Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Other

Other

Published by taweelap_s, 2019-05-21 02:39:00

Description: Other

Search

Read the Text Version

ขนั้ ตอนและกจิ กรรม วตั ถปุ ระสงคและความรวมจากสว นงาน 4) เขารวมฟง การนําเสนอผลงานประกวด - บุคลากรทรี่ ว มโครงการเขา รว มกจิ กรรมฟง การนาํ เสนอผลงาน และดู ประกันคณุ ภาพ เชน Thailand Kaizen งานดา นประกันคณุ เพื่อเปด วิสยั ทัศนแ กบุคลากรไดเ พม่ิ Awards หรือศึกษาดูงานหนวยงาน ดา น ประสบการณและเรยี นรูการพฒั นาปรบั ปรงุ งานจากหนวยงานอ่นื ๆ ประกันคณุ ภาพ (การศึกษาดงู าน Study tour) 5) อบรมใหค วามรู และแลกเปลย่ี นเรยี นรู - คณะจดั หาวิทยากรอบรมใหค วามรแู กบ คุ ลากรผเู ขา รว มโครงการ ถงึ (Workshop) (การสอนงาน Coaching, เคร่อื งมือการแกไ ขปญหาในงาน อาทิ ECRS, Fishbone Diagram, การถายทอดความรโู ดยการเลาเร่อื ง การเขียนขอเสนอโครงการเครอ่ื งมือการวิเคราะหท างสถติ ิ การจดั ทํา Storytelling, การทบทวนสรุปบทเรยี น แผนโครงงานและการวดั ผล (Project Management) การปรับ After action review) กระบวนงานอยางตอเน่อื ง (Kaizen) การคิดเชิงระบบและการ วเิ คราะหป ญหา (Design Thinking) การเขยี นแผนความคดิ (Mind Map) กระบวนการทางธุรกิจ (Business Process) - คณะจดั หาทีมทปี่ รกึ ษา ประกอบดวย หวั หนาภาควชิ า/หัวหนาศูนย/ หวั หนาสํานักงานเลขานกุ าร เขา รว ม วเิ คราะหปญหากบั บคุ ลากร - บุคลากรรว มแบงปน ความรจู ากการปรับปรุงกระบวนการทาํ งานที่ ประสานงานขา มหนวยงานยอ ย 6) แตล ะทีมพฒั นาปรบั ปรงุ ระบบและเขาพบ ที่ปรึกษา และบคุ ลากร แลกเปลี่ยนแนวคิด บุคลากรรับคาํ แนะนาํ เพ่อื อาจารยท ่ีปรึกษาทีม (พีเ่ ลย้ี ง Mentoring) นาํ ไปใชในการพัฒนาปรับปรงุ 7) บุคลากรผูส มัครใชเวลาในพัฒนาปรบั ปรงุ งาน ในขั้นตอนนี้บคุ ลากรแตล ะจะมที ปี่ รึกษาประจาํ ทมี สามารถเขา พบรบั ของตนเอง และนาํ เอาผลงานไปใชป ฏิบัติ คาํ ปรึกษาไดตลอด และมีข้นั ตอนของการตดิ ตามประเมนิ ผลการทํางาน ปรับปรุงจนสาํ เรจ็ (การเรียนรโู ดยการ ตามแผนงานจากคณะกรรมการของโครงการ PQI เปนประจาํ ทกุ เดอื น ปฏิบตั ิ (Action Learning) 8) นาํ เสนอผลงานโครงการตอ คณะกรรมการ คณบดี และ รองคณบดี และกรรมการผูทรงคณุ วฒุ ิ เขา รว มตดั สนิ ตัดสินรางวลั (เวทสี าํ หรบั การแลกเปลี่ยน โครงงานตามเกณฑท่กี ําหนด เชน ประโยชนข องโครงงานท่ชี ว ยสนบั สนุน ความรู Knowledge Forum) การปฏิบัติงาน ดา น การลดเวลาทาํ งาน ความสะดวก การลดคาใชจ า ย ความพงึ พอใจของผูรบั บรกิ าร เปน ตน 9) คณะประกาศผลการประกวดโครงการ PQI - คณบดี และ รองคณบดมี อบรางวลั พรอมประกาศเชิดชูเกียรตขิ อง มอบรางวลั บคุ ลากรที่ทาํ ผลงานดี 10) คณะเผยแพรผลงาน เอกสารโครงการซึ่งมี บคุ ลากรท้งั คณะสามารถเขา ถงึ และนาํ ไปประยกุ ต ใชงาน องคค วามรดู า นตา ง ๆ ใหเกิดประโยชนใช ได ตอไป (KM Sharing) 3. การจดั การความรใู นโครงการ PQI จัดฝกอบรมและเพิ่มทักษะความรูดานตาง ๆ ดวยการจัดการความรู โดยแทรกอยูในโคiงการ PQI ทุก กจิ กรรม/ทุกขน้ั ตอน โดยสามารถสรุปไดดังนี้

แผนผังการปฏบิ ตั ิงานใหม 3.1 การคนหางานท่คี วรปรบั ปรุง ในกิจกรรมที่ 2) และ 3) ของโครงการ PQI บุคลากรและผูบังคับบัญชาระดับ หัวหนาภาควิชา/หัวหนา ศูนย/หัวหนา สํานกั งานเลขานกุ าร รว มการคิดคนหัวของานทจ่ี ะปรบั ปรุงใหด ีขึ้น โดยมกี ารปรึกษากนั ภายในหนวยงาน และกลมุ บคุ ลากรคัดเลอื กงานที่อาจเกิดความลาชา มคี วามผิดพลาดสูง มคี วามไมชดั เจนในขน้ั ตอนการทํางาน มีความ ซบั ซอ นของงานมากเกินจาํ เปนงานทที่ าํ ซาํ้ แลวซาํ้ อีก เปนตน 3.2 การวางแผนการปรบั ปรงุ ในกิจกรรมที่ 4) เปนการเขาฟงการนําเสนอผลงานดานประกันคุณภาพหรือการปรับปรุงกระบวนงาน เชน Thailand Kaizen Awards และดงู านดา นคุณภาพ ซง่ึ จะทาํ ใหบคุ ลากรสามารถนําแนวคดิ วธิ ีการปฏบิ ตั จิ ากการ ประกวดผลงานดานประกันคุณภาพหรือการปรับปรุงกระบวนงาน และจากหนว ยงานทม่ี ผี ลงานดานปรบั ปรงุ คุณภาพ มาวางแผนปรับปรงุ งานของตนเองไดช ัดเจนย่ิงข้ึน

3.3 การใหค วามรู/การแลกเปลี่ยนความรู ในกิจกรรมท่ี 5) ของโครงการ PQI เปนการอบรมใหความรูการใชเครื่องมือการแกไขปญหา ในงาน อาทิ ECRS, Fishbone Diagram, การเขยี นขอเสนอโครงการ เคร่ืองมอื การวิเคราะหทางสถิติ ฯลฯ ใหกับบคุ ลากรได นาํ ไปใช และมที มี ทป่ี รึกษาประกอบดวย หัวหนาภาควิชา/หัวหนาศนู ย/หัวหนาสํานกั งานเลขานกุ าร เขารวมวิเคราะห ปญหากับบุคลากร และจัดกลุมงานพูดคุย วิพากษวิจารณ เสนอแนะวิธีการปรับจากผูเชี่ยวชาญที่เปนอาจารยที่เขา รวมสมั มนาและอบรมการประชมุ ปฏบิ ตั ิการ 3.4 การเรยี นรงู านขามกระบวนงาน ในกิจกรรมท่ี 5) และ 6) ของโครงการ PQI บุคลากรไดประชุมปฏิบัติการรวมกัน เพ่ือจัดทําผังธุรกิจ (Business Process) และแลกเปลี่ยนเรียนรูถึงกิจกรรมยอยที่เก่ียวของในกระบวนงานธุรกิจ ทําใหบุคลากรสามารถ เขาใจงานที่ตองสงมอบใหแกกิจกรรมยอยถัดไป ซึ่งจะทําใหลดงานท่ีซ้ําซอน ลดข้ันตอนท่ีไมจําเปน สงมอบขอมูล (Hand off) ตอกันไดอยางชัดเจน เขาใจในกระบวนธุรกิจใหม ท่ีรวมกันปรับปรุง รวมกันนําเครื่องมือ หรือเทคโนโลยี ดิจิทลั มาประยกุ ตใ ชใ หก ระบวนงานธุรกจิ ดาํ เนนิ ไปรวดเร็วและมปี ระสทิ ธภิ าพ มากยงิ่ ข้ึน 3.5 การพัฒนาปรบั ปรุงและนําไปใชงานจริง ในกิจกรรมที่ 7) ของโครงการ PQI บุคลากรนําผลงานท่ีไดรับการพัฒนาปรับปรุง ไปประยุกตใชงานจรงิ และปรับแกไ ขเพมิ่ เตมิ ใหต รงตามเปา หมายท่ีวางไว 3.6 การจัดเก็บองคความรู เพ่ือการเผยแพรและกลับมาประยกุ ตใ ชอ กี ในกิจกรรมท่ี 8) 9) และ 10) เปนข้ันตอนของประกาศและเผยแพรผลงาน ซึ่งบุคลากรท่ัวไปเขารวมรับ ฟง โดยสามารถนําเอาองคความรูที่เกิดขึ้นในแตละงานไปปรับใชไ ด นอกจากนั้นคณะวิศวกรรมศาสตร ยังไดรวมรวบ องคความรูเหลานี้ไวเ ผยแพรใ นเว็บไซตของคณะวิศวกรรมศาสตร ท่ี http://www.eng.ku.ac.th

ผลและอภปิ รายผลการดาํ เนินงาน การดําเนินการกิจกรรมในโครงการ PQI (Productivity Quality Improvement) ของคณะที่ไดดําเนินการมา อยางตอ เนอื่ งต้งั แต ป พ.ศ. 2551 ถึงปจ จบุ นั เปนปท่ี 2561 ไดน ํามาสกู ารเปลยี่ นแปลงทีเ่ กิดขึ้นชดั เจน ดงั นี้ • ดา นการพฒั นาบคุ ลากรของคณะ: มีการฝกอบรม การประชุมปฏิบตั ิการ (workshop) การสัมมนาใหความรู ดานตางๆ เพ่ือใหบุคลากรนําไปปรับปรุงกระบวน เกิดการเรียนรูดวยตนเองหรือการพัฒนาตนเอง เกิด ปฏิบัติการและวิจัย สงเสริมการศึกษาดูงานท้ังภายในและภายนอกประเทศ มีระบบพี่เล้ียง (mentoring) เพอ่ื ใหการแนะแนว (counseling) และเพอื่ การเสนอแนะ (coaching) • Mindset: บุคลากรสายสนับสนุนของคณะ ไดฝกเปนคนท่ีใฝเรียนรู ฝกการคิดใหม/ทําใหม เกิดการแบงปน ความรจู ากการปรับปรุงกระบวนการทํางานทปี่ ระสานงานขามหนวยงานยอ ย • Team Work / Communication Cross Functional Work: บคุ ลากรท่ีทาํ งานเฉพาะเร่ือง/ดานมีความ เชี่ยวชาญในงานที่ตนเองรับผิดชอบ ไดมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการปรับปรุงพัฒนางานท่ีรับผิดชอบ รวมกับตา งหนว ยงาน เชน หนว ยการเงนิ vs หนว ยบญั ชี vs ภาควชิ า ผา นการทาํ งานเปน ทมี รวมกนั โดย มีเปาหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาปรับปรุงงานและเสริมสรางวัฒนธรรมการทํางานที่ดี สามารถสลายการ ทํางานแบบไซโล (Silo) ได • Self-Confidence เกิดความเช่ือมั่น ภาคภูมิใจในความสําเร็จของผลงาน เปนบันไดกาวสูการพัฒนา ปรบั ปรุงงาน สงเขา รว มในเวทีระดบั ชาติ นําเสนอผลงานบนเวที Thailand Quality Conference Symposium on TQM – Best Practices เมอ่ื วนั ที่ 16 สิงหาคม 2561 • ดา นการพัฒนางาน - มีเคร่อื งมือทชี่ วยสนับสนนุ การทาํ งานอนั เปน ผลมาจากการทํางานของทีมในกจิ กรรม PQI - มีการปรับปรุงงานที่เปนรูปธรรม ลดขั้นตอนการทํางาน ลดเวลา ลดการใชทรัพยากร สามารถ ชว ยพัฒนาสนับสนนุ คณะ

- บคุ ลากรปฏิบตั ิงานอยา งมีระบบและความชดั เจน • ดานการพัฒนาองคกรใหกาวหนาอยางย่ังยืน: การวางระบบการจัดการความรู ทําใหองคกรสามารถ ดาํ เนนิ งานไปอยา งมีระบบแบบแผน และผบู รหิ าร บุคลากร สามารถนาํ ไปปรับใชใ นงานได สรุป คณะทํางานโครงการ PQI ไดเสนอโมเดลการพัฒนาคณะวิศวกรรมศาสตร ดวย PQI ซึ่งมุงเนนการพัฒนา บุคลากร สายสนับสนนุ เปน หลัก สรางเปน โมเดลการบรหิ ารจัดการ KM เพอื่ สงเสรมิ การกระจายความรู และการ แลกเปลยี่ นประสบการณ ในสวนงานท่ีชวยพฒั นาคณะวศิ วกรรมศาสตรอยางยง่ั ยนื ในโครงการ PQI ทางคณะทํางานโครงการฯ พิจารณาแลวเห็นวาการจัดการความรูเปนสิ่งสําคัญ เพราะองค ความรูเกิดข้ึนจากแกนของกระบวนปฏิบัติงานของบุคลากรหรือกระบวนงานทางธุรกิจท่ีสรา งคุณคาใหกับองคก ร โดยองคกรจะประสบความสําเร็จตองเกิดจากกระบวนการทางธุรกิจท่ีสั้น ไมซํ้าซอน และไมซับซอน สามารถ ตอบสนองการบริการไดอ ยางรวดเรว็ ลดตน ทุน และทรัพยากรในการทาํ งาน โดยเร่มิ จากผบู รหิ ารหรือองคกรตอง ใหการสนับสนุน โดยมีผูนําท่ีไดรับมอบหมายและมีอํานาจเขารวมในกระบวนการจัดการความรู และสงเสริมให บุคลากรไดรับการพัฒนาความรูและทักษะเครอื่ งการทํางานที่มีประสทิ ธภิ าพ รวมท้ังประยุกตใชเทคโนโลยดี จิ ิทลั มาใช พรอมทั้งสงเสริมและสรางวัฒนธรรมองคกรใหแบงปนความรู และปรับปรุงกระบวนการทํางาน และ ประสานงานขา มหนว ยงานยอย เพอ่ื ใหไ ดว ฒั นธรรมการทํางานใหม สลายการทาํ งานแบบไซโล โมเดลการบริหาร จัดการ KM ดวย PQI ในแตละจะวนรอบเพื่อหาการะบวนปฏิบัติงานมาปรับปรุงตามรูปแบบ Process Improvement หรือแมแตโครงงานเดิม ๆ ท่ีเคยสงเขารวม PQI แลวหากยังมีส่ิงท่ีตองปรับปรุง คณะทํางาน โครงการฯ ก็จะพจิ ารณาใหร วมโครงการ PQI เพม่ิ การพัฒนาคณะวศิ วกรรมศาสตรอ ยางตอเน่ือง Organization SAonlau&ltyiosins Business Process Value Chain Job/Process Implement KM Tools Sharing Store Information Technology โมเดล PQI การพฒั นาคน พัฒนางาน องคก รกา วหนาอยางยัง่ ยืน คณะวิศวกรรมศาสตรเห็นความสําคัญของการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบการบริหารทรัพยากรดานวิจัย และนวัตกรรม และการปรับปรุงการจัดการความรู โดยกําหนดไวในแผนยุทธศาสตรคณะวิศวกรรมศาสตร มก. ระยะ 10 ป (พ.ศ. 2556 - 2565) ตามเอกสารแนบ ซ่ึงกิจกรรมในโครงการ PQI ที่นํามาซ่ึงการพัฒนาคน พัฒนา

งาน ไดนํามาสูความกาวหนาขององคกรอยางยั่งยืน โดยมีการจัดการความรูสอดแทรกกลมกลืนไปกับกิจกรรม โครงการ เปาหมายที่สําคัญของโครงการ PQI ในอนาคตคือ - จํานวนผลงานปรับปรงุ กระบวนงานหรือนวตั กรรมตอหนวยงานยอยระดับภาควชิ า 1 ผลงานตอ ป - สัดสว นของบคุ ลากรสายสนบั สนุนเขารวมโครงการรอยละ 75 ในปท่ี 10 เน่ืองจากบคุ ลากรเขา โครงการ PQI จะไดร บั การฝก อบรม และเพมิ่ ทกั ษะหลายประการ ซงึ่ คณะวิศวกรรมศาสตร ถือวา การพัฒนาบุคลากรเปน การลงทุนที่คุมคา และยังยืนทส่ี ุด - นอกจากน้นั คณะวศิ วกรรมศาสตร ยงั มีเปาหมายที่จะแกไขปญหา/อปุ สรรค ที่พบตลอดการจัด โครงการประกวดน้ี ดว ยการพยายามลดทอนปญ หา/อปุ สรรคใหม ากทสี่ ุด ดงั น้ี ปญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ ข วฒั นธรรมองคก รในการทํางานท่ใี ชเวลา จัดกิจกรรม PQI อยางตอเนือ่ ง เพ่อื สราง Change Agent ในการปรับเปล่ียน สรางวฒั นธรรมองคก รภายในใหม Mind Set ของบุคลากรในการปฏบิ ตั งิ านท่ไี มใสใ จ จดั สัมมนาการปฏบิ ตั ิ (Workshop) ใหบุคลากรเขาใน งานทเ่ี กย่ี วของ กระบวนธรุ กจิ และความสาํ คญั ของสง มอบผลผลติ ใหกิจกรรมในกระบวนงานถดั ไป ระบบการจดั เกบ็ เขา ถึงองคความรู จดั หาระบบท่ีสามารถแบง กลมุ องคค วามรู มรี ะบบสบื คน และ ยงั จาํ กดั ในวงแคบ เขาถึง ไดงา ย และประชาสมั พนั ธใ หเกิดการสราง องคค วามรใู หมใ นระบบอยางตอเนื่อง ขอ บงช้ีความเปนแนวปฏิบัติท่ีดี คณะวิศวกรรมศาสตรพัฒนาเล็งเหน็ วา การพฒั นาบุคลากรเปน การลงทุนท่ีคมุ คาและยงั ยืนทีส่ ุดดังแผนภาพ ซ่ึงบคุ ลากรจะไดร บั - เรียนรูแ ละแลกเปล่ียนเรยี นรูงานขามหนว ยงานภายในคณะวศิ วกรรมศาสตร มีการแบง ปนองค ความรูของแตล ะงาน จนสามารถนาํ ไปประยุกตใชก ับงานอื่น ๆ ได - เสรมิ ความรใู หก บั บุคลากรท่ีเขา รวมโครงการ เชน การจดั ทําแผนโครงงานและการวดั ผล (Project Management) การปรับกระบวนงานอยา งตอเนอ่ื ง (Kaizen) การคิดเชิงระบบและการวิเคราะห ปญหา ()Design Thinking) การเขยี นแผนความคดิ (Mind Map) กระบวนการทางธุรกจิ (Business Process) เปนตน ท้ังนีเ้ พ่ือเกดิ การพัฒนาปรบั ปรงุ งานของคณะอยา งสมา่ํ เสมอ -Sustainable ⁻ Adaptability Development ⁻ Better Mindset องค์กร บคุ ลากร ⁻ Better Performance ⁻ Active Learning and Training ⁻ Knowledge Sharing PQI ⁻ Cost Reduction งาน ⁻ Cooperation ⁻ Resource Sharingทรัพยากร ⁻ Time Service Reduction ⁻ Process Improvement

ในขณะเดียวเปาหมายหลักของโครงการ PQI คือ มีผลงานสงเขาประกวดโครงการรางวัลคุณภาพของ มก. ทุกป ปล ะ 3 ผลงาน ซึ่งทีผ่ านมาคณะมีผลงานสงเขาประกวดโครงการรางวลั คุณภาพของ มก. เกือบทุกปและเกิน เปาหมายเกือบทุกปติดตอกัน โครงการประสบความสําเร็จบรรลุเปาหมายเปนรอย ถือเปนแนวปฏิบัติที่ดี และ แสดงใหเหน็ วาคณะวิศวกรรมศาสตร มีการพฒั นาคุณภาพงานอยา งตอ เนื่องเสมอมา ปท จ่ี ดั จํานวนโครงการรางวลั คณุ ภาพ มก. 2555 สงเขาประกวด 4 ผลงาน ไดร บั รางวัล ดีเยี่ยม 1 ผลงาน 2556 สง เขา ประกวด 4 ผลงาน ไดรับรางวลั ดีเยย่ี ม 3 ผลงาน 2557 สงเขา ประกวด 3 ผลงาน ไดร บั รางวัลผลงาน ระดับดี 2558 สงเขา ประกวด 2 ผลงาน ไมไดร างวัล 2559 เขารอบภาคโปสเตอร 3 ผลงาน ได Popular Vote รางวัลที่ 2,1 ผลงาน 2560 สงเขาประกวด 3 ผลงาน ป 2560 ไดร างวลั ท่ี 3 ของงาน KU KM Day 1 ผลงาน บรรณานกุ รม สุริยา มนตรีภักดิ.์ (2555). บทบาทของผบู รหิ ารสถานศกึ ษาในการพฒั นาบุคลากรตามมาตรฐานการ ปฏิบัติงานของขอบังคับคุรุสภา 2548 ในสถานศึกษาสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรี เขต 1. สาร นิพนธ กศ.ม. (การบริหารการศึกษา). กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ. Chantarasombut, C. (2007). The development of the Knowledge management community organization. Mahasarakham University, Mahasarakham (in Thai) Agrawal, R.C. & Earl O. Heady. (1972). Operations Research Methods for Agricultural Decisions. The Iowa State University Press, Ames, Iowa. โครงการประชุมสัมมนาเครอื ขา ยการจดั การความรู มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล สถาบันการพลศกึ ษา และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป ครั้งท่ี 9. 2559. 2-5 กุมพาพันธ 2559. โรงแรมเชียงใหมแกรนดวิว จังหวัด เชยี งใหม. [ออนไลน] https://kaewpanya.rmutl.ac.th/rmutkm/index.php/14-2016-9th-rmut-km/9th- rmutlkm-general-information/about-km/20-km-tools.

~0~ รปู แบบการนาเสนอแนวปฏิบตั ทิ ด่ี ี โครงการประชุมสมั มนาเครือข่ายการจดั การความรู้ฯ คร้งั ที่12 “การจดั การความร้สู มู่ หาวิทยาลัยนวตั กรรม” (Knowledge Management: Innovative University) สาหรบั อาจารย/์ บคุ ลากรสายสนบั สนุน/ นักศกึ ษา ชอ่ื เรอ่ื ง/แนวปฏิบัติที่ดี การจัดการความรู้การให้บรกิ ารนิสติ ดว้ ยนวตั กรรมและเทคโนโลยี ชือ่ -นามสกุล ผู้นาเสนอ นางสาวอโรชา ทองลาว ผู้เขียนคนท่ี 1 นายสมเกียรติ ไทยปรีชา ผู้เขยี นคนที่ 2 ผศ.ดร จเร เลศิ สุดวิชยั ท่ปี รกึ ษา นายวโิ รจน์ ทองสุพรรณ ท่ีปรกึ ษา ชื่อสถาบนั การศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน หน่วยงาน กองบริหารวชิ าการและนสิ ติ สานักงานวิทยาเขตกาแพงแสน เบอรโ์ ทรศพั ท์มือถือ 062-9296453 เบอรโ์ ทรสาร 034-351395 E-Mail address [email protected]

~1~ การจัดการความรู้การให้บรกิ ารนสิ ิตด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี Implementation of innovation and technology for student services using Knowledge Management อโรชา ทองลาว1 สมเกยี รติ ไทยปรีชา2 ผศ.ดร จเร เลศิ สดุ วิชัย 3 นายวิโรจน์ ทองสุพรรณ4 นักวิชาการศกึ ษาชานาญการ กองบริหารวชิ าการและนสิ ติ [email protected] ผู้อานวยการกองบรหิ ารวิชาการและนสิ ติ กองบริหารวชิ าการและนิสิต [email protected] ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ท่ีปรกึ ษา 3 ผ้อู านวยการสานักงานวทิ ยาเขตกาแพงแสน ทปี่ รึกษา4 บทสรปุ กองบริหารวิชาการและนิสิต สานักงานวิทยาเขตกาแพงแสน ได้พัฒนาปรับปรุง กระบวนการทางานด้วยการจัดการความรู้ เพื่อรองรับความต้องการของผู้รับบริการ รองรับการ ปฏบิ ตั งิ านของบุคลากรใหเ้ ป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยองค์ความร้ไู ด้มาจากกิจกรรมต่างๆ เชน่ การ สารวจความต้องการของผู้รับบริการ ทาสถิติการให้บริการ จัดทา OPL (One Point Lesson) และสร้างชุมชนนักปฏิบัติ CoP (Community of Practice) การแลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่าง เพ่ือนร่วมงานท้ังในหน่วยงานและต่างหน่วยงาน และ การถอดองค์ความรู้ (Knowledge Capturing) จากตวั บคุ คล กองบริหารวิชาการและนสิ ิตไดน้ าองค์ความรูไ้ ปเผยแพร่ผา่ นคูม่ ือ และ สรา้ ง line Chatbot ซึง่ เปน็ ระบบตอบคาถามอัตโนมัติใหบ้ รกิ ารนสิ ิต เพ่อื อานวยความสะดวกต่อ การเขา้ ถงึ ขอ้ มูลการใหบ้ ริการซง่ึ ถือเป็นนวัตกรรมการในการให้บริการ ผลของการปรับปรุงกระบวนการทางานด้วยการจัดการความรู้ ดังกล่าวทาให้ ผู้ปฏิบัติงานได้รับทักษะ ประสบการณ์ในการทางานเพิ่มข้ึน สามารถแก้ไขปัญหาในการ ปฏิบัติงานได้ด้วยตนเอง ทาให้เกิดความเข้าใจ และเกิดการเรียนรู้ในการทางานร่วมกัน นอกจากนัน้ ยังได้ระบบตอบคาถามอัตโนมัติ จาก Line Chatbot ที่ให้บริการแบบ Self Service ช่วยลดระยะเวลาในการให้บริการ และสะดวกต่อผู้รับบริการ กองบริหารวิชาการและนิสิต ได้ กาหนด Model Office Of Kamphaeng Saen Campus Best Practice ใช้ดาเนินการจัดการ ความร้แู ละนาไปสู่แนวปฏิบตั ิท่ีดีอยา่ งต่อเน่ืองซง่ึ ก่อให้การพฒั นาองคก์ รอย่างยงั่ ยืน Educational Administration and Student Affairs Division of Kamphaeng Saen Campus has improved working processes with Knowledge Management to support the needs of students, creat standard of working operations. The knowledge is derived from activities such as surveying the needs of students, using statistics data from services, OPL (One Point Lesson) and CoP (Community of Practice) and knowledge capturing from colleague or partners or experts. Educational

~2~ Administration and Student Affairs Division broadcast Knowledge Management by handbooks and Line Chatbot which be responded automatically for convenience to all student and approach all informations. The result of the improvement of the work process with KM has made workers gain skills, increased work experience, can solve problems in the work by themselves, share knowledge and learning and working together. In addition, Educational Administration and Student Affairs Division developed and automated question answering system (Line Chatbot) that provides self-service services which can reduce service time and provides convenient service for students.Finally Educational Administration and Student Affairs Division have also defined the \" Office of Kamphaeng Saen Campus Best Practice Model\" in order to implement knowledge management which leads to continuous good practices that contribute to sustainable organizational development. คาสาคัญ Model Office of Kamphaeng Saen Campus Best Practice Line Chatbot บทนา กองบริหารวิชาการและนิสิต สานักงานวิทยาเขตกาแพงแสน มีภารกิจสาคัญในด้านการ ให้บริการสนับสนุนการเรียนการสอน บริการด้านทะเบียน ด้านการประมวลผล และข้อมูล สารสนเทศทางการศึกษา รวมถึงสนับสนุนด้านการพัฒนานิสิต ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน โดยมวี สิ ัยทศั น์“บรกิ ารด้วยนวตั กรรมและเทคโนโลยีสู่องคก์ รทีม่ คี ุณภาพ” กองบรหิ ารวชิ าการและนสิ ิต สานักงานวิทยาเขตกาแพงแสน เริ่มนาแนวทางการจัดการ ความรู้มาใช้ในการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการทางาน เพื่อรองรับความต้องการของผู้รับบริการ รองรับการปฏิบัติงานของบุคลากรให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงรองรับผลกระทบที่เกิดจาก บุคลากรลาออก เกษยี ณ หรือเปล่ียนหน้าท่ไี ปปฏบิ ตั ิงานด้านอื่น ซง่ึ ความรู้ท่ีมกี ็จะติดตัวบุคคลไป ด้วย ส่วนบุคลากรที่ปฏิบัติงานใหม่ หรือปฏิบัติหน้าท่ีแทนไม่มีความรู้เหล่าน้ัน ก็ต้องเสียเวลาใน การเรียนรู้ ฝึกฝนเป็นระยะเวลานาน ถอื ได้ว่าเป็นการสูญเสียขององค์กร การจัดการความรู้จงึ ถูก กาหนดให้เป็นเครื่องมือสาคัญในการขับเคล่ือนเพ่ือพัฒนาองค์กร และพัฒนางานโดยมีการนาผล จากการสารวจความต้องการ การประเมินผลการให้บริการมาใช้ในการดาเนินกิจกรรมจัดการ ความรู้ เช่น ทาการสารวจความต้องการของผู้รบั บริการ ทาสถิติการให้บริการ จัดทา OPL (One Point Lesson) และสร้างชุมชนนักปฏิบัติ CoP (Community of Practice) การแลกเปล่ียน เรียนรู้ระหวา่ งเพื่อนรวมงานทงั้ ในหนว่ ยงานและตา่ งหน่วยงาน การถอดองค์ความรู้ (Knowledge

~3~ Capturing) จากตัวบคุ คล การประชมุ ปรกึ ษาหารอื รว่ มกันภายในส่วนงาน โดยมกี ารใช้เทคโนโลยี เป็นเคร่ืองมือในการจัดการความรู้และสร้างนวัตกรรม การใช้ส่ือสังคมออนไลน์มาช่วยในการ อานวยความสะดวกในการแลกเปล่ยี นเรียนรแู้ ละสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้เกดิ นวัตกรรม ซึ่งสอดคลอ้ ง กบั งานวิจัยของ บุญส่ง หาญพานชิ (2546); จิรัชฌา วิเชียรปัญญา (2549);พรพิมล หรรษาภิรมย์ โชค(2549) พบว่า การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้อย่างท่ัวถึงท้ังภายในและภายนอก ต้องอาศัย เทคโนโลยีเป็นตวั ช่วย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปล่ียนเรียนรไู้ ด้ท่ัวถึงและมีประสิทธิภาพ และ Ar Ilker Murat and Birdogan (2011) ได้ให้คาจากัดความของนวัตกรรม หมายถึง การแนะนา ส่ิงใหม่ วิธีการใหม่ กระบวนการหรือบริการใหม่ๆท่ีมีคุณค่า การนาเอาความคิดใหม่ๆลงสู่การ ปฏิบตั ิจริงเพือ่ การปรับปรุงสนิ ค้าและบริการ หรอื การกาหนดกระบวนการทด่ี ีกวา่ มปี ระสิทธภิ าพ มากกวา่ ใหก้ ับองคก์ ร การดาเนินการจัดการความรู้ของกองบริหารวิชาการและนิสิต กาหนดประเด็นจาก ปัญหาท่ีพบบ่อยและควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซ่ึงปัญหาที่พบบ่อยเป็นเรื่องของข้อมูลใน การตอบคาถาม ซ่ึงผู้ปฏิบัติงานตอบคาถามไม่ตรงกัน เข้าถึงข้อมูลได้ยาก และไม่สามารถ ปฏิบัติงานแทนกันได้ ซ่ึงส่งผลกระทบต่อคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการ จึงได้ดาเนินการ จัดการความรู้โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ข้อมูลที่ถูกต้อง มีความน่าเช่ือถือ สะดวก รวดเร็ว เป็นท่ีพอใจของผู้รับบริการ จึงได้ดาเนินการจัดการความรู้เพื่อนาไปสู่นวัตกรรมของการ ปฏิบัติงาน ให้บรรลุวิสัยทัศน์ “บริการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสู่องค์กรที่มีคุณภาพ”โดยมี การนาเทคโนโลยี ใช้เป็นเคร่ืองมือในการจัดการความรู้ และพัฒนาปรับปรุงกระบวนการทางาน ใช้ส่ือสังคมออนไลน์ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการให้บริการ มีการเผยแพร่องค์ความรู้ไปยัง หน่วยงานภายใน และภายนอกมหาวิทยาลัยฯ เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิด ประสทิ ธิภาพและประสิทธผิ ลในการปฏบิ ัตงิ าน 1.วธิ ีการวิธีการดาเนินงาน กองบรหิ ารวิชาการและนสิ ติ มีขน้ั ตอนการจัดการความรู้ ดงั นี้ แผนภาพท่ี 1 แสดงขนั้ ตอนในการดาเนินการจัดการความรู้

~4~ 1.1 ผู้อานวยการสานักงานวิทยาเขตกาแพงแสน มอบนโยบายการจัดการความรู้ ของส่วนงานให้เปน็ ไปดาเนนิ การ 1 กอง 1 KM ตามวิสัยทัศน์ ของสานกั งานวิทยาเขตกาแพงแสน ท่ีว่า “บริการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสู่องค์กรที่มีคุณภาพ” ผ่านที่ประชุมคณะกรรมการ บริหารสานักงานวิทยาเขตกาแพงแสน และที่ประชุมคณะกรรมการจัดการความรู้ สานักงาน วิทยาเขตกาแพงแสน 1.2 ผู้อานวยการกองบริหารวิชาการและนิสิต ถ่ายทอดนโยบายการดาเนินงาน จัดการความรู้ให้กับหัวหน้างาน โดยผ่านท่ีประชุมคณะกรรมการบริหารกองบริหารวิชาการและ นิสติ และคณะกรรมการจดั การความรู้ กองบริหารวชิ าการและนสิ ติ 1.3 หัวหน้างานถ่ายทอดนโยบายการดาเนินงานจัดการความรู้ให้กับผู้ปฏิบัติงาน โดยให้ผู้ปฏิบัติงานร่วมแสดงความคิดเห็นในการกาหนดประเด็นความรู้ที่สอดคล้องกับภารกิจ หลัก และวิสัยทัศน์ของสานักงานวิทยาเขตกาแพงแสนรวมท้ังทาแบบสารวจความต้องการของ ผู้รับบริการเพ่ือนามาประกอบการกาหนดประเด็นความรู้ และให้ผู้ปฏิบัติงานแต่ละคนส่ง OPL อยา่ งนอ้ ยคนละ 1 เรอ่ื ง ต่อเดอื น และนาเสนอตอ่ หวั หนา้ งาน 1.4 หัวหนา้ งานนาประเด็นความรู้ท่ไี ด้ เขา้ พิจารณาขอความเหน็ ชอบจากคณะ กรรมการบริหารกองบรหิ ารวชิ าการและนิสติ 1.5 ผู้อานวยการกองบริหารวิชาการและนิสิต นามติท่ไี ดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะ กรรมการบรหิ ารกองบรหิ ารวชิ าการและนิสติ เสนอต่อคณะกรรมการจัดการความรู้ สานกั งาน วทิ ยาเขตกาแพงแสน และคณะกรรมการบริหารสานักงานวิทยาเขตกาแพงแสน 1.6 เมื่อได้รับความเหน็ ชอบในประเด็นทเ่ี สนอแล้ว ผู้อานวยการกองบริหารวชิ าการ และนิสติ นาเรอ่ื งแจ้งที่ประชมุ คณะกรรมการบรหิ ารกองบริหารวชิ าการและนสิ ิตเพ่ือดาเนินการ ต่อไป 1.7 ดาเนนิ การแต่งตง้ั คณะกรรมการจัดการความรูก้ องบริหารวิชาการและนิสิต เพอ่ื กาหนดแผนการจดั การความรู้ในประเดน็ ท่ีได้รับความเห็นชอบ 1.8 ตดิ ตามความคบื หน้าจากคณะกรรมการจดั การความรู้กองบริหารวิชาการและ นิสิต อยา่ งสม่าเสมอ ผา่ นทปี่ ระชมุ คณะกรรมการบริหารกองบริหารวชิ าการและนิสติ อยา่ งน้อย เดือนละ 1 ครั้ง 1.9 รายงานความคืบหน้าตอ่ คณะกรรมการบรหิ ารสานกั งานวิทยาเขตกาแพงแสน อย่างน้อยเดอื นละ 1 ครัง้

~5~ 2. รูปแบบใชใ้ นการจดั การความรูข้ องส่วนงาน 2.1 รปู แบบการจดั การความรู้: Knowledge Management Processของ กพร. แผนภาพท่ี 2 รปู แบบการจดั การความรู้: Knowledge Management Processของ กพร. กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Process) ของสานักงาน พฒั นาระบบราชการมี 7 ขน้ั ตอน ดงั น้ี 2.1.1 การบ่งช้ีความรู้ (Knowledge identification) กองบริหารวิชาการและนิสิต มีการบ่งช้ีความรู้โดยกาหนดเป้าหมายการจัดการ ความรู้ เพ่ือให้บรรลุวิสัยทัศน์ของสานักงานวิทยาเขตกาแพงแสน ที่ว่า“บริการด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีสอู่ งค์กรท่ีมีคณุ ภาพ” โดยมีเปา้ หมายเพื่อผู้ใช้บริการต้องไดข้ อ้ มูลที่ถกู ตอ้ ง ช่อื ถือ ได้ มีแหล่งความรู้ท่ีใช้อ้างอิงในกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้การปฏิบัติงานมีมาตรฐาน ผู้รับบริการ ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นที่พอใจ รวมถึงลดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน และใชท้ รัพยากรให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ 2.1.2 การสรา้ งและแสวงหาความรู้ (Knowledge Creation And Acquistion) 2.1.2.1 การกาหนดแหลง่ ความรู้ ดังน้ี 1) Content 2) Case Study & Lesson Learn 3) Persons 4) เวทแี ลกเปลีย่ นเรยี นรู้ (Learn and Share) 5) OPL (One Point Lesson) 6) ชุมชนนักปฏิบัติ (CoP : Community of Practices) และ 7)การถอดองค์ความรู้ (Knowledge Capturing) 2.1.2.2 การกาหนดวิธีการสกัดความรู้ 1) สร้างทีมขับเคล่ือนโดยการแต่งตั้ง คณะกรรมการจัดการความรู้ส่วนงาน 2) การสนทนาผ่านชุมชนนักปฏิบัติ CoP 3) ใช้การ วิเคราะห์ขอ้ มูลจาก OPL และ 4) การสนทนาแลกเปลยี่ นเรียนรู้ผ่านกจิ กรรมต่างๆของกองฯ เช่น การสมั มนา Morning & Lunch Talk สมั มนาเครือข่ายผ้ปู ฏิบัติงาน สมั มาทิฐกิ องฯ

~6~ 2.1.3 การจดั ความรู้ให้เปน็ ระบบ (Knowledge Organization) เมื่อดาเนินการการสร้างและแสวงหาความรู้ ผ่านกระบวนการต่างๆ ท่ีกล่าวใน ข้างต้น กองบริหารวิชาการและนิสิต สานักงานวิทยาเขตกาแพงแสน ได้รวบรวมข้อมูลโดยแยก เป็นประเด็น ดาเนินการจัดทาขั้นตอนการดาเนินงาน (Flow Chart) เอกสารที่ต้องใช้ในการ ดาเนินกิจกรรมน้ัน รวมถึงเอกสารอ้างอิง ระเบียบ ข้องบังคับ หรือประกาศที่เก่ียวข้อง เพ่ือสร้าง ความชัดเจนในการปฏิบัติงาน รวบรวมจัดเก็บความรู้ในรูปแบบคู่มือ และการนาความรู้เผยแพร่ บนเว็บไซต์กองบริหารวิชาการและนิสติ รวมทง้ั พัฒนาปรับปรุงการให้บริการโดยนาเทคโนโลยีมา ใช้สร้างนวตั กรรมในการทางาน ผ่านระบบ Line Chatbot ซึ่งเปน็ ระบบตอบคาถามอัตโนมัตเิ พ่อื ให้ งา่ ยและสะดวกต่อการเข้าถึงข้อมูลการให้บริการ 2.1.4 การประมวลและกลั่นกรองความรู้ (Knowledge Codification and Refinement) ดาเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการความรู้กองบริหารวิชาการและนิสิต และ ผู้เช่ียวชาญในการตรวจสอบความถูกต้องของชุดข้อมูล เล่มคู่มือการปฏิบัติงานฯ ทาการติดตาม ประมวลและกลั่นกรององค์ความรู้ที่ถูกต้อง แม่นยา ก่อนที่จะทาการเผยแพร่ท้ังภายในและ ภายนอกวทิ ยาเขตกาแพงแสน เพ่อื สร้างความเช่ือม่ันขององค์กรต่อสาธารณชน 2.1.5 การเขา้ ถึงความรู้ (Knowledge Access) นาความรู้ท่ีผ่านการประมวลและกล่ันกรององค์ความรู้ท่ีถูกต้อง เรียบร้อยแล้ว มา จัดการเผยแพร่ 1) จัดทาคู่มือการปฏิบัติงาน เพ่ือให้ผู้เก่ียวข้องสามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่าง สะดวก รวดเร็ว และสามารถนามาใช้ได้ในเวลาที่ต้องการโดยเผยแพร่องค์ความรู้บนเว็บไซต์ของ กองบริหารวิชาการและนิสิต 2) การให้โอกาสเลือกใช้ความรู้ โดยผู้ใช้บริการสามารถเลือกรับแต่ ความรู้ท่ีต้องการได้ โดยสามารถเข้าถึงความรู้ ผ่าน Line Chatbot ซึ่งเป็นระบบตอบคาถาม อัตโนมตั ิเพอ่ื ใหง้ ่ายและสะดวกตอ่ การเข้าถึงข้อมลู 2.1.6 การแบง่ ปันแลกเปล่ียนความรู้ (Knowledge sharing) ดาเนินการแบ่งปันแลกเปลย่ี นความรู้ ดงั น้ี 1) ชุมชนนักปฏิบตั ิ CoP (Community of Practice) ผา่ นการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานท้ังในหน่วยงานและต่างหน่วยงานเพื่อถอดองค์ความรู้ (Knowledge Capturing) จากตัวบุคคลแลกเปล่ียนความรู้ใหม่ๆ หลังจากปฏิบัติงานตามคู่มือ การปฏิบัติงาน รวมถึงกรณีศึกษาท่ีเกิดขึ้นใหม่ 2) ร่วมมือกับหน่วยงาน ภายใน และภายนอก วทิ ยาเขตกาแพงแสน ในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ เช่น การเข้าร่วมโครงการวันแห่งการแลกเปลี่ยน เรยี นรู้ KU-KM Day 2.1.7 การเรียนรู้(Learning) กองบริหารวิชาการและนสิ ิต สานกั งานวิทยาเขตกาแพงแสน ได้วางนโยบายการจดั การ ความรู้ให้เป็นส่วนหน่ึงของงานประจา เมื่อมีกรณีศึกษา หรือกรณีที่เกิดปัญหาขณะปฏิบัติงาน

~7~ จะต้องทา OPL (One Point Lesson) และแลกเปล่ียนกับเพื่อนร่วมงานเพื่อสร้างความเข้าใจ และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ผ่านชุมชนนักปฏิบัติ CoP และนาความรู้ที่ได้เก็บรวมรวม และนาเผยแพรห่ มนุ เวียนอยา่ งตอ่ เน่อื งใหเ้ ป็นปจั จบุ ันและทนั ต่อเหตุการณ์อยา่ งสม่าเสมอ 2.2 การนาไปสแู่ นวปฏบิ ตั ิทีด่ ี (Model Office Of Kamphaeng Saen Campus Best Practice) แผนภาพท่ี 3 การนาไปสูแ่ นวปฏิบัติทดี่ ี (Model Office Of Kamphaeng Saen Campus Best Practice) กองบริหารวิชาการและนิสิตใช้ Model Office Of Kamphaeng Saen Campus Best Practice เพือ่ นาไปสแู่ นวปฏบิ ตั ิทดี่ ี ดงั นี้ 2.2.1 Problem/Servay/Evaluation : กองบริหารวิชาการและนิสิต ได้นาปัญหาที่ พบจากการทางานประจา (Problem) ผ่านการทา One Point Lesson (OPL) และผลสารวจ ต้องการ (Servey) หรือผลประเมินความพึงพอใจ ท่ีได้จากการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการ ทางาน มาใช้ในการกาหนดประเด็นท่ีใช้การถอดความรู้ / จัดการความรู้ 2.2.2 Knowledge Cupturing/ Knowledge Manangment : กองบริหารวิชาการ และนิสิต นาผลการสารวจ การประเมินความพึงพอใจ และปัญหาท่ีพบในการปฏิบัติงานต่างๆ ผ่านกระบวนการถอดองค์ความรู้ (Knowledge Cupturing) โดยใช้ชุมชนนักปฏิบัติ CoP (Community of Pratice) ผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา ร่วมถอดองค์ ความรู้ และจัดการความรู้ (Knowledge Manangment) โดยผา่ นการวิเคราะห์ สรา้ งองค์ความรู้ รว่ มกนั และจดั เกบ็ ความรู้เพ่อื นาไปสู่แนวปฏบิ ตั ิทด่ี ี 2.2.3 Benchmarking : กองบริหารวิชาการและนิสิตได้ดาเนินการเทียบเคียงกับ หน่วยงานที่ปฏิบัติงานอย่างเดียวกันหรือคล้ายคลึงกัน (Bench Marking) เพื่อนาข้อปฏิบัติท่ีดี หรือสว่ นทีห่ นว่ ยงานต้องแก้ไขเขา้ สกู่ ระบวนการพัฒนาปรับปรุงการดาเนินงาน 2.2.4 Development: นาข้อเสนอแนะท่ีได้จากการประเมินผล การสอบถามมาใช้ พฒั นาปรับปรุงการปฏิบัติงาน

~8~ 3. ผลและอภิปรายผลการดาเนนิ งาน จากการดาเนินการจดั การความรู้ดว้ ย Model Office Of Kamphaeng Saen Campus Best Practice ทาให้กองบรหิ ารวิชาการและนิสติ ไดก้ ระบวนการและนวตั กรรมในการใหบ้ ริการ ข้อมูลด้านการศึกษาแบบใหม่ ผ่านระบบตอบคาถามอัตโนมัติบน Line Chatbot ซ่ึงสอดคล้อง กับคาจัดกัดความของ Ar Ilker Murat and Birdogan (2011) ที่กล่าวว่า นวัตกรรม หมายถึง การแนะนาส่ิงใหม่ วิธีการใหม่ กระบวนการหรือบริการใหม่ๆท่ีมคี ุณคา่ การนาเอาความคิดใหม่ๆ ลงสู่การปฏิบัติจริงเพ่ือการปรับปรุงสินค้าและบริการ การจัดการความรู้และนวัตกรรมจึงถือว่า เป็นเครื่องมือท่ีสาคัญในการนาองค์กรไปสู่องค์กรที่ประสบความสาเร็จและเป็นองค์กรมีคุณภาพ สอดคล้องกับ ศิวะนันท์ ศิวพิทักษ์ (2557) ที่กล่าวว่าปัจจัยสาคัญสองประการคือการจัดการ ความรู้และนวัตกรรมเป็นองค์ประกอบที่สาคัญต่อความสาเร็จและความอยู่รอดขององค์กรธุรกิจ และผลการดาเนินการจัดการความรขู้ องกองบริหารวิชาการและนิสติ เกิดประโยชนต์ ่อการพฒั นา คน พัฒนางาน พฒั นาองคก์ ร รวมถงึ การลดต้นทนุ การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สงู สุด ดงั น้ี 3.1 ประโยชนท์ ่ีได้รบั จากการจดั การความรตู้ ่อคน บคุ ลากรและผู้ปฏบิ ัตงิ านได้รับทักษะ และประสบการณ์ในการทางานเพม่ิ ขนึ้ สามารถ แกไ้ ขปัญหาในการปฏิบัตงิ านไดด้ ้วยตนเอง เกิดความเข้าใจ เกดิ การเรยี นรใู้ นการทางานร่วมกัน เกิดการรวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ มีทักษะด้านจิตบริการเพ่ือ การบริการท่ีดี เกิดแนวปฏิบัติท่ีเกิดจากเรียนรู้จากกรณีศึกษาทเ่ี กิดขึ้นเพอ่ื รองรับการปฏิบัติใน รูปแบบเดยี วกัน และสามารถปฏบิ ัตงิ านแทนกนั ได้ 3.2 ประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการจดั การความร้ตู ่องาน มีการให้บริการที่สามารถอานวยความสะดวกแก่ผู้รับบริการ ด้วยการให้บริการแบบ Self Service ลดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน ผู้รับบริการบริการได้รับข้อมูลท่ีถูกต้องน่าชื่อ ถือ ลดระยะเวลาในการปฏิบตั ิงานดา้ นการให้ข้อมูล การตอบคาถามลดลง และเป็นท่ีพอใจของ ผู้รับบริการเพ่ิมประสิทธิภาพของการทางาน ลดความผิดพลาดของงานยกระดับคุณภาพและ มาตรฐานในการให้บรกิ าร 3.3 ประโยชน์ที่ได้รบั จากการจัดการความรู้ต่อทรัพยากร ลดทรัพยากรด้านเวลา ลดปริมาณกระดาษที่ใช้สาหรับพิมพ์คู่มือ ลดระยะเวลาในการ เข้าถงึ ขอ้ มลู ลดคา่ ใชจ้ ่าย และตน้ ทนุ ในการใหบ้ รกิ าร ดังนี้

~9~ เปรยี บเทยี บวิธกี ารลดขัน้ ตอน และระยะเวลาการให้บริการตอบคาถาม ลาดับ ข้นั ตอนเดมิ ระยะเวลาเดิม ลาดับ ข้ันตอนใหม่ ระยะเวลาใหม่ ท่ี ท่ี 5-10 วินาที 1 นสิ ิตกดบตั รคิว 15-35 วนิ าที 1 นสิ ติ พิมพ์Key word คาตอบ 2 รับบริการตอบคาถาม 5-20 นาที 2 ระบบตอบตอบคาถาม 3-5 วนิ าที รวม 2 ขัน้ ตอน 20 นาที 35 วินาที รวม 2 ข้นั ตอน 15 วนิ าที จา ก ต า ร า ง ข้ า ง ต้ น ห ลั ง จ า ก ก า ร จั ด ก า ร ค ว า ม รู้ แ ล ะ ไ ด้ มี ก า ร เ ผ ย แ พ ร่ แ ล ะ น า คู่ มื อ ก า ร ปฏิบัติงานมาใช้ในช่วงระหว่างเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน 2561 และ Line Chatbot : ESDPSD_Auto ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561 พบว่า ต้นทุนคา่ ใช้จ่ายในการดาเนินงาน ด้านการขอรับคาปรึกษา และคาแนะนา ข้อมูลด้านการศึกษาจากเดือนพฤษภาคม มีค่าใช้จ่าย เฉล่ีย 86,657.14 บาท ต่อปี และในเดอื นสงิ หาคม มีคา่ ใช้จา่ ย 4,628.57 บาท ตอ่ ปี ซ่ึงคา่ ใช้จา่ ย ลดลง 82,028.57 บาท ต่อปี คิดเป็นร้อยละ 94.66 และลดระยะเวลาในการดาเนินการจากเดิม 20 นาที 35 วนิ าที เหลอื เพยี ง 15 วนิ าที 3.4 ประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากการจดั การความรู้ต่อองคก์ ร ผลสัมฤทธ์ิในการให้บริการดีข้ึน มีผลการประเมินความพึงพอใจต่อการใช้งานระบบที่ 4.61 ระดับดีเย่ียม เกิดวัฒนธรรม และภาพลักษณ์ท่ีดีขององค์กร เกิดการสร้างฐานความรู้ที่ เข้มแข็ง (Core competence) มีการจัดเก็บความร้อู ยู่คูก่ ับองค์กร ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือ ระหวา่ งหน่วยงานภายในวิทยาเขตกาแพงแสน และภายนอกวิทยาเขตกาแพงแสน ในการสรา้ ง วัฒนธรรมการแลกเปล่ียนเรียนรู้ เกิดเป็นชุมชนนักปฏิบัติ เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมในการ ใหบ้ ริการเพอื่ บรรลุตามวิสัยทศั น์ มุ่งสู่องค์กรมคี ณุ ภาพการใหบ้ ริการ และเปน็ องค์กรแห่งการเรยี นรู้ (Learning Organization) 3.5 ผลการดาเนินงาน (Output) ที่สาคัญ มีคู่มือในการปฏิบัติงาน และระบบตอบคาถามอัตโนมัติ จาก Line Chatbot ซึ่งเป็นการ ให้บริการแบบ Self Service และสามารถลดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน รวมถึงประหยัด ทรัพยากรท้งั ผูใ้ หบ้ ริการ และผรู้ ับบรกิ าร 3.6 การนาไปใชป้ ระโยชน์ทงั้ ภายในและภายนอก ลดข้ันตอนการและลดระยะเวลาในการปฏิบัติงานของบุคลากร เกิดความคล่องตัวในการตอบ คาถาม เป็นเคร่ืองมือช่วยเหลือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีหรือพนักงานใหม่ให้สามารถปฏิบัติงาน แทนกันได้ เกิดนวัตกรรมในการปฏิบตั ิงาน รวมถึงยกระดับมาตรฐานการใหบ้ รกิ าร เพ่ิมประสิทธภิ าพ

~ 10 ~ การทางาน ผู้รับบริการได้รับความสะดวก รวดเร็วในการใช้บริการผู้รับบริการเข้าถึงข้อมูลและ บริการได้ด้วยตนเองผู้รับบริการประหยัดทรพั ยากร และไมเ่ สยี เวลาในการตดิ ต่อสอบถาม 3.7 กลยทุ ธ์เทคนคิ ในการดาเนินการจดั การความรใู้ หป้ ระสบความสาเร็จ Key Success Factor ที่เป็นปัจจัยสู่ความสาเร็จและช่วยขับเคล่ือนการทางานของกอง บรหิ ารวชิ าการและนิสิตทสี่ าคัญ คือ คน เทคโนโลยี และกระบวนการ มีการสารวจความต้องการ ของผู้รบั บริการและประเมินผลการให้บริการอย่างสมา่ เสมอ มีพัฒนาศักยภาพบุคลากรใหเ้ ป็นผู้รู้ ลึก รู้รอบในทุกด้านในภารกิจของหน่วยงาน เพ่ือรองรับการให้บริการท่ีมีมาตรฐาน มีการจัดทา แผนปฏิบัติการจัดการความรู้ท่ีสอดคล้องกับนโยบายและภารกิจและวิสัยทัศน์ มีการสื่อสารให้ บคุ ลากรเขา้ ใจอย่างชัดเจน ผ่านสมั มาทฐิ ิ การสมั มนา และส่งเสริมการทางานเปน็ ทมี ผลการการจัดการความรู้ของกองบริหารวิชาการและนิสิต ในปีการศึกษา 2561 ถือว่า ประสบความสาเร็จเป็นอย่างดี โดยได้รับรางวัล ดังน้ี 1) รับรางวัลชนะเลิศการประกวดการ จัดการความรู้การให้บริการนิสิตและการให้คาแนะนาด้านการศึกษา โครงการประกวด กาแพงแสน เพิ่มผลผลิตนวัตกรรมหรือแนวปฏิบตั ิงานที่ดี ประจาปี 2561 2) รางวัลองค์ความรู้ท่ี ได้รับคะแนนสูงสุดอันดับท่ี 1 การประกวดสุดยอดผลงานและนวัตกรรมการจัดการความรู้ KU-KM Mart Awards มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจาปี 2561 3) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1การ ประกวดสุดยอดผลงานและนวัตกรรมการจัดการความรู้ KU-KM Best Practice Awards มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจาปี 2561 4) รางวัลคุณภาพ ระดับดีโครงการรางวัลคุณภาพ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คร้ังท่ี 12 และ5) รางวัลอันดับ 3 ภาคโปสเตอร์โครงการรางวัล คณุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ครง้ั ที่ 12 สรปุ การจัดการความรู้เป็นเคร่ืองมือสาคัญในการขับเคล่ือนเพ่ือให้เกิดการพัฒนาต่อคน พัฒนางาน พัฒนาองค์กร เน้นการพัฒนาบนฐานความรู้ เพ่ือนาความรู้ที่ได้มาพัฒนาองค์กร การ จัดการความรู้จงึ เป็นกระบวนการพัฒนาท่ีเป็นระบบควบคกู่ ับการพัฒนาการเรียนรู้ โดยมกี ารนา เทคโนโลยีมาเป็นเคร่ืองมือที่ช่วยให้สามารถค้นหา จัดเก็บ แลกเปลี่ยน รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ได้ สะดวกรวดเร็ว การเข้าถึงความรู้ที่ง่าย สะดวก ก่อให้เกิดการไหลเวียนความรู้ทั่วท้ังองค์กร นาไปสู่องค์กรที่มีคุณภาพ ต่อยอดการสร้างสรรค์การพฒั นา ให้เกดิ นวัตกรรมใหม่ เพือ่ นาองค์กร สูอ่ งคก์ รแหง่ การเรียนร้แู ละนวตั กรรม จากการดาเนินการจัดการความรู้กองบริหารวิชาการและนิสิต สานักงานวิทยาเขต กาแพงแสน พบว่าการจัดการความรู้และนวัตกรรมเป็นการนาองค์กรไปสู่องค์กรท่ีประสบ ความสาเร็จและเป็นองค์กรมีคุณภาพ ความรู้เป็นกระบวนหน่ึงที่ใช้ในการพัฒนาและสร้างสรรค์ ส่ิงใหม่ๆ ความรู้ที่ผ่านกระบวนการจัดการความรู้จะเป็นเครื่องมือท่ีสาคัญท่ีช่วยให้องค์กร เกิด

~ 11 ~ การปรับปรุงและสร้างสรรคน์ วตั กรรมหรอื ส่ิงใหม่ๆ ในอนาคตกองบรหิ ารวชิ าการและนสิ ติ ได้วาง แนวทางในการพัฒนาปรบั ปรุงการให้บริการในอนาคต โดยมีการเผยแพร่องคค์ วามรู้การทา Line Chatbot ไปยังส่วนงานท้ังภายในองค์กร เพ่ือพัฒนาคุณภาพการให้บริการ รวมถึงมีการจัดการ ความรู้ในการจัดทา Line Chatbot เพอ่ื พฒั นาปรับปรงุ การให้บริการให้กับหน่วยงานภายในและ ภายนอกวทิ ยาเขตกาแพงแสน เพอ่ื มงุ่ สมู่ หาวิทยาลยั นวัตกรรมต่อไป บรรณานกุ รม Ar, Ilker Murat; Birdogan Baki.( 2011) Antecedentss and performance impacts of product versus process innovation.European Journal of innovation Management, 14(2),172-206 จิรัชฌา วิเชียรปัญญา.(2549).การพัฒนาตัวบ่งช้ีรวมสาหรับการจัดการความรู้ทีมีประสิทธิภาพ. วทิ ยานพิ นธค์ รุศาสตรดษุ ฎบี ัณฑิต,จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . บุญส่ง หาญพานิช.(2546).การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการความรู้ในสถาบันอุดมศึกษาไทย. วทิ ยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต,จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. พรพิมล หรรษาภิรมย์โชค.(2550). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการความรูส้ าหรบั หน่วยงาน ภาครัฐ. วทิ ยานิพนธ์ปริญญาดษุ ฎบี ณั ฑติ ,จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย. ศวิ ะนันท์ ศวิ พทิ ักษ์. (2557). กระบวนการจดั การความรู้และนวัตกรรมส่งผลต่อความอยูร่ อดของ องค์กรธรุ กิจ. วารสารสุทธปิ ริทศั น์,8(85),45-60 ส า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร พั ฒ น า ร ะ บ บ ร า ช ก า ร . ( 2548) . ก ร ะ บ ว น ก า ร จั ด ก า ร ค ว า ม รู้ . กรุงเทพมหานคร:สานักงานคณะกรรมการการพัฒนาระบบราชการและสถาบันเพิ่ม ผลผลิตแหง่ ชาต.ิ

รปู แบบการนาเสนอแนวปฏบิ ัตทิ ดี่ ี โคงการประชมุ สมั มนาเครือขา่ ยการจัดการความรู้ คร้งั ที่ 12 “การจัดการความรู้สมู่ หาวิทยาลยั นวฒั กรรม” (Knowledge Managerment: Innovative University) สาหรบั อาจารย/์ บคุ ลากรสายสนับสนนุ / นักศึกษา ชอ่ื เรอ่ื งภาษาไทย: พฤติกรรมการรับชมละครไทยออนไลนข์ องวัยร่นุ เวยี ดนาม ช่อื เรือ่ งภาษาองั กฤต: The online Thai drama viewing behavior of Vietnamese youth ชอ่ื -นามสกุล: Bui Thi Khen ชื่อสถาบันการศกึ ษา: มหาวทิ ยาลัยกรงุ เทพ เบอรโ์ ทรศพั ท์มือถอื : 0997 136 281 E-mail address: [email protected] บทสรปุ การศกึ ษาเร่อื ง พฤติกรรมการรับชมละครไทยออนไลน์ของวยั รนุ่ เวยี ดนาม มี วตั ถปุ ระสงค์ 1) เพอื่ ศกึ ษาด้านประชากรศาสตร์ ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และ รายได้ตอ่ เดือนของวยั ร่นุ ในประเทศเวยี ดนาม 2) เพอ่ื ศกึ ษาพฤตกิ รรมการรับชมละครไทย ออนไลนข์ องวัยรนุ่ ในประเทศเวียดนาม 3) เพ่ือศึกษาความพึงพอใจในการรบั ชมละครไทย ออนไลนข์ องวัยรนุ่ ในประเทศเวยี ดนาม 4) เพื่อเปรยี บเทยี บความแตกต่างระหวา่ งค่าเฉลย่ี ของ ปจั จัยทางดา้ นประชากรศาสตรก์ บั พฤติกรรมการรบั ชมละครไทยออนไลนข์ องวัยรุน่ เวยี ดนาม 5) เพอื่ เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหวา่ งค่าเฉลย่ี ของปัจจยั ทางด้านประชากรศาสตร์กบั ความพึง พอใจในการรบั ชมละครไทยออนไลนข์ องวัยรนุ่ เวยี ดนาม เปนการวิจยั เชิงปรมิ าณ โดยใชแบบ สอบถามเปนเคร่ืองมอื ในการเก็บรวบรวมขอมูล กลมุ ตัวอยางทศ่ี ึกษา คอื วยั รุ่นเวยี ดนามที่รับชม ละครไทยออนไลน์ จาํ นวน 400 คน ซึ่งมกี ารวเิ คราะหขอมลู โดยใชการแจกแจงความถ่ี คารอยละ

สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในขณะท่กี ารทดสอบสมมตฐิ านใชทดสอบความแตกตางระหวางคาเฉลี่ย โดยใช T-test การเปรียบเทยี บวามแปรปรวนระหวา่ งกลมุ่ ใชสถิติ One -Way ANOVA และการ ทดสอบความแตกตางระหวางคาเฉล่ียเปนรายคตู ามวิธีของ Scheffe และ LSD ผลการศึกษา พบว่า ลกั ษณะทางประชากรของกลมุ่ ตัวอย่างท่ีแตกตา่ งกนั จะมพี ฤติกรรมการรับชมละครไทย ออนไลน์ท่แี ตกต่างกนั คำสำคญั : พฤติกรรมกำรรบั ชมละคร, วัยรนุ่ เวยี ดนำม, ละครไทยออนไลน์ Summary This independent study was aimed at studying the online Thai drama viewing behavior of Vietnamese youth in terms of: 1. Demography including Vietnamese youth’s gender, age, education level, occupation and monthly income 2. The online Thai drama viewing behavior of Vietnamese youth 3. The Vietnamese youth’s level of satisfaction when watching online Thai drama 4. Comparison of the difference between the mean of demographic factors and viewing online Thai drama behavior 5. Comparison of the difference between the mean of demographic factors and level of satisfaction when watching online Thai drama. Quantitative method was applied for this study. The survey questionnaire was used as an instrument for collecting data. The sample size was 400 Vietnamese young people watching online Thai drama. The sample selection was done with several steps including the analysis of frequency and percentage and standard deviation to explain demographic characteristics, behavior and level of satisfaction of Vietnamese youth viewing online Thai drama. Hypotheses testing were tested by T-test analysis to evaluate the difference between the mean values and One -Way ANOVA analysis was used to compare variances in a group. The result was found that there is difference in demographic for behavior of viewing Thai dramas. Keywords: viewing behavior, Vietnamese youth, online Thai drama

บทนา PwC สาํ รวจทศิ ทางอตุ สาหกรรมสื่อและบันเทิงทวั่ โลกระหว่างปี 2016-2020 (Global entertainment and media outlook 2016-2020) พบว่าอัตราการเติบโตของมลู คา่ การใช้ จ่ายผา่ นโฆษณาออนไลน์ของไทยกับบรรดาประเทศเพ่อื นบ้านในอาเซยี น พบวา่ ไทยมอี ัตราการ เติบโตเฉลี่ยอยใู่ นอนั ดับท่ี 2 รองจากอินโดนเี ซยี ทีม่ ีอัตราเตบิ โตเฉลีย่ ท่ี 35.2% อนั ดับสาม คอื เวียดนามมีอัตราเตบิ โตเฉลีย่ 18% อนั ดบั สี่ ได้แก่ สิงคโปร์ ทอี่ ตั ราเตบิ โตเฉลีย่ 15.5% อนั ดบั หา้ ฟิลิปปนิ สม์ อี ัตราเติบโตเฉลย่ี 14.8% และอนั ดับหกคือ มาเลเซยี มีอัตราเติบโตเฉลีย่ 13.9% (“สื่อ ออนไลน์ไทยโตอนั ดับ 2 ของอาเซยี น”, Marketer, 2016) ประเทศเวยี ดนามอยูใ่ นกลุ่มประเทศทก่ี ําลงั พัฒนา และเป็นประเทศท่มี รี ะบบอินเตอร์ เนด็ ทม่ี ีความเรว็ ตดิ อย่ใู นอนั ดับ 58 ของโลก ตามรายงานลา่ สุดของบรษิ ทั วจิ ัยการตลาด ความเรว็ ของอินเตอร์เนต็ ของเวียดนามในเอเชียแปซฟิ กิ อยูใ่ นอนั ดบั ท่ี 9 ในปี 2017 ความเรว็ อนิ เตอร์เน็ต โดยเฉลี่ยของเวียดนามอยู่ที่ 9.5 Mbps ซึง่ เพิ่มขึน้ อีก 15% เทียบกับปี 2016 (Khoi Linh, 2017) อตั ราผใู้ ชอ้ นิ เตอร์เน็ตในเวยี ดนามคือ 53% ซ่ึงเวียดนามอยใู่ นอันดับ 16 ในกลุ่มประเทศทใี่ ช้ อินเตอรเ์ น็ตมากท่ีสดุ ในเอเซยี และเป็นกลุม่ ประเทศทใ่ี ชส้ ่ือเฟสบุคมากท่สี ุด โดยอยใู่ นอนั ดับที่ 7 ดว้ ยจํานวนผใู้ ช้คือ 64 ล้านคนตอ่ เดือน (PricewaterhouseCoopers, 2017) ในประเทศเวียดนามกลมุ่ ที่ใชส้ ่อื ออนไลน์มากทสี่ ุดคอื กลุ่มเป็นวยั รุ่น มอี ายุระหวา่ ง 15- 24 ปี มีอัตราจาํ นวนผู้ใช้ส่ือออนไลน์ถงึ รอ้ ยละ 38 ซ่ึงอตั ราจาํ นวนคนมีแค่ร้อยละ 21 (Cimigo NetCitizens and Cimigo Express, 2010) เหตุผลทีท่ าํ ให้กลมุ่ วันรุ่นเป็นกล่มุ ใช้สือ่ ออนไลน์มาก ท่ีสุดเพราะว่าวยั รุ่นเปน็ วยั ที่กาํ ลังอยู่ในวัยเรยี นหนงั สือ หรอื อยู่ในวัยเร่ิมทํางาน ส่ือออนไลนม์ า พรอ้ มกบั ความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต ซงึ่ เราสามารถทาํ ได้หลายอยา่ งเช่น ดูละคร อา่ นหนังสือพิมพ์ ขายสินค้าออนไลน์ และเรียนหนังสอื ผ่านทาง อินเตอรเ์ น็ตไดอ้ ย่างสะดวก นอกจากนั้น เรายงั สามารถเผยแพร่ข้อมลู ขา่ วสาร รูปภาพ หรือคลิป วีดีโอผ่านทางอนิ เทอรเ์ นต็ ใหผ้ ู้คนในสังคมออนไลน์ (Online Community) รับชมไดด้ ้วย ดังนนั้ สือ่ สังคมออนไลนม์ ีการตอบสนองทางสงั คมไดห้ ลายทศิ ทาง พูดงา่ ยๆ ก็คือสถานทีท่ ี่บคุ คล บนโลกน้สี ามารถมปี ฏสิ มั พันธโ์ ต้ตอบกันได้น่ันเอง (“social media”, Information Technology) วัยรนุ่ เวยี ดนามถือว่าเปน็ กลุ่มที่ตามกระแสทร่ี วดเร็วและทนั สมัยมาก เช่นการตดิ ตาม ขา่ วสารบนั เทิง การแตง่ ตัวแฟช่ัน อาหารการกนิ การท่องเทยี่ ว การเรียนรทู้ ักษะต่างๆ จนถึงการ

ใช้เทคโนโลยใี หมๆ่ การบนั เทงิ ตลอด 15 ปีทผ่ี า่ นมา วยั ร่นุ เวยี ดนามนิยมชมละครจากสอ่ื ออนไลน์ เพ่ิมมากข้ึน เฉกเช่นเดียวกับประเทศอ่นื ๆ ในภมู ภิ าค การชืน่ ชอบซีรีย์เกาหลสี ง่ ผลตอ่ การเปิดรับ วัฒนาธรรมเกาหลีเชน่ การกินอาหาร การแต่งตวั การทอ่ งเท่ยี ว และการเรียนภาษาจากละคร เกาหลี (Haylee, 2017) การใชอ้ ินเตอร์เนต็ ในการบนั เทงิ คนเวียดนามจะใช้เวลาในการดูหนังหรอื ละครถึงร้อยละ 43 (Cimigo NetCitizens and Cimigo Express, 2010) และในช่วงเวลา 5 ปที ีผ่ า่ นมา ความ ชื่นชอบในการรับชมละครไทยของวยั รนุ่ เวียดนามเพม่ิ มากขน้ึ ทกุ วัน จะเหน็ ไดจ้ ากเวบ็ ไซต์หนงั หรือละครออนไลน์มีจํานวนละครไทยเพ่ิมมากขึ้น แฟนเพจละครไทยออนไลนบ์ นเฟสบุ๊ค ข่าว ออนไลนเ์ กีย่ วกับละครไทยหรือนกั แสดงไทยก็เพมิ่ มากขน้ึ ละครไทยท่ีวยั รนุ่ ชน่ื ชอบและติดตาม ทางออนไลนใ์ นช่วงเวลาเร็วๆ นี้ เชน่ ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น (Hormones), รกั นะเป็ดโง่ (ชอ่ ง One) แอบรักออนไลน,์ เลอื ดมงั กร (ชอ่ ง 3) คซู ่ารถแซบ (ชอ่ ง 7) เป็นต้น นักแสดงไทยก็ไดร้ บั ความช่นื ชอบ และมีแฟนคบั เวยี ดนามจํานวนมากมาย เชน่ พุฒชิ ยั เกษตรสิน, ไมค์ พริ ชั ต์, มารโิ อ้ เมาเรอ่ , ณเดชน์ คูกมิ ิยะ, เวยี ร์ ศุกลวฒั น,์ ญาญ่า อรุ สั ยา, คิมเบอรล์ ี่ แอน เทียมศริ ิ เปน็ ต้น (Haylee, 2017) ผวู้ จิ ัยสนใจศึกษาพฤติกรรมการรบั ชมละครไทยออนไลนข์ องวัยรุน่ ในประเทศเวียดนาม โดยมีวตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื ศึกษากล่มุ ประชากรเปน็ วยั รนุ่ รบั ชมละครไทยออนไลน์ พฤตกิ รรมในการ เปิดรับชม ความพึงพอใจในการชม และเปรยี บเทยี บพฤติกรรมการรบั ชม ความพึงพอใจในการ รบั ชมละครไทยออนไลนข์ องวัยรุน่ เวียดนามตามปัจจัยทางดา้ นประชากรศาสตร์ วตั ถปุ ระสงค์การวิจยั 1. เพอื่ ศกึ ษาปัจจยั ทางด้านประชากรศาสตร์ พฤติกรรมการรบั ชม และความพงึ พอใจ ในการรบั ชมละครไทยออนไลน์ของวยั รุ่นเวียดนาม 2. เพ่อื เปรยี บเทยี บพฤตกิ รรมการรบั ชม ความพงึ พอใจในการรับชมละครไทยออนไลน์ ของวัยรุ่นเวียดนามตามปจั จยั ทางด้านประชากรศาสตร์ คาถามวิจัย 1. ปัจจยั ทางดา้ นประชากรศาสตร์ ได้แก่ เพศ อายุ ระดบั การศกึ ษา อาชพี และรายได้ ตอ่ เดอื น พฤติกรรมการรบั ชม และความพึงพอใจในการรับชมละครไทยออนไลน์ของวัยรนุ่ เวยี ดนามเป็นอยา่ งไร

2. ปัจจยั ทางดา้ นประชากรศาสตร์ ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศกึ ษา อาชพี และรายได้ ต่อเดือนท่ีมคี วามแตกต่างกัน จะมพี ฤตกิ รรมการรบั ชม และความพงึ พอใจในการรับชมละครไทย ออนไลนแ์ ตกต่างกัน หรอื ไมอ่ ย่างไร ขอบเขตการวจิ ัย 1. ประชากรที่ใชใ้ นการศึกษา ได้แก่ วัยรุ่นมีอายตุ ้ังแต่ 15-25 ปีในประเทศเวยี ดนาม ท่ี เป็นผู้รับชมละครไทยออนไลน์ 2. กล่มุ ตวั อย่างทใี่ ช้ในการศกึ ษา ได้แก่ วัยรนุ่ มอี ายุต้งั แต่ 15-25 ปีในประเทศ เวียดนาม ที่เปน็ ผ้รู ับชมละครไทยออนไลน์ จํานวน 400 คน ประโยชนทีค่ าดวาจะไดรบั ผลจากการศกึ ษาในครง้ั น้จี ะทาํ ใหทราบถงึ คณุ ลกั ษณะตางๆ ของประชากรกลมุ เปา้ หมาย ดาน พฤติกรรมการรบั ชมละครไทยออนล์ของวยั รุ่นเวียดนาม ความพึงพอใจของวัยรุ่นท่ี รับชมละครไทยออนไลน ซง่ึ ขอมูลเหลานผ้ี ผู ลิตละครไทย นกั แสดงไทย หรอื ผู้ทาํ เว็บไซตล์ ะคร ออนไลนส์ ามารถนําไปปรับปรงุ และวางแผนในการพฒั นา ขอ้ มลู ในการวางแผนการสื่อสาร เกย่ี วกับละครหรือ รปู แบบการนําเสนอ เพ่อื ตอบสนองความตองการของผูรบั ชมเปน็ วัยรุ่น เวียดนาม และเพม่ิ ประสิทธิผลสงู สุดจากการรับชมละครไทยออนไลน์อกี ด้วย สมมตฐิ านในการวิจยั สมมติฐานขอ้ ที่ 1 คณุ ลักษณะทางประชากรทแ่ี ตกตา่ งกันจะมีพฤตกิ รรมในการรับชม ละครไทยออนไลน์แตกต่างกนั สมมตฐิ านขอ้ ที่ 2 คุณลักษณะทางประชากรที่แตกต่างกันจะมคี วามพงึ พอใจในการ รบั ชมละครไทยออนไลน์แตกตา่ งกนั ผลและอภิปลายผลนารดาเนินงาน สว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญงิ มากกว่าเพศชาย มอี ายุระหว่าง 23-25 ปี สว่ นใหญ่ระดับ การศกึ ษาปริญญาตรี ประกอบอาชีพนกั เรียน/นักศึกษามากทส่ี ุด และมีรายได้ตอ่ เดือนส่วนใหญ่ นอ้ ยกวา่ 5,000 บาท ผลการศกึ ษาพฤตกิ รรมในการดลู ะครไทยออนไลนข์ องวยั รุ่นเวยี ดนาม พบว่า กลุม่ ตัวอย่างสว่ นใหญ่จะรับชมละครไทยออนไลนท์ บ่ี ้าน/หอพัก อุปกรณ์ในการรบั ชมสว่ น

ใหญ่คือสมารท์ โฟน ช่องทางในการรบั ชมจากเวบ็ ไซต์ Youtube.com มากทีส่ ดุ การหาขอ้ มูล เกย่ี วกับละครไทยออนไลนจ์ ากแฟนเพจเฟสบุคละครไทยออนไลนเ์ ป็นสว่ นใหญ่ รับชม 1 – 2 วัน/สัปดาห์ เวลารบั ชมเฉลยี่ 1 – 2 ชม./วนั ชว่ งเวลาในการรบั ชมสว่ นใหญค่ ือตามท่ีสะดวกไม่ เป็นเวลา ปจั จัยทม่ี ีผลมากทสี่ ดุ ตอ่ การชมละครไทยออนไลน์ คือปัจจัยดา้ นบทละคร-เน้อื เร่อื ง ผล การทดสอบสมมตฐิ าน พบวา่ ปัจจัยด้าน อาชพี รายไดแ้ ตกตา่ งกันจะมีความถใ่ี นการรบั ชมละคร ไทยออนไลนแ์ ตกตา่ ง ในขณะท่ีปจั จยั ด้านเพศ อายุ ระดับการศึกษาแตกตา่ งกนั จะมคี วามถใี่ น การรับชมละครไทยออนไลนไ์ ม่แตกต่าง ปจั จัยด้าน เพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ รายได้ แตกต่างกันจะมีระยะเวลาในการรับชมละครไทยออนไลนแ์ ตกตา่ งกัน และปัจจัยด้าน อายุ ระดบั การศกึ ษา อาชีพ และรายไดท้ ี่แตกต่างกันจะมคี วามพึงพอใจในการรับชมละครไทยออนไลน์ แตกตา่ งกนั ในขณะท่ีปัจจยั ด้านเพศแตกต่างกันจะมีความพงึ พอใจในการรบั ชมละครไทย ออนไลน์ไม่แตกตา่ งกัน จากการศึกษาลักษณะทางประชากรของวัยรุน่ เวยี ดนามทีร่ ับชมละครไทยออนไลน์ สว่ นมากจะเป็นเพศหญิงมากกวา่ เพศชาย มีอายุ 23 - 25 ปี ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรีมากสุด ประกอบอาชีพเปน็ นกั เรียน/นักศึกษา มีรายไดน้ ้อยกว่า 5,000 บาทต่อเดอื น และจากผลการ ทดสอบสมมตฐิ านตาม คณุ ลักษณะของวยั รุ่นเวยี ดนามทีแ่ ตกตา่ งกนั จะมีพฤตกิ รรมการรบั ชม ละครไทยออนไลนแ์ ตกตง่ กนั ซง่ึ สอดคลอ้ งกับแนวคดิ ของ (Defleur,1966) เก่ยี วกบั พื้นฐานความ แตกตา่ งของผู้รับสาร กลา่ ววา่ บคุ คลที่อยูใ่ นสภาพแวดลอ้ มทตี่ า่ งกนั จะได้เรียนรู้สภาพแวดลอ้ มที่ ต่างกัน และมคี วามสอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ของ (สุชา จันทร์เอม, 2529) เกยี่ วกับเจรญิ เติบโตหรอื ก้าวไปสู่วุฒภิ าวการณ์เจรญิ เติบโตของวยั รุน่ ซ่งึ วยั รุน่ ตามช่วงอายจุ ะมีการพัฒนาด้านรา่ งกาย จติ ใจและความร้สู กึ นกึ คิด นอกจากการเจริญเติบโตท่ีเปลี่ยนแปลงไปในแตล่ ะชว่ งอายแุ ล้ว พัฒนาการในดา้ นต่างๆ และมีความสอดคลอ้ งกบั แนวคิดของ (กิติมา สุรสนธ,ิ 2557) ทีก่ ลา่ ววา่ บคุ คลท่มี ีคณุ สมบตั ทิ างประชากรแตกตา่ งกันจะมพี ฤติกรรมการเปิดรับสารทแ่ี ตกตา่ งกนั โดยผล การศึกษาปจั จัยด้าน อาชีพ รายได้แตกตา่ งกนั จะมคี วามถกี่ ารรับชมละครไทยออนไลนแ์ ตกต่าง และเพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ รายได้ แตกต่างกนั จะมีระยะเวลาในการรับชมละครไทย ออนไลน์แตกต่างกนั ซึ่งมสี อดคลอ้ งกบั แนวคิดของ (กาญจนา แกว้ เทพ, 2547) ท่ีล่าวว่า ผรู้ บั สาร ในแต่ละกลมุ่ ทมี่ ลี กั ษณะทางสงั คมแตกตา่ งกัน Social Categories จะมแี บบแผนการรบั สารท่ี แตกตา่ งกนั จากลกั ษณะทางประชากรของวยั รุ่นเวยี ดนามมคี วามแตกตา่ งจะทาํ ให้พฤตกิ รรม แตกต่างออกไป เนอ่ื งมาจากลักษณะพนื้ ฐานของแตละบุคคล ท้งั ทางดานจติ ใจ รวมไปถงึ องค

ประกอบทางดานสังคมตางๆ ลกั ษณะทางประชากร ในขณะที่ ผลการวิจยั สามารถนาํ มาอธิบาย ตามแนวคดิ การวเิ คราะห์ผู้รับสารตามลักษณะทางประชากรของ (ปรมะ สตเวทน,ิ 2546) ทว่ี า อายุ อาชพี และรายได เปนอีกปจจัยหนึ่งทที่ ําใหแตละบคุ คลเหมอื นกนั และแตกตางกนั ในเรอ่ื ง ของความคดิ และพฤติกรรม โดยเฉพาะเรอ่ื งของอายเุ ปน ปจจัยท่กี ําหนดพฤตกิ รรม ทงั้ น้บี คุ คล ทมี่ อี ายนุ อยมักมีความคดิ ทเี่ สรนี ยิ ม (liberal) มากกวาบุคคลททม่ี ีอายุมาก จงึ ทาํ ใหบุคคลทีม่ ี อายุนอยสามารถรบั การเปล่ยี นแปลงของสังคมไดดกี วา ทั้งนก้ี ารเรียนรกู ารใชอนิ เตอรก็สามารถ เรยี นรไู ดงาย และดวยคณุ สมบัตขิ องคอมพวิ เตอรและอนิ เตอรเน็ตสามารถใชงานไดงายและเพมิ่ ความสะดวกสะบายให้กบั ผใู้ ชอีกดวยโดยไมม่ ีการจํากัดด้านเพศหรือการศึกษา การศึกษาความพงึ พอใจในการรับชมละครไทยออนไลน์ของวยั รุ่นเวยี ดนาม พบวา่ มี ความพึงพอใจในระดับมาก โดยมีความพงึ พอใจสูงสดุ ในด้านละครไทยออนไลน์และมคี วามพึง พอใจระดับมากในประเภทเนอื้ หาของละครไทยออนไลน์ ลกั ษณะนสิ ยั ของตวั ละคร และเว็บไซต์ ละครไทยออนไลนทร่ี บั ชม จากผลการศกึ ษา และจากการทดสอบสมมตฐิ านคณุ ลกั ษณะทาง ประชากรท่แี ตกต่างกนั จะมคี วามพึงพอใจในการรับชมละครไทยออนไลนแ์ ตกตา่ งกัน พบว่า อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายไดท้ แี่ ตกต่างกนั จะมคี วามพงึ พอใจในการรับชมละครไทย ออนไลน์แตกต่างกนั ซ่ึงสอดคล้องกบั แนวคิดทฤษฏี “การใชสอ่ื และความพึงพอใจ” ของ (แคทซ และคณะ, 1978) ที่วา พฤติกรรมตางๆ ของมนษุ ยเกดิ ขึ้นจากความ ตองการ (Need) และ ความตองการของแตละบคุ คลน้ันมที ่ีมาท่ีแตกตางกันออกไป ซึ่งอาจเกิดจากสภาพทางสงั คมและ จิตใจทแ่ี ตกตางกนั ในขณะทพี่ ฤติกรรมการเปดรับสื่อมวลชนของบุคคลที่เกิดขนึ้ น้นั ก็เพ่อื ตอบสนองความตองการและความพงึ พอใจของตนเอง ดังนนั้ ลักษณะการใชสอื่ ของแตละบุคคล จะมีความตองการทไ่ี มเหมอื นกนั ซึง่ นาํ ไปสูความพึงพอใจทีไ่ ดรบั จากสอ่ื ทีแ่ ตกตางกนั และ สอดคลอ้ งกับแนวคดิ ของ (กาญจนา แก้วเทพ, 2547) ไดแ้ บง่ ประเภทแรงจูงใจบคุ คลทเี่ ลอื กใช้ สื่อความพงึ พอใจในการใช้สือ่ ไวว้ า่ เพอื่ ความหลากหลายทางอารมณ์ เชน่ กระตนุ้ อารมณ์ ความ สนกุ สนานลดความเบื่อหน่าย เพ่ือปลดปล่อยอารมณ์ เปน็ ต้น สรุป ผลการศึกษาพฤตกิ รรมการรบั ชมละครไทยออนไลน์ของวัยรนุ่ เวยี ดนามนน้ั ไดท้ ราบถึง คุณลกั ษณะสว่ นบคุ คลของวยั รนุ่ เวยี ดนาม พฤตกิ รรมในการรับชมละครไทยออนไลน์ และความ พงึ พอใจในการรับชมละครไทยออนไลน์ ซง่ึ สามารถใชเ้ ป็นขอ้ มลู หรือแนวทางในการวางแผน การตลาดการสอ่ื สาร โฆษณาเก่ยี วกบั ละครไทยในประเทศเวยี ดนาม หรือใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการวาง แผนการผลิตละครไทย เพ่อื ตอบสนองความต้องการของผู้บรโิ ภคคอื วัยรนุ่ เวยี ดนาม หรือนักแด

สงไทยสามารถศึกษาข้อมูลจากการวจิ ยั เปน็ ข้อมลู เบอ้ื งต้นเม่ือต้องการกา้ วสู่ตลาดการบนั เทิงของ เวียดนาม ซึ่งแนวละคร นักแสดงนน้ั เปน็ สว่ นหน่ึงในรปู แบบการนาํ เสนอละครไทยทแ่ี ตกต่างกนั ท้ังนขี้ ้ึนอยูก่ บั แนวของเนือ้ หาว่าเป็นอย่างไร และช่องทางในการนาํ ละครไทยไปถงึ ผูช้ มท่ีเปน็ วนั รุ่นเวยี ดนามเปน็ ปจั จยั สําคญั ทีท่ าํ ใหเ้ กดิ พฤติกรรมการรบั ชมละครไทยนน้ั วงการธุรกจิ ละครไทย หรือผสู้ นใจธรุ กจิ ในดา้ นละครสมารถนาํ ไปวางแผน ปรบั บทบาทและเนอ้ื หาให้สอดคลอ้ งกับ สภาพความตอ้ งการของผบู้ ริโภค บรรณานุกรม หนงั สือ Richard West, Lynn H. Turner. (2014). Introducing Communication Theory Analysis and Application. Singapore. Mc Graw – Hill International edition. fifth edition. วิทยานิพนธ์ ชูเกยี รติ ดบี รุ ี. (2552). “การเปรยี บเทียบพฤตกิ รรมการชมละครไทยและละครเกาหลี ของผชู มในกรงุ เทพมหานคร.” สารนพิ นธบัณฑิตวทิ ยาลัย, มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ, ปริญญาบรหิ ารธรุ กจิ มหาบณั ฑิต. พรนภา กุลวานิช. (2551). “พฤติกรรมการเปดรบั และความพึงพอใจ ของผูอ านหนงั สือพมิ พออนไลนไทยในเขตกรงุ เทพมหานคร.” ปริญญานิเทศศาสตรมหาบณั ฑติ , บัณฑติ วิทยาลยั มหาวิทยาลัยกรงุ เทพ, นเิ ทศศาตรมหาบัณฑติ . พรพิรุณ หนุ่ รอด. (2559). “พฤติกรรมการอ่าน ความพึงพอใจของผ้อู ่านนยิ ายรักโรแมน ตกิ จีนย้อนยุค.” วารสารศาสตรมหาบณั ฑติ , สาขาวชิ าการบรหิ ารส่ือสารมวลชน, วารสารศาสตร์ และสอื่ สารมวลชน มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร.์ ภาณุวฒั น์ กองราช. (2554). “การศึกษาพฤตกิ รรมการใช้เครอื ขา่ ยสังคมออนไลน์ของ วัยรุ่นในประเทศไทย: กรณศี กึ ษา Facebook.” ปริญญานิพนธบ์ ัณฑิตวิทยาลัย, วิทยาลัย นวตั กรรม มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร,์ วทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑิต, สาขาการบริหารเทคโนโลย.ี เมทนิ ี ทองศรเี กต.ุ (2552). “พฤตกิ รรมการดูละครทางโทรทศั น์ของวยั รุ่นในเขต กรงุ เทพมหานคร.” มหาวทิ ยาลัยกรงุ เทพ, บรหิ ารธุรกิจมหาบัณฑติ . ดศิ ราพร ทรงแสง. “พฤตกิ รรมการเปิดรบั และทัศนคติของผูช้ มทม่ี ีต่อชอ่ งเฮฮา ทางทรู วชิ ั่นส์.นันทสทิ ธ”์ิ

แกว้ ทพิ ยเนตร.สุมนรตี นม่ิ เนติพันธ์.เทเวศร์ พิรยิ ะพฤนท.์ “พฤติกรรมการดูละคร โทรทัศน์ของนกั ศกึ ษาสถาบนั การพลศึกษาวิทยาเขตชลบุร.ี ” วารสารคณะพลศึกษา, ปที ่ี 15 เลม่ ที่ 2, หน้า 59-69. แหล่งสารสนเทศอนิ เตอร์เนต็ Electronic Government Agency. (7/2015). “สื่อออนไลน์ประโยชน์เยอะ ภัยร้าย แยะ”. สบื คน้ วันที่ 25 มการาคม 2018, สบื คน้ จาก https://www.ega.or.th/th/content/890/1904/ Khoi Linh. (วันที่ 9 มิถุนายน 2017). “ความเรว็ อินเตอร์เนต็ ของเวยี ดนามเปน็ ยังไงเมื่อ เทียบกับประเทศบนโทก.” สืบค้นวันที่ 25 มการาคม 2018, สืบค้นจาก http://dantri.com.vn/suc-manh-so/toc-do-internet-tai-viet-nam-nhu-the-nao-so- voi-the-gioi-2017060920590621.htm Haylee. (วันที่ 24 กรกฎาคม 2017). “เว็บไซต์หนงั ออนไลนใ์ นเวียดนามที่ไม่ถกู ลิขสิทธิ์ กําลงั เจอปัญหามากมาย.” สืบคน้ วันท่ี 25 มการาคม 2018, สบื ค้นจาก http://kenh14.vn/hang-loat-web-xem-phim-truc-tuyen-khong-ban-quyen-sap-sua- lao-dao-tai-viet-nam-20170724014549421.chn Hoi nhung nguoi yeu phim Thai, สบื คน้ จาก https://www.facebook.com/hoinhungnguoimephimthailan/ Hoi nhung nguoi yeu phim Thai Siammovies channel. (7 พฤศจกิ กกายน 2011), สืบคน้ จาก https://www.facebook.com/RuaTeam.YT/ Marketeer content 2. (21 กรกฎาคม 2016). “สือ่ ออนไลน์ไทยโตอันดับ 2 ของ อาเซียน.” สืบค้นวันท่ี 25 มการาคม 2018, สบื ค้นจาก http://marketeer.co.th/archives/89540 Mot phim Thai. (ธันวาคม 2015). สบื คน้ จาก https://www.facebook.com/motphimthai/ Ngocmiz. (2017). “เปรียบเทยี บ 5 เวบ็ ไซตใ์ ห้บรกิ ารหนังออนไลน์ถูกลิขสิทธใ์ิ น เวยี ดนาม.” สบื ค้นวันที่ 25 มการาคม 2018, สืบคน้ จาก http://genk.vn/cung-so-sanh-5-

dich-vu-xem-phim-ban-quyen-pho-bien-nhat-tai-viet-nam-hien-nay- 20170301195733831.chn NetCitizens Vietnam report. (มีนาคม 2010). “การใช้และการเติบโตของ อินเตอรเ์ นต็ ในเวยี ดนาม.” Social Media. สบื ค้นวนั ที่ 25 มการาคม 2018, สืบคน้ จาก https://sites.google.com/site/saleenamrkhmb1297/social-media) Thien duong phim Thai T-Zone Kitesvn. (2016), สบื คน้ จาก https://www.facebook.com/ThailandzoneKitesvn/ Thien duong phim Thai, สืบค้นจาก https://www.facebook.com/TzoneKites/ Thai movies, สบื คน้ จาก https://www.facebook.com/PhimThai.Official/ Thai Studies group, สบื คน้ จาก https://www.facebook.com/groups/ThaiStudiesgroup/ Thai Studies USSHHCM, จาก https://www.facebook.com/groups/ThaistudiesUSSHHCM/ Van Ly. (3 พฤษจิกายน 2017). “53% ประชาชนเวยี ดนามมคี วามเสยี่ งในการใช้ อินเตอร์เนต็ .” สืบค้นวนั ท่ี 25 มการาคม 2018, สืบค้นจาก http://www.thesaigontimes.vn/166265/53-dan-so-Viet-Nam-dung-Internet-va-van- de-rui-ro-an-ninh-mang.html Yeu phim Thai. (ตลุ าคม 2013), สบื คน้ จาก https://www.facebook.com/UPrincesSeries/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook