณะ (ไฟกง่ิ ) ตามซอยและถนนบางสายภายในเขตเทศบาลตําบลวัง ผาง แหล่งนา้ ธรรมชาติ มแี ม่นํ้าปิง และแม่นํ้าล้ี ไหลผ่านหมู่บ้านและประปาหมู่บา้ นครบทุกหมูบ่ ้าน มวลชนจดั ต้ัง ๑๕๐ คน ๑. อปพร. ๒ รุ่น ๑๐คณะ ๒. คณะกรรมการพฒั นาสตรีหมบู่ ้าน ๑คณะ ๓. คณะกรรมการพัฒนาสตรตี าํ บล ๑๐คณะ ๔. คณะกรรมการกองทุนหมบู่ ้าน ๑๑

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณเ์ พือ่ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายลุ าไยสง่ ออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ข้อมูลแสดงจานวนหมบู่ ้าน/ชมุ ชน ในเขตเทศบาลตาบลวังผาง ประวตั ิบา้ นเหลา่ แมว หมู่ท่ี ๑ ตาบลวังผาง อาเภอเวียงหนองลอ่ ง จงั หวัดลาพูน ประวัติความเป็นมาของหมู่บา้ นเหลา่ แมว บา้ นเหลา่ แมว กอ่ ต้งั ขึน้ มานานกว่า ๒๐๐ ปี ตามปูุย่าตายาย เลา่ สืบกนั มาว่า เดมิ ที่เป็นปุา มรี าษฎรอาศัย อยู่ไมม่ ากนัก ไมม่ ากนัก มคี ร้งั หนง่ึ เกิดอุทกภัยน้ําท่วมในหมู่บ้านมาก ได้มีกระโจม หรือ ท่ีพ่ีน้องชาวบ้านเรียก ตามภาษาพ้ืนบา้ นว่า (แมวควบล่องหรือหีบศพ )ทใี่ ชค้ รอบบนโลงศพ สว่ นโลงศพหรือหีบศพได้จมลงพื้นที่หมู่ท่ี ๖ บา้ นเวียงหนองลอ่ ง สว่ นแมวควบได้ลอยมาติดทีใ่ นหมู่บ้านเหลา่ เเมว และต้ังแต่นั้นมาชาวบ้านจึงไดข้ นานนามวา่ ( หมู่บา้ นเหล่าแมว ) สมัยนนั้ ผู้นาํ ในหมู่บา้ นคอื นายอา้ ย ไชยเสน และนายแก้ว ศรีหล้า ต่อมามีนายหลวงจันทร์ จ่อ และต่อมาได้เป็นกํานันปกครองในตําบลวังผาง และต่อมา พ่อบุญศรี ปรีดํา ได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน และได้ดํารง ตําแหนง่ กํานนั ในตําบลวังผาง ต่อมาราษฎรได้ขอแยกหมู่บ้านมาเป็นหมู่ท่ี ๑ ตําบลวังผาง อําเภอปุาซาง โดยมี พ่อนวล ยะใจ ได้ดํารงตําแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมานาน ๘ ปี และต่อมาได้รับคัดเลือกเป็นกํานันตําบลวังผางในปี พ.ศ.๒๕๔๖และดาํ รงตาํ แหน่งจนกระท่งั อายุครบ ๖๐ ปี เม่ือปีพ.ศ. ๒๕๔๐ และนบั จากนนั้ มา ชาวบา้ นได้คัดเลือก นายประสทิ ธิ์ แกว้ เมือง เปน็ ผู้ใหญบ่ า้ นจนครบวาระ ต่อมามีนายสุรพล ตาจุมปา และหมดวาระลง จนปัจจุบันมี นายปรชี า แดงซอน เปน็ ผูใ้ หญ่บ้านคนปจั จุบัน ประวัตบิ า้ นเหล่าปงเสือ หม่ทู ี่ ๒ ตาบลวังผาง อาเภอเวยี งหนองล่อง จงั หวัดลาพนู บ้านเหล่าปงเสือตั้งมาประมาณ ๑๕๐ ปี เดิมลักษณะทางกายภาพหมู่บ้านเป็นปุาดง มีเสืออาศัยอยู่มี ราษฎรอาศยั อยเู่ ปน็ คนแรก คือ พอ่ หลวงอุ่น ศรีกุณะ ตอนแรกได้นําวัวของเจ้าหลวงเหมาพิณทุ มาเลี้ยงแบ่งกัน ต่อมาไดม้ ีคนเขา้ มาทําไร ทาํ นาเป็นราษฎรมาจากจงั หวดั แพร่ และจังหวดั ลาํ พูน ทําให้มีราษฎรจาํ นวน ๓๐ หลังคา เรอื น มีพ่อปวง หลวงเมือง เปน็ ผ้ใู หญบ่ า้ นคนแรก ในตอนแรกบ้านเหล่าปงเสอื ยังรวมกบั บา้ นเวียงหนองลอ่ ง หมู่ที่ ๘ ต.วงั ผาง (ในขณะนั้น) ประมาณพ.ศ.๒๔๙๐ มีผู้นําหมู่บ้าน คือ นายหน่อ ปาละก้อน ปกครองหมู่บ้านต่อจาก พ่อหลวงมอ่ น ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ บา้ นเหล่าปงเสือ ได้แยกจากบ้านเวียงหนองล่องตั้งเป็นหมู่บ้านที่ ๒ บ้าน เหล่าปงเสือโดยมนี ายสุ่ม จาชยั เปน็ ผู้ใหญ่บา้ นจากนายสมุ่ จาชัย โดยมีนายตา๋ คํา ใจพยกั เปน็ ผู้ใหญ่บ้านต่อมาใน ปพี .ศ.๒๕๓๗ มนี ายอุดม ตุ้ยแพร่ เป็นผู้ใหญ่บ้านและหมดวาระไป ปัจจุบันมี นายถนอม จาชัย เป็นผู้ใหญ่บ้าน เหล่าปงเสอื ประวัติความเปน็ มาบา้ นรอ้ งธาร-ท่าล่ี หมทู่ ี่ ๓ ตาบลวงั ผาง อาเภอเวยี งหนองล่อง จังหวดั ลาพนู บา้ นรอ้ งธาร-ท่าล่ี หม่ทู ี่ ๓ ตาํ บลวังผาง อําเภอเวยี งหนองลอ่ ง จงั หวดั ลาํ พูน ตัง้ มานากล่า ๑๒๐ ปีมาแล้ว โดยการสร้างวัดร้องธาร เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๒๘ มีพื้นท่ีรบลุ่มติดกับแม่น้ําปิง มีความยาวประมาณ ๑,๖๐๐ เมตร ปัจจุบนั มี ๘๐ ครวั เรือน สว่ นมากมีอาชพี รับจา้ ง เกษตร และค้าขาย เวลาว่างจะมีอาชีพเสริมในการจับปลาขาย (เดมิ ขึ้นอยู่กบั อาํ เภอปากบอ่ ง ตอ่ มาเปลี่ยนเป็นอําเภอปุาซาง และได้รวมกันหลายตําบลมาตั้งเป็นก่ิงอําเภอเสียง หนองลอ่ ง ในท่สี ุดเปน็ อําเภอเวยี งหนองล่อง) หมู่บ้านร้องธารท่าลี่เคยเป็นแหล่งศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในแถบน้ี โดยการสง่ สินค้าจากกรงุ เทพฯ ผา่ นทางรถไฟมาลงท่ีเชยี งใหม่ และสมันนั้นรถยนต์บ้านเรายงั ใช้ทา่ นแทนนา้ํ มัน นาํ สินค้ามาส่งทีแ่ ม่นํ้าทา่ ล่ี การส่งสนิ คา้ จะมอี ยู่ ๒ ทาง คอื ทางนํ้าและทางบก ทางน้ํา โดยการใชล้ ํานํ้าปิงเป็นเส้นทาง คมนาคม ใช้เรอื และแพทท่ี ําด้วยไมไ้ ผล่ ําเลยี งสินค้าจากบ้านทา่ ลผ่ี า่ นไป เช่น อําเภอจอมทอง อําเภอฮอด อําเภอ ดอยเต่า อําเภอแม่พริก อําเภอสามเงา อําเภอเมือง จังหวัดตาก แพบางลํา ล่องไปถึงอําเภอปากนํ้าโพจังหวัด นครสวรรค์ โดยจะเห็นได้วา่ ปัจจุบันคนในพ้นื ท่ีทีเ่ ป็นเลือดเนือ้ เชื้อไขของคนปากน้าํ โพมา จนี ไทยใหญ่ ที่มาคา้ ขาย ๑๒

โครงการจัดทาประชาพิจารณ์เพอ่ื รับฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพ่ือแกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยังหลงเหลืออยู่ทุกวันนี้ ทางบก จะใช้เกวียนเป็นยานพาหนะ โดยการใช้เส้นทางผ่านอําเภอเวียงหนองล่อง ปัจจุบัน อําเภอบ้านโฮ่ง อําเภอทุ่งหัวช้าง และอําเภอลี้ จากการส่งสินค้ารวมกันแล้วเป็นระยะทางกว่า ๑๐๐ กิโลเมตร แสดงให้เห็นว่าหมู่บ้านท่าลี่เคยเป็นศูนย์การค้าท่ีใหญ่ที่สุดในแถบน้ี มีนายประยงค์ หลวงเหล็ก เป็น ผใู้ หญ่บ้านและได้หมดวาระลง และมีนายและปัจจุบันมีนายถนอม ไชยเดช เป็นผใู้ หญ่บา้ นคนปจั จุบันคนปจั จบุ ัน ประวตั คิ วามเป็นมาบ้านวงั ผาง หมูท่ ี่ ๔ ตาบลวังผาง อาเภอเวยี งหนองล่อง จังหวัดลาพนู ประวตั ขิ องหมบู่ ้านวังผาง หมทู่ ี่ ๔ ต.วงั ผาง อ.เวยี งหนองล่อง จ.ลาํ พนู ตามทีผ่ ูเ้ ฒา่ ผู้แก่ เลา่ มาวา่ หมูบ่ า้ น วังผาง ต้ังมาประมาณ ๑๖๐ ปี เดิมทหี่ มูบ่ ้านวังผาง มีราษฎรมาอยู่ไม่กี่หลังคาเรือน แต่ก่อนเคยเป็นปุาทึบและมี ตน้ ไม้มาหลายชนดิ แตม่ ีต้นไมท้ ่ีมีอยมู่ ากกว่าตน้ ไม้อ่นื ๆ คือ ต้นมะปราง (มะผาง) ต่อมามีราษฎรหลายถ่ินได้ย้าย เข้ามาอยอู่ าศยั ต่อมาก็ตัง้ เป็นหมู่บา้ นชือ่ หมบู่ า้ นกค็ ือ บ้านวงั ผาง และก็มผี ้นู าํ หรอื ผใู้ หญบ่ า้ นหลายคนสืบต่อกนั มา จนมาถึงยคุ ปจั จุบนั มี นายสงิ ห์ทอง ตะ๊ วนั เป็นผู้ใหญ่บา้ น ประวตั ิความเป็นมาบา้ นดงหลวง หม่ทู ี่ ๕ตาบลวงั ผาง อาเภอเวียงหนองล่อง จังหวดั ลาพนู บ้านดงหลวงในอดีตบริเวณหมบู่ ้านเป็นปาุ ไมด้ งทบึ มีตน้ ไมข้ นาดใหญ่อยเู่ ต็มไปหมด หมูบ่ า้ นดงหลวงต้ังถิ่น ฐานคร้งั แรกไม่มีใครทราบเลยเนอ่ื งจากคนรุ่นกอ่ นไม่มใี ครบันทึกไวร้ าษฎรรุ่นแรก ของบ้านดงหลวงอพยพมาจาก อําเภอหางดง จังวัดเชียงใหม่ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ มีแม่นํ้าสองสายไหลผ่านหมู่บ้านเหมาะกับการทํา เกษตรกรรมจงึ มีผคู้ นเข้ามาอาศยั มากข้ึนจนกลายมาเปน็ หมู่บา้ นท่ีมีประชากรหนาแนน่ ตามลําดับ และต่อมาบ้าน ดงหลวงได้แบ่งแยกออกเป็นอกี ๓ หมู่บ้าน คือ บา้ นวงั หมุ้น หมูท่ ี่ ๗บา้ นดงเหนือ หมู่ท่ี ๘ และบา้ นดงเจริญ หมู่ท่ี ๑๐ ปัจจบุ ันมีนายฤาชัย กนั ทาดง เป็นผใู้ หญ่บา้ นและกาํ นันตําบลวังผาง ประวตั ิความเป็นมาของหมู่บา้ น เวียงหนองล่องหมู่ที่ ๖ตาบลวงั ผาง อาเภอเวียงหนองล่อง จังหวดั ลาพนู บ้านเวียงหนองล่อง หมู่ที่ ๖ ต.วงั ผาง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลําพูน ประวัติก่อนเคยเป็นเมืองเก่าหน้าด่าน สมัยต่อสู้กับพม่ายุค ๓๑๕ ปีก่อน จากนั้นเป็นเมืองร้างร่วมกว่า ๒๐๐ ปี ก็มีเจ้าจันราชาหรือเจ้าจันราจาได้นํา ราษฎรสมยั น้นั บกุ เบิกสรา้ งหม่บู ้านขึ้นใช้ชื่อวา่ บ้านเวยี งจันทรบุรี ต่อมาได้เปลีย่ นชื่อหม่บู า้ นมาเปน็ บา้ นเวยี งหนอง ลอ่ งรว่ ม ๑๑๕ ปี ผู้ใหญ่บ้านคนแรกช่ือพ่อหลวงคํา ครองรัตน์ จนถึงปัจจุบันมีผู้ใหญ่บ้าน รวม ๙ คน ประชากร ส่วนใหญ่ทําเกษตรกรรมและค้าขาย บ้านเวียงหนองล่องเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่มีประชากร ๑,๘๘๔ คน ๖๐๗ หลังคาเรือน แยกเป็นชาย ๙๒๙ คน หญิง ๙๕๕ คน มีสถานศึกษามีจํานวน ๑ แห่ง คือ โรงเรียนวัดบ้านเวียง หนองล่อง และวัดจํานวน ๑ แห่ง คือ วัดบ้านเวียงหนองล่องปัจจุบันมีนายศรีวรรณ พรมคําตัน เป็นผู้ใหญ่บ้าน บา้ นเวยี งหนองล่อง คนปัจจบุ ัน ประวัติความเปน็ มาบา้ นวังหมุ้น หมทู่ ี่ ๗ตาบลวงั ผาง อาเภอเวยี งหนองล่อง จังหวดั ลาพูน หมบู่ า้ นวงั หมุ้น หมูท่ ี่ ๗ ตาํ บลวังผาง แต่เดิมอยภู่ ายใตก้ ารปกครองของหมทู่ ่ี ๕ ดงหลวง แต่ภายหลังไดท้ ํา การแยกมาเปน็ หมูท่ ่ี ๗ วงั หมุน้ ต.วงั ผาง ปพี .ศ.๒๕๒๖ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อว่า บ้านวังหมุ้นโดยมีการเล่าว่าเป็น บา้ นทแ่ี ม่น้ําไหลผ่านและมตี น้ หมากหมุ้นอยู่ริมตลิง่ และมีวงั นํา้ อยู่ใตต้ น้ หมากหมนุ้ เปน็ ตวั ท่ลี ึกจนชาวบ้านเรียกกัน ว่าหมากหมุ้น ต่อมาภายหลังคําว่าหมากหายไปจึงมีชื่อว่าวังหมุ้นจนถึงปัจจุบันโดยมีนายบุญส่ง คําแปง เป็น ผู้ใหญบ่ า้ น คนปัจจุบนั ๑๓

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณ์เพือ่ รับฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยดื อายุลาไยส่งออกเพ่ือแกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประวัติความเป็นมาบา้ นดงเหนอื หม่ทู ี่ ๘ ตาบลวังผาง อาเภอเวียงหนองล่อง จงั หวัดลาพูน บา้ นดงเหนือ หม่ทู ี่ ๘ ตาํ บลวังผาง อําเภอเวียงหนองลอ่ ง จังหวัดลาํ พนู แตเ่ ดิมอยู่ในเขตการปกครองของ บ้านดงหลวง หมทู่ ี่ ๕ แต่เนอ่ื งจากมีปริมาณจาํ นวนราษฎรและหลังคาเรือนจํานวนมาก จึงได้ แยกมาจากหมู่ที่ ๕ บา้ นดงหลวง ต.วงั ผาง อาํ เภอเวยี งหนองลอ่ ง จังหวัดลาํ พูนเม่อื วนั ท่ี ๒๖กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๘ ซึ่งตอนน้นั หมู่บ้าน ดงหลวงมีประชากรหนาแน่นมาก มีประมาณ ๑,๐๐๐ หลังคาเรือน ซึ่งยากต่อการพัฒนา ซึ่งแยกออกเป็น ๔ หมูบ่ า้ น ซึ่งบ้านดงเหนอื มรี าษฎรอยู่ ๑๓๕ ครวั เรือน หรอื ๔๕๓ คน โดยมผี ใู้ หญบ่ า้ นคอื นายวิรัช ดวงสะเกด็ และ ไดห้ มดวาระไป ซึง่ ปัจจบุ นั มใี หญ่บ้านคือ นายณฐั พล ตาจมุ ปา เปน็ ผูใ้ หญบ่ ้านคนปจั จุบัน ประวตั ิความเป็นมาบ้านบ้านกลางทุง่ หม่ทู ่ี ๙ ตาบลวังผาง อาเภอเวยี งหนองล่อง จงั หวดั ลาพนู บ้านกลางทงุ่ หมู่ที่ ๙ ตําบลวังผาง อาํ เภอเวยี งหนองลอ่ ง จังหวัดลําพูน แต่เดิมเป็นทุ่งนา ต้ังอยู่ระหว่าง บ้านเหลา่ แมว บ้านเวียงหนองล่อง บา้ นทา่ ลี่ เมื่อราษฎรจากหมูบ่ า้ นขา้ งเคียงอพยพมาตั้งบ้านเรือน ทําสวน ทํา นา กเ็ กิดชุมชนขึ้น ได้ตั้งช่ือว่าบ้านกลางทุ่ง อยู่ในเขตปกครองเดียวกันกับบ้านท่าล่ี หมู่ท่ี ๓ ตําบลวังผาง เมื่อมี จาํ นวนครวั เรอื นมากขน้ึ ได้ขอแยกการปกครองจากบา้ นทา่ ล่ี หมทู่ ี่ ๓ มาเป็นบ้านกลางท่งุ หมู่ ๙ ตาํ บลวังผาง อยู่ ในเขตสุขาภิบาลและยกฐานะเป็นเทศบาล มีการยกเลิกตําแหน่งกํานันผู้ใหญ่บ้านอยู่ระยะหน่ึง ต่อมาก็คื นเป็น เหมือนเดิม และมี นายจํารัส จันทร์สุข เป็นผู้ใหญ่บ้าน จนหมดวาระไป จนปัจจุบันมีนายสุริยนต์คําหล่อเป็น ผู้ใหญบ่ า้ นคนปัจจุบัน ประวัตคิ วามเปน็ มาบา้ นดงเจรญิ หม่ทู ี่ ๑๐ ตาบลวังผาง อาเภอเวียงหนองลอ่ ง จังหวดั ลาพนู บ้านดงเจรญิ เปน็ หมู่บา้ นขนาดกลาง อยูใ่ นเขตของเทศบาลตําบลวังผางหมู่ท่ี ๑๐ ต.วังผาง อ.เวียงหนอง ลอ่ ง จ.ลาํ พนู แยกมาจากบา้ นดงหลวง หม่ทู ี่ ๕ ซึ่งเปน็ หมบู่ ้านขนาดใหญ่ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ปจั จุบันบา้ นดงเจริญมี ประชากรท้งั หมด ๖๖๔ คน มีผู้นําหมู่บ้านในอดีตถึงปัจจุบัน มีผู้นําดังนี้ นางสมศรี อุดดง ผู้นําอดีตนายสมศักดิ์ ทพิ วรรณ์ผูน้ ําในอดีตนายสเุ ทพ จนั ทร์ดงผนู้ ําคนปจั จบุ ัน ๑๔

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณเ์ พ่อื รับฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายลุ าไยสง่ ออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขอ้ มูลเก่ยี วกบั เทศบาลตาบลวงั ผาง องค์การเทศบาลประกอบด้วยสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี โครงสร้างการบริหารงานของเทศบาล ตาํ บลวงั ผาง ประกอบดว้ ย (ดโู ครงสร้าง) โครงสรา้ งการบริหารงานของเทศบาลตาบลวงั ผาง สภาเทศบาล นายกเทศมนตรี ที่ปรึกษานายกเทศมนตรี เลขานายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี ปลดั เทศบาล รองปลดั เทศบาล สานกั ปลดั กองวิชาการฯ กองคลงั กองชา่ ง กองสาธารณสุข กองการศึกษา กองสวสั ดิการ -งานธุรการ -งานธุรการ -งานธุรการ -งานธุรการ - งานธรุ การ - งานธุรการ - งานธุรการ - งานการเจ้าหน้าท่ี - งานวเิ คราะห์นโยบาย - งานการเงนิ และ - งาน - งานสุขาภบิ าล - งานบริหาร - งานสังคม - งานทะเบยี นและบัตร และแผน บัญชี สาธารณูปโภค และอนามัย การศกึ ษา สงเคราะห์ - งานป้ องกนั และ - งานประชาสัมพันธ์ - งานพสั ดุ - งาน - งานป้ องกนั และ - งานสวสั ดกิ ารเดก็ บรรเทาสาธารณภยั - งานนติ ิการ -งานพัฒนาและ วศิ วกรรม ควบคมุ โรคติดต่อ -งานกฬี าและ และเยาวชน จดั เกบ็ รายได้ - งานพฒั นาชุมชน นนั ทนาการ ๑๕

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณ์เพ่ือรบั ฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑.๒.๒ ผูป้ ระกอบการค้าลาไย ใน เขตอาเภอเวยี งหนองล่องครอบคลมุ ตาบลวงั ผาง จํานวนผู้ประกอบการรับซ้ือลําไย(ล้ง) พื้นที่อําเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลําพูน มีจํานวน ๒๔ – ๒๕ล้งมี จํานวนผปู้ ระอบการรับซื้อลําไยในพ้ืนท่ีอําเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลําพูน ท่ีมีการรมซัลเฟอร์จํานวน ๑๓ล้งมี รายช่ือดังน้ี ๑. โกดังเจอ๊ ๋นั เหลา่ แมว ๒. โกดงั สุพรรณ ๑ ๓. โกดังนัฐวฒั นจ์ นิ าติ ๔. โกดังกฤษดาปูแดง ๕. โกดงั เฮยี ตบ่ี ้านเหล่าปงเสือ ๖. โกดังเฮยี ฮันบ้านเหล่าดู่ ๗. โกดังจักรกฤษบา้ นเวียง ๘. โกดังบุญมปี ูแดงบา้ นเวียง ๙. โกดงั ลุงยศบ้านเวียง ๑๐.โกดงั คงสยามเจจ๊ อย ๑๑.โกดงั เฮยี ตนั หยงหนองลอ่ ง ๑๒.โกดังสพุ รรณ๒ บ้านต้นผ้งึ ๑๓.โกดงั ครูเพญ็ บ้านเวยี ง ๑.๒.๓ ขอ้ มลู ผลกระทบโครงการด้านสงิ่ แวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสังคม ข้อมูลผลกระทบโครงการดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ระบบและวิธีการการรมลาไยดว้ ยซลั เฟอร์ และปัญหาจากระบบการรมลาไยตอ่ สงิ แวดล้อม ระบบและวิธีการการรมลาไย ในปัจจุบนั โรงรมลาํ ไยสดมีวธิ ีการในการรมลาํ ไยด้วยซัลเฟอร์เพอื่ ยืดอายขุ องลาํ ไยสดในการท่ีจะสง่ ออกไป ต่างประเทศ ท้งั นสี้ าํ นกั วจิ ยั และพฒั นาวิทยาการหลงั การเก็บเก่ียวและแปรรปู ผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไดร้ วบรวมวธิ ีการท้งั หมดไว้ โดยในรายงานฉบับนไี้ ดน้ ําวิธีการท่ีสํานักวิจัยและพัฒนา วทิ ยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรปู ผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานไว้ ในกรอบดา้ นลา่ ง ๑๖

โครงการจดั ทาประชาพิจารณ์เพอื่ รับฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายลุ าไยส่งออกเพ่ือแกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระบบและวธิ ีการการรมลาไยสดด้วยซัลเฟอร์ สถานทีป่ ระกอบการและอาคารผลติ โรงรมลาไยสด สถานที่ต้ังของโรงรมควรจะอยูห่ า่ งจากชมุ นุมชนพอสมควรไมก่ อ่ ให้เกิดกลน่ิ รบกวนผอู้ าศยั ใกลเ้ คียง มี บริเวณกว้างขวางพอท่ีจะจัดวางวัตถุดิบและสินค้าเป็นสัดส่วนได้ มีที่จอดรถบรรทุกของเกษตรกรและ รถบรรทกุ ตขู้ นสง่ ได้อยา่ งเพียงพอ อาคารผลติ แข็งแรง สว่ นต่าง ๆ ไม่ชํารุด แยกเป็นสัดส่วนชดั เจน ปอู งกันน้ํา ขัง และการปนเปอ้ื นได้อย่างดีเหมาะสมกับการปฏิบตั ิงานในทุกส่วน ๑. สถานท่ตี ง้ั สถานทต่ี ง้ั ของโรงรมควรต้ังอยู่ในพ้ืนที่ห่างจากชุมนุมชน ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน อนั เนื่องมาจากกลิน่ ของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และมีการคมนาคมสะดวกสําหรบั รถบรรทกุ ขนาดใหญ่ ๒. อาคารผลิต อาคารผลติ ควรจะมีบรเิ วณกวา้ งขวางพอทีจ่ ะรับวัตถดุ บิ และวางสนิ ค้าที่ผ่านการรมซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ แล้วรอขนถา่ ยสินคา้ อย่างน้อย ๓เทา่ ของพื้นทีห่ ้องรมทใ่ี ช้งานอยู่ ๒.๒ตวั อาคารและบริเวณโดยรอบสะอาดไม่ปล่อยให้มีการสะสมส่งิ ทไี่ ม่ใช้แล้วหรือส่ิงปฏิกูล อันอาจเปน็ แหล่งเพาะพนั ธส์ ตั วแ์ ละแมลง รวมทง้ั เช้อื โรคตา่ งๆข้นึ ได้ ๒.๓บรเิ วณพ้ืนทตี่ ้งั ตวั อาคารไม่มีน้ําขังแฉะและสกปรก ควรมีท่อระบายนํ้าเพ่ือให้ไหลลงสู่ ทางระบายน้าํ สาธารณะ ๒.๔ควรอยู่ห่างจากบริเวณหรอื สถานท่ีมีฝุนมากผิดปกติ โรงรมควรมีรั้วกั้นรอบอาคารเพ่ือ ปอู งกันมิให้สัตว์ตา่ งๆเข้าไปภายในโรงงาน เช่น สุนขั แมว ไก่ และหนู เปน็ ตน้ ถา้ มีการเล้ยี งสตั ว์เหล่าน้ตี อ้ งให้ อยไู่ กลจากบรเิ วณผลติ ๒.๕อาคารของโรงรมควรจดั แบ่งพืน้ ท่ีใช้งานให้ชัดเจน และปูองกันมิให้มีการก้าวก่ายพ้ืนท่ี กนั เชน่ พนื้ ที่สํานักงาน พนื้ ทีร่ บั วตั ถดุ บิ พน้ื ท่ีเตรยี ม สินค้าเข้าหอ้ งรม พื้นทวี่ างสนิ คา้ ผ่านการรมแล้ว เปุาลม ไลซ่ ลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ หอ้ งเกบ็ สนิ ค้ารอขนส่งส่วนจอดรถขนถ่ายสินค้าและวัตถุดิบหอ้ งเกบ็ ภาชนะบรรจุ ห้อง เก็บสารเคมี หอ้ งเกบ็ วสั ดุอ่ืนๆ เชน่ เครื่องชั่ง ถาดเผา ฉลาก เป็นต้น ๒.๖พน้ื ฝาพนงั และหลังคาของอาคารสถานที่ผลิตต้องก่อสร้างด้วยวัสดุท่ีคงทน ทําความ สะอาด และซอ่ มแซมให้อยู่ในสภาพที่ดีตลอดเวลา ๒.๗จัดให้มีแสงสว่างและการระบายอากาศที่เหมาะสมเพียงพอสําหรับการปฏิบัติงานใน บริเวณผลติ ๒.๘หอ้ งพักคนงานไมค่ วรจะอยูบ่ นห้องรมซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ ทั้งนเ้ี พ่อื สุขภาพของคนงาน เคร่ืองมอื และอุปกรณ์ ๑. สถานทจี่ ดั เก็บวสั ดุ ภาชนะ อปุ กรณ์ หรือสารเคมตี า่ งๆจะต้องไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนหรือเป็น แหลง่ ทําให้เกิดการปนเป้ือนมกี าร แยกให้ชัดเจน ๒. ห้องเก็บตะกร้าจะต้องเป็นสัดส่วน ไม่มีการปนเปื้อนจากภายนอกและตะกร้าจะต้องทําความ สะอาดก่อนนาํ ไปใช้งาน ๓. ตะกรา้ ท่ีบรรจุลําไยจะตอ้ งสะอาด ๔. เครื่องชง่ั ทใี่ ช้งานจะตอ้ งพอเหมาะกบั นา้ํ หนกั ทใ่ี ช้ช่งั เคร่ืองชั่ง ซลั เฟอรไ์ มค่ วรชัง่ นํ้าหนักสงู สดุ เกิน ๕กโิ ลกรัม ๑๗

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณเ์ พอื่ รบั ฟังความคิดเห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายุลาไยสง่ ออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หอ้ งรม ๑โครงสร้างของห้องรมควัน ๑.๑ผนังห้อง : พื้นผิวหนังเรียบละเอียดไม่มีรอยร้าว วัสดุที่เหมาะสมในการทําผนังห้อง รมควนั ควรเปน็ วสั ดุท่ที นตอ่ การกดั กร่อน และปอู งกนั การดดู ซึมก๊าซไดด้ ี ไดแ้ ก่ คอนกรตี ฉาบมนั /ทาสี ๑.๒เพดาน : ตอ้ งมีสภาพแนน่ หนา พืน้ ผวิ เรียบ กา๊ ซรัว่ ซึมไมไ่ ด้ ๑.๓พื้นห้อง : พ้ืนห้องสะอาดไม่มีรอยแตกของปูนและไม่เปียกชื้น พ้ืนห้องควรจะเป็น คอนกรีตเคลอื บมัน ๑.๔ประตู : ต้องปูองกันการร่ัวของก๊าซได้ดีมาก วัสดุที่ใช้ ได้แก่ สแตนเลสสตีล ไม้อัด โฟ เมกา้ ๑.๕การปูองกนั รอยรว่ั ทปี่ ระตูและแนวต่อต่างๆ : ปูองกันการร่ัวของก๊าซได้ดี วัสดุท่ีใช้ควร เปน็ ยางประตูหอ้ งเยน็ และซลิ โิ คน เทปกาว หรอื วสั ดคุ งทนอุดตามแนวต่อตา่ งๆ ๑.๖ถ้ามีหน้าตา่ งมองภายในห้องรมควัน : ต้องไมช่ ํารดุ และใสสะอาด สามารถมองเห็นการ เปลีย่ นแปลงภายในห้องรมควนั ไดช้ ดั เจน ๒.เคร่อื งมือ/ อุปกรณภ์ ายในหอ้ งรมควนั ๒.๑หลอดไฟฟูาภายในห้องรมควนั : ใหแ้ สงสว่างทัว่ ทง้ั ห้อง ๒.๒ปล๊ักไฟและสายไฟฟูา : อยู่ในตําแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก ทนความร้อนและมีสภาพ สมบรู ณด์ ี ๒.๓เตาไฟฟาู หรือเตาเผา : สภาพสมบูรณ์ ใช้งานได้ดี (ในกรณีเผาซลั เฟอรใ์ นห้องรม) ๒.๔อปุ กรณป์ อู งกันเปลวไฟ : ปอู งกนั เปลวไฟและทนความร้อนได้ดี ๒.๕พดั ลมกวน/ท่อกวน ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ภายใน : ใช้งานได้ดี สภาพสมบูรณ์อยู่ใน ตําแหนง่ ที่ให้กระแสลมทวั่ ทง้ั ห้อง ๒.๖ฝาปดิ ทอ่ ดดู ก๊าซที่เหลือจากการรม : จะตอ้ งไมช่ าํ รุด ๓.เครื่องมอื /อปุ กรณ์นอกห้องรมควนั ๓.๑พดั ลมดูดอากาศ : สภาพสมบูรณ์ ใช้งานได้ดี ๓.๒ทอ่ ดดู อากาศ : สภาพสมบรู ณด์ ี ขนาดเสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง อยรู่ ะหว่าง ๖ – ๑๒น้วิ ๓.๓เตาไฟฟาู พร้อมอุปกรณเ์ ผาซลั เฟอร์ ตอ้ งไม่ชํารดุ สามารถใชง้ านไดด้ ี ๓.๔มชี อ่ งกระจก สงั เกตการเผาไหมซ้ ลั เฟอร์ หอกาจัดกา๊ ซ ๑. ท่อดดู ก๊าซท่เี หลอื จากหอ้ งรมไปหอกาํ จดั กา๊ ซจะต้องสมบรู ณ์ไม่ชาํ รุด ๒. พดั ลมดดู ก๊าซที่เหลอื จากหอ้ งรม จะต้องมีแรงเพียงพอในการบําบัดก๊าซทีเ่ หลอื ๓. ตอ้ งมหี วั พ่นนาํ้ กระจายละอองนํา้ และชอ่ งมองตรวจสอบการทาํ งานได้ ๔. มีถงั ปูนขาวพรอ้ มระบบการกวนน้ําปูนและถงั ดักตะกอน ๕. นํ้าใช้ในการบําบัดสามารถใช้ระบบหมุนเวียนได้ มีการเปลี่ยนน้ําและต้องเติมปูนขาวตามเวลา เหมาะสม ๖. ปมั๊ นา้ํ จะต้องมแี รงเพียงพอ ๑๘

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณเ์ พอื่ รบั ฟงั ความคดิ เห็นของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยสง่ ออกเพือ่ แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ระบบการผลติ ๑.ขนั้ ตอนการรม ๑.๑ผู้ประกอบการโรงรมจะต้องจัดทําแผนผังขั้นตอนการรมของโรงรม ที่มีขนาดเห็นได้ ชดั เจนตดิ ไวใ้ นทเี่ หน็ ไดช้ ัดเจน ดา้ นหนา้ ของห้องรมหรอื หนา้ ห้องสํานักงาน ๑.๒ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งควบคุมปัจจัยท่มี ผี ลต่อการตกค้างของซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่ต้อง ควบคมุ อย่างถูกตอ้ งตามรายละเอยี ดทุกขัน้ ตอน ๒.กระบวนการรมกา๊ ซซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ ๒.๑ผู้ประกอบการจะต้องจัดทํากระบวนการรมก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ลําไยสด โดย ผูช้ าํ นาญการ และเขยี นเปน็ วิธีปฏบิ ตั สิ าํ หรับผู้ปฏบิ ตั ิงานให้ชดั เจน รายละเอยี ดตอ้ งประกอบดว้ ย  การจัดการด้านวตั ถุดบิ  ขนาดและโครงสรา้ งของหอ้ ง  ระบบการรมซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์  ระบบการหมุนเวยี นอากาศ  ระบบการกาํ จัดก๊าซขนาดตะกรา้ การเรยี งลําไยในตะกรา้ และการวางตะกร้าในหอ้ ง รม  ปรมิ าณซัลเฟอร์ท่ใี ช้ ระยะเวลาเผาซัลเฟอร์ ระยะเวลารม ระยะเวลากําจัดกา๊ ซ  การหากา๊ ซซลั เฟอร์ไดออกไซดใ์ นหอ้ งเปล่า เพอื่ ทดสอบการรว่ั ของหอ้ ง การหาก๊าซ ซัลเฟอรไ์ ดออกไซดใ์ นหอ้ งมลี ําไยจํานวนต่างๆเพ่ือทดสอบความสม่ําเสมอของการ กระจายก๊าซ ๒.๒ผูป้ ฏิบตั ิงานต้องปฏบิ ตั ติ ามกระบวนการทีก่ าํ หนดไว้โดยเคร่งครัด และถกู ต้อง ๒.๓ผู้ปฏิบตั ิงานตอ้ งบนั ทึกขอ้ มลู การรมควนั ในสว่ นที่เป็นจุดวกิ ฤต เพ่อื การทวนสอบกลับได้ จะต้องประกอบดว้ ย  บันทกึ การตรวจรับวตั ถุดิบ และแหล่งทีม่ าของวัตถดุ บิ  บันทึกการตรวจสอบอุปกรณห์ ้องรมและระบบบําบัดก๊าซ  บนั ทึกผลการรมควนั และบาํ บดั ก๊าซ  บนั ทึกควบคมุ คุณภาพสนิ คา้ โดยการทวนสอบ ๓.ระบบการกาํ จดั ก๊าซ ๓.๑ ผูป้ ระกอบการจะต้องจดั ทํากระบวนการกาํ จัดกา๊ ซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่เหลือจากการ รม โดยผ้ชู าํ นาญการและเขียนเปน็ วิธปี ฏบิ ัตสิ าํ หรบั ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านให้ชดั เจน ในรายละเอียดต้องประกอบดว้ ย  วธิ ีการกาํ จัดก๊าซ  ถังพกั น้ํา หอพ่นน้ํา และหวั พน่ น้ํา  ขนาดมอเตอร์ตา่ งๆ  ขนาดท่อต่างๆ  การใชป้ นู ขาวหรอื วธิ อี นื่ การถ่าย/เปลย่ี นนํ้า ๓.๒ผู้ปฏิบตั งิ านตอ้ งปฏิบตั ิตามกระบวนการท่ีกําหนดไว้โดยเครง่ ครัด สขุ ลักษณะสว่ นบคุ คล ๑๙

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณเ์ พื่อรบั ฟงั ความคดิ เห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายลุ าไยส่งออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ต้องจัดทําห้องน้ํา ห้องสุขาแยกเป็นสัดส่วนจากส่วนผลิตและมีจํานวนเพียงพอกับ ผู้ปฏิบตั ิงาน  ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านควรมจี ุดสังเกตใหแ้ ตกตา่ งจากผ้สู ่งวตั ถดุ ิบในบรเิ วณลานรับวตั ถุดบิ  ผปู้ ฏบิ ตั งิ านของโรงรมในสว่ นอ่นื ควรจะมจี ดุ สังเกตใหช้ ัดเจนว่าปฏิบตั งิ านในส่วนใด  ผทู้ ีป่ ฏิบตั ิงานต้องไมเ่ จบ็ ปุวยหรือเป็นพาหะนาํ โรค  ผู้ปฏิบัติงานไม่ควรสูบบุหร่ี ถ่มน้ําลายในพ้ืนที่เส่ียงอันตรายต่อก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ผ้ปู ระกอบการควรจดั หาอุปกรณ์ ปูองกนั อนั ตรายใหพ้ นักงานใช้และพนักงานจะต้องปฏิบัติ ตาม ต้ขู นสง่ ตู้ขนส่งต้องสะอาด ไม่ก่อให้เกิดการปนเป้ือน ควบคุมอุณหภูมิได้ตามที่ต้องการ และมีการบันทึก ตลอดระยะเวลาขนส่ง การบรรจุสินค้าในตู้ ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าหรือการป นเปื้อนใน ภายหลัง ข้อมลู เก่ียวกบั สนิ คา้ ๑. ผปู้ ระกอบการจะต้องแสดงรายละเอยี ดสนิ คา้ เปน็ ไปตามข้อตกลงกบั ลูกคา้ และตรงกบั ความ เป็นจริงท่ีผลิตในฉลากที่สําคัญ ภาชนะบรรจุสินค้าอย่างน้อยต้องระบุถึง ชื่อผู้ส่งออก ช่ือ สถานท่ี ชอื่ สนิ คา้ เกรดสนิ ค้าและรุน่ การผลิต อาจระบุถึงแหล่งท่ีมาของวัตถุดิบในลักษณะ บารโ์ ค้ด ๒. ในกรณีมีกฎหมายระเบยี บหรอื ขอ้ บงั คับใดๆ นอกเหนือจากข้อ ๑ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติ ตาม การฝึกอบรม ผปู้ ฏิบตั ิงานในโรงรมทุกระดบั ควรทราบถึง หนา้ ท่คี วามรับผิดชอบของตัวเอง ทราบถึงหลักการและ รายละเอียดในการรม โดย ผ่านการฝึกอบรมโดยหน่วยงานภายนอก หรืออบรมภายในโรงรม หรือมี ประสบการณ์จากทีอ่ ืน่ มาอย่างดี การเก็บบนั ทกึ ข้อมลู และการตรวจสอบภายใน ๑. ตอ้ งมกี ารเกบ็ บนั ทกึ ขอ้ มูลตา่ งๆ เขา้ แฟูมอย่างมรี ะเบียบและค้นหาไดง้ ่าย ๒. การเก็บบันทึก ข้อมลู ที่เกบ็ จะตอ้ งครบตามทผี่ ชู้ าํ นาญการกาํ หนด และข้อมูลอืน่ เพม่ิ เตมิ เช่น ผล การวเิ คราะห์ SO2 ตกค้าง ๓. บันทึกต่างๆ ตอ้ งมีการบนั ทกึ อยา่ งถูกตอ้ ง มีลายเซ็นผปู้ ฏิบัติงานผคู้ วบคุม ๔. มกี ารจดั การควบคมุ ตรวจสอบภายในอยา่ งเป็นระบบ พรอ้ มผู้ดูแลรบั ผิดชอบในสว่ นต่างๆ ชดั เจน ท่ีมาสํานักวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, Postharvest Newsletter ปที ่ี ๘ฉบบั ที่ ๒เมษายน - มิถุนายน ๒๕๕๒ ๒๐

โครงการจดั ทาประชาพิจารณเ์ พอ่ื รับฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายุลาไยสง่ ออกเพื่อแกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี วธิ ีการดังกล่าว สํานกั วิจยั และพฒั นาวทิ ยาการหลังการเกบ็ เกย่ี วและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการ เกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานไว้น้ันสอดคล้องกับ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กําหนดมาตรฐานสินค้าเกษตร : การปฏิบัติท่ีดีสําหรับการรมผลลําไยสดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ตาม พระราชบัญญัติมาตรฐานสนิ ค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ซง่ึ กําหนดใหผ้ ู้รมลาํ ไยดว้ ยซัลเฟอร์ต้องรักษามาตรฐานในการ รมลําไยเพ่ือไม่ใหเ้ กิดการเสียหายของลําไยและเพื่อไม่ให้มีสารซัลเฟอร์ตกค้างท่ีลําไยจนเกินเกณฑ์มาตรฐาน แต่ มาตรฐานดังกล่าวยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ ดังจะได้นาํ เสนอในหัวขอ้ ตอ่ ไปของรายงาน ปัญหาและผลกระทบจากระบบการรมลาไยในปัจจุบนั จากมาตรฐานการรมซลั เฟอรเ์ พ่อื ยืดอายลุ าํ ไยภายใตร้ ะบบท่ีวางไวข้ องสาํ นักวจิ ยั และพัฒนาวิทยาการหลัง การเกบ็ เกี่ยวและแปรรูปผลติ ผลเกษตรจะสง่ ผลให้มีการยืดอายุลําไยได้เป็นอย่างดีและพร้อมท่ีจะทําการค้าและ ส่งออกลาํ ไยไปสู่ประเทศต่างๆ แต่การรมซัลเฟอร์เพื่อยืดอายุลําไยไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการรมซัลเฟอร์ซ่ึง นาํ ไปสู่ปญั หาการรมลําไยทีก่ ระทบต่อการคา้ และส่งออกลําไย ท้ังนี้ปัญหาการรมลําไยนั้นมีการศึกษาโดย รศ.พีร เดช ทองอําไพ ผู้เชีย่ วชาญดา้ นไม้ผลของไทย ในงานศกึ ษาดังกล่าวพบวา่ การรมซลั เฟอรเ์ พอ่ื ยดื อายลุ ําไยนนั้ จะทาํ โดย การใชโ้ รงรมท่ีก่อข้นึ มาเปน็ ห้องปิดทึบส่วนใหญ่เปน็ โรงคอนกรตี แล้วมีช่องดา้ นนอกเปน็ ท่ีสาํ หรบั เผาซลั เฟอร์ โดยวิธีการเผาคือการเอาซัลเฟอร์มาเผาโดยมกี ารเติมออกซิเจนเขา้ ไปแล้วให้ควนั ซลั เฟอรด์ ูดเข้าไปในโรงรม๒ โดยวิธกี ารรมลาํ ไยแบบน้มี ีขอ้ จาํ กดั หลายอย่างท่ีสาํ คญั คอื - ไม่สามารถควบคมุ ความเข้มข้นของกา๊ ซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในโรงรมได้และยิ่งไปกว่าน้ันคือการ หมุนเวียนของควนั ซัลเฟอรใ์ นโรงรมไมส่ มา่ํ เสมอทาํ ให้บางจุดมคี วามเขม้ ขน้ สูงบางจุดกต็ ํ่า - ความอันตรายจากการเผาซลั เฟอรม์ มี ากในกระบวนการเผาเพราะมีการใสอ่ อกซิเจนจากถงั เขา้ ไป เผาไหมซ้ ลั เฟอรด์ ว้ ยอันตรายจากการระเบดิ หากควบคุมไมด่ ี ยอ่ มมปี ริมาณสูง - ความรอ้ นท่ีเกิดจากการเผาซลั เฟอร์ยงั เขา้ ไปในหอ้ งรมด้วยทาํ ใหผ้ ลลาํ ไยตอ้ งถูกความรอ้ นเพมิ่ ขึ้น คณุ ภาพและอายกุ ารเกบ็ รกั ษาย่อมสนั้ ลง๓ รศ. พีรเดช ทองอาํ ไพ เสนอเพม่ิ เตมิ ว่า การใชซ้ ัลเฟอร์ไดออกไซด์ในการรมผลไม้นั้นมีการใช้มานานแล้ว ในหลายพืช แตว่ า่ ตอ้ งมกี ารควบคุมปริมาณสารตกคา้ งไมใ่ ห้เกนิ ค่ามาตรฐานดังนั้นจึงควรมีการปรับปรุงระบบรม ลําไยดว้ ยซลั เฟอร์ใหไ้ ด้มาตรฐานซ่ึงปญั หาการรมลาํ ไยหากไมแ่ กไ้ ขย่อมจะส่งผลกระทบต่อโอกาสการขยายตลาด ไปยงั กล่มุ ลกู คา้ ที่มีความตอ้ งการของคุณภาพสูง”๔ ฝุายวิศวกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยได้ทําการศึกษาและพบปัญหา หลกั ๆของการรมลําไยในปัจจบุ ัน คอื - มีการปลอ่ ยกา๊ ซซัลเฟอร์จากกระบวนการรมควันลาํ ไยออกสู่สิ่งแวดลอ้ มโดยไมผ่ ่านการบาํ บัด - เกดิ ผลกระทบจากการปล่อยกา๊ ซซัลเฟอรต์ ่อสงิ่ แวดลอ้ มและชุมชนรอบโรงรม - มีปริมาณก๊าซซัลเฟอร์ตกค้างในเนื้อลําไยเกินมาตรฐานจากกระบวนการรม จัดเก็บและ เคลอื่ นย้ายลาํ ไย ๒พีรเดช ทองอาํ ไพ, ๒๕๕๖, ห้องรมกํามถันลําไย ๑, http://www.arda.or.th/easyknowledge/easy-articles-detail.php?id=355 ๓พรี เดช ทองอาํ ไพ อา้ งแลว้ ที่ ๙ ๔พีรเดช ทองอําไพ อา้ งแล้ว ท่ี ๙ ๒๑

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณเ์ พอื่ รับฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยดื อายลุ าไยส่งออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ปจั จยั ที่กอ่ ให้เกิดปัญหาดังกล่าวคอื การขาดมาตรฐานของโรงรมลําไยเนือ่ งจากโรงรมลําไยในปัจจุบันมิได้ ปฏิบัติตามขอ้ กาํ หนดมาตรฐานทง้ั นเี้ ห็นไดจ้ ากกการใช้เตาเผาซัลเฟอร์แบบดงั้ เดมิ ที่ไม่สามารถควบคมุ อณุ หภูมิได้ ภาพการเตาเผาซัลเฟอรแ์ บบต่างในปจั จุบัน ภาพการเผาซลั เฟอร์ในปัจจุบัน จากการศึกษาของฝาุ ยวิศวกรรม สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชี้ให้เห็นว่า การจัดห้องรม การ เก็บลําไยที่รมแล้วและการเคลื่อนย้ายลําไยเพื่อการส่งออกนําไปสู่ปัญหาของสารซัลเฟอร์ท่ีตกค้างในลําไยเกิน มาตรฐานทงั้ น้ีเพราะในการจดั หอ้ งรมมีการเรง่ รมลําไยอยา่ งตอ่ เนื่องและไมไ่ ด้ปลอ่ ยให้มีการหมนุ เวียนของอากาศ ทําให้มสี ารซัลเฟอรเ์ กนิ มาตรฐาน ในการจดั เก็บในหอ้ งพกั เพื่อรอการขนย้ายกเ็ ชน่ กนั ซึ่งไม่ได้มีการเว้นระยะหรือ ใหม้ เี น้ือที่เพ่ือถ่ายเทอากาศและใหม้ กี ารคายกา๊ ซซลั เฟอร์จึงจะนาํ ไปสกู่ ารรมซ้ําของซัลเฟอร์ ในการขนยา้ ยหากนํา ลําไยทพ่ี กั ไวซ้ ึ่งมปี รมิ าณซลั เฟอรต์ กคา้ งเกนิ มาตรฐานมากๆ จะมีการรมซ้ําในตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ขนย้ายอีกรอบ หน่ึง ซ่ึงทําให้การส่งลําไยสดไปท่ีประเทศปลายทางมีค่าซัลเฟอร์ตกค้างเกินกว่ามาตรฐาน ทั้งนี้จึงต้องมีการ แกป้ ญั หาอย่างเรง่ ดว่ นในการเสรมิ สรา้ งมาตรฐานของโรงรม โรงพักลาํ ไยและการขนส่งลําไยทร่ี มแลว้ เพอื่ ไม่ใหเ้ กดิ ปญั หาสารซัลเฟอรต์ กคา้ งในลําไยเกินมาตรฐาน ๒๒

โครงการจดั ทาประชาพิจารณเ์ พ่ือรบั ฟงั ความคิดเห็นของประชาชนสาหรับโครงการยดื อายุลาไยส่งออกเพื่อแกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รูปภาพการขนลาไยจากห้องรมไปห้องพัก รูปภาพการขนลาไยตคู้ อนเทนเนอร์ดว้ ยการควบคุมอณุ หภูมิ ประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมถือเป็นประเด็นสําคัญอย่างมากในการจัดทําโครงการ ยืดอายุลําไย ส่งออกเพ่ือแก้ไขลําไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยการจัดสร้างโรงรมลําไยมาตรฐาน โดยการ จดั ทาํ โครงการนี้เปน็ โครงการท่ีสําคัญในการท่ีจะยกระดับกระบวนการรมลําไยให้เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมและมี ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มนอ้ ยทีส่ ดุ เพราะโครงการไดใ้ ชว้ ทิ ยาการในการทจ่ี ะสร้างระบบรมลําไยและใช้อุปกรณ์ท่ี เปน็ มติ รตอ่ สงิ่ แวดล้อมโดยโครงการน้มี กี ารใช้วิทยาการใหม่ของเครื่องกําลิตก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์เพื่อรมควัน ลาํ ไย และมีการใชว้ ทิ ยาการทางดา้ นเครือ่ งกาํ จดั ก๊าซซัลเฟอรไ์ ดออกไซดจ์ ากกระบวนการรมลาํ ไย ๒๓

โครงการจดั ทาประชาพิจารณ์เพ่อื รบั ฟงั ความคดิ เห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายุลาไยส่งออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เครื่องกาลิตก๊าซซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์เพื่อรมควนั ลาไย จากภาพดังกล่าว พบว่าในโครงการน้ีฝุายวิศวกรรมของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง ประเทศไทยไดพ้ ัฒนาระบบและเครื่องมือใหม่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรมควันอย่างมีมาตรฐานโดยเคร่ือง ดังกล่าวในภาพสามารถควบคุมอุณหภูมิของเตารมและสามารถสร้าง ให้เกิดการหมุนเวียนของก๊าซซัลเฟอร์ได ออกไซดไ์ ดอ้ ย่างมีระบบก่อให้เกดิ ประสิทธภิ าพสูงสดุ และอยภู่ ายใตม้ าตรฐานของการใช้กา๊ ซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ใน การยืดอายุลาํ ไยสดเพื่อการค้าและการส่งออก เคร่อื งกาจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซดจ์ ากกระบวนการรมลาไย โครงการน้มี รี ะบบและเครื่องกลไกที่สามารถดักเก็บสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ไม่ให้ออกสู่อากาศภายนอก มากเกนิ คา่ มาตรฐาน โดยเคร่อื งดงั กลา่ วไดร้ ับการจดสทิ ธบิ ตั รภายใต้สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่ง ประเทศไทย ซง่ึ เครือ่ งกลไกนีจ้ ะสามารถควบคุมและกาํ จัดปรมิ าณกา๊ ซได้อย่างดที ําใหไ้ มม่ ผี ลกระทบต่อสิง่ แวดล้อม ตามระบบการรมลาํ ไยแบบเดมิ ท่ีไม่ไดใ้ ช้เคร่ืองดักกําจัดกา๊ ซซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ ๒๔

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณ์เพ่อื รับฟังความคิดเห็นของประชาชนสาหรับโครงการยดื อายลุ าไยส่งออกเพ่อื แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะเหน็ ได้วา่ การใช้เครื่องกําลิตก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์เพื่อรมควันลําไยและเคร่ืองกําจัดก๊าซซัลเฟอร์ได ออกไซด์จากกระบวนการรมลาํ ไยนั้นจะกอ่ ให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ สิง่ แวดล้อมเป็นอย่างมากกล่าวคือ - ช่วยให้เกดิ การใช้ก๊าซซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ - ชว่ ยลดปรมิ าณการปล่อยกา๊ ซซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ - ช่วยลดปัญหาสิงแวดล้อมและปกปอู งสขุ อนามยั ของคนงานและคนในชุมชน ด้านพัฒนามาตรฐานการรมลาไย ประโยชนท์ ีจ่ ะมีต่อมาตรฐานการรมลําไย ภายใต้โครงการ ยืดอายุลําไยส่งออกเพ่ือแก้ไขลําไยล้นตลาด ด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีดว้ ยการจดั สร้างโรงรมลาํ ไยมาตรฐานเกดิ จากการเสรมิ สร้างระบบของโรงรมลาํ ไย ท่ีมีการหมุนเวียนของลําไยในโรงรมลําไยที่ดีข้ึน และทําให้มีการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้กรอบ ระยะเวลาที่นาํ ไปส่ปู ระสทิ ธผิ ลทีเ่ พมิ่ ขน้ึ ของการรมลําไย ทง้ั น้สี ามารถพจิ ารณาได้จากกระบวนการรมลําไยภายใต้ โครงการการจดั สรา้ งโรงรมลําไยทีจ่ ะเกิดข้ึน ขอ้ มูลผลกระทบโครงการดา้ นเศรษฐกจิ ลําไย ถือเป็นไม้ผลที่นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจท่ีสําคัญเนื่องจากมูลค่าการส่งออกหลายพันล้านบาท โดยการ เพาะปลกู นน้ั จะต้องมีดนิ ทมี่ ีความอดุ มสมบูรณส์ งู หรือดนิ รว่ นปนทราย ระบายนํ้าดีความลึกของหน้าดินมากกว่า ๕๐เซนตเิ มตร ระดับน้าํ ใตด้ ินต้องมากกว่า ๐.๗๕เมตร ความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ๕.๕ – ๖.๕การเจริญเติบโต ตอ้ งการอณุ หภูมิช่วง๒๐ – ๓๕องศาเซลเซียส ระยะออกดอก อุณหภูมิต้องตํ่ากว่า ๑๕องศาเซลเซียสเป็นระยะ เวลานานตดิ ตอ่ กัน ๒สัปดาห์ ปริมาณน้ําฝนไม่ตํ่ากว่า ๑,๐๐๐ลูกบาศก์มิลลิเมตร ตลอดปี และมีการกระจายตัว ของฝน๕ ๕สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์-http://www.oae.go.th/fruits/index.php/longan-data ๒๕

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณเ์ พอื่ รับฟงั ความคิดเห็นของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายลุ าไยส่งออกเพ่อื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การเพาะปลูกลําไยนั้นการกระจายตัวในหลายภาคของประเทศไทยแต่มีการเพาะปลูกมากในพื้นท่ี ภาคเหนือ ดงั แผนภาพ พ้ืนท่ีในการปลูกมีการขยายพ้ืนท่ีในการปลูกลําไยเพ่ิมข้ึนทุกปี ซ่ึงจากข้อมูลรวบรวมโดยสํานักงาน เศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบว่าในปี พ.ศ.๒๕๕๕ มีการปลูกลําไย๑,๐๖๓,๗๖๒ไร่ มี ผลผลติ จํานวน ๘๕๓,๕๓๘ ตัน ๒๖

โครงการจัดทาประชาพิจารณเ์ พ่อื รบั ฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยดื อายลุ าไยสง่ ออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตารางแสดง: ลาไย:เนือ้ ท่ียนื ต้น เนื้อทใ่ี ห้ผล และผลผลติ ปี ๒๕๔๖ – ๒๕๕๕ ปี เนื้อท่ียืนต้น เนื้อที่ให้ผล ผลผลิต (ไร่) (ไร่) (ตัน) ๓๖๙,๓๒๓ ๒๕๔๖ ๘๕๓,๙๗๖ ๖๑๙,๔๓๐ ๕๙๗,๒๗๒ ๗๑๒,๑๗๘ ๒๕๔๗ ๙๓๐,๘๒๒ ๖๘๐,๒๙๔ ๔๗๑,๘๙๒ ๔๙๕,๔๕๗ ๒๕๔๘ ๑,๐๑๒,๙๓๒ ๘๒๐,๙๘๕ ๔๗๖,๙๓๐ ๖๒๓,๐๓๒ ๒๕๔๙ ๑,๐๐๘,๐๗๐ ๘๗๐,๑๒๕ ๕๒๕,๒๓๐ ๗๗๒,๐๙๙ ๒๕๕๐ ๑,๐๐๙,๘๓๐ ๙๓๙,๐๒๙ ๘๕๓,๕๓๘ ๒๕๕๑ ๑,๐๓๕,๕๕๖ ๙๖๖,๘๓๑ ๒๕๕๒ ๑,๐๔๔,๓๕๙ ๙๖๘,๗๑๗ ๒๕๕๓ ๑,๐๓๔,๙๐๖ ๙๕๔,๕๗๔ ๒๕๕๔ ๑,๐๖๐,๓๗๘ ๙๗๖,๓๖๖ ๒๕๕๕ ๑,๐๖๔,๗๖๒ ๑,๐๑๓,๓๒๙ ท่ีมา: สาํ นกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร ๒๕๕๖ จากเอกสารรายงานลา่ สุดของสาํ นกั งานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแหง่ ชาติ (๒๕๕๗)พบว่าการค้า ลาํ ไยในประเทศไทยมีการเติบโตอยา่ งต่อเนือ่ ง โดยสํานกั งานมาตรฐานสนิ คา้ เกษตรและอาหารแห่งชาตริ ะบุว่า“ ปี ๒๕๕๕ เน้ือที่ให้ผลเพิ่มข้ึนจาก๙๖๗,๗๗๒ไร่ของปี๒๕๕๕ร้อยละ๒.๔๘ผลผลิตเพิ่มขึ้นจาก๗๗๒,๐๙๙ตันของปี ๒๕๕๖ ร้อยละ๕.๙๒ และผลผลติ ต่อไรเ่ พิ่มขึน้ จาก๗๙๘กโิ ลกรัมของปี๒๕๕๖ รอ้ ยละ๓.๓๘ในปี๒๕๕๖เน้ือที่ให้ผล ผลิตเพม่ิ ขึ้นจากปที ่ผี า่ นมาร้อยละ๐.๙๔เนื่องจากต้นทปี่ ลกู ใหม่ปี๒๕๕๓เริม่ ให้ผลและผลผลิตเพิ่มข้ึนร้อยละ๓.๗๕ ผลผลิตต่อไรเ่ พิม่ ขน้ึ ร้อยละ๒.๘๕ (๒๔ก.ก./ไร่) ถา้ สภาพอากาศเออื้ อานวยและเกษตรกรส่วนใหญ่จะราดสารโปร แตสเซียมคลอเรตเพ่อื ให้ลําไยติดดอกออกผลดแี ม้จะเป็นผลผลิตนอกฤดูการผลิตลําไยนอกฤดูของเกษตรกรเป็น การทําเพอ่ื ลดความเสยี่ งในดา้ นราคาที่ตกตํา่ ในชว่ งฤดูกาลแหลง่ ผลติ ลําไยท่สี าํ คญั ของไทยอยใู่ น๘จงั หวัดภาคเหนือ ไดแ้ ก่ เชยี งราย เชียงใหม่ ลาํ พูน ลําปาง พะเยา แพร่ นา่ นและตาก” สํานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาตริ ะบวุ า่ ในรายงานได้ให้ข้อมูลเพ่ิมเติมว่า ในปี๒๕๕๕ ไทยส่งออกลําไยและผลิตภัณฑ์รวมปริมาณ๕๙๕,๒๑๔.๕ ตันมูลค่า๑๙,๘๓๔.๓ ล้านบาทคิดเป็นปริมาณและ มูลค่าเพิม่ ข้ึนรอ้ ยละ๗.๑๔และ๒๑.๖๕ตามลําดับจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ปี๒๕๕๖ (มกราคม – มีนาคม) ไทยส่งออกลําไยและผลติ ภณั ฑร์ วมปริมาณ๑๖๑,๒๕๐ตนั มูลค่า๓,๑๗๖.๙ล้านบาทปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อย ละ๑๗.๘๙และ๒๒.๔๐ตามลาํ ดับจากช่วงเดยี วกันของปที ี่ผ่านมา มลู คา่ และปรมิ าณการส่งออกลาไย ข้อมูลมูลคา่ และปริมาณการส่งออกลําไยท่ีมีการเก็บรวบรวมไว้พบว่าประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกลําไยไป ต่างประเทศในหลายประเทศดว้ ยกนั มูลคา่ และปรมิ าณการสง่ ออกลําไย มีการเพิ่มข้ึนในทกุ ปี รายละเอียดปรากฏ ตามตารางแสดงปรมิ าณและมูลค่าการสง่ ออกลาํ ไยสด รายเดือนในช่วงปี ๒๕๕๕–กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๗ ๒๗

โครงการจดั ทาประชาพิจารณเ์ พอื่ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายลุ าไยส่งออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถิติการสง่ ออก ลาไยสด : ปรมิ าณและมลู คา่ การสง่ ออกรายเดอื น เดอื น ๒๕๕๕ ๒๕๕๖ ๒๕๕๗ ปริมาณ มูลคา่ ปรมิ าณ มลู คา่ ปรมิ าณ มลู ค่า มกราคม ๕๓,๗๕๔,๙๘๙ ๙๖๑,๐๕๗,๐๕๔ ๗๒,๒๗๗,๙๗๘ ๑,๒๒๐,๖๑๑,๘๒๑ ๕๖,๐๔๒,๖๔๘ ๑,๒๘๒,๒๒๘,๘๙๑ กุมภาพันธ์ ๗๕๘,๒๑๓,๖๖๗ ๗๕๘,๒๑๓,๖๖๗ ๒๙,๙๓๖,๘๒๔ ๕๓๔,๒๒๖,๐๓๖ ๒๙,๘๘๔,๖๐๗ ๖๖๖,๒๓๗,๘๖๖ มีนาคม ๓๓,๕๖๗,๘๙๑ ๕๙๓,๙๘๘,๗๘๒ ๓๗,๗๗๗,๒๓๖ ๗๗๔,๓๓๓,๔๖๐ ๐๐ เมษายน ๒๒,๙๗๑,๙๐๑ ๔๘๓,๐๒๗,๕๑๔ ๒๕,๕๖๖,๗๗๙๑ ๕๓๔,๗๙๔,๒๖๕ ๐๐ พฤษภาคม ๖,๙๐๕,๙๕๖ ๑๕๓,๗๕๕,๑๘๗ ๗,๕๗๖,๔๙๒ ๑๗๘,๐๘๖,๕๑๖ ๐๐ มถิ ุนายน ๑๔,๒๘๖,๘๔๗ ๓๒๘,๑๒๓,๗๖๔ ๑,๖๔๐,๔๑๑ ๒๓๔,๙๒๐,๑๑๐ ๐๐ กรกฎาคม ๗๕,๖๘๖,๖๗๗ ๑,๔๙๑,๙๒๒,๔๒๑ ๓๙,๙๓๑,๖๗๔ ๗๓๕,๙๕๙,๐๑๗ ๐๐ สิงหาคม ๕๘,๖๙๕,๕๕๖ ๑,๐๖๙,๘๔๓,๙๘๙ ๒๙,๒๑๐,๘๔๔ ๕๗๐,๑๔๖,๒๒๙ ๐๐ กันยายน ๓๐,๐๓๕,๕๒๓ ๔๖๔,๔๘๓,๓๖๘ ๒๒,๘๓๐,๐๘๐ ๔๘๐,๖๘๔,๒๙๐ ๐๐ ตลุ าคม ๓๐,๓๒๖,๙๑๙ ๕๓๖,๕๖๒,๘๑๒ ๒๒,๘๔๘,๔๔๘ ๕๘๗,๓๕๒,๔๑๓ ๐๐ พฤศจกิ ายน ๓๙,๗๐๐,๔๑๐ ๗๑๕,๕๑๕,๐๑๗ ๓๕,๑๔๐,๒๐๕ ๗๓๘,๓๕๘,๔๗๒ ๐๐ ธนั วาคม ๕๐,๙๗๑,๒๓๔ ๘๙๗,๕๒๐,๐๕๑ ๗๘,๖๖๒,๖๑๐ ๑,๘๙๓,๗๗๓,๗๕๔ ๐๐ รวม ๔๕๕,๖๖๓,๓๘๗ ๘,๔๕๔,๐๑๓,๖๒๖ ๔๑๓,๓๙๙,๕๘๑ ๘,๕๐๓,๒๔๖,๓๘๓ ๘๕,๙๒๗,๒๕๕ ๑,๙๔๘,๔๖๖,๗๕๗ ที่มา: สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร ๒๕๕๗ ในการส่งออกลําไยไปต่างประเทศพบว่าประเทศไทยส่งออกลําไยสดในช่วงปี ๒๕๕๕ – ๒๕๕๖ส่งออกไป ประเทศยังจีนเป็นอันดับหน่ึงโดยมีประเทศฮ่องกง เวียดนามและ อินโดนีเซียเป็นประเทศนําเข้าลําไยที่สําคัญ ตามลําดับหากแต่ว่าในปัจจุบันเริ่มมีมาตรการตรวจสอบปริมาณสารซัลเฟอร์ท่ีตกค้างในลําไยท่ีส่งออกไป โดย ปัญหาการถกู ตกี ลับของลําไยจะได้นาํ เสนอในประเดน็ มาตรฐานท่ีแต่ละประเทศยอมรับอบลําไยสดด้วยซัลเฟอร์ และประเดน็ ผลกระทบต่อการรมลาํ ไยสดดว้ ยซลั เฟอร์เกินข้อกาํ หนดด้านลา่ งนี้  มาตรฐานทแ่ี ตล่ ะประเทศยอมรบั อบลาไยสดดว้ ยซัลเฟอร์ ประเทศจนี จากรายงานการประชุมซ่ึงสํานักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้เข้าร่วม ประชุม Codex Committee on Food Additives (CCFA) ครั้งท่ี๔๓ระหว่างวันท่ี๑๔ –๑๘มีนาคม๒๕๕๔และ การประชุม The Working Groups on GSFA ในวันที่๑๑ – ๑๔มีนาคม๒๕๕๔ณเมืองเซ๊ียะเหมินประเทศ สาธารณรฐั ประชาชนจีน พบว่า ในการใช้ซลั เฟอร์(SO2) มคี วามเหมาะสมเม่ือรมตามระบบ GMP มีค่าการตกค้าง ของในส่วนเน้อื ผลของลําไย ประเทศจีนออกข้อกําหนดไว้ต้องไม่ให้มีซัลเฟอร์ เกินค่ามาตรฐาน๕๐ mg/kg๖ทั้งนี้ สาํ นกั งานควบคมุ คุณภาพตรวจสอบและกกั กนั โรคแหง่ สาธารณรัฐประชาชนจีน (AQSIQ) ได้เพ่ิมความเข้มงวดใน ๖สมเพชรเจริญสุข, วิทยาอภัย, และเกรียงศักดิ์นักผูก ๒๕๕๔ การศึกษาเบ้ืองต้นการประเมินการรมควันและการตกค้างของ SO2 ในลําไยสดเขต ภาคเหนือ, วารสารวทิ ยาศาสตร์ เกษตร, ๔๒, ๓ - http://www.phtnet.org/download/phtic-seminar/885.pdf ๒๘

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายลุ าไยส่งออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การตรวจสอบสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลําไยสดทีน่ าํ เขา้ จากไทยเพือ่ ไม่ใหม้ ีสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างในเน้ือ ลําไยเกนิ คา่ มาตรฐานตามที่พิธสี ารระหวา่ งกระทรวงเกษตรฯ ไทยกับ AQSIQ กาํ หนดไวไ้ มเ่ กิน ๕๐ mg/kg๗ ประเทศมาเลเซีย มาตรฐาน และกฎระเบียบทางด้านเทคนิคซึ่งมาเลเซียได้มีแผนการดําเนินการจัดทํามาตรฐานของ ประเทศให้สอดคล้องกบั มาตรฐานนานาชาติ โดยเรอื่ งทีเ่ กี่ยวข้องกบั ลําไยและผลิตภณั ฑ์ลําไย โดยการนาํ ลาํ ไยและ ผลิตภัณฑ์ลําไยเข้ามาเลเซีย ต้องขออนุญาตนําเข้า จาก Department of Agriculture ในเร่ืองของการมีสาร ซลั เฟอรไ์ ดออกไซดต์ กค้างในเปลือกและในเน้ือลําไยคือ การกําหนดปริมาณตกค้างในเน้ือต้องเป็น ๐ppm และ ปรมิ าณตกค้างท่ีพบได้ในเปลอื กไม่เกนิ ๑๐๐mg/kg๘ ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ประเทศออสเตรเลยี และประเทศนวิ ซแี ลนดไ์ ดร้ ่วมกันออกขอ้ กําหนดเพื่อความปลอดภยั การนําเข้าอาหาร ร่วมกัน และได้ออกข้อกําหนดการนําเข้าอาหาร ภายใต้กฎหมาย Australia New Zealand Food Standards Code – Amendment No. 119 – 2010 Food Standards Australia New Zealand Act 1991ซ่ึงกําหนดว่า ในการใชซ้ ัลเฟอร์รมลาํ ไยสดเพอ่ื รกั ษาคุณภาพของลําไยจะต้องมีคา่ สารซลั เฟอร์ตกคา้ งได้ไม่เกิน ๑๐mg/kg องค์กรระหว่างประเทศอนามัยโลก (WHO) และ องค์กรอาหารและเกษตรกรรม สหประชาชาติ (FAO) มาตรฐานและกฎระเบียบทางด้านเทคนิคโดยองค์กรระหว่างประเทศอนามัยโลก (WHO) และ องค์กร อาหารและเกษตรกรรมสหประชาชาติ (FAO) ได้ระบุไว้ใน Codex General Standard for Food Additives (GSFA) Online Database กาํ หนดเป็นมาตรฐานระหวา่ งประเทศไวว้ า่ การใชส้ ารซัลเฟอร์สําหรับลําไยหรือลิ้นจ่ี น้นั จะต้องมสี ารซลั เฟอร์ตกค้างทผี่ วิ ได้ไมเ่ กนิ ๕๐ mg/kg ๙ ผลกระทบตอ่ การรมลาไยสดดว้ ยซลั เฟอรเ์ กินขอ้ กาหนด ปัญหาการรมลาํ ไยสดด้วยซัลเฟอร์เกินข้อกําหนดถอื เปน็ ปญั หาสาํ คัญท่ตี ้องไดร้ บั การแกไ้ ขโดยในขณะนี้มี การรายงานปัญหาจากหนว่ ยงานรฐั และเอกชนซึง่ ระบุวา่ ลําไยสดทีผ่ า่ นการรมซัลเฟอร์น้ันมสี ารซัลเฟอรต์ กคา้ งเกนิ มาตรฐานตวั อย่างรายงานได้แก่ การแจง้ เตอื นของหนว่ ยงานสาํ นักงานตรวจสอบอาหาร; - สํานกั งานตวจสอบอาหารประเทศแคนาดา (Canadian Food Inspection Agency (CFIA)), - สํานักงานอาหารและความปลอดภยั กระทรวงสาธารณสุขประเทศมาเลเซีย(Food Safety and Quality Division, Ministry of Health) และ - สํานกั งานควบคมุ คุณภาพตรวจสอบและกักกนั โรคแหง่ สาธารณรัฐประชาชนจีน (AQSIQ) ๗เดลนิ วิ ส์ รายงานว่า วนั ท่ีวันที่ ๑๗กันยายน ๒๕๕๖-http://www.dailynews.co.th/Content/agriculture/100704/จนี ,มาเลย์ตรวจเข้มซลั เฟอรฯ์ + ในลําไยสง่ ออกจากไทย; กรุงเทพธรุ กิจวนั ที่ ๑๕สิงหาคม ๒๕๕๖http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20130 815/523462/จนี -มาเลย์เล็งตรวจสารซลั เฟอรล์ าํ ไยไทย.html ๘คลงั ข้อมูลสารสนเทศลําไยเชิงลึก- http://www.arda.or.th/kasetinfo/logan/index.php?option=com_content&view=article&id=8:2010- 11-23-09-03-16&catid=56:2011-01-10-04-09-46&Itemid=11 ๙FAO/WHO Food Standard, GSFA Notes, 2013,http://www.codexalimentarius.net/gsfaonline/reference/notes.html?id=204#note 204 ๒๙

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณ์เพอ่ื รบั ฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายลุ าไยส่งออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเทศแคนาดา การแจ้งเตือนจากประเทศแคนาดาน้ัน สํานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครแวนคูเวอร์ แคนาดาได้รายงานผ่านฝุายการเกษตรประจําสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสว่า หน่วยงาน Canadian Food Inspection Agency (CFIA) แจ้งการตรวจพบซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตกค้างในลําไยสดนําเข้าจากไทยเกิน มาตรฐานทก่ี าํ หนดใหพ้ บได้ไม่เกิน ๑๐ mg/kg หรือต้องตรวจไม่พบ โดย CFIA กําหนดให้มีการตรวจสอบสินค้า ลําไยนําเข้าครั้งต่อไปก่อนอนุญาตวางจําหน่ายท้ังนี้นําไปสู่การแจ้งเตือนของกร มวิชาการเกษตรที่ออกเผยแพร่ ข้อมูลการผ้ปู ระกอบการโรงรมซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ โรงคัดบรรจลุ ําไยและผสู้ ง่ ออก ใหท้ ราบกฎระเบยี บดังกล่าวเพ่ือ ปอู งกนั การปฏเิ สธสนิ คา้ ในอนาคตและปูองกันมาตรการควบคุมการนําเข้าสนิ ค้าลําไยจากไทยหากมีการตรวจพบ ปญั หาอย่างต่อเนอื่ ง๑๐ ประเทศมาเลเซีย ขอ้ มูลจากรายงานขา่ วของหนงั สือพมิ พ์ กรงุ เทพธรุ กิจวันที่ ๑๕สิงหาคม ๒๕๕๖และเดลินิวส์ รายงานว่า วันที่ ๑๗กนั ยายน ๒๕๕๖ อธิบดกี รมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่าประเทศมาเลเซียได้มีการแจ้งเตือนการตรวจพบ สารซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ในลําไยทส่ี ่งออกจากไทยเกินคา่ มาตรฐานท่ีมาเลเซียกําหนดไว้ จึงต้องขอความร่วมมือโรง รมลําไย โรงคัดบรรจแุ ละผสู้ ่งออกให้ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บและเง่ือนไขของประเทศผู้นําเขา้ ท้ังยังต้องระวังในการ ใชส้ ารซัลเฟอรไ์ ดออกไซดร์ มลาํ ไยเพ่ือยืดอายุการเกบ็ รกั ษาสินคา้ ลําไยสดที่จะส่งออกเพ่ือปอู งกันไมใ่ ห้มสี ารตกค้าง เกนิ คา่ มาตรฐาฯอาจเกดิ ปัญหาการถกู ปฏเิ สธสนิ ค้าหรือตกี ลบั สนิ ค้าได้ซง่ึ จะกระทบตอ่ การส่งออกสินค้าลําไยของ ไทยไปประเทศมาเลเซยี ด้วย๑๑ ประเทศจีน จากรายงานของ สมาคมส่งออกผลไม้ไทยและกระทรวงเกษตรฯพบว่าต้องมีมาตรการเร่งแก้ปัญหา ซัลเฟอร์เกินข้อกําหนดในลําไยสดที่ส่งออกไปยังประเทศจีน หลังจากท่ีประเทศจีนสั่งห้ามนําเข้าลําไยจากไทย เน่อื งจากการตรวจสอบพบซัลเฟอรส์ งู กวา่ มาตรฐานจากรายงานข่าวของหนังสอื พิมพป์ ระชาชาติ ประชาชาติธุรกจิ ออนไลน์รายงานวา่ นายสัญชยั ปุรณะชัยคีรนี ายกสมาคมผูค้ ้าและสง่ ออกผลไม้ไทย เปดิ เผยวา่ ได้รว่ มกับกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ และทูตเกษตรในประเทศจนี แกป้ ญั หากรณจี ีนตรวจพบลําไยไทยท่ีนําเข้าจากบริษัทผู้ส่งออก ไทย ๒รายและเจอสารซัลเฟอร์ สูงเกินกาํ หนดมาตรฐานนําเขา้ ผลไม้ของประเทศจีนจนี ทาํ ใหป้ ระเทศจีนส่ังการให้ จัดเกบ็ และห้ามนําเข้าลําไยจาํ นวนดงั กล่าวซึ่งตามระเบียบจะต้องทําลายและอาจเพิ่มความเข้มงวดและทบทวน การนาํ เขา้ ลาํ ไยจากไทย ซึง่ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสง่ ออกลําไยไทยไปจีนจากทป่ี ัจจบุ นั จีนมกี ารนาํ เข้าลําไย จากไทยกว่า ๕หม่นื ตนั ตอ่ ปี โดยทางสมาคมได้พยายามระหวา่ งการหารอื ว่าอาจจะต้องออกมาตรการปอู งกนั ไม่ให้ เกิดปัญหาสารเกนิ มาตรฐานสง่ ออกไปจนี อกี เพราะหากเกดิ เหตุการณซ์ าํ้ จะไมเ่ ป็นผลดีตอ่ การสง่ ออกผลไม้ไทยไป จีนที่ถือว่าเป็นตลาดนําเข้าลําไยและผลไม้สดรายใหญ่ของไทยซึ่งภาคเอกชนและภาครัฐคงต้องหารือเพ่ือใช้ มาตรการที่เขม้ งวดตง้ั แตข่ ั้นตอนการเพาะปลกู จากเกษตรกรถึงผูส้ ่งออก๑๒ ๑๐กลุ่มพฒั นาระบบความปลอดภยั สนิ ค้าพชื วันท่ี ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๕๖ ๑๑เดลนิ ิวส์ รายงานว่า วันทว่ี นั ที่ ๑๗กนั ยายน ๒๕๕๖-http://www.dailynews.co.th/Content/agriculture/100704/จีน,มาเลย์ตรวจเข้มซัลเฟอร์ฯ +ในลาํ ไยสง่ ออกจากไทย; กรุงเทพธรุ กจิ วนั ที่ ๑๕สงิ หาคม ๒๕๕๖http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20130 815/523462/จนี -มาเลย์เลง็ ตรวจสารซัลเฟอร์ลําไยไทย.html ๑๒ประชาชาตธิ ุรกิจออนไลน์ จนี ห้ามนาํ เขา้ \"ลําไย\" จากไทย พบซัลเฟอร์สงู -ก.เกษตรฯเร่งแก้ปัญหา ชัตดาวน์ กทม.ไม่กระทบส่งออกผลไม้๑๕ มกราคม ๒๕๕๗-http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1389761006 ๓๐

โครงการจดั ทาประชาพิจารณ์เพือ่ รับฟงั ความคิดเห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายลุ าไยสง่ ออกเพื่อแกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยภาพรวมที่ไดร้ บั การแจ้งเตือนและการตีกลบั ของลําไยสดทส่ี ง่ ออกจากไทยส่วนมากจะเกดิ จากการท่มี สี าร ซลั เฟอรต์ กคา้ งในลําไยสดเกนิ ขนาดสง่ ผลกระทบอยา่ งมากในเรือ่ งภาพพจนข์ องการค้าลาํ ไยสดของประเทศไทย โดยเฉพะอยา่ งยงิ่ กรณีประเทศจีนสง่ั ห้ามนาํ เขา้ ลาํ ไยจากไทยเนือ่ งจากการตรวจสอบพบซลั เฟอรส์ งู กวา่ มาตรฐาน นน้ั สง่ ผลเสียอยา่ งมากตอ่ การค้าลําไยของประเทศไทย เนือ่ งจากประเทศจีนเป็นประเทศทน่ี ําเขา้ ลาํ ไยสดจาก ประเทศไทยเปน็ อนั ดับที่หนงึ่ และมปี รมิ าณและมูลคา่ ที่สงู มากตามที่ได้เสนอไว้แล้วในดา้ นบนของรายงานน้ี ทงั้ น้ี ปัญหาสารซลั เฟอร์สงู กวา่ มาตรฐานในลําไยสดจงึ ต้องไดร้ บั การแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพอ่ื รักษาระบบการคา้ ลําไยสด ของประเทศไทยกบั ประเทศคู่คา้ ต่างๆ จากการทีโ่ ครงการยดื อายลุ าํ ไยสง่ ออกเพ่ือแกไ้ ขลาํ ไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีดว้ ยการ จดั สร้างโรงรมลําไยมาตรฐานน้ันเกดิ จากการเสริมสรา้ งระบบของโรงรมลําไยท่มี ีการหมนุ เวยี นของลาํ ไยในโรงรม ลาํ ไยทีด่ ขี ้นึ และเสรมิ สรา้ งให้มกี ารใช้สารซลั เฟอรใ์ นการรมลาํ ไยอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ซึ่งจะชว่ ยเปน็ แนวทางในการ แกป้ ัญหาการถูกตกี ลบั หรือถกู กีดกันทางการค้าในกรณที ่ี ลําไยสดรมสารซลั เฟอร์ถูกตรวจพบว่ามสี ารซัลเฟอร์ ตกค้างเกินเกณฑม์ าตรฐานทีต่ า่ งประเทศกําหนดไว้ ซ่งึ ปญั หาสารซัลเฟอรต์ กค้างเกินเกณฑ์มาตรฐานเป็นปัญหาการค้าระหวา่ งประเทศท่จี ําเป็นตอ้ งมกี าร แก้ไขอย่างเรง่ ดว่ น ในการสรา้ งโรงงานรมลาํ ไยอยู่ภายใตโ้ ครงการยดื อายลุ าํ ไยสง่ ออกเพอื่ แก้ไขลําไยลน้ ตลาดดว้ ย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยสี ามารถทจ่ี ะช่วยยกระดบั มาตรฐานการรมลําไยด้วยซลั เฟอรแ์ ละช่วยใหเ้ กดิ โรงงานท่ี ได้มาตรฐานเพ่อื บรกิ ารเกษตรกรในพ้ืนทที่ ตี่ อ้ งการรมลําไย อีกท้ังโรงรมภายใต้โครงการ ยดื อายลุ าํ ไยส่งออกเพ่อื แกไ้ ขลําไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะสามารถเปน็ โรงรมต้นแบบทเ่ี สรมิ สรา้ งมาตรฐานการรม ลาํ ไยให้แกผ่ ปู้ ระกอบการโรงรมลาํ ไยรายอืน่ อกี ดว้ ย โครงการยืดอายลุ ําไยส่งออกเพื่อแก้ไขลําไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีด้วยการจัดสร้างโรง รมลาํ ไยมาตรฐานจะเป็นแหลง่ รายได้ที่สําคัญของเทศบาลและชุมชนซ่ึงคนในชุมชนภายใต้การประชาสังคมผ่าน เทศบาลตาํ บลจะรว่ มกันบริหารเพ่อื ให้เกิดประโยชนต์ อ่ ชุมชน จึงนาํ ไปส่กู ารพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมอย่างย่ังยืน โดยรักษาสง่ิ แวดลอ้ มซ่ึงเป็นไปตามวสิ ยั ทัศน์ของเทศบาลตาํ บลวังผางที่ระบุไวว้ ่า “ ชมุ ชนแห่งการศกึ ษา ศูนยก์ ลาง การค้าเกษตรอินทรีย์ วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง” ทั้งน้ี วิสัยทัศน์ของเทศบาลตําบลวังผางได้จัดทําขึ้นโดยคณะ ผู้บริหารและเจ้าหน้าท่ีของเทศบาลตําบลวังผางรวมถึงประชาชนท่ีอยู่ในเขตเทศ บาลตําบลวังผางมาร่วมแสดง ความคิดเห็นและพิจารณาถงึ จุดอ่อนจดุ แข็งโอกาสและข้อกําจัดของเทศบาล นอกจากนโ้ี ครงการยืดอายุลาํ ไยสง่ ออกเพ่อื แกไ้ ขลําไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยการ จดั สรา้ งโรงรมลาํ ไยมาตรฐาน ยงั นําไปส่กู ารยกระดับการคา้ และการรมลําไยในเทศบาลตาํ บลวงั ผางซ่งึ จะก่อให้เกดิ การพฒั นาทางโครงสรา้ งเศรษฐกจิ ชุมชนซึง่ ตรงกับยุทธศาสตร์การพัฒนาท้องถิ่นเทศบาลตําบลวังผางที่เน้นด้าน การส่งเสรมิ คณุ ภาพชีวติ และ ด้านการวางแผนการพัฒนา การสง่ เสรมิ การลงทุน พาณชิ ยกรรม และการท่องเที่ยว ในชมุ ชน ยิง่ ไปกวา่ น้ันการจดั สร้างโรงรมลาํ ไยมาตรฐานในตาํ บลวงั ผางกอ่ ใหเ้ กดิ โรงรมตน้ แบบการบริหารและการ สร้างระบบรมลําไยที่มีมาตรฐานให้ชุมชนอื่นซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างชุมชน ต่างๆกับตําบลวังผาง ทั้งยังก่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือกันในการรมลําไยและการค้าลําไยในกลุ่ม เกษตรกรและผ้คู ้าในชุมชนตา่ งๆกบั ชุมชนตําบลวังผาง ในอีกทางหน่ึง ข้อมูลผลกระทบโครงการดา้ นสงั คม ในดา้ นขอ้ มลู ผลกระทบด้านสงั คมนัน้ ไดม้ ีการลงพ้ืนทเ่ี บ้อื งตน้ เพ่อื ใหท้ ราบถึงสภาวะความเขา้ ใจของประชาชน ในพ้ืนท่ี และความเหน็ ในขอ้ มลู ตา่ งๆเก่ยี วกบั การจดั สร้างโรงรม โดยในการศึกษาผลกระทบดา้ นสังคมน้ันแสดงให้ ๓๑

โครงการจัดทาประชาพิจารณ์เพอื่ รบั ฟังความคดิ เห็นของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยสง่ ออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เหน็ ว่าประชาชนในชุมชนยงั มีความกงั วลเร่ืองผลกระทบในดา้ นสังคมอย่พู อสมควร ทังน้ีสามารถดูรายละเอียดได้ ในตารางดา้ นลา่ ง ตารางแสดงประเดน็ ข้อมลู ผลกระทบทางสงั คม ประเด็นด้านสงั คม ข้อมูลและข้อเทจ็ จริง ความเห็นของประชาชน ๑. ความรู้ ความเข้าใจใน สารซัลเฟอร์ (SO2)เป็นสารเคมีที่ใช้ใน ความเข้าใจทั่วไปคือ สารซัลเฟอร์ (SO2) เรือ่ งสารซลั เฟอร์ (SO2) ทกุ ภาคส่วนของเกษตรอยู่แล้ว รวมถึง เป็นสารเคมีท่ีมีผลกระทบต่อร่างกายใน เป็นผลิตผลรูปแบบอื่น ซ่ึงไม่ใช่มีการ ระยะส้ันและระยะยาวจึงทําให้หวาดกลัว ใช้เฉพาะการรมลาํ ไยเทา่ นนั้ ในเร่ืองผลกระทบ ๒. มีความขัดแย้งของ เนอ่ื งจากนโยบายโรงรมลําไยเป็นของ ผู้บรหิ ารชดุ ใหมม่ ีนโยบายตอ่ ต้านการสรา้ ง ชุมชน โดยมาจากเจ้าของ เทศบาลชดุ เก่าซง่ึ หมดวาระไปแลว้ และ โรงรมลําไยเป็นทุนเดิมเนื่องจากเป็น โรงรมลาไยในพนื้ ที่ ซึ่งเป็น มีการเปล่ียนผู้บริหารเทศบาลชุดใหม่ นโยบายในการเลือกตัง้ ผู้นาในการต่อต้านการ ทาํ ให้ชาวบ้านสบั สนในข้อมูล สร้างโรงรม ๓. กลุ่มท่ีสนับสนุนและ สภาพพ้ืนท่ีโดยรอบของโรงรมลําไย ชาวบ้านพ้ืนที่โดยรอบสนับสนุนให้มีการ กลมุ่ ท่ีต่อต้าน ต้นแบบมีโรงรมลําไยอยู่เป็นจํานวน สร้างโรงรมต้นแบบเพอื่ ลดต้นทุนการผลิต มากอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่เคยมีโรงรม และเป็นการแก้ไขปัญหาลําไยล้นตลาด มาต้งั ในเขตพนื้ ที่จะสรา้ งโรงรม ซึ่งโรง เปน็ สว่ นมาก แตก่ ล่มุ ชาวบ้านในพื้นท่ี หมู่ รมตน้ แบบจะเป็นโรงรมแรกเท่าน้ัน จึง ๘ซ่ึงส่วนใหญ่มีอาชีพเป็ นพ่อค้า ไม่ ทําให้ชาวบ้านกลัวผลกระทบที่จะ สนบั สนุนการสรา้ งโรงงานเพราะกลวั ว่าจะ เกิดข้นึ จากการสร้างโรงรมเท่าน้นั เกิดผลกระทบด้านตา่ งๆ ๔ . โ ค ร ง ก า ร โ ร ง ง า น ลักษะของโครงการไม่เข้าข่ายลักษณะ ชาวบ้านคิดว่าต้องทําประชาพิจ ารณ์ ต้นแ บบต้ องทาปร ะช า โครงการที่ต้องทําประชาพิจารณ์ตาม เพราะได้รับผลกระทบ หรือทุกโครงการ พจิ ารณ์หรอื ไม่ กฎหมาย แต่ทาง วว.จัดทําขึ้นเพื่อให้ ตอ้ งทาํ ประชาพจิ ารณเ์ สมอ ชุมชนมีส่วนรวม ๕. ผลกระทบจากการสรา้ ง ทาง วว.เพ่ิงทําการติดต้ังเคร่ืองวัดค่า กลัวสารซลั เฟอร์ (SO2)จะมีผลกระทบต่อ โรงรมทางด้านคุณภาพ คุณภาพอากาศ ๓จุด ในระยะพื้นที่ต้ัง สขุ ภาพ ประกอบกบั เมื่อมีการจดั ตง้ั โรงรม อากาศ เสียง มลพิษแบบ โครงการซึง่ มโี รงรมลาํ ไย แล้วจะเกิดมลภาวะทางเสียงจากการ อนื่ ๆ ขนส่งจะมีผลกระทบในระยะยาว ๖. คุณสมบัติของโรงรม โรงรมต้นแบบเปน็ นวตั กรรมใหม่ล่าสุด คนในชุมชนกลวั ว่า โรงรมต้นแบบ ที่สร้าง ลาไยต้นแบบมีลักษณะ ท่ลี ดสารตกค้างในผลติ ผลการอบลําไย มาจะเป็นเหมอื นโครงการอน่ื ๆ คือไม่ได้ใช้ อย่างไร ตามทกี่ ฎหมายกําหนด และยังช่วยลด ประโยชน์จริง และกลายเป็นอนุสาวรีย์ มลพษิ ทางส่ิงแวดลอ้ ม ทางภาษีทเ่ี ปล่าประโยชน์ ๗. เจ้าหน้าท่ีสาธารณสุข ยังไม่มีเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขในชุมชน อยากให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน ในชมุ ชน มาเป็นผู้ตรวจสอบกระบวนการ สิ่งแวดล้อมมาเป็นกรรมการในการ กอ่ สร้าง ตรวจสอบ ๓๒

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณ์เพอื่ รบั ฟังความคดิ เห็นของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี บทท่ี ๒ การเตรียมการสาหรับจดั ทาการประชาพจิ ารณ์ ๒.๑ การจัดประชุมออกแบบการประชาพิจารณ์ร่วมกับเจ้าหน้าท่ีเทศบาล ตัวแทนจังหวัด ผู้นาชุมชน และ สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ประเทศไทย (วว.) วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ ๒.๑.๑ วัตถุประสงค์ เพ่ือออกแบบการประชาพิจารณ์โครงการการจัดทาํ ประชาพิจารณ์เพ่ือรับฟังความคิดเห็นของประชาชน สาํ หรบั โครงการยืดอายุลําไยสง่ ออกเพอื่ แกไ้ ขลําไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒.๑.๒ ผู้เข้าร่วมประชมุ ลาดับที่ ช่ือ – สกุล ตาแหน่ง เบอร์โทรศัพท์ หมายเหตุ นักวิจัย แทนนายอําเภอ ๑. นายธนภักษ์ อินยอด ๐๙๑๗๓๘๒๒๙๗ นักวิจยั ๒. ดร.สภุ ตั รา โกศล นักวิจัย ๐๘๑๘๔๔๓๖๘๓ ๓. นางสพุ ตั รา เปี่ยมอารี กรรมการหมบู่ ้าน ๐๘๙๑๑๔๑๓๙๔ ๔. นายทวี รพกี าญจน์ นักวิจยั อาวโุ ส ๐๘๗๐๒๑๖๒๙๒ ๕. นายแสวง เกดิ ประชุม นวส.เกษตรชาํ นาญการ ๐๘๖๖๐๓๕๕๔๔ ๖. นางเกศรนิ เมฆษา ประธานผูส้ ูงอายุ ๐๘๓๓๗๘๓๔๑๕ ๗. นายสขุ ไชยเสน สมาชิกเกษตรกรลาํ พูน ๐๘๒๖๑๔๔๓๐๖ ๘. นายสมศักดิ์ ทพิ วรรณ์ ผญบ. หมู่ ๑ ๐๘๗๑๙๐๒๓๔๘ ๙. นายนพรัตน์ ขัดมะโน คณะนิตศิ าสตร์ ๐๘๕๐๓๕๗๕๖๘ ๑๐. ผศ.ชาตรี เรอื งเดชณรงค์ ปลัดอําเภอ ๐๘๑๕๙๕๕๘๐๘ ๑๑. นายเอกอมั พร อุปละกุล ๐๘๑๙๘๐๙๗๐๐ ๑๒. นายหริ ัณย์ แก้วสกึ ผจก.ธกส.เวียงหนองล่อง ๐๘๖๑๘๑๒๑๒๒ ๑๓. นายกลศาสตร์ พนง. ธกส. ๐๘๑๙๖๐๖๔๖๑ ๑๔. นายไพนท์ วี ผญบ. หมู่ ๓ ๐๘๗๓๑๔๔๒๑๖ ๑๕. นายถนอม ๐๘๑๘๘๘๘๐๑๙ ๑๖. นายนโิ รจน์ อดตี พอ่ หลวง ม.๑ ๐๘๑๙๕๑๔๖๕๙ ๑๗. นายปรีชา แดงชอบ ปลดั เทศบาล ๐๘๙๗๕๙๕๖๓๒ ๑๘. ส.อ.สพุ จน์ คุณาวาส เลขาฯนายก ๐๘๔๖๑๑๓๕๖๐ ๑๙. นายปิยณฐั กนั ทาดง รองนายก ๐๘๔๔๘๖๐๔๕๙ ๒๐. นายวัชรพล เกษตรอําเภอ ๐๘๑๙๕๐๖๘๕๕ ๒๑. นางทววี รรณ ชํานาญอาสา นวก.เกษตร ๐๘๑๗๒๔๔๓๔๔ ๒๒. นางรัษฎา อาจารย์ มช. ๐๘๕๗๐๖๑๕๓๖ ๒๓. ดร.พรชยั วิสุทธิศกั ด์ิ ๐๙๑๘๐๙๗๓๕๑ ๓๓

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณเ์ พือ่ รบั ฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายลุ าไยสง่ ออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒.๑.๓ สรุปผลการประชมุ โครงการการทาํ ประชาพิจารณ์ กฎหมายทีเ่ กยี่ วข้อง (ระเบียบสํานกั นายกรัฐมนตรวี า่ ด้วยการรับฟังความ คดิ เห็นของประชาชน พ.ศ. ๒๕๔๘) และผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดล้อม เพ่ือให้เกิดการมีส่วนร่วมทุกฝุายของชุมชนใน ท้องถน่ิ  โครงการการทําประชาพิจารณ์ทําตามกฎหมายกําหนด โดยการกําหนดการทําประชาพิจารณ์ รว่ มกนั โดยการขอความคิดเหน็ จากผู้มีส่วนร่วม ร่วมกัน โดยการประชาสัมพันธ์โครงการ และ การให้ขอ้ มูล แลว้ ศกึ ษาดูงาน ๔ครงั้ แล้วจัดทําประชาพจิ ารณข์ องประชาชนในท้องถิ่น ๓๐๐คน จากนัน้ สรปุ ผลการทําประชาพิจารณ์ ในการจดั ทาํ โครงการประชาพิจารณ์เพ่ือแกไ้ ขปญั หาการส่งออกลาํ ไยโดยเทคโนโลยี โดยมีเทคนิคในการ ยืดอายลุ าํ ไยเพอื่ การส่งออก โดยการใช้ซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์รม ทําให้ลําไยส่งออกได้ส่งผลให้ประเทศไทยมีรายได้ จากการส่งออกจํานวนมาก แตก่ ารส่งออกถกู ตรวจพบว่า มาตรฐานซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกิดมาตรฐานที่กฎหมาย กําหนด ซึ่งทาง วว.จงึ ได้ออกสาํ รวจโรงงานรมลําไย ตรวจสารตกค้างเพ่ือแก้ปัญหาสารตกค้างและแก้ปัญหาการ สง่ ออก ดังนั้น ในการรมซลั เฟอรไ์ ดออกไซดท์ ี่ไมไ่ ด้มาตรฐาน เปน็ สิ่งสาํ คัญท่ีต้องแก้ปัญหา การตอบคาถามและการแสดงความคิดเหน็ ของผู้เข้าร่วมประชุม ถาม เม่ือมีการจดั ต้ังโรงงานแลว้ จะแก้ปัญหาอะไรบา้ ง แล้วมผี ลกระทบอย่างไรและมีการบริหารจัดการ อยา่ งไร ตอบ การจดั ตั้งโรงงานมิไดม้ ีแต่จะแก้ปัญหาการส่งออกอย่างเดียว แต่เป็นการทําเพ่ือแก้ปัญหา ส่ิงแวดล้อม และการออกแบบโรงงานเพ่ือการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ประชาชน เพราะผลทางสังคมมีปัญหา มากกวา่ การสง่ ออกยิ่งกว่า เม่ือมีการจัดทําประชาพิจารณ์แล้วจะมีการบริหารจัดการโดยเทศบาลร่วมกับชุมชน หรือให้เอกชนมาเช่าแล้วผลกําไรที่ได้ ให้ชุมชนมาจัดการร่วมกัน (สัมปทาน)หรือบริหารจัดการในรูปแบบของ สหกรณต์ น้ ทุนการสร้างโรงงานรัฐบาลเป็นผ้จู ัดสรรงบประมาณ ถาม การแก้ไขปัญหาลําไย ในส่วนของผลกระทบของสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จะทําอย่างไรให้ชุมชน ยอมรบั การก่อตั้งโรงงานและจะทําอย่างไรให้ประชาชนหรอื ชมุ ชนในทอ้ งถ่ินยอมรบั การทําประชาพจิ ารณ์ ตอบ ในการจัดทําประพิจารณ์โดยการจัดการประชุมเกี่ยวกับการทําประชาพิจารณ์ ๗ครั้ง ร่วมกบั ชมุ ชนและมกี ารนําชมุ ชนออกไปศึกษาดงู านรว่ มกบั ทีมงาน ถาม การแกป้ ญั หาทางการตลาดจะทาํ อย่างไร ซ่งึ ประชาชนในท้องถ่นิ ประสบปญั หาจากพ่อคา้ คนจีน (ลง้ ) ตอบ การดําเนนิ การแก้ไขปญั หา โดยทางรัฐบาลไดต้ ิดตอ่ กับอินเดยี และอนิ โดนีเซยี ไว้แล้ว โดยไม่ มีปญั หาในการสง่ ออกจากการตัง้ โรงงานนเี้ ลย เพราะมตี ลาดรองรับอยแู่ ลว้ ถาม ประเด็นการคัดเกรดของลําไยท่ีจะมารมสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และ เกรดการส่งออก จะใช้ มาตรฐานการคดั เกรดอย่างไรและจะจัดการกับ ล้งลําไย หรือ พ่อค้าคนจีน อย่างไร เพราะพ่อค้าจีนในท้องถิ่นมี การจัดตัง้ โรงโรงงานในพืน้ ทีม่ าก ตอบ ปัญหามาตรการการกีดกันทางการค้า ในการส่งออกลําไยไปยังตลาดของจีนนั้น ต่างประเทศกาํ หนดมาตรฐานการสง่ ออกและมาตรฐานซัลเฟอร์ไดออกไซด์ไว้ในมาตรฐานที่สูง ในการส่งออกเรา ควรควบคุมการรมซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ตามท่ีมาตรฐานกาํ หนด ๓๔

โครงการจดั ทาประชาพิจารณเ์ พื่อรบั ฟงั ความคิดเห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพื่อแกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี การท่จี ะควบคุมโรงรมลาํ ไยน้ันไม่อาจจะทําได้ แต่เราควรทําเป็นตัวอย่างโรงงานที่ได้มาตรฐาน ดีกว่าเพื่อให้โรงรมอื่นๆ มาดูมาตรฐานการรมของเราจะดกี วา่ เพราะเป็นรูปแบบการจดั การท่ดี กี ว่าเราสามารถทํา ตามมาตรฐานท่ีกําหนด การคัดเกรดลําไยจะมี QR Cord กําหนดไว้ ในการนําเข้าโรงงานรมตามมาตรฐานที่โรงงาน ตน้ แบบกาํ หนด ถาม การจัดต้ังโรงงานรมลําไยจะมีวิธีการอย่างไรให้ชุมชนยอมรับและมีผลกระทบต่อชุมชนน้อยที่สุด เพราะชุมชนประสบปัญหาด้านส่ิงแวดล้อมและสุขภาพและใครเป็นผู้ควบคุมกาํ หนดมาตรฐานซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ ตอบ ในการจัดต้ังโรงงานรมลําไยได้ทาํ ตามมาตรฐานทก่ี ฎหมายกําหนด ถาม โรงงานรมลําไยในจังหวดั ลาํ พนู มกี ่ีโรงงาน และโรงงานท่ีได้มาตรฐานหรือเกินมาตรฐานมีก่ีโรงงาน และมมี าตรการการปอู งกันอย่างไร ตอบ มาตรฐานโรงรมรัฐบาลจะประกาศมาตรฐานโรงรมตามมาตรฐาน GMP และมีการนํา เทคโนโลยมี าใช้ และทางรัฐบาลยินดีให้ความร่วมมือและความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการช่วยเหลือการรมลําไย เชยี งใหม่ ลาํ พูน มีโรงรมสามรอ้ ยกวา่ โรงรม เชยี งใหมม่ ี ๓๗โรง ลําพนู มี ๓๒ โรง ถาม การแกป้ ญั หาโรงรมของพอ่ คา้ ชาวจนี จะทําอยา่ งไร ตอบ ในปี ๒๕๕๘จะมกี ฎหมายบังคับเกยี่ วกบั มาตรฐานสารซัลเฟอรไ์ ดออกไซดใ์ นการรมลาํ ไย ถาม การบริการจดั การโรงงานในรูปของสหกรณค์ วรควบคุมดูแลอยา่ งไร ตอบขอให้นายกเทศบาล จดั ทมี งานเพื่อจะไดร้ ่วมกนั กับ วว. ในการบริหารจัดการร่วมกันกนั ถามในการจดั ต้ังโรรงรมจะประสบผลสําเร็จในระยะยาวหรอื ไม่ ตอบตอ้ งมีการวางแผนและบรหิ ารจัดการก่อน และมกี ารตดิ ตามดแู ล เพอื่ ใหเ้ กดิ รายไดแ้ ละยัง่ ยนื โดยการบรหิ ารจดั การรว่ มกนั ระหว่างหน่วยงานและชุมชน ทัง้ ก่อนและหลังการจัดต้ังโรงงาน ในด้านส่ิงแวดล้อม สขุ ภาพของประชาชน โดยการจัดทําแผนปฏบิ ตั งิ านและเป็นตน้ แบบแก่โรงงานอ่นื การแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการประชาพิจารณเ์ พ่อื รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสําหรับโครงการยืด อายุลาํ ไยส่งออกเพอื่ แก้ไขลาํ ไยล้นตลาดดว้ ยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๓๕

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณเ์ พือ่ รับฟงั ความคดิ เห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายลุ าไยส่งออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี การตง้ั คณะกรรมการประชาพจิ ารณ์เพื่อรบั ฟังความคดิ เห็น ๑๒ท่านประกอบด้วย ๑. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ชาตรเี รอื งเดชณรงค์ ประธานคณะกรรมการ ๒. นายฤาชยั กนั ทาคง กรรมการ ๓. นางทวีวรรณ ชาํ นาญอาสา กรรมการ ๔. นายสมชาย สุริโยโดร กรรมการ ๕. นายเอกอัมพร อุปละกุล กรรมการ ๖. นายชานนท์ อินทนนท์ กรรมการ ๗. นางเกศรนิ เมฆขลา กรรมการ ๘. นายมนู นอ้ ยมณวี รรณ์ กรรมการ ๙. สบิ เอกสพุ จน์ คุณาวงค์ กรรมการ ๑๐.นายสเุ ทพ จนั ดง กรรมการ ๑๑.นายพรชยั วิสุทธิศกั ดิ์ กรรมการ ๑๒.นางสาวพทุ ธวรรณ ขนั ต้นธง กรรมการและเลขานุการ ๓๖

โครงการจดั ทาประชาพิจารณ์เพื่อรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายลุ าไยสง่ ออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รูปภาพการประชุมจัดประชมุ ดประชมุ ออกแบบการประชาพิจารณ์ร่วมกับเจ้าหน้าท่ีเทศบาล ตัวแทน จังหวัด ผู้นาชุมชน และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๗ ๓๗

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณเ์ พ่อื รบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยดื อายลุ าไยสง่ ออกเพื่อแกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๓๘

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณเ์ พือ่ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนสาหรับโครงการยดื อายุลาไยสง่ ออกเพือ่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒.๒ การจัดประชุมสรุปรูปแบบประชาพิจารณ์ร่วมกับเจ้าหน้าท่ีเทศบาล ตัวแทนจังหวัด ผู้นาชุมชน และ สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)วันที่ ๘พฤษภาคม ๒๕๕๗ ๒.๒.๑ วตั ถุประสงค์การประชมุ เพ่อื ท่จี ะสรุปผลการออกแบบแผนและกระบวนการการจัดทําประชาพิจารณ์ของโครงการยืดอายุลําไย ส่งออกเพือ่ แก้ไขลาํ ไยลน้ ตลาดดว้ ยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒.๒.๒ ผ้เู ขา้ ร่วมประชุม ลาดบั ท่ี ช่อื – สกลุ ตาแหน่ง หมายเหตุ ๑. นายชานนท์ อนทนนท์ สมาชกิ สภาเทศบาล ๒. นางเกศรนิ เมฆลา นกั วิชาการชาํ นาญการ แทน ๓. นายนิเวศน์ ตาจุมปา ทีป่ รกึ ษานายก อบต.วังผาง แทน ๔. นายสุวิช สุภาวงค์ แทน ๕. นายสุพศิ ไชยเดช สมาชิกสภาเทศบาล ๖. นายเศวต พงษส์ ขุ ผชู้ ว่ ย ผญบ. ๗. นายธวชิ จันทรค์ าํ ผชู้ ่วย ผญบ. ๘. นายณรงค์ จาตุรพจน์ ผชู้ ่วย ผจก.ธกส. ๙. นายวรพล ตามลู รองนายก อบต.วงั ผาง ๑๐. นายกําชยั กนั ทาคง กาํ นนั ต.วังผาง ๑๑. นายผล ใจงวิ้ คาํ สมาชกิ สภาเทศบาล ๑๒. นายสเุ ทพ จันทรด์ ง ผญบ. ๑๓. นายทวี รพกี าญจน์ คกก.หมูบ่ า้ น ๑๔. นายอภชิ ัย ปูแดง สมาชิกสภาเทศบาล ๑๕. นายรงุ่ ครองรตั น์ สมาชิกสภาเทศบาล ๑๖. นายสงวน ภนั ทะดี สมาชกิ สภาเทศบาล ๑๗. นายปิยณัฐ กนั ทาคง เลขาฯ นายก อบต.วงั ผาง ๑๘. นายถนอม ไชยเดช ผญบ. ๑๙. นายนพรัตน์ ขัดมะโน ผญบ. ๒๐. นายอุดม ตยุ้ แพร่ สมาชิกสภาเทศบาล ๒๑. นายเล็บครุฑ ผชู้ ว่ ยผบญ. ๒๒. นายณฐั พล ตาจุมปา ผญบ. ๒๓. นายพสิษฐ์ สุขสวัสด์ิ ประชาชน ๒๔. นายเนตริ ัฐ นิจประกิจ นกั วิชาการชาํ นาญการ ๒๕. นายจตุรงค์ ตาจุมปา สมาชกิ สภาเทศบาล ๓๙

โครงการจดั ทาประชาพิจารณเ์ พอื่ รับฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยส่งออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒.๒.๓ สรปุ ผลการประชุม การตอบคาถามและแสดงความคิดเห็นของผู้เข้ารว่ มประชุม ถาม การทําความเข้าใจกบั ประชาชนในท้องถนิ่ ใหเ้ ข้าใจตรงกนั ในเรื่องผลดีและผลเสียของการทําโรงรม รวมทง้ั ใครไดป้ ระโยชน์จากโครงการนี้ ตอบ การบรหิ ารจัดการโดยการจัดการรว่ มกัน โดยรปู แบบกองทุนและสหกรณ์ ผลกระทบท่เี กิดแกช่ ุมชนจะมที มี งานมาดสู ่ิงแวดลอ้ มในท้องถนิ่ งบประมาณท่จี ดั ทาํ เทศบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ โครงการ เพราะ วว. เปน็ อสิ ระจากหนว่ ยงาน ชมุ ชุนไดผ้ ลประโยชน์ฝาุ ยเดยี ว เพราะโครงการน้ีทําข้ึนเพื่อปูองกัน การถูกเอาเปรียบจากพอ่ คา้ คนจีน มาตรฐานซลั เฟอร์ไดออกไซด์ค่าทั่วไม่เกิน ๕ptmโรงรมท่ีจัดทําน้ีมีมาตรฐานตํ่ากว่า ๕ptmซึ่งในการจัด ทําทางกรมวชิ าการการเกษตรจะเปน็ ผูต้ รวจมาตรฐานซลั เฟอรไ์ ดออกไซด์ และมีการตรวจมาตรฐาน GMP ทําให้ เม่ือส่งออกจะทําใหไ้ ดม้ าตรฐานทางการคา้ เพราะในอนาคตจีนจะกีดกันทางการค้า หากเราทํามาตรฐานได้ตาม กําหนด จีนกไ็ มส่ ามารถกดี กันทางการคา้ เรา ถาม หากโรงงานไม่ไดม้ าตรฐานจะดาํ เนนิ การอยา่ งไร ตอบ กรมวิชาการมีอํานาจส่ังปิด หรือส่วนของเทศบาลส่ังปิด หากกรรมการหรือสมาชิกกลุ่ม เห็นว่าค่ามาตรฐานเกินกส็ ามารถสงั่ ปดิ ได้ และในการดําเนินงานทาง วว. จะเข้ามาตรวจดูการดําเนินโรงรมและ ตรวจดูและรกั ษาโรงรม ถาม ผลกระทบท่ีเกิดจากซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โดยการใช้ความรู้และความเข้าใจแก่ชุมชน โดยการให้ ทีมงานด้านสาธารณสขุ เขา้ มามสี ว่ นในการใหค้ วามรู้ไดห้ รือไม่ ตอบ ในโรงรมจะมีมาตรฐานรบั รองความปลอดภยั ดว้ ย ซงึ่ จะมีการเยียวยาค่าเสียหายด้วย และ เปน็ ศนู ยว์ จิ ยั และพฒั นาโครงการอ่ืนไปเรอื่ ยๆ ถาม อยากให้ย้ายโรงงานไปท่ีอื่นได้หรือไม่เนื่องจาการต้ังโรงงานอยู่ใกล้ชุมชนอาจก่อให้เกิดมลพิษต่อ ประชาชนในชมุ ชนและโรงงานแห่งนส้ี ร้างเปน็ โรงงานแรกในประเทศกลวั ชาวบา้ นจะเปน็ หนทู ลอง ตอบโรงรมทจี่ ดั ตัง้ เปน็ โรงรมตน้ แบบทีส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ชมุ ชนน้อยทส่ี ดุ ถาม ค่ามาตรฐานซลั เฟอรไ์ ดออกไซดท์ อ่ี อกมาในแต่ละฤดูกาลการกระจายต่างกนั จะมีการจัดการอยา่ งไร ตอบจะมกี ารบริหารจดั การตามท่ีหนว่ ยงานได้วางกรอบกาํ หนดไว้ คาถาม เม่อื มกี ารจดั ตง้ั โรงรมแลว้ จะมกี ารบริหารจัดการอยา่ งไร? ตอบการบริหารจัดการสหกรณ์ โดยเวียงหนองล่องมีโรงรมลําไย ๑๖ โรง ในการรวมกลุ่ม เกษตรกรผปู้ ลูกในรูปแบบสหกรณ์การเกษตรแหลง่ จําหนา่ ยผลผลติ ลําไย เมื่อมีการรวมกลุ่มแล้วทําให้เกิดอํานาจ ตอ่ รอง และมีการรว่ มกล่มุ หรอื ความร่วมมือกบั สหกรณ์อนื่ แหลง่ จาํ หน่ายอาจเป็น โลตสั บิ๊กซี ไปรษณยี ์โครงสร้าง บริหารจดั การสหกรณ์ มคี ณะกรรมการ ผู้จดั การ และร่วมการบรหิ ารจดั การกบั ชุมชนแนวทางการบรหิ ารจัดการ มี งานวางแผน ติดตาม และประเมินผล การเตรียมการเบอ้ื งตน้ ในการจดั ต้ังสหกรณ์ โดยการรวบรวมกลุ่ม ๔๐

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณ์เพอ่ื รับฟังความคดิ เห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายุลาไยสง่ ออกเพ่อื แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ที่ประชุมมขี อ้ สรุปในประเด็นของการให้ความรู้เก่ียวกับโครงการการทาประชาพิจารณ์แก่ผู้เข้าร่วม ประชมุ (ผนู้ าชุมชน) ดงั น้ี ข้อ ๑ กาหนดแนวคาถามในประเดน็ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. การสร้างศนู ยถ์ ่ายทอดเทคโนโลยยี ดื อายลุ าไยเพ่ือการส่งออกของ วว. ในอาเภอเวียงหนอง ล่อง จงั หวดั ลาพนู คร้ังน้ีคืออะไร ๒. โรงรมลาไยที่จะมาสร้างน้ี เหมือนหรือแตกต่างอยา่ งไรกบั โรงรมท่ีมีอยใู่ นปัจจุบนั ๓. โรงรมน้ีจะมอี นั ตรายต่อ ๑.๑ ส่ิงแวดลอ้ มอยา่ งไรหรือไมใ่ นเรื่องของ ๑.๑.๑ กลิ่น ๑.๑.๒ สุขภาพคนโดยเฉพาะผทู้ ี่อยบู่ ริเวณใกลเ้ คียง ๑.๑.๓ การสะสมของกามะถนั ในอากาศระยะยาว ๑.๑.๔ ตน้ ไมแ้ ละฝนที่ตกลงมา ๔. โรงรมท่ีจะสร้างน้ี ๑.๑ มีขนาดใหญ่แค่ไหน (ตามกฎหมายตอ้ งประเมินผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มต่อ ชุมชน หรือตอ้ งทาประชาพิจารณ์หรือไม)่ ๑.๒ สามารถรมลาไยไดว้ นั ละเท่าใด ๑.๓ จะมคี นทางานประจาจานวนเท่าใด ๑.๔ ลาไยท่ีรมจะมีคุณภาพแตกต่างจากโรงรมทว่ั ไปหรือไม่อยา่ งไร ๑.๕ นอกจากใชร้ มลาไยแลว้ สามารถใชป้ ระโยชนอ์ ื่นไดอ้ ีกหรือไม่ ๕. โดยสรุปประโยชนท์ ่ีคนในชุมชนจะไดร้ ับจากการสร้างศนู ยถ์ ่ายทอดเทคโนโลยยี ดื อายุ ลาไยน้ีมีอะไรบา้ ง ๖. กา๊ ซซลั เฟอร์คืออะไร มีการใชก้ บั การถนอมอาหารอะไรบา้ งและใชอ้ ยา่ งไร ๗. ทาไมถึงมกี ารใชก้ ๊าซซลั เฟอร์ในลาไย และเมือ่ นามาใชใ้ นลาไยแลว้ จะมีผลอยา่ งไรกบั ลาไยบา้ ง ๘. ปัจจุบนั มีวธิ ีการใชซ้ ลั เฟอร์ในลาไย กนั อยทู่ วั่ ไปอยา่ งไรบา้ ง ๙. คนซ้ือมีความเห็นอยา่ งไรต่อการใชซ้ ลั เฟอร์ในลาไย ๑๐. การใชซ้ ลั เฟอร์ในลาไย มีขอ้ ดี ขอ้ เสียอยา่ งไรบา้ ง ๑๑. ปัญหาท่ีมีในปัจจุบนั ของการใชซ้ ลั เฟอร์ในลาไย ๔๑

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณ์เพอ่ื รบั ฟงั ความคดิ เห็นของประชาชนสาหรับโครงการยดื อายลุ าไยส่งออกเพื่อแกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑.๑ ในผลลาไย ๑.๒ ส่ิงแวดลอ้ ม ๑.๓ คน ๑.๔ การคา้ ๑๒. ลกู คา้ ในประเทศจนี ท่ีเป็นตลาดขนาดใหญ่ ๑.๑ ชอบลาไยสดของไทยหรือไม่ ๑.๒ ลกั ษณะของลาไยที่ลกู คา้ คนจีนชอบคืออะไร ๑.๓ ราคาของลาไยที่รมดว้ ยกามะถนั แตกต่างจากลาไยท่ีไม่ไดร้ มหรือไม่ เท่าใด ๑.๔ มปี ัญหาอะไรบา้ งในการขายลาไยสดในจีน ๑.๕ ตลาดจะขยายในจีนไดอ้ ีกเท่าได ๑๓. ลกู คา้ ในประเทศอืน่ ๆ ๑.๑ มปี ระเทศใดอกี หรือไม่ท่ีเป็นลกู คา้ สาคญั และคนในประเทศน้นั ตอ้ งการลาไย สดแบบใด ๑.๒ มปี ัญหาอะไรบา้ งในการขายลาไยสดในประเทศน้นั ๆ ๑๔. การบริหารจดั การเม่ือโรงรมสร้างเสร็จ ๑.๑ ใครเป็นผดู้ าเนินการ ๑.๒ จะทาในลกั ษณะไหน ๑.๓ จะหาลกู คา้ ไดอ้ ยา่ งไร ๑.๔ ทาง วว. จะช่วยดูแลเร่ืองอะไรบา้ งหลงั จากสร้างเรียบร้อยแลว้ ๑๕. หากบริหารแบบสหกรณ์จะจดั การอยา่ งไร ๑.๑ ใครบริหารและบริหารอยา่ งไร ๑.๒ สมาชิกเป็นใคร และมสี ่วนร่วมในการดาเนินการอยา่ งไร ๑.๓ สมาชิกไดป้ ระโยชน์จากโรงรมในเร่ืองอะไรบา้ ง ๑.๔ นอกจากสมาชิกแลว้ ใครไดป้ ระโยชน์บา้ ง ๑.๕ ใครนาลาไยมารม และขายลาไยใหใ้ คร ๑.๖ มลู ค่าการซ้ือและขายลาไยต่อปี น่าจะเป็นเท่าใด ๑๖. หากมกี ารสร้างเกิดข้นึ การสร้างจะใชเ้ วลานานแค่ไหน ๔๒

โครงการจัดทาประชาพิจารณเ์ พอื่ รบั ฟังความคิดเห็นของประชาชนสาหรับโครงการยืดอายุลาไยสง่ ออกเพือ่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑๗. ข้นั ตอนการสร้างเป็นอยา่ งไร ผรู้ ับเหมาการก่อสร้างเป็นใคร เลอื กมาอยา่ งไร ใครเป็น ผจู้ ดั การรับและจ่ายเงินในการก่อสร้าง ๑๘. หากมีปัญหามลพษิ จะดาเนินการอยา่ งไร ๑๙. ประชาชนอ่นื ๆในพ้นื ท่ีจะไดร้ ับประโยชน์อยา่ งไรบา้ งจากการมโี รงรม ขอ้ ๒สถานที่การประชมุ ท่ปี ระชุมมีมติใหใ้ ชส้ ถานท่จี ดั ทาํ ประชาพิจารณ์ ณ หอประชมุ เทศบาลตําบลวงั ผาง ข้อ ๓ ผู้เขา้ ร่วมประชม ที่ประชุมมีมติว่า ประชาชนในหมู่ท่ีหมู่ ๘และ หมู่ ๒จะมีผลกระทบมากที่สุด จึงให้เชิญ ประชาชนทั้งสองหมู่บา้ นเปน็ หลกั กอ่ น จํานวน ๒๐๐คน แล้วหม่บู ้านอืน่ ๆ ใหเ้ ชญิ ประชาชนเพ่มิ อีกจาํ นวน ๑๐๐ – ๒๐๐คน ข้อ ๔ ขอ้ ความประชาสัมพันธ์ในแผน่ พบั และป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ ขอ้ ความป้ายประชาสมั พนั ธ์ ๔๓

โครงการจดั ทาประชาพจิ ารณเ์ พื่อรบั ฟังความคดิ เห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายลุ าไยสง่ ออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ข้อความแผน่ พับ ๔๔

โครงการจัดทาประชาพิจารณเ์ พอ่ื รบั ฟงั ความคดิ เห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายุลาไยส่งออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รูปภาพจัดประชุมสรุปรูปแบบประชาพิจารณ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาล ตัวแทนจังหวัด ผู้นาชุมชน และสถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ๔๕

โครงการจัดทาประชาพจิ ารณเ์ พ่อื รับฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยดื อายุลาไยส่งออกเพือ่ แกไ้ ขลาไยล้นตลาดด้วยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒.๓ การจดั เยี่ยมชมโรงงานตัวอยา่ งใหแ้ ก่ตัวแทนชมุ ชนอย่างน้อย ๒๐ คน ซ่ึงประกอบดว้ ย ผู้นาชุมชน และ ประชาชนผูไ้ ดร้ บั ผลกระทบ ๒.๓.๑ วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ผนู้ าํ ชุมชน ผู้นําเกษตรกร และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบโดยรอบโครงการฯ ได้เห็นกระบวนการ เทคนิคของการรมลาํ ไย ตัวอย่างการบริหารการจัดการ ในรปู แบบตา่ งๆ สถานที่ คณะท่ีปรกึ ษาได้รับการเลือกสถานที่ไปดูงาน เยี่ยมชมโรงงานของสหกรณ์การเกษตรประตูปุา เนอื่ งจากเป็นสหกรณท์ ่ีดําเนินการรับซ้ือลาํ ไยจากคนในชุมชนแล้วนาํ มารมดว้ ยสารซันเฟอร์ไดออกไซด์ เพ่ือสง่ ขาย ใหผ้ ู้บริโภคภายในประเทศซ่ึงผา่ นชอ่ งทางการตลาดตา่ งๆ ซึง่ ประสพความสาํ เรจ็ ในระดับหน่งึ ๒.๓.๒ ผูเ้ ขา้ รว่ มดงู าน ผู้เข้าร่วมดูงาน ประกอบด้วย ผู้นําชุมชน เกษตรกร ผู้ค้าลําไย รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบของโครงการ จาํ นวน๑๑คน โดยมีผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ชาตรี เรืองเดชณรงค์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ เป็นผู้นําเยี่ยมชมสหกรณ์ การเกษตรประตูปุา ๒.๓.๒ ผลการดงู าน เร่มิ ออกเดนิ ทางจากจดุ นดั พบเทศบาลตาํ บลวงั ผาง เวลา ๑๓.๓๐น.ถึง สหกรณ์การเกษตรประตูปุา เวลา ๑๔.๓๐น. โดยมคี ุณดสุ ิต ยาชะวนั กรรมการสหกรณ์ และคุณมาลี เปรมมณี ผู้จดั การสหกรณ์การเกษตรประตูปุา จํากดั เป็นผนู้ ําเสนอ วีดีทัศน์การดาํ เนนิ งานของสหกรณ์และตอบข้อซักถาม ซ่ึงมีข้อสรุปคือ สหกรณ์การเกษตร ประตปู าุ เกิดขนึ้ จากการรวมตัวของผู้นาํ ชมุ ชนและชาวบ้าน ร่วมกันหาหนทางในการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อต่อรอง และยกระดบั ราคาลําไยให้สงู ขน้ึ เชน่ พ่อค้าคนกลางทไ่ี ปรับซอ้ื ลําไยในราคากิโลกรมั ละ ๑๒บาท แต่สหกรณ์รับซ้ือ ลาํ ไยจากสมาชิกสหกรณใ์ นชมุ ชนราคากโิ ลกรมั ละ ๒๐บาท แล้วทําการรมลําไยส่งขายใหก้ ับห้างค้าปลีก โลตสั และ การไปรษณีย์ ซง่ึ ขายลําไยใหก้ บั ประชาชนส่งถงึ บา้ นในราคาเดียวท้ังประเทศ ในราคากิโลกรัมละ ๕๐บาท ทําให้ ประชาชนในชุมชนมีฐานะท่ีดีข้ึน สร้างสวัสดิการให้กับสมาชิกในชุมชน ปัจจุบันกําลังการผลิตของโรงรมของ สหกรณป์ ระตปู าุ มีกาํ ลงั การผลิตทนี่ ้อย เมอื่ เปรยี บเทยี บกับความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคภายในประเทศ เน่อื งจากมี ห้องรมเพียง ๒ห้องเท่านั้นและยังไม่มีประสิทธิภาพมากเท่ากับเทคโนโลยีของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ดา้ นผลกระทบต่อสงิ่ แวดล้อม พบว่าสหกรณ์ประตปู าุ สร้างโรงรมอย่ใู นบริเวณกลางชุมชน ดําเนินกิจการ มาไม่นอ้ ยกว่า ๔ปี แตก่ ็ไม่ได้รบั การร้องเรยี นจากชุมชนวา่ ได้รบั ผลกระทบอย่างใดๆ สวนลําไยและมะมว่ งท่อี ยรู่ อบ โรงรม กม็ ผี ลผลิตงอกงามดี แม้วา่ ระบบกาํ จัดสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ยงั ไมไ่ ดม้ าตรฐานและมีการรั่วไหลอย่บู า้ ง การสงั เกต ปฏิกริ ยิ าของผ้นู ําชุมชนเกษตรกรและผูค้ ้าลาํ ไย พบว่ามีทา่ ทที ี่เปลี่ยนแปลงไปจากการต่อต้าน มาเปน็ เหน็ ด้วย โดยบอกวา่ นา่ จะเป็นผลดมี ากกว่าได้รบั ผลเสยี จากผลกระทบที่จะมีการสร้างโรงงาน และน่าจะ เปน็ โอกาสของชุมชนตําบลวงั ผางที่จะส่งออกลําไยและสร้างความเช่อื ถอื ของลาํ ไยท่ไี ปจากตาํ บลวงั ผาง เสร็จส้ินการดงู านเวลา ๑๖.๐๐น. เดนิ ทางกลับถงึ เทศบาลตาํ บลวงั ผาง เวลา ๑๗.๐๐น. ๔๖

โครงการจดั ทาประชาพิจารณ์เพ่อื รับฟงั ความคิดเห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายลุ าไยส่งออกเพอื่ แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ผเู้ ขา้ ร่วมศึกษาดงู าน ลาดับท่ี ชื่อ – สกลุ ตาแหน่ง หมายเหตุ ๑. นายชานนท์ อนทนนท์ ๒. นางเกศริน เมฆลา สมาชิกสภาเทศบาล ๓. นายนเิ วศน์ ตาจุมปา ๔. นายสวุ ชิ สภุ าวงค์ นักวชิ าการชาํ นาญการ ๕. นายสุพศิ ไชยเดช ๖. นายเศวต พงษ์สขุ ท่ปี รกึ ษานายก อบต.วังผาง ๗. นายธวิช จนั ทร์คํา ๘. นายณรงค์ จาตรุ พจน์ สมาชกิ สภาเทศบาล แทน ๙. อาจารย์ ชาตรี เรอื งเดชณรงค์ ผ้ชู ว่ ย ผญบ. แทน ๑๐. นายพสิษฐ์ สุขสวสั ด์ิ ผู้ชว่ ย ผญบ. แทน ๑๑. นายทวี รพีกาญจน์ ผ้ชู ่วย ผจก.ธกส. คณบดีคณะนิตศิ าสตร์ ประชาชน คกก.หมู่บา้ น ๔๗

โครงการจดั ทาประชาพิจารณเ์ พ่อื รบั ฟงั ความคดิ เห็นของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายลุ าไยส่งออกเพอ่ื แกไ้ ขลาไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รปู การดงู านทีส่ หกรณป์ ระตูป่า ๔๘

โครงการจัดทาประชาพิจารณเ์ พื่อรบั ฟังความคิดเหน็ ของประชาชนสาหรบั โครงการยืดอายุลาไยสง่ ออกเพ่อื แกไ้ ขลาไยลน้ ตลาดด้วยวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี บทที่ ๓ การประชาสมั พนั ธ์และให้ข้อมูลโครงการตอ่ ประชาชนโดยดาเนนิ การ ๓.๑ การประชมุ ปฐมนิเทศชี้แจงโครงการให้แกผ่ ู้ท่เี กี่ยวข้องอยา่ งน้อย๒๐๐ คน การประชุมปฐมนิเทศปฐมนิเทศเปิดตัวโครงการประชาพิจารณ์ให้กับประชาชนทราบ มีขึ้นวันท่ี ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ณ หอประชุม เทศบาลตําบลวังผาง ๓.๑.๑ วัตถุประสงค์การประชมุ เพ่อื ปฐมนิเทศปฐมนเิ ทศเปดิ ตวั โครงการประชาพิจารณใ์ ห้กบั ประชาชนทราบสาํ หรับโครงการยดื อายลุ ําไย ส่งออกเพ่ือแก้ไขลําไยล้นตลาดดว้ ยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๓.๑.๒ ผ้เู ขา้ ร่วมประชมุ ผูเ้ ขา้ รว่ มประชุมทัง้ หมด ๒๒๕คนรายละเอยี ดผู้เข้าร่วมประชมุ เป็นไปตามตารางดา้ นล่าง หมทู่ ่ี ช่ือหมบู่ ้าน จานวนผู้เข้ารว่ มประชุม(คน) หมู่ ๑ เหลา่ แมว ๔ หมู่ ๒ เหล่าปงเสอื ๒๘ หมู่ ๓ ร้องธาร- ท่าลี่ ๖ หมู่ ๔ วงั ผาง ๒๘ หมู่ ๕ ดงหลวง ๓๑ ๒๖ หมู่ ๖ เวียงหนองลอ่ ง ๑๗ หมู่ ๗ วังหม้นุ ๕๔ หมู่ ๘ ดงเหนอื ๙ หมู่ ๙ กลางทงุ่ ๑๗ หมู่ ๑๐ ดงเจรญิ ๕ อนื่ ๆ (ท่ีอยู่ตามบัตรประจาํ ตัวประชาชนไมไ่ ด้อยู่ในเขต เทศบาลตาํ บลวังผาง) ๒๒๕ รวม ๔๙