97 ใบความรู้ วธิ ีประหยัดไฟฟ้า ๑. ปิดสวติ ซแแ ละถอดปลั๊กไฟเครือ่ งใชไฟฟาู ทุกชนดิ เม่ือเลิกใชง านแลว ๒. เลือกซ้ือเครื่องใชไฟฟูาที่ไดมาตรฐาน โดยเลือกเคร่ืองใชไฟฟูาที่มีสติ๊กเกอรแเบอรแ ๕ ติดอยู ซึ่ง ผานการรบั รองวาเปน็ เคร่ืองใชไฟฟูาท่ีประหยดั พลงั งาน ๓. ใชหลอดไฟฟลูออเรสเซนตแทีป่ ระหยดั พลังงาน (ใชหลอดผอมแทนหลอดอว น) ๔. ปดิ ตเู ยน็ ใหส นทิ ทาความสะอาดภายในตูเย็นและแผน ระบายความรอ นหลังตูเ ยน็ สม่าเสมอ เพ่ือไมให ตเู ย็นทางานหนักและใชพ ลงั งานมากจนเกินไป ๕. การรดี ผา ควรรีดทลี ะมาก ๆ และอยาพรมน้าจนผาชน้ื จนเกนิ ไป วธิ ปี ระหยัดน้า ๑. ใชน ้าอยางประหยดั หมั่นตรวจสอบการรว่ั ไหลของนา้ เพอื่ ลดการสญู เสียอยางเปลา ประโยชนแ ๒. ไมค วรใหน้าไหลตลอดเวลา ขณะทแ่ี ปรงฟนใ ลางหนา และถสู บตู อนอาบน้า เพราะจะสูญเสียน้า หลายลิตร ๓. ควรลา งพืช ผกั ผลไมในอา ง หรอื ภาชนะ ทม่ี ีการกักนา้ ไวเพยี งพอ ๔. อยาทง้ิ นา้ ดม่ื ที่เหลอื ในแกว โดยไมเ กดิ ประโยชนแ ควรนาไปรดนา้ ตนไม แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลาร”ู ช้ันปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3
98 กลุ่มกิจกรรมที่ 12 ปลกู ฝังความรัก ความภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย และหวงแหนสมบัติของชาติ ตวั อยา่ งกจิ กรรมท่ี 1 1. ช่ือกจิ กรรม ตน้ ไมพ้ ูดได้ (เกมสานวน สภุ าษิต คาพังเพยพาเพลนิ ) 2. เวลาทีใ่ ช้ 3 ชั่วโมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อสงเสริมใหนักเรยี นทางานที่ไดรับมอบหมายใหเ สรจ็ ท่โี รงเรียน 2. จดั กิจกรรมเชิงสรา งสรรคแเสริมการเรยี นรทู างดานวิชาการของนักเรยี น 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1. ครูใหน ักเรยี นสารวจปูายสานวน สุภาษิต คาพังเพยตาง ๆ ท่ีตดิ อยูทีต่ น ไม บริเวณสนามในโรงเรียน 2. ครูใหนกั เรียนชว ยกนั ตอ คาทคี่ รูบอก เชน ขชี่ าง.............................................................. วานร............................................................... ตานา้ พริก.............................................................. เขน็ ครก........................................................... 3. ครูสลบั ใหน กั เรียนออกมาถามเพือ่ น ๆ บา ง ชวั่ โมงท่ี 2 1. ครใู หนักเรียนสารวจปูายสานวน สุภาษิต คาพังเพยตาง ๆ ทีต่ ดิ อยูท่ตี น ไม บริเวณสนามในโรงเรียน 2. ครูใหน ักเรยี นเลือก สานวน สภุ าษิต คาพังเพย คนละ 1 คา และแสดงทา ทางใหเ พอื่ น ๆ ทาย 3. ครูใหนักเรยี นวาดภาพ สานวน สุภาษติ คาพงั เพย ท่ีตนเองเลอื ก ชั่วโมงท่ี 3 1. ครูใหนักเรยี นสารวจความหมายของสานวน สุภาษติ คาพังเพยตาง ๆ ทต่ี ิดอยูท่ีตน ไมพูดได บริเวณ สนามในโรงเรียน ๒. ครใู หน กั เรียนทาหนังสือเลมเล็กโดยการเขียนสานวน สุภาษิต คาพังเพย และความหมายของคา ใหถกู ตอ งจากแหลงขอ มูล เชน หอ งสมุด คนควา ทางอินเทอรเแ นต็ พรอมทัง้ ตกแตงรปู เลม ใหส วยงาม แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู ชน้ั ปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3
99 5. สื่อการเรยี นรู้ 1. แผนปูายคาพังเพย 2. กระดาษ 3. หองสมดุ ตนไมพูดได 6. การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมการทากจิ กรรมของนกั เรยี น 2. ผลงานของนักเรยี น แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู ชั้นปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
100 ตัวอยา่ งกจิ กรรมท่ี 2 1. ชอ่ื กจิ กรรม ราไทย วิถีไทย (รามะนา) สามารถเปล่ียนเปน็ เพลงประจาท้องถนิ่ /จังหวดั ของผูส้ อนได้ 2. เวลาทใ่ี ช้ 4 ช่วั โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือใหนักเรียนไดร ับความสนุกสนานเพลดิ เพลิน 2. เพ่ือเสรมิ สรา งความสามคั คี 3. เพ่ืออนรุ ักษวแ ฒั นธรรมพ้ืนบา นและวฒั นธรรมไทย 4. เพื่อใหนกั เรยี นมีความรเู กี่ยวกับการรักษแและหวงแหนภูมิปใญญาประจาทองถิ่นของตน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 1. นักเรียนดู VCD การแสดงรามะนา การแตงกาย เครื่องดนตรีท่ใี ช 2. นกั เรยี นอา นเนอื้ เพลงไหวครู (การเลอื กเพลงใหอ ยูในดุลพินจิ ของครผู สู อน) 3. ครูสาธติ วธิ กี ารยา่ เทา ใหต รงจังหวะเพลง โดยการเปิด CD เพลงไหวครู ชว่ั โมงที่ 2 1. ครูสาธิตการราเพลงไหวค รู ใหน ักเรยี นปฏิบัตติ าม ทีละวรรค (ครูรองเพลง หรอื เปดิ CD เพลง) 2. นักเรยี นปฏบิ ัตทิ าราจนคลอ ง ครคู อยแนะนา ชวยเหลอื ชั่งโมงท่ี 3 1. นักเรียนฝึกปฏิบตั ิทา ราเพลงไหวค รู จนสามารถปฏิบัตเิ องได 2. นักเรียนที่สามารถปฏบิ ัตไิ ดคลอ งแคลว ชว ยสอนเพื่อนทย่ี งั ปฏิบัติไมคลอ ง ชั่วโมงท่ี 4 1. วัดผล ประเมนิ ผล โดยการใหนักเรยี นปฏิบตั ิทา ราเปน็ รายบุคคล/เป็นกลุม 5. สือ่ การเรียนรู้ 1. รปู เคร่ืองดนตรรี ามะนา 2. รูปภาพการแตงกายการแสดงรามะนา 3. รูปภาพการแสดงรามะนา 4. เนือ้ เพลง เพลงไหวครู 5. หอ งนาฏศลิ ปไทย/หองประชุม 6. VCD เพลงรามะนา CD เพลงไหวค รู แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู ชั้นปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
101 6. การวัดผลและประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมการเขา รว มกิจกรรม 7. ภาพประกอบ 1. รปู รามะนา รามะนา ขงึ หนา ดว ยหนังลูกววั ตรงึ ดวยหมุด ตัวกลองส้ัน กลึงใหทางปาก สอบเขา มเี สนเชอื กควน่ั เป็นเกลียว ยัดหนุนริมหนา ภายใน สาหรับหมุนใหหนา ตึงขน้ึ เรยี กวา \"สนบั \" https://sites.google.com/site/thaimusic2557/-prapheth-khxng-kheruxng-dntri-thiy 2. รปู ฉ่ิง ฉงิ่ ทาดว ยโลหะหลอหนา รูปเหมือนฝาชี ปากกวางประมาณ ๖ เซนติเมตร มีรูตรงกลาง สาหรับรอยเชือก สารบั หน่งึ มี ๒ อัน เรียกวา คู ตีใหท างปากเขา กระทบประกบกันดัง ฉง่ิ - ฉับ https://sites.google.com/site/thaimusic2557/-prapheth-khxng-kheruxng-dntri-thiy 3. รูปฉาบ ฉาบ ทาดวยโลหะหลอ บางกวาฉิ่ง รูปเหมือนฉ่ิงแตมชี านตอออกไปรอบตัว สารับหน่งึ มี ๒ อัน เรยี กวา คู เหมือนกัน ฉาบน้ีมี ๒ ขนาด อยา งเลก็ ขนาดเสนผา นศูนยกแ ลางประมาณ ๑๓ เซนติเมตร เรยี กวา \"ฉาบเลก็ \" อยางใหญขนาดเสนผานศูนยแกลางประมาณ ๒๕ เซนติเมตร เรยี กวา \"ฉาบใหญ\" https://sites.google.com/site/thaimusic2557/-prapheth-khxng-kheruxng-dntri-thiy แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลาร”ู ช้ันปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3
102 4. รปู กรับ กรบั เปน็ เคร่ืองตีทเี่ มอื่ ตีแลวดัง กรบั - กรบั กรับอยางหน่งึ เป็นไมไผผ า ซกี ๒ อัน ถือ มือละอัน แลว เอาทางผวิ ไมต ีกัน เรียกวา \"กรับคู่\" https://sites.google.com/site/thaimusic2557/-prapheth-khxng-kheruxng-dntri-thiy 5. รปู การแตงกายการแสดงรารามะนา การแตงกาย ท้งั หญงิ และชายแตง กายตามสมยั นยิ มในสมัยรชั กาลที่ ๘ ชวงสงครามโลกครั้งท่ี ๒ และหลังสงครามโลกคร้ังท่ี ๒ ซ่ึงจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี http://sunday1994.circlecamp.com/index.php?page=Tee ๖. รูปภาพการแสดงรามะนา http://www.prapayneethai.com 7. เนื้อเพลงรามะนา (ตวั อยา ง) 1. เพลงไหวค รู รารอ งฉลองไหวครู ทา นผูดูชูชวยดวยกนั หนาวใจกระไรไหวหวนั่ ๆ ขออภัยใหฉันเถดิ นะทานผดู ู 2. เพลงไตรรงคแ ไตรรงคแธงไทย โบกสะบัดสวยงามสงา แปดนาฬิกา สัญญากันวายืนตรง ๆ พอแปดโมงเชา ชักธง เคลื่อนออกจากท่ไี ตรรงคสแ ามสี ปลิวสะบัดพัดอยเู หนือลม ๆ สีแดงคือชาติ สีขาวคือศาสนา สีน้าเงินน้ันหนา คือมหาจักรพงศแ ๆ แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลาร”ู ชัน้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
103 3. เพลงโทนรามะนา ไดยินเสียงโทนรามะนา ผูคนเขามามากหลาย มาทั้งชายและหญิง รักจริงถนอมรักไว มาซิอยาทา เป็นอาย ๆ ถารักพีช่ ายเชิญออกมารา ๆ 4. เพลงราวงสามัคคี มาเถิดนะพวกเรา มาตัง้ วงเขารวมสามคั คี เลนกนั ฐานนองและพี่ ๆ เลนกนั ดี ๆ อยาใหม ีใจปอง 5. เพลงเชิญมาราวง เชิญเถิดเชิญมาราวง ขอเชิญโฉมยงมาสูวงรา อยางเอียงอยาอาย อยาหนายอยาแหนง ๆ อยาคิด ระแวงใหช ายชอกชา้ คนสวยขอเชญิ มารา ๆ เธออยาลมื น้าคาที่ฉนั ร่าออนวอน 6. เพลงสาวนอยราวง ราเถดิ แมสาวนอย ยิ้มหนอ ยเวลาจะรา เธอยม้ิ น้ันมเี สนหแ ๆ หอมดอกรักเรเ สนห เแ ธอรา ๆ 7. เพลงสวสั ดี สวัสดีเชิญซีมารา ทุกเชาค่าฉันเฝูาแตเชิญ ฉันมองแลวเธออยาเมิน ๆ พอฉันรองเชิญเธอ ไมอยาก รา ๆ ราหนอยพอเป็นขวัญตา ฉันไดมาออนวอนแตหัวค่า ขวัญใจส่ังไวไมใหรา ๆ เธอจึงทากระบิดกระบวน ๆ 8. เพลงชอ มาลี โอชอมาลี คนดีของพ่ีก็มา สวยจริงหนาเวลาค่าคืน ๆ โอจันทรแไปไหน ทาไมจึงไมสองแสง จันทรแ แสวงแสงสวา ง ๆ เมฆนอยลอยมาบงั ๆ แสงสวา งก็จางหายไป 9. เพลงเสยี งรามะนา ชาย เสยี งรามะนา แววมาไดยินแตไกล อกึ ทึกเราใจ ทาใหอ ยากไปราวง ๆ โจะ฿ พรมึ พรึม โจะ฿ พรมึ พรึม ๆ หญิง ไปซิพ่ีจเานองยาจะขอไปดว ย จะแตงตัวแสนสวย สารวยร่นื เริงรามะนา ๆ โจ฿ะ พรมึ พรึม โจ฿ะ พรึมพรึม ๆ 10. เพลงหวยกรดสรรคบรุ ี ราเอย฿ รา ราเอเยรามะนา ๆ เปน็ การแสดงพน้ื บานชาวชัยนาทชวยกันอนุรักษแเถิดหนา ขอกลาวเลาความ เป็นมา ๆ ขอเจรจาใหทานผูฟใง ๆ มาซิมา เชิญซิมาฟใง ชัยนาทนั้นเขามีของดี ๆ หวยกรดเมืองสรรคบุรี ๆ เขามขี องดนี นั้ คือรามะนา 8. อา้ งอิงแหล่งทม่ี าของขอ้ มูล http://ich.culture.go.th/index.php/th/ich/performing-arts/236-performance/ 316-----m-s http://sunday1994.circlecamp.com/index.php?page=Tee https://www.youtube.com/watch?v=WxL7-6YVyIY http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/TNSOC5806170010170 http://www.baanjomyut.com/library_2/history_of_costume/03_7.html แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู ชน้ั ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3
104 ตัวอย่างกจิ กรรมที่ 3 1. ชอ่ื กจิ กรรม เลน่ แบบไทย สนุกอย่างไทย (รี รี ข้าวสาร) 2. เวลาทใี่ ช้ 1 ชัว่ โมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. นักเรยี นไดรบั ความสนกุ สนานเพลิดเพลิน 2. เสริมสรางความสามัคคี มีน้าใจ 3. อนุรักษแวัฒนธรรมพนื้ บา น และวฒั นธรรมของไทย 4. นักเรยี นมีความรเู กี่ยวกบั การรักษแแ ละหวงแหนภมู ปิ ใญญาประจาทองถ่นิ ของตน 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน กั เรยี นเลือกการละเลน ไทยที่นักเรยี นสนใจอยากเลน 1 การละเลน ดังตวั อยา งตอ ไปน้ี - รรี ีขา วสาร - มอญซอนผา - มากานกลว ย - งกู ินหาง - เกา อีด้ นตรี - ขม่ี าสง เมือง - วิง่ เปี้ยว - ลิงชิงหลกั (ฯลฯ) 2. เมอ่ื นกั เรยี นเลอื กการละเลนไดแลว ครูอธบิ ายและสาธิตวธิ กี ารเลนใหนกั เรียนดู (กรณีตวั อยา ง นกั เรียนเลือกเลน รี รขี าวสาร) วธิ กี ารเล่น รี รขี า้ วสาร กตกิ าการเล่น จบั ไมส นั้ ไมยาว วาใครจะเปน็ ประตู ใหผ เู ลน 2 คน ยนื เอามือประสานกนั เหนือศีรษะเป็นประตูโคง คนอนื่ ๆ เกาะไหลกนั ลอดใตโคงไปเร่ือย ๆ สองคนท่ีเป็นประตูจะรองเพลงประกอบเวลา แถวลอดใตโคง หัวแถว จะตองเดินออมหลังคนท่ีเป็นประตูครั้งละหน เมื่อจบเพลงสอง คนท่ีเป็นประตูจะกระดุกแขนลงกั้นคนสุดทาย ใหอยูระหวางกลาง คัดออกไป คนขางหลังตองระวังตัวใหดี ไมเชนนั้นตัวเองจะตองออกจากการเลน ตองผาน ใหไ ดหมดทุกคนจงึ จะจบ 1. ผเู ลน 2 คนยืนหันหนา เขา หากันโนม ตัวประสานมือกันเป็นรปู ซมุ 2. สวนผูอืน่ เกาะเอวตอ ๆ กันตามลาดบั แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู ชน้ั ปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3
105 3. หวั แถวจะพาลอดใตซมุ มือพรอมกบั รองบทรองประกอบการเลน 4. เมอื่ รองถึงประโยคทีว่ า “คอยพานคนขางหลงั ไว” ผูทป่ี ระสานมือเปน็ ซุมจะลดมือลงกันคน สุดทา ยไว ซ่งึ คนสดุ ทา ยจะถูกคดั ออกไปจากแถว แลวจงึ เร่มิ ตน เลนใหมทาเชนน้นั จนหมดคน เพลงร้องประกอบ \" รีรีขาวสาร สองทะนานขาวเปลือก เดก็ นอยตาเหลอื ก เลือกทองใบลาน คดขาวใสจาน คอยพานคนขา งหลังไว\" คณุ ค่า/แนวคดิ /สาระ 1. ออกกาลงั กายพฒั นากลา มเนอ้ื สวนตาง ๆ ของรางกายใหแข็งแรง 2. เพลิดเพลิน จติ ใจราเรงิ แจม ใส ยอมรบั ในกฎเกณฑแกติกาในการเลน 3. หัดใหเดก็ มีไหวพริบ ปฏิภาณ และรจู กั ใชกลยทุ ธแท่ีจะใหต นรอดจากการถูกคลองตัวไว 4. หัดใหเ ดก็ รูจักทางานเปน็ กลุมโดยหัวแถวตอ งพยายามพาแถว โดยเฉพาะคนสุดทายใหร อด พน จากการถูกกกั ตัวใหไ ด หมายเหตุ : ครสู ามารถนาการละเลนแตล ะทองถน่ิ มาปรบั ใชไดตามความเหมาะสม 5. สื่อการเรียนรู้ 1. เนอื้ เพลง รี รีขาวสาร 2. รูปภาพการละเลน รี รขี า วสาร 3. สนาม/หองประชุม 4. ไมส ัน้ ไมย าว 5. เครื่องเลน CD 6. การวัดและประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมการเขารวมกิจกรรม 7. อา้ งอิงแหล่งทีม่ าของข้อมูล 1. วธิ กี ารเลน่ http://www.patongbeachthailand.com/thai/21_13/680.shtml 2. รปู การเลน่ รีรีขา้ วสาร http://pirun.ku.ac.th/~b5410302206/Page3.html 3. รูปการเลน่ รีรขี ้าวสารhttp://www.patongbeachthailand.com/thai/21_13/680.shtml 4. สาธิตการละเลน่ รีรีข้าวสาร https://www.youtube.com/watch?v=ubTbkvfnHiU แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”ู ชนั้ ปะถมศึกษาปีที่ 1 - 3
106 หมวด 4 สรา้ งเสรมิ ทักษะการทางาน การดารงชพี และทักษะชวี ิต กล่มุ กิจกรรมท่ี 13 ตอบสนองความสนใจ ความถนดั และความต้องการ ของผูเ้ รียน ตามความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล ตัวอย่างกิจกรรมท่ี 1 ๑. ช่ือกิจกรรม แรลล่ีเกษตรนา่ รู้ ๒. เวลาท่ใี ช้ ๑ ช่ัวโมง ๓. วตั ถุประสงค์ ๑. เพอ่ื ใหนักเรยี นมีเจตคติทดี่ ีตออาชีพสุจรติ ๒. เพือ่ ฝึกนักเรยี นใหมีนิสัยใฝุเรยี นใฝรุ แู ละทางานเป็นหมคู ณะ ๓. เพื่อใหน กั เรยี นนาความรไู ปใชใ นชวี ติ ประจาวัน ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรู เชน กิจกรรมการปลกู ผกั สวนครัวในภาชนะ/กิจกรรมการเลี้ยงปลา สวยงาม/กิจกรรมการทาปยุ หมัก/และหรือกจิ กรรมอ่นื ๆ ตามความพรอ มและบรบิ ทของโรงเรียน ๒. เตรียมวัสดุอุปกรณแตามกิจกรรมที่กาหนดใหพรอมและเพียงพอตอการปฏิบัติกรรมและจานวน นกั เรียน ๓. จัดเตรียมสถานที่ใชในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู ปน็ ฐานตา ง ๆ พรอ มสถานที่แสดงผลงาน ๔. เตรียมผูดูแลเพ่ือรับผิดชอบฐานการเรียนรูตาง ๆ พรอมสรางความรูความเขาใจในการนานักเรียน ทากจิ กรรมตามฐานเรยี นรู ๕. ชแ้ี จงรายละเอียดการเขารวมกิจกรรมใหน ักเรียนเขาใจ พรอมแบงนักเรียนเป็นกลุมๆ เพื่อเขาเรียนรู และปฏิบัตกิ ิจกรรมตามฐาน ๖. ใหน กั เรยี นแตล ะกลุม ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามลาดับ ดังนี้ 1. ชมสาธิตการใชเครื่องมือใหปลอดภัยและขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมการปลูกผักสวนครัว กจิ กรรมการเล้ยี งปลาสวยงาม/กจิ กรรมการทาปุยหมัก โดยผดู แู ลฐานอธบิ ายหรือชมวีดิทัศนแ 2. ผูดูแลกิจกรรมรวมกับนักเรียนศึกษาวิเคราะหแข้ันตอนการปฏิบัติ การใชวัสดุอุปกรณแและ เคร่อื งมอื พรอมสรุปข้ันตอนใหทกุ คนสามารถปฏิบัติไดอยางถูกตอ งและปลอดภัย 3. ใหนักเรียนลงมือปฏิบัติตามขั้นตอนกิจกรรมโดยเสรี ในแตละฐาน ใชเวลา 10 นาทีแลว เปล่ียนไปเรียนฐานอน่ื จนครบทกุ ฐาน แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลาร”ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3
107 4. เม่ือนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมครบถวนแลวใหตรวจสอบความเรียบรอย สมบูรณแและสอบถาม ความพอใจแลว นาผลงานไปจัดแสดงในสถานทท่ี ่ีเตรยี มไว 5. นานักเรียนชมผลงานพรอมซักถาม ช่ืนชมผลงาน การยอมรับผลงานและการพัฒนาคุณภาพ การปฏบิ ตั ิ คุณภาพผลงาน และมอบหมายหนาทดี่ ูแลรกั ษาใหนกั เรยี นทกุ คนรับผดิ ชอบตอผลงานของตน ๕. ส่ือการเรียนรู้ ๑. ตน กลาผกั สวนครัว/เมลด็ พนั ธแุพืชทมี่ ีในทอ งถิน่ /พันธแุปลาสวยงาม/วสั ดเุ หลือใชต าง ๆ ในการทาปยุ ๒. กระถาง/ ขวดพลาสตกิ /กระปอง /ถงุ พลาสติกฯล ๓. วดี ทิ ัศนแการสาธติ การเพาะหรือปลูกผักสวนครวั /การทาปุย/หรือใชวทิ ยากรทองถ่นิ /ครู /นักเรยี น ๔. ดนิ ชอ นปลกู บวั รดนา้ ๖. การวดั ประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรม 2. สงั เกตชน้ิ งาน ๗. ภาพประกอบ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู ชั้นปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
108 ๓. การทาปุ๋ยหมกั ตะกร้า ๘. อา้ งอิงแหลง่ ท่ีมาของข้อมลู www.jairsa.com/ www.blogspot.com/ www.thaiarcheep.com/ www.pantip.com/ http://www.moe.go.th/ แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู ชั้นปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
109 ตัวอยา่ งกิจกรรมท่ี 2 1. ชื่อกิจกรรม มาสนกุ กบั ศลิ ปะกนั เถอะ 2. เวลาท่ีใช้ 5 ช่ัวโมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อใหน ักเรียนมกี ารพฒั นาทางดานรา งกาย จติ ใจ สติปใญญา 2. เพือ่ ใหนักเรียนมคี วามคิดรเิ รม่ิ สรา งสรรคแ 3. เพือ่ ใหนกั เรียนรูจักชืน่ ชมความงามสนุ ทรยี ภาพ ซง่ึ มีคณุ คาตอ มนุษยแ 4. เพอ่ื สงเสรมิ ใหนกั เรยี นมคี วามเช่อื มน่ั ในตนเองอันเปน็ พื้นฐานในการศึกษาตอ หรอื ประกอบวชิ าชีพ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 วาดรปู การแตูนทีฉ่ ันชอบ การวาดภาพระบายสี หมายถึง การขูด ขีด เขยี น ระบายดว ยสชี นิดตาง ๆ ดวยวธิ กี ารตา ง ๆ กนั มีลักษณะสองมติ ิคอื กวางและยาว สวนมิตทิ ่สี ามคือความตื้นลึกนน้ั อยูท่ีความรสู ึกของผูท ี่ไดช มภาพนน้ั ๆ 1. ครซู กั ถามนักเรยี นเร่ืองราวเกยี่ วกับการแตูนที่เด็ก ๆ รจู ัก 2. ครูใหโอกาสเดก็ เสนอช่ือการตแ ูนที่เด็ก ๆ รูจ กั และเคยดู 3. ครูแจกกระดาษพรอ มกบั ใหเ ด็ก ๆ วาดรูปการแตูนที่เด็ก ๆ ชอบมาคนละ ๑ ตวั www.pocketonline.net my.dek-d.com แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู ช้ันปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3
110 www.sabuyjaishop.com www.youtube.com ช่วั โมงท่ี ๒ วาดภาพระบายสีจากจนิ ตนาการ การวาดภาพจากจินตนาการ หมายถึง การคิดแบบสรางสรรคแ การคิดนอกกรอบ การคิดส่ิงท่ี ยังไมเกิดข้ึนจริง หรือสิ่งที่มีอยูแลวใหมีการเปล่ียนแปลงไปตามความคิดของเราเอง แลวถายทอดลงสูกระดาษ ใหเกิดเรอื่ งราวที่แปลก ๆ ใหมข น้ึ 1. ครูอธบิ ายถงึ ความหมายของจนิ ตนาการใหเด็กฟใง 2. ครูยกตวั อยา งความสาคญั ของจนิ ตนาการ 3. ครูเปดิ โอกาสใหเ ดก็ แสดงความคิดจินตนาการของตัวเอง 4. ครูใหเด็กวาดภาพจากจนิ ตนาการของเดก็ เองพรอ มกับระบายสตี กแตงใหเ รยี บรอย ktbwiset.wordpress.com pantip.com แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
111 topicstock.pantip.com www.oknation.net ชัว่ โมงที่ ๓ การปนใ้ ตามจินตนาการ 1. ครอู ธิบายถงึ การปนใ้ เป็นกระบวนการหนึ่งในงานประตมิ ากรรมที่มีลักษณะเปน็ 3 มติ ิ มีความกวาง ความยาว ความหนา สามารถจับตองหรือสัมผัสได การปใ้นสามารถทาไดโดยการนา สวนยอ ยมารวมกันใหเ กดิ เป็นรูปทรงตามตองการ 2. ครูอธบิ ายถึงความหมายของจนิ ตนาการวาคืออะไรจากน้ันจึงใหนักเรียนแบงกลุมออกเป็น กลมุ ๆ แลวจึงแจกอปุ กรณแ (ดนิ นา้ มัน) 3. ครูสงั่ ใหน กั เรยี นปใ้นดินน้ามนั เป็นรปู ตา ง ๆ ตามจนิ ตนาการ 4. ครคู อยใหค าปรึกษาและดแู ลอยางใกลชดิ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพิม่ เวลาร”ู ชัน้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
112 www.sbs.ac.th p-dit.com www.punfuncreation.com jaikoh.exteen.com แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลาร”ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
113 ชั่วโมงที่ ๔ การพิมพแภาพดวยนิ้วมอื งานพิมพแภาพเป็นรูปตาง ๆ ท่ีมีมานาน เพียงแตเราจะตองรูจักดัดแปลงและยังสามารถนาไปเป็น สินคาไดอีก เชน การพิมพแเสื้อ พิมพแลายผา การพิมพแลายกระดาษ หรือการพิมพแลงบนภาชนะและ วัสดุตาง ๆ ซงึ่ ลวนแลว มาจากจากรากฐานการพมิ พทแ ้งั สิ้น http://artkidgraphic.blogspot.com/ 1. ครูอธิบายขั้นตอนในการทาพรอมเตรยี มอปุ กรณแในการพมิ พแ 2. ใชน ว้ิ มือขอปลายสดุ จุมสนี ้าแลวแตะลงบนฟองนา้ เบา ๆ เพื่อไมใ หสนี ้าตดิ นว้ิ มือมากเกินไป 3. นานวิ้ มือทจ่ี มุ สีนา้ กดลงบนกระดาษที่เตรียมไว 4. ใชด ินสอสวี าดตอ เติมเป็นภาพตา ง ๆ ตามความคิดของเด็กแตล ะคน www.youtube.com www.kukai.ac.th www.kukai.ac.th แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลาร”ู ช้นั ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3
114 artsforkids.blogspot.com ชว่ั โมงท่ี ๕ การพมิ พดแ ว ยเศษวสั ดธุ รรมชาติ (ใบไม) การพิมพ์ภาพ คอื การ สรา งภาพจากการใชแมพิมพแ ซง่ึ วัสดุที่ใชเ ปน็ แมพิมพมแ ที งั้ วัสดุธรรมชาติและ วัสดุสังเคราะหแภาพที่ เกิดจาการพิมพแภาพมีลักษณะเหมือนกับแมพิมพแ แตเป็นภาพกลับกัน ดานขวามือ ของแมพ ิมพแจะเปน็ ดา นซา ยมือของภาพพิมพแ และดานซา ยของแมพ ิมพแจะเป็นดา นขวามือของภาพพิมพแ https://homegame9.wordpress.com 1. ผสมสีน้าลงในภาชนะทเ่ี ตรียมไวโ ดยผสมสนี ้าใหม ีความเขมขนพอประมาณ 2. ใชพกู ันจมุ สีนา้ ระบายลงบนดา นสากของใบ (ดานทองใบ) เพราะดา นนก้ี านใบจะเดนกวา ดานมนั (ดานหลงั บน) และควรเลอื กใบไมชนิดที่กา นแข็งไมเหี่ยวงาย เชน ใบโพ ใบมะมว ง ใบขนุน ฯลฯ 3. วางใบไมท่ีซอนกนั หลาย ๆ ช้ัน หงายดานท่ีตดิ สนี ้าขน้ึ 4. วางกระดาษที่ตองการจะใชพ ิมพแทับลงบนใบไมท ่หี งายทีต่ ดิ สีน้าขน้ึ 5. ใชห ลังชอ นกดลงบนกระดาษอีกครง้ั หน่งึ โดยกดบริเวณใบไมใ หท่วั 6. คอย ๆ ยกกระดาษขน้ึ จะไดภ าพใบไมต ิดบนกระดาษตามตอ งการ www.kukai.ac.th artsforkids.blogspot.com www.dusitcenter.org แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลาร”ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3
115 5. สอื่ การเรยี นรู้ ๑. รปู ภาพงานศลิ ปะ ๒. วสั ดุ อปุ กรณแ การจัดทางานศลิ ปะ ๓. หองสมุด หองคน ควา ทางเทคโนโลยี 6. การวดั ผลและประเมินผล ๑. สังเกตจากการเขารว มกจิ กรรม ๒. สังเกตจากผลงานทไ่ี ดป ฏิบตั ิ 7. ภาพประกอบ ภาพตามกิจกรรมตา ง ๆ ๘. อ้างอิงแหล่งทม่ี าของขอ้ มลู www.pocketonline.net my.dek-d.com www.sabuyjaishop.com ktbwiset.wordpress.com pantip.com topicstock.pantip.com www.oknation.net www.sbs.ac.thp-dit.com www.punfuncreation.com jaikoh.exteen.com http://artkidgraphic.blogspot.com/ www.kukai.ac.thwww.youtube.comartsforkids.blogspot.com https://homegame9.wordpress.com http://artsforkids.blogspot.com/ www.dusitcenter.org แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”ู ช้นั ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3
116 ตวั อย่างกจิ กรรมท่ี 3 1. ช่ือกิจกรรม วสั ดหุ รรษา พาเพลนิ (แกนกระดาษชาระ ปะติดสัตว์นอ้ ย) 2. เวลาที่ใช้ 3 ช่ัวโมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหน ักเรยี นรจู ักใชเวลาวางใหเกิดประโยชนแ 2. เพื่อใหนกั เรียนมีสมาธิ รจู ักการวางแผนการทางานและลาดับขนั้ ตอนการทางานได 3. เพอื่ ใหสามารถทางานรว มกบั ผอู ่ืนได 4. เพอ่ื นาไปสูการสรา งสรรคแผลงานอืน่ ๆ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู หนักเรียนดูรูปสตั วแตาง ๆ 2. ครใู หนกั เรียนดอู ปุ กรณแท่ีครูเตรียมมา 3. ครูซกั ถามนักเรียนวา จะทาสตั วอแ ะไรไดบาง 4. ครใู หนักเรียนดูตัวอยา งสัตวแท่ีทาดว ยแกนกระดาษชาระ 5. ครูใหนกั เรยี นฝึกทาสัตวตแ า ง ๆ จากแกนกระดาษชาระ 6. ครอู าจใหน กั เรียนนาสตั วแที่นักเรยี นประดิษฐแมาแตง เป็นนทิ านสนั้ ๆ กลุมละ 1 เร่ือง ชว่ั โมงที่ 1 ตอน พี่นกฮกู วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ใ่ี ช้ 1. แกนกระดาษทิชชู 2. สนี า้ 3. พูกัน 4. กระดาษสี 5. กาว 6. กรรไกร ขนั้ ตอนการทา 1. ยอมสแี กนกระดาษทชิ ชู 2. ตดิ ขานกฮูกดว ยกระดาษ พรอ มติดตัวนกฮกู ดว ยกระดาษกลม ๆ เล็ก ๆ 3. ตดิ ปากนกฮูก 4. ติดตานกฮูกใหส วยงาม แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู ชั้นปะถมศึกษาปที ี่ 1 - 3
117 ชว่ั โมงท่ี 2 ตอน นอ งแมวนารัก วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ 1. แกนกระดาษทิชชู 2. สีน้า 3. พูกนั 4. กระดาษสี 5. กาว 6. กรรไกร 7. ปากกา ขัน้ ตอนการทา 1. ยอ มสีแกนกระดาษทชิ ชู 2. ติดตา จมูกดวยกระดาษ พรอมตดิ ตัวเคร่ืองประดับใหนองแมว ชว่ั โมงที่ 3 ตอน ไก กะต฿าก กะตา฿ ก วสั ดแุ ละอุปกรณ์ท่ใี ช้ 1. แกนกระดาษทิชชู 2. สนี ้า 3. พูกัน 4. กระดาษสี 5. กาว 6. กรรไกร 7. ปากกา ขน้ั ตอนการทา 1. ยอมสแี กนกระดาษทชิ ชู 2. ตดิ ตา จมูก ขา ดว ยกระดาษ พรอมตดิ ตัวเคร่ืองประดบั ใหนองแมว 3. ตดิ หงอนไก ปีก หาง ดวยกระดาษสีหลากสี 5. สอ่ื การเรียนรู้ 1. ภาพรปู วสั ดุตา ง ๆ 2. วัสดุ อปุ กรณแ สาหรบั จดั ทางานประดิษฐแ เชน แกนกระดาษทชิ ชู /พูก ัน/ กระดาษสี /สนี ้า/กาว /กรรไกร/ ปากกา 6. การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเขา รวมกิจกรรม 2. สงั เกตช้ินงาน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
118 7. ภาพประกอบ สง่ิ ประดิษฐ์ต่าง ๆ ท่ีทาด้วยแกนกระดาษชาระ 8. อ้างอิงแหล่งท่ีมาของข้อมูล http://p-dit.com แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู ชั้นปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3
119 ตวั อย่างกจิ กรรมที่ 4 1. ชือ่ กิจกรรม การทาทคี่ น่ั หนงั สือ 2. เวลาท่ใี ช้ 1 ชว่ั โมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. อธิบายขั้นตอนและทาที่ค่ันหนังสือได 2. เลอื กวสั ดุเหลือใชมาประดิษฐขแ องใชไ ด 3. บอกประโยชนแการทาท่คี ่ันหนงั สือได 4. กิจกรรมการเรียนรู้ อปุ กรณ์ 1. กระดาษสีสวย 2. กรรไกร 3. สีเมจกิ 4. ไมบรรทัด 5. คตั เตอรแ ขนั้ ตอนการทา 1. ตดั กระดาษ สาหรับคน่ั หนังสือ ตัดขนาดตามตองการ เชน 4 x 1.5 นิว้ 2. วาดรปู แมว วาดมือแมว หอยลงมา ตามรูปดานลาง 3. ใชคัตเตอรแกรีด รอบ ๆ แขนแมว 5. สื่อการเรียนรู้ ใบความรู/วัสดอุ ุปกรณแสาหรับทาทก่ี นั้ หนงั สือ 6. การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกตการเขารวมกจิ กรรม 2. สังเกตผลงาน 7. ภาพประกอบ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลาร”ู ช้ันปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
120 8. อ้างอิงแหล่งทม่ี าของขอ้ มูล http://p-dit.com/2015/06/26/7098/ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู ชน้ั ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
121 กลมุ่ กิจกรรมท่ี 14 ฝกึ การทางาน ทักษะทางอาชีพ ทรพั ย์สนิ ทางปญั ญา อยูอ่ ย่างพอเพียง และมวี นิ ยั ทางการเงิน ตวั อย่างกิจกรรมที่ 1 1. ช่ือกิจกรรม กล้วยอาบแดด 2. เวลาทใี่ ช้ 2 ชัว่ โมง (5 – 8 วัน) 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใหนกั เรียนนากลวยสุกมาตากแหงได 2. เพ่ือใหนักเรยี นมเี จตคติท่ีดีตอ อาชีพ 3. เพื่อใหนกั เรยี นนาไปใชใ นชีวิตประจาวันได 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วสั ดอุ ุปกรณ์ 1. กลว ยสกุ 2. เกลือ 3. นา้ วธิ ที า 1. นากลวยสุกมาปอกเปลือก แลวลางดวยน้าเกลือ เรียงลงบนตะแกรง นาไปตากแดดจนกลวยเกือบ แหงสนิท นานประมาณ 3 - 5 วนั (แลว แตความแรงของแสงแดด) และหม่ันคอยพลกิ กลบั ดานอยูเ สมอ 2. กอนนากลวยไปตากแดดในวันที่ 6 ใหละลายน้ากับเกลือใหเขากัน นาขึ้นต้ังไฟตมจนเดือด ท้ิงไว จนเยน็ จากนน้ั ใชข วดนา้ คลึงหรือกดกลวยใหแบน แลวนากลวยลงไปลางในน้าเกลือท่ีเตรียมไว จากนั้นนากลวย วางเรียงบนตะแกรง นาไปตากแดดอีก 1 - 2 วัน จนกลว ยแหงไดท ี่ 3. เมื่อกลวยแหงไดท่ีแลว ใสกลวยลงในหมอ ปิดฝาใหสนิท วางท้ิงไว 1 คืน เพ่ือใหน้าตาลจากกลวย ซมึ ออกมา (กลว ยจะเงาและไมแ หง ) จากนนั้ เก็บใสภาชนะทีม่ ฝี าปดิ มิดชดิ พรอ มรบั ประทาน หมายเหตุ : ข้ันตอนท่ี 1 และ 3 สามารถใชเวลาวาง ๆ ตอนกอ นเขาเรียนภาคเชา หรอื ตอนพักกลางวนั 5. สอ่ื การเรียนรู้ 1. วัสดอุ ุปกรณแ 2. วทิ ยากรทอ งถิน่ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู ชั้นปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
122 6. การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเขา รวมกิจกรรม 2. ซักถามความพึงพอใจ 7. ภาพประกอบ ที่มา : http://cooking.kapook.com/view82396.html 8. อา้ งอิงแหล่งที่มาของขอ้ มลู http://cooking.kapook.com/view82396.html แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลาร”ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3
123 ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี 2 1. ช่ือกิจกรรม วสั ดหุ รรษา พาเพลิน (การร้อยลูกปดั ) 2. เวลาท่ใี ช้ 3 ช่วั โมง 3. วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ใหนักเรียนรูจ ักใชเ วลาวางใหเ กิดประโยชนแ 2. เพื่อใหนกั เรยี นมสี มาธิ รจู กั การวางแผนการทางานและลาดับขนั้ ตอนการทางานได 3. เพือ่ ใหสามารถทางานรวมกบั ผอู ืน่ ได 4. เพอื่ นาไปสูการสรางสรรคแผลงานอนื่ ๆ 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหน กั เรียนดภู าพสรอยขอมือลกู ปดใ รูปแบบตา ง ๆ 2. ครูใหน ักเรียนดูสรอ ยขอมือทร่ี อ ยจากลกู ปใด และใหนักเรียนบอกลักษณะ 3. ครใู หนกั เรยี นฝึกรอ ยสรอ ยขอมือ 4. ครใู หน กั เรยี นวาดภาพลูกปดใ ทีต่ นเองรอยในครั้งน้ี 5. ครใู หน ักเรยี นคดิ ออกแบบลกู ปใดที่นักเรียนอยากรอ ยในครัง้ ตอไป ช่วั โมงท่ี 1 ตอน สรอ ยขอมือของหนู วัสดแุ ละอุปกรณ์ทใ่ี ช้ 1. ลกู ปใดขนาดตา ง ๆ 2. เสน เอน็ สาหรับรอยลูกปดใ 3. กรรไกร 4. ตะขอ/หว ง 5. วัสดตุ กแตง ข้ันตอนการทา 1. ใหนกั เรียนตัดเสน เอน็ ใหย าวกวา ขอมือตนเอง 3 เทา (ใหนักเรียนตัดเอง) 2. รอ ยลูกปใดเมด็ เล็ก (ลูกปดใ ทใ่ี ชสาหรับค่นั หรอื เม็ดคั่น) 3. จบั คูป ลายทั้งสองดา นและรอ ยตวั ปดิ ปม และใสตะขอกา มปู 4. รอ ยลูกปใดตามแบบท่ีครูกาหนด จนพอดีขอมอื นักเรยี น 5. ใสหว งสาหรับตดิ ผูกใหแนน แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู ชัน้ ปะถมศึกษาปที ี่ 1 - 3
124 ชว่ั โมงที่ 2 ตอน ของขวญั น้ี มคี าย่งิ วัสดแุ ละอุปกรณ์ที่ใช้ 1. ลกู ปใดขนาดตาง ๆ 2. เสนเอ็น สาหรับรอ ยลกู ปใด 3. กรรไกร 4. ตะขอ/หว ง 5. วัสดุตกแตง ขัน้ ตอนการทา 1. ใหนักเรยี นออกแบบสรอ ยขอมือเอง 2. ใหนักเรียนตัดเสนเอ็นใหยาวพอดีกับสรอยขอมือบคุ คลท่ีนักเรยี นตองการมอบเปน็ ของขวญั 3. รอ ยลูกปดใ เม็ดเลก็ (ลูกปใดท่ใี ชส าหรับคั่นหรอื เม็ดค่นั ) 4. จับคปู ลายทง้ั สองดานและรอยตวั ปดิ ปม และใสตะขอกา มปู 5. รอ ยลูกปดใ ตามแบบที่นกั เรียนออกแบบตามความชอบ 6. ใสห วงสาหรบั ตดิ ผูกใหแนน 7. ใหนักเรียนนาสรอยขอมอื ทร่ี อ ยเสร็จมาใหครแู ละเพื่อนๆดูและบอกวา จะมอบเป็นของขวัญ ใหใ คร เพราะอะไร ช่วั โมงที่ 3 ตอน ลูกไมตืน้ ๆ วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ใ่ี ช้ 1. ลกู ปใดขนาดตา งๆ 2. ลวดเสนเลก็ 3. กรรไกร 4. ผา ลูกไม 5. ตะขอ/หว ง 7. คีมดดั ลวด ขน้ั ตอนการทา 1. นาลวดเสนเลก็ ดดั ปลายดา นบนใหเ ปน็ วงกลม สาหรับใสตะขอ 2. นาผาลูกไม มารอ ยใสลวด พบั 1 ทบ แลวตามดว ยลูกปใด 3. รอ ยไปเรื่อย ๆ จนรอบขอ มือพอดี 4. พันลวด ใหเ ป็นวงกลม 5. ตดิ ตะขอทง้ั สองดานใหเรียบรอย แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลาร”ู ชัน้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
125 5. สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพสรอ ยขอ มือลูกปดใ 2. วัสดุ อุปกรณแ การรอ ยมาลยั 6. การวดั และประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการทางาน 2. สงั เกตชิน้ งาน 7. ภาพประกอบ แบบสร้อยขอ้ มือตา่ ง ๆ 8. อา้ งอิงแหล่งท่ีมาของข้อมูล http://p-dit.com http://p-dit.com/2013/11/07/3388/ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู ชน้ั ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
126 ตวั อย่างกจิ กรรมท่ี 3 1. ช่ือกจิ กรรม การดองไขเ่ คม็ 2. เวลาทีใ่ ช้ 1 ชว่ั โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใหนักเรียนสามารถทาไขเค็มไวร ับประทานเองได 2. เพ่ือใหนกั เรยี นมเี จตคติทด่ี ีตออาชีพสจุ รติ 3. เพ่ือใหนักเรียนนาประสบการณแไปประยุกตใแ ชในชวี ติ ประจาวัน 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ วสั ดอุ ุปกรณ์ 1. ไขเป็ดดบิ 10 ฟอง 2. เกลือ 1 ถวยตวง 3. นา้ 1 ลิตร 4. ภาชนะสาหรับดองไข (ทไี่ มทาปฏิกิริยากบั เกลือ เชน โหลแกว โหลพลาสติก กะละมัง เครื่องเคลอื บดนิ เผา) วธิ ีการ 1. ลางไขเป็ดใหสะอาด สะเด็ดน้าจนแหงสนิท ใสล งในโหลแกว เตรียมไว 2. ทานา้ เกลอื สาหรบั ดองไข โดยใสเ กลอื กับน้าลงในหมอ นาขึน้ ต้ังไฟจนเดือด และคนใหเกลือ ละลายจนหมด ยกลงจากเตา พักทิ้งไวจ นเย็นสนิท 3. เทนา้ เกลือท่เี ย็นแลว ลงในโหลจนทวมไข จากนัน้ ใชถ งุ พลาสติกใสนา้ วางทับลงไปใหไขเป็ด จมอยใู ตน ้า ตลอดเวลา ปิดฝาใหส นทิ เก็บไวในทีร่ ม (2 สัปดาหแสามารถทาไขดาว 3 สัปดาหแ สามารถนามาทาไขตม ) 5. สอ่ื การเรียนรู้ 1. วัสดุ อปุ กรณแ สาหรับการทาไขเคม็ ๒. วทิ ยากรทอ งถิน่ 6. การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเขารวมกิจกรรม 2. ซกั ถามความพงึ พอใจ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลาร”ู ชน้ั ปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3
127 7. ภาพประกอบ http://cooking.kapook.com/view87786.htmlhttp://watchanschool.com/news- detail_4315_62493 8. อา้ งอิงแหล่งที่มาของขอ้ มูล https://sites.google.com/site/foodntechnology/kar-thnxm-xahar-food- preservation/1 http://cooking.kapook.com/view87786.htmlhttp://watchanschool.com/news- detail_4315_62493 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”ู ชนั้ ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3
128 ตวั อย่างกจิ กรรมที่ 4 1. ช่อื กจิ กรรม ขนมโคหลากสี 2. เวลาท่ีใช้ 1 ชัว่ โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ใหนักเรยี นสามารถทาขนมอยา งงายไวร ับประทานเองได 2. เพอ่ื ใหนกั เรยี นเลือกสีธรรมชาตจิ ากพชื มาใชในการทาขนมโคได 3. เพอื่ ฝึกใหนกั เรยี นรกั การทางาน และทางานรวมกับผูอ่ืนได 4. เพื่อใหนักเรยี นสามารถนาไปตอยอดเป็นอาชีพอิสระได 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วัสดอุ ุปกรณ์ 1. กระทะ 2. กะละมัง 3. กระชอน 4. หมอ สวนประกอบ 1. มะพราวขูด 2. เกลือ 3. แปงู ขาวเหนยี ว 4. น้าตาลแวนตดั เป็นกอนสีเ่ หลี่ยมพอคา 5. นา้ 6. นา้ สมุนไพร (สีเขียวจากใบเตย สแี ดงจากกระเจี๊ยบ สีมวงจากดอกอัญชัน สีเหลืองจากน้าขมน้ิ ) วิธีการทา 1. เทแปงู ขา วเหนยี วทีเตรียมไวใ สกะละมัง ใสนา้ สมนุ ไพรที่เตรียมไว 2. นวดแปงู กับน้าสมุนไพรจนนุมไมต ดิ มือปนใ้ แปูงเป็นกอนกลมเสน ผาศูนยแกลางประมาณ 1 น้วิ 3. แผแปูงออกใสน ้าตาลแวน หุมแปงู ใหม ิดคลึงใหกลม 4. นาน้าใสหมอ ตง้ั ไฟใหเ ดือด ใสข นมลงตมไป พอลอย ตักข้ึน สะเด็ดนา้ 5. นามะพรา วขดู ใสเกลือเล็กนอยคลกุ ใหเขา กันนาขนมลงคลุกมะพราวใหทว่ั จดั ใสจาน 5. สื่อการเรียนรู้ 1. ใบความรู /รปู ภาพ /วสั ดุ อปุ กรณแ การทาขนมโคหลากสี 2. วทิ ยากรทอ งถน่ิ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลาร”ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3
129 6. การวดั และประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมการเขา รวมกิจกรรม 2. การซกั ถามความพงึ พอใจ 7. ภาพประกอบ 8. อ้างองิ แหล่งทีม่ าของขอ้ มลู http://www.pim.in.th/thai-dessert/635-kanom-ko แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3
130 ตวั อยา่ งกิจกรรมท่ี 5 1. ชอ่ื กจิ กรรม ไสเ้ ดือนดินน่ารัก 2. เวลาทใ่ี ช้ ๓ ชั่วโมง (3 สปั ดาห)แ 3. วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือใหนกั เรยี นเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ 2. เพื่อใหนกั เรยี นรูจัก เขา ใจและเห็นความสาคัญของไสเ ดือนดิน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. กระตุนความสนใจของนกั เรียนโดยการใชคาถาม เชน นักเรียนรูจักไสเ ดอื นดินหรือไม มีลักษณะ อยางไร ไสเ ดือนดินอาศัยอยทู ไ่ี หน ไสเดือนดินกินอะไรเปน็ อาหาร บอกประโยชนแของไสเดือนดนิ 2. แบงกลุมนักเรียนเป็นกลุม ๆ ละ 3 - 5 คน พรอมท้ังแจกอุปกรณแการทดลองใหนักเรียนแตละ กลมุ รวมกบั รับผดิ ชอบ 3. มอบหมายใหนักเรียนแตละกลุมเลี้ยงไสเดือนของกลุมท่ีตนเองรับผิดชอบเป็นระยะเวลา ๓ วัน ใหนกั เรยี นสังเกตและบันทึกผลการทดลองเป็นระยะ อาจใชเ วลาเชา กอนเขาเรยี น พักกลางวัน หลงั เลกิ เรยี น 4. นักเรยี นแตล ะกลุม สงตวั แทนนาเสนอหนา ชน้ั เรียน 5. ครูและนักเรยี นรวมกนั สรุปความรทู ไ่ี ด เพ่ือใหเกดิ ความเขาใจที่ตรงกันและองคคแ วามรู ทค่ี งทน 5. ส่อื การเรยี นรู้ 1. ใบความรูเก่ยี วกับประโยชนขแ องไสเ ดือนดิน 2. ภาพไสเดือนดิน วัสดุอปุ กรณแ ๑. ภาชนะพลาสติกใสทรงสงู และแคบท่ีบรรจดุ ินอยูภายใน ๒. วัสดุสาหรับปดิ ภาชนะ เชน ผาขาวบาง มุงลวด ตาขา ยพลาสติก เปน็ ตน ๓. ไสเ ดอื นดิน ๔. ใบไมสด ๕. แวนขยาย 6. การวดั และประเมินผล สังเกตพฤติกรรมในการทากิจกรรมของนกั เรียน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพิม่ เวลาร”ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3
131 7. ภาพประกอบ แบบบันทกึ ผลการทดลอง คาชีแ้ จง ใหนักเรียนสังเกตการเปล่ยี นแปลงของไสเดือนดนิ ในแตล ะช่วั โมงโดยบันทกึ เปน็ รูปภาพอยางละเอียด และบอกประโยชนขแ องไสเ ดือนดิน หัวข้อที่ศกึ ษา ชวั่ โมงท่ี 1 ชั่วโมงที่ 2 ชัว่ โมงที่ 3 ลักษณะของไส้เดือนดิน ลกั ษณะของใบไมส้ ด ลกั ษณะโพรงท่ไี สเ้ ดือนดินขดุ ประโยชนแของไสเดอื นดิน ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร”ู ชน้ั ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3
132 8. อ้างอิงแหลง่ ที่มาของขอ้ มูล http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bluebutter&month=07-04- 2009&group=22&gblog=17 http://www.oknation.net/blog/teetatfarm/2012/05/08/entry-1 http://www.nanagarden.com http://bankaset-h.com/ http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?id=69113 http://i473.photobucket.com/albums/rr98/symphonixz/magnify.jpg แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลาร”ู ชนั้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
133 ตวั อย่างกิจกรรมท่ี 6 1. ช่ือกิจกรรม ออมสิน ออมทรัพย์ 2. เวลาท่ีใช้ 1 ช่วั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. อธิบายขน้ั ตอนการประดิษฐกแ ระปกุ ออมสินจากขวดน้าพลาสตกิ ได 2. เลอื กเศษวสั ดุเหลอื ใชมาประดษิ ฐกแ ระปกุ ออมสนิ ได 3. บอกประโยชนแการประดษิ ฐกแ ระปุกออมสนิ จากขวดน้าพลาสตกิ ได ๔. นักเรียนรักการออม จากกระปุกออมสินทท่ี าขึน้ 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู หน ักเรยี นทากระปุกออมสินตามขั้นตอนดังน้ี 1) เจาะรูขวดน้าดา นบน ทาเป็นรูใสเหรียญ 2) ตดิ ขาหมูดว ย รงั ไขพลาสติก 3) ตดั กระดาษ ตกแตง ประดับเป็นหหู มู หางหมู ตาและจมูกหมนู าไปหยอดเหรยี ญ 2. ครอู ธิบายถึงประโยชนแของการออม และใหน กั เรยี นรวมกนั แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั การออม 3. ครูใหนกั เรียนนากระปุกออมสินท่ีตนเองทาไปใชท่ีบาน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลาร”ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
134 5. ส่อื การเรยี นรู้ 1. วัสดุ / อุปกรณแ การทาออมสินออมทรัพยแ 1. ขวดนา้ พลาสติกแบบใส อวน กลม 2. รังไขพลาสตกิ 3. คตั เตอรแ 4. กระดาษ 5. กรรไกร 6. กาว 6. การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกต 2. ชิ้นงาน 7. ภาพประกอบ 8. อ้างอิงแหลง่ ที่มาของขอ้ มูล http://p-dit.com/2014/06/22/4676/ แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
135 ตัวอยา่ งกิจกรรมท่ี 7 1. ช่ือกิจกรรม การทาแซนวิชไทย 2. เวลาที่ใช้ 1 ชัว่ โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่อื ใหนักเรยี นสามารถทาอาหารงา ย ๆ รับประทานเองได ๒. เพือ่ ฝกึ ใหนักเรยี นรักการทางาน ๓. เพ่อื ใหนกั เรียนนาไปใชใ นชวี ิตประจาวนั ได 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วัสดอุ ุปกรณแ 1. ขนมปใงชนิดแผน 2. ปลาทนู ากระปอง 3. มะเขือเทศ 4. ผกั สลดั /หรอื ผักตามชอบ 5. นา้ สลดั /มายองเนส วิธีการทา 1. นาปลาทูนากระปองสะเด็ดน้าออก แลวนามายีใหเป็นช้ินเล็ก ๆ ถาใชปลากระปองใชแตเนื้อปลา มายีใหเปน็ ช้ินเลก็ ๆ เชนกนั 2. ใสน ้าสลดั /มายองเนส ตามชอบลงบนปลาทเี่ ตรยี มไวผ สมใหเขา กัน 3. นาทูนาสลดั ทาบนขนมปงใ แลววางผักท่ีตอ งการใสลงไปตามชอบ 4. วางขนมปใงอีกแผนมาประกบ หมายเหตุ ถา ไมมปี ลาทูนา สามารถใชปลากระปองแทนได 5. สื่อการเรียนรู้ 1. ใบความรู /รปู ภาพ /วสั ดุ อุปกรณแ การทาขนมโคหลากสี 2. วิทยากรทอ งถน่ิ 6. การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเขารวมกจิ กรรม 2. การซกั ถามความพึงพอใจ ๓. ตรวจผลงาน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลาร”ู ช้นั ปะถมศึกษาปที ี่ 1 - 3
136 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งอิงแหล่งที่มาของขอ้ มูล http://www.pholfoodmafia.com/2012/recipe_detail.php?mnuid=877 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู ชั้นปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3
137 ตัวอย่างกิจกรรมท่ี 8 1. ช่อื กจิ กรรม สืบ...สาน (การสานนกจากใบตาล) 2. เวลาทีใ่ ช้ 1 ชัว่ โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือใหน กั เรยี นสามารถประดษิ ฐแของเลนจากวสั ดทุ องถ่ินได 2. เพ่ือใหนักเรยี นรักการทางาน และนาไปใชใ นชวี ติ ประจาวนั ได 3. เพื่อใหนักเรียนมคี วามรูเกี่ยวกับการรักษแแ ละหวงแหนภูมปิ ใญญาประจาทองถ่นิ ของตน 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ วสั ดุอุปกรณ์ 1. ใบตาล/ใบลาน/ใบมะพราว 2. กรรไกร 3. มีดคตั เตอรแ ขัน้ ตอนการทา 1. นาใบตาลมาฉีกเปน็ เสนยาว 50 เซนตเิ มตรกวาง 2 เซนติเมตรจานวน 2 เสน (ใชส านเป็นตัวนก) 2. นาใบตาล ใบท่ี 1 มาโคงทับกันตามแบบแลวนาใบที่ 2 ใหป ลายใบสอดชองของใบที่ 1 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู ชน้ั ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3
138 3. ใบตาล ใบที่ 2 จับปลายดานลางโคง ลงมาใตเ สนใบที่ 1 ปลายแรก แลว ทบั ปลายท่สี อง ดงั ภาพ 4. จับปลายใบท่ี 2 โคง ขนึ้ ดานบนอกี ครั้งหนงึ่ ดงั ภาพ 5. จบั ปลายใบที่ 2 ที่อยดู า นบนลงมาใหป ลายใบลงมาตรงกลางจบั ปลายใบท่ี 1 สอดข้ึนไปชอ งดา นบน 6. ใชม อื ดึงปลายทกุ เสน ใหไดรูปท่สี วยงามใชมดี คัตเตอรแกรีดใหเปน็ ชอ งเลก็ ๆ สาหรบั สอดปลายใบ แนบกบั ตัวนก แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
139 7. ตัดปลายทง้ั สองขา งใหเ ป็นตวั นก 8. นาใบตาลฉีกเป็นเสนยาว 30 เซนตเิ มตร กวาง 1 เซนติเมตร จานวน 2 เสน เพื่อทาหัวนก ข้ันตอน เหมือนทาตัวนก 9. นาทัง้ สองชิน้ มาประกอบเป็นตัวนกทสี่ มบรู ณแ ดังภาพ 5. ส่อื การเรียนรู้ 1. ใบความรู /รูปภาพ /วัสดุ อปุ กรณแ การสานนกจากใบลาน 2. วทิ ยากรทองถ่ิน 6. การวดั และประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเขารวมกจิ กรรม 2. การซกั ถามความพึงพอใจ ๓. ตรวจผลงาน 7. อา้ งอิงแหลง่ ท่มี าของข้อมูล สนม ชุมสายญาติ โรงเรยี นบา นน้าหัก สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต 3 http://performance2552.exteen.com/20090101/entry-2 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู ชนั้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
140 ตัวอยา่ งกิจกรรมที่ 9 1. ชอื่ กจิ กรรม สืบ...สาน (การสานตั๊กแตนจากใบมะพรา้ ว) 2. เวลาทใ่ี ช้ 1 ช่วั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. อธบิ ายขนั้ ตอนและทาการสานตกั๊ แตนจากใบมะพราวได 2. เลือกวสั ดุจากธรรมชาตปิ ระดิษฐแของเลนได 3. บอกประโยชนแการสานต๊กั แตนจากใบมะพรา วได 4. นักเรียนมีความรูเกยี่ วกบั การรักษแแ ละหวงแหนภมู ิปใญญาประจาทองถนิ่ ของตน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ อุปกรณ์ 1. ใบมะพรา ว/ใบลาน/ใบตาล 2. กรรไกร/มดี คัตเตอรแ ขัน้ ตอนการทา 1. ทาตัวตั๊กแตนกันเรมิ่ จากเลือกใบมะพราวมาฉีกจากกานเหลอื ติดดานโคนกานไวส กั ประมาณ 2 นิ้ว 2. หงายดานทองใบข้ึน ชั้นท่ี ๑ เร่ิมจากดานซายนาปลายใบทาบวงคลองกับแกนกลางและดึงลงมา ใหชดิ ตรงท่ีฉีกไว แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร”ู ชัน้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
141 3. ทาดา นขวาแบบเดยี วกัน 4. ดึงลงมาใหชิด จัดใหส วยงาม 5. ทาชนั้ ที่ ๒ ดา นซา ยโดยตลบปลายไปไวด านหลังใชน ิว้ กดไว 6. ทาบวงคลอ งกบั แกนกลางเหมือนเดมิ 7. ดึงลงมาชิดกับชน้ั ที่ ๑ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร”ู ชั้นปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3
142 8. ทาช้นั ท่ี ๒ ดา นขวาดวยวธิ เี ดียวกนั ตลบปลายใบไปดา นหลงั กอ น 9. ทาบวงคลองกับแกนกลาง ดงึ ลงมาใหช ดิ กัน 10. ทาใหได ๖ ช้ัน ดานน้คี ือดานทองของต๊ักแตน ใบที่คูกันยาวลงมาตัดและจักเป็นร้วิ เล็ก ๆ แทนขา 11. ดานหลังของตัก๊ แตน 12. ไดต ัวแลวคราวนมี้ าทาหาง ใชใ บมะพรา ว ๑ ซกี แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู ชน้ั ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
143 13. มวนจากดา นปลายเลก็ ๆ ไปหาดานโคนใหย าวออกไปเรือ่ ย ๆ สาคญั ทีส่ ดุ คอื ตองมว นใหแ นน ไมหลุดออกจากกัน 14. เมือ่ ไดความยาวท่ตี ามท่ีตองการแลว ตดั ใบที่เหลือออกกลัดดว ยไมก ลัดใหแนน 15. ไดต วั กบั หาง ยงั ขาดหวั 16. ใชใบซีกท่เี หลือมาพับเป็นสามเหลย่ี ม แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู ชน้ั ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3
144 17. มว นไปมาใหแนน สัก ๓ - ๔ รอบ 18. พับปลายเกบ็ ใหเ รียบรอ ย 19. ครบแลว ทง้ั สามสว น นามาประกอบเขา ดว ยกัน 20. ใชกา นมะพราวตกแตงเป็นหนวด ตดั ใบสว นโคนใหเ รยี วเปน็ ปกี ใชกานท่เี หลือใสเปน็ ท่แี ขวน 5. สื่อการเรยี นรู้ 1. ใบความรู /รูปภาพ /วสั ดุ อุปกรณแ การสานต๊ักแตนจากใบมะพราว 2. วิทยากรทองถน่ิ 6. การวดั และประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเขารวมกิจกรรม 2. การซกั ถามความพึงพอใจ ๓. ตรวจผลงาน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลาร”ู ชัน้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3
145 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งอิงแหลง่ ท่ีมาของขอ้ มูล http://www.bansuanporpeang.com/node/26629 https://www.youtube.com/watch?v=F7V1zuXNq1s แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3
146 กลมุ่ กิจกรรมท่ี 15 พฒั นาความสามารถด้านการใช้ทกั ษะชีวติ ตวั อยา่ งกจิ กรรมท่ี 1 1. ช่อื กิจกรรม การทาพรมเช็ดเทา้ จากเศษผ้า 2. เวลาทใ่ี ช้ 2 ชั่วโมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. อธิบายข้ันตอนและทาพรมเชด็ เทา ได 2. เลือกเศษวัสดุเหลือใชมาประดษิ ฐแของใชได 3. บอกประโยชนกแ ารทาพรมเชด็ เทาจากเศษผา ได 4. กิจกรรมการเรียนรู้ วัสดอุ ุปกรณ์ 1. กระสอบปุาน (กระสอบขา วสาร) 2. เศษผา ยดื ตัดเป็นรปู สี่เหลี่ยมผืนผา ขนาดยาว 3 นว้ิ มอื 3. เข็มควัก (เข็มถักไหมพรม) 4. กรรไกร 5. เข็มและดาย 6. จกั รเย็บผา 7. ปากกาเมจิก ข้ันตอนการทา ๑. วาดแบบลงในกระสอบ ตัดแบบใหเ ป็นรูปทรง ใชเ ศษผายืดเสน ยาวเย็บขอบนอกใหห มดรอบดาน เพือ่ ปูองกันไมใหกระสอบหลุด 2. ใหเ ร่มิ ทาแถวที่ 5 โดยเวน แถวทเ่ี ปน็ เสน กระสอบคู 4 แถว เหมอื นดงั รปู ภาพ จนกระทง่ั หมดทุกแถว แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลาร”ู ชัน้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184