Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1 Case Study Predialysis (Nurse 11-06-65)

1 Case Study Predialysis (Nurse 11-06-65)

Published by hdexperttuter, 2022-06-28 02:54:06

Description: 1 Case Study Predialysis (Nurse 11-06-65)

Search

Read the Text Version

เมนไู ขข่ าว www.thaidietetics.org

แป้ งปลอดโปรตนี

ประโยชนข์ องแป้ งปลอดโปรตนี ใหพ้ ลงั งานเหมอื นขา้ ว แป้ ง แตโ่ ปรตนี นอ้ ยมาก แหลง่ พลงั งานทดี่ ไี มเ่ พมิ่ โปรตนี ดชั นนี า้ ตาลตา่ ( low glycemic index) ทาใหร้ ะดบั นา้ ตาลในเลอื ดขน้ึ ชา้ ๆ อม่ิ นาน ฟอสฟอรสั ตา่ โพแทสเซยี มตา่ โซเดยี มตา่ ทาอาหารคาว อาหารหวาน 53

เมนโู ปรตนี ตา่ พลงั งานสงู K และ P ตา่ ยาวนุ ้ เสน้ กงุ ้ อบวนุ ้ เสน้ ผัดวนุ ้ เสน้ แกงจดื วนุ ้ เสน้

ขนมโปรตนี ตา่ ซาหร่ิม ครองแครงแก้ว สาคนู ้าเชื่อม ลืมกลืน 55

เมนโู ปรตนี ตา่ พลงั งานสงู K และ P ตา่ ผดั ขเี้ มา ผดั กระเพรา ยา 56

การคาแนะนาผปู ้ ่ วยเป็ นโรคไตเรอ้ื รัง ระยะท่ี 3b,4,5(eGRF <45) ❑ ควรจากดั เกลอื โซเดยี ม และนา้ ตาล ❑ ควรจากดั ปรมิ าณโปรตนี (0.6-0.8 กรมั /นนตวั 1 กก/วนั โดยลดการกนิ เนอ้ื สตั วล์ ง(ไมค่ วรงด)ใชแ้ ปลงปลอดโปรตนี และนา้ มนั ชนดิ ดใี นการเพม่ิ พลงั งาน ❑ ตดิ ตามปรมิ าณนา้ และเกลอื แรโ่ ดยเฉพาะ ระดบั โพแทสเซยี ม ฟอสฟอรสั ในเลอื ด ถา้ ผลเลอื ดมรี ะดบั โพแทสเซยี ม ฟอสฟอรสั สงู (มากกวา่ 5.0 มก/ดล)ตอ้ งจากดั อาหารทม่ี ี โพแทสเซยี มฟอสฟอรสั สงู

โซเดยี มทมี่ อี ยใู่ นสารประกอบตา่ งๆ ทใ่ี ชใ้ น กระบวนการผลติ อาหาร วนั ทนยี ์ เกรยี งสนิ ยศ. ลดโซเดยี ม ยดื ชวี ติ . พมิ พค์ รงั้ ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พอ์ งคก์ ารสงเคราะหท์ หารผา่ นศกึ ; 2555.

เลอื กกนิ ไขมนั ชนดิ ทดี่ ี ไขมนั อม่ิ ตวั ไขมนั ไมอ่ มิ่ ตวั ไขมนั ไมอ่ ม่ิ ตวั ไขมนั ทรานซ์ ตาแหนง่ เดยี ว หลายตาแหนง่ ผลติ ภณั ฑน์ ม • นา้ มนั มะกอก (ชสี เนย ครมี ) • นา้ มนั ราขา้ ว นา้ มนั ดอก • นา้ มนั ถว่ั ลสิ ง คาฝอย • พาย • บสิ กติ • นา้ มนั งา • นา้ มนั ถว่ั เหลอื ง • ขนมขบคยี้ ว • นา้ มนั ดอก • นา้ มนั จากสตั ว์ ทานตะวนั • เนยเทยี ม เนยขาว • นา้ มนั ถว่ั เหลอื ง • นา้ มนั ปลา

สรปุ การใหค้ าแนะนา Low Protein Diet • ตอ้ งทางานเป็ นทมี • แพทยส์ งั่ : Diet order • นักกาหนดอาหาร/นักโภชนาการ/โภชนากร ควรพบคนไขใ้ นครงั้ แรกเพอ่ื ใหค้ าแนะนา Low Protein Diet (LPD) อยา่ งละเอยี ด(ซกั ประวตั กิ ารกนิ อยา่ ง ละเอยี ดแนะนาเมนูอาหารและการประกอบอาหารที่ เหมาะสมกบั บรบิ ทของคนไข)้ เพอ่ื ใหค้ นไขน้ าไปปฏบิ ตั ิ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ชนิดา ปโชตกิ าร

สรปุ การใหค้ าแนะนา Low Protein Diet • พยาบาล : ตรวจสอบการบรโิ ภคของคนไขเ้ มอื่ คนไข ้ มา follow up โดยใช ้ form การบรโิ ภคอยา่ งงา่ ย (EDA)หรอื การคานวณอยา่ งงา่ ยๆเพอ่ื ตดิ ตามใหค้ นไข ้ บรโิ ภคโปรตนี ตา่ ตามกาหนด • เภสชั : ตรวจสอบยาและแนะนาการบรโิ ภคทถ่ี กู ตอ้ ง ตามแพทยส์ ง่ั ชนิดา ปโชตกิ าร

การแนะนาการลดเค็ม เปลย่ี นพฤตกิ รรมในการปรงุ รส ❑ ใชม้ ะนาว พรกิ เครอื่ งเทศปรงุ อาหารแทนเกลอื หรอื น้าปลา ❑ ถา้ ซอื้ อาหารกระป๋ องตอ้ งอา่ นสลากอาหารเพอ่ื ดปู รมิ าณ สารอาหารเลอื กทม่ี เี กลอื ตา่ ❑ กนิ อาหารสด เชน่ เนอื้ สตั ว์ ผัก หรอื ผลไม ้ แทนการ รับประทานอาหารทผี่ า่ นขบวนการถนอมอาหาร ❑ ไมเ่ ตมิ เกลอื หรอื น้าปลาเพมิ่ ในอาหารทปี่ รงุ เสร็จ

การแนะนาการลดเค็ม ❑ อาหารตากแหง้ เชน่ ปลาเค็ม เนอื้ เค็ม หอยเค็ม กงุ ้ แหง้ ปลาแหง้ เนอ้ื สตั วป์ รงุ รส ไดแ้ ก่ หมหู ยอง หมแู ผน่ กนุ เชยี ง ❑ อาหารกงึ่ สาเร็จรปู เชน่ บะหมส่ี าเร็จรปู โจ๊กซอง ซปุ ซอง ❑ อาหารสาเร็จรปู เชน่ มนั ฝร่ังแผน่ อาหรกระป๋ อง ❑ เครอ่ื งปรงุ รสทม่ี เี กลอื มากเชน่ ซปุ กอ้ น ผงปรงุ รส ผงฟู อาหารหมักดองเค็ม เชน่ กะปิ เตา้ หยู ้ ้ี ปลารา้ ไตปลา ไขเ่ ค็ม ผัก ดอง ผลไมด้ อง

วธิ กี ารลดโซเดยี มในผลติ ภณั ฑอ์ าหาร Smith Taweelerdniti, The 5th Asian European Business Innovation Congress

วธิ กี ารลดโซเดยี มในผลติ ภณั ฑอ์ าหาร ❑ การใชส้ ารทดแทนเกลอื (Salt substitute) เชน่ KCL ❑ การใชเ้ ครอื่ งเทศและสมนุ ไพร เพอื่ ทดแทนความเค็ม ❑ การใชส้ ารปรงุ แตง่ รสเค็ม (Salt enhancer) ไดแ้ ก่ yeast extract, Hydrolyzed vegetable protein เป็ นตน้ ❑ การใชส้ ารแตง่ กลน่ิ (Odor enhancer ) เชน่ กลนิ่ ซอสถ่วั เหลอื ง ชสี และถว่ั ลสิ ง สามารถเพม่ิ การรับรสเค็มได ้ ❑ การใชเ้ ทคโนโลยกี ารผลติ เชน่ การดดั แปลงขนาดเกลอื การปรับเปลยี่ นเนอื้ สมั ผัสใหม้ โี พรงอากาศขนาดใหญจ่ ะชว่ ยเพม่ิ การ รับรสเค็มได ้ ❑ การปรับลดปรมิ าณอาหารตอ่ เสริ ฟ์ (Reduced portion size) ชุษณา เมฆโหรา และ เนตรนภสิ วฒั นสชุ าติ วารสารโภชนาการ ปีท่ี 55 ฉบบั ท่ี 1 เดอื นมกราคม-มถิ ุนายน 2

เครอ่ื งปรงุ รสปกตเิ ปรยี บเทบี กบั เครอื่ งปรงุ รสโซเดยี มตา่ เครอื่ งปรงุ รสโซเดยี มตา่ เพม่ิ อมู ามิ ความเค็ม ลด ลด ลดค เกลอื โซเดยี มคลอไรด์ เทคโนโลยตี า่ งๆ เชน่ เพมิ่ “รสอมู าม”ิ ลดขนาดของอนภุ าค จากธรรมชาติ เชน่ พชื ผกั ยสี ต์ เออ้ื ชชั ญา กาลสมั ฤทธิ์นกั กาหนดอาหารวชิ าชพี สาขาวชิ าวกั กะวทิ ยา ภ.อายรุ ศาสตรค์ ณะแพทยศาสตรศ์ ริ ริ าชพยาบาล

ตวั อยา่ งความรว่ มมอื สถาบนั การศกึ ษา(Food Reformulation) มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ ผลติ ภณั ฑป์ รงุ รสทใ่ี ชส้ ว่ นประกอบ ธรรมชาติ ทใี่ หร้ สชาตกิ ลมกลอ่ มจาก ผกั สมนุ ไพร และผกั ไชยา

ผลติ ภณั ฑเ์ กลอื ปรงุ แตง่ สมนุ ไพรลดโซเดยี ม ความรว่ มมอื ของสถาบนั การศกึ ษา:ผลติ ภณั ฑเ์ กลอื ปรงุ แตง่ สมนุ ไพรลด โซเดยี ม ใชค้ ณุ สมบตั ดิ า้ นกลน่ิ รสของสมนุ ไพรไทย ทชี่ ว่ ยเสรมิ รสชาตเิ ค็ม รว่ มกบั การปรับลดขนาดของอนุภาคของเกลอื เพอ่ื เพม่ิ พนื้ ทผ่ี วิ ทาให ้ ผลติ ภัณฑม์ ปี รมิ าณโซเดยี มลดลงรอ้ ยละ 25 โดยยงั คงใหค้ วามเค็มใกลเ้ คยี ง กบั เกลอื ปรงุ อาหารทั่วไป และไมส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ความชอบและการยอมรับ ของผบู ้ รโิ ภค สถาบนั คน้ ควา้ และพัฒนาผลติ ภณั ฑอ์ าหาร มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์

จากสมนุ ไพรรวม 14 ชนดิ ไดแ้ ก่ ตะไคร ้ ใบมะกรดู ขา่ ผักชฝี ร่ังสะระแหน่ โหระพา พรกิ ขหี้ นู กระเทยี ม พรกิ มะนาว หอมแดง ผกั ชี ตน้ หอม และขงิ

งานวจิ ัยทรี่ ว่ มมอื ระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหมก่ บั ภาคอตุ สาหกรรม เกดิ เป็ นซอสปรงุ รส สาเร็จรปู ทท่ี ดแทนเครอื่ งปรงุ แบบเดมิ สว่ นผสม 1.แครอท 20% 2.หวั ไชเทา้ 20% 3.เผอื ก 20% 3.ฟักทอง 15% 4.น้าออ้ ย 10% 5.เกลอื สนิ เธาน์ 10% 6.เกลอื หมิ าลยั สชี มพู 5% *ไมม่ วี ตั ถกุ นั เสยี อยไู่ ดน้ าน 2 ปี เก็บอณุ หภมู ปิ กติ

ตวั อยา่ งความรว่ มมอื บคุ คลากรทางการแพทย์ ผงปรงุ รสสตู รลดโซเดยี ม 75% ผงปรงุ รสไกร่ สไกจ่ ากยสี ตเ์ ป็ นนวตั กรรม อาหารใหมท่ เี่ กดิ จากคดิ คน้ สตู รโดย นักกาหนดอาหารวชิ าชพี และตอ่ ยอดสู่ อตุ สาหกรรมอาหารสผู่ ลติ ภณั ฑ์ ลดโซเดยี ม 75% ในทอ้ งตลาด ผลติ ภณั ฑผ์ ลติ โดยนักกาหนดอาหารวชิ าชพี สถาบนั ไตภมู ฯิ

ซอี ๊วิ ขาวลดโซเดยี ม70% ไมเ่ ตมิ โพแทสเซยี มและไมเ่ ตมิ น้าตาล เป็ นนวตั กรรมอาหารใหมท่ เ่ี กดิ จากคดิ คน้ สตู รโดยแพทยเ์ ฉพาะทางดา้ นโภชนาการ คลนิ คิ โรงพยาบาล และนักเทคโนโลยที างอาหาร ผลติ จากซอี ๊วิ ญป่ี ่ นุ ทผ่ี า่ นการหมกั บม่ ดว้ ยวธิ ธี รรมชาตนิ านกวา่ 6 เดอื น ใชถ้ วั่ เหลอื ง และขา้ วสาลคี ดั คณุ ภาพพเิ ศษ ไมต่ ดั แตง่ ทางพันธกุ รรม (Non GMOs) ลดปรมิ าณโซเดยี มลง 70% มกี ลนิ่ หอม และ มรี สชาตกิ ลม



การแนะนาในการควบคมุ นา้ ตาล การนบั ตรวจนา้ ตาลกอ่ นและ ออกกาลงั กาย คารโ์ บไฮเดรต หลงั อาหารสองชว่ั โมง

ดชั นนี า้ ตาล (glycemic index) เป็ นตวั เลขบอกปรมิ าณนา้ ตาลในเลอื ดที่ เพม่ิ ขนึ้ หลงั การรบั ประทานอาหารแตล่ ะชนดิ เทยี บกบั การรบั ประทานนา้ ตาลกลโู คสใน จานวนคารโ์ บไฮเดรตทเ่ี ทา่ กนั นา้ ตาลกลโู คส มดี ชั นนี า้ ตาลเทา่ กบั 100%

ดชั นนี า้ ตาล ดัชนนี ้าตาลตา่ = 0-55 ดชั นนี ้าตาลปานกลาง = 56-69 ดชั นนี ้าตาลสงู = 70-100



ดชั นนี า้ ตาลของอาหารไทยบางชนดิ ชนดิ อาหาร ดชั นนี า้ ตาล(%) กลโู คส 100 ขา้ วเหนยี ว 75 ขา้ วจา้ ว 71 กว๋ ยเตย๋ี วเสน้ ใหญ่ 54 กว๋ ยเตย๋ี วเสน้ หม่ี 53 วนุ้ เสน้ (แป้ งปลอดโปรตนี ) 45 ที่มา: สรุ ตั น์ โคมินทร

อาหาร คา่ ดชั นนี า้ ตาล อาหารเอเชยี คา่ ดชั นนี า้ ตาล ตะวนั ตก (GI) (GI) เสน้ หมขี่ าวตม้ มนั ฝรั่ง, ตม้ 100 56 ขนมปังขาว 70 ถั่วเขยี ว 31 กลว้ ย 88 วนุ ้ เสน้ 39 น้าสม้ 75 กว๋ ยเตย๋ี วเสน้ ใหญ,่ 40 แอปเป้ิ ล สด นมขาดมนั เนย 55 กว๋ ยเตย๋ี วเสน้ เล็ก, 61 แหง้ 46 ขา้ วบาสมาติ 55 วารสาร Food Facts Asia ฉบบั 37

อาหารตะวนั ตก คา่ ดชั นนี า้ ตาล อาหารเอเชยี คา่ ดชั นนี า้ ตาล (GI) (GI) แป้งสาลไี มข่ ัดสี 67 ปลายขา้ ว 86 ราขา้ ว 38 ขา้ วเหนยี ว 94 มสู ลี 81 ขา้ วหอมมะลิ 109 ขา้ วโพดบดตม้ 55 ขา้ วปัน้ ซขู ิ 67 ถ่ัวเลนทลิ 35 ขา้ วอบกรอบ 111 วารสาร Food Facts Asia ฉบบั 37

อาหาร คา่ ดชั นี อาหารเอเชยี คา่ ดชั นี ตะวนั ตก นา้ ตาล (GI) นา้ ตาล (GI) แอพรคิ อท 61 อดุ ง้ (ทาจากแป้งสาล)ี สม้ 42 โซบะ (ทาจากแป้งบัค 58 56 มะมว่ ง วที ) มะละกอ 51 บะหมจี่ นี 47 ถ่วั เนย 58 ขนมปัง 73 ครัวซองต์ 30 บะหมก่ี ง่ึ สาเร็จรปู ตม้ 88 67 เสน้ หมไี่ ตห้ วัน,ตม้ 68

ดชั นนี า้ ตาลของผกั บรอ๊ คโคล่ี = 10 พรกิ หยวก = 10 กระหลา่ ปลี = 10 ถว่ั พแี หง้ = 28 ผกั กาดแกว้ = 10 แครอท = 49 เห็ด = 10 ถว่ั เม็ดเขยี ว = 48 หวั หอม = 10 ขา้ วโพด = 60 ฟกั ทอง = 75

คา่ ดชั นนี า้ ตาลในผลไม้ มะมว่ งเสวยดบิ (28), แตงโมกนิ รี (58), ฝรง่ั (34) มะมว่ งนา้ ดอกไมส้ กุ (64) สม้ สายนา้ ผงึ้ (44) มะละกอ (65) ลาไย (44), เงาะ (55),



นา้ มนั ทค่ี วรใชใ้ นการประกอบอาหาร ❑ นา้ มนั ปาลม์ ไวท้ อด ❑ นา้ มนั ราขา้ ว นา้ มนั ดอกทานตะวนั นา้ มนั ถว่ั เหลอื ง ใชส้ ลบั กนั ในการผดั ❑ หลกี เลยี่ งไขมนั ทรานซ(์ เนยขาว) ทม่ี า: เชาวลติ รตั นกุล

ดดั แปลงอาหาร พ ล่ า ไ ข่ ข า ว โ ซ เ ดี ย ม ต่า น้า จ้ิ ม ไ ก่ โ ซ เ ดี ย ม ต่า เ ต้ า หู้ ไ ข่ ข า ว ทอด เ ส้ น ใ ห ญ่ ไ ข่ ข า ว ผั ด ซี อ้ิ ว ข้ า ว ห มู ต ะ ไ ค ร้

การดดั แปลงอาหารจากไขข่ าว

การดดั แปลงอาหารทางการแพทย์ เพอื่ นามาใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั

ตารางแสดงสารอาหาร อาหารทางการแพทย์ ไขข่ าว เนอื้ สตั ว์ ไขไ่ กห่ รอื อาหารทะเล Whey protein Isolate Nutrients หรอื Protein 3.4 3.5 3.5 3.5 40 35 60 35 (g) 6 35 90 30 Potassium 30 -- - 30 30 17.5 30 (mg) Phosphorus (mg) Calcium (mg) Na (mg) *ขอ้ มลู สารอาหารในไขข่ าว เนอ้ื สตั ว์ ไขไ่ ก่ และอาหารทะเล จาก EDA v. 2

สว่ นผสมเครอ่ื งดมื่ เสรมิ ทางปาก (Oral supplement) สตู ร PMK Smoothies ดดั แปลงเป็ นรปู แบบตา่ งๆ ฝ่ ายเกยี กกายโรงพยาบาลพระมงกฎุ เกลา้ พดุ ดงิ้ Hi Pro หวานเย็น Hi Pro ใสเ่ จลลาตนิ นาไปแชแ่ ข็ง วนุ้ สตรอเบอร่ี Hi Pro ใสผ่ งวนุ้

เครอื่ งดมื่ เตมิ พลงั สว่ นผสม วธิ ที า กวี ฟี รตุ 2 ผล คน้ั กวี ฟี รตุ และองนุ่ รวมกนั รนิ ใส่ องนุ่ ไรเมล็ด 300 กรมั แกว้ เตมิ นา้ แข็งสองกอ้ น ใสก่ วี ี อาหารทางการแพทย์ 1 ชอ้ นตวง ฟรตุ ฝานบางๆลอยหนา้ ตามชอบ สว่ นนเ้ี ตรยี มได้ 300 ml. คณุ คา่ ทางโภชนาการ พลงั งาน 239 กโิ ลแคลอรี วติ ามนิ c 80 มลิ ลกิ รมั แมกนเี ซยี ม 39 มลิ ลกิ รมั สงั กะสี 1 มลิ ลกิ รมั โปรตนี เพมิ่ 3.4 กรมั (=ไขข่ าว 1ฟอง) ชนิดา ปโชตกิ าร ดดั แปลง พญ. ภัทรวรรณ ธาดาดดลทพิ ย์



โพแทสเซยี ม ❑ ปรมิ าณทค่ี วรไดร้ บั ในวนั หนง่ึ คอื ประมาณวนั ละ 70 mEq (60-80 mEq/d) หรอื ประมาณ 2000 – 3000 mg/วนั ( 1 meq =39 mg) ❑ ผปู้ ่ วยกลมุ่ CAPD มกั จะมภี าวะโพแทสเซยี มในเลอื ดตา่ (< 3.5 มก/ดล) โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ผปู้ ่ วยทไ่ี ดร้ บั ยาขบั ปสั สาวะ ในขณะท่ี Hemoมกั จะมโี พแทสเซยี มในเลอื ดสงู (> 5.2 มก/ดล)

โ พ แ ท ส เ ซีย ม พ บ ม า ก ใ น ผ ัก ผ ล ไ ม้ ตารางแสดงการจาแนกผกั และผลไมเ้ ป็ นกลมุ่ ๆตามปรมิ าณ โพแทสเซยี มในผกั 1 ทพั พี และผลไมจ้ านวน 1 จานเล็ก กลมุ่ ของผกั และผลไม้ ผกั หรือผลไม้ แยกตามปริมาณ ปริมาณโพแทสเซียม ค่าเฉลีย่ โพแทสเซียม (มิลลกิ รมั ) (มิลลิกรมั ) ตา่ 1-100 70 ปานกลาง 101-200 150 สูง 201-300 270 94

กระโดน กระเพรา คนื่ ชา่ ย ชะอม เซลารี ตงั้ โอ๋ ตาลงึ ตน้ หอม ถ่ัวงอก ถว่ั พมุ่ ฝักสด ถ่วั พู ถวั่ ลันเตา(ฝัก)ใบ ชะมวง ใบบวั บก ใบแมงลกั ใบยา่ นาง ใบโหระพา บวบ เหลย่ี ม ผักกาดขาวใบเขยี ว ผักกาดหอม ผักกวางตงุ ้ ผัก ตวิ้ ยอดมะระ สาหรา่ ยจฉี ่าย เห็ดหหู นูดา(สด) อโวคาโด อลั ฟาฟ่ า กลั ยา กาลสมั ฤทธิ ์ทม่ี า:เออื้ ชช้ ญา กาลสมั นกั กาหนดอาหาร สาขาวชิ าวกั กะวทิ ยา โรงพยาบา95ลศริ ริ าช

ผักทมี่ โี พแทสเซยี มตา่ 1 ทพั พี

กะหลา่ ปลี ขนุนออ่ น แขนงกะหลา่ ปลี ขา้ วโพดออ่ น คะนา้ ดอก กยุ ชา่ ย แตงกวา น้าเตา้ ใบกยุ ชา่ ย ใบชะพลู ใบมันเทศและ ยอด ปวยเลง้ ผักกาดขาว ผักโขม ผักชี ผักชฝี รั่ง ผักชลี าว ผักบงุ ้ จนี ผกั บงุ ้ ไทย ผักปลงั พรกิ ยกั ษ์/พรกิ หวาน พรกิ หยวก ฟักเขยี ว มะเขอื ยาว มะละกอดบิ เห็ดนางฟ้า เหด็ นางรม เห็ดหอมสด หอมใหญ่ อารต์ โิ ชก ทมี่ า:เออ้ื ชช้ ญา กาลสมั นกั กาหนดอาหาร สาขาวชิ าวกั กะวทิ ยา โรงพยาบา97ลศริ ริ าช

ผกั ทม่ี โี พแทสเซยี มปานกลาง 1 ทพั พี

กะหลา่ ดอก กะหลา่ ปลมี ว่ ง กระเจ๊ ยี บเขยี ว กระชาย กระถนิ กระเทยี ม ขงิ แครอท จมกู ขา้ ว ถ่ัวฝักยาว น้าลกู ยอ ใบขเี้ หล็ก ใบและเมล็ดมะรมุ แหง้ บร็อคโคลี เผอื ก ฟักทอง มะเขอื เทศ มะเขอื เทศสดี า มะเขอื เปราะ มะเขอื พวง มะเดอื่ มะระจนี มัน แกว มันฝรั่ง มนั เทศ ผักหวานผงลกู ยอ มะรมุ รากบวั ลกู ยอ วา ซาบิ สะเดา สะตอ หวั ปลี หวั ผักกาด(หวั ไชเทา้ ) เห็ดกระดมุ เห็ดโคน เหด็ ตบั เตา่ เห็ดฟาง เห็ดหหู นูแหง้ เห็ดเผาะ เห็ด เป๋ าฮอ้ื หอมแดง หน่อไม ้ แหว้ 99

ควรหลกี เลยี่ งอาหารทม่ี โี พแทสเซยี มสงู เมอื่ มรี ะดบั โพแทสเซยี มในเลอื ดเกนิ 5 มก/ดล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook