Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore edu-class-reduce02

edu-class-reduce02

Published by Phrapradaeng District Public Library, 2019-05-14 10:32:57

Description: edu-class-reduce02

Search

Read the Text Version

97 ใบความรู้ วธิ ีประหยัดไฟฟ้า ๑. ปิดสวติ ซแแ ละถอดปลั๊กไฟเครือ่ งใช฾ไฟฟาู ทุกชนดิ เม่ือเลิกใชง฾ านแลว฾ ๒. เลือกซ้ือเครื่องใช฾ไฟฟูาที่ได฾มาตรฐาน โดยเลือกเคร่ืองใช฾ไฟฟูาที่มีสติ๊กเกอรแเบอรแ ๕ ติดอย฽ู ซึ่ง ผ฽านการรบั รองว฽าเปน็ เคร่ืองใช฾ไฟฟูาท่ีประหยดั พลงั งาน ๓. ใช฾หลอดไฟฟลูออเรสเซนตแทีป่ ระหยดั พลังงาน (ใช฾หลอดผอมแทนหลอดอว฾ น) ๔. ปดิ ตเู฾ ยน็ ใหส฾ นทิ ทาความสะอาดภายในตู฾เย็นและแผน฽ ระบายความรอ฾ นหลังตูเ฾ ยน็ สม่าเสมอ เพ่ือไม฽ให฾ ต฾เู ย็นทางานหนักและใชพ฾ ลงั งานมากจนเกินไป ๕. การรดี ผ฾า ควรรีดทลี ะมาก ๆ และอย฽าพรมน้าจนผ฾าชน้ื จนเกนิ ไป วธิ ปี ระหยัดน้า ๑. ใชน฾ ้าอย฽างประหยดั หมั่นตรวจสอบการรว่ั ไหลของนา้ เพอื่ ลดการสญู เสียอย฽างเปลา฽ ประโยชนแ ๒. ไมค฽ วรให฾น้าไหลตลอดเวลา ขณะทแ่ี ปรงฟนใ ล฾างหน฾า และถสู บ฽ตู อนอาบน้า เพราะจะสูญเสียน้า หลายลิตร ๓. ควรลา฾ งพืช ผกั ผลไม฾ในอา฽ ง หรอื ภาชนะ ทม่ี ีการกักนา้ ไว฾เพยี งพอ ๔. อย฽าทง้ิ นา้ ดม่ื ที่เหลอื ในแก฾ว โดยไมเ฽ กดิ ประโยชนแ ควรนาไปรดนา้ ต฾นไม฾ แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลาร”ู฾ ช้ันปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3

98 กลุ่มกิจกรรมที่ 12 ปลกู ฝังความรัก ความภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย และหวงแหนสมบัติของชาติ ตวั อยา่ งกจิ กรรมท่ี 1 1. ช่ือกจิ กรรม ตน้ ไมพ้ ูดได้ (เกมสานวน สภุ าษิต คาพังเพยพาเพลนิ ) 2. เวลาทีใ่ ช้ 3 ชั่วโมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อส฽งเสริมให฾นักเรยี นทางานที่ได฾รับมอบหมายใหเ฾ สรจ็ ท่โี รงเรียน 2. จดั กิจกรรมเชิงสรา฾ งสรรคแเสริมการเรยี นรทู฾ างด฾านวิชาการของนักเรยี น 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1. ครูใหน฾ ักเรยี นสารวจปูายสานวน สุภาษิต คาพังเพยต฽าง ๆ ท่ีตดิ อย฽ูทีต่ น฾ ไม฾ บริเวณสนามในโรงเรียน 2. ครูให฾นกั เรียนชว฽ ยกนั ตอ฽ คาทคี่ รูบอก เช฽น ขชี่ ฾าง.............................................................. วานร............................................................... ตานา้ พริก.............................................................. เขน็ ครก........................................................... 3. ครูสลบั ใหน฾ กั เรียนออกมาถามเพือ่ น ๆ บา฾ ง ชวั่ โมงท่ี 2 1. ครใู ห฾นักเรียนสารวจปูายสานวน สุภาษิต คาพังเพยต฽าง ๆ ทีต่ ดิ อย฽ูท่ตี น฾ ไม฾ บริเวณสนามในโรงเรียน 2. ครูใหน฾ ักเรยี นเลือก สานวน สภุ าษิต คาพังเพย คนละ 1 คา และแสดงทา฽ ทางใหเ฾ พอื่ น ๆ ทาย 3. ครูให฾นักเรยี นวาดภาพ สานวน สุภาษติ คาพงั เพย ท่ีตนเองเลอื ก ชั่วโมงท่ี 3 1. ครูให฾นักเรยี นสารวจความหมายของสานวน สุภาษติ คาพังเพยต฽าง ๆ ทต่ี ิดอยู฽ท่ีตน฾ ไม฾พูดได฾ บริเวณ สนามในโรงเรียน ๒. ครใู หน฾ กั เรียนทาหนังสือเล฽มเล็กโดยการเขียนสานวน สุภาษิต คาพังเพย และความหมายของคา ให฾ถกู ตอ฾ งจากแหล฽งขอ฾ มูล เช฽น หอ฾ งสมุด ค฾นคว฾า ทางอินเทอรเแ นต็ พร฾อมทัง้ ตกแต฽งรปู เลม฽ ใหส฾ วยงาม แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู฾ ชน้ั ปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3

99 5. สื่อการเรยี นรู้ 1. แผ฽นปูายคาพังเพย 2. กระดาษ 3. ห฾องสมดุ ต฾นไม฾พูดได฾ 6. การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมการทากจิ กรรมของนกั เรยี น 2. ผลงานของนักเรยี น แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”฾ู ชั้นปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

100 ตัวอยา่ งกจิ กรรมท่ี 2 1. ชอ่ื กจิ กรรม ราไทย วิถีไทย (รามะนา) สามารถเปล่ียนเปน็ เพลงประจาท้องถนิ่ /จังหวดั ของผูส้ อนได้ 2. เวลาทใ่ี ช้ 4 ช่วั โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือให฾นักเรียนไดร฾ ับความสนุกสนานเพลดิ เพลิน 2. เพ่ือเสรมิ สรา฾ งความสามคั คี 3. เพ่ืออนรุ ักษวแ ฒั นธรรมพ้ืนบา฾ นและวฒั นธรรมไทย 4. เพื่อให฾นกั เรยี นมีความรเู฾ กี่ยวกับการรักษแและหวงแหนภูมิปใญญาประจาท฾องถิ่นของตน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 1. นักเรียนดู VCD การแสดงรามะนา การแต฽งกาย เครื่องดนตรีท่ใี ช฾ 2. นกั เรยี นอา฽ นเนอื้ เพลงไหว฾ครู (การเลอื กเพลงใหอ฾ ยู฽ในดุลพินจิ ของครผู ฾สู อน) 3. ครูสาธติ วธิ กี ารยา่ เทา฾ ใหต฾ รงจังหวะเพลง โดยการเปิด CD เพลงไหว฾ครู ชว่ั โมงที่ 2 1. ครูสาธิตการราเพลงไหวค฾ รู ใหน฾ ักเรยี นปฏิบัตติ าม ทีละวรรค (ครูร฾องเพลง หรอื เปดิ CD เพลง) 2. นักเรยี นปฏบิ ัตทิ ฽าราจนคลอ฽ ง ครคู อยแนะนา ช฽วยเหลอื ชั่งโมงท่ี 3 1. นักเรียนฝึกปฏิบตั ิทา฽ ราเพลงไหวค฾ รู จนสามารถปฏิบัตเิ องได฾ 2. นักเรียนที่สามารถปฏบิ ัตไิ ด฾คลอ฽ งแคล฽ว ชว฽ ยสอนเพื่อนทย่ี งั ปฏิบัติไม฽คลอ฽ ง ชั่วโมงท่ี 4 1. วัดผล ประเมนิ ผล โดยการให฾นักเรยี นปฏิบตั ิทา฽ ราเปน็ รายบุคคล/เป็นกล฽ุม 5. สือ่ การเรียนรู้ 1. รปู เคร่ืองดนตรรี ามะนา 2. รูปภาพการแต฽งกายการแสดงรามะนา 3. รูปภาพการแสดงรามะนา 4. เนือ้ เพลง เพลงไหว฾ครู 5. หอ฾ งนาฏศลิ ป฼ไทย/ห฾องประชุม 6. VCD เพลงรามะนา CD เพลงไหวค฾ รู แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”฾ู ชั้นปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

101 6. การวัดผลและประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมการเขา฾ รว฽ มกิจกรรม 7. ภาพประกอบ 1. รปู รามะนา รามะนา ขงึ หนา฾ ดว฾ ยหนังลูกววั ตรงึ ด฾วยหมุด ตัวกลองส้ัน กลึงให฾ทางปาก สอบเข฾า มเี ส฾นเชอื กควน่ั เป็นเกลียว ยัดหนุนริมหนา฾ ภายใน สาหรับหมุนให฾หนา฾ ตึงขน้ึ เรยี กวา฽ \"สนบั \" https://sites.google.com/site/thaimusic2557/-prapheth-khxng-kheruxng-dntri-thiy 2. รปู ฉ่ิง ฉงิ่ ทาดว฾ ยโลหะหล฽อหนา รูปเหมือนฝาชี ปากกว฾างประมาณ ๖ เซนติเมตร มีรูตรงกลาง สาหรับร฾อยเชือก สารบั หน่งึ มี ๒ อัน เรียกวา฽ คู฽ ตีใหท฾ างปากเขา฾ กระทบประกบกันดัง ฉง่ิ - ฉับ https://sites.google.com/site/thaimusic2557/-prapheth-khxng-kheruxng-dntri-thiy 3. รูปฉาบ ฉาบ ทาด฾วยโลหะหลอ฽ บางกว฽าฉิ่ง รูปเหมือนฉ่ิงแต฽มชี านต฽อออกไปรอบตัว สารับหน่งึ มี ๒ อัน เรยี กวา฽ คู฽ เหมือนกัน ฉาบน้ีมี ๒ ขนาด อยา฽ งเลก็ ขนาดเส฾นผา฽ นศูนยกแ ลางประมาณ ๑๓ เซนติเมตร เรยี กว฽า \"ฉาบเลก็ \" อย฽างใหญ฽ขนาดเส฾นผ฽านศูนยแกลางประมาณ ๒๕ เซนติเมตร เรยี กวา฽ \"ฉาบใหญ\"฽ https://sites.google.com/site/thaimusic2557/-prapheth-khxng-kheruxng-dntri-thiy แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลาร”฾ู ช้ันปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3

102 4. รปู กรับ กรบั เปน็ เคร่ืองตีทเี่ มอื่ ตีแล฾วดัง กรบั - กรบั กรับอย฽างหน่งึ เป็นไม฾ไผผ฽ า฽ ซกี ๒ อัน ถือ มือละอัน แลว฾ เอาทางผวิ ไมต฾ ีกัน เรียกวา฽ \"กรับคู่\" https://sites.google.com/site/thaimusic2557/-prapheth-khxng-kheruxng-dntri-thiy 5. รปู การแต฽งกายการแสดงรารามะนา การแต฽งกาย ท้งั หญงิ และชายแตง฽ กายตามสมยั นยิ มในสมัยรชั กาลที่ ๘ ช฽วงสงครามโลกครั้งท่ี ๒ และหลังสงครามโลกคร้ังท่ี ๒ ซ่ึงจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี http://sunday1994.circlecamp.com/index.php?page=Tee ๖. รูปภาพการแสดงรามะนา http://www.prapayneethai.com 7. เนื้อเพลงรามะนา (ตวั อยา฽ ง) 1. เพลงไหวค฾ รู รารอ฾ งฉลองไหว฾ครู ทา฽ นผู฾ดูชูช฽วยด฾วยกนั หนาวใจกระไรไหวหวนั่ ๆ ขออภัยให฾ฉันเถดิ นะท฽านผด฾ู ู 2. เพลงไตรรงคแ ไตรรงคแธงไทย โบกสะบัดสวยงามสง฽า แปดนาฬิกา สัญญากันว฽ายืนตรง ๆ พอแปดโมงเช฾า ชักธง เคลื่อนออกจากท่ไี ตรรงคสแ ามสี ปลิวสะบัดพัดอย฽เู หนือลม ๆ สีแดงคือชาติ สีขาวคือศาสนา สีน้าเงินน้ันหนา คือมหาจักรพงศแ ๆ แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลาร”ู฾ ชัน้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3

103 3. เพลงโทนรามะนา ได฾ยินเสียงโทนรามะนา ผู฾คนเขามามากหลาย มาทั้งชายและหญิง รักจริงถนอมรักไว฾ มาซิอย฽าทา เป็นอาย ๆ ถ฾ารักพีช่ ายเชิญออกมารา ๆ 4. เพลงราวงสามัคคี มาเถิดนะพวกเรา มาตัง้ วงเข฾าร฽วมสามคั คี เล฽นกนั ฐานน฾องและพี่ ๆ เล฽นกนั ดี ๆ อย฽าใหม฾ ีใจปอง 5. เพลงเชิญมาราวง เชิญเถิดเชิญมาราวง ขอเชิญโฉมยงมาส฽ูวงรา อย฽างเอียงอย฽าอาย อย฽าหน฽ายอย฽าแหนง ๆ อย฽าคิด ระแวงใหช฾ ายชอกชา้ คนสวยขอเชญิ มารา ๆ เธออย฽าลมื น้าคาที่ฉนั ร่าอ฾อนวอน 6. เพลงสาวน฾อยราวง ราเถดิ แม฽สาวน฾อย ยิ้มหนอ฽ ยเวลาจะรา เธอยม้ิ น้ันมเี สน฽หแ ๆ หอมดอกรักเรเ฽ สนห฽ เแ ธอรา ๆ 7. เพลงสวสั ดี สวัสดีเชิญซีมารา ทุกเช฾าค่าฉันเฝูาแต฽เชิญ ฉันมองแล฾วเธออย฽าเมิน ๆ พอฉันร฾องเชิญเธอ ไม฽อยาก รา ๆ ราหน฽อยพอเป็นขวัญตา ฉันได฾มาอ฾อนวอนแต฽หัวค่า ขวัญใจส่ังไว฾ไม฽ให฾รา ๆ เธอจึงทากระบิดกระบวน ๆ 8. เพลงชอ฽ มาลี โอ฾ช฽อมาลี คนดีของพ่ีก็มา สวยจริงหนาเวลาค่าคืน ๆ โอ฾จันทรแไปไหน ทาไมจึงไม฽ส฽องแสง จันทรแ แสวงแสงสวา฽ ง ๆ เมฆน฾อยลอยมาบงั ๆ แสงสวา฽ งก็จางหายไป 9. เพลงเสยี งรามะนา ชาย เสยี งรามะนา แว฽วมาได฾ยินแต฽ไกล อกึ ทึกเร฾าใจ ทาใหอ฾ ยากไปราวง ๆ โจะ฿ พรมึ พรึม โจะ฿ พรมึ พรึม ๆ หญิง ไปซิพ่ีจเาน฾องยาจะขอไปดว฾ ย จะแต฽งตัวแสนสวย สารวยร่นื เริงรามะนา ๆ โจ฿ะ พรมึ พรึม โจ฿ะ พรึมพรึม ๆ 10. เพลงห฾วยกรดสรรคบรุ ี ราเอย฿ รา ราเอเยรามะนา ๆ เปน็ การแสดงพน้ื บ฾านชาวชัยนาทช฽วยกันอนุรักษแเถิดหนา ขอกล฽าวเล฽าความ เป็นมา ๆ ขอเจรจาให฾ท฽านผู฾ฟใง ๆ มาซิมา เชิญซิมาฟใง ชัยนาทนั้นเขามีของดี ๆ ห฾วยกรดเมืองสรรคบุรี ๆ เขามขี องดนี นั้ คือรามะนา 8. อา้ งอิงแหล่งทม่ี าของขอ้ มูล http://ich.culture.go.th/index.php/th/ich/performing-arts/236-performance/ 316-----m-s http://sunday1994.circlecamp.com/index.php?page=Tee https://www.youtube.com/watch?v=WxL7-6YVyIY http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/TNSOC5806170010170 http://www.baanjomyut.com/library_2/history_of_costume/03_7.html แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู฾ ชน้ั ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3

104 ตัวอย่างกจิ กรรมที่ 3 1. ชอ่ื กจิ กรรม เลน่ แบบไทย สนุกอย่างไทย (รี รี ข้าวสาร) 2. เวลาทใี่ ช้ 1 ชัว่ โมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. นักเรยี นได฾รบั ความสนกุ สนานเพลิดเพลิน 2. เสริมสร฾างความสามัคคี มีน้าใจ 3. อนุรักษแวัฒนธรรมพนื้ บา฾ น และวฒั นธรรมของไทย 4. นักเรยี นมีความรเู฾ กี่ยวกบั การรักษแแ ละหวงแหนภมู ปิ ใญญาประจาท฾องถ่นิ ของตน 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน฾ กั เรยี นเลือกการละเลน฽ ไทยที่นักเรยี นสนใจอยากเลน฽ 1 การละเล฽น ดังตวั อยา฽ งตอ฽ ไปน้ี - รรี ีขา฾ วสาร - มอญซ฽อนผ฾า - ม฾าก฾านกลว฾ ย - งกู ินหาง - เกา฾ อีด้ นตรี - ขม่ี ฾าสง฽ เมือง - วิง่ เปี้ยว - ลิงชิงหลกั (ฯลฯ) 2. เมอ่ื นกั เรยี นเลอื กการละเล฽นได฾แล฾ว ครูอธบิ ายและสาธิตวธิ กี ารเล฽นให฾นกั เรียนดู (กรณีตวั อยา฽ ง นกั เรียนเลือกเลน฽ รี รขี ฾าวสาร) วธิ กี ารเล่น รี รขี า้ วสาร กตกิ าการเล่น จบั ไมส฾ นั้ ไม฾ยาว ว฽าใครจะเปน็ ประตู ใหผ฾ เู฾ ล฽น 2 คน ยนื เอามือประสานกนั เหนือศีรษะเป็นประตูโค฾ง คนอนื่ ๆ เกาะไหล฽กนั ลอดใต฾โค฾งไปเร่ือย ๆ สองคนท่ีเป็นประตูจะร฾องเพลงประกอบเวลา แถวลอดใต฾โค฾ง หัวแถว จะต฾องเดินอ฾อมหลังคนท่ีเป็นประตูครั้งละหน เมื่อจบเพลงสอง คนท่ีเป็นประตูจะกระดุกแขนลงกั้นคนสุดท฾าย ให฾อยู฽ระหว฽างกลาง คัดออกไป คนข฾างหลังต฾องระวังตัวให฾ดี ไม฽เช฽นนั้นตัวเองจะต฾องออกจากการเล฽น ต฾องผ฽าน ใหไ฾ ด฾หมดทุกคนจงึ จะจบ 1. ผเ฾ู ลน฽ 2 คนยืนหันหนา฾ เขา฾ หากันโนม฾ ตัวประสานมือกันเป็นรปู ซ฾มุ 2. ส฽วนผ฾ูอืน่ เกาะเอวต฽อ ๆ กันตามลาดบั แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู฾ ชน้ั ปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3

105 3. หวั แถวจะพาลอดใต฾ซม฾ุ มือพร฾อมกบั ร฾องบทร฾องประกอบการเลน฽ 4. เมอื่ ร฾องถึงประโยคทีว่ ฽า “คอยพานคนข฾างหลงั ไว฾” ผ฾ูทป่ี ระสานมือเปน็ ซุ฾มจะลดมือลงกันคน สุดทา฾ ยไว฾ ซ่งึ คนสดุ ทา฾ ยจะถูกคดั ออกไปจากแถว แล฾วจงึ เร่มิ ตน฾ เล฽นใหม฽ทาเช฽นน้นั จนหมดคน เพลงร้องประกอบ \" รีรีข฾าวสาร สองทะนานข฾าวเปลือก เดก็ น฾อยตาเหลอื ก เลือกท฾องใบลาน คดข฾าวใส฽จาน คอยพานคนขา฾ งหลังไว\"฾ คณุ ค่า/แนวคดิ /สาระ 1. ออกกาลงั กายพฒั นากลา฾ มเนอ้ื ส฽วนต฽าง ๆ ของร฽างกายให฾แข็งแรง 2. เพลิดเพลิน จติ ใจร฽าเรงิ แจม฽ ใส ยอมรบั ในกฎเกณฑแกติกาในการเลน฽ 3. หัดให฾เดก็ มีไหวพริบ ปฏิภาณ และร฾จู กั ใช฾กลยทุ ธแท่ีจะใหต฾ นรอดจากการถูกคล฾องตัวไว฾ 4. หัดใหเ฾ ดก็ ร฾ูจักทางานเปน็ กลุ฽มโดยหัวแถวตอ฾ งพยายามพาแถว โดยเฉพาะคนสุดท฾ายใหร฾ อด พน฾ จากการถูกกกั ตัวใหไ฾ ด฾ หมายเหตุ : ครสู ามารถนาการละเล฽นแตล฽ ะท฾องถน่ิ มาปรบั ใช฾ได฾ตามความเหมาะสม 5. สื่อการเรียนรู้ 1. เนอื้ เพลง รี รีข฾าวสาร 2. รูปภาพการละเล฽น รี รขี า฾ วสาร 3. สนาม/ห฾องประชุม 4. ไมส฾ ัน้ ไมย฾ าว 5. เครื่องเลน฽ CD 6. การวัดและประเมนิ ผล สงั เกตพฤติกรรมการเข฾าร฽วมกิจกรรม 7. อา้ งอิงแหล่งทีม่ าของข้อมูล 1. วธิ กี ารเลน่ http://www.patongbeachthailand.com/thai/21_13/680.shtml 2. รปู การเลน่ รีรีขา้ วสาร http://pirun.ku.ac.th/~b5410302206/Page3.html 3. รูปการเลน่ รีรขี ้าวสารhttp://www.patongbeachthailand.com/thai/21_13/680.shtml 4. สาธิตการละเลน่ รีรีข้าวสาร https://www.youtube.com/watch?v=ubTbkvfnHiU แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”ู฾ ชนั้ ปะถมศึกษาปีที่ 1 - 3

106 หมวด 4 สรา้ งเสรมิ ทักษะการทางาน การดารงชพี และทักษะชวี ิต กล่มุ กิจกรรมท่ี 13 ตอบสนองความสนใจ ความถนดั และความต้องการ ของผูเ้ รียน ตามความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล ตัวอย่างกิจกรรมท่ี 1 ๑. ช่ือกิจกรรม แรลล่ีเกษตรนา่ รู้ ๒. เวลาท่ใี ช้ ๑ ช่ัวโมง ๓. วตั ถุประสงค์ ๑. เพอ่ื ให฾นักเรยี นมีเจตคติทดี่ ีต฽ออาชีพสุจรติ ๒. เพือ่ ฝึกนักเรยี นให฾มีนิสัยใฝุเรยี นใฝรุ แ฾ู ละทางานเป็นหมคู฽ ณะ ๓. เพื่อใหน฾ กั เรยี นนาความรไู฾ ปใชใ฾ นชวี ติ ประจาวัน ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ออกแบบกิจกรรมการเรยี นร฾ู เช฽น กิจกรรมการปลกู ผกั สวนครัวในภาชนะ/กิจกรรมการเลี้ยงปลา สวยงาม/กิจกรรมการทาป฻ยุ หมัก/และหรือกจิ กรรมอ่นื ๆ ตามความพรอ฾ มและบรบิ ทของโรงเรียน ๒. เตรียมวัสดุอุปกรณแตามกิจกรรมที่กาหนดให฾พร฾อมและเพียงพอต฽อการปฏิบัติกรรมและจานวน นกั เรียน ๓. จัดเตรียมสถานที่ใช฾ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นร฾เู ปน็ ฐานตา฽ ง ๆ พรอ฾ มสถานที่แสดงผลงาน ๔. เตรียมผ฾ูดูแลเพ่ือรับผิดชอบฐานการเรียนรู฾ต฽าง ๆ พร฾อมสร฾างความรู฾ความเข฾าใจในการนานักเรียน ทากจิ กรรมตามฐานเรยี นรู฾ ๕. ชแ้ี จงรายละเอียดการเข฾าร฽วมกิจกรรมใหน฾ ักเรียนเข฾าใจ พร฾อมแบ฽งนักเรียนเป็นกล฽ุมๆ เพื่อเข฾าเรียนร฾ู และปฏิบัตกิ ิจกรรมตามฐาน ๖. ใหน฾ กั เรยี นแตล฽ ะกลุม฽ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามลาดับ ดังนี้ 1. ชมสาธิตการใช฾เครื่องมือให฾ปลอดภัยและขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมการปลูกผักสวนครัว กจิ กรรมการเล้ยี งปลาสวยงาม/กจิ กรรมการทาป฻ุยหมัก โดยผดู฾ แู ลฐานอธบิ ายหรือชมวีดิทัศนแ 2. ผ฾ูดูแลกิจกรรมร฽วมกับนักเรียนศึกษาวิเคราะหแข้ันตอนการปฏิบัติ การใช฾วัสดุอุปกรณแและ เคร่อื งมอื พร฾อมสรุปข้ันตอนให฾ทกุ คนสามารถปฏิบัติได฾อย฽างถูกตอ฾ งและปลอดภัย 3. ให฾นักเรียนลงมือปฏิบัติตามขั้นตอนกิจกรรมโดยเสรี ในแต฽ละฐาน ใช฾เวลา 10 นาทีแล฾ว เปล่ียนไปเรียนฐานอน่ื จนครบทกุ ฐาน แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลาร”฾ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3

107 4. เม่ือนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมครบถ฾วนแล฾วให฾ตรวจสอบความเรียบร฾อย สมบูรณแและสอบถาม ความพอใจแลว฾ นาผลงานไปจัดแสดงในสถานทท่ี ่ีเตรยี มไว฾ 5. นานักเรียนชมผลงานพร฾อมซักถาม ช่ืนชมผลงาน การยอมรับผลงานและการพัฒนาคุณภาพ การปฏบิ ตั ิ คุณภาพผลงาน และมอบหมายหน฾าทดี่ ูแลรกั ษาให฾นกั เรยี นทกุ คนรับผดิ ชอบต฽อผลงานของตน ๕. ส่ือการเรียนรู้ ๑. ตน฾ กล฾าผกั สวนครัว/เมลด็ พนั ธแุพืชทมี่ ีในทอ฾ งถิน่ /พันธแุปลาสวยงาม/วสั ดเุ หลือใชต฾ ฽าง ๆ ในการทาปยุ฻ ๒. กระถาง/ ขวดพลาสตกิ /กระป฻อง /ถงุ พลาสติกฯล ๓. วดี ทิ ัศนแการสาธติ การเพาะหรือปลูกผักสวนครวั /การทาปุ฻ย/หรือใช฾วทิ ยากรท฾องถ่นิ /ครู /นักเรยี น ๔. ดนิ ชอ฾ นปลกู บวั รดนา้ ๖. การวดั ประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรม 2. สงั เกตชน้ิ งาน ๗. ภาพประกอบ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู฾ ชั้นปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

108 ๓. การทาปุ๋ยหมกั ตะกร้า ๘. อา้ งอิงแหลง่ ท่ีมาของข้อมลู www.jairsa.com/ www.blogspot.com/ www.thaiarcheep.com/ www.pantip.com/ http://www.moe.go.th/ แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู฾ ชั้นปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3

109 ตัวอยา่ งกิจกรรมท่ี 2 1. ชื่อกิจกรรม มาสนกุ กบั ศลิ ปะกนั เถอะ 2. เวลาท่ีใช้ 5 ช่ัวโมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อใหน฾ ักเรียนมกี ารพฒั นาทางด฾านรา฽ งกาย จติ ใจ สติปใญญา 2. เพือ่ ให฾นักเรียนมคี วามคิดรเิ รม่ิ สรา฾ งสรรคแ 3. เพือ่ ให฾นกั เรียนร฾ูจักชืน่ ชมความงามสนุ ทรยี ภาพ ซง่ึ มีคณุ ค฽าตอ฽ มนุษยแ 4. เพอ่ื ส฽งเสรมิ ให฾นกั เรยี นมคี วามเช่อื มน่ั ในตนเองอันเปน็ พื้นฐานในการศึกษาต฽อ หรอื ประกอบวชิ าชีพ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 วาดรปู การแตูนทีฉ่ ันชอบ การวาดภาพระบายสี หมายถึง การขูด ขีด เขยี น ระบายดว฾ ยสชี นิดต฽าง ๆ ด฾วยวธิ กี ารตา฽ ง ๆ กนั มีลักษณะสองมติ ิคอื กว฾างและยาว ส฽วนมิตทิ ่สี ามคือความตื้นลึกนน้ั อยู฽ท่ีความรส฾ู ึกของผูท฾ ี่ไดช฾ มภาพนน้ั ๆ 1. ครซู กั ถามนักเรยี นเร่ืองราวเกยี่ วกับการแตูนที่เด็ก ๆ ร฾จู ัก 2. ครูให฾โอกาสเดก็ เสนอช่ือการตแ ูนที่เด็ก ๆ รูจ฾ กั และเคยดู 3. ครูแจกกระดาษพรอ฾ มกบั ใหเ฾ ด็ก ๆ วาดรูปการแตูนที่เด็ก ๆ ชอบมาคนละ ๑ ตวั www.pocketonline.net my.dek-d.com แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”฾ู ช้ันปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3

110 www.sabuyjaishop.com www.youtube.com ช่วั โมงท่ี ๒ วาดภาพระบายสีจากจนิ ตนาการ การวาดภาพจากจินตนาการ หมายถึง การคิดแบบสร฾างสรรคแ การคิดนอกกรอบ การคิดส่ิงท่ี ยังไม฽เกิดข้ึนจริง หรือสิ่งที่มีอย฽ูแล฾วให฾มีการเปล่ียนแปลงไปตามความคิดของเราเอง แล฾วถ฽ายทอดลงสู฽กระดาษ ให฾เกิดเรอื่ งราวที่แปลก ๆ ใหมข฽ น้ึ 1. ครูอธบิ ายถงึ ความหมายของจนิ ตนาการให฾เด็กฟใง 2. ครูยกตวั อยา฽ งความสาคญั ของจนิ ตนาการ 3. ครูเปดิ โอกาสใหเ฾ ดก็ แสดงความคิดจินตนาการของตัวเอง 4. ครูให฾เด็กวาดภาพจากจนิ ตนาการของเดก็ เองพรอ฾ มกับระบายสตี กแต฽งใหเ฾ รยี บร฾อย ktbwiset.wordpress.com pantip.com แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”฾ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

111 topicstock.pantip.com www.oknation.net ชัว่ โมงที่ ๓ การปนใ้ ตามจินตนาการ 1. ครอู ธิบายถงึ การปนใ้ เป็นกระบวนการหนึ่งในงานประตมิ ากรรมที่มีลักษณะเปน็ 3 มติ ิ มีความกว฾าง ความยาว ความหนา สามารถจับต฾องหรือสัมผัสได฾ การปใ้นสามารถทาได฾โดยการนา ส฽วนยอ฽ ยมารวมกันใหเ฾ กดิ เป็นรูปทรงตามต฾องการ 2. ครูอธบิ ายถึงความหมายของจนิ ตนาการว฽าคืออะไรจากน้ันจึงให฾นักเรียนแบ฽งกล฽ุมออกเป็น กลม฽ุ ๆ แล฾วจึงแจกอปุ กรณแ (ดนิ นา้ มัน) 3. ครูสงั่ ใหน฾ กั เรยี นปใ้นดินน้ามนั เป็นรปู ตา฽ ง ๆ ตามจนิ ตนาการ 4. ครคู อยใหค฾ าปรึกษาและดแู ลอย฽างใกล฾ชดิ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรียน เพิม่ เวลาร”฾ู ชัน้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3

112 www.sbs.ac.th p-dit.com www.punfuncreation.com jaikoh.exteen.com แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลาร”฾ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

113 ชั่วโมงที่ ๔ การพิมพแภาพด฾วยนิ้วมอื งานพิมพแภาพเป็นรูปต฽าง ๆ ท่ีมีมานาน เพียงแต฽เราจะต฾องร฾ูจักดัดแปลงและยังสามารถนาไปเป็น สินค฾าได฾อีก เช฽น การพิมพแเสื้อ พิมพแลายผ฾า การพิมพแลายกระดาษ หรือการพิมพแลงบนภาชนะและ วัสดุต฽าง ๆ ซงึ่ ล฾วนแลว฾ มาจากจากรากฐานการพมิ พทแ ้งั สิ้น http://artkidgraphic.blogspot.com/ 1. ครูอธิบายขั้นตอนในการทาพร฾อมเตรยี มอปุ กรณแในการพมิ พแ 2. ใชน฾ ว้ิ มือข฾อปลายสดุ จุ฽มสนี ้าแล฾วแตะลงบนฟองนา้ เบา ๆ เพื่อไมใ฽ ห฾สนี ้าตดิ นว้ิ มือมากเกินไป 3. นานวิ้ มือทจ่ี ม฽ุ สีนา้ กดลงบนกระดาษที่เตรียมไว฾ 4. ใชด฾ ินสอสวี าดตอ฽ เติมเป็นภาพตา฽ ง ๆ ตามความคิดของเด็กแตล฽ ะคน www.youtube.com www.kukai.ac.th www.kukai.ac.th แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลาร”ู฾ ช้นั ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3

114 artsforkids.blogspot.com ชว่ั โมงท่ี ๕ การพมิ พดแ ว฾ ยเศษวสั ดธุ รรมชาติ (ใบไม฾) การพิมพ์ภาพ คอื การ สรา฾ งภาพจากการใช฾แม฽พิมพแ ซง่ึ วัสดุที่ใชเ฾ ปน็ แม฽พิมพมแ ที งั้ วัสดุธรรมชาติและ วัสดุสังเคราะหแภาพที่ เกิดจาการพิมพแภาพมีลักษณะเหมือนกับแม฽พิมพแ แต฽เป็นภาพกลับกัน ด฾านขวามือ ของแมพ฽ ิมพแจะเปน็ ดา฾ นซา฾ ยมือของภาพพิมพแ และด฾านซา฾ ยของแมพ฽ ิมพแจะเป็นดา฾ นขวามือของภาพพิมพแ https://homegame9.wordpress.com 1. ผสมสีน้าลงในภาชนะทเ่ี ตรียมไวโ฾ ดยผสมสนี ้าใหม฾ ีความเข฾มข฾นพอประมาณ 2. ใช฾พก฽ู ันจมุ฽ สีนา้ ระบายลงบนดา฾ นสากของใบ (ด฾านท฾องใบ) เพราะดา฾ นนก้ี ฾านใบจะเด฽นกวา฽ ด฾านมนั (ด฾านหลงั บน) และควรเลอื กใบไม฾ชนิดที่กา฾ นแข็งไม฽เหี่ยวง฽าย เช฽น ใบโพ ใบมะมว฽ ง ใบขนุน ฯลฯ 3. วางใบไม฾ท่ีซ฾อนกนั หลาย ๆ ช้ัน หงายด฾านท่ีตดิ สนี ้าขน้ึ 4. วางกระดาษที่ต฾องการจะใชพ฾ ิมพแทับลงบนใบไมท฾ ่หี งายทีต่ ดิ สีน้าขน้ึ 5. ใชห฾ ลังชอ฾ นกดลงบนกระดาษอีกครง้ั หน่งึ โดยกดบริเวณใบไมใ฾ ห฾ท่วั 6. ค฽อย ๆ ยกกระดาษขน้ึ จะไดภ฾ าพใบไมต฾ ิดบนกระดาษตามตอ฾ งการ www.kukai.ac.th artsforkids.blogspot.com www.dusitcenter.org แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลาร”ู฾ ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3

115 5. สอื่ การเรยี นรู้ ๑. รปู ภาพงานศลิ ปะ ๒. วสั ดุ อปุ กรณแ การจัดทางานศลิ ปะ ๓. ห฾องสมุด ห฾องคน฾ ควา฾ ทางเทคโนโลยี 6. การวดั ผลและประเมินผล ๑. สังเกตจากการเข฾ารว฽ มกจิ กรรม ๒. สังเกตจากผลงานทไ่ี ดป฾ ฏิบตั ิ 7. ภาพประกอบ ภาพตามกิจกรรมตา฽ ง ๆ ๘. อ้างอิงแหล่งทม่ี าของขอ้ มลู www.pocketonline.net my.dek-d.com www.sabuyjaishop.com ktbwiset.wordpress.com pantip.com topicstock.pantip.com www.oknation.net www.sbs.ac.thp-dit.com www.punfuncreation.com jaikoh.exteen.com http://artkidgraphic.blogspot.com/ www.kukai.ac.thwww.youtube.comartsforkids.blogspot.com https://homegame9.wordpress.com http://artsforkids.blogspot.com/ www.dusitcenter.org แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”฾ู ช้นั ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3

116 ตวั อย่างกจิ กรรมท่ี 3 1. ช่ือกิจกรรม วสั ดหุ รรษา พาเพลนิ (แกนกระดาษชาระ ปะติดสัตว์นอ้ ย) 2. เวลาที่ใช้ 3 ช่ัวโมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหน฾ ักเรยี นรจู฾ ักใช฾เวลาว฽างให฾เกิดประโยชนแ 2. เพื่อให฾นกั เรียนมีสมาธิ รจ฾ู ักการวางแผนการทางานและลาดับขนั้ ตอนการทางานได฾ 3. เพอื่ ให฾สามารถทางานรว฽ มกบั ผ฾อู ่ืนได฾ 4. เพอ่ื นาไปส฽ูการสรา฾ งสรรคแผลงานอืน่ ๆ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู ห฾นักเรียนดูรูปสตั วแต฽าง ๆ 2. ครใู ห฾นกั เรียนดอู ปุ กรณแท่ีครูเตรียมมา 3. ครูซกั ถามนักเรียนวา฽ จะทาสตั วอแ ะไรได฾บ฾าง 4. ครใู ห฾นักเรียนดูตัวอยา฽ งสัตวแท่ีทาดว฾ ยแกนกระดาษชาระ 5. ครูให฾นกั เรยี นฝึกทาสัตวตแ า฽ ง ๆ จากแกนกระดาษชาระ 6. ครอู าจใหน฾ กั เรียนนาสตั วแที่นักเรยี นประดิษฐแมาแตง฽ เป็นนทิ านสนั้ ๆ กลุ฽มละ 1 เร่ือง ชว่ั โมงที่ 1 ตอน พี่นกฮกู วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ใ่ี ช้ 1. แกนกระดาษทิชชู 2. สนี า้ 3. พ฽ูกัน 4. กระดาษสี 5. กาว 6. กรรไกร ขนั้ ตอนการทา 1. ย฾อมสแี กนกระดาษทชิ ชู 2. ตดิ ขานกฮูกดว฾ ยกระดาษ พรอ฾ มติดตัวนกฮกู ดว฾ ยกระดาษกลม ๆ เล็ก ๆ 3. ตดิ ปากนกฮูก 4. ติดตานกฮูกใหส฾ วยงาม แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”฾ู ชั้นปะถมศึกษาปที ี่ 1 - 3

117 ชว่ั โมงท่ี 2 ตอน นอ฾ งแมวน฽ารัก วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ 1. แกนกระดาษทิชชู 2. สีน้า 3. พู฽กนั 4. กระดาษสี 5. กาว 6. กรรไกร 7. ปากกา ขัน้ ตอนการทา 1. ยอ฾ มสีแกนกระดาษทชิ ชู 2. ติดตา จมูกด฾วยกระดาษ พร฾อมตดิ ตัวเคร่ืองประดับให฾น฾องแมว ชว่ั โมงที่ 3 ตอน ไก฽ กะต฿าก กะตา฿ ก วสั ดแุ ละอุปกรณ์ท่ใี ช้ 1. แกนกระดาษทิชชู 2. สนี ้า 3. พู฽กัน 4. กระดาษสี 5. กาว 6. กรรไกร 7. ปากกา ขน้ั ตอนการทา 1. ย฾อมสแี กนกระดาษทชิ ชู 2. ตดิ ตา จมูก ขา ดว฾ ยกระดาษ พร฾อมตดิ ตัวเคร่ืองประดบั ให฾น฾องแมว 3. ตดิ หงอนไก฽ ปีก หาง ด฾วยกระดาษสีหลากสี 5. สอ่ื การเรียนรู้ 1. ภาพรปู วสั ดุตา฽ ง ๆ 2. วัสดุ อปุ กรณแ สาหรบั จดั ทางานประดิษฐแ เช฽น แกนกระดาษทชิ ชู /พูก฽ ัน/ กระดาษสี /สนี ้า/กาว /กรรไกร/ ปากกา 6. การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเขา฾ ร฽วมกิจกรรม 2. สงั เกตช้ินงาน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”฾ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

118 7. ภาพประกอบ สง่ิ ประดิษฐ์ต่าง ๆ ท่ีทาด้วยแกนกระดาษชาระ 8. อ้างอิงแหล่งท่ีมาของข้อมูล http://p-dit.com แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู฾ ชั้นปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3

119 ตวั อย่างกจิ กรรมที่ 4 1. ชือ่ กิจกรรม การทาทคี่ น่ั หนงั สือ 2. เวลาท่ใี ช้ 1 ชว่ั โมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. อธิบายขั้นตอนและทาที่ค่ันหนังสือได฾ 2. เลอื กวสั ดุเหลือใช฾มาประดิษฐขแ องใชไ฾ ด฾ 3. บอกประโยชนแการทาท่คี ่ันหนงั สือได฾ 4. กิจกรรมการเรียนรู้ อปุ กรณ์ 1. กระดาษสีสวย 2. กรรไกร 3. สีเมจกิ 4. ไม฾บรรทัด 5. คตั เตอรแ ขนั้ ตอนการทา 1. ตดั กระดาษ สาหรับคน่ั หนังสือ ตัดขนาดตามต฾องการ เชน฽ 4 x 1.5 นิว้ 2. วาดรปู แมว วาดมือแมว ห฾อยลงมา ตามรูปด฾านล฽าง 3. ใช฾คัตเตอรแกรีด รอบ ๆ แขนแมว 5. สื่อการเรียนรู้ ใบความร฾ู/วัสดอุ ุปกรณแสาหรับทาทก่ี นั้ หนงั สือ 6. การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกตการเข฾าร฽วมกจิ กรรม 2. สังเกตผลงาน 7. ภาพประกอบ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลาร”฾ู ช้ันปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3

120 8. อ้างอิงแหล่งทม่ี าของขอ้ มูล http://p-dit.com/2015/06/26/7098/ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”฾ู ชน้ั ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

121 กลมุ่ กิจกรรมท่ี 14 ฝกึ การทางาน ทักษะทางอาชีพ ทรพั ย์สนิ ทางปญั ญา อยูอ่ ย่างพอเพียง และมวี นิ ยั ทางการเงิน ตวั อย่างกิจกรรมที่ 1 1. ช่ือกิจกรรม กล้วยอาบแดด 2. เวลาทใี่ ช้ 2 ชัว่ โมง (5 – 8 วัน) 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให฾นกั เรียนนากล฾วยสุกมาตากแห฾งได฾ 2. เพ่ือให฾นักเรยี นมเี จตคติท่ีดีตอ฽ อาชีพ 3. เพื่อให฾นกั เรยี นนาไปใชใ฾ นชีวิตประจาวันได฾ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วสั ดอุ ุปกรณ์ 1. กลว฾ ยสกุ 2. เกลือ 3. นา้ วธิ ที า 1. นากล฾วยสุกมาปอกเปลือก แล฾วล฾างด฾วยน้าเกลือ เรียงลงบนตะแกรง นาไปตากแดดจนกล฾วยเกือบ แห฾งสนิท นานประมาณ 3 - 5 วนั (แลว฾ แต฽ความแรงของแสงแดด) และหม่ันคอยพลกิ กลบั ด฾านอยูเ฽ สมอ 2. ก฽อนนากล฾วยไปตากแดดในวันที่ 6 ให฾ละลายน้ากับเกลือให฾เข฾ากัน นาขึ้นต้ังไฟต฾มจนเดือด ท้ิงไว฾ จนเยน็ จากนน้ั ใชข฾ วดนา้ คลึงหรือกดกล฾วยให฾แบน แล฾วนากล฾วยลงไปล฾างในน้าเกลือท่ีเตรียมไว฾ จากนั้นนากล฾วย วางเรียงบนตะแกรง นาไปตากแดดอีก 1 - 2 วัน จนกลว฾ ยแห฾งไดท฾ ี่ 3. เมื่อกล฾วยแห฾งได฾ท่ีแล฾ว ใส฽กล฾วยลงในหม฾อ ปิดฝาให฾สนิท วางท้ิงไว฾ 1 คืน เพ่ือให฾น้าตาลจากกล฾วย ซมึ ออกมา (กลว฾ ยจะเงาและไมแ฽ หง฾ ) จากนนั้ เก็บใส฽ภาชนะทีม่ ฝี าปดิ มิดชดิ พรอ฾ มรบั ประทาน หมายเหตุ : ข้ันตอนท่ี 1 และ 3 สามารถใช฾เวลาว฽าง ๆ ตอนกอ฽ นเข฾าเรียนภาคเช฾า หรอื ตอนพักกลางวนั 5. สอ่ื การเรียนรู้ 1. วัสดอุ ุปกรณแ 2. วทิ ยากรทอ฾ งถิน่ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”฾ู ชั้นปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

122 6. การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเขา฾ ร฽วมกิจกรรม 2. ซักถามความพึงพอใจ 7. ภาพประกอบ ที่มา : http://cooking.kapook.com/view82396.html 8. อา้ งอิงแหล่งที่มาของขอ้ มลู http://cooking.kapook.com/view82396.html แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลาร”฾ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3

123 ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี 2 1. ช่ือกิจกรรม วสั ดหุ รรษา พาเพลิน (การร้อยลูกปดั ) 2. เวลาท่ใี ช้ 3 ช่วั โมง 3. วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ให฾นักเรียนรูจ฾ ักใชเ฾ วลาว฽างใหเ฾ กิดประโยชนแ 2. เพื่อให฾นกั เรยี นมสี มาธิ ร฾จู กั การวางแผนการทางานและลาดับขนั้ ตอนการทางานได฾ 3. เพือ่ ให฾สามารถทางานร฽วมกบั ผ฾อู ืน่ ได฾ 4. เพอื่ นาไปส฽ูการสร฾างสรรคแผลงานอนื่ ๆ 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหน฾ กั เรียนดภู าพสร฾อยข฾อมือลกู ปดใ รูปแบบตา฽ ง ๆ 2. ครูใหน฾ ักเรียนดูสรอ฾ ยข฾อมือทร่ี อ฾ ยจากลกู ปใด และให฾นักเรียนบอกลักษณะ 3. ครใู ห฾นกั เรยี นฝึกรอ฾ ยสรอ฾ ยข฾อมือ 4. ครใู หน฾ กั เรยี นวาดภาพลูกปดใ ทีต่ นเองร฾อยในครั้งน้ี 5. ครใู หน฾ ักเรยี นคดิ ออกแบบลกู ปใดที่นักเรียนอยากรอ฾ ยในครัง้ ต฽อไป ช่วั โมงท่ี 1 ตอน สรอ฾ ยข฾อมือของหนู วัสดแุ ละอุปกรณ์ทใ่ี ช้ 1. ลกู ปใดขนาดตา฽ ง ๆ 2. เสน฾ เอน็ สาหรับร฾อยลูกปดใ 3. กรรไกร 4. ตะขอ/หว฽ ง 5. วัสดตุ กแต฽ง ข้ันตอนการทา 1. ให฾นกั เรียนตัดเสน฾ เอน็ ใหย฾ าวกวา฽ ข฾อมือตนเอง 3 เทา฽ (ให฾นักเรียนตัดเอง) 2. รอ฾ ยลูกปใดเมด็ เล็ก (ลูกปดใ ทใ่ี ช฾สาหรับค่นั หรอื เม็ดคั่น) 3. จบั คูป฽ ลายทั้งสองดา฾ นและรอ฾ ยตวั ปดิ ปม และใส฽ตะขอกา฾ มปู 4. รอ฾ ยลูกปใดตามแบบท่ีครูกาหนด จนพอดีข฾อมอื นักเรยี น 5. ใส฽หว฽ งสาหรับตดิ ผูกให฾แน฽น แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”฾ู ชัน้ ปะถมศึกษาปที ี่ 1 - 3

124 ชว่ั โมงที่ 2 ตอน ของขวญั น้ี มคี ฽าย่งิ วัสดแุ ละอุปกรณ์ที่ใช้ 1. ลกู ปใดขนาดต฽าง ๆ 2. เส฾นเอ็น สาหรับรอ฾ ยลกู ปใด 3. กรรไกร 4. ตะขอ/หว฽ ง 5. วัสดุตกแตง฽ ขัน้ ตอนการทา 1. ให฾นักเรยี นออกแบบสรอ฾ ยข฾อมือเอง 2. ให฾นักเรียนตัดเส฾นเอ็นให฾ยาวพอดีกับสร฾อยข฾อมือบคุ คลท่ีนักเรยี นต฾องการมอบเปน็ ของขวญั 3. รอ฾ ยลูกปดใ เม็ดเลก็ (ลูกปใดท่ใี ชส฾ าหรับคั่นหรอื เม็ดค่นั ) 4. จับคป฽ู ลายทง้ั สองด฾านและร฾อยตวั ปดิ ปม และใส฽ตะขอกา฾ มปู 5. รอ฾ ยลูกปดใ ตามแบบที่นกั เรียนออกแบบตามความชอบ 6. ใสห฽ ฽วงสาหรบั ตดิ ผูกให฾แนน฽ 7. ให฾นักเรียนนาสร฾อยข฾อมอื ทร่ี อ฾ ยเสร็จมาให฾ครแู ละเพื่อนๆดูและบอกวา฽ จะมอบเป็นของขวัญ ใหใ฾ คร เพราะอะไร ช่วั โมงที่ 3 ตอน ลูกไม฾ตืน้ ๆ วสั ดแุ ละอุปกรณท์ ใ่ี ช้ 1. ลกู ปใดขนาดตา฽ งๆ 2. ลวดเส฾นเลก็ 3. กรรไกร 4. ผา฾ ลูกไม฾ 5. ตะขอ/หว฽ ง 7. คีมดดั ลวด ขน้ั ตอนการทา 1. นาลวดเส฾นเลก็ ดดั ปลายดา฾ นบนใหเ฾ ปน็ วงกลม สาหรับใส฽ตะขอ 2. นาผ฾าลูกไม฾ มารอ฾ ยใส฽ลวด พบั 1 ทบ แล฾วตามดว฾ ยลูกปใด 3. รอ฾ ยไปเรื่อย ๆ จนรอบขอ฾ มือพอดี 4. พันลวด ใหเ฾ ป็นวงกลม 5. ตดิ ตะขอทง้ั สองด฾านให฾เรียบร฾อย แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลาร”ู฾ ชัน้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3

125 5. สื่อการเรียนรู้ 1. ภาพสรอ฾ ยขอ฾ มือลูกปดใ 2. วัสดุ อุปกรณแ การรอ฾ ยมาลยั 6. การวดั และประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมการทางาน 2. สงั เกตชิน้ งาน 7. ภาพประกอบ แบบสร้อยขอ้ มือตา่ ง ๆ 8. อา้ งอิงแหล่งท่ีมาของข้อมูล http://p-dit.com http://p-dit.com/2013/11/07/3388/ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”฾ู ชน้ั ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3

126 ตวั อย่างกจิ กรรมท่ี 3 1. ช่ือกจิ กรรม การดองไขเ่ คม็ 2. เวลาทีใ่ ช้ 1 ชว่ั โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให฾นักเรียนสามารถทาไข฽เค็มไวร฾ ับประทานเองได฾ 2. เพ่ือให฾นกั เรยี นมเี จตคติทด่ี ีต฽ออาชีพสจุ รติ 3. เพ่ือให฾นักเรียนนาประสบการณแไปประยุกตใแ ช฾ในชวี ติ ประจาวัน 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ วสั ดอุ ุปกรณ์ 1. ไข฽เป็ดดบิ 10 ฟอง 2. เกลือ 1 ถ฾วยตวง 3. นา้ 1 ลิตร 4. ภาชนะสาหรับดองไข฽ (ทไี่ ม฽ทาปฏิกิริยากบั เกลือ เชน฽ โหลแกว฾ โหลพลาสติก กะละมัง เครื่องเคลอื บดนิ เผา) วธิ ีการ 1. ล฾างไข฽เป็ดให฾สะอาด สะเด็ดน้าจนแห฾งสนิท ใสล฽ งในโหลแกว฾ เตรียมไว฾ 2. ทานา้ เกลอื สาหรบั ดองไข฽ โดยใสเ฽ กลอื กับน้าลงในหม฾อ นาขึน้ ต้ังไฟจนเดือด และคนให฾เกลือ ละลายจนหมด ยกลงจากเตา พักทิ้งไวจ฾ นเย็นสนิท 3. เทนา้ เกลือท่เี ย็นแลว฾ ลงในโหลจนท฽วมไข฽ จากนัน้ ใชถ฾ งุ พลาสติกใส฽นา้ วางทับลงไปให฾ไข฽เป็ด จมอยใู฽ ตน฾ ้า ตลอดเวลา ปิดฝาใหส฾ นทิ เก็บไว฾ในทีร่ ฽ม (2 สัปดาหแสามารถทาไข฽ดาว 3 สัปดาหแ สามารถนามาทาไข฽ตม฾ ) 5. สอ่ื การเรียนรู้ 1. วัสดุ อปุ กรณแ สาหรับการทาไข฽เคม็ ๒. วทิ ยากรทอ฾ งถิน่ 6. การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเข฾าร฽วมกิจกรรม 2. ซกั ถามความพงึ พอใจ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลาร”฾ู ชน้ั ปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3

127 7. ภาพประกอบ http://cooking.kapook.com/view87786.htmlhttp://watchanschool.com/news- detail_4315_62493 8. อา้ งอิงแหล่งที่มาของขอ้ มูล https://sites.google.com/site/foodntechnology/kar-thnxm-xahar-food- preservation/1 http://cooking.kapook.com/view87786.htmlhttp://watchanschool.com/news- detail_4315_62493 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลาร”฾ู ชนั้ ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3

128 ตวั อย่างกจิ กรรมที่ 4 1. ช่อื กจิ กรรม ขนมโคหลากสี 2. เวลาท่ีใช้ 1 ชัว่ โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพอื่ ให฾นักเรยี นสามารถทาขนมอยา฽ งง฽ายไวร฾ ับประทานเองได฾ 2. เพอ่ื ให฾นกั เรยี นเลือกสีธรรมชาตจิ ากพชื มาใช฾ในการทาขนมโคได฾ 3. เพอื่ ฝึกให฾นกั เรยี นรกั การทางาน และทางานร฽วมกับผ฾ูอ่ืนได฾ 4. เพื่อให฾นักเรยี นสามารถนาไปต฽อยอดเป็นอาชีพอิสระได฾ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วัสดอุ ุปกรณ์ 1. กระทะ 2. กะละมัง 3. กระชอน 4. หมอ฾ ส฽วนประกอบ 1. มะพร฾าวขูด 2. เกลือ 3. แปงู ข฾าวเหนยี ว 4. น้าตาลแว฽นตดั เป็นก฾อนสีเ่ หลี่ยมพอคา 5. นา้ 6. นา้ สมุนไพร (สีเขียวจากใบเตย สแี ดงจากกระเจี๊ยบ สีม฽วงจากดอกอัญชัน สีเหลืองจากน้าขมน้ิ ) วิธีการทา 1. เทแปงู ขา฾ วเหนยี วทีเตรียมไวใ฾ ส฽กะละมัง ใส฽นา้ สมนุ ไพรที่เตรียมไว฾ 2. นวดแปงู กับน้าสมุนไพรจนนุ฽มไมต฽ ดิ มือปนใ้ แปูงเป็นก฾อนกลมเสน฾ ผ฽าศูนยแกลางประมาณ 1 น้วิ 3. แผ฽แปูงออกใสน฽ ้าตาลแว฽น หุ฾มแปงู ใหม฾ ิดคลึงให฾กลม 4. นาน้าใส฽หมอ฾ ตง้ั ไฟใหเ฾ ดือด ใสข฽ นมลงต฾มไป พอลอย ตักข้ึน สะเด็ดนา้ 5. นามะพรา฾ วขดู ใส฽เกลือเล็กน฾อยคลกุ ให฾เขา฾ กันนาขนมลงคลุกมะพร฾าวให฾ทว่ั จดั ใส฽จาน 5. สื่อการเรียนรู้ 1. ใบความรู฾ /รปู ภาพ /วสั ดุ อปุ กรณแ การทาขนมโคหลากสี 2. วทิ ยากรทอ฾ งถน่ิ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลาร”ู฾ ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีที่ 1 - 3

129 6. การวดั และประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมการเขา฾ ร฽วมกิจกรรม 2. การซกั ถามความพงึ พอใจ 7. ภาพประกอบ 8. อ้างองิ แหล่งทีม่ าของขอ้ มลู http://www.pim.in.th/thai-dessert/635-kanom-ko แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”฾ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3

130 ตวั อยา่ งกิจกรรมท่ี 5 1. ชอ่ื กจิ กรรม ไสเ้ ดือนดินน่ารัก 2. เวลาทใ่ี ช้ ๓ ชั่วโมง (3 สปั ดาห)แ 3. วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให฾นกั เรยี นเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ 2. เพื่อให฾นกั เรยี นรู฾จัก เขา฾ ใจและเห็นความสาคัญของไสเ฾ ดือนดิน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. กระต฾ุนความสนใจของนกั เรียนโดยการใช฾คาถาม เช฽น นักเรียนรู฾จักไสเ฾ ดอื นดินหรือไม฽ มีลักษณะ อย฽างไร ไสเ฾ ดือนดินอาศัยอยทู฽ ไ่ี หน ไส฾เดือนดินกินอะไรเปน็ อาหาร บอกประโยชนแของไส฾เดือนดนิ 2. แบ฽งกล฽ุมนักเรียนเป็นกลุ฽ม ๆ ละ 3 - 5 คน พร฾อมท้ังแจกอุปกรณแการทดลองให฾นักเรียนแต฽ละ กลม฽ุ ร฽วมกบั รับผดิ ชอบ 3. มอบหมายให฾นักเรียนแต฽ละกลุ฽มเลี้ยงไส฾เดือนของกล฽ุมท่ีตนเองรับผิดชอบเป็นระยะเวลา ๓ วัน ให฾นกั เรยี นสังเกตและบันทึกผลการทดลองเป็นระยะ อาจใชเ฾ วลาเชา฾ ก฽อนเข฾าเรยี น พักกลางวัน หลงั เลกิ เรยี น 4. นักเรยี นแตล฽ ะกลุม฽ ส฽งตวั แทนนาเสนอหนา฾ ชน้ั เรียน 5. ครูและนักเรยี นร฽วมกนั สรุปความรท฾ู ไ่ี ด฾ เพ่ือให฾เกดิ ความเข฾าใจที่ตรงกันและองคคแ วามรู฾ ทค่ี งทน 5. ส่อื การเรยี นรู้ 1. ใบความร฾ูเก่ยี วกับประโยชนขแ องไสเ฾ ดือนดิน 2. ภาพไส฾เดือนดิน วัสดุอปุ กรณแ ๑. ภาชนะพลาสติกใสทรงสงู และแคบท่ีบรรจดุ ินอย฽ูภายใน ๒. วัสดุสาหรับปดิ ภาชนะ เชน฽ ผ฾าขาวบาง มุ฾งลวด ตาขา฽ ยพลาสติก เปน็ ต฾น ๓. ไสเ฾ ดอื นดิน ๔. ใบไม฾สด ๕. แว฽นขยาย 6. การวดั และประเมินผล สังเกตพฤติกรรมในการทากิจกรรมของนกั เรียน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรียน เพิม่ เวลาร”ู฾ ช้นั ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3

131 7. ภาพประกอบ แบบบันทกึ ผลการทดลอง คาชีแ้ จง ให฾นักเรียนสังเกตการเปล่ยี นแปลงของไส฾เดือนดนิ ในแตล฽ ะช่วั โมงโดยบันทกึ เปน็ รูปภาพอย฽างละเอียด และบอกประโยชนขแ องไสเ฾ ดือนดิน หัวข้อที่ศกึ ษา ชวั่ โมงท่ี 1 ชั่วโมงที่ 2 ชัว่ โมงที่ 3 ลักษณะของไส้เดือนดิน ลกั ษณะของใบไมส้ ด ลกั ษณะโพรงท่ไี สเ้ ดือนดินขดุ ประโยชนแของไส฾เดอื นดิน ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร”฾ู ชน้ั ปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3

132 8. อ้างอิงแหลง่ ที่มาของขอ้ มูล http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bluebutter&month=07-04- 2009&group=22&gblog=17 http://www.oknation.net/blog/teetatfarm/2012/05/08/entry-1 http://www.nanagarden.com http://bankaset-h.com/ http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?id=69113 http://i473.photobucket.com/albums/rr98/symphonixz/magnify.jpg แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพิ่มเวลาร”ู฾ ชนั้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3

133 ตวั อย่างกิจกรรมท่ี 6 1. ช่ือกิจกรรม ออมสิน ออมทรัพย์ 2. เวลาท่ีใช้ 1 ช่วั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. อธิบายขน้ั ตอนการประดิษฐกแ ระปกุ ออมสินจากขวดน้าพลาสตกิ ได฾ 2. เลอื กเศษวสั ดุเหลอื ใช฾มาประดษิ ฐกแ ระปกุ ออมสนิ ได฾ 3. บอกประโยชนแการประดษิ ฐกแ ระปุกออมสนิ จากขวดน้าพลาสตกิ ได฾ ๔. นักเรียนรักการออม จากกระปุกออมสินทท่ี าขึน้ 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู หน฾ ักเรยี นทากระปุกออมสินตามขั้นตอนดังน้ี 1) เจาะรูขวดน้าดา฾ นบน ทาเป็นรูใส฽เหรียญ 2) ตดิ ขาหมูดว฾ ย รงั ไข฽พลาสติก 3) ตดั กระดาษ ตกแตง฽ ประดับเป็นหหู มู หางหมู ตาและจมูกหมนู าไปหยอดเหรยี ญ 2. ครอู ธิบายถึงประโยชนแของการออม และใหน฾ กั เรยี นร฽วมกนั แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั การออม 3. ครูให฾นกั เรียนนากระปุกออมสินท่ีตนเองทาไปใช฾ท่ีบ฾าน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลาร”฾ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

134 5. ส่อื การเรยี นรู้ 1. วัสดุ / อุปกรณแ การทาออมสินออมทรัพยแ 1. ขวดนา้ พลาสติกแบบใส อ฾วน กลม 2. รังไข฽พลาสตกิ 3. คตั เตอรแ 4. กระดาษ 5. กรรไกร 6. กาว 6. การวัดผลและประเมนิ ผล 1. การสังเกต 2. ชิ้นงาน 7. ภาพประกอบ 8. อ้างอิงแหลง่ ที่มาของขอ้ มูล http://p-dit.com/2014/06/22/4676/ แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”฾ู ช้นั ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

135 ตัวอยา่ งกิจกรรมท่ี 7 1. ช่ือกิจกรรม การทาแซนวิชไทย 2. เวลาที่ใช้ 1 ชัว่ โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่อื ให฾นักเรยี นสามารถทาอาหารงา฽ ย ๆ รับประทานเองได฾ ๒. เพือ่ ฝกึ ให฾นักเรยี นรักการทางาน ๓. เพ่อื ให฾นกั เรียนนาไปใชใ฾ นชวี ิตประจาวนั ได฾ 4. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วัสดอุ ุปกรณแ 1. ขนมปใงชนิดแผน฽ 2. ปลาทนู ฽ากระป฻อง 3. มะเขือเทศ 4. ผกั สลดั /หรอื ผักตามชอบ 5. นา้ สลดั /มายองเนส วิธีการทา 1. นาปลาทูน฽ากระป฻องสะเด็ดน้าออก แล฾วนามายีให฾เป็นช้ินเล็ก ๆ ถ฾าใช฾ปลากระป฻องใช฾แต฽เนื้อปลา มายีให฾เปน็ ช้ินเลก็ ๆ เช฽นกนั 2. ใสน฽ ้าสลดั /มายองเนส ตามชอบลงบนปลาทเี่ ตรยี มไวผ฾ สมให฾เขา฾ กัน 3. นาทูน฽าสลดั ทาบนขนมปงใ แล฾ววางผักท่ีตอ฾ งการใส฽ลงไปตามชอบ 4. วางขนมปใงอีกแผ฽นมาประกบ หมายเหตุ ถา฾ ไม฽มปี ลาทูน฽า สามารถใช฾ปลากระป฻องแทนได฾ 5. สื่อการเรียนรู้ 1. ใบความรู฾ /รปู ภาพ /วสั ดุ อุปกรณแ การทาขนมโคหลากสี 2. วิทยากรทอ฾ งถน่ิ 6. การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเข฾าร฽วมกจิ กรรม 2. การซกั ถามความพึงพอใจ ๓. ตรวจผลงาน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลาร”฾ู ช้นั ปะถมศึกษาปที ี่ 1 - 3

136 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งอิงแหล่งที่มาของขอ้ มูล http://www.pholfoodmafia.com/2012/recipe_detail.php?mnuid=877 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู฾ ชั้นปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3

137 ตัวอย่างกิจกรรมท่ี 8 1. ช่อื กจิ กรรม สืบ...สาน (การสานนกจากใบตาล) 2. เวลาทีใ่ ช้ 1 ชัว่ โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือใหน฾ กั เรยี นสามารถประดษิ ฐแของเล฽นจากวสั ดทุ ฾องถ่ินได฾ 2. เพ่ือให฾นักเรยี นรักการทางาน และนาไปใชใ฾ นชวี ติ ประจาวนั ได฾ 3. เพื่อให฾นักเรียนมคี วามรู฾เกี่ยวกับการรักษแแ ละหวงแหนภูมปิ ใญญาประจาท฾องถ่นิ ของตน 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ วสั ดุอุปกรณ์ 1. ใบตาล/ใบลาน/ใบมะพร฾าว 2. กรรไกร 3. มีดคตั เตอรแ ขัน้ ตอนการทา 1. นาใบตาลมาฉีกเปน็ เส฾นยาว 50 เซนตเิ มตรกว฾าง 2 เซนติเมตรจานวน 2 เสน฾ (ใชส฾ านเป็นตัวนก) 2. นาใบตาล ใบท่ี 1 มาโค฾งทับกันตามแบบแล฾วนาใบที่ 2 ใหป฾ ลายใบสอดช฽องของใบที่ 1 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”฾ู ชน้ั ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3

138 3. ใบตาล ใบที่ 2 จับปลายด฾านล฽างโคง฾ ลงมาใตเ฾ ส฾นใบที่ 1 ปลายแรก แลว฾ ทบั ปลายท่สี อง ดงั ภาพ 4. จับปลายใบท่ี 2 โคง฾ ขนึ้ ด฾านบนอกี ครั้งหนงึ่ ดงั ภาพ 5. จบั ปลายใบที่ 2 ที่อย฽ดู า฾ นบนลงมาใหป฾ ลายใบลงมาตรงกลางจบั ปลายใบท่ี 1 สอดข้ึนไปชอ฽ งดา฾ นบน 6. ใชม฾ อื ดึงปลายทกุ เสน฾ ให฾ได฾รูปท่สี วยงามใช฾มดี คัตเตอรแกรีดให฾เปน็ ชอ฽ งเลก็ ๆ สาหรบั สอดปลายใบ แนบกบั ตัวนก แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”฾ู ชนั้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

139 7. ตัดปลายทง้ั สองขา฾ งใหเ฾ ป็นตวั นก 8. นาใบตาลฉีกเป็นเส฾นยาว 30 เซนตเิ มตร กว฾าง 1 เซนติเมตร จานวน 2 เสน฾ เพื่อทาหัวนก ข้ันตอน เหมือนทาตัวนก 9. นาทัง้ สองชิน้ มาประกอบเป็นตัวนกทสี่ มบรู ณแ ดังภาพ 5. ส่อื การเรียนรู้ 1. ใบความร฾ู /รูปภาพ /วัสดุ อปุ กรณแ การสานนกจากใบลาน 2. วทิ ยากรท฾องถ่ิน 6. การวดั และประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเข฾าร฽วมกจิ กรรม 2. การซกั ถามความพึงพอใจ ๓. ตรวจผลงาน 7. อา้ งอิงแหลง่ ท่มี าของข้อมูล สนม ชุมสายญาติ โรงเรยี นบา฾ นน้าหัก สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต 3 http://performance2552.exteen.com/20090101/entry-2 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”ู฾ ชนั้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3

140 ตัวอยา่ งกิจกรรมที่ 9 1. ชอื่ กจิ กรรม สืบ...สาน (การสานตั๊กแตนจากใบมะพรา้ ว) 2. เวลาทใ่ี ช้ 1 ช่วั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. อธบิ ายขนั้ ตอนและทาการสานตกั๊ แตนจากใบมะพร฾าวได฾ 2. เลือกวสั ดุจากธรรมชาตปิ ระดิษฐแของเล฽นได฾ 3. บอกประโยชนแการสานต๊กั แตนจากใบมะพรา฾ วได฾ 4. นักเรียนมีความร฾ูเกยี่ วกบั การรักษแแ ละหวงแหนภมู ิปใญญาประจาท฾องถนิ่ ของตน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ อุปกรณ์ 1. ใบมะพรา฾ ว/ใบลาน/ใบตาล 2. กรรไกร/มดี คัตเตอรแ ขัน้ ตอนการทา 1. ทาตัวตั๊กแตนกันเรมิ่ จากเลือกใบมะพร฾าวมาฉีกจากก฾านเหลอื ติดด฾านโคนก฾านไวส฾ กั ประมาณ 2 นิ้ว 2. หงายด฾านท฾องใบข้ึน ชั้นท่ี ๑ เร่ิมจากด฾านซ฾ายนาปลายใบทาบ฽วงคล฾องกับแกนกลางและดึงลงมา ให฾ชดิ ตรงท่ีฉีกไว฾ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร”฾ู ชัน้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

141 3. ทาดา฾ นขวาแบบเดยี วกัน 4. ดึงลงมาให฾ชิด จัดใหส฾ วยงาม 5. ทาชนั้ ที่ ๒ ดา฾ นซา฾ ยโดยตลบปลายไปไวด฾ ฾านหลังใชน฾ ิว้ กดไว฾ 6. ทาบ฽วงคลอ฾ งกบั แกนกลางเหมือนเดมิ 7. ดึงลงมาชิดกับชน้ั ที่ ๑ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร”฾ู ชั้นปะถมศกึ ษาปที ี่ 1 - 3

142 8. ทาช้นั ท่ี ๒ ดา฾ นขวาด฾วยวธิ เี ดียวกนั ตลบปลายใบไปดา฾ นหลงั กอ฽ น 9. ทาบ฽วงคล฾องกับแกนกลาง ดงึ ลงมาใหช฾ ดิ กัน 10. ทาให฾ได฾ ๖ ช้ัน ด฾านน้คี ือด฾านท฾องของต๊ักแตน ใบที่ค฽ูกันยาวลงมาตัดและจักเป็นร้วิ เล็ก ๆ แทนขา 11. ด฾านหลังของตัก๊ แตน 12. ไดต฾ ัวแล฾วคราวนมี้ าทาหาง ใชใ฾ บมะพรา฾ ว ๑ ซกี แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลาร”ู฾ ชน้ั ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3

143 13. ม฾วนจากดา฾ นปลายเลก็ ๆ ไปหาด฾านโคนใหย฾ าวออกไปเรือ่ ย ๆ สาคญั ทีส่ ดุ คอื ต฾องมว฾ นใหแ฾ น฽น ไม฽หลุดออกจากกัน 14. เมือ่ ได฾ความยาวท่ตี ามท่ีต฾องการแลว฾ ตดั ใบที่เหลือออกกลัดดว฾ ยไมก฾ ลัดให฾แน฽น 15. ไดต฾ วั กบั หาง ยงั ขาดหวั 16. ใช฾ใบซีกท่เี หลือมาพับเป็นสามเหลย่ี ม แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู฾ “ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร”฾ู ชน้ั ปะถมศึกษาปีท่ี 1 - 3

144 17. มว฾ นไปมาให฾แนน฽ สัก ๓ - ๔ รอบ 18. พับปลายเกบ็ ใหเ฾ รียบรอ฾ ย 19. ครบแลว฾ ทง้ั สามสว฽ น นามาประกอบเขา฾ ดว฾ ยกัน 20. ใช฾กา฾ นมะพร฾าวตกแต฽งเป็นหนวด ตดั ใบสว฽ นโคนใหเ฾ รยี วเปน็ ปกี ใช฾ก฾านท่เี หลือใส฽เปน็ ท่แี ขวน 5. สื่อการเรยี นรู้ 1. ใบความร฾ู /รูปภาพ /วสั ดุ อุปกรณแ การสานต๊ักแตนจากใบมะพร฾าว 2. วิทยากรท฾องถน่ิ 6. การวดั และประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเข฾าร฽วมกิจกรรม 2. การซกั ถามความพึงพอใจ ๓. ตรวจผลงาน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลาร”ู฾ ชัน้ ปะถมศกึ ษาปีท่ี 1 - 3

145 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งอิงแหลง่ ท่ีมาของขอ้ มูล http://www.bansuanporpeang.com/node/26629 https://www.youtube.com/watch?v=F7V1zuXNq1s แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร”ู฾ ช้นั ปะถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 3

146 กลมุ่ กิจกรรมท่ี 15 พฒั นาความสามารถด้านการใช้ทกั ษะชีวติ ตวั อยา่ งกจิ กรรมท่ี 1 1. ช่อื กิจกรรม การทาพรมเช็ดเทา้ จากเศษผ้า 2. เวลาทใ่ี ช้ 2 ชั่วโมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ 1. อธิบายข้ันตอนและทาพรมเชด็ เทา฾ ได฾ 2. เลือกเศษวัสดุเหลือใช฾มาประดษิ ฐแของใช฾ได฾ 3. บอกประโยชนกแ ารทาพรมเชด็ เท฾าจากเศษผา฾ ได฾ 4. กิจกรรมการเรียนรู้ วัสดอุ ุปกรณ์ 1. กระสอบปุาน (กระสอบขา฾ วสาร) 2. เศษผา฾ ยดื ตัดเป็นรปู สี่เหลี่ยมผืนผ฾า ขนาดยาว 3 นว้ิ มอื 3. เข็มควัก (เข็มถักไหมพรม) 4. กรรไกร 5. เข็มและด฾าย 6. จกั รเย็บผ฾า 7. ปากกาเมจิก ข้ันตอนการทา ๑. วาดแบบลงในกระสอบ ตัดแบบใหเ฾ ป็นรูปทรง ใชเ฾ ศษผ฾ายืดเสน฾ ยาวเย็บขอบนอกใหห฾ มดรอบด฾าน เพือ่ ปูองกันไม฽ให฾กระสอบหลุด 2. ใหเ฾ ร่มิ ทาแถวที่ 5 โดยเวน฾ แถวทเ่ี ปน็ เสน฾ กระสอบคู฽ 4 แถว เหมอื นดงั รปู ภาพ จนกระทง่ั หมดทุกแถว แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร฾ู “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลาร”฾ู ชัน้ ปะถมศึกษาปที ่ี 1 - 3


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook