Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกาแฟ_

การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกาแฟ_

Published by Phrapradaeng District Public Library, 2019-04-07 09:45:31

Description: การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกาแฟ_

Search

Read the Text Version

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื ขอ้ ดขี ้อเสยี ของการผลติ เมลด็ กาแฟโดยกระบวนการแบบแหง้ และแบบเปยี ก กระบวนการ ข้อได้เปรียบ ขอ้ เสยี เปรียบ ผลติ 1. เปน็ วิธที ี่ง่ายและต้นทนุ ต�่ำ 1. สารกาแฟทีไ่ ดม้ คี ณุ ภาพต�่ำกวา่ วธิ ีเปียก แบบแห้ง 2. ไมต่ อ้ งใชค้ วามรูค้ วามชำ� นาญมาก 2. ใช้เวลาในการตากนาน แบบเปียก 3. เหมาะสมใช้ในพน้ื ทที่ ม่ี นี ำ้� จำ� กัด 1. ใชเ้ วลาและพื้นทใ่ี นการตากนอ้ ยกว่า 1. มขี น้ั ตอนมากและตน้ ทนุ สงู กวา่ 2. มีเมลด็ แตกหกั นอ้ ยกวา่ ในข้ันตอนการสี 2. ตอ้ งใชค้ วามรแู้ ละเทคนคิ ท่เี พียงพอ 3. สารกาแฟมคี ณุ ภาพดีกวา่ ถ้าไมถ่ กู ต้องจะได้สารกาแฟคุณภาพต�่ำ 3. ไม่สามารถท�ำไดก้ บั ผลดิบหรอื ผลดำ� 4. ตอ้ งใช้น้�ำปริมาณมาก การเก็บรักษาเมล็ดกาแฟและกาแฟกะลา 1. สถานท่ีเก็บรกั ษา ควรมลี กั ษณะ ดงั น้ี 1.1 ควรเปน็ พื้นซเี มนต์ แห้ง ไม่มนี ำ�้ ขัง สะอาด ถกู สขุ ลักษณะ อากาศถ่ายเทไดส้ ะดวก หลังคาและหน้าต่างกันน้�ำได้ดี สามารถป้องกันเมล็ดกาแฟและกาแฟกะลาจากการเปียกน้�ำ ป้องกันการเกิดอันตรายจากการปนเปื้อนสารเคมี สิ่งแปลกปลอม และสัตว์พาหะนำ� โรค เช่น หนู นก รวมทั้งสตั ว์เลย้ี ง อนั จะทำ� ให้เกิดอันตรายต่อการบริโภค 1.2 รักษาความชื้นและอุณหภูมิให้เหมาะสม ความชื้นสัมพัทธ์ในโรงเก็บไม่เกิน รอ้ ยละ 60 เพ่ือให้เกบ็ รักษาเมล็ดกาแฟและกาแฟกะลาได้เปน็ เวลานานและปลอดภัย การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการผลติ กาแฟ 95

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื 1.3 สามารถป้องกันไม่ให้เมล็ด กาแฟและกาแฟกะลาถูกแสงโดยตรง และอยู่ หา่ งจากแหล่งความรอ้ น 2. วธิ กี ารเก็บรกั ษา 2.1 ควรเกบ็ เมลด็ กาแฟ และกาแฟ กะลาในภาชนะปดิ เชน่ กระสอบทสี่ ะอาด และ ปราศจากกลิ่นทไ่ี ม่พงึ ประสงค์ 2.2 ใช้วัสดุที่สามารถป้องกัน ความชื้นได้ปูรองพ้ืนก่อนวางกระสอบ และจัดเรียงให้ห่างจากผนัง เพื่อให้เกิดการระบายอากาศ ไดด้ ี สะดวกตอ่ การเขา้ ทำ� ความสะอาดและตรวจสอบความเรยี บรอ้ ย หากเปน็ ไปไดค้ วรวางกระสอบ บนช้ันท่ีห่างจากพ้ืน 15 เซนติเมตร และห่างจากผนัง 50 เซนติเมตร และห่างจากหลังคา 100 เซนติเมตร 2.3 ควรมปี ้ายบอกรายละเอยี ด หรือรหสั ของเมล็ดกาแฟ หรือกาแฟกะลาแต่ละรนุ่ 2.4 หลกี เลยี่ งการเกบ็ รกั ษาเมลด็ กาแฟ กาแฟกะลา และผลกาแฟสดในบรเิ วณเดยี วกนั หากจ�ำเปน็ ควรแบง่ พน้ื ทเ่ี กบ็ อยา่ งเปน็ สดั สว่ น และมปี า้ ยบอกอยา่ งชดั เจนวา่ เปน็ กาแฟประเภทใด 2.5 หา้ มเกบ็ สารเคมีอันตราย รวมกับเมล็ดกาแฟ และกาแฟกะลา 2.6 หลีกเลี่ยงการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ และกาแฟกะลา รวมกับสินค้าที่มีกล่ิน เชน่ พริก พริกไทย ยางพารา 3. มีการควบคมุ ป้องกัน และติดตามการเข้าทำ� ลายของดว้ งเมล็ดกาแฟ (coffee bean weevil) 96 การเพิ่มประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จัดศัตรพู ชื 4. ตรวจสอบเมล็ดกาแฟ และกาแฟกะลาที่เก็บรักษาไว้เป็นระยะ เช่น ความชน้ื และการถกู ท�ำลายจากแมลง เพ่ือประเมินความเสี่ยงทอ่ี าจเกดิ ขึ้น และดำ� เนนิ การ แก้ไขต่อไป การขนย้าย 1. พาหนะในการขนย้ายควรเป็นแบบปิด แห้ง สะอาด ปราศจากกล่ินไม่พึงประสงค์ ปอ้ งกนั การปนเปอ้ื นจากวตั ถอุ นั ตรายทางการเกษตร สง่ิ แปลกปลอม ตลอดจนปอ้ งกนั การเปยี กน�้ำ จากภายนอกได้ และไม่เคยบรรทกุ สารเคมหี รอื วัตถุที่มกี ล่ินรุนแรง 2. หากเป็นการขนย้ายแบบระบบเปิด ให้คลุมด้วยผ้าเต้นท์ เพื่อป้องกันการเปียกช้ืน ขณะขนย้าย 3. ควรขนส่งเมล็ดกาแฟและกาแฟกะลาในช่วงกลางวัน ควรใช้ความระมัดระวังในการ ขนย้ายเมล็ดกาแฟ และกาแฟกะลาในขณะฝนตก และไม่ควรน�ำพาหนะท่ีเปียกเข้าไปในสถานที่ เก็บเมลด็ กาแฟ ข้อพึงระวังเพ่อื หลกี เลยี่ งการปนเปื้อนสารพิษออคราทอกซนิ เอ ในขน้ั ตอนของการเกบ็ เกยี่ ว ไมค่ วรเกบ็ ผลกาแฟสดทรี่ ว่ งอยบู่ นพน้ื ดนิ หรอื เกบ็ ผลกาแฟแลว้ ไม่น�ำไปตากแห้งหรือเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเมล็ดกาแฟหรือกาแฟกะลาภายใน 24 ช่ัวโมง ไม่ควรปล่อยให้ผลกาแฟแห้ง เมล็ดกาแฟแห้ง และกาแฟกะลาแห้ง กลับมาเปียกหรือมีความช้ืน สูงข้ึนอกี เพราะเป็นสาเหตทุ ่ที �ำใหเ้ กดิ เชื้อรา และอาจเกดิ การปนเปือ้ นสารพษิ ออคราทอกซิน เอ ในเมล็ดกาแฟได้ สารพิษออคราทอกซิน เอ ถูกสร้างข้ึน จากราท่ีมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Aspergillus chraceus และ Penicillium verucosum ราชนดิ น้ี สามารถเจริญและสร้างสารพิษได้บนเมล็ด กาแฟ และเมล็ดธัญพืช เช่น ถ่ัวลิสง ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ ถั่วต่างๆ รวมท้ังผลิตภัณฑ์ อาหาร เช่น กาแฟ เบยี ร์ ไวน์ องุ่นแหง้ ผลไมแ้ ห้ง และอาหารสตั ว์ สารพิษออคราทอกซนิ เอ เป็นพิษ ต่อมนุษย์และสัตว์ เม่ือได้รับประทานอาหาร การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ 97

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื หรือเคร่ืองดื่มท่ีมีสารพิษชนิดน้ีเข้าไป จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างมากต่อระบบไต ระบบประสาท และเป็นสาเหตุหน่ึงที่ท�ำให้เกิดมะเร็ง ค่าปริมาณสูงสุดของสารพิษออคราทอกซิน เอ ท่ีปัจจุบัน ส�ำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อนุญาต ให้มีไดใ้ นเมล็ดกาแฟมคี ่า 20 ไมโครกรัมตอ่ กิโลกรมั โดยท่ัวไปมักเข้าใจว่าเมล็ดกาแฟท่ีแห้งจะปราศจากสารพิษออคราทอกซิน เอ และ สารพษิ ตา่ งๆ ซง่ึ ไมถ่ กู ตอ้ งเสมอไป ทง้ั นเี้ พราะเมลด็ กาแฟอาจมกี ารปนเปอ้ื นและสรา้ งสารพษิ ในเมลด็ ระหวา่ งการตากแหง้ เมอื่ เมลด็ แหง้ แลว้ กย็ งั คงมสี ารพษิ เหลา่ นอ้ี ยใู่ นเมลด็ เชน่ เดมิ ถา้ มกี ารเกบ็ รกั ษา เมล็ดอย่างถูกต้อง ก็จะป้องกันไม่ให้เกิดสารพิษในเมล็ดเพ่ิมมากขึ้น การน�ำเมล็ดกาแฟ ไปคว่ั ไมส่ ามารถท�ำลายสารพษิ ออคราทอกซนิ เอ ในเมล็ดกาแฟคั่วได้ ดงั นนั้ ควรระมดั ระวงั ไมใ่ ห้ เกิดการเข้าท�ำลายของเช้ือราในผลกาแฟ และป้องกันปัจจัยที่ทำ� ให้เกิดการเจริญของเชื้อราและ การสรา้ งสารพิษเหลา่ นี้ เช่น ภาวะที่มคี วามช้นื สงู เป็นตน้ 98 การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจัดศัตรพู ชื การคดั คุณภาพ และมาตรฐานเมลด็ กาแฟ การคัดคณุ ภาพกาแฟ เมล็ดกาแฟหลังจากผ่านกระบวนการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ต้องคัดแยกขนาด ส่ิงเจือปน เมล็ดบกพร่องต่างๆ ออก โดยใช้เครื่องมือคัดท�ำความสะอาด หรือใช้แรงงานคนคัดแยก เพราะในปัจจุบันการซ้ือขายจะค�ำนึงถึงมาตรฐานคุณภาพของเมล็ดกาแฟ เมล็ดกาแฟท่ีมี คุณภาพสูงจะได้ราคาสูง เพราะเม่ือแปรรูปแล้วจะได้กาแฟที่มีคุณภาพสูง ตรงตามความต้องการ ของผู้บริโภคและต้นทุนการแปรรูปต่�ำ มาตรฐานกาแฟของผู้รับซ้ือแต่ละราย แต่ละประเทศ จะแตกต่างกันไป ในการซ้ือขายเมล็ดกาแฟจะถูกสุ่มไปจากกระสอบ น�ำมาประเมินคุณภาพ ใช้คุณสมบัติภายนอกของเมล็ดกาแฟท่ีสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น ขนาด สี กล่ิน ความสม�่ำเสมอของเมล็ด และความชื้นของเมล็ด รวมท้ังประเมินคุณภาพจากการชิม ประกอบ ด้วยรสชาติ และเนอ้ื กาแฟ โดยท่ัวไปผู้รับซ้ือจะประเมินคุณภาพเมล็ดกาแฟจากลักษณะภายนอกก่อน ข้อบกพร่อง ของเมล็ดกาแฟทีผ่ ู้รับซือ้ ไมต่ ้องการ เชน่ เมลด็ ที่มีความชน้ื สงู เมล็ดมกี ล่ินผิดปกติ เมลด็ ด�ำ เมลด็ ข้ึนรา เมล็ดไม่สมบูรณ์ เมล็ดแตก เมล็ดถูกแมลงท�ำลาย ผลกาแฟแห้ง สิ่งแปลกปลอมที่ปนมา ในเมลด็ กาแฟทจ่ี �ำหนา่ ย เปน็ ตน้ ซง่ึ วธิ คี ดั มที งั้ การใชแ้ รงงานคนคดั และการใชเ้ ครอ่ื งจกั ร หากเปน็ ผู้รับซื้อท่ีประกอบธุรกิจแปรรูปกาแฟหรือร้านกาแฟจะมีการประเมินคุณภาพจากลักษณะภายใน คือการชิมด้วย เนื่องจากรสชาติเป็นคุณสมบัติท่ีส�ำคัญท่ีสุดของกาแฟเช่นเดียวกับเคร่ืองด่ืม ชนิดอื่น เช่น ไวน์ เป็นต้น การประเมินต้องใช้ผู้ท่ีได้รับการฝึกฝนจนเป็นผู้ชำ� นาญ ใช้ความรู้สึก และประสบการณ์ สามารถบอกความแตกต่างของกลน่ิ รสชาติ และเน้ือกาแฟ บนั ทกึ ขอ้ มูลตา่ งๆ ท่ีเห็นจากภายนอกด้วยสายตาและความรู้สึกจากปาก ล้ิน จมูกที่สัมผัสจากการชิม และประเมิน คุณภาพ ซ่ึงเม่ือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟแล้ว จะได้คุณภาพกาแฟที่มีกลิ่นและรสชาติตรงตาม ความต้องการ การเพม่ิ ประสิทธภิ าพการผลิตกาแฟ 99

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื การทดสอบคุณภาพกาแฟโดยการชิม (Coffee Tasting หรอื Cupping หรอื Cup Quality Test) ความหมายของการชมิ การชิมกาแฟ หมายถึง การใช้ประสาทสัมผัสในการประเมินคุณภาพของเมล็ดกาแฟ ตง้ั แต่ เมลด็ กาแฟ (สารกาแฟ) กาแฟควั่ กาแฟบด และชง ซง่ึ ไมไ่ ดห้ มายถงึ แตร่ สชาติ แตห่ มายรวมถงึ กลนิ่ ความรู้สกึ ทีผ่ ชู้ ิมมตี อ่ กาแฟในแตล่ ะตัวอยา่ งท่นี ำ� มาทดสอบคุณภาพ ความสำ� คัญของการชมิ เกษตรกร ต้องทำ� การชมิ เพือ่ ใหร้ ูว้ า่ กาแฟทีต่ วั เองปลกู น้ันใหร้ สชาตอิ ยา่ งไร กระบวนการ ผลิตท่ีตนท�ำอยู่น้ัน ท�ำให้เกิดข้อบกพร่องอะไรในกาแฟหรือไม่ และจะปรับวิธีการอย่างไร เพื่อปรับปรงุ คณุ ภาพกาแฟของตัวเอง รวมท้งั ขายกาแฟในราคาที่สมเหตสุ มผล พ่อค้าเมล็ดกาแฟ ต้องท�ำการชิม เพื่อสามารถเลือกซื้อกาแฟได้ในราคาที่สมเหตุสมผล และสามารถขายกาแฟออกไปได้ในราคาที่สมเหตุสมผล ซ่ึงจะเป็นกลไกส�ำคัญที่ส่งเสริมให้ผู้ปลูก หรอื โรงสที ีด่ ีมีกำ� ลงั ใจในการทำ� กาแฟท่ีดีตอ่ ไป คนค่ัวกาแฟ ตอ้ งท�ำการชิม เพื่อสามารถเลอื กกาแฟเขา้ มาได้ในราคาทสี่ มเหตสุ มผล และ ยังใช้การชิมในการปรับปรุงและควบคุมคุณภาพการคั่ว ให้กาแฟคั่วที่ได้รสชาติดี และมีรสชาติ ที่สมำ่� เสมอตลอดทั้งปี คนชงกาแฟ ต้องท�ำการชมิ เพ่ือสามารถเลอื กใช้กาแฟทชี่ งแลว้ ถกู ปากลกู คา้ ผู้ด่มื ในราคา ตน้ ทนุ ทส่ี มเหตผุ ล ชว่ ยในการตรวจสอบวา่ กาแฟทม่ี าจากโรงคว่ั ในแตล่ ะครง้ั นนั้ มรี สชาตทิ สี่ มำ่� เสมอ หรือไม่ ช่วยให้รู้ว่าการชงเป็นอย่างไรและต้องปรับอะไรบ้างเพ่ือให้ได้รสชาติท่ีดีขึ้น ช่วยให้คนชง สามารถส่ือสารกับลูกค้าผู้ดื่มได้ดีข้ึน จึงท�ำให้สามารถปรับรสชาติกาแฟให้ลูกค้าพอใจได้มากข้ึน นอกจากน้ยี ังช่วยคนชงใหส้ ามารถช้นี ำ� รสชาตใิ ห้กับผู้ดม่ื เพอ่ื เพิ่มความพึงพอใจและความสนุ ทรีย์ ในการดมื่ ไดม้ ากขนึ้ 100 การเพม่ิ ประสิทธิภาพการผลิตกาแฟ

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื อุปกรณ์ทดสอบการชิม 7. แกว้ นำ้� ดมื่ 1. เมล็ดกาแฟ (สารกาแฟ) ตวั อยา่ ง 8. น�้ำด่มื 2. กาแฟคว่ั ตวั อยา่ ง 9. ถาด/จานใสต่ วั อย่าง 3. กาตม้ นำ�้ รอ้ น 10. อุปกรณบ์ นั ทึก 4. แก้วชง 11. เคร่ืองวดั อุณหภมู นิ �้ำ 5. แก้วบว้ นปาก 12. นาฬกิ าจับเวลา 6. ชอ้ นตักชมิ ขั้นตอนการชิม ขน้ั ตอนการทดสอบด้วยการชมิ มี 6 ขน้ั ตอน ได้แก่ 1. Fragrance (Dry Aroma) คือ การทดสอบกล่ินของเมล็ดกาแฟคั่ว และกาแฟค่ัว บดใหม่ ในขณะท่ียังแห้งอยู่ ไม่มีการเติมนำ้� กล่ินช่วงแรกเป็นกล่ินหอมท่ีถูกกักเก็บไว้ในตัวเมล็ด กาแฟคว่ั จากน�้ำมันหอมระเหยทสี่ ามารถระเหยไดใ้ นระดับอณุ หภมู หิ ้อง 2. Aroma ( Wet Aroma/Cup Aroma) คือ การทดสอบกลิ่นกาแฟเวลาท่เี ตมิ น้�ำรอ้ น โดยการเติมน้�ำร้อน 92-96 องศาเซลเซียสในแก้ว ปริมาณผงกาแฟ 8-10 กรัมต่อน�้ำร้อน 120-150 มิลลิลิตร ทิ้งไว้สักครู่ (3 – 4 นาที) แหวกผงกาแฟที่ลอยอยู่บนผิวกาแฟ แล้วค่อยๆ ดมกล่ินกาแฟ หลังจากนั้นใช้ช้อนตักผงกาแฟท่ีลอยหน้าอยู่ออกให้หมดพร้อมสูดดมกลิ่นอีกคร้ัง นำ�้ มนั หอมระเหยในชดุ ท่ี 2 สามารถระเหยในอณุ หภมู ิทีส่ ูงขนึ้ 3. Taste คือ การทดสอบรสชาติ โดยการซดกาแฟให้เป็นฝอยพ่นกระจายท่ัวปาก (Slurp Spray) ซึ่งจะช่วยให้อุณหภูมิกาแฟลดลง และช่วยเปิดโพรงจมูกให้รับกลิ่นได้เต็มที่ อมไว้ 2 – 3 วนิ าที เพอ่ื รบั รสชาติ เชน่ ขม เปรย้ี ว หวาน ฝาด เคม็ เปน็ ตน้ รสแรกทลี่ นิ้ สมั ผสั ได้เร็วที่สุด คือรสขม ต่อมาจะเป็นรสเค็ม และรสเปร้ียวจาก acidity ซ่ึงเป็น รสเปร้ียวแบบเปร้ียวผลไม้ท่ีท�ำให้น้�ำลายไหล กระตุ้นความรู้สึกสดช่ืน และ รสสดุ ทา้ ยทสี่ ัมผัสได้คือรสหวาน 4. Nose คือ การทดสอบกล่ินที่สัมผัสได้จากโพรงจมูก ซึ่ง เกิดข้ึนพร้อมกับขั้นตอนที่ 3 โดยจะมีของเหลวบางส่วนระเหยเป็นไอ ไหลย้อนกลับโพรงจมูก ท�ำให้สามารถสัมผัสกล่ินจากกาแฟ ทอี่ มไวใ้ นปากดว้ ย 5. After Taste คือ การทดสอบ กล่ินและรสชาติท่ีคงค้างอยู่ในปากและล�ำคอ หลงั กลนื กาแฟไปแลว้ เชน่ ความเขม้ ขน้ หรอื ความ มีตวั ตน เปน็ จังหวะเดยี วกบั ขั้นตอนท่ี 3 และ 4 การเพิม่ ประสิทธิภาพการผลิตกาแฟ 101

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื 6. Body ( Mouth Feel) คือ ความเข้มหรือความรู้สึกถึงสารที่เคลือบในปาก หลังจากกลืนหรือบ้วนท้ิง (สามารถเปรียบเทียบได้กับสัมผัสที่แตกต่างของนม และน�้ำ โดยนม จะมี body มาก และนำ�้ จะมี body น้อย) อาจเริ่มด�ำเนินการซ�้ำจากข้ันตอนที่ 3 – 6 ใหม่ หลังจากอุณหภูมิของน�้ำกาแฟลดลง เม่ือพจิ ารณารสชาติ กลิน่ ท่ไี ดร้ ับจากกาแฟแก้วนน้ั ๆ แล้ว ควรบันทกึ พร้อมจดจำ� เพ่ือทไ่ี ด้น�ำมา เปรยี บเทยี บรสชาติ หรือ Cupping กาแฟในแตล่ ะคร้งั ไป ท้งั นีก้ าร Cupping ควรทำ� เป็นประจำ� เพอื่ ใหเ้ กดิ ความช�ำนาญ และการจดจ�ำรสชาติ ของกาแฟแตล่ ะแบบ แตล่ ะรสชาติ แตล่ ะแหลง่ ผลติ หลกั การชมิ 1. จบั ความรสู้ กึ 2. ค้นหาจากความทรงจำ� วา่ ความรูส้ กึ นน้ั เหมอื นหรือคลา้ ยอะไร 3. อธิบายหรือส่ือสารใหผ้ อู้ ่นื เข้าใจหรือจนิ ตนาการตามได้ คำ� ศัพท์ต่างๆ ทีเ่ กยี่ วข้องกบั การชมิ ค�ำศพั ทต์ ่างๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การชมิ ทดสอบคณุ ภาพกาแฟท่ีใช้บอ่ ยๆ และควรรจู้ ัก มีดังนี้ Aroma หมายถึง กลิน่ กาแฟทร่ี ู้สึกสัมผสั ได้ดว้ ยจมกู Taste หมายถงึ ความรู้สึกทส่ี มั ผสั ไดด้ ้วยล้นิ Flavour หมายถึง ความหอมหวาน รวมทงั้ รสชาติกาแฟ รูส้ ึกสัมผสั ได้ดว้ ยลิ้นในปาก Acidity หมายถงึ รสเปรยี้ วของกรด เปน็ รสชาตพิ นื้ ฐานของเมลด็ กาแฟซงึ่ มสี ารละลาย ที่มีกรดอินทรีย์เป็นส่วนประกอบ กาแฟแต่ละชนิดจะมีความเป็น acidity แตกต่างกัน กาแฟ อาราบกิ า้ จะมีความเป็น acidity สูงกว่ากาแฟโรบัสต้า Bitter หมายถึง รสขม เป็นรสชาติท่ีรับรู้ได้เม่ือสารละลายกาแฟสัมผัสกับส่วน โคนลิ้น เทยี บไดก้ ับรสควนิ นนิ Body หมายถงึ เนอ้ื กาแฟ เปน็ ความรสู้ กึ สมั ผสั เนอ้ื กาแฟหรอื ความเขม้ ขน้ ของเนอื้ กาแฟ ที่รสู้ กึ ได้เม่อื กาแฟสมั ผัสล้ินในปาก กาแฟโรบสั ตา้ จะมีลกั ษณะเนื้อกาแฟมากกว่ากาแฟอาราบิก้า Rioy หมายถงึ รสคล้ายแป้งผสมในเนือ้ กาแฟ Sweet หมายถึง รสหวาน Sour หมายถงึ รสหมกั เปรยี้ ว คล้ายนำ�้ สม้ สายชู หรอื กรดน�ำ้ สม้ Burnt หมายถงึ ไหม้ เปน็ กลนิ่ หรอื รสของกาแฟทไ่ี ดร้ บั ความรอ้ นสงู เกนิ ไป ท�ำใหเ้ มลด็ หรอื เน้ือกาแฟไหม้ Fermented หมายถึง กล่ินและรสเปร้ียวคล้ายของหมักดอง เน่ืองจากการหมัก เมล็ดกาแฟท่ีสเี ปลือกออกแล้วในน�ำ้ นานเกนิ ไป เป็นลักษณะไมพ่ ึงประสงค์ 102 การเพิ่มประสิทธิภาพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื Caramelly หมายถึง กล่นิ คล้ายนำ�้ ตาลเคย่ี วจนเกอื บไหม้ Carbony หมายถึง กลิน่ ไหม้ พบในกาแฟทีค่ ัว่ แก่ Flats หรอื Dead หมายถงึ ไมม่ รี ส ไม่มกี ล่ิน Mellow หมายถึง รสชาติกาแฟที่อ่อนจาง ขาด acidity Nutty หมายถึง รสชาติหรือกลน่ิ คล้ายถ่ัวค่วั Earthy หมายถึง กลิน่ คลา้ ยดนิ เกิดจากการตากเมลด็ กาแฟบนดนิ Rancid หมายถงึ กลิ่นหนื หรอื เหม็นอับ เพราะการเกบ็ รักษาไมด่ ี ชน้ื Rubber หมายถงึ กลนิ่ คล้ายยางไหม้ หรอื ยางรดั ของ มาตรฐานเมล็ดกาแฟ มาตรฐานเมลด็ กาแฟของส�ำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแหง่ ชาติ ส�ำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศมาตรฐานเมล็ดกาแฟตามมาตรฐานสินค้าเกษตรในลักษณะมาตรฐานสมัครใจ ในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552 เพ่ือคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคท้ังภายในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมทั้งเป็นการยกระดับการผลิตและเป็นมาตรการป้องกันสินค้ากาแฟ ด้อยคุณภาพไม่ให้เข้ามาในประเทศ ได้แก่ เมล็ดกาแฟโรบัสต้า ตาม มกษ.5700/2552 และ เมลด็ กาแฟอาราบิกา้ ตามมกษ. 5701/2552 ดังน้ี คุณภาพทั่วไป ● ไม่มกี ล่ินผิดปกติ ● มสี ีตรงตามชนิดและกระบวนการผลิตของเมล็ดกาแฟ ● มีความชื้นไม่เกินสัดส่วนโดยน้�ำหนักร้อยละ 13 ส�ำหรับเมล็ดกาแฟท่ีไม่ต้อง เก็บรกั ษา และหรอื ขนสง่ เปน็ ระยะเวลาไมน่ าน ● มีความชื้นไม่เกินสัดส่วนโดยน้�ำหนักร้อยละ 12.5 ส�ำหรับเมล็ดกาแฟท่ีไม่ต้อง เก็บรกั ษา และหรอื ขนสง่ เปน็ ระยะเวลานาน ● ไม่พบร่องรอยการเข้าท�ำลายเมล็ดกาแฟของด้วงเมล็ดกาแฟ (Coffee Bean Weevil) ซ่งึ มชี ื่อวิทยาศาสตร์วา่ Araecerus fasciculatus ● มีข้อบกพรอ่ งของเมลด็ กาแฟไมเ่ กินเกณฑท์ ่กี ำ� หนด การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการผลติ กาแฟ 103

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื นยิ ามขอ้ บกพร่องของเมล็ดกาแฟ เมล็ดด�ำ (Black Bean) หมายถึง เมล็ดกาแฟที่มีสีด�ำภายใน และ/หรือภายนอกเมล็ด มากกว่าครึ่งหน่งึ ของเมล็ด เมล็ดท่ีมีกลนิ่ ผิดปกติ (Off - odour Bean) หมายถึง เมลด็ กาแฟทม่ี กี ลน่ิ เหม็นเปรยี้ ว กลนิ่ หมกั บดู หรือกลน่ิ แปลกปลอม เชน่ กลิน่ ปุ๋ย กลนิ่ สารเคมี หรอื กล่นิ รา เมลด็ ขึ้นรา ( Moldy Bean) หมายถงึ เมลด็ กาแฟท่มี ีลักษณะการเข้าท�ำลายของเช้ือรา เมล็ดแตก (Broken Bean) หมายถึง เมลด็ กาแฟท่ีแตกออกเป็นชิน้ เลก็ กว่าครงึ่ หนึง่ ของ กาแฟเต็มเมล็ด เมล็ดถูกแมลงท�ำลาย หมายถึง เมล็ดกาแฟท่ีถูกแมลงกัด แทะ หรือเจาะจนเกิดเป็นรู มากกวา่ 1 รู ผลกาแฟแหง้ (Dried Cherry) หมายถงึ ผลกาแฟที่ผ่านกรรมวธิ กี ารท�ำใหแ้ ห้ง จนไดผ้ ล กาแฟแห้งท่ยี ังไมไ่ ดส้ ีเปลอื กออก รวมทงั้ เมล็ดกาแฟทม่ี ีเปลือกติดบางส่วน ส่ิงแปลกปลอม (Foreign Matter) หมายถงึ ส่ิงเจือปนทางกายภาพอน่ื ๆ ท่ีไมใ่ ช่เมลด็ กาแฟ เชน่ เศษหนิ ดนิ เศษไม้ รวมท้งั เปลอื กและเยือ่ หมุ้ เมล็ดกาแฟ เมลด็ ไม่สมบูรณ์ หมายถึง เมลด็ ทีม่ ลี กั ษณะเหี่ยวย่น ลบี เบา ข้อบกพร่องรวม หมายถึง ปริมาณโดยน้�ำหนักของข้อบกพร่องดังต่อไปน้ีรวมกัน ได้แก่ เมล็ดด�ำ เมล็ดขึ้นรา เมล็ดแตก เมล็ดไม่สมบูรณ์ เมล็ดถูกแมลงท�ำลาย ผลกาแฟแห้ง และสงิ่ แปลกปลอม เกณฑ์ขอ้ บกพร่องของเมลด็ กาแฟ ข้อบกพรอ่ ง สัดส่วนโดยนำ้� หนัก (%) กาแฟโรบสั ต้า กาแฟอาราบกิ า้ เมล็ดดำ� 2 0.5 เมล็ดข้นึ รา เมล็ดแตก 0.5 0.5 เมลด็ ถูกแมลงทำ� ลาย ผลกาแฟแห้ง 2 1.5 สงิ่ แปลกปลอม ข้อบกพรอ่ งรวม 4 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 73 104 การเพม่ิ ประสิทธิภาพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื ขนาดและเกณฑค์ วามคลาดเคลื่อน ขนาดของเมลด็ กาแฟ (กรณีมกี ารคดั ขนาด) รหสั ขนาดของเมล็ดกาแฟ (mm) เมลด็ กาแฟท่คี ้างอย่บู นตะแกรงรอ่ นหมายเลขต่างๆ ขนาด ตามมาตรฐาน ISO 4150:1991 (sieve No.) ≥ 7.1 18 1 6.3 - < 7.1 16 2 5.6 - < 6.3 14 3 - 4 < 5.6 เกณฑ์ความคลาดเคลอื่ น เมล็ดกาแฟแต่ละขนาด ให้พบเมล็ดกาแฟท่ีมีขนาดใหญ่กว่าหรือเล็กกว่าในชั้นถัดไป หนง่ึ ชน้ั ได้ไม่เกนิ สดั ส่วนโดยน�ำ้ หนกั รอ้ ยละ 10 สารปนเปอื้ น ใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ กำ� หนดในกฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ้ ง และขอ้ กำ� หนดของมาตรฐานสนิ คา้ เกษตร ที่เก่ียวกับสารปนเปอ้ื น ในกรณีท่ขี ้อมูลท่ีเกย่ี วข้อง เช่น แหล่งผลติ และระบบการผลติ ประวัตกิ าร ตรวจพบการปนเปื้อน แสดงว่าเมล็ดกาแฟมีความเส่ียงที่จะมีการปนเปื้อนของออคราทอกซิน เอ ในปรมิ าณสูง ให้ตรวจปริมาณออคราทอกซิน เอ ในเมลด็ กาแฟ และพบได้ไม่เกนิ 20 ไมโครกรัม ต่อกโิ ลกรัม สารพษิ ตกคา้ ง ใหเ้ ป็นไปตามขอ้ กำ� หนดในกฎหมายทเ่ี กีย่ วขอ้ งและข้อกำ� หนดใน มกษ. 9002 มาตรฐาน สินค้าเกษตร เรื่องสารพิษตกค้าง : ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด และ มกษ. 9003 มาตรฐาน สินค้าเกษตร เรื่องสารพิษตกค้าง : ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดที่ปนเปื้อนจากสาเหตุท่ีไม่อาจ หลีกเล่ียงได้ สขุ ลกั ษณะ การผลติ และการปฏบิ ตั ติ อ่ เมลด็ กาแฟหรอื กาแฟกะลาในขนั้ ตอนตา่ งๆ รวมถงึ การเกบ็ รกั ษา และการขนสง่ ต้องปฏิบัตอิ ย่างถกู สุขลักษณะ เพอ่ื ปอ้ งกันการปนเปอ้ื นที่จะกอ่ ให้เกดิ อันตรายตอ่ ผู้บริโภค โดยให้เป็นไปตามข้อกำ� หนดของมาตรฐานสินค้าเกษตรท่ีเก่ียวกับหลักเกณฑ์การปฏิบัติ เพ่อื ปอ้ งกนั และลดการปนเป้ือนของสารออคราทอกซนิ เอ ในกาแฟ การเพิ่มประสิทธภิ าพการผลติ กาแฟ 105

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื การบรรจุ บรรจเุ มลด็ กาแฟในภาชนะบรรจทุ ไ่ี มม่ รี อยขาดหรอื รอยรว่ั สะอาด ปราศจากสง่ิ แปลกปลอม สารตกคา้ งในระดบั ทท่ี ำ� ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ ผบู้ รโิ ภค และกลนิ่ อนั ไมพ่ งึ ประสงค์ สามารถปอ้ งกนั การ ปนเปือ้ นและความชน้ื จากภายนอก และมีคณุ สมบัตทิ นทานต่อการขนส่ง ฉลาก ใหแ้ สดงฉลากตามขอ้ กำ� หนดของกฏหมายทเี่ กยี่ วขอ้ ง และอยา่ งนอ้ ยตอ้ งมขี อ้ ความระบใุ น เอกสารก�ำกับสินค้าหรือฉลาก หรือแสดงไว้ท่ีภาชนะบรรจุ โดยข้อความต้องอ่านได้ชัดเจน ไม่หลดุ ลอก ไมเ่ ป็นเทจ็ หรอื หลอกลวง โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ชนิดของเมล็ดกาแฟ กรณีไม่สามารถมองเห็นเมล็ดกาแฟจากภายนอกภาชนะบรรจุ ให้ระบุข้อความว่า “เมล็ดกาแฟ” หรือ “กาแฟกะลา” และชนิดกาแฟเป็น “กาแฟโรบัสต้า” หรอื “กาแฟอาราบิกา้ ” ขนาด ในกรณีทีม่ ีการคดั ขนาด น�้ำหนกั สุทธิ เปน็ หน่วยในระบบเมตริก (Metric System) ข้อมูลผู้ผลิตหรือผู้จ�ำหน่าย ให้ระบุช่ือและที่ตั้งของผู้ผลิต ผู้บรรจุ หรือผู้จ�ำหน่าย และหมายเลขรหัสสินค้า (ถ้ามี) ฤดกู าล (ปี) ท่ผี ลิต หรือ วนั เดือน ปี ทบี่ รรจุ เครื่องหมายการตรวจสอบทางราชการ หรอื เครอื่ งหมายรับรอง ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑ์และเงอื่ นไขทีค่ ณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรก�ำหนด หรอื ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขของหนว่ ยตรวจหรือหนว่ ยรบั รอง กรณที ผ่ี ลติ เพอื่ จำ� หนา่ ยในประเทศ ตอ้ งใชข้ อ้ ความเปน็ ภาษาไทย และกรณที ผี่ ลติ เพอื่ การ ส่งออก ให้แสดงข้อความเป็นภาษาตา่ งประเทศได้ 106 การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลติ กาแฟ

สาเหตขุ องเมลด็ กาแฟไม่ได้คุณภาพ ปัญหา สาเหตุ การแก้ไข เมลด็ ดำ� - เกิดจากการหมกั หรือการตากหนา หรอื การตากเปยี กนำ้� ฝน จะมกี ลิ่นบดู เนา่ - อยา่ ตากเมลด็ กาแฟหนาเกนิ 5 เซนติเมตร เมล็ดถูกมอดเจาะ - เกดิ จากการเกบ็ เมลด็ กาแฟที่ยงั ไมถ่ ึงระยะเก็บเกี่ยว - ไม่ควรเกบ็ เมล็ดกาแฟทีย่ งั ไมถ่ ึงระยะเกบ็ เกยี่ ว - อย่าปล่อยให้เมล็ดกาแฟเปยี กฝนและไม่เกบ็ ในที่ช้ืน เมลด็ แตกหกั - เกิดจากมอดเจาะผลกาแฟ ท�ำให้เมล็ดกาแฟด้อยคุณภาพ เพราะมอดกาแฟจะเจาะ - หลงั จากเก็บผลกาแฟแลว้ นำ� ไปลอยน�้ำ แยกส่วนลอยนำ้� ออก สิ่งเจอื ปน (เปลอื กและเย่อื หุ้ม เข้าไปกนิ สว่ นของเนื้อเย่อื ภายในเนือ้ ในของเมลด็ กาแฟ จนเหลือเฉพาะสว่ นเปลอื ก - ตัดแตง่ กงิ่ แหง้ กิง่ ตายคาตน้ ผลกาแฟแหง้ แลว้ นำ� ไปเผาท�ำลาย เมลด็ กาแฟ) มผี ลกาแฟปน - ป้องกันกำ� จดั มอดกาแฟแบบผสมผสาน สิง่ เจือปน (เศษวัสดุอืน่ ๆ) - เกดิ จากใชเ้ ครอื่ งสไี มถ่ กู ตอ้ งในการสผี ลกาแฟ โดยการปรบั ไมไ่ ดข้ นาด โดยเฉพาะเครอ่ื ง - ใช้เครอื่ งสเี มลด็ กาแฟชนิดหนิ ขดั หรอื ลกู ยาง สีใบมีดจะท�ำให้เปอร์เซน็ ตเ์ มล็ดแตกหักมากกว่าการใช้เครือ่ งสีแบบหนิ ขดั หรือลกู ยาง - ใหป้ รับช่องว่างระหว่างลกู ยางกบั ลูกหนิ ใหอ้ ยูใ่ นระยะท่เี หมาะสม - คดั ขนาดผลกาแฟใหใ้ กล้เคียงกนั กอ่ นนำ� ไปสี Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจัดศัตรพู ชื การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ 107- เกดิ จากการสีเปลอื ก โดยการปรับความแรงของพดั ลมและเครอ่ื งสีเบาเกินไป - ควรเรง่ พดั ลมเครือ่ งสใี หแ้ รงขน้ึ - เกดิ จากขนาดผลกาแฟเล็กเกินไป ทำ� ให้เครอื่ งสีไม่สามารถกะเทาะเปลอื กได้ - ควรสกี าแฟ 2 คร้งั - เกิดจากการตาก และ/หรือการเกบ็ รกั ษาทไี่ ม่เหมาะสม - คัดขนาดผลกาแฟใหใ้ กลเ้ คียงกนั กอ่ นนำ� ไปสี - เกบ็ ผลกาแฟ พยายามอย่าใหม้ ีก่ิงก้านปะปนมากบั ผลกาแฟ - ควรท�ำความสะอาดลานตากกอ่ นทกุ ครง้ั - ลานตากช�ำรุดให้ซ่อมแซมก่อน หรือจะใช้ตาข่ายรองก่อนตากผล กาแฟ - กอ่ นทำ� การสผี ลกาแฟ ใหต้ รวจสอบเครอ่ื งสกี อ่ นทกุ ครงั้ น�ำเอาเศษ เหล็ก เศษหิน ออกให้หมด

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จัดศัตรพู ชื 108 การเพิ่มประสิทธภิ าพการผลิตกาแฟ

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื การแปรรูป และการใช้ประโยชน์ ชนดิ ของกาแฟ 1. กาแฟควั่ (Roasted Coffee) เปน็ กาแฟท่ีได้จากการน�ำเมลด็ กาแฟมาควั่ แล้วบด ชงดว้ ยน�้ำรอ้ น สารส�ำคัญท่ีให้กล่ินและรสของกาแฟจะถกู ละลายปลดปล่อยออกมาในนำ�้ กาแฟ 2. กาแฟสำ� เรจ็ รปู (Instant Coffee) เปน็ กาแฟทชี่ งละลายในนำ้� รอ้ นไดห้ มดทนั ที โดยไม่มีกากกาแฟเหลืออยู่ สะดวกต่อการเก็บรักษา และการดื่มชง กล่ินรสไม่ค่อยแปรปรวน กาแฟชนิดน้ีถูกคิดค้นขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน – ญ่ีปุ่น ช่ือ Satori Kato ในปี ค.ศ. 1901 และได้รับความนยิ มในเวลาตอ่ มา รวมท้งั ในประเทศไทย ลกั ษณะของกาแฟส�ำเรจ็ รปู มี 4 แบบ คอื ผงละเอยี ด เกล็ดฟู เกล็ดแขง็ และเกล็ดแท่ง วธิ กี ารผลิตกาแฟส�ำเร็จรูปโดยทั่วไป มี 2 แบบ คือ การผลิตในระบบพ่นแห้ง (Spray Drying) โดยการคั่วเมล็ดกาแฟ น�ำไปต้ม แล้วพ่นน้�ำกาแฟเป็นละอองฝอยละเอียดผ่านไปในอากาศร้อน น�้ำจะถูกระเหยออกไปจนเหลือ แต่ผงกาแฟเป็นผงละเอียด แต่หากใช้กระบวนการทำ� ซ�้ำๆ อย่างต่อเน่ือง จะได้ลักษณะกาแฟ ท่เี ป็นเกล็ดฟู ท�ำใหม้ ีการละลายดีขึ้น การผลิตในระบบเย็น (Freeze Drying) โดยการน�ำน้�ำกาแฟเข้มข้นไป แช่เย็นจัดต่�ำกว่าจุดเยือกแข็งภายใต้ความดันสูงจนเป็นเกล็ด เพ่ือระเหยน�้ำอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเปล่ียนสภาพ จะได้กาแฟส�ำเร็จรูปในรูปเกล็ดแข็งท่ีสามารถเก็บรักษากล่ินหอมและ รสชาติของกาแฟได้ดี การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ 109

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื การผลติ กาแฟสำ� เร็จรปู โดยทวั่ ไป เมลด็ กาแฟ 2.6 กโิ ลกรัม สามารถผลิตกาแฟส�ำเร็จรูป ได้ 1 กิโลกรัม อาจมากหรือน้อยกว่าน้ี ข้ึนอยู่กับลักษณะที่แตกต่างกันของเมล็ดกาแฟ เช่น พันธ์ุ คณุ ภาพเมล็ด เปน็ ต้น 3. กาแฟส�ำเร็จรูปชนิดปรุงส�ำเร็จ เป็นกาแฟท่ีน�ำกาแฟส�ำเร็จรูปมาปรุงรส เพื่อให้สะดวกต่อการบริโภค ด้วยการผสมน้�ำตาลและครีมเทียมไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น กาแฟ ทรี อนิ วนั (3:1) กาแฟทรี โอ (Tri O) เป็นตน้ นอกจากนย้ี ังมกี าแฟส�ำเร็จรปู บางชนดิ ปรงุ แตง่ ใหเ้ กดิ กลน่ิ สี รสของกาแฟทีแ่ ปลกใหม่ เช่น กาแฟผสมคาราเมล กาแฟกลนิ่ วนิลา เปน็ ต้น รวมทงั้ กาแฟส�ำเร็จรูปผสมสารสกัดจากพืชและสารอ่ืนๆ เช่น ถ่ัวขาว โสม เป็นต้น เพ่ือให้มีสรรพคุณ ดา้ นตา่ งๆ สนองความตอ้ งการผ้บู ริโภค 4. กาแฟสกัดคาเฟอีน (Decaffeinated Coffee) เป็นกาแฟที่ถูกสกัดสาร คาเฟอีนออกไป ถูกคิดค้นโดย Ludwig Roselius ผู้น�ำเข้ากาแฟชาวเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1901 โดยใช้การสกัดด้วยไอน�้ำและสารละลายคลอรีนรวมกัน และได้จดลิขสิทธ์ิ รวมทั้งผลิตกาแฟ ปลอดคาเฟอนี ออกจำ� หนา่ ยภายใตช้ อื่ Kaffee – Hag ปจั จบุ นั การสกดั สารคาเฟอนี มหี ลายวธิ ขี นึ้ อยกู่ บั ตัวท�ำละลาย เชน่ เมธิลีน คลอไรด์ (methylene chloride) เอททิล อซีเตต (ethyl acetate) 5. กาแฟกระปอ๋ งพรอ้ มดมื่ (Ready to Drink Coffee) เป็นกาแฟชงส�ำเรจ็ บรรจุกระปอ๋ งหรอื ขวด สามารถดืม่ ได้ทนั ที ผลิตครง้ั แรกในปี ค.ศ. 1969 โดยชาวญปี่ ่นุ ส่วนหน่ึง เน่ืองมาจากความนิยมใช้เครื่องขายอัตโนมัติ ต่อมาได้รับความนิยมในประเทศแถบเอเซีย ซึง่ มอี ากาศร้อน จงึ ต้องการเครือ่ งดม่ื เยน็ ๆ การคว่ั กาแฟ การคั่วกาแฟเป็นวิธีการแปรรูปเพื่อสร้างกล่ินและรสชาติกาแฟ โดยการน�ำเมล็ดกาแฟ มาผ่านความรอ้ นในภาชนะ หรือเครื่องควั่ โดย ใช้ระยะเวลาและอุณหภูมิของความร้อนท่ี แตกตา่ งกนั ทำ� ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงคณุ สมบตั ิ ทางเคมีและทางกายภาพของเมล็ดกาแฟ เมล็ดกาแฟมีการขยายตัวใหญ่ขึ้น เปล่ียนสี กล่ิน รสชาติ และมีความหนาแนน่ ลดลง 110 การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จัดศัตรพู ชื องค์ประกอบทางเคมีของเมล็ดกาแฟท่ีส�ำคัญ ประกอบด้วย คาเฟอีน กรดคลอโรจินิค (น�้ำมันกาแฟ หรอื coffee oil) ไนอาซิน และกรดลินดิก องคป์ ระกอบทางเคมีอ่ืนๆ ได้แก่ นำ�้ ตาล ไขมนั โปรตีน น�้ำ วติ ามนิ ชนิดต่างๆ ไดแ้ ก่ ไทอามีน (B1) ไรโบฟลาวนิ (B2) ไพรดี ๊อกซีน (B6) โคบาลามิน (B6) กรดแอสคอร์บกิ กรดเพนโตเทนิค กรดโฟลคิ และโคลนี รวมทง้ั แปง้ และไฟเบอร์ โดยทั่วไปมักจะพูดถึงคาเฟอีนมากท่ีสุด คาเฟอีนเป็นสารพวกอัลคาลอยด์ มีฤทธ์ิกระตุ้นประสาท สว่ นกลางของสมอง ทำ� ใหร้ า่ งกายตนื่ ตวั กระปรก้ี ระเปรา่ จงึ ใชเ้ ปน็ เครอื่ งดมื่ กระตนุ้ ชว่ ยการทำ� งาน ให้สดช่ืน แต่ถ้าใช้ในปริมาณสูง จะออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจ ซึ่งค่าความปลอดภัยของการบริโภค คาเฟอนี อยทู่ ่ี 100 – 300 มิลลกิ รมั เท่ากบั ดม่ื กาแฟธรรมดาประมาณ 2 – 4 ถ้วยต่อวนั การคว่ั เมล็ดต้องใหเ้ มล็ดกาแฟไดร้ บั ความรอ้ นสม�่ำเสมอเท่ากนั ทุกเมลด็ ท�ำใหน้ ำ�้ มนั หอม ระเหยและสารประกอบกล่ิน รสต่างๆ ถูกปล่อยออกมา เวลาและอุณหภูมิเป็นปัจจัยส�ำคัญ ในการค่ัวกาแฟ ปกติอุณหภูมิที่ใช้อยู่ระหว่าง 195 – 245 องศาเซลเซียส ระยะเวลาประมาณ 10 – 30 นาที สีของเมลด็ กาแฟขนึ้ กบั ระดบั การคั่วแก่ – ออ่ น ระดบั การคัว่ การค่ัวกาแฟแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ได้ 3 ระดับ ซงึ่ ในแตล่ ะระดับกย็ งั มรี ะดบั แยกยอ่ ย ออกไปอกี คอื 1. การค่ัวอ่อน (Light roast, Half – city roast) สขี องเมล็ดกาแฟจะมี สีน�้ำตาลอ่อน คล้ายสีของของเปลือกต้น อบเชย ผิวเมล็ดกาแฟแห้ง ไม่มีน้�ำมันออกมา จากเมล็ด จะให้กล่ินบางๆ รสชาติเปร้ียวน�ำ ไม่ขมมากนกั อาจไปทางหวาน เรยี กกาแฟคั่วลกั ษณะนว้ี ่า “แบบอังกฤษ” (New English roast) หรือ “ซินนามอน” (Cinnamon roast) การคั่วระดับนี้จะแสดงลักษณะเฉพาะของเมล็ด กาแฟได้ดีที่สุด จึงเหมาะส�ำหรับกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูงท่ีต้องการเน้นเอกลักษณ์ และ รสชาติเฉพาะตัวที่มาจากแหล่งปลูกที่มีชื่อเสียง เช่น เมล็ดกาแฟจากเกาะชวา เคนย่า โคน่าจากฮาวาย และบลูเมาเทนจากจาไมก้า เป็นต้น เพราะจะเก็บรสชาติด้ังเดิมไว้ ได้ดีกว่า เป็นกาแฟรสอ่อน ส่วนใหญ่การชงกาแฟประเภทน้ีมักผสมนมหรือครีม เหมาะ ส�ำหรบั ด่มื ช่วงเวลาเชา้ 2. การค่ัวปานกลาง (Medium roast) สีของเมล็ดกาแฟจะมีสีน้�ำตาลเข้มข้ึน โดยไม่มีน�้ำมันเคลือบผิวเมล็ด เรียกกาแฟค่ัวลักษณะน้ีว่าแบบอเมริกัน (American roast) หรอื แบบธรรมดา (Regular) ถา้ คว่ั เขม้ ขน้ึ อกี เลก็ นอ้ ย จนเมลด็ มสี นี ้�ำตาลเขม้ และมนี ำ�้ มนั เคลอื บผวิ การเพิม่ ประสิทธภิ าพการผลติ กาแฟ 111

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื เมลด็ กาแฟเลก็ น้อย เรียกค่วั แบบ Full city roast โดยกาแฟจะมรี สเปร้ยี วลดลง มรี สกลมกล่อม และกล่ินหอมมากข้ึน หากคั่วให้เข้มย่ิงข้ึนจนเมล็ดกาแฟมีสีน้�ำตาลเข้มข้ึนไปและมีน้�ำมันเคลือบ บนผิว เรียกว่ากาแฟแบบเวียนนา (Viennese roast) รสชาติกาแฟเริ่มมีกลิ่นไหม้เล็กน้อย ทำ� ใหร้ สชาติจากแหล่งปลกู ถูกบดบังด้วยรสชาตจิ ากการค่ัว 3. การคั่วแบบเข้ม (Dark roast) สีของเมล็ดกาแฟจะมีสีนำ้� ตาลเข้มถึงน้�ำตาลด�ำ ผิวเมล็ดกาแฟมีน้�ำมันซึมออกมา มีกล่ินและรสขม เป็นการคั่วท่ีใช้อุณหภูมิสูงขึ้นหรือใช้เวลา ในการคั่วนานข้ึน ถา้ เมล็ดกาแฟควั่ มีสีนำ�้ ตาลเขม้ ถงึ นำ้� ตาลดำ� มนี ำ�้ มนั เยิ้มทผ่ี ิวเมลด็ มากข้ึน เรียก วา่ แบบคอนทเิ นนทัล (Continental roast) หรอื แบบฝรงั่ เศส (French roast) แตถ่ า้ คว่ั จนเมล็ด กาแฟเป็นสีน้�ำตาลเข้มมากข้ึนจนเป็นสีด�ำ และมีน�้ำมันเย้ิมออกมามาก มีความหอมจากกล่ินไหม้ มีรสขม เรยี กวา่ แบบอติ าลี ( Italian roast) หรือแบบเอสเพรสโซ่ (Espresso roast) โรงค่ัวบางแห่งค่ัวกาแฟออกมาได้สีของเมล็ดกาแฟเหมือนกัน แต่อาจเรียกช่ือระดับการ คั่วแตกต่างกันก็ได้ เช่น ระดับการค่ัวอ่อนของโรงคั่วหนึ่งอาจจะเป็นคั่วกลางของอีกโรงค่ัวหน่ึง จึงต้องมีเคร่ืองมือวัดสีของเมล็ดกาแฟ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น Agtron Color – SCAA (Specialty Coffee Association of America) หรือ Colorette ของค่าย Probat ซงึ่ เปน็ เครอ่ื งมอื วดั สแี สดงผลของคา่ สเี ปน็ หนว่ ยตวั เลข ซง่ึ เปน็ การหาคา่ จากตวั เลขเพอ่ื น�ำมาสอื่ สาร ให้เข้าใจเป็นค่ามาตรฐานเดียวกัน หรืออาจใช้ตัวอย่างเมล็ดกาแฟไว้เปรียบเทียบสีระดับต่างๆ ซ่งึ เปน็ วธิ แี บบง่าย 112 การเพิ่มประสิทธภิ าพการผลิตกาแฟ

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจัดศัตรพู ชื กระบวนการควั่ กระบวนการค่วั แบง่ เปน็ ข้ันตอนใหญ่ 3 ขั้นตอน ดงั นี้ 1. ขนั้ ตอนการระเหยน้�ำ เมอื่ เมลด็ กาแฟไดร้ บั ความรอ้ นกจ็ ะเรม่ิ ระเหยน�้ำ สง่ ผลใหเ้ กดิ ไอน้�ำในเมล็ดกาแฟ ดันให้เมล็ดกาแฟมีขนาดใหญ่พองข้ึนจากเดิม อัตราการระเหยน้�ำเร็วหรือ ช้าขึ้นกับพลังงานความร้อนที่ใช้ในการค่ัวกาแฟ ถ้าใช้พลังความร้อนมาก การระเหยน้�ำจะเกิด เร็วกว่าการคั่วท่ีใช้พลังงานความร้อนน้อย โดยปกติกาแฟจะสูญเสียน�้ำหนักในระหว่าง การค่ัวประมาณ 14 – 23 % ข้ึนอยู่กับระดับความเข้มของการค่ัว และความชื้นของเมล็ด กาแฟก่อนคั่ว ส่วนใหญ่เกิดจากการสูญเสียน้�ำ และส่วนน้อยเกิดจากการสูญเสียก๊าซจาก ปฏกิ รยิ าการค่วั 2. ข้ันตอนการค่ัว เกิดต่อเน่ืองจากขั้นตอนการระเหยน�้ำ เป็นขั้นตอนท่ีส�ำคัญและ เกิดปฏิกิริยาต่างๆ มากมาย เมล็ดกาแฟเปลี่ยนจากสีเขียวอมเทาเป็นสีน�้ำตาลจากการท�ำ ปฏิกริยาระหว่างกรดและน้�ำตาล โดยเกิดข้ึนต่อเน่ือง ท�ำให้ได้สีน้�ำตาลสะสมมากขึ้นเร่ือยๆ ตั้งแต่สีน�้ำตาลอ่อน น�้ำตาลเข้ม น�้ำตาลด�ำ จนถึงสีด�ำ และมีน�้ำมันกาแฟซึมออกมาจาก เมลด็ กาแฟ ทง้ั นี้ ขน้ึ อยกู่ บั ระดบั การควั่ ยงิ่ ควั่ เขม้ มากจะมสี เี ขม้ และมนี ำ้� มนั ออกมามาก นอกจากน้ี ยังเกิดการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีภายในเมล็ดกาแฟ ได้แก่ การสลายสารเคมีอินทรีย์ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แล้วสร้างสารเคมีใหม่ขึ้นมาหลากหลายชนิด ซ่ึงมีผลต่อกลิ่น และรสชาติกาแฟ สำ� หรับอากาศร้อนที่ผ่านออกมาจากเครื่องค่ัว จะมีฝุ่นและกากเย่ือเมล็ดกาแฟ (silver skin) ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของเมล็ดกาแฟติดออกมาด้วย รวมทั้งควันก๊าซท่ีเกิดจาก ปฎิกริยาในเมล็ดกาแฟ เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ และไนโตรเจน โดย จะเกดิ ขน้ึ ในชว่ งทา้ ยของการค่ัว ท้งั นี้ สี กลนิ่ และรสชาติของเมลด็ กาแฟควั่ จะแตกตา่ งกันตาม ชนิดพนั ธุ์ แหล่งปลกู กระบวนการผลติ และกระบวนการคัว่ 3. ขน้ั ตอนการลดความรอ้ น เปน็ การท�ำใหเ้ มลด็ กาแฟเยน็ ลงเพอ่ื หยดุ ปฏกิ รยิ าการควั่ เมอ่ื เมลด็ กาแฟไดส้ ี กลิ่น และรสชาติตามความตอ้ งการแล้ว โดยการเทเมล็ดกาแฟออกจากถงั คัว่ ลงในถาดท่ีมีพายกวนวนตลอด และมีพัดลมดูดอากาศ เพื่อแลกเปลี่ยนความร้อนกับอากาศเย็น โดยทว่ั ไปเมลด็ กาแฟควั่ ทอ่ี อกจากเครอ่ื งจะมอี ณุ หภมู ิ 140 – 200 องศาเซลเซยี ส เมอื่ เขา้ สขู่ น้ั ตอน การลดความรอ้ น ปฏกิ ริยาภายในเมล็ดกาแฟยงั คงเกดิ ข้ึนตอ่ เนอื่ งอย่างช้าๆ การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการผลติ กาแฟ 113

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื เคร่อื งค่ัวกาแฟ เคร่ืองคั่วกาแฟท่ีนิยมโดยทั่วไปส�ำหรับโรงคั่ว เป็นแบบ drum roaster ประกอบด้วย อปุ กรณห์ ลกั ดงั น้ี 1. ตวั เครอื่ งคว่ั กาแฟ เปน็ แบบถงั หมนุ แนวนอน ทำ� ดว้ ยเหลก็ สแตนเลส มฉี นวนกนั ความรอ้ น 2. เครื่องให้ความรอ้ น เปน็ แกส๊ หรอื ไฟฟา้ 3. ถังเปา่ เย็น เพอ่ื ท�ำใหเ้ มล็ดกาแฟค่วั เย็นลงอย่างรวดเร็ว โดยการกวนใหเ้ มล็ดเคลอ่ื นไหว มีพัดลมเป่าดูดอากาศผ่านเมลด็ กาแฟ เพอื่ ช่วยถา่ ยเทความรอ้ น การผสมกาแฟ (Coffee Blend) การผสมกาแฟ คอื การผสมกาแฟท่ีมีความแตกต่างกันทางสายพันธ์ุ แหลง่ ปลกู กระบวน การผลิต ฯลฯ เพ่ือให้ได้กาแฟที่มีกลิ่น รสชาติ เนื้อกาแฟ และราคาตรงตามความต้องการของ ผู้ขายหรือผู้บริโภค โดยมีทั้งการผสมกาแฟพันธุ์เดียวกัน แต่มาจากคนละแหล่งผลิต เช่น กาแฟ อาราบิก้าไทยผสมกับกาแฟอาราบิก้าโคลัมเบีย หรือการผสมกาแฟคนละสายพันธุ์ เช่น กาแฟ อาราบิก้าผสมกับกาแฟโรบัสต้า เป็นต้น ซ่ึงสามารถผสมกาแฟได้ท้ังก่อนการคั่วและหลังการค่ัว ถา้ ผสมเมลด็ กาแฟก่อนการคว่ั จะได้เมล็ดกาแฟคว่ั ท่ีมีสแี ตกต่างกนั เน่อื งจากคณุ สมบัติของเมล็ด กาแฟแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน เมล็ดกาแฟที่มีขนาดเล็กหรือมีความชื้นน้อยกว่า จะเกิดปฏิกริยา การค่ัวก่อนเมล็ดกาแฟท่ีมีขนาดใหญ่หรือมีความชื้นมากกว่า แต่ถ้าผสมเมล็ดกาแฟหลังการค่ัว จะไดส้ ขี องเมลด็ กาแฟคว่ั เหมอื นหรือใกล้เคียงกนั การบดเมลด็ กาแฟ (Grinding Coffee) เมล็ดกาแฟคั่วก่อนชงด่ืม ต้องผ่านกระบวนการบดเสียก่อน เพื่อท�ำให้เมล็ดกาแฟ เป็นผง ท�ำให้มีปริมาณผิวพื้นของกาแฟท่ีสัมผัสน�้ำมากข้ึน สารละลายน�้ำและสารระเหยต่างๆ ถูกสกัดออกมาได้ง่ายด้วยน�้ำร้อนที่รินผ่านไป บนผงกาแฟ ขณะเดียวกันการบดมีผลต่อ การสูญเสียกลิ่นและรสชาติกาแฟค่ัวได้มาก เช่นเดียวกัน เพราะผงกาแฟจะมีพ้ืนผิวสัมผัส กับอากาศได้มากข้ึน การดื่มกาแฟให้อร่อย จึงควรใช้กาแฟผงจากเมล็ดกาแฟท่ีคั่วเสร็จ ใหม่ๆ หากจ�ำเป็นต้องเก็บกาแฟไว้นานกว่า หนง่ึ อาทติ ย์ ควรเกบ็ ไวใ้ นสภาพของกาแฟเมลด็ 114 การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการผลิตกาแฟ

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื ซ่ึงจะคงคุณภาพได้นานกว่ากาแฟบด ทั้งน้ี ไม่ควรบดเมล็ด กาแฟทันทีหลังการค่ัว ควรปล่อยท้ิงไว้อย่างน้อย 12 ชั่วโมง เพ่ือให้เมล็ดกาแฟปล่อยก๊าซท่ียังคงเหลือจากปฏิกริยาการคั่ว ออกมาก่อน การบดกาแฟให้ละเอียดมากหรือน้อยข้ึนกับวิธีการและ เคร่ืองมือในการชงกาแฟ ถ้าเป็นวิธีท่ีใช้เวลาให้น�้ำไหลผ่านผง กาแฟนาน จะใชก้ าแฟบดหยาบกวา่ วธิ ที ใ่ี ชเ้ วลานอ้ ย การบดเมลด็ กาแฟจงึ ควรบดใหม้ ขี นาดเหมาะสมกบั เครอ่ื งชง เชน่ ผงกาแฟบด หยาบเหมาะส�ำหรับการชงแบบก้านกด ผงกาแฟบดหยาบปาน กลางเหมาะส�ำหรับการชงแบบหยดและแบบสูญญากาศ ผงกาแฟแบบบดละเอียดเหมาะสำ� หรับ การชงแบบเอสเพรสโซ่ กาแฟท่บี ดหยาบจะให้รสชาตกิ าแฟออ่ นกว่ากาแฟท่บี ดละเอียด บรรจภุ ณั ฑ์สำ� หรบั กาแฟคั่ว ออกซิเจน ความช้ืน และความร้อนเป็นปัจจัยส�ำคัญที่มีผลต่อการท�ำลายคุณภาพ ของกาแฟ ท�ำให้กล่ินหอมลดลง มีกล่ินและรสชาติท่ีเปลี่ยนไป บรรจุภัณฑ์กาแฟค่ัวทั้งแบบเมล็ด และแบบผง ควรบรรจุในถุงสูญญากาศ หรือถุงที่มีวาล์วระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ท่ียังคงมีอยู่ในเมล็ดกาแฟค่ัวและถูกระบาย ออกมาอย่างต่อเนื่องหลังการคั่ว ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ป้องกันไม่ให้อากาศภายนอก เข้าไปภายในถุงได้ ถุงควรมีการเคลือบ หลายชนั้ (ลามิเนต) และเปน็ อลมู ิเนยี มฟอยล์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติป้องกันแสงจากภายนอก ทำ� ให้กาแฟควั่ สญู เสยี กลน่ิ และรสชาตชิ ้าลง การเกบ็ รกั ษาเมลด็ กาแฟคว่ั หลังเปดิ ถงุ บรรจุกาแฟคั่วแล้ว ควรเก็บกาแฟควั่ ในภาชนะทม่ี ีฝาปิดแนน่ อากาศเข้าไม่ได้ เก็บไว้ในทม่ี ีความเย็น แห้ง และไม่โดนแสงแดด เก็บหา่ งจากสิง่ ของหรอื อาหารที่มกี ลิ่นแรง เมล็ดกาแฟควั่ ไม่ควรเกบ็ นานเกิน 3 เดือน กาแฟที่บดแล้วจะเกบ็ ได้นานนอ้ ยกว่า เพราะ กาแฟบดแลว้ มผี วิ สมั ผสั อากาศและความชนื้ มากกวา่ โดยปกตแิ ลว้ ไมค่ วรเกบ็ กาแฟคว่ั บดนานเกนิ กวา่ 1 สัปดาห์ การเพ่ิมประสิทธภิ าพการผลติ กาแฟ 115

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื การชงกาแฟคัว่ บด การชงกาแฟเป็นวิธีการท�ำให้ผงกาแฟสัมผัสกับน้�ำนานพอท่ีจะขับกลิ่นและรสชาติกาแฟ ออกมา การชงกาแฟมหี ลายวิธี ดงั นี้ 1. การชงโดยถุงชง (Chinese style) เปน็ กาแฟท่ีคนไทยดื่มกนั มานาน วิธกี ารชงโดยการ ตักน้�ำร้อนเทลงไปบนผงกาแฟท่ีใส่อยู่ในถุงผ้ากรอง น�้ำกาแฟจะซึมผ่านผ้ากรองสู่ภาชนะรองรับ ดา้ นลา่ ง แลว้ จงึ รนิ นำ�้ กาแฟจากภาชนะนน้ั ลงสถู่ ว้ ยกาแฟทใ่ี สน่ ำ�้ ตาลหรอื นมขน้ คนใหเ้ ขา้ กนั จะได้ กาแฟรสเขม้ ขน้ หวานมนั ตามความชอบของแตล่ ะบุคคล 2. การชงแบบใช้กระดาษกรองหรือแบบหยด (Filter method, Drip maker) เป็น ที่นิยมในปัจจุบัน เน่ืองจากสะดวกในการชงเพ่ือด่ืมในระดับครัวเรือน โดยการเทน�้ำร้อนจน เกอื บเดอื ดลงบนผงกาแฟบดหยาบปานกลางทอี่ ยบู่ นกระดาษกรอง รอใหน้ �้ำกาแฟหยดผา่ นกระดาษ กรองลงมาในถว้ ยกาแฟหรอื โถแก้วที่รองรับด้านล่าง 3. การชงแบบใช้เคร่อื งชงแบบกา้ นกด (Coffee Press, French Press) เป็นการชงท่ีสะดวกอีกวิธีหน่ึง โดยใส่ ผงกาแฟบดชนิดหยาบลงในเหยือกแก้ว เทน�้ำร้อนจน เกือบเดือดลงไป คนให้เข้ากันแล้วท้ิงไว้ประมาณ 3 – 5 นาที ค่อยๆ กดแผ่นกรองโลหะที่มีตาข่ายละเอียดลงไป เพื่อ แยกกากกาแฟออกจากน้�ำกาแฟ โดยผงกาแฟจะอยู่ด้านล่าง ของเหยือก ส่วนน้�ำกาแฟอยู่ด้านบน จากนั้นจึงรินน้�ำ กาแฟลงในถ้วย การชงวิธีนี้จะมีน้�ำมันและสารแขวนลอย อยู่ในน�้ำกาแฟมากกว่าการชงโดยใช้กระดาษกรอง นักด่ืม กาแฟจ�ำนวนมากชอบด่ืมกาแฟแบบน้ี เพราะมีทั้งความมัน และเข้มข้นได้รสชาติ 4. การชงแบบใช้เคร่ืองชงแบบสูญญากาศ (Vacuum method) เป็นเคร่ืองชงประกอบ ด้วยกระบอกแกว้ 2 ช้ิน กระบอกแก้วดา้ นลา่ งใสน่ ำ้� เยน็ กระบอกแก้วดา้ นบนใสผ่ งกาแฟ ให้ความ รอ้ นจนน้�ำเดอื ด นำ�้ เดือดจะถกู ดันผา่ นทอ่ ขึ้นไปสู่กระบอกแก้วดา้ นบนสมั ผัสกบั ผงกาแฟ นำ� ความ รอ้ นออก คนน้�ำกบั ผงกาแฟให้เขา้ กัน ปล่อยใหน้ �้ำกาแฟไหลผ่านตัวกรองผงกาแฟลงมาสู่ด้านลา่ ง น�ำกระบอกแกว้ ส่วนบนออก รนิ น้�ำกาแฟใส่ถ้วย 116 การเพมิ่ ประสิทธภิ าพการผลิตกาแฟ

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื 5. การชงในเหยือก เปน็ วธิ กี าร ชงท่ีง่ายและสะดวก มักใช้ในการชง กาแฟท่ีมีคุณภาพดี โดยใส่ผงกาแฟ บดหยาบลงในเหยือกดินเผาท่ีอุ่น แล้ว เทน้�ำร้อนจนเกือบเดือดลงบนผงกาแฟ ปลอ่ ยทิ้งไว้สกั ครู่ จงึ รินน�้ำกาแฟลงในถว้ ยกาแฟ เหยือกท่ีใช้ในการชงกาแฟแบบน้ี มักมีตัวกรอง ตะกอนเพื่อป้องกันไมใ่ หก้ ากกาแฟตกลงในถ้วยกาแฟ 6. การชงโดยน้�ำเย็น วิธีนี้เหมาะกับการด่ืมกาแฟเย็น เร่ิมจากผสมผงกาแฟบดค่อนข้างหยาบกับน้�ำเย็นในภาชนะใดๆ ก็ได้ (ผงกาแฟ 500 กรัม ผสมนำ้� เยน็ 1 ลิตร) คนให้เข้ากนั แลว้ ปล่อยทง้ิ ไว้ ณ อณุ หภมู หิ ้อง 10 – 12 ชวั่ โมง หลงั จากนนั้ รินส่วนของน�้ำกาแฟไว้ในภาชนะอีกใบหนึ่ง น�ำไปแช่เย็นไว้ เวลาดื่มก็รินกาแฟลงในถ้วย ประมาณ ¼ ถ้วย แลว้ เตมิ นำ้� รอ้ นลงไปในถ้วยให้เตม็ และด่มื ไดท้ ันที หรอื นำ� ไปผสมน้�ำเช่อื มแลว้ เติมน้�ำแข็งลงไปก็ได้ หัวเชื้อกาแฟสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายสัปดาห์ วิธีชงแบบนี้เชื่อว่า มีผลดีกับกระเพาะอาหาร เพราะน้�ำมันธรรมชาติของกาแฟถูกสกัดออกมาน้อย น้�ำกาแฟที่ได้ จะมีความเปน็ กรดนอ้ ยด้วย 7. การชงแบบใช้เคร่ืองชงเอสเพรสโซ่ (Espresso) ค�ำว่า “เอสเพรสโซ่ (Espresso)” ความหมายที่รู้จักกันดี หมายถึง กาแฟท่ีชงผ่านเคร่ืองชงกาแฟที่ใช้ความดันสูงไหลผ่านกาแฟค่ัว ในระดบั ปานกลางถึงค่ัวแกท่ บ่ี ดเป็นผงละเอียด โดยใชเ้ วลา 20 - 30 วนิ าที จะได้กาแฟทม่ี ีลักษณะ ดำ� เขม้ รสชาตเิ ขม้ ขน้ มฟี องกาแฟสที อง (crema) ลอยอยดู่ า้ นบน โดยทว่ั ไปมกั ดม่ื กาแฟเอสเพรสโซ่ โดยไม่ปรงุ ดว้ ยน้�ำตาลหรอื นม เวลาเสริ ฟ์ จะใชแ้ กว้ เล็กขนาด 1 ออนซ์ / 1 ชอต (single shot) หรอื 2 ออนซ์ / 2 ชอต (double shot) ปรมิ าณการกลนั่ กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ชอ็ ต จะใช้ปรมิ าณ กาแฟผง 7 – 10 กรัม ต่อน้�ำ 1 ออนซ์ หรือ 30 มิลลิลิตร หรือ 2 ชอต ใช้ปริมาณกาแฟผง 14 – 18 กรมั ต่อนำ�้ 2 ออนซ์ หรือ 60 มิลลลิ ติ ร กาแฟเอสเพรสโซ่เป็นส่วนประกอบต้ังต้นพ้ืนฐานในการชงกาแฟแบบอ่ืนๆ เช่น ลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า กาแฟเย็น เป็นต้น ดังนั้น การกล่ันกาแฟเอสเพรสโซ่ให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์ (perfect shot) จึงมคี วามสำ� คัญมาก จ�ำเปน็ ตอ้ งอาศยั ความรู้ความช�ำนาญในการฝกึ ฝน เนอื่ งจาก มขี น้ั ตอนทล่ี ะเอยี ดออ่ นหลายขนั้ ตอน เชน่ การคดั เลอื กเมลด็ กาแฟ การบดเมลด็ กาแฟ การใสป่ รมิ าณ ผงกาแฟ น้�ำหนักในการกดผงกาแฟในตะแกรงชง แรงดันน�ำ้ อณุ หภูมิ และเวลาในการกล่นั ที่พอดี เคร่ืองชงกาแฟเอสเพรสโซ่มีหลายขนาด ท้ังขนาดที่ใช้ในครัวเรือน หรือแบบการค้า สามารถชงได้จ�ำนวนมาก บางชนิดมีอุปกรณ์เพิ่ม เช่น เคร่ืองท�ำฟองนม เป็นต้น เคร่ืองชง ท่ีได้มาตรฐาน มักเป็นเครื่องชงแบบการค้า เพราะสามารถให้อุณหภูมิ แรงดัน ปั๊มน�้ำที่คงที่กว่า ท�ำให้สามารถชงกาแฟไดค้ ณุ ภาพตามตอ้ งการ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกาแฟ 117

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จัดศัตรพู ชื เคร่ืองด่มื กาแฟคัว่ บดแบบตา่ งๆ คาปูชิโน่ เป็นกาแฟท่ีมีลักษณะของฟองนมที่พูนเป็นยอดอยู่บนปากถ้วย ซ่ึงเป็นที่มา ของช่ือคาปูชิโน เพราะมองแล้วเหมือนส่วนของจีวรที่พับมาคลุมศรีษะเป็นหมวกของพระคาปูชิน ในนกิ ายโรมนั คาทอลคิ ประกอบดว้ ย กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต นมร้อน (ประมาณ 150 – 170 องศาเซลเซยี ส) และนมที่เป่าจนเปน็ ฟอง อยา่ งละ 1 ส่วน โดยฟองนมอยบู่ นสดุ โรยผงโกโก้หรือ ผงอบเชยเล็กนอ้ ย มอคคา่ ค�ำว่า มอคคา่ (Mocha) หมายถงึ ช็อคโกแลต ประกอบด้วย กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต นมร้อน และน้�ำเช่ือมช็อคโกแลตหรือช็อคโกแลตร้อน อาจราดด้วยวิปครีมแล้วโรยด้วย ผงช็อคโกแลตกไ็ ด้ ลาเต้ คำ� วา่ ลาเต้ (Latte) ในภาษาอติ าเลย่ี น หมายถงึ นม ประกอบดว้ ย กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต กบั นมอนุ่ ร้อนจากไอน�้ำ 2 สว่ น เตมิ รสชาติดว้ ยนำ้� ตาล อเมริกาโน่ ประกอบดว้ ย กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต เติมน�้ำรอ้ นจนเตม็ ถ้วย กาแฟขนาด ปกตหิ รือใหญก่ ว่า กาแฟชนิดนีน้ ิยมด่ืมกันในประเทศสหรัฐอเมริกา เอสเพรสโซม่ อคดอิ าโต้ ประกอบดว้ ย กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ชอ็ ต เตมิ ดว้ ยฟองนมอตั รา ประมาณ 15 มลิ ลลิ ติ รตอ่ 1 ช้อนโตะ๊ ของฟองนม เอสเพรสโซค่ อนานญา คอื กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต แตง่ หนา้ ดว้ ยวปิ ครมี เอสเพรสโซ่คอรเ์ รตโต คือ กาแฟเอสเพรสโซฉ่ าบดว้ ยเครือ่ งดื่มแอลกอฮอล์ 118 การเพ่มิ ประสิทธภิ าพการผลิตกาแฟ

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื แคฟเฟ รอแยล คือ กาแฟด�ำ หนึ่งถ้วย น�ำน�้ำตาลก้อนวางบนช้อนกาแฟ ถือไว้เหนือถ้วยกาแฟ เทเหล้าเบอร์เบ้ินลง 1 ออนซ์บนน�้ำตาล ให้เหล้าลงไปในกาแฟ จุดไฟบนน้�ำตาลจนไหม้หมด คนกาแฟ ใหเ้ ขา้ กัน กาแฟโซดา โดยเตมิ น้�ำแข็งลงในแก้ว เทกาแฟครึ่งถ้วย ใสโ่ ซดาหรอื โคล่าลงไปหนึ่งใน สีถ่ ว้ ย ประดับดว้ ยมะนาวฝาน กาแฟโบราณ ถือเปน็ เอกลักษณ์ทโี่ ดดเด่นและเป็นท่นี ิยมของไทย ประกอบด้วย กาแฟ ไทยค่ัวแก่เข้ม เม่ือน�ำมาชงน้�ำร้อนผ่านกาแฟในถุงชง เติมน้�ำตาลและน�้ำแข็งเป็นโอเล้ียง ถ้าเป็น กาแฟด�ำร้อนเติมนมข้นหวาน เรียกว่าโกปี้หรือโอยัวะ ถ้าเป็นกาแฟเย็นใส่นมข้น เรียกว่ายกล้อ ถ้าราดด้วยนมสด จะไดก้ าแฟเย็น รสชาติหวานเย็นช่ืนใจ การชงกาแฟค่ัวบดให้อรอ่ ย 1. กาแฟควรเปน็ กาแฟใหม่ บดละเอยี ดขนาดเหมาะสมกับวิธชี ง 2. ใชน้ �ำ้ บรสิ ุทธ์ิ สะอาด ไม่มกี ลิ่น ปราศจากสารเคมแี ละสิ่งเจือปนตา่ งๆ 3. อุณหภมู นิ ำ้� ทเี่ หมาะสมส�ำหรับการชงกาแฟ คอื 90 – 96 องศาเซลเซียส หรอื นำ�้ เดือด ยกลงและปลอ่ ยทงิ้ ไวส้ ักครู่ น้�ำเดอื ดจัดอุณหภมู ิ 100 องศาเซลเซยี ส จะลวกผงกาแฟ ท�ำให้ส่วน ไขมนั ทเ่ี ปน็ แหลง่ ใหก้ ลิน่ และรสเสยี ไป ทำ� ใหไ้ ดก้ าแฟรสขม 4. ความละเอยี ดของผงกาแฟควรเหมาะสมกบั อปุ กรณก์ ารชงแต่ละประเภท ซ่งึ ต้องการ ความละเอียดของผงกาแฟตา่ งกนั มผี ลต่อรสชาติของกาแฟ 5. มีสัดส่วนที่พอเหมาะระหว่างน้�ำกับกาแฟในแต่ละวิธีการชง เช่น วิธีใช้กระดาษกรอง หรอื ก้านกด สดั ส่วนที่เหมาะสมท่ีสดุ คือ ผงกาแฟ 10 กรัม ตอ่ นำ�้ 180 มลิ ลลิ ิตร 5. ดื่มหลังชงกาแฟใหมๆ่ จะไดก้ าแฟทีห่ อมกรนุ่ และรสชาตดิ ี 6. อุปกรณ์ท่ีใช้ในการต้ม/ชงกาแฟและแก้วกาแฟต้องสะอาด ปราศจากคราบหรือ กลน่ิ ตา่ งๆ ซ่ึงทำ� ให้มีผลต่อกลน่ิ และรสชาตกิ าแฟ 7. ไมค่ วรนำ� กาแฟทช่ี งไวน้ านแลว้ มาอนุ่ ใหร้ อ้ นอกี ครง้ั ควรตม้ กาแฟใหมแ่ ละตม้ ในปรมิ าณ ท่ีตอ้ งการเท่าน้นั เพราะกาแฟจะมีรสชาติดีท่สี ุด 8. เมลด็ กาแฟคัว่ บดที่ใชแ้ ลว้ ไมน่ ำ� กลบั มาใช้ชงอีก การเพ่มิ ประสิทธิภาพการผลิตกาแฟ 119

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื องคป์ ระกอบของเครอ่ื งด่ืมกาแฟ เคร่ืองดื่มกาแฟ 1 ถ้วย ปริมาตร 180 มิลลิลิตร (ผงกาแฟ 10 กรัม หรือประมาณ 2 ชอ้ นโต๊ะ) มอี งคป์ ระกอบหลกั ดังน้ี องค์ประกอบของกาแฟ ปรมิ าณ (%) คาเฟอีน 8.25 18.15 กรดคลอโรจนิ ิค 1.45 นำ�้ ตาลรดี ิวซง่ิ 19.9 คารโ์ บไฮเดรต 6.0 10.0 เปป็ ไทด์ 5.15 โพแทสเซยี ม 13.6 ไตรโกเนลลิน 17.3 แรธ่ าตอุ นื่ ๆ 4.9 – 5.2 กรด ความเป็นกรด – ดา่ ง 120 การเพม่ิ ประสิทธภิ าพการผลิตกาแฟ

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจัดศัตรพู ชื การสง่ เสรมิ และพฒั นาการผลิตกาแฟ กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่ีมีบทบาท หน้าที่ส�ำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาเกษตรกรให้มีความรู้ความสามารถในการ ผลติ และจดั การสนิ คา้ เกษตร ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน กลุ่มส่งเสริมไม้ยืนต้น เป็นหน่วยงานหน่ึงในส�ำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร ท่ีไดด้ �ำเนนิ การส่งเสริมและพัฒนากาแฟ แนวทางสง่ เสรมิ และพัฒนากาแฟ 1. โครงการเพิ่มประสทิ ธิภาพการผลติ และลดตน้ ทุนการผลติ กาแฟ 2. โครงการปรับโครงสรา้ งสนิ คา้ กาแฟแบบครบวงจร 3. โครงการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้านคุณภาพกาแฟไทยเพ่ือเตรียมความ พรอ้ มสู่ประชาคมอาเซยี น 4. การจดั ประกวดกาแฟในงาน มหกรรมพชื สวนโลก เฉลมิ พระเกยี รตฯิ ราชพฤกษ์ 2554 จังหวดั เชยี งใหม่ 5. จัดต้ัง และพัฒนากลุม่ ผ้ปู ลกู กาแฟ และวิสาหกิจชมุ ชน การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการผลติ กาแฟ 121

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื โครงการเพิ่มประสทิ ธภิ าพการผลติ และลดตน้ ทุนการผลิตกาแฟ 1. หลกั การเหตผุ ลและแนวคดิ ของโครงการ ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตกาแฟส�ำคัญอันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียน รองจากประเทศ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ปี 2555 ประเทศไทยมีพ้ืนท่ีกาแฟให้ผล 306,112 ไร่ ผลผลิต 41,461 ตนั ผลผลติ เฉลีย่ ตอ่ ไร่ 135 กิโลกรมั ตน้ ทนุ การผลิตรวม 6,232.54 บาท/ไร่ และต้นทุน เฉลี่ย 46.17 บาท/กิโลกรัม โดยกาแฟโรบัสต้ามีแหล่งผลิตส�ำคัญในภาคใต้และกาแฟอาราบิก้า มีแหล่งผลิตส�ำคัญในภาคเหนือ อย่างไรก็ตามพื้นที่ปลูกและผลผลิต ในภาคใต้มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่มีราคาดีกว่าทดแทน เช่น ยางพารา ปาล์มน�้ำมัน ในขณะที่พื้นที่ปลูกและผลผลิตในภาคเหนือมีแนวโน้มเพิ่มข้ึน เน่ืองจากราคากาแฟช่วงท่ีผ่านมา อยู่ในเกณฑ์ดี ท�ำให้เกษตรกรขยายการปลูกเพ่ิมขึ้น ทั้งน้ี ปัญหาการผลิตกาแฟที่ส�ำคัญของไทย ได้แก่ ต้นทุนการผลิตต่อไร่สูง และผลผลิตต่อไร่ต่�ำ ซ่ึงต้นทุนการผลิตกว่าร้อยละ 60 มาจาก คา่ แรงงาน และคา่ ปยุ๋ สว่ นสาเหตทุ ที่ �ำใหผ้ ลผลติ กาแฟตอ่ ไรต่ �่ำ เนอื่ งมาจากเกษตรกรขาดการดแู ล รกั ษาอยา่ งถกู ตอ้ ง เชน่ การตดั แตง่ กงิ่ การปอ้ งกนั ก�ำจดั ศตั รพู ชื แบบผสมผสาน โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ขาดการปรับปรุงบ�ำรุงดินอย่างเหมาะสมกับสภาพดินและความต้องการพืช ซ่ึงสภาพพ้ืนที่/ ดินท่ีปลูกกาแฟ ส่วนใหญ่เป็นพื้นท่ีลาดเอียง ดินมีการชะล้าง และมีความเป็นกรดสูง ท�ำให้ดิน เส่ือมสภาพ และไม่สามารถดูดธาตุอาหารในดินไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ต้นกาแฟ โรบัสตา้ ส่วนใหญม่ ีอายุมาก ขาดการตดั ฟ้นื ตน้ กาแฟ (การตดั ท�ำสาว) ท�ำใหผ้ ลผลิตตอ่ ไรต่ ำ่� กรมส่งเสริมการเกษตรจึงมีจ�ำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกาแฟของประเทศไทย ให้มีตน้ ทุนการผลติ ต่ำ� โดยส่งเสรมิ การใชเ้ ทคโนโลยีเพือ่ เพ่มิ ผลผลิตตอ่ ไร่ และลดคา่ ใช้จา่ ยในการ ผลิตให้ต�่ำลง เน้นการปรับปรุงบ�ำรุงดินให้เหมาะสมตามค่าวิเคราะห์ดินและความต้องการของพืช การท�ำปุ๋ยหมักใช้เองจากเปลือกกาแฟ/วัสดุเหลือใช้ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี การตัดฟื้น ต้นกาแฟที่มีอายุมาก และอื่นๆ ตามสภาพปัญหา ศักยภาพ และความต้องการของพ้ืนท่ี เพ่ือ เพม่ิ ศักยภาพการผลติ กาแฟของเกษตรกรใหพ้ รอ้ มส�ำหรบั การเปิดประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน 2. วตั ถุประสงค์ เพ่ือถ่ายทอดเทคโนโลยีในการเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตกาแฟให้แก่เกษตรกร รวมท้ังสนับสนุนให้เกษตรกรน�ำความรู้ไปปฏิบัติ เพ่อื ลดตน้ ทุนการผลติ ท�ำใหม้ ีรายไดเ้ พิ่มขนึ้ 3. เป้าหมาย เกษตรกร 1,500 ราย ในพนื้ ทด่ี �ำเนนิ การ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี เชยี งราย เชยี งใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน ล�ำปาง แพร่ พะเยา ตาก 122 การเพิม่ ประสิทธิภาพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื 4. วธิ ีการดำ� เนินงาน ด�ำเนินการในพื้นที่ท่ีมีศักยภาพในการผลิตกาแฟ และมีการปลูกกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจ โดยมีขัน้ ตอนการด�ำเนินงาน ดังนี้ 1. จดั กระบวนการเรยี นรู้เกษตรกร ● คัดเลือกพื้นท่ี/กลุ่มเป้าหมาย ภาคใต้ เน้นพื้นท่ีสวนกาแฟท่ีมีอายุมาก ส่วนภาคเหนอื เนน้ พื้นท่สี วนกาแฟทมี่ ีอายไุ ม่เกนิ 15 ปี และใหผ้ ลผลติ แลว้ เน่ืองจากเป็นลกั ษณะ พน้ื ท่ีสว่ นใหญ่ในเขตนน้ั ๆ ทงั้ น้ี ตอ้ งไม่ปลูกรว่ มกบั ยางพารา หรือปาลม์ น�้ำมัน ● จัดกระบวนการเรียนรู้การเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตโดยลดต้นทุน กลุ่มละ ประมาณ 25 คน โดยจดั ภายในกลมุ่ เกษตรกร/สถาบนั เกษตรทมี่ กี ารรวมกลมุ่ อยแู่ ลว้ หรอื รวมกลมุ่ เกษตรกรผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ ● กระบวนการเรยี นรู้เนน้ การเรยี นรแู้ บบมสี ว่ นรว่ มของเกษตรกร โดยดำ� เนนิ การ จดั อย่างนอ้ ย 2 ครงั้ ครอบคลุมประเดน็ ตา่ งๆ ดงั นี้ n การวิเคราะห์สภาพปัญหาการผลิตกาแฟของเกษตรกรในพื้นท่ีท่ีเป็น สาเหตุท�ำให้ต้นทุนการผลิตสูง และ/หรือผลผลิตต่อไร่ต�่ำ รวมทั้งแนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพ การผลติ กาแฟ/ลดต้นทนุ การผลติ กาแฟทเี่ หมาะสมกับสภาพปัญหาและสภาพพ้ืนที่ n การถา่ ยทอดเทคโนโลยีแกเ่ กษตรกร โดยเลือกประเดน็ การถา่ ยทอด ตามความจ�ำเป็นเร่งด่วน หรือล�ำดับความส�ำคัญของสภาพปัญหาท่ีได้จากการเรียนรู้ร่วมกัน ของเกษตรกร เน้นถ่ายทอดความรู้ในการลดต้นทุนการผลิต และ/หรือเพิ่มผลผลิตต่อไร่ เช่น การท�ำปุ๋ยหมักใช้เองจากเปลือกกาแฟและวัสดุเหลือใช้ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี การตรวจ วิเคราะห์ดิน และการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การผสมปุ๋ยใช้เอง การใส่ปูนเพ่ือปรับสภาพเป็น กรดของดิน การป้องกันก�ำจัดมอดกาแฟ/ศัตรูกาแฟอื่นๆ แบบผสมผสาน การตัดท�ำสาวต้นกาแฟ การตดั แตง่ กง่ิ การเปลย่ี นพนั ธด์ุ ที ดแทนตน้ เสอื่ มโทรม เปน็ ตน้ ยกเวน้ ภาคใตใ้ หจ้ ดั ถา่ ยทอดเทคโนโลยี ในประเดน็ การตดั ทำ� สาวตน้ กาแฟเปน็ ลำ� ดบั แรก และเพม่ิ ประเดน็ อน่ื ๆ ตามสภาพปญั หาทพี่ บในพน้ื ที่ ทงั้ น้ี จ�ำนวนประเด็นในการถา่ ยทอดข้ึนกบั ความจ�ำเปน็ เร่งดว่ น/ความส�ำคญั ของสภาพปญั หา ● สนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อเป็นวัสดุอุปกรณ์ในการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติ ของเกษตรกร กลุ่มละ 1 จุดๆ ละ 1 ไร่ โดยปจั จยั การผลติ ทส่ี นบั สนนุ จะตอ้ งสอดคลอ้ ง กับประเด็นในการถ่ายทอดเทคโนโลยีใน พื้นท่ีนั้นๆ เช่น วัสดุส�ำหรับท�ำปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี (เชิงเด่ียว หรือปุ๋ยผสม) ปูนปรับ สภาพดิน ต้นกาแฟพันธุ์ดี (ทดแทนต้น เส่ือมโทรม) สารเคมี/วัสดุอุปกรณ์ป้องกัน ก�ำจัดศัตรูพืช เป็นต้น โดยพื้นที่ส�ำหรับ การเพิม่ ประสิทธภิ าพการผลิตกาแฟ 123

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื จัดท�ำแปลงเรียนรู้/ฝึกปฏิบัติเกษตรกร ให้เลือกแปลงกาแฟที่ให้ผลผลิตต�่ำ/ต้นทุนการผลิตสูง และมีการปลูกกาแฟเป็นพืชเด่ียวหรือพืชหลักเป็นล�ำดับแรก หากเป็นกรณีปลูกร่วมกับ พืชอื่น ต้องไม่ปลูกร่วมกับยางพารา หรือปาล์มน้�ำมัน ท้ังน้ี เกษตรกรเจ้าของแปลงฝึกปฏิบัติ ต้องเต็มใจปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำส่งเสริมของเจ้าหน้าที่ และยินดีให้ใช้แปลงเป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติและ ถ่ายทอดความรู้ ● สนับสนุนให้มีการวิเคราะห์ดินให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดย ขอความร่วมมอื จากหนว่ ยงาน/ผทู้ ่เี กย่ี วขอ้ งในพนื้ ท่ี เช่น กรมพัฒนาที่ดนิ หมอดนิ อาสา เปน็ ต้น เพ่ือประโยชน์ในการแนะน�ำการใช้ปุ๋ย และปัจจัยการผลิตอ่ืนๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (เหมาะ กับสภาพดนิ และความต้องการของพชื ) ● สนับสนุนให้เกษตรกรน�ำความรู้ที่ได้จากการจัดกระบวนการเรียนรู้ น�ำไปปฏิบัติในแปลงของตนเอง เพ่ือลดต้นทุนการผลิต/เพ่ิมผลผลิตต่อไร่ ซ่ึงท�ำให้เกษตรกรมี รายได้เพ่ิมขนึ้ ● แนะนำ� เกษตรกรทเี่ ขา้ รว่ มโครงการบนั ทกึ ขอ้ มลู ผลผลติ /ตน้ ทนุ การผลติ กาแฟ เพ่ือเปรียบเทียบให้เหน็ ถงึ ผลที่เกดิ ขึน้ กับเกษตรกรกอ่ นเขา้ รว่ มโครงการและหลงั เข้าร่วมโครงการ หรือระหว่างแปลงท่ปี ฏบิ ตั ิตามคำ� แนะนำ� กับแปลงท่ีปฏบิ ตั อิ ยูเ่ ดิม 5. ผลผลิต ผลลัพธ์ และตัวชว้ี ดั 5.1 ผลผลิต ● เกษตรกร จ�ำนวน 1,500 รายได้รับการถ่ายทอดความรู้เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพ การผลิตกาแฟ 5.2 ผลลัพธ์ ● เกษตรกรร้อยละ 60 สามารถน�ำความรทู้ ่ีได้รบั ไปปฏบิ ตั ิ ทำ� ใหม้ ตี น้ ทุนการผลติ ลดลง (รายไดเ้ พ่ิมขึ้น) 5.3 ตวั ช้ีวัดกระบวนงาน ตัวช้ีวัดเชิงปริมาณ : จ�ำนวนเกษตรกรท่ีได้รับการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตและ จัดการสินค้ากาแฟ ตัวช้ีวัดเชิงคุณภาพ : จ�ำนวนเกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตสินค้า เกษตรมกี ารนำ� ไปปฏิบัติไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 60 ทำ� ให้มตี น้ ทุนการผลิตลดลง (รายได้เพมิ่ ขึ้น) 5.4 ผลทีค่ าดว่าจะได้รับ เกษตรกรมีความรู้ และนำ� ความร้ไู ปปฏิบัติเพ่ือเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลิต (ลดต้นทนุ การผลิต และ/หรอื เพ่ิมผลผลิตตอ่ ไร)่ เพื่อเตรียมพรอ้ มรองรบั การเปิดประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน 124 การเพมิ่ ประสิทธภิ าพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจัดศัตรพู ชื การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ 125

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื โครงการสรา้ งขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั ดา้ นคณุ ภาพกาแฟไทย เพอ่ื เตรยี ม ความพรอ้ มสู่ประชาคมอาเซียน 1. หลกั การ เหตผุ ล และแนวคิดโครงการ กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจส�ำคัญและเป็นเครื่องด่ืมท่ีได้รับความนิยมแพร่หลายมากท่ีสุด ชนิดหนงึ่ ของโลก กาแฟทีน่ �ำมาด่ืมมาจากเมลด็ ภายในผลกาแฟ ซงึ่ ต้องผ่านกระบวนการแยกเน้อื กะเทาะให้เหลือแต่เมล็ด และท�ำให้แห้งก่อน เพ่ือให้ได้เมล็ดกาแฟ หรือท่ีเรียกว่าสารกาแฟ ก่อนท่ีน�ำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟชนิดต่างๆ ต่อไป ปัจจุบันเมล็ดกาแฟส่วนใหญ่ของไทย เป็นสินคา้ วตั ถดุ ิบเพื่อปอ้ นโรงงานแปรรปู ภายในประเทศ สำ� หรับผลิตเป็นผลติ ภัณฑ์กาแฟสง่ ออก ต่างประเทศ และจ�ำหน่ายภายในประเทศ เนื่องจากความต้องการของโรงงานแปรรูปเพิ่มสูงขึ้น อยา่ งตอ่ เนอื่ งทกุ ปี โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ กาแฟสำ� เรจ็ รปู ของไทยสามารถพฒั นาใหเ้ ปน็ สนิ คา้ ดาวเดน่ ทม่ี ศี กั ยภาพสรา้ งรายไดใ้ นตลาดอาเซยี น เนอ่ื งจากมอี ตั ราการเจรญิ เตบิ โตของการสง่ ออกมากกวา่ การนำ� เข้าของอาเซียน และมแี นวโน้มเพมิ่ สงู ข้ึนทุกปี ซงึ่ ผลิตภณั ฑ์กาแฟของไทยมคี วามได้เปรียบ จากวตั ถดุ บิ หลกั ในการผลติ คอื เมลด็ กาแฟไทยทมี่ คี ณุ ภาพ และโรงงานแปรรปู ของไทยมเี ทคโนโลยี ในการผลิตท่ีทันสมัยกว่าประเทศหลายประเทศในอาเซียน อย่างไรก็ตาม จากระดับราคากาแฟ ท่ีอยู่เกณฑ์ดีและปริมาณความต้องการของโรงานแปรรูปท่ีเพ่ิมข้ึนในปัจจุบัน ท�ำให้เกษตรกรเริ่ม ไมใ่ หค้ วามสำ� คญั กบั การพฒั นาคณุ ภาพเมลด็ กาแฟ ประกอบกบั ในชว่ ง 2-3 ปที ผี่ า่ นมา มกี ารระบาด ของมอดเจาะผลกาแฟ ทำ� ใหเ้ มลด็ กาแฟของไทย ซง่ึ เดมิ มจี ุดเด่นดา้ นคณุ ภาพ เรม่ิ มคี ุณภาพความ ปลอดภยั ลดลง ดังน้ัน การพัฒนาศักยภาพการแข่งขันสินค้ากาแฟของไทย จึงควรให้ความส�ำคัญ ในการพัฒนาคุณภาพความปลอดภัยของเมล็ดกาแฟ เพ่ือเป็นวัตถุดิบส�ำหรับน�ำมาผลิตเป็น ผลิตภัณฑ์กาแฟของไทยที่มีคุณภาพและปลอดภัยสู่ตลาดโลก โดยคุณภาพเมล็ดกาแฟที่ดี จะต้องเร่ิมต้ังแต่พ้ืนท่ีปลูกท่ีมีสภาพภูมิอากาศเหมาะสม การจัดการสวนกาแฟ การเก็บเกี่ยว กรรมวิธีการผลิตสารกาแฟ การคัดคุณภาพเมล็ดกาแฟตามมาตรฐาน รวมถึงการบรรจุและ เก็บรกั ษาเมลด็ กาแฟอยา่ งถกู วธิ กี อ่ นสง่ จำ� หน่ายต่อไป 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพอ่ื พฒั นาความรขู้ องเกษตรกร รวมทง้ั สนบั สนนุ ใหเ้ กษตรกรน�ำความรไู้ ปปฏบิ ตั ิ เพื่อพฒั นาคุณภาพเมลด็ กาแฟใหเ้ ปน็ สินค้าวัตถดุ บิ ทม่ี ีคุณภาพและปลอดภัย 2.2 เพื่อระดมความคิดและแลกเปล่ียนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ ระหว่าง ผู้เก่ียวข้องทุกภาคส่วน ด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้ากาแฟไทย โดยเฉพาะ อยา่ งยิ่งดา้ นการพัฒนาคุณภาพ 3. เป้าหมาย/สถานท่ดี ำ� เนนิ งาน เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ จ�ำนวน 1,500 ราย ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี เชียงราย เชยี งใหม่ แมฮ่ ่องสอน นา่ น ลำ� ปาง แพร่ พะเยา ตาก อตุ รดติ ถ์ กาญจนบุรี 126 การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจดั ศัตรพู ชื 4. กจิ กรรมและวิธีการดำ� เนนิ งาน 4.1 จดั เวทแี ลกเปลย่ี นเรยี นรขู้ องเกษตรกร 4.1.1 คดั เลอื กพน้ื ทดี่ ำ� เนนิ การ โดยเลอื กพนื้ ทที่ มี่ กี ารปลกู กาแฟเปน็ พชื เศรษฐกจิ ถ้าเป็นพ้ืนที่ปลูกกาแฟอาราบิก้า ต้องมีพื้นท่ีสูงจากระดับนำ้� ทะเล 700 เมตร ข้ึนไป และควรมี การรวมกลมุ่ เกษตรกรในการผลติ และ/หรอื การจ�ำหนา่ ยผลผลติ กาแฟ (ผลเชอรี่ กาแฟกะลา และ/ หรอื สารกาแฟ) เชน่ กลมุ่ สง่ เสรมิ การผลติ วสิ าหกจิ ชมุ ชน กลมุ่ เกษตรกร สหกรณ์ เปน็ ตน้ หากพนื้ ที่ ทดี่ ำ� เนนิ การยังไมม่ ีการรวมกลุม่ ใหส้ ง่ เสริมการรวมกล่มุ เกษตรกรเพ่อื ถ่ายทอดความรู้ 4.1.2 จัดกระบวนการเรียนรู้ของเกษตรกรสมาชิกกลุ่มท่ีสนใจเข้าร่วมโครงการ กลุ่มละประมาณ 30 คน อยา่ งนอ้ ย 2 ครัง้ ประกอบดว้ ย คร้ังที่ 1 - วิเคราะห์สภาพพ้ืนที่ สภาพการผลิตและสภาพการตลาดของกลุ่ม ทั้งด้านที่เป็นจุดแข็ง (เพ่ือการสนับสนุนให้พัฒนายิ่งขึ้นต่อไป) และด้านที่เป็นจุดอ่อน (เพื่อการ แก้ไขปัญหา) และระดมความคดิ เพ่อื ก�ำหนดแนวทางการพัฒนากาแฟให้มขี ีดความสามารถในการ แข่งขันของกลุ่ม ท้ังน้ีอาจเชิญผู้เก่ียวข้องเข้ามาแลกเปล่ียนเรียนรู้ในเวที เช่น ผู้รับซ้ือ ผู้รวบรวม ผ้แู ปรรปู ผู้น�ำชมุ ชน เป็นต้น เพ่ือใหม้ ีการพจิ ารณาอย่างรอบด้าน คร้งั ท่ี 2 - ถา่ ยทอดความรูด้ า้ นการพฒั นาคณุ ภาพกาแฟ ตามประเดน็ ท่ไี ดจ้ าก การวเิ คราะหข์ องกลมุ่ เชน่ การปลกู กาแฟสายพนั ธท์ุ เ่ี หมาะสมกบั สภาพพน้ื ท่ี การตรวจวเิ คราะหด์ นิ การจัดการสวนกาแฟ การป้องกันก�ำจดั มอดและศตั รพู ืชอนื่ ๆ การเกบ็ เก่ยี ว การผลติ กาแฟกะลา/ สารกาแฟ การคดั คุณภาพเมลด็ กาแฟ การบรรจุและเกบ็ รักษา รวมถึงเทคโนโลยอี นื่ ๆ ท่เี หมาะสม กบั สภาพปญั หาและพนื้ ท่ี 4.1.3 สำ� นกั งานเกษตรจงั หวดั / ส�ำนักงานเกษตรอ�ำเภอ รวบรวมสรุปประเด็น ที่ได้จากการจัดเวทีเรียนรู้ของกลุ่มต่างๆ น�ำมา วเิ คราะห์ ประมวล สรุปเปน็ ขอ้ มูลในการพัฒนา กาแฟของจังหวดั /อำ� เภอ การเพิม่ ประสิทธภิ าพการผลติ กาแฟ 127

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื 4.2 สนบั สนนุ วสั ดุอปุ กรณ์เพอ่ื เปน็ เครื่องมือในการเรยี นรู้ สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ ตามประเด็นท่ีได้จากการ วเิ คราะห์ในการจดั เวทีแลกเปลี่ยนของกลุม่ เชน่ n พันธุ์กาแฟโรบัสต้า (ส�ำหรับปลูกทดแทนพันธุ์อาราบิก้าในพ้ืนท่ีต�่ำกว่า 700 เมตร จากระดับนำ้� ทะเล) n กับดักมอด กรรไกรตัดแต่งก่ิง และวัสดุอุปกรณ์ป้องกันก�ำจัดศัตรูพืช (ส�ำหรบั พ้ืนท่ที มี่ ีปญั หาศตั รูพชื ระบาด) n วัสดุอุปกรณ์ท�ำลานตากลดความชื้น เช่น พลาสติก ตาข่าย ไนล่อน โครงไม้ไผ่ฯ (สำ� หรบั พืน้ ทีท่ มี่ ปี ญั หาเมล็ดกาแฟมีความช้นื สูง) n วสั ดอุ ุปกรณส์ เี ปลอื กกาแฟ/ทำ� กาแฟกะลา (ส�ำหรับพื้นท่ีท่จี ำ� หน่ายกาแฟ ในลักษณะผลเชอรี่และห่างไกลตลาด) n วสั ดุอปุ กรณใ์ นการเก็บเกี่ยว บรรจุ และเก็บรกั ษา เชน่ ถงุ ตาขา่ ยไนล่อน กระสอบปา่ น ผ้าพลาสติกปูรองผลผลิตฯ (สำ� หรับพนื้ ท่ที ี่มีการเกบ็ เกยี่ วและเก็บรกั ษาไมถ่ กู ต้อง) n วสั ดุอุปกรณ์ในการคดั คณุ ภาพผลผลติ เช่น อปุ กรณ์วดั ความช้ืน ตาแกรง คัดขนาด ฯ (ส�ำหรับพื้นท่ีที่ต้องการพัฒนาการจ�ำหน่ายเมล็ดกาแฟในลักษณะคัดเกรด) ท้ังน้ี อาจเลือกเพยี งประเด็นเดยี วท่เี ปน็ ประเดน็ เน้นหนัก หรือหลายประเด็นรวมกนั หรอื ประเดน็ อ่ืนๆ ท่ไี ดจ้ ากเวทีแลกเปล่ยี นเรยี นรขู้ องกลุ่ม 4.3 จดั เวทรี ะดมความคดิ เหน็ ผเู้ กย่ี วขอ้ งสรา้ งขดี ความสามารถการแขง่ ขนั กาแฟไทย จัดเวทีระดมความคิดเห็นผู้เก่ียวข้องสร้างขีดความสามารถการแข่งขันด้านคุณภาพ กาแฟไทย ประกอบด้วย เจา้ หนา้ ที่ส่งเสริมการเกษตรและหนว่ ยงานรัฐทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ผู้แทนสถาบนั เกษตรกร และผู้ประกอบการ (ผู้รวบรวม ผรู้ ับซื้อ ผู้แปรรปู ผ้สู ง่ ออก ร้านกาแฟ) จำ� นวน 1 ครั้ง 3 วนั รวม 80 คน เพ่อื แลกเปลย่ี นข้อมลู ความรู้ และประสบการณ์ รวมท้ังระดมความคิดเห็น ของผู้เกีย่ วข้องทกุ ภาคสว่ น เพ่ือหาแนวทางการสรา้ งขดี ความสามารถในการแข่งขันกาแฟไทย 5. ผลผลิต ผลลัพธแ์ ละตวั ชีว้ ดั 5.1 ผลผลิต 5.1.1 เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟไดร้ ับการถ่ายทอดความรู้ จ�ำนวน 1,500 ราย 5.1.2 เกษตรกร/สถาบนั เกษตรกรไดร้ บั การสนบั สนนุ วสั ดอุ ปุ กรณส์ ำ� หรบั พฒั นา คณุ ภาพเมลด็ กาแฟ จ�ำนวน 50 กลุ่ม 5.1.3 มกี ารจดั เวทรี ะดมความคดิ เหน็ เพอื่ แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ความรู้ ประสบการณ์ ระหว่างผูเ้ กีย่ วข้อง จ�ำนวน 1 คร้งั 5.1.4 ไดร้ ายงานการศึกษาแนวทางการพฒั นาคุณภาพเมล็ดกาแฟไทย จำ� นวน 1 เรื่อง 5.2 ผลลพั ธ์ จ�ำนวนเกษตรกรไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ท่ีได้รับการถ่ายทอดความรู้ มีการนำ� ความรู้ ไปปฏิบตั เิ พ่ือพฒั นาคณุ ภาพความปลอดภัยของเมล็ดกาแฟ 128 การเพมิ่ ประสิทธิภาพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจัดศัตรพู ชื การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ 129

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื โครงการปรบั โครงสรา้ งสินคา้ กาแฟแบบครบวงจร หลักการและเหตุผล กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจส�ำคัญชนิดหน่ึงของไทย พ้ืนท่ีปลูกส่วนใหญ่เป็นกาแฟพันธุ์ โรบัสต้า ประมาณรอ้ ยละ 93 ซ่งึ ปลูกในภาคใต้ เช่น จังหวดั ชมุ พร ระนอง สุราษฎรธ์ านี กระบ่ี นครศรธี รรมราช ส่วนพันธอุ์ าราบกิ า้ ประมาณรอ้ ยละ 7 ปลกู ในภาคเหนอื เช่น จงั หวัดเชียงใหม่ เชยี งราย แมฮ่ ่องสอน และในปี 2551 ไทยมีเกษตรกรผปู้ ลกู กาแฟ 29,432 ครวั เรือน ผลผลติ ต่อไร่ เฉล่ีย 130 กก. ตน้ ทุนการผลติ เฉลยี่ 39.06 บาท/กก. ประเทศไทยผลิตกาแฟเป็นอันดับ 3 ในกลมุ่ สมาชกิ อาเซียน รองจากอินโดนีเซยี และเวยี ดนาม กาแฟไทยยงั ไม่สามารถแข่งขันกบั ราคากาแฟ ท่ีนำ� เข้า เพราะต้นทุนการผลิตสูงกว่า (ต้นทุนการผลติ ของเวียดนามปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ท่ี 33 บาท) โดยในปี 2551 ไทยน�ำเข้าเมล็ดกาแฟ 14,822.34 ตัน มูลค่า 1,187.33 ล้านบาท และกาแฟ ส�ำเรจ็ รูป 2,888.84 ตนั มลู คา่ 639.17 ล้านบาท และหากเปดิ ตลาดตามขอ้ ตกลง FTA จะส่งผล กระทบต่อเนื่องไปยังเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดกาแฟและอุตสาหกรรมท้ังระบบ รัฐบาลจึงได้มีการขอ ชะลอการเปิดตลาดไว้ระยะหน่ึงตง้ั แต่ปี 2549 โดยมีมาตรการรองรับ คอื เรง่ รัดลดตน้ ทุนการผลติ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการผลติ การพฒั นาพนั ธ์ุ สนบั สนนุ การรวมกลมุ่ เกษตรกรในการจดั หาปจั จยั การ ผลิตและการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต การพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพ่ิมและสร้างความหลากหลาย ของผลติ ภณั ฑ์ ซง่ึ ผปู้ ระกอบการและเกษตรกรจะตอ้ งรว่ มมอื กนั อยา่ งจรงิ จงั ในการพฒั นากาแฟใน ลกั ษณะบรู ณาการ และปรบั เปลยี่ นทศั นคตใิ นเชงิ ระบบเพอ่ื ใหส้ ามารถบรรลเุ ปา้ หมายอยา่ งแทจ้ รงิ ได้ รวมทงั้ ลดพน้ื ทปี่ ลกู กาแฟทไี่ มเ่ หมาะสม และสง่ เสรมิ การบรโิ ภคกาแฟทผ่ี ลติ ในประเทศ ทง้ั นจี้ ะ มีการเปิดตลาดภายใตเ้ ขตการค้าเสรีอาเซยี น (AFTA) ในปี 2553 จังหวัดชุมพรและจังหวัดระนอง เป็นแหล่งผลิตกาแฟท่ีส�ำคัญ มีพื้นที่ปลูกกาแฟรวมกัน ประมาณร้อยละ 80 ของพ้ืนท่ีปลูกกาแฟท้ังประเทศ มีพ้ืนท่ีให้ผลผลิต 310,562 ไร่ ได้ผลผลิต ประมาณ 40,385 ตัน (ทีม่ า : ส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร) ซึ่งปัญหาในการผลิตกาแฟ ได้แก่ ผลผลิตต่อไรต่ ำ�่ เกษตรกรขาดความรู้ความเขา้ ใจในการดูแลรกั ษาสวนกาแฟท่ีดี สถาบนั เกษตรกร ทมี่ กี ารผลติ กาแฟยงั ตอ้ งการไดร้ บั การสนบั สนนุ ใหม้ คี วามเขม้ แขง็ ยงิ่ ขน้ึ ในการด�ำเนนิ ธรุ กจิ รวมทงั้ ดา้ นการแปรรปู การตลาด เพื่อใหส้ ามารถแข่งขันในตลาดได้ นอกจากน้ี 3 สถาบนั ยังมศี กั ยภาพ ในการแปรรปู ผลิตภัณฑก์ าแฟ เชน่ กาแฟ 3 IN 1 กาแฟค่วั บด กาแฟพรอ้ มดม่ื ซ่งึ มตี ลาดรองรบั ในระดับหน่ึงแล้ว แต่ยังขาดเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อกาแฟเป็นวัตถุดิบในการแปรรูป ดังนั้น ภาครัฐจึงมีความจ�ำเป็นต้องสนับสนุนในเร่ืองเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการผลิต ให้กับหน่วยงาน ที่เก่ียวข้องไปด�ำเนินการ และสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนปลอดดอกเบี้ยในการจัดซ้ือสารกาแฟ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการแปรรูป ซ่ึงมีตลาดรองรับอยู่แล้ว ทั้งนี้เพ่ือเพ่ิมมูลค่าสินค้ากาแฟ และ เพ่ิมความเข้มแข็งของสถาบันเกษตรกร รวมทั้งสามารถลดผลกระทบจากการเปิดตลาดภายใต้ เขตการค้าเสรอี าเซียน (AFTA) ไดร้ ะดบั หนงึ่ 130 การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจัดศัตรพู ชื วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื เพ่ิมผลผลติ ต่อไร่ ลดตน้ ทนุ การผลติ กาแฟและเพ่ิมคณุ ภาพผลผลิตกาแฟ 2. เพื่อเพ่ิมมูลค่าของสินค้ากาแฟ โดยส่งเสริมให้มีการแปรรูปกาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟ ของสถาบันเกษตรกร 3. เพอ่ื ส่งเสริมและพฒั นาธรุ กิจกาแฟของสถาบนั เกษตรกร ขอบเขตการด�ำเนินงาน ด�ำเนินการในจังหวัดชุมพร และระนอง โดยส่งเสริมและสนับสนุนสถาบันเกษตรกรและ เกษตรกรชาวสวนกาแฟ สมาชิกของสถาบันเกษตรกรจ�ำนวน 3 แห่ง คือ กลุ่มเกษตรกรท�ำสวน เขาทะลุ สหกรณผ์ ู้ปลกู กาแฟจงั หวดั ชมุ พร จ�ำกดั จังหวัดชุมพร และกลมุ่ เกษตรกรท�ำสวน จปร. จงั หวดั ระนอง โดยโครงการแบง่ ออกเป็น 3 กิจกรรม คอื 1. กจิ กรรมการเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการผลิตและลดตน้ ทุนการผลิตกาแฟ 2. กิจกรรมด้านการด�ำเนินธรุ กจิ และเพิม่ มลู ค่ากาแฟของสถาบันเกษตรกร 3. กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาธุรกจิ กาแฟของสถาบนั เกษตรกร ระยะเวลาดำ� เนนิ การ 7 ปี ตัวชวี้ ดั ผลสำ� เรจ็ 1. ผลผลิตต่อไร่ของการปลูกกาแฟในแปลงเดี่ยว ก่อนเข้าร่วมโครงการ เพ่ิมจาก 200 กิโลกรมั เปน็ ไม่น้อยกวา่ 250 กิโลกรัม เมื่อส้นิ สดุ โครงการ 2. ผลผลิตต่อไร่ของการปลูกกาแฟร่วมกับพืชอ่ืน ก่อนเข้าร่วมโครงการ เพิ่มจาก 143 กโิ ลกรมั เปน็ 180 กิโลกรัม เมือ่ สิ้นสดุ โครงการ 3. ต้นทุนการผลิตเมื่อสิ้นสุดโครงการ จะต้องไม่มากกว่าร้อยละ 10 ของต้นทุนการผลิต กาแฟของประเทศเวยี ดนาม 4. ปริมาณธุรกิจของสถาบันเกษตรกรเม่ือส้ินสุดโครงการ มีปริมาณเพิ่มข้ึนไม่ต่�ำกว่า ร้อยละ 10 เมอ่ื เทียบกับปรมิ าณธรุ กจิ กอ่ นเข้าร่วมโครงการ ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ บั 1. ผลผลิตกาแฟต่อไร่ของการปลูกกาแฟในแปลงเดี่ยวและแปลงผสม รวมทั้งต้นทุน การผลิตเป็นไปตามตวั ชี้วดั ข้อ 1-4 2. เกษตรกรมีความรู้และความเข้าใจ สามารถผลิตกาแฟไดค้ ณุ ภาพ มีการเกบ็ รักษากาแฟ ดบิ ที่ถกู ต้องและมีทางเลือกในการรวมกันขายผา่ นสถาบันเกษตรกรทีต่ นเปน็ เจ้าของ 3. สถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็งในการด�ำเนินธุรกิจกาแฟสามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์ กาแฟใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค และแข่งขันในตลาดได้ 4. สามารถลดผลกระทบจากการเปิดตลาดภายใตเ้ ขตการคา้ เสรีอาเซยี น การเพิ่มประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ 131

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื กจิ กรรมการเพิม่ ประสิทธิภาพการผลติ และลดตน้ ทุนการผลิตกาแฟ กิจกรรมย่อยท่ี 1 ประกาศ ชี้แจง ประชาสัมพันธ์ รับสมัครและคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วม โครงการปที ่ี 1 ประกาศ ชี้แจง ประชาสัมพันธ์ การรับสมัครและคัดเลือกเกษตรกรที่ประสงค์จะร่วม โครงการ โดยคัดเลือกเกษตรกรจ�ำนวน 30 คน โดยเลือกจากสหกรณ์ผู้ปลูกกาแฟจังหวัดชุมพร จ�ำกัด จำ� นวน 10 คน กลุม่ เกษตรกรท�ำสวนเขาทะลุ จำ� นวน 10 คน และกลุ่มเกษตรกรท�ำสวน จปร. จงั หวดั ระนอง จ�ำนวน 10 คน เขา้ รว่ มโครงการ โดยเกษตรกรน�ำรอ่ งตอ้ งมคี ณุ สมบตั ทิ กี่ ำ� หนด ด�ำเนินการโดยกรมวชิ าการเกษตรร่วมกบั สถาบนั เกษตรกร กิจกรรมยอ่ ยท่ี 2 จัดท�ำแปลงตวั อย่าง ด�ำเนินการจัดท�ำแปลงตัวอย่างเพ่ือเพ่ิม ประสิทธิภาพการผลิตกาแฟและลดต้นทุนการผลิต ท�ำให้กาแฟท่ีผลิตได้มีคุณภาพดี เกษตรกรมีรายได้ เพ่ิมขึ้น ลดผลกระทบจากการเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) โดยด�ำเนินการจัดท�ำแปลงละ 1 ไร่ ต่อ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ 1 ราย ด้วยวิธีการ ตดั ฟน้ื ตน้ ทำ� สาว การจดั การดนิ และการบำ� รงุ ดนิ ดว้ ย อนิ ทรยี วตั ถุ รวมทง้ั ปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกษตรดที เ่ี หมาะสม โดยมคี า่ ใชจ้ า่ ยเนน้ วสั ดุ ไรล่ ะ 14,420 บาท ซึง่ ด�ำเนินการโดยกรมวิชาการเกษตรร่วมกับกรมพฒั นาที่ดิน กจิ กรรมยอ่ ยท่ี 3 เตรยี มความพรอ้ มการเปน็ วทิ ยากรของเกษตรกรทเี่ ขา้ รว่ มโครงการปที ่ี 1 และ เจา้ หน้าท่กี รมส่งเสริมการเกษตร จดั อบรม ประชมุ ดงู านเกษตรกรทเี่ ขา้ รว่ มโครงการปที ่ี 1 และเจา้ หนา้ ทสี่ ง่ เสรมิ การเกษตร เพ่ือเตรียมความพร้อมในการเป็นวิทยากรเร่ืองการเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตกาแฟและลดต้นทุน การผลิตกาแฟ ด�ำเนนิ การโดยกรมวชิ าการเกษตร กิจกรรมยอ่ ยท่ี 4 ประชมุ /สมั มนาเตรยี มความพรอ้ มขยายผลการด�ำเนินงาน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการด�ำเนินงานและบูรณาการการท�ำงานร่วมกันระหว่าง เจา้ หนา้ ทส่ี ง่ เสรมิ การเกษตร หนว่ ยงานราชการทเี่ กยี่ วขอ้ ง เกษตรกรทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ และสถาบนั เกษตรกร ดำ� เนินการโดยกรมส่งเสรมิ การเกษตร 132 การเพิ่มประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื กิจกรรมย่อยที่ 5 ประกาศ ชี้แจง รับสมคั รและคดั เลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ กรมส่งเสริมการเกษตรจัดท�ำประกาศ ชี้แจง รับสมัครเกษตรกร โดยคัดเลือกเกษตรกร ปลี ะ 250 คน จำ� นวน 3 ปี พ.ศ.2554-2556 รวมเปน็ 750 คน เข้ารว่ มโครงการฯ ซ่งึ เกษตรกร ทีป่ ระสงค์เขา้ รว่ มโครงการต้องมีคณุ สมบตั ิดงั นี้ 1. เปน็ เกษตรกรสมาชิกสถาบันเกษตรกร 3 แห่ง คือ สหกรณ์ผู้ปลกู กาแฟจงั หวัดชุมพร อ�ำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร กลุ่มเกษตรกรท�ำสวนเขาทะลุ อ�ำเภอสวี จังหวัดชุมพร และกลุ่ม เกษตรกรทำ� สวน จปร. อ�ำเภอกระบุรี จงั หวัดระนอง และมีพ้นื ท่ีที่มเี อกสารสทิ ธิ์เข้ารว่ มโครงการ เปน็ อนั ดบั แรก และเมอ่ื สมาชกิ สถาบนั เกษตรกรดงั กลา่ วสมคั รเขา้ รว่ มโครงการไมค่ รบตามจำ� นวน ให้เกษตรกรท่วั ไปในพ้นื ทม่ี เี อกสารสทิ ธ์ิสมัครเข้าร่วมโครงการ 2. เขา้ รว่ มโครงการดว้ ยความสมคั รใจ มคี วามตงั้ ใจจรงิ และยนิ ดปี ฏบิ ตั ติ ามคำ� แนะนำ� ของ เจ้าหน้าที่ 3. เกษตรกรท่ีเข้าร่วมโครงการฯ มีอายตุ ้นกาแฟไม่นอ้ ยกว่า 8 ปี พื้นทีป่ ลกู กาแฟมากกว่า 1 ไร่ และจำ� นวนต้นกาแฟ ไม่นอ้ ยกว่า 100 ตน้ /ไร่ โดยต้องเป็นพ้นื ที่มเี อกสารสทิ ธิ์ เช่น โฉนดทดี่ นิ นส.2 (ใบจอง) นส.3 นส.3ก นส.3ข รวมทงั้ หนงั สอื แสดงเอกสารสทิ ธติ์ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยการจดั การ ทด่ี ินเพือ่ การครองชีพหรอื กฎหมายอื่น เชน่ ก.ส.น. ทรี่ าชพสั ดุ น.ค.3 ส.ป.ก. 4-01 ส.ท.ก. เปน็ ต้น 4. ปลกู กาแฟเปน็ พชื เชงิ เดยี่ วหรอื พชื หลกั ในกรณี ปลกู กาแฟรว่ มกบั พชื อน่ื ตอ้ งไมป่ ลกู รว่ มกบั ยางพารา และ ปาล์มนำ�้ มนั 5. เมอื่ เขา้ รว่ มโครงการแลว้ จะตอ้ งมตี น้ กาแฟปลกู อยใู่ นพื้นทีอ่ ย่างนอ้ ย 4 ปี 6. ยินยอมเข้าร่วมประชุม/ดูงาน/อบรม/จัดเวที เรียนรู้แบบมสี ่วนร่วมกบั เกษตรกรรายอน่ื กจิ กรรมย่อยท่ี 6 พฒั นาและส่งเสรมิ การใชท้ รพั ยากรดนิ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ วิเคราะห์สภาพพ้ืนดินท่ีปลูก กาแฟ ตรวจวิเคราะห์คุณสมบัติทาง กายภาพของดินให้กับเกษตรกรทุกราย ที่เข้าร่วมโครงการ เพ่ือประเมินความ เหมาะสมและขอ้ จ�ำกดั เสนอแนะแนวทาง แก้ไขการจัดการดินท่ีเหมาะสม ตลอดจน ถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการดิน การบ�ำรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ ด�ำเนิน การโดยกรมพฒั นาทด่ี ิน การเพมิ่ ประสิทธภิ าพการผลติ กาแฟ 133

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื กิจกรรมย่อยที่ 7 ประชมุ /ดงู าน/จดั เวทีเรียนรแู้ บบมสี ว่ นร่วมของเกษตรกร จัดประชุม/ดูงาน/จัดเวทีเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมให้กับเกษตรกร โดยให้ความรู้ด้านการ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกาแฟและลดต้นทุนการผลิต ท้ังด้านวิชาการ และการศึกษาดูงาน จากการปฏิบัติจริงของเกษตรกรท่ีเข้าร่วมโครงการปีที่ 1 ซึ่งการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการ เพ่ิมประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตกาแฟ จะร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาท่ีดิน ส่งผู้แทนเป็นวิทยากร ใน การถ่ายทอดฯ ร่วมด้วย ส�ำหรับการจัดการเรียนรู้จะ แบ่งเกษตรกรเป็นกลุ่มย่อย 134 การเพมิ่ ประสิทธิภาพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลุม่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จดั ศัตรพู ชื พิจารณาตามความใกล้เคียงกันของพื้นท่ี เพ่ือให้เกษตรกรได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กบั วิทยากร/ผูเ้ กย่ี วขอ้ ง (เจ้าหน้าที่ เกษตรกรน�ำร่อง เกษตรกรทีป่ ระสบความส�ำเร็จ ฯลฯ) อยา่ ง ใกล้ชดิ และเหมาะสมกบั สภาพพ้นื ที่ ดำ� เนนิ การ โดยกรมสง่ เสริมการเกษตร กิจกรรมย่อยท่ี 8 จดั ทำ� แปลงการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการผลิตและลดตน้ ทนุ การผลิตกาแฟ ด�ำเนินการจัดท�ำแปลงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกาแฟและลดต้นทุนการผลิตกาแฟ โดยด�ำเนนิ การจัดท�ำแปลงๆ ละ 1 ไร่ ต่อเกษตรกร 1 ราย โดยน�ำความรูจ้ ากการได้รบั การถา่ ยทอด วิชาการและการศึกษาดูงาน ทั้งจากหน่วยงานราชการและเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปีที่ 1 การจัดท�ำแปลงการเพม่ิ ประสิทธิภาพ และลดต้นทนุ การผลติ กาแฟ รวมทง้ั เกษตรกรทปี่ ระสบความส�ำเรจ็ มาดำ� เนนิ การทดลองปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง เพอ่ื ใหเ้ กดิ การยอมรบั และขยายผลในพนื้ ทด่ี นิ ของตนเอง ดำ� เนินการโดยกรมส่งเสริมการเกษตร หลังจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปีท่ี 1 และ เกษตรกรทีเ่ ขา้ ร่วมโครงการในปีท่ี 2, ปีที่ 3, ปที ่ี 4 ด�ำเนนิ การจัดท�ำแปลงด้วยตนเองจนเห็นถึงผลส�ำเร็จในการเพ่ิม ประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิตอย่างเป็น รปู ธรรมแลว้ นอกจากจะนำ� ไปขยายผลในพนื้ ทดี่ นิ ของตนเอง แล้ว เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง สมาชิกสถาบันเกษตรกร ของท้ัง 3 กลุ่ม ตลอดจนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโดยท่ัวไป การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการผลติ กาแฟ 135

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จัดศัตรพู ชื ยงั ไดท้ ราบและเหน็ ถงึ ผลส�ำเรจ็ ดว้ ยเชน่ กนั จากแปลงตวั อยา่ งทมี่ กี ระจายทว่ั พนื้ ทปี่ ลกู สถาบนั ของ เกษตรกรและความสัมพันธ์ใกล้ชิดของสังคมเกษตรกร ท�ำให้เกิดความสนใจ ร่วมแลกเปลี่ยน ความร/ู้ ประสบการณก์ บั เกษตรกรในโครงการ จนกระทงั่ น�ำไปทดลองปฏบิ ตั ติ ามในพน้ื ทข่ี องตนเอง โดยมเี กษตรกรผู้เขา้ รว่ มโครงการ ให้คำ� ปรกึ ษา แนะนำ� ในลักษณะเพอ่ื นแนะนำ� เพ่อื น ซง่ึ จะทำ� ให้ เกิดการขยายผลเพ่มิ ขึ้นอย่างต่อเน่อื ง กิจกรรมย่อยที่ 9 ประชุมตดิ ตามการด�ำเนนิ งานโครงการ กรมสง่ เสรมิ การเกษตร โดยส�ำนกั สง่ เสรมิ และจดั การสนิ คา้ เกษตร ส�ำนกั งานเกษตรจงั หวดั และส�ำนักงานเกษตรอ�ำเภอ ติดตามนิเทศงานการด�ำเนินงานโครงการ กิจกรรมการจัดท�ำแปลง เพ่มิ ประสิทธภิ าพการผลติ และลดตน้ ทุนการผลติ กาแฟของเกษตรกรทเี่ ข้ารว่ มโครงการ ปี 2554-2556 กรมสง่ เสรมิ การเกษตรไดด้ �ำเนนิ การจดั ทำ� กจิ กรรมการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการผลติ และลด ต้นทนุ การผลติ กาแฟตามโครงการปรับโครงสร้างสนิ คา้ กาแฟแบบครบวงจร โดยด�ำเนนิ การจัดทำ� แปลงสง่ เสรมิ การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการผลติ กาแฟ ตงั้ แตป่ ี 2554-2556 เกษตรกรทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ จ�ำนวน 720 ราย พืน้ ที่ 720 ไร่ ในพ้ืนท่จี งั หวัดชุมพร และจังหวัดระนอง เกษตรกรให้ความสนใจ ในการตดั ทำ� สาวตน้ กาแฟ ซง่ึ ในปแี รกเกษตรกรจะยงั ไมไ่ ดผ้ ลผลติ กาแฟ แตเ่ กษตรกรสามารถปลกู พืชแซมอายสุ นั้ เพื่อเสริมรายได้ในปแี รก ส�ำหรับปีท่ี 2 ตน้ กาแฟจะมีการเจรญิ เติบโตสูงตัง้ แต่ 1-2 เมตร และจะใหผ้ ลผลติ ผลผลติ ทไ่ี ดร้ บั จะเพมิ่ ขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ ขน้ึ อยกู่ บั การจดั การสวนของเกษตรกร อย่างสมำ�่ เสมออยา่ งยง่ั ยืน 136 การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จัดศัตรพู ชื การประกวดกาแฟ งานมหกรรมพชื สวนโลกเฉลมิ พระเกยี รตฯิ ราชพฤกษ์ 2554 จงั หวดั เชียงใหม่ การประกวดกาแฟ แนวคดิ การประกวด สง่ เสรมิ และพฒั นากาแฟไทยคณุ ภาพดสี รู่ ะดบั โลก เพม่ิ มลู คา่ สรา้ งรายได้ และความยง่ั ยนื แกเ่ กษตรกร ประเภทสิ่งประกวด เมลด็ กาแฟทส่ี ง่ ประกวด มี 1 ประเภท ได้แก่ เมล็ดกาแฟพันธอ์ุ าราบกิ า ขอ้ ก�ำหนดในการประกวด 1. ผสู้ ง่ ประกวดเป็นสถาบนั เกษตรกรผ้ปู ลูกกาแฟ เช่น กลุม่ เกษตรกร สหกรณ์ วสิ าหกจิ ชุมชน กลุ่มสง่ เสริมอาชพี และอน่ื ๆ โดยเจ้าหน้าท่ีสง่ เสริมการเกษตร (เกษตรตำ� บล) เป็นผรู้ บั รอง สถาบนั เกษตรกร ประธานสถาบนั เกษตรกรเปน็ ผรู้ บั รองขอ้ มลู ในใบสมคั ร ส�ำหรบั สถาบนั เกษตรกร ของต่างประเทศให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เก่ียวข้องเป็นผู้รับรอง และจะต้องมีใบรับรองแหล่ง กำ� เนิดสนิ ค้า (Place of origin) มาแสดงดว้ ย 2. เมล็ดกาแฟท่ีส่งเข้าประกวดต้องเป็นผลผลิตจากแปลงของสมาชิกสถาบันเกษตรกร ผสู้ ่งประกวดทผ่ี ลติ ในปี 2554/2555 เทา่ นนั้ 3. สถาบันเกษตรกรแต่ละรายส่งเมล็ดกาแฟเข้าประกวดได้ไม่เกิน 1 สิ่งประกวดๆ ละ 3 กิโลกรัม โดยส่งเป็นสารกาแฟ (เมล็ดกาแฟดิบ) บรรจุในถุงหรือซองกระดาษปิดผนึก หุ้มทับ ดว้ ยถงุ พลาสตกิ ป้องกันความชื้น กลน่ิ และสง่ิ แปลกปลอมอน่ื ๆ 4. สิ่งประกวดจากประเทศไทยจะต้องส่งส่ิงประกวด โดยลงทะเบียนทางไปรษณีย์หรือ ส่งด้วยตนเอง ณ ส�ำนักงานบริหารจัดการงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ภายในวันท่ี 4 มกราคม 2555 5. เมลด็ กาแฟของผสู้ ง่ เขา้ ประกวดทกุ รายจะถกู นำ� มาคดั คณุ ภาพเบอ้ื งตน้ โดยใชล้ กั ษณะ ทางกายภาพเปน็ เกณฑ์ 6. เมล็ดกาแฟที่ผ่านเกณฑ์การคัดคุณภาพเบ้ืองต้น จะถูกน�ำมาคั่วในระดับมาตรฐาน เดียวกัน และบรรจุในซองฟอยด์ เพ่ือให้คณะกรรมการตัดสินในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 09.00-17.00 น. อาคารนิทรรศการใหม่ อาคาร 1 งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 อ�ำเภอเมอื ง จังหวดั เชยี งใหม่ 7. ประกาศรายช่อื และมอบรางวลั ผ้ชู นะการประกวด ในวันที่ 9 กมุ ภาพันธ์ 2555 เวลา 10.00-12.00 น. 8. เมล็ดกาแฟที่ได้รับรางวัลการประกวด และที่ผ่านเกณฑ์การคัดคุณภาพเบื้องต้น จะน�ำมาสาธิตชมิ กาแฟในวนั ที่ 9-15 กมุ ภาพนั ธ์ 2555 การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการผลิตกาแฟ 137

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กาํ จัดศัตรพู ชื 9. คณะกรรมการตัดสินการประกวด ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาท่ีจะไม่ให้รางวัลใด รางวัลหน่ึง กรณีที่ส่ิงประกวดไม่ผ่านเกณฑ์การตัดสินของคณะกรรมการฯ และค�ำตัดสินของ คณะกรรมการฯ ถือเปน็ ที่สน้ิ สุด ท้งั น้ี คณะกรรมการฯ ขอสงวนสทิ ธ์ิในการคืนสิ่งประกวดทุกกรณี หมายเหตุ : ข้อก�ำหนดท่ี 5-6 ผ้จู ัดประกวดเป็นผดู้ �ำเนินการ หลกั ฐานการสมคั ร 1. ใบสมคั รส่งสง่ิ ประกวด 2. สำ� เนาบตั รประจ�ำตัวประชาชนพรอ้ มรับรองสำ� เนาถูกต้อง จ�ำนวน 1 ฉบับ (กรณีได้รับ รางวัลการประกวด) 3. ใบรบั รองแหลง่ กำ� เนดิ สนิ คา้ (Place of origin) (กรณเี ปน็ สงิ่ ประกวดจากตา่ งประเทศ) เกณฑก์ ารตดั สินการประกวด 1. การคดั คุณภาพเบื้องต้น 1.1 ลักษณะตรงตามพันธุ์ มีสีสม�่ำเสมอ ตรงตามชนิด และกระบวนการผลิต ของเมลด็ กาแฟ 1.2 เปอรเ์ ซ็นตค์ วามชืน้ ไมเ่ กิน 12.5 % สัดสว่ นโดยนำ้� หนกั 1.3 ไม่มีกล่ินผิดปกติ เช่น กล่ินดิน กล่ินหมัก กล่ินหืน กล่ินรา กล่ินสารเคมี กลน่ิ น้ำ� มนั กล่นิ ไม้ กลนิ่ หญา้ กลิ่นภาชนะบรรจุ เปน็ ต้น 1.4 ขนาดเมลด็ กาแฟดบิ (สารกาแฟ) ไมน่ อ้ ยกว่า 5.6 มลิ ลิเมตร 1.5 ไม่พบร่องรอยการท�ำลายของด้วงเมล็ดกาแฟ (coffee bean weevil) ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Araecerus fasciculatus 1.6 มีข้อบกพรอ่ งสัดส่วนโดยน้ำ� หนกั ไม่เกนิ มาตรฐานที่ก�ำหนด ดงั น้ี เมล็ดดำ� 0.5% เมล็ดขึ้นรา 0.5% เมล็ดแตก 1.5% เมล็ดถูกแมลงท�ำลาย 0.5% ผลกาแฟแห้ง 0.5% สง่ิ แปลกปลอม 0.5% และขอ้ บกพรอ่ งรวม 3% 2. การตดั สินโดยคณะกรรมการตัดสนิ 2.1 คุณภาพด้านกลน่ิ : มกี ล่ินหอม และมีความหนกั แน่นของกลนิ่ 2.2 คุณภาพด้านรสชาติ : ได้แก่ รสชาติ (Flavor) กรดเปร้ียว IAcidity) เนอ้ื สมั ผสั (Body) ความรสู้ กึ หลงั ชมิ (After taste) และความชอบโดยรวม (Overall acceptance) 2.3 อื่นๆ ได้แก่ ข้อบกพร่อง เปอร์เซ็นต์ความช้ืน ขนาดและความสมบูรณ์ ของเมลด็ เมล็ดถูกแมลงทำ� ลาย รายชื่อคณะกรรมการตัดสิน ผู้แทนกรมวชิ าการเกษตร 1. นายมานพ หาญเทว ี ผแู้ ทนมูลนธิ ิโครงการหลวง 2. นายชัยวัฒน์ ชุ่มปนั 138 การเพ่มิ ประสิทธิภาพการผลติ กาแฟ

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จัดศัตรพู ชื 3. นายศิริวงั วงษส์ วรรค ์ ผู้แทนโครงการพัฒนาดอยตงุ (พ้นื ทีท่ รงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ 4. นายปฐม มแี กว้ ผู้แทนบรษิ ทั ควอลติ ี้ คอฟฟี่ โปรดกั ท์ส จำ� กัด 5. นางนฤมล ทกั ษอุดม ผู้แทนสมาคมกาแฟและชาไทย รางวัลการประกวด พรอ้ มโล่เกยี รตยิ ศ จำ� นวน 1 ประเภท 5 รางวัล ดังนี้ พรอ้ มประกาศนยี บัตร รางวัลที่ 1 จำ� นวน 1 รางวลั เปน็ เงิน 3,000 บาท พร้อมประกาศนยี บัตร รางวัลที่ 2 จำ� นวน 1 รางวัล เปน็ เงนิ 2,000 บาท พร้อมประกาศนียบตั ร รางวลั ที่ 3 จำ� นวน 1 รางวัล เป็นเงนิ 1,000 บาท รางวลั ชมเชย จำ� นวน 2 รางวัล เปน็ เงิน 500 บาท ผู้ประสานงานการประกวด 1. นางอรวรรณ วชิ ัยลักษณ์ 2. นางพิสมยั พงึ่ วกิ รยั 3. นายกิสณะ ตันเจริญ กลุ่มส่งแสริมการผลิตไม้ยืนต้น ส�ำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริม การเกษตร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศพั ท/์ โทรสาร : +66 2940 6079 ผลการประกวดกาแฟ วิสาหกจิ ชมุ ชนกาแฟผาฮ้ี อำ� เภอแม่สาย จงั หวดั เชียงราย รางวัลท่ี 1 วสิ าหกจิ ชมุ ชนกาแฟมณีพฤกษ์ อำ� เภอท่งุ ช้าง จงั หวัดนา่ น รางวัลท่ี 2 ศนู ยบ์ ริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร รางวลั ที่ 3 ประจ�ำตำ� บลแมฮ่ ้ี อ�ำเภอปาย จงั หวัดแมฮ่ ่องสอน วสิ าหกจิ ชุมชนกล่มุ แปรรูปกาแฟสวนยาหลวง รางวัลชมเชย อำ� เภอท่าวังผา จังหวัดน่าน กลมุ่ ผปู้ ลกู กาแฟบา้ นแมต่ อน อำ� เภอดอยสะเกด็ จงั หวดั เชยี งใหม่ รางวลั ชมเชย การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการผลติ กาแฟ 139

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จัดศัตรพู ชื 140 การเพิ่มประสิทธภิ าพการผลิตกาแฟ

สถาบนั เกษตรกรผลิตกาแฟโรบัสต้าและกาแฟอาราบิก้าของไทย ที่ ช่ือสถาบนั เกษตรกร ทอ่ี ยู่ โทรศัพท์ กาแฟโรบสั ตา้ กลุม่ เกษตรกรท�ำสวนเขาทะลุ 14/1 หมู่ 5 ตำ� บลเขาทะลุ อ�ำเภอสวี จงั หวดั ชมุ พร 077-620009 1 077- 599683 2 สหกรณ์ผปู้ ลูกกาแฟจงั หวดั ชุมพร 274 ตำ� บลท่าแซะ อำ� เภอท่าแซะ จังหวดั ชมุ พร 089-2921919 084-1901277 3 วสิ าหกจิ ชุมชนกลุม่ กาแฟ 18 หมู่ 1 ตำ� บลถำ้� สิงห์ อ�ำเภอเมอื ง จังหวัดชุมพร 077-824133 บ้านถ�้ำสิงห์ 089-8576850 4 5 กลุ่มเกษตรกรทำ� สวนจปร. 137/8 หมู่ 5 ตำ� บลจ.ป.ร อำ� เภอกระบรุ ี จังหวดั ระนอง 089-4317479 6 Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกําจัดศัตรพู ชื089-7574887 กาแฟอาราบิก้าการเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลิตกาแฟ 141 053-786461 กลุ่มเกษตรกรทำ� สวนกะเปอร์ หมู2่ , ตำ� บลกะเปอร์ อำ� เภอกะเปอร์ จงั หวัดระนอง 1 053-495078 สหกรณก์ ารเกษตรบา้ นห้วยปลาหลด หมู่ 8 ตำ� บลด่านแม่ละเมา อำ� เภอแมส่ อด จังหวดั ตาก 2 วิสาหกิจชุมชนปลกู กาแฟผาฮ้ี บ้านผาฮ้ี หมู่ 10 ตำ� บลโปง่ งาม อ�ำเภอแมส่ าย 3 จงั หวดั เชียงราย วสิ าหกจิ ชมุ ชนกาแฟปางขอน 4 วสิ าหกจิ ชุมชนแปรรปู กาแฟ 162 หมู่ 7 ตำ� บลหว้ ยชมภู อำ� เภอเมอื ง จงั หวัดเชียงราย 81 หมู่ 2 ตำ� บลแม่พริก อ�ำเภอแมส่ รวย ดอยหลวง จงั หวัดเชียงราย สหกรณก์ ารเกษตร ดอยสะเก็ดพฒั นา จ�ำกดั 2/2 หมู่ 3 ถ.เชยี งใหม่-เชียงราย ตำ� บลเชงิ ดอย อ�ำเภอดอยสะเก็ด จงั หวัดเชยี งใหม่

Facebook : กล่มุ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จัดศัตรพู ชืที่ ช่ือสถาบนั เกษตรกรทอ่ี ยู่ โทรศัพท์ 142 การเพิ่มประสิทธภิ าพการผลิตกาแฟวสิ าหกจิ ชมุ ชนกาแฟสด45 หมู่ 4 ตำ� บลเทพเสด็จ อ�ำเภอดอยสะเก็ด 5 บา้ นแม่ตอน จงั หวัดเชยี งใหม่ 089-2617833 6 วสิ าหกจิ ชมุ ชนขนุ ชา้ งเคีย่ น หมู่ 4 ตำ� บลชา้ งเผือก อำ� เภอเมอื งเชียงใหม่ จังหวดั 086-1794719 เชยี งใหม่ หมู่ 12 บ้านนำ�้ รพี ัฒนา ต�ำบลขนุ น่าน 7 วสิ าหกจิ ชุมชนกาแฟภพู ยคั ฆ์ อำ� เภอเฉลมิ พระเกยี รติ จังหวัดน่าน บ้านสนั เจรญิ หมู่ 6 ต�ำบลผาทอง 8 วสิ าหกิจชมุ ชนแปรรูปกาแฟ 081-2879219 สวนยาหลวง อำ� เภอท่าวงั ผา จงั หวัดน่าน วสิ าหกจิ ชมุ ชนแปรรูปกาแฟ 9 มณพี ฤกษ์ 207 หมู่ 6 ตำ� บลงอบ  อำ� เภอทงุ่ ช้าง จังหวดั นา่ น 087-9212100 10 กลมุ่ ผลติ กาแฟอราบิกา้ หมู่ 8 ตำ� บลแจซ้ อ้ น อ�ำเภอเมืองปาน จังหวดั ลำ� ปาง 085-6981416 บ้านใหมพ่ ัฒนา 11 กลมุ่ เมล็ดกาแฟอาราบิก้าแมแ่ จ๋ม หมู่ 1 ตำ� บลแจซ้ ้อน อำ� เภอเมืองปาน จังหวัดลำ� ปาง 12 วสิ าหกิจชมุ ชนผูผ้ ลติ กาแฟ 32 หมู่ 1 ตำ� บลห้วยหอ้ ม อำ� เภอแม่ลาน้อย 089-5553900 ห้วยห้อม จงั หวัดแมฮ่ อ่ งสอน 13 กลุ่มผปู้ ลูกกาแฟบ้านแมฮ่ ี้ ต�ำบลแม่ฮี้ อ�ำเภอปาย จังหวัดแม่ฮอ่ งสอน 053-699575 14 กลุ่มปลกู กาแฟแม่เหาะ ต�ำบลแมเ่ หาะ อำ� เภอแม่สะเรียง จังหวดั แม่ฮ่องสอน 084-3639443 15 วสิ าหกิจชมุ ชนผผู้ ลิตกาแฟบ้านหนองหา้ หมู่ 16 ตำ� บลร่มเยน็ อำ� เภอเชยี งคำ� จังหวัดพะเยา 084-4851728 16 วสิ าหกจิ ชุมชนกาแฟอินทรียร์ กั ษา อ�ำเภอเวยี งปา่ เป้า จังหวัดเชยี งราย 089-5575851, ปา่ บา้ นขุนลาว 090-5705966

Facebook : กลุ่มงานวจิ ยั การใช้สารป้ องกันกาํ จดั ศัตรพู ชื เอกสารอา้ งองิ กรมพฒั นาทดี่ นิ . 2553. คู่มือการพฒั นาทีด่ ินสำ� หรบั หมอดนิ อาสาและเกษตรกร. กรุงเทพฯ. กรมส่งเสริมการเกษตร. 2555. การเก็บตัวอย่างดินเพ่ือการวิเคราะห์ส�ำหรับการปลูกกาแฟ โครงการปรับโครงสรา้ งสนิ คา้ กาแฟแบบครบวงจร. (อดั สำ� เนา). นันทรัตน์ ศุภก�ำเนิด. ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์. ปุ๋ยและการจัดการดิน. สถาบันวิจัยพืชสวน , กรมวชิ าการเกษตร. ทาธฤษ กณุ าศล. 2554. “ไมบ้ ังร่มในสวนกาแฟ”. วารสารกาแฟเนสทเ์ ล.่ ปีที่ 16, ฉบบั ที่ 63, มกราคม – มีนาคม 2554. ปฐม มีแก้ว. 2554. “การจัดการธาตุอาหารในสวนกาแฟ”. วารสารกาแฟเนสท์เล่. ปีท่ี 16, ฉบบั ที่ 63, มกราคม – มนี าคม 2554. เยาวลักษณ์ จันทร์บาง. 2555. cmu-c1 จุดเร่ิมต้นของ “สารล่อมอดเจาะผลกาแฟ”. คณะเกษตรศาสตร์, มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม.่ ศุภนารถ เกตุเจริญ. ไม่ปรากฏปีท่ีพิมพ์. กาแฟ. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตร แหง่ ประเทศไทย จำ� กดั . ศูนย์วิจัยและพัฒนากาแฟบนที่สูง คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 2542. การปลกู และผลติ กาแฟอาราบกิ า้ บนพน้ื ท่ีสงู . เชยี งใหม่ : โรงพมิ พ์มิ่งเมือง. สุทัศน์ ทีฑบรรณ. 2557. “Roasting (1)”. วารสาร Coffee Traveler. ฉบับท่ี 10, เมษายน-พฤษภาคม 2557. สรุ ีรัตน์ ทวนทว.ี 2547. การตัดแตง่ ก่ิงกาแฟโรบสั ต้า. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ตีรณสาร. การเพิม่ ประสทิ ธิภาพการผลติ กาแฟ 143

Facebook : กลมุ่ งานวจิ ยั การใช้สารป้ องกนั กําจดั ศัตรพู ชื สุรีรัตน์ ปัญญาโตนะ ปานหทยั นพชินวงศ์ และศุภรัฐ เลี้ยวเจี้ยง. 2554ก. กาแฟโรบัสต้าพันธุ์ แนะนำ� ของกรมวชิ าการเกษตร. ศนู ยว์ จิ ยั พชื สวนชมุ พร, สถาบนั วจิ ยั พชื สวน, กรมวชิ าการเกษตร. _________________________________________________. 2554ข. การจัดการดินปลกู กาแฟบนพื้นทลี่ าดชัน. ศูนย์วิจยั พืชสวนชมุ พร, สถาบันวจิ ยั พืชสวน, กรมวชิ าการเกษตร. _________________________________________________. 2554ค. การตัดแต่งก่ิง กาแฟโรบัสต้า. ศนู ย์วิจัยพืชสวนชมุ พร, สถาบันวจิ ยั พชื สวน, กรมวชิ าการเกษตร. _________________________________________________. 2554ง. การตัดฟื้นต้น กาแฟโรบัสต้า. ศูนยว์ จิ ยั พืชสวนชมุ พร, สถาบันวจิ ัยพืชสวน, กรมวชิ าการเกษตร. _________________________________________________. 2554จ. การเปลี่ยนยอด กาแฟโรบสั ตา้ ใหเ้ ปน็ พนั ธด์ุ .ี ศนู ยว์ จิ ยั พชื สวนชมุ พร, สถาบนั วจิ ยั พชื สวน, กรมวชิ าการเกษตร. _________________________________________________. 2554ฉ. การใสป่ นู ปรบั สภาพ ดนิ ในสวนกาแฟโรบสั ตา้ . ศนู ยว์ จิ ยั พชื สวนชมุ พร, สถาบนั วจิ ยั พชื สวน, กรมวชิ าการเกษตร. _________________________________________________. 2554ช. ปยุ๋ หมกั แกลบกาแฟ. ศูนย์วจิ ัยพืชสวนชุมพร, สถาบนั วจิ ยั พืชสวน, กรมวิชาการเกษตร. ส�ำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ. 2552. มาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 5700-2552 เมล็ดกาแฟโรบัสต้า. แหล่งที่มา : http://www.acfs.go.th/standard/ list_stand_std.php?pageid=3. 24 กมุ ภาพนั ธ์ 2556. _______________________________________. 2553. มาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ. 5903-2553 การปฏิบัติทางการเกษตรท่ีดีสำ� หรับกาแฟ. แหล่งที่มา : http://www. acfs.go.th/standard/GAP_coffee.pdf. 26 กุมภาพนั ธ์ 2556. สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร. 2553. การจัดการความรู้เทคโนโลยีการผลิตกาแฟ ครบวงจร. กรุงเทพฯ : ห้างหุน้ สว่ นจ�ำกัดรกั ษ์พมิ พ์. ______________________________. 2556. การปลกู กาแฟโรบสั ตา้ . กรงุ เทพฯ : หา้ งหนุ้ สว่ น จำ� กัดรักษพ์ มิ พ์. อรวรรณ วิชัยลักษณ์ พิสมัย พ่ึงวิกรัย และณัฐธิดา ห้าวหาญ. 2556. การเพ่ิมประสิทธิภาพ การผลติ กาแฟโรบสั ตา้ . กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จ�ำกดั . 144 การเพิม่ ประสิทธิภาพการผลติ กาแฟ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook