Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องอสมการบูรณาการการใช้ไฟฟ้า

แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องอสมการบูรณาการการใช้ไฟฟ้า

Published by Kunasin Chutinun, 2022-11-16 14:22:36

Description: ตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ สามารถนำไปอ้างอิงสร้างแผนการจัดการเรีนรู้ได้แต่ควรปรับให้เหมาะแก่ผู้เรียนของตนเอง และหากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้
นายคุณาสิน ชุตินันท์ ผู้จัดทำ

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนท่ี 1 เร่อื ง แนะนำอสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 รายวิชา คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน 5 รหสั วชิ า ค23111 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนวิมตุ ยารามพทิ ยากร ผู้สอน นางสาวจิรภทั ร บญุ ครอบ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 เวลา 1 คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ดั 1.1 มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นพิ จน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสมั พนั ธ์หรอื ชว่ ยแก้ปัญหาที่กำหนดให้ 1.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1.2.1 นักเรียนสามารถระบสุ ัญลกั ษณแ์ ทนความสัมพันธ์ท่ีปรากฎในประโยคเก่ยี วกับจำนวนได้ (K) 1.2.2 นักเรยี นสามารถอธิบายขน้ั ตอนการเขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ ทนประโยคเกยี่ วกับจำนวนได้ (K) 1.2.3 นักเรียนสามารถบอกความหมายของอสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดียวได้ (K) 1.2.4 นกั เรียนสามารถเขียนประโยคสัญลักษณแ์ ทนประโยคเกีย่ วกับจำนวนได้ (P) 1.2.5 นักเรียนแสดงความกระตอื รือรน้ ในการเรียน (A) 2. สาระสำคญั 3.1 อสมการ เป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ท่แี สดงถึงความสัมพันธ์ของจำนวน โดยมสี ญั ลกั ษณ์ ,,,, ใชแ้ สดงความสมั พันธ์ 3.2 อสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี ว คอื อสมการทม่ี ตี ัวแปรเพียงตวั เดียว และเลขช้กี าํ ลงั ของตวั แปรใน อสมการเท่ากบั 1 3.3 ความหมายของเคร่อื งหมายในอสมการ สัญลักษณ์ แทนความสมั พันธ์ > มากกวา่ < น้อยกว่า  มากกวา่ หรือเทา่ กับ, ไมน่ ้อยกว่า  น้อยกว่าหรอื เทา่ กับ, ไมเ่ กนิ  ไม่เท่ากับ

3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้(Knowledge) นักเรียนสามารถ สัญลกั ษณ์แทนความสัมพนั ธท์ ีป่ รากฎในประโยคเกีย่ วกับจำนวนได้ และสามารถอธิบายข้นั ตอนการ เขียนประโยคสญั ลักษณแ์ ทนประโยคเกยี่ วกบั จำนวนได้ 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ  ทกั ษะการแก้ปัญหา (problem solving)  ทกั ษะการสือ่ ความหมาย (communication)  ทกั ษะการเช่ือมโยง (connection)  ทกั ษะการให้เหตผุ ลและการพิสูจน์ (reasoning and proof)  ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ (Creativity) 3.3 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์  นักเรยี นรู้จักเลอื กใช้ผลติ ภัณฑท์ เี่ ปน็ มติ รต่อส่ิงแวดล้อม  นักเรยี นรู้จักเลอื กใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าอย่างถกู วธิ ี  นกั เรยี นมีพฤติกรรมการใชเ้ คร่อื งใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งถกู วธิ ี  นักเรยี นรู้จักดแู ลรักษาเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าอย่างถกู วธิ ี  นักเรียนคัดแยกและจดั การขยะอยา่ งถูกวิธี  นักเรยี นนำความรทู้ ไี่ ดไ้ ปขยายผลในครอบครัว  นกั เรยี นนำความรู้ทไี่ ด้ไปขยายผลในชมุ ชน  รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์  อยู่อย่างพอเพียง  ซอ่ื สตั ย์สุจรติ  มุ่งมน่ั ในการทำงาน  มีวนิ ยั  รักความเป็นไทย  ใฝ่การเรยี นรู้  มีจิตสาธารณะ 3.4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการสือ่ สาร  ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3.5 การบรู ณาการ  พลังงานหมนุ เวยี น  การใชไ้ ฟฟ้าอย่างมปี ระสิทธิภาพ  การใช้น้ำอยา่ งคมุ้ คา่  การจัดการนำ้ ท้ิง  ขยะและการจัดการ

4. ชิ้นงานท่แี สดงผลการเรยี นรู้ 4.1 แบบฝึกหัดที่ 1 เรื่องแนะนำอสมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว 4.2 ภาระงานการบา้ น จำนวน 4 ขอ้ 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ (10นาที) 5.1 ครผู ู้สอนทบทวนผเู้ รยี นเรอ่ื ง สมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดยี วเก่ยี วกับการแกส้ มการเชิงเส้นตัวแปร เดยี ว โดยทบทวนผา่ นโจทย์ปญั หาใหน้ ักเรียนแปลความออกมาเปน็ สมการแล้วชว่ ยกันหาคำตอบ ตวั อย่างท่ี 1 ครถู ังเล้ียงปลาหางนกยูงจำนวนหน่ึงในอา่ งปลาหน้าบ้าน วนั หนึง่ มแี มวจรจัดมาเลน่ นำ้ ที่ อ่างปลาของครู แต่ครถู ังเห็นไดท้ ันจึงมาไลแ่ ต่ก็มีปลาหางนกยงู ทตี่ ายอยู่ 4 ตวั ครถู งั นับปลาหางนกยูงที่ เหลอื อย่มู จี ำนวน 18 ตวั อยากทราบวา่ ในตอนแรกครูถงั มปี ลาหางนกยูงกตี่ ัว ให้ x แทน จำนวนปลาหางนกยูงในตอนแรก เขียนสมการได้ดังน้ี x – 4 = 18 x – 4 + 4 = 18 + 4 x = 22 ดงั น้ัน ในตอนแรกครถู งั มปี ลาหางนกยูงท้ังหมด 22 ตวั ขน้ั กจิ กรรม (20 นาที) 5.2 ครผู ู้สอนอธบิ ายถงึ อสมการวา่ เปน็ การเขยี นความสัมพันธข์ องจำนวนโดยใช้เครอ่ื งหมาย เท่ากับ (=) โดยครูจะพยายามเช่ือมโยงถึงการแสดงความสมั พันธ์ของจำนวนท่ีไมไ่ ดใ้ ชเ้ ครอื่ งหมายเท่ากบั ,,,, ผา่ นการถามและสร้างปฏิสมั พนั ธ์กับผู้เรยี น เชน่ การใช้ไฟฟ้าของเครอื่ งใช้ไฟฟา้ ชนดิ ตา่ ง ๆ เชน่ การเปรียบเทียบการใช้หลอดไฟที่ใหค้ วามสวา่ งเท่ากันแต่ใชพ้ ลงั งานไมเ่ ท่ากันโดยเทยี บระหวา่ งแบบหลอดไส้ (100 วตั ต์) หลอดตะเกียบ (20 วตั ต์) หลอดนอี อนหรอื หลอดฟลอู อเรสเซนต์ (36 วตั ต์) และหลอด LED (18 วัตต)์ (การอนรุ กั ษ์พลังงาน) (ควรใชห้ ลอดไฟ LED)

5.3 ครผู สู้ อน สอนเก่ยี วกับความหมายของเคร่อื งหมายในอสมการผ่านการยกตวั อย่างจากการถาม และสร้างปฏิสัมพันธ์กับผ้เู รียนในขอ้ 8.2 สามารถสรุปไดด้ ังนี้ สัญลักษณ์ แทนความสมั พันธ์ > มากกว่า < น้อยกว่า  มากกวา่ หรอื เทา่ กับ, ไม่นอ้ ยกว่า  น้อยกว่าหรอื เท่ากบั , ไม่เกนิ  ไม่เท่ากบั 5.4 ครูผู้สอน สอนเกยี่ วกบั การแปลความจากประโยคเกย่ี วกับจำนวนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์โดยมี กจิ กรรมจบั ฉลากประโยคเก่ยี วกับจำนวนแลว้ ช่วยกันตอบของครผู สู้ อนและนักเรยี นโดยครูผูส้ อนจะไม่บอก คำตอบจะพยายามใหน้ กั เรยี นตอบดว้ ยตัวเองแลว้ จดลงสมดุ เปน็ แบบฝึกหัดที่ 1 ดังน้ี ขนั้ แรก การบอกความสมั พนั ธ์จากประโยคเกย่ี วกับจำนวน ข้นั ทส่ี อง การนำความสัมพันธ์มาเขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์ แบบฝึกหดั ที่ 1 ประโยคเก่ียวกับจำนวน ความสมั พันธ์ ประโยคสัญลกั ษณ์ 1. แปดสิบมากกว่าห้าสิบ มากกว่า 80 > 50 2. นำ้ แขง็ มอี ุณหภูมติ ่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส นอ้ ยกว่า X< 0C 3. สามเทาของจำนวนหน่ึง ไม่เทา่ กบั 3x + 10  3 รวมกบั สบิ ไม่เทากับสาม 4. ครถู ังมเี งินไม่ตำ่ กวา่ 30 ลา้ นบาท มากกว่าเทา่ กับ y  30, 000, 000 5. ครูถังมนี ำ้ หนงั ไมเ่ กิน 100 กโิ ลกรมั นอ้ ยกวา่ เทา่ กับ z  100 6. ในห้องเรียนมีนักเรยี นไม่น้อยกวา่ 20 คน มากกว่าเทา่ กบั x  20 8.5 ครูผู้สอนอธิบายนกั เรยี นเกย่ี วกับอสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียวโดยให้นกั เรยี นสงั เกตจาก แบบฝกึ หดั ที่ 1 ว่า อสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดียว คืออสมการท่มี ตี ัวแปรเพยี งตวั เดยี ว และเลขชีก้ าํ ลังของตวั แปรในอสมการเท่ากับ 1 แล้วลองยกตัวอยา่ งให้นกั เรยี นจำแนกว่า อสมการใดเป็นอสมการเชงิ เส้นตัวแปรเดียว พรอ้ มใหจ้ ดลงสมุด ตัวอย่างท่ี 2 x + 1 < 10 (เป็นอสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว) x + y  0 (ไม่เป็นอสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียว) 2x  2 (เป็นอสมการเชงิ เส้นตวั แปรเดียว)

z2 +1 0 (ไม่เปน็ อสมการเชงิ เส้นตัวแปรเดียว) ขนั้ สรุป (10นาท)ี 5.6 ครูผ้สู อนสรปุ ความรู้ทเี่ รยี นในคาบเก่ยี วกบั การเขยี นประโยคสญั ลักษณ์อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปร เดียว การแปลความหมายของเครือ่ งหมายและให้ภาระงานการบา้ นแก้ผเู้ รียนจำนวน 3 ขอ้ และให้แนวคดิ นักเรียนเกี่ยวกบั การใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ภาระงานการบ้าน คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นประโยคสัญลกั ษณจ์ ากประโยคเกี่ยวกับจำนวนทีก่ ำหนดและบอกว่าเป็น อสมการเชิงเสน้ ตวั แปรเดียวหรอื ไม่ ประโยคเกีย่ วกบั จำนวน ประโยคสญั ลกั ษณ์ อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว เนตรมนี ้ำหนักตวั นอยกวา 50 กิโลกรมั x < 50 เป็น อรมสี วนสูงไม่ต่ำกวา่ 145 เซนติเมตร x  145 ก เปน็ กำลงั สองของจำนวนหนง่ึ รวมกบั หนึ่งน้อยกวา่ หา้ สิบ x2 +1 50 ก ไม่เปน็ คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนนำกำลงั ไฟฟา้ ทีเ่ ครือ่ งใช้ไฟฟา้ ใช้มาเตมิ ในประโยคสญั ลกั ษณอ์ สมการ เตารดี 700 วตั ต์ พดั ลม 70 วตั ต์ ตูเ้ ยน็ 150 วัตต์ กาน้ำร้อน 770 วัตต์ พดั ลม < ต้เู ย็น < เตารีด < กานำ้ ร้อน 6. สอ่ื / อปุ กรณ์ / แหล่งเรียนรู้ 6.1 หนังสือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เลม่ 1 6.2 สอ่ื การจัดกิจกรรมจับฉลากความสัมพันธ์ของประโยคเกีย่ วกับจำนวน 6.3 แบบฝกึ หัดท่ี 1 เรอ่ื งการแนะนำอสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว 6.4 ภาระงานการบา้ น จำนวน 4 ขอ้ เรอ่ื งการแนะนำอสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดยี ว 6.5 ห้องสมดุ โรงเรยี นวิมุตยารามพทิ ยากร

7. การวัดและประเมินผล ส่งิ ที่ต้องประเมนิ วิธกี ารประเมิน เคร่ืองมอื ในการ เกณฑก์ ารประเมิน ประเมิน - แบบฝึกหดั ท่ี 1 เรอ่ื งแนะนำอสมการเชิง ตวั ชี้วัด (วชิ าพืน้ ฐาน) - แบบฝกึ หดั ที่ 1 เส้นตัวแปรเดยี ว - ตรวจแบบฝึกหดั - ภาระงานการบ้าน จำนวน 4 ข้อ เข้าใจและใช้สมบตั ิของ เรอ่ื งแนะนำอสมการ และสมุด การไม่เท่ากนั เพอื่ เชงิ เส้นตัวแปรเดียว - แบบฝึกหัดที่ 1 เรื่องแนะนำอสมการเชิง วิเคราะห์และแก้ปัญหา - ภาระงานการบ้าน - ตรวจแบบฝกึ หดั เส้นตัวแปรเดยี ว โดยใชอ้ สมการเชงิ เส้น จำนวน 4 ขอ้ และสมดุ - ภาระงานการบ้าน จำนวน 4 ข้อ ตวั แปรเดียว จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - นักเรียนสามารถระบุ - แบบฝกึ หัดท่ี 1 สัญลักษณ์แทน เรอ่ื งแนะนำอสมการ ความสัมพันธ์ทปี่ รากฎ เชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว ในประโยคเกี่ยวกับ - ภาระงานการบา้ น จำนวนได้ (K) จำนวน 4 ขอ้ - นักเรียนสามารถ อธบิ ายขัน้ ตอนการ เขียนประโยค สญั ลักษณแ์ ทนประโยค เก่ียวกับจำนวนได้ (K) - นักเรียนสามารถบอก ความหมายของ อสมการเชิงเส้นตวั แปร เดียวได้ (K)

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการมีวนิ ยั ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี น และม่งุ มนั่ การทำงาน พฤติกรรม มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน คนท่ี 1 มสี ่วนรว่ มในการทำกิจกรรม ซักถามใน การมสี ว่ นรว่ มในการทำงาน รวม ในชั้นเรียน(3) ประเดน็ ที่สงสัย ที่ได้รับมอบหมายเสร็จตามเวลา (12) เข้าเรยี นตรงเวลา (3) ไมเ่ ขา้ ใจ (3) ทีก่ ำหนด (3) 13 33 3 12 23 33 3 12 33 33 3 12 43 33 3 12 53 33 3 12 63 33 3 12 73 33 3 12 83 33 3 12 93 33 3 12 10 3 33 3 12 11 3 33 3 12 12 3 33 3 12 13 3 33 3 12 14 3 33 3 12 15 3 33 3 12 16 3 33 3 12 17 3 33 3 12 18 3 33 3 12 19 3 33 3 12 20 3 33 3 12 21 3 33 3 12 22 3 33 3 12 23 3 33 3 12 24 3 33 3 12 25 3 33 3 12 26 3 33 3 12 27 3 33 3 12 28 3 33 3 12 29 3 33 3 12

30 3 33 3 12 31 3 33 3 12 32 3 33 3 12 33 3 33 3 12 34 3 33 3 12 35 3 33 3 12 36 3 33 3 12 37 3 33 3 12 38 3 33 3 12 39 3 33 3 12 40 3 33 3 12 41 3 33 3 12 42 3 33 3 12 43 3 33 3 12 44 3 33 3 12 45 3 33 3 12 46 3 33 3 12 47 3 33 3 12 48 3 33 3 12 49 3 33 3 12 50 3 33 3 12 51 3 33 3 12 52 3 33 3 12 53 3 33 3 12 54 3 33 3 12 55 3 33 3 12 56 3 33 3 12 57 3 33 3 12 58 3 33 3 12 59 3 33 3 12 60 3 33 3 12

บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนที่ 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 อสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียว เรือ่ ง แนะนำอสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว 1. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนร้อยละ 100 มคี วามคิดรวบยอดเก่ียวกับ อสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว สามารถ อธบิ าย ระบุ ความหมายของอสมการเชิงเส้น สญั ลกั ษณอ์ สมการได้ นกั เรียนร้อยละ 100 สามารถสอื่ สารสอื่ ความหาย เขียนประโยคสัญลกั ษณอ์ สมการได้ นักเรียนร้อยละ 100 มีความใฝ่เรียนรู้ในการเรียน และมีจิตสำนึกเกี่ยวกับการใช้ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า 2. ปัญหา / อุปสรรค นักเรียนบางคนสับสนเกี่ยวกับเครื่องหมาย มากกว่า(>) และน้อยกว่า(<) เมื่อนำมาใช้ เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ 3. การปรบั ปรงุ แก้ไข / ข้อเสนอแนะ ครูผู้สอนใช้รูปภาพที่หลากหลายในการช่วยอธิบายและให้เทคนิคการทำความเข้าใจ เกย่ี วกบั ช่อื เคร่ืองหมาย และการเขยี นใหถ้ ูกตอ้ งตามความหมาย ลงชือ่ …………………………..……………………..………….ผูส้ อน (…………………………………………………………………………………) ความคดิ เหน็ ของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ………………………………………………………………… (นางสาวจริ ภัทร บุญครอบ) หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์



ผลงานของนกั เรยี น และบรรยากาศการจดั การเรียนรู้