ชนิดของคำ ทำ E-BooK ครั้งที่ 1

ชนดิ ของคำ E – Book หนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เรื่องชนิดของคำ จดั ทำโดย นำงก่ิงอุบล ชำนำญ โรงเรียนโพธสิ ัมพนั ธพ์ ิทยำคำร อ.บำงละมุง จ.ชลบุรี สำนกั งำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำมธั ยมศกึ ษำ เขต 18

ชนดิ ของคำ คำในภำษำไทยจำแนกได้ ๗ ชนดิ คอื ๑. คำนำม ๒. คำสรรพนำม ๓. คำกริยำ ๔. คำวเิ ศษณ์ ๕. คำบุพบท ๖. คำสนั ธำน ๗. คำอทุ ำน

คำนำม คอื คำท่ีใช้เรียกชอื่ คน สัตว์ ส่ิงของ สถำนท่ี ทงั้ สิง่ ของทมี่ รี ปู เชน่ คน สัตว์ บำ้ นเมอื ง เป็นตน้ หรอื ส่งิ ทีไ่ มม่ ีรูป เช่น เวลำ อำยุ อำนำจ เป็นต้น คำนำมแบ่งเปน็ ๕ ชนดิ ดงั น้ี ๑. สำมำนยนำม คือ คำนำมทใ่ี ชเ้ รียกชือ่ ท่ัวไปไม่ชี้เฉพำะเจำะจง เชน่ พอ่ แม่ ตำรวจ ทหำร คน บำ้ น ประเทศ เป็นตน้ ตัวอยำ่ ง - นักเรยี นเรยี นหนงั สอื - ตำรวจจบั ผู้รำ้ ย ๒. วสิ ำมำนยนำม คอื นำมที่เป็นช่ือเฉพำะของคน สัตว์ สิง่ ของ สถำนที่ เชน่ ครู วิมลวรรณ ประเทศไทย จังหวดั ชลบุรี โรงเรียนโพธิสมั พนั ธ์พิทยำคำร เปน็ ต้น ตัวอยำ่ ง - โรงเรียนโพธิสัมพันธพ์ ิทยำคำรตง้ั อยใู่ นจังหวัดชลบุรี - เด็กหญิงมำรีนำเป็นหัวหน้ำหอ้ ง ม.๑/๓ ๓. สมุหนำม คอื นำมท่ีบอกหมวดหมู่ของนำมท่ัวไปและนำมเฉพำะ เพอ่ื บอกถึง ลกั ษณะท่ีรวมกนั เปน็ หมู่ เปน็ พวก เชน่ กอง กลมุ่ คณะ ฝงู โขลง กอง เปน็ ตน้ ตัวอยำ่ ง - ฝูงปลำวำ่ ยน้ำไปมำ - คณะกรรมกำรนักเรยี นนดั ประชมุ วนั นีห้ ลังเลกิ เรยี น

๔. ลกั ษณะนำม คือ นำมทใ่ี ชบ้ อกลักษณะของนำมหรอื กริยำ เพ่ือบอกขนำด รูปรำ่ ง สัณฐำน ปรมิ ำณ เช่น คน ตัว ใบ ด้ำม เลม่ เคร่ือง เปน็ ตน้ ตวั อยำ่ ง - บ้ำนหลังน้ที ำสีสวยงำมมำก - หนังสอื ภำษำไทยเล่มนีฉ้ นั ชอบอำ่ นมำก ๕. อำกำรนำม คือ นำมท่ีบอกกริ ยิ ำอำกำร ซึง่ มีคำ กำร ควำม นำหนำ้ คำกรยิ ำ เช่น กำรกนิ กำรออกกำลงั กำย ควำมดี ควำมงำม ควำมรู้ ตวั อยำ่ ง - กำรออกำลังกำยมปี ระโยชนต์ ่อร่ำงกำยของคนเรำ - ควำมรักเป็นส่ิงท่ีดแี ละสวยงำม - กำร ใช้นำหน้ำคำกริยำ เชน่ กำรเดนิ กำรวิง่ กำรพดู กำรอำ่ น กำรทำงำน เป็นต้น - ควำม ใช้นำหน้ำคำวเิ ศษณ์และคำกรยิ ำเก่ียวกับจติ ใจ เชน่ ควำมดี ควำมรกั ควำมเจริญ ควำมคดิ ควำมสขุ เปน็ ต้น

ใบงำนชนิดของคำนำม หวี สมุด นก ควำมรัก อนั องค์ มีด โขลง กำรเกดิ กำรไฟฟ้ำ ฟอง คณะ ญำญำ่ ลมุ พินี บที เี อส จนั ทบรุ ี บำน ควำมดี ฝงู รม่ โดเรม่อน กำรวง่ิ โพธิสัมพนั ธพ์ ิทยำคำร คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนนำคำท่ีกำหนดใหม้ ำแยกประเภทใหถ้ ูกตอ้ ง • 1. สำมำนยนำม ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................... • 2.วิสำมำนยนำม .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... • 3. สมุหนำม ..................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ • 4. ลกั ษณะนำม .......................................................................................................................................... ............................................................................................................................... • 5. อำกำรนำม ....................................................................................................................................

คำสรรพนำม คือ คำท่ใี ช้แทนคำนำม แทนช่ือคน สัตว์ สิง่ ของ เพอ่ื ไม่ตอ้ งกลำ่ วคำนำมซ้ำ คำสรรพนำมแบ่งเป็น ๖ ชนิด ดงั น้ี ๑. บุรุษสรรพนำม คอื สรรพนำมท่ีใชแ้ ทนช่ือผูพ้ ูด ผทู้ พ่ี ดู ด้วย และผู้ทพ่ี ูดถึง แบ่งออกเปน็ ๓ ชนดิ คือ - สรรพนำมบรุ ุษที่ ๑ หมำยถึง คำสรรพนำมทใ่ี ช้แทนตวั ผพู้ ูด เช่น ฉัน ผม กระผม ขำ้ พเจ้ำ เรำ กู อำตมำ ขำ้ พระพทุ ธเจ้ำ เป็นตน้ - สรรพนำมบุรุษท่ี ๒ หมำยถึง คำสรรพนำมทีใ่ ชแ้ ทนช่ือผฟู้ ัง เชน่ ทำ่ น เธอ คณุ มงึ เอง็ แก ใต้เท้ำ พระองค์ ฝำ่ พระบำท เปน็ ตน้ - สรรพนำมบรุ ุษท่ี ๓ หมำยถึง คำสรรพนำมทใ่ี ชแ้ ทนชื่อผู้ทพี่ ดู ถึง เชน่ เขำ มนั แก ใคร อะไร ผู้ใด ท่ำน หลอ่ น พระองค์ เป็นต้น ๒. ประพนั ธสรรพนำม คือ คำสรรพนำมทใี่ ช้แทนนำมหรือแทนสรรพนำมที่อยู่ ติดตอ่ กันข้ำงหนำ้ ไดแ้ ก่คำวำ่ ท่ี ซ่ึง อัน ผู้ ดงั ผ้ทู ่ี ผู้ซึ่ง เชน่ ตวั อย่ำง - คนทเ่ี ป็นครูต้องมีควำมอดทน - บทเพลงอนั ไพเรำะย่อมเปน็ ทป่ี ระทบั ใจผฟู้ ัง - ครูผเู้ สียสละเพ่ือนกั เรยี นสมควรได้รบั กำรยกยอ่ ง

๓. วภิ ำคสรรพนำม คอื คำสรรพนำมทใี่ ช้แทนคำนำมหรือสรรพนำมเพือ่ แบ่งพวก หรือรวมพวก ได้แก่คำว่ำ บ้ำง ต่ำง กัน ตวั อยำ่ ง - นกั กฬี ำตำ่ งทำหน้ำที่ของตน - นกั เรยี นบำ้ งกอ็ ่ำนหนังสือบำ้ งกเ็ ล่นฟุตบอล - นกั มวยชนกัน ๔. นิยมสรรพนำม คอื คำสรรพนำมที่ใช้แทนคำนำมหรือข้อควำมที่กลำ่ วมำแลว้ หรือทีป่ รำกฏ อยเู่ ฉพำะหนำ้ เป็นสรรพนำมทแี่ สดงควำมช้ีเฉพำะเจำะจง ไดแ้ กค่ ำว่ำ นี่ นน่ั โนน่ นี้ น้นั โน้น ท้ังน้ี ท้ังนัน้ เช่นนี้ เช่นนัน้ อยำ่ งน้ี อยำ่ งน้นั อยำ่ งโน้น เช่น ตวั อย่ำง - นค่ี ือบ้ำนของฉัน - นน่ั เขำกำลงั เดินมำ - ฉันอยู่นส่ี บำยกวำ่ อยู่โน่น ๕. อนยิ มสรรพนำม คอื คำสรรพนำมทีใ่ ช้แทนคำนำมทบ่ี อกควำมไมเ่ จำะจง ได้แกค่ ำวำ่ ใคร อะไร ไหน ผใู้ ด ใด ๆ ใคร ๆ อะไร ๆ ไหน ๆ ซึง่ ไม่ใชค่ ำถำม ตวั อย่ำง - ใครจะไปกับฉันกไ็ ด้ - อะไรก็ไมส่ ำคัญเทำ่ กบั กำรไดอ้ อกกำลงั กำย - ผใู้ ดเป็นคนดีเรำควรคบผนู้ น้ั ๖. ปฤจฉำสรรพนำม คือ คำสรรพนำมทใี่ ชแ้ ทนคำนำมที่มคี วำมหมำยเป็นคำถำม ไดแ้ กค่ ำวำ่ ใคร อะไร ไหน อย่ำงไร ทำไม ผู้ใด ตวั อยำ่ ง - เม่อื วำนน่ีใครมำหำฉัน - เธอจะไปไหนกไ็ ด้ - อะไรอยูใ่ นกระเปำ๋

ใบงำนชนดิ ของคำสรรพนำม ฉัน ใคร น่ี ที่ ผ้ซู ่ึง ตำ่ ง เรำ คุณ บ้ำง อัน อะไรนน่ั ท่ำน ไหน ใด กัน โนน่ แก เขำ ซง่ึ กระผม ขำ้ พเจำ้ ผทู้ ี่ มัน ดฉิ นั เธอ อำตมำ โยม คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนนำคำที่กำหนดใหม้ ำแยกประเภทใหถ้ ูกตอ้ ง • 1.บุรุษสรรพนำม ................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ • 2.นิยมสรรพนำม ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... • 3. ปฤจฉำสรรพนำม ......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................ • 4.อนิยมสรรพนำม .............................................................................................................................................. ......................................................................................................................................... • 5.วภิ ำคสรรพนำม ................................................................................................................................... • 6.ประพนั ธสรรพนำม ....................................................................................................................................

คำกรยิ ำ คอื คำท่แี สดงอำกำร กำรกระทำ ของนำมหรอื สรรพนำม เช่นคำวำ่ กนิ เดนิ นง่ั นอน เขยี น เปน็ คล้ำย ชนดิ ของคำกรยิ ำ 1. อกรรมกรยิ ำ 2. สกรรมกรยิ ำ 3. วติ รรถกริยำ 4. กริยำนเุ ครำะห์ 5. กรยิ ำสภำวมำลำ อกรรมกริยำ คอื คำกรยิ ำท่ีไม่ต้องมีกรรมมำรบั ก็ได้ควำมสมบรู ณ์ เชน่ นอน เดิน บนิ ว่ิง ตวั อย่ำง เขำนอน พ่อเดิน นกบนิ นกั กีฬำว่ิง เปน็ ตน้ สกรรมกริยำ คือ คำกรยิ ำท่ีต้องมกี รรมมำรบั เพรำะคำกรยิ ำน้ไี ม่มคี วำมสมบรู ณ์ ในตัวเอง เช่น เชยี น กิน กดั ตัวอยำ่ ง นกั เรยี นเขียน....... สริ โิ สภำกิน....... แมวกัด....... เป็นตน้

วิตรรถกรยิ ำ คือ คำกรยิ ำที่ไมม่ ีเน้ือควำมในตัวต้องอำศัยเนอื้ ควำมของคำอ่นื ทอ่ี ยู่ ขำ้ งทำ้ ยเขำ้ มำชว่ ย จึงจะได้ควำมครบ เช่นคำว่ำ เปน็ เหมือน คล้ำย เทำ่ คอื เสมือน ตัวอย่ำง อรณุ ีเป็นหวั หนำ้ ห้อง รปู ร่ำงของลำเหมอื นรูปร่ำงของมำ้ แมวคลำ้ ยเสือ กริยำนเุ ครำะห์ คอื คำกรยิ ำท่ีทำหนำ้ ท่ี ชว่ ยคำกริยำหลักให้ได้ควำมครบถว้ น เช่น คำวำ่ กำลัง ได้ จะ คง จง เปน็ ต้น ตวั อยำ่ ง กำญจนำกำลงั อำ่ นหนังสือ พงศกรจะทำงำน ท่ำนจงเช่อื ฉัน กริยำสภำวมำลำ คือ คำกริยำทท่ี ำหน้ำที่คลำ้ ยคำนำม จะเป็นประธำน กรรม หรือบทขยำยสว่ นใดสว่ นหนึ่งของประโยคกไ็ ด้ ตัวอยำ่ ง ฉันชอบดูภำพยนตร์ เขำออมเงนิ ไวเ้ พ่อื ซื้อรองเทำ้

ใบงำนชนิดของคำกรยิ ำ ไป ตอ้ งกำร หวั เรำะ ร้องไห้ กำลัง จะ หรอก เปน็ เหมือน นะ นำ่ จะ...แล้ว นอน บนิ แล้ว เทำ่ ยิง คอื เถอะ ชว่ ย ถูก ได.้ ..แล้ว คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนนำคำทก่ี ำหนดให้มำแยกประเภทใหถ้ กู ต้อง • 1.อกรรมกรยิ ำ ................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................ • 2.สกรรมกริยำ ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... • 3.วิกตรรถกริยำ ......................................................................................................................................... ............................................................................................................................................ • 4.กรยิ ำนุเครำะห์ .............................................................................................................................................. .........................................................................................................................................