Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานวิจัย-การติดตามการปรับปรุงแนวเขตแผนที่พื้นที่ป่าไม้ - อ.ไพสิฐ

รายงานวิจัย-การติดตามการปรับปรุงแนวเขตแผนที่พื้นที่ป่าไม้ - อ.ไพสิฐ

Published by E-books, 2021-03-01 07:44:27

Description: รายงานวิจัย-การติดตามการปรับปรุงแนวเขตแผนที่พื้นที่ป่าไม้-ไพสิฐ

Search

Read the Text Version

โครงการวจิ ยั เพอ่ื การตดิ ตามการปรบั ปรงุ แนวเขตแผนท่ีพนื้ ท่ปี า่ ไม้ การพัฒนากลไกเพ่ือการท่ีจะระงับข้อพิพาท ร่วมถึงสามารถสร้างกฎกติกาท่ีเป็นข้อตกลงร่วมกันเพ่ือ ดูแลแนวเขตพืน้ ที่ 8. ในแง่ของการเกิดผลในทางกฎหมายในการปรับปรุงแนวเขตให้เกิดความถูกต้องนั้น ใน ระหว่างที่ยังไม่มีพระราชบัญญัติในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการเฉพาะ โดยวิธีการในการดาเนิน โครงการหน่วยงานที่มีอานาจหน้าท่ีตามกฎหมายควรท่ีจะศึกษาและหารือแนวทางที่ถูกต้องโดย อาจจะขอความเห็นทางกฎหมายจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อเป็น แ นวทางและวิธีในการ ดาเนินงาน 5-5

โครงการวิจยั เพอ่ื การตดิ ตามการปรับปรุงแนวเขตแผนทพี่ น้ื ทป่ี ่าไม้ บรรณานุกรม ข้อมูลกรณีตัวอย่างในภาคผนวกดังกล่าวได้รับความอนุเคราะห์.พรรณทิพย์ เพชรมาก ผู้ช่วย ผอู้ านวยการสถาบนั พัฒนาองคก์ รชุมชน เลขานกุ ารอนกุ รรมการแกไ้ ขปญั หาทด่ี ิน โครงการศึกษาวิเคราะห์เพ่ือพัฒนานโยบายป่าไม้ให้เป็นนโยบายสาธารณะ.ไพสิฐ พาณิชย์กุล และ คณะ คณะนติ ิศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ พ.ศ. 2549 ต า ร า เ ท ค โ น โ ล ยี อ ว ก า ศ แ ล ะ ภู มิ ส า ร ส น เ ท ศ ศ า ส ต ร์ . ส า นั ก ง า น พั ฒ น า เ ท ค โ น โ ล ยี อ ว ก า ศ แ ล ะ ภู มิ สารสนเทศ ( องค์การมหาชน ) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนยี และ สมาคมสารวจ ขอ้ มูลระยะไกลและสารสนเทศภูมศิ าสตร์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2552 หนา้ 146 – 177 ตาร าเท ค โน โล ยี อวก า ศ แ ล ะภูมิ ส าร ส น เท ศ ศ า ส ตร์ . ส า นั ก งาน พัฒ น าเ ท ค โน โล ยี อวก า ศ แ ล ะภู มิ สารสนเทศ ( องค์การมหาชน ) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนยี และ สมาคมสารวจ ข้อมูลระยะไกลและสารสนเทศภมู ิศาสตรแ์ ห่งประเทศไทย พ.ศ. 2552 หนา้ 178-180 คมู่ ือ GIS 2000 เอกสารประกอบการเรยี นการสอนกระบวนวิชา GEO154430 ภาควชิ าภูมศิ าสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาเชียงใหม่ , สมพร สงา่ วงศ์. (2543), ระเบยี บสานักรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยการจัดกรรมสิทธิท์ ่ีดินรูปแบบโฉนดชุมชน ตามมติครม.วันที่ 20 ตุลาคม 2552 ระเบยี บวาระการประชุม คณะกรรมการตรวจสอบพสิ ูจนส์ ิทธ์ิการครอบครองท่ดี นิ ของราษฎร ในพ้นื ท่ี อทุ ยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า จังหวัดตรัง ครั้งที่ 1/2553 ณ ห้องประชุมอุทยานแห่งชาติเขา ป-ู่ เขายา่ อาเภอศรบี รรพต จงั หวัดพทั ลงุ รา่ งพระราชบัญญตั ดิ ังกล่าวเปน็ พฒั นาการสืบเนื่องมาจาก ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีวา่ ดว้ ยการ กาหนดมาตรฐานการออกเอกสารสทิ ธใิ นทด่ี ินของรัฐ พ.ศ. 2547 เรียนรู้กระบวนการแก้ไขปัญหาท่ีดนิ บริเวณอุทยานแห่งชาตบิ ูโด – สุไหงปาดี จากกรณีพื้นที่อาเภอ บาเจาะ จงั หวัดนราธวิ าส ” พรรณทพิ ย์ เพชรงาม บรรณาธกิ าร ( 2551 ) เอกสารประกอบการสัมมนาเร่ือง การอนุรักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมของประเทศไทย ครั้งท่ี 1, 2533 เอกสารเผยแพร่ทางส่ืออิเล็คทรอนิคเร่ือง “ การพัฒนาระบบราชการในสานักงานอัยการสูงสุดตาม แนวทางการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือหลักธรรมาภิบาล (Good Governance)” กลุ่ม พัฒนาระบบงานบริหาร สานักงานอยั การสงู สดุ ใน www.kpr.ago.go.th/PDF/Good%20Governance.doc

โครงการวิจยั เพ่ือการติดตามการปรบั ปรุงแนวเขตแผนทพ่ี น้ื ท่ปี ่าไม้ Clarke, K.C. Getting Started with Geographic Information Systems . 2 nd ed. Prentice - Hall: New Jersey, 1999 Good governance in public land management.Willi Zimmermann เอกสารเผยแพร่ของ FAO, land reform land settlement and cooperatives 2007/2 Richard Peet. Modern Geographical Thought Oxford Blackwell Publishers. 1998

ตวั อยา่ งกฎหมายบางฉบบั ท่กี าหนดใหต้ อ้ งมกี ารจัดทาแผนท่ี (ยกเว้นกรณี พระราชบญั ญัติส่งเสรมิ และรกั ษาคุณภาพสิง่ แวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ.2535) ลาดับที่ พระราชบญั ญตั ิ วิธกี ารและรูปแบบการประกาศ 1 2 พระราชบัญญตั ิ มาตรา 2 วรรค 2จะใชบ้ ังคับในท้องท่ีใด และมีบริเวณเพียงใดนั้น 3 คนั และคูน้า จะต้องตราเป็นพระกฤษฎีกาต่างหาก โดยต้องก้าหนดแผนที่แสดง พ.ศ. 2500 เขตบริเวณท้องที่แนบท้ายและให้ประกาศไว้ ณ ท่ีว่าการอ้าเภอ และที่ท้าการกา้ นันในท้องท่นี นั้ ด้วย พระราชบัญญัติ มาตรา 6 เม่ือรัฐบาลเห็นสมควรก้าหนดบริเวณท่ีดินแห่งใดที่มี อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. สภาพธรรมชาติ เป็นทนี่ า่ สนใจให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาตเิ ดมิ เพื่อ 2504 สงวนไวใ้ ห้เปน็ ประโยชน์แก่การศึกษาและร่ืนรมย์ของประชาชน ก็ ให้มีอา้ นาจกระท้าได้ โดยประกาศพระราชกฤษฎีกาและให้มี แผน ที่แสดงแนวเขตแห่งบรเิ วณท่ีก้าหนดน้ันแนบท้ายพระราชกฤษฎกี า ด้วย บริเวณท่ีก้าหนดน้ีเรียกว่า \"อุทยานแห่งชาติ\" ที่ดินที่จะ ก้าหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติน้ัน ต้องเป็นที่ดินที่มิได้อยู่ใน กรรมสิทธหิ์ รือครอบครอง โดยชอบด้วยกฎหมายของบคุ คลใด ซึ่ง มิใชท่ บวงการเมือง มาตรา 7 การขยายหรือการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนให้กระท้าโดยพระราชกฤษฎีกา และในกรณีท่ีมิใชเ่ ปน็ การเพิกถอนอุทยานแห่งชาติท้ังหมด ให้มีแผนที่แสดงเขตท่ี เปลีย่ นแปลงไป แนบท้ายพระราชกฤษฎกี าด้วย พระราชบัญญตั ปิ า่ มาตรา 6 บรรดาป่าท่ีเป็นป่าสงวนอยู่แล้วตามกฎหมายว่าด้วย สงวนแห่งชาติ การคุ้มครองและสงวนป่าก่อนวันที่พระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้ พ.ศ. 2507 เปน็ ป่าสงวนแหง่ ชาตติ ามพระราชบัญญัตินี้ เมอื่ รัฐมนตรเี หน็ สมควรกา้ หนดป่าอ่ืนใดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อรักษาสภาพป่าไม้ ของป่าหรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น ให้ กระท้าได้โดยออกกฎกระทรวงซ่ึงต้องมีแผนท่ีแสดงแนวเขตป่าท่ี กา้ หนดเป็นป่าสงวนแหง่ ชาตนิ ้ันแนบท้ายกฎกระทรวงด้วย มาตรา 7 การเปลี่ยนแปลงเขตหรือการเพกิ ถอนปา่ สงวนแห่งชาติ ปา่ ใด ไมว่ ่าท้ังหมดหรือบางส่วน ให้กระท้าได้โดยออกกฎกระทรวง และเฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือเพิกถอนบางส่วนให้มี

แผนที่แสดงแนวเขตท่ีเปลี่ยนแปลง หรือเพิกถอนนั้นแนบท้าย กฎกระทรวงด้วย 4 พระราชบญั ญัติ มาตรา 33 เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรก้าหนดบริเวณท่ีดินแห่ง สงวนและคุม้ ครอง ใดให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัยเพ่ือรักษาไว้ซ่ึงพันธุ์ สตั ว์ป่า สัตว์ป่า ก็ให้กระท้าไดโ้ ดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และให้มีแผน พ.ศ. 2535 ที่แสดงแนวเขตแหง่ บริเวณท่ีก้าหนดน้ันแนบท้ายพระราชกฤษฎีกา ดว้ ย บริเวณทก่ี า้ หนดนเี้ รียกว่า “เขตรักษาพนั ธ์สุ ัตวป์ า่ ” ท่ีดินที่ก้าหนดให้เป็นเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่านั้น ต้องเป็นท่ีดินท่ี มิได้อยู่ในกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมาย ทด่ี นิ ของบคุ คลใดซ่ึงมใิ ชท่ บวงการเมือง มาตรา 34 การขยายหรือการเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ไม่ วา่ ท้ังหมดหรือบางส่วน ให้กระท้าได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และในกรณีท่ีมิใช่เป็นการเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าท้ังหมด ให้มีแผนท่ีแสดงเขตที่เปลี่ยนแปลงไปแนบท้ายพระราชกฤษฎีกา ด้วย 4 พระราชบญั ญัตวิ ่า มาตรา 5 เมื่อรัฐมีความจ้าเป็นที่จะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ ดว้ ยการเวนคืน เพ่ือกิจการใดๆ อันจ้าเป็นเพื่อการอันเป็นสาธารณูปโภคหรือการ สงั หาริมทรพั ย์ อั น จ้ า เ ป็ น ใ น ก า ร ป้ อ ง กั น ป ร ะ เ ท ศ ห รื อ ก า ร ไ ด้ ม า ซ่ึ ง พ.ศ. 2530 ทรัพยากรธรรมชาติ หรือเพ่ือการผังเมือง หรือเพื่อการพัฒนาการ เกษตร หรือการอุตสาหกรรม หรือเพื่อการปฏิรูปที่ดิน หรือเพื่อ ประโยชน์สาธารณะอย่างอ่ืน ถ้ามิได้ตกลงในเรื่องการโอนไว้เป็น อย่างอืน่ ให้ดา้ เนินการเวนคืนตามบทแหง่ พระราชบญั ญัติน้ี ในกรณีที่มีบทบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนไว้ในกฎหมายอื่น โดยเฉพาะแล้ว ถ้าจะต้องด้าเนินการเวนคืนเพ่ือกิจการตาม กฎหมายดังกล่าว เม่ือคณะรัฐมนตรีเห็นสมควรจะมีมติให้ ดา้ เนินการเวนคนื ตามบทแหง่ พระราชบัญญัตินีแ้ ทนกไ็ ด้ เพ่ือประโยชน์ในการด้าเนินการเวนคืนตามวรรคหนึ่ง จะตรา พระราชกฤษฎีกาก้าหนดเขตท่ีดินในบริเวณท่ีท่ีจะเวนคืนไว้ก่อนก็ ได้ มาตรา 6 พระราชกฤษฎีกาก้าหนดเขตที่ดินในบริเวณท่ีที่จะ เวนคนื ต้องระบุ

(1) ความประสงคข์ องการเวนคืน (2) เจา้ หน้าท่เี วนคนื (3) ก้าหนดเขตทด่ี นิ ในบริเวณท่ที จี่ ะเวนคนื เทา่ ทจ่ี า้ เปน็ ให้มีแผนที่หรือแผนผังประเมินเขตท่ีดนิ ในบริเวณท่ีที่จะเวนคืน และแสดงเขตที่ดินที่อยู่ในบริเวณที่ประเมินน้ัน ติดไว้ท้ายพระราช กฤษฎีกานั้น แผนที่หรือแผนผังดังกล่าวให้ถือเป็นส่วนหนึ่งแห่ง พระราชกฤษฎกี า พระราชกฤษฎกี าเชน่ ว่านี้ให้ใช้บังคับได้มีก้าหนดสองปี หรือตาม ก้าหนดเวลาท่ีระบุไว้ในพระราชกฤษฎีกานั้น แต่ต้องไม่เกินส่ีปี แล้วแต่จะเห็นว่าจา้ เปน็ เพือ่ ท้าการสา้ รวจทดี่ นิ ที่จะต้องเวนคืนนัน้ มาตรา 7 เม่ือพระราชกฤษฎีกาท่ีออกตามมาตรา 6 ใช้บังคับ แล้ว ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซ่ึงได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่ปิด ประกาศส้าเนาแห่งพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว พร้อมท้ังแผนท่ีหรือ แผนผังท้ายพระราชกฤษฎกี าไวโ้ ดยเปดิ เผย ณ สถานที่ดงั ต่อไปนี้ (1) ทีท่ า้ การของเจ้าหน้าที่ (2) ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ส้านักงานเขต และท่ีท้า การแขวง หรือศาลากลางจังหวัด ท่ีว่าการอ้าเภอหรือกิ่งอ้าเภอ ที่ ท้าการต้าบลและท่ีท้าการผู้ใหญ่บ้าน แล้วแต่กรณี แห่งท้องท่ีท่ี อสังหารมิ ทรัพย์ซงึ่ จะตอ้ งเวนคืนนั้นตงั้ อยู่ (3) ส้านักงานท่ีดินจังหวัด และที่ท้าการท่ีดินอ้าเภอ แห่ง ท้องท่ีทอ่ี สงั หารมิ ทรัพย์ซึง่ จะตอ้ งเวนคืนนัน้ ตงั้ อยู่ 5 พระราชบญั ญัติ มาตรา 9 ท่ีราชพัสดเุ ฉพาะท่ีดนิ ที่เป็นสาธารณสมบตั ิของแผ่นดิน ทพ่ี สั ดุ ท่ใี ช้เพอื่ ประโยชนข์ องแผ่นดินโดย เฉพาะ เม่ือเลิกใช้เพื่อประโยชน์ พ.ศ. 2518 เช่นน้ัน หรือเม่ือสิ้นสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว หรือท่ีราชพัสดุที่ทางราชการหวงห้ามไว้ และทางราชการไม่ ประสงค์จะหวงห้ามอกี ต่อไป ให้ถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติ ของแผ่นดิน หรือถอนการหวงห้าม แล้วแต่กรณี โดยตราเป็นพระ ราชกฤษฎีกา และ ให้มีแผนท่ีแสดงเขตที่ดินแนบท้ายพระราช กฤษฎีกาน้นั ด้วย

6 พระราชบญั ญัติ มาตรา 6 ให้รัฐบาลมีอ้านาจจัดท่ีดินของรัฐ เพื่อให้ประชาชนได้มี จดั ท่ดี นิ ที่ตั้งเคหสถาน และประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งในท่ีดินนั้น โดย เพือ่ การครองชีพ จดั ตั้งเปน็ นิคมตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี พ.ศ. 2511 มาตรา 7 การจัดต้ังนิคมตามมาตรา 6 ในท้องท่ีใดให้กระท้าโดย พระราชกฤษฎีกา และให้มีแผนที่ก้าหนดแนวเขตท่ีดินของนิคมไว้ ท้ายพระราชกฤษฎกี านนั้ 7 พระราชบญั ญตั ิ มาตรา 12 เพ่ือประโยชน์ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประวัติของ คุ้มครอง โลก บรรพชีวินวิทยา บรรพชีววิทยา หรือการล้าดับช้ันหิน ให้ ซากดกึ ด้าบรรพ์ อธิบดีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมีอ้านาจประกาศใน พ.ศ. 2551 ราชกิจจานุเบกษา ก้าหนดให้พืน้ ท่ีใดเป็นเขตส้ารวจและศึกษาวิจัย เกี่ยวกับแหลง่ ซากดึกดา้ บรรพ์ หรอื ซากดึกด้าบรรพ์ ประกาศตามวรรคหนึ่งต้องระบุเขตท้องที่ท่ีจะท้าการส้ารวจและ ศึกษาวิจัยพร้อม ด้วยแผนที่แสดงเขตส้ารวจและศึกษาวิจัยแนบ ท้ายประกาศ และให้ใช้บังคับได้ไม่เกินสามปี ในกรณีที่ไม่อาจ ด้าเนินการส้ารวจและศึกษาวิจัยได้เสร็จส้ินภายในระยะเวลาท่ี ก้าหนด ให้อธิบดีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการขยายเวลา การใช้บงั คบั ประกาศดังกลา่ ว ได้อกี ไมเ่ กินสองครง้ั ครงั้ ละหน่ึงปี เมื่อได้มีประกาศตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้เจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้มีสิทธิในที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิได้รับค่าทดแทน เนือ่ งจากไม่ อาจดา้ เนินงานหรือใชป้ ระโยชน์ในทด่ี ินตามภาวะปกติ ตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขทคี่ ณะกรรมการกา้ หนด 8 พระราชบัญญตั ิ มาตรา 24 การก้าหนดเขตที่ดนิ ในท้องท่ีใดให้เป็นเขตโครงการจัด จดั รูปที่ดนิ รูปท่ดี ินให้ตราเปน็ พระราชกฤษฎกี า พ.ศ. 2517 ในพระราชกฤษฎกี าตามวรรคหนึง่ ใหร้ ะบทุ ด่ี ินหรืออสังหาริมทรัพย์ อ่นื ท่ีอยู่ในเขตโครงการจัดรูปที่ดนิ พรอ้ มท้งั รายช่อื เจ้าของ หรอื ผู้ ครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย และให้มีแผนท่ีแสดงเขต โครงการจัดรูปที่ดินแนบท้ายพระราชกฤษฎีกาน้ันด้วย แผนที่ ดงั กล่าว ใหถ้ ือเป็นส่วนหนงึ่ แหง่ พระราชกฤษฎกี า มาตรา 25 เพ่ือประโยชน์ในการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 24 ให้รฐั มนตรมี อี ้านาจประกาศในราชกจิ จานเุ บกษากา้ หนดท้องท่ี ท่ีจะส้ารวจเพื่อก้าหนดเป็นเขตโครงการจัดรูปท่ีดินแนบท้าย

ประกาศน้ันด้วย แผนทดี่ งั กล่าวใหค้ ิดเปน็ สว่ นหนึ่งแห่งประกาศ ภายในเขตแผ่นทีท้ายประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคหน่ึง ให้ พ นั ก ง า น เ จ้ า ห น้ า ท่ี ห รื อ ผู้ ซ่ึ ง ป ฏิ บั ติ ง า น ร่ ว ม กั บ พ นั ก ง า น เจ้าหนา้ ท่ี มอี า้ นาจดงั ต่อไปน้ี (1) เข้าไปท้าการอนั จา้ เป็นเพือ่ การส้ารวจได้ แตต่ ้องแจ้งให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองที่ดินทราบเสียกอ่ น (2) ท้าเครื่องหมายระดับ ขอบเขต หรือแนวเขต โดยปักหลัก หรือ ขุดร่องแนว ในกรณีท่ีต้องสร้างหมุดหลักฐานแผนท่ีในท่ีดินของ ผใู้ ด ก็ใหม้ ีอ้านาจสร้างหมดุ หลักฐานลงได้ตามความจ้าเป็น เมื่อมีความจ้าเป็นและโดยสมควร พนักงานเจ้าหน้าท่ีมีอ้านาจขุด ดิน ตัดรานกิ่งไม้ และกระท้าการอย่างอ่ืนแก่ส่ิงที่กีดขวางการ ส้ารวจได้เท่าที่จ้าเป็น ทั้งน้ีให้ค้านึงถึงการท่ีจะให้เจ้าของหรือผู้ ครอบครองอสงั หาริมทรพั ยไ์ ดร้ บั ความเสยี หายนอ้ ยที่สดุ 9 พระราชบญั ญตั ิ มาตรา 25 การก้าหนดเขตท่ีดนิ ในท้องท่ีใดให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ปฏิรูปที่ดนิ ให้ตรา เปน็ พระราชกฤษฎีกา ในพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหน่ึง เพอ่ื เกษตรกรรม พ.ศ. ให้มีแผนที่แสดงเขตและระบุท้องท่ีที่ อยู่ในเขตปฏิรูปท่ีดินแนบ 2518 ท้ายพระราชกฤษฎีกาน้ันด้วย แผนที่ดังกล่าวให้ถือเป็น ส่วนหน่ึง แห่งพระราชกฤษฎีกา การก้าหนดเขตที่ดินให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ตามวรรคหนึ่ง ให้ก้าหนด เฉพาะท่ีดินที่จะด้าเนินการปฏิรูปท่ีดิน เพ่ือเกษตรกรรม เว้นแตใ่ นกรณีที่จ้าเป็น จะถือเขตของตา้ บลหรือ อ้าเภอเปน็ หลักก็ได้ โดยให้ด้าเนินการก้าหนดเขต ปฏิรูปที่ดินใน เขตท้องท่อี ้าเภอทีม่ เี กษตรกรผู้ไม่มีท่ีดนิ ประกอบเกษตรกรรม เป็น ของตนเอง หรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ หรือ ต้องเช่าที่ดิน ของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมอยู่เป็นจ้านวนมาก ตลอดจนที่มีผลผลิตต่อไร่ต่้า เป็นเกณฑ์ในการจัดอันดับ ความส้าคัญในการกา้ หนดเขตก่อนหลงั ในกรณที ถี่ อื เขตของต้าบล หรืออ้าเภอเป็นเขตปฏิรูปท่ีดินน้ัน ให้หมายถึงเฉพาะที่ต้ังอยู่นอก เขตเทศบาลและสุขาภิบาล ให้ด้าเนินการปฏิรูปท่ีดินเพื่อ เกษตรกรรมโดยมิชักช้า และให้ด้าเนินการ ส้ารวจท่ีดินเพื่อ เกษตรกรรม และวางโครงการเพื่อด้าเนินการปฏิรูปท่ีดินเพื่อ เกษตรกรรมในท้องท่ีทุกจังหวัดท่ัวราชอาณาจักรให้เสร็จภายใน

สามปีนบั แตว่ ัน ท่พี ระราชบญั ญัตินใ้ี ชบ้ งั คับ 10 พระราชบญั ญัติ มาตรา 12 รัฐมนตรีโดยค้าแนะน้าของคณะกรรมการมีอ้านาจ พฒั นาทดี่ นิ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาก้าหนดบริเวณ การใช้ที่ดินตาม พ.ศ. 2551 มาตรา 9 (2) และให้มีแผนที่แนบท้ายประกาศด้วย แผนท่ี ดงั กล่าวให้ถอื เปน็ สว่ นหน่ึงแห่งประกาศ มาตรา 13 ในกรณีที่ปรากฏว่าบริเวณพ้ืนท่ีใดมีลักษณะเป็นพืน้ ที่ ลาดชนั เส่ียงต่อการชะ ล้างพังทลายของดิน หรือเสี่ยงต่อการเกิด ดินถล่ม อันเกิดจากการกระท้าของผู้เข้าไปครอบครองท้า ประโยชนใ์ นบริเวณพื้นทด่ี งั กล่าว โดยไม่เหมาะสม หรืออาจเกิดขึ้น จากภัยธรรมชาติ หากปล่อยไว้ไม่ด้าเนินการจะเกิดการชะล้าง พังทลายของดินอย่างรุนแรงจนถึงข้ัน เกิดดินถล่มสร้างความ สูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้รัฐมนตรีโดย ค้าแนะน้าของคณะกรรมการมีอ้านาจประกาศในราชกิจจา นุเบกษาก้าหนดให้ พื้นที่นั้นเป็นเขตอนุรักษ์ดินและน้า และให้มี แผนท่ีแนบท้ายประกาศด้วย แผนท่ีดังกล่าวให้ถือเป็นส่วนหนึ่ง แห่งประกาศ มาตรา 14 ในกรณีท่ีปรากฏว่าพ้ืนที่ใดมีการใชห้ รือท้าให้เกิดการ ปนเป้ือนของสารเคมีหรือ วตั ถุอ่ืนใดที่จะท้าให้ท่ีดินเกิดความเสื่อม โทรมต่อการใช้ประโยชน์ทางการ เกษตร ให้รฐั มนตรโี ดยค้าแนะน้า ของคณะกรรมการมีอ้านาจประกาศในราชกิจจานุเบกษาควบคุม การใช้ท่ีดินบริเวณน้ันและให้มีแผนที่แนบท้ายประกาศดว้ ย แผนท่ี ดังกล่าวใหถ้ ือเปน็ สว่ นหน่ึงแหง่ ประกาศ กรณี มกี ารปนเป้ือนเกิดขนึ้ ให้ผกู้ ระทา้ การปนเป้ือนด้าเนินการ ปรบั ปรุงท่ีดนิ ใหค้ นื สู่สภาพเดมิ หรอื ชดเชย ค่าเสียหายให้แก่รัฐหรือ ผูท้ ี่ได้รับความเสียหาย 12 พระราชบัญญัติ มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการชลประทานหลวงพ.ศ. 2485 การชลประทาหลวง ให้อ้านาจแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการ พ.ศ.2485 กา้ หนดให้ทางน้าในเขตโครงการเป็นทางน้าชลประทานโดยจะต้อง บัญชแี ละแผนทคี่ ลองส่งนา้ เพือ่ ประกาศก้าหนด

13 พระราชบัญญตั ิ อาศัยอ้านาจตามมาตรา 32 (1) (2) (4) และ (5) แห่ง ประมง พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ.2490 รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พ.ศ. 2490 เกษตรและสหกรณ์ ออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก้าหนดเขตและแผนท่ี หา้ มจบั สตั วน์ ้าโดยใช้เคร่อื งมือตอ้ งห้าม 14 พรบ.ส่งเสริมและ มาตรา 43 ให้รัฐมนตรีโดยค้าแนะน้าของคณะกรรมการ รักษาคุณภาพ ส่ิงแวดล้อมแห่งชาติ มีอ้านาจออกกฎกระทรวงก้าหนดให้พ้ืนท่ีน้ัน สิ่งแวดล้อมแหง่ ชาติ เป็นเขตพน้ื ทคี่ ้มุ ครองส่ิงแวดลอ้ ม พ.ศ. 2535 ( มกี ารประกาศเปน็ มาตรา 59 คณะกรรมการสิง่ แวดล้อมแหง่ ชาตมิ ีอา้ นาจประกาศใน เขตพน้ื ทค่ี มุ้ ครองหรอื ราชกิจจานุเบกษาก้าหนดให้ท้องท่ี น้ันเปน็ เขตควบคุมมลพิษเพ่ือ ควบคุม แตไ่ มต่ ้อง ดา้ เนินการควบคุม ลด และขจดั มลพิษได้ จดั ท้าเปน็ แผนท่ีแนบ ทา้ ยประกาศ ใน กรณีดังกล่าวนีจ้ ะใช้ เขตพื้นท่ีปกครองเชน่ ต้าบล เทศบาล องค์การบรหิ ารส่วน ตา้ บล อ้าเภอ จงั หวดั ฯลฯ เป็นแนวเขต พ้ืนที่ )

! \"# $ # %& ' \" $!( ) &*& + ) ' \" $!( ) &* &#,-. $/ + 0',+) ! \" #$\"%% \" %\"&'(\" ) *\"% + * , ) - ./ . 012 , $3 4+03- %5 * 0 + ,\" \" 67 0 855 3&97/\" * : ; \"% + * , ) - ./ . 012 , $3 4+03- .% 7 5, <:. + * , ) - ./<: ; 6). 3%$% -\"&'(\" = 3 9 < 7 \">? % 5 % / % 5 % / 7 \">? % 5 % / < / @ % 5 % / .A ,.)1B 3 9 \" %< *C '5! %+ .) < \" . C 3 / \" % % 5 % ! 1%$D*- 0, $ *?) \"<:. + * , ) - ./ ) / ?\"% , $< \"<:. + * , ) - ./1E\" \"<:. *)?; / 1% \"F; 1E77+5 7 \": < G77%/ 1% \"F, $< 3/7 %# ,> , 5 *3%$% -\"&'(\" <3/\" + * <: ; 6)5 ) = 3 9 7$< G ) , <:. + * = ,.\".) 7 \", <:. + * = . 3%$% -\"&'(\" = 39 , $39 A A 3%$% -\"&'(\" = 3 9 <1H \" %<3/\" + * = 5 ) / <1H \" %:* *, <:. % \"! , <:. + * = ; ) ,.) *) ; .) \"% + * , ) - ./ . 012 , $3 4+30 - .% 7 5, <:. + * , ) - ./<: ; 6) . ,> * 3%$% -\"&'(\" \"! 5%/< # / 12 <: ; 6)= ; <1H + * , ) - ./ 3 9 1% \"F ) 3A : * 0 + ,\" \" 67 0 *?) \", <:. + * , ) - ./<: ; 6), $< .% 7 5, <:. + * , ) - ./<: ; 6) . ,> *3%$% -\"&'(\" <3/\" + * , ) - ./<: ; 6) 5 ) 3 9 1% \"F ) 3A : * 0 + ,\" \" 67 0 *;)? <:. + * , ) - ./<: ; 6) \"% + * , ) - ./ . 012 , $3 4+03- 3/7 %# , < G ) < 7 \" + * , ) - .</ : ; 6) ,> *3%$% -\"&'(\" <\"* : 7! 855 \" % ! < / \" % .% 7 53A ; \"%#% * * 0 + ,\" \" 67 0 \" ) ).% \" 7 : % #$\"%% \" % \"&'(\" ) \"% + * , ) - ./ . 012 , $3 4+03-7$* ,> *3%$% -\"&'(\" 855; , $ \"<\"#I;0 \" %3/7 %# < \";-,> *3%$% -\"&'(\" *) % 1 23 3/7 %# : % : \"% + * , ) - ./ . 012 , $3 40+3- D *%5JE ! -A,7 7 \">?, ) * \" ) , < G ) 5%/< #