Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore edu-class01

edu-class01

Published by Phrapradaeng District Public Library, 2019-05-14 10:28:17

Description: edu-class01

Search

Read the Text Version

97 ๗. ภาพประกอบ ๘. อ้างอิงแหล่งที่มาของขอ้ มลู เอกสาร รูปภาพ วีดทิ ัศน์ สอื่ การเรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้ https://sites.google.com/site/milknuchanok/ngan-bitxng http://elearningcvc.freetzi.com/page๒.php http://teen.mthai.com/variety/๘๒๑๕๔.html http://www.sookjai.com/index.php?topic=๑๔๒๓.๐ https://www.youtube.com/watch?v=Ng๔๔MF๓eCdQ https://www.youtube.com/watch?v=f๔vevVjqI๗A https://www.youtube.com/watch?v=DGGLLTDSlL๔&list=PLAdp๐๘u๒_๔XO-nolmV๓ EeaHigQRywrJ๘B https://www.youtube.com/watch?v=B๒ iCyc๘ RPJc&list=PLCXfUXkfqAm๔ X๒ -Rr- ZdnO๖๒๘eQaSj-SO เศรษฐมันตรก์ าญจนกุล.พบั จบั จีบ กลบี ใบตอง. บุ๊คไทม.์ ๒๕๕๔. พรยพุ รรณ พรสุขสวสั ดิ์. พบั กลบี ประดษิ ฐใ์ บตอง. บรษิ ัทศรสี ยามการพิมพ์ จากดั . ๒๕๕๑. จักรพันธ์ รปู งาม. กระทงลอยวจิ ติ ร. โครงการหนงั สอื อนรุ ักษแ์ ละส่งเสริมศลิ ปวัฒนธรรมไทย บริษัท วาดศิลป์ จากดั . ๒๕๔๖.

98 ตวั อย่างกิจกรรมที่ 4 ๑. ช่ือกิจกรรม ขนมไทย ๒. เวลาทใ่ี ช้ ๑๐ ชั่วโมง ๓. วตั ถุประสงค์ ๑. นักเรยี นสามารถทาขนมไทยได้ ๒. นักเรยี นสามารถเลือกทาขนมจากวัสดใุ นท้องถนิ่ ได้ ๓. นักเรยี นสามารถคานวณต้นทนุ -ผลผลติ ได้ ๔. นักเรียนสามารถทาการตลาดได(้ ขาย) ๕. นกั เรยี นสามารถปรับเปลีย่ นรูปแบบของขนมไทยไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ความรู้ทว่ั ไปและวตั ถุดิบเก่ียวกบั ขนมไทย จานวน ๑ ช่ัวโมง - นกั เรยี นศึกษา ใบความรเู้ กี่ยวกับขนมไทย - นกั เรยี นสรปุ องค์ความรู้ เปน็ แผนผงั ความคดิ ลงในใบกจิ กรรมเกย่ี วกับขนมไทย - นกั เรียนสรุปองค์ความรู้ ทาใบกิจกรรม ๒. เทคนิคการทาขนมไทย จานวน ๑ ชว่ั โมง - นกั เรียนศึกษา ใบความรู้เทคนคิ การทาขนมไทย - นักเรียนสรุปองค์ความรู้ เป็นแผนผังความคดิ ลงในใบกจิ กรรม - นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ๔-๕ คน ๓. การทาขนมปยุ ฝา้ ย จานวน ๒ ช่วั โมง - นักเรียนชมวีดิทัศน์การทาขนมปุยฝ้าย(www.youtube.com/watch?v=RqrcfSmnz๘c) - นกั เรียนทารายงานการทาขนมปยุ ฝ้าย - นักเรยี นศกึ ษาใบความร้กู ารทาขนมปุยฝ้าย (จัดเตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณ์ การทาขนมปยุ ฝา้ ย) - นกั เรียนลงมือทาขนมปุยฝา้ ย - นกั เรยี นคานวณตน้ ทนุ ผลผลิต แล้วกาหนดราคาขาย - นักเรยี นขายขนมในโรงเรียน - นกั เรยี นจดั ทาบัญชีรายรับ-รายจา่ ย

99 ๔. การทาขนมดอกจอก จานวน ๒ ชั่วโมง - นกั เรียนชมวดี ิทัศน์การทาขนมดอกจอก https://www.youtube.com/watch?v=gz๐izdku๔no) - นักเรียนทารายงานการทาขนมดอกจอก - นกั เรียนศึกษาใบความรู้การทาขนมดอกจอก (จัดเตรยี มวัสดุ-อุปกรณ์ การทาขนมดอกจอก) - นกั เรียนลงมือทาขนมดอกจอก - นกั เรยี นคานวณต้นทนุ ผลผลิต แล้วกาหนดราคาขาย - นกั เรยี นขายขนมในโรงเรยี น - นกั เรียนจัดทาบัญชีรายรับ-รายจา่ ย ๕. การทาถว่ั ลสิ งทอดแผน่ จานวน ๒ ชั่วโมง - นกั เรยี นชมวีดิทศั น์การทาถั่วลสิ งทอดแผ่น (https://www.youtube.com/watch?v=yKVss_fONI) - นกั เรียนทารายงานการทาถ่วั ลิสงทอดแผ่น - นกั เรยี นศึกษาใบความรู้การทาถัว่ ลิสงทอดแผ่น(จัดเตรียมวัสดุ-อุปกรณก์ ารทาถ่วั ลสิ งทอด) - นักเรยี นลงมือทาถั่วลสิ งทอดแผน่ - นกั เรียนคานวณต้นทนุ ผลผลติ แลว้ กาหนดราคาขาย - นกั เรยี นขายขนมในโรงเรียน - นักเรียนจัดทาบญั ชีรายรับ-รายจ่าย ๖. การทาขนมครองแครงกรอบ จานวน ๒ ชว่ั โมง - นักเรียนชมวดี ทิ ัศน์การทาขนมครองแครงกรอบ (https://www.youtube.com/watch?v=vtrRMBOagR๘) - นักเรยี นทารายงานการทาขนมครองแครงกรอบ - นักเรยี นศึกษาใบความรู้ท่ี ๗(จัดเตรียมวสั ดุ-อุปกรณ์ การทาขนมครองแครงกรอบ) - นักเรียนลงมอื ทาขนมครองแครงกรอบ - นักเรียนคานวณต้นทุน ผลผลติ แล้วกาหนดราคาขาย - นักเรยี นขายขนมในโรงเรยี น - นักเรยี นจดั ทาบัญชีรายรับ-รายจ่าย ๗. การทาขนมลมื กลืน จานวน ๒ ชัว่ โมง - นักเรียนชมวีดิทัศน์การทาขนมลืมกลนื (https://www.youtube.com/watch?v=R๑brocZXako) - นกั เรยี นทารายงานการทาขนมลืมกลืน - นกั เรยี นศึกษาใบความร้กู ารทาขนมลมื กลนื (จัดเตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ การทาขนมลมื กลืน) - นักเรยี นลงมือทาขนมลืมกลืน - นักเรยี นคานวณต้นทนุ ผลผลติ แลว้ กาหนดราคาขาย

100 - นกั เรยี นขายขนมในโรงเรียน - นกั เรียนจัดทาบญั ชีรายรบั -รายจา่ ย ๘. การทาขนมช้ัน จานวน ๒ ชว่ั โมง - นักเรียนชมวดี ิทศั น์การทาขนมชัน้ (https://www.youtube.com/watch?v=๗YMeoOdqdps) - นกั เรยี นทารายงานการทาขนมชั้น - นกั เรยี นศึกษาใบความร้กู ารทาขนมชัน้ (จดั เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ การทาขนมช้นั ) - นกั เรียนลงมอื ทาขนมชัน้ - นกั เรยี นคานวณต้นทนุ ผลผลิต แล้วกาหนดราคาขาย - นกั เรยี นขายขนมในโรงเรียน - นักเรยี นจัดทาบญั ชรี ายรับ-รายจ่าย ๙. การทาขนมข้าวงเกรียบปากหมอ้ จานวน ๒ ช่ัวโมง - นักเรียนชมวีดทิ ัศน์การทาขนมปากหม้อ (https://www.youtube.com/watch?v=mN๐w๑hm_GOk) - นกั เรยี นทารายงานการทาขนมปากหมอ้ - นกั เรยี นศกึ ษาใบความรกู้ ารทาขนมขา้ วงเกรียบปากหมอ้ (จัดเตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ การทาขนมปากหม้อ) - นักเรียนลงมือทาขนมปากหม้อ - นกั เรยี นคานวณต้นทนุ ผลผลิต แลว้ กาหนดราคาขาย - นกั เรียนขายขนมในโรงเรียน - นกั เรียนจัดทาบญั ชีรายรับ-รายจา่ ย ๑๐. การทาขนมชอ่ มว่ ง จานวน ๒ ชัว่ โมง - นักเรยี นชมวดี ิทัศน์การทาขนมชอ่ มว่ ง (https://www.youtube.com) - นักเรยี นทารายงานการทาขนมชอ่ ม่วง - นักเรยี นศึกษาใบความรกู้ ารทาขนมชอ่ มว่ ง(จัดเตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณ์ การทาขนมชอ่ มว่ ง) - นักเรียนลงมอื ทาขนมช่อมว่ ง - นักเรยี นคานวณตน้ ทุน ผลผลติ แลว้ กาหนดราคาขาย - นักเรยี นขายขนมในโรงเรยี น - นกั เรยี นจัดทาบญั ชีรายรบั -รายจา่ ย ๑๑. การสร้างผลงานของตนเอง จานวน ๒ ชั่วโมง - นักเรยี นในกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายเก่ียวกับขนมไทย แล้วเลอื กมา ๑ ชนิด ทกี่ ลุ่มสนใจ - นักเรยี นรว่ มกนั ปรบั ปรงุ พัฒนาขนมไทย ให้สรา้ งสรรค์ น่าสนใจ

101 - นักเรยี นจัดทารายงานการทาขนมไทย - นักเรยี นคานวณตน้ ทุน ผลผลิต แลว้ กาหนดราคาขาย - นักเรียนลงมอื ทาขนมไทย - นกั เรยี นขายขนมในโรงเรยี น - นักเรียนจดั ทาบัญชรี ายรบั -รายจา่ ย ๑๒. นกั เรียนร่วมช่ืนชมผลงานของกนั และกนั ๑๓. นกั เรยี นเก็บ ดูแลรักษา อปุ กรณ์ท่ีนามาใชใ้ ห้พร้อมสาหรบั ใชง้ านในครง้ั ต่อไป และ ทาความ สะอาดบริเวณทใ่ี ชท้ ากจิ กรรมให้เรียบรอ้ ยร่วมกนั ๕. สือ่ การเรยี นรแู้ ละแหล่งเรียนรู้ ๑. ส่อื สงิ่ พมิ พ์ เชน่ ตาราวชิ างานบ้าน ตาราเก่ยี วกับการทาขนมไทย ๒. ตวั อย่างของจรงิ หรือภาพขนมไทย ๓. สถานท่ี เช่น หอ้ งสมุด โรงเรยี น ห้องปฏบิ ตั กิ ารทาอาหาร ๔. บคุ คลต่างๆ เชน่ ผปู้ กครอง ครู นกั วชิ าการ ผ้จู าหน่ายขนมไทย ๕. หนังสอื เรียน ๖. การวัดและการประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเรอ่ื งต่อไปนี้ ๑.๑ สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม ๑.๒ สังเกตความสาเรจ็ ของผลงาน ในการปฏบิ ัติกิจกรรม ๒. แบบสอบถามความพงึ พอใจตอ่ การเข้ารว่ มกิจกรรมของนกั เรียน  น้อยทส่ี ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากที่สุด

102 ๗. ภาพประกอบ ๘. อ้างอิงแหล่งท่มี าของข้อมูล เอกสาร รูปภาพ วีดิทัศน์ สื่อการเรยี นรู้ แหล่งเรียนรู้ หลักสูตร http://pattani.nfe.go.th/e_office/photo๒/๑๕.doc การทาขนมครองแครงกรอบ https://www.youtube.com/watch?v=vtrRMBOagR๘ การทาขนมช้ัน https://www.youtube.com/watch?v=๗YMeoOdqdps การทาขนมช่อม่วง https://www.youtube.com/watch?v=๕๖alDkDILaE การทาขนมดอกจอก https://www.youtube.com/watch?v=gz๐izdku๔no การทาถ่ัวลสิ งทอดแผ่น https://www.youtube.com/watch?v=๙yKVss_fONI การทาขนมปากหม้อ https://www.youtube.com/watch?v=mN๐w๑hm_GOk การทาขนมปุยฝา้ ย www.youtube.com/watch?v=RqrcfSmnz๘c การทาขนมลมื กลืน https://www.youtube.com/watch?v=R๑brocZXako

103 ใบความรู้ ขนมไทยชนิดตา่ ง ๆ ๑. ขนมปยุ ฝ้าย สว่ นผสม ๖. เอสพี ๑๕ กรมั ๑. แปง้ เค้ก ๒๐๐ กรัม ๗. วานิลา ๑ ชอ้ นชาครึง่ ๒. ผงฟู ๑ ช้อนชา ๘. นา้ มะนาว ๑ ช้อนชา ๓. น้าตาลทราย ๑ ถว้ ย ๙. สเี หลือง ชมพู เหลือง หรอื สที ่ชี อบ ๔. นมสดจืด ๓ สว่ น ๔ ถ้วย ๕. ไขไ่ ก่ขนาดใหญ่ ๒ ฟอง วธิ ีทา ๑. ร่อนแป้งกับผงฟูพักไว้ก่อน ๒. ผสมนม ไข่ เอสพี และนา้ ตาลทรายลงในโถตใี ช้สแตนด์มกิ ซ์เซอร์/ตะกร้อไฟฟา้ ๓. ค่อย ๆ เปิดเครื่องตีจากสปีดต่าไปจนสปีดแรงสุดตีส่วนผสมให้ข้ึนฟูเป็นครีมข้ันตอนน้ีใช้เวลาตี ประมาณ ๖ - ๗ นาทใี สน่ ้ามะนาวลงไปในส่วนผสมตีใหเ้ ขา้ กันตามด้วยวานิลา หรอื กลิ่นทีช่ อบ ๔. ลดสปีดลงเปน็ สปีดตา่ ใสแ่ ป้งลงไปทลี ะน้อยจนแป้งหมดจึงปดิ เคร่ืองแล้วแบง่ แปง้ ออกมาใส่ ตามทช่ี อบถ้าไม่ใส่สกี ็ตักหยอดบนพมิ พก์ ระดาษ ๕. ตักสว่ นผสมหยอดใส่ลงในพมิ พน์ าพิมพ์ทม่ี สี ว่ นผสมแปง้ วางบนลังถงึ ชนั้ บนนาลงั ถึงไปวางบน หม้อที่นา้ กาลงั เดือดพลา่ นปิดฝาลงั ถึงใหเ้ รียบรอ้ ยและให้รบี ลดไฟลงเป็นไฟอ่อนทส่ี ุด ๖. นง่ึ ปุยฝา้ ยเปน็ เวลา ๑๒ - ๑๕ นาที เคล็ดลับ ถ้าอยากให้ปุยฝ้ายแตกเป็นแฉกสวยงามเวลาน่ึงปุยฝ้ายในตอนแรกน้าในหม้อควรจะเดือดพล่าน พอวางลังถึงนึ่งปุยฝ้ายลงไปปั๊บต้องหรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อนทันทีแล้วต้องไม่เปิดฝาหม้อน่ึงไปจนถึงเวลาท่ีต้ังไว้ ขนมกจ็ ะสุกฟูนุม่ แตกเป็นปุยสวยงาม

104 ขนมดอกจอก สว่ นผสม ๗. น้ามันพชื ๑ ช้อนโตะ๊ ๑. แป้งข้าวเจา้ ๑ ถ้วย ๘. เกลือ ๑ ชอ้ นชาคร่งึ ๒. แป้งสาลี ครง่ึ ถ้วย ๙. นา้ ตาลทราย ๕ ช้อนโต๊ะ ๓. แปง้ มนั ๑ ถ้วย ๑๐. งาดา ๔ ชอ้ นโตะ๊ ๔. น้าปนู ใส ๓ สว่ น ๔ ถ้วย ๑๑. น้ามนั สาหรับทอด ๕. นา้ เปลา่ ครงึ่ ถ้วย ๖. ไขแ่ ดง ๑ ฟอง วธิ ที า ๑. ร่อนแป้งทั้งสามชนิดรวมกันใส่ในอ่างผสม เติมน้าปูนใส น้าเปล่าลงไปคนพอให้เข้ากันแล้วใส่ ไข่แดง นา้ มนั พชื เกลอื น้าตาล งาคัว่ คนใหเ้ ขา้ กันรูปแปง้ สาเรจ็ แลว้ เตรียมจุ่มพมิ พท์ อดได้ ๒. เทน้ามันใส่หม้อ ใช้หม้อขนาดกลางๆไม่ใหญ่ ไม่เล็กมาก ยกหม้อตั้งบนเตาจนน้ามันร้อน ให้ใช้ ไฟอ่อนไฟแรงมาก เดี๋ยวจะไหม้เร็วแล้วแซะออกจากพิมพ์ยากสาหรับพิมพ์ที่ซื้อมาใหม่ ๆ บางทีเอามาใช้ ทนั ทีแป้งจะตดิ พิมพ์ ให้แชพ่ มิ พ์ไวใ้ นน้ามนั แชค่ า้ งคืนไว้ก็ได้ แลว้ จงึ เอามาใช้ ๓. รอน้ามันร้อน ให้จุ่มพิมพ์ลงไปแช่ในหม้อน้ามันด้วยรอ ให้พิมพ์ร้อนจัดก่อนถึงเอาไปจุ่มแป้ง ถ้าพมิ พไ์ ม่ร้อนจมุ่ แปง้ ก็ไม่ติดจมุ่ พิมพ์ลงไปในชามแป้ง ๔. เอาลงทอดใช้ไฟค่อนข้างอ่อนสะบัดแป้งออกจากพิมพ์

105 เคลด็ ลับ ๑. จุ่มพิมพ์ลงไปน้ามันอย่าเพิ่งให้มิดพิมพ์ รอประมาณ ๕-๑๐ วินาที พอแป้งอยู่ตัวค่อยกดพิมพ์ลง บนกน้ หม้อจะได้ขนมดอกจอก ทมี่ ีก้นเรียบสวยจากนน้ั จึงค่อยสบัดแป้งออกจากพิมพ์สบัดแป้งออกแลว้ ทอด ขนมตอ่ ให้เปน็ สีเหลอื งสวยทอดเสร็จก็เอาวางลงบนกระดาษซบั น้ามนั ๒. ถา้ ตอ้ งการให้ดอกจอกบานให้หาถว้ ยเลก็ ๆ ก้นมน ๆ มาเตรียมไวเ้ วลาทอดขนมเสร็จให้เอาขนม วางลงบนก้นถ้วยขณะร้อน ๆ แลว้ เอาสอ้ มหรือคีมมากดขนม ให้บานออกกดเสร็จพอขนมอยู่ตัวให้วางลงบน กระดาษซบั น้ามัน ๓. ถั่วลิสงทอดแผ่น ส่วนผสม ๑. ถั่วลสิ งดบิ ๒.๕- ๓ ถว้ ย ๖. ไขไ่ ก่ ๑ ชอ้ นโตะ๊ ๒. แป้งข้าวเจา้ ๑ ถว้ ย ๗. นา้ ปูนใส ๑/๒ ถว้ ย ๓. แปง้ มนั ๒ ช้อนโต๊ะ ๘. กะทิ ๑/๒ ถ้วย ๔. เกลือปน่ ๓/๔ ชอ้ นชา ๙. นา้ มนั สาหรบั ทอด ๕. นา้ ตาลทราย ๓ ชอ้ นโตะ๊ ๑๐. พิมพส์ าหรบั ทอดถว่ั วธิ ที า ๑. เลือกถว่ั ลสิ งเอาเมล็ดเสียออกแลว้ ลา้ งน้าใหส้ ะอาด ใสต่ ะแกรงใหส้ ะเดด็ นา้ ๒. ผสมแป้งข้าวเจ้าแป้งมัน ลงในชามอ่าง ใส่น้าตาลทราย เกลือป่น และไข่ไก่ นวดให้เข้ากัน ค่อย ๆ ใส่น้าปูนใสนวดจนแป้งนุ่ม ละลายหมดแล้วจึงใส่น้ากะทิลงผสมให้เข้ากันกรองแป้งอีกคร้ัง เอาถ่ัว ลิสงท่ีเตรียมไวใ้ ส่ลงไปทีละหนอ่ ย คนให้เข้ากนั ๓. ใส่น้ามันในกระทะตั้งไฟให้ร้อน ไฟปานกลาง แล้วเอาพิมพ์จุ่มในน้ามันให้ร้อนเมื่อพิมพ์ร้อนจึง ตกั แปง้ ใส่ ตกั ถั่วโรยใหเ้ มลด็ ห่าง ๆ กันพอสมควร ๔. แล้วจึงจุ่มในน้ามัน พอแป้งสุกจะลอยตัวหลุดพิมพ์ออกมาเอง ถ้ายังไม่หลุดก็ใช้ช้อนหรือไม้ ชว่ ยแงะออก อยา่ ใชไ้ ฟแรง เพราะแป้งจะไหม้กอ่ นถวั่ สุกพอแป้งลอยตวั ขึ้นก็ทาต่ออกี ๒ - ๓ อันทอดแป้งต่อ

106 ให้เหลืองเป็นน้าตาลอ่อนตักใส่กระชอนหรือกระดาษซับมัน ให้สะเด็ดน้ามันพอเย็นเก็บไว้ในโหลท่ีไม่มี อากาศเข้า ปดิ ใหส้ นทิ เคล็ดลบั เวลาตกั แป้งกบั ถว่ั ใสพ่ มิ พอ์ ย่างใสแ่ ป้งมาก ถา้ เยอะไปให้รินออก เอาให้แป้งตดิ กบั พมิ พ์บาง ๆ แปง้ จะได้ไม่หนาไป จะทาให้ไม่กรอบ ถ่ัวก็ไม่สุกด้วย ท่สี าคญั จะไมอ่ รอ่ ยสูตรน้ไี ด้ประมาณ ๒๕ แผ่น ๔. ครองแครงกรอบ สว่ นผสม ๑. แปง้ สาลีเอนกประสงค์ ๘๐๐ กรมั ๔. ไขไ่ ก่ ๒ ฟอง ๒. กะทิ ๑1 2 ถ้วย - ๑ 3 4 ถว้ ยตวง ๕. ผกั ชหี ั่นฝอย 1 2 ถว้ ยตวง ๓. น้าปูนใส ๘ ช้อนโตะ๊ สว่ นผสมนา้ คลกุ ๑. ซอสปรุงรส ๒ ช้อนโตะ๊ ๕. นา้ ปลา ๑ ช้อนโต๊ะ ๒. น้าตาลมะพร้าว ๔๐๐ กรมั ๖. รากผกั ชี พริกไทยโขลก ๒ ชอ้ นโต๊ะ ๓. น้าเปลา่ 1 2 ถว้ ยตวง ๗. น้ามันพชื ๒ ช้อนโตะ๊ ๔. พรกิ ไทย ๒ ช้อนโต๊ะ วิธที า 1. นาแป้งสาลีอเนกประสงค์ ไข่ไก่ น้าปูนใส นวดจนกระท่ังส่วนผสมเนียน พักแป้งไว้ประมาณ ๒๐ นาที 2. หยิบแป้งปั้นเป็นก้อนกลม กดบนที่กดครองแครง ทอดในน้ามันร้อนปานกลางจนกระท่ังสุก เหลอื ง ตกั ขน้ึ ใหส้ ะเดด็ น้ามัน 3. นาน้ามันใส่กระทะ ใส่รากผกั ชี พริกไทย โขลกละเอยี ดลงผดั พอหอม ใส่ซอสปรุงรส นา้ ตาล มะพรา้ ว นา้ ปลา ผัดจนกระทง่ั สว่ นผสมขน้ 4. ใสต่ ัวครองแครงที่ทอดแลว้ ลงคลกุ ใหท้ ว่ั โรยหนา้ ดว้ ยผักชีห่ันฝอย ตักขนึ้

107 เคลด็ ลบั ๑. การทอดครองแครงควรใชไ้ ฟปานกลาง จะทาให้ตวั ครองแครงกรอบทง้ั ชน้ิ ๒. ถ้าต้องการให้หน้าเคลือบนา้ ตาลเหนยี ว ใหเ้ ตมิ แบะแซลงไปเล็กน้อย ๕. ขนมผงิ ส่วนผสม ๑. แปง้ มัน ๒ 1 2 ถ้วยตวง ๒. มะพร้าวขดู ขาว ๒๕๐ กรมั ๓. นา้ ตาลทราย 1 2 ถ้วยตวง ๔. ไขไ่ ก่ ๑ ฟอง ๕. ถาดสาหรบั อบขนม ๔ ถาด ๖. นา้ มนั สาหรับทาถาด ๗. เทยี นอบ ๑ อนั วธิ ีทา ๑. ค้ันมะพร้าวขูดขาวให้ได้กะทิ ๑ ถ้วยตวง ผสมน้าตาลทรายกับกะทิ คนจนน้าตาลทราย ละลายจึงกรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่หม้อ ต้ังไฟ เคี่ยวไฟอ่อนๆให้เป็นยางมะตูมแล้วยกลง ตวงให้ได้ ๑ ถ้วยตวง ปลอ่ ยทิง้ ไว้ให้เย็น ๒. ใสไ่ ข่แดง คนใหเ้ รว็ และแรงๆ ใหเ้ ข้ากบั กะทิ ใสแ่ ป้งท่ีร่อนไวแ้ ล้วนวดใหเ้ ข้ากัน หมักทิง้ ไว้ ๑ คืน ๓. ทาถาดด้วยน้ามนั ให้ทว่ั ตกั ขนมหยอดใส่ถาดให้มีระยะเท่าๆกัน เปิดเตาอบทอ่ี ณุ หภูมปิ ระมาณ ๓๐๐ องศาฟาเรนไฮด์ นาเข้าเตาอบประมาณ ๑๐-๑๕ นาที แลว้ แต่แป้งกอ้ นเลก็ หรือใหญ่ พอสุกยกลง ออกจากเตาอบ ทิ้งไว้สักครู่ แซะออกจากถาดท้ิงไว้ให้เย็น เก็บใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด ถ้าชอบกล่ินควัน เทยี นควรอบดว้ ยเทียนอบ

108 เคล็ดลับ ถา้ ตอ้ งการขนมมีสีและกลิ่นตา่ งๆ ควรใสส่ ีและกลิน่ ไปพร้อมกับกะทิ กลิ่นขนมท่ีใชน้ ยิ มกล่นิ วานิลลา ๖. ขนมลืมกลนื สว่ นผสมตวั ขนม ๑. แป้งถ่ัวเขยี ว ๕๐๐ กรัม ๒. น้าตาลทราย ๓๐๐ กรัม ๓. น้าดอกอัญชนั ๓ 1 2 ถ้วยตวง ส่วนผสมหน้าขนม ๑. กะทิ ๓ ถ้วยตวง ๒. เกลือปน่ ๒ ชอ้ นชา ๓. แป้งข้าวเจา้ ๒๕๐ กรัม ๔. วนุ้ ผง 1 2 ช้อนชา ๕. ใบตองเจยี นเปน็ รปู กลม วธิ ที า ผสมแป้งถ่ัวเขียวกับน้าตาลทราย น้าดอกอัญชัน คนจนแป้งละลาย ใส่กระทะทองตั้งไฟ กวนจน ข้นใส ยกลงตักหยอดบนใบตองที่เจียนเป็นวงกลมขนาดพอคาหรือตักหยอดใส่กระทงพลาสติกขนาดเล็ก ผสมแป้งข้าวเจ้า เกลือป่น กะทิ วุ้นผง เข้าด้วยกัน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง นาไปตั้งไฟกวนพอข้น ตกั หยอดตกแต่งบนตัวขนม แต่อย่ามิดตวั ขนม

109 ๗. ขนมช้ัน ส่วนผสม ๔ ถ้วย ๑. หัวกะทิ ๒. น้าตาลทราย ๓ ถ้วย ๓. นา้ ลอยดอกมะลิ ๑ ถ้วย ๔. แป้งถั่วเขยี ว ๒ ช้อนโต๊ะ ๕. แป้งทา้ วยายมอ่ ม ๑ ถว้ ย ๖. แปง้ ข้าวเจา้ ๒ ชอ้ นโต๊ะ ๗. แป้งมัน ๒ ถ้วย ๘. ใบเตย ๑๐ ใบ ค้ันนา้ ข้นๆ วธิ ที า ๑. เชือ่ มน้าเชอ่ื มโดยใช้นา้ ๑ ถ้วย นา้ ตาลทราย ๓ ถ้วย ๒. ผสมแปง้ ทั้ง ๔ ชนดิ เขา้ ด้วยกนั แลว้ นวดกับกะทิ โดยคอ่ ยๆ ใสก่ ะททิ ีละน้อยๆ นวดนานๆ จนกะทหิ มด แล้วใสน่ า้ เชือ่ มคนใหเ้ ข้ากนั พอใหแ้ ป้งติดหลังมือนดิ หนอ่ ย ๓. กรองแป้งทัง้ หมดแล้วแบง่ แปง้ ครง่ึ หนึ่งเปน็ สขี าว อีกคร่งึ หน่ึงใส่ใบเตยหรือสีตามชอบ ๔. นาถาดไปน่ึงแลว้ ทานา้ มันใหท้ ่วั ใสแ่ ปง้ สีขาวประมาณ ๑/๒ ถว้ ย แลว้ นง่ึ ใหส้ ุกประมาณ ๕ นาที ชน้ั ที่ ๒ ใส่สีเขียว แลว้ นึ่งอกี ประมาณ ๕ นาที ทาเชน่ น้ไี ปจนหมดแป้งแลว้ ให้ชั้นสดุ ท้ายเป็นสเี ขม้ กว่า ช้ันอน่ื ๆ เมือ่ สกุ ยกลงทงิ้ ใหเ้ ยน็ แล้วตัดเปน็ ชนิ้ ตามตอ้ งการ

110 ตัวอยา่ งกจิ กรรมที่ 5 ๑. ช่ือกิจกรรม สิทธิฉ์ นั สทิ ธิ์เธอ (ทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา) ๒. เวลาที่ใช้ ๓ ชั่วโมง ๓. วตั ถุประสงค์ ๑. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นไดศ้ กึ ษาเก่ียวกบั ลิขสิทธิ์และสทิ ธิบัตร ๒. มที กั ษะในการค้นหาถ่ายทอดข้อมูลเกี่ยวกบั ลิขสทิ ธแิ์ ละสิทธบิ ัตร ๓. เหน็ ความสาคญั ของทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครูให้นักเรยี นดูคลปิ วดี ิทศั น์ข่าว การกระทาผิดกฎหมายทีเ่ ก่ยี วกับทรพั ยส์ ินทางปัญญา ๒. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั การดูคลิปวดี ิทัศน์ข่าว โดยใช้คาถามกระตุน้ ดังนี้ - การกระทาของบคุ คลในข่าวเป็นการละเมิดทรัพย์สนิ ทางปัญญาหรือไม่ - การกระทาดังกลา่ วมผี ลเสียอยา่ งไร ๓. ครูให้นักเรียนดูเอนิเมชั่น เร่ือง การละเมิดลิขสิทธิ์ จากhttps://www.youtube.com เพื่อ ทบทวนความรู้ ความเข้าใจ ๔. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ ๔ คน ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษา เร่ือง ทรัพย์สินทาง ปัญญา เกี่ยวกบั หวั ขอ้ ต่อไปนี้ - ความหมายและความสาคัญ ประเภท ของทรัพย์สนิ ทางปัญญา - กฎหมายเก่ียวกับการค้มุ ครองทรัพยส์ ินทางปัญญา ๕. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ นาเสนอผลจากการศึกษา ๖. ให้แต่ละกลุ่มนาความรู้ ความเข้าใจที่ได้รับมาออกแบบป้ายประชาสัมพันธ์ด้านการไม่ละเมิด ทรัพย์สนิ ทางปญั ญา ๗. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสิ่งที่ได้รับจากการเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา และการ นาความร้แู ละประสบการณ์ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์กบั ตนเองและประโยชน์ต่อผ้อู น่ื

111 ๕. สือ่ การเรียนรู้ ๑. คลปิ วดี ิทัศนข์ า่ วการกระทาผดิ กฎหมายทเี่ ก่ยี วกบั ทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา ๒. เอนเิ มชน่ั เรือ่ ง การละเมดิ ลิขสิทธ์ิ ๓. ห้องสมดุ ๔. ห้องปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ ๖. การวดั และการประเมินผล ๑. สังเกตพฤติกรรมนักเรียนในเรื่องต่อไปนี้ ๑.๑ สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม ๑.๒ สังเกตความสาเรจ็ ของผลงาน ในการปฏิบตั กิ ิจกรรม ๒. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้ารว่ มกจิ กรรมของนกั เรียน  น้อยทส่ี ุด น้อย ปานกลาง มาก มากทีส่ ุด 7. อ้างอิงแหลง่ ท่มี าของขอ้ มูล http://www.trueplookpanya.com

112 หมวดท่ี 4 เสรมิ สรา้ งทกั ษะการทางานการดารงชพี และทักษะชวี ติ กลมุ่ กจิ กรรมท่ี 13 ตอบสนองความสนใจ ความถนดั และความต้องการของนกั เรียนตาม ความแตกต่างระหว่างบคุ คล ตวั อย่างกิจกรรมท่ี 1 1. ชื่อกจิ กรรม แกว้ นา้ ชวนดมื่ (Miracle Glass) 2. เวลาทใ่ี ช้ 2 ชว่ั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใหน้ กั เรียนปัน้ ตกแต่งแกว้ น้าให้มีความสวยงามตามแนวความคิดได้ 2. เพ่ือให้นักเรียนมคี วามพึงพอใจในการเข้าร่วมกจิ กรรม 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ให้นักเรยี นศึกษารูปแบบการปน้ั ตกแต่งแกว้ นา้ 2. นักเรยี นออกแบบและเขียนขน้ั ตอน วางแผนการปั้นตามความสนใจ 3. นกั เรยี นลงมือปฏบิ ัติตามขั้นตอนทีไ่ ดว้ างแผนไว้ 4. นกั เรียนร่วมช่ืนชมผลงานของกันและกัน 5. นกั เรยี นจัดเกบ็ ดูแลรักษา อปุ กรณ์ที่นามาใช้ให้พร้อมสาหรบั ใช้งานในคร้ังต่อไป และ ทาความสะอาดบรเิ วณที่ใชท้ ากจิ กรรมใหเ้ รียบร้อยรว่ มกนั 5. ส่อื การเรยี นรู้ 1. ตวั อย่างผลงานการปน้ั รูปแบบตา่ งๆ 2. ใบความรู้ ข้นั ตอนการปน้ั 3. ดนิ ไทย 4. อุปกรณ์ อ่ืน ๆ เช่น กาวลาเท็กซ์ สีน้ามนั ครมี บารุงผิว ลวด

113 6. การวัดและการประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนักเรียนในเร่ืองต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏิบตั ิกิจกรรม 1.2 สงั เกตความสาเร็จของผลงาน ในการปฏิบัตกิ จิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้ารว่ มกิจกรรมของนกั เรียน  นอ้ ยท่สี ดุ น้อย ปานกลาง มาก มากที่สดุ

114 ใบความรู้ ข้นั ตอนการปั้น ขัน้ ตอนที่ 1 เตรยี มอปุ กรณ์ ขน้ั ตอนที่ 2 ออกแบบและป้นั ตามความสนใจ ขนั้ ตอนท่ี 3 ปั้นดอกไม้สาหรับตกแตง่ ข้นั ตอนที่ 4 นาสว่ นต่างๆท่ปี ั้นไวไ้ ปตกแต่งบรเิ วณปากแก้วให้สวยงาม โดยใช้กาวเป็นตัวเชอื่ มติดกัน

115 7. ภาพประกอบ

116 8. อ้างอิงแหลง่ ทีม่ าของข้อมูล โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรยั ( กระจา่ ง สงิ หเสนี ) สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร

117 ตัวอยา่ งกิจกรรมท่ี 2 1. ช่อื กจิ กรรม ดนิ สอมหัศจรรย์ 2. เวลาทีใ่ ช้ 2 ช่วั โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้นกั เรยี นปน้ั ตกแตง่ ดนิ สอใหม้ ีความสวยงามตามแนวความคิดได้ 2. เพ่ือให้นกั เรยี นมีความพึงพอใจในการเข้ารว่ มกิจกรรม 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ให้นักเรียนศกึ ษารปู แบบการปน้ั ตกแต่งดินสอ 2. นกั เรียนออกแบบและเขียนขน้ั ตอน วางแผนการป้นั ตามความสนใจ 3. นักเรยี นลงมือปฏิบัตติ ามข้ันตอนทไ่ี ดว้ างแผนไว้ 4. นักเรียนรว่ มช่นื ชมผลงานของกนั และกนั 5. นักเรยี นจดั เกบ็ ดูแลรักษา อปุ กรณ์ท่ีนามาใช้ใหพ้ ร้อมสาหรบั ใช้งานในครั้งต่อไป และ ทาความสะอาดบริเวณทใี่ ช้ทากิจกรรมให้เรียบร้อยรว่ มกัน 5. สือ่ การเรียนรู้ 1. ตวั อยา่ งผลงานการปั้นรูปแบบตา่ งๆ 2. ใบความรู้ ขน้ั ตอนการป้นั 3. อุปกรณ์สาหรบั การป้ัน เช่น ดนิ ไทย กาวลาเท็กซ์ สนี า้ มนั ครมี บารุงผวิ ลวดเปน็ ต้น 6. การวัดและการประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเร่ืองต่อไปน้ี 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม 1.2 สงั เกตความสาเรจ็ ของผลงาน ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนกั เรียน  น้อยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด

118 ใบความรู้ ขน้ั ตอนการปัน้ ขั้นตอนท่ี 1 ออกแบบและแยกสว่ นประกอบตัวการต์ ูน ขั้นตอนที่ 2 นาส่วนต่างๆมาประกอบเข้าดว้ ยกัน โดยใชก้ าวติดทกุ ช้ินส่วน

119 ขัน้ ตอนท่ี 3 นาไปประกอบเข้ากบั ดินสอ 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งองิ แหล่งท่มี าของขอ้ มูล โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย ( กระจ่าง สิงหเสนี ) สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษา ประถมศกึ ษากรุงเทพมหานคร

120 ตวั อยา่ งกจิ กรรมที่ 3 ๑ .ชือ่ กจิ กรรม การทาตุก๊ ตาการบรู ๒. เวลาที่ใช้ ๕ ช่วั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. นกั เรียนสามารถประดษิ ฐต์ กุ๊ ตาการบูรไดอ้ ยา่ งถูกต้องตามแนวคิดได้ 2. เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรม 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนศึกษาคน้ คว้ารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกบั การทา ต๊กุ ตาการบรู 2. นักเรยี นเตรยี มอปุ กรณแ์ ละศกึ ษาวธิ กี ารทาใหเ้ ขา้ ใจ 3. นักเรียนลงมือปฏบิ ัติ - ตัดถุงเทา้ ตรงสว่ นสน้ เท้าออก จะได้ถงุ เท้าเปน็ 2 ส่วน(เป็นเสน้ ตงั้ ฉาก) - นาก้อนการบูรหุม้ ด้วยใยสังเคราะหแ์ ล้วใส่เขา้ ไปในถุงเท้าส่วนที่ 1 จัดรปู ทรงให้เปน็ ก้อน กลม แล้วใชห้ นังยางรัด และนาสว่ นที่ 2 มาพับส่วนปลายเข้าดา้ นในสวมรอบในส่วนที่ 1 (ส่วนท่ี 2 มียางยืดของ ถงุ เท้าอยู่ทาใหค้ รอบแล้วแน่นหนาไม่เล่อื นหลดุ ) - นาเชือกผ้าขนาดยาวพอประมาณ มามัดปมท้ังสองข้างแล้วมัดเชือกที่คอตุ๊กตาปิดหนัง ยางให้มิด(ตามรปู ) และนาอีกเสน้ มัดปมอกี 2 ขา้ ง มาทาเป็นขาต๊กุ ตาเย็บด้ายตดิ กับตวั เสื้อตุ๊กตา - ตกแต่งหน้าตุ๊กตา โดยใช้กาวลาเทก็ ซ์ติดลูกตา นาก๊บิ มาติดทห่ี มวก ส่วนปากใชเ้ ชอื กผ้า เส้นเลก็ หรอื ไหมพรมชบุ กาวตดิ ลงไป - ทาเชอื กแขวนเยบ็ ติดทีห่ ัวต๊กุ ตา (อยา่ ทาท่หี มวกเพราะอาจหลุดจากตัวต๊กุ ตาเวลาแขวน) 4. นกั เรียนรว่ มชน่ื ชม นาเสนอ ผลงานให้เพือ่ น ๆ ในหอ้ งชม 5. นักเรียนเก็บ ดูแลรักษา อุปกรณ์ที่นามาใช้ให้พร้อมสาหรับใช้งานในคร้ังต่อไป และ ทาความ สะอาดบรเิ วณทีใ่ ชท้ ากิจกรรมใหเ้ รียบรอ้ ยร่วมกนั 5. ส่ือการเรียนร้แู ละแหลง่ เรียนรู้ 1. ตารา/เอกสารประกอบการทาตุก๊ ตาการบูร 2. อุปกรณส์ าหรับทาตกุ๊ ตา เชน่ ถุงเทา้ ก้อนการบรู ไหมพรม เชอื ก กาว ใยสงั เคราะห์ เปน็ ต้น 6. การวดั และการประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในเร่อื งต่อไปนี้ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม 1.2 สังเกตความสาเรจ็ ของผลงาน ในการปฏบิ ัติกิจกรรม

121 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนักเรยี น    น้อยทีส่ ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่สี ดุ 7. ภาพประกอบ ตวั อย่างต๊กุ ตาการบรู 8. อ้างองิ แหล่งทม่ี าของข้อมลู เอกสาร รูปภาพ วีดทิ ศั น์ สอ่ื การเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ ทุกรายการ http://www.thaismefriend.com/ http://www.12market.com/product1567322/ http://agjgi.blogspot.com/

122 ตวั อยา่ งกิจกรรมท่ี 4 1. ชอ่ื กจิ กรรม ผ้าบาตกิ 2. เวลาท่ีใช้ ๑๐ ชวั่ โมง ๓. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ใหน้ กั เรยี นสามารถทาผ้าบาติกได้ 2. เพ่อื ใหน้ ักเรียนมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรม 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครอู ธิบายถึงการทาผ้าบาตกิ 2. ครอู ธบิ ายและแนะนาเก่ียวกบั ชอื่ อุปกรณ์ หน้าทวี่ ธิ กี ารใช้งานของอปุ กรณต์ ่างๆท่ใี ช้ทาผา้ บาตกิ 3. ครสู าธิตการใช้อปุ กรณใ์ นการทาผ้าบาตกิ 4. ครอู ธบิ ายและสาธติ วิธกี ารเก็บ การดูแลรกั ษาอปุ กรณต์ า่ งๆ ท่ใี ช้ในการทาผ้าบาตกิ 5. ครอู ธิบายข้นั ตอนการขึงผา้ และสาธติ การขงึ ผ้า 6. ครอู ธิบายการเขยี นเสน้ เทียน สาธิต และฝึกปฏิบัติ 7. ครอู ธบิ ายการระบายสแี ละสาธิตขน้ั ตอนการผสมน้ายาเคลือบ 8. ครสู าธิตการเคลอื บน้ายากนั สีตก 9. ให้นกั เรียนฝึกปฏบิ ตั ิการทาผ้าบาตกิ 10. นกั เรยี นร่วมชน่ื ชมผลงานของกันและกัน 11. นักเรียนเกบ็ ดูแลรักษา อปุ กรณ์ทีน่ ามาใช้ใหพ้ ร้อมสาหรบั ใช้งานในครง้ั ต่อไป และ ทาความ สะอาดบรเิ วณท่ีใช้ทากิจกรรมใหเ้ รียบรอ้ ยร่วมกนั 5. ส่ือการเรยี นรู้ 1. รปู ภาพ 2. ใบความรู้ 3. วสั ด/ุ อปุ กรณ์ ในการทาผ้าบาติก 5. ตัวอยา่ งผ้าบาตกิ 6. วทิ ยากรภายนอก 7. เวบ็ ไซทเ์ กยี่ วกบั การทาผ้าบาตกิ - http://graduate.srru.ac.th/teac/a6.pdf - http://kohsichang.go.th/UserFiles/File/batic.pdf - http://www.slideshare.net/panida428/ss-30804764 - http://www.neutron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content &task=view&id=787

123 - https://koryahpic.wordpress.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%97% E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%B2 %E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3/ 8. วดี ีทัศนก์ ารทาผ้าบาตกิ - https://www.youtube.com/watch?v=PHF5qeY9VSI - https://www.youtube.com/watch?v=-g1y2Renx7g - https://www.youtube.com/watch?v=OlUPTkaAark - https://www.youtube.com/watch?v=MfzIj0lVa3s 9. หนงั สือ - ธญั ญาวดี ธรรมเสถียรผ้พู นื้ ฐานงานบาตกิ เทคนคิ การเขยี นเทียน.. สานักพมิ พ์เศรษฐศิลป์. 6. การวัดและการประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมนักเรียนในเรื่องต่อไปน้ี 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม 1.2 สงั เกตความสาเร็จของผลงาน ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้ารว่ มกิจกรรมของนกั เรยี น  นอ้ ยทสี่ ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทสี่ ดุ 7. ภาพประกอบ

124 ใบความรู้ เรอ่ื ง การทาผ้าบาตกิ การทาผ้าบาติกเป็นงานศิลปหัตถกรรมท่ีแพร่หลายในแถบเอเชีย ไม่มีใครทราบว่าการทาบาติก เริ่มต้นจากท่ีใด ในแต่ละประเทศได้ใช้การทาลวดลายบาติกตกแต่งผืนผ้ามาช้านาน บางคร้ังอาจใช้เป็น ลวดลายผ้านงุ่ โสรง่ หรือเสื้อ ขนึ้ อยกู่ ับความต้องการของแต่ละท้องถ่นิ ในประเทศไทย ปัจจุบันนี้ นอกจากนิยมใช้ผ้าใยธรรมชาติเป็นวัตถุดิบในการทาบาติกแล้ว ยังใช้ กระดาษสาซ่ึงเป็นวัสดุในท้องถ่ินแล้วตกแต่งด้วยการเขียนลายแบบบาติกเพื่อเป็นของประดับตกแต่งรูป เป็นรูปใส่กรอบประดับตกแต่งบ้าน เป็นโคมไฟ หรือเป็นฉากกั้น เป็นต้น เอกลักษณ์ของงานบาติกนั้นอยู่ ทลี่ วดลายและวัสดทุ ่ใี ช้ อุปกรณ์ที่ใช้ สีย้อมผ้า ผ้าลินิน/ผ้าฝ้าย/กระดาษสา กรอบไม้ น้ายาเคลือบกันสีตก จ๊านติ้ง1 เตาตม้ พาราฟนิ 2พาราฟิน ขัน้ ตอนการทาบาติก แบง่ ไดเ้ ปน็ 5 ขัน้ ตอนดังนี้ ๑. ข้นึ ช้ินงานบนกรอบขงึ ผ้า/กระดาษสา ลงบนกรอบไมใ้ ห้ตงึ เขยี นลายหรอื ลอกลายที่ชอบ ลงไป tips ควรขงึ ผ้าให้ตงึ เพ่อื เวลาเขียนลายจะไดช้ ัดเจน ๒. เขยี นลวดลายเขียนขอบลายด้วยพาราฟิน เมื่อต้มพาราฟินใหร้ อ้ นแล้ว ใชจ้ า๊ นตงิ้ ตักพาราฟิน นามาเขียนยังลายท่ีลอกไว้แล้ว รอให้แห้ง tips เวลาเขียนลาย ให้ระวังไม่ให้เกิดรอยแตก หรือช่องว่าง มิฉะนั้นสีจะซึมหากัน ระหว่างทาให้ระวงั ความร้อน ถ้าร้อนเกินไปพาราฟินอาจไหม้แต่ถ้าไม่ ร้อน พาราฟินจะไมเ่ หลวพอจะเขยี นได้ ๓. ให้สีระบายสีตามใจชอบ tips การลงสีให้สวยให้ยึดหลักการระบายสีน้า อาจใช้เทคนิคเปียก บนเปียก ในกรณีท่ีต้องการให้สี soft เข้าหากัน ระวังอยา่ ระบายสีให้เกินขอบพาราฟินที่วาดไว้ เพราะสี จะซมึ หากนั อย่างรวดเร็ว ๔. ป้องกันสตี กท้งิ ให้แหง้ แลว้ ลงนา้ ยากันสตี ก tipsรอใหแ้ ห้งเรียบร้อยแลว้ ค่อยดาเนินการ ขน้ั ตอ่ ไป ๕. ขจัดพาราฟิน นาไปต้มในน้าเดือดเพื่อให้พาราฟินละลายหรือหากไม่สามารถต้มได้ให้นาผ้า / กระดาษสา รองดว้ ยกระดาษสีขาว ไมม่ ีลวดลายหลายช้นั รีดด้วยเตารีด เรยี บเรยี งโดย อาจารยบ์ ญุ วดี มนตรกี ลุ ณ อยธุ ยา รองผ้อู ำนวยกำรสำนกั ศลิ ปะและวฒั นธรรม 1จ๊านต้งิ เป็นอปุ กรณเ์ พ่ือใชใ้ นการเขียนลายดว้ ยพาราฟนิ ทาจากทองเหลอื ง มลี ักษณะเปน็ กาเลก็ ๆ มีขนาดแตกต่างกนั ไป ทาหน้าทคี่ ลา้ ยพกู่ ัน 2ในปจั จบุ นั อาจไม่จาเป็นตอ้ งใช้จา๊ นติง้ พาราฟิน และเตาตม้ เน่อื งจากมพี าราฟนิ สาเรจ็ ซึ่งใช้ง่าย ปลอดภยั แต่ราคาอาจแพงกว่า

125 ตัวอย่างกิจกรรมท่ี 5 1. ชอื่ กิจกรรม539 การเล้ยี งปลาสวยงาม 2. เวลาทีใ่ ช้ ๑๐ ชวั่ โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ ๑. นกั เรยี นสามารถเลยี้ งปลาสวยงามได้ถกู ตอ้ งตามหลักการ 2. เพือ่ ใหน้ กั เรยี นมคี วามพงึ พอใจในการเข้าร่วมกิจกรรม ๓. เพอ่ื ให้นกั เรยี นมีความรบั ผดิ ชอบ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ใหน้ ักเรียนไดศ้ ึกษาเก่ียวกับปลาสวยงาม ๒. นกั เรยี นออกแบบ วางแผน ทจ่ี ะเลย้ี งปลาสวยงามทตี่ นชอบ ๓. ให้นักเรยี นเตรยี มเคร่อื งมอื วสั ดุอปุ กรณ์สาหรับการเลี้ยงปลาสวยงาม ๔. นักเรียนเล้ียงปลาสวยงามที่ตนชอบได้ ๕. นักเรยี นร่วมช่ืนชมผลงานของกันและกนั ๖. นักเรียนเกบ็ ดูแลรกั ษา อุปกรณ์ทีน่ ามาใช้ให้พรอ้ มสาหรับใช้งานในคร้ังต่อไป และ ทาความ สะอาดบรเิ วณทใ่ี ชท้ ากิจกรรมให้เรยี บรอ้ ยรว่ มกนั 5. สอื่ การเรยี นรู้ ๑. ภาพปลาท่เี ลีย้ งไว้เพ่อื บรโิ ภคและปลาท่ีเล้ยี งไวเ้ พอ่ื ดูเลน่ ๒. ภาพปลาสวยงาม ๓. วีดิทัศนร์ ายการกบนอกกะลา เรอ่ื งปลาสวยงาม ปลางามตู้กระจก ๔. เอกสารประกอบการเรียน หนงั สอื เก่ยี วกับการเลย้ี งปลาสวยงาม ๕. อปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นการเลี้ยงปลาสวยงาม 6. การวดั และการประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในเรอื่ งต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏิบัติกจิ กรรม 1.2 สังเกตความสาเรจ็ ของผลงาน ในการปฏิบัติกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจตอ่ การเขา้ รว่ มกิจกรรมของนักเรยี น  นอ้ ยทีส่ ุด น้อย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด

126 7. ภาพประกอบ เอกสารสาหรับครู ภาพปลาทเ่ี ล้ยี งไวเ้ พือ่ บริโภค ภาพจาก : www.answerthai.com ภาพจาก : http://e-shann.com ภาพปลาที่เลยี้ งไวเ้ พอื่ ดเู ล่น ภาพจาก : www.naewna.com 8. อา้ งองิ แหล่งท่มี าของข้อมูล ๑. www.naewna.com ๒. sites.google.com ๓. https://sites.google.com

127 กล่มุ กจิ กรรมที่ ๑4 ฝึกการทางาน ทักษะทางอาชีพ ทรัพยส์ นิ ทางปัญหา อยอู่ ย่างพอเพยี ง และมีวนิ ัยทางการเงนิ ตัวอย่างกิจกรรมท่ี 1 1. ชื่อกิจกรรม เก้าอล้ี ีลาวดี 2. เวลาท่ีใช้ 2 ช่ัวโมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื นาวสั ดอุ ุปกรณท์ เี่ หลอื ใช้มาดัดแปลงและใช้ให้เกดิ ประโยชน์ 2. เพอ่ื ช่วยลดปริมาณขยะและชว่ ยรักษาส่ิงแวดล้อม 3. เพือ่ ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์และประหยัดรายจ่าย 4. เพอ่ื ให้นักเรียนมีความพงึ พอใจในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นศึกษารูปแบบ ขัน้ ตอนวิธกี ารทาเกา้ อีล้ ีลาวดี ๒. นักเรยี นออกแบบและวางแผนการทาเกา้ อ้ลี ีลาวดี ๓. นกั เรยี นจัดเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ในการทาเก้าอ้ีลลี าวดี 4. นักเรียนปฏิบัตติ ามขัน้ ตอนการทาเก้าอลี้ ลี าวดี 5. นกั เรียนรว่ มชน่ื ชมผลงานของกนั และกัน 6. นกั เรยี นเกบ็ ดูแลรกั ษา อุปกรณ์ท่นี ามาใช้ให้พรอ้ มสาหรบั ใชง้ านในครง้ั ต่อไป และ ทาความ สะอาดบริเวณท่ีใช้ทากิจกรรมใหเ้ รียบรอ้ ยรว่ มกัน 5. ส่ือการเรยี นรู้ 1. โครงเหลก็ เกา้ อ้ีเกา่ 2. กระสอบพลาสตกิ 3. เข็มเยบ็ ผ้า, ดา้ ย 4. พู่กัน, สี 5. คอ้ น, ตะปู 6. จักรเยบ็ ผา้ (ถา้ มี)

128 6. การวดั และการประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเร่อื งต่อไปนี้ 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะปฏิบตั ิกิจกรรม 1.2 สงั เกตความสาเร็จของผลงาน ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจตอ่ การเขา้ ร่วมกิจกรรมของนกั เรยี น  น้อยท่สี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทีส่ ดุ 7. ภาพประกอบ

129

130

131 8. อา้ งองิ แหลง่ ที่มาของขอ้ มูล โรงเรยี นอนุบาลจนั ทบุรี สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาจนั ทบุรี เขต 1 จงั หวัด จนั ทบรุ ี

132 ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี 2 1. ชื่อกจิ กรรม ตลาดนัดพอเพยี ง 2. เวลาทีใ่ ช้ 3 ชวั่ โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ปลูกฝงั ให้นักเรยี นมนี ิสัยรกั การประหยดั และอดออม 2. เพ่อื สง่ เสริมใหน้ ักเรยี นรู้จักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ 3. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมกจิ กรรม 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นรว่ มวางแผนในการจัดกจิ กรรมตลาดนัดพอเพียง 2. นักเรยี นเตรียมส่ิงของ เช่น อาหาร ผลิตผลทางการเกษตร สิ่งประดิษฐ์ท่ีนักเรยี นทา อาหารแปร รูป ผลิตภัณฑ์ โดยมกี ารกาหนดเง่อื นไขดังน้ี - ต้องเป็นส่ิงที่นักเรียนหามาได้โดยตนเอง มใิ ชเ่ ปน็ การซ้อื มาแล้วนาขายต่อ - ตอ้ งเป็นสงิ่ ทีน่ กั เรยี นประดิษฐ์ / จัดทา ขึน้ มาด้วยตวั เอง - ตอ้ งเป็นสิง่ ท่นี กั เรยี นนามาจากบ้าน เช่น ผลผลิตทางการเกษตร เป็นตน้ 3. นกั เรยี นติดป้ายราคาสินค้าใหเ้ ห็นชดั เจน 4. จดั ตกแต่งร้านคา้ ของตนเองให้จงู ใจต่อการค้าขาย โดยเนน้ ความพอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย (อาจมคี ณะกรรมการมาให้คะแนนการตกแต่งรา้ นคา้ เพือ่ สร้างแรงจงู ใจใหก้ ับนักเรียน) 5. ดาเนินการตลาดนัดพอเพียง 6. นักเรียนเก็บ ดูแลรักษา อุปกรณ์ท่ีนามาใช้ให้พร้อมสาหรับใช้งานในคร้ังต่อไป และ ทาความ สะอาดบริเวณท่ใี ชท้ ากิจกรรมให้เรียบรอ้ ยรว่ มกนั 5. สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ 1. สินคา้ ท่นี ักเรยี นนามาจาหน่าย (ตามเงอื่ นไข) 2. ป้าย / โตะ๊ / เก้าอ้ี / ของตกแตง่ ร้านตามจนิ ตนาการ 3. ลานกวา้ งของโรงเรียน หรือ อาคารอเนกประสงค์ จาลองเปน็ ตลาดนัดพอเพียง 4. เกยี รตบิ ตั ร เพ่ือมอบใหก้ ับร้านคา้

133 6. การวัดและการประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเรอื่ งต่อไปน้ี 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม 1.2 สังเกตความสาเร็จของผลงาน ในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้ารว่ มกิจกรรมของนกั เรียน  น้อยทีส่ ดุ น้อย ปานกลาง มาก มากท่สี ดุ 7. ภาพประกอบ 8. อ้างองิ แหลง่ ทม่ี าของขอ้ มูล http://www.surat3.go.th/school/index.php?name=gallery&file=readgallery&id=370 http://www.prc.ac.th/readpnews.php?i_id_pnews=158

134 ตวั อย่างกจิ กรรมที่ 3 1. ชอื่ กิจกรรม Pop up แสนสวย 2. เวลาทีใ่ ช้ ๒ ช่ัวโมง 3. วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อใหน้ ักเรียนสามารถวางแผนงานและลาดับข้นั ตอนการทางานไดถ้ ูกต้อง ๒. เพือ่ ให้นกั เรยี นสามารถนาผลงานไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ ๓. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มน่ั ในการทางาน ๔. เพื่อให้นักเรียนมีนา้ ใจ และ ร้จู กั การเออ้ื เฟอ้ื เผื่อแผ่ แบง่ ปนั ๕. เพอ่ื ให้นกั เรียนไดแ้ สดงความคิดสรา้ งสรรค์ และ ร่วมกิจกรรมอยา่ งมีความสุข 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นศึกษารปู แบบ ขั้นตอนวิธีการทาการด์ Pop up ๒. นักเรียนออกแบบและวางแผนการทาการด์ Pop up ๓. นักเรียนจดั เตรียมวัสดุอปุ กรณ์ในการทาการ์ด Pop up 4. นกั เรียนปฏิบัตติ ามขั้นตอนการทาการด์ Pop up 5. นกั เรียนรว่ มช่ืนชมผลงานของกนั และกัน 6. นกั เรียนเก็บ ดูแลรักษา อุปกรณท์ น่ี ามาใช้ให้พร้อมสาหรบั ใช้งานในครั้งต่อไป และ ทาความ สะอาดบรเิ วณทใี่ ชท้ ากจิ กรรมให้เรยี บรอ้ ยร่วมกัน 5. ส่อื การเรยี นรู้ 1. กระดาษ 100 ปอนด์ 2. ดนิ สอและยางลบ 3. สไี ม้หรอื สเี ทยี น 4. กาว 5. กรรไกรหรือคัตเตอร์ 6. ตัวอย่างการ์ด Pop up 6. การวดั และการประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนักเรียนในเรอ่ื งต่อไปน้ี 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม 1.2 สังเกตความสาเร็จของผลงาน ในการปฏิบตั ิกจิ กรรม

135 2. แบบสอบถามความพึงพอใจตอ่ การเขา้ ร่วมกจิ กรรมของนักเรยี น  น้อยท่สี ดุ น้อย ปานกลาง มาก มากที่สดุ 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งองิ แหลง่ ทีม่ าของข้อมูล “ D.I.Y. Pop-Up Card สาหรับวันแม่.” 2012 [ระบบออนไลน์]. แหล่งทม่ี า http://www.iurban.in.th/diy/d-i-y-pop-up-card-for-mothers- day/) 15 กนั ยายน 2558).

136 ตัวอย่างกจิ กรรมที่ 4 1. ชอ่ื กจิ กรรม หนูรคู้ ุณค่า นามาใช้ใหม่ 2. เวลาทใี่ ช้ ๒ ชวั่ โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่อื ใหน้ ักเรยี นรจู้ ักนาวัสดทุ ่ีไมใ่ ชแ้ ลว้ กลับมาใช้ประโยชน์ใหค้ มุ้ ค่า ๒. เพื่อให้นักเรียนร้จู กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ ๓. นักเรียนสามารถวางแผนและลาดับข้ันตอนการทางานได้อย่างถูกต้อง ๔. นกั เรยี นใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียงและมงุ่ ม่นั การทางาน ๕. นกั เรียนมีน้าใจ เอือ้ เฟอื้ เผื่อแผแ่ ละแบ่งปนั ๖. นกั เรียนรจู้ กั กระบวนการทางานเป็นกลมุ่ ๗. นักเรยี นไดแ้ สดงความคิดสรา้ งสรรค์และเรียนรู้อยา่ งมคี วามสุข 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนศกึ ษาตัวอย่างชิ้นงานและสนทนากับคณุ ครเู ก่ยี วกับงานเปเปอร์มาเช 2. ครูอธบิ ายขั้นตอนการทาหรืออาจเปิดข้ันตอนการทาผา่ น you tube 3. นักเรียนออกแบบและวางแผนการทาเปเปอร์มาเช 4. นักเรียนปฏบิ ตั ติ ามข้ันตอนการทาเปเปอรม์ าเช 5. นกั เรยี นรว่ มชื่นชมผลงานของกนั และกนั 6. นักเรยี นเก็บ ดูแลรกั ษา อุปกรณท์ นี่ ามาใช้ให้พร้อมสาหรับใชง้ านในครง้ั ต่อไป และ ทาความ สะอาดบริเวณทใ่ี ช้ทากจิ กรรมให้เรยี บรอ้ ยร่วมกัน 5. สื่อการเรยี นรู้ 1. กระดาษหนังสือพมิ พ์ 2. กาว 3. แมพ่ มิ พ์ 4. สสี เปรย์ สนี า้ หรอื สีโปสเตอร์ 5. แลคเกอร์ 6. การวัดและการประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเรอื่ งต่อไปนี้ 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะปฏบิ ัติกิจกรรม 1.2 สงั เกตความสาเร็จของผลงาน ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม

137 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ รว่ มกจิ กรรมของนกั เรียน  น้อยทส่ี ุด น้อย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งอิงแหลง่ ทม่ี าของข้อมูล “เปเปอร์มาเช.่ ” 2551. [ระบบออนไลน์]. แหล่งท่มี า http://www.karn.tv/เสรมิ ทกั ษะ/108-งานประดิษฐ/์ 83- kidcraft_83 (16 กนั ยายน 2558). “วิธีทาเปเปอรม์ าเช่: การทากาไลเปเปอร์มาเช.่ ” 2558. [ระบบออนไลน]์ . แหลง่ ท่มี า https://www.breeze.co.th/กิจกรรมสาหรบั เด็ก/วิธีทาเปเปอร์มา เช่-การท/ (16 กนั ยายน 2558).

138 ตวั อย่างกิจกรรมท่ี 5 1.ชื่อกจิ กรรม การประดษิ ฐก์ ระปกุ ออมสินออมทรัพย์ 2. เวลาทใ่ี ช้ ๓ ชว่ั โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่อื ใหน้ ักเรียนสามารถประดิษฐ์กระปอ๋ งออมสนิ จากเศษวัสดไุ ด้ 2. เพือ่ ให้นักเรียนรู้จกั ประหยัดอดออม ๓. เพอ่ื ให้นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนศกึ ษารูปแบบ ข้ันตอนวิธีการประดษิ ฐ์กระป๋องออมสนิ จากเศษวัสดุได้ 2. นกั เรียนจัดเตรยี มวสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการประดษิ ฐก์ ระปอ๋ งออมสนิ จากเศษวัสดุได้ 3. นักเรยี นออกแบบและวางแผนการประดษิ ฐก์ ระป๋องออมสินจากเศษวสั ดุได้ 4. นกั เรียนปฏบิ ตั ิตามขนั้ ตอนการประดษิ ฐ์กระป๋องออมสนิ จากเศษวสั ดไุ ด้ 5. นักเรยี นนาชนิ้ งานทีท่ าแล้วมาเพ่อื ใชใ้ นการสะสมเงนิ ออม 6. นักเรยี นรว่ มชน่ื ชมตอ่ การออมเงิน ,ฝากเงิน และการใช้เงนิ ใหเ้ กิดเป็นประโยชน์ 5. สื่อการเรยี นรู้ 1. วสั ดุสาหรบั การประดิษฐ์กระปอ๋ งออมสิน 2. อนิ เทอรเ์ นต็ 3. กระดาษโปสเตอร์ หรือกระดาษบร๊ฟุ สีเมจิก ฯลฯ 6. การวัดและการประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเรือ่ งต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะปฏิบตั ิกิจกรรม 1.2 สงั เกตความสาเรจ็ ของผลงาน ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจตอ่ การเขา้ รว่ มกิจกรรมของนกั เรยี น  นอ้ ยท่ีสดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่สี ุด

139 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งองิ แหล่งทม่ี าของขอ้ มลู http://museum.socanth.tu.ac.th/images/page5Online%20Exhibition/4.asketwork/photo http://www.arthousegroups.com/stocks/showcase_image/461_20100503131601. g http://www.pramool.com/classified/attach/F02858-0.jpg . http://www.artbangkok.com/wp-content/uploads/2015/05/NIPPRIG2.jpg http://img.tarad.com/shop/p/pornsri/img-lib/1767200000072_b.jpg

140 กลุ่มกจิ กรรมที่ ๑5 พัฒนาความสามารถดา้ นการใช้ทกั ษะชีวิต ตวั อยา่ งกจิ กรรมที่ 1 1. ชอ่ื กิจกรรม กนิ อยู่ รู้คิด 2. เวลาทใ่ี ช้ 4 ชวั่ โมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนทางานรว่ มกันดว้ ยระบบกลุม่ ได้ ๒. เพ่อื ใหน้ กั เรยี นสามารถปรงุ อาหารง่าย ๆ เหมาะสมกับวยั ได้ 3. เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมีความพึงพอใจในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นศกึ ษารปู แบบ วิธีการ การประกอบอาหารทีต่ นเองชอบและแบ่งกลมุ่ ตามความสนใจ ๒. นกั เรยี นออกแบบและวางแผนการประกอบอาหาร 3. นักเรียนจัดเตรียมวสั ดอุ ุปกรณใ์ นการประกอบอาหาร 4. นักเรียนลงมือปฏบิ ัติทาอาหารตามขน้ั ตอน 5. นกั เรียนรว่ มกนั ชมิ อาหารของแต่ละกลุ่ม 6.นักเรยี นเก็บ ดูแลรกั ษา อุปกรณท์ น่ี ามาใชใ้ ห้พร้อมสาหรับใชง้ านในครั้งต่อไป และ ทาความ สะอาดบริเวณทใ่ี ชท้ ากจิ กรรมใหเ้ รยี บรอ้ ยร่วมกัน 5. สอื่ การเรยี นรู้ 1. วดี ิทัศน์เร่อื ง การประกอบอาหาร 2. แผนทค่ี วามคิด 3. วสั ดุ อปุ กรณ์ ในการประกอบอาหาร 6. การวัดและการประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเรือ่ งต่อไปนี้ 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม 1.2 สงั เกตความสาเร็จของผลงาน ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม

๒. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเขา้ ร่วมกจิ กรรมของนกั เรยี น 141      น้อยทสี่ ดุ น้อย ปานกลาง มาก มากที่สดุ 7. ภาพประกอบ

142 8. อ้างองิ แหลง่ ท่มี าของข้อมลู http://www.foodtravel.tv/recfood_index .. https://www.facebook.com/media/set/?set=a.196828150349491.46885.1958377 13781868 http://www.nootalon.com http://www.bspfood.com/food-and-drink.html

143 ตัวอย่างกจิ กรรมที่ 2 1. ชอื่ กจิ กรรม ภยั ใกล้บา้ น 2. เวลาทีใ่ ช้ 2 ช่ัวโมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. นกั เรียนวเิ คราะหส์ าเหตปุ ญั หาของสถานการณจ์ ากกรณีศกึ ษา “เรอื่ งภัยใกลบ้ ้าน” ได้ 2. นักเรียนรว่ มกันสรา้ งสถานการณแ์ ลว้ แสดงบทบาทสมมตุ จิ ากเรอ่ื งทก่ี าหนดใหไ้ ด้ 3. เพือ่ ใหน้ ักเรยี นมคี วามพงึ พอใจในการเข้าร่วมกิจกรรม 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนศกึ ษากรณีศึกษาอยา่ งหลากหลาย 2. แบ่งนักเรียนเปน็ กล่มุ ตามความสนใจ 3. นกั เรยี นออกแบบและวางแผนการแสดงบทบาทสมมตุ ิ 4. นกั เรียนจัดเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ในการแสดงบทบาทสมมตุ ิ 5. นักเรยี นแสดงบทบาทสมมุติ 6. นักเรยี นรว่ มชนื่ ชมผลงานของแตล่ ะกลุ่ม 7. นกั เรยี นเก็บ ดูแลรักษา อุปกรณ์ทน่ี ามาใชใ้ ห้พร้อมสาหรบั ใชง้ านในคร้ังต่อไป และ ทาความ สะอาดบริเวณท่ใี ชท้ ากจิ กรรมใหเ้ รยี บร้อยร่วมกนั 5. สอื่ การเรยี นรู้ 1. ใบงานกรณีศึกษา “ภยั ใกล้บา้ น” 2. อุปกรณ์การเล่นบทบาทสมมุติ ทีน่ ักเรยี นต้องใช้ และใบงาน 6. การวดั และการประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในเรือ่ งต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏิบัติกจิ กรรม 1.2 สังเกตความสาเร็จของผลงาน ในการปฏิบัตกิ จิ กรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนกั เรียน  นอ้ ยท่ีสุด น้อย ปานกลาง มาก มากที่สดุ

144 กรณศี ึกษา กจิ กรรมเสรมิ สร้างทกั ษะ สถานการณ์ “ภัยใกลบ้ ้าน” จอมเป็นนักเรียนชั้น ป.5 ทุกวันเขาต้องเดินทางไปโรงเรียน ซึ่งห่างจากบ้านเกือบ 2 กโิ ลเมตร เขาอยากมจี ักรยานปัน่ ไปโรงเรียน แตพ่ อ่ ไม่มเี งนิ ซื้อให้ เพราะตอ้ งหาเงินซอื้ นมให้น้องและแมย่ งั ป่วยอีก วันหน่ึงขณะจอมเดินกลับบ้าน ลุงศักด์ิที่อยู่ใกล้บ้านจอมขับรถผ่านมา แล้วรับจอมข้ึนรถ ลุงศักด์ิถามจอมว่า “ได้เงินค่าขนมวันละกี่บาท” จอมตอบไม่เต็มปากว่า “10 บาท ครับ” ลุงศักด์ิ ถามต่อ “แลว้ พอเหรอหนู น้าหวานแก้วเดียวก็หมดแล้ว เอาอย่างน้ีม๊ัย ลุงมงี านพิเศษให้ทา งานเบา เงินดีนะ” จอม ถามว่า “งานอะไรครับคุณลุง” ลุงศักด์ิ “ช่วยลุงส่งของให้ลูกค้า ลุงขายของทางอินเตอร์เน็ต ถ้าลูกค้าใกล้ บ้านลุงจะให้หนูนาไปส่ง ลุงจ่ายให้คร้ังละ 200 บาท เลยนะ” จอม “ขอบคุณครบั คุณลงุ ผมจะมีเงินให้พ่อ พาแมไ่ ปหาหมอและซื้อนมใหน้ ้องด้วย จอมถือห่อของซึ่งปิดแน่นไปให้ชายแปลกหน้าท่ีคุณลุงศักด์ินัดหมายไว้ เขาได้เงินค่าจ้าง 200 บาท เขาดีใจมากและเอาเงินให้พ่อท้ังหมด พ่อสงสัยจึงถามว่าไปเอาเงินมาจากไหน จอมเล่าให้พ่อฟัง และบอกวา่ พรุง่ นีจ้ ะไปสง่ ของให้ลุงศักดิ์อีกหลังเลิกเรียน แต่จอมกังวลใจมากที่เผลอบอกพ่อว่าไปส่งของให้ ลุงศักดิ์ เพราะลงุ ศักด์ยิ า้ นักยา้ หนาว่าหา้ มบอกใคร แม้แตพ่ ่อของเขาเอง................................................... ( โดย ทัศนีย์ ศรีหาบตุ ร )

145 ใบงาน คาช้ีแจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ศึกษาสถานการณ์ เรื่อง ภัยใกล้บ้าน และคาดการณ์เหตุการณ์ท่ีน่าจะ เกดิ ขึ้น และแสดงบทบาทสมมุติ (เวลาในการแสดง กลุ่มละไมเ่ กนิ 8 นาท)ี คาชี้แจง ให้นักเรยี นศกึ ษากรณีศกึ ษาเรอ่ื ง ภัยใกลบ้ า้ น และร่วมกนั วิเคราะห์สถานการณ์ ระบุปญั หา วธิ ีแกด้ งั น้ี 1. สาเหตุของปัญหา คอื ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... 2. จากกรณศี กึ ษา จากปญั หาของจอม คอื ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .... 3. แนวทางการแก้ปัญหา คอื สถานการณ์ ข้อดี ข้อเสีย .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ ............................................. .................................................................... ................................................ .............................................

146 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งองิ แหล่งท่มี าของขอ้ มลู โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย ( กระจ่าง สิงหเสนี ) สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษากรุงเทพมหานคร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook